The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pawinee Keawsangin, 2020-09-30 02:15:16

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 63

48

โครงสร้างรายวชิ า ค33101 คณติ ศาสตร์ 6 จานวน 1.0 หน่วยกิต
ลาดบั ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
1 สถิติและข้อมูล ค 3.1 ม.4-6/1 (ชั่วโมง) คะแนน
(100)
2 ตาแหน่งของข้อมลู ค 3.1 ม.4-6/1
สถติ ิหมายถงึ การเก็บ 5 15
2 คา่ กลางของขอ้ มลู ค 3.1 ม.4-6/1
รวบรวมข้อมลู จาก
รวมท้ังส้ิน
ขอ้ เท็จจรงิ แลว้ นามา

วิเคราะห์ตคี วามอย่าง

เป็นระบบ

การวดั ตาแหน่งที่ 15 35

เปอร์เซน็ ต์ไทล์ของข้อมลู

เปน็ การจดั ข้อมูล

ออกเปน็ 100 สว่ นแลว้

หาตาแหน่งต่างของ

ข้อมลู

การวิเคราะหห์ าค่ากลาง 20 50

ของข้อมูล ขนั้ พ้ืนฐานมี

อยู่ 3 ชนดิ คอื ฐานนยิ ม

มธั ยฐานและค่าเฉลย่ี เลข

คณิต

40 100

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

49

ลาดบั ท่ี 7 ภาคเรียนท่ี 2
จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
รายวชิ า ค33102 คณติ ศาสตร์ 7
ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรยี น

คาอธิบายรายวชิ า

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะ / กระบวนการในสาระต่อไปน้ี
สถิติและข้อมูล ค่ากลางของข้อมูล การวัดการกระจายของข้อมูล (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

นาผลจากการสารวจไปช่วยในการตัดสินใจบางอย่าง การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นโดยใช้ค่ากลางการวัด
การกระจาย และการวดั ตาแหน่งที่ของข้อมลู นาเสนอขอ้ มูลในรปู แบบต่าง ๆ อ่านและตีความหมายจาก
การนาเสนอข้อมูล ใช้ข้อมูลข่าวสารและค่าสถิติช่วยในการตัดสินใจ โดยจัดประสบการณ์หรือสร้าง
สถานการณ์ในชีวิตประจาวันให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยปฏิบัติจริง ทดลองสรุป รายงาน เพ่ือพัฒนา
ทักษะ/กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ และใช้ใน
ชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่าง
พอเพียง มุ่งมน่ั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ

การวัดผลและประเมินผลใช้วิธีการท่ีหลากหลาย ตามสภาพความเป็นจริง สอดคล้องกับสาระ
ทักษะ/กระบวนการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต้องการวัด รวมท้ัง มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการ
ทางาน

มาตรฐานตัวช้ีวดั
ค 3.1 ม. 4-6/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนาเสนอข้อมูลและแปลความหมายของค่าสถิติเพ่ือ

ประกอบการตัดสนิ ใจ
ค 4.1 ม. 6/1 การแก้ปัญหา ทาความเข้าใจ คิดวิเคราะห์ วางแผนแก้ปัญหา เลือกใช้วธิ ีการที่เหมาะสม
ค 4.1 ม. 6/2 การให้เหตุผล รับฟัง ใหเ้ หตผุ ลสนบั สนุน โต้แยง้
ค 4.1 ม. 6/3 การสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
ค 4.1 ม. 6/4 การเช่อื มโยง ความร้ใู นเน้อื หา/ศาสตร์อ่ืน ๆ และการนาไปใช้
ค 4.1 ม. 6/5 การคดิ สรา้ งสรรค์ ขยายแนวคดิ เดมิ สร้างแนวคิดใหม่

รวม 6 ตวั ช้ีวัด

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

50

โครงสรา้ งรายวิชา ค33102 คณิตศาสตร์ 7 จานวน 1.0 หน่วยกิต
ลาดบั ที่ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
1 ค่าการกระจาย ค 3.1 ม.4-6/1 (ชัว่ โมง) คะแนน
(100)
2 การนาเสนอข้อมูล ค 3.1 ม.4-6/1
และแปลความหมาย การวัดการกระจายของ 20 50

รวมทั้งส้ิน ขอ้ มลู เปน็ การวดั เพ่ือ

ทราบถงึ ลักษณะของการ

แตกต่างกันของข้อมูล

ทงั้ หมด

การนาเสนอขอ้ มลู เปน็ 20 50

การนาข้อมูลที่

ดาเนนิ การวเิ คราะห์แล้ว

มานาเสนอในรปู แบบ

ตา่ งๆและแปลผลท่ี

เกดิ ขึ้นจากการวิเคราะห์

ข้อมูลและนาใช้ในการ

ตดั สนิ ใจ

40 100

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

51

คาอธิบายรายวิชาและโครงสรา้ งรายวชิ าเพิ่มเตมิ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

ลาดบั ที่ 1 ภาคเรียนที่ 1
รายวชิ า ค31201 คณิตศาสตร์เพมิ่ เตมิ 1 จานวน 1.5 หน่วยกติ
ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

เวลา 60 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น

คาอธิบายรายวชิ า

ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้
เซต ความรเู้ บื้องต้นและสัญลักษณ์พ้ืนฐานเก่ียวกบั เซต ยูเนี่ยนอินเตอร์เซกชันและคอมพลเี มนต์

ของเซต การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกบั เซต ตรรกศาสตร์ ประพจนแ์ ละตัวเชื่อม ประโยคท่ีมตี ัวบง่ ปรมิ าณตัว
เดียว การอ้างเหตุผล จานวนจริงและพหุนาม สมบัติของจานวนจริง ค่าสัมบูรณ์ของจานวนจริงและ
สมบัติค่าสัมบูรณ์ของจานวนจริง จานวนจริงในรูปกรณฑ์และจานวนจริงในรูปเลขยกกาลัง จานวนจริง
และพหุนาม ตัวประกอบของพหุนาม สมการและอสมการของพหุนาม สมการและอสมการเศษส่วนของ
พหุนาม สมการและอสมการคา่ สมั บูรณข์ องพหนุ าม

เพื่อให้สามารถใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการ
แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม รู้จักใช้วิธีการที่หลากหลายในการแก้ปัญหา ใช้เหตุผล
ประกอบการตดั สินใจ ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่อื สาร การส่ือความหมาย และการ
นาเสนอได้อยา่ งถูกต้องและชัดเจน สามารถเช่ือมโยงและนาความรู้หลักการกระบวนการทางคณิตศาสตร์
ไปใช้ในการเรียนรูส้ ิ่งตา่ ง ๆ มีความคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ ขยายแนวคิดเดิมและสร้างแนวคิดใหม่และสามารถ
นาใช้ในชวี ิตประจาวนั รวมท้ัง มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน

ผลการเรยี นรู้
1. เขา้ ใจและใช้ความรู้เก่ยี วกบั เซตในการสื่อสารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
2. เข้าใจและใชค้ วามรเู้ ก่ียวกบั ตรรกศาสตร์เบอื้ งตน้ ในการสื่อสารส่ือความหมายและอา้ งเหตผุ ล
3. เข้าใจจานวนจริงและใช้สมบตั ขิ องจานวนจรงิ ในการแก้ปัญหา
4. แกส้ มการและอสมการพหุนามตัวแปรเดยี ว ดกี รีไม่เกนิ สี่ และนาไปใช้ในการแกป้ ญั หา
5. แก้สมการและอสมการเศษส่วนของพหุนามตวั แปรเดียว แนะนาไปใช้ในการแกป้ ญั หา
6. แกส้ มการและอสมการคา่ สัมบูรณ์ของพหุนามตัวแปรเดยี ว และนาไปใช้ในการแกป้ ญั หา

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

52

โครงสร้างรายวชิ า ค31201 คณิตศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ 1 จานวน 1.5 หน่วยกิต

ลาดบั ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ท่ี การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
(100)

1 เซต 1. เขา้ ใจและใชค้ วามรู้ เซต ความรเู้ บอ้ื งต้นและ 15 30

เกยี่ วกบั เซตในการ สญั ลกั ษณพ์ น้ื ฐานเกี่ยวกับเซต

ส่ือสารและสือ่ ยูเน่ยี นอินเตอร์เซกชนั และคอม

ความหมายทาง พลีเมนต์ของเซต การแกโ้ จทย์

คณติ ศาสตร์ ปัญหาเกย่ี วกับเซต

2 ตรรกศาสตร์ 1. เขา้ ใจและใช้ความรู้ ประพจน์ การหาค่าความจรงิ 20 30

เกีย่ วกับตรรกศาสตร์ ของประพจน์ การสร้างตาราง

เบ้ืองตน้ ในการสื่อสารส่ือ คา่ ความจริง รปู แบบของ

ความหมายและอา้ ง ประพจน์ท่สี มมลู กัน การอ้าง

เหตผุ ล เหตผุ ล ข้อความท่ีมีตัวบง่

ปริมาณ และคา่ ความจริงของ

ประโยคท่ีมตี ัวบ่งปริมาณ

สมมูลและนิเสธของประโยคที่

มีตวั บง่ ปรมิ าณ

3 จานวนจริง 1. เขา้ ใจจานวนจรงิ และ ความสมั พันธข์ องจานวนต่างๆ 25 40

และพหุนาม ใชส้ มบตั ขิ องจานวนจริง ในระบบจานวนจรงิ สมบัติ

ในการแก้ปัญหา ของจานวนจริงเกย่ี วกบั การ

2. แก้สมการและ บวก การคูณ การเทา่ กัน

อสมการพหนุ ามตัวแปร การไม่เท่ากัน สมบัติของ

เดียว ดีกรไี ม่เกนิ ส่ี และ ระบบจานวนจรงิ การแก้

นาไปใชใ้ นการแก้ปัญหา สมการพหนุ ามตัวแปรเดียว

3. แก้สมการและ ชว่ งและการแก้อสมการ ค่า

อสมการเศษสว่ นของพหุ สัมบูรณ์ การหาค่าสมั บูรณ์

นามตวั แปรเดียว แนะ ของจานวนจริง การแก้

นาไปใชใ้ นการแก้ปัญหา สมการและอสมการในรปู ค่า

4. แกส้ มการและ สมั บรู ณ์

อสมการค่าสมั บรู ณ์ของ

พหนุ ามตวั แปรเดยี ว และ

นาไปใชใ้ นการแก้ปัญหา

รวมท้ังสน้ิ 60 100

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

53

ลาดับท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2
จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
รายวิชา ค31202 คณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ 2
ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

เวลา 60 ชัว่ โมง / ภาคเรียน

คาอธิบายรายวิชา

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คานวณ และฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปนี้
ฟังก์ชัน การบวกการลบการคูณการหารฟังก์ชัน ฟังก์ชันประกอบ ฟังก์ชันผกผัน ฟังก์ชันเอกซ์

โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม เขียนกราฟของฟังก์ชันท่ีกาหนดให้ได้ นาความรู้เรื่องฟังก์ชันเอกซ์
โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึมไปใช้แก้ปัญหา เรขาคณิตวิเคราะห์จุดและเส้นตรง วงกลม พาราโบลา
วงรี ไฮเพอร์โบลา

เพื่อให้สามารถใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการ
แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม รู้จักใช้วิธีการท่ีหลากหลายในการแก้ปัญหา ใช้เหตุผล
ประกอบการตดั สินใจ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสอ่ื สาร การส่ือความหมาย และการ
นาเสนอได้อย่างถูกต้องและชัดเจน สามารถเช่ือมโยงและนาความรู้หลักการกระบวนการทางคณิตศาสตร์
ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มคี วามคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ ขยายแนวคิดเดิมและสร้างแนวคิดใหม่และสามารถ
นาใชใ้ นชวี ิตประจาวัน รวมท้ัง มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน

ผลการเรียนรู้
1. หาผลลัพธ์ของการบวกการลบการคูณการหารของฟังก์ชัน หาฟังก์ชันประกอบและฟังก์ชัน

ผกผัน
2. ใช้สมบตั ขิ องฟงั ก์ชันในการแก้ปญั หา
3. เข้าใจลักษณะกราฟของฟงั ก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟงั ก์ชันลอการิทึมและการนาไปใช้ในการ

แกป้ ัญหา
4. เขา้ ใจและใช้ความรู้เกยี่ วกบั เรขาคณิตวิเคราะห์ในการแกป้ ัญหา

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

54

โครงสรา้ งรายวิชา ค31202 คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม 2 จานวน 1.5 หน่วยกิต

ลาดบั ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
ที่ การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
(100)
1 ฟงั ก์ชัน 1. หาผลลัพธ์ของ เขียนความสัมพนั ธ์ เขียนฟงั กช์ ัน 15
30
การบวกการลบการ ในรปู ต่างๆ (ตาราง สมการ 20
30
คูณการหารของ กราฟ) เขียนกราฟของ 25
40
ฟังก์ชนั หาฟังกช์ ัน ความสมั พันธแ์ ละฟังกช์ นั ตามท่ี 60
100
ประกอบและ กาหนดให้ สร้างความสมั พนั ธ์หรอื

ฟังก์ชนั ผกผนั ฟงั กช์ นั จากสถานการณห์ รือปัญหา

2. ใช้สมบตั ขิ อง ท่กี าหนดให้ แลว้ นาไปใช้แกป้ ัญหา

ฟงั กช์ นั ในการ ใชก้ ราฟของสมการ อสมการ

แกป้ ัญหา ฟงั ก์ชันในการแก้ปัญหา

2 ฟงั กช์ ัน 1. เข้าใจลักษณะ การแก้สมการฟงั กช์ นั เอกซ์โพเนน

เอกซ์ กราฟของฟังกช์ นั เชยี ล , การแก้อสมการฟังกช์ ัน

โพเนน เอกซ์โพเนนเชยี ล เอกซโ์ พเนนเชยี ล

เชยี ลและ และฟังกช์ นั การแกส้ มการฟังกช์ นั ลอการิทึม ,

ฟงั ก์ชนั ลอการทิ ึมและการ การแก้อสมการฟังกช์ ันลอการิทึม

ลอการิทึม นาไปใช้ในการ การเขียนกราฟฟังก์ชนั เอกซ์โพเนน

แก้ปญั หา เชียลและฟงั กช์ ันลอการทิ ึม

3 เรขาคณติ 1. เขา้ ใจและใช้ ระยะหา่ งระหวา่ งจดุ 2 จดุ

วเิ คราะห์ ความร้เู กี่ยวกบั จดุ ก่ึงกลางระหวา่ งจุด 2 จุด

เรขาคณติ วเิ คราะห์ ความชันของเสน้ ตรง เส้นขนาน

ในการแกป้ ัญหา เส้นต้ังฉาก ความสัมพันธ์ซง่ึ มีกราฟ

เป็นเสน้ ตรง ระยะหา่ งระหวา่ ง

เส้นตรงกบั จดุ ความสมั พันธ์ในรปู

วงกลม วงรี พาราโบลา

ไฮเพอรโ์ บลา กราฟของ

ความสมั พนั ธข์ องวงกลม วงรี

ไฮเพอร์โบลา พาราโบลา

รวมทั้งสน้ิ

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

55

ลาดบั ท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1
จานวน 1.5 หน่วยกติ
รายวชิ า ค32201 คณติ ศาสตร์เพมิ่ เติม 3
ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5

เวลา 60 ชัว่ โมง / ภาคเรียน

คาอธิบายรายวชิ า

ศึกษา ฝกึ ทักษะการคิดคานวณ และฝกึ การแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปน้ี
เมทริกซ์ และเมทริกซ์สลับเปล่ียน การบวกเมทริกซ์การคูณเมทริกซ์กับจานวนจริงการคูณ

