The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pingchanon07, 2022-03-02 11:16:52

โครงงานสบู่กากกาแฟ

หน้าปก

โครงงานสร้างและประดิษฐ์ Kofeboo สบู่กากกาแฟ
(Create and invent Kofeboo soap from coffee grounds)

นางสาวบุณยาพร โหจนิ ดารัตน์
นางสาวอินทริ า ใชยา

โครงงานนีเ้ ป็นสว่ นหนงึ่ ของการศกึ ษาตามหลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สงู
ประเภทวิชาบริหารธรุ กจิ สาขาวิชาการบญั ชี
วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาเชยี งใหม่
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

โครงงานสรา้ งและประดิษฐ์ Kofeboo สบ่กู ากกาแฟ
(Create and invent Kofeboo soap from coffee grounds)

จดั ทำโดย
นางสาวบณุ ยาพร โหจนิ ดารัตน์
นางสาวอินทริ า ใชยา
นักศึกษาชัน้ ปวส.2/4 สาขาวิชาการบัญชี

ครูทีป่ รกึ ษา/ครูประจำรายวชิ าโครงงาน
นางภทั รานษิ ฐ์ พัชรศิ วโรจน์

โครงงานนเ้ี ป็นส่วนหน่ึงของการศกึ ษาตามหลกั สตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี ชนั้ สงู
ประเภทวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ สาขาวิชาการบัญชี
วิทยาลยั อาชีวศึกษาเชยี งใหม่
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564



ใบรับรอง
วิทยาลยั อาชีวศึกษาเชยี งใหม่

เรอื่ ง การสรา้ งและประดิษฐ์ Kofeboo สบูก่ ากกาแฟ

จัดทำโดย นางสาวบุณยาพร โหจนิ ดารัตน์ รหัส 63302010111

นางสาวอินทิรา ไชยา รหัส 63302010125

ไดร้ ับการรับรองให้นบั เปน็ ส่วนหนง่ึ ของการศกึ ษาตามหลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ
ช้นั สงู สาขาการบัญชี ประเภทวิชาบรหิ ารธุรกิจ

...................................หัวหนา้ แผนกวชิ า ...................................รองผ้อู ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
(นางจันทรา เทพาคำ) (นางจันทมิ า สัตยาภรณ์)

วนั ท.่ี .......เดอื น...................พ.ศ............... วนั ท.ี่ .......เดือน...................พ.ศ...............

คณะกรรมการสอบโครงงาน

............................................. ประธานกรรมการ
(นางจนั ทรา เทพาคำ)

............................................. กรรมการ
(นางสาสวอรชาภัสร์ อนิ ตะ๊ จกั ร์)

............................................. กรรมการและเลขานุการ
(นางภัทรานิษฐ์ พัชรศิ วโรจน)์



ชื่อผ้จู ัดทำโครงงาน : นางสาวบุณยาพร โหจนิ ดารัตน์ นางสาวอนิ ทิรา ไชยา
ชอื่ โครงงาน : การสรา้ งและประดษิ ฐ์ Kofeboo สบกู่ ากกาแฟ
สาขาวิชา : การบญั ชี
ประเภทวิชา : บริหารธรุ กจิ
ครทู ่ีปรึกษาโครงงาน : นางภัทรานิษฐ์ พชั ริศวโรจน์
ปีการศึกษา : 2564

บทคดั ย่อ

การดำเนนิ โครงงานการสร้างและประดษิ ฐ์ Kofeboo สบกู่ ากกาแฟ ทหี่ อพกั อารยา3 เลขท่ี
70/15 กเู่ ตา้ ซอย 1 ตำบลศรภี มู ิ อำเภอเมอื งเชยี งใหม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ 50300 โดยมีวัตถุประสงค์
เพอ่ื 1. เพื่อศกึ ษาและประดษิ ฐ์ชิ้นงานจากวสั ดุเหลือใช้ 2. เพ่อื เพมิ่ มลู ค่าและลดปญั หาขยะจากวสั ดุ
ทเ่ี หลอื ใช้ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึงวนั ที่ 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2565

ผลการดำเนินงานโครงงานการสรา้ งและประดิษฐ์ Kofeboo สบู่กากกาแฟ โดยมีส่วนผสม
กลเี ซอรีน หรอื เกลด็ สบู่ 1,000 กรัม กากกาแฟ 30 กรัม แมพ่ มิ พ์ทำสบู่ เตาแก๊ส หมอ้ ไมค้ น
จากการหาประสิทธิภาพและพฒั นาสงิ่ ประดิษฐ์ของผตู้ อบแบบสอบถามจำนวน 20 คน ตอนที่ 1
ขอ้ มูลเบอ้ื งต้นของผ้ตู อบแทนแบบสอบถามเปน็ ชาย 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 25 หญงิ 25 คน คดิ เปน็
รอ้ ยละ 75 อายุระหว่าง 15 - 20 ปี จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 40 อายุ 21 - 25 ปี จำนวน 8 คน
คดิ เปน็ รอ้ ยละ 50 และอายุ 26 ปขี ึ้นไป จำนวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 10 ตอนท่ี 2 ดา้ นลักษณะ
คณุ ลกั ษณะของสงิ่ ประดษิ ฐร์ ะดบั ความพึงพอใจในการใช้สบู่กากกาแฟดา้ นคุณลกั ษณะของสบู่
โดยรวม อยใู่ นระดับดีมาก ( ̅ = 4.20) ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจโดยเรียงลำดบั ค่าเฉลยี่
จากมากไปนอ้ ยดังนี้ เน้อื สบูม่ ีความละเอยี ด ( ̅ = 4.35) รูปลกั ษณข์ องสบนู่ า่ ใช้ ( ̅ = 4.30) บรรจุ
ภัณฑ์สวยงาม ( ̅ = 4.25) กลิน่ ของสบู่ ( ̅ = 4.15) ขนาดของสบู่ ( ̅ = 3.95) ด้านคุณภาพของ
สงิ่ ประดิษฐร์ ะดบั ความพึงพอใจในการใช้สบูก่ ากกาแฟด้านคณุ ภาพของสิ่งประดิษฐโ์ ดยรวม อยู่ใน
ระดบั ดีมาก ( ̅ = 4.35) ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจโดยเรียงลำดับค่าเฉล่ียจากมากไปหา

นอ้ ยดังนี้ รสู้ ึกผวิ สะอาด ( ̅ = 4.55) ทำให้ผวิ ชุม่ ชนื้ ( ̅ = 4.45) ความกระจา่ งใส ( ̅ = 4.05)
ข้อเสนอแนะจากแบบสอบถามความพงึ พอใจในการทดลองใช้สบ่กู ากกาแฟ จำนวน 20 คน ไม่มี
ขอ้ เสนอแนะ 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 90 มขี ้อเสนอแนะ 2 คน คิดเป็นร้อยละ 10 ขอ้ เสนอแนะ
ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. สบกู่ อ้ นคอ่ นข้างเล็ก 2. บรรจภุ ณั ฑ์ไม่หลากหลาย



กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานการสร้างและประดษิ ฐ์ Kofeboo สบกู่ ากกาแฟ สำเรจ็ ลลุ ่วงไปด้วยดี ด้วยความ
กรณุ าของหลายฝา่ ย ตั้งแต่ ผอู้ ำนวยการฯ รองผอู้ ำนวยการฯ ครูอาจารย์ และเจ้าหน้าทวี่ ิทยาลยั
อาชวี ศึกษาเชียงใหม่ ทีไ่ ด้ให้การสนับสนนุ การดำเนินโครงงานวิชาชพี เพื่อใหน้ กั เรยี นไดเ้ พมิ่ โอกาส
ทางการศกึ ษาวชิ าชีพด้วยดตี ลอดมา

ขอขอบคณุ นางภัทรานษิ ฐ์ พัชริศวโรจน์ ครูท่ีปรกึ ษา/ครูประจำวิชาโครงงาน ทใ่ี ห้คำแนะนำ
ในการจดั ทำโครงงานวชิ าชพี รวมทั้งแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งในสว่ นต่าง ๆ จนเปน็ รปู เล่มสมบูรณ์ และ
ขอขอบคุณ คณะกรรมการรบั รองและสอบโครงงานท่ีใหเ้ ห็นชอบในคร้งั นี้

ขอขอบคุณเจ้าของร้าน The Heart Coffee ที่ได้ใหก้ ารสนบั สนุนกากกาแฟพนั ธอ์ุ ราบกิ ้า
เพื่อใชใ้ นการสรา้ งและประดิษฐ์ Kofeboo สบู่กากกาแฟในครง้ั นี้ จนสำเร็จลุล่วงไปไดด้ ว้ ยดี

บุณยาพร โหจนิ ดารัตน์
อินทิรา ไชยา

สารบญั ง
เร่อื ง
ใบรบั รองโครงงาน หน้า
บทคัดยอ่ ก
กติ ติกรรมประกาศ ข
สารบัญ ค
สารบัญตาราง ง
สารบัญภาพประกอบ ฉ
บทที่ 1 บทนำ ช
1
1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญของโครงงาน 1
1.2 วตั ถุประสงค์ของโครงงาน 1
1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1
1.4 ประโยชน์ที่คาดวว่าจะได้รับ 2
1.5 นิยามศพั ท์ 2
บทท่ี 2 เอกสาร ทฤษฎี และงานวจิ ยั ที่เก่ียวข้อง 3
2.1 ความรู้เกย่ี วขอ้ งโครงงานทที่ ำ 3
2.2 ทฤษฎที ี่เก่ยี วขอ้ ง 10
2.3 ประวตั ิวิทยากร 14
2.4 งานวจิ ยั ที่เก่ยี วขอ้ ง 15
บทท่ี 3 วิธีการดำเนินโครงงาน 17
3.1 กรอบแนวคิดสิ่งประดิษฐ์ (Conceptual Framework) 17
3.2 การออกแบบโครงสรา้ งสง่ิ ประดษิ ฐ์ 18
3.3 ข้ันตอนการดำเนินงาน 19
3.4 สร้างและพฒั นาสิง่ ประดิษฐ์ 22
3.5 การหาประสิทธิภาพสงิ่ ประดษิ ฐ์ 22
บทที่ 4 ผลการดำเนนิ โครงงาน 25
4.1 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล 25
4.2 อภิปรายและการวิเคราะห์ขอ้ มลู 30

สารบัญ (ตอ่ ) จ
เรือ่ ง
บทที่ 5 สรปุ ผลการดำเนนิ งานโครงงานและขอ้ เสนอแนะ หนา้
32
5.1 สรุปผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู 33
5.2 ขอ้ เสนอแนะ 34
บรรณานุกรม 35
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก เคา้ โครงร่างโครงงาน 36
ภาคผนวก ข แผนธุรกจิ 41
ภาคผนวก ค รูปครูท่ปี รึกษา และคณะผจู้ ดั ทำ 46

รูปวิทยากร/ทป่ี รกึ ษาโครงงาน และสิง่ ประดิษฐ์ 49
ภาคผนวก ง แบบบนั ทกึ ความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถาม 53
ภาคผนวก จ สร้างและพัฒนาสบูก่ ากกาแฟ 58
ภาคผนวก ฉ แบบขอเสนออนุมัติโครงงานวชิ าชพี 64
ภาคผนวก ช แบบรายงานผลการนำไปใช้ประโยชน์ 66
ภาคผนวก ซ คณะกรรมการอนมุ ตั ิโครงงาน และคณะกรรมการ
68
ประเมนิ โครงงาน 71
ภาคผนวก ฌ รปู นำเสนอโครงงานประจำปีการศกึ ษา 2564 73
ประวัตผิ ู้จัดทำ
ภาคผนวก ญ สรปุ แบบสอบถามประเมนิ ความพงึ พอใจ

ในการเยยี่ มชมการนำเสนอ

สารบญั ตาราง ฉ
ตาราง
ตารางท่ี 3.1 ตารางการวเิ คราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสนิ ใจเลือกโครงงาน หน้า
ตารางท่ี 3.2 ปฏทิ นิ การปฏิบตั งิ าน 19
ตารางที่ 4.1 ตารางจำแนกเพศของผตู้ อบแบบสอบถาม 21
ตารางท่ี 4.2 ตารางจำแนกอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม 26
ตารางท่ี 4.3 ตารางระดบั ความพึงพอด้านคณุ ลกั ษณะของสบ่กู ากกาแฟ 27
ตารางท่ี 4.4 ตารางระดับความพงึ พอใจด้านคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์ 28
ตารางที่ 4.5 ตารางวเิ คราะห์ข้อเสนอแนะของผูต้ อบแบบสอบถาม 29
30

สารบญั ภาพประกอบ ช
ภาพ
ภาพท่ี 2.1 ต้นกาแฟ หน้า
ภาพท่ี 2.2 ดอกกาแฟ 5
ภาพท่ี 2.3 กากกาแฟไลก่ ล่ิน 6
ภาพที่ 3.1 สบกู่ ากกาแฟ 9
ภาพท่ี 3.2 กากกาแฟ 18
ภาพท่ี 3.3 กลเี ซอรนี 18
ภาพท่ี 3.4 แมพ่ มิ พ์ 18
ภาพท่ี 3.5 เตาแกส๊ 18
ภาพที่ 3.6 หมอ้ 18
ภาพท่ี 3.7 กระทะ 18
ภาพท่ี 3.8 ชอ้ นคน 18
ภาพที่ 4.1 แผนภมู ิจำแนกเพศของผตู้ อบแบบสอบถาม 18
ภาพที่ 4.2 แผนภมู ิอายขุ องผตู้ อบแบบสอบถาม 26
ภาพที่ 4.3 แผนภมู แิ สดงความพงึ พอใจในดา้ นคุณลักษณะของสบกู่ ากกาแฟ 27
ภาพที่ 4.4 แผนภูมิแสดงความพงึ พอใจในด้านคณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์ 28
29

บทที่ 1
บทนำ

1.1 ความเป*นมาและความสำคัญของโครงการ
1111ในปจ$ จุบันจะเห็นได/ว1าในจงั หวดั เชยี งใหมม1 ีร/านกาแฟอยูห1 ลายรา/ น และรา/ นกาแฟแตล1 ะรา/ นมี
การใช/กาแฟในการทำเมนเู คร่อื งด่ืมในร/านจำนวนมาก ทำให/มีจำนวนของกากกาแฟเปGนจำนวนมาก
กากของกาแฟน้นั ไมส1 ามารถนำกลับไปชงไดอ/ ีก และหากไมม1 กี ารกำจดั กากกาแฟทด่ี จี ะทำใหเ/ ปGน
ปญ$ หาทางสง่ิ แวดล/อมได/ เชน1 การเกิดเช้ือราจากการหมักหมม การเกดิ กล่นิ ทไี่ ม1พึงประสงคOซ่งึ สง1 ผล
ตอ1 โรคทางเดินหายใจได/ การเกดิ กากกาแฟสะสมและอดุ ตันในระบบทอ1 ระบายน้ำ

สบู1 เปGนเครื่องสำอางชนิดหนง่ึ ท่ใี ชใ/ นการทำความสะอาดรา1 งกาย กระบวนการผลติ สบมู1 กี ารเพม่ิ
สว1 นผสมอ่ืน ๆ เพ่ือให/สบูม1 สี รรพคณุ ตรงตามความตอ/ งการของผ/บู รโิ ภคมากข้ึน เชน1 มสี สี นั ทส่ี วยงาม
น1าใช/ มกี ล่ินหอม และมีสรรพคุณทางยา ในทางการค/ามีการใชส/ ารสังเคราะหOเพิม่ ขึ้นทำให/ผลติ ภัณฑO
นา1 ใช/

ทง้ั นคี้ ณะผจ/ู ัดทำโครงการไดเ/ ล็งเห็นถงึ ปญ$ หาน้แี ละสนใจทจี่ ะทำสบู1จากกากกาแฟเพื่อลดปญ$ หา
และพฒั นาสบูแ1 ละกากกาแฟมาผสมผสานกันเปนG "สบู1กากกาแฟ" เพอื่ ใช/ชำระรา1 งกายให/สะอาดที่มา
จากสรรพคณุ จากกากกาแฟโดยเฉพาะสารตา/ นอนมุ ูลอสิ ระช1วยประทินผวิ ขจดั สงิ่ สกปรกออกจาก
ภายนอกร1างกายได/อย1างปลอดภยั และสบู1กากกาแฟสามารถใช/ไดท/ ง้ั ผวิ หน/าและผวิ กาย

1.2 วตั ถปุ ระสงค=ของโครงการ
1.2.1 เพ่อื ศกึ ษาและประดษิ ฐชO ้นิ งานจากวสั ดเุ หลอื ใช/
1.2.2 เพอื่ เพ่มิ มลู ค1าและลดปญ$ หาขยะจากวัสดุท่ีเหลอื ใช/

1.3 ขอบเขตของโครงการ
11111.3.1 เปaาหมายของโครงการ
11111111 1. เปาa หมายเชงิ คุณภาพ

1) สบ1ูจากกากกาแฟมคี ณุ ภาพสามารถใชเ/ พ่อื ทำความสะอาดได/
2) สบ1จู ากกากกาแฟมีสรรพคณุ ช1วยใหผ/ ิวนม1ุ ช1ุมชืน่ ได/
11111111 2. เปaาหมายเชิงปรมิ าณ
22222222222 1) จัดทำสบ1ูกากกาแฟ เปGนเวลา 2 เดอื น ระหวา1 งวนั ท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ.2564 ถึง

วันที่ 1 กมุ ภาพนั ธO พ.ศ.25651

2

1111
11111.3.2 ระยะเวลาและสถานท่ีดำเนินงาน
22222 1. ระยะเวลาดำเนินงาน ระหว่างวนั ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2564 ถงึ วนั ท่ี 1 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.

