๔๔ จากตารางที่ ๖ แสดงให้เห็นว่า ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ วรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ ๙ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๒๙.๑๖ โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ ๒.๕ และมีคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เฉลี่ยเท่ากับ ๒๘ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๖๖ โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ ๑.๘๗ แสดงให้เห็นว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และมีคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ตามเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ข้างต้น ในลำดับต่อไปผู้วิจัยจะนำคะแนนที่ได้จากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียน และหลังเรียนไปวิเคราะห์หาค่าดัชนีประสิทธิผล ดังปรากฏในตาราง ต่อไปนี้ ตารางที่ ๗ ค่าดัชนีประสิทธิภาพผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียน และหลังเรียน วรรณคดีเรื่องราชาธิราชตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๒๐ คน N คะแนนเต็ม ผลรวมคะแนน E.I. ผลการประเมิน ก่อนเรียน หลังเรียน ๒๐ ๓๐ ๑๗๕ ๕๕๐ ๐.๘๘๒๓ ผ่านเกณฑ์ จากตารางที่ ๗ แสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ วรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีค่าดัชนีประสิทธิผลในการเรียนรู้เท่ากับ ๐.๘๘๒๓ คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๒ ดังนั้น ผู้วิจัยจึงสามารถ สรุปได้ว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีการพัฒนาทางการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นหลังการจัดกิจกรรม การเรียนรู้
๔๕ ตารางที่ ๘ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบทีแบบไม่อิสระ และระดับนัยสำคัญทางสถิติ ของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบ การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ก่อนเรียนกับหลังเรียน ผลการทดสอบ S.D. ร้อยละ t-test ก่อนเรียน ๙ ๒.๕๑๐๕ ๒๙.๑๖ ๓๑.๖๗ หลังเรียน ๒๘ ๑.๘๗๗๘ ๙๑.๖๖ จากตารางที่ ๘ แสดงให้เห็นว่า การทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ก่อนเรียน และหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ ๙ คะแนน และ ๒๘ คะแนน ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน พบว่า คะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สูงกว่าคะแนน วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ดังนั้น ผลการวิจัยเรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ ทำให้นักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เนื่องจากการจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) เป็นเทคนิคกระบวนการเรียนรู้ ที่ช่วยส่งเสริมทักษะต่าง ๆ ทั้งด้านการอ่าน การคิด การวิเคราะห์การสื่อสาร และทักษะชีวิต ช่วยให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนวรรณคดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะทำให้นักเรียนกลายเป็นผู้ที่ความรู้ สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน เป็นผู้เรียนที่มีคุณภาพ และเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
๔๖ บทที่ ๕ สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยาอำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สามารถสรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ดังนี้ ๑. วัตถุประสงค์ของการศึกษา ๒. สมมติฐานการวิจัย ๓. สรุปผลการวิจัย ๔. อภิปรายผลการวิจัย ๕. ข้อเสนอแนะ ๑. วัตถุประสงค์ของการศึกษา ๑.๑. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ในวรรณคดีเรื่องราชาธิราช โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมืองอุดรธานีจังหวัดอุดรธานีให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๑.๒. เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีที่ได้รับการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ในวรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ๒. สมมติฐานการวิจัย ๒.๑. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีที่ใช้วิธีการสุ่มแบบง่าย จำนวน ๒๐ คน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย วรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒.๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีที่ใช้วิธีการสุ่มแบบง่าย จำนวน ๒๐ คนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน
๔๗ ๓. สรุปผลการวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ( CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยาอำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สรุปผลการศึกษาได้ดังนี้ ๓.๑. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การทางการเรียนวรรณคดีไทยเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ (E๑/E๒) เท่ากับ ๘๑.๖/๙๑.๖๖ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ ๘๐/๘๐ ๓.๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอน แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ก่อนเรียน และหลังเรียน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ ๙ คะแนน และ ๒๘ คะแนนตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อน และหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วรรณคดีไทยเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ๔. อภิปรายผลการวิจัย การวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยาอำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี จากผลการวิเคราะห์พบว่าผู้เรียน ได้คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ ๙ คะแนน และคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียน ๒๘ คะแนน และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ เนื่องมาจาก การจัดกระบวนการเรียนการสอนที่มีการดำเนินการ ดังนี้ ๔.๑. ผู้สอนได้ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะ สำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณา ออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอน และเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัด และประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพและบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด ในการทำวิจัยในครั้งนี้ ครูผู้สอนได้ทำหน้าที่ และบทบาทสำคัญไปตั้งแต่การเตรียมการสอน การคิดวิเคราะห์เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน และตัวชี้วัดตลอดจนการทำสื่อการ เรียนการสอนให้เหมาะสมและน่าสนใจกับกิจกรรมในชั้นเรียน และจัดเตรียมอุปกรณ์ เพื่ออำนวยความ สะดวกสำหรับการทำกิจกรรมภายในคาบเรียนโดยมีการควบคุมจัดการเรียนการสอนควบคุมนักเรียน
