44
4.7 รับสมอ้ำงจะช่วยชำระหน้ีท่ียงั คำ้ งให้แก่ผูป้ ระสงค์จะขอกู้ใหม่ โดยเรียก
ค่ำตอบแทน เมื่อสมำชิกกูร้ ำยใหม่ไดแ้ ลว้ ก็จะนำเงินท่ีคำ้ งชำระไวม้ ำใหแ้ ก่ผูร้ ับจดั กำรชำระใหก้ ่อนพร้อม
คำ่ ตอบแทน ผทู้ ุจริตกจ็ ะรับเงินคำ่ ตอบแทนน้นั ไวเ้ ป็นประโยชน์เสียเอง ซ่ึงมีลกั ษณะคลำ้ ยขอ้ 4.6 เพียงแต่
สมำชิกนำเงินชำระหน้ีสหกรณ์ภำยหลงั เป็ นวิธีตดั หน้ีลมก่อนแลว้ ชำระเงินจริงในภำยหลงั และเป็ นกำร
ช่วยใหส้ มำชิกรู้ ำยใหม่ไดด้ ว้ ย
4.8 กำรทุจริตเก่ียวกบั กำรรับซ้ือเงินกู้ เม่ือสมำชิกขอกเู้ งินจะแจง้ ใหส้ มำชิกทรำบวำ่ เงิน
ของสหกรณ์หมด ถำ้ ตอ้ งกำรกู้ ผูท้ ุจริตจะจ่ำยเงินส่วนตวั ให้แก่ผูก้ ู้โดยตกลงรำคำซ้ือขำยกนั หรือเรียก
ดอกเบ้ียในอตั รำสูงแลว้ ให้สมำชิกน้นั เซ็นตค์ ำขอกูไ้ ว้ แลว้ นำหลกั ฐำนดงั กล่ำวไปเบิกรับเงินกูจ้ ำกสหกรณ์
หรือร่วมมือกบั นำยทุนหำโอกำสในขณะที่มีเงินไม่พอให้กู้ รับซ้ือคำขอกไู้ ว้ แลว้ นำเงินเขำ้ ฝำกในสหกรณ์
ในนำมของตน แลว้ ให้สหกรณ์ลงจ่ำยเงินแก่สมำชิกที่ตนรับซ้ือไว้ และเมื่อถึงเวลำสหกรณ์รับเงินชำระหน้ี
ในตอนสิ้นเดือน ก็จะถอนเงินฝำกคืนทำใหส้ หกรณ์ไม่มีเงินให้สมำชิกกอู้ ีก หมุนเวียนไปดงั น้ี ผทู้ ุจริตก็จะ
ไดร้ ับผลประโยชน์จำกคำ่ ดอกเบ้ียหรือคำ่ รับซ้ือคำขอเงินกไู้ ว้
4.9 กำรทุจริตเกี่ยวกบั กำรจดั ซ้ือ พสั ดุ ครุภณั ฑ์ เคร่ืองเขียน แบบพิมพ์ และค่ำใชจ้ ่ำย
ต่ำง ๆ ของสหกรณ์ วิธีกำรทุจริตในเร่ืองท่ีผูท้ ำกำรทุจริตจะใช้จ่ำยเงินของสหกรณ์โดยฟ่ ุมเฟื อย ซ้ือของ
แพง กวำ่ รำคำตลำด ทำใบสำคญั รับเงินปลอมโดยไม่ไดซ้ ้ือจริง หรือไมป่ ฏิบตั ิในกำรจดั ซ้ือตำมระเบียบของ
ทำงรำชกำรที่กระทรวงกำรคลงั กำหนดไวม้ ีกำรซ้ือสิ่งของบ่อย ๆ ซ่อมแซมครุภณั ฑ์ พสั ดุ บ่อย ๆ
4.10 กำรทุจริตเงินสด คือกำรทำหลกั ฐำนในสมุดเงินสดรับ – จ่ำย เป็ นเทจ็ เพ่ือยกั ยอก
เงินสดในมือไปเป็ นประโยชน์ส่วนตน หรือเพื่อเอำไปหมุนหำประโยชน์เป็ นคร้ังครำว วิธีน้ีถ้ำใชค้ วำม
สงั เกตจะทรำบไดง้ ่ำย เช่น เมื่อผจู้ ดั กำรหรือเจำ้ หนำ้ ที่กำรเงินเก็บรักษำเงินสดไวเ้ ป็ นจำนวนมำกและนำน ๆ
มีกำรถอนเงินออกจำกธนำคำรท้งั ที่มีเงินสดอยใู่ นมือ เป็นตน้
4.11 ทุจริตเก่ียวกบั จ่ำยคืนค่ำหุ้น ผทู้ ุจริตจะหำโอกำสจ่ำยเงินคืนค่ำหุ้นซ้ำสอง - สำม
คร้ังในรำยเดียวกนั และวธิ ีจ่ำยจะใช้ในเวลำใกลส้ ิ้นปี คร้ังหน่ึง และในตน้ ปี ต่อไปจ่ำยอีกคร้ังหน่ึง และใน
ตน้ ปี ต่อไปจ่ำยอีกคร้ังหน่ึง ท้งั น้ีเพ่อื ลดเงินสดในมือลงในวนั สิ้นปี และในตน้ ปี อำจจ่ำยจริง
5. การป้ องกนั
5.1 คณะกรรมกำรดำเนินกำรตอ้ งหมนั่ ตรวจสอบภำยในโดยสม่ำเสมอ ท้งั โดยวิธีกำร
ตรวจโดยละเอียดและวธิ ีสุ่ม
5.2 คณะกรรมกำรดำเนินกำรตอ้ งออกคำสั่งแบ่งหนำ้ ที่ควำมรับผิดชอบของเจำ้ หนำ้ ท่ี
สหกรณ์ใหเ้ ป็นสัดส่วนโดยชดั เจนและหมน่ั สอบดูกำรปฏิบตั ิงำนของเจำ้ หนำ้ ที่น้นั ๆ ใหอ้ ยใู่ นขอบเขตของ
เจำ้ หนำ้ ท่ีท่ีไดร้ ับมอบหมำย
5.3 จดั แบ่งหนำ้ ท่ีกำรเงินและกำรบญั ชีใหแ้ ยกจำกกนั โดยเดด็ ขำด อยำ่ ใชบ้ ุคคลเดียวกนั
ทำทุกอยำ่ ง
5.4 จดั ใหท้ ำสัญญำจำ้ งและมีหลกั ประกนั กบั เจำ้ หนำ้ ท่ีของสหกรณ์ทุกคน และกำรเรียก
หลกั ประกนั ควรมำกนอ้ ยตำมหนำ้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมำยใหร้ ับผดิ ชอบ
45
5.5 ควรจดั ให้มีคณะกรรมกำรเงินกูพ้ ิจำรณำคำขอกู้ และให้มีกำรตรวจสอบคำขอกู้
และผคู้ ้ำประกนั ทุกรำย อยำ่ ไวใ้ จเจำ้ หนำ้ ที่ตลอดเวลำ อยำ่ งนอ้ ยกค็ วรมีกำรสุ่มตรวจสอบกำรปฏิบตั ิงำนของ
เจำ้ หนำ้ ท่ีหน่วยเป็นคร้ังครำวโดยคณะกรรมกำรเงินกู้
5.6 กวดขนั ให้กำรบญั ชีของสหกรณ์เป็ นปัจจุบนั และทำรำยงำนกิจกำรประจำเดือน
ตำมกำหนด โดยเฉพำะบญั ชีเงินสดของสหกรณ์ตอ้ งตรวจสอบเป็ นรำยวนั
5.7 ใหค้ ำแนะนำแก่สมำชิกทวั่ ไปใหส้ มำชิกรู้รักษำสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง
และใชส้ ิทธิของตนโดยสุจริต
5.8 แนะนำแก่สมำชิกใหร้ ู้วำ่ เจำ้ หนำ้ ที่คนใดมีหนำ้ ท่ีอยำ่ งใด โดยเฉพำะเก่ียวกบั กำรเงิน
ควำมรับผดิ ชอบของสหกรณ์ท่ีมีต่อสมำชิก โดยจะพิมพเ์ ป็ นใบปลิวแจกแก่สมำชิก หรือเขียนขอ้ ควำมเตือน
สมำชิกติดไว้ ในสำนกั งำนของสหกรณ์กไ็ ด้
5.9 ทุก 6 เดือน ให้พนกั งำนส่งเสริมสหกรณ์เร่งรัดให้สหกรณ์แจง้ หน้ีและยอดเงินกู้
คงเหลือใหส้ มำชิกทรำบ ไมค่ วรใหก้ รรมกำรนำไปแจกจำ่ ยแก่สมำชิก
2.4 การพูดกบั งานสหกรณ์
ในทศั นะของผมดำ้ นกำรพูดกบั งำนสหกรณ์ แต่เดิมน้นั เห็นว่ำไม่ค่อยจะเกี่ยวขอ้ งกนั นกั
ย่ิงมีคำกล่ำวว่ำ คนทำมกั ไม่พูด คนพูดมักไม่ทำ ก็จึงเอำแต่ก้มหน้ำก้มตำทำงำนในหน้ำท่ีรับผิดชอบ
ภำยหลงั มำปฏิบตั ิงำนฝึ กอบรมของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซ่ึงหลกั ของงำนคือพูด ช้ีแจง ทำควำมเขำ้ ใจ กบั
บุคคลผมู้ ำเขำ้ อบรม จำกคนไม่ค่อยพดู จึงตอ้ งพูดมำก พูดใหค้ รบเวลำดว้ ยเน้ือหำสำระท่ีเตรียมมำ และเป็ น
ปกติหำกชำวฝึ กอบรมจะโดยกล่ำวหำว่ำ พูดไดแ้ ต่ทำไม่ได้ หรือดีแต่พูด ซ่ึงเป็ นควำมจริง เพรำะกำรพูด
ของงำนฝึกอบรม พดู เพ่อื ใหเ้ กิดแนวควำมคิด เพ่ือกำรปฏิบตั ิในภำยหลงั ดงั น้นั หำกจะพิจำรณำกนั วำ่ กำร
พดู กบั งำนสหกรณ์จำเป็นหรือไม่ เพยี งใด ตอบไดว้ ำ่
จำเป็ น 100 % ท้งั น้ีเพรำะงำนสหกรณ์เกี่ยวขอ้ งกบั คนและเงิน เร่ืองคน เรื่องเงิน เป็ น
เร่ืองใหญ่เคียงคู่กนั ในปัจจุบนั และย่ิงสหกรณ์ให้ควำมสำคญั เรื่องคนย่ิงกวำ่ เร่ืองเงิน ยิ่งเป็ นควำมจำเป็ น
เพรำะคนจะทำอยำ่ งไรตอ้ งเรียนรู้ก่อน กำรเรียนรู้ก็ตอ้ งมีกำรพูดในลกั ษณะกำรเรียน กำรสอนในช้นั เรียน
หำกเป็ นนกั เรียน โดยกำรอบรม ประชุม สัมมนำ หำกเป็ นผใู้ หญ่ ในทุกกระบวนกำรตอ้ งมีกำรพูดท้งั สิ้น
กำรพดู ใหค้ นฟังรู้ เขำ้ ใจ ตำมควำมตอ้ งกำรของผพู้ ดู กำรพดู เพ่ือใหเ้ กิดกำรปฏิบตั ิท่ีถูกตอ้ ง กำรพูดเพื่องำน
สหกรณ์ใหเ้ ป็นสหกรณ์จะทำไดอ้ ยำ่ งไร ในที่น้ีขอเนน้ เฉพำะกำรพดู เพ่อื ประชำสัมพนั ธ์งำนสหกรณ์
กำรพดู คือ กำรผสมผสำนกนั ของอวยั วะจำกร่ำงกำยของคนไดอ้ ยำ่ งกลมกลืน ออกเสียงมำ
เป็ นพยำงค์ คำ เป็ นประโยค มีควำมหมำยเขำ้ ใจได้ โดยปกติกำรพูดจะเป็ นส่ือให้ผูฟ้ ังเขำ้ ใจตำมท่ีผูพ้ ูด
ตอ้ งกำร ยกเวน้ พูดแล้วไม่ชัดเจน ผูพ้ ูดพูดขณะสติไม่ปกติ หรือมีอุปสรรคที่ไม่เป็ นไปตำมธรรมชำติ
ระหวำ่ งผพู้ ดู และผฟู้ ัง ดงั น้นั คนทุกคนพดู ไดอ้ ยำ่ งแน่นอนหำกระบบอวยั วะเป็นปกติ คำพดู ของคนไทยคำ
46
แรกมกั พดู คำวำ่ แม่ ป้ ำ หม่ำ เป็นคำเดียวท่ีพดู โดยอำ้ ปำกคร้ังเดียว หลงั จำกน้นั จึงเพมิ่ ข้ึนเร่ือย ๆ จนพดู ได้
ทุกคำ ปัญหำท่ีวำ่ พดู ไมไ่ ดก้ ็คือ ไมก่ ลำ้ พดู ไมอ่ ยำกพดู นน่ั เอง
ใครพูดเก่ง
นกั กำรเมือง พระนกั เทศน์ วทิ ยำกร ครู อำจำรย์ มคั ทำยก พธิ ีกร ๆ บุคคลต่ำง ๆ ไดช้ ื่อ
วำ่ พูดเก่ง อยำกติดตำมฟัง ฟังแลว้ ก็น่ำเชื่อถือ กำรพูดส่งผลให้ไดร้ ับกำรยอมรับ นกั กำรเมืองท่ีพูดเก่งลง
เลือกต้งั ก็ไดร้ ับกำรลงคะแนนจำกผมู้ ีสิทธิเขำ้ ไปเป็นสมำชิกสภำผแู้ ทนรำษฎร พระนกั เทศน์มกั จะไดร้ ับกำร
นิมนตบ์ ่อย ๆ เช่นเดียวกบั วทิ ยำกร ครู อำจำรย์ พธิ ีกร ที่ไดร้ ับเชิญสอน บรรยำย หรือเชิญไปพูดในงำน
ต่ำง ๆ อยเู่ ป็นประจำ
ทาไมเขาพูดเก่ง
คนพดู เก่งกบั คนพูดมำกมีควำมแตกต่ำงกนั คนพูดมำกมกั จะมีควำมสุขจำกกำรไดพ้ ูด พูด
ตลอดเวลำที่ไม่หลบั หรือปำกไม่วำ่ ง ส่วนคนพดู เก่งจะมีควำมสุขเม่ือพดู จบแลว้ บรรลุวตั ถุประสงคข์ องกำร
พดู คนพูดมำกน้นั ทำงจิตวิทยำเดำไดว้ ำ่ เมื่อคร้ังเป็ นเด็กอำจจะขำดควำมสุขจำกกำรใช้ปำกในกำรดูดนม
กินขนม กำรพูดเล่นกบั เพื่อน เป็ นควำมไม่สมบูรณ์ จึงทดแทนโดยกำรใชป้ ำกพูด หรือบำงคนก็อมบุหรี่
คำบปำกกำ คนพดู มำกก็ไม่มีสำระ พดู เรื่องซ้ำซำก เพอ้ เจอ้ นินทำ โดยมกั จะพดู อยขู่ ำ้ งเดียวส่วนใหญ่
คนพูดเก่ง อย่ำงเช่น นำยชวน หลีกภยั นำยกรัฐมนตรี นำยปรีชำ ทรัพยโ์ สภำ ผูพ้ ูด
รำยกำรหกโมงเชำ้ ทำงสถำนีวทิ ยกุ ระจำยเสียงแห่งประเทศไทย นำยสมคั ร สุนทรเวช ร.ต.อ. เฉลิม อยบู่ ำรุง
นกั กำรเมืองชื่อดงั หรือคนอ่ืน ๆ อีกจำนวนมำก กำรพูดเก่งเป็ นกำรพูดที่มีเน้ือหำสำระ น่ำเชื่อถือ ฟัง
เพลิน ฟังแลว้ คลอ้ ยตำม ผูฟ้ ังไม่อยำกให้เลิกพูด ฟังแลว้ รู้สึกว่ำเวลำหมดไว ฟังแล้วชีวิตมีควำมรู้สึกมี
ควำมสุข ระหวำ่ งฟังสมองไมค่ ิดเรื่องอื่น ๆ เขำ้ มำแทรก ทำไมเขำถึงพดู เก่ง ก็เพรำะ
1. มีควำมชอบพูด กำรทำงำนทุกอยำ่ งหำกเริ่มจำกควำมคิด ควำมชอบ โอกำส ประสบ
ผลสำเร็จถึง 70 % ข้ึนไป คนพดู เก่งจึงชอบพูด ชอบแสดงควำมคิดเห็น มีหลกั กำร
ไม่โลเล
2. พูดบ่อย ๆ จนชำนำญ คือพูดจนมีประสบกำรณ์เกิดเป็ นควำมชำนำญ มีครูบำงท่ำน
ต้งั แต่เร่ิมสอนจนเกษียณสอนวิชำภำษำไทยมำตลอด สำมำรถสอนไดอ้ ย่ำงดี มีควำม
ชำนำญ นี่กค็ ือกำรทำบอ่ ย ๆ นนั่ เอง คนพดู เก่งหำกหลำย ๆ เดือนพูดสักคร้ังก็คงไม่
สู้กำรพดู ทุกวนั
3. มีกำรเตรียมพร้อม เป็ นควำมพร้อมท้งั กำย ใจ และเน้ือหำ คนไม่สบำยกำย จิตใจ
กงั วล หรือพดู ในเร่ืองท่ีไมม่ ีควำมรู้ ยอ่ มพดู ไดไ้ มด่ ี
47
วธิ ีการพดู
อ่าน คือพูดโดยกำรอ่ำนตำมอกั ษรท่ีมี จะใชก้ ำรพูดลกั ษณะน้ีในงำนที่เป็ นพิธีกำร เช่น
พิธีเปิ ด – ปิ ดกำรอบรม ผพู้ ดู จะไม่ตอ้ งเตรียมควำมพร้อมมำกนกั เพียงซกั ซ้อมกำรอ่ำนให้คล่องก็ดำเนินกำร
ได้ หรือ พระเทศนต์ ำมใบลำน
ท่องจามาพูด จำเน้ือหำท่ีตอ้ งกำรพดู มำจนข้ึนใจ แลว้ ก็พดู ไปตำมน้นั มีเร่ืองเล่ำวำ่ คนขบั
รถยนตข์ องอำจำรยท์ ่ำนหน่ึง ติดตำมอำจำรยไ์ ปบรรยำยทุกคร้ังจนจำคำพูดของอำจำรยไ์ ด้ วนั หน่ึงอำจำรย์
ท่ำนน้ีไม่สบำย เลยขอให้คนขบั รถข้ึนไปบรรยำยแทนแลว้ อำจำรยน์ ง่ั ฟัง ปรำกฎวำ่ คนขบั รถพดู ไดเ้ หมือน
อำจำรยท์ ุกอยำ่ ง แถมมีมุขตลกแทรกบำงช่วงผฟู้ ังชอบใจมำก แตค่ วำมแตกเมื่อมีกำรซกั ถำมเพรำะคนขบั รถ
ตอบไม่ได้ สงั เกตไดว้ ำ่ กำรพดู กม็ ีกำรจำกนั ตอ่ ๆ มำเป็นทอด ๆ
พูดปากเปล่า เป็นกำรพดู ที่มีกำรเตรียมเน้ือหำไวอ้ ยำ่ งดี แลว้ พดู ออกไป พูดไดด้ ว้ ยควำมรู้
ควำมสำมำรถ ตำมขอ้ เทจ็ จริง
กำรพดู ที่ดีไม่จำเป็ นตอ้ งวิธีกำรใด วิธีหน่ึง แต่ตอ้ งรวมกนั ท้งั 3 วิธี สุดแต่ควำมจำเป็ น
และสถำนกำรณ์
ข้ันตอนการพูด
1. ทกั ผู้ฟังก่อน
เป็ นธรรมเนียมของคนไทย ที่พบกนั ตอ้ งทกั ทำยกนั ผพู้ ูดก็เช่นเดียวกนั ตอ้ งเริ่มโดย
ทกั ผูฟ้ ัง โดยปกติใช้คำว่ำ สวสั ดี หรือหำกเป็ นพิธีกำรจะเริ่มด้วย เรียน กรำบเรียน แล้วกล่ำวช่ือหรือ
ตำแหน่ง ควำมนิยมจะทกั ไม่เกิน 3 คน เช่น กรำบเรียน ท่ำนนำยอำเภอ สหกรณ์อำเภอ ประธำน
กรรมกำรสหกรณ์ แลว้ จึงต่อดว้ ยท่ำนผมู้ ีเกียรติทุกท่ำน เพรำะหำกจะทกั เกินกวำ่ น้ี ดูจะเยน่ิ เยอ้ เมื่อทกั แลว้
ควรแสดงควำมยินดี ควำมต้งั ใจ ควำมดีใจท่ีไดม้ ำพูดมำพบปะ ส่ิงท่ีไม่ควรกล่ำวต่อจำกกำรทกั ทำยคือ
ควำมรู้สึกท่ีไม่ดี ไม่พร้อม ไม่สบำย เพรำะทำให้ผฟู้ ังรู้สึกว่ำตอ้ งมำฟังคนไม่ปกติ ตอ้ งมำนงั่ ฟังคนท่ีไม่
พร้อม ทำให้เน้ือหำที่จะพูดท้งั หมดไม่ไดร้ ับควำมสนใจเท่ำท่ีควร กำรทกั ผฟู้ ังหำกสำมำรถสร้ำงควำมเป็ น
กนั เองไดย้ งิ่ เป็นสิ่งที่ดีมำก
2. คานาสู่เรื่องทพี่ ูด
เป็นกำรเร่ิมตน้ เน้ือหำ อำจใชค้ ำนำไดห้ ลำยรูปแบบแลว้ แตค่ วำมถนดั เช่น
- แบบพำดหัวข่ำว เป็ นกำรหำคำที่น่ำสนใจ ฟังแล้วน่ำติดตำม เช่นกำรพูดเร่ืองหุ้น
ข้ึนตน้ ดว้ ย “ มีเงินลำ้ นภำยใน 10 ปี ” เร่ืองฌำปนกิจข้ึนตน้ ดว้ ย “ ตำยแลว้ ไดเ้ งินแสน ” พูดเรื่องกำร
รวบรวมขำ้ ว “ รำคำขำ้ ว 5,000 ท่ีสหกรณ์ ” พูดเรื่องขำยสินคำ้ สหกรณ์ “ คุณภำพดี รำคำต่ำ มีกำไรยงั
คืนให้ ” กำรพูดแบบพำดหวั ข่ำวคือ เอำจุดเด่นหรือเอำขอ้ สรุปมำจดั ถ้อยคำให้ดูน่ำสนใจ เหมือนกบั
หนงั สือพิมพท์ ่ีพำดหวั ข่ำวเพ่ือเรียกควำมสนใจจำกผอู้ ่ำนให้ซ้ือไปก่อน กำรข้ึนตน้ แบบพำดหวั ข่ำวควรเป็ น
เหตุกำรณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ งปัจจุบนั
48
- แบบคำถำม สหกรณ์ของทำ่ นเป็นเอดส์หรือเปล่ำ ? ท่ำนอยำกรวยไหม ? ทำอยำ่ งไร
ใหข้ ำยขำ้ วไดเ้ กวยี นละ 6,000 ? ผเู้ ช่ำนำทำไมจึงมีนำใหเ้ ช่ำ ?