256511111
2. สถานทดี่ ำเนินงาน ณ อารยา3 70/15 ก่เู ตา้ ซ.1 ตำบลศรีภมู ิ อำเภอเมืองเชียงใหม่

จังหวัดเชยี งใหม่

1.4 ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ ับ
1.4.1 ไดส้ รา้ งมูลค่าและประโยชนใ์ หแ้ กช่ ิน้ งาน
1.4.2 ชน้ิ งานสามารถลดปญั หาท่เี กดิ จากกำจัดและปัญหาขยะได้

1.5 นิยามศพั ท์
1.5.1 ประดิษฐ์ หมายถงึ การคดิ ค้นหรือคิดทำข้ึนเพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลติ ภณั ฑ์ หรอื กรรมวิธใี หม่ท่ี
แตกตา่ งไปจากเดิม
1.5.2 พฒั นา หมายถงึ ทำให้เจริญ, ทำให้กา้ วหนา้
1.5.3 กากกาแฟ หมายถงึ เศษทไ่ี ด้จากการค่วั บดกาแฟแลว้ นำไปชงดื่มเรยี บรอ้ ยแลว้ จะถกู ทง้ิ
ภายหลังจากการสกดั เพือ่ ให้ได้น้ำกาแฟออกมา
1.5.4 สบู่ หมายถึง ผลติ ภณั ฑ์สำหรับทำความสะอาดรา่ งกายทไี่ ด้จากปฏกิ ริ ิยาของดา่ งกบั นำ้ มัน
จากพืชหรือไขมันจากสัตว์

บทที่ 2
เอกสาร ทฤษฎีและงานวจิ ัยท่เี กีย่ วข้อง

การดำเนนิ โครงงานสร้างและประดิษฐ์ Kofeboo สบกู่ ากกาแฟ ทีห่ อพักอารยา 3 เลขท่ี 70/15
กู่เตา้ ซอย 1 ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมอื งเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300 ระหวา่ งวันท่ี 1 ธันวาคม
2564 ถงึ วันท่ี 1 กมุ ภาพันธ์ 2565 ผดู้ ำเนินโครงการได้รวบรวม เอกสาร ทฤษฎี และงานวจิ ัยท่ี
เก่ียวข้องดังมีหวั ขอ้ ต่อไปนี้

2.1 ความรเู้ ก่ยี วกับโครงการทีท่ ำ
2.2 ทฤษฎีท่ีเก่ยี วขอ้ ง
2.3 ประวตั ิวทิ ยากร/ท่ีปรกึ ษาโครงการและสถานประกอบ
2.4 งานวจิ ยั ที่เกยี่ วข้อง

2.1 ความรู้เก่ยี วกบั โครงการทีท่ ำ
2.1.1 ความรูเ้ ก่ียวกับสบู่
1. คำนยิ ามของสบู่
ในทางเคมี สบูค่ อื เกลือของกรดไขมัน สบ่ใู นบา้ นเรือนใช้ชะลา้ ง อาบ และใช้ในการทำ

ความสะอาดบา้ น โดยสบู่ทำหนา้ ทเี่ ป็นสารลดแรงตงึ ผิว และน้ำมันอิมลั ซิไฟเออร์เพือ่ ใหส้ บ่ไู หลไปกบั
นำ้ ได้ ในอุตสาหกรรม สบยู่ งั ใชก้ ับการปนั่ ผา้ และเป็นสว่ นประกอบสำคญั ของสารหล่อลน่ื บางชนดิ

2. ประวัติของสบู่
กล่าวกันว่า สบู่ไดถ้ ือกำเนดิ ขน้ึ ตั้งแตย่ ุคโรมนั เมอ่ื ประมาณ 3,000 ปีก่อน ที่ Sapo

Hill เกิดการผสมผสานดว้ ยความบงั เอญิ ระหวา่ งเถา้ ฟนื ไม้ (สารประกอบประเภทด่าง) และน้ำมันที่
ได้จากแกะท่นี ำมาทำพิธีบชู ายญั ลักษณะพิเศษท่ีค้นพบ คอื สามารถขจัดส่ิงสกปรกจากมอื หรอื เสอ้ื ผา้
ได้สะอาดชือ่ ของสบู่ (Soap) มาจากชอื่ ของสถานที่ถอื กำเนดิ นนั่ ก็คือ 'Sapo' และต้ังแตน่ ้นั มา สบูก่ ็
กลายเป็นสิง่ ท่ีขาดไม่ไดใ้ นชีวติ ประจำวนั ของมนษุ ยท์ ุกคน และในปี 1928 ไดเ้ กิดสารทำความสะอาด
ชนดิ ผสมแอลกอฮอลเ์ ข้มข้นขน้ึ เปน็ ครั้งแรก (ของโลก) ท่เี ยอรมนี ตอ่ มากม็ ีสารทำความสะอาดทีม่ ี
สว่ นผสมตา่ งชนิดกนั ออกมาหลากหลายมากขน้ึ แตอ่ ย่างไรก็ตาม สบู่จากธรรมชาติก็ยงั คงเปน็ วิธีทีพ่ ดู
ได้วา่ ปลอดภัยและเปน็ มติ รตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม

สบู่ในประเทศไทยเรมิ่ ขน้ึ ในปี พ.ศ. 2470 โดยกลุ่มแรกทน่ี ำเขา้ มาคอื ประเทศญีป่ นุ่ ท่ี
รบั มาจากทางฝ่งั ยุโรปอีกทโี ดยสบกู่ ้อนท่เี ขา้ มานั้นเป็นสบอู่ เนกประสงค์ท่ีใช้อาบน้ำกไ็ ดส้ ระผมกไ็ ดซ้ กั
ผ้ากไ็ ดล้ า้ งจานก็ได้ถือเปน็ การเปลีย่ นแปลงวถิ ีชีวติ ของชาวไทยคร้งั ยิ่งใหญโ่ ดยคำว่าสบู่เป็นคำท่ีคน

4

ไทยใช้เพ้ยี นมาจากคำวา่ "soap" เนื่องจากชาวญ่ีปุ่นออกเสียงคำนีว้ า่ เน่ืองจากชาวญป่ี ่นุ ออกเสยี งคำนี้
ว่า "โซปปุ" ตามสำเนยี งของคนญปี่ ุน่ เม่ือพดู เร็วเร็วฟังเรว็ เรว็ คนไทยกเ็ รยี ก "soap" ว่า "สบ"ู่ ในทสี่ ุด

3. ประเภทของสบู่
1) สบ่กู ้อนขุ่น ผลติ ภณั ฑ์สบ่ทู ีร่ จู้ ักและใช้กันมานานจนถงึ ปจั จบุ นั มลี กั ษณะเป็นก้อน

แข็งสขี าวขุน่ หรอื มสี ตี ่าง ๆ ตามสขี องสารแต่งเติม เช่น สเี ขียว สีชมพู สมี ว่ ง เปน็ ต้น สบู่ชนดิ น้ีมีสาร
ตง้ั ต้น คือ เกลด็ สบู่ (soap) ที่ผลิตไดจ้ ากปฏกิ ริ ยิ าขา้ งตน้ เปน็ วัตถุดบิ สำคัญในการผลิตท่ใี หค้ ณุ สมบัติ
เป็นกอ้ นแขง็ ขาวขุ่น มีฟองมาก

2) สบ่กู อ้ นใส เปน็ ผลติ ภัณฑ์สบ่ทู ่ีมีลกั ษณะก้อนใสหรอื ค่อนขา้ งใสตามสัดส่วนของ
กลเี ซอรนี ทผี่ สมก้อนสบู่จะมีลกั ษณะอ่อนกว่าสบกู่ อ้ นขุ่น และสามารถทำให้เกิดสีใสตา่ ง ๆ ตามสารให้
สีทีเ่ ตมิ ผสม สบชู่ นดิ นี้จะให้ฟองคอ่ นขา้ งนอ้ ยกว่าสบกู่ อ้ นขุ่นเนอ่ื งจากมสี ่วนผสมของกลเี ซอรีนเปน็
ส่วนใหญส่ ารตงั้ ต้นที่ใชอ้ าจเป็นกลเี ซอรนี เหลวหรอื กลเี ซอรีนกอ้ น

3) สบู่เหลว เปน็ ผลติ ภณั ฑส์ บูท่ ม่ี ีนำ้ เปน็ สว่ นผสมทำใหเ้ นอ้ื สบู่เหลวมสี ีสันตา่ ง ๆ
ตามสารเติมแตง่ สบูช่ นิดน้ีใช้สารตงั้ ต้นจากเกลด็ สบู่ (soap) ทไี่ ด้จากปฏกิ ิรยิ าข้างต้นเหมือนสบชู่ นิด
ก้อนขนุ่ แตต่ ่างกันท่ีจะใชด้ า่ งเขม้ ขน้ โพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์แทนโซเดียมไฮดรอกไซด์เพราะจะทำให้
เน้ือสบอู่ อ่ นตวั ดกี ว่า

2.1.2 ความรู้เก่ียวกบั กาแฟ
1. คำนิยามของกาแฟ
กาแฟ (Coffee) เปน็ เครอื่ งดม่ื ท่ีทำจากเมลด็ กาแฟคว่ั ซ่งึ ไดจ้ ากต้นกาแฟ นยิ มดมื่

ร้อนๆ แตส่ ามารถดมื่ แบบเยน็ ได้ บางครั้งนยิ มใส่นมหรือครมี ลงในกาแฟ ในกาแฟหนง่ึ ถ้วยมีคาเฟอีน
อยปู่ ระมาณ 80-140 มลิ ลกิ รัม

2. ประวตั คิ วามเป็นมาของกาแฟ
(จารภุ รณ์,2540; ชอ่ ทพิ ยวรรณ ,2551) กาแฟเป็นเครอ่ื งดม่ื ชนิดหน่ึงทไี่ ด้รบั ความ

นิยมอยา่ งกวา้ งขวางมีหลกั ฐานทางโบราณคดี กลา่ วถงึ กาแฟไวว้ ่า ในศตวรรษที่ 9 คนเลี้ยงแพะชาว
เอธิโอเปยี ช่ือ กลั ดิ สังเกตเหน็ แพะทเ่ี ล้ียงเอาไว้ น้ัน เกดิ กระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริงผิดปกติโดยไม่
หลบั นอนตลอดท้ังคืน หลังจากที่กินเมล็ดผลไม้ ชนดิ หนึ่งเขา้ ไป กัลดิจึงไดล้ องนําเมลด็ ของผลไม้นั้นมา
ตากแห้งและบดเพ่ือชงดม่ื กพ็ บวา่ ทําให้รู้สกึ กระปร้ีกระเปรา่ ไมอ่ อ่ นเพลียเขาจงึ ได้นำเรื่องน้ีไปเลา่
ใหก้ ับนกั บวชฟงั ต่อมานกั บวชจงึ ได้นำเมล็ดไปชงและใหเ้ หล่าลกู ศิษย์ดม่ื การคน้ พบน้ีได้ถกู เผยแพร่
ออกไป ในสมยั โบราณเมลด็ กาแฟถกู นำไปทดลองผสมกบั อาหาร โดยการผสมลงไปในแป้ง ทำให้
อาหารมีกลิน่ หอมขนึ้ จึงทำใหเ้ มลด็ กาแฟกลายเป็นทรี่ จู้ ักและนยิ มมากขึ้น ขา่ วคราวเมล็ดพนั ธุก์ าแฟได้
แพรส่ ะพดั ลว่ งรู้ไป ถงึ หชู าวมุสลิมในละแวกใกล้เคยี งจากปากตอ่ ปากจากคนหนงึ่ ไปยังอีกคนหน่ึง จาก
ชุมชนหนงึ่ ถงึ อีกชุมชน จนเป็นที่ร้จู ักกวา้ งขวางไปทั่ว ชาวมุสลิมในคาบสมุดอาราเบียรจ์ ึงถอื ไดว้ ่าเป็น

5

ชนกลมุ่ แรก ๆ ที่ไดร้ ้จู ักกาแฟแลว้ จะทำใหก้ าแฟเป็นท่ีรจู้ กั แพร่หลายไปยงั ชนชาตอิ นื่ ที่สุดของกาแฟก็
แพร่หลายไปทั่วโลก ส่หู มเู่ กาะอนิ โดนีเซยี ถงึ เอเชยี อาคเนย์ อย่าง ลาว เวียดนาม จนถงึ ประเทศไทย
ซ่ึงมกี ารปลูกกาแฟกนั ทางภาคเหนอื และภาคใต้ในปัจจุบัน

ภาพท่ี 2.1 ตน้ กาแฟ
(ที่มา : https://www.coffeefavour.com/coffee-tree-arabica-robusta-botany-cultivation/)

3. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ตน้ กาแฟเปน็ พืชทมี่ ีเนอื้ ไมม้ ีลำตน้ ทีส่ งู ใหญ่ โดยลำต้นอาจสงู ได้ถงึ 10 เมตรถ้าไมม่ ี

