1
วิทยาลยั การอาชพี นครศรธี รรมราช
ปรัชญาวิทยาลัย
ประพฤตดิ ี ฝมี ือเยยี่ ม เป่ยี มน้ำใจ วินัยเคร่งครดั พัฒนำชมุ ชน
..................................
สปี ระจาวทิ ยาลัยฯ
สปี ระจ้ำวทิ ยำลยั คอื สกี รมท่ำ – สีเลือดหมู
................................
ต้นไมป้ ระจาวทิ ยาลยั ฯ
ตน้ ไม้ประจ้ำวิทยำลัย คอื ต้นปำรชิ ำต
.................................
อักษรย่อชื่อวิทยาลัย
อักษรย่อชือ่ วิทยำลยั คือ วก.นศ.
.................................
หมายเลขโทรศัพท์ 0-7537-8612
เวป็ ไซต์ www.nicc.ac.th
หมายเลขโทรสาร 0-7537-861
2
คานา
วิทยำลัยกำรอำชีพนครศรีธรรมรำช สังกัดส้ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำรได้ด้ำเนินกำรจัดกำรเรียนกำร
สอนด้ำนวิชำชีพ เพ่อื ผลิตก้ำลังคนที่มคี วำมรู้ ควำมสำมำรถ ควำมช้ำนำญ ทักษะ และ มีคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนมวี ินัย เจต
คติ และบุคลิกภำพท่ีดี ซึ่งสำมำรถน้ำไปใช้ในกำรประกอบอำชีพได้ตรงตำมควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน ประเทศชำติ..คู่มือนักเรียน
นักศึกษำนี..ได้รวบรวมระเบียบของกระทรวงศึกษำธิกำร..ระเบียบส้ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ ระเบียบของวิทยำลัย..
แผนกำรเรยี น..รวมทงั ข้อปฏิบตั ิของนักเรียนนักศึกษำ..ตังแต่เร่มิ ต้นเป็นนักเรยี นนักศึกษำจนส้ำเร็จกำรศึกษำตำมหลักสูตร คู่มือเลม่ นีจะ
เปน็ แนวทำงกำรปฏิบตั ติ นใหถ้ กู ตอ้ งและเป็นประโยชน์ตอ่ นกั เรียนนกั ศึกษำทุกคน ตลอดจนผูป้ กครองของนกั เรยี นนกั ศกึ ษำดว้ ย
วิทยำลัยกำรอำชีพนครศรีธรรมรำช..หวังเป็นอย่ำงย่ิงท่ีจะได้เห็นควำมส้ำเร็จด้ำนกำรศึกษำของนักเรียนนักศึกษำทุกคน ตำม
ระยะเวลำท่ีกำ้ หนดไว้ในแต่ละหลกั สตู ร
วิทยาลยั การอาชพี นครศรีธรรมราช
3
สารบญั หน้า
1
ส่วนท่ี 1 : ข้อมลู ท่วั ไปของสถำนศึกษำ 12
13
ประวตั วิ ิทยำลยั วิสยั ทศั น์ 14
พันธกิจของวทิ ยำลัย 19
สำขำวชิ ำทีเ่ ปดิ ทำ้ กำรเรียนกำรสอน ปกี ำรศกึ ษำ 2563 20
ข้อมลู บุคลำกรของวทิ ยำลยั 38
สว่ นท่ี 2 : ข้อมลู เกยี่ วกบั ระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำรวำ่ ด้วยกำรจดั กำรศึกษำและกำรประเมินผลตำมหลกั สตู ร 54
ระเบยี บกระทรวงศกึ ษำธิกำรวำ่ ด้วยกำรจดั กำรศกึ ษำตำมหลักสตู ร 55
ประกำศนียบัตรวชิ ำชีพ พุทธศกั รำช 2562 60
ระเบียบกระทรวงศกึ ษำธิกำรวำ่ ดว้ ยกำรประเมนิ ผลกำรเรียนตำมหลกั สูตร 72
ประกำศนยี บตั รวิชำชพี พุทธศกั รำช 2562 73
ระเบยี บกระทรวงศึกษำธิกำรวำ่ ดว้ ยกำรจดั กำรศกึ ษำตำมหลกั สตู ร
ประกำศนยี บัตรวชิ ำชพี ชันสูง พุทธศักรำช 2563
ระเบียบกระทรวงศกึ ษำธกิ ำรวำ่ ด้วยกำรประเมินผลกำรเรยี นตำมหลกั สตู ร
ประกำศนยี บตั รวิชำชีพชันสูง พุทธศักรำช 2563
ส่วนที่ 3 : ข้อมูลเกยี่ วกับควำมประพฤตแิ ละคะแนนประพฤติ นกั เรยี นนักศกึ ษำ
กำรแต่งกำยของนักเรยี นนกั ศึกษำ และกำรลงโทษ นักเรยี นนกั ศกึ ษำ
ระเบยี บวิทยำลยั กำรอำชีพนครศรีธรรมรำช วำ่ ด้วยหลกั เกณฑใ์ นกำรพจิ ำรณำโทษ
นกั เรียน นกั ศกึ ษำ พ.ศ. 2563
ระเบียบวทิ ยำลยั กำรอำชพี นครศรีธรรมรำช วำ่ ด้วยกำรแต่งกำยของนกั เรยี น นกั ศกึ ษำ
พ.ศ.2563
สว่ นท่ี 4 : ขอ้ มูลเกี่ยวกบั โครงสร้ำงหลกั สตู ร
โครงสรำ้ งหลกั สูตร ระดับปวช. และระดับปวส.
4
สาสน์ จากรองผูอ้ านวยการ
กำรเรียนให้ประสบควำมส้ำเร็จ นักเรียนทุกคนต้องมีควำมมุ่งม่ัน เม่ือก้ำวเข้ำมำเป็นนักเรียน ทุกคนต้องกำร
ควำมส้ำเร็จในกำรเรียน แต่มีนักเรียนจ้ำนวนไม่น้อยที่ประสบควำมล้มเหลวทำงกำรเรียนทัง ๆ ท่ีสำเหตุไม่ได้มำจำก
สตปิ ญั ญำ นกั เรียนเคยหนั กลับมำพจิ ำรณำบำ้ งหรอื ไม่วำ่ เปน็ เพระเหตุใด สำเหตุควำมล้มเหลวนมี ำจำกนกั เรียนขำดกำร
จดั ระบบ กำรวำงแผนกำรเรยี น กำรค้นควำ้ หำควำมรู้ กำรวำงแผนกำรเรียนใหไ้ ดผ้ ล มีวธิ ีกำรเรียนดังน.ี ..
1. จะตอ้ งใช้เวลำใหเ้ ปน็ แบง่ เวลำให้เปน็ สัดสว่ น เช่น เวลำเรยี น เล่น พักผ่อน แยกออกจำก
กันเด็ดขำด อย่ำให้สับสนปนเป เท่ียวก็ให้สนุกจริง ๆ เรียนก็ตังใจจริง ๆ อ่ำนหนังสือก็ปักใจลงไปในหนังสือให้จริงจัง
อย่ำมวั ใจลอย เรียนกไ็ ม่สนใจ ไม่รู้เรอ่ื ง ผลก็คือ กำรเรียนเสีย กำรแบง่ เวลำเปน็ กำรเร่มิ ตน้ ทดี่ ี เพื่อจะกำ้ วไปส่ขู นั ต่อไป
2. ท้ำใจใหเ้ ปน็ สมำธิ คือใหม้ ีสติ มสี มำธิ ไม่วอกแวก เวลำเรียนก็ใส่ใจคดิ ติดตำมไปในเนือหำวชิ ำ สงสัยกถ็ ำมครู
อำจำรย์ที่สอน อย่ำเก็บควำมสงสยั ไว้ด้วยควำมอำย หรอื เพรำะขเี กียจถำมเป็นอันขำด บอกตัวเองไว้ว่ำ ถ้ำรู้อะไรต้องรู้
ใหจ้ รงิ อย่ำมวั ขเี กียจรู้ ขีเกยี จถำมอยเู่ ลย
3. กำรจดบนั ทกึ มีหลักไว้ว่ำ ฟังให้เข้ำใจอย่ำงถ่องแท้ แล้วจึงจะจดไว้ในสมุด เพ่ือเป็นเคร่ืองเตือนควำมจ้ำ ไมใ่ ช่
สกั แต่จดตำมที่ครูพูด โดยไม่ไดต้ ดิ ตำม ไมร่ เู้ รอื่ งในสงิ่ ท่กี ้ำลังเรียน ก้ำลงั จด
4. มีควำมขยันหมั่นเพียรอย่เู ปน็ นจิ คอื ช่วงเวลำท่ีแบง่ ไว้อ่ำนหนังสือนันกต็ ้องอ่ำนจริง ๆ และกำ้ หนดไว้วันไหน
จะอ่ำนวิชำอะไร เช่น ถ้ำคณิตศำสตร์ ก็มีกำรคิดค้ำนวณ ท้ำแบบฝึกหัดแบบทดสอบไป ไม่ใช่สักแต่ว่ำอ่ำนให้ผ่ำนตำ
อ่ำนแล้วตอ้ งอ่ำนให้เขำ้ ใจ แจม่ แจง้
5. อย่ำเอำใจใส่มุ่งไปท่ีผลกำรเรียนเพียงอย่ำงเดียว ทังยังต้องค้ำนึงอยู่เสมอว่ำจุดหมำยหลักของกำรเรียนคือ
ให้เกิดกำรเรียนรู้ จงเรียนเพื่อให้รู้ นั่นคือรู้แจ้งเข้ำใจในเนือหำท่ีเรียน และฝึกปฏิบัติในอนำคต นอกจำกเพื่อให้รู้จักคิด
แล้ว ต้องคิดเป็นด้วยจึงจะถือว่ำเกิดกำรเรียนรู้อย่ำงแท้จริง กรรมวิธีทัง 5 ประกำรนี ถ้ำปฏิบัติจริง นักเรียนจะไม่พบ
ปัญหำวำ่ ได้ผลกำรเรยี น 0 , ร , มส อย่ำงแน่นอน
(นางพันธเ์ พ็ญ โพธใ์ิ บ)
ผูอ้ านวยการวทิ ยาลัยการอาชพี นครศรธี รรมราช
5
สาส์นจากรองผอู้ านวยการ
อำชีวศึกษำ เป็นหัวใจของกำรจัดกำรศึกษำ เพ่ือกำรมีอำชพี มีงำนท้ำ พฒั นำก้ำลงั คนในด้ำนวิชำชีพให้มคี วำมรู้
และทักษะอำชีพ ตอบสนองควำมต้องกำรของประชำชนและของประเทศด้ำนกำรแข่งขัน สอดคล้องกับเป้ำหมำยและ
ทิศทำงของกำรพฒั นำก้ำลงั คนใหม้ ีศักยภำพตำมแผนยุทธศำสตรช์ ำติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐)
ขอช่ืนชมผู้เรียนอำชีวศึกษำ และผู้ปกครองท่ีได้ตัดสินใจเลือกเรียนอำชีวศึกษำ เพรำะคุณคือบุคคลส้ำคัญใน
กำรพฒั นำประเทศในอนำคต ขอใหต้ ังใจฝึกฝนทักษะควำมร้แู ละประสบกำรณ์ พฒั นำตนเองให้มคี วำมพร้อมทังรำ่ งกำย
จติ ใจ สตปิ ญั ญำ เปน็ กำ้ ลังสำ้ คัญในกำรพฒั นำประเทศชำติใหเ้ จริญรุ่งเรืองต่อไป
(นายสนุ ทร สงพราหมณ์)
รองผอู้ านวยการวิทยาลัยการอาชีพนครศรธี รรมราช
6
สาสน์ จากรองผอู้ านวยการ
ถึงแม้ว่ำโลกของเรำจะมีวิกฤติกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชือไวรัสโคโรน่ำ 2019 (โควิด 19) ซึ่งสร้ำงควำม
เปลี่ยนแปลงต่ำงๆ มำกมำย โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกำรใช้ชีวิตประจ้ำวันของผู้คนที่ต้องเปล่ียนไป หรือวิถีชีวิต ใหม่ (New
Normal) และควบรวมกำรใช้ชีวิตกับควำมเจริญก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีดิจิทัลออนไลน์ ท่ำมกลำงควำมเปลี่ยนแปลงนี
มนษุ ย์เป็นผกู้ ระท้ำและก็เป็นผู้ท่ีได้รบั ผลกระทบสงู สดุ ทงั จำกกำรปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมและกำรปฏสิ ัมพันธ์ท่ีมีระหวำ่ ง
กัน ดังนันกำรพัฒนำมนุษย์ในโลกหลังโควิด 19 จึงนับเป็นควำมท้ำทำยส้ำคัญที่ต้องค้ำนึงถึงกำรปรับเปลี่ยนมุมมอง
หลักคิดท่ีถูกต้อง ทักษะชีวิตและทักษะชีวิตที่จ้ำเป็น เพ่ือให้สำมำรถเตรียมคนไทยให้เป็นก้ำลังหลักในกำรพัฒนำ
บำ้ นเมอื งตอ่ ไป
คู่มือนักเรียน นักศึกษำและผู้ปกครองเป็นเอกสำรส้ำคัญทำงกำรศึกษำซึ่งได้รวบรวมข้อมูลต่ำงๆ ที่เป็น
