๔ ทศพรรษ สมโภชวัดศิริเสาธง

อนโุ มทนากถา

พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ.๙)

กรรมการมหาเถรสมาคม ผ้รู กั ษาการแทนเจา้ คณะใหญ่หนเหนือ
เจา้ คณะภาค ๕ แม่กองบาลีสนามหลวง
ผรู้ ักษาการแทนเจ้าอาวาสวดั ปากน�ำ้

4

5

พระมงคลธรรมธัช, ดร.

เจ้าอาวาสวัดศริ ิเสาธง
เจา้ คณะอำ� เภอบางเสาธง

คำปรำรภ

ในอดีตอำเภอบำงเสำธง เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอบำงพลี จังหวัดสมุทรปรำกำร ด้วยกำลเวลำท่ี
ผ่ำนไปอย่ำงรวดเร็ว จำกพื้นที่ท้องทุ่งนำ “บ้ำนบำงเซำ” มำเป็น “บ้ำนบำงเสำธง” และเป็นสำนัก
วปิ ัสสนำธรรมชื่อ “สำนกั วิปสั สนำศิวโมกขส์ ถำน” และพฒั นำมำเป็น “วัดศริ เิ สำธง” ในปัจจบุ ัน

จำกจดุ เรม่ิ ตน้ เมอื่ ๔๐ ปที ่แี ล้ว ด้วยควำมมุ่งมน่ั และตั้งใจของโยมพอ่ วัลลภ แสงดีแน่ และอำตมำ
ที่มีอย่ำงแน่วแน่ที่จะสร้ำงสำนักสงฆ์หรือวัดไว้เพื่อสืบทอดพระพุทธศำสนำ เป็นสถำนที่สำหรับสำธุชน
ได้มำประพฤติปฏิบัติธรรม ด้วยแรงศรัทธำของนำยเวกและนำงซ่อนกลิ่น ศิริยิ่ง ผู้มีจิตใจเลื่อมใสศรัทธำ
ในพระพุทธศำสนำไดบ้ รจิ ำคท่ดี นิ จำนวน ๖ ไร่ ในปี พ.ศ.๒๕๒๔ และตอ่ มำเม่ือปี พ.ศ.๒๕๒๙ นำงปนิ่ ทอง
ศำลยำชีวนิ ในนำม บรษิ ัท สวนบำงนำ จำกัด ได้ถวำยที่ดินเนอ้ื ที่ ๕ ไร่ ๓๕ ตำรำงวำ รวมเป็นที่ดนิ ท้ังสอง
แปลง ๑๑ ไร่ ๓๕ ตำรำงวำ

หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้นเนื่องในงำนฉลอง “๔ ทศพรรษ สมโภชวัดศิริเสำธง” เพื่อสำธุชนท้ัง
ปัจจุบันและอนำคตจักได้ทรำบประวัติควำมเป็นมำของวัดศิริเสำธง อำตมำขออนุโมทนำและขอบคุณใน
น้ำใจไมตรีของทุก ๆ ท่ำนที่ได้มีส่วนเสียสละปัจจัยตำมกำลังทรัพย์ จึงได้เกิดมีวัดไว้ในพระพุทธศำสนำ
สมควำมตัง้ ใจและขอขอบคุณผ้ชู ่วยศำสตรำจำรยร์ ัตนำ ทิมเมอื ง และ ดร.ปทมุ มำ บำเพญ็ ทำน พร้อมท้ัง
ทมี งำนทกุ ทำ่ นท่ไี ด้เอ้อื เฟื้อจดั ทำหนงั สือเล่มนี้จนเสรจ็ สมบูรณ์ดว้ ยดี

ท้ำยที่สุดนี้อำตมำภำพ ขออำนุภำพคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดศิริเสำธง โปรดดล
บนั ดำลใหท้ ่ำนทั้งหลำยประสบควำมสขุ และควำมเจริญก้ำวหน้ำทุกคนทุกท่ำนด้วยเทอญ ขอเจรญิ พร

พระมงคลธรรมธัช, ดร.

