คำ�นำ�
ศูนย์สาธิตการตลาด เริ่มด�ำเนินการคร้ังแรกเม่ือปี พ.ศ. 2520 ตลอดระยะ
เวลากวา่ 43 ปที ผ่ี า่ นมา ศนู ยส์ าธติ การตลาดไดบ้ รรเทาและแกไ้ ขปญั หาความเดอื ดรอ้ น
ของประชาชนในหมู่บ้าน/ต�ำบลในด้านสินค้าอุปโภค-บริโภค และปัจจัยการผลิต
ไดอ้ ยา่ งดี อยา่ งไรกต็ าม ปจั จบุ นั การแขง่ ขนั ระหวา่ งรา้ นคา้ ปลกี ทจ่ี ำ� หนา่ ยสนิ คา้ อปุ โภค
บริโภคต่าง ๆ มีการแข่งขันที่สูงขึ้น ร้านค้าสะดวกซื้อเกิดข้ึนมากมาย ประกอบกับ
สถานการณท์ เ่ี ปลย่ี นแปลงไป พฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภคแตกตา่ งไปจากเดมิ มากและเปลย่ี นแปลง
ตลอดเวลา การรบั รแู้ ละวธิ ที ผ่ี บู้ รโิ ภค ใชเ้ ขา้ ถงึ สอ่ื สง่ ผลใหผ้ บู้ รโิ ภคมที างเลอื กมากขน้ึ
สง่ ผลให้ร้านค้าปลกี รวมถึงศูนย์สาธิตการตลาดเองจำ� เป็นต้องปรบั ตวั เรียนร้กู ลยุทธ์
ในการบรหิ ารจดั การรา้ นทด่ี ี เพอื่ ใหส้ ามารถดำ� เนนิ การตอ่ ได้ และทผ่ี า่ นมามศี นู ยส์ าธติ
การตลาดหลายแห่ง สามารถปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ยุค 4.0 มีเทคนิค/วิธีการ
รบั มือ องคค์ วามรตู้ ่าง ๆ ในเร่อื งของการดำ� เนนิ งานศูนย์สาธติ การตลาด
ศูนย์สาธิตการตลาดเป็นกิจกรรมเครือข่ายของกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิต
ทเ่ี กดิ จากแนวคดิ “รวมกนั ซอ้ื -รวมกนั ขาย” ของคนในชมุ ชน ทก่ี รมการพฒั นาชมุ ชน
ใหก้ ารสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ อยู่ สำ� นกั พฒั นาทนุ และองคก์ รการเงนิ ชมุ ชน จงึ ไดร้ วบรวม
องค์ความรู้ อันได้แก่ รปู แบบ/ลกั ษณะ การดำ� เนนิ งาน การบริหารจัดการเชิงธรุ กิจ
การสรา้ งความแตกตา่ งใหศ้ นู ยส์ าธติ การตลาด การปรบั ปรงุ รปู ลกั ษณภ์ ายใน ภายนอก
การวางแผนผังและการจัดเรียงสินค้า ระบบการเช็คคลังสินค้า รวมถึงระบบบัญชี
อันเป็นความรู้พ้ืนฐานสู่ความส�ำเร็จ กรมการพัฒนาชุมชน โดยส�ำนักพัฒนาทุน
และองค์กรการเงินชุมชน หวังเป็นอย่างย่ิงว่า “คู่มือกิจกรรมการยกระดับ
การดำ� เนนิ งานศนู ยส์ าธติ การตลาดตน้ แบบ”เลม่ นจ้ี ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ คณะกรรมการ
ศูนย์สาธิตการตลาดและเจ้าหน้าท่ีกรมการพัฒนาชุมชน สามารถใช้เป็นแนวทาง
ในการวางแผน พัฒนา ต่อยอด หรือปรับปรุงศูนย์สาธิตการตลาดให้มีประสิทธิภาพ
สู่การเป็นศูนย์สาธิตการตลาดต้นแบบที่สามารถเพ่ิมยอดขายและก�ำไร และเพ่ิมขีด
ความสามารถในการแขง่ ขนั ให้ศนู ย์สาธติ การตลาดได้
กรมการพฒั นาชุมชน
สงิ หาคม 2563
สารบญั
ท่ีมาและความสำ�คัญ 1
รูปแบบ/ลักษณะการดำ�เนินงาน 3
แหล่งที่มาของเงินทุน 4
คณะกรรมการ/คณะทำ�งานศูนย์สาธิตการตลาด 5
ข้ันตอนกระบวนการ 7
ข้นั ท่ี 1 ศกึ ษาถึงความตอ้ งการซอ้ื และขายสินค้า/ 9
ผลผลติ ตามความต้องการของผบู้ รโิ ภคลูกค้า
ขั้นที่ 2 พิจารณาสถานท่ีจดั ตงั้ ศนู ยส์ าธิตการตลาด เลือกประเภทสินค้า 18
จำ� นวนสินคา้ และร้านค้าท่จี ะเลอื กซ้ือสนิ ค้า
20
ข้นั ท่ี 3 ศึกษาต้นทนุ สินค้าแตล่ ะชนิดท่จี ะจดั จ�ำหนา่ ย
ในศนู ยส์ าธิตการตลาด
ขั้นที่ 4 แจง้ ให้สมาชกิ กลุม่ ออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลติ 21
และประชาชนทัว่ ไปทราบ
ขนั้ ท่ี 5 แต่งต้ังคณะกรรมการจัดการศูนย์สาธติ การตลาด 22
ขน้ั ที่ 6 จดั ท�ำบญั ชกี ารเงินของศนู ย์สาธติ การตลาด 24
ระบบบัญชีศูนย์สาธิตการตลาด 31
ด้านระบบคลังสินค้า 48
เคล็ดลับในการจัดสต็อกสินค้า 49
ระเบียบข้อกฎหมายที่เก่ียวข้อง 52
ภาคผนวก 53
55
• เทคนิคการวางแผนผงั ร้านค้า
56
• เทคนิคการจดั เรียงสินคา้ 67
• 8 ข้ันตอนสูค่ วามส�ำเร็จ 67
- การวเิ คราะห์ท�ำเลที่ตัง้ 69
- การเลอื กสนิ ค้าและบริการเขา้ รา้ น 72
- การตั้งราคาขายและผลก�ำไร 74
- แผนผงั ร้านค้าและการจัดเรยี ง 82
- การตกแต่งรา้ น 84
- การจัดรายการส่งเสริมการขาย 87
- การจัดการสตอ็ กสนิ ค้า 91
- การสร้างความแตกต่าง
95
คณะผู้จัดทำ�
รวรมวมกกนั นั ขซายอื้
ศนู ยส์ าธิตการตลาด
ที่มาและความสำ�คัญ
ศนู ยส์ าธติ การตลาดเรมิ่ ดำ� เนนิ การครง้ั แรกเมอ่ื ปี พ.ศ. 2520 ตลอดระยะเวลา
43 ปีท่ีผ่านมา ศูนย์สาธิตการตลาดได้บรรเทาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
ของประชาชนในหมู่บ้าน/ต�ำบลในด้านสินค้าอุปโภค - บริโภค และปัจจัยการผลิต
ได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการแข่งขันระหว่างร้านค้าปลีก ที่จ�ำหน่ายสินค้า
อปุ โภค บรโิ ภคตา่ ง ๆ ไดท้ วคี วามรนุ แรงขนึ้ ประกอบกบั สถานการณท์ เี่ ปลยี่ นแปลงไป
พฤตกิ รรมผู้บริโภคแตกตา่ งไปจากเดมิ มากและเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา การรบั รู้และ
วธิ ที ผ่ี บู้ รโิ ภคเขา้ ถงึ สอื่ สง่ ผลใหผ้ บู้ รโิ ภคมที างเลอื กมากขนึ้ และเปน็ ผลใหร้ า้ นคา้ ปลกี
รวมถงึ ศนู ยส์ าธติ การตลาดเองจำ� เปน็ ตอ้ งปรบั ตวั เรยี นรกู้ ลยทุ ธ์ ในการบรหิ ารจดั การ
ร้านท่ีดี เพอื่ ใหอ้ ยรู่ อดและมีก�ำไรในสถานการณป์ ัจจบุ นั
ศูนย์สาธิตการตลาดเป็นกิจกรรมเครือข่ายของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
ทเ่ี กดิ จากแนวคดิ “รวมกนั ซอ้ื -รวมกนั ขาย” ของคนในชมุ ชน ทกี่ รมการพฒั นาชมุ ชน
ใหก้ ารสง่ เสรมิ และสนบั สนุนอยู่ สาเหตุท่ใี ห้ชอ่ื วา่ “ศนู ยส์ าธิตการตลาด” เน่อื งจาก
ถอื วา่ เปน็ การทดลองปฏบิ ตั ิ เรยี นรู้ และรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั ของสมาชกิ กลมุ่ ออมทรพั ย์
เพอ่ื การผลติ ในการดำ� เนนิ การซอื้ ขายสนิ คา้ ปจั จยั การผลติ ในราคายตุ ธิ รรม และชว่ ยแกไ้ ข
ปญั หาของชุมชน
คำ�สำ�คัญที่ควรรู้
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หมายถึง การรวมตัวของประชาชน
เพือ่ ชว่ ยเหลือตนเอง และช่วยเหลอื ซ่ึงกันและกนั โดยการประหยัดทรพั ย์แลว้ นํามา
สะสมทลี ะเลก็ ทีละน้อย เป็นประจ�ำ สม่�ำเสมอ เรียกว่า “เงินสัจจะสะสม” เพอ่ื ใช้
เป็นทุนให้สมาชิกท่ีมีความจําเป็นเดือดร้อนกู้ยืมไปใช้ในการลงทุนประกอบอาชีพ
หรือเพ่ือสวสั ดกิ ารของตนเอง และครอบครัว
คู่มอื กศิจนู กยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน 1
2 ค่มู ือกศจิูนกยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตก้นารแดบำ�บเนินงาน
ศูนย์สาธิตการตลาด เปน็ กจิ กรรมเครือข่ายของกลมุ่ ออมทรัพย์
เพอ่ื การผลติ รปู แบบหนงึ่ ทดี่ ำ� เนนิ การจดั ตง้ั ขน้ึ เพอื่ มงุ่ ใหป้ ระชาชนในชนบทรวมตวั กนั
แสวงหาสนิ คา้ อปุ โภค - บรโิ ภค ปจั จยั การผลติ มาจำ� หนา่ ยและเปน็ อกี กจิ กรรมทปี่ อ้ งกนั
การถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อคา้ คนกลาง ที่ส่งผลใหค้ นในชุมชน ซือ้ สนิ ค้าแพงหรอื
ขายผลผลติ ไดร้ าคาต�่ำกวา่ ราคาตลาด
รวมกันซ้ือ เป็นการจัดหาสินค้าหรือความต้องการซื้อของคนในชุมชน
ศูนยส์ าธติ การตลาดไปซ้อื มา ในราคาส่งแลว้ ขายสูช่ มุ ชนในราคายุติธรรม
รวมกนั ขาย ชว่ ยกระจายสนิ คา้ ชุมชน โดยอาจเปน็ สนิ ค้าเกษตรกรรม หรือ
สนิ คา้ ชมุ ชนจากฝมี อื คนในชมุ ชน มาขายในศนู ยส์ าธติ การตลาด หรอื ขายออกสตู่ ลาด
ภายนอก
วัตถุประสงค์
1. เพ่ือฝึกหัดให้สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีความรู้
เกดิ ความเขา้ ใจและสามารถนำ� ไปดำ� เนนิ งานศนู ยส์ าธติ การตลาด ดา้ นการคา้ ขายได้
2. เป็นการฝึกหัดการน�ำเงินทุนที่มีไปลงทุน เพ่ือให้เกิดดอกผล
เพิม่ พูนมากย่ิงขนึ้
3. เพอื่ ช่วยเหลอื สมาชกิ กลุ่มออมทรพั ย์เพือ่ การผลิตและประชาชน
ในหมู่บ้านให้สามารถหาซ้ือสิ่งของใช้ในครอบครัวและอุปกรณ์การประกอบ
อาชพี ไดส้ ะดวกรวดเรว็ และประหยดั
4. ปอ้ งกนั การถกู เอารดั เอาเปรยี บตอ้ งซอ้ื ของแพง และขายผลผลติ
ได้ราคาต่�ำของสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพ่อื การผลิต และประชาชนทั่วไป
5. ต้องการให้สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตที่มีฐานะยากจน
มีบทบาทด้านการค้าในระดับหมู่บ้าน ต�ำบล และอาจขยายผลไปสู่ระดับ
อำ� เภอ จงั หวดั ได้
หมายเหตุ :
ปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2563) มีศูนย์สาธิตการตลาดกระจายและด�ำเนินการอยู่
ท่ัวประเทศไทยจ�ำนวนกวา่ 693 แห่ง
รูปแบบ/ลักษณะการดำ�เนินงาน
“รวมกันซื้อ-รวมกันขาย” คือแนวคดิ (Concept) ส�ำคัญ
ของศูนย์สาธิตการตลาด ประกอบด้วย
- เปน็ ร้านคา้ ที่ “สมาชิกเปน็ เจา้ ของ”
- จดั หาสนิ คา้ อปุ โภค - บรโิ ภค ปจั จยั การผลติ และปอ้ งกนั การเอาเปรยี บ
จากพอ่ ค้าคนกลาง
- รวมกนั ซ้อื - รวมกนั ขาย
- ผลก�ำไรปันคืนสู่ชมุ ชน
- ชอื่ “ศนู ยส์ าธติ การตลาด” เปน็ การทดลอง ปฏบิ ตั เิ รยี นรแู้ ละรบั ผดิ ชอบ
รว่ มกนั
คู่มือกศิจนู กยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกา้นรแดบำ�เบนินงาน 3
4 คมู่ ือกศจิูนกยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำำ�บเนนิ งาน
แหลง่ ท่มี าของเงินทุน
แบบท่ี 1
ใช้เงินทุนจากการด�ำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตมาลงทุนจัดตั้ง
ศนู ยส์ าธิตการตลาด 100%
แบบท่ี 2
ระดมทนุ ใหม่ โดยใชว้ ธิ ลี งหนุ้ จากผทู้ ส่ี นใจ โดยอาจเปน็ แบบปดิ คอื รบั สมคั ร
จากผู้ที่เปน็ สมาชิกกลุม่ ออมทรพั ยฯ์ เท่านน้ั หรือแบบเปดิ คอื รับสมัครบคุ คลทั่วไป
จากหลายภาคสว่ น เชน่ สมาชกิ กลุ่มออมทรัพยฯ์ สว่ นหนึ่ง กลมุ่ อาชพี ในชุมชน หรอื
คนในหมู่บ้านอีกส่วนหนึ่ง โดยอาจก�ำหนดราคาค่าหุ้น เช่น 100 บาท = 1 หุ้น
สมาชิกแต่ละคนถอื หุน้ ได้ ไมเ่ กินคนละ 20 หุ้น เป็นต้น
แบบท่ี 3
เปน็ แบบผสมระหวา่ งแบบท่ี 1 และ 2 เปน็ กลมุ่ ออมทรพั ยฯ์ นำ� เงนิ มาลงทนุ
และเปดิ รบั สมาชกิ เพ่มิ
แบบท่ี 4
ก้เู งนิ จากธนาคาร โดยใช้สมุดสจั จะสะสมของกลุ่มฯ ค�้ำประกันเงนิ กู้
คณะกรรมการ/คณะทำ�งาน
ศนู ย์สาธิตการตลาด
ศนู ยส์ าธิตการตลาด
เนื่องจากศูนย์สาธิตการตลาด
เป็นกิจกรรมหน่ึงของกลุ่มออมทรัพย์
เพอ่ื การผลติ ศูนย์สาธติ การตลาดจึงไมม่ ี
สมาชิกเฉพาะของศูนย์สาธิตการตลาด
แต่มีสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตทุกคนเป็นเจ้าของ การด�ำเนินงานจึงต้องมี
คณะกรรมการดำ� เนนิ งาน ประกอบด้วย
1. คณะกรรมการบรหิ ารกลมุ่ ออมทรัพย์เพอ่ื การผลติ
ท�ำหน้าที่ ก�ำหนดนโยบาย ระเบียบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เก่ียวกับ
ศูนยส์ าธติ การตลาด
2. คณะกรรมการฝ่ายอ�ำนวยการกลุม่ ออมทรัพยเ์ พ่อื การผลติ
ทำ� หน้าทก่ี ารบรหิ ารงานศนู ย์สาธติ การตลาด
3. จัดตงั้ คณะกรรมการจัดการศูนย์สาธติ การตลาด
คมู่ อื กศจิ ูนกยรส์ รามธกิตากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนินงาน 5
6 คมู่ อื กศจินู กยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนินงาน
ดำเนนิ การจดั ซอ้ื ตามความจำเปน การตรวจสอบการจดั ซอ้ื
ดูแลติดตามความเคลอื่ นไหวของสนิ คาคงคลงั ตรวจสอบ
ฝายจดั ซอ้ื สต็อกสนิ คา ทำรายงานและรายการราคาสนิ คา แตละตัว
และดูแลสตอ ก รวมไปถงึ การรับฟง ขอสังเกตจากฝา ยขาย ฝายบัญชี
สินคา วา สินคาใดขายดี เพือ่ วางแผนซอื้ สินคานน้ั มากข้ึน
ฝายขาย รจู กั สินคา รรู าคา รูใ จลกู คา ทง้ั น้เี พ่อื ใหล กู คา ไดร บั ขอ มูล
ทีถ่ กู ตองและเพยี งพอทีจ่ ะนำไปในการตัดสนิ ใจเลอื กซ้ือ
พนกั งานขายท่ีเกง ตองมเี ทคนคิ การขายทห่ี ลากหลาย
ใหข อ มูลที่ทันสมยั มใี จบริการ และมมี นุษยสมั พันธท ี่ดี
การสือ่ สารกบั ลูกคาอยา งเอาใจใสเปนเสนห ท่ีทำให
ลกู คา เดนิ เขา ราน ดงั นนั้ ควรมฝี ายประชาสัมพนั ธท ห่ี าวิธี
ฝา ย ดงึ ลูกคาใหภกั ดกี ับศูนยสาธิตการตลาด กระจายขา ว
ประชาสัมพันธ ในชว งทม่ี กี ารจดั โปรโมชน่ั และหาลกู คา กลมุ ใหม ๆ อยเู สมอ
ฝา ยบัญชี ศนู ยส าธติ การตลาดมติ ใิ หมต อ งจดั ทำบญั ชี ฝา ยบญั ชมี หี นา ท่ี
บนั ทกึ รายการสนิ คา เขา ออกและยอดขายในแตล ะวนั
การทำบญั ชนี ั้นสำคญั และจำเปน เพอื่ ใหร วู ามกี ำไร
หรือขาดทุนในแตล ะวนั /เดอื น เทา ไร และสนิ คา ชนดิ ไหน
ทข่ี ายดี ขายไมด ี ขอ มลู ท่ไี ดจ ะสามารถนำมาใช
ในการตัดสนิ ใจเพ่อื การลงทนุ ในอนาคต
4. ให้มีการแต่งต้ังผู้จัดการศูนย์สาธิตการตลาด ท�ำหน้าท่ี ควบคุมดูแล
และดำ� เนนิ งาน และใหแ้ ตง่ ตงั้ พนกั งานขายสนิ คา้ และพนกั งานบญั ชจี ำ� นวนเทา่ ทจี่ ำ� เปน็
ข้ันตอนกระบวนการ
ข้ันท่ี 1
ศึกษาถึงความต้องการซ้ือและขายสินค้า/ผลผลิตตามความต้องการ
ของผบู้ รโิ ภคลูกค้า
ขั้นท่ี 2
น�ำข้อมูลที่ได้รับจากขั้นที่ 1 เสนอท่ีประชุมคณะกรรมการบริหาร
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เพื่อพิจารณาสถานท่ีจัดตั้งศูนย์สาธิตการตลาด และ
เลือกประเภทสนิ คา้ จำ� นวนสนิ คา้ และรา้ นค้าท่ีจะเลือกซ้อื สินคา้
ข้ันท่ี 3
ศกึ ษาตน้ ทุนสนิ ค้าแตล่ ะชนดิ ทจ่ี ะจัดจำ� หน่ายในศูนย์สาธิตการตลาด
ขั้นท่ี 4
แจ้งให้สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตและประชาชนทั่วไปทราบ
โดยโฆษณา ประชาสัมพนั ธ์
ขั้นท่ี 5
แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการศูนย์สาธิตการตลาดและด�ำเนินงาน/กิจกรรม
ศนู ย์สาธิตการตลาด
ขั้นที่ 6
คณะกรรมการจัดการศูนย์สาธิตการตลาด ต้องจัดท�ำบัญชีการเงินของ
ศูนย์สาธิตการตลาด ต้องจัดท�ำบัญชีการเงินของศูนย์สาธิตการตลาด และรายงาน
ผลการด�ำเนินงาน ยอดจ�ำหน่ายสินค้า จ�ำนวน และประเภทสินค้าท่ีคงเหลือใน
ศูนย์สาธิตการตลาด ให้คณะกรรมการบริหารกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตทราบ
ความเคล่ือนไหวอยเู่ สมอ
คมู่ ือกศจิ นู กยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนินงาน 7
8 คู่มือกศจินู กยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนนิ งาน
ขั้นตอนกระบวนการ
รูปแบบ / ลักษณะการด�ำเนินงาน “รวมกันซ้ือ-รวมกันขาย”
คอื แนวคิด (Concept) ส�ำคญั ของศนู ย์สาธิตการตลาด ประกอบดว้ ย
- เป็นรา้ นค้าที่ “สมาชกิ เปน็ เจ้าของ”
- จัดหาสินค้าอุปโภค - บริโภค ปัจจัยการผลิตและป้องกันการเอาเปรียบ
จากพอ่ คา้ คนกลาง
- รวมกันซื้อ - รวมกนั ขาย
- ผลกำ� ไรปันคนื สชู่ ุมชน
- ชอื่ “ศนู ยส์ าธติ การตลาด” เปน็ การทดลอง ปฏบิ ตั เิ รยี นรู้ และรบั ผดิ ชอบ
รว่ มกนั
ศูนยส์ าธติ การตลาดบ้าน....................................................................................
หมทู่ ่ี.....ตำ� บล..............................อำ� เภอ...........................จงั หวัด......................
ตัวอย่าง “ป้ายศูนย์สาธิตการตลาด”
ขั้นที่ 1 ศึกษาถึงความต้องการซื้อและขายสินค้า/
ผลผลติ ตามความต้องการของผูบ้ ริโภค ลูกคา้
1. วเิ คราะหก์ ลุ่มลูกค้า “5W1H”
Who เราขายสินค้าให้ใคร ข้อมูลอายุ เพศ รสนิยม What ลกู คา้ ต้องการ
อะไร ใช้วิธีการส�ำรวจ และสอบถาม Where ลูกค้าเราอยู่ท่ีไหน When ลูกค้าซื้อ
มากที่สุดในช่วงเวลาไหน ความถ่ีในการซื้อสินค้า เช่น ก่ีครั้งต่อวัน/สัปดาห์/เดือน
ช่วงกลางวัน/กลางคืน Why จุดเด่นหรือจุดขาย เช่น ราคาถูก บริการดี มีสินค้า
หายาก หรือสวัสดิการแก่ลูกค้า How สินค้าและการบริการแบบใด ท่ีตอบโจทย์
ลูกค้าจะส่งเสริมการขายด้วยวิธีไหน ประชาสัมพันธ์ผ่านชอ่ งทางใด
Who ã¤Ã¤×Íš٠¤ÒŒ ¢Í§àÃÒ ?
เราขายสินคาใหใ คร ขอมูลอาชพี อายุ เพศ รสนิยม เปน แบบไหน
เชน เดก็ นกั ศึกษา เกษตรกร แมบาน ผูสูงอายุ เยาวชน นักทองเท่ียว เปน ตน
What ÅÙ¡¤ŒÒµÍŒ §¡ÒÃÍÐäà ?
ใชวิธีสงั เกต สำรวจ และสอบถามจากลูกคา ของเรา คน หาสนิ คา
หรือการบริการแบบไหนท่เี ขาตอ งการ
š٠¤ÒŒ ¢Í§àÃÒÍ·‹Ù èäÕ Ë¹ ?
“àÃÁÔè µŒ¹... Where บา น ทท่ี ำงาน หรือสถานท่ที ่ีลกู คา ชอบไปคอื ทีใ่ ด
·èÕÅÙ¡¤ÒŒ ” เพือ่ เปนประโยชนใ นการประชาสมั พนั ธ
When ÅÙ¡¤ŒÒÁÒ«Í×é ªÇ‹ §àÇÅÒä˹ ?
ลกู คา มาซื้อมากสุดในเวลาไหน ความถ่ใี นการใชสินคา
เชน ก่ีครัง้ ตอ เดอื น/สปั ดาห/วนั มาชว งเวลากลางวัน/
ตอนเยน็ หลังเลกิ งาน เพอื่ วางแผนเขาถงึ ลกู คาใน
จังหวะเวลาที่เหมาะสม
Why ·ÓäÁÅÙ¡¤ŒÒàÅÍ× ¡àÃÒ ?
จดุ เดน หรอื จดุ ขาย ทีท่ ำใหเราโดดเดนกวา คูแขง เชน
ราคาถกู กวา มสี นิ คา หายาก บรกิ ารดี สนิ คา หลากหลาย
หรอื มสี วัสดกิ ารหรือปน ผลตอบแทนลกู คา เปน ตน
How ¨Ð·ÓÍÂÒ‹ §äÃãˌš٠¤ŒÒà¡‹Ò/ãËÁ‹ÁÒ«×éÍà¾ÁèÔ ?