การตัดแต่งก่ิง แต่โดยทั่วไปเกษตรกรมักจะตัดแตง่ กงิ่ กาแฟให้เต้ยี เพ่อื ทำใหส้ ามารถเก็บเกย่ี วผลผลติ
ได้ง่าย กาแฟอยใู่ นวงศ์ Rubiaceae หรอื พชื ในวงศเ์ ข็ม โดยในประเทศไทยพบพชื วงศ์น้อี ยู่ประมาณ
110 สกลุ โดยพืชในวงศ์นม้ี ีลกั ษณะเฉพาะที่สังเกตเห็นได้ง่ายคอื มใี บเด่ียว แต่ละใบออกตรงขา้ มกัน
ซง่ึ ใบในแต่ละคู่จะต้งั ฉากกนั ลกั ษณะของใบมกั เปน็ รูปเขม็ และมขี อบใบที่เรียบส่วนดอกมกั มีปลาย
4 - 5 แฉกมีกลบี ดอกท่เี ช่อื มตดิ กนั

สายพนั ธ์ขุ องกาแฟแม้ว่าสายพันธ์ุของกาแฟจะมีอยูด่ ว้ ยกนั หลายสายพันธ์ุ
แตห่ ลกั ๆ ที่นยิ มปลกู และจำหนา่ ยกนั ทว่ั โลก มีอย่ดู ว้ ยกัน 2 สายพันธ์ุ ได้แก่ พนั ธุอ์ าราบิก้า (Coffea
Arabica) ซง่ึ เป็นพันธท์ุ นี่ ยิ มปลูกเป็นอยา่ งมาก โดยผลผลติ ของการแฟพันธุ์อาราบกิ า้ คดิ เป็นรอ้ ยละ
75-80 ของผลผลติ ของกาแฟทว่ั โลกส่วนอีกหนง่ึ สายพนั ธ์ุทีม่ ีผลผลติ ประมาณรอ้ ยละ 20 ของผลผลิต
กาแฟท่ัวโลก คอื พนั ธโุ์ รบัสต้า (Coffea canephora) ซึ่งมรี สชาตแิ ละความเข้มของรสกาแฟแตกต่าง
จากอาราบิกา้ โดยโรบสั ตา้ จะมคี วามเข้มของกาแฟทีม่ ากกวา่ อาราบิกา้ รวมถึงยังมปี รมิ าณของ
คาเฟอีนทม่ี ากกว่าอกี ด้วย

6

4. การเจริญเติบโต ผลิดอกและใหผ้ ลผลติ
ตน้ กาแฟสามารถเจริญเตบิ โตได้ดีในพ้ืนท่ี ทม่ี คี วามสูงจากระดบั น้ำทะเลอยา่ งน้อย

700 เมตรขนึ้ ไป ตน้ กาแฟช่ืนชอบและจะเจรญิ เตบิ โตไดด้ ใี นอากาศทห่ี นาวเย็น และมคี วามช้ืนของ
อากาศทีเ่ พยี งพอ ตน้ กาแฟจะอาศัยนำ้ จากนำ้ ฝนเป็นหลัก ในแหลง่ ปลูกที่ให้ผลผลิตดี ควรมีปรมิ าณ
น้ำฝนเฉล่ียตอ่ ปี 1,500 มิลลิลิตร การปลกู กาแฟต้ังแต่เร่ิมแรกจนถงึ การให้ผลผลติ มักจะตอ้ งใชเ้ วลา
ในการเจริญเติบโตอย่างน้อย 3-4 ปี เมอ่ื ต้นกาแฟเตบิ โตเตม็ ที่ กจ็ ะเริม่ ติดตาดอกโดยดอกกาแฟจะ
ออกตรงบรเิ วณซอกใบมีลกั ษณะเป็นกลุ่ม มีสีขาว และทีส่ ำคัญดอกของกาแฟจะมีกล่ินที่หอมหวาน
ชวนนา่ ดมเปน็ ยิง่ นัก เมอ่ื ดอกกาแฟบานเตม็ ทแี่ ล้วก็ถึงเวลาผสมเกสร ซงึ่ การผสมเกสรก็จะทำใหเ้ กดิ
การสรา้ งเมล็ดกาแฟ ซง่ึ จะใชเ้ วลายาวนานถงึ 7 - 9 เดอื นนับตัง้ แตอ่ อกดอกโดยทัว่ ไปจะสามารถเก็บ
เกี่ยวผลผลิตไดใ้ นชว่ งเดือนกนั ยายนไปจนถงึ เดือนกุมภาพันธ์ แตท่ ้ังน้กี ข็ ้ึนกับสายพันธวุ์ ่ามรี ะยะเวลา
เกบ็ เกี่ยวท่ชี ว่ งใด

การเกบ็ เกี่ยวผลผลิตมกั จะเก็บเก่ยี วผลผลิตที่สกุ เตม็ ที่ โดยเกษตรกรจะใช้
น้ิวหวั แม่มอื และนิ้วชี้ บีบผลกาแฟลกู สแี ดง ๆ ถ้าผลสกุ เตม็ ท่แี ละสามารถเก็บเกยี่ วไดแ้ ล้วเมื่อบีบแล้ว
เมลด็ กาแฟกจ็ ะหลดุ ออกมาโดยไมต่ อ้ งใช้แรงบีบมากนัก เมือ่ ได้เมล็ดกาแฟมาแล้ว กจ็ ะเข้าสู่
กระบวนการถัดไป คือ การผลิตเมลด็ กาแฟ ซง่ึ มี 2 กรรมวิธีหลกั ๆ ไดแ้ ก่ วธิ ที ำสารกาแฟแบบแห้ง
และวธิ ีการทำสารกาแฟแบบหมักหรือแบบท่ีตอ้ งใช้นำ้ โดยแต่ละวิธีกม็ ขี อ้ ดขี อ้ เสียแตกตา่ งกนั ออกไป

ภาพที่ 2.2 ดอกกาแฟ
(ทีม่ า : https://www.posttoday.com/life/travel/409333)
กาแฟเปน็ พืชเศรษฐกิจหลักของหลาย ๆ ประเทศรวมถงึ ยงั เป็นพชื เศรษฐกิจหลักใน
บางจังหวัดของประเทศไทยด้วย การปลกู กาแฟตง้ั แต่เรม่ิ แรกจนถงึ เกบ็ เกีย่ วผลผลิต อาจใชเ้ วลา
ยาวนานถึง 5 ปี เมื่อกาแฟติดดอกแลว้ กอ็ าจตอ้ งรอจนถึง 9 เดือนจนผลสุกเตม็ ท่ี และพร้อมสำหรบั
การเกบ็ เกยี่ ว เกษตรกรจะเลอื กเกบ็ กาแฟทส่ี ุกเตม็ ท่ีเท่านั้น หลงั จากน้ันกจ็ ะนำผลของกาแฟท่เี กบ็
เกี่ยวได้ เข้าสขู่ ้นั ตอนของการผลติ เมล็ดกาแฟตอ่ ไป

7

2.1.3 กากกาแฟ
1. คำนยิ ามกากกาแฟ
เศษผงของกาแฟค่วั บดทผี่ า่ นการสกดั ผา่ นนำ้ ร้อน การชงกาแฟสดน้ันจะไมน่ ํากาก

กาแฟท่ใี ช้แลว้ มาชงซ้ำเพราะจะทำให้ความหอมและรสคุณภาพตำ่ ลง ความหอมและคาเฟอีนทไี่ ดก้ จ็ ะ
ตำ่ ลง เช่น กนั กากกาแฟจัดเปน็ สารอินทรียท์ ่เี หลอื ทงิ้ จากอตุ สาหกรรมการแปรรปู กาแฟและรา้ น
กาแฟสดทวไี ปซึ่งกากกาแฟน้ีถือว่าเปน็ กากของเสยี ท่ีส่งผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม เพราะมีปริมาณ
คาร์บอนเป็นองค์ประกอบจำนวนมากหากมกี ารท้ิงลงสู่แหล่งน้ำจะส่งผลให้ค่า BOD
(ปริมาณออกซิเจนทจ่ี ุลนิ ทรีย์ตอ้ งการใชใ้ นการย่อยสลายอนิ ทรีย์สารทีม่ ีอยู่ในนำ้ ) ในน้ำมีปริมาณ
สงู ขนึ้ และหากมกี ารจัดการกากกาแฟทไ่ี มด่ ีอาจกลายเปน็ แหล่งสะสมของเช้ือราและแบคทีเรียต่าง ๆ
ที่เปน็ อันตรายต่อมนุษยไ์ ด้

2. สารทเี่ ป็นประโยชนใ์ นกากกาแฟ
(รพพี รรณ , 2560) จากการวิเคราะห์สารสำคญั ทเ่ี ป็นส่วนประกอบอยู่ในกาดกาแฟ

เพราะวา่ ประกอบไปดว้ ยสารสำคญั หลายกลมุ่ เชน่ โพลิแซคคาไรด์ กรดไขมัน โปรตนี คาเฟอีน
สารประกอบฟนี อล และแร่ธาตุต่าง ๆ โดยสารเหลา่ นอี้ าจแตกต่างกนั ขึน้ อยกู่ ับชนดิ ของกาแฟ แหล่ง
ปลกู ขน้ั ตอนการผลติ และวิธีการสกัด เป็นตน้

1) โพลีแซคคาไรด์ เปน็ สารประเภทคารโ์ บไฮเดรตซ่งึ ในโมเลกลุ ประกอบด้วยมอโน
แซก็ คาไรด์ชนดิ เดียวกัน (homopolysaccharide) เชน่ กาแลก็ โทแมนแนน (galactomannan)
และอะราบโิ นกาแล็กแกน(arabinogalactan) เปน็ ต้น โดยในกากกาแฟประกอบไปด้วยโพลีแซคคา
ไรดท์ ง้ั 2 ประเภท ประมาณรอ้ ยละ 50 ตอ่ น้ำหนกั แห้งกากกาแฟ ซึง่ จะพบกาแลก็ โทแมนแนนมาก
ท่ีสดุ การสกดั โพลีแซคคาไรดจ์ ากกากกาแฟจะใช้วธิ กี ารไฮโดรไลซีส (hydrolysis) ด้วยกรด

2) โปรตนี ในกากกาแฟจะมโี ปรตนี โดยเฉลี่ยที่ 13.6 w/w จากการวเิ คราะหห์ า
ปรมิ าณโปรตนี โดยวิธี kjeldahl ซง่ึ เปน็ วิธคี ำนวณจากปรมิ าณไนโตรเจนทง้ั หมดพบวา่ กากกาแฟยงั มี
โปรตนี เหลืออยู่ร้อยละ 13.6 ต่อน้ำหนกั กากกาแฟแห้ง ทง้ั นี้ คา่ ที่ได้อาจมากกวา่ ความเปน็ จริง
เลก็ นอ้ ยจากปรมิ าณไนโตรเจนทมี่ าจากสว่ นของคาเฟอีน, ไตรโกเนลลนี (trigonelline), เอมนี อสิ ระ
(free amine) และกรดอะมโิ น (Mussatto et al., 2011) นอกจากโปรตีนแลว้ ในกากกาแฟยังมี
กรดอะมิโนอีกหลายชนดิ จากรายงานพบมากถึง 17 ชนิด โดยท่ลี ิวซีน (leucine) วาลนี (valine)
และฟีนิลอะลานนี (phenylalanine) จะพบปริมาณมากสดุ ค่าเฉลย่ี อยปู่ ระมาณ 10.6-10.9, 6.0-6.8
และ 0.5-6.7 (%protein) ตามลำดับ ซึ่งบางชนิดยงั พบมากกวา่ ในถ่ัวเหลอื ง เป็นต้น

8

3) ไขมนั ปรมิ าณน้ำมนั ทมี่ ีในกากกาแฟอยูใ่ นชว่ ง 11-20% w/w โดยเฉลย่ี จะอยทู่ ี่
ประมาณ15% w/w การสกดั นำ้ มันกากกาแฟ เรมิ่ ตน้ ดว้ ยการใชต้ ัวทำละลายอินทรยี ์ เช่น เฮกเซน
อเี ทอร์ ไดคลอโรมีเทน โดยวธิ ีการรฟี ลักซ์ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในอตั ราสว่ น กากกาแฟ: ตวั ทำละลาย
100 g: 300 g พบวา่ ร้อยละของน้ำมนั ที่ไดจ้ ากการสกดั ดว้ ยเฮกเซน อีเทอร์และ ไดคลอโรมีเทน
เท่ากบั 13.4 14.6 และ 15.2 % w/w โดย pH ของน้ำมนั ไดเ้ ท่ากบั 6.8, 4.7 และ 4.5 ตามลำดับ

4) สารประกอบฟมี อล เปน็ สารทพ่ี บตามธรรมชาติในพชื หลายชนิด โดยมีคุณสมบตั ิ
เป็นสารต้านอนุมลู อิสระ (antioxidant) การวเิ คราะหห์ าปรมิ าณสารประกอบฟนี อล (phenolic
compounds) ท่วั ไปจะคำนวณจากนำ้ หนกั กรมั สมมูลของกรดแกลลิก (gallic acid) ซงึ่ ในกากกาแฟ
พบสารประกอบฟนี อล ประมาณร้อยละ 1-4%GAE w/w หลักจากทสี่ กัดด้วยตวั ทำละลาย เช่น เอ
ทานอล น้ำ หรือ สารละลายด่าง (1%NaOH) และนำไปวดั ปรมิ าณโดยเทคนิคสเปคโตรโฟโตเมทรี
สารประกอบฟีนอลทพ่ี บมากทสี่ ดุ คอื กรดคลอโรจีนิค (chlorogenic acid)
(Pujolet.,2013)ปจั จบุ นั จะใชว้ ิธกี ารสกัดโดยวิธีการแยกสลายด้วยนำ้

5) คาแฟอีน จัดเปน็ สารสำคญั ท่ีสำคัญและเป็นเอกลักษณข์ องกากกาแฟ โดยในกาก
กาแฟจะพบปริมาณคาเฟอีนเหลอื อยใู่ นช่วง 0.73-41.3 ug/ mg SCG extracts สามารถสกดั ได้ด้วย
ตัวทำละลาย เช่น เฮกเซนไดคลอโรมเี ทน

6) แร่ธาตุ ในกากกาแฟประกอบไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด จากการวิเคราะหโ์ ดยใช้
เทคนิค ICP-AES พบวา่ กากกาแฟประกอบไปดว้ ยธาตุ K, P, Mg, Ca, Fe, Mn, Cu, Zn, S, CR โดยท่ี
K จะพบมากที่สุด 3549.0 mg/kg SCG

2. ประโยชนข์ องกากกาแฟ
1) ใช้ดดู กลิ่นอับสารพัด
เอาไปใสใ่ นตเู้ ยน็ ดูเปน็ อาหารประมาณกลิ่นแรง ใสใ่ นตรู้ องเทา้ ตูเ้ สื้อผ้า ตเู้ ก็บ

ของเอาไว้ดูดกลิน่ อาบหรือแม้แต่ต้ังไว้ในบา้ นเฉยๆกไ็ ด้เหมือนกนั วธิ กี ารคอื ใส่ในถ้วยแล้วตัง้ ไว้ หรือ
ผกู ใส่ถกู กระดาษลักษณะคลา้ ยถงุ กระบรู แลว้ หอ้ ยไว้ในท่ตี ่าง ๆ ทง้ั ไมเ่ ลอะเถอะสกปรก
และเปล่ียนสะดวก

2) ใช้ไลส่ ัตว์
กลิน่ เฉพาะตัวกาแฟทมี่ นษุ ย์ชอบ แตส่ ตั วห์ ลายชนดิ ไม่ชอบโดยเฉพาะมดลองเอา