8

ก่อร่างสรา้ งอาราม

1

2

3

โรงอโุ บสถชวั่ คราว

บรรยากาศภายในโรงอุโบสถชั่วคราว

4

พระมงคลธรรมธชั , ดร. และบดิ า ในโรงอุโบสถชัว่ คราว

นายเวก นางซอ่ นกล่นิ ศิรยิ งิ่

5

6

พระมเลงา่คถลงึ ธนรามรมธชั

7

เล่าถงึ นามพระมงคลธรรมธชั

ประวัตทิ ่วั ไป
พระมงคลธรรมธัช, ดร. เจา้ อาวาสวัดศริ ิเสาธง เจ้าคณะอำ� เภอบางเสาธง มี
นามเดิมวา่ นฤพล แสงดีแน่ เกิดเมื่อวนั ที่ ๑๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ.๒๔๙๗ บิดามีนามวา่
นายวลั ลภ แสงดีแน่ (นายคีหุย แซ่องึ้ ) มารดามีนามวา่ นางบรรจง แซ่อ้งึ และมพี ระครู
ภาวนาประสิทธิ์ (สวน อตฺตมโน) เป็นหลวงพอ่ บุญธรรม บรรพชาและอปุ สมบทเมื่อวนั ท่ี
๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๐ ณ พทั ธสมี าวดั บางพลนี อ้ ย ต�ำบลบางพลนี ้อย อ�ำเภอบางบอ่
จังหวัดสมุทรปราการ มีพระครูประโชติสารคุณ (ฉิม พรหมโชติ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้
รับฉายาว่า สขุ วฑฒฺ โน ปจั จบุ นั อายุ ๖๘ ปี พรรษา ๔๕

8

พระมงคลธรรมธัช, ดร.

9

พระครภู าวนาประสิทธ์ิ (สวน อตฺตมโน)
หลวงพ่อบุญธรรมของพระมงคลธรรมธชั , ดร.

บดิ ามารดาของพระมงคลธรรมธชั , ดร.

10

พระครูประโชตสิ ารคุณ (ฉิม พรหมโชต)ิ
พระอุปัชฌาย์

11

คุณพ่อวัลลภ แสงดีแน่
บดิ าของพระมงคลธรรมธัช, ดร.

12

ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ กิตติมศกั ดิ์ (ปรชั ญา)
มหาวิทยาลยั รามคำ� แหง

ดา้ นวทิ ยฐานะ
พ.ศ.๒๕๑๑ ส�ำเร็จชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๗ โรงเรียนมารดานฤมล ตำ� บลบางวัว
อำ� เภอบางปะกง จังหวัดฉะเชงิ เทรา
พ.ศ.๒๕๒๗ นกั ธรรมชั้นเอก (น.ธ.เอก) สำ� นักเรียนวดั ศิรเิ สาธง
ตำ� บลบางเสาธง อำ� เภอบางพลี จังหวัดสมทุ รปราการ
พ.ศ.๒๕๒๗ เขา้ รับการอบรมพุทธภาวนา วดั หลวงพอ่ สดธรรมกายาราม
อำ� เภอด�ำเนนิ สะดวก จงั หวดั ราชบรุ ี
พ.ศ.๒๕๕๒ ปรญิ ญากิตติมศกั ด์ิ ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑติ (บรหิ ารการศกึ ษา)
วิทยาลัยเฉลิมกาญจนา

13

พ.ศ.๒๕๕๒ ดษุ ฎบี ัณฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ (บริหารการศกึ ษา)
มหาวทิ ยาลัยเฉลมิ กาญจนา
พ.ศ.๒๕๕๓
ปรญิ ญากติ ติมศักดิ์ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑติ
พ.ศ.๒๕๖๓ วทิ ยาลยั เฉลมิ กาญจนา
ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ กิตติมศักดิ์ (ปรชั ญา)
มหาวิทยาลัยรามคำ� แหง
ดุษฎบี ณั ฑติ กิตติมศกั ด์ิ (บรหิ ารการศกึ ษา)
มหาวิทยาลัยเฉลมิ กาญจนา

