The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบเรียนอักษรธรรมอีสาน ชุดพื้นฐานการเขียนการอ่าน จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เรียนเขียนอ่านอักษรธรรมอีสานได้ ซึ่งเป็นกุญแจดอกสำคัญในการไขสู่ภูมิปัญญา และสรรพวิทยาต่าง ๆ ของบรรพชนชาวอีสาน ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของบรรพชนของตนเอง เกิดความหวงแหน ร่วมอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาของชนชาวอีสานให้คงอยู่สืบไป โดยเนื้อหาประกอบด้วย ความเป็นมา
ของอักษรธรรมอีสาน พยัญชนะอักษรธรรมอีสาน สระอักษรธรรมอีสาน พยัญชนะประสม ตัวเลข
และเครื่องหมาย อักขรวิธีพิเศษ ฝึกอ่าน-เขียนอักษรตัวธรรม การจารใบลาน
ขอขอบพระคุณผู้เขียนเอกสาร ตำรา บทความ และผลงานวิจัยทุกท่านที่ผู้เรียบเรียงได้นำมาอ้างอิง คุณค่าและประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ ผู้เรียบเรียงขอมอบแด่บิดา มารดา ครู อาจารย์ และผู้เขียนเอกสาร ตำรา บทความ ผลงานวิจัยที่ผู้วิจัยนำมาอ้างอิง
ผู้เรียบเรียงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์แก่การเรียนรู้ของผู้สนใจศึกษา
เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ หากผู้อ่านมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมผู้เรียบเรียงยินดีที่จะนำมาปรับปรุงแก้ไข
ในการจัดพิมพ์ครั้งต่อไป

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sakthawut, 2022-10-09 08:32:19

แบบเรียนอักษรตัวธรรมอีสาน

แบบเรียนอักษรธรรมอีสาน ชุดพื้นฐานการเขียนการอ่าน จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เรียนเขียนอ่านอักษรธรรมอีสานได้ ซึ่งเป็นกุญแจดอกสำคัญในการไขสู่ภูมิปัญญา และสรรพวิทยาต่าง ๆ ของบรรพชนชาวอีสาน ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของบรรพชนของตนเอง เกิดความหวงแหน ร่วมอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาของชนชาวอีสานให้คงอยู่สืบไป โดยเนื้อหาประกอบด้วย ความเป็นมา
ของอักษรธรรมอีสาน พยัญชนะอักษรธรรมอีสาน สระอักษรธรรมอีสาน พยัญชนะประสม ตัวเลข
และเครื่องหมาย อักขรวิธีพิเศษ ฝึกอ่าน-เขียนอักษรตัวธรรม การจารใบลาน
ขอขอบพระคุณผู้เขียนเอกสาร ตำรา บทความ และผลงานวิจัยทุกท่านที่ผู้เรียบเรียงได้นำมาอ้างอิง คุณค่าและประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ ผู้เรียบเรียงขอมอบแด่บิดา มารดา ครู อาจารย์ และผู้เขียนเอกสาร ตำรา บทความ ผลงานวิจัยที่ผู้วิจัยนำมาอ้างอิง
ผู้เรียบเรียงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์แก่การเรียนรู้ของผู้สนใจศึกษา
เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ หากผู้อ่านมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมผู้เรียบเรียงยินดีที่จะนำมาปรับปรุงแก้ไข
ในการจัดพิมพ์ครั้งต่อไป

Keywords: อักษรธรรม,ตัวธรรม,อักษรตัวธรรม,อีสาน,ศักทาวุฒ โคตรชมภู,แบบเรียนอักษรธรรมอีสาน,อักษรตัวธรรมอีสาน

แบบเรียนอักษรธรรมอสี าน

ชดุ พ้นื ฐานการเขียนการอ่าน

เรยี บเรียงโดย
นายศักทาวฒุ โคตรชมภู

ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นปทมุ เทพวทิ ยาคาร
สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาหนองคาย

๒๕๖๕



แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ก

ชุด พ้ืนฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู

คานา

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ชดุ พ้นื ฐานการเขียนการอ่าน จัดทาขน้ึ เพือ่ ใหผ้ ทู้ ส่ี นใจไดเ้ รยี นเขยี น
อา่ นอกั ษรธรรมอสี านได้ ซึ่งเปน็ กุญแจดอกสาคัญในการไขสภู่ มู ิปัญญา และสรรพวิทยาต่าง ๆ ของบรรพชน
ชาวอสี าน ทาใหเ้ กดิ ความภาคภมู ใิ จในภูมปิ ัญญาของบรรพชนของตนเอง เกิดความหวงแหน รว่ มอนุรกั ษ์
และสบื ทอดภูมปิ ญั ญาของชนชาวอีสานใหค้ งอยสู่ ืบไป โดยเนื้อหาประกอบดว้ ย ความเป็นมา
ของอกั ษรธรรมอสี าน พยญั ชนะอกั ษรธรรมอสี าน สระอกั ษรธรรมอสี าน พยญั ชนะประสม ตัวเลข
และเครอ่ื งหมาย อักขรวธิ ีพิเศษ ฝึกอา่ น-เขยี นอักษรตวั ธรรม การจารใบลาน

ขอขอบพระคุณผเู้ ขยี นเอกสาร ตารา บทความ และผลงานวจิ ยั ทกุ ทา่ นทผ่ี ู้เรียบเรยี งไดน้ ามา
อ้างองิ คณุ ค่าและประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ ผเู้ รยี บเรยี งขอมอบแดบ่ ิดา มารดา ครู อาจารย์ และผ้เู ขยี น
เอกสาร ตารา บทความ ผลงานวจิ ยั ทผี่ วู้ ิจัยนามาอา้ งองิ

ผูเ้ รยี บเรียงหวังเปน็ อย่างยิง่ ว่าหนังสือเล่มนี้ จะเปน็ ประโยชน์แกก่ ารเรียนรู้ของผสู้ นใจศึกษา
เพือ่ ตอ่ ยอดองคค์ วามรู้ หากผอู้ า่ นมีขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติมผู้เรยี บเรยี งยินดีทจ่ี ะนามาปรบั ปรงุ แกไ้ ข
ในการจัดพมิ พค์ รง้ั ต่อไป

ศักทาวุฒ โคตรชมภู
สงิ หาคม ๒๕๖๕

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ข

ชดุ พ้ืนฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู

สารบญั

เรอื่ ง หนา้

คานา ............................................................................................................................................... ก
สารบญั ............................................................................................................................................ ข

บทท่ี ๑ ความเปน็ มาของอักษรธรรมอีสาน ..................................................................................... ๑
๑. ความนา .................................................................................................................... ๑
๒. ประวตั ิความเป็นมาของอกั ษรธรรม .......................................................................... ๑
๓. การพัฒนารปู แบบอักษรธรรมอีสาน .......................................................................... ๑

บทที่ ๒ พยัญชนะอกั ษรธรรมอีสาน ................................................................................................ ๙

บทท่ี ๓ สระอกั ษรธรรมอสี าน ......................................................................................................... ๒๓
๑. สระลอย .................................................................................................................... ๒๓
๒. สระจม ....................................................................................................................... ๒๔
๓. สระพเิ ศษ .................................................................................................................. ๒๘

บทท่ี ๔ พยัญชนะประสม ................................................................................................................ ๓๐
๑. พยัญชนะท่ีมี ห นา .................................................................................................... ๓๐
๒. พยญั ชนะที่มี อ นา .................................................................................................... ๓๓
๓. พยญั ชนะควบกล้า ..................................................................................................... ๓๔

บทท่ี ๕ ตวั เลขและเครือ่ งหมาย ...................................................................................................... ๓๗
๑. ตวั เลข ........................................................................................................................ ๓๗
๒. เคร่อื งหมาย ............................................................................................................... ๓๘

บทท่ี ๖ อกั ขรพิเศษ ........................................................................................................................ ๔๑

บทท่ี ๗ ฝึกอ่าน-เขยี นอักษรตวั ธรรมอีสาน ..................................................................................... ๔๗

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ค

ชดุ พื้นฐานการเขยี นการอ่าน

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู

สารบญั (ตอ่ )

เรอื่ ง หนา้

บทท่ี ๘ การจารใบลาน ................................................................................................................... ๕๐
๑. การตดั ใบลาน ............................................................................................................ ๕๑
๒. การแทงลาน .............................................................................................................. ๕๒
๓. การอบลาน ................................................................................................................ ๕๓
๔. การจารใบลาน .......................................................................................................... ๕๔
๕. การเรยี งลาดบั หนา้ หนงั สอื ใบลาน ............................................................................. ๕๕
๖. การลบใบลาน ............................................................................................................ ๕๖
๗. องค์ประกอบของหนงั สือใบลาน ................................................................................ ๕๗

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ง

ชุด พน้ื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

สารบญั รปู ภาพ

เรอื่ ง หนา้

ภาพที่ ๑ ภาพแสดงการกาเนิดตัวอักษรตวั ธรรมอกี สาน ................................................................. ๗
ภาพที่ ๒ ภาพจารกึ วดั ถา้ สุวรรณคหู า ๒ ด้านที่ ๑ .......................................................................... ๘
ภาพท่ี ๓ ภาพใบลานอักษรธรรมอสี าน เรอื่ งปญั ญาบารมี วดั ทุ่งอุทมุ พร จังหวัดสพุ รรณบรุ ี ......... ๘
ภาพท่ี ๔ ภาพต้นลาน ..................................................................................................................... ๕๐
ภาพท่ี ๕ ภาพขนอบ ....................................................................................................................... ๕๒
ภาพท่ี ๖ ภาพขนอบประกับหน้าหลงั ............................................................................................. ๕๓
ภาพที่ ๗ ภาพการจารใบลาน .......................................................................................................... ๕๕
ภาพที่ ๘ ภาพการลบใบลาน ........................................................................................................... ๕๖
ภาพที่ ๙ ภาพคมั ภรี ์ใบลาน ฉบบั ชาดทึบ ........................................................................................ ๕๘
ภาพท่ี ๑๐ ภาพคมั ภรี ใ์ บลาน ฉบบั ล่องชาด .................................................................................... ๕๘
ภาพที่ ๑๑ ภาพคมั ภรี ใ์ บลาน ฉบบั ทองทบึ ..................................................................................... ๕๙
ภาพที่ ๑๒ ภาพการใชผ้ ้าห่อคมั ภีรใ์ บลาน ...................................................................................... ๕๙
ภาพท่ี ๑๓ ภาพคมั ภรี ใ์ บลานทหี่ ่อด้วยผ้า ....................................................................................... ๕๙

