เสนทางสีขาว ศิริลักษณ กองยาว “ชีวิตของมนุษยไมมีสูตรสําเร็จตายตัวเหมือนสมการคณิตศาสตร” ดิฉันเปนบุคคลหนึ่งที่พยายามคนหาวิธีการใชชีวิตใหมีความสุขและ ประสบความสําเร็จในคราวเดียวกัน โดยเรียนรูผานการรับฟงเรื่องราวและ ประสบการณของผูอื่น นับตั้งแตวันแรกจนถึงปจจุบัน เปนเวลากวาหกเดือนที่ดิฉันกาวเขามาสู เสนทางสีขาวของการเปนพยาบาลวิชาชีพ ในสายตาของคนทั่วไปแลว อาชีพ พยาบาล เปนอาชีพที่นาชื่นชม มีความมั่นคง แตในขณะเดียวกันถาหากถามถึง ความรูสึกของบุคคลที่อยูในวิชาชีพนี้แลว แนนอนวาสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจของเรา นอกเหนือจากความอิ่มเอมใจที่ไดชวยเหลือผูอื่น ก็ยอมหลีกหนีไมพนความกดดัน เนื่องจากชีวิตของผูคนที่เรากําลังใหการดูแลเหลานี้ ลวนเปนบุคคลที่รักและ สําคัญเปนอยางยิ่งของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งเสมอ ในวันหนึ่งขณะที่ดิฉันกําลังปฏิบัติงานเวรดึกอยูนั้น เสียงจากหญิงวัย กลางคนทานหนึ่งไดเอยถามดวยน้ําเสียงที่หวงใยวา “จะตีสองแลว ไมงวงหรือ ไดพักบางหรือเปลาเมื่อเชาก็เจอหนูเขาเวร” ชางนาแปลกใจที่คําถามธรรมดานั้นเติมเต็มความรูสึกที่วางเปลา และ เหน็ดเหนื่อยจากหนาที่การงานไดอยางนาประหลาดใจ ในวันนั้นบทสนทนาของ เราทั้งคูเปนไปอยางธรรมชาติ เสมือนการเลาสูกันฟงเรื่องราวในชีวิตประจําวัน กับญาติผูใหญ “ปานะแกแลว แตหนูยังเด็กอยู แตสิ่งที่เราเหมือนกันคือเราไมรูอะไร มากหรอกเกี่ยวกับชีวิต ปาไมกลาสอนลูกหลานหรอกวาอาบน้ํารอนมากอน ประโยคคร่ําครึที่ไมรูวาคนพูดรูจริงหรือเปลา คนเราทําไดแคเรียนรูที่จะใชชีวิต ไปจนกวาจะตายนั่นแหละนะ” - 27 -
ชางเปนประโยคที่ลึกซึ้งและสะทอนถึงความรูสึกนึกคิดของผูพูดไดเปน อยางดี ดิฉันจึงกลับมายอนมองภาพของตนเองในปจจุบัน จินตนาการถึงตนเอง ในอีก 10 ปขางหนา ระหวางการเดินทางของชีวิต การเลือกเดินในเสนทางสีขาว ก็คงเปนการเพิ่มพูนประสบการณ และความรู ซึ่งทําใหดิฉันสามารถนําไปแบงปน และถายทอดใหผูอื่นไดอยางงดงามในอนาคต - 28 -
แกวจอมดื้อ วาสนา ชื่นใจหวัง “คุณสัญญากับผมแลวนะแกว คุณตองดูแลตัวเองสิ อดทน และพยายาม กินขาว ผมซื้อขาวตมปลาที่คุณชอบมาให” เสียงดังจากเตียงของแกว ฉันสังเกตเห็นผูชายใสเครื่องแบบทหาร พูดดวยสีหนาเครงเครียด คิ้วขมวดเขาหากันและกํามือแนน เขาเดินเอาขาวตม ที่ซื้อมาไปอุนใหภรรยาซ้ําอีกครั้ง หลังจากถูกวางทิ้งไวจนขาวตมเย็นลง แกวนอนบนหมอนสูงที่ทับซอนกันหลายใบ แกวผูมีใบหนาขาวซีด เริ่มมี น้ําตาคลอในดวงตาพรอมทั้งมองมาที่สามีและเริ่มหายใจถี่ แกวความือของฉันไป กําแนนและมีน้ําตาไหลรินออกมานองหนา ฉันสัมผัสมือที่เย็นเฉียบคูนั้นและยืน ฟงอยางเงียบสงบ “อยารองไห เขมแข็งสิ ถาคุณใหความรวมมือเดี๋ยวก็ดีขึ้น กินขาวจะได มีแรง” สามีของแกวกลาวสําทับอีกครั้งดวยเสียงอันดังเมื่อเดินกลับมาพบวา ภรรยากําลังรองไห แกวหลับตาลงชาๆ และเริ่มมีสีหนาเรียบเฉย สามีแกวหันมากลาวกับฉันวา “แกวนะเขาดื้อบอกใหทําอะไรก็ไมทําสักอยาง ใหชวยตัวเองหยิบจับอะไรบางก็ไมทํา เฝาแตนอนทอแทอยูบนเตียง คุณพยาบาล ชวยปราบหนอยนะครับ บอกใหเขากินยากินขาวจะไดมีแรงขึ้นมาบาง” เขากลาว ดวยใบหนาบึ้งตึง เมื่อพูดจบสามีของแกวก็หุนหันเดินออกจากหองไป เมื่อมีโอกาส ฉันจึงประเมินความตองการของแกวดวยการถามวา “ตอนนี้รูสึกอยางไร มีอะไรที่ตองการใหพี่เจี๊ยบชวยไดบางไหมคะ”แกวถอนหายใจ เฮือกใหญพรอมทั้งสายหนาไปมาอยางชาๆ และยังคงมีคราบน้ําตาบนใบหนาขาว ซีดนั้น “พี่เจี๊ยบคะ แกวเหนื่อย เหนื่อยที่จะพูดออกมาหลายครั้งแกวอยากใหคน มาเยี่ยมอยูขางๆ แบบเงียบๆ” “แกวเหนื่อยเกินกวาจะแกลงแสดงวาเขมแข็ง อยากรองไหออกมาเวลาที่ ทรมาน แตกลัวพวกเขาจะผิดหวังเสียใจ และทุกขไปดวย แกวพยายามตั้งใจทําให - 29 -
ดีที่สุดมาตลอดหลายป แกวรูวาทุกคนรักแกวแตทุกครั้งที่ไดยินคําพูดของพวกเขา แกวกลับหมดแรงและปวดใจ” “แกวทําเต็มที่แลว เหนื่อยเหลือเกิน กินไมลงเลยคะ แคดื่มน้ําก็แนน อึดอัดไปหมดคะ” แกวเลาชาๆ เสียงของแกวแผวเบาและพูดขาดเปนชวงๆ ดวยความเหนื่อย น้ําตายังเปอนเปนคราบอยูทั้งสองแกม เธอยังคงจับมือฉันไวแนน ฉันปลอยใหแกว ระบายความรูสึกที่อัดอั้นออกมาและรับฟงอยางเงียบๆ โดยไมตัดสินถูกผิด จนกระทั่งแกวออนแรงและผล็อยหลับไป “ผมเปนทหาร ผมเขาใจวา คนเราตองตอสูไมยอมพายแพ ตองพยายาม ใหถึงที่สุด ผมแคอยากใหเขามีอาการดีขึ้น หรืออยางนอยแสดงออกบางวา พยายาม” สามีของแกวกลาวจบพรอมทั้งเอามือปดหนาและปาดน้ําตาออก ในหองใหคําปรึกษา ฉันไดพูดคุยกับสามีของแกว ฉันประเมินพบวา ขณะที่แกวออนกําลังลงทุกวันเนื่องจากพยาธิสภาพของโรคที่ทรุดลง สามีของแกว ยังคงรับความจริงวาภรรยาอาจจะจากโลกนี้ไปไมได เขาปฏิเสธความจริง และ โกรธ ไมพอใจโทษวาเธอไมใหความรวมมือที่จะรักษาใหหายจากโรค เขายังคิดวา มันจะตองมีทางอื่นอีกที่จะทําใหภรรยาอาการดีขึ้นได ทั้งที่แพทยแจงวาโรค ลุกลามและไมตอบสนองตอการรักษาแลว ฉันนิ่งฟงและปลอยใหเขาระบาย ความรูสึกออกมา ฉันฟงอยางเงียบดวยทาทีเปนมิตรไมตัดสินและไมกลาวโทษเขา “เจี๊ยบสังเกตวาพี่ เปนหวงและตั้งใจดูแลคุณแกวเปนอยางดีมาก” “เวลาที่เรารักใครเราก็หวังใหเขาสุขภาพดี และอยูกับเรานานๆ บางที เราก็รูสึกเสียใจที่เขาไมทําตามที่เราแนะนํา แกวไมไดดื้อ หรือไมชอบสิ่งที่เราทําให แกวบอกเจี๊ยบวา รักพี่และลูกๆ เพียงแตตอนนี้รางกายมันไมรวมมือเอาเสียเลย แกวอยูในภาวะทุกขทรมานเนื่องจากเปนโรคนี้มานานมากแลว ตอนนี้เพียงแค ดื่มน้ํารางกายก็ยิ่งทรมาน” “ผมตองทํายังไงเขาถึงมีจะความสุขละ ผมแคอยากทําอะไรใหเขา ไดบาง” เขาถามดวยทาทางกระตือรือรน หลังจากรองไหจนตาแดงก่ํา ฉันสงยิ้มใหและสบตาเขาอยางเขาใจในความรักที่เขามีตอแกว - 30 -
“ลองชวนคุยเรื่องราวสนุกสนานที่เคยทําดวยกันในอดีต เรื่องราวที่มี ความสุข มีความภูมิใจสรางรอยยิ้ม งดการกดดันหรือบังคับ แตใหใชวิธีการถามวา ตองการอะไร อยากใหชวยอะไรแทนดีไหมคะ” การเรียนรูเรื่องราวของแกวทําใหเห็นปฏิกิริยาของมนุษยที่มีตอความจริง ที่พบเจอ โดยเฉพาะเมื่ออยูในวิกฤตการณครั้งใหญในชีวิต แกวกําลังจะสูญเสีย ชีวิต ในขณะที่สามีกําลังจะสูญเสียภรรยาที่รัก ผูเปนดั่งคูทุกขคูยาก การยอมรับทาทีของพวกเขาที่แสดงออกตอสถานการณดวยความเขาใจ จะทําใหพวกเขาคอยๆ ยอมรับและปรับตัวไดในที่สุด จนสามารถควบคุมอารมณ ใหสงบลงและดําเนินชีวิตตอไปได ขอบคุณ แกว ผูปวยมะเร็งปอดระยะสุดทาย ผูซึ่งรับการรักษามานาน ๕ ปมะเร็งมีการแพรกระจายสงผลใหมีภาวะน้ําทวมปอดตามมา จนทําใหมี อาการเหนื่อยงายแมจะทํากิจวัตรประจําวันเบาๆ เชน แปรงฟน ก็ตาม หรือตอง นอนหลับในทาศีรษะสูง มีอาการเบื่ออาหาร และน้ําหนักลดลงเรื่อยๆ สามีของแกวยังคงแจงความจํานงกับแพทย วา “ผมตองการใหภรรยาไดรับการรักษาอยางถึงที่สุด” ดังนั้นทีมจึงมีการ วางแผนการรักษาดวยยาเคมีบําบัดหลายขนานเพื่อประคับประคองอาการของ มะเร็งที่คุกคามชีวิตของแกว อยางไรก็ตาม ยาก็ไมสามารถรักษามะเร็งใหหายได ทําไดแคบรรเทาความทุกขทรมานและลดการคุกคามของมะเร็งไดแคบางสวน แกวยังคงรับการรักษาดวยยาเคมีตอไปเรื่อยแมวาจะรักษาไมหายขาด ตามความประสงคของสามี หนาที่ของฉันทําไดแตเพียงเฝาดูแกวและสามีอยางเงียบๆ เขาใจสิ่งที่เขา ตองเผชิญและพยายามพูดสรางพลังบวกใหแกเขา เพื่อประคับประคองใหชีวิต ของพวกเขาดําเนินตอไปไดตามแบบที่เขาเลือก เพราะชีวิตเปนสิทธิ์ของทุกคนที่เลือกออกแบบอยางไรก็ได - 31 -
คืนหนึ่ง ธัชสรา ทองสงค ผูปวยหญิงไทย อายุ ๕๕ ป ชวยเหลือตัวเองไดนอยและนอนติดเตียง มีอาการหอบเหนื่อย นอนราบไมได และมีประวัติวาเปนกอนที่เตานมมานาน ๑ ป ขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ผูปวยมีปญหาเรื่องคาไตในเลือดสูง ทําใหตองแทงเสนที่คอขางซายเพื่อทําการลางไตชั่วคราว หลังจากคุณหมอไต แทงเสนเพื่อลางไตเสร็จในตอนเชา วันเดียวกันนั้นตอนค่ํา ขณะที่ดิฉันเดินใหยา ผูปวยรายอื่นๆ ดิฉันสังเกตเห็นคุณปานั่งมองดิฉันที่กําลังเดินไปมา แววตาคุณปา มีแตความเศราหมอง แววตาเต็มไปดวยความทุกขและวิตกกังวล หลังจากทํางานทุกอยางเสร็จแลว ดิฉันเดินตรงดิ่งไปที่เตียงคุณปา แลวถามคุณปาวา “คุณปาเปนอะไร วิตกกังวลอะไรหรือเปลาคะ บอกหนูไดนะคะ” คุณปาตอบกลับมาทันทีวา “เปลาจะ” คําพูดที่สวนทางกับแววตาและปฏิกิริยานั้น ทําใหดิฉันไมกลาเดินออก จากเตียงคุณปาไป จึงยังคงยืนขางเตียง พรอมกับกุมมือของปาไวอยางปลอบ ประโลม สุดทายคุณปาก็ไดบอกกลับมาวา วิตกกังวลเรื่องลางไต กลัววาถาหากไป ลางไตพรุงนี้แลวจะเจ็บ และหากตองลางไปตลอดไมรูจะทําอยางไร หากเลือกลาง ที่หนาทองก็กลัววา เวลากลับบานไปจะไมมีใครทําใหเพราะลําพังตัวเอง คงทําไมไหว และหากตองลางที่โรงพยาบาลเปนครั้งๆ ก็กลัววาจะไมมีคนพามา คุณปาพูดออกมาวา “ปาไมอยากรักษาแลว” พอไดยินอยางนั้น ทําใหดิฉันตองยื่นมือไปกุมมือทั้งสองขางของปาเอาไว และพูดอธิบายใหกําลังใจแกคุณปา หลังจากพูดคุยกันไปสักพักใหญ สีหนาของ คุณปาก็เปลี่ยนไป ใบหนาเริ่มมีรอยยิ้ม น้ําเสียงเริ่มดูสดใส แววตาของคุณปา - 32 -
