รายวชิ าพฤติกรรมผบู้ รโิ ภค
รหัสวชิ า 30202-2002
นางสาวนลินรัตน์ จันทรน์ อ้ ย
แผนกวชิ าการตลาด วิทยาลัยเทคนคิ นครนายก
1. จุดประสงคร์ ายวิชา โครงการสอนประกอบด้วย
2. คำอธิบายรายวชิ า 4. การวเิ คราะห์เน้อื หา
3. สมรรถนะรายวิชา 5. การแบง่ หน่วยการสอน
6. แผนการประเมินผล
โครงการสอนรายวชิ า
วิชา พฤติกรรมผู้บริโภค รหัสวชิ า 30202-2002
ระดับช้ัน ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชั้นสงู สาขาวชิ า/สาขางาน การตลาด
จำนวนคาบ/สัปดาห์ 3 คาบ หน่วยกติ 3
1. จดุ ประสงค์รายวิชา เพอ่ื ให้
1. เข้าใจหลักการพฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภค
2. สามารถวเิ คราะห์พฤตกิ รรมผบู้ ริโภค
3. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีต่อการศึกษาเรียนรู้และประยุกต์ใช้ด้วยความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์
สุจริต มีความคดิ สรา้ งสรรค์ ความขยัน ความอดทน ความประหยดั ความเชอ่ื มั่นในตนเอง และมมี นษุ ยสมั พันธ์
2. คำอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาเกี่ยวกับหลักการพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล การวิเคราะห์
พฤติกรรมผู้บริโภค กระบวนการตัดสินใจซ้ือปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการตัดสินใจซ้ือและพฤติกรรม
ผ้บู รโิ ภคกับกลยทุ ธ์สว่ นประสมการตลาด
3. สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับหลกั การพฤตกิ รรมผูบ้ รโิ ภค
2. วเิ คราะหพ์ ฤตกิ รรมผบู้ ริโภคตามหลักการและสถานการณ์
3. กำหนดกลยทุ ธก์ ารตลาดตามพฤติกรรมผ้บู ริโภค
4. การวเิ คราะห์เนื้อหา เนื้อหา/สาระ
สมรรถนะ ✓ ความรทู้ ั่วไปเกย่ี วกับพฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค
✓ แบบจำลองพฤตกิ รรมผบู้ ริโภคและกระบวนการตดั สินใจซ้อื
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการพฤติกรรม ✓ ปจั จยั ทางวัฒนธรรมทีม่ ีอทิ ธิพลตอ่ พฤตกิ รรมผู้บริโภค
ผู้บริโภค ✓ ปัจจัยทางสงั คมที่มีอทิ ธิพลต่อพฤตกิ รรมผู้บริโภค
2. วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บรโิ ภคตามหลกั การ ✓ ปจั จยั ส่วนบุคคลที่มีอิทธพิ ลต่อพฤตกิ รรมผู้บริโภค
และสถานการณ์ ✓ ปัจจัยทางจติ วทิ ยาท่ีมีอิทธิพลตอ่ พฤติกรรมผบู้ รโิ ภค
✓ ปัจจยั ด้านสิ่งแวดลอ้ มทม่ี อี ิทธพิ ลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค
3. กำหนดกลยุทธ์การตลาดตามพฤติกรรม ✓ พฤตกิ รรมผ้บู รโิ ภคกับกลยุทธ์สว่ นประสมการตลาด
ผู้บริโภค
5. การแบ่งหน่วยสอน
สมรรถนะ หน่วยที่ ชอ่ื หนว่ ย จำนวนคาบ
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการ 1 ความรู้ทัว่ ไปเก่ียวกับพฤติกรรมผู้บรโิ ภค
6
พฤติกรรมผบู้ รโิ ภค แบบจำลองพฤตกิ รรมผูบ้ รโิ ภคและ 6
2 กระบวนการตดั สนิ ใจซ้อื
6
2. วิเคราะห์พฤติกรรมผบู้ ริโภคตาม 3 ปัจจัยทางวัฒนธรรมทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ 6
หลักการและสถานการณ์ พฤติกรรมผ้บู รโิ ภค 9
6
4 ปจั จยั ทางสงั คมที่มอี ิทธิพลตอ่ พฤตกิ รรม
ผ้บู ริโภค 6
5 ปจั จยั สว่ นบุคคลท่ีมีอทิ ธิพลต่อ 3
พฤติกรรมผู้บริโภค 54
6 ปจั จยั ทางจิตวทิ ยาที่มอี ทิ ธพิ ลต่อ
พฤตกิ รรมผบู้ ริโภค
ปจั จัยด้านส่ิงแวดล้อมทมี่ ีอิทธิพลต่อ
7 พฤติกรรมผู้บรโิ ภค
3. กำหนดกลยุทธ์การตลาดตาม 8 พฤติกรรมผบู้ รโิ ภคกบั กลยทุ ธ์ส่วน
พฤติกรรมผบู้ ริโภค ประสมการตลาด
รวม
6. แผนการวดั ประเมนิ ผล รหสั วชิ า 30202-2002
รายวิชา พฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภค
80 คะแนน
6.1 แนวการวัดผล (45)
6.1.1 เนือ้ หาสาระ (35)
- ทฤษฎี 20 คะแนน
- ปฏิบตั ิ 10 คะแนน
6.1.2 พฤติกรรม 2 คะแนน
- เวลาเรยี น 2 คะแนน
- ความรบั ผดิ ชอบ 2 คะแนน
- การแตง่ กาย 2 คะแนน
- การตรงตอ่ เวลา 2 คะแนน
- ความซือ่ สตั ย์ 20 คะแนน
- ความมนี ำ้ ใจ 100 คะแนน
รวมพฤติกรรม
รวม
6.2 แผนการวดั ผล
การวัด หนว่ ยท่ี ทฤษฎี วธิ กี ารวัด และคะแนนเตม็ รวม
ครั้งท่ี - แบบฝกึ หดั ปฏิบัติ พฤตกิ รรม 4
- แบบทดสอบ - - ความมีวินัย 6
11 7
3 คะแนน - ความรบั ผิดชอบ
22 - แบบฝึกหดั - ความสนใจใฝร่ ู้
- แบบทดสอบ - ความเชื่อมน่ั ในตนเอง
33 - 1 คะแนน
3 คะแนน กรณศี กึ ษา - ความมวี นิ ัย
- แบบฝกึ หัด - ความรบั ผดิ ชอบ
- แบบทดสอบ - ความสนใจใฝ่รู้
- ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง
3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
กรณศี กึ ษา - ความมวี ินยั
- ความรับผดิ ชอบ
- ความสนใจใฝร่ ู้
- ความเชอื่ มั่นในตนเอง
3 คะแนน 1 คะแนน
การวัด หน่วยท่ี วิธกี ารวดั และคะแนนเตม็ รวม
ครงั้ ท่ี
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ พฤติกรรม 18
- แบบฝึกหัด 22
- แบบทดสอบ กรณศี ึกษา - ความมีวินยั 21
10
8 คะแนน - ความรับผิดชอบ 11
- แบบฝึกหดั 100
44 - แบบทดสอบ - ความสนใจใฝร่ ู้
9 คะแนน - ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง
- แบบฝกึ หดั
- แบบทดสอบ 7 คะแนน 3 คะแนน
9 คะแนน กรณีศึกษา - ความมีวนิ ยั
- แบบฝกึ หดั
- แบบทดสอบ - ความรับผิดชอบ
55 5 คะแนน - ความสนใจใฝ่รู้
- แบบฝกึ หดั
- แบบทดสอบ - ความเชอื่ มน่ั ในตนเอง
5 คะแนน 8 คะแนน 5 คะแนน
45 คะแนน
กรณีศึกษา - ความมวี ินยั
- ความรับผิดชอบ
66 - ความสนใจใฝ่รู้
- ความเชอ่ื มั่นในตนเอง
7 คะแนน 5 คะแนน
กรณศี ึกษา - ความมีวินัย
- ความรับผิดชอบ
77 - ความสนใจใฝ่รู้
- ความเช่อื มั่นในตนเอง
3 คะแนน 2 คะแนน
กรณศี กึ ษา - ความมีวินัย
- ความรับผิดชอบ
88 - ความสนใจใฝร่ ู้
รวม
- ความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง
4 คะแนน 2 คะแนน
35 คะแนน 20 คะแนน
แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 1 ห น้ า | 1
รหสั วิชา 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผูบ้ รโิ ภค หนว่ ยที่ 1
ชอื่ หน่วย การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมผบู้ รโิ ภค สอนคร้งั ที่ 1 (1-3)
จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
ผูบ้ ริโภคมคี วามสำคัญตอ่ กิจการมาก เพราะหากไม่มีผู้บริโภคกิจการก็ไมท่ ราบวา่ จะผลติ สินค้าไปขายให้ใคร
การซ้ือสินคา้ ของผูบ้ รโิ ภคแตล่ ะคร้งั หากพิจารณาอยา่ งดจี ะทราบวา่ มีขนั้ ตอนและกระบวนการมากมาย นอกจากน้แี ล้ว
พฤติกรรมของผู้บรโิ ภคยงั มีการเปล่ยี นแปลงได้ตลอดเวลา นักการตลาดจึงตอ้ งมีการศึกษา วิเคราะห์เกี่ยวกับพฤตกิ รรม
ผู้บริโภคอย่างละเอียด เพ่ือจะได้ปรบั ปรุง พัฒนา หรือผลิตผลิตภัณฑใ์ หส้ อดคล้องกับความต้องการของพวกเขาให้ได้มาก
ทส่ี ุด หากผ้บู รโิ ภคถกู ใจสนิ คา้ ของกิจการแลว้ น่ันหมายถึงความอย่รู อดของกิจการด้วย
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของผบู้ ริโภค
2 ความหมายของพฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค
ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั
1. อธบิ ายความหมายของผบู้ รโิ ภคได้
2. อธบิ ายความหมายของพฤติกรรมผบู้ รโิ ภคได้
3. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคท์ อี่ าจารย์สามารถสงั เกตเหน็ ไดใ้ น
ด้านความมมี นษุ ยสัมพันธ์ ความมวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่ือมัน่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั
สามคั คี ความกตัญญกู ตเวที
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน
1. อาจารย์นำรปู ภาพโรงงานอตุ สาหกรรม รปู ภาพรา้ นค้า และรปู ภาพคนกำลงั ซ้อื สินคา้ ให้นกั ศึกษาดู แลว้ ให้
นกั ศึกษาชว่ ยกนั ตอบวา่ แต่ละภาพคือรูปอะไร และหากจัดผูซ้ ้อื แล้ว มีผู้ซ้ือประเภทใดบา้ ง
ข้นั สอน
2. อาจารยส์ รปุ ความหมายของผูบ้ ริโภค และความหมายของพฤติกรรมผู้บรโิ ภค พร้อมยกตวั อย่าง
ประกอบ
3. อาจารยใ์ ห้นกั ศกึ ษารว่ มกันอภปิ รายพฤติกรรมการซื้อสินค้าของโรงงานอตุ สาหกรรม พ่อคา้ คนกลาง และ
ผูบ้ ริโภค ว่ามีความแตกต่างกนั อย่างไร
ห น้ า | 2
ข้นั สรุปและการประยุกต์
4. อาจารยส์ มุ่ ใหน้ ักศกึ ษาสรปุ ผลการอภปิ รายหน้าช้ันเรียน
5. อาจารยแ์ ละนกั ศึกษาร่วมกันสรปุ ความหมายของผู้บรโิ ภค และความหมายของพฤติกรรมผู้บรโิ ภค ทีไ่ ด้
เรยี นไปแล้วอีกคร้ังหน่ึง
ส่อื การเรยี นการสอน
1. หนงั สือเรยี นวชิ าพฤติกรรมผู้บรโิ ภค ของสำนกั พิมพ์เอมพันธ์
2. รปู ภาพโรงงานอตุ สาหกรรม รปู ภาพร้านคา้ และรปู ภาพคนกำลงั ซ้ือสินค้า
การวดั และการประเมินผล
วธิ วี ัดผล
1. สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล
2. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่
3. สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
เคร่อื งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารย์และนักศกึ ษา
ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบคุ คลตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่มนกั ศกึ ษาจะตอ้ งเกิดพฤติกรรมทง้ั 5 จึงจะถอื ว่าผา่ น
เกณฑ์
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การประเมิน
ตามสภาพจริง
ห น้ า | 3
แบบประเมนิ ผลการเรยี นร้กู ่อน/หลังเรยี น
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดียว
1. ขอ้ ใดเปน็ เหตผุ ลในการซือ้ สินค้าของผู้บริโภค
ก. เพอื่ เก็งกำไร ข. เพอ่ื นำไปขายต่อ
ค. เพอื่ กนิ หรือใชใ้ นครวั เรือน ง. เพอ่ื เปน็ วัตถุดิบในการผลิต
2. ขอ้ ใดไมเ่ ป็นลักษณะของผูบ้ ริโภค
ก. มีความตอ้ งการสินคา้ ข. มีอำนาจซ้ือ
ค. มีการตดั สนิ ใจว่าจะซอื้ สินค้าทใี่ ด ง. มีการวางแผนการตลาด
3. ข้อใดไม่เป็นพฤติกรรมของผบู้ รโิ ภค
ก. คน้ หาผลติ ภณั ฑ์ ข. มอี ำนาจซ้อื
ค. ใชผ้ ลิตภัณฑ์ ง. มกี ารวางแผนการตลาด
4. สนิ ค้าใดท่ผี ลิตขึ้นเพื่อสนองความต้องการของผ้บู รโิ ภคทใี่ ส่ใจคุณภาพ
ก. ลิปตนั ชามะนาว
ข. ไมโล เครอ่ื งดื่มรสโกโก้
ค. รสดี วตั ถปุ รงุ อาหารรสหมู
ง. แบรนดซ์ ปุ ไกส่ กดั สูตรผสมนำ้ มนั ตับปลา
5. โทรทัศนท์ ี่มรี โี มตคอนโทรล เหมาะสมกับผบู้ รโิ ภคขอ้ ใด
ก. ผ้บู รโิ ภคท่รี กั ความสะดวกสบาย ข. ผบู้ รโิ ภคทมี่ คี วามรูม้ ากขึ้น
ค. ผู้บริโภคที่ตอ่ สกู้ บั ความชรา ง. ผบู้ ริโภคที่รกั อสิ ระ
6. เม่ือมนุษยข์ าดบางสิง่ บางอย่าง จึงต้องการมกี ารเสาะแสวงหาสง่ิ นน้ั มาสนอง สัมพันธก์ บั ขอ้ ใด
ก. ความตอ้ งการ ข. แรงจูงใจ
ค. การเรยี นรู้ ง. บุคลิกภาพ
7. ความหิว ความต้องการพักผ่อน เปน็ ความต้องการประเภทใด
ก. ความต้องการขัน้ ปฐมภมู ิ ข. ความต้องการขนั้ ทตุ ยิ ภมู ิ
ค. ความต้องการทางสงั คม ง. ความตอ้ งการทต่ี ้องตอบสนอง
8. ขอ้ ใดทำให้ความตึงเครียดลดน้อยลงหรอื หมดไปเลย
ก. เมอ่ื ความตอ้ งการได้รับการตอบสนอง
ข. เมอ่ื แรงกระตนุ้ ถูกทำลาย
ห น้ า | 4
ค. เมอื่ ผบู้ รโิ ภคไม่มีเงนิ
ง. เม่ือผูบ้ รโิ ภคไม่นึกถึงความต้องการนั้นอีก
9. เหตกุ ารณข์ อ้ ใดทำให้ Ivan Pavlov ได้แนวคดิ เกยี่ วกับทฤษฎีการเรียนรแู้ บบคลาสสกิ
ก. สุนัขนำ้ ลายไหลเมอ่ื เห็นช้ินเน้อื ข. หนกู ดคานงดั เม่อื ตอ้ งการกินอาหาร
ค. สนุ ขั เหา่ เม่อื ได้ยนิ เสียงเดิน ง. กระตา่ ยไมก่ นิ เนอื้ สัตว์
10. การแสดงให้สงั คมเห็นว่าเขาเป็นคนดี มศี ลี ธรรมและจรรยาบรรณ เกิดจากโครงสรา้ งของบคุ ลกิ ภาพขอ้ ใด
ก. Id ข. Ego
ค. Superego ง. ยงั ไมส่ ามารถวิเคราะหไ์ ด้
11. ข้อใดไม่ใช่ปัจจยั ภายนอกทม่ี ีอิทธิพลตอ่ กระบวนการตัดสินใจซือ้ ของผู้บริโภค
ก. ครอบครัว ข. ทศั นคติ
ค. สภาพเศรษฐกจิ ง. การตดิ ตอ่ ธรุ กจิ
12. ขอ้ ใดเป็นหน้าที่ของครอบครวั
ก. เล้ียงดสู มาชิกในครอบครัว ข. เสริมสรา้ งขวญั และกำลังใจ
ค. วางรปู แบบการดำรงชวี ิตที่เหมาะสม ง. ทกุ ขอ้ เป็นหนา้ ทข่ี องครอบครัว
13. เศรษฐกิจระยะใดท่ีจัดว่าเปน็ โอกาสของผู้ผลติ
ก. ระยะรุ่งเรอื ง ข. ระยะเส่อื ม
ค. ระยะตกต่ำ ง. ระยะฟืน้ ตวั
14. เหตใุ ดค่ายเพลงจึงนำเพลงใหมไ่ ปให้สถานีวทิ ยุเปิดบอ่ ยๆ
ก. เพื่อสรา้ งความคุ้นเคย
ข. เพ่อื ให้ราคาเทปแพงขึน้
ค. เพอ่ื ใหเ้ ป็นไปตามกระบวนการการขาย
ง. เพอื่ เป็นการบอกผบู้ ริโภคล่วงหน้าวา่ จะมเี พลงน้ีจำหนา่ ย
15. การส่ือสารตราสินค้าเพอื่ ต้องการใหผ้ ูบ้ รโิ ภคได้รบั ความรู้ ควรใชว้ ธิ กี ารขอ้ ใด
ก. การโฆษณา ข. การจัดสัมมนา
ค. การจัดกจิ กรรมพเิ ศษ ง. การจัดนิทรรศการ
16. นักการตลาดมักต้องการผบู้ รโิ ภคข้อใด
ก. ผูบ้ ริโภคท่มี ุ่งสภาวะทีเ่ ปน็ จรงิ ข. ผู้บรโิ ภคท่ีมุ่งสภาวะทีป่ รารถนา
ค. ผ้บู รโิ ภคทขี่ าดอำนาจซือ้ ง. ผูบ้ ริโภคท่ไี มใ่ ช่กลมุ่ เปา้ หมาย
17. เมือ่ บคุ คลไดร้ บั ขา่ วสาร ข่าวสารเหล่านน้ั จะเขา้ สอู่ งคป์ ระกอบใดเป็นอนั ดับแรก
ก. ประสาทเกยี่ วกบั ความทรงจำ ข. ความทรงจำระยะส้นั
ค. ความทรงจำถาวร ง. ขึ้นอยกู่ ับจงั หวะของการรบั
18. เมือ่ มกี ารแสวงหาภายใน ขอ้ มลู จะถกู เรยี กออกมาจากองค์ประกอบใด
ก. ประสาทเก่ยี วกับความทรงจำ ข. ความทรงจำระยะส้ัน
ค. ความทรงจำถาวร ง. ความร้สู ึกนกึ คิด
ห น้ า | 5
19. ข้อมลู ภายนอกหาไดโ้ ดยวธิ ใี ด
ก. ถามเพอ่ื น ข. ดูโฆษณา
ค. ขอพบพนักงานขาย ง. ถกู ทกุ ขอ้
20. การสง่ เสริมการขาย เป็นวิธีการเรง่ รดั การตัดสนิ ใจซอ้ื ข้อใด
ก. สรา้ งความแตกต่าง ข. ลดความรูส้ กึ เส่ยี งของผู้บรโิ ภค
ค. สร้างสง่ิ ลอ่ ใจ ง. สรา้ งภาพพจน์
21. ข้อใดมีส่วนท่ีทำให้เกดิ ส่งิ จงู ใจ
ก. ความตึงเครยี ด ข. ความสนุกสนาน
ค. ความสมหวงั ง. ความเหน่ือยล้า
22. เรือ่ งราวทบ่ี คุ คลไดเ้ รยี นร้วู ่าจะสามารถตอบสนองแรงกระต้นุ ได้ หมายถึงข้อใด
ก. อดตี ข. ความทรงจำ
ค. ภาพติดตา ง. สงิ่ ทมี่ อี ยู่ในใจมาก่อน
23. การซือ้ สินค้าตามแฟชั่น เป็นมลู เหตจุ งู ใจซอ้ื ขอ้ ใด
ก. ความตอ้ งการความสำเร็จในชวี ติ ข. ความภาคภูมใิ จ
ค. ต้องการการยอมรบั จากสงั คม ง. ตอ้ งการความปลอดภัยและความม่ันคงในชวี ิต
24. การตดั สินใจซ้ือสินค้าท่ีมีสีสันสวยงาน รปู แบบทันสมัย เปน็ การซื้อเพราะมูลเหตุจูงใจซ้อื ขอ้ ใด
ก. ซ้ือเพราะตวั สนิ ค้า ข. ซ้ือด้วยเหตผุ ล
ค. ซ้ือเพ่อื อุดหนุน ง. ไมม่ ขี อ้ ใดถกู
25. ขอ้ ใดสามารถกระตนุ้ มูลเหตุจงู ใจไดด้ ี
ก. โฆษณาสินคา้ มากๆ
ข. ลดราคาสนิ ค้าประจำปี
ค. ใหผ้ ทู้ เ่ี คยใชส้ นิ คา้ มายืนยนั ผลการใช้
ง. แรงกระตุน้ สอดคลอ้ งกบั ความต้องการของผ้บู รโิ ภค
26. ขอ้ ใดจดั ได้ว่าเป็นเรือ่ งของวฒั นธรรม
ก. เกดิ จากการเรียนรู้ ข. เป็นแนวทางในการดำรงชวี ติ
ค. ได้รบั การถา่ ยทอดจากยคุ หนึง่ ไปยงั อกี ยุคหนึง่ ง. เป็นเร่อื งของวฒั นธรรมทกุ ขอ้
27. ขอ้ ใดกล่าวถกู เกี่ยวกบั วัฒนธรรม
ก. เปลีย่ นแปลงเร็วมาก ข. ไมม่ ใี นกลุ่มของสตั ว์
ค. มใี นบางกลมุ่ ของคนเท่านนั้ ง. ครอบครวั เดยี วกันอาจยดึ ถือวัฒนธรรมต่างกันก็ได้
28. สง่ิ ที่มนุษย์ทำลว้ นแล้วแต่ตอ้ งการใหเ้ กิดส่ิงดๆี ในสังคม สัมพันธก์ ับข้อใด
ก. วสิ ยั ทัศนอ์ ันสนุ ทรีย์ ข. ความสมั พนั ธข์ องสมาชกิ ในสงั คม
ค. อุปกรณ์เครอ่ื งใช้ ง. เร่อื งราวและตำนาน
ห น้ า | 6
29. คนไทยเชื่อเร่ืองพรหมลขิ ิต โชควาสนา ถอื เรอื งหน้าตาเป็นใหญ่ สมั พันธ์กบั ข้อใด
ก. ภาษา ข. แกน่ สารของสงั คม
ค. ธรรมเนียมปฏบิ ัติ ง. หลักคิด
30. กลุ่มคนทม่ี าจากครอบครวั เก่าแกม่ ชี อ่ื เสียง มีทรัพย์สินมาก ชอบสินค้าหรหู ราเป็นลกั ษณะของสังคมชั้นใด
ก. ชน้ั สงู สว่ นบน ข. ชั้นสงู ส่วนลา่ ง
ค. ช้นั กลางสว่ นบน ง. ชน้ั กลางสว่ นล่าง
31. ข้อใดหมายถงึ เกณฑท์ ใ่ี ช้ในการประเมินผลของผ้บู รโิ ภค
ก. มาตรการในใจท่ีใชก้ ารตัดสินใจซือ้ ข. ขอ้ ควรพจิ ารณาในการตัดสนิ ใจซื้อ
ค. อปุ สรรคของการตดั สนิ ใจซอื้ ง. มาตรฐานของการตดั สนิ ใจซ้ือ
32. ขอ้ ใดจดั เปน็ เกณฑท์ ส่ี ามารถวัดได้ชดั แจ้ง
ก. ประสิทธิภาพของการทำงาน ข. รปู ร่างของสินคา้
ค. สีสันของสินค้า ง. ถกู ทุกข้อ
33. การซอ้ื สินคา้ ข้อใดท่ผี ู้บรโิ ภคจัดวา่ มคี วรเสี่ยง
ก. การซือ้ สนิ คา้ ตามเพอ่ื นท่เี คยใชแ้ ล้ว ข. การซ้ือสนิ คา้ เพราะตนเองเคยใช้แล้ว
ค. การซื้อสนิ ค้าทคี่ รอบครวั เคยใช้ ง. การซ้อื สนิ ค้าทย่ี งั ไมเ่ คยร้จู กั
34. ข้อใดเป็นความเชื่อของผบู้ ริโภค
ก. สินค้าราคาสงู คุณภาพจะต่ำ ข. สินคา้ ราคาตำ่ คุณภาพจะสงู
ค. สินค้าราคาสงู คณุ ภาพยอ่ มสูงตามไปดว้ ย ง. สนิ ค้าราคาปานกลางคณุ ภาพจะตำ่
35. ข้อใดเป็นวธิ ีการเปลยี่ นเกณฑ์ในการประเมนิ ของผูบ้ รโิ ภค
ก. การประชาสมั พันธ์ ข. การโฆษณา
ค. การใช้พนักงานขาย ง. ถกู ทกุ ข้อ
36. การตัดสนิ ใจเก่ยี วกับผลิตภัณฑ์ อาจถกู จำกัดด้วยสิง่ ใด
ก. ตน้ ทุน ข. วิทยาการผลิต
ค. การพฒั นาดา้ นการศกึ ษา ง. ที่ต้งั ของโรงงาน
37. หากการศึกษาพัฒนาไปอย่างลา่ ช้า ธุรกจิ ควรเลือกสอื่ สารดว้ ยสื่อใด
ก. อนิ เทอร์เนต็ ข. นติ ยสาร
ค. แผน่ พับ ง. วทิ ยุ
38. ธรุ กิจจะพอใจหากผลติ ภณั ฑใ์ หม่เข้าส่ตู ลาดอยา่ งรวดเรว็ เพราะสาเหตุขอ้ ใด
ก. ลดตน้ ทุนในการผลิตได้ ข. ลดตน้ ทนุ ในการพฒั นาตลาดได้
ค. ลดจำนวนพนกั งานขายได้ ง. ลดจำนวนคนกลางได้
39. ก่อนการกำหนดกลยทุ ธ์ทางการตลาดสำหรับผลติ ภัณฑใ์ หม่ นักการตลาดควรกระทำข้อใดกอ่ น
ก. ตรวจสอบทัศนคตขิ องผู้บรโิ ภคทมี่ ตี ่อผลิตภัณฑ์
ห น้ า | 7
ข. ตรวจสอบยอดขายของผลิตภัณฑเ์ ดมิ
ค. ตรวจสอบคุณภาพของผลติ ภณั ฑใ์ หมน่ ัน้
ง. ตรวจสอบความสามารถในการขายของพนักงานขาย
40. ข้อใดเป็นการกระทำเพื่อสร้างสภาพแวดลอ้ มในการซอ้ื
ก. มพี นกั งานทเี่ ปน็ มิตรและสุภาพ
ข. การตกแต่งร้านค้าให้สวยงาม
ค. มสี ินคา้ พร้อมทจ่ี ะสนองความตอ้ งการ
ง. ถูกทกุ ข้อ
เฉลยแบบประเมินผลการเรียนรกู้ อ่ น/หลังเรียน
1. ค. 11. ข. 21. ก. 31. ก.
