The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by arpaporn0919, 2023-11-14 22:47:55

รายงานประจำปีงบประมาณ 2566

ผลการดำเนินงาน2566_RE02

101 โครงการพัฒนาระบบการผลิตและการจัดการสุกรที่มีประสิทธิภาพในชุมชนสาธิตวลัยลักษณ์ พัฒนา เพื่อสร้างอาชีพที่มั่นคงของคนเลี้ยงสุกรในชุมชน โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการแผนการผลิตสุกรแบบครบ วงจร เพื่อขายให้แก่สมาชิกและตลาด ผ่านกลไกการบริหารจัดการของกลุ่มวิสาหกิจ


102 ด้านสุขภาพ มีโครงการส่งเสริมสุขภาพและสร้างเครือข่ายผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 8,380 ครัวเรือน ส่งผลให้เกิดพื้นที่เรียนรู้“ชุมชนน่าอยู่ต้นแบบภาคใต้ตอนบน” อาทิ โครงการสร้างเสริมและฟื้นฟูสมรรถภาพกลุ่มวัยก่อนสูงอายุและวัยสูงอายุ พื้นที่ชุมชนสาธิต วลัยลักษณ์พัฒนา ซึ่งด าเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มุ่งเน้นการดูแลบริการผู้ป่วยให้ครอบคลุมผู้ป่วยระยะกึ่ง เฉียบพลัน และจัดท าฐานข้อมูลระบบสุขภาพ (eHealth) เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้ป่วยให้ง่ายต่อการเข้าถึงของผู้ ให้บริการทั้งผู้ให้บริการในพื้นที่ระดับ รพ.สต. และแม่ข่าย โดยได้บูรณาการร่วมกับ “โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการด้านแพทย์แผนไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาวะชุมชนและสัมมาชีพชุมชน ปีที่ 2” ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายข้อที่ 3 “Good Health and Well-being” และเป้าหมายข้อที่ 17 “Partnerships for the Goals”


103 โครงการบริการให้ค าปรึกษาและแก้ไขปัญหาเทคโนโลยีการประกอบอาชีพ มหาวิทยาลัยวลัย ลักณ์ ร่วมกับ รพ.สต.ควนไม้บ้อง ต่อยอดวิชาการรับใช้สังคมส่งเสริมสุขภาพเกษตรกรวังอ่าง เพื่อถ่ายทอด เทคโนโลยีและบริการให้ค าปรึกษา “การส่งเสริมสุขภาพเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและเศรษฐกิจชุมชนและ พัฒนาการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อการส่งเสริมและป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดจ านวน การตายและการป่วยจากสารเคมีอันตรายและจากการปนเปื้อนและมลพิษทางอากาศ น้ า และดิน เสริมขีด ความสามารถในเรื่องการแจ้งเตือนล่วงหน้า การลดความเสี่ยง และการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพ ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีโครงการส าคัญ อาทิ โครงการท าบ้านปลา เพื่อฟื้นฟูระบบ นิเวศทางทะเลตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 14 สิ่งมีชีวิตใต้น้ า (Life below water) ซึ่งด าเนินการ ต่อเนื่องเป็นประจ าทุกปี ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา โดยด าเนินการท าบ้านปลาในช่วงเดือนเมษายนของทุก ปี เพื่อให้สัตว์น้ าวัยอ่อนได้มีพื้นที่หลบภัยจากการท าการประมง รวมทั้งเป็นการสร้างจิตส านึกให้ทุกคนตระหนัก ถึงความส าคัญของชายฝั่งทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารทะเลที่ส าคัญของประชากรในพื้นที่


104 โครงการอบรมค่ายนิเวศวิทยาทางทะเล จะจัดขึ้นเป็นประจ าทุกปี โดยในปีนี้ได้เข้าสู่ปีที่ 29 มี วัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาเรียนรู้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ส่งเสริมการเรียนรู้ กระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สร้างความตระหนักถึงความส าคัญของระบบนิเวศ และการอนุรักษ์การใช้ ประโยชน์อย่างชาญฉลาดและอย่างยั่งยืนของทรัพยากรทางทะเล ด้านการศึกษา มีโครงการที่ส าคัญ อาทิ โครงการเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาของเด็ก ปฐมวัย (Early Childhood Education Equity Project: ECEEP) เพื่อยกระดับขีดความสามารถและปิด ช่องว่างผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กปฐมวัยในท้องถิ่นด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบ “High Scope” มี กลุ่มเป้าหมาย คือ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) ในสังกัดองค์การบริหารส่วนต าบลในจังหวัดนครศรีธรรมราช ม.วลัยลักษณ์ เปิดศูนย์สาธิตการจัดการเรียนรู้แบบ High Scope ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กน าร่องแห่ง แรกของภาคใต้ ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนต าบลไทยบุรี จัดพิธีเปิด “ศูนย์ สาธิตการจัดการเรียนรู้แบบ High Scope ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กน าร่องแห่งแรกของภาคใต้” ณ ศูนย์พัฒนาเด็ก เล็กวัดโคกเหล็ก อ าเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อยกระดับขีดความสามารถและปิดช่องว่างทาง การศึกษาของเด็กปฐมวัยในท้องถิ่นด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบ “High Scope”


105 โครงการประกวด YSC นักวิทยาศาสตร์ รุ่นเยาว์โดยศูนย์บริการวิชาการด าเนินการ ร่วมกับ สวทช. ซึ่งในปี 2566 จากการประกาศ ผลรอบน าเสนอผลงาน (รอบชิงชนะเลิศระดับ ภูมิภาค) ได้รับทุนสนับสนุน 9,000 บาทจ านวน 10 ผลงาน นอกจากนี้ และตัวแทนจากโรงเรียน เบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช เจ้าของผลงาน โครงการคาร์บอนรูพรุนตัวเก็บประจุยิ่งยวดจาก เปลือกต้นกระถินณรงค์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับภูมิภาคภาคใต้ด้วย โครงการพัฒนานวัตกรรมสื่อการเรียนการสอนหลักสูตรบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงโรงเรียนชุมชนใหม่ และโรงเรียนพื้นที่ชุมชนรายรอบ ปีที่ 4 มุ่งเน้นพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การ ผลิตสื่อวิดีโอในรายวิชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้มีความกระชับ เข้าใจง่าย มีแบบฝึกหัดให้นักเรียนได้ทดสอบ ก่อนและหลังเรียน สอดคล้องกับพัฒนาการและวัยของนักเรียน เป็นสื่อการเรียนรู้เชิงบันเทิง (Edutainment) ด้านสังคมและวัฒนธรรม มีโครงการที่ส าคัญ อาทิ โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ ของชุมชน ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เพิ่มโอกาสทางการตลาดและความพร้อมในการแข่งขันทางธุรกิจ ส่งผลต่อ เศรษฐกิจรากฐานให้มั่นคงและยั่งยืน งานวิจัยโครงการกะพ้อ โดยมหาวิทยาลัยได้ลงพื้นที่หมู่ 5 ต.หัวตะพาน อ.ท่าศาลา จ. นครศรีธรรมราช เพื่อด าเนินงานวิจัยการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญากรจักสานสาดหน้าพ้อ ภายใต้โครงการ อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด าริโดยมีครูภูมิปัญญาการสานสาดที่จะช่วยอนุรักษ์และสืบสานภูมิ ปัญญาได้ คือ นางอารีย์ ไชโย อายุ 79 ปี ที่ยังสามารถสานได้อย่างช านาญ คล่องแคล่ว และสวยงาม


106 3) ยกอันดับโลกดาน Impact Ranking ใหสูงขึ้น เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ได้มีการประกาศผลการจัดอันดับ THE Impact Rankings 2023 โดยมี มหาวิทยาลัยจ านวน 1,591 แห่งใน 112 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม ผลปรากฏว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้รับการ จัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 401-600 ของโลก ขยับดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา 200 อันดับ และเป็นอันดับที่ 10 ร่วมของ ประเทศไทย โดยมี SDGs 4 ด้านที่สามารถท าคะแนนติดในอันดับ top 100 ของโลกเป็นครั้งแรก คือ SDG2, SDG6, SDG11 และ SDG14 โดยอยู่ในอันดับที่ 56, 52, 99 และ 58 ของโลกตามล าดับ นอกจากนี้ ผลงานด้าน SDG3, SDG4, SDG17 ได้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 101-200 และ SDG12 อยู่ในอันดับ 201-300 ของโลก ทั้งนี้ หากดูเฉพาะในประเทศไทย พบว่า ผลงานด้าน SDG6 และ SDG14 สามารถท าคะแนนขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศ SDG3 และ SDG11 เป็นอันดับ 4 ของประเทศ และ SDG 2 เป็นอันดับ 5 ของประเทศ


