ระเบียบกรมราชทัณฑ์อื่นๆ

283

“ขอ้ ๑๐ เรือนจำ�และทณั ฑสถานสามารถเก็บรกั ษาเงนิ สดร้านสงเคราะห์ผตู้ ้องขงั ได้ ดงั น้ี
(๑) เรอื นจำ�อ�ำ เภอหรอื ทณั ฑสถานเปิด ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท
(๒) เรือนจำ�กลาง เรอื นจำ�จังหวดั เรอื นจำ�พิเศษหรือทัณฑสถาน ระดบั ๘ ไมเ่ กนิ ๒๐,๐๐๐ บาท
(๓) เรอื นจำ�กลาง เรือนจ�ำ พเิ ศษหรือทณั ฑสถาน ระดับ ๙ ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท
ข้อ ๑๑ อ�ำ นาจการส่งั จา่ ยเงินร้านสงเคราะห์ผู้ตอ้ งขงั แต่ละครงั้ ไมเ่ กนิ วงเงินตามทกี่ �ำ หนด ดังนี้
(๑) ผู้บัญชาการเรือนจำ�อำ�เภอ หรือผู้อำ�นวยการทัณฑสถานเปิด มีอำ�นาจสั่งจ่ายเงินได้ครั้งหนึ่ง
ไมเ่ กนิ ๒๐,๐๐๐ บาท
(๒) ผบู้ ญั ชาการเรอื นจ�ำ กลาง ผบู้ ญั ชาการเรอื นจ�ำ จงั หวดั ผบู้ ญั ชาการเรอื นจ�ำ พเิ ศษ หรอื ผอู้ �ำ นวยการ
ทณั ฑสถาน ระดับ ๘ มีอ�ำ นาจสง่ั จา่ ยเงนิ ได้ครงั้ หนึง่ ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท
(๓) ผูบ้ ญั ชาการเรอื นจ�ำ กลาง ผบู้ ัญชาการเรือนจำ�พิเศษ หรือผอู้ �ำ นวยการทัณฑสถาน ระดับ ๙
มีอ�ำ นาจส่งั จ่ายเงินไดค้ รั้งหน่ึงไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
การส่ังจา่ ยเงนิ เกินอ�ำ นาจทก่ี �ำ หนดตาม (๑) , (๒) หรอื (๓) ตอ้ งไดร้ บั อนญุ าตจากอธบิ ดีกรมราชทณั ฑ”์
ขอ้ ๖ ให้ยกเลกิ ความในข้อ ๑๓ แห่งระเบียบกรมราชทณั ฑ์ ว่าด้วยร้านสงเคราะหผ์ ตู้ ้องขงั พ.ศ. ๒๕๑๓
และให้ใช้ความต่อไปนแี้ ทน
“ข้อ ๑๓ หากร้านสงเคราะห์ผตู้ อ้ งขังด�ำ เนนิ การมีผลก�ำ ไร อาจจา่ ยเงินรายได้จากผลก�ำ ไรในกรณี
ดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) จา่ ยเป็นรางวลั แกเ่ จา้ พนกั งานและผู้ต้องขงั ทีม่ าชว่ ยกจิ การร้านสงเคราะหผ์ ตู้ อ้ งขงั โดยปฏบิ ตั ิ
ตามข้อบังคบั กรมราชทัณฑ์ ว่าดว้ ยการจา่ ยเงนิ ผลประโยชนเ์ ป็นรางวัล ฉบับท่ี ๔ พ.ศ. ๒๕๒๑ ลงวันท่ี ๒๗ ธนั วาคม ๒๕๒๑
(๒) จา่ ยเปน็ สวสั ดกิ ารแกเ่ จา้ พนกั งานและผตู้ อ้ งขงั ในกจิ การเกย่ี วกบั การสงั คม การสงเคราะห์ และ
อื่นๆ ของเรือนจำ�หรอื ทณั ฑสถานนน้ั
(๓) จ่ายเป็นสวสั ดกิ าร การสังคม การสงเคราะห์ และอืน่ ๆ ของกรมราชทณั ฑ์
การจ่ายเงนิ ผลกำ�ไรตาม (๑) และ (๒) ใหเ้ ปน็ อำ�นาจของผู้บัญชาการเรือนจ�ำ หรือผอู้ �ำ นวยการทณั ฑสถาน
ส่วน (๓) ใหเ้ ป็นไปตามทอ่ี ธิบดีกรมราชทณั ฑ์สงั่ การ ท้ังน้ี ใหพ้ ิจารณาตามล�ำ ดบั ความส�ำ คัญ และความจำ�เปน็ ด้วยความ
ประหยดั ใหเ้ ปน็ ไปดว้ ยความเปน็ ธรรมเหมาะสมกบั จ�ำ นวนเงนิ ทม่ี อี ยู่ และตอ้ งไมก่ ระทบกระเทอื นเงนิ ทนุ ทจ่ี ะด�ำ เนนิ การตอ่ ไป”
ข้อ ๗ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ ๑๙ และข้อ ๒๐ แห่งระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยร้านสงเคราะห์
ผูต้ ้องขงั พ.ศ. ๒๕๑๓
“ข้อ ๑๙ การสง่ั จา่ ยเงนิ รา้ นสงเคราะห์ผู้ตอ้ งขงั เพอื่ เจ้าพนักงานเรอื นจำ�ยมื ไปทดรองจ่าย ให้จา่ ย
ได้เฉพาะเพ่อื กิจการรา้ นสงเคราะห์ผูต้ อ้ งขงั และกิจการอ่นื ทีเ่ กี่ยวเนื่องกับภารกิจของเรือนจำ�และทัณฑสถานเทา่ นนั้
ขอ้ ๒๐ ระเบยี บนใ้ี หใ้ ชบ้ งั คบั กบั สถานกกั ขงั กลางโดยอนโุ ลม โดยใหม้ สี ถานะเทยี บเทา่ เรอื นจ�ำ อ�ำ เภอ”

