รายงานผลการศกึ ษาแหล่งเรยี นรู้ในชุมชนเพ่อื การศกึ ษาตลอดชีวติ
ชุมชนบางนา้ ผง้ึ
เสนอ
อาจารย์ ดร. พรรณภัทร ปลง่ั ศรีเจริญสขุ
จดั ท้าโดย
นางสาวสธุ าสินี บุญเสรมิ รหัสนกั ศกึ ษา 620610105
นางสาวออมสนิ ยังมสี ขุ รหัสนักศึกษา 620610106
นางสาวกัญญาณัฐ มดี อก รหัสนกั ศกึ ษา 620610359
นางสาวลลิตา หวา่ นพืช รหสั นกั ศึกษา 620610368
นางสาวลักขณา วัชรสินเจริญ รหสั นกั ศกึ ษา 620610369
นางสาวหฤชนันทร์ อมุ าจิ รหสั นักศึกษา 620610598
สาขาการศกึ ษาตลอดชวี ติ คณะศึกษาศาสตร์
ภาคศึกษาตน้ การศึกษา 2563
รายวชิ าแหลง่ เรยี นรูใ้ นชมุ ชนเพอ่ื การศึกษาตลอด ชีวิตรหสั 469200
มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร วทิ ยาเขตพระราชวงั สนามจันทร์
คา้ นา้
รายงานผลการศกึ ษาเลม นเี้ ปน็ สว นหนงึ่ ของรายวิชาแหลงเรยี นรูในชมุ ชนเพ่ือการศกึ ษาตลอด
ชีวติ (469 200)มีวัตถุประสงคเแ พ่อื ศกึ ษาขอ มูลของชุมชนบางน้ําผึ้ง โดยการศึกษาในครั้งนี้ไดศึกษา
ประวตั ิความเป็นมา การบรหิ ารจัดการแหลงเรียนรู เนื้อหาการเรียนรูกจิ กรรมการเรยี นรขู องแตล ะ
แหลงเรียนรูท่ีมีความหลากหลายและ นาสนใจทาใหคณะผูศึกษาไดเกิดการเรียนรูมีการวิเคราะหแ
ขอ มูลของแหลง เรียนรูแตละแหงและสามารถแนวทางในการพัฒนาและสง เสริมการใชประโยชนแจาก
แหลง เรียนรูในชุมชนแหงนีไ้ ด
สดุ ทายนขี้ อขอบพระคณุ รองนายกอบต.บางนาํ้ ผงึ้ คุณอาภรณแ พานทอง และ ผูใหญบานหมู
3 ตําบลบางนาํ้ ผึ้งทไ่ี ดใ หความอนเุ คราะหใแ นเรอ่ื งการเดนิ ทางอาหาร อํานวยความสะดวกตลอดการลง
พ้ืนทใ่ี นครงั้ นี้ให การตอนรับคณะผูศึกษาเป็นอยางดีและขอขอบพระคุณอาจารยแ ดร. พรรณ
ภทั ร ปลงั่ ศรีเจรญิ สุข ที่ไดใหคําแนะนําการทํารายงานผลการศึกษาเลมนี้ต้ังแตเร่ิมศึกษาจนกระท่ัง
เสร็จสมบรู ณแไปดว ยดีหากมขี อผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่น้ี
จัดทําโดย
คณะผจู ดั ทํา
สารบญั หนา
ก
เรือ่ ง ข
คํานํา 1
สารบัญ 1
บทท่ี 1 บทนํา 1
1
ความเปน็ มา 1
วตั ถุประสงคขแ องการศกึ ษา 2
ขอบเขตการศกึ ษา 2
ขอบเขตดานพื้นที่ 2
ขอบเขตดา นเน้อื หา 3
ระยะเวลาในการดําเนินการศึกษา 3
ประโยชนทแ ีค่ าดวาจะไดรับ 4
บทท่ี 2 วิธกี ารศึกษา 7
พืน้ ทศ่ี กึ ษาและผูใหข อ มลู 8
วธิ ีการศกึ ษา 9
ข้ันตอนการศึกษา 9
การวิเคราะหแขอมลู
บทท่ี 3 ผลการศึกษา
ขอมูลพ้นื ฐานของชุมชน
1. ดา นกายภาพ 9
2. ดา นการเมอื ง/การปกครอง 10
3. ประชากร 10
4. การคมนาคมขนสง 11
5. ศาสนา ประเพณี วฒั นธรรม 12
6. ภูมิปญั ญาทอ งถ่ิน ภาษา 13
7. ทรพั ยากรธรรมชาติ 14
8. การทอ งเทย่ี วโดยชุมชน Community – Based Tourism (CBT) 14
9. การเดนิ ทาง 18
3.2 ขอ มลู เกีย่ วกบั แหลงเรยี นรใู นตาํ บลบางนาํ้ ผึ้ง และแหลงเรียนรใู กลเคยี ง 21
- แหลงเรียนรูท ่ี 1 วิสาหกิจชมุ ชน บา นธปู หอมสมนุ ไพร 22
- แหลงเรียนรูท่ี 2 บา นลูกประคบสมุนไพร วสิ าหกจิ ชุมชนหตั ถศาสตรเแ พื่อสุขภาพ 29
- แหลงเรยี นรูท่ี 3 ศูนยกแ ารเรียนรูแพทยแแผนไทย 37
- แหลงเรยี นรทู ่ี 4 ตลาดบางนํ้าผ้งึ 43
- แหลงเรียนรทู ี่ 5 กลมุ บางนา้ํ ผึง้ พอเพยี ง 47
- แหลง เรยี นรูท่ี 6 วัดบางนํา้ ผ้ึงนอก 51
- แหลง เรียนรูท่ี 7 โรงเรยี นวดั บางนํา้ ผึ้งนอก 59
- แหลงเรียนรูที่ 8 ศูนยแการเรียนรเู พาะเหด็ (ฟารแมเห็ดชางแดง) 63
3.3 สรุปผลการศกึ ษาและขอ เสนอแนะ 68
โครงการ ปูายใหความรเู พ่อื พฒั นาแหลงเรยี นรบู า นธปู หอมสมนุ ไพร 70
โครงการฝึกอบรมสงเสริมการทําลกู ประคบสมุนไพร 72
ภาคผนวก 73
บรรณานกุ รม 101
1
บทที่ 1
บทนา้
1.1 ความเปน็ มา
ตาํ บลบางนํา้ ผง้ึ ต้งั อยใู นอําเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพื้นท่ีราบลุมนํ้าทวม
ถงึ ริมแมน ้าํ เจาพระยาทาํ ใหบ รเิ วณนี้ไดรับอิทธิพลจากน้ําทะเลชวงเวลาท่ีน้ําทะเลหนุน ในเวลาที่น้ํา
ผานเขามาในบริเวณลําคลองตางๆ เขา สูพ้นื ที่ทีช่ าวบานใชท าํ สวนเปน็ สวนใหญ ดนิ บรเิ วณตําบลบาง
นาํ้ ผึง้ มีความอดุ มสมบรู ณแไปดวยแรธาตุและสารอาหารของพืชนานาชนิด และนอกจากน้ีตําบลบาง
นํา้ ผงึ้ ยงั มีแหลง เรยี นรตู า งๆอกี มากมายภายในชุมชนทน่ี า สน อาทิ การทําธปู หอม ตลาดน้าํ ฟารแมเห็ด
การทาํ ลกู ประคบสมุนไพร ผจู ดั จงึ มคี วามสนใจที่จะศึกษาแหลง เรยี นรูในชุมชนเพ่อื เปน็ ขอมูลใหแ กผ ูท่ี
สนใจและผูท เี่ กยี่ วของนําไปใชเปน็ แนวทางเพ่อื พัฒนาแหลงเรยี นรตู อไป
1.2 วัตถุประสงค์ของการศกึ ษา
1.2.1 เพอ่ื ศึกษาขอมูลท่ัวไปของตาํ บลบางน้ําผ้งึ
1.2.2 เพ่ือศึกษาขอ มลู เกีย่ วกับสถานที่สาํ คัญและแหลงเรยี นรูภายในตาํ บลบางนํา้ ผง้ึ
1.2.3 เพื่อศกึ ษาแนวทางการพัฒนาแหลงเรยี นรแู ละสงเสรมิ การใชป ระโยชนแจากแหลง เรยี นรู
ตาํ บลบางนา้ํ ผึง้
1.3 ขอบเขตกการศึกษา
1.3.1 ขอบเขตดานพื้นท่ี
ตาํ บลบางนํา้ ผ้ึง อําเภอพระประแดง จังหวดั สมทุ รปราการ
2
1.3.2 ขอบเขตดา นเนอ้ื หา
1. ขอ มูลท่วั ไปของตาํ บลบางนา้ํ ผึ้ง
- ประวัตคิ วามเปน็ มา
- สภาพภูมปิ ระเทศและการตงั้ ถ่ินฐาน
- ขอมลู ดา นสังคม เศรษฐกิจและวฒั นธรรม
- สถานทส่ี ําคัญ
2. ขอ มูลแหลงเรยี นรใู นตําบลบางนํ้าผง้ึ
- ท่ีต้งั แหลง เรียนรู
- ประวัติความเป็นมาของแหลงเรยี นรู
- การบริหารและการจดั การแหลงเรยี นรู
- เนื้อหาสาระภายในแหลง เรยี นรู
- กจิ กรรมภายในแหลง เรียนรู
- ปัญหาและอปุ สรรคในการดําเนินงานของแหลง เรียนรู
1.4 ระยะเวลาในการดา้ เนนิ การศึกษา
ตง้ั แตวันท่ี 25 สงิ หาคม 2663 – วันที่ 31 ตุลาคม 2563
1.5 ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะไดร้ ับ
1. สามารถเปน็ ขอ มูลใหแ กผูทส่ี นใจแหลงเรยี นรใู นตําบลบางนา้ํ ผง้ึ ได
2. รแู นวทางการจัดการ และพัฒนาแหลง เรยี นรูในชมุ ชน
3
บทท่ี 2
วิธีการศกึ ษา
ในการศกึ ษาแหลงเรยี นรูชุมชนบางน้ําผึ้ง ตองคํานึงถึงวธิ กี ารศึกษาแบง ไดเ ป็น 4 หวั ขอ ดังน้ี
2.1 พนื้ ที่ศกึ ษาและผูใหขอมูล
2.2 วิธกี ารศกึ ษา
2.3 ขั้นตอนการศึกษา
2.4การวเิ คราะหแขอมลู
2.1 พื้นทีศ่ กึ ษาและผูใ้ หข้ ้อมลู
2.1.1 พ้นื ที่ศกึ ษา
ตําบลบางนาํ้ ผ้ึง อําเภอพระประแดง จังหวดั สมทุ รปราการ
2.1.2 ผูใ หขอมลู
ผใู้ ห้ขอ้ มูล ต้าแหนง่ ขอ้ มลู ท่ีสมั ภาษณ์ วนั เดอื น ปี ที่
คณุ อาภรณแ พานทอง
คุณปยิ พงษแ พูนสวัสดิ์ สัมภาษณ์
คณุ บญุ สืบ พูลสขุ
- รองนายก อบต.บาง ขอ มลู ทว่ั ไปเก่ียวกบั ชุมชน 23 ตุลาคม 2563
คุณสมศักด์ิ ชัยเข่อื นขนั
นาํ้ ผ้งึ บางนา้ํ ผึง้
- ผู ให ญบ าน ห มู 3 ขอ มลู ท่ัวไปเก่ยี วกับชมุ ชน 23 ตุลาคม 2563
ตาํ บลบางนา้ํ ผึ้ง บางนํ้าผ้งึ
- ผดู แู ลศนู ยแการเรียนรู ขอมูลเกี่ยวกับศูนยแการ 23 ตลุ าคม 2563
ธัญพืชประคบพูลสุข เรียนรูธัญพืชประคบพูล
สขุ
- ผดู ูแลศนู ยกแ ารเรียนรู ขอมูลเก่ียวกับศูนยแการ 24 ตุลาคม 2563
เพาะเห็ด (ฟารแมเห็ด เรียนรูเพาะเห็ด (ฟารแม
ชางแดง) เหด็ ชา งแดง)
4
คุณกัญญาพร นวลสอาด - ผดู ูแลศนู ยแการเรียนรู ขอมูลเก่ียวกับศูนยแการ 24 ตลุ าคม 2563
24 ตลุ าคม 2563
คุณฉออน สวุ รรณทศ บานธปู หอมสมนุ ไพร เ รี ย น รู บ า น ธู ป ห อ ม 24 ตุลาคม 2563
คณุ เอ้อื มพร บรรจงเทียน 24 ตุลาคม 2563
คุณกองแกว หมวกเหลก็ สมุนไพร 24 ตลุ าคม 2563
คณุ วินยั ชิตเจริญ - ผดู ูแลศนู ยกแ ารเรียนรู ขอมูลเกี่ยวกับศูนยแการ
นางสาวเมทินี เกิดเอย่ี ม
กลุมบางนาํ้ ผึง้ พอเพยี ง เรีย นรู กลุ มบา งน้ํ าผ้ึ ง
พอเพยี ง
- เจาหนาที่แพทยแแผน ขอมูลเก่ียวกับศูนยแการ
ไทย ศูนยแการเรียนรู เรียนรแู พทยแแผนไทย
แพทยแแผนไทย
- ชาวบานตําบลบาง ขอมูลเกี่ยวกับวัดบาง
นา้ํ ผึ้ง น้าํ ผ้งึ นอก
- ครูโรงเรียนวัดบาง ขอ มูลเกยี่ วกบั โรงเรียนวัด
นา้ํ ผึง้ นอก บางนา้ํ ผึง้ นอก
2.2 วธิ ีการศึกษา
การเก็บรวบรวมขอมลู โดยใชการศกึ ษาคนควา เอกสาร การสํารวจพ้ืนที่ การสัมภาษณแ และ
การสงั เกต
เปา้ หมายในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู
1 .เพือ่ รวู าในแหลงเรียนรูส ามารถนํามาใชประโยชนแในการจัดการศึกษาไดอยางไร
ท้ังคน วัสดุ ส่งิ ของ สถานที่ องคแกร เป็นตน
2. เพ่ือสามารถกาํ หนดโครงการทที่ าํ เพือ่ การพัฒนาแหลงเรียนรู
