The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนจัดประสบการณ์ รายวิชาเพิ่มเติม ปฐมวัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Talanueaschool, 2022-06-01 23:09:09

แผนจัดประสบการณ์ รายวิชาเพิ่มเติม ปฐมวัย

แผนจัดประสบการณ์ รายวิชาเพิ่มเติม ปฐมวัย

เกณฑก์ ารประเมิน
บอกความส�ำ คญั ของการแต่งกายดว้ ยตนเองได้
ระดับ ๓ : บอกความส�ำ คัญของการแต่งกายด้วยตนเองได้ด้วยตนเอง
ระดบั ๒ : บอกความส�ำ คญั ของการแตง่ กายด้วยตนเองไดโ้ ดยมีผ้ชู ้ีแนะ
ระดบั ๑ : ไม่สามารถบอกความส�ำ คญั ของการแตง่ กายด้วยตนเองได้
สามารถคิดแยกแยะผลดีของการแต่งกายดว้ ยตนเองทสี่ ง่ ผลตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื ได้
ระดบั ๓ : สามารถคิดแยกแยะผลดีของการแต่งกายด้วยตนเองที่ส่งผลต่อตนเองและผู้อื่นได้
ด้วยตนเอง
ระดบั ๒ : สามารถคิดแยกแยะผลดีของการแต่งกายด้วยตนเองที่ส่งผลต่อตนเองและผู้อื่นได้
โดยมีผชู้ แี้ นะ
ระดับ ๑ : ไมส่ ามารถคิดแยกแยะผลดีของการแตง่ กายด้วยตนเองท่ีสง่ ผลตอ่ ตนเองและผู้อน่ื ได้
สามารถคิดแยกแยะผลเสียของการแต่งกายด้วยตนเองไม่ได้ทส่ี ง่ ผลตอ่ ตนเองและผู้อนื่
ระดับ ๓ : สามารถคิดแยกแยะผลเสียของการแต่งกายด้วยตนเองไม่ได้ที่ส่งผลต่อตนเอง
และผู้อืน่ ไดด้ ้วยตนเอง
ระดบั ๒ : สามารถคิดแยกแยะผลเสียของการแต่งกายด้วยตนเองไม่ได้ท่ีส่งผลต่อตนเอง
และผ้อู ่ืนไดโ้ ดยมีผูช้ ีแ้ นะ
ระดับ ๑ : ไม่สามารถคิดแยกแยะผลเสียของการแต่งกายด้วยตนเองไม่ได้ท่ีส่งผลต่อตนเอง
และผอู้ ่นื

44 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพ่มิ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

แผนการจดั ประสบการณ์
หน่วยท่ี ๑ ชอ่ื หนว่ ย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
ชน้ั ปฐมวัย
แผนการจัดประสบการณท์ ่ี ๑๐ เร่ือง การปฏิบัติตนในการใช้ของใช้สว่ นตน เวลา ๑ ช่วั โมง
และของใช้สว่ นรวม (การแปรงฟนั และการใช้น�้ำอย่างถูกวิธี)

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์
สว่ นรวม
๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมได้
๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ เดก็ สามารถบอกวิธกี ารประหยัดนำ�้ ระหวา่ งแปรงฟนั ได้
๒.๒ เดก็ สามารถบอกผลดขี องการประหยดั นำ้� ระหวา่ งแปรงฟนั ทส่ี ง่ ผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมได้
๒.๓ เด็กสามารถบอกผลเสียของการไม่ประหยัดน้�ำระหว่างแปรงฟันที่ส่งผลต่อตนเองและ
ส่วนรวมได้
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
ในขณะที่เราแปรงฟัน เราต้องปดิ กอ๊ กนำ้� แลว้ หาแกว้ มารองนำ�้ ไวส้ �ำหรับใชใ้ นการแปรงฟนั
เพอ่ื เปน็ การประหยดั น้ำ�
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะที่เกิด)
๑) มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และอยู่ร่วมกับ
ผ้อู ่ืนได้อย่างมคี วามสขุ
๒) มีทกั ษะการคดิ การใช้ภาษาสือ่ สาร
๓.๓ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์/ค่านยิ ม
อยู่อยา่ งพอเพียง
๔. การจดั ประสบการณ์
๔.๑ ขน้ั ตอนการจดั ประสบการณ์
๑) ใหเ้ ดก็ ดวู ดี โี อ ภาพการรอ้ งเพลง “กจิ วตั รประจ�ำ วนั ” และรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั เนอ้ื หา
ในเพลง โดยครูใชค้ �ำ ถาม ดังน้ี
• เน้อื หาในเพลง เปน็ เรอ่ื งเกย่ี วกับอะไร (กจิ วัตรประจ�ำ วนั )
• กิจวัตรประจ�ำวันของเรามีอะไรบ้าง (อาบน้�ำ ล้างหน้า แปรงฟัน แต่งตัว ขับถ่าย
รบั ประทานอาหาร ฯลฯ)

ระดับปฐมวัย 45

๒) ให้เด็กดูวีดีโอ เร่ือง “เทคนิคประหยัดน�้ำระหว่างแปรงฟัน ประหยัดเงินในกระเป๋า”
แล้วสนทนาซักถาม โดยครใู ช้ค�ำถาม ดงั น้ี
• การกระท�ำของน้องนิชาถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ถูกต้อง เพราะน้องนิชา
เปดิ น�ำ้ ทิง้ ไว้ในขณะแปรงฟนั ท�ำให้สนิ้ เปลอื ง)
• การท่ีน้องนิชาแปรงฟันแล้วเปิดน้�ำท้ิงไว้ในขณะแปรงฟันจะส่งผลกับใครบ้าง และ
ส่งผลอย่างไร (๑. ส่งผลกับตัวน้องนิชาเอง เพราะจะต้องเสียเงินจ่ายค่าน้�ำประปาเพิ่มมากข้ึน
๒. สง่ ผลตอ่ สว่ นรวม เชน่ ถา้ นอ้ งนชิ าไปแปรงฟนั ทโ่ี รงเรยี นแลว้ เปดิ นำ้� ทง้ิ ไว้ กจ็ ะท�ำใหโ้ รงเรยี นมคี า่ ใชจ้ า่ ย
เพม่ิ มากขึ้น นอกจากนี้ท�ำใหป้ ระเทศชาติสูญเสียทรัพยากรน้�ำทเ่ี สียไปโดยไม่มปี ระโยชน์)
• ถ้านอ้ งนชิ าเปลยี่ นพฤตกิ รรมในการแปรงฟัน ไม่เปิดนำ้� ท้ิงไวใ้ นขณะแปรงฟนั จะเกดิ
ผลดกี บั ใครบา้ ง อย่างไร (๑. เกิดผลดกี ับตัวน้องนิชาเอง เพราะไมต่ อ้ งเสียเงนิ จา่ ยคา่ นำ้� ประปาเพิ่มข้นึ
๒. สง่ ผลดตี อ่ สว่ นรวม คอื โรงเรยี นกไ็ มต่ อ้ งเสยี เงนิ จา่ ยคา่ นำ้� ประปาเพมิ่ ขน้ึ นอกจากนท้ี �ำใหป้ ระเทศชาติ
ไมต่ ้องสูญเสียทรัพยากรน้�ำทเ่ี สียไปโดยไมม่ ีประโยชน์)
๓) เด็กและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกับการแปรงฟันอย่างประหยัด ซึ่งจะส่งผลดีต่อตนเอง
และสว่ นรวม
๔.๒ สื่อการเรียนรู้/แหลง่ การเรียนรู้
๑) เพลง “กิจวัตรประจำ�วัน”
๒) วดี ีโอ เร่ือง “เทคนคิ ประหยดั น�้ำระหว่างแปรงฟนั ประหยดั เงินในกระเปา๋ ”
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมิน
สังเกตการตอบคำ�ถามของเด็ก
๕.๒ เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ในการประเมนิ
แบบสังเกตการตอบคำ�ถามของเด็ก
๕.๓ เกณฑก์ ารประเมนิ
เดก็ ผา่ นการประเมิน ระดับ ๒ ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น
๖. บันทึกหลงั การจัดประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ................................................ ครผู สู้ อน
(...............................................)
46 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพ่ิมเตมิ การป้องกนั การทจุ รติ ”

๗. ภาคผนวก เพลงกจิ วัตรประจำ�วัน

https://www.youtube.com/watch?v=d๑QVCtrf๘eE

เทคนิคประหยัดนำ้� ระหวา่ งแปรงฟัน ประหยัดเงินในกระเป๋า

http://youtube.com/watch?v=VZNbUlu๖OVY&t=๑๖s
ระดับปฐมวัย 47

แบบสงั เกตการตอบคำ�ถามของเดก็

หน่วยท่ี ๑ ชือ่ หน่วย การคดิ แยกแยะผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
แผนการจดั ประสบการณท์ ่ี ๑๐ เรอื่ ง การปฏิบัติตนในการใชข้ องใชส้ ว่ นตนและของใช้สว่ นรวม

(การแปรงฟนั และการใช้นำ�้ อยา่ งถกู วิธ)ี
วันท่.ี ............เดือน.............................พ.ศ............................
ค�ำ ชีแ้ จง : ให้ผูป้ ระเมนิ ท�ำ เครือ่ งหมาย  ในช่องระดบั คณุ ภาพของเด็กในแต่ละประเดน็ ท่ีประเมิน

บอกผลดีของ บอกผลเสียของ
การประหยัดน�ำ้ การไมป่ ระหยดั นำ้�
ท่ี ช่อื -สกุล บอกวธิ กี ารประหยดั นำ้� ระหวา่ งแปรงฟัน ระหวา่ งแปรงฟนั
ระหวา่ งแปรงฟนั ได้ ท่สี ่งผลต่อตนเอง ทสี่ ่งผลตอ่ ตนเอง

และสว่ นรวมได้ และสว่ นรวมได้

๓๒๑๓๒๑๓๒๑

รวม ลงชอื่ ................................................ ผปู้ ระเมนิ
เฉลี่ย (...............................................)




