The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิชางานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jintawat0731, 2021-05-19 04:49:53

งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น

วิชางานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น

Keywords: 20100-1005

63

6. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. สอื่ การเรยี นรู้
1.1 หนงั สือเรียน หนว่ ยท่ี 11 เรอ่ื งทรานซสิ เตอร์
1.2 แผนภาพโครงสรา้ งของทรานซิสเตอร์เมื่อพิจารณาเปน็ ไดโอด และทิศทางการไหลของกระแส
เบสในการวดั หาขาทรานซสิ เตอร์
1.3 แบบฝึกหดั
1.4 แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน
2. แหล่งการเรียนรู้
2.1 หนังสอื เกีย่ วกบั งานไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์เบือ้ งตน้ ของสำนกั พิมพต์ า่ ง ๆ
2.2 อนิ เทอร์เนต็

การวดั ผลและประเมินผล
1. การวดั ผลและการประเมนิ ผล
1.1 แบบประเมนิ พฤติกรรม ความมีวินัย และความรบั ผิดชอบ ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ

70 ผา่ นเกณฑ์
1.2 ทดสอบโดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
1.3 สังเกตการปฏิบัติตามใบงานโดยใช้แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงาน
1.4 ตรวจแบบฝึกหัด

2. เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
2.1 แบบประเมินพฤติกรรม ความมวี ินัย และความรบั ผิดชอบ ต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ

70 ผา่ นเกณฑ์
2.2 แบบทดสอบหลงั เรยี น ตอ้ งได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.3 แบบประเมินพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิตามใบงานตอ้ งไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.4 แบบฝึกหดั ต้องไดค้ ะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

งานทีม่ อบหมาย
งานท่มี อบหมายนอกเวลาเรยี น ใหท้ บทวนเนื้อหารวมทัง้ ความสมบูรณข์ องแบบฝึกหดั และใบงาน

ผลงาน/ชนิ้ งาน/ความสำเร็จของผเู้ รยี น
1. ผลการปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 11
2. ผลการทำแบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 11

64

3. คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หน่วยที่ 11

เอกสารอา้ งอิง
1. หนังสอื เรยี นวิชางานไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์เบื้องตน้ รหัสวิชา 20100-1005
บริษัทศูนยห์ นงั สือเมืองไทย จำกัด
2. เว็บไซตแ์ ละสอื่ สิ่งพิมพ์ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับเนื้อหาบทเรียนตามบรรณานกุ รม

65

บันทึกหลังการสอน

1. ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

2. ผลการเรยี นของนกั เรยี น/ผลการสอนของคร/ู ปญั หาท่พี บ
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................... ....................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. .......................
...........................................................................................................................................................................

3. แนวทางการแกป้ ญั หา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 12 66

ชือ่ วิชา งานไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์เบ้อื งต้น หนว่ ยท่ี 12
รหสั วชิ า 20100-1005
เวลาเรยี นรวม 72 คาบ
ชื่อหน่วย เอสซอี าร์และไทรแอก สอนคร้ังที่ 12/18
ชอ่ื เรื่อง เอสซีอาร์และไทรแอก จำนวน 4 คาบ

หัวข้อเรอ่ื ง ใบงานที่ 12 เอสซีอาร์และไทรแอก
12.1 โครงสรา้ งและการทำงานของ

เอสซีอาร์
12.2 โครงสรา้ งและการทำงานของไทรแอก
12.3 การตรวจสอบคณุ สมบัตขิ องเอสซอี าร์

และไทรแอกโดยใชโ้ อห์มมิเตอร์

แนวคิดสำคญั
เอสซีอาร์ (Silicon Control Rectifier : SCR) มีโครงสร้างเป็นสารก่ึงตัวนำ 4 ช้ัน PNPN มีขาต่อใช้

งาน 3 ขาคือแอโนด (A) แคโทด (K) และเกต (G) เม่ือป้อนไบแอสให้ขาแอโนดและแคโทดเป็นไบแอสไปหน้า
แลว้ จดุ ชนวนท่ีขาเกตเป็นไฟบวก เอสซอี าร์ กจ็ ะนำกระแส การที่จะทำให้เอสซอี ารห์ ยดุ นำกระแสกระทำได้ 2
วิธีคือ ตัดแรงดันที่จ่ายให้วงจรออกช่ัวขณะและลดกระแสแอโนดท่ีไหลผ่านเอสซีอาร์ให้ต่ำกว่ากระแสยึด
(Holding current : IH)

ไทรแอก (Triac) ถูกพัฒนาขึ้นมาให้ใช้งานกับไฟสลับเพื่อแก้ข้อบกพร่องของ เอสซีอาร์ ไทรแอก
นำกระแสได้สองทิศทางโดยทำหน้าท่ีเป็นสวิตซ์ มีคุณสมบัติเป็นสวติ ซ์ท่ีดกี ว่าสวิตซ์ธรรมดาหลายประการคือ
ทำงานได้เร็วควบคุมการทำงานง่ายไมม่ ีหนา้ สัมผสั จึงไมเ่ กิดประกายไฟ โครงสรา้ งไทรแอกเหมอื นการรวมเอสซี
อาร์สองตัวไวด้ ้วยกัน การทำงานของไทรแอกตอ้ งเลือกสภาวะการทำงานของไทรแอกโดยเลือกใช้สภาวะกระแส
แอโนดกบั กระแสเกตเสริมกนั การทำให้ไทรแอกนำกระแสทำได้คล้ายกันกับเอสซีอาร์การตรวจสอบสภาพดี
หรือเสยี ทำไดด้ ้วยการใช้โอห์มมิเตอรว์ ัดและทดสอบ

สมรรถนะย่อย
แสดงความรู้เกีย่ วกับเอสซอี าร์และไทรแอก

จดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ัติ

ด้านความรู้ 67
1. อธบิ ายการวดั คา่ ความต้านทานระหว่างขา
ด้านทักษะ
ต่าง ๆ ของเอสซีอารแ์ ละไทรแอกได้ 1. วัดและทดสอบเอสซีอาร์และไทรแอก
2. บอกวิธกี ารตรวจสอบหาขาของเอสซีอารแ์ ละ
ด้วยมลั ตมิ เิ ตอร์
ไทรแอกได้
3. บอกวิธีการจุดชนวนและกระแสยดึ ของเอสซอี าร์

และไทรแอกได้
4. สามารถตรวจสอบเอสซีอาร์และไทรแอกท่ีดี

หรือชำรดุ ได้

ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ความซ่ือสตั ย์ สุจริต ความมีน้ำใจและแบ่งบนั ความ
ร่วมมอื ความมีมารยาท ไมห่ ยดุ น่ิงทจ่ี ะแก้ปญั หา ใชอ้ ปุ กรณอ์ ย่างฉลาดและรอบคอบ

เนอ้ื หาสาระ

12.1 โครงสรา้ งและการทำงานของเอสซีอาร์
เอสซีอาร์ (Silicon Control Rectifier : SCR) เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำชนิดไทริสเตอร์

(Thyristor) ที่ทำหน้าที่เป็นสวิตช์ปิด – เปิดสามารถสร้างให้ทนค่าแรงดันและกระแสสูง ๆ ได้นิยมใช้กับ

วงจรไฟฟ้ากระแสสลบั โหลดทถ่ี ูกขับไดแ้ ก่ หลอดไฟ มอเตอร์ ตัวตา้ นทาน และตวั เหนี่ยวนำ เปน็ ต้น

โครงสร้างของเอสซีอาร์จะประกอบไปด้วยสารก่ึงตัวนำที่เป็นรอยต่อของสารพีเอ็นพี โดย

ขั้วแอโนดจะอยู่ด้านริมของสารพี ส่วนข้ัวแคโทดจะอยู่ด้านริมของสารเอ็น ขั้วเกตจะติดกับสารเอ็นทางขั้ว
แคโทด

การทำงานของเอสซอี าร์จะคล้ายคลึงกบั ไดโอดซึ่งมกี ารทำงานสองสถานะ คือนำกระแสและไม่

นำกระแส แต่การนำกระแสหรอื ไมน่ ำกระแสนัน้ ถูกควบคุมโดยขาเกตจากวงจรสมมลู ถา้ แรงดันท่ีขาแอโนดเป็น

บวกเม่ือเทียบกบั แคโทดและแรงดนั ท่ีขาเกตเป็นลบเม่ือเทียบกับขาแคโทดจะทำใหท้ รานซีสเตอร์ Q2 เกิดการ
ไบแอสกลับ ทรานซสิ เตอร์ Q2 จะไมน่ ำกระแสมีเฉพาะกระแสรวั่ ไหลเท่าน้นั ดังนน้ั เอสซอี าร์จะไมม่ กี ระแสไหล
จากแอโนดไปยังแคโทด ค่าความต้านทานระหว่างแอโนดกับแคโทดจึงสูงมาก ถ้าให้แรงดันที่ขาเกตมีค่าเป็น