ประกาศ ณ วนั ที่ ๗ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๔๗
(ลงชอื่ ) นัทธี จติ สว่าง

(นายนัทธ ี จิตสว่าง)
อธิบดกี รมราชทณั ฑ์

รวมกฎหมายราชทณั ฑ์พรอ้ มด้วยกฎกระทรวง
ระเบียบ ข้อบงั คับและประกาศที่เกย่ี วขอ้ ง

279

ระเบียบกรมราชทณั ฑ์
วา่ ดว้ ยรา้ นสงเคราะห์ผู้ต้องขัง

พ.ศ. ๒๕๑๓

โดยทก่ี รมราชทณั ฑไ์ ดพ้ จิ ารณาเหน็ สมควรแกไ้ ขปรบั ปรงุ ระเบยี บรา้ นจ�ำ หนา่ ยสง่ิ ของส�ำ หรบั ผตู้ อ้ งขงั ซง่ึ ใช้
บังคบั มาต้ังแต่ พ.ศ. ๒๔๗๘ ให้เหมาะสมยิง่ ข้นึ จึงวางระเบยี บขนึ้ ใหมด่ งั ต่อไปนี้
ขอ้ ๑ ใหย้ กเลกิ ระเบยี บรา้ นจ�ำ หนา่ ยสง่ิ ของส�ำ หรบั ผตู้ อ้ งขงั ของกรมราชทณั ฑ์ ฉบบั ลงวนั ท่ี ๑๒ พฤศจกิ ายน
๒๔๗๘ และบรรดาขอ้ บังคับ ระเบียบ คำ�สง่ั หนังสอื หมู่ กรมราชทณั ฑ์ในส่วนทีไ่ ดก้ ำ�หนดไว้แล้ว หรอื ขัดแย้งกับระเบยี บนี้
ขอ้ ๒ เพอ่ื เปน็ การใหส้ วสั ดกิ ารผตู้ อ้ งขงั และเจา้ พนกั งานเรอื นจ�ำ หรอื ทณั ฑสถานทจ่ี ะซอ้ื หาเครอ่ื งอปุ โภค
บริโภคที่จำ�เป็นแก่การครองชีพได้โดยสะดวก ให้เรือนจำ�หรือทัณฑสถานทุกแห่งจัดให้มีร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังขึ้นภายใน
เรือนจำ�หรอื ทัณฑสถานนัน้ ๆ ที่ใดเปดิ กจิ การรา้ นสงเคราะห์ผูต้ อ้ งขังอยู่แล้ว ใหป้ รับปรงุ กิจการใหเ้ ป็นไปตามนัยระเบยี บน้ี
ขอ้ ๓ สถานที่ทีจ่ ะเปิดร้านสงเคราะหผ์ ู้ต้องขงั ใหใ้ ช้ส่วนใดส่วนหนึง่ ในเรอื นจ�ำ หรือทัณฑสถาน โดยคำ�นึง
ถึงรูปแบบให้พอเหมาะและสะดวกแก่การด�ำ เนนิ การ