3 .เพื่อรถู งึ ขอจาํ กดั และโอกาสในการทํางาน
2.2.1 การศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสาร
5
ศึกษาขอ มลู ท่ัวไปและความเป็นมาของแหลง เรียนรใู นชมุ ชน
2.2.2 การส้ารวจ การสมั ภาษณ์ และการสังเกต
1. การสาํ รวจพ้ืนทโ่ี ดยรอบ
2. การสัมภาษณแ
ประเดน็ คาํ ถามทใ่ี ชในการสัมภาษณแเจา หนาท่ดี ูแลแหลงเรียนรู
6
2.1 ทีต่ ้งั ของแหลง เรียนรู
2.2 ประวัติความเป็นมาของแหลง เรียนรู
2.3 การบริหารจัดการแหลง เรียนรู
2.4 เน้ือหาสาระในแหลงเรียนรู
2.5 กจิ กรรมในแหลง เรยี นรู
3. การสงั เกต
ประกอบดว ย
3.1 สังเกตกลมุ เปูาหมายที่เขามาศกึ ษาแหลง เรยี นรู
3.2 สงั เกตการณแใหบรกิ ารของแหลง เรียนรู
3.3 สังเกตสภาพทั่วไปของแหลง เรียนรู
7
2.3 ขนั้ ตอนการศึกษา
2.3.1. ข้ันการวางแผนงาน
1. ประชุมรวมกันภายในกลมุ เพอ่ื กําหนดพื้นทแี่ ละประเดน็ ทจี่ ะศกึ ษา
2. รวบรวมขอมูลเบ้ืองตน ทางอนิ เทอรแเน็ตหรือผูรูและวางแผนงานกอนลงพ้ืนท่จี รงิ
2.3.2. ขนั้ การดําเนนิ งาน
1. ประสานเจา หนาทเ่ี พอ่ื สอบถามขอมูล
2. สาํ รวจพ้ืนที่และลงพ้ืนท่ีจรงิ
3. สัมภาษณแเจา หนา ที่และผูท่ีเกี่ยวของภายในแหลง เรียนรู
4. เก็บรวบรวมขอ มลู ในรูปแบบจดบนั ทกึ อดั เสยี ง วดิ โี อ และภาพถา ย
8
5. นาํ ขอ มลู ท่ไี ดจ ากการลงพน้ื ท่ีมาวิเคราะหแ
6. จัดรายงานจากการศกึ ษาและนาํ เสนอขอมลู
2.4 การวิเคราะห์ข้อมูล
รวบรวมขอ มลู ที่ไดร ับจากการลงพ้ืนที่เก็บขอมูล นํามาวิเคราะหแหาจุดแข็ง จุดออน โอกาส
และ อปุ สรรคของแหลงเรียนรู เพื่อเปน็ แนวทางในการสงเสริมและพัฒนา ปรับปรุงแกไขปัญหาของ
แหลง เรียนรู
9
บทท่ี 3
ผลการศึกษา
จากการลงพ้นื ท่ศี กึ ษาขอมูลแหลงเรียนรูภายในชุมชนตําบลบางน้ําผ้ึง อําเภอพระประแดง
จงั หวดั สมทุ รปราการ พบวามีแหลงเรยี นรูท่นี าสนใจจาํ นวนมากและมคี วามหลากหลายในดานเนอ้ื หา
ขอ มูล สภาพ พ้นื ท่แี ละวิธกี ารจัดการแหลงเรียนรู จากการสํารวจแหลงเรียนรูภายในชุมชนสามารถ
จําแนกขอ มูลได ดังตอ ไปน้ี
3.1 ขอ้ มูลพนื้ ฐานของชมุ ชน
1. ดา้ นกายภาพ
1.1 ทต่ี งั้ ของหมูบา นหรือชมุ ชนหรอื ตําบล
ตาํ บลบางนา้ํ ผง้ึ ตั้งอยูร มิ แมน า้ํ เจาพระยาเดิมมี พ้ืนท่ีกวางใหญ ตอมาไดแยกออกเป็นตําบล
บางกระเจา ทาํ ใหมีพนื้ ทลี่ ดลง ตัง้ ทางดา นทิศเหนือของอาํ เภอพระประแดง หางจากท่ีวาการอําเภอ
พระประแดง ประมาณ ๕ กิโลเมตร ตามเสนทางถนนสายเพชรหึงษแ มีอาณาเขตติดตอกับพ้ืนท่ี
ใกลเคียง ดงั น้ี
ทิศเหนือ ติดตอกับองคแการบริหารสวนตําบลบางกอบัว อําเภอพระประแดง จังหวัด
สมทุ รปราการ
ทิศตะวันออก ตดิ ตอกบั แมนํา้ เจาพระยา (ฝ่ังตรงขามเขตบางนา กรงุ เทพมหานคร)
ทิศตะวันตก ตดิ ตอ กบั องคแการบริหารสวนตาํ บลบางยอ และองคแการบริหารสวนตําบลบาง
กอบัว
อําเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ทิศใต้ ติดตอกับองคแการบริหารสวนตําบลบางกระสอบ อําเภอพระประแดง จังหวัด
สมทุ รปราการ
เนือ้ ที่องคแการรบริหารสวนตําบลบางน้ําผึ้ง มีพื้นที่ประมาณ 1,938 ไร หรือประมาณ 3.10
ตารางกโิ ลเมตร
1.2 ลกั ษณะภูมิประเทศ
พื้นที่ตําบลบางนํา้ ผง้ึ เปน็ พืน้ ท่รี าบลมุ รมิ แมน า้ํ เจาพระยา เป็นพืน้ ทีด่ ินตะกอนซง่ึ เกิดจากการ
ทับถมของตะกอนในแมนาํ้ เจาพระยาและลาํ คลองสายตา งๆ ดินมีความอุดมสมบูรณแสูงเหมาะแกการ
ทําสวน ประเภทสวนผลไมตางๆ และพชื สวนอืน่ ๆ
1.3 ลักษณะภูมิอากาศ
10
ลกั ษณะอากาศแบบชายทะเล อากาศคอ นขา งเยน็ ไมรอ นจดั ในฤดูรอ นมีความช้ืนอากาศสูง
เน่ืองจากอิทธิพลของลมทะเลและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต ฤดูฝนมีฝนตกชุก ฤดูหนาวอากาศไม
หนาวมากจนเกินไป อุณหภูมิเฉล่ียสูงสุด 30.60 °c อุณหภูมิเฉล่ียตํ่าสุด 26.60 °c อุณหภูมิเฉล่ีย
28.90 °c
1.4 ลักษณะของดิน
พ้ืนที่ราบลุมริมแมนํ้าเจาพระยา เป็นพื้นที่ดินตะกอนซ่ึงเกิดจากการทับถมของตะกอนใน
แมนํ้าเจาพระยาและลาํ คลองสายตา งๆ ดินมีความอุดมสมบรู ณแสงู เหมาะแกการทาํ สวนประเภทสวน
ผลไมตางๆ และพืชสวนอ่นื ๆ
2. ด้านการเมือง/การปกครอง
2.1 เขตการปกครอง
มจี ํานวน 11 หมบู าน
พน้ื ที่มีทงั้ หมดจาํ นวน 3.10 ตารางกิโลเมตร
หางจากกรงุ เทพฯ ประมาณ 10 กโิ ลเมตร
หา งจากทวี่ าการอําเภอเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร
หางจากศาลากลางจงั หวดั ประมาณ 27 กิโลเมตร
2.2 การเลอื กต้งั
แบงเขตเลอื กตงั้ ออกเปน็ 6 หนวย
จํานวนผูมสี ทิ ธิเลือกตง้ั 4,012 คน
จํานวนผูไปใชสทิ ธเิ ลอื กต้งั 3,217 คน
(ขอมูล ณ วันท่ี 24 มนี าคม 2562)
3. ประชากร
ตาํ บลบางนา้ํ ผงึ้ มปี ระชากร รวม 4,921 คน แยกเปน็ ชาย 2,341 คน และหญงิ 2,580 คน มี
ความหนาแนนเฉล่ยี 1,400 คน / ตารางกิโลเมตร จาํ นวนครัวเรือนทัง้ สิ้น 1,161 ครวั เรอื น แยกเป็น
รายหมบู านและจํานวนครวั เรือน ดงั นี้
11
ตา้ บล/แขวง ต้าบลบางน้าผ้ึง ชาย หญงิ รวม
679
หมทู ี่ 1 วดั บางน้าํ ผงึ้ 327 352 97
340
หมูท่ี 2 บานบางน้าํ ผ้งึ 54 43 346
151
หมทู ี่ 3 บานบางน้ําผึ้ง 161 179 72
242
หมทู ี่ 4 บานบางนํา้ ผงึ้ 168 178 297
910
หมูท่ี 5 บานคลองทรง 67 84 1171
567
หมทู ่ี 6 บานไฟไหม 37 35
หมทู ี่ 7 บา นคลองตาสกั 103 139
หมทู ่ี 8 บา นคลองบา นผึง้ 148 149
หมูท่ี 9 บา นบางนํ้าผง้ึ 417 473
หมูที่ 10 บา นคลองบางนา้ํ ผึ้ง 560 611
หมูท่ี 11 บา นบางนํ้าผ้ึง 270 297
(ขอ้ มลู : สานักบรหิ ารงานทะเบยี นทอ้ งถิ่น อาเภอพระประแดง ณ เดอื น กมุ ภาพนั ธ์ 2557)
4. การคมนาคมขนส่ง
การคมนาคมขนสงทางบก
สวนใหญเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กสายส้ันๆ ผิวจราจรอยูในสภาพดี การจราจรไม
หนาแนน นกั ถนนสายทสี่ าํ คัญ คอื
- ถนนสายบัวผ้ึงพัฒนา 1 ขึ้นทะเบียนเป็นทางหลวงทองถิ่น เมื่อวันท่ี 3 กุมภาพันธแ 2557
(รหสั สาย ทาง สป ถ 31-001) จาก กม0+195 ถงึ 1+682 ระยะทาง 1.480 กิโลเมตร ผวิ จราจรกวาง
6.0 เมตร ไหลท างกวาง 2.0 เมตร เขตทางกวาง 10.0 เมตร เป็นถนนสายหลักของตําบลบางน้ําผึ้ง
เปน็ ถนนคอนกรตี เสริมเหลก็ เช่อื มตอกับถนนเพชรหงึ ษแ ในเขตองคแการบริหารสวนตําบลบางยอ ไป
สน้ิ สุดทท่ี าเรือตาํ เล่อื นเขตองคแการบริหารสว นตาํ บลบางนาํ้ ผ้งึ
- ถนนสายบัวผึ้งพัฒนา 2 ข้ึนทะเบียนเป็นทางหลวงทองถ่ิน เม่ือวันท่ี 3 กุมภาพันธแ 2557
(รหัสสาย ทาง สป ถ 31-002) จาก กม0+000 ถึง 1+180 ระยะทาง 1.380 กโิ ลเมตร ผิวจราจรกวาง
6.0 เมตร ไหลท างกวา ง 2.0 เมตร เขตทางกวาง 8.0 เมตร เปน็ ถนนคอนกรตี เสริมเหล็ก เริ่มจากสาม
แยกหมู 9 ไปสิน้ สุดท่วี ัดบางนา้ํ ผึ้งนอก เขตองคแการบรหิ ารสว นตาํ บลบางนาํ้ ผ้งึ
12
- ถนนสายซอยยิ่งอํานวย ข้ึนทะเบียนเป็นทางหลวงทองถ่ิน เม่ือวันท่ี 3 กุมภาพันธแ 2557
(รหสั สาย ทาง สป ถ 31-003) จาก กม0+000 ถงึ 1+720 ระยะทาง 1.720 กโิ ลเมตร ผิวจราจรกวาง
4.20 เมตร ไหลทางกวา ง 0.5 เมตร เขตทางกวาง 5.5 เมตร เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก แยกจาก
ถนนสายบวั ผึ้งพัฒนา 1 ไปสิน้ สดุ ทีห่ มู 6 ตาํ บลบางนํา้ ผ้งึ
- ถนนคอนกรีตเสรมิ เหล็ก หมูที่ 9 (ซอยบานนายวิชัย เกษแกว) จากถนนบัวผ้ึงพฒั นาชวงที่1
ผวิ จราจรกวา ง 4 เมตร ระยะทาง 72 เมตร และชวงที่2 ผิวจราจรกวา ง 3 เมตร ระยะทาง 82 เมตร
- ถนนไสวอํานวย หมูที่ 10 เชื่อมตอถนนบัวผ้ึงพัฒนา 1 เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ผิว
จราจรกวาง 4 เมตร ระยะทาง 140 เมตร
- สะพานทางเดินเทาคอนกรีตเสริมเหล็ก หมูท่ี 4 ขนาดกวาง 2.7 เมตร ใชเป็นเสนทาง
จักรยาน เพอ่ื สง เสรมิ การทอ งเท่ียวริมคลองบางนา้ํ ผง้ึ
- ถนนคอนกรีตเสรมิ เหล็ก ซอยบา นอดีต สจ. ผิวจราจรกวาง 4.0 เมตร ระยะทางรวม
475 เมตร
การคมนาคมขนสงทางน้ํา
ในเขตองคกแ ารบริหารสว นตําบลบาง มีทาเทียบเรอื ขนสงโดยสารสาธารณะและขนสงสนิ คาท่ี
สําคัญ รวม 3 แหง คือ
- ทาเรือวัดบางน้ําผ้ึงนอก เป็นของเอกชน ตั้งอยูในหมูบานท่ี 1 ริมฝั่งตะวันตกของแมนํ้า
เจาพระยา (ประมาณหลักกโิ ลเมตรทางนํา้ ท่ี 27)
- ทาเรือบานผูใหญตเอง (ทาตาเลื่อน) เป็นของเอกชน ตั้งอยูในหมูท่ี 4 ริมฝ่ังตะวันตกของ
