คูมือประกอบการบรรยาย
โครงการวิจยั และพัฒนาสมรรถนะ และระบบประเมนิ สมรรถนะ สาํ หรบั บคุ ลากรดานสอื่ สารมวลชนรุนใหม
นักสือ่ สารมวลชนรุ่นใหม่
จะสามารถทําหน้าทีต่ ามบทบาท
ทีส่ ังคมและประเทศชาติคาดหวังไดเ้ ตม็ ศักยภาพ
ผลิตและเผยแพร่ผลงานที่
สร้างสรรคส์ งั คม
ดว้ ยสมรรถนะทีเ่ ต็มเป่ ยี มอย่างเตม็ ภาคภูมิ
ในฐานะนักสอื่ สารมวลชนร่นุ ใหม่
GSPA
วทิ ยาลัยการบรหิ ารรฐั กจิ มหาวิทยาลยั บรู พา
169 ถ.ลงหาดบางแสน ต.แสนสขุ อ.เมอื ง จ.ชลบรุ ี 20131
E book E book Motion graphic
คู่มือประกอบ
ค่มู ือส�ำหรับองคก์ ร กำรบรรยำย
เพื่ อกำรพั ฒนำ
ค�ำน�ำ
คู่มือฉบับนี้จัดท�ำขึ้นเพ่ื อเผยแพร่ผลกำรวิจัยและพั ฒนำสมรรถนะ
ส�ำหรับนักสื่อสำรมวลชนรุ่นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ อให้หน่วยงำนภำครัฐ
ภำคเอกชน องคก์ รวชิ ำชพี สถำบันอดุ มศึกษำ และกลุม่ ผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสียใน
แวดวงกำรสอ่ื สำรมวลชนไดน้ ำ� ขอ้ มลู ในคมู่ อื ฉบบั นไี้ ปประยกุ ตใ์ ชต้ ำมบรบิ ทเพื่อ
ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ องคก์ ำร ตอ่ สำธำรณะ และตอ่ นกั สือ่ สำรมวลชนรนุ่ ใหมซ่ งึ่ ทกุ
ภำคส่วนท่ีเก่ียวข้องจ�ำต้องร่วมกันพัฒนำให้เป็นนักส่อื สำรมวลชนวิชำชีพท่ีมี
สมรรถนะพรอ้ มมลู ตอ่ กำรทำ� หนำ้ ทีส่ อื่ สำรตอ่ มวลชนดว้ ยควำมมงุ่ หมำยในกำร
สรำ้ งสรรคส์ งั คมเพื่อประโยชนส์ ว่ นรวมและพัฒนำกำรทยี่ ง่ั ยนื ของประเทศชำติ
หลักสูตรและคู่มือนี้ด�ำเนินกำรภำยใต้โครงกำรวิจัยและพั ฒนำ
สมรรถนะและระบบประเมินสมรรถนะส�ำหรับบุคลำกรด้ำนสื่อสำรมวลชน
รุ่นใหม่ โดยวิทยำลัยกำรบริหำรรฐั กจิ มหำวิทยำลัยบูรพำ ได้รับกำรสนับสนุน
จำกกองทุนวิจัยและพัฒนำกิจกำรกระจำยเสียง กิจกำรโทรทัศน์ และกิจกำร
โทรคมนำคม เพื่ อประโยชน์สำธำรณะ ตัวแบบสมรรถนะส�ำหรับนักสื่อสำร
มวลชนรุ่นใหม่ได้รับกำรพั ฒนำขึ้นด้วยกระบวนกำรวิจัยตำมระเบียบวิธีวิจัย
ผำ่ นกำรวพิ ำกษโ์ ดยคณะผทู้ รงคณุ วฒุ ทิ ปี่ ระกอบดว้ ยนกั วชิ ำกำรและนกั วชิ ำชพี
ระดับชำติ และท�ำกำรปรบั ปรุงขั้นสดุ ทำ้ ยเป็นผลผลติ จำกกำรวจิ ัย ซึ่งไดท้ �ำกำร
เผยแพรไ่ ว้ในคู่มือฉบับน้แี ลว้
นอกจำกคมู่ อื ฉบบั นี้ คณะผวู้ จิ ยั ไดจ้ ดั ทำ� คมู่ อื ประกอบกำรบรรยำยเพื่อ
ใชป้ ระกอบกำรจดั หลกั สตู ร “สมรรถนะสำ� หรบั นกั สือ่ สำรมวลชนรนุ่ ใหม”่ ซงึ่ เปน็
หลักสูตรระยะส้ัน มีกลุ่มเป้ำหมำยของหลักสูตรประกอบด้วย นิสิต นักศึกษำ
ในสำขำวชิ ำนเิ ทศศำสตรแ์ ละสำขำวชิ ำทเ่ี กย่ี วขอ้ ง รวมทง้ั คณำจำรยแ์ ละผสู้ นใจ
ท่วั ไป มีวัตถปุ ระสงคเ์ พื่อใหผ้ ู้เขำ้ รว่ มในหลักสูตรมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับ
หลักกำรพั ฒนำทรัพยำกรมนุษย์ด้วยหลักสมรรถนะ พร้อมท้ังรับรู้และเข้ำใจ
ตั ว แ บ บ ส ม ร ร ถ น ะ ส� ำ ห รั บ นั ก สื่ อ ส ำ ร ม ว ล ช น รุ่ น ใ ห ม่ แ ล ะ ไ ด้ ต ร ะ ห นั ก
และเตรยี มควำมพรอ้ มสำ� หรบั กำรพัฒนำตนเองใหส้ อดคลอ้ งกบั กรอบแนวคดิ
สมรรถนะและตัวแบบสมรรถนะส�ำหรบั นักสื่อสำรมวลชนรุ่นใหม่ ซึง่ แฟม้ ข้อมลู
อเิ ล็กทรอนกิ สส์ �ำหรับคู่มอื ประกอบกำรบรรยำย และค่มู ือฉบบั นส้ี ำมำรถเขำ้ ถึง
ไดจ้ ำก QR Code ทปี่ รำกฏอยภู่ ำยในเลม่ แลว้ ผทู้ ีส่ นใจสำมำรถสอบถำมขอ้ มลู
เพ่ิมเตมิ จำกคณะผวู้ จิ ยั ไดต้ ำมขอ้ มลู กำรตดิ ตอ่ ทปี่ รำกฏบนเลม่ ผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั
กำรพั ฒนำตัวแบบสมรรถนะส�ำหรับนักสื่อสำรมวลชนรุ่นใหม่หวังเป็นอย่ำงยิ่ง
วำ่ ตวั แบบสมรรถนะนจ้ี ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ กำรพัฒนำนกั สอ่ื สำรมวลชนรนุ่ ใหม่ และ
นกั สอื่ สำรมวลชนรนุ่ ใหมจ่ ะสำมำรถทำ� หนำ้ ทีต่ ำมบทบำททสี่ งั คมและประเทศชำติ
คำดหวังได้เต็มศักยภำพ ผลิตและเผยแพร่ผลงำนที่สร้ำงสรรค์สังคมด้วย
สมรรถนะทีเ่ ต็มเป่ ียมอย่ำงเต็มภำคภูมิ ในฐำนะนักส่อื สำรมวลชนรุน่ ใหม่
สำรบญั
หนำ้
คำ� นำ�
หลกั กำรพัฒนำทรัพยำกรบคุ คลโดยอ้ำงอิงสมรรถนะเป็นฐำน 01
หลกั กำรพัฒนำสมรรถนะนกั สือ่ สำรมวลชน 04
ตวั แบบสมรรถนะส�ำหรบั นักสื่อสำรมวลชนรนุ่ ใหม่ 06
รำยกำรสมรรถนะท่ี 1 รแู้ จ้งในระบอบปกครอง
รำยกำรสมรรถนะท่ี 2 หมั่นเพ่ิมพู นควำมเป็นมอื อำชพี
รำยกำรสมรรถนะท่ี 3 ควำมสำมำรถเชงิ ประกอบกำร
รำยกำรสมรรถนะท่ี 4 ผสำนสงั คมเชงิ สรำ้ งสรรค์
รำยกำรสมรรถนะที่ 5 ผู้นำ� กำรเปลย่ี นแปลง
แนวทำงกำรพัฒนำหลกั สูตรส�ำหรบั นกั สื่อสำรมวลชนร่นุ ใหมใ่ นสถำบันกำรศึกษำ 33
ตำรำงแนวทำงกำรพั ฒนำหลักสูตร 48
แนวทำงกำรกำ� หนดคณุ สมบตั เิ พื่อกำรสรรหำและกำรพัฒนำบคุ ลำกร 52
แนวทำงกำรกำ� หนดคณุ สมบตั เิ พื่อกำรสรรหำและวธิ กี ำรประเมิน 54
แนวทำงกำรพัฒนำศกั ยภำพของบคุ ลำกรและวธิ ีกำรประเมนิ 58
เงอ่ื นไขทจี่ �ำเป็นส�ำหรบั กำรประยุกตห์ ลกั สมรรถนะเพื่อพัฒนำองคก์ ำร 60
บทส่งท้ำย
เกีย่ วกับโครงกำรวิจยั
หลักกำร
พัฒนำทรพั ยำกรบุคคล
โดยอำ้ งอิง
สมรรถนะเป็นฐำน
01
“ส่ิงใด ๆ ทแี่ ฝงอยู่ในบุคคลใหท้ �ำงำนได้ดี
หรอื ไดต้ ำมมำตรฐำน”
02
ทรพั ยากรบคุ คลสามารถไดร้ บั การพัฒนาใหม้ คี วามสามารถสงู ขนึ้ ได้
เสมอ การพัฒนาทรพั ยากรบคุ คลมหี ลากหลายมติ ทิ ง้ั ความรู้ ทกั ษะ
แมก้ ระทง่ั ประสบการณ์ แตผ่ ลการทา� งานทเ่ี ปน็ ภาพสะทอ้ นศกั ยภาพของแตล่ ะ
บคุ คลนน้ั มที มี่ าจาก สมรรถนะ ทแ่ี ฝงอยใู่ นแตล่ ะบคุ คล คา� ถามทต่ี อบไดไ้ มง่ า่ ย
นกั คอื สมรรถนะ คืออะไร
ทฤษฎที างการพัฒนาทรพั ยากรบุคคลอธิบายไว้ ดังนี้
McCleland (1973) มองว่า Competency เป็นความรู้ ทักษะ
อุปนิสัย บทบาททางสังคม การรับรู้ตนเอง และแรงจูงใจ ส่งิ เหล่าน้ีทั้งหม
รวมเปน็ ลกั ษณะเฉพาะทท่ี �าให้คนๆ นัน้ ประสบความสา� เรจ็ ในการท�างาน
William J Rothwell อธิบายถงึ Competency ว่ามาจากสอง
สา� นกั คิด
ส�านักท่ี 1 ความรู้ ทักษะ เท่านัน้
ส�านักท่ี 2 คุณลกั ษณะที่สามารถสนบั สนุนการท�างาน ซึ่งสา� นกั
คดิ นี้ อนั ทีจ่ รงิ แล้ว น�าแนวคดิ ของส�านกั แรกมารวมกับ
แรงจูงใจและบคุ ลิกลักษณะของคนเข้าไปดว้ ย
William J Rothwell บอกวา่ ถา้ จะก�าหนด Competency ต้องดู
คนทา� งาน ไมใ่ ชด่ งู านทีค่ นๆนนั้ ทา�
สรุปเป็นความหมายใหเ้ ขา้ ใจไดง้ า่ ย สมรรถนะ คอื
“ส่งิ ใด ๆ ทแี่ ฝงอยใู่ นบคุ คลใหท้ ำ� งำนไดด้ หี รอื ไดต้ ำมมำตรฐำน”
(สณุ ี หงษว์ ิเศษ 2562)
03
หลกั กำรพั ฒนำสมรรถนะ
นกั สอื่ สำรมวลชน
การพั ฒนาสมรรถนะนักสื่อสารมวลชน มีความแตกต่างจาก
การพั ฒนาสมรรถนะทรัพยากรบุคคลในวิชาชีพอื่น หรือสาย
งานอื่นอยู่พอสมควร อันเนื่องจากงานในสาขาสื่อสารมวลชน
มีความหลากหลายอย่างมาก ท้ังงานเบื้องหน้า งานเบ้ืองหลัง
งานที่มุ่งแจ้งข่าว งานท่ีมุ่งให้ความรู้ งานที่มุ่งสร้างความ
บันเทิง งานที่มุ่งการโฆษณา เป็นต้น ซึ่งนักสื่อสารมวลชน
ในแต่ละต�าแหน่งงานต้องท�างานร่วมกันทั้งหมด จึงต้องเข้าใจ
และสามารถปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั เพื่อนรว่ มงานในตา� แหนง่ ตา่ ง ๆ ได้