48 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การปอ้ งกันการทจุ ริต”

เกณฑก์ ารประเมนิ
บอกวธิ กี ารประหยัดนำ�้ ระหวา่ งแปรงฟนั ได้
ระดบั ๓ : บอกวธิ กี ารประหยัดน้ำ� ระหว่างแปรงฟนั ไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : บอกวธิ ีการประหยัดน�้ำระหว่างแปรงฟนั ไดโ้ ดยมผี ู้ชี้แนะ
ระดบั ๑ : ไมส่ ามารถบอกวิธกี ารประหยัดน�้ำระหว่างแปรงฟันได้
บอกผลดีของการประหยดั น�้ำระหว่างแปรงฟนั ท่สี ่งผลตอ่ ตนเองและส่วนรวมได้
ระดับ ๓ : บอกผลดขี องการประหยดั นำ้� ระหวา่ งแปรงฟนั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : บอกผลดขี องการประหยดั นำ�้ ระหวา่ งแปรงฟนั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมไดโ้ ดยมผี ชู้ แี้ นะ
ระดับ ๑ : ไมส่ ามารถบอกผลดขี องการประหยดั นำ�้ ระหวา่ งแปรงฟนั ทส่ี ง่ ผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมได้
บอกผลเสยี ของการไมป่ ระหยดั นำ้� ระหว่างแปรงฟนั ท่สี ่งผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมได้
ระดับ ๓ : บอกผลเสียของการไม่ประหยัดน�้ำระหว่างแปรงฟันที่ส่งผลต่อตนเองและส่วนรวมได้
ดว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : บอกผลเสียของการไม่ประหยัดน�้ำระหว่างแปรงฟันที่ส่งผลต่อตนเองและส่วนรวมได้
โดยมีผชู้ ี้แนะ
ระดบั ๑ : ไม่สามารถบอกผลเสียของการไม่ประหยัดน้�ำระหว่างแปรงฟันท่ีส่งผลต่อตนเอง
และสว่ นรวมได้

ระดับปฐมวัย 49

แผนการจดั ประสบการณ์
หนว่ ยที่ ๑ ชอ่ื หนว่ ย การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
ชนั้ ปฐมวยั
แผนการจดั ประสบการณ์ท่ี ๑๑ เร่อื ง การปฏบิ ัตติ นในการใชข้ องใชส้ ว่ นตน เวลา ๑ ชวั่ โมง
และของใช้ส่วนรวม (การใช้หอ้ งน้ำ� อย่างถูกวธิ )ี

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์
ส่วนรวม
๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ เด็กสามารถบอกวธิ กี ารใชห้ อ้ งนำ้� อย่างถูกวธิ ีได้
๒.๒ เด็กสามารถบอกผลดีของการใชห้ ้องน�ำ้ อย่างถูกวธิ ที ีส่ ่งผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมได้
๒.๓ เด็กสามารถบอกผลเสยี ของการใชห้ อ้ งนำ้� ท่ไี ม่ถกู วธิ ีที่ส่งผลตอ่ ตนเองและส่วนรวมได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
การใชห้ อ้ งนำ�้ หอ้ งสว้ ม หลงั เลกิ ใชแ้ ลว้ ตอ้ งราดนำ�้ หรอื กดชกั โครกทกุ ครง้ั เพอ่ื สขุ อนามยั ทดี่ ี
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กดิ )
๑) มที ักษะชวี ิต และอยูร่ ่วมกบั ผู้อื่นไดอ้ ย่างมคี วามสุข
๒) มีทักษะการคดิ การใชภ้ าษาส่อื สาร และการแสวงหาความร้ไู ด้เหมาะสมกับวยั
๓.๓ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์/ค่านิยม
มวี นิ ยั
๔. การจัดประสบการณ์
๔.๑ ขั้นตอนการจดั ประสบการณ์
๑) ใหเ้ ด็กดูภาพหอ้ งน�้ำทส่ี กปรก จากน้นั เดก็ และครรู ่วมกนั สนทนา โดยครใู ช้ค�ำถาม ดังนี้
• ภาพที่ครูน�ำมาใหด้ เู ป็นภาพอะไร (ภาพห้องน้ำ� สกปรก)
• ท�ำไมห้องน�้ำถงึ สกปรก (คนใช้แลว้ ไมท่ �ำความสะอาด)
๒) ให้เด็กดูคลิปวีดีโอ เร่ือง “มารยาทในการใช้ห้องน�้ำ ฉบับแว้นฟ้อหล่อเฟี้ยว” จากน้ัน
ร่วมกันสนทนา โดยครใู ชค้ �ำถาม ดงั นี้
• การใชห้ อ้ งนำ้� ทถี่ กู วธิ นี น้ั ตอ้ งท�ำอยา่ งไร (ใชแ้ ลว้ ตอ้ งราดนำ�้ ใหส้ ะอาด, ตอ้ งไมข่ น้ึ ไปเหยยี บ
บนชกั โครก, เข้าแถวเรียงล�ำดบั ในการใช,้ ตอ้ งชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาด)

50 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เติม การป้องกันการทุจริต”

• จะเกดิ อะไรขึ้น ถ้าเราใช้หอ้ งนำ�้ แล้ว ไมช่ ว่ ยกันท�ำความสะอาด และผลที่เกิดขน้ึ นนั้
สง่ ผลกบั ใครบา้ ง และสง่ ผลอยา่ งไร (จะท�ำใหห้ อ้ งนำ้� สกปรก จะสง่ ผลตอ่ ตวั เอง คอื เรากจ็ ะตอ้ งใชห้ อ้ งนำ้�
ที่สกปรก ส่งผลต่อส่วนรวม คือ ท�ำให้เพื่อน ๆ และคนอ่ืน ๆ ก็ต้องใช้ห้องน�้ำท่ีสกปรกด้วย โดยท่ีเขา
ไมไ่ ด้เปน็ คนท�ำใหห้ ้องน�้ำสกปรก)
• จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราใช้ห้องน้�ำแล้ว ช่วยกันท�ำความสะอาด และผลท่ีเกิดข้ึนน้ัน
สง่ ผลกบั ใครบา้ ง และส่งผลอยา่ งไร (จะท�ำให้หอ้ งนำ�้ สะอาด จะสง่ ผลตอ่ ตวั เอง คอื เราก็จะไดใ้ ช้หอ้ งนำ้�
ที่สะอาด และสง่ ผลตอ่ สว่ นรวม คอื ท�ำใหเ้ พื่อน ๆ และคนอื่น ๆ ก็ไดใ้ ช้หอ้ งน้ำ� ท่สี ะอาด ท�ำใหท้ ุกคน
มสี ุขสภาวะท่ีดี มีสุขภาพจิตทดี่ ีด้วย)
๓) เดก็ และครรู ่วมกนั สรปุ ถงึ วธิ ีการใชห้ ้องน�้ำทีถ่ ูกวิธี
๔.๒ ส่ือการเรยี นรู/้ แหล่งการเรยี นรู้
๑) ภาพหอ้ งน้�ำทสี่ กปรก
๒) คลิปวดี ีโอ เรอ่ื ง “มารยาทในการใช้หอ้ งน�ำ้ ฉบับแวน้ ฟอ้ หล่อเฟ้ียว”
๕. การประเมินผลการเรยี นรู้
๕.๑ วิธีการประเมิน
สงั เกตการตอบค�ำถามของเด็ก
๕.๒ เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการประเมนิ
แบบสังเกตการตอบค�ำถามของเดก็
๕.๓ เกณฑ์การประเมิน
เดก็ ผ่านการประเมนิ ระดับ ๒ ขนึ้ ไปถอื ว่าผ่าน
๖. บันทึกหลังการจดั ประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ................................................ ครูผสู้ อน
(...............................................)

ระดับปฐมวัย 51

๗. ภาคผนวก

ภาพห้องน�้ำทีส่ กปรก

มารยาทการใช้ห้องน�้ำ ฉบบั แว้นฟอ้ หล่อเฟี้ยว

http://youtube.com/watch?v=OfbE๖Mqa๕L๐

52 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพิ่มเตมิ การปอ้ งกันการทจุ รติ ”

แบบสังเกตการตอบค�ำ ถามของเดก็

หนว่ ยท่ี ๑ ชอื่ หน่วย การคิดแยกแยะผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
แผนการจดั ประสบการณ์ท่ี ๑๑ เรอื่ ง การปฏบิ ัตติ นในการใช้ของใช้ส่วนตนและของใช้สว่ นรวม

(การใชห้ อ้ งนำ�้ อย่างถูกวิธ)ี
วนั ที่.............เดือน.............................พ.ศ............................
คำ�ชีแ้ จง : ใหผ้ ู้ประเมินทำ�เครอื่ งหมาย  ในช่องระดับคุณภาพของเดก็ ในแต่ละประเดน็ ทป่ี ระเมนิ

บอกผลดีของ บอกผลเสยี ของ
บอกวธิ กี ารใช้หอ้ งน�ำ้ การใชห้ อ้ งนำ�้ อยา่ งถกู วธิ ี การใชห้ ้องนำ�้ ไม่ถกู วธิ ี
อยา่ งถูกวธิ ไี ด้ ที่ส่งผลตอ่ ตนเอง ทีส่ ง่ ผลตอ่ ตนเอง
ท่ี ชอ่ื -สกุล และส่วนรวมได้ และสว่ นรวมได้

๓๒๑๓๒๑๓๒๑

รวม ลงชอื่ ................................................ ผปู้ ระเมนิ
เฉลยี่ (...............................................)




ระดบั ปฐมวยั 53

เกณฑก์ ารประเมิน
บอกวธิ ีการใชห้ ้องน้ำ� อย่างถกู วธิ ไี ด้
ระดบั ๓ : บอกวธิ ีการใช้หอ้ งน�้ำอย่างถูกวิธีไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : บอกวิธีการใช้หอ้ งน้�ำอย่างถกู วิธีได้โดยมผี ู้ชี้แนะ
ระดับ ๑ : ไม่สามารถบอกวิธีการใชห้ ้องนำ้� อย่างถูกวิธีได้
บอกผลดขี องการใช้ห้องน้�ำอย่างถกู วิธที ีส่ ่งผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมได้
ระดบั ๓ : บอกผลดขี องการใช้หอ้ งน�้ำอยา่ งถกู วธิ ที ีส่ ง่ ผลตอ่ ตนเองและส่วนรวมไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : บอกผลดขี องการใช้หอ้ งน้�ำอย่างถกู วธิ ที ี่ส่งผลต่อตนเองและสว่ นรวมได้โดยมผี ู้ช้ีแนะ
ระดบั ๑ : ไม่สามารถบอกผลดขี องการใช้ห้องน้ำ� อยา่ งถูกวิธี ท่สี ง่ ผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมได้
บอกผลเสียของการใช้ห้องน้ำ� ไมถ่ กู วธิ ที ่สี ง่ ผลต่อตนเองและส่วนรวมได้
ระดับ ๓ : บอกผลเสียของการใช้ห้องนำ�้ ไมถ่ ูกวธิ ที ี่สง่ ผลตอ่ ตนเองและส่วนรวมได้ด้วยตนเอง
ระดับ ๒ : บอกผลเสยี ของการใช้หอ้ งน�ำ้ ไมถ่ กู วธิ ที ส่ี ง่ ผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวมได้โดยมีผู้ชแ้ี นะ
ระดับ ๑ : ไม่สามารถบอกผลเสียของการใชห้ อ้ งน�้ำไมถ่ ูกวิธีท่สี ง่ ผลตอ่ ตนเองและส่วนรวมได้

54 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิ่มเตมิ การป้องกันการทจุ ริต”

แผนการจดั ประสบการณ์

หนว่ ยที่ ๑ ชอ่ื หนว่ ย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
ชัน้ ปฐมวัย
แผนการจัดประสบการณ์ท่ี ๑๒ เรื่อง ระบบคดิ ฐาน ๒ และระบบคิดฐาน ๑๐ เวลา ๓ ชั่วโมง
๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์
สว่ นรวม
๑.๒ สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้
๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๒.๑ เด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ระบบคิดฐาน ๒ และระบบคดิ ฐาน ๑๐
๒.๒ เด็กสามารถแยกแยะระหว่างระบบคดิ ฐาน ๒ และระบบคิดฐาน ๑๐ ได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
๑) ระบบคิดฐาน ๒ หมายถึง ระบบการคดิ วเิ คราะห์ขอ้ มลู ทสี่ ามารถเลือกได้เพียง ๒ ทาง
เท่าน้ัน คือ ๐ กับ ๑ และอาจหมายถึงโอกาสทเ่ี ลือกไดเ้ พียง ๒ ทาง เชน่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ประโยชน์สว่ นตน
และประโยชน์ส่วนรวม เป็นต้น จึงเหมาะกับการนำ�มาเปรียบเทียบกับการทำ�งานของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ
ที่ต้องสามารถแยกเรอื่ งต�ำ แหน่งหน้าทีก่ บั เรอ่ื งส่วนตวั ออกจากกนั ไดอ้ ย่างเด็ดขาด
๒) ระบบคดิ ฐาน ๑๐ หมายถงึ ระบบการคดิ วเิ คราะหท์ ่ีมตี วั เลขหลายตัวและอาจหมายถงึ
โอกาสทเ่ี ลอื กไดห้ ลายทาง เกดิ ความคดิ ทหี่ ลากหลายซบั ซอ้ น หากน�ำ มาเปรยี บเทยี บกบั การปฏบิ ตั งิ านของ
เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั จะท�ำ ใหเ้ จา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ตอ้ งคดิ เยอะ อาจแยกประโยชนส์ ว่ นตนและประโยชนส์ ว่ นรวม
ออกจากกนั ไมไ่ ด้
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กดิ )
มที ักษะการคดิ การใชภ้ าษาส่อื สาร
๓.๓ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค/์ คา่ นิยม
ใฝ่เรยี นรู้
๔. การจัดประสบการณ์
๔.๑ ข้นั ตอนการจัดประสบการณ์
๑) ครูน�ำแผ่นภาพข้อความ ๒ ข้อความ มาอ่านให้เด็กฟัง (การใช้น�้ำประปาของโรงเรียน
มาล้างรถส่วนตัว, การใช้รถยนต์ของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัว) จากน้ันเด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับ
ข้อความทีค่ รอู า่ นใหฟ้ ัง
• ขอ้ ความท้ัง ๒ ขอ้ ความ เป็นเรอ่ื งเก่ยี วกับอะไร (เปน็ เรอื่ งเกี่ยวกบั คนเอาของหลวง
หรอื ทรพั ย์สนิ ของทางราชการไปใชส้ ว่ นตน)