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑

ชุด พนื้ ฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

บทท่ี ๑
ความเปน็ มาของอกั ษรธรรมอสี าน

๑. ความนา

อกั ษรธรรม ทางภาคเหนือเรยี กว่า “อักษรตวั เมอื ง” สว่ นภาคอสี านเรยี กว่า “อักษรธรรมอสี าน”
ทง้ั สองแบบมลี กั ษณะคล้ายกนั จากการศกึ ษาของนกั วชิ าการพบว่าเปน็ ตวั อักษรทพ่ี ฒั นามาจากอักษรมอญ
โบราณ ตวั อักษรมรี ูปแบบเฉพาะ และเป็นอักษรที่ใช้เฉพาะกล่มุ ชนภาคเหนือและภาคอสี านเทา่ น้ัน และไม่
ปรากฏอักษรชนดิ น้ใี นภาคกลางหรอื ภาคใตเ้ ลย (เพ็ญพกั ตร์ ลมิ้ สมั พันธ์. ๒๕๒๗ : ๑)

๒. ประวตั คิ วามเปน็ มาของอกั ษรธรรม

อักษรธรรมอสี าน เปน็ เครอ่ื งสะท้อนภมู ปิ ัญญาทางภาษาของคนอีสาน ซ่งึ มปี ระวตั ิของพฒั นาการ
มาอย่างยาวนาน ดังทอ่ี ธริ าชย์ นันขนั ตี (๒๕๖๑ : ๑) ไดอ้ ธบิ ายประวตั ิความเปน็ มาของอักษรธรรมไว้วา่

อาณาจักรล้านชา้ งมปี ระวัติศาสตร์ความเปน็ มาสืบเนอื่ งมายาวนาน มหี ลกั ฐานเก่ียวกบั
การตงั้ ถ่ินฐาน ของมนษุ ย์มาตัง้ แตส่ มยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ จนกระท่งั พัฒนามาจนเป็นบ้านเมอื ง ผา่ นยคุ สมยั
แหง่ ความรงุ่ เรือง และความเสอื่ มถอยตามบริบททางการเมือง จนกระท่ังถึงสมยั ปัจจุบนั จากการศึกษา
ทางด้านโบราณคดี และประวตั ิศาสตร์พบว่ามหี ลักฐานหลายอยา่ งทเี่ ป็นประจักษพ์ ยานในความรุ่งเรือง
ของอาณาจักรดงั กล่าว อาทิ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ โดยโบราณวัตถปุ ระเภทเอกสารลายลักษณอ์ ักษรนนั้
มกี ารคน้ พบเปน็ จานวนมาก อาทิ ศลิ าจารกึ เอกสารใบลาน หนังสือไทยขาว หนังสอื ไทยดา ซึ่งขอ้ มลู เหล่าน้ี
สะทอ้ นให้เห็นภาพรวมของวิถี ชวี ติ ความเช่อื ทางศาสนาของชาวลา้ นชา้ ง รวมไปถึงเรอื่ งของการเมอื ง
การปกครองไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

เอกสารใบลาน ซึ่งเปน็ หลกั ฐานชนั้ ตน้ ที่มขี ้อมลู ท้องถน่ิ ภมู ปิ ญั ญา สรรพวชิ าต่าง ๆ ของคน
ในอดตี สว่ นมากบนั ทกึ ด้วยอักษรธรรมอีสาน และอกั ษรไทยนอ้ ย โดยอกั ษรธรรมอีสานนน้ั นยิ มบนั ทึก
เร่ืองราวที่ เก่ียวกับพระพทุ ธศาสนา วรรณกรรมพุทธศาสนา ชาดก และต าราวิชาการตา่ ง ๆ
ส่วนอกั ษรไทยน้อย ใช้บนั ทึก เรือ่ งราววรรณกรรมเริงรมยท์ ่ีใชอ้ า่ นในบุญงนั เฮือนดี นทิ านพน้ื บา้ น
และหนังสือราชาการรวมท้ังบนั ทกึ ส่วนตวั ของเอกชน จากการสารวจพบอกั ษรธรรมอสี านท่ีจารึกเก่าแก่
ท่สี ดุ ในภาคอสี านซงึ่ เดมิ เปน็ อาณาจักรล้านช้าง คือจารึกฐานพระพุทธรปู พระประธานวดั พระธาตุพนม
จังหวดั นครพนม เม่อื พ.ศ. ๒๐๔๖ หากย้อนกลบั ไปใน อดีตจะเหน็ ว่าบรเิ วณพระธาตุพนมเดิม
เปน็ อาณาจกั รศรโี คตรบูรณ์ มคี วามส าคัญในฐานะของบา้ นเมืองทมี่ พี ระ ธาตพุ นมอนั เปน็ ศนู ย์รวมจติ ใจ
ของผู้คนในบรเิ วณแถบน้ี และไดเ้ ดน่ ชัดขน้ึ เมื่ออาณาจักรลา้ นชา้ งได้ยา้ ยราช ธานจี ากหลวงพระบาง

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒

ชดุ พ้นื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

ลงมาตง้ั ท่เี มอื งเวยี งจนั ทน์ ส่งผลให้เกดิ การกระจายของจารตี การบนั ทกึ อกั ษรธรรม อีสานและอกั ษรไทย
นอ้ ยในเอกสารใบลานเปน็ จานวนมาก

อักษรธรรมอสี าน มรี ปู ลกั ษณะทีก่ ลม คล้ายกบั อกั ษรธรรมล้านนา หรอื ตวั เมือง แตแ่ ตกตา่ งไปบา้ ง
ในบางตวั เพราะอักษรธรรมอสี านได้รบั อทิ ธิพลและสบื ทอดมาจากอกั ษรลา้ นนา (ธวัช ปณุ โณทก, ๒๕๔๐ :
๕๔) เดิมน้ันการสบื ทอดการเรยี นอกั ษรธรรมอีสานและอกั ษรไทยนอ้ ย เกิดขน้ึ ท่ีวดั ประจาทอ้ งถนิ่
มพี ระสงฆเ์ ปน็ ครสู อน เมอ่ื ชายชาวอสี านอายคุ รบ ๒๐ ปี จะนยิ มบวชเรยี น และเรียนจากเอกสารใบลาน
ที่บนั ทึกดว้ ยอักษรธรรมอสี าน และอักษรไทยน้อย อาทิ สูตรมนตน์ ้อย สตู รมนต์กลาง สูตรมนตป์ ลาย
สูตรมลู กจั จายนะ ทศชาตบิ าลี ฯ ควบคู่กบั การคัดลอก บนั ทกึ จารอักษรธรรมอสี านลงในแผน่ ใบลาน
โดยมีความเชือ่ วา่ อานิสงสผ์ ลบญุ เท่ากับ การสร้างพระพทุ ธรปู ๑ องค์ และเมื่อจารเสรจ็ แล้วไมน่ ยิ มลงชอ่ื
ผแู้ ต่งหนังสือ เพราะเชือ่ ว่าเป็นพระธรรมคาสอนของพระพุทธเจา้ ทรงแตง่ ขนึ้ ผจู้ ารเพียงคดั ลอกตามกันมา
จะบอกเพยี งช่ือผจู้ าร ความปราถนา และเจา้ ศรทั ธาในตอนทา้ ยที่พบในบางผูก จากความเชอื่ ดงั กล่าวสง่ ผล
ให้มีการจารเอกสารใบลานเปน็ จานวนมาก นอกจากนนั้ การใชเ้ อกสารใบลานยงั เปน็ บททดสอบ
ความสามารถของพระสงฆเ์ พอื่ สถาปนาขน้ึ “ฮดสรง” เพ่อื ยกฐานะเปน็ “สาเรจ็ ” “ซา” “ครู” ฯ ตามจารตี
อีสานด้งั เดมิ ในสว่ นของสตรอี สี านไมไ่ ด้บวชเรียน แต่มสี ่วนในการตา่ ผา้ ซน่ิ ไวส้ าหรบั ห่อคาภีรใ์ บลาน
บางคนมีความศรทั ธามาจะนาเส้นผมของตนเองมาทาเปน็ สายสนองร้อยเอกสารใบลาน เชอื่ วา่ จะได้อานสิ งส์
มาก ถือไดว้ า่ เอกสารใบลานในอดีตมีความสาคัญและเปน็ ตวั เชือ่ มรอ้ ยรัดสงั คม ผคู้ นเกิดกจิ กรรมต่าง ๆ
ที่สะท้อนเอกลกั ษณท์ างวฒั นธรรมอย่างนา่ สนใจ

๓. การพฒั นารปู แบบอกั ษรธรรมอสี าน
อกั ษรธรรมอีสาน หรือตวั ธรรมอสี าน ใชใ้ นการตดิ ต่อส่อื สารของคนไทยอสี าน และคนลาว

มาอยา่ งยาวนาน ตลอดจนมีการพฒั นารปู แบบอกั ษรธรรมอสี าน ดังทอ่ี รทยั เลียงจนิ ดาถาวร และคณะ
(๒๕๔๕ : ๙-๑๐) ได้กล่าวว่าจากการศึกษาตวั อกั ษรทปี่ รากฏอยใู่ นศิลาจารึกในภาคอสี าน
และสาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว ทีใ่ ชเ้ ขียนภาษาอีสานหรอื ภาษาไทย-ลาวนนั้ เรมิ่ มีปรากฏ
ในสมัยพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๑ แตก่ อ่ นหนา้ นนั้ มีอกั ษรปลั ลวะ (พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๒-๑๕) และอักษรของสมยั
พระนครบริเวณลมุ่ แมน่ ้ามูลจนถึงนครราชสีมา (พทุ ธศตวรรษที่ ๑๕-๑๘) และพบว่าศลิ าจารึกได้ขาดชว่ ง
ระยะหนุง่ ประมาณ ๓๐๐ ปี แสดงใหเ้ ห็นวา่ กลมุ่ ชนทใ่ี ช้ภาษาไทย-ลาวนน้ั มิได้สบื เนอื่ งทางดา้ นวฒั นธรรม
ต่อจากแหล่งวัฒนธรรมเดิมทป่ี รากฏอย่างเดน่ ชดั ในสมยั ก่อนขอมพระนคร และสมยั ของพระนคร
จากหลักฐานนน้ี ่าจะสนั นิษฐานไดว้ ่ามีการเปลยี่ นกลุม่ ชนทีม่ วี ัฒนธรรมต่างกนั ในบริเวณลุ่มแมน่ ้าโขงตอนบน
ช่วงพุทธศตวรรษท่ี ๑๙-๒๐ คอื กลุ่มชนไทย-ลาว ทอี่ พยพมาอยู่น้ันไดร้ บั วฒั นธรรมทางด้านเหนือมาแล้ว

