The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การกำหนดสมรรถนะศึกษานิเทศก์ สป.ศธ.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Rachapoom Somsamai, 2021-07-11 05:09:32

การกำหนดสมรรถนะศึกษานิเทศก์ สป.ศธ.

การกำหนดสมรรถนะศึกษานิเทศก์ สป.ศธ.



คำนำ

สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติให้สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากร
ทางการศึกษา ดำเนินโครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อจัดแผนพัฒนาวิชาชีพของศึกษานิเทศก์ สังกัด
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ครอบคลุมและทั่วถึง ในการนี้ จึงได้จัดประชุมปฏิบัติการเพื่อกำหนด
สมรรถนะและจดั ทำโมเดลสมรรถนะของศึกษานิเทศก์ สังกัด สป. โดยมีเป้าหมายเพือ่ กำหนดกรอบสมรรถนะ
และจัดทำโมเดลสมรรถนะวิชาชีพของศึกษานเิ ทศก์ สป. โดยกำหนดเงื่อนไขให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐาน
วิชาชีพคุรุสภา มาตรฐานตำแหน่งและวทิ ยฐานะ และมาตรฐานสมรรถนะวิชาชีพของศึกษานเิ ทศก์ และอื่น ๆ
ดังนั้น จึงได้ดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดกรอบสมรรถนะและจัดทำโมเดลสมรรถนะ
วชิ าชีพของศึกษานเิ ทศก์ สป. เพื่อให้การดำเนนิ โครงการบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ดังกล่าว

กลมุ่ พฒั นามาตรฐานและส่งเสริมเครอื ขา่ ย
กุมภาพนั ธ์ 2564



สารบัญ

หน้า

คำนำ………………………………………………………………………………………………………………….. ก
ข-ค
สารบัญ………………………………………………………………………………………………………………. 1

หลักการและเหตุผล…………………………………………………………………………………………….. 2

ข้อมูลทีเ่ ก่ยี วข้อง…………………………………………………………………………………………………. 3-4

- ขอ้ บงั คบั ครุ สุ ภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวิชาชพี พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพ่มิ เติม 5-6
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562…………………………………………………………………………………..
7-8
- ตารางสรปุ มาตรฐานวิชาชีพของครุ ุสภา ตามขอ้ บังคับครุ ุสภา วา่ ด้วยมาตรฐานวชิ าชีพ
พ.ศ. 2556 และทีแ่ ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2562…………………………. 9-10

- ตารางสรุปประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา เรอื่ ง สาระความรู้ สมรรถนะและ 11-13
ประสบการณว์ ชิ าชีพของศึกษานิเทศก์ ตามข้อบังคับคุรุสภา วา่ ด้วยมาตรฐานวิชาชีพ
พ.ศ. 2556……………………………………………………………………………………………. 14-16

- ตารางสรุปมาตรฐานตำแหน่งศึกษานเิ ทศก์ ตามมาตรฐานตำแหน่งและวิทยฐานะ 17-18
ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ส่งพร้อมหนังสอื สำนักงาน ก.ค.ศ. 19
ท่ี ศธ 0206.4/ว 3 ลงวันท่ี 26 มกราคม 2564)………………………………………………. 20-22
23
- ตารางสรุปมาตรฐานวิทยฐานะศกึ ษานเิ ทศก์ ตามมาตรฐานตำแหน่งและวทิ ยฐานะ 23
ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา (สง่ พร้อมหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. 24
ท่ี ศธ 0206.4/ว 3 ลงวันที่ 26 มกราคม 2564)………………………………………………. 25
26
- หลกั เกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษากอ่ นแตง่ ตัง้
ให้ดำรงตำแหน่งศกึ ษานิเทศก์ พ.ศ. 2551………………………………………………………. 27-28
29-54
- หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้ 55
บังคบั บัญชา พ.ศ. 2551……………………………………………………………………………….. 56-60

- ภารกิจหน้าท่ีของหน่วยงานท่ีเกยี่ วขอ้ ง……………………………………………………………
- กรอบงานกลุม่ นเิ ทศ ตดิ ตาม และประเมนิ ผล………………………………………………….
สมรรถนะ โมเดลสมรรถนะ และการประยุกต์ใช้……………………………………………………..
ปญั หาและอปุ สรรคในการประยุกต์ใช้โมเดลสมรรถนะ……………………………………………..
แนวทางการประยกุ ต์ใช้โมเดลสมรรถนะในการบริหารทรัพยากรมนุษย์………………………
หลักการ-แนวคิดการพัฒนาทรัพยากรบุคคลตามหลักสมรรถนะ………………………………..
กรอบแนวคิดการดำเนนิ งานพฒั นาสมรรถนะ : ศึกษานิเทศก์…………………………………….
กระบวนการกำหนดสมรรถนะ และโมเดลสมรรถนะศึกษานิเทศก์ สงั กดั สำนกั งานปลัด
กระทรวงศึกษาธกิ าร……………………………………………………………………………………………..
กรอบโมเดลสมรรถนะวชิ าชีพศึกษานเิ ทศก์ สป. ………………………………………………………
โมเดลสมรรถนะศึกษานิเทศก์ สป. (7 มิติ 33 สมรรถนะ)…………………………………………..

ภาคผนวก
- ตารางวเิ คราะห์มาตรฐานคุรสุ ภา เพ่อื กำหนดพฤติกรรมบ่งชส้ี มรรถนะ……………….



สารบญั (ต่อ)

ภาคผนวก (ต่อ) หน้า
- ตารางวิเคราะห์มาตรฐานตำแหน่งศกึ ษานเิ ทศก์ เพื่อกำหนดพฤติกรรมบง่ ช้ี
สมรรถนะ……………………………………………………………………………………………………. 61-62
- มาตรฐานผู้นำศกึ ษานิเทศก์……………………………………………………………………………
- ความรู้ ทักษะและคุณลักษณะของศึกษานิเทศก์………………………………………………. 63
- แบบฟอรม์ กำหนดสมรรถนะ (แบบ COM-01 – COM-04)……………………………….. 63-67
68-73

รายงานผลการศกึ ษา วิเคราะห์การกำหนดสมรรถนะและโมเดลสมรรถนะวิชาชีพ

ศกึ ษานิเทศก์ สังกดั สำนกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

*****************************

หลกั การและเหตุผล

สืบเนื่องจากแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพของ
การจัดการศกึ ษา ลดความเหลื่อมลำ้ ทางการศกึ ษา ม่งุ ความเป็นเลศิ และสร้างขดี ความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศและเพ่ือปรับปรุงระบบการศึกษาให้มีประสิทธภิ าพ เพิ่มความคล่องตวั รองรับความหลากหลายของการ
จัดการศึกษาและสร้างเสริมธรรมาภิบาล โดยกำหนดแผนงานรองรับการปฏิรูปการศึกษา มีภารกิจที่สอดคล้อง
และเชื่อมโยงกับแผนปฏิรูปการศึกษาจำนวน 7 เรื่อง รวม 22 ประเด็น ซึ่งสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และ
บุคลากรทางการศึกษา ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาในประเด็นการปฏิรูป
การศึกษาเรื่องที่ 4 การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิตคัดกรองและพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูและอาจารย์
ประเด็นการปฏิรูปที่ 4.2 การพัฒนาวิชาชีพครู เป้าหมายที่ 1 คือ มีหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการการ
พัฒนาทางวิชาชีพให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบ และกำหนดตัวชี้วัด คือร้อยละ 100 ของ
ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา มแี ผนในการพฒั นาทางวชิ าชีพท่ีเหมาะสม และเปา้ หมายที่ 5 มรี ะบบและกลไก
ให้ครูมีการพัฒนาตนเองหรือวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ทั้งนี้ สถาบันพัฒนาครู
คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ยังขาดข้อมูลการดำเนินการในประเด็นการปฏิรูปการศึกษาดังกล่าว
ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อให้ครู และบุคลากรทางการศึกษามีการพัฒนาความรู้ มีทักษะการ
เรียนรู้ และทกั ษะทจ่ี ำเปน็ และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21

สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางในการ
ประสานงานการพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา สำหรับหน่วยงานทางการศึกษาทั้งภาครัฐและ
ภาคเอกชนรวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในส วนที่เป็นการ
ทดลองนํารอง หรือการพัฒนา จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาสมรรถนะทางวิชาชีพของครู และบุคลากรทางการ
ศึกษาขึ้น เพื่อจัดทำแผนพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้บรรลุตาม
เป้าหมายและตัวช้ีวัดของแผนปฏิรูปการศึกษาในด้านดังกล่าว โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เริ่มดำเนินการกบั
ข้าราชการครู และศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยกำหนดให้มีกิจกรรมประชุม
ปฏิบัติการให้ความรู้เพื่อกำหนดสมรรถนะและจัดทำโมเดลสมรรถนะวิชาชีพของศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงาน
ปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ เพื่อนำข้อมูลไปใช้จัดทำแผนพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพของศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงาน
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการ
เปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ดังนั้น จึงได้ดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปกำหนดสมรรถนะ
และจดั ทำโมเดลสมรรถนะวิชาชีพของศึกษานเิ ทศก์ สป. โดยศกึ ษา วิเคราะหข์ อ้ มลู ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

• ขอ้ บังคับคุรสุ ภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวชิ าชีพ พ.ศ. 2556
• ขอ้ บงั คับครุ ุสภา วา่ ด้วยมาตรฐานวชิ าชพี (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2562
• ประกาศคณะกรรมการครุ ุสภา เรอ่ื ง สาระความรู้ สมรรถนะและประสบการณ์วิชาชีพ
ของผปู้ ระกอบวชิ าชีพครู ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ผู้บริหารการศึกษาและศึกษานเิ ทศก์ ตามขอ้ บังคบั ครุ สุ ภา วา่ ดว้ ย
มาตรฐานวิชาชพี พ.ศ.2556
• ข้อบังคบั ครุ สุ ภา วา่ ด้วยจรรยาบรรณของวชิ าชีพ พ.ศ. 2556
• มาตรฐานตำแหนง่ และมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
• ภารกจิ หน้าทข่ี องหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง
• เอกสารอื่น ๆ ทเี่ กยี่ วข้อง ฯลฯ

2

ขอ้ บังคบั ครุ สุ ภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชพี พ.ศ. 2556

คำจำกัดความที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานวิชาชีพ ออกตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ
พ.ศ. 2556 ดังน้ี

ข้อ 4 ในขอ้ บังคบั น้ี
“วิชาชพี ” หมายความวา่ วชิ าชพี ทางการศึกษาท่ีทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและ
การส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธกี ารต่าง ๆ รวมทั้งการรับผดิ ชอบการบริหารสถานศึกษาในสถานศกึ ษา
ปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน และการบริหารการศึกษานอก
สถานศึกษาในระดับเขตพน้ื ท่ีการศึกษา ตลอดจนการสนบั สนนุ การศึกษา ให้บริการหรือปฏบิ ตั ิงานเกี่ยวเน่ืองกับ
การจดั กระบวนการเรียนการสอน การนเิ ทศ และการบรหิ ารการศกึ ษาในหนว่ ยงานการศกึ ษาต่าง ๆ
“ผู้ประกอบวิชาชพี ทางการศึกษา” หมายความวา่ ครู ผูบ้ ริหารสถานศึกษา ผ้บู ริหารการศึกษา
และบคุ ลากรทางการศึกษาอื่น ซ่ึงได้รบั ใบอนญุ าตเป็นผปู้ ระกอบวิชาชีพตามพระราชบญั ญตั สิ ภาครูและบุคลากร
ทางการศึกษา พ.ศ.2546
“บุคลากรทางการศึกษาอื่น” หมายความว่า บุคคลซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษาให้บริการ
หรอื ปฏิบัติงานเกีย่ วเนอ่ื งกับการจดั กระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงาน
การศึกษาต่าง ๆ ซงึ่ หนว่ ยงานการศกึ ษากำหนดตำแหนง่ ให้ตอ้ งมีคณุ วฒุ ิทางการศึกษา
“มาตรฐานวิชาชพี ทางการศึกษา” หมายความว่า ขอ้ กำหนดเกย่ี วกับคุณลักษณะ และคุณภาพ
ที่พึงประสงค์ในการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องประพฤติปฏิบัติตาม
ประกอบด้วย มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ มาตรฐานการปฏิบัตงิ านและมาตรฐานการปฏบิ ัตติ น

ข้อบังคับครุ ุสภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562

คำจำกดั ความทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับมาตรฐานวิชาชพี ออกตามข้อบังคับคุรสุ ภา วา่ ด้วยมาตรฐาน
วิชาชพี (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2562 ดงั นี้

“มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ หมายความว่า ข้อกำหนดเกี่ยวกับความรู้ และ
ประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ หรือการจัดการศึกษา ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา รวมทั้งผู้ต้องการ
ประกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา ต้องมเี พยี งพอทสี่ ามารถนำไปใชใ้ นการประกอบวิชาชีพได”้

“มาตรฐานการปฏิบัติงาน หมายความว่า ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ หรือการแสดง
พฤติกรรมการปฏิบัติงานและการพัฒนางาน ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา รวมทั้งผู้ต้องการประกอบ
วิชาชีพทางการศึกษา ต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เกิดผลตามวัตถุประสงค์ และเป้าหมายการเรียนรู้ หรือการ จัด
การศกึ ษา รวมทงั้ ตอ้ งฝึกฝนพฒั นาตนเองใหม้ ีทักษะ หรอื ความชำนาญสูงขึ้นอย่างตอ่ เน่ือง”

“มาตรฐานการปฏบิ ัตติ น หมายความวา่ จรรยาบรรณของวชิ าชีพท่ีกำหนดขนึ้ เป็นแบบแผนใน
การประพฤติปฏิบัติตน ซ่ึงผปู้ ระกอบวชิ าชีพทางการศึกษา รวมท้งั ผู้ตอ้ งการประกอบวชิ าชีพทางการศึกษา ต้อง
ยึดถอื ปฏิบัติตาม เพื่อรกั ษาและส่งเสรมิ เกียรตคิ ุณชื่อเสียง และฐานะของผปู้ ระกอบวิชาชีพทางการศึกษา ใหเ้ ปน็
ทเ่ี ชอ่ื ถอื ศรัทธาแก่ผูร้ ับบริการและสงั คม อนั จะนำมาซง่ึ เกยี รติ และศักดิศ์ รีแหง่ วชิ าชพี ”

รายละเอียดมาตรฐานวชิ าชีพศึกษานิเทศก์ ตามขอ้ บังคับครุ ุสภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.
2556 โดยสรปุ ดังนี้

ตารางสรปุ มาตรฐานวิชาชพี ศกึ ษานิเทศก์ (ตามข้อ

มาตรฐานความร้แู ละ มาตรฐานกา
มาตรฐานประสบการณว์ ิชาชพี

ผูป้ ระกอบวิชาชพี ศกึ ษานเิ ทศก์ ต้องมคี ณุ วุฒิไมต่ ำ่ กวา่ ผูป้ ระกอบวิชาชพี ศึกษานเิ

ปริญญาโททางการศึกษา หรือเทียบเทา่ หรือมีคณุ วุฒิอ่นื ที่ การปฏบิ ัตงิ าน ดงั ตอ่ ไปน้ี

ครุ ุสภารับรอง โดยมีมาตรฐานความรแู้ ละประสบการณ์ 1. ปฏิบัตกิ ิจกรรมทางวชิ าก

วิชาชีพ ดงั ต่อไปน้ี การศึกษา เพ่อื ให้เกิดการ

(ก) มาตรฐานความรู้ ประกอบดว้ ยความรู้ ดังต่อไปน้ี อยา่ งสม่ำเสมอ

1) การพัฒนาวิชาชีพ 2. ตดั สินใจปฏิบัตกิ ิจกรรมก

2) การนเิ ทศการศกึ ษา ถงึ ผลทีจ่ ะเกดิ แกผ่ ูร้ ับกา

3) แผนและกจิ กรรมการนเิ ทศ 3. มุ่งม่ันพฒั นาผรู้ บั การนเิ ท

4) การพัฒนาหลกั สูตรและการจดั การเรียนรู้ จนเกิดผลตอ่ การพฒั นา

5) การวิจัยทางการศึกษา 4. พัฒนาแผนการนิเทศใหม้

6) นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทาง ใหเ้ กิดผลได้จริง

การศึกษา 5. พัฒนาและใช้นวตั กรรมก

7) การประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ผลงานที่มีคุณภาพสูงขน้ึ

8) คุณธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ 6. จดั กจิ กรรมการนเิ ทศกา

(ข) มาตรฐานประสบการณว์ ชิ าชพี ดงั ต่อไปนี้ แกผ่ ูร้ บั การนิเทศ

1) มีประสบการณ์ดา้ นปฏบิ ัติการสอนมาแลว้ ไม่ 7. ดำเนินการและรายงานผ

ไม่น้อยกว่าหา้ ปี หรอื มปี ระสบการณด์ ้านปฏิบตั ิ คุณภาพสูงไดอ้ ย่างเปน็ ร

การสอน และมปี ระสบการณ์ในตำแหนง่ ผบู้ ริหาร 8. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอยา่ ง

สถานศกึ ษา หรือผูบ้ รหิ ารการศกึ ษารวมกนั มาแลว้ 9. รว่ มพัฒนางานกบั ผ้อู นื่ อ

ไม่นอ้ ยกว่าห้าปี 10. แสวงหาและใชข้ อ้ มลู ข

2) มีผลงานทางวชิ าการท่มี คี ณุ ภาพและมกี าร 11. เปน็ ผ้นู ำและสรา้ งผนู้ ำท

เผยแพร่ 12. สรา้ งโอกาสในการพฒั น

อบังคบั ครุ ุสภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชีพ พ.ศ. 2556)

ารปฏิบัตงิ าน มาตรฐานการปฏิบัตติ น

เทศก์ ตอ้ งมีมาตรฐาน ผปู้ ระกอบวิชาชพี ทางการศกึ ษา ตอ้ งประพฤตติ น
ตามจรรยาบรรณของวชิ าชีพ และแบบแผนพฤตกิ รรม
การเพอื่ พัฒนาการนิเทศ ตามจรรยาบรรณของวิชาชพี
รพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษา จรรยาบรรณต่อตนเอง