14

ด้านสมณศักด์ิ

พ.ศ. ๒๕๓๓ พระครสู ัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ช้ันโท ที่
พระครสู ริ ิธัชพฒั นโสภณ
พ.ศ. ๒๕๔๐ พระครสู ัญญาบัตร เจ้าอาวาสวดั ราษฎร์ ช้ันเอก ในราชทนิ นามเดมิ
พ.ศ. ๒๕๔๘ พระครูสัญญาบตั ร เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก
ในราชทนิ นามเดมิ
พ.ศ. ๒๕๕๓ พระครสู ญั ญาบตั ร เทยี บผชู้ ว่ ยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ช้ันพิเศษ
ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๕๙ พระราชาคณะชัน้ สามัญ ที่ พระมงคลธรรมธัช

พ.ศ. ๒๕๓๓
พระครสู ญั ญาบตั ร เจ้าอาวาสวดั ราษฎร์ ชัน้ โท ที่

พระครสู ริ ธิ ัชพัฒนโสภณ

15

พ.ศ. ๒๕๔๘
พระครสู ัญญาบตั ร เทยี บผู้ช่วยเจา้ อาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก

ในราชทินนามเดมิ
พ.ศ. ๒๕๕๓

พระครูสัญญาบตั ร เทยี บผูช้ ่วยเจา้ อาวาสพระอารามหลวง ช้นั พเิ ศษ
ในราชทนิ นามเดิม

16

พ.ศ. ๒๕๕๙
พระราชาคณะชั้นสามญั ที่ พระมงคลธรรมธชั

17

ด้านการปกครอง เปน็ ผู้รกั ษาการแทนเจา้ อาวาสวัดศิริเสาธง
ไดร้ ับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศิริเสาธง
พ.ศ.๒๕๒๘ ไดร้ ับแต่งต้งั เปน็ เจา้ คณะต�ำบลบางเสาธง
พ.ศ.๒๕๒๙ ได้รบั แต่งตั้งเปน็ พระอุปัชฌาย์
พ.ศ.๒๕๔๒ ไดร้ บั แต่งตง้ั เปน็ เจ้าคณะอำ� เภอบางเสาธง
พ.ศ.๒๕๔๖
พ.ศ.๒๕๕๒-ปจั จบุ นั

พระมงคลธรรมธชั , ดร. ไดร้ บั ตำ� แหนง่ เจา้ อาวาสวดั ศริ เิ สาธงเมอ่ื ปี พ.ศ.๒๕๒๙
ไดป้ กครองและพฒั นาวดั ศริ เิ สาธงใหม้ คี วามเจรญิ กา้ วหนา้ มาเปน็ ลำ� ดบั นอกจากนท้ี า่ น
ยังได้รับแต่งตั้งให้รับผิดชอบงานด้านการปกครองคณะสงฆ์ระดับต�ำบลและระดับ
อ�ำเภอ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ พัฒนางานของคณะสงฆ์ สร้างความรัก
สามัคคี ปรองดอง จนเป็นท่ีประจักษ์ถึงความพร้อมเพรียงและความงดงามในหมู่
คณะสงฆอ์ �ำเภอบางเสาธง จังหวดั สมุทรปราการ

