เอกสารประกอบการสอน
วชิ าเคมี 1 รหัสวชิ า ว 31221
ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2562
เรยี บเรยี งโดย
อาจารย์พลากร คาขวา
กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยมัธยมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์
QR code ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการสอนในรปู แบบหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-book)
คานา
เอกสารประกอบการสอน รายวิชาเคมี 1 รหัสวิชา ว 31221 จัดทาขึ้นเพ่ือใช้ประกอบการเรียน
การสอน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายมัธยมศึกษา (ศึกษาศาสตร์)
ประจาภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 และเพ่ือให้นักเรียนใช้เป็นแหล่งค้นคว้าความรู้เพ่ิมเติมด้วยตนเอง
และมุ่งเนน้ ให้เกิดความเขา้ ใจในเน้อื หาวิชาเคมีมากย่งิ ขนึ้
เนื้อหาของเอกสารประกอบการสอน แบ่งเป็น 3 บท ประกอบด้วย ทักษะและความปลอดภัยใน
ปฏิบัติการเคมี อะตอมและสมบัติของธาตุ และพันธะเคมี นอกจากน้ันยังได้มีการเพ่ิมเติมตัวอย่างและ
แบบฝึกหัด เพื่อให้นักเรียนได้อ่านและฝึกทาเพ่ิมเติมจากการเข้าเรียนในช้ันเรียน รวมถึงการแทรกลิงก์
แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ในบทเรียน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย กว้างขวาง และมีเกิดประโยชน์
สูงสุดต่อผู้เรียน และเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ฝ่ายมธั ยมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) และผ้ทู ี่สนใจให้สงู ขน้ึ
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารประกอบการสอนฉบับบนี้ จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการ
การสอนสาหรับครูและการพัฒนาการเรียนรู้สาหรับนักเรียน และเป็นแนวทางในการพัฒนางานแก่ผู้สนใจ
ไดเ้ ปน็ อย่างดี
พลากร คาขวา
เอกสารประกอบการสอน ก วิชาเคมี 1 (ว 31221)
สารบญั หนา้
ก
คานา ข
สารบญั ค
ประมวลการสอนรายวชิ า (Course Syllabus)
บทที่ 1 ทกั ษะและความปลอดภัยในปฏิบตั ิการเคมี 1
2
บทนา 2
ผงั มโนทัศน์ 11
1.1 ความปลอดภัยในปฏิบตั ิการเคมี 26
1.2 ทักษะในปฏิบตั กิ ารเคมี 29
1.3 วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตร์
บทสรปุ 31
บทท่ี 2 อะตอมและสมบัติของธาตุ 32
บทนา 33
ผงั มโนทศั น์ 41
2.1 แบบจาลองอะตอม 48
2.2 อนุภาคมลู ฐานของอะตอมและไอโซโทป 53
2.3 คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และสเปกตรัม 61
2.4 การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม 66
2.5 ตารางธาตุ 76
2.6 แนวโน้มสมบตั ขิ องธาตุตามหมู่และตามคาบ 78
2.7 ธาตุแทรนซิชัน 90
2.8 ธาตุกมั มันตรงั สี
บทสรุป 91
บทที่ 3 พนั ธะเคมี 92
บทนา 92
ผงั มโนทัศน์ 120
3.1 พันธะโคเวเลนต์ 132
3.2 พนั ธะไอออนิก 134
3.3 พนั ธะโลหะ 135
บทสรุป 136
บรรณานุกรม
ตารางธาตุ
เอกสารประกอบการสอน ข วิชาเคมี 1 (ว 31221)
ประมวลการสอนรายวชิ า (Course Syllabus)
รหัสและช่ือรายวิชา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562
ว 31221 เคมี 1 เวลาเรียน 4 คาบ/สัปดาห์
SC 31221 Chemistry 1 จานวน 2.0 หน่วยกติ
โรงเรยี น โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายมัธยมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์
สาระการเรยี นรู้
ระดบั ช้ัน วทิ ยาศาสตร์ ประเภทวิชา วิชาเพมิ่ เตมิ
ผู้สอน
มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 : ห้อง ม.4/4 - 4/6 section 1-3
อาจารยพ์ ลากร คาขวา e-mail : [email protected] โทร. 081-5459422
หมวดที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้และคาอธิบายรายวิชา
1.1 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 (ปรับปรุง 2560)
บทท่ี 1 ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
1. ระบคุ วามเป็นอนั ตรายของสารเคมจี ากสญั ลักษณ์และข้อมูลบนฉลากสารเคมีได้
2. อธิบายข้อปฏิบัติเบ้ืองต้นและการปฏิบัติตนที่แสดงถึงความตระหนักในการทาปฏิบัติการเคมี เพื่อให้มี
ความปลอดภยั ทงั้ ตอ่ ตนเอง ผู้อน่ื และส่ิงแวดล้อม และเสนอแนวทางการแก้ไขเม่ือเกดิ อุบัตเิ หตไุ ด้
3. เลือกและใช้อปุ กรณห์ รือเครอ่ื งมือในการทาปฏบิ ตั ิการ และวัดปริมาณต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
4. อา่ นคา่ ปรมิ าณจากการวัดโดยแสดงเลขนยั สาคัญได้ถกู ต้อง
5. ระบหุ น่วยวดั ปริมาณตา่ ง ๆ ของสารได้ถูกตอ้ ง
6. คานวณเลขนยั สาคัญไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
7. เปลย่ี นหน่วยวดั ให้เปน็ หนว่ ยในระบบเอสไอดว้ ยการใชแ้ ฟกเตอรเ์ ปลย่ี นหน่วยได้
8. นาเสนอแผนการทดลอง ทดลอง และเขยี นรายงานการทดลองได้
บทท่ี 2 อะตอมและสมบตั ขิ องธาตุ
1. สืบค้นข้อมูลและอธิบายความหมายของแบบจาลองอะตอม พร้อมท้ังบอกสาเหตุท่ีทาให้แบบจาลอง
อะตอมมีการเปลี่ยนแปลงได้
2. อธบิ ายแบบจาลองอะตอมของดอลตนั ทอมสัน รัทเทอรฟ์ อร์ด โบร์ และแบบกลมุ่ หมอกได้
3. เขยี นและแปลความหมายของสญั ลกั ษณน์ ิวเคลยี ร์ได้
4. อธบิ ายความหมายและยกตวั อยา่ งไอโซโทปของธาตุได้
5. อธิบายการเกิดสเปกตรัมและคานวณพลังงานคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าได้
6. บอกความแตกต่างของระดับพลงั งานหลกั พลงั งานยอ่ ย และออร์บิทลั ได้
7. จัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอมเม่ือทราบเลขอะตอมของธาตุ พร้อมทั้งระบุ หมู่ คาบ และกลุ่มของธาตุใน
ตารางธาตไุ ด้
8. บอกแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์ในยุคต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดธาตุเป็นหมวดหมู่จนได้เป็นตารางธาตุ
พรอ้ มทั้งระบุปญั หาของการจดั กลุ่มธาตุได้
เอกสารประกอบการสอน ค วิชาเคมี 1 (ว 31221)
1.1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 (ปรับปรงุ 2560)
9. จาแนกธาตุเป็นกลุ่มโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ หรือเป็นกลุ่มเรพรีเซนเททีฟหรือธาตุหมู่หลัก และ
ธาตุแทรนซิชนั หรือตามการจดั เรียงอิเล็กตรอน เม่อื ทราบเลขอะตอมได้
10. วิเคราะห์และสรุปแนวโน้มสมบัติต่าง ๆ ของธาตุตามหมู่และคาบ เกี่ยวกับขนาดอะตอม รัศมีไอออน
พลงั งานไออไนเซชัน อเิ ล็กโทรเนกาตวิ ติ ี สมั พรรคภาพอิเลก็ ตรอน พร้อมท้ังอธบิ ายเหตุผลประกอบได้
11. เปรียบเทยี บสมบัติบางประการของโลหะเรพรีเซนเททีฟหรือโลหะหมู่หลกั และโลหะแทรนซิชนั ได้
12. อธิบายสมบัตขิ องไอโซโทปกัมมนั ตรงั สี รงั สีแอลฟา รังสบี ีตา และรังสีแกมมาได้
13. คานวณครง่ึ ชีวิตของไอโซโทปกมั มนั ตรังสีได้
14. สืบคน้ ขอ้ มูลและยกตวั อย่างการนาธาตุมาใชป้ ระโยชน์ รวมท้ังผลกระทบต่อสงิ่ มีชวี ิตและส่ิงแวดลอ้ ม
บทท่ี 3 พนั ธะเคมี
1. อธิบายการเกดิ พนั ธะโคเวเลนต์แบบพันธะเดยี่ ว พันธะคู่ และพนั ธะสาม ด้วยโครงสร้างลิวอิสได้
2. เขียนสตู รและเรยี กชื่อสารโคเวเลนตไ์ ด้
3. วิเคราะหแ์ ละเปรยี บเทยี บความยาวพันธะและพลงั งานพนั ธะในสารโคเวเลนตไ์ ด้
4. คานวณพลงั งานท่เี ก่ียวข้องกบั ปฏกิ ิรยิ าของสารโคเวเลนตจ์ ากพลงั งานพันธะได้
5. คาดคะเนรูปรา่ งโมเลกุลโคเวเลนตโ์ ดยใช้ทฤษฎีการผลกั คูอ่ ิเล็กตรอนในวงเวเลนซ์ได้
6. เขียนทศิ ทางขัว้ พันธะและทศิ ทางขว้ั โมเลกลุ รวมท้ังระบสุ ภาพขัว้ โมเลกลุ โคเวเลนตไ์ ด้
7. ระบุชนิดของแรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และเปรียบเทียบจุดหลอมเหลว จุดเดือด และ
การละลายน้าของสารโคเวเลนต์ได้
8. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ ายสมบตั ิ และนาเสนอตัวอย่างของสารโคเวเลนต์โครงร่างตาขา่ ยชนิดตา่ ง ๆ ได้
9. เขียนสัญลักษณ์แบบจุดของลิวอิสของธาตุและไอออน และระบุได้ว่าธาตุหรือไอออนนั้นเป็นไปตาม
กฎออกเตต
10. อธบิ ายการเกิดไอออนและการเกิดพนั ธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรือสัญลักษณแ์ บบจดุ ของลวิ อิสได้
11. อธบิ ายโครงสรา้ งของสารประกอบไอออนกิ ได้
12. เขยี นสูตรและเรียกชอื่ สารประกอบไอออนกิ ได้
13. คานวณพลงั งานท่ีเกีย่ วข้องกบั ปฏกิ ิริยาการเกิดสารประกอบไอออนิกจากวฏั จักรบอร์น-ฮาเบอร์ได้
14. อธบิ ายสมบัตบิ างประการของสารประกอบไอออนิกได้
15. เขยี นสมการไอออนิกและสมการไอออนิกสุทธิของปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิกได้
16. อธิบายการเกิดพนั ธะโลหะและสมบัติของโลหะ
17. เปรียบเทียบสมบตั ิบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ
18. สบื ค้นขอ้ มูลและนาเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์และโลหะได้
เอกสารประกอบการสอน ง วิชาเคมี 1 (ว 31221)
หมวดท่ี 1 จดุ ประสงคแ์ ละคาอธบิ ายรายวิชา (ต่อ)
1.2 คาอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาเกี่ยวกบั สัญลักษณ์แสดงความอันตรายของสารเคมีในระบบ GHS และ NFPA ข้อควรปฏิบัติใน
การทาปฏิบัติการเคมี ท้ังก่อนทาปฏิบัติการ ขณะทาปฏิบัติการ และหลังทาปฏิบัติการ การกาจัดสารเคมี
และการปฐมพยาบาลเมื่อได้รับอุบัติเหตุจากสารเคมี ศึกษาการพิจารณาความน่าเช่ือถือของข้อมูลที่ได้จาก
การวัดจากความเท่ียงและความแม่น อุปกรณ์วัดปริมาตรและวัดมวล เลขนัยสาคัญ หน่วยวัดในระบบเอสไอ
แฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วย รวมท้ังวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และ
จิตวิทยาศาสตร์ ศึกษาแบบจาลองอะตอมของดอลตัน ทอมสัน รัทเทอร์ฟอร์ด โบร์ และแบบกลุ่มหมอก
อิเล็กตรอน เขียนและแปลความหมายสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ เลขอะตอม เลขมวล ไอโซโทป เขยี นการ
จัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม ศึกษาความหมายของระดับพลังงานของอิเล็กตรอน ออร์บิทัล เวเลนซ์
อิเล็กตรอน วิวัฒนาการของการสร้างตารางธาตุและตารางธาตุในปัจจุบัน แนวโน้มสมบัติบางประการของ
ธาตุในตารางธาตุตามหมู่และคาบ เกี่ยวกับขนาดอะตอม ขนาดไอออน พลังงานไอออไนเซชัน สัมพรรคภาพ
อิเล็กตรอน อิเล็กโทรเนกาติวิตี ศึกษาสมบัติของธาตุแทรนซิชัน ธาตุกัมมันตรังสี การเกิดกัมมันตภาพรังสี
การสลายตัวและอันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสี คานวณครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตรังสี ศึกษาปฏิกิริยา
นิวเคลียร์และเทคโนโลยีที่เกย่ี วข้องกับการใชส้ ารกัมมนั ตรังสี การนาธาตุไปใชป้ ระโยชน์ รวมท้ังผลกระทบต่อ
สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ศึกษาพันธะเคมี สัญลักษณ์แบบจุดของลิวอิสและกฎออกเตต การเกิดพันธะ
ไอออนิก สูตรเคมีและช่ือของสารประกอบไอออนิก พลังงานกับการเกิดสารประกอบไอออนิก สมบัติของ
สารประกอบไอออนิก สมการไอออนิกและไอออนิกสุทธิ การเกิดพันธะโคเวเลนต์ โครงสร้างลิวอิส
สูตรโมเลกุลและชื่อของสารโคเวเลนต์ ความยาวและพลังงานพันธะ เรโซแนนซ์ การคานวณพลังงานพันธะ
และพลังงานของปฏิกิริยา รูปร่างและสภาพขั้วของโมเลกุลโคเวเลนต์ แรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุลและ
สมบัติของสารโคเวเลนต์ สารโคเวเลนตโ์ ครงร่างตาขา่ ย การเกิดพันธะโลหะและสมบัติของโลหะ และการนา
สารประกอบชนดิ ต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะความรู้ การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย
อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทาง
วิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการ
แก้ปัญหา ด้านการสือ่ สาร สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์
จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม
เอกสารประกอบการสอน จ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
หมวดที่ 2 โครงสรา้ งรายวิชา
ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน หนว่ ยย่อยการเรยี นรู้ เวลา นา้ หนกั
การเรียนรู้ การเรียนรู้/ (คาบ) คะแนน
หน่วยท่ี 1 (100)
ความ ตัวชว้ี ัด
ปลอดภยั ว 5.3 ม.4/1 1.1 ความปลอดภัยในปฏบิ ตั กิ ารเคมี 2 15
