The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

002 วิจัยในชั้นเรียน สังคมศึกษา ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pimtoka, 2023-10-04 10:50:12

002 วิจัยในชั้นเรียน สังคมศึกษา ม.2

002 วิจัยในชั้นเรียน สังคมศึกษา ม.2

การพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด นางสาวพิมพ์ชนก ภาระอุปมาเจริญ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู รหัสนักศึกษา 62111616002 ชั้นปีที่ 4 ห้อง 1 คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดส านักการศึกษาเทศบาลนครนครสวรรค์


การพัฒนาการจัดการเรียนรู้วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด นางสาวพิมพ์ชนก ภาระอุปมาเจริญ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู รหัสนักศึกษา 62111616002 ชั้นปีที่ 4 ห้อง 1 คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดส านักการศึกษาเทศบาลนครนครสวรรค์


ก เรื่อง : การพัฒนาการเรียนการสอน วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด ชื่อผู้วิจัย : นางสาวพิมพ์ชนก ภาระอุปมาเจริญ ปีการศึกษา : 2565 บทคัดย่อ การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรปโดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาสังคมศึกษา 4 เรื่องทวีปยุโรป กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้จังหวัด นครสวรรค์ จ านวน 16 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบไปด้วย 1) สื่อการสอนและสื่อออนไลน์รื่องทวีป ยุโรป 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระภูมิศาสตร์ เรื่อง ทวีปยุโรป ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป โดนใช้สถิติ ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ออนไลน์ มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 2.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจในการเรียนสาระฯ ภูมิศาสตร์ เรื่อง ทวีปยุโรป อยู่ในระดับมาก


ข กิตติกรรมประกาศ รายงานการเรียนการสอนน เรื่อง การเรียนการสอน เรื่อง การพัฒนาการเรียนการสอน วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาลวัด ไทรใต้ โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ฉบับนี้ส าเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาจากผู้บริหารและคณะครูนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ที่ได้ให้ความ อนุเคราะห์ให้ข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์และมีคุณค่า ผู้วิจัยรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของท่านเป็นอย่างยิ่ง และขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ไว้ ณ ที่นี้ ขอขอบพระคุณ นางภารดี ร่มจ าปา ผู้อ านวยการโรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้อ.เมือง จ.นครสวรรค์สังกัดส านักการศึกษาเทศบาลนครนครสวรรค์ที่ท่านได้ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ และชี้แนะ แนวทาง สร้างขวัญก าลังใจให้ด าเนินการศึกษาจนส าเร็จลุล่วงด้วยดี ขอขอบคุณคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ที่มีส่วนช่วยเหลือให้ ค าแนะน าและเป็นก าลังใจด้วยดีเสมอมา ขอขอบใจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 และนักเรียนที่มีส่วนในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยความตั้งใจและกระตือรือร้นตลอดเวลา ซึ่งเป็น ส่วนส าคัญยิ่งที่ท าให้การศึกษาครั้งนี้ส าเร็จลุล่วงได้ด้วยดี ขอขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.เยาวเรศ ภักดีจิตร อาจารย์นิเทศก์และคณะอาจารย์ ประจ าคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ทุกท่าน ที่ท่านได้ชี้แนะแนวทาง ในการท าวิจัยในครั้งนี้ส าเร็จลุล่วงได้ด้วยดี คุณค่าและประโยชน์อันพึงมีจากการศึกษาครั้งนี้ ขอมอบเป็นเครื่องบูชาแด่บิดา มารดา ครู อาจารย์และผู้มีพระคุณโดยถ้วนทั่ว ทุกท่าน นางสาวพิมพ์ชนก ภาระอุปมาเจริญ


ค สารบัญ เนื้อหา หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบัญตาราง จ สารบัญภาพ ฉ บทที่ 1 บทน า 1 ความเป็นมาและความส าคัญของปัญหา 1 วัตถุประสงค์ 2 ขอบเขตของการวิจัย 2 นิยามศัพท์เฉพาะ 3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ กรอบแนวคิดการวิจัย สมมติฐานการวิจัย 3 3 3 บทที่2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 4 2.1 เทคนิคเพื่อนคู่คิด 2.2 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 4 7 11 14 บทที่3 วิธีด าเนินการวิจัย 17 3.1 ประชากร 3.2 กลุ่มตัวอย่าง 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3.4 ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ 3.5 แบบแผนการทดลอง 3.6 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.7 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.8 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 17 17 17 18 19 19 21 22 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 23 ตอนที่ 1 ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียน 23 ตอนที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากคะแนนที่ได้จากการท า แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 24 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 25 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลการศึกษา ข้อเสนอแนะ 25 25 26


ง บรรณานุกรม 27 ภาคผนวก 29 ภาคผนวก ก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียน – หลังเรียน 29 ภาคผนวก ข ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการการเรียนการสอน 30 ภาคผนวก ค ภาพกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด 50 เพื่อการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ ภาคผนวก ง แบบประเมินความพึงพอใจ 51


จ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1 แสดงแบบแผนการทดลอง 19 2 แสดงเวลาในการจัดการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ห้อง ม.2/2 20 3 4 แสดงการเปรียบเทียบคะแนนแบบทดสอบ เรื่อง ทวีปยุโรป ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อนคู่คิด แสดงระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ออนไลน์ สาระฯ ภูมิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2/2 23 24


ฉ สารบัญภาพ ภาพประกอบที่ หน้า 1 แสดงตัวอย่างกรอบแนวคิดการวิจัย 6 2 แสดงกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 17 3 ล าดับขั้นตอนการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้ เทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาสังคมศึกษา เรื่อง ทวีปยุโรป 18 4 แสดงการจัดที่นั่งของนักเรียนและเพื่อนสนิทในรูปแบบเพื่อนคู่คิด 19


1 บทที่ 1 บทน า ความเป็นมาและความส าคัญของปัญหา การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน ที่รัฐต้องจัดให้เพื่อพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยให้มีความ เจริญงอกงามทุกด้าน เพื่อเป็นต้นทุนทางปัญญาที่ส าคัญในการพัฒนาทักษะ คุณลักษณะ สมรรถนะ ในการ ประกอบสัมมาชีพ และการด ารงชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างเป็นสุข อันจะน าไปสู่เสถียรภาพ ความมั่นคง ของสังคมและประเทศชาติที่ต้องพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศในเวทีโลกท่ามกลางกระแสการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกศตวรรษที่ 21 (ส านักงานเลขาธิการสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ, 2560: 1) สังคมศึกษาหรือกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นศาสตร์ความรู้หนึ่งที่มี ความส าคัญ และมีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจการด ารงชีวิต อยู่ในสภาพ สังคมปัจจุบัน ที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา สามารถปรับตัวและปฏิบัติตน ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ในฐานะพลเมืองดีของสังคมไทยและสังคมโลก ดังนั้น ครูผู้สอนรายวิชาสังคมศึกษา จึงควรศึกษาและท าความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานในรายวิชาสังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หรือรายวิชาสังคมศึกษา มีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนซึ่งเป็นก าลังของชาติ ให้มี ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ อิทธิพลของ สภาพแวดล้อม ที่มีผลต่อการด ารงชีวิต การอยู่ร่วมกันในสังคม ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา เป็นพลเมืองที่รับผิดชอบ มีความสามารถทางสังคม มีความรู้ มี ทักษะ และมีคุณธรรม เพื่อเกิดค่านิยมที่เหมาะสม มุ่งหวังให้ผู้เรียนเกิดความเจริญงอกงามด้านความรู้โดยจะ ให้ความรู้แก่ ผู้เรียนด้านเนื้อหาสาระ ความคิดรวบยอดและหลักการส าคัญในสาขาวิชาต่าง ๆ (ฐากร สิทธิโชค, 2564: 1,5) สาระภูมิศาสตร เปนศาสตรที่เกี่ยวของทั้งวิทยาศาสตร และสังคมศาสตร สามารถบูรณาการ กับศาสตรอื่นๆ ได เชน ประวัติศาสตร เศรษฐศาสตร วิทยาศาสตร และคณิตศาสตร รวมทั้งไดพิจารณาเห็นวา ปจจุบันประเทศไทย และพื้นที่ตางๆ ของโลกเกิดภาวะวิกฤตดานกายภาพ ดานสิ่งแวดลอม และมีผลกระทบ อยางรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้น กระแสโลกาภิวัตน ความทันสมัยของวิทยาการและเครื่องมือทางภูมิ ศาสตร ที่เปนเทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตรมีมากขึ้น ตลอดจนการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดลอม เพื่อการสรางความยั่งยืน ซึ่งการเรียนรูเพียง สาระส าคัญของสาระภูมิศาสตรไมเพียงพอตอการ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยางรวดเร็ว และบางครั้งเกิดขึ้นโดยคาดการณไมไดผูเรียนจึงตองมีทักษะ กระบวนการ และความสามารถทางภูมิศาสตร เพื่อเปนเครื่องมือในการเรียนรูประกอบกันดังนั้น จึงจ าเปนที่จะตองมีการ ทบทวนและปรับปรุงสาระภูมิศาสตร ในกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ขึ้น การพัฒนาสาระภูมิศาสตร ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 นี้ ยังคงยึดหลักการพัฒนาการเรียนรูตามธรรมชาติของกลุมสาระและพัฒนาการในการเรียนรูของผูเรียน โดย ก าหนดมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดที่สอดคลองกับระดับความรูความสามารถของผูเรียน กลาวคือ ระดับ ประถมศึกษาผูเรียนจะไดเรียนรูจากสิ่งใกลตัวไปไกลตัว ระดับมัธยมศึกษาตอนตนผูเรียนจะไดเรียนรูเกี่ยวกับ ลักษณะทางกายภาพของทวีปตางๆ ที่สงผลตอกิจกรรมของมนุษย อันจะน าไปสูการพัฒนาที่ยั่งยืน และระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายผูเรียนจะไดเรียนรูเกี่ยวกับสาระภูมิศาสตร ที่มีความลุมลึกและทันสมัยตอการ เปลี่ยนแปลงของโลก (ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ, 2560: 2)


2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ สังกัดส านักการศึกษาเทศบาลนครนครสวรรค์ เปิดท าการสอนตั้งแต่ชั้น ปฐมวัย (อนุบาล) ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากการศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาสังคมศึกษา สาระ ภูมิศาสตร์ พบว่าการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จ านวน 16 คน มีอุปกรณ์เทคโนโลยีใน ชั้นเรียนไม่มากพอ ส่วนเนื้อหามากเกินไป ท าให้เวลาเรียนไม่พอ และครูผู้สอนต้องท าการสอนให้พอดีกับเวลา ที่มีอยู่ อีกทั้งเนื้อหาเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรู้ ส่วนพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนของนักเรียน พบว่านักเรียนบางส่วนเป็นนักเรียนกิจกรรมของโรงเรียน ต้องใช้เวลาเรียนเพื่อฝึกซ้อมการแข่งขัน และมี นักเรียนชอบพูดคุยและเล่นโทรศัพท์กับเพื่อน จึงไม่มีปฏิสัมพันธ์กับครูผู้สอนเท่าที่ควร ความจ าท าให้นักเรียนมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ ากว่าร้อยละ 60 เรื่อง ทวีปยุโรป เป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขมากที่สุด ถ้าไม่ได้ รับการแก้ไขหรือพัฒนาให้ดีขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการเรียนในบทเรียนถัดไปของวิชาสังคมศึกษาได้ จากสภาพปัญหา ผู้วิจัยได้ศึกษาวิธีการแก้ไขปัญหาโดยศึกษาค้นคว้านวัตกรรมต่างๆ อย่าง หลากหลาย เพื่อจะน ามาพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน โดยใช้ชุดการเรียนรู้ ซึ่งการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วย ตนเอง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น ฝึกการตัดสินใจ ฝึกการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เป็นการ เรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีอิสระในการเรียน ดังนั้น การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจึงสามารถน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ ได้ในชีวิตจริง และความรู้ที่นักเรียนได้รับจะเป็นความรู้ที่คงทน เพราะเกิดจากการเรียนรู้ที่ผู้เรียนแสวงหา ความรู้ด้วยตัวของผู้เรียนเอง และจะส่งผลให้เกิดการต่อยอดความรู้อื่นอีกต่อไป (ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์, 2561: 456) Active Learning หรือการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ นับวันจะทวีความส าคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมี ผลกระทบต่อการพัฒนาของสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้น ให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและเรียนรู้อย่างมีความหมาย โดยผ่านการกระท าและร่วมมือกันระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ซึ่งเกิดขึ้นจากสมมติฐานว่า การเรียนรู้เป็นความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์ และมนุษย์แต่ละคนมี แนวทางในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับประเด็นที่ก าหนดแต่ละคน ประมาณ2-3 นาที (Think) จากนั้นให้ แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน3-5 นาที (Pair) และน าเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) (อดิ ศักดิ์ จ าปาทอง, 2564: http://blog.nation.ac.th/?p=8774) ดังนั้น ผู้วิจัยจึงสนใจจะศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้เรื่อง ทวีปยุโรป โดยใช้เทคนิคเพื่อน คิ่ด ในสาระภูมิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้เนื่องจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิดรู้จะช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทาง เรียนของนักเรียนได้ผลหรือไม่ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป ด้วยการใช้การจัดการเรียนรู้เทคนิคเพื่อนคู่คิด 2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ด้วยการใช้การจัดการเรียนรู้เทคนิค เพื่อนคู่คิด เรื่อง ทวีปยุโรป ขอบเขตของการวิจัย ประชากร ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จ านวน 33คน ปีการศึกษา 2565 ของโรงเรียนเทศบาล วัดไทรใต้อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์สังกัดส านักการศึกษาเทศบาลนครนครสวรรค์