อย่างกลมกลืนเพ่ื อให้งานทสี่ ร้างสรรค์ขน้ึ ส�าเร็จอย่างมีคุณภาพ
บรรลเุ ป้าหมายของการสอื่ สารตอ่ มวลชน
04
ควำมเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอันเป็นผลพวงของพั ฒนำกำร
ทำงด้ำนเทคโนโลยี ส่งผลกระทบต่อนิเวศส่ือสำรมวลชน ให้ต่ำง
ไปจำกเดิมอย่ำงส้ินเชิง ผลจำกควำมเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึนในวงกำร
ส่ือสำรมวลชนประกอบดว้ ย
1. ช่องทำงในกำรสอื่ สำรมีควำมหลำกหลำยมำกขึ้น รวมทัง้
กำรสอ่ื สำรขำ้ มแพล็ตฟอรม์
2. พฤติกรรมผบู้ รโิ ภคมีลกั ษณะจ�ำเพำะตำมบุคลิกของปัจเจก
ไร้รูปแบบมำตรฐำน และไมย่ ึดโยงกบั ควำมภกั ดตี อ่ สินค้ำ
และบรกิ ำร
3. กำรเกดิ ใหมข่ องผผู้ ลิตและสง่ สำร (ส่อื ใหม่) ที่จำกเดิมเป็นเพียง
ผ้รู บั สำร แต่กลับมคี วำมสำมำรถสนองตอ่ ควำมตอ้ งกำรของผู้
บริโภคได้ทนั ท่วงที
4. กำรแขง่ ขนั ระหวำ่ งผปู้ ระกอบกำรสื่อสำรมวลชนทีเ่ ขม้ ขน้ รุนแรง
5. วิธดี ำ� เนนิ กิจกำรสื่อสำรมวลชนทต่ี อ้ งมีควำมสรำ้ งสรรค์
ตำ่ งจำกวธิ ีกำรดัง้ เดมิ
ดังน้ัน การพั ฒนาสมรรถนะนักสื่อสารมวลชนจึงต้องสอดคล้อง
กับนเิ วศใหม่ นักสอื่ สารมวลชนต้องมลี ักษณะเฉพาะแฝงอยู่ในตนเองเพื่ อให้
ท�างานได้ดีหรือได้ตามมาตรฐานอย่างเหมาะสมกับบริบทปัจจุบันและอนาคต
ได้อย่างมปี ระสิทธิผลและประสิทธิภาพ
05
ตัวแบบสมรรถนะ
ส�ำหรับนักส่ือสำรมวลชนรนุ่ ใหม่
06
ทม่ี ำของตวั แบบสมรรถนะส�ำหรับนักสื่อสำรมวลชนรนุ่ ใหม่
สมรรถนะจำ� แนกรำยดำ้ น ท่ีมำของสมรรถนะ
จำกกำรเกบ็ ข้อมลู ภำคสนำม
และกำรทวทวนวรรณกรรม
1. รู้แจง้ ในระบอบปกครอง 1.1 เขำ้ ใจถงึ หลกั กำรของควำมเป็นประชำธปิ ไตย
Regime Literacy และบทบำทหนำ้ ทีข่ องพลเมอื ง ของผู้ใช้
อ�ำนำจรัฐ และของส่อื สำรมวลชน
1.2 ไมย่ อมถูกครอบงำ� โดยกล่มุ อำ� นำจตำ่ งๆ ท่มี ี
สถำนะเหนอื ตน และปฏิบตั งิ ำนภำยใต้ควำมมี
อิสระและเสรีภำพ ภำยในขอบเขตทไี่ ม่ละเมดิ ผู้
อ่นื ตำมหลักประชำธิปไตย
1.3 ยดึ ถอื ประโยชนส์ ำธำรณะเป็นที่ตัง้
1.4 มคี วำมกลำ้ ในกำรแสดงบทบำทตำมหน้ำท่ี
สอ่ื มวลชน โดยเฉพำะกล้ำที่จะนำ� เสนอควำม
คดิ และควำมเหน็ ในกำรปฏิบตั งิ ำน
1.5 รจู้ กั หนำ้ ทท่ี ่สี ื่อมวลชนมีตอ่ สงั คม ตำมกลไก
ทำงสังคมและตำมเป้ำหมำยของกำรมอี ยู่
ของสอ่ื
2. หมัน่ เพิ่มพู นควำมเป็น 2.1 ยึดถอื และปฏบิ ัตติ ำมข้อกำ� หนดจรรยำบรรณ
มืออำชีพ
Mass Media แหง่ วชิ ำชีพ
Professional
Enhancement 2.2 เขำ้ ใจถึงควำมส�ำคัญของกำรพัฒนำตนเอง
อยำ่ งตอ่ เน่อื ง และใส่ใจในกำรเรยี นรสู้ ง่ิ ที่ตน
ยงั ไมร่ หู้ รอื ยงั ไม่มีควำมสำมำรถ
2.3 มีควำมมุ่งมัน่ ท่จี ะพัฒนำแนวทำงกำรปฏิบตั ิ
หนำ้ ที่ ผลงำนทส่ี รำ้ งสรรค์ และเป้ำหมำยกำร
ท�ำงำนใหด้ ยี ่งิ ข้ึนอยำ่ งต่อเนื่อง
2.4 มคี วำมใส่ใจในรำยละเอยี ดของงำนที่
รับผดิ ชอบ ไมย่ อมรบั ให้เกิดควำมผิดพลำด
ในงำนแม้เรื่องเล็กน้อย
2.5 ไม่ยอ่ ท้อต่อควำมยำกลำ� บำกในกำรปฏิบัติ
งำนและอดทนไดต้ ่อเหตุกำรณท์ ีไ่ มเ่ ป็นไปตำม
ควำมคำดหมำย
2.6 ไมป่ ิดกั้นควำมคดิ เหน็ จำกผู้อนื่ เกย่ี วกับ
กำรปฏบิ ตั งิ ำนของตนและนำ� ควำมคิดเหน็ ไป
พัฒนำกำรปฏิบตั งิ ำนใหด้ ียิง่ ขึ้น
07
สมรรถนะจำ� แนกรำยดำ้ น ทีม่ ำของสมรรถนะ
จำกกำรเกบ็ ขอ้ มลู ภำคสนำม
และกำรทวทวนวรรณกรรม
2. หมั่นเพิ่มพู นควำมเป็น 2.7 มคี วำมรับผิดชอบต่องำนในหนำ้ ทแ่ี ละ
มืออำชพี (ต่อ)
Mass Media สำมำรถปฏิบตั ิงำนจนส�ำเรจ็ ไดห้ ลำกหลำย
Professional หนำ้ ที่หรือภำรกิจ
Enhancement (Cont.)