107 4) ขับเคลื่อนโครงการมหาวิทยาลัยสูต าบลตามนโยบายของรัฐบาลใหเขมแข็ง ม.วลัยลักษณ์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดงานมหกรรมสินค้า U2T to Market ศูนย์บริการวิชาการด าเนินการร่วมกับคณาจารย์จาก 15 ส านักวิชากว่า 100 คน ได้ด าเนินโครงการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด คือ กระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวง อว. ซึ่งได้ บูรณาการสนับสนุนการพัฒนา ส่งเสริม ผลักดันผลิตภัณฑ์และบริการด้าน BCG ของชุมชนออกสู่ตลาดกว่า 170 ผลิตภัณฑ์ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อมูลชุมชนขนาดใหญ่ (Thailand Community Big Data: TCD) อีกทั้งมีการจ้างงานในพื้นที่ต าบลมากกว่า 1,400 อัตรา ทั้งที่เป็นบันฑิตจบใหม่และประชาชนในพื้นที่ มีมูลค่า การจ้างงานประมาณ 21 ล้านบาท 5) สงเสริมใหนักศึกษามีกิจกรรมรวมกับชุมชนอยางตอเนื่อง ส านักวิชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรหรือกิจกรรมชมรมนักศึกษาที่ ส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมกิจกรรมกับชุมชน อาทิ โครงการค่ายนิเวศวิทยาทางทะเล ครั้งที่ 29 โครงการ ค่ายวิทย์อาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2 กิจกรรมการบูรณาการการเรียนการสอนภาษาอังกฤษกับการบริการ วิชาการเพื่อชุมชน ในรายวิชา ENG63-121 Introduction to Linguistics เป็นต้น


108 6) สงเสริมใหมหาวิทยาลัยเปนแหลงเรียนรูของชุมชน โครงการบูรณาการความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนต าบลไทยบุรี ยกระดับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในสังกัดเพื่อเป็นต้นแบบการศึกษาดูงานด้วยหลักสูตร High Scope โดยมุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือ กระท า และพัฒนางานวิจัยเพื่อน าไปใช้เป็นข้อมูลในการก าหนดนโยบายเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาของ เด็กปฐมวัยในประเทศไทย มีระยะเวลาการด าเนินโครงการ 5 ปี ซึ่งโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายการ พัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายข้อที่ 4 “Quality Education” และเป้าหมายข้อที่ 17 “Partnerships for the Goals” โครงการยกระดับพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรแบบครบวงจรเพื่อส่งเสริมสุขภาวะและสัมมาชีพ ชุมชน ปีที่ 4 ยกระดับสมุนไพรหลักในสูตรต ารับ “น้ ามันนวดไพล” โดยส านักวิชาเภสัชศาสตร์และ ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านทุ ่งชน ผู้น าชุมชน ด าเนินกิจกรรมการขยายพันธุ์วัตถุดิบสมุนไพร และคณาจารย์ได้บริการให้ค าปรึกษาด้าน แผนการปลูกและเก็บเกี ่ยววัตถุดิบสมุนไพรแต ่ละชนิดเพื ่อยกระดับกระบวนก ารผลิตผลิตภัณฑ์ สมุนไพ รก ่อนเก็บเกี ่ยว ซึ ่งโครงก า รดังกล ่าวสอดคล้องกับเป้าหม ายก า รพัฒน าที ่ยั ่งยืน (SDGs) เป้าหมายข้อที่ 3 “Good Health and Well-being” และเป้าหมายข้อที่ 17 “Partnerships for the Goals”


109 โครงการบริการให้ค าปรึกษาด้านการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อการส่งเสริมและป้องกันโรคไม่ ติดต่อเรื้อรังแก่เกษตรการชาวสวน ต าบลวังอ่าง อ าเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเป็นส่วนหนึ่ง ของชุดโครงการบริการให้ค าปรึกษาและแก้ไขปัญหาเทคโนโลยีการประกอบอาชีพ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา ฯ ซึ่งมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้ร่วมด าเนินการตามแนวทางการจัดท า เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ในเป้าหมายที่ 3 สร้างหลักประกัน ว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและส่งเสริมสวัสดิภาพสาหรับทุกคนในทุกวัย และเป้าหมายข้อที่ 17 “Partnerships for the Goals” มีการสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการให้ค าปรึกษา “การขยายชีวภัณฑ์เพื่อเพิ่มศักยภาพการ ผลิตและเศรษฐกิจชุมชน” (การขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มา เมธาไรเซียม บิวเวอร์เรีย เพื่อควบคุมโรคพืชและ ศัตรูพืช การใช้ประโยชน์จากสารชีวภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ การบริการให้ค าปรึกษาด้านโรคพืชรายบุคคล) โดย เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นสื่อและทักษะที่จ าเป็นเพื่อการขยายชีวภัณฑ์ส าหรับหมู่บ้านที่ไม่มี ไฟฟ้าใช้แก่ผู้แทนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดชะอวดพูนผล วิสาหกิจชุมชนบ้านเศษตะคอน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรอินทรีย์อ าเภอชะอวด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดโครงการบริการให้ค าปรึกษาและแก้ไขปัญหาเทคโนโลยีการ ประกอบอาชีพ ที่ได้รับการสนับสนุนจากส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา ฯ


110 5) สงเสริมและพัฒนาอุทยานพฤกษศาสตร เพื่ออนุรักษพันธุกรรมพืชตามโครงการพระราชด าริของ สมเด็จพระเทพฯ และเพื่อเปนแหลงเรียนรูธรรมชาติวิทยาแกเยาวชนและบุคคลทั่วไป มหาวิทยาลัยได้ด าเนินการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเทพรัตนราชสุดาฯ มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์ ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชด าริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของ จ.นครศรีธรรมราช มีการ ออกแบบอาคารเป็นรูปเลข 8 เพื่อสืบสานปณิธานในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนไม่มีที่สิ้นสุด (Infinity) โดยสื่อผ่านห้องนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 8 ห้อง


111 2. พัฒนาความสัมพันธ์กับชุมชน 1) ก าหนดใหศูนยบริการวิชาการเปนหนวยงานหลักในการสงเสริมกิจกรรมรวมกับชุมชน ศูนย์บริการวิชาการได้จัดกิจกรรมร่วมกับชุมชนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีการ วิจัยและการบริการวิชาการเพื่อมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและสร้างความรักความสามัคคีร่วมกันระหว่าง มหาวิทยาลัยและชุมชน 2) ขยายความเขมแข็งของโครงการตาง ๆ ที่ด าเนินการและไดผลแลว โครงการต่อยอดกิจกรรมธนาคารปูม้าเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งและยกระดับรายได้ ให้กับชาวประมงในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ภายใต้โครงการการประยุกต์ใช้ธนาคารปูม้าเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งและยกระดับรายได้ ให้กับชาวประมงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับงบประมาณทุนอุดหนุนการวิจัยและ นวัตกรรมประจ าปี 2566 จากส านักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ตลอดการด าเนินการโครงการธนาคารปูม้าอย่าง ต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 3 ปี สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเพิ่มความตระหนักให้กับชุมชนชายฝั่งในการฟื้นฟู ทรัพยากรปูม้าและดูแลระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง พบว่าจ านวนปูม้าที่จับได้จากธรรมชาติเพิ่มขึ้น สามารถจับ ปูม้าได้ตลอดทั้งปี ลดระยะเวลาในการวางอวนหรือเครื่องมือประมง ท าให้รายได้จากการท าประมงเพิ่มขึ้น สร้าง ความเข้มแข็งของกระบวนการท างานอนุรักษ์ของชุมชนให้เกิดการรวมตัวเป็นกลุ่มเพื่อด าเนินกิจกรรมอนุรักษ์ และ ต่อยอดสร้างสัมมาชีพของชุมชนชายฝั่งในพื้นที่ด าเนินโครงการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช มากกว่า 84 กลุ่ม


112 ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมจัดแสดงผลงานวิจัย-บริการวิชาการ โครงการ ธนาคารปูม้า ในงานมหกรรมหนังฉายชายเล ท่องเที่ยวเล แลเสน่ห์อ่าวไทย” ครั้งที่ 2 พร้อมชวน นักท่องเที่ยวชาวไทยชาวต่างชาติ ร่วมปล่อยลูกพันธุ์ปูม้ากว่า 10 ล้านตัวสู่ทะเลที่เกาะสมุย จ. สุราษฏร์ธานี นอกจากนี้ คณะท างานธนาคารปูม้า มวล.วช. ได้เข้าเยี่ยมชมการปรับปรุงโรงเพาะฟักลูกพันธุ์ปูม้าพร้อม แลกเปลี่ยนแนวคิดรูปแบบการท าธนาคารปูม้ากับชาวประมงในพื้นที่ โดยโครงการธนาคารปูม้า มวล.วช. ได้ สนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างโรงเพาะฟักลูกพันธุ์ปูม้าให้กับบริษัท วิยะเครปโปรดักส์ จ ากัด เป็นจ านวนเงิน 50,000 บาท อีกทั้ง คณะท างานธนาคารปูม้าได้ร่วมปล่อยลูกพันธุ์ปูม้าเพื่อ “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย” ตามมติ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการขยายผลธนาคารปูม้าไปสู่ชุมชนบริเวณชายฝั่ง 500 ชุมชน โดยให้ส านักงานการวิจัย แห่งชาติ (วช.) เป็นหน่วยงานหลักในการบรูณาการ ด าเนินการจัดท าธนาคารปูม้า ภายใต้โครงการขยายผล