และทกั ษะใน 1.1.1 ข้อควรปฏิบตั ใิ นการทาปฏิบัติการเคมี
ปฏบิ ัตกิ าร ว 5.3 ม.4/2 1.1.2 ความปลอดภัยในการทางานกบั สารเคมี 4
เคมี ว 5.3 ม.4/4 1.1.3 อบุ ตั เิ หตุจากการทาปฏิบตั กิ ารและการปฐม 2
หน่วยที่ 2 ว 5.3 ม.4/3 พยาบาล
อะตอมและ ว 5.1 ม.4/1 1.2 ทักษะในปฏบิ ตั ิการเคมี
สมบตั ขิ อง
ธาตุ ว 5.1 ม.4/2 1.2.1 ทกั ษะการทาปฏบิ ัตกิ ารเคมี
1) อุปกรณ์การวัดปรมิ าตรและมวล
2) การอ่านสเกลและการบนั ทึกผลการทดลอง
3) ความเทีย่ งและความแม่นในการวัดปรมิ าณ
1.2.2 ทักษะการคานวณ
1) เลขนยั สาคญั
2) หนว่ ยวัดและแฟกเตอร์เปลย่ี นหนว่ ย
1.3 วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทาง 4
วิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ 2 25
2.1 แบบจาลองอะตอม
2.1.1 แบบจาลองอะตอมของดอลตัน
2.1.2 แบบจาลองอะตอมของทอมสนั
2.1.3 แบบจาลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด
2.1.4 แบบจาลองอะตอมของโบร์
2.1.5 แบบจาลองแบบกลมุ่ หมอกอเิ ลก็ ตรอน
2.2 อนภุ าคมูลฐานของอะตอมและไอโซโทป 2
2.2.1 ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกับอนภุ าคมลู ฐาน
2.2.2 การทดลองเกีย่ วกับประจแุ ละมวล
อิเล็กตรอน
1) การหาค่าประจุต่อมวล (e/m)
2) การทดลองหยดน้ามันของมิลลแิ กน
2.2.3 สญั ลักษณ์นิวเคลยี รแ์ ละไอโซโทป
เอกสารประกอบการสอน ฉ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
ชื่อหน่วย มาตรฐาน หน่วยย่อยการเรยี นรู้ เวลา นา้ หนัก
การเรียนรู้ การเรยี นรู้/ (คาบ) คะแนน
(100)
ตัวชี้วัด
ว 5.1 ม.4/3 2.3 คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้าและสเปกตรัม 2
2.3.1 คลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟา้
ว 5.1 ม.4/3 2.3.2 รปู แบบของสเปกตรัม
ว 5.1 ม.4/4 2.3.3 การคานวณพลังงานของคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า
ว 5.1 ม.4/4 2.4 การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม 2
2.4.1 รูปรา่ งของออร์บทิ ัล
ว 5.1 ม.4/5 2.4.2 หลกั การและกฎทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับการจัดเรยี ง 2
ว 5.1 ม.4/6 2
อเิ ลก็ ตรอนลงในออรบ์ ทิ ัล 2
ว 5.1 ม.4/7 2.4.3 การจัดเรียงอเิ ล็กตรอนลงในออรบ์ ทิ ลั และ 2
การระบหุ มู่/คาบ
1) การจัดเรยี งอิเล็กตรอนของธาตุกลุม่ A
2) การจดั เรียงอิเล็กตรอนของธาตุกล่มุ B
2.5 วิวัฒนาการของตารางธาตุ
2.5.1 การจดั ธาตุแบบชุดสาม
2.5.2 การจัดธาตโุ ดยใช้กฎออกเตฟ
2.5.3 การจัดธาตโุ ดยใช้กฎพิริออดกิ
2.5.4 ตารางธาตใุ นปัจจบุ ัน
2.6 แนวโนม้ สมบัติของธาตุเรพรเี ซนเททีฟตามหมู่
และคาบ (ขนาดอะตอม,ขนาดไอออน, IE, EN, EA)
2.7 ธาตแุ ทรนซชิ ัน
2.7.1 สมบัติทั่วไปของธาตแุ ทรนซิชนั
2.7.2 ความวอ่ งไวในการเกดิ ปฏิกริ ิยาของ
โลหะแทรนซชิ ันกบั โลหะในกลุม่ เรพรเี ซนเททีฟ
2.8 ธาตกุ มั มันตรงั สี
2.8.1 นวิ เคลียสและเสถยี รภาพของนวิ เคลียส
2.8.2 กัมมนั ตภาพรังสี
2.8.3 รปู แบบการเปล่งรังสีของธาตุกัมมันตรงั สี
2.8.4 การสลายตวั ของธาตุกมั มันตรังสี
2.8.5 ปฏิกริ ิยานิวเคลียร์
2.8.6 ประโยชนแ์ ละโทษของธาตุกัมมันตรังสี
เอกสารประกอบการสอน ช วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
ชอื่ หน่วย มาตรฐาน หน่วยย่อยการเรยี นรู้ เวลา น้าหนกั
การเรยี นรู้ การเรียนรู้/ (คาบ) คะแนน
3.1 พนั ธะโคเวเลนต์ (100)
หน่วยท่ี 3 ตัวชี้วดั 3.1.1 การเกดิ พันธะโคเวเลนต์
พันธะเคมี ว 5.1 ม.4/14 3.1.2 การเขียนโครงสรา้ งแบบจุดและชนดิ พนั ธะ 3 30
3.1.3 โมเลกุลท่ีไม่เป็นไปตามกฎออกเตต
ว 5.1 ม.4/15 3.1.4 การเขยี นสตู รและเรยี กชอ่ื สารโคเวเลนต์ 1
ว 5.1 ม.4/16 3.1.5 ความยาวพนั ธะและพลังงานพันธะ 2
3.1.6 โครงสรา้ งเรโซแนนซ์
ว 5.1 ม.4/17 3.1.7 รูปรา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ 4
ว 5.1 ม.4/18 3.1.8 สภาพขว้ั ของโมเลกุลโคเวเลนต์
3.1.9 แรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งโมเลกุลและสมบตั ิ 2
ว 5.1 ม.4/18
ว 5.1 ม.4/19 ของสารโคเวเลนต์ 2
3.1.10 ผลของสภาพขั้วโมเลกลุ และแรงยึดเหนีย่ ว 2
ว 5.1 ม.4/8 2
ว 5.1 ม.4/9 ระหว่างโมเลกลุ ทม่ี ตี ่อสมบัติของสาร 2
ว 5.1 ม.4/10 3.1.11 สารโคเวเลนต์โครงร่างตาข่าย 2
ว 5.1 ม.4/11 1
ว 5.1 ม.4/12 3.2 พันธะไอออนิก 1
ว 5.1 ม.4/13 3.2.1 การเกดิ พนั ธะไอออนิก
ว 5.1 ม.4/20 3.2.2 การเขียนสูตรและเรยี กชอื่ สารไอออนกิ 4 15
ว 5.1 ม.4/21 3.2.3 พลังงานกับการเกิดสารประกอบไอออนิก 4 15
3.2.4 สมบัติของสารประกอบไอออนิก 60 100
3.2.5 ปฏกิ ริ ยิ าของสารประกอบไอออนิก
3.3 พนั ธะโลหะ
3.4 การเปรียบเทียบสมบัติของสารโคเวเลนต์
สารประกอบไอออนิก โลหะ และประโยชนข์ องสาร
สอบกลางภาค
สอบปลายภาค
รวม
เอกสารประกอบการสอน ซ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
หมวดที่ 3 แผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการสอน วตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ กจิ กรรมการ สอื่ การสอน วธิ กี าร เวลา
สปั ดาห์ หน่วยการ เรยี นรู้ ประเมนิ
(คาบ)
ที่ เรยี นรู้ 1. ระบุความเป็นอันตราย 1. สถานการณ์ 1. Power 1. สังเกตการ
1 หน่วยท่ี 1 ตอบคาถาม 2
ของสารเคมีจากสัญลักษณ์ สมมติ เม่ือมกี าร Point บรรยาย ขณะทา
แผนการ กจิ กรรมกลุ่ม 2
จดั การเรียนรู้ และข้อมูลบนฉลากสารเคมี สมั ผสั กบั HCl 2. ใบคาถาม และบันทกึ ลง
ท่ี 1 ในแบบ
เรอ่ื ง ความ ได้ ในน้ายาขัดพน้ื กิจกรรมกลุ่ม ประเมิน
ปลอดภัยใน กิจกรรมกลุ่ม
ปฏิบัติ 2. อธิบายข้อปฏิบัติเบ้ืองต้น หอ้ งน้า 3. ฉลากสารเคมี 2. กิจกรรม
การเคมี แต่งตวั ใหห้ ุ่น
และการปฏิบัติตนที่แสดงถึง 2. บรรยาย และ SDS 3. ใช้แบบ
1 หนว่ ยท่ี 1 ประเมนิ
แผนการ ความตระหนักในการทา เรือ่ ง ขอ้ ควร 4. เอกสาร ความรู้ ทักษะ
จัดการเรยี นรู้ และจติ
ที่ 2 ปฏิบั ติการเคมี เพ่ือให้ มี ปฏิบัตใิ นการทา ประกอบ วิทยาศาสตร์
เรอ่ื ง ทักษะ (รายบุคคล)
ในการทา ความปลอดภัยทั้งต่อตนเอง ปฏบิ ตั ิการเคมี การสอน 3. ตรวจใบ
ปฏิบตั ิ งาน 1.1
การเคมี (การ ผู้อ่ืน และสิ่งแวดล้อม และ 3. กจิ กรรมกลมุ่ 5. เสอ้ื กาวน์ (รายบุคคล)
ชั่ง ตวง วัด)
เสนอแนวทางการแก้ไขเม่ือ เรอื่ ง การเรยี นรู้ แวน่ นริ ภยั 1. สงั เกตการ
ตอบคาถาม
เกิดอุบตั เิ หตุได้ ฉลากสารเคมี ถงุ มอื ยาง และ ขณะทา
กิจกรรมกล่มุ
3. มีทักษะกระบวนการทาง และสญั ลักษณ์ ผา้ ปดิ จมูก และบันทกึ ลง
ในแบบ
วิทยาศาสตร์ (การพยากรณ์ ความอนั ตราย 6. ใบงาน 1.1 ประเมิน
กิจกรรมกลมุ่
การตีความหมายข้อมูลและ ในระบบ GHS เรอ่ื ง ความ 2. ทดสอบการ
ช่ัง ตวง วดั
ลงข้อสรุป การลงความเห็น และ NFPA ปลอดภัยในการ รายบคุ คล
จากข้อมลู ) ทาปฏบิ ัตกิ าร
4. มี ทักษะการเรียนรู้ใน เคมี
ศตวรรษท่ี 21 (ความร่วมมือ
และทางานเป็นทมี )
5. มีจิตวิทยาศาสตร์ (อยาก
รู้อยากเห็น ใจกว้าง ร่วมมือ
ชว่ ยเหลือ)
1. บอกหน้าที่และเลือกใช้ 1. กิจกรรมส่มุ 1. Power
อุปกรณ์ เครื่องแก้ว ในการ เลขทบี่ อกช่ือ Point บรรยาย
วัดปริมาณต่าง ๆ ได้อย่าง เคร่อื งแกว้ 2. อปุ กรณ์
เหมาะสม 2. กิจกรรม การ ไดแ้ ก่ เคร่ืองชง่ั
2. อ่านค่าปริมาณจากการ อ่านคา่ ปริมาตร ดจิ ิทลั เครื่องช่ัง
วัดโดยแสดงเลขนัยสาคัญ ของเคร่ืองแก้ว สามคาน
และระบุหน่วยวัดปริมาณ 3. บรรยายและ 3. เครอื่ งแก้ว
ตา่ ง ๆ ของสารได้ถกู ต้อง สาธิตวิธใี ช้ ไดแ้ ก่ บีกเกอร์
3. มีทักษะกระบวนการทาง เคร่อื งแก้ว ขวดรปู ชมพู่
วิทยาศาสตร์ (การจาแนก 4. บรรยาย ปเิ ปต บิวเรต
ประเภท การวัด การลง เร่ือง ความเทย่ี ง กระบอกตวง
เอกสารประกอบการสอน ฌ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ กจิ กรรมการ สอื่ การสอน วิธกี าร เวลา
สปั ดาห์ หนว่ ยการ เรยี นรู้ ประเมนิ
ความเห็นจากข้อมูล การ 4. เอกสาร (คาบ)
ที่ เรียนรู้ ตีความหมายข้อมูลและลง และความแม่น ประกอบ 3. ใช้แบบ
ขอ้ สรุป) การสอน ประเมิน 2
2 4. มี ทักษะการเรียนรู้ใน 5. กิจกรรมกลมุ่ 5. ใบงาน 1.2 ความรู้ ทกั ษะ 2
ศตวรรษท่ี 21 (ความร่วมมือ การฝึกทักษะ เรอ่ื ง ทักษะใน และจติ
2 หนว่ ยท่ี 1 และทางานเปน็ ทีม) การชัง่ ตวง วัด การทา วทิ ยาศาสตร์ 4
แผนการ 5. มี จิ ต วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ การอ่านคา่ ปฏบิ ัตกิ ารเคมี (รายบุคคล)
จัดการเรยี นรู้ (รอบคอบ มเี หตผุ ล มงุ่ ม่ัน) หน่วยวดั (การชงั่ ตวง วดั ) 3. ตรวจใบ
ที่ 3 1. กจิ กรรมกลมุ่ งาน 1.2
เรื่อง ทักษะ 1. บอกหลกั การกาหนดและ Significant 1. Power (รายบคุ คล)
การคานวณ คานวณเลขนยั สาคญั ได้ figure (เกม) Point บรรยาย
(เลขนัยสาคัญ 2. คานวณเลขนัยสาคัญได้ 2. บรรยาย 2. เกม 1. สังเกตการ
และการ อยา่ งถูกต้อง เร่ือง หน่วยวัด Significant ร่วมกจิ กรรม
เปลย่ี นหนว่ ย) 3. ระบุหน่วยวัดในระบบ และแฟกเตอร์ figure ที่สร้างใน ขณะทา
เอสไอได้ เปลย่ี นหนว่ ย www.quizwhi กิจกรรมกล่มุ
3 หน่วยที่ 1 4. เปล่ียนหน่วยวัดให้เป็น 3. ฝึกทักษะการ zzer.com และบันทกึ ลง
แผนการ หน่วยในระบบเอสไอด้วย คานวณเลข 3. เอกสาร ในแบบ
จดั การเรยี นรู้ การใช้แฟ กเตอร์เป ล่ียน นยั สาคญั ในใบ ประกอบ ประเมิน
ที่ 4 หนว่ ยได้ งาน 1.3 การสอน กจิ กรรมกลุ่ม
เรื่อง การ 5. มีทักษะกระบวนการทาง 4. ใบงาน 1.3 2. ใช้แบบ
เสนอแผนการ วิทยาศาสตร์ (การคานวณ 1. กิจกรรมกลมุ่ เรอ่ื ง เลข ประเมิน
ทดลอง การลงความเห็นจากขอ้ มลู ) Camp Riddle นัยสาคญั และ ความรู้ ทักษะ
6. มี จิ ต วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ 2. บรรยาย การเปลยี่ น และจิต
(รอบคอบ ร่วมมือช่วยเหลือ เรอื่ ง วธิ ีการทาง หนว่ ย วทิ ยาศาสตร์
ม่งุ มัน่ ) วิทยาศาสตร์ (รายบุคคล)
ทกั ษะ และจติ 1. ภาพ Camp 3. ตรวจใบ
1. นาเสนอแผนการทดลอง วทิ ยาศาสตร์ Riddle งาน 1.3
ทดลอง และเขียนรายงาน 2. ใบกจิ กรรม (รายบคุ คล)
การทดลองได้ สถานการณ์ 1. ใชแ้ บบ
2. มีทักษะกระบวนการทาง จาลอง ประเมนิ ทกั ษะ
วิทยาศาสตร์ (การสังเกต คู่มือปฏิบัติการ รายกลมุ่ เพอื่
การวัด การพยากรณ์ การ 3. เอกสาร ประเมินทกั ษะ
ต้ังสมมติฐาน การกาหนด การบวนการ
ทาง
วทิ ยาศาสตร์
เอกสารประกอบการสอน ญ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วตั ถุประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการ สื่อการสอน วิธกี าร เวลา
สัปดาห์ หน่วยการ เรยี นรู้ ประกอบ ประเมนิ
และควบคุมตัวแปร การ การสอน (คาบ)
ท่ี เรยี นรู้ ทดลอง การจัดกระทาและ 3. กิจกรรมกลมุ่ 4. เคร่ืองแก้ว และดา้ น
ทดลอง และ สื่อความหมายข้อมูล และ สถานการณ์ สารเคมี ตามที่ สมรรภาพ 2
เชยี นรายงาน ก า ร ตี ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ ล ง จาลอง เร่ือง แต่ละกล่มุ 2. ตรวจ
ผลการ ข้อสรปุ ) น้าอดั ลมแช่เยน็ ออกแบบการ ประเมนิ การ
ทดลอง 3. มี จิ ต วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ซ่ามากกว่าแบบ ทดลอง เขียนรายงาน
(อยากรู้อยากเห็น ซื่อสัตย์ ไมแ่ ช่เยน็ จริง ปฏบิ ัติการของ
4 หนว่ ยท่ี 2 รอบคอบ) หรอื ไม่ 1. Power แต่ละกลุม่
แผนการ 4. ออกแบบและ Point บรรยาย โดยใช้แบบ
จัดการเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมลู และอธบิ าย วางแผนการ 2. เอกสาร ประเมนิ
ที่ 5 ความหมายของแบบจาลอง ทดลอง ประกอบ สมรรถภาพ
เรือ่ ง อะตอม พร้อมทง้ั บอก เปรียบเทยี บ การสอน ดา้ นการ
ววิ ัฒนาการ สาเหตทุ ท่ี าให้แบบจาลอง ความแมน่ ใน 3. หนงั สอื เรยี น วางแผน
แบบ อะตอมมกี ารเปลี่ยนแปลงได้ การวดั ปรมิ าตร 4. แหล่งสบื ค้น ดาเนนิ การ
จาลองอะตอม 2. อธบิ ายแบบจาลอง น้าด้วยกระบอก ทางอินเทอร์เนต็ และอธิบาย
อะตอมของดอลตนั ทอมสัน ตวงทีม่ ีขนาด เชน่ 3. ใชแ้ บบ
รัทเทอร์ฟอรด์ โบร์ และ แตกตา่ งกนั Scimath.org ประเมิน
แบบกลุ่มหมอกได้ 5. ทาการ 5. ใบงาน 2.1 กจิ กรรมกล่มุ
3. มที กั ษะกระบวนการทาง ทดลองตามแผน 4. ใชแ้ บบ
วิทยาศาสตร์ (การจดั กระทา 6. บนั ทกึ ผลการ ประเมิน
และส่ือความหมายขอ้ มลู ) ทดลอง ความรู้ ทักษะ
