The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสืออนุสรณ์แพทย์หญิงพิศวาส ทองภักดี-

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tak.anissada, 2022-11-19 05:50:25

หนังสืออนุสรณ์แพทย์หญิงพิศวาส ทองภักดี-

หนังสืออนุสรณ์แพทย์หญิงพิศวาส ทองภักดี-

49

ครอบครวั จลุ เสวก
50

ไปพกั ผ่อนกบั ครอบครวั ที่หวั หนิ

51

แม่มีอาชีพเป็นหมอ ซ่ึงแม่บอกว่าจับพลัดจับผลูมาเป็นแท้ๆ แม่เลือกคณะน้ีเป็นอันดับหนึ่งเพราะ
เข้ายากที่สุด คิดว่ายังไงก็คงไม่ได้แต่กลับสอบติดเสียอย่างนั้น หลังเรียนจบ แม่ได้ไปเป็นแพทย์ฝึกหัดที่
จังหวดั อบุ ลราชธานี และได้มโี อกาสทำ� คลอดหลานชายแท้ๆ ของแม่ ซงึ่ ก็คือคุณพิสุทธ์ิ เดชะไกศยะ ซึ่งแม่
รักมากและชว่ ยเล้ยี งมาตัง้ แตแ่ บเบาะ
ในสมยั กอ่ นนน้ั ยงั ไมม่ แี อพพลเิ คชน่ั หาคู่ คนสมยั กอ่ นจะไดเ้ จอกนั กต็ อ้ งมพี อ่ สอ่ื แมช่ กั นา้ พมิ นอ้ งสาว
ของแม่แต่งงานกับนักการทูตคือคุณน้าสุวัฒน์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา คุณน้าสุวัฒน์ได้แนะน�ำพ่อให้รู้จักกับแม่
ตอนแรกทเ่ี จอกไ็ มไ่ ดป้ ง๊ิ กนั ทนั ที แมเ่ ลา่ วา่ ตอนแรกพอ่ กไ็ มไ่ ดช้ อบแมห่ รอก แตพ่ อ่ บอกวา่ ทไี่ มอ่ ยากจบี เพราะ
พ่อเข้าใจผิดว่าแม่เป็นญาติของคนท่ีพ่อไม่ค่อยจะนับถือเท่าไหร่ พอรู้ว่าเข้าใจผิดเท่าน้ันแหละ พ่อก็รีบกลับ
ล�ำแทบไม่ทัน หลังจากพอ่ กบั แมแ่ ตง่ งานกนั ไมน่ านกม็ เี ออ้ื ย จากนนั้ แมก่ ไ็ ดท้ นุ ไปเรยี นตอ่ ดา้ นกมุ ารแพทยท์ ่ี
โรงพยาบาลเด็กที่ Great Osmond Street ลอนดอน สว่ นพ่อก็ถูกส่งไปประจำ� การท่สี ิงคโปร์ ทำ� ให้แมต่ ้อง
อยหู่ า่ งจากเราพอ่ ลกู ถงึ หนง่ึ ปคี รงึ่ แมเ่ ลา่ วา่ ระหวา่ งทอี่ ยลู่ อนดอนแมร่ อ้ งไหแ้ ทบทกุ วนั พอมเี วลาวา่ งเมอื่ ไหร่
แม่จะต้องไปช้อปปิ้งเส้ือผ้าเด็กท่ีมาร์คส์แอนด์สเปนเซอร์ให้ลูก แต่แล้วทุกสองสาม
เดือนก็ต้องเอาไปเปล่ียนขนาดให้ใหญ่ข้ึนตามตัวของลูกท่ีโตขึ้นทุกวัน ช่วงเวลาท่ี
อยู่ทอ่ี ังกฤษนี้เองที่แมไ่ ด้หัดถักนิตต้ิง และแม่กไ็ ดใ้ ชฝ้ มี อื ทไี่ ด้สะสมตงั้ แตต่ อนน้นั มา
ถักสเว็ตเตอร์ หมวก และผา้ พันคอให้ทกุ คนในครอบครวั ไดใ้ ส่อยา่ งอุ่นสบายตลอด
ระยะเวลาทเ่ี ราใชช้ วี ติ อยใู่ นประเทศสวเี ดน จนี ออสเตรเลยี ตรุ กี โปแลนด์ ไปจนถึง
สหรฐั อเมรกิ า สเวต็ เตอรเ์ ดก็ ฝมี อื แมน่ า่ รกั มาก หลานๆ ทกุ คนไดใ้ ชเ้ ปน็ มรดกตกทอด
กนั มาต้ังแตพ่ ่ีแทม ไปจนถึงพพิ กบั แพร์
หลังจากท่ีพ่อและแม่กลับมาจากสิงคโปร์และอังกฤษ ก็ได้ลูกชายช่ือเอก
อายุห่างจากเอือ้ ย 3 ปี เรากลับมาอยูก่ ับคุณยา่ ของแม่ทสี่ ลี ม ในบ้านหลังเลก็ ซงึ่ อยู่
ตรงข้ามกับบ้านใหญ่ซ่ึงในช่วงน้ันปล่อยให้คนเช่า ข้างหลังบ้านเล็กเป็นสุสาน ตอนน้ันแม่เป็นแพทย์ที่
โรงพยาบาลเดก็ ตอ้ งเข้าเวรกลางคนื บ่อยๆ เอือ้ ยและเอกจงึ ตอ้ งนอนกับพอ่ คนื หนงึ่ ประมาณ 2 ยาม เอื้อย
ตื่นมาสะกิดพ่อและบอกวา่ พอ่ จ๋า นน่ั ใครมายนื อยขู่ ้างประตหู อ้ งนอนเรา พอ่ หันไปดไู มเ่ หน็ มีใครกข็ นลุก
พรบึ กลัวกก็ ลวั แต่ต้องข่มใจไม่อยากใหล้ ูกต่ืนตระหนก หนั กลับไปถามวา่ เออ้ื ยเห็นอะไร เอ้ือยบอกว่าเหน็
ผู้ชายตัวสูงใหญ่ ยืนแลบลน้ิ ปล้ินตา พ่อตกใจมากแตพ่ ยายามไม่แสดงออก ทำ� เปน็ ชวนลูกสาวคยุ เรื่องโน้น
เร่ืองน้ีไปอีกพักใหญ่ก่อนจะถามว่าเค้ายังอยู่ไหม เอื้อยก็ตอบอย่างมั่นใจว่ายังอยู่จ้ะ แน่นอนวันรุ่งข้ึนก็ได้มี
การท�ำบุญบ้านกันยกใหญ่ ต่อมาบ้านเล็กหลังน้ีก็ได้กลายมาเป็นท่ีตั้งของสมาคมตกปลาของน้าสิริที่ทุกคน
คุ้นเคยกัน

52

นกั ศึกษาแพทย์ ท่คี ณะแพทยศาสตร์ ศริ ิราชพยาบาล

53

จบการศึกษา

54

แพทยฝ์ กึ หัดที่อบุ ลราชธานี พ.ศ. 2497-2499

เมอื่ เดนิ ทางไปถึงอบุ ลฯ มีคณะมาต้อนรบั

เวลาวา่ งที่อบุ ลเลน่ เทนนิส ไดร้ บั รางวลั ที่ 1 ขณะเปน็ แพทยท์ อ่ี ุบลฯ
55

56

57

งานแตง่ งานของพอ่ และแม่

58

59

60

ติดตามพอ่ ไปอยูต่ า่ งประเทศ

หลงั จาก 4 ปผี ่านไป พ่อกไ็ ด้ไปประจำ� การทสี่ ถานทตู ไทย ณ กรงุ สตอกโฮล์ม อพารต์ เมนทข์ องเรา
อยทู่ ี่ 85 Drottninggatan เปน็ ตึกเก่าแก่โบราณมาก เพดานสงู พนื้ เป็นไมก้ ระดานเดนิ แล้วสง่ เสยี งเอย๊ี ดอ๊าด
นา่ กลัวทีส่ ุด ช้นั บนของตึกเราเปน็ พิพธิ ภัณฑ์ของ Johan August Strindberg ซงึ่ เป็นนกั เขียนทม่ี ชี ่ือเสยี ง
ของสวีเดน เขาเคยอาศยั อยู่ในตกึ นีแ้ ละเสยี ชวี ติ ไปในปี พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) แม่เคยเลา่ วา่ เวลาท่ีพ่อ
ไปท�ำงาน และเออ้ื ยกบั เอกไปโรงเรียน ความท่แี ม่เป็นคนกลัวผีกจ็ ะพยายามอยูแ่ ตใ่ นห้องนอนและในครัว
ถ้าไม่มีธุระอะไรกจ็ ะไมเ่ ขา้ ห้องทานข้าวหรอื หอ้ งรับแขกโดยเด็ดขาด ท�ำไมแมจ่ ึงคิดว่าผจี ะไมต่ ามเข้าไปใน
ห้องนอนหรอื ในครวั อนั นก้ี ็ไมม่ ใี ครทราบได้
ช่วงทอ่ี ยสู่ วเี ดน แมไ่ ดม้ ีโอกาสท�ำอาหารไทยใหแ้ ขกคนไทยหลายท่านทีเ่ ดนิ ทางมาเยือนกรงุ สตอกโฮลม์
สมยั น้ันเม่อื หา้ สบิ กวา่ ปมี าแล้ว ไมม่ ีรา้ นอาหารไทยในตา่ งประเทศ แม้แตร่ า้ นอาหารจนี หรอื ญีป่ ุน่ ก็น้อยมาก
พอเดินทางมาถงึ สตอกโฮล์ม ทกุ คนกจ็ ะคิดถงึ อาหารไทยมากๆ ถงึ แมว้ า่ วัตถุดิบจะขาดแคลนแคไ่ หน แตแ่ ม่ก็
สามารถน�ำของท่หี าได้ในท้องถิน่ มาผสมผสาน ดดั แปลงและทดแทนจนไดอ้ าหารไทยท่ีรสชาติเปน็ ท่พี อใจ
ของแขกทุกคน ชว่ งที่อย่สู วีเดน แมไ่ ปเรยี นทำ� อาหารและขนมเค้กเกือบทกุ วัน ทำ� ให้ครอบครวั เราได้มีต�ำรา
อาหารและขนมอรอ่ ยๆ จากสวเี ดนตกทอดมาไวท้ ำ� รับประทานกันจนทุกวนั นี้
ในช่วงโรงเรยี นหยดุ หน้ารอ้ น พอ่ จะขับรถพาเราไปยัง Malmö เพอื่ น�ำรถขึ้นเรือขา้ มไปโคเปนเฮเกน
ไปหาเพอ่ื นรกั คอื คณุ อาอนุ๋ (คณุ สนุ ทร คงศกั ด)์ิ และคณุ อาแดง ซง่ึ ประจำ� อยทู่ สี่ ถานทตู ทน่ี น่ั แมก่ บั คณุ อาแดง
จะแลกเปลีย่ นต�ำราทำ� กับขา้ วกนั อยา่ งสนกุ สนาน เพราะอาแดงก็ทำ� อาหารอร่อยมากเช่นกัน บางทเี รากจ็ ะ
ขบั รถต่อขึน้ เรืออีกลำ� ข้ามไป Hamburg
ทกุ ครงั้ ทเ่ี ราขนึ้ รถไปเทยี่ ว แม่จะเตรียมเสบยี งอาหารไปทานในรถ น่ังทานไปชมววิ ไป จ�ำไดว้ า่
ทุกอยา่ งอรอ่ ยหมด แล้วยงั มีเรือ่ งตลกๆ มาเลา่ กันได้อีก เอกเป็นคนชอบทาน potato chips มาก และก็ชอบ
ปุ๋งในรถ แตไ่ มเ่ คยยอมรับผิด จนวนั หน่ึงมกี ลิน่ ลอยมา แยก่ ว่าทุกครั้ง แมเ่ ลยบอกวา่ จะใหร้ างวลั คนทสี่ ารภาพ
ความจรงิ เอกรีบยกมือรบั เลย ท้ังทจี่ ริงๆ แล้วคราวนี้ คนทมี่ ีความผิดคอื เออ้ื ย
หลังจากสวเี ดน เรากลับมาอยู่เมืองไทยอีก 2 ปี พอปี 2518 พ่อก็ได้รับคำ� สงั่ ใหไ้ ปเปิดสถานทตู ไทย
ณ กรงุ ปกั กง่ิ ซง่ึ เปน็ ครง้ั แรกทเ่ี ราสถาปนาความสมั พนั ธท์ างการทตู กบั สาธารณรฐั ประชาชนจนี ชว่ งปแี รกๆ
เหมาเจ๋อตุงยงั มีชวี ติ อยู่ บา้ นเมอื งยังไม่คอ่ ยพฒั นามาก และคนกย็ ังไม่ค่อยร้ภู าษาองั กฤษ เอื้อยและเอกอยู่
เรยี นตอ่ ท่ีเมืองไทย พอชว่ งปดิ เทอมเรากเ็ ดินทางไปเย่ยี มพอ่ กบั แมพ่ รอ้ มกบั คณุ ยายสนิทซงึ่ อยากไปเยย่ี ม
ลูกสาวที่เมืองจีนด้วย คุณยายคงไม่ได้คาดคิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์ต่ืนเต้นน่าหวาดกลัวขนาดนั้น เวลา
เชา้ มืดวันที่ 28 กรกฎาคม 2519 (1976) ได้เกดิ เหตุแผน่ ดินไหวข้ึนท่เี มือง Tangshan ซงึ่ อยหู่ า่ งจากกรงุ
ปักก่ิงเป็นระยะทาง 110 กิโลเมตร เป็นแผ่นดินไหวระดับ 7.5 ริคเตอร์ และเนื่องจากท่ีอยู่อาศัยของคนจีน