2. ง. 12. ง. 22. ง. 32. ง.
3. ข. 13. ก. 23. ค. 33. ง.
4. ง. 14. ก. 24. ก. 34. ค.
5. ก. 15. ข. 25. ก. 35. ง.
6. ก. 16. ข. 26. ง. 36. ข.
7. ก. 17. ก. 27. ข. 37. ง.
8. ก. 18. ค. 28. ก. 38. ข.
9. ก. 19. ง. 29. ง. 39. ก.
10. ค. 20. ค. 30. ก. 40. ง.
แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบรู ณาการที่ 2 หนว่ ยท่ี 1
สอนครง้ั ท่ี 2 (4-6)
รหสั วิชา 3202-2002 วิชา พฤติกรรมผ้บู รโิ ภค
ช่ือหน่วย การวเิ คราะหพ์ ฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค จำนวน 3 ชม.
แนวคิด
ห น้ า | 8
ผบู้ รโิ ภคมคี วามสำคัญต่อกิจการมาก เพราะหากไม่มีผบู้ รโิ ภคกิจการก็ไม่ทราบวา่ จะผลิตสินค้าไปขายให้ใคร
การซ้ือสินคา้ ของผบู้ รโิ ภคแตล่ ะคร้ัง หากพิจารณาอย่างดจี ะทราบว่ามีขัน้ ตอนและกระบวนการมากมาย นอกจากน้แี ล้ว
พฤติกรรมของผู้บริโภคยังมีการเปล่ียนแปลงได้ตลอดเวลา นักการตลาดจึงต้องมีการศึกษา วิเคราะห์เก่ียวกับพฤติกรรม
ผู้บริโภคอย่างละเอียด เพื่อจะได้ปรับปรุง พัฒนา หรือผลิตผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของพวกเขาให้ได้มาก
ที่สดุ หากผ้บู ริโภคถกู ใจสนิ คา้ ของกิจการแล้ว นน่ั หมายถงึ ความอยรู่ อดของกจิ การด้วย
สาระการเรยี นรู้
3. กระบวนการพฤติกรรมของผู้บริโภค
4. การวิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมของผู้บรโิ ภค
ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวัง
3. อธิบายกระบวนการพฤตกิ รรมของผู้บริโภคได้
4. วเิ คราะห์พฤตกิ รรมผู้บริโภคได้
5. มีการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคท์ ี่อาจารยส์ ามารถสังเกตเหน็ ได้ใน
ด้านความมีมนุษยสมั พันธ์ ความมีวนิ ัย ความรับผดิ ชอบ ความเชอื่ มน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรัก
สามัคคี ความกตญั ญูกตเวที
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. อาจารยย์ กตวั อย่างกรณีศกึ ษาเกยี่ วกับพฤติกรรมการซื้อสนิ ค้าของผู้บรโิ ภคให้นกั ศึกษาฟงั แล้วให้ นักศึกษา
ชว่ ยกันวเิ คราะห์พฤติกรรมของผบู้ รโิ ภคในกรณศี กึ ษาน้ัน
ข้นั สอน
2. อาจารย์แบง่ นกั ศึกษาออกเป็น 4-5 กลุ่ม ให้แตล่ ะกล่มุ แสดงบทบาทสมมติ โดยจำลองเหตกุ ารณ์แสดง
พฤตกิ รรมการซอื้ สนิ คา้ แลว้ ใหก้ ลุ่มทนี่ งั่ ดอู ยู่วเิ คราะหพ์ ฤตกิ รรมของผบู้ รโิ ภคท่ซี อ้ื สินคา้ วา่ มีลักษณะเปน็
อยา่ งไร
3. อาจารย์สรปุ การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมของผู้บรโิ ภคพรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ
4. นกั ศึกษารว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเพิ่มเตมิ เกยี่ วกบั การวิเคราะห์พฤตกิ รรมของผบู้ รโิ ภคเพม่ิ เติมจากท่ี
เรียนในบทเรียน
5. อาจารยเ์ ปิดโอกาสให้นักศึกษาซกั ถามข้อสงสัย
6. นักศกึ ษาทำแบบประเมินผลหลงั การเรยี นรหู้ นว่ ยการเรียนที่ 1
7. อาจารยใ์ ห้นักศึกษาทำแบบประเมนิ ตามสภาพจริง
ห น้ า | 9
ขน้ั สรปุ และการประยุกต์
8. อาจารย์และนักศึกษาร่วมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับกระบวนการพฤติกรรมของผู้บริโภค และการวิเคราะห์
พฤตกิ รรมผู้บริโภค ทไี่ ดเ้ รียนไปแลว้ อีกครั้งหนึง่
9. อาจารย์สุม่ ให้นกั ศึกษาตอบคำถามเป็นรายบุคคล
10. นำผลงานทกุ ชิน้ สง่ อาจารย์
สือ่ การเรียนการสอน
1. หนังสือเรยี นวชิ าพฤตกิ รรมผู้บริโภค ของสำนกั พมิ พ์เอมพันธ์
2. กรณีศึกษาเกีย่ วกับพฤตกิ รรมการซ้ือสินคา้ ของผู้บรโิ ภค
การวดั และการประเมนิ ผล
วิธวี ัดผล
1. ตรวจแบบประเมนิ ตามสภาพจริง
2. ตรวจแบบประเมินผลหลงั การเรยี นรู้หน่วยการเรียนที่ 1
3. สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล
4. สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ
5. สงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
เคร่อื งมือวดั ผล
1. แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ
2. แบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรูห้ นว่ ยการเรียนที่ 1
3. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
4. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (ภาคผนวก ค)
5. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษา
รว่ มกันประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. เกบ็ ผลงานจากแบบประเมนิ ตามสภาพจริงไว้เปน็ หลกั ฐาน เพอื่ ใหเ้ ปน็ คะแนนเกบ็ สว่ นหน่งึ ในปลายภาค
2. นักศกึ ษาตอ้ งทำแบบประเมนิ ผลหลงั การเรียนรถู้ กู ต้องอย่างน้อยครงึ่ หน่งึ จึงจะถือวา่ ผ่านเกณฑ์
3. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คลต้องไม่มีช่องปรบั ปรงุ
4. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ นักศกึ ษาตอ้ งเกดิ พฤติกรรมทัง้ 5 จงึ จะถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
5. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยกู่ ับการประเมิน
ตามสภาพจรงิ
ห น้ า | 10
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 3 หน่วยที่ 2
สอนคร้งั ท่ี 3 (7-9)
รหัสวิชา 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค
ชอื่ หน่วย ปจั จัยภายในท่มี อี ิทธิพลตอ่ การตัดสนิ ใจซื้อของผบู้ ริโภค จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
การตัดสนิ ใจซื้อของผู้บริโภคแต่ละคร้ังนั้นจะตอ้ งมีปจั จยั ต่างๆ เข้ามาเกย่ี วขอ้ งเสียก่อน พฤติกรรมในการซ้ือ
จึงเกดิ ขึ้นได้ ปัจจัยที่มีอทิ ธิพลต่อการตดั สินใจซื้อของผ้บู รโิ ภคนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะปจั จยั ภายในนั้นเป็นสิ่งที่ศึกษา
ได้ยากมากเพราะเป็นกระบวนการท่ีเกิดขึ้นภายในไม่สามารถมองเห็นได้ นักการตลาดจึงต้องมีการศึกษาทฤษฎีของ
ปัจจัยภายในท่มี ีอิทธิพลต่อการตัดสนิ ใจซ้อื ของผู้บริโภคเสยี ก่อน แลว้ จึงนำทฤษฎีนั้นมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกบั งาน
ดา้ นการตลาด เพ่อื กระตุ้นให้ผู้บรโิ ภคเกิดพฤติกรรมการซอื้ ใหไ้ ด้
สาระการเรยี นรู้
1. ความต้องการ
2. แรงจงู ใจ
3. การรบั รู้
ผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวัง
1. วิเคราะหค์ วามต้องการของผูบ้ รโิ ภคได้
2. วิเคราะห์แรงจงู ใจของผู้บริโภคได้
3. อธิบายรายละเอยี ดของการรับรไู้ ด้
4. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงคท์ อ่ี าจารย์สามารถสังเกตเห็นไดใ้ น
ดา้ นความมมี นษุ ยสัมพันธ์ ความมีวินัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มั่นในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรัก
สามัคคี ความกตญั ญูกตเวที
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ข้ันนำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. อาจารย์นำเข้าสบู่ ทเรยี นโดยถามนักศกึ ษาว่าในรอบสัปดาหท์ ผี่ า่ นมา นักศึกษาได้ซ้ือสินคา้ อะไรบ้าง หรือ
ได้ไปใช้บรกิ ารอะไรมาบา้ ง พรอ้ มทง้ั บอกเหตุผลดว้ ยว่าซ้ือสินคา้ หรือบริการนัน้ เพราะอะไร
ขัน้ สอน
2. อาจารยส์ รปุ เนอื้ หาเก่ยี วกบั ความต้องการ แรงจูงใจ และการรับรู้ พรอ้ มยกตัวอย่างประกอบ
3. นักศึกษาจบั คู่กัน ผลัดกันใหข้ ้อมลู ว่าขณะน้มี ีความตอ้ งการอะไร และได้หาวธิ สี นองความตอ้ งการไว้
อย่างไร
ห น้ า | 11
4. อาจารย์สุ่มให้นกั ศกึ ษานำขอ้ มลู มานำเสนอหนา้ ช้นั เรยี น
5. อาจารย์เปิดโอกาสใหน้ กั ศึกษาซกั ถามขอ้ สงสัย
ขัน้ สรุปและการประยุกต์
6. อาจารย์และนักศกึ ษารว่ มกนั สรปุ เนอื้ หาเรอ่ื งความต้องการ แรงจงู ใจ และการรับรทู้ ไ่ี ดเ้ รยี นไปแล้วอีก
ครั้งหนง่ึ
7. อาจารย์สมุ่ นกั ศกึ ษาตอบคำถามเป็นรายบุคคล
ส่อื การเรียนการสอน
หนงั สือเรยี นวชิ าพฤติกรรมผู้บรโิ ภค ของสำนกั พมิ พ์เอมพันธ์
การวัดและการประเมนิ ผล
วธิ วี ัดผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล
2. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
3. สังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
เครือ่ งมอื วัดผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยอาจารย์และนักศกึ ษา
รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คลต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่ นักศกึ ษาตอ้ งเกิดพฤติกรรมทั้ง 5 จงึ จะถือว่าผา่ นเกณฑ์
3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยูก่ บั การประเมิน
ตามสภาพจริง
ห น้ า | 12
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการที่ 4 หน่วยที่ 2
สอนคร้งั ท่ี 4 (10-12)
รหัสวชิ า 3202-2002 วิชา พฤติกรรมผ้บู รโิ ภค
ช่อื หน่วย ปจั จัยภายในทมี่ อี ิทธิพลต่อการตดั สินใจซ้ือของผู้บริโภค จำนวน 3 ชม.