สนิ คา และการบรกิ ารแบบใดที่ตอบโจทยลกู คาจะสง เสรมิ
การขายดว ยวธิ ไี หน ประชาสมั พนั ธผ า นสือ่ ใดทีจ่ ะทำให
เขาถึงลูกคาไดมากทีส่ ดุ เชน วิทยุ Line Facebook
คู่มอื กศิจูนกยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกา้นรแดบำ�เบนินงาน 9
10 คมู่ ือกศจินู กยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตก้นารแดบำ�บเนินงาน
2. การเลือกสนิ ค้าและบรกิ ารเขา้ ร้าน
เมอ่ื เราทำ� ความเขา้ ใจลกั ษณะกลมุ่ ลกู คา้ ของเราอยา่ งดแี ลว้ อกี องคป์ ระกอบ
สำ� คญั ทที่ ำ� ใหศ้ นู ยส์ าธติ การตลาดมลี กู คา้ เพมิ่ ขน้ึ ยอดขายสงู ขนึ้ กค็ อื การเลอื กสนิ คา้
และบรกิ ารเหมาะกบั ลกั ษณะแวดลอ้ มทศ่ี นู ยส์ าธติ การตลาดตงั้ อยแู่ ละลกู คา้ กลมุ่ เปา้ หมาย
เรามหี ลักการเลือกสินคา้ แบบง่ายๆ สำ� หรับศนู ย์สาธิตการตลาดมาฝากกัน ดงั นี้
- สนิ ค้าหลักหรือสินค้าพน้ื ฐาน สนิ ค้าหลัก
(สินค้าบริโภคที่จ�ำเป็นในชีวิตประจ�ำวัน ได้แก่
ข้าว เครื่องปรุงรส น้�ำยาล้างจาน ยาสระผม ยาสีฟัน
เป็นต้น) (สินค้าอุปโภค/บริโภค ท่ีไม่ใช่สินค้าจ�ำเป็น
แตซ่ อ้ื เพือ่ ความพงึ พอใจได้แก่บหุ ร่ีเครือ่ งดมื่ แอลกอฮอล์
โลช่ันบ�ำรงุ ผิว ของเลน่ เปน็ ตน้ )
- กลมุ่ สนิ ค้าใหม่
การหาสนิ คา้ ใหม่ๆ มาเตมิ อยเู่ สมอ จะชว่ ยให้ศูนย์สาธิตการตลาด ดทู ันสมยั
และมีความเคลื่อนไหวที่สม�่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจได้ดี สินค้าใหม่
มกั หมายถึงทม่ี ีการท�ำโฆษณาผา่ นสื่อทางโทรทศั นแ์ ละส่ืออื่น ๆ ทำ� ให้มลี กู คา้ ถามถึง
ซง่ึ ควรพจิ ารณานำ� มาจำ� หนา่ ยทรี่ า้ นในปรมิ าณทพี่ อเหมาะกอ่ นโดยการทำ� ประชาสมั พนั ธ์
เชน่ การตดิ ต้งั ปา้ ยแนะน�ำสินค้าใหม่ เปน็ ต้น
แนะนำ
สนิ คาใหม!!!
ประจำสปั ดาห
ออนไลนลดพเ� ศษ 15% สำหรับการสั่งซอ้ื
- กลมุ่ สนิ ค้าเทศกาล
โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ควรน�ำมา
จ�ำหน่ายในร้านแต่ละช่วงเทศกาล เช่น กระดาษ
ห่อของขวัญ การ์ดอวยพรในช่วงเทศกาลปีใหม่
ธปู เทยี น เครอื่ งสงั ฆทาน ในชว่ งวนั สำ� คญั ทางศาสนา
น้�ำอบ ต๊กุ ตาและดอกไม้ในวนั วาเลนไทน์ เป็นต้น
- กลุ่มสินคา้ หรือบรกิ ารพิเศษ
เฉพาะของศูนย์สาธติ การตลาด เปน็ การสร้างความแตกตา่ งจากคู่แข่ง และ
เพิ่มความได้เปรียบให้กับศูนย์สาธิตการตลาด โดยน�ำสินค้าบางอย่างมาจ�ำหน่าย
เพ่ือดึงดูดความสนใจของลูกค้า เพ่ือเพิ่มจ�ำนวนคนเข้าร้าน หรือเพ่ิมกลุ่มลูกค้าใหม่
เช่น สินคา้ สมนุ ไพร หรืออาจเป็นการให้บริการอนื่ ๆ เชน่ การรบั ถา่ ยเอกสาร ส่งพัสดุ
บรกิ ารตซู้ กั ผา้ หยอดเหรยี ญ และอ่นื ๆ
- ปัจจยั การผลติ
เฉพาะศูนย์สาธิตการตลาดบางแห่งท่ีมีสินค้า
ประเภทนอี้ ยแู่ ลว้ แสวงหาปจั จยั การผลติ ทต่ี อบโจทยอ์ าชพี
คนในชุมชน โดยเฉพาะเทคโนโลยีหรือเคร่ืองมือใหม่ๆ มา
น�ำเสนอลูกค้า โดยปัจจัยการผลิตในท่ีนี้ อาจหมายถึง ปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตร
เชน่ เมลด็ พนั ธ์ุ ปยุ๋ ยาฆา่ แมลง เครอื่ งมอื ทางการเกษตร หรอื สว่ นประกอบ/สว่ นผสม
ของสินค้าอื่น ๆ นอกเหนือจากสินค้าการเกษตร โดยพิจารณาเลือกปัจจัยการผลิต
จากราคา ความตอ้ งการลกู คา้ ประสทิ ธภิ าพของสินคา้
- สินคา้ ชมุ ชน หรอื สินคา้ ฝากขายจากคนในพ้นื ที่
ศูนย์สาธติ การตลาดสามารถมีสว่ นชว่ ยส่งเสริม
เศรษฐกิจชุมชนได้ ด้วยการรับสินค้าชุมชนมาขายหรือ
เปิดพ้ืนที่ให้ผู้ประกอบการ คนในพ้ืนท่ีน�ำสินค้าของตน
มาฝากขายในศูนย์ฯ โดยส่วนมากจะไม่ซ�้ำกับสินค้า
อุปโภคบริโภคที่มีอยู่ในศูนย์สาธิตการตลาด ไม่วา่ จะเป็น
สินค้า OTOP ท่ีมีคุณภาพ ทั้งของกิน ของใช้ เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น หรือสินค้าจาก
หมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง กล่มุ อาชีพสตรี กลมุ่ อาชพี อ่ืน และวิสาหกิจชมุ ชนต่าง ๆ
ในพื้นที่โดยรอบ นอกจากช่วยเพ่ิมสีสันให้ศูนย์สาธิตการตลาดด้วยตัวสินค้าที่มี
ความนา่ สนใจแลว้ ยังเปน็ การสง่ เสรมิ รายไดข้ องชุมชนอีกดว้ ย
คมู่ ือกศิจูนกยรส์ รามธกิตากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนินงาน 11
12 คู่มือกศจินู กยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนนิ งาน
3. กลยุทธ์การตัง้ ราคา
ราคา คือปัจจัยแรก ๆ ที่ทำ� ใหล้ กู คา้ ตดั สินใจซื้อสินคา้
หากราคาไมน่ า่ จงู ใจ โอกาสทจ่ี ะขายสนิ คา้ ออกกย็ ากขนึ้ การตง้ั ราคา
จึงเป็นอีกกลยทุ ธใ์ นการเรยี กลกู คา้ เรามาดูเทคนิค การต้งั ราคา
เล็กๆน้อยๆ ให้เหมาะกับสินค้าแต่ละชนิด และสามารถน�ำไปสู่
การท�ำก�ำไรได้สูงสุด (Margin Mixed) กลยุทธ์การต้ังราคาขายให้ดีต่อใจลูกค้า
และไดก้ �ำไร ท�ำไดด้ ว้ ยวิธีงา่ ยๆ ดงั ต่อไปน้ี
30 บาท 1. กลยุทธ์ราคาล่อใจ
เลือกสินค้าหลักบางอย่าง มาตั้งราคาให้ถูกกว่าคู่แข่ง
28บาท เล็กน้อย เพื่อดงึ ดูดลูกคา้ และสรา้ งภาพลักษณ์ให้ลูกคา้
ว่าศูนยส์ าธิตการตลาด ของเราขายสนิ ค้าแบบเดยี วกนั
ในราคายอ่ มเยากวา่ เชน่ นำ�้ มนั พชื ทว่ั ไปขายราคา 30 บาท
เราอาจตั้งขาย 28 บาทเป็นต้น กลยุทธ์ราคาล่อใจ
อาจท�ำให้ไดก้ �ำไรนอ้ ยลงจากท่ีควรจะได้ก็จริง แต่สินค้า
ที่ตั้งราคาเช่นน้ี ส่วนมากลูกค้าซื้อในประมาณท่ีมาก
และส่วนใหญ่เวลาที่ผู้บริโภคมาจับจ่ายก็มักไม่เจาะจง
ซ้ือสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะหยิบสินค้าอื่น
ติดไม้ติดมือไปด้วย เราจึงสามารถท�ำก�ำไรจากสินค้า
ตัวอื่นๆ ไดอ้ กี ดว้ ย
2. ต้งั ราคาขายเป็นเซท็ (เปน็ ชดุ )
การขายเปน็ เซท็ ทแ่ี มจ้ ะมรี าคารวมมากกวา่ แตร่ าคาตอ่ ชน้ิ ถกู กวา่ แถมลกู คา้ ยงั ไดข้ อง
มากกว่าอีกด้วย การต้ังราคาเพ่ือขายของเป็นเซ็ทแบบนี้ บางทีอาจได้ก�ำไรน้อยกว่า
ขายแยกชิ้นสักหน่อย แต่สามารถกระตุ้นยอดขายได้แน่นอน เพราะลูกค้าของคุณ
จะร้สู กึ วา่ “ค้มุ ” แมต้ อนแรกจะไม่ไดต้ ้องการสนิ ค้าหลายช้ินเลยก็ตาม
เซท็ แพ็คคู
สดุ คมุ !!
สุดคุม!!!
