The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 นางสาวสิริวิมล ปั๋นสา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สิริวมล ปั๋นสา, 2024-06-29 13:29:21

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 นางสาวสิริวิมล ปั๋นสา

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 นางสาวสิริวิมล ปั๋นสา

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ว20102 วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) นางสาวสิริวิมล ปั๋นสา นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ปีการศึกษา 2/2566 โรงเรียนบ้านกาดวิทยาคม ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่1 แนวคิดเชิงคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในชีวิตจริง 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณ 2. ตัวอย่างปัญหา เช่น การวาดรูปเชิงเรขาคณิต การเข้าแถวตามลำดับความสูงให้เร็วที่สุด จัดเรียงเสื้อผ้าให้หา ได้ง่ายที่สุด 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด แนวคิดเชิงคํานวณ (computational thinking) เป็นกระบวนการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อให้ได้แนวทาง การหาคําตอบอย่างเป็นขั้นตอนที่สามารถนําไปปฏิบัติได้โดยบุคคลหรือคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องและแม่นยํา ซึ่งเรียกว่า อัลกอริทึม ทักษะการใช้แนวคิดเชิงคํานวณจึงสำคัญต่อการแก้ปัญหา ช่วยให้สามารถสื่อสารแนวคิดกับ ผู้อื่นได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยพัฒนาพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย แนวคิดเชิงคํานวณมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ การแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย (decomposition) การพิจารณารูปแบบ (patternrecognition) การคิดเชิงนามธรรม (abstraction) และการออกแบบอัลกอริทึม (algorithm)


4. สาระการเรียนรู้ 4.1 แนวคิดเชิงคํานวณ 4.2 การแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย 4.3 กรณีศึกษาการแก้ปัญหาด้วยแนวคิดเชิงคํานวณ 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายความหมายและลักษณะของแนวคิดเชิงคํานวณได้ 2) อธิบายความหมายของการแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อยได้ 3) วิเคราะห์กรณีศึกษาและสามารถนําหลักการตามแนวคิดเชิงคํานวณมาประยุกต์ใช้ได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) ออกแบบอัลกอริทึมเพื่อแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการแก้ปัญหา 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้เป็น อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? ช่วงปิดเทอมไปเที่ยวไหนบ้าง? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลด ความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อนคลายต่อการเรียน 2) ครูชี้แจงข้อตกลงในการเรียน และการวัดและการประเมินผลของรายวิชา 3) ครูเปิดวิดีทัศน์เรื่อง รู้จักวิชา “วิทยาการคํานวณ” วิชาบังคับใหม่ ที่เริ่มเรียนตั้งแต่ปี 2561


(https://www.youtube.com/watch?v=Wpwx-Pu-LKE) เมื่อจบแล้วครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อ ให้นักเรียนเห็นความสำคัญและประโยชน์ของรายวิชาวิทยาการคำนวณ 4) นักเรียนเปิดหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. บทที่ 1 เรื่อง แนวคิดเชิงคํานวณ และครูให้คํานิยามเกี่ยวกับแนวคิดเชิงคํานวณ ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนอธิบายการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน เพื่อให้น้องเข้าใจและเดินทาง ตามมาได้ในภายหลัง แล้วสุ่มนักเรียนตอบคําถาม 1-2 คน 2) วิเคราะห์ ครูอธิบายขั้นตอนที่นักเรียนตอบคําถามว่าเป็นกระบวนการ “อัลกอริทึม” เป็นทักษะในการใช้ แนวคิดเชิงคํานวณในการอธิบายปัญหา และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา แนวคิดเชิงคำนวณจากหนังสือเรียน 3) สรุป ครูสรุปแนวคิดเชิงคำนวณให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียน ซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่องแนวคิดเชิงคํานวณ ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูยกตัวอย่าง การแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อยในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น นักเรียนวาด ภาพหมู่บ้าน เริ่มมุมล่างซ้ายของตาราง พิกัด (0,0) โดยการอธิบายรายละเอียดของภาพเพื่อให้เพื่อนของ นักเรียนวาดตามได้ สามารถแบ่งออกเป็นปัญหาย่อย คือ ในภาพมีบ้านกี่หลัง ขั้นตอนการวาดบ้านหลังแรก หลังที่สอง หลังที่สาม เป็นอย่างไรและอยู่ตำแหน่งใด และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 1.1 การแบ่ง ปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย จากหนังสือเรียน หลังจากนั้นให้นักเรียนทำใบกิจกรรม เรื่องการวาดแปลน อาคาร


2) วิเคราะห์ ครูยกกรณีศึกษาการแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อยในการแก้ปัญหา ในตัวอย่างที่ 1.6 สอนน้อง จัดหนังสือ และตัวอย่างที่ 1.8 บ่อเลี้ยงปลาวาเลนไทน์จากหนังสือเรียน 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียน ซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง แนวคิดเชิงคํานวณและการแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายการแบ่งปัญหา ใหญ่เป็นปัญหาย่อยและ วิเคราะห์กรณีศึกษาและ สามารถนําหลักการตาม แนวคิดเชิงคํานวณมา ประยุกต์ใช้ได้ (K) 1. การตอบคําถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. ออกแบบการแบ่งปัญหา ใหญ่เป็นปัญหาย่อยเพื่อ แก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิง คํานวณได้ (P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรมใน การทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่1 แนวคิดเชิงคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การพิจารณารูปแบบ จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในชีวิตจริง 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณ 2. ตัวอย่างปัญหา เช่น การวาดรูปเชิงเรขาคณิต การเข้าแถวตามลำดับความสูงให้เร็วที่สุด จัดเรียงเสื้อผ้าให้หา ได้ง่ายที่สุด 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด แนวคิดเชิงคํานวณ (computational thinking) เป็นกระบวนการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อให้ได้แนวทาง การหาคําตอบอย่างเป็นขั้นตอนที่สามารถนําไปปฏิบัติได้โดยบุคคลหรือคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องและแม่นยํา ซึ่งเรียกว่า อัลกอริทึม ทักษะการใช้แนวคิดเชิงคํานวณจึงสำคัญต่อการแก้ปัญหา ช่วยให้สามารถสื่อสารแนวคิดกับ ผู้อื่นได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยพัฒนาพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย แนวคิดเชิงคํานวณมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ การแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย (decomposition) การพิจารณารูปแบบ (pattern recognition) การคิดเชิงนามธรรม (abstraction) และการออกแบบอัลกอริทึม (algorithm)