แนวคิด
การตดั สนิ ใจซ้ือของผู้บริโภคแตล่ ะครั้งน้ันจะตอ้ งมีปจั จัยต่างๆ เขา้ มาเก่ยี วข้องเสียก่อน พฤติกรรมในการซื้อ
จงึ เกดิ ข้นึ ได้ ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการตดั สินใจซื้อของผูบ้ รโิ ภคน้นั มีมากมาย โดยเฉพาะปัจจัยภายในนั้นเป็นส่ิงที่ศึกษา
ได้ยากมากเพราะเป็นกระบวนการท่ีเกิดข้ึนภายในไม่สามารถมองเห็นได้ นักการตลาดจึงต้องมีการศึกษาทฤษฎีของ
ปัจจัยภายในทมี่ อี ิทธิพลต่อการตัดสนิ ใจซ้ือของผู้บริโภคเสียกอ่ น แล้วจึงนำทฤษฎนี ัน้ มาประยกุ ต์ใช้ใหส้ อดคล้องกับงาน
ดา้ นการตลาด เพอ่ื กระตนุ้ ให้ผูบ้ ริโภคเกิดพฤติกรรมการซ้ือใหไ้ ด้
สาระการเรยี นรู้
4. การเรยี นรู้
5. บุคลิกภาพ
6. ทัศนคติ
ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง
4. อธิบายรายละเอยี ดของการเรียนรไู้ ด้
5. วิเคราะห์บุคลิกภาพของผบู้ รโิ ภคได้
6. วเิ คราะห์ทัศนคติของผ้บู รโิ ภคท่มี ตี ่อสนิ คา้ ได้
7. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ทีอ่ าจารยส์ ามารถสงั เกเหน็ ได้ใน
ดา้ นความมีมนุษยสมั พันธ์ ความมีวินัย ความรบั ผิดชอบ ความเชือ่ มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรกั
สามัคคี ความกตญั ญกู ตเวที
ห น้ า | 13
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ขั้นนำเข้าส่บู ทเรยี น
1. อาจารย์นำเข้าสบู่ ทเรียนโดยนำรปู ภาพมาใหน้ กั ศึกษาดูแล้วให้นักศึกษาช่วยกนั บอกสิ่งที่มองเหน็ ในภาพ
2. อาจารยใ์ ห้นักศกึ ษาบอกความรู้สึกทมี่ ตี อ่ ภาพนัน้
ข้นั สอน
3. อาจารย์สรปุ เนื้อหาเกีย่ วกบั การเรยี นรู้ บคุ ลกิ ภาพ และทัศนคติของผ้บู ริโภคพร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ
4. นักศกึ ษารว่ มกันอภปิ รายถงึ ความสำคัญของการเรียนรู้และทัศนคติของผู้บรโิ ภคที่มตี อ่ การตัดสินใจซ้ือ
5. อาจารยส์ มุ่ ให้นกั ศึกษานำข้อมลู มานำเสนอหนา้ ช้ันเรียน
6. อาจารยเ์ ปิดโอกาสใหน้ กั ศกึ ษาซกั ถามข้อสงสยั
7. นกั ศกึ ษาทำแบบประเมินผลการเรยี นรู้
ขน้ั สรปุ และการประยุกต์
8. อาจารยแ์ ละนกั ศึกษารว่ มกนั สรปุ เน้ือหาเร่อื งการเรียนรู้ บคุ ลิกภาพ และทศั นคติของผู้บรโิ ภคท่ไี ดเ้ รียน
ไปแล้วอีกครัง้ หนง่ึ
9. อาจารย์สุ่มนักศกึ ษาตอบคำถามเป็นรายบคุ คล
สอ่ื การเรียนการสอน
1. หนังสือเรียนวชิ าพฤตกิ รรมผู้บริโภค ของสำนักพมิ พเ์ อมพันธ์
2. รปู ภาพ
การวัดและการประเมินผล
วธิ วี ัดผล
1. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 2
2. สังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
4. สังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
เครอื่ งมอื วัดผล
1. แบบประเมินผลการเรียนรหู้ น่วยท่ี 2
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนักศกึ ษา
ร่วมกนั ประเมิน (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. นักศกึ ษาต้องทำแบบประเมนิ ผลการเรยี นรถู้ กู ต้องอย่างนอ้ ย ครึง่ หนง่ึ จงึ จะถือวา่ ผ่านเกณฑ์
ห น้ า | 14
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคลต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรงุ
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ นกั ศึกษาตอ้ งเกิดพฤติกรรมทัง้ 5 จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์
4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อย่กู บั การประเมิน
ตามสภาพจรงิ
ห น้ า | 15
แผนการจัดการเรยี นรู้แบบบูรณาการท่ี 5 หน่วยที่ 3
สอนครงั้ ที่ 5 (13-15)
รหัสวชิ า 3202-2002 วิชา พฤติกรรมผบู้ รโิ ภค
ชื่อหน่วย ปัจจัยภายนอกทีม่ ีอทิ ธพิ ลต่อการตัดสินใจซื้อของ จำนวน 3 ชม.
ผู้บริโภค
แนวคิด
นอกจากปัจจัยภายในจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือของผู้บริโภคแล้ว ปัจจัยภายนอก อันได้แก่ ครอบครัว
สภาพเศรษฐกิจ การติดต่อธุรกิจ กลมุ่ อ้างองิ วัฒนธรรม และช้ันสังคม ก็ยังจะมีอิทธพิ ลต่อการตดั สินใจซื้อแต่ละครั้งของ
ผบู้ ริโภคด้วย ปัจจัยภายนอกเหลา่ น้ีจะเข้าไปเกีย่ วข้องกบั ผู้บริโภคและส่งผลมาถึงการแสดงพฤตกิ รรมเก่ียวกบั การซื้อ นั่น
หมายถึงว่านักการตลาดจะต้องศึกษาส่ิงเหล่านี้อย่างละเอียดเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดให้
เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
สาระการเรยี นรู้
1. ครอบครัว
2. สภาพเศรษฐกจิ
ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง
1 อธบิ ายบทบาทของครอบครวั ได้
2. อธบิ ายรายละเอยี ดเก่ียวกับสภาพเศรษฐกิจได้
3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ่ีอาจารยส์ ามารถสังเกตเห็นได้ ใน
ด้านความมีมนุษยสัมพันธ์ ความมีวินยั ความรบั ผิดชอบความเช่ือมน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรัก
สามัคคี ความกตญั ญกู ตเวที
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ข้นั นำเข้าสู่บทเรยี น
1. อาจารยน์ ำเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยให้นักศึกษาบอกเหตุผลทีเ่ ลอื กเขา้ เรียนทีโ่ รงเรียนแหง่ น้ี
ขัน้ สอน
2. อาจารยส์ รปุ เนือ้ หาเก่ยี วกบั ครอบครัวและสภาพเศรษฐกจิ พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
3. นักศึกษาจับคแู่ ลกเปลย่ี นประสบการณ์เก่ยี วกบั อทิ ธิพลของครอบครัวและเศรษฐกจิ ที่มตี อ่ การซอื้ สินคา้
4. อาจารยเ์ ปดิ โอกาสใหน้ กั ศึกษาซักถามข้อสงสัย
ห น้ า | 16
ขั้นสรปุ และการประยุกต์
5. อาจารย์สรุปเน้ือหาเกีย่ วกบั ครอบครวั และสภาพเศรษฐกจิ ท่ีไดเ้ รยี นไปแล้วอกี ครั้งหนึง่
6. อาจารย์สุม่ นักศึกษาตอบคำถามเป็นรายบคุ คล
สื่อการเรียนการสอน
หนงั สือเรียนวิชาพฤตกิ รรมผูบ้ ริโภค ของสำนกั พมิ พ์เอมพันธ์
การวดั และการประเมนิ ผล
วธิ วี ดั ผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคล
2. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. สังเกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนักศกึ ษา
รว่ มกันประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบคุ คลตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ นักศึกษาตอ้ งเกดิ พฤตกิ รรมท้งั 5 จงึ จะถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กับการประเมิน
ตามสภาพจรงิ
ห น้ า | 17
แผนการจัดการเรยี นร้แู บบบรู ณาการที่ 6 หน่วยที่ 3
สอนครั้งที่ 6 (16-18)
รหัสวชิ า 3202-2002 วิชา พฤติกรรมผบู้ ริโภค
ชอ่ื หนว่ ย ปัจจยั ภายนอกทีม่ ีอิทธพิ ลตอ่ การตดั สินใจซ้ือของ จำนวน 3 ชม.
ผ้บู รโิ ภค
แนวคิด
นอกจากปัจจัยภายในจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแล้ว ปัจจัยภายนอก อันได้แก่ ครอบครัว
สภาพเศรษฐกิจ การตดิ ต่อธุรกิจ กลุ่มอ้างองิ วัฒนธรรม และชั้นสังคม ก็ยังจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งของ
ผบู้ ริโภคด้วย ปัจจัยภายนอกเหล่านี้จะเข้าไปเกย่ี วขอ้ งกับผู้บริโภคและส่งผลมาถึงการแสดงพฤตกิ รรมเก่ียวกับการซื้อ นั่น
หมายถึงว่านักการตลาดจะต้องศึกษาส่ิงเหล่านี้อย่างละเอียดเพ่ือใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดให้
เหมาะสมกับกลมุ่ เปา้ หมาย
สาระการเรยี นรู้
3. การติดต่อธุรกจิ
4. กล่มุ อ้างองิ
5. วฒั นธรรม
6. ช้ันสังคม
ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั
3. บอกรายละเอยี ดของการติดต่อธุรกิจได้
4. อธิบายรายละเอยี ดของกล่มุ อา้ งอิงได้
5. บอกรายละเอยี ดเกี่ยวกับวัฒนธรรมได้
6. บอกรายละเอียดเก่ียวกับชั้นสังคมได้
ห น้ า | 18
7. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคท์ ีอ่ าจารย์สามารถสงั เกตเห็นไดใ้ น
ดา้ นความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความมวี ินยั ความรับผดิ ชอบความเช่ือม่ันในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั
สามคั คี ความกตญั ญูกตเวที
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ขัน้ นำเข้าสู่บทเรยี น
1. อาจารย์ให้นักศึกษาบอกช่ือย่หี ้อของสนิ ค้า เชน่ ผงซกั ฟอก สบู่ เครอ่ื งสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า แชมพู
ชนดิ ละประมาณ 5 ยี่ห้อ พรอ้ มทงั้ ถามนกั ศกึ ษาว่ารู้จักตราย่หี อ้ ของสนิ คา้ เหลา่ นีไ้ ดอ้ ยา่ งไร
ห น้ า | 19
ขนั้ สอน
2. อาจารยส์ รุปเน้ือหาเกีย่ วกับการติดต่อสอ่ื สาร กลมุ่ อ้างอิง วัฒนธรรม และชั้นสังคม พร้อมยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
3. นกั ศกึ ษาร่วมกันวิเคราะหถ์ งึ การตัดสนิ ใจซ้อื สินคา้ ท่ผี ่านมาว่าส่วนใหญ่ได้รบั อิทธิพลในการตัดสินใจซ้ือ
จากปจั จยั ภายนอกข้อใด
4. นักศึกษาซักถามข้อสงสัยจากอาจารย์
5. นักศกึ ษาทำแบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้หนว่ ยการเรียนที่ 3
6. นักศึกษาปฏิบตั ติ ามแบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ
ข้นั สรุปและการประยุกต์ ช้ัน
7. อาจารยแ์ ละนักศึกษาร่วมกนั สรุปเน้อื หาเกย่ี วกับการติดต่อสือ่ สาร กลุ่มอา้ งองิ วัฒนธรรม และ
สังคมทไ่ี ด้เรียนไปแลว้ อีกครงั้ หนึ่ง
8. อาจารย์ส่มุ ถามนกั ศึกษาเปน็ รายบคุ คล
9. นำผลงานทกุ ชิน้ สง่ อาจารย์
ส่อื การเรยี นการสอน
หนงั สือเรยี นวชิ าพฤตกิ รรมผู้บริโภค ของสำนักพิมพ์เอมพันธ์
การวัดและการประเมินผล
วธิ วี ัดผล
1. ตรวจแบบประเมนิ ตามสภาพจริง
2. ตรวจแบบประเมินผลหลงั การเรียนรหู้ นว่ ยการเรยี นท่ี 3
3. สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบคุ คล
4. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
5. สงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
เครอ่ื งมอื วดั ผล
1. แบบประเมินตามสภาพจริง
2. แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนร้หู น่วยการเรยี นท่ี 3
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
4. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
5. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนักศกึ ษา
ร่วมกันประเมิน (ภาคผนวก จ)
ห น้ า | 20
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. เก็บผลงานจากแบบประเมนิ ตามสภาพจริงไวเ้ ป็นหลกั ฐานเพื่อเป็นคะแนนเกบ็ ส่วนหนึ่งในปลายภาค
