8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันนี้ เป็นอย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผ่อน คลายต่อการเรียน 2) ครูยกตัวอย่างสถานการณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้งานเครือข่ายสังคม หรือเปิดคลิปวิดีโอ ที่ เกี่ยวข้อง ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น บุคคลอื่นบันทึกภาพ แล้วนําข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนไปสมัครบัญชี ผู้ใช้ใน เครือข่ายสังคม จากนั้นนําบัญชีผู้ใช้ดังกล่าวไปใช้ขายสินค้าออนไลน์ หรือใช้ถ้อยคําที่ไม่สุภาพใน การแสดง ความคิดเห็น ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก 1) สังเกต จากสถานการณ์ดังกล่าว ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตอบคําถามต่อไปนี้ O นักเรียนได้รับผลกระทบอย่างไร O ผู้ที่นําบัญชีนักเรียนไปกระทำดังกล่าวจะได้รับผลกระทบอย่างไร O มีบุคคลอื่นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้อีกหรือไม่ อย่างไร O นักเรียนมีแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างไร 2) วิจารณ์ ให้นักเรียนศึกษาหัวข้อ 6.1 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และหัวข้อ 6.2 เรื่อง ผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสม จากหนังสือเรียน 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง แนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และหัวข้อ เรื่อง ผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสม ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง แนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และหัวข้อ เรื่อง ผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสม
ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่อง แนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และหัวข้อ เรื่อง ผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสม ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก 1) สังเกต ครูนํานักเรียนอภิปรายแนวทางการพิจารณาเนื้อหาก่อนการเผยแพร่ข้อมูลที่นักเรียนเคยใช้ใน ชีวิตประจำวัน (ใช้บริการอะไร ใช้งานอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร) 2) วิจารณ์ นักเรียนศึกษาเนื้อหาหัวข้อ 6.3 เรื่อง แนวทางการพิจารณาเนื้อหาก่อนการเผยแพร่ข้อมูลจากหนังสือ เรียนและทำแบบฝึกหัดท้ายบท 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องแนวทางการพิจารณาเนื้อหาก่อนการเผยแพร่ข้อมูลผลกระทบ ในการเผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสม ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องแนวทางการพิจารณาเนื้อหาก่อนการเผยแพร่ข้อมูลพร้อมกับ เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง การปฏิบัติตนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท.
10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายการปฏิบัติตนต่อการ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ (K) 1. การตอบคำถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. เลือกวิธีปฏิบัติเมื่อพบ เนื้อหาไม่เหมาะสมได้ (P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 3. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20102 วิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน่วยการเรียนรู้ที่6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างมีความรับผิดชอบ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญาและมารยาทในการ ติดต่อสื่อสาร จำนวน 2 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวสิริวิมล ปั๋นสา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ม.2/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิ์ในการ เผยแพร่ผลงาน 2. สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2.1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย โดยเลือกแนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น แจ้งรายงานผู้เกี่ยวข้อง ป้องกันการเข้ามาของข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ไม่โต้ตอบ ไม่เผยแพร่ 2.2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น ตระหนักถึงผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมูล 2.3 ผลกระทบการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม 2.4 มารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล แชท สื่อสังคมออนไลน์
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การใช้งานอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดเสรีภาพในการสร้างข้อมูล การแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้ง่าย และ สามารถ เผยแพร่ในวงกว้างใช้เวลารวดเร็ว ซึ่งจะมีทั้งข้อมูลที่ถูกต้อง ข้อมูลที่บิดเบือนความเป็นจริง ข้อมูลที่ไม่ เหมาะสม เช่น เนื้อหาที่มีการคุกคามทางเพศ เนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรง การก่อการร้าย การละเมิดลิขสิทธิ์ ทุก คนสามารถช่วย ป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมได้ โดยอาจปฏิเสธการรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ เปิดดู ไม่บันทึกเก็บไว้ ไม่ กดไลค์ ไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ ถ้าประสบปัญหาที่ไม่สามารถจัดการด้วยตนเองได้ให้แจ้งครู ผู้ปกครอง เจ้าหน้ารัฐ หรือผู้ที่ เกี่ยวข้องในการดูแลระบบที่นักเรียนใช้บริการนั้น ๆ นอกจากนี้ ก่อนการนําเสนอ ข้อมูล แสดงความคิดเห็น เผยแพร่ และ นําสื่อต่าง ๆ ไปใช้ ควรคิดให้รอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเอง และผู้อื่น โดยพิจารณาถึงจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ ข้อมูลและการติดต่อสื่อสาร ที่เรียกว่าพาพา ซึ่งประกอบด้วย ความเป็นส่วนตัว (privacy) ความถูกต้อง (accuracy) ทรัพย์สินหรือความเป็นเจ้าของ (property) และการเข้าถึง (access) 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงาน 4.2 มารยาทในการติดต่อสื่อสาร 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายทรัพย์สินทางปัญญาได้ 2) อธิบายมารยาทในการติดต่อสื่อสารได้ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1) สืบค้นข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาได้ 2) ปฏิบัติตนและมีมารยาทในการติดต่อสื่อสารได้ 5.