4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การพิจารณารูปแบบ 4.2 กรณีศึกษาการแก้ปัญหาด้วยแนวคิดเชิงคํานวณ 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายความหมายและลักษณะของแนวคิดเชิงคํานวณได้ 2) อธิบายความหมายของการพิจารณารูปแบบได้ 3) วิเคราะห์กรณีศึกษาและสามารถนําหลักการตามแนวคิดเชิงคํานวณมาประยุกต์ใช้ได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) ออกแบบอัลกอริทึมเพื่อแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการแก้ปัญหา 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้เป็น อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อน คลายต่อการเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่องแนวคิดเชิงคํานวณและการแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย


ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนอธิบายการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน เพื่อให้น้องเข้าใจและเดินทาง ตามมาได้ในภายหลัง แล้วสุ่มนักเรียนตอบคําถาม 1-2 คน 2) วิเคราะห์ ครูอธิบายขั้นตอนที่นักเรียนตอบคําถามว่าเป็นกระบวนการ “อัลกอริทึม” เป็นทักษะในการใช้ แนวคิด เชิงคํานวณในการอธิบายปัญหา และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 1.2 จากหนังสือเรียน หลังจาก นั้นให้นักเรียนทำใบกิจกรรม 3) สรุป ครูสรุปการพิจารณารูปแบบให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปการพิจารณารูปแบบ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถามใน สิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง การพิจารณารูปแบบ ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูยกตัวอย่าง การพิจารณารูปแบบในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น รูปแบบในการวาดภาพ หมู่บ้านพร้อมกับอธิบายคำตอบของปัญหาย่อย และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 1.2 จากหนังสือเรียน 2) วิเคราะห์ ครูยกกรณีศึกษาการพิจารณารูปแบบในตัวอย่างที่ 1.6 สอนน้องจัดหนังสือจากหนังสือเรียน และ ทำกิจกรรมท้ายบท 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการพิจารณารูปแบบ


ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการพิจารณารูปแบบ พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียน ซักถามในสิ่งที่ ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง การพิจารณารูปแบบ 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายการพิจารณา รูปแบบและวิเคราะห์ กรณีศึกษาและสามารถนํา หลักการตามแนวคิดเชิง คํานวณมาประยุกต์ใช้ได้(K) 1. การตอบคําถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. ออกแบบการพิจารณา รูปแบบ เพื่อแก้ปัญหาโดยใช้ แนวคิดเชิงคํานวณได้ (P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรมใน การทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่1 แนวคิดเชิงคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การคิดเชิงนามธรรม จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในชีวิตจริง 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณ 2. ตัวอย่างปัญหา เช่น การวาดรูปเชิงเรขาคณิต การเข้าแถวตามลำดับความสูงให้เร็วที่สุด จัดเรียงเสื้อผ้าให้หา ได้ง่ายที่สุด 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด แนวคิดเชิงคํานวณ (computational thinking) เป็นกระบวนการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อให้ได้แนวทาง การหาคําตอบอย่างเป็นขั้นตอนที่สามารถนําไปปฏิบัติได้โดยบุคคลหรือคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องและแม่นยํา ซึ่งเรียกว่า อัลกอริทึม ทักษะการใช้แนวคิดเชิงคํานวณจึงสำคัญต่อการแก้ปัญหา ช่วยให้สามารถสื่อสารแนวคิดกับ ผู้อื่นได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยพัฒนาพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย แนวคิดเชิงคํานวณมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ การแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย (decomposition) การพิจารณารูปแบบ (pattern recognition) การคิดเชิงนามธรรม (abstraction) และการออกแบบอัลกอริทึม (algorithm)


4. สาระการเรียนรู้ 4.1 แนวคิดเชิงนามธรรม 4.2 กรณีศึกษาการแก้ปัญหาด้วยแนวคิดเชิงคํานวณ 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายความหมายและลักษณะของแนวคิดเชิงคํานวณได้ 2) อธิบายความหมายของแนวคิดเชิงนามธรรมได้ 3) วิเคราะห์กรณีศึกษาและสามารถนําหลักการตามแนวคิดเชิงคํานวณมาประยุกต์ใช้ได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) ออกแบบอัลกอริทึมเพื่อแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการแก้ปัญหา 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้เป็น อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึก ผ่อนคลายต่อการเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง การพิจารณารูปแบบ


ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนอธิบายการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน เพื่อให้น้องเข้าใจและเดินทาง ตามมาได้ในภายหลัง แล้วสุ่มนักเรียนตอบคําถาม 1-2 คน 2) วิเคราะห์ ครูอธิบายขั้นตอนที่นักเรียนตอบคําถามว่าเป็นกระบวนการ “อัลกอริทึม” เป็นทักษะในการใช้ แนวคิดเชิงคํานวณในการอธิบายปัญหา และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 1.3 จากหนังสือเรียน หลังจาก นั้นให้นักเรียนทำใบกิจกรรม 3) สรุป ครูสรุปแนวคิดเชิงนามธรรมให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปแนวคิดเชิงนามธรรม พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามใน สิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูยกตัวอย่าง การพิจารณารูปแบบในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น การซ่อนละเอียดในการ วาดภาพหมู่บ้าน คือ มีตัวบ้านและหลังคาที่แตกต่างกัน เป็นต้น และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 1.3 จากหนังสือเรียน 2) วิเคราะห์ ครูยกกรณีศึกษาการพิจารณารูปแบบในตัวอย่างที่ 1.6 สอนน้องจัดหนังสือ และตัวอย่างที่ 1.8 บ่อ เลี้ยงปลาวาเลนไทน์ จากหนังสือเรียน 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปแนวคิดเชิงนามธรรม


ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปแนวคิดเชิงนามธรรม พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียน ซักถามในสิ่งที่ ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายแนวคิดเชิง นามธรรมและวิเคราะห์ กรณีศึกษาและสามารถนํา หลักการตามแนวคิดเชิง คํานวณมาประยุกต์ใช้ได้ (K) 1. การตอบคําถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. ออกแบบแนวคิดเชิง นามธรรมเพื่อแก้ปัญหาโดย ใช้แนวคิดเชิงคํานวณได้ (P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรมใน การทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่1 แนวคิดเชิงคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การออกแบบอัลกอริทึม จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในชีวิตจริง 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณ 2. ตัวอย่างปัญหา เช่น การวาดรูปเชิงเรขาคณิต การเข้าแถวตามลำดับความสูงให้เร็วที่สุด จัดเรียงเสื้อผ้าให้หา ได้ง่ายที่สุด 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด แนวคิดเชิงคํานวณ (computational thinking) เป็นกระบวนการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อให้ได้แนวทาง การหาคําตอบอย่างเป็นขั้นตอนที่สามารถนําไปปฏิบัติได้โดยบุคคลหรือคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องและแม่นยํา ซึ่งเรียกว่า อัลกอริทึม ทักษะการใช้แนวคิดเชิงคํานวณจึงสำคัญต่อการแก้ปัญหา ช่วยให้สามารถสื่อสารแนวคิดกับ ผู้อื่นได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยพัฒนาพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย แนวคิดเชิงคํานวณมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ การแบ่งปัญหาใหญ่เป็นปัญหาย่อย (decomposition) การพิจารณารูปแบบ (pattern recognition) การคิดเชิงนามธรรม (abstraction) และการออกแบบอัลกอริทึม (algorithm)


4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การออกแบบอัลกอริทึม 4.2 กรณีศึกษาการแก้ปัญหาด้วยแนวคิดเชิงคํานวณ 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายความหมายและลักษณะของแนวคิดเชิงคํานวณได้ 2) อธิบายความหมายของการออกแบบอัลกอริทึมได้ 3) วิเคราะห์กรณีศึกษาและสามารถนําหลักการตามแนวคิดเชิงคํานวณมาประยุกต์ใช้ได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) ออกแบบอัลกอริทึมเพื่อแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคํานวณได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการคิด 2) ความสามารถในการแก้ปัญหา 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน การออกแบบอัลกอริทึม 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้เป็น อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียน ลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อน คลายต่อการเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง แนวคิดเชิงนามธรรม


ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนอธิบายการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน เพื่อให้น้องเข้าใจและเดินทาง ตามมาได้ในภายหลัง แล้วสุ่มนักเรียนตอบคําถาม 1-2 คน 2) วิเคราะห์ ครูอธิบายขั้นตอนที่นักเรียนตอบคําถามว่าเป็นกระบวนการ “อัลกอริทึม” เป็นทักษะในการใช้ แนวคิดเชิงคํานวณในการอธิบายปัญหา และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 1.4 จากหนังสือเรียน หลังจาก นั้นให้นักเรียนทำใบกิจกรรม 3) สรุป ครูสรุปการออกแบบอัลกอริทึมให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปการออกแบบอัลกอริทึม พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถาม ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง การออกแบบอัลกอริทึม ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูยกตัวอย่าง การออกแบบอัลกอริทึม ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น อัลกอริทึมวาดภาพ หมู่บ้าน สำหรับคนนำไปวาด และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 1.4 จากหนังสือเรียน 2) วิเคราะห์ ครูยกกรณีศึกษาการพิจารณารูปแบบในตัวอย่างที่ 1.6 สอนน้องจัดหนังสือ และตัวอย่างที่ 1.8 บ่อ เลี้ยงปลาวาเลนไทน์ จากหนังสือเรียน 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการออกแบบอัลกอริทึม


ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการออกแบบอัลกอริทึม พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่ ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง การออกแบบอัลกอริทึม 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายการออกแบบ อัลกอริทึมและวิเคราะห์ กรณีศึกษาและสามารถนํา หลักการตามแนวคิดเชิง คํานวณมาประยุกต์ใช้ได้(K) 1. การตอบคําถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. ออกแบบอัลกอริทึมเพื่อ แก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิง คํานวณได้ (P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรมใน การทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การแก้ปัญหาด้วย Scratch ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง ฟังก์ชัน จำนวน 5 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 4.2 สาระที่ 4 เทคโนโลยี เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/2 การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะและฟังก์ชันในการแก้ปัญหา 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง การแก้ปัญหาด้วย Scratch โดยใช้ฟังก์ชัน 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การแก้ปัญหาจากการทำงานหรือชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลมีขั้นตอนและใช้เวลาที่แตกต่างกัน เพื่อ ช่วยให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนการแก้ปัญหา 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวิเคราะห์และ กำหนดรายละเอียดของปัญหา การวางแผนการแก้ปัญหา การดำเนินการแก้ปัญหา การตรวจสอบ และประเมินผล กระบวนการแก้ปัญหาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาจากการทำงาน หรือปัญหาในชีวิตประจำวัน การพัฒนาโปรแกรมโดยใช้โปรแกรม Scratch สามารถนำไปสร้างโปรแกรมที่มีการรับ ค่าข้อมูล ประมวลผลข้อมูล แสดงผลข้อมูล รวมถึงการใช้ตัวดำเนินการ หรือคำสั่งที่ใช้สำหรับการทำงานที่มี ทางเลือก และวนซ้ำ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ โดยนำความรู้เรื่องชนิดข้อมูล ค่าคงที่และตัวแปร มาเป็น ส่วนประกอบในการวิเคราะห์ประเภทของข้อมูลเข้า ข้อมูลออก เพื่อนำมาประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟังก์ชัน (function) หรือโปรแกรมย่อย (Subroutine) เป็นกลุ่มของคำสั่งที่ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะ ผู้ใช้จะนิยามฟังก์ชัน โดยกำหนดชื่อฟังก์ชัน และคำสั่งที่ต้องการภายในฟังก์ชันนั้น การตั้งชื่อฟังก์ชัน