2. นักศกึ ษาตอ้ งทำแบบประเมินผลหลงั การเรียนรู้ถูกตอ้ งอย่างนอ้ ยครง่ึ หนง่ึ จงึ จะถือวา่ ผ่านเกณฑ์
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบุคคลต้องไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
4. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่มนักศกึ ษาต้องเกดิ พฤติกรรมท้ัง 5 จงึ จะถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึน้ อยูก่ บั การประเมนิ
ตามสภาพจรงิ
แผนการจัดการเรยี นรู้แบบบูรณาการท่ี 7 หนว่ ยที่ 4
รหัสวชิ า 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผบู้ ริโภค สอนครั้งท่ี 7 (19-21)
ชื่อหนว่ ย กระบวนการตัดสินใจซอ้ื ของผู้บรโิ ภค จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
หลังจากทผี่ ู้บริโภคไดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากภายในและภายนอกตา่ งๆ แลว้ กจ็ ะมาถึงกระบวนการในการตัดสินใจ
ซอื้ ก่อนท่ีผูบ้ รโิ ภคจะตดั สินใจซื้อสนิ คา้ น้นั มกี ระบวนการต่างๆ ถึง 6 ลำดับขั้นตอนด้วยกัน ไดแ้ ก่ การมองเห็นปัญหา
การแสวงหาภายใน การแสวงหาภายนอก การประเมินทางเลอื ก และการตดั สินใจซอ้ื นอกจากน้ีแล้วยังต้องมกี าร
ประเมนิ ผลหลงั การซอื้ อีกด้วย โดยเฉพาะหากสินค้าท่ีต้องการซ้ือครงั้ นั้นเป็นสนิ ค้าทมี่ รี าคาสงู ผู้บรโิ ภคจะตอ้ งมีการ
แสวงหาขอ้ มูลจากทง้ั ภายนอกและภายในจนเพียงพอเสยี กอ่ นจึงจะนำมาประเมินทางเลอื กแลว้ จึงเขา้ สกู่ ระบวนการ
ตดั สินใจซอื้
สาระการเรยี นรู้
1. การมองเหน็ ปญั หา
2. การแสวงหาภายใน
3. การแสวงหาภายนอก
ผลการเรยี นร้ทู ีค่ าดหวงั
1. อธิบายรายละเอียดเกย่ี วกบั การมองเห็นปัญหาของผบู้ รโิ ภคได้
2. บอกรายละเอยี ดเกีย่ วกบั การแสวงหาภายในได้
3. บอกรายละเอยี ดเกี่ยวกับการแสวงหาภายนอกได้
4. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ท่อี าจารย์สามารถสงั เกตเหน็ ไดใ้ น
ดา้ นความมีมนษุ ยสมั พันธ์ ความมวี ินัย ความรับผิดชอบ ความเชือ่ มั่นในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรัก
สามัคคี ความกตัญญูกตเวที
ห น้ า | 21
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1. อาจารยใ์ ห้นกั ศึกษาบอกสง่ิ ทยี่ งั ไม่พอใจเกี่ยวกับตนเองวา่ มีอะไรบา้ ง และนักศึกษาต้องการใหส้ งิ่ ทย่ี ังไม่
พอใจนัน้ มีลักษณะอย่างไรจึงจะพอใจ
ห น้ า | 22
ขน้ั สอน
2. อาจารย์สรุปเน้อื หาเก่ียวกบั การมองเห็นปัญหา การแสวงหาภายใน และการแสวงหาภายนอก พร้อม
ยกตัวอย่างประกอบ
3. แบง่ นกั ศกึ ษาออกเปน็ 2 กลมุ่ ผลัดกนั บอกช่ือยห่ี ้อสนิ คา้ (เชน่ แชมพู บะหมีก่ ่งึ สำเร็จรปู น้ำอดั ลม โดย
อาจให้อาจารย์เปน็ ผู้กำหนดให้) กลุ่มทต่ี อบไมไ่ ด้ถอื วา่ แพ้ และไมไ่ ด้คะแนน ทำซำ้ ๆ โดยใชส้ ินคา้
ประมาณ 10 ชนิด
4. อาจารยเ์ ปดิ โอกาสใหน้ กั ศึกษาซักถามขอ้ สงสัย
ข้ันสรปุ และการประยกุ ต์ การแสวงหาภายใน และการ
5. อาจารย์และนักศึกษาร่วมกนั สรุปเนือ้ หาเก่ยี วกับการมองเห็นปญั หา
แสวงหาภายนอก ทไ่ี ด้เรยี นไปแล้วอกี ครั้งหน่งึ
6. อาจารย์สุ่มนักศกึ ษาตอบคำถามเปน็ รายบคุ คล
สือ่ การเรยี นการสอน
หนงั สอื เรยี นวิชาพฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภค ของสำนักพมิ พเ์ อมพันธ์
การวดั และการประเมินผล
วิธวี ดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมของการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล
2. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
เครือ่ งมอื วัดผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยอาจารย์และนักศกึ ษา
ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คลต้องไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ นักศึกษาตอ้ งเกิดพฤตกิ รรมท้ัง 5 จงึ จะถือว่าผา่ นเกณฑ์
3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อย่กู ับการประเมนิ
ตามสภาพจริง
ห น้ า | 23
แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการท่ี 8 หนว่ ยท่ี 4
สอนครัง้ ที่ 8 (22-24)
รหัสวชิ า 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผ้บู รโิ ภค
ชอื่ หนว่ ย กระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บรโิ ภค จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
หลงั จากทีผ่ ูบ้ ริโภคได้รบั อิทธิพลมาจากภายในและภายนอกต่างๆ แล้ว ก็จะมาถึงกระบวนการในการตดั สินใจ
ซ้ือ ก่อนทผี่ ู้บริโภคจะตัดสินใจซ้ือสินค้านนั้ มีกระบวนการต่างๆ ถึง 6 ลำดบั ข้ันตอนด้วยกัน ได้แก่ การมองเห็นปัญหา
การแสวงหาภายใน การแสวงหาภายนอก การประเมินทางเลือก และการตัดสินใจซ้ือ นอกจากนี้แล้วยังต้องมีการ
ประเมินผลหลังการซ้ืออีกด้วย โดยเฉพาะหากสินค้าที่ต้องการซื้อคร้ังนั้นเป็นสินค้าที่มีราคาสูง ผู้บริโภคจะต้องมีการ
แสวงหาข้อมูลจากท้ังภายนอกและภายในจนเพียงพอเสียกอ่ นจึงจะนำมาประเมินทางเลือกแล้วจึงเข้าสู่กระบวนการ
ตัดสินใจซอ้ื
สาระการเรยี นรู้
4. การประเมนิ ทางเลือก
5. การตัดสนิ ใจซื้อ
6. การประเมนิ ผลหลงั การซ้อื
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั
4. อธบิ ายการประเมินทางเลอื กได้
5. อธิบายรายละเอียดเกยี่ วกับการตัดสินใจซื้อได้
6. บอกรายละเอียดของการประเมินผลหลังการซอื้ ได้
7. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคท์ ่อี าจารย์สามารถสังเกตเหน็ ไดใ้ น
ดา้ นความมีมนุษยสมั พันธ์ ความมีวินัย ความรบั ผดิ ชอบความเช่อื มน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรกั
สามคั คี ความกตัญญกู ตเวที
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
ห น้ า | 24
1. อาจารย์ทบทวนเน้อื หาเกยี่ วกับ การมองเห็นปญั หา การแสวงหาภายใน และการแสวงหา ภายนอก ทีไ่ ด้
เรยี นในสปั ดาหท์ ีแ่ ลว้
ข้นั สอน
2. อาจารยน์ ำสินค้าตา่ งๆ ทแ่ี ตกต่างกนั ด้วยราคา ตรายห่ี อ้ ฯลฯ มาวางหนา้ ห้อง
3. อาจารยแ์ สดงบทบาทสมมตเิ ป็นคนขายสนิ ค้า เสนอขายสินคา้ โดยใหน้ กั ศึกษาเปน็ คนซือ้ หาก นกั ศกึ ษา
จะซอื้ สินค้าชิ้นใด ให้มาหยิบสินค้านัน้ แลว้ ยืนอยู่หน้าหอ้ ง
4. เมือ่ ขายสนิ ค้าหมด อาจารยถ์ ามถึงเหตผุ ลที่นกั ศกึ ษาตัดสินใจซอื้ สนิ ค้าทีละคน
5. อาจารยส์ รุปเนอ้ื หาเกย่ี วกบั การประเมนิ ทางเลอื ก การตัดสินใจซือ้ และการประเมนิ ผลหลัง การซ้ือ
พร้อมยกตัวอยา่ งประกอบ
6. นักศกึ ษาจบั คู่ ผลัดกันเลา่ ประสบการณเ์ กยี่ วกบั ความรู้สกึ หลังการซอื้ ทงั้ ทด่ี ี และไมด่ ี
7. นักศกึ ษาซกั ถามข้อสงสยั จากอาจารย์
8. นักศึกษาทำแบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้หน่วยการเรยี นท่ี 4
9. นักศกึ ษาปฏบิ ตั ติ ามแบบประเมนิ ตามสภาพจริง
ข้นั สรปุ และการประยุกต์
10. อาจารยแ์ ละนักศึกษารว่ มกนั สรปุ เน้อื หาเกีย่ วกับ การประเมนิ ทางเลอื ก การตัดสินใจซอื้ และการ
ประเมนิ ผลหลังการซ้อื ท่ีได้เรียนไปแล้วอกี ครงั้ หน่ึง
11. อาจารยส์ ่มุ นักศึกษาตอบคำถามเปน็ รายบคุ คล
12. นำผลงานทุกช้นิ ส่งอาจารย์
สอ่ื การเรียนการสอน
1. หนังสือเรียนวิชาพฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภค ของสำนักพิมพเ์ อมพันธ์
2. ตวั อย่างสนิ คา้
การวัดและการประเมนิ ผล
วธิ ีวัดผล
1. ตรวจแบบประเมินตามสภาพจริง
2. ตรวจแบบประเมินผลหลังการเรยี นรู้หน่วยการเรยี นท่ี 4
3. สังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล
4. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
5. สงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
เคร่อื งมอื วดั ผล
1. แบบประเมินตามสภาพจริง
2. แบบประเมนิ ผลหลงั การเรียนรหู้ น่วยการเรยี นที่ 4
ห น้ า | 25
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
4. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่ (ภาคผนวก ค)
5. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษา
รว่ มกันประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. เก็บผลงานจากแบบประเมินตามสภาพจริงไว้เป็นหลักฐาน เพ่อื ให้เป็นคะแนนเก็บส่วนหน่ึงในปลายภาค
2. นกั ศึกษาจะต้องทำแบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นร้ถู ูกต้องอยา่ งน้อยครึง่ หนึ่งจงึ จะถือวา่ ผ่านเกณฑ์
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคลตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
4. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ นักศกึ ษาต้องเกิดพฤติกรรมทัง้ 5 จงึ จะถือว่าผา่ นเกณฑ์
5. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจริง
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 9 หน่วยที่ 5
สอนครง้ั ที่ 9 (25-27)
รหสั วชิ า 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผู้บริโภค
ชอื่ หน่วย มลู เหตจุ งู ใจซอื้ ท้ังทางตรงและทางอ้อม จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
การตดั สนิ ใจซ้อื ของผบู้ รโิ ภคแต่ละครงั้ ต้องมมี ูลเหตุจงู ใจให้ผูบ้ ริโภคปฏิบตั ิเชน่ นั้น ซึง่ บางคร้งั ผู้บรโิ ภคอาจมี
การซือ้ เพือ่ สนองความต้องการของร่างกายอยา่ งซ้อื อาหารเพอ่ื ทำให้ความหิวหมดไป ซ้ือบา้ นเพื่อตอ้ งการมีท่ีอยู่ ซื้อยา
เพอ่ื บรรเทาอาการป่วย หรอื ซ้ือเส้อื ผ้าเพือ่ ปกปิดร่างกาย เหล่านี้จัดเปน็ มูลเหตุจูงใจซอ้ื ทางตรง กลา่ วคอื เมอ่ื รา่ งกาย
เรียกร้องจงึ ตอ้ งมีการตอบสนอง อีกกรณีหนึง่ เมอื่ มนุษยส์ ามารถสนองความต้องการของรา่ งกายหรอื ความต้องการทาง
ชีวภาพไดแ้ ล้ว กจ็ ะเกิดความต้องการอยา่ งอน่ื ข้นึ มาอีก จงึ ต้องซ้อื สินค้าเพื่อสนองความตอ้ งการเหล่านนั้ อาทเิ ชน่
ตอ้ งการความปลอดภยั ต้องการการยอมรบั ตอ้ งการความภาคภูมใิ จ และต้องการความสำเร็จในชีวิต การตัดสนิ ใจซอ้ื
สินคา้ เพือ่ สนองความต้องการเหลา่ นเี้ ปน็ มลู เหตจุ ูงใจซือ้ ทางอ้อม แตท่ ้ังนมี้ ูลเหตุจงู ใจท้งั หลายอาจมีการเปล่ยี นแปลง
เม่อื สภาวการณเ์ ปลย่ี นไป
สาระการเรยี นรู้
1. สงิ่ จูงใจ
2. มูลเหตจุ ูงใจซอ้ื
3. มลู เหตจุ งู ใจในการซอื้ ทางตรง
ห น้ า | 26
4. มูลเหตุจูงใจในการซื้อทางออ้ ม
ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวงั
1. อธิบายรายละเอยี ดของสิ่งจูงใจได้