ระดบั ปฐมวัย 55

• พฤตกิ รรมทง้ั ๒ แบบท่ีครอู ่านให้ฟงั นนั้ เป็นการกระท�ำ ที่ถกู ต้องหรือไม่ เพราะเหตใุ ด
(ไมถ่ กู ตอ้ ง เพราะการน�ำ ทรพั ยส์ นิ ของหลวง หรอื ราชการมาใชส้ ว่ นตวั นนั้ เปน็ สง่ิ ทไี่ มถ่ กู ตอ้ ง เราจะน�ำ เอา
ของหลวงมาใชเ้ ป็นของตนเองไม่ได้)
๒) ครูนำ�แผ่นภาพข้อความอีก ๒ ข้อความ มาอ่านให้เด็กฟัง (การไม่ใช้โทรศัพท์โรงเรียน
คุยธุระส่วนตัว, การไม่นำ�ของใช้ของโรงเรียน เช่น พัดลม หรือคอมพิวเตอร์ ไปใช้ที่บ้าน) จากน้ันเด็ก
และครูรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั ขอ้ ความท่ีครอู ่านใหฟ้ งั
• ข้อความทั้ง ๒ ข้อความ เป็นเรอื่ งเก่ยี วกับอะไร (เป็นเรื่องเกย่ี วกบั คนไม่เอาของหลวง
หรอื ทรพั ยส์ ินของทางราชการไปใชส้ ่วนตัว)
• พฤตกิ รรมท้งั ๒ แบบทคี่ รูอ่านให้ฟงั นน้ั เปน็ การกระทำ�ท่ถี กู ต้องหรือไม่ เพราะเหตใุ ด
(ถูกต้อง เพราะเราจะนำ�เอาของหลวงมาใชเ้ ป็นของตนเองไมไ่ ด)้
๓) เด็กและครรู ว่ มกันสนทนาเก่ียวกบั เรอื่ งระบบคิดฐาน ๒ และระบบคดิ ฐาน ๑๐
๔) ให้เด็กเลน่ เกมระบบคิดฐาน ๒ และระบบคิดฐาน ๑๐ โดยใหเ้ ดก็ แบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม
จากนนั้ ครชู แ้ี จงวธิ กี ารเลน่ เกมวา่ ครจู ะอา่ นขอ้ ความใหเ้ ดก็ ฟงั ทลี ะขอ้ ความ จากนน้ั ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั
ตอบวา่ ขอ้ ความทคี่ รูอา่ นใหฟ้ ังเป็นระบบคิดฐาน ๒ หรือ ระบบคิดฐาน ๑๐
 ลูกสอบไม่ติดโรงเรียนช่ือดงั ท�ำ ไงดี
• ไมเ่ ปน็ ไรเรียนทีอ่ ่ืนกไ็ ด้
• ยดั เงินสิ ย่ิงเยอะยิง่ ติดง่าย
 ต�ำ รวจจบั ทำ�ไงดี
• เสียค่าปรับตามกฎหมาย
• ยดั เงินจะได้ไม่ต้องเสยี เวลาไปโรงพกั
 กระดาษ A๔ ของลกู หมด
• ไปซ้ือใหม่
• ไปเอาของส�ำ นักงานมาใหล้ กู ใช้
 กำ�ลงั รีบแตค่ นต่อแถวยาวมาก
• ตอ่ คิวใหเ้ ปน็ ระเบียบเพือ่ ความรวดเร็ว
• แซงคิวสิ ก็รบี นน่ี า
 รถสกปรกจงั ทำ�ไงดี
• น�ำ ไปลา้ งทบ่ี ้าน
• ล้างที่ทำ�งาน
 โทรศพั ทแ์ บตหมดท�ำ ไงดี
• น�ำ กลบั ไปชาร์จทีบ่ ้าน
• ชาร์จทีส่ �ำ นกั งาน ประหยัดไฟบ้านด้วย
๕) เดก็ และครูรว่ มกนั สรปุ ถงึ การคดิ ฐาน ๒ และ การคดิ ฐาน ๑๐
56 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพมิ่ เติม การปอ้ งกนั การทุจริต”

๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้
แผน่ ภาพขอ้ ความ
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ ีการประเมิน
สงั เกตการตอบคำ�ถามของเดก็
๕.๒ เครอ่ื งมอื ท่ใี ช้ในการประเมนิ
แบบสังเกตการตอบค�ำ ถามของเด็ก
๕.๓ เกณฑ์การประเมนิ
เด็กผา่ นการประเมิน ระดับ ๒ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน
๖. บนั ทึกหลังการจัดประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงช่ือ ................................................ ครูผสู้ อน
(...............................................)

ระดบั ปฐมวยั 57

๗. ภาคผนวก แผ่นภาพข้อความ

58 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิ่มเตมิ การป้องกันการทุจรติ ”

แบบสงั เกตการตอบคำ�ถามของเดก็

หนว่ ยที่ ๑ ชื่อหนว่ ย การคิดแยกแยะผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม
แผนการจดั ประสบการณท์ ่ี ๑๒ เรือ่ ง ระบบคิดฐาน ๒ และระบบคดิ ฐาน ๑๐
วนั ที.่ ............เดอื น.............................พ.ศ............................

คำ�ชีแ้ จง : ใหผ้ ูป้ ระเมินท�ำ เครื่องหมาย  ในช่องระดบั คณุ ภาพของเด็กในแต่ละประเดน็ ทป่ี ระเมิน

ที่ ช่ือ-สกลุ บอกความหมาย คดิ แยกแยะพฤตกิ รรม
ของการคดิ ฐาน ๒ ระหว่างการคิดฐาน ๒
และการคดิ ฐาน ๑๐ ได้ และการคิดฐาน ๑๐ ได้
๓๒๑ ๓๒๑

รวม
เฉลี่ย

ลงชอื่ ................................................ ผปู้ ระเมนิ
(...............................................)
เกณฑก์ ารประเมิน
บอกความหมายของการคดิ ฐาน ๒ และการคิดฐาน ๑๐
ระดบั ๓ : บอกความหมายของการคิดฐาน ๒ และการคิดฐาน ๑๐ ไดด้ ้วยตนเอง
ระดบั ๒ : บอกความหมายของการคดิ ฐาน ๒ และการคดิ ฐาน ๑๐ ไดโ้ ดยมีผู้ชแี้ นะ
ระดับ ๑ : ไมส่ ามารถบอกความหมายของการคดิ ฐาน ๒ และการคดิ ฐาน ๑๐ ได้
การคิดแยกแยะพฤติกรรมระหว่างการคดิ ฐาน ๒ และการคดิ ฐาน ๑๐
ระดบั ๓ : สามารถคดิ แยกแยะพฤตกิ รรมระหวา่ งการคดิ ฐาน ๒ และการคดิ ฐาน ๑๐ ไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : สามารถคดิ แยกแยะพฤตกิ รรมระหวา่ งการคดิ ฐาน ๒ และการคดิ ฐาน ๑๐ ไดโ้ ดยมผี ชู้ แ้ี นะ
ระดบั ๑ : ไม่สามารถคิดแยกแยะพฤติกรรมระหวา่ งการคิดฐาน ๒ และการคิดฐาน ๑๐ ได้

ระดับปฐมวยั 59

หนว่ ยท่ี ๒

ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต

แผนการจดั ประสบการณ์
หนว่ ยที่ ๒ ชือ่ หน่วย ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต
ชั้นปฐมวัย
แผนการจัดประสบการณ์ท่ี ๑ เรอ่ื ง ความหมายของความละอาย เวลา ๑ ชั่วโมง
และความไม่ทนต่อการทจุ ริต

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต
๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนเป็นผูท้ ม่ี คี วามละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทกุ รูปแบบ
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๒.๑ สามารถบอกความหมายของความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ ได้
๒.๒ สามารถบอกวธิ ีการปฏิบัตติ นในการเลน่ ของเลน่ ได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
• ความละอาย เป็นความรู้สึก เกรงกลัวต่อส่ิงที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม เพราะ
เห็นถึงโทษ หรือผลกระทบท่ีจะได้รับจากการกระทำ�นั้น จึงไม่กล้าท่ีจะกระทำ� ทำ�ให้ตนเองไม่หลงทำ�
ในส่ิงทผี่ ิด
• ไม่ทน หมายถงึ ไม่อดกลัน้ ไม่อดทน ไมย่ อม
• ของเลน่ คอื สง่ิ ของใด ๆ ทสี่ ามารถน�ำ มาใชเ้ ลน่ ได้ ของเลน่ ท�ำ จากวสั ดชุ นดิ ทแี่ ตกตา่ งกนั
เพ่ือให้เหมาะกบั อายุของผ้เู ล่น
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ )
มีทักษะชีวิต และอยู่รว่ มกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ย่างมีความสขุ มีทักษะการคดิ การใช้ภาษาสื่อสาร
๓.๓ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค/์ ค่านยิ ม
มวี นิ ัย
๔. การจัดประสบการณ์
๔.๑ ขัน้ ตอนการจัดประสบการณ์
๑) ครูให้เด็กดูภาพของเล่น และรว่ มสนทนากบั เด็กโดยใช้ค�ำ ถาม ดังนี้
• ภาพทค่ี รนู �ำ มาใหด้ เู ปน็ ภาพอะไร (ของเลน่ )

60 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การป้องกันการทจุ รติ ”

๒) ครูใหเ้ ด็กดูภาพเด็กแยง่ ของเล่นกนั และรว่ มสนทนากบั เด็กโดยใชค้ ำ�ถาม ดงั นี้
• ภาพทค่ี รูนำ�มาให้ดเู ป็นภาพอะไร (ภาพเดก็ แย่งของเล่นกนั )
• ถา้ เราพบเหน็ นอ้ งทกี่ �ำ ลงั แยง่ ของเลน่ เพอ่ื น เราจะท�ำ อยา่ งไร (จะเขา้ ไปตกั เตอื นนอ้ ง วา่
การแยง่ ของของผูอ้ น่ื น้นั มันเปน็ พฤติกรรมทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง)
• ถ้าในห้องเรียนมีของเล่นเพียงช้ินเดียว เพื่อน ๆ กำ�ลังเล่นอยู่ แต่เราก็อยากเล่น
ของเลน่ นน้ั ดว้ ย เราจะท�ำ อยา่ งไร เพราะเหตใุ ดจงึ ท�ำ เชน่ นนั้ (จะรอใหเ้ พอื่ นเลน่ ใหเ้ สรจ็ กอ่ นแลว้ คอ่ ยเลน่
เพราะการไปแยง่ ของของผ้อู นื่ น้ันเปน็ ส่ิงท่ไี มถ่ กู ต้อง)
๓) เด็กและครูร่วมกันสนทนาถึง เร่ือง “ความละอายและความไม่ทนต่อการแย่งของเล่น
ผอู้ ื่น”
๔) เด็กและครรู ว่ มกันสรปุ เก่ยี วกับการเล่นของเลน่
๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู/้ แหล่งการเรียนรู้
๑) ภาพของเลน่
๒) ภาพเดก็ แย่งของเลน่ กัน
๕. การประเมินผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมนิ
สงั เกตการร่วมกจิ กรรม สนทนา ตอบค�ำ ถาม
๕.๒ เครื่องมือท่ีใช้ในการประเมิน
แบบสงั เกตการตอบค�ำ ถามการเกบ็ ของเลน่ ของใช้
๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ
เด็กผ่านการประเมนิ ระดบั ๒ ข้ึนไปถือว่าผา่ น
๖. บนั ทกึ หลงั การจัดประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ................................................ ครผู สู้ อน
(...............................................)