113 ธนาคารปูม้าเพื่อ “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย” ทั้งนี้ โครงการธนาคารปูม้ามีส่วนส าคัญที่ส่งผลให้ผลประเมิน THE Impact Ranking 2023 ได้จัดอันดับให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อยู่ในอันดับ 58 ของโลกใน SDG14 ด้วย โครงการสร้างเสริมและฟื้นฟูสมรรถภาพกลุ่มวัยก่อนสูงอายุและวัยสูงอายุ พื้นที่ชุมชนสาธิตวลัย ลักษณ์พัฒนา โครงการต่อเนื่องปีที่ 4 บูรณาการร่วมกับโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการแพทย์ แผนไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาวะชุมชนและสัมมาชีพชุมชน ปีที่ 2 เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการดูแลบริการผู้ป่วยให้ ครอบคลุมผู้ป่วยระยะกึ่งเฉียบพลัน และจัดท าฐานข้อมูลระบบสุขภาพ (eHealth) โดยบูรณาการร่วมกับ “โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านแพทย์แผนไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาวะชุมชนและสัมมาชีพชุมชน ปีที่ 2”


114 ม.วลัยลักษณ์ เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการวิจัยกระบี่โมเดลปี2 มุ่งสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่เกษตรกร รศ.ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยกระบี่โมเดล เปิดเผยว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์ก าลังเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการกระบี่โมเดลอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มีโครงการวิจัยจ านวน 6 โครงการ ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และความร่วมมือจากนักวิจัยระดับแนวหน้าของม.วลัยลักษณ์ ม.สงขลานครินทร์ ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ใน จังหวัดกระบี่ น าองค์ความรู้ลงไปขับเคลื่อน มุ่งแก้ปัญหาความยากจน สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงบรรเทา ผลกระทบจากโควิด-19 พื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้เกษตรกรไม่ต่ ากว่า 10,000 บาทต่อคนต่อเดือน


115 โครงการเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษาของเด็กปฐมวัย ปีที่ 3 ( Early Childhood Education Equity Project: ECEEP) มี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ เพื่ อ ย ก ร ะ ดั บ ขี ด ความสามารถและปิดช่องว่างผลสัมฤทธิ์ ทางการศึกษาของเด็กปฐมวัยในท้องถิ่น ด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบ “High Scope” กลุ่มเป้ าห ม าย ได้ แก่ ศูน ย์ พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) สังกัดองค์การบริหารส่วนต าบลในจังหวัดนครศรีธรรมราช ครอบคลุมเด็กปฐมวัยอายุ ระหว่าง 3 – 6 ปี ซึ่งโครงการวิชาการรับใช้สังคมนี้ได้ก่อให้เกิดผลผลิตเชิงนวัตกรรมในการลดความเหลื่อมล้ า ทางการศึกษาของเด็กปฐมวัยและน าไปเป็นต้นแบบในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาปฐมวัยของ ท้องถิ่นต่อไปในอนาคต 3. การพัฒนาให้เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวตามเกณฑของ UI Greenmetrics 1) การพัฒนาโครงสรางพื้นฐานและภูมิทัศนใหสวยงามอยูเสมอ


116 ปีงบประมาณ 2566 ส่วนอาคารสถานที่มีโครงการก่อสร้างและปรับปรุงพื้นที่ต่าง ๆ ภายใน มหาวิทยาลัยที่ส าคัญ ได้แก่ โครงการปรับปรุงอาคารบริหาร โครงการก่อสร้างอาคารโรงผลิตน้ าประปา ศูนย์ การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โครงการก่อสร้างอาคารวิจัยระดับก้าวหน้า งานซ่อมแซมผิวถนนที่ช ารุด ถนน วงแหวนรอบนอก โครงการปรับปรุงหน่วยประสานงานมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กรุงเทพมหานคร โครงการ ก่อสร้างโรงเก็บพัสดุกลางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และงานก่อสร้างก าแพงและท าคันดินพื้นที่รอบมหาวิทยาลัย


117 นอกจากนี้ ยังมีโครงการปรับปรุงและซ่อมแซมอาคารสถานที่ตามนโยบายเร่งด่วนของอธิการบดี ซึ่ง มีการออกแบบนอกแผนงาน อาทิ งานปรับปรุงอาคารวิชาการ 1 งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย ระยะที่ 2 งาน ก่อสร้างเพิ่มช่องทางจราจรถนนทางเข้ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์งานปรับปรุงอาคารวิชาการ 9 งานก่อสร้าง ห้องน้ าโรงอาหารและไฟฟ้าแสงสว่างลานกางเต็นท์ งานก่อสร้างสวนสะสมพันธุ์ไผ่และโรงเรือนเพราะช า งาน ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเป็นห้องปฏิบัติการสตูดิโอ ส านักวิชาสารสนเทศศาสตร์ เป็นต้น


118 2) การอนุรักษพลังงาน โดยปรับปรุงอุปกรณไฟฟาใหมทั้งหมด เพื่อใชอุปกรณประหยัดพลังงาน - การใชรถไฟฟาและมอเตอรไซคไฟฟา มหาวิทยาลัยได้จ้างเหมาบริการรถไฟฟ้า จากบริษัท รถไฟฟ้าประเทศไทย จ ากัด มหาชน (EVT) ในราคา 27 ล้านบาท มีระยะเวลาสัญญา 3 ปี เพื่อให้บริการรถไฟฟ้าขนาดจุ 22 ที่นั่งจ านวน 10 คัน และขนาดจุ 13 ที่นั่งจ านวน 10 คัน แก่นักศึกษา บุคลากร และผู้มาเยือน มีการปรับปรุงการให้บริการโดยปรับตารางการ ให้บริการและเส้นทางการให้บริการให้รถไฟฟ้าที่สอดคล้องกับตารางการเรียนการสอนและกิจกรรมของนักศึกษา มีระบบติดตามรถไฟฟ้าแบบ Real time มีการรายงานผลการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถให้ผู้ควบคุมงาน รับทราบ เพื่อให้การบริการเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ประหยัดการใชไฟฟาทั้งระบบ มหาวิทยาลัยได้ก าหนดเป้าหมายให้มีการประหยัดพลังงานต่ ากว่าหรือเท่ากับเกณฑ์ ZEB Level ซึ่งเมื่อด าเนินการแล้วเสร็จจะสามารถประหยัดพลังงานลงได้ไม่น้อยกว่า 50% โดยมีโครงการที่ด าเนินการ ดังนี้ โครงการระบบผลิตไฟฟ้าบนหลังคา (Solar rooftop) มหาวิทยาลัยได้ท าสัญญากับ กิจการ ร่วมค้า วงศ์ไพบูลย์ ไพร์ม เอสโค่ โดยได้ท าการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า Solar rooftop บนหลังคาของกลุ่มอาคาร เครื่องมือวิทย์ศาสตร์ทั้งหมด ปัจจุบันการด าเนินงานแล้วเสร็จ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจรับงานและปรับปรุงแก้ไข ตามมติของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ คาดว่าจะสามารถผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้มหาวิทยาลัยได้ในเดือน กันยายน 2566 โครงการ Solar car park และ EV Charger ติดตั้งที่ลานจอดรถโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯ พร้อมติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าบนหลังคาขนาด 1 เมกะวัตต์ซึ่งเป็นการด าเนินงานตามนโยบายการเป็น มหาวิทยาลัยสีเขียว มุ่งใช้พลังงานทดแทนเพื่อช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าของมหาวิทยาลัย


119 โครงการก่อสร้างอาคารสถานีไฟฟ้าย่อย ระยะที่ 2 เพื่อรองรับการใช้งานไฟฟ้าที่โรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์ในอนาคต ซึ่งด าเนินงานโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในวงเงินจัดจ้างจ านวน 72.008 ล้านบาท ซึ่ง ได้เริ่มด าเนินงานเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2564 และแล้วเสร็จพร้อมจ่ายไฟครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 3) การจัดการของเสียและขยะ การน าขยะมาเผาเพื่อผลิตไฟฟา (มีเตาเผาขยะของมหาวิทยาลัย) และเพิ่มประสิทธิภาพการ ก าจัดขยะติดเชื้อ โดยมหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงและพัฒนาเตาเผาขยะติดเชื้อเพื่อรองรับขยะติดเชื้อที่เกิดขึ้นจาก การเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัย รวมถึงจากหน่วยงานภายนอก มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ สามารถรองรับการเผาได้13,000-15,000 กิโลกรัม/เดือน โดยได้พัฒนากรรมวิธี เผาขยะให้มีความคุ้มค่าด้านพลังงานและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม มีการก าจัดขยะอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ถูกหลักกฎหมายทางด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพเตาเผา ลดความชื้นในขยะเพื่อให้การจัดการด้านการเผา ขยะติดเชื้อมีประสิทธิภาพสูงสุด ท าขยะรีไซเคิล โดยส่วนภูมิสถาปัตย์ฯ มีจัดการขยะใน 3 ส่วน คือ การก าจัดขยะทั่วไป การจัดการ ขยะรีไซเคิล และการก าจัดขยะติดเชื้อ โดยมีปริมาณขยะ 5,000 กิโลกรัม/วัน ซึ่งได้จัดตั้งธนาคารขยะขึ้นเพื่อรับ ซื้อขยะ รีไซเคิลจากหน่วยงานต่าง ๆ และจากนักศึกษา บุคลากร พร้อมทั้งซากครุภัณฑ์ที่หมดสภาพการใช้งาน จากส่วนพัสดุ ภายในมหาวิทยาลัย ท าให้นักศึกษาและบุคลากรให้ความส าคัญต่อการคัดแยกขยะมากขึ้น และยัง ได้ด าเนินการคัดแยกขยะอินทรีย์เพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ช่วยให้การจัดการขยะทั่วไปมีการใช้ประโยชน์จากของเสีย มากที่สุด