การนิเทศการศึกษา โดยคำนงึ ข้อ 7 ผปู้ ระกอบวชิ าชีพทางการศกึ ษา ต้องมวี ินยั ในตนเอง
ารนเิ ทศ
ทศใหล้ งมือปฏบิ ัตกิ จิ กรรม พัฒนาตนเองดา้ นวชิ าชพี บุคลิกภาพ และวสิ ยั ทัศน์ ให้ทนั
าอย่างมคี ุณภาพเตม็ ศักยภาพ ตอ่ การพัฒนาทางวทิ ยาการ เศรษฐกิจ สงั คม และการเมอื ง
มคี ุณภาพสงู สามารถปฏบิ ตั ิ อยูเ่ สมอ
จรรยาบรรณตอ่ วชิ าชพี
การนิเทศการศกึ ษาจนเกดิ
นเปน็ ลา่ ดบั ขอ้ 8 ผู้ประกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา ตอ้ งรัก ศรัทธา
ารศกึ ษาโดยเนน้ ผลถาวรทีเ่ กิด ซอ่ื สตั ย์สุจรติ รบั ผิดชอบต่อวิชาชพี และเปน็ สมาชิกทดี่ ี
ขององค์กรวิชาชีพ
ผลการนเิ ทศการศึกษาให้มี จรรยาบรรณตอ่ ผรู้ บั บริการ
ระบบ
งทีด่ ี ข้อ 9 ผ้ปู ระกอบวชิ าชีพทางการศึกษา ต้องรกั
อยา่ งสร้างสรรค์ เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลอื สง่ เสริม ใหก้ าํ ลังใจแก่ศษิ ย์
ขา่ วสารในการพฒั นา และผู้รบั บริการ ตามบทบาทหน้าทโ่ี ดยเสมอหนา้
ทางวชิ าการ
นางานไดท้ กุ สถานการณ์ ข้อ 10 ผู้ประกอบวชิ าชีพทางการศึกษา ตอ้ งสง่ เสริม
ให้เกดิ การเรียนรู้ ทักษะ และนสิ ยั ที่ถกู ตอ้ งดงี ามแก่ศษิ ย์
และผูร้ บั บรกิ าร ตามบทบาทหนา้ ท่อี ย่างเต็มความสามารถ
ด้วยความบรสิ ทุ ธิใ์ จ

ข้อ 11 ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา ตอ้ งประพฤติ

ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอยา่ งที่ดี ท้ังทางกาย วาจา และจิตใจ
ขอ้ 12 ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา ตอ้ งไม่กระทาํ ตน

เปน็ ปฏปิ กั ษต์ ่อความเจริญทางกาย สติปญั ญา จติ ใจ อารมณ์
และสังคมของศษิ ย์ และผู้รับบรกิ าร

มาตรฐานความรแู้ ละ มาตรฐานกา
มาตรฐานประสบการณ์วชิ าชพี

อ้างอิงตามข้อบงั คบั คุรสุ ภา วา่ ด้วยมาตรฐานวิชาชพี พ.ศ. 2556

ารปฏบิ ัตงิ าน 44

มาตรฐานการปฏบิ ตั ติ น

ข้อ 13 ผูป้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศึกษา ตอ้ งใหบ้ รกิ าร
ดว้ ยความจริงใจและเสมอภาค โดยไมเ่ รยี กรบั หรือยอมรบั
ผลประโยชน์จากการใชต้ าํ แหนง่ หน้าทโี่ ดยมชิ อบ
จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวชิ าชพี

ขอ้ 14 ผ้ปู ระกอบวิชาชพี ทางการศกึ ษา พึงชว่ ยเหลือ
เกอ้ื กลู ซึง่ กันและกันอยา่ งสรา้ งสรรค์โดยยึดม่ันในระบบ
คุณธรรม สรา้ งความสามคั คีในหม่คู ณะ
จรรยาบรรณตอ่ สังคม

ข้อ 15 ผ้ปู ระกอบวิชาชพี ทางการศึกษา พงึ ประพฤติ
ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้นาํ ในการอนุรักษ์ และพัฒนาเศรษฐกจิ
สังคม ศาสนา ศลิ ปวัฒนธรรม ภูมิปญั ญา สิง่ แวดล้อม รักษา
ผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดม่ันในการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข

อา้ งองิ ตามขอ้ บงั คบั ครุ สุ ภา ว่าด้วยจรรยาบรรณวชิ าชพี
พ.ศ.2556

ตารางสรุปประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรอ่ื ง สาระคว
ตามข้อบังคับครุ สุ ภา วา่ ด้วย

มาตรฐานวิชาชีพ สาระควา
1. การพฒั นาวิชาชีพ
(1) สภาพงาน คุณลกั ษณะ และ
2. การนิเทศการศึกษา ศึกษานิเทศก์

3. แผนและกิจกรรมการนเิ ทศ (2) ทักษะในการแสวงหาความรู้ใ
(3) การจัดการความรู้เก่ียวกับกา
4. การพฒั นาหลักสตู รและการจดั การเรยี นรู้ (4) กฎหมายและระเบียบท่เี กี่ยวข

และศึกษานเิ ทศก์

(1) หลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติเ
(2) ผู้นํา ภาวะผู้นํา และภาวะผูน้ าํ
(3) จติ วทิ ยาการนิเทศและการส่ือ
(4) กลวธิ ีการถา่ ยทอดความรู้ แน

ทางวิชาการ
(5) การเสรมิ แรง การสร้างพลังอาํ

ศกั ยภาพครู

(1) นโยบายการศกึ ษาและการเช่อื
ระบบอืน่ ในสังคม

(2) การวางแผนพัฒนาคุณภาพกา
(3) การพัฒนาแผนการนเิ ทศตามบ
(4) การจัดทาํ แผนปฏิบัตกิ ารนเิ ทศ

การปฏิบตั ิ

(1) หลักการ แนวคิด ในการพัฒน
การจัดการเรียนรูเ้ พ่ือใหผ้ ู้เรยี น
และสร้างสรรค์งานได้

(2) การวัดและการประเมนิ ผลการ

5

วามรู้ สมรรถนะและประสบการณ์วชิ าชพี ของศึกษานิเทศก์
ยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556

ามรู้ สมรรถนะ

ะมาตรฐานวชิ าชพี (1) สรา้ งศรทั ธาผู้รับการนเิ ทศเพอื่ ให้ตระหนักและ

มองเหน็ ประโยชนข์ องการนเิ ทศ

ในบรบิ ทของการเปลี่ยนแปลง (2) สรา้ งความก้าวหนา้ และพัฒนาวิชาชพี อย่างต่อเน่ือง

ารนเิ ทศการศึกษา
ข้องกบั การศึกษา

เก่ยี วกบั การนิเทศ (1) ใชเ้ ทคนิคการนิเทศอย่างหลากหลายดว้ ยความเปน็
าทางวชิ าการ กัลยาณมติ ร
อสาร
นวคดิ ทฤษฎี และผลงาน (2) สรา้ งวฒั นธรรมในการพัฒนางานวชิ าการ และนาํ สู่
การเปน็ บคุ คลแห่งการเรียนรู้

านาจ และการพัฒนา

อมโยงระบบการศึกษากบั (1) สามารถวางแผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา และ
พัฒนาแผนการนิเทศที่นําสกู่ ารปฏิบตั ไิ ด้จรงิ
ารศกึ ษา
บริบทมหภาคและภมู สิ งั คม (2) ประเมินและปรับปรงุ แผนการนิเทศ
ศ โครงการ และการนาํ สู่

นาหลักสตู รและ (1) สรา้ ง ใช้ ประเมนิ และปรับปรุงหลักสตู ร
น รู้จักคิดวเิ คราะห์ (2) นเิ ทศเพ่ือพัฒนาหลกั สตู ร การจัดการเรยี นรู้

รเรียนรู้ และการวดั ประเมินผล

มาตรฐานวิชาชีพ สาระควา
5. การวิจยั ทางการศกึ ษา
(1) หลกั การ แนวคดิ แนวปฏบิ ตั ิใ
(2) การใชแ้ ละผลติ งานวจิ ยั เพื่อพฒั

6. นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศ (1) หลกั การ แนวคิด การออกแบบ
ทางการศึกษา สารสนเทศเพื่อการเรยี นรู้

7. การประกันคุณภาพการศึกษา (2) เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การ

8. คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ (1) การบริหารจัดการการศึกษา
(2) ระบบการประกันคุณภาพการ

และภายนอก

(1) หลักธรรมาภบิ าล และความซ
(2) คุณธรรม และจริยธรรมของวชิ
(3) จรรยาบรรณของวชิ าชีพท่ีครุ สุ

อา้ งองิ จาก ประกาศคณะกรรมการครุ ุสภา เร่ือง สาระความรู้ สมรรถนะและประสบการณว์ ิชาชีพ
ตามขอ้ บังคบั คุรสุ ภา ว่าด้วยมาตรฐานวชิ าชีพ พ.ศ. 2556

6

ามรู้ สมรรถนะ

ในการวจิ ัย (1) สามารถดําเนินการวจิ ยั เพ่ือพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา
ฒนานวัตกรรมการนิเทศ (2) สามารถนําผลการวจิ ัยไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพ

บสอ่ื นวตั กรรม เทคโนโลยี การศกึ ษา

รสอ่ื สาร (1) ประยุกตใ์ ช้ และการประเมนิ ส่อื นวัตกรรม
เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
รศึกษาท้งั ภายใน
(2) สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการสื่อสาร
ซ่อื สตั ยส์ ุจริต
ชาชพี ศึกษานเิ ทศก์ (1) สามารถบริหารจดั การการศกึ ษา
สภากำหนด (2) นาํ ผลการประกนั คุณภาพการศึกษาไปใช้เพ่ือ

พฒั นาสถานศึกษา

(1) ปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอย่างท่ีดี มจี ติ สํานกึ สาธารณะ
และเสียสละให้สงั คม

(2) ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชพี

พของผปู้ ระกอบวิชาชีพครู ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ผู้บริหารการศึกษาและศกึ ษานเิ ทศก์

หน้าท่แี ละความรับผดิ ชอบ ตารางสรุปมาตรฐาน
ลักษณะงานทป่ี ฏิบัติ

มีหนา้ ทแ่ี ละความรบั ผิดชอบ การปฏิบัติงานของศึกษานิเทศก์ ต้องมีการบูรณาการงานท้ัง
หลักในการนิเทศการศกึ ษา ให้เช่อื มโยงและสอดคลอ้ งกนั ดงั น้ี

สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การจดั 1. ด้านการนเิ ทศการศกึ ษา
การศึกษา รวมทง้ั พัฒนาตนเอง 1.1 ออกแบบ จัดทำแผนการนิเทศการศึกษา ใหส้ อดคล
และวิชาชพี และปฏบิ ตั ิงานอน่ื ยุทธศาสตร์ชาติ มาตรฐานการศึกษาชาติ และหลกั
ตามท่ีได้รบั มอบหมาย นโยบาย จุดเนน้ สภาพแวดลอ้ ม ปญั หาและความ
จำเป็น ให้ครู สถานศึกษา และหนว่ ยงานการศกึ ษ
จดั การศกึ ษาเพ่อื พัฒนาสมรรถนะและผลลัพธ์กา
ผเู้ รียน
1.2 คดั สรร สรา้ ง พฒั นา สอ่ื นวัตกรรมและเทคโนโล
ศึกษา คน้ ควา้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ วจิ ัย หรือวิธ
ทเี่ หมาะสม ให้สอดคลอ้ งกับแผนการนเิ ทศการศึก
เพ่ือชว่ ยเหลือ ส่งเสริม สนับสนนุ ใหค้ รู สถานศึกษ
หน่วยงานการศึกษา สามารถจดั การศกึ ษาไดบ้ รร
1.3 นิเทศ ให้คำปรกึ ษา แนะนำ ชี้แนะ เปน็ พี่เลี้ยง ส่ง
สนบั สนนุ การพัฒนางานวชิ าการ ประสานงานกบั
สถานประกอบการ และผมู้ สี ว่ นเก่ยี วขอ้ ง ตดิ ตาม
ประเมินผลการจัดการศกึ ษาใหค้ รู สถานศึกษาแล
การศึกษา สามารถจดั การศกึ ษาไดบ้ รรลุผล
1.4 รายงานผลการนิเทศ โดยการวเิ คราะห์ สังเคราะห
การนิเทศต่อครู สถานศึกษา หน่วยงาน หรือผู้มีส
เพ่ือเป็นข้อมลู สารสนเทศในการพัฒนางานวชิ าก
จดั การศกึ ษาทเี่ กดิ ผลสัมฤทธ์ิสูง

7

นตำแหน่งศกึ ษานิเทศก์

คณุ สมบตั ิเฉพาะสำหรบั ตำแหน่ง ความรู้และสมรรถนะที่จำเปน็
สำหรบั ตำแหน่ง
ง 3 ด้าน 1.มีใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี
ศกึ ษานิเทศก์ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับ
ลอ้ งกับ หลกั การนเิ ทศการศึกษา หลกั สูตร
กสูตร รวมทงั้ 2.ดำรงตำแหนง่ หรอื เคยดำรง กระบวนการเรยี นรู้ การวัดการ
มต้องการ ตำแหน่ง อย่างใดอย่างหนึ่ง ประเมินผลการศึกษา และ
ษา สามารถ ตอ่ ไปน้ี เครือ่ งมือการนิเทศ
ารเรียนรขู้ อง 2.1 ตำแหนง่ ครู ทม่ี วี ทิ ยฐานะ
ไมต่ ำ่ กว่าครชู ำนาญการ 2. มีสมรรถนะทจี่ ำเปน็ สำหรับ
ลยี โดย 2.2 ตำแหนง่ อนื่ ท่ี ก.ค.ศ. การปฏบิ ัตงิ านในตำแหนง่
ธีการอนื่ ๆ เทียบเท่า
กษา
ษาและ วินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ
รลผุ ล จรรยาบรรณวิชาชีพ
งเสรมิ และ
บหนว่ ยงาน มีวินยั คุณธรรม จริยธรรม
ม และ ประพฤติตนเปน็ แบบอย่างทดี่ ี
ละหน่วยงาน ดำรงชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง มีจติ สำนกึ
ห์ สะท้อนผล ความรับผิดชอบในการนิเทศ
สว่ นเกย่ี วข้อง การศึกษา และมจี รรยาบรรณ
การ และการ วชิ าชพี

หนา้ ที่และความรับผดิ ชอบ ลักษณะงานทป่ี ฏิบัติ

2. ดา้ นการสง่ เสริมและสนับสนนุ การจัดการศกึ ษา
2.1 วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและความตอ้ งการจำเปน็ ส
สารสนเทศทเ่ี กี่ยวข้องอยา่ งรอบด้าน เพอื่ วางแผนก
สนับสนนุ และพฒั นาการจดั การศกึ ษา
2.2 ประสานความร่วมมอื กบั หน่วยงาน องคก์ ร และสถาน

รวมถงึ ภมู ิปัญญาหรอื ผู้ทรงคุณวุฒิดา้ นตา่ ง ๆ ให้เข
สว่ นร่วมในการพัฒนาการจัดการศึกษา เพือ่ เสรมิ สร
ความเข้มแข็งให้กบั สถานศกึ ษา
2.3 ติดตามประเมนิ ผลการสง่ เสริม สนบั สนุนการจดั กา
ของสถานศึกษาและหนว่ ยงานการศึกษา ใหส้ ามาร
ได้บรรลผุ ลตามพนั ธกจิ
3. ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
3.1 พฒั นาตนเองอยา่ งเปน็ ระบบและต่อเนื่อง เพอ่ื ให้มีค

ความสามารถ ทกั ษะ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การใชภ้ าษ
และภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร และการใช้เทคโน
เพ่อื การศึกษา สมรรถนะทางวิชาชีพศึกษานิเทศก
รอบรู้ในเน้ือหาทน่ี ิเทศใหส้ ูงข้นึ
3.2 มสี ่วนรว่ ม และเป็นผูน้ ำในการแลกเปลีย่ นเรยี นร้ทู
เพ่อื พัฒนาการจดั การเรียนรู้และการจดั การศกึ ษา
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะทไ่ี ด้จากการพัฒนา
วชิ าชพี มาใชใ้ นการพฒั นาการนเิ ทศการศกึ ษา ท่มี

คณุ ภาพครูและผ้เู รียน

คุณสมบตั เิ ฉพาะสำหรบั ตำแหน่ง 8

สังเคราะห์ ความรแู้ ละสมรรถนะทีจ่ ำเป็น
การสง่ เสริม สำหรบั ตำแหนง่

นประกอบการ
ขา้ มามี
สร้าง

ารศึกษา
รถจัดการศึกษา

ความรู้
ษาไทย
นโลยดี จิ ิทัล
ก์ และความ

ทางวชิ าชพี

าตนเองและ
มีผลต่อ

ตารางสรปุ มาตรฐานว

ศกึ ษานเิ ทศก์ชำนาญการ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพเิ ศษ

คุณภาพการปฏิบตั ิงาน คุณภาพการปฏิบตั ิงาน

• มคี วามสามารถ และทกั ษะในการปฏิบตั งิ าน • มคี วามสามารถ และทักษะในการปฏบิ ัตงิ าน
ดา้ นการนิเทศการศกึ ษา ด้านการสง่ เสรมิ ดา้ นการนเิ ทศการศึกษา ด้านการส่งเสรมิ
และสนบั สนุนการจัดการศกึ ษา และสนบั สนุนการจดั การศกึ ษา

• แสดงให้เห็นว่ามีการออกแบบและจดั ทำ • แสดงใหเ้ หน็ วา่ มีการออกแบบและจัดทำ
แผนการนิเทศการศกึ ษา แผนการนเิ ทศการศกึ ษา

• คัดสรร สร้าง พฒั นาส่ือ นวตั กรรมและ • คัดสรร สรา้ ง พฒั นาสื่อ นวตั กรรมและ
เทคโนโลยีใหส้ อดคลอ้ งกับแผนการนเิ ทศ เทคโนโลยีให้สอดคลอ้ งกบั แผนการนเิ ทศ
การศกึ ษา การศึกษา

• ปฏิบัตกิ ารนเิ ทศ ติดตาม ตรวจสอบ • ปฏบิ ัตกิ ารนเิ ทศ ติดตาม ตรวจสอบ
และประเมินผลการจดั การศึกษา และประเมินผลการจดั การศึกษา

• ส่งเสริมพฒั นางานวชิ าการของหนว่ ยงาน • สง่ เสริมพฒั นางานวิชาการของหน่วยงาน
การศึกษา การศกึ ษา

• ประสานงานกบั หนว่ ยงานและผู้มี • ประสานงานกับหนว่ ยงานและผู้มี
สว่ นเกย่ี วขอ้ ง โดยเน้นการมสี ่วนรว่ ม สว่ นเกยี่ วขอ้ ง โดยเน้นการมสี ่วนรว่ ม