ประโยชน์ส้ำหรับกำรวำงแผนกำรเรียนและใช้ส้ำหรับกำรพัฒนำศักยภำพของผู้เรียน รวมทังกำรให้ค้ำแนะน้ำปรึกษำ
กำรดูแลชว่ ยเหลอื และกำรจัดสวัสดกิ ำรดำ้ นตำ่ งๆ ทจ่ี ำ้ เปน็ ต่อผเู้ รยี น โดยทงั นจี ะต้องไดร้ บั ควำมช่วยเหลอื เกอื กูลซ่งึ กัน
และกัน ทังในส่วนของครูท่ีปรึกษำ ครูประจำ้ รำยวิชำ แผนกวิชำ ผู้ปกครอง และสถำนศึกษำ ซงึ่ ทุกท่ำนรู้ดวี ่ำหน้ำท่ีใน
กำรสรำ้ งควำมเจริญงอกงำมใหแ้ ก่ผู้เรียนให้เป็นคนท่สี มบูรณ์นนั เป็นหนำ้ ทขี่ องทกุ คนท่ีตอ้ งรบั ผิดชอบร่วมกนั
สำ้ หรบั ผู้ท่กี ำ้ ลงั มองหำแนวทำง เกี่ยวกบั กำรพัฒนำควำมสำมำรถของตน ในฐำนะที่เปน็ นักเรยี น นกั ศึกษำและ
ผู้ปกครอง หำกปฏิบัติตำมข้อมูลที่ปรำกฏอยู่ในคู่มือเล่มนี ก็จะช่วยให้นักเรียน นักศึกษำสร้ำงผลลัพธ์ที่ดีขึน ทังในด้ำน
ควำมสำมำรถทำงวชิ ำกำร กำรพัฒนำคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ หวังเป็นอยำ่ งยิ่งว่ำผู้
มสี ่วนทีเ่ ก่ยี วข้องจะได้เรียนรูถ้ ึงข้อมูลทำงกำรศึกษำที่สำ้ คญั อนั จะนำ้ ไปสู่ กำรเป็นนกั เรียน นักศกึ ษำและผู้ปกครองที่ดี
และจะประสบควำมสำ้ เร็จมำยง่ิ ขึน
(นายขจร เหมจินดา)
รองผ้อู านวยการวิทยาลัยการอาชีพนครศรีธรรมราช
7
สาส์นจากรองผอู้ านวยการ
วิทยำลยั กำรอำชีพนครศรธี รรมรำช สงั กัดสำ้ นกั งำนคณะกรรมกำร กำรอำชีวศกึ ษำกระทรวงศึกษำธกิ ำร เปิด
สอนในหลักสตู รประกำศนยี บัตรวชิ ำชพี (ปวช.) และหลักสูตรหลักสูตรประกำศนียบตั รวิชำชีพชนั สงู (ปวส.) มงุ่ พัฒนำ
ผเู้ รียนให้มคี ุณภำพ มีควำมรู้ทีท่ นั สมัยทันต่อเทคโนโลยที ี่เจรญิ ก้ำวหน้ำ มที ักษะในกำรปฏบิ ัตงิ ำนอำชีพ และเสรมิ สร้ำง
ให้ผู้เรยี นมีคณุ ธรรมจริยธรรม ส่งเสรมิ ให้เกดิ ควำมเปน็ เลศิ ด้ำนวิชำชพี เป็นทยี่ อมรบั ของชมุ ชน สังคม และตลำดแรงงำน
ฝ่ำยพัฒนำกจิ กำรนักเรียน นักศึกษำ มีควำมมงุ่ หวงั และปรำรถนำดี ที่จะทำ้ ให้นักเรียน นักศกึ ษำทุกคนประสบ
ควำมส้ำเรจ็ และน้ำควำมรู้ ควำมสำมำรถไปสร้ำงงำน สร้ำงอำชีพ และใช้ชีวิตอยู่ในสงั คมอยำ่ งมคี วำมสุข
(นายพิชยั สุนทรเต็ม)
รองผู้อานวยการวทิ ยาลยั การอาชีพนครศรธี รรมราช
8
สาสน์ จากรองผู้อานวยการ
9
แผนภมู ิบรหิ ารสถานศกึ ษา
สังกดั สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.2563
คณะกรรมการ ผู้อานวยการวทิ ยาลยั คณะกรรมการวทิ ยาลยั
บริหารสถานศึกษา
ฝ่ ายบริหารทรัพยากร ฝ่ ายแผนงานและความร่วมมือ ฝ่ ายพฒั นากจิ การนกั เรียน นกั ศึกษา ฝ่ ายวชิ าการ
งานบริหารงานทวั่ ไป งานวางแผนและงบประมาณ งานกจิ กรรมนกั เรียน แผนกวชิ า
งานบุคลากร นักศึกษา
งานการเงนิ งานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ งานพฒั นาหลกั สูตร
งานการบญั ชี งานครูทปี่ รึกษา การเรียนการสอน
งานพสั ดุ งานความร่วมมือ
งานอาคารสถานท่ี งานปกครอง งานวดั ผลและ
งานทะเบยี น งานวจิ ยั พฒั นานวตั กรรมและ ประเมนิ ผล
งานประชาสัมพนั ธ์ ส่ิงประดษิ ฐ์ งานแนะแนวอาชีพและ
งานประกนั คณุ ภาพและ จดั หางาน งานวทิ ยบริการและ
มาตรฐานการศึกษา ห้องสมุด
งานส่งเสริมผลติ ผลการค้า งานสวสั ดกิ ารนกั เรียน
และประกอบธุรกจิ นักศึกษา งานอาชีวศึกษาระบบ
ทวภิ าคี
งานโครงการพเิ ศษและ
การบริหารชุมชน งานสื่อการเรียน
การสอน
10
ประวตั ิวิทยาลัยการอาชีพนครศรธี รรมราช
วทิ ยาลยั การอาชพี นครศรีธรรมราช (ศนู ย์ฝกึ วิชาชีพนครศรธี รรมราช เดมิ ) ตง้ั อยเู่ ลขท่ี 157 หมู่ท่ี 3
ตาบลนาสาร อาเภอพระพรหม จงั หวัดนครศรธี รรมราช บนเนอ้ื ที่ 79 ไรเ่ ศษ โดยอาณาเขตตดิ ต่อดงั นี้
ทศิ เหนือตดิ ตอ่ ถนนพฒั นาการ
ทศิ ใต้ ติดต่อ ถนนชลประทาน
ทศิ ตะวนั ออก ติดตอ่ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรียน นครศรีธรรมราช
ทิศตะวนั ตก ติดต่อ บ้านพักครวู ทิ ยาลัยการอาชีพนครศรธี รรมราช
วทิ ยาลัยการอาชพี นครศรธี รรมราช ได้รบั การประกาศจดั ต้งั เมื่อวันท่ี 1 ตุลาคม 2523 เริ่มทา การกอ่ สรา้ ง
เมือ่ วนั ที่ 15 กนั ยายน 2524 เสรจ็ สมบรู ณเ์ มอื่ วนั ที่ 15 เมษายน 2526 เปดิ ดาเนินการเมอ่ื วนั ที่ 23 พฤศจิกายน
2526 และได้รับเกยี รตจิ าก ฯพณฯ ชวน หลีกภยั ซง่ึ ดารงตาแหนง่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในสมัยนั้น มา
เป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เม่ือวันท่ี 29 กรกฎาคม 2526 วทิ ยาลยั การอาชีพนครศรีธรรมราชจงึ ถือเอา
วันนี้ (29 กรกฎาคม) ของทุกปีเปน็ วันสถาปนาวิทยาลยั
ในการดาเนินการในปแี รก มนี ักเรยี นมัธยมจากโรงเรียนสงั กดั กรมสามัญศึกษามาใช้บริการ จานวน 5 โรง คอื โรงเรยี น
เบญจมราชทู ิศ โรงเรยี นกลั ยาณีศรธี รรมราช โรงเรยี นโยธินบารุง โรงเรียนทา่ ศาลาประสทิ ธศิ์ ึกษา และโรงเรยี นร่อน
พิบลู ย์เกยี รติสุนธราภวิ ัฒน์ และปีตอ่ มามโี รงเรยี นอื่นสง่ นักเรียนมาเรยี นเพ่ิมเติมมากข้นึ มีนักเรียนท่ีมาใชบ้ ริการ จานวน
1,000 กวา่ คน
จากหน้าที่เดิม..ศนู ย์ฝกึ วชิ าชพี .หรือวิทยาลยั การอาชพี ในปัจจุบันไดเ้ พิ่มบทบาทข้ึนเมื่อกระทรวงศึกษาธิการได้มี
ประกาศปรับปรุงศูนย์ฝึกวิชาชีพ และโรงเรียนสารพัดช่าง ซึ่งทาการเปิดสอนหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นและหลักสูตร
วิชาชีพพิเศษอ่ืนๆ รวมทั้งการสอนวิชาชีพแก่นักเรียนมัธยมศึกษา ให้กว้างขวางย่ิงข้ึน เพื่อให้สอดคล้องกับความ
ต้องการของตลาดแรงงานและท้องถิ่น โดยให้ยกฐานะศูนย์ ฝึกวิชาชีพนครศรีธรรมราช เป็นวิทยาลัยการอาชีพ
นครศรีธรรมราชตั้งแตว่ นั ที่ 6 มิถุนายน 2534 เป็นต้นมา และให้วิทยาลัยเปิดสอนระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
ขน้ึ ในสถานศกึ ษา โดยให้กรมอาชวี ศึกษา เป็นผู้กาหนดว่าสถานศึกษาใดมีความพร้อมและให้สอดคล้องกับภาวะ
แรงงานในแต่ละท้องถ่ิน ท้งั นี้ตั้งแต่ปกี ารศกึ ษา 2534 เป็นต้น
11
วสิ ัยทศั น์ (Vision)
เปน็ องค์กรแห่งกำรเรยี นรู้ ม่งุ พัฒนำผเู้ รยี นให้มคี ณุ ภำพ มีควำมเป็นเลศิ ด้ำนวชิ ำชีพ เป็นทย่ี อมรับของ
ชุมชน สังคม ตลำดแรงงำน สมู่ ำตรฐำนสำกล
พนั ธกิจ (Mission)
1. พัฒนำผู้เรียนใหม้ คี ณุ ภำพ และสอดคลอ้ งตำมหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง
2. พัฒนำครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำใหม้ ศี กั ยภำพ พรอ้ มรับกำรเปลยี่ นแปลง
3. พฒั นำระบบกำรบรหิ ำรจดั กำร ใหม้ ีประสิทธภิ ำพตำมหลักธรรมำภบิ ำล
4. ส่งเสริมกำรนำ้ เทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอื่ สำรมำใชใ้ นกำรพฒั นำกำรบรหิ ำรจดั กำรศึกษำ
5. สรำ้ งภำคี เครือข่ำย ในกำรพัฒนำองคก์ รกับทุกภำคสว่ น สู่ระดับสำกล
อัตลกั ษณ์
“ทักษะดี มีคุณธรรม น้ำควำมรู้ สสู่ งั คม”
เอกลกั ษณ์
“พชื ไรด้ ิน ปลอดสำรพิษ ยดึ หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง”
คุณธรรมอัตลกั ษณ์ สถานศกึ ษา
“มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ สะอำด”
12
หลกั สูตรทเี่ ปิดสอนในสถานศกึ ษา
ปีการศกึ ษา 2565
วทิ ยาลัยการอาชีพนครศรธี รรมราช
1. หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศักราช 2562
ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม สำขำวิชำชำ่ งยนต์ สำขำงำนยำนยนต์
สำขำวชิ ำช่ำงกลโรงงำน สำขำงำนผลติ ชินสว่ นยำนยนต์
ประเภทวิชาพณิชยกรรม/บรหิ ารธรุ กิจ สำขำวิชำช่ำงไฟฟ้ำกำ้ ลัง สำขำงำนไฟฟ้ำกำ้ ลัง
ประเภทวชิ าคหกรรม สำขำวิชำเมคคำทรอนิกส์ สำขำงำนเมคคำทรอนิกส์
ประเภทวิชาประมง สำขำวิชำชำ่ งกอ่ สร้ำง สำขำงำนก่อสร้ำง
ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมการท่องเท่ียว สำขำวิชำกำรบัญชี สำขำงำนกำรบัญชี
ประเภทวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ สำขำวชิ ำกำรตลำด สำขำงำนกำรตลำด
