๙๖
ง๑๕๑๐๑ การงานอาชพี คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพ
เวลา ๘๐ ช่วั โมง/ปี
อธิบายเหตุผลในการจัดห้องครวั การจัดต้อู าหาร การจัดโตะ๊ อาหาร การจดั ตู้เย็น การทำความสะอาด
ห้องน้าและห้องส้วม การซักเสื้อผ้า การตากเสื้อผ้า การเก็บเสื้อผ้า การพับเสื้อผ้า การรีดเสื้อผ้า
การซ่อมแซมเสื้อผ้าด้วยการสอย การเย็บเครื่องเกาะเกี่ยว การเลือกซื้ออาหาร และเครื่องดื่ม การปลูกพืช
ในแปลง การซ่อมแซมอุปกรณ์ของใช้ในบ้าน การทำบัญชีครัวเรือน การจัดเก็บเอกสารสำคัญ การดูแลรักษา
และใช้สมบัติส่วนตัว สมาชิกในครอบครัวและส่วนรวม การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุเหลื อใช้
ทีม่ ีอย่ใู นท้องถ่ิน
ฝึกปฏิบัติจัดห้องครัว จัดตู้อาหาร จัดโต๊ะอาหาร จัดตู้เย็น ทำความสะอาดห้องน้ำ และห้องส้วม
ซักเสื้อผ้า ตากเสื้อผ้า เก็บเสื้อผ้า พับเสื้อผ้า รีดเสื้อผ้า ซ่อมแซมเสื้อผ้าด้วยการสอยเย็บเครื่องเกาะเกี่ยว
เลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ปลูกพืชในแปลง ซ่อมแซมอุปกรณ์ของใช้ในบ้าน ทำบัญชีครัวเรือน
จัดเก็บเอกสารสำคัญ ดูแลรักษาและใช้สมบัติส่วนตัว สมาชิกในครอบครัวและส่วนรวม ประดิษฐ์ของใช้
ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น สำรวจข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ ในชุมชน
และระบุความแตกต่างของอาชีพโดยใช้ทักษะกระบวนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน การจัดการกระบวนการ
แกป้ ัญหาการทำงานร่วมกนั การแสวงหาความรู้
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในการทำงานและรู้จักสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เกิดเจตคติที่ดี
ต่อการทำงาน มีมารยาทในการทำงานกับสมาชิกในครอบครัว มีความประณีตในการทำงานมีจิตสำนึก
ในการใช้พลังงานและทรัพยากรในการทำงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า ตลอดจนนำความรู้ไปใช้
ในชวี ติ ประจำวันได้
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ง ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ง ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
รวม 2 มาตรฐาน ๖ ตัวช้ีวดั
๙๗
ง๑๖๑๐๑ การงานอาชพี คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี
เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี
อภิปรายแนวทางในการดูแลรักษาสมบัติภายในบ้าน การซ่อมแซมเสื้อผ้าด้วยการปะ และการชุน
การจัดอาหารให้สมาชิกในครอบครัว การเตรียมประกอบอาหารและเครื่องดื่มให้สมาชิกในครอบครัว
การเลี้ยงปลาสวยงาม การติดตั้ง ประกอบของใช้ในบ้าน การสร้างของใช้ของตกแต่งให้สมาชิกในครอบครัว
หรือเพื่อนในโอกาสต่าง ๆ โดยใช้แผนที่ความคิดและทักษะการสร้างชิ้นงาน การวางแผนในการเลือกอาชีพ
การระบคุ วามรคู้ วามสามารถ และคณุ ธรรมท่ีสมั พนั ธ์กับอาชพี ที่สนใจ
ฝึกปฏิบัติดูแลรักษาสมบัติภายในบ้าน ซ่อมแซมเสื้อผ้าด้วยการปะและการชุน จัดอาหารให้สมาชิก
ในครอบครัว เตรียมประกอบอาหารและเครื่องดื่มให้สมาชิกในครอบครัว เลี้ยงปลาสวยงาม ติดต้ัง
ประกอบของใช้ในบ้าน สร้างของใช้ ของตกแต่งให้สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อน ในโอกาสต่าง ๆ โดยใช้
แผนผังความคิดและทักษะการสร้างชิ้นงาน โดยใช้ทักษะกระบวนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอนการจัดการ
กระบวนการแก้ปัญหา การทำงานร่วมกันและการแสวงหาความรู้ วางแผนในการเลือกอาชีพ ระบุความรู้
ความสามารถและคุณธรรมท่สี ัมพนั ธก์ บั อาชีพทสี่ นใจ
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดเจตคติที่ดีต่อการทำงาน มีมารยาทในการทางานกับครอบครัวและผู้อื่น มีคุณธรรม
ในการประกอบอาชีพ ตลอดจนนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ง ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ง ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒
รวม 2 มาตรฐาน ๕ ตวั ชว้ี ัด
๙๘
คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
๙๙
รายวชิ าพนื้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาอังกฤษ จำนวน ๒๐๐ ชวั่ โมง
อ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จำนวน ๒๐๐ ชว่ั โมง
อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง
อ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง
อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
อ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
อ๑๖๑๐๑
๑๐๐
อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง/ปี
ระบุตัวอักษร เสียงตัวอักษรของภาษาอังกฤษ และภาษาไทย อ่านออกเสียง และสะกดคำง่าย ๆ
ตามหลักการอ่าน สามารถเลือกภาพตรงตามความหมายของคำ และ กลุ่มคำที่ฟัง พูดสื่อสารเพื่อขอให้ข้อมูล
เกี่ยวกับตนเอง และ เรื่องใกล้ตัวโดยใช้สถานการณ์ง่าย ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ตอบคำถามจากการฟังเรื่อง
ใกล้ตัวด้วยคำสั้น ๆ ใช้คำสั่งและปฏิบัติตามอย่างง่าย ๆ บอกความต้องการของตนเองพร้อมทำท่าประกอบ
ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาบอกชื่อรวบรวมคำศัพท์ใกล้ตัว ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
และเกี่ยวกับเทศกาลสำคัญของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา วัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย
ถกู ต้องตามกาลเทศะ ใฝเ่ รียนรู้ รกั ความเป็นไทย และรกั การทำงาน บอกช่อื สถานที่สำคญั ในทอ้ งถ่นิ ได้
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ต ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ต ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ต ๑.๓ ป.๑/๑
ต ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ต ๒.๒ ป.๑/๑
ต ๓.๑ ป.๑/๑
ต ๔.๑ ป.๑/๑
ต ๔.๒ ป.๑/๑
รวม 8 มาตรฐาน ๑๖ ตัวช้ีวัด
๑๐๑
อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง/ปี
ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทยอ่านออกเสียงสะกดคำและ
ประโยคง่าย ๆ สามารถเลือกภาพ ตรวจตามความหมายของคำ กลุ่มคำและประโยคที่ฟัง ปฏิบัติตามคำสั่ง
และคำขอร้องง่าย ๆ ที่ฟัง พูดขอ และให้ข้อมูลง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเอง และเรื่องใกล้ตัว พูดโต้ตอบด้วย
ถ้อยคำสั้น ๆ งา่ ย ๆ ในการส่อื สารระหว่างบุคคล ตามแบบท่ฟี ัง พดู ตอบคำถามจากการฟังประโยค บทสนทนา
หรือนิทานง่าย ๆ ที่มีภาพประกอบ พูด และทำท่าทางประกอบตามวัฒนธรรม บอกความต้องการง่าย ๆ
ของตนเอง ตามแบบทฟี่ งั ใช้คำสง่ั และคำขอรอ้ งงา่ ยๆตามแบบทฟ่ี งั ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเพอื่ รวบรวมคำศัพท์
ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัว ฟังและพูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ตอบคำถามจากการฟังประโยค
บทสนทนาหรือนิทานง่าย ๆ ที่มีภาพประกอบบอกชื่อและคำศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลสำคัญของเจ้าของภาษา
บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและเทศกาลสำคัญ ของเจ้าของภาษาอย่างง่าย ๆ
และเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัยถูกต้องตามกาลเทศะใฝ่เรียนรู้ รักความเปน็ ไทย
และรักการทำงานบอกช่ือสถานทสี่ ำคญั ในทอ้ งถิน่ ได้
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ต ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ต ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ต ๑.๓ ป.๒/๑
ต ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ต ๒.๒ ป.๒/๑
ต ๓.๑ ป.๒/๑
ต ๔.๑ ป.๒/๑
ต ๔.๒ ป.๒/๑
รวม 8 มาตรฐาน ๑๖ ตวั ช้ีวัด
๑๐๒
อ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง/ปี
บอกความแตกต่างของเสยี ง ตัวอักษร คำ กลมุ่ คำและประโยคง่าย ๆ ของภาษาอังกฤษและภาษาไทย
ปฏิบัติตามและใช้คำสั่ง คำขอร้องที่ฟังหรืออ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยคและบทพูดเข้า
จังหวะง่าย ๆ ตามหลักการอ่าน ระบุภาพหรือสัญลักษณ์ตรงตามความหมายของกลุ่มคำและประโยคที่ฟัง
ตอบคำถามจากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนาหรือนิทานง่าย ๆ พูดโต้ตอบด้วยคำสั้น ๆ ง่าย ๆ
ในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคลตามแบบการฟัง พดู ขอและใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ที่ใกล้ตัว
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น บอกชื่อและคำศัพท์ง่าย ๆ เกี่ยวกับเทศกาลสำคัญและชีวิตความเป็นอยู่
ของเจ้าของภาษา พูดและทำท่าประกอบตามมารยาทสังคม เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
ที่เหมาะสมกับวยั บอกช่ือสถานทส่ี ำคัญในท้องถน่ิ ได้
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ต ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔,
ต ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕
ต ๑.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒,
ต ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ต ๒.๒ ป.๓/๑
ต ๓.๑ ป.๓/๑
ต ๔.๑ ป.๓/๑
ต ๔.๒ ป.๓/๑
รวม 8 มาตรฐาน ๑๘ ตวั ช้ีวัด
๑๐๓
อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
เวลา ๘๐ ชวั่ โมง/ปี
ปฏิบัติตามคำสั่งคำขอร้องและคำแนะนำง่าย ๆ ที่ฟังหรืออ่าน อ่านออกเสียงคำสะกดคำอ่านกลุ่มคำ
ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพูดเข้าจังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน สามารถเลือกภาพสัญลักษณ์หรือ
เครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้น ๆ ที่ฟังหรืออ่าน ตอบคำถามจากการฟัง
และอ่านประโยค บทสนทนาและนิทานง่าย ๆ ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และคำขออนุญาตง่าย ๆ พูดและเขียน
โต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล แสดงความต้องการของตนเองขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่าย ๆ
ขอข้อมูลและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว แสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว
และกิจกรรมต่าง ๆ ตามแบบที่ฟัง พูด และวาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ ใกล้ตัว
ทำท่าประกอบการพูดอย่างสุภาพ บอกความเหมือนและความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำกลุ่มตำประโยค
และข้อความ เทศกาล งานฉลอง ของต่างประเทศและของไทย ค้นคว้ารวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม
สาระการเรียนรู้อื่น และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน ตอบคำถามเกี่ยวกับเทศกาลวันสำคัญ
ชีวิตความเป็นอยู่ง่าย ๆ ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
เห็นคุณค่าของภาษาอังกฤษ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน รักความเป็นไทย รักการทำงานมีวินัยในตนเองและมีจิตสาธ ารณะ
บอกชอื่ สถานที่และอาชพี สำคญั ในท้องถิ่นได้
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ต ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ต ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
ต ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ต ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ต ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ต ๓.๑ ป.๔/๑
ต ๔.๑ ป.๔/๑
ต ๔.๒ ป.๔/๑
รวม 8 มาตรฐาน ๒๐ ตัวช้ีวัด
๑๐๔
อ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี
ปฏิบัติตามและใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต และคำแนะนำง่ายๆจากการฟังและอ่าน อ่านออก
เสียง ประโยค ข้อความและบทกลอนสั้น ๆ ตามหลักการอ่าน และบอกความเหมือน ความแตกต่างระหว่าง
การอ่านออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน การลำดับคำ ระบุ/วาดภาพสัญลักษณ์
หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้น ๆ เขียนแผนผัง แผนภูมิ แสดงข้อมูล
จากเรื่องที่ฟังหรืออ่าน บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่าย ๆ
หรือเรื่องสั้น ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียงและกริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาท ตอบคำถาม/ บอกความสำคัญ
ของเทศกาล วันสำคญั งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษา ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ท่ีเกี่ยวข้อง
กบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่น นำเสนอดว้ ยการพูดและเขียน ใชภ้ าษาในการฟัง พดู อา่ น เขียน เร่ืองราวเกี่ยวกับ
สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ในสถานศึกษา พูดและเขียนแสดงความต้องการ แสดงความรู้สึก
ขอความช่วยเหลือ ตอบรับ ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึกของตนเองพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้น ๆ
ขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว ใช้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือสืบค้น การรวบรวมข้อมูล
บอกความเหมือนหรือความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองของเจ้าของภาษากับของไทย มีความรัก
ในความเป็นไทย ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ บอกชื่อสถานที่และอาชีพ
สำคญั ในท้องถ่นิ ได้
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓
ต ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓
ต ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ต ๓.๑ ป.๕/๑
ต ๔.๑ ป.๕/๑
ต ๔.๒ ป.๕/๑
รวม 8 มาตรฐาน ๒๐ ตวั ชี้วัด
๑๐๕
อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี
บอกความเหมือนความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมายวรรค
ตอนและการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาอังกฤษและภาษาไทย อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ
บทความ บทกลอนตามหลักการอ่าน เขียนสะกดคำและประโยคง่าย ๆ สามารถระบุภาพหรือสัญลักษณ์ตรง
ตามความหมายของคำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความสั้น ๆ ท่ฟี งั หรืออ่าน ปฏบิ ตั ติ ามและใช้คำสั่งคำขอร้องคำ
ขออนุญาต พูดและเขียนอธิบายความรู้สึกเพื่อขอและให้ความช่วยเหลือ การตอบรับและปฏิเสธความตอ้ งการ
ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา บอกใจความสำคัญหรือตอบคำถามจากการฟังหรืออ่านบท
สนทนา นิทานหรือเรื่องสั้น ๆ พูดเขียนและให้ข้อมูลพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นให้เหตุผลสั้น ๆ ประกอบ
ในการสื่อสารระหว่างบุคคลเกี่ยวกับตัวเองเรื่องใกล้ตัวในสถานการณ์ง่าย ๆ พร้อมทั้งใช้ถ้อยคำน้ำเสียงกริยา
ท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทหรือวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา ใช้ภาษาอังกฤษในการศึกษา
ค้นคว้ารวบรวมคำศัพท์และคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ
และนำเสนอโดยการเขียนและพูด วาดภาพเขียนแผนผังหรือแผนภูมิและตารางเพื่ออธิบายความสัมพันธ์
ของสิ่งใกล้ตัวต่าง ๆ ตอบคำถามบอกความสำคัญความเหมือนและความแตกต่างเกี่ยวกับเทศกาลวันสำคัญ
งานและฉลองวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
ถูกต้องตามกาลเทศะ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน รักความเป็นไทยและรักการทำงาน มีวินัยในตนเองและมีจิตสาธารณะ
บอกชือ่ สถานที่และอาชพี สำคญั ในท้องถนิ่ ได้
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
ต ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ต ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ต ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ต ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒
ต ๓.๑ ป.๖/๑
ต ๔.๑ ป.๖/๑
ต ๔.๒ ป.๖/๑
รวม 8 มาตรฐาน ๒๐ ตวั ช้ีวัด
๑๐๖
คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม
บูรณาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
๑๐๗
บ๑๑๒๐๑ รักการอ่าน คำอธิบายรายวชิ ารายวชิ าเพิ่มเตมิ
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑
บูรณาการกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
เวลา 30 ชวั่ โมง/ปี
ฝึกทักษะกระบวนการอ่าน การใช้คำ ประโยค การใช้ภาษา จากเรื่องที่อ่าน ฝึกอ่านออกเสียงทั้งร้อย
แก้ว ร้อยกรอง คัดลายมือ ศึกษามารยาทในการอ่าน การเขียน เพื่อให้รู้รักการอ่าน การเขียน มีวินัยสามารถ
นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนรักการอ่าน การเขียน เห็นคุณค่าของภาษาไทย
มที กั ษะพ้ืนฐานการเรียนรู้ตามชว่ งวยั ของนกั เรียนอยา่ งเหมาะสม
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรองได้เหมาะสม
2. มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน
3. พฒั นาทกั ษะอา่ นเขียนอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
รวม ๓ จุดประสงค์การเรียนรู้
๑๐๘
บ๑2202 รักการอ่าน คำอธิบายรายวชิ ารายวชิ าเพิ่มเตมิ
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2
บูรณาการกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
เวลา 30 ชวั่ โมง/ปี
ฝึกทักษะกระบวนการอ่าน การใช้คำ ประโยค การใช้ภาษา จากเรื่องที่อ่าน ฝึกอ่านออกเสียงทั้งร้อย
แก้ว ร้อยกรอง คัดลายมือ ศึกษามารยาทในการอ่าน การเขียน เพื่อให้รู้รักการอ่าน การเขียน มีวินัยสามารถ
นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนรักการอ่าน การเขียน เห็นคุณค่าของภาษาไทย
มที กั ษะพ้ืนฐานการเรียนรู้ตามชว่ งวยั ของนกั เรียนอยา่ งเหมาะสม
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสียงร้อยแก้วและร้อยกรองได้เหมาะสม
๒. มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน
๓. พฒั นาทกั ษะอา่ นเขียนอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
รวม ๓ จุดประสงค์การเรียนรู้
๑๐๙
บ๑3203 รักการอ่าน คำอธิบายรายวชิ ารายวชิ าเพ่มิ เตมิ
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
บรู ณาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
เวลา 30 ชัว่ โมง/ปี
ฝึกทักษะกระบวนการอ่าน การใช้คำ ประโยค การใช้ภาษาจากเรื่องที่อ่าน ฝึกอ่านออกเสียงทั้งร้อย
แก้ว ร้อยกรอง คัดลายมือ ศึกษามารยาทในการอ่าน การเขียน เพื่อให้รู้รักการอ่าน การเขียน มีวินัยสามารถ
นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนรักการอ่าน การเขียน เห็นคุณค่าของภาษาไทย
มที กั ษะพ้ืนฐานการเรียนรู้ตามชว่ งวยั ของนักเรียนอย่างเหมาะสม
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสียงร้อยแกว้ และร้อยกรองไดเ้ หมาะสม