ระหว่างเมทริกซ์ ดีเทอร์มิแนนต์ เมทริกซ์ผกผัน การแก้ระบบสมการเชิงเส้นโดยใช้เมทริกซ์ ฟังก์ชัน
ตรีโกณมิติ ฟังก์ชันตรีโกณมิติผกผัน เอกลักษณ์และสมบัติตรีโกณมิติ กฎของโคไซน์และกฎของไซน์
หลกั การนบั เบ้อื งต้น

หลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ียน การเรยี งสับเปล่ียนเชิงเส้น การเรียงสับเปลี่ยนเชิง
วงกลมกรณีที่ส่ิงของแตกต่างกันท้ังหมด การจัดหมู่กรณีที่สิ่งของแตกต่างกันทั้งหมด ทฤษฎีบททวินาม

เพื่อให้สามารถใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหา
ในสถานการณ์ตา่ งๆ ได้อย่างเหมาะสม รจู้ ักใช้วธิ กี ารที่หลากหลายในการแก้ปัญหา ใชเ้ หตุผลประกอบการ
ตัดสินใจ ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร การส่ือความหมาย และการนาเสนอได้
อย่างถูกตอ้ งและชัดเจน สามารถเช่ือมโยงและนาความรู้หลักการกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการ
เรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ขยายแนวคิดเดิมและสร้างแนวคิดใหม่และสามารถนาใช้ใน
ชวี ติ ประจาวัน รวมท้ัง มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการทางาน

ผลการเรียนรู้
1. เข้าใจความหมาย หาผลลัพธ์ของการบวกเมทริกซ์ การคูณเมทริกซ์กับจานวนจริง การคูณ

ระหว่างเมทริกซแ์ ละหาเมทริกซ์สลับเปล่ียนหาดีเทอรม์ ิแนนตข์ องเมทริกซ์nnเมือ่ n เป็นจานวนนบั ท่ีไม่
เกนิ 3

2. หาเมทริกซผ์ กผันของเมทรกิ ซ์ 22
3. แกร้ ะบบสมการเชงิ เส้นโดยใชเ้ มทรกิ ซ์ผกผันและการดาเนนิ การตามแถว
4. เข้าใจฟังก์ชันตรีโกณมิติและลักษณะของกราฟของฟังก์ชันตรีโกณมิติและนาไปใช้ในการ
แก้ปัญหา
5. แกส้ มการตรโี กณมติ แิ ละนาไปใชใ้ นการแก้ปัญหา
6. ใช้กฎของโคไซน์และกฎของไซน์ในการแก้ปัญหา
7. เขา้ ใจและใชห้ ลักการการบวกและการคณู การเรยี งสบั เปลีย่ นและการจดั หมู่ในการแก้ปัญหา

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

56

โครงสรา้ งรายวิชา ค32201 คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ 3 จานวน 1.5 หน่วยกติ

ลาดบั ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
ท่ี การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
(100)
1 เมทริกซ์ 1. เขา้ ใจความหมาย หา - เมทริกซ์และเมทริกซ์สลบั 20
30
ผลลพั ธ์ของการบวกเมท เปลีย่ น 25
40
ริกซ์ การคูณเมทริกซ์กบั - การบวกเมทรกิ ซก์ ารคูณ 15
30
จานวนจรงิ การคณู ระหวา่ ง เมทริกซ์กบั จานวนจรงิ การ 60
100
เมทรกิ ซ์และหาเมทรกิ ซ์ คณู ระหวา่ งเมทรกิ ซ์

สลับเปล่ยี นหาดีเทอรม์ แิ น - ดีเทอร์มแิ นนต์

นตข์ องเมทริกซ์n nเมอ่ื n - เมทริกซผ์ กผัน

เป็นจานวนนบั ทไี่ มเ่ กนิ 3 - การแก้ระบบสมการเชงิ

2. หาเมทริกซ์ผกผนั ของ เสน้ โดยใชเ้ มทริกซ์

เมทรกิ ซ์ 2x 2

3. แก้ระบบสมการเชิงเส้น

โดยใชเ้ มทริกซผ์ กผนั และ

การดาเนนิ การตามแถว

2 ฟงั ก์ชัน 1. เขา้ ใจฟงั ก์ชันตรโี กณมิติ - ฟงั กช์ ันตรีโกณมิติ และ

ตรโี กณมิติ และลกั ษณะของกราฟของ ฟงั ก์ชันตรโี กณมติ ิผกผัน

ฟังกช์ ันตรโี กณมติ ิและ - การหาค่าฟังกช์ นั

นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา ตรีโกณมติ ิ , การหาค่า

2. แก้สมการตรโี กณมติ แิ ละ ผลบวก ผลตา่ ง ผลคณู มุม

นาไปใช้ในการแกป้ ัญหา สองเท่า มุมสามเทา่ การหา

3. ใชก้ ฎของโคไซนแ์ ละกฎ คา่ ฟังกช์ นั อนิ เวอรส์ ตรีโกณ

ของไซนใ์ นการแก้ปญั หา มติ ิ , การใชก้ ฎของไซน์ กฎ

ของโคไซน์

3 หลักการ 1. เขา้ ใจและใช้หลักการ - หลักการบวกและการคูณ

นบั เบอื้ งตน้ การบวกและการคูณการ - การเรยี งสับเปลี่ยน การ

เรยี งสับเปลี่ยนและการจัด เรียงสับเปลยี่ นเชิงเสน้ การ

หมใู่ นการแกป้ ญั หา เรียงสบั เปล่ียนเชงิ วงกลม

กรณที ส่ี ิ่งของแตกต่างกัน

ท้งั หมด การจัดหมู่กรณีท่ี

สง่ิ ของแตกต่างกันทั้งหมด

ทฤษฏีบททวนิ าม

รวมท้ังสิน้

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

57

ลาดับที่ 4 ภาคเรียนที่ 2
จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
รายวิชา ค32202 คณติ ศาสตร์เพมิ่ เติม 4
ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5

เวลา 60 ชัว่ โมง / ภาคเรียน

คาอธิบายรายวิชา

ศกึ ษา ฝึกทักษะการคิดคานวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปน้ี
เวกเตอร์ในระบบสามมิติ เวกเตอร์นิเสธของเวกเตอร์ การบวก การลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอร์

ด้วยสเกลาร์ ผลคูณเชิงสเกลาร์ผลคูณเชิงเวกเตอร์ จานวนเชิงซ้อนและสมบัติของจานวนเชิงซ้อน จานวน
เชิงซ้อนในรูปเชิงขั้ว รากท่ี n ของจานวนเชิงซ้อนเมื่อ n เป็นจานวนนับท่ีมากกว่า 1 สมการพหุนามตัว
แปรเดยี ว ความนา่ จะเปน็ การทดลองสมุ่ เหตุการณ์ ความน่าจะเปน็ ของเหตุการณ์

เพ่อื ให้สามารถใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหา
ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม รู้จักใช้วิธีการที่หลากหลายในการแก้ปัญหา ใช้เหตุผล
ประกอบการตัดสินใจ ใชภ้ าษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร การส่ือความหมาย และการ
นาเสนอได้อย่างถูกต้องและชัดเจน สามารถเชื่อมโยงและนาความรู้หลกั การกระบวนการทางคณิตศาสตร์
ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งตา่ ง ๆ มคี วามคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ ขยายแนวคิดเดิมและสร้างแนวคดิ ใหม่และสามารถ
นาใชใ้ นชีวิตประจาวัน รวมทง้ั มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน

ผลการเรยี นรู้
1. หาผลลัพธ์ของการบวกการลบเวกเตอร์การคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ หาผลคูณเชิงสเกลาร์

และผลคูณเชงิ เวกเตอร์
2. นาความรู้เกี่ยวกับเวกเตอร์ในสามมติ ไิ ปใชใ้ นการแก้ปัญหา
3. เขา้ ใจจานวนเชงิ ซ้อนและใช้สมบัตขิ องจานวนเชิงซอ้ นในการแก้ปัญหา
4. หารากที่ nของจานวนเชงิ ซ้อนเม่ือ n เปน็ จานวนนับทมี่ ากกว่า 1
5. การแก้สมการพหนุ ามตวั แปรเดยี วดีกรีไมเ่ กินส่ี ที่มีสัมประสิทธเ์ิ ป็นจานวนเต็มและนาไปใชใ้ น

การแกป้ ญั หา
6. หาความนา่ จะเปน็ และนาความร้เู กี่ยวกบั ความนา่ จะเปน็ ไปใช้

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

58

โครงสร้างรายวชิ า ค32202 คณิตศาสตร์เพมิ่ เตมิ 4 จานวน 1.5 หน่วยกติ

ลาดบั ชอ่ื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
ท่ี การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
(100)

1 เวกเตอรใ์ น 1. หาผลลพั ธข์ องการ เวกเตอร์ในสามมติ ิ การบวก 20 30

สามมิติ บวกการลบเวกเตอร์การ เวกเตอร์ การลบเวกเตอร์ การ

คณู เวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ คณู เวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ ผล

หาผลคณู เชงิ สเกลาร์ คูณเชิง สเกลาร์ ผลคณู เชงิ

และผลคูณเชงิ เวกเตอร์ เวกเตอร์ การหาพนื้ ท่โี ดยใช้

2. นาความร้เู กย่ี วกับ ความรู้เรอื่ งเวกเตอร์

เวกเตอรใ์ นสามมติ ิไปใช้

ในการแก้ปญั หา

2 จานวน 1. เข้าใจจานวนเชิงซ้อน จานวนเชงิ ซ้อน การหาคา่ 25 40

เชงิ ซ้อน และใชส้ มบตั ขิ องจานวน จานวนเชงิ ซอ้ น กราฟของ

เชิงซอ้ นในการแก้ปัญหา จานวนเชงิ ซอ้ น การหาค่า

2. หารากที่ nของ สัมบรู ณ์ของจานวนเชงิ ซ้อน

จานวนเชิงซ้อนเมื่อ n เขยี นจานวนเชงิ ซ้อนในรปู เชิง

เป็นจานวนนับท่ี ขัว้ อกี ทั้งการแก้สมการพุหนาม

มากกว่า 1 ของจานวนเชิงซ้อน

3. การแก้สมการพหุ

นามตัวแปรเดียวดกี รีไม่

เกินส่ี ทม่ี ีสัมประสิทธิ์

เป็นจานวนเตม็ และ

นาไปใชใ้ นการแก้ปัญหา

3 ความนา่ จะ 1. หาความนา่ จะเปน็ - ความน่าจะเป็น 15 30

เป็น และนาความร้เู กีย่ วกบั - การทดลองสุ่มเหตุการณ์

ความนา่ จะเปน็ ไปใช้ - ความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์

รวมทั้งส้นิ 60 100

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

59

ลาดบั ที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1
จานวน 1.5 หนว่ ยกิต
รายวชิ า ค33201 คณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ 5
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6

เวลา 60 ชัว่ โมง / ภาคเรียน

คาอธิบายรายวิชา

ลาดับและอนุกรม ลาดับจากัดและลาดับอนันต์ ลาดับเลขคณิตและลาดับเรขาคณิต ลิมิตของลาดับ
อนันต์ อนุกรมจากัดและอนุกรมอนันต์ อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณิต ผลบวกของอนุกรมอนันต์
การนาความรู้ไปใช้แกป้ ญั หามูลคา่ ของเงินและคา่ รายงวด

จัดการเรียนรู้โดยการฝึกปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การนาความรู้ความคิด ทักษะและกระบวนการไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และ
นาไปใช้อย่างสร้างสรรค์ในชีวิตประจาวัน รวมท้ังมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานร่วมกับผู้อื่น
ได้ มคี วามรับผดิ ชอบ มีความเพยี รพยายามและมีวิจารณญาณ

ใชก้ ารวัดผลและประเมินผลอย่างหลากหลาย ประเมินตามสภาพความเปน็ จริง ครอบคลุมท้ังดา้ น
ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม รวมท้ัง มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน
รวมท้ัง มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน

ผลการเรียนรู้

1. ระบไุ ดว้ ่าลาดบั ที่กาหนดให้เป็นลาดบั ลเู่ ข้าหรือลู่ออก
2. หาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณติ
3. หาผลบวกอนุกรมอนันต์
4. เขา้ ใจและนาความรเู้ กีย่ วกบั ลาดบั และอนกุ รมไปใช้

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

60

โครงสร้างรายวิชา ค33201 คณิตศาสตร์เพ่ิมเตมิ 5 จานวน 1.5 หน่วยกิต

ลาดบั ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เตมิ เวลา นา้ หนัก
ที่ การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
(100)

1 ลาดับ 1.ระบุไดว้ า่ ลาดับท่ี -ลาดบั จากัดและลาดบั อนนั ต์ 15 30

กาหนดให้เปน็ ลาดบั ลเู่ ข้า -ลาดบั เลขคณติ และลาดับ

หรอื ลอู่ อก เรขาคณิต

-ลิมิตของลาดบั อนนั ต์

2 อนุกรม 2.หาผลบวก n พจนแ์ รก -อนุกรมจากัดและอนุกรม 15 30
ของอนกุ รมเลขคณติ และ อนันต์
อนุกรมเรขาคณิต -อนุกรมเลขคณติ และอนุกรม
เรขาคณิต

3 ลิมติ ของ 3.หาผลบวกอนุกรมอนันต์ -ผลบวกอนกุ รมอนันต์ 30 40
ลาดับ 4.เขา้ ใจและนาความรู้ -การนาความรเู้ ก่ียวกบั ลาดับ 60 100
เก่ียวกบั ลาดบั และอนุกรม และอนุกรมไปใชใ้ นการ
ไปใช้ แกป้ ญั หามลู คา่ ของเงินและ
ค่ารายงวด
รวมท้ังสนิ้

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

61

ลาดบั ท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2
จานวน 1.5 หน่วยกิต
รายวชิ า ค33202 คณติ ศาสตร์เพ่มิ เตมิ 6
ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6

เวลา 60 ช่วั โมง / ภาคเรียน

คาอธิบายรายวิชา

การแจกแจงความนา่ จะเป็นเบอ้ื งตน้ การแจกแจงบอกรูป การแจกแจงทวินาม การแจกแจง
ปกติ

แคลคลู สั เบือ้ งต้น ลมิ ติ ของฟังก์ชนั ความต่อเนื่องของฟงั ก์ชัน อนุพันธ์ของฟงั ก์ชนั พชี คณิต
ปรพิ นั ธ์ของฟังกช์ ัน่ พชี คณติ

จดั การเรยี นรู้โดยการฝึกปฏิบัตจิ ริง เพ่ือใหผ้ ้เู รียนเกิดทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปญั หา การให้เหตุผล การนาความรูค้ วามคดิ ทักษะและกระบวนการไปใช้ในการเรียนรูส้ ง่ิ ต่าง ๆ และ
นาไปใช้อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นชวี ิตประจาวนั รวมทง้ั มีเจตคติที่ดีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานร่วมกบั ผูอ้ นื่
ได้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีความเพียรพยายามและมีวิจารณญาณ

ใชก้ ารวดั ผลและประเมนิ ผลอย่างหลากหลาย ประเมินตามสภาพความเปน็ จริง ครอบคลุมทั้ง
ด้านความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม รวมท้งั มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่นั ในการ
ทางาน

ผลการเรยี นรู้
1. หาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เกิดจากตัวแปรสุ่มที่มีการแจกแจงเอกรูป การแจกแจงทวิ

นาม และการแจกแจงปกติ และนาไปใชใ้ นการแก้ปญั หา
2. ตรวจสอบความตอ่ เนือ่ งของฟังกช์ น่ั ที่กาหนดให้
3. หาอนุพันธข์ องฟังกช์ ่ันพีชคณติ ทกี่ าหนดใหแ้ ละนาไปใชแ้ ก้ปญั หา
4. หาปรพิ ันธไ์ มจ่ ากดั เขตและจากัดเขตของฟงั กช์ น่ั พีชคณิตทีก่ าหนดให้ และนาไปใช้แกป้ ัญหา