๔๘ ภายในชั้นเรียน จนสามารถทำให้การเรียนเป็นไปได้อย่างราบรื่น และสามารถทำให้ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่เรียนวรรณคดีไทยเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) สูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งมีความสอดคล้องกับกระทรวงศึกษาธิการ (๒๕๕๑) ได้กล่าวว่าผู้สอนและครูคือผู้ที่ทำหน้าที่หลัก ทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษา ทั้งของรัฐ และเอกชน สอดคล้องกับแนวคิดของธรรมนันทิกา แจ้งสว่าง (๒๕๕๔) ได้ให้ความหมาย ของครูผู้สอน ว่าเป็นบุคลากรวิชาชีพที่ทำหน้าที่ในการสั่งสอนศิษย์หรือถ่ายทอดความรู้ให้กับศิษย์มีหน้าที่ หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรอบรู้เจริญก้าวหน้าและพัฒนาในทุกๆ ด้าน รวมทั้งให้เป็นผู้ที่มีศีลธรรม จริยธรรม ตามที่สังคมปรารถนา และแนวคิดของสุเทพ ธรรมะตระกูล (๒๕๕๕) ครูต้องเด่นในเรื่องวิชาการ รู้ลึก รู้จริง รู้กว้าง ครูต้องมีศิลปะในการถ่ายทอดความรู้และครูต้องมีใจเมตตาต่อศิษย์ รักศิษย์ดังลูก ๔.๒. ผู้เรียนได้มีบทบาทสำคัญในการจัดการเรียนการสอน และมีหน้าที่สำคัญในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ ผู้เรียนนั้นได้มีตวามรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนผู้เรียนได้เรียนรู้ และมีความตั้งใจ มุ่งมั่น ที่จะศึกษาในเรื่องที่ครูผู้สอนจัดเตรียมมา มีส่วนร่วมในการเลือกสื่อในการเรียนรู้ในครั้งนี้ และร่วมมือ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมในชั้นเรียน การทำแบบทดสอบ และงานที่ครูผู้สอน ได้มอบหมาย ทั้งยังมีความสนใจบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ ในทำวิจัยครั้งนี้ทำให้มองเห็นถึงความสามารถของผู้เรียนที่มีการพัฒนาสืบเสาะค้นคว้าหาข้อมูล ด้วยตนเอง แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมจนทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ดี ซึ่งการศึกษา วรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ นักเรียนได้ฝึกการหาความรู้ด้วยตนเอง และทำกิจกรรมร่วมกับ กลุ่มเพื่อน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันตลอดจนรับผิดชอบในหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมาย มีความสามารถในการใช้ความคิดคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ แก้ไขปัญหาด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ จนทำให้งานที่ได้รับมอบหมายประสบความสำเร็จ และสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือได้เห็นความรัก ความสามัคคีของนักเรียนที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แสดงให้เห็นความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ จนนำมาสู่ความกล้าแสดงออก และเกิดเป็นความรู้ความเข้าใจของตนเองได้อย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้อง กับกระทรวงศึกษาธิการ (๒๕๕๑) ได้กล่าวถึงบทบาทของผู้เรียนว่าผู้เรียนมีบทบาทในการกำหนด เป้าหมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถามคิดหาคำตอบหรือหาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่าง ๆ ลงมือ ปฏิบัติจริงสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความรู้ไปปรับใช้ประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ มีปฏิสัมพันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มหรือครู สามารถประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ของตนเองอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับแนวคิดของทิศนา แขมมณี(๒๕๔๗) ได้กล่าวไว้ว่า การเรียนรู้
๔๙ ของผู้เรียนจะประสบผลสำเร็จหากผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน ผู้เรียนจะได้รับ ความสนุกสนานจากการเรียน หากได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ได้ทำงานร่วมกันกับเพื่อน ๆ ได้ค้นพบ ข้อคำถาม และคำตอบใหม่ๆ สิ่งใหม่ ๆ ประเด็นที่ท้าทาย และความสามารถในเรื่องใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งการบรรลุผลสำเร็จของงานที่พวกเขาริเริ่มด้วยตนเอง ๔.๓. แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ ด้านร่างกาย ด้านสังคมเป็นต้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อให้สามารถ อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุขรวมไปถึงนักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้วิจัย ได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องตามแนวคิดของเอกรินทร์ สี่มหาศาล (๒๕๕๒) ประกอบด้วย สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ การวัด และประเมินผล และบันทึกผลหลังสอน โดยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ดี ควรประกอบด้วยองค์ประกอบ ที่ครบถ้วน เพื่อให้แผนการจัดการเรียนรู้มีความสมบูรณ์รวมถึงการปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดการเรียนรู้ ให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อที่จะสามารถต่อยอดและพัฒนาต่อไปได้ อย่างมีคุณภาพ การทำแผนการจัดการเรียนรู้วรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา ยังสอดคล้อง กับรูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของวิริยะ ฤาชัย พานิชย์(๒๕๕๘) ได้กล่าวว่า ความคิด สร้างสรรค์ถือเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นสำหรับทุกคนเพราะนอกจากจะช่วยสร้างสิ่งใหม่ ๆ แล้วยังช่วย ในการคิดค้นกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ สามารถพัฒนาให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะ แนวคิดทฤษฎี รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ได้ว่าการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานมีกระบวนการ ๕ ขั้นตอน ๑. กระตุ้นความสนใจ ๒. ตั้งปัญหา และแบ่งกลุ่มตามความสนใจ ๓. ค้นคว้าและคิด ๔. นำเสนอผลงาน และ ๕. ประเมินผล ผลการวิจัยพบว่า ผู้เรียนได้คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนเท่ากับ ๙ คะแนน และคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ๒๘ คะแนน เมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า นักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดี เรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังจากใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) โรงเรียน สามพร้าววิทยา ผลการวิจัยพบว่า ผู้เรียนมีประสิทธิภาพ (E๑/E๒) เท่ากับ ๘๑.