๒. มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน
๓. พฒั นาทกั ษะอา่ นเขียนอยา่ งถูกต้องเหมาะสม
รวม ๓ จุดประสงค์การเรียนรู้
๑๑๐
คำอธิบายรายวิชารายวชิ าเพ่มิ เตมิ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๑๑๑
คำอธบิ ายรายวิชารายวชิ าเพิ่มเติม
ว๑๑๒๐๑ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี
ศึกษาการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยการลองผิดลองถูก การเปรียบเทียบ การแสดงลำดับขั้นตอนการ
ทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่าย การเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายโดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือส่ือ การแสดง การใช้งาน
อปุ กรณ์เทคโนโลยีเบ้ืองต้น การใช้งานซอฟต์แวรเ์ บ้ืองต้น การใชเ้ มาส์ คีย์บอร์ด จอสัมผัส การเปิดปิดอุปกรณ์
เทคโนโลยี การสรา้ ง จัดเกบ็ และเรยี กใชข้ ้อมูลตามวตั ถปุ ระสงค์
ใช้กระบวนการการทำงานอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ คิดในเชิงคำนวณในการแก้ปัญหา
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน แสดงลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาโดยการ
เขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรือใช้สัญลกั ษณ์ โดยการใช้เกมเขาวงกต เกมหาจดุ แตกต่างของภาพ การจัดหนังสือ
ใส่กระเป๋า การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อสร้างลำดับสั่งการให้คอมพิวเตอร์ทำงาน เขียนโปรแกรมสั่งให้ตัว
ละครย้ายตำแหน่ง ย่อขยายขนาด เปลีย่ นรูปรา่ ง โดยใช้บตั รคำส่ังแสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org
ตระหนักและเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์และใช้งานเทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างเหมาะสม รักการทำงาน ทำงานด้วยความกระตือรือร้นและตรงเวลา มีเจตคติที่ดีต่อการ
ทำงาน มลี กั ษณะนสิ ัยการทำงานทเ่ี หมาะสม มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. แก้ปญั หาอย่างง่ายโดยใช้การลองผิดลองถูกการเปรยี บเทยี บ
2. แสดงลำดบั ข้ันตอนการทำงานหรอื การแกป้ ญั หาอยา่ งง่ายโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ
3. เขยี นโปรแกรมอย่างง่ายโดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือสือ่
4. ใช้เทคโนโลยีในการสรา้ งจัดเก็บ เรียกใช้ข้อมลู ตามวตั ถปุ ระสงค์
5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงในการใชค้ อมพวิ เตอรร์ ว่ มกัน ดแู ล
รักษาอปุ กรณ์เบื้องตน้ ใชง้ านอย่างเหมาะสม
รวม ๕ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑๑๒
คำอธบิ ายรายวชิ ารายวิชาเพม่ิ เตมิ
ว๑2๒๐2 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
ศึกษาขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่าย การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์
หรือสื่อและตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม การใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ
เรียกใชข้ อ้ มลู ตามวตั ถุประสงค์
ใช้กระบวนการการทำงานอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ คิดในเชิงคำนวณในการแก้ปัญหา
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการ
แก้ปัญหาโดยการเขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ การแก้ปัญหาโดยใช้เกมตัวต่อ เกมการแต่งตัวมา
โรงเรียน การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อสร้างลำดับสั่งการให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการและ
ตรวจสอบข้อผิดพลาด ปรับแก้ไขให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ใช้ซอฟต์แวร์เขียนโปรแกรม โดยใช้บัตรคำส่ัง
แสดงการเขียนโปแกรม,Code.org สามารถใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บ้ืองตน้
ตระหนักและเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์และใช้งานเทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างเหมาะสม รักการทำงาน ทำงานด้วยความกระตือรือร้นและตรงเวลา มีเจตคติที่ดี ต่อการ
ทำงาน มีลกั ษณะนิสยั การทำงานที่เหมาะสม มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. แสดงลำดับข้นั ตอนการทำงานหรอื การแก้ปญั หาอยา่ งง่าย โดยใชภ้ าพ สัญลักษณห์ รือข้อความ
2. เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยโดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือสอื่ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม
3. ใช้เทคโนโลยใี นการสรา้ งจัดหมวดหมู่ ค้นหา จดั เก็บ เรยี กใช้ขอ้ มลู ตามวัตถปุ ระสงค์
4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอรร์ ่วมกนั ดูแล
รักษาอุปกรณเ์ บอื้ งตน้ ใชง้ านอย่างเหมาะสม
รวม ๔ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑๑๓
คำอธบิ ายรายวชิ ารายวชิ าเพมิ่ เติม
ว๑3203 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
ศึกษาขั้นตอนการแสดงอัลกอริทึมในการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่าย การเขียนโปรแกรม
อย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์หรอื สือ่ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม การใช้อินเตอร์เน็ตค้นคว้าหาความรู้
การรวบรวม ประมวลผลและนำเสนอข้อมูลโดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ตามวตั ถปุ ระสงค์
ใช้กระบวนการการทำงานอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ คิดในเชิงคำนวณในการแก้ปัญหา
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน แสดงอัลกอริทึมเป็นขั้นตอนการทำงานหรือ
การแก้ปัญหาโดยการเขียน บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ การแก้ปัญหาโดยใช้เกม การเขียนโปรแกรม
เพื่อสั่งการให้ตัวละครทำงานซ้ำไม่สิ้นสุด และตรวจสอบข้อผิดพลาด ปรับแก้ไขให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ถ้าไม่เป็นไปตามที่ต้องการให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำสั่ง ใช้ซอฟต์แวร์เขียนโปรแกรม โดยใช้บัตรคำส่ัง
แสดงการเขยี นโปแกรม ,Code.org สามารถสบื ค้นข้อมลู บนอินเตอร์เน็ตโดยใช้เว็บไซตใ์ นการสืบค้น
ตระหนักและเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวัน ใช้อินเตอร์เน็ตเทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเตอร์เน็ต ดูแลรักษาอุปกรณ์และใช้งานเทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างเหมาะสม รักการทำงาน ทำงานด้วยความกระตือรือร้นและตรงเวลา มีเจตคติที่ดีต่อการ
ทำงาน มลี กั ษณะนิสยั การทำงานท่เี หมาะสม มคี ุณธรรม จริยธรรมและคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. แสดงอลั กอรทิ ึมในการทำงานหรอื การแก้ปัญหาอยา่ งงา่ ย โดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรือข้อความ
2. เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือสอ่ื และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม
3. ใชอ้ ินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้
4. รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอขอ้ มูล โดยใชซ้ อฟต์แวร์ตามวัตถุประสงค์
5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใชอ้ ินเทอร์เน็ต
รวม ๕ จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑๑๔
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เติม
ว๑๔๒๐๔ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลาเรยี น ๔๐ ชว่ั โมง/ปี
ศึกษาอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ ศึกษาและอธิบายหลักการทำโครงงานที่มีการใช้
เทคโนโลยี อธิบายเกี่ยวกับระดับของเทคโนโลยี เขียนโปรแกรมภาษาขั้นพื้นฐาน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
นำเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสมกับลักษณะงาน อธิบายระดับของเทคโนโลยี สร้างสิ่งของเครื่องใช้หรือ
วิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยีเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะเบื้องต้นเกี่ยวกับการทำโครงงาน
การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน หลักการทำโครงงาน การประยุกต์โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาจัดทำโครงงาน
ขนาดเล็กอย่างมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบ สามารถจัดทำโครงงานโดยใช้โปรมแกรมต่าง ๆ ที่เรียนมา
วางแผน ออกแบบผลงาน ผลิตชิ้นงาน นำเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีแบบต่าง ๆ เพื่อให้มีความรู้
ความเขา้ ใจ และทกั ษะการใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พือ่ สร้างโครงงานคอมพิวเตอรข์ นาดเล็กได้
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. เขา้ ใจการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทที่ นั สมยั
๒. เขยี นโปรแกรมข้ันพืน้ ฐานในการใชเ้ ทคโนโลยไี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๓. สามารถนำความรู้ด้านเทคโนโลยมี าปรับใชใ้ นชีวิตประจำวนั
๔. มีทักษะการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พื่อสรา้ งโครงงานคอมพิวเตอร์
รวม ๔ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑๑๕
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม
ว๑๖๒๐๖ ผังมโนทศั นแ์ ละอนิ โฟกราฟิก กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลาเรียน ๔๐ ชั่วโมง/ปี
ศึกษาพื้นฐานงานออกแบบ ความหมายของการออกแบบกราฟิก วิธีและกระบวนคิดสร้างสรรค์
ในการออกแบบ การออกแบบกราฟิกที่เป็นการสื่อสารผ่านภาพ โดยเน้นหลักการพน้ื ฐานทฤษฎี การออกแบบ
ทฤษฎีสุนทรียภาพทางศิลปะ ทฤษฎีสี หลักการจัดวางองค์ประกอบในงานออกแบบ การจัดรูปแบบตัวอักษร
การฝึกใช้ความคิดและจินตนาการในการแก้ไขปัญหาทางการสื่อสาร ทฤษฎีการสร้างสารสนเทศทางกราฟิก
การออกแบบสารสนเทศและทำให้เห็นภาพเชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบดิจิทัล ฝึกปฏิบัติการออกแบบในรูปแบบ
ดิจิทัลกราฟิกด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอรส์ ำเร็จรูป เพื่อการประยุกต์ใช้ในการออกแบบงานสื่อสารสาขาต่าง ๆ
เช่น ตวั อักษร ส่ือสง่ิ พมิ พ์ อินฟอร์เมชนั ดไี ซน์ อินเตอร์แอคทฟี กราฟกิ เว็บไซต์ แอนิเมชนั มัลติมเี ดยี
เห็นคุณค่าในการใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนรู้ การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยี
อย่างชาญฉลาดเพ่ือใชใ้ นงานธรุ กิจ รักและภาคภมู ิใจในถนิ่ รักความเป็นไทย และ มจี ิตสาธารณะ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. นกั เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั ความหมาย และการนำ Infographic ไปใช้งาน
๒. นกั เรยี นมที กั ษะในการใชโ้ ปรแกรมกราฟิกสำเรจ็ รูปในการทำงานออกแบบ สร้าง Infographic
๓. นกั เรยี นมีทกั ษะการออกแบบ Infographic ดว้ ยโปรแกรม Power point
๔. นกั เรยี นมกี จิ นิสยั ทีด่ ี และเหน็ คุณค่าในการเรยี นรคู้ อมพวิ เตอรเ์ พื่องานออกแบบ
รวม ๔ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑๑๖
คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
๑๑๗
คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม
อ๑๕๒๐๕ ภาษาองั กฤษโดยชาวตา่ งชาติ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลาเรียน ๔๐ ชัว่ โมง/ปี
ใช้ภาษาในการสนทนาเพื่อขอและใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับตนเอง สิ่งของ การซื้อขายแลกเปลี่ยน เหตุการณ์
ในอดีต แผนการในอนาคต และพูดสนทนาทางโทรศพั ท์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จับใจความสำคญั วิเคราะห์
ความ สรุป/ตีความจากการฟังประโยค ข้อความบทสนทนา และเรื่องต่าง ๆ ได้ รวมทั้งพูดแสดงความรู้สึก
อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องและเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล เลือกใช้ภาษา
น้ำเสียง และกิริยาท่าทางในการพูดและสนทนาได้อย่างเหมาะสมในระดับของบุคคล โอกาส สถานที่และ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ได้รับการส่งเสริมให้เป็นผู้ที่มีวินัย อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน
และเห็นคุณค่าของภาษาอังกฤษในการสืบค้นข้อมูลจากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อการศึกษาต่อและ
ประกอบอาชีพเห็นคุณค่าของภาษาอังกฤษ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและแสวงหาความรู้เพิ่มเติม
มีความเช่ือมน่ั ในการใชภ้ าษาอังกฤษกบั ชาวตา่ งชาติ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. พูดขอและให้ข้อมูล สนทนาโต้ตอบเกี่ยวกับตนเอง สิ่งของ การซื้อขายแลกเปลี่ยน สิ่งที่เคยทำใน
อดีต สิ่งที่วางแผนในอนาคต การพูดคุยทางโทรศัพท์ สถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้
ถูกต้องและเหมาะสมตามกาลเทศะ
2. เข้าใจตีความ จับใจความสำคัญ บอกรายละเอียด ระบุข้อมูล ปฏิบัติตามคำสั่งและวิเคราะห์
แสดงความคิดเห็นจากสิ่งที่ฟัง และเขียนบันทึกข้อมูลจากเรื่องหรือบทสนทนาที่ฟังเกี่ยวกับ
ข่าวสาร ขอ้ มลู และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวัน
3. ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อขอและให้ข้อมูลอธิบาย บรรยายเปรียบเทียบ แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับ
เรื่องราว หรอื ประเดน็ ปัญหาที่อยใู่ นความสนใจของสงั คมโดยใช้ประโยชน์จากส่อื ภาษาองั กฤษ
4. สามารถประยกุ ตใ์ ชภ้ าษาอังกฤษในชีวิตประจำวนั โดยการแสวงหาความรู้เพ่ิมเติม เพื่อการศึกษา
ต่อการประกอบอาชพี
5. เหน็ คุณคา่ และประโยชน์ของภาษาองั กฤษตลอดจนมีเจตคติท่ีดตี ่อการเรยี น มคี วามเชือ่ ม่ันในการ
ใชภ้ าษาอังกฤษกบั ชาวตา่ งชาติ และนำไปใช้อย่างมีวิจารณญาณ
รวม ๕ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑๑๘
โครงสรา้ งกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
๑๑๙
โครงสรา้ งกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น
โครงสร้างเวลาจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของโรงเรียนวรนิษฐาวิทยา ในแต่ละระดับชั้นตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
กิจกรรม ประถมศกึ ษา
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
- กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
- กจิ กรรมนกั เรียน (๗๐) (๗๐) (๗๐) (๗๐) (๗๐) (๗๐)
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
- ลูกเสือ – เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
- ชมุ นมุ
- กจิ กรรมเพ่ือสังคมและ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
สาธารณประโยชน์
๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
รวม
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียนเป็นกจิ กรรมที่มงุ่ เนน้ ให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พฒั นาอย่างรอบด้าน
เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม
จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้
และอยู่ร่วมกบั ผอู้ ืน่ อยา่ งมีความสขุ
โรงเรยี นวรนษิ ฐาวิทยา ไดจ้ ัดกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน โดยแบง่ ออกเป็น ๓ ลักษณะ ดงั น้ี
๑. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาให้นักเรียนรู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าใน
ตนเองและผู้อื่น สามารถวางแผนการเรียน อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและสังคม เกิดการเรียนรู้ สามารถ
ปรบั ตัวได้อย่างเหมาะสมและอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่นื ได้อยา่ งมคี วามสขุ
นกั เรยี นทุกคนตอ้ งเขา้ ร่วมกิจกรรมแนะแนว ๔๐ ชัว่ โมง ตอ่ ปกี ารศกึ ษา
แนวการจดั กจิ กรรมแนะแนว
๑) สำรวจสภาพปญั หา ความตอ้ งการ ความสนใจและธรรมชาตขิ องนกั เรียนเพื่อใช้เป็นข้อมูลใน
การกำหนดแนวทางและแผนการปฏบิ ัติกจิ กรรมแนะแนว
๒) ศึกษาวิสัยทัศน์ของโรงเรียนและวิเคราะห์ข้อมูลของนักเรียนที่ได้จากฐานข้อมูลนักเรียน หรือ
การสำรวจเพื่อทราบปัญหา ความต้องการ และความสนใจ เพื่อนำไปกำหนดสาระและรายละเอียดของ
กจิ กรรมแนะแนว
๓) กำหนดสัดส่วนสาระของกจิ กรรมด้านการศึกษา การงานและอาชพี รวมทั้งชีวิตและสังคมให้
ได้สัดส่วนที่เหมาะสม โดยยึดสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ตลอดจนธรรมชาติของผู้เรียน
เปน็ หลกั โดยครูและนักเรียนมีส่วนรว่ มในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
๔) กำหนดแผนการปฏิบัตกิ ิจกรรมแนะแนวเป็นปกี ารศึกษา
๕) การจดั ทำรายละเอยี ดของแตล่ ะแผนการปฏิบตั กิ ิจกรรม
๖) ปฏบิ ตั ติ ามแผนการปฏบิ ตั ิกิจกรมแนะแนว วัดและประเมินผล และสรปุ รายงาน
๑๒๐
๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้เข้าร่วมกิจกรรมตามความถนัด
ความสนใจ โดยเน้นเรื่องคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี มีความรับผิดชอบการ
ทำงานร่วมกัน รู้จักการแก้ปัญหา การตัดสินใจท่ีเหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลอื แบง่ ปนั เอ้ืออาทรและ
สมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษา
วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมนิ และปรับปรงุ การทงาน เนน้ การทำงานรว่ มกันเป็นกลุ่มตามความ
เหมาะสม และสอดคล้องกบั วฒุ ภิ าวะของผเู้ รียน กจิ กรรมนกั เรียนประกอบด้วย
๒.๑ กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี
๔๐ ชว่ั โมงตอ่ ปีการศกึ ษา
แนวการจดั กจิ กรรมลกู เสือ/เนตรนารี
การจัดกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี ใช้แนวการจัดกิจกรรมตามวิธีลูกเสือ คือ คำปฏิญาณ
และกฎเรียนรู้จากการกระทำระบบหมู่ การใช้สญั ลักษณ์ร่วมกัน การศกึ ษาธรรมชาติ ความกา้ วหน้าในการเข้า
ร่วมกิจกรรม และการสนับสนุนโดยผู้ใหญแ่ ละกิจกรรมพเิ ศษ
๒.๒ กจิ กรรมชมุ นมุ นักเรียนทุกคนตอ้ งเข้ารว่ มกจิ กรรมชุมนุม ๓๐ ช่ัวโมงตอ่ ปีการศึกษา
แนวการจัดกิจกรรมชมุ นมุ
๑. โรงเรียนสำรวจความสนใจของผู้เรียนในการเลือกเข้าร่วมชุมนุม หรือนักเรียนร่วมกัน
จดั ต้งั ชุมชนและเชญิ ครเู ป็นทปี่ รกึ ษาชมุ นมุ
๒. ครทู ่ปี รกึ ษาและนักเรียนถอดประสบการณแ์ ลกเปลี่ยนเรยี นรูแ้ ละเผยแพร่กิจกรรม
๓. ครูที่ปรึกษากจิ กรรมประเมนิ ผลและสรปุ รายงาน
ตัวอยา่ งกิจกรรมชุมนุมของโรงเรยี นวรนษิ ฐาวิทยา ได้แก่ ชุมนมุ ภาษาพาสนกุ ชุมนมุ ฝึกสมองลอง
ปญั ญา ชมุ นมุ นักวิทยาศาสตรน์ ้อย ชุมนมุ สง่ เสริมคุณธรรม ชมุ นุมกีฬาพาสนุก ชุมนมุ ศลิ ปะพาเพลิน ชมุ นุมนัก