120 4) การจัดการน้ าใหมีประโยชน บริหารจัดการน้ าใหเพียงพอในการผลิตน้ าประปาของมหาวิทยาลัย โดยใช้วิธีการผันน้ าจากคลอง เกียบเข้าอ่างเก็บน้ า 1 ซึ่งสามารถรักษาระดับน้ าในอ่างให้อยู่ในระดับที่ต้องการได้ โดยสามารถผลิตน้ าประปาได้ เฉลี่ยวันละ 2,200 - 3,000 ลูกบาศก์เมตร และส่วนอาคารสถานที่ได้ร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาระบบ บริหารจัดการมิเตอร์น้ าประปาแบบ Smart University Meter ขึ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วและความถูกต้องใน การบันทึกและค านวณค่าน้ าประปา พัฒนาระบบการผลิตน้ าประปาของมหาวิทยาลัยใหมีคุณภาพตามเกณฑมาตรฐาน โดยน าระบบ ควบคุมค่า pH แบบอัตโนมัติมาใช้งาน ท าให้การตกตะกอนมีประสิทธิภาพตลอดเวลา น าระบบ PLC touch screen มาใช้งานควบคู่กับระบบ Inverter เดิม ท าให้รักษาแรงดันน้ าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และน า ระบบควบคุมการจ่ายคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ าประปาแบบอัตโนมัติท าให้การจ่ายคลอรีนมีความแม่นย ามาก ขึ้น น าน้ าเสียที่บ าบัดแลวมาใชประโยชน โดยติดตั้งระบบฆ่าเชื้อ UV และติดตั้งระบบปั่นไฟบริเวณ ประตูน้ า ในภาพรวมมีปริมาณน้ าเสียที่บ าบัดได้จ านวน 1,500 ลูกบาศก์เมตร/วัน


121 โครงการแก้มลิงมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์พร้อมอาคารประกอบ โดยมหาวิทยาลัยได้มอบพื้นที่บริเวณ ด้านหลังโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ (ด้านทิศใต้) 208 ไร่ เพื่อใช้ด าเนินโครงการ ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณ จากกรมชลประทานในปี 2565 วงเงิน 117.5 ล้านบาท และด าเนินการแล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายน 2565 โดย ได้รับขนานนามว่า “อ่างเก็บน้ าชลานุสรณ์” ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการกักเก็บน้ าไว้ใช้ส าหรับการอุปโภค บริโภคในพื้นที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และในพื้นที่ชุมชนรายรอบมหาวิทยาลัย ส าหรับการใช้น้ าเพื่อการเกษตรกรรม และใช้เป็นแหล่งน้ าดิบในการผลิตน้ าประปา โครงการก่อสร้างอาคารโรงผลิตน้ าประปา ศูนย์ การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ในวงเงินจัดจ้าง 69.0 ล้านบาท ซึ่งผู้ชนะการประมูลราคาและจัดท า สัญญาจ้าง คือ บริษัทนิธิณัฐกร เอ็นจิเนียริ่ง จ ากัด ระยะเวลาด าเนินงาน 300 วัน เริ่มด าเนินงานเมื่อ 1 ธันวาคม 2565 ปัจจุบันมีความก้าวหน้าร้อยละ 36.77


122 5) การจัดการจราจรในมหาวิทยาลัย จัดระบบรถไฟฟาใหมีประสิทธิภาพ โดยมีส่วนส่งเสริมและพัฒนานักศึกษาเป็นหน่วยงานดูแลการ ให้บริการรถไฟฟ้าของมหาวิทยาลัยต่อจากโครงการมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมีการปรับปรุงตารางและเส้นทาง การให้บริการรถไฟฟ้าให้สอดคล้องกับตารางการเรียนการสอนของนักศึกษาและปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันทุกภาค การศึกษา มีระบบติดตามรถไฟฟ้าแบบ Real time และมีการรายงานผลการปฏิบัติงานของผู้ควบคุมงาน ทั้งนี้ ผลประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการพบว่ามีความพึงพอใจมากกว่า 90% การกวดขันวินัยจราจรของนักศึกษา โดยส่วนส่งเสริมและพัฒนานักศึกษาได้ร่วมกับส่วนบริการ กลาง ด าเนินการกวดขันวินัยจราจรโดยเน้นเรื่องการตรวจการสวมหมวกนิรภัย หากพบนักศึกษาไม่สวมหมวก นิรภัยจะรวบรวมข้อมูลและด าเนินการทางวินัยโดยหักคะแนนความประพฤติตามระเบียบต่อไป


123 ก่อสร้างงานเพิ่มช่องทางจราจรถนนทางเข้ามหาวิทยาลัยวล้ยลักษณ์ โดยด าเนินการเพิ่ม ช่องทางจราจรถนนทางเข้าและออกจากมหาวิทยาลัย บริเวณถนนทางเข้ามหาวิทยาลัยหลังป้อมวลัยคมถึงวง เวียนหน้าอาคารบริหาร ด าเนินงานโดยห้างหุ้นส่วนจ ากัด งานดีการโยธา มีระยะเวลาด าเนินงาน 210 วัน ใน วงเงิน 11.1 ล้านบาท ซึ่งแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2566 ช่วยรองรับการเดินทางของผู้ใช้บริการศูนย์การแพทย์ และเดินทางเข้ามายังมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยได้ท าการเทพื้นคอนกรีตถนนทางเข้าเพิ่ม 1 ช่องทางและ ทางออกเพิ่มอีก 1 ช่องทางพร้อมท าขอบถนน ท าให้การจราจรดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 6) การใหการศึกษาเกี่ยวกับการอนุรักษสิ่งแวดลอม ได้ก าหนดใหมีรายวิชาการอนุรักษสิ่งแวดลอมและโลกรอนอยูในหมวดการศึกษาทั่วไปที่นักศึกษา ทุกคนต้องเรียน เพื่อให้นักศึกษาทุกคนมีความรู้และตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสภาวะโลกร้อนที่มี ผลกระทบต่อมนุษย์ และมีการจัดกิจกรรมโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมแก่นักศึกษา อาทิอบรมปลุกจิตส านึกอนุรักษ์พลังงานนักศึกษาแก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 อบรมแกนน า ประหยัดพลังงาน กิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชมรมพิทักษ์ทะเล กิจกรรมคัดแยกขยะในหอพัก


124 6) สงเสริมใหมหาวิทยาลัยวลัยลักษณไดรับการจัดอันดับ UI GreenMetric ไมนอยกวาระดับ Top 5 ของไทย มหาวิทยาลัยได้ก าหนดเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยที่ยั่งยืนตามยุทธศาสตร์การเสริมสร้างให้ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวชั้นน าของประเทศ โดยจากการประกาศผลการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยสีเขียวโลก UI GreenMetric World University Ranking 2022 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 จาก จ านวน 1,050 มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมทั่วโลก ผลปรากฏว่ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ ที่ 1 มหาวิทยาลัยสีเขียวของภาคใต้3 ปีซ้อน และเป็นอันดับที่ 7 ของประเทศ และอันดับ 111 ของโลก ด้วย คะแนนรวม 8,125 คะแนน สูงขึ้นจากปี2021 ที่ได้รับการจัดอันดับที่ 8 ของประเทศ และ 116 ของโลก


125


126 ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ให้เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิเพื่อ รองรับการเปิดสอนนักศึกษาชั้นคลินิก 1. พัฒนาโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯ ให้มีศักยภาพสูง และเป็นเสาหลักด้านสุขภาวะของประชาชนในพื้นที่ ภาคใต้ตอนบน 1) พัฒนาใหโรงพยาบาลศูนยการแพทย ฯ สามารถเปดใหบริการผูปวยในขนาด 426 เตียง ภ ายในป 2565 การก่อสร้าง โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ ฯ ระยะที่ 2 ได้ ด าเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยบริษัท ผู้รับเหมาได้ส่งมอบโรงพยาบาลขนาด 426 เตียง ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ที่ผ่าน มา และโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ ฯ ได้เปิด ให้บริการผู้ป่วยในจ านวน 426 เตียง เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ทั้งนี้ มีระบบ “WUH Care” ซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการเป็น Smart Hospital ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถหา ข้อมูลความรู้ ตรวจเช็คตารางออกตรวจของแพทย์ ติดตามการนัดหมายเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล ติดตามผล