๖/๙๑.๖๖ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐/๘๐จึงถือได้ว่าเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ซึ่งสอดคล้อง
๕๐ กับงานวิจัยของ ชลธิชา นำนา (๒๕๖๐: ๒-๓) ได้ทำการวิจัยเรื่องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วรรณคดีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์ เป็นฐาน (CBL) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่จัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์ฐานหลังเรียน (̅=๑๙.๒๒, SD = ๔.๒๘) สูงกว่าคะแนนเฉลี่ย ก่อนเรียน (̅=๑๑.๙๑, SD = ๔.๔๘) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ และความคิดเห็นของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก (̅=๔.๓๘, SD=๐.๕๓) และสอดคล้องกับงานวิจัย ของ อรวรรณ อุดมสุข (๒๕๖๓: ๑๑) ซึ่งได้ทำการวิจัยเรื่องผลการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับสื่ออินโฟกราฟิก ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยเรื่องกาพย์พระไชยสุริยา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเท่ากับ ๑๘.๘๕ ซึ่งสูงกว่าก่อนเรียน เท่ากับ ๙.๒๔ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .๐๕ นักเรียนที่มีพื้นความรู้อยู่ในกลุ่มสูง ปานกลาง และต่ำ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยหลังเรียนไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนหลังได้รับการจัดเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับสื่ออินโฟกราฟิก โดยภายรวมอยู่ในระดับมาก (̅=๔.๓๔,๕=๐.๒๑) ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ระดับมากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ สรุปได้ว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยาที่ได้เรียนวรรณคดี เรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ผู้เรียนมีประสิทธิภาพในการเรียนวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสาดีขึ้น เห็นได้จาก นักเรียนสามารถเรียนรู้และเข้าใจในบทเรียน รวมไปถึงกิจกรรมในระหว่างการจัดการเรียน การสอนที่กระตุ้นให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ เคลื่อนไหวร่างกาย รวมทั้งการฝึกในด้านทักษะการคิด วิเคราะห์ร่วมด้วย ทั้งนี้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมและการเรียน บรรยากาศ ในการจัดการเรียนการสอนเป็นไปด้วยความสนุกสนาน นักเรียนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น มีการแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดระหว่างตนเองกับเพื่อนร่วมชั้นและเข้าร่วมกิจกรรมอย่างมีความสุข นอกจากนี้ครูผู้สอนมีการเสริมแรงทางบวกให้กับนักเรียน เพื่อสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอน ที่เป็นกันเอง ดังนั้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยาที่ได้เรียนวรรณคดี เรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น
๕๑ ๕. ข้อเสนอแนะ จากผลการวิจัยการศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๑ โรงเรียนสามพร้าววิทยา ดังกล่าว ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้ ๕.๑. ข้อเสนอแนะทั่วไป ๕.๑.๑. การจัดเตรียมสื่อประกอบการสอน ความพร้อมของแหล่งการเรียนรู้ ครูผู้สอนควรจัดเตรียมให้ ๕.๑.๒. ครูผู้สอนควรมีการอธิบายและชี้แจงขั้นตอนอย่างละเอียด เพื่อให้นักเรียน เกิดความเข้าใจเมื่อเจอปัญหา และคอยกระตุ้นนักเรียนระหว่างดำเนินกิจกรรมเมื่อพบว่านักเรียน ขาดความสนใจ หรือไม่ให้ความร่วมมือ ๕.๑.๓. การจัดการเรียนการสอนรูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) มีหลายขั้นตอน เมื่อนำมาจัดกิจกรรมในชั้นเรียนจริง ๆ ต้องใช้ระยะเวลามากในการทำกิจกรรม ดังนั้นครูผู้สอนต้องมีการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับระยะเวลา ๕.๒. ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป ๕.๒.๑. ควรมีการนำกระบวนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ไปใช้กับเนื้อหาที่มีลักษณะของหลักการใช้ภาษา เช่น มาตราตัวสะกด ภาษาต่างประเทศ ในภาษาไทยรวมไปถึงการเรียนการสอนรายวิชาอื่น ๆ เช่น สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ เป็นต้น ๕.๒.๒. ควรมีการวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วรรณคดีเรื่องต่าง ๆ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) สำหรับนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวรรณคดีมากยิ่งขึ้น