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓

ชดุ พ้นื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู

โดยเฉพาะตวั อักษรและพุทธศาสนาแบบเถรวาทผสมภูตผวี ิญญาณ สว่ นวัฒนธรรมดงั้ เดมิ
ซงึ่ เป็นแบบขอมพระนคร คอื ลทั ธเิ ทวราช (ฮินดู) และตวั อักษรขอมได้เสอ่ื มโทรมลงในดินแดน
ลุ่มแมน่ ้าโขงเดิม (รวมทงั้ ภาคอีสาน) ก่อนหน้าทช่ี มุ ชนไทย-ลาว ซ่ึงเป็นกลมุ่ ใหม่เข้ามาตัง้ รกรากแทนท่ี

จากการศึกษาอักษรธรรมทปี่ รากฏอยู่ในภาคอีสานและล้านช้าง (ลาว) พบวา่ อกั ษรนน้ั เริ่มมี
บทบาทในการเขยี นจารกึ ในสมยั ไลเ่ ล่ียกบั อกั ษรลา้ นนาภาคเหนอื คร้นั เม่ือพิจารณาถงึ รปู แบบของตวั อักษร
แลว้ ทาให้เชื่อไดว้ ่าอักษรตัวธรรมและอักษรลา้ นนาเปน็ ตวั อกั ษรแบบเดยี วกันในสมยั แรก ๆ คอื สมยั
ราชวงศม์ ังรายของภาคเหนือ และคงเปน็ อักษรที่ใชร้ ่วมกนั ทง้ั คนไทยในลา้ นนาและล้านชา้ ง จากหลักฐาน
ทางประวตั ศิ าตร์เป็นเคร่ืองชว่ ยในการยนื ยนั ในความเหน็ ดงั กลา่ วน่ันคือ อาณาจักรลา้ นชา้ ง และ้ ล้านนาสมยั
ราชวงศ์มงั ราย (พทุ ธศตวรรษที่ ๑๙-๒๑) มคี วามใกล้ชดิ ในการสบื ทอดวฒั นธรรม และมคี วามสมั พนั ธ์กนั
ทางสายเลือดระหวา่ งเจา้ ผคู้ รองนครทง้ั สอง เช่น พระเจ้าโพธสิ าลราช (พ.ศ. ๒๐๖๓-๒๐๙๓) แห่งล้านช้าง
สมรสกับเจา้ หญงิ แห่งเชยี งใหม่ และพระโอรส พระเจา้ โพธสิ าลราช คือพระเจา้ ไชยเชษฐษธริ าช
ได้มาครองเชยี งใหมร่ ะยะหนึ่ง แล้วเสรจ็ กลบั ไปครองอาณาจกั รล้านช้าง เมอ่ื พ.ศ. ๒๐๙๓ นอกจากน้ียงั
ปรากฏหลกั ฐานทางด้านการสอื ศาสนาพทุ ธเพรวาทจากลา้ นนาอยูเ่ นือง ๆ เชน่ ในสมยั พระเจ้าวิชลุ าราช
(พระบิดาของพระเจ้าโพธิศาลราช) ไดท้ านบุ ารุงศาสนาพทุ ธโดยสบื ทอดจากเชยี งใหม่ และในสมยั พระเจ้า
โพธสิ าลราชไดข้ อพระเทพมงคลเถระ และบริวาร พรอ้ มทงั้ พระไตรปฎิ ก ๖๐ คัมภรี ์จากเชยี งใหม่
มาสลู่ ้านชา้ ง เมอ่ื พ.ศ. ๒๐๖๖ อีกดว้ ย

จากเหตุการณ์ทางด้านประวัตศิ าสตรด์ งั กล่าว เปน็ ปจั จยั หนึ่งทาใหต้ วั อักษรล้านนา
เข้าไปมีบทบาทในอาณาจกั รลา้ นชา้ งเปน็ ทวคี นู และชาวไทย-ลาว ไดใ้ ชต้ ัวลา้ นนาสบื ตอ่ มา
และแพรก่ ระจายสดู่ นิ แดนภาคอสี านดว้ ย และมชี อื่ เรยี กอกี อยา่ งหนงึ่ วา่ “อกั ษรตวั ธรรม” ต่อมารปู แบบ
ของอักษรล้านนาและอกั ษรตวั ธรรมได้พัฒนาแตกต่างกันออกไป จนในปัจจบุ นั นีพ้ บว่ามรี ปู แบบต่างกนั
หลายประการ เชน่ อักษรลา้ นนา (อกั ษรยวน) ได้เพ่มิ ไมก้ ากบั เสยี งวรรณยกุ ต์ ไมห้ า้ ม (ระหา้ ม)
หรือเครื่องหมายกากบั เสยี งตวั พยญั ชนะ เชน่ เสียง /ซ/ (/ch/) และเสยี ง /ซ/ (/S/) ใหแ้ ตกตา่ งกัน เป็นตน้

๓.๑ อักษรตัวธรรมร่วมสมยั อยธุ ยา
การทใ่ี ห้ช่ือว่า “รว่ มสมยั อยุธยา” เพราะวา่ ภาคอสี านสมัยดงั กล่าวบงั ไมไ่ ด้อยู่ใตอ้ านาจการ

ปกครองของกรุงศรีอยธุ ยา และการสบื ทอดวฒั นธรรมคนละรปู แบบกบั วฒั นธรรมอยธุ ยา โดยเฉพาะ
วฒั นธรรมทางการเขยี นหนงั สอื แต่จาเปน็ ที่จะใหเ้ ข้าใจมิตทิ างเวลาจงึ เรยี กวา่ “ร่วมสมยั อยุธยา”

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๔

ชดุ พื้นฐานการเขยี นการอ่าน

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู

จากการศึกษารูปแบบสณั ฐานของอักษรตัวธรรมท่ปี รากฏอยใู่ นศลิ าจารึกอีสาน
และลา้ นช้าง พบว่าจารึกที่เกา่ ท่ีสดุ ได้แก่ จารกึ ฐานพระพุทธรูปวดั สสี ะเกด ลงศักราชตรงกบั พ.ศ. ๒๐๓๓
(จ.ศ. ๘๕๒) ฐานพระพทุ ธรปู พระประธานอโุ บสถวดั พระธาตพุ นม ลงศักราชตรงกบั พ.ศ. ๒๐๔๖
(จ.ศ. ๘๖๕) สว่ นศลิ าจารึกทมี่ ขี อ้ ความขยาดยาวไดแ้ กจ่ ารกึ วดั สงั คะโลกเทวาลัย เมอื งหลวงพระบาง
สาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ลงศกั ราชตรงกบั พ.ศ. ๒๐๗๐ (จ.ศ. ๘๘๙)

อักษรตัวอกั ษรธรรมทป่ี รากฏอย่ใู นศิลาจารึกดงั กล่าวข้างตน้ จะมีรปู สนั ฐาน
เหมอื นกบั อกั ษรยวนในภาคเหนือ (หรอื อักษรตวั เมอื ง) ทปี่ รากฏในศิลาจารึกวดั ชา้ งคา้ จงั หวัดนา่ น
ลงศกั ราช พ.ศ. ๒๐๙๑ จารึกฐานพระพทุ ธรปู วดั เชยี งม่นั จงั หวดั เชยี งใหม่ พ.ศ. ๒๐๐๘ แสดงใหเ้ หน็ ว่า
อกั ษรธรรมภาคอีสาน และอักษรยวนในภาคเหนอื เป็นอกั ษรชนดิ เดยี วกนั ในยคุ ตน้ ๆ นนั่ คอื อกั ษรยวน
เหนือไดถ้ ูกนามาใชใ้ นภาคอสี านและลา้ นช้าง เพราะมหี ลักฐานทางดา้ นประวัติศาสตร์จานวนมากทก่ี ลา่ วถงึ
ความสมั พนั ธ์ระหว่างอาณาจักรล้านช้าง และอาณาจักรลา้ นนาสมยั ราชวงศม์ งั ราย เชน่ พระเถระผ้ใู หญแ่ ห่ง
ลา้ นช้างได้มาศึกษาพระธรรมวนิ ยั จากเมืองเชียงใหม่ เมืองนา่ น (นันทบรุ )ี นบั ตง้ั แต่รชั สมยั พระเจ้าวชิ ลุ ราช
(พ.ศ. ๒๐๔๓-๒๐๖๓) แห่งลา้ นช้างเปน็ อยา่ งนอ้ ย ครั้นถงึ รัชสมยั พระเจา้ โพธศิ าลราช (พ.ศ. ๒๐๖๓-๒๐๙๓)
ในสมยั เดียวกนั พระเจา้ โพธิศาลราชไดข้ อพระเทพมงคลเถระ และบรวิ ารพร้อมดว้ ยพระธรรม ๖๐ คัมภรี ์
จากเมืองแกว้ แห่งเมืองเชยี งใหม่ (พ.ศ. ๒๐๓๘-๒๐๖๘) เมือ่ พ.ศ. ๒๐๖๖ ไปเผยแพรพ่ ระธรรมทอ่ี าณาจกั ร
ล้านช้าง

ฉะน้นั อักษรยวนของภาคเหนือได้แพรเ่ ขา้ มาในบริเวณลุ่มแมน่ า้ โขงตอนกลาง คอื อาณาจักร
ลา้ นชา้ งเปน็ ทวคี ณู นน่ั คอื รปู สนั ฐานของอักษรตวั ธรรมในสมยั ฟน้ื ฟพู ทุ ธศาสนาลทั ธลิ งั กาวงศส์ ายเชียงใหม่
ในอาณาจกั รลา้ นชา้ งและภาคอีสานของไทย จงึ มสี ณั ฐานตรงกบั อกั ษรยวนทีใ่ ช้ในภาคเหนือร่วมสมยั
เดยี วกนั ดงั จะเหน็ ตวั อยา่ งได้จากศลิ าจารกึ วดั ถ้าสวุ รรณคหู า อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบวั ลาภู
ซง่ึ พระเจา้ ไชยเชษฐาธริ าชไดส้ ร้างไวเ้ ม่อื พ.ศ. ๒๐๑๖ สณั ฐานของตวั อักษรตวั ธรรมตรงกบั ตัวอกั ษรยวน
ในภาคเหนอื ยุคสมยั เดียวกนั ตวั ธรรมเหล่าน้ีก็นามาใช้ในภาคอสี านของไทยสบื ต่อมา