127 จากการรักษา(LAB) และมีช่องทางติดต่อกับโรงพยาบาลจากหลากหลายช่องทาง ส าหรับในปีงบประมาณ 2566 พบว่า มีผู้รับบริการจ านวนทั้งสิ้น 133,093 คน (ข้อมูล ณ 6 กันยายน 2566) คิดเป็นร้อยละ 85.32 ของแผนที่ วางไว้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้เมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2566 เปิดบริการแล้ว! ศูนย์การแพทย์ ม.วลัยลักษณ์ เปิดให้บริการแล้ว ขนาด 426 เตียง “ขณะนี้การก่อสร้างโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เฟสที่ 1 ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขนาด 426 เตียง พร้อมด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อรองรับการให้บริการแก่ประชาชนในจังหวัด นครศรีธรรมราชและภาคใต้ตอนบน ด้วยวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาล คือ “เป็นโรงพยาบาลชั้นน าระดับตติยภูมิขั้น สูงที่มีคุณภาพและเป็นแหล่งเรียนรู้ในภาคใต้ตอนบน” ขณะเดียวกันมูลนิธิศรีธรรมราชาก าลังก่อสร้างตึกสงฆ์ อาพาธขนาด 114 เตียง จะแล้วเสร็จในปี 2566 ด้วย”ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ กล่าว 2) พัฒนาใหโรงพยาบาลศูนยการแพทยฯ สามารถใหบริการไดครบ 14 สาขาเชี่ยวชาญในป 2566 เพื่อใหพรอมในการใหบริการครอบคลุมพื้นที่ภาคใตตอนบน ปัจจุบันโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ ฯ ได้ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยทั้งประเภทผู้ป่วยใน ผู้ป่วย นอก และคลินิกเฉพาะทาง 16 คลินิก ได้แก่คลินิกตรวจโรคทั่วไป คลินิกวัคซีน คลินิกตรวจสุขภาพ คลินิก อายุรกรรม(เวชศาสตร์ครอบครัว) คลินิกเด็ก คลินิกศัลยกรรม คลินิกตา คลินิกกระดูกและข้อ คลินิกรักษ์ใจ(จิต เวช) คลินิกเวช ศ าสต ร์ฟื้นฟู/กายภาพบ าบัด คลินิกสูตินรีเวชกรรม คลินิกผิวหนังและความงาม คลินิก


128 หู คอ จมูก คลินิกสุขภาพดีคลินิกทันตกรรม และคลินิกบัต รทองและป ระกันสังคม โดยมีแพทย์ ปฏิบัติงานในการให้บริการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในจ านวน 81 คน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้ประกาศรับ สมัครแพทย์เฉพาะทางและแพทย์รับทุนต้นสังกัดเพิ ่มอีกจ านวน 40 อัตตราเพื ่อรองรับ แผนขยายการ ให้บริการในอนาคตเต็มจ านวน 750 เตียง รพ.ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกับ รพ.สงขลานครินทร์ “ผ่าตัดหัวใจ” ส าเร็จเป็น ครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว สิทธิประกันสังคม รพ.ศูนย์การแพทย์ ฯ เข้ารับ บริการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ (Mitral Valve Repair + TV annuloplasty ) น าโดย นายแพทย์สมชาย ไวกิตติพงษ์ ศัลยแพทย์ทรวงอก แพทย์ประจ า รพ.ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และได้รับความร่วมมือจากทีม แพทย์ศัลยศาสตร์หัวใจ หลอดเลือด และทรวงอก รวมทั้งทีมวิสัญญีแพทย์ รพ.สงขลานครินทร์ (ม.อ.) ในการร่วม ผ่าตัดรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจเป็นครั้งแรกส าเร็จลงได้ด้วยดี ทั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพการผ่าตัดผู้ป่วยโรคหัวใจ อีกขั้นของโรงพยาบาล ก่อนที่จะพัฒนาเป็นศูนย์รักษาโรคหัวใจในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ได้อย่างครบวงจร


129 ศูนย์การแพทย์ ม.วลัยลักษณ์ ผลิตแผ่นเยื่อหุ้มรกรักษาโรคตา ส าเร็จเป็นแห่งแรกของภาคใต้ ตอนบน ความส าเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นจากโครงการ “ผลิตแผ่นเยื่อหุ้มรกส าหรับการผ่าตัดทางการแพทย์” โดยส านัก วิชาแพทยศาสตร์ ร่วมกับศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และสถาบันส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมสู่ ความเป็นเลิศ ม.วลัยลักษณ์ โดยเยื่อหุ้มรกที่ผลิตมีคุณสมบัติช่วยส่งเสริมเนื้อเยื่อบุผิว ยืดอายุเซลล์ต้นก าเนิด ยับยั้งการอักเสบ และไม่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ถือเป็นเนื้อเยื่อที่สมบูรณ์แบบส าหรับการปลูกถ่าย ใช้ในการ รักษาโรคตาบางชนิด และสามารถใช้ปิดแผลไฟไหม้ในบริเวณอื่นนอกเหนือจากตาได้อีกด้วย 3) พัฒนาให้โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ เตรียมรับการประเมินระดับความส าเร็จในการเตรียมความ พร้อมในการเปิดสอนนักศึกษาแพทย์ชั้นคลินิก


130 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อก าหนดแพทยสภา ฯ ที่ก าหนดให้โรงพยาบาลหลักหรือสถานฝึกปฏิบัติทาง คลินิกหลัก หรือ teaching hospital จะต้องเป็นโรงพยาบาลระดับไม่ต่ ากว่าโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่ ขนาด 250-500 เตียง และต้องประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญสาขาหลักทุกสาขา ขณะนี้ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ ฯ ได้ ผ่านการประเมินรับรองคุณภาพ (Hospital Accreditation; HA) จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์กรมหาชน) ในขั้นที่ 2 ในวันที่ 25 กันยายน 2566 เพื่อให้ผู้รับบริการเกิดความเชื่อมั่นและเชื่อถือได้ว่า โรงพยาบาลมีคุณภาพและมาตรฐานที่ดี อันจะส่งผลให้มีจ านวนผู้รับบริการเพิ่มมากขึ้นในอนาคต 4) สงเสริมอาจารยแพทยใหเขาอบรมเปนแพทยผูเชี่ยวชาญในทุกสาขา เพื่อใหเปนที่ศรัทธาเชื่อถือ ของผูรับบริการ ศูนย์การแพทย์ ฯ มีแนวทางส่งเสริมให้บุคลากรได้พัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยในปี 2566 มีอาจารย์แพทย์ที่ลาศึกษาต่อเพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะทางจ านวนทั้งสิ้น 33 คน จากอาจารย์ แพทย์ทั้งหมด 59 คน นพ.วชิรพงษ์ ชนะ แพทย์ออร์โธปิดิกส์ ผ่านการอบรมเพิ่มเติมหลักสูตรเทคนิคการผ่าตัดส่องกล้อง กระดูกสันหลังขั้นสูง นพ.วชิรพงษ์ ชนะ แพทย์ออร์โธปิดิกส์ รพ.ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมด้วยทีมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการการผ่าตัดส่องกล้องกระดูกสันหลัง จากประเทศไทย ผ่านการอบรมเพิ่มเติมหลักสูตรเทคนิค การผ่าตัดส่องกล้องกระดูกสันหลังขั้นสูง (Master class of Full endoscopic surgery of the lumbar and cervical spine) ณ รพ. St. Mary’s Hospital กรุงโซล ประเทศเกาหลีโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมระบบ ประสาทระดับโลก น าโดย Prof. Dr Jin-Sung Luke KIM และศัลยแพทย์ชั้นน าประเทศเกาหลี และนานาชาติ ร่วมถ่ายทอดเทคนิคและประสบการณ์การผ่าตัด


131 5) มูลนิธิเอกชนจะสรางและสงมอบตึกสงฆอาพาธขนาด 114 เตียงใหแกโรงพยาบาลศูนยการแพทย ฯ ในป 2567 จะท าใหโรงพยาบาลศูนยการแพทยฯ มีศักยภาพในการใหบริการประมาณ 540 เตียง โครงการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ “ศรีธรรมราชา” ณ ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยมูลนิธิ ศรีธรรมราชา มีบริษัทผู้ก่อสร้างคือ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จ ากัด (มหาชน) มูลค่าโครงการรวม 169,595,000 บาท ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพระสงฆ์ที่อาพาธ รวมถึงผู้น าทางศาสนาอื่น ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ได้เป็น อย่างดี ขณะนี้ด าเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยขณะนี้บริษัทรับเหมาอยู่ระหว่างการเก็บรายละเอียดของงาน หลังจากนั้นจะด าเนินการติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในขนาด 114 เตียง ได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป 6) เปดใหบริการโรงพยาบาลแพทยแผนไทยประยุกต ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้เปิดให้บริการโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยประยุกต์อย่างเป็น ทางการหลังจากที่ได้รับการรับรองจากสภามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เพื่อให้ เป็นทั้งสถานที่ฝึกประสบการณณ์วิชาชีพภาคใต้ส าหรับนักศึกษาในสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ส านักวิชา แพทยศาสตร์ และสามารถให้บริการผู้ป่วยอันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของหลักสูตรวิทยาศาสตร์สุขภาพของ มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ในปี 2566 โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ฯ ได้เปิดเพจ Facebook ใหม่ เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารผ่านทางหน้าเพจ “โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์” โดยจะมีแอดมินตอบข้อสงสัยและท าการจองคิวของทางโรงพยาบาลให้โดยเฉพาะ