บวกเมือ่ เทียบกบั แคโทดจะทำใหท้ รานซสิ เตอร์ Q2 นำกระแส
12.2 โครงสรา้ งและการทำงานของไทรแอก
ไทรแอกเป็นอุปกรณ์สารก่ึงตัวนำที่มีขั้วต่อ 3 ข้ัวมีช่ือเรียกว่า A2 (แอโนด 2) , A1 (แอโนด1)

และ G (เกต) ไทรแอกจะเป็นอุปกรณ์ท่ีทำหนา้ ทคี่ ล้าย ๆ กบั สวติ ซ์ไฟฟ้าสำหรบั กระแสสลบั แต่มขี อ้ ดกี วา่ สวิตซ์
ธรรมดา คือการเปิด – ปิดวงจรของไทรแอกเร็วกว่าสวิตซ์ธรรมดาหลายเท่าจึงทำให้สามารถควบคุมกำลงั งาน
ไดไ้ ทรแอกเปน็ อุปกรณ์สารก่ึงตัวนำทมี่ ีขัว้ ต่อ 3 ข้วั มีช่ือเรียกว่า A2 (แอโนด 2) , A1 (แอโนด1) และ G (เกต)

68

ไทรแอกจะเป็นอปุ กรณ์ที่ทำหนา้ ท่ีคล้าย ๆ กับสวิตซ์ไฟฟ้าสำหรับกระแสสลับแต่มีข้อดีกว่าสวิตซ์ธรรมดา คือ
การเปดิ – ปิดวงจรของไทรแอกเร็วกวา่ สวติ ซ์ธรรมดาหลายเทา่ จงึ ทำให้สามารถควบคุมกำลังงานได้

12.3 การตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องเอสซีอารแ์ ละไทรแอกโดยใชโ้ อห์มมเิ ตอร์
1. การหาขาของเอสซีอารโ์ ดยใชโ้ อหม์ มิเตอร์
2. การตรวจสอบคุณสมบัตขิ องเอสซีอารแ์ ละไทรแอกเกีย่ วกบั กระแสรัว่ ไหล
3. การทดสอบคุณสมบตั ิในการจุดชนวนของเอสซีอาร์
4. การวดั หาขาไทรแอกโดยใช้โอห์มมิเตอร์

กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 13/18, คาบท่ี 49-52/56)
1. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยที่ 12 ใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที
2. ครูใหน้ กั เรียนดูเน้ือหาหน่วยท่ี 12
3. ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรยี น
3.1 ครอู ธิบายเก่ยี วกับเอสซีอาร์และไทรแอก
3.2 ครตู ง้ั คำถามให้นักเรียนช่วยกนั ตอบ แลว้ ร่วมกันอภิปรายเก่ียวกบั เอสซีอาร์และไทรแอก
3.3 ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียน
4. ขน้ั สอน
4.1 นักเรียนศกึ ษาจากเนือ้ หาในหน่วยท่ี 12 เร่อื งเอสซีอารแ์ ละไทรแอก
4.2 ครูนำแผนภาพโครงสรา้ ง วงจรสมมูลและสัญลกั ษณ์ของเอสซีอาร์ และโครงสร้าง สัญลักษณ์

และวงจรสมมลู ของไทรแอกมาแสดงให้นักเรียนดู พรอ้ มทัง้ อธบิ ายเพ่ิมเตมิ
4.3 ครูอธิบายเรือ่ ง การตรวจสอบคุณสมบตั ิของเอสซีอาร์และไทรแอกโดยใชโ้ อห์มมิเตอร์ แล้วให้

นักเรยี นไดซ้ ักถาม
4.4 ครใู ห้ความรูเ้ พิม่ เตมิ และอธิบายเกย่ี วกับการปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 12
4.5 นักเรียนปฏิบัตติ ามใบงานที่ 12 เอสซอี ารแ์ ละไทรแอก
4.6 ขณะนักเรียนปฏิบัตติ ามใบงานครูจะสงั เกตการทำงานของนักเรยี น
4.7 นักเรียนทำแบบฝึกหดั

5. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมและร่วมกนั อภปิ รายสรปุ บทเรียน
6. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน

สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
1. ส่ือการเรยี นรู้
1.1 หนังสือเรยี น หนว่ ยท่ี 12 เรอื่ งเอสซอี าร์และไทรแอก
1.2 แผนภาพโครงสรา้ ง วงจรสมมลู และสัญลักษณ์ของเอสซอี าร์ และโครงสร้าง สญั ลักษณ์ และ
วงจรสมมูลของไทรแอก
1.3 แบบฝกึ หดั

69

1.4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
2. แหลง่ การเรยี นรู้

2.1 หนงั สือเกีย่ วกับงานไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เบอื้ งต้น ของสำนกั พมิ พ์ตา่ ง ๆ
2.2 อนิ เทอร์เนต็

การวดั ผลและประเมินผล
1. การวัดผลและการประเมนิ ผล
1.1 แบบประเมินพฤตกิ รรม ความมีวินัย และความรับผิดชอบ ต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ

70 ผ่านเกณฑ์
1.2 ทดสอบโดยใชแ้ บบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน
1.3 สังเกตการปฏบิ ตั ิตามใบงานโดยใชแ้ บบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
1.4 ตรวจแบบฝกึ หัด

2. เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
2.1 แบบประเมินพฤตกิ รรม ความมีวินัย และความรับผิดชอบ ต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ

70 ผา่ นเกณฑ์
2.2 แบบทดสอบหลังเรยี น ต้องได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.3 แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบตั ิตามใบงานตอ้ งได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.4 แบบฝึกหัดต้องได้คะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

งานท่มี อบหมาย
งานท่ีมอบหมายนอกเวลาเรยี น ให้ทบทวนเนื้อหารวมทัง้ ความสมบรู ณข์ องแบบฝึกหดั และใบงาน

ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรียน
1. ผลการปฏิบัติตามใบงานที่ 12
2. ผลการทำแบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 12
3. คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หนว่ ยที่ 12

เอกสารอ้างอิง
1. หนังสอื เรยี นวชิ างานไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์เบื้องต้น รหสั วชิ า 20100-1005
บริษัทศนู ย์หนังสอื เมอื งไทย จำกดั
2. เวบ็ ไซตแ์ ละส่ือสงิ่ พิมพท์ ่เี ก่ยี วขอ้ งกับเนือ้ หาบทเรียนตามบรรณานุกรม

70

บันทึกหลังการสอน

1. ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

2. ผลการเรยี นของนกั เรยี น/ผลการสอนของคร/ู ปญั หาท่พี บ
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................... ....................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. .......................
...........................................................................................................................................................................

3. แนวทางการแกป้ ญั หา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 13 72

ช่ือวิชา งานไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ สเ์ บอื้ งต้น หนว่ ยท่ี 13
รหสั วิชา 20100-1005
เวลาเรียนรวม 72 คาบ
ช่อื หนว่ ย เทคนิคการบดั กรี สอนคร้ังที่ 13/18
ชื่อเร่ือง เทคนคิ การบดั กรี จำนวน 4 คาบ

หวั ข้อเรอ่ื ง ใบงานท่ี 13 เทคนิคการบัดกรี
13.1 แผ่นวงจรพิมพ์
13.2 ตะกั่วบัดกรี
13.3 หัวแรง้
13.4 การปอกสายไฟ
13.5 การบัดกรอี ุปกรณ์บนแผน่ วงจรพิมพ์
13.6 การตัดขาอุปกรณ์
13.7 การถอนจุดบัดกรี

แนวคดิ สำคญั
การประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำเป็นจะต้องใช้การบัดกรีด้วยตะกั่วเป็นพ้ืนฐาน อุปกรณ์ในการให้

ความร้อนในการบัดกรีคือหัวแรง้ เมือ่ ต้องการถอนการบัดกรีเนื่องจากบัดกรีผิดหรอื ต้องการถอดอุปกรณ์เพื่อ
เปลย่ี นตัวใหมจ่ ะต้องใชท้ ด่ี ดู ตะกวั่

สมรรถนะยอ่ ย
แสดงความรเู้ กี่ยวกบั เทคนิคการบดั กรี

จุดประสงคก์ ารปฏิบตั ิ ด้านทกั ษะ
ด้านความรู้ 1. บัดกรอี ปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนกิ สบ์ น

1. อธิบายความหมายของการบัดกรไี ด้ แผ่นวงจรพิมพ์
2. บอกคณุ สมบัตขิ องตะกว่ั บัดกรีได้
3. บอกขัน้ ตอนการบดั กรีไดถ้ ูกต้อง
4. อธิบายข้นั ตอนการปลอกสายไฟได้ถูกตอ้ ง
5. บอกการบัดกรีสายไฟชนดิ ตา่ ง ๆ เข้ากบั อปุ กรณ์

และแผ่นวงจรพิมพ์ได้

6. บอกการจดั วางอปุ กรณ์ลงบนแผ่นวงจรพิมพ์

73

บัดกรีและตัดขาอุปกรณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถูกวิธี
7. อธบิ ายวธิ ีการการถอดอปุ กรณอ์ อกจากแผน่