61

ในสมัยน้ันโครงสร้างไม่แข็งแรง ตึกรามบ้านช่องจึงถล่มลงมาเกือบหมด เราได้ข่าวว่าพลเมืองเสียชีวิตเป็น
แสนๆ คน เราซึ่งอาศัยอยู่บนช้ัน 10 ของอพาร์ตเมนต์ในปักก่ิงก็รู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เช่นกนั ตามดว้ ย after shock ถๆ่ี เปน็ สิบๆ หนตอ่ วัน ข้าราชการทกุ คนและครอบครัวต้องอพยพไปอยู่
สถานทูต จ�ำไดใ้ นชว่ งน้นั แมไ่ ดท้ �ำหน้าทีเ่ ป็นแพทย์ประจำ� บ้าน ชว่ ยดูแลทุกคน ใครมีอะไรเลก็ ๆ นอ้ ยๆ
กจ็ ะมาปรึกษาแม่ทกุ เร่อื ง
หลงั จากปกั กงิ่ พอ่ กไ็ ดร้ บั แตง่ ตงั้ ใหไ้ ปดำ� รงตำ� แหนง่ เอกอคั รราชทตู ประจำ� กรงุ องั การา ประเทศตรุ กี
ระหวา่ งน้ันเรามักจะไปเทีย่ วทอ่ี ิสตนั บลุ กนั บ่อยๆ จำ� ไดว้ า่ อาหารตุรกีอรอ่ ยมาก และเป็นครง้ั แรกทเ่ี ราไดเ้ หน็
การอบลูกแกะท้ังตัวในกองไฟและเตาอิฐ แม่ชอบทาน Backlava ซึ่งเป็นขนมท้องถิ่นท�ำจากแป้งฟิโลและ
ถ่วั พิสตาชิโอมาก จนหัดทำ� เองและท�ำใหพ้ วกเราทานกันบอ่ ยๆ และทต่ี รุ กนี ้เี องท่แี มเ่ หน็ คนท�ำโยเกิร์ตรับประทาน
กนั เองเปน็ ครัง้ แรก แม่เลยไปขอสูตรเขามาลองทำ� เอง โยเกิร์ตท่บี ้านเราจึงอรอ่ ยเปน็ พเิ ศษ เพราะเป็นแบบ
โฮมเมดท่ใี ช้วตั ถุดบิ ทีด่ ี สะอาดและท่สี �ำคัญทำ� เองไดง้ ่ายมากๆ
พ่อกบั แม่อยตู่ รุ กีได้ 2 ปี พอ่ กไ็ ด้รับมอบหมายใหไ้ ปประจ�ำการ ณ สาธารณรัฐโปแลนด์ ซง่ึ มี
ประเทศในเขตอาณาอนั ไดแ้ ก่ บลุ แกเรยี สาธารณรฐั เชก็ และเยอรมันตะวนั ออก ในช่วงน้ี พ่อกับแม่ได้ใช้
ชีวิตอยู่ร่วมกนั โดยยังไม่มลี กู ๆ เพราะเอกกับเอ้อื ยจบมหาวิทยาลยั และเริ่มท�ำงานกันแลว้ จำ� ไดว้ ่าช่วงนัน้
แม่ชอบทานไข่ปลาคาเวียร์มากและยุโรปตะวันออกสมัยน้ันสามารถหาซ้ือไข่ปลาคาเวียร์จากรัสเซียได้ใน
ราคาทถ่ี ูกมากๆ พวกเราจึงได้รบั ประทานกันอยา่ งจุใจ
หลังจากทพี่ ่อเกษียณแล้ว เราก็กลบั มาอยูท่ ี่บา้ นใหญส่ ลี ม ซึ่งตอ้ งการการซอ่ มแซมยกใหญ่เพราะ
ตกึ มอี ายุรว่ มร้อยปี บา้ นใหญน่ ี้สรา้ งในสมัยปลายรัชการที่ 5 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอติ าเลียน เปน็ ไมส้ กั
ทองทงั้ หลงั มีเพยี งแค่ 2 ห้องนอน แตล่ ะหอ้ งใหญโ่ ตกว้างขวางและเพดานสงู มาก แมอ่ ย่บู ้านใหญ่มาตั้งแต่
เดก็ ๆ และมีความผกู พันกบั บ้านหลงั น้นั มาก แมเ้ ราจะได้ขายบ้านให้ธนาคารไทยทนไุ ป และย้ายไปอย่ทู อี่ ่ืน
เป็นสิบๆ ปี แต่แม่เล่าว่าทุกคร้ังท่ีฝัน ก็ยังฝันว่าตัวเองยังอยู่ที่บ้านใหญ่ แต่ถึงแม้ว่าแม่รักบ้านสีลมขนาดน้ี
ใช่ว่าตอนท่ีอยู่จะสุขกายสบายใจเต็มร้อย เร่ืองของเร่ืองคือแม่กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจ คุณปู่ของแม่เสียในบ้าน
ขณะทค่ี ณุ ตาอยทู่ อ่ี งั กฤษ คณุ ยา่ ของแมเ่ ลยตง้ั ศพคณุ ปไู่ วท้ บี่ า้ นเปน็ เวลา 3 ปี เพอื่ รอใหค้ ณุ ตากลบั มางานเผา
แม่เล่าวา่ ทกุ เย็น แม่กับคุณยา่ ตอ้ งไปกราบศพคุณปู่ พรอ้ มยกอาหารไปให้ ถ้าไปตอนค่�ำ แมจ่ ะกลวั จนตัวส่นั
และความรสู้ กึ นก้ี ็ติดตวั มาจนโต ตอนทเี่ รามาอย่ทู บ่ี ้านนหี้ ลงั จากกลบั จากสวีเดน แมก่ ย็ กห้องนอนท่ีใหญ่
ทสี่ ุดใหเ้ อ้ือยและเอกโดยไมบ่ อกเหตุผล เรามาทราบในภายหลงั กต็ อนนา้ พิศมยั มาถามวา่ นอนหอ้ งน้นั เคยเจอ
อะไรบา้ งไหม กอ่ นจะเฉลยวา่ ห้องทีเ่ รานอนคอื ห้องท่ีใช้ต้งั ศพคณุ ชวดนัน่ เอง
กลับมาอยู่บ้านใหญ่คราวนี้ แมถ่ กู อกถกู ใจเป็นพิเศษ เพราะธนาคารกรุงเทพมาสรา้ งสำ� นกั งานใหญ่
ท่ีสีลม ท�ำให้ซอยละลายทรัพย์ได้เกดิ แมส่ ามารถเดินจากบา้ นไปซ้อื อาหาร ผลไม้ เครื่องครัว และวัตถดุ บิ
ส�ำหรับทำ� อาหารได้อยา่ งสะดวกสบาย วันๆ นึงอาจจะเดินออกไปสองถึงสามรอบ จากนัน้ แม่ก็จะกลับมาทำ�

62

อาหารอร่อยๆ ให้พวกเราทานกัน บ้านสลี มอยู่ใกล้ที่ท�ำงานของเอือ้ ยที่สาธร เออ้ื ยและเพอ่ื นๆ จะมาทาน
อาหารกลางวันฝมี ือแม่ทบ่ี ้านกนั บอ่ ยๆ เปน็ ทต่ี ิดอกตดิ ใจของทกุ คน
พอ่ และแมช่ อบไปเท่ยี วต่างประเทศมาก บางทีก็ไปกับเพื่อนๆ บางทีก็พาลูกหลานไปดว้ ย และถ้า
เมอ่ื ไหร่ไปเย่ียมลูกท่ีท�ำงานอยู่ต่างประเทศ กจ็ ะไปอยดู่ ว้ ยทีละนานๆ 2-3 เดือน ก่อนกลบั ก็จะท�ำแกง
เขยี วหวาน แกงเผด็ ตา่ งๆ ใสช่ อ่ งแข็งไว้ใหล้ กู ๆ รบั ประทานแกค้ ดิ ถึงไปได้อีกนาน
ตอนแทมเกดิ เอื้อยยังต้องทำ� งานอยู่ “ย้ายยาย” ก็จะมาชว่ ยดูแลหลานทุกวัน คอยกำ� กบั พี่เลี้ยง
ให้เรารู้สึกอุน่ ใจ ยิ่งคุณยายเป็นหมอ เอ้อื ยก็ย่งิ สบายใจวา่ เร่อื งสขุ ภาพและโภชนาการของหลานไมม่ อี ะไรต้อง
หว่ งถา้ อยู่ในสายตาของคณุ ยาย พอมาถงึ พิพกับแพร์ ตอนน้ันเอกยา้ ยกลับมาจากประจ�ำการที่วอชงิ ตนั ดีซี
ปกู ลบั ไปทำ� งานเตม็ เวลา พพิ กบั แพรก์ ำ� ลงั ซน เวลาคณุ ยา่ จะพาไปเทย่ี วทไี่ หนแมจ้ ะมพี เี่ ลย้ี งคอยตามประกบ
คุณยา่ ก็ไมไ่ ว้ใจว่งิ ตามหลานไปทกุ ทเี่ พราะกลัวหลานจะหาย จนคุณย่านำ�้ หนกั ลดไป 7 กโิ ล ไปปรกึ ษาหมอ
วา่ ทำ� ไมอยๆู่ น้�ำหนักลดฮวบฮาบ กลวั จะเปน็ โรคอะไรร้ายแรง คณุ หมอบอกคณุ หมอพศิ วาสวา่ ไม่เปน็ ไร
หรอกแข็งแรงดี ปกติเคยนั่งๆ นอนๆ มาวง่ิ ตามหลานกผ็ อมแบบน้แี หละ ดีแล้วใหท้ �ำต่อไป
ทัง้ พ่อและแม่เป็นคนเรียบงา่ ย สบายๆ ไม่จุกจิกจจู้ ีใ้ นเรือ่ งใดๆ ท�ำใหค้ นรอบข้างรู้สึกสบายตวั สบายใจ
เวลาทอ่ี ยดู่ ว้ ย ในชว่ งหลงั ๆ ตอนที่แม่เริ่มไม่ค่อยสบาย แม่ก็ยังพยายามถามไถ่เรื่องความเป็นไปทกุ ขส์ ขุ
ของลกู หลาน อยากที่จะชว่ ยดูแลเรอ่ื งกนิ อยู่เหมือนที่เคยท�ำมาตลอดชีวิต แมไ่ ม่ชอบให้ตนเองเปน็ ภาระต่อ
คนอน่ื จงึ ไมค่ ่อยบน่ หรอื ยอมบอกเวลามอี าการไม่สบาย แม้เราจะทราบกันดวี ่าแมม่ อี าการทรดุ ลงและคงต้อง
ออ่ นเพลยี และไม่สบายตัวอยา่ งมาก แตแ่ ม่กไ็ มเ่ คยทจี่ ะบ่น พยายามอดทนเพอ่ื ไม่ใหเ้ ราตอ้ งเปน็ ห่วงกงั วล
แมจ้ ะถึงช่วงสุดทา้ ยของชวี ิต แมก่ ย็ ังคดิ ถงึ คนทีแ่ มร่ กั ก่อนตัวเองเสมอ
การท่ีพวกเราลกู ๆ หลานๆ ไดม้ าท�ำหนงั สอื ใหแ้ ม่ ทำ� ให้เราได้มโี อกาสกลับมาดูรปู สมุดโน้ตและ
สูตรอาหารทแ่ี มจ่ ดไว้เปน็ ร้อยๆ สูตร ไดย้ ้อนกลบั ไปนกึ ถงึ ความทรงจำ� ความสุข เรื่องตลกๆ เร่อื งต่ืนเตน้
เรอื่ งใหญ่ที่ตอนน้กี ลายเปน็ เรอื่ งเลก็ และทุกประสบการณท์ ีเ่ รามีร่วมกัน อดคิดไม่ได้ว่า เราน้ันชา่ งโชคดีท่ี
ไดม้ ชี วี ติ ครอบครวั ทอี่ บอนุ่ มแี มค่ อยดแู ลเอาใจใส่ และทด่ี ใี จทส่ี ดุ กค็ อื แมม่ ชี วี ติ และการเดนิ ทางทส่ี มบรู ณแ์ บบ
แวดล้อมไปด้วยความรัก ได้ท�ำในส่ิงที่ชอบ ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีคณุ ค่า ซึง่ สำ� หรับชวี ิตของคนๆ นึง
คงไม่ตอ้ งการอะไรมากไปกวา่ น้ีแล้ว