3 ขอบเขตด้านเวลา ปีการศึกษา 2565 ขอบเขตด้านเนื้อหา เนื้อหาที่ใช้ในการเรียนการสอน เรื่อง การพัฒนาการเรียนการสอน วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีป ยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จ านวน 33 คน ปีการศึกษา 2565 ของโรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ประกอบไปด้วยเนื้อหา 6 สาระส าคัญดังนี้ดังนี้ 1. ลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรป 2. ลักษณะประชากรของทวีปยุโรป 3. ลักษณะสังคมและวัฒนธรรมของทวีปยุโรป 4. ลักษณะเศรษฐกิจของทวีปยุโรป 5. ภัยพิบัติและแนวทางการจัดการของทวีปยุโรป 6. ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและแนวทางการจัดการของทวีปยุโรป นิยามศัพท์เฉพาะ เทคนิคเพื่อนคู่คิด หมายถึง เทคนิคการจัดการเรียนการสอนที่ใช้พัฒนาผู้เรียน วิชาสังคมศึกษา 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 เรื่องทวีปยุโรป วิชาสังคมศึกษา 4 หมายถึง รายวิชาที่ใช้ศึกษาวิจัย ซึ่งอยู่ในกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม นักเรียน หมายถึง บุคคลที่อยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. พัฒนาให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและมีพฤติกรรมในการเรียนที่ดีขึ้น 2. เป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป ให้กับนักเรียนในระดับสูงขึ้น 3. นักเรียนมีความพึงพอใจ ต่อการเรียนโดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง ทวีปยุโรป กรอบแนวคิดการวิจัย ตัวแปรอิสระ (ตัวแปรต้น) ตัวแปรตาม ภาพประกอบที่ 1 แสดงตัวอย่างกรอบแนวคิดการวิจัย สมมติฐานการวิจัย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิคคู่คิด) มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนทวีปยุโรปที่ดีขึ้น วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-PairShare) การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป


4 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษา เรื่อง การพัฒนาการเรียนการสอน วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 2 โดยใช้ใช้เทคนิค เพื่อนคู่คิด ปีการศึกษา 2565 ในครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 2.1 เทคนิคเพื่อนคู่คิด 2.1.1 นิยามและความส าคัญ 2.1.2 กระบวนการจัดการเรียนรู้ 2.1.3 การจัดการเรียนรู้ 2.1.4 การประเมินผล 2.1.5 ข้อสังเกต 2.1.6 เครื่องมือดิจิทัลที่สามารถใช้ได้ 2.1.7 การวัดผลการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง 2.2 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2.2.1 คุณภาพของผู้เรียน 2.2.2 มาตรฐานการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2.2.3 อธิบายรายวิชา 2.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.3.1ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.3.2ความหมายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.3.3 หลักเกณฑ์ในการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.3.4ชนิดของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.4.1 งานวิจัยภายในประเทศ 2.4.2 งานวิจัยต่างประเทศ 2.1 เทคนิคเพื่อนคู่คิด ในการจัดท าวิจัย การพัฒนาการเรียนการสอน วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 2 โดยใช้ใช้เทคนิค เพื่อนคู่คิด มีรายละเอียดดังนี้ 2.1.1 นิยามและความส าคัญ การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด (Think-pair-share) เป็นเทคนิคการสอนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วน ร่วมในการเรียนรู้อย่างทั่วถึง ได้เกิดคิดหาค าตอบด้วยตนเอง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เรียนด้วยกัน และ กระตุ้นให้ผู้เรียนหาข้อสรุปร่วมกับผู้อื่นอย่างเป็นระบบ โดยก าหนดขอบเขตการคิดและการพูดคุยอย่างเป็น ล าดับขั้นตอน และยังช่วยให้ผู้เรียนจดจ่อและคิดตามในประเด็นที่ก าลังเรียนรู้ ได้ตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ ของตนเอง ท าให้เข้าใจเนื้อหาที่เรียนมากยิ่งขึ้น ได้ฝึกทักษะการสื่อสารด้วยเหตุผล กล้าแสดงความคิดเห็น ลด


5 ปัญหาการแย่งตอบ หรือไม่ตอบ เพราะมีคนอื่นตอบไปแล้วหรือกลัวค าตอบของตนจะไม่ถูกต้อง ฝึกการคิด วิเคราะห์และสังเคราะห์ค าตอบจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น 2.1.2 กระบวนการจัดการเรียนรู้ การเตรียมความพร้อมของผู้สอน 1. ผู้สอนเตรียมประเด็นค าถามหลักที่ต้องการให้ผู้เรียนคิดหาค าตอบ โดยควรเป็นค าถามที่ ผู้เรียนต้องตัดสินใจเลือก พร้อมให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจเลือก หรือค าถามที่ผู้เรียนต้องใช้ประสบการณ์ เดิมของตนเองกับความรู้ในเนื้อหาที่ก าลังเรียนรู้ในการคิดหาค าตอบ 2. ผู้สอนเตรียมค าถามกระตุ้น ส าหรับซักถามผู้เรียนเพิ่มเติม ในระหว่างที่ผู้เรียนแลกเปลี่ยน เรียนรู้กับผู้เรียนคนอื่นๆ โดยควรเป็นค าถามที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความคิดเห็นของตนเองกับผู้อื่น ได้ 3. ผู้สอนเตรียมช่องทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบชั่วคราว โดยตั้งค่า Breakout Room ทั้ง จ านวนห้อง เวลา และค าชี้แจงการปฏิบัติของผู้เรียนในแต่ละช่วง การเตรียมความพร้อมของผู้เรียน ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาวิธีการใช้ช่องทางการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนก าหนด 2.1.3 การจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 1 การก าหนดประเด็นที่ต้องการอภิปราย 1. ผู้สอนชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ลักษณะกิจกรรม และซักถามความเข้าใจของผู้เรียน 2. ผู้สอนยกตัวอย่างสถานการณ์ที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่ก าลังเรียนรู้ จากนั้นตั้งค าถามหลักกับ ผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนคิดหาค าตอบด้วยตนเอง และเขียนค าตอบของตนเองไว้ โดยแจ้งก าหนดเวลาแก่ผู้เรียน อย่างชัดเจน ขั้นตอนที่ 2 การคิดหาค าตอบและการแลกเปลี่ยนความคิด 1. ผู้สอนเปิดห้อง Breakout Room เพื่อให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนค าตอบของตนเองกับผู้เรียนคน อื่น โดยแจ้งก าหนดเวลาแก่ผู้เรียนอย่างชัดเจน และชี้แจงรูปแบบค าตอบที่คาดหวัง 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ตนเองได้คิดพิจารณาไว้กับคู่ของตน จากนั้นร่วมกันหา ความเชื่อมโยง (ความเหมือนความต่างของค าตอบ) และข้อสรุปร่วมกัน 3. ผู้สอนสุ่มเข้าห้อง Breakout Room เพื่อสังเกตพฤติกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และตั้งค าถามกระตุ้นชวนให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ขั้นตอนที่ 3 การน าเสนอข้อสรุปจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 1. ขั้นตอนที่ 3 การน าเสนอข้อสรุปจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละคู่ น าเสนอค าตอบที่เป็นข้อสรุปร่วมกัน กรณีห้องเรียนขนาดใหญ่ ผู้สอนอาจใช้การสุ่มน าเสนอ หรือเลือกคู่ที่มีค าตอบน่าสนใจจากการสังเกตของผู้สอนได้ 3. ผู้สอนสรุปค าตอบของผู้เรียน และน าเสนอมุมมองของผู้สอนเองที่มีต่อค าถามที่ให้ผู้เรียนคิด หาค าตอบ 4. ผู้สอนถามผู้เรียนเกี่ยวกับกระบวนการได้มาซึ่งค าตอบและความเป็นเอกฉันท์ของข้อสรุป 5. ผู้สอนสรุปประเด็นส าคัญที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา และเพิ่มเติมประเด็นที่ผู้เรียนยังไม่เข้าใจหรือ ยังเข้าใจไม่ครอบคลุม


6 2.1.4 การประเมินผล ผู้สอน น าข้อสรุปของผู้เรียนมาอภิปรายร่วมกัน หรือให้ข้อมูลป้อนกลับแก่ผู้เรียน รวมถึง เชื่อมโยงค าตอบและกระบวนการได้มาซึ่งค าตอบกับวัตถุประสงค์รายวิชาและเนื้อหาที่ก าลังเรียนรู้ ผู้เรียน ตรวจสอบค าตอบของตนเอง โดยเทียบกับค าตอบของเพื่อน เพื่อให้เห็นจุดเหมือน จุด ต่าง และเป็นข้อมูลเพิ่มเติม หรือเป็นแนวทางส าหรับการพัฒนาการเรียนรู้ของตนเองในครั้งต่อไป 2.1.5 ข้อสังเกต ก า รเ รียน รู้แบบเพื่อนคู่คิด (Think-pair-share) เป็นกลยุท ธ์ก า รส ร้ างองค์คว ามรู้ (Constructivism) ที่ผู้เรียนคิดหาค าตอบด้วยตนเองก่อน และพยายามเชื่อมโยงหรือโน้มน้าวให้ผู้ร่วม แลกเปลี่ยนเรียนรู้เห็นด้วยกับมุมมองของตน ดังนั้นผู้สอนจึงจ าเป็นต้องก าหนดช่องทางให้ผู้เรียนแสดงค าตอบ ของตนเอง อย่างการให้พิมพ์ตอบในแชทก่อนที่จะไปเข้าห้อง Breakout Room และต้องกระตุ้นให้ผู้เรียน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของตนเองกับผู้เรียนคนอื่นๆ ด้วยการตั้งค าถามกระตุ้นผู้เรียนในห้อง Breakout Room นอกจากนี้ผู้สอนยังจ าเป็นต้องถามถึงที่มาของค าตอบในระหว่างการน าเสนอแต่ละคู่ เพื่อให้ผู้เรียน สังเกตเห็นกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมคุณลักษณะผู้ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่ผู้เรียน (โ ค ร ง ก า ร ก า ร ส อ น อ อ น ไ ล น์ ส า ห รั บ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย , 2566: https://activelearning.thailandpod.org/learning-activities/think-pair-share) 2.1.6 เครื่องมือดิจิทัลที่สามารถใช้ได้ 1. Google Classroom 2. Microsoft Teams 3. Poll Everywhere 4. Flipgrid 5. Padlet 6. Explain Everything 7. Jamboard 8. Mentimeter 9. Formative 2.1.6 การวัดผลการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง 1. การสังเกตพฤติกรรม 2. การทดสอบ 3. การสอบปากเปล่า 4. การสอบถาม 5. การสัมภาษณ์ 6. การใช้ค าถาม 7. การเขียนสะท้อนการเรียนรู้ 8. การประเมินตนเอง 9. การประเมินโดยเพื่อน (โครงการการสอนออนไลน์ส าหรับประเทศไทย, 2566: https://active-learning.thailandpod.org/learning-activities/think-pair-share)


7 2.2 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สังคมศึกษาหรือกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นศาสตร์ความรู้ หนึ่งที่ มีความส าคัญ และมีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจการด ารงชีวิต อยู่ในสภาพ สังคมปัจจุบัน ที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา สามารถปรับตัวและปฏิบัติตน ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ในฐานะพลเมืองดีของสังคมไทยและสังคมโลก ดังนั้น ครูผู้สอนรายวิชาสังคมศึกษา จึงควรศึกษาและท าความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานในรายวิชาสังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หรือรายวิชาสังคมศึกษา มีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนซึ่งเป็นก าลังของชาติ ให้มี ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ อิทธิพลของ สภาพแวดล้อม ที่มีผลต่อการด ารงชีวิต การอยู่ร่วมกันในสังคม ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา เป็นพลเมืองที่รับผิดชอบ มีความสามารถทางสังคม มีความรู้ มี ทักษะ และมีคุณธรรม เพื่อเกิดค่านิยมที่เหมาะสม มุ่งหวังให้ผู้เรียนเกิดความเจริญงอกงามด้านความรู้โดยจะ ให้ความรู้แก่ ผู้เรียนด้านเนื้อหาสาระ ความคิดรวบยอดและหลักการส าคัญในสาขาวิชาต่าง ๆ 2.2.1 คุณภาพของผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าด้วยการอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มีความ เชื่อมสัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบท สภาพแวดล้อม เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม โดยได้ ก าหนดสาระต่าง ๆ ไว้ ดังนี้ ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรมของ พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ การน าหลักธรรมค าสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และการอยู่ ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นผู้กระท าความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมทั้งบ าเพ็ญประโยชน์ต่อ สังคมและส่วนรวม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการด าเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบันการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความส าคัญ การเป็นพลเมือง ดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยมด้านประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการด าเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทยและสังคมโลก เศรษฐศาสตร์การผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินค้าและบริการ การบริหารจัดการ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจ ากัดอย่างมีประสิทธิภาพ การด ารงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ และการน าหลักเศรษฐกิจ พอเพียงไปใช้ในชีวิตประจ าวัน ประวัติศาสตร์เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของ มนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ผลกระทบที่เกิดจาก เหตุการณ์ส าคัญในอดีต บุคคลส าคัญที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในอดีต ความเป็นมาของ ชาติไทย วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย แหล่งอารยธรรมที่ส าคัญของโลก ภูมิศาสตร์ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และภูมิอากาศ ของประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก การใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์กันของ สิ่งต่างๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น การน าเสนอข้อมูลภูมิสารสนเทศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (โรงเรียนสุเหร่าคลองจั่น, 2553:https://sites.google.com/site/skcschoolweb/article/hlaksutrklumsarakarreiynrusangkhms uksasasnalaeawathnthrrm)


8 เมื่อจบแต่ละช่วงชั้น ผู้เรียนต้องมีความสามารถดังต่อไปนี้ ช่วงชั้นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 1. มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับตนเองและผู้ที่อยู่รอบข้าง ตลอดจนสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น ที่อยู่อาศัย และเชื่องโยงประสบการณ์ไปสู่โลกกว้าง 2. มีทักษะกระบวนการ และมีข้อมูลที่จ าเป็นต่อการพัฒนาให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ประพฤติ ปฏิบัติตามหลักค าสอนของศาสนาที่ตนนับถือ มีความเป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ การอยู่ร่วมกันและ การท างานกับผู้อื่น มีส่วนร่วมในกิจกรรมของห้องเรียน และได้ฝึกหัดใน การตัดสินใจ 3. มีความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในลักษณะการบูรณาการ ผู้เรียนได้เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับปัจจุบันและอดีต มีความรู้พื้นฐานทางเศรษฐกิจ ได้ข้อคิดเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายของครอบครัว เข้าใจถึงการเป็นผู้ผลิต ผู้บริโภค รู้จักการออมขั้นต้นและวิธีการเศรษฐกิจพอเพียง 4. รู้และเข้าใจในแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ เพื่อเป็นพื้นฐานในการท าความเข้าใจในขั้นที่สูงต่อไป ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 1. มีความรู้เรื่องของจังหวัด ภาค และประเทศของตนเอง ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ ลักษณะทาง กายภาพ สังคมประเพณี และวัฒนธรรม รวมทั้งการเมือง การปกครอง และสภาพเศรษฐกิจโดยเน้นความเป็น ประเทศไทย 2. มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตนตามหลักธรรมค าสอนของ ศาสนาที่ตนนับถือ รวมทั้งมีส่วนร่วมศาสนพิธีและพิธีกรรมทางศาสนามากยิ่งขึ้น 3. ปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีของท้องถิ่น จังหวัด ภาค และ ประเทศ รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของท้องถิ่นตนเอง มาก ยิ่งขึ้น 4. สามารถเปรียบเทียบเรื่องราวของจังหวัดและภาคต่างๆของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับการพัฒนาแนวคิดทางสังคมศาสตร์ เกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ เพื่อขยายประสบการณ์ไปสู่การท าความเข้าใจในภูมิภาค ซีกโลกตะวันออกและ ตะวันตกเกี่ยวกับศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การ ด าเนินชีวิต การจัดระเบียบทางสังคม และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมจากอดีตสู่ปัจจุบัน ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 1. มีความรู้เกี่ยวกับความเป็นไปของโลก โดยการศึกษาประเทศไทยเปรียบเทียบกับประเทศ ในภูมิภาคต่างๆในโลก เพื่อพัฒนาแนวคิด เรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 2. มีทักษะที่จ าเป็นต่อการเป็นนักคิดอย่างมีวิจารณญาณได้รับการพัฒนาแนวคิด และขยาย ประสบการณ์ เปรียบเทียบระหว่างประเทศไทยกับประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ในโลก ได้แก่ เอเชีย ออสเตรเลีย โอเชียเนีย แอฟริกา ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ในด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การเมืองการปกครอง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ด้วยวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ และสังคมศาสตร์ 3. รู้และเข้าใจแนวคิดและวิเคราะห์เหตุการณ์ในอนาคต สามารถน ามาใช้เป็นประโยชน์ ในการด าเนินชีวิตและวางแผนการด าเนินงานได้อย่างเหมาะสม