เริ่มเปลงประกาย กอนเดินออกจากเตียงของคุณปามา ดิฉันไดแนะนําใหคุณปา สวดมนตและนั่งสมาธิเพื่อความผอนคลายและสบายใจ หลังจากเดินออกมาก็ไดยินเสียงตามหลังมาวา “ปาสบายใจขึ้นเยอะเลย” ภูเขาที่เคยหนักอึ้งในอกมานานไดถูกยกออกแลว คิ้วที่เคยผูกกันเปนโบว เริ่มคลี่คลาย ความวิตกกังวล ความสับสนถูกแทนที่ดวยความสบายใจ การปลอบประโลมเปนเหมือนน้ําทิพยใหเย็นใจ และผอนคลายจนตาหลับ และผานคืนนั้นไปได - 33 -
ไขตุนกูชีวิต วาสนา ชื่นใจหวัง บายวันหนึ่ง ชายรางสูงสวมเสื้อและกางเกงยีนสขายาว บริเวณผิวหนัง รอบคอ มีรอยดําเปนรองรอยที่เกิดจากการฉายแสงและเขายังมีรูเปดบริเวณกลางคอ ที่ปดไวดวยผาเช็ดหนา เขายิ้มและเดินตรงเขามาทักทายฉัน “ผมเปนคนไขที่คุณเจี๊ยบคุยดวยเมื่อปที่แลว” ฉันนึกทบทวนอยูนาน ในที่สุดก็จําได เขากลาวเพื่อชวยทวนความจําใหฉันตอไปวา “ครั้งแรกที่พบกัน ผมหมดหวังในตนเอง ปลอยตัวจนน้ําหนักตัวลดลง จาก ๗๒ กิโลกรัม ลงไปจนเห็นหนังหุมกระดูกเลย ตอนนั้นที่คุณเจี๊ยบมาคุยดวย ผมมีน้ําหนักเหลือเพียง ๓๘ กิโลกรัมเอง ผมมาวันนี้ก็อยากมาทักทาย และ อยาก มาบอกวาผมทําไดแลวครับ” ฉันตั้งใจฟงเรื่องราวของเขาอยางมีความสุขเขาเลาตอไปพรอมดวย ประกายตาที่แจมใส “หลังจากที่คุณเจี๊ยบใหกําลังใจแกผมไปในวันนั้น ผมก็เริ่มลองดูวาจะทํา อะไรไดบาง ชวงแรกก็ทําสิ่งที่ทําไดงายๆ บนเตียง เชน พยายามลางแผลที่คอเอง ตอมาผมก็พยายามลุกขึ้นมายืน แลวก็เริ่มทําความสะอาดหองของตนเอง จนกระทั่งขยายออกไปทําความสะอาดทั้งบานและรอบบาน" เขาหยุดพูดเพื่อหัวเราะกอนจะกลาวตอไปวา “พี่สาวของผมประหลาดใจ มากที่เห็นผมสามารถลุกขึ้นมาชวยตัวเองไดและยังผอนแรงทํางานบานใหอีกดวย" “ผมจําไดวา คุณเจี๊ยบสอนใหฝกคํานวณวารางกายตองการโปรตีนเทาไร และบอกใหกินไขเยอะๆ ลิ้นของผมไมรูรส กลืนลําบากแมแตการกลืนน้ําลาย ชวงนั้นมันลําบากจริงๆ ครับ พอดื่มน้ําไดนอยแผลก็พองเต็มปากรูสึกแสบรอน เหมือนโดนไฟไหม แผลในปากและคอก็เพิ่มขึ้น แตผมก็พยายามหาทางกินใหได - 34 -
ชวงนั้นผมกลืนไดเฉพาะอาหารเหลวและอาหารนิ่มๆ เพราะทุกครั้งที่กลืนมัน เจ็บปวดมาก แถมผมยังไมอยากดื่มน้ําอีก จึงยิ่งทําใหปากแหงมากๆ หมอแนะนํา ใหผมใสสายยางทางหนาทองเพื่อใหอาหาร แตผมไมยอมหรอก ผมยอมตายดีกวา หายใจก็ตองหายใจทางคอ แลวยังจะใหกินทางสายยางอีก มันดูไมเหมือนคนเลย ผมยอมรับไมไดอยางที่สุดครับ" ฉันยิ้มไปกับเรื่องเลาของเขา "แลวคุณบํารุงรางกายอยางไรจึงไดดูมี เนื้อหนังขึ้นมา" “พี่สาวทําไขตุนใหผมกินครับ ทําเหมือนจะเอาไปขายเลย เพราะใสไขถึง ๑๕ ฟองตอวัน พี่ของผมใสผักตางๆ บนหนาไขตุนจนดูมีสีสันนากิน แบงเปนถวย เล็กๆ ทําใหแตละวันเปนวันที่ผมเพลิดเพลินไปกับการพิชิตไขตุน จริงๆ แลว มันไมมีรสชาติหรอกครับ” “พี่สาวผมจึงทําตามคําแนะนําของคุณเจี๊ยบที่ใหเอาพริกมาผาแลวขูด ไสกลางและเมล็ดออก ตามดวยบีบมะนาวลงไปพอใหหอม ไขตุนนิ่มๆ และมีรส เผ็ดเปรี้ยวนิดหนอยก็ทําใหกินไดไมนาเบื่อเกินไป” เขาอธิบายจนกระทั่งฉันรูสึกอยากกินไขตุนไปดวยเลย พรอมกับคิดวา ไขตุนนี่ก็ไมธรรมดานะ ชวยใหเขาฟนตัวมีเรี่ยวแรงกลับคืนมาได เขาเลาตอไปวา “ชวงแรกก็ยังเจ็บปากนะครับ ผมพยายามจิบน้ําทั้งวัน ผมเอาน้ําขวดเล็กๆ หลายขวดมาอยูใกลตัวเสมอ แหมมันรูสึกดีชะมัดเลยครับ ที่ผมพิชิตความสําเร็จไดไปทีละนิดละหนอย พอเริ่มกินไข หรือดื่มน้ําลงไปไดโดย ไมแสบในชองปากมากนัก ผมก็ดีใจมากและรูสึกขอบคุณรางกายสวนที่ยังทํางาน ไดและอยูดวยกันกับผมมาตลอด มันทําใหผมรูสึกรักรางกายนี้มากขึ้น ผมจําไดวา คุณเจี๊ยบเคยบอกใหผมสงจิตไปหารางกายเพื่อขอบคุณ ผมวางเมื่อไหรก็ขอบคุณ ไปทีละสวนของรางกาย ขอบคุณสิ่งที่มี ขอบคุณคนรอบตัวพอขอบคุณบอย ๆ เขา บรรยากาศรอบตัวของผมก็เหมือนแวดลอมไปดวยดอกไม ทําใหผมรูสึกสดชื่นและ กระปรี้กระเปราขึ้นเรื่อย ๆ” - 35 -
เขาหันมายิ้มอยางดีใจ “ตอมาหมอก็บอกผมวา รางกายผมตอบรับทั้ง การฉายแสงและยาเคมีบําบัดเปนอยางดี ผมเริ่มมีน้ําหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จน ตอนนี้ หมอเริ่มนัดดูอาการหางขึ้นเปนทุก ๒ เดือน เนื่องจากอาการของโรคสงบดี ผมรูสึกขอบคุณมะเร็งดวยนะครับที่ทําใหผมเห็นความหมายของชีวิตนี้” ฉันยืนตรงนั้นฟงเรื่องราวของชายตรงหนานึกถึงครั้งแรกที่พบกันเขาผอม จนเหลือแตหนังหุมกระดูกนอนขดตัวอยูบนตียงและหันหลังอยางไมสนใจตอ พี่สาวที่คอยดูแลอยูขางเตียง เมื่อฉันเขาไปทักทายเพื่อสรางสัมพันธภาพกับเขา ประโยคแรกที่เขาพูด ดวย คือ ...... “ไมตองสนใจผมหรอกยังไงก็ไมหาย อีกไมนานก็ตาย” เขาสื่อสารใหเห็นวาสําหรับเขาสถานการณที่กําลังพบเจอทําใหเขา ตองการจากโลกนี้ไปดีกวาจะอยูแบบไมมีศักดิ์ศรี ตองเปนภาระตอคนทุกคน รวมทั้งตองผจญตออาการเจ็บปวดทั้งราง ฉันฟงเขาอยางเงียบๆ โดยไมไดใหคําแนะนําอะไรในชวงแรกที่พบกัน เปนการฟงอยางตั้งใจที่จะเขาใจมุมมองความคิดของเขาที่เปนอยู หลังจากใหเวลา แกเขาในการปรับตัวจนกระทั่งเขายอมรับตอความเจ็บปวยที่เกิดขึ้น เขาก็เริ่มเปด ใจรับฟง ฉันไดชวนเขาคิดและมองดานดีๆ ที่มีอยู รวมถึงใหมองแตสิ่งที่เขามีหรือ ทําไดเพื่อใหเขารูสึกดีตอตนเองมากขึ้น เขาและพี่สาวรักกันมาก จนทําใหเขาไมอยากอยูตอเพื่อเปนภาระที่สรางทุกข ตอพี่สาวผูตองเสียเวลาและเปลืองแรงมาเฝาดูแล เขาจึงเลือกที่จะปลอยตัวให ยอมแพไมยอมกินอะไรจนกระทั่งผายผอมลงทุกวันเพื่อจบชีวิตนี้ไปเร็วๆ ฉันเห็นถึงความรักของพี่สาวที่พรอมจะทุมเทดูแลนองชายและเห็นถึง ความรักของนองชายที่ตองการจากไปเพื่อไมเปนกอนทุกขของพี่สาว ดังนั้นเขามัก แสดงออกอยางแข็งกราวและเมินเฉยตอพี่สาวอยูตลอดเวลา - 36 -
เมื่อตางคนก็รักกันเพียงแตมองคนละมุม ฉันจึงเขาไปชวยคลี่คลาย ดวยการชวยเปดมุมมองที่ดีตอพี่สาวและชีวิตนี้มากขึ้น จากวันแรกที่พบกัน เขาอดทนตอกระบวนการฉายแสงจนครบ ๒๘ ครั้ง ผลการรักษาก็ดีขึ้นตามลําดับ จากเดิมที่แพทยวางแผนใหการดูแลแบบประคองอาการดวยยาเคมี เพียงหวังลดอาการปวดเพื่อไมใหเขาทรมานมากนักจากกอนที่โตขึ้น ในที่สุดเขาก็ กลับฟนตัวมีเรี่ยวแรงขึ้นและไดมีชีวิตที่ดีอยูรวมกับพี่สาวอยางมีความสุข สามารถ เขาใจกันไดมากขึ้น ขอบคุณชายที่บัดนี้ลวงลับหลังจากที่กลับมาพบกัน เปนเวลา ๑ ป ขอบคุณหัวใจแหงความกรุณาที่เดินทางมาในวันนั้น เพื่อมาสรางรอยยิ้ม ใหพยาบาล ขอบคุณวชิรพยาบาลที่ทําใหฉันไดโอกาสในการใชความรูและหยาดเหงื่อ เพื่อสรางกุศลกับเพื่อน ขอบคุณประสบการณที่ไดดูแลแบบประคับประคองที่ชวยทําใหฉันเปน สวนหนึ่งในชีวิตของเพื่อนมนุษยจนกระทั่งเขาคืนสูธรรมชาติ - 37 -
การจากลา สกาวเดือน ณ นคร สิ่งที่ทําใหฉันจําไดแมนยํานั่นก็คือ ภาพที่ผูปวยนั่งกอดตุกตาหมูสีชมพู ตัวใหญ แลวโบกมือลาญาติ ญาติที่เปนหลานสาวเดินรองไหออกไปจากหอง เนื่องจากไมอยากจะใหผูปวยไดรับการผาตัดเพราะอายุมากแลว แตผูปวยยังคง ยืนยันที่จะรับการผาตัด วันรุงขึ้นผูปวยไดรับการผาตัดตามกําหนด ภายหลังการผาตัดผูปวยถูก ยายเขาไปรักษาตอที่ตึก ICU จนกระทั่งอาการเริ่มดีขึ้น ผูปวยจึงไดยายกลับมา ที่ตึกของฉันอีกครั้ง.... พยาบาลประจําหอ ICUโทรศัพทแจงมาที่ตึกของฉันวาจะสงผูปวย กลับมา แตแลวทันทีที่ออกจากลิฟทก็ไดยินเสียงพยาบาล ICU ตะโกนมาแตไกล วา “ชวยดวยคะผูปวยมีหัวใจหยุดเตน” ทีมของฉันจึงเตรียมอุปกรณและทําการกดหนาอกกูชีพใหแกผูปวยทันที ผูปวยไดรับการปมหัวใจ หลังจากนั้นก็ใสทอชวยหายใจพรอมทั้งยายเขา ICU อีกครั้ง หลังจากวันนั้นฉันก็ไดแตเฝาติดตามอาการจากทีมแพทยเปนระยะๆ ตั้งแตวันนั้นผูปวยก็ไดใสทอชวยหายใจไวตลอดและไมลืมตาขึ้นอีกเลย ตอมาแพทยคุยกับญาติเรื่องอาการของผูปวยและคิดวาจําเปนที่จะตอง เจาะคอเพราะใสทอชวยหายใจเปนระยะเวลานานแลว ญาติจึงตัดสินใจไมเจาะคอ และไมทําการกดหนาอกกูชีพ ตลอดจนตองการใหผูปวยจากไปตามธรรมชาติ ดังนั้นผูปวยจึงถูกยายมาที่ตึกของฉันอีกครั้ง สภาพที่ผูปวยกลับมา คือ ผูปวยใสทอชวยหายใจและไมลืมตา แตทุกหัตถการที่ดูแลผูปวย ทั้งดูดเสมหะ หรือแปรงฟนจะเห็นผูปวยทําทาปากเบี้ยว หรือขมวดคิ้วอันแสดงถึงความเจ็บปวด - 38 -
