แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 26 รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 2 รหัสวิชา ว31202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 หน่วยการเรียนรู้ที่6 ชื่อหน่วย การเคลื่อนที่แนวโค้ง จำนวน 17 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่แบบวงกลม (ทดลอง) เวลาเรียน……3…..ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวเสาวณีย์ ชัยนอก กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 17. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคลื่อนที่ อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเร็วเชิงมุม และมวลของวัตถุ ในการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบระดับ รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้อง และประยุกต์ใช้ความรู้การเคลื่อนที่แบบวงกลม ในการอธิบายการโคจรของดาวเทียม 2. สาระสำคัญ การเคลื่อนที่ของวัตถุจะมีลักษณะเป็นแนวตรง หรือแนวโค้ง ขึ้นอยู่กับทิศของแรงที่มากระทำกับทิศของ การเคลื่อนที่ โดยทิศของแรงอยู่ในแนวเดียวกับทิศการเคลื่อนที่ วัตถุจะเคลื่อนที่เป็นแนวตรง ทิศของแรงทำมุมใด ๆ กับทิศการเคลื่อนที่ตลอดเวลา วัตถุจะเคลื่อนที่เป็นแนวโค้ง ส่วนการเคลื่อนที่แบบวงกลมนั้นแรงจะทำมุมตั้งฉาก กับทิศการเคลื่อนที่ตลอดเวลาการเคลื่อนที่ และแรงที่กระทำจะมีทิศเข้าสู่ศูนย์กลางเรียกแรงนี้ว่า แรงสู่ศูนย์กลาง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1) อธิบายเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบวงกลม ปริมาณที่เกี่ยวข้อง และการนำไปใช้ประโยชน์ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ 2) มีทักษะการคำนวณหาปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่แบบวงกลมได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3) ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระการเรียนรู้ การเคลื่อนที่แบบวงกลม (circular motion) เป็นลักษณะการเคลื่อนที่ของวัตถุในสองมิติที่มีเส้นทางการ เคลื่อนที่เป็นวงกลมหรือส่วนของวงกลม สำหรับการศึกษาในชั้นนี้เน้นการศึกษาการเคลื่อนที่แบบวงกลม สม่ำเสมอ (uniform circular motion) ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่แบบวงกลมที่มีอัตราเร็วคงตัวไม่มีแรงกระทำต่อวัตถุ ในแนวสัมผัสเส้นทางการเคลื่อนที่ แต่มีแรงกระทำต่อวัตถุในทิศเข้าสู่ศูนย์กลางหรือแรงในแนวตั้งฉากกับเส้นทาง การเคลื่อนที่ เรียกว่า แรงสู่ศูนย์กลาง (centripetal force) คำนวณได้จากสมการ = 2 การเคลื่อนที่แบบวงกลมสามารถอธิบายได้ด้วยอัตราเร็วเชิงมุม (angular speed) ซึ่งคือ มุมระนาบที่รัศมี กวาดไปได้ต่อหนึ่งหน่วยเวลา ใช้สัญลักษณ์ มีหน่วยเป็น เรเดียนต่อวินาที (rad/s) โดยอัตราเร็วเชิงมุมมี ความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงเส้นตามสมการ
= จะได้แรงสู่ศูนย์กลางมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงมุมตามสมการ = 2 การโคจรของดาวเทียมรอบโลกที่มีการเคลื่อนที่แบบวงกลมจะมีแรงโน้มถ่วงซึ่งเป็นแรงดึงดูดระหว่างมวล ของดาวเทียมกับโลกทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลางทำให้ดาวเทียมยังโคจรอยู่ได้ ซึ่งหาได้จากสมการ = 12 2 ดาวเทียมบางชนิดโคจรไปทางเดียวกันกับโลกด้วยอัตราเร็วเชิงมุมเท่ากันกับโลก และมีคาบการโคจร เท่ากับคาบการหมุนรอบตัวเองของโลก ดาวเทียมจึงอยู่ตรงกับตำแหน่งที่กำหนดไว้บนพื้นโลกตลอดเวลา 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติศาสน์กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ 1.1 ครูให้นักเรียนดูภาพของวัตถุที่มีการเคลื่อนที่ในแนวโค้งทั้งการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ เช่น การโยนรับส่งสิ่งของ การโยนลูกบาสเกตบอล และการฉีดน้ำออกจากสายยาง เป็นต้น และการเคลื่อนที่แบบ วงกลม เช่น การขับรถมอเตอร์ไซด์ไต่ถัง การเหวี่ยงวัตถุที่ผูกเชือกเป็นวงกลม และการเคลื่อนที่ของดาวเทียมรอบ โลก เป็นต้น โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนที่ในแนว โค้งทั้งสองแบบ รวมทั้งความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนที่ (แนวคำตอบ : การเคลื่อนที่แบบ วงกลมจะเป็นการเคลื่อนที่แบบครบรอบ แต่การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์เป็นวิถีโค้งแต่ไม่ครบรอบ) 1.2 ครูทบทวนเนื้อหาเรื่องการเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎการเคลื่อนที่ของนิวต้น แรงดึงดูด ระหว่างมวล สมดุล ความถี่และคาบ 2. ขั้นสำรวจและค้นหา 2.1 ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม 7.2 การเคลื่อนที่แบบแนววงกลม ในหนังสือรายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ 2 สสวท. โดยแนะนำว่า 1. ก่อนการทดลองจริง นักเรียนควรฝึกแกว่งจุกยางเพื่อให้สามารถแกว่งจุกยางด้วย อัตราเร็วคงตัวโดยพยายามให้ลวดหนีบกระดาษอยู่ห่างจากปลายล่างของท่อพีวีซี 1 เซนติเมตร คงตัวตลอดเวลา 2. ขณะแกว่งจุกยางควรให้นักเรียนที่ไม่ได้แกว่งจุกยางเป็นผู้ตรวจสอบว่าจุกยาง