ระดบั ปฐมวัย 61

๗. ภาคผนวก ภาพของเล่น

ภาพเด็กแย่งของเลน่ กนั

62 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เตมิ การป้องกันการทจุ รติ ”

แบบสงั เกตการตอบคำ�ถาม

หน่วยท่ี ๒ ช่อื หนว่ ย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ
แผนการจัดประสบการณ์ที่ ๑ เรื่อง ความหมายของความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ

วนั ท่ี.............เดือน.............................พ.ศ. ................
คำ�ช้ีแจง : ใหผ้ ูป้ ระเมินทำ�เครื่องหมาย  ในช่องระดับคณุ ภาพของเด็กในแต่ละประเดน็ ทีป่ ระเมิน

บอกความหมายของความละอาย
ที่ ชื่อ-สกุล และความไมท่ นต่อการทุจริตได้

๓๒๑

รวม
เฉลย่ี

ลงชอ่ื ................................................ ผปู้ ระเมนิ
(...............................................)

เกณฑ์การประเมิน
บอกความหมายของความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริตได้
ระดับ ๓ : บอกความหมายของความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ ไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : บอกความหมายของความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริตไดโ้ ดยมีผชู้ ี้แนะ
ระดบั ๑ : ไม่สามารถบอกความหมายของความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริตได้

ระดบั ปฐมวยั 63

แผนการจดั ประสบการณ์ เวลา ๑ ช่ัวโมง

หน่วยท่ี ๒ ชอื่ หน่วย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต
ช้ันปฐมวยั
แผนการจดั ประสบการณท์ ี่ ๒ เร่อื ง การเก็บของเลน่ ใหเ้ ป็นระเบยี บ

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ
๑.๒ ปฏิบตั ิตนเป็นผทู้ ี่มีความละอายและไมท่ นตอ่ การทุจริตทุกรูปแบบ
๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ สามารถบอกวิธใี นการเกบ็ ของเล่นให้เปน็ ระเบียบได้
๒.๒ สามารถบอกโทษของการน�ำ ของผอู้ น่ื เปน็ ของตนโดยไม่ได้รบั อนญุ าตได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
ของเล่นและของใช้รอบ ๆ ตัวเรา มีหลายรูปแบบตามลักษณะและประโยชน์การใช้งาน
เราควรเก็บของเล่นและของใช้อย่างถูกวิธีและทะนุถนอม เพื่อเก็บไว้ใช้ได้นาน ๆ ซ่ึงของเล่น ของใช้
ทำ�จากวัสดุตา่ ง ๆ อาจเหมอื น หรอื แตกต่างกนั วัสดทุ ใ่ี ช้ท�ำ บางอยา่ งอ่อนนุ่ม บางอยา่ งแขง็ แรงทนทาน
บางอย่างเปราะบางแตกหกั งา่ ย
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ )
๑) มีทักษะชีวติ ในการเกบ็ ของเลน่ อยา่ งมคี วามสขุ
๒) มีทกั ษะการคดิ การใช้ภาษาสือ่ สาร
๓.๓ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค/์ ค่านยิ ม
มวี ินัย ซ่ือสัตย์สุจรติ
๔. การจัดประสบการณ์
๔.๑ ขั้นตอนการจดั ประสบการณ์
๑) เดก็ และครดู นู ทิ าน เรอื่ ง “ของเลน่ นอ้ ยใจ” จากวดี โี อ ( YouTube Sasawat Kesmanee)
๒) เด็กและครรู ว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกบั เนื้อหาของนทิ าน โดยครใู ช้คำ�ถาม ดงั น้ี
• ถา้ เรา เปน็ ของเลน่ ในนทิ านเราจะท�ำ อยา่ งไร (ทำ�อย่างของเลน่ ในนิทาน)
• เราไดร้ บั ความรอู้ ะไรบา้ งจากการฟงั เพลงของเลน่ นอ้ ยใจ (ควรเกบ็ ของใหเ้ ปน็ ระเบยี บ
เรียบร้อย)
๓) เดก็ และครสู นทนาถงึ การหยบิ และการเกบ็ ของเล่นวา่ เราควรปฏิบัติอย่างไร
๔) เด็กและครูร่วมกันร้องเพลง “เก็บของเล่น” สนทนาถึงเนื้อร้องว่าเป็นสิ่งที่ทุกคน
ควรปฏบิ ตั ิ

64 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกันการทจุ ริต”

๕) เด็กช่วยกันบอกเหตุการณ์ที่เด็กปฏิบัติ หรือพบเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการนำ�ของ
ของผอู้ ่ืนไปเป็นของตนเอง โดยไม่ได้รบั อนญุ าตทง้ั ทบี่ ้าน โรงเรียน หรือที่เคยพบเห็นในชวี ติ ประจำ�วัน
๖) เด็กและครูร่วมกันสนทนาเก่ียวกับการนำ�ของผู้อื่นเป็นของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต
(ไมถ่ กู ต้องไมค่ วรปฏิบัต)ิ
๗) เด็กและครูบอกโทษ และสิ่งท่ีจะได้รับเม่ือนำ�ของผู้อ่ืนเป็นของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต
(ถูกลงโทษ มีความผิด ถกู วา่ กล่าวตกั เตอื น)
๘) เดก็ และครรู ว่ มกนั สรปุ วา่ การน�ำ ของผอู้ น่ื เปน็ ของตนโดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต เปน็ พฤตกิ รรม
ท่ไี มด่ ี อาจมคี วามผดิ หรอื ไดร้ ับการลงโทษได้
๔.๒ ส่อื การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้
๑) นทิ าน เร่อื ง “ของเลน่ น้อยใจ”
๒) เพลง “เก็บของเลน่ ” (Official KaraoKe)
๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ
แบบสงั เกตการตอบคำ�ถาม
๕.๒ เครอ่ื งมือที่ใช้ในการประเมิน
แบบสังเกตการรว่ มกจิ กรรม
๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน
เด็กผา่ นการประเมินตั้งแตร่ ะดบั ๒ ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น
๖. บนั ทกึ หลงั การจัดประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ................................................ ครผู ้สู อน
(...............................................)

ระดบั ปฐมวยั 65

๗. ภาคผนวก

นิทาน เรอ่ื ง ของเล่นน้อยใจ

https://www.youtube.com/watch?v=X๘kkl๕Porn๐
จาก YouTube : Sasawat Kesmenee

เพลงเก็บของเลน่ (Official KaraoKe)

https://www.youtube.com/watch?v=-X๔LhKhXN๑Y

66 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่ิมเติม การปอ้ งกันการทุจรติ ”

แบบสังเกตการตอบคำ�ถาม

หนว่ ยท่ี ๒ ชื่อหน่วย ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต
แผนการจัดประสบการณท์ ่ี ๒ เรือ่ ง การเก็บของเล่นให้เปน็ ระเบยี บ

วันท.่ี ............เดอื น.............................พ.ศ. ................
คำ�ชี้แจง : ให้ผปู้ ระเมินท�ำ เครอื่ งหมาย  ในชอ่ งระดับคณุ ภาพของเด็กในแตล่ ะประเดน็ ท่ปี ระเมนิ

ท่ี ช่ือ-สกลุ บอกวิธใี นการเกบ็ ของเลน่ บอกโทษของการน�ำ ของผู้อน่ื
ให้เปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย เป็นของตน

แก่บคุ คลอนื่ ได้ โดยไม่ได้รบั อนญุ าต
๓๒๑ ๓๒๑

รวม ลงชอื่ ................................................ ผปู้ ระเมนิ
เฉล่ีย (...............................................)






ระดบั ปฐมวัย 67

เกณฑ์การประเมิน
บอกวิธใี นการเก็บของเล่นให้เป็นระเบียบเรียบรอ้ ยแก่บคุ คลอ่ืนได้
ระดับ ๓ : บอกวธิ ีในการเกบ็ ของเล่นใหเ้ ป็นระเบยี บไดด้ ้วยตนอง
ระดบั ๒ : บอกวิธีในการเก็บของเลน่ ให้เปน็ ระเบียบได้โดยมีผู้ชี้แนะ
ระดบั ๑ : ไม่สามารถบอกวธิ ีในการเก็บของเล่นใหเ้ ปน็ ระเบยี บได้
บอกโทษของการนำ�ของผู้อื่นเปน็ ของตนโดยไม่ได้รับอนญุ าต
ระดบั ๓ : บอกโทษของการน�ำ ของผ้อู ืน่ เปน็ ของตนโดยไม่ได้รับอนญุ าตไดด้ ว้ ยตนอง
ระดับ ๒ : บอกโทษของการน�ำ ของผู้อน่ื เปน็ ของตนโดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาตไดโ้ ดยมีผชู้ ีแ้ นะ
ระดับ ๑ : ไมส่ ามารถบอกโทษของการนำ�ของผอู้ น่ื เปน็ ของตนโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าตได้

68 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การป้องกนั การทุจรติ ”

แผนการจดั ประสบการณ์ เวลา ๑ ชวั่ โมง

หนว่ ยที่ ๒ ช่ือหนว่ ย ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต
ช้ันปฐมวยั
แผนการจดั ประสบการณท์ ่ี ๓ เรื่อง ความละอายและไมแ่ ย่งหรอื ขโมยอาหารเพื่อน