บรรณานุกรม กรมศิลปากร. (๒๕๑๒). ราชาธิราชของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ฉบับหอสมุดแห่งชาติ. พิมพ์ครั้งที่ ๔. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร. กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๖๓). การสอนภาษาไทย. สืบค้น ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๖, จาก https://www.moe.go.th/. ชลธิชา นำนา. (๒๕๖๑). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๔ ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน. ปริญญานิพนธ์. สาขาวิชา การสอนภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. บุษบา ตระกูลสัจจาวัตร. (๒๕๒๘). “การศึกษาเชิงวิเคราะห์วรรณกรรมเรื่องราชาธิราชฉบับเจ้าพระยา พระคลัง(หน),” วิทยานิพนธ์ปริญญาอักษรศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ไพศาล หวังพานิช. (๒๕๒๖). การวัดผลการศึกษา. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. มหาวิทยาลัยรามคำแหง ,สำนักบริการทางวิชาการและทดสอบประเมินผล. รื่นฤทัย สัจจพันธุ์. (๒๕๕๕). ความรู้ทั่วไปทางภาษาไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย รามคำแหง. วสะ ภูวงศ์. (๒๕๖๑). พัฒนาการเครื่องแต่งกายตัวละครพม่า ในละครพันทางเรื่องราชาธิราช ของ กรมศิลปากร. ปริญญานิพนธ์. สาขาศิลปะการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนสุนันทา. วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์. (๒๕๕๘). การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน. สืบค้น ๘ มิถุนายน ๒๕๖๖, จาก file:///การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานC:/Users/Lenovo/Downloads/casnova. ไพศาล หวังพานิช. (๒๕๒๖). การวัดผลการศึกษา. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. มหาวิทยาลัยรามคำแหง ,สำนักบริการทางวิชาการและทดสอบประเมินผล. ภุมรินทร์ มณีวงษ์. (๒๕๖๕). การเจรจาเลียนสำเนียงตามเชื้อชาติที่ปรากฏในละครพันทาง เรื่อง ราชาธิราช ชุด สมิงพระรามอาสา. ปริญญานิพนธ์. วิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย สถาบันบัณฑิต พัฒนศิลป์. มงคล เรียงณรงค์. (๒๕๕๘). การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ และผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนโดยใช้รูปแบบการ สอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา ส ๒๑๑๗๓ สังคมศึกษา ๒. ปริญญานิพนธ์. หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขา หลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. มาโนช ดินลานสกูล. (๒๕๖๓). ราชาธิราช : จากพระราชพงศาวดารสู่นวนิยาย. ปริญญานิพนธ์. สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ. อรวรรณ อุดมสุข. (๒๕๖๕). ผลการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับสื่ออินโฟ กราฟิกที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑. ปริญญานิพนธ์. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือวิจัย ๑. นางสาวพรพิมล นามพรมมา ครูชำนาญการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ๒. นางสาวเกวลิน มาสม ครูชำนาญการ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ๓. นางสาวกนกอร ต.ศรีวงษ์ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสามพร้าววิทยา อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
ภาคผนวก ข ข้อมูลแสดงความสอดคล้องของเครื่องมือ
ผลการวิเคราะห์ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ความเป็นมา โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๑.สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๒ เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๓ กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับจุดประสงค์และ สาระการเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๔ สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับตัวชี้วัด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ๒.๑ สอดคล้องกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๒ มีความชัดเจนเข้าใจง่าย +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๓ มีการระบุพฤติกรรมที่ต้องการวัดชัดเจน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๔ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้กระบวนการคิด +๑ ๐ +๑ ๐.๖๖ ใช้ได้ ๓.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๓.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๒ สอดคล้องและเหมาะสมกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๓ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๔ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ๔.๑ สื่อการเรียนรู้น่าสนใจ ตรงตามเนื้อหาและเหมาะสม กับธรรมชาติของวิชา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๒ สื่อเหมาะสมกับผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๓ สื่อสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และกิจกรรม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๔ ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๕.วิธีการวัดและประเมินผล ๕.๑ สอดคล้องและครอบคลุมทุกด้านตรงตามจุดประสงค์ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๒ วัดและประเมินผลเน้นการประเมินตามสภาพจริง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๓ เกณฑ์ที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๔ เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ผลการวิเคราะห์ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง ประวัติผู้แต่ง โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๑.สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๒ เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๓ กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับจุดประสงค์และ สาระการเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๔ สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับตัวชี้วัด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ๒.๑ สอดคล้องกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๒ มีความชัดเจนเข้าใจง่าย +๑ +๑ ๐ ๐.๖๖ ใช้ได้ ๒.๓ มีการระบุพฤติกรรมที่ต้องการวัดชัดเจน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๔ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้กระบวนการคิด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๓.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๒ สอดคล้องและเหมาะสมกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๓ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๔ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ๔.