กำรใช้คำถำมว่ำ ทำไม ใคร ที่ไหน อย่ำงไร เม่ือไร เชื่อหรือไม่ อะไร ทำให้ผฟู้ ัง
อยำกติดตำมฟัง คำถำมอย่ำงไรน้นั ข้ึนอยู่กบั เน้ือเรื่อง เพรำะเน้ือเรื่องจะตอบคำถำมน้นั กำรข้ึนตน้ เช่นน้ี
เหมือนกบั กำร ปุจฉำ - วสิ ชั นำ
- แบบบทกวี เป็นกำรนำโคลง กำพย์ กลอน ฉนั ท์ ที่มีกำรประพนั ธ์ไวห้ รือประพนั ธ์
ข้ึนเองมำกล่ำวก่อน กำรเริ่มตน้ ดว้ ยบทกวี เป็ นไปตำมนิสัยของคนไทยท่ีเจำ้ บทกลอน ชอบคำพงั เพย คำ
สุภำษิต เช่น พูดเร่ืองกรรมการ ใครจะเห็นหรือไม่ เป็ นไรเล่ำ จึงเลือกเอำควำมดีท่ีสร้ำงสรรค์ ใครจะเห็น
หรือไม่ไมส่ ำคญั ใจเรำน้นั รู้วำ่ ดีเทำ่ น้ีพอ พดู เรื่องอบายมุข ปัญญำชนรู้ดีบุหร่ี เหลำ้ นำโรคเขำ้ ร่ำงกำยตำย
ผอ่ นส่ง เหตุไฉนใยลืมด่ืมสูบลง หรือวำ่ ปลงแลว้ ทุกอย่ำงตำยช่ำงมนั พูดเรื่องทาบุญ วดั จะดีมีหลกั ฐำน
เพรำะบำ้ นช่วย บำ้ นจะสวยก็เพรำะวดั ดดั นิสัย บำ้ นกบั วดั ขดั กนั ก็บรรลยั หำกช่วยกันก็อวยชัยท้งั
สองทำง พดู เผยแพร่งานสหกรณ์ สร้ำงประเทศไดด้ งั คิด สร้ำงเศรษฐกิจไดด้ งั ใจ ประชำชนไทยแจ่มใส
เมื่อใชร้ ะบบสหกรณ์ พูดเรื่องหน้าทส่ี มาชิก (ของ อ.เสนอ ชูจนั ทร์) หำกเรำรักภกั ดีสหกรณ์เรำ รวมกนั
เขำ้ เพ่อื สร้ำงทำงสุขสันต์ หน่ึงประชุมตอ้ งพร้อมครบองคพ์ ลนั ขอ้ สองน้นั เงินกรู้ ู้ส่งคืน ขอ้ สำมดอกเบ้ีย
อยำ่ ติดคำ้ ง สี่รวมทำงธุรกิจไม่คิดขืน สหกรณ์เรำคงกำ้ วรุดมีจุดยนื ไม่ใช่ฝืนเป็นสมำชิกไปวนั วนั
- แบบรื่นเริง เริ่มตน้ ดว้ ยควำมสนุกสนำน เช่น นิทำนตลก หรือกำรเยำ้ แหย่ผฟู้ ังที่มี
ลกั ษณะเด่น เช่น อว้ น ผอม แต่ตอ้ งระมดั ระวงั ถำ้ เยำ้ แหยป่ มดอ้ ยแต่เจำ้ ตวั ไม่ชอบ ก็จะเป็ นกำรสร้ำงฝ่ ำย
คำ้ นในหอ้ งประชุม กำรเริ่มตน้ กำรพูดดว้ ยควำมรื่นเริงผพู้ ดู ตอ้ งมีลกั ษณะพิเศษ อำรมณ์ดี มนุษยส์ ัมพนั ธ์ดี
หำกเริ่มดว้ ยรื่นเริงบรรยำกำศตลอดกำรพูดจะดีมำก ไม่เครียด ผูฟ้ ังเพลิดเพลิน นกั พูดเก่งที่จดั รำยกำรพูด
ทำงโทรทศั น์จะเริ่มตน้ ดว้ ยวธิ ีน้ี คือ สร้ำงควำมร่ืนเริงก่อนเริ่มเน้ือหำกำรพดู
3. เนือ้ เร่ืองทพี่ ดู ต้องมเี นือ้ หาสาระทเี่ รียงลาดับ เป็ นข้นั เป็ นตอน
เป็ นเรื่องท่ีผพู้ ูดมีควำมรู้จริงหรือศึกษำมำจนชำนำญ มีกำรยกตวั อยำ่ งประกอบกำรพูด
ช่วยทำใหเ้ ห็นภำพพจน์ยงิ่ ข้ึน เช่นพดู เรื่องเงินกูข้ องสหกรณ์ ตอ้ งเรียงลำดบั จำก 1. สมำชิกมีควำมจำเป็ น
2. ยน่ื คำขอกู้ 3. ตรวจสอบคำขอกู้ 4. กรรมกำรพิจำรณำอนุมตั ิ 5. ทำสัญญำกู้ 6. ดำเนินกำรหลกั ประกนั
7. รับเงินกู้ 8. ใชเ้ งินกู้ 9. ตรวจทำนหน้ีสิน 10. ชำระเงินกู้ 11. ทวงหน้ี 12. พ่ึงศำล แต่ละข้นั ตอน
อธิบำยรำยละเอียดพร้อมยกตวั อย่ำงสมำชิกท่ีดีและไม่ดีประกอบเน้ือหำที่เรียงลำดบั น้นั ตอ้ งสอดคลอ้ งกนั
หำกมีตวั เลขเป็นขอ้ มลู ใหผ้ ฟู้ ังไดพ้ จิ ำรณำเปรียบเทียบจะสร้ำงควำมสนใจเพ่ิมข้ึน
สำระของเน้ือหำยอ่ มมีควำมสำคญั ที่สุดในกำรพูดแต่ละคร้ัง เพรำะกำรพดู แบบนา้ ท่วม
ทุ่ง จบแลว้ ไม่มีสำระเลยจะทำให้ผูฟ้ ังรู้สึกเสียเวลำ ดงั น้ันตอ้ งแบ่งเวลำอย่ำงเหมำะสม คือ คำข้ึนต้น
ประมำณ 10 % เน้ือหำ 80 % สรุป 10 %
49
4. สรุปจบ
เป็นกำรรวมเน้ือหำท้งั หมดที่พดู มำ เพ่อื สรุปให้ผฟู้ ังก่อนจบ เช่น พดู เร่ืองคน หลงั จำก
พดู เน้ือหำอธิบำยอำกำร 32 จบแลว้ ก็สรุปภำพรวมของคน เป็ นตน้ กำรสรุปจบกำรฝำกขอ้ คิด คำกลอน
คำถำม
5. กล่าวลา
เป็ นคำสุดทำ้ ยก่อนลงเวที ส่วนใหญ่นิยมกล่ำวขอบคุณผูฟ้ ัง ซ่ึงอำจจะดูน่ำแปลกกว่ำ
ผฟู้ ังควรขอบคุณผพู้ ดู มำกกวำ่ แต่ผพู้ ดู สำมำรถขอบคุณผฟู้ ังได้ เช่น ขอบคุณที่ใหค้ วำมสนใจฟัง ขอบคุณที่
ช่วยเสนอแนะ ท่ีซกั ถำม ขอบคุณผจู้ ดั ที่เชิญมำ จำกน้นั กจ็ บดว้ ย “ สวสั ดี ” ท้งั น้ีเพรำะคนไทยน้นั ยอ่ ม ไป
ลา มาไหว้
ส่ วนประกอบการพดู
1. อุปกรณ์ ไดแ้ ก่เคร่ืองขยำยเสียง เครื่องฉำยขำ้ มศรีษะ กระดำนดำ ปำกกำ หรืออ่ืน ๆ
ผพู้ ดู ตอ้ งเรียนรู้กำรใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง จะไดไ้ มต่ ิดขดั เมื่อข้ึนพดู อุปกรณ์เหล่ำน้ีจำเป็ นมำก เพรำะคนฟังจะสนใจ
ส่ิงท่ีเห็นดว้ ยตำ ไดย้ นิ ดว้ ยหู และสมั ผสั จริง “ สิบปำกวำ่ ไมเ่ ท่ำตำเห็น 10 ตำเห็นไม่เทำ่ สัมผสั จริง ”
2. น้าเสียง ตอ้ งชดั เจน ไม่สั่นเครือ สอดคลอ้ งกบั เร่ืองที่พดู เช่นพดู ปลุกระดมน้ำเสียง
ตอ้ งเขม้ แขง็ พดู เร่ืองเศร้ำน้ำเสียงตอ้ งเรียบ ชำ้ กำรพดู ตอ้ งไม่เร็ว หรือชำ้ เกินไป
3. ใบหน้า ส่วนใหญ่ตอ้ งยิม้ แยม้ แจ่มใส สดช่ืน ผฟู้ ังก็จะสดชื่นไปดว้ ย แต่ท้งั น้ีใบหนำ้
ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั เรื่องท่ีพดู ดว้ ย
4. ภาษาพูด หำกเป็ นภำษำทอ้ งถิ่น ผฟู้ ังจะรู้สึกเป็ นกนั เอง พวกเดียวกนั เขำ้ ใจกนั ง่ำย
และเม่ือมีกำรถำม ตอบ ก็จะไดไ้ มผ่ ดิ พลำด เคยมีประสบกำรณ์ไปภำคใตต้ ำมโครงกำรต้งั สหกรณ์ยำงพำรำ
บรรยำยเร่ืองกำรสหกรณ์จบแลว้ มีผฟู้ ังถำม ไดต้ อบไปผฟู้ ังต่ำงพำกนั หวั เรำะสนุกสนำน ก็พลอยสนุกสนำน
ไปดว้ ย เมื่อถำมถึงสำเหตุก็รู้วำ่ เขำถำมเร่ืองหน่ึงแตต่ อบไปอีกเร่ืองหน่ึง
5. มือ กำรใชม้ ือระหว่ำงกำรพูดโดยกำรประกอบไปตำมเน้ือหำเร่ืองท่ีพูดจะสร้ำงควำม
เป็ นธรรมชำติ ชวนฟัง ตำมปกติผู้ฝึ กพูดมกั เห็นว่ำมือเกะ กะ ไม่รู้จะไวท้ ี่ไหน ตอ้ งพยำยำมฝึ กหัดใช้
ประกอบ เช่น นบั เลข แสดงลกั ษณะอว้ น ผอม สูง ต่ำ ไมค่ วรเอำมือไพล่หลงั หรือกมุ ไวข้ ำ้ งหนำ้
6. ท่ายนื หำกยนื พดู ตอ้ งยนื อยำ่ งสง่ำ ผำ่ เผย ทะมดั ทะแมง ไม่เดินไปมำ ทำให้ผฟู้ ังเวยี น
หวั ได้ ไมห่ นั หลงั ใหผ้ ฟู้ ังเพรำะเหมือนกำรทอดทิง้ ผฟู้ ัง กำรยนื ควรวำงน้ำหนกั ตวั ลงระหวำ่ งเทำ้ ท้งั สองขำ้ ง
อยำ่ ยนื เทำ้ เดียว อยำ่ ยนื พิงเพรำะดูไม่มีควำมมนั่ ใจ ไม่ยนื แอน่ หนำ้ แอ่นหลงั และตอ้ งมนั่ ใจวำ่ ร่ำงกำยผพู้ ดู
ตอ้ งอย่ใู นจุดที่ผูฟ้ ังเห็นไดช้ ดั เจน หำกนง่ั พดู ท่ำยืนก็หมดปัญหำ กำรนงั่ ควรให้ผฟู้ ังเห็นต้งั แต่ระดบั อกข้ึน
ไป ส่วนทำ่ ทำงโดยมือ ใบหนำ้ กย็ งั สำมำรถแสดงออกไดต้ ำมปกติ
7. สายตา โดยปกติกำรพูดคุยกนั คนเรำตอ้ งมองหนำ้ สบตำกนั คนท่ีพูดกนั โดยไม่มอง
หนำ้ กนั แสดงวำ่ มีปัญหำ อำจจะเพรำะประหมำ่ กลวั อำย ยง่ิ จะทำใหผ้ ฟู้ ังไมส่ นใจ ยกเวน้ กำรพดู ท่ีผฟู้ ัง
50
เนน้ เน้ือหำเช่นกำรฟังเทศน์ สำยตำของผพู้ ดู ตอ้ งมองอยำ่ งทวั่ ถึง ไมม่ องเฉพำะจุดใด จุดหน่ึง ไม่แหงนหนำ้
กม้ หนำ้ กำรมองโดยสำยตำไม่มองแบบส่ำยไป มำ มองแบบธรรมชำติของกำรคุยกนั
8. อารมณ์ขัน เป็ นพรสวรรค์ และเป็ นสิ่งสร้ำงข้ึนไดส้ ำหรับนกั พูดท่ีเก่ง เพรำะสำมำรถ
สร้ำงอำรมณ์ขนั ให้ผูฟ้ ังได้ กำรใช้ท่ำทำงท่ีดูแล้วขำ หรือเร่ืองเล่ำท่ีฟังแล้วขำ ตลก สำมำรถฝึ กหัด
เลียนแบบ แมค้ ร้ังแรก ๆ จะไม่ประสบควำมสำเร็จ แตค่ วำมพยำยำมอยทู่ ี่ไหน ควำมสำเร็จยอ่ มอยทู่ ่ีนน่ั
9. เวลาพูด ผูพ้ ูดตอ้ งรักษำเวลำตำมกำหนดเวลำ ไม่ขำด ไม่เกิน เพรำะหำกพดู ไม่ครบ
แสดงถึง กำรเตรียมเน้ือหำมำไม่พร้อม หำกพูดเกินเวลำจะทำให้เกิดควำมเบ่ือหน่ำย โดยเฉพำะเป็ น
ช่วงเวลำที่พดู ก่อนทำนอำหำร ก่อนพกั หรือเลิกประชุม
10. การจัดทน่ี ั่งผู้ฟัง ผฟู้ ังคือผทู้ ่ีสนใจเร่ืองที่พูดจึงเขำ้ มำฟัง ผฟู้ ังตอ้ งเห็นผพู้ ดู ไดช้ ดั เจน
ดงั น้นั กำรจดั ที่นง่ั นิยมในรูปแบบท่ีสนองควำมตอ้ งกำรดงั กล่ำว คือ
โคง้ คร่ึงวงกลม
รูปอกั ษรตวั ยู ตวั วี
แบบวงกลม
แบบส่ีเหลี่ยม
11. จานวนผู้ฟัง ผฟู้ ังนอ้ ยผพู้ ดู จะรู้สึกไม่อยำกพดู ผฟู้ ังมำกเกินไปก็จะเกินควำมสนใจใน
กำรฟังนอ้ ย จำนวนท่ีเหมำะสมในกำรฟังอยรู่ ะหวำ่ ง 30 – 60 คน แต่บำงคร้ังหำกผฟู้ ังสนใจมำก ๆ เช่น
กำรประทว้ งอำจจะมีผฟู้ ังเป็ นหม่ืนเป็ นแสน ฟังผูพ้ ูดคนเดียวไดอ้ ยำ่ งพร้อมเพรียง ท้งั น้ีเพรำะเขำฟังแลว้
สนองควำมตอ้ งกำรได้
การวเิ คราะห์ผ้ฟู ัง
กำรพดู ในเรื่องท่ีผฟู้ ังสนใจยอ่ มไดค้ วำมสำเร็จ
อายุ
- ผฟู้ ังในวยั เด็กนง่ั ฟังเฉย ๆ ไม่ไดน้ ำน ตอ้ งมีนิทำน มีของเล่นมำประกอบ และไม่ชอบ
ฟังเร่ืองมีสำระมำก ๆ เพรำะสมองยงั ไมต่ อ้ งกำรรับ
- ผู้ฟังวยั รุ่น หนุ่ม – สำว ต้องกำรควำมร่ืนเริง สนุกสนำน เพลิดเพลิน กำลังใจ
ควำมหวงั ไมต่ อ้ งกำรฟังคำบน่ กำรพร่ำสอน
- ผฟู้ ังวยั สูงอำยุ ตอ้ งกำรฟังกำรอำชีพ แลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น กำรลองปฏิบตั ิจริง
เพศ
ชำย ชอบฟังเร่ืองกำรเมือง อำนำจ กำรปกครอง ข่ำวสำร เหตุกำรณ์เรื่องกำรทำงำน กำร
ลงทุน กำรบริหำรงำน กำรทำให้ชีวติ ประสบควำมสำเร็จ ควำมสะดวกสบำย
51
หญิง ชอบฟังเร่ืองควำมสวยงำม เบำ ๆ ภำพยนตร์ ละคร ครอบครัว กำรดูแล
บุตร หลำน
ศาสนา
ผพู้ ดู ตอ้ งทรำบควำมเชื่อถือ ควำมศรัทธำ ของผฟู้ ัง เพรำะหำกใหข้ อ้ มูลท่ีไม่ตรงกบั ควำม
เช่ือถือของผฟู้ ังจะเกิดควำมขดั แยง้ ได้
อาชีพ
อำชีพของผฟู้ ังหมำยถึง ควำมผกู พนั ของชีวติ หำกตอ้ งไปนงั่ ฟังเร่ืองอื่น ๆ ท่ีไม่เก่ียวขอ้ ง
กจ็ ะอึดอดั เช่นพดู เร่ืองเงินเดือนใหช้ ำวไร่ชำวนำฟัง พดู เร่ืองกำรเล้ียงปลำใหน้ ำยช่ำงรับเหมำะฟัง เป็นตน้
บันได 13 ข้ัน สาหรับนักพูด
มีผคู้ ิดข้นั ตอนเป็นบนั ได 13 ข้นั สำหรับนกั พดู หำกใครทำตำมกส็ ำมำรถเป็นนกั พดู ท่ีดีได้
1. เตรียมใหพ้ ร้อม
2. ซอ้ มใหด้ ี
3. ท่ำทีสง่ำ
4. หนำ้ ตำสุขมุ
5. ทกั ท่ีประชุมไม่วกวน
6. เริ่มตน้ โนม้ นำ้ ว
7. เรื่องรำวกระชบั
8. ตำจบั ผฟู้ ัง
9. เสียงดงั พอดี
10. อยำ่ มีเออ้ อำ้
11. ดูเวลำใหค้ รบ
12. จบแบบประทบั ใจ
13. ยมิ้ แยม้ แจม่ ใสตลอดเวลำ
2.5 กรรมการใหม่ของสหกรณ์
ขอตอ้ นรับทุกท่ำนเขำ้ สู่ขบวนกำรสหกรณ์ ท่ำนท้งั หลำยเป็ นกรรมกำรของสหกรณ์ ใน
ปี งบประมำณ พ.ศ. 2550 ศูนยถ์ ่ำยทอดเทคโนโลยกี ำรสหกรณ์ท่ี 15 ไดก้ ระจำยแผนงำนกำรให้กำรศึกษำ
สำหรับกรรมกำรของสหกรณ์มำสู่ท่ำน เพ่ือกำรดำรงตำแหน่งใหม่ โดยศูนย์ ฯ ได้ประสำนงำนกับ
สำนกั งำนสหกรณ์จงั หวดั ในกำรคดั เลือกทำ่ นเขำ้ ร่วมอบรมหลกั สูตรน้ี ซ่ึงตอ้ งกำรท่ำนท่ียงั ใหม่กบั ตำแหน่ง
กรรมกำรหรือเป็นกรรมกำรมำนำนแตย่ งั ไมเ่ คยผำ่ นกำรอบรมเลย
52
คำวำ่ กรรมกำรใหม่ เป็นคำท่ีฟังแลว้ เขำ้ ใจได้ เป็ นคำท่ีเกิดจำก 3 พยำงค์ มำรวมกนั คือ
กรรม + กำร + ใหม่
กรรม หมำยถึง กำรกระทำ คำน้ีเมื่อพูดถึงมกั เขำ้ ใจวำ่ เป็ นกำรรับผลจำกกำรกระทำ เช่น
เคยดุด่ำพ่อแม่ เมื่อเฒ่ำชรำโดนลูกหลำนดุด่ำ หรือชำติน้ีเกิดมำลำบำกยำกจนแสนเข็ญก็เพรำะกรรมเก่ำ ทำ
ใหเ้ ขำ้ ใจคำวำ่ กรรมก เหมือนคำวำ่ เวรกรรม หรือกงกำกงเกวยี น ซ่ึงจริง ๆ แลว้ กรรม คำเดียวโดด ๆ จะ
หมำยถึง กำรลงมือกระทำ กำรปฏิบตั ิ กรรมดีก็หมำยถึงกำรกระทำในทำงที่ดี กรรมชัว่ หมำยถึง กำร
กระทำในทำงท่ีไม่ดี ไม่ถูกตอ้ ง
กำร หมำยถึง กิจกำรงำนท่ีตอ้ งเป็ นภำระ ธุระ ตอ้ งรับผิดชอบ กำรบำ้ น คือ ภำระที่ตอ้ ง
รับผดิ ชอบ กระทำเมื่ออยทู่ ่ีบำ้ น กำรเมือง คือภำระ ธุระเรื่องบำ้ นเมือง เรื่องส่วนรวม อำนำจกำรปกครอง
หรือกำรงำนก็เช่นเดียวกนั
ใหม่ หมำยถึง ไม่เก่ำ คร้ังแรก ยงั ไม่นำน ใหม่เป็ นไปไดท้ ้งั คนและวตั ถุ อำจเกิดข้ึน
โดยเฉพำะหรือเกิดข้ึนจำกกำรปรับปรุง พฒั นำ คำวำ่ ใหม่ในคร้ังน้ีเนน้ เฉพำะเกิดข้ึนโดยเฉพำะ ไม่หมำยถึง
เกิดจำกกำรปรับปรุง หรือพฒั นำ ดงั น้นั หำกเคยกระทำ หรือเก่ียวขอ้ งแล้วจะไม่ถือว่ำใหม่ แมจ้ ะขดั สี
ฉววี รรณ แตง่ ผม แตง่ หนำ้ แตเ่ มื่อเป็นคนเดิมกไ็ ม่ถือวำ่ ใหม่
กรรมการสหกรณ์ใหม่
จึงหมำยถึงบุคคลผมู้ ีภำระ ธุระ ตอ้ งรับผดิ ชอบกระทำงำนในสหกรณ์คร้ังแรกโดยไม่เคย
ทำมำก่อน ดงั น้นั ส่ิงใดท่ีไมเ่ คยกระทำมำก่อน เม่ือคนเรำเขำ้ ไปเก่ียวขอ้ ง กำรจะทำให้ไดผ้ ลดีน้นั เกิดไดย้ ำก
นอกจำกผนู้ ้นั เรียนรู้ มีควำมเขำ้ ใจอยำ่ งถูกตอ้ ง หรือมีประสบกำรณ์ในกรณีคลำ้ ยกนั กำรเรียนรู้ให้เขำ้ ใจ
จำเป็นตอ้ งใชเ้ วลำกวำ่ จะเรียนรู้ไดห้ มด แตส่ ภำพควำมจริงแลว้ กรรมกำรของสหกรณ์ตอ้ งผลดั เปลี่ยนกนั ไป
ตำมแต่มวลสมำชิกจะเลือกสรร จึงรอเวลำอีกไมไ่ ดแ้ ลว้ หำกยอมรับวำ่ เป็นกรรมกำรสหกรณ์ใหม่มีควำม
จำเป็นในส่ิงดงั กล่ำวแลว้ กำรอบรมในครำวน้ีจะช่วยทำ่ นได้
ควำมจริงในชีวติ คนเรำเคยรับตำแหน่งประจำตวั ใหม่ ๆ กบั หลำยคร้ัง ต้งั แต่เกิดเป็ นลูกคน
ใหม่ของครอบครัว นักเรียนคนใหม่ของโรงเรียน เขยใหม่ สะใภใ้ หม่ พระบวชใหม่ ผูใ้ หญ่บำ้ นใหม่
กำนนั คนใหม่ ๆ รับตำแหน่งอะไรใหม่ก็มกั จะมีแต่ควำมวุน่ วำยกบั กำรปรับตวั ใหเ้ ขำ้ กบั คนเก่ำ ๆ ได้ ตอ้ ง
เรียนรู้ระเบียบ ประเพณีปฏิบตั ิของสถำนที่ ต้องเรียนรู้กิจที่ตนต้องทำ กรรมกำรสหกรณ์ใหม่ก็
เช่นเดียวกันต้องเรียนรู้งำนสหกรณ์ที่ต้องทำ ต้องปรับตัวให้เข้ำกับกรรมกำรเก่ำ พนักงำนสหกรณ์
ขำ้ รำชกำรกำรส่งเสริม ตอ้ งเรียนรู้ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของสหกรณ์ จึงจะสำมำรถปฏิบตั ิหนำ้ ที่ได้ กล่ำวคือ
เมื่อรับบทแลว้ ตอ้ งแสดงได้ ไม่เคอะเขิน ใครจะแสดงเพียงฉำบฉวย หรือใครจะทุ่มเทแสดงจนเรียกวำ่ ตี
บทแตก กแ็ ลว้ แต่ควำมต้งั ใจ ควำมจริงใจ จริงจงั แต่เม่ือยอมรับบทบำทกรรมกำรสหกรณ์แลว้ จะโดยต้งั ใจ
หรือขดั สมำชิกไม่ไดก้ ส็ ุดแต่ เราต้องทาหน้าทใ่ี ห้ดีทส่ี ุด เป็นกำรเร่ิมตน้ ดว้ ยควำมคิดท่ีจะสู้ ไม่ยอ่ ทอ้ แมจ้ ะ
ภำระ ธุระท่ีบำ้ นมำกกต็ ำม
53
กรรมการสหกรณ์ปรากฏตวั
จำกคนธรรมดำ กลำยมำเป็ นคนไม่ธรรมดำ คือ เป็ นกรรมกำรสหกรณ์ท่ีในประเทศไทยมี
เพียงประมำณ 90,000 คน ในจำนวนประชำชนไทย 62,000,000 คน คิดเป็ นร้อยละ 0.25 ของคนท้งั
ประเทศ
กำรปรำกฏตวั ของกรรมกำรสหกรณ์จึงตอ้ งดูดี สมกบั ที่ไดร้ ับควำมไวว้ ำงใจของสมำชิก
สหกรณ์
การแต่งกาย
ชุดซำฟำรี ชุดแขนยำวซบั ใน ชุดสูท
กำรแต่งกำยกรรมกำรตอ้ งเหมำะกบั กำลเทศะ เช่น ไปประชุมประจำเดือนควรเป็ นชุดที่
สหกรณ์กำหนด หรือชุดสุภำพ กำรไปทวงหน้ีควรเป็ นชุดทะมดั ทะแมง กำรไปงำนศพสมำชิกเป็นชุดไว้
ทุกข์ เป็นตน้
กำรไปสำนกั งำนสหกรณ์ของกรรมกำรตอ้ งกำ้ วเขำ้ สำนกั งำนแบบผบู้ ริหำร โดยทกั ทำย
เจำ้ หนำ้ ท่ี ทกั ทำยสมำชิก ยมิ้ แยม้ แจม่ ใส วำงตวั เป็ นกนั เอง จำกน้นั จึงไปปฏิบตั ิภำรกิจ
กรรมการสหกรณ์คนอน่ื ไม่เหมือนเรา
เป็นปกติธรรมดำท่ีกรรมกำรแตล่ ะคนจะไม่เหมือนกนั อนั เป็นไปตำมธรรมชำติของมนุษย์
กรรมกำรบำงคนดูเป็นคนสุภำพเรียบร้อย บำงคนดูดีมีหลกั กำร บำงคนเคร่งครัดในกฎระเบียบ บำงคนด้ือ
ร้ันมีทิฐิสูง บำงคนชอบอิสระสนั โดษ บำงคนเอำแต่ฟัง บำงคนเอำแต่สงั่ บำงคนเอำแตพ่ วก จะอยำ่ งไรก็
ตำมทุกคนตอ้ งมุง่ สู่เป้ ำหมำยกำรบริหำรสหกรณ์ ท่ีตอ้ งสร้ำงควำมเป็ นอยทู่ ่ีดี มีสังคมเป็นสุขใหก้ บั สมำชิก
กรรมการทด่ี ี
ตอ้ งมีเป้ ำหมำยกำรทำงำนชดั เจน
มีพลงั ภำยใน
ตอ้ งเป็ นตวั อยำ่ ง
โนม้ นำ้ วคนอื่นใหร้ ่วมมือ
ริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ
นกั พดู ท่ีดีและนกั ฟังท่ีดี
โอบออ้ มอำรี มีใจเป็นธรรม
54
2.6 การประชุม
การประชุมและการบันทกึ รายงานการประชุม
การประชุม
กำรประชุมกบั สหกรณ์เป็นของคู่กนั เพรำะสหกรณ์เป็นเรื่องของคนสมคั รใจร่วมกนั กำรจะ
หำจุดร่วมทำงแนวควำมคิดของคนจำนวนมำกเหล่ำน้นั ไมม่ ีทำงอื่น นอกจำกวธิ ีประชุมปรึกษำหำรือกนั
เม่ือกล่ำวถึงกำรประชุม ผูเ้ ขำ้ อบรมซ่ึงเป็ นคณะกรรรมกำรของสหกรณ์ทุกคนยอ่ มจะตอ้ ง
รู้จกั เป็ นอยำ่ งดี ท้งั น้ีนบั เร่ิมต้งั แต่กำรสมคั รเขำ้ เป็ นสมำชิกสหกรณ์ก็จะตอ้ งผำ่ นกำรรับรองกำรเป็ นสมำชิก
จำกกกลุ่มซ่ึงตนสมคั ร ซ่ึงเรียกวำ่ กำรประชุมกลุ่ม และหลงั จำกน้นั จะมีกำรประชุมท้งั ในฐำนะที่เป็ นสมำชิก
สหกรณ์และเป็ นกรรมกำรของสหกรณ์ ในบำงกรณีกรรมกำรของสหกรณ์บำงคนซ่ึงมีอำวุโสและเป็ นผทู้ ี่
ไดร้ ับกำรนบั ถืออยำ่ งมำกจำกรำษฎรในทอ้ งท่ีของตนอำจไดร้ ับเลือกข้ึนเป็ นผใู้ หญ่บำ้ น กำนนั ฯลฯ ก็จะตอ้ ง
เขำ้ ร่วมประชุมในฐำนะผแู้ ทนของประชำชนในหมู่ของตนดว้ ยกำรประชุมถือวำ่ เป็ นวิธีกำรหน่ึงที่ใชก้ นั อยู่
ในระบอบประชำธิปไตย ในสหกรณ์เป็ นหนำ้ ที่ของคณะกรรมกำรท่ีจะตอ้ งจดั ใหม้ ีกำรประชุม โดยตนเอง
อำจจะตอ้ งดำเนินกำรประชุมและ หรือเขำ้ ประชุม กำรประชุมทุกคร้ังจะตอ้ งมีกำรจดบนั ทึกรำยงำนกำร
ประชุมไว้ เพรำะมติในที่ประชุมน้ันเป็ นแนวทำงท่ีถือปฏิบตั ิและมติบำงอย่ำงมีผลผูกพนั ทำงกฎหมำย
ฉะน้นั กำรดำเนินกำรประชุมที่มีประสิทธิภำพและกำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมท่ีถูกตอ้ งเป็ นสิ่งจำเป็ นมำก
และส่งผลกระทบไปถึงกำรดำเนินงำนของสหกรณ์ดว้ ย
โดยปกติกำรประชุมน้นั คนส่วนมำกมกั จะเห็นว่ำเป็ นเร่ืองธรรมดำ ทำไปโดยอตั โนมตั ิ
หรือรู้ไปเองและปฏิบตั ิต่อ ๆ มำ ท่ีจริงแล้วกำรประชุมจะให้ได้ผลดีน้ันมีเทคนิคที่จะต้องเรียนรู้ ท้ัง
ผดู้ ำเนินกำรประชุมและผเู้ ขำ้ ประชุมดว้ ย ฉะน้นั คณะกรรมกำรซ่ึงมีหนำ้ ท่ีเก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั กำรประชุม
จะตอ้ งสนใจเร่ืองกำรประชุมและกำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมเป็ นพเิ ศษ
ลกั ษณะของการประชุม
ในกำรประชุมตำมท่ีกล่ำวไม่วำ่ จะเป็นกำรประชุมของสหกรณ์ กำรประชุมทำงรำชกำร
หรือกำรประชุมทำงวชิ ำกำร สัมมนำและอื่น ๆ น้นั จะมีลกั ษณะแบ่งออกได้ ดงั ต่อไปน้ี
1. แจง้ ขอ้ ควำม ถ่ำยทอดควำมรู้ เช่น กำรแจง้ คำสงั่ ช้ีแจงนโยบำย และกำรขอควำม
ร่วมมือจำกผเู้ ขำ้ ประชุม
2. แลกเปล่ียนทศั นะและควำมรู้ ควำมเห็น เช่น กำรสมั มนำ โดยทุกคนท่ีเขำ้ ร่วมประชุม
จะตอ้ งเป็นผมู้ ีควำมรู้ในเรื่องน้นั ๆ เป็นอยำ่ งดี และจะตอ้ งมีส่วนร่วมในกำรใหแ้ ละรับขอ้ ควำมเท่ำ ๆ กนั
3. หำควำมยนิ ยอมและขอ้ ตกลง เช่น กำรประชุมรัฐสภำ ประชุมคณะกรรมกำร ทุกคนมี
ส่วนไดเ้ สียในขอ้ ตกลงท่ีไดจ้ ำกกำรประชุม
4. ร่วมกนั หำหนทำงปฏิบตั ิที่เหมำะสม เช่น กำรประชุมแกไ้ ขปัญหำของคณะผบู้ ริหำร
และคณะกรรมกำร ผเู้ ขำ้ ประชุมมีส่วนทดั เทียมกนั ในกำรใหข้ อ้ คิดเห็น
55
การประชุมทางสหกรณ์
กำรประชุมทำงสหกรณ์น้นั จะมีลกั ษณะท้งั 4 อยำ่ งขำ้ งตน้ รวมกนั โดยปกติกำรประชุม
ทำงสหกรณ์จะมีท่ีสำคญั ๆ อยู่ 3 ประเภท คือ
1. กำรประชุมกลุ่ม
2. กำรประชุมคณะกรรมกำรดำเนินกำร และ
3. กำรประชุมใหญข่ องสหกรณ์
นอกจำกน้ียงั มีกำรประชุมอ่ืนๆ เช่น กำรประชุมวสิ ำมญั กำรประชุมใหก้ ำรศึกษำอบรม
กำรประชุมกรรมกำรเงินกู้ เป็นตน้
กำรประชุมท้งั 3 ประเภทของสหกรณ์ท่ีไดก้ ล่ำวแลว้ น้นั จะมีรำยละเอียดเกี่ยวกบั องค์
ประชุม ระยะเวลำ และวำระกำรประชุมแตกตำ่ งกนั ซ่ึงจะตอ้ งศึกษำแตล่ ะประเภทไป หำกปฏิบตั ิผิดพลำด