และการสือ่ สาร สำขำวชิ ำอำหำรและโภชนำกำร สำขำวชิ ำอำหำรและโภชนำกำร
สำขำวิชำเพำะเลียงสัตวน์ ำ้ สำขำงำนเพำะเลียงสตั วน์ ้ำ
สำขำวชิ ำกำรโรงแรม สำขำงำนกำรโรงแรม (ทวภิ ำค)ี
สำขำวิชำเทคโนโลยีสำรสนเทศ สำขำงำนเทคโนโลยสี ำรสนเทศ
2. หลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชั้นสูง (ปวส.) พุทธศกั ราช 2563
ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สำขำวชิ ำเทคนคิ เคร่อื งกล สำขำงำนเทคนิคยำนยนต์
ประเภทวชิ าบริหารธรุ กจิ สำขำวชิ ำเทคนิคเครื่องกล สำขำงำนเทคนคิ เครือ่ งจักรกลหนัก
สำขำวิชำเทคนิคกำรผลิต สำขำงำนเคร่ืองมือกล
ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมการท่องเท่ียว สำขำวิชำไฟฟำ้ สำขำงำนไฟฟ้ำกำ้ ลงั
ประเภทวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศ สำขำวิชำไฟฟำ้ สำขำงำนไฟฟ้ำกำ้ ลัง ม.6
และการสื่อสาร สำขำวชิ ำอเิ ล็กทรอนิกส์ สำขำงำนอเิ ล็กทรอนกิ ส์อุตสำหกรรม
สำขำวิชำกำรบัญชี สำขำงำนกำรบัญชี
สำขำวชิ ำกำรตลำด สำขำงำนกำรตลำด
สำขำวิชำกำรโรงแรม สำขำงำนบริกำรอำหำรและเครือ่ งด่ืม
สำขำวชิ ำเทคโนโลยีสำรสนเทศ สำขำงำนนักพฒั นำคอมพวิ เตอร์
และแอนิเมชน่ั
13
บุคลากรวิทยาลัยการอาชีพนครศรธี รรมราช ปีการศกึ ษา 2565
ฝา่ ยบริหาร
ลาดบั ชอ่ื – สกลุ ตาแหนง่ วุฒิ - วิชาเอก
ที่
1 นำงพันธเ์ พ็ญ โพธ์ใิ บ ผ้อู ้ำนวยกำร ศษ.บ. บรหิ ำรกำรศึกษำ
รองผู้อำ้ นวยกำร ศษ.บ. บรหิ ำรกำรศึกษำ
2 นำยสุนทร สงพรำหมณ์ รองผอู้ ำ้ นวยกำร ค.ม. บรหิ ำรกำรศึกษำ
รองผู้อำ้ นวยกำร ศษ.บ. บริหำรกำรศกึ ษำ
3 นำยขจร เหมจนิ ดำ
4. นำยพชิ ัย สนุ ทรเต็ม
5. นำยประเวท จนั ทร์งำม รองผอู้ ำ้ นวยกำร บธ.บ.กำรจัดกำรทว่ั ไป
ลาดบั แผนกวชิ าชา่ งยนต์ วฒุ ิ - วิชาเอก
ที่
1 นำยประเสริฐ ชือ่ – สกุล
2 นำยวสันต์
3 นำยสมกติ ศรอี ุดม คอบ.วศิ วกรรมเคร่ืองกล
4 นำยมนตรี ดำรำสรู ย์ ศศ.บ.บรหิ ำรทรัพยก์ รมนุษย์
5 นำยเจรญิ กจิ ดว้ งกูล กศ.ม.อุตสำหกรรมกำรศึกษำ
6 นำยชำตรี อ่อนจันทร์ วศ.บ.วิศวกรรมเคร่ืองกล
7 นำยธนติ สงั สทิ ธิเสถียร ศษ.ม. กำรบรหิ ำรกำรศึกษำ
8 นำยเอกชยั ศักด์ิภริ มย์ คศ.บ.วศิ วกรรมเครอ่ื งกล
9 นำยชูศักดิ์ ธรรมโสภณ วศ.บ.วศิ วกรรมเคร่อื งกล
ศุภเกียรตสิ นุ ทร ค.อ.บ.วิศวกรรมเคร่ืองกล
เชำวนวำที อส.บ.เทคโนโลยเี คร่ืองกล
14
แผนกวชิ าช่างกลโรงงาน
ลาดับ ชือ่ – สกุล วุฒิ - วชิ าเอก
ที่
1 นำยมำนติ ย์ เดชำรัตน์ คอ.บ วิศวกรรมอตุ สำหกำร
2 นำยวำนติ ศิริพนั ธ์ คอ.ม.วศิ วกรรมอตุ สำหกำร
3 นำยประสทิ ธิ์ ไวยวรรณจติ ร ปทส.เช่อื มประสำน
4 นำยสุรเชษฐ์ เกษมพิสษิ ธ์ิ วศ.บ อตุ สำหกำร
แผนกวิชาชา่ งไฟฟ้ากาลงั
ลาดับ ช่อื – สกุล วุฒิ - วชิ าเอก
ท่ี
1 นำยประเสรฐิ ไฝจู คบ.วิทยำศำสตรท์ ัว่ ไป
2 นำยชศู ักด์ิ วรรณปทมุ จนิ ดำ วท.บ.เทคโนโลยไี ฟฟำ้ อุตสำหกรรม
3 นำยณรงค์ฤทธ์ิ เดชสวุ รรณ วศบ.ไฟฟ้ำ
4 นำยวรำนนท์ ถำวรสุข คอ.บ. วิศวกรรมอเิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละโทรคมนำคม
15
แผนกวชิ าช่างอเิ ลก็ ทรอนิกส์
ลาดบั ช่อื – สกุล วุฒิ - วิชาเอก
ท่ี
ทองโอ ค.อ.ม.ไฟฟ้ำ
1 นำยบุญฤทธ์ิ ทองโอ วศ.บ.เมคคำทรอนกิ ส์
ทองโอ วท.บ.เทคโนโลยอี ุตสำหกรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส์
2 นำยสุภำพ
3 นำงอรอุมำ
แผนกวชิ าช่างก่อสรา้ ง
ลาดับท่ี ชอ่ื – สกุล วุฒิ - วชิ าเอก
1 นำยณัฐชยั ไตรเมศ วท.บ.เทคโนโลยอี ตุ สำหกรรมก่อสร้ำง
2 นำยศรำวฒุ ิ ไพฑูรย์ วศ.บ โยธำ
3 นำงสำวปนดิ ำ ภูมกิ ิจ วศ.บ โยธำ
แผนกวชิ าเพาะเลี้ยงสัตวน์ า้
ลาดบั ช่อื – สกุล วฒุ ิ - วิชาเอก
ท่ี
1 นำงวดี กุลจิตติชนก วท.บ.ปฐพศี ำสตร์
2 นำงสำวจริ ำพร วรรณะ วทบ.ประมง
16
แผนกวชิ าอาหารและโภชนาการ
ลาดบั ชื่อ – สกลุ วฒุ ิ - วิชาเอก
ที่
1 นำงสำวพมิ พธ์ ีรำ เศวตธรรมรงั สี คศ.บ.คหกรรมศำสตรบ์ ัณฑติ
2 นำงสุจริ ำ ปน่ิ สญชยั คศ.บ.คหกรรมศำสตรบ์ ัณฑิต
3 นำงสำวฐิตนิ นั ท์ ทองกัน คศ.บ.คหกรรมศำสตร์บัณฑติ
แผนกวชิ าบัญชี
ลาดับ ช่อื – สกุล วฒุ ิ - วชิ าเอก
ที่
1 นำงลัดดำ ตังมณสี กุล ศศ.บ.กำรจดั กำรท่ัวไป
บช.บ. บญั ชีบณั ฑิต
2 นำงสำวปวนั รตั น์ สุทธิพนั ธ์
แผนกวิชาการตลาด
ลาดบั ชอ่ื – สกลุ วุฒิ - วิชาเอก
ท่ี
1 นำงนัยนำ หอมดำ้ รงคศ์ กั ด์ิ บธ.บ.กำรจัดกำรทั่วไป
2 นำงสำวกมลชนก สวุ รรณสังข์ บธ.บ.กำรจดั กำรท่วั ไป
แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ
ลาดับ ช่อื – สกลุ วฒุ ิ - วชิ าเอก
ท่ี
1 นำงสำวจุฑำภรณ์ ศรใี ส วท.บ.วทิ ยำศำสตร์คอมพวิ เตอร์
2 นำงสำวรัตนำ บญุ มี วท.บ คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ
3 นำงสำวปยิ ะพร แกว้ แสง คอบ.เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์
4 นำยอนิศักดิ์ ชเู จริญเดช วศ.บ วทิ ยำศำสตรค์ อมพวิ เตอร์
5 นำยวสิ ทรรศ วงศ์จันทร์ วทบ.วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
17
แผนกวิชาการโรงแรม
ลาดบั ช่อื – สกุล วุฒิ - วิชาเอก
ท่ี
1 นำงพวงเพ็ญ ม้ำกำบแก้ว บธ.บ.กำรจัดกำรทว่ั ไป
2 นำงสำวสุภำวดี รัตนบรุ ี ศศ.บ. อุตสำหกรรมกำรทอ่ งเทย่ี ว
3 นำงสำวอิงอร ยอดพิจิตร ศศ.บ.กำรโรงแรม
แผนกวิชาสามัญสมั พนั ธ์
ลาดับ ชื่อ – สกลุ วฒุ ิ - วชิ าเอก
ที่
1 นำยพิชัย ทยุ อน้ ศศ.บ ภำษำไทย
2 นำงพัชรี วำทรี กั ษ์ กศ.บ.พลศกึ ษำ
3 นำงสำวศิวนันท์ หงษล์ กั ษณ์ วท.บ. คณติ ศำสตรก์ ำรจดั กำร
4 นำงสำวสำคร ขนุ อำ้ ไพ คบ.สังคมศกึ ษำ
5 นำงอำฐติ ำ เรศประดษิ ฐ์ กศ.ม.เคมี
6 นำยอัมพร พลเยย่ี มแสน คบ.
7 นำงสำวรัตนำภรณ์ นำคส่วั วท.บ.เคมี
8 นำงสำวพรพิมำ ปรีชำ วท.บ.เคมี
นำงสำวนำฎลดำ มณวี งศ์ ศศ.บ.ภำษำอังกฤษ
18
ส่วนท่ี 2
ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการว่าด้วย
การจดั การศึกษา
การประเมนิ ผล ตามหลกั สตู ร
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
ระเบยี บกระทรวงศึกษาธิการ
วำ่ ด้วยกำรจัดกำรศกึ ษำและประเมนิ ผลกำรเรยี นตำมหลักสตู รประกำศนียบตั รวชิ ำชีพชันสูง
พุทธศักรำช 2557
โดยที่มปี ระกำศกระทรวงศึกษำธกิ ำร ลงวนั ที่ 29 พฤษภำคม 2557 เร่ือง ใหใ้ ช้หลักสูตรประกำศนยี บตั รวิชำชีพชนั สูง
พุทธศกั รำช 2557 เพ่ือประโยชนใ์ นกำรจดั กำรศกึ ษำ ตำมประกำศกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร ลงวันท่ี 31 มกรำคม 2557 เร่อื ง มำตรฐำน
คณุ วฒุ อิ ำชีวศกึ ษำระดบั ประกำศนยี บตั รวิชำชีพชันสงู พ.ศ. 2556 สมควรออกระเบียบกระทรวงศกึ ษำธิกำรว่ำดว้ ยกำรจดั กำรและกำร
ประเมินผลกำรเรียนตำมหลกั สตู รประกำศนยี บตั รวชิ ำชพี ชันสงู พุทธศกั รำช 2557
อำศัยอ้ำนำจตำมควำมในมำตรำ 8 แหง่ พระรำชบญั ญัตริ ะเบยี บบรหิ ำรรำชกำรกระทรวงศกึ ษำธิกำร พ.ศ. 2546
กระทรวงศึกษำธิกำรจึงวำงระเบยี บไวด้ งั ตอ่ ไปนี
ข้อ 1 ระเบยี บนเี รียกว่ำ “ระเบียบกระทรวงศกึ ษำธิกำรว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำและกำรประเมนิ ผลกำรเรยี น ตำมหลกั สตู ร
ประกำศนียบตั รชนั สูง พุทธศักรำช 2557
ข้อ 2 ระเบยี บนใี หใ้ ช้บงั คบั ตังแต่ปีกำรศกึ ษำ 2557 เป็นตน้ ไป
ขอ้ 3 ให้ใช้ระเบียบนีบังคับแก่สถำนศึกษำที่จัดกำรศึกษำตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพชันสูง พุทธศักรำช
2557
ข้อ 4 ในระเบยี บนี
“หลกั สูตร” หมำยควำมว่ำ หลักสตู รประกำศนยี บตั รวชิ ำชีพชนั สงู พุทธศกั รำช 2557
“ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง” หมำยควำมว่ำ กำรศึกษำตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพชันสูง พุทธศักรำช 2557
หลังจำกจบกำรศึกษำระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพหรือเทียบเท่ำ หรือระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย หรือเทียบเท่ำ ใช้อักษรย่อว่ำ
“ปวส.”