เคลื่อนที่แบบวงกลม ในแนวระดับหรือไม่ โดยเปรียบเทียบกับแนวการแกว่งของจุกยางกับขอบบนของท่อพีวีซีหรือ แนวเส้นตรงของสิ่งอื่น ๆ ที่อยู่ในแนวระดับ เช่น ขอบกระดาน ขอบประตูขอบหน้าต่าง 3. เพื่อช่วยให้การจับเวลาได้ถูกต้องยิ่งขึ้นควรมีนักเรียนนับจำนวนรอบในการแกว่งของ จุกยาง 1 คน และจับเวลา 1 คน โดยเริ่มต้นการนับจำนวนรอบและจับเวลาหลังจากที่ผู้ทำการทดลองสามารถ แกว่งจุกยางให้มีอัตราเร็วคงตัวได้ 4. การวัดความยาวเส้นเชือกทำได้โดยการวัดระหว่างกึ่งกลางของจุกยางถึงปลาย ด้านบนของท่อพีวีซีขณะที่ลวดเสียบกระดาษห่างจากปลายล่างของท่อพีวีซี1 เซนติเมตร ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับ ขณะที่แกว่งจุกยาง 2.2 ครูให้นักเรียนทำการบันทึกผลที่ได้ลงในตารางและกราฟ พร้อมทั้งสรุปผลการทดลองและ ตอบคำถามท้ายกิจกรรม โดยในตอนที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างคาบและแรงสู่ศูนย์กลางของการเคลื่อนที่แบบ วงกลมของวัตถุในระนาบระดับเมื่อรัศมีคงตัวนักเรียนควรบันทึกผลได้ ดังนี้ ตอนที่ 2 ความสัมพันธ์ระหว่างคาบและรัศมีของการเคลื่อนที่แบบวงกลมของวัตถุในระนาบระดับเมื่อแรงสู่ ศูนย์กลางคงตัวนักเรียนควรบันทึกผลได้ ดังนี้
. 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายคำถามท้ายกิจกรรม สรุปได้ดังนี้ ตอนที่ 1 1. เมื่อขนาดของแรงดึงในเส้นเชือกเพิ่มขึ้น ช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุก อย่างเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : ช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกยางลดลง) 2. กราฟระหว่างส่วนกลับของกำลังสองของคาบกับขนาดแรงดึงในเส้นเชือกมีลักษณะ อย่างไร และสรุปความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณทั้งสองได้อย่างไร (แนวคำตอบ : เป็นกราฟเส้นตรง แสดงว่า เมื่อ รัศมีคงตัว ส่วนกลับของกำลังสองของคาบแปรผันตรงกับขนาดของแรงที่ใช้ดึงจุกยาง) ตอนที่ 2 1. เมื่อรัศมีการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกยางเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : ช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกยางเพิ่มขึ้น) 2. กราฟระหว่างกำลังสองของคาบกับความยาวเชือกมีลักษณะอย่างไร และสรุป ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณทั้งสองได้อย่างไร (แนวคำตอบ : เป็นกราฟเส้นตรง แสดงว่า เมื่อขนาดของแรงที่ใช้ ดึงคงตัว กำลังสองของคาบแปรผันตรงกับความยาวเชือก) 3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายโดยใช้ผลการทำกิจกรรมและการตอบคำถามท้ายกิจกรรม ตามรายละเอียดในหนังสือเรียนจนได้ข้อสรุปดังนี้ 1. ขณะรัศมีคงตัว ถ้าขนาดแรงเข้าสู่ศูนย์กลางเพิ่มขึ้น คาบการเคลื่อนที่จะลดลง 2. กราฟระหว่างส่วนกลับของกำลังสองของคาบกับขนาดแรงดึงในเส้นเชือกเป็นกราฟ เส้นตรง แสดงว่า เมื่อรัศมีคงตัวส่วนกลับของกำาลังสองของคาบแปรผันตรงกับขนาดของแรงที่ใช้ดึงจุกยาง 3. ขณะที่แรงดึงในเส้นเชือกคงตัวคาบของการเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นถ้ารัศมีของการ เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น
4. กราฟระหว่างกำลังสองของคาบกับรัศมีของการเคลื่อนที่ของจุกยางเป็นกราฟ เส้นตรง แสดงว่า เมื่อขนาดของแรงที่ใช้ดึงคงตัว กำลังสองของคาบ แปรผันตรงกับความยาวเชือก 4. ขั้นขยายความรู้ 4.1 ครูให้ความรู้ตามรายละเอียดในหนังสือเรียนจนสรุปได้ว่า แรงสู่ศูนย์กลางที่กระทำต่อวัตถุให้ เคลื่อนที่แบบวงกลม แปรผันตรงกับกำลังสองของอัตราเร็วของวัตถุและแปรผกผันกับรัศมีของวงกลม 5. ขั้น ประเมินผล 5.1 ครูให้นักเรียนตอบคำถามท้ายกิจกรรม 7.2 โดยเฉลยคำตอบและอภิปรายคำตอบร่วมกัน 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 8.1 เอกสารและ power point ประกอบการสอน เรื่อง การเคลื่อนที่แบบวงกลม 8.2 หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ 1 ชั้นม. 4 สสวท. 8.3 ภาพการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์และการเคลื่อนที่แบบวงกลม 8.4 ชุดการทดลองกิจกรรม 7.2 การเคลื่อนที่แบบวงกลมในหนังสือเรียนเพิ่มเติม ฟิสิกส์ 2 สสวท. แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน 2. ห้องสมุดโรงเรียน 3. อินเทอร์เน็ต 9. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน ความรู้ (K) อธิบายเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบ วงกลม ปริมาณที่เกี่ยวข้อง และการ นำไปใช้ประโยชน์ได้ วัดจากคำถามในการทำ กิจกรรม 7.2 คำถามในการทำกิจกรรม 7.2 นักเรียนสามารถตอบ คำถามในการทำ กิจกรรม 7.2 ได้ สอดคล้องกับเนื้อหา ร้อยละ 80 ทักษะ/กระบวนการ (P) มีทักษะการคำนวณหาปริมาณที่ เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่แบบวงกลม ได้ วัดจากคำถามในการทำ กิจกรรม 7.2 คำถามในการทำกิจกรรม 7.2 นักเรียนสามารถตอบ คำถามในการทำ กิจกรรม 7.2 ได้ สอดคล้องกับเนื้อหา ร้อยละ 80 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ (A) ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน การสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การสังเกต พฤติกรรมในระดับ ดี 10. การบูรณาการ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สหกรณ์ อื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………… ................................................................................................................... ......................................................