• จัดทำรายงานผลการนิเทศการศึกษา • จดั ทำรายงานผลการนิเทศการศึกษา
เพ่ือแกไ้ ขปญั หา และ เพอ่ื แกไ้ ขปัญหา

• ให้ผ้รู บั การนเิ ทศพัฒนาการจดั การเรียนรู้ • ริเร่มิ คดิ คน้ และพัฒนานวตั กรรม
ของผเู้ รียนอยา่ งมีคณุ ภาพ ให้ผ้รู ับการนิเทศพัฒนาการจดั การเรียนรู้
ของผเู้ รยี นอยา่ งมีคณุ ภาพสูงขน้ึ
• พัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ
• พัฒนาตนเอง พฒั นาวิชาชพี
• นำความรู้ ความสามารถทกั ษะทีไ่ ด้
จากการพฒั นาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ • นำความรู้ ความสามารถทกั ษะท่ไี ด้
มาใช้ในการแก้ปัญหาการนิเทศการศกึ ษา จากการพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชพี
ใหม้ ีผลต่อคณุ ภาพครูและผู้เรยี น มาใชใ้ นการแก้ปัญหาและพฒั นาการ
นิเทศการศกึ ษาใหม้ ผี ลตอ่ คณุ ภาพครู
และผเู้ รียน เปน็ แบบอย่างทดี่ ี

9

วิทยฐานะศกึ ษานเิ ทศก์

ศกึ ษานเิ ทศกเ์ ชี่ยวชาญ ศึกษานเิ ทศก์เชย่ี วชาญพิเศษ

คุณภาพการปฏบิ ตั งิ าน คุณภาพการปฏิบตั ิงาน

• มคี วามสามารถ และทกั ษะในการปฏิบัติงาน • มีความสามารถ และทกั ษะในการปฏบิ ัติงาน

ดา้ นการนิเทศการศึกษา ดา้ นการสง่ เสริม ด้านการนเิ ทศการศึกษา ด้านการสง่ เสรมิ

และสนบั สนุนการจดั การศกึ ษา และสนบั สนุนการจดั การศกึ ษา

• แสดงให้เห็นว่ามกี ารออกแบบและจดั ทำ • แสดงใหเ้ ห็นวา่ มกี ารออกแบบและจัดทำ
แผนการนเิ ทศการศึกษา แผนการนิเทศการศึกษา

• คัดสรร สร้าง พฒั นาสอื่ นวัตกรรมและ • คัดสรร สร้าง พัฒนาสอ่ื นวัตกรรมและ
เทคโนโลยใี ห้สอดคล้องกบั แผนการนเิ ทศ เทคโนโลยีให้สอดคล้องกบั แผนการนเิ ทศ
การศึกษา การศกึ ษา

• ปฏบิ ตั ิการนเิ ทศ ตดิ ตาม ตรวจสอบ • ปฏบิ ตั กิ ารนเิ ทศ ติดตาม ตรวจสอบ
และประเมินผลการจดั การศึกษา และประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา

• ส่งเสริมพัฒนางานวชิ าการของหน่วยงาน • สง่ เสริมพัฒนางานวิชาการของหน่วยงาน
การศึกษา การศึกษา

• ประสานงานกบั หน่วยงานและผู้มี • ประสานงานกบั หน่วยงานและผูม้ ี
สว่ นเก่ียวข้อง โดยเน้นการมสี ่วนรว่ ม สว่ นเก่ยี วข้อง โดยเนน้ การมสี ่วนรว่ ม

• จัดทำรายงานผลการนเิ ทศการศึกษา • จดั ทำรายงานผลการนิเทศการศกึ ษา
เพือ่ แก้ไขปัญหา เพื่อแกไ้ ขปัญหา

• ริเรม่ิ คดิ ค้น พัฒนาและปรบั เปลีย่ น • ริเร่มิ คดิ ค้น พัฒนาและปรบั เปลย่ี น

นวัตกรรมให้ผ้รู ับการนเิ ทศ พัฒนา เผยแพร่และขยายผลนวตั กรรมและ
การจดั การเรยี นรู้ของผู้เรยี นอยา่ ง งานวจิ ัย จนนำไปสู่การเปลยี่ นแปลง
มีคุณภาพสูงขนึ้ ในวงวิชาชพี

• พัฒนาตนเอง พฒั นาวชิ าชีพ • พฒั นาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ

• นำความรู้ ความสามารถทกั ษะที่ได้ • นำความรู้ ความสามารถทักษะทีไ่ ด้
จากการพฒั นาตนเองและพัฒนาวชิ าชพี จากการพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี
มาใช้ในการแกป้ ัญหาและพัฒนาการ มาใช้ในการแกป้ ญั หาและพัฒนาการ

ศกึ ษานิเทศกช์ ำนาญการ ศกึ ษานเิ ทศกช์ ำนาญการพเิ ศษ

วนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ
วิชาชพี วิชาชีพ

• มวี ินยั คุณธรรม จริยธรรม • มีวนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม

• ประพฤติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี • ประพฤติตนเปน็ แบบอยา่ งท่ีดี

• ดำรงชวี ิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ • ดำรงชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง พอเพยี ง

• มีจิตสำนึกความรบั ผิดชอบในการนิเทศ • มีจิตสำนกึ ความรบั ผดิ ชอบในการนเิ ทศ
การศกึ ษา การศกึ ษา

• มจี รรยาบรรณของวิชาชีพ • มีจรรยาบรรณของวชิ าชพี

คณุ สมบัตเิ ฉพาะสำหรับวิทยฐานะ คณุ สมบตั เิ ฉพาะสำหรับวิทยฐานะ
1. ดำรงตำแหนง่ ศกึ ษานิเทศก์ ไมน่ อ้ ยกว่า 4 ปี 1. ดำรงตำแหนง่ ศึกษานเิ ทศก์ ทีม่ วี ิทยฐานะ

หรือ ลดระยะเวลาจาก 4 ปี เหลอื 3 ปี ศกึ ษานเิ ทศกช์ ำนาญการ ไมน่ ้อยกวา่ 4 ปี
ตามเงือ่ นไขท่ี ก.ค.ศ.กำหนด และผา่ น หรือ ลดระยะเวลาจาก 4 ปี เหลือ 3 ปี
การประเมนิ ตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี าร ตามเงือ่ นไขท่ี ก.ค.ศ.กำหนด และผ่าน
ท่ี ก.ค.ศ.กำหนด หรอื การประเมนิ ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการ
2. ดำรงตำแหน่งอ่ืนท่ี ก.ค.ศ.เทียบเท่า หรือ ท่ี ก.ค.ศ.กำหนด หรอื
3. ดำรงตำแหนง่ อ่นื ทมี่ วี ทิ ยฐานะชำนาญการ 2. ดำรงตำแหนง่ อนื่ ท่ี ก.ค.ศ.เทยี บเทา่ หรอื
3. ดำรงตำแหน่งอน่ื ทีม่ วี ทิ ยฐานะชำนาญการ
พเิ ศษ

10

ศกึ ษานิเทศกเ์ ชีย่ วชาญ ศึกษานเิ ทศก์เชี่ยวชาญพเิ ศษ

นเิ ทศการศกึ ษาให้มผี ลตอ่ คณุ ภาพครู นิเทศการศึกษาให้มผี ลต่อคณุ ภาพครู
และผเู้ รียน เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี เป็นผนู้ ำ และผเู้ รยี น เปน็ แบบอย่างท่ดี ี เป็นผู้นำ
และสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงตอ่ และสร้างผนู้ ำการเปล่ียนแปลงตอ่
เพอ่ื นร่วมวชิ าชพี วงวชิ าชีพ

วินยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ
วิชาชพี วชิ าชพี

• มวี ินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม • มวี ินยั คุณธรรม จริยธรรม

• ประพฤติตนเป็นแบบอย่างทดี่ ี • ประพฤติตนเป็นแบบอย่างทดี่ ี

• ดำรงชวี ิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ • ดำรงชีวติ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง พอเพียง

• มจี ิตสำนึกความรบั ผดิ ชอบในการนเิ ทศ • มีจติ สำนกึ ความรบั ผดิ ชอบในการนิเทศ
การศึกษา การศึกษา

• มจี รรยาบรรณของวิชาชพี • มีจรรยาบรรณของวิชาชพี

คณุ สมบัตเิ ฉพาะสำหรบั วทิ ยฐานะ คณุ สมบตั เิ ฉพาะสำหรบั วทิ ยฐานะ
1. ดำรงตำแหน่งศกึ ษานิเทศก์ ทมี่ วี ิทยฐานะ 1. ดำรงตำแหนง่ ศกึ ษานเิ ทศก์ ท่ีมวี ิทยฐานะ

ศึกษานิเทศกช์ ำนาญการพิเศษ ไมน่ ้อยกวา่ ศึกษานเิ ทศกเ์ ชี่ยวชาญ ไม่นอ้ ยกวา่ 4 ปี
4 ปี หรอื ลดระยะเวลาจาก 4 ปี เหลอื 3 ปี หรอื ลดระยะเวลาจาก 4 ปี เหลอื 3 ปี
ตามเง่ือนไขที่ ก.ค.ศ.กำหนด และผา่ น ตามเงอื่ นไขที่ ก.ค.ศ.กำหนด และผ่าน
การประเมนิ ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการ การประเมนิ ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการ
ที่ ก.ค.ศ.กำหนด หรอื ท่ี ก.ค.ศ.กำหนด หรอื
2. ดำรงตำแหนง่ อน่ื ที่ ก.ค.ศ.เทยี บเทา่ หรอื 2. ดำรงตำแหนง่ อน่ื ท่ี ก.ค.ศ.เทยี บเท่า หรือ
3. ดำรงตำแหนง่ อืน่ ที่มีวิทยฐานะเชีย่ วชาญ 3. ดำรงตำแหน่งอ่นื ทม่ี วี ิทยฐานะเชยี่ วชาญ
พิเศษ
4. ผา่ นการพฒั นาก่อนแตง่ ตั้งตามหลักเกณฑ์
และวิธกี ารที่ ก.ค.ศ.กำหนด

11

หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากอ่ นแตง่ ตงั้ ให้ดำรงตำแหน่ง
ศกึ ษานเิ ทศก์ พ.ศ. 2551

ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ให้
เป็นไปตามมาตร 80 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และท่ี
แก้ไขเพิ่มเติม และมาตรฐานตำแหน่งศึกษานิเทศก์ดังกล่าว ทั้งนี้ผู้เข้ารับการพัฒนาต้องผ่านการคัดเลือกเพ่ือ
บรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด ซึ่งหลักเกณฑ์และ
วธิ ีการ มีสาระสำคัญดังตอ่ ไปน้ี

1. หลักเกณฑ์
1.1 การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์

ต้องให้ผู้ผ่านการพัฒนามีความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสม
ในอันที่จะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความก้าวหน้าแก่ราชการ รวมท้ัง
มีความพรอ้ มในการปฏบิ ตั งิ านในตำแหนง่ ศกึ ษานิเทศก์

1.2 การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
ต้องพัฒนาในลักษณะองค์รวมที่บูรณาการทั้งในด้านความรู้ ทักษะและเจตคติที่ดี ใช้วิธีการพัฒนาหลายวิธี
ควบคู่กบั การเรียนรู้จากผู้ทรงคุณวฒุ ิที่มีความรแู้ ละมีประสบการณเ์ ป็นการพัฒนารายบุคคลและกลุ่มเล็ก ๆ เน้น
การเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ให้ผู้เข้ารับการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง โดยใช้แหล่ง
เรยี นรแู้ ละองค์ความรูท้ ี่มีอยอู่ ยา่ งหลากหลาย

2. วิธีการ
2.1 การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์

ใช้วิธีการพัฒนาหลายวิธี เน้นการเรียนรู้เป็นรายบุคคล การเรียนรู้เป็นกลุ่มเล็ก ๆ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม การเรียนรู้ในสภาพจริง การสอนแนะ และวิธีการอื่น ๆ ตามความเหมาะสม โดยมี
โครงสรา้ งหลกั สตู ร ประกอบด้วย 3 สว่ น ระยะเวลาการพฒั นาไม่นอ้ ยกว่า 30 วนั ดงั นี้

สว่ นท่ี 1 การเสริมสร้างสมรรถนะของศึกษานิเทศก์ ให้ผเู้ ข้ารบั การพฒั นาได้พัฒนาคุณลกั ษณะ
ของศึกษานิเทศก์ และความสามารถในการนเิ ทศการศกึ ษา ดังน้ี

1. คณุ ลักษณะของศกึ ษานเิ ทศก์ ประกอบดว้ ย
1.1 รัก ศรัทธา และภาคภูมิใจในการเป็นศึกษานเิ ทศก์
1.2 วินัย และจรรยาบรรณวชิ าชีพศกึ ษานเิ ทศก์
1.3 คุณธรรม จริยธรรม และเมตตาธรรมในการยกระดบั จติ วิญญาณความเปน็ ครู
1.4 พัฒนาตนเอง พฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา และพัฒนาวชิ าชพี
ศกึ ษานิเทศก์
1.5 กระบวนทัศน์การพัฒนา
1.6 ทักษะทางวชิ าการและทางการบรหิ าร

2. ความสามารถในการนิเทศ ประกอบดว้ ย
2.1 พน้ื ฐานการนเิ ทศการศกึ ษา
2.2 ทกั ษะกระบวนการนเิ ทศการศกึ ษา
2.3 การวจิ ยั และการนำผลการวจิ ยั ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
2.4 การติดตาม ประเมิน และรายงานผลการจัดการศึกษา
2.5 การนิเทศการศึกษาตามกลุ่มสาระการเรียนรหู้ รือสาขาวชิ าทีร่ บั ผดิ ชอบ

12

2.6 การวเิ คราะห์กฎหมาย ระเบยี บ หลักเกณฑ์ และวิธกี ารท่เี กีย่ วข้องกับการ
ปฏิบัติงานในหน้าทีศ่ ึกษานิเทศก์

ส่วนที่ 2 การฝึกประสบการณ์นิเทศการศึกษา ให้ผุ้เข้ารับการพัฒนาได้เรียนรู้ตามสภาพ
จริง โดยฝึกประสบการณ์นิเทศการศึกษาในสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือส่วนราชการที่มี
สภาพและบรบิ ทหลากหลาย โดยมีผ้บู รหิ ารและผู้ทรงคุณวฒุ ิท่ีมคี วามรอบรู้ มีประสบการณใ์ ห้คำปรึกษาแนะนำ
กำกบั ติดตาม และประเมินผลการเรียนรู้ในสภาพจรงิ แล้วนำผลจากการเรยี นรูใ้ นสภาพจรงิ มาสมั มนาสรุปผล

ส่วนที่ 3 การจัดทำและนำเสนอแผนพัฒนางานนิเทศการศึกษาในหน้าที่ที่รับผิดชอบ ให้
ผู้เข้ารับการพัฒนาจัดทำแผนพัฒนางานนิเทศการศึกษาของตนโดยมีการวิเคราะห์สภาพ ปัญหา กลยุทธ์ การ
พัฒนาการศึกษา และแผนพัฒนางานนิเทศการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือหน่วยงานต้นสังกัด
แลว้ นำเสนอแผนพฒั นางานนิเทศการศกึ ษาของผูเ้ ข้ารบั การพัฒนาแต่ละคน

2.2 การพฒั นาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตง้ั ใหด้ ำรงตำแหนง่ ศึกษานเิ ทศก์
ผู้บริหารโครงการพัฒนาต้องส่งเสริมสนับสนุน ให้คำปรึกษา แนะนำ กำกับ และติดตาม ให้มีการพัฒนาตามขั้นตอน
ดงั นี้

2.2.1 ผู้เขา้ รบั การพัฒนาเสนอแผนพัฒนาตนเอง
2.2.2 ผเู้ ขา้ รบั การพัฒนามกี ารพฒั นาตามแผนพัฒนาตนเองภายใตก้ ารให้คำปรกึ ษา
แนะนำของผู้บรหิ ารโครงการพฒั นาและวทิ ยากร ตอ่ ไปนี้

1) การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองจากส่ือหรอื แหลง่ เรียนรตู้ า่ ง ๆ
2) การเรยี นรูจ้ ากผู้ทรงคุณวุฒทิ ่ีมคี วามรอบรูแ้ ละมีประสบการณ์
3) การเรยี นรู้จากกลุ่ม (3-5 คน)
4) การศึกษาดูงานในหนว่ ยงานภาครฐั หรอื เอกชน
5) การฝึกประสบการณ์นเิ ทศการศกึ ษา
6) การจัดทำและนำเสนอแผนพัฒนางานนเิ ทศการศกึ ษา
7) การเขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อิสระ (ประมาณ 20 หน้า)
2.3 การพัฒนาขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษากอ่ นแตง่ ต้ังให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
มหี ลักการ วธิ กี ารประเมนิ และเกณฑ์การประเมิน ดงั นี้
2.31. หลักการ เป็นการประเมินผลเพ่อื การพฒั นา ม่งุ เนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง โดย
ยึดวตั ถุประสงค์ของการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารพัฒนานี้ เป็นสำคัญ
2.3.2 วธิ ีการประเมิน เป็นการประเมินโดยใช้วธิ กี ารและเครอ่ื งมืออย่างหลากหลาย เชน่
การทดสอบ การสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ์ การตรวจผลงาน เป็นต้น โดยจัดใหม้ ีการประเมนิ ผลทกุ
ขนั้ ตอนของการพฒั นา
2.3.3 เกณฑ์การประเมนิ ผูเ้ ข้ารบั การพัฒนาต้องมรี ะยะเวลาเขา้ รับการพัฒนาไม่น้อยกวา่
ร้อยละ 85 ของระยะเวลาการพฒั นาทง้ั หมด และต้องผ่านเกณฑ์ประเมินผลท้ังในสว่ นของการประเมินผล
ระหว่างการพฒั นา และการประเมนิ ผลเมื่อสน้ิ สดุ การพัฒนาไม่ตำ่ กว่ารอ้ ยละ 70
2.4 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานหรือสว่ นราชการตน้ สงั กดั เป็นหนว่ ยงานท่ี
รบั ผดิ ชอบในการจดั ทำรายละเอียดหลกั สตู รและดำเนินการพัฒนา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการพฒั นานี้ โดยอาจ
ร่วมกับสถาบนั อดุ มศึกษาหรือเครือข่ายการพัฒนาของกระทรวงศึกษาธิการ