“สถานศกึ ษา” หมำยควำมว่ำ วิทยำลยั หรือสถำนศกึ ษำทเ่ี รียกชอ่ื อยำ่ งอืน่ ของรัฐและเอกชนที่จดั กำรศกึ ษำตำมหลักสูตร
นี
“หัวหนา้ สถานศกึ ษา” หมำยควำมวำ่ ผอู้ ำ้ นวยกำรหรือหวั หน้ำสถำนศึกษำที่เรยี กชื่ออยำ่ งอื่นของรัฐและเอกชน ทีจ่ ดั
กำรศึกษำตำมหลกั สูตรนี
“หน่วยงานตน้ สังกดั ” หมำยควำมวำ่ หน่วยงำนท่ีมสี ถำนศึกษำท่จี ัดกำรศึกษำตำมหลกั สตู รนีอยู่ในสังกดั หรือในควำม
ควบคมุ ดแู ล
“ผู้เข้าเรยี น” หมำยควำมวำ่ ผู้มำสมคั รเขำ้ เรียนในสถำนศึกษำ หรือสมัครฝกึ อำชีพกับสถำนประกอบกำรท่ียงั ไม่ไดข้ นึ
ทะเบียเปน็ นักศกึ ษำ
“นักศึกษา” หมำยควำมวำ่ ผู้ทไ่ี ด้ขึนทะเบียนเปน็ นกั ศกึ ษำตำมหลกั สตู รนี
“ภาคเรยี น” หมำยควำมว่ำ ชว่ งเวลำที่สถำนศกึ ษำเปดิ ท้ำกำรสอน โดยก้ำหนดให้ 1 ปีกำรศึกษำ แบ่งออกเป็น 2 ภำค
เรยี น ภำคเรยี นละ 18 สัปดำห์
38
“ภาคเรยี นฤดูร้อน” หมำยควำมว่ำ ช่วงเวลำที่สถำนศึกษำเปิดท้ำกำรสอนในชว่ งปดิ ภำคเรยี น ตำมระเบียบ
กระทรวงศกึ ษำธิกำรว่ำด้วยกำรเปดิ ภำคเรยี นฤดรู ้อน ในสถำนศกึ ษำของกระทรวงศึกษำธิกำร และในชว่ งปิดภำคเรยี นกลำงปีโดยอนุโลม
“สถานประกอบการ” หมำยควำมว่ำ บริษัท หำ้ งหุ้นส่วน รำ้ น รัฐวิสำหกิจ หน่วยงำนของรฐั และเอกชน ทังในประเทศและ
ตำ่ งประเทศรว่ มมอื กบั สถำนศึกษำเพื่อจดั กำรอำชวี ศึกษำ
“ผปู้ กครอง” หมำยควำมว่ำ บิดำ มำรด และบุคคลอ่นื ท่ที ้ำหน้ำท่ปี กครองดูแลและให้ควำมอุปกำระแก่นกั ศึกษำและใหค้ ้ำ
รบั รองแก่สถำนศกึ ษำหรอื สถำนประกอบกำรว่ำจะปกครองดูแลควำมประพฤติของนักศึกษำในระหว่ำงท่ีเรียนอยู่ในสถำนศึกษำหรอื ฝึก
อำชีพในกำรศกึ ษำระบบทวภิ ำคี
“การศกึ ษาในระบบ” หมำยควำมว่ำ กำรจดั กำรศึกษำวิชำชีพท่ีเนน้ กำรศึกษำในสถำนศึกษำเป็นหลกั โดยมกี ำรกำ้ หนด
จุดมุง่ หมำย วธิ ีกำรศกึ ษำ หลกั สตู ร ระยะเวลำ กำรวัดและกำรประเมินผลที่เป็นเง่ือนไขของกำรส้ำเร็จกำรศกึ ษำทแ่ี นน่ อน
“การศึกษานอกระบบ” หมำยควำมวำ่ กำรจดั กำรศึกษำวิชำชีพท่มี ีควำมยืดหย่นุ ในกำรกำ้ หนดจดุ มุ่งหมำย รูปแบบ วธิ ี
กำรศกึ ษำ ระยะเวลำ กำรวดั และกำรประเมนิ ผลท่ีเป็นเงอ่ื นไขของกำรสำ้ เรจ็ กำรศกึ ษำ โดยเนือหำและหลกั สตู รจะตอ้ งมีควำม
เหมำะสมและสอดคลอ้ งกบั สภำพปัญหำและควำมตอ้ งกำรของแตล่ ะกลมุ่
“การศกึ ษาระบบทวิภาค”ี หมำยควำมวำ่ กำรจัดกำรศกึ ษำวชิ ำชีพท่ีเกดิ จำกข้อตกลงระหว่ำงสถำนศกึ ษำกับสถำน
ประกอบกำร ในเรอ่ื งกำรจดั หลกั สูตร กำรเรยี นกำรสอน กำรวดั และกำรประเมนิ ผลโดยนกั ศึกษำใชเ้ วลำส่วนหนึ่งในสถำนศกึ ษำ และ
เรยี นภำคปฏบิ ตั ใิ นสถำนประกอบกำร
“ผูค้ วบคมุ การฝึก” หมำยควำมวำ่ ผ้ทู ีส่ ถำนประกอบกำรมอบหมำยให้ท้ำหน้ำท่ปี ระสำนงำนกับสถำนศกึ ษำในกำรจดั
กำรศึกษำระบบทวภิ ำคี และรบั ผดิ ชอบดแู ลกำรฝกึ อำชพี ของนกั ศกึ ษำในสถำนประกอบกำร
“ครฝู กึ ” หมำยควำมวำ่ ผู้ท้ำหนำ้ ที่สอน ฝึก อบรมนกั ศึกษำในสถำนประกอบกำร ตำมหลกั เกณฑ์ทีค่ ณะกรรมกำรกำร
อำชวี ศกึ ษำกำ้ หนด
“ครูนิเทศก์” หมำยควำมว่ำ ครทู ี่สถำนศึกษำมอบหมำยใหท้ ำ้ หน้ำที่นเิ ทศ ใหค้ ำ้ ปรกึ ษำ แนะนำ้ แกน่ กั ศึกษำทฝี่ กึ อำชพี และ
ฝกึ ประสบกำรณ์ทักษะวิชำชพี
“ครูทป่ี รกึ ษา” หมำยควำมว่ำ ครทู ี่สถำนศึกษำมอบหมำยใหท้ ำ้ หนำ้ ท่ีให้ค้ำแนะน้ำ ให้ค้ำปรึกษำตดิ ตำมผลกำรเรยี น และ
ตกั เตอื นดูแลควำมประพฤติของนกั ศกึ ษำ
“มาตรฐานวิชาชพี ” หมำยควำมวำ่ ข้อกำ้ หนดดำ้ นสมรรถนะวชิ ำชพี เพื่อใช้เกณฑใ์ นกำรก้ำกบั ดูแล ตรวจสอบและประกนั
คณุ ภำพผู้ส้ำเร็จกำรศกึ ษำ
“การประเมนิ มาตรฐานวชิ าชพี ” หมำยควำมว่ำ กำรทดสอบควำมรู้ ควำมสำมำรถ ตลอดจนลกั ษณะนสิ ยั ในกำรปฏบิ ัตงิ ำน
ตำมมำตรฐำนวชิ ำชพี โดยใชเ้ ครอ่ื งมือทเ่ี หมำะสมซ่งึ กำ้ หนดเกณฑก์ ำรตดั สินไวช้ ดั เจน พรอ้ มทังจัดดำ้ เนนิ กำรประเมินภำยใต้เงอื่ นไขท่ี
เปน็ มำตรฐำน
“คณะกรรมการประเมนิ มาตรฐานวชิ าชีพ” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรผ้ทู ้ำหนำ้ ทีร่ ับผิดชอบในกำรอ้ำนวยกำร ตดิ ตำม
และก้ำกบั ดูแลกำรประเมนิ มำตรฐำนวิชำชพี ของนักศกึ ษำในสถำนศึกษำ
“การศึกษานอกระบบ” หมำยควำมว่ำ กำรเรยี นหรอื ฝกึ ปฏบิ ตั ิในสถำนประกอบกำร
ขอ้ 5 ใหเ้ ลขำธิกำรคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศกึ ษำ รกั ษำกำรใหเ้ ปน็ ไปตำมระเบยี บนี และให้มอี ำ้ นำจตีควำมและวินจิ ฉยั
ปัญหำเกย่ี วกับกำรปฏิบตั ิตำมระเบยี บนี
39
หมวด 1
สภาพนักศกึ ษา
สว่ นที่ 1
พ้ืนความรู้และคณุ สมบัตขิ องผูเ้ ขา้ เรยี น
ข้อ 6 ผู้เขำ้ เรียน ต้องมพี นื ควำมรู้ ส้ำเร็จกำรศกึ ษำไมต่ ่้ำกว่ำระดับประกำศนียบตั รวิชำชีพหรอื เทียบเทำ่ หรือส้ำเรจ็
กำรศกึ ษำ ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนปลำย หรอื เทียบเท่ำ
ผ้เู ข้ำเรียนท่ไี ม่ไดส้ ำ้ เรจ็ กำรศกึ ษำตำมหลักสูตรประกำศนยี บตั รวชิ ำชีพในประเภทวิชำและสำขำวิชำทกี่ ำ้ หนด หรอื สำ้ เร็จ
กำรศกึ ษำระดบั มัธยมศกึ ษำตอนปลำยหรอื เทยี บเทำ่ ตอ้ งเรยี นรำยวชิ ำปรับพนื ฐำนวชิ ำชพี และประเมนิ ผ่ำน ให้ครบตำมทกี่ ำ้ หนดใน
หลกั สตู รแตล่ ะประเภทวชิ ำและสำขำวิชำ
ควำมข้อนี ไมใ่ ช้บงั คับสำ้ หรบั ผู้ท่ีเรยี นเปน็ บำงเวลำ บำงรำยวชิ ำ หรอื บำงส่วนของรำยวิชำ โดยไมน่ บั จ้ำนวนหน่วยกิตมำ
รวมเพื่อตัดสินกำรสำ้ เร็จกำรศึกษำตำมหลักสตู รและรบั ประกำศนียบตั รวชิ ำชีพชันสงู
ข้อ 7 ผเู้ รยี นต้องมคี ณุ สมบตั ดิ งั ต่อไปนี
(1) มีควำมประพฤติเรยี บร้อย
(2) มีสขุ ภำพรำ่ งกำยแขง็ แรงไมเ่ ป็นอปุ สรรคตอ่ กำรเรยี น
(3) มีภมู ลิ ้ำเนำเป็นหลักแหลง่ โดยมที ะเบยี นบำ้ นฉบบั เจ้ำบำ้ น หรือมหี ลักฐำนของทำงรำชกำรในลักษณะเดียวกันมำ
(4) มคี วำมเคำรพ เลื่อมใส ศรัทธำตอ่ สถำบันชำติ ศำสนำ และพระมหำกษตั ริย์ ด้วยควำมบรสิ ุทธ์ใิ น
(5) มีเจตคติที่ดีต่อกำรปกครองระบอบประชำธปิ ไตยอนั มีพระมหำกษตั ริยท์ รงเป็นประมุข
(6) สำ้ หรบั ผเู้ ข้ำเรยี นกำรศึกษำระบบทวภิ ำคี ในวนั ท้ำสัญญำกำรฝึกอำชพี ตอ้ งมีอำยุไม่ต่้ำกว่ำ 17 ปีบรบิ รู ณ์ และมี
ควำมตงั ใจทจ่ี ะรบั กำรฝึกอำชพี ในสำขำวิชำที่สมคั ร
ผเู้ ข้ำเรียนตำมโครงกำรต่ำง ๆ ของสถำนศึกษำ ให้สถำนศึกษำก้ำหนดคณุ สมบตั ิเพิ่มเติมได้ตำมควำมเหมำะสมของโครงกำร
นนั
สว่ นท่ี 2
การรบั ผเู้ ข้าเรียน
ข้อ 8 กำรรบั ผู้เข้ำเรียน ใหท้ ้ำกำรสอบคัดเลือกหรือคัดเลอื กตรมทส่ี ถำนศกึ ษำกำ้ หนด
ในกรณีทมี ีกำรสอบคัดเลอื ก ให้ปฏิบัตดิ ังนี
(1) ท้ำกำรสอบข้อเขียนในหมวดวิชำใด ๆ ตำมควำมต้องกำรของสถำนศึกษำ หรอื สถำนประกอบกำร หำก
สถำนศึกษำหรอื สถำนประกอบกำรจะทำ้ กำรสอบควำมถนดั ทำงกำรเรียนวิชำชพี และสอบสัมภำษณด์ ว้ ยกไ็ ด้
(2) สถำนศกึ ษำประกำศรบั สมคั ร ดำ้ เนนิ กำรสอบและประกำศผลสอบ ตำมวันและเวลำทหี่ นว่ ยงำนตันสงั กดั กำ้ หนด
(3) ถ้ำเหตุกำรณ์เกยี่ วกับกำรสอบเป็นไปโดยปกติ ใหส้ ถำนศึกษำเก็บรักษำเอกสำรเกีย่ วกบั กำรสอบคดั เลอื กไวเ้ ปน็ เวลำ
ไมน่ ้อยกวำ่ 1 ปี นบั แตว่ ันประกำศผลกำรสอบ
กำรรบั สมัครผู้เข้ำเรียนกำรศกึ ษำระบบทวิภำคี สถำนประกอบกำรจะเป็นผสู้ อบคัดเลอื กหรือคดั เลอื กผู้เขำ้ เรียนเองตำม
คณุ สมบตั ิท่กี ้ำหนดและตำมจำ้ นวนท่ีไดต้ กลงรว่ มกบั สถำนศกึ ษำ หรอื จะมอบใหส้ ถำนศกึ ษำเปน็ ผูด้ ำ้ เนนิ กำร หรอื ดำ้ เนินกำรรว่ มกนั ก็
ได้
กำรรับผเู้ ขำ้ เรียนตำมโรงกำรตำ่ ง ๆ ของสถำนศกึ ษำ ใหส้ ถำนศกึ ษำคัดเลอื กตำมคณุ สมบัตทิ ีก่ ำ้ หนดตำมควำมเหมำะสมของ
โครงกำรนัน
ขอ้ 9 ให้มีกำรตรวจร่ำงกำยโดยแพทย์ปริญญำ เฉพำะผู้ทผี่ ่ำนกำรสอบคัดเลอื ก หรือได้รับกำรคัดเลอื ก
40
สว่ นที่ 3
การเป็นนกั ศึกษา