วงจรพิมพไ์ ด้ถูกต้อง

ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ความซื่อสัตย์ สจุ ริต ความมนี ้ำใจและแบ่งบนั ความ
รว่ มมือ ความมมี ารยาท ไม่หยดุ น่งิ ท่จี ะแก้ปญั หา ใช้อปุ กรณ์อยา่ งฉลาดและรอบคอบ

เนื้อหาสาระ
13.1 แผ่นวงจรพมิ พ์
แผ่นวงจรพิมพ์ (Printed Circuit Boards) เป็นแผ่นที่ผิวด้านหนึ่งถูกเคลือบด้วยแผ่นทองแดง

บาง ๆ เพื่อใช้ทำลายวงจรพิมพ์ ทำให้เกิดเป็นวงจรต่าง ๆ ตามต้องการ ลายวงจรมีส่วนสำคัญต่อการใช้งาน
เพราะการเขียนลายวงจรจะต้องคำนึงถึงขนาดของลายวงจร ให้เหมาะสมกับปริมาณของกระแสท่ีไหล
ผา่ น ลกั ษณะการเชื่อมต่อต้องเหมาะสมสวยงาม ขนาดของลายวงจรต้องไมเ่ ลก็ หรือใหญ่เกินไป การเขา้ โคง้ ลาย
วงจรควรต่อเข้าก่ึงกลางจุด ไม่ควรผ่านขอบรมิ จุดต่อ หรือกรณีจำเป็นต้องผ่านขอบริมจุดต่อลายวงจรจะต้อง
สมั ผสั จุดต่อให้มากทส่ี ดุ

13.2 ตะกัว่ บดั กรี
ตะก่ัวบัดกรี (Solder) คือวัสดุที่ทำหน้าที่เป็นตัวเช่ือมประสานรอยต่อของสายไฟหรือขาของ

อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ข้าด้วยกันหรอื ต่ออุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกสเ์ ข้ากับลายวงจรพมิ พ์ ส่วนประกอบของตะก่ัว
บัดกรปี ระกอบด้วยดีบุกและตะกั่วซ่งึ มีส่วนผสมโดยกำหนด เป็นเปอร์เซน็ ต์ ค่าท่ีบอกไว้คา่ แรกเป็นดบี ุกเสมอ
เชน่ 70/30 หมายถึง สว่ นผสมประกอบด้วยดีบุก 70% และตะก่วั 30%

13.3 หวั แร้ง
หัวแร้ง (Soldering) ที่ใช้งานทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นหัวแร้งไฟฟ้า ทำหน้าท่ีให้

ความร้อนออกมาโดยใช้ไฟฟ้าจ่ายผ่านส่วนที่ทำใหก้ ำเนิดความรอ้ น ส่งผ่านผ่านความร้อนไปยังหัวบัดกรี และ
หัวบัดกรีเป็นตัวส่งผ่านความร้อนไปยังชิ้นงาน จนช้ินงานเกิดความร้อนพอท่ีจะหลอมละลายตะก่ัวบัดกรีได้
การบัดกรที ี่ถูกต้องนอกจากหัวแร้งต้องร้อนพอที่จะหลอมละลายตะกั่วบัดกรไี ด้แลว้ ช้ินงานที่จะบัดกรีก็ต้อง
ร้อนพอท่ีจะหลอมละลายตะกั่วบัดกรีได้ด้วย ถ้าชิ้นงานขนาดเล็กสามารถใช้หัวแร้งมีกำลังไฟฟ้าต่ำได้
ถา้ ชิ้นงานขนาดใหญ่หัวแร้งตอ้ งมกี ำลังไฟฟา้ สูงข้นึ ตามไปด้วย ไมเ่ ชน่ นน้ั อาจทำให้การบัดกรีไม่สมบรู ณไ์ ด้

13.4 การปอกสายไฟ
การปอกสายไฟมีจุดประสงค์ต้องการให้ฉนวนที่หุ้มสายหลุดออกจากตัวนำในระยะที่ต้องการ

โดยไม่ทำให้สายตัวนำภายในขาดหรือเป็นรอยหรือเกือบขาด ซ่ึงอาจจะสังเกตไม่เห็นแต่มีผลในการใช้งานใน
ระยะยาว ระยะในการปอกสายขึ้นกับขนาดของสายและขนาดของจุดที่จะนำไปบัดกรดี ้วยโดยทั่วไปจดุ บัดกรี
ขนาดเล็กจะปอกสายยาวประมาณ 1.5 – 2 มม.

74

13.5 การบดั กรีอปุ กรณบ์ นแผน่ วงจรพิมพ์
การบัดกรีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะต้องเสียบขาอุปกรณ์ลงบนแผ่นวงจรพิมพ์ให้ถูกข้ัว และ

ตำแหน่งท่ีต้องการพรอ้ มกดอปุ กรณใ์ หแ้ นบกบั แผน่ วงจรพิมพ์ (เฉพาะอุปกรณ์ท่ีกระทำได้) โดยจะต้องขยับขา
อุปกรณ์ใหท้ ำมุมไปในทศิ ทางตา่ ง ๆ และทำมมุ กับแผน่ วงจรพมิ พ์ประมาณ 30o – 6 0o เพอ่ื ไมใ่ หข้ าอุปกรณ์ชิด
กนั และปลายหัวแรง้ สามารถสอดแทรกไปยงั ตำแหน่งท่จี ะบัดกรไี ด้สะดวก ทำใหอ้ ุปกรณไ์ ม่ล่วงหล่นขณะบัดกรี
พร้อมกับหมุนแผ่นวงจรพิมพ์เพื่อให้ปลายขาอุปกรณ์ช้ีเข้าหาตัวใช้มือขวาจับหัวแร้ง โดยให้ปลายหัวแร้งอยู่
ด้านขวาของขาอุปกรณ์ และจี้ไปยังขาอุปกรณ์และลายทองแดง ณ ตำแหน่งท่ีจะบัดกรีพร้อมกัน มือซ้ายจับ
ตะก่ัวให้ปลายตะกั่วจี้ไปยังด้านซ้ายของขาอุปกรณ์และจ่ออยู่ระหว่างปลายหัวแร้งกับขาอุปกรณ์ สักครู่ให้
ตะกั่วหลอมละลายติดสายทองแดงและขาอุปกรณ์ในลักษณะแนบชิดแล้วรีบเอาหัวแร้งและตะก่ัวออกจากจุด
บดั กรี การบัดกรไี มค่ วรใส่ตะกวั่ มากเกนิ ความจำเปน็ เพราะนอกจากสน้ิ เปลืองแลว้ ยังอาจไปติดกับอุปกรณห์ รือ
จดุ บดั กรีอ่ืน ๆ ได้ ซงึ่ เปน็ ลักษณะของการพอกตะก่วั จากนนั้ จงึ บัดกรีจดุ อ่ืน ๆ ตอ่ ไปจนครบ

13.6 การตดั ขาอปุ กรณ์
หันปากคมี ให้ชไ้ี ปทางเดยี วกันกบั ขาอปุ กรณแ์ ล้วจงึ ตัดขาอุปกรณท์ ีละขา การตัดขาอุปกรณ์ทที่ ำ

มมุ กับแผ่นวงจรพิมพ์แคบ ๆ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้รอยตัดไมส่ วยหรอื ลายทองแดงชำรุด
เนอ่ื งจากคีมอาจไปงดั หรอื เบียดกับจุดบัดกรี การตัดขาอปุ กรณค์ วรตดั ใหส้ ้ันท่ีสดุ ท่ีรอยบัดกรีหุ้มโอบได้พอดี

13.7 การถอนจดุ บดั กรี
กรณีท่ีต้องการถอนจุดบัดกรี ทำได้โดยใช้หัวแร้งร้อนสัมผัสไปที่จุดบัดกรีที่จะถอด จนตะก่ัว

หลอมละลาย ใช้เครอื่ งดูดตะกั่ว (Solder Sucker) ดูดตะกวั่ บัดกรีออก

กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 14/18, คาบที่ 53-56/56)
1. นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยที่ 13 ใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที
2. ครูให้นกั เรียนดเู นื้อหาหนว่ ยที่ 13
3. ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น
3.1 ครอู ธิบายเก่ยี วกบั เทคนคิ การบดั กรี
3.2 ครตู งั้ คำถามให้นักเรียนชว่ ยกนั ตอบ แล้วร่วมกันอภปิ รายเกย่ี วกับเทคนคิ การบัดกรี
3.3 ครแู จง้ จุดประสงค์การเรียน
4. ขั้นสอน
4.1 นกั เรียนศึกษาจากเนอ้ื หาในหน่วยที่ 13 เรือ่ งเทคนคิ การบดั กรี
4.2 ครอู ธิบาย เรือ่ งแผ่นวงจรพมิ พ์ พรอ้ มภาพแผน่ วงจรพมิ พป์ ระกอบ
4.3 ครอู ธบิ าย เร่อื งตะกว่ั บดั กรีและหวั แร้ง พรอ้ มนำตัวอย่างตะกั่วบัดกรีและหัวแร้งมาแสดงให้
นักเรียนดู
4.4 ครูแบ่งนักเรียนกลมุ่ ละ 5 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปราย เรื่อง การปอกสายไฟ และการ
บัดกรอี ุปกรณบ์ นแผ่นวงจรพมิ พ์ แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกันสรุป

75

4.5 ครูอธบิ าย เร่อื ง การตัดขาอุปกรณ์ และการถอนจุดบดั กรี แล้วให้นกั เรียนซกั ถาม
4.6 ครูใหค้ วามร้เู พม่ิ เติมและอธบิ ายเกีย่ วกับการปฏบิ ตั ิตามใบงานที่ 13
4.7 นกั เรยี นปฏบิ ตั ติ ามใบงานที่ 13 เทคนิคการบดั กรี
4.8 ขณะนักเรียนปฏิบัติตามใบงานครจู ะสังเกตการทำงานของนักเรียน
4.9 นักเรียนทำแบบฝกึ หัด
5. ขั้นสรุป ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมและรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ บทเรียน

6. ใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น

สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
1. สือ่ การเรยี นรู้
1.1 หนงั สือเรียน หนว่ ยที่ 13 เร่อื งเทคนคิ การบดั กรี
1.2 ภาพแผ่นวงจรพิมพ์
1.3 ตวั อยา่ งตะกว่ั บดั กรีและหวั แรง้
1.4 แบบฝึกหัด
1.5 แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน
2. แหลง่ การเรยี นรู้
2.1 หนังสอื เกี่ยวกบั งานไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์เบือ้ งตน้ ของสำนกั พมิ พต์ า่ ง ๆ
2.2 อินเทอร์เน็ต

การวัดผลและประเมนิ ผล
1. การวัดผลและการประเมินผล
1.1 แบบประเมินพฤติกรรม ความมีวินัย และความรับผิดชอบ ต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ

70 ผ่านเกณฑ์
1.2 ทดสอบโดยใช้แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น
1.3 สังเกตการปฏบิ ตั ิตามใบงานโดยใชแ้ บบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงาน
1.4 ตรวจแบบฝึกหดั

2. เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
2.1 แบบประเมินพฤตกิ รรม ความมีวินัย และความรบั ผิดชอบ ต้องได้คะแนนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ

70 ผา่ นเกณฑ์
2.2 แบบทดสอบหลงั เรยี น ตอ้ งไดค้ ะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.3 แบบประเมินพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิตามใบงานต้องไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2.4 แบบฝึกหดั ตอ้ งไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

76

งานทมี่ อบหมาย
งานที่มอบหมายนอกเวลาเรียน ใหท้ บทวนเน้อื หารวมทงั้ ความสมบูรณข์ องแบบฝกึ หัดและใบงาน

ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเร็จของผู้เรียน
1. ผลการปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 13
2. ผลการทำแบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 13
3. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หน่วยท่ี 13

เอกสารอ้างองิ
1. หนังสือเรยี นวชิ างานไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ สเ์ บอื้ งต้น รหัสวชิ า 20100-1005
บรษิ ทั ศนู ย์หนังสอื เมอื งไทย จำกดั
2. เวบ็ ไซตแ์ ละสอ่ื สงิ่ พิมพ์ท่ีเกี่ยวข้องกับเนื้อหาบทเรียนตามบรรณานกุ รม

77

บันทกึ หลงั การสอน

1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

2. ผลการเรียนของนักเรยี น/ผลการสอนของคร/ู ปัญหาทพ่ี บ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

3. แนวทางการแก้ปญั หา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 14 78

ชอ่ื วิชา งานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เบอื้ งต้น หนว่ ยที่ 14
รหสั วิชา 20100-1005
เวลาเรยี นรวม 72 คาบ
ชื่อหน่วย การประกอบวงจรอิเล็กทรอนกิ สเ์ บอื้ งตน้
และแผน่ วงจรพมิ พ์ สอนครงั้ ท่ี 14/18
จำนวน 4 คาบ
ช่อื เรื่อง การประกอบวงจรอเิ ล็กทรอนกิ สเ์ บอ้ื งตน้ และแผ่นวงจรพมิ พ์

หวั ข้อเร่อื ง ใบงานที่ 14.1 การประกอบวงจรเล็กทรอ
14.1 วงจรเรียงกระแส นิกสเ์ บ้อื งตน้
14.2 วงจรเรยี งกระแสแบบครง่ึ คลนื่ ใบงานท่ี 14.2 การประกอบวงจรเลก็ ทรอ-
14.3 วงจรเรยี งกระแสแบบเต็มคลน่ื นิกส์เบือ้ งตน้ บนแผน่ วงจรพมิ พ์
14.4 วงจรเรียงกระแสแบบบริดจ์
14.5 หลักการเบอ้ื งต้นในการคัดลอกแผ่น

วงจรพิมพ์
14.6 การร่างแบบสำหรบั การเตรียมการเพือ่

ตอ่ วงจร
14.7 การคดั ลอกวงจรจากลายวงจรพิมพ์

สำเรจ็ รูป

แนวคดิ สำคญั
วงจรเรียงกระแสเป็นวงจรทแี่ ปลงผนั ไฟฟา้ กระแสสลับให้เปน็ ไฟฟ้ากระแสตรงโดยวงจรจะประกอบไป

ดว้ ย หมอ้ แปลงไฟฟ้า ไดโอดเรียงกระแส และคาปาซิเตอร์ การทดลองวงจรโดยการบดั กรลี งบนแผ่นวงจรพิมพ์
เป็นการทดลองท่ีเหมือนกับสภาพการนำไปใช้งานจริง ซึ่งการประวงจรจะต้องทำทีละขั้นตอนด้ วยความ
ระมดั ระวงั

แผ่นวงจรพิมพ์จะเป็นสว่ นท่ีทำหน้าที่ยึดอุปกรณ์และเป็นทางเดินของสัญญาณไฟฟ้าอีกทั้งช่วยทำให้
วงจรอิเล็กทรอนิกส์ไม่ยุ่งเหยิงอันเกิดจากการโยงสายไฟไปมา แต่ในบางคร้ังมีความจำเป็นที่จะลอกวงจรจาก
แผน่ วงจรพิมพอ์ ันเน่ืองมาจากต้องการวิเคราะหก์ ารทำงานของวงจรในกรณที ่ีต้องซ่อมแก้ไขวงจรหรือต้องการ
เลียนแบบวงจร การคัดลอกแผ่นวงจรจากวงจรพิมพ์จะต้องรู้จักสัญลักษณ์ของอุปกรณ์ตลอดจนช่ือขาของ
อปุ กรณอ์ ยา่ งแมน่ ยำจึงจะคัดลอกได้อย่างถูกตอ้ ง

สมรรถนะยอ่ ย

79

1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับการประกอบวงจรอเิ ล็กทรอนิกสเ์ บอ้ื งต้นและแผ่นวงจรพมิ พ์
2. ประกอบวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ลงบนแผน่ วงจรพิมพ์

จุดประสงคก์ ารปฏิบัติ ด้านทักษะ
ดา้ นความรู้ 1. ประกอบวงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ บอ้ื งตน้
2. ประกอบวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์เบอ้ื งต้น
1. บอกชนดิ วงจรเรียงกระแส
2. อธิบายการทำงานของวงจรเรียงกระแสได้ แผ่นวงจรพิมพ์
3. บอกสูตรการคำนวณหาแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงได้
4. ประกอบวงจรโดยการบัดกรีได้ถูกต้อง
5. ทดสอบการทำงานของวงจรไดถ้ ูกตอ้ ง
6. สามารถทดลองวงจรจา่ ยไฟกระแสตรงแบบต่าง ๆ

โดยใช้วธิ กี ารบดั กรีได้
7. สามารถคดั ลอกวงจรจากลายวงจรพิมพ์สำเรจ็ รปู ได้
8. ประกอบวงจรบนแผ่นวงจรพมิ พไ์ ด้

ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
แสดงออกด้านการตรงตอ่ เวลา ความสนใจใฝ่รู้ ความซ่ือสัตย์ สจุ ริต ความมีน้ำใจและแบ่งบัน ความ
ร่วมมอื ความมีมารยาท ไม่หยุดน่งิ ทจ่ี ะแก้ปญั หา ใชอ้ ปุ กรณ์อยา่ งฉลาดและรอบคอบ

เน้ือหาสาระ
14.1 วงจรเรียงกระแส
วงจรเรียงกระแส (Rectifier) คือ วงจรไฟฟ้าท่ีสามารถจัดเรียงกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ ให้

กลายเป็นไฟฟ้ากระแสตรง ซ่ึงอุปกรณ์ที่สามารถจะทำงานอย่างน้ีได้จำเป็นต้องมีคุณสมบัติสำคัญยอมให้
กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นไปในทิศทางเดียวเท่านนั้ คอื ไดโอด ซง่ึ ในท่นี ้ีจะใชไ้ ดโอดกำลัง

14.2 วงจรเรยี งกระแสแบบครงึ่ คล่นื
การทำงานของวงจรเรียงกระแสแบบคร่งึ คลื่น (Half Wave Rectifier) เม่อื ขั้วบวกของขดทุติย