9 ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 1. มีความรู้เกี่ยวกับความเป็นไปของโลกอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น 2. เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ รวมทั้งมี ค่านิยมอันพึงประสงค์ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รวมทั้งมีศักยภาพเพื่อ การศึกษาต่อในชั้นสูงตามความประสงค์ได้ 3. มีความรู้เรื่องภูมิปัญญาไทย ความภูมิใจในความเป็นไทย ประวัติศาสตร์ของชาติไทย ยึดมั่นในวิถีชีวิต และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 4. มีนิสัยที่ดีในการบริโภค เลือกและตัดสินใจบริโภคได้อย่างเหมาะสม มีจิตส านึก และมีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมไทย และสิ่งแวดล้อม มีความรักท้องถิ่นและประเทศชาติ มุ่งท าประโยชน์ และสร้างสิ่งที่ดีงามให้กับสังคม 5. มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของตนเอง ชี้น าตนเองได้ และสามารถแสวงหา ค ว า ม รู้ จ า ก แ ห ล่ง ก า ร เ รี ย น รู้ ต่ าง ๆ ใ น สัง ค มไ ด้ ต ล อ ด ชี วิ ต (โ รง เ รี ย น สุ เ ห ร่ า ค ล อง จั่ น , 2553:https://sites.google.com/site/skcschoolweb/article/hlaksutrklumsarakarreiynrusangkhms uksasasnalaeawathnthrrm) 2.2.2 มาตรฐานการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวัติ ความส าคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุข มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธ ารงรักษา พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการด าเนินชีวิตในสังคม มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และ ธ ารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ด ารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธาและ ธ ารงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการ ใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จ ากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อ การด ารงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และความจ าเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาตร์วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความส าคัญและสามารถ วิเคราะห์ผลกระทบที่ เกิดขึ้น


10 มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความ ภูมิใจและธ ารงความเป็นไทย (บุญจวง ธนะไชย,2555:https://sites.google.com/site/krusungkomnarak/home) สาระที่ 5 ภูมิศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุงฉบับ พ.ศ. 2560) มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อ กัน ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการ สร้างสรรค์วิถีการด าเนินชีวิต มีจิตส านึกและมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนา ที่ยั่งยืน (ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ, 2560: 2) 2.2.3 ค าอธิบายรายวิชา ได้น าเนื้อหามาจาก รายวิชา สังคมศึกษา 4 รหัสวิชา ส 22102 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์มีเนื้อหาในค าอธิบายรายวิชา ดังนี้ ค ำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน ส 22102 สังคมศึกษา 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จ านวน 1.5 หน่วยกิต ……………………………………………………………………………………………………… ศึกษาวิเคราะห์ อภิปราย สรุป ความหมายและความส าคัญของการลงทุน การออม หลักการผลิต สินค้าและบริการ การผลิตสินค้าในท้องถิ่น สินค้า OTOP การน าหลักการผลิตสินค้าในท้องถิ่นมาวิเคราะห์ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม หลักการและเป้าหมายปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการ ประยุกต์ใช้ การรักษาคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แนวทางการปกป้อง สิทธิของผู้บริโภค ศึกษาค้นคว้า อภิปราย วิเคราะห์ เปรียบเทียบ สรุป น าเสนอระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ หลักการ และผลกระทบการพึ่งพาอาศัยทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียการกระจายของทรัพยากรโลก การแข่งขันทาง การค้าในประเทศและต่างประเทศ ศึกษาค้นคว้า อธิบาย อภิปราย วิเคราะห์ เปรียบเทียบ สรุป น าเสนอ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ที่แสดง ลักษณะทางกายภาพและสังคม การเปลี่ยนแปลงประชากรเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรมการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาที่เกิดขึ้น ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมในทวีป ยุโรปและแอฟริกาต่อประเทศไทย รหัสตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 ส 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 ส 5.1 ม.2/1, ม.2/2 ส 5.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 รวมทั้งหมด 4 มาตรฐาน 14 ตัวชี้วัด


11 2.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.3.1 ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Learning Achievement) เป็นผลที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ในการจัด การศึกษานักศึกษาได้ให้ความส าคัญกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเนื่องจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นดัชนี ประการหนึ่งที่สามารถบอกถึงคุณภาพการศึกษาดังที่ อนาตาซี (Anastasi. 1976:107 อ้างถึงใน ปริยทิพย์ บุญคง, 2546:7) กล่าวไว้พอสรุปได้ว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบด้านสติปัญญาและองค์ประกอบด้านที่ไม่ใช้สติปัญญา ได้แก่องค์ประกอบด้านเศรษฐกิจสังคมแรงจูงใจและองค์ประกอบที่ไม่ใช้สติปัญญาด้านอื่น ไอแซงค์ อาโนลด์และไมลี (Eysenck, Arnold and Meili.1972 อ้างถึงใน ปริยทิพย์ บุญคง, 2546:7) ให้ความหมายของค าว่าผลสัมฤทธิ์หมายถึงขนาดของความส าเร็จที่ได้จากการท างานที่ต้องอาศัย ความพยายามอย ่างมากซึ่งเป็นผลมาจากการกระท าที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถทั้งทางร่างกายและทาง สติปัญญา ดังนั้นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจึงเป็นขนาดของความส าเร็จที่ได้จากการเรียนโดยอาศัย ความสามารถเฉพาะตัวบุคคลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอาจได้จากกระบวนการที่ไม่ต้องอาศัยการทดสอบ เชนการสังเกตหรือการตรวจการบ้านหรืออาจได้ในรูปของเกรดจากโรงเรียนซึ่งต้องอาศัยกระบวนการที่ซับซ้อน และระยะเวลานานพอสมควรหรืออาจได้จากการวัดแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั่วไปซึ่งสอดคล้องกับ ไพศาล หวังพานิช (2536:89 อ้างถึงใน ปริยทิพย์ บุญคง, 2546:15) ที่ให้ความหมายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนว่า หมายถึง คุณลักษณะและความสามารถของบุคคลอันเกิดจากการเรียนการสอนเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและ ประสบการณ์การเรียนที่เกิดขึ้นจากการฝึกอบรมหรือการสอบจึงเป็นการตรวจสอบระดับความสามารถของบุคคลว่า เรียนแล้วมีความรู้เท่าใดสามารถวัดได้โดยการใช้แบบทดสอบต่างๆเช่นใช้ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ข้อสอบวัด ภาคปฏิบัติสามารถวัดได้ 2 รูปแบบ ดังนี้ 1) การวัดด้านปฏิบัติเป็นการตรวจสอบระดับความสามารถในการปฏิบัติโดยทักษะของผู้เรียนโดย มุ่งเน้นให้ผู้เรียนแสดงความสามารถดังกล่าวในรูปของการกระท าจริงให้ออกเป็นผลงานการวัดต้องใช้ข้อสอบ ภาคปฏิบัติ 2) การวัดด้านเนื้อหาเป็นการตรวจสอบความสามารถเกี่ยวกับเนื้อหาซึ่งเป็นประสบการณ์เรียน รวมถึงพฤติกรรมความสามารถในด้านต่างๆสามารถวัดได้โดยใช้แบบวัดผลสัมฤทธิ์ จากความหมายข้างต้นสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหมายถึงผลการวัด การเปลี่ยนแปลงและ ประสบการณ์การเรียนรู้ในเนื้อหาสาระที่เรียนมาแล้วว่าเกิดการเรียนรู้เท่าใดมีความสามารถชนิดใดโดยสามารถวัด ได้จากแบบทดสอบวัดสัมฤทธิ์ในลักษณะต่างๆและการวัดผลตามสภาพจริงเพื่อบอกถึงคุณภาพการศึกษา ความหมายของการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.3.2 ความหมายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักการศึกษาหลายท่านได้ให้ความหมายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ ในการประเมินผลไว้ ดังนี้ สมนึก ภัททิยธนี(2546:78-82) ได้ให้ความหมายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนว่า หมายถึงแบบทดสอบวัดสมรรถภาพทางสมองต่างๆที่นักเรียนได้รับการเรียนรู้ผ่านมาแล้วซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ แบบทดสอบที่ครูสร้างกับแบบทดสอบมาตรฐานแต่เนื่องจากครูต้องท าหน้าที่วัดผลนักเรียน คือเขียนข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ที่ตนได้สอนซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับแบบทดสอบที่ครูสร้างและมีหลายแบบแต่ที่ นิยมใช้มี6 แบบ ดังนี้


12 1) ข้อสอบแบบอัตนัยหรือความเรียง ลักษณะทั่วไปเป็นข้อสอบที่มีเฉพาะค าถามแล้วให้นักเรียน เขียนตอบอย่างเสรีเขียนบรรยายตามความรู้และข้อคิดเห็นแต่ละคน 2) ข้อสอบแบบกาถูก - ผิด ลักษณะทั่วไปถือได้ว่าข้อสอบแบบกาถูก-ผิดคือ ข้อสอบแบบ เลือกตอบที่มี2 ตัวเลือกแต่ตัวเลือกดังกล่าวเป็นแบบคงที่และมีความหมายตรงกันข้ามเช่นถูก-ผิดใช่-ไม่ใช่จริงไม่จริงเหมือนกัน-ต่างกันเป็นต้น 3) ข้อสอบแบบเติมค า ลักษณะทั่วไปเป็นข้อสอบที่ประกอบด้วยประโยคหรือข้อความที่ยังไม่ สมบูรณ์ให้ผู้ตอบเติมค าหรือประโยคหรือข้อความลงในช่องว่างที่เว้นไว้นั้นเพื่อให้มีใจความสมบูรณ์และถูกต้อง 4) ข้อสอบแบบตอบสั้นๆ ลักษณะทั่วไปข้อสอบประเภทนี้คล้ายกับข้อสอบแบบเติมค าแต่แตกต่าง กันที่ข้อสอบแบบตอบสั้นๆเขียนเป็นประโยคค าถามสมบูรณ์(ข้อสอบเติมค าเป็นประโยคที่ยังไม่สมบูรณ์) แล้ว ให้ผู้ตอบเป็นคนเขียนตอบค าตอบที่ต้องการจะสั้นและกะทัดรัดได้ใจความสมบูรณ์ไม่ใช่เป็นการบรรยาย แบบข้อสอบอัตนัยหรือความเรียง 5) ข้อสอบแบบจับคู่ ลักษณะทั่วไปเป็นข้อสอบเลือกตอบชนิดหนึ่งโดยมีค าหรือข้อความแยกจาก กันเป็น 2 ชุดแล้วให้ผู้ตอบเลือกจับคู่ว่าแต่ละข้อความในชุดหนึ่ง (ตัวยืน) จะคู่กับค าหรือข้อความใดในอีกชุด หนึ่ง (ตัวเลือก) ซึ่งมีความสัมพันธ์กันอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ผู้ออกข้อสอบก าหนดไว้ 6) ข้อสอบแบบเลือกตอบลักษณะทั่วไปข้อสอบแบบเลือกตอบนี้จะประกอบด้วย 2ตอนตอนน า หรือค าถามกับตอนเลือกในตอนเลือกนี้จะประกอบด้วยตัวเลือกที่เป็นค าตอบถูกและตัวเลือกที่เป็นตัวลวงปกติ จะมีค าถามที่ก าหนดให้นักเรียนพิจารณาแล้วหาตัวเลือกที่ถูกต้องมากที่สุดเพียงตัวเลือกเดียวจากตัวเลือก อื่นๆและค าถามแบบเลือกตอบที่ดีนิยมใช้ตัวเลือกที่ใกล้เคียงกันดูเผินๆจะเห็นว่าทุกตัวเลือกถูกหมด แต่ ความจริงมีน้ าหนักถูกมากน้อยต่างกัน พวงรัตน์ ทวีรัตน์ (2543:96 อ้างถึงใน ปริยทิพย์ บุญคง,2546:16) ได้กล ่าวถึงแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในท านองเดียวกันว่าหมายถึงแบบทดสอบที่วัดความรู้ของนักเรียนที่ได้เรียนไป แล้วซึ่งมักจะเป็นข้อค าถามให้นักเรียนตอบด้วยกระดาษและดินสอกับให้นักเรียนปฏิบัติจริง จากความหมายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่กล่าวมาแล้วสรุปได้ว่าแบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหมายถึงแบบทดสอบที่วัดความรู้ความสามารถทางการเรียนด้านเนื้อหาด้านวิชาการและ ทักษะต่างๆของวิชาต่างๆ 2.3.3 หลักเกณฑ์ในการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผู้วิจัยได้วิเคราะห์จากนักการศึกษาหลายๆ ท่าน ที่ กล่าวถึงหลักเกณฑ์ไว้สอดคล้องกันและได้ล าดับเป็นขั้นตอนดังนี้ 1) เนื้อหาหรือทักษะที่ครอบคลุมในแบบทดสอบนั้นจะต้องเป็นพฤติกรรมที่สามารถท าการวัดผล สัมฤทธิ์ได้ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที ่ใช้แบบทดสอบวัดนั้นถ้าน าไปเปรียบเทียบกันจะต้องให้ทุกคนมี โอกาสเรียนรู้ในสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้ครอบคลุมและเท่าเทียมกัน 3) วัดให้ตรงกับจุดประสงค์การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนควรจะวัดตาม วัตถุประสงค์ทุกอย่างของการสอนและจะต้องมั่นใจว่าได้วัดสิ่งที่ต้องการจะวัดได้จริง 4) การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นการวัดความเจริญงอกงามของนักเรียนซึ่งเป็นการ เปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าไปสู่วัตถุประสงค์ที่วางไว้ดังนั้นครูควรจะทราบว่าก่อนเรียนนักเรียนมีความรู้