ประเมินผลลัพธ์ (KPA) ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 11. เอกสารอ้างอิง/บรรณานุกรม สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.กระทรวงศึกษาธิการ.2560.หนังสือเรียนรายวิชา เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฟิสิกส์ เล่ม 2.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 12. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียน จำนวนนักเรียน จำนวนนักเรียน ผ่าน ร้อยละ ไม่ผ่าน ร้อยละ ผ่าน ร้อยละ ไม่ผ่าน ร้อยละ ผ่าน ร้อยละ ไม่ผ่าน ร้อยละ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 12.2 ปัญหา/อุปสรรค ...................................................................................................................... .................................................. ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... ............. 12.3 แนวทางการแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................... ................................................................................................................................................. ..................... ลงชื่อ.........................................................................ครูผู้สอน (นางสาวเสาวณีย์ ชัยนอก) 12.4 ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา/หัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ/ผู้นิเทศ/หัวหน้ากลุ่มสาระฯ ............................................................................................................................. ......................................... ...................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... . ลงชื่อ ............................................................... ( ..............................................................) ตำแหน่ง .....................................................
คำถามท้ายกิจกรรม 7.2 ตอนที่ 1 1. เมื่อขนาดของแรงดึงในเส้นเชือกเพิ่มขึ้น ช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกอย่างเป็นอย่างไร ................................................................................................................................................................ ............................................................................................... ................................................................. 2. กราฟระหว่างส่วนกลับของกำลังสองของคาบกับขนาดแรงดึงในเส้นเชือกมีลักษณะอย่างไร และสรุป ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณทั้งสองได้อย่างไร ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ตอนที่ 2 1. เมื่อรัศมีการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกยางเป็นอย่างไร ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 2. กราฟระหว่างกำลังสองของคาบกับความยาวเชือกมีลักษณะอย่างไร และสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง ปริมาณทั้งสองได้อย่างไร .................................................................................................................................................... ............ ................................................................................................................................................................
เฉลยคำถามท้ายกิจกรรม 7.2 ตอนที่ 1 1. เมื่อขนาดของแรงดึงในเส้นเชือกเพิ่มขึ้น ช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกอย่างเป็นอย่างไร ตอบ ช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกยางลดลง 2. กราฟระหว่างส่วนกลับของกำลังสองของคาบกับขนาดแรงดึงในเส้นเชือกมีลักษณะอย่างไร และสรุป ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณทั้งสองได้อย่างไร ตอบ เป็นกราฟเส้นตรง แสดงว่า เมื่อรัศมีคงตัว ส่วนกลับของกำลังสองของคาบแปรผันตรงกับขนาดของ แรงที่ใช้ดึงจุกยาง ตอนที่ 2 1. เมื่อรัศมีการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกยางเป็นอย่างไร ตอบ ช่วงเวลาในการเคลื่อนที่ครบรอบของจุกยางเพิ่มขึ้น 2. กราฟระหว่างกำลังสองของคาบกับความยาวเชือกมีลักษณะอย่างไร และสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง ปริมาณทั้งสองได้อย่างไร ตอบ เป็นกราฟเส้นตรง แสดงว่า เมื่อขนาดของแรงที่ใช้ดึงคงตัว กำลังสองของคาบแปรผันตรงกับความ ยาวเชือก
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 27 รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 2 รหัสวิชา ว31202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 หน่วยการเรียนรู้ที่6 ชื่อหน่วย การเคลื่อนที่แนวโค้ง จำนวน 17 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่แบบวงกลม(คำนวณ) เวลาเรียน……3…..ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวเสาวณีย์ ชัยนอก กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 17. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคลื่อนที่ อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเร็วเชิงมุม และมวลของวัตถุ ในการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบระดับ รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้อง และประยุกต์ใช้ความรู้การเคลื่อนที่แบบวงกลม ในการอธิบายการโคจรของดาวเทียม 2. สาระสำคัญ การเคลื่อนที่ของวัตถุจะมีลักษณะเป็นแนวตรง หรือแนวโค้ง ขึ้นอยู่กับทิศของแรงที่มากระทำกับทิศของการ เคลื่อนที่ โดยทิศของแรงอยู่ในแนวเดียวกับทิศการเคลื่อนที่ วัตถุจะเคลื่อนที่เป็นแนวตรง ทิศของแรงทำมุมใด ๆ กับ ทิศการเคลื่อนที่ตลอดเวลา วัตถุจะเคลื่อนที่เป็นแนวโค้ง ส่วนการเคลื่อนที่แบบวงกลมนั้นแรงจะทำมุมตั้งฉากกับทิศ การเคลื่อนที่ตลอดเวลาการเคลื่อนที่ และแรงที่กระทำจะมีทิศเข้าสู่ศูนย์กลางเรียกแรงนี้ว่า แรงสู่ศูนย์กลาง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1) อธิบายเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบวงกลม ปริมาณที่เกี่ยวข้อง และการนำไปใช้ประโยชน์ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ 2) มีทักษะการคำนวณหาปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่แบบวงกลมได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3) ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระการเรียนรู้ การเคลื่อนที่แบบวงกลม (circular motion) เป็นลักษณะการเคลื่อนที่ของวัตถุในสองมิติที่มีเส้นทางการ เคลื่อนที่เป็นวงกลมหรือส่วนของวงกลม สำหรับการศึกษาในชั้นนี้เน้นการศึกษาการเคลื่อนที่แบบวงกลม สม่ำเสมอ (uniform circular motion) ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่แบบวงกลมที่มีอัตราเร็วคงตัวไม่มีแรงกระทำต่อวัตถุ ในแนวสัมผัสเส้นทางการเคลื่อนที่ แต่มีแรงกระทำต่อวัตถุในทิศเข้าสู่ศูนย์กลางหรือแรงในแนวตั้งฉากกับเส้นทาง การเคลื่อนที่ เรียกว่า แรงสู่ศูนย์กลาง (centripetal force) คำนวณได้จากสมการ = 2 การเคลื่อนที่แบบวงกลมสามารถอธิบายได้ด้วยอัตราเร็วเชิงมุม (angular speed) ซึ่งคือ มุมระนาบที่รัศมี กวาดไปได้ต่อหนึ่งหน่วยเวลา ใช้สัญลักษณ์ มีหน่วยเป็น เรเดียนต่อวินาที (rad/s) โดยอัตราเร็วเชิงมุมมี ความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงเส้นตามสมการ