63

ศกึ ษาต่อท่ีเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ พ.ศ. 2504-2506

งานปใี หมท่ อ่ี ังกฤษ
กบั พระเจา้ วรวงศเ์ ธอพระองคเ์ จา้ จลุ จกั รพงษ์
หม่อมเอลสิ ะเบธ และคุณจรี นันท์ เศวตนันท์

64

ตอนไปเท่ยี ว Amsterdam
65

66

67

กบั ลูกๆ

68

ชวี ติ การท�ำ งานเปน็ แพทยแ์ ละการไปดงู านที่ตา่ งประเทศ

69

ญ่ีปนุ่
70

ติดตามพอ่ ไปอย่ตู า่ งประเทศ

สวเี ดน
71

โปแลนด์ อิตาลี

สิงคโปร์
72

ค�ำ ไว้อาลยั

ผม เสยี ใจและโศกเศร้าที่สุด เมือ่ ทราบข่าวการจากไปของภรยิ า แพทยห์ ญงิ พิศวาส (จลุ เสวก)

ทองภกั ดี เม่อื คนื วันเสารท์ ี่ 25 ตลุ าคม 2563 เวลา 3 ทมุ่ เศษ
แพทยห์ ญิงพิศวาสเปน็ บุตรีคนโตของ ร้อยเอก พิสดาร และนางสนิท (ชัยเสรี) จลุ เสวก มนี ้องสาว
และน้องชาย 3 คน โดยอุปนิสัย เป็นคนเงยี บๆ สุภาพเรยี บร้อย ไม่ค่อยพูด แต่ชอบทำ� งานอดิเรกต่างๆ ที่
โปรดปรานคือการทำ� กบั ข้าว
เมือ่ สำ� เรจ็ การศกึ ษาแพทย์ที่ศิรริ าช ได้เขา้ รบั ราชการและถูกส่งไปประจ�ำโรงพยาบาลตา่ งๆ ท้งั ใน
กรงุ เทพฯ และต่างจงั หวัด
เท่าทที่ ราบเมอื่ เยาวว์ ยั อยไู่ ด้ชว่ ยดแู ลสอนหนังสือ แนะนำ� ทำ� การบ้านใหแ้ ก่นอ้ งๆ เวลาไปโรงเรยี น
เมือ่ ถึงเวลาหยดุ พักรบั ประทานอาหารกลางวนั ก็จะมาดแู ลน้องๆ ใหไ้ ดอ้ าหารกลางวนั แล้วจึงจะไปซอ้ื ของตัว
งานทางบา้ นก็ช่วยทำ� บัญชีเก็บค่าเช่าให้คณุ ย่า
หลังจากสมรสแล้ว สักระยะเวลาหนง่ึ ได้ลาออกจากราชการเพอ่ื ติดตามสามไี ปประจ�ำท�ำงานใน
ตา่ งประเทศ หน้าทีก่ ารงานจากการเปน็ แพทย์ ไปเปน็ ภรยิ านกั การทตู ช่วยทำ� งานควบคู่ไปกบั สามใี นการ
ติดต่อ คบหา สมาคมกับบุคคลในคณะทูต ตลอดจนคนไทยในตา่ งประเทศ
หน้าที่ๆ สำ� คัญอีกอยา่ งหน่ึงคอื การดูแลเลย้ี งดบู ุตรสองคน จนสำ� เรจ็ การศกึ ษาและประสบความส�ำเรจ็
ในหน้าท่กี ารงานเปน็ อย่างดีท้ังคู่
การจากไปของแพทย์หญิงพศิ วาสนำ� มาซง่ึ ความโศกเศร้าเสยี ใจอย่างสดุ ซง้ึ แกค่ รอบครัว ญาติพีน่ อ้ ง
และเพ่ือนๆ จงึ ขออาราธนาให้กุศลผลบญุ คุณงามความดที ่ีแมไ่ ด้ท�ำไว้ ดลบันดาลใหด้ วงวิญญาณของแพทยห์ ญิง
พศิ วาส ไปสสู่ ุคตใิ นสมั ปรายภพด้วยเทอญ


อทุ ัย ทองภักดี

74

แม่จ๋า

แมจ่ ากไปได้เกือบปีแล้ว แต่ไม่มีวันไหนเลยท่ีเอ้ือยไม่คิดถึงแม่ โดยเฉพาะทุกคืนก่อนนอนจะเปน็
เวลาทเี่ ออื้ ยใช้ทบทวนถงึ ส่งิ ดีๆ ที่ได้รบั มาในแตล่ ะวัน เออ้ื ยโชคดีทสี่ ดุ ท่ไี ดเ้ กิดมาเป็นลกู แมแ่ ละเราได้ใช้เวลามี
คา่ เหล่านัน้ ด้วยกนั
เออ้ื ยเพงิ่ มารวู้ า่ แมเ่ ปน็ กำ� ลงั ใจทสี่ ำ� คญั ในชวี ติ มาตลอดกเ็ มอื่ ตวั เองเปน็ ผใู้ หญแ่ ลว้ จากทไี่ ดเ้ ฝา้ สงั เกต
และรับรู้ชีวิตและความสัมพันธ์ในครอบครัวของเพ่ือนฝูงและของผู้คนรอบตัวตั้งแต่เล็กจนโต ท�ำให้มั่นใจว่า
สง่ิ ทเ่ี ออื้ ยได้รับจากแมน่ ั้นคือความรกั อย่างไม่มีเงื่อนไข และความหมายที่แท้จรงิ ของมนั คืออะไร
แม่จะนึกถึงความสุขของสามแี ละลูกหลานก่อนตัวเองเสมอ ไม่เคยลมื แมใ้ นเร่ืองเลก็ นอ้ ยท่ีสดุ วา่ เรา
ชอบหรอื ไม่ชอบอะไร แมเ่ ปน็ หว่ งทกุ ขส์ ขุ ของพวกเราตลอดเวลา คอยดูแลใกลช้ ดิ ยามเจ็บไขไ้ ดป้ ่วย ทำ� ทุกอยา่ ง
ให้เราไมว่ า่ จะเยบ็ ปกั ถักเสอ้ื ทำ� อาหารอรอ่ ยๆ ให้กนิ สารพดั ไม่เคยทำ� ให้ลูกลำ� บากใจไม่วา่ จะเร่อื งใดๆ แม้แต่
ตอนท่ีเอือ้ ยตดั สินใจท่ีจะไปทำ� งานทนี่ วิ ยอร์กตอนอายแุ คย่ ่สี ิบตน้ ๆ และมีทีทา่ ว่าอาจอยู่ท่ีโน่นถาวร หรอื
เม่อื ตอ้ งตัดสินใจคร้ังย่ิงใหญใ่ นชีวิต แม้ค�ำแนะนำ� ของแมจ่ ะหลักแหลมและมเี หตมุ ผี ลอยา่ งไร แมก่ ไ็ ม่เคยบังคับ
ให้เอือ้ ยต้องคดิ เหมือนแม่ แตข่ อใหม้ ัน่ ใจไดเ้ ลยว่าจะถูกผิดอยา่ งไรแม่จะยืนอยู่ข้างลูกเสมอ แมค่ งไม่รูว้ า่ ลูก
คิดถึงค�ำแนะน�ำตรงๆ ท่ีไม่อ้อมค้อมของแม่ อารมณ์ขันในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ความข�ำตัวเองได้
ตลอดเวลา ความเปน็ เหตุเป็นผล และความม่นั คงในจติ ใจของแมเ่ พียงไร
เออ้ื ยคิดถงึ อาหารฝีมอื แม่มาก พอช่วงหลงั ๆ แม่เข้าครัวไมไ่ หว เออื้ ยกม็ คี วามสขุ ที่ไดท้ ำ� อาหารให้
แม่และทกุ คนในบ้านทาน เอ้อื ยชอบฟังแมเ่ ล่าเรื่องสมัยเดก็ ๆ เร่ืองพี่ๆ น้องๆ ของแม่ คณุ ยา่ ที่แม่รกั เหมอื น
แมแ่ ท้ๆ แตท่ ่คี ิดถึงที่สุดคอื การได้นง่ั คุยกบั แม่เรอื่ งทำ� กับขา้ ว ของกินอะไรใหมๆ่ ที่กำ� ลังเป็นท่นี ยิ ม แลกเปลยี่ น
สตู รและต�ำราอาหารและขนม และวิจารณร์ ายการท�ำอาหารทง้ั หลายในทวี ีด้วยกนั
ต้ังแต่แม่จากไป เอ้ือยยังไม่เคยฝันถึงแม่เลย ทั้งท่ี
คิดถึงแม่อยู่ทุกวัน ไม่แน่ แม่อาจจะมาเข้าฝันเอื้อยเร็วๆ นี้
หวังว่าเราจะได้พบกันอีกในชาติหน้านะจ๊ะ ขอบคุณส�ำหรับ
ความรักและก�ำลังใจที่ลูกได้รับมาตลอดชีวิต แม่เป็นแม่ที่
แสนดีจริงๆ เอื้อยโชคดเี หลอื เกนิ ทไ่ี ดเ้ กิดเป็นลกู แม่

