The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คุณสมบัติของผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยสถานที่ การรักษาความปลอดภัย บุคคล การรักษาความปลอดภัยเอกสาร ระเบียบปฏิบัติและขั้นตอนเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยสถานที่ บุคคล และเอกสาร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

Book23 การรักษาความปลอดภัย

คุณสมบัติของผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยสถานที่ การรักษาความปลอดภัย บุคคล การรักษาความปลอดภัยเอกสาร ระเบียบปฏิบัติและขั้นตอนเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยสถานที่ บุคคล และเอกสาร

๔๒

ò.õ ਌Ò˹ŒÒ·èÕ õ ¤¹ (Pentagon Agents) »ÃСͺ´ÇŒ Â
๒.๕.๑ หวั หนา ชดุ ตดิ ตาม (Detail Leader) DL
๒.๕.๒ รองหวั หนาชดุ ติดตาม (Shift Leader) SL
๒.๕.๓ เจาหนา ท่ีปฏบิ ัตกิ าร (Right Rear) RR
๒.๕.๔ เจาหนาทีป่ ฏิบตั กิ าร (Left Rear) LR
๒.๕.๕ เจาหนาท่ีปฏบิ ตั กิ าร (Agent) A
à¨ÒŒ ˹ŒÒ·èÕ õ ¤¹ (Pentagon Agents)

หัวหนาชุดสวนลว งหนา
รองหวั หนา ชดุ ติดตาม (Shift Leader) SL

เจาหนา ทป่ี ฏบิ ัติการ (Left Rear) LR เจา หนา ทปี่ ฏบิ ตั ิการ (Right Rear) RR
บุคคลสาํ คัญ

รองหวั หนา ชดุ ตดิ ตาม (Shift Leader) SL หวั หนาชุดติดตาม (Detail Leader) DL

๔๓

ò.ö ਌Ò˹Ҍ ·èÕ õ ¤¹ (Pentagon Agents) »ÃСͺ´ÇŒ Â
๒.๖.๑ หวั หนาชดุ ตดิ ตาม (Detail Leader) DL
๒.๖.๒ รองหวั หนา ชุดตดิ ตาม (Shift Leader) SL
๒.๖.๓ เจาหนาท่ปี ฏบิ ัติการ (Right Rear) RR
๒.๖.๔ เจา หนาท่ีปฏิบัตกิ าร (Left Rear) LR
๒.๖.๕ เจา หนา ท่ีปฏบิ ตั กิ าร (Agent) A
๒.๖.๖ เจาหนาที่ปฏิบัติการ (Agent) A รูปขบวนนี้ใชในกรณีท่ีมีฝูงชน

หนาแนนมากหรือบางคร้ังจําเปนตองพาบุคคลสําคัญฝาวงลอมของฝูงชน ซ่ึงสามารถทําวงลอม
เพ่ือปองกันบุคคลสําคัญ โดยปรับรูปขบวนวงลอมใหเล็กลงจนเกือบชิดกัน แลวใชมือซายจับเข็มขัด
หรือจับมือในลักษณะมัดขาวตม พาบุคคลสําคัญไปยังท่ีหมาย โดยหัวหนาชุดติดตามเปนผูกําหนด
ทศิ ทาง

à¨ÒŒ ˹ŒÒ·Õè ö ¤¹ (Hexagon Agents)

หวั หนา ชุดสว นลว งหนา (Advance Teams)
เจาหนาที่ปฏบิ ตั ิการ (Agent) A

เจา หนา ทป่ี ฏบิ ตั กิ าร (Left Rear) LR เจา หนาท่ปี ฏบิ ัติการ (Right Rear) RR

บุคคลสําคญั

รองหวั หนาชุดติดตาม (Shift Leader) SL หวั หนา ชดุ ตดิ ตาม (Detail Leader) DL

หัวหนาเจาหนา ทป่ี ฏิบตั ิการ (Agent) A

๔๔

Â·Ø ¸ÇÔ¸Õ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ ºØ¤¤Åสํา¤ÞÑ

ñ. ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂã¹¢³Ðà´Ô¹·Ò§´ŒÇÂà·ÒŒ
เนอ่ื งจากในบางโอกาสบคุ คลสาํ คญั จะตอ งเดนิ ทางไปยงั สถานทตี่ า งๆ ดว ยการเดนิ เทา

ซ่ึงในการนี้เปนจุดลอแหลมตออันตรายอยางมาก จึงจําเปนจะตองมีรูปแบบและวิธีการรักษา
ความปลอดภัยที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพ ในท่ีนี้จะกลาวเฉพาะการรักษาความปลอดภัยของ
ชดุ ตดิ ตามบุคคลสาํ คญั เทานน้ั

รูปแบบและการวางตัวเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัย จะตองนํามาดัดแปลง
ใหเ ขา กบั สถานการณ แมจ ะยดึ รปู แบบการฝก มาเปน มาตรฐานในการปฏบิ ตั ิ แตข ณะเดยี วกนั เจา หนา ที่
รักษาความปลอดภัยจะตองปรับตําแหนงของตนเม่ือจําเปน ดังนั้นการทํางานเปนชุด การฝกฝน
อยา งมีประสิทธภิ าพ จะทาํ ใหเกดิ ผลสาํ เร็จในการปฏิบตั ิ ท้ังนี้เจาหนา ทจี่ ะตอ งทราบในเรื่องตอ ไปนี้

- เสน ทางทต่ี อ งใช
- กาํ หนดการตาง ๆ
- ขอมูลตา ง ๆ เกี่ยวกบั บคุ คลสาํ คญั
- อปุ นิสัยของเพ่อื นรวมงาน
การคุมกันบุคคลสําคัญ เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยจะตองสามารถจําแนกวา
จุดใดนาจะเปนจุดคับขันที่จะกอใหเกิดอันตรายตอบุคคลสําคัญได เพื่อจะจัดเจาหนาที่รักษา
ความปลอดภัยใหคอยคุมกัน ทั้งน้ีตองระมัดระวังมิใหเอิกเกริกจนเกินไปและมิใหประชาชนทราบ
หรอื ผดิ ปกติ
ความตองการของบุคคลสําคัญ เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยตองศึกษาประวัติ
และความตองการของบุคคลสําคัญโดยละเอียด เพื่อประโยชนในการวางกําลังของเจาหนาท่ีท้ังแบบ
เปดเผยและแบบปกปด และใหเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยทุกคนพึงระลึกอยูเสมอวา “ÍѹμÃÒÂ
ÍÒ¨à¡Ô´¢Ö鹡ºÑ º¤Ø ¤Åสาํ ¤ÑÞä´μŒ ÅÍ´àÇÅÒ·§Ñé ÍغμÑ ÔàËμØËÃÍ× â´Âà¨μ¹Ò”
¡ÒÃãªกŒ ําÅ§Ñ à¾èÍ× ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀѺ¤Ø ¤Åสาํ ¤ÑÞ มีไดห ลายกรณี ดงั น้ี
ñ.ñ àÁÍè× ãªกŒ ําÅѧÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ ñ ¤¹

การใช รปภ. ๑ คน จะใชในกรณีที่บุคคลสําคัญอยูในท่ีซึ่งมีความปลอดภัย
อยูแลวในงานหรือบุคคลสําคัญน้ันมีความเส่ียงตอการถูกทํารายตํ่า รปภ. ควรยืนอยูทางดานขวา
หรอื ดา นที่ รปภ. ถนดั ในการใชอ าวธุ เมอ่ื มเี หตกุ ารณข นึ้ รปภ. จะใชอ าวธุ โดยไมเ ปน อนั ตรายตอ บคุ คล
สําคัญ ลักษณะการยืน ตองยืนเยื้องทางมือขางท่ีถนัดและอยูในระยะมือเอื้อมถึง กรณีมือประสาน
ดานหนา ใหวางมือถนดั อยูด านใน มือไมถนัดทบั ดา นนอก เพ่ือพรอมในการใชม อื ปองกันและใชอ าวธุ

๔๕

รปู ท่ี ๑ เจาหนา ทร่ี กั ษาความปลอดภยั ๑ คน ในสถานการณปกติ
รปู ท่ี ๒ การใชกาํ ลังรกั ษาความปลอดภยั ๑ คน ในสถานการณพ ิเศษ

๔๖

- เมื่อเกิดเหตุการณ รปภ. เขาประชิดบุคคลสําคัญ ใชลําตัวกําบังบุคคลสําคัญ
ในทิศทางท่ีถูกประทุษราย พรอมกับใชมือขางหน่ึงจับที่บริเวณลําคอ (หรือคอเส้ือ) ของบุคคลสําคัญ
แลวกดใหโนมตัวใหต่ํา สวนมือขางหนึ่งจับที่เข็มขัดหรือขอบกางเกงนําพาบุคคลสําคัญหนีทิศทาง
ตรงขา มกับทศิ ทางทีถ่ ูกประทุษรา ย

- อาจใชอาวุธตอบโตผ ปู ระทษุ รา ย

รูปท่ี ๓ ก. การปฏบิ ตั เิ มื่อภัยคุกคามสูง รปู ที่ ๓ ข. การปฏิบตั ิเม่อื เกดิ เหตกุ ารณ

รปู ท่ี ๔ กรณใี ชอ าวธุ ตอบโตค นรายทางทศิ ๑๒ นาฬกา

๔๗

¢ŒÍ¾Ô¨ÒóҡÒû¯ÔºÑμÔ㹡ÒäŒØÁ¤Ãͧº¤Ø ¤Åสํา¤Ñޢͧ ûÀ.»ÃÐจําμÑÇ
๑. กรณไี มม ี รปภ. ชว ยในการคมุ กนั หรอื มเี พยี ง รปภ.ประจาํ ตวั เพยี งคนเดยี วใหพ จิ ารณา

การใชอาวุธตอบโตภัยคุกคามตามระดับของภัยคุกคามพรอมกับนําตัวเขากําบังแลวพาบุคคลสําคัญ
ออกจากพืน้ ท่ี โดยสามารถทาํ การตอบโตภัยคกุ คามไดทุกทศิ ทาง (รปู ท่ี ๑๔)

๒. กรณี รปภ. ตั้งแต ๒ คนขึ้นไป ให รปภ.ประจําตัวพิจารณาระดับของภัยคุกคาม
ในการปฏบิ ัติกับบคุ คลสาํ คญั

๒.๑ กรณมี ที กี่ าํ บงั หรอื ภยั คกุ คามสงู เชน ระเบดิ หรอื อาวธุ ปน ใหก ดศรี ษะบคุ คลสาํ คญั
หลบภยั คกุ คามน้ันแลว ปฏบิ ตั ิในขนั้ ตอนอนื่ ตอไป (รูปที่ ๓ ก.)

๒.๒ กรณีไมมีที่กําบังหรือภัยคุกคามต่ําและเปนอันตราย ควรพิจารณาใชมือวาง
กดลงบนไหลบ คุ คลสาํ คัญ (รปู ที่ ๓ ข.) แลวนําออกจากพนื้ ท่ี

๒.๓ กรณีภัยคุกคามระดบั ต่ําหรอื อาจไมเ ปนอันตรายตอ ชวี ิต เชน การถกู ขวา งปา
ส่ิงของ รปภ.ประจาํ ตัวตอ งเขากําบังแลว รับพาบคุ คลสาํ คญั ออกจากพนื้ ทโ่ี ดยไมตอ งกดศีรษะหรอื ไหล
แตอ ยา งใด

ñ.ò àÁ×Íè ãªกŒ ําÅѧÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ ò ¤¹ ให
รปภ. คนท่ี ๑ ยนื อยดู านหนา บคุ คลสําคญั รับผิดชอบพื้นทมี่ ุมมองดานหนา

๑๘๐ องศา
รปภ. คนที่ ๒ (หัวหนาชุด) ซ่ึงมีหนาท่ีรับผิดชอบบุคคลสําคัญ จะยืนอยู

ดานหลังบุคคลสําคญั รบั ผิดชอบพ้ืนที่รอบตวั ๓๖๐ องศา

รูปท่ี ๕ การใชกาํ ลงั รักษาความปลอดภยั ๒ คน รูปท่ี ๖ การใชก าํ ลังรักษาความปลอดภัย ๒ คน
ในสถานการณท ่วั ไป ในสถานการณพ ิเศษ

๔๘

- ปฏบิ ตั เิ มอ่ื เกดิ เหตุใหรปภ.ทเี่ หน็ คนรา ยกอ นตะโกนบอกทศิ ทางของคนรา ยรปภ.
รับผิดชอบบุคคลสําคญั เขา ประชดิ ตัวบุคคลสาํ คญั โดยใชตัวกาํ บงั และทําแบบลักษณะท่ี ๑ สวน รปภ.
ท่เี หลอื เนนใชอ าวุธยงิ ตอ สกู บั คนรา ย พรอมกับถอยหลังตดิ ตามบคุ คลสาํ คัญไป ตอบโตพ ลางรน ถอย