2.8 มีควำมยืดหยุ่นและสำมำรถปรบั ตัวตำม
สถำนกำรณก์ ำรท�ำงำนได้โดยไม่เป็น
อปุ สรรคตอ่ ควำมสำ� เร็จของงำน
2.9 ยึดถือควำมถกู ต้องโดยไม่โอนอ่อนต่อแรง
เสียดทำนหรอื อ�ำนำจทีโ่ น้มน้ำวใหต้ นปฏิบัติ
งำนไปในทำงที่ไม่พึ งประสงค์
2.10 สำมำรถปฏบิ ัตงิ ำนร่วมกับผูอ้ ื่นไดอ้ ย่ำง
กลมกลนื
2.11 สำมำรถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในกำรปฏิบัตงิ ำน
3. ควำมสำมำรถเชิง 3.1 มีควำมเขำ้ ใจกลไกตลำด และเข้ำใจถงึ วถิ ี
ประกอบกำร
Entrepreneurial ขององคก์ ำรในระบบอุตสำหกรรมทำงด้ำน
Proficiency ส่อื สำรมวลชนทีม่ ีกำรแขง่ ขนั สงู
3.2 เขำ้ ใจและติดตำมควำมเปลีย่ นแปลงของ
พฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภค พร้อมสนองต่อควำม
ตอ้ งกำรของผบู้ ริโภคอยำ่ งทนั ทว่ งทีและ
เหมำะสม
3.3 มคี วำมเขำ้ ใจถงึ แนวทำงกำรขบั เคลื่อน
องคก์ ำรให้อยู่ไดใ้ นทำงธุรกิจและมคี วำม
เตบิ โตอยำ่ งตอ่ เนื่องและยั่งยืน
3.4 เขำ้ ใจและสำมำรถปฏิบตั งิ ำนโดยคำ� นงึ ถึง
ต้นทนุ และกำ� ไรของกิจกำร
3.5 สำมำรถก�ำหนดและขับเคลื่อนกลยทุ ธ์เพื่อ
รว่ มขบั เคล่อื นองค์กำรไปสเู่ ป้ำหมำยที่
กำ� หนดไวไ้ ดอ้ ยำ่ งเป็นระบบ
3.6 สำมำรถสร้ำงควำมไดเ้ ปรยี บเชิงแขง่ ขนั ใน
งำนท่ปี ฏบิ ัติ และตอ่ องคก์ ำรในภำพรวมเพื่อ
ใหเ้ กิดควำมแตกต่ำงและเกิดผลเชงิ ธุรกิจ
3.7 สำมำรถสร้ำงและรักษำสมั พันธภำพกบั
พันธมิตรในอตุ สำหกรรมหรอื ตำ่ ง
อตุ สำหกรรมเพ่ือสนบั สนุนกำรปฏบิ ตั งิ ำนได้
08
สมรรถนะจำ� แนกรำยดำ้ น ที่มำของสมรรถนะ
จำกกำรเก็บข้อมูลภำคสนำม
และกำรทวทวนวรรณกรรม
4. ผสำนสังคม 4.1 รทู้ ม่ี ำและพัฒนำกำรของสงั คมไทย เข้ำใจ
เชิงสรำ้ งสรรค์
Social Integrator ควำมแตกตำ่ งหลำกหลำยของสมำชิกใน
สงั คมไทยอยำ่ งลกึ ซึ้ง
4.2 รู้และเขำ้ ใจควำมแตกตำ่ งและควำมสมั พันธ์
ระหวำ่ งสงั คมไทยกบั สังคมนำนำชำติ
4.3 เขำ้ ใจถึงบทบำทของนกั สื่อสำรมวลชนทีม่ ี
ตอ่ สงั คมในมิตกิ ำรเสรมิ สรำ้ งควำม
สมำนฉันท์ของสมำชิกในสงั คม
4.4 มีควำมกล้ำและควำมสำมำรถในกำรชักจงู
สมำชิกของสังคมจำกแต่ละกลุ่มอำ� นำจหรอื
กลุ่มชนทแ่ี ตกต่ำงใหอ้ ยูร่ ว่ มกนั อย่ำง
กลมกลนื
4.5 มีควำมสรำ้ งสรรค์และม่งุ มัน่ ในกำรนำ� เสนอ
ขอ้ มลู ขำ่ วสำรทส่ี นับสนุนกำรพัฒนำสังคม
ทล่ี ดชอ่ งว่ำงอันเกดิ จำกควำมแตกต่ำง
ระหวำ่ งกลุ่มชน
4.6 สำมำรถนำ� เสนอข้อมูลข่ำวสำรทีส่ อดคล้อง
กบั สถำนะและทศิ ทำงกำรพัฒนำทำงสงั คม
ของไทย
5. ผู้น�ำกำรเปล่ยี นแปลง 5.1 สำมำรถคดิ วิเครำะห์และหำเหตผุ ลในเชงิ ระบบ
Change Attacker
ได้ดี
5.2 สำมำรถคิดวเิ ครำะหแ์ ละคำดกำรณ์
กำรเปลย่ี นแปลงทจ่ี ะเกดิ ขึ้นได้
5.3 สำมำรถวำงแผนเตรียมกำรรับมอื กำรเปลี่ยน
แปลงล่วงหนำ้ โดยป้องกนั ผลกระทบเชิงลบ
ท่อี ำจมตี อ่ กจิ กำรหรอื กำรปฏิบตั ิงำนได้
5.4 สำมำรถน�ำเสนอขอ้ มูลขำ่ วสำรและบริกำรตอ่
ผูบ้ ริโภคผำ่ นช่องทำงที่หลำกหลำย และ
เหมำะสมแก่ผ้รู ับสำร
5.5 สำมำรถสนับสนนุ กำรป้องกันกำรเปลี่ยน
แปลงทไ่ี ม่พึงประสงคอ์ ันอำจส่งผลกระทบที่
ไม่เป็นคณุ ต่อสงั คมได้
09
ต แบบสมรร น
ส�ำหรบน สอื่ สำรม ล นรุ่นใหม่
จากที่มาของรายการสมรรถนะทไ่ี ดร้ ับจากการเก็บข้อมูล
ภาคสนามและการทบทวนวรรณกรรม สามารถสังเคราะห์
