44 รายนามผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิชญา สุวรรณโน อาจารย์ ประจ าสาขาวิชาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์และศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ นายวงษ์ษา ประดิษฐศร ครูผู้สอน ประจ าวิชาภาษาไทย โรงเรียนสมานคุณวิทยาทาน นางสาวจิตตินันท์ สุขสีเสน ครูผู้สอน ประจ าวิชาภาษาไทย โรงเรียนสมานคุณวิทยาทาน นางสาวกมลชนก สุวรรณนัง ครูผู้สอน ประจ าวิชาภาษาไทย โรงเรียนสมานคุณวิทยาทาน ลงชื่อ............................................. ลงชื่อ............................................. (ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิชญา สุวรรณโน) (นายวงษ์ษา ประดิษฐศร) ลงชื่อ............................................. ลงชื่อ............................................. (นางสาวจิตตินันท์ สุขสีเสน) (นางสาวกมลชนก สุวรรณนัง)
ภาคผนวก ข เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
46 ...................................................................................................................................................... ค าชี้แจง ให้ท่านพิจารณาว่าแบบทดสอบวัดได้สอดคล้องตรงตามจุดประสงค์ที่ก าหนดไว้หรือไม่ โดย ก าหนดความหมายเกณฑ์ประเมินสอดคล้องของทดสอบ ดังนี้ ให้คะแนนเท่ากับ +1 เมื่อแน่ใจว่าวัดได้ตามจุดประสงค์ ให้คะแนนเท่ากับ 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าวัดได้ตรงตามจุดประสงค์หรือไม่ ให้คะแนนเท่ากับ -1 เมื่อแน่ใจว่าวัดไม่ตรงตามจุดประสงค์ ...................................................................................................................................................... แบบประเมินความสอดคล้อง (IOC) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องสระในภาษาไทย มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 1. ถ้อยค าหรือข้อความที่มีความหมายเป็นคติ เราเรียกว่าอะไร ก. โวหาร ข. วาทศิลป์ ค. ภาษิต ง. สุนทรพจน์ (เฉลย ค) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 2. ถ้อยค าหรือข้อความที่กล่าวสืบต่อกันมาเพื่อ ตีความให้เข้ากับเรื่องเราเรียกว่าอะไร ก. ภาษิต ข. ส านวน ค. ค าพังเพย ง. สุนทรพจน์ (เฉลย ค) แบบประเมินความสอดคล้อง (IOC) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องส านวนไทย
47 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 3. ส านวนมีความหมายสอดคล้องกับข้อใดได้ ก. คติ ข. คดี ค. วลี ง. ประโยค (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 4. ส านวนในข้อใดมีความหมายค้านกับ ส านวน “น้ าขึ้นให้รีบตัก” ก. เวลาเป็นเงินเป็นทอง ข. ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม ค. น้ าน้อยย่อมแพ้ไฟ ง. ไม่เห็นน้ าตัดกระบอก (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 5. ส านวนในข้อใดมีความหมายแตกต่างจาก ข้ออื่น ก. เกลือจิ้มเกลือ ข. ขนมผสมน้ ายา ค. ขิงก็ราข่าก็แรง ง. ปิ้งปลาประชดแมว (เฉลย ง) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 6. ข้อใดมีความหมายต่างไปจากข้ออื่น ก. หนามแหลมไม่มีคนเสี้ยม ข. ส าเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล ค. มะนาวกลมเกลี้ยงไม่มีคนกลึง ง. เชื้อไม่ทิ้งแถวแนวไม่ทิ้งตระกูล (เฉลย ข )
48 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 7. ส านวนในข้อใดมีความหมายของคนที่ไว้ใจ ไม่ได้ ก. ปากว่าตาขยิบ ข. คดในข้องอในกระดูก ค. มะละกอสามตระกร้าปาไม่ถูก ง. ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 8. ส านวนในข้อใดมีความหมายเชิงเปรียบ เทียบ ก. ล้วงคองูเห่า ข. เหวี่ยงแห ค. เข้าฌานเสียแล้ว ง. ทอดสะพาน (เฉลย ก) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 9. ถ้าเธอท าขนมเป็นจริง ฉันคงไม่ต้อง.......... บอกวิธีท าโดยละเอียดอย่างนี้ ส านวนใด เหมาะที่จะเติมลงในช่องว่างต่อไปนี้ ก. แจงสี่เบี้ย ข. ชักแม่น้ าทั้งห้า ค. สีซอให้ควายฟัง ง. บอกหนังสือสังฆราช (เฉลย ก)
49 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 10. ส านวนในข้อใดมีความหมายแตกต่างไป จากข้ออื่น ก. ใกล้เกลือกินด่าง ข. รักพี่เสียดายน้อง ค. จับปลาสองมือ ง. เหยียบเรือสองแคม (เฉลย ก) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 11. “ยุพาวดีเที่ยวบอกให้ผู้อื่นทราบความไม่ดี ของคนในครอบครัวของตน”ข้อความนี้ ตรงกับส านวนในข้อใด ก. ตีงูให้กากิน ข. สาวไส้ให้กากิน ค. ยุให้ร าต าให้รั่ว ง. ปากคนยาวกว่าปากกา (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 12. “คุณทิด งานชิ้นนี้ผมลงทุนไปหลายล้าน นะครับ คุณจะท าแบบ.............อย่างที่ ผ่านมาไม่ได้นะครับ ควรเติมส านวนใด ก. หมายน้ าบ่อหน้า ข. สุกเอาเผากิน ค. ตีงูให้กากิน ง. เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ (เฉลย ข)
50 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 13. ส านวนใดใช้กล่าวเพื่อเตือนสติ ก. เงาตามตัว ข. ไว้เนื้อเชื่อใจ ค. คอขาดบาดตาย ง. บ้านเมืองมีขื่อมีแป (เฉลย ง) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 14. ส านวนในข้อใดมุ่งสอนคุณธรรม ก. กินน้ าเห็นปลิง ข. ข้าวแดงแกงร้อน ค. วันพระไม่มีหนเดียว ง. เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 15. ส านวนใดใช้กล่าวเพื่อเตือนสติ ก. เงาตามตัว ข. ไว้เนื้อเชื่อใจ ค. คอขาดบาดตาย ง. บ้านเมืองมีขื่อมีแป (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 16. ข้อใดเป็นส านวนเปรียบเทียบ ก. ผักชีโรยหน้า ข. ขี่ช้างจับตั๊กแตน ค. เงาตามตัว ง. น้ าตาตกใน (เฉลย ง)
51 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 17. ข้อใดสะท้อนให้เห็นความเชื่อที่เป็น ปรัชญาในพระพุทธศาสนา ก. ผีช้ าด้ าพลอย ข. ไว้เนื้อเชื่อใจ ค. คอขาดบาดตาย ง. วัวใครเข้าคอกนั้น (เฉลย ง) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 18. “ทั้งสองต่างใช้ค าพูดเผ็ดร้อนทุ่มเถียงกัน อย่าง..............” ควรเติมส านวนใดลงใน ช่องว่าง ก. คอขาดบาดตาย ข. ขิงก็ราข่าก็แรง ค. ขมิ้นกับปูน ง. ถึงพริกถึงขิง (เฉลย ง) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 19. ข้อใดกล่าวถึงส านวนไม่ถูกต้อง ก. สื่อความหมายอย่างตรงไปตรงมา ข. ใช้ภาษาเรียบเรียงสละสลวย ค. ผู้อ่านหรือผู้ฟังต้องตีความให้เข้ากับ เรื่อง ง. เกิดจากการน าสิ่งใกล้ตัวมากล่าว เปรียบเทียบ (เฉลย ก)
52 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 20. ส านวนในข้อใดที่แสดงว่าผู้ที่ขาดลักษณะ “ใช้วาจาอ่อนหวาน” ในขณะที่สนทนา ก. คมในฝัก ข. ไว้เนื้อเชื่อใจ ค. คอขาดบาดตาย ง. พูดจามะนาวไม่มีน้ า (เฉลย ง) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 21. ส านวนในข้อใดมุ่งสอนเรื่องความขยันขัน แข็ง ก. พร้าขัดหลังเล่มเดียว ข. ขิงก็ราข่าก็แรง ค. ขมิ้นกับปูน ง. ต าน้ าพริกละลายแม่น้ า (เฉลย ก) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 22. ส านวนใดมีความหมายตรงกับค าว่า “เนรคุณ” ก. กินบนเรือนขี้บนหลังคา ข. เข็นครกขึ้นภูเขา ค. คางคกขึ้นวอ ง. กินน้ าใต้ศอก (เฉลย ก)
53 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 23. ส านวนใด “มุ่งสอนผู้หญิงโดยเฉพาะ” ก. ชิงสุกก่อนห่าม ข. ผักชีโรยหน้า ค. ดินพอกหางหมู ง. พูดจามะนาวไม่มีน้ า (เฉลย ก) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 24. ส านวนในข้อใดที่เป็นการปฏิบัติตัวตามผู้ ใหญ่ ก. ยกเมฆ ข. เดินตามหลังผู้ใหญ่ หมาไม่กัด ค. ขมิ้นกับปูน ง. ฝนทั่งให้เป็นเข็ม (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 25. ความงามของคนที่เสริมแต่งให้สวย ตรง กับส านวนในข้อใด ก. กินบนเรือนขี้บนหลังคา ข. บัวไม่ให้ช้ า น้ าไม่ให้ข่น ค. ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ง. ถูกทุกข้อ (เฉลย ค)
54 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 26. ผู้ที่มีสิ่งที่ตนเองไม่รู้คุณค่า ตรงกับส านวน ใด ก. คางคกขึ้นวอ ข. วานรได้แก้ว ค. ตีปลาหน้าไซ ง. พูดจามะนาวไม่มีน้ า (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 27. “ตีปลาหน้าไซ” มีความหมายว่าอย่างไร ก. จับปลาในน้ า ข. ท าให้ผู้อื่นเสียผลประโยชน์ ค. ท าร้ายปลาหน้าไซ ง. ฉวยโอกาสกอบโกย (เฉลย ง) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 28. ข้อใดมีความหมายว่า “ไม่ยอมถอย” ก. ตาบอดได้แว่น ข. ถึงไหนถึงกัน ค. ขนมพอสมน้ ายา ง. ถูกทุกข้อ (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 29. ปากหนัก มีความหมายว่าอย่างไร ก. พูดมาก ข. พูดน้อยๆ ค. ไม่ค่อยพูด ง. พูดจาหยาบคาย (เฉลย ค)