๑ สื่อการเรียนรู้น่าสนใจ ตรงตามเนื้อหาและเหมาะสม กับธรรมชาติของวิชา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๒ สื่อเหมาะสมกับผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๓ สื่อสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และกิจกรรม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๔ ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๕.วิธีการวัดและประเมินผล ๕.๑ สอดคล้องและครอบคลุมทุกด้านตรงตามจุดประสงค์ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๒ วัดและประเมินผลเน้นการประเมินตามสภาพจริง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๓ เกณฑ์ที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๔ เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ผลการวิเคราะห์ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง รูปแบบการประพันธ์โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๑.สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๒ เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๓ กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับจุดประสงค์และ สาระการเรียนรู้ ๐ +๑ +๑ ๐.๖๖ ใช้ได้ ๑.๔ สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับตัวชี้วัด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ๒.๑ สอดคล้องกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๒ มีความชัดเจนเข้าใจง่าย +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๓ มีการระบุพฤติกรรมที่ต้องการวัดชัดเจน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๔ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้กระบวนการคิด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๓.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๒ สอดคล้องและเหมาะสมกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๓ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๔ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ๔.๑ สื่อการเรียนรู้น่าสนใจ ตรงตามเนื้อหาและเหมาะสม กับธรรมชาติของวิชา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๒ สื่อเหมาะสมกับผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๓ สื่อสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และกิจกรรม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๔ ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๕.วิธีการวัดและประเมินผล ๕.๑ สอดคล้องและครอบคลุมทุกด้านตรงตามจุดประสงค์ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๒ วัดและประเมินผลเน้นการประเมินตามสภาพจริง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๓ เกณฑ์ที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๔ เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ผลการวิเคราะห์ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง เรื่องย่อ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๑.สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๒ เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๓ กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับจุดประสงค์และ สาระการเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๔ สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับตัวชี้วัด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ๒.๑ สอดคล้องกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๒ มีความชัดเจนเข้าใจง่าย +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๓ มีการระบุพฤติกรรมที่ต้องการวัดชัดเจน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๔ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้กระบวนการคิด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๓.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๒ สอดคล้องและเหมาะสมกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๓ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๔ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ๔.๑ สื่อการเรียนรู้น่าสนใจ ตรงตามเนื้อหาและเหมาะสม กับธรรมชาติของวิชา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๒ สื่อเหมาะสมกับผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๓ สื่อสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และกิจกรรม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๔ ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๕.วิธีการวัดและประเมินผล ๕.๑ สอดคล้องและครอบคลุมทุกด้านตรงตามจุดประสงค์ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๒ วัดและประเมินผลเน้นการประเมินตามสภาพจริง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๓ เกณฑ์ที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๔ เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ผลการวิเคราะห์ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง คุณค่า โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๑.สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๒ เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๓ กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับจุดประสงค์และ สาระการเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๔ สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับตัวชี้วัด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ๒.๑ สอดคล้องกับเนื้อหา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๒ มีความชัดเจนเข้าใจง่าย +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๓ มีการระบุพฤติกรรมที่ต้องการวัดชัดเจน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๔ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้กระบวนการคิด +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๓.๑ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๒ สอดคล้องและเหมาะสมกับเนื้อหา +๑ ๐ +๑ ๐.๖๖ ใช้ได้ ๓.๓ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๔ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ๔.