ซ้ือ 2 แถม 1 ซอ้ื 1 แถม 1
3. ต้ังราคาสนิ คา้ ลงทา้ ยด้วยเลข 9
ไม่ว่าจะเป็นลงทา้ ยด้วย 09 หรือ 99 ว่ากันวา่ ราคานี้ 99
มผี ลให้ลูกคา้ รูส้ ึกวา่ ราคาน้นั “ถกู ” ลง ยิง่ ถ้าเปน็
99 บาท แทนท่ีจะเปน็ 100 บาท ลูกค้าจะยิ่งรสู้ ึกถึง
ความแตกตา่ ง เพราะหลกั สบิ กบั หลกั หนว่ ยดหู า่ งกนั มาก
ท้งั ๆทใ่ี นความเปน็ จรงิ แลว้ ราคาตา่ งกันเพยี ง 1 บาทเทา่ นั้น
นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่า เลข 9 น้ันมีผลทางจิตวิทยาของลูกค้า
โดยตรง ถงึ แมว้ า่ มีของสองช้ิน ราคา 74 และ 79 ในเวลาเรง่ รบี ลกู ค้ายังหยิบสินค้า
ราคา 79 อาจจะหยบิ ไปเพราะความเคยชิน
4. เปรียบเทียบราคาให้ดู
การเปรียบเทียบราคาของศูนย์สาธิตการตลาดของเรากับร้านคู่แข่ง ในสินค้าที่เรา
มนั่ ใจว่าถกู กวา่ จรงิ ใหล้ ูกคา้ ตดั สินใจไดไ้ วและงา่ ยขึ้น หรือใชร้ ่วมกับการจดั ชุด/เซท็
สินค้า ถ้าหาป้ายมาติดเปรียบเทียบราคาแยกชิ้นกับราคาเซ็ทให้ดูก็จะยิ่งช่วย
“ซื้อเป็นชุดถูกกว่า” ก็เป็นการเปรียบเทียบราคาอีกชนิดหนึ่ง ผู้บริโภคปัจจุบัน
ชอบคน้ หาขอ้ มลู ชอบคำ� นวณผลตา่ งกำ� ไร ชอบหาดลี ทถี่ กู ทสี่ ดุ เราก็ “บรกิ ารขอ้ มลู ”
เปรียบเทยี บราคาจดั ใหล้ กู คา้
คู่มอื กศิจูนกยรส์ รามธกิตากรายรกตรละาดดับตกา้นรแดบำ�เบนนิ งาน 13
14 คูม่ อื กศจินู กยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนนิ งาน
4. การสง่ เสรมิ การขาย
(Promotion)
เปน็ เทคนคิ หนง่ึ ทจ่ี ะชว่ ยเพมิ่ ยอดขาย
ใหศ้ นู ยส์ าธติ การตลาดได้โดยสามารถ
จัดได้หลายรูปแบบ และหลายช่วง
เวลา ที่ส�ำคัญ คือ ควรเลือกให้ตรงกับความต้องการลูกค้าให้มากท่ีสุด โดยมี
วตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื รกั ษาลกู คา้ เกา่ ทมี่ อี ยู่ ดงึ ดดู ลกู คา้ ใหม่ ๆ ใหเ้ ขา้ รา้ น สรา้ งยอดขาย
โดยกระตนุ้ ยอดการซอ้ื ตอ่ ครัง้ เพม่ิ ขึน้ หรือจากสินคา้ พเิ ศษช่วงเทศกาล การส่งเสรมิ
การขาย ทส่ี �ำคัญคอื สอ่ื โฆษณา ซง่ึ สามารถท�ำไดห้ ลายแนวทาง ไม่วา่ จะเป็นการทำ�
สอื่ โฆษณา “ภายนอกรา้ น” รปู แบบตอ้ งมขี นาดใหญ่ เหน็ ไดช้ ดั เจน สะดดุ ตา “ภายในรา้ น”
รูปแบบต้องมจี ุดดงึ ดูดสายตา ทำ� ให้เกดิ การตัดสินใจซื้อสินค้าน้ัน ๆ ท่ีจดุ ขายทันที
สามารถตดิ ไดห้ ลายจดุ เชน่ หนา้ เคานเ์ ตอรค์ ดิ เงนิ หนา้ ชน้ั วางสนิ คา้ อกี วธิ คี อื การปนั ผล
เฉลย่ี คนื 6 เดอื นครงั้ หรอื ปลี ะ 1 ครงั้ รวมถงึ การจบั คปู องรางวลั
การสง่ เสริมการขาย มี ดงั น้ี
“ส่ือโฆษณา” ส่งเสริมการขายที่จะช่วยท�ำให้ลูกค้ารับรู้ถึงตัวสินค้านั้นๆ
เช่น รับรู้ว่าสินค้านั้นเป็นสินค้าออกใหม่ สินค้าราคาพิเศษ หรือมีกิจกรรมส่งเสริม
การขายร่วมกับศูนย์สาธิตการตลาด โดยแนวทางในการท�ำส่ือโฆษณาส่งเสริม
การขายก็จะแบง่ ออกเปน็ 2 แนวทาง ดงั นี้
1. การทำ� ส่อื โฆษณาส่งเสรมิ การขาย
“ภายนอกร้าน” รูปแบบนตี้ วั สอ่ื โฆษณาตอ้ งมี
ขนาดใหญ่ติดอยู่หน้าร้าน ให้เห็นได้ชัดเจน
สะดุดตาผู้ที่เดินผ่านไปมาสามารถยืนอ่านได้
สะดวกและคอยนำ� ทางไปยงั จดุ ขายสนิ คา้ นนั้ ๆ
หรือรับร้ถู งึ สิง่ ทีเ่ ราตอ้ งการสอื่ ไม่วา่ จะเปน็
2. การท�ำส่ือโฆษณาสง่ เสรมิ การขาย
“ภายในร้าน” รปู แบบสอื่ โฆษณาภายในรา้ น
เปน็ จุดดึงดูดสายตา ท�ำใหเ้ กิดการตัดสินใจซ้ือสนิ คา้ นัน้ ๆ ท่ีจุดขายทันที การใช้สอ่ื
ติดภายในรา้ นสามารถติดได้หลายจุดภายในร้าน เช่น ที่หนา้ เคาน์เตอรค์ ดิ เงนิ หรอื
หนา้ ชัน้ วางสนิ ค้าทเ่ี ราต้องโปรโมท เปน็ ต้น ทั้งสองรูปแบบถือเป็นแนวทางการจดั ทำ�
ส่ือโฆษณาสง่ เสรมิ การขายที่นิยมท�ำกนั และช่วยเพ่ิมโอกาสท่ลี กู คา้ จะสนใจ ตดั สนิ ใจ
สนิ คา้ นน้ั จากรา้ นคา้ เราได้ เปน็ ตวั ชว่ ยทจ่ี ะเพม่ิ ยอดขายใหร้ า้ นของเราไดด้ เี ลยทเี ดยี ว
3. การปันผลเฉลีย่ คนื 6 เดือนคร้ัง หรือปีละคร้งั
4. การจับคูปองรางวลั
คู่มือกศิจนู กยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน 15
16 คู่มือกศิจูนกยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตก้นารแดบำ�บเนนิ งาน
ด้านกคารวสารมแ้าตงกต่าง
ข้อดีของการมีจุดขายท่ีแตกต่าง
1. เมอ่ื เรามจี ดุ ขายทแี่ ตกตา่ งจากทอี่ นื่ ทำ� ใหล้ กู คา้ จงรกั ภกั ดตี อ่ ศนู ยส์ าธติ การตลาดนนั้
และตดั สนิ ใจซอื้ สนิ คา้ นนั้ ตลอดไปเรอ่ื ย ๆ
2. ไมห่ วนั่ แมว้ นั ทม่ี คี แู่ ขง่ มาก เพราะเราพฒั นาสนิ คา้ และการบรกิ ารทต่ี อบโจทย์
ลกู คา้ มากกวา่ และทำ� ใหศ้ นู ยส์ าธติ การตลาดของเราตดิ ตลาดเปน็ ทน่ี ยิ มกอ่ นคแู่ ขง่ อนื่
3. เป็นแหล่งรวบรวมและกระจายสินคา้ สู่ร้านค้าในชมุ ชน
กลยุทธ์สร้างความแตกต่าง (Differentiation Strategy)
กลยทุ ธส์ รา้ งความแตกตา่ ง (Differentiation Strategy) คอื กลยทุ ธ์ ทท่ี ำ� ให้
ศูนย์สาธิตการตลาดของเราไม่เหมือนใคร มีความพิเศษ มีคุณค่า และมูลค่าเพิ่ม
ในตวั ศนู ยส์ าธติ ฯ โดยตอ้ งผา่ น การทำ� วจิ ยั และศกึ ษาพฤตกิ รรมลกู คา้ วา่ สงิ่ ทล่ี กู คา้ ชอบ
คืออะไร เพอื่ พฒั นาสมรรถนะของศูนย์ฯ ตอบสนองสิง่ ท่ลี กู ค้าตอ้ งการใหไ้ ด้
เทคนิคการสร้างความแตกต่าง
เราสามารถสร้างความแตกต่าง หรือสรรค์สร้างจุดขายทไ่ี ม่เหมอื นใคร และ
ไม่มีใครเหมือนได้ด้วย 3 วิธีง่าย ๆ โดยควรพิจารณาจากความต้องการของลูกค้า
ที่แตกต่างกัน ปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ และบริบทของพื้นที่ที่ศูนย์สาธิตการตลาด
เราตงั้ อยู่ด้วย
1. แตกต่างด้วย “สินค้าและบริการ”
เพิ่มสินค้าและบรกิ ารท่ีแตกต่างจากท่ีอื่น โดยเลอื กสนิ ค้าท่ใี หม่ มคี ุณภาพ
ไดม้ าตรฐาน และราคายตุ ธิ รรม รวมไปถึงการมสี ินค้าชมุ ชนที่ร้านค้าปลีกอ่ืน ๆ ไม่มี
2. แตกต่างด้วย “การตกแต่ง”
การตกแต่งภายใน เน้นความสะดวกสบายในการเลือกซ้ือสินค้า ใช้ช้ันวาง
สสี นั สดใส เพมิ่ บรรยากาศดว้ ยเสยี งเพลงและกลน่ิ หอม สว่ นการตกแตง่ ภายนอกรา้ น
เน้นสสี ันสดใสแปลกตา หรอื ใชว้ ัสดทุ อ้ งถน่ิ มาตกแตง่ ร้าน
3. แตกต่างด้วย “ความสัมพันธ์กับชุมชน”
คอื จดุ แขง็ ที่สาคญั ของศูนยส์ าธติ การตลาด ด�ำเนินการโดยกล่มุ ออมทรพั ย์
เพื่อการผลิต ความสัมพันธ์นั้น อาจหมายถึง รู้ใจคนในชุมชน รู้จักชื่อลูกค้าทุกคน
พูดภาษาถิ่นท�ำให้ส่ือสารกันง่าย ความเป็นกันเองของคนขายกับลูกค้าการเป็น
ศูนย์กลางในการกระจายข่าวสาร การจัดกจิ กรรมคืนกำ� ไรใหช้ ุมชน และการท�ำบุญ
บริจาคในโอกาสต่าง ๆ
คู่มอื กศิจนู กยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกา้นรแดบำำ�เบนินงาน 17
18 คมู่ อื กศจิูนกยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำำ�บเนนิ งาน
ข้ันท่ี 2
น�ำข้อมูลที่ได้รับจากข้ันที่ 1 เสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร
กลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิต เพื่อพิจารณาสถานที่จัดต้ังศูนย์สาธิตการตลาด
และเลือกประเภทสินคา้ จ�ำนวนสินคา้ และร้านค้าท่ีจะเลือกซือ้ สนิ ค้า การจดั ตั้ง
ศูนย์สาธิตการตลาดนั้นมีท่ีมาหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย
1. เกิดจากเงินทุนท่มี าจากการดำ� เนินงานกลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ นำ� มา
ลงทนุ การจดั ต้ังศนู ย์สาธติ การตลาด 100%
2.ระดมทุนใหม่โดยใช้วิธีลงหุ้นจากผู้ท่ีสนใจโดยการเป็นแบบปิด ค ือ
รับสมัครจากผู้ท่ีเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเท่านั้น หรือแบบเปิด คือ
รับสมัครบุคคลทั่วไป จากหลายภาคส่วน เช่น สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิต
สว่ นหนง่ึ กลมุ่ อาชพี ในชมุ ชน หรอื คนในหมบู่ า้ นอกี สว่ นหนง่ึ โดยอาจกำ� หนดราคาหนุ้
เชน่ 100 บาท = 1 หนุ้ สมาชิกแต่ละคนถือหนุ้ ได้ ไม่เกนิ คนละ 20 หุ้น เป็นตน้
3. เป็นแบบผสมระหว่างแบบที่ 1 และ
แบบท่ี 2 เป็นกลมุ่ ออมทรัพยเ์ พอื่ การผลิต น�ำเงิน
มาลงทุนและเปิดรบั สมาชิกเพิ่ม
4. กู้เงนิ ธนาคาร
โดยใชส้ มดุ สจั จะของกลุ่มฯ
ค�้ำประกันเงนิ กู้
จึงเป็นท่ีมาว่าคณะกรรมการบริหารกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตต้อง
พจิ ารณาสถานทจ่ี ดั ตง้ั ศนู ยส์ าธติ การตลาดทมี่ คี วามพรอ้ ม และวเิ คราะหส์ นิ คา้ จะนำ� มา
จ�ำหน่าย ร้านค้าที่จะเลือกซื้อสินค้า (ตามการวิเคราะห์ขั้นท่ี 1) โดยการวิเคราะห์
ศนู ย์สาธติ การตลาดต้องพจิ ารณาจากพน้ื ท่ีทมี่ ีจดุ ขายที่แตกต่างเพราะจะท�ำใหล้ กู ค้า