พ.ศ.๒๕๒๙
ไดร้ ับแต่งตัง้ เปน็ เจา้ อาวาสวดั ศริ ิเสาธง

18

พ.ศ.๒๕๔๖
ไดร้ ับแตง่ ตง้ั เป็นพระอปุ ัชฌาย์

19

พ.ศ.๒๕๕๒-ปัจจบุ นั
ไดร้ บั แตง่ ตงั้ เปน็ เจา้ คณะอ�ำเภอบางเสาธง

20

เรืองวิวัฒน์ วดั ศิรเิ สาธง

21

เรืองววิ ัฒน์ วัดศริ ิเสาธง

วดั “ศริ เิ สาธง” นามที่เป็นม่งิ มงคลแหง่ อ�ำเภอบางเสาธง จงั หวดั สมุทรปราการ
เป็นศูนย์รวมความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทั้งในอ�ำเภอบางเสาธงและพื้นท่ี
ใกล้เคียง
ทีต่ ้ัง ๓๖ หมู่ ๗ ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ ๒๖ ต�ำบลบางเสาธง อ�ำเภอ
บางเสาธง จงั หวดั สมทุ รปราการ
ประเภท วัดราษฎร์
สงั กัด คณะสงฆฝ์ า่ ยมหานิกาย
พระพทุ ธรูปส�ำคญั พระพุทธชนิ ราชจ�ำลอง
เจา้ อาวาส พระมงคลธรรมธชั , ดร. เจ้าคณะอ�ำเภอบางเสาธง
เนือ้ ท่ีของวดั ๑๑ ไร่ ๓๕ ตารางวา

ภาพมมุ สูงวดั ศริ ิเสาธง

22

เสนาสนะและสิง่ กอ่ สรา้ งสำ� คัญภายในวัด


ศาลาอเนกประสงค์ แบบทรงไทยช้ันเดียว เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ขนาด ๑๐ x ๒๒ เมตร สร้างแล้วเสรจ็ เมอื่ พ.ศ.๒๕๒๕

ศาลาการเปรยี ญ ทรงไทย ๓ มขุ ๒ ชัน้ เปน็ อาคารคอนกรตี เสรมิ เหล็ก
ขนาด ๑๖ x ๔๔ เมตร เริ่มวางศลิ าฤกษก์ อ่ สรา้ งเมือ่ วนั ท่ี ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๒๙ สรา้ ง
แล้วเสรจ็ เมือ่ พ.ศ.๒๕๓๒

ศาลาการเปรียญ

23

พิธียกชอ่ ฟา้ ศาลาการเปรยี ญ

24

หอระฆัง แบบทรงไทย ๔ มุข ๒ ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ขนาด ๑๐ x๑๐ เมตร สร้างแล้วเสร็จเมอ่ื พ.ศ.๒๕๓๓

หอระฆัง
หอฉัน แบบทรงไทยชน้ั เดยี ว เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหลก็ ขนาด ๑๐ x ๒๔
เมตร สร้างแลว้ เสรจ็ เม่อื พ.ศ.๒๕๓๕ โดยมคี ณุ สุพงศ์ อรยิ วฒั นก์ ลุ พร้อมบุตร - ธดิ า
เป็นผสู้ รา้ งถวาย

25

โรงเรียนพระปริยัติธรรม แบบทรงไทย ๒ มุข ๒ ชั้น เป็นอาคาร
คอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด ๑๐ x ๒๒ เมตร สร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑ โดยมี
คุณอนุสรณ์ - คณุ จนิ ดา วรภัฏ พรอ้ มบตุ ร-ธดิ า เปน็ ผสู้ ร้างถวาย

โรงเรยี นพระปริยัตธิ รรม
วหิ ารเจา้ แมก่ วนอมิ แบบทรงไทยชนั้ เดยี ว เป็นอาคารคอนกรีตเสรมิ เหล็ก
ขนาด ๖ x ๘ เมตร สรา้ งแล้วเสรจ็ เมอื่ พ.ศ.๒๕๔๔ โดยมีครอบครัวโฆษานันตชัย เป็น
ผู้สร้างถวาย
หอสวดมนต์ แบบทรงไทย ๓ มขุ ๒ ชั้น เปน็ อาคารคอนกรตี เสริมเหล็ก
ขนาด ๑๒ x ๒๕ เมตร สร้างแลว้ เสรจ็ เมือ่ พ.ศ.๒๕๔๖ โดยมคี ุณบญุ รัตน์ วงษ์โคเมท
คุณบญุ ศรี ศรีจิรารตั น์ คุณประเสริฐ -คุณนติ ยา สมั ฤทธิวณิชชา เป็นผูส้ รา้ งถวาย