ข้อ 10 ผู้เขำ้ เรยี นจะมสี ภำพเป็นนกั ศึกษำ เมื่อได้ขึนทะเบียนเปน็ นกั ศึกษำของสถำนศกึ ษำ
ส้ำหรับกำรศกึ ษำระบบทวภิ ำคี ผเู้ ข้ำเรยี นต้องทำ้ สัญญำกำรฝึกอำชีพกับสถำนประกอบกำร
กำรขนึ ทะเบียนเปน็ นกั ศกึ ษำและกำรทำ้ สัญญำกำรฝึกอำชีพต้องกระทำ้ ด้วยตนเองพร้อมทังแสดงหลกั ฐำนกำรสำ้ เร็จกำรศกึ ษำ
ตำมวัน เวลำ ท่สี ถำนศึกษำและสถำนประกอบกำรกำ้ หนด โดยช้ำระเงินค่ำธรรมเนยี มตำ่ ง ๆ ทสี่ ถำนศึกษำก้ำหนด ทังนี ให้เสร็จสนิ
ก่อนวันเปดิ ภำคเรียน โดยมผี ู้ปกครองซ่ึงสถำนศึกษำเช่ือถือมำใหค้ ำ้ รับรองและทำ้ หนงั สือมอบตวั
ในกรณีผเู้ ขำ้ เรยี นทีบ่ รรลุนิตภิ ำวะ สถำนศึกษำอำจให้ผปู้ กครองมำท้ำหนังสอื มอบตัวหรือด้ำเนินกำรในส่วนที่เกี่ยวข้องกบั
ระเบียบนหี รือไมก่ ไ็ ด้
ให้สถำนศึกษำจดั กำรประชุมชีแจงผูป้ กครอง และปฐมนเิ ทศนกั ศกึ ษำ เพอ่ื ให้ทรำบแนวทำงกำรเรยี น และกฎ ระเบียบ
ขอ้ บังคบั ต่ำง ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง
ขอ้ 11 ให้สถำนศึกษำออกบตั รประจำ้ ตวั ใหแ้ ก่สถำนศึกษำ
บัตรประจำ้ ตวั ต้องระบเุ ลขที่ ขอื่ สถำนศกึ ษำ รหสั สถำนศกึ ษำ ช่ือ ชือ่ สกุลนักศกึ ษำ รหสั ประจำ้ ตวั นกั ศกึ ษำ เลขประจ้ำตวั
ประชำชน วันออกบตั ร วนั หมดอำยุ ลำยมือชอ่ื หวั หน้ำสถำนศกึ ษำ หรอื ผู้ไดร้ บั มอบหมำยใหท้ ้ำกำรแทน และให้มรี ูปถำ่ ยครง่ึ ตัวของ
นกั ศกึ ษำ หน้ำตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแวน่ ตำสดี ำ้ แตง่ เครอื่ งแบบนักศึกษำ ถำ่ ยไวไ้ ม่เกิน 6 เดือน ตดิ ลงในบตั ร กบั ให้มลี ำยมอื
ชือ่ ของนกั ศกึ ษำ
ให้มตี รำของสถำนศึกษำทมี่ ุมใดมมุ หนึง่ ของรปู ถ่ำยนกั ศกึ ษำ โดยให้ติดท่ีรปู ถำ่ ยบำงสว่ น
บตั รประจำ้ ตวั นใี หม้ อี ำยเุ ท่ำกบั ระยะเวลำที่มสี ภำพนกั ศกึ ษำในสถำนศึกษำแห่งนนั แต่ตอ้ งไมเ่ กนิ 2 ปี นับแตว่ ันออกบตั ร ถ้ำ
บตั รประจำ้ ตัวหมดอำยุ ในระหว่ำงทีย่ ังมสี ภำพนกั ศึกษำกใ็ หส้ ถำนศึกษำตอ่ อำยุบตั รเปน็ ปี ๆ ไป และใหส้ ง่ คนื บัตรประจ้ำตวั ตอ่
สถำนศึกษำเม่ือพ้นสภำพกำรเป็นนักศึกษำ
สถำนประกอบกำรจะใช้บัตรประจำ้ ตัวทีส่ ถำนศกึ ษำออกให้ หรอื จะออกใหใ้ หม่ตำมควำมตอ้ งกำรของสถำนประกอบกำรก็ได้
ขอ้ 12 ใหส้ ถำนศกึ ษำแต่งตงั ครทู ่ีปรกึ ษำ เพือ่ ทำ้ หนำ้ ทีใ่ ห้ค้ำแนะนำ้ เกยี่ วกับกำรเรียน ใหค้ ้ำปรึกษำ ติดตำมผลกำรเรยี น และ
ตกั เตอื นดแู ลควำมประพฤตขิ องนกั ศกึ ษำ และให้สถำนประกอบกำรจดั ให้มผี ู้ควบคมุ กำรฝกึ ของนกั ศกึ ษำในสถำนประกอบกำร
ส่วนที่ 4
การพ้นสภาพและคนื สภาพนักศกึ ษา
ขอ้ 13 กำรพนั สภำพนกั ศกึ ษำ เปน็ ไปตำมกรณีใดกรณีหนงึ่ ตอ่ ไปนี
(1) สำ้ เรจ็ กำรศึกษำตำมหลักสตู ร
(2) ลำออก
(3) ถึงแกก่ รรม
(4) สถำนศกึ ษำสงั่ ใหพ้ น้ สภำพนักศกึ ษำในกรณใี ดกรณีหน่งึ ต่อไปนี
ก. ขำดเรียน ขำดกำรฝึกอำชพี ขำดกำรฝึกประสบกำรณท์ กั ษะวิชำชพี หรือขำดกำรตดิ ตอ่ กบั สถำนศกึ ษำหรือ
สถำนประกอบกำรเกินกวำ่ 15 วันตดิ ต่อกัน ซ่ึงสถำนศึกษำหรือสถำนประกอบกำรพิจำรณำแล้วเห็นว่ำไม่มีเหตผุ ลอันสมควร หรือมี
พฤติกรรมอยำ่ งอ่ืนทีแ่ สดงว่ำไม่มีควำมตังใจท่ีจะศกึ ษำเล่ำเรียนหรอื รับกำรฝึกอำชพี หรือรบกำรฝกึ ประสบกำรณท์ ักษะวชิ ำชพี
ข. ไม่ยน่ื ค้ำร้องขอกลับเข้ำเรยี นภำยใน 15 วนั นบั แตว่ นั ถดั จำกวันครบก้ำหนดลำพกั กำรเรยี น หรอื กำรฝึก
อำชพี ตำมข้อ 19
41
ค. ไมม่ ำติดต่อเพ่อื รักษำสภำพนักศกึ ษำ ตำมขอ้ 22
ง. ได้รบั โทษจำ้ คกุ โดยคำ้ พพิ ำกษำถงึ ท่สี ุดใหจ้ ำ้ คุก เวน้ แตเ่ ป็นโทษสำ้ หรับควำมผิดทไ่ี ด้กระทำ้ โดยประมำทหรือ
ควำมผิดลหโุ ทษ
จ. ขำดพืนควำมรู้ ตำมขอ้ 6
ฉ. ขำดคุณสมบตั ิของผู้เขำ้ เรียน ตำมขอ้ 7
ขอ้ 14 ผทู้ ี่พน้ สภำพนกั ศกึ ษำ ตำมข้อ 13 (2) (4) ก. ข. และ ค. ถ้ำประสงคจ์ ะขอคนื สภำพกำรเป็นนกั ศึกษำ จะตอ้ งย่ืน
คำ้ รอ้ งขอต่อสถำนศกึ ษำภำยใน1 ปี นับแต่วนั ถัดจำกวันพน้ สภำพนกั ศึกษำ เม่อื สถำนศกึ ษำพิจำรณำเหน็ สมควรก็ใหร้ บั เขำ้ เรียนได้
ขอ้ 15 กำรขอคืนสภำพกำรเปน็ นักศกึ ษำ ตำมขอ้ 14 ใหป้ ฏิบตั ดิ ังนี
(1) ตอ้ งเข้ำเรยี นภำยในสปั ดำหแ์ รกของภำคเรียน เว้นแตก่ ลบั เข้ำเรียนในภำคเรยี นเดียวกนั
(2) ให้น้ำรำยวิชำและจำ้ นวนหนว่ ยกติ ทไี่ ดล้ งทะเบียนรำยวิชำไว้ มำนับรวมเพื่อพจิ ำรณำตดั สินกำรสำ้ เร็จกำรศกึ ษำดว้ ย
สว่ นท่ี 5
การพกั การเรยี น
ขอ้ 16 สถำนศกึ ษำและสถำนประกอบกำรอำจพจิ ำรณำอนญุ ำตใหน้ กั ศกึ ษำ ลำพกั กำรเรยี นหรอื กำรฝกึ อำชพี ไดต้ ำมที่
เห็นสมควร เมอ่ื มเี หตุจำ้ เป็นกรณใี ดกรณีหน่ึง ต่อไปนี
(1) ได้รบั ทนุ กำรศกึ ษำให้ไปศกึ ษำ หรือดูงำน หรอื เป็นตวั แทนของสถำนศึกษำหรอื สถำนประกอบกำรในกำรเขำ้ รว่ ม
ประชุม หรอื กรณอี ืน่ ๆ อันควรแก่กำรสง่ เสรมิ
(2) เจ็บป่วยต้องพกั รกั ษำตวั เป็นเวลำนำน โดยมคี ำ้ รบั รองของแพทย์ปรญิ ญำ
(3) กรณลี ำพกั เพ่ือรับรำชกรทหำรกองประจ้ำกำรใหล้ ำพกั ไดจ้ นกว่ำจะไดร้ ับกำรนำ้ ปลด
(4) เหตุจ้ำเป็นอยำ่ งอ่นื ตำมทสี่ ถำนศกึ ษำและสถำนประกอบกำรจะพจิ ำรณำเห็นสมควร
ในกรณีทีม่ นี ักศึกษำลำพักกำรเรยี นหรือกำรฝกึ อำชีพตังแตต่ น้ ปเี ปน็ ระยะเวลำนำนเกินกวำ่ 1 ปี สถำนศึกษำและสถำน
ประกอบกำรอำจพจิ ำรณำรับนกั ศกึ ษำอืน่ เข้ำเรียนหรือเข้ำฝึกอำชพี แทนทไ่ี ดต้ ำมทเี่ หน็ สมควร
นกั ศกึ ษำที่ลำพักกำรเรียนหรือกำรฝึกอำชีพต้องชำ้ ระเงนิ ค่ำรักษำสภำพนกั ศึกษำและคำ่ ธรรมเนียมต่ำง ๆ ตำมท่ีสถำนศึกษำ
ก้ำหนด แต่ถ้ำนักศึกษำได้ช้ำระเงินค่ำธรรมเนียมต่ำง ๆ ครบถ้วนส้ำหรับภำคเรียนนันแล้วไม่ต้องช้ำระ เงินค่ำรักษำสภำพนักศึกษำ
สำ้ หรบั ภำคเรียนนันอีก
ข้อ 17 นักศึกษำท่ีขออนุญำตลำพักกำรเรียนหรือกำรฝึกอำชีพ ต้องยื่นค้ำร้องเป็นลำยลักษณ์อักษรต่อสถำนศึกษำ โดยมี
ผู้ปกครองเป็นผู้รับรอง ส้ำหรับผู้ที่บรรลุนิติภำวะจะมีผู้รับรองหรือไม่ก็ได้ เม่ือได้รับอนุญำตแล้วจึงพักกำรเรียนหรือกำรฝึกอำชีพได้
มฉิ ะนันจะถอื ว่ำขำดเรียน เว้นแต่มีเหตุผลอนั สมควร
ข้อ 18 กำรอนุญำตให้นักศึกษำลำพักกำรเรียนหรือกำรฝึกอำชีพ ให้สถำนศึกษำท้ำหลักฐำนเป็นลำยลักษณ์อักษรแจ้งให้
ผู้ปกครองทรำบ เว้นแต่ผู้ที่บรรลนุ ิตภิ ำวะที่ไมม่ ผี ู้ปกครองมอบตวั ให้แจ้งนักศกึ ษำโดยตรง
ขอ้ 19 นักศึกษำท่ีลำพักกำรเรียนหรือกำรฝึกอำชีพ เม่ือครบก้ำหนดเวลำที่ลำพักกำรเรียนหรือกำรฝกึ อำชีพแล้ว ใหย้ ่ืนค้ำ
รอ้ งขอกลับเข้ำเรียนพรอ้ มดว้ ยหลกั ฐำนกำรอนญุ ำตให้ลำพกั กำรเรยี นหรอื กำรฝึกอำชีพต่อสถำนศึกษำภำยใน 15 วัน นบั แตว่ ันถัดจำก
วนั ครบกำ้ หนด หำกพน้ กำ้ หนดนีให้ถือวำ่ พ้นสภำพนกั ศึกษำเวน้ แต่มเี หตผุ ลสมควร
42
สว่ นท่ี 6
การลาออก
ข้อ 20 นักศึกษำท่ปี ระสงค์จะลำออกจำกกำรเปน็ นกั ศึกษำ ตอ้ งให้ผปู้ กครองเปน็ ผรู้ บั รองกำรลำออกเวน้ แต่ผู้ทีบ่ รรลนุ ติ ิ
ภำวะ
ข้อ 21 นักศกึ ษำท่ลี ำออกแลว้ ไดร้ บั อนญุ ำตให้กลับเข้ำเรียนในภำคเรยี นเดียวกนั ใหถ้ อื ว่ำนกั ศึกษำผนู้ ันมีสภำพนักศึกษำมำ
ตังแต่ต้นภำคเรยี นนันทกุ ประกำร
หมวด 2
การจดั การเรยี น
สว่ นที่ 1
การเปดิ เรียน
ขอ้ 22 ใหส้ ถำนศกึ ษำก้ำหนดวนั เปิดและปิดภำคเรียนตำมระเบยี บกระทรวงศึกษำธิกำรว่ำดว้ ยปีกำรศกึ ษำ กำรเปิดและปิด
สถำนศกึ ษำ หำกสถำนศกึ ษำใดจะก้ำหนดวันเปิดและปดิ ภำคเรยี นแตกตำ่ งไปจำกระเบียบดงั กล่ำว ใหข้ ออนญุ ำตตอ่ หนว่ ยงำนตน้ สังกัด
ข้อ 23 สถำนศึกษำทเ่ี ปิดภำคเรยี นฤดรู อ้ น ใหป้ ฏิบตั ติ ำมระเบยี บกระทรวงศกึ ษำธกิ ำรว่ำด้วยกำรเปิดภำคเรยี นฤดรู อ้ นใน
สถำนศกึ ษำของกระทรวงศึกษำธกิ ำร
สว่ นที่ 2
การลงทะเบยี นรายวชิ า
ขอ้ 24 สถำนศกึ ษำต้องกำ้ หนดวนั และเวลำใหน้ ักศึกษำลงทะเบยี นรำยวิชำต่ำง ๆ ใหเ้ สรจ็ กอ่ นวันเปดิ ภำคเรียน