ประดิษฐน์ ้อย ชมุ นมุ หอ้ งสมุด ชุมนุมภาษาจีน เป็นต้น
๓. กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ เปน็ กจิ กรรมทส่ี ง่ เสริมและพัฒนานักเรียนให้สามารถ
พัฒนาตนเองตามธรรมชาติและเตม็ ตามศักยภาพ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพฒั นาการทาง
สมอง เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้และคุณธรรม จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เรียนคิดสร้างสรรค์ออกแบบกิจกรรม
บำเพ็ญประโยชน์อย่างหลากหลายรูปแบบ เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะจิตอาสา
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชั่วโมง
ต่อปีการศึกษา
แนวการจดั กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
การจัดกิจกรรมหรือเข้าร่วมกิจกรรมสามารถเลือกจัดกิจกรรมหรือเข้าร่วมกิจกรรมได้ทั้งภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น ดังนี้
๑) จดั กิจกรรมในลักษณะบูรณาการใน ๘ กล่มุ สาระการเรียนรู้และประสบการณ์ของนักเรียนเอง
โดยนกั เรียนสามารถจัดกจิ กรรมตามองคค์ วามรูท้ ่ีไดจ้ ากการเรยี นรู้และประสบการณ์
๒) จัดกจิ กรรมบรู ณาการในช่ัวโมงชุมนมุ ในลกั ษณะเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
๓) จัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรอื่น หมายถึง กิจกรรมที่นักเรียนอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับ
หนว่ ยงานหรอื องค์กรอ่นื ๆ ทีจ่ ัดกจิ กรรมในลกั ษณะเพ่ือสงั คมหรือสาธารณประโยชน์
๑๒๑
แนวทางการประเมินผลกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน
การประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ
กจิ กรรมและผลงานของนกั เรียนตามเกณฑ์ทโ่ี รงเรยี นกำหนดและให้ผลการประเมินเป็นผา่ นและไม่ผ่าน
การประเมินกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน มี ๓ ลักษณะ คือ
๑. กจิ กรรมแนะแนว
ให้ใชต้ ัวอักษรแสดงผลการประเมนิ ดังน้ี
“ผ” หมายถึง นักเรยี นมีเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมแนะแนวรอ้ ยละ ๘๐ และมีผลงานตามเกณฑ์ทีก่ ำหนด
“มผ” หมายถึง นักเรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนวน้อยกว่าร้อยละ ๘๐ และมีผลงานไม่เป็นไปตาม
เกณฑท์ ี่กำหนด
๒. กจิ กรรมนกั เรยี น
๒.๑ กิจกรรมลกู เสือ/เนตรนารี
ให้ใชต้ ัวอกั ษรแสดงผลการประเมินดังนี้
“ผ” หมายถึง นักเรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี ร้อยละ ๘๐ และมีผลงานตามเกณฑ์ที่
กำหนด
“มผ” หมายถึง นักเรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ และมี
ผลงานไม่เป็นไปตามเกณฑ์ท่กี ำหนด
๒.๒ กจิ กรรมชมุ นุม
“ผ” หมายถึง นกั เรยี นมเี วลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมชมุ นุม ร้อยละ ๘๐ และมีผลงานตามเกณฑ์ท่กี ำหนด
“มผ” หมายถึง นักเรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมน้อยกว่า ร้อยละ ๘๐ และมีผลงานไม่เป็นไปตาม
เกณฑท์ ก่ี ำหนด
๓. กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
ให้ใช้ตัวอักษรแสดงผลการประเมินดงั นี้
“ผ” หมายถึง นักเรียนระดับประถมศึกษา ทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม และสาธารณประโยชน์
๑๐ ชว่ั โมงตอ่ ปกี ารศึกษา
“มผ” หมายถึง นักเรียนระดับประถมศึกษา ทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม และสาธารณประโยชน์
น้อยกวา่ ๑๐ ช่วั โมงต่อปีการศึกษา
๑๒๒
คำอธบิ ายกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
กิจกรรมแนะแนว เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ปี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ๑ - ๖
รู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติที่ดี
ต่อการมีชีวิตที่ดีมีคุณภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อยาง
มีความสุข รู้จักตนเองในทุกด้านรู้ความถนัด ความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลกของ
งานอาชีพอยางหลากหลาย มีเจตคติที่ดีตออาชีพสุจริต รูขอมูลอาชีพ สามารถ เลือกตนแนวทางในการ
ประกอบอาชีพได้อยางเหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผน เพื่อประกอบอาชีพตามที่ตนเองมี
ความถนัดและสนใจ มีคุณลักษณะพื้นฐานที่จำ เป็นในการประกอบ อาชีพและพัฒนางาน ให้
ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างฐานะทางเศรษฐกิจให้กับตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและประเทศชาติ
พัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มศักยภาพ รู้จักแสวงหาความรูใฝ่รูใฝ่เรยี นให้เปนคนดี มีความรู้
และทักษะทางวิชาการ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือ การศึกษาต่อได้อย่าง
มปี ระสิทธภิ าพ มีวธิ กี ารเรียนรู้ มที ักษะการคดิ แก้ปญหาอยา่ งสรางสรรค คดิ เป็น ทำเป็น มีคณุ ธรรม จริยธรรม
เอ้อื อาทรและสมานฉนั ท์ เพ่อื ดำรงชวี ิตอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสงบสขุ ตามวิถีชีวติ เศรษฐกิจพอเพียง
เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้ รจู กั เขา้ ใจ รกั และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน เกิดการเรียนรู้ สามารถ
วางแผนการเรียนรู้ อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและมีทักษะทางสังคม เกิดการ เรียนรูสามารถ ปรับตัวได
อยางเหมาะสม อยูรวมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พึ่งตนเองได้มีทักษะใน การเลือกแนวทาง การศึกษา
การงานและอาชีพ ชีวิตและสังคม มีสุขภาพจิตที่ดีและจิตสำนึกในการ ทำประ โยชน์ต่อครอบครัว
สงั คมและประเทศชาตติ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ รู้จัก เข้าใจ รกั และเห็นคณุ ค่าในตนเองและผู้อน่ื
๒. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สามารถวางแผนการเรียน การศึกษาต่อ อาชีพ รวมทั้ง การดำเนิน
ชวี ติ และมีทกั ษะทางสงั คม
๓. เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อยางเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่าง
เหมาะสม สามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวม 3 จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑๒๓
คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ลกู เสือสำรอง
เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี
กจิ กรรมนกั เรยี น
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๓
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏบิ ัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ
ลูกเสือสำรอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความ เป็นเอกลักษณ์
ร่วมกันศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม
ปิดประชุมกอง ในเรื่องต่อไปนี้ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ
การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว
คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหา
ธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนท้องถิ่นความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธงและประเทศต่าง ๆ
การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพ กาย สุขภาพจิต
และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อนเพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของลูกเสือ
สำรอง มีนสิ ยั ในการสังเกต จดจำเชอ่ื ฟัง และพง่ึ ตนเอง มีความซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีระเบยี บวนิ ยั และเห็นอกเห็นใจ
รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตาม
ความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
สง่ิ แวดล้อม และสามารถประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาของเศษรฐกจิ พอเพียง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. มนี สิ ัยในการสังเกต จดจำ เช่อื ฟังและพึง่ พาตนเองได้
2. มีความซื่อสัตย์ สจุ รติ มรี ะเบียบวินัยและเหน็ อกเหน็ ใจผูอ้ ื่น
3. บำเพญ็ ตนเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์
4. ทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
รวม ๔ จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑๒๔
คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ลูกเสือ - เนตรนารี
เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี
กจิ กรรมนกั เรยี น
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ - ๖
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์
และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็น
เอกลักษณร์ ว่ มกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวิถเี ศรษฐกิจพอเพียง สรุปผล และปฏิบัติ
กิจกรรม ปิดประชมุ กอง ในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้
ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของลอร์ด เบเดน โพเอลล์ พระราชประวัติสังเขป
ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการลูกเสือไทยและลูกเสือโลก
การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือเปล่า ท่าถือไม้พลอง
การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชาลูกเสือ การรู้จัก