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

62

โครงสร้างรายวิชา ค33202 คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ 6 จานวน 1.5 หน่วยกิต

ลาดบั ช่ือหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้เู พิม่ เติม เวลา นา้ หนัก
ท่ี การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน

1 การแจกแจง 1 .ห า ค ว า ม น่ า จ ะ เป็ น ข อ ง -การแจกแจงเอกรปู 20 40
ความน่าจะ เหตุการณ์ที่เกิดจากตัวแปรสุ่มท่ี -การแจกแจงทวนิ าม
เปน็ เบือ้ งต้น มีการแจกแจงเอกรูป การแจก -การแจกแจงปกติ 40 60

แจงทวินาม และการแจกแจง 60 100

ป ก ติ แ ล ะ น าไป ใช้ ใน ก าร

แก้ปญั หา

2 แคลคูลัส 2.ตรวจสอบความต่อเนื่องของ -ลิมิตและความต่อเนื่อง

เบอ้ื งต้น ฟังก์ชนั่ ทีก่ าหนดให้ ของฟงั ก์ช่นั

3.หาอนพุ นั ธข์ องฟังก์ช่นั -อนพุ นั ธข์ องฟังก์ช่นั

พชี คณิตทีก่ าหนดใหแ้ ละ พชี คณิต

นาไปใช้แก้ปัญหา -ปริพันธ์ของฟังก์ชัน่

4.หาปริพันธ์ไมจ่ ากัดเขตและ พีชคณติ

จากดั เขตของฟังก์ช่ันพชี คณติ ที่

กาหนดให้ และนาไปใช้

แกป้ ัญหา

รวมทั้งสนิ้

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

63

คาอธิบายรายวชิ า

รายวชิ า I20201 การศกึ ษาค้นคว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
(Research and Knowledge Formation: IS1)

รายวชิ าเพิ่มเติม กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกติ

-------------------------------------------------
ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกทักษะตั้งประเด็นปัญหา/ต้ังคาถามในเร่ืองท่ีสนใจเก่ียวกับสาระการเรียนรู้
คณิตสาสตร์โดยเริ่มจากตนเองเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่นและประเทศ ต้ังสมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้
ความรจู้ ากศาสตร์สาระการเรยี นรคู้ ณิตสาสตร์ ค้นคว้าแสวงหาความรเู้ กย่ี วกับสมมติฐานทตี่ ้ังไวจ้ ากแหล่ง
เรียนรู้ที่หลากหลาย ออกแบบวางแผน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการท่ีเหมาะสม ทางาน
บรรลุผลตามป้าหมายภายในกรอบการดาเนินงานท่ีกาหนด โดยการกากับดูแล ช่วยเหลือของครูอย่าง
ต่อเนื่อง สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้และร่วมกันเสนอแนวคิด วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วย
กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม
ในการวิพากษ์ เพื่อให้เกิดทักษะในการค้นคว้าแสวงหาความรู้ เปรียบเทียบเชื่อมโยงองค์ความรู้
สงั เคราะห์สรปุ อภปิ ราย เพือ่ ใหเ้ หน็ ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าของการศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง

ผลการเรียนรู้
1. ตั้งประเด็นปัญหา โดยเลือกประเด็นท่ีสนใจตามสาระการเรียนรู้คณิตสาสตร์ เริ่มจากตนเอง
เชื่อมโยงกบั ชุมชนท้องถน่ิ และประเทศ
2. ตง้ั สมมตฐิ านประเด็นปญั หาทีต่ นเองสนใจ
3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ศึกษาคน้ คว้า แสวงหาข้อมูลเกย่ี วกับประเดน็ ทเี่ ลือกจากแหล่งเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย
5. ตรวจสอบความนา่ เช่อื ถือของแหล่งที่มาของขอ้ มลู ได้
6. วิเคราะหข์ ้อคน้ พบด้วยสถติ ทิ ีเ่ หมาะสม
7. สังเคราะหส์ รุปองค์ความรูด้ ้วยกระบวนการกลุม่
8. เสนอแนวคดิ การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบดว้ ยองค์ความรู้จากการค้นพบ
9. เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

64

โครงสร้างรายวิชาเพม่ิ เติมการศึกษาค้นคว้าและสร้างองคค์ วามรู้สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์

ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
เรยี นรู้ คะแนน

1 ไขข้อสงสัย 1. ตง้ั ประเดน็ ปัญหา โดย - การต้ังคาถาม 5 - 9 15

เลือกประเด็นทส่ี นใจ เริ่ม ในเร่ืองที่สนใจเริ่มจาก

จากตนเอง ชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ ตัวเอง เชื่อมโยงกับ

ประเทศ ชุมชน ทอ้ งถ่นิ และ

2. ตั้งสมมติฐานประเด็น ประเทศ

ปญั หาทต่ี นเองสนใจ -การต้ังสมมติฐานและ

3. ออกแบบ วางแผน ใช้ ใหเ้ หตุผล โดยใช้

กระบวนการรวบรวมข้อมลู ความรูจ้ ากศาสตร์

อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ สาขาต่าง ๆ

2 หลากหลายจาก 4. ศึกษา ค้นควา้ แสวงหา - การคน้ คว้า แสวงหา 10 - 15 20

แหล่งเรยี นรู้ ความร้เู กยี่ วกบั ประเด็น ความรเู้ กย่ี วกับ

ที่เลอื ก จากแหล่งเรียนรู้ สมมตฐิ านท่ตี งั้ ไว้

ท่ีหลากหลาย

3 เปดิ ประตูสู่ 5. ตรวจสอบความ - วิเคราะห์ 10 - 15 25

ความจริง น่าเชอ่ื ถอื ของแหลง่ ท่ีมา ความน่าเชอ่ื ถือของ

ของข้อมูลได้ ข้อมูล

6. วิเคราะหข์ อ้ ค้นพบด้วย

สถิตทิ ีเ่ หมาะสม

4 ประมวลทุกส่ิงที่ 6. วิเคราะห์ขอ้ ค้นพบ - การเปรยี บเทยี บ / 15 - 21 40

ค้นพบ ด้วยสถิตทิ ่ีเหมาะสม เช่ือมโยงองค์ความรู้

7. สงั เคราะห์สรุปองค์ สงั เคราะห์ สรปุ

ความรู้ดว้ ยกระบวนการ อภปิ รายเพื่อใหเ้ หน็

กล่มุ ประโยชน์และ

8. เสนอแนวคดิ การแก้ คณุ ค่าของการศึกษา

ปัญหาอยา่ งเป็นระบบด้วย ค้นควา้ ดว้ ยตวั เอง

องค์ความรูจ้ ากการค้นพบ

9. เห็นประโยชน์และคุณค่า

ของการศึกษาค้นคว้าด้วย

ตนเอง

รวม 40 - 60 100

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

65

การออกแบบหนว่ ยการเรียนรสู้ าระคณติ ศาสตร์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ไขข้อสงสัย รายวิชาเพ่ิมเตมิ การศกึ ษาคน้ คว้าและการสรา้ งองคค์ วามรู้
สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 5 ชว่ั โมง

เป้าหมายการเรยี นรู้ (ผลการเรียนรู้)
1. ต้งั ประเดน็ ปญั หา โดยเลอื กประเดน็ ทส่ี นใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชน ทอ้ งถิน่ ประเทศ
2. ตงั้ สมมติฐานประเด็นปญั หาทต่ี นเองสนใจ
3. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมข้อมูลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ความเข้าใจท่ีคงทน (สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด) คาถามสาคญั
- การต้ังคาถามในเรือ่ งทสี่ นใจเริม่ จากตัวเอง - จะตงั้ คาถามในเร่ืองที่สนใจให้เชอ่ื มโยงกับ
เช่อื มโยงกับชุมชน ท้องถ่ินและประเทศ ชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ และประเทศได้อยา่ งไร
- การตงั้ สมมตฐิ านและใหเ้ หตุผลโดยใช้ความรู้จาก - จะตงั้ สมมตฐิ านและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จาก
ศาสตรส์ าขาต่าง ๆ ศาสตร์สาขาตา่ ง ๆ ได้อย่างไร
- การออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวม - จะออกแบบ วางแผน โดยใชก้ ระบวนการ
ขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มลู ได้อยา่ งไร

ผ้เู รียนร้อู ะไร (สาระการเรยี นรู้) ผ้เู รยี นทาอะไรได้ (ทกั ษะ / กระบวนการ)
- การกาหนดประเดน็ ความรู้ - การคดิ วิเคราะห์
- ธรรมชาติของความรู้ - การคิดเปรียบเทยี บ
- ลกั ษณะของความรู้ - การคิดเชื่อมโยง
- แหล่งเรยี นรู้ - การคิดสรา้ งสรรค์
- วธิ กี ารสร้างความรู้ - การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
1) การสรา้ งความร้จู ากความรสู้ กึ - กระบวนการปฏิบัติ
2) การสร้างความรูจ้ ากภาษา - กระบวนการกลุม่
3) การสรา้ งความรู้จากเหตผุ ล
4) การสร้างความรจู้ ากอารมณ์
- ทฤษฎขี องกลุ่มสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน 8 กลุ่มสาระ
- ศาสตร์ / สาขาวชิ าของความรู้

- นักคดิ / บิดาศาสตรข์ องแตล่ ะสาระการเรยี นรู้
- หลกั การตั้งวตั ถุประสงค์และสมมุติฐาน
- วิธีการนาเสนอ

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งม่นั ในการทางาน

การออกแบบการวดั ผลประเมนิ ผล

ภาระงานรวบยอด / ชนิ้ งาน
1. การออกแบบโครงร่างการศกึ ษาค้นควา้
2. ผลงานทป่ี รากฏจริง

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

66

คาอธิบายรายวชิ า
รายวิชา I20202 การส่อื สารและการนาเสนอ
(Communication and Presentation: IS2)

รายวชิ าเพมิ่ เติม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 จานวน 1 หนว่ ยกติ

เงือ่ นไขการเรียน: ผเู้ รยี นตอ้ งผ่านการเรียนรายวิชาการศกึ ษาคน้ คว้าและสร้างองค์ความรมู้ าก่อน

----------------------------------

ศึกษา เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบจากข้อมูลองค์ความรู้จาก
การศึกษาค้นคว้าในรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ (Research
and Knowledge Formation: IS1) โดยเขียนโครงร่าง บทนา เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานเชิงวิชาการ
โดยใช้คาจานวน 2,500 คา มีการอ้างอิงแหล่งความรทู้ ี่เช่ือถือได้อยา่ งหลากหลาย เรยี บเรยี งและถา่ ยทอด
ความคิดอยา่ งชัดเจน เป็นระบบ มีการนาเสนอในรูปแบบเดย่ี ว (Oral individual) หรือกลุม่ (Oral panel
presentation) โดยใช้ส่ือประกอบท่ีหลากหลาย และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะ ใน
การเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการ
สรา้ งสรรค์งานและถ่ายทอดส่ิงทเี่ รียนรใู้ ห้เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

ผลการเรียนรู้
1. วางโครงรา่ งการเขยี นตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวธิ กี ารเขยี นโครงรา่ ง
2. เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้าเชิงวชิ าการภาษาไทย ความยาว 2,500 คา
3. น าเสนอข้อค้นพ บ ข้อสรุปจากประเด็นท่ีเลือกในรูปแบ บเด่ียว (Oral individual

presentation) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่ออุปกรณ์ในการนาเสนอได้อย่าง
เหมาะสม

4. เผยแพรผ่ ลงานสู่สาธารณะ

5. เหน็ ประโยชน์และคุณค่าในการสรา้ งสรรคง์ านและถ่ายทอดสงิ่ ที่เรยี นรู้แก่สาธารณะ

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

67

โครงสรา้ งรายวิชาเพมิ่ เติมการสือ่ สารและการนาเสนอ

ช่อื หน่วยการ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 นา้ หนกั
เรียนรู้ คะแนน
หน่วยท่ี ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ ชั่วโมง

1 เตรยี มความ 1. วางโครงรา่ งการ การเช่อื มโยงทบทวนความรู้ 4 / 4 10

พร้อม เขียนตามหลักเกณฑ์ จากการศึกษาค้นควา้ การ

องคป์ ระกอบและ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้าง

วธิ ีการเขียนโครงร่าง องค์ความรมู้ าสู่การสอ่ื สาร

5. เห็นประโยชน์และ และการนาเสนอ มาเขียน

คณุ ค่าในการสรา้ งสรรค์ สรุปความใหเ้ ป็นความเรยี งเชงิ

งานและถ่ายทอดส่งิ ท่ี วชิ าการพร้อมอ้างองิ ตามหลกั

เรียนรแู้ กส่ าธารณะ วชิ าการเปน็ พ้ืนฐานสาคัญของ

การสอื่ สารและการนาเสนอให้

เหมาะสมกับผู้อ่าน / ผูฟ้ ัง

2 ฝึกซอ้ มเขียน 1. วางโครงรา่ งการ การฝกึ เขียนโครงร่างรายงาน 6 / 8 20

โครงรา่ ง เขียนตามหลักเกณฑ์ เชงิ วชิ าการ ซึง่ มอี งคป์ ระกอบ

องค์ประกอบและวิธีการ ดว้ ย

เขยี นโครงร่าง ชื่อเรอื่ ง ความนา วตั ถุประสงค์

สมมุตฐิ าน ขอบเขตการศึกษา

เนื้อหา วธิ ีการศกึ ษาและการ

เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล เปน็ การ

วางแผน การเขยี นรายงานเชงิ

วิชาการอยา่ งเปน็ ระบบ และ

การตรวจสอบท้ังดว้ ยตนเอง

และเพื่อนชว่ ยตรวจสอบโดยใช้

สญั ลักษณ์ในการตรวจสอบชว่ ย

ใหร้ ายงานเชงิ วิชาการนน้ั

ถกู ต้องแม่นยาและสมบรู ณ์

ยิ่งขนึ้

3 สรา้ งผลงาน 2. เขียนรายงาน การถ่ายโอนองคค์ วามรจู้ าก 18 / 28 40

เขยี น การศกึ ษาคน้ ควา้ เชงิ การศึกษา ค้นคว้า และข้อ

วิชาการภาษาไทย ค้นพบโดยการรายงานทใ่ี ช้

ความยาว 2,500 คา รปู แบบการเขยี นรายงานเชงิ

วชิ าการไดค้ รบองค์ประกอบ

และถูกต้องตาม

หลักวิชาการเปน็ การส่อื สารที่มี

ประสิทธิภาพ

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

68

หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ชว่ั โมง น้าหนัก
เรียนรู้ คะแนน
3. นาเสนอขอ้ คน้ พบ
4 เพยี รนาเสนอ ขอ้ สรปุ จากประเด็นท่ี การนาเสนอผลงานจาก 12 / 20 30
เลือกในรปู แบบเดยี่ ว
(Oral individual การศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ คน้ พบ
presentation) หรอื
กลุม่ (Oral panel โดยมกี ารเตรียมความพร้อม
presentation)
โดยใช้สื่อ อุปกรณ์ใน ของผูน้ าเสนอ
การนาเสนอได้อย่าง
เหมาะสม การเลอื กรปู แบบประเภทสือ่
4. เผยแพร่ผลงานสู่
สาธารณะ ประกอบการนาเสนอให้