รูปที่ ๗ การปฏบิ ัตเิ ม่ือเกิดเหตปุ ระทษุ รา ย
ในสถานการณทั่วไปของ รปภ. ๒ คน

รูปที่ ๘ การปฏบิ ัตเิ มือ่ เกิดเหตกุ ารณ
ในสถานการณพเิ ศษ

๔๙

ñ.ó àÁÍè× ãªกŒ ําÅ§Ñ ÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ ó ¤¹
การรักษาความปลอดภัยแบบนีเ้ รยี กวา ÃÙ»·Ã§ÅÁÔè การเดนิ จะตองเดินเกาะกลุม
- รปภ.สว นหนา รบั ผดิ ชอบพ้นื ท่ดี า นหนา ๑๘๐ องศา
- รปภ.รบั ผดิ ชอบบคุ คลสาํ คัญ (หวั หนาชดุ )
- รปภ.สว นหลงั รับผดิ ชอบพนื้ ทีร่ อบตวั ๓๖๐ องศา

รปู ที่ ๙ การใชกาํ ลังรกั ษาความปลอดภยั ๓ คน รปู ที่ ๑๐ การใชก ําลังรกั ษาความปลอดภยั ๓ คน
ในสถานการณท วั่ ไป ในสถานการณพ เิ ศษ

- การปฏบิ ตั เิ มอื่ เกดิ เหตุ ให รปภ.คนทเ่ี หน็ เหตกุ ารณก อ น ตะโกนบอกทศิ ทาง
ของคนรา ย รปภ. ๑ คน ทาํ การตอ ตา นคนรา ย ทรี่ บั ผดิ ชอบบคุ คลสาํ คญั ทาํ ลกั ษณะเดยี วกบั แบบ ๑, ๒
โดยนําบุคคลสําคัญออกจากพื้นท่ีเกิดเหตุ และ รปภ. อีกหน่ึงคนที่เหลือ ใชอาวุธเบิกทางนําบุคคลสําคัญ
และ รปภ.รบั ผิดชอบออกจากพื้นท่ี

๕๐

รปู ท่ี ๑๑ การปฏิบตั เิ ม่อื เกิดเหตุประทุษรา ย

๕๑

รปู ที่ ๑๒ การปฏบิ ัติเมื่อเกดิ เหตกุ ารณในสถานการณพเิ ศษ
ñ.ô àÁèÍ× ãªกŒ าํ Å§Ñ ÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ ô ¤¹

- รปภ.สว นหนา รบั ผิดชอบพื้นที่ดานหนา ๑๘๐ องศา
- รปภ.รบั ผิดชอบบคุ คลสําคัญ (หวั หนา ชดุ )
- รปภ.หลังซา ย รับผิดชอบพ้ืนท่ีดา นหลงั ซา ย ๑๘๐ องศา
- รปภ.หลงั ขวา รบั ผดิ ชอบพ้นื ทดี่ า นหลังขวา ๑๘๐ องศา

รูปที่ ๑๓ การใชก ําลงั รกั ษาความปลอดภัย ๔ คน

๕๒

๑.๔.๑ การปฏิบตั เิ มอ่ื เกิดภยั คุกคามบุคคลสาํ คญั ในสถานการณท ่ัวไป
- รปภ.ท่ีเห็นภัยคุกคามกอน ตะโกนบอกทิศทางของคนราย เชน

คนรา ย ๑๒ นาฬก า พรอ มกับตอตา นภัยคุกคาม
- รปภ.ที่อยูตรงขามภัยคุกคาม ใชอาวุธปนเบิกทาง และนํามือขาง

ไมถ นดั จูงมอื บุคคลสําคญั นําออกจากพ้นื ท่ี
- รปภ.ประจาํ ตวั บคุ คลสาํ คญั และ รปภ.ทเ่ี หลอื ใชล าํ ตวั เขา บงั บคุ คล

สําคัญใหป ลอดภัย โดยสามารถใชอ าวุธตอบโตไ ดด ว ย

รูปท่ี ๑๔ การตอบโตเ หตุประทุษรายในสถานการณพิเศษ
๑.๔.๒ การปฏบิ ัติเมื่อเกิดภัยคกุ คามบุคคลสาํ คัญในสถานการณพิเศษ
- ให รปภ.ทเี่ ห็นภยั คกุ คาม กอ นตะโกนบอกทิศทางของคนรา ย
- รปภ.ทอี่ ยดู า นทศิ ทางตรงขา มกบั ภยั คกุ คาม เบกิ ทางใหบ คุ คลสาํ คญั
- รปภ.ประจําตัวบุคคลสําคัญ ทําหนาท่ีคุมครองบุคคลสําคัญ

ออกจากพน้ื ท่ีเกดิ เหตุไปยงั ท่ปี ลอดภยั หรอื ทางทิศตรงขามกบั ภัยคุกคาม
- รปภ.ท่ีเหลือ ทําการตอตานภัยคุกคามและถอยตามบุคคล

สําคญั ไป

๕๓

รปู ท่ี ๑๕ การใชก ําลงั รักษาความปลอดภยั ๔ คน

๕๔

ñ.õ àÁè×Í㪌กาํ ÅÑ§Ã¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ õ ¤¹
- รปภ.สวนหนา รับผิดชอบพนื้ ทีด่ านหนา ๑๘๐ องศา
- รปภ.ดานซา ย รับผิดชอบพ้ืนทดี่ า นหนาซา ย ๑๘๐ องศา
- รปภ.ดา นขวา รับผดิ ชอบพน้ื ทด่ี านหนาขวา ๑๘๐ องศา
- รปภ.รบั ผดิ ชอบบุคคลสําคญั (หวั หนาชดุ )
- รปภ.ดา นหลังสุด รบั ผิดชอบพน้ื ทโ่ี ดยรอบ ๓๖๐ องศา

รูปที่ ๑๖ การใชเ จา หนาทีร่ กั ษาความปลอดภยั จํานวน ๕ คน ในสถานการณท ว่ั ไป
๑.๕.๑ การปฏบิ ัติเมื่อเกิดภัยคกุ คามในสถานการณท ั่วไป
- รปภ.ทเี่ ห็นภัยคกุ คาม ตะโกนบอกทศิ ทางภยั คุกคาม
- รปภ.ท่อี ยใู กลภ ยั คกุ คาม ทําการตอ ตาน
- รปภ.ประจาํ ตัวบคุ คลสาํ คัญ คุมครองบุคคลสาํ คัญ
- รปภ.ที่อยูตรงขามกับภัยคุกคาม จับมือบุคคลสําคัญเบิกทาง
นาํ บคุ คลสาํ คัญออกไปในทศิ ทางท่ปี ลอดภัย
- รปภ.ทเี่ หลือ เขา ปอ งบคุ คลสาํ คญั โดยโอบลอมบุคคลสาํ คัญไว

๕๕

รปู ที่ ๑๗ การตอ ตานภัยคุกคามของ รปภ. ๕ คน
ในสถานการณท ่ัวไป

รปู ท่ี ๑๘ การใชก าํ ลังรกั ษาความปลอดภัย ๕ คน

๕๖

๑.๕.๒ การปฏบิ ตั เิ มอื่ เกดิ ภยั คกุ คามในสถานการณพ เิ ศษ ใหป ฏบิ ตั ิ
เหมือนกบั รปภ. ๔ คน โดยเพิ่ม รปภ.ตอตาน เมื่อเกิดเหตอุ กี ๑ คน

รปู ที่ ๑๙ การปฏิบตั เิ ม่อื เกดิ ภยั คกุ คามในสถานการณพิเศษ

๕๗

ò. ÃÙ»¢ºÇ¹¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂã¹âÍ¡ÒÊ͹×è æ

LR LR ADV

P ºØ¤¤Åสํา¤ÞÑ SL
SL DL ËÑÇ˹Ҍ ªØ´μÔ´μÒÁ
SL ÃͧËÑÇ˹Ҍ ªØ´μ´Ô μÒÁ P
P ADV ËÇÑ Ë¹ÒŒ ª´Ø ʋǹŋǧ˹ŒÒ DL
DL RR, L, R, A ਌Ò˹ŒÒ·Õ軯ºÔ μÑ Ô¡ÒÃ

RR RR

AA

รปู ที่ ๒๐ การรักษาความปลอดภัยในขณะบุคคลสําคญั เดินขน้ึ – ลงบันได
ò.ñ ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂã¹¢³ÐºØ¤¤Åสํา¤ÞÑ à´Ô¹¢Öé¹-ŧº¹Ñ ä´

ในกรณที ี่บคุ คลสําคญั จะตองเคล่อื นท่โี ดยการใชบ นั ไดนั้น มกี ารวางกําลงั ดังนี้
๒.๑.๑ เจาหนาที่ชุดสวนลวงหนาหรือชุดประจําสถานท่ีวางกําลังอยู

ดา นบนหรอื ดา นลา งกอ นทบ่ี คุ คลสาํ คญั จะขนึ้ หรอื ลง โดยกนั ผทู จี่ ะใชบ นั ไดไวก อ นเพอ่ื ความปลอดภยั
ของบุคคลสาํ คญั

๒.๑.๒ เจาหนาท่ีชุดติดตาม ๑ คน เดินนําบุคคลสําคัญหรือลงบันไดกอน
หัวหนาชดุ ตดิ ตามเดนิ อยูใกลบุคคลสาํ คัญทางดานหลงั เสมอ

๒.๑.๓ เจา หนา ทชี่ ดุ ตดิ ตามทเี่ หลอื เดนิ ตามบคุ คลสาํ คญั พรอ มกบั ใหก ารรกั ษา
ความปลอดภัยรอบตัว

๒.๑.๔ ในขณะทบ่ี คุ คลสาํ คญั ขึน้ หรือลงบันได ตองแนใจวาไมม ีผอู ่ืนใชบ นั ได
เดินสวนทางได แตบางครั้งอาจมีความจําเปนตองยอมใหผูอ่ืนใชบันไดรวมดวย กรณีนี้จะตองจัด
เจาหนา ทสี่ วนลวงหนา หรอื ชุดตดิ ตามอยูใ นบนั ไดเล่อื นปะปนกับประชาชนในชว งขาลงหรือขาขน้ึ

๕๘

ò.ò ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ ã¹¢³Ð·Õèº¤Ø ¤Åสาํ ¤ÑÞà¢ŒÒ – ÍÍ¡¨Ò¡Å¿Ô μ

LR LR ADV

P º¤Ø ¤Åสาํ ¤ÑÞ SL
SL DL ËÑÇ˹Ҍ ªØ´μÔ´μÒÁ
SL ÃͧËÇÑ Ë¹ÒŒ ªØ´μÔ´μÒÁ P
P ADV ËÑÇ˹Ҍ ª´Ø ÊÇ‹ ¹Å‹Ç§Ë¹ÒŒ DL
DL RR, L, R, A à¨ÒŒ ˹ŒÒ·è»Õ ¯ºÔ Ñμ¡Ô ÒÃ

RR RR

AA

รปู ท่ี ๒๑ บคุ คลสาํ คญั เขา – ออกจากลฟิ ต
๒.๒.๑ กรณีจัดลฟิ ตไวเ ฉพาะสาํ หรับบุคคลสําคัญ ปฏิบัตดิ ังนี้

๑) การเขาลิฟต
๑.๑) หวั หนา ชดุ สว นลว งหนา เดนิ นาํ บคุ คลสาํ คญั พรอ มรปู ขบวน

ไปยงั ลฟิ ต โดยมเี จาหนาท่ชี ุดสว นลว งหนาเปด ลฟิ ตร ออยู
๑.๒) หัวหนาชุดสวนลวงหนาเปดทางใหเจาหนาท่ีชุดติดตาม

๑ คน เขา ลฟิ ตไ ปกอ นเพอ่ื ควบคุมแผงบังคับ
๑.๓) บุคคลสําคัญ หัวหนาชุดติดตาม เขาไปในลิฟตพรอมกับ

ชดุ ติดตามอกี ๑ คน โดยหวั หนาชุดตดิ ตามยืนบงั บคุ คลสาํ คญั ไว
๑.๔) หัวหนาชุดสวนลวงหนาจะเขาลิฟตเปนคนสุดทาย

พรอ มกบั ยืนบังดา นหนา บุคคลสําคัญตรงบริเวณประตูลฟิ ต
๒) การออกลิฟต
เมื่อลิฟตถึงชั้นที่ตองการ จะมีเจาหนาท่ีชุดสวนลวงหนา หรือ