= จะได้แรงสู่ศูนย์กลางมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงมุมตามสมการ = 2 การโคจรของดาวเทียมรอบโลกที่มีการเคลื่อนที่แบบวงกลมจะมีแรงโน้มถ่วงซึ่งเป็นแรงดึงดูดระหว่างมวล ของดาวเทียมกับโลกทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลางทำให้ดาวเทียมยังโคจรอยู่ได้ ซึ่งหาได้จากสมการ = 12 2 ดาวเทียมบางชนิดโคจรไปทางเดียวกันกับโลกด้วยอัตราเร็วเชิงมุมเท่ากันกับโลก และมีคาบการโคจร เท่ากับคาบการหมุนรอบตัวเองของโลก ดาวเทียมจึงอยู่ตรงกับตำแหน่งที่กำหนดไว้บนพื้นโลกตลอดเวลา 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติศาสน์กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ 1.1 ครูทบทวนเนื้อหาเรื่องการเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎการเคลื่อนที่ของนิวต้น แรงดึงดูด ระหว่างมวล สมดุล ความถี่และคาบ 1.2 ครูทบทวนเนื้อหาการเคลื่อนที่ในแนวโค้งเกี่ยวกับความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง การเคลื่อนที่ในแนวโค้งทั้งสองแบบ รวมทั้งความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนที่ ว่าการเคลื่อนที่ แบบวงกลมจะเป็นการเคลื่อนที่แบบครบรอบ แต่การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์เป็นวิถีโค้งแต่ไม่ครบรอบ 2. ขั้นสำรวจและค้นหา 2.1 ครูยกตัวอย่างสถานการณ์การเหวี่ยงเชือกที่มีวัตถุติดอยู่ที่ปลายเชือกว่า หากนักเรียนทำการ เหวี่ยงเชือกเหนือศีรษะ แล้วเชือกขาด วัตถุที่ติดอยู่ที่ปลายเชือกจะมีทิศทางการเคลื่อนที่เป็นแบบใด (แนวคำตอบ : วัตถุจะพุ่งตรงออกไปจากรัศมีของวงกลม) 2.2 ครูถามนักเรียนว่าหากการเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นไปตามที่นักเรียนตอบในข้อ 2.1 แสดงว่าทิศ ทางการเคลื่อนที่ของวัตถุกับทิศทางของแรงในเส้นเชือกเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : ตั้งฉากกัน)
2.3 ครูถามนักเรียนว่าหากวัตถุเคลื่อนที่เป็นวงกลมครบ 1 รอบ เวลาที่ใช้ในการคำนวณจะยังคง เป็นเวลาโดยทั่วไปหรือไม่ และความเร็วที่ใช้ยังคงเป็นความสัมพันธ์แบบการเคลื่อนที่แนวตรงหรือไม่ ครูให้นักเรียน ได้สืบค้นและอภิปรายร่วมกัน 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 ครูให้ความรู้ตามรายละเอียดในหนังสือเรียนจนสรุปได้ว่า แรงสู่ศูนย์กลางที่กระทำต่อวัตถุให้ เคลื่อนที่แบบวงกลม แปรผันตรงกับกำลังสองของอัตราเร็วของวัตถุและแปรผกผันกับรัศมีของวงกลม 3.2 ครูให้ความรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบวงกลมสม่ำเสมอ การเคลื่อนที่ของดาวเทียม และการเลี้ยวโค้ง ของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ โดยอภิปรายตัวอย่าง 7.7-7.12 ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน ว่า การเคลื่อนที่ แบบวงกลม (circular motion) เป็นลักษณะการเคลื่อนที่ของวัตถุในสองมิติที่มีเส้นทางการเคลื่อนที่เป็นวงกลม หรือส่วนของวงกลม สำหรับการศึกษาในชั้นนี้เน้นการศึกษาการเคลื่อนที่แบบวงกลมสม่ำเสมอ (uniform circular motion) ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่แบบวงกลมที่มีอัตราเร็วคงตัวไม่มีแรงกระทำต่อวัตถุในแนวสัมผัสเส้นทางการ เคลื่อนที่แต่มีแรงกระทำต่อวัตถุในทิศเข้าสู่ศูนย์กลางหรือแรงในแนวตั้งฉากกับเส้นทางการเคลื่อนที่ เรียกว่า แรงสู่ ศูนย์กลาง (centripetal force) คำนวณได้จากสมการ = 2 3.3 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงการเคลื่อนที่แบบวงกลมสามารถอธิบายได้ด้วยอัตราเร็ว เชิงมุม (angular speed) ซึ่งคือ มุมระนาบที่รัศมีกวาดไปได้ต่อหนึ่งหน่วยเวลา ใช้สัญลักษณ์ มีหน่วยเป็น เรเดียนต่อวินาที (rad/s) โดยอัตราเร็วเชิงมุมมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงเส้นตามสมการ = และจะได้แรงสู่ศูนย์กลางมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วเชิงมุมตามสมการ = 2 4. ขั้นขยายความรู้ 4.1 ครูทบทวนเนื้อหาเรื่องการเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎการเคลื่อนที่ของนิวต้น แรงดึงดูด ระหว่างมวล สมดุล ความถี่และคาบ 4.2 ครูเพิ่มเติมการโคจรของดาวเทียมรอบโลกที่มีการเคลื่อนที่แบบวงกลมจะมีแรงโน้มถ่วงซึ่ง เป็นแรงดึงดูดระหว่างมวลของดาวเทียมกับโลกทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลางทำให้ดาวเทียมยังโคจรอยู่ได้ ซึ่งหาได้จากสมการ = 12 2 ดาวเทียมบางชนิดโคจรไปทางเดียวกันกับโลกด้วยอัตราเร็วเชิงมุมเท่ากันกับ โลก และมีคาบการโคจรเท่ากับคาบการหมุนรอบตัวเองของโลก ดาวเทียมจึงอยู่ตรงกับตำแหน่งที่กำหนดไว้บนพื้น โลกตลอดเวลา 5. ขั้นประเมินผล 5.1 ครูให้นักเรียนตอบคำถามตรวจสอบความเข้าใจและทำแบบฝึกหัด 7.2 โดยเฉลยคำตอบและ อภิปรายคำตอบร่วมกัน 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 8.1 เอกสารและ power point ประกอบการสอน เรื่อง การเคลื่อนที่แบบวงกลม 8.2 หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ 1 ชั้นม. 4 สสวท. 8.3 เชือกที่ผูกวัตถุติดไว้ที่ปลาย
แหล่งการเรียนรู้ 60. ห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน 61. ห้องสมุดโรงเรียน 62. อินเทอร์เน็ต 9. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน ความรู้ (K) อธิบายเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบ วงกลม ปริมาณที่เกี่ยวข้อง และการ นำไปใช้ประโยชน์ได้ วัดจากคำถามตรวจสอบ ความเข้าใจ 7.2 คำถามตรวจสอบความ เข้าใจ 7.2 นักเรียนสามารถตอบ คำถามตรวจสอบความ เข้าใจ 7.2 ได้ถูกต้องร้อย ละ 80 ทักษะ/กระบวนการ (P) มีทักษะการคำนวณหาปริมาณที่ เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่แบบวงกลม ได้ วัดจากการทำแบบฝึกหัด 7.2 แบบฝึกหัด 7.2 นักเรียนสามารถทำ แบบฝึกหัด 7.2 ได้ถูกต้อง ร้อยละ 80 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ (A) ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน การสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การสังเกต พฤติกรรมในระดับ ดี 10. การบูรณาการ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สหกรณ์ อื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. ............................................ ประเมินผลลัพธ์ (KPA) ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 11. เอกสารอ้างอิง/บรรณานุกรม สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.กระทรวงศึกษาธิการ.2560.หนังสือเรียนรายวิชา เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฟิสิกส์เล่ม 2.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
12. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 12.1 ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียน จำนวนนักเรียน จำนวนนักเรียน ผ่าน ร้อยละ ไม่ผ่าน ร้อยละ ผ่าน ร้อยละ ไม่ผ่าน ร้อยละ ผ่าน ร้อยละ ไม่ผ่าน ร้อยละ ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................... 12.2 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................... ............................................... 12.3 แนวทางการแก้ไข ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ......................................................................................................... ............................................................... .................................................................................................................................. .................................... ลงชื่อ.........................................................................ครูผู้สอน (นางสาวเสาวณีย์ ชัยนอก) 12.4 ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา/หัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ/ผู้นิเทศ/หัวหน้ากลุ่มสาระฯ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ลงชื่อ ............................................................... ( ..............................................................) ตำแหน่ง ...........................................................