รวม เหมาะสม และสอดคล้องกบั

ตามความต้องการ ความสนใจ

ความช่นื ชอบ ของผู้ฟัง ชว่ ยให้

การเผยแพรผ่ ลงานไดอ้ ย่างมี

ประสทิ ธผิ ล

40/60 100

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

69

การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1

ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ เตรยี มความพร้อม รายวิชาเพิม่ เตมิ การส่ือสารและการนาเสนอ

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 4 ช่วั โมง

เปา้ หมายการเรียนรู้ (ผลการเรยี นรู้)

1. วางโครงร่างการเขียนตามหลกั เกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขยี นโครงร่าง

5. เห็นประโยชน์และคณุ คา่ ในการสรา้ งสรรค์งานและถา่ ยทอดสงิ่ ทีเ่ รียนรู้แกส่ าธารณะ

ความเข้าใจท่คี งทน (สาระสาคญั / ความคิด คาถามสาคัญ

รวบยอด) - จะนาทกั ษะและองค์ความร้ทู สี่ งั เคราะห์ได้

การเชอ่ื มโยงทบทวนความรูจ้ ากการศึกษา จากรายวชิ า IS1 มาใช้ในการนาเสนอและการ

คน้ ควา้ การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรา้ งองค์ สื่อสารอยา่ งไร

ความรูม้ าสู่ - การเขียนสรุปความมวี ิธีการอยา่ งไร

การส่อื สารและการนาเสนอ มาเขียนสรุปความให้ - การเขยี นความเรียงวธิ กี ารอย่างไร

เป็นความเรยี งเชิงวิชาการพร้อมอ้างอิงตามหลัก - การเขียนอา้ งอิงวธิ ีการอยา่ งไร

วชิ าการ

เปน็ พน้ื ฐานสาคญั ของการส่ือสารและการ

นาเสนอใหเ้ หมาะสมกบั ผ้อู า่ น / ผฟู้ งั

ผเู้ รียนรอู้ ะไร(สาระการเรียนรู้) ผู้เรียนทาอะไรได้(ทกั ษะ/ทกั ษะกระบวนการ)

- การเชื่อมโยงขอ้ มูลและองคค์ วามรู้จาก - รวบรวมข้อมลู และองค์ความรูจ้ ากรายวิชา

รายวิชา IS1 IS1

สกู่ ารเรยี นรายวิชา IS2 มาเช่อื มโยงสกู่ ารนาเสนอและการสือ่ สาร

- การเขยี นสรุปความ - เขียนสรปุ ความและนามาเชอื่ มเปน็ ความเรยี ง

- การเขยี นความเรียง - เขยี นอ้างอิงได้ถกู หลักการ

- การเขยี นอา้ งองิ - ทางานรว่ มกับผู้อ่ืนตามกระบวนการกลุม่

- ตรวจสอบงานเขยี นความเรียง

- วพิ ากษง์ านเขยี นความเรยี งของผู้อ่ืน

- นาข้อวิพากษ์มาปรบั ปรงุ งานเขียนของตน

- นาขอ้ มลู จาก IS1มาวางแผนปฏบิ ัตใิ น IS2 -

IS3

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

70

การออกแบบการวัดผลประเมนิ ผล
ภาระงานรวบยอด / ช้ินงาน

นาเสนอการวางแผนนาข้อมูลจากรายวชิ า IS1 สกู่ ารจัดทารายงานเชงิ วชิ าการในรายวชิ า IS2 และ
เชื่อมโยง
นาความรูส้ ู่การปฏิบัตบิ รกิ ารสังคมในรายวิชา IS3
เกณฑ์การประเมินภาระงาน/ชิ้นงาน(ระบปุ ระเด็นประเมิน)
- ความครบถว้ นสมบรู ณ์ของข้อมูล
- การเชือ่ มโยงองคค์ วามรูส้ ู่การเขียน
- ความสมั พนั ธ์เชงิ เหตุผลของการศกึ ษา IS1 - IS3
รอ่ งรอยการเรียนรู้อนื่ ๆ
- แบบบนั ทกึ ตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วกับการวเิ คราะห์ / สังเคราะห์ข้อมลู
- แบบบันทึกการเชื่อมข้อมูลจาก IS1 - IS3
- แบบบันทึกเกย่ี วกบั กระบวนการทางาน

การวางแผนการเรยี นรู้
กจิ กรรมการเรยี นรู้
นกั เรยี นจะ
1. รวบรวมข้อมลู พื้นฐานจากการเรียน IS1 มาทบทวนความรู้จากการศกึ ษาค้นคว้า วิเคราะห์
สงั เคราะห์และสร้างองคค์ วามรมู้ าสกู่ ารสือ่ สารและการนาเสนอ
2. ตรวจสอบความสมบรู ณ์ของขอ้ มลู ทีจ่ ะนามาออกแบบ วางแผนเชือ่ มโยงข้อมูลสูก่ ารเรียน IS2
3. ฝกึ ทักษะการเขียนสรปุ ความ
4. ฝึกทกั ษะการเขยี นความเรียง
5. ฝกึ ทกั ษะการเขยี นอ้างอิง
6. ศกึ ษาตวั อย่างการวางแผนการนาข้อมลู สกู่ ารปฏิบัตโิ ดยใช้แผนผังความคดิ
7. ใช้กระบวนการกลุ่มรว่ มกนั วางแผนนาขอ้ มลู จากการสรุปความและเขยี นความเรยี งใน IS1 สู่การ
จัดทารายงานเชงิ วชิ าการใน IS2 และเชือ่ มโยงนาความรสู้ ู่การปฏบิ ัติบริการสังคมใน IS3
8. ใช้ความรู้ หลักการและจินตนาการเพ่ือคาดคะเนคาตอบทเ่ี ป็นไปไดข้ องการวางแผนจาก IS1 -
IS3
9. รว่ มกันอภิปรายการวางแผนจาก IS1 - IS3 แลว้ นาขอ้ มูลมานาเสนอ
10.ร่วมกันวพิ ากษ์การวางแผนของแต่และกลุม่
11.ปรับปรงุ แผนทวี่ างไว้ก่อนนาไปจัดทาแผนการปฏบิ ตั ริ ะยะยาว
ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
1. ตวั อยา่ งการเขยี นสรปุ ความ, การเขียนความเรียง,การเขียนอา้ งองิ
2. แหลง่ คน้ คว้าอ้างอิง เชน่ อินเทอรเ์ นต็ หนงั สือ บคุ คล ฯลฯ
3. ตัวอยา่ งการวางแผนระยะยาว
4. แผนผงั การคิด

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

71

คาอธิบายรายวชิ า
รายวชิ า I20903 การจัดกจิ กรรมการนาองค์ความรู้ไปใช้บรกิ ารสงั คม

(Social Service Activity: IS3)

รายวิชาเพ่มิ เติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1 หนว่ ยกิต

การจัดกิจกรรมการนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity : IS3) เป็น
กระบวนการจัดการเรียนรู้เพ่ือการเปล่ียนแปลงในเชิงลึกทั้งด้านพ้ืนฐานความคิด ความรู้สึกและ
การกระทาท่ีมุ่งให้เกิดการเปล่ียนแปลง การเชื่อมโยงประสานสัมพันธ์ ความเสมอภาค ความยุติธรรมใน
สังคม ความเข้าใจกันในระหว่างมนุษย์ มุ่งเน้นกระบวนการตัดสินใจแบบมีส่วนร่วมเพื่อให้ผู้เรียน
มีความตระหนักรู้ในตนเอง ร่วมกันศึกษาสภาพและการเปล่ียนแปลงในระดับท้องถิ่นที่จะส่งผลกระทบต่อ
สังคมโลก โดยการวิเคราะห์ข้อค้นพบ ข้อสรุป ความคิดใหม่ องค์ความรู้ใหม่ ท่ีเป็นความจริงใกล้ตัวของ
ผู้เรียน เลือกนาประเด็น/เร่ืองราวท่ีสัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน กระตุ้นให้เชื่อมโยงเหตุการณ์ในระดับ
ท้องถ่ินกับระดับโลกในภาพกว้าง และอภิปราย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ของเหตุการณ์ดงั กลา่ วโดยจัดเปน็ กิจกรรม โครงการ หรอื โครงงาน

เป้าหมายคุณภาพผเู้ รียน

คุณภาพผูเ้ รยี น มธั ยมศึกษาตอนตน้
การนาความร้ไู ปใช้บริการสงั คม
- นาความรู้ไปประยุกตส์ ร้างสรรคป์ ระโยชนต์ อ่
โรงเรยี นและชุมชน
- เผยแพรค่ วามรแู้ ละประสบการณ์ที่ไดจ้ ากการลงมือ
ปฏบิ ตั เิ พอื่ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียนและชมุ ชน

การจัดกิจกรรมการนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคมมีวัตถุประสงค์ เพ่ือให้ผู้เรียนได้พัฒนา
ตนเอง และพัฒนาซ่ึงกันและกันผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential learning) ค้นพบตนเอง
โดยการริเร่ิมสร้างสรรค์กิจกรรม (Creativity) ปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง (Action)
อาสาช่วยเหลือผู้อน่ื ด้วยความสมัครใจ (Service) พัฒนาค่านิยมที่อยู่บนพื้นฐานความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ของ
โลก ไดแ้ ก่

1. ความนับถอื และเช่ือมนั่ ในตนเอง
2. ความเคารพในตนเองและผู้อื่น
3. ความรบั ผิดชอบต่อสังคม
4. ความรบั ผดิ ชอบต่อส่งิ แวดลอ้ ม
5. การเปิดใจกวา้ ง
6. เจตคติในการพัฒนา วสิ ยั ทศั น์
7. เป็นสมาชิกชุมชนท่ีแข็งขัน มสี ่วนร่วมรับผิดชอบ พัฒนาทักษะท่ีเก่ียวข้อง และสร้างเสริมเจต
คติในการเปน็ พลโลกท้ังในระดบั บคุ คลและสว่ นรวม

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

72

โครงสรา้ งรายวิชาเพิ่มเติมการจดั กิจกรรมการนาองคค์ วามรไู้ ปใช้บรกิ ารสังคม

(Social Service Activity: IS3)

ชือ่ หน่วยการ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 นา้ หนกั
เรียนรู้ คะแนน
หนว่ ยท่ี ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ ชวั่ โมง

1 เตรียมความ 1. วางโครงรา่ งการ การเชื่อมโยงทบทวนความรู้ 4 / 4 10

พรอ้ ม เขียนตามหลกั เกณฑ์ จากการศึกษาคน้ ควา้ การ

องค์ประกอบและ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรา้ ง

วิธีการเขียนโครงร่าง องค์ความรู้มาสู่การส่อื สาร

5. เห็นประโยชน์และ และการนาเสนอ มาเขียนสรปุ

คุณค่าในการสรา้ งสรรค์ ความให้เป็นความเรยี งเชงิ

งานและถ่ายทอดส่งิ ที่ วชิ าการพร้อมอ้างอิงตามหลกั

เรียนรู้แกส่ าธารณะ วชิ าการเป็นพื้นฐานสาคญั ของ

การส่ือสารและการนาเสนอให้

เหมาะสมกับผูอ้ า่ น/ผู้ฟัง

2 ฝึกซ้อมเขยี น 1. วางโครงร่างการ การฝกึ เขียนโครงร่างรายงาน 6 / 8 20

โครงร่าง เขยี นตามหลักเกณฑ์ เชงิ วชิ าการ ซ่ึงมีองค์ประกอบ

องคป์ ระกอบและวิธีการ ด้วยชอ่ื เรือ่ ง ความนา

เขียนโครงร่าง วัตถปุ ระสงค์ สมมตุ ฐิ าน

ขอบเขตการศกึ ษา เนอ้ื หา วิธี

การศกึ ษาและการเกบ็ รวบรวม

ข้อมูล เปน็ การวางแผน การ

เขยี นรายงานเชงิ วชิ าการอย่าง

เปน็ ระบบ และการตรวจสอบ

ทั้งดว้ ยตนเอง และเพื่อนช่วย

ตรวจสอบโดยใช้สัญลกั ษณใ์ น

การตรวจสอบชว่ ยใหร้ ายงาน

เชงิ วชิ าการนัน้ ถกู ต้องแมน่ ยา

และสมบรู ณ์ยง่ิ ขึน้

3 สร้างผลงาน 2. เขียนรายงาน การถ่ายโอนองค์ความรจู้ าก 18 / 28 40

เขียน การศึกษาค้นควา้ เชงิ การศกึ ษา คน้ ควา้ และข้อ

วชิ าการภาษาไทย คน้ พบโดยการรายงานทใ่ี ช้

ความยาว 2,500 คา รูปแบบการเขียนรายงานเชงิ

วิชาการได้ครบองค์ประกอบ

และถูกตอ้ งตาม

หลักวชิ าการเป็นการสอื่ สารท่ีมี

ประสิทธิภาพ

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

73

หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ชว่ั โมง น้าหนัก
เรียนรู้ คะแนน
3. นาเสนอขอ้ คน้ พบ
4 เพยี รนาเสนอ ขอ้ สรปุ จากประเด็นท่ี การนาเสนอผลงานจาก 12 / 20 30
เลือกในรปู แบบเดยี่ ว
(Oral individual การศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ คน้ พบ
presentation) หรอื
กลุม่ (Oral panel โดยมกี ารเตรียมความพร้อม
presentation)
โดยใช้สื่อ อุปกรณ์ใน ของผูน้ าเสนอ
การนาเสนอได้อย่าง
เหมาะสม การเลอื กรปู แบบประเภทสือ่
4. เผยแพร่ผลงานสู่
สาธารณะ ประกอบการนาเสนอให้

รวม เหมาะสม และสอดคล้องกบั

ตามความต้องการ ความสนใจ

ความช่นื ชอบ ของผู้ฟัง ชว่ ยให้

การเผยแพรผ่ ลงานไดอ้ ย่างมี

ประสทิ ธผิ ล

40/60 100

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

74

การออกแบบหน่วยการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1

ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ เตรียมความพร้อม รายวิชาเพม่ิ เติม การจดั กิจกรรมการนาองคค์ วามรู้ไป

ใชบ้ รกิ ารสังคม (Social Service Activity: IS3)

ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลา 4 ชวั่ โมง

เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรยี นรู้)

1. วางโครงร่างการเขียนตามหลกั เกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขยี นโครงร่าง

5. เห็นประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ในการสร้างสรรค์งานและถา่ ยทอดส่ิงทเี่ รียนรู้แกส่ าธารณะ

ความเข้าใจที่คงทน (สาระสาคญั / ความคิดรวบ คาถามสาคัญ

ยอด) - จะนาทักษะและองค์ความรทู้ ส่ี งั เคราะห์ไดจ้ าก

การเชอ่ื มโยงทบทวนความรจู้ ากการศึกษา รายวชิ า IS1 มาใช้ในการนาเสนอและการสอื่ สาร

ค้นคว้า การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และสร้างองค์ อย่างไร

ความรู้มาสู่ - การเขยี นสรุปความมวี ธิ ีการอย่างไร

การสอื่ สารและการนาเสนอ มาเขียนสรุปความให้ - การเขียนความเรียงวธิ กี ารอยา่ งไร

เปน็ ความเรียงเชิงวิชาการพร้อมอา้ งอิงตามหลัก - การเขียนอ้างองิ วิธีการอย่างไร

วชิ าการ

เปน็ พ้นื ฐานสาคัญของการส่อื สารและการนาเสนอ

ใหเ้ หมาะสมกบั ผอู้ ่าน / ผูฟ้ ัง

ผู้เรยี นรอู้ ะไร(สาระการเรียนรู้) ผ้เู รียนทาอะไรได้(ทักษะ/ทักษะกระบวนการ)

- การเชอื่ มโยงข้อมลู และองคค์ วามร้จู ากรายวิชา - รวบรวมข้อมูลและองค์ความร้จู ากรายวชิ า IS1