จนในที่สุดแพทยเจาของไขไดปรึกษาทีมดูแลประคับประคองและได ปรึกษากับญาติอีกครั้ง ญาติจึงตัดสินใจใหถอดเครื่องชวยหายใจ ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง กอนที่จะถอดเครื่องชวยหายใจ ทีมดูแลประคับ ประคองไดเปดบทสวดธรรมะใหแกผูปวยฟงและเปดโอกาสใหญาติอยูกับผูปวย ในวาระสุดทายของชีวิตรวมทั้งแพทยมีคําสั่งใหยามอรฟนหยดเขาทางหลอดเลือดดํา กอนที่จะทําการถอดเครื่องชวยหายใจในทายสุด วันตอมา ผูปวยก็จากไปอยางสงบ... ถึงแมฉันจะเคยพบเหตุการณที่ผูปวยเสียชีวิตมาแลวหลายครั้งแตก็ยังคง เศราใจเชนเดิมทุกครั้งไป เหตุการณของผูปวยในครั้งนี้ทําใหฉันนึกถึงวา การที่เรามีชีวิตในทุกๆ วัน คือสิ่งที่มีคา เพราะเราไมรูวา วันสุดทายบนโลกจะสิ้นสุดเมื่อไร - 39 -
การจากลาที่สวยงาม วาสนา ชื่นใจหวัง ความตายเปนธรรมดาของทุกชีวิต แตเมื่อใกลเวลานั้นหลายคนก็มัก ประหวั่นพรั่นพรึง ดังนั้นการเตรียมตัวตายจึงเปนสิ่งสําคัญเพื่อการเดินทาง จากโลกนี้ไปตามลําพังไดอยางสงบ ผูปวยมะเร็งตับระยะสุดทายทานหนึ่งมารับการรักษาอยูนานกวา ๖ เดือน โดยที่โรคไมตอบสนองตอการรักษาแตอยางใด ผูปวยรายนี้ตองทนตอ ความเจ็บปวดอยางมากมาตลอด จนทายที่สุดทั้งเขาและภรรยาก็รับรูไดวาเขา กําลังเขาสูภาวะสุดทายของชีวิต เขาเริ่มเตรียมตัวใหพรอมกอนออกเดินทางครั้งสุดทายของชีวิต โดยมี ภรรยาอยูเคียงขางและเปนกําลังใจใหตลอดเวลาทั้งคูยังคงพูดคุยในทุกเรื่อง อยางยิ้มแยม เขาเริ่มวางแผนเตรียมงานศพดวยตนเอง เลือกวัดที่จะจัดงาน เตรียมรูปหนาโลงศพ เตรียมคลิปวีดิโอเพื่อกลาวขอบคุณตอแขกที่มารวมงานศพ ตลอดจนเลือกวาพิธีการในงานศพควรดําเนินไปอยางไร เขาเรียกลูกชายมาคุยวา ไมตองพยายามที่จะเปนตํารวจใหไดตาม ความฝนของพออีกตอไป แตใหลูกเดินตามความฝนของตนเอง เมื่อเขาเตรียมตัวพรอมและปลดหวงทุกอยางในชีวิตได เขาก็แจง ความประสงคแกทีมรักษาวา ในวาระสุดทายของชีวิตนี้เขาขอไดรับการดูแลแบบ ประคับประคอง โดยปฏิเสธการยื้อชีวิตทุกกรณี เขาใชเวลาที่เหลือนอยนิดนี้ไปกับ การพูดคุยเรื่องราวดี ๆ กับครอบครัว ลูกชายขอบคุณตอพอที่เลี้ยงดูมาเปนอยางดี และภรรยากอดเขาเพื่อแสดงความขอบคุณที่ไดเวลาในชีวิตรวมกันมา เขารอคอยความตายที่กําลังมาถึงอยางสงบ จนกระทั่งอวัยวะตางๆ ในรางกายเริ่มหยุดทํางานทีละระบบ ในที่สุด ผูปวยรายนี้ก็จากไปอยางสงบในหองพักของโรงพยาบาล ซึ่งแวดลอมไปดวยคนที่เขารัก - 40 -
“คุณมงคลจากไปแลวนะคะนองเจี๊ยบ ภายในออมกอดของพี่” ภรรยา โทรมาเลาเหตุการณใหฉันฟงเพราะสามีกําชับไว เนื่องจากผูปวยอยากใหพยาบาล ของเขาทราบวา สิ่งที่ไดซอมกันมา ขอสอบสุดทายเขาผานไปไดแลว และขอบคุณ ที่ชวยเตรียมตัวสอบไลวิชาชีวิตครั้งนี้ เขาสอบผานขอสอบเรื่องชีวิตไปไดอยางสวยงาม การจากลามีอยูหลายแบบ ถาเตรียมตัวใหพรอม ยอมพบวาวาระสุดทาย ของชีวิตก็สวยงามได ผูปวยอีกรายหนึ่งเปนหญิงที่ปวยเปนมะเร็งเตานมมานานถึง ๘ ป ถึงกระนั้นเธอยังคงเต็มไปดวยพลังบวกและยิ้มแยมยอมรับการรักษาที่ทรมานเปน อยางดีทุกครั้ง อยางไรก็ตาม ๑ ปสุดทายของการรักษา โรคเริ่มแพรกระจายไป ทั่วรางกาย ทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงสรางความเจ็บปวดตอเธอเปนอยางมาก ครอบครัวและเธอใชเวลาทําความเขาใจ จนในที่สุดยอมยุติการรักษาที่ไม กอใหเกิดประโยชนอีกตอไป ฉันและเธอเริ่มพูดคุยกันเรื่องความตายอยูหลายครั้ง จนมาวันหนึ่ง เธอพูดวา โลกหลังความตายอาจเปนสวนสวรรคที่สวยงามก็ได ฉันและเธอเชื่อเหมือนกันวาคนดีจะเดินทางไปที่สวยงาม ความตายเปนเพียง การยายที่อยู “เจี๊ยบ คนแบบพวกเรา ตองตายแลวไปสวรรคอยางแนนอน” เปนคํากลาวติดตลกในวันที่พวกเราชวนกันรําลึกถึงเรื่องราวดี ๆ ในชีวิต นี่เปนวิธีหนึ่งที่ฉันนํามาใชกับผูปวย และทําใหพวกเรานึกถึงสิ่งที่ดีงาม ซึ่งรอคอยอยูบนสวนสวรรค ในที่สุดวาระสุดทายของเธอก็มาถึง เธอกลาวดวยเสียงแผวเบาแตเต็มเปยมไปดวยรอยยิ้ม - 41 -
“เดี๋ยวเราเดินทางไปกอนนะ ไปปลูกดอกไมรอในสวนบนสวรรคตามที่ ตกลงกันนะ เราจะรอเธอใหมาปลูกดอกไมดวยกัน” ขณะที่ผูปวยถูกเตรียมใจมานานจนกระทั่งสามารถเผชิญหนากับวาระ สุดทายนี้ไดอยางสงบ แตครอบครัวคือ คุณแมและพี่ชายกลับเบือนหนาที่เปอน น้ําตาไปทางอื่น ถึงแมจะมีการเตรียมตัวและใจใหแกผูปวยและญาติมาเปนอยางดี แลวก็ตาม ครอบครัวก็ยังทําใจไดยากเมื่อตองเผชิญกับการจากลาของคนที่รัก ความตายเปนเรื่องธรรมชาติของทุกชีวิต แมเราจะไดรับรูเรื่องราว เกี่ยวกับความตายของผูคนวันละหลายครั้ง แตเวลานึกถึงความตายที่ยอมเกิดขึ้น กับทุกคนในวันขางหนา คนจํานวนมากกลับรูสึกประหวั่นพรั่นพรึง ดวยเหตุนี้ จึงไมอยากนึกถึงและไมอยากพูดถึง หลายคนใชชีวิตราวกับวาชาตินี้ไมมีวันตาย ใชชีวิตไปเรื่อยๆ รอใหถึงความชราหรือเมื่อโรครายมาเยือน ผูปวยในระยะสุดทายนั้น เมื่อพวกเขาไดรับรูวา โรคมะเร็งที่เขาเปนอยู ไมตอบสนองตอการรักษา และในวันหนึ่งขางหนาพวกเขายอมจากบุคคลอันเปน ที่รักไป การเดินทางไปไกลตามลําพังอยางสงบจะเกิดขึ้นไดก็ดวยการเตรียมสิ่ง ตางๆ ใหพรอมเพื่อใหจากไปโดยไมมีสิ่งคางคาใจ ฉันไดเรียนรูวา หากเรามีความ เชื่อวาเสนทางที่เรากําลังเดินทางไปนั้นสวยงาม ยอมทําใหเราผอนคลายจาก ความกลัวและเราจะเดินทางไปดวยจิตใจที่เบิกบาน ความตาย เปนโอกาสที่เราจะไดพบความจริงของทุกชีวิตซึ่งทุกคน หลีกหนีไมได สิ่งสําคัญคือ เราควรฝกฝนตระเตรียมตัวลวงหนา การเรียนรูเรื่อง ความตายเปนประโยชน เพราะการเขาถึงความตายอยางสงบเปนสิทธิ์ของทุกคน ไมเลือกเพศ วัย สถานะทางสังคม ความเจ็บปวย และทุกขเวทนา หากเราได เรียนรูเราจะสามารถเขาใจความตายอยางถูกตองและเตรียมพรอมทั้งทางใจ ทางกาย จนกระทั่งสามารถเผชิญความตายไดอยางสงบ จนตระหนักรูวา ความตายนั้นไมนากลัว และเปนความจริงที่สวยงาม อีกบริบทหนึ่ง ขอบคุณผูปวยทั้งสองที่มาชวยใหฉันไดเรียนรูวา การจากลาที่สวยงามนั้น สามารถเกิดขึ้นได - 42 -
ความสุขสุดทาย ณัฐธิดา เทพสง ทุกคนเคยไดยินคําวา “การุณยฆาต”กันไหมคะ แลวทุกทานมีความคิดเห็น อยางไร แลวการทําการุณยฆาตเกี่ยวของอยางไรกับการดูแลแบบประคับประคอง กอนอื่นฉันขอเลาประสบการณที่ฉันเคยพบเจอมากอน เนื่องจากฉันเพิ่ง เรียนจบมาทํางานในโรงพยาบาลไดแคปกวาๆ แตก็ไดมีประสบการณในการดูแล ผูปวยแบบประคับประคองอยูบาง รวมทั้งไดมีโอกาสนั่งคุยฟงความรูสึกของผูปวย เหลานี้ในตอนที่ฉันกําลังฝกปฏิบัติงานในรายวิชาการดูแลผูปวยแบบประคับ ประคอง จนกระทั่งมาถึงตอนทํางานก็ยังพบเจออยูบาง สิ่งที่ฉันไดยินคําพูดที่ออกจากปากผูปวยแทบทุกคนคือ “มันทรมาน เมื่อไหรฉันจะตายสักที” “มันปวดมาก คุณพยาบาลขอยาแกปวดใหผมเพิ่มที” ทุกครั้งที่ฉันไดยินก็จะรูสึกหดหู เศราใจ ยิ่งไปกวานั้นคือสีหนาของญาติ ผูปวยที่เต็มไปดวยความเศราที่มากไมแพกัน มีผูปวยอยูรายหนึ่งที่ฉันยังจําไดไมลืม ขณะนั้นฉันเพิ่งเรียนจบยังทํางาน ไดไมถึงป ลุงเปนมะเร็งหลอดอาหารลุกลามไปในชองปาก ทําใหลุงพูดลําบาก ตองใหอาหารทางสายยาง ลุงมีเลือดไหลออกทางปากบอยและเจ็บปวดทรมาน อยางมาก ลุงมักจะเรียกพยาบาลเพื่อขอยาแกปวดตลอดเวลาโดยไมสนใจวา ขณะนั้นมีผูปวยที่รอรับการดูแลอยูเปนจํานวนมาก ฉันแอบหงุดหงิดใจที่ลุงเรียก ขอยาแกปวดบอยครั้ง จนสามสี่วันตอมา ลุงมีอาการแยลงจนตองยายเตียง ไปที่เตียง ๑ เพื่อใหชิดเคานเตอรของพยาบาลอันทําใหดูแลไดใกลชิดขึ้น ขณะที่ฉันเอายาไปใหลุง ลุงไดถามฉันวา “เมื่อไรลุงจะตาย มันทรมานเหลือเกิน” - 43 -
ฉันไดแตยืนนิ่ง พูดไมออกและกลับมานอนคิดกับตัวเองวา ถาหากคนตรง นั้นเปนเราหรือญาติของเรา มันจะทุกขทรมานแคไหน แมในตอนที่ใกลจะจากโลก นี้ไปแลวยังตองทุกขทรมานอีกเหรอ และถาเราเปนญาติของผูปวยเราจะรูสึก อยางไร นี่สินะการดูแลผูปวยแบบประคับประคอง คือการทําใหผูปวยสุขสบาย ที่สุด มีคุณภาพชีวิตที่ดีในบั้นปลายของชีวิตรวมถึงญาติของผูปวยดวย ฉันเห็นปานําพวงมาลัยมาแขวนไวที่หัวเตียงของลุง เปดธรรมะใหลุงฟง นําอาหารที่ลุงอยากทานมาให และไดเห็นลุงยิ้มบอยขึ้น ในที่สุดวาระสุดทายของลุงก็มาถึง….จากนี้ไปลุงไมตองเจ็บอีกแลว ฉันเห็นดวยกับการใหมีการุณยฆาตเกิดขึ้นเพราะ การเกิดแกเจ็บตาย คือ เรื่องธรรมชาติและทุกคนบนโลกยอมตองประสบ แตก็ไมเคยมีใครยอมรับกับ ความเจ็บปวดอันแสนทรมานไดแลวถาความเจ็บปวดเกิดขึ้นกับตัวเรา ทานจะ เลือกทําอยางไร อยากไดการดูแลที่ดี ทั้งดานจิตใจ สังคม จิตวิญญาณ หรืออยาก โดนเมินเฉยกับความทุกขทรมานนั้น สุดทายนี้ฉันคิดวาการดูแลแบบประคับประคองเปนเรื่องที่สําคัญเพราะ การดูแลผูปวยในชวงสุดทายของชีวิต อาจเปนสิ่งสุดทายที่ทําใหผูปวยมีความสุข ที่สุดในขณะนั้นก็เปนได - 44 -