ข้อ 25 สถำนศึกษำอำจให้นักศึกษำลงทะเบียนรำยวิชำภำยหลังก้ำหนดตำมข้อ 24 ก็ได้ โดยให้สถำนศึกษำก้ำหนดวนั สนิ สุด
กำรลงทะเบยี นตำมท่ีเหน็ สมควร แตต่ ้องไม่เกิน 15 วนั นบั แตว่ ันเปดิ ภำคเรยี น หรอื ไมเ่ กนิ 5 วัน นบั แต่วนั เปิดภำคเรียนฤดรู อ้ น
กำรลงทะเบยี นรำยวชิ ำตำมวรรคหนึง่ นกั ศึกษำต้องช้ำระค่ำปรบั ตำมที่สถำนศกึ ษำกำ้ หนด
ข้อ 26 นักศึกษำที่มิได้ลงทะเบียนรำยวิชำภำยในวันและเวลำที่สถำนศึกษำก้ำหนดตำมข้อ 25 ถ้ำประสงค์จะรักษำสภำพ
นักศึกษำ ตอ้ งติดตอ่ รักษำสภำพนักศึกษำภำยใน 15 วัน นับแต่วนั ถดั จำกวนั สินสดุ กำรลงทะเบียน
ข้อ 27 กำรลงทะเบียนรำยวิชำต้องได้รบั ควำมเห็นชอบจำกครทู ปี่ รกึ ษำ
ขอ้ 28 นกั ศกึ ษำต้องลงทะเบียนรำยวชิ ำด้วยตนเอง ตำมวนั และเวลำทีส่ ถำนศึกษำก้ำหนด พรอ้ มทังช้ำระเงินค่ำลงทะเบียน
รำยวิชำและค่ำธรรมเนียมต่ำง ๆ ตำมท่สี ถำนศกึ ษำกำ้ หนด
ในกรณีท่ีนักศึกษำไม่สำมำรถมำลงทะเบียนรำยวิชำด้วยตนเองได้ จะมอบหมำยให้ผู้อื่นมำลงทะเบียนแทนให้หัวหน้ำ
สถำนศึกษำพจิ ำรณำเปน็ รำย ๆ ไป
นกั ศกึ ษำทป่ี ระสงคข์ อผ่อนผันกำรช้ำระเงินค่ำลงทะเบียนรำยวชิ ำ ใหห้ วั หนำ้ สถำนศกึ ษำพิจำรณำอนญุ ำตเปน็ รำย ๆ ไป ทงั นี
ตอ้ งชำ้ ระให้เสรจ็ สนิ กอ่ นวนั เข้ำรับกำรวดั ผลปลำยภำคเรยี น
43
ข้อ 29 นกั ศึกษำลงทะเบยี นรำยวชิ ำได้ไม่เกินภำคเรียนละ 22 หน่วยกิต สำ้ หรบั กำรเรียนแบบเต็มเวลำ และไดไ้ ม่เกินภำค
เรียนละ 12 หน่วยกิต สำ้ หรบั กำรเรยี นแบบไมเ่ ต็มเวลำ สว่ นกำรลงทะเบยี นรำยวิชำในภำคเรยี นฤดูร้อน ให้ลงทะเบยี นได้ไมเ่ กิน 12
หน่วยกติ เวน้ แต่ได้รบั อนุญำตจำกหัวหนำ้ สถำนศกึ ษำ
หำกสถำนศึกษำมีเหตุผลและควำมจ้ำเป็นในกำรใหน้ ักศึกษำลงทะเบียนรำยวิชำที่แตกต่ำงไปจำกเกณฑ์ข้ำงต้น อำจท้ำได้แต่
ต้องไมก่ ระทบต่อมำตรฐำนและคณุ ภำพกำรศกึ ษำ
ข้อ 30 นักศึกษำที่ขอโอนผลกำรเรียนรำยวิชำตำมข้อ 59 และข้อ 60 ต้องลงทะเบียนรำยวิชำในสถำนศึกษำที่ขอส้ำเร็จ
กำรศึกษำไม่น้อยกว่ำ 1 ใน 3 ของจ้ำนวนหน่วยกิตที่ระบุไว้ในหลักสูตรแต่ละประเภทวิชำและสำขำวิชำและตำมแผนกำรเรียนท่ี
สถำนศึกษำกำ้ หนf
ส่วนท่ี 3
การเปลีย่ น การเพม่ิ และการถอนรายวิชา
ขอ้ 31 นกั ศกึ ษำจะขอเปลยี่ นรำยวิชำที่ไดล้ งทะเบยี นไวแ้ ลว้ หรอื ขอเพมิ่ รำยวิชำต้องกระท้ำภำยใน 15 วนั นบั แตว่ ันเปิด
ภำคเรยี น หรอื ภำยใน 5 วนั นับแตว่ ันเปดิ ภำคเรยี นฤดูร้อน สว่ นกำรขอถอนรำยวิชำต้องกระทำ้ ภำยใน 30 วัน นับแต่วนั เปดิ ภำคเรียน
หรือภำยใน 10 วนั นับแต่วันเปดิ ภำคเรยี นฤดูรอ้ น
กำรถอนรำยวิชำภำยหลงั กำ้ หนดตำมวรรคหน่ึงอำจกระทำ้ ได้ ถำ้ หวั หน้ำสถำนศกึ ษำพจิ ำรณำเหน็ ว่ำมีเหตผุ ลสมควร
กำรขอเปลี่ยน ขอเพมิ่ หรือขอถอนรำยวชิ ำ ต้องไดร้ บั ควำมเหน็ ชอบจำกครูทปี่ รึกษำและครูผสู้ อนประจำ้ รำยวชิ ำ
ขอ้ 32 กำรถอนรำยวชิ ำภำยในกำ้ หนด ตำมขอ้ 31 ให้ลงอักษร “ถ.น.” ในระเบยี นแสดงผลกำรเรยี นชอ่ ง “ผลกำรเรยี น”
กำรถอนรำยวชิ ำภำยหลงั ก้ำหนดตำมข้อ 31 และหัวหน้ำสถำนศึกษำพจิ ำรณำเหน็ ว่ำมีเหตุผลสมควร ให้ลงอักษร “ถ.น.” ใน
ระเบียนแสดงผลกำรเรียนช่อง “ผลกำรเรียน” แต่ถำ้ หัวหน้ำสถำนศึกษำพิจำรณำว่ำไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้ลงอักษร “ถ.ล.” ลงใน
ระเบยี นแสดงผลกำรเรยี นช่อง “ผลกำรเรยี น”
สว่ นท่ี 4
การเรียนโดยไมน่ บั จานวนหนว่ ยกิตมารวมเพือ่ การสาเร็จการศกึ ษาตามหลกั สูตร
ขอ้ 33 สถำนศึกษำอำจอนุญำตให้นักศึกษำลงทะเบียนเรยี นรำยวิชำใดวิชำหน่ึงเพื่อเป็นกำรเสริมควำมรู้ โดยไม่นับจ้ำนวน
หน่วยกิตของรำยวชิ ำนันมำรวมเพอื่ กำรสำ้ เรจ็ กำรศึกษำตำมหลักสูตรได้
ข้อ 34 เม่ือได้ท้ำกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนแล้วได้ระดับผลกำรเรียนตังแต่ 1.0 ขึนไป ถือว่ำประเมินผ่ำนให้บันทึก
“ม.ก.” ลงในระเบียนแสดงผลกำรเรียนช่อง “ผลกำรเรียน” ถ้ำผลกำรประเมินไม่ผ่ำนไม่ต้องบันทึกรำยวิชำนัน และให้ถือเป็นกำร
สินสุดสำ้ หรับกำรเรยี นรำยวชิ ำนนั โดยไม่นบั จำ้ นวนหน่วยกิตมำรวมเพ่ือกำรสำ้ เร็จกำรศกึ ษำตำมหลกั สตู ร
44
ส่วนที่ 5
การนับเวลาเรยี นเพอ่ื สิทธิในการเขา้ รบั การวดั ผลปลายภาคเรยี น
ขอ้ 35 นกั ศกึ ษำต้องมเี วลำเรียนในแต่ละรำยวิชำไมต่ ้่ำกว่ำรอ้ ยละ 80 ของเวลำเปิดเรยี นเต็มส้ำหรบั รำยวชิ ำนัน จึงจะมีสทิ ธิ
เขำ้ รับกำรวดั ผลปลำยภำคเรยี น
ในกรณที ี่มีควำมจำ้ เป็นอย่ำงแทจ้ รงิ หัวหนำ้ สถำนศกึ ษำอำจพิจำรณำผ่อนผนั ให้เป็นรำย ๆ ไป
นกั ศึกษำทไ่ี ม่มสี ิทธเิ ข้ำรับกำรวัดผลปลำยภำคเรยี นตำมวรรคหน่งึ จะขอประเมินเทียบโอนควำมรแู้ ละประสบกำรณ์ ตำมข้อ
66 ในภำคเรียนนันมไิ ด้
ข้อ 36 กำรนบั เวลำเรียนให้ปฏบิ ตั ดิ งั นี
(1) เวลำเปิดเรยี นเตม็ ภำคเรยี นละ 18 สัปดำห์
(2) นักศกึ ษำที่ยำ้ ยสถำนศึกษำระหวำ่ งภำคเรียน ให้นำ้ เวลำเรยี นจำกสถำนศกึ ษำทังสองแหง่ รวมกัน
(3) นกั ศกึ ษำท่ีลำออกแล้ว ได้รับอนญุ ำตให้กลบั เขำ้ เรยี นในภำคเรยี นเดียวกันใหน้ บั เวลำเรยี นทเี่ รยี นแลว้ มำรวมกัน
(4) นักศกึ ษำท่ีลำพกั กำรเรียนหรอื กำรฝึกอำชพี ก่อนและหลังกำรลำพักกำรเรยี นหรอื กำรฝกึ อำชีพในภำคเรียนนนั มำ
รวมกัน
(5) รำยวิชำท่คี รผู ูส้ อนหรอื ครฝู ึกตงั แต่ 2 คนขึนไป และแยกกนั สอน ให้นำ้ เวลำเรยี นทเี่ รยี นกบั ครผู สู้ อนหรอื ครฝู กึ ทกุ
คนมำรวมกัน
(6) ถำ้ มีกำรเปลย่ี นรำยวิชำหรอื เพิ่มรำยวชิ ำ ใหน้ บั เวลำเรียนตงั แตเ่ ริ่มเรยี นรำยวชิ ำใหม่
ส่วนที่ 4
การเรยี นโดยไม่นบั จานวนหนว่ ยกิตมารวมเพ่ือการสาเร็จการศกึ ษาตามหลักสตู ร
ข้อ 37 นกั ศึกษำที่ไมส่ ำมำรถเขำ้ รับกำรวัดผลปลำยภำคเรยี นตำมวันและเวลำที่สถำนศกึ ษำกำ้ หนด หัวหนำ้ สถำนศึกษำอำจ
อนญุ ำตให้เลือ่ นกำรเขำ้ รบั กำรวัดผลปลำยภำคเรียนไดใ้ นกรณีตอ่ ไปนี
(1) ประสบอุบตั เิ หตุ หรือเจ็บป่วยกอ่ น หรอื ระหวำ่ งกำรเขำ้ รับกำรวดั ผลปลำยภำคเรยี น
(2) ถกู ควบคมุ ตวั โดยพนกั งำนเจ้ำหนำ้ ที่ตำมกฎหมำย
(3) เป็นตวั แทนของสถำนศึกษำหรอื สถำนประกอบกำรในกำรเข้ำร่วมประชุม หรอื กจิ กรรมพเิ ศษอย่ำงอืน่ โดยได้รับ
ควำมยนิ ยอมจำกสถำนศึกษำ
(4) มีควำมจ้ำเปน็ อย่ำงอืน่ โดยสถำนศกึ ษำ หรือสถำนศกึ ษำและสถำนประกอบกำรพิจำรณำแล้วเห็นว่ำเป็นควำมจ้ำ
เป็นอย่ำงแท้จรงิ
ข้อ 38 นักศึกษำท่ีขออนุญำตเลื่อนกำรเข้ำรับกำรัดผลปลำยภำคเรียน ต้องยื่นค้ำร้องพร้อมทังหลักฐำนประกอบต่อ
สถำนศกึ ษำกอ่ นกำรวัดผลปลำยภำคเรยี นไมน่ ้อยกวำ่ 3 วนั หำกไมส่ ำมำรถกระท้ำได้ให้หวั หน้ำสถำนศึกษำพิจำรณำเป็นรำย ๆ ไป
กรณีท่ีหัวหน้ำสถำนศึกษำอนุญำตใหเ้ ล่ือนได้ ใหบ้ นั ทึก “ม.ส.” ลงในระเบยี นแสดงผลกำรเรียนในชอ่ ง “ผลกำรเรียน” และให้
นักศึกษำเข้ำรบั กำรวัดผลปลำยภำคเรียนทดแทนภำยใจ 10 วัน นับแต่วันประกำศผลกำรเรยี น หำกไม่สำมำรถด้ำเนินกำรไดใ้ ห้หัวหน้ำ
สถำนศึกษำพจิ ำรณำจดั กำรวัดผลปลำยภำคเรยี นทดแทนภำยในกำ้ หนดกำรวัดผลปลำยภำคเรียนของภำคถัดไป
กำรอนุญำตให้เล่อื นกำรเขำ้ รบั กำรวดั ผลปลำยภำคเรยี น ให้สถำนศึกษำทำ้ เปน็ ลำยลักษณ์อักษรมอบให้นกั ศึกษำ
45
หมวด 3
สภาพนักศกึ ษา
สว่ นที่ 1
หลกั การในการประเมินผลการเรียน
ขอ้ 39 ให้สถำนศึกษำและสถำนประกอบกำร มหี น้ำทีแ่ ละรับผดิ ชอบในกำรประเมนิ ผลกำรเรยี น
ข้อ 40 ให้ประเมินผลกำรเรียนเป็นรำยวชิ ำตำมระบบหน่วยกติ จ้ำนวนหนว่ ยกิตของแต่ละรำยวิชำให้ถือตำมท่ีก้ำหนดไว้ใน
หลักสูตร
ข้อ 41 ให้สถำนศึกษำและสถำนประกอบกำรพิจำรณำท้ำกำรประเมินผลกำรเรียนรำยวิชำเมื่อสินภำคเรียน หรือเมื่อสินสุด
กำรเรียนหรอื กำรปฏบิ ตั งิ ำนในทุกรำยวชิ ำ
ขอ้ 42 ให้หน่วยงำนตน้ สังกัดร่วมกับสถำนศึกษำ ด้ำเนินกำรสง่ เสริมคุณภำพและควบคุมมำตรฐำนกำรจดั กำรเรียนกำรสอน