26

ซมุ้ ประตวู ดั
ซมุ้ ประตวู ดั หนา้ บนั ลายปนู ปน้ั ทาสที อง มพี ระพทุ ธรปู ปางหา้ มญาติ ๕ องค์
หนา้ หลงั เสาหลกั ๔ ต้น ขนาดเสากว้าง ๐.๖๐ เมตร ยาว ๑.๒๐ เมตร ขนาดประตู
กว้าง ๑.๒๐ เมตร ยาว ๑๔ เมตร เสาใชก้ รวดลา้ ง สร้างเสรจ็ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๖ โดยมี
คุณแม่บรรจง แสงดแี น่ พร้อมบุตร-ธดิ า และลกู หลาน เปน็ ผู้สรา้ งถวาย

27

อุโบสถ แบบทรงไทยจตุรมุข ๒ ช้ัน มียอดปราสาทปิดทองค�ำเปลว อาคาร
คอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด ๓๖ x ๓๙ เมตร หน้าบันทั้งส่ีหน้า ลายปูนปั้น ปิดทองค�ำ
เปลวปิดกระจก ภายในมีภาพจิตรกรรม และลายปูนปั้นปิดทองค�ำเปลวปิดกระจกเช่น
เดียวกัน พื้นภายในช้ันบนปูด้วยหินแกรนิตคริสตัล ส่วนพ้ืนภายในชั้นล่างปูด้วยหิน
แกรนิต เสาภายในช้ันบนคอนกรีตเสริมเหล็กมีลายปูนปั้นปิดทองค�ำเปลวปิดกระจก
ส่วนเสาภายนอกปูหินอ่อน เสาภายในชั้นล่างปูหินอ่อนเช่นเดียวกัน ภายนอกอาคาร
เป็นกรวดล้าง สร้างเสร็จเม่ือปี พ.ศ.๒๕๔๙

28

มณฑปพุทธบูรพาจารย์ ทรงไทยจตรุ มขุ ช้ันเดยี ว เป็นอาคารคอนกรตี เสริม
เหลก็ ขนาด ๘ x ๒๐ เมตร เร่มิ วางศิลาฤกษ์และกอ่ สร้างเม่ือวันที่ ๑๗ พฤศจกิ ายน
พ.ศ.๒๕๖๒ แล้วเสร็จเม่ือเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕ มณฑปพุทธบูรพาจารย์
สร้างเพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ของพระมงคลธรรมธัช, ดร. คือ
พระครูประโชตสิ ารคณุ (ฉิม พรหมโชต)ิ พระอุปชั ฌาย์ และพระครภู าวนาประสิทธิ์
(สวน อตฺตมโน) หลวงพอ่ บญุ ธรรม

พธิ วี างศลิ าฤกษ์ มณฑปพุทธบูรพาจารย์

29

30

วจิ ิตสรรบ้ารงวรดัจศงิรอเิุโสบาสธถงงาม

31

สร้างวดั ศริ ิเสาธง วิจติ รบรรจงอโุ บสถงาม

จากประวัติการสรา้ งวดั ศริ ิเสาธง จงั หวดั สมทุ รปราการ กล่าวไว้วา่ ผู้มบี ทบาท
ส�ำคญั อยา่ งยงิ่ ในการสร้างวัด คอื คณุ พอ่ วลั ลภ แสงดแี น่ บดิ าพระเดชพระคณุ พระ
มงคลธรรมธชั , ดร. เจา้ อาวาสวดั ศริ เิ สาธง และเจ้าคณะอ�ำเภอบางเสาธง
คณุ พ่อวัลลภ แสงดแี น่ สนใจเร่อื งการปฏิบัตธิ รรมกัมมฏั ฐาน อุทศิ ตนเพ่ือ
พระพทุ ธศาสนามาตลอดชีวิต ท่านมีความตั้งใจแน่วแน่ท่ีจะสรา้ งส�ำนักสงฆ์หรือวัดไวใ้ น
พระพุทธศาสนา โดยมีเหตุผล ๓ ประการ คือ ประการแรก เพือ่ สบื ทอดพระพทุ ธศาสนา
ประการท่ีสองเป็นสถานที่ส�ำหรับสาธุชนได้มาประพฤติปฏิบัติธรรมสร้างบุญกุศล และ
ประการที่สามเปน็ ทจี่ �ำพรรษาของพระภกิ ษสุ งฆ์