คำถามตรวจสอบความเข้าใจ 7.2 1. ขณะวัตถุมีการเคลื่อนที่แบบวงกลมสม่ำเสมอ ปริมาณใดต่อไปนี้มีทิศทางเข้าสู่ศูนย์กลางของวงกลม และปริมาณใดมีทิศทางในแนวเส้นสัมผัสวงกลม ก. ความเร็ว ข.แรงที่กระทำต่อวัตถุ ค. ความเร่ง ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... .............................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... .............................. .............................................................................................................................................................. 2. ดาวเทียมค้างฟ้าอยู่ที่ตำแหน่งความสูงต่างกันได้หรือไม่ จงอธิบาย ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... .............................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... .............................. .............................................................................................................................................................. 3. เหตุใด นักมอเตอร์ไซค์ไต่ถังจึงสามารถควบคุมให้รถมอเตอร์ไซค์วิ่งไปตามผนังของถังได้ ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... .............................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................... ..............................................................................................................................................................
เฉลยคำถามตรวจสอบความเข้าใจ 7.2 1. ขณะวัตถุมีการเคลื่อนที่แบบวงกลมสม่ำเสมอ ปริมาณใดต่อไปนี้มีทิศทางเข้าสู่ศูนย์กลางของวงกลม และปริมาณใดมีทิศทางในแนวเส้นสัมผัสวงกลม ก. ความเร็ว ข.แรงที่กระทำต่อวัตถุ ค. ความเร่ง ตอบ ขณะวัตถุมีการเคลื่อนที่แบบวงกลมสม่ำเสมอ ปริมาณที่มีทิศทางเข้าสู่ศูนย์กลางของวงกลม คือ แรงที่กระทำต่อวัตถุและความเร่ง ส่วนปริมาณที่มีทิศทางในแนวเส้นสัมผัสวงกลม คือ ความเร็ว 2. ดาวเทียมค้างฟ้าอยู่ที่ตำแหน่งความสูงต่างกันได้หรือไม่ จงอธิบาย ตอบ โดยหลักการแล้วดาวเทียมค้างฟ้าอยู่ที่ตำแหน่งความสูงต่างกันไม่ได้ เพราะการเคลื่อนของ ดาวเทียมค้างฟ้าจะต้องเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วเชิงมุมเท่ากับอัตราเร็วเชิงมุมของการหมุนรอบตัวเองของ โลก ทำให้ดาวเทียมค้างฟ้าต้องมีรัศมีวงโคจรเดียวกันหมด จึงอยู่ที่ตำแหน่งความสูงต่างกันไม่ได้ ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติ เนื่องจากระยะความสูงของดาวเทียมจากผิวโลกมีค่ามาก ทำให้สามารถมีดาวเทียมค้าง ฟ้าที่ตำแหน่งความสูงต่างกันเล็กน้อยได้ 3. เหตุใด นักมอเตอร์ไซค์ไต่ถังจึงสามารถควบคุมให้รถมอเตอร์ไซค์วิ่งไปตามผนังของถังได้ ตอบ นักมอเตอร์ไซค์และรถมอเตอร์ไซค์มีการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบระดับโดยนักมอเตอร์ไซค์ ต้องขับรถให้มีอัตราเร็วพอเหมาะจนทำให้แรงแนวฉากที่ถังกระทำต่อรถเป็นแรงสู่ศูนย์กลางในการ เคลื่อนที่แบบวงกลม และมีแรงเสียดทานในทิศขึ้นที่มีค่าเท่ากับน้ำหนักของนักมอเตอร์ไซค์และรถจึง ทำให้สามารถควบคุมให้รถมอเตอร์ไซค์วิ่งไต่ถังไปตามผนังของถังได้
แบบฝึกหัด 7.2 1. วัตถุเคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอในแนววงกลมด้วยอัตรา 20 รอบในเวลา 4.0 วินาที จงหา ก. คาบของการเคลื่อนที่ ข. ความถี่ของการเคลื่อนที่ ค. อัตราเร็วของการเคลื่อนที่ ถ้ารัศมีของการเคลื่อนที่เท่ากับ 2.0 เมตร ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................. 2. จงหาความเร่งสู่ศูนย์กลางของวัตถุที่เคลื่อนที่ในแนววงกลมรัศมี 16.0 เมตร ด้วยอัตราเร็ว 40.0 เมตร ต่อวินาที ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................. .................................... .............................................................................................................................................................. 3. ลูกยางกลมลูกหนึ่งผูกไว้กับเชือกแล้วแกว่งให้เคลื่อนที่ตามแนววงกลมรัศมี 1.30 เมตร ด้วยความถี่ 5.0 รอบต่อวินาที จงหาความเร่งสู่ศูนย์กลางของลูกยางกลม .......................................................................................................................................................... ....... ........................................................................................................................ ......................................... ............................................................................................................................. ................................. 4. ในการแกว่งชุดทดลองการเคลื่อนที่แบบวงกลมให้จุกยางเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วคงตัวในแนวระดับ ปรากฏว่าขณะนั้นเชือกทำมุม 20 องศา กับแนวระดับตลอดเวลา ถ้าขนาดน้ำหนักของขอเกี่ยวโลหะ และนอตที่ใช้มีค่า 1.2 นิวตัน จงหา ก. แรงสู่ศูนย์กลางของจุกยาง ข. ความเร่งสู่ศูนย์กลางของจุกยาง ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................. 5. วงโคจรของดวงจันทร์รอบโลกมีรัศมีประมาณ 384000 กิโลเมตร และคาบการโคจรของดวงจันทร์ 27.3 วัน อัตราเร็วของดวงจันทร์เทียบกับโลกเป็นเท่าใด ในหน่วยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ...................................................................................................................... ........................................... ............................................................................................................................................. ..................