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ
๑.๒ ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผทู้ มี่ คี วามละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทกุ รปู แบบ
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ สามารถบอกวิธปี ฏิบตั ิตนในการรับประทานอาหารได้อย่างถกู ตอ้ ง
๒.๒ มคี วามละอายในการแยง่ หรอื ขโมยอาหารเพ่อื น
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
มารยาทในการรับประทานอาหาร เป็นสิ่งที่ทำ�ให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความชื่นชม หรืออาจ
ตำ�หนิ ดงั นัน้ จึงควรฝกึ มารยาทในการรับประทานอาหาร ดังนี้ คือ การไม่ท�ำ เสียงดังในขณะรบั ประทาน
การตักอาหารควรตักแต่พอดีคำ� ไม่รับประทานมูมมาม เลอะเทอะ นอกจากน้ันแล้วเราต้องไม่ไปแย่ง
หรอื ขโมยอาหารของผอู้ ื่น
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ )
๑) มที กั ษะชวี ิต และอยูร่ ่วมกบั ผูอ้ นื่ ได้อยา่ งมีความสขุ
๒) มที ักษะการคิด การใชภ้ าษาสอ่ื สาร และการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมกบั วัย
๓.๓ คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค/์ ค่านิยม
มีวินยั ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ อย่อู ย่างพอเพียง
๔. การจัดประสบการณ์
๔.๑ ข้นั ตอนการจดั ประสบการณ์
๑) ครนู �ำ รปู ภาพเดก็ ก�ำ ลงั รบั ประทานอาหาร และภาพเดก็ ก�ำ ลงั แยง่ อาหารเพอื่ น มาใหเ้ ดก็ ดู
แลว้ สนทนาซักถาม ดังนี้
• ภาพทงั้ สองภาพทค่ี รนู �ำ มาใหด้ เู ปน็ ภาพเกย่ี วกบั อะไร แลว้ ทงั้ สองภาพมคี วามเหมอื น
หรอื แตกตา่ งกนั อยา่ งไร (เปน็ ภาพเกยี่ วกบั เดก็ ก�ำ ลงั รบั ประทานอาหาร และภาพเดก็ แยง่ อาหารของผอู้ น่ื ,
ท้ังสองภาพไม่เหมือนกัน เพราะภาพแรกเป็นภาพเด็กรับประทานอาหารอย่างเรียบร้อย มีมารยาท
แตภ่ าพทส่ี องเป็นภาพเด็กแย่งของกินของคนอนื่ นสิ ัยไม่ดี)
• ถา้ จะใหเ้ ลอื ก เราอยากเปน็ บคุ คลในภาพไหน เพราะเหตใุ ด (เลอื กเปน็ เดก็ ในภาพทหี่ นงึ่
เพราะรบั ประทานอาหารเรียบร้อย เปน็ เดก็ ดี ไม่แยง่ ของผอู้ ื่น)

ระดับปฐมวัย 69

• ถา้ เราพบเหน็ เพอื่ นหรอื นอ้ ง ๆ ก�ำ ลงั แยง่ หรอื ขโมยอาหารผอู้ น่ื เราจะท�ำ อยา่ งไร เพราะ
เหตุใดจึงท�ำ เชน่ นน้ั (จะเข้าไปตกั เตือน บอกว่าการแย่ง หรอื ขโมยอาหารผ้อู น่ื เปน็ สงิ่ ที่ไม่ดี ผดิ กฎหมาย
สาเหตทุ เ่ี ข้าไปตักเตือนเพราะไม่อยากให้เพ่อื นและน้องๆ เปน็ คนไมส่ ุจริต เปน็ คนไม่ดขี องสังคม)
๒) เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกย่ี วกบั วิธกี ารรบั ประทานอาหาร จากน้นั เด็กและครูเดนิ ทาง
ไปทีโ่ รงอาหาร แล้วลงมอื ฝึกปฏิบัตกิ ารรับประทานอาหาร
๓) เด็กและครูร่วมกันสรา้ งข้อตกลงในการรบั ประทานอาหาร ดังน้ี
• เราจะรบั ประทานอาหารใหห้ มด ไมห่ กเลอะเทอะ ไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะรบั ประทานอาหาร
• เราจะไม่แย่ง หรือขโมยอาหารของผอู้ น่ื
๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้
๑) ภาพเดก็ รับประทานอาหารและภาพเดก็ แยง่ หรือขโมยอาหารผอู้ ่ืน
๒) อาหาร (ของจริง)
๓) โรงอาหารของโรงเรียน
๕. การประเมินผลการเรยี นรู้
๕.๑ วธิ ีการประเมิน
๑) สงั เกตการตอบค�ำ ถาม เรื่อง “วิธีการรับประทานอาหาร”
๒) สังเกตพฤติกรรมการรบั ประทานอาหาร
๕.๒ เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ
๑) แบบสงั เกตการตอบคำ�ถาม เร่ือง วธิ ีการรบั ประทานอาหาร
๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการรบั ประทานอาหาร
๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน
เด็กผ่านการประเมินระดับ ๒ ข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น
๖. บนั ทกึ หลังการจดั ประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ................................................ ครผู ู้สอน
(...............................................)

70 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพ่มิ เติม การปอ้ งกันการทจุ รติ ”

๗. ภาคผนวก

ภาพเด็กรบั ประทานอาหาร

ภาพเดก็ แย่งอาหารผ้อู นื่



ระดับปฐมวัย 71

แบบสงั เกตการตอบค�ำ ถาม

หน่วยที่ ๒ ช่ือหน่วย ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต
แผนการจัดประสบการณท์ ่ี ๓ เรอื่ ง ความละอายและไม่แยง่ หรือขโมยอาหารเพอื่ น

วันท.่ี ............เดือน.............................พ.ศ............................
ค�ำ ช้แี จง : ใหผ้ ู้ประเมนิ ท�ำ เครอ่ื งหมาย  ในช่องระดบั คุณภาพของเดก็ ในแต่ละประเดน็ ทปี่ ระเมิน

ที่ ชอื่ -สกลุ สามารถบอกวธิ ีปฏบิ ัตติ น มคี วามละอาย
ในการรบั ประทานอาหาร และไมแ่ ยง่ หรอื ขโมยอาหารเพอ่ื น

ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ๓๒๑
๓๒๑

รวม
เฉลีย่


ลงชอ่ื ................................................ ผปู้ ระเมนิ
(...............................................)
เกณฑ์การประเมนิ
สามารถบอกวธิ ปี ฏบิ ตั ติ นในการรับประทานอาหารไดอ้ ย่างถูกต้อง
ระดับ ๓ : เดก็ สามารถบอกวธิ ีปฏิบตั ิตนในการรับประทานอาหารไดถ้ กู ต้องดว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : เด็กสามารถบอกวิธีปฏบิ ตั ติ นในการรบั ประทานอาหารได้ถกู ตอ้ งโดยมผี ู้ชี้แนะ
ระดบั ๑ : เด็กไมส่ ามารถบอกวิธีปฏิบตั ิตนในการรบั ประทานอาหารไดถ้ ูกตอ้ ง

มคี วามละอายและไม่แยง่ หรือขโมยอาหารเพอื่ น
ระดับ ๓ : เดก็ สามารถรบั ประทานอาหารไดถ้ กู วธิ ดี ว้ ยตนเองและไมแ่ ยง่ หรอื ขโมยอาหารของผอู้ น่ื
ระดับ ๒ : เด็กสามารถรบั ประทานอาหารได้ถกู วธิ ี เมอื่ มีผู้อนื่ แนะนำ� แตไ่ ม่แย่ง หรือขโมยอาหาร
ของผอู้ นื่
ระดบั ๑ : เดก็ สามารถรับประทานอาหารได้ถกู วธิ ี แตช่ อบแย่ง หรอื ขโมยอาหารของผอู้ ่ืน

72 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพิม่ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”

แผนการจดั ประสบการณ์ เวลา ๑ ชั่วโมง

หน่วยที่ ๒ ช่ือหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
ชน้ั ปฐมวยั
แผนการจดั ประสบการณ์ท่ี ๔ เร่อื ง ความละอายและไม่แซงควิ ผู้อนื่

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ
๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้ทู ม่ี ีความละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ ริตทุกรูปแบบ
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ สามารถบอกวิธีการเข้าแถวเรยี งล�ำ ดับได้
๒.๒ สามารถปฏบิ ตั ิตนในการเขา้ แถวเรยี งล�ำ ดับได้
๒.๓ มคี วามละอายในการแซงคิวผ้อู ่ืน
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
การเขา้ แถวตามล�ำ ดบั คอื การยนื เรยี งตอ่ กนั เปน็ แนวเรยี งหนง่ึ โดยคนทม่ี ากอ่ นจะอยขู่ า้ งหนา้
สว่ นคนมาทีหลังก็จะยืนเรยี งลำ�ดบั ถัดไป และไมแ่ ซงควิ ผอู้ ่นื
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กดิ )
๑) มที ักษะชีวติ และอยรู่ ว่ มกับผู้อ่ืนไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
๒) มีทกั ษะการคิด
๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์/ค่านยิ ม
มวี นิ ยั
๔. การจัดประสบการณ์
๔.๑ ข้ันตอนการจดั ประสบการณ์
๑) เด็กและครูรว่ มกนั ร้องเพลง “เรยี งลำ�ดับ”
๒) เด็กและครูร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกับเนือ้ หาของเพลง โดยครใู ช้ค�ำ ถาม ดังนี้
• เพลงท่ีเราร้องไปเม่อื สักครนู่ ้ีเป็นเพลงเก่ยี วกบั อะไร (เกย่ี วกับการเขา้ แถวเรยี งล�ำ ดบั )
• จะเกดิ อะไรขนึ้ ถ้าประเทศไทยของเรามแี ต่คนท่ไี มม่ วี นิ ยั ไปไหนก็ไมร่ จู้ กั การเข้าแถว
เรยี งล�ำ ดบั กอ่ นหลงั ประเทศไทยของเราจะเปน็ อยา่ งไร (ประเทศเรากจ็ ะมแี ตค่ วามวนุ่ วาย ไรร้ ะเบยี บวนิ ยั )
๓) เดก็ และครดู ูคลิปนทิ าน เรือ่ ง “เดก็ ดีต้องเขา้ แถว”
๔) เด็กและครูร่วมกันสนทนาเก่ียวกบั เน้ือหาในนิทาน ดงั น้ี
• การกระท�ำ ของเจา้ หมาทไี่ มย่ อมเขา้ แถวชอบแซงควิ ผอู้ น่ื นนั้ ถกู ตอ้ งหรอื ไม่เพราะเหตใุ ด
(ไม่ถูกตอ้ ง เพราะคนดจี ะต้องร้จู ักการเขา้ แถว เรยี งล�ำ ดับก่อนหลัง และไม่แซงคิวผอู้ ื่น)
• ถ้าเรา เปน็ เพอื่ นของเจ้าหมา เราจะทำ�อย่างไร (จะตกั เตอื นเพือ่ น ให้รู้จกั การเข้าแถว
เรยี งลำ�ดับกอ่ นหลงั เพราะการแซงควิ ผอู้ นื่ นนั้ เป็นส่งิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง)

ระดับปฐมวัย 73

• การทเี่ จา้ กระตา่ ยและเจา้ สงิ โตไมพ่ ดู ไมเ่ ลน่ กบั เจา้ หมา เพราะเจา้ หมาไมย่ อมเขา้ แถว
และชอบแซงควิ ผอู้ น่ื นน้ั ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (ถกู ตอ้ ง เพราะจะไดท้ �ำ ใหเ้ จา้ หมาไดร้ วู้ า่ การกระท�ำ
ของตนนนั้ ไม่ถูกต้อง เปน็ การกระทำ�ท่ีผ้อู ืน่ หรือสงั คมไม่ยอมรับ เจ้าหมาจะไดป้ รบั ปรงุ ตวั เอง)
๕) ครูจำ�ลองสถานการณ์ของการเข้าแถวซื้อขนมโดยให้เด็กฝึกปฏิบัติการเข้าแถว
เรียงล�ำ ดับก่อนหลงั มากอ่ น อย่หู นา้ มาช้าอย่หู ลงั ไม่แซงควิ ผ้อู ืน่
๖) เด็กและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเก่ียวกับเร่ืองการเข้าแถวว่าต้องเรียงลำ�ดับก่อนหลัง
และตอ้ งไม่แซงคิวผู้อนื่
๗) เดก็ และครรู ว่ มกนั ร้องเพลง “เรยี งล�ำ ดับ” อีกครั้งหนึ่ง
๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้
๑) เพลง “เรียงลำ�ดับ”
๒) คลปิ นทิ าน เร่อื ง “เดก็ ดตี อ้ งเข้าแถว”
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมิน
๑) สงั เกตการตอบคำ�ถาม เร่อื ง “การเข้าแถวเรยี งลำ�ดับ”
๒) สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ แถวเรียงล�ำ ดับ
๕.๒ เครือ่ งมือท่ใี ชใ้ นการประเมนิ
๑) แบบสงั เกตการตอบคำ�ถาม เร่อื ง การเขา้ แถวเรียงล�ำ ดบั
๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าแถวเรยี งลำ�ดับ
๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน
เดก็ ผา่ นการประเมนิ ระดบั ๒ ขึ้นไปถือว่าผา่ น
๖. บนั ทกึ หลังการจดั ประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงช่อื ................................................ ครูผูส้ อน
(...............................................)