ในทานองเดยี วกนั หากเราพจิ ารณารปู สณั ฐานของตวั อักษรไทยนอ้ ยในสมัยดงั กลา่ ว จะพบว่า
สณั ฐานของอกั ษรไทยนอ้ ยในศลิ าจารึกอสี านและล้านชา้ งไดร้ บั อิทธิพลอักษรไทยฝักขามของภาคเหนือ
เชน่ เดยี วกนั นน่ั คือทรวดทรงรปู อกั ษรไทยนอ้ ยจะปรับเปน็ ตัวสงู -ผอม เหมอื นอกั ษรไทยฝักขาม
ของภาคเหนอื

๓.๑.๑ พยัญชนะอักษรตัวธรรม
อักษรตวั ธรรมทพ่ี บในภาคอีสานทร่ี ว่ มสมยั อยธุ ยามีจานวนหนง่ึ ไม่มากนกั โดยในศลิ า

จารกึ อสี านนิยมบันทกึ ด้วยอักษรไทยนอ้ ย ซึ่งพบปรากฏในหลักศลิ าจารึกเพียง ๖ หลัก พยญั ชนะ

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๕

ชุด พ้ืนฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

อักษรตวั ธรรมในยคุ รว่ มสมยั อยุธยาพบ ๓๓ ตวั ความจริงน่าจะมีมากกวา่ นี้ แตไ่ ม่ได้เขียนไวใ้ นศลิ าจารกึ
เชน่ ฉ ฌ ฒ ฟ ซึง่ เปน็ อักษรทจี่ ะต้องใชเ้ ขยี นภาษาบาลสี ว่ น ฟ ต้องใช้เขียนคาพื้นเมอื ง แตก่ ระนั้นตาม ช
ในภาษาถนิ่ ออกเสยี งเปน็ /ช/ หากเปน็ คาภาษาบาลใี ช้เปน็ เสยี ง /ช/ สว่ นเสยี ง /ด/ ในภาษาถน่ิ จะใช้ /ฑ/
ทุกแหง่

อกั ษรตัวธรรมมพี ยัญชนะตวั เตม็ และพยัญชนะตวั คร่ึง (เชงิ ) ซึง่ เรียกตามภาษาถน่ิ วา่
“ตวั เฟอื้ ง” หรือ “ตัวหอ้ ย” ใช้เขียนใตบ้ รรทัดเชน่ เดยี วกบั อักษรสกลุ อักษรมอญ และอกั ษรขอมทว่ั ไป

๓.๑.๒ สระอักษรตวั ธรรม
สระมี ๒ ชนิด คือ สระลอย และสระจม สระลอยใชเ้ ขียนเมอ่ื เสยี งสระอยหู่ น้าคา

เชน่ เดยี วกบั อักษรขอม และอกั ษรยวนในภาคเหนอื สว่ นสระจมจะยงั คงรปู สนั ฐานเช่นเดยี วกับอักษรยวน
ในภาคเหนอื และวางสระไว้รอบตวั พยัญชนะตน้

๓.๑.๓ วรรณยกุ ต์
ไมป่ รากฏวา่ มเี ครอ่ื งหมายกากบั ระดับเสียงวรรณยุกตแ์ ตค่ าภาษาถนิ่ นัน้ มรี ะดับเสียง

วรรณยุกต์ ฉะนน้ั ผู้อา่ นตอ้ งดใู จความขา้ งเคยี งหรือบรบิ ท จึงจะอา่ นไดเ้ ข้าใจความหมาย
๓.๑.๔ อกั ขรวิธี
อักขรวิธใี ช้ระบบเดียวกบั อกั ษรยวนภาคเหนือ และอักษรขอมไทย ซ่งึ เปน็ ระบบ

อกั ขรวธิ ที ี่ใชท้ ่ัวไปของอักษรสกุลมอญโบราณ และอกั ษรสกลุ ขอมโบราณ ซึ่งจะแตกตา่ งกบั อกั ษรสกลุ
พ่อขุนรามคาแหง

๓.๒ อกั ษรตวั ธรรมสมยั รตั นโกสนิ ทร์
อานาจการปกครองของราชธานไี ดเ้ ขา้ มามีอิทธพิ ลในภูมิภาคอสี าน นบั ต้งั แตส่ มยั กรงุ ธนบุรี

เป็นตน้ มา คือเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๒ กองทัพไทยไดไ้ ปช่วยเมอื งอุบลราชธานี ที่ถกู กองทัพเมืองเวยี งจนั ทร์รุกราน
ในคร้งั นนั้ กองทัพไทยสามารถควบคมุ เมืองนครจาปาศักด์ิ เมอื งเวียงจนั ทร์ และเมืองหลวงพระบาง
รวมทง้ั หวั เมืองตา่ ง ๆ ในภมู ภิ าคอีสานไวไ้ ด้ ความจรงิ แลว้ บริเวณหวั เมอื งโคราช และบรวิ าร (เมืองใกลเ้ คยี ง)
อยใู่ ตอ้ านาจกรุงศรีอยธุ ยาเมอื่ คร้ังสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราชเปน็ อยา่ งน้อย แตไ่ มไ่ ดข้ ยายขอบเขต
พระราชอานาจมาถงึ หวั เมืองอ่นื ๆ บริเวณชายฝงั่ แม่น้าโขง แตก่ ระนน้ั ก็ตาม ราชธานไี ดป้ กครองหวั เมือง
ในภาคอสี านอย่างหลวม ๆ นนั่ คอื เจ้าเมอื งในท้องถิ่นยงั อานาจการปกครองไพรบ่ ้านพลเมอื งตามธรรมเนยี ม
เดมิ ของตน เพยี งแตส่ ่งส่วยตอ่ ราชธานแี ละดม่ื น้าพระพพิ ฒั นเ์ ทา่ นนั้ ฉะนน้ั การสบื ทอดวฒั นธรรม
ของภาคอีสานจึงดาเนนิ ตามจารีตประเพณเี ดมิ โดยเฉพาะวัฒนธรรมการเขียนหนังสอื ชาวอสี านยงั ใช้
ตวั อกั ษรทเ่ี คยใชอ้ ยู่ในถ่ินสบื มา นัน่ คอื อกั ษรตวั ธรรมและอักษรไทยนอ้ ย

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๖

ชุด พื้นฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

ตัวอกั ษรตัวธรรมท่พี บในภมู ภิ าคอสี านสมยั กรงุ รัตนโกสนิ ทรม์ จี านวนมาก
ทีบ่ ันทึกในใบลาน และจานวนน้อยทบี่ นั ทกึ ในศลิ าจารกึ ในเอกสารใบลานท่ีหลงเหลอื อยูต่ ามวดั สาคญั ๆ
ในภาคอสี านสว่ นใหญ่จะเป็นตวั ธรรม ซึง่ ชาวบา้ นนยิ มใชอ้ ักษรธรรมเขยี นบนั ทึกเร่อื งราวอนั เกี่ยวเนอ่ื งดว้ ย
พุทธศาสนา เช่น พระธรรมคมั ภรี ์ และตาราวิชาการต่าง ๆ รวมถึงวรรณกรรมพทุ ธศาสนาทง้ั ชาดกนบิ าต
และชาดกนอกนบิ าต

จากการศึกษารูปทรงสณั ฐานของอักษรตัวธรรมในเอกสารใบลาน พบวา่ รปู ทรง
เปลย่ี นแปลงไปจากเดิมบ้างเลก็ นอ้ ย ซง่ึ อาจจะเปน็ เพราะความนิยม หรือวัสดุ (ใบลาน) ทใ่ี ช้เขียนเปน็ ปัจจัย
ของการเปลีย่ นแปลงไปมาก นน่ั คือทรวดทรงปรบั เปน็ ทรงกลมตัวปอ้ มมาก ซ่ึงเหมาะกับการเขยี นใบลาน

๓.๒.๑ รปู พยัญชนะ
พิจารณาสนั ฐานของตวั อกั ษณโบราณโดยทว่ั ไปเปลีย่ นแปลงน้อยมาก

เพียงแตท่ รวดทรงกลม และตวั ป้อมกว่าเดิม สว่ นหวั อักษรหรอื หวั พยญั ชนะทีป่ รากฏในจารกึ
วดั ถา้ สุวรรณคหู าเปน็ หัวหยักหรือหัวแตก ในเอกสารใบลานจะเปน็ หวั กลมทกุ ตวั แตใ่ นศลิ าจารกึ บางหลัก
เช่น ศิลาจารึก วดั บางป่าใหญ่ จังหวัดอบุ ลราชธานี สรา้ งเมือ่ พ.ศ. ๒๓๕๐ ยังพบพยญั ชนะหลายตวั นิยม
หัวหยัก นอกจากนี้ก็ยงั คงพบพยัญชนะประสมอกี จานวนหนง่ึ ท่ีเขียนตวั เต็ม และตวั ห้อยรวมกัน พยัญชนะ
อกั ษรตวั ธรรมในสมยั กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ มีทัง้ ตัวเต็มและตวั ห้อย (ตวั เฟ้ือง) เช่นเดยี วกัน สว่ นพยญั ชนะ
ท่ีไมค่ อ่ ยนิยมใช้เขียนภาษาถ่ิน เช่น ฉ ฌ ฐ ฒ พบอยุ่ในเอกสารใบลานท่ใี ชเ้ ขยี นภาษาบาลี

๓.๒.๒ รูปสระ
รูปสระโดยท่วั ไปไมม่ ีการเปลย่ี นแปลง นอกจากผดิ เพีย้ นกันบา้ งเปน็ เพราะลายมอื

ผเู้ ขยี น สระมคี รบทกุ รปู ในการเขยี นภาษาถนิ่ (คล้ายสระไทย) โดยทวั ไปเหมือนกนั กบั สระอกั ษรไทย
แต่นยิ มทรงกลม ตวั ปอ้ ม (สระไทยนยิ มทรงเหลีย่ มตัวร)ี แต่กระนน้ั กต็ าม สระประสมเสยี งสนั้ เช่น สระอวั ะ
สระเอยี ะ สระเออื ะ ไม่พบบอ่ ยนกั

๓.๒.๓ รูปวรรณยุกต์
ไม่ปรากฏว่าใชว้ รรณยุกต์ แต่กระนัน้ ตามเอกสารใบลานบางฉบบั พบรอยขดี เขยี น