รักแมท่ สี่ ุด


ทิพพา ปราณีประชาชน

75

Sakura sakura
Noyama mo sato mo

Miwatasu kagiri
Kasumi ka kumo ka

Asahi ni niou
Sakura sakura
Hana zakari

แม่

เท่าท่จี �ำความได้ นคี่ อื ประโยคแรกในชวี ิตท่แี ม่พูดกับเอก หรือถา้ จะใหถ้ ูกคือเป็นเพลงแรกท่แี ม่
ร้องใหฟ้ งั ตอนน้นั เอกน่าจะอายุไมก่ ่ีขวบ แม่จะกลอ่ มนอนด้วยเพลงซากุระที่แมน่ ่าจะได้ยนิ มาจากตอนไป
เรียนต่อท่ีโตเกียวหลงั เอกเกิดไดไ้ ม่นาน
ตง้ั แต่นัน้ เอกกม็ เี พลงนดี้ งั อย่ใู นความคดิ มาโดยตลอด เป็นส่งิ คอยเตือนใหน้ กึ ถงึ ความรกั ความ
เอาใจใส่ทแี่ ม่มีใหก้ บั ลูกๆ และคนทแี่ ม่รักอยา่ งไมม่ ที ีส่ นิ้ สดุ
เมื่อไรก็ตามทีเ่ อกต้องการคำ� ปรึกษา ความชว่ ยเหลอื หรอื ออ้ มกอดปลอบใจ แม่จะอยูต่ รงน้นั เสมอ
ความรักของแม่เปน็ ความรักทไ่ี มม่ เี งือ่ นไข มีแตค่ ดิ อยู่ตลอดเวลาวา่ จะท�ำให้ทกุ คนทแ่ี ม่รกั มคี วาม
สุขกายสบายใจไดอ้ ย่างไร ส่งิ ท่แี มถ่ นดั และโปรดปรานท่ีสดุ คอื การทำ� อาหารอรอ่ ยๆ ให้พวกเราทาน แมแ้ ม่
จะบ่นและเตอื นอย่เู สมอวา่ เอกอย่ากนิ นั่นอย่ากินน่มี นั ไม่ดตี ่อสุขภาพ แต่แมก่ อ็ ดท�ำให้กนิ เองไม่ได้เพราะรูว้ ่า
นั่นเป็นของชอบของลกู
สิ่งทเี่ อกเสยี ใจอยู่อยา่ งเดยี วคือไม่มโี อกาสตอบแทนความรักความเอาใจใส่ และความทมุ่ เทท่แี มใ่ ห้
กับเอกและครอบครวั ไดอ้ ย่างที่อยากทำ� ไดแ้ ต่หวังวา่ ชาติหนา้ เราจะไดก้ ลับมาเปน็ ครอบครวั เดียวกันอีก และ
ขอใหไ้ ดม้ โี อกาสทดแทนคณุ แมใ่ ห้สมกับทแี่ มไ่ ด้ดูแลลกู มาอยา่ งดีเหลือเกนิ ในชาตินี้

ธานี ทองภักดี

76

ผม ได้เขียนค�ำไว้อาลัยถึงคุณแม่เป็นคนสุดท้ายท่ีจริงเอ้ือยก็บอกให้เขียนมาต้ังนานแล้วแต่ด้วย

ความทไี่ มเ่ คยไดเ้ ขียนหนังสอื มานานหลาย 10 ปี จนถงึ วันนเ้ี ออ้ื ยบอกวา่ หนงั สอื เค้าจะเรม่ิ พมิ พแ์ ลว้
แล้วหนังสือน้ีจริงๆ แล้วเขียนกันไม่ค่อยมีใครอ่านหรอก เก็บไว้ส�ำหรับคนในครอบครัวเท่าน้ัน
ถ้าอย่างนั้นใครเร่ิมอ่านที่ผมเขียนตรงน้ีข้ามไปได้เลยนะครับไปอ่านที่หลานๆ เขียนของ Tam Pip Pear
เขียนเกง่ และน่าอา่ นมากครบั
แตท่ จ่ี รงิ แลว้ เขยี นกนั มาทกุ คนแมจ้ ะเขยี นไทยบา้ งองั กฤษบา้ งถา่ ยทอดออกมาคลา้ ยๆ กนั คอื ความรสู้ กึ
ที่มีตอ่ คุณแม่ พวกเราทกุ คนทราบวา่ เร่ืองอาหารคุณแม่เปน็ ทห่ี น่งึ คอื ทัง้ ชอบทำ� ชอบทาน รวมทงั้ เขยี นสตู ร
อาหารไว้มากมาย เพราะฉะนั้นเวลาท่ีบ้านเราทานเล้ียงท่ีมีคุณพ่อคุณแม่รวมท้ังบ้านเอกมามีคนกล่าวไว้ว่า
อาหารทรี่ บั ประทานรว่ มกบั ครอบครวั เอรด็ อรอ่ ยทส่ี ดุ ถงึ แมไ้ มไ่ ดร้ บั ประทานทร่ี า้ นเลศิ หรแู ตท่ รี่ บั ประทานไป
ไมเ่ พยี งเปน็ อาหารอยา่ งเดยี วแตเ่ ปน็ ความอบอนุ่ และความรกั แตบ่ า้ นเราอาหารกอ็ รอ่ ยดว้ ย ขอบคณุ คณุ แม่
และเอ้อื ยดว้ ยครับ
คุณแม่เป็นผู้หญิงท่ีเรียบง่ายไม่ชอบแต่งตัวใจดีอารมณ์ดี ผมไม่เคยเห็นคุณแม่โกรธลูกหลานเลย
แม้สักครั้งเดยี ว รักและเป็นห่วงใยในความสุขความสบายของลูกหลานมากกว่าของตวั เอง ผมจำ� ไดว้ ่าช่วงที่
แพร์หนึ่งถึงสองขวบ ช่วงน้ันเอกน่าจะได้กลับมาอยู่เมืองไทย คุณแม่วิ่งตามหลานน้�ำหนักลดไป เกือบ 10
กิโลได้
คณุ สมบตั ิของคุณแม่ที่ผมว่าพิเศษกวา่ ใครกค็ อื คณุ แม่ไม่มีความอยาก ไม่มีกิเลส ไมเ่ คยซอื้ อะไรที่
ฟมุ่ เฟอื ยใหก้ บั ตวั เอง บอกไดเ้ ลยวา่ หนงึ่ ในลา้ น เเมค้ ณุ แมจ่ ะเปน็ หมอแตไ่ มเ่ หน็ มมี าดอะไรเลย เหมอื นเพชร
ท่ีห่อไว้ ไม่ได้เปล่งประกายจริงๆ เสียดายคุณแม่สุขภาพไม่ค่อยดี ได้จากพวกเราไปและยังไงก็รู้สึกว่าเร็ว
เกินไป เห็นรูปคุณแม่ที่วางอยู่ที่บ้านคิดถึงคุณแม่เสมอครับ เดี๋ยวน้ีเวลาทานอาหารกับครอบครัวท่ีมีคุณพ่อ
และบ้านเอกมา ถงึ แม้อาหารจะเอร็ดอรอ่ ยแตเ่ หมอื นขาดรสชาตอิ ะไรไปอยา่ งนงึ จริงๆ

พูลฤทธ์ิ ปราณีประชาชน

77

แม่หวาด

การจากไปของแมห่ วาดทำ� ใหป้ ูไดร้ ้วู ่าการจากกันไม่ไดม้ อี ยูจ่ ริงขนาดนนั้ ถ้าเรารักใครไม่วา่ คนนั้น
จะอยู่ทไ่ี หนเขาจะอยู่กบั เราเสมอ ทุกวนั นเี้ วลาไปเดนิ จา่ ยกับข้าวจะตอ้ งนึกถงึ แม่ ข�ำวา่ เรามาถงึ จุดทีเ่ ดินตลาด
ทุกเช้าเหมือนแม่หวาดเลย เหน็ ของกินอะไรทเ่ี คยซอื้ ไปฝากแล้วแม่กับพอ่ ชอบ หรอื บอกว่าไอ้น่คี ราวหลงั
ไมต่ อ้ งซ้อื มาอีกแลว้ นะแพงแลว้ ยงั ไมอ่ รอ่ ย นกึ แลว้ ก็ท�ำใหค้ ดิ ถงึ และอดยิ้มในใจไม่ไดเ้ สมอ
ปูเป็นลูกทสี่ นิทกบั แมข่ องตวั เองมาก คุยกนั ไดท้ กุ เรอ่ื งเป็นช่วั โมงๆ ชอบอะไรเหมือนกันแทบ
ทุกอยา่ ง หาเรื่องสนกุ ๆ ทำ� ด้วยกนั ได้ตลอดเวลา คิดอยเู่ สมอว่าส่งิ ท่โี ชคดีทีส่ ุดในชีวติ คือเกดิ มาเปน็ ลกู ของแม่
พอแต่งงานมาอยู่กับแม่หวาดจึงได้รู้ว่าการโชคดีท่ีสุดซ้�ำซ้อนนั้นมีอยู่จริง ถ้ามองอย่างผิวเผิน แม่ของปู
กบั แมห่ วาดไมม่ อี ะไรเหมือนกนั เลย ถา้ แมเ่ ปน็ สาวสายศิลป์ แมห่ วาดก็คือสาวสายวิทยต์ วั จริง แตเ่ อาเข้าจรงิ ๆ
แลว้ แม่ปแู ละแมห่ วาดเหมือนกนั ทส่ี ุด นอกจากจะท�ำอาหารเกง่ แบบหาตัวจับยาก ทง้ั สองเป็นคนรกั ครอบครัว
เปน็ ชีวิตจติ ใจ ไมว่ า่ จะทำ� อะไรก็จะนึกถงึ ความสุขความสบายของลกู หลานและสามีเปน็ ท่ตี ั้ง เรอ่ื งของตวั เอง
เอาไว้ทา้ ยสดุ ยังไมน่ ับเรือ่ งทท่ี ัง้ คบู่ งั เอิญเกิดวนั เดยี วกนั อีก ซึ่งพอแมห่ วาดรู้ก็ยิ้มๆ แล้วก็พูดออกมาประโยคนงึ
ซ่ึงขณะทีป่ ูนัง่ เขียนอยู่นึกถงึ ยังนำ้� ตาคลอ “ก็เพราะจะไดม้ าเปน็ แมล่ ูกกันจรงิ ๆ ไง”
แมห่ วาดมีอะไรทที่ �ำให้ปูท่งึ เสมอ ใครๆ กร็ วู้ า่ แม่รักการทำ� อาหารเป็นชีวติ จิตใจ ไมว่ ่าจะทำ� อะไรก็
อร่อยไปหมด แตแ่ ม่จะไมใ่ ชค่ นทำ� อาหารแนวกะๆ โยนๆ เล็งด้วยสายตาและความรูส้ ึก แตท่ ุกอย่างแมท่ �ำ
อยา่ งเป็นระบบ ตง้ั แต่ขัน้ ตอนการจดั เตรียมและจัดวางวตั ถุดบิ ตอ้ งสะดวกในการหยิบจบั และครบถว้ น การ
ทำ� อาหารนา่ จะเหมือนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ส�ำหรับแม่เหมอื นกัน เพราะแมไ่ มพ่ อใจกับอะไรงา่ ยๆ
ถา้ ยังออกมาไม่สมบูรณ์แบบอยา่ งใจ แม่จะปรบั เปลีย่ นสูตรไปเรอ่ื ยๆ และทุกๆ ครง้ั จะตอ้ งจดอยา่ งละเอียด
ว่าปรบั อะไรตรงไหนบ้าง cookbook ของแมห่ วาดจงึ อา่ นเขา้ ใจและท�ำตามได้ง่ายท่ีสดุ เพราะเขยี นดว้ ยลายมือ
สวยเปน็ ระเบยี บของแมเ่ อง และบอกละเอียดยบิ ทกุ ข้ันตอน แถมมรี ปู วาดประกอบอกี ต่างหาก
แมห่ วาดจะแสดงความรักผา่ นความเอาใจใส่ในสารทกุ ขส์ ขุ ดบิ ของลูกหลาน ไม่วา่ ใครจะไมส่ บาย
เป็นอะไรกป็ รกึ ษาหมอหวาดได้ตลอดยีส่ บิ ส่ชี ่วั โมง ถ้าหมอใหย้ าอะไรมา แมส่ ามารถอ่านฉลากวินิจฉยั ตัวยา
ได้หมด แม่มคี วามจ�ำเปน็ เลิศ และอย่าได้บอกวา่ ชอบกนิ อะไรหรอื วนั ไหนอยากกนิ อะไร แมจ่ �ำไดท้ กุ อย่าง
และสามารถเนรมิตได้แบบไมน่ ่าเชอ่ื สมมติมใี ครบอกแม่ตอนสบิ โมงเชา้ ว่าเทย่ี งอยากกนิ ขา้ วคลกุ กะปิ แม่ก็
ลงครวั บัญชาการใหไ้ ดก้ นิ กันทนั ทีโดยไม่ตอ้ งออกไปจ่ายตลาดหาของใดๆ เพราะท่บี า้ นมตี ู้เย็นอยสู่ ี่ตู้ ทกุ ตู้
เตม็ ไปดว้ ยของสด ผกั ผลไม้ เครื่องปรงุ ทแี่ มไ่ ด้จากการไปช็อปทีต่ ลาดและซุปเปอรม์ าร์เกต็ ต่างๆ อนั เปน็
กจิ วตั รประจำ� วนั ของแมท่ กุ เช้า แมร่ ูห้ มดวา่ อะไรต้องซือ้ ทไ่ี หน ถงึ จะคุณภาพและราคาดที ่สี ดุ
แม่เป็นคนตรงไปตรงมา จะไม่พดู อะไรที่ไม่ตรงกับใจเป็นอันขาด ถ้าซ้ือขนมของหรือของกินอะไร
มาฝาก แมก่ ็จะบอกตรงๆ ว่าอร่อยหรอื ไมอ่ รอ่ ยอยา่ งไร แตแ่ มไ่ มเ่ คยพดู จาหกั หาญนำ�้ ใจใคร อย่างมากก็