74 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เติม การปอ้ งกนั การทุจริต”

๗. ภาคผนวก เพลงเรียงล�ำ ดบั

เรียงมาเรียงลำ�ดบั ลำ�ดบั ลำ�ดบั ก่อนหลงั
คนนา่ ชัง คนน่าชัง มาทีหลงั ไม่เรยี งล�ำ ดบั
มาก่อนก็อยู่ขา้ งหนา้ มาช้าตอ้ งอย่ถู ดั ไป
จำ�ไวน้ ะเดก็ ไทย จ�ำ ไว้นะเด็กไทย
ระเบยี บวนิ ยั เป็นสิง่ ส�ำ คัญ ระเบียบวินยั เปน็ ส่ิงส�ำ คญั

คลิปนทิ าน เร่อื ง เดก็ ดตี อ้ งเข้าแถว

https://www.youtube.com/watch?v=IlMJGvBMKvU

ระดบั ปฐมวยั 75

แบบสงั เกตการตอบคำ�ถาม

หน่วยท่ี ๒ ช่อื หน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต
แผนการจดั ประสบการณ์ที่ ๔ เร่อื ง ความละอายและไม่แซงควิ ผู้อ่นื

วันที่.............เดอื น.............................พ.ศ............................
ค�ำ ชีแ้ จง : ใหผ้ ปู้ ระเมินทำ�เครือ่ งหมาย  ในช่องระดบั คณุ ภาพของเด็กในแตล่ ะประเด็นท่ีประเมิน

ท่ี ชื่อ-สกุล บอกวธิ ีการการเข้าแถว การเขา้ แถวตามลำ�ดบั
เรยี งล�ำ ดบั กอ่ นหลัง

๓๒๑ ๓๒๑

รวม ลงชอ่ื ................................................ ผปู้ ระเมนิ
เฉลย่ี (...............................................)





เกณฑ์การประเมิน
บอกวธิ ีการการเขา้ แถวเรยี งลำ�ดับ
ระดับ ๓ : เดก็ สามารถบอกวิธีการการเข้าแถวเรยี งลำ�ดับได้ด้วยตนเอง
ระดบั ๒ : เด็กสามารถบอกวิธกี ารการเข้าแถวเรียงล�ำ ดบั ได้โดยมผี ชู้ แ้ี นะ
ระดบั ๑ : เด็กไม่สามารถบอกวิธีการการเข้าแถวเรยี งล�ำ ดับได้

การเขา้ แถวตามล�ำ ดบั ก่อนหลัง
ระดับ ๓ : เดก็ สามารถเขา้ แถวเรยี งลำ�ดบั ไดด้ ้วยตนเองโดยไมแ่ ซงควิ ผอู้ ื่น
ระดับ ๒ : เด็กสามารถเข้าแถวเรยี งลำ�ดบั ไดเ้ มือ่ มีผ้อู ืน่ แนะนำ� แต่ไม่แซงควิ ผูอ้ นื่
ระดบั ๑ : เดก็ สามารถเข้าแถวเรยี งลำ�ดบั ได้ แต่แซงควิ ผูอ้ ืน่

76 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกันการทจุ รติ ”

แผนการจัดประสบการณ์ เวลา ๑ ชัว่ โมง

หนว่ ยท่ี ๒ ชอ่ื หน่วย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ
ชั้นปฐมวยั
แผนการจัดประสบการณท์ ่ี ๕ เรื่อง การใชข้ องใช้สว่ นตนอยา่ งถกู วิธ ี

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ
๑.๒ ปฏบิ ัตติ นเป็นผทู้ ่ีมคี วามละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ ริตทุกรปู แบบ
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ สามารถบอกชือ่ ของใช้สว่ นตน วิธีการใช้และประโยชนข์ องของใช้นนั้ ๆ ได้
๒.๒ สามารถใชข้ องใชส้ ่วนตนได้อย่างถูกตอ้ ง ถกู วธิ ี
๒.๓ มคี วามละอายในการแย่ง หรือขโมยของใชข้ องผอู้ น่ื
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
การใชข้ องใช้สว่ นตนได้ถูกวิธจี ะชว่ ยให้ใช้ของนัน้ ได้นานและมีความปลอดภัย
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด)
มีทกั ษะการคดิ การใช้ภาษาสื่อสาร
๓.๓ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค/์ คา่ นยิ ม
มีวนิ ัย อยู่อย่างพอเพยี ง
๔. การจัดประสบการณ์
๔.๑ ขัน้ ตอนการจัดประสบการณ์
๑) ครูสาธิตวิธีการใช้ของใช้ส่วนตนอย่างถูกวิธีและไม่ถูกวิธีให้เด็กดู (การเปิดหนังสือ
แบบแรง ๆ และการเปดิ หนงั สอื แบบเบา ๆ, การใช้ดินสอเพ่ือการเขยี นและการใชด้ นิ สอขวา้ งปาเพือ่ น ๆ
เป็นต้น)
๒) เดก็ และครูร่วมกนั สนทนาถงึ วิธีการใชข้ องใช้ส่วนตนอย่างถกู วธิ ี
๓) ครนู ำ�ภาพเด็กขโมยของเพ่อื นมาให้เด็กดู แลว้ สนทนาซักถาม
• ในภาพน้ี เกิดเหตุการณอ์ ะไรขึ้น (เด็กกำ�ลังขโมยของของเพ่อื น)
• ถา้ เราเปน็ เพอื่ นเดก็ ในภาพน้ี เราจะท�ำ อยา่ งไร (จะตกั เตอื น ไมใ่ หล้ กั ขโมยของของผอู้ นื่
เพราะเป็นการกระทำ�ท่ีไม่สุจรติ และเป็นส่งิ ท่ีผิดกฎหมายดว้ ย)
• การที่เราไปแย่ง หรือหยิบของของผู้อื่นโดยท่ีเจ้าของไม่ได้อนุญาต และการไปขโมย
ของใชข้ องผอู้ นื่ นน้ั เปน็ การกระท�ำ ทถี่ กู ตอ้ งหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (ไมถ่ กู ตอ้ ง เพราะเปน็ การกระท�ำ ทท่ี จุ รติ
ผิดกฎหมาย)

ระดบั ปฐมวยั 77

• เราจะมีวิธีการอย่างไรท่ีจะป้องกัน หรือช่วยลดปัญหาการลักขโมยของในห้องเรา
ใหล้ ดนอ้ ยลง (ชว่ ยกนั ดแู ล สอดสอ่ ง และคอยตกั เตอื นเพอื่ นทช่ี อบลกั ขโมยของผอู้ น่ื ใหเ้ ขาไดต้ ระหนกั รวู้ า่
การลักขโมยของของผู้อน่ื นั้นเปน็ สิ่งทีไ่ มด่ ี ไมถ่ ูกต้อง มันเป็นพฤตกิ รรมทท่ี ุจรติ )
๔) เดก็ และครรู ่วมกันสร้างขอ้ ตกลงในการใชข้ องใช้สว่ นตน
• หลังจากการใชข้ องใชส้ ่วนตนเสรจ็ แลว้ เราจะเกบ็ ใหถ้ ูกทอ่ี ย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
• เราจะไม่แยง่ หรือหยบิ ของใชข้ องผ้อู นื่ โดยที่เจ้าของไมไ่ ด้อนญุ าต และไม่ขโมยของใช้
ของผู้อ่ืนมาเปน็ ของเรา
๔.๒ สือ่ การเรียนร้/ู แหล่งการเรยี นรู้
๑) ของใช้ส่วนตนของเด็ก เช่น แกว้ น้ำ� แปรงสฟี ัน สมดุ ดนิ สอ ฯลฯ (ของจริง)
๒) ภาพเด็กขโมยของใชข้ องผู้อืน่
๕. การประเมินผลการเรยี นรู้
๕.๑ วิธีการประเมนิ
๑) สังเกตการตอบค�ำ ถาม เรื่อง “วธิ กี ารใช้ของใชส้ ่วนตน”
๒) สงั เกตการใชข้ องใชส้ ว่ นตนของเดก็
๕.๒ เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมิน
๑) แบบสังเกตการตอบค�ำ ถาม เรอื่ ง “วธิ ีการใชข้ องใช้ส่วนตน”
๒) แบบสงั เกตการใชข้ องใชส้ ่วนตนของเด็ก
๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ
เดก็ ผ่านการประเมินระดับ ๒ ขึ้นไปถอื วา่ ผา่ น
๖. บนั ทกึ หลงั การจัดประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ................................................ ครผู สู้ อน
(...............................................)

78 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การปอ้ งกันการทุจรติ ”

๗. ภาคผนวก

ภาพตัวอยา่ งของใช้ส่วนตนของเด็ก

ภาพเดก็ ขโมยของใช้ของผู้อ่ืน

ระดับปฐมวัย 79

แบบสงั เกตการตอบค�ำ ถาม

หนว่ ยท่ี ๒ ช่อื หน่วย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ
แผนการจดั ประสบการณ์ที่ ๕ เรื่อง การใชข้ องใชส้ ว่ นตนอย่างถกู วิธี

วนั ท.ี่ ............เดือน.............................พ.ศ............................
ค�ำ ชี้แจง : ใหผ้ ู้ประเมินทำ�เครื่องหมาย  ในช่องระดบั คุณภาพของเด็กในแต่ละประเด็นทีป่ ระเมิน

บอกวิธกี ารใช้ของใชส้ ว่ นตน การใช้ของใช้สว่ นตน
ได้ด้วยตนเอง
ที่ ช่ือ-สกุล และไมแ่ ย่งหรอื ขโมยของผู้อ่ืน

๓๒๑๓๒๑

รวม
เฉล่ีย

ลงชอ่ื ................................................ ผปู้ ระเมนิ
(...............................................)