แมน าํ้ เจา พระยา (ประมาณหลักกิโลเมตรทางน้ําท่ี 26)
- ทาเรือบานผูใหญปฺูด (ทาป๊ัม) เป็นของเอกชน ตั้งอยูที่หมู 3 ริมฝ่ังตะวันตกของแมน้ํา
เจา พระยา
ท่ีมา : กองชา่ ง องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลบางน้าผง้ึ
5. ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม
การนบั ถอื ศาสนา
13
ประชาชนในพ้ืนทนี่ บั ถอื ศาสนาพุทธ รอยละ 100 ของจํานวนประชากรทั้งหมดใน
เขตเทศบาลตาํ บลบางน้ําผง้ึ มี
วดั 2 แหง
สํานักสงฆแ – แหง
โบสถคแ รสิ ตแ – แหง
มสั ยดิ – แหง
ประเพณีและงานประจาํ ปี
ก. ประเพณปี ระจาํ ถิน่ ไดแ ก
- ประเพณสี งกรานตแ “สนุกสุขสนั ตแ เลน นํา้ สงกรานตแ สบื สานประเพณี”
- วันออกพรรษา งานประเพณีตักบาตรนาํ้ ผ้ึง
- วันออกพรรษา ประเพณตี กั บาตรเทโว
- ประเพณลี อยกระทง “ลอยกระทงตามประทปี ปลูกจติ สาํ นกึ รกั ษแแ หลงนาํ้ ”
- วันวสิ าขบูชา งานประเพณีสลากภักตรผแ ลไม
- ประเพณตี ักบาตรนา้ํ ผงึ้
ข. งานประจําปี ไดแ ก
- งานเคา ทแดาวนแ : สง ทา ยปีเกา ตอนรับปีใหม
ทีม่ า : กองสวัสดิการสงั คมองคก์ ารบริหารสว่ นตาบลบางน้าผ้งึ
6. ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ภาษา
ภูมิปญั ญาประจาํ ถ่ินไดแ ก
ก. งานฝีมอื จากใบไม เชน ใบเตยดอกกหุ ลาบแตงดว ยลูกมะกรดู สด
ข. พวงมะโหตร เป็นเคร่อื งแขวนโบราณทท่ี าํ จากกระดา สีตางๆนาํ มาพบั และตัดเปน็ รปู ตางๆ
ค. ปราชญเแ กษตรของแผนดิน
ภาษาถ่นิ ไดแ ก
ก. ภาษากลาง
14
ทีม่ า : กองสวัสดกิ ารสงั คมองค์การบริหารสว่ นตาบลบางน้าผึง้
7. ทรัพยากรธรรมชาติ
นํ้า
- แมนํา้ เจาพระยา ไหลผานพ้นื ท่ี หมูท่ี 1 – 6 ตําบลบางนา้ํ ผงึ้
- คลองธรรมชาติ จาํ นวน 6 สาย สว นใหญเป็นคลองสายส้ันๆ เช่ือมตอกับแมน้ําเจาพระยา
คลองสายสาํ คัญคอื คลองบางนํ้าผึง้ ระยะทางประมาณ 1.50 กิโลเมตร
- แหลง นํ้าเพอื่ การอปุ โภค – บริโภค ครัวเรือนมีนา้ํ สะอาดเพียงพอตอการอุปโภค – บริโภค
คิดเปน็ รอยละ 70
- บอ นา้ํ บาดาล จํานวน 3 แหง
- ครัวเรอื นทร่ี บั บริการน้าํ ประปาจากการประปานครหลวง จาํ นวน 700 ครวั เรือน
ปาุ ไม
- ในพ้นื ทไี่ มอ ยใู นเขตปุาไม
ภเู ขา
- ในพ้นื ที่ไมม ีภเู ขา
ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ส่ี าํ คญั
- ไมมีแหลง ทรัพยากรธรรมชาติ
8. การทอ่ งเที่ยวโดยชมุ ชน Community – Based Tourism (CBT)
คือ การทองเท่ียวที่คํานึงถึงความยั่งยืนของส่ิงแวดลอม สังคม และวัฒนธรรม กําหนด
ทศิ ทางโดยชมุ ชน จัดการโดยชุมชนเพ่ือชุมชนและชุมชนมีบทบาทเป็นเจาของมีสิทธิในการจัดการ
ดูแล เพื่อใหเกดิ การเรยี นรูแกผ ูมาเยือน (โครงการทอ งเท่ียวเพ่ือชีวติ และธรรมชาติ, 2540)
องคปแ ระกอบของการจัดการทอ งเท่ยี วโดยชมุ ชน
องคปแ ระกอบหลักของ CBT มีอยู 4 ดา น กลา วคือ
15
1) ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม
2) องคกแ รชมุ ชน
3) การจดั การ
4) การเรียนรู
ประเดน็ สําคญั ของแตล ะองคแประกอบของ CBT ไดแก
ดานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละวัฒนธรรม
- ชมุ ชนมีฐานทรพั ยากรธรรมชาตทิ อ่ี ุดมสมบรู ณแ และมีวถิ กี ารผลติ ทพ่ี งึ่ พาและใช
ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา งยง่ั ยืน
- ชมุ ชนมีวฒั นธรรมประเพณที ่ีเปน็ เอกลักษณแเฉพาะถนิ่
ดา นองคกแ รชุมชน
- ชุมชนมรี ะบบสังคมทเี่ ขา ใจกนั
- มปี ราชญแ หรือผูมีความรู และทกั ษะในเร่ืองตา ง ๆ หลากหลาย
- ชุมชนรสู ึกเป็นเจาของและเขามามสี วนรวมในกระบวนการพัฒนา
ดานการจดั การ
- มีกฎ - กติกาในการจดั การสงิ่ แวดลอม วัฒนธรรม และการทองเทย่ี ว
- มีองคกแ รหรอื กลไกในการทํางานเพ่อื จดั การการทอ งเทย่ี ว และสามารถเช่ีอมโยงการ
ทองเท่ียวกบั การพฒั นาชมุ ชนโดยรวมได
- มีการกระจายผลประโยชนแทเ่ี ปน็ ธรรม
- มกี องทนุ ทเี่ ออื้ ประโยชนแตอ การพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมของชุมชน
ดานการเรยี นรู
- ลกั ษณะของกิจกรรมการทองเท่ยี วสามารถสรา งการรบั รู และความเขาใจในวถิ ีชวี ิตและ
วฒั นธรรมท่ีแตกตาง
- มรี ะบบจดั การใหเ กดิ กระบวนการเรียนรรู ะหวางชาวบา นกบั ผูมาเยอื น
16
- สรา งจติ สาํ นึกเรื่องการอนรุ ักษทแ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละวฒั นธรรมทงั้ ในสว นของชาวบาน
และผมู าเยอื น
การทองเทย่ี ว : เครื่องมอื ในการพฒั นาชุมชน
CBT เปน็ เครื่องมอื สรางความเขมแข็งขององคกแ รชาวบา นในการจัดการทรพั ยากร ธรรมชาติ
และวัฒนธรรม โดยกระบวนการมสี ว นรวมของคนในชมุ ชน ใหชุมชนไดม ีสว นรวมในการกาํ หนดทิศ
ทางการพัฒนาและไดรับประโยชนจแ ากการทอ ง เที่ยว
ในขณะเดยี วกนั ในภาพรวมของอุตสาหกรรมการทอ งเท่ียว การทอ งเท่ียวโดยชุมชนไดเขาไป
มีบทบาทในการสรางคุณภาพใหมของการทอง เที่ยวใหมีความหมายมากกวาการพักผอน ความ
สนกุ สนาน และความบนั เทิง หากไดเปดิ มิตขิ องการทอ งเท่ียวเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูและเคารพ
คนในทอง ถิน่
ทม่ี า : สถาบนั การทอ งเทย่ี วโดยชมุ ชน
ชมุ ชนบางน้าผ้งึ ต.บางนา้ ผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมทุ รปราการ
ตําบลบางนาํ้ ผ้งึ ต้งั อยูในอาํ เภอพระประแดง เป็นพน้ื ทร่ี าบลุมนํ้าทวมถึงริมแมน้ําเจาพระยา
ทาํ ใหบ รเิ วณนีไ้ ดรบั อิทธพิ ลจากน้ําทะเลชวงเวลาท่ีนํ้าทะเลหนนุ ในเวลาที่นํ้าผานเขามาในบริเวณลํา
คลองตางๆ เขาสูพื้นที่ท่ีชาวบานใชทําสวนเป็นสวนใหญ ดินบริเวณตําบลบางน้ําผึ้งมีความอุดม
สมบูรณแไปดวยแรธาตุและสารอาหารของพืชนานาชนิด อาชีพดั้งเดิมของชาวตําบลบางนํ้าผึ้งคือ
อาชพี ทําสวนผลไม น้ําหวานจากเกสรดอกไมนานาชนิดไดดึงดูดใหผ้ึงมาอาศัยอยูโดยทั่วไปในพื้นที่
ชาวบา นไดนํานา้ํ ผ้งึ มาตกั บาตรจนเป็นวถิ ีชีวติ กลายเปน็ ประเพณีวัฒนธรรมท่ีสืบทอดกันมาจากรุนสู
รุน จงึ ไดข นานนามพน้ื ท่ีนว้ี า “บางนาํ้ ผ้งึ ”
ชาวบานในตาํ บลบางนาํ้ ผึง้ สว นใหญเรียกตาํ บลบางนาํ้ ผง้ึ วา กระเพาะหมเู พราะเมอ่ื อดตี นาํ้ มัน
ทว มนาน พน้ื ท่ีอยูติดแมน้าํ เจาพระยา นาํ้ ก็เลยไหลเขามาไดทุกดาน พอนํ้าลดก็เลยเป็นแองกระทะ
จงึ เรยี กวา “กระเพาะหมู” จึงทาํ ใหโดดเดน และเปน็ เอกลกั ษณพแ เิ ศษเปน็ ของตน ซง่ึ คนในสมยั น้ันนิยม
ปลูกขาว จากประวัติศาสตรแของชุมชน นาจะมีอายุราวไมต่ํากวา 200 กวาปี ตําบลบางนํ้าผ้ึงเป็น
17
พื้นท่ีสวนหน่ึงของบางกะเจา หรือกระเพาะหมู ท่ีถือเป็นพ้ืนที่สีเขียวท่ีใหญที่สุดและอยูใกล
กรุงเทพมหานครทีไ่ ดรับการอนรุ กั ษแพน้ื ที่ไว
คนในชุมชนสวนใหญเป็นคนไทยภาคกลาง และมอญ และจีนบางสวน ตําบลบางนํ้าผึ้งมีท้ังหมด
11 หมูบาน ประชาชนประกอบอาชีพทางการเกษตร รบั จางในโรงงานอุตสาหกรรม บริษัทเอกชน
รบั ราชการและอ่นื ๆ
ความพิเศษของชุมชน : ตลาดนํา้ บางน้ําผึ้งมอี าหารคาวหวานอรอย ราคาถูก บรรยากาศ
รมร่ืนเขียวขจีท่ียังคงสภาพเดิมของพ้ืนท่ีไวอยูใกลเมืองหลวงยึดถือตวามเป็นอดีต การคมนาคม
สะดวกใชเวลาเพียง 30 นาท่จี ากกรุงเทพมหานครเขามาในพื้นท่ีเป็นท่ีนิยมของนักทองเที่ยวท้ังชาว
ไทยและชาวตางชาติ
ตลาดน้าบางน้าผ้ึง เป็นแหลงกระจายรายไดและสรางโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู
ระหวา งผมู าเยอื นกบั ชาวชมุ ชนควบคกู ับการอนรุ ักษแวิถีชวี ิตและภมู ิปัยญาทองถิ่น
โฮมสเตย์บางน้าผึ้ง บานทรงไทยอายุกวาสองรอยปี สัมผัสวัฒนธรรมชนบท ตามแนว
ปฏบิ ัติของสาํ นกั พฒั นาการทอ งเทยี่ วไดรับมาตรฐานโฮมสเตยแไทย เพือ่ การพฒั นาการทอ งเทยี่ วอยาง
ยั่งยนื
สวนปา่ ชุมชนหมทู่ ่ี 4 หม่ทุ ่ี 6 และหม่ทู ่ี 11 เป็นสถานท่ีพกั ผอ นหยอนใจภายในบรรยากาศ
รมรื่นเขียวขจีพรอมซุมพักผอนมีปูายบอกทรัพยากรทองเที่ยวตางๆในชุมชนมีความรูและความ
เพลดิ เพลนิ ไปในตวั
หมู่บา้ นโอท็อป มกี ารแลกเปล่ียนเรียนรูดานการทํามาหากินและการฝึกทักษะอาชีพตางๆ
ตามฐานอาชพี ท่ถี นดั และสนใจเพือ่ การปรบั ใชใ นชีวติ ตนและชมุ ชนทอ งถิ่นอน่ื ทเี่ ขามาศึกษาดงู านตาม
แนวทางปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เส้นทางจักรยาน ชมวิถีชีวิตท้ังดานประวัติศาสตรแ วัฒนธรรมและประเพณี มีความ