13 ความสามารถอย ่างไรเมื ่อเรียนเสร็จแล้วมีความรู้แตกต ่างจากเดิมหรือไม่ โดยการ ทดสอบก่อนเรียนและ ทดสอบหลังเรียน 5) การวัดผลเป็นการวัดผลทางอ้อมเป็นการยากที่จะใช้ข้อสอบแบบเขียนตอบวัดพฤติกรรมตรงๆของ บุคคลได้สิ่งที่วัดได้คือการตอบสนองต่อข้อสอบดังนั้นการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ให้เป็นพฤติกรรมที่จะสอบจะต้องท า อย่างรอบคอบและถูกต้อง 6) การวัดการเรียนรู้เป็นการยากที่จะวัดทุกสิ่งทุกอย่างที่สอนได้ภายในเวลาจ ากัด สิ่งที่วัดได้เป็นเพียง ตัวแทนของพฤติกรรมทั้งหมดเท่านั้นดังนั้นต้องมั่นใจว่าสิ่งที่วัดนั้นเป็นตัวแทนแท้จริงได้ 7) การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นเครื่องช่วยพัฒนาการสอนของครูและเป็นเครื่องช่วยในการ เรียนของเด็ก 8) ในการศึกษาที่สมบูรณ์นั้นสิ่งส าคัญไม่ได้อยู่ที่การทดสอบแต่เพียงอย่างเดียวการทบทวน การสอนของครูก็เป็นสิ่งส าคัญยิ่ง 9) การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนควรจะเน้นในการวัดความสามารถในการใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ หรือการน าความรู้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ๆ 10) ควรใช้ค าถามให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชาและวัตถุประสงค์ที่วัด 11) ให้ข้อสอบมีความเหมาะสมกับนักเรียนในด้านต่างๆเช่นความยากง่ายพอเหมาะ มีเวลาพอ ส าหรับนักเรียนในการท าข้อสอบ จากที่กล่าวข้างต้นสรุปได้ว่าในการสร้างแบบทดสอบให้มีคุณภาพวิธีการสร้างแบบทดสอบที ่เป็น ค าถามเพื่อวัดเนื้อหาและพฤติกรรมที่สอนไปแล้วต้องตั้งค าถามที่สามารถวัดพฤติกรรมการเรียนการสอนได้ อย่างครอบคลุมและตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ 2.3.4 ชนิดของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ล้วน สายยศและอังคณา สายยศ (2538:146 อ้างถึงใน ปริยทิพย์ บุญคง,2546:17) ได้ให้ ความหมายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ว่าเป็นแบบทดสอบที่วัดความรู้ของนักเรียน หลังจากที่ได้เรียนไปแล้วซึ่งมักจะเป็นข้อค าถามให้นักเรียนตอบด้วยกระดาษและดินสอกับให้นักเรียน ปฏิบัติจริงซึ่งแบ่งแบบทดสอบประเภทนี้เป็น 2 ประเภทคือ 1) แบบทดสอบของครูหมายถึงชุดของข้อค าถามที่ครูเป็นผู้สร้างขึ้นเป็นข้อค าถามที่เกี่ยวกับ ความรู้ที่นักเรียนได้เรียนในห้องเรียนเป็นการทดสอบว่านักเรียนมีความรู้มากแค่ไหนบกพร่องในส่วนใดจะได้ สอนซ่อมเสริมหรือเป็นการวัดเพื่อดูความพร้อมที่จะเรียนในเนื้อหาใหม่ขึ้นอยู่กับความต้องการของครู 2) แบบทดสอบมาตรฐานหมายถึงแบบทดสอบที่สร้างขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชาหรือ จากครูที่สอนวิชานั้นแต่ผ่านการทดลองหาคุณภาพหลายครั้งจนมีคุณภาพดีจึงสร้างเกณฑ์ปกติของ แบบทดสอบนั้นสามารถใช้หลักและเปรียบเทียบผลเพื่อประเมินค่าของการเรียนการสอนในเรื่องใดๆก็ได้ แบบทดสอบมาตรฐานจะมีคู่มือด าเนินการสอบบอดถึงวิธีการและยังมีมาตรฐานในด้านการแปลคะแนนด้วยทั้ง แบบทดสอบของครูและแบบทดสอบมาตรฐานจะมีวิธีการในการสร้างข้อค าถามที่เหมือนกันเป็นค าถามที่วัด เนื้อหาและพฤติกรรมในด้านต่างๆทั้ง 4 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านการน าไปใช้ 2) ด้านการวิเคราะห์ 3) ด้านการ สังเคราะห์ และ 4) ด้านการประเมินค่า จากการศึกษาความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผู้วิจัยจึงได้น าไปสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน วิชา สังคมศึกษา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง ทวีปยุโรป โดยเป็นค าถามที่วัดเนื้อหาและ


14 พฤติกรรมในด้านต่าง ๆ ทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ด้านการน าไปใช้ 2) ด้านการวิเคราะห์ 3) ด้านการสังเคราะห์ และ 4) ด้านการประเมินค่า 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.4.1 งานวิจัยภายในประเทศ มนตรี เฉกเพลงพิน (2562:บทคัดย่อ) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระเศรษฐศาสตร์และ ความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผลของนักเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิค การสอน Think-Pair-Share ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระเศรษฐศาสตร์ ของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสอน Think-Pair-Share (X̅= 26.15 , S.D. = 2.55) สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสอน Think-PairShare (X̅= 15.27, S.D. = 3.17) อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คะแนนความสามารถในการคิดอย่าง มีเหตุผลของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการ สอน Think-Pair-Share (X̅= 12.85 , S.D. = 1.34 ) สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับเทคนิคการสอน Think-Pair-Share (X̅= 8.45 , S.D. = 1.62 ) อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิค Think-Pair-Share โดย ภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก นฤมล ถนอมพงษ์ (2562:31) ได้ศึกษาวิจัย เรื่อง การศึกษาความรับผิดชอบทางการเรียนของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิคคู่คิด) โรงเรียนคีรีเวสรัตนเพียร อุปถัมภ์ผลการศึกษาพบว่า ความรับผิดชอบทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา 6 เรื่องพระพุทธศาสนา ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนคีรีเวสรัตนเพียรอุปถัมภ์ ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิค คู่คิด) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่ง เป็นไปตามสมมติฐาน พรณภา พอกพูน (2562:บทคัดย่อ) ผลการจัดการเรียนรู้ที่ใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิดผู้เรียนได้มีส่วนร่วม และมีความสามารถในการเรียนรู้ประกอบด้วย การบันทึกการเรียนรู้ การท าใบงาน การจัดกิจกรรมรายวิชา พระพุทธศาสนา โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิดผู้เรียนและผู้สอน ได้ด าเนินการจัดกระบวนการเรียนรู้Think ขั้นตอน กระตุ้นความคิด Pair ขั้นการจับคู่ Share ขั้นตอนแห่งการแบ่งปัน ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องชาวพุทธ ตัวอย่าง จากการประเมินสมุดบันทึก และใบงาน พบว่า ระดับคุณภาพ อยู่ในระดับ ดีมาก จ านวน 29 คน คิด เป็นร้อยละ 93.54 และระดับ ดี 2 คน คิดเป็นร้อยละ 6.45 จากการประเมินการเล่าเรื่อง และตอบค าถาม พบว่า ระดับคุณภาพ อยู่ในระดับ ดีมาก จ านวน 27 คนคิดเป็นร้อยละ 87.09 และระดับ ดี จ านวน 2 คน คิด เป็นร้อยละ 12.9 เรื่องชาดก จากการประเมินสมุดบันทึก และใบงาน พบว่า ระดับคุณภาพ อยู่ในระดับ ดีมาก จ านวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 96.77 และระดับ ดี 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.22 จากการประเมินการเล่าเรื่อง และตอบค าถาม พบว่า ระดับคุณภาพ อยู่ในระดับ ดีมาก จ านวน 27 คนคิดเป็นร้อยละ 96.77 และระดับ ดี จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.22 ซูไฮณี สาเล๊ะ (2563:บทคัดย่อ) ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อง เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์กับชีวิต ด้วยเทคนิคการสอนแบบคู่คิด (Think Pair Share) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านชะเอาะ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า 1) การหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์กับชีวิต ด้วยเทคนิคการสอน แบบคู่คิด (Think Pair Share) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม


15 ศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านชะเอาะ เท่ากับ 87.00/85.93 สูงกว่า เกณฑ์ที่ก าหนดไว้ 80/80 2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ก่อนเรียนและหลังเรียนจากการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์กับชีวิต ด้วยเทคนิคการสอน แบบคู่คิด (Think Pair Share) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบ้านชะเอาะ พบว่า คะแนนสอบหลังเรียน ( = 25.78, S.D. = 1.48) สูงกว่าคะแนนสอบ ก่อนเรียน ( = 15.44, S.D. = 4.97) อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ผลการประเมินความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์กับชีวิต ด้วยเทคนิคการสอนแบบคู่คิด (Think Pair Share) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบ้านชะเอาะ พบว่า ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ( = 4.54 ,S.D. = 0.58) ซึ่งนักเรียนมีระดับความพึงพอใจ ระดับมากที่สุด 2.4.2 งานวิจัยต่างประเทศ Siti Fadjarajani, Geography Education Department Faculty of Teacher Training and Education Siliwangi University Tasikmalaya Indonesia (2018: Abstract) This study aims to find out how the implementation of Cooperative Learning learning models of Think Pair Share type is to increase interest in learning Geography and to determine the effect of the application of Cooperative Learning learning models of Think Pair Share on the interest in learning Geography in class XI IPS SMA Negeri 1 Talaga District of Talaga, Majalengka District. The research method used is Quasi Experiment (Quasi Experiment) with Post-Test only control group design research design. Data collection techniques include observation, interview, documentation, questionnaire distribution, and literature study while data analysis is done by descriptive analysis and t-test. The study population consisted of 181 students of class XI IPS, with a total sample of 6 8 students divided into two classes, namely 3 3 students in the control class and 35 students in the experimental class. Determination of the sample is done by using a random sampling technique. The results of the study with descriptive analysis techniques illustrate that the application of Think Pair Share type learning models is carried out in three stages: thinking, pairing and ending with sharing. The effect of the application of Think Pair Share learning model on the interest in Geography learning is done by using the t-test analysis technique to produce a significance value of 0.375 meaning that the hypothesis is proven. The application of the Think Pair Share learning model has a significant influence on the excellent category of students 'learning interest in the XI IPS class of SMA Negeri 1 Talaga, Talaga Subdistrict, Majalengka District, as seen from the indicators: feelings of excitement, interest, student involvement and students' attention to geography subjects. แปลไทย สิตี ฟัดจาราจานี, สาขาวิชาภูมิศาสตร์ศึกษา คณะการฝึกหัดครูและศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยซิลิวังกิเมืองทาสิกมาลายา ประเทศอินโดนีเซีย (2561:บทคัดย่อ) การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ค้นหาว่าการใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือของ Think Pair Share ช่วยเพิ่มความสนใจในการเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ได้อย่างไร และเพื่อหาผลของการใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือของ Think Pair Share ต่อความ


16 สนใจในการเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ในชั้นเรียน XI IPS SMA Negeri 1 ต าบลทาลากา อ าเภอมาจาเลงกา ระเบียบวิธี วิจัยที่ใช้คือ การทดลองกึ่งทดลอง (Quasi Experiment) โดยมีการทดสอบหลังเรียนแบบกลุ่มควบคุมเท่านั้น เทคนิคการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยการสังเกต การสัมภาษณ์ การจัดท าเอกสาร การแจกแบบสอบถาม และการศึกษาวรรณกรรม ในขณะที่การวิเคราะห์ข้อมูลท าได้โดยการวิเคราะห์เชิงพรรณนาและการทดสอบค่า ที ประชากรที่ท าการศึกษาประกอบด้วยนักเรียน 181 คนในชั้นเรียน XI IPS โดยมีกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 68 คน แบ่งออกเป็นสองชั้นเรียน ได้แก่นักเรียนชั้นควบคุม 33 คน และนักเรียนชั้นทดลอง 35 คน การหากลุ่มตัวอย่าง ท าได้โดยใช้เทคนิคการสุ่มตัวอย่าง ผลการศึกษาด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เชิงพรรณนาแสดงให้เห็นว่าการ ประยุกต์ใช้รูปแบบการเรียนรู้ประเภท Think Pair Share ด าเนินการใน 3 ขั้นตอน ได้แก่ การคิด การจับคู่ และสิ้นสุดด้วยการแบ่งปัน ผลของการประยุกต์ใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบคิดคู่แชร์ต่อความสนใจในการเรียนรู้ ภูมิศาสตร์โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์ค่า t-test ได้ค่านัยส าคัญเท่ากับ 0.375 หมายความว่าสมมติฐานได้รับ การพิสูจน์แล้ว การประยุกต์ใช้โมเดลการเรียนรู้ Think Pair Share มีอิทธิพลอย่างมากต่อความสนใจในการ เรียนรู้ของนักเรียนในชั้นเรียน XI IPS ของ SMA Negeri 1 ต าบลทาลากา อ าเภอมาจาเลงกา จากตัวบ่งชี้: ความรู้สึกตื่นเต้น ความสนใจ การมีส่วนร่วมของนักเรียน และความสนใจของนักเรียนต่อวิชาภูมิศาสตร์ จากผลการศึกษาต่างๆ จะเห็นว่า บทเรียนบนเครือข่ายท าให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาที่เรียนและ ท าให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีกว่าวิธีการสอนปกติและผลการศึกษาที่พบมากอีกประการหนึ่ง คือ การใช้ เทคนิคเพื่อนคู่คิด ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในบทเรียนมากขึ้น และนักเรียนสามารถใช้ความคุ้นเคยกับ เพื่อนสนิทให้เกิดประโยชน์ได้