2. อธิบายรายละเอยี ดของมูลเหตจุ งู ใจซ้อื ได้
3. บอกมลู เหตจุ งู ใจในการซอื้ ทางตรงได้
4. บอกมูลเหตุจงู ใจในการซ้อื ทางออ้ มได้
5. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคท์ ี่อาจารย์สามารถสงั เกตเหน็ ได้ใน
ด้านความมีมนุษยสมั พันธ์ ความมีวินัย ความรับผดิ ชอบ ความเช่อื ม่นั ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรัก
สามัคคี ความกตญั ญูกตเวที
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ข้นั นำเข้าสู่บทเรยี น
1. อาจารย์ให้นกั ศกึ ษาบอกความร้สู ึกวา่ เมือ่ นกั ศกึ ษามีความต้องการบางสิ่งบางอยา่ งมากๆ แล้วไม่
สามารถเปน็ เจา้ ของได้ นักศึกษาจะเกดิ ความรู้สกึ อย่างไร
ขั้นสอน
2. อาจารยส์ รปุ เนอื้ หาเก่ยี วกับสง่ิ จงู ใจ มูลเหตจุ งู ใจซอ้ื มูลเหตจุ งู ใจในการซอื้ ทางตรง และมลู เหตจุ ูงใจใน
การซือ้ ทางออ้ ม พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ
3. นกั ศึกษาช่วยกันพิจารณาสงิ่ ของที่ติดตัวนกั ศึกษามา ว่าเป็นการตัดสินใจซ้ือเน่ืองจากมูลเหตุจงู ใจใด
4. อาจารยเ์ ปดิ โอกาสใหน้ กั ศึกษาซกั ถามข้อสงสัย
ขน้ั สรุปและการประยุกต์
5. อาจารย์และนักศกึ ษาร่วมกนั สรุปเน้ือหาเก่ียวกับส่ิงจงู ใจ มูลเหตุจงู ใจซอื้ มูลเหตุจูงใจในการซ้อื ทางตรง
และมูลเหตจุ ูงใจในการซือ้ ทางออ้ ม ทีไ่ ด้เรียนไปแล้วอีกครง้ั หนึง่
6. อาจารย์ส่มุ นกั ศกึ ษาตอบคำถามเป็นรายบุคคล
สือ่ การเรียนการสอน
หนงั สือเรยี นวิชาพฤติกรรมผ้บู ริโภค ของสำนักพมิ พเ์ อมพันธ์
การวดั และการประเมินผล
วธิ วี ดั ผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่
3. สังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ห น้ า | 27
เครอ่ื งมือวัดผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนักศกึ ษา
รว่ มกันประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคลต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรงุ
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ นกั ศึกษาตอ้ งเกิดพฤติกรรมทงั้ 5 จงึ จะถือว่าผ่านเกณฑ์
3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อย่กู บั การประเมิน
ตามสภาพจริง
ห น้ า | 28
แผนการจัดการเรยี นร้แู บบบรู ณาการที่ 10 หน่วยที่ 5
สอนครง้ั ท่ี 10 (28-30)
รหัสวชิ า 3202-2002 วิชา พฤติกรรมผบู้ รโิ ภค
ช่อื หน่วย มลู เหตจุ งู ใจซื้อทัง้ ทางตรงและทางอ้อม จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
การตัดสินใจซือ้ ของผู้บรโิ ภคแตล่ ะครงั้ ตอ้ งมีมูลเหตุจงู ใจใหผ้ ู้บรโิ ภคปฏิบัตเิ ชน่ นั้น ซงึ่ บางครั้งผู้บรโิ ภคอาจมี
การซ้อื เพอื่ สนองความตอ้ งการของร่างกายอยา่ งซ้ืออาหารเพือ่ ทำให้ความหิวหมดไป ซอื้ บ้านเพอื่ ตอ้ งการมีท่ีอยู่ ซ้อื ยา
เพอื่ บรรเทาอาการปว่ ย หรอื ซ้ือเสื้อผ้าเพ่อื ปกปดิ รา่ งกาย เหลา่ นี้จัดเป็นมลู เหตุจูงใจซอ้ื ทางตรง กลา่ วคือเมอ่ื รา่ งกาย
เรยี กรอ้ งจงึ ต้องมีการตอบสนอง อีกกรณหี นง่ึ เมอ่ื มนษุ ยส์ ามารถสนองความต้องการของร่างกายหรอื ความต้องการทาง
ชีวภาพไดแ้ ล้ว ก็จะเกดิ ความต้องการอยา่ งอืน่ ขึ้นมาอกี จงึ ตอ้ งซอ้ื สินค้าเพือ่ สนองความตอ้ งการเหลา่ นั้น อาทิเชน่
ต้องการความปลอดภยั ตอ้ งการการยอมรับ ตอ้ งการความภาคภูมิใจ และต้องการความสำเร็จในชวี ิต การตัดสนิ ใจซือ้
สินค้าเพื่อสนองความตอ้ งการเหลา่ นเี้ ปน็ มูลเหตจุ ูงใจซือ้ ทางออ้ ม แต่ทง้ั นมี้ ลู เหตจุ ูงใจทงั้ หลายอาจมีการเปล่ียนแปลง
เมอ่ื สภาวการณ์เปลีย่ นไป
สาระการเรยี นรู้
5. การกระตนุ้ มลู เหตุจูงใจ
6. การวจิ ัยมลู เหตุจูงใจ
7. มูลเหตจุ งู ใจกบั การตลาด
8. สภาวะทผ่ี ันแปรของการจูงใจ
ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง
5. บอกวิธีการกระตนุ้ มลู เหตจุ ูงใจได้
6. บอกผลการวิจัยมลู เหตุจูงใจได้
7. อธิบายรายละเอียดของมูลเหตุจูงใจกับการตลาดได้
8. บอกสภาวะทผ่ี ันแปรของการจูงใจได้
9. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคท์ ี่อาจารยส์ ามารถสังเกตเห็นไดใ้ น
ดา้ นความมีมนษุ ยสมั พันธ์ ความมวี ินัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเชือ่ มน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั
สามคั คี ความกตัญญูกตเวที
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน
1. อาจารย์ใหน้ กั ศึกษาบอกสนิ ค้าท่นี ักศกึ ษาซือ้ โดยมคี วามจงรกั ภักดตี อ่ ตรายีห่ ้อ
ห น้ า | 29
ขั้นสอน
2. อาจารย์สรปุ เนื้อหาเกีย่ วกับการกระตุน้ มลู เหตุจูงใจ การวิจยั มูลเหตุจงู ใจ มูลเหตุจูงใจกับการตลาด และ
สภาวะทผี่ นั แปรของการจูงใจพร้อมยกตัวอย่างประกอบ
3. นักศึกษาวเิ คราะห์ตนเอง วา่ มสี าเหตใุ ดบ้างที่จะทำใหม้ ูลเหตจุ ูงใจเปลยี่ นไป พรอ้ มทัง้ เลา่ ใหเ้ พ่อื นฟงั
หนา้ ช้ันเรียน
4. อาจารย์เปดิ โอกาสให้นักศกึ ษาซักถามข้อสงสยั
5. นักศึกษาปฏบิ ัติตามแบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ
6. นกั ศึกษาทำแบบประเมินผลหลังการเรยี นรหู้ น่วยการเรียนท่ี 5
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
7. อาจารย์และนักศึกษารว่ มกนั สรุปเนือ้ หาเก่ยี วกบั การกระต้นุ มูลเหตจุ ูงใจ การวิจยั มูลเหตจุ ูงใจ มลู เหตุจงู ใจ
กบั การตลาด และสภาวะที่ผันแปรของการจูงใจท่ีไดเ้ รียนไปแลว้ อีกคร้งั หนึง่
8. อาจารยส์ ุ่มนกั ศึกษาตอบคำถามเป็นรายบุคคล
9. นำผลงานทกุ ชิน้ สง่ อาจารย์
ส่ือการเรยี นการสอน
หนงั สือเรยี นวิชาพฤตกิ รรมผบู้ ริโภค ของสำนกั พมิ พเ์ อมพันธ์
การวดั และการประเมินผล
วธิ วี ดั ผล
1. ตรวจแบบประเมินตามสภาพจรงิ
2. ตรวจแบบประเมินผลหลังการเรียนรหู้ น่วยการเรียนท่ี 5
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล
4. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่
5. สงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
เครอ่ื งมือวัดผล
1. แบบประเมนิ ตามสภาพจริง
2. แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรหู้ นว่ ยการเรยี นท่ี 5
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั งิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
4. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (ภาคผนวก ค)
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารย์และนกั ศกึ ษา
ร่วมกันประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกบ็ ผลงานจากแบบประเมนิ ตามสภาพจริงไว้เป็นหลกั ฐานเพือ่ เป็นคะแนนเก็บส่วนหนง่ึ ในปลายภาค
2. นกั ศกึ ษาต้องทำแบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรูถ้ กู ต้องอย่างน้อยครึง่ หนึ่งจงึ จะถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
ห น้ า | 30
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคลต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรงุ
4. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ นกั ศึกษาตอ้ งเกิดพฤติกรรมทัง้ 5 จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อย่กู บั การประเมิน
ตามสภาพจรงิ
ห น้ า | 31
แผนการจัดการเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการที่ 11 หนว่ ยที่ 6
สอนครงั้ ท่ี 11 (31-33)
รหัสวิชา 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผบู้ ริโภค
ชือ่ หน่วย อทิ ธิพลของสังคมและวฒั นธรรมทีม่ ีต่อการซ้อื จำนวน 3 ชม.
แนวคิด
การดำเนินชีวิตของผบู้ รโิ ภคจะเป็นไปตามแบบแผนของกลุ่มทป่ี ฏบิ ตั สิ บื ทอดกันมานาน โดยการสืบทอดจากรุน่
หนงึ่ สู่รุ่นหนงึ่ หรอื ที่เราเรียกว่าวฒั นธรรม เนือ่ งจากวัฒนธรรมเปรียบเสมือนรปู แบบของการดำเนนิ ชีวิต ดังน้ันการซื้อ
สนิ คา้ ของผบู้ รโิ ภคน้ันจะตอ้ งให้สอดคลอ้ งกบั วัฒนธรรมที่เขายึดถืออยู่ด้วย นอกจากน้แี ลว้ บุคคลยังมีการเปรียบเทียบ
ฐานะของตนเองวา่ ดีหรือดอ้ ยกวา่ บุคคลอ่นื ในสังคม เมอ่ื เหน็ วา่ ตา่ งกนั กจ็ ะไมร่ วมกลมุ่ ด้วย แต่จะไปรวมกลุ่มกับบุคคลท่ี
มสี ว่ นเหมอื นหรอื คล้ายกัน จนกลายเป็นชัน้ ของสงั คมขึ้นมา และในแต่ละชั้นของสังคมน้กี จ็ ะนิยมใชส้ นิ ค้าท่ีแตกต่างกัน
ไปด้วย จงึ จดั ได้ว่าสงั คมและวัฒนธรรมมอี ิทธพิ ลตอ่ การตัดสนิ ใจซ้ือเปน็ อย่างมาก ซึ่งนกั การตลาดจะต้องศกึ ษาเกยี่ วกับ
เรื่องของสังคมและวฒั นธรรมอยา่ งละเอยี ดเพื่อการนำเสนอ สินค้าให้สอดคลอ้ งกับความต้องการของผูบ้ ริโภค
สาระการเรยี นรู้
1. คุณสมบัติของวฒั นธรรม
2. องค์ประกอบของวฒั นธรรม
3. อทิ ธพิ ลของวัฒนธรรมต่อพฤตกิ รรมผูบ้ ริโภค
4. บทบาทของวัฒนธรรมท่มี ตี ่อการตลาด
5. วฒั นธรรมยอ่ ย
ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง
1. บอกคุณสมบัติของวัฒนธรรมได้
2. บอกองค์ประกอบของวัฒนธรรมได้
3. บอกอทิ ธิพลของวฒั นธรรมต่อพฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภคได้
4. อธบิ ายบทบาทของวัฒนธรรมท่มี ีตอ่ การตลาดได้
5. อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกบั วฒั นธรรมยอ่ ยได้
6. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ทอี่ าจารย์สามารถสงั เกตเหน็ ไดใ้ น
ดา้ นความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความมวี นิ ัย ความรบั ผิดชอบ ความเช่ือมน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรัก
สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ขั้นนำเข้าส่บู ทเรยี น
ห น้ า | 32
1. อาจารย์นำรูปภาพการดำเนินชวี ิตของคนในพ้ืนท่ตี า่ งๆ ให้นักศึกษาดู แล้วให้นักศกึ ษาบอกว่าเป็น
พฤติกรรมของบคุ คลในทอ้ งถ่ินใด
ขน้ั ดำเนนิ การสอน
2. อาจารย์สรปุ เนอื้ หาเก่ียวกบั คณุ สมบตั ขิ องวฒั นธรรม องค์ประกอบของวัฒนธรรม และอิทธพิ ลของ
วัฒนธรรมท่มี ีต่อผู้บรโิ ภค พร้อมยกตวั อย่างประกอบ
3. นกั ศึกษารวมกล่มุ กนั ระดมสมอง ยกตวั อยา่ งสินคา้ ที่ผูบ้ รโิ ภคมีพฤติกรรมการซือ้ เน่อื งจากได้รับอิทธพิ ล
จากวฒั นธรรม
4. นักศกึ ษานำเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน
5. อาจารยส์ รุปเน้ือหาเกี่ยวกบั บทบาทของวัฒนธรรมทีม่ ตี ่อการตลาด และวัฒนธรรมย่อย พร้อม
ยกตัวอย่างประกอบ