กำรวดั ผลและกำรประเมนิ ผลกำรเรยี น
ส่วนที่ 2
วธิ ีการประเมนิ ผลการเรียน
ข้อ 43 ให้ประเมินผลกำรเรียนเป็นรำยวิชำตำมสภำพจริงต่อเน่ืองตลอดภำคเรียนทังด้ำนควำมรู้ ควำมสำมำรถ และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์จำกกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน กำรฝึกปฏิบัติและงำนที่มอบหมำยรวมทังกำรวัดผลปลำยภำคเรียน ซ่ึง
ครอบคลมุ จุดประสงค์ สมรรถนะรำยวิชำและเนอื หำวชิ ำ โดยใชเ้ ครอ่ื งมือและวิธีกำรหลำกหลำยตำมควำมเหมำะสม
ขอ้ 44 ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดบั ผลกำรเรยี นในแตล่ ะรำยวชิ ำ ดังตอ่ ไปนี
4.0 หมำยถึง ผลกำรเรยี นอย่ใู นเกณฑ์ดีเย่ียม
3.5 หมำยถึง ผลกำรเรยี นอยู่ในเกณฑ์ดีมำก
3.0 หมำยถึง ผลกำรเรยี นอยู่ในเกณฑ์ดี
2.5 หมำยถงึ ผลกำรเรยี นอยใู่ นเกณฑ์ดพี อใช้
2.0 หมำยถงึ ผลกำรเรยี นอยใู่ นเกณฑ์พอใช้
1.5 หมำยถึง ผลกำรเรยี นอยูใ่ นเกณฑ์อ่อน
1.0 หมำยถึง ผลกำรเรยี นอยูใ่ นเกณฑ์อ่อนมำก
0 หมำยถึง ผลกำรเรยี นอยูใ่ นเกณฑ์ (ตก)
ข้อ 45 รำยวชิ ำใดท่ีแสดงระดับผลกำรเรยี นตำมข้อ 44 ไม่ได้ ใหใ้ ช้ตัวอักษรต่อไปนี
ขร. หมำยถึง ขำดเรยี น ไมม่ สี ิทธ์เิ ขำ้ รบั กำรวดั ผลปลำยภำคเรยี น เนอื่ งจำกมเี วลำเรียนต้ำ่ กวำ่ ร้อยละ 80
โดยสถำนศกึ ษำพิจำรณำแล้วเห็นว่ำไมม่ เี หตผุ ลอนั สมควร
ข.ป. หมำยถงึ ขำดกำรปฏิบตั งิ ำน หรอื ปฏบิ ตั งิ ำนไมค่ รบ โดยสถำนศกึ ษำพิจำรณำแลว้ เหน็ ว่ำไมม่ เี หตผุ ล
สมควร
ข.ส. หมำยถึง ขำดกำรวดั ผลปลำยภำคเรียนโดยสถำนศึกษำพิจำรณำแล้วเหน็ ว่ำไมม่ ีเหตผุ ลสมควร
ถ.ล. หมำยถึง ถอนรำยวชิ ำภำยหลังกำ้ หนด โดยสถำนศึกษำพจิ ำรณำแล้วเห็นว่ำไม่มีเหตผุ ลสมควร
ถ.น. หมำยถึง ถอนรำยวชิ ำภำยในกำ้ หนด
ท. หมำยถึง ทุจรติ ในกำรสอบหรอื งำนที่มอบหมำยใหท้ ้ำ
46
ม.ส. หมำยถึง ไม่สมบรู ณ์ เนอื่ งไมส่ ำมำรถเขำ้ รบั กำรวดั ผลปลำยภำคเรยี น โดยไดร้ บั อนญุ ำตจำกหวั หน้ำ
สถำนศึกษำ หรือไม่ส่งงำนอนั เปน็ สว่ นประกอบของกำรเรยี นรำยวชิ ำที่กำ้ หนด
ม.ท. หมำยถึง ไมส่ ำมำรถเข้ำรับกำรวัดผลปลำยภำคเรยี นทดแทนภำยในเวลำทส่ี ถำนศึกษำกำ้ หนด
ผ. หมำยถึง ไดเ้ ขำ้ รว่ มกจิ กรรมตำมกำ้ หนดหรอื ผลกำรประเมนิ ผำ่ น
ม.ผ. หมำยถงึ ไมเ่ ข้ำรว่ มกิจกรรม หรอื ผลกำรประเมินไมผ่ ำ่ น
ม.ก. หมำยถึง กำรเรยี นโดยไมน่ บั จ้ำนวนหนว่ ยกติ มำรวมเพอ่ื กำรส้ำเรจ็ กำรศกึ ษำตำมหลักสูตร และผลกำร
ประเมนิ ผ่ำน
ขอ้ 46 ในกรณตี อ่ ไปนีใหร้ ะดบั ผลกำรเรยี นเปน็ 0 (ศนู ย์) เฉพำะรำยวชิ ำ
(1) ได้ ข.ร.
(2) ได้ ข.ป.
(3) ได้ ข.ส.
(4) ได้ ถ.ล.
(5) ได้ ท.
(6) ได้ ม.ท.
ขอ้ 47 นกั ศึกษำท่ีทำ้ กำรทจุ รติ หรอื สอ่ เจตนำทจุ ริตในกำรสอบหรอื งำนทม่ี อบหมำยใหท้ ้ำในรำยวิชำใด ให้สถำนศึกษำ
พิจำรณำดำ้ เนินกำร ดงั นี
(1) ใหไ้ ด้คะแนน 0 (ศูนย์) เฉพำะครงั นัน หรือ
(2) ใหร้ ะดบั ผลกำรเรียนเป็น 0 (ศนู ย์) โดยบันทกึ “ท.” ลงในระเบียบแสดงผลกำรเรียนช่อง “ผลกำรเรยี น” ใน
รำยวชิ ำนันหรือ
(3) ดำ้ เนนิ กำรตำม (๒) และตดั คะแนนควำมประพฤตติ ำมระเบยี บวำ่ ดว้ ยกำรตดั คะแนนควำมประพฤติทส่ี ถำนศกึ ษำ
กำ้ หนดตำมควำมรำ้ ยแรงแลว้ แต่กรณี
ข้อ 48 กำรคำ้ นวณคำ่ ระดับคะแนนเฉลี่ย ให้ปฏิบตั ดิ ังนี
(1) ให้น้ำผลบวกของผลคูณระหวำ่ งจำ้ นวนหนว่ ยกติ ของแตล่ ะรำยวชิ ำกบั ระดับผลกำรเรยี นหำรด้วยผลบวกของจำ้ นวน
หนว่ ยกิตของแตล่ ะรำยวชิ ำ คิดทศนยิ มสอบตำ้ แหนง่ ไมป่ ดั เศษ
(2) ให้คำ้ นวณค่ำระดบั คะแนนเฉลีย่ จำกรำยวิชำท่ีไดร้ ะดับผลกำรเรยี นตำมขอ้ 44 และ ขอ้ 46 สำ้ หรับรำยวชิ ำ่ ท่ี
นักศึกษำเรยี นซ้ำ เรยี นแทน ให้ใชร้ ะดับผลกำรเรยี นและนับจำ้ นวนหนว่ ยกิตตำมข้อ 48
(3) ใหค้ ำ้ นวณคำ่ ระดบั คะแนนเฉลยี่ ดงั นี
ก. ค่ำระดบั คะแนนเฉลีย่ ประจำ้ ภำคเรียน ค้ำนวณจำกรำยวชิ ำที่ไดร้ ะดับผลกำรเรยี น เฉพำะในภำคเรยี นหน่งึ ๆ
ข. ค่ำระดบั คะแนนเฉลี่ยสะสม คำ้ นวณจำกรำยวชิ ำที่เรยี นมำทงั หมดและได้ระดบั ผลกำรเรยี นตงั แตส่ องภำคเรียน
ขึนไป
47
ขอ้ 49 นักศกึ ษำผูใ้ ดประสงคจ์ ะเรียนซ้ำรำยวิชำทไี่ ดร้ ะดบั ผลกำรเรยี นต้ำ่ กว่ำ 2.0 หรอื เลือกเรยี นรำยวชิ ำอ่นื แทนถ้ำเปน็
รำยวิชำเลือก เพื่อประเมินปรบั ค่ำระดบั คะแนนเฉล่ยี สะสมให้สูงขึน ใหส้ ถำนศึกษำหรือสถำนประกอบกำรดำ้ เนนิ กำรใหเ้ รียนซ้ำหรือ
เรียนแทนภำยในเวลำก่อนส้ำเร็จกำรศกึ ษำ
กำรเรยี นซ้ำรำยวิชำ ใหน้ ับจำ้ นวนหน่วยกติ สะสมเพียงครงั เดยี ว ส่วนกำรเรยี นแทนใหน้ ับเฉพำะจ้ำนวนหนว่ ยกิตของรำยวิชำที่
เรียนแทนเปน็ จำ้ นวนหน่วยกิตสะสม
กำรนับจ้ำนวนหน่วยกิตสะสมในกรณีนี จะกระท้ำเมอื่ นักศกึ ษำไดร้ ะดับผลกำรเรยี น ตงั แต่ 2.0 ขนึ ไปเท่ำนัน
รำยวิชำทเี่ รยี นซำ้ หรือเรยี นแทนแลว้ ไดร้ ะดับผลกำรเรียน 0 (ศนู ย์) ใหถ้ ือระดบั ผลกำรเรยี นต้่ำกวำ่ 2.0 ตำมเดมิ ยกเวน้ กำร
ไดร้ ะดบั ผลกำรเรยี น 0 (ศนู ย์) ตำมขอ้ 47 (2) หรือ (3)
ขอ้ 50 กรณตี ำมข้อ 49 กำรคดิ ค่ำระดบั คะแนนเฉลี่ยสะสม ถำ้ เปน็ รำยวชิ ำทเ่ี รียนซำ้ ให้นับจำ้ นวนหนว่ ยกติ เป็นตัวหำรเพยี ง
ครังเดยี ว สว่ นกำรเรยี นรำยวิชำอ่ืนแทนใหน้ ับเฉพำะจ้ำนวนหน่วยกติ ของรำยวชิ ำท่ีเรียนแทนมำเปน็ ตวั หำร
ข้อ 51 ผทู้ ่ไี ด้ ม.ส. ตำมขอ้ 38 และไมส่ ำมำรถเข้ำรับกำรวดั ผลปลำยภำคเรยี นทดแทนภำยในเวลำท่ีสถำนศึกษำก้ำหนดให้
สถำนศกึ ษำบนั ทกึ “ม.ท.” ลงในระเบียนแสดงผลกำรเรยี น ช่อง “ผลกำรเรยี น” เวน้ แต่ได้ ม.ส. ตำมข้อ 37 (3) ให้หวั หน้ำสถำนศึกษำ
พิจำรณำเปน็ รำย ๆ ไป
กรณผี ทู้ ไี่ ด้ ม.ส. เนอื่ งจำกไม่สำมำรถส่งงำนอนั เป็นสว่ นประกอบของรำยวชิ ำได้ตำมกำ้ หนด ให้นักศกึ ษำสง่ งำนนันภำยใน 10
วัน นบั แต่วนั ประกำศผลกำรเรยี นรำยวิชำ หำกไมส่ ำมำรถดำ้ เนินกำรได้ ใหด้ สถำนศกึ ษำประเมนิ ผลกำรเรยี นจำกคะแนนท่มี อี ยเู่ ว้นแต่
มเี หตุจำ้ เปน็ ท่ีหัวหน้ำสถำนศกึ ษำพจิ ำรณำเหน็ สมควร ทังนี ให้ด้ำเนนิ กำรให้เสร็จสินภำยในกำ้ หนดกำรวัดผลปลำยภำคเรยี นของภำค
เรยี นถดั ไป
ข้อ 52 นกั ศึกษำตอ้ งเข้ำรบั กำรประเมินมำตรฐำนวิชำชีพ เม่ือนักศึกษำไดล้ งทะเบียนรำยวิชำครบทกุ รำยวิชำตำมหลักสตู ร
แตล่ ะประเภทวชิ ำและสำขำวชิ ำ หรอื ตำมระยะเวลำที่คณะกรรมกำรประเมินมำตรฐำนวชิ ำชีพก้ำหนด ทงั นใี ห้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์
และวิธกี ำรทสี่ ำ้ นกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศกึ ษำก้ำหนด
นกั ศึกษำจะมสี ิทธิ์ส้ำเร็จกำรศึกษำตำมหลกั สตู รได้ จะตอ้ งเขำ้ รบั กำรประเมนิ มำตรฐำนวชิ ำชีพและผลกำรประเมินผำ่ นเกณฑ์
ท่กี ำ้ หนด
ข้อ 53 นักศกึ ษำต้องเขำ้ ร่วมปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเสริมหลกั สูตรทส่ี ถำนศึกษำจดั ไม่น้อยกว่ำ 2 ชัว่ โมง ต่อสปั ดำห์ ครบทกุ ภำค
เรยี น ตำมแผนกำรเรยี นท่ีสถำนศกึ ษำกำ้ หนดโดยมีเวลำเขำ้ ร่วมปฏบิ ัตกิ จิ กรรมไม่นอ้ ยกว่ำรอ้ ยละ 60 ของเวลำท่ีจัดกจิ กรรมในแตล่ ะ
ภำคเรยี น
เมอื่ นักศกึ ษำได้เข้ำร่วมปฏบิ ัตกิ จิ กรรมครบถ้วนตำมเกณฑใ์ นภำคเรยี นใดถอื ว่ำประเมินผ่ำนในภำคเรยี นนัน ให้บนั ทึกชอื่
กิจกรรมและตัวอกั ษร “ผ.” ในระเบยี นแสดงผลกำรเรยี น ชอ่ ง “ผลกำรเรยี น” ซึง่ หมำยถงึ “ผ่ำน”
หำกนักศกึ ษำเขำ้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมไม่ครบตำมเกณฑ์ในภำคเรยี นใด ให้สถำนศึกษำพจิ ำรณำมอบงำนหรือกิจกรรมในส่วนที่
นกั ศกึ ษำผนู้ ันไม่ไดเ้ ข้ำร่วมปฏบิ ตั ิ ใหป้ ฏิบัติใหค้ รบถว้ นภำยในเวลำท่ีสถำนศึกษำกำ้ หนด เม่อื นักศกึ ษำดำ้ เนนิ กำรครบถว้ นแล้วถอื ว่ำ
ประเมนิ ผำ่ น แล้วจึงบันทกึ ชือ่ กิจกรรมและตวั อกั ษร “ผ.”