ชุดประจําสถานท่ีคอยอยูดานนอกลิฟตเพ่ือใหความปลอดภัย การปฏิบัติใหกลับกันกับการเขาลิฟต
คือ หัวหนาชุดสวนลวงหนาออกจากลิฟตกอนเปนคนแรก ตามดวยชุดติดตาม ๑ คน บุคคลสําคัญ
หัวหนาชุดติดตาม และชุดติดตามที่เหลือ สวนรองหัวหนาชุดติดตามซึ่งอยูนอกลิฟตน้ันจะคอยแกไข
ปญ หาทเ่ี กดิ ขนึ้ ภายนอก กรณลี ฟิ ตไ มส ามารถบรรจชุ ดุ ปฏบิ ตั กิ ารไดท งั้ หมด อยา งนอ ยทส่ี ดุ หวั หนา ชดุ
ติดตามและหวั หนาชุดสวนลว งหนาจะตอ งอยูในลิฟตก ับบคุ คลสาํ คญั

๕๙

๒.๒.๒ กรณีการใชลิฟตร วมกับบคุ คลอ่นื

รูปที่ ๒๒ บุคคลสาํ คญั ใชลฟิ ตรว มกับผูอื่น
การปฏิบัติเหมือนกับการใชลิฟตที่จัดไวโดยเฉพาะ แตใหแบงลิฟตออกเปน
๒ สวน โดยมีเจาหนา ทีก่ ้นั ระหวางบคุ คลสําคัญกบั บคุ คลอ่นื ทใี่ ชลฟิ ตใ นขณะนั้น
๒.๓ การรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสําคัญเมอ่ื กลา วปราศรัยบนเวที

รูปท่ี ๒๓ การรักษาความปลอดภยั บุคคลสําคัญเม่ือกลา วปราศรยั บนเวที

๖๐

ในโอกาสที่บุคคลสําคัญตองขึ้นไปกลาวคําปราศรัยหรือแถลงขาวบนเวที
เจาหนา ทรี่ กั ษาความปลอดภยั จะตองวางกาํ ลังตามจดุ ตา ง ๆ ภายในสถานที่นัน้ โดยการวางแผนของ
ชดุ สํารวจลวงหนา และการเตรียมการของชุดสว นลวงหนา เปนผูก าํ หนดจดุ การวางกําลงั ดงั น้ี

๒.๓.๑ ขณะบุคคลสาํ คญั ขึ้นบนเวที หวั หนาชดุ ติดตามจะตองอยบู นเวทดี ว ย
โดยอยบู รเิ วณดา นหลังบคุ คลสําคญั พรอ มจะเอาตวั เขาบงั เม่ือเกิดเหตุการณ

๒.๓.๒ ภายในหอ งตองมกี ารวางกําลงั ตามจุดตา ง ๆ ดงั นี้
๑) ทางเขา – ทางออก หรอื ทางข้นึ – ทางลงเวที
๒) บริเวณดานหลงั เวทที ีม่ คี นเขา – ออก
๓) บรเิ วณดา นหนา เวที
๔) บรเิ วณเมนสวิตช ทีค่ วบคมุ แสง เสียง เคร่ืองฉายภาพ
๕) ภายในกลมุ ผสู ื่อขาวและผรู บั ฟง

๒.๓.๓ สํารวจเสนทางออกฉุกเฉินแลวใหทีมเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัย
ทราบ

ò.ô ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂàÁÍè× º¤Ø ¤Åสํา¤ÞÑ à´¹Ô μÒÁá¹ÇÃÇÑé

A

DL P SL ADV

RR

รปู ท่ี ๒๔ การรักษาความปลอดภัยเม่อื บคุ คลสาํ คัญเดนิ ตามแนวรว้ั
ลักษณะในการรักษาความปลอดภัยน้ี จะใชในกรณีที่บุคคลสําคัญเย่ียมเยียนประชาชน
ซึ่งในพนื้ ท่ที ก่ี ําหนดโดยมเี ชอื ก รั้ว หรือเจาหนาท่ีตํารวจคอยกน้ั มใิ หล้ําเขตซงึ่ บางครง้ั อาจมผี ไู มห วงั ดี
ตอบุคคลสําคัญโดยการจับมือแนนไมยอมปลอย กรณีน้ีเจาหนาท่ีอาจใชวิธีการหักนิ้วหัวแมมือได
ฉะนั้นเจาหนาที่ท่ีอยูในรูปขบวนตองสังเกตดูมือผูคนในฝูงชนเปนพิเศษ ในการวางกําลังเจาหนาที่
จะเปนดงั น้ี

๖๑

๒.๔.๑ ใหหัวหนาชุดติดตามและรองหัวหนาชุดฯ อยูในตําแหนงหลังขวา
และหลังซา ยติดกับบคุ คลสําคญั ตลอดเวลา

๒.๔.๒ หวั หนา ชดุ สวนลว งหนาเดนิ นําบคุ คลสําคญั ไปในเสน ทางที่กาํ หนด
๒.๔.๓ เจาหนาทป่ี ฏิบัติการหลังขวาและหลงั ซาย เดนิ ปะปนอยูในแถวทส่ี อง
ของฝงู ชน โดยเคลอื่ นขนานไปกบั บคุ คลสาํ คญั ตลอดเวลา ผทู จี่ ะทาํ รา ยบคุ คลสาํ คญั มกั จะอยใู นบรเิ วณ
แถวที่สอง ถามกี ารใชอ าวุธเจา หนา ท่ีแถวสองจะสามารถหยุดยั้งได
ó. ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀѺ¹Ã¶Â¹μ
การเคลอื่ นทข่ี องบคุ คลสาํ คญั ทตี่ อ งมกี ารคมุ กนั อารกั ขา สว นใหญเ คลอ่ื นจากจดุ หนงึ่
ไปยังอีกจุดหน่ึงโดยทางรถยนตหรือพาหนะแบบใดแบบหนึ่ง ในอดีตที่ผานมาความพยายามในการ
ลอบสังหารหรือลักพาตัวเปนการกระทําในขณะท่ีบุคคลสําคัญกําลังเดินทางจึงเปนส่ิงสําคัญท่ีจะตอง
เรยี นรแู ละฝก ปฏบิ ตั กิ ระบวนการขน้ั ตอนในการปฏบิ ตั กิ าร รปภ. เพอ่ื ปอ งปราม ปอ งกนั และรบั มอื กบั
การโจมตีจากผูไมประสงคดีตอบุคคลสําคัญในการศึกษาวิธีการตาง ๆ ที่จะใชรักษาความปลอดภัย
แกบุคคลสําคัญในขณะทีเ่ ขาผนู น้ั กําลงั เดนิ ทางโดยรถยนต
ยทุ ธวธิ เี หลา นเ้ี ปน พน้ื ฐาน สามารถนาํ ไปดดั แปลงใหใ ชไ ดก บั ยานพาหนะทกุ รปู แบบ
และปรบั ใหเขากับสถานการณเ ฉพาะทีเ่ กดิ ขน้ึ รปู แบบขบวนรถยนต
ó.ñ ö ñ ¤Ñ¹ ซึ่งเปนบุคคลสําคัญที่มีความสําคัญนอย มีความเสี่ยงตอการถูก
ทาํ รายตํ่า ในรถจะมคี นขบั และ จนท.รปภ.บุคคลสําคัญ

รูปที่ ๒๕ รูปแบบขบวนรถยนต ๑ คัน
ภายในรถประกอบดว ย

- พลขับรถบุคคลสําคญั
- จนท.รปภ.บคุ คลสําคัญ (นง่ั หนาคูกบั พลขับ)
- บุคคลสาํ คญั

๖๒

ó.ò ¢ºÇ¹Ã¶ ò คนั ซ่งึ บคุ คลผูม คี วามสาํ คญั มากขึ้นมาอกี และมีอัตราการเสี่ยง
ระดับปานกลาง

รปู ที่ ๒๖ รูปแบบขบวนรถยนต ๒ คนั
öº¤Ø ¤Åสาํ ¤ÑÞ ภายในรถจะประกอบไปดว ย
- พลขบั รถบคุ คลสาํ คญั ซงึ่ ควรจะเปน จนท.รปภ. ในทมี รกั ษาความปลอดภยั
ท่มี ีเทคนคิ ในการขบั รถไดด ี
- จนท.รปภ.ประจาํ ตวั บคุ คลสาํ คญั หรอื AIC(AGENTINCHART)หรอื ปจต.
หรอื DL (DETAIL LEADER) ซง่ึ มหี นา ทป่ี กปอ งชวี ติ บคุ คลสาํ คญั เมอื่ มภี ยั คกุ คามเกดิ ขนึ้ กบั บคุ คล
สําคัญ มีหนาที่ใหคําปรึกษากับบุคคลสําคัญเกี่ยวกับเรื่องการรักษาความปลอดภัยคอยปด - เปด,
ปลดลอ็ ก – ปด ลอ็ ก ประตรู ถบุคคลสําคัญใหแ กบุคคลสาํ คญั
- บุคคลสําคัญ
öμ´Ô μÒÁ ภายในรถจะประกอบไปดวย
- พลขับรถตดิ ตามจะเปน จนท.รปภ. ในทมี รักษาความปลอดภยั มเี ทคนิคในการ
ขับรถไดดี และประสานงานการปฏิบัติเก่ียวกับการขับรถกับพลขับรถบุคคลสําคัญไดดี (รูเทคนิค
การขบั รถซง่ึ กันและกัน)
- หวั หนา ชดุ หรอื SL (SHIP LEADER) หรือหมายเลข ๑ จะนั่งคดู านหนา
กบั พลขับ มีหนา ท่คี วบคมุ การปฏิบตั ขิ องทีมปฏบิ ัติ สงั่ การในการลงรถ วงิ่ ประกบรถ และการใชอาวุธ
แกท มี ปฏบิ ตั ิ
- จนท.รปภ. จํานวน ๔ คน
ó.ó ¢ºÇ¹Ã¶ ó ¤¹Ñ สําหรับบุคคลที่รูจักกันดี และมรี ะดับการเส่ยี งภัยสูงตองการ
ความสะดวกรวดเรว็ ในการเดินทาง

รปู ที่ ๒๗ รูปแบบขบวนรถยนต ๓ คนั

๖๓

öนํา ควรจะเปนรถตํารวจทางหลวง เพื่อประสานการปฏิบัติกับตํารวจ
ทางหลวงทอ งท่ที ีข่ บวนรถบคุ คลสาํ คัญผาน ภายในรถประกอบไปดวย

- พลขบั รถนาํ
- จนท.รปภ. ของทมี รปภ. คอยประสานการปฏบิ ตั กิ บั ทมี รปภ.ใหญ รายงาน
การจราจรและสิง่ ผดิ สังเกตใหหัวหนาชดุ ทราบ
öºØ¤¤Åสํา¤ÑÞ ภายในรถจะประกอบไปดว ย
- พลขบั รถบคุ คลสาํ คญั ซง่ึ ควรจะเปน จนท.รปภ. ในทมี รกั ษาความปลอดภยั
มีเทคนคิ ในการขบั รถไดด ี
- จนท.รปภ.ประจําตวั บุคคลสําคญั (AIC หรอื DL) หรือ ปจต. ซ่งึ มหี นา ที่
ปกปอ งชวี ติ บคุ คลสาํ คญั เมอ่ื มภี ยั คกุ คามเกดิ ขนึ้ กบั บคุ คลสาํ คญั มหี นา ทใี่ หค าํ ปรกึ ษากบั บคุ คลสาํ คญั
เก่ียวกับเร่ืองการรักษาความปลอดภัย คอยปด-เปด, ปลดล็อก-ปดล็อก ประตูรถบุคคลสําคัญ
ใหแกบ คุ คลสําคัญ
- บุคคลสาํ คญั
öμÔ´μÒÁ ภายในรถจะประกอบไปดว ย
- พลขับรถติดตาม จะเปน จนท.รปภ. ในทีมรักษาความปลอดภัยมีเทคนิค
ในการขบั รถไดด ี และประสานงานการปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การขบั รถกบั พลขบั รถบคุ คลสาํ คญั ไดด ี (รเู ทคนคิ
การขับรถซึ่งกันและกัน)
- หวั หนา ชดุ (SL) หรอื หมายเลข ๑ จะนงั่ คดู า นหนา กบั พลขบั มหี นา ทคี่ วบคมุ
การปฏิบตั ขิ องทีมปฏิบัติ ส่งั การในการลงรถ วิ่งประกบรถ และการใชอาวุธแกท ีมปฏิบัติ
- จนท.รปภ. จาํ นวน ๔ คน
ó.ô û٠¢ºÇ¹ÂÒ¹¾Ò˹зèÕÁ¤Õ ÇÒÁàÊÂèÕ §μ‹ÍÀÑÂÊÙ§ จะประกอบไปดวย

รปู ท่ี ๒๘ รปู แบบขบวนยานพาหนะที่มคี วามเส่ยี งภัยสูง
öนํา ควรจะเปนรถตํารวจทางหลวง เพื่อประสานการปฏิบัติกับตํารวจ