78

เฉยเสีย แม่จะดแู ลเรอ่ื งอาหารการกิน สขุ ภาพ ตักเตือนเรื่องความปลอดภยั แตใ่ หอ้ ิสระในการใชช้ ีวิตและ
การเล้ียงหลานๆ อย่างเตม็ ท่ี ตอนรอลูกกลับจากโรงเรยี นชว่ งบ่ายๆ ปชู อบนัง่ คยุ กับแมห่ วาดยาวๆ แม่จะ
เอาบานอฟฟพ่ี ายหรอื แอปเปลิ้ ครมั เบ้ิลอร่อยมากทแ่ี มท่ �ำเองมาให้ แล้วกเ็ ลา่ เรอ่ื งสมัยแมย่ งั เด็ก เร่ืองคณุ ยา่
ของแม่ คุณพ่อทชี่ อบไปจา่ ยตลาดเองทุกเชา้ คุณแมท่ ่แี มเ่ รียกว่านาย ชีวติ สมยั เป็นนกั เรียนแพทย์ตอ้ งเขา้
เวรดกึ ดืน่ ความกลวั ผีของแม่ ความอร่อยของขา้ วคลกุ กากหมูเหยาะแมก็ ก้ี สีลมสมยั กอ่ น ความขดั สนใน
การหาเครือ่ งปรงุ อาหารไทยเวลาสามอี อกประจ�ำการต่างประเทศสมัยโน้น พอปขู อค�ำแนะน�ำในการเลย้ี งลกู
เพราะพีเ่ ออ้ื ยพเ่ี อกดเู ปน็ เด็กดมี าก ไม่เคยสร้างปัญหาอะไรเลย แมก่ ต็ อบตรงๆ ตามสไตลแ์ มว่ า่ ไมเ่ คยสอน
อะไรจริงๆนะ ไมเ่ คยมาน่งั บอกวา่ ตอ้ งเปน็ คนดตี ้องท�ำอย่างน้ันอย่างน้ี กเ็ ลี้ยงๆ ไปหาข้าวใหก้ ินแค่นั้นแหละ
ตลอดยส่ี บิ กวา่ ปีทอี่ ยกู่ ับแมม่ า ปไู ด้รู้วา่ ภายใต้ความน่งิ ๆ ตรงๆ เปน็ เหตเุ ป็นผลแบบวทิ ยาศาสตร์
ของแม่ แม่เป็นคนอ่อนไหวง่ายทส่ี ุดถ้าเป็นเรือ่ งของคนที่แมร่ กั ตอนทพี่ พิ เล็กๆ ได้รางวัลเขียนเรยี งความ
ภาษาไทยเรื่องพอ่ ของผม ปเู อาไปใหแ้ ม่อ่าน แม่อ่านแลว้ ร้องไหใ้ หญ่ บอกวา่ ดใี จท่เี อกเปน็ พอ่ ท่ดี ีใหล้ กู ได้
ขนาดนี้ ตอนปูประสบอุบตั ิเหตุหกลม้ หมดสตินอนอยู่โรงพยาบาล แม่หวาดมาเยย่ี ม พอเห็นหนา้ ปเู ท่านั้นก็
รอ้ งไห้โฮ แมไ่ ม่เคยทำ� ใหป้ รู สู้ กึ วา่ ตัวเองเปน็ สะใภ้ แตเ่ ปน็ ลูกสาวอกี คนของแม่ ทำ� ใหร้ ู้เสมอวา่ แมร่ ัก
แมห่ วาดจา๋
ทกุ วันนเ้ี วลาบา่ ยๆ ปูกย็ งั คิดถึงตอนที่เรานั่งคุยกนั หรอื ตอนท่พี ี่เอกประจ�ำการแล้วปกู ็จะโทรมา
เลา่ ให้แมฟ่ ังว่าเราไปกนิ อาหารประจ�ำชาตอิ ะไรแปลกๆ ท่ไี หนกันมาบ้าง แมก่ จ็ ะแนะน�ำว่าจริงๆ เราเอามา
แปลงท�ำเปน็ แบบนั้นแบบน้ีได้นะเปน็ ที่สนกุ สนาน ปูขอบคณุ แม่มากนะจ๊ะสำ� หรับความรักและความเมตตา
ท่แี ม่ใหก้ บั ปูและครอบครวั ของปูมาตลอด ถา้ แมอ่ ยู่จนวันนี้ แมค่ งช่ืนใจว่าพพิ ชอบท�ำอาหารทีส่ ุดและทำ� ได้
อรอ่ ยมากเหมือนแม่เลย ส่วนแพรก์ ็ท�ำเองกินเองไดน้ ะคะ คุณยา่ ไมต่ อ้ งหว่ ง ไมม่ วี นั ไหนที่พวกเราไมค่ ิดถึง
แม่ ขอใหแ้ มม่ คี วามสขุ ในสัมปรายภพ จนกวา่
เราจะพบกนั อกี นะจ๊ะ
รกั ทีส่ ุด

ณพนชุ ทองภกั ดี

79

Yai Yai

When I think of my dearest grandmother (my Yai Yai) it is, at first, hard to pinpoint
a narrative arc. Instead, there’s a rush of snapshots and feelings all at once, not tied to any
specific year, which speaks to the steady and unwavering comfort that she was to me and to
all of us throughout our time together. She embodied this saying: “to love” is a verb. She
didn’t often express her love through words but that was never needed. Her brand of love was
one of actions and ultimate giving - never expecting anything in return; always caring, cooking,
feeding, and sharing. Sunday lunches, family gatherings, trips to London, visits when I was
ill… she was there, a constant presence. A particular memory that sticks with me is coming
home from the hospital after a bad bout of food poisoning and waking up in bed to find her
there, silently reading the paper across the room from me. Perhaps that is why I put off writing
this for so long; to write about what she means to me is to confront the absence of her “there-
ness” now.
So what snapshots and feelings? Her wire-framed glasses. Her stethoscope on a table
nearby. Apple pie - in truth it wasn’t the best apple pie but we loved it because it was hers;
Yai Yai = apple pie. Cooking, cooking, cooking. And when she couldn’t stand for long periods
of time, sitting in the kitchen on a stool and directing the cooking like the conductor of her
own orchestra. The pillowy warmth of her hugs. The colorful pin cushions that she would keep
in an old biscuit tin. The texture of the thick pajamas she made to keep me warm. Her and my
grandfather’s apartment, the weird peanut smell of the elevator in that building and the feeling
of homecoming when we walked through their doors. I loved looking through their storage,
unearthing books and playing on their old treadmill.
Less visible to me as a kid but evident now is the strength, grit and independence she
possessed. It is unsurprising that I didn’t grasp this sooner because she was never one to show
off her achievements. Only in her later years did I learn more about her time in medical school
and was better able to appreciate the sacrifices she made being away from my mom and uncle
when they were young; an impressively radical choice to make in those times. I knew my
grandparents lived all over the world due to my grandfather’s ambassadorships, and now
understand how interesting but also difficult that might have been for her. She passed on that

80

persevering spirit to my mom who, I like to think, passed this on to me (somehow, in my
grandmother’s trademark indirect way). While she could never fully picture what my life in
New York is like, I am comforted by the through-line of that independence that has led me to
make the choices I have and maybe she understood this in her own way.
Now, I carry her with me when I replicate her acts of kindness. When I learned of my
grandmother’s passing the only thing I could think to do was cook. I roasted a chicken and
made all the sides and importantly - true to the type of love she showed us - invited people
over to share the meal. It seemed the only appropriate way to honor her and be close to her at
that moment. That is why this book of recipes is so very special to us. It is not only a legacy
of her cooking but a legacy of her love, and how we will continue to be close to her.
Other times when I want to feel close to her, I imagine that she’s sitting in an armchair
nearby - only now, out of view - just like she would at those Sunday lunches, watching over
us through that same quiet and unassuming presence. I’ll be forever grateful to her for showing
me that kind of rare and selfless love that remains with me to this day.

ธญั ญา ชมุ พล ณ อยุธยา

81

Pip to Khun Ya

I knew little of Khun Ya’s life as a doctor but it comes to me as no surprise that she
devoted her entire professional career to the betterment of others’ wellbeing and the prevention
of harm. She always put others’ desires above her own and this was as obvious in her
professional life as it was in her private one. Khun Ya’s warmth towards all family and friends
never appeared to wilter. Trying to think of her favorite foods, pastimes and items, I struggle
to conjure up an accurate list. Every interaction we shared was never about what she wanted
to eat, do or buy. The table at each family dinner was set with the foods my sister and I
enjoyed most and despite taking no true interests in sports of any sort, Khun Ya always paid
close attention to how I was performing, be it tennis or football. Although she is no longer
with us, the memory of her endless support is undying.
Notwithstanding Khun Ya’s selflessness, the trait that really stood out to me was her
insusceptibility to materialism. In a society whose biggest flaw is rampant classism, I have
found this quality to be particularly rare and even more impressive. No gift or amount of
money could corrupt her belief that nothing in life was finer than radiating kindness and
enjoying time spent with a loved one. That said, she never shied away from spoiling her
grandchildren. I never left her home on an empty stomach and there needn’t ever be an
occasion for her to slip me a gift when my parents weren’t watching. As this was a common
occurrence during my childhood, such indulgence became something of a normality in her
household. However, as I matured I began to appreciate that her unconditional love could
never be taken for granted.
While she made every effort to bring as much comfort into my life as she could, Khun
Ya remained wary of the possibility that I may grow naive to others’ hardships and the
difficulties of success. Adamant that I should become an independent and capable individual,
she made sure to monitor my progress in school with great interest and supported me through
each subsequent stage of study. Remembering the great pride she took in my every success, it
would seem that she was living vicariously through the lives of her grandchildren. I have fond
memories of her being reduced to tears when I won a poetry competition as a child and her

82

excitement for me when I graduated from high school. At the time of writing this, I am about
to graduate from university with every faith that she would be equally glad on my behalf
today.
Khun Ya has been a role model of mine for many years and lives on in my memory
as a champion of patience, frugality and pragmatism. I hope one day to raise a family as well
as Khun Ya has and to be remembered by my peers in the same way I do her.