55 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 30. “ต่างคนต่างแรงไม่ยอมกัน” ตรงกับ ส านวนในข้อใด ก. คางคกขึ้นวอ ข. ขิงก็ราข่าก็แรง ค. ตีปลาหน้าไซ ง. พูดจามะนาวไม่มีน้ า (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 31. “พรุ่งนี้สอบ คืนนี้ค่อยอ่านหนังสือ”ตรง กับส านวนในข้อใด ก. หวังน้ าบ่อหน้า ข. ตีงูให้กากิน ค. ต าข้าวสารกรอกหมอ ง. ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิด (เฉลย ค) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 32. ข้อใดมีส านวนไม่สัมพันธ์กัน ก. ขมิ้นกับปูน นุ่นกับไฟ ข. ถึงไหนถึงกัน คมในฝัก ค. ขนมพอสมน้ ายา ตาบอดได้แว่น ง. กันดีกว่าแก้ เสื่อซ่อนเล็บ (เฉลย ก) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 33. ส านวนในข้อใดเป็นส านวนเชิงเปรียบเทียบ ก. กินน้ าใต้ศอก ข. เกลือเป็นหนอน ค. กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ ง. ถูกทุกข้อ (เฉลย ง)
56 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 34. “ขิงก็ราข่าก็แรง”มีความหมายว่าอย่างไร ก. ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ข. หาประโยชน์ให้แก่ตนเอง ค. ไม่เกรงใจผู้ใหญ่ ง. ลงทุนมากแต่ได้ผลน้อย (เฉลย ก) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 35. “ขี่ช้างจับตั๊กแตน”มีความหมายว่าอย่าง ไร ก. มีสันดานคดโกง ข. ลงทุนมากแต่ได้ผลน้อย ค. กระท าสิ่งที่ยากกว่าแรง ง. ท าตามประเพณี (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 36. ส านวนใดที่สอนให้เห็นคุณค่าของความ รัก ก. กวนน้ าให้ขุ่น ข. คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย ค. ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ง. ถูกทุกข้อ (เฉลย ข) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 37. ส านวนเปรียบเทียบ ข้อใดใช้ไม่ถูกต้อง ก. ด าเหมือนตอตะโก ข. ขมเหมือนบอระเพ็ด ค. ซีดเป็นไก่ต้ม ง. เปรี้ยวเหมือนส้ม (เฉลย ง)
57 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ค่าIOC แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เรื่องส านวนไทย ข้อเสนอแนะ +1 -1 0 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 38. ส านวนเปรียบเทียบในข้อใด ใช้เปรียบ เทียบได้ถูกต้อง ก. ด าเหมือนสีด า ข. รักดั่งแก้วตาดวงใจ ค. พูดเป็นต่อยหอย ง. ถูกทุกข้อ (เฉลย ง) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 39. “อยากได้มากเกินไป ในที่สุดก้ไม่ได้อะไร เลย” ตรงกับส านวนในข้อใด ก. ผักชีโรยหน้า ข. ขี่ช้างจับตั๊กแตน ค. โลภมากลาภหาย ง. เข็นครกขึ้นภูเขา (เฉลย ค) 1. บอกความหมาย จ าแนก และใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพย และสุภาษิต ได้อย่างถูกต้อง 40. “ไก่ได้พลอย” มีความหมายว่าอย่างไร ก. สิ่งที่มีค่าแต่ไม่รู้คุณค่า ข. เนรคุณ ค. เวรสนองเวร กรรมสนองกรรม ง. รนหาเรื่องเดือดร้อน (เฉลย ก)
58 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................(ผู้ประเมิน) ........................................................................ ต าแหน่ง..........................................................
59 ระดับความพึงพอใจ แบบสอบถามความพึงพอใจ การเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องส านวนไทย โดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบประเมินชุดนี้เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นระดับความพึงพอใจการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่องส านวนไทย โดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนที่มีต่อการเรียน ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ค าชี้แจง : โปรดพิจารณาว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มี มีความพึงพอใจตามองค์ประกอบ ด้านต่าง ๆ ที่ก าหนดหรือไม่โดยเขียนเครื่องหมาย / ลงในช่อง “ ระดับความพึงพอใจ ” ตามความ คิดเห็นของท่าน ดังนี้ 1 หมายถึง มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด 2 หมายถึง มีความพึงพอใจในระดับมาก 3 หมายถึง มีความพึงพอใจในระดับปานกลาง 4 หมายถึง มีความพึงพอใจในระดับน้อย 5 หมายถึง มีความพึงพอใจในระดับน้อยที่สุด 5 4 3 2 1 1. บรรยากาศการเรียนขณะเรียนเป็นกันเอง นักเรียน สนุกสนานในการปฏิบัติกิจกรรมทุกขั้นตอน 2. ครูเป็นกันเองกับนักเรียนและช่วยส่งเสริมให้นักเรียน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม 3. นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม 4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5. กิจกรรมการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องส านวนไทยโดยใช้ วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ช่วยให้นักเรียน สามารถพัฒนาด้านการเรียนและท าให้สรุปบทเรียนได้ ด้วยตนเอง รายการประเมิน
60 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………..………………………… …………………………………………………………………………………….……………………………………… ………………………………………………………………………..…………………………………………………… ………………………………………………………….………………………………………………………………… ……………………………………………............................................................................................ ลงชื่อ............................................(ผู้ประเมิน) ........................................................................ ต าแหน่ง.......................................................... ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 6. กิจกรรมการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องส านวนไทยโดย ใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านช่วยให้นักเรียน สามารถจัดระบบความคิดอย่างมีจุดมุ่งหมาย 7. กิจกรรมการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องส านวนไทยโดย ใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านช่วยให้นักเรียนมี ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน 8. กิจกรรมการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องส านวนไทยโดย ใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านช่วยพัฒนา ความสามารถด้านการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องส านวน ไทยของนักเรียนได้ดีขึ้น 9. นักเรียนมีทักษะในการท างานร่วมกับผู้อื่น 10. นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ และ ได้แลกเปลี่ยนความรู้ รายการประเมิน
61 แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ส านวนไทยโดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ค าชี้แจง : ให้พิจารณาว่าแบบทดสอบวัดได้สอดคล้องตรงตามจุดประสงค์ที่ก าหนดไว้หรือไม่ โดยก าหนดความหมายเกณฑ์การประเมินความสอดคล้องของแบบทดสอบ ดังนี้ ให้คะแนนเท่ากับ +1 เมื่อแน่ใจว่าวัดได้ตามจุดประสงค์ ให้คะแนนเท่ากับ 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าวัดได้ตรงตามจุดประสงค์หรือไม่ ให้คะแนนเท่ากับ -1 เมื่อแน่ใจว่าวัดไม่ตรงตามจุดประสงค์ ข้อที่ รายการประเมิน ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ หมายเหตุ -1 0 +1 1 แผนมีองค์ประกอบส าคัญครบถ้วนและ สัมพันธ์กัน 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับ จุดประสงค์ 3 กิจกรรมสอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ 4 กิจกรรมเหมาะสมและสอดคลองกับ ความสามารถและวัยของผู้เรียน 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นกระบวนการ การใช้ ห้องเรียนกลับด้าน 6 กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมการสร้างความรู้ ด้วยตนเอง 7 กิจกรรมมีความยากง่ายเหมาะสมกับระดับชั้น 8 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ จุดประสงค์ 9 สื่อส่งเสริมให้เกิดกระบวนการและการ แสวงหาความรู้ 10 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม
62 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………..………………………… …………………………………………………………………………………….……………………………………… ………………………………………………………………………..…………………………………………………… ………………………………………………………….………………………………………………………………… ……………………………………………............................................................................................ ลงชื่อ............................................(ผู้ประเมิน) ........................................................................ ต าแหน่ง..........................................................