ดแู ลตนเอง การช่วยเหลือผอู้ ่นื การเดนิ ทางไปยังสถานทตี่ า่ ง ๆ การทำงานอดิเรกและเร่อื งท่ีสนใจ
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ
และคติพจน์ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต
มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝน
การทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี
วฒั นธรรมและความมัน่ คงของชาติ และสามารถประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. มีนสิ ยั ในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพง่ึ พาตนเองได้
2. มีความซอื่ สตั ย์ สุจรติ มรี ะเบยี บวินัย และเหน็ อกเหน็ ใจผู้อ่นื
3. บำเพ็ญตนเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์
4. ทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
5. รักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ และความมนั่ คงของชาติ
6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น
รวม ๖ จุดประสงค์การเรียนรู้
๑๒๕
คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
กจิ กรรมนกั เรียน ชมุ นมุ
กิจกรรมชุมนุมเขียนสวยด้วยมือเรา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ – ๓
เขียนพยัญชนะไทย สระ วรรณยุกต์ ตัวเลขอารบิค ตัวเลขไทย ข้อความ คำคล้องจอง บทร้อยกรอง
ข่าวและบทความได้ถูกต้องสวยงาม สะอาด เป็นระเบียบ ถูกต้องตามหลักการเขียนอักษรไทยเพื่อให้มีความรู้
ความเข้าใจ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับการเขียนพยัญชนะไทย สระ วรรณยุกต์ ตัวเลขอารบิค ตัวเลขไทย
ข้อความ คำคล้องจอง บทร้อยกรอง ข่าวและบทความ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เพื่อให้สมาชิก
มคี วามคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ รูจ้ กั ค้นควา้ และแก้ปญั หาในการทำงานอย่างมีระบบ เพือ่ ใหส้ มาชกิ เป็นผู้มีระเบียบ
วินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็น
ประมุข เพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของกฎหมาย
เพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่าดำรงไว้ และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทย
เพื่อใหส้ มาชกิ เกิดความรักและสามัคคใี นหมู่คณะ เพื่อให้สมาชิกได้รับการสง่ เสรมิ การพัฒนาทางรา่ งกาย จิตใจ
และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพื่อให้สมาชิกรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความมั่นคง
ของชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการ
จัดการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไป
ประยุกตใ์ ชก้ บั ชวี ติ ประจำวันได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน
๒. มีความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทางวิชาการ
และวชิ าชพี ตามศกั ยภาพ
๓. ใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม
๔. มุ่งมั่นในการทำงานและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ตามวิถีประชาธิปไตย ประยุกต์ใช้ปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี งไดอ้ ย่างเหมาะสม
รวม 4 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑๒๖
คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
กจิ กรรมนกั เรียน ชมุ นุม
กิจกรรมชุมนมุ อาหารพน้ื บา้ น ๔ ภาค ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๓
ศึกษา สบื คน้ แสวงหาความรู้ สงั เกต บอก และปฏิบตั กิ ารประกอบอาหาร การบริหารจัดการเกี่ยวกับ
การผลิตการจำหน่าย การจัดเก็บ การทำความสะอาดอุปกรณ์และสถานที่ในการประกอบอาหารพื้นบ้านได้
เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของอาหารพื้นบ้าน มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพรักการ
ทำงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เพื่อ
ให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้
สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัย เพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้สมาชกิ มีความรับผิดชอบต่อการปฏิบตั ิหน้าทีแ่ ละสิทธภิ ายในขอบเขตของ
กฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซ้ึงในคุณคา่ ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณว์ ัฒนธรรมอันดีงามของชาติ
ไทยเพื่อให้สมาชิกเกิดความรักและสามัคคีในหมู่คณะเพื่อให้สมาชิกได้รับการส่งเสริมการพัฒนาทางร่างกาย
จิตใจ และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพื่อให้สมาชิกรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความ
ม่ันคงของชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวตั ถุประสงค์ของการจัด
การศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไป
ประยกุ ตใ์ ช้กบั ชวี ิตประจำวนั ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน
๒. มคี วามรู้ ความสามารถด้านการคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกดิ ประสบการณ์ทั้งทางวชิ าการและ
วิชาชพี ตามศักยภาพ
๓. ใชเ้ วลาวา่ งให้เกดประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม
๔. ม่งุ ม่นั ในการทำงานและทำงานร่วมกบั ผูอ้ นื่ ได้ตามวิถีประชาธิปไตย
๕. ประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้อยา่ งเหมาะสม
รวม ๕ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑๒๗
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
กจิ กรรมนกั เรียน ชมุ นุม
กจิ กรรมชุมนมุ กีฬาสานสัมพันธ์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ – ๖
ศึกษาสืบค้นข้อมูล เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของกีฬา การฝึกทักษะขั้นพื้นฐาน ของการเล่นกีฬาท่ี
เป็นพื้นฐาน เพื่อให้มีจังหวะในการเคลื่อนไหวอย่างถูกต้อง การบังคับกล้ามเนื้อ การเล่นกับเพื่อนร่วมทีมและ
การสร้างความสมั พันธ์ระหวา่ งกลุ่มใช้กระบวนการสงั เกต และการฝกึ ปฏบิ ัติทักษะต่างๆเพื่อตระหนักถึงคุณค่า
และนำความร้ทู ี่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันเพ่ือใหส้ มาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รจู้ ักค้นควา้ แก้ปัญหาในการ
ทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัย เพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าท่ี
เพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทย
เพื่อให้สมาชกิ เกิดความรกั และสามัคคใี นหมู่คณะเพ่ือให้สมาชิกได้รับการสง่ เสรมิ การพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ
และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพื่อให้สมาชิกรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความมั่นคง
ของชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัด
การศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไป
ประยกุ ต์ใชก้ บั ชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน
๒. มคี วามรู้ ความสามารถดา้ นการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ใหเ้ กิดประสบการณท์ ้ังทางวิชาการ
และวิชาชีพตามศักยภาพ
๓. ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อตนเองและสว่ นรวม
รวม ๓ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑๒๘
คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
กจิ กรรมนักเรยี น ชมุ นุม
กจิ กรรมชุมนมุ นาฏศลิ ป์ถ่นิ ไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖
ศึกษาเพื่อให้มีความรคู้ วามเขา้ ใจเร่ืองการขับร้องเพลงให้ถูกต้อง บอกประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการชมการ
แสดงนาฏศิลป์และละคร การประดษิ ฐ์ท่าทางประกอบจังหวะเพลง และเพลงชา้ แบบจินตลลี าได้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรียนสามารถขับรอ้ งเพลงใหถ้ กู ต้องได้
๒. บอกประโยชนท์ ี่ได้รับจากการชมการแสดงนาฏศิลป์และละครได้
๓. ประดษิ ฐท์ า่ ทางประกอบจงั หวะเพลงเร็วได้
๔. ประดิษฐ์ทา่ ทางประกอบเพลงชาติแบบจนิ ตลีลาได้
รวม ๔ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑๒๙
คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
กิจกรรมนักเรยี น ชมุ นุม
กจิ กรรมชุมนมุ คอมพิวเตอร์สร้างสรรค์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๖
ผู้เรียนมีความใฝร่ ู้ ใฝ่เรียนการค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถบอกวิธีการค้นหาข้อมูล
บนเครือขายอินเทอร์เน็ตได้ สามารถนําข้อมูล ที่สืบค้นนำไปฝึกทักษะการนําเสนอผลงานด้วยโปรแกรม
Microsoft PowerPoint การเรียกใช้โปรแกรม สร้างงานนำเสนอผลงาน การเรียกดูงานนำเสนอในมุมมอง
ต่าง ๆ การใส่และตกแต่งข้อความในภาพนิ่ง การตกแต่งภาพ แทรกเสียงและใส่ภาพเคลื่อนไหว การเชื่อมโยง
ผู้เรียนมีความใฝ่รู้มีความรับผิดชอบทํางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีสมาธิในการทํางานจนสามารถ
นําไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจําวันได้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรียนสามารถบอกวิธีการค้นหาข้อมลู บนเครอื ขา่ ยอินเทอร์เนต็ ได้
๒. นักเรียนมคี วามใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี นการค้นหาขอมูลบนเครือขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต
๓. นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจในการใชง้ านโปรแกรมนําเสนอ Microsoft PowerPoint
๔. นกั เรยี นสามารถใส่ภาพและตกแต่งข้อความในภาพนิ่ง การสร้างเกม และแทรกเสียงได้
๕. นักเรียนสรา้ งช้ินงานอย่างมจี ิตสํานึกและมคี วามรับผิดชอบ
รวม ๕ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑๓๐
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กจิ กรรมนักเรยี น ชมุ นุม
ชุมนุมสืบสานประวัติศาสตรช์ าติไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ - ๖
ศึกษาแหล่งโบราณสถานโบราณวัตถุที่อยู่ในท้องถิ่นเพื่อเราจะได้ช่วยกันรักษาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป
รวมถึงเรื่องราวของประวัติศาสตร์ไทยที่อยู่ในท้องถิ่นของเราและเหตุการณ์สำคัญของชาติไทย ตามแต่ละยุค
แต่ละสมัย รับทราบเรื่องราวของบุคคลสําคัญที่มีความสามารถโดดเด่นเป็นเอกลักษณของบุคคลนั้น ๆ
ที่มีความสามารถ และปกป้องประเทศชาติ รวมถึงสถานที่สําคัญและแหล่งวัฒนธรรมของท้องถิ่นเรา
จากแหลง่ ข้อมูลทีเ่ ป็นคำบอกเล่ารวมถึงการถา่ ยทอดประเพณีและวัฒนธรรมของทองถนิ่ ที่เราอยู่อาศัยโดยการ
ศึกษาหาความรู้ เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ และรักษาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ
และมคี วามภูมใิ จในบรรพบรุ ุษ และคณุ คา่ ของความเป็นชาตไิ ทย
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. บอกแหล่งเรยี นรู้ทเี่ ปน็ โบราณสถาน โบราณวัตถใุ นท้องถน่ิ ได้
๒. วิเคราะห์เร่อื งราว และเหตุกาการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในทองถนิ่ ได้
๓. บอกเรื่องราวความสามารถของบุคคลสาํ คัญได้
๔. บอกแหลง่ วัฒนธรรมของท้องถิน่ ที่ตนอาศัยอยไู ด้
๕. บอกประเพณีและวัฒนธรรมในท้องถิน่ ของตนเองได้
รวม ๕ จุดประสงค์การเรียนรู้
๑๓๑
คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน
กจิ กรรมนักเรยี น ชุมนุม
ชมุ นุม English is easy & fun ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๖
เป็นการฝึกทักษะทั้ง ๔ ทักษะคือทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน
ใชท้ กั ษะภาษาองั กฤษเพ่ือส่อื ความเก่ยี วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดลอ้ มใกลต้ ัวและนนั ทนาการและ
การเรียนรู้คำศัพท์ในเรื่องต่าง ๆ นั้น เพื่อให้สามารถนําไปใช้ในชีวิตประจําวันได้ พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
บ ุ ค ค ล ใ ก ล ้ ต ั ว เ พ ื ่ อ ใ ห ้ เ ข ้ า ใ จ ค ํ า เ ข ้ า ใ จ ภ า ษ า ท ่ า ท า ง ไ ด ้ อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม ต า ม ว ั ย ข อ ง
ผู้รียนการแสวงหาความรู้ความเพลิดเพลินจากภาษาอังกฤษ ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อรวบรวมคําศัพท์ที่สำคัญ
สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ มเี จตคตทิ ่ีดี เห็นประโยชนแ์ ละคณุ ค่าในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. เพ่อื ให้นกั เรยี นเกิดเจตคติทดี่ ีต่อภาษาองั กฤษ
๒. เพอ่ื ฝึกเสรมิ ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขยี น ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสมตามวัย
๓. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นนาํ ความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาํ วัน
รวม ๓ จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑๓๒
คำอธิบายรายกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น เวลา ๑๐ ชว่ั โมง/ปี
กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ - ๖
ฝึกปฏบิ ัติกจิ กรรมด้วยความสมคั รใจผา่ นกิจกรรมทห่ี ลากหลาย ฝึกการทำงานทสี่ อดคล้อง กับชวี ิตจรงิ
ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอยางเป็นระบบ
เป็นทักษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสรางสรรค์ การบริการด้านตาง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ตอตนเอง
และส่วนรวม เสริมสร้างความมนี ้ำใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว
และสังคม คิดออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ตอ่ สังคมตามแนวทางวถิ ชี ีวติ เศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
ส า ม า ร ถ อ อ ก แ บ บ ก า ร จ ั ด ก ิ จ ก ร ร ม เ พ ื ่ อ ส ั ง ค ม แ ล ะ ส า ธ า ร ณ ป ร ะ โ ย ช น ์ อ ย ่ า ง ส ร ้ า ง ส ร ร ค์ ต า ม ค ว า ม ถ นั ด
และความสนใจใน ลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม
และสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม
ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้
หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๑. บำเพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อครอบครวั โรงเรียน ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ
๒. ออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัด
และความสนใจในลกั ษณะอาสาสมัคร
๓. สามารถพัฒนาศกั ยภาพในการจดั กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชนไ์ ด้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
๔. ปฏิบัติกิจการเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตามคุณลักษณะอัน
พงึ ประสงค์
๕. สามารถประยุกต์ใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้
รวม ๕ จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑๓๓
เกณฑก์ ารจบหลกั สตู รระดบั ประถมศกึ ษา
๑๓๔
เกณฑก์ ารจบหลักสตู รระดับประถมศึกษา
เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
การตดั สินผลการเรยี น
โรงเรียนวรนษิ ฐาวทิ ยากำหนดหลกั เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เพ่ือตดั สนิ ผลการเรยี นของ
ผู้เรยี นระดับประถมศกึ ษา ดังน้ี
๑) ผู้เรยี นต้องมีเวลาเรยี นไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทงั้ หมด
๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านทุกตัวชี้วัด โดยแต่ละตัวชี้วัดผ่านไม่น้อยกว่า
ร้อยละ ๕๐ หรอื มคี ณุ ภาพในระดบั ผา่ นขนึ้ ไป
๓) ผู้เรียนต้องไดร้ ับการตดั สินผลการเรียนทกุ รายวชิ า
๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด ในการอ่าน
คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
การใหร้ ะดับผลการเรยี น
๑. การให้ระดับผลการเรียนรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้ระดับผลการเรียนเป็น ๘ ระดับ
และ ๐ , ร , มส นักเรียนทจ่ี ะผา่ นเกณฑ์การประเมนิ สาระการเรียนรตู้ อ้ งไดร้ ะดบั ผลการเรยี นไม่ต่ำกวา่ “๑”
ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ชว่ งคะแนนเปน็ รอ้ ยละ
๔ ดีเยี่ยม ๘๐ – ๑๐๐
๓.๕ ดีมาก ๗๕ – ๗๙
๓ ดี ๗๐ – ๗๔
๒.๕ ค่อนข้างดี ๖๕ – ๖๙
๒ ปานกลาง ๖๐ – ๖๔
๑.๕ พอใช้ ๕๕ – ๕๙
๑ ๕๐ – ๕๔
๐ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ๐ – ๔๙
ตำ่ กว่าเกณฑ์
การเปล่ยี นผลการเรียน “๐”
โรงเรียนจัดให้มีการสอนซ่อมเสริมในมาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชีว้ ัด ที่ผู้เรียนสอบไม่ผ่านก่อนแลว้ สอบ
แก้ตัวได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ถ้าไม่มาสอบแก้ตัวในเวลาที่กำหนด ให้อยู่ในดุลยพินิจของโรงเรียน ขยายเวลา
ไปอีก ๑ ภาคเรียน แต่ต้องให้เสรจ็ สิ้นในปกี ารศึกษานนั้
ถ้าสอบแก้ตัว ๒ ครั้งแล้วยังได้ “๐” อีก ให้โรงเรียนแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการเกี่ยวกับการ
เปลี่ยนผลการเรียน โดยปฏบิ ตั ิ ดังนี้
๑) ถา้ เป็นวิชาพนื้ ฐาน ให้เรยี นซำ้ รายวชิ านั้น
๒) ถ้าเป็นวิชาเพิ่มเติม ให้เรียนซ้ำ หรือเปลี่ยนวิชาใหม่กรณีเปลี่ยนรายวิชาใหม่ ให้หมายเหตุใน
ระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) วา่ เรยี นแทนวชิ าใด
๑๓๕
การเปลีย่ นผลการเรียน “ร”
“ร” หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้ เนื่องจากผู้เรียนไม่มีข้อมูลผลการเรียน
รายวชิ านนั้ ครบถ้วน ได้แก่ ไม่ไดว้ ัดผลระหวา่ งภาคเรยี น/ปลายภาคเรยี น ไมไ่ ด้ส่งงานทม่ี อบหมายใหท้ ำ ซงึ่ งาน
น้ันเปน็ สว่ นหนง่ึ ของการตัดสินผลการเรยี นหรอื มเี หตุสดุ วิสัยทที่ ำใหป้ ระเมินผลการเรยี นไม่ได้
ให้ผู้เรียนดำเนินการแก้ “ร” ตามสาเหตุ แก้แล้วได้ระดับผลการเรียนตามปกติ (๐-๔) หากไม่แก้
ผู้สอนนำข้อมูลที่มีอยู่ตัดสินผลการเรียน ยกเว้นเหตุสุดวิสัย ขยายเวลาแก้ได้อีก ๑ ภาคเรียน แต่ให้เสร็จ
ภายในปกี ารศึกษานั้น เมอื่ พ้นกำหนดหากผลการเรยี น เปน็ “๐” ใหด้ ำเนนิ การแก้ไขตามหลักเกณฑ์
การเปลี่ยนผลการเรียน“มส”
“มส” หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสิทธิเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรียนมีเวลาเรียนไม่น้อย
กว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนในแตล่ ะรายวชิ า และไมไ่ ดร้ ับการผอ่ นผันใหเ้ ข้ารบั การวดั ผลปลายภาคเรยี น
๑. มีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๖๐ ให้เรียนเพิ่มเติม จนมีเวลาครบ หรือมอบงานให้ทำ แล้วให้
วัดผลปลายภาคกรณีพิเศษ ได้ระดับไม่เกิน “๑” ให้แก้ภายในปีการศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการให้
เรียนซ้ำ ยกเว้นเหตุสุดวิสัย ให้อยู่ในดุลยพินิจของโรงเรียนขยายเวลาไปอีก ๑ ภาคเรียน เมื่อพ้นกำหนดให้