วรรณยุกต์ (วรรณยุกตท์ ี่เปน็ อกั ษรไทย) อยบู่ า้ ง ซึ่งนา่ จะตอ่ เติมภายหลงั เพราะพรภกิ ษสุ มยั หลงั มีความ
ชานาญอกั ษรไทยปจั จบุ ันมาก เมือ่ จาเปน็ จะตอ้ งเทศนช์ าดก เชน่ มหาชาตฉิ บบั สานวนท้องถนิ่ จงึ เติม
วรรณยกุ ตเ์ พื่อสะดวกสาหรบั ผเู้ ริม่ หดั อ่านตวั ธรรม

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๗

ชดุ พน้ื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

๓.๒.๔ อักขรวิธี
อกั ขรวิธี วางสระไวร้ อบพยัญชนะต้นเหมอื นกบั อกั ษรสกุลขอม และอกั ษรมอญ

(เหมอื นอักขรวธิ ไี ทยปจั จบุ นั ) ส่วนตวั สะกดจะวางไวใ้ ตบ้ รรทดั และเขยี นดว้ ยตวั ครงึ่ (เชงิ ) ซง่ึ เรียกตามภาษา
ถิ่นว่า “ตัวเฟ้ือง” หรอื “ตวั หอ้ ย” หากพยัญชนะทสี่ ะกดไมม่ ีรปู ตวั ครึ่งจะเขียนดว้ ยตวั เตม็ แตว่ างไวใ้ ต้
บรรทดั เช่นเดียวกนั

นอกจากน้ี ก่องแกว้ วีระประจกั ษ์ (๒๕๒๖ : ๓๐) ได้สรุปการกาเนิดอักษรตวั ธรรมไว้
ซึ่งจะทาใหผ้ ู้อ่านเห็นภาพรวมของพฒั นาการของอกั ษรตวั ธรรมอีสาน ดังน้ี

ภาพที่ ๑ ภาพแสดงการกาเนดิ ตัวอกั ษรตัวธรรมอกี สาน
แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๘

ชุด พื้นฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

ภาพที่ ๒ ภาพจารกึ วัดถ้าสวุ รรณคหู า ๒ ด้านที่ ๑
ศูนยม์ านษุ ยวิทยาสิรินธร (๒๕๕๕ : ออนไลน์)

ภาพท่ี ๓ ภาพใบลานอักษรธรรมอีสาน เร่ืองปญั ญาบารมี วดั ทุ่งอุทมุ พร จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี
หอสมดุ แห่งชาติจังหวดั สุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ (๒๕๖๓ : ออนไลน)์

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๙

ชดุ พื้นฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

บทท่ี ๒
พยัญชนะอกั ษรธรรมอสี าน

อกั ษรธรรมอีสาน มีรปู แบบพยญั ชนะ ๒ รูปแบบ ซึ่งนักเรียนจะตอ้ งทาความเข้าใจลกั ษณะ
ของตัวธรรมอสี านอยา่ งละเอียด เพราะบางตวั มลี กั ษณะคลา้ ยกนั แตกต่างกันเพยี งเลก็ น้อย ดงั น้ี

๑) พยญั ชนะที่เขียนเตม็ รปู มี ๓๙ ตวั
๒) พยัญชนะตวั เฟ้อื งหรือตวั หอ้ ย คอื พยัญชนะท่ีเขยี นครึง่ รปู นิยมใช้เปน็ ตวั สะกด
และพยัญชนะควบกลา้



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ก -r ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ข -_ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๐

ชดุ พืน้ ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ค -* ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ฆ -S ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ง -ๆ, -W ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๑

ชดุ พืน้ ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
จ -,) -: ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ฉ -C ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ช -=, -: ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๒

ชุด พื้นฐานการเขยี นการอ่าน

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ฌ -g ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ญ -P ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ฏ -D ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๓

ชดุ พ้ืนฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ฐ -,{ -‚ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

ฑ/ ด

พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ด -R ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ฒ ฒ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๔

ชดุ พืน้ ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ณ -I ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ต -( ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ถ -:, -‚ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๕

ชุด พื้นฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ท -m ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ธ -,: -T ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
น -o ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๖

ชุด พื้นฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ป -[, -t ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ผ ผ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ฝ t ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๗

ชดุ พื้นฐานการเขยี นการอ่าน

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
พ -,: -{ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ฟ t ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ภ -$ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๘

ชุด พื้นฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ม -, ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ย -“, -p ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ร i- ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๑๙

ชุด พน้ื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ฤ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ล -,] -} ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ว -; ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๐

ชดุ พน้ื ฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู

พยญั ชนะตวั เตม็ ส ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________
ส พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ______________
______________
-x, -w o ______________ ______________
______________
______________
______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ศ -L ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอ้ื ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
ห -s ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๑

ชุด พ้นื ฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ฬ ฬ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
อ -v ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________



พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอ้ื ง
______________ ______________
ฮ ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๒

ชุด พ้ืนฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

อย-

พยญั ชนะตวั เตม็ พยญั ชนะตวั เฟอื้ ง ฝกึ เขยี นตวั เตม็ ฝกึ เขยี นตวั เฟอื้ ง
______________ ______________
\ -w ______________ ______________
______________ ______________
______________ ______________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๓

ชดุ พน้ื ฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

บทที่ ๓
สระอกั ษรธรรมอสี าน

อกั ษรธรรมอีสาน มรี ปู แบบสระ ๒ ประเภท คอื สระลอย และสระจม ดงั น้ี
๑) สระลอย หมายถงึ สระทเ่ี ปน็ รูปสาเรจ็ สามารถนามาใชเ้ ขียนได้เลย ใช้แทน อ

ทผี่ สมกับสระน้ัน ๆ มี ๘ รูป และการเขียนสระลอยจะเขียนอยใู่ นระดบั เดยี วกบั พยญั ชนะตวั เต็ม
และอยูต่ น้ คาหรือตน้ พยางค์

๒) สระจม หมายถงึ สระทีต่ อ้ งอาศยั พยัญชนะมาประกอบเท่านนั้ จึงจะใช้ได้ มี ๒๗ รปู

โดยเขยี นไว้รอบพยญั ชนะตวั เต็มคอื ดา้ นหน้าเรยี กว่าสระหน้า ดา้ นหลังเรียกว่าสระหลัง ดา้ นบนเรียกว่า
สระบน ด้านลา่ งเรยี กว่าสระลา่ งเช่นเดียวกบั ภาษาไทย

๑. สระลอย

สระลอยในอกั ษรตัวธรรมอสี านมที ั้งหมด ๘ รปู ดงั นี้
สระภาษาไทย อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ

สระลอย อ อา กo U ๅ / ๙ ๅQา

ฝกึ เขยี น ______ ______ ______ ______ ______ ______ ______ ______
ตวั อยา่ ง ______ ______ ______ ______ ______ ______ ______ ______

______ ______ ______ ______ ______ ______ ______ ______

______ ______ ______ ______ ______ ______ ______ ______

อนจิ :า อาไส กรo Uสาo ๅทาo / ๙กา ๅาQ มา

(อนิจจา) (อาศยั ) (อนิ ) (อสี าน) (อทุ าน) (อู่) (เอกา) (เอามา)

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๔

ชุด พนื้ ฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู

๒. สระจม

สระจมในอักษรตวั ธรรมอสี านมีทั้งหมด ๒๗ รปู ดงั นี้

สระภาษาไทย สระจม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น
ปะ สะ กะ ชนะ
______ ตา อา ชา้ มาลา

- ะสระอะ ______ ปะ สะ กะ ชะนะ สิ พิ นิ สริ ิ
______ ปี อี สี มดี ี
ดึก มึน อนึ นกึ
______ ด่มื รน่ื ยืม ชน่ื ม่นื

______

-าสระอา ______ ตา อา ชา มาลา
______

______

______

-bสระอิ ______ สิ พิ นิ สริ ิ
______

______

______

-uสระอี ______ ปี อี สี มดี ี
______

______

______

-Nสระอึ ______ ดกึ สึร อึน นกึ
______

______

______

-nสระอือ ______ ดืม รืน ยืม ชoมื ืo
______

______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๕

ชดุ พ้นื ฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู

สระภาษาไทย สระจม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น
______ อุ มมุ สกุ สุด อุ มมุ สุก สดุ
สระอุ -ุ ______
สระอู -ู ______ ปู ดูด ภุม ขลู ู ปู ดดู ภมู ิ ขลู ู
สระเอะ เ-ะ ______
สระเอ เ- ______ เปะ เอะ เตะ เละเทะ เป๊ะ เอะ เตะ เละเทะ
สระแอะ แ-ะ ______
______ เท เดก เยo เกเร เท เดก็ เยน็ เกเร
สระแอ แ- ______
______ แกะ แคะ แงะ แปะ แกะ แคะ แงะ แปะ
______
______ แก แยd แดf แขแ' ร' แก่ แยก แดด แข็งแรง
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๖

ชดุ พ้ืนฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

สระภาษาไทย สระจม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น
______ โปะ โตะ โละ โผะ โป๊ะ โตะ๊ โละ โผ๊ะ
สระโอะ โ-ะ ______
สระโอ โ- ______ โต โลd โดf โหด โต โลก โดด โหด
สระเอาะ เ-าะ ______
สระออ -Y, -V ______ เลาะ เห,าะ เจาะ เอาะ เลาะ เหมาะ เจาะ เอ๊าะ
สระอัวะ -Qะ; ______
______ กY ทY กVง จVงมVง ก่อ ท้อ กอง จ้องมอง
สระอัว -Q; ______
______ ผ;ะQ จQะ; ต;ะQ ยQะ; ผว๊ั ะ จวั๊ ะ ตว๊ั ะ ยว๊ั ะ
______
______ ต;Q ถ;Q ห;Q รบQ; ตัว ถวั่ หวั รวบ
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๗

ชดุ พน้ื ฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

สระภาษาไทย สระจม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น
______
สระเอยี ะ เ-ั“ะ ______ เอั“ะ เป“ั ะ เจั“ะ เก“ั ะ เอี๊ยะ เปีย๊ ะ เจี๊ยะ เก๊ยี ะ
สระเอีย เ-“ั ______
สระเออื ะ เ-nVะ ______ เมัy“ เตy“ เลy“ เนy“ เมยี เตย้ี เลยี เนีย
สระเอือ เ-n: ______
สระเออะ เ-bะ ______ เอะVn เกnะV เจะnV เวVnะ เอือะ เกือะ เจือะ เวือะ
______
สระเออ เ-b ______ เกื: เม:ื เล:กื เลด:ื เกอื เมือ เลือก เลือด
______
______ เกbะ เพbะ เชะb เละb เทbะ เกอะ เพอะ เช้อะ
______ เลอะเทอะ
______
______ เธิ เจิ เพิ เทเิ ลิ เธอ เจอ เพอ้ เท่อเล่อ
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๘