กรรมการด�ำ เนินการและเจา้ หนา้ ที่
ข้อ ๔ ให้ผู้บัญชาการเรือนจำ�หรือผู้ปกครองทัณฑสถานแล้วแต่กรณีแต่งตั้งกรรมการดำ�เนินการ และ
เจา้ หนา้ ท่ปี ระจำ�ร้านสงเคราะหผ์ ตู้ อ้ งขงั ดงั น้ี
(๑) กรรมการดำ�เนินการ สำ�หรับเรือนจำ�กลาง เรือนจำ�เขต หรือทัณฑสถานให้แต่งตั้งหัวหน้า
แผนกควบคุม หรือหัวหน้าแผนกปกครอง หัวหน้าแผนกอบรมและฝึกวิชาชีพและหัวหน้าแผนกบัญชีและการเงิน หรือ
หัวหนา้ แผนกธรุ การแห่งเรอื นจำ�หรือทัณฑสถานน้ันแลว้ แต่กรณี
(๒) กรรมการดำ�เนินการสำ�หรับเรือนจำ�จังหวัดหรือเรือนจำ�อำ�เภอให้แต่งตั้งพัศดี หัวหน้าหมวด
ควบคมุ และหัวหน้าหมวดอบรมและฝกึ วชิ าชีพแห่งเรอื นจ�ำ นัน้
(๓) ใหก้ รรมการด�ำ เนนิ การมหี น้าทคี่ วบคมุ ดูแลรบั ผดิ ชอบทรัพยส์ นิ ฐานะการเงนิ การบญั ชี และ
กิจการของร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง หากมีความเห็นจะปรับปรุงกิจการประการใดให้ขออนุมัติผู้บัญชาการเรือนจำ� หรือ
ผู้ปกครองทณั ฑสถานแล้วแต่กรณี
(๔) ใหแ้ ตง่ ตง้ั ผจู้ ดั การ ๑ นาย พนกั งานบญั ชี ๑ นาย และอาจแตง่ ตง้ั พนกั งานประจ�ำ รา้ นเพม่ิ ขน้ึ อกี
กับผตู้ อ้ งขงั รว่ มด้วยตามทีเ่ หน็ สมควร

รวมกฎหมายราชทณั ฑพ์ รอ้ มด้วยกฎกระทรวง
ระเบยี บ ข้อบงั คับและประกาศทเ่ี กีย่ วข้อง

280

ข้อ ๕ ให้ผู้จัดการมีหน้าที่ ควบคุมดูแลรับผิดชอบทั่วไปในกิจการของร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง รองจาก
กรรมการดำ�เนินการ กบั มหี นา้ ที่จัดหาสนิ คา้ มาจำ�หน่าย โดยความเห็นของกรรมการดำ�เนินการ