กากกาแฟไปทาขาโตะ๊ ทาฝาตูก้ ับข้าวหรอื โดยตามพน้ื ทมี่ มี ดขนึ้ ดูสามารถใช้แทนยาฆา่ มดได้สตั วอ์ ีก
ประเภทที่ไม่ชอบคอื แมวหากบ้านไหนปลูกตน้ ไมม้ สี วนดอกไม้ สวนผักสวนครัวและกลวั แมวเข้าไป
เล่น กากกาแฟก็ช่วยคณุ ได้เพียงเอากากกาแฟไปโรยไว้บริเวณรอบ ๆหรอื ผสมดนิ เท่านนั้ เองแถมยงั
ปอ้ งกนั ไม่ใหอ้ จุ จาระไมเ่ ปน็ ที่เป็นทางอกี ด้วย

9

3) ใช้บำรงุ ผิวหน้าผิวกายใหเ้ ปลง่ ปล่ัง
อยา่ งทท่ี ราบกันดวี า่ กาแฟมีคาเฟอีนต่าง ๆ ที่มีฤทธ์ิกระตุน้ การทำงานของ

ร่างกายใหเ้ รารสู้ กึ ตื่นตวั การรับสารเหล่านไ้ี มเ่ พียงแตก่ ารกนิ เท่านัน้ แตส่ ารเหลา่ นีย้ ังสามารถซึมผา่ น
ทางผิวหนงั ของมนษุ ยไ์ ดอ้ ีกดว้ ย เพราะฉะน้นั เราสามารถนำเอากากกาแฟมาพอกตัว พอกหนา้ สาร
ธรรมชาติท่อี ยู่ในกาแฟจะกระตุน้ ให้เสน้ เลอื ดสูบฉดี ได้ดี ผิวจะดมู นี ้ำมนี วลยิง่ ข้ึนและกากกาแฟมคี วาม
สาก เอามาใช้เปน็ สครบั แขง่ เกลือ ขดั เซลลผ์ ิวที่ตายแลว้ ออก บำรงุ เซลล์ผิวใหม่ ๆ ทข่ี ึน้ มาทดแทน
บางสูตรการบำรุงผวิ มกี ารผสมขมนิ้ นำ้ ผง้ึ นำ้ นม โยเกิร์ต ฯลฯ เข้าไปเพิม่ เติม

ภาพที่ 2.3 กากกาแฟไล่กลิ่น
(ท่ีมา https://www.dogilike.com/fun/idea/4721/)

10

2.2 ทฤษฎที ี่เกีย่ วขอ้ ง
1. การประดษิ ฐ์
ศูนย์ทรพั ย์สินทางปัญญาและบ่มเพาะวสิ าหกจิ (2559: เว็บไซต์) ใหค้ วามหมายว่า งานท่ีเกดิ

จากการใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรคข์ องมนษุ ยส์ รา้ งหรอื ประดิษฐข์ ้ึนตามวตั ถุประสงค์ทีห่ ลากหลาย หรือ
เพื่อความสวยงาม หรือประดบั ตกแต่งหรือเพอ่ื ประโยชนใ์ ชส้ อย

กรมทรพั ยส์ ินทางปัญญา (2559: เวบ็ ไซต์) กล่าวถึงการการประดิษฐ์ คอื การคดิ ค้นหรือคดิ
ทำขึ้นเพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลติ ภณั ฑ์ หรอื กรรมวิธใี หมท่ ่ีแตกต่างไปจากเดมิ เชน่ การประดษิ ฐ์คดิ คน้ เกย่ี วกบั
กลไก โครงสรา้ ง หรือส่วนประกอบ ส่งิ ของหรอื เครื่องใชต้ า่ ง ๆ หรอื เปน็ การประดิษฐเ์ กย่ี วกบั กรรมวิธี
กระบวนการหรอื วธิ กี ารใหม่ ๆ ในการผลิต การเก็บรักษาคุณภาพของผลติ ภัณฑ์'

จักรชยั อนิ ลายศ (2563: เว็บไซต์) ความหมายของงานประดษิ ฐ์ หมายถงึ งานทเ่ี กิดจากการ
ใช้ความคดิ สรา้ งสรรค์ของมนษุ ย์สรา้ งหรอื ประดษิ ฐข์ ้นึ ตามวตั ถุประสงคท์ ่ีหลากหลาย หรือเพอื่ ความ
สวยงาม หรือประดับตกแตง่ หรอื เพอื่ ประโยชน์ใช้สอย

2. ทฤษฎคี วามพึงพอใจ
วริ ฬุ เตชะไพบลู ย์ (2542: เว็บไซต์) กลา่ วว่า ความพึงพอใจเป็นความรู้สกึ ภายในจติ ใจของ

มนษุ ย์ทีไ่ มเ่ หมือนกนั ขน้ึ อยกู่ ับแต่ละบคุ คลจะมีความคาดหมายกับส่งิ หนงึ่ สงิ่ ใดอย่างไร ถ้าคาดหวงั
หรือมคี วามตัง้ ใจมากและได้รบั การตอบสนองดว้ ยดีจะมีความพงึ พอใจมากแตใ่ นทางตรงกนั ขา้ มอาจ
ผิดหวงั หรือไม่พงึ พอใจเปน็ อย่างย่ิง

กาญจนา แก้วเทพ (2546: เว็บไซต์) กลา่ วว่า ความพงึ พอใจของมนุษย์เป็นการแสดงออกทาง
พฤติกรรมเปน็ นามธรรมไมส่ ามารถมองเห็นเปน็ รปู ธรรมไดก้ ารทเี่ ราจะทราบวา่ บุคคลมคี วามพึงพอใจ
หรือไม่ สามารถสังเกตโดยการแสดงออกท่คี อ่ นขา้ งสลับซบั ซ้อนและต้องมสี ิ่งเรา้ ที่ตรงต่อความ
ต้องการของบุคคลจึงจะทำให้บุคคลเกดิ ความพึงพอใจดังนัน้ ส่ิงเร้า จึงเปน็ แรงจูงใจของบคุ คลนั้นให้
เกิดความพึงพอใจในงานน้ัน

เทพพนม บุระคำ (2540: เว็บไซต์) กลา่ วว่า ความพงึ พอใจเปน็ ภาวะของความพึงพอใจหรอื
ภาวะที่มอี ารมณใ์ นทางบวก ความพงึ พอใจเปน็ ความรสู้ กึ ภายในจิตใจของมนษุ ยท์ ่ไี ม่เหมอื นกนั ขน้ึ อยู่
กบั วา่ จะมคี วามคาดหวังสิ่งใดมากหรอื น้อย การแสดงออกทางพฤติกรรมก็เชน่ กันสามารถสังเกตได้
โดยการแสดงออกได้ ความพึงพอใจยังเรียกไดอ้ ีกอยา่ งวา่ อารมณ์ในทางบวก

11

เชลลี่ (Shelli, 1995, p. 9 อา้ งถงึ ใน ปราการ กองแกว้ , 2546: เว็บไซต์) ได้ศึกษาแนวคดิ
เกี่ยวกบั ความพงึ พอใจ สรุปไดว้ ่าเปน็ ความรสู้ กึ สองแบบของมนุษย์ คือ ความรู้สึกในทางบวกและ
ความรูส้ กึ ในทางลบ ความรู้สกึ ในทางบวกเปน็ ความรู้สกึ ทเี่ ม่อื เกิดข้นึ แล้วทำให้ความรู้สกึ ท่มี รี ะบบ
ย้อนกลับและความสขุ น้ีสามารถทำให้เกดิ ความสขุ หรือความรู้สกึ ทางบวกเพิ่มขึ้นได้อกี ดงั นั้น จะเหน็
ไดว้ ่า ความสขุ เป็นความร้สู กึ ท่ีสลบั ซับซ้อนและความสขุ นี้จะมีผลต่อบคุ คลมากกว่า ความรู้สกึ ใน
ทางบวกอ่ืน ๆ ความรสู้ กึ ทางลบ ความร้สู กึ ทางบวกและความสขุ มีความสมั พนั ธ์กนั อยา่ งสลบั ซับซ้อน
และระบบความสัมพนั ธ์ของความรู้สกึ ทง้ั สามนี้เรียกว่าระบบความพึงพอใจ โดยความพงึ พอใจจะ
เกิดข้นึ เมื่อระบบความพงึ พอใจมคี วามรสู้ กึ ทางบวกมากกว่าความรูส้ กึ ทางลบ ทฤษฎีความต้องการ
ตามลำดับข้ันของมาสโลว์
มาสโลว์ (Maslow) ไดเ้ รยี งลำดบั สง่ิ จงู ใจ หรอื ความตอ้ งการของมนษุ ยไ์ ว้ 5 ระดบั โดยเรียงลำดบั ข้ัน
ของความตอ้ งการไวต้ ามความสำคญั ดงั นี้

1. ความตอ้ งการพ้ืนฐานทางร่างกาย (physiological needs) เป็นความตอ้ งการขน้ั พน้ื ฐาน
ของมนษุ ยเ์ พ่ือความอยรู่ อด เชน่ อาหาร เครอ่ื งนุ่งห่ม ทอี่ ยูอ่ าศยั ยารักษาโรค อากาศ นำ้ ดื่ม การ
พกั ผอ่ น เปน็ ตน้

2. ความตอ้ งการความปลอดภัยรอดพ้นอนั ตรายและมัน่ คง (security or safety needs)
เมือ่ มนษุ ยส์ ามารถตอบสนองความตอ้ งการทางรา่ งกายได้แล้ว มนษุ ยจ์ ะเพ่มิ ความต้องการในระดับที่
สงู ขน้ึ ต่อไป เช่น ความต้องการปลอดภยั ในชวี ิตและทรพั ย์สิน ความต้องการความมัน่ คงในชีวิตและ
หน้าที่การงาน

3. ความต้องการมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมทางสังคม (affiliation or acceptance needs) เปน็
ความตอ้ งการเป็นส่วนหนึ่งของสงั คม ซง่ึ เป็นธรรมชาตอิ ยา่ งหนง่ึ ของมนษุ ย์ เช่น ความต้องการให้และ
ไดร้ ับซงึ่ ความรกั ความต้องการเป็นส่วนหน่งึ ของหมคู่ ณะ ความต้องการไดร้ ับการยอมรับ การตอ้ งการ
ไดร้ บั ความช่นื ชมจากผูอ้ นื่ เป็นตน้

4. ความตอ้ งการเกียรตยิ ศชือ่ เสยี ง (esteem needs) เป็นความตอ้ งการการได้รบั การยก
ย่อง นับถือและสถานะจากสังคม เช่น ความต้องการได้รบั ความเคารพนับถือ ความตอ้ งการมคี วามรู้
ความสามารถ เป็นตน้

5. ความตอ้ งการความสำเร็จในชีวติ (self-actualization) เป็นความต้องการสูงสดุ ของแต่
ละบุคคล เชน่ ความต้องการที่จะทำทุกสิง่ ทุกอย่างไดส้ ำเร็จ ความตอ้ งการทำทกุ อย่างเพือ่ ตอบสนอง
ความตอ้ งการของตนเอง เปน็ ต้น

12

ความพอใจในขั้นตา่ ง ๆ ของความตอ้ งการของมนษุ ย์นี้ ความตอ้ งการขั้นสูงกวา่ บางคร้งั ได้
ปรากฏออกมาให้เห็นแลว้ ก่อนที่ความตอ้ งการ ขนั้ แรกจะไดเ้ หน็ ผลเปน็ ที่พอใจเสยี ด้วยซำ้ อย่างไรก็
ตามบุคคลแต่ละคนสว่ นมากแสดงใหเ้ ห็นว่า ตนมคี วามพอใจอยา่ งสงู สดุ ในลำดับขั้นความตอ้ งการข้ัน
ตา่ งๆ มากกว่าขัน้ สูงจากการสำรวจ พบว่า คนธรรมดาทว่ั ไปจะมีความพอใจใน ลำดบั ขั้นตอนตา่ ง ๆ
ดังนี้

1. ความตอ้ งการพ้ืนฐานทางรา่ งกาย (physiological needs) 85%
2. ความตอ้ งการความปลอดภัยและมนั่ คง (security or safety needs) 70%
3. ความตอ้ งการมสี ว่ นรว่ มในสังคม (affiliation or acceptance needs) 50%
4. ความตอ้ งการเกียรติยศช่อื เสียง (esteem needs) 40%
5. ความตอ้ งการความสำเรจ็ ในชีวติ (self-actualization) 10%
พาราสุรามาน เซทเฮมท และแบรร่ี (Parasuraman, Zaithamal & Berry, 1994 อา้ งถงึ ใน ภษู ิต
สายกมิ้ ซ้วน, 2550: เว็บไซต์) กล่าววา่ หลกั การบริการท่ีดี ต้องประกอบดว้ ย
1. ความเช่ือมนั่ ไวว้ างใจ บรกิ ารนน้ั จะต้องมีความถูกต้องมีความถกู ตอ้ งแม่นยาและ
เหมาะสมตง้ั แตค่ รงั้ แรกรวมทัง้ ตอ้ งมคี วามสม่ำเสมอ คอื บริการทกุ คร้ังจะตอ้ งไดผ้ ลเช่นเดิมทำให้ผมู้ า
รบั บรกิ ารรสู้ กึ วา่ ผู้ให้บริการเป็นท่ีพงึ่ ได้ เช่น มคี วามถกู ต้องแมน่ ยำในการวนิ จิ ฉยั
2. สมรรถภาพในการใหบ้ ริการ ผใู้ ห้บรกิ ารตอ้ งมีทกั ษะและความรูค้ วามสามารถในการ
บรกิ ารทีจ่ ะสามารถตอบสนองความต้องการของผมู้ ารับบริการได้ เช่น แพทยม์ คี วามเชี่ยวชาญ ในการ
รักษาโรคเภสัชกรมีความเช่ียวชาญในเรอื่ งเก่ยี วกับยา ฯลฯ หรือบุคคลอนื่ ๆ มคี วามรู้ ความสามารถ
ในสาขาของตนและสามารถนามาใช้ในการบริการได้อยา่ งเตม็ ที่
3. ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้มารับบริการ ผใู้ หบ้ รกิ ารจะตอ้ งมี
ความพรอ้ มและเต็มใจทจี่ ะใหบ้ รกิ ารสามารถตอบสนองความต้องการดา้ นต่าง ๆ ของผู้มารบั บรกิ าร
ใหท้ ันทว่ งที เช่น โรงพยาบาลมีความพร้อมที่จะรบั ผปู้ ว่ ยจากเหตกุ ารณฉ์ กุ เฉนิ ตา่ ง ๆ ได้อย่างรวดเรว็
4. ความมอี ธั ยาศยั ไมตรี บคุ ลากรทุกคนในสถานบริการทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับการให้บรกิ ารจะต้อง
มคี วามสุภาพ มีการเอาใจใส่และเหน็ ใจผมู้ ารบั บริการ รวมทงั้ ตอ้ งมีกริ ยิ ามารยาทการแต่งกายและ
การใช้วาจาทีเ่ หมาะสมด้วย
5. การเขา้ ถงึ บริการ ผมู้ ารบั บรกิ ารจะต้องเขา้ ถึงการบรกิ ารไดง้ า่ ย และได้รับความสะดวก
จากการบริการ รวมถึงการบรกิ ารนนั้ จะตอ้ งมกี ารกระจายไปอย่างท่ัวถึง เชน่ การคมนาคมท่ีสะดวก
การบริการทีเ่ ป็นระเบยี บ รวดเร็ว ไม่ตอ้ งนง่ั รอนาน การใหบ้ รกิ ารเปน็ ไปอยา่ งเสมอภาค