ชดุ พ้ืนฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู

สระภาษาไทย สระจม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น
______ จำ คำ ชำ กำ จา คา้ ชา้ ก่า
สระอา -ำ ______
สระไอ ไ- ______ ไส ไย ไล ไป ใส ใย ไล ไป
สระเอา เ-Qา ______
ออย -ฃ ______ เกQา เทาQ เคาQ เสQาเลQา เกา เทา่ เคา้ เสาเล้า
______
______ รฃ กฃ อฃ สฃ ร้อย กอ้ ย อ้อย สอย
______
______
______
______
______
______
______
______
______

๓. สระพเิ ศษ

มสี ระพเิ ศษอีก ๘ ตวั ซงึ่ มีอักขรวิธแี ตกตา่ งไปจากสระทวั่ ไป บางตัวเปน็ รปู พยญั ชนะตัวเฟื้อง
แตน่ ามาประกอบเป็นสระ ดงั น้ี

๓.๑ นิคหติ ( - )Y ข้อมูลดังปรากฏในหนา้ ๔๐
๓.๒ สระอาสงู ( -^ ) บางทเี รยี กวา่ สระอาหลวง ถูกบัญญตั ิขนึ้ ในอักขรวธิ ีอักษรธรรมอีสาน
เพอ่ื ใชก้ บั พยญั ชนะ ว (ว) เพื่อไมใ่ ห้อา่ นผดิ เป้นตวั ต (ต) แตก่ ็มใี บลานบางผกู ท่ีใชส้ ระอาสงู ( -^ )
กบั ตวั พยญั ชนะอื่น ๆ ทงั้ ผกู กม็ ี เชน่ ว^d (วาก) ว^นb= (วานชิ ) วf^ (วาด) เปน็ ตน้ ยกเวน้ คาว่านัน้ ถกู เขยี นย่อ
เข้ากบั คาอ่ืน ๆ กไ็ ม่ต้องใชส้ ระอาสูง ( -^ ) คงใชส้ ระอาปกติ (-า) เชน่ ตัวเตม็ ผวิ ^ ตวั ยอ่ ผิ;า (ผวิ า่ ) ตวั เตม็
มไe คว^ ตวั ย่อ มeไค;า (มกั ไควา่ )
๓.๓ ไม้ซดั ( -e ) ข้อมลู ดงั ปรากฏในหน้า ๓๙
๓.๔ ไมก้ ง หรอื ไม้กม่ ( -Q ) ขอ้ มลู ดงั ปรากฏในหน้า ๓๙

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๒๙

ชุด พืน้ ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

๓.๕ ตัว ฤ ฤา ( ฤ ) ถกู บญั ญัตขิ นึ้ ใช้ในอกั ขรวธิ อี ักษรธรรมอสี าน เปน้ ไดท้ ัง้ พยญั ชนะและสระ
สาหรับสระนน้ั ใชแ้ ทนเสยี งสระ ออื เออ ดังน้ี

๑) ใชแ้ ทนเสียงสระ ออื เชน่ ด'eฤ (ดงั่ ฤา) เปน็ ตน้
๒) ใช้แทนเสียงสระเออ เชน่ ฤกx (ฤกษ)์ เปน็ ตน้
๓.๖ ตวั ย เฟือ้ ง (-w, -p) ถูกบญั ญตั ิข้นึ ใช้ในอกั ขรวธิ อี ักษรธรรมอีสาน เป็นได้ทัง้ พยัญชนะ
และสระ สาหรับสระน้ันใชแ้ ทนเสยี งสระเอีย ใช้ประกอบกบั คาทีป่ ระสมดว้ ยสระเอยี และมตี ัวสะกด
ถา้ ไมม่ ีตวั สะกดให้ใช้สระ เ-ew (เอยี ) ดังนี้
๑) คาท่ีมตี วั สะกด เชน่ คwว (เคยี ว) ชwง (เซียง) เป็นต้น
๒) คาท่ีไมม่ ตี ัวสะกด เช่น เขwe (เข่ยี ) เดwe รดาx (เดียรดาส) เปน็ ตน้
๓.๗ ตัว อย- เฟอื้ งนี้ ( -ฃ ) ถูกบัญญัตขิ ้นึ ใชใ้ นอักขรวธิ ีอักษรธรรมอสี าน เปน็ ไดท้ ัง้ พยัญชนะ
และสระ สาหรบั สระนน้ั ใชแ้ ทนเสียงสระออย ใชป้ ระกอบกบั คาทป่ี ระสอมสระออ สะกดดว้ ย ย เชน่ มฃ
(มอ่ ย) ฟฃ (ฟอย) มฃ (มอย) เป็นตน้
๓.๘ สระเอาที่ไม่มีไมก้ งอย่ขู า้ ง (เ-า) สาหรบั ใช้เขยี นแทนสระโอ ในคาภาษาบาลี
การใช้สระเอาเปน็ สระโอมกั ใชเ้ ฉพาะทา้ ยคาศัพทค์ าภาษาบาลเี ทา่ นน้ั ถ้าเปน็ ตน้ คาศัพท์ใหใ้ ชส้ ระโอลอย
( โอ ) ดงั น้ี
๑) สระ เ-า (เอา) ทไี่ มม่ ไี ม้ ( - Q ) อยู่ขา้ งบน เชน่ กโปเลา (กะโปโล) กปาเลา (กปาโล)
เป็นตน้
๒) สระโอ ตน้ คาศัพท์ให้ใช้สระโอลอย เช่น โอตุ (โอต)ุ โอรพ$ิก (โอรพฺภิก) เปน็ ตน้
ถา้ เปน็ คาภาษาบาลที ย่ี มื มาใช้ในภาษาถนิ่ พบวา่ มีการใช้สระเอาตน้ คาไดเ้ หมือนกัน เชน่ เพ:าb สfe (โพธิสตั ว)์
เพาทสิ พ,Q า{ o (โพธสิ มภาร) เปน็ ต้น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๐

ชดุ พ้ืนฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

บทท่ี ๔
พยัญชนะประสม

พยญั ชนะประสม เปน็ การนาพยญั ชนะ ๒ ตัวมาซอ้ นกนั โดยใชพ้ ยัญชนะตวั แรกเปน็ ตวั เต็ม
สว่ นพยญั ชนะตวั ตามใชต้ ัวเฟ้อื งซอ้ นอยูข่ ้างลา่ ง และใชส้ ระรว่ มตวั เดยี วกนั ซ่งึ ในอกั ขรวธิ อี กั ษรธรรมอีสาน
มีพยัญชนะประสมอยู่ ๒ อย่าง คอื พยัญชนะท่ีมี ห นา อ นา และพยญั ชนะควบกล้า ดังทก่ี รมศลิ ปากร
(๒๕๖๐ : ๘๓-๙๒) ได้อธิบายพยญั ชนะประสม ดังนี้

๑. พยญั ชนะทม่ี ี ห นา

พยญั ชนะท่ีมี ห นา นนั้ ในอักขรวธิ ีของอักษรธรรมอสี านมี ๒ อยา่ ง คอื ที่ปรากฏรปู

และทป่ี รากฏแต่เสยี ง

๑.๑ พยัญชนะทม่ี ี ห นา ทปี่ รากฏรูปมี ๖ ตวั คอื หง-, หน-, หม-, หย-, หล-, และ หว-

เวลาอ่านออกเสยี งจะออกเสยี งร่วมกนั สนทิ และเวลาใชเ้ ขียน พยัญชนะตวั หลังทั้ง ๖ จะเปลยี่ นเปน็ ตวั เฟื้อง

วางอยูใ่ ต้ ห ดงั นี้

ห นา พยญั ชนะ รปู อกั ษรธรรม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น

______

ง (ง) หW ______ หWำ หงา (บดบัง)
______ เหQาW เหงา (ว้าเหว)่

______

______

ห น (น) หo ______ หeกo หนกั (ไมเ่ บา)
______ หuo หนี (หลบหลกี )
(ห)

______

______

ม (ม) ห, ______ หeร, หมน่ั (ขยนั )
______ หา, น หมาน (ได้มาก)

______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๑

ชดุ พน้ื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู

ห นา พยญั ชนะ รปู อกั ษรธรรม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น

______

ย (ย) ห“ ______ ห“ุม หยุม (ขยา)
______ ห“ุบ หยบุ (หยบิ )

______

______

ห ล (ล) ห,] ห} ______ เห]มb งำ เหลมิ งา (คมุ้ ครอง)
______ ห}า หล่า (คนสดุ ทอ้ ง)
(ห)

______

______

ว (ว) ห; ______ หา; o หว่าน (หวา้ น)
______ ห;า“ หวาย (พืชรสชาตขิ ม)

______

๑.๒ พยัญชนะทมี่ ี ห นา ทป่ี รากฏเสียงไมป่ รากฏรปู เปน็ การใชพ้ ยญั ชนะตน้ ๒ ตวั ประสมกนั

และรว่ มอยู่ในสระเดยี วกัน อ่านออกเสียงเปน็ สองพยางค์ พยางคห์ ลงั ออกเสยี งเหมอื มี ห นา ซึ่งเคยอา่ นพบ

มใี ชอ้ ย่จู านวนมาก โดยเฉพาะคาทใี่ ช้ ส นา ตวั อยา่ งเชน่

อกั ษรนา พยญั ชนะ รปู อกั ษรธรรม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น

______

ข (ข) น (น) ขo ______ ขมQo ขนม (ของหวาน)
______

______

______

______

ถ (ถ) น (น) ถo ______ ถoQน ถนน (ทาง)

______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๒

ชดุ พน้ื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

อกั ษรนา พยญั ชนะ รปู อกั ษรธรรม ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น
______ ถลน (ยน่ื ออก)
ถ (ถ) ล (ล) ถ], ถ} ______ ถQน] ถวาย (มอบให)้
______ ถา; “ สนม (นางกานนั )
ถ (ถ) ว (ว) ถ; ______ สมQo เสมอ (เท่ากนั )
______ เสb,
ส (ส) น (น) สo ______ เสb“; เสวย (กนิ )
______ ส}าx สลาส (ฉลาด)
ส (ส) ม (ม) ส, ______
______
ส (ส) ว (ว) ส; ______
______
ส (ส) ล (ล) ส], ส} ______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______
______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๓