เปน็ ตัวแบบสมรรถนะประกอบด้วยรายการสมรรถนะ
และค�าอธบิ ายพฤตกิ รรมสา� คญั ของสมรรถนะ
แตล่ ะรายการ ดงั น้ี
02
หมั่นเพิ่มพู น
ความเปน็ มอื อาชพี
(Mass Media Professional
Enhancement)
01
รู้แจ้ง
ในระบอบปกครอง
(Regime Literacy)
10
03 04
ควำมสำมำรถ ผสำนสังคม
เชิงสรา้ งสรรค์
เชิงประกอบการ
(Social Integrator)
(Entrepreneurial
Proficiency)
05
ผู้น�ำ
การเปล่ยี นแปลง
(Change Attacker)
11
12
รายการสมรรถนะท่ี
1
รแู้ จง้ ในระบอบปกครอง
นกั สอ่ื สำรมวลชนรุ่นใหมต่ อ้ งแสดงบทบำท
หน้ำทภ่ี ำยใตห้ ลกั กำรประชำธิปไตย
ทีเ่ ป็นสำกลและชว่ ยขบั เคล่อื นสังคม
ไปในทศิ ทำงท่ีเหมำะสม
13
14
พฤตกิ รรมท่ีแสดงออกถึงกำรรู้แจ้งในระบอบปกครอง
ประกอบดว้ ย
1.1 ตระหนักอยำ่ งเข้ำใจถงึ บทบำทหนำ้ ทข่ี องนักสอื่ สำร
มวลชนในกำรนำ� เสนอขอ้ มลู ข่ำวสำรทจี่ ำ� เป็น และ
เป็นประโยชน์ในทิศทำงที่สง่ เสริมกำรพัฒนำตำมหลกั
ประชำธปิ ไตยโดยยดึ ประโยชนส์ ำธำรณะเป็นที่ต้ัง
1.2 มคี วำมกล้ำท่จี ะตรวจสอบข้อเทจ็ จรงิ และน�ำเสนอ
ขอ้ มลู อยำ่ งตรงไปตรงมำ โดยสำมำรถรับมือได้กับ
ควำมพยำยำมครอบงำ� อย่ำงไมเ่ ป็นธรรมจำกกล่มุ
อำ� นำจ เพื่อวัตถุประสงคใ์ นกำรพัฒนำบำ้ นเมอื งหรอื
แก้ไขปัญหำสำธำรณะ
1.3 ต้งั ม่นั ในกำรรกั ษำเสรภี ำพของนักสอ่ื สำรมวลชน
ภำยใตข้ อบเขตทไ่ี มเ่ ป็นกำรใช้สทิ ธิเกินสว่ น อันอำจ
เกดิ ผลกระทบหรือละเมิดตอ่ บุคคลอื่น
15
16
รายการสมรรถนะท่ี
2
หม่นั เพิ่มพู นควำมเป็นมืออำชีพ
นักส่อื สำรมวลชนรุ่นใหม่
ตอ้ งยกระดบั ควำมเป็นมอื อำชพี
อย่ำงตอ่ เนือ่ ง เพ่ือให้ทันตอ่ พลวัตรของ
บริบทและสภำพแวดลอ้ ม
และเพ่ือรว่ มพัฒนำวชิ ำชีพในภำพรวม
17
18
พฤติกรรมทีแ่ สดงออกถึงกำรหมน่ั เพิ่มพู นควำมเป็นมืออำชพี
ประกอบด้วย
2.1 ปฎบิ ัตหิ นำ้ ทีโ่ ดยเคำรพและปฎิบัติตำมจรรยำบรรณแห่ง
วชิ ำชีพอย่ำงเครง่ ครัด
2.2 ปฏบิ ัติงำนร่วมกบั บุคคลอนื่ ท่เี ก่ยี วข้องไดอ้ ย่ำงรำบร่ืน
(Team Work) โดยสำมำรถจดั กำรกบั สถำนกำรณ์
ควำมขดั แยง้ ระหวำ่ งสมำชกิ ในทมี ไม่ใหเ้ กดิ ผลกระทบ
ตอ่ กำรท�ำงำน ต่อผลงำน และควำมสัมพันธข์ องสมำชิกได้
2.3 สำมำรถปฏิบตั งิ ำนทีห่ ลำกหลำยและแตกตำ่ งได้ (Multi-Skill)
โดยกำรบูรณำกำรควำมรู้และทักษะที่จ�ำเป็น รวมทัง้ ม่งุ พัฒนำ
ควำมรู้และทักษะอยำ่ งตอ่ เนือ่ ง
2.4 แสดงบทบำทนำ� และควำมรับผิดชอบตอ่ สังคมด้วยควำมรู้
ควำมสำมำรถ และเครือ่ งมือในวิชำชีพเพื่อรว่ มพัฒนำชุมชน
สังคม ประเทศชำติ และรว่ มแกไ้ ขปัญหำ สถำนกำรณ์
ทง้ั ดว้ ยกลไกเชงิ ระบบและตำมประเดน็ แห่งสภำวกำรณ์
19
20
รายการสมรรถนะท่ี
3
ควำมสำมำรถเชิงประกอบกำร
นักส่อื สำรมวลชนตอ้ งเข้ำใจถึงควำมจ�ำเป็น
และมคี วำมสำมำรถในกำรสร้ำงมูลค่ำ
และควำมคุ้มคำ่ ควบคูก่ ับคุณค่ำ
ของวิชำชีพเพื่อกำรพัฒนำอยำ่ งย่งั ยืน
21
22
พฤติกรรมทีแ่ สดงออกถึงควำมสำมำรถเชิงประกอบกำร
ประกอบด้วย
3.1 มีควำมเขำ้ ใจและมีวิสยั ทัศนต์ ่อสภำพแวดล้อม
ในอตุ สำหกรรมสือ่ สำรมวลชน และสำมำรถวิเครำะห์
และกำ� หนดแนวทำงกำรบริหำรจดั กำรองค์กำรให้เกิด
ผลติ ภำพในกำรผลติ สูงสดุ ตำมหลกั สัมมำอำชวี ะ
3.2 กำรตดั สินใจในกำรปฏิบตั งิ ำนด้วยองค์ควำมรู้ หลกั กำร