13

6. ความนา่ เชอื่ ถอื เกิดจากความซอื่ สัตย์ ความจริงใจ ความสนใจอยา่ งแทจ้ ริงของผใู้ ห้
บรกิ ารที่มตี อ่ ผู้รับบรกิ ารซึ่งเป็นสงิ่ สำคญั ท่สี ดุ โดยเฉพาะทางการแพทย์ และจะทำใหม้ ีผ้รู บั บรกิ าร ซง่ึ
เปน็ สงิ่ สำคัญท่สี ดุ โดยเฉพาะทางการแพทย์ และจะทำใหบ้ ริการนั้นอาจเกดิ จากปจั จัยอนื่ เสริม อีก
เช่น ชอื่ เสยี งของโรงพยาบาลและบคุ ลากรตา่ ง ๆ

7. การสื่อสาร ผูใ้ หบ้ ริการควรมีการให้ข้อมลู ดา้ นตา่ ง ๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ งท่ผี มู้ ารบั บรกิ าร พงึ
ทราบและประสงคจ์ ะทราบ เชน่ ขอ้ มลู เก่ียวกับการรักษาพยาบาลท่ผี ู้ป่วยจะไดร้ บั ข้อมลู เรือ่ ง
คา่ ใช้จา่ ยและทางเลือกในการรักษา ฯลฯ นอกจากนย้ี งั ตอ้ งคำนงึ ถงึ ความเหมาะสมของผ้ใู หบ้ รกิ าร
และผูร้ ับบริการในดา้ นอ่ืน ๆ อกี เชน่ ระดับการศกึ ษา ฯลฯ

8. ความมั่นคงปลอดภัย เป็นความรสู้ กึ ทมี่ ั่นใจในความปลอดภยั ในชีวติ ทรัพย์สนิ รวมท้งั
ชอื่ เสยี ง ปราศจากความรสู้ ึกเสีย่ งอนั ตรายและขอ้ สงสยั ต่าง ๆ เชน่ การรักษาความลับผปู้ ่วย

9. ความเป็นรูปธรรมของการบริการ ซ่ึงจะทำใหผ้ ู้มารบั บรกิ ารรับร้ถู งึ การบรกิ ารนั้นได้ อย่าง
ชดั เจนและง่ายขน้ึ เชน่ การท่ีโรงพยาบาลมสี ถานทใี่ หญ่ หรูหรา สะอาด มเี ครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ ทันสมัย
การบรกิ ารมีความเหมาะสม ฯลฯ นอกจากนยี้ ังมสี ิ่งอื่นทชี่ ่วยสร้างรปู ธรรมของการบรกิ าร ไดอ้ ีก เชน่
การใช้รอยย้ิมเป็นสอ่ื ทแี่ สดงอธั ยาศยั ไมตรขี องผใู้ หบ้ รกิ าร

10. ความเข้าใจและรจู้ ักผมู้ ารับบริการ ผูใ้ หบ้ ริการควรจะมีความเข้าใจ และรู้จกั ผู้มารับ
บรกิ ารของตนเอง เช่นการท่แี พทย์หรือพยาบาลสามารถจำชอ่ื ผูป้ ่วยได้ ผู้ให้บริการสามารถจำลูกคา้
ของตนเองได้ ฯลฯ

สรชัย พศิ าลบุตร (2551: เวบ็ ไซต์) ได้กล่าวถึงการวดั ระดบั ความพึงพอใจของลูกค้า หรือผู้
ให้บรกิ ารว่าสามารถทำได้ 2 วธิ ี คือ

1. วัดจากการสอบถามความคิดเห็นของลกู ค้าหรือผใู้ ช้บรกิ ารเปน็ การวัดระดับ ความพงึ
พอใจของลกู ค้าหรอื ผู้ใช้บริการจากการสอบถามความคดิ เห็นของลกู ค้าหรือผใู้ ช้บรกิ าร โดยตรงทำได้
โดย กำหนดมาตรวดั ระดบั ความพงึ พอใจทล่ี ูกค้าหรอื ผู้ใชบ้ ริการที่มตี ่อคณุ ภาพของ สนิ ค้าหรอื บรกิ าร
นั้น ๆ และกำหนดเกณฑ์ชี้วัดระดับความพงึ พอใจจากผลการวัดระดับความพงึ พอใจ เฉลีย่ ทีล่ ูกค้าหรอื
ผู้ใช้บรกิ ารท่มี ตี ่อคณุ ภาพของสินคา้ หรอื บริการนน้ั ๆ

2. วดั จากตัวชีว้ ัดคณุ ภาพการใหบ้ ริการทกี่ ำหนดข้ึน โดยการวัดระดบั ความพึงพอใจของ
ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการจากเกณฑ์ช้วี ดั ระดบั คุณภาพสินคา้ หรอื บริการทก่ี ำหนดขนึ้ นีอ้ าจใช้เกณฑ์
คณุ ภาพระดับตา่ ง ๆ ทก่ี ำหนดขึน้ โดยผูใ้ ห้บรกิ าร ผ้ปู ระเมนิ ผลการใหบ้ รกิ าร และมาตรฐานกลาง
หรือมาตรฐานสากลของการใหบ้ ริการนัน้ สรปุ ความพึงพอใจ คอื การทำให้ความรสู้ กึ ของบคุ คลท่ี
ไดร้ ับบรกิ ารในส่งิ ที่ดเี ปน็ ท่พี อใจ ประทับใจ ตามทีผ่ ูร้ ับบรกิ ารตง้ั ใจ ไวห้ รือมากกวา่ ท่คี ิดไว้ การจะทำ
ให้เกิดความร้สู กึ พงึ พอใจได้ หนว่ ยให้บริการตอ้ งวางระบบโครงสรา้ งท่ีดี สอดคลอ้ ง สมั พนั ธก์ ันทุกฝา่ ย
เช่น ด้านเคร่อื งมอื เครื่องใช้ที่ทนั สมยั ดา้ นบคุ ลากรทมี่ คี วามรคู้ วามสามารถเขา้ ใจในมหี น้าทแ่ี ละตอ้ ง

14

มีใจรกั ใน การใหบ้ ริการ ดา้ นสถานที่ พ้นื ที่ต้องเหมาะสมกับการให้บริการ มีความเช่ือมน่ั และมนั่ ใจ
เมือ่ มารับบรกิ าร ซ่งึ สิง่ เหล่าน้ีเปน็ องคป์ ระกอบส่วนหน่งึ จากองค์ประกอบอีกหลาย ๆ ด้านทีจ่ ะนำไปสู่
จุดสูงสดุ ในเรื่องความพึงพอใจ

3. ทฤษฎีความสะอาด
พูนเกษม สำราญพิศ (2550: เวบ็ ไซต์) กล่าววา่ ความสะอาดมีอยู่ 3 ทาง คือ สะอาดกาย

สะอาดใจ สะอาดวาจา ซ่งึ หมายถึง ความดีงามหรอื ความไมท่ จุ รติ กาย ใจ วาจา ความสะอาดภายนอก
ได้แก่ ความสะอาดของรา่ งกาย เคร่อื งใช้ บ้านเรือน เป็นต้น ความสะอาดภายใน ไดแ้ ก่ ความสะอาด
ภายในจิตใจ

กลุ รตั น์ สุธาสถติ ชิ ัย (2552: เวบ็ ไซต์) กล่าวว่า การทำความสะอาดทกุ ซอกทกุ มมุ ของอาคาร
สถานท่ี วัสดุครภุ ณั ฑ์ อปุ กรณ์ เครอื่ งใช้ บา้ นเรือน เป็นต้น กล่าวกนั วา่ ความสะอาดคือพนื้ ฐานการ
ยกระดับคุณภาพ

2.3 ประวัตวิ ทิ ยากร
นางสาวบณั นฏิ า โหจินดารตั น์ อายุ 26 ปี อาชีพ ครูอัตราจา้ ง / ธรุ กจิ ส่วนตวั จบการศกึ ษาจาก

คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์มหาวิทยาลยั ราชภัฏเชียงใหม่ ท่อี ยู่ 2/1 หมู่ 10 ตำบลหย่วน
อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา 56110

15

2.4 งานวิจัยท่เี กีย่ วข้อง
เบญจมาศ ทานสวุ รรณ์ (2559 : บทคดั ยอ่ ) การวิจัยคร้งั นเ้ี ปน็ การวจิ ยั พัฒนาผลติ ภัณฑ์สบู่

จากกากกาแฟอาราบิก้า (ดงมะไฟ) ตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสงู เนิน จงั หวัดนครราชสมี า มี
วตั ถปุ ระสงค์หลักคือ 1) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑส์ บูจ่ ากกากกาแฟจากอาราบิกาที่ใชแ้ ลว้ และคำนวณ
ต้นทนุ ในการผลติ สบู่ 2) เพ่อื ศึกษาความพงึ พอใจของผใู้ ช้ผลติ ภัณฑส์ บ่จู ากกากกาแฟอาราบิกา้ (ดง
มะไฟ) ประชากรท่ใี ช้ในการวิจยั คร้ังนี้ ได้แก่ นักศกึ ษาวชิ าวจิ ยั เบื้องตน้ ทางการบญั ชี ในภาค เรียนที่ 1
ปีการศกึ ษา 2559 จำนวน 52 คนผปู้ ระกอบการร้านกาแฟอาราบิกา้ (ดงมะไฟ) 1 คน และกลุม่
ตัวอย่างที่ใช้ในการวจิ ัย ได้แก่ นักศกึ ษาวิชาวจิ ัยเบือ้ งตน้ ทางการบญั ชี ในภาคเรยี น ที่ 1 ปีการศกึ ษา
2559 จำนวน 45 คน ผปู้ ระกอบการร้านกาแฟอาราบกิ า้ (ดงมะไฟ) 1 คน เครอ่ื งมือทใี่ ชใ้ นการ
รวบรวมข้อมลู เปน็ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณคา่ สถติ ทิ ใี่ ช้ ในการวเิ คราะห์ข้อมูลได้แก่
ค่าความถี่ คา่ ร้อยละคา่ เฉลยี่ (X) และคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลติ ภัณฑ์สบจู่ ากกากกาแฟอารา
บิกา มกี ารพัฒนาปรับปรงุ สูตรจำนวน 3 คร้ัง ครง้ั ท่ี 1 ผลพบว่าสบ่มู จี ำนวนกากกาแฟอยมู่ าก มกี ล่นิ
ฉนุ ของกาแฟ และสบ่แู กะออกจากพมิ พ์คอ่ นข้าง ยาก จึงมกี ารพัฒนาคร้งั ท่ี 2 ตอ่ โดยการกรองกาก
กาแฟจำนวนหลายรอบขึ้น ใสก่ ลนิ่ ข้าวโอ๊ต และใสน่ ้ำมนั มะกอก ผลพบว่า ผิวสบู่เนียนข้นึ กลิ่นของ
กาแฟลดลงแตก่ ลน่ิ ข้าวโอ๊ตฉนุ แรงและ ยงั มกี ลิ่นของน้ำมันมะกอก จึงทำให้มกี ลนิ่ ทีย่ ังไม่เหมาะสม ทำ
ให้มีการพัฒนาครัง้ ที่ 3 โดยการ เปลยี่ นกลน่ิ เปน็ กลิ่นซากุระ และเปลีย่ นจากการใชน้ ้ำมันมะกอกเปน็
การใชว้ าสลนี แทน ใส่ผง ทองคำเพื่อให้ผิวสบู่ดนู า่ ใช้ และใสน่ ้ำผงึ้ เพ่ือเพมิ่ ความชุ่มชน่ื เม่ือใชส้ บู่ ผล
พบวา่ สบมู่ ผี ิวที่เนียน นา่ ใช้ มกี ลน่ิ หอมจากกล่ินซากรุ ะ ไมม่ ีเศษกากกาแฟ มสี สี ันสวยงาม มี
คณุ สมบัติทำใหผ้ ิวชุ่มช้ืน จากส่วนผสมของน้ำผง้ึ ตา้ นอนมุ ูลอสิ ระจากกากกาแฟอาราบกิ ้า (ดงมะไฟ)
ดา้ นการคำนวณ ตน้ ทนุ ในการผลติ สบู่ คำนวณได้ดังนี้ ตน้ ทุนผนั แปรรวม 807 บาท ผลิตสบไู่ ด้ 60
กอ้ น ต่อ 1 ก้อน ราคาต่อกอ้ น กอ้ นละ13.45 = 14บาท ตน้ ทนุ คงทร่ี วม 294 บาท ท่ีปรมิ าณ 60 กอ้ น
= 4.90 บาท ความพงึ พอใจดา้ นคณุ ลกั ษณะของผลติ ภัณฑพ์ บว่า ผลติ ภัณฑม์ ีรูปลักษณ์สวยงาม
ผลิตภณั ฑ์มีกล่นิ หอม ผลิตภัณฑ์มสี สี นั สวยงาม ผลติ ภัณฑส์ บูม่ ีขนาดท่เี หมาะสมกับการใช้งาน และใน
ดา้ นคณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์พบว่า ทำให้ผวิ เนียนนุ่ม ชมุ่ ชื้น รสู้ กึ ผวิ สะอาด สดชื่น กล่ิน หอมติดทน
นาน ปริมาณการเกิดฟองทพี่ อเหมาะ การประเมนิ ความพงึ พอใจในทกุ ดา้ น มคี วามพงึ พอใจในระดบั
มาก

16

ภภู ากรณ์ แสงหิรญั (2559 : บทคัดย่อ) โครงการนีม้ วี ัตถุประสงค์ 1) สนิ คา้ New Product
ใหแ้ ก่ร้านสะดวกซื้อ 2) เพื่อสำรวจความตอ้ งการและความคดิ เหน็ ของลกู คา้ ทมี่ ตี อ่ Scrub of coffee
3) เพอื่ สอบถามแสดงความคิดเห็นและความตอ้ งการของผู้บริโภคทีม่ ีต่อ Scrub of coffee กลุ่ม
ประชาชนเปน็ ลูกค้าภายในรา้ น 7-Eleven สาขาทงุ่ คอก (รหสั สาขา 08462) สาขา ปตท.พหลโยธิน
48 (รหัสสาขา 08836) และสาขาลำลูกกาคลอง 9 (รหสั สาขา 9454) รวมเป็นจำนวน 150 คน
เกบ็ ขอ้ มูลแบบความต้องการของลกู คา้ ทมี่ ตี อ่ Scrub of coffee กล่มุ ประชากรลูกคา้ จำนวน 150 คน
เพ่ือทราบถึงความตอ้ งการของลูกค้าที่มีต่อ Scrub of coffee จากผลดำเนนิ การการเก็บข้อมลู จาก
แบบสอบถามความต้องการของลกู คา้ พบว่าลูกค้ามีความต้องการ Scrub of coffee รอ้ ยละ 86.66%
ซง่ึ เม่ือเปรียบเทยี บวตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี ง้ั ไว้ถือวา่ ผ่านเกณฑแ์ ละหลังจากที่นำ Scrub of coffee มา
ทดลองจำหนา่ ยเพราะวา่ ลกู คา้ ได้ใหก้ ารตอบรบั ได้ดีมากลูกค้ามีความสนใจ Scrub of coffee มาก
ข้นึ การเก็บขอ้ มลู จากแบบสอบถามความพงึ พอใจของลูกคา้ หลังใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ลมุ่ ประชากรลกู ค้า
จำนวน 150 คน เพ่อื ทราบถึงความพึงพอใจของลกู ค้าหลงั ใชผ้ ลิตภณั ฑจ์ ากผลการดำเนินงานพบว่า
ลูกค้ามคี วามพอใจเฉลยี่ 4.51 อย่ใู นเกณฑม์ าก ชืน่ ชอบผลติ ภัณฑ์นี้เนอื่ งจากซอื้ ได้งา่ ยและสะดวกมี
ราคาท่เี หมาะสมกับสินค้า