ทางหลวงทอ งทที่ ีข่ บวนรถบคุ คลสาํ คญั ผา น ภายในรถจะประกอบไปดวย
- พลขบั รถนํา
- จนท.รปภ. ของทมี รปภ. คอยประสานการปฏบิ ตั กิ บั ทมี รปภ.ใหญ รายงาน

การจราจรและสิ่งผดิ สังเกตใหห วั หนาชดุ ทราบ

๖๔

öº¤Ø ¤Åสาํ ¤ÞÑ ภายในรถจะประกอบไปดว ย
- พลขบั รถบคุ คลสาํ คญั ซงึ่ ควรจะเปน จนท.รปภ. ในทมี รกั ษาความปลอดภยั
มีเทคนิคในการขับรถไดด ี
- จนท.รปภ.ประจําตัวบุคคลสาํ คญั (AIC หรอื DL) หรอื ปจต. ซ่งึ มหี นา ที่
ปกปอ งชวี ติ บคุ คลสาํ คญั เมอ่ื มภี ยั คกุ คามเกดิ ขน้ึ กบั บคุ คลสาํ คญั มหี นา ทใ่ี หค าํ ปรกึ ษากบั บคุ คลสาํ คญั
เก่ียวกับเร่ืองการรักษาความปลอดภัย คอยปด-เปด, ปลดล็อก-ปดล็อก ประตูรถบุคคลสําคัญใหแก
บคุ คลสําคัญ
- บคุ คลสําคัญ
öμÔ´μÒÁ ภายในรถจะประกอบไปดว ย
- พลขับรถติดตาม จะเปน จนท.รปภ. ในทีมรักษาความปลอดภัยมีเทคนิค
ในการขบั รถไดด ี และประสานงานการปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การขบั รถกบั พลขบั รถบคุ คลสาํ คญั ไดด ี (รเู ทคนคิ
การขบั รถซง่ึ กนั และกัน)
- หวั หนา ชดุ (SL) หรอื หมายเลข ๑ จะนง่ั คดู า นหนา กบั พลขบั มหี นา ทคี่ วบคมุ
การปฏิบัตขิ องทมี ปฏิบตั ิ สั่งการในการลงรถ ว่งิ ประกบรถ และการใชอ าวุธแกทมี ปฏบิ ตั ิ
- จนท.รปภ. จาํ นวน ๔ คน
öμ‹ÍμŒÒ¹¡ÒëÁ‹Ø â¨ÁμÕ (สนับสนุนทางยุทธการ) ภายในรถประกอบไปดว ย
- พลขับรถตอตานการซุมโจมตี จะเปนเจาหนาที่ในทีมปฏิบัติการพิเศษ
มเี ทคนคิ การขับรถไดดี
- ชุดปฏบิ ตั ิการพเิ ศษ จํานวน ๕ คน หรือมากกวา แลวแตภ ารกิจหรอื การจดั
ของหนวย มีความสามารถในการใชอาวุธไดดี มียุทธวิธีในการตอตานการซุมโจมตีดี อาวุธที่ใชมีขีด
ความสามารถในการทําลายลา งสูง และมคี วามคลองตวั ในการปฏบิ ตั ิ ควรเปนรถตู
ö¨¡Ñ ÃÂÒ¹Â¹μ เปน รถวง่ิ ประกบบคุ คลสาํ คญั ในพนื้ ทท่ี มี่ กี ารจราจรหนาแนน
และในบางโอกาสเมอื่ เกดิ ภยั คกุ คามบคุ คลสาํ คญั ในพน้ื ทที่ มี่ กี ารจราจรหนาแนน สามารถเปน รถนาํ พา
บุคคลสําคญั ออกจากพ้ืนทีไ่ ดรวดเร็ว อาวธุ ท่ีใชเ ปนอาวุธทซี่ อ นพรางไดด ีมคี วามคลอ งตัวในการใช
ó.õ ¢ºÇ¹Ã¶àμçÁÂÈÍ‹ҧ໚¹·Ò§¡Òà สาํ หรับผมู ีชอื่ เสยี งมาก ประมุข หรือผูนาํ
ของประเทศมีภยั คกุ คามสูง ประกอบดวย (ไมแนนอน)
๓.๕.๑ รถเบกิ ทาง ซงึ่ จะเดนิ ทางลว งหนา ขบวนรถ ๔-๕ นาที เพอื่ ตรวจเสน ทาง
ในดา นความปลอดภยั และสภาพการจราจร ในรถควรมี จนท.รปภ. ๑ คน และ จนท.กาํ จดั ระเบดิ ๑ คน
๓.๕.๒ รถนําของตํารวจ ใชเพ่ือควบคุมการจราจรและชวยนําทางขบวน
รถนั้นไปบนเสนทางควรเปนรถตํารวจทางหลวง เพ่ืองายตอการติดตอประสานงานกับตํารวจทองท่ี
มี จนท.รปภ. นงั่ มาดว ย ๑ คน เพอ่ื ชว ยในการควบคุมขบวนรถและตดิ ตอกับทีม รปภ.

๖๕

๓.๕.๓ รถนาํ ทมี รปภ. จะมี จนท.รปภ. นง่ั มาในรถ ทกุ ตาํ แหนง ทาํ หนา ทเี่ ปน
รถกันภัยดานหนารถบุคคลสําคัญ ใชเปนเครื่องกีดขวางถาจําเปนและอาจใหเปนรถสํารองรถบุคคล
สําคญั

๓.๕.๔ รถบุคคลสําคัญ จะมีพลขับที่เปน จนท.รปภ. และหัวหนาทีม
รปภ. (ผใู หคําปรึกษาและปกปองชวี ติ บคุ คลสําคัญ, รปภ.ประจาํ ตวั )

๓.๕.๕ รถติดตามของ รปภ. ในรถคันนี้จะมพี ลขบั เปน รปภ. มีหวั หนากะ (๑)
นงั่ มาเบาะหนา คกู บั คนขับ เบาะหลงั จะมี จนท.รปภ. น่ังมาดว ย ๓ คน

๓.๕.๖ รถคณะ จนท. และผูชวยของบุคคลสําคัญ ใชสําหรับขนสงผูชวย
หรอื สามีหรือภรรยาบุคคลสําคญั

๓.๕.๗ รถตํารวจปดทายขบวน ใชควบคุมการจราจรและปดทายขบวน
ถามกี าํ ลัง รปภ. พอ ก็ควรใหน ่งั ไปกบั รถคันนี้ดว ย ๑ คน

๓.๕.๘ รถจักรยานยนต ใชเพ่ือเดินทางลวงหนาขบวนรถบุคคลสําคัญ
เพอื่ คอยดกั ควบคมุ การจราจรตามแยกตา ง ๆ ใชค มุ กนั บคุ คลสาํ คญั โดยการขข่ี นาบขา งรถบคุ คลสาํ คญั
และบางทอี าจใชเ ปนรถท่พี าบคุ คลสาํ คัญหนอี อกจากพื้นทซ่ี ง่ึ ถูกโจมตีได

๓.๕.๙ รถพยาบาล ใชเม่ือบุคคลสําคัญหรือบุคคลในคณะเกิดเจ็บปวย
กะทนั หนั หรือใชเ ปน รถสาํ รองพาบคุ คลสําคญั หนอี อกจากพ้นื ท่หี รือใชเปนรถนาํ พาทมี รปภ. หนี

รปู ท่ี ๒๙ ขบวนรถเตม็ ยศอยางเปน ทางการ
ó.ö à·¤¹Ô¤ã¹¡ÒÃà¤Å×è͹μÇÑ º¹·ŒÍ§¶¹¹

๓.๖.๑ ปกปอ ง พาหนี และเอาตวั เขากน้ั ระวังภยั ทกี่ าํ ลงั คกุ คาม
- คนขบั ของรถทกุ คนั จะใชเ สน ทางหลกั หรอื รองทไี่ ดเ ลอื กไวก อ นออก

เดนิ ทาง (ตอ งรเู สนทางหลกั และรอง)

๖๖

- คนขับรถทุกคันจะตองรเู มื่อเกดิ เหตุการณ แลวจะนําบคุ คลสําคญั
ไปหลบซอ นทีใ่ ด รวมท้ังจดุ ออกฉกุ เฉินจากเสนทางดว ย

- รถทุกคันตองมีวิทยุส่ือสารสามารถติดตอกันไดตลอดเวลา
ความรับผิดชอบของคนขบั

- คนขับรถบุคคลสําคัญตองตระหนักในความรับผิดชอบของตน
ตอรถติดตาม (การเล้ียวตองแอบเขาดานในเพื่อเปดทางใหรถติดตามเคลื่อนเขามาขวางทางให
ตองนึกเสมอวาตนเองขับรถ ๒ คัน ในเวลาเดียวกันคือแนใจมีท่ีพอสําหรับรถ ๒ คัน ในคันที่จะเขา
หรือจะผานกอนที่จะเล้ียวเขาหรือผานจุดใด การเคล่ือนตัวตองนิ่มนวลหรือหลีกเล่ียงการหยุด
โดยกะทนั หัน)

- คนขบั รถตาม การขับตอ งคาํ นึงถึงรถบคุ คลสาํ คัญ เชน การนํารถ
เขา ขวางในขณะทรี่ ถบคุ คลสําคัญจะออกเดนิ ทางหรอื จะถงึ ที่หมาย นํารถเขา ขวางก้นั รถตา ง ๆ ใหรถ
บคุ คลสาํ คัญเคลอื่ นไดต ามตอ งการ

๓.๖.๒ เมอื่ ถงึ ทางแยกหรอื พ้ืนท่อี ันตราย
รถบุคคลสําคัญจะเคลื่อนไปที่ดานตรงขามของทางแยก รถติดตาม

จะเคลอ่ื นตวั เขา ขวางระหวางทางแยกกับรถบคุ คลสาํ คัญ เมอื่ ผา นทางแยกหรอื พ้ืนท่ีอนั ตราย และจะ
กลบั เขา รูปขบวนเดมิ

รปู ที่ ๓๐ เทคนคิ การเคลอ่ื นผานทางแยก

๖๗

๓.๖.๓ เมื่อถนนมีชอ งทางเดนิ รถหลายชอ งทาง
- เมอื่ รถบคุ คลสาํ คญั อยเู ลนขวา รถตดิ ตามควรครอ มอยรู ะหวา งเลน

กลางกับเลนขวา ดังรปู

รปู ที่ ๓๑ เทคนคิ การเคลือ่ นทีบ่ นถนนมชี องทางเดินรถหลายชอ งทาง
เมื่อถนนมีชองทางเดินรถหลายชองทาง รถบุคคลสําคัญอยูเลนขวา รถติดตาม

ควรครอมอยรู ะหวา งเลนกลางกับเลนขวา ดงั รปู
๓.๖.๔ รถหยุดทามกลางการจราจร
- รถตดิ ตามจอดอยดู า นหลงั รถบคุ คลสาํ คญั เลก็ นอ ยโดยจอดขวางไมใ ห

รถดา นหลงั ขน้ึ มาเทยี บรถบคุ คลสาํ คญั ได และสามารถเคลอื่ นตวั ออกจากพน้ื ทน่ี น้ั ไดเ มอื่ มเี หตกุ ารณข น้ึ

รูปท่ี ๓๒ เทคนคิ การเคลื่อนทเี่ ม่ือรถหยุดทา มกลาง

๖๘

๓.๖.๕ การเล้ียวที่สแี่ ยก
- รถบคุ คลสาํ คญั จะวง่ิ เขา มมุ ดา นในของการเลย้ี วเพอื่ ปอ งกนั อนั ตราย

ท่ีอาจเกิดข้นึ ได
- รถตดิ ตามจะวง่ิ ประกบคกู บั รถบคุ คลสาํ คญั ทางดา นนอกเพอื่ ปอ งกนั

อันตรายจากรถทอ่ี าจวงิ่ มาจากทางแยกได
- ในการเลยี้ วของรถทัง้ ๒ จะรักษาจุดของการอยดู านใน/ดานนอก

เชน นเี้ สมอ
- เมอ่ื เลยี้ วเรยี บรอยก็จะกลบั เขา รปู ขบวนตามเดิม

รูปท่ี ๓๓ เทคนิคการเคล่อื นท่ี การเลี้ยวทส่ี แ่ี ยก
ó.÷ àÁèÍ× ¶§Ö ·ÕèËÁÒ (¡ÒÃŧö)

- กอนถงึ หมายประมาณ ๔-๕ นาที รองหวั หนา (๑) จะวิทยแุ จง สวนลว งหนา
ในพ้ืนท่ีทราบ เพื่อใหสวนลวงหนาแจงใหทราบวามีใครมาตอนรับ และจะมีการหยุดทักทายหรือไม
รวมถึงสถานการณในพื้นท่ีเวลานั้นกอนถึงที่หมายอีก ๑ นาที รองหัวหนา (๑) จะแจงสวนลวงหนา
อกี ครงั้ โดยทง้ั จนท.รปภ.ประจาํ ตวั และพลขบั บคุ คลสาํ คญั จะเฝา ฟง และรบั ขา วสารขอ มลู ตลอดเวลา
หากมีขอสงสยั หรอื บุคคลสําคญั ตองการขอ มลู เพิม่ เติมกจ็ ะสอบถามผานรองหวั หนา (๑)