NEW BORN “เกิดใหม” ปาริฉัตร พลชัย “ฉันอยูที่ไหน” เปนคําถามของความคิดแรกเมื่อรูสึกตัวจนตองหลับตาลง อีกครั้งและยอนคิดถึงเหตุการณตางๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเอง จําไดวาไมนานมานี้ แพทยแจงวา ฉันเปนโรคมะเร็งกลองเสียงและ จําเปนตองเขารับการผาตัดเอากลองเสียงออกทั้งหมด หลังจากการผาตัดที่ยาวนาน ในที่สุดฉันก็ฟนจากยาสลบเพื่อจะพบวา ฉันมีทอเจาะบริเวณคอเพื่อชวยหายใจ และสายยางใหอาหารทางจมูก “ฉันจะมีชีวิตตอไปอยางไรกันนะ” ฉันคิดในใจพรอมกับรูสึกเหนื่อย เหลือเกินกับการตอสูในครั้งนี้ “สวัสดีคะ ดิฉันชื่อปาริฉัตร เปนพยาบาลที่จะดูแลคุณนะคะ ตอนนี้เปน อยางไรบางคะ”น้ําเสียงพูดอันนุมนวล ทําใหฉันลืมตาเพื่อมองดูบุคคลตรงหนา เธอเปนพยาบาลมีครรภ ที่มีดวงตากลมโต และแตงตัวสุภาพเรียบรอย ฉันคิดในใจวา ออ คุณพยาบาลที่คอยมาใหคําแนะนําแกฉันอยูหลายครั้ง เพื่อเตรียมตัวกอนผาตัดนั่นเอง ฉันไดแตยิ้มอยางออนลาใหแกเธอ เธอสังเกตเห็นวา ฉันเหนื่อยลาจนหมดเรี่ยวแรง กระทั่งไมมีแรงที่จะ พูดคุยกับใครได “ขออนุญาตนั่งตรงนี้เปนเพื่อนคุณนะคะ”เธอพูดดวยน้ําเสียงอันออนโยน จนกระทั่งฉันรับรูไดถึงความจริงใจที่อยากใหความชวยเหลือแกฉันอยางเต็มที่ เธออธิบายชาอยางใจเย็นวา นับจากนี้ไป ฉันจะพูดไมไดและใหสื่อสารดวย การเขียนลงบนกระดาษแทนเธอจบประโยคอธิบายพรอมกับลูบแขนของฉันไปมา อยางปลอบโยน หลังจากนั้น ทุกๆ วันเธอจะคอยมาดูแลและแนะนําการฟนฟูสภาพ รางกายในดานตางๆ ใหแกฉัน จนในที่สุดรางกายของฉันก็แข็งแรงขึ้น เธอ สอบถามรายละเอียดของชีวิตฉันอยางสนใจ กระทั่งทราบวาฉันเคยประกอบ อาชีพนักออกแบบมากอน และสิ่งที่ฉันถนัดมากที่สุดคือ ‘การวาดภาพ’ - 45 -
เธอผูใจดีชวยหาอุปกรณจําพวกกระดาษวาดภาพ ดินสอ ยางลบ ไมบรรทัดและสีตางๆ เพื่อเสริมแรงใจของฉันและใหความมั่นใจวาฉันยังคง มีความสามารถไมนอยไปกวาเดิม ฉันคอยๆ ลงมือวาดภาพลงบนกระดาษที่เธอเตรียมไวใหอยางบรรจง เริ่มจากการใชดินสอวาดแบบรางไวกอนแลวคอยระบายสี เธอมักจะเดินมา คอยใหกําลังใจ ฉันยิ้มใหฉันเสมอหรือแมแตหลังจากออกเวรของเธอแลวหลายครั้ง เธอจะมานั่งดูฉันวาดรูป ฉันเลือกวาดรูปเชอรี่เพราะเปนผลไมที่ฉันชอบทาน แตตอนนี้ฉันไม สามารถทานทางปากไดฉันจึงอยากวาดสิ่งที่ฉันชอบใหเพื่อตั้งใจมอบใหแกเธอ ผูที่คอยอยูเคียงขางฉันเสมอมาขณะที่อยู รพ. ในที่สุด ฉันไดรับการฝกพูดโดยวิธีการสรางเสียงจากหลอดอาหารและ แพทยแจงวาตอไปจะเริ่มใสกลองเสียงเทียมเพื่อใหฉันสามารถกลับมาพูดแบบ มีเสียงไดอีกครั้ง กอนกลับบาน ฉันไดมอบรูปวาดผลเชอรี่ใหแกเธอ……. พยาบาลผูใจดี ฉันจําไดวา เมื่อฉันฟนขึ้นจากการวางยาสลบภายหลังการผาตัดที่ ยาวนาน มีคําหนึ่งผุดขึ้นในหัวของฉัน นั่นคือ “NEW BORN เกิดใหม” แมฉันจะรูสึกเสียใจที่ตื่นมาพบวา มีทอเจาะที่ลําคอและพูดไมไดแตฉันก็ พยายามทําใจยอมรับตอสิ่งที่เกิดขึ้น แมวาจะเปนเรื่องยากก็ตาม “มันเปนชีวิตที่เกิดขึ้นมาใหมและฉันตองพยายามดูแลตนเองใหได” แมจะมีความยากลําบากแตฉันจะเขมแข็งและตั้งใจฝกพูดใหไดเร็วที่สุด เพื่อขอบคุณตอครอบครัวและทีมรักษาพยาบาล อันประกอบดวยผูคนจํานวนมาก ที่คอยดูแล ใสใจ ใหกําลังใจ และปลอบโยนอยางจริงใจโดยมุงหวังเพียงใหฉัน ดําเนินชีวิตใหมนี้ตอไปได ฉันพรอมจะสูและทําใหชีวิตใหมดําเนินไปไดอยางเขมแข็ง เพื่อไมใหผูคน รอบขางเสียใจหรือผิดหวังในตัวฉัน - 46 -
เธอคือคนสําคัญของผม มัชฌิมา ทองทวี ในชีวิตของคนเรา ใครเปนคนสําคัญที่สุดในชีวิต ตั้งแตเราเกิดมา คนที่เราพบหนาคนแรกก็คือ พอและแม หากจะจัดลําดับคนสําคัญในชีวิตของเราถายังเปนเด็กอยางไรแลวพอกับแม ก็เปนคนที่สําคัญสําหรับเรา อันดับหนึ่ง พอโตมาเปนวัยรุนเราก็ใหความสําคัญกับพอแมนอยลงและติดเพื่อนมากขึ้น พอโตมาเปนวัยผูใหญ คนรักก็อาจจะเปนคนที่สําคัญที่สุด ถึงแมเราจะผานชีวิตมาอยางไร ไมวาจะตองพบกับโลกภายนอกที่แสนจะ เลวรายมากแคไหน เมื่อไดกลับบานไปพบปะครอบครัวเราก็จะรูสึกอบอุนและ ปลอดภัย ไปพบกับพอแมคนที่พรอมจะใหความรัก ตลอดจนความหวังดีกับเรา อยูเสมอ ซึ่งบางคนอาจจะมีทั้งพอและแมใหรัก บางคนมีแคพอหรือแม บางคนก็มี แคปู ยา ตา ยาย ที่เลี้ยงดูใหความรักและเปนคนสําคัญ ชีวิตคนเราก็เหมือนกับ ละครซึ่งไมรูตอนจบจะเปนเชนไรและเราทุกคนไมมีทางรูหรอกวา เวลาในชีวิต ของเรามันจะยาวหรือสั้นแคไหน ถาหากมีโอกาสแลวก็อยากจะใชเวลาดีๆ อยูกับ ครอบครัวและคนที่เรารักใหนานที่สุด กอนจะจากกันไป กริ๊งๆๆๆ เสียงโทรศัพทดังขึ้นภายในหอผูปวยเพชรรัตน ๑๔B สวัสดีคะ จากหอผูปวยแยกโรคนะคะเดี๋ยวจะมีผูปวย case post COVID-๑๙ ยายมาที่ วอรด ๑๔B นะคะ ผูปวยหญิงอายุ ๓๕ ป เจาะคอใสเครื่องชวยหายใจ น้ําหนัก ๑๖๐ กิโลกรัมนะคะ หลังจากวางสายโทรศัพททุกคนในทีมก็เตรียมตัวปฏิบัติตาม หนาที่ ปูเตียง เตรียมรับยาย ซึ่งจัดไวโซนดานหนาติดกับหนาตาง เสียง กุกๆ กักๆ ดังขึ้นที่หนาหอผูปวย “นําผูปวยมาสงครับจากหอผูปวยแยกโรค” - 47 -
โหว!! เสียงตกใจ คนไขตัวใหญมากตองใชพยาบาลชวยกันประมาณ ๔ คน ถึงจะสามารถยกผูปวยได แรกรับที่เห็นผูปวย พบวาผูปวยถูกผาตัดเจาะคอมาแลว มีแผลกดทับสีดําๆ จากการนอนคว่ําที่บริเวณหนา หนาอก คางและเทา และแผล กดทับกันของชั้นไขมันบริเวณหลัง ผูปวยมีเสมหะปริมาณมาก ซึ่งตองคอย ดูดเสมหะบอยๆ แตผูปวยยังตื่นลืมตา รูสึกตัวอยูแตไมสามารถชวยเหลือตนเองได ภายหลังยายมาแลว แพทยก็ลองเอาเครื่องชวยหายใจออกแลวใหผูปวย ใสหนากากออกซิเจน เพื่อใหผูปวยไดฝกหายใจ และใหญาติเตรียม home health care program เพื่อเตรียมใหญาติมาฝกการดูแลผูปวยกอนกลับบาน จากนั้นก็ไดโทรติดตอญาติเพื่อใหมาเรียน “ กริ๊งๆๆ สวัสดีคะ จากโรงพยาบาลวชิรพยาบาลนะคะ ใชญาติคุณ…. ไหมคะ พอดีคุณหมอวางแผนวาจะใหคนไขกลับบานและจะใหญาติเขามาเรียน การดูแลคนไขกอนนะคะ ญาติสะดวกเขามาไหมคะ” ปลายสายเปนเสียงของหญิง สูงอายุตอบกลับมาเพียงวา เดี๋ยวพรุงนี้เขาไปคะ พอเชาวันตอมา เวลาประมาณ ๑๐.๓๐ น. มีหญิงสูงวัยเดินกะโผลกกะเผลก ในมือถือไมเทามากับหลานชายตัวเล็กๆ มาติดตอที่ดานหนาของหอผูปวย แจงวา จะมาเรียนการดูแลคนไข จากนั้นจึงพาญาติไปที่เตียงคนไข และไดถามญาติวา วันนี้ใครจะเปนคนเรียนคะ จากนั้นเด็กผูชายตัวเล็กๆ ก็กาวออกมาขางหนาและบอกวา “ผมเปนคน เรียนครับ ” “ ฮะ!! นองจะเปนคนเรียนเหรอ” เด็กผูชาย อายุ ๑๒ ป เปนลูกชายของคนไข ซึ่งเปนเด็กตัวเล็กๆ สูงประมาณ ๑๕๐ ซม. กําลังเรียนอยูชั้น ม.๑ ดวยความที่เด็กผูชายยังเด็ก เราจึงคิดวานองอาจจะจําขอมูลที่เราใหไดหมดไหม และจึงไดสอนเรื่องการให อาหารทางสายยาง การดูดเสมหะ และการทําแผลเจาะคอกอน ซึ่งวันแรกนี้ สอนเรื่องทฤษฎีกอนยังไมไดปฏิบัติ พรุงนี้จึงนัดญาติมาเรียนเพิ่มเติมวันที่ 2 เพื่อใหมาเรียนปฏิบัติและเรียนเรื่องการทําแผลกดทับเพิ่ม - 48 -
วันรุงขึ้นสองยายหลานก็มาใหม การเรียนฝกปฏิบัติครั้งนี้เด็กผูชายคนเดิม ก็เปนคนปฏิบัติสวนยายเพียงนั่งดูเทานั้น เริ่มแรกกอนปฏิบัติฉันไดถามเด็กผูชาย ตัวเล็กไปวาจําไดไหมที่พี่สอนเมื่อวาน เด็กผูชายสามารถจดจําสิ่งที่สอนไดเกือบ หมดแมจะสอนไปเพียงวันเดียวเทานั้น จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติจากการดูดเสมหะ ดูจากแววตาของเด็กนอยแสดงถึง ความไมกลาดูดเสมหะเพราะกลัววาจะทําใหแมเจ็บ แตหลังจากสอนไปไดไมกี่ครั้ง เด็กชายตัวนอยก็สามารถปฏิบัติไดถูกตองและคลองแคลว พรอมทั้งหันมาถาม ตลอดเวลาวา “ผมทําถูกไหม ทําแบบนี้แมผมจะเจ็บไหม ทําไมแมผมไอตลอด เลย” แววตาเด็กนอยเหมือนมีน้ําใสๆ ในตา และพูดดวยน้ําเสียงสั่นเครือ ดวยความเปนหวงแม “หนูทําถูกตองแลว หนูเกงมากพี่สอนไมกี่ครั้งหนูก็สามารถทําไดแลว เพียงแตมันตองทําบอยๆ หนูถึงจะทําไดคลอง ไมตองหวงนะแมหนูตองภูมิใจ ในตัวหนู” ฉันจึงพูดใหกําลังใจเด็กนอย เพื่อคลายกังวล ฉันถามตอไปวา “ แลวชวงนี้หนูเครียดไหม ? ” เด็กชายไมตอบคําถามเพียงแตยิ้มกลับมาให ฉันจึงถามตอไปวา “ แลวไมตองเรียนเหรอ ?” เด็กชายบอกวา “ผมลาครูมาแลวครับผมเรียนออนไลนที่บาน ผมก็เพิ่ง หายจากโควิดเหมือนกัน ครอบครัวผมเปนโควิดทั้งครอบครัวเลย ผมเพิ่งกักตัว เสร็จ มีแมผมที่มีอาการของโควิดหนักที่สุดครับ” ยายกลาวเสริมขึ้นวา “ยายคงมาเรียนทุกวันไมไดเพราะบานของยายอยู ไกลถึงบางแคโนน นั่งรถไปกลับก็ประมาณ ๖๐๐ บาท ยายไมมีเงินและตองไปหา ซื้อเครื่องดูดเสมหะกับเครื่องออกซิเจนอีก ตอนนี้คนที่หาเงินไดในบานมีคนเดียว คือพี่ชายของคนไขที่เปนลุงของเด็ก ซึ่งเขาชวยดูแลเรื่องคาใชจาย พอของเด็ก ก็เสียไปตั้งแตเด็กอายุแค ๒ ขวบเอง ตอนนี้ยายก็กังวลเรื่องนี้แหละ” - 49 -