จะไมม่ ีผลบงั คบั ทำงกฎหมำย
ลกั ษณะของการประชุมทดี่ แี ละมีประสิทธิภาพ จะต้องมีลกั ษณะดงั นี้
1. จะตอ้ งเร่ิมประชุมตรงเวลำนดั และจะตอ้ งมีวำระกำรประชุมที่ชดั เจนเป็นท่ีเขำ้ ใจของผู้
เขำ้ ประชุมได้ เพ่ือมิใหไ้ ดอ้ อกควำมคิดเห็นผดิ ประเด็นหรือหลงประเด็นไดซ้ ่ึงจะทำใหเ้ สียเวลำ
2. กำรประชุมแต่ละวำระไม่ควรใชเ้ วลำให้มำกนกั จะทำให้กำรประชุมแต่ละใชเ้ วลำนำน
ผเู้ ขำ้ ประชุมเกิดควำมเบ่ือหน่ำย ยิ่งถำ้ เป็ นวำระทำ้ ย ๆ จะทำให้ผเู้ ขำ้ ประชุมขำดควำมสนใจและไม่อยำกจะ
ออกควำมคิดเห็น จะทำให้ได้ควำมคิดเห็นเหตุผลและมติที่ไม่รอบคอบถี่ถ้วน ในเร่ืองน้ีประธำนในท่ี
ประชุมตอ้ งควบคุมเวลำดว้ ย
3. ในกำรประชุมส่วนใหญ่จะตอ้ งเปิ ดโอกำสให้ผเู้ ขำ้ ประชุมไดแ้ สดงควำมคิดเห็นและ
เหตุผลกนั ทุกคนส่วนใหญ่ และส่ิงสำคญั ก่อนจะลงมติจะตอ้ งใหเ้ วลำผเู้ ขำ้ ประชุมไดแ้ สดงควำมคิดเห็นและ
เหตุผลก่อนพอสมควร มิฉะน้นั จะไดม้ ติที่ไม่รอบคอบถี่ถว้ นอำจจะเกิดเสียหำยแก่สหกรณ์ได้ ในเรื่องน้ี
ประธำนในที่ประชุมตอ้ งควบคุมใหเ้ หมำะสม
4. ในกำรประชุมจะตอ้ งไม่ให้ผเู้ ขำ้ ประชุมพูดหรือพิจำรณำออกนอกวำระของกำรประชุม
เพรำะจะทำใหเ้ สียเวลำของท่ีประชุมและไม่เป็นประโยชนต์ ่อกำรประชุม ทำใหเ้ สียเวลำมำก กำรประชุมจะ
ใช้เวลำนำน เร่ืองน้ีประธำนตอ้ งใช้ศิลปะในกำรตะล่อม ให้เข้ำประเด็นในเร่ืองที่จะประชุมให้ได้ เช่น
ทบทวนวำระท่ีกำลงั ประชุมอยู่ สรุปเรื่องในวำระวำ่ ขณะน้ีไดพ้ ิจำรณำเรื่องอะไรบำ้ งแลว้ เป็นตน้
5. ในกำรประชุมไมค่ วรใหผ้ เู้ ขำ้ ประชุมผกู ขำดกำรพดู หรือแสดงควำมคิดเห็นเพียงคนเดียว
หรือสองคน เพรำะจะทำใหก้ ำรประชุมเป็นกำรประชุมที่ไดค้ วำมคิดเห็นหรือเหตุผลจำกคน ๆ เดียวหรือสอง
คน เร่ืองน้ีประธำนในท่ีประชุมจะต้องใช้ศิลปะในกำรท่ีจะให้ผูป้ ระชุมคนอ่ืนได้ออกควำมคิดเห็นและ
เหตุผลดว้ ย เช่น ดว้ ยกำรกระตุน้ ส่งคำถำม หรือต้งั คำถำม ยว่ั ยุให้คนอ่ืนพูดเป็ นตน้ ท้งั น้ีประธำนในที่
ประชุมจะตอ้ งไม่พดู เสียคนเดียวดว้ ย
6. ในกำรประชุมผเู้ ขำ้ ประชุมส่วนใหญ่ไม่พดู แสดงควำมคิดเห็นหรือให้เหตุผล ก็จะทำให้
กำรประชุมขำดควำมคิดเห็นหรือเหตุผลของผเู้ ขำ้ ประชุมส่วนใหญ่ ซ่ึงอำจจะไม่เป็ นผลดีต่อกำรประชุมของ
56
สหกรณ์ เรื่องน้ีประธำนในท่ีประชุมจะตอ้ งใชศ้ ิลปะในกำรต้งั คำถำมระบุตวั ผูส้ ำมำรถจะตอบได้ หรือยก
ยอ่ งในเม่ือเขำใหค้ วำมคิดเห็นท่ีดี เป็นตน้
7. ในกำรประชุมทุกคร้ัง ก่อนจะลงมติในกำรประชุมจะตอ้ งคำนึงวำ่ ไมข่ ดั ตอ่
7.1 ประมวลกฎหมำยแพง่ และพำณิชย์ และกฎหมำยอื่นๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
7.2 พรบ. สหกรณ์ (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ.2562
7.3 กฎกระทรวง
7.4 คำสง่ั ของนำยทะเบียนสหกรณ์
7.5 ขอ้ บงั คบั ของสหกรณ์
7.6 ระเบียบของสหกรณ์
7.7 มติของท่ีประชุมใหญ่
7.8 มติของท่ีประชุมคณะกรรมกำรดำเนินกำร
วธิ ีการดาเนินการประชุมทดี่ ีและมีประสิทธิภาพ
กำรดำเนินกำรประชุมที่ดีและมีประสิทธิภำพข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั หลำยอยำ่ ง คือ
1. มีการวางแผนล่วงหน้า คณะกรรมกำรดำเนินกำรของสหกรณ์หรือผูม้ ีหน้ำที่จดั กำร
ประชุมในแต่ละระดบั จะตอ้ งวำงแผนและเตรียมกำรดงั น้ี
1. แจง้ กำหนดกำรประชุมให้ผูเ้ ขำ้ ประชุมทรำบล่วงหน้ำทว่ั ถึง จะโดยวิธีออก
หนงั สือเชิญประชุม ติดแผน่ ป้ ำยประกำศไวใ้ นที่ชุมนุมชน ออกข่ำว ฯลฯ
2. จดั ส่งระเบียบวำระกำรประชุมหรือเร่ืองท่ีจะประชุมให้ผูเ้ ขำ้ ประชุมทรำบ
ล่วงหนำ้ เพอ่ื จะไดศ้ ึกษำรำยละเอียดและเตรียมขอ้ เสนอแนะหรือแสดงควำมคิดเห็นต่อที่ประชุม
3. เลือกสถำนที่ประชุมท่ีเหมำะสมและเป็ นศูนย์กลำงท่ีผูเ้ ข้ำประชุมมำได้
โดยสะดวก เช่น สำนกั งำนสหกรณ์ หอประชุมอำเภอ โรงเรียน วดั ฯลฯ ท้งั น้ีก็สุดแต่ควำมเหมำะสมของ
กำรประชุมแต่ละคร้ังและระดบั
4. เลือกเวลำกำรประชุมที่ผเู้ ขำ้ ประชุมสำมำรถเขำ้ ประชุมไดโ้ ดยพร้อมเพรียงกนั
เช่น เวลำวำ่ งจำกกำรทำกำรเกษตรฯลฯ ในกรณีกำรจดั ประชุมใหญ่และจดั ประชุมกลุ่มสมำชิกตอ้ งคำนึงถึง
เร่ืองน้ีใหม้ ำก มิฉะน้นั สมำชิกจะมำประชุมนอ้ ยทำใหไ้ ม่ครบองคป์ ระชุมได้
2. มกี ารจัดการทด่ี รี ะหว่างประชุม ควรดำเนินกำรดงั ต่อไปน้ี
1. ลงช่ือในสมุดจดบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมใหผ้ เู้ ขำ้ ประชุมลงชื่อให้ครบทุกคน
จดั มุมใดมุมหน่ึงของที่ประชุมท่ีลงชื่อไดส้ ะดวกทวั่ ถึงและรวดเร็วใหเ้ สร็จก่อนกำรเปิ ดประชุม และถำ้ ผเู้ ขำ้
ประชุมมีจำนวนมำก เช่น กำรประชุมใหญ่ควรเตรียมกระดำษเซ็นชื่อเป็ นแผ่น ๆ แลว้ นำมำติดในสมุด
ภำยหลงั ก็ได้
2. เมื่อถึงกำหนดเวลำประชุม ตอ้ งนบั จำนวนผเู้ ขำ้ ประชุมใหค้ รบองคป์ ระชุมก่อน
เมื่อครบองคป์ ระชุมแลว้ จึงเร่ิมประชุม ถำ้ ไม่ครบองคป์ ระชุมอำจจะรอต่อไปอีกระยะหน่ึง (กฎหมำยระบุวำ่
ประมำณ 1 ชว่ั โมง) แต่ถำ้ ล่วงเลยเวลำไปมำกก็อำจใหง้ ดกำรประชุม
57
3. จดั เตรียมเอกสำรประกอบในกำรประชุมและเอกสำรอื่นๆ เพื่อแจกแก่ผูเ้ ขำ้
ประชุมไวใ้ ห้พร้อมและพอเพียง เช่น รำยงำนผลกำรดำเนินงำนงบบญั ชีกำไรขำดทุน งบดุล งบทดลอง
หรืองบกำรเงินอื่นๆ เอกสำรเผยแพร่ทำงสหกรณ์หรือ กำรเกษตรต่ำงๆ ระเบียบต่ำงๆ ของสหกรณ์ เป็ น
ตน้
4. จดั อุปกรณ์กำรประชุมใหพ้ ร้อม เช่น โตะ๊ เกำ้ อ้ี แผน่ ป้ ำย กระดำนดำ ชอลก์
ถำ้ ในกำรประชุมใหญ่ควรใชเ้ คร่ืองขยำยเสียง เป็นตน้
5. ควรหำทำงป้ องกนั กำรรบกวนจำกเสียงต่ำงๆ จำกภำยนอกไวด้ ว้ ย
6. เมื่อประชุมเสร็จสิ้นตำมจุดมุ่งหมำยแลว้ ควรสรุปกำรประชุม ทบทวนมติของ
ที่ประชุมที่สำคญั ใหท้ ี่ประชุมทรำบอีกคร้ังหน่ึง
3. พิจารณาแยกเรื่องเสนอต่อที่ประชุม เพื่อให้กำรประชุมเป็ นไปโดยรำบรื่น และผเู้ ขำ้
ประชุมไมร่ ู้สึกสบั สนในกำรแสดงควำมคิดเห็น จึงควรแยกเร่ืองประชุมไวใ้ หเ้ ป็นไปตำมวำระดงั ต่อไปน้ี
1. เรื่องเสนอต่อที่ประชุมเพื่อทรำบโดยไม่มีกำรลงมติ เช่น กำรรำยงำนผลกำร
ดำเนินงำนของสหกรณ์ในรอบเดือน
2. เร่ืองเสนอต่อที่ประชุมเพ่ือลงมติ และถือเอำไปปฏิบตั ิ จะตอ้ งเปิ ดโอกำสใหม้ ี
กำรอภิปรำยกนั ก่อนจะลงมติ
3. เรื่องท่ีจะตอ้ งมีกำรลงคะแนน จะตอ้ งจดั เตรียมอุปกรณ์และเจำ้ หนำ้ ที่ที่
เกี่ยวขอ้ งกบั กำรลงคะแนนและนบั คะแนนใหร้ ัดกมุ ถูกตอ้ ง รู้ผลรวดเร็ว
4. เร่ืองที่เป็นคำแนะนำช้ีแจง ซกั ซอ้ มหรือเผยแพร่ควำมรู้ตำ่ งๆ
4. บุคคลทเ่ี กย่ี วข้องกบั การประชุมรู้จักหน้าทดี่ ี บุคคลที่เก่ียวขอ้ งกบั กำรประชุมใน
สหกรณ์จะตอ้ งรู้จกั หนำ้ ท่ีดี คือ
1. ประธำนในที่ประชุม ตอ้ งทำหนำ้ ที่กล่ำวเปิ ดและปิ ดกำรประชุม ควบคุมกำร
ประชุมและอภิปรำย สรุปเหตุผลและมติของที่ประชุม
2. เลขำนุกำร เป็ นผจู้ ดบนั ทึกรำยงำนกำรประชุม เขียนรำยงำนกำรประชุม อำ่ น
รำยงำนกำรประชุมคร้ังที่แลว้ เสนอต่อท่ีประชุม ช่วยเหลือประธำนในเร่ืองอื่นๆ
3. ผเู้ ขำ้ ประชุม มำประชุมตำมเวลำนดั ร่วมแสดงควำมคิดเห็นและใชส้ ิทธิออก
เสียงลงมติ
4. เจำ้ หนำ้ ที่หรือผจู้ ดั กำรประชุม มีหนำ้ ที่จดั เตรียมและอำนวยควำมสะดวกต่ำงๆ
ในกำรประชุม เช่น จดั เตรียมสถำนที่ประชุม บริกำรอำหำรหรือเคร่ืองดื่ม จ่ำยเงินเบ้ียเล้ียงหรือเงินอ่ืนๆ ที่
ผเู้ ขำ้ ประชุมมีสิทธิที่จะไดร้ ับจำกกำรประชุม
5.ผเู้ ขำ้ ร่วมประชุมหรือผสู้ ังเกตกำรณ์ มีหนำ้ ที่เขำ้ ร่วมประชุมตำมตำแหน่งหนำ้ ท่ี
อำจแสดงควำมคิดเห็นหรือใหข้ อ้ เสนอแนะ แตไ่ มม่ ีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
58
ข้อควรระวงั บางประการในการดาเนินการประชุมในสหกรณ์
กำรดำเนินกำรประชุมในสหกรณ์ในบำงเร่ืองเป็ นปัญหำในทำงปฏิบตั ิว่ำ ควรดำเนินกำร
อย่ำงไรเพ่ือให้ถูกตอ้ งตำมท่ีกำหนดไวใ้ นกฎหมำยและตำมหลกั และวิธีกำรสหกรณ์ ซ่ึงกรรมกำรควรทำ
ควำมเขำ้ ใจดงั ต่อไปน้ี
องค์ประชุมและการลงมติ หมำยถึง จำนวนผู้เข้ำประชุมข้ันต่ำที่กำหนดไว้โดย
พระรำชบญั ญตั ิสหกรณ์ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2562 หำกไม่เป็นไปตำมท่ีกฎหมำยกำหนดยอ่ มไม่มีผลผกู พนั หรือ
มติน้นั ใช้ไม่ได้ เช่นคำว่ำ ตอ้ งมีสมำชิกมำประชุมไม่น้อยกว่ำก่ึงหน่ึงของสมำชิกท้งั หมด จึงจะเป็ นองค์
ประชุม ฉะน้นั ถำ้ จำนวนสมำชิก 100 คน ตอ้ งมีสมำชิกเขำ้ ประชุมไม่น้อยกวำ่ 50 คน เป็ นตน้ อน่ึงกำร
นบั องคป์ ระชุมใหน้ บั จำนวนสมำชิกที่อยใู่ นที่ประชุมมิใช่นบั ตำมจำนวนสมำชิกท่ีลงชื่อประชุม
กำรลงมติก็เป็นเร่ืองท่ีมีควำมสำคญั เพรำะปกติตำมหลกั สหกรณ์จะถือเสียงขำ้ งมำก แต่บำง
กรณีใหถ้ ือเสียง 2 ใน 3 เป็นตน้ ผดู้ ำเนินกำรประชุมควรใชค้ วำมระมดั ระวงั
ตัวอย่าง
สมำชิกเขำ้ ประชุม 120 คน ออกเสียงเห็นดว้ ย 49 คน ไม่เห็นดว้ ย 20 คน ไม่ออกเสียง
51 คน กรณีเช่นน้ีหำกสมำชิกอยคู่ รบองคป์ ระชุมถือวำ่ ลงมติดว้ ยเสียงขำ้ งมำก ส่วนผทู้ ี่ไม่ออกเสียงถือวำ่ ไม่
ใชส้ ิทธิ หรือ สมำชิก 120 คน ออกเสียงเห็นดว้ ย 50 คน ไม่ออกเสียง 20 คน เดินออก 50 คน กรณีมี
สมำชิกเดินออกจะทำให้สมำชิกที่เหลือไม่ครบองคป์ ระชุม จะลงมติใด ๆ ไม่ได้ อน่ึงกรณีเริ่มประชุมหำก
สมำชิกไม่ครบองคป์ ระชุม กฎหมำยแพง่ และพำณิชยม์ ำตรำ 179 กำหนดใหค้ อยจนหน่ึงชวั่ โมงล่วงแลว้ จึง
ใหผ้ นู้ ดั ประชุมหรือผแู้ ทนบอกงดประชุมเสียกไ็ ด้
ประธานในท่ีประชุม ตอ้ งเป็ นไปตำมที่ขอ้ บงั คบั กำหนดอำจมีกรณีประธำนไม่สำมำรถ
กำกบั กำรประชุมไดจ้ ะขอให้เจำ้ หน้ำท่ีส่งเสริมสหกรณ์ช้ีแจงก็ได้ ส่วนกำรขอมติจะมอบหมำยใหป้ ระธำน
เป็นผขู้ อมติกไ็ ด้ แตจ่ ะใหเ้ จำ้ หนำ้ ท่ีส่งเสริมสหกรณ์เป็นประธำนในที่ประชุมไม่ได้
ในกรณีท่ีถึงกำหนดนดั หมำยผเู้ ขำ้ ประชุมครบองคป์ ระชุมแลว้ ประธำนในท่ีประชุมยงั ไม่
มำ กรณีน้ีตำมกฎหมำยแพง่ และพำณิชย์ กำหนดไวว้ ำ่ ให้รอไปอีก 15 นำที ผทู้ ำหนำ้ ท่ีแทนประธำนจึงเริ่ม
ประชุมได้ ระหว่ำงดำเนินกำรประชุมหำกประธำนมำถึงก็ให้ผทู้ ำหน้ำท่ีประธำนดำเนินกำรไปจนสิ้นสุด
วำระน้นั ก่อน กรณีประธำนกรรมกำรถึงครำวออกตำมวำระหรือถูกจบั ฉลำกออก ประธำนท่ีถูกจบั ฉลำก
ออกจะเป็นประธำนตอ่ ไปจนสำเร็จกำรประชุมก็ได้ หรือจะใหป้ ระธำนคนใหม่เป็นต่อไปกไ็ ด้
หน้าท่ที ปี่ ระธานในทป่ี ระชุมควรปฏิบตั ิ
1. เปิ ดประชุมเม่ือถึงเวลำตำมกำหนดและมีสมำชิกครบองคป์ ระชุมแลว้
2. ควบคุม รักษำเวลำในกำรประชุมใหเ้ ป็นไปตำมระเบียบที่วำงไว้
3. แจง้ เร่ืองท่ีจะประชุมตำมระเบียบวำระประชุม
4. แนะนำธรรมเนียมในกำรประชุมใหส้ มำชิกทรำบ
5. เชิญบุคคลหน่ึงบุคคลใดกล่ำวคำแนะนำต่อที่ประชุมหรือช้ีแจงขอ้ ควำมรู้แก่ท่ีประชุม
ทรำบหรือถือปฏิบตั ิ
59
6. นำขอ้ เสนอหรือญตั ติท่ีตรงกบั วำระของกำรประชุมใหท้ ี่ประชุมพิจำรณำ
7. กล่ำวเตือนแนะนำให้ผูอ้ ภิปรำยหรือหันหน้ำพูดกบั ประชำชนในกำรอภิปรำย และ
ขอร้องใหส้ มำชิกหยดุ อภิปรำยในกรณีที่เห็นวำ่ ไมส่ มควร
8. อนุญำตให้สมำชิกผยู้ กมือขอใชส้ ิทธิในกำรพูด อภิปรำยปัญหำต่ำงๆ ดว้ ยกำรช้ีไปท่ี
สมำชิกผนู้ ้นั
9. ควบคุมให้สมำชิกผูน้ ้นั อภิปรำยให้ตรงประเด็น โดยเตือน ห้ำม ให้ถอนคำพูด ให้
กล่ำวขอขมำในท่ีประชุม หรือให้ออกจำกท่ีประชุม โดยไม่กำหนดหรือไม่มีกำหนด
ในกรณีที่ผอู้ ุทธรณ์หรือทกั ทว้ งคำเตือนของประธำนก็ใหท้ ่ีประชุมพิจำรณำตดั สินช้ีขำด
10. ควบคุมไมใ่ หส้ มำชิกพดู จำถำกถำงเหน็บแนม หรือพดู ในทำงก่อใหเ้ กิดควำมแตกแยก
11. ควบคุมไม่ใหส้ มำชิกพดู โตเ้ ถียงกนั เองในที่ประชุม
12. แต่งต้งั สมำชิกนบั คะแนนเสียง
13. กำหนดหลกั เกณฑก์ ำรลงและนบั คะแนนเสียงท้งั ลบั หรือเปิ ดเผย
14. ประกำศผลกำรนบั คะแนนเสียงใหท้ ี่ประชุมทรำบ หรือถำ้ เรื่องใดขอ้ บงั คบั กำหนดว่ำ
มติจะตอ้ งประกอบดว้ ยคะแนนเสียงจำนวนเท่ำใด ให้ประกำศดว้ ยคะแนนเสียงขำ้ ง
มำกถึงจำนวนที่กำหนดแลว้ หรือไม่
15. เป็นผอู้ อกเสียงช้ีขำดเพ่ิมอีกหน่ึงเสียง ในกรณีท่ีท่ีประชุมลงคะแนนเสียงเทำ่ กนั
16. ตอบคำถำมของสมำชิกเก่ียวกบั ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ ควำมรู้ตำ่ งๆ ท่ีเกี่ยวกบั วำระกำรประชุม
17. พิจำรณำรับขอ้ เสนอของสมำชิกเพ่ือบรรจุในวำระอื่นๆ และพิจำรณำตดั ขอ้ เสนอของ
สมำชิกที่เสนอในวำระอนั ที่เห็นวำ่ ไร้สำระ
18. ใหร้ องประธำนกรรมกำรเป็นประธำนในที่ประชุมเม่ือมีควำมจำเป็นไม่อยใู่ นท่ีประชุม
19. ตรวจสอบสมำชิกใหค้ รบองคป์ ระชุมอยเู่ สมอตำมขอ้ บงั คบั
20. รักษำควำมสงบเรียบร้อยในสถำนท่ีประชุม
21. ส่ังพกั กำรประชุม เลื่อนกำรประชุม หรือเลิกกำรประชุมไดต้ ำมที่เห็นสมควร
22. ควบคุมกำรทำรำยงำนกำรประชุม
23. กล่ำวปิ ดกำรประชุม
24. ลงลำยมือชื่อในสมุดรำยงำนกำรประชุมไวเ้ ป็นสำคญั
ธรรมเนียมในการประชุม
1. แตง่ ตวั เรียบร้อยเหมำะสมกบั ท่ีประชุม
2. ตรงตำมเวลำนดั หมำย
3. ลงช่ือในสมุดมำประชุมและเขำ้ ฟังในที่ที่จดั ไว้
4. เขำ้ หอ้ งประชุมเม่ือถึงกำหนดเวลำ หรือไดย้ นิ สัญญำณใหเ้ ขำ้ ประชุม
5. ตรวจรำยงำนกำรประชุมคร้ังท่ีแลว้
6. ปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีตำมประธำนและท่ีประชุมมอบหมำยใหก้ ระทำในท่ีประชุม
60
7. เสนอเรื่องเร่งด่วนท่ีสำคญั ต่อประธำนในท่ีประชุม
8. เสนอขอเปลี่ยนระเบียบวำระกำรประชุม
9. เมื่อจะขออภิปรำยตอ้ งยกมือข้ึนพน้ ศีรษะ เม่ือประธำนอนุญำตใหพ้ ูดจึงลุกข้ึนยนื พดู
เม่ือประธำนขอร้องใหห้ ยดุ ก็ตอ้ งเชื่อฟัง
10. ไม่พดู คุยกนั ในท่ีประชุม โดยเฉพำะอยำ่ งยง่ิ ในขณะท่ีประธำนกำลงั พดู
11. กำรพดู ในที่ประชุม ใหพ้ ดู ต่อประธำนเทำ่ น้นั จะไมพ่ ดู กนั โดยตรงระหวำ่ งสมำชิก
เวน้ แตไ่ ดร้ ับอนุญำตจำกประธำน
12. ไมอ่ ภิปรำย แสดงกริยำหรือใชว้ ำจำไมส่ ุภำพ ใส่ร้ำย เสียดสี ถำกถำง เหน็บแนม
บุคคลใดเพอ่ื ไมก่ ่อใหเ้ กิดควำมแตกแยก
13. เมื่อลุกจำกท่ีประชุมตอ้ งแสดงคำรวะต่อประธำนในท่ีประชุมก่อน เม่ือกลบั เขำ้ มำก็
คำรวะเช่นกนั
14. เสนอช่ือผทู้ ี่จะเป็นกรรมกำรและยกมือรับรอง
15. ยกมือออกเสียงลงคะแนนหรือใชส้ ิทธิออกเสียงลงคะแนนลบั
16. ออกเสียงลงคะแนนในเร่ืองใด ๆ ดว้ ยควำมบริสุทธ์ิใจและคิดถึงประโยชนส์ ่วนรวม
ของสมำชิกเสมอ
17. ยอมรับมติที่ประชุมใหญ่และใหค้ วำมร่วมมือ
18. เสนอขอปิ ดอภิปรำย
การบันทกึ รายงานการประชุม
ในกระบวนกำรประชุม กำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมและกำรติดตำมผลกำรประชุมจดั
ไดว้ ำ่ เป็ นข้นั ตอนสุดทำ้ ยในกระบวนกำรประชุม และเป็ นข้นั ที่สำคญั ไม่ยิ่งหย่อนไปกวำ่ ข้นั อื่นๆ สมควร
อยำ่ งย่ิงท่ีผบู้ ริหำรสหกรณ์ควรจะตอ้ งให้ควำมสำคญั ในเรื่องน้ีและสำมำรถปฏิบตั ิจดั ทำได้ ท้งั น้ีก็เพรำะวำ่
รำยงำนกำรประชุมท่ีบนั ทึกไวอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งจะมีผลดีกบั สหกรณ์คือ
1. ใชเ้ ป็นหลกั ฐำนยนื ยนั มติของที่ประชุม
2. ใชเ้ ป็นหลกั ฐำนท่ีเป็ นลำยลกั ษณ์อกั ษรในกำรปฏิบตั ิตำมมติท่ีประชุม
3. ป้ องกนั กำรเบ่ียงเบนมติที่ประชุมเพื่อหำผลประโยชน์
4. เพอ่ื ช่วยเตือนควำมทรงจำผลงำนที่มอบใหป้ ฏิบตั ิ
5. ใชเ้ ป็นหลกั ฐำนแสดงวำ่ เร่ืองที่ดำเนินกำรไปแลว้ ไดผ้ ำ่ นกำรพจิ ำรณำแลว้
6. ช่วยใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิตำมมติที่ประชุมเกิดควำมอบอุ่นใจในกำรปฏิบตั ิ
7. กิจกำรบำงอยำ่ งกำหนดใหผ้ ำ่ นที่ประชุมก่อนจึงจะดำเนินกำรได้ รำยงำนกำรประชุม
จะใชเ้ ป็นหลกั ฐำนแสดงวำ่ เรื่องน้นั ๆ ไดผ้ ำ่ นท่ีประชุมแลว้
8. ป้ องกนั กำรสับสนในกำรปฏิบตั ิงำน
9. เป็นเครื่องมือช่วยใหท้ รำบผลกำรปฏิบตั ิงำนที่ผำ่ นมำตำมลำดบั
10. ในกำรประชุมพจิ ำรณำ แกป้ ัญหำ กำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมจะช่วย
61
- บนั ทึกควำมคิดเห็นของผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งไวเ้ ป็นหลกั ฐำน สะดวกในกำร
ตีควำม แนวทำงแกป้ ัญหำ
- ระบุข้นั ตอนในกำรแกป้ ัญหำตำมลำดบั ข้นั ตอน
- ระบุผรู้ ับผดิ ชอบในกำรแกป้ ัญหำไวอ้ ยำ่ งชดั เจน
ลกั ษณะของการบันทกึ รายงานการประชุมทด่ี ีและถูกต้อง
ลกั ษณะของกำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมท่ีดีและถูกตอ้ ง จะตอ้ งมีลกั ษณะดงั น้ี
1. จะตอ้ งบนั ทึกเป็นรูปแบบท่ีสวยงำมเป็ นระเบียบและดูง่ำย มีกำรบนั ทึกที่ครบถว้ นไม่วำ่
จะประชุมระดบั ใด สหกรณ์อะไร คร้ังท่ีเท่ำใด ชุดที่เท่ำใด ผรู้ ่วมประชุม วำระกำรประชุม กำรพิจำรณำ
ของที่ประชุม ข้นั ตอนกำรประชุม และมติของท่ีประชุมเรียงลำดบั เพื่อป้ องกนั กำรสับสน อน่ึง มติของที่
ประชุมจะตอ้ งบนั ทึกไวอ้ ยำ่ งชดั เจนวำ่ เป็นเอกฉนั ทห์ รือไม่
2. ภำษำท่ีใชใ้ นกำรบนั ทึกน้นั ตอ้ งเป็ นภำษำท่ีง่ำย ๆ เขำ้ ใจไดท้ วั่ ไป ไม่ใชศ้ พั ทส์ ูงหรือ
เข้ำใจได้ยำก ไม่ใช้ถ้อยคำท่ีทำให้เข้ำใจเป็ นสองแง่สองมุม จะทำให้แปลควำมหมำยผิดและจะทำให้
เป้ ำหมำยของท่ีประชุมผดิ ไปดว้ ย อำจจะทำใหม้ ีปัญหำตอ้ งตีควำมภำยหลงั ได้ จะเกิดควำมยงุ่ ยำก
3. ควรบันทึกให้ชัดเจนกะทดั รัด แต่ได้ใจควำมมิใช่ส้ันจนอ่ำนไม่รู้เร่ืองว่ำท่ีประชุม
พิจำรณำเร่ืองอะไร อำจจะเสียหำยแก่สหกรณ์ไดเ้ ม่ือนำไปปฏิบตั ิหรือดำเนินงำน สหกรณ์หลำยแห่งประสบ
ปัญหำเร่ืองน้ีอยมู่ ำก
4. จะต้องบนั ทึกตรงไปตรงมำไม่เบี่ยงเบนมติของที่ประชุม ในเร่ืองน้ีคณะกรรมกำร
ดำเนินงำนของสหกรณ์จะตอ้ งเอำใจใส่และสนใจเป็นพิเศษก่อนรับรองรำยงำนกำรประชุม
รายงานการประชุม
จำกควำมสำคญั ดงั กล่ำวน้ี ปัญหำจึงอยทู่ ่ีวำ่ รำยงำนกำรประชุมท่ีถูกบนั ทึกไวอ้ ยำ่ งถูกวิธีน้นั
มีรู ปแบบอย่ำงไร มีหลักเกณฑ์และวิธีกำรอย่ำงไร จะขอเสนอรูปแบบของรำยงำนกำรประชุม
องค์ประกอบในกำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมตำมแบบสำกลเป็ นท่ียอมรับโดยทว่ั ไป ในข้นั น้ีจะกล่ำวถึง
เฉพำะกำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมท่ีสำคญั ๆ ในสหกรณ์กำรเกษตรเท่ำน้นั คือ กำรประชุมใหญ่ กำร
ประชุมคณะกรรมกำรดำเนินกำร และกำรประชุมกลุ่มสมำชิก ซ่ึงในกำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมดงั กล่ำว
มีองคป์ ระกอบที่สำคญั 4 ส่วนดว้ ยกนั คือ
ส่วนที่ 1 เป็ นส่วนแรกที่จะตอ้ งบนั ทึกไวบ้ นส่วนบนสุดของรำยงำนกำรประชุมเพ่ือเป็ น
กำรบนั ทึกให้ทรำบวำ่ เป็ นกำรประชุมอะไร ชุดที่เท่ำใด คร้ังที่เท่ำใด เมื่อใด ท่ีไหน เช่น กำรประชุม
คณะกรรมกำรดำเนินกำร ก่อนบนั ทึกในส่วนตอ่ ไปรูปแบบส่วนแรกบนั ทึก ดงั น้ี
62
ตัวอย่าง
รำยงำนกำรประชุม..............................................