คณุ พ่อวลั ลภ แสงดแี น่ สนใจเรอ่ื งการปฏิบตั ิธรรมกัมมฏั ฐาน

32

สายธารแหง่ ความดีงามในทางธรรมของคุณพ่อวลั ลภ แสงดแี น่ ปรากฏชัด
จากการทที่ า่ นไดร้ เิ รม่ิ ตง้ั สำ� นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมบรเิ วณหลงั ตลาดบางพลนี อ้ ย ตำ� บลบางเกลอื
อำ� เภอบางปะกง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา

สำ� นกั ปฏิบัติธรรมของคณุ พอ่ วลั ลภ แสงดีแน่
บริเวณหลังตลาดบางพลนี อ้ ย ตำ� บลบางเกลอื อำ� เภอบางปะกง จังหวัดฉะเชงิ เทรา
ประมาณ พ.ศ.๒๕๒๔ นายเวกและนางซอ่ นกล่ิน ศิริย่ิง ซ่งึ เปน็ ลูกศิษย์ของ
หลวงพ่อสด วัดปากนำ้� ภาษเี จรญิ ได้มาสนทนาธรรมกับคุณพ่อวัลลภ แสงดีแน่ ที่
ส�ำนักปฏิบตั ิธรรมและมีจติ เลื่อมใสศรัทธา จึงขอบรจิ าคที่ดินจ�ำนวน ๖ ไร่ ซง่ึ เป็นท่ีดิน
บนท่ดี อน บรเิ วณหมู่ ๗ ต�ำบลบางเสาธง อ�ำเภอบางพลี จังหวดั สมุทรปราการ เพอื่
สรา้ งสำ� นกั ปฏิบตั ธิ รรมชอื่ วา่ สำ� นักวิปัสสนาศิวโมกข์สถาน ตอ่ มาเม่อื วนั ท่ี ๒๐ ตลุ าคม
พ.ศ.๒๕๒๖ ได้รับอนญุ าตจากทางราชการใหส้ รา้ งวดั ชื่อวัดศิริเสาธง ตอ่ มาอีกสองปี
คอื เมอื่ วันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ มีประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรอื่ งการต้งั
วัดในพระพุทธศาสนา และได้รบั พระราชทานวิสุงคามสีมา เมอื่ วนั ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.
๒๕๓๑

33

ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ นางปน่ิ ทอง ศาลยาชีวิน ในนาม บริษัท สวนบางนา จำ� กัด ได้
ถวายทด่ี ินทีต่ ดิ กับวดั ด้านทศิ เหนอื เนอื้ ท่ี ๕ ไร่ ๓๕ ตารางวา รวมเปน็ ที่ดนิ ทง้ั สองแปลง
๑๑ ไร่ ๓๕ ตารางวา เพ่ือประโยชน์ในการกอ่ สรา้ งเสนาสนะและอาคารถาวรวัตถุต่าง ๆ
ภายในวัดศริ ิเสาธง

34

35

วจิ ิตรบรรจงอุโบสถงาม

อโุ บสถจตุรมขุ และพระพทุ ธชินราชจำ� ลอง

อโุ บสถจตรุ มขุ เปน็ สถาปัตยกรรมทไ่ี ด้รบั ยกยอ่ งอยา่ งมากดา้ นความงดงาม
อุโบสถจตุรมุขของวัดศิริเสาธง จ�ำลองแบบมาจากพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาทใน
พระบรมมหาราชวัง เป็นการสืบสานงานศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมไทยท่ีมีความ
ประณีตวจิ ิตรบรรจง ยงั ความเล่ือมใสศรทั ธาแก่ผู้ไดพ้ บเห็น