กฤษฏ์ิ ทองภักดี

83

Pear to Khun Ya

My Grandmother has always been an active and supportive figure in my life since I
was a child. We only lived a few floors away from each other which allowed us to build many
great memories together as a family at our Sunday dinners. As a child, I would look forward
to our weekly visits for silly reasons such as ice cream and fried shrimp. Now that I am more
grown up, I have found a new appreciation for her acts of kindness as cooking delicious foods
was her expression of love and the many pictures of us around her house created an environment
of comfort and acceptance. She cared for my brother and I deeply, making sure we had
everything we wanted and needed such as warm home cooked meals to handmade costumes
for our school plays.
When my brother and I first moved back to Bangkok, she provided us with a calm and
sweet living environment in which we felt safe and protected and I will always be thankful for
that. I was greeted with a lovely smile coming through the door everyday and she never failed
to ask me how I was. During my time with her, she helped me understand my Thai heritage
by educating me on the cultural norms and rules within our community. The awareness she
has given me has led me to feelings of connectedness to my roots and my home here in Bangkok.
This has allowed me to act and communicate better with those who are around me and will
continue to serve me in the future. My grandmother’s love for our family had no limits and
most of all she wanted to keep us safe to the best of
her ability. In doing so, I am reminded that I am
loved and that I am not alone.
Now that I am going to university in the fall,
I am saddened by the fact that she won’t be here to
see me take my next steps as an adult. However,
without her I know I would not feel as prepared as
she has taught me to be attentive of my surroundings
as well as the importance of maintaining my health. I
will now continue to work hard to make her proud.
I miss you very much.

84 นัทลี ทองภกั ดี

เมื่อ ตอนผมยังเป็นเด็ก คุณยายสนิท จุลเสวก และคุณแม่ของผม นางพิสมัย เดชะไกศยะ

เล่าใหผ้ มฟงั เสมอๆ วา่ ช่วงทผี่ มเกดิ คุณพอ่ ของผม ศจ. นพ. เชวง เดชะไกศยะ ไดร้ ับทนุ การศึกษาจาก
รัฐบาลไทยให้ไปศึกษาต่อ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณยายสนิทและคุณแม่ผม จึงย้ายไปพักกับป้าหวาด
ซึ่งขณะน้ันไปเป็นแพทย์ประจ�ำอยู่ท่ีโรงพยาบาลจังหวัดอุบลราชธานี และป้าหวาดเป็นคนท�ำคลอดผมที่
บา้ นพกั ในชว่ งเวลานนั้ เปน็ ฤดหู นาว คณุ ยายสนทิ พดู บอ่ ยๆ วา่ ชว่ งนน้ั อากาศหนาวมากจนลมหนาวสามารถ
ทะลพุ น้ื บา้ นขน้ึ มา ตอ้ งหาของมาอดุ รตู า่ งๆ ทวั่ บา้ น ในสมยั นน้ั ชาวบา้ นชอบนำ� สตั วเ์ ลย้ี งเดนิ ผา่ น อาทิ เชน่
ววั ควาย และช้าง เป็นตน้ เวลาเดินผา่ นบ้านกระพรวนท่ีหอ้ ยคอสตั วเ์ ลย้ี งไวจ้ ะมเี สยี งดงั ซงึ่ มักจะปลุกผม
ตืน่ เสมอๆ
เมือ่ ย้ายกลับมาท่กี รงุ เทพฯ ผมจ�ำไดว้ า่ ปา้ หวาดจะมาเยี่ยมคณุ ยายสนิทและผมทบี่ ้านบอ่ ยๆ มา
แต่ละครงั้ ป้าหวาดกจ็ ะมขี องเล่นและอาหารตดิ ไม้ติดมอื มาให้ผมด้วยทกุ ครงั้ ผมยงั จำ� ไดเ้ สมอมา ช่วงเวลา
ทำ� งานป้าหวาดก็มักพาผมไปทีท่ ำ� งานซง่ึ ขณะนั้นคอื โรงพยาบาลเด็ก ป้าหวาดเปน็ หมอประจ�ำโรงพยาบาล
มีหนา้ ที่ดูแลคนไข้ซ่งึ เปน็ เด็ก มีทงั้ เดก็ ๆ ท่ัวไป เด็กกำ� พร้า และเด็กพิการ ปา้ หวาดพูดเสมอว่าเรานะ โชคดี
นะเกิดมามีพ่อแม่เลย้ี งดู บางคนโชคร้ายเกดิ มากก็ ำ� พรา้ ป้าหวาดเปน็ คนใจดี มีนิสยั โอบอ้อมอารี เอ้ือเฟอื้
เผื่อแผ่ และมนี �้ำใจกบั ทกุ คน ผมยังคดิ ถึงป้าหวาดอยเู่ สมอ และป้าหวาดเป็นแรงบนั ดาลใจใหผ้ ม คุณแม่และ
นอ้ งๆ น�ำสง่ิ ดๆี ทีป่ ้าหวาดมอบใหก้ ับผ้อู นื่ มาประพฤตปิ ฏบิ ัติจนถึงทกุ วันนี้
ขออำ� นาจคณุ พระศรรี ตั นตรยั ส่ิงศักดิ์สิทธิ์ คุณความดีทีป่ ้าหวาดได้กระท�ำไว้เมื่อคร้ังยงั มชี ีวิตอยู่
ตลอดถงึ กุศลกรรมที่ ลูกหลาน ญาติพ่นี ้องและเพอื่ น ๆ ไดร้ ว่ มกนั ทำ� อุทิศใหใ้ นครง้ั น้ี ได้โปรดดลบนั ดาลให้
ดวงวญิ ญาณของปา้ หวาดไดไ้ ปสูส่ คุ ตใิ นสัมปรายภพดงั ทท่ี ่านปรารถนาด้วย เทอญ
พิสมยั เดชะไกศยะ
พสิ ทุ ธิ์ เดชะไกศยะ
ชรินทรท์ ิพย์ เดชะไกศยะ
กรัณฑร์ ัตน์ จริ งั บุญกุล

85

พี่หวาดในความทรงจ�ำ ของน้องพมิ

พหี่ วาดเป็นพ่สี าวคนโตท่มี คี วามรับผดิ ชอบสูงตั้งแต่เดก็ มีเมตตาช่วยเหลอื ดแู ลนอ้ งๆ มาโดยตลอด
พห่ี วาดเรียนหนงั สอื เก่งมาก มักจะสอบได้ท่หี นึง่ อยเู่ สมอและไดร้ บั รางวลั พิเศษจากคณุ พอ่ ทกุ คร้งั ตา่ งกบั
พิมและพห่ี มัย (พีส่ าวคนที่ 2) โดยสิน้ เชงิ ความทเ่ี รยี นเกง่ และหวั ดี พ่หี วาดจะคอยชว่ ยสอนน้องๆ ท�ำการ
บา้ นโดยเฉพาะวชิ าเลข แตพ่ วกเราก็มักจะคดิ ช้า ทำ� ไดบ้ า้ งไม่ไดบ้ ้าง ทำ� เอาพ่ีหวาดโมโหบอ่ ยๆ จนบางทกี ็
ทบุ หลงั อ้ักเข้าให้เพราะสอนเท่าไหร่ไมเ่ ข้าหัวสกั ที แตถ่ งึ จะดุอย่างไร พี่หวาดกค็ อยดูแลหว่ งใยนอ้ ง ๆ เสมอ
จำ� ได้วา่ ตอนที่พมิ เข้าเรยี นใหม่ๆ อย่ชู ั้นอนบุ าล ทั้งเหงาและทง้ั กลัว พหี่ วาดก็อุตสา่ ห์หนีบเอาพิมไปนั่งท่ีโตะ๊
เรยี นของตวั เองและแนะน�ำพมิ กับเพอื่ นๆ ท่โี ตกว่าต้ัง 5-6 ปี อยา่ งไม่ยกั รำ� คาญ
พิมกบั พ่ีหวาดเปน็ คนชอบรับประทานเหมือนกัน สมัยเดก็ ๆ ครัวใหญ่ที่บา้ นจะปดิ เวลาหา้ โมงเย็น
หลังจากนัน้ จะไมม่ อี ะไรทานเลย เวลาหิวขนึ้ มาตอนดึกๆ เราชอบวิง่ ออกมาซ้ือโจก๊ ทีต่ าแป็ะหาบมาขายหนา้
บ้านด้วยความตืน่ เตน้ โจก๊ สีขาวนวลอยู่ในหม้อทองเหลืองใบใหญข่ ดั เปน็ เงาวบั ไฟจากเตาถ่านลกุ โชนปะทุ
เปน็ ประกายสว่างจ้าในความมืด โจ๊กถ้วยนงึ ใส่ไกส่ ามชิ้นราคาสามสตางค์ แต่ถา้ อยากจะหรูหรากว่านัน้ ตาแปะ๊
จะใช้ชอ้ นขนาดเลก็ จวิ๋ เท่าไมแ้ คะหูตักผงอายิโนะโมะโตะ๊ ใสล่ งไปให้ ซงึ่ สมยั น้ันราคาแพงมากเพราะตอ้ งนำ� เขา้
จากญ่ีปนุ่ แค่เติมผงชรู สนิดเดียวโจ๊กสามสตางคก์ ลายเปน็ หา้ สตางค์ เราสองคนไมเ่ อาด้วย กินโจ๊กสามตังค์
แบง่ กันสองคนกอ็ ่ิมท้ังกายและใจแล้ว
ความที่พ่ีหวาดเป็นพ่ีใหญ่มคี วามรับผดิ ชอบสูงและโตมากับคณุ ย่าบนตกึ ใหญ่ คณุ ยา่ จะมอบหมาย
ให้เปน็ คนท�ำบัญชแี ละเกบ็ ค่าเช่าสวนฝร่ังและสวนดอกไม้ของคุณปู่ (พ.อ. พระยาสิริ จลุ เสวก) ซ่ึงปจั จุบนั น้ี
คือสีลม ซอย 7 หรือซอยสิรจิ ุลเสวก ตดิ กบั ซอยละลายทรพั ย์
ช่วงท่ีเป็นนักศึกษาแพทย์ พี่หวาดท�ำเอาคุณย่าและน้องๆ ขวัญกระเจิงด้วยการน�ำกระดูกอาจารย์ใหญ่
กลบั มาศึกษาต่อท่บี า้ น คณุ ย่าถึงกับสวดมนตร์ ดน�้ำให้เป็นการใหญ่ ส่วนพมิ แรกๆ กก็ ลัว แตอ่ ยไู่ ปอยู่มาก็
ชักชิน ไม่เดือดร้อนกบั การทพี่ ่ีหวาดจะเอากระดกู เข้ามานอนในมุ้งของเราเพอื่ ท่องจ�ำช่ือขอ้ ต่อตา่ ง ๆ จำ� ได้ว่า
กระดกู ขดั มาแบบขาวสะอาดเอ่ยี มอ่องเชยี ว
การมหี มออยู่ในบ้านนัน้ นับว่าเป็นโชคดขี องพวกเราจริง ๆ พห่ี วาดจะคอยดแู ลให้คำ� ปรกึ ษาเรอ่ื ง
เจบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ยแกญ่ าตพิ นี่ อ้ งรวมทง้ั บรวิ ารของตนเสมอ ตอนทพี่ มิ คลอดลกู หนงึ่ ซงึ่ เปน็ ลกู คนแรกและคณุ สวุ ฒั น์
สามีอยู่ต่างประเทศ ก็ได้พ่ีหวาดคอยดูแลเป็นอย่างดี แม้แต่นายบางทหารรับใช้ของคุณพ่อซึ่งช่วยเลี้ยง
พี่หวาดมาต้ังแตเ่ ล็ก จนพีห่ วาดโตแลว้ จงึ ลาไปขับสามลอ้ เม่อื ถงึ คราวเจ็บปว่ ย พห่ี วาดก็รบั มาดูแลในบา้ น
คอยสง่ั ใหค้ นนำ� ฟูกที่นอนของนายบางไปตากแดด พาไปหาหมอสม่ำ� เสมอ จนใกลจ้ ะถงึ วาระสุดทา้ ยในชวี ติ
แกถามพี่หวาดด้วยความกลวั ว่าแกกำ� ลงั จะตายใชไ่ หม พห่ี วาดซึ่งร้คู �ำตอบดีอยู่แลว้ ไม่รู้จะพดู วา่ อยา่ งไร ก็ได้แต่
รอ้ งไห้