- พลขับรถบุคคลสําคัญนํารถเขาจอดตรงบริเวณที่สวนลวงหนาช้ีใหจอด
โดยใหกนั ชนหนารถอยตู รงมอื ที่สวนลว งหนาใหสัญญาณ

๖๙

รปู ที่ ๓๔ การเขา ทห่ี มาย
- เมื่อรถบุคคลสําคัญจอดเขาที่ สวนลวงหนาจะเคลื่อนที่เขาบังประตู
(หากไมม เี จาหนา ทีเ่ ปด ประตูในกรณีมพี ิธกี าร) หันหนา ออกเพ่อื สามารถตรวจการดานขา งตัวรถ

รปู ท่ี ๓๕ สวนลวงหนาเขา บงั ประตู

๗๐

รปู ที่ ๓๖ การลงรถ และการจอดรถ
- ในขณะเดียวกันรถติดตามจะหยุดหลังรถบุคคลสําคัญ โดยจอดเฉียง
ทํามมุ ประมาณ ๔๕ องศา หนั หนาไปทางเลนทีว่ าง หัวหนา ชดุ (๑) สง่ั จนท.รปภ.(๒), (๔) เขาประจาํ ท่ี
จนท.รปภ. จะลงทางดานซายและขวา โดยทั้งสองนายจะไปยืนในตําแหนงประตูหลังของรถบุคคล
สําคญั จนท.รปภ.(๒) จะออกไปยนื ในตําแหนงประตูหลังซาย หนั หนาออกจากรถ สวน จนท.รปภ.(๔)
ดานขวาของรถบคุ คลสําคญั หวั หนา ออกจากรถ เชน กัน
- หัวหนาชดุ (๑) จะตาม จนท.รปภ.(๒) ออกมา และเดินไปทางดา นซา ยของ
รถบคุ คลสําคญั ไปแตะตวั จนท.รปภ. ทย่ี ืนอยแู ลวใหไปท่ีประตหู นา ซาย หวั หนาชุด (๑) จะมายนื แทน
โดยหันหนา ออกจากตวั รถ จนท.รปภ.(๓) กจ็ ะปฏิบตั เิ ชน เดยี วกนั กับหวั หนาชดุ (๑) แตจ ะรบั ผิดชอบ
ประตูหลงั ขวารถบุคคลสําคัญ

๗๑

รูปที่ ๓๗ การลงรถและการจอดรถ
๓.๗.๑ การยนื ในตําแหนงเม่อื ถึงหมาย

- เมอื่ พน้ื ที่ปลอดภยั แลว หัวหนาชดุ (๑) สงสญั ญาณให จนท.รปภ.
ประจําตัวทราบ (โดยการเคาะประตูแลวยกหัวน้ิวโปงข้ึนหรือวิทยุบอกเมื่อ จนท.รปภ.ประจําตัว
ลงมาจากรถ (ปด ประต)ู โดยใหห วั หนา ชดุ ขยบั ตวั มาทางดา นหลงั ของรถเลก็ นอ ย (บงั มมุ เมอื่ เปด ประต)ู
ยงั ยนื อยใู นลกั ษณะเดิมหรือหนั หนา ออก (เฉยี งเลก็ นอ ยเพื่อบงั มมุ ขณะบุคคลสาํ คญั ลงจากรถ)

๗๒

รปู ที่ ๓๘ การยืนในตําแหนง เม่อื ถงึ ท่ีหมาย
- เมอื่ บคุ คลสาํ คัญลงจากรถแลว สว นลวงหนาท่ีชใ้ี หร ถจอดจะทําหนา ท่เี ดิน
นาํ ทางไปยงั ทหี่ มาย จนท.รปภ.ประจาํ ตวั จะเดนิ ตามหลงั บคุ คลสาํ คญั จนท.รปภ. ทอ่ี ยปู ระตหู นา ซา ย
จะเดินตามสว นลว งหนา เปน รปภ.หนา
- จนท.รปภ.(๓) ที่อยูประตูหนาขวาจะเดินออมหนารถจะมาอยูในตําแหนง
ขา งขวามือของบุคคลสําคัญ (ระวังขวา)
- จนท.รปภ.(๔) ท่ีอยูประตูหลังขวาจะเดินออมหลังรถจะมาอยูในตําแหนง
ขางซา ยมือของบุคคลสําคญั (ระวังซา ย)
- หัวหนา ชดุ (๑) จะเดนิ ตามหลงั ทาํ หนา ที่ระวงั หลังใหรูปขบวน

๗๓

รปู ท่ี ๓๙ การยืนในตําแหนง
- ประตรู ถบคุ คลสาํ คญั ยงั คงเปด อยตู ลอดเสมอเมอ่ื บคุ คลสาํ คญั อยบู รเิ วณนนั้
พรอ มท่จี ะหนีออกจากพนื้ ท่เี ม่อื เกดิ เหตุการณ
- พลขับจะอยูเฝารถตลอดเวลาจนกวาจะมีคนมาเปล่ียนผลัดหรือมีการจัด
จนท.ในพื้นที่มารกั ษาความปลอดภยั ขบวนรถ
- พลขับจะเปนผูปดประตูและเฝาฟงวิทยุส่ือสารเพื่อติดตามสถานการณ
หรือเปน แมข ายการสือ่ สารในพ้ืนทน่ี นั้ ๆ ตลอดเวลา

๗๔

รปู ท่ี ๔๐ การลงรถเขา สูท ห่ี มาย
๓.๗.๒ การออกเดินทาง (การขึน้ รถ)

- หัวหนาชุด (๑) จะวิทยุบอกพลขับใหพรอมท่ีจะออกเดินทาง
สว นลว งหนา ทท่ี าํ หนา ทนี่ าํ ทางจะเดนิ มาเปด ประตู แลว เดนิ กลบั ออกมายนื หา งจากประตพู อประมาณ
หนั หนา มาทางรูปขบวน รปภ.

- จนท.รปภ.ในตําแหนงเดินนําหนา จะเดินมายืนในตําแหนงประตู
หลังซา ย (บงั มุมขณะที่ประตเู ปด ) หนั หนา เยอื้ งมาทางหลงั รถ

- จนท.รปภ.ในตาํ แหนง เดินขางซา ย จะเดนิ ออมหนารถมายนื อยใู น
ตาํ แหนงประตหู นาขวา

- จนท.รปภ.ในตาํ แหนง เดินขางขวา จะเดินออ มหลังรถมายนื อยูใ น
ตาํ แหนง ประตหู ลงั ขวา

๗๕

รปู ท่ี ๔๑ กอ นขน้ึ รถ
- หัวหนาชุด (๑) จะเดินตามบุคคลสําคัญมายืนในตําแหนงประตู
หนา ซาย (ปด มมุ บานพับประตูขณะเปด) ซ่งึ เปน จดุ ออ นของรถกนั กระสุน

๗๖

รูปที่ ๔๒ บคุ คลสําคัญขึ้นรถ
- จนท.รปภ.ประจําตัว จะเดินมาจับยึดประตูใหบุคคลสําคัญแทน
จากสวนลวงหนา เม่ือบุคคลสําคัญขึ้นนั่งบนรถเรียบรอยแลว จนท.รปภ.ประจําตัวจะปดประตูให
บุคคลสําคัญ จากน้ัน จนท.รปภ.ประจําตัว จึงจะเปดประตูหนาซายเพื่อเขาไปน่ังในตําแหนงของตน
พรอมทั้งตรวจความเรียบรอยแลวจึงส่ังใหพลขับล็อกประตู ซึ่งในขณะนั้นนอกตัวรถหัวหนาชุด
พรอมพวกจะอยใู นตาํ แหนง คุมกันประตูรถท้งั ๔ บาน

รปู ที่ ๔๓ บคุ คลสาํ คญั ข้ึนรถเรยี บรอย

๗๗

รูปท่ี ๔๔ รปภ.ประจําตวั ขนึ้ รถ
- จากนั้นหัวหนาชุดจะใหสัญญาณ พรอมท้ังเคล่ือนตัวมาชนไหล
ของ จนท.รปภ.(๒) ใหทาํ การถอนตวั เพ่ือไปขน้ึ รถตดิ ตาม ในสว นของ จนท.รปภ.ดา นขวาของตัวรถก็
จะปฏบิ ัติในลกั ษณะเชน เดยี วกนั เมอ่ื หวั หนาชุด (๑) และ จนท.รปภ.(๔) เขา มาคมุ กนั ประตูหลังทัง้ สอง
ดานแลว สวนลวงหนาก็จะเคล่ือนตัวตามมาชนไหลหัวหนาชุด เพื่อเขาอยูในตําแหนงท่ีตองคุมกัน
ประตูหลังซายจนกวาขบวนรถจะเคล่ือนท่ีออกจากที่หมายไป ระหวางน้ันหัวหนาชุด (๑) และ
จนท.รปภ.(๔) จะเคล่ือนท่ีกลบั ไปทีร่ ถติดตาม และนัง่ ประจาํ ตําแหนง

รปู ที่ ๔๕ การขนึ้ รถของ รปภ.

๗๘

เคล่อื นท่อี อกจากทีห่ มาย รปู ที่ ๔๖ รปภ. ข้นึ รถ
- หัวหนาชุดจะเปนผูส่ังการใหตรวจความพรอม และส่ังใหรถนํา

รูปที่ ๔๗ การนํารถออกจากที่หมาย

๗๙

ó.ø ¡ÒÃǧÔè »ÃСºÃ¶º¤Ø ¤Åสาํ ¤ÑÞ
เราจะใชวิธีนี้เม่ือรถบุคคลสําคัญว่ิงในความเร็วตํ่าอยางชา ๆ ในหมูฝูงชน

ทคี่ อ นขางหนาแนน หรือในขบวนแหเ ปนทางการ
เร่ิมจาก จนท.รปภ.ประจําตัวบุคคลสําคัญ รองขอ จนท.รปภ.ในรถติดตาม

ใหอ อกวงิ่ ตามประกบรถบุคคลสําคญั คาํ ขอ คือ “๒๐๐ เมตร ฝงู ชนหนาแนนขอกําลังสนับสนนุ ดว ย”
ÃͧËÇÑ Ë¹ŒÒªØ´ (ñ) ¨ÐÍÍ¡คําÊè§Ñ ¡Ñº ¨¹·.ûÀ.ã¹Ã¶
คําÊèѧáá คือ “¾ÃŒÍÁ” ให จนท.รปภ.หลังซาย-หลังขวา และตัวหัวหนา

ชดุ (๑) เอง เปด ประตอู อกมายืนขา งรถในลักษณะพรอมที่จะออกจากรถ*
คาํ ÊÑè§Ê͹ คอื “ไป” (GO)
- หัวหนาชุด (๑) เอง ก็จะโดดลงจากรถ และว่ิงไปยังรถบุคคลสําคัญ

ว่ิงประกอบที่ประตูหลังซายซ่ึงบุคคลสําคัญนั่งอยู จนท.รปภ.(๒) ก็จะโดดลงจากรถพรอมกับหัวหนา
ชดุ (๑) แลวออกว่งิ ไปยังรถบคุ คลสําคญั ว่ิงแซงหัวหนา ชดุ (๑) ไปว่งิ ประกบรถบริเวณประตูหนา ซาย

- จนท.รปภ.(๔), (๓) ตามลําดับ และคนน่งั หลงั กลางกจ็ ะโดดลงรถพรอ มกัน
ประตูหลงั ขวาวิ่งไปประกบรถบุคคลสาํ คัญทางประตูขวาทงั้ ประตูหนา-หลงั

คําÊÑ觷èÕÊÒÁ เมื่อจะเลิกวิ่งและจะกลับขึ้นรถ หัวหนาชุด (๑) จะออกคําส่ัง
“àμÃÕÂÁ¡ÅѺà¢ÒŒ ·èÕ” พรอ มกบั หวั หนา ชดุ (๑) ยกมือซายเสมอไหล จนท.รปภ. จะผอ นฝเทา ในการว่ิง
ใหช า ลงจนรถตดิ ตามขนึ้ มาทนั ตน พรอ มเปด ประตรู ถแลว โดดขนึ้ มายนื ในลกั ษณะ “พรอ ม” พรอ มทจี่ ะ
ออกไปปฏิบัติอีกเม่ือพลขับเห็นหัวหนาชุด (๑) ยกมือซายใหเรงเคร่ืองเพื่อใหรถเขาเทียบ จนท.รปภ.
ไดเ ร็วเพอ่ื จะวงิ่ ติดตามรถบคุ คลสาํ คญั ไดเรว็