ภายในอโุ บสถประดษิ ฐานพระประธาน คือ พระพุทธชินราชจ�ำลองที่มพี ุทธ
ลกั ษณะงดงาม องค์พระมีขนาดหนา้ ตกั ๘๙ นว้ิ วดั ศิริเสาธงไดป้ ระกอบพธิ เี ททองหลอ่
พระพทุ ธชินราชจำ� ลอง เมอ่ื วนั ที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๔
อุโบสถวดั ศริ ิเสาธงใช้เวลากอ่ สร้าง ๑๕ ปี เปน็ อาคารคอนกรีตเสรมิ เหลก็
สองชนั้ แบบจตรุ มขุ ขนาด ๓๖ x ๓๙ เมตร เร่ิมกอ่ สรา้ งและวางศลิ าฤกษเ์ ม่ือวนั ที่ ๑๙
พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๔ การก่อสร้างแล้วเสรจ็ ปิดทองฝังลกู นิมติ และผูกพัทธสมี า
ระหว่างวนั ท่ี ๑๖-๒๕ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๕๐

36

สมเด็จพระมหารัชมงั คลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนอื เจา้ อาวาสวดั ปากน�้ำ
สมเด็จพระพทุ ธชนิ วงศ์ เจา้ คณะใหญห่ นกลาง วัดพชิ ยญาติการาม
เปน็ ประธานพธิ สี มโภชอุโบสถ

วนั ที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๕ วัดศิริเสาธงไดจ้ ดั พธิ ีสมโภชอุโบสถ โดยมี
เจ้าประคณุ สมเดจ็ พระมหารชั มังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนอื เจ้าอาวาสวัดปากน�้ำ
และเจ้าประคณุ สมเด็จพระพทุ ธชนิ วงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติการาม เป็น
ประธาน โดยไดถ้ วายภตั ตาหารเพลพระสงฆ์ ๑,๒๐๐ รูป ในโอกาสนีด้ ว้ ย

37

วันท่ี ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี
พระวรราชาธนิ ดั ดามาตุ เสดจ็ มาทรงประกอบพธิ ตี ดั หวายลกู นมิ ติ ลกู เอก ณ วดั ศริ เิ สาธง
อ�ำเภอบางเสาธง จงั หวดั สมทุ รปราการ

พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธนิ ดั ดามาตุ
เสดจ็ มาทรงประกอบพธิ ตี ดั หวายลกู นมิ ติ ลกู เอก

ณ วดั ศริ เิ สาธง อำ� เภอบางเสาธง จงั หวัดสมทุ รปราการ

38

งามวิถพี“ศุทิรธเิรสจุ านธ์เงร”อื งรอง

39

“ศิริเสาธง” งามวิถีพทุ ธรุจน์เรอื งรอง

วัดศิริเสาธงเป็นที่ต้ังส�ำนักปฏิบัติธรรมประจ�ำจังหวัดสมุทรปราการ แห่งที่ ๕
มีกิจกรรมปฏิบัติธรรมบวชเนกขัมมะอย่างต่อเน่ืองเพ่ือถวายเป็นพระราชกุศล ช่วง
เดือนธันวาคมของทุกปี

ปฏิบัติธรรมบวชเนกขัมมะ

40

ด้านการส่งเสรมิ การศกึ ษาของเดก็ และเยาวชน พระเดชพระคณุ พระมงคล
ธรรมธัช, ดร. เจ้าอาวาสวดั ศริ เิ สาธง เจา้ คณะอำ� เภอบางเสาธง ไดม้ อบทนุ การศึกษาแก่
เด็กเยาวชนทั้งระดับประถมศึกษาและมธั ยมศกึ ษาเป็นประจำ� ทุกปี

41