IS1 มาเช่อื มโยงสู่การนาเสนอและการสอื่ สาร

สกู่ ารเรยี นรายวชิ า IS2 - เขียนสรปุ ความและนามาเช่ือมเปน็ ความเรยี ง

- การเขียนสรปุ ความ - เขียนอ้างอิงได้ถูกหลักการ

- การเขยี นความเรยี ง - ทางานร่วมกับผู้อนื่ ตามกระบวนการกล่มุ

- การเขยี นอ้างอิง - ตรวจสอบงานเขียนความเรยี ง

- วิพากษง์ านเขียนความเรยี งของผู้อืน่

- นาข้อวิพากษ์มาปรบั ปรุงงานเขยี นของตน

- นาข้อมูลจาก IS1มาวางแผนปฏิบตั ิใน IS2 - IS3

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี ินัย

2. ใฝ่เรียนรู้

3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

75

การออกแบบการวดั ผลประเมนิ ผล
ภาระงานรวบยอด / ชิน้ งาน

นาเสนอการวางแผนนาข้อมูลจากรายวชิ า IS1 สูก่ ารจัดทารายงานเชงิ วิชาการในรายวชิ า IS2 และ
เชอื่ มโยง
นาความรูส้ กู่ ารปฏบิ ัติบริการสงั คมในรายวิชา IS3
เกณฑ์การประเมนิ ภาระงาน/ชนิ้ งาน(ระบปุ ระเด็นประเมิน)
- ความครบถว้ นสมบูรณ์ของข้อมลู
- การเช่ือมโยงองค์ความรสู้ ู่การเขยี น
- ความสมั พนั ธ์เชงิ เหตผุ ลของการศึกษา IS1 - IS3

ร่องรอยการเรียนรอู้ นื่ ๆ
- แบบบนั ทึกต่าง ๆ ทเี่ ก่ียวกับการวิเคราะห์ / สังเคราะหข์ ้อมูล
- แบบบันทึกการเช่ือมข้อมูลจาก IS1 - IS3
- แบบบนั ทึกเก่ียวกับกระบวนการทางาน

การวางแผนการเรียนรู้
กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. รวบรวมข้อมลู พนื้ ฐานจากการเรยี น IS1 มาทบทวนความรู้จากการศกึ ษาคน้ คว้า วิเคราะห์ สงั เคราะห์
และสร้างองค์ความรมู้ าสูก่ ารสือ่ สารและการนาเสนอ
2. ตรวจสอบความสมบรู ณข์ องข้อมูลทีจ่ ะนามาออกแบบ วางแผนเชือ่ มโยงข้อมลู สกู่ ารเรียน IS2
3. ฝึกทกั ษะการเขียนสรุปความ
4. ฝกึ ทักษะการเขียนความเรียง
5. ฝกึ ทกั ษะการเขียนอ้างอิง
6. ศกึ ษาตวั อย่างการวางแผนการนาข้อมูลสกู่ ารปฏบิ ัตโิ ดยใช้แผนผงั ความคิด
7. ใชก้ ระบวนการกลุ่มรว่ มกันวางแผนนาข้อมูลจากการสรปุ ความและเขียนความเรยี งใน IS1 สู่การ
จัดทารายงานเชิงวชิ าการใน IS2 และเช่ือมโยงนาความรสู้ กู่ ารปฏบิ ตั ิบรกิ ารสงั คมใน IS3
8. ใช้ความรู้ หลกั การและจินตนาการเพ่ือคาดคะเนคาตอบทเ่ี ป็นไปได้ของการวางแผนจาก IS1 - IS3
9. ร่วมกนั อภปิ รายการวางแผนจาก IS1 - IS3 แล้วนาขอ้ มูลมานาเสนอ
10.รว่ มกนั วพิ ากษ์การวางแผนของแต่และกลุ่ม
11.ปรับปรุงแผนทว่ี างไว้ก่อนนาไปจดั ทาแผนการปฏิบัตริ ะยะยาว
สือ่ / แหลง่ เรียนรู้
1. ตัวอยา่ งการเขยี นสรุปความ, การเขยี นความเรยี ง,การเขียนอา้ งอิง
2. แหล่งคน้ คว้าอา้ งองิ เช่น อินเทอรเ์ นต็ หนังสือ บุคคล ฯลฯ
3. ตัวอย่างการวางแผนระยะยาว
4. แผนผังการคดิ

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

76

คาอธบิ ายรายวิชา
รายวิชา I30201 การศึกษาคน้ คว้าและสร้างองคค์ วามรู้ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์

(Research and Knowledge Formation: IS1)

รายวชิ าเพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1 หนว่ ยกิต

-------------------------------------------------

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกทักษะต้ังประเด็นปัญหา/ต้ังคาถามเก่ียวกับสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์จาก
สถานการณ์ปจั จุบันและสังคมโลก ตง้ั สมมตฐิ านและให้เหตุผลที่สนบั สนุนหรือโต้แย้งประเด็นความรู้ โดย
ใช้ความรู้จากศาสตร์สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และมีทฤษฎีรองรับ ออกแบบวางแผน รวบรวมข้อมูล
ค้นคว้าแสวงหาความรู้เกี่ยวกับสมมติฐานที่ตั้งไว้จากแหล่งเรียนรู้ท้ังปฐมภูมิและทุติยภูมิ และสารสนเทศ
อย่างมีประสิทธิภาพและพิจารณาความน่าเชื่อถือของแหล่งเรียนรู้อย่างมีวิจารณญาณ เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ี
ครบถ้วนสมบูรณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการท่ีเหมาะสม สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้และร่วมกัน มี
กระบวนการกลุ่มในการวิพากษ์ แลกเปล่ียนความคิดเห็น โดยใช้ความรจู้ ากสาขาวิชาตา่ ง ๆ เสนอแนวคิด
วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยกระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบัติ เพ่ือให้
เกิดทักษะในการค้นคว้าแสวงหาความรู้ สังเคราะห์สรุป อภิปรายผลเปรียบเทียบเช่ือมโยงความรู้ ความ
เป็นมาของศาสตร์ เข้าใจหลักการและวิธีคิดในส่ิงที่ศึกษา เห็นประโยชน์และคุณค่าของการศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเอง

ผลการเรยี นรู้
1. ตงั้ ประเดน็ ปญั หาสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตรจ์ ากสถานการณ์ปจั จบุ ันและสงั คมโลก
2. ตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลท่ีสนับสนุนหรือโต้แย้งประเด็นความรู้ โดยใช้ความรู้จากศาสตร์

สาขาต่าง ๆ และมที ฤษฎรี องรบั
3. ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
4. ศกึ ษาคน้ คว้า แสวงหาความรู้เก่ยี วกับประเด็นท่เี ลอื กจากแหลง่ เรียนรู้ทมี่ ปี ระสิทธภิ าพ
5. ตรวจสอบความนา่ เชื่อถือของแหลง่ ท่ีมาของข้อมลู ได้
6. วิเคราะห์ขอ้ ค้นพบดว้ ยสถติ ิทเ่ี หมาะสม
7. สงั เคราะห์สรุปองค์ความร้ดู ว้ ยกระบวนการกลมุ่
8. เสนอแนวคิด การแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองคค์ วามรู้จากการคน้ พบ

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

77

โครงสรา้ งรายวิชาเพ่มิ เติมการศึกษาค้นควา้ และสรา้ งองค์ความรู้สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4

หน่วยที่ ชอื่ หน่วยการ ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
เรยี นรู้ คะแนน
1 จดุ ประกาย 1. ตั้งประเดน็ ปัญหา จาก - การตงั้ ประเด็น 5-9 15
ความจริง สถานการณ์ปัจจุบันและ คาถามเกย่ี วกบั
สงั คมโลก สถานการณ์ปัจจุบัน
2. ต้ังสมมตฐิ านและให้ และสงั คมโลก
เหตุผลที่สนบั สนนุ หรือ - การตงั้ สมมตฐิ านและ
โตแ้ ยง้ ประเด็นความรู้โดยใช้ ใหเ้ หตผุ ลโดยใช้ความรู้
ความรู้จากสาขาวชิ าต่าง ๆ จากศาสตรส์ าขาตา่ งๆ
และมีทฤษฎีรองรับ - การออกแบบการ
3. ออกแบบ วางแผน ใช้ เรยี นรู้โดยมีทฤษฎี
กระบวนการรวบรวมข้อมลู รองรบั
อย่างมีประสิทธิภาพ
2 ทุกสิ่งที่ค้นคว้า 4. ศกึ ษา คน้ ควา้ แสวงหา -การค้นคว้าแสวงหา 10 - 15 20
ความรู้เกี่ยวกับประเดน็ ความรู้เก่ียวกบั
ทเ่ี ลอื ก จากแหล่งเรยี นรทู้ ่ีมี สมมตฐิ านจากแหลง่
ประสิทธิภาพ ปฐมภมู ิ ทุตยิ ภูมิ และ
5. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ สารสนเทศ
ของแหลง่ ทมี่ าของขอ้ มลู
3 ปรารถนา 5.ตรวจสอบความนา่ เชอื่ ถือ - ตรวจสอบความ 10 - 15 25
คาตอบ ของแหลง่ ท่ีมาของข้อมลู ได้ นา่ เช่ือถือของ
6. วิเคราะห์ข้อค้นพบดว้ ย แหล่งทม่ี าของขอ้ มลู
สถิตทิ เ่ี หมาะสม - วิเคราะห์
ความนา่ เชอื่ ถือของ
แหล่งเรียนรู้
4 สรปุ 7. สังเคราะห์สรปุ องค์ - เปรียบเทียบ / 15 - 21 40
องคป์ ระกอบ ความรดู้ ้วยกระบวนการกลุม่ เชอื่ มโยง / สรปุ
ทส่ี มบูรณ์ 8. เสนอแนวคดิ การแก้ องค์ความรดู้ ว้ ย
ปญั หาอยา่ งเป็นระบบด้วย กระบวนการ
องค์ความรู้จากการค้นพบ อยา่ งเป็นระบบ
แผนการทางานของนกั เรียน
รวม 40 - 60 100

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

78

การออกแบบหนว่ ยการเรียนร้กู ลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ จุดประกายความจรงิ รายวชิ าเพม่ิ เติม การศึกษาคน้ คว้าและการสรา้ งองค์

ความรู้

สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 5 ช่วั โมง

เปา้ หมายการเรยี นรู้ (ผลการเรียนรู้)

1. ตง้ั ประเด็นปญั หา จากสถานการณ์ปจั จบุ ันและสงั คมโลก

2. ตั้งสมมติฐานและให้เหตุผลทีส่ นับสนนุ หรือโตแ้ ยง้ ประเด็นความรโู้ ดยใชค้ วามรู้จากสาขาวิชาต่าง

ๆ และมีทฤษฎรี องรบั

3. ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมข้อมลู อยา่ งมีประสิทธิภาพ

ความเข้าใจท่ีคงทน (สาระสาคัญ / ความคดิ คาถามสาคัญ

รวบยอด) - จะต้งั ประเดน็ คาถามเก่ียวกับสถานการณ์ปจั จุบัน

- การตัง้ ประเดน็ คาถามเกีย่ วกบั สถานการณ์ และสังคมโลกได้อย่างไร

ปัจจบุ นั และสงั คมโลก - จะต้งั สมมติฐานและใหเ้ หตุผลโดยใชค้ วามรูจ้ าก

- การตงั้ สมมติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ ศาสตรส์ าขาต่าง ๆ ไดอ้ ย่างไร

ความรู้จากศาสตรส์ าขาต่าง ๆ - จะออกแบบวางแผน ใช้กระบวนการรวบรวม

- การออกแบบ วางแผน กระบวนการ ขอ้ มูลไดอ้ ย่างไร

รวบรวมขอ้ มูล

ผู้เรียนรู้อะไร (สาระการเรยี นรู้) ผเู้ รยี นทาอะไรได้ (ทักษะ / กระบวนการ)

- การต้งั ประเดน็ คาถามเกยี่ วกบั สถานการณ์ - ตงั้ ประเดน็ คาถามทีเ่ กี่ยวกับสถานการณ์และ

และสังคมโลก สังคมโลก

- การตัง้ สมมตฐิ าน - ต้ังสมมตฐิ าน

- การออกแบบ วางแผน กระบวนการ - ออกแบบ วางแผน กระบวนการรวบรวมขอ้ มูล

รวบรวมข้อมลู - ทางานร่วมกบั ผู้อ่นื ตามกระบวนการกล่มุ

- ตรวจสอบการตงั้ ประเดน็ คาถาม การ

ตั้งสมมติฐานการออกแบบ วางแผน กระบวนการ

รวบรวมขอ้ มูล

- วพิ ากษ์การต้งั ประเด็นคาถาม การต้ังสมมตฐิ าน

การออกแบบ วางแผน กระบวนการรวบรวมขอ้ มูล

ของผู้อ่นื

- นาข้อวิพากษ์มาปรับปรุงงานงานของตน

- นาข้อมลู มาออกแบบวางแผน รวบรวมขอ้ มูล

ตามกระบวนการ

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

79

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุง่ มน่ั ในการทางาน
3. จติ สาธารณะ

การออกแบบการวัดผลประเมนิ ผล
ภาระงานรวบยอด / ช้ินงาน

ออกแบบ วางแผนกระบวนการรวบรวมขอ้ มลู รายบุคคล
เกณฑก์ ารประเมนิ ภาระงาน / ชิน้ งาน (ระบุประเด็นประเมนิ )
- ความครบถว้ นสมบรู ณ์ของข้อมลู
- กระบวนการรวบรวมมรี ะบบชัดเจน สะดวกตอ่ การใช้ ตรวจสอบได้
ร่องรอยการเรียนรู้อ่ืน ๆ
- แบบบนั ทกึ ต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวกับการตัง้ ประเด็นคาถาม / การตั้งสมมตฐิ าน
- แบบบันทึกการออกแบบ วางแผนกระบวนการรวบรวมขอ้ มลู
- แบบบนั ทกึ เก่ียวกับกระบวนการทางาน

การวางแผนการเรียนรู้
กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครนู าเสนอตัวอยา่ งประเดน็ ความรจู้ ากสถานการณ์ปจั จบุ ันและสังคมโลก
2. นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะหป์ ระเด็นความรู้ทีม่ คี วามเช่อื มโยงในศาสตรห์ ลายสาขาทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั
สถานการณป์ ัจจบุ นั และสงั คมโลกท่มี ีความท้าทาย
3. ตงั้ สมมตฐิ าน และข้อสันนิษฐานของประเดน็ ความร้ทู สี่ นใจ
4. ครตู ้ังคาถามกระต้นุ ให้นักเรียน แสดงความคดิ ทห่ี ลากหลายต่างมมุ โดยใชส้ าขาวชิ าต่าง ๆ ใช้
วิธกี ารสนับสนุนหรอื โต้แย้งคัดค้าน และใหเ้ หตผุ ลตามความรขู้ องศาสตรท์ ี่มี
5. แบ่งกลมุ่ นักเรยี นคน้ คว้าข้อมลู เพิ่มเตมิ จากแหลง่ เรียนรู้ วิธกี ารออกแบบ วางแผนเกบ็ รวบรวม
ขอ้ มลู อยา่ งเป็นระบบ
6. ร่วมกันอภปิ รายวธิ กี ารออกแบบ วางแผนเก็บรวบรวมข้อมูลที่หลากหาย
7. ร่วมกนั สรปุ วิธกี ารออกแบบ วางแผนเก็บรวบรวมขอ้ มลู ของกล่มุ และนาเสนอ
8. รว่ มตรวจสอบการออกแบบ วางแผนกระบวนการรวบรวมข้อมูลของแตล่ ะกลุ่ม
9. วพิ ากษ์การออกแบบ วางแผนกระบวนการรวบรวมข้อมูล
10. นาข้อวพิ ากษ์มาปรบั ปรุงงานงานของตน
11. นาแนวทางการออกแบบวางแผน รวบรวมข้อมูลตามกระบวนการมาจดั ทารายบคุ คล
สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
1. ตัวอย่างการเขียนประเดน็ ความรู้จากสถานการณ์ปจั จบุ ันและสงั คมโลก การเขียนสมมตฐิ าน
2. แหล่งค้นคว้าอ้างอิง เชน่ อินเทอร์เนต็ หนงั สือ บุคคล ฯลฯ
3. ตวั อยา่ งการออกแบบวางแผนรวบรวมข้อมูล