สนกุ สนานเพลดิ เพลนิ ปลอดภยั ไมทาํ ลายสง่ิ แวดลอม
จังหวัดสมุทรปราการต้ังอยูในภาคกลางของประเทศไทย ท่ีบริเวณปลายสุดของแมนํ้า
เจาพระยา เป็นจงั หวัดขนาดเลก็ บรเิ วณชานเมืองกรุงเทพมหานคร มีชอ่ื เรยี ก อกี วา “เมืองปากนา้ํ ” มี
18
แมน้ําเจา พระยาเปน็ แมน้าํ สายสําคัญ และมีคลองสาขาแยกจากแมนํ้าเจาพระยาจํานวนมาก สภาพ
ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นพ้ืนที่ราบลุม เหมาะแกการทํานาและทําสวน มีปุาชายเลนตามชายฝั่งซึ่ ง
จงั หวดั สมุทรปราการนนั้ เป็นจังหวดั หนงึ่ ท่ีนกั ทอ งเที่ยวนิยมเดินทางไปทองเทยี่ วกันมาก
ตารางที่ 1 แสดงจาํ นวนนักทอ งเท่ยี วทเี่ ดินทางเขา มาทองเท่ียวในจงั หวัดสมุทรปราการ
กลุ่มนักทอ่ งเท่ียว/ปี ปี 2553 ปี 2554 ปี 2555 ปี 2556 ปี 2557
นกั ทอ งเที่ยวชาวไทย 1,824,891 1,628,648 2,621,078 2,772,430 2,877,640
นักทอ งเทย่ี วชาวตางชาติ 1,478,414 1,349,560 1,593,788 1,635,716 1,747,748
รวม 3,303,305 2,978,164 4,214,866 4,408,146 4,625,388
ทีม่ า : ศูนยวแ ิจัยดานตลาดการทองเทย่ี วแหง ประเทศไทย, 2557
9. การเดนิ ทาง
การเดนิ ทางโดยเรอื
1. ทาเรอื วดั บางนานอก - ทาเรอื วัดบางน้าํ ผง้ึ นอก
ทา เรือวัดบางนานอก อยูที่ ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เรือ
ขา มฟากท่นี เี่ ป็นเรือโดยสารขนาดใหญ สามารถนาํ รถจกั รยานและมอเตอรไแ ซคลแ งเรือไปได ใหบริการ
ต้ังแตเวลา 05.00 น. หรือขับรถยนตแไปทางบางนาก็สามารถจอดไวท่ีวัดบางนานอก แตถาไมมีรถ
สว นตัว สามารถขนึ้ BTS มาลงที่สถานีบางนา ทางออกท่ี 2 ตรงมาทางส่ีแยกบางนาแลว เล้ียวซายเขา
มาใน ถ.สรรพาวุธ จากนน้ั ตรงเขามาจนสดุ ทางก็จะพบกบั ทา นํ้าวดั บางนานอก คาโดยสารแค 4 บาท
(6 บาท สําหรับคนท่ีมีจักรยานมาดวย) เม่ือขามไปถึงแลวจะมีรานเชาจักรยานอยูทางดานซายของ
ทางออกทาน้ําวัดบางนาํ้ ผึง้ นอกคนั ละ 80 บาท ปัน่ ไดท ้ังวัน และไดแ ผนทีบ่ างกะเจาพรอ มคําแนะนํา
2. ทา เรอื วดั คลองเตยนอก - ทา เรือบางกะเจา(กาํ นนั ขาว)
19
ทาเรอื วดั คลองเตยนอก อยูที่ ถนนเกษมราษฎรแ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย เรือทท่ี านจ้ี ะ
เปน็ เรือหางยาว สามารถนาํ รถจกั รยานลงไปดวยได แตจ ะไดไมก ี่คนั เนอ่ื งจากไมใ ชเรอื ใหญ คา โดยสาร
คนละ 20 บาท ถา มาทางนจ้ี ะใกลพพิ ิธภณั ฑแปลากกัด และสวนศรนี ครเขื่อนขันธแ
3. ทาเรือ ขา งธนาคารกรงุ เทพ สํานกั งานพระราม 3 – ทาเรอื วดั บางกะเจานอก
ทาเรือ ขา งธนาคารกรุงเทพ สํานักงานพระราม 3 อยูท่ี ถนนพระรามท่ี 3 แขวงชองนนทรี
เขตยานนาวา อยูระหวางทาเรือธนาคารกรุงเทพ กับ ทาเรือตรงทาน้ําสาธุประดิษฐแ เป็นทาเรือใต
สะพานภมู พิ ล (อยูในสวนสาธารณะใตสะพาน ฝ่ังพระราม 3) คาเรอื ขามไป คนละ 3 บาท สามารถนาํ
มอเตอรแไซคหแ รอื จกั รยาน ลงไปดวย 10 บาทเป็นเรือขนาดใหญ เรือจะไปขึ้นที่ทาเรือใตสะพานตรง
ประตูระบายน้ําคลองลัดโพธิ์
4. ทาเรือสาธปุ ระดิษฐแ – ทาเรอื วัดโปรดเกศเชษฐาราม
ทาเรือสาธุประดิษฐแ อยทู ่ี ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา มีเรอื ใหญ
ใหบรกิ ารตลอดวัน ออกเป็นรอบๆ ขา มมาจะมาถงึ ถนนเพชรหงึ ษชแ ว งตน
การเดนิ ทางโดยรถเมลแ
เดินทางดว ยรถสาธาณะ สามารถนั่งรถเมลแสายตา งๆไดดงั ตอ ไปน้ี
สาย 6 : บางลาํ ภู-พระประแดง จอดเทยี บทีท่ า เรือพระประแดง
สาย 35 : พระประแดง - สายใตใหม (ตล่ิงชัน) สายนี้จะไปสิ้นสุดท่ี วัดรวก ตองตอ
มอเตอรแไซคแรบั จาง รถเมลแ หรอื รถสองแถวทวี่ ิง่ เขาทานา้ํ พระประแดง
สาย 82 : พระประแดง-พาหรุ ัด มาจอดเทียบทท่ี าเรือพระประแดง
สาย 138 : พระประแดง – จตั ุจักร ขนึ้ ท่ี ปาู ยรถเมลแบรเิ วณ BTS หมอชิต ฝ่ังสวนจตุจักร น่ัง
ยาวไปจนถึงวดั กลาง พระประแดง หนาวัดจะมีวินมอเตอรแไซคแรับจางอยู ใหไปสงบริเวณทาน้ําพระ
ประแดง หรือเดนิ ไปประมาณ 600 เมตร
สาย 506 : ปากเกร็ด – พระประแดง รถจะว่ิงไปสดุ สายท่ตี ลาดพระประแดง
20
เมอ่ื มาถึงท่บี รเิ วณทา นาํ้ พระประแดงจะมีรถสองแถวเล็กๆที่เปน็ รถกระปฺอวิ่งไปยังจุดตางๆในคุงบาง
กะเจา รถจะว่งิ เขาถนนเพชรหงึ ษแ เป็นเสน หลักยาวเขาไปในคุงบางกะเจา บางสายก็ตรงเขา ไปจอดใน
วัดบางนา้ํ ผงึ้ ใน ตดิ กบั ตลาดน้ําบางนา้ํ ผึ้ง
การเดินทางโดยรถยนตสแ วนตวั
รถสว นตัวสามารถใชเ สนทาง ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ขามสะพานภูมิพล 1 เขาซอยทรง
ธรรมและเขาสูถ นนเพชรหงึ ษแ ว่ิงตรงเขา คงุ บางกะเจา
ประวตั คิ วามเป็นมา
ตาํ บลบางนํา้ ผ้งึ อําเภอพระประแดง จงั หวดั สมทุ รปราการ เป็นตาํ บลหนึ่งในเขตอําเภอพระ
ประแดง จงั หวัดสมทุ รปราการ เหตุทไี่ ดช ่อื ตาํ บลวา "บางนํา้ ผงึ้ " นั้น จากคําบอกเลาของผูสูงอายุเลา
กนั ในหลายทม่ี า บา งวาเดิมพื้นทีแ่ หง นี้เปน็ พืน้ ท่ีท่มี ียนื ตน และไมผ ลทีม่ ีความอดุ มสมบูรณแมาก ทําให
มผี ง้ึ มาอาศัยอยเู ป็นจํานวนมาก ชาวบา นทีอ่ าศัยอยูในบริเวณน้มี ักจะเขาปุาหานํา้ ผ้ึงกันไดเป็นจํานวน
มาก จึงรยี กกันตอมาวาตําบลบางน้าํ ผงึ้ และนิยมนาํ มาใสบ าตรถวายแตพ ระภกิ ษุสงฆซแ ง่ึ ถือเป็นของสูง
และมีคณุ คา มีความบรสิ ุทธ์ิ จงึ เกิดเป็นประเพณีตักบาตรนํ้าผึง้ สบื ตอกันมา เป็นการปฏิบัติตามอยาง
เม่อื ครั้งพุทธกาล ประชาชนก็นิยมถวายนํา้ ผึง้ ใหกบั พระพุทธเจา อคี าํ บอกเลา หนง่ึ คือ ชมุ ชนแหง นเี้ ปน็
ชมุ ชนดงั้ เดมิ ตงั้ แตค รัง้ สมัยกรงุ ศรีอยุธยา เติมมชี ื่อหมูบ านอยา งไรนัน้ ไมป รากฏหลักฐานแคมีเร่ืองเลา
วา ครั้งหนึ่งพระองคแเจาสายน้ําผ้ึง และพระนางเจาสุชาดาไดเสด็จประพาสทางชลมารคมาในพ้ืน
บริเวณตามลาํ น้ําเจาพระยา เมอื่ เสดจ็ มาถงึ บรเิ วณนีพ้ บวา พื้นทบี่ รเิ วณนี้มีความรมร่ืน อดุ มสมบูรณแ มี
พนั ไมข้นึ อยหู นาแนนทาํ ใหมีฝงู ผึ้งมาอาศยั อยเู ป็นจาํ นวนมาก และมีผเู ก็บน้ําผึ้งมาถวาย พระนางเจา
สุชาดาจึงทรงอธิษฐานจิตวาหากนํ้าผ้ึงท่ไี ดร ับมาสามารถชวยรักษาโรคเรื้อรังของพระธิดาได จะทรง
สรางวดั ถวายไวใ นพ้ืนทีช่ มุ ชนแหงน้ี เปน็ ทีน่ ําอัศจรรยวแ าน้ําผ้ึงท่ีไดมาจากบริเวณน้ีสามารถรักษาโรค
ของพระธิดาได พระองคแเจาสายนํ้าผึ้งจึงโปรดใหสรางวัดบางน้ําผ้ึงนอก และพระนางเจาสุชาดาได
โปรดใหสรางวดั บางนาํ้ ผึ้งในขึ้น และต้ังชื่อวา “วัดสุชาดา” ซ่ึงตอมาไดเปลี่ยนชื่อมาจนเป็นวัดบาง
น้ําผ้ึงใน มาจนถึงปัจจบุ นั นี้ และเรียกชมุ ชนบริเวณวา “บา นบางน้ําผงึ้ ” และตอ มาจึงตงั้ เป็นตาํ บลบาง
น้ําผงึ้ มาจนถึงปัจจุบนั นี้
21
3.2 ข้อมลู เกยี่ วกบั แหล่งเรียนรู้ในต้าบลบางน้าผ้งึ และแหล่งเรียนรู้ใกลเ้ คยี ง
จากการสํารวจและลงพื้นท่ีเพ่ือทําการเก็บรวบรวมขอมูลท่ีตําบลบางนํ้าผึ้ง อําเภอพระ
ประแดง จงั หวดั สมุทรปราการ มีแหลงเรียนรูดงั ตอ ไปนี้
1. วิสาหกจิ ชุมชน บา นธูปหอมสมุนไพร
2. บา นลูกประคบสมนุ ไพร วสิ าหกจิ ชมุ ชนหตั ถศาสตรแเพ่ือสุขภาพ
3. ศูนยกแ ารเรยี นรูแพทยแแผนไทย
4. ตลาดบางนาํ้ ผง้ึ
5. กลุม บางนาํ้ ผึ้งพอเพียง
6. วดั บางนํ้าผง้ึ นอก
7. โรงเรียนวัดบางน้าํ ผึ้งนอก
8. ศูนยกแ ารเรียนรูเพาะเห็ด (ฟารแมเหด็ ชางแดง)
แผนที่แหลงเรียนรใู นตําบลบางนา้ํ ผง้ึ และแหลง เรยี นรูใ กลเ คียง
22
แหลง่ เรยี นรู้ท่ี 1 วสิ าหกิจชุมชน บา้ นธูปหอมสมนุ ไพร
1.1 ที่ต้งั
ที่ต้งั
22 หมู 3 ตําบลบางนา้ํ ผึง้ อําเภอพระประแดง จังหวัดสมทุ รปราการ
การเดนิ ทาง
อยูใกลกับตลาดน้ําบางนํ้าผ้ึง บานธูปหอมสมุนไพรอยูในซอยหมูบาน OTOP เพ่ือการ
ทอ งเทีย่ ว บนถนนบวั ผึง้ พัฒนา ซง่ึ รถยนตแไมสามารถเขาไปได แตสามารถจอดรถใกลกับทางเขามีท่ี
รับฝากจอดรถ หากมาจากทางตลาดน้ําบางนาํ้ ผึง้ เดินออกไปทางดานหลังตลาด ทางปูนเลียบคลอง
ออกถนนหลกั เล้ียวซา ยกจ็ ะถึง หรือถาป่นั จกั รยานมาจากทาเรือวัดบางน้าํ ผงึ้ นอก ออกจากทา เรือแลว
เล้ียวซายปน่ั มาทางสายใน ผานบางกอกทรีเฮาสแ บา นธูปจะอยกู อ นออกไปตลาดนาํ้ บางน้าํ ผึง้
การตดิ ตอ่
โทรศัพทแ : 02 815 0729
Facebook : teenee.baantoop
เวลาท้าการ
เปดิ ทาํ การวันเสาร-แ อาทิตยแตัง้ แต 09.00 น.-15.00 น.