ภมู ิได้รบั เฟสบวก ขั้วล่างเทียบได้เฟสลบ ทำให้ขาอาโนดของไดโอดได้รบั ศักย์บวก ขาแคโถดได้รับศักย์ลบ ทำ
ให้ไดโอดไดร้ ับการไบแอสไปหนา้ กระแสสามารถไหลผา่ นวงจรไปได้ จึงมีแรงดันไฟกระแสตรงตกคร่อมโหลด
RL

80

14.3 วงจรเรียงกระแสแบบเตม็ คล่ืน
การเรียงกระแสแบบครึ่งคลื่น (Full Wave Rectifier) จะได้แรงดันไฟตรงที่มีความพลิ้ว

(Ripple) ค่อนข้างสูงไม่สามารถใช้งานในวงจรทั่วไป การนำไปใช้งานค่อนข้างมีขีดจำกัด จึงนิยมใช้วงจรเรียง
กระแสแบบเต็มคลน่ื ซงึ่ ใชไ้ ดโอด 2 ตัว ผลดั กันทำงานในแตล่ ะเฟส

14.4 วงจรเรียงกระแสแบบบริดจ์
วงจรเรียงกระแสแบบเต็มคลื่น (Bridge Rectifier) โดยไม่ใช้จุดศูนย์กลางของหม้อแปลง เป็น

วงจรอีกแบบหน่ึงทน่ี ยิ มใช้ เพราะใช้หม้อแปลงกำลงั ทางขดทุติยภูมิเพียงขดเดียว เพียงแตต่ ้องเพิ่มไดโอดอกี 2
ตวั รวมเป็น 4 ตวั

14.5 หลักการเบ้อื งต้นในการคดั ลอกแผน่ วงจรพมิ พ์
การคดั ลอกวงจรมีประโยชน์ในการซ่อมหรือสร้างเลียนแบบกรณีไมม่ วี งจรมาใชห้ รือกรณีมีวงจร

มาให้ แตแ่ ผ่นวงจรพิมพไ์ มม่ ีรายละเอียดของตำแหนง่ ของอปุ กรณ์ ชื่อข้ัวตอ่ ตา่ ง ๆ ทำให้การตรวจซอ่ มค่อนขา้ ง
ลำบาก จะต้องมีทักษะในการไล่วงจรจากแผ่นวงจรพิมพ์พอควร จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ง่ายข้ึน
นอกจากนน้ั จะต้องเข้าใจเกี่ยวกบั ขาใช้งานของทรานซิสเตอร์ คาปาซิเตอร์และไอซตี ่าง ๆ โดยจะต้องสามารถ
เปดิ ค่มู ือการใชง้ านอปุ กรณ์นนั้ ๆ ได้ จึงจะสามารถเขียนเปน็ วงจรอิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีเป็นสากลได้ถกู ต้อง

14.6 การร่างแบบสำหรบั การเตรียมการเพือ่ ตอ่ วงจร
เม่ือใช้แผ่นวงจรพิมพ์เอนกประสงค์ แผ่นวงจรพิมพ์เอนกประสงค์นิยมใช้เม่ือต้องการทดลอง

ประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต้นแบบ ว่าทำงานได้ตามเงื่อนไขท่ีออกแบบได้หรือไม่ หรือช่างอิเล็กทรอนิกส์
สมัครเล่นท่ีต้องการทักษะและประสบการณ์ เพราะการทำแผ่นวงจรพิมพ์สำเร็จค่อนข้างใช้เวลาในการ
ออกแบบ และทำแผ่นวงจรพิมพ์นาน การใช้แผ่นวงจรพิมพ์เอนกประสงค์ไม่เหมาะที่จะใช้ต่อวงจรท่ียุ่งยาก
ซบั ซ้อน อย่างไรกต็ ามแผ่นวงจรพิมพเ์ อนกประสงค์ที่จำหน่ายนั้น มใี ห้เลือกหลายรปู แบบและขนาดต่าง ๆ กัน
บางแบบไม่สามารถเอาไอซีแบบตีนตะขาบมาเสียบลงได้ เพราะระยะขาไมเ่ หมาะสมกับการต่อวงจร บางครั้ง
อาจต้องต่อโยงสายบนแผ่นวงจรพิมพ์เพ่ือให้ครบวงจร หรือใช้ใบมีดตัดลายวงจรพิมพ์ออกบางส่วนเพื่อไม่ให้
ลัดวงจร อยา่ งไรก็ตามการร่างแบบกอ่ นการบัดกรีหรือประกอบวงจรเป็นผลดี ซึง่ ทำให้สามารถตรวจสอบความ
ถกู ต้อง และสามารถจดั วางรูปแบบของอุปกรณไ์ ด้เรียบร้อยไม่ชิดหรือหา่ งเกินไป

14.7 การคัดลอกวงจรจากลายวงจรพมิ พ์สำเรจ็ รูป
การคัดลอกลายวงจรพิมพ์สำเร็จรูป จากแบบลายวงจรที่ซับซ้อนกันอยู่น้ัน ค่อนข้างสะดวก

มากกว่าการคดั ลอกลายวงจรจากชุดคติ เพราะต้องพลิกแผ่นวงจรกลับไปกลบั มาก ซง่ึ ค่อนขา้ งชา้ ยกเวน้ ชดุ คิต
ทส่ี กรีนลายทองแดงซ้อนทับด้านอปุ กรณ์อาจไม่ตอ้ งพลิกดูบ่อย ซ่ึงเงือ่ นไขการทำแผน่ วงจรพมิ พ์ อาจมีทั้งให้
ความสะดวกและไม่สะดวกในการคัดลอก

กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ่ี 15/18, คาบที่ 57-60/56)
1. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยท่ี 14 ใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที

81

2. ครใู ห้นักเรียนดเู นือ้ หาหนว่ ยท่ี 14
3. ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรียน

3.1 ครูอธบิ ายเกยี่ วกับการประกอบวงจรอเิ ล็กทรอนกิ สเ์ บอื้ งต้นและแผ่นวงจรพิมพ์
3.2 ครูต้ังคำถามให้นักเรียนช่วยกันตอบ แล้วร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับ การประกอบวงจร

อิเล็กทรอนกิ ส์เบ้อื งตน้ และแผน่ วงจรพิมพ์
3.3 ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียน
4. ขนั้ สอน
4.1 นักเรียนศึกษาจากเนื้อหาในหน่วยท่ี 14 เร่ืองการประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้นและ

แผน่ วงจรพิมพ์
4.2 ครูอธิบาย เร่ืองวงจรเรยี งกระแส วงจรเรียงกระแสแบบคร่ึงคลื่น วงจรเรียงกระแสแบบเต็ม

คลื่น และวงจรเรียงกระแสแบบบรดิ จ์ พรอ้ มภาพประกอบ
4.3 ครูอธิบาย เรื่องหลักการเบ้ืองต้นในการคัดลอกแผ่นวงจรพิมพ์ การร่างแบบสำหรับการ

เตรียมการเพ่ือต่อวงจร และการคัดลอกวงจรจากลายวงจรพิมพ์สำเร็จรูป แล้วให้นักเรียน
ซกั ถาม
4.4 ครูให้ความร้เู พ่มิ เติมและอธิบายเก่ยี วกบั การปฏิบัตติ ามใบงานท่ี 14.1 และ 14.2
4.5 นักเรียนปฏบิ ตั ติ ามใบงานที่ 14.1 และ 14.2
4.6 ขณะนักเรียนปฏิบตั ติ ามใบงานครจู ะสงั เกตการทำงานของนกั เรียน
4.7 นักเรียนทำแบบฝกึ หดั
5. ขนั้ สรปุ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมและรว่ มกันอภปิ รายสรปุ บทเรยี น
6. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน

สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1. ส่อื การเรียนรู้
1.1 หนงั สอื เรยี น หน่วยที่ 14 เรอ่ื ง การประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์เบอื้ งตน้ และแผน่ วงจรพมิ พ์
1.2 ภาพวงจรเรยี งกระแสแบบตา่ ง ๆ
1.3 แบบฝึกหัด
1.4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น
2. แหล่งการเรียนรู้
2.1 หนังสอื เกย่ี วกับงานไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ สเ์ บ้ืองต้น ของสำนักพมิ พ์ตา่ ง ๆ
2.2 อินเทอร์เนต็

การวดั ผลและประเมินผล
1. การวัดผลและการประเมินผล

82

1.1 แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ความมีวินัย และความรบั ผิดชอบ ต้องได้คะแนนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ
70 ผ่านเกณฑ์

1.2 ทดสอบโดยใช้แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
1.3 สงั เกตการปฏบิ ตั ิตามใบงานโดยใช้แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
1.4 ตรวจแบบฝึกหดั
2. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล
2.1 แบบประเมินพฤตกิ รรม ความมีวินัย และความรับผิดชอบ ต้องได้คะแนนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ
70 ผ่านเกณฑ์
2.2 แบบทดสอบหลังเรียน ต้องได้คะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.3 แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบตั ิตามใบงานต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2.4 แบบฝึกหดั ตอ้ งไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