ชุด พ้นื ฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

๒. พยญั ชนะทมี่ ี อ นา

ผลการศกึ ษายังพบกลุ่มคากลมุ่ หน่ึงในอักษรธรรมอสี าน ทมี่ กี ารใช้คาโดยมีเสยี งตวั อ นา

เหมอื นกบั ภาษาไทย ต่างกนั แต่ตวั อักษรและความหลากหลายในการใช้ ซงึ่ ในภาษาไทยคาที่มีเสยี ง อ นา

มีใช้อยูเ่ พียง ๔ คา คือ อย่า อยู่ อย่าง อยาก แต่ในอกั ษรธรรมอีสานมีใช้อยเู่ ปน็ จานวนมาก อักษร

ทใี่ ช้เขยี นคาเหล่านน้ั คือ ตวั “ฝ” เรยี กวา่ ตวั “อย-” หรือตวั ย หยาดน้า เวลาเขยี นให้ตวั “ฝ”

เป็นพยัญชนะต้นเพียงตวั เดยี ว แตเ่ วลาอา่ นออกเสยี งเหมือนมพี ยัญชนะต้นสองตวั ตวั อยา่ งเชน่

ตวั อยา่ งรปู อกั ษรธรรม ฝกึ เขยี น คาอา่ น ความหมาย

ทใ่ี ช้ “ฝ” (อย-)

______

ฝvง ______ อยอ่ ง เชิดชู
______

______

______

ฝา ______ อย่า ห้าม
______

______

______

ฝาo ______ อย่าน กลวั
______

______

______

ฝา“ ______ อย่าย แจก, แบง่ ปนั
______

______

______

ฝา; ______ อยา่ ว เข้าจังหวะสนุกสนาน
______

______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๔

ชดุ พ้ืนฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

ตวั อยา่ งรปู อกั ษรธรรม ฝกึ เขยี น คาอา่ น ความหมาย
ทใี่ ช้ “ฝ” (อย-) เอยย้ี ม มอง, เหลียวดู
______
ฝ“ม ______
______
______

๓. พยญั ชนะควบกลา้

พยัญชนะท่ีใช้ควบกลา้ มี ๓ อักษรคือ “i -” (ร) “ -; ” (ว) และ “ -] , -}” (ล) เรยี กวา่ อักษรควบ

คือควบหรอื กลา้ อยใู่ นสระตวั เดยี วกนั กับพยัญชนะอีกตวั หนงึ่ ถ้าออกเสยี งกลา้ กนั เปน็ เสียงเดียว เรยี กวา่

อักษรควบแท้ เช่น กลา่ ว กราบ เปน็ ตน้ ถ้าไมอ่ อกเสียงควบกลา้ เช่น ศรี สระ เปน็ ตน้ เรยี กวา่ อกั ษรควบ

ไม่แท้ เวลาเขียนจะใช้พยัญชนะเหลา่ นซี้ ึ่งเป็นตัวเฟ้ืองทง้ั สามตวั วางไว้หน้าและใตพ้ ยัญชนะตน้ ดังนี้

๓.๑ อกั ษรควบแท้

๓.๑.๑ การใชอ้ ักษร “i -” (ร) ควบกลา้ เชน่

พยญั ชนะ รปู พยญั ชนะ ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น ความหมาย

ควบกลา้ ภาษาไทย ควบกลา้ อกั ษรธรรม

______

กร- iก- ______ iกสef กรสดั พระเจา้
______ แผ่นดนิ

______

______

คร- iค- ______ iคู ครู ผสู้ ่ังสอน
______

______

______

ตร- iต- ______ ไiต“ ไตรย สาม
______

______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๕

ชุด พ้นื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู

พยญั ชนะ รปู พยญั ชนะ ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น ความหมาย

ควบกลา้ ภาษาไทย ควบกลา้ อกั ษรธรรม iปาx ปราส นกั ปราชญ์

______ iพะ พระ พระสงฆ์

ปร- iป- ______ ตวั อยา่ ง คาอา่ น ความหมาย
______
ก}า; กล่าว พูด
______ กวQ] กลวั หวาดกลวั
พeร]
______ พ}าf พลนั ทันที
พลาด ไมต่ รงทห่ี มาย
พร- iพ- ______ ตวั อยา่ ง
______ คาอา่ น ความหมาย
ก}า;
______ กวQ] กล่าว พดู
กลวั หวาดกลวั
๓.๑.๒ การใช้อกั ษร “ -] , -}” (ล) ควบกล้า เช่น

พยญั ชนะ รปู พยญั ชนะ ฝกึ เขยี น

ควบกลา้ ภาษาไทย ควบกลา้ อกั ษรธรรม

______

กล- ก-] , ก}- ______
______

______

______

พล- พ-] , พ}- ______
______

______

๓.๑.๓ การใช้อักษร “ -; ” (ว) ควบกลา้ เชน่

พยญั ชนะ รปู พยญั ชนะ ฝกึ เขยี น

ควบกลา้ ภาษาไทย ควบกลา้ อกั ษรธรรม

______

กว- ก-; ______
______

______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๖

ชุด พืน้ ฐานการเขยี นการอ่าน

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

พยญั ชนะ รปู พยญั ชนะ ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น ความหมาย

ควบกลา้ ภาษาไทย ควบกลา้ อกั ษรธรรม

______

ขว- ข;- ______ ข;าo ขวาง กดี ก้ัน
______ ขร;e ขวัญ มง่ิ มงคล

______

______

คว- ค;- ______ ค;า, ความ เรอื่ ง
______ ค;ำ คว่า พลกิ ลง

______

๓.๒ อักษรควบไม่แท้ เชน่

พยญั ชนะ รปู พยญั ชนะ ฝกึ เขยี น ตวั อยา่ ง คาอา่ น ความหมาย

ควบกลา้ ภาษาไทย ควบกลา้ อกั ษรธรรม

______

สร- iส- ______ iสาW สร้าง เนรมติ
______

______

______

ศร- iศ- ______ iศu ศรี สริ ิมงคล
______

______

______

จร- iจ- ______ iจb จรงิ แน่
______

______

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๗

ชุด พื้นฐานการเขยี นการอา่ น

โดย ศักทาวุฒ โคตรชมภู

บทที่ ๕
ตวั เลขและเครอ่ื งหมาย

๑. ตวั เลข

ตวั เลขในอักษรธรรมอสี านแมว้ า่ จะมจี านวน ๑๐ ตัว เหมอื นกบั เลขไทย แต่วธิ ีการเขยี นนน้ั

แตกตา่ งกนั รวมท้ังรูปตัวเลขกแ็ ตกต่างกันอีกด้วย หากไมไ่ ด้ศกึ ษาอาจทาใหเ้ ข้าใจผดิ ได้ ซึ่งรายละเอียดการ

ใชต้ ัวเลขของอักษรตวั ธรรมอสี านมดี ังน้ี

ตวั เลขไทย ๐๑๒๓๔๕๖๗๘๙

ตวั เลขตวั ธรรมอสี าน 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

----- ----- ----- ----- ----- ----- ----- ----- ----- -----
ฝกึ เขยี น ----- ----- ----- ----- ----- ----- ----- ----- ----- -----

กรมศิลปากร (๒๕๖๐ : ๑๘๒-๑๘๓) ได้อธบิ ายวธิ กี ารเขยี นตวั เลขของอกั ษรตวั ธรรมอสี าน

ไว้ดงั นี้

๑) เลขหลกั หนว่ ยตัง้ แต่ ๑-๙ เขยี นตามปก เหมือนการเขยี นตัวเลขของภาษาไทย เชน่

7 คoQ อา่ นวา่ ๗ คน
2 คeo อ่านว่า ๒ คนั
6 เลe, อา่ นว่า ๓ เลม่
9 เคbง, อา่ นว่า ๙ เค่งิ (เครอ่ื ง)
1 เสาQ อา่ นว่า ๑ เสา
๒) เลขหลักสิบ สว่ นใหญ่จะเขยี นจานวนเตม็ สบิ แลว้ ตามดว้ ยจานวนเศษ เชน่

101 อา่ นวา่ สบิ เอด็ (๑๑)
202 อ่านวา่ ย่ีสบิ สอง๑ (๒๒)
605 อา่ นวา่ สามสบิ หา้ (๓๕)
407 อา่ นวา่ สีส่ บิ เจด็ (๔๗)
909 อ่านวา่ เก้าสบิ เกา้ (๙๙)

๑ จานวน ยสี่ ิบ (๒๐) บางคร้ังจะใช้คาวา่ ซาว เช่น ชา1; อา่ นวา่ ซาวเอด็ (๒๑) เปน็ ตน้
แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๘

ชุด พน้ื ฐานการเขียนการอ่าน

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู

๓) เลขหลักร้อยขนึ้ ไปจะใช้ตวั เลขกบั ตวั หนังสือประกัน และใชต้ วั หนังสือบอกจานวนเตม็ ตาม
ดว้ ยจานวเศษ เช่น

1รฃ อ่านวา่ หนึ่งร้อย (๑๐๐)
5รฃ70 อา่ นว่า หา้ รอ้ ยเจ็ดสิบ (๕๗๐)
9รฃ601 อา่ นว่า เก้าร้อยหกสบิ เอ็ด (๙๖๑)
2พeo อา่ นวา่ สองพนั (๒,๐๐๐)
6พ1รฃ อ่านว่า สามพนั หนึ่งร้อย (๒,๑๐๐)
6พ1รฃ70 อ่านว่า สามพนั หนง่ึ รอ้ ยเจ็ดสบิ (๒,๑๗๐)
6พ1รฃ804 อ่านว่า สามพนั หนึง่ ร้อยแปดสิบส่ี (๒,๑๘๔)
7ห,nน อา่ นวา่ เจด็ หมนื่ (๗๐,๐๐๐)
3แสo อ่านวา่ สามแสน (๓๐๐,๐๐๐)
2ลาo อ่านว่า สองล้าน (๒,๐๐๐,๐๐๐)
1โกฏิ อ่านว่า ๑ โกฏิ (๑๐,๐๐๐,๐๐๐)

๒. เครอื่ งหมาย

อักษรตัวธรรมอสี าน มกี ารบัญญัตเิ ครอื่ งหมายขน้ึ มา เพอ่ื ใช้แทนพยัญชนะ หรือสระบา้ ง
นอกจากนีย้ ังมีเครอื่ งหมายบอกอังกา (หนา้ ลาน) โดยมรี ายละเอยี ด ดงั น้ี