23
ผใู้ หส้ ัมภาษณ์
คุณกญั ญาพร นวลสอาด (เจา ของบานธปู หอมสมนุ ไพร)
1.2 ประวตั ิความเปน็ มาของแหลง่ เรียนรู้
วิสาหกจิ ชุมชน บานธูปหอมสมุนไพร เกิดข้ึนเม่ือคร้ังวิกฤตนํ้าทวมใหญในพ้ืนที่สวนเกษตร
ของชาวบา น ในปี พ.ศ.2538 สรา งความเสียหายและตอ งใชเวลาในการฟื้นฟูพ้ืนที่ทําการเกษตร จึงมี
แนวคิดท่จี ะเรียนรูและหาอาชพี อ่นื มาทดแทน เริ่มจากการเรียนรูการทําธูปหอม 7 สีข้ึนมากอน แต
เน่ืองจากไมเขากับวิถีชีวิตชุมชน จึงปรับเปล่ียนโดยหาวัสดุทองถ่ินมาใช เพ่ือเป็นการลดตนทุนการ
ผลิต และใหเ ขากับวิถีชมุ ชนทอ งถน่ิ จนไดเ ปน็ ผลติ ภัณฑธแ ปู สมุนไพรสําหรบั ไลยุง มรี ปู แบบเหมือนธูป
บชู าพระ ใชจ ุดในลักษณะเดียวกัน เพียงแตธูปสมุนไพรนี้ใชจุดสําหรับไลยุง ไลแมลงไมใหมารบกวน
(ไมไ ดฆา ) และไมเ ป็นพษิ ตอ มนษุ ยแดวย หลังจากไดผลติ ภัณฑทแ ี่เหมาะสมตอ ชุมชนแลว ไดเผยแพรภูมิ
ปญั ญาการทาํ ธปู สมุนไพร และเปิดสอนใหแ กคนในชุมชน นักเรียนนักศกึ ษา ผูที่สนใจใฝุรูตองการตอ
ยอดทาํ เปน็ อาชพี เสรมิ จนกระทงั่ จดั ตงั้ เปน็ วิสาหกจิ ชมุ ชน ท่ีไดรวบรวมความรูความสามารถดานอ่ืน
ของคนในชมุ ชน แลกเปลย่ี นองคคแ วามรู และถายทอดใหกบั ผมู าเยีย่ มเยอื น
1.3 การบริหารจัดการแหล่งเรยี นรู้
ผูบ ริหารและผูดแู ลศูนยแ
- คณุ กัญญาพร นวลสอาด (เจาของบานธูปหอมสมุนไพร)
งบประมาณ
- สว นใหญมาจากการเก็บคาเขา ชม และการฝึกอบรม
1.4 เน้อื หาสาระในแหล่งเรียนรู้
- การทาํ ธูปหอมสมุนไพร
- การทําผามัดยอ ม
24
1.5 กิจกรรมในแหล่งเรยี นรู้
1. การทําธปู หอมสมุนไพรไลย ุง
ธูปสมนุ ไพรไลย งุ มีคณุ สมบตั ิแตกตางจากธูปทั่วไปที่จุดไหวพระ เพราะตองการใหกลิ่น และ
สรรพคณุ ของพืชสมนุ ไพรชว ยไลย งุ และแมลงไมใหม ารบกวนบริเวณน้นั ไมไ ดเปน็ การฆา จึงไมไ ดเป็น
ยาฆา แมลง หรอื เปน็ สารพษิ วัตถดุ ิบทีใ่ ชใ นการทาํ ธูปสมุนไพร
1) กานธูป หรอื สว นฐาน เปน็ พื้นฐานการเตรียมกานธปู กอ นนาํ มาทําธปู ทุกชนิด ตัวกานที่น่ี
จะทาํ จากไมไ ผ แตด วยคณุ สมบัตขิ องไมไผท ่ไี มสามารถติดอะไรไวไดนาน จงึ ตองเตรียมตัวประสานให
25
ติดไวท ีไ่ มก อ น ขั้นตอนการเตรียมจะนาํ ไมไ ผไปจุม น้าํ แลวชบุ ผงยางบง* เฉพาะสวนทจี่ ะใหผ งธูปตดิ
หรือสวนทจ่ี ะใชจดุ ไฟ (ทําซาํ้ สัก 2-3 ครงั้ ) แลวตากพักไว
* ยางบง หรือ จันทนแเหนียว หรอื โกบวั้ กอบวั้ หรอื ผงทําธูป (แลว แตจะเรยี ก เปน็ ผงทีน่ าํ มาทาํ เปน็
ธูป) สวนใหญเ ป็นผงทที่ ํามาจากเปลือกของตนยางบง (ตน ยางชนดิ หนึ่ง พบแถบนครพนม
นครราชสีมา) นํามาทาํ ใหแหง แลว บดละเอียดเป็นผงเหมอื นแปงู ใชเ ป็นตวั ประสานทมี่ ีความเหนยี ว
ชว ยในการยดึ เกาะไดดี มักใชเ ปน็ พ้ืนในการทาํ ธูปท่ัวไป
2) ตัวธูป เป็นสวนผสมทจ่ี ะใชต ดิ บนธูป หรือสว นที่จะจุดไฟใหเกิดเป็นควัน หากเป็นธูปไหว
พระธรรมดา มักจะมีขเ้ี ลือ่ ยเปน็ สว นผสมหลัก สาํ หรับธูปสมุนไพรไลยงุ จะใชวัตถุดิบทม่ี ีสรรพคุณทาง
สมุนไพร ชว ยไลแ มลงได ซ่ึงแลว แตส ตู รของแตละคน สาํ หรบั ทีน่ จ่ี ะใชสมุนไพรทองถ่ินที่หาได หรือท่ี
เหลอื ใชแลว ไดแ ก ไมม ะมวงบด เปลือกมะกรูด ใบตะไครหอม เปลือกสม เปลือกมะนาว ใบสะเดา
อบเชย ขม้ินชัน ทงั้ หมดนก้ี อ นนํามาทาํ ธูปจะตองตากแหง และนําไปบดใหเ ปน็ ผงละเอียดเสยี กอ น
3) สว นผสมอ่นื ๆ ไดแก น้าํ สผี สมอาหาร (หากตองการใหมสี ีสวย) นํ้ามันตะไครห อม (เพ่ือให
มีกลิ่นหอม) เป็นตน
ขน้ั ตอนการทาํ ธูป
1. นําสวนของผงสมุนไพรแตล ะชนิดผสมกัน (อาจแบง เป็นพวกๆ ไมใ หก ลน่ิ ตกี นั กไ็ ด) จากน้ัน
ผสมน้ําเขา ไปทลี ะหนอ ย แลว ใชม ือนวดใหทง้ั หมดเขา กนั คอ ยๆ เตมิ นา้ํ และคลุกไปจนรูสกึ
เหนียว นมุ มือ หยิบไมต ดิ มอื หากตองการใหธูปมสี ีสวย ใสส ผี สมอาหารลงไปดว ยก็จะไดธูปสี
สดสวย
26
2. นํากานธปู ท่ีเตรียมชบุ ยางบงไวแ ลว มาเตรียมปนั้ โดยนาํ สว นสมนุ ไพรโปะติดไวท ี่กา นธปู ตรง
สวนท่ีชุบยางบงไว จากนั้นคอ ยๆ รูด ใหข ดเปน็ เหมอื นเกลยี วสวาน การหมนุ ใหเ ปน็ ลอนแบบ
นี้ นอกจากจะไมเหมอื นทีไ่ หนแลว ยงั เปน็ การชะลอการเผาไหมของตวั ธปู ชว ยใหต ิดนานขึน้
ดว ย
3. เมือ่ ทาํ เสร็จแลว ปักไวใ นกระถางทราย แลว นําไปตากแดดออนๆ ไว 2-3 วนั รอใหแ หง (ไม
ตากแดดจัด เพราะจะทําใหธ ปู แตกได)
27
2. การทําผามดั ยอม
ผา มัดยอ ม เป็นเทคนิคการทาํ ลวดลายผา ดว ยการมดั พบั มว น เย็บ โดยใชอ ปุ กรณแทีห่ าไดงา ย
โดยทัว่ ไป หากใครตองการทําผามดั ยอ ม ใชเ วลาเพียงไมน าน และเรียนรขู น้ั ตอนการทาํ ไดไ มย าก ทาง
บา นธูปหอมจะเตรียมวตั ถดุ บิ ไวใ ห ไดแ ก
ผา พืน้ ขาวหรือสีออ น เนื้อออกบางหนอย (นยิ มใชผ า สปันเรยอน ผา ฝูาย และตอ งนําไปซกั
เพอื่ เอาแปงู และเคมีออกกอ น เยบ็ รมิ ขอบใหเ รียบรอย กอ นนาํ มามัดยอ ม) มใี หเ ลือกช้นิ ใหญ
ชิ้นเล็ก
สมี ดั ยอม + พูกนั หรอื แปรงลงสี สียอมผาจะมสี หี ลักๆ ใสชามไวให เชน แดง เหลอื ง นํา้ เงนิ
สม ชมพู หรอื อยากจะผสมเอง ใหส ีออกมาปนๆ กันม่งั ก็ไดนะ
หนังยางรดั แกง หรือหนงั สต๊กิ เป็นตวั รดั ผา ใชแ บงการลงสี
ปอ็ กกีฉ้ ีดนํ้า ถุงมอื ทิชชู
ขน้ั ตอนการทําผา มัดยอ ม
1. เลอื กแบบที่ตอ งการกอ น เพราะการมดั ผาใหออกมาเป็นลวดลายตา งๆ มเี ทคนคิ การมดั ท่ี
ตางกัน ลวดลายมหี ลากหลายใหเ ลอื ก ที่นี่จะมีลายผาทท่ี ําไวเ ปน็ ตัวอยางใหด ู เชน ลายกน
หอย (มเี รียกแยกยอ ยไปอีก เชน หอยออรา กน หอยใหญ หอยลาย) ลายกนก ลายสเ่ี หล่ยี ม
ลายหัวใจ เป็นตน
2. นาํ ผา ผืนมาวางบนพน้ื โต฿ะเรยี บๆ ใชป ฺอกกฉ้ี ีดใหห มาดๆ จากนน้ั มัด มว น บดิ พับ โดยใช
อปุ กรณแตา งๆ ชวย เชนตะเกยี บ หนงั สต๊กิ เปน็ ตน
3. ใชพกู นั ลงสี ตามทีต่ องการ ในจดุ ทมี่ ีตัวมัดแยกไว (จะมคี นคอยแนะนาํ การลงสใี ห)
4. ใชท ชิ ชซู บั สีท่ีใสเ ยอะ ใสช ุม เกนิ ไป เพอ่ื ใหส ีเนียนเขา กนั จากน้ันแกะตรงทมี่ ัดไวอ อกมา แลว
นาํ ไปตากแดดใหแหง
28
การวิเคราห์ SWOT วิสาหกิจชุมชน บา้ นธปู หอมสมนุ ไพร
ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก
SW O T
- มกี จิ กรรมไดล งมือ - มปี ูายใหค วามรใู น - มีแหลงเรยี นรูใ นบรเิ วณ - ไมมีหนว ยงานให
ปฏบิ ตั จิ รงิ แหลงเรียนรูนอย ใกลเ คยี งจํานวนมาก ทาํ ใหม ี การสนบั สนุน
นกั ทอ งเท่ยี วอยตู ลอด งบประมาณ
- มีวทิ ยากรใหความรู - การตกแตงภายใน
แหลงเรยี นรูไมค อ ย - เน่อื งดว ย
- มผี ลติ ภัณฑจแ าก นาดงึ ดูด สถานการณโแ ควดิ 19
แหลง เรยี นรจู าํ หนา ย ทผ่ี า นมาทาํ ให
- แหลงเรียนรตู ง้ั อยู นักทอ งเที่ยวลดลง
- กิจกรรมเหมาะกบั ในพื้นทที่ ่ีผูคนเขา ถงึ
ทุกชวงวัย ไดง าย
- ใหบ รกิ ารดี
- สถานท่ีสะอาด
ทศั นยี ภาพดี
29
แหลง่ เรียนรูท้ ่ี 2 บ้านลูกประคบสมุนไพร วิสาหกจิ ชมุ ชนหตั ถศาสตร์เพ่ือสขุ ภาพ
1.1ทีต่ ัง้
ที่ต้งั
บานลูกประคบสมนุ ไพร หมู 3 ต.บางน้าํ ผง้ึ อ.พระประแดง จ.สมทุ รปราการ 10130
การเดินทาง