งานทีม่ อบหมาย
งานทีม่ อบหมายนอกเวลาเรียน ใหท้ บทวนเนอื้ หารวมทง้ั ความสมบูรณ์ของแบบฝกึ หัดและใบงาน

ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสำเรจ็ ของผเู้ รยี น
1. ผลการปฏิบตั ิตามใบงานท่ี 14.1 และ 14.2
2. ผลการทำแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 14
3. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หน่วยท่ี 14

เอกสารอ้างองิ
1. หนงั สือเรยี นวิชางานไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ สเ์ บ้ืองตน้ รหัสวชิ า 20100-1005
บรษิ ัทศนู ย์หนงั สอื เมอื งไทย จำกดั
2. เวบ็ ไซตแ์ ละสื่อส่ิงพิมพท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั เน้ือหาบทเรยี นตามบรรณานกุ รม

83

บันทึกหลังการสอน

1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

2. ผลการเรยี นของนกั เรยี น/ผลการสอนของครู/ปัญหาที่พบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

3. แนวทางการแก้ปญั หา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 15 84

ช่ือวิชา งานไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ สเ์ บ้ืองตน้ หนว่ ยท่ี 15
รหสั วิชา 20100-1005
เวลาเรยี นรวม 72 คาบ
ชอื่ หน่วย การทำโครงงาน สอนครง้ั ท่ี 15/18
ช่ือเรอื่ ง การทำโครงงาน จำนวน 4 คาบ

หวั ข้อเรือ่ ง ใบงานที่ 15 การทำโครงงาน
15.1 ความสำคญั ในการสรา้ งโครงงาน
15.2 ขัน้ ตอนการทำโครงงาน

แนวคดิ สำคัญ
การสร้างโครงงานเป็นการรวบยอดความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ท่ีได้เรียนมาเพื่อประยุกต์

ให้เกิดผลงานท่ีส่ือแนวคิดทางทฤษฎีใหเ้ กิดประโยชน์ในทางปฏิบัติ อาจเป็นการพิสจู น์หลักการทเี่ รียนมาหรือ
นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญประการหนึ่งของการทำโครงงานคือ การปลูกฝังของนักคิดนักประดิษฐ์
สร้างความรู้สึกที่ดีในการเรียนรู้วา่ จะสามารถสรา้ งสรรค์ผลงานสิ่งแปลกใหม่ขนึ้ ได้ ถา้ ตั้งใจฝึกฝนมีการเรียนรู้
อยา่ งจรงิ จงั เป็นระบบภายใต้พ้ืนฐานทถ่ี ูกตอ้ ง

สมรรถนะยอ่ ย
1. สรา้ งโครงงานขนาดเลก็ จากชดุ คิต
2. แสดงความรเู้ กยี่ วกบั การทำโครงงานขนาดเลก็ (Mini Projects)

จดุ ประสงค์การปฏบิ ัติ

ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ

1. สรา้ งโครงงานทเี่ ป็นพื้นฐานทาง 1. วัดทดสอบและประกอบวงจร

อเิ ล็กทรอนิกส์ และประกอบชุดคติ ทไี่ ม่ซบั ซอ้ นมากได้ อเิ ล็กทรอนิกส์เบือ้ งต้นตามโครงงาน

2. นำโครงงานทจ่ี ดั สร้างขึ้นมาใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิต

ประจำวนั ได้

3. วัดและตรวจสอบการทำงานของวงจรทจี่ ดั สร้าง

โครงงานได้

4. แก้ปญั หาตา่ ง ๆ ท่ีอาจเกดิ ขึ้นจากวงจรทจ่ี ัดสร้าง

โครงงานได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

85

แสดงออกด้านการตรงตอ่ เวลา ความสนใจใฝ่รู้ ความซ่ือสัตย์ สจุ ริต ความมีน้ำใจและแบ่งบัน ความ
รว่ มมอื ความมีมารยาท ไม่หยดุ นงิ่ ทีจ่ ะแก้ปญั หา ใช้อุปกรณอ์ ย่างฉลาดและรอบคอบ

เนอ้ื หาสาระ
15.1 ความสำคัญในการสรา้ งโครงงาน
การสร้างโครงงานเปน็ การรวบยอดความรแู้ ละประสบการณ์ต่าง ๆ ท่ีได้เรยี นมาเพื่อประยุกต์ให้

เกิดผลงานที่สื่อแนวคิดทางทฤษฎีให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติ อาจเป็นการพิสูจน์หลักการท่ีเรียนมาหรือ
นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ส่ิงสำคัญประการหน่ึงของการทำโครงงานคือ การปลูกฝังของนักคิดนักประดิษฐ์
สร้างความรู้สึกท่ีดีในการเรียนรู้ว่าจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานสิ่งแปลกใหม่ขน้ึ ได้ ถ้าตั้งใจฝึกฝนมีการเรียนรู้
อย่างจริงจงั เป็นระบบภายใตพ้ ื้นฐานท่ีถูกตอ้ ง

15.2 ข้ันตอนการทำโครงงาน
1) เลอื กโครงงานใหเ้ หมาะสมกบั ความรูค้ วามสามารถโดยศึกษาจากหนังสือรวบรวมโครงงานหรือ

วารสายอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ และสามารถนำผลงานมาใชป้ ระโยชนก์ บั ชวี ิตประจำวนั ได้
2) ต้องศึกษาการทำงานของวงจรให้เข้าใจ จนมีความมั่นใจว่าจะสามารถตรวจสอบแก้ไขปัญหา

ต่าง ๆ ทอี่ าจเกิดขน้ึ ได้
3) ต้องเลือกอปุ กรณ์ต่าง ๆ ท่มี ีความเหมาะสมต่อการติดตงั้ และใชง้ าน
4) ก่อนทำการประกอบควรตรวจสอบและทดสอบความถูกต้องของอุปกรณ์ทุกช้นิ
5) ควรตรวจสอบการต่อวงจรบนแผ่นวงจรพิมพ์ให้เรียบร้อย และแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อนจึง

เดินสายต่ออุปกรณต์ ่อภายนอก
6) กอ่ นตดิ ตง้ั แผ่นวงจรพมิ พแ์ ละอุปกรณต์ า่ ง ๆ เพิ่มเตมิ ภายในกล่อง ควรร่างแบบตำแหนง่ ตา่ ง

ๆ บนกระดาษเสยี ก่อนว่าเหมาะสมต่อการใชง้ านหรอื ไม่ ควรตดิ ต้ังข้อความอะไรบนกลอ่ งจึงจะเกิดความเขา้ ใจ
ง่ายต่อการใชง้ าน

7) กอ่ นติดตงั้ อปุ กรณต์ อ้ งเจาะรูสำหรบั ตดิ ตั้งอุปกรณ์ตา่ ง ๆ บนกล่องให้ครบถ้วน
8) การติดต้ังอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องยึดให้แน่นหนาไม่หลุดง่าย ไม่ควรให้มีหัวน๊อตโผล่ออกมาในตัว
กล่องมากโดยเฉพาะหน้าปัด การเดินสายควรเลือกหลายสีหลายขนาดตามความเหมาะสมและจัดให้เป็น
ระเบยี บ
9) ทดสอบการทำงานของวงจรอีกครั้ง โดยยังไม่เปิดกล่องเพราะถ้ามีอะไรผิดปกติจะทราบ
ตำแหนง่ ได้ง่ายและถอดปลั๊กออกทันท่วงที

กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 16/18, คาบที่ 61-64/56)
1. นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยที่ 14 ใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที

86

2. ครใู ห้นักเรยี นดเู นื้อหาหน่วยที่ 15
3. ขัน้ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น

3.1 ครูอธบิ ายเกีย่ วกบั การทำโครงงาน
3.2 ครตู ง้ั คำถามใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบ แลว้ รว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกับการทำโครงงาน
3.3 ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียน
4. ขน้ั สอน
4.1 นกั เรียนศกึ ษาจากเนือ้ หาในหนว่ ยท่ี 14 เร่ืองการทำโครงงาน
4.2 ครอู ธบิ าย เรอื่ งความสำคัญในการสรา้ งโครงงาน และขั้นตอนการทำโครงงาน แล้วใหน้ กั เรยี น

ซักถาม
4.3 ครใู ห้ความรเู้ พิม่ เติมและอธิบายเกีย่ วกับการปฏบิ ัตติ ามใบงานที่ 15
4.4 นักเรียนปฏบิ ัติตามใบงานท่ี 15 การทำโครงงาน
4.5 ขณะนกั เรยี นปฏบิ ัติตามใบงานครูจะสังเกตการทำงานของนักเรยี น
4.6 นักเรียนทำแบบฝึกหดั
5. ขั้นสรปุ ครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมและรว่ มกนั อภิปรายสรุปบทเรียน
6. ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. สอ่ื การเรียนรู้
1.1 หนังสอื เรียน หน่วยที่ 15 เร่อื ง การทำโครงงาน
1.2 แบบฝกึ หดั
1.3 แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน
2. แหลง่ การเรยี นรู้
2.1 หนังสือเกี่ยวกบั งานไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์เบ้ืองตน้ ของสำนักพมิ พ์ตา่ ง ๆ
2.2 อินเทอร์เน็ต