คาํ ÊÑ§è ·èÕÊèÕ หวั หนา ชุด (๑) จะออกคาํ ส่งั วา “à¢ÒŒ ·èÕ” จนท.รปภ. ทั้งหมดจะกลบั
เขา ท่ีพรอมปด ประตแู ลว บอกวา “เรียบรอย” เพือ่ ใหพ ลขับเพ่มิ ความเรว็ ตามรถบคุ คลสาํ คัญไป

ó.ù ¡ÒÃà»ÅÕè¹ö¡Ã³äÕ Á‹ÁÕÀÂÑ ¤¡Ø ¤ÒÁ
ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิเมื่อรถขบวน VIP เสีย ไมม ภี ัยคกุ คาม ดังนี้
- หัวหนาชุด รปภ.แจงใหนํารถสํารองข้ึนมาเปลี่ยนทางดานขวาของรถ

บคุ คลสําคัญ ตามรปู ท่ี ๔๘
- หวั หนา ชดุ รปภ. ลงรถมาเปด ประตหู ลงั ดา นซา ยรถสาํ รองไวแ ลว กลบั มาเปด

ประตูรถบคุ คลสําคัญ ตามรปู ที่ ๔๘
- จนท.รปภ. ทค่ี มุ กนั ทางดา นซา ยรถบคุ คลสาํ คญั เคลอ่ื นทม่ี าคมุ กนั รถสาํ รอง

ทางดานขวา ตามรูปที่ ๔๙
- จนท.รปภ. ทท่ี าํ หนา ทคี่ มุ กนั ทางดา นขวารถบคุ คลสาํ คญั เคลอ่ื นทมี่ าคมุ กนั

ทางดา นซา ยรถสํารอง ตามรปู ท่ี ๔๙
- หัวหนาชุด รปภ. ข้ึนรถสํารองหนาซาย สั่งขบวนรถเคล่ือนท่ีตอไป

ตามรูปที่ ๔๙

๘๐

รปู ที่ ๔๘ การเปล่ยี นรถกรณีไมมีภัยคุกคาม
รูปท่ี ๔๙ การเปลีย่ นรถกรณไี มม ีภยั คุกคาม

๘๑

ó.ñð ¡ÒÃà»ÅÂÕè ¹Ã¶ ¡Ã³ÕÁÕÀÂÑ ¤Ø¡¤ÒÁ ¶¡Ù «ØÁ‹ â¨ÁμÕ
ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ เมื่อขบวนรถถูกซมุ โจมตี รถบคุ คลสําคัญเสียหายไมส ามารถว่งิ ไปได

- หัวหนาชุด รปภ. แจงทางวิทยุมีภัยคุกคามถูกซุมโจมตีทางดานซาย
รถไมสามารถวิ่งไปได ใหรถ รปภ.ขึ้นมาเปล่ียนทางดานขวา เม่ือรถ รปภ. มาเทียบรถบุคคลสําคัญ
ทางดา นขวา จนท.รปภ.ทีน่ ง่ั หนาซา ยลงจากรถ เคลอื่ นท่ีมายิงตอบโตทางดานหนารถบคุ คลสําคัญ

- จนท.รปภ.ที่นั่งทางดานหลังซาย ลงจากรถมาเปดประตูรถบุคคลสําคัญ
ทางประตหู ลงั ดานขวา แลว เคล่อื นทมี่ ายงิ ตอบโตทางทา ยรถบคุ คลสําคญั

- จนท.รปภ.ท่ีนัง่ หลังทางขวาลงจากรถเคลอื่ นที่มาคมุ กัน ทางทายรถ รปภ.
- จนท.ชดุ รปภ. นาํ บคุ คลสาํ คญั ไปขน้ึ รถ รปภ.พรอ มกบั รอ งตะโกน “บคุ คล
สาํ คญั ขน้ึ รถเรยี บรอ ย” จนท.รปภ.ทย่ี งิ ตอบโตก ลบั ขนึ้ รถ สว นทเี่ หลอื ใหไ ปขน้ึ รถในขบวนคนั อน่ื ตดิ ตาม
รถ รปภ.ไป

รปู ท่ี ๕๐ การเปลีย่ นรถ กรณีมีภยั คุกคาม ถกู ซมุ โจมตี

๘๒

μ͹·èÕ ö : ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂã¹Ê¶Ò¹¡Òó¾àÔ ÈÉ
ñ. ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ ºØ¤¤Åã¹áËŧ‹ ªØÁª¹Ë¹Òṋ¹ (μÅÒ´)

๑.๑ ¢ŒÍ¾§Ö μÃÐ˹¡Ñ
๑.๑.๑ พ้ืนที่ชุมชนหนาแนนหรือตลาดเปนที่สัญจรของประชาชน

เปนจํานวนมาก ซ่ึงถือวาเปนปจจัยเก้ือกูลของฝายตรงขามในการแฝงตัว และเปนขอจํากัดของฝาย
เจาหนาที่ในการใชอ าวธุ ตอบโตก ารปฏิบตั ขิ องฝา ยตรงขา ม

๑.๑.๒ เปาหมายท่ีฝายตรงขามตองการกระทํา มิไดมีขอบเขตอยูแตเพียง
บุคคลที่ไดรับความคุมครอง หากแตตัวเจาหนาที่ท่ีปฏิบัติหนาท่ีรักษาความปลอดภัยก็เปนเปาหมาย
หรือ “เหย่ือ” ทีฝ่ า ยตรงขามโจมตีทนั ทถี า มีโอกาส

๑.๑.๓ วธิ ีการลดความสญู เสยี ในกรณีน้ีไดผ ลท่สี ุด กค็ ือ หลีกเล่ยี งการเขา ไป
ในชุมชนหนาแนน หรอื ตลาด หรือถาเขาไปก็ตองนอ ยครั้งที่สดุ และแตละครั้งตองใชเวลานอ ยท่สี ุด

๑.๑.๔ หากฝายเจาหนาท่ีมีความพรอมในการระมัดระวังและการตอบโต
มากเทาใดโอกาสในการปฏิบัติของฝา ยตรงขา มก็จะนอยลงตามลาํ ดับเชนกนั

๑.๒ ËÅ¡Ñ ¡ÒÃสํา¤ÞÑ
๑.๒.๑ ตองมีการหาขาวสารขอมูลเก่ียวกับพื้นที่ปฏิบัติการ ทั้งในดาน

ภูมปิ ระเทศ เสนทาง สภาพทางสงั คม รวมไปจนถึงแนวโนม การปฏิบตั ขิ องภยั คกุ คามหรอื การปฏบิ ัติ
ของฝา ยตรงขา ม ขา วสารเหลา นจี้ ะนาํ ไปสกู ารวางแผนทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั ควรมกี ารตง้ั สมมตุ ฐิ าน
การปฏิบัติของฝา ยตรงขา ม เพื่อกาํ หนดแผนระวังปอ งกนั และตอบโต

๑.๒.๒ การเขา สพู นื้ ทท่ี กุ ครงั้ ตอ งมกี ารวางแผน กาํ หนดหนา ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ
ใหแ กช ดุ ปฏบิ ตั กิ าร และผเู ปน บคุ คลทส่ี าํ คญั (VIP ในทน่ี ห้ี มายถงึ ผไู ดร บั มอบหมายใหเ ปน ผซู อ้ื สงิ่ ของ)
มีการซักซอมทําความเขาใจรวมกันอยางชัดเจน โดยการวางแผนตองครอบคลุมท้ังในกรณีการปฏิบัติ
เปนไปดว ยความเรยี บรอยและในกรณที ต่ี องเผชญิ สถานการณร นุ แรง

๑.๒.๓ การใชกําลังที่เหนือกวาโดยเด็ดขาด ทําการปดลอมพื้นท่ีเปาหมาย
โดยการแสดงกําลังอยางเปดเผยนาจะเปนวิธีการหน่ึงท่ีนํามาใชไดผล แตหากมีขอจํากัดในการปฏิบัติ
เชนนี้ก็จําเปนจะตองม่ันใจวามีกําลังสวนอ่ืน ๆ ท่ีนอกเหนือจากชุดปฏิบัติการทําการปดลอม
พื้นทส่ี าํ คัญทคี่ าดวา ฝายตรงขา มจะใชใ นการหลบหนีหรอื ถอนตัวหลังการปฏบิ ัตติ อ เจาหนาที่

๑.๒.๔ ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารทกุ นายตอ งมคี วามพรอ มในการใชอ าวธุ ตอบโตฝ า ยตรงขา ม
ในทันที แตท้ังนี้ก็ตองเปนไปดวยความระมัดระวังเปนพิเศษ เพ่ือปองกันการสูญเสียท่ีอาจจะเกิดขึ้น
กับประชาชนท่วั ไป

๑.๒.๕ ชุดปฏิบัติการทุกนายตองยึดมั่นในการปฏิบัติงานตามหนาท่ีท่ีไดรับ
มอบหมายตามขัน้ ตอนทก่ี ําหนดไว และตองมน่ั ใจไดว าทุกยา งกาวของชดุ ปฏบิ ตั ิการและบคุ คลสาํ คญั
อยูในความคมุ ครองซงึ่ กันและกนั

๘๓

๑.๓ á¹Ç·Ò§¡Òû¯ÔºÑμÔ
๑.๓.๑ ชดุ ปฏิบตั กิ าร ๖ นาย (ไมร วมบคุ คลสําคญั ) มีแนวทางการปฏบิ ัติ ดงั นี้
- หมายเลข ๕, ๖ เฝารถยนต โดยแบงพ้ืนท่ีตรวจการเฝาระวัง

คนละ ๑๘๐ องศา
- หมายเลข ๑, ๒, ๓, ๔ ปฏิบัติหนาท่ีรักษาความปลอดภัย

บุคคลสาํ คัญ (VIP)
- หมายเลข ๑,๒ มีทิศทางเคลื่อนท่ีไปในทางเดียวกันในขณะท่ี

หมายเลข ๓, ๔ หนั หนามาทาง VIP เพ่ือคุม ครอง VIP และหมายเลข ๑,๒ ในขณะทีห่ มายเลข ๑, ๒
กท็ าํ การคมุ กันใหห มายเลข ๓, ๔ เชน กัน ในขณะหมายเลข ๑, ๒ และ VIP เดินผา นจุดของหมายเลข
๓, ๔ หมายเลข ๓,๔ จะยังคงมองตรวจการไปยังทิศทางเดิม เพ่ือคอยระวังหลังใหหมายเลข ๑,๒
และ VIP

- เม่อื หมายเลข ๑, ๒ และ VIP เคลื่อนท่ีมาไดร ะยะหนึ่งตามสมควร
ก็ใหหยุด แลวใหสัญญาณหมายเลข ๓, ๔ หันหลังกลับเคล่ือนที่มาใหความคุมครองดานหลัง VIP
และหมายเลข ๑, ๒ ในขณะท่ีหมายเลข ๑, ๒ ก็หันหนาเขาหา VIP พรอมกับใหความคุมกัน
หมายเลข ๓, ๔ ไปพรอมกนั

๘๔

àÊŒ¹·Ò§¡ÒÃà¤ÅèÍ× ¹·Õèลํา´Ñº·Õè ñ
àÊŒ¹·Ò§¡ÒÃà¤ÅÍè× ¹·ลèÕ าํ ´ºÑ ·Õè ò
·ÈÔ ·Ò§¡ÒÃ椄 à¡μ¡Òó/ÃÐÇѧ

รปู ท่ี ๕๑ การเคล่อื นที่โดยใชช ดุ ปฏบิ ตั ิการ ๖ คน

๘๕

- การเคล่ือนที่จะเปนไปตามลําดับข้ันตอนโดยตอเนื่องเม่ือ VIP
จาํ เปน ตอ งหยดุ เพอ่ื ซอื้ ของ การระวงั ปอ งกนั กย็ งั คงยดึ ถอื หลกั การเดยี วกนั กบั การเคลอ่ื นทค่ี อื สามารถ
ใหความคุมกันซ่ึงกันและกันไดโดยตอเนื่อง (ตรวจการเห็นความเคลื่อนไหวดานหลังของชุดปฏิบัติ
ทกุ นายและ VIP)

- ในการเคลื่อนที่กลับ ก็ปฏิบัติเปนขั้น ๆ ในรูปแบบเดียวกัน
แตพ งึ ใชค วามระมดั ระวงั เปน พเิ ศษขณะจะขน้ึ รถ ทง้ั นเ้ี พราะเปน สถานการณบ งั คบั ทที่ าํ ใหช ดุ ปฏบิ ตั กิ าร
ทัง้ หมดรวมท้งั VIP มารวมตัวกันเปนกลุมกอ น อาจเปนเปาหมายใหญทเี่ ปดโอกาสการโจมตีใหฝ า ย
ตรงขามได ดังน้ันในขั้นตอนนี้จึงตองดําเนินการดวยความรวดเร็ว และชุดปฏิบัติการตองพรอมท้ังใน
การตรวจการและตอบโตการโจมตีของฝา ยตรงขา ม