ในกรณีเดนิ ทางดว ยรถสวนตัว โดยใช Google map เปน็ GPS นําทางมาไดเ ลย พมิ พคแ ําวา
“ตลาดน้ําบางน้าํ ผึ้ง”
รถโดยสารสาธารณะ
- ปอ.138 วงิ่ จากจตจุ ักรข้นึ ทางดว นมาลงตลาดพระประแดง หรือบางคร้ังรถจะไมถึงตลาด
พระประแดง ใหลงปูายวดั สนลงจาก ทางดวนมาปาู นแรกแลวตอสาย 82 ไปลงตลาดพระประแดง
- สาย 82 วง่ิ จากสนามหลวงมาถึงพระประแดงเชน กัน
- ปอ.140 จากอนุสาวรยี ชแ ยั สมรภูมเิ มื่อรถลงจากทางดวนสุขสวัสด์ิใหลงปูายแรก แลวตอรถ
สาย 82 เขาตลาดพระประแดง
30
- สาย 506 จากปากเกร็ดไปยังตลาดพระประแดง จากนั้นเดนิ ไปที่วาการอําเภอพระประแดง
ตอรถกระปฺอไปยงั ตลาดนํา้ บางน้าํ ผ้ึง
ทางเรอื
เดินทางโดยรถประจาํ ทาง หรือรถไฟฟูา BTS สามารถน่ังรถ BTS มาลงที่สถานีบางนา แลว
ตอ รถรถแทก็ ซ่ี หรือมอเตอรแไซรับจาง โดยแจง วาไปวดั บางนานอก จากนน้ั นงั่ เรอื ขา มฟาก คา โดยสาร
คนละ 3 บาท จกั รยาน 7 บาท มอเตอรแไซตแ 10 บาท ทาเรือน้ีอยูตรงสุดทาง ถนนสรรพาวุธทางมา
สํานักงานเขตบางนาแหงใหม มาลงที่ทาเรือของวัดบางน้ําผึ้งนอกฝ่ังตลาดบางน้ําผ้ึงจากน้ันตอ
มอเตอรแไซคแรบั จางหรอื จะเชาจักยานบรเิ วณวดั บางนาํ้ ผง้ึ นอก วนั ละ 50 บาท เพอ่ื ปน่ั ไปไปตลาดและ
ทอ งเที่ยวตามจุดตา งๆ
การตดิ ตอ่
เบอรโแ ทรติดตอ 0840092266
E-mail : [email protected]
https://www.facebook.com/herbcompress
เวลาทา้ การ
เปดิ ต้ังแตเวลา 08.00 -16.00 น. เสาร-แ อาทิตยแ และ วันหยดุ นกั ขัตฤกษแ
หน่วยงานทีร่ บั ผดิ ชอบ
กองสง เสรมิ วสิ าหกิจชมุ ชน กระทรวงเกษตรและสหกรณแ
สมั ภาษณ์
คุณบุญสบื พูลสุข (ผูดแู ลศูนยกแ ารเรียนร)ู
31
1.2 ความเป็นมาของแหลง่ เรยี นรู้
“ลูกประคบ” สมุนไพร ไมปรากฏหลักฐานวาเกิดข้ึนเมื่อใด แตมีความเช่ือวา เกิดจากภูมิ
ปัญญาของคนใน สมัยโบราณ และหมอพื้นบาน ที่ตองการบรรเทาอาการปวดเมื่อยของคนใน
ครอบครัว ความรูเรือ่ งสมุนไพรของหมอ พ้นื บานประจาถ่ิน ท่ีตองการชวยเหลือคนไขใหหายจาการ
เจ็บปวุ ย จึงไดพัฒนารูปแบบของการนวดคลึงมาสูการนําสมุนไพรหลายชนิดมารวมกันบดพอหยาบ
แบงตามสัดสวนและน้ําหนักตามตองการหอดวยผาดายดิบนึ่งดวยไอน้ํา กอนใชสวนใหญจะเป็น
สมุนไพรทมี่ สี รรพคณุ เก่ยี วกับกลา มเนอ้ื เสน เอน็ ไขขอ มนี าํ้ มันหอมระเหย เมอื่ ถกู ความรอนจะระเหย
ออกมาซึมเขาตามรูขมุ ขน และประเพณีไทยตง้ั แตด ้งั เดมิ นิยมใชเ พอ่ื การผอ นคลายกลามเน้ือหลังการ
ทํางานบรรเทาความเมือ่ ยลา ปวดเมื่อยดวยการนา ลูกประคบนวดคลึงตามบริเวณที่ปวดเม่ือยและทุก
สวนของ รา งกายผหู ญิงหลังคลอดบตุ รจะอาบนํ้าตมสมนุ ไพร อบ ประคบ เพื่อชา ระรา งกายใหสะอาด
ทาตวั ดวยไพลขมิ้น เพือ่ ชวยในการรักษาและบํารุงผิวพรรณมีการอยูไฟเชื่อวาทําใหสุขภาพแข็งแรง
และฟืน้ ตัวเรว็ ข้ึนกระตุน การหดตัวของ มดลูก ทําใหมดลูกเขาอูเร็วชวยเพ่ิมการไหลเวียนโลหิตดีข้ึน
เลอื ดลมเดนิ สะดวก
โรคจากการประกอบอาชพี เปน็ สาเหตุท่ีสง ผลกระทบตอสขุ ภาพของประชาชนวยั ทํางาน และ
เศรษฐกจิ เน่อื งจากตองสญู เสยี ท้ังทรพั ยากรบคุ คล หรือสูญเสยี เวลาจากการหยุดงาน อีกทัง้ มุมมองใน
เชิงนโยบายระดับประเทศท่ีตองสูญเสียงบประมาณ เพ่ือการรักษาพยาบาลโดยเฉพาะกลุมโรคทาง
ระบบโครงรา งและกลามเนือ้ ซึ่งเกิดไดบอยในกลุมคนทํางานในสํานักงาน ขอมูลจากสํานักงานสถิติ
แหงชาติ ในปี พ.ศ. 2552 มีผูมีงานจํานวนท้ังสิ้น 36.2 ลานคน เป็นผูทํางานในสํานักงานประมาณ
3,865,100 คน หรือคิดเป็นรอยละ 11.0 ของผู มีงานทําท้ังหมด ในจํานวนนี้ มีผูที่ปุวยเป็นโรคปวด
คอ/ไหล จํานวน 1,623,342 คน (รอยละ 42.0) และปุวยเป็นโรคปวดหลังสวนบั้นเอวแลวจํานวน
1,314,134 คน (รอ ยละ 34.0) ซ่ึงเปน็ สาเหตุของความสญู เสยี ทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลคาเทากับ 1.1
หม่นื ลานบาทตอ ปี โดยหากสามารถลดความชกุ ของการเกิดโรคน้ีลงเพยี ง รอยละ 10 กจ็ ะสามารถลด
ความสญู เสยี ทางเศรษฐกิจ ลงไดม ากถงึ 2,500 ลานบาท จากขอมูลรายงานสถานการณแโรคจากการ
ประกอบอาชีพและสิง่ แวดลอ ม พ.ศ. 2546-2552 ของสาํ นักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคพบวากลุม
อาการผิดปกติทางระบบกระดูกโครงรางและกลามเน้ือ (Musculoskeletal Disorders; MSDs) ไดมี
รายงานจํานวนผูปุวยสูงสุดมาเป็นอันดับ 1 ของการเจ็บปุวยดวยโรคจากการประกอบอาชีพและ
32
สิง่ แวดลอ มทกุ กลุม ซึง่ มีจํานวนท้ังส้ิน 13,290 ราย และจําแนกเป็นกลุมปวดหลังจากอาชีพจํานวน
9,482 ราย (รอ ยละ 71.3) อาการปวดจากความเคนของกลา มเนือ้ อน่ื ๆ จาํ นวน 3,808 ราย (รอยละ
28.7)
ปจั จุบนั ประชาชนโดยทั่วไปมีปัญหาทางดานสุขภาพอนามัยเป็นอยางมาก เนื่องจากมีการ
เปลยี่ นแปลงทาง สังคมเป็นอยางมาก โดยภายในโรงเรียนคุณครูและนกั เรียนปวดเม่ือยกลา มเน้ือเป็น
อยางมากซึง่ เป็นภาวะอันกอ ใหเกิดความราํ คาญ และมีผลตอ การดําเนนิ ชวี ติ ประจําวนั ซง่ึ อาจมีมูลมา
จากหลายสาเหตุ เชน การกระทบ กระแทก เคล็ดหรือขอพลิก และการ ใชกลามเน้ือในการทํางาน
เป็นเวลานาน เป็นตน ยาประคบสมุนไพร การประคบดวยสมุนไพร เป็นวิธีการบําบัดรักษาของ
การแพทยแแผนไทยอีกวธิ ีหนึ่ง ซง่ึ ใชค วบคกู บั การนวดไทย คอื มักทําการประคบหลังจากนวดเสร็จแลว
ผลของการรักษาดว ยการประคบสมนุ ไพร เกดิ จากผลของความรอนท่ีไดจากการประคบและผลจาก
การทต่ี วั ยาสมุนไพรซึมผานชน้ั ผิวหนงั เขา สูรางกาย ผลของความรอนจากการประคบท่มี ตี อการรักษา
คอื ชวยทําใหเนือ้ เย่ือพงั ผืดยืดตวั ออก , ลดการติดขัดของขอ ตอ , ลดการเกร็งตัวของกลามเนื้อ , ลด
ปวด , ชว ยลดการบวมทเี่ กิดจากการอักเสบของกลามเนอ้ื เอ็น และขอ ตอ หลงั การบาดเจ็บ 24 – 28
ชว่ั โมง และชว ยเพิม่ การไหลเวยี นของโลหิต ผลของสมุนไพร สมุนไพรท่ีใชในตําหรับยาลูกประคบมี
แตกตา งกนั ไป
การทํางานบางครัง้ อาจทําใหเ ราเกิดความเสย่ี งหรือพบเจออันตรายในหลากหลายรปู แบบแต
การเจบ็ ปวุ ยทีถ่ ือวาเร้ือรงั คือการเม่ือยลาและปวดเมื่อยบริเวณรา งกายท่ีใชงานเป็นประจําหรืออยูใน
ทาทางการทาํ งานท่ีซาํ้ ๆ การทํางานตางๆไมวาจะในหรือนอกสถานประกอบกิจการ จะสามารถพบ
เห็นการปฏิบัติงานท่ีทําใหเกิดอาการเม่ือยลา ปวดขอ ปวดหลัง ซึ่งอาการเหลาน้ีเป็นอาการท่ีสืบ
เนอ่ื งมาจากการทา งานผิดหลกั การศาสตรแ เชน การยกของหนัก ทา ทางการน่งั ทาํ งานกบั คอมพวิ เตอรแ
การทาํ งานในฝาุ ยผลิตช้นิ งานการเตรียมงาน หรอื งานตางๆท่ที า ในทา ทางที่ซ้าํ เป็นตน
ลูกประคบสมนุ ไพรลกู ประคบชาวบานตําบลบางน้ําผ้ึง ไดเล็งเห็นประโยชนแของสมุนไพรไทย
ซึ่งมีในชุมชนที่ปลูกกันท่ัวไปมาแปรรูป และเพ่ือเป็นการอนุรักษแภูมิปัญญาทองถ่ิน ใชวัตถุดิบใน
ทองถนิ่ ใหเกดิ ประโยชนแแ ละสรางรายได จึงไดรวมกลุมกันผลิตสมุนไพรลูกประคบ ซึ่งปรับปรุงตาม
องคแความรูจากบรรพบุรษุ สูร นุ หลานสืบทอดมา จนถงึ ปัจจุบนั และพัฒนาสูสปาสถานเสริมความงาม