13

3. มาตรฐานการพฒั นา
หนว่ ยงานทร่ี ับผิดชอบการพัฒนาต้องดำเนินการให้ไดม้ าตรฐาน ดังต่อไปน้ี
3.1 มาตรฐานหลกั สตู ร
หลักสูตรการพัฒนาต้องมีหลักการ วัตถุประสงค์ โครงสร้างหลักสูตร วิธีการพัฒนา ระยะ

เวลาการพัฒนา การวดั และประเมินผลการพัฒนาชดั เจน สอดคลอ้ งกบั หลักเกณฑ์และวธิ ีการพัฒนาน้ี
3.2 มาตรฐานส่อื และนวตั กรรม
สื่อและนวัตกรรมการพัฒนาต้องมีคุณภาพ มีความสอดคล้องกบั เนื้อหาสาระและกิจกรรม

การพัฒนาตามหลักสูตรการพัฒนา ผู้บริหารโครงการต้องจัดให้มีคู่มือการพัฒนา เอกสารประกอบการพัฒนา
หรือสื่ออื่น ๆ ที่มีคุณภาพส่งให้ผู้เข้ารับการพัฒนาศึกษาล่วงหน้า เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน จัดเอกสาร
สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และโสตทศั นปู กรณ์หรือสอื่ อ่นื ๆ ท่ีมคี ณุ ภาพและเพยี งพอสำหรับการศึกษาคน้ คว้า

3.3 มาตรฐานวิทยากร
ผู้บริหารโครงการต้องจัดวิทยากรและวิทยากรพี่เลี้ยงที่มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้ที่มีความรอบรู้

มีความสามารถ มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับในเชิงวิชาการและทางวิชาชีพในเรื่องที่
รับผดิ ชอบในการพัฒนา จดั กิจกรรมการพฒั นาโดยถือว่าผเู้ ข้ารับการพัฒนามีความสำคัญทีส่ ดุ

3.4 มาตรฐานสถานท่ีและแหล่งเรียนรู้
สถานท่ที ใ่ี ชใ้ นการพัฒนาตอ้ งเหมาะสม มีบรรยากาศท่ีดี มีอุปกรณแ์ ละส่งิ อำนวยความ

สะดวกเอื้อต่อการพฒั นา รวมทง้ั มแี หล่งศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งเพียงพอสำหรับการพัฒนา
3.5 มาตรฐานการประเมิน
การประเมินผลการพัฒนาต้องมุ่งเน้นการประเมินตามสภาพจริงอย่างเป็นระบบและได้

มาตรฐานเพื่อปรับปรุงพัฒนา โดยยึดวัตถุประสงค์การพัฒนาเป็นสำคัญ ผู้บริหารโครงการพัฒนาและวิทยากร
ต้องปรึกษาหารือร่วมกันเกี่ยวกับหลักการประเมิน วิธีการและเครื่องมือการประเมินผล รวมทั้งเกณฑ์ การ
ประเมินผล

3.6 มาตรฐานการบริหารจัดการ
ผู้บริหารโครงการพัฒนาต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการและหลักสูตร

การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์อย่างชัดเจน
บริหารจัดการโครงการโดยใช้ขอ้ มลู สารสนเทศ เพ่อื ใหก้ ารพฒั นาบรรลผุ ลตามหลักการและวตั ถปุ ระสงค์ของการ
พัฒนา มีการจัดวิทยากรเป็นคณะหรือทีมจัดการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องหลักสูตรกับวิทยากร และ
จัดสรรงบประมาณสนบั สนุนใหเ้ พียงพอ

3.7 มาตรฐานคุณภาพผู้ผ่านการพัฒนา
ผู้ผ่านการพัฒนามีคุณลักษณะของศึกษานิเทศก์ที่ดี รัก ศรัทธา และภาคภูมิใจในการเป็น

ศึกษานิเทศก์ มีวินัย และจรรยาบรรณวิชาชีพศึกษานิเทศก์ มีคุณธรรม จริยธรรม และเมตตาธรรมในการ
ยกระดบั จิตวิญญาณความเปน็ ครู สามารถพฒั นาตนเอง พฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา และพัฒนาวชิ าชีพ
ศึกษานิเทศก์ รวมทั้งมีทักษะทางวิชาการและทางการบริหาร และมีความสามารถในการนิเทศการศึกษา โดยมี
ความรพู้ นื้ ฐานในการนิเทศการศึกษา มีทกั ษะในการนเิ ทศการศึกษา สามารถวจิ ยั ตดิ ตาม ประเมนิ และรายงาน
ผลการจดั การศึกษาอย่างเป็นระบบ สามารถนเิ ทศการศึกษาตามกลุ่มสาระการเรียนรู้หรือสาขาวิชาที่รับผิดชอบ
รวมทั้งมีความรู้พื้นฐานเกีย่ วกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในหน้าที่
ศึกษานิเทศก์

14

หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพัฒนาขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาผอู้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชา พ.ศ. 2551

โดยทพี่ ระราชบัญญัติระเบียบขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และท่แี ก้ไข
เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 มาตรา 79 บัญญัติให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อยู่ใต้บังคับ
บัญชา และมีหน้าที่พัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรม และ
จรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสม ในอันที่จะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ
ความกา้ วหน้าแกร่ าชการ ทั้งน้ี ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการท่ี ก.ค.ศ. กำหนด

ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้
บังคับบัญชาให้เป็นไปตามมาตร 79 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.
2547 และทีแ่ ก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2551 หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพฒั นา มีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้

1. หลกั เกณฑ์
1.1 ผู้บังคับบัญชาทุกคน ทุกระดับมีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากร

ทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและได้มาตรฐานถือว่าการ
ปฏิบัติงานและการเรียนรู้เป็นเรื่องเดียวกันจำเป็นต้องพัฒนาตลอดเวลา ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาทุกคนมีหน้าที่ต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการและด้านอื่นท่ี
เกีย่ วข้อง และให้ผู้บงั คบั บัญชานำผลการพัฒนาไปใช้เป็นสว่ นสำคัญในการพจิ ารณาดำเนนิ การบริหารทรัพยากร
บุคคล เชน่ การเล่อื นข้นั เงินเดือน การเปลยี่ นตำแหน่งหรือสายงาน การเลอ่ื นวทิ ยฐานะ การยกย่องเชิดชูเกียรติ
เปน็ ตน้

1.2 ผู้บังคับบญั ชาทุกคน ทุกระดับต้องพัฒนาตนเองให้เป็นแบบอย่างทีด่ ีแกข่ ้าราชการครูและ
บคุ ลากรทางการศึกษา พฒั นาหนว่ ยงานการศึกษาให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ และพฒั นาผ้อู ยูใ่ ต้บังคับบัญชา
ให้มีคุณลักษณะที่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ และมีความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ
ใหม้ ีประสทิ ธิภาพ ประสทิ ธิผล และความกา้ วหนา้ แกร่ าชการ

2. วิธีการ
2.1 ผู้บังคับบัญชาส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แต่ละคน

ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยเพื่อประโยขน์ในการจัดทำแผนหรือโครงการ และการพัฒนาการปฏิบัตงิ านในหน้าที่ความ
รับผดิ ชอบ ซ่งึ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองดว้ ย

2.2 ผู้บังคับบัญชาส่งเสริมให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แต่ละคนจัดทำแผนพัฒนา
ตนเอง

2.3 ผู้บังคับบัญชาพัฒนาตนเองให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติงาน จัดบรรยากาศในการ
ปฏิบัติงาน และพัฒนากระบวนการทำงานที่ส่งเสริมให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเกิดการเรียนรู้
ตลอดเวลา จัดหาข้อมูล แหล่งการเรียนรู้ จัดสรรงบประมาณและสิ่งอำนวยความสะดวกส่งเสริมสนับสนุนาร
พฒั นาข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา

2.4 ผู้บังคบั บัญชาส่งเสริมใหข้ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แสวงหาความรู้เพิ่มเติม
โดยการพัฒนาภายในหน่วยงานทีป่ ฏิบตั ิ ได้แก่ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การเรยี นรูเ้ ป็นกลุ่มเล็ก ๆ การแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม การเรียนรู้ในสภาพจริง การสอนแนะ การวิจัย การจัดทำผลงานทางวิชาการ
เปน็ ต้น กับการพฒั นาภายนอกหน่วยงานท่ีปฏบิ ัติ ได้แก่ การศึกษาตอ่ การฝกึ อบรม การสมั มนา การประชุมเชิง
ปฏิบัติการ การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และมีประสบการณ์ การเป็นวิทยากร การ
นำเสนอผลงานทางวชิ าการ เป็นต้น หรือการพัฒนาดว้ ยวธิ กี ารอนื่ ๆ ตามความเหมาะสม

15

ทั้งนี้ ต้องมีการพัฒนาใน 2 ส่วนสำคัญตามความต้องการหรือจำเป็น คือ ด้านคุณลักษณะ
ที่เหมาะสมกับตำแหน่ง ได้แก่ การพัฒนาพฤติกรรมที่แสดงถึงการเป็นผู้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และ
จรรยาบรรณวชิ าชีพ มีความรัก ศรัทธา ภาคภูมิใจในวิชาชพี มีความขยันหมนั่ เพียร มงุ่ มน่ั ในการปฏบิ ตั ิงาน เป็น
แบบอย่างที่ดี รัก ใฝ่ใจในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ และด้านความสามารถในการปฏิบัติงานใน หน้าท่ี
ความรับผิดชอบ ได้แก่ การพัฒนาพฤติกรรมที่แสดงถึงการเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานใน
ตำแหน่งที่แต่ละคนกำลังดำรงตำแหน่งอยู่ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา โดยจะต้องมีการพฒั นาอย่างเปน็ ระบบเปน็ ระยะ ๆ รวมกนั ไมน่ ้อยกว่า 15 วนั ในแต่ละปี

2.5 ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาบนั ทึกการพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่อื ง รายงานผล
การพัฒนาต่อผู้บังคับบัญชา แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมงาน และนำไปใช้ประโยชน์ภายใต้การนิเทศให้
คำปรกึ ษาแนะนำของผู้บังคับบัญชา โดยผบู้ งั คับบญั ชาจดั ให้มกี ารประเมินผลการพัฒนาเปน็ ระยะ ๆ ทกุ 3 เดอื น

2.6 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษานำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการ
พัฒนาไปพัฒนาการปฏิบัติตน และการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การนิเทศ ให้คำปรึกษา แนะนำของ
ผู้บังคับบญั ชา แล้วจัดทำรายงานผลการพัฒนาในลกั ษณะของประมวลความรูแ้ ละประสบการณท์ ี่ได้รับจากการ
พัฒนาเสนอต่อผู้บังคับบัญชา และผู้บังคับบัญชาจัดให้มีการประเมินสรุปผลการพัฒนา ทุก 6 เดือน โดย
ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และการประเมินตนเอง แล้วรายงานผู้บริหารส่วนราชการต้นสังกัดหรือผู้อำนวยการ
สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาในภาพรวมของแตล่ ะหน่วยงานการศกึ ษา

3. กลไกการพัฒนา
3.1 คณะกรรมการขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา (ก.ค.ศ.)
คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนา

ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือยกย่องเชดิ ชูเกียรติหน่วยงานการศึกษาข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศกึ ษาทมี่ ีผลการพัฒนาดีเดน่

3.2 ผูบ้ ริหารสว่ นราชการตน้ สงั กดั หรือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา
ผู้บริหารส่วนราชการต้นสังกัดหรือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้องศึกษา

วิเคราะห์ วิจัยคุณภาพข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งคุณภาพผู้เรียน วางแผน จัดเตรียม
งบประมาณ จัดทำคู่มือการพัฒนา จัดหาข้อมูล แหล่งการเรียนรู้ จัดสิ่งอำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือ
การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาที่ขาดความพร้อม รวมทั้ง ยกย่องเชิดชูเกียรติหน่วยงานการศึกษา
ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาทีม่ ผี ลการพัฒนาดีเด่น

3.3 ผบู้ ังคบั บัญชา
ผบู้ ังคบั บัญชา ตอ้ งศกึ ษา วิเคราะห์ วจิ ยั คุณภาพข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

รวมทั้งคุณภาพผู้เรียน จัดบรรยากาศการเรียนรู้ วางแผน จัดเตรียมงบประมาณสำหรับการพัฒนาข้าราชการครู
และบุคลากรทางการศึกษา จัดหาข้อมูล แหล่งการเรียนรู้ จัดสิ่งอำนวยความสะดวก ส่งเสริมสนับสนุน
ให้คำปรึกษา แนะนำ นิเทศ กำกับ และตดิ ตามผลการพฒั นาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและนำผล
การพัฒนาไปใช้เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาบริหารทรัพยากรบุคคล เช่น การเลื่อนขั้นเงินเดือน การเปลี่ยน
ตำแหน่งหรือสายงาน การเลื่อนวิทยฐานะ การยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็นต้น แล้วรายงานผู้บริหารส่วนราชการ
ตน้ สงั กัด หรือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษา

3.4 ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา
ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ซงึ่ ได้แก่ ครู ผูบ้ ริหารสถานศึกษา ผบู้ ริหารการศึกษา

ศึกษานิเทศก์ และบุคลากรทางการศึกษาท่ีเรียกชื่ออย่างอื่นตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด ตอ้ งศึกษา วเิ คราะห์ วจิ ัย

16

จัดทำแผนพัฒนาตนเอง เข้ารับการพัฒนา บันทึกการพัฒนาตนเอง รายงานผลการพัฒนาต่อผู้บังคับบัญชา
แลกเปลยี่ นเรยี นรูก้ ับเพ่อื นรว่ มงาน และนำไปใชป้ ระโยชน์

4. มาตรฐานการพัฒนา
ในกรณีทีเ่ ปน็ การพฒั นาอย่างเป็นระบบภายนอกหนว่ ยงานที่ปฏิบตั ิ หนว่ ยงานท่ีรบั ผดิ ชอบการ

พัฒนาต้องดำเนนิ การให้ได้มาตรฐาน ดังตอ่ ไปนี้
4.1 มาตรฐานหลกั สูตร
หลักสูตรการพัฒนาต้องมีหลักการ วัตถุประสงค์ โครงสร้างหลักสูตร วิธีการพัฒนา ระยะ

เวลาการพฒั นา การวดั และประเมนิ ผลการพัฒนาชดั เจน สอดคลอ้ งกับหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารพัฒนาน้ี
4.2 มาตรฐานสื่อและนวตั กรรม
สื่อและนวัตกรรมการพัฒนาต้องมีคุณภาพ มีความสอดคล้องกับเนื้อหาสาระและกิจกรรม

การพัฒนาตามหลักสูตรการพัฒนา ผู้บริหารโครงการต้องจัดให้มีคู่มือการพัฒนา เอกสารประกอบการพัฒนา
หรือสื่ออื่น ๆ ที่มีคุณภาพส่งให้ผู้เข้ารับการพัฒนาศึกษาล่วงหน้า เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน จัดเอกสาร
สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ และโสตทัศนูปกรณห์ รอื สอ่ื อ่นื ๆ ทม่ี ีคณุ ภาพและเพียงพอสำหรบั การศึกษาค้นคว้า

4.3 มาตรฐานวทิ ยากร
ผู้บริหารโครงการต้องจัดวิทยากรและวิทยากรพี่เลี้ยงที่มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้ที่มีความรอบรู้

มีความสามารถ มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับในเชิงวิชาการและทางวิชาชีพในเรื่องที่
รบั ผิดชอบในการพฒั นา จัดกจิ กรรมการพัฒนาโดยถอื ว่าผเู้ ข้ารับการพฒั นามคี วามสำคญั ที่สุด

4.4 มาตรฐานสถานทแ่ี ละแหล่งเรียนรู้
สถานที่ที่ใช้ในการพัฒนาต้องเหมาะสม มีบรรยากาศที่ดี มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความ

สะดวกเออ้ื ตอ่ การพัฒนา รวมท้ังมีแหลง่ ศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งเพยี งพอสำหรับการพฒั นา
4.5 มาตรฐานการประเมิน
การประเมินผลการพัฒนาต้องมุ่งเน้นการประเมินตามสภาพจริงอย่างเป็นระบบและได้

มาตรฐานเพื่อปรับปรุงพัฒนา โดยยึดวัตถุประสงค์การพัฒนาเป็นสำคัญ ผู้บริหารโครงการพัฒนาและวิทยา กร
ต้องปรึกษาหารือร่วมกันเกี่ยวกับหลักการประเมิน วิธีการและเครื่องมือการประเมินผล รวมทั้งเกณฑ์การ
ประเมนิ ผล

4.6 มาตรฐานการบริหารจัดการ
ผู้บริหารโครงการพัฒนาต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการและหลักสูตร

การพัฒนาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาผู้อยู่ใต้บงั คับบัญชาอย่างชัดเจน บรหิ ารจดั การโครงการโดย
ใช้ข้อมูลสารสนเทศ เพื่อให้การพัฒนาบรรลุผลตามหลักการและวัตถุประสงค์ของการพัฒนา จัดวิทยากรเป็น
คณะหรือทีมจัดการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องหลักสูตรกับวิทยากร และจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้
เพยี งพอ

4.7 มาตรฐานคณุ ภาพผู้ผา่ นการพัฒนา
ผู้บังคับบัญชาเปน็ แบบอย่างท่ีดีแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และข้าราชการ

ครูและบุคลากรทางการศึกษามีคุณลักษณะที่เหมาะสมกับตำแหน่ง และมีความสามารถในการปฏิบัติงานใน
หน้าท่คี วามรบั ผิดชอบให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความก้าวหนา้ แก่ราชการ