ถำ้ นกั ศกึ ษำด้ำเนินกำรไมค่ รบถว้ น ถอื ว่ำประเมนิ ไม่ผ่ำน ใหบ้ ันทึกชอื่ กิจกรรมและตวั อกั ษร “ม.ผ.” ซง่ึ หมำยถึง “ไม่ผ่ำน”
ใหน้ กั ศกึ ษำทเ่ี ข้ำฝกึ อำชพี หรือฝกึ ประสบกำรณ์ทักษะวิชำชีพในสถำนประกอบกำร เขำ้ รว่ มปฏบิ ัติกจิ กรรมทส่ี ถำน
ประกอบกำรจดั ตำมเกณฑ์และข้อตกลงร่วมกนั ระหว่ำงสถำนศกึ ษำกบั สถำนประกอบกำร
48
สว่ นท่ี 3
การตดั สนิ ผลการเรยี น
ขอ้ 54 กำรตดั สินผลกำรเรยี นใหด้ ้ำเนนิ กำร ดงั นี
(1) ตัดสนิ ผลกำรเรยี นเป็นรำยวิชำ
(2) รำยวิชำทีม่ รี ะดับผลกำรเรยี นตังแต่ 1.0 ขนึ ไป ถือว่ำประเมินผ่ำนและใหน้ บั จ้ำนวนหน่วยกิตของรำยวิชำนนั เป็น
จำ้ นวนหนว่ ยกติ สะสม
(3) เมอ่ื ได้ประเมินผลกำรเรียนแล้ว นักศึกษำท่มี รี ะดับผลกำรเรยี น 0 (ศนู ย์) ให้เรยี นซ้ำรำยวิชำนัน ถ้ำเป็นรำยวิชำ
เลือกจะเรียนซ้ำ หรือเรียนรำยวิชำอ่ืนแมนก็ได้ จ้ำนวนหน่วยกิตต้องไม่น้อยกว่ำรำยวิชำที่เรียนแทน และให้ลงหมำยเหตุในระเบียน
แสดงผลกำรเรียน วำ่ ใหเ้ รยี นแทนรำยวิชำใด
ขอ้ 55 กำรตัดสินผลกำรเรยี นเพ่ือสำ้ เรจ็ กำรศึกษำตำมหลกั สตู ร ให้ถือตำมเกณฑ์ตอ่ ไปนี
(1) ไดร้ ำยวิชำและจ้ำนวนหนว่ ยกิตสะสมในหมวดวชิ ำทกั ษะชีวิต หมวดวชิ ำทกั ษะวชิ ำชีพ และหมวดวชิ ำเลอื กเสรี
ครบถว้ นตำมท่กี ำ้ หนดไว้ในหลกั สตู รแตล่ ะประเภทวชิ ำและสำขำวิชำ และตำมแผนกำรเรียนท่สี ถำนศึกษำกำ้ หนด
(2) ได้คำ่ ระดับคะแนนเฉล่ยี สะสมไมต่ ่้ำกว่ำ 2.00
(3) ผำ่ นเกณฑก์ ำรประเมนิ มำตรฐำนวชิ ำชพี
(4) ไดเ้ ขำ้ รว่ มปฏิบตั กิ จิ กรรมเสรมิ หลกั สตู รและ “ผำ่ น” ทกุ ภำคเรียน ตำมแผนกำรเรียนทสี่ ถำนศกึ ษำกำ้ หนด
ขอ้ 56 ให้หวั หนำ้ สถำนศึกษำ เป็นผอู้ นมุ ตั ิผลกำรเรียนและกำรสำ้ เร็จกำรศกึ ษำตำมหลกั สตู ร
ข้อ 57 เมือ่ นักศึกษำไดล้ งทะเบยี นรำยวิชำครบ 2 ภำคเรียน หำกได้คำ่ ระดบั คะแนนเฉลยี่ สะสมต้่ำกว่ำ 1.75 ให้
สถำนศึกษำพจิ ำรณำว่ำควรให้เรยี นต่อไปหรอื ใหพ้ น้ สภำพนกั ศกึ ษำ
ขอ้ 58 นกั ศกึ ษำทีเ่ รียนแบบเต็มเวลำและได้ลงทะเบยี นรำยวิชำรวม 4 ภำคเรียนแล้วแต่ยังไม่เข้ำเกณฑ์กำรสำ้ เร็จกำรศกึ ษำ
ตำมหลักสตู รขอ้ 55 ให้สถำนศึกษำพิจำรณำว่ำควรให้เรียนต่อไปหรือให้พ้นสภำพนกั ศึกษำ ทงั นใี ห้เรยี นไดไ้ ม่เกิน 8 ภำคเรยี นนับตังแต่
วันขึนทะเบยี นเป็นนกั ศึกษำโดยไมน่ บั ภำคเรียนท่ลี ำพกั กำรเรยี น
นักศึกษำท่ีเรยี นแบบไมเ่ ตม็ เวลำและไดล้ งทะเบียนรำยวชิ ำครบทุกภำคเรียนตำมแผนกำรเรียนที่สถำนศกึ ษำกำ้ หนดแล้ว แตย่ ัง
ไม่เข้ำเกณฑ์กำรสำ้ เร็จกำรศึกษำตำมหลักสูตรข้อ 55 ให้สถำนศึกษำพิจำรณำว่ำควรให้เรียนต่อไป หรือให้พ้นสภำพนักศึกษำ ทังนีให้
เรยี นได้ไมเ่ กนิ 12 ภำคเรยี นนบั ตังแต่วนั ขนึ ทะเบยี นเปน็ นักศึกษำโดยไมน่ ับภำคเรียนท่ีลำพักกำรเรียน
สว่ นที่ 4
การเทียบโอนผลการเรยี นรู้
ข้อ 59 กำรโอนผลกำรเรียนส้ำหรับนักศึกษำจำกสถำนศึกษำซึ่งใช้หลักสูตรนีให้สถำนศึกษำทรี่ ับนกั ศึกษำเรียนรับโอนผลกำร
เรียนทุกรำยวิชำ นอกจำกรำยวิชำที่ได้ระดับผลกำรเรียนต่้ำกว่ำ 2.0 สถำนศึกษำจะรับโอนหรือจะท้ำกำรประเมินใหม่จนเห็นว่ำได้ผล
กำรเรียนถงึ เกณฑม์ ำตรฐำนของสถำนศึกษำแล้วจึงรับโอนผลกำรเรียนรำยวิชำนันก็ได้
ข้อ 60 สถำนศึกษำจะรับโอนผลกำรเรียนรำยวิชำจำกหลักสูตรอ่ืนซ่ึงไม่ต้่ำกว่ำระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพชันสูง ได้ตำม
เงื่อนไขตอ่ ไปนี
(1) เปน็ รำยวชิ ำหรือกลมุ่ วิชำท่ีมจี ดุ ประสงค์และเนอื หำใกล้เคียงกนั ไม่ต้่ำกวำ่ ร้อยละ 75 และมีจ้ำนวนหน่วยกติ ไม่นอ้ ย
กว่ำหน่วยกติ ของรำยวิชำท่ีระบไุ ว้ในหลกั สตู ร
(2) รำยวิชำที่ไดร้ ะดบั ผลกำรเรยี นตังแต่ 2.0 ขนึ ไป โดยสถำนศึกษำจะรบั โอนผลกำรเรียนหรอื จะท้ำกำรประเมินใหม่
แล้วจึงรบั โอนรำยวิชำนนั ก็ได้
49
ข้อ 61 เม่ือนักศึกษำขอโอนผลกำรเรียนรำยวชิ ำ ใหส้ ถำนศกึ ษำด้ำเนินกำรให้แล้วเสร็จก่อนกำรวัดผลปลำยภำคเรียนแรกท่ี
นักศึกษำเขำ้ เรยี น
ข้อ 62 กำรบันทึกผลกำรเรียนตำมข้อ 59 และข้อ 60 ลงในระเบียนแสดงผลกำรเรียนให้ใช้รหัสวิชำและชื่อรำยวิชำตำม
หลกั สตู รนี โดยแสดงหมำยเหตวุ ่ำเป็นรำยวิชำทรี่ บั โอนผลกำรเรียน
ข้อ 63 สถำนศึกษำจะอนุญำตให้นักศึกษำไปเรียนรำยวิชำจำกสถำนศึกษำแห่งอื่น ในกรณีที่สถำนศึกษำไม่สำมำรถเปิดท้ำ
กำรสอนในรำยวิชำนันได้ โดยสถำนศึกษำพิจำรณำรำยละเอียดเกี่ยวกับเนือหำของหลักสูตรตำมที่เห็นสมควร และให้สถำนศึกษำ ทัง
สอบแหง่ ท้ำควำมตกลงร่วมกนั ในกำรจัดสอนและรบั โอนผลกำรเรียน
ขอ้ 64 ในกรณีสถำนศึกษำอนญุ ำตให้นักศึกษำไปเรียนจำกสถำนศึกษำแห่งอื่นตำมข้อ 63 ให้สถำนศึกษำพิจำรณำรับโอนผล
กำรเรยี น ดงั นี
(1) รบั โอนรำยวชิ ำท่มี ผี ลกำรเรียนตังแต่ 2.0 ขนึ ไป หรือ
(2) รำยวชิ ำทไ่ี ดร้ ะดับผลกำรเรียนตำ่้ กว่ำ 2.0 สถำนศกึ ษำอำจรับโอนผลกำรเรยี นหรอื ไม่ก็ได้ ให้อยูใ่ นดลุ พินิจของ
สถำนศึกษำ
ทงั นีให้สถำนศกึ ษำแจง้ ใหน้ ักศกึ ษำทรำบกอ่ นทีจ่ ะอนุญำตให้ไปเรียน
กำรบันทึกผลกำรเรียนลงในระเบียนแสดงผลกำรเรียน ใหใ้ ช้รหสั วชิ ำ และชอ่ื รำยวิชำของหลักสูตรนโี ดยระบุวำ่ รับโอนผลกำร
เรยี น
ข้อ 65 กรณีที่มกี ำรประเมินใหม่ตำมข้อ 59 และข้อ 60 ระดับผลกำรเรียนให้เป็นไปตำมที่ไดจ้ ำกกำรประเมนิ ใหม่ แตต่ ้องไม่
สงู ไปกวำ่ เดมิ
ข้อ 66 นกั ศึกษำท่มี ีควำมรู้และประสบกำรณ์ในงำนอำชีพ หรือฝึกงำนในสถำนประกอบกำร หรือท้ำงำนในอำชีพนนั อยแู่ ล้ว
หรือมีควำมรู้ในรำยวิชำตรงตำมหลักสูตรมำก่อนเข้ำเรียน หรือเข้ำเรียนแล้วแต่ได้เรียนหรือฝึกปฏิบัติในสถำนประกอบกำร จะขอ
ประเมินเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์เพ่ือนับจ้ำนวนหน่วยกิตสะสมส้ำหรับรำยวิชำนันได้ โดยเทียบโอนได้ไม่เกิน 2 ใน 3 ขอ
จำ้ นวนหน่วยกิตตำมหลกั สตู รแตล่ ะประเภทวชิ ำและสำขำวชิ ำและตำมแผนกำรเรยี นทส่ี ถำนศกึ ษำกำ้ หนด
กำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณใ์ ห้เปน็ ไปตำมหลักเกณฑแ์ ละแนวปฏิบตั ิทค่ี ณะกรรมกำรกำรอำชวี ศกึ ษำก้ำหนด
ถ้ำผลกำรประเมินไม่ผ่ำน นักศึกษำสำมำรถลงทะเบียนเรียนปกติในภำคเรียนนันหรือขอประ เมินเทียบโอนควำมรู้และ
ประสบกำรณ์ในภำคเรยี นต่อไปได้
ข้อ 67 นักศึกษำที่สถำนศึกษำให้พ้นสภำพนักศึกษำตำมข้อ 57 หรือข้อ 58 แล้วสอบเข้ำเรียนใหม่สถำนศึกษำเดิมหรือ
สถำนศึกษำแห่งใหม่ได้ ให้สถำนศึกษำรับโอนผลกำรเรียนเฉพำะรำยวิชำที่ยังปรำกฏอยู่ในหลักสูตรนี และได้ระดับผลกำรเรียนตังแต่
2.0 ขนึ ไป
50