สิง่ ของที่น�ำ มาจ�ำ หน่าย
ขอ้ ๖ ใหจ้ ดั ซอ้ื สนิ คา้ เครอ่ื งอปุ โภคและเครอ่ื งบรโิ ภคทจ่ี �ำ เปน็ แกก่ ารครองชพี ไวจ้ �ำ หนา่ ยในราคาถกู หรอื
ไมใ่ ห้ราคาสงู กว่าราคาตลาดในทอ้ งถนิ่ นั้น กบั ตอ้ งเป็นของที่นำ�เข้ามาและเกบ็ รักษาไวไ้ ดโ้ ดยไม่ผดิ กฎหมาย และระเบียบ
แบบแผนของเรอื นจำ�หรอื ทณั ฑสถาน
ขอ้ ๗ เครอ่ื งบรโิ ภคประจ�ำ วนั โดยปกตใิ หซ้ อ้ื อาหารดบิ มาปรงุ ขน้ึ จ�ำ หนา่ ย เวน้ แตไ่ มส่ ะดวก หรอื ไมส่ ามารถ
จะปรุงเองได้ ใหก้ รรมการด�ำ เนินการพจิ ารณารบั ฝากเครื่องบริโภคที่ปรุงแลว้ เสรจ็ จากครอบครัวเจา้ พนักงานเรอื นจำ� หรือ
ทณั ฑสถานแห่งนั้นไว้จำ�หนา่ ยในประเภทสินค้าฝากขาย การรับสนิ คา้ ฝากขายเชน่ ว่านี้ จะรบั สินคา้ ชนดิ ใดจากรายใด และ
จะกำ�หนดราคาขายเท่าใด ต้องได้รับความเห็นชอบของกรรมการดำ�เนินการ เมื่อจำ�หน่ายสินค้าฝากขายได้เท่าใดให้หัก
ส่วนลดเป็นรายได้ของร้านสงเคราะห์ผูต้ ้องขงั ไม่เกินรอ้ ยละ ๑๐ ของสนิ คา้ ที่ขายได้
ข้อ ๘ ให้ปดิ ประกาศแจง้ ราคาของท่ีจะจ�ำ หนา่ ยไว้โดยเปิดเผย หรอื ที่มองเหน็ ไดช้ ัดเจน
ข้อ ๙ การซื้อสินค้ามาจำ�หน่าย การจัดซื้อวัสดุอื่นๆ และการจ้างอันเกี่ยวกับกิจการของร้านสงเคราะห์
ผตู้ อ้ งขงั ใหป้ ฏบิ ตั ิตามระเบยี บส�ำ นกั นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยการน้ันๆ โดยอนโุ ลม

การเกบ็ รกั ษาเงินและการสั่งจา่ ยเงิน
ขอ้ ๑๐ การเกบ็ รกั ษาเงนิ รา้ นสงเคราะหผ์ ตู้ อ้ งขงั ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บแบบแผนของกรมราชทณั ฑก์ �ำ หนดไว้
ข้อ ๑๑ ให้ผู้มีอำ�นาจสั่งจ่ายเงินร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังได้ครั้งละไม่เกินวงเงินที่กำ�หนดไว้ ตามข้อบังคับ
กระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ ๔/๒๕๐๐ ว่าด้วยรายได้เกี่ยวกับการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังของทัณฑสถานต่างๆ ลงวันที ่
๒๓ ธนั วาคม ๒๕๐๐ โดยอนุโลม
ข้อ ๑๒ การสง่ั จา่ ยเงนิ นอกจากทีก่ ำ�หนดไวใ้ นระเบียบน้แี ลว้ ให้จ่ายไดเ้ ฉพาะเพอื่ ด�ำ เนนิ กิจการของร้าน
สงเคราะห์ผู้ตอ้ งขงั หรือเพือ่ การบำ�รงุ รักษากจิ การเรอื นจ�ำ หรอื ทัณฑสถานในสิง่ ทจี่ �ำ เป็นรบี ดว่ น และเฉพาะกรณที ่ไี มอ่ าจ
จัดหาเงินงบประมาณประเภทอืน่ แล้วเทา่ นน้ั
ขอ้ ๑๓ หากร้านสงเคราะหผ์ ู้ต้องขงั ดำ�เนนิ การมีผลก�ำ ไร ผู้บัญชาการเรอื นจำ�หรอื ผปู้ กครองทัณฑสถาน
แลว้ แต่กรณี อาจสั่งจ่ายเงินรายได้จากผลกำ�ไรไดใ้ นกรณตี อ่ ไปน้ี
(๑) จา่ ยเปน็ รางวลั แกเ่ จา้ พนกั งานและผตู้ อ้ งขงั ทม่ี สี ว่ นรว่ มดำ�เนนิ กจิ การรา้ นสงเคราะหผ์ ตู้ อ้ งขงั
โดยปฏบิ ตั ติ ามขอ้ บังคบั อธิบดกี รมราชทัณฑ์ ฉบับท่ี ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๔) เร่อื ง การจ่ายเงนิ ผลประโยชน์เปน็ รางวัล ลงวนั ที่
๑๗ ตลุ าคม ๒๕๐๔ โดยอนโุ ลม