สหกรณ์.............................................................. จำกดั
ชุดท่ี.............คร้ังที่....................วนั ท่ี.....................เดือน....................พ.ศ...............
ณ......................................................................................
ส่วนท่ี 2 จะบนั ทึกต่อจำกส่วนแรก ในส่วนน้ีจะบอกใหท้ รำบถึงผเู้ ขำ้ ประชุมและผเู้ ขำ้ ร่วม
ประชุมเป็ นใคร ตำแหน่งใด รวมท้งั ผูท้ ่ีจะตอ้ งเขำ้ ประชุมแต่ขำดประชุม ก็จะตอ้ งบนั ทึกไวด้ ้วยว่ำขำด
ประชุมดว้ ยเหตุผลใด กำรบนั ทึกในส่วนน้ีจะบอกใหเ้ รำทรำบวำ่ มีใครเขำ้ ประชุมบำ้ งจำนวนกี่คน ขำดกี่คน
และมีผเู้ ขำ้ ร่วมประชุมดว้ ยก่ีคน รูปแบบในกำรบนั ทึกจะบนั ทึกต่อจำกส่วนแรกมีรูปแบบง่ำย ๆ คือ
ตัวอย่าง ชื่อ ตำแหน่ง ลำยมือช่ือ
............................ ....................... ........................
ผู้เข้าประชุม ............................ ....................... ........................
ลำดบั ท่ี ............................ ....................... ........................
1.
2. ช่ือ ตำแหน่ง เหตุท่ีขำดประชุม
3. ............................ ....................... ........................
............................ ....................... ........................
ผู้ขาดประชุม
ลำดบั ท่ี ชื่อ ตำแหน่ง ลำยมือช่ือ
1. ............................ ....................... ........................
2. ............................ ....................... ........................
............................ ....................... ........................
ผ้เู ข้าร่วมประชุม
ลำดบั ท่ี
1.
2.
3.
ในกำรเซ็นช่ือเขำ้ ประชุมผทู้ ำหนำ้ ท่ีบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมจะเป็ นผูเ้ ขียนช่ือผเู้ ขำ้ ประชุม และ
ผเู้ ขำ้ ร่วมประชุมเรียงลำดบั ตำแหน่งลงมำเพ่ือให้แลดูเป็ นระเบียบและสวยงำม และทำให้ผูเ้ ขำ้ ร่วมประชุม
เซ็นชื่อก่อนดำเนินกำรประชุม
63
ส่วนท่ี 3 จะเป็ นส่วนท่ีบนั ทึกเกี่ยวกบั เน้ือหำหรือวำระท่ีดำเนินกำรประชุมต้งั แต่เริ่ม
ประชุมโดยประธำนกล่ำวเปิ ดกำรประชุม กำรบนั ทึกในส่วนน้ีจะบนั ทึกตำมระเบียบวำระท่ีจดั ไวแ้ ละท่ี
สำคญั ก็คือ กำรบนั ทึกมติของท่ีประชุมจะตอ้ งบนั ทึกใหช้ ดั เจนวำ่ มีมติอยำ่ งไร ซ่ึงโดยปกติลกั ษณะควำมมุ่ง
หมำยของประชุมจะมีลกั ษณะควำมมุง่ หมำยท่ีสำคญั 2 ประกำร คือ
1. เป็ นกำรส่ือควำม ซ่ึงจะเป็ นกำรประชุมที่ที่ประชุมแจง้ ขอ้ ควำมถ่ำยทอด ควำมรู้หรือ
แลกเปลี่ยนควำมรู้ ควำมคิดเห็นกนั ในที่ประชุม
2. เป็ นกำรหำขอ้ ตกลงใจ ซ่ึงจะเป็ นกำรหำควำมยินยอมขอ้ ตกลงใจ หรือ ร่วมกนั หำ
หนทำงปฏิบตั ิที่เหมำะสมกนั ในที่ประชุม
ดงั น้นั มติของที่ประชุมที่ออกมำจะตอ้ งบนั ทึกใหช้ ดั เจนตำมควำมมุ่งหมำยของกำรประชุม
เช่นถำ้ เป็นเร่ืองของกำรสื่อควำม มติท่ีออกมำกเ็ ป็ นมติที่ประชุมรับทรำบเป็ นตน้ แต่ถำ้ เป็ นเรื่องเก่ียวกบั กำร
หำขอ้ ตกลงใจจะตอ้ งบนั ทึกใหช้ ดั วำ่ ตกลงกนั อยำ่ งไร ใครรับผดิ ชอบหรือปฏิบตั ิอยำ่ งไร เม่ือใดใหข้ มวดมติ
ใหช้ ดั เจน โดยปกติแลว้ ส่วนที่เป็ นมติท่ีจะบนั ทึกบรรทดั ใหม่และก่อนบนั ทึกมติจะเขียนวำ่ มติแลว้ แลว้ จึง
เขียนขอ้ ควำมท่ีเป็ นมติของท่ีประชุมให้ชดั เจน และไม่ใช้ภำษำที่ตีควำมไดห้ ลำยแง่หลำยมุมหรือขอ้ ควำม
คำถำมอนั จะทำให้มีปัญหำภำยหลงั ได้ กำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมในส่วนน้ีนบั ไดว้ ่ำเป็ นส่วนที่สำคญั
ที่สุด เพรำะวำ่ ถำ้ บนั ทึกไม่ชดั เจน เช่น บำงคร้ังบนั ทึกแลว้ ดูไม่รู้วำ่ มติอยตู่ รงไหน ลงมติวำ่ อยำ่ ไร หรือใน
บำงกรณีบนั ทึกไม่สมบูรณ์ใชข้ อ้ ควำมคลุมเครืออำจทำใหม้ ีกำรเบ่ียงเบนมติท่ีประชุมอนั ก่อใหเ้ กิดผลเสียหำย
ไดใ้ นภำยหลงั ดงั ท่ีสหกรณ์กำรเกษตรหลำย ๆ สหกรณ์ประสบมำแลว้ กำรบนั ทึกในส่วนท่ี 3 จะสิ้นสุดลง
เม่ือถึงวำระกำรประชุมในวำระสุดทำ้ ย สำหรับรูปแบบในส่วนน้ีมีรำยละเอียดง่ำยๆ คือ
ตัวอย่าง
เริ่มประชุมเวลำ.......................น.
............................ประธำนในที่ประชุมไดก้ ล่ำวเปิ ดกำรประชุมและไดด้ ำเนินกำรประชุม
ตำมระเบียบวำระดงั ต่อไปน้ี
1. เร่ืองที่ประธำนแจง้ ใหท้ ่ีประชุมทรำบ
ประธำนแจง้ วำ่ .............................................................................
มติ..............................................................................................
2. เร่ือง.............................................................................
มติ.............................................................................................
ส่วนที่ 4 เป็ นข้นั ตอนสุดทำ้ ยของกำรบนั ทึกรำยงำนกำรประชุม ควำมสำคญั ของส่วนน้ี
จะบอกให้เรำทรำบว่ำต้งั แต่เร่ิมประชุมและดำเนินกำรประชุมมำถึงวำระสุดทำ้ ย ประชุมเสร็จใช้เวลำกี่
ช่วั โมง และเสร็จกำรประชุมเวลำเท่ำใด ใครเป็ นประธำนในที่ประชุม เพรำะกำรประชุมทุกคร้ัง ทุก
ประเภทจะตอ้ งมีประธำนในที่ประชุมและเป็ นผดู้ ำเนินกำรประชุมและเม่ือบนั ทึกรำยงำนกำรประชุมแลว้ จะ
ออกอ่ำนใหท้ ่ีประชุมรับรองวำ่ บนั ทึกถูกตอ้ งหรือไม่และขอให้ที่ประชุมรับรองรำยงำนกำรประชุมและเม่ือที่
64
ประชุมรับรองรำยงำนกำรประชุมแลว้ ก็ให้ประธำนในที่ประชุมหรือเลขำนุกำรประชุมและผบู้ นั ทึกรำยงำน
กำรประชุมเซ็นชื่อในส่วนน้ี รูปแบบของรำยงำนกำรประชุมในส่วนสุดทำ้ ยจะเป็นดงั น้ี
ตัวอย่าง
เลิกประชุมเวลำ................................................. น.
..................................................................ประธำนในที่ประชุม
(...........................................................)
..................................................................กรรมกำรหรือเลขำนุกำร
(...........................................................)
..................................................................ผบู้ นั ทึกกำรประชุม
(...........................................................)
สรุป ท้งั 4 ส่วนน้ีประกอบกนั เป็นรำยงำนกำรประชุมตำมแบบฟอร์มดงั น้ี
ตัวอย่าง
รำยงำนกำรประชุม..............................................
สหกรณ์.............................................................. จำกดั
ชุดที่.............คร้ังท่ี....................วนั ท่ี.....................เดือน....................พ.ศ...............
ณ......................................................................................
ผเู้ ขำ้ ประชุม ชื่อ ตำแหน่ง ลำยมือชื่อ
ลำดบั ท่ี ............................ ....................... ........................
1. ............................ ....................... ........................
2.
ชื่อ ตำแหน่ง เหตุท่ีขำดประชุม
ผขู้ ำดประชุม ............................ ....................... ........................
ลำดบั ที่ ............................ ....................... ........................
1.
2. ชื่อ ตำแหน่ง ลำยมือชื่อ
............................ ....................... ........................
ผเู้ ขำ้ ร่วมประชุม ............................ ....................... ........................
ลำดบั ท่ี
1.
2.
65
เริ่มประชุมเวลำ.......................น.
.........................ประธำนในท่ีประชุมไดก้ ล่ำวเปิ ดกำรประชุมและไดด้ ำเนินกำรประชุมตำมระเบียบวำระ
ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. เร่ืองที่ประธำนแจง้ ใหท้ ่ีประชุมทรำบ
ประธำนแจง้ วำ่ .............................................................................
มติ..............................................................................................
2. เร่ือง.............................................................................
มติ.............................................................................................
เลิกประชุมเวลำ................................................. น.
..................................................................ประธำนในที่ประชุม
(...........................................................)
..................................................................กรรมกำรหรือเลขำนุกำร
(...........................................................)
..................................................................ผบู้ นั ทึกกำรประชุม
(...........................................................)
2.7 การจดั การสหกรณ์ทีส่ าเร็จ
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ประสำนควำมร่วมมือกบั JA- Zenchu ตำมโครงกำร Strengthening
of Partnership among Japan and ASEAN Countries ท่ีกระทรวงเกษตร ป่ ำไมแ้ ละประมง (MAFF) ประเทศ
ญี่ป่ ุน ในกำรจดั ส่งผเู้ ช่ียวชำญญี่ป่ ุนมำปฏิบตั ิงำนระหวำ่ งวนั ที่ 3 – 9 สิงหำคม 2551 จำนวน 3 ทำ่ น คือ
Ms. Yoko Ikeda สำขำกำรส่งเสริมกลุ่มอำชีพ Mr. Seiji Hayashi สำขำกำรตลำดขำ้ ว Mr. Masayuki Nako
สำขำส่งเสริมกำรเกษตรและผลผลิตกำรเกษตร กำรปฏิบตั ิงำนในวนั ที่ 4-5 สิงหำคม 2551 เป็นกำรศึกษำ
ขอ้ มลู ของสหกรณ์เครดิตยเู นี่ยนบำ้ นซ่องจำกดั จงั หวดั เพชรบุรี วนั ที่ 6 -7 สิงหำคม 2551 ศึกษำขอ้ มลู ของ
สหกรณ์กำรเกษตรปรำณบุรี จำกดั จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ วนั ที่ 8 สิงหำคม 2551 เป็นวนั เตรียมสรุป
ขอ้ มูลเพ่อื บรรยำยของผเู้ ชี่ยวชำญ และวนั ที่ 9 สิงหำคม 2551 เป็นจดั ประชุมเชิงวชิ ำกำร เรื่องแนวทำงกำร
พฒั นำสหกรณ์ไทย
ประเดน็ ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญทร่ี ะบุว่าทาให้สหกรณ์ในประเทศญี่ป่ ุนประสบความสาเร็จ
1. การออมอย่างมีเป้ าหมาย เช่น ออมเพ่ือกำรศึกษำ ออมเพื่อกำรเกษียณ ออมสำหรับ
ไปเท่ียว ออมเพื่อสุขภำพ ซ่ึงผูเ้ ชี่ยวชำญบอกว่ำเป็ นกิจกรรมส่งเสริมกำรออมที่
ไดร้ ับควำมสนใจจำกสมำชิกเป็ นอยำ่ งมำก วิธีกำรจูงใจเป็ นส่ิงตอบแทนสำหรับ
สมำชิกเล็ก ๆ นอ้ ยตำมวตั ถุประสงค์ เช่น ออมเพ่ือกำรศึกษำ จูงใจดว้ ยกำรแจก
อุปกรณ์กำรเรียน ออมเพอ่ื สุขภำพ จูงใจดว้ ยกำรตรวจสุขภำพฟรีประจำปี
66
2. การให้ความรู้สมาชิก เป็ นกิจกรรมที่สหกรณ์ญ่ีป่ ุนให้ควำมสำคญั เป็ นอย่ำงมำก
สหกรณ์ต้องมีกำรให้ควำมรู้สมำชิกในทุกข้ันตอน เมื่อสมำชิกมีควำมรู้แล้วจะ
สำมำรถปฏิบตั ิตนเป็นสมำชิกที่ดีของสหกรณ์ สหกรณ์ก็จะประสบผลสำเร็จ
3. การแบ่งกลุ่มสมาชิกตามวัตถุประสงค์ ตามอาชีพ เช่น กลุ่มทำนำ กลุ่มเงินฝำก
เกษียณอำยุ เพอ่ื กำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตำมควำมชำนำญของแต่ละอำชีพโดยตรง
4. การประชาสัมพนั ธ์งานสหกรณ์จากล่างสู่บน นอกจำกกำรประชำสัมพนั ธ์ขอ้ มูลกำร
ดำเนินงำนของสหกรณ์สู่สมำชิกแล้ว ญี่ป่ ุนยงั ใช้วิธีกำรประชำสัมพนั ธ์ขอ้ มูลจำก
สมำชิกสู่สหกรณ์ โดยใชว้ ิธีกำรคือ กำรเก็บรวบรวมขอ้ มูลจำกสมำชิกเพ่ือเผยแพร่
ควำมรู้สู่สมำชิกด้วยกัน เช่น เร่ืองกระบวนกำรผลิตท่ีประสบควำมสำเร็จของ
สมำชิกคนหน่ึงไดร้ ับกำรเผยแพร่สู่สมำชิกอ่ืน ๆ
5. การกระจายข้อมูลข่าวสารเร่งด่วนสู่สมาชิก เช่น เร่ืองแมลง วชั พืชอะไรกำลัง
ระบำดเพอ่ื ใหส้ มำชิกไดเ้ ตรียมตวั ป้ องกนั เรื่องรำคำผลผลิตท่ีลดลง ตอ้ งรีบกระจำย
ขอ้ มูลข่ำวสำรทนั ที
6. การจัดทาแผนระยะยาว เป็ นเรื่องที่สหกรณ์ญ่ีป่ ุนจะให้ควำมสำคญั อย่ำงมำก ทุก
เร่ืองทุกกิจกรรมตอ้ งจดั ทำแผน นอกจำกน้ียงั ใชว้ ิธีกำรนำแผนระยะยำวมำย่อยเป็ น
แผนระยะส้ันแลว้ ทยอยดำเนินกำรไปให้เกิดประโยชน์กบั สมำชิก ก่อนกำรเขียน
แผนจะมีกำรเขำ้ ไปหำสมำชิกที่บำ้ นเพื่อสำรวจควำมตอ้ งกำรของสมำชิกและสำมำรถ
จดั ทำแผนไดต้ ำมควำมตอ้ งกำรได้ ท้งั น้ีแผนที่จดั ทำตอ้ งสำมำรถปฏิบตั ิไดจ้ ริง
7. การสร้างความสัมพันธ์ทีด่ ีระหว่างสหกรณ์กบั สมาชิก ใชว้ ิธีกำรจดั ให้เจำ้ หนำ้ ที่เขำ้
หำสมำชิกถึงท่ีบ้ำน ถึงแม้จะเป็ นสหกรณ์ขนำดใหญ่แต่ญ่ีป่ ุนก็ใช้วิธีกำรน้ีอย่ำง
ประสบผลสำเร็จ ทำใหส้ มำชิกเขำ้ ใจและมีส่วนร่วมในกิจกรรมสหกรณ์มำกข้ึน
8. การบริการของเจ้าหน้าทีส่ หกรณ์ (Service Mind) วธิ ีกำรคือเมื่อสมำชิกมำติดต่อที่
สหกรณ์เจำ้ หนำ้ ท่ีตอ้ งกุลีกุจอในกำรตอ้ นรับสมำชิก ญี่ป่ ุนใชค้ ำวำ่ เจำ้ หนำ้ ท่ีตอ้ งคิด
วำ่ สมำชิกคือพระเจำ้ และที่สำคญั ตอ้ งบริกำรแบบใจถึงใจ
9. กิจกรรมสวัสดิการด้านสุขภาพ ญ่ีป่ ุนจะให้ควำมสำคญั เรื่องสุขภำพเป็ นอยำ่ งมำก
โดยจดั ให้มีกำรบริกำรตำมช่วงอำยุของสมำชิก จะเป็ นวิธีกำรสร้ำงควำมสัมพนั ธ์
ระหวำ่ งสมำชิกกบั สหกรณ์ไดม้ ำกข้ึน และจะสำมำรถดึงดูดสมำชิกไดม้ ำกข้ึน เช่น
กิจกรรมดูแลคนชรำ กิจกรรมออกกำลงั กำย
10. การเพิ่มจานวนสมาชิก เทคนิคของญี่ป่ ุนให้วิธีกำรชักชวนก่ึงบงั คบั เน่ืองจำกเป็ น
สมำชิกสหกรณ์แลว้ จะไดร้ ับกำรส่งเสริมสนบั สนุนไดท้ ว่ั ถึงในทุกเร่ือง วธิ ีกำร เช่น
กำรประชุมคนที่ไม่ไดเ้ ป็นสมำชิกเพอื่ ชกั ชวนใหเ้ ป็ นสมำชิก กำรใหค้ วำมรู้ลูกหลำน
สมำชิกเพื่อใหค้ นรุ่นใหมไ่ ดร้ ับรู้ผลประโยชน์ ภำรกิจหนำ้ ท่ีตอ่ สหกรณ์
67
11. การจัดทาฐานข้อมูลสมาชิก ว่ำใครมีกำรผลิตอะไร จำนวนเท่ำไหร่ เพ่ือใช้เป็ น
ขอ้ มูลในกำรพจิ ำรณำเงินกู้ ใชใ้ นกำรวำงแผนกำรตลำด แผนกำรผลิต
12. การลดต้นทุนในทุกกจิ กรรม เช่น ปิ ดไฟ ปิ ดแอร์เมื่อพกั เที่ยง ใชก้ ระดำษเก่ำใหเ้ กิด
ประโยชน์ กำรรวมกนั ซ้ือ
13. กองทนุ ช่วยเหลอื สมาชิก ในช่วงที่ยงั ไมไ่ ดผ้ ลผลิต ตอ้ งมีกำรร่วมกนั ระหวำ่ ง ชำวไร่
โรงงำน และรัฐบำล ในกำรมีกองทุนสำหรับใชจ้ ่ำย
14. กิจกรรมด้านเงินกู้ กำรพิจำรณำเงินกูต้ อ้ งมีกำรเขียนแผนที่ปฏิบตั ิไดอ้ ยำ่ งชดั เจน มี
กำรกำหนดตำรำงวงเงินตำมแผน
15. เน้นการรวมกล่มุ คน เพอื่ อุดมกำรณ์เดียวกนั มุง่ สู่เป้ ำหมำยเดียวกนั ท่ียงิ่ ใหญ่
16. การสร้างผลผลติ ให้เกิดความแตกต่าง เช่นในพ้ืนท่ีปลูกสับปะรด ก็ควรปลูกพืช
อยำ่ งอ่ืนดว้ ย เพื่อไมใ่ หเ้ กิดผลผลิตลน้ ตลำด
2.8 การจัดการธุรกจิ สหกรณ์แนวใหม่
1. ธุรกจิ สหกรณ์
สหกรณ์เกิดข้ึนจำกกำรรวมกลุ่มคน เพ่ือทำกิจกรรมร่วมกนั โดยมีเป้ ำหมำยสูงสุด คือ กำร
อยดู่ ี กินดี มีสันติสุข ในกำรรวมกลุ่มจดั ต้งั เป็ นสหกรณ์น้นั หลงั จำกมีกำรจดทะเบียนตำมพระรำชบญั ญตั ิ
สหกรณ์ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2562 แลว้ สหกรณ์สำมำรถดำเนินกิจกรรมต่ำง ๆ เพ่ือให้เกิดกำรพฒั นำที่เกิด
ประโยชน์แก่สมำชิกมำกท่ีสุด กำหนดใหส้ หกรณ์สำมำรถดำเนินกิจกำรไดด้ งั น้ี
1. กำรผลิต กำรคำ้ กำรบริกำร อุตสำหกรรมเพ่อื ประโยชนส์ มำชิก
2. กำรสวสั ดิกำร หรือกำรสงเครำะห์สมำชิกและครอบครัว
3. ช่วยเหลือทำงวชิ ำกำรแก่สมำชิก
4. รับควำมช่วยเหลือจำกรำชกำร หรือหน่วยงำนหรือบุคคล
5. รับฝำกเงินจำกสมำชิกหรือสหกรณ์
6. ให้กู้ ให้สินเช่ือ ให้ยืม ให้เช่ำ ให้เช่ำซ้ือ โอน รับจำนำ รับจำนองทรัพยส์ ินของ
สมำชิก
7. จดั ให้ไดม้ ำ ซ้ือ ถือกรรมสิทธ์ิ ครอบครอง กูย้ ืม เช่ำ เช่ำซ้ือ รับโอน จำนองจำนำ
ขำย จำหน่ำยทรัพยส์ ิน
8. ใหส้ หกรณ์อ่ืนกเู้ งินตำมระเบียบท่ีนำยทะเบียนเห็นชอบ
9. ดำเนินกิจกำรอยำ่ งอ่ืน เพือ่ ควำมสำเร็จ แห่งวตั ถุประสงคข์ องสหกรณ์
โดยทว่ั ไปแลว้ ธุรกิจท่ีสหกรณ์ดำเนินกำรส่วนใหญ่ คือ ธุรกิจสินเช่ือ