ดำเนนิ การ ดังนี้
(๑) วิชาพน้ื ฐานเรียนซำ้ วิชานัน้
(๒) วิชาเพิ่มเติม เรียนซ้ำ หรือเปลี่ยนวิชาใหม่ (ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตร
และวิชาการ)
๒. มเี วลาเรียนไม่ถึงรอ้ ยละ ๖๐ ให้โรงเรียนดำเนินการ ดังนี้
(๑) วิชาพื้นฐานใหเ้ รยี นซำ้ วิชานน้ั
(๒) วิชาเพิ่มเติม เรียนซ้ำ หรือเปลี่ยนวิชาใหม่ (ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตร
และวิชาการ)
๒. การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความของผู้เรียน การให้ระดับผลการเรียน
ระดบั ผลการประเมนิ เปน็ ผ่านและไมผ่ ่าน กรณที ี่ผา่ นใหร้ ะดับผลการเรยี นเป็น ดเี ยย่ี ม ดี และผ่าน
ดีเย่ยี ม หมายถึง สามารถจับใจความสำคัญได้ครบถ้วน เขียนวิพากษ์วิจารณ์ เขียนสร้างสรรค์
แสดงความคิดเหน็ ประกอบอยา่ งมเี หตผุ ล ได้ถูกตอ้ งและสมบูรณ์ ใชภ้ าษาสุภาพและเรยี บเรียงไดส้ ละสลวย
ดี หมายถงึ สามารถจับใจความสำคัญได้ เขยี นวิพากษว์ จิ ารณ์ และเขียนสร้างสรรค์ได้
ผา่ น หมายถึง สามารถจบั ใจความสำคญั และเขยี นวิพากษ์วิจารณไ์ ดบ้ า้ ง
๓. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน การให้ระดับผลการเรียน ระดับผลการ
ประเมินเปน็ ผ่านและไมผ่ ่าน กรณที ีผ่ า่ นใหร้ ะดับผลการเรยี นเป็นดีเย่ยี ม ดี และ ผ่าน
ดีเย่ียม หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติจนเป็นนิสัยและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพ่ือ
ประโยชน์สุขของตนเองและสงั คม
ดี หมายถึง ผ้เู รียนมคี ณุ ลกั ษณะในการปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์ เพื่อใหเ้ ป็นท่ียอมรับของสงั คม
ผา่ น หมายถึง ผูเ้ รยี นรับรแู้ ละปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขที่โรงเรยี นกำหนด
๑๓๖
๔. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การให้ระดับผลการเรียน ระดับผลการประเมินเป็นผ่านและ
ไม่ผ่าน
ผา่ น หมายถงึ ผ้เู รยี นมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรม และมผี ลงานตามทโ่ี รงเรยี นกำหนด
ไม่ผา่ น หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรม และมีผลงานไม่เป็นไป
ตามที่โรงเรยี นกำหนด
ในกรณที ผ่ี ูเ้ รียนได้ “มผ” ครผู ู้ดแู ลกิจกรรมต้องจัดซ่อมเสริมให้ผเู้ รยี นทำกจิ กรรมในส่วนท่ีผู้เรียนไม่ได้
เข้าร่วมหรือไม่ได้ทำจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้
เสรจ็ สนิ้ ภายในปีการศกึ ษา ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย
๑๓๗
บรรณานกุ รม
กระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๕๓). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๓
กรุงเทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนุม สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .
กระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๕๑). หลกั สตู รการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพรา้ ว.
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน. (๒๕๖๑ ๕ มกราคม). คำสงั่ สำนักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ เรอื่ ง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ดั
การเรยี นร้คู ณิตศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศึกษาขนั้ พน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ครุ ุสภาลาดพรา้ ว.
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร (๒๕๖๐). มาตรฐานการเรยี นร้แู ละ
ตวั ช้ีวัด กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ ในกลุม่ สาระ
การเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. พมิ พค์ รั้งที่ ๓ กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุม สหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั .
สำนกั งานวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๖๓). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช
๒๕๕๑ และมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์
ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. (๒๕๕๑). ตวั ชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ภาษาไทย. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกัด.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๑). ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้
สังคมศกึ ษาศาสนา และวัฒนธรรม. กรงุ เทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๑). ตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา. กรุงเทพฯ : ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั .
สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๑). ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนร้แู กนกลางกลุม่ สาระการเรียนรู้
การงานอาชพี และเทคโนโลยี. กรุงเทพฯ : ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกัด.
สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. (๒๕๕๑). ตวั ช้ีวัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรียนรู้
ภาษาตา่ งประเทศ. กรงุ เทพฯ : ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
โรงเรยี นบา้ นเกาะมะนาว. (2563). หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นเกาะมะนาว (ฉบบั ปรบั ปรงุ
ปีการศึกษา ๒๕๖๓). ชัยภูมิ : โรงเรยี นบา้ นเกาะมะนาว
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. (2563). หลกั สูตรสถานศึกษาตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบบั ปรับปรุงตวั ช้ีวดั พุทธศกั ราช 2560 (ฉบบั ปรับปรุง
ปกี ารศึกษา 2563). มหาสารคาม : โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
โรงเรียนราชวนิ ติ บางเขน. (2561). หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนราชวนิ ิตบางเขน พุทธศกั ราช 2561
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560).
กรุงเทพฯ : โรงเรยี นราชวนิ ิตบางเขน
โรงเรยี นสาธติ แหง่ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. (2560). หลกั สตู รสถานศกึ ษาตามหลักสตู รแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560).
นครปฐม : โรงเรยี นสาธิตแหง่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
๑๓๘
ภาคผนวก
สมาชกิ กลมุ่ (สาขาภาษาไทย)
ลำดับ ชื่อ - นามสกลุ เลขที่ มอบหมายหนา้ ท่ี
- **ทำร่วมกัน** - • สว่ นนำ
- เปา้ ประสงค์
- หลักการ
- จุดหมาย
- สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
- คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- มาตรฐานการเรยี นรู้
- ตัวช้วี ัด
- ระดับการศกึ ษา
- การจัดเวลาเรียน
• เรยี บเรยี งและรวบรวมเน้ือหาหลกั สูตร
๑ นางสาวมนัสพร อนโุ สภา ๕ • ออกแบบหนา้ ปก
• ภาคผนวก
• สารบัญ
• คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน
- กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและ
พลศึกษา
• กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
- กิจกรรมลกู เสือ/เนตรนารี
๒ นายธีระศักด์ิ สมบัติวงศ์ ๑๓ • ความนำ
• สว่ นนำ
- วิสยั ทัศน์โรงเรยี น
- พันธกจิ
• โครงสร้างหลกั สูตร
- ตารางโครงสรา้ งหลักสตู รชน้ั ปี
• คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
- กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
• คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
- กล่มุ สาระการเรยี นรู้
ภาษาตา่ งประเทศ
๓ นางสาวศุภรดา ไชยชาญรัมย์ ๑๖ • ความนำ
• ส่วนนำ
๑๓๙
- พันธกิจ
• ตารางโครงสรา้ งหลกั สูตรเวลาเรยี น
• คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
- กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
• คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
- กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
• เกณฑ์การจบการศึกษา
๔ นางสาวปญั ญาพร ประสาร ๒๐ • ส่วนนำ
- สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
• กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน
- กิจกรรมนักเรยี น
- กิจกรรมแนะแนว
• คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
- กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา
ศาสนา และวัฒนธรรม
- กลุ่มสาระการเรยี นรู้
ภาษาตา่ งประเทศ
๕ นางสาวชโลธร ปมุ้ ประเสริฐ ๒๑ • ประกาศใหใ้ ช้หลักสตู รโรงเรียน
• ออกแบบโลโกโ้ รงเรียน
• ออกแบบหน้าปก
• สว่ นนำ
• พนั ธกจิ
• โครงสร้างหลกั สตู ร
• ตารางโครงสร้างหลักสตู รเวลาเรยี น
• คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน
- กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
• คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
- บูรณาการกลุม่ สาระการเรียนรู้
ภาษาไทย
• ตกแตง่ รูปเล่ม
๖ นางสาวเฟอื่ งฟ้า พมิ พโ์ กทา ๒๒ • ส่วนนำ
- คำขวัญโรงเรยี น
- ปรัชญาการศึกษา
• กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
๑๔๐
- ชมุ นุม
- กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณะ
ประโยชน์
• คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน
- กล่มุ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ
• แผนผังสาระการเรียนรู้