เฉลยแบบฝึกหัด 7.2 1. วัตถุเคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอในแนววงกลมด้วยอัตรา 20 รอบในเวลา 4.0 วินาที จงหา ก. คาบของการเคลื่อนที่ ข. ความถี่ของการเคลื่อนที่ ค. อัตราเร็วของการเคลื่อนที่ ถ้ารัศมีของการเคลื่อนที่เท่ากับ 2.0 เมตร วิธีทำ ก. หาคาบของการเคลื่อนที่ = เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ จำนวนรอบของการเคลื่อนที่ = 4 20 = 0.2 ตอบ คาบของการเคลื่อนที่ของวัตถุเท่ากับ 0.2 วินาที วิธีทำ ข. หาความถี่ของการเคลื่อนที่ = จำนวนรอบของการเคลื่อนที่ เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ = 20 4 = 5 ตอบ ความถี่ของการเคลื่อนที่ของวัตถุเท่ากับ 5 รอบต่อวินาที วิธีทำ ค. หาอัตราเร็วของการเคลื่อนที่ = 2 = (2)(3.14)(2) 0.2 = 62.8 / ตอบ อัตราเร็วของการเคลื่อนที่ของวัตถุเท่ากับ 62.8 เมตรต่อวินาที 2. จงหาความเร่งสู่ศูนย์กลางของวัตถุที่เคลื่อนที่ในแนววงกลมรัศมี 16.0 เมตร ด้วยอัตราเร็ว 40.0 เมตร ต่อวินาที วิธีทำ ความเร่งสู่ศูนย์กลางของวัตถุ = 2 = 402 16 = 100 / 2 ตอบ ความเร่งสู่ศูนย์กลางของวัตถุมีค่าเท่ากับ 100 / 2 3. ลูกยางกลมลูกหนึ่งผูกไว้กับเชือกแล้วแกว่งให้เคลื่อนที่ตามแนววงกลมรัศมี 1.30 เมตร ด้วยความถี่ 5.0 รอบต่อวินาที จงหาความเร่งสู่ศูนย์กลางของลูกยางกลม วิธีทำ ความเร่งสู่ศูนย์กลางของวัตถุ = 2 โดยที่ = และ = 2 จะได้ = 4 2 2 2 = 4(3.14) 2 (5) 2 (1.3) = 1283 / 2 ตอบ ความเร่งสู่ศูนย์กลางของลูกยางกลมมีค่าเท่ากับ 1283 / 2 4. ในการแกว่งชุดทดลองการเคลื่อนที่แบบวงกลมให้จุกยางเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วคงตัวในแนวระดับ ปรากฏว่าขณะนั้นเชือกทำมุม 20 องศา กับแนวระดับตลอดเวลา ถ้าขนาดน้ำหนักของขอเกี่ยวโลหะ และนอตที่ใช้มีค่า 1.2 นิวตัน จงหา ก. แรงสู่ศูนย์กลางของจุกยาง ข. ความเร่งสู่ศูนย์กลางของจุกยาง
วิธีทำ เขียนภาพการเคลื่อนที่ของจุกยางได้ดังนี้ ก. หาแรงสู่ศูนย์กลางของจุกยาง แรงสู่ศูนย์กลางของจุกยาง คือ Fc มีขนาดเท่ากับ F cos20๐ แต่ F คือแรงดึงในเส้นเชือกซึ่งมีขนาดเท่ากับน้ำหนักขอเกี่ยวโลหะและนอต ดังนั้น = (1.2) cos 20๐ = 1.2(0.9397) = 1.13 ตอบ แรงสู่ศูนย์กลางของจุกยางมีขนาดเท่ากับ 1.1 นิวตัน ข. หาความเร่งสู่ศูนย์กลางของจุกยาง ความเร่งของจุกยางที่เคลื่อนที่ในแนววงกลมด้วยอัตราเร็วคงตัวในแนวระดับก็คือความเร่ง สู่ศูนย์กลางของจุกยาง เนื่องจากเส้นเชือกทำมุม 20 องศากับแนวระดับตลอดเวลา แสดงว่าจุกยาง เคลื่อนที่อยู่ ในระนาบระดับที่คงตัว ดังนั้น แรงลัพธ์ในแนวดิ่งที่กระทำต่อจุกยางมีค่าเป็นศูนย์ จะได้ sin 20๐ = = (1.2)(0.3421) 9.8 = 0.042 จาก = = 1.13 0.042 = 26.9 / 2 ตอบ ความเร่งสู่ศูนย์กลางของจุกยางมีขนาดเท่ากับ 27 เมตรต่อวินาที2 5. วงโคจรของดวงจันทร์รอบโลกมีรัศมีประมาณ 384000 กิโลเมตร และคาบการโคจรของดวงจันทร์ 27.3 วัน อัตราเร็วของดวงจันทร์เทียบกับโลกเป็นเท่าใด ในหน่วยกิโลเมตรต่อชั่วโมง วิธีทำ อัตราเร็วของดวงจันทร์เทียบกับโลก หาได้จาก = 2 = 2(3.14)(384,000) 27.3×24 = 3.681 × 103 /ℎ ตอบ อัตราเร็วของดวงจันทร์เทียบกับโลกเท่า 3.681 × 103 /ℎ
แบบประเมินผลการทำใบงาน/ชิ้นงาน/สมุดรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/…… รายการประเมิน เลขที่ ชื่อ-สกุล รวม การปฏิบัติตาม กระบวนการ/ แก้ปัญหา ผลงานมีข้อมูล ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ตาม จุดประสงค์ ผลงานมีความ เรียบร้อย สะอาด การส่งงานตรง เวลา 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ลงชื่อ........................................... ( ................................................ ) ผู้ประเมิน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 9 – 12 ดี 5 – 8 พอใช้ 1 – 4 ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมินการทำใบงาน/ชิ้นงาน/สมุดรายบุคคล ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1. การปฏิบัติตาม กระบวนการ/แก้ปัญหา นักเรียนลงมือปฏิบัติทำใบ งาน/ชิ้นงาน/สมุดตาม ก ร ะ บ ว น ก า ร ไ ด ้ อ ย ่ า ง ถูกต้อง นักเรียนลงมือปฏิบัติทำใบ งาน/ชิ้นงาน/สมุดตาม กระบวนการได้บางส่วน นักเรียนลงมือปฏิบัติทำใบ งาน/ชิ้นงาน/สมุดตาม กระบวนการไม่ได้ 2. ผลงานมีข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ตาม จุดประสงค์ นักเรียนตอบคำถามได้ อย่างถูกต้องครบถ้วน สมบูรณ์ ตามจุดประสงค์ นักเรียนตอบคำถามได้อย่าง ถูกต้องครบถ้วน