สถานทนี่ วดแผนโบราณ และตามหอ งสรรพสนิ คาตางๆ
33
เพอื่ ใหต อบโจทยแทางการตลาดลูกประคบธัญพชื เกิดขึ้นจาก คุณศิริพร พูลสุข ประธานกลุม
ทํางานอยทู ่ี โรงพยาบาลพญาไท 1 ไดมองเหน็ ชอ งทางและโอกาสในการทําผลิตภัณฑแลูกประคบ ซึ่ง
เกิดจากปจั จยั ทางการตลาด ในเร่ืองของ การรกั ษาสขุ ภาพ และสมนุ ไพรบําบัดโรค และการบอกเลา
ของเพื่อนรวมงาน เรื่องอาการปวดคอ ปวด หลัง ในระยะแรกจึงไดผลิตลูกประคบสมุนไพรสดขึ้น
และนํามาจาํ หนายใหก ับเพอื่ นรวมงาน และในชุมชนในยุค แรกน้ลี กู ประคบแบบสมนุ ไพรสด มีขอเสีย
ในเรือ่ งของการใชง านทมี่ ีระยะเวลาส้ัน , เสื้อผามีคราบสมุนไพรติดซัก ออกยาก จึงไดคิดหาวิธีที่จะ
แกไขปญั หาเหลาน้ัน และไดรวมกันภายในกลุมคิดปรับเปล่ียนและพัฒนากรรมวิธีในการผลิต จาก
สมนุ ไพรสดมาเปน็ การนาํ ธญั พืชมาทดแทน อกี ทัง้ ยังสามารถแกไ ขปญั หาเหลาน้นั ไดอ ยางตรงจดุ และ
มีคุณประโยชนแของการใชงานก็มีความหลากหลายพกพาไปไดทุกท่ีระยะเวลาการใชงานที่ยาวนาน
และมกี ารพฒั นารปู แบบตางๆ ออกมาสทู อ งตลาดอีกมากเพ่อื สนองความตองการของผูบ ริโภค
1.3 การบริหารจดั การ
ในการลงพน้ื ท่ศี กึ ษาบานลกู ประคบสมุนไพร วสิ าหกิจชุมชนหตั ถศาสตรเแ พ่ือสุขภาพ ผูจัดทํา
ไดต ิดตอ ขอความอนเุ คราะหสแ ัมภาษณแผูดูแลและผปู ระสานงานภายในศูนยแการเรียนรู คือ ศิริพร พูล
สขุ โดยมกี ารสอบถามขอมลู ของแหลง เรียนรดู งั น้ี
ผูบริหารและผูดูแลศนู ยแการเรยี นรู
คุณศิริพร พูลสุข ประธานวิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตรแเพ่ือสุขภาพ เป็นผูดูแลและติดตอ
ประสานงานภายในแหลง เรยี นรบู า นลูกประคบสมุนไพร วิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตรแเพื่อสุขภาพ วัน
ปกติจะเปดิ รานขายลูกประคบและมีบรกิ ารนวดประคบธญั พชื
ปจั จุบันเปิดเป็นศูนยกแ ารเรยี นรู และขยายผลใหผูสนใจเขามาเรียนรูอยางตอเนื่อง ไดศึกษา
และลงมือปฏบิ ตั กิ ารทาํ ลูกประคบธญั พชื
งบประมาณและหนวยงานทส่ี นบั สนุน
งบประมาณหลกั ไดจ ากการขายผลติ ภณั ฑแ ธัญพชื ประคบพูลสขุ การใหบ ริการนวด คาสอน
ทาํ ลกู ประคบ
34
1.4 เน้ือหาการเรียนรู้
- การทําลกู ประคบ
1.5 กจิ กรรมในแหล่งเรียนรู้
การท้าลูกประคบธญั พชื
วัตถุดิบ/สวนประกอบ/เคร่อื งมือ/อปุ กรณทแ ใ่ี ช
เมลด็ ธัญพืช
เม็ดถ่ัวเขยี ว
ขาวเหนียวเขีย้ วงู
เมล็ดถว่ั ตาง ๆ
สมนุ ไพรจากการบรู
อน่ื ๆ เชน ผาดบิ ลายสอง เขม็ ดาย ผา กาว กะลา พมิ เสน การบูร ออกแบบและพฒั นา
นวัตกรรมใหเหมาะสมกบั การใชงาน
ขั้นตอนการผลิต
1. นําเมล็ดธัญพชื ตา งๆทค่ี ดั ไวม ารวมกนั ภาชนะ
2. คลกุ เคลา ธัญพชื ตางๆ
3. กรอกธญั พืชใสถ งุ ผาดบิ ใสใ นรปู แบบตา งๆ
4. กรอกธญั พชื ใสถ งุ ในแลวนาไปเยบ็ ปดิ ปากถุงแลว นาไปใสป ลอกนอก
5. เย็บปากถงุ ไสใ น
6. ใสปลอกนอกเสร็จตามรปู แบบทตี่ องการ
35
วธิ กี ารใช
นําเขา ไปอบในตูไมโครเวฟแค ๑-๒ นาที ไฟแรง 800 องศา สามารถนํามาประคบไดเ ลยไม
เลอะเทอะเสอ้ื ผา สามารถใชงานไดเ ป็นปี ถอดปลอกซักได และมีกล่ินเตมิ ใหห อมไดตลอด โดยการ
กลิง้ พมิ เสนนํา้ ในมอื แลวทาไปใหท ัว่ ลกู ประคบหลังจากออกมาจากไมโครเวฟรอ นๆ จงึ ทา
วธิ ีเกบ็ รกั ษา
ควรเกบ็ ไวใ นท่ีแหง ใสก ลอง เก็บกลน่ิ ใหหอมนานๆ ปอู งกันหนู แมลงสาป ขอ หาม! แชน ้ําหรอื
เขา ตูเยน็
เทคนคิ /เคล็ดลบั ในการผลิต
สว นประกอบตางๆ ของลกู ประคบธญั พชื จะตองตรวจสอบตงั้ แตกระบวนการคัดสรรผขู าย
วัสด-ุ อปุ กรณตแ างๆ ในการผลิตจะตองทาํ ความสะอาดและปลอดภยั อกี ท้ังตรวจสอบคดั กรองคุณภาพ
สวนประกอบอยางละเอยี ดอีกครง้ั เพอื่ ใหไ ดคุณภาพท่ดี ีที่สดุ และในขั้นตอนการผลิตทกุ ขนั้ ตอนจะมี
การชง่ั ตวง เพ่อื ใหผลิตภัณฑแลกู ประคบธญั พืชไดมาตรฐานและคุณภาพและมกี ารตรวจสอบ QC
ผลติ ภณั ฑแ กอ นจะเขา รบั การบรรจุภัณฑแออกสูท องตลาด
36
การวเิ คราะห์ SWOT บ้านลกู ประคบสมนุ ไพร วิสาหกจิ ชุมชนหัตถศาสตร์เพอ่ื สขุ ภาพ
ปัจจยั ภายใน ปัจจัยภายนอก
SW
- เป็นภมู ปิ ญั ญาเกา แก - ทางคบั แคบ และมี OT
ที่มีมาตัง้ แตโบราณ พ้นื ท่ีนอย
- แหลงเรียนรตู ง้ั อยใู น - ไมม ีหนว ยงานใหการ
- ลูกประคบสมนุ ไพร - การตกแตงภายใน พ้นื ทที่ ผ่ี ูค นเขาถงึ ได สนับสนุนงบประมาณ
ทีด่ ดั แปลงใหใ ชงายขึ้น แหลง เรยี นรไู มค อ ยนา งา ย
ในรปู แบบ หมอนรอง ดงึ ดดู - เนอ่ื งดวยสถานการณแ
คอ โควดิ 19 ที่ผา นมาทํา
ใหน กั ทองเทยี่ วลดลง
- ไดรบั รางวัลชนะเลิศ
อันดบั ที่ 1 งาน OTOP
City 2019
- แพคเกจสนิ คาดึงดูด
นาสนใจ และเขา กบั
ยคุ สมยั
37
แหลง่ เรยี นรทู้ ่ี 3 ศนู ย์การเรียนรกู้ ารแพทยแ์ ผนไทย
1.1ที่ต้งั
ทีต่ ั้ง
ศูนยแการเรียนรกู ารแพทยแแผนไทย หมู 3 ต.บางน้ําผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
10130
การเดนิ ทาง
ในกรณีเดนิ ทางดว ยรถสว นตวั โดยใช Google map เปน็ GPS นําทางมาไดเลย พมิ พคแ ําวา
“ศูนยกแ ารเรยี นรกู ารแพทยแแ ผนไทย”
รถโดยสารสาธารณะ
- ปอ.138 วิ่งจากจตุจกั รขนึ้ ทางดวนมาลงตลาดพระประแดง หรอื บางครง้ั รถจะไมถึงตลาด
พระประแดง ใหล งปาู ยวัดสนลงจาก ทางดวนมาปาู นแรกแลว ตอสาย 82 ไปลงตลาดพระประแดงตอ
รถกระปฺอไปยงั ตลาดนาํ้ บางนาํ้ ผงึ้ แลวตรงเขา มาในตลาดน้ําอยทู างซา ยมือติดกับโรงพยาบาลสง เสรมิ
สุขภาพตาํ บลบางน้าํ ผึง
- สาย 82 วง่ิ จากสนามหลวงมาถึงพระประแดงตอ รถกระปอฺ ไปยังตลาดนํ้าบางน้ําผง้ึ แลวตรง
เขามาในตลาดน้ําอยูทางซา ยมอื ติดกบั โรงพยาบาลสงเสรมิ สขุ ภาพตาํ บลบางนํ้าผ้ึง
38
- ปอ.140 จากอนสุ าวรียชแ ยั สมรภูมเิ ม่อื รถลงจากทางดว นสขุ สวสั ดิใ์ หล งปาู ยแรก แลวตอรถ
สาย 82 เขาตลาดพระประแดงตอ รถกระปอฺ ไปยงั ตลาดนาํ้ บางน้าํ ผ้ึงแลว ตรงเขา มาในตลาดน้ําอยทู าง
ซา ยมือสาย 506 จากปากเกรด็ ไปยงั ตลาดพระประแดง จากนนั้ เดินไปที่วาการอําเภอพระประแดงตอ
รถกระปฺอไปยงั ตลาดน้าํ บางนาํ้ ผง้ึ แลว ตดิ กบั โรงพยาบาลสง เสรมิ สุขภาพตําบลบางนาํ้ ผงึ
ทางเรอื
เดินทางโดยรถประจําทาง หรอื รถไฟฟูาBTS สามารถนงั่ รถ BTS มาลงทส่ี ถานีบาง
นา แลว ตอรถรถแทก็ ซ่ี หรือมอเตอรแไซรบั จาง โดยแจง วาไปวัดบางนานอก จากนนั้ นงั่ เรือ
ขามฟาก คา โดยสารคนละ 3 บาท จกั รยาน 7 บาท มอเตอรไแ ซตแ 10 บาท ทา เรอื นอี้ ยูตรงสดุ
ทาง ถนนสรรพาวธุ ทางมาสาํ นกั งานเขตบางนาแหง ใหม มาลงทที่ าเรอื ของวัดบางนาํ้ ผงึ้ นอก
ฝัง่ ตลาดบางน้ําผ้ึงจากน้นั ตอมอเตอรไแ ซคแรบั จา งหรือ จะเชา จกั ยานบริเวณวัดบางนํ้าผ้งึ นอก
วันละ 50 บาท เพอื่ ปน่ั ไปไปตลาดและทองเที่ยวตามจุดตา งๆ โดยศูนยแการเรยี นรูการแพทยแ
แผนไทยจะอยใู นตลาดอยทู างซายมอื ติดกับโรงพยาบาลสง เสรมิ สขุ ภาพตําบลบางน้าํ ผงึ
การตดิ ต่อ
เบอรแโทรตดิ ตอ 024610690
Facbook แพทยแแ ผนไทย รพ.สต.บางนํ้าผ้ึง
เวลาท้าการ
จันทร-แ ศกุ รแ เวลา 08.30 -16.30 น.
เสาร-แ อาทิตยแ เวลา 08.30 -14.00 น.