สุนสิ า อังศรพี วง (2559: บทคัดยอ่ ) โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ เปน็ โรงแรม
มาตรฐานระดับ 4 ดาว ทีเ่ ปดิ ใหบ้ ริการ และเป็นโรงแรมโนโวเทลแหง่ แรกท่ีเปิดให้บริการในประเทศ
ไทยในด้านหอ้ งพัก ห้องอาหาร สปา งานจัดเลีย้ ง เปน็ ตน้ เนื่องด้วยโรงแรมมีลูกค้าเขา้ ใช้บริการเป็น
จำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของหอ้ งอาหาร และสว่ นของงานจัดเล้ียง จึงทำใหม้ ีของเหลือท้ิง เป็น
จำนวนมากเชน่ กัน สงิ่ ที่ต้องทิ้งเปน็ จำนวนมาก คือกากกาแฟทบ่ี ดละเอยี ดแล้ว ซึ่งส่วนใหญม่ าจาก
ไลน์อาหารบฟุ เฟต์ในชว่ งเช้า เพอ่ื ลดปริมาณของกากกาแฟในแต่ละวันและเพ่อื ให้กากกาแฟท่ีต้องท้ิง
เปน็ จำนวนมากนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ คณะผู้จัดทำจงึ คดิ คน้ การนำกากกาแฟมาประยกุ ตใ์ ช้เป็นสบู่
เหลวจากกากกาแฟและให้พนักงานของ โรงแรมได้ทดลองใช้ เพื่อให้ไดเ้ ป็นตัวเลอื กใหม่ในการนำกาก
กาแฟมาประยุกต์ใชใ้ นโรงแรมผลลัพธ์จากการท่ใี ห้พนักงานไดท้ ดลองใช้สบเู่ หลวจากกากกาแฟมี
ความพึงพอใจจากกล่ิน และประสิทธภิ าพในการทำความสะอาด

บทท่ี 3
การดำเนินโครงงาน

การดำเนนิ โครงงานสร้างและประดษิ ฐ์ Kofeboo สบกู่ ากกาแฟ ท่ีหอพกั อารยา 3
เลขที่ 70/15 กู่เตา้ ซอย 1 ตำบลศรภี ูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวดั เชียงใหม่ 50300 ระหว่างวันท่ี
1 ธันวาคม 2564 ถงึ วันท่ี 1 กุมภาพันธ์ 2565 ผดู้ ำเนินโครงงานมีวิธีการดำเนินโครงงานดงั ตอ่ ไปนี้

3.1 กรอบแนวคดิ สิง่ ประดิษฐ์ (Conceptual Framework)
3.2 การออกแบบโครงสร้างสิง่ ประดษิ ฐ์
3.3 ขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน
3.4 สร้างและพัฒนาสง่ิ ประดิษฐ์
3.5 การหาประสทิ ธภิ าพของสง่ิ ประดิษฐ์

3.1 กรอบแนวคิดส่ิงประดษิ ฐ์ (Conceptual Framework)

1. กลีเซอรีนหรอื เกล็ดสบู่ 1. เตมิ กลเี ซอรนี ในหมอ้ เลก็ แลว้ สบกู่ ากกาแฟ
2. กากกาแฟ นำไปวางบนกระทะท่ใี ช้รองหม้อเตมิ
3. แม่พมิ พท์ ำสบู่ นำ้ ลงไปในกระทะเล็กน้อย อนุ่ ดว้ ย
4. เตาแก๊ส ไฟกลางจนกวา่ กลเี ซอรีนจนละลาย
5. หมอ้ 2. ใสก่ ากกาแฟลงไปในหมอ้ แล้วคน
6. กระทะ จนเข้ากนั
7. ไม้คน 3. ตกั ใสแ่ มพ่ มิ พ์ รอจนแข็งตวั
ประมาณ 1 ชว่ั โมง
4. หากสบแู่ ขง็ ตวั แล้ว นำออกมา
จากแม่พิมพ์

18

3.2 การออกแบบโครงสร้างสงิ่ ประดษิ ฐ์
3.2.1 การประดษิ ฐส์ บู่กากกาแฟ

ภาพท่ี 3.1 สบกู่ ากกาแฟ
(ทมี่ า: https://walnutsth.com)

3.2.2 การเขียนแบบสบู่กากกาแฟ
1. วัสด/ุ อุปกรณ์

ภาพที่ 3.2 กากกาแฟ ภาพท่ี 3.3 กลเี ซอรนี

ภาพที่ 3.4 แมพ่ ิมพ์ ภาพท่ี 3.5 เตาแกส๊ ภาพท่ี 3.6 หม้อ

ภาพที่ 3.7 กระทะ ภาพที่ 3.8 ชอ้ นคน

19

3.3 ขน้ั ตอนการดำเนินงาน

3.3.1 ขน้ั เตรียมการ

1. ทำการเลือกโครงการโดยใช้ตารางวิเคราะห์ขอ้ มลู ตดั สินใจเลือกโครงงาน

ตารางการวิเคราะหข์ อ้ มลู เพ่ือตดั สนิ ใจเลอื กโครงงาน

รายการวเิ คราะหข์ อ้ มูล โครงการที่1 โครงการที่2 โครงการท่ี3

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 21

1. ด้านผจู้ ัดทำโครงการ

- ความถนดั และความสนใจ

- ความร้แู ละประสบการณ์

- ความพรอ้ มดา้ นเงนิ ทนุ

- ความพรอ้ มในการจัดเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์

- ความพร้อมด้านเวลา/แรงงาน

2. ดา้ นสังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม

- เป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง ครอบครัวและสังคม

- สามารถจดั หาวัสดุ อปุ กรณไ์ ดภ้ ายในทอ้ งถ่ิน

- มีแหล่งความรู้ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ภายในทอ้ งถิ่น

- มีสถานทปี่ ฏบิ ัติงานทเ่ี หมาะสม

- มผี ู้เช่ยี วชาญใหค้ วามรู้และใหค้ ำปรกึ ษา

3. ดา้ นความรู้และความสามารถของผู้เรียน

- มีความรู้เก่ียวกับการปฎบิ ตั งิ านโครงการ

- มีความรู้ทางวชิ าชีพท่ีเกีย่ วข้องกบั การ

ปฎิบตั งิ าน

- วางแผนขนั้ ตอนการปฏบิ ัตทิ ีส่ ามารถปฏิบัติ

ได้

- นำความรู้ ทกั ษะท่ไี ด้รับจากการปฎิบัติ

โครงการไปเปน็ ข้อมูลสำหรบั การปฎิบัติงานอื่น

หรอื เป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิการสอนต่อไป

รวม 25 29 37

ตารางที่ 3.1 ตารางวิเคราะห์ขอ้ มูลเพอ่ื ตัดสนิ ใจเลือกโครงการ

20

หมายเหตุ ให้ผ้เู รียนพิจารณาข้อมลู ตา่ ง ๆ และให้คะแนนเพอ่ื ตดั สินใจเลือกโครงงานโดย
1) การใหค้ ะแนน กำหนด 4 ระดบั ดังน้ี
4 หมายถึง มคี วามพร้อมและเหมาะสมมากทส่ี ดุ
3 หมายถึง มีความพรอ้ มและความเหมาะสมมาก
2 หมายถงึ มีความพร้อมและเหมาะสมปานกลาง
1 หมายถึง มคี วามพรอ้ มและความเหมาะสมน้อย
2) ชื่อโครงงานที่พิจารณา มดี งั น้ี
ชอื่ โครงการที่ 1 ศกึ ษาการจัดทำบัญชคี รัวเรอื น
ช่อื โครงการที่ 2 การทดลองเปลือกไข่ไลม่ ด
ชอื่ โครงการท่ี 3 สบกู่ ากกาแฟ
3) ใหค้ ะแนนแตล่ ะโครงงานใหค้ รบทกุ ขอ้ แลว้ รวมคะแนนท้ังหมดในแต่ละโครงงาน
สรุป โคงงานท่ีไดค้ ะแนนสูงสดุ คือ โครงงาน 2 สบูก่ ากกาแฟ ได้ 37 คะแนน

2. เขยี นโครงร่างโครงงานเพอ่ื เสนอขออนุมตั ิโครงงาน โดยมีหวั ข้อดงั น้ี
1) ชอื่ โครงงาน 2) ผจู้ ดั ทำโครงงาน 3) ครทู ี่ปรึกษาโครงงาน 4) หลักการและ

เหตผุ ล 5) วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน 6) ขอบเขตของโครงงาน 7) แนวคิดการออกแบบโครงงาน 8)
แหลง่ ความรู้/เอกสารอา้ งองิ 9) ประมาณวสั ดุ - อปุ กรณ์ในการทำโครงงาน 10) วธิ กี ารดำเนิน
โครงงาน 11) แผนการดำเนินโครงการ 12) ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั

3. กรอบแนวคดิ ศึกษาวิธกี ารทำสบกู่ ากกาแฟโดยนำ เตมิ กลเี ซอรีนในหม้อเล็กแลว้
นำไปวางบนกระทะท่ีใช้รองหม้อเตมิ นำ้ ลงไปในกระทะเลก็ นอ้ ย อนุ่ ดว้ ยไฟกลางจนกวา่ กลีเซอรีนจะ
ละลาย จากนั้นใส่กากกาแฟลงไปในหมอ้ แล้วคนจนเขา้ กันแล้วจึงตกั ใส่แมพ่ ิมพ์ รอจนสบแู่ ข็งตัว
ประมาณ 1 ชัว่ โมงแล้วจงึ แกะออกจากแมพ่ มิ พ์

21

4. กำหนดปฏิทนิ การปฏบิ ตั งิ านดงั น้ี

ลำดับขน้ั การปฏิบตั ิงาน ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ผูร้ ับผดิ ชอบ

1234123412 3 4

1. ศึกษา เอกสาร ทฤษฎีและ บุณยาพร

งานวิจยั ทเี่ กี่ยวข้อง อินทิรา

2. วิเคราะห์ปญั หา ประเมิณ บุณยาพร

ความตอ้ งการของผ้ใู ช้ อนิ ทิรา

3. ออกแบบช้นิ งาน บุณยาพร

อนิ ทิรา

4. ปฏบิ ัติตามแผนโดยใช้ บณุ ยาพร

กระบวนการ P D C A อินทริ า

5. รายงานความก้าวหนา้ บณุ ยาพร

อนิ ทิรา

6. รวบรวมข้อมลู วิเคราะห์ บุณยาพร

อินทิรา

7. เขยี นรายงานโครงการ บุณยาพร

อินทิรา

8. นำเสนอผลการดำเนิน บณุ ยาพร

โครงการ อนิ ทิรา

9. ประเมินผลโครงการ บุณยาพร

อนิ ทริ า

ตารางท่ี 3.2 ปฏิทินการปฏิบัตงิ าน

5. ศกึ ษาเอกสาร ทฤษฎี และงานวจิ ัยทเ่ี กย่ี วข้องโดยมีหวั ข้อดังต่อไปน้ี

1) ความรู้เกี่ยวกับโครงการที่ทำ 2) ทฤษฎีท่ีเกยี่ วขอ้ ง 3) ประวัติวทิ ยากร

4) งานวจิ ัยทเ่ี กีย่ วข้อง

3.3.2 ขั้นดำเนนิ การปฏิบตั งิ านโดยใช้กระบวนการวงจร (PDCA) ดังตอ่ ไปน้ี

1. สรา้ งและพฒั นาสบแู่ ฟนตาซจี ากกากกาแฟ

2. ปฏิบัติตามแผน P D C A และปฏิทนิ ปฏบิ ัตงิ าน

3. รายงานความก้าวหน้าของการปฏิบตั ิงาน เปน็ รายบคุ คล ตามแบบบันทกึ การ

ปฏบิ ัตงิ านวชิ าโครงงาน

22

3.4 สรา้ งและพฒั นาสง่ิ ประดิษฐ์
3.4.1 วธิ ีการทำสบ่กู ากกาแฟ
1. เตมิ กลเี ซอรีนในหมอ้ เล็กแลว้ นำไปวางบนกระทะท่ใี ชร้ องหมอ้ เตมิ นำ้ ลงไปในกระทะ

เลก็ น้อย อุ่นด้วยไฟกลางจนกวา่ กลีเซอรีนจนละลาย จากน้นั ใสก่ ากกาแฟลงไปในหม้อแลว้ คนจนเข้า
กนั แลว้ จงึ ตกั ใส่แม่พมิ พ์ รอจนสบ่แู ข็งตวั ประมาณ 1 ช่วั โมงแล้วจึงแกะออกจากแมพ่ มิ พ์

3.5 การหาประสทิ ธภิ าพ
3.5.1 การสร้างเครื่องมือเพอื่ หาประสทิ ธภิ าพและคุณภาพของผลติ ภัณฑ์ โดยการกรอก

แบบสอบถามความพึงพอใจสบูก่ ากกาแฟ

แบบสอบถามพงึ พอใจสบกู่ ากกาแฟ

คำชีแ้ จง : การสำรวจความพงึ พอใจ เพือ่ ปรบั ปรงุ คุณภาพของสบู่กากกาแฟให้เป็นทีพ่ งึ พอใจและมี

คณุ ภาพ จงึ ขอความร่วมมอื จากทกุ ท่านในการกรอกแบบสอบถาม โดยใส่เครื่องหมาย ลงใน

ช่องว่างใหค้ รบถ้วน

ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม

1. เพศ ชาย หญงิ อืน่ ๆ

2. อายุ 15 - 20 ปี 21 - 25 ปี 26 ปีขึน้ ไป

ตอนที่ 2 ระดบั ความพึงพอใจ

ระดบั ความพงึ พอใจ

มาก มาก ปาน พอใช้ ปรับ

หวั ข้อประเมนิ ที่สดุ กลาง ปรุง

54 3 21

1. ด้านคุณลกั ษณะของผลิตภัณฑ์

1.1 ขนาดของสบู่

1.2 กลนิ่ ของสบู่

1.3 รูปลกั ษณข์ องสบู่น่าใช้

1.4 บรรจุภณั ฑส์ วยงาม

1.5 เนื้อสบมู่ คี วามละเอียด

2. ดา้ นคณุ ภาพของผลติ ภัณฑ์

2.1 รูส้ ึกผวิ สะอาด

2.2 ทำให้ผิวนมุ่ ชุม่ ชืน้

2.3 ความกระจ่างใส

23

ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

3.5.2 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
การรวบรวมขอ้ มูลจากการแจกแจงแบบสอบถามความพึงพอใจในการทดลองใช้สบ่กู าก

กาแฟซ่งึ เป็นครู อาจารย์ เจา้ หนา้ ทแี่ ละนกั เรียน นกั ศกึ ษา วิทยาลัยอาชวี ศกึ ษาเชยี งใหม่และ
ประชาชนท่วั ไป จำนวน 20 คน