เกณฑ์การประเมิน
บอกวิธีการใชข้ องใช้ส่วนตน
ระดบั ๓ : เด็กสามารถบอกวธิ ีการใชข้ องใชส้ ่วนตนไดด้ ้วยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถบอกวธิ กี ารใช้ของใชส้ ว่ นตนได้โดยมีผชู้ ี้แนะ
ระดับ ๑ : เด็กไมส่ ามารถบอกวธิ ีการใช้ของใชส้ ่วนตนได้

การใช้ของใชส้ ว่ นตนได้ดว้ ยตนเอง และไมแ่ ย่ง หรอื ขโมยของผูอ้ ่นื
ระดับ ๓ : เด็กสามารถใชข้ องใชส้ ่วนตนได้ดว้ ยตนเอง และไมแ่ ย่ง หรือขโมยของผู้อ่นื
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถใช้ของใช้สว่ นตนได้เม่อื มีผูอ้ ่ืนแนะนำ� แต่ไม่แยง่ หรือขโมยของผ้อู ืน่
ระดบั ๑ : เด็กสามารถใช้ของใชส้ ่วนตนได้ แตช่ อบแย่ง หรอื ขโมยของผู้อื่น
80 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพิ่มเติม การปอ้ งกันการทจุ ริต”

แผนการจัดประสบการณ์ เวลา ๑ ชัว่ โมง

หนว่ ยท่ี ๒ ชือ่ หน่วย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต
ชน้ั ปฐมวัย
แผนการจดั ประสบการณท์ ่ี ๖ เร่อื ง ความละอายและไมแ่ ย่ง หรือขโมยของใชผ้ ูอ้ น่ื

๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ
๑.๒ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผทู้ ม่ี ีความละอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทกุ รูปแบบ
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๒.๑ สามารถเกบ็ ของใช้ส่วนตนเขา้ ที่อย่างเรยี บร้อย
๒.๒ มีความละอายและไม่แยง่ หรอื ขโมยของใช้ของผอู้ ื่น
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
การเก็บของใช้ส่วนตนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย จะทำ�ให้ง่ายต่อการหยิบจับ นำ�มาใช้
ในคร้ังต่อไป และยังทำ�ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูสวยงาม นอกจากนี้จะต้องไม่ขโมยของใช้
ของผู้อื่นมาเป็นของของตนเอง
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด)
๑) มีทกั ษะชวี ิต และอยู่ร่วมกับผู้อื่นไดอ้ ย่างมีความสุข
๒) มีทักษะการคดิ การใช้ภาษาส่ือสาร
๓.๓ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์/คา่ นิยม
มีวินยั
๔. การจดั ประสบการณ์
๔.๑ ขัน้ ตอนการจดั ประสบการณ์
๑) เด็กฟังนิทาน เรื่อง “กระรอกน้อยไม่มีระเบียบ” จากน้ันเด็กและครูร่วมกันสนทนา
เกีย่ วกบั เน้อื เรอ่ื ง
• ทำ�ไมเจ้ากระรอกถึงหกล้ม (เพราะว่าเจ้ากระรอกไม่เก็บของเข้าที่ให้เป็นระเบียบ
เรยี บรอ้ ย จึงวิ่งสะดดุ ของท่วี างเกะกะหกล้ม)
• ถา้ เราเปน็ เจา้ กระรอก เราจะท�ำ อยา่ งไร (จะเกบ็ ของเขา้ ทใ่ี หเ้ รยี บรอ้ ยกอ่ นทจ่ี ะออกไป
เล่นกับเพ่ือน)
๒) เด็กและครรู ว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกบั การเก็บของใช้สว่ นตนเข้าทใี่ หเ้ ป็นระเบยี บเรียบร้อย
๓) ครใู หเ้ ดก็ รว่ มกนั สงั เกต สง่ิ ของเครอ่ื งใชส้ ว่ นตนของเดก็ ทกุ คนทเ่ี กบ็ ไวอ้ ยา่ งเปน็ ระเบยี บ
ภายในหอ้ งเรยี น ตอ่ มาครูนำ�ของใช้ของเด็กทัง้ หมดมากองรวมกันไว้กลางหอ้ ง และเดก็ แต่ละคนออกมา
หยบิ ของใช้ของตนเองเขา้ ท่ี โดยจะต้องไม่แย่งหรอื ขโมยของของผอู้ นื่ (ครูสังเกตพฤตกิ รรมเดก็ )
๔) เด็กและครรู ่วมกนั ร้องเพลง “เก็บของ”

ระดับปฐมวัย 81

๔.๒ สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรยี นรู้
๑) นทิ าน เรอื่ ง “กระรอกนอ้ ยไมม่ ีระเบียบ”
๒) เพลง “เกบ็ ของ”
๓) ของใชส้ ่วนตนของเด็ก
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมิน
สงั เกตการเก็บของใช้สว่ นตน
๕.๒ เคร่อื งมือทีใ่ ช้ในการประเมิน
แบบสงั เกตการเก็บของใช้สว่ นตน
๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน
เด็กผา่ นการประเมินระดับ ๒ ข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น
๖. บนั ทึกหลงั การจดั ประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ................................................ ครผู ู้สอน
(...............................................)

82 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การป้องกันการทจุ รติ ”

๗. ภาคผนวก

นิทาน เรื่อง กระรอกนอ้ ยไมม่ รี ะเบียบ

กระรอกน้อยมีของเล่น ของใช้มากมาย แถมยังชอบเอาของเล่นของใช้ออกมากองเต็มห้อง
เล่นแล้วไม่เก็บเข้าที่ วันนี้กระรอกน้อยก็กำ�ลังเล่นของเล่นอยู่ ก๊อกๆ เสียงใครมาเคาะประตูหน้า
บ้าน กระรอกเปิดประตูไปดู ก็พบเพ่ือนๆ ท่ีมาชวนไปเล่นนอกบ้าน กระรอกตกลงทันที รีบวิ่งออกไป
พร้อมเพือ่ น ๆ คุณแมข่ องกระรอกบอกว่า ทำ�ไมไมเ่ ก็บของเล่นก่อน กระรอกบอกเด๋ียวค่อยมาเกบ็ กไ็ ด้
แลว้ กระรอกกว็ ิ่งออกไปทันที
ตกเย็นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน กระรอกรีบว่ิงเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้ดูว่า
มีของเล่นวางเกะกะเต็มไปหมด กระรอกสะดุดของเล่นหกล้ม เข่าแตก ร้องให้ฮือๆ คุณแม่จึงบอกว่า
เหน็ ไหมละก็แมบ่ อกให้กระรอกเกบ็ ของกอ่ น ถา้ กระรอกเกบ็ ของกระรอกกค็ งไม่ว่ิงสะดุดหกล้มอย่างน้ี

(ปิตพิ ร วทาทิยาภรณ)์

เรอื่ งและภาพ

https://www.youtube.com/watch?v=JfSzhGzHWSk

ระดบั ปฐมวัย 83

เพลงเกบ็ ของ

เกบ็ เกบ็ เกบ็ มาชว่ ยกันเกบ็ ของซี
เร็วคนดี เก็บของเข้าที่กันเอย

ภาพตัวอยา่ งของใช้สว่ นตัวของเด็ก

84 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การปอ้ งกันการทจุ รติ ”

แบบสงั เกตการเก็บของใชส้ ว่ นตัวของเด็ก

หน่วยที่ ๒ ชือ่ หนว่ ย ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ
แผนการจัดประสบการณท์ ่ี ๖ เรื่อง ความละอายและไมแ่ ย่ง หรือขโมยของใช้ผู้อนื่

วนั ท่.ี ............เดือน.............................พ.ศ............................
คำ�ช้ีแจง : ให้ผู้ประเมินท�ำ เครือ่ งหมาย  ในชอ่ งระดบั คณุ ภาพของเด็กในแตล่ ะประเดน็ ท่ปี ระเมิน

ท่ี ชื่อ-สกุล การเกบ็ ของใช้สว่ นตัวเข้าที่
๓๒๑

รวม
เฉลย่ี


ลงชอื่ ................................................ ผปู้ ระเมนิ
(...............................................)
เกณฑก์ ารประเมิน
การเก็บของใชส้ ่วนตนเข้าท่ี
ระดบั ๓ : เดก็ สามารถเกบ็ ของใชส้ ว่ นตนเขา้ ทอ่ี ยา่ งเรยี บรอ้ ยไดด้ ว้ ยตนเองโดยไมแ่ ยง่ หรอื ขโมย
ของใช้ของผอู้ นื่
ระดบั ๒ : เด็กสามารถเก็บของใช้ส่วนตนเข้าท่ีอย่างเรียบร้อยโดยมีผู้อื่นแนะนำ� แต่ไม่แย่ง หรือ
ขโมยของใชข้ องผ้อู น่ื
ระดบั ๑ : เด็กสามารถเกบ็ ของใชส้ ่วนตนเข้าทไ่ี ด้ แตช่ อบแยง่ หรือขโมยของใชข้ องผอู้ ่นื

ระดบั ปฐมวยั 85

แผนการจัดประสบการณ์

หน่วยท่ี ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
ช้นั ปฐมวยั
แผนการจัดประสบการณ์ท่ี ๗ เร่ือง ความรบั ผดิ ชอบต่อการทำ�งานท่ีไดร้ ับมอบหมาย เวลา ๑ ชว่ั โมง
๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ
๑.๒ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผทู้ ่ีมคี วามละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทุกรูปแบบ
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ สามารถบอกประโยชน์ของการมีความรับผดิ ชอบต่อการท�ำ งานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย และโทษ
ของการไม่มคี วามรบั ผิดชอบต่อการท�ำ งานท่ไี ดร้ ับมอบหมายได้
๒.๒ มีความรบั ผิดชอบท�ำ งานที่ไดร้ บั มอบหมายจนสำ�เรจ็ โดยไมล่ อก หรอื นำ�ผลงานของผู้อนื่ มา
เป็นผลงานของตนเอง
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
การทำ�งานที่ได้รับมอบหมาย คือ การที่บุคคลมีความรับผิดชอบ มุ่งม่ัน ต้ังใจท่ีจะทำ�งาน
สงิ่ น้ันใหส้ �ำ เร็จและมปี ระสิทธภิ าพ โดยไม่ลอก หรือนำ�ผลงานของผอู้ ื่นมาเป็นผลงานของตนเอง
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กดิ )
๑) มที ักษะชวี ติ และอยู่รว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้อย่างมคี วามสุข
๒) มที ักษะการคดิ การใชภ้ าษาส่อื สาร
๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์/ค่านิยม
มงุ่ ม่ันในการท�ำ งาน ซ่ือสัตย์สุจริต
๔. การจัดประสบการณ์
๔.๑ ขัน้ ตอนการจดั ประสบการณ์
๑) เดก็ และครรู ว่ มกนั รอ้ งเพลง “งานสงิ่ ใด”
๒) เด็กและครรู ว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั เนอ้ื หาของเพลง โดยครูใช้ค�ำ ถาม ดังน้ี
• เพลงที่เราร้องไปเมื่อสักครู่นี้เป็นเพลงเก่ียวกับอะไร (เกี่ยวกับการทำ�งาน ว่าต้อง
รับผดิ ชอบในการทำ�งานและตอ้ งช่วยเหลอื ซึ่งกันและกนั )
• ถ้าพวกเราทุกคนมีความรับผิดชอบทำ�งานท่ีได้รับมอบหมายจนสำ�เร็จ และ
ในขณะเดยี วกนั หากพวกเราทกุ คนไม่มีความรับผดิ ชอบในการท�ำ งานท่ีไดร้ ับมอบหมาย สงั คมเราจะเป็น
อยา่ งไร (ถา้ ทกุ คนมคี วามรบั ผดิ ชอบสงั คมกจ็ ะนา่ อยู่ ไมว่ นุ่ วาย ไมม่ คี นท�ำ ผดิ สงั คมกส็ งบสขุ แตถ่ า้ ทกุ คน
ไม่มคี วามรับผิดชอบ สังคมกจ็ ะสบั สน วุ่นวาย มแี ต่คนเห็นแก่ตวั ทจุ รติ ทำ�ให้สังคมไมน่ า่ อยู่)
๓) เดก็ และครูดคู ลปิ นทิ าน เรอื่ ง “ความรับผดิ ชอบ”
86 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เตมิ การป้องกนั การทจุ รติ ”