ธุรกิจรับฝำกเงิน ธุรกิจซ้ือ ธุรกิจขำย และธุรกิจบริกำร
68
2. การจัดการธุรกจิ แนวใหม่
ท่ีมำคือกำรเปล่ียนแปลงรูปแบบวธิ ีกำรจดั กำรอยำ่ งใดอยำ่ งหน่ึงเพื่อให้
ทนั ตอ่ กำรเปล่ียนแปลงของโลกปัจจุบนั โดยสถำนกำรณ์ที่สำคญั 5 ประกำร คือ
1. การส่ือสารเปลย่ี นไป
ปัจจุบนั สำมำรถติดต่อส่ือสำรกนั ไดท้ วั่ โลกภำยในระยะเวลำรวดเร็ว จำกอุปกรณ์กำร
ส่ือสำรโทรศพั ท์มือถือและระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้มีกำรรับรู้ กำรตดั สินใจรวดเร็ว เกิดควำมคล่องตวั ใน
กำรดำเนินธุรกิจ
2. การส่งเสริมสุขภาพและบารุงรักษาส่ิงแวดล้อม
ควำมเปลี่ยนแปลงจำกสังคมอุตสำหกรรมที่ส่งเสริมกำรผลิต จนส่งผลเสียต่อสุขภำพ
และสิ่งแวดลอ้ ม เป็ นสังคมยคุ ขอ้ มูลข่ำวสำรไร้พรมแดน ท่ีประชำชนเรียนรู้ท่ีจะรักษำสุขภำพให้ปลอดภยั
แขง็ แรง จึงมีกำรส่งเสริมสุขภำพ ดำ้ นอำหำร ออกกำลงั กำย อำรมณ์ และบำรุงรักษำส่ิงแวดลอ้ ม เพื่อให้
คนอยใู่ นสิ่งแวดลอ้ มที่ดี ป้ องกนั อำกำศเป็นพิษ
3. โครงสร้างประชากรเปลยี่ นแปลง
จำกเดิมประชำกรโลกจะมีเดก็ จำนวนมำก คนสูงอำยจุ ำนวนนอ้ ย เน่ืองจำกกำรแพทยย์ งั
ไม่เจริญ แต่ปัจจุบนั โครงสร้ำงประชำกรเปล่ียนแปลงไป โดยประชำกรเด็กมีสัดส่วนใกลเ้ คียงกบั คนสูงอำยุ
เน่ืองจำกสำมำรถป้ องกนั รักษำชีวิตจำกโรคภยั ต่ำง ๆ ไดด้ ีข้ึน นอกจำกน้นั มีขอ้ มูลที่น่ำสังเกตอีกประกำร
หน่ึงคือ มีคนโสดเพิ่มข้ึนท้งั หญิงและชำย โดยส่วนใหญ่จะอยูใ่ นชุมชนเมือง และจำกขอ้ มูลพบวำ่ วยั ที่มี
กำลงั ซ้ือมำกคือวยั เยำวชน
4. การค้าเสรี
กำรพฒั นำจำกกำรแลกเปล่ียนสินคำ้ กนั ในอดีตเป็นกำรซ้ือขำยโดยใชเ้ งินเป็นตวั กลำง แต่ละ
ประเทศแต่ละภูมิภำคจะมีผลผลิตตำมสภำพแวดลอ้ ม มีกำรซ้ือขำยกนั ภำยในประเทศและนอกประเทศ โดย
มีระบบกฎหมำยและภำษีเป็ นตวั ควบคุมสินคำ้ แต่ในปัจจุบนั ระบบกำรคำ้ เสรีเขำ้ มีบทบำท ส่งผลต่อผผู้ ลิต
และผบู้ ริโภค จึงนำสู่กำรพฒั นำผลิตผล ผลิตภณั ฑ์ กำรแขง่ ขนั ที่สูงข้ึน
กำรจดั กำรธุรกิจสหกรณ์แนวใหม่ เป็ นกำรนำสถำนกำรณ์ท่ีเปล่ียนแปลงในโลกปัจจุบนั
มำสู่กำรจดั กำรกบั ทุก ๆ ธุรกิจสหกรณ์ เพือ่ ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด โดยเนน้ กำรยดึ ลูกคำ้ เป็นสำคญั เป็ นกำร
จดั กำรธุรกิจท่ีอำนวยควำมสะดวกดว้ ยกำรเนน้ กำรบริกำร มีกำรวิเครำะห์ควำมตอ้ งกำร สภำพแวดลอ้ มที่
เกี่ยวเน่ืองกนั รวมถึงกำรจดั กำรท่ีไม่มีช่วงวำ่ ง เป็ นควำมผกู พนั กนั ตลอดเวลำ ท้งั น้ีเพื่อสู่เป้ ำหมำยกำรอยดู่ ี
กินดี มีสนั ติสุข ตำมวตั ถุประสงคแ์ ห่งกำรจดั ต้งั สหกรณ์
5. ผลการศึกษาบริษัททย่ี ง่ั ยนื
จำกกำรศึกษำบริษัทท่ีมีกำรจดั ต้งั ดำรงอยู่ได้ยำวนำนท่ีสุดของโลก พบว่ำมีปัจจยั เป็ น
องคป์ ระกอบสำคญั อย่ำงนอ้ ย 2 รำยกำร คือ กำรมีทุนสะสมของตนเอง และกำรปรับเปลี่ยนกิจกำรไปตำม
สถำนกำรณ์ ซ่ึงขอ้ มูลน้ีเป็นแนวทำงท่ีดีสำหรับกำรป้ องกนั ควำมลำ้ สมยั ของสหกรณ์
69
แผนภาพท่ี 11 การจัดการธุรกจิ สหกรณ์แนวใหม่
ความเปลย่ี นแปลง สหกรณ์
- การส่ือสาร - ธุรกจิ การเงิน สมำชิก
- การส่งเสริมสุขภาพ - ธุรกจิ การตลาด
และสิ่งแวดล้อม - ธุรกจิ บริการ
- โครงสร้างประชากร
- ตลาดเสรี
ยดึ ลูกคำ้ เป็นสำคญั คนเป็นอยดู่ ี
เนน้ บริกำร มีสันติสุข
สมั พนั ธ์ตอ่ เนื่อง
2.1 ธุรกจิ ซื้อ
หมำยถึง กำรจดั หำส่ิงของท่ีสมำชิกตอ้ งกำรมำจำหน่ำย เพื่อตอบสนองควำมตอ้ งกำรของ
สมำชิกควบคูก่ บั วตั ถุประสงคใ์ หส้ มำชิกมีส่วนร่วมอยำ่ งต่อเน่ือง โดยสหกรณ์ภำคกำรเกษตรมกั จะทำธุรกิจ
น้ี เพ่ือบริกำรสมำชิกท่ีทำกำรเกษตร สินคำ้ ที่สหกรณ์จดั จำหน่ำยจึงมกั เป็ นวสั ดุกำรเกษตร เช่น ป๋ ุย ยำ
ปรำบศตั รูพชื พนั ธุ์พชื น้ำมนั รถไถหรือสินคำ้ อุปโภค เช่น ขำ้ วสำร เส้ือผำ้ ของใชใ้ นครัวเรือน เป็ นตน้
สำหรับสหกรณ์ร้ำนคำ้ เป็ นสหกรณ์ที่จดั ต้งั ข้ึนเพื่อดำเนินกิจกำรดำ้ นน้ีโดยตรง โดยเน้นที่สินคำ้ อุปโภค
บริโภค
วตั ถุประสงค์ของธุรกจิ ซื้อ คือ
1. เพื่อให้สมำชิกไดซ้ ้ือสินคำ้ ที่มีคุณภำพดีในรำคำยุติธรรม ปรำศจำกกำรเอำเปรียบ
จำกผคู้ ำ้ ทวั่ ไปซ่ึงหวงั ผลกำไรมำก
2. เพ่ือส่งเสริมกำรมีส่วนร่วมจำกสมำชิกอยำ่ งสอดคลอ้ งกบั ชีวติ เพรำะกำรดำเนินชีวิต
จำเป็ นตอ้ งใชส้ ินคำ้ ส่ิงของ สมำชิกจำเป็ นตอ้ งซ้ือสินคำ้ จึงเป็ นธุรกิจหน่ึงที่ใชเ้ พิ่ม
กำรมีส่วนร่วมจำกสมำชิกได้
สภาพเดมิ
กำรจดั กำรธุรกิจซ้ือของสหกรณ์ไดร้ ับควำมสำคญั นอ้ ยกวำ่ ธุรกิจสินเช่ือ หำกมี
กำรดำเนินธุรกิจมกั จะยึดกำรให้บริกำรสินคำ้ จำเป็ นหลกั สำหรับประกอบอำชีพ และสำหรับควำมเป็ นอยู่
กำรดำเนินธุรกิจมกั ใช้รูปแบบรำชกำร กลุ่มลูกคำ้ ที่ให้บริกำรยึดเฉพำะตวั สมำชิก กำรตัดสินใจทำงธุรกิจ
เป็นบทบำทฝ่ ำยจดั กำร และเป็ นกำรดำเนินธุรกิจท่ีรักษำสภำพไม่ปรับตำมสถำนกำรณ์ขำดกำรบริหำรควำม
เปล่ียนแปลง
70
กำรจดั กำรธุรกิจซ้ือแนวใหม่เพ่ือให้สอดคลอ้ งรับกบั ควำมเปล่ียนแปลง และเพ่ือพฒั นำให้
ธุรกิจซ้ือเป็ นกิจกำรสำคญั ของสหกรณ์ โดยประเด็นนำเสนอคือ ข้นั ตอนกำรดำเนินธุรกิจ เทคนิค และ
ปัจจยั ควำมสำเร็จ
ข้นั ตอนการดาเนินธุรกจิ ซื้อ
1. สมาชิกจาเป็ นและต้องการใช้สินค้า
เป็ นควำมตอ้ งกำรตำมควำมจำเป็ นในกำรประกอบอำชีพและกำรดำเนินชีวิต ซ่ึงโดย
ปกติจะตอ้ งใช้สินคำ้ สนับสนุนควำมจำเป็ นดงั กล่ำวเพียงแต่สมำชิกกบั สหกรณ์ยงั ไม่ไดป้ รับคล่ืนควำม
ตอ้ งกำรเสนอซ้ือและควำมตอ้ งกำรเสนอขำยให้ตรงกนั จึงมีลกั ษณะสมำชิกตอ้ งกำรซ้ือ สหกรณ์ไม่มีขำย
สหกรณ์จะขำยแตส่ มำชิกไมซ่ ้ือ หรือท้งั สมำชิกท้งั สหกรณ์ไม่เคยสนใจเร่ืองธุรกิจซ้ือร่วมกนั ข้นั ตอนแรก
เป็นควำมจำเป็นท่ีมีควำมตอ้ งกำรกระจำยอยใู่ นตวั สมำชิก ซ่ึงสหกรณ์จะดำเนินธุรกิจน้ีหรือไม่ก็ตำมจะยงั คง
มีสภำพควำมจำเป็ นและควำมตอ้ งกำรน้ีอยเู่ พียงแต่หำกสหกรณ์ไม่จดั บริกำรดำ้ นน้ีสมำชิกจะแสวงรับกำร
ตอบสนองควำมตอ้ งกำรจำกแหล่งอ่ืน นกั บริหำรจดั กำรสหกรณ์แนวใหม่จึงตอ้ งยอมรับวำ่ สำมำรถเปิ ดตวั
ธุรกิจสำหรับสหกรณ์ท่ียงั ไมม่ ีธุรกิจน้ี และนำสู่กำรดำเนินธุรกิจอยำ่ งมนั่ คงไดส้ ำหรับสหกรณ์ท่ีดำเนินธุรกิจ
ซ้ือแลว้ โดยควำมจำเป็ นและควำมตอ้ งกำรใชส้ ินคำ้ ในยุคใหม่เป็ นประเภทสินคำ้ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั กำรส่ือสำร
กำรส่งเสริมสุขภำพและส่ิงแวดล้อม ชนิดสินค้ำท่ีประชากรต้องการและมีกาลังซือ้ สูงคือสินค้าสาหรับ
เยาวชน
2. สารวจความต้องการซื้อสินค้าจากสมาชิก
สหกรณ์จะขายอะไร รู้ได้จากสมาชิก เป็ นคำกล่ำวของนกั จดั กำรสหกรณ์แนวใหม่ กำร
สำรวจควำมตอ้ งกำรเป็ นข้นั ตอนที่มีควำมสำคญั มำกท่ีสุด โดยกำรจดั กำรธุรกิจแนวใหม่จะให้ควำมสำคญั
กบั ลูกคำ้ โดยถือว่ำลูกคำ้ เป็ นพระเจำ้ ลูกคำ้ ของสหกรณ์ก็คือสมำชิกจะเป็ นผูช้ ้ีว่ำธุรกิจจะอยู่รอดหรือไม่
หลำยสหกรณ์ดำเนินธุรกิจแล้วไม่ประสบควำมสำเร็จ เพรำะใช้แนวคิดเดิม ๆ เช่น จำหน่ำยสินคำ้ ท่ีเคย
จำหน่ำย ยดึ ควำมพอใจของคนขำยเป็นหลกั กำรสำรวจควรใชว้ ธิ ีกำรสอบถำมเพ่ือใหไ้ ดข้ อ้ มูลควำมตอ้ งกำร
สหกรณ์จึงตอ้ งสอบถำมสมำชิกท่ีพบโดยตรงว่ำตอ้ งกำรใหส้ หกรณ์จดั หำสินคำ้ ใดมำบริกำรบำ้ งแลว้ บนั ทึก
ชนิดสินคำ้ หรือใช้แบบสอบถำมส่งให้สมำชิกกรอกขอ้ มูล หรืออีกวิธีกำรหน่ึงคือกำรประชุมกลุ่ม
สำรวจควำมตอ้ งกำร โดยเมื่อนดั ประชุมกลุ่มแล้วจะให้แบบสอบถำมหรือถำมตรงแบบสัมภำษณ์รำยคน
สำหรับขอ้ มูลที่ควรสำรวจคือ กลุ่มท่ี อำยุ เพศ เช้ือชำติ รำยได้ กำรศึกษำ กำรประกอบอำชีพ ขนำด
ครอบครัว วงจรกำรดำเนินชีวติ ชนิดสินคำ้ ที่ตอ้ งกำร ปริมำณ ช่วงระยะเวลำที่ตอ้ งกำร ลกั ษณะกำรซ้ือ
ควำมตอ้ งกำรจดั ส่ง
3. รวบรวมข้อมูลทไี่ ด้จากการสารวจจากสมาชิก
กำรเก็บขอ้ มูลจำกสมำชิกควรสำรวจท้งั หมด หรือ สุ่มเป็ นกลุ่มตวั อยำ่ งที่เป็ นตวั แทน
ในจำนวนที่เชื่อถือไดโ้ ดยแบ่งเป็ นพ้ืนที่ ตวั อยำ่ งเช่น สหกรณ์มีสมำชิกสังกดั กลุ่ม 20 กลุ่ม ใชส้ ุ่มตวั แทน
กลุ่มละ 10 คน หรือใน 20 กลุ่มสำมำรถจดั ตำมลกั ษณะพ้ืนที่ได้ 2 พ้ืนที่ จึงสุ่มตวั แทนพ้ืนท่ีละ 20 คน
การรวบรวมข้อมูลของสหกรณ์ควรใช้วธิ ีการรวบรวมจากคนสู่คน เพื่อเพิ่มควำมสัมพนั ธ์อนั ดีระหวำ่ งกนั อนั
71
สำมำรถทำไดโ้ ดยง่ำยจำกระบบเครือข่ำยของสหกรณ์ เมื่อไดข้ อ้ มูลจำกกำรสำรวจให้จดั เก็บรวบรวมเพื่อทำ
กำรวเิ ครำะห์
4. วเิ คราะห์ข้อมูลจากการรวบรวม
เพอ่ื นำขอ้ มูลท่ีไดม้ ำวเิ ครำะห์ประกอบกำรตดั สินใจดำเนินธุรกิจจดั ซ้ือสินคำ้ มำ
จำหน่ำยใหก้ บั สมำชิก โดยแนวทำงวเิ ครำะห์ขอ้ มลู 2 วธิ ี คือ
4.1 วิเครำะห์ดว้ ยเครื่องคอมพิวเตอร์ ซ่ึงมีโปรแกรมสำเร็จรูปที่นิยมใช้ คือ โปรแกรม
SPSS เหมำะสำหรับกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลที่มีจำนวนมำก หรือในกรณีที่ขอ้ มูลจำนวนไม่มำกนกั ก็นิยมใช้
โปรแกรม EXCEL โดยจะทำกำรสรุปยอดรวมแตล่ ะรำยกำรไดร้ วดเร็ว เช่นกนั
4.2 วเิ ครำะห์ดว้ ยเคร่ืองคำนวณเลข เหมำะสำหรับขอ้ มูลจำกสมำชิกมีจำนวนไม่มำกนกั
จึงสำมำรถใชเ้ คร่ืองคำนวณเลขไดโ้ ดยออกแบบตำรำงรำยกำรท่ีตอ้ งกำรและคำนวณขอ้ มูลลงในตำรำง
ผลท่ีไดร้ ับจำกกำรวิเครำะห์คือ สมำชิกสหกรณ์แยกเป็ นเพศชำย หญิงกี่คน ร้อยละ
เท่ำไหร่ อำยุแต่ละช่วงมีกี่คน นบั ถือศำสนำอะไร ประกอบอำชีพใด ตอ้ งกำรสินคำ้ ชนิดใดปริมำณเท่ำไหร่
ช่วงระยะเวลำใด ตอ้ งกำรซ้ือดว้ ยเงินสดหรือวธิ ีอื่น เป็นตน้ หลงั จำกวเิ ครำะห์ชนิดสินคำ้ ท่ีมีแนวโนม้ สำมำรถ
ดำเนินเป็นธุรกิจได้ สหกรณ์ควรทำควำมตกลงกบั สมำชิกในกำรร่วมธุรกิจ
5. จัดหาแหล่งซื้อสินค้า
วธิ ีกำรจดั หำแหล่งซ้ือสินคำ้ ตอ้ งไมไ่ กลจำกสหกรณ์มำกนกั เพอ่ื ประหยดั ค่ำใชจ้ ่ำยในกำร
ขนส่งและสะดวกต่อกำรจดั ซ้ือใหท้ นั ใหเ้ พียงพอต่อควำมตอ้ งกำร เช่น
5.1 จดั ซ้ือจำกแหล่งผลิตในกรณีจดั ซ้ือปริมำณมำกและตอ่ เนื่อง
5.2 จดั ซ้ือจำกร้ำนคำ้ ส่งซ่ึงมีกระจำยในทุกจงั หวดั
5.3 จดั ซ้ือจำกแหล่งที่มีสินคำ้ ใหเ้ ลือกหลำยชนิด เช่น หำ้ งสรรพสินคำ้
5.4 สั่งซ้ือทำงระบบอินเตอร์เน็ต
5.5 จดั ซ้ือผลผลิตของชุมชน กลุ่มอำชีพ
6. สหกรณ์ดาเนินการจัดซื้อสินค้า
วธิ ีท่ีสหกรณ์นิยมใชม้ ี 3 วธิ ี คือ
6.1 จดั ซ้ือดว้ ยเงินสด กรณีสหกรณ์มีเงินทุนหมุนเวยี นเพยี งพอ
6.2 จดั ซ้ือดว้ ยเงินเชื่อ จะตอ้ งมีกำรกำหนดเง่ือนไขกำรชำระเงินใหช้ ดั
เจน โดยกำรทำสญั ญำเพอื่ ใชเ้ ป็นหลกั ฐำน
6.3 วิธีกำรฝำกขำย โดยผผู้ ลิตหรือผแู้ ทนจำหน่ำย ฝำกให้สหกรณ์ขำยและชำระ
เงินตำมยอดจำหน่ำยสินคำ้
6.4 เป็นตวั กลำงเจรจำระหวำ่ งผซู้ ้ือกบั ผขู้ ำยโดยสหกรณ์ไม่ตอ้ งจดั ซ้ือสินคำ้
7. จัดสถานทสี่ าหรับจาหน่ายสินค้าให้สมาชิก
โดยยดึ หลกั ควำมสะดวกในกำรซ้ือของสมำชิกดงั น้ี
7.1 สำนกั งำนของสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกร
72
7.2 ร้ำนคำ้ ในชุมชนท่ีมีสมำชิกสหกรณ์
7.3 บำ้ นผนู้ ำกลุ่ม
7.4 หน่วยงำนรำชกำร องคก์ ำรบริหำรส่วนตำบล โรงเรียน ฯ
7.5 ส่งถึงบำ้ นสมำชิก โดยอำจมีกำรกำหนดเป็นช่วง ๆ เช่น เดือนละ
1 คร้ัง หรือ 2 คร้ังตำมควำมตอ้ งกำรของสมำชิก
8. จาหน่ายสินค้าให้กบั สมาชิก
โดยใชว้ ธิ ีกำรดงั น้ี
8.1 จำหน่ำยดว้ ยเงินสด คือชำระเงินทนั ทีเมื่อซ้ือสินคำ้
8.2 จำหน่ำยสินคำ้ ดว้ ยเงินเชื่อ จะตอ้ งมีกำรตกลงกบั สมำชิกในเง่ือนไขกำร ชำระ
เงินภำยในระยะก่ีวนั หรืออำจใชว้ ธิ ีกำรทำสินเช่ือ คือ ทำสัญญำเงินกูแ้ ต่ให้ในรูปสินคำ้ ให้ซ้ือสินคำ้ ไดจ้ น
ครบวงเงินกทู้ ี่กำหนดหลงั จำกน้นั ก็ชำระเงินตำมเง่ือนไข
8.3 นำเงินไปฝำกกบั สหกรณ์ เมื่อทำกำรซ้ือสินคำ้ ก็ถอนเงินเท่ำ กบั มูลค่ำของ
สินคำ้ สหกรณ์โอนเงินชำระค่ำสินคำ้
9. บริการหลงั การขาย
ข้นั ตอนน้ีมีควำมสำคัญในกำรจดั กำรแนวใหม่เพื่อให้เกิดควำมผูกพนั และให้เกิด
ประโยชน์กบั กำรใชส้ ินคำ้ น้นั ๆ กำรจดั กำรในรูปแบบของสหกรณ์จะมีผนู้ ำกลุ่มอยคู่ รอบคลุมทุกพ้ืนที่ จึง
สำมำรถพฒั นำใหเ้ ป็นผบู้ ริกำรหลงั ขำยใหก้ บั สหกรณ์ได้
10. ประเมนิ ความพงึ พอใจจากสมาชิก
เพอื่ นำไปปรับปรุงธุรกิจใหด้ ีข้ึน หลำยสหกรณ์ใชร้ ูปแบบเก่ำ ๆ คือ ทำธุรกิจไปเร่ือย
ๆ โดยไม่มีกำรมองผลตอบรับจำกสมำชิก ธุรกิจก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงควรประเมินโดยใช้หน่วยงำน
ภำยนอก เช่น สถำบนั กำรศึกษำท่ีมีกำรเปิ ดสอนหลกั สูตรกำรตลำด
73
แผนภาพที่ 12 ข้นั ตอนการดาเนินธุรกจิ ซื้อ
การจัดการเดมิ สมำชิกมีควำมตอ้ งกำร การจัดการแนวใหม่
- มกั ไมน่ ำมำใชเ้ ป็นขอ้ มลู
- ใชเ้ ป็นขอ้ มูลประกอบ
กำรดำเนินธุรกิจ
- ใชค้ วำมคิดเห็นฝ่ ำยจดั กำร สำรวจควำมตอ้ งกำร - ดำเนินกำรสำรวจสม่ำเสมอ
เป็ นหลกั
เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล - ใชข้ อ้ มูลเป็นฐำนธุรกิจ
- ไม่มีขอ้ มลู
- ใชค้ วำมเคยชิน วเิ ครำะห์ขอ้ มูล - ใชค้ อมพิวเตอร์
- แหล่งซ้ือประจำ จดั หำแหล่งซ้ือสินคำ้ - เปลี่ยนแปลงตำมสถำนกำรณ์
- จำหน่ำยที่สำนกั งำน
- เฉพำะเงินสด จดั สถำนท่ีจำหน่ำย - บริกำรใหส้ มำชิกมีควำม
จำหน่ำยสินคำ้ สะดวก
- ไม่มีกำรบริกำร
- ไมม่ ีกำรประเมิน บริกำรหลงั กำรขำย - เงินสด (บตั รเครดิต)
ประเมินควำมพอใจ - เงินเชื่อ
- รับฝำกเงิน
- จดั บริกำรแนะนำ
- ประเมินเพอื่ ปรับปรุงพฒั นำ
74
ปัจจัยความสาเร็จของธุรกจิ ซื้อ
1. บุคลำกรสหกรณ์มีส่วนร่วมในธุรกิจต้งั แต่สมำชิก คณะกรรมกำร ผนู้ ำกลุ่ม เป็ นหวั ใจ
สำคญั ของกำรดำเนินธุรกิจ หำกสำมำรถให้บุคคลเหล่ำน้ีมีส่วนร่วมไดท้ ้งั หมด ธุรกิจก็จะประสบผลสำเร็จ
เพรำะมีลูกคำ้ ท่ีแน่นอนเป็นลูกคำ้ ประจำ สหกรณ์ไม่ตอ้ งเสี่ยงเหมือนกิจกำรทว่ั ไป
2. กำรบริกำรสมำชิกท่ีร่วมธุรกิจให้เกิดควำมประทบั ใจ สมำชิกจะมีควำมตอ้ งกำรร่วม
ธุรกิจกบั สหกรณ์ต่อไป เป็นกำรสร้ำงควำมภกั ดีต่อองคก์ ร
3. สร้ำงเครือข่ำยสหกรณ์ นอกจำกกำรดำเนินธุรกิจซ้ือจะประสบควำมสำเร็จไดจ้ ำก
สมำชิกแลว้ เครือข่ำยระหวำ่ งสหกรณ์มีควำมจำเป็ นอยำ่ งมำก เช่น ขำ้ วสำรของสหกรณ์อำจนำไปฝำกขำย
กบั สหกรณ์อื่น หำกสำมำรถสร้ำงเครือขำ่ ยขยำยเป็นลกั ษณะใยแมงมุมไดจ้ ะส่งผลให้มีควำมมน่ั คงทำงธุรกิจ
เพ่ิมข้ึน
4. ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั สถำนกำรณ์ปัจจุบนั ไม่วำ่ จะเป็ นนโยบำยรัฐบำลหรือสภำพเศรษฐกิจ
ปัจจุบนั
5. คุณภำพสินคำ้ เพรำะธุรกิจซ้ือของสหกรณ์ตอ้ งเป็ นท่ีน่ำเชื่อถือของสมำชิก ในเรื่อง
คุณภำพของสินคำ้ สหกรณ์จะมีขอ้ ไดเ้ ปรียบจำกร้ำนคำ้ ทวั่ ไป คือมีกำรสำรวจควำมตอ้ งกำรซ้ือก่อนจึงทำให้
ไมม่ ีสินคำ้ หมดอำยุ หรือคำ้ งสตอ๊ ก
6. วิเครำะห์คู่แข่ง ปัจจุบนั คู่แข่งของสหกรณ์มีมำกมำย ตอ้ งวิเครำะห์คู่แข่งเพ่ือนำมำ
ปรับปรุงธุรกิจของสหกรณ์ ขอ้ มูลท่ีควรนำมำเปรียบเทียบ คือ ภูมิหลงั นโยบำย ผูน้ ำ กิจกรรมส่งเสริม
กำรตลำด ผลกำรดำเนินงำนท่ีผำ่ นมำ ควำมมน่ั คงดำ้ นกำรเงิน เครือขำ่ ยของคูแ่ ขง่
เทคนิคการดาเนินธุรกจิ ซื้อ
กำรดำเนินธุรกิจซ้ือของสหกรณ์ในปัจจุบนั มีไม่มำกนักท่ีประสบผลสำเร็จ เพรำะขำด
บุคลำกรท่ีมีทกั ษะจดั กำรธุรกิจน้ีและเป็ นธุรกิจท่ีมีคู่แข่งมำก เช่น ห้ำงสรรพสินคำ้ ร้ำนคำ้ ชุมชน เป็ นตน้
สหกรณ์ท่ีดำเนินธุรกิจซ้ือจึงควรมีเทคนิคเพื่อควำมสำเร็จของธุรกิจ
1. การประชาสัมพนั ธ์
ตอ้ งมีกำรประชำสัมพนั ธ์ใหส้ มำชิกทรำบ เช่น เม่ือมีกำรประชุมกลุ่มก็ควรนำสินคำ้ ไป
ประชำสมั พนั ธ์ หรือประชำสัมพนั ธ์ในปฏิทิน แผน่ โฆษณำ หรือวทิ ยชุ ุมชน หรือเวบ็ ไซดข์ องสหกรณ์
2. การส่งเสริมการขาย
2.1 ลด แลก แจก แถม
กำรดำเนินธุรกิจคร้ังแรกอำจมีกำรลด แลก แจก แถม บำ้ งเพ่ือใหส้ มำชิกเกิดควำม
สนใจในสินคำ้ โดยอำจจดั ร่วมกบั เจำ้ ของสินคำ้ หรือร่วมกบั กำรทำธุรกิจอ่ืนของสมำชิก เช่น เมื่อชำระ
ดอกเบ้ียเงินกตู้ ำมกำหนดแจกป๋ ุย 1 กระสอบ เนื่องจากไม่มีใครไม่ชอบของฟรี