วเิ คราะห์ สรุป และจติ
นาเสนอ และ วิทยาศาสตร์
เขียนรายงาน (รายบุคคล)
1. บรรยาย 1. ใช้แบบ
Timeline ของ ประเมิน
แบบจาลอง ความรู้ ทักษะ
อะตอม และจิต
2. สืบค้น วทิ ยาศาสตร์
แบบจาลอง (รายบคุ คล)
อะตอม 2. ตรวจใบ
3. นาเสนอผล งาน 2.1 เร่อื ง
การสืบคน้ วิวัฒนาการ
4. บรรยาย แบบจาลอง
เพมิ่ เตมิ การ อะตอม
ทดลองท่ี
เอกสารประกอบการสอน ฎ วิชาเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการ สื่อการสอน วิธีการ เวลา
สัปดาห์ หน่วยการ เรียนรู้ ประเมนิ
4. มที ักษะการเรยี นรู้ใน 1. Power (คาบ)
ที่ เรียนรู้ ศตวรรษท่ี 21 (การสื่อสาร เกีย่ วขอ้ งกับ Point บรรยาย 1. ใช้แบบ
สารสนเทศ) แบบจาลอง 2. ภาพการ ประเมิน 2
4 หนว่ ยท่ี 2 1. เขยี นและแปล ทดลองหยด ความรู้ ทกั ษะ
แผนการ ความหมายของสญั ลกั ษณ์ 1. สืบค้นและ นา้ มนั ของมิลลิ และจิต 2
จัดการเรียนรู้ นวิ เคลียรไ์ ด้ นาเสนอวิธีการ แกน วิทยาศาสตร์
ที่ 6 2. อธิบายความหมายและ หามวลของ 3. ภาพการ (รายบคุ คล)
เรือ่ ง อนภุ าค ยกตวั อย่างไอโซโทปของธาตุ อเิ ล็กตรอน และ ทดลองหาประจุ 2. ตรวจใบ
มูลฐาน ได้ อภิปรายร่วมกนั อิเลก็ ตรอนของ งาน 2.2 เร่อื ง
ไอโซโทป 3. มีทักษะกระบวนการทาง 2. ร่วมกัน ทอมสัน อนภุ าคมลู
ไอโซโทน วทิ ยาศาสตร์ (การ วิเคราะหต์ าราง 4. เอกสาร ฐานของ
ไอโซบาร์ ตีความหมายและลงข้อสรุป) แสดงสมบตั ขิ อง ประกอบ อะตอม
และ 4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ อนุภาคมูลฐาน การสอน สัญลกั ษณ์
สญั ลกั ษณ์ (สนใจใฝ่รู้ มงุ่ ม่ัน 3. บรรยาย 5. แหลง่ สืบค้น นวิ เคลียร์ และ
นวิ เคลยี ร์ รับผดิ ชอบ) วิธีการเขยี น ทางอนิ เทอรเ์ นต็ ไอโซโทป
สญั ลักษณ์ 6. ใบงาน 2.2 ไอโซโทน
5 หน่วยท่ี 2 1. อธิบายการเกิดสเปกตรัม นิวเคลียร์และ ไอโซบาร์
แผนการ และคานวณพลังงานคลนื่ การแปล 1. ชดุ สาธติ
จัดการเรียนรู้ แมเ่ หล็กไฟฟา้ ได้ ความหมาย สเปกตรัมอย่าง 1. ใชแ้ บบ
ท่ี 7 2. สืบคน้ และอธบิ าย 4. บรรยาย ง่าย จากแผ่นซีดี ประเมิน
เร่ือง พลังงาน ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผลการ ไอโซ โทป ไอโซ และไฟฉาย ความรู้ ทักษะ
คลืน่ แมเ่ หลก็ ทดลองของสเปกตรมั ของ โทน ไอโซบาร์ 2. Power และจติ
ไฟฟา้ ธาตุไฮโดรเจนกับระดบั 1. สาธิตการเกดิ Point บรรยาย วทิ ยาศาสตร์
พลงั งานของอิเล็กตรอนใน สเปกตรมั อยา่ ง 3. ใบงาน 2.3 (รายบคุ คล)
อะตอมตามแบบจาลอง งา่ ย 2. ตรวจใบ
อะตอมของโบรไ์ ด้ 2. บรรยาย งาน 2.3 เร่ือง
3. มีทักษะกระบวนการทาง เรื่อง การเกิด คลนื่
วทิ ยาศาสตร์ (การสงั เกต แสง (คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า
การตคี วามหมายขอ้ มลู และ แม่เหลก็ ไฟฟ้า)
ลงขอ้ สรปุ การคานวณ) ในระดบั อะตอม
เชือ่ มโยงกับ
แบบจาลอง
อะตอมของโบร์
3. ฝึกทักษะการ
คานวณ
พลงั งานคลนื่
เอกสารประกอบการสอน ฏ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ กจิ กรรมการ สื่อการสอน วธิ กี าร เวลา
สัปดาห์ หนว่ ยการ เรียนรู้ ประเมิน
(คาบ)
ท่ี เรียนรู้ 4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ใน 1. ใช้แบบ
ประเมนิ 2
5 หน่วยท่ี 2 (สนใจใฝ่รู้ มงุ่ มน่ั ใบงาน 2.3 ความรู้ ทกั ษะ
แผนการ และจติ 2
จัดการเรยี นรู้ รบั ผิดชอบ) วิทยาศาสตร์
ท่ี 8 (รายบุคคล)
เร่อื ง 1. บอกความแตกต่างของ 1. ตั้งคาถามเพ่อื 1. ภาพถา่ ย 2. ตรวจใบ
การจดั เรยี ง งาน 2.4 เร่อื ง
อิเลก็ ตรอน ระดบั พลงั งานหลกั พลังงาน ร่วมกนั อภิปราย อะตอมคารบ์ อน การจดั เรียง
ของธาตุ อิเล็กตรอน
ยอ่ ย และออร์บทิ ลั ได้ ภาพถ่ายอะตอม จาก Journal ของธาตุ
6 หน่วยท่ี 2
แผนการ 2. จัดเรียงอเิ ลก็ ตรอนใน คาร์บอน of Physic 1. ใช้แบบ
จดั การเรยี นรู้ ประเมนิ
ที่ 9 อะตอมเม่อื ทราบเลขอะตอม 2. บรรยาย Review:B ความรู้ ทกั ษะ
เรื่อง และจติ
ววิ ฒั นาการ ของธาตุ พรอ้ มทัง้ ระบหุ มู่ เร่ือง ออรบ์ ทิ ลั 2. Power วทิ ยาศาสตร์
ของตาราง (รายบุคคล)
ธาตุ คาบ และกล่มุ ของธาตุใน และสปินของ Point บรรยาย 2. ตรวจใบ
งาน 2.5 เรื่อง
ตารางธาตไุ ด้ อเิ ล็กตรอน 3. อุปกรณ์ วิวัฒนาการ
3. มีทกั ษะกระบวนการทาง 3. อภิปราย ประกอบ
วิทยาศาสตร์ (การสงั เกต ความแตกต่าง กิจกรรม การ
การลงความเหน็ จากขอ้ มลู ของพลังงาน จดั เรยี ง
การจาแนกประเภท หลกั พลงั งาน อเิ ลก็ ตรอน
การตีความหมายข้อมลู และ ยอ่ ย และ 3. ใบงาน 2.4
ลงขอ้ สรปุ ) ออร์บิทัล
4. มจี ติ วิทยาศาสตร์ 4. ศกึ ษาและ
(สนใจใฝร่ ู้ มุ่งม่นั สรุป กฎและ
รบั ผิดชอบ) หลักการท่ี
เก่ียวขอ้ งกับการ
จดั เรยี ง
อิเล็กตรอน
5. กิจกรรม การ
จัดเรยี ง
อิเลก็ ตรอน
1. บอกแนวคิดของ 1. กิจกรรมสรา้ ง 1. กระดาษ
นักวทิ ยาศาสตร์ในยุคต่าง ๆ Periodic post it สรา้ ง
เก่ยี วกบั การจดั ธาตุเปน็ Table Periodic
หมวดหมูจ่ นไดเ้ ป็นตาราง 2. บรรยาย Table
ธาตุ พรอ้ มทงั้ ระบุปญั หา เรอื่ ง 2. เอกสาร
ของการจดั กล่มุ ธาตุได้ ววิ ัฒนาการของ ประกอบ
2. จาแนกธาตุเป็นกลมุ่ โลหะ ตารางธาตุ การสอน
อโลหะ และกึ่งโลหะ หรือ 3. ร่วมกัน 3. หนงั สือเรียน
เปน็ กลุ่มเรพรเี ซนเททีฟหรือ อภิปราย เหตผุ ล 4. ตารางธาตุ
เอกสารประกอบการสอน ฐ วิชาเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ กิจกรรมการ สอื่ การสอน วิธกี าร เวลา
สปั ดาห์ หน่วยการ เรยี นรู้ ประเมนิ
ธาตหุ มู่หลกั และธาตแุ ทรน 5. ใบงาน 2.5 ของตารางธาตุ (คาบ)
ท่ี เรียนรู้ ซิชัน หรอื ตามการจดั เรยี ง ของการเปลย่ี น และประโยชน์
อิเล็กตรอน เม่อื ทราบเลข รปู แบบการจดั 1. Microsoft ของธาตุ 2
6 หนว่ ยที่ 2 อะตอมได้ ธาตุ Excel
แผนการ 3. มีทักษะกระบวนการทาง 4. บรรยาย (โปรแกรม หรอื 1. ใช้แบบ 2
จดั การเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (การจาแนก องคป์ ระกอบ แอพลเิ คชนั ) ประเมนิ
ที่ 10 ประเภท การตีความหมาย ของตารางธาตุ 2. ตารางข้อมลู กิจกรรมกลุม่
เรอื่ ง แนวโนม้ ขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ ) ในปัจจบุ นั รศั มอี ะตอม 2. ใช้แบบ
สมบัตขิ อง 4. มีจติ วิทยาศาสตร์ (มี รศั มีไอออน ประเมนิ
ธาตตุ ามหมู่ เหตุผล รว่ มแสดงความ 1. กจิ กรรมกลมุ่ พลงั งานไอออไน ความรู้ ทักษะ
และคาบ คดิ เห็นและรบั ฟงั ความ การพล็อตกราฟ เซชัน อิเล็กโทร และจิต
คิดเหน็ ) แสดงแนวโนม้ เนกาตวิ ิตี วิทยาศาสตร์
7 หนว่ ยท่ี 2 1. วิเคราะห์และสรปุ รัศมอี ะตอม และสมั พรรค (รายบุคคล)
แผนการ แนวโนม้ สมบัตติ ่าง ๆ ของ รัศมไี อออน ภาพอิเลก็ ตรอน 3. ตรวจกราฟ
จัดการเรียนรู้ ธาตตุ ามหมแู่ ละคาบ พลงั งานไอออไน 3. เอกสาร 4. ตรวจใบ
เกย่ี วกบั ขนาดอะตอม รศั มี เซชนั อเิ ลก็ โทร ประกอบ งาน 2.6 เร่ือง
ไอออน พลังงานไออไน เนกาติวิตี การสอน แนวโนม้ สมบตั ิ
เซชัน อเิ ลก็ โทรเนกาตวิ ิตี และสมั พรรค 4. หนังสือเรียน ของธาตตุ าม
สัมพรรคภาพอิเล็กตรอน ภาพอิเลก็ ตรอน 5. ใบงาน 2.6 หมู่และคาบ
พร้อมทง้ั อธิบายเหตผุ ล 2. นาเสนอ
ประกอบได้ กราฟ และร่วม 1. คมู่ อื 1. ใชแ้ บบ
2. มที กั ษะกระบวนการทาง อภปิ รายเหตผุ ล ปฏิบัตกิ าร และ ประเมนิ ทกั ษะ
วทิ ยาศาสตร์ (การจาแนก ของการ รายงาน รายกลมุ่ เพ่ือ
ประเภท การจัดกระทาและ เปลยี่ นแปลง
ส่อื ความหมายขอ้ มลู การลง แนวโนม้
ความเหน็ จากข้อมลู การ 3. สรปุ แนวโน้ม
ตีความหมายขอ้ มลู และลง สมบัติของธาตุ
ข้อสรปุ )
3. มีจิตวิทยาศาสตร์ (มี 1. ปฏิบตั ิการ
เหตุผล รว่ มแสดงความ ทดลอง ได้แก่
คดิ เหน็ และรับฟังความ 1) ศึกษาสขี อง
คิดเหน็ )
1. บ อกสมบั ติของโลห ะ
แทรนซิชันและเปรียบเทียบ
สมบัติกับโลหะในกลุ่มเรพรี
เอกสารประกอบการสอน ฑ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วัตถุประสงค์การเรียนรู้ กจิ กรรมการ สอ่ื การสอน วิธีการ เวลา
สัปดาห์ หนว่ ยการ เรียนรู้ ประเมนิ (คาบ)
เซนเททฟี ได้ ปฏิบัตกิ าร
ที่ เรียนรู้ 2. มที ักษะกระบวนการทาง สารประกอบ 2. เครอื่ งแกว้ ประเมนิ ทักษะ
ท่ี 11 วทิ ยาศาสตร์ (การสังเกต 2) ความว่องไว สารเคมี การบวนการ
เรือ่ ง การ การตั้งสมมตฐิ าน การ ในการ ทาง
เปรยี บเทยี บ กาหนดและควบคมุ ตวั แปร เกิดปฏิกริ ยิ าของ วิทยาศาสตร์
สมบัติของ การทดลอง การ โลหะกบั นา้ และดา้ น
ธาตุ ตคี วามหมายและลงขอ้ สรุป) 2. รว่ มกนั สมรรภาพ
แทรนซิชนั กบั 3. มีจิตวิทยาศาสตร์ (อยาก อภปิ รายและ 2. ตรวจ
ธาตเุ รพรีเซน รู้ อ ย า ก เ ห็ น ซื่ อ สั ต ย์ สรุปผล ประเมนิ การ
เททฟี รอบคอบ) เขียนรายงาน
ปฏบิ ตั ิการของ
7 หนว่ ยท่ี 2 1. อธบิ ายสมบัตขิ อง 1. ชมคลปิ วีดโิ อ 1. คลิปวดี ิโอ แต่ละกลมุ่ 2
โดยใช้แบบ
แผนการ ไอโซโทปกัมมนั ตรังสี รังสี “ร้จู กั ระเบิด 2. Power ประเมิน
สมรรถภาพ
จัดการเรยี นรู้ แอลฟา รังสีบตี า และรงั สี ไฮโดรเจน” และ Point บรรยาย ด้านการ
ดาเนินการ
ท่ี 12 แกมมาได้ รว่ มกันอภปิ ราย 3. เอกสาร และอธบิ าย
3. ใชแ้ บบ
เรือ่ ง ธาตุ 2. คานวณคร่งึ ชวี ิตของ ทฤษฎที ่ี ประกอบ ประเมิน
กิจกรรมกลมุ่
กมั มนั ตรงั สี ไอโซโทปกัมมนั ตรงั สีได้ เก่ียวข้อง การสอน 4. ใช้แบบ
ประเมิน
3. มีทักษะกระบวนการทาง 2. บรรยาย 4. ใบงาน 2.7 ความรู้ ทักษะ
และจติ
วทิ ยาศาสตร์ (การสังเกต ความหมายของ วิทยาศาสตร์
(รายบุคคล)
การลงความเห็นจากข้อมลู ธาตกุ ัมมนั ตรงั สี 1. ใชแ้ บบ
ประเมิน
ความรู้ ทักษะ
และจติ
วทิ ยาศาสตร์
(รายบุคคล)
2. ตรวจใบ
งาน 2.7 เรอ่ื ง
ธาตุ
เอกสารประกอบการสอน ฒ วิชาเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ กิจกรรมการ สอ่ื การสอน วิธกี าร เวลา
สัปดาห์ หนว่ ยการ เรียนรู้ ประเมิน
การคานวณ) (คาบ)
ท่ี เรียนรู้ 4. มีจติ วทิ ยาศาสตร์ 3. ฝึกคานวณ กมั มนั ตรังสี
(รอบคอบ เห็นคุณคา่ ทาง การสลายตวั ของ
วทิ ยาศาสตร)์ ธาตุกมั มนั ตรงั สี
ในใบงาน 2.7
8 สอบกลางภาค 4
9 หนว่ ยที่ 3 1. อธบิ ายการเกดิ พนั ธะ 1. บรรยาย 1. โมเดล 1. ใช้แบบ 3
แผนการ โคเวเลนต์ แบบพนั ธะเดย่ี ว เรอื่ ง กฎออก แมเ่ หล็ก ประเมนิ
จดั การเรียนรู้ พันธะคู่ และพันธะสาม ด้วย เตต การเกดิ 2. Power ความรู้ ทักษะ
ที่ 13 โครงสรา้ งลิวอสิ ได้ พันธะโคเวเลนต์ Point บรรยาย และจติ
เรอ่ื ง การเกิด 2. มที ักษะกระบวนการทาง และชนดิ พันธะ 3. เอกสาร วิทยาศาสตร์
พันธะ วทิ ยาศาสตร์ (การสร้าง 2. กจิ กรรม ประกอบ (รายบุคคล)
โคเวเลนต์ แบบจาลอง การลง เขยี นโครงสรา้ ง การสอน 2. ตรวจใบ
ชนิดพันธะ ความเห็นจากข้อมลู ) แบบจุด โดย 4. ใบงาน 3.1 งาน 3.1 เรอ่ื ง
และการเขียน 3. มีจติ วิทยาศาสตร์ (สนใจ อาศัยโมเดล การเกดิ พนั ธะ
โครงสรา้ ง ใฝ่รู้ มเี หตผุ ล รว่ มแสดง แม่เหลก็ โคเวเลนต์และ
ความคิดเห็นและรับฟงั การเขยี นสูตร
ความคิดเห็น) โคงสร้างของ
โมเลกลุ โคเว
เลนต์
9 หน่วยท่ี 3 1. เขยี นสตู รและเรียกชอื่ 1. จดบันทึกชอ่ื 1. คลิปเสยี ง 1. ใช้แบบ 1
แผนการ สารโคเวเลนตไ์ ด้ สารเคมจี ากคลปิ “Cycle of ประเมิน
จดั การเรียนรู้ 2. มที กั ษะกระบวนการทาง เสียง water, ความรู้ ทักษะ
ที่ 14 วทิ ยาศาสตร์ (การสงั เกต 2. กิจกรรม carbon, และจิต
เร่ือง การ การลงความเห็นจากข้อมลู ค่ขู องหนูอย่ไู หน nitrogen and วทิ ยาศาสตร์
เขียนสูตร การตีความหมายข้อมลู และ phosphorus” (รายบุคคล)
และอา่ นช่อื ลงขอ้ สรปุ ) 2. บตั รคา ช่ือ 2. ตรวจใบ
สารโคเวเลนต์ 3. มีจติ วิทยาศาสตร์ (สนใจ และสตู รโมเลกลุ งาน 3.2 เร่ือง
ใฝร่ ู้ รว่ มแสดงความคิดเหน็ ของสาร การเขียนสตู ร
และรบั ฟงั ความคดิ เห็น) โคเวเลนต์ และเรียกชือ่
3. เอกสาร สารโคเวเลนต์
ประกอบ
การสอน
4. ใบงาน 3.2
10 หน่วยที่ 3 1. วิเคราะห์และ 1. อภปิ รายและ 1. ตารางขอ้ มูล 1. ใช้แบบ 2
แผนการ เปรียบเทยี บความยาวพันธะ สรุปจาก ความยาวพนั ธะ ประเมิน
เอกสารประกอบการสอน ณ วิชาเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ กิจกรรมการ สือ่ การสอน วิธีการ เวลา
สัปดาห์ หน่วยการ เรยี นรู้ ประเมนิ (คาบ)
และพลังงานพนั ธะในสาร
ที่ เรียนรู้ โคเวเลนตไ์ ด้ ตารางขอ้ มูล เฉลี่ยและ ความรู้ ทักษะ
จดั การเรียนรู้ 2. คานวณพลังงานท่ี ความยาวพนั ธะ พลงั งานพันธะ และจิต
ท่ี 15 เกยี่ วขอ้ งกบั ปฏิกริ ยิ าของ เฉลี่ย และ เฉลี่ย วิทยาศาสตร์