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

80

คาอธบิ ายรายวชิ า

รายวิชา I30202 การส่อื สารและการนาเสนอ

(Communication and Presentation: IS2)

รายวชิ าเพม่ิ เติม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 จานวน 1 หน่วยกิต

-------------------------------------------------

ศึกษา เรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดอย่างสร้างสรรค์จากรายวิชา IS1 (Research and
Knowledge Formation) เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก โดยเขียนโครงร่าง บทนา เน้ือเรื่อง
สรุป ในรูปของรายงานการศกึ ษาค้นคว้าเชิงวิชาการเปน็ ภาษาไทยความยาว จานวน 4,000 คา หรือ เป็น
ภาษาอังกฤษ ความยาว 2,000 คา มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ท่ีเชื่อถือได้อย่างหลากหลายเชื่อถือได้ ท้ังใน
ประเทศและต่างประเทศ เรียบเรียงและถ่ายทอดส่ือสาร นาเสนอความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบ มีการ
นาเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่อเทคโนโลยี
ท่ีหลากหลาย และมีการเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพ่ือให้เกิดทักษะ ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ
และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดส่ิงที่
เรยี นร้ใู ห้เปน็ ประโยชน์แกส่ าธารณะ

ผลการเรยี นรู้
1. วางโครงร่างการเขียนตามหลกั เกณฑ์ องคป์ ระกอบและวธิ ีการเขียนโครงรา่ ง
2. เขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้ เชงิ วชิ าการเป็นภาษาไทยความยาว 4,000 คา หรือ

ภาษาอังกฤษ ความยาว 2,500 คา
3. นาเสนอข้อค้นพ บ ข้อสรุปจากประเด็นท่ีเลือกในรูป แบบเด่ียว (Oral individual

presentation) หรอื กลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใชส้ ่อื เทคโนโลยีทห่ี ลากหลาย
4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ โดยใช้การสนทนา / วพิ ากษผ์ า่ นสือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ เช่น

e-conference, social media online
5. เห็นประโยชนแ์ ละคุณคา่ การสรา้ งสรรคง์ านและถ่ายทอดสิ่งท่ีเรยี นรใู้ ห้เปน็ ประโยชน์

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

81

ตวั อยา่ งโครงสร้างรายวิชาเพิ่มเตมิ การส่ือสารและการนาเสนอ

ชื่อหน่วยการ ระดับมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 น้าหนัก
เรยี นรู้ คะแนน
หนว่ ยท่ี ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ ช่ัวโมง

1 ฝกึ ซอ้ มเขยี น 1.วางโครงร่างการ การฝึกเขียนโครงร่างรายงาน 6/8 20
โครงรา่ ง เขียนตามหลักเกณฑ์ เชงิ วชิ าการซึง่ มอี งคป์ ระกอบดว้ ย
องคป์ ระกอบและ ชอื่ เรอ่ื ง ความนา วัตถปุ ระสงค์
วธิ กี ารเขียนโครงรา่ ง สมมุติฐาน ขอบเขตการศกึ ษา
เนอ้ื หา วธิ ีการศกึ ษาและการเกบ็
รวบรวมขอ้ มลู เป็นการวาง
แผนการเขยี นรายงานเชงิ
วชิ าการอย่างเปน็ ระบบ และการ
ตรวจสอบทัง้ ด้วยตนเอง และ
เพื่อนช่วยตรวจสอบโดยใช้
สัญลกั ษณใ์ นการตรวจสอบชว่ ย
ใหร้ ายงานเชงิ วชิ าการน้ันถกู ต้อง
แม่นยาและสมบรู ณย์ ่งิ ขึ้น
2 สร้างผลงาน 2. เขียนรายงาน การถา่ ยโอนองค์ความรู้จาก 18/28 40
เขียน การศกึ ษาคน้ ควา้ เชิง การศกึ ษา ค้นคว้า และข้อคน้ พบ
วิชาการภาษา ไทย โดยการรายงานท่ใี ช้รูปแบบการ
ความยาว 4,000 คา เขียนรายงานเชิงวิชาการไดค้ รบ
หรอื ภาษาอังกฤษ องคป์ ระกอบและถูกตอ้ งตาม
ความยาว 2,500 คา หลกั วิชาการเป็นการส่ือสารท่ีมี
ประสิทธิภาพ
3 เพียรนาเสนอ 3. นาเสนอขอ้ ค้นพบ การนาเสนอผลงานจาก 12/20 30
ขอ้ สรุปจากประเดน็ ท่ี การศึกษาค้นคว้า ขอ้ ค้นพบโดยมี
เลือกในรปู แบบเด่ยี ว การเตรียมความพร้อมของผู้
(Oral individual นาเสนอ
presentation) หรือ การเลือกรปู แบบประเภทส่ือ
กลุ่ม (Oral panel ประกอบการนาเสนอให้
presentation) โดย เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั ตาม
ใชส้ ่อื เทคโนโลยีท่ี ความตอ้ งการ ความสนใจ ความ
หลากหลาย ชืน่ ชอบ ของผฟู้ ัง ช่วยให้การ
เผยแพรผ่ ลงานได้อย่างมี
ประสทิ ธผิ ล
4 Show and 5. เหน็ ประโยชนแ์ ละ การเผยแพร่ผลงานการเขยี น 4/4 10
Share คณุ คา่ ในการ รายงานการค้นควา้ ด้วยการจัด
สรา้ งสรรคง์ านและ นิทรรศการ / เผยแพรด่ ว้ ย
ถา่ ยทอดส่งิ ท่ีเรยี นรู้ วธิ ีการทหี่ ลากหลาย
แก่สาธารณะ
รวม 40/60 100

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

82

การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ สาระการเรียนรูค้ ณิตสาสตร์

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1

ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ เขยี นโครงรา่ ง รายวชิ าเพิ่มเตมิ การสื่อสารและการนาเสนอ
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 6 ชวั่ โมง

เป้าหมายการเรยี นรู้ (ผลการเรียนรู้)
1. วางโครงร่างการเขยี นตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขยี นโครงร่าง

ความเข้าใจทีค่ งทน (สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด) คาถามสาคญั
การเขยี นโครงร่างรายงานเชงิ วิชาการ มอี งคป์ ระกอบ - การเขียนโครงรา่ งรายงานเชิงวิชาการ
คอื ชอ่ื เรื่อง ความนา วตั ถุประสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขต มอี งคป์ ระกอบอย่างไร
การศกึ ษา เน้อื หา วธิ กี ารศึกษาและการเกบ็ รวบรวม - การเขยี นโครงรา่ งรายงานเชงิ วิชาการ
ข้อมูล เปน็ การวางแผนการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ท่ีสมบรู ณ์มีลกั ษณะอย่างไร
อยา่ งเปน็ ระบบ และการตรวจสอบทงั้ ด้วยตนเอง และ
เพ่อื นช่วยตรวจสอบโดยใช้สัญลกั ษณ์ในการตรวจสอบ
ชว่ ยให้รายงานเชงิ วิชาการนน้ั ถูกต้องแมน่ ยาและสมบรู ณ์
ย่ิงข้ึน

ผเู้ รียนร้อู ะไร (สาระการเรยี นรู้) ผู้เรยี นทาอะไรได้ (ทกั ษะ/ทักษะ
การวางโครงร่างการเขียนรายงานเชิงวิชาการ กระบวนการ)
- องค์ประกอบของโครงร่าง - เขยี นโครงรา่ งรายงานเชงิ วชิ าการ
- ช่ือเรอ่ื ง - ทางานร่วมกับผู้อนื่ ตามกระบวนการกลุ่ม
- ความนา - ตรวจสอบงานเขียนโครงร่างเชิงวิชาการ
- วัตถปุ ระสงค์ - วพิ ากษง์ านเขยี นโครงร่างของผู้อนื่
- สมมุติฐาน - นาข้อวิพากษ์มาปรบั ปรุงงานเขยี นโครงรา่ ง
- ขอบเขตการศกึ ษาค้นคว้า ของตน
- เนอ้ื เรือ่ ง
- วิธีการศึกษาและรวบรวมข้อมูล

คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุง่ ม่ันในการทางาน

การออกแบบการวดั ผลประเมนิ ผล

ภาระงานรวบยอด / ชน้ิ งาน
โครงร่างรายงานเชงิ วิชาการฉบบั สมบรู ณ์

เกณฑ์การประเมนิ ภาระงาน / ชิ้นงาน (ระบปุ ระเด็นประเมิน)
- ความครบถ้วนขององค์ประกอบโครงรา่ งรายงานเชิงวชิ าการ
- ความถูกต้องสมบรู ณ์ของโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ

รอ่ งรอยการเรียนรู้อน่ื ๆ
- แบบบันทกึ ต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วกับการตรวจสอบ / วพิ ากษ์
- แบบบันทกึ การประเมินการเขยี นโครงร่างรายงานเชิงวชิ าการ
- แบบบนั ทึกเก่ยี วกับกระบวนการทางาน

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

83

การวางแผนการเรียนรู้
กจิ กรรมการเรยี นรู้

นักเรยี นจะ
1. ศึกษาวธิ เี ขยี นองคป์ ระกอบโครงรา่ งรายงานเชงิ วชิ าการฉบบั สมบูรณ์
2. ร่วมกันฝึกเขยี นองคป์ ระกอบโครงรา่ งรายงานเชิงวิชาการ
3. กลุ่มอภปิ รายการเขยี นองค์ประกอบโครงรา่ งรายงานเชงิ วชิ าการ
4. สรุปผลการอภิปรายการเขียนองค์ประกอบโครงร่างรายงานเชงิ วิชาการของกลุม่ เตรียมนาเสนอ
5. กลุ่มนาเสนอโครงรา่ งรายงานเชิงวิชาการ
6. รว่ มกนั ตรวจสอบและวพิ ากษค์ วามสมบูรณข์ องโครงร่างรายงานเชิงวชิ าการ
7. กลุม่ ปรบั โครงร่างรายงานเชงิ วชิ าการตามข้อเสนอแนะ
8. นักเรยี นแต่ละคนนาแนวทางการจดั ทาโครงร่างรายงานเชิงวชิ าการทถ่ี ูกต้อง ไปจัดทาโครงร่าง
รายงาน เชงิ วชิ าการของตนเอง
สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
1. ตวั อย่างการเขียนโครงร่างรายงานเชิงวชิ าการ
2. แหล่งค้นควา้ อา้ งอิง เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ บคุ คล ฯลฯ

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

84

คาอธิบายรายวิชา
รายวชิ า I30903 การจัดกจิ กรรมการนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสงั คม

(Social Service Activity: IS3)

รายวิชาเพิ่มเติม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวน 1 หนว่ ยกิต

การจัดกิจกรรมการนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity : IS3) เป็น
กระบวนการจัดการเรียนรู้เพ่ือการเปลี่ยนแปลงในเชิงลึกท้ังด้านพื้นฐานความคิด ความรู้สึกและ
การกระทาที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเชื่อมโยงประสานสัมพันธ์ ความเสมอภาค ความยุติธรรมใน
สังคม ความเข้าใจกันในระหว่างมนุษย์ มุ่งเน้นกระบวนการตัดสินใจแบบมีส่วนร่วมเพ่ือให้ผู้เรียน
มคี วามตระหนักรู้ในตนเอง ร่วมกันศึกษาสภาพและการเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถ่ินที่จะส่งผลกระทบต่อ
สังคมโลก โดยการวิเคราะห์ข้อค้นพบ ข้อสรุป ความคิดใหม่ องค์ความรู้ใหม่ ที่เป็นความจริงใกล้ตัวของ
ผเู้ รยี น เลือกนาประเดน็ / เรือ่ งราวท่ีสมั พันธ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระตนุ้ ใหเ้ ช่ือมโยงเหตุการณ์ในระดับ
ท้องถิ่นกับระดับโลกในภาพกว้าง และอภิปราย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ของเหตกุ ารณด์ งั กล่าวโดยจดั เปน็ กิจกรรม โครงการ หรือโครงงาน

เปา้ หมายคณุ ภาพผ้เู รียน มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

คณุ ภาพผ้เู รยี น - นาความร้ไู ปประยุกต์สร้างสรรคป์ ระโยชน์ต่อสังคม
การนาความรไู้ ปใช้ และโลก
บริการสงั คม - เผยแพรค่ วามรู้และประสบการณท์ ี่ไดจ้ ากการลงมือ
ปฏบิ ตั ิเพ่อื ประโยชน์ต่อสังคมและโลก

การจดั กจิ กรรมการนาองค์ความรู้ไปใชบ้ ริการสงั คมมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือให้ผเู้ รยี นได้พฒั นาตนเอง และพฒั นาซง่ึ กนั
ฐานความรใู้ นเรอ่ื งต่าง ๆ ของโลก ได้แก่

1. ความนบั ถอื และเชอ่ื มัน่ ในตนเอง
2. ความเคารพในตนเองและผอู้ นื่
3. ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม
4. ความรับผิดชอบตอ่ สิ่งแวดล้อม
5. การเปดิ ใจกวา้ ง
6. เจตคติในการพัฒนา วิสัยทัศน์
7. เปน็ สมาชิกชุมชนท่ีแขง็ ขัน มีสว่ นร่วมรับผิดชอบ พัฒนาทักษะท่ีเก่ียวข้อง และสร้างเสรมิ เจต
คตใิ นการเป็นพลโลกทัง้ ในระดบั บุคคลและส่วนรวม

เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

85

โครงสร้างรายวิชาเพ่มิ เติมการจดั กจิ กรรมการนาองคค์ วามรูไ้ ปใช้บรกิ ารสังคม

(Social Service Activity: IS3) ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5
ชอ่ื หน่วยการ น้าหนัก
หนว่ ยท่ี เรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ชัว่ โมง คะแนน