ซึ่งทางหอผูปวยก็ไดประสานงานกับนักสังคมสงเคราะหเพื่อใหจัดหา ถังออกซิเจนและเครื่องดูดเสมหะใหจึงทําใหคุณยายเริ่มสบายใจขึ้น หลังจากฝกดูแลเสร็จแลว ฉันจึงบอกเด็กชายคนนั้นวา “นองสามารถคุยกับแมไดนะจับมือพูดกับแมไดแมเขารับรูได เพราะถาม คนไขวาจําลูกชายไดไหม คนไขสามารถพยักหนาตอบได” ตอนแรกเด็กชายนิ่งเงียบไป แตพอฉันเดินออกมาจากเตียง ฉันไดยินเสียง เด็กชายตัวนอยเดินไปที่ขางเตียงของแมและบอกวา “แม สูๆ นะ” พรอมกับใช มือทั้งสองจับมือแมไวเพื่อใหกําลังใจและไมนานก็ไดยินเสียงสะอึกสะอื้นตามมา พอฉันหันกลับไปดูก็พบวา เด็กชายตัวนอยกําลังรองไหอยูขางเตียงของแม พรอมเดินมากอดยายและรองไหดวยกัน พอมองเห็นภาพนั้นฉันซึ่งเปนพยาบาล และถูกสอนมาเสมอวาไมใหมีความรูสึกเห็นอกเห็นใจ จนกระทั่งรูสึกทุกขไป กับคนไข แตพอเห็นภาพนั้นน้ําในตามันก็ไหลซึมออกมาเองโดยอัตโนมัติ พอมานั่งคิดดูแลวพยาบาลก็เปนคนธรรมดา ยอมมีความรูสึกไดถึงจะ รองไหก็ไมแปลกเพียงแตพอรองไหเสร็จแลว ฉันก็ตองทําตามหนาที่ตอไปไมให ขาดตกบกพรองเทานั้นเอง หลังจากวันนั้นอาการคนไขก็แยลงและสุดทายคนไขก็เสียชีวิตลงอยางนอย ชวงชีวิตสุดทายของคนไขก็ไดรับรูวาลูกชายรักเขามากแคไหน ถาเปรียบกับฉันตอนเปนเด็กฉันยังวิ่งเลนไปเรื่อยไมรูความ แตเด็กนอย คนนี้ไดแสดงใหเห็นแลววาสามารถดูแลแมได และรักแมมากที่สุด “แมเปนคนสําคัญที่สุดในชีวิตของผม” เสียงนั้นยังคงกองกังวานในหูและใจของฉันไมรูลืม - 50 -
ดาวลูกไกแหงความหวัง วณิชชา วาณิชประสิทธิชัย ผูปวยหญิงไทยชวยเหลือตัวเองไดนอยและนอนอยูบนเตียงเปนสวนใหญ มีอาการหายใจหอบเหนื่อย ไมสามารถนอนราบไดใสหนากากออกซิเจน และ ใสสายสวนปสสาวะอยู เธอมีอาการหอบเหนื่อยจากน้ําทวมปอดจนตองพักรักษาตัว ในโรงพยาบาล เธอมีปญหาเรื่องคาใชจายและวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการปวยที่แยลง เนื่องจากเปนหวงลูก ๓ คน และมีลูกเล็กอายุ ๓ ขวบ ทุกครั้งที่ พยาบาลเขาไป พูดคุย ก็จะเห็นสามีและลูกๆ ของผูปวยมาเยี่ยมอยูขางเตียง ลูกบอกกับผูปวย ทุกครั้งที่มาเยี่ยมวา อยากใหแมเลิกบุหรี่ ตัวของผูปวยเองมีความตั้งใจอยากจะ เลิกบุหรี่เพื่อลูก แตความตั้งใจลมเหลวทุกครั้ง ผูปวยมักจะบอกกับพยาบาลวา รูสึกตนเองเปนภาระใหกับสามีและครอบครัว ในเชาวันถัดมา ฉันจึงไดเชิญชวนผูปวยเขารวมกิจกรรมรับการปรึกษา ในคลินิกธรรมะรักษาใจ ซึ่งเปนกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดีซึ่งรูปแบบของ กิจกรรมคือ การใหคําปรึกษาจิตวิทยาแนวพุทธใหกับผูปวยและญาติเมื่อเริ่มการ สนทนา ขณะที่ผูปวยเห็นพระคุณเจา ผูปวยมีแววตาที่ดูมีความสุข สีหนาสดชื่น ขึ้น และมีน้ําตาไหลบนใบหนาที่เปอนไปดวยรอยยิ้ม ผูปวยเลาใหพระคุณเจาฟงวา มีความตั้งใจอยากจะเลิกบุหรี่เพื่อลูก แตทุกครั้งที่เริ่ม ก็ลมเหลวเพราะไมเคยหามใจไดนึกสงสารลูกที่ไมเคยทําสิ่งที่ลูก ขอไดเลย พระคุณเจาชวนใหผูปวยมองถึงสาเหตุของการเจ็บปวยในครั้งนี้โดยใช หลักธรรมอริยสัจ 4 ใหผูปวยมองเห็นสาเหตุของทุกขที่เกิดจากความเขาใจ ที่ไม ถูกตองตามความจริง ใหผูปวยเขาใจปญหาที่เกิดขึ้นดวยปญญาของตนเอง และนําไปสูวิธีการแกปญหาดวยตนเอง - 51 -
กอนจบการสนทนาผูปวยเลาวาตอนเปนเด็ก ตนเองนั้นชอบฟง นิทาน เรื่อง ดาวลูกไกซึ่งเนื้อหาของนิทานพูดถึงความรักของแมกับลูกและความ กตัญูกตเวทีพระคุณเจาจึงไดถามผูปวยกลับไปวาไดอะไรจากนิทานเรื่องนี้ ผูปวยจึงตอบวา สอนถึงความรักของแมที่มีใหลูก พระคุณเจาชวนใหผูปวยคิดวา ไมเพียงสอนถึงความรักที่แมมีตอลูก เทานั้น แตยังสอนถึงความรักที่ลูกมีใหตอแมเชนกัน เปรียบเหมือนตัวของโยมเอง ที่มีความปรารถนา จะเลิกบุหรี่เพื่อลูก และลูกที่อยากใหโยมเลิกบุหรี่เพราะรักแม อยากใหแมมีชีวิตอยูไปกับลูกนานๆ เมื่อจบการสนทนา ผูปวยมีสีหนายิ้มแยม แววตาเต็มไปดวยความหวัง และความตั้งใจ เมื่อถึงวันที่ผูปวยกลับบาน ผูปวยไดใหสัญญากับพยาบาลวา “ปาจะตอง เลิกบุหรี่ใหได” - 52 -
พี่สาวชาวสีมวง กัมพล อินทรทะกูล ฉันเปนพยาบาลที่ดูแลกลุมผูปวยที่เปนมะเร็งและฉันก็เปนผูชายที่มีจิตใจ เปนหญิง ครั้งหนึ่งฉันมีโอกาสไดใหการดูแลผูปวยมะเร็งที่มารับเคมีบําบัดครั้งแรก ซึ่งผูปวยรายนี้มีเพศสภาพแบบเดียวกับฉัน ฉันจึงเรียกผูปวยรายนี้วา พี่สาว ซึ่ง เปนคําที่ใหเกียรติและสื่อถึงความเขาใจในเพศสภาพระหวางฉันและผูปวยกลุม LGBTQ การที่มีเพศสภาพเหมือนกันทําใหเราสองคนมีเรื่องราวในอดีตที่ คลายคลึงกันมากเพราะเราเกิดมาในยุคที่สังคมยังไมเปดกวางมากพอที่จะยอมรับ กลุมเพศสภาพเหลานี้ พี่สาวถามฉัน “…หนูคะ พี่ไดคีโมไปแลว พี่จะมีผมรวงไหม พี่จะ เปลี่ยนไปเยอะไหม พี่จะไมสวยไหม…” ฉันตอบ“…พี่ขา พอจะบอกไดไหมวา เพราะอะไรที่ทําใหพี่คิดแบบนั้นคะ…” พี่สาวตอบดวยเสียงแผวเบาและน้ําตาคลอที่ตาทั้งสองขาง “พี่กลัววาสามีของพี่จะทิ้งพี่ไป กลัววาเขาจะรับไมไดที่พี่ตองเปนภาระ ของเขา กลัววาเขาจะอายคนอื่นที่มีพี่ในสภาพแบบนี้ มันกลัวอะ กลัวไปหมด” เมื่อไดฟงสิ่งที่พี่สาวพูด ทําใหจิตใจที่เปนสาวประเภทสองของฉันรูสึก ออนไหว และสงสารพี่สาวเปนอยางมาก ทําใหฉันแทบจะน้ําตาไหลออกมาตาม พี่สาว แตฉันก็นึกไดวาฉันเปนพยาบาล ฉันตองเปนที่พึ่งใหกับผูปวยใหจงได !!! ฉันสูดลมหายใจเขาออกยาวๆ ลึกๆ เพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา ฉันไดบอกกับพี่สาววา “…คุณพี่คะ ความรักเปนสิ่งที่สวยงาม หนูเชื่อ แบบนั้น และการที่เราเปนกลุม LGBTQ ดวย มันก็เปนเรื่องยากที่เราจะเจอคนที่ เขาจะมาจริงใจกับเรา แคเราเกิดมาผิดเพศ สังคมก็ตีตราเราแลววาโตไปมันจะเจอ ผูชายที่เขามามีแตจะมาหวังผลประโยชนและมาหลอกลวง แตสิ่งที่หนูเห็นนั้น แฟนคุณพี่เขาไมเคยทิ้งพี่เลยนะ หนูเห็นเขาดูแลเอาใจใสตอพี่และยังเปนธุระแทน พี่เพื่อไปรับยามาเพิ่มใหคุณพี่ดวย ซึ่งการกระทําแบบนี้ จากที่หนูเห็นก็เปนสิ่งที่ - 53 -
บอกเราไดวา พี่ไดเจอคนที่เขารักพี่อยางแทจริงแลวคะ พี่ไมตองกลัวหรอกวาเขา จะทิ้งพี่ไป…” ซึ่งมันเปนคําพูดที่ชวยใหพี่สาวของฉันใจฟูขึ้น จิตใจคลายความกังวล ความกลัวและความฟุงซานลงไดในระดับหนึ่ง จากนั้นฉันจึงไดพาสามีของพี่สาว เขามามีสวนรวมในการดูแลผูปวย ฉันไดบอกกับสามีของพี่สาววา “…คุณคะ จากที่พยาบาลไดคุยกับผูปวย แลวเนี่ย พยาบาลรับรูไดเลยวาผูปวยคอนขางที่จะมีความกลัวและความกังวล พยาบาลอยากใหญาติชวยพูดคุยและใหกําลังใจกับผูปวยหนอยคะ…” ฉันไดรับความรวมมือจากทีมงานพยาบาลเปนอยางดีในการพาสามีเขามา และใหรวมพูดคุยกับผูปวยที่เตียงทําใหฉันรูสึกดีใจมากที่ไดชวยเหลือพี่สาวของฉัน แตเมื่อสามีมาที่เตียงกลับพบวาพี่สาวของฉันนั้นนอนตะแคงหันหลังและไมยอม สบตากับสามี สามีของพี่สาวไดพูดขึ้นวา “…มาไมตองกังวลหรือกลัวอะไรนะ ไมวามา จะอยูในสภาพแบบไหน ผมรวงจนหมดหัวหรือมาจะชวยเหลือตัวเองไมได ปาจะ คอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวและอยูดูแลมาเอง …มาเคยจําไดไหมตอนที่เราทุกขเราก็อยู ดวยกัน หรือตอนที่เราสุขเราก็อยูเคียงขางกันมาตลอดแลวจะใหปาทิ้งมาได อยางไร ปาทําไมไดหรอก ปาไมใจรายพอที่จะทํา ปาจะอยูกับมาเอง” ซึ่งเปนประโยคที่ฉันประทับใจมาก มันชางตราตรึงในความทรงจําของฉัน ตลอดมา จากเหตุการณนั้นไดใหบทเรียนกับฉันวา การสงเสริมการมีสวนรวมใน การดูแลนั้นเปนสิ่งสําคัญเพราะตอใหฉันจะใหการพยาบาลที่ดีเลิศเพียงใด ก็ไมสามารถเทียบไดกับการที่คูรักดูแลซึ่งกันและกันเพราะมุมมองความหมาย ของการดูแลของแตละบุคคลนั้นชางแตกตางกัน ฉันจึงไดเขาใจคําวา “Practice of Love” คือการกระทําที่กลั่นออกมา จากหัวใจ เปนการกระทําที่ทําดวยความรัก มีสวนชวยสะทอนใหฉันเขาใจและ เห็นภาพมากขึ้น - 54 -
อีกทั้งฉันเคยอานบทความฉบับหนึ่งเกี่ยวกับการเขาใจ กลุม LGBTQ ซึ่งกลุมคนเหลานี้มีความตองการพื้นที่ในสังคมที่ใหความเคารพถึงความแตกตาง และไดรับการยอมรับจากสังคม เฉกเชนกลุมผูปวยของฉัน กลุม LGBTQ ที่มีความ ตองการในการเคารพการเปนตัวตนตามเพศสภาพ บางคนไมตองการใชคําวา … นาย ขึ้นตนชื่อดวยซ้ํา การที่พยาบาลเขาใจถึงความตองการอยางแทจริงและ เคารพในความแตกตางนั้น เปนปจจัยอยางหนึ่งที่ชวยใหผูปวยมีความสุข ฉันไดติดตามกรณีของพี่สาวของฉัน ภาพความทรงจําที่ฉันจําไดคือ พี่สาวของฉันมารักษาตอในสภาพรางกายที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ผอม ออนแรง และผิวหนังเหี่ยวเพราะทานอาหารไดนอย บางทีทานไปแลวก็อาเจียนออกมา แตสิ่งที่ยังคงความสวยงามอยูนั้น นั่นก็คือ ความรัก และความเสมอตนเสมอปลาย ของคูชีวิตของพี่สาว สามียังคงดูแลพี่สาวของฉันตลอด อยูเคียงขางและไมเคย ทอดทิ้งพี่สาวของฉันเลย ถึงแมสามีของพี่สาวจะเปนมือใหมที่ขาดประสบการณใน การดูแลผูปวยก็ตาม ฉันคอยชวยเหลือสนับสนุนในเรื่องของคําแนะนําในการดูแล ที่บาน และเสนอใหคนในครอบครัวเขามาชวยและมีบทบาทในการรวมดูแลพี่สาว มีพบก็ตองมีจาก เปนสัจธรรมของธรรมชาติ ฉันใด……ฉากของชีวิตก็ถูก ตัดไป เนื่องจากฉันไดรับโอกาสในการศึกษาตอ และเมื่อฉันกลับมาทํางานอีกครั้ง ฉันไดเฝามองและตามหาพี่สาวของฉัน แตก็ไมพบ ถึงแมกาลเวลาจะพรากเราจากกัน แตฉันก็ยังคงเปนนองสาวคนเดิม คนที่เต็มเปยมไปดวยความปรารถนาดีตอพี่สาว ฉันยังคงคิดถึงพี่สาวอยูเสมอ ซึ่งเปนเรื่องราวความประทับใจของฉันที่ไมเคยลืมเพราะฉันมีหัวใจสีมวง เหมือนกัน - 55 -