17

ภารกิจหน้าท่ีของหน่วยงานท่เี ก่ยี วข้อง

สำนกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั

คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 19/2560 ลงวันที่ 3 เมษายน 2560 เรื่อง
การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ โดยตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา
ของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค พร้อมตั้งสำนักงานศึกษาธิการภาค 18 ภาค และสำนักงานศึกษาธิการ
จังหวัด สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อปฏิบัติภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการในระดับพื้นที่
โดยใช้บงั คับตง้ั แตว่ ันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป และให้สำนกั งานศึกษาธิการจังหวดั มีอำนาจหนา้ ท่ี
ในเขตจังหวดั ดังนี้ (1) รับผิดชอบงานธุรการของ กศจ. อกศจ. คณะอนุกรรมการบรหิ ารราชการเชงิ ยุทธศาสตร์
คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา คณะอนุกรรมการและคณะทำงาน รวมทั้งปฏิบัติงานราชการ
ที่เป็นไปตามอำนาจและหน้าที่ของ กศจ. และตามที่ กศจ. มอบหมาย (2) จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาและ
แผนปฏิบัติการ (3) สั่งการกำกับ ดูแล เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการ หรือ
หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (4)
จัดระบบ ส่งเสริม และประสานงานเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษา (5) ส่งเสริม
และสนับสนุนการศึกษาเพื่อคนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีความสามารถพิเศษ (6) ดําเนินงานเกี่ยวกับการ
บริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (7) ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการเกี่ยวกับ
งานด้านวิชาการ การนิเทศ และแนะแนว การศึกษาทุกระดับและทุกประเภท รวมทั้งติดตามและประเมินผล
ระบบบริหารและการจัดการศกึ ษา (8) ดำเนินการเกี่ยวกบั การตรวจสอบด้านการบริหาร การเงิน และการบัญชี
ของส่วนราชการ หรือหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (9) ส่งเสริมและประสานงาน
การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการกีฬาเพื่อการศึกษา (10) ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการเกี่ยวกับการจัด
การศึกษาเอกชน (11) ปฏิบัติภารกิจตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการหรือตามที่ได้รับมอบหมาย รวมท้ัง
ปฏิบัติภารกิจเก่ยี วกับราชการประจำท่ัวไปของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และประสานงานตา่ ง ๆ ในจังหวัด

ประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การแบ่งหน่วยงานภายในสำนักงานศึกษาธิการ
ภาคและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2560
ได้แบ่งโครงสร้างและกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด โดยแบ่งกลุ่มงานภายใน
สำนกั งานศึกษาธิการจงั หวดั ออกเปน็ 8 กลมุ่ ได้แก่ 1) กลุ่มอำนวยการ 2) กลุ่มบริหารงานบคุ คล 3) กลุ่มนโยบาย
และแผน 4) กลุ่มพัฒนาการศึกษา 5) กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผล 6) กลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชน
7) กลุ่มลูกเสือ ยวุ กาชาด และกิจการนักเรียน และ 8) หน่วยตรวจสอบภายใน

ภารกิจงานกลุม่ นิเทศ ติดตาม และประเมินผล
ภารกิจงานของกลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผล ตามโครงสร้างการแบ่งงานภายในของสำนักงาน
ศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด แบง่ งานออกเป็น 5 กลมุ่ งาน ดังน้ี
1. กล่มุ งานสนบั สนุนการตรวจราชการ ประกอบด้วยงาน 5 งาน ได้แก่

1.1 งานประสานและสนบั สนุนการตรวจราชการ

18

1.2 งานศกึ ษา วเิ คราะห์ข้อมูลสารสนเทศ เพ่ือสนบั สนนุ การตรวจราชการ จัดทำแผนรองรับ
การตรวจราชการ และดำเนินการเกย่ี วกับการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวง
ในการตรวจราชการ ติดตาม และประเมินผล ตามนโยบายและแผนการตรวจราชการ
ของกระทรวง

1.3 งานส่ังการ กำกบั ดแู ล เร่งรัด ติดตามและประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานของสว่ นราชการหรือ
หนว่ ยงานและสถานศึกษาในสงั กดั กระทรวงศึกษาธิการในจังหวดั ให้เปน็ ไปตามนโยบาย
ของกระทรวงศึกษาธิการ และยุทธศาสตรช์ าติ

1.4 งานศกึ ษาวิจยั เพ่ือสนับสนุนการตรวจราชการ
1.5 ปฏบิ ตั ิงานร่วมกบั หรือสนับสนุนการปฏิบตั ิงานของหน่วยงานอนื่ ทเ่ี กยี่ วข้อง หรือท่ีได้รับมอบหมาย
2. กลมุ่ งานบูรณาการการนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผล ประกอบด้วยงาน 4 งาน ไดแ้ ก่
2.1 งานขับเคลื่อน ประสานงาน เรง่ รดั กำกับ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการบริหาร

การจัดการศึกษาของหนว่ ยงานทางการศึกษา
2.2 งานส่งเสรมิ สนับสนุน และดำเนนิ การเกย่ี วกับงานด้านวชิ าการ การนเิ ทศและแนะแนว

การศกึ ษาทุกระดับและทกุ ประเภท รวมทงั้ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลระบบบรหิ ารและการจดั
การศกึ ษา
2.3 งานศึกษาวิจยั เพ่ือสนับสนุนการนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผล
2.4 ปฏบิ ัตงิ านร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่นื ท่เี กีย่ วข้อง หรือที่ไดร้ ับมอบหมาย
3. กลมุ่ งานพฒั นามาตรฐานและการประกันคุณภาพการศกึ ษา ประกอบดว้ ยงาน 3 งาน ได้แก่
3.1 งานขบั เคลื่อนระบบประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา
3.2 งานศกึ ษาวิจยั ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา
3.3 ปฏิบตั ิงานรว่ มกับหรือสนับสนุนการปฏิบัตงิ านของหนว่ ยงานอ่ืนท่ีเกยี่ วข้อง หรือท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. กลมุ่ งานบรหิ ารราชการเชิงยุทธศาสตร์ ประกอบดว้ ยงาน 4 งาน ไดแ้ ก่
4.1 งานธรุ การของคณะอนกุ รรมการบริหารราชการเชิงยุทธศาสตร์ และคณะทำงานท่เี กี่ยวข้อง
รวมท้ังปฏบิ ัตริ าชการที่เปน็ ไปตามอำนาจและหนา้ ท่ขี อง กศจ. และตามท่ี กศจ.มอบหมาย
4.2 งานจัดทำกรอบการประเมินผลการปฏิบตั ิงาน และกำหนดตัวชวี้ ัดการดำเนินการในลกั ษณะ
ตวั ช้วี ดั รว่ มของส่วนราชการหรือหน่วยงานและสถานศึกษาในสงั กัดกระทรวงศึกษาธิการ
ในจังหวดั
4.3 งานศกึ ษาวจิ ัยเพื่อสนบั สนนุ การบริหารราชการเชิงยุทธศาสตร์
4.4 ปฏบิ ตั งิ านร่วมกบั หรือสนับสนุนการปฏบิ ัติงานของหน่วยงานอื่นท่ีเก่ยี วข้อง หรือท่ีได้รับมอบหมาย
5. กลุ่มงานพัฒนาระบบการจัดการศึกษาตลอดชีวิต ประกอบดว้ ยงาน 4 งาน ไดแ้ ก่
5.1 งานส่งเสริมและพัฒนาหลกั สตู ร
5.2 งานส่งเสรมิ และพฒั นาการจัดการเรียนการสอน และกระบวนการเรยี นรู้
5.3 งานศกึ ษาวิจัยเพอ่ื สนบั สนนุ การพัฒนาระบบการจัดการศกึ ษาตลอดชวี ติ
5.4 ปฏบิ ตั งิ านร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏบิ ัติงานของหนว่ ยงานอ่นื ท่ีเกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย

รายละเอียดความสอดคล้องเชื่อมโยงของภารกิจงานกลุ่มงานภายในของกลุ่มนิเทศ ติดตาม และ
ประเมนิ ผล สำนกั งานศึกษาธกิ ารจังหวดั สงั กัดสำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร แสดงตามแผนภาพ ดงั น้ี



19

20

สมรรถนะ โมเดลสมรรถนะ และการประยุกต์ใช้

ท่มี าของ Competency

David C. McClelland แหงมหาวิทยาลัย Harvard ไดเขียนบทความซึ่งไดกลาวถึงความสัมพันธ
ระหวางคณุ ลักษณะทด่ี ีของบุคลากรในองคกร (Excellent Performer) กับระดบั ทักษะ (Skill) ความรู (Knowledge)
และคุณลักษณะ หรือพฤติกรรมที่แสดงออก (Attributes/Behavior) David C. McClelland ไดแสดงแนวคิด
ของเขาในเรื่องนี้วา “IQ (ประกอบดวยความถนัดหรือความเชี่ยวชาญทางวิชาการ ความรู และความมั่งมั่นสู
ความสําเร็จ) ไมใชตัวชี้วัดที่ดีของผลงานและความสําเร็จโดยรวม แต Competency กลับเปนสิ่งที่สามารถ
คาดหมายความสําเร็จในงานไดดีกวา” ซึ่งสะทอนใหเห็นไดอยางชัดเจนวา “ผูที่ทํางานเกง” มิไดหมายถึง “ผูที่
เรียนเกง” แตผูที่ประสบผลสําเร็จในการทํางาน ตองเปนผูที่มีความสามารถในการประยุกตใชหลักการหรือ
วิชาการที่มีอยูในตัวเอง เพื่อกอใหเกิดประโยชนในงานที่ตนทํา จึงจะกลาวไดวาบุคคลนั้นมี Competency
McClelland ไดท้ ำใหส้ มรรถนะได้รับความสนใจ ศึกษาและใช้กนั ต่อ ๆ มาจนถึงทกุ วันน้ี

แนวคิดเกี่ยวกับสมรรถนะอธิบายด้วยโมเดลภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model) ซึ่งมีความแตกต่าง
ระหว่างบุคคล เปรียบเทียบได้กับภูเขาน้ำแข็ง โดยมีส่วนที่เห็นได้ง่าย และพัฒนาได้ง่ายคือ ส่วนที่ลอยอยู่เหนือน้ำ
นั่นคือองค์ความรู้ และทักษะต่าง ๆ ที่บุคคลมีอยู่ และส่วนใหญ่ที่มองเห็นได้ยาก อยู่ใต้ผิวน้ำ ได้แก่ แรงจูงใจ
อุปนิสัย ภาพลักษณ์ภายใน และบทบาทที่แสดงออกต่อสังคม ส่วนที่อยู่ใต้น้ำนี้มีผลต่อพฤติกรรมในการทำงาน
ของบคุ คลอยา่ งมากและเปน็ สว่ นทีพ่ ัฒนาไดย้ าก

ภาพ : โมเดลภเู ขานำ้ แขง็ Iceberg Model (สำนกั งาน ก.พ., 2548)

ความหมายของสมรรถนะ

สมรรถนะมีคำจำกัดความมากมาย โดยไม่มีความเห็นพ้องต้องกัน ตัวอย่างคำจำกัดความต่าง ๆ
แสดงดังต่อไปนี้

สำนักงาน ก.พ. (2548) ได้ให้ความหมายของสมรรถนะไว้ว่า “สมรรถนะ คือ คุณลักษณะ
เชงิ พฤติกรรมท่ีเป็นผลมาจากความรู้ ทักษะ ความสามารถ และคุณลักษณะอื่น ๆ ท่ที ำให้บุคคลสามารถสร้างผลงาน
ได้โดดเด่นกวา่ เพื่อนรว่ มงานอน่ื ๆ ในองคก์ ร” กล่าวคือ การทบ่ี คุ คลจะแสดงสมรรถนะใดสมรรถนะหนึง่ ได้มักจะ
ต้องมีองค์ประกอบของทั้งความรู้ ทักษะ ความสามารถ และคุณลักษณะอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น สมรรถนะ
การบรกิ ารท่ดี ี ซ่งึ อธบิ ายว่า “สามารถใหบ้ รกิ ารทีผ่ รู้ ับบรกิ ารตอ้ งการได”้ น้นั หากขาดองค์ประกอบต่าง ๆ ไดแ้ ก่
ความรู้ในงานหรือทักษะที่เกี่ยวข้อง เช่น อาจต้องหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และคุณลักษณะของบุคคลที่เป็น

21

คนใจเย็น อดทนชอบช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว บุคคลก็ไม่อาจจะแสดงสมรรถนะของการบริการที่ดีด้วยการให้บริการ
ทผี่ ้รู บั บริการตอ้ งการได้

สมรรถนะ (Competency) หมายถึง ทักษะ (Skill) ความรู้ (Knowledge) หรือ พฤติกรรม
(Behavior) ได้แก่ บทบาทสังคม (Social Role) ภาพลักษณ์ (self-Image ) คุณลักษณะ (Trait) และแรงจูงใจ
(Motive) ที่สำคัญและจำเป็นต่อการปฏิบัติงานซึ่งสามารถสังเกตเห็นและวัดได้โดยมีความแตกต่างจากการ
ปฏิบตั ิงานตามปกติ (ดร.ชัชรินทร์ ชวนวัน, 2564)

สรุปได้วา่ สมรรถนะ หมายถงึ คณุ ลักษณะเชิงพฤตกิ รรมท่ีเปน็ ผลมาจากความรู้ ทักษะ ความสามารถ
และคุณลักษณะอื่น ๆ ที่สำคัญและจำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นและวัดได้โดยมีความแตกต่าง
จากการปฏบิ ตั ิงานปกติ ทำใหบ้ ุคคลสามารถสร้างผลงานได้โดดเดน่ กวา่ เพื่อนรว่ มงานอ่นื ๆ ในองค์กร

องคป์ ระกอบของสมรรถนะ

หลกั แนวคดิ ของ David McClelland กลา่ วถึง องคป์ ระกอบของสมรรถนะ 5 ส่วน คอื
1. ความรู้ (Knowledge) คือ ความร้เู ฉพาะในเรื่องท่ีตอ้ งรู้ เปน็ ความรทู้ ่ีเป็นสาระสำคัญ เชน่
ความร้ดู า้ นเครื่องยนต์
2. ทกั ษะ (Skill) คอื สิ่งท่ีต้องการใหท้ ำได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ เช่น ทกั ษะทางคอมพิวเตอร์
ทกั ษะทางการถ่ายทอดความรู้ เป็นตน้ ทกั ษะท่ีเกิดไดน้ ้ันมาจากพ้ืนฐานทางความรู้และสามารถปฏิบัติได้อยา่ ง
คลอ่ งแคล่วว่องไว
3. บทบาททางสงั คม (Social Role) หมายถงึ สิง่ ท่ีบุคคลต้องการสอ่ื ใหบ้ ุคคลอื่นในสังคมเหน็
วา่ ตวั เขามีบทบาทอย่างไรต่อสงั คม เช่น ชอบช่วยเหลอื ผ้อู ื่น
4. ภาพพจน์หรือมโนทัศน์เก่ียวกบั ตัวเอง (Self-image) หมายถงึ ภาพพจนห์ รือมโนทัศน์ท่ี
บุคคลมองตัวเองวา่ เปน็ อยา่ งไร เช่น เป็นผนู้ ำ เป็นผูเ้ ชยี่ วชาญ เป็นศลิ ปนิ เป็นตน้
5. แรงจงู ใจ /เจตนคติ (Motive/ Attitude) เป็นแรงจงู ใจหรือแรงขับภายใน ซึ่งทำให้บุคคล
แสดงพฤติกรรมทมี่ ุ่งไปส่เู ปา้ หมาย หรอื มุ่งสูค่ วามสำเร็จ เป็นตน้

ปัจจบุ นั สมรรถนะแสดงได้ด้วยภาพ ดังน้ี (ดร.ชัชรนิ ทร์ ชวนวัน, 2564)

22

ประเภทของสมรรถนะ
มีการกำหนดไวห้ ลากหลาย สรปุ ประเภทสมรรถนะ ออกเปน็ 4 ประเภท คือ
1. สมรรถนะหลัก (core competencies)
2. สมรรถนะในบทบาทหนา้ ที่ (functional competencies)
3. สมรรถนะเชงิ พฤติกรรม (behavioral competencies)
4. สมรรถนะในบทบาท (role competencies)

สมรรถนะศึกษานิเทศก์
หมายถึง พฤติกรรมที่เกิดจากความสามารถ ความร้ทู กั ษะ ศกั ยภาพและคณุ ลกั ษณะของศึกษานิเทศก์

ท่จี ําเปน็ ตอ่ การปฏิบัตหิ นา้ ที่ และการปฏิบตั ิงานให้บรรลผุ ลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและพึงพอใจ

โมเดลสมรรถนะ
โมเดลสมรรถนะ (Competency Model) เป็นการรวมกันของสมรรถนะเป็นกลุ่มสมรรถนะ

ต่าง ๆ ที่ใช้เป็นกรอบสำหรับการปฏิบัติงานต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรบุคคลตามกรอบการบริหาร
ทรพั ยากรบคุ คลเชิงกลยทุ ธ์

โมเดลสมรรถนะที่ดี ต้องมีหลักการ ระเบียบ วิธีการที่เชื่อถือได้ในกระบวนการสร้าง พัฒนา
และการตรวจสอบ เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง ด้วยวิธีการที่หลากหลาย รวมทั้งการนำโมเดล
สมรรถนะไปใช้ต้องมีการกำหนดแนวทางท่ชี ัดเจนและเป็นไปไดใ้ นทางปฏิบัตแิ ละประเมนิ

การกำหนดโมเดลสมรรถนะ จะต้องคำนึงถึงหลักสำคัญ 2 ประการ คือ การเป็นท่ยี อมรับ (Buy-in)
และความเท่ยี งตรง (Validity)

แบบแผน/โครงสรา้ งของโมเดลสมรรถนะทีด่ ี
โมเดลสมรรถนะทีด่ มี ีโครงสรา้ งประกอบด้วย องคป์ ระกอบ 6 ประการ ดงั น้ี
1. ประเภท (Competency Category or Group Cluster)
2. ชื่อเรียก (Competency Name or Title or Label)
3. นยิ าม (Competency Definition)
4. ระดบั และนิยามระดบั (Proficiency Levels and Definition)
5. พฤติกรรมบ่งช้ี (Competency Behavioral Indicators : KBI/CBI)

การประยุกต์ใชโ้ มเดลสมรรถนะ
• เชอื่ มโยงพฤติกรรมที่พงึ ประสงค์ของบุคคลกับผลลพั ธค์ วามสำเรจ็ ขององค์การ
• กำหนดกรอบอุดมการณ์ ปลูกฝงั คา่ นิยมขององคก์ าร
• สื่อสารสรา้ งความเขา้ ใจทิศทาง จดุ เน้น การให้ความสำคัญของหน่วยงานแกบ่ คุ ลากร
• ใชป้ ระโยชนใ์ นการกำหนดแผนพฒั นาอาชีพเป็นรายบคุ คล
• ประยุกต์ใช้และบูรณาการกิจกรรมการบริหารทรัพยากรบุคคลเชิงกลยุทธ์ เช่น การสรรหา
คัดเลอื ก การใช้ การผดุงรกั ษา การฝกึ อบรมพฒั นาบุคลากร การประเมนิ ผลงาน และ ฯลฯ
ให้มีความเป็นเอกภาพ เปน็ ระบบ ต่อเนือ่ ง
• สนับสนุนวิสัยทัศน์และเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กรให้เป็นจริงผ่านกรอบความสามารถ
กำลังคนที่มีทกั ษะฝมี อื
• เปน็ เครือ่ งมอื การคดั กรองให้ได้คนที่เหมาะสมกบั เป้าหมายของงานและองคก์ าร