กลา้ ตดั สนิ ใจซอ้ื สนิ คา้ อยสู่ มำ่� เสมอ ไมห่ วน่ั แมจ้ ะมคี แู่ ขง่ จำ� นวนมาก เพราะเราจะพฒั นา
สนิ คา้ และบรกิ าร ทตี่ อบโจทยล์ กู คา้ รวมถงึ เปน็ แหลง่ รวบรวมและกระจายสนิ คา้ ชมุ ชน
โดยใช้การวิเคราะห์ความแตกต่าง เป็นมูลค่าเพิ่มให้กับตัวศูนย์สาธิตการตลาด
สามารถสร้างความแตกต่าง หรือจุดขายให้ไม่เหมือนใครด้วย 3 วิธีง่าย ๆ โดยควร
พิจารณาจากความตอ้ งการของลูกค้าทีแ่ ตกตา่ งกัน ปัจจยั แวดลอ้ มอ่นื ๆ และบรบิ ท
ของพนื้ ทท่ี ศ่ี นู ยส์ าธติ การตลาดจะดำ� เนนิ การจดั ตง้ั (1)แตกตา่ งดว้ ย“สนิ คา้ และบรกิ าร”
โดยเลือกจากสินค้าท่ีใหม่ มีคุณภาพได้มาตรฐาน ราคายุติธรรม จ�ำหน่ายสินค้า
ท่ีร้านค้าสะดวกซ้ืออื่น ไม่มี (2) แตกต่างด้วย “การตกแต่ง” เน้นสะดวกสบาย
ในการเลือก บรรยากาศเน้นสรี ้านสดใส สะอาด (3) แตกตา่ งดว้ ย “ความสัมพนั ธ์กบั
ชุมชน” คอื จุดแขง็ ทส่ี �ำคัญของศนู ยส์ าธิตการตลาด คือ ความสัมพนั ธ์ หรอื การรูใ้ จ
ของคนในชุมชน รู้จกั ชอ่ื ลกู ค้าทกุ คนพูดภาษาถิน่ ทำ� ใหส้ ือ่ สารงา่ ย ความเปน็ กนั เอง
ของคนขายกบั ลกู คา้ เปน็ ศูนยก์ ลางในการกระจายขา่ วสาร การจัดกจิ กรรมคืนกำ� ไร
ให้ชุมชน เป็นต้น
การพจิ ารณาเลอื กศนู ยส์ าธติ การตลาดทสี่ ำ� คญั ตอ้ งมกี ารบรกิ ารทด่ี ี ตอ้ งหมนั่
สรา้ งความผกู พนั และความสัมพันธ์ทดี่ ีกับลกู คา้ จนทำ� ใหเ้ กิดความสัมพันธ์ระยะยาว
จนเกิดเปน็ ความจงรกั ภักดขี องลกู ค้าต่อศูนย์สาธติ การตลาด
คูม่ ือกศจิ นู กยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน 19
20 คูม่ ือกศิจูนกยรส์ รามธกิตากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนนิ งาน
ขั้นท่ี 3
ศึกษาต้นทนุ สนิ ค้าแต่ละชนิดท่ีจะจดั จ�ำหนา่ ยในศูนย์สาธติ การตลาด
วิธีการคดิ ต้นทนุ -ก�ำไร
1. จดราคาของทีซ่ ้อื มาทุกคร้ัง
2. หาราคาต่อกรัมหรอื ตอ่ ชิน้
3. คดิ ราคาต่อสูตร โดยการคณู ปรมิ าณที่ใชก้ ับราคาต่อกรัม
4. รวมเปน็ ต้นทุนวัตถุดบิ
5. คดิ คา่ แรง/ค่าไฟ/ค่าของทอี่ าจท�ำเสีย = 30% ของตน้ ทุนวตั ถุดบิ
6. คิดกำ� ไร 30 - 50 % ของทนุ +ค่าแรง
(ถ้าเป็นอาหารหรือขนมที่ท�ำง่าย ควรคิดก�ำไรประมาณ 30% แต่ถ้า
มขี น้ั ตอนในการทำ� ทยี่ งุ่ ยากซบั ซอ้ นควรขน้ึ กำ� ไรเพมิ่ ขนึ้ จาก 30% แตไ่ มค่ วร
เกนิ 50%)
7. รวมต้นทุนท้งั หมด = ทุน (4) + คา่ แรง (5) + ก�ำไร (6)
8. หาราคาเฉล่ียตอ่ ช้ินโดยนำ� ต้นทนุ ทงั้ หมดหารดว้ ยจ�ำนวนชน้ิ ท่ีได้
9. คิดราคาส�ำหรบั ขายปลกี และขายสง่
ข้ันท่ี 4
แจ้งให้สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตและประชาชนท่ัวไปทราบ
โดยการโฆษณา ประชาสมั พนั ธ์ การใชส้ อื่ โฆษณา ซง่ึ สามารถทำ� ไดห้ ลายแนวทาง
ดังนี้
1. การทำ� สื่อโฆษณา “ภายนอกร้าน” รูปแบบตวั สื่อตอ้ งมีขนาดใหญ่ตดิ อยู่
หน้ารา้ น ใหเ้ หน็ ไดช้ ัดเจน สะดดุ ตาผทู้ ีเ่ ดนิ ผ่านไปมาสามารถยนื อา่ นได้สะดวก และ
คอยนำ� ทางไปยงั จุดขายสนิ คา้ นน้ั ๆ หรือรบั รู้ถึงสง่ิ ท่เี ราต้องการสอ่ื
2. การทำ� สอ่ื โฆษณา “ภายในรา้ น” รูปแบบตอ้ งเปน็ จุดดึงดูดสายตาท�ำให้
เกิดการตัดสนิ ใจซ้อื สนิ ค้าน้ัน ๆ ท่ีจดุ ขายทนั ที การใช้สื่อติดภายในรา้ นสามารถติดได้
หลายจดุ เช่น หนา้ เคานเ์ ตอร์คิดเงิน หรอื หน้าชั้นวางสินค้า
3. ประชาสมั พนั ธผ์ า่ นทางเวทกี ารประชมุ สมาชกิ กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอื่ การผลติ
4. ประชาสมั พนั ธต์ ามเสยี งตามสายของหมบู่ า้ น หรอื สอ่ื วทิ ยคุ ลน่ื ชมุ ชนนนั้ ๆ
คู่มือกศจิ นู กยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกา้นรแดบำ�เบนินงาน 21
22 ค่มู ือกศจิูนกยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนนิ งาน
ขั้นที่ 5
แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการศูนย์สาธิตการตลาดและด�ำเนินงาน/
กจิ กรรมศูนย์สาธิตการตลาด
เนอ่ื งจากศนู ยส์ าธติ การตลาดเปน็ กจิ กรรมหนง่ึ ของกลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ
ศนู ยส์ าธติ การตลาดจงึ ไมม่ สี มาชกิ เฉพาะของศนู ยส์ าธติ การตลาด แตม่ สี มาชกิ กลมุ่ ออมทรพั ย์
เพื่อการผลิตทุกคนเป็นเจ้าของ การด�ำเนินงานจึงต้องมีคณะกรรมการด�ำเนินงาน
ประกอบดว้ ย
1. คณะกรรมการบริหารกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิต ท�ำหน้าท่ี ก�ำหนด
นโยบาย ระเบียบ กฎเกณฑต์ า่ ง ๆ ทีเ่ กยี่ วกบั ศูนย์สาธติ การตลาด
2. คณะกรรมการฝ่ายอ�ำนวยการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ท�ำหน้าที่
การบริหารงานศนู ย์สาธติ การตลาด
3. จัดตั้งคณะกรรมการจัดการศูนย์สาธติ การตลาด
ฝา่ ยจดั ซอ้ื และดูแลสตอ็ กสินคา้
ด�ำเนินการจัดซื้อตามความจ�ำเป็น การตรวจสอบการจัดซื้อ ดูแลติดตาม
ความเคล่ือนไหวของสินค้าคงคลัง ตรวจสอบสต็อกสินค้า ท�ำรายงานและรายการ
ราคาสินคา้ แตล่ ะตัวรวมไปถึงการรบั ฟังข้อสงั เกตจากฝ่ายขาย ฝ่ายบัญชี วา่ สนิ คา้ ใด
ขายดี เพอ่ื วางแผนซือ้ สินคา้ นน้ั มากข้นึ
ฝ่ายขาย
รู้จักสินค้า รู้ราคา รู้ใจลูกค้า ท้ังนี้ เพ่ือให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและ
เพียงพอ ทจ่ี ะนำ� ไปในการตัดสนิ ใจเลอื กซ้อื พนกั งานขายท่เี ก่งต้องมีเทคนคิ การขาย
ท่หี ลากหลาย ใหข้ ้อมูลทที่ นั สมัย มใี จบริการ และมีมนษุ ยสัมพนั ธ์ท่ีดี
ฝา่ ยประชาสมั พนั ธ์
การส่ือสารกับลกู คา้ อยา่ งเอาใจใสเ่ ปน็ เสน่ห์ ท่ีท�ำใหท้ ำ� ให้ลูกคา้ เดินเขา้ ร้าน
ดังนั้นควรมีฝ่ายประชาสัมพันธ์ท่ีหาวิธีดึงลูกค้าให้ภักดีกับศูนย์สาธิตการตลาด
กระจายข่าวในช่วงที่มกี ารจดั โปรโมชนั่ และหาลกู คา้ กลุ่มใหม่ ๆ อยเู่ สมอ
ฝ่ายบัญชี
ศนู ยส์ าธติ การตลาดมติ ใิ หมต่ อ้ งจดั ทำ� บญั ชี ฝา่ ยบญั ชมี หี นา้ ทบี่ นั ทกึ รายการ
สินคา้ เขา้ ออกและยอดขายในแต่ละวัน การทำ� บัญชีน้ันส�ำคัญและจ�ำเป็น เพื่อใหร้ ู้ว่า
ก�ำไรหรือขาดทุนในแต่ละวัน/เดือน เท่าไร และสินค้าชนิดไหนที่ขายดี ขายไม่ดี
ขอ้ มลู ทไ่ี ด้จะสามารถนำ� มาใช้ในการตดั สินใจเพ่ือการลงทุนในอนาคต
4. ให้มีการแต่งต้ังผู้จัดการศูนย์สาธิตการตลาด ท�ำหน้าที่ ควบคุมดูแล
และดำ� เนนิ งาน และแตง่ ต้งั พนักงานขายสนิ ค้าและพนักงานบญั ชีจ�ำนวนทจ่ี �ำเปน็
ค่มู อื กศิจนู กยรส์ รามธกิตากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน 23
24 ค่มู อื กศจินู กยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำำ�บเนนิ งาน
ขั้นท่ี 6
คณะกรรมการจัดการศูนย์สาธิตการตลาด ต้องจัดท�ำบัญชีการเงินของ
ศนู ยส์ าธติ การตลาด และรายงานผลการดำ� เนนิ งาน ยอดจำ� หนา่ ยสนิ คา้ จำ� นวน และ
ประเภทสินค้าที่คงเหลือในศูนย์สาธิตการตลาด ให้คณะกรรมการบริหาร
กลุ่มออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลิตทราบความเคลื่อนไหวอยเู่ สมอ
การจัดทำ� ระบบบญั ชศี ูนยส์ าธติ การตลาด
- ระบบบัญชีและรูปแบบบัญชีศูนย์สาธิตการตลาด ใช้ระบบและรูปแบบ
บญั ชีเชน่ เดียวกับบญั ช ี กลมุ่ ออมทรพั ย์เพือ่ การผลิต คอื ใช้ระบบบัญชีคู่ และก�ำหนด
ให้มี บัญชีหลักรวม 3 เล่มด้วยกัน อีกท้ังมีสมุดทะเบียนต่าง ๆ ประกอบบัญชีหลัก
ดงั กล่าว
บญั ชีหลกั ประกอบด้วย
1. บญั ชีเงินสด
2. บัญชรี ายวันรับ
3. บญั ชีรายวนั จา่ ย
ทะเบียนต่าง ๆ
1. ทะเบยี นคมุ สินค้าเปน็ ประเภท
2. ทะเบียนคมุ ลูกหนร้ี ายบคุ คล
3. ทะเบียนคมุ เจ้าหน้ีรายบคุ คล
4. ทะเบยี นซ้ือสนิ ค้าของสมาชกิ เป็นรายบุคคล
5. บญั ชรี ับ – จา่ ยรายวนั
บัญชีหลัก 3 เล่ม ไดแ้ ก่
1. บัญชีเงินสด ใช้ชื่อบัญชีว่า “บัญชีเงินสด-บัญชีเงินฝากธนาคาร” ใช้
อักษรย่อ “ส” เป็น บัญชีชั้นต้นใช้ลงรายการรับ-จ่าย เม่ือมีการรับหรือจ่ายเป็น
เงินสด บัญชีเงินสดน้ีได้น�ำบัญชี เงินฝากธนาคารมารวมไว้ด้วยกันแบ่งเป็น 3 ช่อง
คือ ช่องบัญชีเงินสด ช่องบัญชีเงินฝาก ประจ�ำ และช่องบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
2. บญั ชีรายวนั รบั ใชช้ อ่ื บญั ชวี ่า “บัญชรี ายได้และหนี้สิน” ใช้อกั ษร “ร”
เป็นบัญชีแยกประเภทใช้ส�ำหรับบันทึกรายการรับเงินทุกประเภทซ่ึงแยกเฉพาะ
รายการรับเงินจากบัญชีเงินสดมาลงในบัญชีเล่มน้ี อีกครั้งหน่ึงโดยแยกประเภท
รายรับไว้เป็นช่องๆ ตามประเภทของเงินที่ ได้รับ เม่ือได้รับเงินประเภทใดก็ให้น�ำ
จ�ำนวนเงินที่ได้รับลงในช่องรายได้ประเภทที่ได้รับน้ัน ๆ บัญชีรายได้และหน้ีสิน