ความฝนของหนู สาระภี ไชยนา คุณเคยมีความฝนที่อยากเปนหรืออยากทําอะไรไหม ฉันเชื่อคะวาทุกคนลวนมีความฝนที่อยากเปนหรือทําบางสิ่งบางอยาง ดวยกันทั้งนั้น แตจะมีสักกี่คนที่สามารถทําตามฝนที่ตองการได ชวยบายของวันหนึ่ง มีเสียงโทรศัพทจากหอผูปวยวิกฤตแจงวาจะขอยาย ผูปวยเด็กคนหนึ่งมายังหอผูปวยเด็กสามัญ เวลาผานไปไมนาน เด็กชายอายุ 7 ขวบ คนหนึ่งก็มาปรากฏตัว เขานอนนิ่งอยูบนเตียงพรอมกับกลอกตาไปมา อยางกังวลตอสิ่งแวดลอมที่ไมคุนชิน บนลําคอของเขามีทอหลอดลมคาไวและ มีหนากากออกซิเจนครอบที่ปลายทอ หนาทองของเขาถูกเจาะและมีสายยางให อาหารคาอยู พยาบาลจากหอผูปวยวิกฤตสงเวรใหฟงวา นองจมน้ําในอางกาละมัง ที่บานนานมากกวา 5 นาที พอและแมไดพามาที่โรงพยาบาลแพทยไดทําการรักษา และเจาะคอเพื่อสอดทอหลอดลมพรอมกับเจาะหนาทองเพื่อสอดคาสายยาง ใหอาหารกอนกลับบานทั้งแพทยพยาบาลนักบริการสังคมและนักกายภาพบําบัด ไดรวมกันดูแล แนะนํา และสอนในเรื่องการดูแลผูปวยที่บานอยางเต็มที่ จนกระทั่งแมมีความมั่นใจในการดูแลลูกที่บานได ดังนั้นทีมแพทยจึงไดอนุญาต ใหแมพานองกลับบานไปดูแลตอ 3 เดือนตอมา นองกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้งดวยภาวะ ปอดอักเสบติดเชื้อ ครั้งนี้นองมีอาการหอบเหนื่อยมากจนกระทั่งแพทยตอง ตัดสินใจตอเครื่องชวยหายใจเขากับทอที่ลําคอ ครั้งนี้นองมีอาการรุนแรงมากเขาขั้นวิกฤต แพทยคาดการณวานองนาจะ เสียชีวิตในอีกไมนาน แพทยจึงไดปรึกษาทีมกุมารมิตรบริบาลรวมดูแล ซึ่งทีมเริ่ม - 56 -
เขามารวมดูแลนองโดยไมรอชาพรอมกับทําการนัดหมายพอและแมของนอง เพื่อพูดคุยวางแผนการดูแลลวงหนา บรรยากาศในวันนัดหมายคอนขางเงียบและเศรา พอและแมของนอง แพทยเจาของไข และฉันผูเปนพยาบาลประคับประคองประจําหอผูปวย รวม พูดคุยกันเพื่อวางแผนการดูแลแกนอง ในที่สุดก็มาถึงคําถามสุดทายวา “ถาทายสุดแลวนองทนไมไหว คุณพอ คุณแม ตองการใหหมอและ พยาบาลทําหัตถการที่เปนการยื้อชีวิตนองตอไปไหม” ทุกคนตางเงียบ พอและแมของผูปวยมองหนากันและจับมือกันแนน ทั้งคู มีน้ําตาคลอที่เบาตาพรอมกับนิ่งเงียบไปเพื่อคิดใครครวญ กอนที่พอจะตัดสินใจ ตอบออกมาวา “ นองเจ็บ นองเหนื่อยมามากแลว ปลอยนองไปแบบสบายดีกวาครับ” ขณะนั้นฉันทําไดแคเพียงสงสายตาใหกําลังใจ จากนั้นก็มีการเซ็นเอกสาร แสดงความยินยอมใหผูปวยไดรับการดูแลแบบประคับประคองเพื่อใหผูปวย จากไปตามธรรมชาติ วันถัดมา นองมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ทีมรักษาและครอบครัวตัดสินใจให ยามอรฟนฉีดเขาหลอดเลือดเพื่อลดอาการเหนื่อย ทีมกุมารมิตรบริบาลรวมให กําลังใจแกครอบครัวและพยายามคนหาความตองการสุดทายของนอง ตลอดจน สิ่งที่อาจติดคางภายในใจของครอบครัวเพื่อรวมกันแกไข เพื่อใหนองและ ครอบครัวมีความสงบ หมดกังวลที่อาจมากวนใหจิตใจไมสงบในชวงวาระสุดทาย ของนอง ฉันดูแลนองรวมกับครอบครัวอยางใกลชิด ฉันสังเกตวานองมีน้ําตาไหล ออกมาตลอดเวลา ฉันเฝาแตคิดในใจวา ‘นองคงทั้งเหนื่อยและกลัว’ ความคิดชั่ววูบหนึ่งแลนเขามาในหัวฉันวา ‘เอะ หรือนองอาจรองไห เพราะมีบางอยางติดคางอยูในใจ’ - 57 -
ฉันตัดสินใจถามแมของนองไปวา “คุณแมคะ ตอนที่นองยังไมปวย นอง เคยบอกมั้ยคะวาอยากเปนอะไร หรือชอบทําอะไรเปนพิเศษคะ” แมคิดอยางหนักจนคิ้วขมวดแนนทั้งสองขางอยูนาน ในที่สุดก็ทําทานึก ออกและตอบวา “นองอยากเปนนักสนุกเกอร นองเลนเกงมากเลยนะคะคุณพยาบาล นองเคยเลนแขงจนกระทั่งชนะดวยนะ” แมพูดออกมาและยิ้มอยางภูมิใจในตัวนอง “แลวตอนนี้ไมสนุกเกอรของนองยังอยูมั้ยคะ” ฉันเริ่มคิดบางอยางออก จึงถามไปอยางเต็มไปดวยความหวัง แมหันไปมองพอ แลวพยักหนาใหพอเปนสัญญาณใหพอกลับไปหา ไมสนุกเกอรที่บานมาใหลูก เวลาผานไปไมนาน ชายผูเปนพอก็วิ่งมาหาพรอมกับยื่นไมแทงเล็กที่มี ลักษณะคลายไมเทาที่มีปลายมนให “นี่คือไมสนุกเกอรของนองครับ” พอกลาว ฉันไดนําไมสนุกเกอรไปวางไวในมือของนอง และบอกตอนองไปวา “นี่คือไมสนุกเกอรที่หนูชอบเลนนะลูก” ขณะนั้นเครื่องตรวจติดตามชีพจรแสดงคาการเตนของชีพจรที่เร็วขึ้น ชั่วขณะแลวลดลง เหมือนนองตอบสนองตอการไดรับไมสนุกเกอรมาถือไวในมือ ทุกคนในหองมองตากันอยางสะเทือนใจและรับรูตอสิ่งที่เกิดขึ้น เชาวันถัดมา นองก็จากไปอยางสงบ นองมลเปนคนหนึ่งที่มีความฝนและมีสิ่งที่อยากทํา นั่นคือ การเปนนัก สนุกเกอรที่เกง แมโรคจะไมเขาขางใหนองไดทําตามฝนนั้น แตฉันเชื่อคะวา……..นองไดทําตามฝนของนองแลว - 58 -
เตรียมตัว วณิชชา วาณิชประสิทธิชัย ผูปวยสูงวัยอายุ ๗๙ ป เพิ่งจะทราบวา ตนเองเจ็บปวยดวยโรคมะเร็งตับ ซึ่งตอนนี้มะเร็งตับเขาสูระยะสุดทาย ครั้งนี้มารับการรักษาในโรงพยาบาล ดวยปญหาระดับน้ําตาลในเลือดต่ําจากมะเร็งตับ ครั้งแรกที่ฉันพบผูปวย ผูปวยรูสึกตัวดี สามารถพูดคุยรูเรื่อง มีสีหนา อิดโรย และนอนติดเตียงชวยเหลือตนเองไมไดแลว ผูปวยมีตัวตาเหลือง และมี อาการหายใจหอบเหนื่อยซึ่งตองดมหนากากออกซิเจนอยูตลอดเวลา ขางเตียง ของผูปวยจะมีลูกสาว ซึ่งเปนลูกคนเดียวเปนคนเฝาตลอดเวลา ลูกสาวมีสีหนาไม สดใสและแสดงความวิตกกังวลตลอดเวลาตัวของผูปวยเองบนอยากกลับบานทุกวัน ฉันไดพูดคุยสรางสัมพันธภาพและประเมินความตองการของผูปวย พบวา ผูปวยทราบวาตนเองเจ็บปวยดวยโรคมะเร็งตับระยะสุดทาย เขาใจการ เปลี่ยนแปลงที่กําลังจะเกิดขึ้นและ มีความปรารถนาสุดทาย คือ การกลับไป เสียชีวิตที่บานทามกลางครอบครัวอันเปนที่รัก ฉันจึงไดดําเนินการรวมกับทีม สหสาขาวิชาชีพ เพื่อที่จะดําเนินการใหผูปวยไดกลับไปเสียชีวิตที่บานดังความ ปรารถนา แตอยางไรก็ตามฉันสังเกตไดวาผูปวยและลูกสาวยังมีสีหนาแสดงถึง ความวิตกกังวลตลอดเวลา อันแสดงวายังมีเรื่องที่ไมสบายใจแตไมกลาระบาย ความรูสึกออกมา ฉันจึงชวนผูปวยและลูกสาวไปรวมสนทนาธรรมกับพระคุณเจา กลุมคิลานธรรม ผูปวยและลูกสาวยินดีและกระตือรือรนในการที่จะไดสนทนากับ พระคุณเจา การสนทนากับพระคุณเจา พบวาบรรยากาศเปนไปดวยความสงบ พระคุณเจาชวนใหผูปวยและลูกสาวอยูกับปจจุบันขณะ มีสติในการเผชิญกับปญหา ที่เกิดขึ้น ชวนถามถึงปญหาที่ผูปวยยังติดคางและมีความตองการอยากจะทําให ฝกพิจารณามรณสติ รวมถึงการเรากุศล ดวยการใหผูปวยนึกถึงสิ่งดีงามที่เคย ไดกระทํามา ทําใหผูปวยและญาติตระหนักถึงความสําคัญของจิต และการใชเวลา - 59 -
ที่เหลืออยูอยางมีสติเพื่อใหมีกําลังใจที่เขมแข็งในการเผชิญกับวาระสุดทาย ที่มนุษยทุกคนตองเผชิญอยางหลีกเลี่ยงไมได และเตรียมความพรอมในการไปสู ความตายดีหรือไปสูสุคตินั่นเอง ภายหลังการสนทนาผูปวยและลูกสาวมีสีหนา ที่สงบและคลายความวิตกกังวลเสมือนดั่งการเห็นแสงสวางที่ปลายอุโมงค ภายหลังจบการสนทนาในวันนั้น ฉันและทีมสหสาขาวิชาชีพวางแผน รวมกับผูปวยและลูกสาวเพื่อตอบสนองความตองการเกี่ยวกับการกลับไปเสียชีวิต ที่บาน พยาบาลไดใหความรูแกลูกสาวในการดูแลผูปวย เชน การเตรียมสถานที่ การประเมินอาการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนดูแลประสานงานเพื่อใหเกิดการดูแล ตอเนื่องจากโรงพยาบาลสูบาน โดยแพทยใหการรักษาและดูแลเรื่องยาเพื่อจัดการ กับอาการปวดและอาการเหนื่อย และแลวก็ถึงวันที่ผูปวยจะไดกลับบาน ชางเปนเรื่องที่นาแปลกใจมาก แมวาอาการของผูปวยจะแยลงจากเดิมอยางมาก แตสีหนาของผูปวยและลูกสาว ไมไดดูเศราหมองเหมือนตอนแรกที่ฉันพบ สิ่งที่พบเห็นกลับเต็มไปดวยความสุข สุขของความรัก สุขของความปรารถนาที่สมหวัง ที่จะไดกลับบาน ฉันโทรศัพทติดตามผูปวยตั้งแตออกจากโรงพยาบาล และในวันเดียวกัน ชวงเวลาหัวค่ํามีเสียงโทรศัพทดังขึ้น เปนเสียงของลูกสาวของผูปวย ที่โทรมาแจง กับฉันวา “แมไดเสียชีวิตแลว และขอบคุณ คุณหมอ คุณพยาบาล ที่ชวยดูแลแม และอยูรวมทุกข จนถึงเวลาที่ทานจากไปแมมีความสุขที่ไดกลับบานและไดจากไป อยางสงบ” เรื่องนี้สอนใหฉันเขาใจวา ความปรารถนาในเรื่องสถานที่เสียชีวิตของ ผูปวยเปนสิ่งสําคัญและเปนสิ่งหนึ่งที่บุคลากรทางการแพทยควรตระหนักถึง ความสําคัญ ดังคํากลาวของพระอาจารยไพศาล วิสาโล กลาวไววา “การตายอยางสงบ เปนเรื่องที่ฝกได เตรียมได เราสามารถเลือกวิธีการตายและสถานที่ตายของเราได….” - 60 -
บันทึก ................................................................................. ................................................................................................................ ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ................................................................................................... ...................................................................................................