1 เตรยี มความ 1. วางโครงรา่ งการ การเชอื่ มโยงทบทวนความรู้ 4/4 10

พรอ้ ม เขยี นตามหลักเกณฑ์ จากการศึกษาคน้ ควา้ การ

องค์ประกอบและ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และสรา้ ง

วธิ กี ารเขยี นโครงรา่ ง องค์ความรมู้ าสกู่ ารส่ือสาร

5. เห็นประโยชนแ์ ละ และการนาเสนอ มาเขยี น

คณุ ค่าในการสร้างสรรค์ สรุปความให้เปน็ ความเรยี งเชงิ

งานและถ่ายทอดสงิ่ ที่ วชิ าการพรอ้ มอ้างองิ ตามหลัก

เรยี นรแู้ ก่สาธารณะ วิชาการเปน็ พ้ืนฐานสาคญั ของ

การส่ือสารและการนาเสนอให้

เหมาะสมกบั ผอู้ ่าน / ผูฟ้ ัง

2 ฝึกซอ้ มเขยี น 1. วางโครงร่างการ การฝกึ เขียนโครงร่างรายงาน 6/8 20

โครงรา่ ง เขียนตามหลกั เกณฑ์ เชิงวชิ าการ ซึ่งมีองคป์ ระกอบ

องค์ประกอบและ ดว้ ย

วิธีการเขียนโครงร่าง ชือ่ เรอื่ ง ความนา วัตถุประสงค์

สมมตุ ฐิ าน ขอบเขตการศกึ ษา

เน้ือหา วธิ กี ารศกึ ษาและการ

เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล เปน็ การ

วางแผน การเขียนรายงานเชิง

วิชาการอย่างเป็นระบบ และ

การตรวจสอบท้งั ด้วยตนเอง

และเพื่อนชว่ ยตรวจสอบโดยใช้

สัญลักษณ์ในการตรวจสอบ

ชว่ ยใหร้ ายงานเชงิ วชิ าการนนั้

ถูกต้องแม่นยาและสมบูรณ์

ยิ่งขนึ้

3 สรา้ งผลงาน 2. เขยี นรายงาน การถา่ ยโอนองคค์ วามรจู้ าก 18/28 40

เขียน การศึกษาค้นคว้าเชงิ การศึกษา ค้นคว้า และข้อ

วิชาการภาษาไทย คน้ พบโดยการรายงานที่ใช้

ความยาว 2,500 คา รปู แบบการเขียนรายงานเชงิ

วิชาการได้ครบองคป์ ระกอบ

และถูกตอ้ งตาม

หลักวิชาการเปน็ การสือ่ สารท่ีมี

ประสิทธิภาพ

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

86

หน่วยที่ ชอ่ื หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ช่วั โมง น้าหนัก
เรยี นรู้ คะแนน
3. นาเสนอขอ้ ค้นพบ
4 เพยี รนาเสนอ ขอ้ สรปุ จากประเด็นที่ การนาเสนอผลงานจาก 12/20 30
เลือกในรูปแบบเดยี่ ว
(Oral individual การศกึ ษาคน้ คว้า ข้อคน้ พบ
presentation) หรอื
กลุ่ม (Oral panel โดยมีการเตรยี มความพร้อม
presentation)
โดยใช้ส่ือ อุปกรณ์ใน ของผนู้ าเสนอ
การนาเสนอได้อย่าง
เหมาะสม การเลอื กรูปแบบประเภทสื่อ
4. เผยแพร่ผลงานสู่
สาธารณะ ประกอบการนาเสนอให้

รวม เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั

ตามความต้องการ ความสนใจ

ความช่ืนชอบ ของผ้ฟู งั ชว่ ยให้

การเผยแพร่ผลงานได้อย่างมี

ประสิทธิผล

40/60 100

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

87

การออกแบบหนว่ ยการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1

ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ เตรียมความพร้อม รายวิชาเพิ่มเติม การจัดกิจกรรมการนาองค์ความรไู้ ป

ใชบ้ รกิ ารสงั คม (Social Service Activity: IS3)

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 2 ช่วั โมง

เป้าหมายการเรียนรู้ (ผลการเรียนรู้)

1. วางโครงรา่ งการเขียนตามหลกั เกณฑ์ องคป์ ระกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง

5. เหน็ ประโยชน์และคณุ คา่ ในการสร้างสรรคง์ านและถา่ ยทอดสิ่งท่ีเรยี นรู้แก่สาธารณะ

ความเข้าใจที่คงทน (สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด) คาถามสาคัญ

การเชอ่ื มโยงทบทวนความรจู้ ากการศึกษาค้นคว้า - จะนาทกั ษะและองคค์ วามรทู้ ี่สงั เคราะห์ได้

การวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้มาสู่ จากรายวิชา IS1 มาใช้ในการนาเสนอและการ

การส่ือสารและการนาเสนอ มาเขยี นสรุปความให้เป็น สือ่ สารอย่างไร

ความเรียงเชิงวชิ าการพร้อมอ้างอิงตามหลักวิชาการ - การเขยี นสรุปความมีวิธกี ารอย่างไร

เปน็ พ้นื ฐานสาคญั ของการสื่อสารและการนาเสนอให้ - การเขยี นความเรยี งวธิ ีการอย่างไร

เหมาะสมกบั ผอู้ า่ น/ผู้ฟงั - การเขยี นอา้ งอิงวธิ ีการอยา่ งไร

ผ้เู รยี นรู้อะไร(สาระการเรยี นรู้) ผ้เู รียนทาอะไรได้(ทกั ษะ/ทักษะกระบวนการ)

- การเชอ่ื มโยงขอ้ มูลและองค์ความรจู้ ากรายวชิ า - รวบรวมขอ้ มลู และองค์ความรูจ้ ากรายวิชา

IS1 IS1

ส่กู ารเรยี นรายวชิ า IS2 มาเชื่อมโยงสู่การนาเสนอและการสื่อสาร

- การเขยี นสรุปความ - เขยี นสรปุ ความและนามาเชอ่ื มเปน็ ความเรยี ง

- การเขยี นความเรยี ง - เขยี นอ้างอิงได้ถูกหลักการ

- การเขียนอ้างอิง - ทางานรว่ มกับผู้อืน่ ตามกระบวนการกลุ่ม

- ตรวจสอบงานเขียนความเรยี ง

- วิพากษง์ านเขยี นความเรียงของผู้อ่นื

- นาขอ้ วิพากษม์ าปรับปรงุ งานเขียนของตน

- นาขอ้ มลู จาก IS1มาวางแผนปฏบิ ตั ใิ น IS2 -

IS3

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวนิ ยั

2. ใฝ่เรยี นรู้

3. มุ่งมัน่ ในการทางาน

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

88

การออกแบบการวัดผลประเมนิ ผล
ภาระงานรวบยอด / ชนิ้ งาน

นาเสนอการวางแผนนาข้อมลู จากรายวิชา IS1 ส่กู ารจดั ทารายงานเชงิ วิชาการในรายวิชา IS2 และ
เชื่อมโยง
นาความรู้สูก่ ารปฏบิ ัตบิ รกิ ารสงั คมในรายวชิ า IS3
เกณฑ์การประเมนิ ภาระงาน/ชนิ้ งาน(ระบุประเด็นประเมิน)
- ความครบถว้ นสมบูรณ์ของข้อมลู
- การเชอ่ื มโยงองคค์ วามรสู้ ู่การเขยี น
- ความสัมพันธ์เชงิ เหตุผลของการศึกษา IS1 - IS3
ร่องรอยการเรียนร้อู น่ื ๆ
- แบบบันทึกต่าง ๆ ทีเ่ กยี่ วกับการวเิ คราะห์ / สังเคราะห์ข้อมูล
- แบบบันทกึ การเชื่อมข้อมลู จาก IS1 - IS3
- แบบบันทึกเกีย่ วกบั กระบวนการทางาน

การวางแผนการเรยี นรู้
กจิ กรรมการเรยี นรู้
นักเรยี นจะ
1. รวบรวมข้อมูลพื้นฐานจากการเรียน IS1 มาทบทวนความรู้จากการศกึ ษาค้นควา้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์
และสร้างองค์ความร้มู าสกู่ ารสอ่ื สารและการนาเสนอ
2. ตรวจสอบความสมบรู ณข์ องข้อมลู ที่จะนามาออกแบบ วางแผนเช่อื มโยงข้อมลู สูก่ ารเรียน IS2
3. ฝึกทักษะการเขียนสรปุ ความ
4. ฝึกทกั ษะการเขียนความเรียง
5. ฝึกทักษะการเขียนอ้างอิง
6. ศึกษาตัวอย่างการวางแผนการนาข้อมูลสกู่ ารปฏิบัติโดยใช้แผนผังความคิด
7. ใชก้ ระบวนการกลุ่มรว่ มกนั วางแผนนาข้อมลู จากการสรปุ ความและเขียนความเรียงใน IS1 สกู่ าร
จดั ทารายงานเชงิ วิชาการใน IS2 และเชือ่ มโยงนาความรสู้ กู่ ารปฏบิ ตั ิบริการสงั คมใน IS3
8. ใช้ความรู้ หลักการและจนิ ตนาการเพ่ือคาดคะเนคาตอบทเี่ ป็นไปได้ของการวางแผนจาก IS1 - IS3
9. ร่วมกนั อภปิ รายการวางแผนจาก IS1 - IS3 แล้วนาขอ้ มูลมานาเสนอ
10.รว่ มกนั วพิ ากษก์ ารวางแผนของแตแ่ ละกลุม่
11.ปรับปรุงแผนท่วี างไว้กอ่ นนาไปจัดทาแผนการปฏิบตั ริ ะยะยาว
สือ่ / แหล่งเรยี นรู้
1. ตัวอย่างการเขยี นสรปุ ความ, การเขยี นความเรยี ง,การเขียนอา้ งองิ
2. แหลง่ ค้นควา้ อา้ งองิ เช่น อินเทอรเ์ น็ต หนังสือ บคุ คล ฯลฯ
3. ตัวอยา่ งการวางแผนระยะยาว
4. แผนผังการคิด

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

89

แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

กาหนดสดั สว่ นคะแนน ระหว่างเรยี น:ปลายภาค 80 : 20
กาหนดวิธกี ารวดั ผล
ด้านความรู้
ด้านทกั ษะกระบวนการ
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
เกณฑ์การประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เป็นการวัดและประเมินผลที่
ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสอดคล้องกับผล
การเรียนรู้ท่ีคาดหวังรายปี และมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา มุ่งเน้นการวัด
สมรรถภาพโดยรวมของผู้เรียนเป็นหลัก โดยมีจุดประสงค์ของการวัดและประเมินผลเพ่ือนาผลการ
ประเมินไปใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนเพื่อช่วยพัฒนาผู้เรียนให้สามารถเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพและเตม็ ตามศกั ยภาพ และตัดสินผลการเรียนของผู้เรยี น

คุณภาพของผูเ้ รยี นท่ีต้องประเมนิ
1. ด้านความรู้
ในการวัดและประเมนิ ผลดา้ นความรู้ ตอ้ งสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรทู้ ั้ง 5 สาระ ดังน้ี

1.1 จานวนและการดาเนินการ
1.2 การวดั
1.3 เรขาคณติ
1.4 พีชคณติ
1.4 การวิเคราะห์ข้อมลู และความน่าจะเป็น
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
ในการวดั และประเมนิ ผลด้านทักษะ/กระบวนการ เป็นการวัดความสามารถของนักเรยี น
ครอบคลุมประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
2.1 การแก้ปญั หา
2.2 การให้เหตผุ ล
2.3 การสื่อสาร การสือ่ ความหมายและการนาเสนอ
2.4 การเชือ่ มโยง
2.5 ความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์
3. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เพือ่ ใหส้ ามารถอยูร่ ่วมกับผ้อู ืน่ ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเปน็ พลเมอื งไทยและพลเมอื งโลก ดงั น้ี
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
2. ซอ่ื สัตย์สุจริต

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

90

3. มวี นิ ัย
4. ใฝ่เรียนรู้

5. อย่อู ยา่ งพอเพียง

6. มุง่ มัน่ ในการทางาน
7. รักความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ

เกณฑก์ ารประเมิน

1. การให้คะแนนผลการเรยี นร้โู ดยการสอบ

1.1 สาหรับแบบทดสอบทเี่ ป็นแบบปรนัยเลอื กตอบ สามารถกาหนดเกณฑ์การให้คะแนนคือ ตอบ

ถกู ได้ 1 คะแนน ตอบผิดได้ 0 คะแนน

1.2 สาหรบั แบบทดสอบท่เี ป็นแบบอตั นัย มเี กณฑ์การให้คะแนนดังน้ี

คะแนน/ความหมาย ผลการทาข้อสอบที่ปรากฏ

4 = ดีมาก การแสดงวธิ ที าชดั เจน สมบรู ณ์ คาตอบถกู ต้อง ครบถ้วน

3 = ดี การแสดงวธิ ที ายงั ไมช่ ัดเจน แตอ่ ยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง

คาตอบถกู ต้อง ครบถว้ น

2 = พอใช้ การแสดงวิธีทายงั ไมช่ ัดเจน หรือไม่แสดงวธิ ที า คาตอบถูกต้อง ครบถว้ น

หรอื การแสดงวิธีทาชัดเจน สมบรู ณ์ แตค่ าตอบไม่ถกู ต้อง ขาดการตรวจสอบ

1 = ควรแกไ้ ข การแสดงวิธที าไม่ชดั เจน แต่อยู่ในแนวทางที่ถกู ต้อง คาตอบไมถ่ ูกตอ้ ง

หรือ ไม่แสดงวิธีทา และคาตอบทไี่ ด้ไมถ่ ูกต้อง แต่อยู่ในแนวท่ถี กู ต้อง

0 = ต้องปรับปรงุ ทาไม่ไดต้ ามเกณฑข์ ้างต้น

2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทักษะ/กระบวนการทางคณติ ศาสตร์

2.1 การแกป้ ัญหา

คะแนน/ความหมาย ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ีปรากฏ

4 = ดีมาก ใชย้ ุทธวิธดี าเนนิ การแกป้ ัญหาสาเร็จ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ อธิบายถงึ เหตผุ ลใน

การใช้วธิ กี ารดังกลา่ วได้เข้าใจชดั เจน

3 = ดี ใชย้ ทุ ธวธิ ดี าเนนิ การแกป้ ัญหาสาเร็จ แต่น่าจะ อธิบายถึงเหตผุ ลในการใช้วิธีการ

ดังกลา่ วได้ดีกว่านี้

2 = พอใช้ ใช้ยทุ ธวิธดี าเนินการแก้ปัญหาสาเร็จบางสว่ น อธิบายถึงเหตุผลในการใช้วธิ กี าร

ดงั กลา่ วไดบ้ างส่วน

1 = ตอ้ งปรบั ปรงุ มีร่องรอยการดาเนนิ การแก้ปัญหาบางส่วน เร่มิ คดิ ว่าทาไมจงึ ต้องใชว้ ิธีการน้นั

แลว้ หยุด อธิบายต่อไปไม่ได้ แก้ปญั หาไม่สาเร็จ

0 = ไม่พยายาม ทาไม่ได้ตามเกณฑ์ข้างต้น หรือไม่มรี อ่ งรอยการดาเนินการแก้ปญั หา

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

91

2.2 การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และการนาเสนอ

คะแนน/ความหมาย ความสามารถในการส่ือสาร การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์และการนาเสนอ

ท่ปี รากฏ

4 = ดมี าก ใชภ้ าษาสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ทถี่ กู ต้อง นาเสนอโดยใช้กราฟ แผนภูมิหรือ

ตารางแสดงข้อมลู ประกอบตามลาดับขน้ั ตอนไดเ้ ปน็ ระบบ กระชับ ชัดเจนและมี

รายละเอยี ดสมบูรณ์

3 = ดี ใชภ้ าษาสญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ นาเสนอโดยใชก้ ราฟ แผนภมู ิหรือตาราง

แสดงขอ้ มูลประกอบตามลาดับขัน้ ตอนได้ถูกต้อง ขาดรายละเอียดท่สี มบูรณ์

2 = พอใช้ ใชภ้ าษาสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ พยายามนาเสนอโดยใชก้ ราฟ แผนภมู ิหรือ

ตารางแสดงข้อมลู ประกอบชัดเจนบางสว่ น

1 = ตอ้ งปรบั ปรุง ใช้ภาษาสญั ลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ อยา่ งงา่ ยๆ ไม่ใช้กราฟ แผนภูมิหรอื ตาราง

เลย และการนาเสนอขอ้ มูลไม่ชัดเจน

0 = ไม่พยายาม ไม่นาเสนอ

2.3 การเชอ่ื มโยง

คะแนน/ความหมาย ความสามารถในการเชือ่ มโยงท่ปี รากฏ

4 = ดมี าก นาความรูห้ ลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชือ่ มโยงกับสาระ