๒.๑ เครอ่ื งหมายท่ใี ชแ้ ทนพยญั ชนะและสระ
อกั ขรวิธอี ักษรตวั ธรรมอสี านมี ๖ ตัว ไดแ้ ก่ “ -e ” (ไม้ซดั ) “ - ” (ไมก้ ก หรอื จดุ ลา่ งสองจุด)

“ -Q ” (ไม้กง) “ -ๆ ” (ไม้อังแลน่ ) “-2” (ไมย้ มกหรือเคร่ืองหมายซา้ คา) และ “ -ํ ” (นคิ หติ ) ซึ่งสญั ลักษณ์
เหล่าน้ีจัดเปน็ เคร่อื งหมาย เพราะไม่ไดจ้ ดั อย่ใู นพวกพยัญชนะ หรอื สระ ยกเวน้ “ -ๆ ” (ไมอ้ ังแลน่ ) จดั อยใู่ น
พวกตวั เฟ้อื ง มลี กั ษณะแบบเครือ่ งหมาย จึงนามาอธบิ ายรวมกบั เครอ่ื งหมาย สว่ น “ -ํ ” (นคิ หิต) ถ้าจะจดั
อยู่ในกลุ่มเคร่ืองหมาย กน็ ่าจะเรยี กวา่ ไม้ไต่คู้ เพราะใชแ้ ทนไมไ้ ต่คใู้ นภาษาถนิ่ นอกจากนเ้ี ครอ่ื งหมาย
เหล่านบี้ างตวั ใชแ้ ทนเสียงสระ ดังอธบิ ายไปแลว้ ในเรอื่ งของสระ ในเน้อื หาน้ีจะอธบิ ายเฉพาะท่ตี ่างไปจาก
สระ ซง่ึ มีรายละเอียด ดงั น้ี

๒.๑.๑ “ -e ” (ไมซ้ ดั ) มวี ธิ ีการใช้ ดังน้ี
๑) ใชเ้ ปน็ ตวั สะกด แทน ก (ก) โดยประสมกบั สระต่าง ๆ
ประสมกบั สระ อา เชน่ สeา (สาก) ห}e า (สาก) เปน็ ตน้
ประสมกบั สระ อุ เช่น อุe (อกุ ) อeอุ e' (อุกอัง่ ) เป็นตน้
ประสมกบั สระ อู เช่น ดูe (ดูก) ลกeู Q (ลูกกก) เปน็ ต้น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๓๙

ชดุ พ้นื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

ประสมกบั สระ แอ เชน่ แผe (แผก) แหe (แหก) เปน็ ตน้
ประสมกบั สระ โอ เช่น โตe (โตก) โสe (โสก) เปน็ ตน้
ประสมกบั สระ ออ เชน่ กveวve (กอกวอก) คev (คอก) เปน็ ต้น
ประสมกบั สระ เอยี เชน่ ดwe (เดยี ก) iพwe (เพรยี ก) เปน็ ตน้
๒) ใชเ้ ปน็ ตวั สะกดแทน ก และไมห้ นั อากาศ ในตวั เดียวกนั เชน่ คe (คัก) จe (จัก) สe (สัก)
เป็นตน้
๓) ใช้เป็นเครอื่ งหมายในคาพเิ ศษ เช่น ท}e า (ทง้ั หลาย) ไหงe] (ไหลหลั่ง) มeาw (มมี าก) เป็นต้น
๒.๑.๒ “ - ” (ไมก้ ก หรอื จดุ ลา่ งสองจดุ ) ใช้เป็นตวั สะกดแทน ก โดยประสมกบั สระต่าง ๆ
ดงั นี้
ประสมกบั สระ อะ เช่น มeานe (มากนัก) เปน็ ตน้
ประสมกบั สระ แอ เช่น บาแดe (ปาแดก) เปน็ ตน้
ประสมกบั สระ โอะ ลดรูป เชน่ วQ (วก) เปน็ ตน้
๒.๑.๓ “ -Q ” (ไม้กง) หรอื ไม้กม่ ถูกบัญญตั ิขนึ้ ใช้ในอกั ขรวิธอี กั ษรธรรมอสี าน โดยมกี ารใช้แทน
เสียงสระ และประกอบกับสระต่าง ๆ
๑) ใช้แทนเสยี งสระโอะลดรปู หรอื สระโอะท่มี ีตวั สะกด เช่น มQ, (ม้ม) นQ,สา; (นมสาว)
เปน็ ตน้
๒) ใชแ้ ทนเสียงสระแอ เช่น กQ (แก) ล;Q (แลว้ ) เปน็ ตน้
๓) ใช้แทนเสยี งสระอวั ะ เชน่ ข;Qะ (ขัวะ) ช;Qะ (ซวั ะ) เปน็ ตน้
๔) ใชป้ ระกอบกบั สระอวั เชน่ มQ; (มัว) อ;Q (อัว่ ) เปน็ ตน้
๕) ใชป้ ระกอบกับสระเอา เชน่ เอาQ (เอา) เขาQ งeo (เขา้ งนั ) เปน็ ตน้
๒.๑.๔ “ -ๆ ” (ไม้อังแลน่ หรอื ไม้หอง) ลกั ษณะใช้ไม้องั แลน่ มวี ธิ กี ารใช้เสียงพยญั ชนะ ง สะกด
ดังนี้
๑) ไม้องั แลน่ เม่อื สะกดคาใด ๆ ในภาษาถ่ิน จะวางไวบ้ นพยญั ชนะต้นของคานนั้ ๆ เช่น
กาๆ (กาง) iปๆุ (ปรุง) ยๆู (ยงู ) แป]ๆ (แปลง) จwๆ (เจยี ง) เปน็ ตน้
๒) ไมอ้ งั แลน่ เม่ือสะกดคาใด ๆ ในภาษาบาลี จะวางไวต้ วั ซอ้ นของคานน้ั ๆ เชน่
กขๆา (กังขา) อคOๆ (อังคนา) เป็นตน้
๒.๑.๕ “-2” (ไมย้ มกหรือเคร่ืองหมายซา้ คา) ใช้สาหรบั ซ้าคาตา่ ง ๆ เช่น ตๆา2 (ตา่ ง ๆ)
คฃ2 (ค้อย ๆ) นฃ2 (นอ้ ย ๆ) เปน็ ตน้

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ียนการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๔๐

ชุด พ้ืนฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศกั ทาวุฒ โคตรชมภู

๒.๑.๖ “ -ํ ” (นิคหติ หรือนฤคหติ หรอื จดุ บน หรือหยาดน้าคา้ ง) แตเ่ ดมิ เปน็ พยัญชนะตวั หนง่ึ
ในภาษาบาลแี ละภาษาสนั สกฤต ออกเสียงเปน็ พยญั ชนะ ง กไ็ ด้ เปน็ ม กไ็ ด้ แลว้ แตค่ านน้ั ๆ จะออกเสยี ง
เชน่ ไร สว่ นอกั ขรวธิ อี ักษรธรรมอีสานไดย้ มื มาใชแ้ ทนเสียงสระออ ในภาษาถิ่น สาหรบั ใช้กับคาท่ไี มม่ ี
ตวั สะกด ถา้ เปน็ คาท่มี ตี ัวสะกดกจ็ ะใชส้ ระ “-v” (ออ) โดยมกี ารใชแ้ ทนเสยี งสระ และประกอบกบั สระตา่ ง ๆ
ดงั นี้

๑) ใชแ้ ทนเสียงสระออ ในคาภาษาถนิ่ ทไ่ี ม่มีตวั สะกด เช่น กจํ ํ (ก่อจอ่ ) คอคeo (คอคน)
ตำตํ (ตาตอ) เปน็ ตน้

๒) ใช้แทนเสียง “องั ” (-ง) ในคาภาษาบาลี เช่น พทุ :Y (พทุ ธัง) ธมY, (ธมั มัง) สฆY Y (สงั ฆัง)
เปน็ ตน้

๓) ใช้เป็นตันสะกดในแมก่ ง เมอ่ื เขยี นคาภาษาบาลี โดยใช้ประกอบกับสระเสียงสัน้ ๓ ตวั
คอื อะ อิ และอุ ดังนี้

สระอะ เชน่ กถY (กถงั ) ตตY oe (ต้ังตน้ ) เปน็ ตน้
สระอิ เชน่ กสN กุ (กิงสกุ ะ) กNกาo (กงิ่ ก้าน) เปน็ ต้น
สระอุ เชน่ ๅสYุ (อุสงุ ) วสิ Yุ (วิสงุ ) เปน็ ตน้
๔) ใช้แทนไมไ้ ตค่ ู้ (เสยี งสระ ออ) เชน่ กY (ก็) เปน็ ต้น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอ่าน

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๔๑

ชดุ พน้ื ฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศักทาวฒุ โคตรชมภู

บทท่ี ๖

อกั ขรวธิ พี เิ ศษ

อักขรวธิ ีพเิ ศษ ซึ่งเป็นอักษรตวั ธรรมอสี านทมี่ วี ิธี ประสมอักษรท่ีแตกตา่ งจากกฎเกณฑท์ ั่วไป

มีรปู รา่ งส้นั อาจจะเปน็ ปราชญ์ทางภาษาทตี่ อ้ งหารแสดงความเชย่ี วชาญ หรอื เรยี กว่าซ่อนหนังสอื

ซง่ึ เปน็ ท่มี าคาวา่ “หนังสือหนังหา” ดังกล่าวไว้ อกั ขรพิเศษไดแ้ ก่

ตวั ธรรม คาอา่ น ฝกึ เขยี น

______________________

iดาู ดูรา ______________________
______________________

______________________

______________________

รี อนั วา่ ______________________
______________________

______________________

______________________

ทาe] ทั้งหลาย ______________________
______________________

______________________

______________________

ลQ แล ______________________
______________________

______________________

______________________

กำm กระทา, ก็ทา ______________________
______________________

______________________

______________________

ก]า กาล ______________________
______________________

______________________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชุด พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอา่ น

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน ๔๒

ชุด พ้ืนฐานการเขียนการอา่ น

โดย ศกั ทาวฒุ โคตรชมภู

ตวั ธรรม คาอา่ น ฝกึ เขยี น
แก
กQ แกก่ ู ______________________
แกู ______________________
ไขา' ขไ้ี ข่ขาง ______________________
เขvาๆ เข้าของ (ข้าวของ) ______________________
ชาื; ______________________
ก}Y า; ชอื่ ว่า ______________________
ก็กลา่ ว ______________________
กำ- ______________________
กข็ า้ ______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________

แบบเรยี นอกั ษรธรรมอสี าน

ชดุ พภื ฐานก๒า๕ร๖เข๕ยี นการอ่าน


Click to View FlipBook Version