บันทึก ................................................................................. ................................................................................................................ ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ................................................................................................... ...................................................................................................
ประชม ุ ว ิ ชาการ การดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง ประจ าปี2566 คณะแพทยศาสตรว ์ ช ิ รพยาบาล มหาว ิ ทยาลย ั นวม ิ นทราธ ิ ราช วันที่ 31 ส ิ งหาคม พ.ศ. 2566 https://skillfine.com/how-to-use-storytelling-in-business-communication/
ค ำน ำ Story telling ฉบับนี้เป็น เรื่องเล่า เร้าพลัง ส่วนหนึ่ง จากประสบการณ์ตรงใน การดูแลผู้ป่ วยของบุคลากร คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช โดยวัตถุประสงค์เพื่อ แบ่งปันความอิ่มเอมใจ จุดประกายแห่งความภาคภูมิใจเล็ก ๆ เสริมสร้าง แรงบันดาลใจในโอกาสที่ได้ดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคองและครอบครัว ขอขอบคุณ อ.รพีพร แสง ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการเขียนเรื่องเล่า และ บุคลากรทุก ท่านที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด คณะผู้จัดท าหวังว่า Story telling ฉบับนี้จะเป็นพลังใจและเป็นประโยชน์ แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีโอกาสได้ดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคองเช่นกัน คณะผู้จัดท า
ได้มีโอกาสดูแลผู้ป่วยหญิงที่สุดท้ายเป็นระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ที่เริ่มต้นผู้ป่วยมาด้วยรู้สึกตัวดีค่ะ คุณป้า เป็นคนน่ารักค่ะ พยาบาลให้ช่วยทำ อะไรก็ทำ ได้ทุกอย่าง ซึ่งสามี ของคุณป้าก็น่ารักเช่นกันมาเยี่ยมเช้าเย็นทุกวันตามเวลาที่ ตึกอนุญาติให้เข้าเยี่ยม เดิมทีคุณป้าและคุณลุงอาศัยอยู่ต่างจังหวัดค่ะ แต่เนื่องด้วยคุณป้าป่วย จำ เป็นต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งคู่จึงย้ายกลับมาอยู่บ้านเดิมที่ใกล้โรงพยาบาล หลังจากคุณป้าที่ใสท่อช่วยใจ ออกจากห้องผ่าตัดมาสังเกตการณ์ที่ตึก หออภิบาลผู้ป่ายวิกฤต เย็นวันนั้นคุณลุงก็เข้ามาเยี่ยมคุณป้าทันที ถึงแม้คุณป้าจะมีอาการ สะลึมสะลือจากการดมยาสลบในห้องผ่าตัด แต่คุณลุงก็มายืนจับมืออยู่ข้างๆ คุณป้าตลอด 2 ชั่วโมง จนคุณป้าได้ถอด ท่อช่วยหายใจครั้งแรกสิ่งแรกที่คุณป้าถามถึง ก็คือชื่อคุณลุง เมื่อถึงเวลาเข้าเยี่ยมคุณลุงเห็นคุณป้าที่ถอดท่อช่ายใจไอปริมาณมาก คุณลุงก็รีบวิ่งลงไปซื้อกระดาษทิชชูเพื่อให้ คุณป้่าได้ไอขับเสมหะ จนเช้าวันถัดไปที่คุณป้าเริ่มมีอาการเหนื่อยมากขึ้น จนทั้งคู่ได้ตัดสินใจใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ พร้อมทั้งจำ เป็นต้อง มีการให้ยานอนหลับและยาคลายกล้ามเนื้อ คุณป้าอยู่ในสภาวะไม่รู้สึกตัวร่วมเดือนเนื่องจากไม่สามารถลดปริมาณของยาได้ จากการที่คุณป้ายังมีอาการเหนื่อย ร่วมกับโรคที่มันดำ เนินพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณลุงก็ยังมาเยีี่ยมทุกครั้งที่ตึกเปิดให้เยี่ยม จน เป็นภาพเคยชินของพยาบาลที่ตึก ที่จะเจอคุณลุงทุกวันช่วงเที่ยงและเย็น คุณป้ามีรอยช้ำ จากการเจาะเลือด คุณลุงก็คอยเอายาลดช้ำ ทาให้ทั้งเช้าและเย็น คุณป้ามีน้ำ ลายไหลตลอดเวลา จากการได้ยาคลายกล้ามเนื้อ คุณลุงก็คอยยืนซับน้ำ ลายให้ตลอดเวลา จนถึงระยะที่แพทย์ประเมินว่าคุณป้ามีภาวะช็อค และติดเชื้อในกระแสเลือด คงไม่สามารถหายได้ จึงเริ่มมีการคุย NR กับคุณลุง คุณลุงแจ้งเป็นการส่วนตัวกับพยาบาลว่า ตัวของคุณลุงนั่นก็คงไม่อยากจะปล่อยคุณป้าไป แต่ตัวของคุณป้า เคยแจ้งกับคุณลุงไว้ว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณป้า ก็ขอให้ปล่อยคุณป้าไป เพราะตัวของคุณป้านั่นไม่ต้องการจะทรมานและ ปั๊มหน้าอก ซึ่งโรคก็ดำ เนินมาจนถึงระยะสุดท้ายของคุณป้า ตัวของพยาบาลก็ได้มีการสอบถามว่าคุณลุงนั่น ได้มีการเตรียมใจ หรือยัง คุณลุงตอบกลับว่า “ตัวคุณลุงนั่นมีการเตรียมใจมาสักระยะจากการที่คุณป้าอยู่ในสภาวะไม่รู้สึกตัวมานาน แต่คงไม่ สามารถทำ ใจได้ เพราะทั้งคู่อยู่ด้วยกันมานานถึง 50 ปี ถึงแม้จะทะเลาะกันบ่อยๆเวลาอยู่ด้วยกัน และถึงแม้จะไม่ค่อยได้บอก รักกัน แต่ทั้งคู่ก็แสดงความรักให้กันตลอด” จนเวลาสุดท้ายของคุณป้า คุณลุงก็ได้แต่กอดลูกยืนร้องไห้ไว้อาลัยให้คุณป้า เรื่องเล่า เร้าพลัง เรื่อง รักเธอจนนาทีสุดท้าย หอผู้ป่วย เพชรรัตน์ 4D การติดต่อกับหอผู้ป่วย|หน่วยงาน(contact information): หน่วยงานหอผู้ป่วยเพชรรัตน์ 4D E-mail [email protected] เบอร์โทร 02441-3572-3
ประชุมการดูแลผูปวยแบบประคับประคอง โรงพยาบาลวชิรพยา บาล คณะแพทยศาสตรวชิ รพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินท ราธิราช เรื่องเลา เราพลัง เรื่อง.........ความหวังสุดทาย................................. หอผูปวย/หนวยงาน...............เพชรรัตน 14B................................... วันที่ 31 สิงหาคม 2566 การติดตอกับหอผูปวย/หนวยงาน (Contact Information) : หนวยงาน .........................................................E-mail…………….………..……เบอรโทร...................... สายสิณียเลิศพรรักษคุณยายรายหนึ่ง มาดวยอาการซึมลง เรียกไมรูสึกตัว เหนื่อย และความดันโลหิตตํ่า แพทยจึงใสทอชวยหายใจ ใหยากระตุนหัวใจและยาเพิ่มความดันโลหิตใหสูงขึ้น เวลาผาน ไปไมนานหัวใจของผูปวยรายนี้ก็หยุดเตน แพทยไดทําการกดหนาอกกูชีพและไดคุยอาการ กับลูกสาวทั้ง 2 คน ลูกสาวมีความประสงคที่จะไมทําการชวยฟนคืนชีพ ลูกสาวทําใจแลววา คุณแมคงจะไมไหวและไมสามารถยื้อชีวิตไวได แตแลวก็เกิดปาฏิหาริยขึ้น หัวใจของยายก็กลับมาเตนใหมอีกครั้ง ทําใหนึกถึงแสงเทียนที่ใกลจะดับริบหรี่แลวกลับมาสองแสงสวางได ใหมอีกครั้ง คุณยาย อายุ ๗๐ ปชวยเหลือตัวเองไมไดและนอนติดเตียงมาเปนเวลานาน สามีของ ยายเสียชีวิตไปนานแลว ยายมีลูก ๓ คน ลูกสาวคนแรกเสพยา และ มีอาการจิตหลอน ลูกชายคนที่ 2 ติดคุกอยูที่เรือนจําจังหวัดกาญจนบุรีสวนลูกสาวคนเล็กคือ นองหนิงเปนคนที่อยูดูแลยายใกลชิดมาตลอด คุณยายมีความหวังอยากไปเยี่ยมลูกชายซึ่ง อยูในเรือนจําเพราะ ๑๐ ปมาแลวที่ไมไดเห็นหนากันเลย แมตัวของยายจะไปไมไดเพราะไม สามารถกาวขาออกไปไดและ ไรเรี่ยวแรงที่จะฝนเดิน แตหัวใจของความเปนแมนั้นยิ่งใหญ เปนรักที่บริสุทธิ์และทรงพลัง ทําใหใจดวงนี้ไมยอมแพ แมความตายจะคืบคลานมาอยูตรง หนาก็ตาม ยายยังคงอยากพบและไดกอดลูกอีกสักครั้ง ดูเปนความหวังเล็กที่ไมสลักสําคัญ ของคนทั่วไป แตสําหรับคนเปนแมชางเปนความหวังสุดทายที่ยิ่งใหญเหมือนแสงสุดทาย ที่ปลายทาง ชวงบายวันหนึ่งมีเสียงโทรศัพทดังขึ้นในหอผูปวย ลูกสาวคนเล็กของยายโทรมา “ คุณพยาบาลคะจะโทรมาปรึกษา คุณแมเคยบอกไววา อยากเห็นหนาลูกชายที่ติดคุก หนูอยากจะทําใหความหวังสุดทายของแมเปนจริง หนูติดตอทางเรือนจําไวแลว อยากได ใบรับรองแพทยวาคุณแมอาการหนักคะ ทางเรือนจําถึงจะใหพี่ชายมาหาคุณแมได ”
ประชม ุ ว ิ ชาการ การดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง ประจ าปี2566 คณะแพทยศาสตรว ์ ช ิ รพยาบาล มหาว ิ ทยาลย ั นวม ิ นทราธ ิ ราช วันที่ 31 ส ิ งหาคม พ.ศ. 2566 https://skillfine.com/how-to-use-storytelling-in-business-communication/
ประชุมการดูแลผูปวยแบบประคับประคอง โรงพยาบาลวชิรพยา บาล คณะแพทยศาสตรวชิ รพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินท ราธิราช เรื่องเลา เราพลัง เรื่อง..........ความหวังสุดทาย...................................... หอผูปวย/หนวยงาน....................เพชรรัตน 14B.................................... วันที่ 31 สิงหาคม 2566 การติดตอกับหอผูปวย/หนวยงาน (Contact Information) : หนวยงานE-mailเบอรโทร ติดตอทางเรือนจําไวแลว อยากไดใบรับรองแพทยวาคุณแมอาการหนักคะ ทางเรือนจําถึง จะใหพี่ชายมาหาคุณแมได ” พยาบาล ทําทาครุนคิด เพราะไมเคยเจอสถานการณเชนนี้มากอน แตเพื่อความหวัง สุดทายของคนไข “ญาติคะปกติทางเรือนจํา ใหพี่ชายออกมาจากเรือนจําไดหรือคะ” “พอดีพี่ชายเปนนักโทษชั้นดีจะมีผูคุมมาดวยคะ ” หลังจากวางหูโทรศัพทประมาณครึ่งชั่วโมง ลูกสาวโทรกลับมา อีกครั้ง “คุณพยาบาล หนูติดตอทางเรือนจํา เคาอนุญาตให VDO call ไดคะ ” คุณยายอาการดีขึ้น แพทยจึงเอาทอชวยหายใจออกและยังตองใหออกซิเจน ใหอาหาร ทางสายยาง มีแขนขาบวม ยังคงชวยเหลือตนเองไมได พูดไดแตเสียงเบาเพราะยังเจ็บคอ และบนปวดกนปวดตามตัว วันนี้ลูกสาวมาเยี่ยมตามปกติ พยาบาลไดใหขอมูลการดูแลและการรักษาทั่ว ๆไปและ เมื่อพยาบาลเดินผานไปอีกครั้งก็เห็นนองหนิง ลูกสาวคนเล็กของยาย นั่งรองใหนํ้าตาไหล อาบ ๒ แกม และมีเสียงสะอื้น นองหนิงไดเลาระบายใหฉันฟงวา “แมบนเจ็บกน หนูสงสารแมคะ แมของหนูยังมีหวงอยูคะ หวงวาลูกสาวคนโตจะไมมีคน ดูแลหนูก็รับปากไปแลววาจะไมทอดทิ้ง แมอยากพบลูกชายที่ติดคุก ตัวหนูเองก็เครียด เหมือนตองตัดสินใจคนเดียวและกลัววาหนูจะตองหยุดงานบอย ปกติตองทํางาน ๖ วันตอ สัปดาห ” ฉันจึงรับปากวาจะพลิกตัวยายบอย ๆ ดูแลลดอาการปวดใหยายไดรับความสุขสบาย และใหนองหนิงไดแอดไลนกับหนวยงาน หากคิดถึงแมก็สามารถโทรมา หรือ VDO call ได จะไดไมตองหยุดงานบอย นองหนิงไดเขารับคําปรึกษาจากคลินิกธรรมะรักษาใจ ของพระอาจารยโชติก อภิชาโต หลังจากไดรับคําปรึกษาแลวนองหนิงไลนมาแจงวา สบายใจขึ้น ที่ไดเลาความรูสึกที่อัดอั้น และตองเก็บไวกับตัวเองคนเดียว มานาน พระอาจารยบอกวา จะบาปหรือไมบาป ใหดูที่ เจตนาของเรา แสดงวาในสวนลึกของจิตใจแลว นองหนิงคงรูสึกกลัวบาปที่ไดเลือกการไมปม หัวใจใหกับแมของตัวเอง