6. นกั ศกึ ษาท่เี ป็นเพอื่ นสนทิ กันรวมกลมุ่ กัน แลว้ ช่วยกนั วิเคราะห์เหตผุ ลทนี่ ักศึกษามาเปน็ เพือ่ นสนิทกนั
เปน็ ขอ้ ๆ แลว้ นำเสนอหนา้ ชั้นเรยี นทลี ะกล่มุ
7. อาจารยเ์ ปิดโอกาสใหน้ ักศกึ ษาซกั ถามขอ้ สงสยั
ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์
6. อาจารย์และนักศกึ ษาร่วมกันสรปุ เนอ้ื หาเก่ียวกับคณุ สมบัติของวฒั นธรรม องคป์ ระกอบของวัฒนธรรม และ
อิทธพิ ลของวัฒนธรรมทมี่ ตี ่อผู้บริโภค ท่ไี ดเ้ รยี นไปแล้วอกี ครงั้ หนึง่
7. อาจารย์สมุ่ นักศึกษาตอบคำถามเปน็ รายบคุ คล
ส่อื การเรยี นการสอน
1. หนังสือเรยี นวิชาพฤติกรรมผู้บริโภค ของสำนักพิมพเ์ อมพันธ์
2. รปู ภาพการดำเนินชวี ิตของบคุ คล
การวัดและการประเมินผล
วธิ วี ัดผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบุคคล
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่
3. สังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
เครื่องมือวัดผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนักศกึ ษา
รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
ห น้ า | 33
เกณฑ์การประเมินผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบุคคลตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม นักศกึ ษาตอ้ งเกิดพฤตกิ รรมท้ัง 5 จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อยูก่ บั การประเมิน
ตามสภาพจริง
ห น้ า | 34
แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบูรณาการท่ี 12 หน่วยที่ 6
สอนครงั้ ท่ี 12 (34-36)
รหัสวชิ า 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผู้บริโภค
ชอื่ หนว่ ย อทิ ธพิ ลของสังคมและวฒั นธรรมทม่ี ตี อ่ การซ้อื จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
การดำเนนิ ชวี ิตของผู้บริโภคจะเปน็ ไปตามแบบแผนของกลุ่มทป่ี ฏิบัตสิ ืบทอดกันมานาน โดยการสืบทอดจากรุ่น
หน่ึงสู่รุ่นหนึ่งหรือที่เราเรยี กว่าวฒั นธรรม เน่ืองจากวฒั นธรรมเปรียบเสมอื นรูปแบบของการดำเนินชีวิต ดังนั้นการซ้ือ
สินคา้ ของผู้บริโภคนั้นจะต้องใหส้ อดคล้องกบั วัฒนธรรมที่เขายึดถอื อยู่ด้วย นอกจากนี้แล้วบุคคลยังมีการเปรียบเทียบ
ฐานะของตนเองว่าดหี รือดอ้ ยกว่าบุคคลอนื่ ในสังคม เมอื่ เหน็ วา่ ต่างกนั ก็จะไม่รวมกลุ่มดว้ ย แตจ่ ะไปรวมกลุ่มกับบคุ คลที่
มีสว่ นเหมอื นหรอื คล้ายกนั จนกลายเป็นชั้นของสงั คมขึ้นมา และในแตล่ ะชั้นของสังคมนี้ก็จะนยิ มใช้สินคา้ ทแ่ี ตกต่างกัน
ไปด้วย จึงจัดได้ว่าสังคมและวัฒนธรรมมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเป็น อย่างมาก ซึ่งนักการตลาดจะต้องศึกษา
เก่ียวกับเร่ืองของสงั คมและวฒั นธรรมอยา่ งละเอียดเพ่ือการนำเสนอสินค้าใหส้ อดคล้องกบั ความต้องการของผบู้ ริโภค
สาระการเรยี นรู้
6. ชั้นสงั คม
7. การแบง่ ชัน้ ในสงั คม
8. ลกั ษณะของชนั้ สงั คม
9. ปัจจัยท่เี ป็นตวั กำหนดชั้นของสงั คมของแตล่ ะบคุ คล
ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั
6. อธบิ ายรายละเอียดเก่ียวกบั ช้ันสังคมได้
7. อธบิ ายรายละเอยี ดเกย่ี วกบั การแบง่ ชั้นในสังคมได้
8. อธิบายลักษณะของชนั้ สงั คมได้
9. บอกปจั จัยทเ่ี ปน็ ตัวกำหนดช้นั ของสังคมของแต่ละบคุ คลได้
10. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคท์ ีอ่ าจารย์สามารถสงั เกตเห็นไดใ้ น
ด้านความมมี นุษยสมั พันธ์ ความมีวนิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรกั
สามัคคี ความกตัญญูกตเวที
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน
ห น้ า | 35
1. อาจารยส์ มุ่ ใหน้ ักศึกษาบอกช่อื เพอื่ นสนทิ ในช้ันเรียน พร้อมทั้งบอกเหตุผลด้วยวา่ สนทิ กันเพราะอะไร
ขัน้ สอน
2. อาจารยส์ รปุ เนือ้ หาเกยี่ วกบั ช้ันสังคม การแบ่งช้นั ในสังคม ลกั ษณะของชั้นสงั คม และปจั จัยท่ีเปน็
ตวั กำหนดชั้นของสงั คมของแต่ละบุคคลพรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ
3. นักศกึ ษาร่วมกันคิดหาปจั จัยทเ่ี ป็นตัวกำหนดชั้นของสงั คมของแต่ละบุคคลที่นอกเหนือจากบทเรยี น
4. นักศึกษาซักถามข้อสงสยั จากอาจารย์
ข้นั สรปุ และการประยุกต์
5. อาจารย์และนักศกึ ษาร่วมกันสรปุ เน้ือหาเก่ียวกบั ช้นั สงั คม การแบ่งชน้ั ในสงั คม ลกั ษณะของชนั้ สังคม และ
ปัจจยั ท่ีเปน็ ตัวกำหนดช้นั ของสงั คมของแต่ละบคุ คลทีไ่ ดเ้ รยี นไปแล้วอกี ครงั้ หนึง่
6. อาจารยส์ ่มุ นักศกึ ษาตอบคำถามเปน็ รายบุคคล
สือ่ การเรยี นการสอน
หนังสือเรยี นวชิ าพฤตกิ รรมผู้บริโภค ของสำนกั พมิ พเ์ อมพันธ์
การวดั และการประเมินผล
วิธวี ดั ผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั งิ านรายบุคคล
2. สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
3. สังเกตและประเมินผลพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
เคร่อื งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่ (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารย์และนักศึกษา
รว่ มกันประเมิน (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัตงิ านรายบุคคลต้องไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ นักศกึ ษาต้องเกิดพฤตกิ รรมทง้ั 5 จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์
3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การประเมิน
ตามสภาพจริง
ห น้ า | 36
แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบูรณาการที่ 13 หนว่ ยท่ี 6
สอนคร้งั ท่ี 13 (37-39)
รหัสวิชา 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภค
ช่อื หน่วย อทิ ธพิ ลของสังคมและวฒั นธรรมทมี่ ตี ่อการซอื้ จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
การดำเนินชีวิตของผบู้ ริโภคจะเปน็ ไปตามแบบแผนของกล่มุ ทป่ี ฏบิ ัติสืบทอดกันมานาน โดยการสืบทอดจากรุ่น
หนึ่งสรู่ ุ่นหน่ึงหรือที่เราเรยี กว่าวฒั นธรรม เน่ืองจากวฒั นธรรมเปรียบเสมือนรูปแบบของการดำเนินชวี ิต ดังน้ันการซื้อ
สนิ ค้าของผู้บริโภคนน้ั จะต้องให้สอดคล้องกับ วัฒนธรรมท่ีเขายึดถืออยูด่ ้วย นอกจากนแ้ี ล้วบุคคลยังมกี ารเปรียบเทียบ
ฐานะของตนเองวา่ ดีหรอื ด้อยกวา่ บุคคลอนื่ ในสังคม เม่อื เหน็ วา่ ตา่ งกันกจ็ ะไม่รวมกลุ่มดว้ ย แตจ่ ะไปรวมกล่มุ กับบุคคลที่
มสี ่วนเหมอื นหรือคล้ายกนั จนกลายเป็นชน้ั ของสังคมข้ึนมา และในแต่ละช้ันของสังคมน้ีกจ็ ะนิยมใชส้ ินค้าท่ีแตกต่างกัน
ไปด้วย จึงจัดได้ว่าสังคมและวัฒนธรรมมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือเปน็ อย่างมาก ซ่งึ นักการตลาดจะต้องศึกษาเกี่ยวกับ
เรือ่ งของสงั คมและวัฒนธรรมอย่างละเอียดเพื่อการนำเสนอสินค้าใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผู้บรโิ ภค
สาระการเรยี นรู้
10. โครงสร้างของช้นั สงั คม
11. ช้นั สงั คมกบั พฤตกิ รรมผูบ้ ริโภค
12. สาเหตทุ ี่ทำใหก้ ารตดั สนิ ใจซื้อของผู้บริโภคตา่ งกัน
ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั
10. บอกโครงสรา้ งของช้ันสังคมได้
11. อธบิ ายชัน้ สังคมกบั พฤติกรรมผู้บริโภคได้
12. บอกสาเหตุท่ที ำใหก้ ารตัดสินใจซ้อื ของผบู้ ริโภคตา่ งกนั ได้
13. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ที่อาจารยส์ ามารถสังเกตเห็นได้ใน
ด้านความมีมนุษยสมั พันธ์ ความมวี นิ ัย ความรับผิดชอบ ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรัก
สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. อาจารย์ยกตัวอยา่ งบคุ คลทม่ี ชี ่อื เสยี งในสังคม แล้วถามนักศกึ ษารู้จกั หรอื ไม่ ร้จู ักเพราะอะไร
ห น้ า | 37
ขั้นสอน
2. อาจารย์สรปุ เน้ือหาเก่ยี วกับโครงสร้างของช้ันสงั คม ช้ันสังคมกบั พฤติกรรมผู้บรโิ ภค และสาเหตทุ ีท่ ำให้
การตดั สนิ ใจซอ้ื ของผู้บรโิ ภคต่างกนั พร้อมยกตวั อย่างประกอบ
3. นักศกึ ษาร่วมกันอภปิ รายเกยี่ วกบั พฤตกิ รรมการซื้อของผรู้ โิ ภคแตล่ ะช้นั สงั คมต่างๆ ว่าปจั จุบันมีความ
แตกตา่ งกนั มากน้อยเพยี งใด
4. นักศึกษาทำแบบประเมนิ ผลหลังการเรยี นร้หู น่วยการเรียนที่ 6
5. นกั ศกึ ษาปฏิบตั ติ ามแบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ
ขั้นสรุปและการประยุกต์
6. อาจารยแ์ ละนักศกึ ษารว่ มกนั สรุปเนอื้ หาเกย่ี วกบั โครงสรา้ งของช้นั สังคม ชัน้ สังคมกบั พฤตกิ รรม
ผ้บู ริโภค และสาเหตุทท่ี ำใหก้ ารตดั สนิ ใจซอ้ื ของผู้บริโภคตา่ งกนั ที่ไดเ้ รียนไปแล้วอีกครั้งหนึ่ง
7. อาจารยส์ ุ่มนกั ศึกษาตอบคำถามเป็นรายบคุ คล
8. นำผลงานทุกช้นิ สง่ อาจารย์
ส่อื การเรยี นการสอน
หนังสือเรยี นวชิ าพฤตกิ รรมผ้บู รโิ ภค ของสำนักพิมพ์เอมพันธ์
การวัดและการประเมนิ ผล
วิธีวัดผล
1. ตรวจแบบประเมินตามสภาพจริง
2. ตรวจแบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้หนว่ ยการเรยี นที่ 6
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล
4. สงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
5. สงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
เคร่อื งมอื วัดผล
1. แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ
2. แบบประเมนิ ผลหลังการเรยี นรหู้ น่วยการเรยี นท่ี 6
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
4. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละนักศกึ ษา
ร่วมกันประเมิน (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เก็บผลงานจากแบบประเมนิ ตามสภาพจริงไวเ้ ป็นหลกั ฐานเพอ่ื เป็นคะแนนเก็บส่วนหนง่ึ ในปลายภาค
ห น้ า | 38
2. นักศกึ ษาตอ้ งทำแบบประเมินผลหลังการเรยี นรถู้ ูกต้องอย่างน้อยครง่ึ หนง่ึ จงึ จะถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคลต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ
4. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ นักศกึ ษาต้องเกิดพฤตกิ รรมทั้ง 5 จงึ จะถือว่าผา่ นเกณฑ์
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยกู่ ับการประเมนิ
ตามสภาพจรงิ
ห น้ า | 39
แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 14 หน่วยที่ 7
สอนคร้งั ท่ี 14 (40-42)
รหสั วชิ า 3202-2002 วิชา พฤติกรรมผ้บู รโิ ภค
ชื่อหน่วย เกณฑก์ ารประเมนิ ของผู้บรโิ ภค จำนวน 3 ชม.