17 บทที่ 3 วิธีด าเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้เทคนิค เพื่อนคู่คิด เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาลวัดไทร ใต้ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อศึกษาผลคะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจาก การเรียนด้วยเทคนิคเพื่อนคู่คิด เรื่อง ทวีปยุโรป ดังต่อไปนี้ 3.1 ประชากร 3.2 กลุ่มตัวอย่าง 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3.4 ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ 3.5 แบบแผนการทดลอง 3.6 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.7 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.8 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ประชากร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอ เมือง จังหวัดนครสวรรค์ ส านักการศึกษาเทศบาลนครนครสวรรค์ จ านวน 33 คน ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกัน 3.2 กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จ านวน 16 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มจากห้องเรียนทั้งหมด 2 ห้องเรียน ภาพประกอบที่ 2 แสดงกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย 3.3.1 แผนการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้ เทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระภูมิศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จ านวน 1 ชุด 6 แผนการจัดการเรียนรู้คือ ทวีป ยุโรป ซึ่งประกอบไปด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้ ใบงาน แบบทดสอบหลังเรียน และแหล่งเรียนรู้ เพิ่มเติม


18 3.3.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระ ภูมิศาสตร์ เรื่อง ทวีปยุโรป ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.2.3 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้ออนไลน์ รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระภูมิศาสตร์ เรื่อง ทวีปยุโรป ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น 3.4 ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ มีดังต่อไปนี้ 3.4.1 การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้ เทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ผู้วิจัยได้ด าเนินการสร้างตามล าดับขั้นตอน ดังแผนภาพต่อไปนี้ ภาพประกอบที่ 3 ล าดับขั้นตอนการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้ เทคนิคเพื่อนคู่คิด รายวิชาสังคมศึกษา เรื่อง ทวีปยุโรป 1. ศึกษา วิเคราะห์หลักสูตรกลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ หลักสูตรสถานศึกษา วิธีการ หลักการ ทฤษฎี แนวคิดเทคนิคเพื่อนคู่คิด และเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2. วิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 3. ก าหนดกรอบแนวคิด หลักการและจุดมุ่งหมาย ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด 4. พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ทวีปยุโรป 5. ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ 6. ทดลองใช้เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและหาประสิทธิภาพ 7. จัดท าแผนการจัดการเรียนรู้ ใบงาน และแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป เพื่อพัฒนาการเรียน วิชา สังคมศึกษา 4 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ าเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565


19 3.4.2 การสร้างแบบทดสอบ ด าเนินการสร้างแบบทดสอบเพื่อทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป จ านวน 1 ชุด ซึ่งเป็นแบบทดสอบชนิดปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 20 ข้อ 10 คะแนน ที่ผู้วิจัย ด าเนินการสร้างแบบทดสอบวัดผลทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 3.5 แบบแผนการทดลอง การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาความรู้ความจริงเฉพาะตัว แปร เพื่อทราบว่าตัวแปรใดเป็นสาเหตุที่ท าให้เกิดผล ผลที่ได้เกิดจากตัวแปรที่ศึกษาหรือไม่ การวิจัยประเภทนี้ เป็นการศึกษาความสัมพันธ์เชิงเหตุผลและผลที่ต้องมีการจัดกระท า (Treatment) ตัวแปรที่จะศึกษา และ ควบคุมตัวแปรที่ไม่ต้องการจะศึกษา ภาพประกอบที่ 4 แสดงการจัดที่นั่งของนักเรียนและเพื่อนสนิทในรูปแบบเพื่อนคู่คิด ตารางที่ 1 แสดงแบบแผนการทดลอง Pre - test Treatment Post - test O1 t O2 3.6 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยน าแบบประเมิน แบบทดสอบ และแผนการสอนไปทดลองใช้ กับกลุ่มตัวอย่างตามล าดับดังนี้ 3.6.1 ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการด าเนินการทดลองกับนักเรียนสร้างความเข้าใจกับนักเรียนกลุ่ม ตัวอย่าง เรื่อง การจัดการเรียนรู้เทคนิคเพื่อนคู่คิด ประมาณ 5-10 นาที 3.6.2 ให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน วิชาภูมิศาสตร์ จ านวน 20 ข้อ 10 คะแนน 3.6.3 ด าเนินการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้เทคนิคเพื่อนคู่คิด ระหว่างวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2565 - 10 มกราคม พ.ศ. 2566 โดยใช้แผนการการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยการจัดการเรียนรู้เทคนิคเพื่อนคู่คิด จ านวน 6 แผน กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่าง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ (สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง) ในสัปดาห์ที่ 2 ครูให้นักเรียน ทุกกลุ่มน าเสนอผลงาน และขณะที่นักเรียนน าเสนอครูด าเนินการ ประเมิน นักเรียนด้วยแบบประเมิน วิชาสังคมศึกษา 4 เป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ


20 3.6.4 เมื่อด าเนินการสอนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภูมิศาสตร์ ในสัปดาห์ที่ 2 เรียบร้อย จากนั้นครูให้นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน จ านวน 20 ข้อ โดยแบบทดสอบ หลังเรียนเป็นชุดเดียวกันกับ แบบทดสอบก่อนเรียน 3.6.5 เมื่อเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบทดสอบเรียบร้อย ผู้วิจัยได้น าข้อมูลไปวิเคราะห์ผลต่อไป ตารางที่ 2 แสดงเวลาในการจัดการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ห้อง ม.2/2 ครั้งที่/ วัน เดือน ปี เวลาเรียน/ จ านวนคาบ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครั้งที่ 1 12 และ 13 ธ.ค. 2565 9.45 – 10.45 น. (12 ธ.ค. 2565) 14.30 - 15.30 น. (13 ธ.ค. 2565) 2 คาบ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ลักษณะทาง กายภาพของทวีปยุโรป พร้อมทั้งแนะน าบทเรียนและ ประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียน (Pre-test) ครั้งที่ 2 15 และ 19 ธ.ค. 2565 13.30 – 14.30 น. (15 ธ.ค. 2565) 9.45 – 10.45 น. (19 ธ.ค. 2565) 2 คาบ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ลักษณะภูมิอากาศ และพืชพรรณธรรมชาติ ครั้งที่ 3 20 และ 22 ธ.ค. 2565 14.30 – 15.30 น. (20 ธ.ค. 2565) 13.30 – 14.30 น. (22 ธ.ค. 2565) 2 คาบ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ลักษณะ ทรัพยากรธรรมชาติ ครั้งที่ 4 26 และ 27 ธ.ค. 2565 9.45 – 10.45 น. (26 ธ.ค. 2565) 14.30 - 15.30 น. (27 ธ.ค. 2565) 2 คาบ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ลักษณะประชากร สังคมและวัฒนธรรมของทวีปยุโรป ครั้งที่ 5 29 ธ.ค. 2565 และ 3 ม.ค. 2566 13.30 – 14.30 น. (29 ธ.ค. 2565) 14.30 - 15.30 น. (3 ม.ค. 2566) 2 คาบ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ลักษณะเศรษฐกิจ ของทวีปยุโรป


21 ครั้งที่/ วัน เดือน ปี เวลาเรียน/ จ านวนคาบ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครั้งที่ 6 5 และ 9 ม.ค. 2566 13.30 – 14.30 น. (5 ม.ค. 2566) 9.45 – 10.45 น. (9 ม.ค. 2566) 2 คาบ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง ภัยพิบัติและแนว ทางการจัดการของทวีปยุโรป สรุปการเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป และประเมินผลการเรียนรู้หลังเรียน (Post-test) 3.7 การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยน าผลการทดสอบมาด าเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามล าดับต่อไปนี้ 1. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ ได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยการทดสอบค่าที 2. การหาค่าระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีชุดการเรียนรู้โดย การหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานแบบมาตราส่วนประมาณค่า วิธีการของ Likert ซึ่งมี 5 ระดับ คือ พึ่งพอใจมากที่สุด พึงพอใจมาก พึง พอใจปานกลาง พึงพอใจน้อย และพึงพอใจน้อยที่สุด 3.8 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.8.1 สถิติที่ใช้หาประสิทธิภาพของบทเรียน สถิติที่ใช้หาประสิทธิภาพของบทเรียน โดย การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคม ศึกษา 4 เรื่องทวีปยุโรป ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยการทดสอบค่าที การทดสอบนี้ใช้กับข้อมูลในมาตราอันตรภาคและมาตราอัตราส่วนโดยน าค่าเฉลี่ยที่ค านวณได้ จากกลุ่มตัวอย่าง 1 กลุ่ม ( ) ซึ่งสุ่มมาจากประชากรที่มีการแจกแจงเป็นปกติไป เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ย ของกลุ่มประชากร ( ) หรือเปรียบเทียบกับ “เกณฑ์” ซึ่งผู้วิจัยตั้งขึ้นแทน ค่าเฉลี่ยของกลุ่มประชากร สถิติที่ใช้ส าหรับการทดสอบนี้ได้แก่การทดสอบค่าซี (Z-test) และ การทดสอบค่าที (t-test) ถ้ากลุ่มตัวอย่างมีขนาดเล็ก (n < 100) ถือเป็นกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กในการวิจัยทาง สังคมศาสตร์หรือทางการศึกษา) ใช้t- test สูตร t = โดยมี df = n -1 เมื่อ แทนค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง แทนค่าเฉลี่ยของกลุ่มประชากร หรือ เกณฑ์ที่ตั้งขึ้น S แทนความเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มตัวอย่าง n แทนขนาดของกลุ่มตัวอย่าง df แทนชั้นแห่งความเป็นอิสระ (degree of freedom)


22 โดยมีข้อตกลงเบื้องต้นดังนี้ 1. กลุ่มตัวอย่างได้รับการสุ่มมาจากกลุ่มประชากรที่มีการแจกแจงเป็นปกติ 2. ค่าของตัวแปรตามแต่ละหน่วยเป็นอิสระต่อกัน 3. ไม่ทราบค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มประชากร 4. กลุ่มตัวอย่างมีขนาดน้อยกว่า 100 กลุ่มตัวอย่างได้รับการสุ่มมาจากกลุ่มประชากรที่มีการ แจกแจงเป็นปกติ 5. ค่าของตัวแปรตามแต่ละหน่วยเป็นอิสระต่อกัน 6. ไม่ทราบค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มประชากร 7. กลุ่มตัวอย่างมีขนาดน้อยกว่า 100 3.8.2 สถิติที่ใช้ในการหาค่าความพึงพอใจ ลิเคิร์ท นิยาม เจตคติตามนิยามของเทอร์สโตน (Thurstone) ที่ก าหนด เจคติให้มีเพียง องค์ประกอบด้วย คือ ความรู้สึกหรืออารมณ์หรือความคิดที่มีต่อสิ่งหนึ่ง ดังนั้น การสร้างเครื่องมือของลิ เคิร์ท จึงมุ่งถามตรง ๆ ลงไปที่ "ความรู้สึก" หรือ "ความคิด" ("ความเห็น") ซึ่งเป็นข้อค าตอบออกจากใจของ ผู้ถูกถาม โดยถามท านองว่า ท่านเห็นด้วยกับสิ่งที่ก าหนดในระดับใด ให้เลือกได้ 5 ระดับ หรือ 7 ระดับ (พัฒนาขึ้นภายหลัง) การหาค่าระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีชุดการเรียนรู้โดย การหาค่าเฉลี่ยและส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานแบบมาตราส่วนประมาณค่า วิธีการของ Likert ซึ่งมี 5 ระดับ คือ พึ่งพอใจมากที่สุด พึง พอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พึงพอใจน้อย และพึงพอใจน้อยที่สุด นอกจากนี้ เมื่อผู้ออกแบบสอบถามเก็บข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถาม และน าค่าที่ได้จาก Likert Scale มาหาค่าเฉลี่ย (หา ) จะสามารถแปลผลความพึงพอใจหรือความเห็นด้วยของผู้ตอบ แบบสอบถาม ตามแนวคิด Likert Rating Scales ได้ดังนี้ ค่าเฉลี่ย 4,50 ถึง 5.00 หมายความว่า มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด หรือ มีความเห็นด้วย ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 3.50 ถึง 4.49 หมายความว่า มีความพึงพอใจในระดับมาก หรือ มีความเห็นด้วยใน ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 2.50 ถึง 3.49 หมายความว่า มีความพึงพอใจในระดับปานกลาง หรือ มีความเห็น ด้วยในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.50 ถึง 2.49 หมายความว่า มีความพึงพอใจในระดับน้อย หรือ มีความเห็นด้วยใน ระดับน้อย ค่าเฉลี่ย 1.00 ถึง 1.49 หมายความว่า มีความพึงพอใจในระดับน้อยที่สุด หรือ มีความเห็นด้วย ในระดับน้อยที่สุด


23 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบทเรียนประกอบการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลแล้วน าเสนอในรูปแบบตารางประกอบค าบรรยาย โดยแบ่งเป็น 2 ตอน ดังต่อไปนี้ ตอนที่ 1 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุด การเรียนรู้ออนไลน์ ซึ่งมีผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังตารางที่ 3 ตารางที่ 3 แสดงการเปรียบเทียบคะแนนแบบทดสอบ เรื่อง ทวีปยุโรป ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้เทคนิคการสอนเพื่อนคู่คิด นักเรียน ก่อนเรียน (10 คะแนน) หลังเรียน (10 คะแนน) คนที่ 1 5 7 คนที่ 2 3 6 คนที่ 3 4 7 คนที่ 4 5 9 คนที่ 5 7 8 คนที่ 6 2 6 คนที่ 7 2 6 คนที่ 8 3 7 คนที่ 9 4 7 คนที่ 10 6 7 คนที่ 11 3 4 คนที่ 12 5 10 คนที่ 13 4 10 คนที่ 14 7 8 คนที่ 15 4 6 คนที่ 16 3 9 คะแนนเฉลี่ย 6.5 11.7 S.D. 1.56 1.62 จากตารางที่3 พบว่า นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่า ̅= 11.7 (S.D.=1.62) สูงกว่าคะแนนก่อนเรียนซึ่งมี ̅= 6.5 (S.D.= 1.56)