ควรตั้งให้เหมาะสมกับการทำงานเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ผู้เขียนโปรแกรมสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันได้ โดยไม่ต้องเขียนชุดคำสั่งซ้ำ ๆ กันอีก และสามารมนำไปใช้กับโปรแกรมอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันได้อีกด้วย 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้ฟังก์ชัน 4.2 การออกแบบอัลกอริทึมเพื่อแก้ปัญหา อาจให้แนวคิดเชิงคำนวณในการออกแบบเพื่อให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ 4.3 การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยใหเแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.4 ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, Python, Java, C 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายการแก้ปัญหาด้วย Scratch ด้วยฟังก์ชัน 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตัวแปร ตัวดำเนินการ คำสั่ง if-else forever repeat ในการแก้ปัญหา 2) เขียนโปรแกรมที่มีการรับข้อมูลจากผู้ใช้และมีการแสดงผลลัพธ์จากการแก้ปัญหา 3) สร้างและเรียกใช้งานฟังก์ชัน 4) เขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาโดยมีการสร้างฟังก์ชันเพื่อแบ่งการทำงานย่อย 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1-2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้เป็น อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อนคลายต่อการเรียน


2) นักเรียนเปิดหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. บทที่ 3 เรื่อง การแก้ปัญหาด้วย Scratch ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนอธิบายความรู้เกี่ยวกับโปรแกรม Scratch โดยการสุ่มถามนักเรียน 1-3 คน 2) วิเคราะห์ ครูอธิบายขั้นตอนที่นักเรียนตอบคําถามว่าโปรแกรม Scratch และฟังก์ชันให้นักเรียน และครูให้ นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 3.1 จากหนังสือเรียน หลังจากนั้นให้นักเรียนทำใบกิจกรรม 3) สรุป ครูสรุปฟังก์ชันในโปรแกรม Scratch ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปการใช้ฟังก์ชันของโปรแกรม Scratch ในการแก้ปัญหา พร้อมกับ เปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป ชั่วโมงที่ 3-5 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง ฟังก์ชัน ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนยกตัวอย่างเกมที่สามารถนำความรู้เกี่ยวกับฟังก์ชันในโปรแกรม Scratch โดยการสุ่มถามนักเรียน 1-3 คน 2) วิเคราะห์ ครูยกตัวอย่างเกมที่สามารถนำความรู้เกี่ยวกับฟังก์ชันในโปรแกรม Scratch และสอนนักเรียน ปฏิบัติในคาบเรียน 3) สรุป ครูสรุปฟังก์ชันในโปรแกรม Scratch ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง


ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปการใช้ฟังก์ชันของโปรแกรม Scratch ในการแก้ปัญหา พร้อมกับ เปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง แนวคิดเชิงคํานวณ 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 3) โปรแกรม Scratch 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายการแก้ปัญหาด้วย โปรแกรม Scratch สามารถนํา ฟังก์ชันมาประยุกต์ใช้ได้ (K) 1. การตอบคําถาม ในแบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. ออกแบบการใช้ฟังก์ชันใน โปรแกรม Scratch (P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการปฏิบัติ 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การแก้ปัญหาด้วย Scratch ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง ตัวดำเนินการบูลีน จำนวน 5 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 4.2 สาระที่ 4 เทคโนโลยี เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/2 การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะและฟังก์ชันในการแก้ปัญหา 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง การแก้ปัญหาด้วย Scratch โดยใช้ตัวดำเนินการบูลีน 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การแก้ปัญหาจากการทำงานหรือชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลมีขั้นตอนและใช้เวลาที่แตกต่างกัน เพื่อ ช่วยให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนการแก้ปัญหา 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวิเคราะห์และ กำหนดรายละเอียดของปัญหา การวางแผนการแก้ปัญหา การดำเนินการแก้ปัญหา การตรวจสอบ และประเมินผล กระบวนการแก้ปัญหาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาจากการทำงาน หรือปัญหาในชีวิตประจำวัน การพัฒนาโปรแกรมโดยใช้โปรแกรม Scratch สามารถนำไปสร้างโปรแกรมที่มีการรับ ค่าข้อมูล ประมวลผลข้อมูล แสดงผลข้อมูล รวมถึงการใช้ตัวดำเนินการ หรือคำสั่งที่ใช้สำหรับการทำงานที่มี ทางเลือก และวนซ้ำ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ โดยนำความรู้เรื่องชนิดข้อมูล ค่าคงที่และตัวแปร มาเป็น ส่วนประกอบในการวิเคราะห์ประเภทของข้อมูลเข้า ข้อมูลออก เพื่อนำมาประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวดำเนินการบูลีน เป็นตัวดำเนินการสำหรับตรวจสอบเงื่อนไข ตัวดำเนินการประเภทนี้จะใช้กระทำกับตัว ถูกดำเนินการที่เป็นนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ หรือข้อมูลที่มีค่าความจริง (จริงหรือเท็จ) ตัวดำเนินการประเภทนี้


ได้แก่ AND OR และ NOT โดยตัวดำเนินการ NOT จะกระทำกับตัวถูกตัวดำเนินการตัวเดียว ส่วนตัวดำเนินการ อื่น ๆ จะกระทำกับตัวถูกดำเนินการสองตัว 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตัวดำเนินการบูลีน 4.2 การออกแบบอัลกอริทึมเพื่อแก้ปัญหา อาจให้แนวคิดเชิงคำนวณในการออกแบบเพื่อให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ 4.3 การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยใหเแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.4 ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, Python, Java, C 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายการแก้ปัญหาด้วย Scratch ด้วยฟังก์ชัน 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตัวแปร ตัวดำเนินการ ได้แก่ AND OR และ NOT ในการแก้ปัญหา 2) เขียนโปรแกรมที่มีการรับข้อมูลจากผู้ใช้และมีการแสดงผลลัพธ์จากการแก้ปัญหา 3) สร้างและเรียกใช้งานตัวดำเนินการบูลีน 4) เขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาโดยมีการสร้างตัวดำเนินการบูลีนเพื่อแบ่งการทำงานย่อย 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1-2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้เป็น อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อนคลายต่อการเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง ฟังก์ชัน


2) นักเรียนเปิดหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. บทที่ 3 เรื่อง การแก้ปัญหาด้วย Scratch ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนอธิบายความรู้เกี่ยวกับโปรแกรม Scratch โดยการสุ่มถามนักเรียน 1-3 คน 2) วิเคราะห์ ครูอธิบายขั้นตอนที่นักเรียนตอบคําถามว่าโปรแกรม Scratch และตัวดำเนินการบูลีนให้นักเรียน และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 3.2 จากหนังสือเรียน หลังจากนั้นให้นักเรียนทำใบกิจกรรม 3) สรุป ครูสรุปตัวดำเนินการบูลีนในโปรแกรม Scratch ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปการใช้ตัวดำเนินการบูลีนของโปรแกรม Scratch ในการ แก้ปัญหา พร้อมกับเปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป ชั่วโมงที่ 3-5 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง ตัวดำเนินการบูลีน ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนยกตัวอย่างเกมที่สามารถนำความรู้เกี่ยวกับตัวดำเนินการบูลีนในโปรแกรม Scratch โดยการสุ่มถามนักเรียน 1-3 คน 2) วิเคราะห์ ครูยกตัวอย่างเกมที่สามารถนำความรู้เกี่ยวกับตัวดำเนินการบูลีนในโปรแกรม Scratch และสอน นักเรียนปฏิบัติในคาบเรียน 3) สรุป ครูสรุปตัวดำเนินการบูลีนในโปรแกรม Scratch ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง


ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปตัวดำเนินการบูลีนของโปรแกรม Scratch ในการแก้ปัญหา พร้อมกับเปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง ตัวดำเนินการบูลีน 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 3) โปรแกรม Scratch 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายการแก้ปัญหาด้วย โปรแกรม Scratch สามารถนํา ตัวดำเนินการบูลีนมา ประยุกต์ใช้ได้ (K) 1. การตอบคําถาม ในแบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. ออกแบบการใช้ตัว ดำเนินการบูลีนในโปรแกรม Scratch (P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการปฏิบัติ 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การแก้ปัญหาด้วย Scratch ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน จำนวน 6 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 4.2 สาระที่ 4 เทคโนโลยี เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/2 การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะและฟังก์ชันในการแก้ปัญหา 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง การแก้ปัญหาด้วย Scratch โดยใช้การรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การแก้ปัญหาจากการทำงานหรือชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลมีขั้นตอนและใช้เวลาที่แตกต่างกัน เพื่อ ช่วยให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนการแก้ปัญหา 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวิเคราะห์และ กำหนดรายละเอียดของปัญหา การวางแผนการแก้ปัญหา การดำเนินการแก้ปัญหา การตรวจสอบ และประเมินผล กระบวนการแก้ปัญหาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาจากการทำงาน หรือปัญหาในชีวิตประจำวัน การพัฒนาโปรแกรมโดยใช้โปรแกรม Scratch สามารถนำไปสร้างโปรแกรมที่มีการรับ ค่าข้อมูล ประมวลผลข้อมูล แสดงผลข้อมูล รวมถึงการใช้ตัวดำเนินการ หรือคำสั่งที่ใช้สำหรับการทำงานที่มี ทางเลือก และวนซ้ำ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ โดยนำความรู้เรื่องชนิดข้อมูล ค่าคงที่และตัวแปร มาเป็น ส่วนประกอบในการวิเคราะห์ประเภทของข้อมูลเข้า ข้อมูลออก เพื่อนำมาประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน เป็นฟังก์ชันที่จะต้องมีการนำค่าตัวแปรเข้ามาประมวลผลในฟังก์ชัน และ เมื่อประมวลผลได้คำตอบแล้ว จะต้องมีการส่งค่าของผลลัพธ์ที่ประมวลผลได้กลับออกไปสู่โปรแกรมหลัก (Main Program) หรือโปรแกรมอื่น ๆ ที่เรียกมา โดยการส่งค่ากลับออกไปนั้น จะต้องมีการเขียนคำสั่งในรูปแบบ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้การรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน 4.2 การออกแบบอัลกอริทึมเพื่อแก้ปัญหา อาจให้แนวคิดเชิงคำนวณในการออกแบบเพื่อให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ 4.3 การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยใหเแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.4 ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, Python, Java, C 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายการแก้ปัญหาด้วย Scratch ด้วยการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เขียนโปรแกรมที่มีการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชันในการแก้ปัญหา 2) เขียนโปรแกรมที่มีการรับข้อมูลจากผู้ใช้และมีการแสดงผลลัพธ์จากการแก้ปัญหา 3) สร้างและเรียกใช้งานการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน 4) เขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาโดยมีการสร้างการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน เพื่อแบ่งการทำงานย่อย 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1-2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้เป็น อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อนคลายต่อการเรียน


2) นักเรียนเปิดหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. บทที่ 3 เรื่อง การแก้ปัญหาด้วย Scratch ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนอธิบายความรู้เกี่ยวกับโปรแกรม Scratch โดยการสุ่มถามนักเรียน 1-3 คน 2) วิเคราะห์ ครูอธิบายขั้นตอนที่นักเรียนตอบคําถามว่าโปรแกรม Scratch และการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน ให้นักเรียน และครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 3.3 จากหนังสือเรียน หลังจากนั้นให้นักเรียนทำใบ กิจกรรม 3) สรุป ครูสรุปการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชันในโปรแกรม Scratch ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปการใช้การรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชันของโปรแกรม Scratch ใน การแก้ปัญหา พร้อมกับเปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป ชั่วโมงที่ 3-5 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง การรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถามให้นักเรียนยกตัวอย่างเกมที่สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน ในโปรแกรม Scratch โดยการสุ่มถามนักเรียน 1-3 คน 2) วิเคราะห์ ครูยกตัวอย่างเกมที่สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชันในโปรแกรม Scratch และสอนนักเรียนปฏิบัติในคาบเรียน 3) สรุป ครูสรุปการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน ในโปรแกรม Scratch ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง


ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนเรียนร่วมกันสรุปการรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชันของโปรแกรม Scratch ในการ แก้ปัญหา พร้อมกับเปิดโอกาสให้ นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง การรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 3) โปรแกรม Scratch 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายการแก้ปัญหาด้วย โปรแกรม Scratch สามารถนํา การรับค่าและส่งค่าให้ฟังก์ชัน มาประยุกต์ใช้ได้ (K) 1. การตอบคําถาม ในแบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. ออกแบบการใช้การรับค่า และส่งค่าให้ฟังก์ชันใน โปรแกรม Scratch (P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการปฏิบัติ 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่4 หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ม.2/3 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี การสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด คอมพิวเตอร์ประกอบด้วย หน่วยรับเข้า หน่วยประมวลผลกลางหน่วยความจําและหน่วยส่งออก ซึ่งแต่ละหน่วย จะมีการทำงานที่ประสานกันอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อให้สามารถทำงานตอบสนองตาม ความต้องการของผู้ใช้ การ ประมวลผลแต่ละคำสั่งของหน่วยประมวลผลกลางจะทำงานตามขั้นตอนของวงรอบ เครื่องจักร (machine cycle) ซึ่งประกอบด้วยการนําคำสั่ง การถอดรหัส และการกระทำการ ตามลำดับ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์


5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เลือกใช้งานซอฟต์แวร์ให้สอดคล้องและเหมาะสมได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบฝึกหัดท้ายบท/ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้ เป็นอย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึก ผ่อนคลายต่อการเรียน 2) ครูตั้งคําถามชวนคิด “นักเรียนรู้หรือไม่ว่า หากระบบคอมพิวเตอร์ขาดส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งไป ระบบคอมพิวเตอร์จะยังสามารถทำงานต่อไปได้หรือไม่” ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า “ระบบคอมพิวเตอร์หมายถึงการทำงานของคอมพิวเตอร์ ที่มีส่วน ต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำงานได้อย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ”


2) วิเคราะห์ 2.1) ครูนําเสนอองค์ประกอบคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยฮาร์ดแวร์ ประกอบด้วย หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจํา หน่วยจัดเก็บ หน่วยรับเข้า หน่วยส่งออกส่วน ซอฟต์แวร์ ประกอบด้วยซอฟต์แวร์ประยุกต์ และซอฟต์แวร์ระบบ 2.2) ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างอุปกรณ์ดิจิทัลที่รู้จัก พร้อมให้ลองคิดว่าอุปกรณ์ที่ยกตัวอย่างเป็น อุปกรณ์ ที่จัดอยู่ในหน่วยใด 3) สรุป นักเรียนแต่ละคนศึกษาหนังสือเรียนหัวข้อ 4.1 เรื่อง องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่ององค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่ององค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ขั้นการสอน โดยใช้ กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูเน้นย้ำกับนักเรียนเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ว่า “องค์ประกอบของระบบ คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วน ดังนี้ 1.1) ฮาร์ดแวร์ คือ ส่วนของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ 1.2) ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนของโปรแกรมที่เป็นคำสั่งในการควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ 1.3) บุคลากร คือ ผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เพื่อป้อนข้อมูลหรือใช้งานคอมพิวเตอร์ 1.4) ข้อมูลสารสนเทศ คือ ข้อมูลดิบที่มีจำนวนมาก ซึ่งอาจอยู่ในรูปของตัวเลข ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ต่างๆ 1.5) กระบวนการ คือ กระบวนการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ” 2) วิเคราะห์ ครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่องฮาร์ดแวร์จากหนังสือเรียนหรือสืบค้นเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตและทำใบงาน 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่ององค์ประกอบของคอมพิวเตอร์และทำกิจกรรมทบทวนความรู้ เพื่อนำมาเก็บคะแนน และมีของรางวัลให้นักเรียนที่อยู่ในลำดับ 1-5


ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่ององค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียน ซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และทำกิจกรรมทบทวนความรู้ เพื่อนำมาเก็บคะแนน และมีของรางวัลให้นักเรียน ที่อยู่ในลำดับ 1-5 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 3) เกมทดสอบความรู้ Quizizz จากเว็บไซต์ https://quizizz.com 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายองค์ประกอบของ ระบบคอมพิวเตอร์ได้ (K) 1. การตอบคําถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. เลือกใช้งานซอฟต์แวร์ให้ สอดคล้องและเหมาะสมได้(P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมิน ใบงาน 2. สามารถตอบคําถามใน ใบงานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรมใน การทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่4 หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ม.2/3 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี การสื่อสารเพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้น จะต้องประกอบไปด้วยหน่วยต่าง ๆ ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ดังนี้ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก หน่วยความจําสํารอง และหน่วยแสดงผลข้อมูล 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 4.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์


5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เขียนขั้นตอนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบฝึกหัดท้ายบท/ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้ เป็นอย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อน คลาย ต่อการเรียน 2) ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ที่ประกอบไปด้วย องค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร ข้อมูลสารสนเทศ และกระบวนการ ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูถามคําถามนักเรียนว่า “นักเรียนรู้หรือไม่ว่าถ้าเปรียบเทียบคอมพิวเตอร์เป็นร่างกายมนุษย์จะ เปรียบเทียบหน่วยประมวลผลกลางได้กับอวัยวะใด”