การวดั ผลและประเมินผล
1. การวดั ผลและการประเมนิ ผล
1.1 แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ความมีวินัย และความรับผิดชอบ ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ

70 ผ่านเกณฑ์
1.2 ทดสอบโดยใช้แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน
1.3 สังเกตการปฏบิ ัติตามใบงานโดยใช้แบบประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน
1.4 ตรวจแบบฝึกหัด

2. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

87

2.1 แบบประเมินพฤติกรรม ความมวี ินัย และความรบั ผิดชอบ ต้องได้คะแนนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ
70 ผา่ นเกณฑ์

2.2 แบบทดสอบหลงั เรียน ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2.3 แบบประเมนิ พฤติกรรมการปฏบิ ัติตามใบงานต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2.4 แบบฝกึ หัดตอ้ งไดค้ ะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

งานท่ีมอบหมาย
งานที่มอบหมายนอกเวลาเรียน ให้ทบทวนเนื้อหารวมทัง้ ความสมบรู ณข์ องแบบฝึกหัดและใบงาน

ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรยี น
1. ผลการปฏบิ ตั ิตามใบงานที่ 15
2. ผลการทำแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 15
3. คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หน่วยที่ 15

เอกสารอ้างองิ
1. หนงั สอื เรยี นวิชางานไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ สเ์ บ้ืองตน้ รหัสวิชา 20100-1005
บริษทั ศนู ย์หนังสือเมอื งไทย จำกดั
2. เว็บไซต์และส่อื สงิ่ พมิ พ์ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั เนือ้ หาบทเรียนตามบรรณานุกรม

88

บันทกึ หลังการสอน

1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของคร/ู ปญั หาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

3. แนวทางการแก้ปญั หา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 16 89

ชอ่ื วิชา งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์เบอ้ื งต้น หน่วยที่ 16
รหสั วิชา 20100-1005
เวลาเรียนรวม 72 คาบ
ชือ่ หนว่ ย การใชง้ านออสซิลโลสโคปและเครื่องกำเนดิ
สัญญาณ สอนครง้ั ที่ 16/18
จำนวน 4 คาบ
ชอ่ื เร่อื ง การใช้งานออสซลิ โลสโคปและเครื่องกำเนดิ สัญญาณ

หวั ข้อเรื่อง ใบงานท่ี 16.1 การใชง้ านออสซลิ โลสโคป
16.1 ออสซลิ โลสโคป ใบงานที่ 16.2 การใชง้ านเคร่อื งกำเนิด
16.2 การอ่านคา่ ท่หี นา้ จอออสซลิ โลสโคป สญั ญาณ
16.3 การอ่านคาบเวลาและความถี่
16.4 การอา่ นค่าแรงดันไฟฟา้ กระแสสลบั
16.5 ชอ่ื และหน้าที่การทำงานของปมุ่ ปรับ
16.6 สายโพรบวัดสัญญาณ
16.7 ชนิดของเคร่ืองกำเนิดสญั ญาณ
16.8 คุณสมบัตทิ างเทคนคิ และปุ่มปรับตา่ ง ๆ

ของเคร่อื งกำเนดิ สัญญาณ

แนวคิดสำคญั
ออสซิลโลสโคป เปน็ เครื่องมือวัดท่ีมีความสำคัญและนำมาใช้อย่างกว้างขวางในงานดา้ นอิเล็กทรอนกิ ส์

เพราะสามารถแสดงรปู ร่างขนาดของสัญญาณใหเ้ ห็นบนจอได้ ออสซิลโลสโคปสามารถนำไปใช้วดั แรงดันไฟตรง
แรงดันไฟสลับ คาบเวลา พร้อมแสดงรปู ร่างของสญั ญาณไฟฟ้าท่ีทำการวัด แรงดันไฟสลับจะวัดและอ่านค่า
ขนาดของสญั ญาณได้เปน็ แรงดนั พีคทูพคี (Vp – p)

เคร่ืองกำเนิดสัญญาณ เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งท่ีมีความสำคัญทำหน้าที่กำเนิดสัญญาณต่าง ๆ และ
สามารถที่จะควบคุมความถี่และความแรงของสัญญาณได้ ใช้งานในการตรวจสอบปรับแต่งวงจรหรือวัด
เปรียบเทียบค่า เครื่องกำเนิดสัญญาณ มีหลายชนิดข้ึนอยู่กับคุณลักษณะและคุณสมบัติของสัญญาณ
ทีเ่ ครือ่ งใหก้ ำเนดิ ขน้ึ มา การเรยี กชื่อเคร่อื งกำเนิดสญั ญาณความถ่จี ะเรยี กชื่อตามความถีท่ ี่กำเนิดขน้ึ มาว่าอยู่ใน
ย่านความถ่ใี ด เชน่ เครอ่ื งกำเนิดความถี่เสียงจะเรยี กออดิโอเยนเนอเรเตอร์ (Audio Generator) เครอ่ื งกำเนิด
ความถ่ีวิทยจุ ะเรยี กอาร์เอฟเยนเนอเรเตอร์ (Radio Frequency Generator) เป็นตน้

สมรรถนะย่อย

90

1. แสดงความร้เู ก่ียวกบั การใช้ออสซลิ โลสโคปและเคร่อื งกำเนดิ สัญญาณ
2. ใชง้ านออสซลิ โลสโคปและเครอ่ื งกำเนิดสญั ญาณตามการทดลอง

จุดประสงคก์ ารปฏบิ ัติ ด้านทักษะ
ด้านความรู้ 1. ใชง้ านออสซลิ โลสโคปตามการทดลอง
2. ใชเ้ คร่ืองกำเนิดสัญญาณความถตี่ ามการ
1. บอกตำแหน่งป่มุ ปรับต่าง ๆ ของออสซลิ โลสโคปได้
2. บอกหน้าที่ และการทำงานของป่มุ ปรับต่าง ๆ ของ ทดลอง

ออสซลิ โลสโคปไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
3. สามารถใช้ออสซิลโลสโคปวดั สัญญาณไดถ้ ูกต้อง
4. อธิบายการทำงานของปุม่ ปรับเครอื่ งกำเนิดสัญญาณ

ความถไี่ ด้
5. สามารถใชเ้ ครือ่ งกำเนิดสญั ญาณได้ถกู ตอ้ ง

ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
แสดงออกด้านการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ความซื่อสตั ย์ สุจริต ความมีน้ำใจและแบ่งบัน ความ
รว่ มมือ ความมีมารยาท ไม่หยดุ น่ิงที่จะแก้ปัญหา ใชอ้ ุปกรณ์อยา่ งฉลาดและรอบคอบ

เนอื้ หาสาระ

16.1 ออสซิลโลสโคป

ความสำคัญของออสซิลโลสโคป (Oscilloscope) ออสซิลโลสโคป หรือบางคร้ังเรียกสั้น ๆ ว่า

สโคป (Scope) ที่ใช้งานกันอยู่ท่ัว ๆ ไป สำหรับการใช้งานของออสซิลโลสโคปนั้นจะใช้แสดงรปู คลื่นสัญญาณ

หรือช่วงห่างของสญั ญาณ โดยรูปคลน่ื สัญญาณที่ไดอ้ าจเป็นแบบไซน์แบบสี่เหล่ียม แบบสามเหลี่ยมหรือแบบ

ฟนั เลื่อย เป็นตน้

16.2 การอา่ นค่าทหี่ นา้ จอออสซลิ โลสโคป

การอ่านปริมาณไฟฟ้าท่ีหน้าจอออสซิลโลสโคป จะสามารถอ่านได้สองแกนคือแนวแกนตั้งกับ

แนวแกนนอน ในแนวแกนตั้ง (Vertical) จะอ่านค่าออกมาเป็นความแรงของสัญญาณ หรือความสูง

ของสัญญาณ (Amplitude) ของปรมิ าณไฟฟา้ โดยสามารถอา่ นออกมาเป็นค่าพคี (Peak Value) Vp และคา่ พีค

ทูพีค (Peak To Peak Value) Vp-p ส่วนในแนวแกนนอน (Horizontal) จะอ่านค่าออกมาเป็นคาบเวลา

(Time) และสามารถใช้คำนวณหาคา่ ความถ่ี (Frequency) ของสญั ญาณได้

16.3 การอ่านคาบเวลาและความถี่

คาบเวลาสามารถบอกความถข่ี องสัญญาณ โดยทค่ี าบเวลาจะแปรผกผันกับความถี่ จากสตู ร T
1
= F หรือ F = 1
T