และเหตุผลลดทอนกำรใช้อำรมณ์ ควำมรสู้ กึ และสำมัญสำ� นกึ
ในกำรตัดสนิ ใจ เพื่อหลกี เลี่ยงควำมเสี่ยงที่จะเกิดควำม
เสยี หำยต่อกิจกำร
3.3 ผลิตผลงำนเพื่อสนองควำมตอ้ งกำรของตลำดได้
อยำ่ งสร้ำงสรรค์ ในมิตกิ ำรสร้ำงรำยได้โดยไม่บั่นทอน
ปทสั ถำนของสงั คม
23
24
รายการสมรรถนะท่ี
4
ผสำนสังคมเชงิ สรำ้ งสรรค์
นกั สอ่ื สำรมวลชนรนุ่ ใหม่
ตอ้ งสำมำรถหลอมรวมพหวุ ัฒนธรรม
เพื่อส่งเสริมควำมสมำนฉนั ทก์ ลมกลืน
ในบรบิ ทพหสุ ังคมได้
25
26
พฤติกรรมทีแ่ สดงออกถงึ กำรผสำนสังคมเชงิ สรำ้ งสรรค์
ประกอบดว้ ย
4.1 รทู้ ม่ี ำของขนบ ธรรมเนยี ม ประเพณี วฒั นธรรม
และควำมเชื่อของกลุ่มคนในสงั คมที่มคี วำมแตกตำ่ ง และ
สำมำรถปฏบิ ตั หิ นำ้ ทใี่ นวิชำชีพดว้ ยกระบวนกำร วิธกี ำร และ
สรำ้ งสรรค์ผลงำนทม่ี ุ่งหลอมรวมพหสุ งั คมใหอ้ ย่รู ว่ มกนั ได้
อยำ่ งกลมกลนื
4.2 รูส้ �ำนึกถึงผลกระทบต่อสังคมจำกเน้อื หำทถ่ี ่ำยทอด โดยใช้
มำตรกำรป้องกันควำมเสยี หำยอันอำจเกดิ ขึ้นตอ่ สังคมทั้ง
ในขณะเผยแพร่และในอนำคตรวมทง้ั ใช้มำตรกำรสง่ เสริมและ
รกั ษำผลกระทบเชิงบวกให้มีควำมย่งั ยนื
27
รายการสมรรถนะที่
5
ผู้น�ำกำรเปลี่ยนแปลง
นกั ส่อื สำรมวลชนรุ่นใหม่
ต้องคำดหมำยกำรเปล่ยี นแปลง
และสำมำรถรบั มือ หรอื จดั กำร
กำรเปลีย่ นแปลงลว่ งหน้ำ เพื่อใหเ้ กดิ
ผลลพั ธ์จำกกำรเปล่ยี นแปลง
ตำมที่ประสงคไ์ ด้
28
29
30
พฤติกรรมทีแ่ สดงออกถึงกำรเป็นผู้น�ำกำรเปลี่ยนแปลง
ประกอบด้วย
พฤตกิ รรมที่แสดงออกถึงกำรเป็นผนู้ ำ�
กำรเปล่ียนแปลงประกอบดว้ ย เขำ้ ใจกลไก
แหง่ กำรเปลี่ยนแปลงทัง้ ทำงด้ำน กำรเมอื ง
เศรษฐกจิ สงั คม และ เทคโนโลยี
สำมำรถคำดหมำยกำรเปล่ียนแปลงได้ และ
สำมำรถรับมอื กับผลอนั อำจเกิดขึ้นจำกกำร
เปลีย่ นแปลง รวมทั้งควบคมุ ทิศทำง
แห่งกำรเปลีย่ นแปลงก่อนเกิดผลกระทบขึน้
31
32
แนวทางการพั ฒนาหลักสูตร
สา� หรบั นกั สือ่ สารมวลชนร่นุ ใหม่
ในสถาบันการศึกษา
33
34
1. หลกั กำรและเหตผุ ลของกำรจดั ทำ� แนวทำงกำรพัฒนำ
หลักสูตร
ข้อเสนอแนวทำงกำรพั ฒนำหลักสูตรและรำยวิชำเพื่ อ
กำรจัดกำรเรียนกำรสอนในสถำบันอุดมศึกษำ เป็นแนวทำง
ใ น ก ำ ร เ ส ริ ม ส ร้ ำ ง แ ล ะ พั ฒ น ำ ส ม ร ร ถ น ะ ส� ำ ห รั บ นั ก ส่ื อ ส ำ ร
ม ว ล ช น รุ่ น ใ ห ม่ ข อ ง นั ก ศึ ก ษ ำ ใ น ส ำ ข ำ ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ กิ จ ก ำ ร
กระจำยเสียงและโทรทัศน์ มีวัตถุประสงค์เพื่ อใช้เป็นแนวทำง
ในกำรพั ฒนำหลักสูตรและรำยวิชำ ที่สำมำรถเสริมสร้ำง
สมรรถนะของนิสิตนักศึกษำให้มีควำมสอดคล้องกับทิศทำง
กำรพั ฒนำของกิจกำรด้ำนสื่อสำรมวลชน ทั้งในปัจจุบัน
และในอนำคต
ในสว่ นของประโยชน์ทคี่ ำดว่ำจะได้รบั ประกอบด้วย
3 ประเดน็ คอื
( 1 ) สถำบันกำรศึกษำ โดยกรรมกำรบริหำรหลักสูตร
หรอื กรรมกำรพัฒนำ/ปรบั ปรงุ หลกั สตู ร หรอื อำจำรยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบ
หลกั สูตร หรอื อำจำรย์ประจ�ำหลักสตู ร (แลว้ แต่กรณี) สำมำรถนำ�
ข้อมูลและแนวทำงกำรเสริมสร้ำงสมรรถนะอันพึ งประสงค์ไปใช้
ในกำรพัฒนำหลกั สตู รหรอื รำยวิชำทจ่ี ำ� เป็นได้
( 2 ) อำจำรย์ผู้สอน สำมำรถน�ำข้อมูลและแนวทำง
กำรเสรมิ สรำ้ งสมรรถนะอนั พึงประสงคไ์ ปใชป้ ระกอบกำรออกแบบ
และพั ฒนำแผนกำรสอนและกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในรำยวิชำ
ท่รี บั ผดิ ชอบได้
( 3 ) นักศกึ ษำมคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจ และสำมำรถเตรยี ม
ควำมพรอ้ มของตนเองสำ� หรบั กำรทำ� งำนในกจิ กำรทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั
กำรสอ่ื สำรมวลชนในอนำคตไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ
35
36
2. สภำพแวดล้อมในแวดวงสื่อสำรมวลชน
คณะผู้วจิ ยั ไดส้ รปุ สภำพแวดลอ้ มในแวดวงสื่อสำรมวลชน
จำกกำรเก็บข้อมลู เพื่อใช้ประกอบกำรพิจำรณำก�ำหนดสมรรถนะ
ท่ีจำ� เป็นส�ำหรบั นักส่อื สำรมวลชนรนุ่ ใหม่ โดยมีรำยละเอียด ดังน้ี
( 1 ) ภำยใตร้ ะบอบประชำธปิ ไตยทก่ี ำ� หนดให้เสรีภำพของ
ส่ือมวลชนเป็นองค์ประกอบส�ำคัญของระบอบกำรปกครอง
เพื่ อเป็นกลไกในกำรตรวจสอบกำรใช้อ�ำนำจรัฐและเผยแพร่ข้อมูล
ข่ำวสำรไปยังประชำชน ส่ือมวลชนจึงเป็นเคร่ืองมือส�ำหรับกลุ่ม
ผู้แสวงหำอ�ำนำจของกลุ่มกำรเมืองและกลุ่มทุน รัฐธรรมนูญ
แหง่ รำชอำณำจกั รไทยคมุ้ ครองสอื่ มวลชนในระดบั พื้นฐำนโดยมไิ ด้
ปกป้องส่ือและกำรท�ำงำนของส่ือจำกกลุ่มกำรเมืองและกลุ่มทุน
ยงั มไิ ดม้ กี ำรคมุ้ กนั กำรครอบงำ� สอ่ื มเี พียงกำรหวงกนั สอ่ื ไทยจำก
ทนุ ตำ่ งชำตเิ ทำ่ นน้ั จงึ ไมง่ ำ่ ยนกั ทส่ี อื่ มวลชนไทยจะสำมำรถทำ� หนำ้ ท่ี
ตำมกลไกประชำธิปไตยได้อย่ำงมปี ระสิทธผิ ล
( 2 ) เมอ่ื สอื่ เปน็ เครอ่ื งมอื สำ� คญั ในกำรสง่ สำรของฝำ่ ย ผใู้ ช้
อำ� นำจรฐั ฝ่ำยกำรเมอื ง และฝ่ำยทุน สอื่ มวลชนจึงเป็นภำคสว่ น
ท่ีมีอิทธิพลต่อกำรรับรู้ข้อมูลข่ำวสำรของประชำชนท้ังประเทศ
แม้ว่ำบริบทสังคมดิจิทัลจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค
ในกำรเข้ำถึงข้อมูลข่ำวสำรจำกช่องทำงออนไลน์ แต่ผู้บริโภค
ก็ได้เรียนรู้ว่ำข้อมูลข่ำวสำรจำกส่ือมวลชนมักเป็นข้อมูลข่ำวสำร
ท่ีเช่ือถือได้มำกกว่ำข้อมูลที่ส่งระหว่ำงประชำชนด้วยกันเอง
ซึ่งสื่อมวลชนก็ใช้ช่องทำงออนไลน์ในกำรเข้ำถึงผู้บริโภคเช่นกัน
ดังนั้นสื่อมวลชนจึงยังสำมำรถครอบง�ำกำรรับรู้ข้อมูลข่ำวสำร
ทศั นคติ และควำมคดิ ของประชำชนไดต้ ำมขอ้ มลู ขำ่ วสำรทีน่ ำ� เสนอ
37
38
( 3 ) ตำมท่ีกล่ำวมำข้ำงต้น ส่ือมวลชนจึงมีบทบำทใน
กำรช้ีน�ำสังคม ซ่ึงควรมีควำมชัดเจนในเป้ำหมำยแห่งกำรพัฒนำ
ให้สังคมและประเทศชำติเป็นรัฐภำยใต้ระบอบประชำธิปไตยอันมี
พระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีทิศทำงสู่กำรพั ฒนำที่ยั่งยืน
ด้วยปรัชญำเศรษฐกิจพอเพี ยง และมีควำมเป็นสังคมแห่งกำร
เรียนรู้ท่ีอุดมปัญญำ ผู้ที่ประกอบวิชำชีพสื่อมวลชนและผู้ท่ีอยู่
ในกิจกำรกระจำยเสียงและโทรทัศน์จึงต้องมีสมรรถนะท่ีสอดรับ
กับกำรประกอบวิชำชีพและประกอบกิจกำรที่จะบรรลุเป้ำหมำย
ดังกลำ่ ว
( 4 ) กำรท่ีจะบรรลุเป้ำหมำยในกำรแสดงบทบำท
สื่อมวลชนผู้ชี้น�ำสังคมนั้น บุคลำกรสำยวิชำชีพสื่อจ�ำเป็นต้อง
เข้ำใจกลไกทำงประชำธิปไตย กลไกระบบทุนนิยม พลวัตรของ
สังคมและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่ำงถ่องแท้ ยึดม่ันในปณิธำน
โดยไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้มีอ�ำนำจกำรเมืองหรืออ�ำนำจ
ทุนที่มุ่งสนองประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้ องในลักษณะเบียดบัง