3.5.3 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู
การวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากแบบสอบถามความพึงพอใจในการทดลองใชส้ บูก่ ากกาแฟในแต่

ละตอนดังต่อไปนี้
ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู เบ้อื งต้นของผูต้ อบแบบสอบถาม

จากการหาค่าร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถามความพึงพอใจในการทดลองใช้สบกู่ าก
กาแฟ โดยใชส้ ูตรดังตอ่ ไปน้ี

สตู ร = × 100



เมอื่ แทน ค่ารอ้ ยละ
แทน ความถี่ตอ้ งการแปลงใหเ้ ปน็ คา่ ร้อยละ
แทน จำนวนความถี่ทั้งหมด

ตอนท่ี 2 ระดับความพงึ พอใจในการทดลองใช้สบ่กู ากกาแฟจำนวน 20 คน โดยการหาค่าเฉลยี่ เลข
คณติ และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน

1. การหาค่าเฉลย่ี เลขคณิต
สตู ร ̅ = ∑



เม่ือ ̅ แทน คา่ เฉลี่ย
∑ แทน ผลรวมของระดบั ความพึงพอใจ
แทน จำนวนผูต้ อบสอบถามทง้ั หมด

24

2. การหาสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน
สูตร S.D. = √∑( − )2

− 1

สูตร S.D. = √ ∑ (2 − −(∑1) )2

เมือ่ S.D. แทน สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน
แทน คา่ คะแนน
แทน จำนวนคา่ คะแนนในแต่ละกล่มุ

3. การแปลงผลตามเกณฑ์การประเมนิ ผล ดีมาก
4.01 ขน้ึ ไป หมายถงึ ดี
3.01 - 4.00 หมายถงึ ปานกลาง
2.01 - 3.00 หมายถงึ นอ้ ย
1.01 - 2.00 หมายถงึ ปรบั ปรุง
0.00 - 1.00 หมายถึง

ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ
นำขอ้ เสนอแนะจากผตู้ อบแบบสอบถามมาเปน็ ความเรยี งและหาอัตรารอ้ ยละของ

ขอ้ เสนอแนะจากผ้ตู อบแบบสอบถามความพึงพอใจในการทดลองใชส้ บ่กู ากกาแฟโดยใช้

สตู ร = × 100



เมื่อ แทน คา่ ร้อยละ
แทน ความถีต่ ้องการแปลงใหเ้ ป็นค่ารอ้ ยละ
แทน จำนวนความถที่ ้ังหมด

บทท่ี 4
ผลการดำเนินโครงการ

การดำเนนิ โครงงานสร้างและประดิษฐ์ Kofeboo สบู่กากกาแฟ ท่ีหอพักอารยา 3 เลขที่ 70/15
กู่เตา้ ซอย 1 ตำบลศรภี ูมิ อำเภอเมอื งเชยี งใหม่ จังหวัดเชยี งใหม่ 50300 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม
2564 ถงึ วนั ท่ี 31 มกราคม 2565 โดยมีวตั ถุประสงค์เพอ่ื 1. เพื่อศึกษาและประดษิ ฐช์ น้ิ งานจาก
วัสดเุ หลอื ใช้ 2. เพื่อเพ่มิ มลู คา่ และลดปญั หาขยะจากวัสดทุ ่เี หลอื ใช้ ผู้ดำเนนิ โครงงานมผี ลการ
ดำเนนิ งานโครงงานดงั น้ี

4.1 ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู
4.2 อภิปรายผลและการวิเคราะหข์ อ้ มูล

4.1 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล

4.1.1 ประดิษฐส์ บู่กากกาแฟ

1. ส่วนผสมในการประดิษฐส์ บู่กากกาแฟ

(1) กลีเซอรีน 1,000 กรัม

(2) กากกาแฟ 30 กรัม

(3) แมพ่ มิ พ์

(4) เตาแก๊ส

(5) หม้อ

(6) กระทะ

(7) ชอ้ นคน

2. ขน้ั ตอนการประดษิ ฐส์ บ่กู ากกาแฟ

(1) เตมิ กลีเซอรีนในหมอ้ เล็กแล้วนำไปวางบนกระทะที่ใชร้ องหมอ้ เตมิ นำ้ ลงไปใน

กระทะเล็กนอ้ ย อ่นุ ด้วยไฟกลางจนกวา่ กลีเซอรนี จะละลาย

(2) ใสก่ ากกาแฟลงไปในหมอ้ แลว้ คนจนเข้ากนั

(3) ตักใสแ่ ม่พิมพ์ รอจนแขง็ ตัวประมาณ 1 ชวั่ โมง

(4) หากสบูแ่ ขง็ ตวั แลว้ นำออกมาจากแมพ่ มิ พ์

26

4.1.2 การหาประสิทธิภาพและพฒั นาคณุ ภาพสบกู่ ากกาแฟ
จากการวเิ คราะหข์ ้อมลู แบบสอบถามความพึงพอใจคุณภาพสบกู่ ากกาแฟจากผ้ตู อบ

แบบสอบถาม 20 คน ดังนี้
ตอนท่ี 1 ข้อมลู เบื้องต้นของผ้ตู อบแบบสอบถาม
1. เพศ

ภาพที่ 4.1 แผนภมู จิ ำแนกเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม

ตารางที่ 4.1 จำแนกเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม

เพศ ผู้ท่ตี อบแบบสอบถาม

จำนวน รอ้ ยละ

1. ชาย 5 25

2. หญงิ 15 75

3. อ่ืน ๆ --

รวม 20 100

จากตารางที่ 4.1 แสดงจำนวนและรอ้ ยละของเพศผูต้ อบแบบสอบถามพบวา่ เปน็ หญิง 15 คน
คิดเป็นรอ้ ยละ 75 ชาย 5 คน คิดเป็นร้อยละ 25

27

2. อายุ

ภาพที่ 4.2 แผนภูมิอายขุ องผตู้ อบแบบสอบถาม

ตารางที่ 4.2 จำแนกอายุของผตู้ อบแบบสอบถาม

อายุ ผทู้ ต่ี อบแบบสอบถาม

จำนวน ร้อยละ

1. 15 - 20 ปี 10 40

2. 21 - 25 ปี 8 50

3. 26 ปขี น้ึ ไป 2 10

รวม 20 100

จากตาราง 4.2 แสดงจำนวนและร้อยละของอายุผตู้ อบแบบสอบถามพบว่าอายุระหวา่ ง
15 - 20 ปี จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 40 อายุ 21 - 25 ปี จำนวน 8 คน คิดเปน็ ร้อยละ 50 และ
อายุ 26 ปขี น้ึ ไป จำนวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 10

28

ตอนที่ 2 ระดับความพึงพอใจในการตอบแบบสอบถามในการทดลองใช้สบู่กากกาแฟจากผูต้ อบ
แบบสอบถามจำนวน 20 คน

1. ดา้ นคณุ ลกั ษณะของสงิ่ ประดิษฐ์

ภาพที่ 4.3 แผนภมู ิแสดงความพึงพอใจในดา้ นคุณลกั ษณะของสบู่กากกาแฟ

ตารางท่ี 4.3 ระดับความพึงพอใจด้านคุณลักษณะของสบกู่ ากกาแฟ

หัวข้อมูลประเมนิ ค่าเฉล่ีย S.D. การแปลความ
ดี
1. ขนาดของสบู่ 3.95 0.83
ดีมาก
2. กล่ินของสบู่ 4.15 0.88 ดีมาก
ดีมาก
3. รูปลักษณข์ องสบนู่ ่าใช้ 4.30 0.73 ดีมาก
ดีมาก
4. บรรจภุ ัณฑส์ วยงาม 4.25 0.64

5. เน้ือสบมู่ คี วามละเอยี ด 4.35 0.67

เฉลยี่ รวม 4.20 0.75

จากตารางที่ 4.3 พบวา่ ระดับความพึงพอใจในการใชส้ บูก่ ากกาแฟดา้ นคณุ ลักษณะของสบู่
โดยรวม อยูใ่ นระดบั ดมี าก ( ̅ = 4.20) ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจโดยเรียงลำดบั ค่าเฉลยี่
จากมากไปน้อยดังนี้ เนือ้ สบูม่ ีความละเอยี ด ( ̅ = 4.35) รูปลกั ษณข์ องสบู่นา่ ใช้ ( ̅ = 4.30)
บรรจภุ ัณฑส์ วยงาม ( ̅ = 4.25) กล่ินของสบู่ ( ̅ = 4.15) ขนาดของสบู่ ( ̅ = 3.95)

29

1. ดา้ นคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์

ภาพท่ี 4.4 แผนภูมแิ สดงความพงึ พอใจในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์

ตารางที่ 4.4 ระดับความพึงพอใจดา้ นคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์

หัวข้อมลู ประเมิน คา่ เฉลี่ย S.D. การแปลความ
ดีมาก
1. ร้สู ึกผิวสะอาด 4.55 0.51 ดีมาก
ดีมาก
2. ทำให้ผิวช่มุ ช้ืน 4.45 0.69 ดีมาก

3. ความกระจ่างใส 4.05 0.83

เฉล่ยี รวม 4.35 0.68

จากตารางที่ 4.4 พบวา่ ระดบั ความพึงพอใจในการใช้สบูก่ ากกาแฟดา้ นคุณภาพของส่งิ ประดิษฐ์
โดยรวม อยู่ในระดับดีมาก ( ̅ = 4.35) ผตู้ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจโดยเรียงลำดบั คา่ เฉลยี่
จากมากไปหานอ้ ยดงั น้ี ร้สู ึกผิวสะอาด ( ̅ = 4.55) ทำใหผ้ ิวชมุ่ ชื้น ( ̅ = 4.45) ความกระจ่างใส
( ̅ = 4.05)

30

ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ

ตารางท่ี 4.5 วิเคราะหข์ อ้ เสนอแนะของผู้ตอบแบบสอบถาม

รายการ จำนวน (คน) รอ้ ยละ

1. ข้อเสนอแนะ 2 10

2. ไมม่ ขี ้อเสนอแนะ 18 90

จากแบบสอบถามความพึงพอใจในการทดลองใชส้ บู่กากกาแฟ จำนวน 20 คน ไม่มีข้อเสนอแนะ
18 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 90 มขี อ้ เสนอแนะ 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 10
ข้อเสนอแนะดงั ตอ่ ไปนี้

1. สบู่กอ้ นค่อนขา้ งเลก็
2. บรรจุภณั ฑไ์ ม่หลากหลาย

4.2 อภิปรายผลและการวเิ คราะห์ขอ้ มลู
4.2.1 สรา้ งสบกู่ ากกาแฟ กลีเซอรนี 1,000 กรัม กากกาแฟ 30 กรมั แม่พมิ พ์ เตาแกส๊ ไม้
คน หมอ้
วธิ ีการทำสบู่กากกาแฟ
1) เตมิ กลเี ซอรนี ในหมอ้ เลก็ แล้วนำ ไปวางบนกระทะท่ใี ชร้ องหมอ้ เตมิ น้ำลงไปใน
กระทะเลก็ นอ้ ย อนุ่ ด้วยไฟกลางจนกว่ากลเี ซอรีนจะละลาย
2) ใสก่ ากกาแฟลงไปในหม้อแล้วคนจนเขา้ กนั
3) ตกั ใสแ่ มพ่ ิมพ์ รอจนแข็งตัวประมาณ 1 ชัว่ โมง
4) หากสบ่แู ขง็ ตวั แล้ว นำออกมาจากแมพ่ มิ พ์

4.2.2 หาประสิทธภิ าพและคณุ ภาพของสบ่กู ากกาแฟ
ตอนท่ี 1 ข้อมูลเบอ้ื งต้นของผู้ตอบแบบสอบถาม 20 คน

เพศผู้ตอบแบบสอบถามพบวา่ เปน็ ชาย 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 25 หญงิ 25 คน คิดเปน็ ร้อยละ
75 อายุผูต้ อบแบบสอบถามพบว่าอายุระหวา่ ง 15 - 20 ปี จำนวน 10 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 40
อายุ 21 - 25 ปี จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 50 และอายุ 26 ปขี ึ้นไป จำนวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ
10

31

ตอนท่ี 2 ระดับความพงึ พอใจในการใชส้ บกู่ ากกาแฟ
ดา้ นคณุ ลักษณะของสบู่กากกาแฟโดยรวม อยูใ่ นระดบั ดีมาก ( ̅ = 4.20) ผู้ตอบ
แบบสอบถามมคี วามพึงพอใจโดยเรยี งลำดับค่าเฉลยี่ จากมากไปน้อยดงั นี้ เนื้อสบมู่ ีความละเอยี ด
( ̅ = 4.35) รปู ลกั ษณข์ องสบู่น่าใช้ ( ̅ = 4.30) บรรจภุ ัณฑส์ วยงาม ( ̅ = 4.25) กลน่ิ ของสบู่
( ̅ = 4.15) ขนาดของสบู่ ( ̅ = 3.95) ด้านคณุ ภาพของสิ่งประดิษฐโ์ ดยรวม อยู่ในระดบั ดีมาก
( ̅ = 4.35) ผ้ตู อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจโดยเรยี งลำดับค่าเฉลยี่ จากมากไปหาน้อยดังน้ี
รสู้ ึกผิวสะอาด ( ̅ = 4.55) ทำให้ผิวชุ่มชนื้ ( ̅ = 4.45) ความกระจา่ งใส ( ̅ = 4.05)

ตอนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะ
จากแบบสอบถามความพึงพอใจในการทดลองใชส้ บกู่ ากกาแฟพบว่าไมม่ ขี อ้ เสนอแนะ 18 คน
คิดเป็นรอ้ ยละ 90 มีข้อเสนอแนะ 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 10 ข้อเสนอแนะมดี งั ตอ่ ไปนี้ 1.สบ่มู ีขนาด
ค่อนข้างเล็ก 2. บรรจุภณั ฑไ์ มห่ ลากหลาย

บทท่ี 5
สรปุ ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู และข้อเสนอแนะ
การดำเนนิ โครงงานสร้างและประดษิ ฐ์ Kofeboo สบูก่ ากกาแฟ ทห่ี อพกั อารยา 3
เลขที่ 70/15 กูเ่ ตา้ ซอย 1 ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวดั เชยี งใหม่ 50300 ระหวา่ งวันท่ี
1 ธนั วาคม 2564 ถึงวนั ท่ี 1 กุมภาพันธ์ 2565 ผดู้ ำเนนิ โครงงานมผี ลการดำเนนิ งานโครงงานสรุป
การวเิ คราะหข์ ้อมลู และข้อเสนอแนะโครงงานดังน้ี
5.1 สรปุ ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล
5.2 ข้อเสนอแนะ

5.1 สรปุ ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล
5.1.1 วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน
1. เพือ่ สร้างและพฒั นาสบู่กากกาแฟ
2. เพอ่ื หาประสิทธภิ าพในสบูก่ ากกาแฟ
5.1.2 วิธกี ารดำเนินโครงงาน
1. ขน้ั เตรียมการ
1) สำรวจความสนใจและความพร้อมของตนเอง
2) พจิ ารณาเลอื กโครงงาน
3) เขยี นโครงรา่ งโครงงานเพือ่ เสนอขออนุมตั ิ
4) เขยี นกรอบแนวคิดสงิ่ ประดษิ ฐ์
5) ศกึ ษาเอกสาร ทฤษฎีและงานวิจยั ท่ีเกีย่ วข้อง
2. ขัน้ ดำเนนิ การ
1) ออกแบบโครงสรา้ งสิง่ ประดษิ ฐ์
2) ปฏิบตั ิตามแผนโดยใช้กระบวนการ P D C A
3) รายงานคววามก้าวหน้า
3. ขน้ั สรุปผล
1) รวบรวมขอ้ มลู วเิ คราะห์
2) เขียนรายงานโครงงาน
3) นำเสนอผลดำเนนิ โครงงาน
4) ประเมินผลโครงงาน