75
2.2 มีการสะสมยอดซื้อ
โดยสหกรณ์จดั ทำบตั รสะสมคะแนนตำมยอดซ้ือโดยมีกำรมอบของขวญั รำงวลั
ต่ำงๆ เป็ นเทคนิคในกำรดึงดูดควำมสนใจจำกสมำชิกไดว้ ิธีหน่ึง ซ่ึงสหกรณ์หลำย ๆ แห่งดำเนินกำรแลว้
ประสบผลสำเร็จดีมำก โดยควรมีเงื่อนไขชดั เจนและปฏิบตั ิจริง ตามหลกั ซื้อมากได้รับตอบแทนมาก
3. บริการเป็ นกนั เอง
เจำ้ หนำ้ ที่ใหบ้ ริกำรเป็นกนั เองกบั สมำชิก ยมิ้ แยม้ แจ่มใส ใหส้ มำชิกเกิดควำมประทบั ใจ
เจ้าหน้าทที่ ุกคนไม่เหมาะกบั ธุรกจิ ซื้อ มเี พยี งบางคนเท่าน้ันทจ่ี ะทาให้ธุรกจิ ประสบความสาเร็จ
4. ไม่ควรส่ังสินค้ามาจานวนมากเกนิ ไป
ในช่วงแรกควรสังเกตพฤติกรรมกำรซ้ือของสมำชิกว่ำตอ้ งกำรสินคำ้ จำนวนมำกน้อย
เพยี งใด เพ่อื ป้ องกนั สินคำ้ ลน้ สตอ๊ ก
5. จัดส่งสินค้าถึงบ้านสมาชิก
จำกเพรำะสถำนกำรณ์โลกที่เปล่ียนแปลงไป ทำใหส้ มำชิกมีกำรเปลี่ยนแปลง คือ กำร
ดำเนินชีวติ ที่ซบั ซอ้ น ประกอบอำชีพหลำยอยำ่ ง แข่งขนั กบั เวลำ แสวงหำสิ่งท่ีดีใหก้ บั ชีวติ สหกรณ์จึงตอ้ ง
ใหค้ วำมสะดวกแก่สมำชิก
6. นาสินค้าไปจาหน่ายในวนั ประชุมกลุ่ม ประชุมใหญ่
เพรำะสมำชิกเกือบท้งั หมดตอ้ งเขำ้ ร่วมประชุม เพ่ือสร้ำงบรรยำกำศกำรประชุมให้ดู
คึกคกั และเพิ่มปริมำณกำรซ้ือไดม้ ำกข้ึน
7. สินค้าทม่ี ปี ระโยชน์ต่อสุขภาพและไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม
ตอ้ งเป็นสินคำ้ ที่มีประโยชนต์ ่อสุขภำพและไม่ทำลำยส่ิงแวดลอ้ ม ถำ้ เป็นของ
กินต้องมีประโยชน์ต่อร่ำงกำย วสั ดุอุปกรณ์กำรเกษตรต้องไม่มีโทษต่อธรรมชำติ เช่น ขำ้ วกล้อง ป๋ ุย
อินทรีย์ เป็นตน้
8. เป็ นสินค้าทมี่ คี ุณภาพ
ในภำวกำรณ์แข่งขนั กำรคำ้ เสรี ผซู้ ้ือสำมำรถหำซ้ือสินคำ้ จำกท่ีใดก็ได้ สหกรณ์จึงตอ้ ง
ยดึ คุณภำพเป็นสำคญั
9. สินค้าทนั สมัย
สินคำ้ ตอ้ งทนั กบั เทคโนโลยีท่ีเปลี่ยนแปลงในปัจจุบนั เช่น มีอุปกรณ์โทรศพั ทม์ ือถือ
คอมพวิ เตอร์ จำหน่ำยใหส้ มำชิกวยั ทำงำน อำหำรสุขภำพสำหรับวยั สูงอำยุ อุปกรณ์บนั เทิงสำหรับคนโสด
10. สินค้าต้องมีลกั ษณะดูดี
ตอ้ งเลือกสินคำ้ ท่ีมีควำมสวยงำม สมำชิกมองเห็นคร้ังแรกก็ตอ้ งกำรซ้ือ เขำ้ กบั วยั ยิง่
แนวโนม้ คนสูงอำยมุ ำก สินคำ้ คนสูงอำยตุ อ้ งมีควำมเชื่อมโยงกบั ประเพณี วฒั นธรรมยอ้ นยคุ
11. จาหน่ายทาง Web Site
76
จำกสถำนกำรณ์โลกท่ีเปล่ียนแปลงทำใหก้ ำรติดต่อสื่อสำรสะดวกมำกข้ึน สหกรณ์ทำ
ธุรกิจซ้ือควรมีช่องทำงกำรจำหน่ำยทำง Web Site เพื่อสมำชิกสำมำรถเขำ้ เปิ ดดูสินคำ้ ของสหกรณ์ ไม่ตอ้ ง
เสียเวลำเดินทำง โดย Web Site ของสหกรณ์ควรนำเสนอต่อวยั รุ่นให้สนใจ เน่ืองจำกคนใชส้ ื่อสำร
ช่องทำงน้ีคือวยั ดงั กล่ำว
12. กาลงั ซื้อทสี่ าคญั แห่งยุค
กำลงั ซ้ือท่ีสำคญั แห่งยุค คือ วยั เยำวชน จึงควรหันมำสนใจจดั กิจกรรมเพื่อเยำวชน
พร้อมกบั นำเสนอสินคำ้ ที่เยำวชนตอ้ งกำร
13. ผู้นาต้องซื้อเป็ นตัวอย่าง
คณะกรรมกำร ฝ่ ำยจดั กำร ตอ้ งเป็ นตวั อยำ่ งซ้ือสินคำ้ ของสหกรณ์ เพื่อใหส้ มำชิกเกิด
ควำมศรัทธำ เกิดควำมตอ้ งกำรมีส่วนร่วมในธุรกิจของสหกรณ์
14. เชื่อมโยงเครือข่ายกบั สหกรณ์อน่ื ๆ
เพื่อแลกเปลี่ยนสินคำ้ เช่น สหกรณ์ทำธุรกิจซ้ือเช่ือมโยงกบั สหกรณ์ที่ทำกำรผลิต
2.2 ธุรกจิ ขาย
หมำยถึง กำรที่สหกรณ์ดำเนินกำรรวบรวมผลผลิตของสมำชิกไปจำหน่ำยหรือแปรรูป
เป็นกำรดำเนินกำรตำมวตั ถุประสงคแ์ ห่งกำรจดั ต้งั สหกรณ์ ในกำรทำงำนร่วมกนั ไม่ใช่ต่ำงคนต่ำงผลิต ต่ำง
คนต่ำงขำย ผลผลิตที่สหกรณ์รวบรวมน้นั เป็ นผลผลิตทำงกำรเกษตรหรือผลิตภณั ฑ์อื่น ๆ ที่สมำชิกทำกำร
ผลิต
วตั ถุประสงค์ของธุรกจิ ขาย
1. เพ่ือเพ่ิมรำยไดใ้ หก้ บั สมำชิก เนื่องจำกกลไกทำงกำรตลำดปัจจุบนั ผูซ้ ้ือเป็ นผกู้ ำหนด
รำคำผลผลิต ผูซ้ ้ือซ่ึงเป็ นพ่อคำ้ คนกลำงจึงมกั จะกำหนดรำคำรับซ้ือต่ำ กำรรวมกนั ขำยใหก้ บั สหกรณ์เพ่ือ
สหกรณ์นำไปจำหน่ำยจะสำมำรถต่อรองรำคำกบั ผซู้ ้ือหรือผบู้ ริโภคได้ เพรำะมีปริมำณผลผลิตจำนวนมำก
จึงสำมำรถกำหนดรำคำผลผลิตอยำ่ งเป็นธรรม
2. เพื่อสร้ำงควำมถูกตอ้ งในระบบกำรชงั่ ตวง วดั ป้ องกนั กำรเอำรัดเอำเปรียบจำกระบบ
กำรตลำด ที่มีควำมไม่ยตุ ิธรรม ไม่เท่ียงตรง โดยสหกรณ์สำมำรถควบคุมกำรจดั กำรดำ้ นดงั กล่ำวให้เป็ นไป
อยำ่ งถูกตอ้ ง เท่ียงธรรม ได้ ภำยใตห้ ลกั กำรสหกรณ์ไม่แสวงหำกำไร
3. เพ่ือจดั ระบบกำรประกอบอำชีพ วำงแผนกำรผลิตใหเ้ หมำะสมกบั ตลำดผบู้ ริโภค โดย
สหกรณ์สำมำรถสำรวจตลำดก่อนแนะนำกำรผลิต ใหส้ มำชิกมีผลิตผลท่ีตลำดตอ้ งกำร มีช่วงเวลำเก็บเก่ียวที่
เหมำะสม
สภาพเดิม
สหกรณ์ภำคกำรเกษตรให้ควำมสำคญั ในกำรจดั ให้มีกำรดำเนินธุรกิจขำยน้อยกวำ่ ธุรกิจ
สินเชื่อ มีสภำพเช่นเดียวกบั ธุรกิจซ้ือ เน่ืองจำกธุรกิจขำยมีควำมยุง่ ยำกในกำรจดั กำร โดยเฉพำะผลผลิตทำง
กำรเกษตรท่ีออกเป็ นฤดูกำล ตลำดไม่แน่นอน เน่ำเสียง่ำย ภยั ธรรมชำติมีผลกระทบสูง ประกอบกบั เป็ น
77
ธุรกิจที่ตอ้ งมีวสั ดุอุปกรณ์ในกำรดำเนินงำนท่ีตอ้ งใชเ้ งินทุนสูง ขำดบุคลำกรท่ีมีควำมชำนำญในกำรจดั กำร
ท้งั น้ีสังเกตไดว้ ่ำภำคเอกชนท่ีดำเนินธุรกิจขำยน้ีมีจำนวนนอ้ ยกว่ำกำรดำเนินธุรกิจซ้ือ ที่มีจะเป็ นเอกชนท่ี
กิจกำรขนำดใหญ่ เช่น โรงสีขำ้ ว เจำ้ ของแพปลำ โรงงำนอำหำรสัตว์ ฯ และมีขอ้ มูลควำมลม้ เหลวในกำร
ดำเนินธุรกิจมำกกว่ำธุรกิจซ้ือ กบั สภำพเดิมท่ีมกั พบบ่อย ๆ คือ ระบบงำนสหกรณ์ไม่เอ้ืออำนวยต่อกำร
ดำเนินธุรกิจขำย เนื่องจำกมีกฎระเบียบไมค่ ล่องตวั เหมือนภำคเอกชน
กำรดำเนินธุรกิจขำยเป็ นควำมสอดคล้องกบั กำรดำเนินชีวิตในกำรประกอบอำชีพของ
สมำชิกสหกรณ์ สหกรณ์จึงมีควำมจำเป็นตอ้ งดำเนินธุรกิจน้ี โดยมีข้นั ตอนดำเนินงำนคือ
ข้นั ตอนการดาเนินธุรกจิ ขาย
1. การส่งเสริมการผลติ
สหกรณ์ควรมีเจำ้ หนำ้ ที่ส่งเสริมกำรผลิต เพื่อแนะนำส่งเสริมกำรประกอบอำชีพของ
สมำชิกเป็ นแผนกำรผลิตที่มุ่งให้ไดผ้ ลผลิตท่ีมีคุณภำพดี ปริมำณมำก ตรงกบั ควำมตอ้ งกำรของผูบ้ ริโภค
รวมถึงคอยช่วยแกป้ ัญหำระหว่ำงผลผลิต เจำ้ หน้ำท่ีส่งเสริมกำรผลิตจะสัมผสั กบั สมำชิกตลอดเวลำ เป็ น
บุคคลตวั แทนสหกรณ์ท่ีใกลช้ ิดกบั สมำชิก ซ่ึงนอกเหนือจำกมีควำมรู้ ควำมชำนำญกำรผลิตในแต่ละสำขำ
อำชีพแลว้ ตอ้ งมีควำมรู้ในกิจกำรอ่ืน ๆ ของสหกรณ์เพื่อตอบขอ้ ซกั ถำมและแนะนำใหส้ มำชิกรู้ เขำ้ ใจ มี
ส่วนร่วมในสหกรณ์ เน่ืองจำกกำรส่งเสริมกำรผลิตมีควำมเกี่ยวเน่ืองกบั ธุรกิจสินเช่ือ ธุรกิจซ้ือ รวมถึงกำร
บริกำรดำ้ นอ่ืน ๆ จำกสหกรณ์
2. สารวจความต้องการร่วมธุรกจิ
ใช้รูปแบบเดียวกับกำรสำรวจควำมต้องกำรของธุรกิจซ้ือแต่ขอ้ มูลที่สำรวจจะมุ่งที่
ประเภทผลผลิต ปริมำณ ช่วงเวลำ สถำนท่ี กำรชำระค่ำผลผลิต วสั ดุอุปกรณ์ที่เก่ียวขอ้ งรวมถึงตน้ ทุนใน
กำรผลิต
3. รวบรวมข้อมูล
เพื่อนำแผนกำรผลิตของสมำชิกมำวำงแผนกำรดำเนินธุรกิจ วิเครำะห์ควำมเป็ นไปได้
เตรียมควำมพร้อมดำ้ นบุคลำกร วสั ดุอุปกรณ์ เงินทุน สหกรณ์ภำคกำรเกษตรท่ีมีกำรแบ่งสมำชิกเป็ นกลุ่ม
ยอ่ ย สำมำรถมอบใหป้ ระธำนกลุ่มเป็นผรู้ วบรวมขอ้ มูล สำหรับสหกรณ์อ่ืนควรนำรูปแบบตวั แทนสำขำของ
ธุรกิจเอกชนมำใชใ้ นสหกรณ์เพื่อสมั ผสั ขอ้ มลู จำกสมำชิกโดยตรง
4. ดาเนินการรวบรวมผลผลติ
4.1 ทำขอ้ ตกลงกบั สมำชิก
ซ่ึงควรเป็ นในลกั ษณะควำมร่วมมือของกลุ่มท่ีตกลงร่วมธุรกิจกบั สหกรณ์ เพื่อลง
ลึกในรำยละเอียดวำ่ มีข้นั ตอนใดบำ้ ง แต่ละข้นั ตอนใครทำอะไร ท่ีไหน เมื่อไหร่ เท่ำใด อยำ่ งไร รำคำเท่ำใด
กำรชำระเงินรูปแบบไหน ฯ
4.2 ตรวจสอบคุณภำพ ปริมำณ
78
เมื่อมีกำรส่งมอบผลผลิต ย่อมมีควำมแตกต่ำงกันตำมคุณภำพถึงแม้เป็ นชนิด
เดียวกนั จึงตอ้ งมีผชู้ ำนำญตดั สินคุณภำพอยำ่ งเป็ นท่ียอมรับของสมำชิก ท้งั น้ีควรมีเครื่องมือท่ีเป็ นสำกลใน
กำรตรวจสอบและสมำชิกควรมีส่วนร่วมในกำรตรวจสอบดว้ ย
4.3 ตกลงซ้ือ - ขำย
เป็ นกำรกำหนดรำคำผลผลิตตำมคุณภำพ ตำมปริมำณ โดยสหกรณ์ยดึ รำคำตลำด
เป็นรำคำซ้ือขำย วธิ ีกำรซ้ือขำยที่ใชค้ ือ
- สหกรณ์จ่ำยเงินสดทนั ทีเป็ นวิธีท่ีดึงดูดควำมตอ้ งกำรขำยจำกสมำชิกไดม้ ำก
เพรำะเมื่อขำยกไ็ ดร้ ับเงินทนั ที โดยสหกรณ์สำมำรถหำแหล่ง เงินทุนไดจ้ ำกเงินทุนของสหกรณ์เอง ธนำคำร
โดยกำรกจู้ ำก ธกส. หรือธนำคำรพำณิชยอ์ ่ืน ๆ เงินสนบั สนุนจำกรัฐบำล
- จ่ำยเงินเพียงบำงส่วน (ร้อยละ50 - 70) ส่วนท่ีเหลือสหกรณ์จ่ำยให้สมำชิกเม่ือ
สหกรณ์จำหน่ำยสินคำ้ ได้ วธิ ีกำรน้ีเป็ นวิธีกำรที่เหมำะสมสำหรับระบบงำนสหกรณ์เพื่อร่วมกนั รับผิด - รับ
ชอบในกำรดำเนินงำน
- ไม่จ่ำยเงินสดเลย โดยจ่ำยให้เม่ือสหกรณ์ขำยผลผลิตไดจ้ ึงให้ สมำชิกมำรับเงิน
สด
- จ่ำยให้ในรูปแบบอ่ืนท่ีไม่ใช่เงินสด เช่นขำยขำ้ วเปลือกให้สหกรณ์สมำชิกรับ
ขำ้ วสำร หรือรับป๋ ุย หรือโอนเงินเขำ้ บญั ชีเงินฝำกของสมำชิก
5. จาหน่ายหรือแปรรูป
เมื่อรวบรวมผลผลิตแลว้ กำรจำหน่ำยทำได้ 2 วธิ ีกำร คือ
5.1 สหกรณ์ดำเนินกำรหำตลำดหรือพ่อคำ้ มำรับซ้ือผลผลิตจำกสหกรณ์ วิธีกำรน้ี
สหกรณ์ทำหนำ้ ท่ีเป็นคนกลำงระหวำ่ งสมำชิกกบั พอ่ คำ้
5.2 สหกรณ์ดำเนินกำรแปรรูปผลผลิตท่ีรวบรวมได้ เช่น สหกรณ์มีโรงสีขำ้ ว
รวบรวมขำ้ วเปลือกจำกสมำชิกแลว้ ผำ่ นกระบวนกำรสีขำ้ วเป็ นขำ้ วสำร ปลำยขำ้ ว รำ จำหน่ำย ทำใหผ้ ลผลิต
มีรำคำสูงข้ึน แต่สหกรณ์ตอ้ งมีควำมพร้อมเร่ืองอุปกรณ์แปรรูปผลผลิต และตอ้ งมีควำมสำมำรถในกำรแปร
รูปควำมสำมำรถดำ้ นกำรตลำด
6. ประเมินความพงึ พอใจของสมาชิก
เพื่อนำไปปรับปรุงธุรกิจ โดยใช้วิธีกำรสอบถำมจำกสมำชิกหรือใช้กำรสังเกต
พฤติกรรมเม่ือสมำชิกร่วมธุรกิจ หรือให้หน่วยงำนภำยนอก เช่น สถำบันกำรศึกษำที่มีกำรเปิ ดสอน
หลกั สูตรกำรตลำดเป็นผปู้ ระเมิน
79
แผนภาพที่ 13 ข้ันตอนการดาเนินธุรกจิ ขาย
การจัดการเดิม ส่งเสริมกำรผลิต การจัดการแนวใหม่
- ไม่มีกำรส่งเสริม สำรวจควำมตอ้ งกำร - ส่งเสริมโดยเอำตลำดเป็น
- มีกำรสำรวจนอ้ ย ตวั นำ
- เป็นขอ้ มลู ในกำรจดั กำร
- ขอ้ มูลไม่ทนั สมยั รวบรวมขอ้ มูล - ขอ้ มลู เป็นปัจจุบนั
- เงินสด รวบรวมผลผลิต - เงินสด
- ปันส่วน
- จำกดั เฉพำะคูค่ ำ้ - ชำระเม่ือจำหน่ำยผลผลิต
- ไมม่ ีกำรประเมิน - ชำระในรูปแบบอ่ืน
จำหน่ำย / แปรรูป - ขยำยเครือข่ำยโดยใช้
เทคโนโลยี
ประเมินควำมพึงพอใจ - ประเมินเพอ่ื พฒั นำ
ปัจจัยความสาเร็จของธุรกจิ ขาย
1. บุคลำกรสหกรณ์ตอ้ งใหค้ วำมสำคญั กบั ธุรกิจขำย โดยกำรมีส่วนร่วมในทุกข้นั ตอนของ
ธุรกิจตำมบทบำทหนำ้ ท่ี ควำมร่วมมือเป็นปัจจยั พ้ืนฐำนของควำมสำเร็จของสหกรณ์ สหกรณ์ใดไดร้ ับควำม
ร่วมมือจำกบุคลำกรย่อมประสบควำมสำเร็จ ในทิศทำงตรงกนั ขำ้ มสหกรณ์ท่ีไม่ได้รับควำมร่วมมือย่อม
ลม้ เหลว และฐำนควำมร่วมมือที่สำคญั คือสมำชิกสหกรณ์
2. เช่ือมโยงธุรกิจกบั ภำคเอกชนและระหวำ่ งสหกรณ์อ่ืน ๆ เป็ นกำรแปรเปลี่ยนจำกคู่แข่ง
เป็นคูค่ ำ้ จำกกำรแขง่ ขนั เป็นควำมร่วมมือ จำกศตั รูเป็นมิตรภำพ จำกภำระเป็นพลงั
80
3. มีบริกำรท่ีดีให้กบั สมำชิก ปัจจยั น้ีมีควำมสำคญั ในทุกธุรกิจที่มีควำมเกี่ยวขอ้ งกบั คน
เน่ืองจำกคนมีกำรยดึ ตวั ตน กำรไดร้ ับบริกำรท่ีดีเป็ นกำรทำให้มีคุณค่ำ แต่ในกรณีท่ีทำใหต้ นไม่มีคุณค่ำยอ่ ม
ไมต่ อ้ งกำรใชบ้ ริกำร
4. ผลผลิตตอ้ งมีคุณภำพ ปัจจยั น้ีควรมีกำรสร้ำงระบบตรวจสอบยอ้ นกลบั ไดว้ ำ่ ผลผลิตใด
มำจำกแหล่งใดเพื่อกำรรับประกนั ในกรณีคุณภำพดีสำมำรถใชเ้ ป็ นขอ้ มูลในกำรเพิ่มยอดกำรร่วมธุรกิจ ใน
กรณีคุณภำพไม่ดีสำมำรถร่วมพฒั นำแกไ้ ขปัญหำกำรผลิตได้ ระบบน้ีประสบควำมสำเร็จในกำรดำเนินงำน
ของสหกรณ์ในประเทศญ่ีป่ ุน และในปัจจุบนั หำ้ งสรรพสินคำ้ ในประเทศไทยกำลงั ใหค้ วำมสำคญั
5. สอดคลอ้ งกบั สถำนกำรณ์ปัจจุบนั เป็ นกำรยดึ ตลำดเป็ นหลกั ในกำรผลิต สถำนกำรณ์
ปัจจุบนั ตอ้ งกำรสินคำ้ ท่ีปลอดภยั จำกสำรเคมี เป็นสินคำ้ ท่ีไมท่ ำลำยสิ่งแวดลอ้ ม เป็ นมิตรกบั ธรรมชำติ ใชภ้ ูมิ
ปัญญำทอ้ งถ่ิน สินคำ้ บำงชนิดเม่ือทำดว้ ยมือจะมีรำคำสูง
6. วิเครำะห์คู่แข่งอ่ืน ๆ ที่ดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกนั โดยหลกั ของกำรผลิตจะยดึ 3 ประกำร
คือ เป็ นผลิตภัณฑ์แรกย่อมสร้างความสนใจของลูกค้า หากเป็ นผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันต้องมีความแปลก
แตกต่างจากเดมิ หากเหมือนกนั ต้องดีกว่าหรือดีทสี่ ุดในบรรดาผลติ ภัณฑ์เดยี วกนั
7. มีกำรส่งเสริมกำรผลิต อนั เป็นกิจกำรที่เดิมสหกรณ์ไมม่ ีจึงตอ้ งสร้ำงข้ึนใหม่
เทคนิคการดาเนินธุรกจิ ขาย
1. สหกรณ์ต้องสร้างคุณค่าให้เกดิ ขนึ้ ตรงกบั ความต้องการของสมาชิก
1.1 สมำชิกตอ้ งไดร้ ับควำมสะดวกเมื่อร่วมธุรกิจ เช่น สหกรณ์เขำ้ ไปรับซ้ือผลิตผลจำก
สมำชิกถึงบำ้ น
1.2 สร้ำงคุณภำพชีวิตของสมำชิกให้ดีข้ึน เม่ือขำยสินคำ้ ใหก้ บั สหกรณ์แลว้ สมำชิกมี
สภำพทำงสังคมดี เพรำะไมถ่ ูกเอำรัดเอำเปรียบ สภำพทำงเศรษฐกิจดีเพรำะมีรำยไดเ้ พิ่มข้ึน
1.3 บริกำรใหส้ มำชิกมีควำมสุข เช่น ทกั ทำยอยำ่ งเป็นกนั เอง หรือช่วงเวลำท่ีสมำชิกรอ
ขำยผลผลิตกอ็ ำจมีกิจกรรมบนั เทิง เช่น ดูหนงั ฟังเพลง เล่นเกม เป็นตน้
2. สร้างความภกั ดีให้เกดิ กบั สมาชิก
2.1 ตอ้ งใชห้ ลกั ช่วยเหลือเก้ือกลู กนั ตอ้ งมีควำมผกู พนั กนั ไม่ตดั ขำดกนั ในระหวำ่ งกำร
ทิง้ ช่วงเวลำของธุรกิจ
2.2 เพมิ่ ผลประโยชนใ์ หส้ มำชิกอยำ่ งตอ่ เน่ือง เช่น เงินเฉลี่ยคืน กำรยกยอ่ งทำงสังคม
2.3 ตอบแทนพิเศษให้สมำชิกเป็ นคร้ังครำว เช่น สมำชิกนำผลผลิตมำขำยในช่วง
เทศกำลปี ใหม่สหกรณ์มีของขวญั มอบให้
2.4 มีกำรใชเ้ ทคโนโลยกี ำรสื่อสำร เช่น ใชโ้ ทรศพั ทม์ ือถือติดต่อเม่ือสมำชิกตอ้ งกำร
ขำยผลผลิต หรือสหกรณ์ลง Web Site ผลผลิตที่สหกรณ์รวบรวมจำกสมำชิกใหต้ ลำดภำยนอกพิจำรณำ
เป็ นตน้
81
3. การเช่ือมโยงเครือข่าย
จำกกำรเปิ ดตลำดกำรคำ้ เสรี สหกรณ์ควรมีกำรเชื่อมโยงระหวำ่ งสหกรณ์ผบู้ ริโภค
ธุรกิจภำคเอกชน เพอ่ื เพิ่มช่องทำงกำรจำหน่ำยสินคำ้ หรือกำรรับซ้ือผลผลิตจะขยำยไปถึงผทู้ ่ีไม่เป็ นสมำชิก
สหกรณ์ถำ้ มีควำมตอ้ งกำรขำยสหกรณ์ก็สำมำรถรับซ้ือได้ เพรำะในปัจจุบนั ตลำดของสหกรณ์ไม่ปิ ดก้นั แต่
สมำชิกเพียงอยำ่ งเดียว
4. เช่ือมโยงกบั ธุรกจิ สินเชื่อ
เช่น รับชำระหน้ีเป็นผลผลิตจำกสมำชิกแทนเงินสด ทำให้สมำชิกอำจเลือกวธิ ีกำร
น้ี แลว้ จะทำใหป้ ระสบผลสำเร็จท้งั สองธุรกิจ
5. รวมรวมผลผลติ โดยมีเงอื่ นไขน้อย
จุดออ่ นของสหกรณ์คือระเบียบ กติกำ ข้นั ตอนในกำรดำเนินกำรท่ีมีมำกกวำ่ เอกชน
หำกสหกรณ์มีเง่ือนไขมำกจะทำใหส้ มำชิกเปลี่ยนควำมคิดไปทำธุรกิจกบั เอกชน
6. มีการประกนั ราคาให้กบั สมาชิก
โดยรำคำท่ีสหกรณ์รับซ้ือจะตอ้ งไมต่ ่ำกวำ่ ตลำด แต่ไม่ทำใหส้ หกรณ์ประสบปัญหำ
ในกำรจำหน่ำย เพื่อสร้ำงควำมมนั่ ใจ ควำมน่ำเชื่อถือใหก้ บั สมำชิก สร้ำงระบบตลำดสินคำ้ เกษตรในอนำคต
ของสหกรณ์
7. ส่งเสริมกลุ่มผ้ผู ลติ ในสหกรณ์
ทำใหส้ หกรณ์มีผลผลิตอย่ำงแน่นอน ธุรกิจสำมำรถดำเนินไดอ้ ย่ำงต่อเนื่อง เช่น
ส่งเสริมกำรปลูกผกั ปลอดภยั เพรำะปัจจุบนั คนเริ่มให้ควำมสำคญั เร่ืองสุขภำพกนั มำกข้ึน หรือกำรผลิตป๋ ุย
ชีวภำพ เป็นตน้
8. คณะกรรมการ ผ้นู ากล่มุ หรือแม้แต่ฝ่ ายจัดการต้องร่วมกจิ กรรมกบั สหกรณ์
เพ่ือสร้ำงควำมเชื่อถือ ควำมมน่ั ใจให้กบั สมำชิก ตำมหลกั กำรบริหำรที่ผนู้ ำเป็ น
ตวั อยำ่ ง
2.3 ธุรกจิ สินเช่ือ
หมำยถึง กำรให้ทรัพยส์ ินส่ิงของหรือบริกำรท่ีเป็ นประโยชน์ตรงกบั ควำมตอ้ งกำรของ
สมำชิก โดยมีเง่ือนไขเม่ือถึงกำหนดเวลำก็ต้องนำมำส่งคืนพร้อมผลตอบแทน เช่น ดอกเบ้ีย หรือ
ผลตอบแทนอ่ืน ๆ ตำมขอ้ ตกลงร่วมกนั ดว้ ยควำมเช่ือถือกนั เป็ นธุรกิจด้งั เดิมของสหกรณ์ที่มีพ้ืนฐำนมำจำก
กำรอยรู่ ่วมกนั ของมนุษยท์ ี่ตอ้ งมีควำมเช่ือถือไวว้ ำงใจกนั
วตั ถุประสงค์ของธุรกจิ สินเชื่อ
1. เพ่ือแกป้ ัญหำควำมเดือดร้อนของสมำชิกในเรื่องกำรขำดแคลนเงินทุนในกำรประกอบ