ประชุมการดูแลผูปวยแบบประคับประคอง โรงพยาบาลวชิรพยา บาล คณะแพทยศาสตรวชิ รพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินท ราธิราช เรื่องเลา เราพลัง เรื่อง..........ความหวังสุดทาย...................................... หอผูปวย/หนวยงาน....................เพชรรัตน 14B.................................... วันที่ 31 สิงหาคม 2566 การติดตอกับหอผูปวย/หนวยงาน (Contact Information) : หนวยงานE-mailเบอรโทรคุณยายไดทําสังฆทาน และพี่พยาบาลหัวหนาตึกนิมนตพระมารับสังฆทาน โดยไดสวด มนตรวมกันทั้งผูปวยและลูกสาวทั้งคน ในที่สุด วันที่คุณยายรอคอยก็มาถึง เมื่อลูกสาวบอกวาวันนี้ทางเรือนจําจะโทรมาใหคุณ ยายไดคุยกับลูกชายทาง VDO call จากการสังเกตขณะที่คุณยายไดมองหนาลูกชายผาน ทางโทรศัพทนํ้าตาก็ซึมออกมา ไดพูดคุยกันทั้งแมและลูก มันเปนบรรยากาศที่อบอุน ตางคน ตางบอกรักกันใหดูแลตัวเอง ลูกชายจะไดออกจากเรือนจําหลังปใหม ความหวังที่แมจะได กอดลูกชายใกลจะเปนจริง ในเชาวันรุงขึ้นคุณยายก็จากไปอยางสงบ ในฐานะพยาบาลที่ดูแลผูปวยแบบประคับประคอง นอกจากจะประเมินความหวัง ความ ตองการของผูปวยใหไดรับความสุขสบายทั้งทางกายและทางใจแลว จะตองประเมินความ หวังและความตองการของญาติของผูปวยรวมดวย เรื่องราวนี้สอนใหเรียนรูวา ความหวัง เปรียบเสมือนแสงสวางที่คอยนําทาง เหมือนการ ตอลมหายใจใหกับชีวิต แมวาความหวังอาจทําใหเราผิดหวังไดตลอดเวลา แตเราก็ไมควร หยุดหวังเพื่อใหพบแสงสวางที่ปลายทาง การมีชีวิตอยางมีความหวังเทานั้น ที่จะทําใหทุกสิ่งมีโอกาสเปนไปได เหมือนคุณยายที่บรรลุความหวังสุดทายที่ไดพบกับลูกชาย จึงหมดหวงและจากไปอยาง สงบ
ประชม ุ ว ิ ชาการ การดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง ประจ าปี2566 คณะแพทยศาสตรว ์ ช ิ รพยาบาล มหาว ิ ทยาลย ั นวม ิ นทราธ ิ ราช วันที่ 31 ส ิ งหาคม พ.ศ. 2566 https://skillfine.com/how-to-use-storytelling-in-business-communication/
ประชุมการดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง โรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เรื่องเล่า เร้าพลัง เรื่อง............................................................................ หอผู้ป่วย/หน่วยงาน......................................................................... วันที่ 31 สิงหาคม 2566 การติดต่อกับหอผู้ป่วย/หน่วยงาน (Contact Information) : หน่วยงาน .........................................................E-mail…………….………..……เบอร์โทร...................... ปราณี สมานจิต ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายมากหน้าหลายตา ของผู้ป่ วยที่เดินเข้า-ออกสวนทางกันไปมาในโรงพยาบาล เธอผู้หนึ่งที่ยังคงอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ วันแล้ววันเล่า ไม่รู้จะสิ้นสุดการเดินทางเมื่อไร เธอคือ แม่ของเด็กชายตัวน้อย ๆ น่ารักคนนึง ซึ่งขณะนี้มาปรากฏตัวที่หน้าหอผู้ป่ วยเด็กพิเศษด้วย ท่าทางที่อ่อนล้า ในมือซ้ายของเธอหิ้วของพะรุงพะรัง มือขวาอุ้มลูกชาย พร้อมกระเป๋ าเป้ใบใหญ่สะพายอยู่ ข้างหลัง บนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็ก กําลังไหลลงมาข้าง ๆ แก้ม ผมเผ้ารุงรัง เสียงหายใจแรง ท่าทาง เหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวัง พร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน เธอวางของลง พร้อมยกมือไหว้ และพูดว่า “สวัสดีค่ะพี่” แล้วหันไปมองลูกชายที่ขณะนี้ หัวโล้นเหมือนสามเณรน้อย ตากลมโตและมีประกายตาที่สดใส พร้อมพูดแทนลูกชายว่า “สวัสดีครับ ผมมา อีกแล้วครับ” ฉันยิ้ม ต้อนรับด้วยท่าทีที่คุ้นเคยกัน และบอกให้เข้าไปพักผ่อนในห้องพิเศษ ครั้งนี้ลูกชายของเธอมา พักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อรับยาเคมีบําบัดเหมือนเช่นเคย ลูกชายของเธออายุ 1 ขวบ 5 เดือน อยู่ในวัยกําลังน่ารัก กําลังหัดพูด เป็นความฝัน ความหวังและ อนาคตของครอบครัว เพราะเป็นลูกชายคนแรกที่เธอรอคอย หลังจากแต่งงานตอนอายุ 35 ปี เมื่อ 6เดือนก่อน ลูกชายของเธอมีอาการอ่อนเพลีย ซีด ไข้สูง เหนื่อย และมีอาการเข้าขั้นวิกฤตอย่างมาก จนต้องรักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู แต่ส่ิงทไี่ม่คาดคิดกเ ็ กิดขึน้ ทีมแพทย์ได้แจ้งข่าวร้ายว่า ลูกชายของเธอเป็น “มะเร็งเม็ดเลือดขาว” ข่าวร้ายทําให้เธอตกใจแทบสิ้นสติ คิดอะไรไม่ออก และไม่รู้ว่าจะทําอย่างไรต่อไปดี เธอเล่าพร้อมนํ้าตาซึม และเสียงสั่นเครือ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น แม่....มนุษย์จอมพลัง หอผู้ป่วยมหาวชิราวุธ 8B
ประชุมการดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง โรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล วันที่ 31 สิงหาคม 2566 มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช การติดต่อกับหอผู้ป่วย/หน่วยงาน (Contact Information) : หน่วยงาน .........................................................E-mail…………….………..……เบอร์โทร...................... ความฝันของผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ลูกชายที่น่ารักและมีอนาคตไกล เธอยอมเสียสละหน้าที่การงาน ลาออกจากอาชีพครูที่เธอรัก มีคนนับหน้าถือตา และมีฐานะทางสังคม ตั้งใจลาออกเพื่อมาเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด “บัดนี้ความฝันนั้นได้ดับวูบลง” เสมือนเทียนที่กําลังสว่างโชติช่วงแต่ถูกลมพัดดับวูบลงทันที ทุกอย่างมืดมิด ถึงแม้ทีมแพทย์จะให้ข้อมูลว่า โรคนี้สามารถรักษาได้และมีโอกาสหายก็ตาม แต่เธอก็ยังกังวล ฉัน……ซึ่งเป็นพยาบาลดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง และในฐานะแม่คนหนึ่งฟังแล้วเข้าใจ ในความรู้สึกของแม่ที่มีความรักต่อลูกเป็นที่สุด ฉันเอื้อมมือไปจับแขนของเธอที่กําลังกอดลูก พยายาม ถ่ายทอดความรู้สึกของ ความหวัง พลัง กําลังใจและมองสบตาเธอ เพื่อให้เธอรู้สึกว่า เธอยังมีเพื่อน และเธอไม่ได้อยู่คนเดียว ฉันบอกเธอว่า “ไม่ต้องกังวล” ที่นี่มีพี่ๆพยาบาลและทีมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะดูแลลูกชายของเธอ รวมทั้งสามีของเธอก็คอยให้ กําลังใจและช่วยเหลือ พร้อมทั้งร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเธอเป็นอย่างดี แต่เธอ ผู้เป็นแม่ต้องสร้างพลังใจ ให้เข้มแข็ง เพราะ แม่คือที่พึ่งของลูก ดูแลลูก ได้ดีที่สุด ไม่ต้องกลัวปัญหาใด ๆ พี่ ๆ พยาบาล/ทีมแพทย์จะคอยช่วยเหลือ และดูแลกันให้ดีที่สุด จากนั้นฉันได้ให้ไลน์ส่วนตัว เพื่อเธอจะได้ปรึกษาเมื่อมีปัญหาได้ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากได้พูดคุยกัน ได้ระบายความรู้สึก สีหน้าของเธอดูแจ่มใสขึ้น เธอให้ลูกดูดนมแม่และ โอบลูกของเธอไว้ในอ้อมกอด ด้วยความรักทะนุถนอม
ประชุมการดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง โรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล วันที่ 31 สิงหาคม 2566 มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช การติดต่อกับหอผู้ป่วย/หน่วยงาน (Contact Information) : หน่วยงาน .........................................................E-mail…………….………..……เบอร์โทร...................... ปราณี สมานจิต ในขณะรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ลูกชายของเธอได้รับยาเคมีบําบัดเป็นระยะตามแผนการ รักษาของแพทย์ จากช่วงแรกที่สามีคอยมารับมาส่ง และช่วยขนของ ตอนนี้เธอต้องรับภาระนั้นเกือบทั้งหมด เพียงลําพัง บ้านของเธออยู่ไกลจากโรงพยาบาลค่อนข้างมาก เดินทางแต่ละครั้งจึงเหนื่อยมาก ช่วงหลังเธอต้องมาตามลําพังกับลูกเพราะสามีติดราชการมาส่งไม่ได้ แต่เธอกลับไม่ย่อท้อและ พาลูกมารับยาเคมีบําบัดทุกครั้งที่แพทย์นัด การได้รับยาเคมีบําบัด ทําให้ลูกชายของเธอเบื่ออาหาร ผอมลง และไม่มีเรี่ยวแรง แม้แต่จะเดินหรือเล่น เธอกังวลใจมากจึงมักโทรมาปรึกษากับฉันอยู่บ่อยครั้ง ฉันแนะนําให้เธอหาเมนูอาหารที่แปลก ๆ ใหม่ ๆ ให้ลูกทาน เธอปฏิบัติตามคําแนะนําด้วยการ ทําเมนูอาหารที่เด็ก ๆ ชอบ ทําเป็นรูปสัตว์ต่างๆให้ดูน่ารับประทาน ลูกชายเริ่มรับประทานอาหารได้มากขึ้น และมีอาการดีขึ้นตามลําดับ เธอปฏิบัติตามคําแนะนําของทีมแพทย์พยาบาลและให้ความร่วมมือในการรักษา ดูแลและเอาใจใส่ลูกเป็นอย่างดี จนลืมดูแลตัวเองกระทั่งมีรูปร่างผ่ายผอมลง ฉันได้แต่ให้กําลังใจและ ให้คําแนะนํา เพื่อให้เธอผ่านช่วงเวลาอันแสนทุกข์ทรมานใจไปได้..... จนถึงขณะนี้ เวลาแห่งการเดินทาง ได้ผ่านมาครึ่งทางแล้ว เหลือเวลาอีกไม่นาน เธอก็จะประสบความสําเร็จ ฉันอวยพรให้เธอ แม่...มนุษย์จอมพลัง
ประชม ุ ว ิ ชาการ การดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง ประจ าปี2566 คณะแพทยศาสตรว ์ ช ิ รพยาบาล มหาว ิ ทยาลย ั นวม ิ นทราธ ิ ราช วันที่ 31 ส ิ งหาคม พ.ศ. 2566 https://skillfine.com/how-to-use-storytelling-in-business-communication/
ประชม ุ ว ิ ชาการ การดูแลผู้ป่ วยแบบประคับประคอง ประจ าปี2566 คณะแพทยศาสตรว ์ ช ิ รพยาบาล มหาว ิ ทยาลย ั นวม ิ นทราธ ิ ราช วันที่ 31 ส ิ งหาคม พ.ศ. 2566 https://skillfine.com/how-to-use-storytelling-in-business-communication/