132 7) ขยายการใหบริการโรงพยาบาลสัตวเล็กและสัตวใหญ อยู่ภายใต้การดูแลของวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์อัครราชกุมารี ประกอบด้วย 2 โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลสัตว์เล็กและโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ซึ่งให้บริการดูแลสุขภาพสัตว์ทั้งในและนอกพื้นที่ โดยได้ เปิดให้บริการคลินิกเฉพาะทาง ได้แก่ คลินิกศัลยกรรมทั่วไปในสัตว์เลี้ยง (รพ.สัตว์เล็ก) คลินิกอายุรกรรมทั่วไป ในสัตว์เลี้ยง (รพ.สัตว์เล็ก) คลินิกโรคหัวใจในสัตว์เลี้ยง (รพ.สัตว์เล็ก) คลินิกโรคผิวหนังในสัตว์เลี้ยง (รพ.สัตว์เล็ก) คลินิกโรคแมว (รพ.สัตว์เล็ก) คลินิกเฉพาะทางสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ คลินิกเฉพาะทางสัตว์น้ า บริการตรวจสุขภาพ โค (รพ.สัตว์ใหญ่) บริการคลินิกอายุรกรรมทั่วไปส าหรับปศุสัตว์ (โคชน โคเนื้อ โคนม แพะ ม้า) ทั้งในและนอก สถานที่ (รพ.สัตว์ใหญ่) นอกจากนี้ ยังมีบริการอายุรกรรมทั่วไปและการฉีดวัคซีนต่าง ๆ ศัลยกรรมกระดูก ศัลยกรรมเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ท าหมันในสัตว์เลี้ยงสุนัข แมว การผ่าตัดเนื้องอก การผ่าตัดระบบทางเดินอาหารและ ช่องท้อง การผ่าตัดระบบทางเดินปัสสาวะ การผ่าตัดระบบทางเดินสืบพันธุ์ การผ่าตัดตา และการเย็บแผลทั่วไป รวมถึงการรักษาทันตกรรมในสัตว์ สรุปผลการด าเนินงานในปี 2566 ได้ให้บริการดูแลสุขภาพสัตว์ทั้งโรงพยาบาลสัตว์ใหญ่และสัตว์เล็ก มี การตรวจสอบเพื่อลดการสูญเสียจากยาหมดอายุ ลดปริมาณยาคงคลัง และจัดให้มีนายสัตวแพทย์ให้บริการ 3 คนในเวลาท าการ รวมเคสที่ให้บริการ 2,557 เคส มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,211,697.00 บาท


133 นอกจากนี้ ได้จัดกิจกรรมอบรมโดยมีนายสัตวแพทย์ประจ าโรงพยาบาลสัตว์และคณาจารย์ของ วิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์อัครราชกุมารี เป็นผู้ให้ความรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ เพิ่มพูนทักษะความรู้ ความสามารถ ในการปฏิบัติงานภายในโรงพยาบาลสัตว์ของผู้ช่วยสัตวแพทย์ได้แก่ อบรมผู้ช่วยสัตวแพทย์ เรื่อง การใช้เครื่องและท าความสะอาดเครื่องเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ และเลเซอร์ สัมมนาวิชาการเพื่อเพิ่มพูนทักษะ เฉพาะทางให้กับสัตวแพทย์ประจ าโรงพยาบาลสัตว์ ในหัวข้อ การตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคตาพื้นฐานในสัตว์ เลี้ยง เป็นต้น


134 ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเพิ่มความเข้มแข็งและความมั่นคงทางการเงินของมหาวิทยาลัย 1. บริหารระบบงบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 1) เพิ่มประสิทธิภาพการใชจายงบประมาณโดยรวมไมนอยกวา 97% มหาวิทยาลัยมีคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เพื่อท าหน้าที่ติดตามผลการใช้ จ่ายงบประมาณในทุกไตรมาส เพื่อให้มีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้ก าหนดนโยบาย ให้รายจ่ายงบลงทุนจะต้องก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 หากด าเนินการไม่แล้วเสร็จ จะต้องส่งงบประมาณคืนมหาวิทยาลัย ท าให้ทุกหน่วยงานในมหาวิทยาลัยมีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมี ประสิทธิภาพ สามารถเบิกจ่ายได้ครบถ้วนเป็นไปตามแผน ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2566 มีผลการใช้จ่ายงบประมาณ ในภาพรวมจ านวน 2,232.327 ล้านบาท


135 2) เรงรัดการจัดซื้อจัดจางใหเปนไปตามแผน 100% ในปีงบประมาณ 2566 มหาวิทยาลัยได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลจ านวน 1,787.389 ล้านบาท เป็นงบลงทุนจ านวน 783.121 ล้านบาท ขณะนี้สามารถด าเนินการได้ครบ 100% ตามแผน โดยมีเงิน เหลือจ่ายอีกจ านวน 67.141 ล้านบาท 3) จัดท าแผนนอกงบประมาณ เพื่อรองรับการใชงบเหลือจายประจ าป ใหเกิดประโยชนสูงสุด จากการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างเข้มงวดส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรของ มหาวิทยาลัยอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และประหยัด และมีเงินเหลือจ่ายจากการประหยัดงบประมาณมาใช้ ในการจัดกิจกรรม/โครงการนอกแผนหลายรายการ โดยในปีงบประมาณ 2566 มีเงินเหลือจ่ายที่สามารถน าใช้ ในการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติมจากแผนปกติได้อีกจ านวน 67.141 ล้านบาท ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณไปใช้ด าเนิน โครงการระหว่างปีที่เป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยหลายรายการ อาทิการปรับปรุงห้องปฏิบัติการอาคารศูนย์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ฯ 3 ปรับปรุงห้องปฏิบัติการชีวเคมี ปรับปรุงห้องวิศวกรรมเครื่องกลฯ ปรับปรุงระบบ ปรับอากาศโรงงานผลิตยา ก่อสร้างก าแพงรั้วรอบมหาวิทยาลัย ก่อสร้างห้อง Co-Working Space อาคาร สถาปัตยกรรม ฯ จัดสร้างและผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วงรถแบคโฮ เป็นต้น 4) จัดตั้งคณะกรรมการก ากับและติดตามการใชจายงบประมาณ (Tracking) เพื่อใหเกิดการบูรณา การและผลสัมฤทธิ์ตามเปาหมาย มหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบ ประมาณ ตามค าสั่งที่ 1947/2564 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2564 โดยมีการประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการใช้จ่ายงบประมาณ เป็นประจ าทุกสิ้นไตรมาส 5) แสวงหางบประมาณเพิ่มขึ้นทั้งจากงบแผนดินและงบรายไดอื่น ๆ ปีงบประมาณ 2565-2566 มหาวิทยาลัยได้รับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินจ านวน 1,787.399 และ 1,787.389 ล้านบาทตามล าดับ ส าหรับในปีงบประมาณ 2567 มหาวิทยาลัยได้รับการพิจารณากรอบวงเงิน งบประมาณเบื้องต้น ในส่วนของงบลงทุน ได้แก่ อาคารหอพักนักศึกษาแพทย์และพยาบาล อาคารฝึกทักษะ จ าลองทางการแพทย์ อาคารปฏิบัติการศูนย์วิจัยความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาคาร ปฏิบัติการศูนย์วิจัยความเป็นเลิศ ทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และการปรับปรุงอาคารบรรณสารและ สื่อการศึกษา