63 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ส านวน ค าพังเพย และสุภาษิต วิชา ภาษาไทย รหัสวิชา 21102 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ความหมายและที่มาของส านวนไทย เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระ/ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 หลักกากรใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาของภาษา รักษาภาษาไทยให้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม 1/4 จ าแนกและใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต 2.สาระส าคัญ การศึกษาส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต จะต้องสามรถจ าแนกความแตกต่างและบอกหลักการ ใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ ( knowledge ) 1. อธิบายความหมายส านวนไทยได้อย่างถูกต้องชัดเจน 2. อธิบายที่มาของส านวนไทยได้อย่างถูกต้องชัดเจน ทักษะกระบวนการ ( Practice ) 1. สามรถบอกความหมายของส านวนไทยได้อย่างถูกต้องและทราบถึงแหล่งที่มาของส านวนไทย 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude ) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 4. รักษาความเป็นไทย
64 5. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง -ส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและการประเมินผล 6.1 ความรู้ ( Knowledge ) 6.1.1 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องส านวนไทย 6.1.2. ใบความรู้เรื่องส านวนไทย และ แหล่งที่มาของส านวน 6.1.3. แบบฝึกหัด ชุดที่ 1 เรื่อง รู้จักส านวนไทย 6.2 ทักษะกระบวนการ ( Practice ) 6.2.1. ทักษะการสังเกต 6.2.2. ทักษะการจ าแนกประเภท 6.2.3. ทักษะการน าความรู้ไปใช้ 6.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Auttitude ) 6.3.1 มีวินัย 6.3.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3.4 มีมารยาทในการเรียน 6.3.5 รักษ์ความเป็นไทย 7. การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ชั่วโมงที่ 1 ทดสอบก่อนเรียนและความหมายและที่มาของส านวนไทย กิจกรรมนอกชั้นเรียน ขั้นที่ 1 เตรียมความพร้อมครูศึกษาบทเรียนเรื่องส านวนไทยออกแบบแผนการสอนเรื่อง ส านวนไทย ในหัวข้อความหมายและที่มาของส านวนไทย ก าหนดกิจกรรมที่เหมาะกับผู้เรียนและ บริบทของโรงเรียนท าความเข้าใจกับนักเรียน เรื่องส านวนไทย พร้อมมอบหมายให้ศึกษาใบความรู้ เรื่องความหายของส านวนไทยและแหล่งที่มาของส านวนไทย มาจากบ้าน ขั้นที่ 2 เตรียมการสอนครูจัดเตรียมใบความรู้เรื่องส านวนไทยในหัวข้อความหมายและที่มา ของส านวนไทยและแบบฝึกชุดที่ 1 รู้จักส านวนไทยเพื่อที่ให้แก่นักเรียนในการเรียนและให้แก่นักเรียน ก่อนถึงคาบเรียนเพื่อให้นักเรียนศึกษามาก่อนและมาแลกเปลี่ยนความรู้กันที่โรงเรียน กิจกรรมในชั้นเรียน
65 ขั้นที่ 3 ครูผู้สอนแจกทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนท าก่อนเริ่มการเรียนในเรื่องส านวนไทย เพื่อให้นักเรียนได้ทกลองท าก่อนเริ่มการเรียนการสอนเรื่องส านวนไทย ขั้นที่ 4 ครูกับนักเรียนแลกเปลี่ยนความรู้จากใบความรู้เรื่องส านวนไทยในหัวข้อความหมาย และที่มาของส านวนไทยและแลกเปลี่ยนซักถาม จากเนื้อหาที่นักเรียนได้ศึกษามาจากที่บ้านเพื่อให้ เกิดทักษะการคิดและวิเคราะห์ร่วมกัน ขั้นที่ 5 ครูแบ่งกลุ่มให้นักเรียนช่วยกันท าแผนผังความคิดกลุ่มละ 2 สองคนตามโต๊ะที่นั่ง เพื่อให้นักเรียนได้ร่วมกันท างานในหัวข้อที่ได้รีบมอบหมาย และพร้อมทั้งท าแบบฝึกชุดที่ 1 รู้จัก ส านวนไทยร่วมกัน ให้นักเรียนช่วยการคิดและสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน และเป็นการฝึกการท างาน ร่วมกัน ขั้นที่ 6 ให้นักเรียนน าเสนอผลงานเป็นกลุ่มของตนเอง และให้นักเรียนในห้องเรียนร่วมกัน แสดงความคิดเห็น ซักถามร่วมกันในข้อสงสัยต่าง ๆ เพิ่มเติม 8. สื่อแหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนังสือเรียนภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม. 1 8.2 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องส านวนไทย 8.3 ใบความรู้เรื่องส านวนไทย ความหมายและแหล่งที่มาของส านวนไทย 8.4 แบบฝึกหัด ชุดที่ 1 เรื่อง รู้จักส านวนไทย แหล่งเรียนรู้ - แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 9. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ประเมินการเรียนเรื่องส านวนไทย แบบประเมินการเรียนเรื่อง ส านวนไทย ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ดีมาก ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์พอใช้ ระดับคุณภาพ 1 ผ่านเกณฑ์ปรับปรุง สังเกตพฤติกรรมการท างานผู้เรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการท างาน ของผู้เรียน สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการท างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์
66 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นไปตามเวลาที่ก าหนดไว้พอดี ใช้วิธีการสอนที่ให้นักเรียน ศึกษาความรู้มาจากที่บ้านและท าการบ้านที่โรงเรียนท าให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการท ากิจกรรมร่วมกัน และเข้าใจในเรื่องที่เรียนมากยิ่งขึ้น และนักเรียนมีความตั้งใจเรียนเป็นอย่างมากและกระตือรือร้นที่จะ ศึกษาเรื่องส านวนไทย 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนบางส่วนอาจจะไม่ค่อยทราบความหมายของส านวนไทยเพราะบางคนอาจจะรู้กันแค่ ส านวนไทยที่ใช้กันในชีวิตประจ าวัน เมื่อได้เรียนรู้อาจจะยังไม่ค่อยทราบกัน 3. ข้อเสนอแนะ ให้นักเรียนท าแบบฝึกหัดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องส านวนไทยและอธิบายในข้อสงสัยของนักเรียน เพิ่มเพื่อให้นักเรียนคลายข้อสงสัยในสิ่งที่ตนเองสงสัย ลงชื่อ พิชญ์สินี จิ้วบุญชู ครูผู้สอน นางสาวพิชญ์สินี จิ้วบุญชู วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564
67 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ส านวน ค าพังเพย และสุภาษิต วิชา ภาษาไทย รหัสวิชา 21102 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ลักษณะและคุณค่าของส านวนไทย เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระ/ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 หลักกากรใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาของภาษา รักษาภาษาไทยให้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม 1/4 จ าแนกและใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต 2.สาระส าคัญ การศึกษาส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต จะต้องสามรถจ าแนกความแตกต่างและบอกหลักการ ใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ ( knowledge ) 1. สามรถบอกลักษณะของส านวนไทยได้อย่างถูกต้อง 2. สามารถบอกคุณค่าของส านวนไทยได้อย่างถูกต้อง ทักษะกระบวนการ ( Practice ) 1. สมารถจ าแนกความแตกต่างของส านวนไทยและทราบถึงคุณค่าของส านวนไทย 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude ) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน
68 5. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - ส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและการประเมินผล 6.1 ความรู้ ( Knowledge ) 6.1.1 ใบความรู้ เรื่องลักษณะ และ คุณค่าของส านวนไทย 6.1.2. แบบฝึกหัด ชุดที่ 2 เรื่อง ลักษณะและคุณค่าของส านวนไทย 6.2 ทักษะกระบวนการ ( Practice ) 6.2.1. ทักษะการสังเกต 6.2.2. ทักษะการจ าแนกประเภท 6.2.3. ทักษะการน าความรู้ไปใช้ 6.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Auttitude ) 6.3.1 มีวินัย 6.3.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3.4 มีมารยาทในการเรียน 6.3.5 รักษ์ความเป็นไทย 7. การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ชั่วโมงที่ 2 ลักษณะและคุณค่าของส านวนไทย กิจกรรมนอกชั้นเรียน ขั้นที่ 1 ครูศึกษาบทเรียน และเลือกบทเรียน กิจกรรมในการจัดการเรียนการสอนในหัวข้อ ลักษณะและคุณค่าของส านวนไทยพร้อมทั้งมอบหมายให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่องลักษณะของ ส านวนไทยและคุณค่าของส านวนไทยมาจากบ้านเพื่อตอบค าถามในแบบฝึกหัด ชุดที่ 2 ปริศนาอักษร ไขว้ “ส านวนไทย” ร่วมกันในห้องเรียน ขั้นที่ 2 ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับความหมายของส านวนไทยและแหล่งที่มาของส านวน ไทย โดยยกตัวอย่างส านวนไทยประกอบและพูดคุยสนทนากับนักเรียนที่ได้ศึกษาจากเรื่องลักษณะ และคุณค่าของส านวนไทยจากใบความรู้ที่ศึกษามาจากที่บ้าน กิจกรรมในชั้นเรียน ขั้นที่ 3 ครูแจกแบบฝึกหัดชุดที่ 2 เพื่อให้นักเรียนได้ลองท าร่วมกันในห้องเรียน
69 ขั้นที่ 4 ครูกับนักเรียนแลกเปลี่ยนความรู้จากเรื่องที่ได้เรียนไปเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ ซักถามในข้อสงสัย จากเนื้อหาที่ได้ศึกษามาจากที่บ้าน ขั้นที่ 5 ครูแบ่งกลุ่มให้นักเรียนแต่ละกลุ่มละ 5 คน เพื่อให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และท า ความเข้าใจกับลักษณะของส านวนไทยแต่ละประเภทและคุณค่าของส านวนไทยในแต่ละด้านเพื่อเป็น การฝึกท างานร่วมกันของนักเรียนภายในห้องเรียน ขั้นที่ 6 ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยค าตอบของ แบบฝึกหัด ชุดที่ 2 และครูสรุปเรื่องที่เรียน มาให้นักเรียนอีกครั้งพร้อมทั้งแนะน าให้นักเรียนกลับไปทบทวนความรู้จากเรื่องที่เรียนมาจากใบ ความรู้เรื่องลักษณะและคุณค่าของส านวนไทย 8. สื่อแหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนังสือเรียนภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม. 1 8.2 ใบความรู้เรื่องลักษณะ และ คุณค่าของส านวนไทย 8.4 แบบฝึกหัด ชุดที่ 2 ปริศนาอักษรไขว้ “ส านวนไทย” แหล่งเรียนรู้ - แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 9. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ประเมินการเรียนเรื่องส านวนไทย แบบประเมินการเรียนเรื่อง ส านวนไทย ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ดีมาก ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์พอใช้ ระดับคุณภาพ 1 ผ่านเกณฑ์ปรับปรุง สังเกตพฤติกรรมการท างานผู้เรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการท างาน ของผู้เรียน สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการท างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์
70 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ นักเรียนส่วนใหญ่มีความสนใจในการเรียนและตั้งใจเป็นอย่างดี จะให้ความร่วมมือในทุก กิจกรรมของการเรียนการสอนและการท างานร่วมกัน และการโต้ตอบและแสดงความคิดเห็นร่วมกัน เป็นอย่างดี 2. ปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากเป็นการเรียนการสอนแบบออนไลน์อาจท าให้นักเรียนมีอุปกรณ์ในการเรียนไม่พร้อม เพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ค่อนข้างที่จะยากจน อาจจะท าให้ไม่สามารถเข้าเรียนร่วมกับเพื่อนคนอื่น ๆ ได้อย่างพร้อมเพรียงกัน 3. ข้อเสนอแนะ สร้างข้อตกลงในการเข้าเรียนร่วมกันคนไหนที่ไม่สามารถเรียนได้พร้อมกับคนอื่นให้แจ้งชื่อมา ครูจะได้ส่งงานย้อนหลังให้กับนักเรียนและท างานส่งกลับมาและหากมีข้อสงสัยอะไรสามารถติดต่อครู ได้โดยตรงเพื่อที่จะให้นักเรียนได้มีโอกาสเรียนไปพร้อมกับเพื่อนในห้องเรียน ลงชื่อ พิชญ์สินี จิ้วบุญชู ครูผู้สอน นางสาวพิชญ์สินี จิ้วบุญชู วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564
71 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ส านวน ค าพังเพย และสุภาษิต วิชา ภาษาไทย รหัสวิชา 21102 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง วิธีการใช้ส านวนไทยและตัวย่างส านวนไทย เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระ/ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 หลักกากรใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาของภาษา รักษาภาษาไทยให้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม 1/4 จ าแนกและใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต 2.สาระส าคัญ การศึกษาส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต จะต้องสามรถจ าแนกความแตกต่างและบอกหลักการ ใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ ( knowledge ) 1. สามรถบอกใช้ส านวนไทยได้อย่างถูกต้อง 2. รู้จักส านวนเพิ่มมากขึ้น ทักษะกระบวนการ ( Practice ) 1. สมารถใช้ส านวนไทยได้อย่างถูกต้องและสามารถน าส านวนไทยไปใช้ในชีวิตได้อย่างถูกต้องได้ ตรงกับความหมายของส านวนไทย 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude ) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน
72 5. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - ส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและการประเมินผล 6.1 ความรู้ ( Knowledge ) 6.1.1 ใบความรู้ เรื่องวิธีใช้ และ ตัวอย่างส านวนไทย 6.1.2. แบบฝึกหัด ชุดที่ 3 ส านวนไทยน่ารู้ 6.2 ทักษะกระบวนการ ( Practice ) 6.2.1. ทักษะการสังเกต 6.2.2. ทักษะการจ าแนกประเภท 6.2.3. ทักษะการน าความรู้ไปใช้ 6.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Auttitude ) 6.3.1 มีวินัย 6.3.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3.4 มีมารยาทในการเรียน 6.3.5 รักษ์ความเป็นไทย 7. การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ชั่วโมงที่ 3 วิธีการใช้ส านวนไทยและตัวย่างส านวนไทย กิจกรรมในชั้นเรียน ขั้นที่ 1 ครูศึกษาบทเรียน และเลือกบทเรียน กิจกรรมในการจัดการเรียนการสอนในหัวข้อ ลักษณะและคุณค่าของส านวนไทยพร้อมทั้งมอบหมายให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่องวิธีการใช้ ส านวนไทยและตัวอย่างส านวนไทยมาจากบ้านและมาท าแบบฝึกกันที่โรงเรียน ขั้นที่ 2 ครูทบทวนความรู้เดิมที่ได้ไปในคาบที่แล้ว โดยยกตัวอย่างส านวนไทยประกอบและ พูดคุยสนทนากับนักเรียนที่ได้ศึกษาความรู้จากใบความรู้มาจากที่บ้าน กิจกรรมในชั้นเรียน ขั้นที่ 3 ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่องวิธีการใช้ส านวนไทยพร้อมทั้งยกจัวอย่างประกอบของส านวน ไทยให้นักเรียนฟัง โดยให้นักเรียนจดความรู้ที่ได้ลงในสมุดวิชาภาษาไทยและแจกแบบฝึกหัดชุดที่ 3 ส านวนไทยน่ารู้