แนวคิด
การตดั สินใจซื้อของผู้บริโภคนับว่าเป็นสงิ่ สำคัญต่อกิจการ โดยเฉพาะอย่างย่ิงหากการตัดสินใจซื้อครัง้ น้ัน เป็น
การตัดสินใจซ้ือสนิ ค้าของกิจการ การที่จะสามารถทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสนิ คา้ ของกจิ การไดน้ ั้น กจิ การต้องทำให้
สนิ คา้ เป็นท่ีพอใจของพวกเขา หรอื ต้องทำให้คุณสมบัติของสินค้าอยู่ในเกณฑห์ รือมาตรการท่ีเขาต้ังไว้ นักการตลาดจึง
ตอ้ งมกี ารศึกษารายละเอยี ดของเกณฑ์การประเมินหรอื มาตรการของผบู้ ริโภคว่ามลี ักษณะอย่างไร เพื่อจะไดว้ างแผนสว่ น
ประสมทางการตลาดไดอ้ ย่างเหมาะสม
สาระการเรยี นรู้
1. เกณฑ์หรอื มาตรการทผ่ี ูบ้ รโิ ภคใช้ประเมนิ กอ่ นการตดั สินใจซื้อ
2. เกณฑพ์ ื้นฐานทเี่ ป็นตวั กำหนดการประเมนิ ของผบู้ รโิ ภค
3. ปจั จัยทางสงั คมทีเ่ ป็นตัวกำหนดเกณฑก์ ารประเมินของผู้บรโิ ภค
ผลการเรียนรูท้ ่คี าดหวัง
1. บอกเกณฑ์หรอื มาตรการท่ผี ู้บรโิ ภคใช้ประเมินก่อนการตดั สนิ ใจซื้อได้
2. บอกเกณฑพ์ ้ืนฐานท่ีเป็นตัวกำหนดการประเมินของผบู้ ริโภคได้
3. บอกปจั จยั ทางสังคมที่เป็นตัวกำหนดเกณฑ์การประเมินของผูบ้ รโิ ภคได้
4. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ที่อาจารย์สามารถสงั เกตเห็นได้
ในด้านความมมี นษุ ยสัมพันธ์ ความมวี นิ ัย ความรับผดิ ชอบ ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความ
รกั สามัคคี ความกตัญญูกตเวที
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน
1. อาจารยย์ กตวั อยา่ งสนิ คา้ ในชีวิตประจำวัน ประมาณ 5 ชนดิ แล้วถามว่า เมอ่ื นกั ศึกษาตดั สนิ ใจซ้อื จะ
คำนงึ ถึงอะไร
ข้ันสอน
2. อาจารยเ์ ลอื กตวั แทนนกั ศกึ ษา แสดงบทบาทสมมติการซื้อขายสินคา้ โดยผซู้ ือ้ มีมาตรการต่างๆ ในการ
ซอื้ (อาจารย์เป็นผ้เู ตรียมบท และสินคา้ สำหรับการแสดง)
ห น้ า | 40
3. อาจารยส์ รปุ เนือ้ หาเก่ยี วกบั เกณฑห์ รอื มาตรการทผ่ี ู้บริโภคใชป้ ระเมินกอ่ นการตัดสินใจซอ้ื เกณฑ์
พน้ื ฐานที่เป็นตัวกำหนดการประเมินของผ้บู รโิ ภค และปจั จยั ทางสงั คมท่เี ป็นตัวกำหนดเกณฑ์การ
ประเมนิ ของผู้บริโภค
4. นกั ศึกษารวมกล่มุ แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับปัจจยั พ้ืนฐานและปจั จัยทางสงั คมทีเ่ ปน็ ตวั กำหนดเกณฑ์
การประเมินของผบู้ รโิ ภค ทีน่ อกเหนือจากบทเรียน
5. แตล่ ะกลุ่มผลัดกนั นำเสนอความคิดเห็นหน้าชน้ั เรยี น
6. นักศกึ ษาซักถามขอ้ สงสัยจากอาจารย์
ขน้ั สรปุ และการประยุกต์
7. อาจารย์และนกั ศึกษารว่ มกนั สรุปเนอ้ื หาเก่ยี วกบั เกณฑห์ รอื มาตรการทผ่ี ูบ้ รโิ ภคใช้ประเมินกอ่ นการ
ตดั สินใจซื้อ เกณฑ์พ้ืนฐานที่เป็นตัวกำหนดการประเมินของผู้บรโิ ภคและปจั จยั ทางสังคมทเ่ี ปน็
ตัวกำหนดเกณฑก์ ารประเมินของผู้บริโภคที่ไดเ้ รียนไปแล้วอีกคร้งั หน่ึง
8. อาจารยส์ มุ่ นกั ศกึ ษาตอบคำถามเปน็ รายบุคคล
สือ่ การเรยี นการสอน
1. หนังสือเรียนวิชาพฤตกิ รรมผบู้ ริโภค ของสำนกั พมิ พ์เอมพันธ์
2. ตัวอย่างสินคา้
การวัดและการประเมินผล
วธิ ีวัดผล
1. สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. สังเกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
เครือ่ งมอื วัดผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยอาจารย์และนกั ศกึ ษา
รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบคุ คลต้องไม่มชี อ่ งปรับปรงุ
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม นักศกึ ษาต้องเกิดพฤติกรรมทั้ง 5 จงึ จะถือว่าผ่านเกณฑ์
3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กับการประเมนิ
ตามสภาพจริง
ห น้ า | 41
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 15 หนว่ ยท่ี 7
สอนครั้งท่ี 15 (43-45)
รหัสวิชา 3202-2002 วิชา พฤตกิ รรมผูบ้ ริโภค
ชือ่ หน่วย เกณฑ์การประเมนิ ของผู้บริโภค จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
การตัดสินใจซ้ือของผู้บริโภคนับว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการตัดสินใจซ้ือครง้ั น้ัน เป็น
การตัดสินใจซ้ือสนิ ค้าของกิจการ การที่จะสามารถทำให้ผู้บรโิ ภคตัดสินใจซื้อสินคา้ ของกจิ การไดน้ ้ัน กจิ การตอ้ งทำให้
สนิ ค้าเป็นท่ีพอใจของพวกเขา หรอื ต้องทำให้คุณสมบัติของสินค้าอยู่ในเกณฑห์ รือมาตรการที่เขาต้งั ไว้ นกั การตลาดจึง
ตอ้ งมีการศกึ ษารายละเอียดของเกณฑ์การประเมินหรอื มาตรการของผู้บริโภควา่ มีลกั ษณะอย่างไร เพื่อจะได้วางแผนสว่ น
ประสมทางการตลาดได้อยา่ งเหมาะสม
สาระการเรยี นรู้
4. ลักษณะของเกณฑ์ทใี่ ช้ในการประเมิน
5. ชนดิ ของเกณฑ์ท่ีใชใ้ นการประเมนิ
6. การเปลี่ยนเกณฑใ์ นการประเมิน
ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั
4. อธบิ ายลักษณะของเกณฑ์ที่ใชใ้ นการประเมนิ ได้
5. บอกชนิดของเกณฑท์ ่ใี ช้ในการประเมินได้
6. อธบิ ายการเปลย่ี นเกณฑใ์ นการประเมนิ ได้
7. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงคท์ ี่อาจารยส์ ามารถสังเกตเห็นได้ใน
ด้านความมมี นษุ ยสมั พันธ์ ความมวี นิ ัย ความรบั ผิดชอบ ความเชือ่ ม่นั ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั
สามัคคี ความกตญั ญกู ตเวที
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. อาจารย์ทบทวนเน้ือหาเก่ียวกับเกณฑ์การประเมินของผู้บริโภคและปั จจัยทางสังคมที่เป็น
ตวั กำหนดเกณฑ์ประเมนิ ของผู้บรโิ ภคทเี่ รียนในสปั ดาห์ท่แี ล้ว
ขน้ั สอน
2. อาจารย์สรุปเน้ือหาเกยี่ วกับลักษณะของเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมิน ชนดิ ของเกณฑ์ท่ีใชใ้ นการประเมนิ และ
การเปลี่ยนเกณฑใ์ นการประเมนิ พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ
ห น้ า | 42
3. นกั ศกึ ษาจบั คู่ บอกเกณฑ์ในการซ้ือสินคา้ ในสินคา้ ชนิดเดียวกัน วา่ นักศกึ ษาใชเ้ กณฑ์เดียวกัน หรือไม่
พร้อมทง้ั หาเหตผุ ลว่าทำไมจึงใช้เกณฑ์ที่เหมอื นกนั หรือแตกต่างกัน
4. อาจารย์สุ่มนกั ศึกษานำเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น
5. นกั ศึกษาทำแบบประเมินผลหลังการเรยี นรหู้ นว่ ยการเรียนที่ 7
6. นักศึกษาปฏบิ ัตติ ามแบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ
ข้นั สรปุ และการประยุกต์
7. อาจารย์และนักศกึ ษาร่วมกนั สรุปเนือ้ หาเก่ยี วกับลกั ษณะของเกณฑท์ ่ีใช้ในการประเมนิ ชนดิ ของเกณฑ์ท่ี
ใช้ในการประเมนิ และการเปล่ียนเกณฑ์ในการประเมินที่ได้เรียนไปแล้วอีกครั้งหนึ่ง
8. อาจารย์สมุ่ ถามนักศกึ ษาเป็นรายบคุ คล
9. นำผลงานทกุ ชิ้นส่งอาจารย์
สือ่ การเรยี นการสอน
หนงั สอื เรียนวิชาพฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค ของสำนักพิมพเ์ อมพันธ์
การวัดและการประเมนิ ผล
วิธวี ัดผล
1. ตรวจแบบประเมินตามสภาพจรงิ
2. ตรวจแบบประเมินผลหลงั การเรียนรู้หน่วยการเรยี นที่ 7
3. สงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล
4. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ
5. สงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เคร่อื งมือวัดผล
1. แบบประเมินตามสภาพจรงิ
2. แบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้หน่วยการเรยี นที่ 7
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
4. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ (ภาคผนวก ค)
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยอาจารย์และนักศกึ ษา
ร่วมกันประเมิน (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. เกบ็ ผลงานจากแบบประเมินตามสภาพจริงไวเ้ ป็นหลักฐาน เพ่ือให้เป็นคะแนนเก็บส่วนหนึ่งในปลายภาค
2. นักศกึ ษาตอ้ งทำแบบประเมินผลหลังการเรยี นรู้ถูกตอ้ งอย่างน้อยคร่ึงหนึ่งจงึ จะถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ห น้ า | 43
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คลต้องไมม่ ีชอ่ งปรับปรงุ
4. แบบสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม นักศึกษาตอ้ งเกดิ พฤตกิ รรมท้ัง 5 จงึ จะถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
5. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กบั การประเมิน
ตามสภาพจรงิ
ห น้ า | 44
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการที่ 16 หนว่ ยท่ี 8
สอนครง้ั ท่ี 16 (46-48)
รหสั วิชา 3202-2002 วิชา พฤติกรรมผู้บรโิ ภค
ชอื่ หน่วย พฤตกิ รรมผบู้ ริโภคกับการจัดการธุรกจิ จำนวน 3 ชม.
แนวคดิ
การจัดการของธุรกิจท่ีมีประสิทธิภาพจะต้องอาศัยข้อมูลเก่ียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมาใช้ในการตัดสินใจเพื่อ
จะให้การจัดการของธรุ กิจที่เกย่ี วขอ้ งกบั ส่วนผสมทางการตลาดสอดคล้องกับความตอ้ งการของผู้บริโภคพรอ้ มทั้งสร้าง
ความพอใจแก่ผู้บริโภคสงู สุดด้วย การจัดการของธุรกิจนั้นจะต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ท่ีทำ
ให้ผลของการดำเนินการไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นอกจากน้ีแล้วธุรกิจยังจะต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือการ
ออกแบบผลติ ภัณฑ์ใหมเ่ พอ่ื จะไดส้ นองความต้องการของผบู้ รโิ ภคใหเ้ กิดความพอใจสูงสดุ ซึ่งในการออกแบบผลติ ภณั ฑ์
ใหม่นน้ั จะต้องมีการจดั การ การกำหนดกลยทุ ธ์ตา่ งๆ เพ่อื ใหผ้ ้บู ริโภคเกดิ การยอมรบั เชน่ กนั
สาระการเรยี นรู้
1. ผู้บริโภคกับธุรกจิ
2. เป้าหมายธุรกจิ และเปา้ หมายของผบู้ ริโภค
3. การตัดสนิ ใจทางการตลาดของธุรกิจกบั ผู้บริโภค
ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวัง
1. อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งผูบ้ รโิ ภคกับธุรกิจได้
2. บอกเป้าหมายของธุรกจิ และเปา้ หมายของผูบ้ รโิ ภคได้
3. อธบิ ายการตัดสนิ ใจทางการตลาดของธุรกจิ กับผบู้ รโิ ภคได้
4. มีการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ทอี่ าจารย์สามารถสงั เกตเหน็ ได้ใน
ด้านความมีมนุษยสมั พันธ์ ความมวี ินัย ความรับผิดชอบ ความเช่อื มน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั
สามัคคี ความกตญั ญูกตเวที
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ข้ันนำเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. อาจารย์นำเข้าสู่บทเรียนโดยให้นกั ศกึ ษาช่วยกันตอบวา่ ธุรกจิ จะสามารถดำเนนิ อยู่ได้จะต้องอาศยั ปัจจัย
ใดบ้าง
ขนั้ สอน
2. อาจารย์สรุปเนือ้ หาเก่ียวกบั ผ้บู ริโภคกับธุรกิจ เป้าหมายธุรกิจและเป้าหมายผู้บรโิ ภคและการตัดสินใจทาง
การตลาดของธรุ กจิ กับผ้บู รโิ ภค พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ
ห น้ า | 45
3. อาจารย์ให้นักศึกษาจบั กลุ่มผลัดกันเลา่ ประสบการณ์ เกี่ยวกับธรุ กิจท่ปี ระทบั ใจ พร้อมทง้ั บอก เหตุผล
ประกอบ
4. อาจารยเ์ ปิดโอกาสใหน้ ักศึกษาซกั ถามขอ้ สงสัย
ขนั้ สรุปและการประยกุ ต์
5. อาจารย์และนักศึกษาร่วมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับผู้บริโภคกับธุรกิจ เป้าหมายธุรกิจและเป้าหมาย
ผู้บรโิ ภค และการตัดสนิ ใจทางการตลาดของธรุ กจิ กับผบู้ รโิ ภค ท่ไี ด้เรียนไปแล้วอกี ครั้งหนึง่
6. อาจารย์สุ่มนกั ศึกษาตอบคำถามเปน็ รายบุคคล
สอ่ื การเรียนการสอน
หนงั สอื เรยี นวิชาพฤตกิ รรมผ้บู รโิ ภค ของสำนักพมิ พเ์ อมพันธ์
การวัดและการประเมินผล
วิธีวัดผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. สังเกตและประเมินผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
เคร่ืองมือวัดผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (ภาคผนวก ค)
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ โดยอาจารย์และนกั ศกึ ษา
รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคลต้องไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรุง
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ นักศึกษาต้องเกิดพฤติกรรมท้ัง 5 จึงจะถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยูก่ ับการประเมิน
ตามสภาพจรงิ