24 ตอนที่ 2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ออนไลน์ เรื่อง ทวีป ยุโรป ตารางที่ 4 แสดงระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ออนไลน์ สาระฯ ภูมิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 รายการ ̅ S.D. ระดับ ความพึงพอใจ 1. ความสอดคล้องกับจุดประสงค์ 4.88 0.33 มาก 2. ความสอดคล้องกับเนื้อหา 4.93 0.26 มาก 3. ความเหมาะสมกับระดับผู้เรียน 4.90 0.30 มาก 4. กิจกรรมเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ 4.78 0.57 มาก 5. การเลือกใช้สื่อการสอน 4.80 0.51 มาก 6. เหมาะสมกับเวลา 4.88 0.46 มาก 7. นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ 4.75 0.58 มาก 8. เรียงล าดับจากง่ายไปยาก 4.88 0.56 มาก 9. สามารถน าไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ 4.70 0.64 มาก 10. ความเหมาะสมของวิธีการวัดผลประเมินผล 4.68 0.65 มาก รวมเฉลี่ย 4.81 0.49 มาก จากตารางที่ 4 พบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 มีความพึงพอใจต่อชุดการเรียนรู้ออนไลน์โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (̅= 4.81, S.D = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ ที่ 2 ความสอดคล้องกับเนื้อหา (̅= 4.93, S.D = 0.26) รองลงมาคือ ข้อที่ 3 ความเหมาะสมกับระดับผู้เรียน (̅= 4.90, S.D = 0.30) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ าสุดคือ ข้อที่ 10 ความเหมาะสมของวิธีการวัดผลประเมินผล ̅ = 4.68, S.D = 0.65)


25 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน เรื่อง การพัฒนาการเรียนการสอน วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาลวัด ไทรใต้ โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากคะแนนที่ได้จากการท ากิจกรรมกระบวนการกลุ่ม ท าแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน โดยการเรียนการสอนจากสื่อการสอนและสื่อออนไลน์ เรื่อง การพัฒนาการ เรียนการสอน วิชา สังคมศึกษา 4 เรื่อง ทวีปยุโรป ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ.เมือง จ. นครสวรรค์ จ านวน 35 คน เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วย 1) บทเรียนเรื่องทวีปยุโรป จากสื่อการสอนและ สื่อออนไลน์ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา สังคมศึกษา 4 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งเป็นแบบทดสอบ ปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 20 ข้อ โดยใช้เป็นแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน สถิติที่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สรุปผลการวิจัย จากการวิจัยเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสังคมศึกษา 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนออนไลน์ เรื่อง ทวีปยุโรป สามารถสรุปผลการวิจัยได้ ดังนี้ 1. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป หลังจากที่ได้จัดการเรียนรู้โดยใช้ เทคนิคเพื่อนคู่คิดนักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่า ̅= 11.7 (S.D.=1.62) สูงกว่า คะแนนก่อนเรียนซึ่งมี ̅= 6.5 (S.D.= 1.56) 2. นักเรียนมีร้อยละของคะแนนแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 ทวีปยุโรป ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทุกคน 3. นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียน สาระฯ ภูมิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ทวีปยุโรป อยู่ใน ระดับดีมาก อภิปรายผล การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทวีปยุโรป ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทสบาลวัดไทรใต้ โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด ผู้วิจัยขออภิปรายผลตามวัตถุประสงค์การวิจัย ดังนี้ 1. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ออนไลน์ รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระฯ ภูมิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 ทวีปยุโรป นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่า ̅= 11.7 (S.D.=1.62) สูงกว่าคะแนนก่อนเรียนซึ่งมี ̅= 6.5 (S.D.= 1.56) จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน กล่าวได้ ว่าการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด สามารถท าให้นักเรียนเกิดองค์ความรู้ และมีผลสัมฤทธิ์ทางการ


26 เรียน เรื่อง ทวีปยุโรปสูงขึ้น ทั้งนี้ อาจเนื่องมาจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด สามารถกระตุ้นให้ นักเรียนได้ร่วมกันท างานกับเพื่อนสนิทของตนเอง และสามารถพูดคุยกับเพื่อน ใช้โทรศัพท์ในการร่วมกัน ค้นคว้า ใช้ไปในทางที่ถูกที่ควร และอยากท ากิจกรรมมากขึ้น ซึ่งจะท าให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการ หาค าตอบ ซึ่งการเรียนรู้แบบใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิดสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดอิสระทางความคิด มีอิสระในการ หาค าตอบและค้นคว้า และสามารถน าเสนอข้อมูลที่ศึกษาได้ ร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ รวมทั้งสามารถน า ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้ามาประยุกต์ใช้ในการต่อยอดความรู้อื่นต่อไป 2. นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนรู้ด้วยเทคนิคเพื่อนคู่คิดรายวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม สาระฯภูมิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 ทวีปยุโรป ทั้งในภาพรวมทุกด้าน ภาพรวมรายด้านและ รายข้อในระดับมาก (̅= 4.81, S.D = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อที่ 2 ความสอดคล้องกับเนื้อหา (̅= 4.93, S.D = 0.26) รองลงมาคือ ข้อที่ 3 ความเหมาะสมกับระดับผู้เรียน (̅ = 4.90, S.D = 0.30) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ าสุดคือ ข้อที่ 10 ความเหมาะสมของวิธีการวัดผลประเมินผล (̅= 4.68, S.D = 0.65) อาจเป็นเพราะแนวคิดพื้นฐานที่น าไปใช้ในการสร้างชุดการเรียนรู้เป็นแนวคิดตามหลัก จิตวิทยา เน้นนักเรียนเป็นส าคัญเน้นการใช้สื่อช่วยสอน และการมีปฏิสัมพันธ์ทางบวกระหว่างครู นักเรียน และ วัสดุสื่อต่าง ๆ ข้อเสนอแนะ จากการวิจัยพบว่า ชุดการเรียนรู้ออนไลน์รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระฯ ภูมิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 ทวีปยุโรป ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนได้ เป็นอย่างดี นักเรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ทั้งกับเพื่อนร่วมชั้นและครูผู้สอน และผู้เรียนมีความคิดเห็นทางบวก ต่อการเรียนรู้ ผู้วิจัยจึงมีข้อเสนอแนะดังนี้ ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัย 1. ครูควรจัดให้นักเรียนจับคู่เพื่อนสนิท หรือเพื่อนร่วมชั้นในการจัดกิจกรรม 2. ครูสามารถเปิดโอกาสให้อิสระทางความคิดแก่นักเรียน 3. ครูสามารถเปิดโอกาสให้นักเรียนใช้เครื่องมือสื่อสารในการร่วมกันค้นคว้าหาความรู้ได้ 4. ครูควรชี้แจงตอนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทราบอย่างชัดเจน เพื่อส่งเสริมโอกาสในการประสบ ความส าเร็จ ข้อเสนอแนะในการท าวิจัยครั้งต่อไป 1.ควรมีการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะในด้านอื่น ๆ เช่น การ พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคที่เน้นให้ผู้เรียนท างานได้ด้วยตนเองและร่วมกับเพื่อน 2. ควรหาวิธีจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนที่ไม่มีสื่อเทคโนโลยีในห้อง 3. ควรมีการศึกษาและพัฒนาเกี่ยวกับการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ในสาระการเรียนรู้อื่น ๆ หรือ หน่วยการเรียนรู้อื่น ๆ ต่อไป


27 บรรณานุกรม รายการอ้างอิงภาษาไทย หนังสือ ฐากร สิทธิโชค (2564). แนวทางจัดการเรียนรู้สังคมศึกษายุคใหม่. สงขลา: หลักสูตรสังคมศึกษา สาขาวิชา สังคมศาสตร์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ส านักงานเลขาธิการสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (2561). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค จ ากัด. ปริยทิพย์ บุญคง. (2546). การศึกษาปัจจัยบางประการที่สัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน วิชา คณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิต. พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2540). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : ส านักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร.. ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2538). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น. สมนึก ภัททิยธนี. (2546). การวัดผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์. _______. (2553). การวัดผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 6. กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์. บทความในวารสาร พรณภา พอกพูน, โยธารักษ์กองจันทร์, สราวุฒิศิริวรรณ, เพ็ญพรรษา อุ้ยปัดฌาวงศ. (2562). ผลการจัด กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาพระพุทธศาสนา โดยใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด. วารสารครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ สกลนคร (Online), บทคัดย่อ. https://edu.snru.ac.th/wp-content/uploads/2020/01/4-E-Proceeding-EDU-1.pdf รายงานการประชุมเชิงวิชาการ นายการุณ สกุลประดิษฐ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). (น. 2). ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ. http://www.opes.go.th/sites/default/files/users/user1/pdf_49. เว็บไซต์ ซูไฮณี สาเล๊ะ. (2563). เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เศรษฐศาสตร์กับชีวิต ด้วยเทคนิคการสอนแบบคู่คิด (Think Pair Share) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่4 โรงเรียนบ้านชะเอาะ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 http://www.pattani1.go.th/data_ptn1/newsfile/20/1640142370.pdf นฤมล ถนอมพงษ์. (2562). การศึกษาความรับผิดชอบทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (เทคนิคคู่คิด)


28 https://web.schoolmaster.in.th/super/modules/adviser/file_upload/23010002/126/12 6_1261602553325.pdf บุญจวง ธนะไชย. (2555). สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ https://sites.google.com/site/krusungkomnarak/home มนตรี เฉกเพลงพิน. (2562). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระเศรษฐศาสตร์และความสามารถใน การคิดอย่างมีเหตุผลของนักเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคนิคการสอน Think-Pair-Share https://so03.tci-thaijo.org โครงการการสอนออนไลน์ส าหรับประเทศไทย. (2566). THINK-PAIR-SHARE https://active-learning.thailandpod.org/learning-activities/think-pair-share โรงเรียนสุเหร่าคลองจั่น. (2553). หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม https://sites.google.com/site/skcschoolweb/article/hlaksutrklumsarakarreiynrusangkh msuksasasnalaeawathnthrrm อดิศักดิ์ จ าปาทอง. (2564, 6 สิงหาคม). Active Learning การเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ http://blog.nation.ac.th/?p=8774 รายการอ้างอิงภาษาอังกฤษ หนังสือ Anastasi, A. (1976). Psychological Testing (4Th ed.). New York: Macillan. Eysenck, H.J. , W. Arnold and R. Meili. (1972). Encyclopedia of psychology. London: Search Press Limited. เว็บไซต์ Siti Fadjarajani. (2018). Application of Cooperative Learning Learning Model Type Think Pair Share in Geographic Learning. https://www.researchgate.net/publication/334053945_Application_of_Cooperative_ Learning_Learning_Model_Type_Think_Pair_Share_in_Geographic_Learning


29 ภาคผนวก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียน – หลังเรียน แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 ทวีปยุโรป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 วิชา สังคมศึกษา 4 รหัสวิชา ส 22102 โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ เทศบาลนครนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ค าชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียวและท าเครื่องหมาย X ในกระดาษค าตอบ (20 คะแนน) 1. ทวีปยุโรปมีดินแดนติดกับทวีปใด และเรียกว่า (ส 5.1 ม.2/1) ก. ทวีปเอเชีย เรียกว่า ยูเรเชีย ข. ทวีปแอฟริกา เรียกว่า ยูเรกา ค. ทวีปอเมริกาเหนือ เรียกว่า ยูเรมิกา ง. ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย เรียกว่า ยูเรเนีย 2. ทวีปยุโรปใหญ่เป็นอันดับที่เท่าไรของโลก (ส 5.1 ม. 2/1) ก. อันดับที่ 3 ข. อันดับที่ 4 ค. อันดับที่ 5 ง. อันดับที่ 6 3. ผลจากการเคลื่อนตัวของธารน้ าแข็ง ท าให้อ่าวเล็ก แคบละยาวเว้าลึกไปในแผ่นดินอยู่ระหว่างที่สูง มี ลักษณะเป็นหุบเขารูปตัวยู เรียกว่า (ส 5.1 ม.2/1) ก. ฟยอร์ด ข. ฟอสซิล ค. ฟอสฟอรัส ง. ฟอร์ดเรนเจอร์ 4. ทะเลสาบในสแกนดิเนเวีย เป็นพื้นที่ที่มีสภาพอากาศ อย่างไร (ส 5.1 ม.2/1) ก. อากาศอบอุ่น มีแสงแดดและลมเย็น ข. อากาศร้อนชื้น มีแสงแดดและฝนตกชุก ค. อากาศหนาวเย็น แต่ไม่มีหิมะตก ง. อากาศหนาวเย็น และมีหิมะปกคลุม 5. แม่น้ าใด ไม่ใช่ แม่น้ าสายส าคัญในทวีปยุโรป (ส 5.1 ม.2/1) ก. แม่น้ าไรน์ ข. แม่น้ าไนล์ ค. แม่น้ าดานูบ ง. แม่น้ าวอลกา 6. เทือกเขาใด ไม่ใช่ เทือกเขาทีส าคัญในทวีปยุโรป (ส 5.1 ม.2/1) ก. เทือกเขาแอลป ข. เทือกเขาพิเรนีส ค. เทือกเขาหิมาลัย ง. เทือกเขาแอเพนไนน์ 7. ประชากรส่วนใหญ่ในทวีปยุโรป จัดอยู่ในกลุ่มชาติ พันธุ์แบบใด (ส 5.2 ม.2/1) ก. นิกรอยด์ ข. มองโกลอยด์ ค. คอเคซอยด์ ง. ทุกกลุ่มชาติพันธุ์ 8. ภาษาใดในทวีปยุโรปส าคัญต่อการติดต่อสื่อสารทั่ว โลก (ส 5.2 ม.2/1) ก. ภาษาอังกฤษ ข. ภาษาเยอรมัน ค. ภาษาฝรั่งเศส ง. ภาษาสเปน 9. ปัจจุบัน ประเทศใดเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก และเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระ สันตะปาปาฟรานซิส (ส 5.2 ม.2/1) ก. เดนมาร์ก ข. ฮังการี ค. เนเธอร์แลนด์ ง. นครรัฐวาติกัน 10. ข้อใด ไม่ใช่ สาเหตุของการเกิดไฟป่าในทวีปยุโรป (ส 5.2 ม.2/3) ก. อุณหภูมิที่สูงขึ้น ข. กิ่งไม้เสียดสีจนเป็นเปลวไฟ ค. ฟ้าผ่าตรงหญ้าแห้งจนเกิดไฟลุกลาม ง. ฝนตกชุกอย่างหนักเป็นเวลานาน


30 แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชื่อวิชา สังคมศึกษา 4 รหัสวิชา ส 22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ที่12 ชื่อหน่วย ทวีปยุโรป เรื่อง ลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรป เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวพิมพ์ชนก ภาระอุปมาเจริญ โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ (ท.1) วันที่สอน..................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน ใช้แผนที่และ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิ สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ม.2/1 วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา โดยใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ สืบค้นข้อมูล สาระส าคัญ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์สามารถน าไปใช้ในการสืบค้นข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ลักษณะภูมิประเทศของทวีป ยุโรป จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์ลักษณะทั่วไปของทวีปยุโรปได้ (K) 2. ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของทวีปยุโรปได้ (P) 3. เห็นคุณค่าของการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของทวีปยุโรปเพิ่มมากขึ้น (A) สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน สาระการเรียนรู้ 1. ที่ตั้ง ขนาด และอาณาเขตของทวีปยุโรป 2. การใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เช่น แผนที่ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียมในการสืบค้น ลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรป


31 กิจกรรมการเรียนรู้เทคนิคคู่คิด ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นน า 1. ครูให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 12 เรื่อง ทวีปยุโรป 2. ครูใช้ PPT กระตุ้นความสนใจของนักเรียนในการเรียนรู้เกี่ยวกับทวีปยุโรป เพื่อให้นักเรียนได้เห็นถึง ภาพรวมและความน่าสนใจของทวีปยุโรป 3. ครูให้นักเรียนดูภาพหน้าหน่วยเกี่ยวกับทวีปยุโรป และตอบค าถามกระตุ้นความคิด จากหนังสือเรียน สังคมศึกษาฯ ม.2 แล้วร่วมกันอภิปรายเพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 4. นักเรียนดูแผนที่โลก แล้วให้อาสาสมัคร 4-5 คน ออกมาชี้ต าแหน่งที่ตั้งของทวีปต่าง ๆ บนแผนที่ 5. ครูน าแผนที่ทวีปยุโรปมาให้นักเรียนดู แล้วให้อาสาสมัครออกมาชี้ท าเลที่ตั้งและอาณาเขตของทวีป ยุโรป 6. นักเรียนทุกคนช่วยกันบอก หรือเล่าความรู้เดิมเกี่ยวกับทวีปยุโรป แล้วให้เขียนข้อมูลของตนเองบน กระดาน เช่น ท าเลที่ตั้ง อาณาเขต แหล่งท่องเที่ยว สิ่งที่เป็นที่สุดในโลก ชื่อประเทศทรัพยากรธรรมชาติ 7. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจับฉลากเพื่อแบ่งคู่กันภายในกลุ่ม จากนั้นให้แต่ละ คู่ร่วมกัน ศึกษาเรื่อง ลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรป จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 หรือจากแหล่ง การเรียนรู้อื่น ๆ เช่น เว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยครูแนะน าเพิ่มเติม 8. ครูสุ่มนักเรียนให้ออกมาอภิปรายเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรป ประกอบการแสดง ความคิดเห็นจากเพื่อนในชั้นเรียน 9. ครูถามค าถามนักเรียนเพิ่มเติม เช่น 1) ปัจจัยส าคัญด้านใดที่ท าให้ทวีปยุโรปมีความเหมาะสมในการตั้งถิ่นฐานมากที่สุด (แนวตอบ ต ำแหน่งที่ตั้ง เนื่องจำกเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อสภำพภูมิอำกำศ ควำมอุดม สมบูรณ์ของพื้นที่และทรัพยำกรธรรมชำติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ท ำให้ทวีปยุโรปมีควำมเหมำะสมต่อกำรตั้งถิ่นฐำน เป็นอย่ำงมำก กล่ำวคือ ทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในซีกโลกเหนือ มีทะเลล้อมเกือบรอบ จึงท ำให้ ได้รับอิทธิพลของควำมชื้นจำกทะเลเป็นอย่ำงมำก ซึ่งส่งผลให้สภำพภูมิอำกำศ มีควำมเหมำะสม ทรัพยำกร และพืชพรรณธรรมชำติมีควำมอุดมสมบูรณ์) 2) นักเรียนคิดว่า ปัจจัยทางด้านใดบ้างที่ท าให้ทวีปยุโรปมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและมี ความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(แนวตอบ เช่น ท ำเลที่ตั้ง อำณำเขต สภำพภูมิอำกำศ ควำมอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ทรัพยำกรธรรมชำติ คุณภำพของประชำกร ฯลฯ) 10. ให้นักเรียนช่วยกันตั้งประเด็นค าถามทางภูมิศาสตร์เกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของทวีปยุโรป เพื่อ ค้นหาค าตอบ เช่น 1) ท าเลที่ตั้งของทวีปยุโรปมีความเหมาะสมอย่างไร เพราะเหตุใด 2) ลักษณะภูมิประเทศของทวีปยุโรปมีลักษณะอย่างไร 3) ลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกันของทวีปยุโรปส่งผลต่อสิ่งใดบ้าง 4) ปัจจัยใดที่ท าให้ลักษณะทั่วไปของทวีปยุโรปแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน


32 5) ทวีปยุโรปมีลักษณะภูมิประเทศที่โดดเด่นแตกต่างจากทวีปอื่นอย่างไร ชั่วโมงที่ 2 11. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มน าข้อมูลที่ตนได้จากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน 12.จากนั้นสมาชิกในกลุ่มช่วยกันคัดเลือกข้อมูลที่น าเสนอเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง 13. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มน าข้อมูลที่รวบรวมมาได้ท าการวิเคราะห์ร่วมกันเพื่ออธิบายค าตอบ 14. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล 15. ครูให้นักเรียนดูแผนที่แสดงลักษณะภูมิประเทศของทวีปยุโรป จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 หรือใช้ PPT ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับกับลักษณะภูมิประเทศของทวีปยุโรปเพื่อประกอบการวิเคราะห์ข้อมูล 16. ตัวแทนกลุ่มน าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน สมาชิกกลุ่มอื่นผลัดกันให้ข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะ 17. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และแปลผลข้อมูลเกี่ยวกับท าเลที่ตั้ง อาณาเขต และลักษณะภูมิ ประเทศของทวีปยุโรปโดยการใช้ค าถามเพิ่มเติม เช่น 1) เขตเทือกเขาหินเก่าทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีลักษณะและความส าคัญอย่างไร (แนวตอบ เขต เทือกเขำหินเก่ำทำงตะวันตกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยเทือกเขำสูงในคำบสมุทร สแกนดิเนเวีย เป็นเขตที่มีอำยุ เก่ำแก่ที่สุดในทวีปยุโรป คือ มีอำยุมำกกว่ำ 400 ล้ำนปีขึ้นไป และมีควำมส ำคัญ คือ เป็นบริเวณที่อุดมไปด้วย แร่ธำตุที่มีคุณภำพดี เช่น แร่เหล็ก ประชำกรมัก ประกอบอำชีพกำรท ำเหมืองแร่ กำรท ำประมง กำรท ำป่ำไม้ กำรท ำฟำร์มโคนม ฯลฯ) 2) ภูมิประเทศแบบฟีออร์ด หรือฟยอร์ด มีความส าคัญอย่างไร (แนวตอบ เป็นภูมิประเทศที่มี ควำมสวยงำมแปลกตำ ดังนั้น จึงเหมำะที่จะเป็นสถำนที่ท่องเที่ยวทำงธรรมชำติ ยกตัวอย่ำงเช่น ฟีออร์ดที่ ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งมีขนำดใหญ่และมีควำมสวยงำมแปลกตำมำกที่สุด จนได้รับขนำนนำมว่ำ “รำชินีแห่งฟี ออร์ด” นอกจำกนี้ ยังมีกำรใช้ประโยชน์จำกฟีออร์ด โดยใช้เป็นอ่ำวจอดเรืออีกด้วย) 3) เพราะเหตุใดเขตที่ราบใหญ่ตอนกลางของทวีปยุโรปจึงมีความส าคัญทางด้านเศรษฐกิจ (แนว ตอบ เพรำะเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่ส ำคัญของทวีป เนื่องจำกมีควำมอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่มำกที่สุด มีสภำพ อำกำศเหมำะสม มีแม่น้ ำหลำยสำยไหลผ่ำนเมืองส ำคัญ ๆ หลำยเมือง เช่น แม่น้ ำไรน์ แม่น้ ำแซน) 4) หากนักเรียนต้องการอยู่อาศัยบริเวณที่ราบใหญ่ตอนกลางของทวีปยุโรป นักเรียนจะเลือก ประกอบอาชีพอะไร เพราะเหตุใด (แนวตอบ เช่น ประกอบอำชีพเกษตรกรรม เพรำะมีสภำพอำกำศเหมำะสม มีดินอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ ำไหลผ่ำนหลำยสำย มีเมืองส ำคัญอยู่หลำยเมือง ฯลฯ) 5) เพราะเหตุใดเขตที่ราบสูงตอนกลางจึงมีเทือกเขาที่มีความสูงไม่มากกระจายอยู่ทั่วไป (แนวตอบ เนื่องจำกเป็นเขตหินเก่ำที่มีอำยุประมำณ 200 ล้ำนปี ผ่ำนกำรสึกกร่อนมำนำนจำกปัจจัยทำงธรรมชำติ เช่น กำรกัดเซำะของน้ ำหรือลม จึงท ำให้พื้นที่มีลักษณะเป็นที่รำบสูง และมีเทือกเขำที่มีควำมสูงไม่มำกกระจำยอยู่ ทั่วไป) ขั้นที่3 ขั้นสรุป 18. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของทวีปยุโรป ตลอดจนความส าคัญที่มี อิทธิพลต่อการด าเนินชีวิตของประชากร สื่อการเรียนรู้ หนังสือรายวิชาสังคมศึกษา ม.2 แหล่งการเรียนรู้ ห้องสมุดโรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้


33 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน - สังเกตพฤติกรรมนักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. .............................................................................................................................................................................. ……………………………………………………. (นางสาวฐิติรัตน์ สนิทผล) ครูพี่เลี้ยง


34 แผนการจัดการเรียนรู้ที่2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชื่อวิชา สังคมศึกษา 4 รหัสวิชา ส 22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ที่12 ชื่อหน่วย ทวีปยุโรป เรื่อง ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติ เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวพิมพ์ชนก ภาระอุปมาเจริญ โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ (ท.1) วันที่สอน..................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน ใช้แผนที่และ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิ สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ม.2/1 วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา โดยใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ สืบค้นข้อมูล สาระส าคัญ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์สามารถน าไปใช้ในการสืบค้นข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ลักษณะภูมิอากาศ และพืช พรรณธรรมชาติของทวีปยุโรป จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์และจ าแนกลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรปได้ (K) 2. ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์สืบค้นเกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรปได้ (P) 3. เห็นคุณค่าของการศึกษาลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรปเพิ่มมากขึ้น (A) สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน สาระการเรียนรู้ ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรป กิจกรรมการเรียนรู้เทคนิคคู่คิด ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นน า


35 1. ครูถามค าถามเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น 1) นอกจากต าแหน่งที่ตั้งตามละติจูดแล้ว ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลให้ลักษณะภูมิอากาศของทวีปยุโรป มี ความแตกต่างกัน (แนวตอบ เช่น ควำมสูงของพื้นที่ ควำมใกล้ไกลจำกทะเล ทิศทำงของลม กำรวำงตัวของทิว เขำ กระแสน้ ำในมหำสมุทร พำยุต่ำง ๆ) 2) พืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรปมีความแตกต่างกันไปตามเขตภูมิอากาศ และปัจจัยควบคุมอื่น ๆ นักเรียนคิดว่า ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลให้พืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรปมีความแตกต่างกัน (แนวตอบ เช่น อุณหภูมิ ควำมชื้น ควำมสูงต่ ำของพื้นที่ กำรรับแสงอำทิตย์) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 2. ครูน าภาพต่าง ๆ ต่อไปนี้มาให้นักเรียนพิจารณา เช่น - ภาพภูมิอากาศแบบทุนดรา - ภาพภูมิอากาศแบบกึ่งอาร์กติก - ภาพภูมิอากาศแบบชื้นภาคพื้นทวีป 3. นักเรียนดูแผนที่แสดงลักษณะภูมิอากาศของทวีปยุโรป จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 และ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นตามประเด็น เช่น - ในการศึกษาลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรป สามารถใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ใดได้บ้าง (แนวตอบ เนื่องจำกข้อมูลทำงภูมิศำสตร์มีหลำกหลำยมิติ จึงต้องใช้เครื่องมือทำงภูมิศำสตร์ที่มี ลักษณะตรงตำมประเภทของข้อมูล โดยเฉพำะกำรศึกษำลักษณะภูมิอำกำศและพืชพรรณธรรมชำติ ควรใช้ แผนที่ภำพถ่ำยดำวเทียม หรือภำพถ่ำยทำงอำกำศ เนื่องจำกสำมำรถท ำให้ทรำบข้อมูลลักษณะของภูมิอำกำศ ได้อย่ำงชัดเจน) 4. ครูให้นักเรียนช่วยกันตั้งประเด็นค าถามทางภูมิศาสตร์เกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณ ธรรมชาติของทวีปยุโรป เพื่อค้นหาค าตอบ เช่น 1) ปัจจัยส าคัญที่ก่อให้เกิดลักษณะภูมิอากาศที่หลากหลายของทวีปยุโรปคือสิ่งใด 2) ลักษณะภูมิอากาศของทวีปยุโรปมีความเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร 3) พืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรปมีความเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร และด้วยเหตุปัจจัยใด 4) เขตภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติรูปแบบใดที่มีพื้นที่มากที่สุดในยุโรป และมีสาเหตุมาจาก ปัจจัยใด 5) ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรปส่งผลต่อการด ารงชีวิตของคนในทวีป อย่างไร ชั่วโมงที่ 2 5. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจับฉลากเพื่อแบ่งคู่กันภายในกลุ่ม จากนั้นให้แต่ละ คู่ร่วมกัน ศึกษาเรื่อง ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติ จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 หรือจาก แหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เช่น เว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยครูแนะน าเพิ่มเติม 6. ตัวแทนกลุ่มน าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน สมาชิกกลุ่มอื่นผลัดกันให้ข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะ เพิ่มเติม 7. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และแปลผลข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณ ธรรมชาติของทวีปยุโรปโดยการใช้ค าถามเพิ่มเติม เช่น


36 1) เพราะเหตุใดลักษณะพืชพรรณธรรมชาติของเขตภูมิอากาศแบบภาคพื้นสมุทรจึงมีป่าไม้ขึ้นอยู่ อย่างอุดมสมบูรณ์ (แนวตอบ เนื่องจำกเป็นเขตที่มีลักษณะอำกำศอบอุ่นชุ่มชื้นตลอดปี จึงท ำให้มีป่ำไม้ขึ้นอยู่อย่ำง อุดมสมบูรณ์ เพรำะได้รับปริมำณน้ ำฝนมำก) 2) เพราะเหตุใดเขตภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนจึงมีฝนตกในฤดูหนาว (แนวตอบ เนื่องจำกเขตภูมิอำกำศแบบเมดิเตอร์เรเนียนมีภูมิอำกำศอบอุ่น มีอุณหภูมิปำนกลำง และ มีลมตะวันตกจำกมหำสมุทรแอตแลนติกพัดเข้ำสู่ชำยฝั่งตะวันตก ซึ่งท ำให้มีฝนตกในช่วงฤดูหนำว เป็นประจ ำ) ขั้นที่3 ขั้นสรุป 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีป ยุโรป ตลอดจนความส าคัญของภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีปยุโรปที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินชีวิต ของประชากร สื่อการเรียนรู้ หนังสือรายวิชาสังคมศึกษา ม.2 แหล่งการเรียนรู้ ห้องสมุดโรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมนักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. .............................................................................................................................................................................. ……………………………………………………. (นางสาวฐิติรัตน์ สนิทผล) ครูพี่เลี้ยง