หนว่ ยงานทีร่ บั ผิดชอบ
โรงพยาบาลสง เสริมสุขภาพตําบลบางน้ําผ้ึง
สมั ภาษณ์
คณุ กองแกว หมวกเหลก็ (เจาหนา ท่ีแพทยแแผนไทย ศนู ยแการเรียนรูแ พทยแแ ผนไทย)
39
1.2 ประวัตคิ วามเป็นมาของแหลง่ เรียนรู้
ตลาดน้ําบางนํ้าผึงมงุ เนน ใหช าวบา นและผูประกอบการมสี วนรว ม ในการพฒั นาและแสดง
ความคดิ เห็น จนตลาดแหง นีม้ ชี อื่ เสียงเป็นทีร่ ู จักทัว่ ประเทศไทย ปจั จัยเสรมิ ดาํ นการทอ งเที่ยวของ
ตลาดนํ้าบางนา้ํ ผึง้ ไดแ กส ภาพพื้นทขี่ องชุมชนบางนํ้าผงึ้ มเี อกลักษณแแ ละเป็น ที่นําสนใจเหมาะสมกบั
การพัฒนาการทองเท่ียวชมุ ชน มีหนว ยงานภาครฐั ที่ใหความสนใจในการชวยใหชุมชนสรางรายไดและ
เปน็ ทรี่ จู กั ชมุ ชนบางนํา้ ผงึ้ มีความเขาใจในการพฒั นาการทอ งเท่ียวชุมชน สาํ นกั งานสง เสริมการศึกษา
นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงึ เห็นความสาํ คญั จงึ จัดอบรมชาวบานและผูทสี่ นใจในดาน
แพทยแแ ผนไทย เกีย่ วเร่อื งสมนุ ไพรและการนวดสมุนไพร เพอ่ื ใหบ รกิ การนักทอ งเที่ยวในตลาดนํา้ บาง
นํา้ ผึง้ เพอื่ หารายสูช มุ ชน กอต้งั ศนู ยแการแพทยแแ ผนไทยในปี 2552
1.3 การบริหารจดั การ
ในการลงพ้นื ทีศ่ กึ ษาศูนยแการเรียนรูการแพทยแแ ผนไทย ผจู ัดทําไดตดิ ตอขอความอนุเคราะหแ
สัมภาษณแผดู แู ลและผปู ระสานงานภายในศูนยแการเรยี นรู คอื นางกรองแกว รตั นะ โดยมีการ
สอบถามขอ มลู ของแหลง เรียนรูด ังน้ี
ผบู รหิ ารและผูดแู ลศูนยกแ ารเรยี นรู
ศูนยแการเรียนรูการแพทยแแ ผนไทย อยภู ายใตก ารดูแลควบคมุ โรงพยาบาลสว นตาํ บลบางนาํ
ปจั จุบันเป็นศูนยแการเรยี นรู และ ขยายผลใหผ สู นใจเขา มาเรยี นรูอยา งตอ เนื่อง ไดศ ึกษาเกี่ยวกบั
แพทยแแ ผนไทย
40
งบประมาณและหนวยงานทส่ี นบั สนนุ
ศูนยแแพทยแแผนไทยจงั หวดั สมทุ รปราการและกาํ ไรจากการใหบรกิ ารนวด
1.4 เนือ้ หาการเรียนรู้
- การนวดแผนไทย
1.5 กิจกรรมการเรียนรู้
กจิ กรรมภายในศนู ยกแ ารเรียนรกู ารแพทยแแ ผนไทย
คลนิ กิ แพทยแแผนไทยใหบ รกิ าร
ตรวจวนิ จิ ฉยั และใหก ารรักษาโดยแพทยแแ ผนไทย
รักษาดว ยยาสมนุ ไพร และหัตถการตางๆ เชน นวดเพ่อื การ รักษา ประคบสมุนไพร
อบสมนุ ไพร เผายา พอกยา เป็นตน พรอ มใหบ รกิ ารดแู ลมารดาหลงั คลอด
อัตราคาบรกิ ารแพทยแแผนไทย
นวดและประคบสมนุ ไพรเพือ่ การรกั ษา 250 บาท/ครง้ั
นวดเพื่อสขุ ภาพ 200 บาท/ครั้ง
นวดเทา 150 บาท/ครัง้
ประคบสมนุ ไพร 150 บาท/ครั้ง
อบสมนุ ไพร 120 บาท/ครัง้
หัตถการตา งๆ เชน เผายา พอกยา 250 บาท/คร้งั
การดูแลมารดาหลงั คลอด 400 บาท/ครงั้
(นวด, ประคบสมนุ ไพร, อบสมนุ ไพร, ทับหมอเกลือ)
สว นประกอบสมุนไพรในลกู ประคบ
ไพล แกปวดเมอ่ื ย ลดการอกั เสบ 500 กรัม
ขม้นิ ชนั ชวยลดอาการอักเสบ 100 กรมั
41
ตะไครบาน ชว ยใหห ายใจสะดวก 100 กรมั
ผวิ มะกรดู แกว งิ เวียนศรี ษะ 200 กรัม
ใบมะขาม แกอาการคันตามรางกาย 300 กรัม
ใบสมปอุ ย แกอ าการคันตามรา งกาย 100 กรัม
การบรู แกเคล็ดบวม ขัดยอก 2 ชอ นโตะ฿
พิมเสน แกวิงเวยี นศรี ษะ 2 ชอนโตะ฿
เกลอื ชว ยใหซมึ ผานผวิ หนงั ไดดขี ้ึน 1 ชอ นโต฿ะ
สทิ ธิการรกั ษาพยาบาล (เฉพาะในเวลาราชการ)
1. ผมู สี ทิ ธบิ ัตรทองบางนํ้าผง้ึ รับบริการฟร!ี เฉพาะกรณีนวดและประคบสมุนไพร
เพือ่ การรกั ษา
2. ขา ราชการเบกิ ไดต ามสทิ ธิ กรณนี วดและประคบสมุนไพร เพื่อการรักษา ดูแล
มารดาหลังคลอด
3. กรณสี มคั รใจมารับบรกิ ารเอง คิดอตั ราคา บรกิ ารเตม็ ทกุ สทิ ธิ
42
การวิเคราะห์ SWOT ศูนย์การเรยี นรูก้ ารแพทย์แผนไทย
ปจั จยั ภายใน ปจั จยั ภายนอก
SW OT
- แพทยแแ ผนไทยใช - แพทยแแผนไทยเมื่อใช - การบรหิ าร สนบั สนนุ - สถานการณแโควดิ 19
สมนุ ไพรสดในการ งานแลว ทําใหเสอ้ื ผา
นวด เลอะงาย จากโรงพยาบาลสว น สงผลกระทบใหศ ูนยแ
ตาํ บลบางนํ้าผง้ึ การเรยี นรูแพทยแแผน
- แพทยแแ ผนไทยนวด - ราคาอาจจะจบั ตอง - ไดรับการสนบั สนนุ ไทยปดิ ทําการช่ัวคราว
แลวเนนใหผ ลภายใน ยากสาํ หรบั นกั ทองเท่ียว จากภาครฐั
ทันที บางสว น เชน ผูท่ีมี
รายไดน อย
- ตง้ั อยูภายในบรเิ วณ
ตลาดนํา้ บางนํ้าผ้ึง - มีการประชาสมั พันธแ
ทาํ ใหเขา ถงึ ไดง า ย ขาวสารในสอ่ื ออนไลนแ
เดินทางสะดวก คอ นขางนอ ย ทําใหค น
ไมค อ ยเขาถึงขอ มลู
43
แหล่งเรยี นร้ทู ี่ 4 ตลาดน้าบางน้าผ้งึ (Bang Nam Pheung Floating Market)
1.1 ที่ตัง้
ทตี่ ้งั
วดั บางนาํ้ ผ้งึ ใน ตําบลบางนา้ํ ผงึ้ อําเภอพระประแดง จงั หวดั สมุทรปราการ
การเดนิ ทาง
การเดินทางโดยรถยนตแ ลงทางดวน (ดาวคะนอง – สุขสวัสด์ิ) ท่ีถนนสุขสวัสด์ิ พอถึงสาม
แยก พระประแดง – สขุ สวัสด์ิ เลี้ยวซา ยขบั ตรงไป พอถึงตลาดพระประแดงใหเลี้ยวซายผานวัดทรง
ธรรมวรวิหารตรงไปประมาณ 5 กโิ ลเมตร กจ็ ะพบปาู ยบอกทางเขา ตลาดนา้ํ บางนา้ํ ผ้งึ ใหเ ล้ยี วซายขับ
ตรงไปอกี ประมาณ 1กิโลเมตร ก็จะถึงตลาดนํา้ บางนาํ้ ผง้ึ
น่ังรถมาลงท่พี ระประแดง นั่งมาจนสุดสายท่ีทาน้ําพระประแดง รถเมลแท่ีมาถึงพระประแดง
ไดแก สาย 6 (พระประแดง – บางลาํ พู), สาย 82 (พระประแดง – บางลาํ พู), สาย 506 (ปากเกร็ด –
พระประแดง) และสาย 138 (หมอชิตใหม – พระประแดง) จากพระประแดงจะมี รถสองแถวเล็กหรือ
ที่เรียกวา “รถกะปอฺ ” มาลงตลาดบางนาํ้ ผ้ึงไดเลย
44
การตดิ ตอ่
081-6165398 , 02-461-3254 (คุณสุธาสินี ชัยเขื่อนขันธแ) ผูจัดการตลาดน้ํา
บางนํ้าผึ้ง
เวลาท้าการ
ทุกวันเสารแ – อาทิตยแ และวนั หยุดนักขตั ฤกษแ ตง้ั แตเวลา 08.00 - 16.00 น.
ผู้ใหส้ ัมภาษณ์
คณุ ปูาอาภรณแ พานทอง (รองนายกอบต.บางนํา้ ผ้งึ )
1.2 ประวตั คิ วามเปน็ มาของแหลง่ เรยี นรู้
ตลาดบางน้ําผ้งึ เรม่ิ ตน จากฟองสบแู ตกป2ี 540 ชาวบา นรวมตวั กัน มแี กนนําคอื กํานัน,นายก
อบต.รว มกนั ปลกู ตนไมใหญแ ละทําสวน โดยใชเศรษฐกจิ พอเพยี ง ชาวบานไดผ ลติ จากการทาํ สวนแต
ไมมีท่ขี าย นายกอบต.จงึ สรา งตลาดนาํ้ บางนา้ํ ผงึ้ ในปี2547 จงึ ชวนชาวบา น แมบ าน กลมุ OTOP มา
ขายผลติ ภัณฑแที่ตลาด ชว งแรกรา นคาประมาณ 50-60 รา น ไมม ีเกบ็ คา ดแู ล 1-2ปีตอมาเรมิ่ เกบ็ คา ทํา
ความสะอาดวนั ละ40บาท ปัจจุบันมรี า นคา ประมาณ 800 รา น มีรายไดเ สาร-แ อาทติ ยโแ ดยประมาณ
3,000,000บาทรวมกาํ ไรและทุน มกี ารประชุมประชาคมทุกหมูบานทุกสัปดาหแ สัปดาหลแ ะ 2 ครง้ั
1.3 บรหิ ารจดั การ
หนวยงานทด่ี ูแล
- องคแการบรหิ ารสว นตําบลบางนํ้าผ้งึ
สนบั สนุนงบประมาณ
- องคแกรบรหิ ารสว นตาํ บลบางนํา้ ผ้งึ
45
1.4 เนื้อหาสาระในแหลง่ เรยี นรู้
วิถชี วี ติ ริมคลองภายในตลาดจัดจําหนา ยทงั้ สนิ คาทางการเกษตร ไดแ ก ตนไมนานาพนั ธุแ ปลา
สวยงามหลากชนดิ และผลิตผลของชาวบาน เชน มะพราวออน มะมวงนํ้าดอกไม กลวยหอม ชมพู
มะเหมี่ยว เปน็ ตน
ขนมหวานพ้ืนเมืองฝีมือชาวบาน เชน ขนมถวย ขนมจาก กลวยแขก มาฮอ ขนมตระกูล
ทอง กาละแมกวน ฝอยเงนิ ท่ใี ชไขข าวตมในนํา้ เชื่อมรสหวานชุมคอ หมก่ี รอบโบราณ เป็นตน
อาหารคาว เชน กเวยเต๋ียวลุยสวน ไสกรอกโบราณ หอ หมกหมู หอยทอดในถาดขนมครก ไก
สะเตะ฿ นา้ํ พรกิ ตาง ๆ พรอ มเลอื กผกั เคยี งขางจาน เชน ผักกระถิน ผักบุง ผักหนาม ผกั ดองชนิดตางๆ
ท่ีใชภ ูมปิ ัญญาทอ งถน่ิ ในการแปรรูปพชื ผักใหม รี ับประทานนอกฤดูกาล
ศูนยรแ วมสินคา OTOP ทสี่ รางสรรคจแ ากคนในชมุ ชน บางนาํ้ ผึง้ และตําบลใกลเคียงในจังหวัด
สมุทรปราการ เชน ดอกไมเกล็ดปลา บานธูปสมุนไพร ผลิตภัณฑแจากทะเลอยางกุงแหง กะปิ หอย
ดอง ภาพประดษิ ฐจแ ากรกมะพราว ของตกแตงบา น ดอกหญาหลากสี โมบาย ลูกตีนเป็ดรูปรางแปลก
ตา เป็นตน รวมถึงสนิ คาอุปโภคบริโภคอืน่ ๆอีกมากมาย
1.4 กิจกรรมในแหลง่ เรยี นรู้
กิจกรรมภายในสว นบรเิ วณพน้ื ทีต่ ลาดนาํ้ บางนํ้าผงึ้ นอกจากนักทองเที่ยวจะไดรับประทาน
อาหารพื้นเมอื งภาคกลางทอ่ี รอ ย ราคาถกู และยงั ไมซ้าํ แบบใครแลว ยังมกี จิ กรรมอื่นๆอีก เชน
- มุมศิลปใ นสวน
- กลุมนวดบางน้าํ ผงึ้
- กลมุ สตรบี างนา้ํ ผึง้
- ผลติ ภัณฑแโอท็อป
- เวทีดนตรีในสวน