อำชีพ ควำมเป็นอยู่ หรือควำมเดือดร้อนอ่ืน ๆ ให้สมำชิกมีควำมเป็ นอยดู่ ีข้ึน จำกกำรใชป้ ระโยชน์ไม่วำ่ จะ
เป็นเงินทุนหรือสิ่งของต่ำง ๆ ทดแทนกำรขำดแคลน
82
2. เพื่อพฒั นำอำชีพ ควำมเป็ นอยู่ หรือลงทุนดำ้ นอื่น ๆ ของสมำชิก หรือครอบครัว เช่น
ลงทุนซ้ือท่ีดินประกอบอำชีพ สร้ำงบำ้ นอยอู่ ำศยั โดยใชป้ ระโยชนจ์ ำกเงินทุนหรือสิ่งของต่ำง ๆ พฒั นำให้มี
ข้ึน
3. เพือ่ รักษำสภำพควำมมนั่ คงในอำชีพ ในควำมเป็นอยขู่ องสมำชิกและครอบครัว เช่น
กำรรับจำนำผลผลิต กำรศึกษำบุตร หลำน โดยใช้ประโยชน์จำกเงินทุนหรือสิ่งของต่ำง ๆ เพ่ือทำให้เกิด
ควำมมน่ั คงยง่ั ยนื
สภาพเดมิ
ธุรกิจสินเช่ือ เป็นธุรกิจท่ีสหกรณ์ภำคกำรเกษตรและสหกรณ์นอกภำคกำรเกษตรส่วนใหญ่
ดำเนินงำน โดยมีควำมเป็ นมำต้งั แต่เริ่มจดั ต้งั สหกรณ์ในประเทศไทยที่เป็ นสหกรณ์หำทุน นำเงินทุนมำให้
สมำชิกกูไ้ ปประกอบอำชีพกำรเกษตร ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2459 เม่ือกำรจดั ต้งั สหกรณ์ขยำยไปทว่ั ประเทศ มีกำร
นำธุรกิจสินเชื่อไปดำเนินงำนในสหกรณ์ต่ำง ๆ ดว้ ย ธุรกิจสินเช่ือจึงเป็ นเสมือนธุรกิจท่ีเกิดข้ึนมำพร้อมกบั
สหกรณ์ มีกำรจูงใจบุคคลที่จะเป็ นสมำชิกดว้ ยจำนวนเงินที่จะให้กู้ กำรเป็ นสมำชิกสหกรณ์ในอดีตจึง
หมำยถึงกำรตอ้ งกำรกเู้ งินจำกสหกรณ์นนั่ เอง ตอ่ มำธุรกิจสินเช่ือมีบทบำทสำคญั ในสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่ต้งั
ข้ึนสำหรับผมู้ ีรำยไดป้ ระจำและในสหกรณ์เครดิตยเู นี่ยนท่ีต้งั ข้ึนในชุมชนต่ำง ๆ
ธุรกิจสินเช่ือดำเนินงำนเชิงเด่ียวในระยะแรก ๆ กล่ำวคือ สหกรณ์ปล่อยให้สมำชิกกูเ้ งิน
และรอรับชำระคืน ตอ่ มำมีกำรพฒั นำไปเช่ือมโยงกบั ธุรกิจอื่น ๆ เช่น ธุรกิจซ้ือ ธุรกิจขำย โดยเชื่อมโยงกนั
เฉพำะตน้ ทำงและปลำยทำง คือ เชื่อมโยงเมื่อจำ่ ยเงินกแู้ ละเมื่อชำระคืน
ธุรกิจสินเช่ือแนวใหม่ถูกพฒั นำโดยสถำบนั ธุรกิจเอกชนที่ยึดหลกั กำรบริกำรลูกคำ้ ท่ีเน้น
ควำมสะดวก รวดเร็ว เรียบง่ำย ไมร่ ู้สึกดอ้ ยค่ำ มีกำรแขง่ ขนั กนั สูงเน่ืองจำกมีเจำ้ ของธุรกิจน้ีจำนวนมำกต้งั แต่
ในหมู่บำ้ นท่ีมีนำยทุนประจำ มีกองทุนหมู่บำ้ น จนถึงระดบั ประเทศท่ีมีธนำคำร สหกรณ์ สถำบนั กำรเงิน
ธุรกิจสินเชื่อแนวใหม่เป็ นกำรผกู โยงเขำ้ กบั หลำย ๆ กิจกำรจนแยกกนั ไม่ออก เช่นสินเชื่อผำ่ นมือถือ สินเช่ือ
ผำ่ นห้ำงสรรพสินคำ้ สินเช่ือกบั ระบบสำธำรณูปโภค สินเช่ือกบั ระบบกำรศึกษำ ระบบกำรเดินทำง ระบบ
ประกนั ภยั ฯลฯ
ข้นั ตอนการดาเนินธุรกจิ สินเชื่อ
1. สมาชิกมีความต้องการ
สำมำรถแยกควำมตอ้ งกำรสินเช่ือของสมำชิกออกได้ 2 ประเภท คือควำมตอ้ งกำร
แทก้ บั ควำมตอ้ งกำรเทียม ควำมตอ้ งกำรแทถ้ ูกแบ่งยอ่ ยออกไดเ้ ป็ น 2 ประเภท คือ ตอ้ งกำรท่ีสำมำรถใช้
บริกำรสินเช่ือไดโ้ ดยตรง หมำยถึง มีควำมตอ้ งกำรท่ีตรงกบั ขอ้ กำหนดให้รับสินเชื่อได้ และตอ้ งกำรท่ี
สำมำรถใชบ้ ริกำรไดท้ ำงออ้ ม หมำยถึง มีควำมตอ้ งกำรที่ไมต่ รงกบั ขอ้ กำหนดจึงตอ้ งปรับปรุงควำมตอ้ งกำร
ทำงเอกสำรจึงจะรับสินเชื่อได้ ท้งั น้ีควำมตอ้ งกำรแทน้ ้ีเป็ นควำมตอ้ งกำรสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ของ
ธุรกิจสินเชื่อ สำหรับควำมตอ้ งกำรเทียมเป็ นควำมตอ้ งกำรอ่ืน ๆ ที่ไม่ตรงกบั วตั ถุประสงคข์ องธุรกิจสินเชื่อ
แตพ่ ยำยำมนำควำมตอ้ งกำรน้นั มำใชบ้ ริกำรสินเช่ือ
83
ตวั อย่ำง สมำชิกผูช้ ำยตอ้ งกำรแต่งงำนเป็ นควำมตอ้ งกำรเพ่ือพฒั นำชีวิตควำมเป็ นอยู่
ตำมธรรมชำติของมนุษย์ หำกสหกรณ์เปิ ดโอกำสใหก้ ไู้ ดต้ ำมระเบียบตำมควำมตอ้ งกำรกเู้ งินแต่งงำนจะเป็ น
ควำมต้องกำรแท้โดยตรง แต่หำกสหกรณ์ไม่ได้กำหนดกำรกู้เงินเร่ืองน้ีไว้ สมำชิกจะกู้ได้ต้องระบุ
วตั ถุประสงคว์ ำ่ ลงทุนทำนำ ควำมตอ้ งกำรน้ีเป็ นควำมตอ้ งกำรแทโ้ ดยออ้ ม เนื่องจำกไดแ้ รงงำนภรรยำมำทำ
นำเพ่ิม แตห่ ำกสมำชิกมีควำมตอ้ งกำรกเู้ งินไปลงทุนเล่นกำรพนนั อนั ไม่ใช่แกป้ ัญหำควำมเดือดร้อน ไม่ใช่
พฒั นำ ไม่ใช่รักษำอำชีพควำมเป็นอยู่ ควำมตอ้ งกำรน้ีเป็ นควำมตอ้ งกำรเทียม หำกใชว้ ธิ ีกำรขอกูแ้ บบควำม
ตอ้ งกำรแทโ้ ดยออ้ ม
โดยสภำพทว่ั ไปแลว้ ควำมตอ้ งกำรของสมำชิกสหกรณ์จะมีอยตู่ ลอดเวลำตำมธรรมชำติ
ของมนุษย์ เพยี งแคข่ ้นั ตอนน้ีตอ้ งเป็นควำมตอ้ งกำรที่แกป้ ัญหำควำมเดือดร้อน ควำมตอ้ งกำรเพ่ือกำรพฒั นำ
ควำมตอ้ งกำรเพอื่ ปกป้ องรักษำอำชีพและควำมเป็นอยขู่ องสมำชิก
การจัดการธุรกิจสินเช่ือแนวใหม่ควรใช้ความต้องการแท้เป็ นฐานของการเร่ิมต้นธุรกิจ
ไม่ควรยึดความสามารถส่ งชาระคืนได้เป็ นหลักสาคัญในการพิจารณา แค่ควรยึดหลักส่งเสริมคนดีให้มี
โอกาสพฒั นา แก้ปัญหาการประกอบอาชีพและความเป็ นอยู่
2. ขอใช้บริการสินเชื่อ
จำกกำรดำเนินธุรกิจด้งั เดิมท่ีนำเงินกู้มำจูงใจให้เขำ้ เป็ นสมำชิกสหกรณ์พฒั นำเป็ น
ควำมเขม้ งวดในกำรใหบ้ ริกำร โดยตอ้ งมีหลกั ประกนั ต่อมำมีกำรผอ่ นคลำยควำมเขม้ งวดเพื่อให้สหกรณ์
สำมำรถทำธุรกิจน้ีไดใ้ นเชิงปริมำณ ซ่ึงมีปัญหำเรื่องหน้ีสินคำ้ งชำระติดตำมมำ ในรูปแบบกำรจดั กำรแนว
ใหม่เห็นวำ่ อนั ดบั แรกตอ้ งมีฐำนขอ้ มลู ควำมตอ้ งกำรแทเ้ ป็นหลกั หลงั จำกน้นั จึงพิจำรณำแผนกำรใชเ้ งินกูถ้ ึง
แนวโนม้ ควำมเป็นไปไดข้ องกำรลงทุนและควำมสำมำรถชำระคืน ต่อไปจึงเป็ นข้นั ตอนที่จะประสำนขอ้ มูล
ระหวำ่ งสมำชิกกบั สหกรณ์เขำ้ หำกนั โดยกำหนดลู่ทำงกำรขอใชบ้ ริกำรธุรกิจอยำ่ งชดั เจน สะดวก เรียบง่ำย
ด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่เม่ือสมำชิกแสดงควำมตอ้ งกำรจะสำมำรถแสดงผลได้ทนั ทีถึงวงเงินกู้
ระยะเวลำชำระคืน อตั รำดอกเบ้ีย และท่ีสำคญั ในแนวใหม่สำหรับธุรกิจน้ีคือ ควรมีแผนกำรประกอบอำชีพ
แผนกำรลงทุน ที่สำมำรถช้ีไดว้ ำ่ สหกรณ์จะเขำ้ ไปมีส่วนร่วมแนะนำไดอ้ ยำ่ งไร
ดำ้ นเอกสำรท่ีมกั เป็ นภำระของท้งั สหกรณ์และสมำชิก ควรจดั กำรแกไ้ ขดว้ ยเทคโนโลยีที่
ทนั สมยั สำมำรถใชบ้ ตั รประจำตวั เพียงฉบบั เดียวหรือกำรแสกนลำยมือคร้ังเดียว สำมำรถดำเนินกำรขอใช้
บริกำรธุรกิจสินเช่ือไดท้ นั ที
สำหรับสหกรณ์ภำคกำรเกษตรที่มีระบบกลุ่มย่อยตำมพ้ืนที่และยงั ไม่มีระบบเทคโนโลยี
ควรให้ควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในกำรติดต่อธุรกิจดำ้ นเอกสำรท่ีเก่ียวขอ้ ง คุณสมบตั ิผกู้ ู้ ข้นั ตอนกำรร่วมธุรกิจ
โดยสหกรณ์ควรสร้ำงระบบกลุ่มใหเ้ ขม้ แขง็ ควบคุมดูแลจดั กำรภำยในกลุ่มเองได้ คลำ้ ยกบั ชุมชนเขม้ แข็งที่
สำมำรถดูแลคนในชุมชนใหป้ ลอดยำเสพติดได้ สำหรับกลุ่มสหกรณ์ควรมีบทบำทคดั เลือกสมำชิกเขำ้ กลุ่ม
ให้ควำมเห็นชอบสมำชิกขอใชบ้ ริกำรธุรกิจสินเชื่อ ควบคุมกำรใชเ้ งินกตู้ ำมวตั ถุประสงค์ แนะนำส่งเสริม
กำรประกอบอำชีพ ติดตำมทวงถำมกำรชำระคืนเงินกสู้ มำชิกในกลุ่ม
84
3. อนุมตั ใิ ห้บริการสินเชื่อ
สหกรณ์จะยดึ หลกั ควำมสำมำรถชำระคืนไดเ้ ป็ นเกณฑ์สำคญั ในกำรอนุมตั ิ ซ่ึงเห็นได้
ชดั จำกสหกรณ์ออมทรัพยท์ ี่มีสมำชิกเป็นบุคคลท่ีมีเงินไดร้ ำยเดือนจะอนุมตั ิให้โดยไม่สนใจวตั ถุประสงคใ์ น
กำรกู้ ท้งั น้ีเน่ืองจำกสำมำรถหักชะรำหน้ีคืนไดจ้ ำกตน้ สังกดั เคยมีกำรกล่ำวว่ำเหตุผลที่มกั ใช้ขอกู้กนั คือ
กำรตอ่ เติมที่อยอู่ ำศยั ซ่ึงหำกเป็นจริงนบั ต้งั แต่ขอกมู้ ำถึงปัจจุบนั แต่ละคนคงมีบำ้ นยำวเป็นกิโลเมตร
ในแนวทำงใหม่ ควรยึดควำมสำมำรถสร้ำงสมำชิกให้พ่ึงตนเองไดเ้ ป็ นหลกั สำคญั ใน
กำรพิจำรณำ โดยเม่ือมีแผนกำรใชเ้ งิน แผนกำรลงทุน สหกรณ์เห็นวำ่ สำมำรถสร้ำงอำชีพ สร้ำงควำมมนั่ คง
ในชีวติ ใหส้ มำชิกได้ ประกอบกบั วเิ ครำะห์แลว้ มีแนวโนม้ ก่อใหเ้ กิดรำยไดท้ ี่สำมำรถนำมำชำระหน้ีคืนไดจ้ ึง
อนุมตั ิสินเชื่อ แนวทำงใหม่น้ีสอดคลอ้ งกบั ปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงที่แนะนำแนวทำงกำรดำเนินชีวติ ให้มี
ควำมพอประมำณ มีเหตุมีผล สร้ำงภูมิคุม้ กนั ตวั เองได้ กล่ำวคือ เม่ืออนุมตั ิสินเช่ือที่ขอใชบ้ ริกำรมำอยำ่ งมี
เหตุมีผล พอดีกบั ควำมสำมำรถของตนเองแลว้ ทำให้สมำชิกพ่ึงตนเองไดม้ ีอำชีพมนั่ คง ครอบครัวเป็ นสุข
เป็นภมู ิคุม้ กนั ในกำรดำเนินชีวติ ได้
หลักประกนั คนดี ดีกว่ำหลกั ประกนั อ่ืน เป็ นอีกหน่ึงข้อเสนอในกำรจดั กำรธุรกิจ
สินเชื่อแนวใหม่ เพ่ือเปลี่ยนแปลงจำกกำรใช้ท่ีดินเป็ นหลกั ประกนั ซ่ึงมีควำมยุ่งยำกในกำรจดทะเบียน
จำนองประกนั จดทะเบียนถอนจำนองและกำรฟ้ องร้อง ซ่ึงถึงแมจ้ ะหำตวั ช้ีวดั เป็ นวิทยำศำสตร์ยำกวำ่ ใคร
เป็ นคนดี แต่โดยระบบกำรรวมกลุ่มสำมำรถช้ีไดว้ ำ่ ใครเป็ นคนดี กำรส่งเสริมคนดีในกำรใชบ้ ริกำรสินเชื่อ
จะเป็นประโยชนท์ ้งั กำรใชเ้ งินอยำ่ งเป็นประโยชน์ กำรส่งเสริมคนดีใหเ้ ป็นตวั อยำ่ ง และสำมำรถลดข้นั ตอน
กำรทำงำนได้มำก โดยลดเร่ืองกำรหำหลกั ประกนั ลดเร่ืองกำรตรวจสอบกำรใชเ้ งิน ลดเร่ืองกำรเร่งรัด
หน้ีสิน
โดยทว่ั ไปหลกั เกณฑท์ ี่ควรใชเ้ ป็ นองค์ประกอบในกำรอนุมตั ิสินเชื่อคือ เป็ นคนดี กำร
ใชเ้ งินดีต่ออำชีพและชีวติ ไม่มีปัญหำเร่ืองกำรชำระคืน อีกประกำรที่สำคญั คือ ควำมสะดวกรวดเร็วในกำร
อนุมตั ิ เน่ืองจำกปัจจุบนั มีเทคโนโลยใี นกำรทำงำน สหกรณ์จึงนำมำใช้ใหเ้ ป็นประโยชน์
4. การใช้ประโยชน์
เม่ือสหกรณ์อนุมตั ิให้สมำชิกใช้บริกำรสินเช่ือได้ ระบบกำรรับสินเช่ือควรสะดวก
ปลอดภยั ทนั ใช้ ทนั ควำมตอ้ งกำร โดยควรเปล่ียนจำกกำรรับเงินสดเป็ นวสั ดุที่ตอ้ งกำร หรือรับเครดิตท่ี
สมำชิกสำมำรถนำไปใชใ้ นระบบเศรษฐกิจได้
กำรใช้ประโยชน์จำกธุรกิจสินเชื่อของสมำชิก คือ กำรใช้เงินสดหรือส่ิงของตำม
วตั ถุประสงคท์ ่ีระบุไวใ้ นคำขอกู้ ซ่ึงส่วนใหญแ่ บ่งเป็น 2 ดำ้ น คือ กำรประกอบอำชีพและควำมเป็ นอยู่ ซ่ึง
กำรจดั กำรแนวใหม่ไม่ควรให้ข้นั ตอนน้ีสร้ำงควำมห่ำงเหินกบั สหกรณ์ โดยควรมีกำรดูแลหลงั กำรขำย
บริกำร กล่ำวคือ ตอ้ งมีกำรแนะนำอำชีพในกรณีสมำชิกกเู้ งินเพือ่ กำรประกอบอำชีพ และแนะนำกำรดำเนิน
ชีวติ ในกรณีสมำชิกกเู้ งินเพื่อควำมเป็นอยู่
กำรใหบ้ ริกำรภำยหลงั จำกกำรรับสินเชื่อไปแลว้ อำจทำได้ 2 แนวทำงคือ แนวทำงแรก
เป็ นกำรให้บริกำรที่คิดค่ำใชจ้ ่ำยอนั มีลกั ษณะเป็ นธุรกิจบริกำร กบั แนวทำงที่สองเป็ นกำรให้บริกำรที่ไม่คิด
85
ค่ำใชจ้ ่ำย มีลกั ษณะเป็นกำรบริกำรชุมชน สหกรณ์จะใชแ้ นวทำงใดข้ึนอยกู่ บั ควำมพร้อม องคป์ ระกอบของ
แต่ละสหกรณ์ โดยสหกรณ์ขนำดใหญ่ท่ีมีควำมมนั่ คง มีฐำนะกำรเงินดีควรเลือกใช้แนวทำงท่ีสอง แต่
สหกรณ์ที่ยงั ไม่มีควำมพร้อมดำ้ นกำลงั คน ฐำนะกำรเงิน ควรเลือกใชแ้ นวทำงแรก ท้งั น้ีสำมำรถใชเ้ ทคนิค
ทำงกำรบริหำรโดยขอควำมร่วมมือกบั หน่วยงำนรำชกำรในกำรเป็ นผทู้ ำหนำ้ ที่บริกำรหลงั ขำยแทนสหกรณ์
เช่น กรณีสมำชิกกู้เงินไปลงทุนเล้ียงปลำ สำมำรถประสำนงำนให้สำนักงำนประมงจงั หวดั ให้บริกำร
คำแนะนำ กรณีกูเ้ งินไปเล้ียงโคขุน สำมำรถประสำนงำนใหส้ ำนกั งำนปศุสัตวจ์ งั หวดั ใหบ้ ริกำรคำแนะนำ
เป็นตน้ หรือกรณีกเู้ งินทุนกำรศึกษำใหบ้ ุตร สำมำรถประสำนงำนสำนกั งำนจดั หำงำนดำ้ นขอ้ มูลแหล่งงำน
ให้
กำรมีควำมเกี่ยวขอ้ งผกู พนั กนั ในข้นั ตอนน้ีมีประโยชน์มำก ยง่ิ ในกรณีมีสภำพปัญหำ
ทำงกำรผลิต หรือปัญหำในกำรดำเนินชีวติ สหกรณ์จะไดร้ ับรู้ขอ้ มูลทนั ที จะไดพ้ จิ ำรณำทำแนวทำงแกไ้ ขไม่
ตอ้ งรอถึงสิ้นปี บญั ชี ซ่ึงเม่ือรับรู้ขอ้ มูลในขณะน้นั ไม่สำมำรถแกไ้ ขปัญหำตำ่ ง ๆ ได้
5. การชาระคนื
ข้นั ตอนสุดทำ้ ยของสมำชิกในกำรร่วมธุรกิจสินเชื่อ เป็นข้นั ตอนท่ีสมำชิกท่ี
ดีจะหมดควำมกงั วลควำมเครียดจำกกำรเป็ นหน้ี โดยจะรีบชำระคืนทนั ที แตกต่ำงจำกสมำชิกท่ีขำดควำม
รับผดิ ชอบที่เป็นปัญหำของสหกรณ์ แต่หำกดำเนินกำรตำมข้นั ตอนต่ำง ๆ ที่ระบุไว้ ข้นั ตอนน้ีจะไม่มีปัญหำ
อุปสรรค
แนวทำงหน่ึงของกำรจดั กำรธุรกิจสินเชื่อท่ีตอนหลงั นิยมนำมำใชก้ นั คือ กำรจดั กำรเชิง
รวม หมำยถึง สร้ำงควำมเก่ียวเน่ืองผูกพนั กนั กบั ธุรกิจอื่น อนั สำมำรถนำมำใช้ในข้นั ตอนน้ีไดด้ ี โดย
สมำชิกสำมำรถชำระคืนได้ด้วยผลผลิตท่ีสำมำรถผลิตได้ ชำระคืนไดด้ ้วยกำรโอนเงินฝำกที่สะสมเป็ น
ประจำชำระหน้ีสิน ชำระคืนไดด้ ว้ ยแรงงำนท่ีช่วยงำนสหกรณ์ สำหรับวิธีกำรชำระคืนสหกรณ์ควรอำนวย
ควำมสะดวกใหส้ มำชิก สิ่งที่เลวร้ำยที่สุดของธุรกิจสินเช่ือคือ สมำชิกนำเงินมำชำระแต่ไม่สำมำรถชำระได้
ไม่วำ่ จะเหตุผลใด ๆ ก็ตำม อีกเร่ืองท่ีนำเสนอคือ สมำชิกของสหกรณ์ใดนำเงินมำชำระพร้อมกบั กำรเตรียม
ดอกเบ้ียอยำ่ งพอดีเพรำะสำมำรถคิดดอกเบ้ียเงินกูไ้ ด้ คือควำมยอดเย่ียมของสหกรณ์น้นั เพรำะเป็ นกำรให้
ควำมรู้สมำชิกไปดว้ ยหรือไม่ก็เป็ นเพรำะสหกรณ์มีสมำชิกที่มีควำมรู้ กำรท่ีสหกรณ์มีสมำชิกที่มีควำมรู้
ควำมเขำ้ ใจเรื่องสหกรณ์ยอ่ มทำใหส้ หกรณ์ประสบควำมสำเร็จไดด้ ีกวำ่ สหกรณ์มีสมำชิกท่ีขำดควำมรู้ ควำม
เขำ้ ใจ ตรงกบั คำกล่ำววำ่ สหกรณ์ของคนยำกจนแต่มีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ ยอ่ มดีกวำ่ สหกรณ์ของคนรวยแต่
ขำดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ จำกประสบกำรณ์ในข้นั ตอนน้ีกรณีสหกรณ์ท่ีหักชำระจำกเงินไดร้ ำยเดือนของ
สมำชิกที่หน่วยงำนตน้ สังกดั สมำชิกมกั ไม่ค่อยสนใจตรวจสอบจนนำสู่ปัญหำทุจริตในบำงสหกรณ์ จึงควรมี
ระบบกำรตรวจสอบภำยในที่เขม้ งวด จริงจงั ไดผ้ ล
ปัญหำใหญ่สุดของธุรกิจสินเช่ือคือ กำรมีหน้ีคำ้ ง ซ่ึงขอ้ เสนอกำรจดั กำรแนวใหม่ของ
ธุรกิจน้ี คือ กำรสร้ำงระบบ GCP คือ Good Credit Practice หรือระบบกำรปฏิบตั ิที่ดีในกำรใหส้ ินเชื่อ
อนั หมำยถึง กำรปฏิบตั ิงำนในแต่ละข้นั ตอนของให้สินเช่ืออยำ่ งดี ยอ่ มไดร้ ับผลออกมำดี รำยละเอียดตำม
ผงั ข้นั ตอนน้ี
86
แผนภาพที่ 14 ข้นั ตอนการดาเนินธุรกจิ สินเช่ือกรณกี ู้รอบเดยี ว
การจัดการเดมิ สมำชิกตอ้ งกำรสินเชื่อ การจัดการแนวใหม่
- ฝ่ ำยจดั กำรเร่ิมทำธุรกิจเลย - ใชเ้ ป็นขอ้ มลู ประกอบกำร
แลว้ หำสมำชิกเขำ้ ร่วม ดำเนินธุรกิจ
- ใชเ้ อกสำร ทำเรื่องขอใชบ้ ริกำร - จดั เก็บดว้ ยระบบคอมพวิ -
เตอร์มีโปรแกรมเฉพำะที่
สำมำรถใหส้ มำชิกไดท้ นั ที
- ใชเ้ วลำนำน ตอ้ งรอประชุม อนุมตั ิโดยคณะกรรมกำร - ตรวจสอบขอ้ มูลสมำชิก
- ยดึ หลกั ชำระคืนได้ แลว้ ตดั สินอยำ่ งรวดเร็ว
- ยดึ หลกั ช่วยคนดี
- รับเป็ นเงินสด สมำชิกรับสินเช่ือและใชป้ ระโยชน์ - รับเงินสด, บตั รเครดิต ,
โอนเขำ้ บญั ชี ,รับเป็ นวสั ดุ
- แบบธนวตั ิ
- ไมม่ ีบริกำร บริกำรหลงั กำรขำย - จดั บริกำรแนะนำท้งั อำชีพ
และควำมเป็ นอยู่
- ดว้ ยเงินสด ชาระคืน - โอนเงินเขำ้ บญั ชี
- ชำระดว้ ยผลผลิต
- ชำระดว้ ยอ่ืน ๆ
87
แผนภาพท่ี 15 ข้ันตอนการดาเนินธุรกจิ สินเช่ือกรณกี ู้หลายรอบ
สมำชิกตอ้ งกำรสินเช่ือ
ชำระคืน ทำเรื่องขอใชบ้ ริกำร
สมำชิกรับสินเช่ือ อนุมตั ิโดยคณะกรรมกำร
ปัจจัยความสาเร็จของธุรกจิ สินเช่ือ
1. บุคลำกรมีส่วนร่วมกบั ธุรกิจซ่ึงเป็ นปัจจยั สำคญั ของควำมสำเร็จในทุกธุรกิจ เป็ นปัจจยั
ควำมสำเร็จของสหกรณ์ รวมถึงเป็นปัจจยั ควำมสำเร็จของทุกองคก์ ร
2. เชื่อมโยงกบั สหกรณ์อื่น เช่ือมโยงกบั เอกชนในเรื่องเงินทุน เช่ือมโยงกบั ธุรกิจอ่ืนของ
สหกรณ์ กำรจดั กำรธุรกิจแบบเชื่อมโยงเป็นกำรสร้ำงควำมมนั่ คงดว้ ยกำรเพิม่ ฐำนรำกของธุรกิจ
3. บริกำรที่ดีใหก้ บั สมำชิก ต้งั แต่ข้นั ตอนแรกจนถึงข้นั ตอนสุดทำ้ ยคือกำรบริกำรหลงั จำก
ร่วมธุรกิจ อนั เป็นควำมผกู พนั ท่ีไมร่ ้ำงรำ
4. ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั สถำนกำรณ์ปัจจุบนั เช่น เร่ืองอตั รำดอกเบ้ีย ภำวกำรณ์ลงทุน ตอ้ งมี
กำรตรวจสอบขอ้ มูลทำงเศรษฐกิจทำงกำรเงินในประเทศและต่ำงประเทศเน่ืองจำกปัจจุบนั กำรเคลื่อนยำ้ ย
เงินทุนเป็นไปอยำ่ งรวดเร็วและมีควำมออ่ นไหว
5. วิเครำะห์คู่แข่ง ปัจจุบนั คู่แข่งธุรกิจสินเช่ือมีมำก แข่งขนั กนั ดว้ ยเทคนิควิธีกำรต่ำง ๆ