37 แผนการจัดการเรียนรู้ที่3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชื่อวิชา สังคมศึกษา 4 รหัสวิชา ส 22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ที่12 ชื่อหน่วย ทวีปยุโรป เรื่อง ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติ เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวพิมพ์ชนก ภาระอุปมาเจริญ โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ (ท.1) วันที่สอน..................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน ใช้แผนที่และ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิ สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ม.2/1 วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา โดยใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ สืบค้นข้อมูล สาระส าคัญ เครื่องมือทางภูมิศาสตร์สามารถน าไปใช้ในการสืบค้นข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติ ของทวีปยุโรป จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์และจ าแนกลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรปได้ (K) 2. ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์สืบค้นเกี่ยวกับลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรปได้ (P) 3. เห็นคุณค่าของการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรปเพิ่มมากขึ้น (A) สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน สาระการเรียนรู้ ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรป • ดิน • แหล่งน้ า • แร่และแร่พลังงาน • ป่าไม้และสัตว์ป่า


38 กิจกรรมการเรียนรู้เทคนิคคู่คิด ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นน า 1. ครูน าภาพ หรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับลักษณะทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างกันของทวีปยุโรปให้ นักเรียนดู 2. ครูให้นักเรียนดูแผนที่แสดงแหล่งน้ าของทวีปยุโรป จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 หรือดู PPT ที่ แสดงลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรป เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน และเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหา ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรป โดยอาจถามค าถามหรือให้นักเรียนได้แสดงควา ม คิดเห็นร่วมกัน ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 3. ครูให้นักเรียนช่วยกันตั้งประเด็นค าถามทางภูมิศาสตร์เกี่ยวกับลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีป ยุโรป เพื่อค้นหาค าตอบ เช่น 1) ทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรปมีลักษณะอย่างไร 2) ทรัพยากรธรรมชาติประเภทใดของทวีปยุโรปที่ส่งผลต่อการด ารงชีวิตของประชากรในทวีป มากที่สุด 3) รายได้หลักของทวีปยุโรปมีความเกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติชนิดใด 4) ทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรปมีความสัมพันธ์กับลักษณะทางกายภาพหรือไม่ เพราะเหตุใด 5) หากในอนาคตทวีปยุโรปเกิดภาวะการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ จะส่งผลกระทบต่อสิ่งใดบ้าง อย่างไร ชั่วโมงที่ 2 4. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจับฉลากเพื่อแบ่งคู่กันภายในกลุ่ม จากนั้นให้แต่ละ คู่ร่วมกัน ศึกษาเรื่อง ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติ จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 หรือจากแหล่งการเรียนรู้ อื่น ๆ เช่น เว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยครูแนะน าเพิ่มเติม 5. ตัวแทนกลุ่มน าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน สมาชิกกลุ่มอื่นผลัดกันให้ข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะ เพิ่มเติม 6. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และแปลผลข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของ ทวีปยุโรปโดยการใช้ค าถามเพิ่มเติม เช่น 1) แหล่งน้ ามันปิโตรเลียมที่ส าคัญของทวีปยุโรป สามารถพบได้ที่บริเวณใด (แนวตอบ บริเวณทะเลเหนือของเขตสหรำชอำณำจักร เดนมำร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส ฮังกำรี และโรมำเนีย) 2) แหล่งแร่เหล็กที่ส าคัญของทวีปยุโรปสามารถพบได้ที่บริเวณใด (แนวตอบ บริเวณทำงตะวันออกเฉียงเหนือและตอนกลำงของอังกฤษ เมืองลอร์เรนของฝรั่งเศส รวมถึงทำงตอนเหนือและตอนกลำงของสวีเดน) 7.นักเรียนในชั้นเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ และเครื่องมือด้านเทคโนโลยี ในการสืบค้นและศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรป


39 ขั้นที่3 ขั้นสรุป 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับลักษณะทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรป ตลอดจน ความส าคัญของทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยุโรปที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินชีวิตของประชากร หรืออาจใช้ PPT สรุปสาระส าคัญของเนื้อหา สื่อการเรียนรู้ หนังสือรายวิชาสังคมศึกษา ม.2 แหล่งการเรียนรู้ ห้องสมุดโรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมนักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. .............................................................................................................................................................................. ……………………………………………………. (นางสาวฐิติรัตน์ สนิทผล) ครูพี่เลี้ยง


40 แผนการจัดการเรียนรู้ที่4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชื่อวิชา สังคมศึกษา 4 รหัสวิชา ส 22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ที่12 ชื่อหน่วย ทวีปยุโรป เรื่อง ลักษณะประชากร สังคมและวัฒนธรรม เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวพิมพ์ชนก ภาระอุปมาเจริญ โรงเรียนเทศบาลวัดไทรใต้ (ท.1) วันที่สอน..................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วิถีการ ด าเนินชีวิต มีจิตส านึกและมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ม.2/2 วิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อท าเลที่ตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และสังคมในทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา สาระส าคัญ ปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสังคมมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางประชากร สังคมและวัฒนธรรมใน ทวีปยุโรป จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการตั้งถิ่นฐาน การกระจายและการเปลี่ยนแปลงประชากรในทวีปยุโรปได้ (K) 2. อธิบายลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมของประชากรในทวีปยุโรปได้ (K) 3. วิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากร สังคมและวัฒนธรรมในทวีปยุโรปได้(K) 4. ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์สืบค้นเกี่ยวกับลักษณะประชากร สังคมและวัฒนธรรมของทวีปยุโรปได้ (P) 5. เห็นคุณค่าของการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะประชากร สังคมและวัฒนธรรมของทวีปยุโรปเพิ่มมากขึ้น (A) สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน สาระการเรียนรู้ 1. ลักษณะประชากร • การตั้งถิ่นฐานและการกระจายของประชากร • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากร


41 2. ลักษณะสังคมและวัฒนธรรม • ลักษณะทั่วไปทางสังคม • และวัฒนธรรม กิจกรรมการเรียนรู้เทคนิคคู่คิด ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นน า 1. ครูน าภาพ หรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับประชากรชนชาติต่าง ๆ ที่แตกต่างกันของทวีปยุโรปให้ นักเรียนดู 2. ครูให้นักเรียนดู PPT ที่แสดงลักษณะประชากร สังคมและวัฒนธรรมของทวีปยุโรป รวมถึงศึกษาแผน ที่แสดงการกระจายของประชากรในทวีปยุโรป จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 เพื่อกระตุ้นความสนใจของ นักเรียน และเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับลักษณะประชากร สังคมและวัฒนธรรมของทวีปยุโรป โดย อาจถามค าถามนักเรียนเพิ่มเติม เช่น 1) จ านวนประชากรในภูมิภาคต่าง ๆ ของทวีปยุโรป มีความแตกต่างกันอย่างไร (แนวตอบ ภูมิภำคยุโรปตะวันออกมีจ ำนวนประชำกรมำกที่สุดของทวีป เนื่องจำกมีสภำพพื้นที่เหมำะสม ต่อกำรตั้งถิ่นฐำน โดยมีที่รำบขนำดใหญ่ และมีแม่น้ ำสำยส ำคัญ ๆ ไหลผ่ำน ส่วนภูมิภำคยุโรปเหนือมี จ ำนวนประชำกรน้อยที่สุดของทวีป เนื่องจำกเป็นบริเวณที่มีอำกำศหนำวเย็นเกือบตลอดปี ไม่สำมำรถ ท ำกำรเกษตรได้ ดังนั้น ประชำชนจึงไม่นิยมตั้งถิ่นฐำนในบริเวณนี้ ซึ่งส่งผลให้เป็นเขตที่มีประชำกร เบำบำงที่สุดในทวีป) 2) บริเวณใดของทวีปยุโรปที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น (แนวตอบ บริเวณที่ประชำกรอำศัยอยู่หนำแน่นที่สุด ได้แก่ ทำงตอนใต้บริเวณคำบสมุทรอิตำลีและ บริเวณชำยฝั่งทำงตอนใต้ของประเทศสเปน) 3) บริเวณใดของทวีปยุโรปที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง (แนวตอบ บริเวณที่ประชำกรอำศัยอยู่เบำบำง ได้แก่ บริเวณคำบสมุทรสแกนดิเนเวีย ตอนเหนือของ ทวีปเขตไซบีเรีย เพรำะมีอำกำศหนำวเย็นมำกเกือบตลอดทั้งปี) ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 3. ครูให้นักเรียนดูการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรจากพีระมิดประชากรยุโรป ในหนังสือเรียน สังคมศึกษาฯ ม.2 แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวตามประเด็น เช่น 1) การที่ทวีปยุโรปมีอัตราการเพิ่มของประชากรต่ า ส่งผลต่อทวีปยุโรปอย่างไร (แนวตอบ ท ำให้ทวีปยุโรปขำดแคลนแรงงำนในบำงสำขำอำชีพ จึงมีชำวแอฟริกัน ชำวเอเชีย ชำว อเมริกำใต้เข้ำไปเป็นแรงงำน โดยเฉพำะงำนทำงด้ำนอุตสำหกรรม กำรบริกำร และภำคกำรเกษตร) 2) เพราะเหตุใดประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรปจึงมีอัตราการเพิ่มของประชากรต่ า (แนวตอบ เนื่องจำกภำครัฐของประเทศต่ำง ๆ ในทวีปยุโรปมีนโยบำยกำรวำงแผนครอบครัว นอกจำกนี้ ประชำกรภำยในทวีปยังมีทัศนคติที่ไม่นิยมมีบุตรจ ำนวนมำกอีกด้วย ดังนั้น จึงส่งผลให้ ประเทศต่ำง ๆ ในทวีปยุโรปมีอัตรำกำรเพิ่มของประชำกรต่ ำ) 4. ครูให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ตารางแสดงจ านวนประชากร อัตราเกิด และอัตราตายของประชากร ในทวีปยุโรป จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับจ านวน ประชากรในทวีปยุโรป


42 5. ครูให้นักเรียนช่วยกันตั้งประเด็นค าถามทางภูมิศาสตร์เกี่ยวกับลักษณะประชากร สังคมและ วัฒนธรรมเพื่อค้นหาค าตอบ เช่น 1) ประชากรของทวีปยุโรปมีลักษณะอย่างไร 2) เพราะเหตุใดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของทวีปยุโรปจึงมีการเปลี่ยนแปลงจ านวน ประชากรค่อนข้างน้อย 3) ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมของทวีปยุโรป ประกอบด้วยอะไรบ้าง และมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไร 4) ปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสังคมส่งผลต่อท าเลที่ตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมใน ทวีปยุโรปอย่างไร 5) หากในอนาคตทวีปยุโรปเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จะส่งผลกระทบต่อสิ่งใดบ้าง อย่างไร 6. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และแปลผลข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะประชากร สังคมและ วัฒนธรรมของทวีปยุโรป โดยการใช้ค าถามเพิ่มเติม เช่น 1) ประชากรกลุ่มเมดิเตอร์เรเนียนในทวีปยุโรปมีลักษณะเด่นอย่างไร (แนวตอบ รูปร่ำงสันทัด ผิวคล้ ำ ผมสีด ำหรือสีน้ ำตำล นัยน์ตำสีฟ้ำหรือสีน้ ำตำล กะโหลกศีรษะยำว อำศัยอยู่บริเวณภำคใต้ของทวีปยุโรป) 2) ประชากรกลุ่มเมดิเตอร์เรเนียนและกลุ่มแอลไพน์ มีลักษณะเด่นเหมือนกันอย่างไร (แนวตอบ เนื่องจำกประชำกรกลุ่มเมดิเตอร์เรเนียนมีผมสีน้ ำตำล และมีนัยน์ตำสีฟ้ำหรือสีน้ ำตำล ซึ่ง มีลักษณะที่เหมือนกับประชำกรในกลุ่มแอลไพน์ที่มีผมสีน้ ำตำล และมีนัยน์ตำสีฟ้ำหรือสีน้ ำตำล เช่นเดียวกัน) 3) กลุ่มเชื้อชาติใดที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มเชื้อชาติใหม่ในทวีปยุโรป (แนวตอบ กลุ่มชำติพันธุ์นิกรอยด์ที่อพยพจำกทวีปแอฟริกำ และมองโกลอยด์ที่อพยพจำกทวีปเอเชีย เข้ำสู่ทวีปยุโรป คิดเป็นร้อยละ 4 ของจ ำนวนประชำกรทวีปยุโรปทั้งหมด หรือประมำณ 30 ล้ำนคน) 4) หากนักเรียนมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังยุโรปตะวันออก นักเรียนจะได้ยินหรือสัมผัสกับ กลุ่มภาษาใดบ้าง (แนวตอบ กลุ่มภำษำโรแมนซ์ เช่น ภำษำอิตำเลียน โปรตุเกส ฝรั่งเศส สเปน และกลุ่มภำษำสลำฟ เช่น ภำษำสลำฟ เช็ก โปลิช) 5) หากนักเรียนมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังอิตาลี นักเรียนจะพบกับคริสต์ศาสนิกชนที่นับถือ ในนิกายใด (แนวตอบ นิกำยโรมันคำทอลิก ซึ่งมีศูนย์กลำงอยู่ที่นครรัฐวำติกัน ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตำลี โดยมีประเทศที่มีประชำกรส่วนใหญ่นับถือ เช่น อิตำลี ฝรั่งเศส โปรตุเกส สเปน 7. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มศึกษาค้นคว้าข้อมูล จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.2 เรื่อง ลักษณะ ประชากร สังคมและวัฒนธรรมของทวีปยุโรป หรือจากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เช่น หนังสือในห้องสมุด เว็บไซต์ ในอินเทอร์เน็ต ประกอบการใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เพื่อน ามาอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน 8. ครูแนะน าแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่น่าเชื่อถือให้กับนักเรียนเพิ่มเติม ชั่วโมงที่ 2 9. ครูตั้งประเด็นค าถามให้นักเรียนร่วมกันตอบ เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น - การเปลี่ยนแปลงทางสังคมของทวีปยุโรปมีลักษณะอย่างไร


Click to View FlipBook Version