23

ปญั หาและอปุ สรรคในการประยกุ ต์ใช้โมเดลสมรรถนะ
1. องค์กร/ผู้สร้าง-พัฒนา ขาดความรู้ ความเข้าใจ ความชำนาญในการกำหนด การออกแบบ

แนวทางการประยุกต์ใช้โมเดลสมรรถนะ และแผนการดำเนนิ การทน่ี ำไปสูก่ ารปฏบิ ัตอิ ยา่ งจรงิ จงั และยัง่ ยนื
2. ขาดการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้บริหารระดับสูง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ

ไม่สนบั สนุน
3. องค์การขาดการบูรณาการงานด้าน HR เข้ากับยุทธศาสตร์ โครงสร้างและเป้าหมายหลัก

ขององค์การ
4. องค์การขาดทรัพยากรกำลังคนสนับสนุน เช่น ไม่แต่งตั้งคณะกรรมการ หัวหน้าโครงการ

ไม่ไดจ้ ัดต้ังทีมเฉพาะกิจซึ่งทำหน้าทขี่ ับเคลื่อนความเปล่ียนแปลง
5. องค์การไม่สนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็น เช่น งบประมาณ เทคโนโลยี ฯลฯ หรือความไม่

สมดุล อาทิ ใช้งบประมาณสร้างโมเดลสมรรถนะมากเกินไป แต่ขาดการจัดสรรงบประมาณ ทรัพยากรอย่าง
เพียงพอเพ่ือสนบั สนุนการขบั เคล่อื นกิจกรรม หรือการประยกุ ต์ใชโ้ มเดลสมรรถนะ

แนวทางการประยุกตใ์ ชโ้ มเดลสมรรถนะในการบรหิ ารทรัพยากรมนษุ ย์
• ด้านการวางแผนกำลังคน โดยกำหนดโมเดลสมรรถนะที่สอดคล้องและรองรับกำลังคน

ทม่ี อี ยู่ และวางแผนการเตรียมศักยภาพเขา้ ส่ตู ำแหน่ง และจดั วางคนใหต้ รงกบั งานตามทักษะ ความสามารถท่มี ี
• ด้านการสรรหาและคัดเลือก โดยกำหนดโมเดลสมรรถนะสำหรับการสรรหาบุคคลตาม

คุณลกั ษณะทเ่ี หมาะสมกับงาน ทีมงาน และความต้องการขององค์การ
• ด้านการบริหารผลงาน โดยใช้โมเดลสมรรถนะ กำหนดผลลัพธ์ เพื่อเป็นเกณฑ์ชี้วัด

ความสำเร็จในการปฏบิ ตั งิ าน
• ด้านการประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน โดยใช้โมเดลสมรรถนะเป็นกรอบในการประเมินบุคคล

ในลกั ษณะตา่ ง ๆ เช่น สรา้ งเครือ่ งมือการประเมินบุคคลแบบตา่ ง ๆ ตามวัตถุประสงค์ สามารถนำผลที่ได้มาช่วย
ในการปรบั ปรุงการทำงานให้ดีขึน้ รวมท้งั การใหค้ า่ ตอบแทนท่ีเหมาะสม

• ด้านค่าตอบแทนและสิ่งจูงใจ โดยใช้โมเดลสมรรถนะสร้างระบบให้รางวัลตามทักษะฝีมือ
และผลของงาน ช่วยสร้างระบบการให้รางวัลเป็นทมี

• ด้านการฝึกอบรมและการพัฒนา โดยใช้โมเดลสมรรถนะเป็นกรอบในการฝึกอบรมพัฒนา
ความสามารถของบุคคล ในงานประเภทต่าง ๆ เช่น การประเมินความต้องการ การประเมินคัดกรอง การสร้าง
แผนพัฒนาพนกั งานรายบุคคล (IDP) การประเมนิ ผลการฝกึ อบรมพัฒนา อื่น ๆ

24

หลักการ-แนวคดิ การพฒั นาทรัพยากรบุคคลตามหลักสมรรถนะ

(CONCEPTUAL FRAMEWORK : COMPETENCY-BASED HUMAN RESOURCE DEVELOPMENT : CBHRD)

Competence Development Lifecycle

Self Assessment 1. Organizational Job-based Competency)
GAP Analysis) ComCopmetpeentecnecMy ap (Competency-Model)

1

2. Competence
CoAmssAessssemssemntent

24

ID Plan 3D. Setvrealtoepgmieesnt 4. Reassess
2.
3 Continuous Performance Monitoring
gaps and Assessment to confirm
improvement.

ระบบการพฒั นาทรพั ยากรบคุ คลตามความสามารถ

ระยะเร่ิมต้น การเตรียมการและวางแผนขององค์กร กำกับ
START ตดิ ตาม
การศกึ ษาความรู้พืน้ ฐาน ประเมนิ
ระยะที่ 1
PHASE I กำหนดสมรรถนะ/โมเดลสมรรถนะ
(Identify Competency /Competency Model)
ระยะท่ี 2
PHASE II กำหนดรปู แบบ/โมเดลการพฒั นาสมรรถนะ
(Identify Competency Development Model)
ระยะท่ี 3
PHASE III กำหนดรูปแบบ/โมเดลการประเมนิ สมรรถนะ
(Identify Competency Assessment Model)

SOURCE : Dr.Chatcharin-2558

25

แผนภมู กิ รอบแนวคดิ การดำเนินงานพัฒนาสมรรถนะ : ศึกษานิเทศก์

(CONCEPTUAL FRAMEWORK : SUPERVISOR COMPETENCY-BASED DEVELOPMENT : SCBD )

ระยะดำเนินงาน กิจกรรมหลกั รายการ (Detail)
ระยะเร่มิ ตน้
การเตรยี มการและ กำหนดผ้จู ัดการ/ผสู้ นบั สนนุ -
START วางแผนขององคก์ ร Committee/Manager/Sponsor/Expertist
การศกึ ษาความรู้พ้ืนฐาน กำหนดทรัพยากร –Resource (Budget, Material, Technology
ระยะที่ 1 eกtำcห.น) ดแผนดำเนินงาน//ฝึกอบรมพน้ื ฐาน -Plan/Training (Basic)
กำหนดสมรรถนะ/โมเดล
PHASE I สมรรถนะ-ศน. CA Process

(Identify Competency การจดั ทำกรอบสมรรถนะ CF Process
Competency Framework CM Process
/Competency Model)
การจดั ทำโมเดลสมรรถนะ
Competency Model

กำหนดรูปแบบ/โมเดล ระบบ/รปู แบบ CBT Model
การพฒั นาสมรรถนะ-ศน. /Process
การฝกึ อบรมสมรรถนะศกึ ษานเิ ทศก์ สป.ศธ.
ระยะท่ี 2 (Identify Competency
(Supervisor Competency-Based Training : CBT
PHASE II Development Model) System)

ระยะท่ี 3 กำหนดรูปแบบ/โมเดล ระบบ/วธิ ีการ CBA Model
/Process
PHASE III การประเมินสมรรถนะ-ศน. การประเมนิ สมรรถนะ ศน.
FA /Process
(Identify Competency Supervisor Competency-Based Assessment
System SA /Process
Assessment Model)
การประเมินรปู แบบ- Formative
Assessment
การประเมินสรปุ - Summative Assessment

SOURCE : Dr.Chatcharin-2558

26

กระบวนการกำหนดสมรรถนะและโมเดลสมรรถนะศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

1. ศึกษา วเิ คราะห์ข้อมลู จากแหล่งขอ้ มูล เพ่ือนำมากำหนดสมรรถนะและโมเดลสมรรถนะ
ของตำแหน่งศึกษานเิ ทศก์ สังกัดสำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร โดยคณะทำงานได้ศึกษา คน้ คว้าข้อมลู
จากแหล่งข้อมลู ทเี่ กีย่ วขอ้ ง ดังน้ี

• มาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา ตามข้อบงั คบั คุรุสภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวิชาชพี พ.ศ. 2556
และทแี่ กไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2562

• ประกาศคณะกรรมการครุ สุ ภา เรอ่ื ง สาระความรู้ สมรรถนะและประสบการณ์วชิ าชพี
ของผู้ประกอบวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และศึกษานิเทศก์ ตามข้อบังคับคุรุสภา
วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชีพ พ.ศ. 2556

• จรรยาบรรณวิชาชีพ ตามข้อบงั คับครุ ุสภา วา่ ด้วยจรรยาบรรณของวิชาชพี พ.ศ. 2556
• มาตรฐานตำแหนง่ และมาตรฐานวิทยฐานะของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
(ตามหนงั สอื สำนกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 3 ลงวนั ที่ 26 มกราคม 2564)
• ภารกิจหนา้ ท่ีของกลมุ่ งานนเิ ทศ ตดิ ตาม และประเมนิ ผล จากค่มู ือการปฏิบัตงิ าน
กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตาม และประเมนิ ผล ของสำนกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั
• เอกสารและงานวิจยั ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ฯลฯ
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น คณะทำงานได้พิจารณาศึกษา วิเคราะห์และกำหนดกรอบสมรรถนะ
และโมเดลสมรรถนะวิชาชีพของศึกษานิเทศก์ สังกัด สป. ตามหลักการและกรอบแนวคิด โดยวิเคราะห์ตาม
กระบวนการและข้ันตอนคือ วิเคราะห์งานเพอื่ นำไปกำหนดสมรรถนะ การวิเคราะหง์ านเปน็ การวเิ คราะห์เพื่อหา
หน้าที่ความรับผิดชอบของงานตามตำแหน่ง ทำให้ได้ข้อมูลว่า การปฏิบัติงานในตำแหน่งนั้น ๆ ผู้ปฏิบัติงานใน
ตำแหน่งต้องมีความรู้ ทักษะ ความสามารถและคุณลักษณะในด้านใดบ้าง จึงจะทำให้งานประสบผลสำเร็จ
ต่อมาจึงเป็นการกำหนดกรอบสมรรถนะ และจัดทำโมเดลสมรรถนะ ผลการกำหนดกรอบสมรรถนะและโมเดล
สมรรถนะของศึกษานิเทศก์ สังกัด สป. ประกอบด้วยมิติสมรรถนะจำนวน 7 มิติ 33 สมรรถนะ แผนภาพกรอบ
โมเดลสมรรถนะวชิ าชพี ศึกษานิเทศก์ สป. รายละเอียดปรากฏตามเอกสาร (แผนภาพท่ี 1- 2)
2. จำแนกรายการพฤติกรรมบ่งช้ีสมรรถนะ (KSAC) ประกอบด้วย ความรู้ (Knowledge) ทักษะ
(Skill) คุณลักษณะ (Attribute) และความสามารถ (Competence) ของสมรรถนะแต่ละตัว ให้ครบถ้วนตามจำนวน
มติ สิ มรรถนะท้ัง 7 มิติ โดยได้จดั ทำเปน็ ตารางวิเคราะห์ฯ จากแหล่งขอ้ มูลตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง รายละเอยี ดปรากฎ
ตามเอกสาร ดงั แนบ
3. พิจารณาเลือกรายการพฤติกรรมบ่งชี้สมรรถนะ (KSAC) แต่ละสมรรถนะให้สอดคล้องกับ
มติ ิสมรรถนะและเป็นพฤตกิ รรมบ่งชีท้ ส่ี ำคัญและจำเป็นทีต่ ำแหนง่ ศึกษานเิ ทศกต์ ้องมีและปฏิบตั ิ นำมาใสใ่ นแบบ
กำหนดสมรรถนะให้ครบทกุ มติ ิ โดยเลือกรายการพฤตกิ รรมฯ ทใี่ ชเ้ ป็นสมรรถนะในภาพรวม
4. กำหนดองค์ประกอบสมรรถนะทกุ สว่ นให้สอดคลอ้ งกับหลักการ ประกอบดว้ ย
4.1 ชอื่ -นิยามสมรรถนะ ตามหลกั การเขียนชอ่ื -นยิ ามสมรรถนะ
4.2 กำหนดระดับสมรรถนะ ตามหลกั การและใหส้ อดคล้องกบั แบบกำหนดสมรรถนะ
4.3 กำหนดรายการพฤติกรรมบ่งชี้สมรรถนะ ตามหลักการเขียนสมรรถนะ ในการเขียน
ครง้ั นใ้ี ช้แนวทางของ Bloom’s Taxonomy และพจิ ารณาให้สอดคลอ้ งกบั ระดับและคำอธบิ ายตามทกี่ ำหนด
5. จัดทำสมรรถนะให้ครบถว้ นทุกสมรรถนะ ทุกมิติ (รายละเอียดดงั เอกสารแนบ)
6. พิจารณาตรวจสอบโมเดลสมรรถนะ เพื่อให้มั่นใจว่าโมเดลสมรรถนะที่จัดทำขึ้น สะท้อนให้
เห็นถึงพฤติกรรมที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติงานของศึกษานิเทศก์ โดยตรวจสอบการเขียนข้อความสมรรถนะ
ใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั วิชาการ สอ่ื ความหมายเชิงพฤติกรรมและสามารถวัดหรือประเมินพฤติกรรมหรือผลสัมฤทธิ์น้ันได้

27

กรอบโมเดลสมรรถนะวิชาชพี ศึกษานเิ ทศก์ สป.
(Professional Supervisor Competency-Model)

Domain I Domain II
สมรรถนะพ้นื ฐาน ดาเนินการภารกจิ

Fundamental Supervisor Mission Performing

1.ตระหนักตอ่ ลกู คา้ /ผ้รู ับบรกิ าร 1.สนบั สนนุ การตรวจราชการ
2.ม่งุ ผลลัพธแ์ ละความเปน็ เลิศในวชิ าชพี 2.บรู ณาการการนเิ ทศ ติดตามและประเมินผล
3.จดั การนเิ ทศอย่างมีวสิ ัยทัศน์ 3.พัฒนามาตรฐานและประกันคณุ ภาพ กศ.
4.พฒั นาทรัพยากรบคุ คลและพันธมติ ร 4.บรหิ ารราชการเชิงกลยทุ ธ์
5.สือ่ สารและมีปฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างบุคคล 5.พฒั นาระบบการจดั การศกึ ษาตลอดชวี ิต

Domain VII โมเดลสมรรถนะ Domain III
พัฒนานวัตกรรมและ วชิ าชพี พัฒนาวิชาชีพ
เทคโนโลยีการศึกษา
ศกึ ษานเิ ทศก์ สป. Professional Development
Education Innovation
and Technology Professional Supervisor 1.พัฒนามาตรฐานวชิ าชพี
Competency Model 2.จัดการเปลี่ยนแปลง
1.เทคโนโลยีพนื้ ฐาน 3.จดั การความรู้
2.เทคโนโลยีสารสนเทศ-การสือ่ สาร 4.กฎหมายการศกึ ษาและการนิเทศ
3.นวัตกรรมและเทคโนโลยกี ารศึกษา 5.คุณธรรมจริยธรรม,จรรยาบรรณ
4.นเิ ทศการศกึ ษาดิจทิ ลั

Domain VI Domain V Domain IV
การจัดการคณุ ภาพการศกึ ษา พฒั นาการเรยี นรู้ นิเทศการศึกษา

Education Quality Management Learning Development Education Supervision

1.บรหิ ารการศึกษา 1.พฒั นาการศึกษาตามความสามารถ 1.นิเทศการศกึ ษา
2.ประกันคุณภาพการศึกษา 2.พัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ 2.ผ้นู าและภาวะผนู้ าทางวิชาการ
3.วิจยั การศึกษา 3.จัดการเรียนรู้ยุคดจิ ทิ ลั 3.พฒั นาผลงานทางวิชาการ
4.พัฒนานวตั กรรมการนิเทศการศึกษา 4.ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 4.พัฒนาสมรรถนะบุคคลทางการศกึ ษา
5.พฒั นานโยบาย-แผนคุณภาพ กศ.
6.ประเมินผลการนิเทศการศกึ ษา

อ้างอิงจาก Dr.Chatcharin-64

แผนภาพท่ี 1 กรอบโมเดลสมรรถนะวชิ าชพี ศกึ ษานิเทศก์ สป.

28

โมเดลสมรรถนะวิชาชีพศึกษานิเทศก์ สป. ประกอบด้วย มิติสมรรถนะ 7 มติ ิ (7 Dimension 33 Competency)

มติ ิ สมรรถนะ ภาษาองั กฤษ

มติ ทิ ่ี I สมรรถนะพ้ืนฐาน 1.ตระหนกั ตอ่ ลูกค้า/ผู้รบั บรกิ าร Customers Awareness
Fundamental 2.ม่งุ ผลลพั ธแ์ ละความเป็นเลศิ ในวิชาชพี Results and professional excellence
Supervisor 3.จดั การนิเทศอย่างมวี ิสัยทศั น์ Visionary Supervision Management
Competency 4.พัฒนาทรัพยากรบุคคลและพันธมิตร Human Resource and partners Development
5.ส่อื สารและปฏิสมั พันธ์ระหว่างบคุ คล Communicate and interpersonal
มติ ทิ ี่ II ดาเนินการภารกจิ 1.สนบั สนุนการตรวจราชการ Government inspection Support
Mission Performing 2.บรู ณาการการนเิ ทศ ติดตาม ประเมนิ ผล
3.พฒั นามาตรฐานและประกันคณุ ภาพ กศ. Integration Supervision Monitoring and evaluation
Competency 4.บริหารราชการเชงิ กลยทุ ธ์ Develop standards and education quality assurance
5.พฒั นาระบบการจดั การศึกษาตลอดชวี ติ
มิติท่ี III พัฒนาวิชาชีพ 1.คณุ ลกั ษณะ,มาตรฐาน ศน. Strategic public administration
Professional Development 2.จัดการเปลยี่ นแปลง Life-long learning management system
3.จัดการความรู้ Supervisor Standards Attribute
Competency 4.กฎหมายการศึกษาและการนเิ ทศ Change Management
5.คณุ ธรรมจรยิ ธรรม,จรรยาบรรณ Knowledge Management
มิตทิ ่ี IV นเิ ทศการศกึ ษา 1.นเิ ทศการศกึ ษา Educational and Supervisor Law
Education 2.ผูน้ าและภาวะผนู้ าทางวิชาการ Morality, ethical and Code of ethics
Supervision 3.พฒั นาผลงานทางวชิ าการ Education Supervision
Competency 4.พัฒนาสมรรถนะบคุ คลทางการศึกษา Leadership and Instructional leadership
5.พฒั นานโยบาย-แผนคุณภาพ Academic performance Development
Human Resource Competency Development
มิติที่ V พัฒนาการเรยี นรู้ 6.ประเมินผลการนิเทศการศึกษา Education Policy and Quality Plan
Learning Development 1.พฒั นาการศกึ ษาตามความสามารถ Development
2.พัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ Educational Supervision Evaluation
Competency 3.จัดการเรียนร้ยู ุคดิจิทัล Competency-Based Education Management
4.ประเมนิ ผลการเรียนรู้ Curriculum-Based Curriculum Development
มติ ทิ ี่ VI จดั การ 1.บริหารการศึกษา Digital age learning Management
คณุ ภาพการศึกษา 2.ประกันคุณภาพการศึกษา Learning outcomes Evaluation
Education Quality 3.วิจยั การศึกษา Education Management
Management Competency 4.พัฒนานวัตกรรมการนเิ ทศการศกึ ษา Educational quality assurance
1.เทคโนโลยพี ื้นฐาน Educational Research
มติ ิท่ี VII พัฒนานวตั กรรมและ 2.เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร Supervisory Innovation Development
เทคโนโลยีการศึกษา 3.นวัตกรรมและเทคโนโลยกี ารศกึ ษา Fundamental Technology
4.นิเทศการศึกษาดจิ ิทลั Information and Communication Technology
Education Innovation and Education and Innovation Technology
Technology Competency Digital Education Supervision

แผนภาพที่ 2 โมเดลสมรรถนะวิชาชีพศึกษานิเทศก์ สป. 7 มติ ิ 33 สมรรถนะ อ้างองิ จาก Dr.Chatcharin-64

โมเดลสมรรถนะศกึ ษานเิ ทศก์ สป.ศธ.