136 โดยครม.ได้เห็นชอบวงเงินตามที่ส านักงบประมาณพิจารณาเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายงบประมาณ แผ่นดินให้กับมหาวิทยาลัยจ านวน 1,772.0445 ล้านบาท ประกอบด้วย งบบุคลากร 1,008.9634 ล้านบาท งบ ด าเนินงาน 40.0735 ล้านบาท งบลงทุน 704.7601 ล้านบาท และงบเงินอุดหนุน 18.2475 ล้านบาท 6) เตรียมของบประมาณส าหรับกอสรางอาคารศูนยการแพทย (อาคาร E) เพื่อใหเฟสที่ 2 เสร็จสม บูรณ มหาวิทยาลัยได้จัดท ารายการค าขอตั้งงบประมาณประจ าปีงบประมาณ 2567 รายการก่อสร้างอาคาร โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อาคาร E และส่วนเชื่อมต่อ) รวมจ านวน 800 ล้านบาท ซึ่ง ผลการพิจารณาพบว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้รับการอุดหนุนงบประมาณ ดังนั้น มหาวิทยาลัยจะเตรียมยื่นเสนอขอตั้ง งบประมาณในปีงบประมาณ 2568 ต่อไป 7) เตรียมแผนและแบบของบประมาณเพื่อกอสรางอาคารศูนยความเปนเลิศในการวิจัย เพื่อให สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาการวิจัยของมหาวิทยาลัย ในปีงบประมาณ 2567 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากรัฐบาลในการ ก่อสร้างอาคารปฏิบัติการวิจัยจ านวน 2 หลัง รองรับศูนย์วิจัยความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี และศูนย์ความ เป็นเลิศทางด้านสุขภาพ หลังละ 70 ล้านบาท รวมจ านวน 140 ล้านบาท


137 8) เตรียมแผนและแบบเพื่อกอสรางหอประชุมนานาชาติขนาดจุ 4,500 คน เพื่อรองรับการส าเร็จ การศึกษาของบัณฑิตในอนาคตและรองรับการจัดประชุมนานาชาติในภาคใตตอนบน ขณะนี้มหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างการจ้างออกแบบอาคารหอประชุมนานาชาติขนาดจุ 4,500 ที่นั่ง เพื่อ ขอตั้งงบประมาณจากรัฐบาลในปีงบประมาณ 2568 โดยใช้เงินเหลือจ่ายในการออกแบบวงเงิน 14 ล้านบาท 2. การให้บริการหอพักนักศึกษา ปัจจุบันมีนักศึกษาอาศัยอยู่ในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยในภาคการศึกษาที่ 1/2566 จ านวน ทั้งสิ้น 5,547 คน จากจ านวนที่รองรับได้ทั้งหมด 6,038 คน คิดเป็นร้อยละ 91.87 ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมีหอพัก รองรับนักศึกษาจ านวนทั้งสิ้น 17 หลัง ประกอบด้วย 1) หอพักประเภทรายเทอม (ลักษณานิเวศ) จ านวน 13 หลัง เป็นห้องพัดลม 10 หลัง (หอพักนักศึกษาหญิง 8 หลังและหอพักนักศึกษาชาย 2 หลัง) และห้องปรับอากาศ 3 หลัง (หอพักนักศึกษาหญิง 2 หลังและหอพักนักศึกษาชาย 1 หลัง) และ 2) หอพักประเภทรายเดือน (wu residence) จ านวน 4 หลัง (เป็นหอพักนักศึกษาหญิง 3 หลังและหอพักนักศึกษาชาย 1 หลัง) ผลประเมินการ ให้บริการหอพักนักศึกษาในปี 2566 พบว่านักศึกษามีความพึงพอใจร้อยละ 85.82


138 ในส่วนของการซ่อมแซมและปรับปรุงหอพักทางกายภาพภายนอกและระบบสาธารณูปโภค ในปีนี้ได้ ด าเนินการทาสีภายนอกหอพักลักษณานิเวศจ านวน 9 หอ ปรับปรุงหลังคาโรงจอดรถหอพักลักษณานิเวศ และ ปรับปรุงระบบไฟฟ้า แสงสว่าง ซ่อมฝ้าเพดานหอพักลักษณานิเวศ 14 เพื่อป้องกันนกพิราบ ติดตั้งระบบ Wi-Fi ในห้องเสริมหอพักลักษณ านิเวศจ านวน 47 ห้อง วงเงิน 307,503.3374 บาท จัดท า TOR การติดตั้ง เครื่องปรับอากาศหอพักลักษณานิเวศจ านวน 13 หลัง ปรับปรุงห้องหอพัก WU Residence อาคาร A - B จ านวน 220 เตียง และก าลังด าเนินการก่อสร้างหอพัก WU Residence อาคาร C จ านวน 704 เตียง 3. การให้บริการศูนย์อาหารช่อประดู่ มหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงและขยายพื้นที่ตามนโยบายให้ความส าคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของนักศึกษาให้ สามารถใช้ชีวิตเรียนรู้อยู่อาศัยอย่างมีความสุขในเมืองมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยได้ย้ายร้านอาหารจากโรง อาหารกิจกรรมไปศูนย์อาหารช่อประดู่และได้เปิดให้บริการศูนย์อาหารช่อประดู่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2562 มีร้านอาหารที่มีมาตรฐานเปิดให้บริการกว่า 70 ร้าน ภายใต้แคมเปญรักษ์โลก และควบคุมใน เรื่องมาตรฐานด้านคุณภาพอาหาร ความสะอาด ความปลอดภัย และความสะดวกสบายให้กับนักศึกษา บุคลากร และประชาชนทั่วไป โดยส่งเสริมการลดการใช้โฟมและถุงพลาสติกเพื่อลดปริมาณขยะ นอกจากนี้ยังช่วยเหลือ ให้ชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียงได้เข้ามาเปิดร้านขายสินค้าในพื้นที่ดังกล่าวได้อีกด้วย


139 4. การให้บริการร้านค้าในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยได้ด าเนินการตามมาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยท าการตรวจ ประเมินกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าในมหาวิทยาลัยอย่างสม่ าเสมอ เพื่อให้นักศึกษาและบุคลากรมั่นใจได้ว่าการ ให้บริการร้านค้าต่าง ๆ ได้มาตรฐานความปลอดภัย ปัจจุบันมีร้านค้าที่ได้เปิดให้บริการภายในมหาวิทยาลัย เพิ่มขึ้นหลายร้านทั้งในบริเวณโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ ฯ และอาคารวิชาการต่าง ๆ อาทิ Top’s Daily, Café Amazon, 7-eleven สาขาอาคารเรียนรวม 6, ร้านอาหารว่างและเครื่องดื่ม All Café ในภาพรวมสามารถสร้าง รายได้จากการให้เช่าพื้นที่ในปีนี้จ านวน 12.7 ล้านบาท 5. การให้บริการศูนย์หนังสือและการขายของที่ระลึก ในรอบปีที่ผ่านมา ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งอยู่ในสังกัดศูนย์บริหารทรัพย์สิน ได้ให้บริการ จัดจ าหน่ายหนังสือ/ต ารา และสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ อาทิ กิ๊ฟเซ็ตชุดของขวัญ ชุดโถเบญจรงค์ ชุดแก้วกาแฟ แก้วมัค แก้วเยติเก็บอุณภูมิร้อนเย็น เข็มกลัดตรา มวล. เข็มที่ระลึก 31 ปี นอกจากนี้ ยังมีการจัด กิจกรรมมอบ ของขวัญของรางวัลสนับสนุนงานวันเด็กแห่งชาติปี 2566 สนับสนุนชุดนักศึกษาให้กับนักศึกษาผู้ประสบเหตุ


140 อัคคีภัย กิจกรรมประชาสัมพันธ์การไลฟ์สดทาง Facebook และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้นักศึกษา บุคลากร บุคคลภายนอกได้รับทราบ สรุปรายได้ที่เกิดขึ้นจากการให้บริการของศูนย์บริหารทรัพย์สินในรอบปี 2566 พบว่ามีรายได้รวม ทั้งสิ้น 103.14 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) งานพื้นที่ธุรกิจ 8.02 ล้านบาท 2) งานโครงการร่วมทุน 0.15 ล้านบาท 3) งานร้านค้า ร้านอาหาร (พื้นที่โรงอาหาร) 3.32 ล้านบาท 4) งานบริการหอพักนักศึกษา 82.67 ล้านบาท และ 5) งานจ าหน่ายสินค้า WU Book และ WU Shop 8.98 ล้านบาท


141 6. การร่วมทุนกับเอกชน จากการที่มหาวิทยาลัยมีแนวทางจะด าเนินโครงการร่วมทุนกับภาคเอกชน 4 โครงการ พบว่ายังมีปัญหา อุปสรรคในการด าเนินงาน ดังนี้ 1. โครงการร่วมทุนโซล่าฟาร์ม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พบว่าหน่วยงานเอกชนที่ร่วมทุนไม่มี งบประมาณในการด าเนินงานก่อสร้างโครงการต่อให้แล้วเสร็จ จึงต้องให้แสดงหลักฐานการจัดหาแหล่งเงินทุน ซึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาข้อหารือเกี่ยวกับแนวทางการด าเนินงาน หากมีการยกเลิกสัญญาโครงการดังกล่าว 2. โครงการร่วมทุนโรงเรียนนานาชาติบริติช ปัญญาดี นครศรีธรรมราช ได้มีการหารือความร่วมมือ การก่อสร้างโรงเรียนนานาชาติร่วมกับบริษัทปัญญาดี ศึกษา จ ากัด เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 และได้มี หนังสือยืนยันจะร่วมลงทุนกับมหาวิทยาลัยตามวัตถุประสงค์เดิม แต่เนื่องจากยังไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจาก สถาบันการเงิน ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาข้อหารือเกี่ยวกับแนว ทางการด าเนินงาน หากมีการยกเลิกสัญญาโครงการดังกล่าว 3. โครงการร่วมทุนหอพักนักศึกษาส านักวิชาแพทยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ และ โครงการร่วมทุนหอพักบุคลากรของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผู้บริหาร มหาวิทยาลัยและเอกชนได้หารือการด าเนินงานโครงการและตกลงยุติการลงนามสัญญาโครงการ เนื่องจากมี ข้อจ ากัดของมหาวิทยาลัยและสถาบันการเงินที่มหาวิทยาลัยไม่สามารถจดสิทธิการเช่าที่ดินตามระเบียบของ สถาบันการเงินที่เอกชนขอการสนับสนุนเงินทุนได้ ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาข้อหารือเกี่ยวกับแนวทางการด าเนินงาน กรณียกเลิกการลงนามสัญญาโครงการ 4. โครงการร่วมทุนหอพักบุคลากรของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯ ภาคเอกชนได้ขอยกเลิกการลง นามสัญญ าฯ เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากสถาบันการเงิน โดยได้รายงานต่อที่ประชุม คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 เพื่อทราบแล้ว ขณะนี้จึงอยู่ระหว่าง คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาข้อหารือเกี่ยวกับแนวทางการด าเนินงาน กรณียกเลิกการลง นามสัญญาโครงการ