คณติ ศาสตร์/สาระอ่นื /ในชวี ติ ประจาวัน เพื่อชว่ ยแก้ปัญหา หรือประยุกต์ใชไ้ ด้

อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม

3 = ดี นาความร้หู ลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระ

คณิตศาสตร์/สาระอืน่ /ในชวี ิตประจาวนั เพือ่ ช่วยแกป้ ัญหา หรือประยุกตใ์ ชไ้ ด้

บางส่วน

2 = พอใช้ นาความรหู้ ลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกับสาระ

คณิตศาสตร์ไดบ้ างส่วน

1 = ต้องปรบั ปรงุ นาความรหู้ ลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเช่ือมโยงยงั ไม่เหมาะสม

0 = ไม่พยายาม ไม่มีการเชื่อมโยงกับสาระอืน่ ใด

2.4 การใหเ้ หตุผล

คะแนน/ความหมาย ความสามารถในการใหเ้ หตุผลท่ปี รากฏ

4 = ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล

3 = ดี มกี ารอ้างอิงท่ีถูกต้องบางสว่ น เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ

2 = พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตดั สนิ ใจ

1 = ต้องปรบั ปรงุ มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ

0 = ไม่พยายาม ไม่มแี นวคิดประกอบการตัดสินใจ

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

92

2.5 ความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์

คะแนน/ความหมาย ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรคท์ ี่ปรากฏ

4 = ดมี าก มแี นวคิด / วธิ ีการแปลกใหม่ทีส่ ามารถนาไปปฏิบัติได้ถกู ต้องสมบูรณ์

3 = ดี มีแนวคดิ / วธิ ีการแปลกใหม่ทส่ี ามารถนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ถูกต้อง แต่นาไปปฏิบตั แิ ลว้
ไมถ่ ูกตอ้ งสมบรู ณ์

2 = พอใช้ มแี นวคิด / วิธกี ารไม่แปลกใหม่ แต่นาไปปฏิบัติไดถ้ ูกต้องสมบูรณ์

1 = ตอ้ งปรบั ปรงุ มีแนวคิด / วธิ กี ารไมแ่ ปลกใหม่ และนาไปปฏบิ ัติแล้วยงั ไม่ถูกต้องสมบูรณ์

0 = ไม่พยายาม ไมม่ ผี ลงาน

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั
อันพึงประสงค์ คะแนน
3210

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรกั ชาติและเป็นพลเมอื งดีของชาติ
กษัตริย์ 1.2 ศรัทธารและปฏิบัตติ นตามหลกั ของศาสนา
1.3 แสดงออกถึงความจงรักภักดตี ่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์
2.ซอื่ สตั ย์สจุ รติ 2.1 ปฏิบตั ิตนตามกฎระเบยี บ ทง้ั ตอ่ หนา้ และลับหลงั
3. มีวนิ ัย 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิตน ตรงความเป็นจรงิ ต่อตนเอง
4. ใฝ่หาความรู้ 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ติ น ตรงความเป็นจริงต่อผู้อื่น
5.อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 3.1 มาโรงเรยี นและเขา้ เรยี นตรงเวลา
3.2 แตง่ กายเรยี บร้อย ถกู ตอ้ งตามระเบยี บและเหมาะสม
6. มุ่งมั่นในการ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของโรงเรยี นและสังคม
ทางาน 4.1 พยายามแสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้ต่างๆ
4.2 เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกิจกรรมต่างๆ
7.รกั ความเป็นไทย 4.3 สรุปความรู้ได้อยา่ งมีเหตุผล
8.มจี ติ สาธารณะ 5.1 ใชท้ รัพย์สินและส่งิ ของของสว่ นรวมอย่างประหยดั
5.2 ใชส้ ิ่งของส่วนตวั อยา่ งประหยดั และรู้คุณคา่
5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และมีการเก็บออมเงนิ

6.1 มคี วามตั้งใจ และพยายามในการทางานที่ได้รบั มอบหมาย
6.2 พยายามแก้ไขปัญหาเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จ
6.3 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ
7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย
7.2 เหน็ คุณค่าและปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย
7.3 เข้าร่วมกิจกรรมเกย่ี วกบั วฒั นธรรมและประเพณไี ทย
8.1 รู้จักการให้และเสยี สละเพ่ือส่วนรวม และผู้อ่นื โดยไม่หวงั
ผลตอบแทน
8.2แสดงออกถึงการมนี า้ ใจหรือการให้ความชว่ ยเหลอื ผ้อู ื่นดว้ ยความเต็มใจ
8.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชมุ ชนและสงั คม

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

93

เกณฑก์ ารตัดสนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน

ร้อยละ 60 - 72 ระดบั คุณภาพ ดเี ยีย่ ม (3) - พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

ร้อยละ 46 - 59 ระดับคุณภาพ ดี (2) - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน

รอ้ ยละ 25 - 45 ระดับคณุ ภาพพอใช้ (1) - พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

ร้อยละ 0 - 24 ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (0) - พฤตกิ รรมที่ไม่ไดป้ ฏบิ ตั ิ ให้ 0 คะแนน

4. เกณฑ์การประเมินชนิ้ งานแบบองค์รวม

คะแนน/ความหมาย คุณภาพชิ้นงานท่ปี รากฏ

4 = ดมี าก - คดิ คานวณหรือนาเสนอรูปแบบวธิ ีการหาคาตอบได้อยา่ งถูกต้องแม่นยา

- แสดงวิธีการหรอื การหาเหตุผล สนบั สนนุ การหาคาตอบได้ครบถ้วนสมบูรณ์

- มองเหน็ ความเชอื่ มโยงหรือการขยายผลไปสู่หลกั การแก้ปัญหาได้อยา่ ง

สมบรู ณ์

- มีองค์ประกอบของช้นิ งานครบถว้ น 3 รายการ (รูปแบบรายงาน ความ

ถูกต้องชดั เจนในการเขียนหรือพิมพ์ และการจัดรปู เล่ม)

3 = ดี - คิดคานวณหรือวธิ ีการหาคาตอบถูกตอ้ ง

- แสดงวธิ ีการหรือการหาเหตุผล สนบั สนุนการหาคาตอบได้บางส่วน

- เช่ือมโยงไปสหู่ ลักการแกป้ ัญหาไดบ้ างสว่ น

- มีองค์ประกอบของช้นิ งานไม่นอ้ ยกว่า 2 รายการ

2 = พอใช้ - คิดคานวณมีข้อผดิ พลาดบางสว่ น

- แสดงเหตุผล สนบั สนุนการหาคาตอบได้เล็กน้อย

- เชื่อมโยงไปสู่หลกั การแก้ปัญหาไดเ้ ลก็ น้อย

- มีองค์ประกอบของชิ้นงานไม่นอ้ ยกว่า 2 รายการ

1 = ต้องปรบั ปรุง - ไมม่ ีช้ินงาน

5. เกณฑ์การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ บบองค์รวม

คะแนน/ความหมาย คณุ ลักษณะทป่ี รากฏ

3 = ดมี าก - สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ดว้ ยตนเอง หรือเป็นแบบอยา่ งแก่ผู้อ่นื ได้ในการปฏบิ ัตงิ าน

ทางคณิตศาสตร์อยา่ งมีระบบ มรี ะเบยี บวนิ ยั มีความรบั ผดิ ชอบ มคี วาม

รอบคอบ มีวิจารณญาณ มคี วามเช่ือมั่นในตนเอง

2 = ดี - สามารถปฏิบัตติ นตามคาแนะนา หรอื ช้ีแนะในการปฏบิ ตั ิงานทาง

คณติ ศาสตร์อยา่ งมรี ะบบ มีระเบียบวนิ ัย มีความรับผิดชอบ มีความรอบคอบ

มีวจิ ารณญาณ มีความเชือ่ มนั่ ในตนเอง

1 = พอใช้ - ไม่สามารถปฏบิ ัตติ นตามคาแนะนาหรือชี้แนะด้วยตนเอง ต้องมีการกากบั

และตดิ ตามอยเู่ สมอ ในการปฏิบัติงานทางคณติ ศาสตร์อยา่ งมีระบบ มี

ระเบียบวนิ ัย มคี วามรบั ผิดชอบ มีความรอบคอบ มีวิจารณญาณ มคี วาม

เชอื่ มั่นในตนเอง

เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

94

6. การประเมินผลงานกลุ่ม แบบแยกองค์ประกอบ

กลมุ่ ที่………………….ชือ่ กล่มุ ………………………………………………………………..
รายชือ่ สมาชิก 1…………………………………………………………………………

2…………………………………………………………………………
3…………………………………………………………………………
4…………………………………………………………………………
5…………………………………………………………………………
6…………………………………………………………………………

ประเมนิ โดย นักเรียน เพื่อน ผปู้ กครอง ครู

ด้านท่ี ส่ิงทป่ี ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
ดี 32
1 ผลงาน
2 กระบวนการทางาน พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
3 การนาเสนอ

ระดับคุณภาพของผลงาน
ดีมาก

ลงช่อื …………………………………ผ้ปู ระเมิน
(……………………………)
………/………/………

เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

95

7. การประเมินผลงานกลมุ่ แบบองคร์ วม

กลมุ่ ท่ี………………….ชือ่ กล่มุ ………………………………………………………………..
รายชือ่ สมาชิก 1…………………………………………………………………………

2…………………………………………………………………………
3…………………………………………………………………………
4…………………………………………………………………………
5…………………………………………………………………………
6…………………………………………………………………………

ประเมนิ โดย นักเรยี น เพ่ือน ผ้ปู กครอง ครู

ระดับคุณภาพของผลงาน
ดีมาก
ดี
พอใช้
ผา่ นเกณฑ์

ความคิดเหน็ อืน่ ๆ
…………………………………………………………………………………………………….………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………….…………………

ลงชอ่ื …………..……………………ผู้ประเมนิ
(……………………………)
………/………/………

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

96

เกณฑก์ ารประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

ขอ้ ท่ี ตวั ช้วี ดั ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1-3
1. การอ่าน
1. สามารถคัดสรรส่อื ท่ีต้องการอ่านเพ่ือหาข้อมูลสารสนเทศได้ตามวัตถุประสงค์ สามารถ
2. การคดิ สร้างความเขา้ ใจและประยกุ ต์ใช้ความรจู้ ากการอ่าน
วเิ คราะห์
2. สามารถจบั ประเด็นสาคัญลาดบั เหตกุ ารณจ์ ากการอา่ นส่ือท่ีมีความซับซ้อน
3. เขียน 3. สามารถวิเคราะห์สิ่งท่ีผู้เขียนต้องการสื่อสารกับผู้อ่าน และสามารถวิพากษ์ ให้
ขอ้ เสนอแนะในแงม่ มุ ตา่ ง ๆ
4. สามารถประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือ คณุ คา่ แนวคดิ ทีไ่ ดจ้ ากสง่ิ ท่ีอ่านอยา่ งหลากหลาย

5. สามารถเขียนแสดงความคิดเห็นโต้แย้ง สรุป โดยมีข้อมูลอธิบายสนับสนุนอย่างเพียงพอ
และสมเหตสุ มผล

ขอ้ ท่ี ตวั ชี้วดั ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6
1. การอา่ น
1. สามารถอ่านเพ่ือการศึกษา ค้นคว้า เพ่ิมพูนความรู้ ประสบการณ์และการประยุกต์ใช้
2. การคิด ในชวี ติ ประจาวนั
วิเคราะห์
2. สามารถจบั ประเดน็ สาคญั ลาดบั เหตุการณ์จากการอ่านสอ่ื ที่มคี วามซับซอ้ น
3. เขียน 3. สามารถวิเคราะห์ส่ิงท่ีผู้เขียนต้องการสื่อสารกับผู้อ่าน และสามารถวิพากษ์ ให้
ขอ้ เสนอแนะในแงม่ มุ ตา่ ง ๆ
4. สามารถประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือ คณุ คา่ แนวคดิ ท่ไี ด้จากสง่ิ ทีอ่ ่านอย่างหลากหลาย

5. สามารถเขียนแสดงความคิดเห็นโต้แย้ง สรุป โดยมีข้อมูลอธิบายสนับสนุนอย่างเพียงพอ
และสมเหตสุ มผล

เกณฑก์ ารประเมนิ ความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน

ระดับ เกณฑก์ ารพิจารณา
ดีเยีย่ ม (3) มีผลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี นท่มี ีคุณภาพดีเลศิ อยู่เสมอ

ดี (2) มผี ลงานท่ีแสดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนทม่ี ีคุณภาพเปน็ ท่ียอมรับ
ผ่าน (1) มผี ลงานที่แสดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี นท่ีมีข้อบกพรอ่ งบางประการ
ไม่ผ่าน (0) ไมม่ ีผลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี น หรือถา้ มผี ลงาน

ผลงานน้ันยงั มีขอ้ บกพรอ่ งที่ตอ้ งได้รบั การปรบั ปรุงแก้ไขหลายประการ

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

97

ระดบั เกณฑพ์ ิจารณาสรุปผลการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น
ดีเยย่ี ม (3) รวมทุกข้อ รายป/ี รายภาค ของผเู้ รียนรายบุคคล

ดี (2) เกณฑก์ ารพจิ ารณา
1. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเยี่ยม ทุกตวั ชวี้ ัด หรือ
ผ่าน (1) 2. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดเี ยย่ี ม จานวน 2 ตัวชว้ี ดั และมีผลการประเมินตวั ช้ีวดั ระดบั ดี
ไม่ผ่าน (0)
หรอื ผ่าน จานวน 1 ตวั ช้วี ดั
1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี ทกุ ตวั ชว้ี ดั หรือ
2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยยี่ ม จานวน 1 ตัวชวี้ ดั และมีผลการประเมนิ ตวั ชี้วดั ระดบั ดี

หรือ ผ่าน จานวน 2 ตวั ช้วี ัด
1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผา่ น ทกุ ตัวชีว้ ดั หรือ
2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี และระดบั ผา่ น
1. มผี ลการประเมินตัวชวี้ ดั ขอ้ ใดข้อหนึ่งไดร้ ะดับไม่ผา่ น

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

ขอ้ ที่ ตัวชวี้ ัด

1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 1. เปน็ พลเมืองดขี องชาติ

2. ธารงไว้ซ่งึ ความเป็นชาตไิ ทย

3. ศรัทธา ยดึ ม่นั ปฏิบัตติ นตามหลักศาสนา

4. เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์

2. ซื่อสตั ย์สุจรติ 1. ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเอง ทัง้ ทางกาย วาจา ใจ

2. ประพฤติตรงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อ่ืน ทัง้ ทางกาย วาจา ใจ

3. มีวนิ ยั 1.ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บังคับของครอบครัว โรงเรยี น และสงั คม

4. ใฝห่ าความรู้ 1. ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี น และเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้

2. แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน

ด้วยการเลอื กใช้สอื่ อย่างเหมาะสม สรุปเป็นองคค์ วามรู้ และสามารถนาไปใช้

ในชวี ติ ประจาวนั ได้

5. อยู่อยา่ งพอเพียง 1. ดาเนนิ ชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม

2. มภี มู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี ปรับตัวเพ่ืออยู่ในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ

6. มงุ่ มั่นในการทางาน 1. ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ิหน้าทีก่ ารงาน

2. ทางานดว้ ยความเพยี รพยาม อดทนเพ่อื ให้งานสาเรจ็ ตาม เป้าหมาย

7.รกั ความเปน็ ไทย 1. ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความ

กตัญญูกตเวที

2. เหน็ คณุ คาและใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม

3. อนุรักษส์ บื ทอดภมู ปิ ญั ญาไทย

8. มีจิตสาธารณะ 1. ชว่ ยเหลือผู้อ่นื ด้วยความเตม็ ใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน

2. เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่เี ป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชน สงั คม

เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม


Click to View FlipBook Version