เร่ือง ความ สารโคเวเลนตจ์ ากพลงั งาน พลังงานพันธะ 2. ไฟแช็ค (รายบคุ คล)
ยาวพนั ธะ พนั ธะได้ เฉลี่ย และ 3. Power
และ 3. มที ักษะกระบวนการทาง ความสัมพันธ์ Point บรรยาย 2. ตรวจใบ
พลังงาน วทิ ยาศาสตร์ (การสังเกต ของท้ังสองอยา่ ง 4. เอกสาร งาน 3.3 เรือ่ ง
พนั ธะ การตีความหมายข้อมลู และ 2. สาธิต ประกอบการ ความยาว
ลงขอ้ สรุป การคานวณ) ปฏกิ ิริยาการเผา สอน พนั ธะและ
4. มจี ิตวิทยาศาสตร์ (มงุ่ มั่น ไหมแ้ กส๊ ในไฟ 5. ใบงาน 3.3 พลงั งานพันธะ
รอบคอบ) แช็ค นาไปสกู่ าร
เขยี นสมการ 1. ลกู โปง่
10 หนว่ ยท่ี 3 1. คาดคะเนรูปร่างโมเลกลุ และการคานวณ 2. Power 1. ใชแ้ บบ 2
แผนการ โคเวเลนต์โดยใช้ทฤษฎีการ 3. บรรยายและ Point บรรยาย ประเมิน
จัดการเรียนรู้ ผลกั คอู่ ิเลก็ ตรอนในวง ยกตวั อย่างการ 3. แบบจาลอง ความรู้ ทกั ษะ
ท่ี 16 เวเลนซไ์ ด้ คานวณพลังงาน โมเลกลุ ที่ และจิต
เร่อื ง การ 2. สร้างแบบจาลอง ในปฏิกริ ยิ าเคมี นกั เรียน วิทยาศาสตร์
ทานายรปู รา่ ง โครงสรา้ งโมเลกลุ 3 มติ ิ 4. ฝกึ การ ประดิษฐข์ ึน้ เอง (รายบคุ คล)
โมเลกลุ ของโมเลกุลโคเวเลนต์ท่ี คานวณในใบ 4. แอพลิเคชนั . 2. ตรวจใบ
โคเวเลนต์ คาดคะเนได้ งาน 3.3 PhET งาน 3.4 เร่อื ง
3. มีทกั ษะกระบวนการทาง 1. บรรยาย 5. เอกสาร การทานาย
วทิ ยาศาสตร์ (การสงั เกต ความร้พู ้ืนฐาน ประกอบ รปู รา่ งโมเลกลุ
การพยากรณ์ การสรา้ ง ของรูปทรง การสอน ฯ (เฉพาะส่วน
แบบจาลอง) เรขาคณติ และ 6. ใบงาน 3.4 การทานาย
4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ (สนใจ ทฤษฎี VSEPR รูปร่าง
ใฝร่ ู้ รว่ มแสดงความคดิ เหน็ 2. สาธิตการ โมเลกลุ )
และรับฟังความคิดเหน็ ) สร้างรูปรา่ ง
โมเลกุลจาก
ลูกโป่ง
3. สร้าง
แบบจาลอง
รปู ร่างโมเลกลุ
เอกสารประกอบการสอน ด วิชาเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วัตถุประสงค์การเรียนรู้ กจิ กรรมการ สอ่ื การสอน วิธีการ เวลา
สปั ดาห์ หนว่ ยการ เรียนรู้ ประเมนิ
1.ระบุสภาพขั้วโมเลกลุ 1. ชดุ สาธิตการ (คาบ)
ที่ เรยี นรู้ โคเวเลนตไ์ ด้ 1. บรรยาย ละลายของสาร 1. ใช้แบบ
11 หนว่ ยที่ 3 2. ระบชุ นดิ ของแรงยึด รว่ มกับชุดส่อื ได้แก่ นา้ ประเมิน 2
เหนี่ยวระหว่างโมเลกลุ สาธติ การละลาย เฮกเซน ความรู้ ทักษะ
แผนการ โคเวเลนตไ์ ด้ ของสาร เมทานอล และ และจติ 2
จดั การเรียนรู้ 3. มีทักษะกระบวนการทาง 2. บรรยาย การ เบนซนี วิทยาศาสตร์
ท่ี 17 วิทยาศาสตร์ (การสงั เกต รวมเวกเตอร์ 2. ภาพ (รายบคุ คล) 2
เรือ่ ง สภาพ การลงความเหน็ จากข้อมลู เพอื่ ระบสุ ภาพ โครงสร้าง 2. ตรวจใบ
ขั้วโมเลกุล การตคี วามหมายขอ้ มลู และ ข้วั โมเลกลุ โมเลกลุ ของสาร งาน 3.4 เรือ่ ง
และแรง ลงข้อสรปุ ) 3. ฝึกการรวม 3. Power การทานาย
ยึดเหนย่ี ว 4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ (สนใจ เวกเตอร์และ Point บรรยาย รปู ร่างโมเลกลุ
ระหวา่ ง ใฝร่ ู้ รว่ มแสดงความคิดเหน็ ระบสุ ภาพขัว้ 4. เอกสาร ฯ (เฉพาะส่วน
โมเลกุล และรบั ฟังความคิดเห็น) โมเลกลุ ในใบ ประกอบ การรวม
งาน 3.4 การสอน เวกเตอร์และ
11 หน่วยท่ี 3 1. เปรยี บเทยี บจดุ 5. ใบงาน 3.4 สภาพข้วั )
แผนการ หลอมเหลว จุดเดอื ด และ 1. อภิปรายและ (ตอ่ )
จัดการเรียนรู้ การละลายน้าของสาร สรปุ ผลของแรง 1. ตารางขอ้ มูล 1. ใช้แบบ
ที่ 18 โคเวเลนตไ์ ด้ ยึดเหน่ียว จดุ เดือดจุด ประเมิน
เรอ่ื ง สาร 2. อธบิ ายลกั ษณะสาคญั ระหว่างโมเลกลุ หลอมเหลว และ ความรู้ ทักษะ
โคเวเลนต์ และสมบัตเิ ฉพาะของสาร กับจุดเดือดจดุ การละลายน้า และจิต
โครงรา่ ง โคเวเลนต์โครงผลึก หลอมเหลวจาก ของสาร วทิ ยาศาสตร์
ตาข่าย และ รา่ งตาข่ายได้ ตารางข้อมูล โคเวเลนต์ (รายบุคคล)
สมบัติบาง 3. มีทักษะกระบวนการทาง 2. อภปิ รายและ 2. Power 2. ตรวจใบ
ประการของ วทิ ยาศาสตร์ (การ สรุปสภาพขัว้ กบั Point บรรยาย งาน 3.5 เรื่อง
สารโคเวเลนต์ ตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ ) การละลายจาก 3. เอกสาร สมบตั บิ าง
4. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ (ร่วม ตารางขอ้ มลู ประกอบ ประการของ
12 หนว่ ยท่ี 3 แสดงความคดิ เหน็ และรับ 3. บรรยาย สาร การสอน สารโคเวเลนต์
แผนการ ฟงั ความคดิ เห็น) โคเวเลนตร์ า่ งตา 4. ใบงาน 3.5 และสาร
จัดการเรียนรู้ 1. เขยี นสัญลกั ษณ์แบบจดุ ขา่ ย โคเวเลนตผ์ ลกึ
ที่ 19 ของลวิ อสิ ของธาตุและ 1. อภิปรายชนดิ 1. แผนภาพ ร่างตาขา่ ย
เรอ่ื ง การเกดิ ไอออนได้ ของอะตอมที่ อธบิ ายกลไกการ 1. ใชแ้ บบ
2. อธบิ ายการเกดิ ไอออน เกิดพนั ธะ เกดิ NaCl ประเมนิ
และการเกดิ พันธะไอออนกิ ไอออนิกจาก 2. Power ความรู้ ทกั ษะ
ตัวอยา่ งสูตรเคมี Point บรรยาย และจติ
วิทยาศาสตร์
เอกสารประกอบการสอน ต วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ กิจกรรมการ สอ่ื การสอน วิธีการ เวลา
สัปดาห์ หน่วยการ เรยี นรู้ ประเมนิ
โดยใช้แผนภาพหรอื (คาบ)
ที่ เรียนรู้ สัญลักษณ์แบบจดุ ได้ 2. บรรยายกลไก 3. เอกสาร (รายบุคคล)
พันธะ 3. มที กั ษะทางวิทยาศาสตร์ 2. ตรวจใบ 2
ไอออนกิ และ ได้แก่ การจดั กระทาและสือ่ การเกิด NaCl ประกอบการ งาน 3.6 เร่ือง 2
โครงสรา้ ง ความหมายขอ้ มลู การลง การเกิด
ของ ความเหน็ จากขอ้ มลู ดว้ ยแผนภาพ สอน ไอออน การ
สารประกอบ 4. มจี ิตวิทยาศาสตร์ (สนใจ เกิดพันธะ
ไอออนิก ใฝร่ ู้ มเี หตผุ ล ร่วมแสดง รว่ มกบั โครง 4. ใบงาน 3.6 ไอออนิก และ
ความคดิ เห็นและรบั ฟงั โครงสรา้ งของ
ความคดิ เห็น) สร้างแบบจดุ สารประกอบ
ไอออนิก
3. ฝกึ การ
1. ใช้แบบ
อธิบายการเกิด ประเมนิ
ความรู้ ทักษะ
MgO ดว้ ย และจิต
วิทยาศาสตร์
สัญลักษณ์แบบ (รายบคุ คล)
2. ตรวจใบ
จุด งาน 3.7 เรื่อง
การเขียนสตู ร
4. วเิ คราะหร์ ปู และเรียกชือ่
สารประกอบ
โครงผลกึ สาร ไอออนกิ
1. ใชแ้ บบ
ไอออนกิ ประเมิน
ความรู้ ทักษะ
อภิปรายและ และจิต
วทิ ยาศาสตร์
สรุปการเขยี น (รายบคุ คล)
2. ตรวจใบ
สูตรอยา่ งง่าย
12 หน่วยที่ 3 1. เขยี นสตู รและเรยี กชื่อ 1. อภปิ รายและ 1. ตารางขอ้ มูล
แผนการ สารประกอบไอออนกิ ได้
จดั การเรยี นรู้ 2. มีทกั ษะกระบวนการทาง สรุปวิธีการเขยี น สูตรอยา่ งง่าย
ที่ 20 วิทยาศาสตร์ (การลง
เร่อื ง การ ความเห็นจากขอ้ มลู ) สูตรและเรยี กช่อื ไอออนบวก
เขียนสูตรและ 3. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ (สนใจ
เรยี กช่อื สาร ใฝ่รู้ ร่วมแสดงความคิดเหน็ สารประกอบ ไอออนลบ และ
ประกอบ และรับฟงั ความคดิ เห็น)
ไอออนกิ ไอออนกิ จาก ชอ่ื สารประกอบ
13 หน่วยท่ี 3 1. เขยี นแผนภาพวฏั จักร ตารางข้อมูล ไอออนกิ
แผนการ บอร์น-ฮาเบอร์เพื่ออธิบาย
จดั การเรยี นรู้ การเกดิ สารประกอบ 2. บรรยาย 2. Power
ท่ี 21 ไอออนิกได้
เร่ือง พลงั งาน 2. คานวณพลงั งานที่ หลกั การเขยี น Point บรรยาย
กบั การเกดิ เกย่ี วขอ้ งกบั การเกิด
สารประกอบ สารประกอบไอออนกิ สูตรและเรียกชือ่ 3. เอกสาร
สารประกอบ ประกอบการ
ไอออนิก สอน
4. ใบงาน 3.7
1. สืบค้นสถานะ 1. แหล่งสบื ค้น
รปู ท่ีคงอยใู่ น ทางอนิ เตอรเ์ นต็
ธรรมชาติ และ 2. แผนภาพวัฏ
สตู รเคมขี อง จักรบอร์น-
โลหะ/อโลหะ ฮาเบอร์ ของ
2. บรรยาย NaCl และ CaO
ทบทวน ในรูปแบบท่ี
เอกสารประกอบการสอน ถ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้ กิจกรรมการ สือ่ การสอน วธิ ีการ เวลา
สัปดาห์ หน่วยการ เรยี นรู้ ประเมนิ
จากวฏั จกั รบอร์น-ฮาเบอร์ ต่างกนั (คาบ)
ท่ี เรียนรู้ 3. มที ักษะกระบวนการทาง ความหมายของ 3. Power งาน 3.8 เร่ือง
ไอออนกิ วทิ ยาศาสตร์ (การสังเกต พลงั งานต่าง ๆ Point บรรยาย แผนภาพวัฏ 2
การจดั กระทาและส่อื ที่เก่ียวขอ้ ง 4. เอกสาร จกั รบอร์น-
13 หน่วยที่ 3 ความหมายข้อมลู 3. บรรยาย ประกอบการ ฮาเบอร์ และ 2
แผนการ การคานวณ) แผนภาพวฏั จักร สอน พลังงานที่
จดั การเรยี นรู้ 4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ (สนใจ บอร์น-ฮาเบอร์ 5. ใบงาน 3.8 เก่ยี วขอ้ ง
ที่ 22 ใฝร่ ู้ ร่วมแสดงความคดิ เหน็ ของ NaCl และ
เรอ่ื ง สมบัติ และรับฟงั ความคิดเหน็ ) CaO 1. ชุดสาธิตการ 1. ใชแ้ บบ
ของสาร 4. กจิ กรรม ละลายน้าของ ประเมนิ
ประกอบ 1. อธบิ ายสมบตั ิท่วั ไปของ ร่วมกนั สรา้ งวฏั หนิ ปูนและเกลือ ความรู้ ทกั ษะ
ไอออนกิ สารประกอบไอออนิกได้ จกั รบอร์น-ฮา 2. กราฟแสดง และจิต
2. อธิบายกลไกการละลาย เบอรข์ อง AlCl3 ความสามารถใน วิทยาศาสตร์
14 หนว่ ยท่ี 3 นา้ และความสามารถการ 1. สาธิตการ การละลาย (รายบคุ คล)
แผนการ ละลายนา้ ของสารประกอบ ละลายนา้ 3. ชดุ สาธติ 2. ตรวจใบ
จัดการเรยี นรู้ ไอออนกิ ได้ 2. อภิปราย ทดสอบความ งาน 3.9 เรื่อง
ที่ 23 3. ทานายการละลายน้าเม่ือ หลักการและ เป็นกรด-เบส สมบัติท่ัวไป
เร่ือง ปฏิกริ ยิ า ทราบสูตรอยา่ งงา่ ยของ เหตุผลของการ 4. วดี ิทัศน์ การละลาย
ของสาร สารประกอบไอออนกิ ได้ ละลายเมือ่ รู้สตู ร พลังงานกบั การ และพลังงาน
4. มีทักษะกระบวนการทาง อยา่ งง่าย ละลาย กับการละลาย
วทิ ยาศาสตร์ (การ 3. อภปิ ราย 5.เอกสาร ของ
ตคี วามหมายข้อมลู และลง ความสามารถใน ประกอบการ สารประกอบ
ข้อสรุป การลงความเห็น การละลาย สอน ไอออนกิ
จากข้อมลู การพยากรณ์) 4. อภิปราย 6. ใบงาน 3.9
5. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ (สนใจ พลังงานกบั การ 1. ใช้แบบ
ใฝร่ ู้ ร่วมแสดงความคิดเหน็ ละลาย 1. เคร่อื งแกว้ ประเมิน
และรบั ฟังความคิดเห็น) 5. ทดสอบความ สารเคมี ความรู้ ทกั ษะ
1. ทาการทดลองเพื่อ เป็นกรด-เบส 2. ตารางบนั ทกึ และจติ
ตรวจสอบการเกดิ ปฏิกริ ยิ า เมื่อละลายน้า ผลการเกดิ วิทยาศาสตร์
ของสารประกอบไอออนกิ ได้ ตะกอนของสาร (รายบคุ คล)
2. อธบิ ายการเกดิ ปฏิกิรยิ า 1. ทาการ 3. Power
โดยการเขยี นสมการ ทดลองผสม
ไอออนิกและสมการ สารละลายของ
สารประกอบ
ไอออนิก
2. อภิปราย
เอกสารประกอบการสอน ท วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ กจิ กรรมการ ส่อื การสอน วิธีการ เวลา
สปั ดาห์ หนว่ ยการ เรยี นรู้ ประเมิน
ไอออนิกสุทธไิ ด้ Point บรรยาย (คาบ)
ที่ เรยี นรู้ 4. มที กั ษะกระบวนการทาง หลักการและ 4. เอกสาร 2. ตรวจใบ
ประกอบ วทิ ยาศาสตร์ (การสังเกต เหตผุ ลการเกิด ประกอบการ งาน 3.10 1
ไอออนิก การลงความเหน็ จากขอ้ มลู ) ตะกอนเช่อื มโยง สอน เร่ือง ปฏิกิรยิ า
5. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ (สนใจ กบั ทฤษฎี 5. ใบงาน 3.10 ของสาร 1
14 หน่วยที่ 3 ใฝ่รู้ ใจกว้าง ซอ่ื สัตย์) 3. บรรยาย ประกอบ
แผนการ วธิ กี ารเขยี น 1. ชุดทดลอง ไอออนิก
จัดการเรยี นรู้ 1. อธิบายการเกิดพันธะ สมการไอออนิก สาธติ การนา
ที่ 24 โลหะและสมบตั ขิ องโลหะ 1. ทดลองสาธติ ความรอ้ นของ 1. ใชแ้ บบ
เร่อื ง การเกิด 2. บอกการใช้ประโยชน์จาก การนาความ โลหะ ประเมิน
พนั ธะโลหะ โลหะได้ ร้อนของโลหะ 2. ภาพการใช้ ความรู้ ทกั ษะ
และสมบัติ 3. มีทกั ษะกระบวนการทาง 2. สืบค้นสมบตั ิ ประโยชน์จาก และจิต
ของโลหะ วิทยาศาสตร์ (การพยากรณ์ ของโลหะจาก โลหะบางชนิด วทิ ยาศาสตร์
การลงความเหน็ จากขอ้ มลู ) ภาพทแ่ี สดง 3. แหลง่ สบื ค้น (รายบคุ คล)
14 หน่วยที่ 3 4. มีจิตวทิ ยาศาสตร์ (สนใจ 3. สรุปเชอ่ื มโยง ทางอนิ เตอรเ์ นต็ 2. ตรวจใบ
แผนการ ใฝร่ ู้) สมบัตขิ องโลหะ 4. ใบงาน 3.11 งาน 3.11
จดั การเรียนรู้ ในระดับมหภาค เรอื่ ง การเกิด
ที่ 25 1. เปรียบเทียบสมบตั ิบาง กบั เหตุผลใน 1. ตารางเปรียบ พนั ธะโลหะ
เรือ่ ง การ ประการของสารประกอบ ระดบั จลุ ภาค สมบัติของสาร สมบตั ิของ
เปรยี บเทยี บ ไอออนกิ สารโคเวเลนต์ โคเวเลนต์ โลหะ และการ
สมบตั ขิ อง และโลหะได้ 1. ร่วมกัน สารประกอบ ใช้ประโยชน์
สารโคเวเลนต์ 2. สืบคน้ ข้อมลู และนาเสนอ อภปิ รายสมบัติ ไอออนิก และ 1. ใชแ้ บบ
สารประกอบ ตัวอย่างการใช้ประโยชน์ ของสารจาก โลหะ ประเมนิ
ไออนกิ และ ของสารประกอบไอออนิก ตารางข้อมลู 2. แหลง่ สืบค้น ความรู้ ทกั ษะ
โลหะ สารโคเวเลนต์ และโลหะได้ 2. ร่วมกันสร้าง ทางอินเตอรเ์ น็ต และจติ
3. มที ักษะกระบวนการทาง ตาราง 3. Power วทิ ยาศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ ได้แก่ การ เปรียบเทยี บ Point บรรยาย (รายบคุ คล)