73 ขั้นที่ 4 ครูเปิดกาสให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้ศึกษามาและเปิดโอกาสให้ซักถาม เพื่อให้นักเรียนได้เกิดทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะในการสื่อสารและเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้มาก ยิ่งขั้น ขั้นที่ 5 ครูแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2 – 3 คนให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันท าความเข้าใจกับส านวน ไทยและให้แต่ละกลุ่มเลือกส านวนไทยที่ชื่นชอบมา กลุ่มละ 3 ส านวนไทย แล้วออกมาอธิบาย ความหมายหน้าชั้นเรียนให้เพื่อนในห้องเรียนได้ฟังกันเพื่อเป็นการฝึกการท างานร่วมกันกับเพื่อนใน ห้องเรียน ขั้นที่ 6 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอผลงานอีกครั้งเพื่อเปิดเวทีให้นักเรียนทุกคน ได้ร่วมกัน แสดงความคิดเห็น และซักถามข้อส่งสัยเพิ่มเติมจากที่เพื่อน ๆ ได้ออกมาน าเสนอผลงาน 8. สื่อแหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนังสือเรียนภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม. 1 8.2 ใบความรู้เรื่อง วิธีการใช้ส านวนไทย และ ตัวอย่างส านวนไทย 8.4 แบบฝึกหัด ชุดที่ 3 ส านวนไทยน่ารู้ แหล่งเรียนรู้ - แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 9. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ประเมินการเรียนเรื่องส านวนไทย แบบประเมินการเรียนเรื่อง ส านวนไทย ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ดีมาก ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์พอใช้ ระดับคุณภาพ 1 ผ่านเกณฑ์ปรับปรุง สังเกตพฤติกรรมการท างานผู้เรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการท างาน ของผู้เรียน สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการท างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์
74 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีความเข้าใจในเรื่องที่สอนและสนใจในเรื่องที่สอนเป็นอย่างดี และตั้งใจเรียนกันเป็น ส่วนใหญ่และให้ความร่วมมือในทุก ๆ กิจกรรมเป็นอย่างดี 2. ปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากเป็นการเรียนการสอนแบบออนไลน์อาจท าให้นักเรียนมีอุปกรณ์ในการเรียนไม่พร้อม เพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ค่อนข้างที่จะยากจน อาจจะท าให้ไม่สามารถเข้าเรียนร่วมกับเพื่อนคนอื่น ๆ ได้อย่างพร้อมเพรียงกัน 3. ข้อเสนอแนะ สร้างข้อตกลงในการเข้าเรียนร่วมกันคนไหนที่ไม่สามารถเรียนได้พร้อมกับคนอื่นให้แจ้งชื่อมา ครูจะได้ส่งงานย้อนหลังให้กับนักเรียนและท างานส่งกลับมาและหากมีข้อสงสัยอะไรสามารถติดต่อครู ได้โดยตรงเพื่อที่จะให้นักเรียนได้มีโอกาสเรียนไปพร้อมกับเพื่อนในห้องเรียน ลงชื่อ พิชญ์สินี จิ้วบุญชู ครูผู้สอน นางสาวพิชญ์สินี จิ้วบุญชู วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564
75 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ส านวน ค าพังเพย และสุภาษิต วิชา ภาษาไทย รหัสวิชา 21102 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ส านวนไทย (ทดสอบหลังเรียน) เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระ/ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 หลักกากรใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาของภาษา รักษาภาษาไทยให้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม 1/4 จ าแนกและใช้ส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต 2.สาระส าคัญ การศึกษาส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต จะต้องสามรถจ าแนกความแตกต่างและบอกหลักการ ใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ ( knowledge ) 1. อธิบายความหมายส านวนไทยได้อย่างถูกต้องชัดเจน 2. อธิบายที่มาของส านวนไทยได้อย่างถูกต้องชัดเจน 3. สามารถน าส านวนไทยไปใช้ได้อย่างถูกต้อง 4. มีคลังความรู้ส านวนไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้นและสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันได้อย่างถูกต้อง ทักษะกระบวนการ ( Practice ) 1. สามรถบอกความหมายของส านวนไทยได้อย่างถูกต้องและสามารถน าส านวนไทยไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจ าวันได้อย่างถูกต้อง
76 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude ) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 4. รักษาความเป็นไทย 5. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง -ส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต 6. หลักฐาน หรือร่องรอยของการเรียนรู้ การวัดและการประเมินผล 6.1 ความรู้ ( Knowledge ) 6.1.1 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องส านวนไทย 6.2 ทักษะกระบวนการ ( Practice ) 6.2.1. ทักษะการสังเกต 6.2.2. ทักษะการจ าแนกประเภท 6.2.3. ทักษะการน าความรู้ไปใช้ 6.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Auttitude ) 6.3.1 มีวินัย 6.3.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3.4 มีมารยาทในการเรียน 6.3.5 รักษ์ความเป็นไทย 7. การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ชั่วโมงที่ 4 ทบทวนเนื้อหาและทดสอบหลังเรียน กิจกรรมนอกชั้นเรียน ขั้นที่ 1 ครูมอบหมายให้นักเรียนทบทวนความรู้เรื่อง ส านวนไทยที่เรียนมาทั้งหมดมาจากที่ บ้าน โดยศึกษาจากใบความรู้ที่ครูได้แจกไปในแต่คาบ
77 ขั้นที่ 2 ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องส านวนไทย ที่นักเรียนได้ทบทวนความรู้ทั้งหมดที่ ศึกษาจากใบความรู้มาจากที่บ้านและเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ถามถึงข้อสงสัย จากที่ได้ศึกษาความรู้ มาจากบ้าน ขั้นที่ 3 ครูสุ่มให้นักเรียนแต่ละคนอธิบายเรื่องส านวนไทย จากที่ได้ศึกษาจากใบความรู้มา จากที่บ้าน พร้อมทั้งยกตัวอย่างส านวนไทยให้เพื่อนในห้องเรียนได้ฟังกันและเพื่อรวบรวมความรู้เรื่อง ส านวนไทยให้ได้มากที่สุดเพื่อที่ทุกคนสามารถน าความรู้ไปท าแบบทดสอบหลังเรียน ขั้นที่ 4 ครูให้นักเรียนแต่ละคนบันทึกความรู้จากที่เพื่อนอธิบายให้ฟังในชั้นเรียนลงในสมุด ของตนเองให้เรียนบร้อย ขั้นที่ 5 ครูให้นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่องส านวนไทย ขั้นที่ 6 ครูสรุปเรื่องที่เรียนมาให้นักเรียนอีกครั้งพร้อมทั้งแนะน าให้นักเรียนกลับไปทบทวน ความรู้จากเรื่องที่เรียนมาในใบความร ู้และสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากในอินเตอร์เน็ต 8. สื่อแหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนังสือเรียนภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม. 1 8.2 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องส านวนไทย แหล่งเรียนรู้ - แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 9. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ประเมินการเรียนเรื่องส านวนไทย แบบประเมินการเรียนเรื่อง ส านวนไทย ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ดีมาก ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์พอใช้ ระดับคุณภาพ 1 ผ่านเกณฑ์ปรับปรุง สังเกตพฤติกรรมการท างานผู้เรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการท างาน ของผู้เรียน สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการท างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์