86

สมยั สาวๆ น้ันเราไม่ค่อยมโี อกาสได้เที่ยวไหนกนั เทา่ ไหร่ ตอนพีห่ วาดเป็นหมอไดไ้ ปสัมมนากบั
คณะแพทย์ท่ีตา่ งจังหวัด พห่ี วาดก็ชวนพิมไปเท่ยี วเปิดหเู ปดิ ตาดว้ ย รู้จกั แพทยม์ ากมายถอื เปน็ กำ� ไรชีวิตมาก
แต่ที่นา่ ประหลาดใจคอื เราทัง้ คู่ได้ใช้ชวี ิตของการเป็นภรยิ าเอกอัครราชทตู และมีโอกาสได้แบ่งปันประสบการณ์
แลกเปลย่ี นความรู้ ความคิดเหน็ ความรสู้ กึ ต่างๆ นานา อย่างสนุกสนานและอยา่ งภาคภูมใิ จทไี่ ด้รบั ใช้
ประเทศชาตไิ ปในแบบเดียวกนั
หลายคนจะคิดวา่ พ่ีหวาดเกง่ แตส่ ายวิทยาศาสตร์ หารูไ้ ม่ว่าพ่ีหวาดมีหัวศลิ ปะ วาดรปู ได้สวยงาม
และเก่งการบ้านการเรือนมาก จำ� ไดว้ า่ ตุ๊กตาเปลือกหอยที่ขาย ๆ กนั อยใู่ นตลาดหวั หนิ พหี่ วาดลองมาท�ำ
ตามเองออกมาไดเ้ หมือนเปย๊ี บ ชอบเยบ็ เสอื้ และถักเส้ือหนาวใหน้ อ้ งๆ ใส่ เป็นคนขยันไมเ่ คยนิ่งเฉย ขนาด
ตอนอายุมากแล้วแขง้ ขาไม่มแี รงต้องน่งั รถเขน็ พมิ ส่งตะลิงปลิงจากตน้ ท่ีบา้ นไปให้ พหี่ วาดยังอุตสา่ หท์ ำ�
ตะลงิ ปลงิ แชอ่ ม่ิ สง่ กลบั มาใหเ้ ราทาน แถมบอกสตู รการทำ� อยา่ งละเอยี ดมาใหอ้ กี ถามวา่ พน่ี ง่ั รถเขน็ อยทู่ ำ� ครวั
ได้ยังไง พ่ีหวาดบอกก็เอาทุกอย่างไว้บนตกั ไม่เหน็ จะยากอะไร ตะลิงปลงิ แช่อ่มิ ของพีห่ วาดอรอ่ ยทส่ี ดุ ใครทำ�
กไ็ ม่เหมอื น เพราะเปน็ แบบแหง้ รสแหลมอร่อยมาก พิมพยายามทำ� ตามก็ไมอ่ รอ่ ยเท่า เรอื่ งฝีมือทำ� อาหารก็
เป็นทร่ี ู้กันอยูแ่ ล้ววา่ ยอดเยยี่ มและไมเ่ คยหวงสูตร เรียกว่าหยิบจับอะไรก็ทำ� ไดด้ ีไปหมดและมคี วามเอื้อเฟ้ือ
เผื่อแผด่ ว้ ย
ความทรงจ�ำของพิมเก่ียวกับพ่หี วาดนัน้ มมี ากมายและแจ่มชัดในใจ ถา้ จะเลา่ ต่ออีกกค็ งอีกหลายหนา้
ถือเป็นโชคดีท่ีเกิดมาเป็นน้องพหี่ วาดซึ่งเป็นตัวอยา่ งทดี่ ใี นทกุ ๆ เร่ือง เช่อื แน่ว่าพี่หวาดผู้ประกอบแตค่ ุณงาม
ความดีจะตอ้ งบังเกิดในสุคตภิ ูมิ 7 มคี วามสขุ กายสขุ ใจในสมั ปรายภพดังทีป่ รารถนาอย่างแน่นอน
ด้วยความระลึกถืง เคารพรักและอาลัยเปน็ อยา่ งยิ่ง
น้องพิม
พิมพา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

87

88

ขต�ำ อรบั งอาแหามร่

แม่ เป็นคนท่ีชอบทุกอย่างเกี่ยวกับการท�ำอาหาร ตั้งแต่

อปุ กรณท์ ำ� อาหาร เครอ่ื งครวั เครอื่ งเทศตา่ งๆ วตั ถดุ บิ แปลกๆ กจิ กรรม
ท่แี มช่ อบท�ำมากท่ีสุดคือการไปตลาดสด ตลาดนัด ตลาดจุฬา อตก
ซปุ เปอรม์ ารเ์ กต็ ทงั้ ในเมอื งไทยและในตา่ งประเทศ ซง่ึ ไมน่ า่ แปลกใจเลย
เพราะแมเ่ หมอื นคณุ ตามากในเรอ่ื งน้ี คณุ ตาเปน็ คนทชี่ อบทานอาหาร
แล้วก็ชอบที่จะไปเดินตลาดทุกวัน ท�ำให้คุณตาเป็นท่ีรู้จักกันดีในหมู่
แมค่ า้ และคนขายอาหาร รวมทง้ั เจา้ ของรา้ นอาหารทวั่ กรงุ เทพฯ ตง้ั แต่
ทา่ เตยี นจนถงึ บางรกั ถา้ จะชวนแมไ่ ปเทยี่ วทไ่ี หนทไี่ มม่ ซี ปุ เปอรม์ ารเ์ กต็
หรือตลาดสด หรือรา้ นอาหาร แมก่ จ็ ะยม้ิ ย้ิม แลว้ ก็บอกวา่ เหนื่อยแล้ว
ขอพกั กอ่ นนะ แตถ่ า้ เมอื่ ไหรไ่ ดไ้ ปซปุ เปอรม์ ารเ์ กต็ กจ็ ะรบี กระวกี ระวาด
แตง่ ตัว แล้วสามารถไปเดนิ ไดเ้ ปน็ ชวั่ โมงๆ
ตลอดชีวิตของการเดินทางไปเรียนหนังสือ ท่องเท่ียวและ
ติดตามพ่อไปประจ�ำการในต่างประเทศ สิ่งที่แม่ชอบที่สุดคือการได้
ทดลองชิมและเรียนเรื่องการท�ำอาหารท้องถ่ิน แม่เป็นคนท�ำอาหาร
และท�ำขนมเก่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การได้ไปเปิดหูเปิดตารับรู้รสชาติ
และเรียนรู้สูตรอาหารที่แปลกใหม่นั้นเป็นความสุขของแม่อย่างหน่ึง
การอาศัยอยู่ในต่างแดนในสมัยนั้นซ่ึงอาหารไทยยังไม่เป็นที่รู้จัก
วตั ถุดบิ และเครือ่ งปรงุ ต่างๆ กไ็ มม่ ี แมจ่ งึ ตอ้ งอาศยั ความคดิ สรา้ งสรรค์
เป็นอย่างย่ิงในการน�ำเอาวัตถุดิบและเครื่องเทศท้องถิ่นมาดัดแปลง
เพื่อใช้ทดแทนกัน
ครอบครวั เรายา้ ยตามพอ่ ซึง่ ไปประจ�ำการทส่ี ถานทูตไทย ณ
กรงุ สตอกโฮลม์ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2510-2516 (ค.ศ. 1967-1973) แม่ได้ลา
ออกจากการเป็นกุมารแพทย์เพื่อมาท�ำหน้าที่แม่บ้านเต็มตัว ซ่ึงแม่

90

กด็ มู คี วามสขุ ไมน่ อ้ ย และดว้ ยความเปน็ คนใฝร่ ู้ แมเ่ ลยไปเรยี นทำ� อาหาร
อยา่ งจรงิ จงั ในโรงเรยี นสอนทำ� อาหารแหง่ หนงึ่ ในสตอกโฮลม์ แมท้ กุ อยา่ ง
จะสอนดว้ ยภาษาสวดี ชิ แตด่ เู หมอื นแมจ่ ะเขา้ ใจทกุ อยา่ งไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
จนฉนั เชอื่ วา่ การทำ� อาหารนนั้ เปน็ อะไรทเ่ี ปน็ ธรรมชาตแิ ละเปน็ ภาษาสากล
แม่ดูกระตือรือร้นและสนุกสนานมาก ท้ังจดสูตร เคล็ดลับรายละเอียด
พร้อมวาดภาพประกอบไว้ในสมุดโน้ตเต็มไปหมด แถมบางสูตรยังมี
ให้ดาวก�ำกับไว้ด้วย น่าจะแปลว่าอร่อยจริง อพาร์ตเมนต์ท่ีเราเช่าอยู่
สองสามปแี รกอยใู่ นตกึ โบราณบนเนนิ เขาที่ Drottninggatan ซง่ึ ปลายเนนิ
จะมตี ลาดชอื่ Hötorger ทชี่ าวสวนชาวไรจ่ ะนำ� ผลผลติ มาขาย แมจ่ ะไป
เดนิ จา่ ยตลาดทนี่ เี่ กอื บทกุ วนั ไมว่ า่ สภาพอากาศจะเปน็ อยา่ งไร หนาวเยน็
หมิ ะตกขนาดไหนกไ็ มห่ วน่ั ขา้ งบรเิ วณจตรุ สั จะมศี นู ยอ์ าหารซง่ึ ขายทงั้
ผกั ผลไม้ เนอื้ สตั ว์ และอาหารทะเล และทศี่ นู ยอ์ าหารนเ้ี องทว่ี นั นงึ แม่
ไดเ้ หน็ King Gustaf VI Adolf เสด็จประพาสตลาดส่วนพระองค์
อยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่แม่ประทับใจไม่รู้ลืม
แม่เป็นคนชอบทดลองอะไรใหม่ๆ ยังจ�ำได้ว่าเคยเอาเนือ้ มา้
และเนื้อกวางมาท�ำอาหารใหพ้ วกเราลองทานกนั ทส่ี วเี ดน และตอนที่
อย่สู วีเดน สวนสาธารณะขา้ งโรงเรยี นมีตน้ ไม้ใหญ่มีลกู สนี ้�ำตาลเล็กๆ
เหมือนเกาลัด แม่ให้เราช่วยกันเก็บลูกที่ตกลงมาที่พื้นดินเอาไปค่ัว
ปรากฏวา่ ออกมาขมปี๋ กินไมไ่ ดเ้ ลย เราจึงโชคดีทไี่ ม่ตอ้ งเหนือ่ ยเก็บ
ลกู เกาลดั ทุกๆ วนั อกี อยา่ งทเี่ ราจำ� กนั ได้ดีมาก แมเ่ ปน็ คนชอบทาน
ลนิ้ จมี่ ากๆ โชคดที ใี่ นชว่ งปลายยคุ 70 ทจ่ี นี มลี น้ิ จล่ี กู โตเนอ้ื เยอะเมด็ เลก็
ซง่ึ เป็นอะไรที่หาได้ยากและแพงมาก รฐั บาลจีนในสมัยนัน้ ได้คัดลิน้ จ่ี
ลูกใหญ่พิเศษเพื่อขายในร้านที่ให้บริการส�ำหรับนักการทูต จ�ำได้ว่า
พอถงึ หนา้ ลน้ิ จที่ ไี ร เออื้ ยและเอกจะตอ้ งผลดั กนั ไปทร่ี า้ นนนั้ วนั ละหลายๆ
รอบเพ่อื ซอื้ ลนิ้ จใี่ ห้แม่