สหกรณ์ควรมีขอ้ มูลท่ีนำมำประกอบกำรวิเครำะห์ คือ ข้นั ตอนกำรดำเนินธุรกิจ อตั รำดอกเบ้ีย วงเงินกู้
เงื่อนไขกำรชำระคืน กำรลด แลก แจก แถมเพ่อื ประชำสมั พนั ธ์ ตอ้ งดำเนินธุรกิจดว้ ยหลกั กำรวำ่ เพ่อื ช่วย
สมาชิกให้มีความเป็ นอยู่ทีด่ ี ไม่ใช่เพ่ือหากาไรเข้าสหกรณ์ ซ่ึงเป็ นจุดแขง็ ของสหกรณ์ที่เป็ นภูมิคุม้ กนั ธุรกิจ
ใหพ้ ฒั นำอยำ่ งมนั่ คง
88
เทคนิคการดาเนินธุรกจิ สินเช่ือ
1. ต้องรับสมาชิกทด่ี ี
ดีในท่ีน้ีตอ้ งพิจำรณำจำกหลำย ๆ ดำ้ น เช่น ฐำนะกำรเงินของครอบครัวมีควำมมนั่ คง
หรือไม่ กำรประกอบอำชีพมีควำมมน่ั คงหรือไม่ มีคุณธรรมในกำรพ่ึงตนเองคือขยนั ประหยดั พฒั นำชีวติ
ไม่เสพติดอบำยมุข ซ่ึงหำกเร่ิมตน้ ที่คนดียอ่ มนำสู่กำรประสบควำมสำเร็จสูง
2. ต้องมีการทาความเข้าใจกบั สมาชิกก่อนจ่ายเงนิ กู้
เพื่อช้ีแจงการร่วมธุรกิจกับสหกรณ์ที่ไม่ใช่ในฐานะเจ้าหนี้กับลูกหนี้เหมือนกบั กำรทำ
ธุรกิจทวั่ ไป แต่เป็ นการช่วยเหลือกันเพ่ือสร้างอาชีพ สร้างความเป็ นอยู่โดยยืมเงินทุนของเพ่ือนสมำชิกใน
ระยะเวลำหน่ึง และในระหวำ่ งน้นั ตอ้ งมีควำมร่วมมือกนั ตลอดเวลำ รวมถึงกำรช้ีแจงสัญญำและเง่ือนไขกำร
ชำระหน้ีใหม้ ีควำมชดั เจน สมำชิกก็จะปฏิบตั ิตำมเง่ือนไขไดถ้ ูกตอ้ ง หำกสมำชิกที่ปฏิบตั ิตำมเง่ือนไขไม่ได้
ก็สำมำรถแจง้ ยกเลิกกำรกเู้ งินได้
3. เจ้าหน้าทสี่ หกรณ์ต้องเป็ นนักบริการ
ให้บริกำรทนั กบั ควำมตอ้ งกำรของสมำชิก เพรำะสภำพกำรณ์ในปัจจุบนั เปลี่ยนแปลง
ตลอดเวลำ สมำชิกมีกำรดำเนินชีวติ ท่ีสลบั ซบั ซ้อนมำกข้ึน สหกรณ์ตอ้ งปรับเปล่ียนวิธีกำรบริกำรใหท้ นั กบั
เหตุกำรณ์ปัจจุบนั และเป็นนกั บริกำรที่ดี
4. กลุ่มย่อยของสหกรณ์ ต้องมีระบบทดี่ ี ควบคุม ดูแลภายในกล่มุ ได้ดี
ผูน้ ำกลุ่มต้องเป็ นหลักคือ สำมำรถควบคุมสมำชิกได้ ตอ้ งรู้ว่ำสมำชิกแต่ละคนเป็ น
อย่ำงไร ใช้บริกำรสินเชื่อตำมวตั ถุประสงค์หรือไม่ ตอ้ งกำรรับควำมช่วยเหลือด้ำนใด มีกำลงั ชำระคืน
หรือไม่ เป็นผกู้ ระตุน้ สมำชิกเมื่อถึงกำหนดชำระคืน สหกรณ์ใดที่ไมม่ ีระบบกลุ่มยอ่ ยควรสร้ำงระบบน้ีข้ึน
5. มีการส่งเสริมอาชีพให้กบั สมาชิก
เพื่อส่งเสริมให้สมำชิกมีรำยไดเ้ พิ่มจำกอำชีพเดิมหรืออำชีพเสริม เมื่อสมำชิกมีรำยได้
เพ่มิ ข้ึน ธุรกิจสินเชื่อของสหกรณ์ก็สำมำรถดำเนินกำรไปไดอ้ ยำ่ งตอ่ เนื่อง อำชีพที่ควรส่งเสริม เช่น ปลูกผกั
ปลอดสำรพิษ ผลิตภณั ฑข์ องใชใ้ นครัวเรือนที่ปลอดสำรเคมี เพอ่ื ตรงกบั ควำมตอ้ งกำรของตลำดในปัจจุบนั
6. มีการเช่ือมโยงระหว่างธุรกจิ สินเช่ือกบั ธุรกจิ ขาย
เช่น สมำชิกกูเ้ งินไปแต่ไม่มีเงินชำระหน้ี ก็ใชว้ ิธีกำรนำผลผลิตมำให้กบั สหกรณ์ เป็ น
วธิ ีกำรแกไ้ ขปัญหำหน้ีคำ้ งชำระไดว้ ิธีหน่ึง หรือเช่ือมโยงกนั โดยวิธีอื่นตำมแต่สมำชิกตอ้ งกำรและมีควำม
พร้อม
7. ผ้นู าต้องเป็ นตวั อย่างทดี่ ี
ไม่ว่ำจะเป็ นคณะกรรมกำร ผูน้ ำกลุ่ม เม่ือร่วมธุรกิจสินเช่ือตอ้ งเป็ นตวั อย่ำงให้กบั
สมำชิก ชำระตรงกำหนดเวลำ ปฏิบตั ิตำมเง่ือนไขของสหกรณ์ สำหรับสังคมไทยที่ยดึ ถือตวั บุคคลถือวำ่ เป็ น
ขอ้ กำหนดที่สำคญั ท่ีผนู้ ำตอ้ งปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยำ่ งท่ีดี
89
8. เจ้าหน้าทตี่ ้องทุ่มเทการทางานด้วยความซื่อสัตย์
หลำยสหกรณ์ท่ีเจำ้ หนำ้ ท่ีใชธ้ ุรกิจสินเช่ือเป็นช่องทำงกำรทุจริต เช่น ปลอมช่ือสมำชิกกู้
เงินจำกสหกรณ์ไป หรือเม่ือสมำชิกมำชำระเงินก็ไม่นำเขำ้ สหกรณ์ อำจใช้วิธีแกไ้ ขดว้ ยกำรตรวจสอบหน้ี
คงเหลือ จำกสมำชิกวำ่ ถูกตอ้ งตรงกบั ทะเบียนคุมยอดลูกหน้ีหรือไม่ ส่ิงสำคญั เม่ือกำหนดใหส้ มำชิกสหกรณ์
เป็นคนดี ธุรกิจสินเช่ือจดั บริกำรสำหรับคนดีเจำ้ หนำ้ ที่สหกรณ์จึงตอ้ งเป็ นคนดีเท่ำน้นั ควรกาจัดคนไม่ดีออก
จากระบบสหกรณ์และควรให้คนดีขนึ้ เป็ นผู้ปกครองคนในสหกรณ์
9. การจัดช้ันสมาชิก
โดยกำรพิจำรณำจำกประวตั ิกำรมีส่วนร่วมในสหกรณ์ของสมำชิก เช่นกำรเข้ำร่วม
ประชุม กำรถือหุ้น กำรฝำกเงิน กำรทำธุรกิจ โดยจดั ระดบั กำรมีส่วนร่วมเป็ นสำมระดบั แล้วนำมำจดั ช้นั
สมำชิกเป็ นช้นั หน่ึง ช้นั สอง ช้นั สำม หรือช้นั ดี ช้นั ปำนกลำง ช้นั ควรปรับปรุง ใครเป็ นสมำชิกช้นั หน่ึง
ช้นั ดี ก็ไดว้ งเงินกมู้ ำก เสียดอกเบ้ียต่ำ ระยะเวลำชำระคืนนำน โดยมีกำรประเมินกำรจดั ช้นั สมำชิกทุกปี เพื่อ
ปรับเปลี่ยนช้นั
10. การต้ังกองทนุ ชาระหนี้
เป็นกำรรวมเงินของสมำชิกต้งั เป็นกองทุนไว้ เม่ือถึงกำหนดเวลำชำระ สมำชิกคนใดมี
เงินไม่พอก็สำมำรถยมื เงินจำกกองทุน นำไปชำระหน้ีกบั สหกรณ์ เม่ือย่ืนกูใ้ หม่ไดร้ ับเงินกกู้ ็นำมำชำระคืน
กองทุนหมุนเวยี นกนั ไป ดีกวำ่ กำรใชว้ ธิ ีกเู้ งินนอกระบบตอ้ งเสียดอกเบ้ียที่สูง สมำชิกก็จะเดือดร้อนมำกข้ึน
กำรจดั ต้งั กองทุนชำระหน้ีเป็ นกำรแก้ไขปัญหำในยำมจำเป็ นเช่นเกิดอุทกภยั เป็ นตน้ ท้งั น้ีเพื่อไม่ให้เสีย
ประวตั ิของคนดี
11. การตอบแทนในการทวงหนี้
เพ่ือใหโ้ อกำสคนท่ีมีควำมสำมำรถในกำรทวงหน้ีไดร้ ับค่ำตอบแทน เช่น ญำติ ผูน้ ำ
ชุมชน ผูใ้ หญ่ท่ีลูกหน้ีให้ควำมเคำรพและเกรงใจ โดยกำหนดเป็ นมติที่ประชุมคณะกรรมกำรว่ำหำกใคร
สำมำรถทวงหน้ีท่ีคำ้ งชำระ 10 – 20 ปี ตำมรำยช่ือที่กำหนด จะไดร้ ับค่ำตอบแทนร้อยละเท่ำไร หรือ
เง่ือนไขอ่ืน ๆ ที่คณะกรรมกำรกำหนด โดยวตั ถุประสงค์ก็เพ่ือแก้ไขปัญหำหน้ีท่ีคำ้ งชำระนำน ๆ จนจะ
กลำยเป็ นหน้ีสูญให้ได้รับชำระคืน นอกจำกได้รับชำระคืนแล้วทำให้สหกรณ์มีทุนหมุนเวียนให้สมำชิก
เพมิ่ ข้ึนอีกดว้ ย
12. การดาเนินคดีกบั คนดัง
เม่ือมีกำรทวงถำมถึงท่ีสุดแลว้ สหกรณ์จำเป็นตอ้ งดำเนินคดีกบั ผทู้ ี่ไม่มำชำระหน้ี โดย
อำจเริ่มท่ีคนมีช่ือเสียงในตำบล อำเภอ เพอ่ื ใหส้ มำชิกไดเ้ ห็นวำ่ สหกรณ์มีควำมจริงจงั จะไดไ้ ม่กลำ้ คำ้ งชำระ
นำน ๆ แต่บำงคร้ังสหกรณ์ก็ตอ้ งเลือกสมำชิกที่จะฟ้ องวำ่ ถำ้ ฟ้ องแลว้ ตอ้ งไดร้ ับชำระคืนแน่ ๆ เพ่ือป้ องกนั
กำรเสียเวลำ เสียท้งั เงินค่ำธรรมเนียม ค่ำทนำย ไม่คุม้ กบั ท่ีเส่ียงฟ้ องร้อง และที่สำคญั เมื่อฟ้ องร้องแล้ว
สหกรณ์ตอ้ งเด็ดขำด ไม่ใจออ่ น ประนีประนอม ไม่เช่นน้นั ก็จะส่งผลต่อหน้ีคำ้ งรำยอ่ืนที่อำจด้ือแพง่ ตำมมำ
90
13. การปล่อยเงนิ กู้รวดเร็ว
ปัจจุบันคนเริ่มดำเนินชีวิตภำยใต้กำรแข่งขนั ที่สูงข้ึน ประกอบอำชีพหลำยอย่ำง
สหกรณ์ควรใชเ้ วลำพิจำรณำเงินกูใ้ หส้ ้ันลง เช่น พิจำรณำจำกจำนวนหุ้น ประวตั ิ ฐำนะกำรเงิน ถำ้ ผำ่ นก็
อนุมตั ิเลยไม่ตอ้ งรอประชุมคณะกรรมกำรท้งั น้ีตอ้ งดำเนินกำรให้มีระเบียบรองรับ สหกรณ์ควรปล่อยเงินกู้
หลำยประเภท เช่น เงินกูฉ้ ุกเฉิน กูแ้ ลว้ ไดร้ ับเงินทนั เมื่อมีเหตุกำรณ์เร่งด่วน แต่ควรมีกำหนดวงเงินและ
ระยะเวลำคืนใหช้ ดั เจนรวดเร็วเหมือนตอนที่ขอกู้ เงินกูร้ ะยะส้ันควรมีกำรจ่ำยทุกสัปดำห์หรือสัปดำห์ละ 2
คร้ัง เงินกูร้ ะยะปำนกลำงควรปรับปรุงระบบค้ำประกนั ให้สำมำรถดำเนินกำรไดร้ วดเร็ว เพ่ือสำมำรถจ่ำย
เงินกู้ได้รวดเร็วข้ึน หรืออำจมีกำรเพิ่มหลักประกันอ่ืน ๆ เช่น ถ้ำจ่ำยเงินกู้ให้แม่ค้ำก็ใช้แผงค้ำเป็ น
หลกั ประกนั คลำ้ ยกบั กำรแปลงสินทรัพยเ์ ป็นทุน
14. ทยอยรับชาระ
บำงคร้ังกำรรับชำระหน้ีท้งั หมดสมำชิกบำงคนอำจไม่สำมำรถรวบรวมมำชำระได้ แต่
ถำ้ ใชว้ ธิ ีกำรทยอยชำระคร้ังละ 100, 200 หรือ 500 บำท ก็จะทำให้สำมำรถทยอยชำระไดง้ ่ำยข้ึน สหกรณ์
ตอ้ งใช้วิธีกำรสังเกตว่ำรำยได้ของสมำชิกมีช่วงไหนจะไดท้ ยอยเก็บช่วงน้ันได้ หรือให้ควำมสะดวกกบั
สมำชิกโดยกำรเดินเก็บตำมบำ้ น จะทำใหส้ มำชิกเต็มใจท่ีจะชำระหน้ี สหกรณ์ก็ลดควำมเสี่ยงหน้ีคำ้ งชำระ
ได้ ยกตวั อยำ่ งเช่นสมำชิกสหกรณ์ในภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือจะมีรำยไดพ้ ิเศษในช่วงเทศกำลสงกรำนต์
เนื่องจำกบุตรหลำนเดินทำงกลบั จำกกรุงเทพมหำนครเพ่ือฉลองวนั ปี ใหม่ไทยโดยจะนำเงินมำให้คุณพ่อคุณ
แม่
15. นาระบบเทคโนโลยมี าใช้
เพ่ือให้เกิดควำมสะดวกรวดเร็ว ถูกตอ้ ง เกิดประโยชน์กบั สมำชิกมำกข้ึน เช่น ใช้
คอมพิวเตอร์กรอกรำยละเอียดในกำรขอกูข้ องสมำชิก เก็บขอ้ มูลกำรกู้ กำรชำระเงิน ประวตั ิสมำชิก เป็ น
ตน้ สหกรณ์สำมำรถสร้ำงระบบเวบ็ ไซดเ์ ป็ นของตนเองเพื่ออำนวยควำมสะดวกใหส้ มำชิกตรวจสอบขอ้ มูล
ไดท้ ่ีบำ้ น
16. การยกหนีใ้ ห้
สำหรับเทคนิคน้ีสหกรณ์เครดิตยูเน่ียนได้สร้ำงวิธีกำรที่น่ำสนใจโดยสมำชิกที่เข้ำ
หลกั เกณฑเ์ มื่อเสียชีวติ จะไดร้ ับกำรยกหน้ีให้ โดยบำงกรณีสหกรณ์เพิ่มค่ำหุน้ คืนให้มำกกวำ่ ที่ถืออยู่ สำหรับ
สหกรณ์อื่นสำมำรถสร้ำงระเบียบข้ึนถือใช้กรณีสมำชิกท่ีดี แต่เสียชีวิตขณะมีหน้ีกบั สหกรณ์ สหกรณ์
ลดหยอ่ นหรือยกหน้ีให้ ท้งั น้ีตอ้ งศึกษำแนวทำงท่ีเหมำะสม
2.4 ธุรกจิ รับฝากเงนิ
หมำยถึง กำรที่สมำชิกนำเงินมำฝำกกบั สหกรณ์ สหกรณ์ทำหนำ้ ที่รับฝำกเงินของสมำชิก
ไว้ เมื่อสมำชิกตอ้ งกำรใชเ้ งินก็สำมำรถถอนเงินฝำกดงั กล่ำวได้ ระหวำ่ งที่ฝำกไวส้ มำชิกไดร้ ับผลตอบแทน
จำกสหกรณ์ในรูปดอกเบ้ียเงินฝำก ธุรกิจรับฝำกเงินน้ีบำงคร้ังก็รวมอยกู่ บั ธุรกิจสินเช่ือ เนื่องจำกตอ้ งอำศยั
91
ควำมเช่ือใจกนั จึงจะนำเงินฝำกไว้ แต่ในกำรนำเสนอคร้ังน้ีขอแยกเป็ นธุรกิจต่ำงหำกเพื่อลงในรำยละเอียด
เฉพำะ
วตั ถุประสงค์ของธุรกจิ รับฝากเงนิ
กำรจัดให้มีข้ึนของธุรกิจรับฝำกเงิน ควรได้รับควำมสำคญั เป็ นอันดับแรกของธุรกิจ
สหกรณ์ ท้งั น้ีเพรำะเป็ นกำรสนบั สนุนอุดมกำรณ์สหกรณ์ในกำรมุ่งให้สมำชิกพ่ึงพำตนเองได้ กำรพ่ึงพำ
ตนเองไดจ้ ะตอ้ งมีเงินออมเป็ นทุนในกำรประกอบอำชีพ เป็ นทุนในกำรดำเนินชีวิต ธุรกิจรับฝำกเงินจึงมี
วตั ถุประสงคค์ ือ
1. เพอื่ ส่งเสริมกำรออมของสมำชิก อนั เป็นกำรสร้ำงควำมมน่ั คงใหก้ บั ชีวิตควำมเป็ นอยใู่ น
อนำคต
2. เพื่อช่วยเหลือสมำชิกดว้ ยกนั อนั เป็ นกำรเอ้ืออำทรระหว่ำงกนั ในสถำนะคนท่ีมีฐำนะ
ดีกวำ่ ช่วยเหลือคนที่ฐำนะดอ้ ยกวำ่ คนแขง็ แรงช่วยเหลือคนอ่อนแอกวำ่
สภาพเดมิ
กำรรับฝำกเงินของสหกรณ์สภำพเดิมไมค่ อ่ ยไดร้ ับควำมนิยมจำกสมำชิก สังเกตไดจ้ ำกเวลำ
ตอ้ งกำรใช้เงินสมำชิกจะมำกูเ้ งินท่ีสหกรณ์ แต่เวลำมีเงินเหลือจะนำเงินไปฝำกธนำคำร ดว้ ยภำพท่ีเช่ือวำ่
ธนำคำรมีควำมมนั่ คงกวำ่ สหกรณ์ ประกอบกบั สหกรณ์เองยงั ไม่ส่งเสริมธุรกิจน้ีมำกนกั เน่ืองจำกมีปัญหำ
ควำมกงั วลใจเร่ืองกำรหมุนเวียนเงินเพ่ือสำรองจ่ำยคืน กรณีมีสมำชิกมำถอนเงิน แต่ต่อมำมีกำรรณรงค์
ระดมกำรออมเงินเพื่อส่งเสริมกำรประหยดั ตำมอุดมกำรณ์สหกรณ์ สหกรณ์ต่ำง ๆ จึงสนใจทำธุรกิจรับฝำก
เงินเพม่ิ ข้ึน บุคลำกรฝ่ ำยจดั กำรมีควำมรู้ดำ้ นกำรเงินเพิม่ ข้ึน มีเทคนิคกำรบริหำรเงินเพ่ิมข้ึน มีประสบกำรณ์
กบั วงจรหมุนเวียนกำรเงินของสหกรณ์เพ่ิมข้ึน ส่ิงต่ำง ๆ เป็ นเหตุที่ส่งผลต่อกำรขยำยกิจกำรรับฝำกเงินใน
ปัจจุบนั
เหตุกำรณ์สำคญั มำกต่อกำรขยำยตวั ของธุรกิจรับฝำกเงินของสหกรณ์เกิดข้ึนเมื่อปี พ.ศ.
2538 – 2540 ท่ีประเทศไทยประสบภำวะวกิ ฤติเศรษฐกิจ สถำบนั กำรเงินขนำดใหญ่ เช่น ธนำคำร กองทุน
กำรเงิน บรรษทั หลกั ทรัพย์ ประสบภำวะหน้ีไม่ก่อให้เกิดรำยไดจ้ นขำดเงินทุนหมุนเวยี น ตอ้ งปิ ดกิจกำร
อนั ส่งผลให้ลูกค้ำที่ฝำกเงินไม่สำมำรถถอนเงินฝำกได้จนถึงข้นั รัฐบำลตอ้ งเขำ้ รับประกันเงินฝำก เพื่อ
ยืดเวลำในกำรหำทำงแก้ปัญหำวิกฤติกำรณ์คร้ังน้ี ทำให้เงินฝำกจำนวนมำกไหลเข้ำสู่ระบบสหกรณ์
เน่ืองจำกในสภำวะน้นั สหกรณ์ยงั สำมำรถดำเนินงำนไดต้ ำมปกติไม่ไดร้ ับผลกระทบจำกภำวะวิกฤติ จำก
เหตุกำรณ์ดงั กล่ำวสถำบนั สหกรณ์ไดร้ ับควำมเช่ือมน่ั อยำ่ งสูงจำกประชำชน เกิดกำรขยำยตวั ในธุรกิจรับฝำก
เงินแบบเท่ำตวั ซ่ึงยงั ส่งผลทำงจิตวทิ ยำถึงปัจจุบนั
92
ข้ันตอนการดาเนินธุรกจิ รับฝากเงนิ
1. สมาชิกมีรายได้
ซ่ึงหลงั หกั ค่ำใชจ้ ่ำยในกำรประกอบอำชีพ ในกำรดำเนินชีวิตแลว้ ยงั คงเหลือ ดว้ ยกำร
ปฏิบตั ิตนตำมอุดมกำรณ์สหกรณ์ที่สมำชิกตอ้ งมีควำมขยนั หำรำยได้ และประหยดั รำยจำ่ ย
2. สมาชิกต้องการออมเงนิ ไว้กบั สหกรณ์
โดยมีควำมเช่ือมน่ั ในระบบและจำกกำรส่งเสริมทำงธุรกิจของสหกรณ์
3. สหกรณ์เปิ ดดาเนินธุรกจิ รับฝาก
โดยกำหนดระเบียบข้ึนถือใช้ ท่ีมีกำรกำหนดอตั รำดอกเบ้ียเงินฝำก ประเภทเงินฝำก
เง่ือนไขกำรฝำก – ถอน
4. สหกรณ์รับฝากเงนิ
ข้นั ตอนน้ีควรเปล่ียนแปลงจำกระบบบนั ทึกดว้ ยมือเป็ นใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในกำร
บนั ทึกขอ้ มูล กำรคำนวณดอกเบ้ีย กำรพิมพส์ มุดเงินฝำก และควรอำนวยควำมสะดวกเพ่ิมเติมจำกกำรถือ
เงินสดมำฝำกเป็นกำรรับฝำกเงินดว้ ยวธิ ีอื่น ๆ เพมิ่ เช่น กำรโอนเงินค่ำขำยผลผลิตเป็ นเงินฝำก กำรโอนเงิน
ระหวำ่ งบญั ชีธนำคำรฝำกกบั บญั ชีสหกรณ์
ข้นั ตอนน้ีหลกั กำรสำคญั คือ สมำชิกทุกคนควรมีเงินฝำกกบั สหกรณ์และสมำชิกควร
ฝำกอย่ำงสม่ำเสมอ กล่ำวไดว้ ่ำสหกรณ์ท่ีมีสมาชิกจานวนมากฝากเงินแม้จานวนเงินน้อย แต่ย่อมดีกว่า
สหกรณ์ทมี่ ีสมาชิกจานวนน้อยมาฝากเงินมาก ๆ เพรำะยงั คงยืนยนั หลกั กำรสหกรณ์ท่ีวำ่ ดว้ ยกำรมีส่วนร่วม
ทำงเศรษฐกิจของสมำชิก
5. สมาชิกถอนเงนิ
ข้นั ตอนกำรถอนเงินเน้นเร่ืองควำมสะดวก และถอนไดด้ งั ใจ ในสมยั ปัจจุบนั เป็ นไป
ไม่ไดท้ ่ีผฝู้ ำกเงินมำถอนเงินแลว้ ถอนไมไ่ ดเ้ พรำะไม่มีเงินจ่ำย สหกรณ์จึงตอ้ งมีกำรสำรองเงิน หมุนเวยี นเงิน
อยำ่ งคล่องตวั โดยสำมำรถสร้ำงเครือข่ำยกบั ธนำคำรหรือสถำบนั กำรเงินตำ่ ง ๆ รวมท้งั สหกรณ์ดว้ ยกนั
ควำมเห็นท่ีสำคญั ในข้นั ตอนกำรถอนเงินน้ีจำกผจู้ ดั กำรสหกรณ์ท่ำนหน่ึง คือ ย่ิงการ
ถอนเงนิ สะดวกเท่าใด ยง่ิ ทาให้มีเงนิ ฝากเพมิ่ ขนึ้ ซ่ึงหำกฟังอยำ่ งผวิ เผนิ แลว้ ไม่น่ำจะเป็ นไปได้ กำรถอนเงิน
ง่ำยน่ำจะทำใหเ้ งินฝำกลด แต่เหตุผลที่ผพู้ ดู อำ้ งประกอบคือ เมื่อธนำคำรใชก้ ำรถอนเงินผำ่ นตูอ้ ตั โนมตั ิ 24
ช่วั โมง ทำให้ลูกคำ้ ถอนเงินฝำกได้ง่ำยมำก สะดวกมำก จำกกำรทำเช่นน้ีของธนำคำรแรก ส่งผลให้
ธนำคำรน้นั มีเงินฝำกไหลเขำ้ มำกมำย จึงสรุปไดว้ ำ่ ลูกคำ้ ฝำกเงินเพรำะตอ้ งกำรถอน เมื่อถอนง่ำยก็ย่ิงฝำก
มำก ต่อควำมเห็นน้ีเสนอวำ่ สหกรณ์ควรนำไปพิจำรณำประกอบกำรจดั กำรธุรกิจรับฝำกเงินแนวใหม่
6. ประเมินความพงึ พอใจ
ข้นั ตอนเพ่ือช้ีวดั ควำมมนั่ คงของธุรกิจ คือ ตอ้ งเป็ นกิจกำรที่สมำชิกมีควำมพึงพอใจ
สหกรณ์จึงตอ้ งประเมินผลเพื่อนำมำพฒั นำธุรกิจ
93
แผนภาพท่ี 16 ข้ันตอนการดาเนินธุรกจิ รับฝากเงนิ
การจัดการเดมิ สมำชิกมีรำยไดแ้ ละ การจัดการแนวใหม่
- ไม่มีขอ้ มลู กำรมีส่วนร่วม ตอ้ งกำรฝำกเงิน - ใชเ้ ป็นขอ้ มูลกำรตดั สินใจ
จำกสมำชิก ประกอบธุรกิจ
- ไมม่ ีขอ้ มูล สำรวจควำมตอ้ งกำรของ - ใชเ้ ป็นหลกั ฐำนในกำร
สมำชิก ประกอบธุรกิจ
- ขอ้ มูลไม่ทนั สมยั
- ล่ำชำ้ ใชร้ ะบบมือ รวบรวมขอ้ มลู - รู้สถำนะทำงเศรษฐกิจของ
- ไม่มีกำรประเมิน ดำเนินธุรกิจรับฝำก - ถอน สมำชิก
ประเมินควำมพึงพอใจ - ขอ้ มูลเป็นปัจจุบนั
- ใชข้ อ้ มูลวำงแผนธุรกิจ
- รวดเร็วดว้ ยระบบเทคโนโลยี
- สะดวก รวดเร็ว ถูกตอ้ ง
- ปรับปรุงและพฒั นำ
ปัจจัยความสาเร็จของธุรกจิ รับฝากเงิน
1. บุคลำกรสหกรณ์มีส่วนร่วมในธุรกิจอยำ่ งตอ่ เนื่องเช่นเดียวกบั ทุกธุรกิจ
2. ใหก้ ำรบริกำรสมำชิกท่ีดี ต้งั แต่สมำชิกเร่ิมทำธุรกิจ จนถึงข้นั ตอนสุดทำ้ ย
3. เชื่อมโยงกบั ธุรกิจอ่ืนของสหกรณ์ เช่นจดั สวสั ดิกำรสงเครำะห์สำหรับสมำชิกท่ีมีเงิน
ฝำก โอนถอนเงินฝำกชำระคำ่ สินคำ้
4. วิเครำะห์สถำนกำรณ์ปัจจุบนั แล้วดำเนินกำรให้สอดคล้อง เช่น อตั รำดอกเบ้ียของ
สถำบนั กำรเงินอ่ืน ๆ หรือ คนเร่ิมให้ควำมสำคญั เรื่อง สุขภำพ คุณภำพชีวติ จึงเห็น
ควำมสำคญั ของกำรออมมำกข้ึน กลุ่มเยำวชนที่มีกำรส่งเสริมกำรออม เป็นตน้
5. มีบริกำรหลงั ขำย ธุรกิจรับฝำกเงินสำมำรถจดั บริกำรหลงั ขำยได้ เช่นเม่ือนำเงินมำฝำกมี
กำรแนะนำใหบ้ ริกำรจดั กำรรำยได-้ รำยจ่ำย เมื่อถอนเงินมีบริกำรแนะนำกำรใชเ้ งิน เป็ น
ตน้