78 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีความตั้งใจในการเรียนและให้ความร่วมมือในการเรียนเป็นอย่างดีและให้ความ ร่วมมือในทุกด้านและเปิดที่จะรับการเรียนรู้เป็นส่วนใหญ่ และตั้งใจกันท าแบบทดสอบเป็นอย่างดี 2. ปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากอยู่ในสถานะการณ์โควิดและทางโรงเรียนยังไม่ได้มีการเปิดเรียนอย่างปกติแต่เป็น การเรียนแบบออนไลน์จึงท าให้นักเรียนบางคนไม่ได้ท าแบบทดสอบอย่างคนอื่น 3. ข้อเสนอแนะ ครูจะต้องส่งแบบทดสอบให้นักเรียนย้อนหลังส าหรับคนที่ไม่ได้ท าพร้อมกับเพื่อนๆและคอย ติดตามงานให้นักเรียนได้ท าอยู่เสมอ ๆ ลงชื่อ พิชญ์สินี จิ้วบุญชู ครูผู้สอน นางสาวพิชญ์สินี จิ้วบุญชู วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564
79 ส านวน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ หน้า ๑๑๘๗ ได้ ให้ความหมายไวว่า ถ้อยค า ที่เรียบเรียง โวหาร, บางทีก็ใช้ว่าส านวนโวหาร คดี ถ้อยค าหรือ ข้อความที่กล่าวสืบต่อกันมาอย่างช้านาน มีความหมายไม่ ตรงตามตัวหรือความหมายอื่นแฝงอยู่ ถ้อยค าที่แสดงออกมาเป็นข้อความพิเศษเฉพาะภาษาหนึ่งๆ ชั้น เชิงหรือท่วงท านองในการแต่ง หนังสือหรือพูด ลักษณะนามใช้เรียกข้อความ หรือบทประพันธ์ราย หนึ่งๆ อาทิ ส านวนที่ใช้ใน การเปรียบเทียบในภาษาไทย เช่น โดยปกติแล้วเราจะไม่แยกส านวนสุภาษิตออกจากกัน เรามักเรียกว่าส านวนหรือเป็น ค าพังเพย หรือ เรียกว่าเป็นส านวนไทย ดังนั้น ส านวน คือ ถ้อยค าที่เรียบเรียงโดยไม่เคร่งครัดในหลักไวยากรณ์ แต่ถือว่าเป็นภาษาที่ถูกต้อง และมักมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ หรืออธิบายเรื่องราวโดยเฉพาะ สุภาษิต ค าพังเพย ล้วนเป็น ส านวนที่น่าศึกษาในภาษาไทย อาทิ ส านวนที่เป็นค าเดียว ได้แก่ หนู หิน เค็ม เปรี้ยว ส านวนที่เป็น 2 ค า ได้แก่ ยกเมฆ แก่แดด ตาขาว ส านวนที่เป็น 3 ค า ได้แก่ เสือติดจั่น ไก่ได้พลอย ส านวนที่เป็น 4 ค า ได้แก่ แกว่งเท้าหาเสี้ยน คางคกขึ้นวอ ส านวนที่เป็น 5 ค า ได้แก่ สีซอให้ควายฟัง น้ าขึ้นให้รีบตัก ใบความรู้ เรื่องส านวนไทย ไทย ส านวน กินจนพุงแตก ขี่ช้างจับตั๊กแตน ผักชีโรยหน้า ไก่ได้พลอย ใจกว้างเหมือนแม่น้ า เข็นครกขึ้นภูเขา คางคกขึ้นวอ ไก่งามเพราะขนตนงามเพราะแต่ง
80 1. เกิดจากลักษณะหรือการกระท าที่เป็นไปตามธรรมชาติอาทิ คลื่นใต้น้ า หมายถึง เหตุการณ์ที่กรุ่นอยู่ภายในแต่ภายนอกดูเสมือนสงบ ตื่นแต่ไก่โห่ หมายถึง ตื่นตั้งแต่เช้ามืด น้ าซึมบ่อทราย หมายถึง หาได้มาเรื่อย ๆ 2. เกิดจากพฤติกรรมของคนหรือสัตว์ อาทิ กระดี่ได้น้ า หมายถึง การแสดงความดีอกดีใจจนตัวสั่น กระต่ายตื่นตูม หมายถึง อาการตื่นตกใจง่ายโดยไม่ทันพิจารณาให้รอบคอบ กัดหางตวัเอง หมายถึง พูดวกไปวนมา 3. ที่มาจากวัฒนธรรมทางสังคม เช่น การท ามาหากิน การกระท ากระท า ประเพณี การละเล่น การศึกษา การเมืองการปกครอง อาทิ ท านาบนหลังคน หมายถึง การแสวงหาผลประโยชน์ ใส่ตนโดยขูดรีดผู้อื่น ไม่ดูตาม้าตาเรือ หมายถึง ไม่พิจารณาให้รอบคอบ ไกลปืนเที่ยง หมายถึง คนที่อยู่ไกลออกไป คนบ้านนอก 4. ที่มาจากวัฒนธรรมทางจิตใจ เช่น ทางศาสนาและความเชื่อ อาทิ ข้าวแดงแกงร้อน หมายถึง วามส านึกในบุญคุณที่ผู้มีพระคุณได้ให้ความช่วยเหลือ สอนหนังสือสังฆราช หมายถึง สอนในสิ่งที่เขารู้ดีอยู่แล้ว. กรวดน้ าคว่ าขัน หมายถึง ตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย บุญท ากรรมแต่ง หมายถึง บุญหรือบาปที่ท าไว้ในชาติก่อนเป็นเหตุให้รูปร่าง หน้าตา 5. ที่มาจากวัฒนธรรมทางศิลปะ เช่น การแสดง ดนตรี อาทิ ประสมโรง หมายถึง พลอยเข้าร่วมเป็นพวกด้วย ชักใย หมายถึง บงการอยู่เบื้องหลัง นอกจอ หมายถึง ดีแต่เก่งอยู่ข้างนอก 6. ที่มาจากวัฒนธรรมทางภาษา วรรณคดี ต านาน นิทาน ประวัติศาสตร์ ชักแม่น้ าทั้งห้า หมายถึง พูดจาหว่านล้อมยกยอบุญคุณ เพื่อขอสิ่งที่ประสงค์ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง หมายถึง ต าหนิผู้อื่นเรื่องใดแล้วตนก็กลับท าในเรื่องนั้นเสียเอง งอมพระราม หมายถึง มีความทุกข์ล าบากเต็มที่ ที่มาของส านวน
81 ลักษณะส านวนไทยมีลักษณะดังนี้ คือ 1. มีความหมายโดยนัย คือความหมายไม่ตรงตัวตามความหมายโดยอรรถ พูดอย่างหนึ่งมี ความหมายอีกอย่างหนึ่ง เช่น กินปูนร้อนท้อง หมายถึง รู้สึกเดือดร้อนเพราะมีความผิดอยู่ ขนทรายเข้าวัด หมายถึง ร่วมมือร่วมใจกันท าบุญ ฤาษีเลี้ยงลิง หมายถึง เลี้ยงเด็กซุกซน 2. ใช้ถ้อยค ากินความมาก การใช้ถ้อยค าในส านวนส่วนใหญ่เข้าลักษณะใช้ค าน้อยกินความมาก เนื้อความมีความหมายเด่น เช่น ก่อหวอด ขึ้นคาน คว่ าบาตร ขมิ้นกับปูน คมในฝัก กิ้งก่าได้ทอง ใกล้เกลือกินด่าง เด็ดบัวไว้ ส่วนที่ใช้ถ้อยค าหลายค า แต่ละค าก็ล้วนมีความหมายและช่วยให้ได้ความกระจ่างชัดเจน 3. ถ้อยค ามีความไพเราะ การใช้ถ้อยค าในส านวนไทยมักใช้ถ้อยค าสละสลวยมีสัมผัสคล้องจองเน้น การเล่นเสียงสัมผัสสระ สัมผัสอักษร ให้เสียงกระทบกระทั่งกัน เกิดความไพเราะน่าฟังทั้งสัมผัส ภายในวรรคและระหว่างวรรคมีการจัดจังหวะค าหลายรูปแบบ เช่น กลุ่มค าซ้อน 4 ค า เช่น ก่อกรรมท าเข็ญ ก่อร่างสร้างตัว คู่ผัวตัวเมีย กลุ่มค าซ้อน 6 ค า เช่น ขิงก็ราข่าก็แรง ขี้ก้อนใหญ่ให้เด็กเห็น ยุให้ร าต าให้รั่ว กลุ่มค าซ้อน 8 ค า หรือมากกว่าบ้าง เช่น ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ก าแพงมีหูประตูมีตา ลักษณะสัมผัสคล้องจองเป็นร้อยกรองง่ายๆหลายรูปแบบมีทั้งคล้องจองกันในข้อความตอนเดียว เช่น ตื่นก่อนนอนหลัง ต้อนรับขับสู้ ผูกรักสมัครใคร่ โอภาปราศรัย และคล้องจองในข้อความที่ เป็น 2 ตอน ซึ่งมีอยู่จ านวนมากและในข้อความมากกว่า 2 ตอน เช่น น้ ามาปลากินมด น้ าลดมด กินปลา เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง 4. ส านวนไทยมักมีการเปรียบเปรยหรือมีประวัติที่มา ส่วนใหญ่มาจากการเปรียบเทียบกับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ประเพณี ศาสนา นิยาย นิทานต่างๆ กิริยาอาการ และส่วนต่างๆของ ร่างกาย เช่น กลับหน้ามือเป็นหลังมือ ใจดีสู้เสือ กินไข่ขวัญ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ลักษณะของส านวนไทย
82 1. เป็นเครื่องอบรมสั่งสอนและชี้แนะให้เป็นคนดี ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน ความรัก การ สมาคม การครองเรือน การศึกษา เช่น อย่าใฝ่สูงให้เกินศักดิ์ น้ าขุ่นไว้ใน น้ าใสไว้นอก เป็นต้น 2. เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นแนวคิด ความเชื่อของคนในสังคมไทยหลายประการ ความเชื่อในเรื่อง กรรม ความเชื่อเกี่ยวกับความไม่ประมาท เช่น กงเกวียนก าเกวียน ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก เป็นต้น 3. เป็นเครื่องชี้สะท้อนให้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม ด้านต่างๆ เช่น การท ามาหากิน การครองชีพ เศรษฐกิจ เช่น ซื้อควายหน้านา ซื้อผ้าหน้าหนาว เป็นต้น 4. เป็นเครื่องชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของคนไทยกับธรรมชาติจึงได้น าเอาลักษณะทางธรรมชาติมา ตั้งเป็นส านวน เช่น ฝนตกไม่ทั่วฟ้า น้ าซึมบ่อทราย เป็นต้น 5. การศึกษาส านวนภาษิต เป็นการสืบต่อวัฒนธรรมของชาติเอาไว้ไม่ให้สูญหายและเกิดความ ภาคภูมิใจที่บรรพชนได้สร้างสรรค์ถ้อยค าที่มีคุณค่าไว้ให้แก่เรา วิธีการใช้ส านวน การใช้ส านวนที่ถูกต้องเหมาะสมจะช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถสื่อ ความหมาย ได้อย่างชัดเจน ถูกต้อง และรวดเร็ว โดยทั่วไปเราใช้ส านวนเพื่อการสื่อสารในกรณีต่อไปนี้ 1. ใช้ในการจูงใจ เช่น ท าดีได้ดี ท าชั่วได้ชั่ว รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา ธรรมะย่อมชนะ อธรรม คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร 2. ใช้ย่อข้อความยาวๆ เช่น ขิงก็รา ข่าก็แรง ตัดหางปล่อยวัด จับปลาสองมือ 3. ใช้ขยายความหรือเน้นความเข้าใจ เช่น ปิดทองหลังพระ หนีเสือปะจระเข้ ท าคุณบูชา โทษ กินน้ าใต้ศอก เรือล่มในหนองทองจะไปไหน หนูตกถังข้าวสาร 4. ใช้แทนถ้อยค าที่ไม่ต้องการกล่าวตรงๆ เช่น เฒ่าหัวงู สิ้นบุญ เจ้าโลก บ้านเล็ก ไก่แก่แม่ปลา ช่อน โคแก่กินหญ้าอ่อน วัวเคยขาม้าเคยขี่ 5. ใช้เพิ่มสีสันและความสละสลวยของถ้อยค าในการสื่อสาร เช่น ข้าวแดงแกงร้อน อยู่เย็นเป็น สุข รั้วรอบขอบชิด คลุกคลีตีโมง คุณค่าของส านวนไทยและวิธีการใช้ส านวน