แบง่ เป็น 2 ส่วน คอื
ส่วนท่ี 1 ชอ่ งรายได้ เป็นรายไดอ้ ันเกิดจากการขายสนิ ค้า ดอกเบ้ียเงนิ ฝาก
ธนาคาร และรายได้อ่ืน ๆ
สว่ นท่ี 2 ชอ่ งหนสี้ นิ เปน็ การรบั เงนิ อนั กอ่ ใหเ้ กดิ เปน็ หนส้ี นิ ของศนู ยส์ าธติ การตลาด
เนอ่ื งจากรายได้ทีไ่ ดร้ ับน้ี ศูนยส์ าธติ การตลาดมภี าระจะต้องจ่ายคืนใหก้ บั เจา้ ของเงิน
เมือ่ ครบกำ� หนด ใหแ้ กเ่ จา้ หนีเ้ งินทนุ เจา้ หน้กี ารคา้
3. บญั ชีรายวนั จา่ ย ใช้ชอ่ื บญั ชีว่า “บัญชรี ายจ่ายและทรัพย์สนิ ” ใชอ้ ักษร
“จ” เป็นบัญชี แยกประเภทเช่นกัน ใช้ส�ำหรับบันทึกรายการจ่ายเงิน ซ่ึงแยกเอา
เฉพาะรายจา่ ยจากบญั ชเี งนิ สดมาลงในบญั ชเี ลม่ นอี้ กี ครง้ั หนงึ่ โดยแยกประเภทรายจา่ ย
เปน็ ชอ่ งๆ เช่นเดียวกบั บญั ชี รายวันรบั เม่อื ได้จา่ ยเงนิ ประเภทใดกใ็ ห้น�ำจ�ำนวนเงนิ
ท่ีจา่ ยลงในช่องจา่ ยนนั้ ๆ
คู่มือกศจิ นู กยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำำ�เบนินงาน 25
26 คู่มือกศกศิจนูจิูนกยกยรส์ร์สรราามธมธกติกิตากากรราายรยรกตกตรลรละาะดาดดดับับตตกกน้า้นารรแแดดบบำำ��บเบเนนนิ นิ งงาานน
บัญชีรายจ่าย
ทรัพย์สิน
และ
แบ่งเปน็ 2 สว่ น คอื
ส่วนที่ 1 ช่องรายจ่าย เป็นรายจ่ายจากการซ้ือสินค้า และรายจ่ายจาก
การดำ� เนนิ งานของศูนย์สาธิตการตลาด ได้แก่ คา่ เครื่องเขียน แบบพิมพ์ คา่ พาหนะ
คา่ ภาชนะหีบหอ่ ดอกเบีย้ เงนิ กู้ เป็นตน้
สว่ นท่ี 2 ชอ่ งทรพั ยส์ ิน ไดแ้ ก่ ลูกหนีท้ ี่เกิดจากการขายสนิ คา้ เปน็ เงินเช่อื
หรือการซ้ือ ทรัพย์สินต่าง ๆ มาใช้ในศูนย์สาธิตการตลาด ได้แก่ เคร่ืองคิดเลข
ตู้ ช้นั วางของ โตะ๊ เกา้ อี้ เป็นต้น
การขายสนิ คา้ แบบนน้ั เปน็ เงนิ เชอ่ื จำ� นวนเงนิ ทข่ี ายเปน็ เงนิ เชอ่ื ใหน้ ำ� ลงบญั ชี
ในชอ่ งลูกหนี้ ถ้าซ้ือสินทรพั ย์ให้น�ำจ�ำนวนเงนิ ทีซ่ อ้ื สินทรพั ย์ลงบญั ชีในช่องทรพั ยส์ นิ
ทรพั ย์สนิ ตา่ ง ๆ ท่ปี รากฏในชอ่ งที่ 2 คือ ช่องทรัพยส์ ิน จะต้องมีทะเบยี น
คมุ ทรพั ยส์ นิ ทซี่ อื้ มาและทำ� ทะเบยี นคมุ ลกู หนที้ ซ่ี อ้ื สนิ คา้ เปน็ เงนิ เชอ่ื เปน็ รายตวั บคุ คล
เพื่อให้ทราบว่า ลกู หน้แี ตล่ ะคนมีเงนิ คา้ งชำ� ระเปน็ จำ� นวนเท่าใด ดงั นัน้ การท�ำบญั ชี
ศูนย์สาธิตการตลาด นอกจากจะมีบัญชีหลัก 3 เล่มดังกล่าวแล้ว ยังจะต้องมี
สมุดทะเบยี นต่าง ๆ ประกอบบญั ชี หลกั 3 เล่ม อีกดว้ ย ดงั นี้
ทะเบียนคมุ สนิ คา้ เปน็ รายประเภท
ทะเบยี นคุมลกู หน้ีเปน็ รายบุคคล
ทะเบยี นคมุ เจา้ หนีเ้ ป็นรายบคุ คล
ทะเบียนซอื้ สินคา้ ของสมาชกิ เป็นรายบคุ คล
บัญชรี ับ-จา่ ยรายวนั
ข้ันตอน
การท�ำบัญชี
การเปดิ บญั ชี คอื การเรมิ่ บนั ทกึ รายการลงในบญั ชนี นั้ เอง สำ� หรบั ศนู ยส์ าธติ
การตลาดจะเร่ิมบันทึกรายการในบัญชีตั้งแต่เริ่มได้รับทุนมาด�ำเนินการ ทุนที่ได้รับ
จะไดม้ าจาก กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอื่ การผลติ ดงั นน้ั การลงบญั ชเี มอ่ื ไดร้ บั เงนิ มาลงทนุ คอื
1. ลงในบญั ชเี งนิ สด ในชอ่ ง “รบั ” ของชอ่ งเงนิ สด เทา่ กบั จำ� นวนเงนิ ทไ่ี ดร้ บั
2. ลงในบัญชีรายได้และหนี้สิน ในช่องเจ้าหนี้ (กลุ่มออมทรัพย์ฯ) โดย
ลงในชอ่ ง “เงินลงทุน” ในจำ� นวนเงินทเ่ี ท่ากันกบั บัญชเี งนิ สด
3. ในลำ� ดบั ตอ่ ไปเมอื่ ไดร้ บั เงนิ มาลงทนุ แลว้ กจ็ ะเปน็ การซอื้ สนิ คา้ และการขาย
สนิ คา้ ประจ�ำวนั ให้ลงบญั ชีตามลำ� ดบั วันทีท่ ซี่ ื้อและวนั ทที่ ่ีขายสนิ คา้
การปิดบญั ชี เมือ่ ส้ินปี (31 ธันวาคมของทกุ ปี) ดำ� เนนิ การดังน้ี
1. ปิดบญั ชีทกุ เล่ม โดยรวมยอดรายรับ-รายจา่ ยทกุ ประเภท รวมท้ังหายอด
คงเหลอื ในบญั ชเี งนิ สด และบญั ชเี งนิ ฝากธนาคาร (ถา้ ม)ี การปดิ บญั ชสี นิ้ ปนี นั้ เนอ่ื งจาก
ได้ปิดบัญชี ทกุ เลม่ เป็นประจำ� ทกุ เดือนอย่แู ล้ว ดังนัน้ ยอดรวมของรายรับ-รายจ่าย
ก็คอื ยอดรวมท้ังปีในวันท่ี 31 ธันวาคม ซ่ึงได้บวกพนั ยอดกนั มาตัง้ แตต่ น้ ปนี ้นั เอง
2. ทำ� งบกำ� ไรขาดทนุ เพอ่ื หากำ� ไรสุทธิประจำ� ปี
3. ท�ำงบดุลเพ่ือแสดงทรัพย์สิน หน้ีสิน และทุนของศูนย์สาธิตการตลาด
ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม เพอื่ ใหส้ มาชกิ ไดท้ ราบผลการดำ� เนนิ งานในรอบปี เมอ่ื จดั ทำ� งบดลุ
เสร็จแล้ว กรรมการตรวจสอบจะต้องตรวจสอบบัญชีทุกเล่ม พร้อมด้วยงบก�ำไร-
ขาดทุน และงบดุล เมอื่ เหน็ ว่าถูกตอ้ งแลว้ ให้เซน็ ชอ่ื รบั รองความถูกตอ้ งในตอนท้าย
ของงบดุลด้วย
คู่มอื กศจิ นู กยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน 27
28 คู่มือกศิจูนกยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตก้นารแดบำ�บเนนิ งาน
การควบคุม
เงิน
เหรญั ญกิ ของกลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอื่ การผลติ เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบควบคมุ การเงนิ
ของศนู ยส์ าธติ การตลาดทำ� หนา้ ทเี่ บกิ จา่ ยเงนิ ใหค้ ณะกรรมการจดั การศนู ยส์ าธติ การตลาด
และตรวจสอบบญั ชีท้งั หมดของศูนย์สาธิตการตลาด
เงินทนุ ด�ำเนินงานรายวัน ให้ผจู้ ดั การศูนยส์ าธติ การตลาดท�ำเร่อื งขออนมุ ตั ิ
จากคณะกรรมการจัดการศูนย์สาธิตการตลาด เม่ือได้รับอนุมัติแล้วให้ไปขอเบิกจ่าย
เงินจาก เหรัญญกิ กลุม่ ออมทรัพยเ์ พื่อการผลติ มาเกบ็ ไวเ้ พื่อใชจ้ า่ ยได้
จ�ำนวนเงินที่ผู้จัดการศูนย์สาธิตการตลาดเก็บไว้ จะมีจ�ำนวนเท่าไรให้
เปน็ หนา้ ท่ี ของคณะกรรมการบรหิ ารกลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ สว่ นการเกบ็ รกั ษาเงนิ
ของผู้จัดการ ศูนยส์ าธิตการตลาดน้นั ควรมรี ะยะเวลาคราวละ 1 สปั ดาห์ คอื ทกุ วัน
สดุ สปั ดาห์ ผจู้ ดั การ ศนู ยส์ าธติ การตลาดจะตอ้ งนำ� เงนิ สง่ คนื เหรญั ญกิ กลมุ่ ออมทรพั ย์
เพอื่ การผลติ และขอเบกิ เงนิ จากเหรญั ญกิ กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ ใหมท่ กุ วนั จนั ทร์
หากเหน็ วา่ ไมส่ ะดวกอาจจะกำ� หนดระยะเวลา 1 เดอื น สำ� หรบั สง่ คนื เงนิ และขอเบกิ เงนิ
จากเหรัญญิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตก็ได้แต่คณะกรรมการศูนย์สาธิตการตลาด
จะต้องคอยควบคุมดแู ลอยา่ งใกล้ชดิ
ผลก�ำไร ในรอบเดือนของศูนย์สาธิตการตลาด ให้น�ำฝากไว้ในบัญชี
ฝากประจำ� สจั จะสะสมทรพั ยข์ องกลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอื่ การผลติ สว่ นเงนิ ทนุ ดำ� เนนิ การ
ให้น�ำเข้าฝากใน บัญชีสะสมทรัพย์ของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เพื่อให้สามารถ
ถอนมาใชไ้ ดต้ ลอดเวลา
ทุกวันก่อนปิดบริการศูนย์สาธิตการตลาด
ผู้จัดการศูนย์สาธิตการตลาดจะต้องตรวจสอบยอด
สินค้าที่จ�ำหน่ายประจ�ำวัน และสินค้าคงเหลือ
ทกุ ประเภท แลว้ ลงบัญชีไว้ เปน็ หลกั ฐาน
คูม่ อื กศิจูนกยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกา้นรแดบำ�เบนนิ งาน 29
30 คมู่ ือกศจิูนกยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนินงาน
ก�ำไรการจัดสรร ผล
สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ลักษณะ คือ
1. เฉลยี่ คนื แกผ่ ซู้ อ้ื สนิ คา้ ทเี่ ปน็ สมาชกิ กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ เปน็ รายเดอื น
โดยคณะกรรมการบริหารกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิต ประชุมพิจารณาร่วมกันว่า
จะเฉลี่ยคืน ก่ีเปอร์เซ็นต์ของก�ำไรท่ีได้ เช่น คืนร้อยละ 4 บาท สามารถซ้ือสินค้า
ไปในรอบเดือนเป็นเงิน 500 บาท ก็เฉล่ียคืนตามวงเงินที่ซ้ือตามท่ีคณะกรรมการ
บรหิ ารกลุ่มออมทรัพยเ์ พื่อการผลิตกำ� หนด
2. นำ� กำ� ไรสว่ นทเ่ี หลอื จากเฉลย่ี คนื ใหส้ มาชกิ ไปรวมกบั กำ� ไรของกลมุ่ ออมทรพั ย์
เพอ่ื การผลติ เพอ่ื จดั สรรเปน็ เงนิ ปนั ผลใหส้ มาชกิ กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ ตามจำ� นวน
หนุ้ ทส่ี มาชกิ กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ แตล่ ะคนมอี ยใู่ นสมดุ สจั จะสะสมทรพั ย์ หกั เปน็ ทนุ
ขยายงาน ทนุ สำ� รอง และทนุ สาธารณะ เป็นตน้
ศูนย์สาธิตรกะบาบรบตัญลาชดี
ระบบบัญชีและรูปแบบบัญชีศูนย์สาธิตการตลาด
ใชร้ ะบบและรปู แบบบญั ชเี ชน่ เดยี วกบั กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอื่ การผลติ คอื ใชร้ ะบบบญั ชคี ู่
และก�ำหนดให้มีบัญชีหลักรวม 3 เล่มด้วยกัน อีกทั้งสมุดทะเบียนต่างๆ ประกอบ
บัญชีหลกั ดังกลา่ ว