142 7. อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีโครงการวิจัยร่วมกับภาคเอกชนและชุมชนที่ได้น าผลงานไปพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพาณิชย์ โดยให้ทุนผ่านผู้ประกอบการเพื่อให้นักวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้องค์ความรู้หรืองานวิจัยของมหาวิทยาลัย ซึ่ง ในปี 2566 มีโครงการวิจัยที่ได้รับการต่อยอดเชิงพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 14 โครงการ คิดเป็นเงิน 11.9 ล้านบาท อาทิ ผลิตภัณฑ์ไตรโคเดอร์ม่า NST-009 ให้กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โปรดิวซ์ จ ากัด มูลค่า 500,000 บาท ให้กับ บริษัท ไบโอฟิล เทคโนโลยี จ ากัด มูลค่า 150,000 บาท และบริษัท ไบโอนิค จ ากัด มูลค่า 150,000 บาท ผลิตภัณฑ์ไฮโดรเจลบ ารุงผิวให้กับ หจก.จันทร์เจ้าเฮิร์บ มูลค่า 60,000 บาท ครีมทาผิว Red Palm Oi ให้กับ โครงการจัดตั้งบริษัท โอ้ ดี จ ากัด มูลค่า 60,000 บาท ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกเลี้ยงกุ้ง ให้กับบริษัท ลักษ์วลัยไบโอ ติค จ ากัด มูลค่า 30,000 บาท 19 ธันวาคม 2565 คุณพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล ส านักงาน ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ติดตามผลการด าเนินงานกิจกรรม Talent Mobility ปีงบประมาณ 2565 อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งได้ด าเนินงานให้ ทุน Pre-TM สนับสนุนบุคลากรวิจัยไปปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตให้กับ ภาคอุตสาหกรรม จ านวน 9 โครงการ เกิดผลกระทบให้เอกชนมีการลงทุนในการวิจัยเพิ่มเติมมากกว่า 2.5 ล้าน


143 นอกจากนี้ ยังมีจ านวนผลงานวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมที่ได้รับการจดทรัพย์สินทางปัญญาจ านวน 10 ผลงาน ดังนี้ 1.กรรมวิธีการท าผ่าเหล่าแบคทีเรียสเตรปโตมัยสีท (Streptomyces) ด้วยรังสีไมโครเวฟ ของรศ.ดร. มณฑล เลิศคณาวนิชกุล ส านักวิชาสหเวชศาสตร์ ประเภทอนุสิทธิบัตร 2.ชุดทดสอบเชื้อยีสต์ Cryptococcus neoformans var, neoformans ของ ผศ.ดร.สืบตระกูล วิเศษ สมบัติส านักวิชาสหเวชศาสตร์ ประเภทอนุสิทธิบัตร 3.กรรมวิธีเตรียมผลิตภัณฑ์ของเหลวฆ่าเชื้อ จากน้ าเลี้ยงเชื้อสเตรปโตมัยสีท ทีไอเอสทีอาร์ 2304 (Streptomyces sp. TISTR 2304) เพื่อใช้ใน การผลิตน้ ายาฆ่าเชื้อบนผิววัสดุ ของอาจารย์รศ.ดร. มณฑล เลิศคณาวนิชกุล ส านักวิชาสหเวชศาสตร์ ประเภทอนุสิทธิบัตร 4.แม่พิมพ์ลายส าหรับพื้นคอนกรีต ของ ผศ. มลชฎ าภ ร สุขก าร ส านั ก วิช าพหุภ าษ าแล ะ การศึกษาทั่วไป ประเภทสิทธิบัตรออกแบบ 5.อุปกรณ์อัดพอลิเมอร์เข้าในเนื้อไม้แบบให้ มอนอเมอร์ไหลในทิศทางการไหลของน้ าเลี้ยง ของ ผศ.ดร.สุฤกษ์ คงทอง และ นางสาวเบญจมา มีถาวร ส านักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ประเภทอนุสิทธิบัตร 6.อุปกรณ์ป้องกันการสัมผัสลูกบิดประตู ของ ผศ.ดร.ประชิด สระโมฬี และ ผศ.วาลุกา เอมเอก ส านักวิชา วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ประเภทสิทธิบัตรออกแบบ


144 7.วิธีการลดการยุบตัวของไม้ปาล์มน้ ามันในกระบวนการอบแห้งด้วยวิธีการเพิ่มความชื้นในไม้แล้วแช่เยือก แข็ง ของ รศ.ดร.นิรันดร มาแทน นายชูศักดิ์ ฤทธิเพชร นางสาวกมลวรรณ ด ายัง และ นางสาวพีรยา เศรษฐพงศ์ ส านักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ประเภทอนุสิทธิบัตร 8.กรรมวิธีการผลิตและผลิตภัณฑ์เยลลี่แห้งฝรั่งเสริมคอนจูเกตไลโนเลอิก ของ ศ.ดร.วรรณา ชูฤทธิ์, ผศ. ดร.วิลาวัณย์ ผลาชุม และ ผศ.ดร.สุปราณี มนูรักษ์ชินากร ส านักวิชาเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรม อาหาร ประเภทอนุสิทธิบัตร 9.แผนที่ดาวแบบหมุนระบบพิกัดสุริยวิถี-ศูนย์สูตรฟ้า ประเภทอนุสิทธิบัตร 10 เครื่องหมุนท่อนซุงไม้ยางพาราเพื่อวางแนวแกนไม้อัตโนมัติ ของรศ.ดร.วัฒนพงศ์ เกิดทองมี และ นาย วัชรินทร์ คงสวัสดิ์ ส านักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ประเภทอนุสิทธิบัตร


145 บริษัท วลัยไบโอคอนโทรล คว้าชนะเลิศ "ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี"จากสมาคมบ่มเพาะธุรกิจ แห่งเอเชีย บริษัท วลัยไบโอคอนโทรล จ ากัด ผู้ผลิตและจัดจ าหน่าย ชีวภัณฑ์เกษตร โดยมี รศ.ดร. วาริน อินทนา ส านักวิชาเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นที่ปรึกษา คว้ารางวัล ชน ะเลิ ศ ระดับ น าน าช าติ "ด้ าน ก า รถ่ ายท อ ด เท คโนโล ยี " AABI torch Entrepreneur Awards for "TECHNOLOGY TRANSFER" model จากสมาคมบ่มเพาะธุรกิจแห่งเอเชีย เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดย รางวัล ดังกล่าวสะท้อนความส าเร็จของโมเดลการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกิดจากงานวิจัยไปสู่บริษัทจัดตั้งใหม่อย่างชัดเจน นักศึกษา ม.วลัยลักษณ์ ได้รับคัดเลือกเป็น ตั ว ข อ งป ร ะ เท ศ ไป พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ก า ร เป็ น ผู้ประกอบการกับหน่วยงานชั้นน าในต่างประเทศ น างส าวพรธิตา พน าโยธากุล หลักสูต ร การตลาดดิจิทัลและการสร้างแบรนด์ ส านักวิชาการ จัดการ เจ้าของผลงานโครงการชุดตรวจเชื้อรา Cryptococcus neoformans ที่ท าให้การวินิจฉัยโรค ได้รวดเร็วขึ้น นางสาวกนกพิชญ์ สระวัง หลักสูตร แพทย์ศาสตร์ ส านักวิชาแพทยศาสตร์ เจ้าของผลงาน โครงการชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (HPV) ด้วยตนเอง และนางสาวนัสรีนันท์ หวันเล็ม Walailak University International College, Bachelor of Business Administration International Program เจ้าของโครงการผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งท าความสะอาดจาก น้ ามันมะพร้าว ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการการเรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อเร่งเป็นผู้ประกอบการจาก สถาบันอุดมศึกษาร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ส านักงานปลัดกระทรวงการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ----------------------------------


146


Click to View FlipBook Version