สมบูรณ์ ตามจุดประสงค์ในบางส่วน นักเรียนตอบคำถามได้ไม่ ถูกต้องและไม่ครบถ้วน สมบูรณ์ ตามจุดประสงค์ 3. ผลงานมีความ เรียบร้อย สะอาด นักเรียนทำงานได้อย่าง เรียบร้อย สะอาด ไม่มีการ แก้ไขงานเลอะ นักเรียนทำงานไม่ค่อย เรียบร้อย ไม่ค่อยสะอาด มี การแก้ไขงานจนเลอะ น ั ก เ ร ี ย น ท ำ ง า น ไ ด ้ ไ ม่ เรียบร้อย ไม่สะอาด มีการ แก้ไขงานเลอะ 4. การส่งงานตรงเวลา นักเรียนส่งงานตรงเวลา ตามที่ครูกำหนด นักเรียนส่งงานไม่ตรงเวลา ตามที่ครูกำหนด มีความ ล่าช้ากว่าเวลาปกติ แต่ไม่ เกิน 2 ชั่วโมงหลังจากเวลาที่ ครูกำหนด นักเรียนส่งงานไม่ตรงเวลา ตามที่ครูกำหนด มีความ ล่าช้ากว่าเวลาปกติ เป็น เวลามากกว่า 2 ชั่วโมง หลังจากเวลาที่ครูกำหนด
แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ วิชา/เรื่อง...................................................ชั้น..............วันที่..............เดือน.......................พ.ศ. ................... คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/…….. รายการประเมิน เลขที่ ชื่อ-สกุล มีวินัยในการเรียน วิทยาศาสตร์ มีความมุ่งมั่นใน การทำงาน รวม เกณฑ์ 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ลงชื่อ........................................... ( ................................................ ) ผู้ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมรายบุคคล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่ ประเด็น พฤติกรรม เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1 มีวินัย - ส่งงานตรงตามกำหนดเวลาที่ ครูกำหนด - รับผิดชอบในการทำงานที่ ได้รับมอบหมาย - เข้าห้องเรียนตรงเวลา - แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ - ส่งงานตรงตาม กำหนดเวลาพอสมควร - รับผิดชอบในการทำงานที่ ได้รับมอบหมายน้อย - เข้าห้องเรียนไม่ค่อยตรง เวลา - แต่งกายถูกต้องตาม ระเบียบบางครั้ง - ส่งงานไม่ตรงตาม กำหนดเวลา - ไม่รับผิดชอบในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย - เข้าห้องเรียนไม่ตรงเวลา - แต่งกายไม่ถูกต้องตาม ระเบียบ 2 มุ่งมั่นในการ ทำงาน - นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ ทำงานในการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ - นักเรียนไม่ค่อยมุ่งมั่นใน การทำงานในการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ - นักเรียนไม่สนใจและไม่มี ความมุ่งมั่นในการทำงาน ในการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 7 – 9 3 = ดี 4 – 6 2 = พอใช้ 1 – 3 1 = ปรับปรุง
แบบประเมินการทำงานกลุ่ม กลุ่มที่……………………ชั้น……………………… คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย / หน้าช่องให้ตรงกับความเป็นจริง ลำดับที่ รายการพฤติกรรม คุณภาพการปฏิบัติ 3 2 1 1 มีการวางแผนร่วมกัน 2 การแบ่งงานรับผิดชอบ 3 มีการให้ความช่วยเหลือกัน 4 การรับฟังความคิดเห็นและแก้ปัญหาร่วมกัน 5 สามารถให้คำแนะนำกลุ่มอื่นได้ 6 ปฏิบัติการทำกิจกรรมตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ 7 ร่วมกันอภิปรายและสรุปผลงานของกลุ่ม 8 ร่วมกันปรับปรุงผลงานของกลุ่ม รวม ลงชื่อ..................................................................ผู้ประเมิน ..……/……………./………… เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 24-30 17-23 10-16 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง หมายเหตุ : ประเมินเป็นกลุ่ม
เกณฑ์การประเมินการให้คะแนนแบบประเมินการทำงานกลุ่ม ประเด็นการ ระดับคุณภาพ ประเมิน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1. มีการวางแผน ร่วมกัน สมาชิกส่วนใหญ่ได้วางแผน ร่วมกันก่อนการทำกิจกรรม และมีการออกแบบการบันทึก ผลได้อย่างเหมาะสม สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีการ วางแผนร่วมกันก่อนการทำ กิจกรรมและมีการออกแบบ การบันทึกผลยังไม่ค่อย เหมาะสม สมาชิกส่วนใหญ่ได้วางแผน ร่วมกันก่อนการทำกิจกรรม และมีการออกแบบการ บันทึกผลยังไม่เหมาะสม 2. การแบ่งงาน รับผิดชอบ สมาชิกส่วนใหญ่ได้มีการแบ่ง งานรับผิดชอบได้อย่าง เหมาะสม สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีการแบ่ง งานรับผิดชอบยังไม่ค่อย เหมาะสม สมาชิกส่วนใหญ่ได้มีการ แบ่งงานรับผิดชอบยังไม่ เหมาะสม 3. มีการให้ความ ช่วยเหลือกัน สมาชิกส่วนใหญ่มีการให้ความ ช่วยเหลือกันได้อย่าง เหมาะสม สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีการให้ ความช่วยเหลือกันยังไม่ค่อย เหมาะสม สมาชิกส่วนใหญ่มีการให้ ความช่วยเหลือกันยังไม่ เหมาะสม 4.