บัญชีหลัก ประกอบด้วย
1. บัญชีเงนิ สด
2. บัญชีรายวันรบั
3. บญั ชีรายวนั จ่าย
ทะเบียนต่างๆ
1. ทะเบียนคุมสินค้าเป็นประเภท
2. ทะเบยี นคมุ ลูกหน้รี ายบคุ คล
3. ทะเบยี นคมุ เจา้ หนีร้ ายบุคคล
4. ทะเบียนซ้อื สนิ ค้าของสมาชกิ เปน็ รายบุคคล
5. บัญชรี ับ - จ่าย รายวัน
คมู่ อื กศจิ ูนกยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกา้นรแดบำ�เบนินงาน 31
32 คมู่ อื กศิจนู กยรส์ รามธกิตากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนินงาน
3บัญชีหลัก เล่ม คือ
บัญชีเงินสด ใช้ช่ือบัญชีว่า “บัญชีเงินสด - บัญชีเงินฝากธนาคาร”
ใชอ้ ักษรยอ่ “ส” เปน็ บัญชชี ัน้ ตน้ ใช้ลงรายการรบั - จา่ ย เม่ือมีการรบั หรอื จา่ ยเป็น
เงินสด บัญชเี งนิ สดนี้ได้นำ� บญั ชเี งินฝากธนาคารมารวมไว้ด้วยกันแบง่ เป็น 3 ช่อง คือ
ช่องบญั ชีเงินสด ช่องบัญชเี งนิ ฝากประจ�ำ และชอ่ งบญั ชเี งินฝากออมทรพั ย์
บัญชีรายวันรับ ใช้ชื่อบัญชีวา่ “บัญชีรายไดแ้ ละหนสี้ ิน” ใชอ้ ักษร “ร”
เปน็ บญั ชแี ยกประเภท ใชส้ ำ� หรบั บนั ทกึ รายการรบั เงนิ ทกุ ประเภทซงึ่ แยกเฉพาะรายการ
รับเงินจากบัญชีเงินสดมาลงในบัญชีเล่มน้ีอีกคร้ังหน่ึงโดยแยกประเภทรายรับไว้
เป็นช่องๆ ตามประเภทของเงินที่ได้รับ เม่ือได้รับเงินประเภทใดก็ให้น�ำจ�ำนวนเงิน
ทีไ่ ด้รับลงในช่องรายไดป้ ระเภททไ่ี ดร้ ับนน้ั ๆ
บัญชีรายไดแ้ ละหน้สี ิน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ชอ่ งรายได้ เป็นรายได้อนั เกดิ จากการขายสินคา้ ดอกเบีย้ เงินฝาก
ธนาคารและรายได้อืน่ ๆ
สว่ นที่ 2 ชอ่ งหนส้ี นิ เปน็ การรบั เงนิ อนั กอ่ ใหเ้ กดิ เปน็ หนสี้ นิ ของศนู ยส์ าธติ การตลาด
เนื่องจากรายได้ท่ไี ด้รับนี้ ศูนยส์ าธติ การตลาดมภี าระจะตอ้ งจา่ ยคืนใหก้ บั เจา้ ของเงิน
เมอ่ื ครบกำ� หนดให้แก่เจ้าหน้เี งนิ ทุน เจ้าหนีก้ ารค้า
บัญชีรายวันจ่ายใช้ช่อื บญั ชีว่า“บัญชรี ายจา่ ยและทรพั ยส์ ิน”ใช้อกั ษร“จ”
เปน็ บญั ชแี ยกประเภทเชน่ กนั ใชส้ ำ� หรบั บนั ทกึ รายการจา่ ยเงนิ ซง่ึ แยกเอาเฉพาะรายจา่ ย
จากบัญชีเงินสดมาลงในบัญชีเล่มน้ีอีกครั้งหนึ่งโดยแยกประเภทรายจ่ายเป็นช่องๆ
เช่นเดียวกับบัญชีรายวันรับ เมื่อได้จ่ายเงินประเภทใดก็ให้น�ำจ�ำนวนเงินที่จ่ายลงใน
ชอ่ งจ่ายน้นั ๆ
บญั ชรี ายจ่ายและหนี้สนิ แบ่งเป็น 2 สว่ น คือ
ส่วนที่ 1 ช่องรายจ่าย เป็นรายจ่ายจากการซื้อสินค้า และรายจ่ายจาก
การด�ำเนนิ งานของศูนย์สาธติ การตลาด ไดแ้ ก่ คา่ เครอ่ื งเขยี น แบบพมิ พ์ คา่ พาหนะ
คา่ ภาชนะหีบหอ่ ดอกเบ้ียเงินกู้ เปน็ ตน้
สว่ นท่ี 2 ชอ่ งทรพั ยส์ ิน ไดแ้ ก่ ลูกหน้ที ่ีเกดิ จากการขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เช่อื
หรือการซื้อทรัพย์สินต่างๆ มาใช้ในศูนย์สาธิตการตลาด ได้แก่ เคร่ืองคิดเลข ตู้
ชั้นวางของ โตะ๊ เก้าอ้ี เปน็ ต้น
การขายสินค้าแบบนั้นเป็นเงินเช่ือจ�ำนวนเงินท่ีขายเป็นเงินเชื่อให้น�ำมา
ลงบัญชีในช่องลูกหนี้ ถ้าซื้อทรัพย์สินให้น�ำจ�ำนวนเงินท่ีซ้ือทรัพย์สินลงบัญชีในช่อง
ทรพั ย์สิน
ทรพั ยส์ นิ ตา่ ง ที่ปรากฏในช่องที่ 2 คือช่องทรพั ย์สนิ จะตอ้ งมีเลม่ ทะเบยี น
คุมทรัพย์สินที่ซื้อมาและท�ำทะเบียนคุมลูกหนี้ที่ซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อเป็นรายบุคคล
เพือ่ ให้ทราบวา่ ลูกหนแี้ ต่ละคนมเี งนิ ค้างช�ำระเป็นจ�ำนวนเท่าใด ดัง้ นน้ั การท�ำบญั ชี
ศูนย์สาธิตการตลาดนอกจากจะมีบัญชีหลัก 3 เล่มดังกล่าวแล้ว ยังจะต้องมี
สมดุ ทะเบียนตา่ งๆ ประกอบบัญชีหลัก 3 เลม่ อกี ดว้ ย ดงั น้ี
1. ทะเบียนคมุ สินคา้ เป็นประเภท
2. ทะเบียนคมุ ลูกหนรี้ ายบคุ คล
3. ทะเบียนคมุ เจา้ หนร้ี ายบุคคล
4. ทะเบยี นซอ้ื สนิ คา้ ของสมาชกิ เป็นรายบคุ คล
5. บญั ชรี ับ - จ่าย รายวัน
ทบรัญัพชยี์สิน
คมู่ ือกศจิ นู กยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน 33
34 คมู่ ือกศิจูนกยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนนิ งาน
บญั ชีฝบัญากชีเธงนาินคสารด(ส.)
บัญชีเงินสด-บัญชีฝากธนาคาร (ส.) เป็นบัญชชี ัน้ ต้นทใ่ี ชล้ งรายการเกย่ี วกับ
การรับ – จ่ายเป็นเงินสดของศนู ย์สาธิตการตลาด
คำ�อธิบายการลงบัญชีเงินสด, บัญชเี งนิ ฝากธนาคาร (ส.)
ช่อง วัน เดอื น ปี
ใช้ลงวันเดอื นปี ท่ีมกี ารรบั หรือจ่ายเงิน
ชอ่ งรายการ
ใชล้ งรายละเอียดว่าได้รับหรือจ่ายเงนิ เปน็ คา่ อะไร
ชอ่ งหนา้ บญั ชี
ใชล้ งเลขหนา้ บัญชีของบัญชที ่อี ้างถึง ได้แก่ หน้าบญั ชีของบญั ชี รายไดฯ้
หรอื หนา้ บญั ชขี องบัญชรี ายจ่ายฯ แล้วแต่กรณี
ชอ่ งบญั ชเี งนิ สด
ใชล้ งจำ� นวนเงนิ ทไ่ี ดร้ บั หรอื จา่ ยเปน็ เงนิ สด ถา้ รบั เงนิ กล็ งในชอ่ งรบั ถา้ จา่ ยเงนิ
ก็ลงในชอ่ งจ่าย
ชอ่ งเงนิ ฝาก-ถอน
ใช้ส�ำหรับลงจำ� นวนเงินเม่ือน�ำเงนิ ฝากหรอื ถอนเงินจากธนาคาร
- ถ้าฝากประจ�ำกล็ งชอ่ งฝากประจำ�
- ถ้าฝากออมทรัพยก์ ็ลงช่องฝากออมทรพั ย์
- ถา้ ถอนเงนิ กล็ งในชอ่ งถอน ถอนจากประเภทไหน กล็ งชอ่ งถอนประเภทนนั้
ช่องเงนิ คงเหลือ
เมอื่ มกี ารรบั หรอื จา่ ยเงนิ ใหแ้ สดงยอดเงนิ ทเ่ี พม่ิ ขนึ้ หรอื ลดลงในชอ่ งเงนิ คงเหลอื
พนั ยอดกันไปทกุ บรรทดั
เงินสดคงเหลือและเงินฝากธนาคาร เป็นทรัพย์สินของศูนย์สาธิตการตลาด
เมื่อส้นิ ปใี หน้ �ำลงในงบดลุ ดา้ นทรัพยส์ นิ
ูรปแบบบัญ ีชศูน ์ยสา ิธตการตลาด
ับญชีเ ิงนสด-บัญชีฝากธนาคาร (ส.)
คู่มือกศิจูนกยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน 35
36 คมู่ อื กศจินู กยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตก้นารแดบำ�บเนนิ งาน
บญั ชีรายได้
และหนส้ี นิ (ร.)
บญั ชรี ายไดแ้ ละหนสี้ นิ (ร.) เปน็ บญั ชีแยกประเภทใช้
ส�ำหรับบนั ทกึ รายการรับเงนิ ทกุ ประเภท ซง่ึ ไดล้ งบญั ชีเงนิ สด
ไวแ้ ลว้ และนำ� ลงในบญั ชเี ล่มน้ีให้เปน็ ไปตามระบบ บัญชีคู่ เพอื่ จะได้
ทราบวา่ ศนู ย์สาธติ การตลาดมรี ายได้จากการขายสนิ ค้า ดอกเบยี้ เงนิ ฝากธนาคาร
และรายไดอ้ น่ื ๆ อกี ทง้ั เปน็ การแสดงภาระผกู พนั ทศี่ นู ยส์ าธติ การตลาด จะตอ้ งจา่ ยคนื
ให้กับเจ้าของเงนิ (เจ้าหนี)้ เมือ่ ครบก�ำหนด
คำ�อธบิ ายการลงบัญชรี ายได้และหนสี้ ิน (ร.)
ช่อง วนั เดอื น ปี
ใชล้ งวนั เดือนปี ทมี่ กี ารรบั เงนิ หรอื ขายสินค้า
ชอ่ งรายการ
ใชล้ งรายละเอยี ดว่าไดร้ บั เงนิ เป็นคา่ อะไร หรอื ขายสินค้าใด
ช่องหน้าบญั ชี
ใช้ลงเลขหน้าบัญชีท่ีอ้างถงึ
ช่องรายได้
ใชล้ งรายไดอ้ นั เกดิ จากการขายสนิ คา้ หรอื รายไดป้ ระเภทอน่ื ๆ เมอ่ื ไดร้ บั เงนิ
ประเภทใด กน็ �ำจำ� นวนเงินท่ไี ด้รับลงในช่องรายได้ ประเภทท่ไี ดร้ บั นั้น ๆ
ชอ่ งหน้สี ิน
ใชล้ งจำ� นวนเงนิ ท่ไี ด้รับจากการลงทุน หรอื เจา้ หนี้จากการซื้อ สนิ ค้าเปน็
เงนิ เช่ือ
เมื่อส้ินปีปิดบัญชีแล้ว ให้น�ำรายได้จากการขายสินค้าเงินสด เงินเช่ือ และ
รายได้ประเภทอ่นื ๆ รวมกัน แลว้ น�ำไปคำ� นวณหาก�ำไรสทุ ธปิ ระจ�ำปี
สำ� หรับช่องหน้สี ิน ไดแ้ ก่ เจ้าหนี้ (กลุม่ ออมทรัพยเ์ พ่ือการผลิต) และเจา้ หน้ี
การค้า ให้นำ� ไปลงในงบดลุ ดา้ นหนสี้ นิ และทนุ
ถ้ามีการซ้ือสินค้าเป็นเงินเชื่อ ต้องท�ำทะเบียนเจ้าหนี้การค้าเป็นรายตัว
บคุ คลด้วย (ถา้ มีเจา้ หน้ีจำ� นวนหลายราย)
รปู แบบบัญชศี ูนยส์ าธติ การตลาด
บัญชีรายไดแ้ ละหนสี้ นิ (ร.)
¾.È............. ªÍ×è -Ê¡ØÅ ˹Ҍ ÃÒÂä´Œ ˹ÊéÕ ¹Ô
à´Í× ¹ Ç¹Ñ ·èÕ ÃÒ¡Òà áÅÐ ºÑÞªÕ ¢ÒÂÊÔ¹¤ŒÒ (à§Ô¹àªè×Í) ´Í¡àºÕÂé
¢ÒÂÊÔ¹¤ÒŒ (à§¹Ô Ê´) à§¹Ô ½Ò¡ ÃÒÂä´Œ ਌Ò˹Õé (¡ÅØ‹ÁÍÍÁ·ÃѾÂ) ਌Ò˹é¡Õ ÒäŒÒ
àÅ¢·ÕÊè ÁÒª¡Ô ¢Ò ÃѺ¤¹× ¤§àËÅÍ× Íè×¹æ Åà§§·¹Ô ¹Ø ʧ‹ ¤¹× ¤§àËÅÍ× Ë¹Õé ªÓÃÐ ¤§àËÅ×Í
¼ÙŒ«×Íé ¢Ò ÃѺ¤¹× ¤§àËÅ×Í ¸¹Ò¤ÒÃ
คู่มือกศิจูนกยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน
37
บญั ชแลีจะทา่ รยัพย์สิน38 คมู่ ือกศิจนู กยร์สรามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนนิ งาน(จ.)
บญั ชีรายจา่ ยและทรัพย์สิน (จ.) เป็นบญั ชีแยกประเภท
ใชส้ ำ� หรบั บนั ทกึ รายการจา่ ยเงนิ ทกุ ประเภท ซงึ่ ไดล้ งบญั ชเี งนิ สด
ไว้แล้วและน�ำมาลงในบัญชีเล่มน้ีให้เป็นไปตามระบบบัญชีคู่
เพ่ือจะได้ทราบว่าศูนย์สาธิตการตลาดมีรายจ่ายอันเกิดจาก
การดำ� เนนิ งานฯ อกี ทงั้ ใหท้ ราบวา่ ศนู ยส์ าธติ การตลาด มหี นส้ี นิ
เช่น ลูกหน้ีการค้า และทรัพย์สิน เช่น ตู้ โต๊ะ เก้าอ้ื ฯลฯ
เป็นจำ� นวนเท่าไหร่
คำ�อธบิ ายการลงบัญชีรายจ่ายและทรัพย์สิน (จ.)