2) วิเคราะห์ ครูอธิบายหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ว่า “ระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วย 5 ส่วนที่ สำคัญ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก หน่วยความจําสํารอง และหน่วยแสดงผล ข้อมูล ซึ่งแต่ละหน่วยจะมีอุปกรณ์ที่มีทำหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกัน” และให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบท 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่องหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 4.2 หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์จากหนังสือเรียน 2) วิเคราะห์ ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ แล้วให้นักเรียนร่วมกันร่วมอภิปรายถึงซอฟต์แวร์ ประเภทซอฟต์แวร์ และการ ใช้งานเพื่อช่วยแก้ปัญหาจากสถานการณ์และทำใบงาน 3) สรุป ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุป เรื่องหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ พร้อมกับเปิด โอกาสให้นักเรียน ซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และทำกิจกรรมทบทวนความรู้ เพื่อนำมาเก็บคะแนน และมีของรางวัลให้นักเรียน ที่อยู่ในลำดับ 1-5 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง หลักการทำงานคอมพิวเตอร์ 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 3) เกมทดสอบความรู้ Quizizz จากเว็บไซต์ https://quizizz.com


10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายหลักการทำงานของ ระบบคอมพิวเตอร์ได้(K) 1. การตอบคำถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. เขียนขั้นตอนการทำงาน ของระบบคอมพิวเตอร์ได้(P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่4 หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง ซอฟต์แวร์ประยุกต์ จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ม.2/3 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี การสื่อสารเพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้น จะต้องประกอบไปด้วยหน่วยต่าง ๆ ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ดังนี้ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก หน่วยความจําสํารอง และหน่วยแสดงผลข้อมูล 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ 4.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์


5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เขียนขั้นตอนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบฝึกหัดท้ายบท/ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้ เป็นอย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อน คลาย ต่อการเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่องหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหา หัวข้อ 4.3 เรื่องซอฟต์แวร์ประยุกต์จากหนังสือเรียน 2) วิเคราะห์ ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ แล้วให้นักเรียนร่วมกันร่วมอภิปรายถึงซอฟต์แวร์ ประเภทซอฟต์แวร์ และการ ใช้งานเพื่อช่วยแก้ปัญหาจากสถานการณ์และทำแบบฝึกหัด 3) สรุป ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุป เรื่องหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์


ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องซอฟต์แวร์ประยุกต์ พร้อมกับเปิด โอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่ ไม่เข้าใจ และทำกิจกรรมทบทวนความรู้ เพื่อนำมาเก็บคะแนน และมีของรางวัลให้นักเรียนที่อยู่ในลำดับ 1-5 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง หลักการทำงานคอมพิวเตอร์ 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 3) เกมทดสอบความรู้ Quizizz จากเว็บไซต์ https://quizizz.com 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายหลักการทำงานของ ระบบคอมพิวเตอร์ได้(K) 1. การตอบคำถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. เขียนขั้นตอนการทำงาน ของระบบคอมพิวเตอร์ได้(P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่5 เทคโนโลยีการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ม.2/3 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2.1 องค์ประกอบและหลักการทำงานของเทคโนโลยีการสื่อสาร 2.2อินเทอร์เน็ต เลขที่อยู่ไอพีโดเมน การใช้อีเมล 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การนําคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และเกิดบริการต่าง ๆ บนเครือข่าย การจะใช้งานระบบเหล่านี้ให้เกิดประสิทธิภาพ จำเป็นต้องรู้ถึง องค์ประกอบของการ สื่อสารเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และบริการบน อินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมในการทำงานหรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน


4. สาระการเรียนรู้ 4.1 องค์ประกอบของการสื่อสาร 4.2 เครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายองค์ประกอบของการสื่อสารและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เลือกใช้เครื่องมือ วิธีการสื่อสาร และเลือกใช้บริการบนเครือข่ายได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบฝึกหัดท้ายบท/ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้ เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึก ผ่อนคลายต่อการเรียน 2) ครูนําอภิปรายเกี่ยวกับการสื่อสารที่นักเรียนพบในชีวิตประจำวัน เช่น การพูดคุย การประกาศ การใช้ โทรศัพท์ การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถาม “ในอนาคต นักเรียนคิดว่ารูปแบบการสื่อสารจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง”


2) วิเคราะห์ นักเรียนศึกษาเนื้อหาหัวข้อ 5.1 เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสาร จากหนังสือเรียนและครู อธิบาย เพิ่มเติมเรื่ององค์ประกอบการสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วย ผู้ส่ง ผู้รับ ข้อมูลข่าวสาร ตัวกลาง และ ข้อตกลงร่วมกัน และให้ทำแบบฝึกหัด 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่ององค์ประกอบของการสื่อสาร ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่ององค์ประกอบของการสื่อสาร ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสาร ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคําถาม "นักเรียนจะสื่อสารกับเพื่อนที่อยู่ห่างไกลได้อยู่วิธีไหนบ้าง" 2) วิเคราะห์ นักเรียนศึกษาเนื้อหาหัวข้อ 5.2 เรื่อง เครือข่ายคอมพิวเตอร์จากหนังสือเรียน และครูอธิบายเพิ่มเติม ชนิดเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตัวกลาง อุปกรณ์เครือข่าย ให้นักเรียนเข้าใจอีกครั้งและทำแบบฝึกหัดท้ายบท 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่ององค์ประกอบของการสื่อสารและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ พร้อม กับเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง องค์ประกอบของการสื่อสารและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท.


10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายองค์ประกอบของการสื่อสาร และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้ (K) 1. การตอบคำถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. เลือกใช้เครื่องมือ วิธีการ สื่อสาร และเลือกใช้บริการ บนเครือข่ายได้(P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมิน ใบงาน 2. สามารถตอบคําถามใน ใบงานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่5 เทคโนโลยีการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง อินเตอร์เน็ตและการบริการบนอินเตอร์เน็ต จำนวน 4 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ม.2/3 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี การสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้น 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2.1 องค์ประกอบและหลักการทำงานของเทคโนโลยีการสื่อสาร 2.2 อินเทอร์เน็ต เลขที่อยู่ไอพี โดเมน การใช้อีเมล 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การนําคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และเกิดบริการต่าง ๆ บนเครือข่าย การจะใช้งานระบบเหล่านี้ให้เกิดประสิทธิภาพ จำเป็นต้องรู้ถึง องค์ประกอบของการ สื่อสารเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และบริการบน อินเทอร์เน็ต เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมในการทำงานหรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน


4. สาระการเรียนรู้ 4.1 อินเทอร์เน็ต 4.2 บริการอินเทอร์เน็ต 4.3 คลาวด์คอมพิวติง 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายระบบอินเตอร์เน็ต การบริการบนอินเตอร์เน็ต และคลาวด์คอมพิวติงได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เลือกใช้ระบบอินเตอร์เน็ต การบริการบนอินเตอร์เน็ต และคลาวด์คอมพิวติงได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบฝึกหัดท้ายบท/ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้เป็น อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึก ผ่อนคลายต่อการเรียน 2) ครูนํานักเรียนอภิปรายเรื่ององค์ประกอบของระบบอินเทอร์เน็ต ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูตั้งคำถาม “ระบบอินเทอร์เน็ตช่วยทำให้นักเรียนได้รับประโยชน์อะไรบ้าง”


2) วิเคราะห์ นักเรียนศึกษาเนื้อหาหัวข้อ 5.3 เรื่อง อินเทอร์เน็ต จากหนังสือเรียน แล้วทำใบกิจกรรม เรื่อง อินเทอร์เน็ตคืออะไร 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องระบบอินเทอร์เน็ต ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องระบบอินเทอร์เน็ต ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง ระบบอินเทอร์เน็ต ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูนํานักเรียนอภิปรายการใช้บริการอินเทอร์เน็ต ที่นักเรียนเคยใช้ในชีวิตประจำวัน (ใช้บริการอะไร ใช้งานอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร) 2) วิเคราะห์ นักเรียนศึกษาเนื้อหาหัวข้อ 5.4 เรื่อง บริการบนอินเทอร์เน็ต จากหนังสือเรียนและทำแบบฝึกหัดท้ายบท 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง บริการบนอินเทอร์เน็ต ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องอินเทอร์เน็ตและการบริการบนอินเทอร์เน็ต พร้อมกับเปิด ให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป ชั่วโมงที่ 3-4 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง ระบบอินเทอร์เน็ตและบริการอินเทอร์เน็ต


ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างเจตคติ 1) สังเกต ครูนํานักเรียนอภิปรายการใช้บริการอินเทอร์เน็ต ที่นักเรียนเคยใช้ในชีวิตประจำวัน (ใช้บริการอะไร ใช้งานอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร) 2) วิเคราะห์ นักเรียนศึกษาเนื้อหาหัวข้อ 5.5เรื่อง คลาวด์คอมพิวติงจากหนังสือเรียนและทำแบบฝึกหัดท้ายบท 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง อินเทอร์เน็ต บริการบนอินเทอร์เน็ต และคลาวด์คอมพิวติง ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง อินเทอร์เน็ต บริการอินเทอร์เน็ต และคลาวด์คอมพิวติง พร้อมกับ เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และทำกิจกรรมทบทวนความรู้ เพื่อนำมาเก็บคะแนน และมี ของรางวัลให้นักเรียนที่อยู่ในลำดับ 1-5 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอนเรื่อง อินเตอร์เน็ตและการบริการบนอินเตอร์เน็ต 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท. 3) เกมทดสอบความรู้ Quizizz จากเว็บไซต์ https://quizizz.com 10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายระบบอินเตอร์เน็ตและ การบริการบนอินเตอร์เน็ตได้(K) 1. การตอบคำถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. เลือกใช้อินเตอร์เน็ตและ การบริการบนอินเตอร์เน็ตได้(P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบ งาน 2. สามารถตอบคําถามใน ใบงานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างมีความรับผิดชอบ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การปฏิบัติตนต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ม.2/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิ์ในการ เผยแพร่ผลงาน 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2.1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย โดยเลือกแนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น แจ้งรายงานผู้เกี่ยวข้อง ป้องกันการเข้ามาของข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ไม่โต้ตอบ ไม่เผยแพร่ 2.2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น ตระหนักถึงผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูล 2.3 ผลกระทบการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม 2.4 มารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล แชท สื่อสังคมออนไลน์ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การใช้งานอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดเสรีภาพในการสร้างข้อมูล การแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้ง่าย และ สามารถ เผยแพร่ในวงกว้างใช้เวลารวดเร็ว ซึ่งจะมีทั้งข้อมูลที่ถูกต้อง ข้อมูลที่บิดเบือนความเป็นจริง ข้อมูลที่ไม่ เหมาะสม เช่น เนื้อหาที่มีการคุกคามทางเพศ เนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรง การก่อการร้าย การละเมิดลิขสิทธิ์


ทุกคนสามารถช่วย ป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมได้ โดยอาจปฏิเสธการรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่เปิดดู ไม่บันทึกเก็บไว้ ไม่กดไลค์ ไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ ถ้าประสบปัญหาที่ไม่สามารถจัดการด้วยตนเองได้ให้แจ้งครู ผู้ปกครอง เจ้าหน้ารัฐ หรือผู้ที่ เกี่ยวข้องในการดูแลระบบที่นักเรียนใช้บริการนั้น ๆ นอกจากนี้ ก่อนการนําเสนอ ข้อมูล แสดงความคิดเห็น เผยแพร่ และ นําสื่อต่าง ๆ ไปใช้ ควรคิดให้รอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเอง และผู้อื่น โดยพิจารณาถึงจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ ข้อมูลและการติดต่อสื่อสาร ที่เรียกว่าพาพา ซึ่งประกอบด้วย ความเป็นส่วนตัว (privacy) ความถูกต้อง (accuracy) ทรัพย์สินหรือความเป็นเจ้าของ (property) และการเข้าถึง (access) 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 แนวทางการปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม 4.2 ผลกระทบการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม 4.3 แนวทางการพิจารณาเนื้อหาก่อนการเผยแพร่ข้อมูล 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายการปฏิบัติตนต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) เลือกวิธีปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาไม่เหมาะสมได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบฝึกหัดท้ายบท/ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน


Click to View FlipBook Version