๑ สื่อการเรียนรู้น่าสนใจ ตรงตามเนื้อหาและเหมาะสม กับธรรมชาติของวิชา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๒ สื่อเหมาะสมกับผู้เรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๔.๓ สื่อสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และกิจกรรม ๐ +๑ +๑ ๐.๖๖ ใช้ได้ ๔.๔ ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ๕.วิธีการวัดและประเมินผล ๕.๑ สอดคล้องและครอบคลุมทุกด้านตรงตามจุดประสงค์ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๒ วัดและประเมินผลเน้นการประเมินตามสภาพจริง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๓ เกณฑ์ที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๕.๔ เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผลครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง ราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา ข้อที่ ผลการประเมิน IOC สรุปผล คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ ใช้ได้ ตัดทิ้ง ๑ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๔ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๕ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๖ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๗ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๘ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๙ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๐ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๑ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๒ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๓ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๔ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๕ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๖ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๗ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๘ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๑๙ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒๐ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒๑ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒๒ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒๓ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒๔ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒๕ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒๖ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓
ข้อที่ ผลการประเมิน IOC สรุปผล คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ ใช้ได้ ตัดทิ้ง ๒๗ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓๒๘ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๒๙ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๐ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๑ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๒ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๓ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๔ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๕ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๖ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๗ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๘ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๓๙ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓ ๔๐ +๑ +๑ +๑ ๑ ✓
แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือของผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ลำดับ ประเด็น ผลการพิจารณา คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ IOC สรุปผล ด้านที่ ๑ ความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ ๑.๑ เนื้อหาและกิจกรรมการเรียนที่ทำให้เกิดความรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๒ ช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการคิดวิเคราะห์ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๓ กิจกรรมน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อหน่าย +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๔ ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้เร็ว ไม่ยุ่งยาก +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๕ เวลาเหมาะสมกับการเรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๖ กิจกรรมมีความหลากหลาย +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๑.๗ มีการวัดประเมินผลตามจริง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ด้านที่ ๒ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ๒.๑ ช่วยให้เกิดความกระตือรือร้นในการเรียน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๒ ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง +๑ ๐ +๑ ๐.๖๖ ใช้ได้ ๒.๓ ช่วยให้ได้รับการฝึกใช้ความคิดด้วยตนเอง +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๔ เกิดความสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม +๑ +๑ ๐ ๐.๖๖ ใช้ได้ ๒.๕ กิจกรรมสนุกสนาน น่าสนใจ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๖ กิจกรรมช่วยกระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๒.๗ กิจกรรมครอบคลุมสาระการเรียนรู้ +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ด้านที่ ๓ ประโยชน์ของการจัดการเรียนรู้ ๓.๑ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๒ ช่วยให้เกิดความรู้เกี่ยวกับวรรณคดี เรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๓ เหมาะสมกับการเรียนภาษาไทย +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๔ สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้ ๓.๕ ช่วยในการใช้สื่อและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อศึกษา เพิ่มเติม +๑ +๑ +๑ ๑ ใช้ได้