91

F คือ ความถข่ี องสัญญาณ มีหน่วยเปน็ เฮริ ตช์ (Hz)
T คอื เวลาใน 1 รอบของสัญญาณ มหี น่วยเปน็ วินาที (Sec)
16.4 การอ่านค่าแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลับ
รปู คลื่นแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลบั สามารถอ่านค่าออกมาเป็นแรงดันยอดถงึ ยอด (Peak to Peak)
ทำไดโ้ ดยนับจำนวนช่องที่รปู สญั ญาณปรากฏทับช่องทางแนวตงั้ โดยจะนบั จำนวนชอ่ งตั้งแต่ยอดคล่นื ดา้ นบนสุด
จนถงึ ด้านล่างสดุ ดงั รปู ท่ี 16.4 ถ้าตัง้ ค่า VOLTS/DIV ไว้ท่ี 2 โวลต์ นบั ความสูงได้ 4 ช่องใหญ่กับอีก 2 ช่องเล็ก
อ่านคา่ ได้เท่ากบั 8 โวลต์ 2 ชอ่ งเล็กเท่ากับ 0.4 โวลต์
16.5 ช่ือและหนา้ ที่การทำงานของป่มุ ปรับ
(ดูในหนังสอื หน้า 331 - 334)
16.6 สายโพรบวดั สัญญาณ
สายโพรบ (Probe) สำหรบั วดั สัญญาณท่ีใชส้ ำหรับนำสญั ญาณเขา้ มายงั ออสซิลโลสโคป เรียกว่า
สายโพรบ (Probe) ดังรูปที่ 16.6 จะเป็นสายวัดชนดิ พิเศษ เพอื่ ไวส้ ำหรับวัดสญั ญาณโดยเฉพาะ มีลักษณะเป็น
สายโคแอคเชยี ล (Coaxial) มีความยาวประมาณ 1 เมตร มคี ่าอิมพีแดนซ์ 50 โอห์ม วดั ความสงู (Amplitude)
ได้สูงสุด 500 Vp
16.7 ชนิดของเครอื่ งกำเนิดสัญญาณ
เคร่อื งกำเนิดสัญญาณท่ีใชก้ ันอยู่ในปัจจุบันมีหลายชนิด เช่น เครอ่ื งกำเนิดสัญญาณความถ่ีเสยี ง
เรยี กวา่ เอเอฟ เยนเนอรเ์ รเตอร์ (Audio Frequency Generator) เครื่องกำเนดิ สัญญาณความถี่วทิ ยุ เรียกว่า
อาร์เอฟ เยนเนอร์เรเตอร์ (Radio Frequency Generator) หรือเครื่องกำเนดิ สัญญาณพัลซ์ เรยี กว่า พัลซ์เจน
เนอรเ์ รเตอร์ (Pulse Generator) เปน็ ต้น
16.8 คุณสมบัติทางเทคนคิ และปมุ่ ปรบั ตา่ ง ๆ ของเครื่องกำเนิดสญั ญาณ
คณุ สมบตั ิทางเทคนคิ ของเคร่ืองกำเนดิ สญั ญาณรุ่น FG 801 มดี ังน้ี
1. ยา่ นความถี่แบ่งออกเปน็ 6 ย่าน โดยมีความถ่ตี ัง้ แต่ 0.2Hz ถงึ 200 kHz
2. สรา้ งรูปคลน่ื ได้ 3 รูป คือ ซายน์ สามเหล่ยี ม และสีเ่ หลยี่ ม
3. ความเพี้ยนทางฮาร์โมนิคส์ท่ีสญั ญาณรูปซายน์ นอ้ ยกวา่ 0.1%
4. ใช้แรงดนั ควบคมุ ความถ่ีจากภายนอกได้ Voltage Control Oscillator (VCO)
5. ให้เอาต์พุต 3 จุดคือ เอ้าต์พุตมีอิมพิแดนซต์ ่ำ 50 โอห์ม แรงดนั ปรับได้ 0V – 20Vp–p กำลัง
ขบั 8 วตั ต์ เอาตพ์ ตุ ลดทอนสญั ญาณได้ – 30 dB ใหเ้ อาตพ์ ตุ ทกุ รปู สญั ญาณที่มีแอมปลจิ ูดตง้ั แต่
0 V – 100 mVp–p และเอาต์พุต TTL สำหรับเป็นตัวกำเนิดสัญญาณนาฬิกาสำหรับงาน
ทดลองดิจิตอล
6. มวี งจรปอ้ งกันการลดั วงจรทางเอาตพ์ ุต
7. สามารถป้อนสัญญาณทดสอบลำโพงได้โดยตรงองค์ประกอบต่าง ๆ ท่ีหน้าปัดของเคร่ือง
กำเนดิ สัญญาณความถี่เสียงย้ีห้อ CEW รุ่น FG 801

92

กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 17/18, คาบท่ี 65-68/56)
1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยที่ 16 ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
2. ครใู ห้นักเรยี นดเู นอ้ื หาหนว่ ยท่ี 16
3. ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรียน
3.1 ครอู ธบิ ายเกี่ยวกบั การใช้งานออสซิลโลสโคปและเครือ่ งกำเนิดสญั ญาณ
3.2 ครูตั้งคำถามให้นักเรียนช่วยกนั ตอบ แล้วรว่ มกันอภิปรายเก่ยี วกับการใช้งานออสซิลโลสโคป
และเครอื่ งกำเนิดสญั ญาณ
3.3 ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี น
4. ขั้นสอน
4.1 นักเรียนศึกษาจากเน้ือหาในหน่วยที่ 16 เรื่องการใช้งานออสซิลโลสโคปและเครื่องกำเนิด
สญั ญาณ
4.2 ครูอธิบาย เรื่องออสซิลโลสโคป การอ่านคา่ ทีห่ น้าจอ การอ่านคาบเวลาและความถี่ การอ่าน
ค่าแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ และชื่อและหน้าท่ีการท ำงานของปุ่มปรับ พร้อมนำ
ออสซลิ โลสโคป มาแสดงให้นกั เรยี นดู ประกอบการสอน
4.3 ครูอธิบาย เร่ืองสายโพรบวัดสัญญาณ ชนิดของเคร่ืองกำเนิดสัญญาณ และคุณสมบัติทาง
เทคนิคและปุ่มปรบั ต่าง ๆ ของเครือ่ งกำเนิดสญั ญาณ แล้วใหน้ ักเรียนซกั ถาม
4.4 ครูให้ความรู้เพิ่มเติมและอธิบายเกีย่ วกับการปฏบิ ัติตามใบงานท่ี 16.1 และ 16.2
4.5 นกั เรยี นปฏิบัติตามใบงานท่ี 16.1 และ 16.2
4.6 ขณะนักเรยี นปฏิบตั ติ ามใบงานครจู ะสงั เกตการทำงานของนกั เรยี น
4.7 นักเรียนทำแบบฝกึ หดั
5. ข้ันสรุป ครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมและร่วมกนั อภปิ รายสรปุ บทเรียน
6. ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น

สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
1. สอื่ การเรยี นรู้
1.1 หนังสอื เรยี น หน่วยท่ี 14 เรื่อง การประกอบวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์เบื้องต้นและแผน่ วงจรพมิ พ์
1.2 ออสซลิ โลสโคป
1.3 แบบฝกึ หัด
1.4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
2. แหลง่ การเรียนรู้
2.1 หนงั สือเกี่ยวกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกสเ์ บือ้ งตน้ ของสำนักพมิ พ์ต่าง ๆ
2.2 อินเทอรเ์ น็ต

93

การวดั ผลและประเมนิ ผล
1. การวดั ผลและการประเมนิ ผล
1.1 แบบประเมินพฤติกรรม ความมีวินัย และความรบั ผิดชอบ ต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ

70 ผ่านเกณฑ์
1.2 ทดสอบโดยใช้แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน
1.3 สงั เกตการปฏิบัติตามใบงานโดยใช้แบบประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน
1.4 ตรวจแบบฝกึ หัด

2. เกณฑ์การวดั และประเมินผล
2.1 แบบประเมินพฤติกรรม ความมีวินัย และความรับผิดชอบ ต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ

70 ผา่ นเกณฑ์
2.2 แบบทดสอบหลงั เรยี น ตอ้ งได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.3 แบบประเมนิ พฤติกรรมการปฏบิ ัติตามใบงานต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.4 แบบฝึกหัดตอ้ งได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

งานทมี่ อบหมาย
งานทม่ี อบหมายนอกเวลาเรยี น ให้ทบทวนเนือ้ หารวมท้ังความสมบูรณข์ องแบบฝึกหัดและใบงาน

ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเรจ็ ของผเู้ รยี น
1. ผลการปฏิบัติตามใบงานท่ี 16.1 และ 16.2
2. ผลการทำแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 16
3. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หนว่ ยที่ 16

เอกสารอ้างองิ
1. หนังสือเรียนวชิ างานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เบ้อื งต้น รหสั วิชา 20100-1005
บรษิ ทั ศูนย์หนังสอื เมืองไทย จำกดั
2. เวบ็ ไซตแ์ ละส่ือส่งิ พมิ พท์ ีเ่ กย่ี วขอ้ งกับเนื้อหาบทเรยี นตามบรรณานุกรม

94

บนั ทกึ หลังการสอน

1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาทพ่ี บ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................

3. แนวทางการแก้ปญั หา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................


Click to View FlipBook Version