การรับฟังความ คิดเห็นและแก้ปัญหา ร่วมกัน สมาชิกส่วนใหญ่มีการรับฟัง ความคิดเห็นและแก้ปัญหา ร่วมกันได้อย่างเหมาะสม สมาชิกทุกคนในกลุ่มการรับฟัง ความคิดเห็นและแก้ปัญหา ร่วมกันยังไม่ค่อยเหมาะสม สมาชิกส่วนใหญ่มีการรับฟัง ความคิดเห็นและแก้ปัญหา ร่วมกันยังไม่เหมาะสม 5. สามารถให้ คำแนะนำกลุ่มอื่นได้ สมาชิกส่วนใหญ่สามารถให้ คำแนะนำกลุ่มอื่นได้อย่าง เหมาะสม สมาชิกทุกคนในกลุ่มสามารถ ให้คำแนะนำกลุ่มอื่นยังไม่ค่อย เหมาะสม สมาชิกส่วนใหญ่สามารถให้ คำแนะนำกลุ่มอื่นไม่ เหมาะสม 6. ปฏิบัติการทำ กิจกรรมตามขั้นตอนที่ กำหนดให้ สมาชิกส่วนใหญ่สามารถ ปฏิบัติการทำกิจกรรมตาม ขั้นตอนที่กำหนดให้ได้ถูกต้อง และเหมาะสม สมาชิกทุกคนในกลุ่มสามารถ ปฏิบัติการทำกิจกรรมตาม ขั้นตอนที่กำหนดให้ไม่ค่อย ถูกต้องและเหมาะสม สมาชิกส่วนใหญ่สามารถ ปฏิบัติการทำกิจกรรมตาม ขั้นตอนที่กำหนดให้ไม่ ถูกต้องและเหมาะสม 7. ร่วมกันอภิปรายและ สรุปผลงานของกลุ่ม สมาชิกส่วนใหญ่ร่วมกัน อภิปรายและสรุปผลงานของ กลุ่มได้อย่างเหมาะสม สมาชิกทุกคนในกลุ่มร่วมกัน อภิปรายและสรุปผลงานของ กลุ่มไม่ค่อยเหมาะสม สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ร่วมกัน อภิปรายและสรุปผลงาน 8. ร่วมกันปรับปรุง ผลงานของกลุ่ม สมาชิกส่วนใหญ่ร่วมกัน ปรับปรุงผลงานของกลุ่มได้ อย่างเหมาะสม สมาชิกทุกคนในกลุ่มร่วมกัน ปรับปรุงผลงานของกลุ่มไม่ค่อย เหมาะสม สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ร่วมกัน ปรับปรุงผลงานของกลุ่ม
แบบประเมินการตอบคำถาม ที่ ชื่อ-สกุล ตอบคำถาม ได้ถูกต้อง เสนอตนเอง ในการตอบ คำถาม ช่วยผู้อื่นใน การตอบ คำถาม ผลการ ประเมิน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
เกณฑ์ประเมินการตอบคำถาม ที่ รายการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1 ตอบคำถามได้ถูกต้อง ถูกต้อง สมบูรณ์ ตรง ประเด็น ถูกต้อง 80%-50% ยังไม่ตรงประเด็น ทั้งหมด ถูกต้อง ต่ำ50% ยัง ไม่ตรงประเด็น ทั้งหมด 2 เสนอตนเองในการตอบ คำถาม ยกมือเสนอตนเองใน การตอบคำถามเป็น ประจำ ยกมือเสนอตนเองใน การตอบคำถามบ้าง ไม่เสนอตนเองใน การตอบคำถาม 3 ช่วยผู้อื่นในการตอบ คำถาม ให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ได้ดีให้คำแนะนำและ เป็นที่พึ่งของเพื่อนๆได้ ให้ความช่วยเหลือ ผู้อื่นบ้าง ในบางเวลา ทำงานเพียงลำพังผู้ เดียว เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดีมาก 6-7 ดี 4-5 พอใช้ 3 ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน มี 3 ระดับ คือ 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ 3 หมายถึง ปรับปรุง ลงชื่อ................................................... (......................................................) ผู้ประเมิน
แบบประเมินการอภิปราย กลุ่มที่……………………ชั้น……………………… คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย / หน้าช่องให้ตรงกับความเป็นจริง กลุ่มที่ การออกเสียง การนำเสนอ บุคลิกภาพความ คล่องแคล่ว ผลการประเมิน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
เกณฑ์การให้ระดับคะแนนการอภิปราย ที่ รายการการ ประเมิน เกณฑ์การให้ระดับคะแนน ดี พอใช้ ปรับปรุง 1 การออกเสียง 1. ออกเสียงอักขระถูกต้อง ชัดเจน 2. ใช้ระดับภาษาได้ถูกต้อง เหมาะสม 3. มีความมั่นใจ เสียงดังฟัง ชัด 1. ออกเสียงอักขระไม่ ชัดเจนในบางคำ 2. ใช้ภาษาไม่ถูกต้อง เหมาะสมในบางคำ 3. ออกเสียงเบา 1. ออกเสียงอักขระไม่ ถูกต้อง 2. ใช้ภาษาไม่ถูกต้อง เหมาะสม 3. ออกเสียงเบาขาดความ มั่นใจ 2 การนำเสนอ 1. นำเสนอได้อย่าง น่าสนใจ 2. เสนอเรื่องตาม ลำดับขั้นตอน 1. นำเสนอได้ดี ตามลำดับขั้นตอน 1. ขาดขั้นตอนในกา นำเสนอ 3 บุคลิกภาพความ คล่องแคล่ว 1. พูดได้ต่อเนื่องไม่ติดขัด ตะกุกตะกัก 2. ก้มหน้าอ่านเนื้อหาน้อย มาก 1. พูดได้ต่อเนื่องไม่ ติดขัดในบางคำ 2. ก้มหน้าอ่านเนื้อหา บ้าง 1. พูดไม่ต่อเนื่อง ติดขัด เป็นส่วนใหญ่ 2. ก้มหน้าอ่าน เนื้อหา ตลอด เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดีมาก 6-7 ดี 4-5 พอใช้ 3 ปรับปรุง ลงชื่อ................................................... (........................................................) ผู้ประเมิน เกณฑ์การประเมิน มี 3 ระดับ คือ 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ 3 หมายถึง ปรับปรุง