๑.๓.๒ ชุดปฏิบตั ิการ ๕ นาย (ไมรวม VIP) มีแนวทางการปฏบิ ัติ ดงั น้ี
- หมายเลข ๔, ๕ เฝา รถยนต โดยแบง พนื้ ทต่ี รวจการเฝา ระวงั คนละ

๑๘๐ องศา
- หมายเลข ๑, ๒, ๓ ปฏิบตั หิ นา ท่รี กั ษาความปลอดภัย VIP
- หมายเลข ๑ และ VIP เคลอ่ื นทผี่ า นหมายเลข ๒, ๓ ซง่ึ ยนื หนั หนา

เพอื่ คมุ กนั ดา นหลงั ใหห มายเลข ๑ และ VIP โดยในขณะเคลอ่ื นทผ่ี า นหมายเลข ๒, ๓ จะยงั คงหนั หนา
ไปในทิศทางเดิม

- หมายเลข ๑ และ VIP ผานไปไดระยะหน่ึง จึงหยุดใหสัญญาณ
หมายเลข ๒, ๓ หนั หนา และเคลือ่ นทีเ่ ขาหา VIP โดยหมายเลข ๑ ใหค วามคมุ กนั ในขณะทห่ี มายเลข
๒, ๓ กใ็ หค วามคมุ กนั หมายเลข ๑ และ VIP ไดเ ชนกัน

- การหยุด ปฏิบตั ิเชน เดียวกัน
- การเคล่อื นท่กี ลบั ปฏิบัติเชนเดยี วกัน
͹Öè§ หากชุดปฏิบัติการจําเปนตองมีมากขึ้นหรือนอยลงตาม
สถานการณ ก็สามารถปรับประยุกตแนวทางการปฏิบัติตามขอ ๑.๓.๑ และ ๑.๓.๒ ไปใชได
ตามความจาํ เปน

๘๖

àʹŒ ·Ò§¡ÒÃà¤Åè×͹·Õèลํา´ºÑ ·Õè ñ
àʹŒ ·Ò§¡ÒÃà¤Å×Íè ¹·ลèÕ ํา´Ñº·èÕ ò
·ÔÈ·Ò§¡ÒÃÊѧà¡μ¡Òó/ ÃÐÇѧ»Í‡ §¡¹Ñ

รปู ท่ี ๕๒ การเคล่อื นที่โดยใชชุดปฏิบัติการ ๕ คน

๘๗

º··èÕ õ
¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ àÍ¡ÊÒÃ
¤ÇÒÁÁ§Ø‹ ËÁÒÂ
การรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับเอกสาร มีความมุงหมายเพ่ือกําหนดนโยบาย
และวิธีการในการพิทักษรักษาความลับของทางราชการ ซ่ึงจะตองปฏิบัติตอเอกสารลับชั้นตางๆ
ทุกข้นั ตอนของการดาํ เนินกรรมวธิ ี ทง้ั นเ้ี พอื่ ใหเ ปน มาตรฐานเดียวกนั
“ส่ิงทเี่ ปน ความลับของทางราชการ” หมายความถงึ เอกสาร บรภิ ัณฑ ยทุ ธภณั ฑ ท่สี งวน
และส่ิงอื่น ๆ ในทํานองน้ี ตลอดจนขาวสารท่ีถือวาเปนความลับของทางราชการซ่ึงสงถึงกันดวย
คาํ พูดหรอื ดว ยวธิ กี ารอื่นใด
“เอกสาร” หมายความถึง ขาวสารที่บนั ทึกไวใ นแบบใด ๆ รวมท้งั สิ่งท่ีพิมพ เขียน วาด
ระบายสี แถบบันทกึ ภาพถา ย ฟลม และส่ิงอื่น ๆ ในทาํ นองน้ี
“บริภัณฑ” หมายความถึง เครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องกล สิ่งอุปกรณและส่ิงอ่ืนๆ
ในทํานองน้ี
“ยุทธภัณฑ” หมายความถึง ส่ิงของทั้งหลายที่ใชประจํากายหรือประจําหนวยกําลังถือ
อาวุธของทางราชการ เชน ทหาร ตํารวจ เปน ตน ไดแ ก เครอ่ื งนงุ หม เครอ่ื งมือ เครื่องใช ยานพาหนะ
อาวุธ และสิ่งอนื่ ๆ ในทํานองน้ี
“ท่ีสงวน” หมายความถึง สิ่งปลูกสรางทุกชนิดสําหรับการปองกันประเทศและสิ่งท่ีเปน
สาธารณปู โภคท่สี าํ คญั (ตามมาตรา ๓ ขอพระราชบัญญตั คิ ุมครองความลบั ในราชการ พ.ศ.๒๔๘๓)
“การจํากัดใหทราบเทาที่จําเปน” หมายความถึง หลักการท่ีใชพิจารณาในการใหสิทธิ์
เขาถึงส่งิ ท่ีเปนความลับของทางราชการแกบ ุคคลผูจาํ เปนตองทราบ เพ่อื ปฏบิ ัติภารกจิ ใหล ลุ ว งไป
“การเขาถึง” หมายความถึง การที่บุคคลมีอํานาจหนาท่ีหรือไดรับอนุญาตจาก
ผูบังคับบัญชาใหไดทราบ ครอบครอง ดําเนินการ หรือเก็บรักษาสิ่งที่เปนความลับของทางราชการ
รวมทง้ั การทไี่ ดร บั อนญุ าตใหอ ยใู นทซี่ ง่ึ นา จะไดท ราบเรอ่ื งทเ่ี กย่ี วกบั สงิ่ ทเ่ี ปน ความลบั ของทางราชการ
นนั้ ดวย
“การร่ัวไหล” หมายความถึง สิ่งที่เปนความลับของทางราชการไดถูกครอบครอง
หรือไดทราบโดยบุคคลผูไมมีอาํ นาจหนาที่

ÃÐàºÕºÇÒ‹ ´ŒÇ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁÅºÑ ¢Í§·Ò§ÃÒª¡Òà ¾.È.òõôô

¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁÅºÑ ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÃ
ºÃÔº·¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁÅѺμÒÁÃÐàºÕºÇÒ‹ ´ŒÇ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁÅÑºÏ ¾.È.òõôô
เปนไปตามหลักการขอบเขตเจตนารมณของ พ.ร.บ.ขอมูลขาวสารของราชการ
พ.ศ.๒๕๔๐ คือ ใหส ทิ ธปิ ระชาชนเขาถงึ ขอมลู ขาวสารของราชการ ยกเวน ขอมูลขาวสารทไ่ี มเ ปดเผย

๘๘

(เปดเผยเปนหลัก ปกปดเปนขอยกเวน) ฉะน้ัน การรักษาความลับตามระเบียบฉบับนี้ จึงเปนการ
ปฏิบัติตอขอมูลขาวสารท่ีไดรับการยกเวนและเปนไปตามหลักการท่ีวา “หากจําเปนตองปดใหสนิท
เสรจ็ ภารกจิ อาจตองเปดเผย” นอกจากน้ีหลกั การสาํ คญั ของ พ.ร.บ.ดงั กลา ว กําหนดใหตองคมุ ครอง
ขอมูลขาวสารสวนบุคคล (หามเปดเผยกอนไดรับอนุญาตจากเจาตัว/เปนความลับ) กําหนดกรอบ
ประเภทขอ มลู ขา วสารทส่ี ามารถสงั่ ใหเ ปน ขอ มลู ขา วสารลบั ไวอ ยา งแนช ดั (มาตรา ๑๔ และ ๑๕ เทา นน้ั )
และกําหนดการเปนเอกสารประวัติศาสตรไวดวย กลาวคือ ขอมูลขาวสารลับตามมาตรา ๑๔ มีอายุ
๗๕ ป สวนตามมาตรา ๑๕ มอี ายุ ๒๐ ป เมื่อพนกําหนดจะเปน เอกสารปกติ อยา งไรกด็ ีหนวยงาน
เจา ของเรอื่ งจะขอตออายหุ รอื จดั เก็บไวเ องกไ็ ด

¤ÇÒÁËÁÒ “การรักษาความลับ” เปนมาตรการปองกันผูไมมีอํานาจหนาที่เก่ียวของ
เขาถึงขอ มูลขา วสารลบั ของทางราชการ หรอื ไมใหข อ มลู ขา วสารลบั ถกู เปดเผยกอ นเวลาสมควร

¢ŒÍÁÙÅ¢‹ÒÇÊÒÃÅѺ (เชิงคุณสมบัติ) หมายถึง ขอมูลขาวสารตามมาตรา ๑๔ หรือ ๑๕
ท่ีมีคําสั่งไมเปดเผยและอยูในความครอบครองของหนวยงานของรัฐ ไมวาจะเปนเรื่องเกี่ยวกับ
การดําเนินงานของรัฐหรือเก่ียวกับเอกชน ซ่ึงกําหนดใหมีช้ันความลับเปนช้ันลับ ชั้นลับมาก
หรือชนั้ ลับทส่ี ดุ โดยคาํ นึงถึงการปฏบิ ตั หิ นาท่ีของหนว ยงานของรัฐและประโยชนข องรัฐประกอบกัน

¢ÍŒ ÁÙÅ¢Ò‹ ÇÊÒÃÅѺ (เชิงความหมาย) ขอ มลู ขาวสารของราชการตามมาตรา ๑๔ หรือ ๑๕
ท่ีมีความสําคัญ ซ่ึงหากเปดเผยท้ังหมดหรือเพียงบางสวนอาจกอใหเกิดความเสียหายตอประโยชน
แหง รฐั อยางรายแรงหรอื อยา งรา ยแรงทส่ี ดุ

ËÅ¡Ñ ¤´Ô (concept) การรกั ษาความลบั ของทางราชการทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ จะตอ งดาํ เนนิ การ
๓ ประการ กลาวคอื

๑) สั่งขอมลู ขาวสาร ใหเปน ขอ มูลขา วสารลบั ชัน้ ใดชั้นหน่งึ (ลบั /ลบั มาก/ลับที่สุด)
๒) ปอ งกนั ผไู มม อี าํ นาจหนา ทเ่ี กย่ี วขอ งเขา ถงึ ขอ มลู ขา วสารลบั (โดยปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ
การรกั ษาความลบั กําหนด)
๓) ปองกันไมใหผูมีอํานาจหนาท่ีเขาถึงขอมูลขาวสารลับ เปดเผยขอมูลขาวสารลับ
โดยการข้ึนทะเบียนความไววางใจและสรางจติ สํานึก รปภ.
Ç¸Ô Õ´íÒà¹¹Ô ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁÅѺ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÃ
๑) ผเู ขาถึงชนั้ ความลับตอ งไวใ จได และจํากัดวงผูเขาถึงเทาท่ีจาํ เปน (need to Know)
๒) ปฏิบัตติ ามระเบียบการรกั ษาความลับ (ระเบียบฯ ๒๕๔๔) โดยเครงครัด
ÇÔ¸»Õ ¯ÔºμÑ ·Ô สÕè าํ ¤ÑÞ·Õèกาํ ˹´äÇŒã¹ÃÐàºÂÕ º¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁźÑ
๑) ผูเขาถึงช้ันความลับตองไดรับอนุญาตจากหัวหนาหนวยงานของรัฐหรือผูไดรับ
มอบอํานาจใหทาํ การแทนจากหัวหนา หนว ยงานของรฐั
๒) ขอ มลู ขา วสารทสี่ ง่ั ใหเ ปน ขอ มลู ขา วสารลบั ได ตอ งเปน ขอ มลู ขา วสารตามมาตรา ๑๔
หรอื มาตรา ๑๕ ของ พ.ร.บ.ขอ มลู ขา วสารฯ ๒๕๔๐ เทา นัน้