(Supervisor Competency Model)

มติ ิท่ี I สมรรถนะพื้นฐาน (Fundamental Supervisor Competency)

1.ช่ือสมรรถนะ : (Competency name) ความตระหนักตอ่ ลูกค้า/ผรู้ ับบริการ (Customers Awareness)

นิยาม (Definition) ความสามารถตระหนักรู้และเขา้ ใจในความสาคญั ของผูร้ ับบริการ และกาหนดแนวทางตอบสนองดว้ ย

การส่ือสารเปา้ หมาย, วางแผน,ประเมนิ ผล,การมสี ่วนรว่ มพัฒนาคณุ ภาพและสรา้ งความพึงพอใจแกผ่ ้รู บั บรกิ ารอยา่ งกลั ยาณมติ ร

องค์ประกอบสาคัญ 1.สื่อสารเป้าหมายงานกับผ้รู ับบรกิ าร
Key Element 2.วางแผนสนับสนุนการให้บริการ
3.ประสานความรว่ มมอื สง่ เสริมสนับสนุนการศึกษา
4.ใหบ้ ริการอยา่ งมืออาชีพ
5.พฒั นางานให้บรกิ ารทีเ่ ป็นเลศิ

ระดบั สมรรถนะ พฤตกิ รรมบง่ ชี้
(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พน้ื ฐาน - อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงานกบั ความต้องการของผรู้ ับบริการ
Basic - วิเคราะห์และส่ือสารเป้าหมายงานในบทบาทหน้าทีแ่ กผ่ รู้ บั บริการ

2-ประยุกตใ์ ช้ - กาหนดเปา้ หมายการให้บริการสง่ เสริมสนับสนนุ การศกึ ษา
Apply - สังเคราะหส์ ารสนเทศเพือ่ วางแผนสนบั สนนุ ผู้รบั บริการ

3-ความสามารถ - จดั ประชมุ ชแ้ี จงงานนเิ ทศการศกึ ษาแก่ผู้รบั บริการทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
Competence - ประสานความร่วมมือกบั ผู้เกยี่ วข้องเพือ่ สง่ เสรมิ สนับสนุนการศึกษา
- โนม้ น้าวผอู้ ่ืนรว่ มมอื ส่งเสริมสนบั สนนุ การบรกิ ารนิเทศการศึกษา
- มงุ่ มนั่ และตั้งใจตอบสนองผู้รับบริการในงานส่งเสรมิ สนบั สนุนการศึกษา

4-ชานาญ - ประยุกต์ใชเ้ ทคนคิ หลากหลายพฒั นาความสมั พนั ธก์ บั ผู้รับบริการ
Proficiency - ให้คาปรกึ ษา แนะนา การส่งเสรมิ สนับสนนุ การศกึ ษาด้วยความเชยี่ วชาญระดับมืออาชีพ

5-เชย่ี วชาญ - วเิ คราะห์ ประเมนิ และคาดการณป์ ญั หาที่อาจเกิดข้นึ กับผรู้ ับบริการ
Expert - นาผู้รับบริการมาร่วมกันอภปิ รายการแก้ไขปญั หาการสง่ เสริมสนบั สนุนงานบริการ

2.ช่อื สมรรถนะ : (Competency name) มงุ่ ผลลพั ธแ์ ละความเปน็ เลิศในวชิ าชพี (Results and professional excellence)

นิยาม (Definition) ความสามารถกาหนดผลลัพธก์ ารปฏบิ ตั ิงาน ประยกุ ตใ์ ช้ รวบรวม ประสานเทคนิค วธิ ีการ ทรัพยากร

เทคโนโลยที ่หี ลากหลาย ปฏิบตั ิงานการนเิ ทศ ติดตามประเมินผล ใหบ้ รรลผุ ลลัพธ์และความเปน็ เลศิ ในวชิ าชพี

1.กาหนดผลลัพธก์ ารปฏิบตั งิ าน

องคป์ ระกอบสาคัญ 2.วางแผนการดาเนินงานบรรลุผลลัพธ์
Key Element 3.ประเมนิ ผลการดาเนินงานมงุ่ สผู่ ลลพั ธ์
4.สนับสนนุ เครือขา่ ยความรว่ มมือ

5.แสดงผลสาเร็จในผลลพั ธส์ มรรถนะวชิ าชีพ

ระดับ 30
(Proficiency Levels)
พฤตกิ รรมบ่งช้ี
1-พนื้ ฐาน (Behavioral Indicators)
Basic
- ศกึ ษาเรียนรูแ้ ละอธบิ ายผลลัพธ์ความเปน็ เลิศในวิชาชีพได้ชดั เจน
2-ประยกุ ตใ์ ช้ - กาหนดผลลพั ธก์ ารปฏิบตั งิ านในบทบาทหน้าทต่ี นเอง
Apply - กาหนดผลลัพธ์การปฏบิ ตั งิ านของกลมุ่ งานในองคก์ ร
- กาหนดแนวทางการปฏิบัติงานใหบ้ รรลผุ ลลพั ธ์และความเปน็ เลิศในวชิ าชีพ
3-ความสามารถ - วางแผนการดาเนินงานรว่ มกับทีมงานเพ่ือความสาเรจ็ ในผลลพั ธ์
Competence - ปฏิบัตงิ านร่วมกบั หนว่ ยงานอ่ืนดาเนินการมุง่ สูผ่ ลลพั ธข์ องวิชาชพี การนิเทศฯ
- มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติงานมงุ่ สู่ผลลพั ธ์โดยใช้เทคนิควิธีการและทรัพยากรหลากหลาย
4-ชานาญ - ติดตาม ประเมินผล การดาเนนิ งานมงุ่ สู่ผลลัพธ์และความเป็นเลิศในวิชาชีพ
Proficiency - สนับสนุนเครือขา่ ยความร่วมมือพัฒนาผลลพั ธ์การดาเนนิ งานวชิ าชพี
5-เช่ียวชาญ - ใหค้ าปรึกษาแนะแนว เทคนคิ วธิ กี ารเช่อื มโยงองคค์ วามรแู้ ละนวัตกรรมมุง่ สู่ผลลพั ธว์ ิชาชพี
- ประเมนิ ทิศทาง แนวโนม้ การพฒั นาความสาเร็จของผลลพั ธ์ในวิชาชพี การนิเทศ
Expert - แสดงบทบาทการนาการปฏิบตั งิ านมุง่ ส่ผู ลลพั ธ์ของสมรรถนะวชิ าชพี เป็นแบบอยา่ งเชิงประจกั ษ์

3.ชื่อสมรรถนะ : (Competency name) จดั การนเิ ทศอยา่ งมีวิสยั ทัศน์ (Visionary Supervision Management)

นยิ าม (Definition) ความสามารถวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ แนวโนม้ กาหนดทิศทางจัดการนเิ ทศการศึกษา สรา้ งคณุ ค่า

และความเชอื่ มน่ั ดว้ ยการกาหนดกลยทุ ธพ์ ฒั นาไปสคู่ วามสาเรจ็ ตามเปา้ หมายแก่สมาชกิ ในทีมและผู้เกย่ี วขอ้ ง

1.แสดงวสิ ยั ทศั นก์ ารนิเทศ

องคป์ ระกอบสาคญั 2.สือ่ สารวิสัยทศั น์การนิเทศ
Key Element 3.กาหนดกลยุทธ์การปฏิบตั งิ านให้บรรลุวสิ ยั ทศั น์
4.ใหค้ าปรกึ ษา แนะนา

5.ประเมนิ การดาเนินงานตามวสิ ยั ทศั น์

ระดับสมรรถนะ พฤติกรรมบง่ ชี้
(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พื้นฐาน - อธิบาย/ถา่ ยทอดภาพรวมของการนเิ ทศในภาพกวา้ ง
Basic - กาหนดวิสยั ทัศน์การนเิ ทศรองรับมุมมองการปฏิบัตงิ านของตน
- ส่ือสารทิศทางจุดมงุ่ หมายการดาเนินการนเิ ทศชดั เจน
2-ประยุกตใ์ ช้ - แนะนาการทางานนเิ ทศโดยภาพรวมแก่ทีมงานของตน
Apply
- จัดการนิเทศเสรจ็ ทนั เวลาเพ่อื ให้แนใ่ จว่าการดาเนนิ งานมีประสิทธิภาพ
3-ความสามารถ - วางแผนการไหลของงานและให้แนวทางอยา่ งเขม้ แข็งแกส่ มาชิกในทีม
Competence - รบั รู้ รับฟงั ความคดิ เห็นและความตอ้ งการตดั สนิ ใจของสมาชกิ
- สรา้ งความเชือ่ ม่นั แกส่ มาชกิ ต่อการนาการนเิ ทศใหบ้ รรลวุ สิ ยั ทศั น์
4-ชานาญ
Proficiency - กาหนดกลยทุ ธ์และแผนการนเิ ทศอยา่ งมีวสิ ัยทศั น์เพ่ือพฒั นาบุคคล
5-เชีย่ วชาญ - ให้คาปรกึ ษาแนะนาการตดั สนิ ใจการจดั การนิเทศอยา่ งมวี ิจารณญาณ

Expert - ประเมินและทบทวนผลการดาเนนิ กลยุทธก์ ารนเิ ทศร่วมกบั ทีมงาน

- พฒั นานวัตกรรมการนเิ ทศที่นาไปสูผ่ ลลัพธข์ องวิสยั ทัศนเ์ ปน็ แบบอย่างเชิงประจักษ์

31

4.ช่อื สมรรถนะ : (Competency name) พฒั นาทรัพยากรบุคคลและพนั ธมติ ร (Human Resource and partners Development)
นยิ าม (Definition) ความสามารถพัฒนาความรู้ ทกั ษะ สมรรถนะตนเอง ทีมงาน กาหนดกลยุทธ์ แผนงาน โครงการอยา่ ง
มีส่วนร่วม ดาเนินงานพัฒนาทรพั ยากรบุคคลและพันธมิตรทร่ี ับผดิ ชอบอยา่ งเปน็ ระบบและประสบความสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย
การจดั การศึกษาอย่างมอื อาชพี

องคป์ ระกอบสาคัญ 1.พฒั นาสมรรถนะตนเอง
Key Element 2.กาหนดเป้าหมายการพัฒนาทีม
3.กาหนดแผนการพฒั นาทรัพยากรบคุ คลฯ
4.สร้างปฏิสัมพนั ธ์กับพนั ธมิตร
5.เสนอแนวทางการพฒั นาศักยภาพ

ระดบั สมรรถนะ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พืน้ ฐาน - ถ่ายทอดองค์ความร้กู ารพัฒนาทรัพยากรบคุ คลแก่สมาชิกและพนั ธมติ ร
Basic - พัฒนาความสามารถสื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษรองรับวชิ าชีพนิเทศการศกึ ษา

2-ประยุกต์ใช้ - กาหนดเป้าหมายการทางานและพัฒนากบั จุดออ่ นของบุคคลในทมี
Apply - แลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ นวทางพัฒนาฯ รว่ มกบั สมาชิกและพนั ธมติ รองค์กร
- มีสว่ นรว่ มกาหนดแผนงานโครงการพฒั นาฯ ท่มี ีแนวโนม้ ประสบความสาเรจ็
3-ความสามารถ - กาหนดแผนการพัฒนาฯ สอดคล้องกับกลยทุ ธผ์ ลลพั ธ์กลุ่มและองค์กร
Competence - ตระหนักและตง้ั ใจมสี ่วนร่วมพฒั นาฯ แก่ทรพั ยากรบุคคลขององคก์ รและพันธมติ ร
- เปดิ ใจรับความคดิ เห็นคาติชมเรยี นรู้แนวทางการพัฒนาเพอื่ ความสัมพนั ธ์ทางวชิ าชีพ

4-ชานาญ - พฒั นาความสัมพนั ธ์และรักษาความเปน็ พันธมิตรที่ดกี ับแผนกอ่ืน ๆ
Proficiency - ให้คาปรกึ ษา สอนแนะ การพัฒนาทรัพยากรบคุ คลและพันธมิตรอย่างมอื อาชพี
- ประเมนิ ผลการพฒั นาฯ อยา่ งเปน็ กลางเพ่อื ปรับปรุงศักยภาพสคู่ วามคาดหวัง
5-เชี่ยวชาญ
Expert - เสนอแผนงานโครงการพัฒนาฯ ให้ทางานบรรลุศกั ยภาพรองรบั ภารกจิ องค์กร

5.ชอ่ื สมรรถนะ : (Competency name) ส่อื สารและปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างบคุ คล (Communicate and interpersonal)

นยิ าม (Definition) ความสามารถใช้ทักษะการพูด การฟงั การเขยี น การนาเสนอ สอื่ สาร โตต้ อบ แลกเปลย่ี นข้อมูล เพือ่ สรา้ ง

ความสมั พันธ์และปฏสิ มั พันธร์ ะหว่างบุคคลท่สี ง่ ผลต่อแรงจูงใจความพงึ พอใจทางานรว่ มกันให้บรรลคุ วามสาเรจ็ ตามเป้าหมาย

1.สอ่ื สารดว้ ยวาจาและลายลักษณอ์ กั ษร

องคป์ ระกอบสาคัญ 2.ใช้ทกั ษะการสื่อสารแลกเปลยี่ นขอ้ มูลกับผอู้ นื่
Key Element 3.มองโลกแง่ดีกระตอื รอื ร้นสรา้ งปฏิสัมพันธร์ ะหว่างบคุ คล
4.เสนอแนะและรบั คาวจิ ารณ์เชิงบวก

5.แสดงออกถงึ การสร้างปฏสิ ัมพนั ธท์ เ่ี ป็นมอื อาชีพ

ระดบั สมรรถนะ พฤติกรรมบง่ ช้ี
(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พ้ืนฐาน - ถ่ายทอดองค์ความรูแ้ ละขอ้ มูลการดาเนนิ งานแก่ผู้เกีย่ วขอ้ ง
Basic - ใช้ทกั ษะการพูด เขยี น ฟงั นาเสนอ สอ่ื สารและปฏสิ มั พันธก์ บั คนอ่นื

2-ประยกุ ต์ใช้ 32
Apply
- แลกเปลีย่ นข้อมูล ความรู้สกึ และความหมายผา่ นการสือ่ สารตัวต่อตวั
3-ความสามารถ - สนับสนุน ช่วยเหลอื แสดงนา้ ใจ และรว่ มมอื กับทีมปฏิบตั งิ าน
Competence
- ส่อื สารด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษรกับผู้อื่นท่ีเป็นแบบอย่าง
4-ชานาญ - แสดงความคิดรเิ ร่มิ จูงใจสมาชกิ เรยี นร้กู าหนดทางเลอื กแกไ้ ขปัญหา
Proficiency - มองโลกแงด่ ีกระตอื รือร้นใหก้ าลงั ใจเตม็ ใจท่จี ะเรียนรตู้ ลอดชีวิต
5-เชีย่ วชาญ - พฒั นาและรักษาวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดีเพือ่ ความสัมพนั ธ์กบั เพ่อื นร่วมงาน
- ยืดหยุ่นปรบั ตวั เขา้ กบั การเปลยี่ นแปลงและยอมรบั ส่งิ ใหม่ ๆ
Expert - ใหข้ ้อเสนอแนะเชงิ บวกมอี ารมณ์ขันและรับคาวิจารณ์อย่างเปน็ มติ ร

- แสดงความรบั ผิดชอบทางานใหล้ ุลว่ งเชื่อถอื ได้อย่างมไี หวพรบิ มีวินัยและสามญั สานกึ ในตนเอง

- สร้างปฏิสัมพนั ธ์ แสดงความสนใจ ใสใ่ จ เห็นอกเหน็ ใจกับสมาชกิ แบบมืออาชีพ

33

มิตทิ ี่ II สมรรถนะการดาเนินการภารกจิ (Mission Performing Competency)

1.ชอ่ื สมรรถนะ : (Competency name) สนับสนุนการตรวจราชการ (Government inspection Support)

นิยาม (Definition) ความสามารถดาเนินการศึกษา วจิ ัย วเิ คราะห์ขอ้ มลู สารสนเทศ จดั ทาแผน ส่ังการ กากบั ดูแล เรง่ รดั

ติดตามประเมนิ ผล เพอื่ สื่อสาร ประสานงาน สนบั สนนุ ภารกิจการตรวจราชการและการปฏิบตั งิ านของหนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้อง

องค์ประกอบสาคญั 1.วเิ คราะห์ ขอ้ มลู สารสนเทศ
Key Element 2.ประสานและสนับสนุนการตรวจราชการ
3.สอื่ สารข้อมลู ทางเทคนคิ
4.ใหค้ าปรกึ ษาแนะนา
5.ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน

ระดับสมรรถนะ พฤติกรรมบง่ ชี้

(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พ้นื ฐาน - ศกึ ษาเรยี นรู้ ถา่ ยทอดเทคนิคการสนับสนุนตรวจราชการแกผ่ ้อู ่ืน
Basic - วเิ คราะห์ ข้อมลู สารสนเทศสนบั สนนุ การตรวจราชการ

2-ประยุกตใ์ ช้ - จัดทาแผนงานรองรับการสนับสนุนการตรวจราชการ
Apply - ประสานและสนับสนุนการตรวจราชการกับหนว่ ยงานท่ีเก่ยี วข้อง
- ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั หนว่ ยงานอ่นื ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคก์ ารตรวจราชการ
3-ความสามารถ - สอื่ สาร ประสานงานข้อมลู ทางเทคนคิ สนบั สนุนการปฏิบตั งิ านตรวจราชการ
Competence - ใหค้ วามรว่ มมือกับทมี และพันธมติ รในงานตรวจราชการอย่างยดื หยนุ่
- ตั้งใจดาเนินงานสนับสนุนการตรวจราชการที่ตรงเวลาและรบั ผดิ ชอบต่อประสทิ ธภิ าพ
4-ชานาญ - ปฏิบัติงานการตามขนั้ ตอน มาตรฐานและติดตามผลทสี่ ะทอ้ นประสทิ ธิภาพ
Proficiency - ใหค้ าปรกึ ษาแนะนาการวเิ คราะหก์ ารตัดสนิ ใจดาเนินงานตรวจราชการแกผ่ เู้ กี่ยวข้อง
5-เช่ยี วชาญ - ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานของส่วนราชการ สถานศกึ ษาและหน่วยงานอื่นรองรบั การตรวจราชการ
- ศกึ ษาวจิ ัยระบบ/รปู แบบการสนบั สนุนการตรวจราชการเป็นทยี่ อมรบั
Expert

2.ชอื่ สมรรถนะ : (Competency name) บรู ณาการการนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผล (Integration Supervision Monitoring and evaluation)

นยิ าม (Definition) ความสามารถประยุกตใ์ ช้วิธีการ ประสานเทคนคิ การนเิ ทศ รวบรวมข้อมลู ทรัพยากร เทคโนโลยที หี่ ลากหลาย

ปฏิบัติงานการนเิ ทศการศึกษา และการตดิ ตามประเมินผลใหบ้ รรลเุ ป้าหมายไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ

1.ปฏิบัตงิ านด้วยเทคนิคการนิเทศหลากหลาย

องค์ประกอบสาคญั 2.บรู ณาการทรพั ยากรเทคโนโลยี
Key Element 3.ติดตาม ตรวจสอบและประเมนิ ผล
4.สนบั สนนุ เครอื ข่ายการนิเทศ

5.นาการบูรณาการการนเิ ทศ

ระดบั สมรรถนะ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี
(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พน้ื ฐาน - ศกึ ษาเรยี นร้แู ละอธิบายเทคนิควิธีการบรู ณาการได้ชัดเจน
Basic - ปฏิบตั ิงานในบทบาทหน้าทดี่ ้วยเทคนิควธิ ีการหลากหลาย

2-ประยกุ ต์ใช้ 34
Apply
- ปฏิบตั ิงาน/สนับสนุน การปฏิบตั ิงานหน่วยงานท่เี กย่ี วขอ้ ง
3-ความสามารถ - ประสาน กากับ ตดิ ตาม ตรวจสอบและประเมินผลหนว่ ยงานการศึกษา
Competence - ร่วมปฏิบตั งิ านกบั หน่วยงานอื่นให้บรรลวุ ัตถุประสงคก์ ารนิเทศ
- บูรณาการทรพั ยากรเทคโนโลยีขับเคลอ่ื นประสานการดาเนินงาน
4-ชานาญ - หลอมรวมเทคนคิ วิธีการเรง่ รดั กากบั ติดตาม ตรวจสอบประเมนิ ผลการบรหิ ารหน่วยงานทางการศึกษา
Proficiency - วิเคราะห์ วิจัย ส่งเสรมิ การพฒั นาการนเิ ทศ ตดิ ตาม และประเมนิ ผล
5-เชย่ี วชาญ - สนับสนุนเครอื ข่ายความร่วมมือบูรณาการด้านวชิ าการการดาเนินการ
- ใหค้ าปรึกษาแนะแนว เทคนิควิธกี ารเช่ือมโยงองค์ความรู้และนวัตกรรมการขับเคล่อื นการดาเนินงาน
Expert - ประเมนิ ทศิ ทาง แนวโนม้ การนิเทศ ตดิ ตามประเมนิ ผลแบบบรู ณาการ
- แสดงบทบาทการนาการบรู ณาการการนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลเป็นแบบอย่างเชิงประจกั ษ์

3.ช่ือสมรรถนะ : (Competency name) บริหารราชการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic public administration)

นยิ าม (Definition) ความสามารถวิเคราะห์ ประเมนิ แนวโนม้ สภาพแวดลอ้ มองค์กร กาหนด วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ กาหนดกลยุทธ์

และแผนการบรหิ าร จดั ทากรอบประเมนิ ผลและระบตุ ัวช้ีวดั และพฒั นานวัตกรรม เพื่อการบรหิ ารราชการเชงิ ยุทธศาสตร์ที่มี
ประสิทธผิ ล

องคป์ ระกอบสาคัญ 1.วิเคราะห์ ประเมิน สภาพแวดลอ้ ม
Key Element 2.กาหนด วสิ ัยทัศน์ พันธกจิ
3.กาหนดกลยุทธแ์ ละแผนการบรหิ ารราชการ
4.จัดทากรอบการประเมนิ ผลและระบตุ ัวชี้วัด
5.พัฒนานวัตกรรมการบรหิ ารราชการเชิงยุทธศาสตร์

ระดับสมรรถนะ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี

(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พนื้ ฐาน - เรยี นร้แู ละถา่ ยทอดหลักการบริหารราชการเชงิ ยทุ ธศาสตร์
Basic - วเิ คราะห์ ประเมิน สภาพแวดล้อมทง้ั ภายในและภายนอกองค์กร

2-ประยกุ ตใ์ ช้ - กาหนด วสิ ยั ทัศน์ พนั ธกจิ และจดั ทาแผนยทุ ธศาสตรอ์ งคก์ ร
Apply - ปรบั ใช้ แนวคดิ ทฤษฎกี ารบรหิ ารเชิงกลยทุ ธ์ในการบรหิ ารองค์กร

3-ความสามารถ - ประยุกต์ศาสตรใ์ นการทางานของคณะกรรมการบรหิ ารยทุ ธศาสตร์ที่เกีย่ วขอ้ ง
Competence - สนับสนุนทีมงานปฏิบัตติ ามหลักและกระบวนการเชงิ กลยุทธอ์ ยา่ งถูกตอ้ ง
- ควบคมุ กากบั ติดตาม ประเมินผล แผนกลยทุ ธ์ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
- จัดทากรอบการประเมินผลและระบตุ ัวชว้ี ดั การบรหิ ารราชการเชงิ กลยทุ ธ์

4-ชานาญ - กาหนดกลยุทธแ์ ละแผนการนเิ ทศอยา่ งมีวสิ ยั ทัศน์เพ่ือพฒั นาบคุ คลเป็นทรพั ยส์ ินทีม่ คี ่าสาหรับองคก์ ร
Proficiency - ใหค้ าปรึกษาแนะนาการจัดทากรอบการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานและกาหนดตัวชีว้ ัดของ
สว่ นราชการหรือหน่วยงานอืน่

5-เชยี่ วชาญ - ประเมนิ และทบทวน ผลการดาเนนิ กลยทุ ธ์รว่ มกบั ทมี งานอยา่ งถูกตอ้ ง
Expert
- ส่งเสรมิ และพฒั นานวตั กรรมการบรหิ ารราชการเชงิ ยทุ ธศาสตร์เปน็ แบบอย่างเชิงประจกั ษ์

35

4.ชื่อสมรรถนะ : (Competency name) พัฒนามาตรฐานและประกันคุณภาพการศกึ ษา
(Develop standards and education quality assurance)

นิยาม (Definition) ความสามารถกาหนด พฒั นามาตรฐานและดาเนินงานระบบการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ของหน่วยงาน
และท่รี บั ผิดชอบได้อยา่ งเป็นรปู ธรรม และประสบความสาเรจ็ ตามเปา้ หมายได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

องค์ประกอบสาคญั 1.พฒั นาขีดความสามารถรองรบั การดาเนินงาน
Key Element 2.แลกเปลยี่ นเรียนรู้ระบบการประกันคุณภาพ
3.กาหนดแผนการดาเนนิ งานและพฒั นาฯ
4.ขับเคลือ่ นระบบประกันคุณภาพ
5.ประเมนิ ผลการพฒั นามาตรฐานและการประกันคณุ ภาพ

ระดบั สมรรถนะ พฤตกิ รรมบ่งชี้
(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พนื้ ฐาน - แสวงหาและถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ QA แกส่ มาชิกและพันธมิตร
Basic - พัฒนาขดี ความสามารถตนเองรองรับการพัฒนาฯ

2-ประยกุ ต์ใช้ - ปฏบิ ัตงิ านรว่ มหรือสนับสนุนหน่วยงานอนื่ ท่เี ก่ยี วข้องหรือมอบหมาย
Apply - แลกเปลย่ี นเรยี นรู้แนวทางดาเนนิ งาน QA ร่วมกับสมาชิกและพันธมิตรองค์กร
- มสี ว่ นร่วมในโครงการพัฒนาฯ ท่มี ีแนวโนม้ จะประสบความสาเรจ็
3-ความสามารถ - กาหนดแผนการพฒั นาฯ สอดคลอ้ งกบั แนวทางของกลุม่ และองคก์ ร
Competence - ตระหนกั และตงั้ ใจมสี ่วนร่วมพฒั นาฯ ขององค์กรใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย
- เต็มใจเรียนร้แู นวทาง วิธที ี่ดาเนนิ งาน QA ท่ีดที ีส่ ุดเพอ่ื ประสิทธผิ ลการศกึ ษา
4-ชานาญ - ขบั เคลอ่ื นระบบการพัฒนาฯ ไปสู่ความสาเรจ็ แบบผรู้ อบรูแ้ ละขานาญการ
Proficiency - สอนแนะ ใหค้ าปรกึ ษาการพฒั นาฯดว้ ยความเชีย่ วชาญอยา่ งมอื อาชพี
5-เช่ยี วชาญ - ประเมินผลการพฒั นาฯ อยา่ งเปน็ ระบบ ระบุปญั หาและประเด็นความจาเปน็ เพ่อื ปรับปรงุ
- ศกึ ษาวจิ ยั นวัตกรรมการพัฒนาฯ ภายในหนว่ ยงานเปน็ แบบอย่างท่ีดี
Expert

5.ช่ือสมรรถนะ : (Competency name) พฒั นาระบบการจัดการศึกษาตลอดชวี ติ

(Life-long educational management system Development)

นิยาม (Definition) ความสามารถเรยี นรหู้ ลักการและกาหนดกลยทุ ธ์ แผนการดาเนินงานพฒั นาระบบการจัดการศกึ ษา

ตลอดชีวติ ระบุผลลพั ธ์และแผนการประเมินผลของหน่วยงานและทีร่ ับผิดชอบได้อย่างเป็นระบบ และประสบความสาเร็จ

อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

องค์ประกอบสาคญั 1.ใช้องค์ความรูก้ ารจดั การศึกษาตลอดชวี ิต
Key Element 2.ปฏสิ ัมพนั ธแ์ ละรว่ มมือกับทมี งาน
3.สง่ เสริมและพฒั นากระบวนการเรยี นรู้
4.พฒั นาระบบการจัดการศกึ ษาตลอดชีวิต

5.วิจัยพฒั นานวัตกรรมฯ

36

ระดับสมรรถนะ พฤตกิ รรมบง่ ชี้
(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พน้ื ฐาน - ถา่ ยทอดองค์ความรกู้ ารพฒั นาการจัดการศึกษาตลอดชีวิตแก่ผเู้ ก่ียวขอ้ ง
Basic - ใชอ้ งค์ความรู้การจัดการศึกษาตลอดชวี ิตปฏิบัตงิ านในบทบาทหนา้ ทข่ี องตน

2-ประยุกต์ใช้ - ปฏิบัตงิ านการพัฒนาฯ ของหน่วยงานหรอื ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
Apply - สร้างปฏสิ มั พันธ์และรว่ มมอื กบั ทีมงานพฒั นาระบบฯขององค์กร

3-ความสามารถ - พัฒนาหลักสตู รการพัฒนาฯ ของหนว่ ยงาน/องคก์ ร
Competence - ส่งเสริมและพัฒนาการเรยี นการสอนระบบการจัดการศึกษาตลอดชีวิต
- สง่ เสริมและพฒั นากระบวนการเรียนรู้ แหลง่ เรียนรู้ และสอื่ การเรยี นรู้
4-ชานาญ - แสดงความตั้งใจเสนอแนวทางการพัฒนาฯ แกห่ นว่ ยงาน/สถานศกึ ษา
Proficiency - ดาเนินการพฒั นาระบบฯ อย่างถูกตอ้ งตามหลกั การวิชาการ
5-เช่ียวชาญ - สง่ เสรมิ และพัฒนาองคค์ วามรแู้ นะนา สอน การพฒั นาระบบฯ

Expert - ประเมนิ ทิศทาง แนวโน้ม การดาเนนิ งานฯ หน่วยงานทางการศกึ ษา
- วจิ ัย พฒั นา เผยแพรน่ วัตกรรมการพัฒนาฯ เชิงประจักษ์

37

มติ ทิ ี่ III สมรรถนะพฒั นาวชิ าชีพ (Professional Development Competency)

1.ชื่อสมรรถนะ : (Competency name) พฒั นาวิชาชพี (Professional Development)

นิยาม (Definition) ความสามารถดาเนินการพัฒนาทางการศึกษาทีบ่ ่งชีก้ ระบวนการดงึ ศักยภาพบคุ คล การสรา้ งความเข้าใจ

และการเรยี นรู้อยา่ งมสี ่วนร่วมในวชิ าชพี ด้วยการพฒั นาผปู้ ฏบิ ตั ิ การศึกษาฝกึ อบรม การวางแผนจัดระเบียบและโปรแกรม

การสนบั สนุนการเป็นมอื อาชีพ และกิจกรรมสนับสนุนการเรยี นรตู้ ่าง ๆ เพือ่ บรรลมุ าตรฐานและการประสบความสาเรจ็ ในชีวติ

และการทางาน

1.ส่ือสารองคค์ วามรู้การพฒั นามาตรฐานวิชาชีพ

องคป์ ระกอบสาคญั 2.วางแผนการพฒั นามาตรฐานวิชาชพี
(Key Element) 3.ร่วมมือพฒั นามาตรฐานวิชาชพี
4.ให้คาปรกึ ษาการพฒั นามาตรฐานวิชาชีพ

5.นาเรียนรู้และพัฒนามาตรฐานวชิ าชพี

ระดับสมรรถนะ พฤติกรรมบ่งชี้
(Proficiency Levels) (Behavioral Indicators)

1-พื้นฐาน - ศกึ ษาเรยี นรู้และถา่ ยทอดองคค์ วามรู้การพัฒนามาตรฐานวชิ าชพี
Basic - สรา้ งทกั ษะและคุณลักษณะวิชาชีพตนเองในบรบิ ทงาน/หน้าท่ี
- กาหนดเปา้ หมายพัฒนาตนเองใหม้ ีความพรอ้ มตามมาตรฐานวิชาชพี
2-ประยุกต์ใช้ - แลกเปล่ยี นเรียนรู้แนวทางการพัฒนาวชิ าชีพกบั เพอ่ื นร่วมงาน
Apply

3-ความสามารถ - ใช้ทักษะและคุณลกั ษณะวชิ าชพี พัฒนาและแก้ไขปญั หาการนเิ ทศการศึกษา
Competence - พฒั นาความสามารถการสือ่ สารดว้ ยภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- โน้มนา้ วผู้อน่ื มีสว่ นรว่ มพฒั นาความเป็นผู้นาการเรียนรู้วิชาชีพนิเทศการศกึ ษา
- สง่ เสริมสนบั สนนุ ความรว่ มมือเครือข่ายวิชาชีพพัฒนาความพร้อมเพอ่ื พฒั นาวิชาชีพ

4-ชานาญ - ประยกุ ต์ใช้เทคนิคหลากหลายพฒั นามาตรฐานผปู้ ระกอบวิชาชีพทางการศกึ ษา
Proficiency - ใหค้ าปรึกษา แนะนา การพัฒนามาตรฐานวิชาชพี ดว้ ยความเชย่ี วชาญระดบั มอื อาชพี

5-เชี่ยวชาญ - วิเคราะห์ ประเมนิ และคาดการณท์ ิศทางเพ่อื สร้างความเปล่ียนแปลงวิชาชีพ
Expert - เปน็ ผู้นาการเรียนรแู้ ละกาหนดแนวทางพัฒนาหรอื แก้ปัญหาการพฒั นาวชิ าชีพเป็นแบบอยา่ ง

2.ช่ือสมรรถนะ : (Competency name) จัดการเปลี่ยนแปลง (Change Management)
นยิ าม (Definition) ความสามารถเข้าใจหลกั การพนื้ ฐานกระบวนการพฤติกรรมและดาเนินการประยกุ ตใ์ ช้ทกั ษะและความรู้
ที่จาเป็นสาหรับการดาเนินกจิ กรรมโปรแกรมการเปลย่ี นแปลง ด้วยการวิเคราะห์ การวางแผน การบรหิ าร เพื่อสนบั สนนุ
ตอบสนองผอู้ ่ืนให้สามารถจดั การรเิ ริม่ ทม่ี ีประสิทธผิ ลตอ่ แนวทางการเปล่ยี นแปลงใหป้ ระสบความสาเรจ็ อยา่ งยง่ั ยนื

1.กาหนดผลลัพธก์ ารปฏบิ ัตงิ าน
2.แสดงวสิ ยั ทัศนก์ ารเปลย่ี นแปลง
องค์ประกอบสาคัญ 3.วางแผนการดาเนินงานรองรับการเปลยี่ นแปลง
(Key Element) 4.ตดิ ตามประเมนิ ผลนวัตกรรมการเปลยี่ นแปลง
5.ให้คาปรึกษาแนะแนวเทคนิคการเปลยี่ นแปลง
6.ดาเนนิ การเปลี่ยนแปลง


Click to View FlipBook Version