ประโยชนส์ ำธำรณะ สำมำรถยนื หยดั ในอดุ มกำรณแ์ หง่ ควำมเปน็ สอ่ื
เพื่อสังคมและประชำชน ปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ีสือ่ ทนี่ �ำเสนอสำรทีป่ ลอดภยั
และสร้ำงสรรค์ผ่ำนสอ่ื ท่เี ข้ำถึงทุกชนชั้นอย่ำงทว่ั ถึง ส่งเสริมและ
ผลกั ดนั ควำมเสมอภำค เทำ่ เทียม เป็นธรรมของพลเมอื งในแตล่ ะ
ภำคส่วน มิใช่เพี ยงท�ำหน้ำที่เสนอข่ำวสำรรำยวันหรือข่ำวสำร
ตำมกระแสที่ไม่สำมำรถช่วยให้กลไกของสังคมด�ำเนินไปสู่สังคม
ทเ่ี จริญแลว้ ได้
( 5 ) สมรรถนะของบุคลำกรในวิชำชีพส่ือมวลชนและ
กิจกำรกระจำยเสียงและโทรทัศน์ จึงต้องมีลักษณะเฉพำะ
ทส่ี ำมำรถบรู ณำกำรองคค์ วำมรู้ แนวคดิ และทกั ษะเชงิ สหวทิ ยำกำร
ได้รอบด้ำน สำมำรถเผชิญควำมท้ำทำยทำงเทคโนโลยีและ
ควำมเปล่ียนแปลงอันเป็นผลจำกพัฒนำกำรของเทคโนโลยี ได้มี
ควำมสำมำรถในกำรปรับรูปแบบและวิธีกำรท�ำงำนเพ่ื อรับมือกับ
อำ� นำจนิยมแอบแฝงหรอื ทุนนิยมสำมำนย์ รกั ษำควำมอิสระในกำร
ปฏิบัติหน้ำที่ของสื่อภำยในขอบเขตที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และ
คงไว้ซ่ึงเสรีภำพของส่ือ เพรำะเสรีภำพของส่อื เป็นองค์ประกอบ
ส�ำคัญของเสรีภำพของประชำชนภำยใต้ประชำธิปไตย
39
40
3. แนวทำงกำรพัฒนำหลกั สูตร
แนวทำงกำรพั ฒนำหลักสูตรและรำยวิชำท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับ
กำรพัฒนำสมรรถนะของนิสิตนกั ศกึ ษำนั้น พัฒนำข้นึ จำกผลกำร
ประชมุ วพิ ำกษร์ ำ่ งตวั แบบสมรรถนะ ประกอบกบั แนวคดิ และทฤษฎี
ทีเ่ ก่ยี วข้อง โดยสำมำรถสรปุ ได้ ดงั ตอ่ ไปนี้
กำรจัดท�ำหลักสูตรตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิระดับ
อุดมศึกษำในส่วนทีเ่ ก่ยี วข้อง
( 1 ) กำรกำ� หนดคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์
ก ำ ร ก� ำ ห น ด คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ บั ณ ฑิ ต ท่ี พึ ง ป ร ะ ส ง ค์ ข อ ง
หลักสูตรในอดีตที่ผ่ำนมำ คำดว่ำเกือบทั้งหมดเน้นกำรก�ำหนด
คณุ ลักษณะดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ด้ำนควำมรู้ และด้ำนทกั ษะ
อำจมีคุณลักษณะในเชิงพฤติกรรมอยู่บ้ำง แต่มีกำรก�ำหนด
ในลักษณะพฤติกรรมท่ีพึ งประสงค์ทั่วไป ไม่มีกำรน�ำหลัก
ส ม ร ร ถ น ะ ม ำ เ ป็ น ก ร อ บ แ น ว คิ ด ใ น ก ำ ร ก� ำ ห น ด ใ ห้ เ ป็ น ห นึ่ ง
ในองค์ประกอบของคุณลักษณะของบัณฑิตท่ีสถำบันมุ่งผลิต
ตัวอย่ำงกำรก�ำหนดคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมที่เห็นได้บ่อย
อำทิ มีควำมสำมำรถในกำรท�ำงำนร่วมกับผู้อ่ืน สำมำรถส่ือสำร
และน�ำเสนอแนวควำมคิดที่เป็นรูปธรรมได้ เป็นต้น ตัวอย่ำง
พฤติกรรมเหล่ำนี้เป็นคุณลักษณะที่พึ งประสงค์แบบทั่วไป ไม่ว่ำ
บัณฑติ สำขำใด วชิ ำชีพใด ย่อมถกู คำดหวังให้มีพฤตกิ รรมเหลำ่ น้ี
เป็นพื้นฐำนเมื่อต้องเข้ำส่ตู ลำดแรงงำน ดงั นั้น กำรผลิตบัณฑติ
ให้เป็นนักส่ือสำรมวลชนรุ่นใหม่ท่ีมีขีดควำมสำมำรถ เหมำะสม
กับนิเวศส่ือปัจจุบันและอนำคต สถำบันอำจน�ำตัวแบบสมรรถนะ
นักสื่อสำรมวลชนรุ่นใหม่มำพิ จำรณำก�ำหนดเป็นคุณลักษณะ
เชิงสมรรถนะที่พึ งประสงค์อย่ำงสอดคล้องกับเอกลักษณ์และ
อัตลักษณบ์ ัณฑติ ของแตล่ ะสถำบนั
41
42