ตีความหมายขอ้ มูลและลง สมบตั ดิ า้ นต่าง 4. เอกสาร 2. ตรวจใบ
ข้อสรปุ ๆ ของสาร ประกอบการ งาน 3.12
4. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ (สนใจ 3. บรรยาย สอน เร่อื ง การ
ใฝร่ ู้ รว่ มแสดงความคดิ เห็น เชือ่ มโยงสมบตั ิ 5. ใบงาน 3.12 เปรียบเทยี บ
และรับฟงั ความคิดเหน็ ) เฉพาะตัวของ สมบตั แิ ละการ
สารกับการใช้ ใช้ประโยชน์
ประโยชน์ ของสาร
โคเวเลนต์
สารประกอบ
เอกสารประกอบการสอน ธ วิชาเคมี 1 (ว 31221)
แผนการสอน วตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ กจิ กรรมการ สื่อการสอน วธิ ีการ เวลา
สัปดาห์ หนว่ ยการ เรยี นรู้ ประเมนิ (คาบ)
ท่ี เรยี นรู้ ไอออนกิ และ
โลหะ
15
สอบปลายภาค 4
รวม 60
หมายเหตุ
กาหนดการสาคัญ
1. เปดิ เรยี น ช่วงท่ี 1 ระหว่างวนั ท่ี 21 ตุลาคม – 13 ธนั วาคม 2562
2. ปดิ เรียน ชว่ งการแข่งขนั กีฬาสาธติ สามัคคี ระหว่างวนั ที่ 16 ธนั วาคม 2562 – 1 มกราคม 2563
3. เปิดเรียน ชว่ งที่ 2 ระหวา่ งวันที่ 2 มกราคม – 28 กุมภาพนั ธ์ 2563
4. สอบกลางภาค ระหวา่ งวันที่ 20 – 24 มกราคม 2563
5. สอบปลายภาค ระหว่างวนั ท่ี 2 – 6 มนี าคม 2563
วันหยดุ อืน่ ๆ เป็นไปตามประกาศ ปฏทิ ินการศึกษา ภาคปลาย ปกี ารศกึ ษา 2562 ฉบับที่ 26/2562
หมวดท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้และแหล่งการเรยี นรู้
4.1 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ลาดับท่ี วธิ ีการประเมนิ ผล/เครอื่ งมือ ร้อยละ
70
ประเมินระหวา่ งภาคเรยี น 33
1 ใบงาน/แบบฝกึ หดั /การจดบันทกึ /กิจกรรมกลุ่ม/งานที่มอบหมายระหว่างเรียน 5
6
2 การทดสอบประจาหน่วยการเรยี นรู้ ดังนี้ 6
5
1) หน่วยที่ 1 ความปลอดภยั ในการทาปฏิบตั กิ ารเคมี (สอบปฏบิ ตั )ิ 3
2
2) หนว่ ยท่ี 2 อะตอมและสมบัติของธาตุ (สอบข้อเขยี น) 10
30
3) หน่วยที่ 3 พันธะเคมี (สอบข้อเขียน) 15
15
3 การทาปฏิบัตกิ าร/รายงานปฏิบัตกิ าร (รายกลุ่มและรายบุคคล) 100
4 การทาแบบจาลองโครงสรา้ งโมเลกุลโคเวเลนต์ (สง่ ก่อนเรยี นเร่อื งรูปร่างโมเลกุล)
5 แฟ้มรวบรวมเอกสารประกอบการสอนและใบงาน (ส่งก่อนสอบปลายภาค 1 สปั ดาห์)
6 จิตพสิ ัย (ประเมินจากการเข้าเรียน พฤตกิ รรม การสง่ งาน การมีสว่ นร่วมในช้นั เรยี น)
ประเมนิ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น
7 การสอบกลางภาค
8 การสอบปลายภาค
รวม
เอกสารประกอบการสอน น วิชาเคมี 1 (ว 31221)
การประเมินผลแบบอิงเกณฑ์
ระดบั คะแนน 80-100 75-79 70-74 65-69 60-64 55-59 50-54 0-49
ระดับผลการเรยี น 4 3.5 3 2.5 2 1.5 1 0
หมายเหตุ : ถ้าเวลาเรยี นน้อยกวา่ 80% ของเวลาเรยี นท้งั หมด จะไม่มีสทิ ธ์สิ อบ (มส.) ในรายวชิ าน้ี
ขอ้ กาหนดรายวชิ า
1. นักเรยี นต้องมเี วลาเรยี นไม่ต่ากวา่ รอ้ ยละ 80 จงึ จะมีสิทธใิ์ นการสอบ
2. ตรงต่อเวลา เข้าเรียนช้ากว่า 10 นาที เท่ากับ “สาย” และการมาสาย 3 คร้ัง เท่ากับ การขาดเรียน
1 ครง้ั
3. นักเรยี นต้องสง่ งานตรงเวลา หากชา้ กว่ากาหนดจะถกู ตดั คะแนน วันละ 1 คะแนน
4. ไมส่ ่งเสียงดงั รบกวนผู้อืน่ ในเวลาเรยี น
5. ไมน่ าอาหารมารบั ประทานในหอ้ งเรียนและห้องปฏิบัติการ
6. ใชเ้ ครอื่ งมือส่อื สารไดต้ ามความเหมาะสม เช่น สืบค้นความรู้ จดบันทึก ใช้เปน็ เคร่ืองคานวณ เปน็ ตน้
7. เมื่อมีปัญหาในการเรียนหรือการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ขอให้ แจ้ง
ครูผู้สอน
8. หากมีความจาเปน็ ต้องออกจากหอ้ งเรยี นระหว่างเรียน ใหแ้ จ้งเหตุผลและไดต้ อ้ งรับอนุญาตจากผสู้ อน
9. ตระหนกั อยู่เสมอวา่ “เรามาเรียนเพื่อเพิ่มพูนความร้แู ละพฒั นาตนเอง จึงควรตงั้ ใจใฝ่หาความรู้”
4.2 แหล่งการเรียนรู้
4.2.1 แหล่งเรียนรเู้ พิ่มเติมทางอินเทอรเ์ น็ต อาทิ
www.scimath.org ของสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
http://www.oap.go.th ของสานักงานปรมาณูเพอ่ื สนั ติ
https://iupac.org ของ International Union of Pure and Applied Chemistry
4.2.2 หนงั สือ
หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ ระดับชน้ั ม.4 เคมี เล่ม 1 จัดทาโดย สสวท.
หนงั สอื Chemistry ของ Raymond Chang สานกั พมิ พ์ McGraw-Hill
4.2.3 เอกสารประกอบการสอน
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง ความปลอดภัยและทกั ษะในปฏบิ ัติการเคมี
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง อะตอมและสมบตั ิของธาตุ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรอื่ ง พันธะเคมี
จัดทาโดย อาจารยพ์ ลากร คาขวา
เอกสารประกอบการสอน บ วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
บทท่ี
1
ความปลอดภยั และทักษะในปฏิบัติการเคมี ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
บทนา
การเรียนรู้ในรายวิชาเคมีนั้น การทาการทดลองเป็นส่ิงมีความจาเป็นอย่างย่ิงท่ีต้องเรียนรู้ควบคู่ไปกับ
ทฤษฎี เพ่ือส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงมากย่ิงข้ึน รวมไปถึงการฝึกทักษะการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์
เคร่ืองแก้ว ให้มีความเหมาะสมกับงาน ฝึกการอธิบาย อภิปราย สรุปผลการทดลอง จนนาไปสู่การสรุป
องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการทาปฏิบัติการ นอกจากนั้นยังได้ฝึกกระบวนการคิด การแก้ไขปัญหาในระหว่าง
ทาการทดลองอกี ดว้ ย
ในเม่ือเราจาเป็นที่จะต้องทาการทดลอง ก็ควรจะต้องเรียนรู้แนวทางการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง
การเรียนรู้ชนิดของอุปกรณ์เคร่ืองแก้วและการใช้งาน ข้อมลู ความปลอดภัยในการใช้สารเคมี การจัดเก็บและ
การกาจัดสารเคมี วิธีการตวงและการวัด วิธีการจดบันทึกข้อมูล การคานวณ เลขนัยสาคัญ รวมไปถึง
การปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นในกรณีท่ีเกิดอุบัติเหตุ และอาจนาความรู้ไปใช้กับสถานการณ์ในชีวิตประจาวัน
ไดอ้ กี ดว้ ย
ลองตอบคาถาม จากสถานการณต์ ่อไปน้ี
1. การขดั พน้ื หอ้ งนา้ โดยใช้นา้ ยาขดั พนื้ ท่ีมสี ่วนผสมของกรดไฮโดรคลอริก นักเรียนจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. จากสถานการณ์ในข้อ 1 สมมติว่า น้ายาขัดพ้ืนท่ีบีบออกจากขวด กระเด็นไปโดนผิวหนังและเส้ือผ้า
นักเรยี นมวี ธิ ปี ฏิบัตติ นเบื้องต้นอยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากสถานการณ์ในข้อ 1 สมมติวา่ น้ายาขดั พน้ื กระเด็นเขา้ ตา นกั เรียนมวี ธิ ปี ฏิบัตติ นเบอื้ งต้นอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
สถานการณ์เหล่านี้ อาจจะเกิดข้ึนกับเราหรือคนใกล้ตัวของเรา ถ้าหากเรามีความรู้และความเข้าใจใน
การปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง เราอาจจะสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน
หรอื ให้ความช่วยเหลือผอู้ ืน่ ในกรณีท่เี กดิ อุบตั เิ หตุจากสารเคมีได้อีกดว้ ย
เมอื่ เรียนร้จู นจบบทนแ้ี ล้ว ลองย้อนกลับมา
ตอบคาถามอีกครั้งนะครับ
เอกสารประกอบการสอน 1 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
บทท่ี
1
ผงั มโนทศั น์
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีม
1.1 ความปลอดภัยในปฏิบัตกิ ารเคมี
ในการทาปฏิบัติการเคมี ส่ิงที่หลีกเล่ียงไม่ได้เลย คือ การสัมผัสกับเครื่องมือ เคร่ืองแก้ว และสารเคมี
จงึ มีความจาเป็นอยา่ งย่ิงทตี่ ้องทราบวธิ ีการปฏบิ ตั ติ นเพื่อป้องกนั อันตรายทีอ่ าจเกดิ ข้นึ ดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี
1.1.1 ขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการทาปฏบิ ัติการเคมี
1.1.1.1 กอ่ นทาปฏิบตั กิ าร
(1) ศึกษาขั้นตอน วิธีการทาการทดลอง วางแผนการทดลอง (อาจทาเป็นโน้ตย่อ ในสมุด
จดบันทกึ )
(2) ศึกษาข้อมูลสารเคมีที่ใช้ในการทดลอง วิธีการใช้เคร่ืองมือ อุปกรณ์ เครื่องแก้ว และ
ตรวจสอบความสะอาดของเคร่ืองแก้ว ความพร้อมใช้งานของเคร่ืองมือ หากไม่พร้อมใช้งาน ให้แก้ไขให้
เรียบร้อย (อาจจะต้องตรวจสอบลว่ งหนา้ กอ่ นวันท่จี ะทาปฏบิ ัติการ)
เอกสารประกอบการสอน 2 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
(3) แต่งกายให้รัดกุม ได้แก่ สวมกางเกงหรือกระโปรงยาว รองเท้าหุ้มส้น (ส้นเตี้ย) บทที่
คนผมยาวต้องรวบผมใหเ้ รยี บร้อย หลีกเลี่ยงการสวมเครื่องประดับและการใส่คอนแทคเลนส์
1
(4) เตรยี มปากกา สมดุ จดบันทึก สาหรับการบนั ทึกขอ้ มลู
1.1.1.2 ขณะทาปฏิบัตกิ าร ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
(1) ข้อปฏิบัตโิ ดยทว่ั ไป
- สวมแวน่ ตานริ ภัย สวมเส้อื คลุมปฏิบัติการ (เสอื้ กาวน)์ สวมผ้าปดิ จมกู และสวมถงุ มือ
- หา้ มรับประทานอาหารและเครอ่ื งดื่ม ในระหว่างการทาปฏบิ ตั กิ าร
- หลีกเลี่ยงการทาปฏิบัติการเพียงลาพงั เพราะเมอ่ื เกดิ อุบตั ิเหตจุ ะไมม่ ีใครทราบและ
ช่วยเหลอื ไมท่ ัน
- ไม่หยอกลอ้ เล่นกัน ไมว่ ่งิ ไม่รบกวนผอู้ น่ื
- ปฏิบัตติ ามข้อแนะนาของผคู้ มุ ปฏิบัติการอย่างเครง่ ครัด
- ดูแลอุปกรณ์ท่เี กย่ี วข้องกับการให้ความรอ้ นอยา่ งใกล้ชิด หา้ มปลอ่ ยท้ิงไวโ้ ดยไมม่ ีผู้ดูแล
- จัดเก็บอุปกรณ์อ่ืน ๆ ไว้ในที่เตรียมไว้ให้ ห้ามวางบนโต๊ะปฏบิ ัติการ เพราะจะกีดขวางการ
ทาการทดลอง และอปุ กรณเ์ หล่าน้ันอาจเสยี หายจากสารเคมไี ด้
(2) ขอ้ ปฏบิ ตั ิในการใช้สารเคมี
- อ่านชอื่ สารเคมบี นฉลากให้ถูกต้อง ตรงตามท่ีจะต้องใช้
- การเคลอ่ื นยา้ ย การเทแบง่ สาร การถ่ายเทสาร ตอ้ งระมดั ระวงั ให้มาก
- การทาปฏิกิริยาในหลอดทดลอง ให้หันปากหลอดทดลองออกจากตนเอง และหันไป
ในทศิ ทางทไ่ี มม่ ีผูอ้ ืน่ อยู่
- ห้ามชิมหรือสูดดมสารเคมีโดยตรง ถ้าจะทดสอบกลิ่น ให้ใช้มือโบกไอระเหยของสาร
เขา้ จมูกเพยี งเล็กนอ้ ย
- การเจือจางกรด ห้ามเทน้าลงกรด แต่ให้เทกรดลงน้า เพ่ือให้น้าปริมาณมาก ช่วยในการ
ถา่ ยเทความรอ้ นทีเ่ กิดจากการละลาย และลดการกระเดน็ ของกรดได้
- การแบ่งสารเคมีออกจากขวดสาร ให้แบ่งมาใช้อย่างพอเหมาะ และหากใช้ไม่หมด
ห้ามเทกลับคืนขวดเดิม เพราะอาจมีการปนเปื้อน แต่ให้เทท้ิงในขวดท้ิงสาร สาหรับนาไป
กาจัดอย่างถูกวิธี
- หากสารเคมีหก ให้กวาดและเช็ดให้เรียบร้อยอย่างระมัดระวัง และถูกวิธี โดยอาจจะต้อง
แจ้งผคู้ มุ ปฏบิ ตั ิการใหท้ ราบ เพอื่ ขอคาแนะนา
1.1.1.3 หลังทาปฏบิ ตั ิการ
(1) ทาความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องแก้ว และวางในที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ และทาความสะอาด
โต๊ะปฏิบัติการให้เรียบร้อย โดยการล้างอุปกรณ์เคร่ืองแก้ว ปกติควรจะล้างอุปกรณ์เคร่ืองแก้วด้วยน้าสะอาด
โดยใชน้ า้ ผสมผงซกั ฟอก เพือ่ ช่วยขจัดคราบส่ิงสกปรกออกให้หมด สามารถใชน้ า้ ผสมผงซักฟอกท่ีเจือจางและ
แช่อุปกรณ์ที่จะล้างไว้ในน้าล้างประมาณ 5 นาที ใช้แปรงล้างแก้วให้เหมาะสมกับภาชนะที่จะล้างนั้นด้วย
เอกสารประกอบการสอน 3 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีมบทท่ี
1
ล้างตามด้วยน้าสะอาด หรือน้าประปาหลาย ๆ คร้ัง จนกระทั่งแน่ใจว่าปราศจากสารตกค้างแล้ว จากน้ัน
กล้ัวด้วยน้ากล่ันก่อนนาไปผึ่งให้แห้ง โดยเกาะหรือแขวนไว้บนแท่งไม้หรือพลาสติกบนแผงต้ัง หรือวาง
อุปกรณ์ท่ีล้างแล้วบนพ้ืนท่ีปูไว้ด้วยกระดาษซับน้า หรืออาจนาเข้าตู้อบแห้ง เช่น ขวดรูปชมพู่ บีกเกอร์
แต่ไม่ควรนาเคร่ืองแก้วที่มีขีดปริมาตรแน่นอน เช่น บิวเรต ปิเปต หรือกระบอกตวง เข้าตู้อบ เพราะ
ความรอ้ นอาจทาให้ปริมาตรแน่นอนน้ันเปลยี่ นแปลงได้ ถ้าใชน้ ้าและผงซักฟอกล้างแล้วอปุ กรณ์เคร่ืองแกว้ นั้น
ยังไม่สะอาดเท่าที่ควร ต้องใช้น้ายาเคมีช่วยล้างอีกครงั้ เพื่อขจัดคราบสกปรกออกให้หมด ปกติแล้ว น้ายาเคมี
ทใี่ ชจ้ ะมีฤทธิ์กดั กรอ่ นรนุ แรง และเป็นอันตรายต่อผ้ใู ช้จงึ ควรเพม่ิ ความระมัดระวังเปน็ พิเศษ
(2) ก่อนออกจากห้องปฏิบัติการให้ถอดอุปกรณ์ป้องกันอันตราย เช่น เส้ือกาวน์ ถุงมือ
แวน่ ตานิรภยั และล้างมือให้สะอาด
QR code ลงิ กแ์ หล่งเรียนรอู้ อนไลน์
ภายใตโ้ ครงการ Project 14 ของ สสวท.