๘๙

๓) ชั้นความลบั มี ๓ ชน้ั คือ ชัน้ ลับที่สดุ ชน้ั ลับมาก และช้นั ลับ
๔) เม่ือส่ังใหเปนขอมูลขาวสารลับแลว ตองใหเหตุผลประกอบชั้นความลับ โดยให
สอดคลอ งกับมาตรา ๑๔ หรอื มาตรา ๑๕ ของ พ.ร.บ.ขอมูลขา วสารฯ ดวย
๕) ตอ งแสดงชื่อหนว ยงานเจา ของเรือ่ ง คมุ จํานวนชดุ คุมจํานวนหนา ไวท ม่ี มุ ขวาของ
เอกสารทกุ หนา
๖) ตอ งบนั ทกึ การจดั ทาํ และแจกจา ยในทะเบยี นขอ มลู ขา วสารลบั แยกออกเอกสารปกติ
ตามระเบยี บงานสารบรรณ ไดแ ก ทะเบยี นรบั (ทขล.๑) ทะเบยี นสง (ทขล.๒) และทะเบยี นควบคมุ ขอ มลู
ขา วสารลับ (ทขล.๓)
๗) ตอ งบันทกึ จํานวนการจัดทาํ ขน้ึ ทงั้ หมดใน ทขล.๓
๘) ตอ งแตง ตงั้ นายทะเบยี นขอ มลู ขา วสารลบั จาํ นวน ๑ คน และผชู ว ยนายทะเบยี นขอ มลู
ขาวสารลับอยางนอย ๑ คน ประจําหนวยงานสารบรรณกลางหรือกองกลาง และในหนวยงานยอย
ทกุ หนว ย การรบั -สง ขอ มลู ขา วสารลบั ตอ งกระทาํ ผา นนายทะเบยี นฯ หรอื ผชู ว ยนายทะเบยี นฯ เทา นนั้
๙) การสงขอมูลขาวสารลับภายในหนวยงานเดียวกัน ตองใชใบปดทับเอกสารตามชั้น
ความลบั ตามแบบท่ีกาํ หนด กรณีสงออกนอกหนว ยตอ งจัดสงโดย เจา หนา ท่นี าํ สาร บรรจุซองทึบแสง
๒ ชนั้ แสดงชน้ั ความลบั บนซองชน้ั ใน ซองชน้ั นอกไมต อ งแสดงชน้ั ความลบั นายทะเบยี นฯ หรอื ผชู ว ยฯ
ลงลายมอื ชอื่ ๒ แหง ทรี่ อยปดผนึกซองช้นั นอก ดา นซา ย/ขวาของจดุ ก่ึงกลาง
๑๐) กรณีสงออกนอกหนวย ใหแนบใบตอบรับไปดวย เม่ือหนวยรับไดรับเอกสารแลว
ใหรีบสงคืนกลับ ใหเจาของเร่ืองเก็บใบตอบรับน้ีไวจนกวาจะไดรับเอกสารคืน หรือเมื่อปรากฏ
การเปล่ียนแปลงใด ๆ เกิดขึน้
๑๑) การสงขอมูลขาวสารลับไปตางประเทศผานทางถุงเมลการทูตหรือเจาหนาท่ีการทูต
ถือไปเองหรอื สงทางอเิ ลก็ ทรอนิกส
๑๒) ตอ งเก็บขอมูลขา วสารลบั ไวใ นทีป่ ลอดภยั
๑๓) ตองตรวจสอบขอมูลขาวสารลับทุก ๖ เดือนเปนอยางนอย โดยมีวัตถุประสงค
๑) ความมีอยูจรงิ ๒) ความถูกตองในการปฏิบตั ิ ๓) กรณหี มดความจําเปน ใชประโยชน ใหขออนุมัติ
ทําลาย สง คนื เจาของเรอ่ื งหรอื สง ใหสํานักหอจดหมายเหตุ กรมศลิ ปากร แลวแตก รณี
๑๔) ตองจัดทําแผนปฏิบัติในเวลาฉุกเฉิน ประกอบดวย แผนเคล่ือนยาย เก็บรักษา
และทาํ ลาย
๑๕) การทําลายขอมูลขาวสารลับ ตองขออนุมัติหัวหนาหนวยงานของรัฐ หรือ
ผูไดรับอํานาจจากหัวหนาหนวยงานของรัฐ จัดสงรายการขอมูลขาวสารลับที่จะทําลายใหสํานัก
หอจดหมายเหตุพิจารณาเก็บไวเปนเอกสารประวัติศาสตร รายการใดที่สํานักหอจดหมายตองการ
ใหยกเลิกช้ันความลับกอนสงไป สวนท่ีเหลือใหดําเนินการทําลายในรูปคณะกรรมการ บันทึกในแบบ
ทขล.๓ และแบบทําลาย (เก็บรกั ษาไว ๑ ป)

๙๐

๑๖) หนว ยงานสามารถกาํ หนดวธิ ปี ฏบิ ตั เิ พม่ิ เตมิ ได กรณที ม่ี คี วามยงุ ยากโดยไมเ หมาะสม
กส็ ามารถกาํ หนดวธิ ปี ฏบิ ตั เิ องได แตต อ งมปี ระสทิ ธภิ าพเทา กนั หรอื ดกี วา โดยออกเปน ระเบยี บภายใน
ประกาศหรือคําส่ังโดยหัวหนาหนวยงานของรัฐหรือผูที่ไดรับมอบอํานาจ อยางไรก็ดีหากเกิด
ความเสยี หายข้นึ ผูท่ตี องรับผิดชอบคอื หัวหนาหนวยงานของรัฐ

ñ. ¼ÙÁŒ อÕ าํ ¹Ò¨Ë¹ÒŒ ·Õè¤ÇÒÁÃºÑ ¼´Ô ªÍº
ระเบยี บทง้ั สอบฉบบั ไดก าํ หนดตวั ผมู อี าํ นาจหนา ทรี่ บั ผดิ ชอบการปฏบิ ตั ไิ วโ ดยแนช ดั

คือ หวั หนาหนว ยงานของรฐั แตส ามารถมอบอํานาจได แตก็ไมพ น ความรบั ผดิ ชอบไปไดต ามหลกั การ
มอบอํานาจ หากเกิดความเสียหายข้ึน ท้ังนี้ สาระสาํ คญั ของแตล ะฉบับกาํ หนดไว ดังนี้

๑.๑ ระเบียบวาดวยการรกั ษาความลับของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๔
ขอ ๗ ใหห วั หนา หนว ยงานของรฐั มหี นา ทรี่ กั ษาขอ มลู ขา วสารลบั ในหนว ยงาน

ของตน และอาจมอบหมายหนาท่ีดังกลาวไดตามความจําเปน ใหผูใตบังคับบัญชาหรือแกราชการ
สวนภูมภิ าค กรณที ี่สามารถมอบอาํ นาจไดต ามกฎหมาย

ผูมีหนาที่ตามวรรคหนึ่ง ตองรักษาขอมูลขาวสารลับใหปลอดภัย การให
บคุ คลใดเขาถึงขอ มูลขาวสารลบั หรือการเปดเผยขอมูลขาวสารลับแกผ ูใด ตองกระทําโดยระมดั ระวัง
ในกรณีจําเปน ใหกําหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติใหเหมาะสมแกกรณี โดยคํานึงถึงการรักษาความลับ
และประสิทธภิ าพในการดําเนินการตามระเบียบน้ี

๑.๒ ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการรักษาความปลอดภัยแหงชาติ
พ.ศ.๒๕๕๒

ขอ ๘ ใหหัวหนาหนวยงานรัฐ มีหนาที่ในการรักษาความปลอดภัย
ในหนวยงานของตนในกรณีท่ีหนวยงานของรัฐ ไดมอบหมายหรือทําสัญญาจางใหเอกชนดําเนินการ
อยางหน่ึงอยางใด ซึ่งเกี่ยวของกับการรักษาความปลอดภัย ใหผูไดรับมอบหมายหรือผูเปนคูสัญญา
ซ่งึ เปน เอกชนดังกลา ว มีหนาที่ตองปฏิบัตใิ นการรักษาความปลอดภัยแหงชาติตามระเบียบน้ดี วย

ขอ ๑๒ เพ่ือใหการรักษาความปลอดภัยเกิดประสิทธิผล ใหองคการรักษา
ความปลอดภยั ทกุ ฝา ยประสานการปฏบิ ตั แิ ละประชมุ รว มกนั เพอื่ ดาํ เนนิ การจดั ใหม หี ลกั เกณฑ วธิ กี าร
และคําแนะนําการปฏิบตั ิตามระเบยี บนี้ รวมทง้ั การอบรมบคุ คลทเี่ กยี่ วขอ งตามความจําเปน

ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐนําหลักเกณฑ วิธีการ และคําแนะนํา
ตามวรรคหนง่ึ ไปวางแผนกาํ หนดวธิ ปี ฏบิ ตั ิ โดยประสานมาตรการรกั ษาความปลอดภยั และมาตรการ
ที่เกี่ยวของเขาดวยกัน พรอมท้ังสอดสองและตรวจสอบมาตรการท่ีกําหนดไวตามระยะเวลาที่ระบุ
ไวในแผน ทั้งน้ีวิธีปฏิบัติที่กําหนดนั้นจะตองไมเปนอุปสรรคตอการปฏิบัติหนาที่ตามปกติ
และตอ งคํานึงถงึ ประโยชนข องทางราชการเปน สาํ คัญ

๙๑

ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐแตงต้ังเจาหนาท่ีควบคุมการรักษา
ความปลอดภัย และเจา หนาทผี่ ูชวยไดตามความจาํ เปน

ใหห วั หนา หนว ยงานของรฐั มหี นา รบั ผดิ ชอบการจดั อบรมใหเ จา หนา ที่
ของรัฐไดทราบโดยละเอียดถึงความจําเปนและมาตรการของการรักษาความปลอดภัย และตองจัด
ใหมีการอบรมเพิ่มเติมโดยอยูภายใตการควบคุมของเจาหนาท่ีควบคุมการรักษาความปลอดภัย หรือ
ผบู งั คับบัญชาตามโอกาสอันสมควร

๒. หนวยงานท่เี ปนองคก ารรักษาความปลอดภัย
๒.๑ สาํ นกั ขา วกรองแหง ชาติ สาํ นกั นายกรฐั มนตรี เปน องคก ารรกั ษาความปลอดภยั

ฝายพลเรือน มีหนาท่ีใหคําแนะนําชวยเหลือในเร่ืองของการรักษาความปลอดภัยแกสวนราชการ
ฝายพลเรือนและกํากับดูแลตรวจสอบ พรอมท้ังพิจารณาแกไขขอบกพรองเพื่อใหระบบการรักษา
ความปลอดภัยไดผลสมบูรณอยูเสมอ ท้ังนี้ใหสวนราชการและองคการฝายพลเรือนใหความรวมมือ
และปฏิบัตติ ามคําแนะนาํ ของสํานกั ขาวกรองแหงชาติ

๒.๒ ศูนยรักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม
เปนองคการรักษาความปลอดภัยฝายทหาร มีหนาที่ใหคําแนะนําชวยเหลือในเรื่องการรักษาความ
ปลอดภัยแกสวนราชการฝายทหารและกํากับดูแลตรวจสอบ พรอมท้ังพิจารณาแกไขขอบกพรอง
เพอ่ื ใหร ะบบการรกั ษาความปลอดภยั ไดผ ลสมบรู ณอ ยเู สมอ ทง้ั นใี้ หส ว นราชการและองคก ารฝา ยทหาร
ใหความรวมมือและปฏบิ ัตติ ามคาํ แนะนาํ ของศูนยรักษาความปลอดภัย

๒.๓ กองบัญชาการตํารวจสันติบาล สํานักงานตํารวจแหงชาติ เปนองคการ
รักษาความปลอดภัยฝายตํารวจ มีหนาที่ใหคําแนะนําชวยเหลือในเรื่องการรักษาความปลอดภัยแก
สวนราชการฝายตํารวจและกํากับดูแลตรวจสอบ พรอมทั้งพิจารณาแกไขขอบกพรองเพ่ือให
ระบบการรักษาความปลอดภัยไดผลสมบูรณอยูเสมอ ท้ังน้ีใหสวนราชการและองคกรฝายตํารวจ
ใหค วามรว มมอื และปฏบิ ตั ติ ามคาํ แนะนาํ ของกองบญั ชาการตาํ รวจสนั ตบิ าล สาํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาติ

๓. ชนั้ ความลับ
๓.๑ ช้ันความลับของทางราชการแบงออกเปน ๓ ชน้ั คอื
๓.๑.๑ ลับทส่ี ุด ในภาษาองั กฤษใหใ ชวา TOP SECRET
๓.๑.๒ ลบั มาก ในภาษาองั กฤษใหใชวา SECRET
๓.๑.๓ ลบั ในภาษาองั กฤษใหใ ชวา CONFIDENTIAL
๓.๒ ลับที่สดุ
ลบั ทส่ี ุด ไดแ ก ความลบั ท่ีมีความสาํ คัญทีส่ ดุ เก่ยี วกบั ขา วสาร วัตถุ หรือบุคคล

ซึ่งถาหากความลบั ดังกลาวทง้ั หมดหรือเพียงบางสวนรัว่ ไหลไปถงึ บุคคลผไู มม หี นา ทไ่ี ดท ราบ จะทาํ ให
เกิดความเสียหายหรือเปนภยันตรายตอความม่ันคง ความปลอดภัย หรือความสงบเรียบรอยของ
ประเทศชาตหิ รอื พนั ธมิตรอยางรา ยแรงท่ีสดุ


Click to View FlipBook Version