33

5.1.3 ผลการดำเนนิ โครงการ
1. สรา้ งและพัฒนาสบกู่ ากกาแฟ โดยมสี ่วนผสม กลเี ซอรนี หรือเกล็ดสบู่ 1,000 กรัม

กากกาแฟ 30 กรมั แมพ่ ิมพท์ ำสบู่ เตาแกส๊ หมอ้ ไม้คน
วิธกี ารทำสบู่กากกาแฟ
1) เตมิ กลีเซอรีนในหมอ้ เลก็ แล้วนำไปวางบนกระทะทใ่ี ชร้ องหม้อเตมิ นำ้ ลงไปในกระทะ

เลก็ น้อย อุ่นดว้ ยไฟกลางจนกว่ากลเี ซอรนี จะละลาย 2) ใส่กากกาแฟลงไปในหมอ้ แลว้ คนจนเขา้ กัน
3) ตกั ใส่แม่พิมพ์ รอจนแขง็ ตัวประมาณ 1 ช่วั โมง 4) หากสบู่แขง็ ตวั แล้ว นำออกมาจากแมพ่ มิ พ์

5.1.4. หาประสิทธภิ าพและคุณภาพของสบูก่ ากกาแฟ
ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู เบื้องต้นของผ้ตู อบแทนแบบสอบถาม
1. เพศ จำนวนและร้อยละของเพศผูต้ อบแบบสอบถามพบวา่ เป็นชาย 5 คน คดิ เป็น

ร้อยละ 25 หญงิ 25 คน คิดเป็นร้อยละ 75
2. จำนวนและร้อยละของอายผุ ูต้ อบแบบสอบถามพบว่าอายุระหว่าง 15 - 20 ปี

จำนวน 10 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 40 อายุ 21 - 25 ปี จำนวน 8 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 50 และอายุ 26 ปี
ข้ึนไป จำนวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 10

ตอนที่ 2 ระดบั ความพึงพอใจในการใชส้ บกู่ ากกาแฟ
1. ดา้ นลักษณะคุณลักษณะของสง่ิ ประดิษฐ์
ระดับความพึงพอใจในการใช้สบ่กู ากกาแฟดา้ นคุณลกั ษณะของสบโู่ ดยรวม อย่ใู นระดบั ดมี าก
( ̅ = 4.20) ผ้ตู อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจโดยเรยี งลำดับค่าเฉล่ียจากมากไปนอ้ ยดงั น้ี เนอ้ื สบู่มี

ความละเอยี ด ( ̅ = 4.35) รูปลักษณข์ องสบนู่ ่าใช้ ( ̅ = 4.30) บรรจภุ ัณฑ์สวยงาม ( ̅ = 4.25)
กลิน่ ของสบู่ ( ̅ = 4.15) ขนาดของสบู่ ( ̅ = 3.95)

2. ด้านคุณภาพของสง่ิ ประดิษฐ์
ระดับความพึงพอใจในการใช้สบกู่ ากกาแฟดา้ นคุณภาพของสง่ิ ประดิษฐโ์ ดยรวม อยใู่ นระดบั
ดีมาก ( ̅ = 4.35) ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจโดยเรยี งลำดบั ค่าเฉลย่ี จากมากไปหาน้อยดงั น้ี
รู้สกึ ผิวสะอาด ( ̅ = 4.55) ทำให้ผิวชุม่ ช้นื ( ̅ = 4.45) ความกระจ่างใส ( ̅ = 4.05)

ตอนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะ
จากแบบสอบถามความพึงพอใจในการทดลองใช้สบูก่ ากกาแฟ จำนวน 20 คน ไม่มี
ข้อเสนอแนะ 18 คน คิดเปน็ ร้อยละ 90 มขี ้อเสนอแนะ 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 10 ข้อเสนอแนะ
ดงั ต่อไปน้ี

1. สบู่ก้อนคอ่ นข้างเลก็
2. บรรจภุ ัณฑ์ไม่หลากหลาย

5.2 ข้อเสนอแนะ 34
ข้อเสนอแนะสำหรบั การนำผลไปใช้
ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนนิ โครงงาน 1. จัดทำสบู่ในแมพ่ ิมพ์ทใี่ หญข่ ้นึ
1. สบกู่ อ้ นคอ่ นข้างเลก็ 2. เพ่ิมความหลากหลายให้บรรจุภัณฑ์
2. บรรจภุ ณั ฑไ์ ม่หลากหลาย

35

บรรณานุกรม

ภูภากรณ์ แสงหริ ัญ. (2559). งานวจิ ัย Scrub of Coffee สครับกาแฟ. (ระบบออนไลน์).
แหลง่ ขอ้ มลู http://academicptc.panyapiwat.ac.th (4 มกราคม 2565)

รพพี รรณ กองตมู . (2560). งานวจิ ัย กากกาแฟ: มลู คา่ เพิม่ และการใช้ประโยชน์. (ระบบออนไลน์)
แหล่งขอ้ มลู http://rms.mcru.ac.th/uploads/863832.pdf.
(14 ธนั วาคม 2564)

สบู่วิภาวด.ี (2563). ประวัติศาสตร์สบูใ่ นประเทศไทย. (ระบบออนไลน)์ . แหล่งข้อมูล
https://www.soap-vipada.com/content/8759/ประวตั ิศาสตร์-สบู่-ในประเทศไทย.
(14 ธนั วาคม 2564)

สนุ ิสา องั ศรีพวง. (2559). งานวจิ ัย สบเู่ หลวกากกาแฟ. (ระบบออนไลน์). แหล่งข้อมลู
http://e-research.siam.edu/wpcontent/uploads/2013/12/03 _abs.pdf.
(3 มกราคม 2565)

เบญจมาศ ทานสวุ รรณ.์ (2559). งานวจิ ัย การพัฒนาผลติ ภณั ฑส์ บู่กากกาแฟอาราบิก้า(ดงมะไฟ).
(ระบบออนไลน์). แหลง่ ข้อมูล
http://www.fmsweb.nrru.ac.th/home/research/public_html/
images/stories/PaperResearch2558/Student/student79.pdf.
(3 มกราคม 2565)

ไทยรัฐออนไลน.์ (2564). 5 สูตร Excel พืน้ ฐาน คา่ เฉลย่ี นับจำนวน ทีใ่ ช้บ่อยในชีวติ ประจำวัน.
(ระบบออนไลน)์ . แหลง่ ขอ้ มูล https://www.thairath.co.th/lifestyle/tech/2111112.
(29 ธันวาคม 2564)

ME[QR]. (2565). สรา้ ง QR ฟรี ไมม่ ี หมดอายุ - แบบฟอรม์ เป็น Qr Code. (ระบบออนไลน์).
แหลง่ ขอ้ มูล https://me-qr.com/th. (22 กมุ ภาพันธ์ 2565)

ภาคผนวก ก
เคา้ โครงร่างโครงงาน

37

แบบเสนอขออนุมตั ิโครงงาน
วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่

รายวชิ า โครงงาน รหัสวชิ า 3201-8501 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

ชอ่ื โครงการ สร้างและประดิษฐ์ Kofeeboo สบู่กากกาแฟ

Project name Create and invent Kofeboo soap from coffee grounds

ระยะเวลาดำเนินงาน 1 ธนั วาคม พ.ศ.2564 ถึง 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565

สถานท่ีดำเนินงาน 70/15 อารยา3 กเู่ ต่าซ.1 ต.ศรภี ูมิ อ.เมืองเชยี งใหม่ จ.เชยี งใหม่ 50300

ประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ย ประมาณ 500 บาท

คณะผู้จัดทำโครงการ นกั ศกึ ษาระดับชน้ั ปวส. 2/4 สาขาวิชาการบญั ชี

1. นางสาวบณุ ยาพร โหจนิ ดารตั น์

2. นางสาวอินทริ า ใชยา

ลงชอ่ื .........................................หัวหนา้ โครงการ
(นางสาวบณุ ยาพร โหจนิ ดารัตน์)
……………./…………../…………..

ความคดิ เห็นของครูประจำวชิ า/ครทู ีป่ รึกษาโครงการ......................................................................
ลงชือ่ .........................................................
(นางภัทรานษิ ฐ์ พชั รศิ วโรจน)์

ความคดิ เหน็ ของคณะกรรมการอนุมตั โิ ครงการ...............................................................................
ลงช่อื .........................................................
(นางสาวอรชิ าภัสร์ อินต๊ะจักร)

ความคดิ เห็นของคณะกรรมการอนุมตั ิโครงการ...................................................................................
ลงชื่อ.............................................................
(นางจนั ทมิ า เทพาคำ)

38

แบบเสนอโครงงาน

1. ชื่อโครงงาน สรา้ งและประดิษฐ์ Kofeeboo สบูก่ ากกาแฟ

2. ผรู้ บั ผิดชอบโครงงาน

2.1 63302010111 นางสาวบุณยาพร โหจินดารัตน์ ปวส.2/4 สาขาการบัญชี

2.2 63302010125 นางสาวอนิ ทิรา ใชยา ปวส.2/4 สาขาการบญั ชี

3. ครูผสู้ อน/ครทู ่ปี รึกษาโครงงาน นางภทั รานษิ ฐ์ พชั รศิ วโรจน์

4. ทมี่ าและความสำคญั

ในปัจจุบนั จะเห็นได้ว่าในจงั หวัดเชยี งใหมม่ รี า้ นกาแฟอย่หู ลายรา้ น และรา้ นกาแฟแต่ละ

ร้านมีการใชก้ าแฟในการทำเมนูเครอ่ื งดมื่ ในร้านจำนวนมาก ทำใหม้ ีจำนวนของกากกาแฟเปน็ จำนวน

มาก และหากไม่มกี ารกำจดั กากกาแฟทด่ี ีจะทำให้เป็นปัญหาทางสิง่ แวดล้อมได้ เช่นการเกิดเชื้อราจาก

การหมกั หมม การเกดิ กล่ินท่ไี มพ่ ึงประสงคซ์ งึ่ สง่ ผลตอ่ โรคทางเดินหายใจได้ และหากมกี ารทงิ้ ที่

กระจดั กระจายกจ็ ะทำใหเ้ กดิ เศษขยะบริเวณทางเดนิ หรอื ถนนไดอ้ กี ดว้ ย

ทัง้ นค้ี ณะผู้จดั ทำโครงการไดเ้ ล็งเหน็ ถึงปัญหานแี้ ละสนใจท่จี ะทำสบูจ่ ากกากกาแฟเพ่อื ลด

ปญั หาของกากกาแฟท่มี ีจำนวนมาก และไดเ้ ล็งเห็นถงึ ประโยชน์ของกากกาแฟท่เี หลือจากการใชง้ าน

5. วัตถุประสงค์

5.1 เพือ่ ศึกษาและประดษิ ฐ์ชน้ิ งานจากวัสดุเหลือใช้

5.2 เพ่ือเพม่ิ มูลค่าและลดปัญหาขยะจากวัสดุทเ่ี หลอื ใช้

6. เปา้ หมายของโครงการ

6.1 เชิงปรมิ าณ

6.1.1 จัดทำสบกู่ ากกาแฟ เปน็ เวลา 2 เดอื น ระหวา่ งวันท่ี 1 ธันวาคม พ.ศ.2564

ถงึ วันท่ี 1 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2ใ565

6.2 เชิงคณุ ภาพ

6.2.1 สบู่จากกากกาแฟมีคุณภาพสามารถใช้เพอื่ ทำความสะอาดได้

6.2.2 สบู่จากกากกาแฟมสี รรพคุณช่วยให้ผิวนุ่มชมุ่ ชืน่ ได้

7. ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั

7.1 ไดส้ รา้ งมลู ค่าและประโยชนใ์ หแ้ กช่ ิน้ งาน

7.2 ชน้ิ งานสามารถลดปญั หาที่เกิดจากกำจัดและปัญหาขยะได้

39

8. ขอบเขตของโครงงาน
ระยะเวลาการทำโครงการระหวา่ งวันท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ.2564 ถงึ วันท่ี 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.
2565
กากกาแฟท่ีใชใ้ นการศึกษาเปน็ พันธุ์อาราบิก้า
กลน่ิ ของสบูจ่ ะใชเ้ พียงกลน่ิ ท่มี าจากกากกาแฟธรรมชาติเทา่ นนั้

9. ขน้ั ตอนหรอื วธิ ีดำเนินการ
9.1 ตั้งกระทะบนไฟออ่ น ใส่น้ำลงไปในกระทะแล้วตง้ั หมอ้ บนกระทะ
9.2 ใส่กลีเซอรีนลงในหมอ้ ในรอจนกลีเซอรีนละลายท้ังหมด
9.3 ใสก่ ากกาแฟลงไปแลว้ คนจนเข้ากนั เปน็ เนอ้ื เดยี ว
9.4 ตักใส่แม่พมิ พ์ แล้วไล่ฟองอากาศออกจนหมด
9.5 รอให้สบแู่ ข็งตวั แลว้ แกะออกจากแม่พิมพ์
9.6 นำมาบรรจุในหอ่ และปิดใหเ้ รยี บร้อย

10. ระยะเวลาในการดำเนินโครงงาน
เรม่ิ โครงงานวันท่ี 1 ธันวาคม พ.ศ.2564 สิ้นสดุ วนั ท่ี 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2565

11. งบประมาณคา่ ใชจ้ า่ ย
งบประมาณจำนวน 500 บาท (โดยประมาณ)

12. การตดิ ตามและประเมินผลโครงงาน
12.1 เคร่อื งมือท่ใี ช้ (แบบสอบถาม) พรอ้ มผลการประเมนิ
12.2 รูปภาพประกอบการดำเนินธรุ กจิ พรอ้ มอธิบายใตภ้ าพ

40

13. แผนดำเนนิ โครงงาน

ลำดับข้นั การปฏิบัติงาน ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ผู้รับผิดชอบ

1. ศกึ ษา เอกสาร ทฤษฎีและ 1234123412 3 4
งานวิจยั ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
2. วเิ คราะหป์ ญั หา ประเมิณ บณุ ยาพร
ความต้องการของผใู้ ช้
3. ออกแบบชิ้นงาน อินทริ า

4. ปฏบิ ตั ิตามแผนโดยใช้ บณุ ยาพร
กระบวนการ P D C A
5. รายงานความกา้ วหนา้ อินทริ า

6. รวบรวมขอ้ มลู วเิ คราะห์ บุณยาพร

7. เขยี นรายงานโครงการ อินทิรา

8. นำเสนอผลการดำเนิน บุณยาพร
โครงการ
9. ประเมินผลโครงการ อินทริ า

บุณยาพร

อินทริ า

บณุ ยาพร

อินทิรา

บุณยาพร

อินทิรา

บุณยาพร

อินทิรา

บุณยาพร

อินทริ า

14. ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั
14.1 ได้สร้างมลู คา่ และประโยชน์ใหแ้ ก่ชน้ิ งาน
14.2 ชิน้ งานสามารถลดปัญหาท่ีเกิดจากกำจดั และปัญหาขยะได้

ภาคผนวก ข
แผนธุรกิจ


Click to View FlipBook Version