๔) เด็กและครรู ่วมกนั สนทนาเกย่ี วกับเนื้อหาในนทิ าน ดังนี้
• การกระท�ำ ของบถ๋ี กู ตอ้ งหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (ไมถ่ กู ตอ้ ง เพราะบเ๋ี ปน็ คนไมร่ บั ผดิ ชอบ
ในการท�ำ งานท่ีไดร้ ับมอบหมาย)
• ถ้าเรา เป็นบ๋ี เราจะปฏบิ ัติตนอยา่ งไร ทำ�ไมถึงปฏบิ ัติเชน่ น้ัน (จะรับผิดชอบในงานที่
ไดร้ ับมอบหมาย เพราะคนดีจะต้องมีความรับผดิ ชอบ)
๕) ครมู อบหมายงานใหเ้ ดก็ ๆ วาดภาพระบายสคี นละ ๑ ภาพ (ครสู งั เกตการท�ำ งานของเดก็ )
๖) เด็กนำ�ผลงานของตนเองนำ�เสนอหน้าช้ัน ซ่ึงผลงานที่นำ�เสนอจะต้องไม่ลอกเลียนแบบ
ผอู้ ่ืน และไม่น�ำ ผลงานของผ้อู นื่ มาเปน็ ผลงานของตนเอง
๔.๒ สือ่ การเรยี นรู/้ แหลง่ การเรยี นรู้
๑) เพลง “งานสิง่ ใด”
๒) Animation ๓D เร่อื ง “ความรบั ผิดชอบ”
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมิน
๑) สังเกตการตอบคำ�ถาม เรื่อง “ประโยชน์ของความรับผิดชอบในการทำ�งานที่ได้รับ
มอบหมาย และโทษของการไมม่ ีความรบั ผดิ ชอบในการทำ�งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย”
๒) สงั เกตการปฏบิ ัตงิ านที่ได้รับมอบหมาย
๕.๒ เครอื่ งมือท่ใี ช้ในการประเมิน
๑) แบบสงั เกตการตอบค�ำ ถาม เรอ่ื ง “ประโยชนข์ องความรับผดิ ชอบในการท�ำ งานท่ีได้รับ
มอบหมาย และโทษของการไมม่ ีความรับผดิ ชอบในการทำ�งานที่ไดร้ ับมอบหมาย
๒) แบบสงั เกตการปฏิบัติงานทไี่ ด้รับมอบหมาย
๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน
เดก็ ผา่ นการประเมนิ ระดบั ๒ ข้ึนไปถือวา่ ผ่าน
๖. บันทกึ หลงั การจัดประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงช่อื ................................................ ครผู สู้ อน
(...............................................)

ระดบั ปฐมวยั 87

๗. ภาคผนวก

งานส่ิงใด งานสง่ิ ใด เพลง งานสง่ิ ใด
แมใ้ ครละเลยทิ้งปล่อย
มัวแตค่ อย เฝา้ แต่คอย หวังคอยแตเ่ กีย่ งโยนกลอง
ไม่มเี สรจ็ ไมม่ เี สร็จรบั รอง จำ�ไว้ทกุ คนต้องทำ�งาน
เราตอ้ งช่วยกนั ช่วยกัน ชว่ ยกนั ชว่ ยกัน

Animation ๓D เรอื่ ง ความรบั ผดิ ชอบ

https://www.youtube.com/watch?v=๗kbnUOzerjg

88 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพม่ิ เติม การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

แบบสงั เกตการตอบค�ำ ถาม

หน่วยที่ ๒ ชื่อหน่วย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ
แผนการจัดประสบการณท์ ี่ ๗ เรอื่ ง ความรับผิดชอบต่อการทำ�งานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

วนั ท่ี.............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำ�ชี้แจง : ให้ผปู้ ระเมินท�ำ เครือ่ งหมาย  ในช่องระดบั คุณภาพของเด็กในแต่ละประเด็นที่ประเมนิ

ท่ี ช่อื -สกลุ บอกประโยชนข์ องความรบั ผดิ ชอบ การทำ�งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
และโทษของการไม่มี จนสำ�เรจ็
ความรับผิดชอบ

๓๒๑๓๒๑

รวม ลงชอ่ื ................................................ ผปู้ ระเมนิ
เฉลี่ย (...............................................)




ระดบั ปฐมวัย 89

เกณฑ์การประเมนิ
บอกประโยชน์ของความรับผิดชอบ และโทษของการไม่มีความรับผดิ ชอบ
ระดบั ๓ : เดก็ สามารถบอกประโยชนข์ องความรบั ผดิ ชอบ และโทษของการไมม่ คี วามรบั ผดิ ชอบได้
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถบอกประโยชนข์ องความรบั ผดิ ชอบ และโทษของการไมม่ คี วามรบั ผดิ ชอบได้
โดยมีผชู้ ้ีแนะ
ระดบั ๑ : เดก็ ไมส่ ามารถบอกประโยชนข์ องความรบั ผดิ ชอบ และโทษของการไมม่ คี วามรบั ผดิ ชอบได้
การท�ำ งานท่ีได้รับมอบหมายจนส�ำ เร็จ
ระดับ ๓ : เด็กทำ�งานที่ได้รบั มอบหมายจนสำ�เรจ็ ดว้ ยตนเอง โดยไมล่ อก หรือน�ำ ผลงานของผู้อนื่
มาเปน็ ผลงานของตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ ท�ำ งานทไี่ ดร้ บั มอบหมายจนส�ำ เรจ็ โดยมผี ชู้ แี้ นะ แตไ่ มล่ อก หรอื น�ำ ผลงานของผอู้ นื่
มาเปน็ ผลงานของตนเอง
ระดับ ๑ : เดก็ สามารถท�ำ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายได้ แตช่ อบลอก หรอื น�ำ ผลงานของผอู้ น่ื มาเปน็ ผล
งานของตน
90 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การป้องกนั การทจุ รติ ”

แผนการจัดประสบการณ์ เวลา ๑ ชว่ั โมง

หนว่ ยที่ ๒ ช่อื หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ
ชัน้ ปฐมวยั
แผนการจดั ประสบการณ์ที่ ๘ เร่อื ง การแบง่ ปัน

๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต
๑.๒ ปฏิบัตติ นเป็นผู้ทม่ี ีความละอายและไม่ทนตอ่ การทุจริตทุกรูปแบบ
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ บอกความหมายของการแบ่งปนั ได้
๒.๒ มพี ฤตกิ รรมการแบง่ ปนั และปฏิบัตติ นเป็นผ้ทู ่ีมคี วามละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริต
๓. สาระการเรียนรู้
๓.๑ ความรู้
การแบ่งปัน หมายถงึ การเสยี สละสิง่ ของ หรอื ทรพั ย์สินของตนให้แกผ่ ้อู ่นื แตส่ งิ่ ของ หรอื
ทรัพย์สินน้ันจะต้องไดม้ าโดยสจุ ริต ไม่ใชไ่ ดม้ าจากการลักขโมยของผ้อู ืน่
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะที่เกดิ )
๑) มที กั ษะชวี ติ และอย่รู ว่ มกับผู้อื่นได้อย่างมคี วามสขุ
๒) มีทักษะการคิด การใชภ้ าษาสือ่ สาร
๓.๓ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค/์ ค่านิยม
ความเอื้ออาทร
๔. การจดั ประสบการณ์
๔.๑ ข้ันตอนการจัดประสบการณ์
๑) เด็กและครูดูคลปิ นิทาน เรือ่ ง “หนนู ดิ ไม่มนี �้ำใจ”
๒) เดก็ และครรู ่วมกนั สนทนาเกย่ี วกบั เนื้อหาของนทิ าน โดยครใู ชค้ ำ�ถาม ดังนี้
• การกระทำ�ของหนูนิดถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ถูกต้อง เพราะหนูนิดไม่ชอบ
แบ่งปนั ของใหผ้ อู้ ืน่ เปน็ คนไมม่ นี ้�ำ ใจ ไม่เอือ้ เฟอื้ เผอ่ื แผ่)
• ถา้ เรา เปน็ หนนู ดิ เราจะปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร เพราะเหตใุ ดจงึ ปฏบิ ตั เิ ชน่ นนั้ (จะรจู้ กั แบง่ ปนั
สิ่งของใหผ้ อู้ นื่ เพราะคนดีจะตอ้ งมีน้ำ�ใจ รจู้ ักแบ่งปนั )
• ถ้าเราพบเพ่ือนที่ไม่ยอมแบ่งปันสิ่งของของตนเองให้เพื่อน เราจะทำ�อย่างไร (จะไป
ตักเตอื นเพอ่ื น จะบอกเพอื่ นวา่ คนดตี อ้ งรจู้ กั การเสยี สละ แบง่ ปนั )
• ถ้าเราขโมยสิ่งของผู้อื่นแล้วนำ�มาแบ่งปันให้เพ่ือน เป็นการกระทำ�ที่ถูกต้องหรือไม่
เพราะเหตใุ ด (ไมถ่ กู ตอ้ ง เพราะการขโมยของผอู้ นื่ เปน็ สง่ิ ทไ่ี มค่ วรกระท�ำ อยา่ งยง่ิ และอาจผดิ กฎหมายดว้ ย
หากต้องการแบง่ ปนั ส่งิ ของให้เพือ่ นควรเปน็ ส่ิงของของเราเอง)

ระดบั ปฐมวยั 91

๓) เด็กและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับ ความหมายของการแบ่งปันว่า การแบ่งปัน
หมายถงึ การเสยี สละสิง่ ของ หรือทรัพย์สินของตนใหแ้ กผ่ ู้อนื่ แต่ส่งิ ของ หรือทรัพยส์ นิ นนั้ จะตอ้ งได้มา
โดยสจุ รติ ไมใ่ ช่ไดม้ าจากการลกั ขโมยของผู้อื่น
๔) เด็กและครรู ว่ มกันรอ้ งเพลง “แบง่ ปนั ”
๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้
๑) คลิปนทิ าน เรือ่ ง “หนนู ิดไมม่ นี �้ำใจ”
๒) เพลง “แบ่งปนั ”
๕. การประเมินผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ
๑) สงั เกตการตอบค�ำ ถาม เรอ่ื ง “ความหมายของการแบง่ ปนั ”
๒) สังเกตพฤติกรรมการแบ่งปนั ของเดก็
๕.๒ เครื่องมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน
๑) แบบสงั เกตการตอบค�ำ ถาม เรอ่ื ง “ความหมายของการแบง่ ปนั ”
๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการแบง่ ปัน
๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ
เด็กผา่ นการประเมนิ ระดบั ๒ ขึน้ ไปถอื ว่าผา่ น
๖. บันทกึ หลังการจดั ประสบการณ์
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ลงช่อื ................................................ ครผู ู้สอน
(...............................................)

92 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่ิมเติม การป้องกนั การทุจรติ ”

๗. ภาคผนวก นทิ าน เรือ่ ง หนนู ิดไมม่ ีนำ�้ ใจ

https://www.youtube.com/watch?v=๓๕nlQfGCzf๘

เพลงแบง่ ปนั

https://www.youtube.com/watch?v=__S๑xhE-EQU

อยากจะแบง่ ให้เธอ ก็เราแบง่ กัน
คนละนดิ คนละหนอ่ ย มนี ้อยให้นอ้ ยมเี ยอะก็แบง่ ไป
เผ่อื แผ่เอื้อเฟ้ือกนั ไว้ แบง่ ปนั กนั ไปน้ำ� ใจเบง่ บาน
แบ่งปัน แบ่งกัน แบ่งปนั แบ่งสง่ ต่อกัน แบ่งปนั กันไป
น้�ำใจทด่ี ีแบบนี้มไี ว้ เบิกบานช่นื ใจ น�ำ้ ใจทด่ี ี
แบบน้ีมไี ว้เบกิ บานชนื่ ใจ น้ำ� ใจเบ่งบาน

ระดับปฐมวัย 93


Click to View FlipBook Version