83 1. เป็นเครื่องอบรมสั่งสอนและชี้แนะให้เป็นคนดี ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน ความรัก การ สมาคม การครองเรือน การศึกษา เช่น อย่าใฝ่สูงให้เกินศักดิ์ น้ าขุ่นไว้ใน น้ าใสไว้นอก เป็นต้น 2. เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นแนวคิด ความเชื่อของคนในสังคมไทยหลายประการ ความเชื่อในเรื่อง กรรม ความเชื่อเกี่ยวกับความไม่ประมาท เช่น กงเกวียนก าเกวียน ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก เป็นต้น 3. เป็นเครื่องชี้สะท้อนให้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม ด้านต่างๆ เช่น การท ามาหากิน การครองชีพ เศรษฐกิจ เช่น ซื้อควายหน้านา ซื้อผ้าหน้าหนาว เป็นต้น 4. เป็นเครื่องชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของคนไทยกับธรรมชาติจึงได้น าเอาลักษณะทางธรรมชาติมา ตั้งเป็นส านวน เช่น ฝนตกไม่ทั่วฟ้า น้ าซึมบ่อทราย เป็นต้น 5. การศึกษาส านวนภาษิต เป็นการสืบต่อวัฒนธรรมของชาติเอาไว้ไม่ให้สูญหายและเกิดความ ภาคภูมิใจที่บรรพชนได้สร้างสรรค์ถ้อยค าที่มีคุณค่าไว้ให้แก่เรา วิธีการใช้ส านวน การใช้ส านวนที่ถูกต้องเหมาะสมจะช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถสื่อ ความหมาย ได้อย่างชัดเจน ถูกต้อง และรวดเร็ว โดยทั่วไปเราใช้ส านวนเพื่อการสื่อสารในกรณีต่อไปนี้ 1. ใช้ในการจูงใจ เช่น ท าดีได้ดี ท าชั่วได้ชั่ว รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา ธรรมะย่อมชนะ อธรรม คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร 2. ใช้ย่อข้อความยาวๆ เช่น ขิงก็รา ข่าก็แรง ตัดหางปล่อยวัด จับปลาสองมือ 3. ใช้ขยายความหรือเน้นความเข้าใจ เช่น ปิดทองหลังพระ หนีเสือปะจระเข้ ท าคุณบูชา โทษ กินน้ าใต้ศอก เรือล่มในหนองทองจะไปไหน หนูตกถังข้าวสาร 4. ใช้แทนถ้อยค าที่ไม่ต้องการกล่าวตรงๆ เช่น เฒ่าหัวงู สิ้นบุญ เจ้าโลก บ้านเล็ก ไก่แก่แม่ปลา ช่อน โคแก่กินหญ้าอ่อน วัวเคยขาม้าเคยขี่ 5. ใช้เพิ่มสีสันและความสละสลวยของถ้อยค าในการสื่อสาร เช่น ข้าวแดงแกงร้อน อยู่เย็นเป็น สุข รั้วรอบขอบชิด คลุกคลีตีโมง คุณค่าของส านวนไทยและวิธีการใช้ส านวน
84 น้ าขึ้นให้รีบตัก หมายถึง มีโอกาสดีควรรีบท า เวลาเป็นเงินเป็นทอง หมายถึง ไม่เสียเวลาไปกับสิ่งอื่นๆที่ไม่จ าเป็น ช้าๆได้พร้าเล่มงาม หมายถึง การท าอะไรซักอย่างควรจะท าให้รอบคอบ ไม่ ต้องรีบร้อนท าไปแล้วเก็บรายละเอียดดี ผลงานที่ น้ าน้อยย่อมแพ้ไฟ หมายถึง สิ่งบางอย่างที่มีพละก าลังน้อยกว่า มักจะพ่ายแพ้ ต่อสิ่งที่มีก าลังหรืออ านาจมากกว่า ไม่เห็นน้ าตัดกระบอก หมายถึง ด่วนท าทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาอันสมควร เกลือจิ้มเกลือ หมายถึง ไม่ยอมเสียเปรียบกันและกัน เอาคืนเท่ากัน แก้ เผ็ดให้สมกัน ขิงก็ราข่าก็แรง หมายถึง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ต่างฝ่ายต่างอารมณ์ร้อน พอๆกัน ปิ้งปลาประชดแมว หมายถึง ท าเพื่อประชดแต่ท าให้ตนเองเสียประโยชน์ หนามแหลมไม่มีคนเสี้ยม หมายถึง คนมี่มีพรสรรค์ สติปัญญาดี มีความสามารถสูง อาจเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งโดยไม่มีผู้สอน ส าเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล หมายถึง การแสดงออกหรือการพูดหรือกิริยามารยาท ที่ จะชี้ให้เห็นถึงพื้นฐานในการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน มะนาวกลมเกลี้ยงไม่มีคนกลึง หมายถึง คนที่มีปฏิภาณไหวพริบในตัวเองโดยไม่ต้องมีใคร สอน ปากว่าตาขยิบ หมายถึง พูดอย่างหนึ่งแต่ท าอีกอย่างหนึ่ง คดในข้องอในกระดูก หมายถึง มีสันดานเป็นคนคดโกง ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง หมายถึง สิ่งที่ดูภายนอกนั้นสวยงาม ดูดี แต่ภายในนั้นแย่ ใช้ไม่ได้ มะละกอสามตระกร้าปาไม่ถูก หมายถึง พูดจาตลบตะแลงพลิกแพลงไปมาจนจับ ค าพูดไม่ทัน ล้วงคองูเห่า หมายถึง บังอาจลักขโมยหรือล่อลวงเอาทรัพย์สินจากผู้ที่ น่าเกรงขาม ทอดสะพาน หมายถึง แสดงกิริยาให้ผู้ชายรู้เป็นนัยว่าต้องการติดต่อ หรือผูกสัมพันธ์ด้วย แจงสี่เบี้ย หมายถึง การพูดชี้แจงหรืออธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน
85 ชักแม่น้ าทั้งห้า หมายถึง ยกเหตุผลมาหว่านล้อม ยกยอก่อน แล้วจึงหันหา เข้าจุดประสงค์ สีซอให้ควายฟัง หมายถึง การพูดสอนให้ผู้ที่มีความรู้น้อยได้ฟังแต่ผู้ฟังไม่ใส่ ใจที่จะฟังหรือฟังแต่ก็ไม่สามารถท าความเข้าใจ ได้ ท าให้ผู้สอนนั้นเสียเวลาเปล่า สอนหนังสือสังฆราช หมายถึง สอนในสิ่งที่เขารู้ดีอยู่แล้ว ใกล้เกลือกินด่าง หมายถึง การมองข้ามสิ่งที่ใกล้ตัวซึ่งมีคุณค่ามากกว่ากลับ ไม่สนใจแต่กลับไปเอาสิ่งที่อยู่ไกลหรือหายาก และมีคุณค่าน้อยกว่ามาใช้ รักพี่เสียดายน้อง หมายถึง ลังเลใจไม่รู้จะเลือกอย่างไหนดีเพราะชอบทั้ง 2 อย่าง จับปลาสองมือ หมายถึง คนที่อยากได้สองอย่างทีเดียวพร้อมๆกันโดยไม่ ค านึงว่าตนเองมีความสามารถที่จะท าได้หรือไม่ เหยียบเรือสองแคม หมายถึง การที่อยู่เข้าพวกทั้งสองฝ่าย โดยตักตวง ผลประโยชน์จากทั้งสองฝ่ายอย่างไม่บริสุทธิ์ใจ ตีงูให้กากิน หมายถึง ท าสิ่งที่จะได้ประโยชน์เอาไว้ แต่ผลกลับตกที่ ผู้อื่น ยุให้ร าต าให้รั่ว หมายถึง การพูดจายุแยงให้คนทั้งสองฝ่ายผิดใจกัน ทะเลาะกัน หมายน้ าบ่อหน้า หมายถึง มุ่งหวังสิ่งที่ยังมาไม่ถึง สุกเอาเผากิน หมายถึง อาการท าอย่างเร่งรีบไม่สนใจ อาการที่ท าลวกๆ พอให้เสร็จ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ หมายถึง คนเหยาะแหยะท าอะไรไม่จริงจัง ไม่ทุ่มเท ไม่เอา การเอางาน เงาตามตัว หมายถึง ไปไหนไปด้วยกัน อยู่ใกล้กันตลอดแทบไม่คลาด กัน บ้านเมืองมีขื่อมีแป หมายถึง บ้านเมืองหรือประเทศย่อมมีกฎหมายคุ้มครอง คอขาดบาดตาย หมายถึง ร้ายแรงมากจนอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิต กินน้ าเห็นปลิง หมายถึง รู้สึกตะขิดตะขวางใจในสิ่งของที่มีมลทิน ข้าวแดงแกงร้อน หมายถึง บุญคุณที่ผู้มีพระคุณเคยได้ให้ความช่วยเหลือ วันพระไม่มีหนเดียว หมายถึง วันหน้ายังมีโอกาสอีก