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีความใฝ่เรียนรู้ 6. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบฝึกหัดท้ายบท/ใบกิจกรรม 2) สังเกตพฤติกรรมมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน โดยถามข้อมูลทั่วไป เช่น วันเป็นอย่างไรบ้าง? สบายดีไหม? และพูดถึงบริบทรอบข้างเพื่อให้นักเรียนลดความรู้สึกอึดอัดและรู้สึก ผ่อนคลายต่อการเรียน 2) ครูตั้งถามชวนคิด “นักเรียนอยากสิ่งใดที่จะเป็นลิขสิทธิ์ของตนเองบ้างหรือไม่และเพราะเหตุใดจึงต้องมี ลิขสิทธิ์เป็นของตนเอง" ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก 1) สังเกต ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า “ทรัพย์สินทางปัญญา คือ ผลงานอันเกิดจากความคิด สร้างสรรค์ ของมนุษย์ เป็นทรัพย์สินอีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือจากสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่สามารถ เคลื่อนย้ายได้ เช่น นาฬิกา รถยนต์ เป็นต้น และอสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น บ้าน ที่ดิน” ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก 1) สังเกต ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า “ทรัพย์สินทางปัญญา คือ ผลงานอันเกิดจากความคิด สร้างสรรค์ ของมนุษย์ เป็นทรัพย์สินอีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือจากสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่สามารถ เคลื่อนย้ายได้ เช่น นาฬิกา รถยนต์ เป็นต้น และอสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น บ้าน ที่ดิน” 2) วิจารณ์ ให้นักเรียนศึกษาหัวข้อ 6.4 เรื่อง การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงาน จากหนังสือ เรียน และทำแบบฝึกหัดท้ายบท 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องเรื่อง การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงาน ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่องเรื่อง การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงาน
ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน 1) ครูกล่าวทักทายนักเรียนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน 2) ครูทบทวนบทเรียน ในชั่วโมงที่ผ่านมา ขั้นการสอน โดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก 1) สังเกต ครูนํานักเรียนอภิปรายถึง มารยาทในการติดต่อสื่อสาร 2) วิจารณ์ ครูให้นักเรียนศึกษาหัวข้อ 6.5 เรื่อง มารยาทในการติดต่อสื่อสาร จากหนังสือเรียน แล้วร่วมกัน อภิปรายประเด็นในกิจกรรมท้ายบทจากหนังสือเรียน 3) สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง มารยาทในการติดต่อสื่อสาร ขั้นสรุปบทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสรุป เรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญาและมารยาทในการติดต่อสื่อสาร พร้อมกับ เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และแจ้งเนื้อหาที่จะเรียนคาบต่อไป 9. สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1) สไลด์สื่อประกอบการสอน เรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญาและมารยาทในการติดต่อสื่อสาร 2) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของ สสวท.
10. การวัดและการประเมินผล การวัดและการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายทรัพย์สินทาง ปัญญา (K) 2. อธิบายมารยาทในก าร ติดต่อสื่อสารได้ (K) 1. การตอบคำถามใน แบบฝึกหัด 1. แบบฝึกหัด 1. สามารถตอบคําถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม หลักการ 80 % ขึ้นไป 2. สืบค้นข้อมูลต่าง ๆเกี่ยวกับ ทรัพย์สินทางปัญญาใต้ (P) 3.นักเรียนปฏิบัติตนและมี มารยาทในการติดต่อสื่อสาร ได้(P) 2. ตรวจใบงาน 2. แบบประเมินใบงาน 2. สามารถตอบคําถามในใบ งานได้ 80 % ขึ้นไป 4. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 3. สังเกตพฤติกรรม ในการทำแบบฝึกหัด 3. แบบประเมิน พฤติกรรม 3. นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป
แบบประเมินแบบฝึกหัด คําชี้แจง ประเมินผลแบบตรวจแบบฝึกหัด โดยทำเครื่องหมาย / ลงในช่องให้ตรงกับระดับคุณภาพ ลำดับ ที่ ชื่อ-สกุล ชิ้นงานถูกต้อง สมบูรณ์ ความเป็นระเบียบ ของชิ้นงาน สรุปคะแนน/ ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 4 3 2 1 รวม สรุป เกณฑ์การประเมิน 7-8 คะแนน = ดี 4-6 คะแนน = พอใช้ 1-3 คะแนน = ปรับปรุง ลงชื่อ............................................ (นางสาวสิริวิมล ปั๋นสา) วัน/เดือน/ปี ...............................
แบบประเมินใบงาน คําชี้แจง ประเมินผลแบบตรวจใบงาน โดยทำเครื่องหมาย / ลงในช่องให้ตรงกับระดับคุณภาพ ลำดับ ที่ ชื่อ-สกุล การสรุป เป็นองค์ ความรู้ เนื้อหา ถูกต้อง ครบถ้วน การบันทึก ข้อมูล การ อภิปราย การสนทนา ซักถาม รวม 20 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ดีมาก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคะแนน ดี = 3 คะแนน 16-20 ดี พอใช้ = 2 คะแนน 11-15 พอใช้ ปรับปรุง= 1 คะแนน 0-10 ปรับปรุง ลงชื่อ............................................ (นางสาวสิริวิมล ปั๋นสา) วัน/เดือน/ปี ...............................
แบบสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียน (รายบุคคล) คําชี้แจง ให้ผู้ประเมินขีดเครื่องหมายถูก / ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรียน ลำดับ ที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรมของนักเรียน ความมี วินัย ความ รับผิดชอบ มนุษย์ สัมพันธ์ ขยันหมั่น เพียร ความ รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 เกณฑ์การตัดสิน 4 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับดีมาก 3 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับดี 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับแบบสม่ำเสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดับไม่ผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การประเมิน 4-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5-7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ำกว่า 4 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ต้องปรับปรุง ลงชื่อ............................................ (นางสาวสิริวิมล ปั๋นสา) วัน/เดือน/ปี ...............................