91

แม่เป็นคนสอนให้เอื้อยหัดท�ำคุ้กกี้และขนมเค้ก สมัยนั้นเรายังไม่มีตระกร้อตีไข่ไฟฟ้า จะตีไข่ขาว
ใหข้ นึ้ ฟูทตี อ้ งใชพ้ ลงั เยอะมาก แมจ่ ึงยกใหเ้ ปน็ หนา้ ทขี่ องเออื้ ย ทำ� เค้กทีไร เออ้ื ยปวดแขนไปหมด ตอนเอ้ือย
ยังเด็ก แม่เป็นคนท�ำอาหารให้พวกเราทานกันเองทุกวัน ระหว่างท�ำก็สอนลูกสาวไปด้วย แต่ความที่เรา
เป็นเด็กอยากออกไปวิ่งเล่นมากกว่า แม่บอกอะไรก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เอ้ือยได้มาหัดท�ำอาหารจริงจังก็
ตอนทย่ี า้ ยไปอยนู่ วิ ยอรค์ และอยากทานอาหารไทยมาก จำ� ไดว้ า่ เสยี คา่ โทรศพั ทท์ างไกลหาแมไ่ ปไมร่ เู้ ทา่ ไหร่
เพอื่ ให้แม่สอนท�ำแกงเขยี วหวาน ข้าวหมกไก่ ผัดเผ็ด ยำ� วนุ้ เส้น หม่ีกรอบ และผัดไทย
แม่ชอบเขียนและสะสมต�ำราอาหารเป็นท่ีสุด หนังสือต�ำราอาหารและกระดาษจดสูตรอาหารและ
ขนมตา่ งๆ ของแมจ่ ะมอี ยกู่ ระจดั กระจายเตม็ บา้ น ทกุ คนทร่ี จู้ กั แม่ ไมว่ า่ จะเปน็ เพอ่ื นของแม่ เพอ่ื นของลูกๆ
ญาติพี่น้อง ตลอดจนผู้คนในแวดวงนักการทูตต่างก็จดจ�ำแม่ได้จากอาหารรสมอื ของแม่ จงึ ไมม่ อี ะไรจะเปน็
ตวั แทนใหพ้ วกเราระลกึ ถงึ แมไ่ ดด้ ไี ปกวา่ สตู รอาหารและขนมจานเดด็ ของแม่ หวงั วา่ เมอ่ื ไรทพี่ วกเราได้น�ำไปท�ำ
รับประทานกัน จะได้หวนนึกถึงความทรงจ�ำดีๆ ที่เคยมีกับแม่

92

93

ต้นก�ำเนดิ ของวันวอฟเฟิล

วอฟเฟิลทาเนยราดด้วยเมเปิ้ลซีรัปเป็นอาหารเช้าวันอาทิตย์ยอดฮิตของ
ครอบครวั คนอเมริกัน แตส่ ำ� หรบั คนสแกนดเิ นเวีย วอฟเฟลิ ของเขาจะต่างออกไป ทีเ่ ห็น
ไดช้ ดั กค็ อื บางกวา่ และทำ� เปน็ รปู หวั ใจนา่ รกั นา่ เอน็ ดู ตวั แปง้ จะผสมดว้ ยครมี หรอื ครมี เปรย้ี ว
แทนทจี่ ะใชบ้ ตั เตอรม์ ลิ ค์ และมกั จะใสผ่ งกระวานเขา้ ไปดว้ ย และแทนทจ่ี ะทาเนยราดซรี ปั
คนสแกนดิเนเวียจะรับประทานวอฟเฟิลกับวิปครีม ลูกเบอร์รี่สดๆ และแยม
คนสแกนดิเนเวียชอบรับประทานวอฟเฟิลกันตอนไหน
วอฟเฟิลทานกันได้ตลอดทั้งปี แต่จะนิยมกันสุดๆ ก็ในวันท่ี 25 มีนาคม ซ่ึง
เรียกว่า Våffeldagen หรือวันวอฟเฟิลนานาชาติของประเทศนอร์ดิก ซ่ึงตรงกับวัน
แม่พระรับสาร (Annunciation Day หรือ Our Lady’s Day) ท�ำไมจึงเป็นวันเดียวกัน
กเ็ พราะในภาษาสวดี ชิ คำ� วา่ Vårfrudagen (Our Lady’s Day) เวลาออกเสยี งคลา้ ยคลงึ
กับค�ำว่า Våffeldagen (Waffle Day) มาก
ไหนๆ กไ็ หนๆ แลว้ คนสวดี ชิ กเ็ ลยเฉลมิ ฉลองวนั พระแมร่ บั สารดว้ ยการรบั ประทาน
วอฟเฟิลเสียเลย
และถึงแม้ต้นก�ำเนิดจะมาจากภาษาสวีดิช แต่ประเทศในภูมิภาคนอร์ดิกรวมทั้ง
นอร์เวย์ก็ถือว่าวันท่ี 25 มีนาคม เป็นวันวอฟเฟิลด้วยเช่นกัน
(ตัดตอนมาจาก “True North Kitchen”)

94

SWEDISH WAFFLES

ตั้งแต่แม่ท�ำให้พวกเราทานครั้งแรกท่ีสวีเดน
ทุกคนลงความเห็นว่าเป็นวอฟเฟิลท่ีอร่อยลงตัวท่ีสุด
เท่าที่เคยกินมา เพราะท้ังหอมเนย และกรอบนอก นุ่ม
หนึบข้างใน กินเปล่าๆ ก็อร่อยแล้ว แต่จะโรยหน้าด้วย
น�้ำตาลไอซิ่ง หรือหยอดเมเปิ้ลซีรัปหรือน้�ำผ้ึงป่าลงไป
นดิ หนอ่ ยกย็ อ่ มได้ ทง้ั เดก็ และผใู้ หญช่ อบทานเปน็ อาหาร
เชา้ กบั เบคอ่ นหรอื ผลไม้ หรอื จะใชเ้ ปน็ ของหวานกเ็ หมาะ
มาก

สว่ นผสม

แปง้ เค้ก 1 1/2 ถว้ ยตวง วธิ ที �ำ

ดับเบิ้ลครมี หรือเฮฟวค่ี รมี 1 1/3 ถว้ ยตวง • ตเี ฮฟวคี่ รมี จนข้นึ ฟู ค่อยๆ รอ่ นแป้งใส่ ลงไป

น�ำ้ ใส่น้�ำแขง็ 1/2 ถ้วยตวง ใส่น้�ำเย็นทีละนิด แล้วค่อยเติมน้�ำตาลและ
ตามดว้ ยเกลอื จากนนั้ จึงน�ำเนยท่ลี ะลายแต ่
เนยละลาย 3 ช้อนโต๊ะ
• เยน็ ลงแลว้ มาคนให้เขา้ กับสว่ นผสม
น้ำ� ตาลทรายขาว 1-2 ชอ้ นโต๊ะ ถ้าอยากรับประทานวอฟเฟิลช้อคโกแลต
สามารถเตมิ ผงโกโก้ 2-3 ชอ้ นโตะ๊ คนเขา้ ไป
เกลือ 1/2 ชอ้ นชา ในสว่ นผสมได้
หมายเหตุ:

• ใช้เครื่องท�ำวอฟเฟิลชนดิ บางกรอบ
• ถ้าเป็นแบบสเี่ หลย่ี มหนาๆ เราจะเรยี กว่า

วอฟเฟลิ แบบเบลเยีย่ ม (Belgian waffle)

95

APPLE PIE

แอปเปิ้ลพายเป็นขนมประจ�ำบ้านและเป็นของ
โปรดของลูกหลานทกุ คน ซงึ่ แมจ่ ะต้องเป็นคนลงมอื ทำ� เอง
เสมอแม้ตอนที่ตัวเองลุกไม่ค่อยไหวแลว้ สตู รนจ้ี ะเป็นสูตร
ทไี่ ดด้ ดั แปลงมาจากสตู รทแี่ มไ่ ปเรยี นมาทสี่ วเี ดน คนทวั่ ไป
มักจะทานร่วมกับวิปครีม ซอสคัสตาร์ด หรือไอศครีม แต่
ส�ำหรับบ้านเราชอบแบบไทยๆ คือราดด้วยนมข้นจืดของ
คาร์เนช่นั นค่ี อื แอปเป้ิลพายสตู รแม่หวาดของแท้ทพี่ วกเรา
คุ้นเคย

สว่ นผสม วธิ ที �ำ

ส�ำหรบั ไส:้ • เปดิ เตาอบไวท้ อ่ี ณุ หภูมิ 190 oC
แอปเปลิ้ เขียว 6-7 ลกู • ห่ันเนยใหเ้ ป็นลูกเต๋าเลก็ ๆ ถ้าละลาย
น้�ำตาล 1 ⅓ ถว้ ย • และนิ่มเกนิ ไป ใหน้ �ำไปแชต่ ูเ้ ย็นกอ่ นใช้
น�ำ้มะนาว ¼ ลกู
อบเชย ⅛ ช้อนชา ผสมแปง้ นำ้� ตาลทราย เกลอื เอาตะกรอ้
คนใหเ้ ขา้ กนั ดแี ลว้ ใสเ่ นยทเี่ ปน็ ลกู เตา๋ ลง
ส�ำหรบั แปง้ พาย: ไปในแปง้ คอ่ ยๆ ใชม้ ดี ตดั ใหเ้ นยเขา้ กนั
กับแปง้ จนได้ความละเอยี ดใหเ้ ล็กกว่า
แปง้ 4 ถว้ ย
• เมด็ มะขาม
เนยเค็ม 250 กรมั ตลบใหเ้ ปน็ กอ้ นกลมๆ 2 กอ้ น แลว้ หอ่
ดว้ ยพลาสตกิ แรป นำ� ไปใสต่ เู้ ยน็ 35-45
(หนั่ เป็นลกู เตา๋ เล็ก แชต่ เู้ ยน็ ใหเ้ ย็น) นาที

น�้ำตาลทราย 7 ช้อนโตะ๊

เกลอื 1 ½ ช้อนชา

96

• น�ำแป้ง 2 ก้อนออกมาคลึงให้หนาสัก ⅜ นิ้ว วางแป้ง 1 แผ่นบนถาดพาย (ประมาณ 9 น้ิว) เอาซ่อม

จ้ิมให้เป็นรูจนท่ัว แป้งจะได้ไม่พองมาก แล้วน�ำไปอบในเตาอบจนเหลือง ประมาณ 20-30 นาที

• แป้งแผน่ ที่ 2 นำ� ไปใส่ต้เู ย็นไวก้ อ่ น
ผสมนำ้� ตาลและอบเชยใหเ้ ขา้ กนั นำ� แอปเปล้ิ ทปี่ อกเปลอื กแลว้ หน่ั เปน็ ชน้ิ ½ หรอื ¼ ลงไปคลกุ นำ้� ตาล
แล้วน�ำไปเรยี งในถาดพาย

• บีบมะนาว ¼ ลกู แลว้ ปดิ ด้วยแปง้ แผ่นทสี่ อง (แป้งควรเอาออกมาจากต้เู ยน็ กอ่ นสกั 10-15 นาที)
• นำ� ไปใสเ่ ตาอบ อบทงั้ หมดประมาณ 1 ½ ชวั่ โมง แตห่ ลงั จาก 15 นาทใี หล้ ดไฟเหลอื 180 oC ถา้ ตอ้ งการ
• ใหส้ ีพายเหลืองสวย ควรทาหนา้ แปง้ ด้วยนมสดหรือไข่แดง สัก 1-2 ครงั้ ระหวา่ งทอ่ี บ

เสิร์ฟกบั ไอศครมี วปิ ครมี หรือซอสคัสตารด์

97

LIGHT FRUIT CAKE

สว่ นผสม

แป้งอเนกประสงค ์ 1 1/2 ถ้วย ผวิ มะนาวเช่อื ม ½ ถ้วย

เนยจืด 1 ถว้ ย หน่ั ช้นิ เล็ก

น้�ำตาลทรายแดง 2/3 ถว้ ย เชอรเ่ี ชือ่ ม 1 ถว้ ย

เบคก้ิงโซดา 1/2 ชอ้ นชา (สีแดงและสเี ขียว)

ผงฟู 1/2 ชอ้ นชา ลกู เกด 1 ถว้ ย
(ผสมสเี หลืองและสดี ำ� )
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ลูกมะเดือ่ (Figs) ½ ถว้ ย
ไข ่ 3 ฟอง
วอลนทั สับ ½ ถว้ ย
อบเชย 1/2 ชอ้ นชา
นำ�้ สม้ 60 ml
ผวิ สม้ เชื่อม 1 ถ้วย
นมสด 100 ml
หั่นเป็นช้นิ เล็ก
เหล้า Rum ¼ ถ้วย

98


Click to View FlipBook Version