เรอ่ื ง ข้อควรปฏิบตั ใิ นการทาปฏิบตั ิการเคมี
1.1.1.4 การกาจดั สารเคมี
การกาจดั สารเคมแี ต่ละประเภท สามารถปฏิบตั ไิ ดด้ ังนี้
(1) สารเคมีท่ีเปน็ ของเหลวไมอ่ ันตรายท่ีละลายน้าได้ และเป็นกลาง ปริมาตรไม่เกิน 1 ลิตร
สามารถเทลงอ่างน้าไดแ้ ละให้เปดิ นา้ ตามมาก ๆ
ตวั อย่าง : สารละลายโซเดียมคลอไรด์ (NaCl)
(2) สารละลายเข้มข้นบางชนิด ไม่ควรเทลงอ่างหรือท่อทันที ควรเจือจางก่อน หรือ
ถา้ ปริมาณมากจะตอ้ งทาใหเ้ ปน็ กลางกอ่ น
ตวั อยา่ ง : สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ (HCl) สารละลายเบสโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH)
(3) สารเคมีที่เป็นของแข็งไม่อันตราย ปริมาณไม่เกิน 1 กิโลกรัม ให้ใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด
เขยี นฉลากติดให้ชัดเจน และเตรยี มไวใ้ นทสี่ าหรบั รอการกาจัด
ตวั อย่าง : แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ผงตะไบเหลก็ (Fe)
(4) สารไวไฟ ตัวทาละลายที่ไม่ละลายน้า สารประกอบของโลหะเป็นพิษ หรือส ารที่
ทาปฏิกิรยิ ากบั น้า หา้ มเทลงอา่ งนา้ โดยเดด็ ขาด ให้ท้งิ ในภาชนะที่จัดเตรยี มไว้ให้โดยเฉพาะเทา่ นัน้
ตวั อยา่ ง : สารไวไฟ เชน่ เบนซนี (C6H6) เฮกเซน (C6H14)
สารประกอบโลหะหนัก เช่น เลด(II)ไนเตรต (Pb(NO3)2)
สารที่ทาปฏิกริ ิยากบั น้า เชน่ โลหะโซเดียม (Na)
QR code ลงิ ก์แหล่งเรยี นรู้ออนไลน์
ภายใต้โครงการ Project 14 ของ สสวท.
เรอ่ื ง การกาจัดสารเคมี
เอกสารประกอบการสอน 4 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
1.1.2 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี บทที่
การทางานกับสารเคมี จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายของสารเคมีน้ัน ๆ
1
ผู้ปฏิบัติงานจะต้องตระหนักถึงอันตรายอันอาจเกิดขึ้นจากการใช้สารเคมี รวมถึงการเกิดผลกระทบต่อผู้อ่ืน
และสิ่งแวดล้อม ดังน้ัน จึงมีความจาเป็นจะต้องศึกษาสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่แสดงถึงความอันตรายในการใช้ ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
สารเคมี ดงั รายละเอียดต่อไปนี้
1.1.2.1 ข้อมลู ทั่วไปทีแ่ สดงบนฉลากสารเคมี
สารเคมีมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน จึงจะต้องมีการติดฉลากแสดง
ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของสารเคมี เพ่ือความปลอดภัยในการใช้งานและการกาจัดอย่างถูกต้อง โดยฉลาก
ของสารเคมี ควรมีขอ้ มลู หลัก ๆ ดงั นี้
(1) ชื่อผลิตภณั ฑ์ สตู รเคมี (บางบริษัทอาจจะระบุความบริสทุ ธห์ิ รือเกรดของสารเคมี)
(2) รูปสญั ลกั ษณ์แสดงความอันตรายของสารเคมี
(3) คาเตอื น ขอ้ มลู ความอนั ตราย และข้อควรระวงั
(4) ขอ้ มูลบริษทั ผผู้ ลติ สารเคมี
แสดงตวั อย่างฉลากสารเคมขี องเมทานอล ดงั รูปที่ 1.1
รปู ท่ี 1.1 แสดงฉลากสารเคมีของเมทานอล (methanol)
ดัดแปลงรูปจาก: https://rgw.arizona.edu/compliance/chemical-safety/chemical-hazards-reference-guides/reference-guide-ghs-container-labels
1.1.2.2 สญั ลกั ษณค์ วามปลอดภัยในระบบ GHS และ NFPA
ระบบการแสดงสัญลักษณ์แสดงความอันตรายของสารเคมีท่ีนิยมแพร่หลาย จะกล่าวถึง
ใน ท่ี น้ี มี 2 ระบ บ ได้ แ ก่ (1) Globally Harmonized System of Classification and Labelling of
Chemicals (GHS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้เป็นสากล และ (2) National Fire Protection Association Hazard
Identification System (NFPA) เปน็ ระบบทน่ี ยิ มใชใ้ นสหรัฐอเมรกิ า ซง่ึ มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
เอกสารประกอบการสอน 5 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
บทท่ี
1
(1) ระบบ GHS จะแสดงสัญลักษณ์ในกรอบส่ีเหลี่ยมสีแดง พ้ืนขาว และมีสัญลักษณ์
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีม อยใู่ นกรอบนนั้ ดังแสดงในตารางที่ 1.1
ตารางท่ี 1.1 แสดงสญั ลักษณ์และความอนั ตรายของสารเคมีในระบบ GHS
สัญลกั ษณ์ ความอันตราย
สารไวไฟ
- สารทท่ี าปฏิกิรยิ าได้เอง
- สารที่ลุกตดิ ไฟไดเ้ องในอากาศ
- สารทเี่ กดิ ความร้อนได้เอง
- สารท่สี ัมผัสนา้ แลว้ ให้แก๊สไวไฟ
สารออกซิไดซ์
- สารท่ีมคี วามสามารถเปน็ ตวั ออกซไิ ดซ์
สารกัดกร่อน
- สารกัดกรอ่ นโลหะ
- สารกดั กร่อนผิวหนงั ทาลายดวงตาอย่างรนุ แรง
สารที่เป็นอนั ตรายถึงชีวิต
- สารเป็นพิษเฉยี บพลัน
สารระคายเคอื ง
- ทาใหเ้ กดิ การแพ้ท่ผี ิวหนังและดวงตา เป็นพิษเฉียบพลัน
- อาจระคายเคืองทางเดินหายใจ ทาใหเ้ กดิ การงว่ งซึมหรอื มึนงง
สารทเ่ี ปน็ อนั ตรายต่อสุขภาพ
- สารก่อมะเร็ง ก่อใหเ้ กิดการกลายพนั ธ์ขุ องเซลลส์ ืบพนั ธุ์
- ทาใหไ้ วต่อการกระตนุ้ อาการแพ้ต่อระบบทางเดินหายใจ
- เปน็ พิษตอ่ ระบบสบื พันธ์ุ เป็นพิษต่อระบบอวยั วะเป้าหมายอย่าง
เฉพาะเจาะจงทั้งการสมั ผสั คร้ังเดยี วและสัมผสั ซา้
- อนั ตรายจากการสาลกั
สารที่เป็นอันตรายต่อส่ิงแวดล้อม
- เปน็ อนั ตรายตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม ทงั้ เฉียบพลนั และระยะยาว
สารที่อาจเกดิ ระเบดิ ได้
- สารทที่ าปฏิกริ ิยาได้เอง (อาจระเบิดเมื่อไดร้ ับความร้อน)
- สารเปอรอ์ อกไซด์อนิ ทรยี ์ (อาจระเบิดเมือ่ ไดร้ บั ความร้อน)
เอกสารประกอบการสอน 6 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
ตารางท่ี 1.1 แสดงสัญลักษณ์และความอันตรายของสารเคมใี นระบบ GHS บทท่ี
1
สญั ลักษณ์ ความอันตราย ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
แก๊สภายใต้ความดนั
- แก๊สท่มี ีความดันสงู
ศึกษาข้อมลู เพ่ิมเติมไดท้ ี่
http://www.fda.moph.go.th/sites/Hazardous/PublishingImages/GHS%20การ
สอื่ สารความเป็นอนั ตราย.pdf
(2) ระบบ NFPA (ของอเมรกิ า) จะใช้สที อี่ ย่ภู ายในรปู สี่เหลยี่ มข้าวหลามตดั ดังตัวอยา่ งทแ่ี สดง
ในรปู ท่ี 1.2 และความหมายของสีพน้ื หลงั และตัวเลขในแต่ละช่อง แสดงในตารางที่ 1.2
กรดไฮโดรคลอริก (HCl) แอมโมเนีย (NH3) ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) 30%
รปู ที่ 1.2 แสดงตวั อยา่ งฉลากสารเคมีตามระบบ NFPA
ตารางท่ี 1.2 ความหมายของสีพนื้ หลังและตัวเลขท่ีแสดงบนฉลากสารเคมีตามระบบ NFPA
สีพ้นื หลงั ความหมายของระดับตัวเลขในแต่ละช่อง
สแี ดง 0 ไม่ตดิ ไฟ
แทน ความไวไฟ 1 สารที่มีจดุ วาบไฟ*สงู กว่า 200 oF (สงู กวา่ 93.3 oC)
2 สารทม่ี ีจดุ วาบไฟตา่ กว่า 200 oF (ตา่ กวา่ 93.3 oC)
3 สารที่มจี ดุ วาบไฟสูงกวา่ 100 oF (สงู กวา่ 37.8 oC)
4 สารที่มจี ุดวาบไฟตา่ กวา่ 100 oF (ต่ากว่า 37.8 oC)
*จดุ วาบไฟ (Flash point) หมายถงึ อุณหภูมติ ่าสุดทสี่ ารเคมเี กดิ การลุกตดิ ไฟไดเ้ มอ่ื มีประกายไฟ
สนี ้าเงิน 0 ปลอดภยั ไม่เป็นอันตรายต่อสขุ ภาพ
แทน ความอันตรายต่อ 1 มคี วามอนั ตรายต่อสุขภาพเล็กน้อย อาจทาให้เกิดการระคายเคอื ง
สุขภาพ 2 มคี วามอนั ตรายต่อสุขภาพปานกลาง
3 มีความอนั ตรายต่อสุขภาพมาก ทาใหเ้ กิดการกดั กร่อน หรือเปน็ พษิ
ควรหลีกเลย่ี งการสมั ผสั และสูดดม
4 มคี วามอันตรายต่อสุขภาพมาก อาจเสียชีวิตได้
เอกสารประกอบการสอน 7 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
บทท่ี
1
ตารางท่ี 1.2 ความหมายของสพี ้นื หลังและตัวเลขที่แสดงบนฉลากสารเคมีตามระบบ NFPA
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีม สีพื้นหลงั ความหมายของระดับตวั เลขในแต่ละช่อง
สเี หลอื ง 0 มคี วามเสถยี ร ไม่ว่องไวต่อการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี
แทน ความว่องไวในการ 1 เกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมเี มื่อไดร้ ับความรอ้ น
เกดิ ปฏิกิริยาเคมี 2 ไวต่อการเกิดปฏิกริ ิยารุนแรง
3 ไวตอ่ การเกิดปฏิกริ ิยารุนแรง อาจเกดิ การระเบิดเมื่อกระแทก
หรอื ไดร้ บั ความร้อน
4 ไวตอ่ การเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี อาจเกดิ ระเบดิ ได้
สขี าว OX สารออกซิไดซ์
ใส่อักษรหรือสญั ลักษณ์ที่ W สารที่ทาปฏิกิริยารนุ แรงกบั น้า
แสดงสมบตั ิทเ่ี ปน็ อันตราย COR สารกดั กร่อน
อืน่ ๆ ACID สารท่เี ปน็ กรด
ALK สารทีเ่ ป็นเบส
นอกจากฉลากและสัญลักษณ์แสดงความอันตรายท่ีปรากฏบนบรรจุภัณฑ์แล้ว สารเคมี
ทุกชนิดยังต้องมีเอกสารความปลอดภัย (Safety Data Sheet, SDS) ซ่ึงจะแสดงข้อมูลอย่างละเอียด เช่น
สมบัตแิ ละองคป์ ระกอบทางเคมี ความเปน็ อันตราย และการปฐมพยาบาลเบือ้ งต้น ดังรปู ท่ี 1.3
สแกน QR code เพื่อศกึ ษา
SDS ฉบับเต็ม
รูปท่ี 1.3 แสดงเอกสารความปลอดภยั (Safety Data Sheet, SDS) ของเมทานอล
หมายเหตุ : รูปของ SDS นี้ แสดงเพียงบางสว่ นจากทงั้ หมด 11 หนา้
เอกสารประกอบการสอน QR code ลิงก์แหลง่ เรียนรอู้ อนไลน์
ภายใตโ้ ครงการ Project 14 ของ สสวท.