86 เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม หมายถึง การปฏิบัติตนให้เหมาะสม เข้ากันได้กับสภาวะ แวดล้อมหรือสังคมที่เรอยู่ ไว้เนื้อเชื่อใจ หมายถึง ไว้วางใจ ที่เชื่อใจได้ ผักชีโรยหน้า หมายถึง ท าความดีเพียงผิวเผิน การท าดีแค่เพียงต่อหน้า น้ าตาตกใน หมายถึง เศร้าโศกเสียใจอย่างมากแต่เก็บไว้ในใจไม่เสดง วัวใครเข้าคอกนั้น หมายถึง กรรมใดใครก่อ ก็ย่อมได้รับผลกกรมนั้น ผีช้ าด้ าพลอย หมายถึง ถูกซ้ าเติมเมือ่ถึงคราวเคราะห์ร้ายหรือพลาดพลั้ง ขมิ้นกับปูน หมายถึง ชอบทะเลาะกันเมื่ออยู่ใกล้ ไม่ถูกกัน ถึงพริกถึงขิง หมายถึง การโต้ตอบที่รุนแรงทั้งสองฝ่าย พูดจามะนาวไม่มีน้ า หมายถึง คนที่มักพูดจาห้วนๆ ต าน้ าพริกละลายแม่น้ า หมายถึง การกระท าอะไรที่ไม่เหมาะสม ลงทุนลงแรงไป เป็นจ านวนมากแต่ผลลัพธ์เพียงน้อยนิดไม่คุ้มค่า กับที่ลงทุนไป พร้าขัดหลังเล่มเดียว หมายถึง คนที่มีความมุมานะ ขยันท างานก็สามารถตั้งตัว ได้ เข็นครกขึ้นภูเขา หมายถึง การท างานที่ยากล าบาก เกินความสามรถตน กินบนเรือนขี้บนหลังคา หมายถึง คนที่เนรคุณคน คางคกขึ้นวอ หมายถึง คนที่มีฐานะต่ าต้อยเมื่อได้ดีมักหลงลืม แสดง กิริยาเย่อหยิ่งจองหอง กินน้ าใต้ศอก หมายถึง จ ายอมตกเป็นรอง ไม่สามรถเทียบเทียมได้ ชิงสุกก่อนห่าม หมายถึง การท าสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่วัยหรือยังไม่ถึงเวลา ฝนทั่งให้เป็นเข็ม หมายถึง เพียรพยายามสุดความสามารถจนกว่าจะส าเร็จ ผล ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง หมายถึง ความสวยงามที่เกิดจากการปรุงแต่ง ความงาม ของคนเสริมแต่งให้สวยได้ ไก่จะดูสวยงามก็ ตรงที่มีขนเหมือนคนหากแต่งหน้าทาแป้งแต่งตัว ให้ดูดี ก็ดูสวยงามขึ้นมาเช่นกัน กิ้งก่าได้พลอย หมายถึง ได้สิ่งที่มีค่าแต่ไม่รู้คุณค่า วานรได้แก้ว หมายถึง ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าของสิ่งมีค่าที่ได้มา ตีปลาหน้าไซ หมายถึง พูดหรือกระท าการใดที่ท าให้งานของ ผู้อื่นที่ก าลังรุ่งเรืองได้รับความเสียหาย
87 ถึงไหนถึงกัน หมายถึง ถึงที่สุด ไปทุกที่ไม่เกี่ยง ใจดีสู้เสือ หมายถึง เผชิญหน้ากับสิ่งที่ตนเกรงกลัวแต่ต้อง ท าใจกล้า เผชิญหน้ากับสิ่งนั้น ต าข้าวสารกรอกหม้อ หมายถึง ท างานให้เสร็จไปครั้งนึงๆ ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิด หมายถึง การท าความชั่วหรือความผิดร้ายแรงซึ่ง เป็นเรื่องใหญ่ แม้จะพยายามปิดปัง อย่างไรก็ปิดไม่มิด ต้องมีผู้รู้เข้าจนได้ คมในฝัก หมายถึง ภายนอกดูนิ่งสงบเสงี่ยมแต่เมื่อพูด หรือ กระท าสิ่งใดออกมาจึงรู้ว่ามี ความสามารถสูง ขนมพอสมน้ ายา หมายถึง ใช้เปรียบเทียบของทั้งสองสิ่งนั้นมีมูลค่า ความดีความร้าย ความสามารถ นั้น พอๆกันไม่ด้อยไปกว่ากัน ตาบอดได้แว่น หมายถึง การได้สิ่งที่มีค่าแต่กลับเป็นสิ่งที่คนได้ไม่ สามารถน ามาใช้ประโยชน์กับตนเองได้ เสือซ่อนเล็บ หมายถึง คนเก่งที่ไม่โอ้อวดจึงดูเหมือนไม่มี อันตราย กันดีกว่าแก้ หมายถึง รู้จักหาวิธีป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้น ดีกว่า ปล่อยให้เหตุร้ายเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถ แก้ไขอะไรได้ เกลือเป็นหนอน หมายถึง คนสนิทพวกเดียวกันคิดทรยศ กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ หมายถึง การท างานที่มีความรีรอลังเลใจ ท าให้ แก้ปัญหาได้ไม่ทันท่วงที ขี่ช้างจับตั๊กแตน หมายถึง ลงทุนมากแต่ได้ผลตอบแทนน้อย กวนน้ าให้ขุ่น หมายถึง ท าเรื่องที่สงบเรียบร้อยไปแล้ว ให้ วุ่นวายขึ้นมาอีก โลภมากลาภหาย หมายถึง อยากได้ทีละมาก ๆ สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย ปากว่ามือถึง หมายถึง พอพูดก็ท าเลย ฝากผีฝากไข้ หมายถึง ขอยึดเป็นที่พึ่งจนวันตาย ฟื้นฝอยหาตะเข็บ หมายถึง รื้อฟื้นเรื่องเก่าที่จบลงไปแล้ว บ้านใหญ่ หมายถึง เมียหลวง
88 พลิกแผ่นดิน หมายถึง การที่ตามหาเท่าไรๆก็ไม่พบ ผ้าขี้ริ้วห่อทอง หมายถึง คนมั่งมีแต่งตัวซอมซ่อ ยกภูเขาออกจากอก หมายถึง หมดวิตกกังวล ร่มไม้ชายคา หมายถึง ที่พึ่งอาศัย ม้วนเสื่อ หมายถึง เลิกกิจการเพราะขาดทุน แทรกแผ่นดิน หมายถึง หลีกหนีไปให้พ้นอันตราย สวมเขา หมายถึง เล่นชู้กับชายอื่นที่ไม่ใช่สามีตน หักล า หมายถึง ท าให้เสียท่าหรือเสียเหลี่ยม เด็กอมมือ หมายถึง ผู้ไม่รู้ประสีประสา ล้มทับ หมายถึง กินแล้วให้ผู้อื่นจ่าย ช้างเหลือขอ หมายถึง ดื้อมากเอาไว้ไม่อยู่ วัวลืมตีน หมายถึง คนที่ได้ดีแล้วลืมก าพืดตน คนที่ฐานะดีแล้วลืมตัว ตัวเป็นเกลียว หมายถึง ขยันขันแข็งไม่หยุดหย่อน บ้าหอบฟาง หมายถึง อาการหอบหิ้วสิ่งของพะรุงพะรัง เบี้ยต่อไส้ หมายถึง เอาข้าวของเงินทองที่หามาได้ขายประทังชีวิต ช้างเท้าหลัง หมายถึง ภรรยา ผู้ตาม ผู้คอยหนุนหลัง สนับสนุนผู้น าของ ตนเองหรือสามี นกสองหัว หมายถึง คนที่ท าตัวเข้าด้วยทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นศัตรูกันเพื่อ ผลประโยชน์ของตน สุกเอาเผากิน หมายถึง อาการที่ท าลวกๆ ท าให้เสร็จไปคราวหนึ่งๆ ขวานฝ่าซาก หมายถึง พูดจาตรง ๆ ไม่เกรงใจใครเลย ขายผ้าเอาหน้ารอด หมายถึง ยอมเสียสละของส าคัญของตนเพื่อรักษาชื่อเสียง ตนเอาไว้ งมเข็มในมหาสมุทร หมายถึง ค้นหาสิ่งหายากที่จะค้นหาได้ จับเสือมือเปล่า หมายถึง หาผลประโยชน์โดยตัวเองไม่ลงทุน เข้าตามตรอก ออกตามประตู หมายถึง ท าตามขนบธรรมเนียมประเพณี ส่วนใหญ่ หมายถึงการแต่งงาน เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า หมายถึง ให้รอบคอบ อย่าประมาท คลุมถุงชน หมายถึง การแต่งงานที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ต่างไม่ได้รักกันมา ก่อน โดนผู้ใหญ่จับแต่งงานกัน แกว่งเท้าหาเสี้ยน หมายถึง อยู่ดีไม่ว่าดี ไปหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว
89 ผัวหาบ เมียคอน หมายถึง ช่วยกันท ามาหากินทั้งผัวและเมีย ชี้นกบนปลายไม้ หมายถึง หวังในสิ่งที่อยู่ไกลตัว มันเป็นไปได้ยาก ชุบมือเปิบ หมายถึง ฉวยเอาผลประโยชน์ของผู้อื่น โดยตัวเองไม่ได้ ลงทุนลงแรง ซื่อเหมือนแมวนอนหวด หมายถึง ท าเป็นซื่อ ๆ ซื้อควายหน้านา ซื้อผ้าหน้าตรุษ หมายถึง ซื้อของโดยไม่คิดเวลาหรือฤดูกาล ย่อมได้ของ แพง ดีดลูกคิดรางแก้ว หมายถึง คิดถึงผลได้ ผลดีอย่างเดียว ได้ทีขี่แพะไล่ หมายถึง ไปซ้ าเติม เยาะเย้ยเมื่อคนอื่นเพลี่ยงพล้ า ตกกะไดพลอยโจน หมายถึง จ าเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อไม่มีทางเลี่ยง ตักน้ ารดหัวตอ หมายถึง แนะน าเท่าไร พร่ าสอนเท่าไร ก็ไม่ได้ผล ตักบาตรอย่าถามพระ หมายถึง จะให้อะไรแก่คนอื่น อย่าไปถามเขาว่าเอาไหม อยากได้ไหม ตัดหางปล่อยวัด หมายถึง ตัดขาดไม่เกี่ยวข้อง น้ าซึมบ่อทราย หมายถึง รายได้มาเรื่อย ๆ น้ าท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง หมายถึง พูดมากได้สาระน้อย น้ าท่วมปาก หมายถึง พูดไม่ได้ เกรงจะมีภัยแก่ตนหรือผู้อื่น ปากหวานก้นเปรี้ยว หมายถึง พูดจาอ่อนหวาน แต่ไม่จริงใจ ปิดทองหลังพระ หมายถึง ท าดีแต่ไม่มีใครยกย่อง เพราะมองไม่เห็นคุณค่า ไปไหนมา สามวาสองศอก หมายถึง ถามอย่างหนึ่ง ตอบไปอีกอย่างหนึ่ง พออ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ หมายถึง รู้ทันกัน ไม่มีทางจะโกหก หลอกกันได้ พูดเป็นต่อยหอย หมายถึง พูดฉอด ๆ ไม่หยุดปาก พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียต าลึงทอง หมายถึง พูดไปไม่มีประโยชน์ นิ่งเสียดีกว่า มือถือสาก ปากถือศีล หมายถึง ชอบแสดงตัวตนว่าเป็นคนมีศีล มีธรรม แต่ท า ความเลวเป็นนิจ มือห่าง ตีนห่าง หมายถึง สุรุ่ยสุร่าย เลินเล่อ สะเพร่า ไม่ระมัดระวัง ไม่ดูตาม้าตาเรือ หมายถึง ไม่พิจารณารอบคอบดูให้ดี เลือดข้นกว่าน้ า หมายถึง ญาติพี่น้องย่อมดีกว่าคนอื่น สอนจระเข้ให้ว่ายน้ า หมายถึง สอนสิ่งที่เขารู้ดีหรือถนัดอยู่แล้ว สร้างวิมานในอากาศ หมายถึง คิดคาดหวัง จะมีจะเป็นอะไรอย่างเลิศลอย
90 แบบฝึกหัด ชุดที่ 1 รู้จักส านวนไทย
91 ค าชี้แจง ให้นักเรียนอธิบายลักษณะของส านวนไทยให้เข้าใจชัดเจน ดังต่อไปนี้ 1. ส านวนไทย หมายถึง .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 2. ที่มาของส านวนไทย มีอะไรบ้าง (ให้ยกตัวอย่างมา 3 ข้อ ) .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 3. ลักษณะของส านวนไทย มีลักษณะอย่างไร .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. รู้จักส านวนไทย
92 แบบฝึกหัด ชุดที่ 2 ปริศนาอักษรไขว้ “ส านวนไทย”
93