ช่อง วัน เดือน ปี
ใช้ลงวันเดอื นปที จี่ า่ ยเงนิ
ชอ่ งรายการ
ใช้ลงรายละเอียดว่าไดจ้ า่ ยเงินเปน็ คา่ อะไร
ช่องหน้าบญั ชี
ใชล้ งเลขหนา้ บญั ชขี องบัญชที อ่ี ้างถึง
ช่องรายจ่าย
ใช้ลงจำ� นวนเงนิ เมื่อจา่ ยซื้อสินค้า หรอื จา่ ยเปน็ คา่ ใชจ้ ่ายประเภท อื่น ๆ
เมอื่ จา่ ยเงนิ เปน็ คา่ อะไร กน็ ำ� จำ� นวนเงนิ ทจ่ี า่ ยลงในชอ่ ง รายจา่ ยประเภทนนั้ ๆ
ชอ่ งทรัพยส์ นิ ชอ่ งลกู หน้กี ารคา้
ใชล้ งจ�ำนวนเงนิ เม่อื ขายสนิ ค้าเปน็ เงินเช่ือ
ช่องทรัพยส์ ิน
ใช้ลงจ�ำนวนเงินเมื่อซื้อวัสดุครุภัณฑ์ต่าง ๆ มาใช้ในศูนย์สาธิตฯ ได้แก่
เคร่อื งคดิ เลข ตู้ โตะ๊ เกา้ อ้ี ชัน้ วางของ เป็นต้น
เม่ือสิ้นปีปิดบัญชีแล้ว ให้น�ำรายจ่ายในการซ้ือสินค้าเงินสด เงินเช่ือ และ
รายจ่ายประเภทอืน่ ๆ ทเ่ี กดิ จากการด�ำเนินงานไปค�ำนวณหาก�ำไรสุทธิประจ�ำปี
สำ� หรบั ชอ่ งทรพั ยส์ นิ คอื ลกู หนก้ี ารคา้ และทรพั ยส์ นิ ทซี่ อื้ มาใชใ้ นศนู ยส์ าธติ ฯ
ใหน้ ำ� ไปลงในงบดุลดา้ นทรพั ยส์ นิ
ถ้ามกี ารขายสินคา้ เปน็ เงนิ เช่อื ตอ้ งท�ำทะเบียนลกู หน้เี ป็นรายตัวบคุ คลดว้ ย
รูปแบบบัญชศี นู ยส์ าธิตการตลาด
บัญชรี ายจ่ายและทรัพย์สนิ (จ.)
¾.È............. ÃÒ¡Òà ˹Ҍ ÃÒ¨‹Ò ¤‹Ò ¤‹Ò ¤‹Ò ´Í¡àºÕÂé ÃÒ¨‹Ò ·Ã¾Ñ ÂÊÔ¹
à´Í× ¹ Çѹ·èÕ ºÞÑ ªÕ à¤Ã×èͧ ¾Ò˹РÀÒª¹Ð à§¹Ô ¡ŒÙ ͹è× æ
«Í×é Ê¹Ô ¤ÒŒ (à§¹Ô Ê´) «Íé× ÊÔ¹¤ÒŒ (à§¹Ô àª×èÍ) à¢ÂÕ ¹ ËÕºËÍ‹ š٠˹¡éÕ ÒäŒÒ ·Ã¾Ñ ÂÊÔ¹
«Í×é ʧ‹ ¤×¹ ¤§àËÅ×Í «éÍ× Ê‹§¤×¹ ¤§àËÅ×Í áºº¾ÁÔ ¾ ˹Õé ªÓÃÐ àˤŧ×Í
คู่มือกศิจูนกยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน
39
40 คู่มอื กศิจนู กยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำำ�บเนนิ งาน
ขัน้ ตอน
การทำ�บัญชี
การเปดิ บัญชี
คือการเริ่มบันทึกรายการลงในบัญชีนั้นเอง ส�ำหรับศูนย์สาธิตการตลาด
จะเริม่ บันทกึ รายการในบญั ชตี ง้ั แตเ่ ร่มิ ได้รบั ทุนมาด�ำเนนิ การ ทุนท่ีได้รบั จะได้มาจาก
กลุ่มออมทรัพย์เพ่อื การผลติ ดังนั้น การลงบัญชเี มื่อไดร้ บั เงินมาลงทนุ คอื
1. ลงในบญั ชเี งนิ สด ในชอ่ ง “รบั ” ของชอ่ งเงนิ สด เทา่ กบั จำ� นวนเงนิ ทไี่ ดร้ บั
2. ลงในบัญชีรายได้และหน้ีสิน ในช่องเจ้าหนี้ (กลุ่มออมทรัพย์ฯ) โดยลง
ในชอ่ ง “เงนิ ลงทุน” ในจ�ำานวนเงินท่เี ท่ากันกบั บัญชีเงนิ สด
3. ในล�ำดับต่อไปเมื่อได้รับเงินมาลงทุนแล้ว ก็จะเป็นการซ้ือสินค้า และ
การขายสนิ คา้ ประจ�ำวนั ให้ลงบัญชตี ามล�ำดบั วันที่ที่ซือ้ และวนั ที่ทข่ี ายสนิ ค้า
การปิดบญั ชี เม่อื สิ้นปี (31 ธันวาคมของทุกป)ี ดำ� เนนิ การดังนี้
1. ปิดบัญชีทุกเล่ม โดยรวมยอดรายรับ-รายจ่ายทุกประเภท รวมท้ังหา
ยอดคงเหลือในบัญชีเงินสดและบัญชีเงินฝากธนาคาร (ถ้ามี) การปิดบัญชีส้ินปีนั้น
เนอ่ื งจากไดป้ ดิ บญั ชี ทกุ เลม่ เปน็ ประจำ� ทกุ เดอื นอยแู่ ลว้ ดังนั้น ยอดรวมของรายรับ-
รายจา่ ย กค็ อื ยอดรวมท้งั ปี ในวันท่ี 31 ธันวาคม ซ่งึ ได้บวกพันยอดกนั มาตัง้ แต่ตน้ ปี
น้นั เอง
2. ท�ำงบก�ำไรขาดทนุ เพอ่ื หาก�ำไรสุทธปิ ระจ�ำปี
3. ท�ำงบดุลเพื่อแสดงทรัพย์สิน หน้ีสิน และทุนของศูนย์สาธิตการตลาด
ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม เพอื่ ใหส้ มาชกิ ไดท้ ราบผลการดำ� เนนิ งานในรอบปี เมอ่ื จดั ทำ� งบดลุ
เสรจ็ แลว้ กรรมการตรวจสอบจะตอ้ งตรวจสอบบญั ชที กุ เลม่ พรอ้ มดว้ ยงบกำ� ไร -ขาดทนุ
และงบดุล เมื่อเห็นว่าถกู ตอ้ งแลว้ ให้เซน็ ชอื่ รบั รองความถูกตอ้ งในตอนทา้ ยของงบดุล
ด้วย
กำ�ไร–กขาราจัดดททำ�งุนบ
จัดท�ำข้ึนเพ่ือหาก�ำไรสุทธิประจ�ำปี หรือหาก�ำไรสุทธิของการด�ำเนินงาน
ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนงึ่ โดยน�ำรายได้และรายจ่ายที่เกดิ ขึ้นมาเปรยี บเทียบกัน
ผลต่าง คือ ผลก�ำไร หรือขาดทุน ถ้ารายได้สูงกว่ารายจ่ายเป็นผลก�ำไร ถ้ารายได้
ต่�ำกวา่ รายจา่ ยผลคอื ขาดทุน
งบกำ�ไร-ขาดทนุ
จ�ำนวนเงินขายสินค้า xxxx
หักต้นทุนของสนิ ค้าทข่ี าย xxx
กำ� ไรขัน้ ต้น xxx
หกั คา่ ใช้จ่ายในการด�ำเนนิ งาน :
- คา่ เครอ่ื งเขียนแบบพิมพ์ xx
- คา่ พาหนะ xx
- ค่าภาชนะหบี หอ่ xx
ฯลฯ xx
กำ� ไรสทุ ธิ
คู่มอื กศจิ ูนกยร์สรามธกิตากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนินงาน 41
42 คู่มือกศจินู กยรส์ รามธกิตากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนนิ งาน
งบการดจดั ลุ ทำ�
งบดลุ เปน็ งบแสดงฐานะการเงินของศนู ย์สาธิตการตลาด ท�ำขึ้น ณ วนั ส้ินปี
หลงั จากปดิ บญั ชปี ระจำ� ปแี ละจดั ทำ� งบกำ� ไร-ขาดทนุ แลว้ งบดลุ ประกอบดว้ ย ทรพั ยส์ นิ
หนส้ี นิ และเงนิ ทุน ซึง่ เกบ็ ยอดมาจากบัญชตี ่างๆ ดงั น้ี
1. ทรพั ย์สินจากบญั ชีเงินสด ได้แก่ เงนิ สด และเงนิ ฝากธนาคาร
2. ทรพั ยส์ นิ จากบัญชรี ายจา่ ยและทรัพย์สิน ไดแ้ ก่ ลูกหนี้การคา้ และบัญชี
ทรัพยส์ นิ
3. สินค้าคงเหลือปลายปี เก็บจากทะเบียนคุมสินค้าเป็นรายประเภท
โดยน�ำสินคา้ ชอ่ งคงเหลอื ของทกุ ประเภทมารวมกนั
4. ก�ำไรสุทธปิ ระจ�ำปี และก�ำไรสะสม (ถา้ ม)ี
·Ã¾Ñ ÂÊ¹Ô ¨Ó¹Ç¹à§Ô¹ ˹ÊÕé Ô¹áÅзع ¨Ó¹Ç¹à§Ô¹
à§¹Ô Ê´ xxx xx ਌Ò˹¡éÕ ÒäŒÒ xxx xx
à§Ô¹½Ò¡¸¹Ò¤Òà xxx xx à§Ô¹¡Ù¸Œ ¹Ò¤Òà xxx xx
š٠˹éÕ¸¹Ò¤Òà xxx xx ·¹Ø xxx xx
·ÃѾÂÊÔ¹µÒ‹ §æ xxx xx ¡ÓäÃÊ·Ø ¸Ô xxx xx
- µŒÙ 3 ËÅ§Ñ xxx xx
xxx
- µÙŒà¹ç 3 ËÅѧ
xxx
- à¤Ãè×ͧ¤´Ô àÅ¢ 1 à¤ÃÍ×è §
xxx
ÊÔ¹¤ŒÒ¤§àËÅ×Í (»ÅÒ»)‚
ÃÇÁ 51,500 50 ÃÇÁ 51,500 50
รปู แบบทะเบียนต่างๆ
ทะเบียนคุมสนิ ค้า
ชอ่ื สินคา้ ..............................................................ตรา/ย่ีหอ้ .........................................
ขนาดสินค้า เลก็
กลาง
ใหญ่
¾.È. ÃÒ¡Òà ÃÒ¤Ò ÃÒ¤Ò ¨Ó¹Ç¹ÊÔ¹¤ÒŒ ÊÔ¹¤ŒÒ ËÁÒÂ
................. ·Ø¹µÍ‹ ¢Òµ‹Í (˹Nj Â) ¤§àËÅ×Í à˵Ø
˹‹Ç ˹‹Ç ã¹ÃÒ¤Ò
à´×͹ Çѹ·Õè ÃºÑ ¨‹Ò ¤§ ·¹Ø
àËÅ×Í (ºÒ·)
ÃÇÁà´Í× ¹¹éÕ
ทะเบยี นคุมสินคา้ ตอ้ งทำ� เปน็ รายประเภทสินคา้ และขนาดของสินคา้ การตรวจเช็ค
สินคา้ คงเหลอื จะท�ำ 1 สัปดาหต์ อ่ ครั้ง 2 สัปดาห์ตอ่ ครงั้ หรอื เดือนละคร้ัง แลว้ แต่
จะเหน็ สมควร ถา้ เชค็ สปั ดาหล์ ะครง้ั กส็ รปุ หาสนิ คา้ เปน็ จำ� นวนหนว่ ย และเปน็ จำ� นวนเงนิ
ในราคาทนุ ทกุ สปั ดาห์ ถา้ ตรวจเชค็ เดอื นละครงั้ กส็ รปุ หาสนิ คา้ คงเหลอื เปน็ จำ� นวนหนว่ ย
และจ�ำนวนเงนิ ในราคาทุนเดือนละครง้ั
ค่มู อื กศิจูนกยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกาน้ รแดบำ�เบนนิ งาน 43
44 คู่มอื กศจิูนกยรส์ รามธกติ ากรายรกตรละาดดับตกน้ารแดบำ�บเนินงาน
ทะเบียนคมุ ลูกหนี้
ชอ่ื ..............................................................นามสกลุ ....................................................
เลขท่ี / หมายเลขสมาชิก.............................................................................................
¾.È. ÃÒ¡Òà ¨Ó¹Ç¹à§¹Ô ËÁÒÂà˵Ø
.................
à´Í× ¹ Çѹ·Õè
ทะเบียนคุมลูกหน้ี ต้องท�ำทะเบียนคุมเป็นรายตัวลูกหน้ี ทุกสิ้นเดือนให้
สรปุ หายอดลูกหนท้ี ค่ี ้างชำ� ระเพื่อเปน็ ข้อมูลในการติดตามทวงถามต่อไป