ภาคผนวก ค แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ราชาธิราช เวลา ๖ ชั่วโมง เรื่อง ความเป็นมา เวลา ๑ ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวอทิตยา อรุณวิจิตร โรงเรียนสามพร้าววิทยา ชั้นที่สอน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๒ วันที่สอน ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑ วันที่สอน ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๖ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอ่านสร้างความรูและความคิดเพื่อนำไปใชตัดสินใจ แกปญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่าและนำมาประยุกตใชในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ม ๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ม ๑/๒ จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ม.๑/๕ เขียนย่อความจากสื่อต่าง ๆ เช่นเรื่องสั้น คำสอน โอวาท คำปราศรัย จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ผู้เรียนสามารถอธิบายความเป็นมาของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสาได้ (K) ๒. ผู้เรียนสามารถเขียนย่อความ ความเป็นมาของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระราม อาสาได้ (P) ๓. ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม (A) สมรรถนะของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ผู้เรียนเคารพ และปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้กำหนดไว้ในชั้นเรียน ๒. ใฝ่เรียนรู้ ผู้เรียนเพียรพยายามในการเรียน และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ผู้เรียนรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายจนแล้วเสร็จ สาระสำคัญ ราชาธิราช เป็นเรื่องแปลจากพงศาวดารมอญนำมาเรียบเรียงเป็นร้อยแกว มีสำนวนภาษา สละสลวย เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นผู้อำนวยการแปลร่วมกับกวีท่านอื่น ซึ่งในการแปลครั้งนี้ มีพระราชประสงคเพื่อเป็นการบำรุงและสงเสริมสติปัญญาของคนในชาติเนื้อเรื่องราชาธิราชเป็นการเชิดชู เกียรติมอญที่สามารถทำสงครามมีชัยชนะเหนือพมา นับว่าเป็นการปลุกใจทหารใหมีความกลาหาญ มีไหวพริบปฏิภาณ รูจักใชสติปัญญาตลอดจนปลูกฝงใหมีความรักชาติและมีความจงรักภักดีตอสถาบัน พระมหากษัตริย์ สาระการเรียนรู้ ความเป็นมาและความสำคัญของเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา กระบวนการจัดการเรียนรู้(การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน CBL) ขั้นตอนที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ ๑. ผู้เรียนตอบคำถามครูผู้สอนเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้เรียนหลังจากการปิดเทอมประจำภาคเรียน ที่ ๑/๒๕๖๖ ว่าแต่ละคนได้ทำอะไรบ้าง ไปท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมอะไรในวันหยุด ๒. ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน วรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา ข้อสอบปรนัย จำนวน ๓๐ ข้อ ๓. หลังจากนั้นครูผู้สอนกล่าวถึงวรรณกรรมของไทยที่แปลมาจากพงศาวดารมอญ ได้แก่ วรรณคดีเรื่อง ราชาธิราชและเชื่อมโยงความรูเขาสู่วรรณคดี เรื่องราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา ขั้นตอนที่ ๒ ตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่มตามความสนใจ ๑. ผู้เรียนเรียนรู้ความเป็นมาของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา จากสื่อ PowerPoint และหนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรมไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยครูผู้สอนอธิบายเนื้อหา ให้ผู้เรียนฟัง
๒. ผู้เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่มละ ๘ คน หลังจากนั้นครูนำการ์ดคำถามเกี่ยวกับความเป็นมา ราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา แจกให้ผู้เรียนกลุ่มละ ๓ แผ่น ครูผู้สอนให้ผู้เรียน แต่ละกลุ่มเปิดการ์ดและตอบคำถาม หากตอบถูกและรวดเร็วที่สุด ก็จะเป็นกลุ่มที่ชนะ ได้รับรางวัล เล็กน้อยจากครูผู้สอน พร้อมทั้งอภิปรายร่วมกัน เพื่อทำความเข้าใจ ขั้นตอนที่ ๓ ค้นคว้าและคิด ๑. ผู้เรียนค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมทั้งเขียนย่อความ ความเป็นมาของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสาลงสมุดทุกคน ขั้นตอนที่ ๔ นำเสนอ ๑. ผู้เรียนนำเสนองานหน้าชั้นเรียน พร้อมทั้งให้เพื่อนร่วมชั้นอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน ขั้นตอนที่ ๕ ประเมินผล ๑. ผู้เรียนและครูผู้สอนร่วมกันสรุปความเป็นมาของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. ใบความรู้ ๒. Powerpoint ๓. หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรมไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๔. การ์ดคำถาม การจัดบรรยากาศเชิงบวกในชั้นเรียน ๑. สร้างบรรยากาศในชั้นเรียนให้บรรยากาศเป็นกันเอง ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป ๒. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ๓. กล่าวชื่นชมผู้เรียนเมื่อตอบคำถามได้ถูกต้อง และทำกิจกรรมจนแล้วเสร็จ
การวัดผลและการประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือในการวัด ประเมินผล ๑. ผู้เรียนสามา ร ถ อธิบายความเป็นมาของ ว ร ร ณ ค ด ี เ ร ื ่ อ ง ราชาธิราช ตอนสมิง พระรามอาสาได้ (K) การตอบคำถามของ ผู้เรียน แบบประเมินการตอบ คำถาม ผู้เรียนตอบคำถามผ่าน เกณฑ์การประเมินใน ระดับดีขึ้นไป ๒. ผู้เรียนสามารถเขียน ย่อความ ความเป็นมา ของว รรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอนสมิง พระรามอาสาได้ (P) แบบประเมินการเขียน การเขียนย่อความ คะแนนผ่านเกณฑ์การ ประเมินในระดับดีขึ้น ไป ๓ . ผ ู ้ เ ร ี ย น ม ี ค ว า ม กระตือรือร้นในการทำ กิจกรรม (A) แบบสังเกตพฤติกรรม การสังเกตพฤติกรรม คะแนนพฤติกรรมผ่าน เกณฑ์การประเมินใน ระดับดีขึ้นไป