รวมกฎหมายราชทณั ฑ์พรอ้ มดว้ ยกฎกระทรวง
ระเบยี บ ข้อบงั คบั และประกาศท่ีเกี่ยวขอ้ ง

281

(๒) จ่ายเป็นสวสั ดิการแก่เจ้าพนักงานและผู้ต้องขัง ในกจิ การเกยี่ วกบั การสังคม การสงเคราะห์
และอื่นๆ ของเรือนจำ�หรือทัณฑสถานนั้นๆ ตามที่เห็นสมควร โดยพิจารณาตามลำ�ดับความสำ�คัญและจำ�เป็นด้วยความ
ประหยัดให้เป็นไปโดยความเที่ยงธรรมเหมาะสมกับจำ�นวนเงินที่มีอยู่ และจะต้องไม่กระทบกระเทือนเงินทุนที่จะดำ�เนิน
การต่อไป
ข้อ ๑๔ ถ้าเรือนจำ�หรือทัณฑสถานใด ได้ขยายกิจการเจริญก้าวหน้ามีวงเงินทุนหมุนเวียนมาก และ
พิจารณาเห็นความจำ�เป็นต้องจ้างบุคคลภายนอกร่วมเป็นเจ้าหน้าที่ประจำ�เพ่ิมขึ้นเพ่ือแบ่งเบาภาระหน้าที่เจ้าพนักงาน
เรอื นจ�ำ หรือทณั ฑสถาน โดยใช้เงินรา้ นสงเคราะหผ์ ู้ตอ้ งขังจา้ งกไ็ ดแ้ ต่ตอ้ งไดร้ บั อนุมัตจิ ากกรมราชทณั ฑก์ ่อน

การบัญชี
ขอ้ ๑๕ ใหเ้ รือนจ�ำ หรือทณั ฑสถานท�ำ สมุดบัญชี ทะเบยี นและหลักฐานตา่ งๆ ของร้านสงเคราะห์ผ้ตู ้องขัง
ตามระเบยี บการบัญชี การรับจ่ายเงิน และการเกบ็ รกั ษาเงนิ ของเรือนจ�ำ หรือทัณฑสถาน ลงวนั ท่ี ๑๘ กุมภาพนั ธ์ ๒๔๙๘
โดยอนโุ ลม
ข้อ ๑๖ สิ้นเดอื นหนึง่ ๆ ใหท้ ำ�งบเดือนส่งกรมราชทณั ฑ์ตรวจสอบ ภายในวนั ท่ี ๑๐ ของเดือนถัดไป เช่น
เดียวกับงบเดอื นเงนิ ทุนผลประโยชน์ เว้นแต่ใบสำ�คญั คูจ่ า่ ยเงนิ ใหเ้ กบ็ ไว้เป็นหลักฐานทางเรอื นจ�ำ หรอื ทณั ฑสถาน
ขอ้ ๑๗ ให้ปดิ บัญชีหาผลก�ำ ไรขาดทนุ ๖ เดอื นต่อหนึ่งครง้ั เชน่ เดยี วกบั งบ ๖ เดอื นเงนิ ทนุ ผลประโยชน์
แล้วสง่ ไปกรมราชทัณฑ์ภายในเดอื นถัดไป
ขอ้ ๑๘ การปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การเงนิ และการบญั ชี นอกจากตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บนแ้ี ลว้ ใหถ้ อื ปฏบิ ตั ติ าม
กฎหมาย ข้อบงั คบั และระเบียบแบบแผนของกระทรวงการคลงั อีกสว่ นหนงึ่ ดว้ ยให้ใช้ระเบยี บนต้ี ้งั แต่วนั ท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน
๒๕๑๓

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๓
(ลงชือ่ ) ศักดิ์ ไทยวฒั น์

(นายศักด์ิ ไทยวฒั น์)
อธิบดีกรมราชทัณฑ์

รวมกฎหมายราชทัณฑ์พร้อมด้วยกฎกระทรวง
ระเบยี บ ข้อบังคบั และประกาศทีเ่ กย่ี วข้อง