เร่อื ง ความปลอดภยั ในการทางานกบั สารเคมี
8 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
1.1.3 อบุ ตั เิ หตุจากการทาปฏบิ ตั กิ ารและการปฐมพยาบาล บทท่ี
เพื่อเป็นการลดความรนุ แรงของอันตรายท่ีเกิดจากอุบัติเหตุขณะทาปฏิบัติการ ไม่วา่ จะเกิดจาก
1
สารเคมี หรอื ความรอ้ น ควรทราบวธิ ีการปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้นสาหรบั ตนเองและการชว่ ยเหลือผู้อน่ื ดงั น้ี
1.1.3.1 การปฐมพยาบาลเมอื่ ร่างกายสัมผัสสารเคมี ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
อาจจะแบง่ ได้ 3 กรณี ไดแ้ ก่
(1) เมือ่ สัมผสั สารเคมีทผ่ี ิวหนงั ใหป้ ฏบิ ัตดิ ังนี้
- ถอดเส้ือผ้าบริเวณท่ีเปื้อนสารเคมีออก และใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูซับสารเคมีออก
ให้มากทสี่ ดุ
- ถ้าเปน็ สารเคมที ล่ี ะลายนา้ ได้ เช่น กรดและเบส ให้ล้างโดยการเปดิ น้าไหลผ่านใน
ปรมิ าณมาก ๆ
- ถ้าเป็นสารเคมที ่ไี ม่ละลายนา้ ให้ลา้ งด้วยน้าสบู่
- หากทราบชนดิ สารเคมี ให้อา่ นวธิ กี ารปฐมพยาบาลเพ่ิมเตมิ ได้จากเอกสารความปลอดภัย
- ถ้าสัมผัสสารเคมีปริมาณมากและความเข้มข้นสูง หลังปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นแล้ว
ให้นาส่งโรงพยาบาลทนั ที
(2) เมอ่ื สารเคมเี ข้าตา ให้ปฏิบตั ิดงั น้ี
ให้ตะแครงศีรษะ โดยให้ตาที่โดนสารเคมีอยู่ด้านล่าง ล้างตาด้วยการเปิดน้าเบา ๆ ให้ไหล
ผ่านด้ังจมูกไปยังตาข้างที่โดนสารเคมี พยายามลืมตาและกรอกตาในน้าอย่างน้อย 10 นาที หรือจนกว่าจะ
มั่นใจว่า ล้างสารเคมีออกจนหมด และระวังอย่างให้น้าท่ีล้างตาน้ันไปสัมผัสตาอีกข้างหน่ึง จากน้ันให้
นาส่งโรงพยาบาล
(3) เม่อื สูดดมสารเคมี ให้ปฏิบตั ดิ ังน้ี
- หากเกิดแกส๊ พิษเกดิ ขน้ึ ให้รีบออกจากบรเิ วณน้ัน ไปอยู่ในสถานทอ่ี ากาศถ่ายเทสะดวก
- หากผู้สูดดมแกส๊ พิษหมดสติและช่วยเหลือตนเองไมไ่ ด้ ให้รีบเคล่ือนย้ายผู้ประสบเหตุออก
จากบริเวณน้ัน โดยผู้ช่วยเหลือจะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากป้องกันแก๊ส
ผา้ ปิดจมูก
- ปลดเส้อื ผา้ ของผูป้ ระสบเหตุ เพอื่ ให้หายใจสะดวก ถา้ หมดสติให้จับนอนคว่า และตะแครง
หนา้ ไปด้านใดดา้ นหนงึ่ เพอ่ื ป้องกนั โคนล้ินกีดขวางทางเดนิ หายใจ
- หากหยดุ หายใจ ใหร้ ีบนาส่งโรงพยาบาลทันที
1.1.3.2 การปฐมพยาบาลเมื่อโดนความร้อน
แช่น้าเย็นหรือปิดแผลด้วยผ้าชุบน้าจนหายปวดแสบปวดร้อน ทาขี้ผ้ึงสาหรับแผลไฟไหม้
น้ารอ้ นลวก และถา้ เกดิ บาดแผลขนาดใหญห่ รือเป็นบรเิ วณกวา้ ง ใหน้ าสง่ โรงพยาบาลทนั ที
QR code ลิงก์แหล่งเรียนรู้ออนไลน์
ภายใต้โครงการ Project 14 ของ สสวท.
เรือ่ ง อบุ ัติเหตจุ ากสารเคมี
เอกสารประกอบการสอน 9 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีมบทท่ี
1
แบบฝกึ หัดที่ 1.1 : ความปลอดภยั ในการทาปฏบิ ตั ิการเคมี
1. จงพิจารณาฉลากสารเคมที กี่ าหนดให้แลว้ ตอบคาถาม
A. แอมโมเนีย B. กรดไฮโดรคลอริก
C. เฮกเซน D. อะซโิ ตน
E. โพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์ F. เลด(II)ไนเตรต
1) สารใดไมค่ วรวางใกล้เปลวไฟ …………………………………………………………………………………………..
2) สารใดเป็นพษิ ต่อส่ิงแวดลอ้ ม …………………………………………………………………………………………..
3) สารใดมีฤทธ์ิกัดกรอ่ นผิวหนัง …………………………………………………………………………………………..
4) เม่อื สัมผสั กบั ผงโพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์ ควรปฏิบตั ิอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
5) สารละลายเลด(II)ไนเตรตทเี่ หลือจากการทดลอง ควรทาอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
เอกสารประกอบการสอน 10 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
2. จากรปู ผทู้ าปฏิบัตกิ ารควรปรบั ปรงุ ส่ิงใดบา้ ง เพอ่ื ให้เกิดความปลอดภัยในการทาปฏิบัตกิ ารเคมี บทท่ี
…………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………. 1
…………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………. ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
…………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………….
3. จงเตมิ ตัวอกั ษร T หน้าขอ้ ความท่ถี ูก และเติมตวั อกั ษร F หนา้ ขอ้ ความทผ่ี ดิ
…….. 1) สามารถใชแ้ วน่ สายตาทดแทนแว่นนริ ภัยในการทาปฏิบัติการได้
…….. 2) ควรถอดรองเท้ากอ่ นเขา้ ห้องปฏิบัตกิ ารเคมเี สมอ
…….. 3) การทดสอบปฏิกิรยิ าในหลอดทดลอง ไม่ควรหันปากหลอดทดลองไปทางทมี่ เี พอื่ นยนื อยู่
…….. 4) หลังทาการทดลอง ควรลา้ งเครื่องแก้วให้สะอาดและเช็ดโตะ๊ ปฏบิ ตั กิ ารกอ่ นออกจากหอ้ ง
…….. 5) ถ้าทาสารเคมีหกบนเครื่องชงั่ ต้องรีบเช็ดออกทันที โดยไมจ่ าเป็นตอ้ งปดิ สวิตช์เครอ่ื งชัง่
…….. 6) หากสารละลายกรดโดนผวิ หนัง จะตอ้ งรีบทาให้เปน็ กลางโดยการลา้ งดว้ ยสารละลายเบส
…….. 7) เอกสารความปลอดภยั จะทาใหท้ ราบข้อมูลสมบตั ิของสาร อันตราย และการปฐมพยาบาล
…….. 8) การห้ามรับประทานอาหารในห้องปฏิบัติการเคมี เป็นการป้องกันไม่ให้ได้รับอุบัติเหตุจากการ
กลนื กนิ สารเคมี
…….. 9) สัญลักษณน์ ้ี แสดงให้เหน็ วา่ สารเคมีสามารถลกุ ตดิ ไฟได้เองเมื่อสัมผัสกับอากาศ
…… 10) ขวดบรรจุโลหะโซเดียมจะแสดงสัญลักษณ์ ดั ง น้ั น จึ งต้ อ ง แ ช่ โซ เดี ย ม ใน น้ า มั น
เพอื่ ป้องกนั การสัมผสั กับความช้ืนในอากาศ
1.2 ทกั ษะในปฏิบตั กิ ารเคมี
1.2.1 ทกั ษะการทาปฏบิ ัติการ
1.2.1.1 อุปกรณ์การวัดปรมิ าตรและมวล
อปุ กรณ์เครอ่ื งแก้วและเครื่องมอื ทีใ่ ช้มอี ย่หู ลากหลายประเภท นักเรียนควรรูจ้ กั ช่อื และวิธใี ช้
งานอย่างถูกต้องและเหมาะสม เพ่ือให้การทด ลองมีความถูกต้อง แม่นยา และปลอดภัยในขณะ
ทาการทดลอง ในท่ีน้ีจะกล่าวถึงอุปกรณ์และเคร่ืองแก้วท่ีใช้ในการวัด(ตวง)ปริมาตรและวัดมวลเท่าน้ัน
ดังแสดงในตารางท่ี 1.3
เอกสารประกอบการสอน 11 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
บทท่ี
1
ตารางที่ 1.3 แสดงภาพอปุ กรณ์/เคร่อื งแก้ว ลกั ษณะเด่น หนา้ ที่ และข้อมลู ทัว่ ไป
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีม อุปกรณ/์ เคร่อื งแก้ว ลกั ษณะเด่น หนา้ ที่ และขอ้ มูลท่ัวไป
ทาจากแก้วทนความร้อน มีลักษณะเป็นทรงกระบอกปากกว้าง
มีขีดบอกปริมาตรในระดับมิลลิลิตร มีหลายขนาด ลักษณะเด่น
คือ ขอบบีกเกอร์มีลักษณะคล้ายจะงอยของปากนก ใช้สาหรับการ
ตวงสารท่ีไม่ต้องการความละเอียดมากนัก การเทแบ่งสารเคมี
การผสมสารเคมี เปน็ ตน้
บีกเกอร์ (Beaker)
………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………
………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
เอกสารประกอบการสอน 12 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
ตารางที่ 1.3 แสดงภาพอปุ กรณ์/เคร่ืองแกว้ ลกั ษณะเดน่ หนา้ ท่ี และข้อมลู ทั่วไป บทที่
1
อุปกรณ/์ เครือ่ งแก้ว ลกั ษณะเด่น หนา้ ท่ี และขอ้ มูลทวั่ ไป ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
เอกสารประกอบการสอน 13 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
บทที่
1
ตารางท่ี 1.3 แสดงภาพอุปกรณ์/เครือ่ งแก้ว ลกั ษณะเดน่ หนา้ ที่ และข้อมูลทัว่ ไป
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีม อุปกรณ/์ เครอื่ งแก้ว ลกั ษณะเดน่ หน้าที่ และข้อมูลท่ัวไป
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………
หมายเหตุ : วิธีการใชง้ านอุปกรณว์ ดั ปริมาตร นกั เรยี นสามารถอา่ นเพ่มิ เตมิ ได้จากภาคผนวกของหนังสอื เรียน
เคมี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เล่ม 1 หรือศึกษาจากลิงก์ด้านล้าง และครูผู้สอนจะสาธิตวิธีการใช้งานอุปกรณ์
เหล่านีใ้ นคาบเรียน
QR code ลงิ กแ์ หลง่ เรียนรอู้ อนไลน์
ภายใต้โครงการ Project 14 ของ สสวท.
เรื่อง อุปกรณว์ ัดมวล และ อุปกรณว์ ดั ปรมิ าตร ตามลาดบั
1.2.1.2 การอ่านสเกลและการบันทกึ ผลการทดลอง
(1) การอ่านสเกล
ในการเขียนรายงานทางวิทยาศาสตร์ เลขนัยสำคัญ หรือ ทศนิยม เป็นสิ่งท่ีจาเป็นอย่างยิ่ง
เพราะตัวเลขเหล่าน้ีสามารถบ่งบอกถึงความละเอียดของอุปกรณ์ หรือเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ดังนั้น
ในการบันทึกผลของการวัดหรืออ่านปริมาตร นักเรียนต้องระบุถึงความละเอียดของอุปกรณ์ หรือเคร่ืองมือ
อยา่ งถกู ตอ้ ง ยกตัวอย่าง การวดั ความยาวดินสอด้วยไมบ้ รรทดั ท่ีมีสเกลต่างกนั 2 แบบ ดงั รปู (ก) และ (ข)
cm cm
01 234 0 1 (2ข) 3 4
(ก)
จากสเกลของไม้บรรทัดรูป (ก) นักเรียนต้องบันทึกผลว่า ดินสอแท่งน้ียาว 3.7 หรือ
3.8 เซนติเมตร ซึ่งตัวเลข 7 หรือ 8 หลังจุดทศนิยมน้ัน เป็นค่าประมาณของแต่ละบุคคลที่อ่านได้ เพราะ
ไม่มีขีดสเกลกาหนดไว้ แต่จากสเกลของไม้บรรทัดรูป (ข) ท่ีมีขีดสเกลแสดงความละเอียดมากข้ึน ต้อง
บนั ทึกผลว่า ดินสอแท่งนี้ยาว 3.85 เซนติเมตร ไม่ใช่ 3.8 เซนติเมตร ซ่ึงทศนิยมตาแหน่งสุดทา้ ยน้นั เป็นการ
ประมาณค่าของแต่ละบุคคล โดยส่วนมาก หากอยู่ระหว่างขีดสเกล มักจะประมาณเป็นเลข 5 และถ้าทับขีด
สเกลพอดี จะประมาณเป็นเลข 0 (ศนู ย์)
เอกสารประกอบการสอน 14 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า แม้จะเป็นดินสอแท่งเดียวกั น แต่ถ้าใช้เคร่ืองวัดที่มี บทที่
ความละเอียดแตกต่างกัน ค่าตัวเลขของความยาวดินสอท่ีบันทึก ก็จะแตกต่างกัน ดังนั้น นักเรียนต้องมี
ความรอบคอบในการอ่านค่าตัวเลขของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ปริมาตรจากกระบอกตวง บิวเรต หรืออ่าน 1
อุณหภูมิจากเทอรม์ อมเิ ตอร์ เปน็ ตน้
ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
(2) การบันทึกผลการทดลอง
ในการบันทึกผลการทดลองในรายงานปฏิบัติการ ต้องบันทึกด้วยปากกาสีดาหรือน้าเงิน
(ห้ามใช้ดินสอ) และห้ามใช้น้ายาลบคาผิดแก้ไขข้อผิดพลาดท่ีเกิดขึ้น ถ้าต้องการแก้ไขให้ใช้วิธีขีดเส้น
หนึ่งเส้น ทับตัวเลขหรือตวั อักษรทผี่ ดิ แลว้ เขียนใหม่ ดงั ตัวอย่าง
นา้ หนกั ของบีกเกอร์ 24.7051 กรัม
นา้ หนักของบกี เกอร์พร้อมสารตวั อยา่ ง 26.8408 กรมั
นา้ หนักของสารตัวอยา่ ง 2.3157 2.1357 กรมั
กจิ กรรมที่ 1.1 : การอา่ นสเกลของอุปกรณ์และเคร่อื งแก้ว
จงอ่านคา่ จากอุปกรณ์ เคร่ืองแก้ว จากภาพที่กาหนดให้
อ่านคา่ จากกระบอกตวงนี้ได้……………..cm3 อา่ นคา่ จากกระบอกตวงน้ีได้………….…..cm3
อ่านคา่ จากบวิ เรตนีไ้ ด้……………..cm3 อ่านค่าจากเทอร์มอมเิ ตอร์น้ไี ด้…….………..oC
ท่มี า: Heyworth, R. M. & Briggs J. G. R., (2007). Science In Focus CHEMISRY. Singapore: Pearson Education South Asia Pte Ltd.
เอกสารประกอบการสอน 15 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีมบทที่
1
1.2.1.3 ความเท่ียงและความแมน่ ในการวัดปรมิ าณ
ในการวิเคราะห์และรายงานผลการทดลอง โดยเฉพาะค่าตัวเลขท่ีได้จากการวัดหรือ
การคานวณนั้น จะมีความน่าเช่ือถอื มากน้อยเพียงใดน้ัน สามารถพจิ ารณาได้จาก 2 ส่วน คือ ความเท่ียงและ
ความแม่น
ความเทย่ี ง (Precision) คอื ความใกล้เคยี งกันของคา่ ท่ีไดจ้ ากการวดั ซ้า
ความแมน่ (Accuracy) คอื ความใกลเ้ คยี งของค่าเฉล่ียท่ีไดจ้ ากการวัดซ้าเทยี บกับค่าจรงิ
ตัวอย่างท่ี 1 การปาลูกดอก จานวน 3 คร้ัง คร้ังละ 5 ลูก (จุดสีดา แทนจุดท่ีลูกดอกปักลง
บนกระดานปาเป้า) วดั ความแม่นจากลูกดอกที่ปักตรงกลางกระดานซึ่งแสดงค่าคะแนนเป็น 100 (เทียบได้ว่า
100 เป็นค่าจริง) ผลจากการปาลูกดอก 3 ครัง้ ปรากฏดงั ภาพ (ก) – (ค)
(ก) ความเทยี่ งและความแม่นสงู (ข) ความเท่ียงสงู แต่ความแม่นต่า (ค) ความเที่ยงและความแม่นตา่
ตวั อย่างท่ี 2 กราฟขอ้ มลู จาก 4 การทดลอง แตล่ ะการทดลอง วดั คา่ ซ้า 7 ครง้ั
ค่าเฉลยี่ (เส้นประ) คา่ ท่ไี ดจ้ ากการวัด (จดุ ทึบ) คาอธิบาย…
ค่าจริง (รูปดาว)
ข้อมูลมีการกระจายตัวมาก มีค่าเฉลี่ย (96)
ไม่ใกล้เคียงกับค่าจรงิ (100)
ความเทีย่ งสูง ความเท่ยี งตา่
ความแม่นสูง ความแม่นตา่
ความนา่ เช่อื ถือ มาก น้อย
คาอธบิ าย…………………………………………………….
…………………………………………………………………..
…………………………………………………………………
ความเทย่ี งสงู ความเทย่ี งตา่
ความแมน่ สูง ความแมน่ ต่า
ความนา่ เช่ือถอื มาก น้อย
เอกสารประกอบการสอน 16 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
บทท่ี
1
คาอธิบาย……………………………………………………. ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
…………………………………………………………………..
…………………………………………………………………
ความเท่ียงสงู ความเทีย่ งตา่
ความแม่นสงู ความแม่นตา่
ความนา่ เชอ่ื ถือ มาก นอ้ ย
คาอธบิ าย…………………………………………………….
……………………………………………………………………
…………………………………………………………………
ความเทยี่ งสูง ความเท่ยี งต่า
ความแมน่ สูง ความแมน่ ต่า
ความน่าเช่อื ถอื มาก นอ้ ย
ความเที่ยงและความแม่นของข้อมูลที่ได้จากการวัด ขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ทาการวัดและ
ความละเอียดของอุปกรณท์ ใ่ี ช้ทาการวัดด้วย
QR code ลงิ กแ์ หลง่ เรียนรู้ออนไลน์
ภายใต้โครงการ Project 14 ของ สสวท.
เร่ือง ความเทย่ี งและความแม่นของข้อมูล
แบบฝึกหดั ท่ี 1.2 : การชงั่ ตวง วัด และการบันทกึ ผล
1. จงอ่านมวลของสาร จากเครือ่ งชงั่ แบบสามคาน
1) มวลของสาร เท่ากบั …………… กรัม
2) มวลของสาร เทา่ กบั …………… กรมั
เอกสารประกอบการสอน 17 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
บทท่ี
1
2. จงอา่ นคา่ จากภาพที่กาหนดให้
1) ลูกศร ยาว ………………. เซนติเมตร
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีม
cm
2) ปริมาตรนา้ ในกระบอกตวง……………. mL 3) ปริมาตรน้าในกระบอกตวง…………….mL
4) หากปริมาตรของสารเรม่ิ ต้นทข่ี ีด 0 ถามวา่ 5) กาหนดปริมาตรของเหลวเริ่มต้นที่ขีด 0 อยาก
ปรมิ าตรของเหลวทีเ่ หลอื ในปิเปต ทราบวา่ ปริมาตรของเหลว ในบวิ เรตขนาด 50 mL น้ี
เท่ากับ …………... mL ถกู ไขออกไปกี่ mL
ตอบ………………mL
3. เพราะเหตใุ ด การใชบ้ ีกเกอรต์ วงของเหลว จงึ มีความคลาดเคล่อื นมากกว่าการใชบ้ ิวเรต จงอธบิ าย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เอกสารประกอบการสอน 18 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
4. จงตอบคาถามต่อไปนี้ บทท่ี
1) ควรใชเ้ คร่ืองแกว้ ชนิดใดบ้าง ในการแบง่ สารละลายกรดท่อี ยใู่ นขวด เพอ่ื นาไปเจอื จาง
1
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2) หากต้องการนาน้าประปา ปริมาตร 10.00 mL ไปทดสอบหาปริมาณสารปนเปื้อน ควรใช้ ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
อุปกรณช์ นดิ ใดในการตวง…………………………………………………………………………………………………………………….
3) หากต้องการช่ังผงซิงค์ออกไซด์ (ZnO) ให้ได้ปริมาณ 1.0025 กรัม ควรใช้เคร่ืองชั่ง
ประเภทใด……………………………………………………………………………………..………………………………………………….
4) หากนาน้ากล่ันท่ีมีอุณหภูมิ 25.0 oC ปริมาตร 10.00 cm3 ไปชั่งด้วยเคร่ืองช่ังดิจิทัลทศนิยม
4 ตาแหนง่ คา่ มวลของน้าทไ่ี ด้ ควรจะมีคา่ เทา่ ใด (ในหน่วยกรัม) เพราะเหตใุ ด
…………………………………………………………………………………………………….……..……………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.2.2 ทกั ษะการคานวณ
1.2.2.1 เลขนยั สาคัญ
เลขนัยสาคัญ หมายถึง จานวนตัวเลขของผลการทดลองที่แสดงถึงระดับความน่าเช่ือถือ
ของการทดลองท่ีได้จากการอ่านค่า หรือคานวณผลลัพธ์ เช่น อ่านปริมาตรจากกระบอกตวงได้ 13.2 cm3
มเี ลขนัยสาคญั เทา่ กับ 3 หรือ ถ้าอา่ นปริมาตรจากบิวเรต 13.20 cm3 มเี ลขนยั สาคญั เท่ากบั 4 เป็นต้น
หลักการกาหนดเลขนยั สาคัญทใ่ี หค้ วามหมายเชิงปรมิ าณ มีดงั น้ี
(1) ตัวเลขใด ๆ ที่ไม่ใช่เลขศูนย์ทัง้ หมด นบั เปน็ เลขนยั สาคัญ เชน่
1.25 cm3 มเี ลขนัยสาคัญเทา่ กบั 3 ตวั
12.34 กรมั มีเลขนัยสาคัญเทา่ กับ …….. ตวั
(2) เลขศนู ย์ท่อี ยรู่ ะหวา่ งเลขอน่ื ที่ไมใ่ ช่ศูนย์ นบั เป็นเลขนัยสาคัญ เช่น
100.5 cm3 มีเลขนัยสาคญั เทา่ กับ 4 ตวั
3.0007 กรมั มเี ลขนัยสาคญั เท่ากบั ....…. ตวั
(3) จานวนท่มี ีคา่ น้อยกวา่ 1 เลขศนู ยท์ ่ีอยู่หนา้ ตัวเลขอ่ืน ไมน่ ับเปน็ เลขนัยสาคัญ เชน่
0.001 oC มเี ลขนัยสาคัญเทา่ กับ 1 ตวั
0.0056 กรมั มเี ลขนัยสาคญั เท่ากับ 2 ตวั
0.20 กรัม มีเลขนัยสาคญั เท่ากบั …..… ตวั
0.01020 cm3 มเี ลขนยั สาคญั เทา่ กบั ..…… ตวั
(4) เลขศูนย์ท่ีอยูห่ ลังตัวเลขอื่นท่ีอยหู่ ลงั จดุ ทศนิยม นับเป็นเลขนยั สาคัญ เชน่
0.7800 กรัม มีเลขนัยสาคญั เทา่ กบั 4 ตวั
0.00290 โมล มีเลขนยั สาคัญเทา่ กับ …….. ตวั
เอกสารประกอบการสอน 19 วิชาเคมี 1 (ว 31221)
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีมบทท่ี
1
(5) เลขศูนย์ท่ีอยู่หลังตัวเลขอื่นที่ไม่เป็นเลขทศนิยม นับหรือไม่นับเป็นเลขนัยสาคัญ
ก็ได้ เชน่
400 cm อาจจะนับว่ามีเลขนยั สาคัญ 1 ตัว (คือ เลข 4)
หรอื อาจจะนับว่ามเี ลขนัยสาคัญ 2 ตวั (คือ เลข 40)
หรือ อาจจะนับว่ามเี ลขนัยสาคญั 3 ตวั (คอื เลข 400)
เน่ืองจากเลขศูนย์ในบางกรณีอาจจะมีค่าเป็นศูนย์จริง ๆ จากการใช้เครื่องมือวัด หรือเป็น
ตวั เลขที่ใช้แสดงให้เหน็ วา่ ค่าตัวเลขนนั้ อยใู่ นหลักร้อย หลกั พนั หลักหมนื่
การแก้ไขปัญหาน้ี คือ การเขียนในรูปของสัญกรณ์วิทยำศำสตร์ ซ่ึงจะเขียนตัวเลขในรูป
สัมประสิทธิ์ (A) คูณกับเลขยกกาลังฐานสิบ (10n) มีรูปทั่วไปเป็น A × 10n (เม่ือ 1 ≤ A< 10 และ n เป็น
จานวนเต็มบวกหรือเต็มลบ) เช่น
400 cm ถา้ ตอ้ งการเลขนัยสาคัญ 1 ตัว ให้เขียนเปน็ 4 × 102 cm
ถา้ ตอ้ งการเลขนัยสาคญั 2 ตัว ให้เขียนเปน็ 4.0 × 102 cm
ถา้ ต้องการเลขนัยสาคญั 3 ตวั ให้เขยี นเป็น 4.00 × 102 cm
(ตวั เลข 10n ไมน่ บั เปน็ เลขนัยสาคัญ)
นอกจากน้ันตัวเลขท่ีมีค่าน้อย ๆ หรือ มาก ๆ ก็สามารถเขียนให้อยู่ในรูปสัญกรณ์
วทิ ยาศาสตร์ได้ เชน่
0.0000564 มเี ลขนัยสาคัญเทา่ กบั 3 ตวั อาจเขียนเปน็ 5.64 × 10‒5
9,564,000 มีเลขนยั สาคญั เท่ากับ 4 ตวั อาจเขียนเป็น 9.564 × 106
(6) ตัวเลขแม่นตรง เป็นตัวเลขท่ีทราบค่าแน่นอน ถือว่าเป็นค่าคงท่ีจะไม่นามาคิด
เป็นเลขนยั สาคญั เช่น
ค่าคงที่ เช่น คา่ คงทข่ี องพลงั ค์ 6.625 × 10‒34 J•s ค่า π (= 3.142…)
ค่าจากการนับจานวน เช่น ชงั่ สาร 3 คร้งั ไมต่ ้องนาเลข 3 น้ี ไปคิดเปน็ เลขนัยสาคญั
ค่าจากการเทียบหน่วย เช่น 1 นาที เท่ากับ 60 วินาที ไม่ต้องนาเลข 1 และ เลข 60 ไปคิด
เป็นเลขนยั สาคัญ
การปดั ตัวเลข
(1) ถ้าตัวเลขถัดจากตาแหน่งที่ต้องการ มีค่าน้อยกว่า 5 ให้ตัดตัวเลขที่อยู่ถัดไปท้ังหมด
(ปดั ทิง้ ) เชน่
5.7432 ถ้าต้องการเลขนัยสาคัญ 2 ตัว ปดั เป็น 5.7
ถา้ ตอ้ งการเลขนัยสาคัญ 3 ตัว ปัดเปน็ 5.74
(2) ถ้าตัวเลขถัดจากตาแหน่งที่ต้องการ มีค่ามากกว่า 5 ให้เพ่ิมค่าตัวเลขตาแหน่งสุดท้าย
ที่ต้องการอีก 1 (ปัดขึน้ ) เชน่
3.7892 ถา้ ตอ้ งการเลขนัยสาคญั 2 ตัว ปัดเปน็ 3.8
ถา้ ต้องการเลขนัยสาคัญ 3 ตัว ปดั เป็น 3.79
เอกสารประกอบการสอน 20 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
(3) ถ้าตัวเลขถัดจากตาแหน่งท่ีต้องการ มีค่าเท่ากับ 5 และมีเลขอ่ืนที่ไม่ใช่ 0 ต่อจากเลข 5 บทที่
1
ให้ปดั ขึน้ เชน่ ความปลอดภยั และทกั ษะในปฏบิ ัตกิ ารเคมี
2.1652 ถ้าตอ้ งการเลขนัยสาคัญ 3 ตัว ปดั เปน็ 2.17 (เพราะต่อจากเลข 5 ไมใ่ ช่เลข 0)
(4) ถ้าตัวเลขตาแหน่งท่ีต้องการ มีค่าเท่ากับ 5 และไม่มีเลขอื่นต่อจากเลข 5 ต้องพิจารณา
เลขที่อยูห่ น้าเลข 5 ดังนี้
- ถา้ เลขทอี่ ยหู่ นา้ เลข 5 เป็นเลขคี่ ให้ปัดข้นึ เช่น
0.635 ถ้าต้องการเลขนยั สาคญั 2 ตวั ปดั เป็น 0.64
(หนา้ เลข 5 คอื เลข 3 เป็นเลขคี่ ให้ปัดเลข 3 ขน้ึ เปน็ เลข 4)
- ถา้ เลขทีอ่ ยูห่ นา้ เลข 5 เป็นเลขคู่ ให้ปัดเลข 5 ทิ้ง เช่น
0.645 ถ้าตอ้ งการเลขนยั สาคญั 2 ตัว ปดั เปน็ 0.64
(หน้าเลข 5 คอื เลข 4 เปน็ เลขคู่ ใหป้ ดั เลข 5 ทงิ้ ไป สว่ นเลข 4 คงเดมิ )
การบวก ลบ คูณ หาร
(1) การบวกและการลบ
จานวนเลขนัยสาคัญที่อยู่ด้านขวาจุดทศนิยมของผลลัพธ์สุดท้ายท่ีได้จากการบวกหรือ
การลบ “ใหใ้ ชจ้ านวนเลขต่าสุดท่อี ย่ดู ้านขวาของจดุ ทศนิยมของจานวนเดิม” (ยึดทศนิยมตาแหนง่ น้อยสุด
เป็นหลัก)
เช่น 6.2456 + 6.2 = 12.4456 ผลลพั ธท์ ถี่ กู ตอ้ ง คอื 12.4
0.04216 – 0.000418 = 0.041742 ผลลัพธท์ ี่ถูกต้อง คือ …………………..
(2) การคูณและการหาร
จานวนเลขนัยสาคัญของผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้จากการคูณ หรือการหาร หาได้จาก “จานวน
เดิมท่มี ีเลขนัยสาคัญต่าสดุ ” เชน่
2.510 x 2.30 = 5.773 ผลลัพธ์ทถี่ ูกต้อง คือ 5.77 มีเลขนัยสาคญั เทา่ กบั 3 ตวั
2.4 x 0.000673 = 0.0016152 ผลลพั ธท์ ี่ถกู ต้อง คือ 0.0016 มเี ลขนยั สาคัญเท่ากบั 2 ตัว
16.235 x 0.217 x 5 = 17.614975 ผลลัพธ์ทีถ่ กู ต้อง คือ ………… มีเลขนัยสาคญั เท่ากับ..…..ตวั
4.5150 / 0.0990 = 4.560606 ผลลัพธท์ ่ีถกู ต้อง คือ ………… มีเลขนัยสาคัญเท่ากบั .……ตวั
(5.00 / 1.237) + (3.000) + (6.35 / 4.0) = 4.042037… + 3.000 + 1.5875
(วงเล็บที่ 1, 2 และ 3 ให้เลขนยั สาคญั เท่ากบั 3, 4 และ 2 ตามลาดบั )
= 4.04 + 3.000 + 1.6
= 8.64 ผลลัพธท์ ีถ่ ูกต้อง คือ……………
QR code ลิงกแ์ หล่งเรยี นรูอ้ อนไลน์
ภายใต้โครงการ Project 14 ของ สสวท.
เรือ่ ง เลขนัยสาคัญ
เอกสารประกอบการสอน 21 วชิ าเคมี 1 (ว 31221)
ความปลอดภัยและ ัทกษะในป ิฏบั ิตการเค ีมบทท่ี
1
1.2.2.2 หนว่ ยวัดและแฟกเตอร์เปลย่ี นหนว่ ย
(1) หน่วยวดั
หน่วยวัดมีลักษณะแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ทาให้ไม่สะดวกต่อการเปรียบเทียบหรือ
ทาให้การสอ่ื สารไม่เขา้ ใจตรงกนั จงึ ได้มกี ารตกลงใหม้ ีหน่วยมาตรฐานสากลขน้ึ
ในปี ค.ศ. 1960 ที่ประชุมนานาชาติว่าด้วยการชั่งและการวัด ได้ตกลงให้มีหน่วยวัดสากล
ข้ึน เรียกว่า International System of Units (ใช้ตัวย่อว่า SI) โดยมีท้ั งห มด 7 ห น่ วย ดังแสดง
ในตารางท่ี 1.4
ตารางที่ 1.4 แสดงหน่วย SI ท้งั 7 หน่วย
ปรมิ าณ ชอื่ หน่วย สญั ลักษณ์
มวล กโิ ลกรมั kg
ความยาว เมตร m
เวลา วินาที s
อุณหภูมิ เคลวิน k
ปรมิ าณของสาร โมล mol
กระแสไฟฟา้ แอมแปร์ A
ความเขม้ แหง่ การส่องสวา่ ง แคนเดลลา cd
และยังมีหน่วยเอสไออนุพัทธ์ (Derived SI units) ท่ีแสดงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์
ของหน่วยเอสไอพ้นื ฐาน ตวั อย่างแสดงในตารางท่ี 1.5
ตารางที่ 1.5 แสดงตวั อยา่ งหน่วยเอสไออนุพัทธ์
ปริมาณ ช่อื หน่วย สัญลักษณ์
m3
ปริมาตร ลูกบาศก์เมตร
mol/m3
ความเขม้ ขน้ โมลตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร kg/m3
ความหนาแน่น กิโลกรมั ต่อลูกบาศก์เมตร
นอกจากนั้นยังมีหน่วยนอกระบบเอสไอ ที่ใช้ในทางเคมี เป็นที่ยอมรับและใช้
อยา่ งแพร่หลาย ดังตวั อย่างแสดงในตารางที่ 1.6
ตารางท่ี 1.6 แสดงตวั อย่างหนว่ ยนอกระบบเอสไอที่ใชใ้ นทางเคมี
ปรมิ าณ ชอ่ื หน่วย สัญลักษณ์ ค่าที่เทียบกบั หน่วย SI
1 L = 10‒3 m3
ปริมาตร ลติ ร L หรอื l 1 g = 10‒3 kg
กรัม g 1 Da = 1.66 × 10‒27 kg
1 u = 1.66 × 10‒27 kg
มวล ดอลตนั Da
หนว่ ยมวลอะตอม u
เอกสารประกอบการสอน 22 วิชาเคมี 1 (ว 31221)