สื่อการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ราชาธิราช เวลา ๖ ชั่วโมง เรื่อง ประวัติผู้แต่ง เวลา ๑ ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวอทิตยา อรุณวิจิตร โรงเรียนสามพร้าววิทยา ชั้นที่สอน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๒ วันที่สอน ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑ วันที่สอน ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอ่านสร้างความรูและความคิดเพื่อนำไปใชตัดสินใจ แกปญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่าและนำมาประยุกตใชในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ม ๑/๒ จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ม ๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ผู้เรียนสามารถอธิบายประวัติผู้แต่งหรือผู้แปลวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา ได้ (K) ๒. ผู้เรียนสามารถพูดสรุปประวัติผู้แต่งหรือผู้แปลของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระราม อาสา ได้ (P) ๓. ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม (A) สมรรถนะของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินัย ผู้เรียนเคารพ และปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้กำหนดไว้ในชั้นเรียน ๒. ใฝ่เรียนรู้ ผู้เรียนเพียรพยายามในการเรียน และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ผู้เรียนรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายจนแล้วเสร็จ สาระสำคัญ ราชาธิราช เป็นเรื่องแปลจากพงศาวดารมอญนำมาเรียบเรียงเป็นร้อยแกว มีสำนวนภาษา สละสลวย เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นผู้อำนวยการแปลร่วมกับกวีท่านอื่น ซึ่งในการแปลครั้งนี้ มีพระราชประสงคเพื่อเป็นการบำรุงและสงเสริมสติปัญญาของคนในชาติเนื้อเรื่องราชาธิราชเป็นการเชิดชู เกียรติมอญที่สามารถทำสงครามมีชัยชนะเหนือพมา นับว่าเป็นการปลุกใจทหารใหมีความกลาหาญ มีไหวพริบปฏิภาณ รูจักใชสติปัญญาตลอดจนปลูกฝงใหมีความรักชาติและมีความจงรักภักดีตอสถาบัน พระมหากษัตริย์ สาระการเรียนรู้ ประวัติผู้แต่งหรือผู้แปลของวรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา กระบวนการจัดการเรียนรู้(การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน CBL) ขั้นตอนที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ ๑. ผู้เรียนทบทวนความเป็นมาที่เรียนในคาบที่แล้วกับครูผู้สอน และเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน เกี่ยวกับ ประวัติผู้แต่ง ๒. ครูผู้สอนนำเกมเปิดแผ่นป้ายคนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการแปลวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิง พระรามอาสา มาให้ผู้เรียนร่วมกันเล่น หลังจากที่เปิดแผ่นป้ายออกมาแล้วให้ผู้เรียนทาย พร้อมทั้งครูผู้สอนอธิบายเพิ่มเติม ขั้นตอนที่ ๒ ตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่มตามความสนใจ ๑. ผู้เรียนเรียนรู้ประวัติของผู้แต่งหรือผู้แปลของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา จากสื่อ PowerPoint และหนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรมไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยครูผู้สอน อธิบายเนื้อหาให้ผู้เรียนฟัง
ขั้นตอนที่ ๓ ค้นคว้าและคิด ๑. ครูผู้สอนให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ ๔-๘ คน โดยแต่ละกลุ่มต้องไปศึกษาประวัติของผู้แต่ง และผู้แปลวรรณคดี ๒. ครูผู้สอนนำภาพของบุคคลสำคัญมาทบทวนกับผู้เรียนอีกครั้ง โดยการสุ่มถามตามเลขที่ ใครที่ตอบ ถูกและอธิบายคร่าว ๆ ได้ ได้คะแนนพิเศษและของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ จากครูผู้สอน ขั้นตอนที่ ๔ นำเสนอ ๑. ผู้เรียนนำเสนองานที่ศึกษาหน้าชั้นเรียน พร้อมทั้งให้เพื่อนร่วมชั้นอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน ขั้นตอนที่ ๕ ประเมินผล ๑. ผู้เรียนและครูผู้สอนร่วมกันสรุปประวัติผู้แต่งหรือผู้แปลของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิง พระรามอาสา สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๔. ใบความรู้ ๕. Powerpoint ๖. หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรมไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๗. แผ่นป้ายผู้แปลวรรณคดี การจัดบรรยากาศเชิงบวกในชั้นเรียน ๑. สร้างบรรยากาศในชั้นเรียนให้บรรยากาศเป็นกันเอง ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป ๒. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ๓. กล่าวชื่นชมผู้เรียนเมื่อตอบคำถามได้ถูกต้อง และทำกิจกรรมจนแล้วเสร็จ
การวัดผลและการประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือในการวัด ประเมินผล ๑. ผู้เรียนสามา ร ถ อธิบายประวัติผู้แต่ง หรือผู้แปลวรรณคดี เรื่องราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสาได้ (K) การตอบคำถามของ ผู้เรียน แบบประเมินการตอบ คำถาม ผู้เรียนตอบคำถามผ่าน เกณฑ์การประเมินใน ระดับดีขึ้นไป ๒. ผู้เรียนสามารถพูด สรุปประวัติผู้แต่งหรือผู้ แปลของวรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอนสมิง พระรามอาสาได้ (P) การทำกิจกรรมในชั้น เรียน แบบประเมินการทำ กิจกรรม คะแนนผ่านเกณฑ์การ ประเมินในระดับดีขึ้น ไป ๓ . ผ ู ้ เ ร ี ย น ม ี ค ว า ม กระตือรือร้นในการทำ กิจกรรม (A) แบบสังเกตพฤติกรรม การสังเกตพฤติกรรม คะแนนพฤติกรรมผ่าน เกณฑ์การประเมินใน ระดับดีขึ้นไป
สื่อการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ราชาธิราช เวลา ๖ ชั่วโมง เรื่อง รูปแบบการประพันธ์ เวลา ๑ ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวอทิตยา อรุณวิจิตร โรงเรียนสามพร้าววิทยา ชั้นที่สอน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๒ วันที่สอน ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑ วันที่สอน ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอ่านสร้างความรูและความคิดเพื่อนำไปใชตัดสินใจ แกปญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่าและนำมาประยุกตใชในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ม ๑/๒ จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ม ๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ผู้เรียนสามารถอธิบายรูปแบบการประพันธ์ของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิงพระราม อาสาได้ (K) ๒. ผู้เรียนสามารถเขียนสรุปความ รูปแบบการประพันธ์ของวรรณคดีเรื่องราชาธิราช ตอนสมิง พระรามอาสาได้ (P) ๓. ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม (A) สมรรถนะของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต