The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาชาววังสวนสุนันทา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nutthapat Kaewrattanapat, 2021-03-16 12:55:12

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาชาววังสวนสุนันทา

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาชาววังสวนสุนันทา

พระคลงั ข้างที่ ซ่ึงเป็ นพระราชทรัพย์ส่วนในพระองค์ เพื่อจะได้ทาเป็ นท่ีประทบั แลถนนหนทางท่ีจะ
ประพาสตอ่ ไปด้วยเงินพระคลงั ข้างท่ีทงั้ สิน้ พระราชทานชื่อตาบลนีว้ ่า สวนดสุ ิต ผ้ใู ดจะเรียกชื่อท่ีนีใ้ ห้
เรียกตามช่ือที่พระราชทานไว้ ฤๅถ้าจะออกช่ือท่ีประทบั ก็ห้ามอย่าให้เรียกวา่ พระราชวงั เพราะเหตทุ ่ีมิได้
สร้างขนึ ้ ด้วยพระราชทรัพย์สาหรับใช้จา่ ยการแผน่ ดนิ ให้เรียกแตว่ า่ วงั สวนดสุ ิต เท่านนั้ ก็เป็ นการสมควร
แล้ว” (ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอย่หู ัว ได้มีพระบรมราชโองการให้เรียกว่า
พระราชวงั สวนดสุ ติ )

เขตที่ประทบั ใหม่นี ้จดั ว่าเป็ นพืน้ ท่ีกว้างขวางมาก และเรียกได้ว่าทรงมีพระราชกระแสควบคมุ
ตกแต่งด้วยพระองค์เอง แม้การก่อสร้างชนั้ แรกจะยงั ไม่สาเร็จบริบูรณ์ก็ได้เสด็จประทบั เอาพระฤกษ์
ตงั้ แต่ พ.ศ.2442 ในระยะนนั้ ทรงโปรดฯ ให้เจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวฒั น์ (ม.ร.ว.หลาน กญุ ชร) เสนาบดี
กระทรวงโยธาธิการ เป็ นแม่กองสร้ างสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษมทัง้ หมด 5 แห่ง เม่ือแล้วเสร็จ
พระราชทานนามคล้องจองกันว่า สะพานเทเวศรนฤมิตร สะพานวิศสุกรรมนฤมาณ สะพานมฆั วาน
รังสรรค์ สะพานเทวกรรมรังรักษ์ และสะพานจตรุ ภกั ตร์รังสฤษดิ์ โดยเฉพาะสะพานเทเวศรนฤมิตรนนั้
ทรงพระราชทานนามให้เป็ นเกียรติแก่เจ้าพระยาเทเวศรฯ เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการผู้เป็ นแม่กอง
ส่งผลให้ชุมชนและตลาดบริเวณนนั้ ได้ชื่อว่าย่านเทเวศร์ สืบมาจนทุกวนั นี ้ สาหรับพระราชพิธีคฤห
มงคล หรือพิธีขึน้ ที่ประทับใหม่นนั้ มีหลักฐานปรากฏว่า ในวนั ท่ี 22 กุมภาพนั ธ์ ร.ศ.125(พ.ศ.2449)
ทรงประกอบพิธีขึน้ พระท่ีนัง่ อภิเศกดุสิต และพระท่ีนง่ั อัมพรสถาน สถานท่ีนีท้ รงตงั้ พระทัยควบคุม
ตกแตง่ ด้วยพระองค์เอง แม้กระทงั่ การปลกู และหาพรรณไม้ตา่ ง ๆ มาประดบั ให้สวยงาม และในคราว
นนั้ เชื่อว่าได้มีการสร้ างตกแต่งบริเวณที่ได้ทรงกาหนดให้เป็ น “สวนสุนันทา” ขึน้ มาด้วย เพราะเริ่ม
ปรากฏชื่อในพระราชกระแสรับสงั่ ถงึ พระยาเวียงในนฤบาลและพระยาอภิรักษ์ ให้ปลูกต้นไม้ตามบริเวณ
ท่ีทรงกาหนด มีพืน้ ท่ี “ริมฝ่ังสระสนุ นั ทา” ขนึ ้ มาด้วยดงั ตวั อยา่ งพระราชกระแสดงั นี ้

42 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

นายโก้ ร่าง
หลวงศรี ตรวจ
ที่ 48 / 758 กรมราชเลขานกุ าร

วนั ท่ี 4 กรกฎาคม รัตนโกสนิ ทรศก 121
แจ้งความมายงั พระยาเวียงในนฤบาล

ด้วยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ว่าท่านทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือลงวันที่ 3 เดือนนี ้
กราบบงั คมทลู พระกรุณาวา่ ได้ทา....(ต้นฉบบั เลือนอ่านไมช่ ดั )...พระยาอภิรักษ์ แลสองข้างถนนมงั กรรา
ถึงน่าพลบั พลาริมถนนภาพระบา คือท่ีทาแล้วไปตงั้ แต่ลายริมถนนเบญจมาศรอบสนามม้าด้านใต้จด
ถนนฮกด้านตะวนั ออกริมถนนฮกถึงถนนซงั ฮีร้ ิมฝ่ังสระสนุ นั ทาแลตลอดถึงถนนภาพระบาแลลายพลบั
พลาข้างถนนภาพระบาทงั้ สองฝั่ง กบั จะได้ลงมือทาลายท่ียงั ค้างอยดู่ ้านจมื่นราชานบุ าลอีก 6 แปลงแล้ว
ตอ่ ไปจะได้จบั ทาตามลานรอบสนามม้าด้านใต้นนั้ โปรดเกล้าฯ วา่ เป็นการดแี ล้วฯ

นอกจากพระท่ีนง่ั ที่ประทบั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั ทรงให้สร้างตาหนกั แบบ
ฝรั่งและเรือนทรงไทยสาหรับข้าราชสานกั ฝ่ ายในท่ีจะติดตามพระองค์ไปด้วย นามพระตาหนกั ขึน้ ต้น
ด้วยสวนและตอ่ ด้วยช่ือลายในเครื่องลายครามเชน่ สวนนกไม้ สวนหงษ์ สวนสี่ฤดู สวนบวั สวนฝร่ังกงั ไส
สวนพดุ ตาน ฯลฯ และทรงพอพระทยั พระท่ีนงั่ อมั พรสถานมาก ถึงกบั ทรงมีพระราชดารัสว่า “ยงั ไมเ่ ห็น
ว่ามีที่ไหนดีเท่าที่ได้มาแล้ว” แตส่ วนสนุ นั ทาในตอนนนั้ คงยงั มิได้จดั การให้มีแบบแผนเป็ นแบบสวนที่
ต้องพระประสงค์ ความตงั้ พระทยั จะให้มีเขตบริเวณที่เรียกว่า “สวนสนุ นั ทา” เป็ นรูปเป็ นร่างจริงจงั นนั้
เกิดขนึ ้ เนื่องจากการเสดจ็ ประพาสยโุ รปครัง้ ที่ 2 ทรงเห็นวา่ พระราชวงั ของเจ้านายราชวงศ์ในยโุ รปมีสวน
เที่ยวเลน่ โดยเฉพาะการเสด็จประพาส วิลลา โนเบล ซนั เรโม วนั ที่ 11 พฤษภาคม ร.ศ.126 (พ.ศ.2450)
เมื่อได้ทอดพระเนตรแล้วจึงทรงเกิดความคิดและมีพระราชกระแสสง่ั ความมายงั พระยาสุขมุ นยั วินิต
(ปัน้ สขุ มุ ตอ่ มาเป็นเจ้าพระยายมราช) วา่ ในเขตพระที่นง่ั อมั พรสถานนนั้ แม้จะพอพระทยั แตก่ ็ยงั มีบาง
สิ่งที่ไม่สมพระทยั คือไม่มีสถานที่สาหรับสาราญพระราชอิริยาบถจริง ๆ จึงมีพระราชดาริในการสร้าง
สวนแบบเจ้านายยโุ รปไว้สาหรับเป็นสถานที่พกั พ่อนพรอริ ิยาบถจริง ๆ

พ.ศ.2451 หลงั จากเสด็จนิวตั พิ ระนครในคราวประพาสยุโรปครัง้ ท่ีสองแล้ว ก็ได้ทรงจดั วางแบบ
การสร้างสวนสนุ นั ทาท่ีทรงตงั้ พระทยั ให้เป็ นสวนป่ าทนั ที ทรงให้ทาประตจู ากถนนบ๋วยในเขตท่ีประทบั
ไปสสู่ วนสนุ นั ทา เรียกวา่ ประตสู ่ีแซ่ ในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั ทรงพระราชทาน
นามว่าประตูสุนันทาทวาร เขตพระราชฐานสวนสุนนั ทานีน้ อกจากเหตผุ ลที่ทรงสร้ างไว้ เพ่ือประทับ
พกั ผ่อนเป็ นประการสาคญั แล้ว ยงั มี เหตุผลอีกประการหน่ึง คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอย่หู ัวทรงทราบดีว่าพระองค์เป็ นผ้มู ีครอบครัวมาก ในวันหน่ึงข้างหน้า ถ้าสิน้ รัชสมยั ของพระองค์
บรรดาเจ้าจอมที่มีพระราชธิดาและบรรดาเจ้าจอมทงั้ หลายจะลาบาก สาหรับเจ้าจอมท่ีมีพระเจ้าลกู เธอ
พระองค์ชายคงไมม่ ีปัญหา เพราะได้ออกไปอยวู่ งั กบั พระราชโอรส ได้ ความห่วงใยในข้อนีถ้ ึงกบั ได้เคยมี

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 43

พระราช หตั ถเลขาพระราชทานสมเด็จกรมพระยาดารง ราชานุภาพครัง้ หน่ึงเม่ือ และในคราวเสด็จ
ประพาสยโุ รปก็ทรงปรารภกบั เจ้าพระยายมราชอีก

พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั จงึ ทรงหาทางที่จะช่วยเหลือครอบครัว พระองค์ท่าน
แต่เนิ่น ๆ จึงได้ทรงกาหนดแนว พระราชดารินีพ้ ระราชทานแก่เจ้าพระยายมราช ดงั ปรากฏในแผนผงั
การสร้างสวนคอื ที่ซึง่ ได้กะไว้วา่ จะเป็ นบ้าน เรือนข้างในตามแผนท่ีกะแตก่ ่อนคงอย่ตู อ่ ไป จะกนั้ กาแพง
เสร็จแล้วจงึ จะซือ้ กาแพงในออกเสียกนั ท่ีนนั้ เข้าไว้ในวงั แตพ่ ระราชประสงค์ที่จะกนั สถานที่ไว้สาหรับเจ้า
จอมทงั้ หลายนนั้ ยงั มิได้ทรงเห็นเป็ นการเร่งดว่ น เพราะมิได้ทรงมีพระราชหตั ถเลขา สง่ั การยา้ เร่ืองนี ้แต่
ทรงมีลายพระราชหัตถเลขา สงั่ การส่วนใหญ่ในด้านจดั วางรูปแบบของสวนสุนันทา การหาที่พกั อยู่
อาศยั ของเจ้าจอม คาดวา่ ทรงคิดจะทาในภายหลงั ดงั นนั้ จึงมงุ่ เน้นหนกั ในตอนต้นไปทางด้านจดั สวน
จดั สภาพแวดล้อมในเขตสวนสนุ นั ทาทาให้เหมือนสวนป่ ามากท่ีสดุ มีการจ้างฝรั่งมาสอ่ งกล้องกะบริเวณ
แตท่ ี่นา่ ภาคภมู ิใจก็คือ ทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งทรงเป็ นพระราช ธุระทงั้ สิน้ ดงั ปรากฏในหลกั ฐานที่พระราชทาน
พระยาวรพงษ์พพิ ฒั น์เรื่องการปลกู ต้นประดรู่ ิมถนนดวงดาววา่ “...คงใช้ฝร่ังเขาเป็ นแตผ่ ้ปู ัก เราเป็ นผ้ตู ดั
ผ้ทู าอย่างเช่นสวนสุนนั ทา แลสวนพญาไท...” สิ่งเหล่านีแ้ สดงให้เห็นว่า พระราชประสงค์ใน การสร้าง
สวนสนุ ันทา เป็ นไปเพื่อต้องการสวนป่ าสาหรับเสด็จประพาสพักผ่อนในวังเป็ นประการหนึ่ง เพื่อทรง
เตรียมที่อาศยั ในวนั หน้าสาหรับ เจ้าจอมของพระองค์ท่ีมีพระราชธิดาและท่ีไม่มี พระราชโอรสพระธิดา
เป็ นประการท่ีสอง สาหรับ เหตผุ ลในประการที่สองนีย้ งั มิได้ทรงเร่งด่วนนกั ดงั ลายพระหตั ถ์ท่ีวา่ “...การ
นนั้ เอาไว้คดิ ภายหลงั ได้ "

ภาพท่ี 4.1 เจ้าจอมหมอ่ มราชวงศ์สดบั ลดาวลั ย์ พระสนมเอกในรัชกาลที่ 5
ที่มา: กรมศลิ ปากร

44 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

เหตผุ ลอีกประการหนง่ึ ซึ่งมิได้ปรากฏเป็ น หลกั ฐานด้วยลายพระราชหตั ถเลขา แตเ่ ป็ นบคุ คลร่วม
สมยั ในระยะนนั้ โดยเฉพาะ จากการสมั ภาษณ์ เจ้าจอม ม.ร.ว.สดบั ในรัชกาล ที่ 5 (สมั ภาษณ์โดย
ลดาวลั ย์ มาลยวงศ์ และคณะ. 2523) ซ่ึงกลา่ ววา่ นอกจากเพ่ือให้เป็ นที่อาศยั ข้าราชสานกั ฝ่ ายในแล้ว
การที่ทรงจดั สร้างสวนสนุ นั ทา และทรงใช้ชื่อ “สนุ นั ทา” ก็อาจเป็ นด้วยความราลกึ ถึงพระมเหสี สมเด็จ
พระนางเจ้าสนุ นั ทากมุ ารีรัตน์ จึงทรงใช้ชื่อ “สวนสนุ นั ทา” เป็ น อนสุ รณ์ เพราะเหตทุ ่ี...สมเดจ็ พระนาง
เจ้าพระองคน์ ีเ้ป็นมเหสีใหญ่ แล้วทรงพระกรุณา โปรดปรานมากพิเศษกวา่ ทกุ พระองค์ ทีนีเ้ม่ือ ทา่ นไม่มี
ชีวิตแล้วพระองค์ก็อยากให้มีอะไร ๆ ไว้เป็ นท่ีระลกึ ทา่ นทรงตงั้ ชื่อ โรงเรียนราชินีว่า โรงเรียนสนุ นั ทาลยั
ไว้ (โรงเรียนราชินี ที่ปากคลองตลาด) สวนสนุ นั ทานี่ก็เหมือนกัน... ใคร ๆ เข้าใจกนั อย่างนนั้ ท่านเรียก
แมใ่ หญ่ หญิงใหญ่ คดิ ถึงหญิงใหญ่บ้าง….ราชสานกั ในสมยั กรุงรัตนโกสินทร์ ยคุ รัชกาลพระบาทสมเดจ็
พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั จึงเป็ นราชสานกั ท่ีขยายตวั สออกจากพระบรมมหาราชวงั ส่เู ขตพระราชฐาน
ภายนอก เช่นที่พระราชวังดสุ ิต พระราชวังพญาไท ซ่ึงอาจจะมีเหตมุ าจากปัจจัยหลายประการ เช่ น
อาณาบริเวณในพระบรมมหาราชวงั เร่ิมคบั แคบ อากาศไมถ่ ่ายเท ผ้ทู ี่ประทบั และพกั อาศยั อย่ภู ายในจึง
มีสุขภาพอนามยั ท่ีไม่ดีเท่าท่ีควร ประกอบกับการท่ีได้เสด็จพระราชดาเนินประพาสยุโรปสองครัง้ ได้
ทอดพระเนตรเห็นสภาพบ้านเมือง และพระราชวงั ในตา่ งประเทศ ทาให้ทรงได้แนวพระราชดาริในการ
จดั การเร่ืองท่ีประทบั ให้ตรงตามพระราชประสงค์

4.2 วัฒนธรรมตะวันตกท่มี ีอิทธิพลต่อราชสานัก

ชาวไทยมีการติดตอ่ กบั ชาตติ ะวนั ตกมาแตค่ รัง้ โบราณ ปรากฏหลกั ฐานในสมยั กรุงศรีอยธุ ยาที่มี
พอ่ ค้าและทหารชาวโปรตเุ กสเข้ามาตดิ ตอ่ ค้าขาย และรับจ้างประการในกองทพั รวมถึงนาเอาวิทยาการ
แบบตะวนั ตกเข้ามาเผยแพร่ด้วย

วฒั นธรรมตะวนั ตกท่ีมีอิทธิพลต่อสงั คมไทยการติดตอ่ กับชาวต่างชาติของคนไทยในยุคสมยั ตา่ ง ๆ
มีผลต่อสังคมไทยหลายด้ าน วัฒนธรรมตะวันตกได้ ก ลายเป็ นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรมไทย
โดยวฒั นธรรมบางอย่างได้ถกู ปรับใช้ให้เหมาะสมกบั วิถีชีวิตและประเพณีดงั้ เดิมของคนไทย ขณะที่
วฒั นธรรมบางอยา่ งรับมาใช้โดยตรง

ศิริพร ดาบเพชร คมคาย มากบัว และประจักษ์ แป๊ ะสกุล ได้จาแนกการรับเอาวัฒนธรรม
ตะวนั ตกของไทยไว้ว่า ไทยได้รับวฒั นธรรมตะวนั ตกหลายด้านมาตงั้ แตส่ มยั อยุธยา ในระยะแรกเป็ น
ความก้ าวหน้าด้านการทหาร สถาปัตยกรรม ศิลปวิทยาการในสมัยรัตนโกสินทร์ตัง้ แต่รัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระน่งั เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็ นต้นมา คนไทยรับวฒั นธรรมตะวันตกมากขึน้
ทาให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีของคนไทยมาจนถึงปัจจบุ นั ตวั อย่างวฒั นธรรมตะวนั ตกท่ีมีอิทธิพล
ตอ่ ราชสานกั และสงั คมไทยท่ีสาคญั มีดงั นี ้

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 45

4.2.1 ด้านการทหาร
เป็ นวฒั นธรรมตะวนั ตกแรกๆ ท่ีคนไทยรับมาตงั้ แตส่ มยั กรุงศรีอยธุ ยา โดยซือ้ อาวธุ ปื นมา

ใช้ในราชการสงคราม มีการสร้างป้ อมปราการตามแบบตะวนั ตก เชน่ ป้ อมวิไชยประสิทธ์ิที่ริมแมน่ า้
เจ้าพระยา ออกแบบโดยวิศวกรชาวฝร่ังเศส ในสมยั กรุงรัตนโกสินทร์มีการจ้างชาวองั กฤษเข้ามารับ
ราชการเพื่อทาหน้าที่ให้คาปรึกษาด้านการทหาร มีการตงั้ โรงเรียนนายร้ อย การฝึ กหดั ทหารแบบ
ตะวนั ตก วฒั นธรรมด้านการทหารนี ้คงปรากฏในลกั ษณะจดั เป็ นทหารสมยั ใหม่ที่รับใช้ใกล้ชิด ถวาย
ความปลอดภัยตอ่ พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ แล้วจึงคอ่ ยปรับเปล่ียนทงั้ ระบบในสมยั ตอ่ ๆ มา

4.2.2 ด้านการศกึ ษา
ในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระนงั่ เกล้าเจ้าอย่หู วั รัชกาลที่ 3 มีชนชนั้ นาจานวนหนึ่ง เช่น

สมเดจ็ เจ้าฟ้ าจฑุ ามณี พระราชอนชุ า และขนุ นางคนสาคญั เชน่ จมื่นไวยวรนาถ (ชว่ ง บนุ นาค) ได้ศกึ ษา
ภาษาองั กฤษและวิทยาการตะวนั ตกถึงขนาดสามารถสร้างเรือกลไฟได้ ครัน้ ถึงรัชสมยั พระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั รัชกาลที่ 4 ทรงจ้างครูตา่ งชาตมิ าสอนภาษาองั กฤษและความรู้แบบตะวนั ตกใน
ราชสานกั ทาให้เจ้านายฝ่ ายในได้รับการศกึ ษาภาษาตา่ งประเทศอย่างเปิ ดเผย และเป็ นแบบแผนมาก
ขนึ ้ ในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั รัชกาลท่ี 5 มีการตงั้ กระทรวงธรรมการขนึ ้ มา
จดั การศกึ ษาแบบใหม่ มีโรงเรียนเพิ่มขนึ ้ ทวั่ พระราชอาณาจกั ร ทรงส่งพระราชโอรสและนกั เรียนไทยที่
เป็ นบุตรขุนนาง และชาวบ้านไปศึกษาวิทยาการสมัยใหม่ในทวีปยุโรป มีการก่อตัง้ โรงเรียนแพทย์
โรงเรียนกฎหมาย และในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพนระมงกุฎเกล้าเจ้าอย่หู วั รัชกาลที่ 6 มีพระราชบญั ญัติ
การศกึ ษาภาคบงั คบั ให้เดก็ ทกุ คนต้องเข้ารับการศกึ ษาในระบบ และก่อตงั้ สถาบนั อดุ มศกึ ษาแหง่ แรกใน
ประเทศคือจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั

4.2.3 ด้านวิทยาการ
วิทยาการสมัยใหม่มักจะเริ่ มต้ นรับเอามาจากชาติตะวันตกโดยราชสานักอิทธิ พลของ

วฒั นธรรมตะวนั ตกในข้อนีท้ ี่ราชสานกั ได้รับมาเชน่ ความรู้ในวิทยาการท่ีเป็ นวิทยาศาสตร์ เช่น เรื่องของ
ดาราศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั รัชกาลท่ี 4 ทรงใช้ความรู้ทางดาราศาสตร์จน
สามารถ คานวณการเกิดสรุ ิยปุ ราคาได้อย่างถกู ต้อง หรือความรู้ทางการแพทย์สมยั ใหม่ ซ่งึ เร่ิมในรัช
สมยั พระบาทสมเด็จพระนงั่ เกล้าเจ้าอย่หู วั รัชกาลท่ี 3 ที่มิชชนั นารีได้นาเอาวิทยาการทางการแพทย์
สมยั ใหมเ่ ข้ามาพร้อมกบั การเผยแผศ่ าสนา การรักษาโดยแพทยสมยั ใหม่ก็เริ่มต้นในราชสานกั ก่อน แล้ว
จงึ แผ่ขยายออกส่ปู ระชาชนทวั่ ไป และในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั รัชกาลท่ี 5
ได้มีการจดั ตงั้ โรงพยาบาล โรงเรียนฝึ กหดั แพทย์และพยาบาล ความรู้ทางการแพทย์แบบตะวนั ตกนีไ้ ด้
เร่ิมต้นจากราชสานกั ก่อนขยายเป็นพืน้ ฐานทางการแพทย์และสาธารณสขุ ไทย ในปัจจบุ นั

46 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

4.2.4 ด้านการพิมพ์
เร่ิมจากการพิมพ์หนังสือพิมพ์รายปั กษ์ภาษาไทยขึน้ เป็ นครัง้ แรกใน พ.ศ. 2387

ช่ือ "บางกอกรีคอร์เดอร์" พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั รัชกาลที่ 4 ขณะเม่ือยงั ทรงพระผนวช
อยู่ ณ วดั บวรนิเวศวหิ าร ทรงเล็งเหน็ ความสาคญั ของวิทยาการด้านการพิมพ์ ถึงขนาดทรงสร้างโรงพิมพ์
ขึน้ ในวดั เพื่อเผยแผ่หลกั ธรรมคาสอนทางพระพุทธศาสนา และความรู้ในสรพพวิทยาอื่น ๆ การพิมพ์
หนงั สือทาให้ความรู้ตา่ ง ๆ แพร่หลายมากขนึ ้ ในด้านการส่ือสารคมนาคม เชน่ การสร้างถนน สะพาน
โทรทศั น์ โทรศพั ท์ กล้องถ่ายรูป รถยนต์ รถไฟฟ้ า เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็ นต้น ซึง่ ช่วยอานวยความ
สะดวกสบายให้แกค่ นไทยเป็นอยา่ งมาก

ภาพท่ี 4.2 Dr.Dan Beach Bradley (หมอบรัดเลย์)
ท่ีมา : โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตยี น

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 47

ภาพท่ี 4.3 หนงั สือพิมพ์บางกอกรีคอร์เดอร์
ที่มา : วกิ ิพีเดยี สารานกุ รมเสรี

4.2.5 ด้านวิถีการดาเนนิ ชีวติ
การรับวัฒนธรรมตะวันตกและสิ่งประดิษฐ์ตา่ ง ๆ มาใช้ ทาให้วิถีการดาเนินชีวิตของคน

ไทยแบบเดิมเปลี่ยนแปลงไป เช่น การใช้ช้อนส้อมรับประทานอาหารแทนการใช้มือ การนง่ั เก้าอีแ้ ทน
การนงั่ พืน้ การใช้เคร่ืองแตง่ กายแบบตะวนั ตกหรือปรับจากตะวนั ตก การปลกู สร้างพระราชวงั อาคาร
บ้านเรือนแบบตะวนั ตก ตลอดจนนากีฬาของชาวตะวนั ตก เชน่ โครเกต์ เข้ามาส่รู าชสานกั ฝ่ ายใน หรือ
กีฬาฟุตบอลท่ีเร่ิมเลน่ กนั ในกล่มุ มหาดเล็กของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั ก่อนเผยแพร่สู่
ประชาชนทวั่ ไป เป็นต้น

4.3 การรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกสู่ราชสานัก

ในการติดต่อกับชาวตะวนั ตกโดยทว่ั ไปเจ้านายและขุนนางได้ปรับตวั ให้ทันสมยั ให้ทดั เทียมกับ
ชาติตะวนั ตกในยคุ ที่มีการแสวงหาอาณานิคมจากประเทศมหาอานาจ มีการรับแบบแผนประเพณีและ
คา่ นยิ มแบบตะวนั ตกมาปรับปรุงการดาเนินชีวติ และมีผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางด้านวฒั นธรรมใน
ราชสานกั แล้วค่อยขยายส่ภู ายนอก เนื่องจากราษฎรทว่ั ไปได้ยึดถือเป็ นแบบอย่างและหล่อหลอมเข้า
เป็นสว่ นหนง่ึ ของ วถิ ีชีวติ คนไทยในปัจจบุ นั อิทธิพลของวฒั นธรรมตะวนั ตกท่ีเห็นเดน่ ชดั ได้แก่ การแตง่
กาย การตกแตง่ บ้านเรือน เครื่องเรือน การรับประทานอาหาร การกีฬาและนนั ทนาการ

48 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

การแต่งกาย ราชสานักไทยและขุนนางเป็ นกลุ่มแรก ท่ีรับเอาวัฒนธรรมการแต่งกายแบบ
ตะวันตก ทัง้ ของหญิงและชายมาประยุกต์ใช้ เม่ือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จ
ประพาสยโุ รป ถึง 2 ครัง้ ก็ทรงฉลองพระองค์แบบตะวนั ตก ตอ่ มาการแตง่ กายแบบตะวนั ตกของเจ้านาย
ก็กลายเป็น "พระราชนิยม" ท่ีคนทวั่ ไปยดึ เป็นแบบอยา่ ง

ภาพท่ี 4.5 สมเดจ็ พระศรีพชั รินทราบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง ในฉลองพระองค์แบบ
ประยกุ ต์ ไทย – ตะวนั ตก

ในฉลองพระองค์แบบประยกุ ต์ ไทย – ตะวนั ตก
ท่ีมา: หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 49

ภาพท่ี 4.6 เจ้าจอมมารดาโหมด ในรัชกาลที่ 5 สวมเสือ้ ลกู ไม้แบบฝร่ัง
สะพายแพร ประดบั เครื่องราชอสิ ริยาภรณ์จลุ จอมเกล้า
ที่มา: หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ

การตกแตง่ อาคารบ้านเรือนและท่ีประทบั นบั ตงั้ แตช่ าวตะวนั ตกได้นาสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง
อาคารและการตกแตง่ ภายในแบบ ตะวนั ตกมาส่สู งั คมไทยราชสานกั และชนชนั้ สงู ก็เร่ิมปรับวิถีชีวิตตาม
แบบ วัฒนธรรมดังกล่าว จากเดิมท่ีเคยปลูกสร้ างอาคารแบบเรือนไทยและค่อย ๆ รับรูปแบบ
สถาปัตยกรรมและการตกแตง่ แบบจีน ก็เร่ิมเปลี่ยนเป็ นแบบตะวนั ตก มีการสร้างที่อย่อู าศยั และตกแตง่
บ้านเรือนด้วยเคร่ืองเรือนแบบตะวันตก นอกจากนีย้ งั เปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหารแบบตะวนั ตก
วฒั นธรรมเหล่านีเ้ ร่ิมต้นรับเอามาโดยราชสานกั ก่อน แล้วค่อยแผ่ขยายส่ภู ายนอกกลายเป็ นส่วนหน่ึง
ของวฒั นธรรมไทยในปัจจบุ นั

4.4 สวนสุนันทากบั การปรับตวั ให้ศิวไิ ลซ์แบบตะวันตก

ในยุคท่ีสวนสุนันทาเป็ นเขตพระราชฐานฝ่ ายใน ตงั้ แต่ต้นรัชกาลที่ 6 จนถึงช่วงเปล่ียนแปลง
การปกครองในปี พทุ ธศกั ราช 2475 นนั้ สวนสนุ นั ทาเป็นศนู ย์รวมของเจ้านายฝ่ ายใน สตรีผ้มู ีบรรดาศกั ดิ์
และข้าราชบริพารรวมหลายร้ อยคน การรับเอาวฒั นธรรมตะวันตกในยุคนนั้ เข้ามาเป็ นส่วนหน่ึงของ
ชีวิตประจาวนั มีอยมู่ ีน้อย เชน่ เร่ืองของการแตง่ กายที่มีการพฒั นามาแตค่ รัง้ รัชกาลที่ 5 มายคุ นี ้เจ้านาย
และข้าราชบริพารล้วนแตเ่ คยชิน และปรับตวั ให้เข้ากบั สมยั นิยมทางการแตง่ กายแบบตะวนั ตกได้อย่าง
ไม่ขดั เขิน เป็ นที่ยอมรับวา่ เจ้านายฝ่ ายในสวนสุนนั ทา โดยเฉพาะอย่างย่ิงสมเด็จเจ้าฟ้ าวไลยอลงกรณ์

50 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ทรงทันสมัยที่สุดในการแต่งพระองค์ เพราะทรงนาแบบเสือ้ มาจ าก
ต่างประเทศโดยเฉพาะของประเทศอังกฤษ และจากดาราภาพยนตร์ฮอลีวูดของสหรัฐอเมริกามา
ดดั แปลงให้เข้ากับพระองค์และเข้ากับพระราชนิยมในรัชกาลที่ 5 ท่ีทรงโปรดให้สตรีในราชสานักนุ่ง
ผ้าซิ่นแทนโจงกระเบนแบบเดมิ ผ้าซิน่ นนั้ ก็อาจเทียบได้กบั กระโปรงของสภุ าพสตรีตะวนั ตกนน่ั เอง

ภาพท่ี 4.7 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าอาทรทพิ ยนิภา
ทรงพระภษู าซิ่นตามแบบพระราชนิยมใน
รัชกาลที่ 6 กบั ฉลองพระองค์แฟชน่ั
ที่มา : หอจดหมายเหตสุ วนสนุ นั ทา

สวนสุนนั ทาในเวลานนั้ เป็ นศนู ย์รวมของวฒั นธรรมในราชสานกั ทงั้ ที่เป็ นแบบดงั้ เดิม และร่วม
สมัย บ่อยครัง้ ท่ีมีการฉายภาพยนตร์ที่บริเวณหน้าตาหนักพระวิมาดาเธอฯ กรมพระสุทธาสินีนาฏ
ปิ ยมหาราชปดิวรัดา นบั เป็ นกิจกรรมทางสงั คมอีกรูปแบบหน่งึ ที่อาศยั ความทนั สมยั แบบตะวนั ตกเป็ น
ส่ือสาคญั

พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิ ยมหาราชปดิวรัดา เสด็จฯ มาประทับในสวนสุนันทา
ในปี พ.ศ. 2462 ทรงโปรดปรานในการปลูกต้นไม้เป็ นอย่างย่ิง บริเวณโดยรอบพระตาหนักจึงงาม
สะพร่ังด้วยพนั ธ์ุไม้และไม้ดอกนานาชนิด โดยเฉพาะพนั ธ์ไม้จากตา่ งประเทศ เชน่ กหุ ลาบ และกล้วยไม้ที่
นาเข้ามาจากตา่ งประเทศ นอกจากทรงมีบทบาทในการจดั หา ปลกู บารุงรักษาพนั ธ์ุไม้ตา่ ง ๆ แล้ว พระวิมาดาเธอ
กรมพระสทุ ธาสนิ ีนาฏ ปิยมหาราชปดวิ รัดา ยงั โปรดให้บนั ทกึ ภาพดอกไม้ทกุ ดอกทกุ ชนิดในสวนสนุ นั ทา

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 51

ไว้โดยการวาด ผ้ทู ่ีมีหน้าท่ีเขียนภาพสีนา้ รูปดอกไม้ดงั กล่าวทุกเช้า คือ คณุ ข้าหลวงอมร รัตติชุณห์โชติ
การเขียนภาพจะต้องเขียนให้เหมือนจริงทงั้ สีและรูปทรงของดอกไม้จงึ จะเป็นที่พอพระทยั

อีกประการหน่ึงที่น่าสนใจอย่างย่ิงคือ ลกั ษณะทางสถาปัตยกรรมของเขตพระราชฐานสวนสนุ นั
ทา คอื ตาหนกั ตา่ ง ๆ และสิ่งปลกู สร้างท่ีเป็นถาวรวตั ถภุ ายในสวนสนุ นั ทา ซึ่งเป็ นลกั ษณะสถาปัตยกรรม
ที่ได้รับแบบอย่างลอิธิพลมาจากสถาปัตยกรรมตะวนั ตก ซ่ึงนอกจากจะมีการสร้างสวน สร้ างตาหนัก
และเรือนต่าง ๆ เช่นตาหนักใหญ่ที่ประทับของพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏฯ แล้ ว
พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอย่หู วั ก็ได้โปรดฯ ให้สร้างท้องพระโรงขนึ ้ องค์หนึ่ง พระราชทานนาม
วา่ “พระท่ีนง่ั นงคราญสโมสร”ในปี พ.ศ. 2465 ท้องพระโรงนีท้ าหน้าท่ีเป็ นศาลาอเนกประสงค์ที่เจ้านาย
ฝ่ ายในจะใช้ในการบาเพ็ญพระกศุ ล หรือจดั งานร่ืนเริงได้ตามพระอธั ยาศยั เคยมีการจดั งานใหญ่หลาย
ครัง้ ท่ีพระท่ีนง่ั นี ้เชน่ งานฉลองพระชนมายคุ รบ 60 ปี ของสมเดจ็ ฯ พระพนั วสั สาอยั ยิกาเจ้า เคยเป็ นท่ีตงั้
พระโกศของพระวมิ าดาเธอฯ และได้มีพระ ราชพิธีบาเพ็ญพระราชกศุ ลท่ีพระที่นงั่ นี ้เป็นต้น

กล่าวโดยสรุปว่า วฒั นธรรมตะวนั ตกนนั้ เร่ิมเข้ามามีอิทธิพลตอ่ ราชสานกั ตัง้ แตช่ ่วงกลางรัชสมยั
พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกล้าเจ้าอยหู่ วั รัชกาลท่ี 3 ครัน้ ถึงรัชกาลพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั
รัชกาลที่ 4 ได้ทรงเห็นความสาคญั ในการพฒั นาประเทศให้เจริญทดั เทียมนานาอารยประเทศ เพื่อให้
รอดพ้นจากการถูกล่าอาณานิคม จึงทรงเร่ิมการศึกษาเรียนรู้วิทยาการและวฒั นธรรมตะวนั ตกอย่าง
จริงจัง ทงั้ ระบบการศึกษา การค้า การทูต สืบต่อมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยหู่ วั รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั รัชกาลท่ี 6 วฒั นธรรมตะวนั ตกได้
เริ่มต้นรับเอามาใช้ในราชสานกั โดยหลายวฒั นธรรมนนั้ ถกู ประยกุ ตใ์ ห้เข้ากบั วิถีชีวิตของคนไทย และสืบ
ทอดมาจนถึงทกุ วนั นี ้

4.5 การเปล่ียนผ่านจากราชสานัก สู่การเป็ นมหาวทิ ยาลัย

สวนสนุ นั ทา เป็นเขตพระราชฐานสว่ นหนง่ึ ของพระราชวงั ดสุ ติ ท่ีพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้า
เจ้าอยู่หวั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้ างขึน้ ถัดจากพระท่ีนงั่ อมั พรสถาน โดยมีพระราชประสงค์
สาหรับเป็ นสถานที่ส่วนพระองค์สาหรับสาราญพระราชอิริยาบถ กบั เตรียมไว้สาหรับฝ่ ายในในรัชกาล
ของพระองค์จะได้อาศยั เป็ นท่ีประทบั และพานกั อย่ตู อ่ ไป การก่อสร้างยงั มิทนั เสร็จสมบรู ณ์ก็สิน้ รัชกาล
เสียก่อน พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยหู่ วั รัชกาลที่ 6 ได้ทรงดาเนินการตามแนวพระราชดาริ
ตอ่ มาจนแล้วเสร็จ เจ้านายฝ่ ายในในรัชกาลท่ี 5 ทงั้ พระภรรยาเจ้า พระราชธิดา เจ้าจอมมารดา เจ้าจอม
และข้าราชบริพาร ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าต เข้ามาประทบั และพกั อาศยั ตงั้ แตป่ ี พ.ศ.2462
เป็ นต้นมาโดยมีศูนย์กลางอยู่ท่ีตาหนักพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิ ยมหาราชปดิวรัดา
ครัน้ ถึงรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ 7 ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ราชสานกั นีก้ ็เริ่มร่วงโรยลง เพราะเจ้านายหลายพระองค์สนิ ้ พระชนม์ลงในระยะนี ้จนถึงปี พ.ศ.2475 เกิด

52 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

การเปล่ียนแปลงการปกครอง เจ้านายและข้าราชบริพารที่เหลือก็เสด็จออก และย้ายออกไปจนหมดสิน้
สวนสุนันทาจึงถูกทิง้ ร้ างไว้ จนกระทั่งปี พ.ศ.2480 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ใช้สถานที่แห่งนีเ้ ป็ น
สถานศึกษา ให้ชื่อว่าโรงเรียนสวนสนุ ันทาวิทยาลยั เปิ ดการเรียนการสอนตงั้ แตช่ นั้ เด็กเล็ก จนถึงชนั้
ประกาศนียบตั รประโยคครูประถม (ป.ป.) ซ่ึงเป็ นชนั้ สูงสุดของโรงเรียน ตอ่ มากระทรวงศกึ ษาธิการได้
ขยายการศกึ ษาหลกั สตู รฝึ กหัดครูรูปแบบใหม่ โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั ได้รับการยกฐานะขนึ ้ เป็ น
วิทยาลยั ครูสวนสุนันทา จดั การศึกษาได้ถึงระดบั ชนั้ ประกาศนียบตั รวิชาการศึกษาชนั้ สูง เทียบเท่า
อนุปริญญา จนกระทงั่ สามารถจดั การสอนถึงระดบั ปริญญาในสาขาวิชาครุศาสตร์ได้ วิทยาลยั ครูทว่ั
ประเทศได้รับพระมหากรุณาธิคณุ พระราชทานนามสถาบนั ราชภฏั ให้ใช้แทนวิทยาลยั ครู เพราะสถาบนั
ในกลมุ่ นีม้ ีการจดั การศกึ ษาที่กว้างขวางขนึ ้ นอกเหนือจากวชิ าชีพครู จนกระทงั ได้รับการยกฐานะขนึ ้ เป็ น
มหาวิทยาลยั ราชภฏั ในที่สดุ นบั เป็ นการเปลี่ยนผา่ นท่ีประวตั ิศาสตร์ยาวนาน และมีความหมายตอ่ ชน
รุ่นหลงั อยา่ งยิ่ง

สรุป

สวนสนุ นั ทา เปลี่ยนผ่านตามยคุ สมยั และสถานการณ์ของบ้านเมือง จากเดิมท่ีมีความม่งุ หมาย
ให้เป็นสวนอทุ ยานท้ายที่ประทบั กลายมาเป็นราชสานกั ฝ่ ายในตลอดสมยั รัชกาลท่ี 6 และต้นรัชกาลที่ 7
ท่ีมีพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิ ยมหาราชปดิวรัดา พระอัคร
ชายาในรัชกาลท่ี 5 ทรงเป็นศนู ย์กลาง และถกู ทิง้ ร้างไว้เมื่อคราวเปลี่ยนแปลงการปกครองอยรู่ ะยะหนึ่ง
ก่อนที่รัฐบาลในสมยั รัชกาลที่ 8 จะรับเอาพืน้ ท่ีส่วนหนึ่งมาพฒั นาเป็ นสถานศึกษา กับอีกส่วนหน่ึงมา
พฒั นาเป็ นสถานท่ีราชการในสงั กัดกระทรวงมหาดไทย จนปัจจบุ นั นี ้สวนสนุ นั ทาจากสวนในวงั กลาย
มาเป็ นหน่วยงานต่าง ๆ คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กรมส่งเสริม
การปกครองท้องถ่ิน และกรมป้ องกนั และบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงมหาดไทย ในท่ามกลางความ
เปล่ียนแปลงนนั้ สิ่งท่ีเป็ นข้อสาคญั ให้สวนสนุ นั ทา ยืนหยดั อย่ไู ด้ในหลากหลายสถานะตลอดระยะเวลา
กวา่ หนงึ่ ร้อยปี นนั้ คือการปรับตวั ปรับให้เข้ากบั สถานการณ์รอบด้านที่เกิดขนึ ้ ในแตล่ ะยคุ สมยั การซึมซบั
และรับเอาวฒั นธรรมของชาติตะวนั ตกมาบูรณาการก็เป็ นวิธีการหนึ่ง ในระยะแรกก็เพื่อแสดงให้ชาติ
ตะวนั ตกเหน็ วา่ เรามีความเจริญทดั เทียมกบั ประเทศเหล่านนั้ และให้ประเทศชาตริ อดพ้นจากการถกู ลา่
อาณานคิ ม สว่ นในระยะตอ่ มาเป็ นไปเพ่ือความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ โดยสะท้อนให้เห็นในรูป
ของการใช้อาณาบริเวณ ส่ิงปลกู สร้าง และสถานท่ีเพื่อเป็ นสถานศกึ ษา และหนว่ ยงานของทางราชการ
นบั เป็นการเปล่ียนผา่ นท่ีหลากหลายและน่าสนใจอยา่ งย่ิง

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 53

คาถามทบทวน
1. ตงั้ แตส่ มยั ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ท่ีประทบั ถาวรของพระมหากษัตริย์คือท่ีใด
2. พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั ทรงสร้างสวนสนุ นั ทาด้วยเหตผุ ลใด
3. ช่ือเขตพระราชทาน เชน่ สวนหงส์ สวนส่ีฤดู สวนฝร่ังกงั ไส มีที่มาจากอะไร
4. ชื่อ สวนสนุ นั ทา เชื่อกนั วา่ มีท่ีจากอะไร
5. โรงเรียนสนุ นั ทาลยั ปัจจบุ นั คือสถานที่ใด
6. ศลิ ปวิทยาการแบบตะวนั ตกท่ีมีอทิ ธิพลในสมยั รัชกาลท่ี 5 มีเร่ืองใดบ้างท่ีสาคญั
7. วฒั นธรรมทางวถิ ีชีวิตของเจ้านายฝ่ ายใน ได้รับอทิ ธิพลด้านใดจากประเทศทางตะวนั ตก
มากที่สดุ
8. ท้องพระโรงสวนสนุ นั ทามีชื่อวา่ อะไร ปัจจบุ นั อยบู่ ริเวณใด
9. สวนสนุ นั ทาถกู ปลอ่ ยไว้ให้กลายเป็นที่รกร้างเพราะสาเหตใุ ด
10. ในท้ายที่สดุ สวนสนุ นั ทา ถกู ใช้ประโยชน์เป็นสถานที่ใด

54 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

เอกสารอ้างองิ

คณะผ้จู ดั ทาหนงั สือที่ระลกึ . (2529). สวนสุนันทาในอดีต กรุงเทพฯ : อมรินทร์การพิมพ์
คณะผ้จู ดั ทาหนงั สือที่ระลกึ (2534). 8 ปี สวนสุนันทา กรุงเทพฯ: ห้างห้นุ สว่ นจากดั เทคนิค 19
คณะอนกุ รรมการจดั ทาประวตั กิ ารดาเนินงานของสถานศกึ ษา (2529). การจัดการศึกษาในรอบ 50 ปี .

กรุงเทพฯ : ฝ่ ายการพมิ พ์วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา
ชานาญ รอดเหตภุ ยั , จริ ัฐิ เจริญราษฎร์ ; และคนอ่ืนๆ (2549) จากฝึ กหัดครูสู่มหาวิทยาลัยราชภัฏ,

นครปฐม : มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม
นกั รบ มลู มานสั . (มปป.) ตะวันตกในตะวันออก : มตชิ นออนไลน์
ปริญญา ตรีน้อยใส รัชดา โชตพิ านชิ . (2561) พระราชวงั ดสุ ติ ที่ประทบั แหง่ พระบาทสมเดจ็

พระเจ้าอยหู่ วั
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ (2552) การฝึ กหดั ครูสตรีไทย.

เอกสารอดั สาเนา
มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา. (2559) แผนยทุ ธศาสตร์ 2030, มปท.
มลู นธิ ิคณุ หญิงกรองแก้ว ปทมุ านนท์. (2555) 100 ปี ชาตกาล คณุ หญิงกรองแก้ว ปทมุ านนท์,

กรุงเทพฯ: มปท.

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 55

56 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

บทท่ี 5
จากพระราชอุทยานสู่สถานศึกษา

รวีโรจน์ สงิ ห์ลาพอง
ชตุ มิ า มณีวฒั นา

ในปี พุทธศักราช 2475 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้ าเจ้ าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
ได้เกิดเหตุการณ์ การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็ นระบอบ
ประชาธิปไตย โดยคณะบุคคลท่ีเรียกตนเองว่า “คณะราษฎร์” ซึ่งได้ทาการเป็ นผลสาเร็จเม่ือวนั ท่ี 24
มิถุนายน 2475 เหตุการณ์นีส้ ่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อเขตพระราชฐานสวนสุนนั ทา กล่าวคือ
เหตกุ ารณ์ ซ่งึ กระทบกระเทือนตอ่ พระบรมวงศานวุ งศ์ อนั เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในครัง้
นนั้ ได้เกิดผลตอ่ จิตใจของผ้อู ย่ใู นสวนสนุ นั ทาเป็ นอยา่ งมาก ข่าวลือตา่ ง ๆ รวมทงั้ ความหวาดระแวงใน
เรื่องที่ยงั ไม่มีใครเข้าใจในระยะนนั้ ได้ส่งผลให้บรรดาผ้ทู ่ีอย่ใู นสวนสนุ นั ทา เกิดความไมม่ น่ั ใจในความ
ปลอดภัย ทาให้ บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ทงั้ หลายที่ประทบั ใน สวนสุนนั ทาคอ่ ย ๆ ทยอยกันออกไป
จากสวนสนุ นั ทาจนหมดสิน้ ดงั เช่น สมเดจ็ เจ้าฟ้ านิภานพดลวิมลประภาวดี กรมขนุ อทู่ องเขตขตั ิยนารี
เสด็จไปประทบั กบั สมเดจ็ เจ้าฟ้ าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ณ เมืองบนั ดงุ ประเทศอินโดนีเซีย พระ
บรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาปี บุษบากร พระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเหมวดี เสด็จไปประทับที่ ปี นัง
สิงคโปร์ และ ชวา เจ้านายที่เคยประทับอยู่ ณ ตาหนักต่าง ๆ ก็พากันเสด็จออกไปประทับในที่ส่วน
พระองค์ข้างนอก สวนสุนันทาจึงถูกทิง้ ร้ างไว้ตัง้ แต่ปี พุทธศกั ราช 2475 เป็ นต้นมา ในบทนีผ้ ู้เขียนจะ
กลา่ วถงึ พฒั นาการของสวนสนุ นั ทา เมื่อได้เปลี่ยนผา่ นมาเป็นสถานศกึ ษาแล้ว ดงั นี ้

5.1 สานักศกึ ษาสาหรับการฝึ กหดั ครูฝ่ ายสตรี

การฝึ กหัดครูฝ่ ายสตรีในประเทศไทย มีหลักฐานเริ่มต้ นขึน้ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อปี พุทธศกั ราช 2450 ปี นนั้ กระทรวงธรรมการได้เปิ ดแผนก
ฝึกหดั ครูหญิงขนึ ้ ท่ีโรงเรียนมธั ยมสตรีวิทยา และอีกแหง่ หนง่ึ ท่ีโรงเรียนกลุ สตรีวงั หลงั (วฒั นาวิทยาลยั ใน
ปัจจบุ นั ) ซง่ึ สอนวิชาสามญั และวชิ าครูควบคกู่ นั ไป แตอ่ ยา่ งไรก็ตามโรงเรียนทงั้ สองแห่งนนั้ มิใชโ่ รงเรียน
ฝึ กหัดครูโดยตรง ต่อมาในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ 6 การฝึ กหดั ครู
หญิงได้รับการส่งเสริมให้ดียิ่งขึน้ กล่าวคือ ในปี พุทธศักราช 2456 กระทรวงธรรมการได้ตงั้ โรงเรียน
ฝึ กหดั ครูหญิงเฉพาะทางขนึ ้ เป็ นแห่งแรกที่โรงเรียนเบญจมราชาลยั โดยย้ายนกั เรียนฝึ กหดั ครูหญิงจาก
โรงเรียนมธั ยมสตรีวิทยามารวมไว้ท่ีโรงเรียนนีด้ ้วย โรงเรียนเบญจมราชาลยั นีส้ อนนกั เรียนชนั้ มธั ยม และ
นักเรียนครู แต่สถานท่ีคบั แคบไม่สะดวกในการจดั การเรียนการสอน จนกระท่ังปี พุทธศกั ราช 2475

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 57

สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบรุ ีราชสิรินธร ได้ประทานบ้านเดิมของ
พระยาแพทย์พงศาวิสทุ ธาธิบดี (สนุ่ สนุ ทรเวช) ที่ตาบลถนนเพชรบรุ ี ให้จดั ตงั้ เป็ นสถานศกึ ษา กระทรวง
ธรรมการจึงมีคาสง่ั ให้ย้ายอาจารย์ใหญ่ และคณะครู รวมทงั้ นกั เรียนฝึ กหดั ครู กบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมปี ที่
7 และ 8 จากโรงเรียนเบญจมราชาลัย มาไว้ท่ีโรงเรียนใหม่นี ้ให้ช่ือว่า โรงเรียนฝึ กหดั ครูเพชรบุรีวิทยาลง
กรณ์ ตงั้ แต่วนั ท่ี 4 มิถุนายน พุทธศกั ราช 2475 และมีคาสง่ั ให้ นางบรรณสิทธิ์ วรสาสน์ (นิล คงศกั ดิ์)
ดารงตาแหน่งอาจารย์ใหญ่ จากนัน้ อีกเพียง 20 วัน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็ นระบอบประชาธิปไตย โดยคณะราษฎร์ และเมื่อจัดตัง้ รัฐบาลใหม่ ได้มี
การกาหนดแผนการศกึ ษาแห่งชาติ พทุ ธศกั ราช 2475 ในแผนการศกึ ษาฉบบั นีเ้น้นให้การศกึ ษา 3 ส่วน
คือ จริยศึกษา เป็ นการอบรมศีลธรรมอันดีงาม พุทธิศึกษา ให้ ปั ญญาความรู้ และพลศึกษา
เป็นการฝึกหดั ให้เป็นผ้มู ีร่างกายสมบรู ณ์

โรงเรียนฝึ กหัดครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ดาเนินการสอนมาตลอดจนถึงช่วงแผนการศึกษา
แห่งชาติฉบบั ท่ี 2 ปี พทุ ธศกั ราช 2479 ในสมยั นายพนั เอก พระยาพหลพลพยหุ เสนา(พจน์ พหลโยธิน)
เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการพิจารณากนั อีกวา่ สถานท่ีของโรงเรียนแห่งนีค้ บั แคบ มีอาณาบริเวณเพียง
4 ไร่เศษ ไม่สามารถขยายพืน้ ท่ีออกไปได้อีก จึงได้คิดหาสถานท่ีแห่งใหม่ ประจวบกับเวลานนั้ รัฐบาล
มีความประสงค์จะหาสถานที่สาหรับจดั เป็ นท่ีพกั อาศยั ของรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรจึงได้
ขอพระราชทานใช้สถานท่ีพร้อมส่ิงปลูกสร้างในสวนสนุ ันทาสาหรับเป็ นที่พกั ซึ่งคณะผู้สาเร็จราชการ
แทนพระองค์ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั อานนั ทมหดิ ล เห็นชอบยกให้ แตค่ งสงวนกรรมสิทธิ์ท่ีดินเป็ น
ทรัพย์สนิ สว่ นพระมหากษัตริย์ แตป่ รากฏตอ่ มาวา่ สภาผ้แู ทนราษฎรไมพ่ ร้อมจะใช้สถานที่นีเ้ป็ นท่ีพานกั
แตม่ ีมตเิ ห็นควรให้กระทรวงธรรมการ (กระทรวงศกึ ษาธิการในปัจจบุ นั ) รับพืน้ ที่ไปจดั เป็ นสถานท่ีศกึ ษา
สาหรับนกั เรียนสตรี ส่วนสภาผู้แทนราษฎรขอเพียงพืน้ ที่ภายนอกกาแพงติดถนนสามเสนสร้ างเป็ น
บ้านพกั อาศยั เท่านนั้ เมื่อเป็ นเช่นนีก้ ระทรวงธรรมการจงึ ได้การดาเนินการกนั้ เขตล้อมรัว้ ในสว่ นที่ได้รับ
การยกให้นีแ้ ล้วเสร็จตงั้ แต่วันท่ี 8 ธันวาคม พุทธศกั ราช 2479 ซึ่งพืน้ ท่ีที่จะใช้จดั สร้ างสถานศึกษานี ้
มีประมาณคร่ึงหนึ่งของพืน้ ท่ีสวนสุนันทาทัง้ หมด และรับมอบพืน้ ที่จากสานักพระราชวังอย่างเป็ น
ทางการ ในวนั ท่ี 20 มกราคม พทุ ธศกั ราช 2480

58 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

5.2 ก่อร่างสร้างสถานศึกษา

กระทรวงธรรมการมงุ่ หมายให้โรงเรียนแห่งใหม่ ที่สวนสนุ นั ทานีเ้ป็ นสถานศกึ ษาสาหรับฝึ กหดั ครู
ฝ่ ายสตรี จงึ ได้โอนนกั เรียนฝึ กหดั ครูประถม จากโรงเรียนฝึ กหดั ครูเพชรบรุ ีวิทยาลงกรณ์ นกั เรียนประจา
ทกุ ชนั้ ปี จากโรงเรียนเบญจมราชาลยั ทงั้ ยบุ โรงเรียนสตรีโชติเวช ย้ายนกั เรียนมาเรี ยนรวมกนั ณ ที่นี ้กับ
พจิ ารณาเหน็ วา่ จาเป็นต้องมีนกั เรียนสามญั สาหรับการฝึกหดั สอนด้วย ซง่ึ ได้รับโอนนกั เรียนชนั้ มธั ยมปี ที่
7 - 8 ของโรงเรียนฝึ กหดั ครูเพชรบรุ ีวิทยาลงกรณ์ โรงเรียนเบญจมราชาลยั โรงเรียนสตรีวิทยา และชนั้
มธั ยมปี ท่ี 7 - 8 ของโรงเรียนสตรีโชติเวชย้ายมาเรียนรวมกนั ที่น่ีด้วย โรงเรียนแหง่ ใหม่นีจ้ ึงเป็ นโรงเรียน
ฝึ กหดั ครูหญิงแห่งเดียวในประเทศที่มีอยู่ในขณะนนั้ ซ่ึงเปิ ดสอนทงั้ แผนกสามัญคือชนั้ ประถมปี ท่ี 1
ถึงมธั ยมปี ที่ 8 และแผนกวิสามญั คือฝึ กหดั ครูประถมหญิง รวมจานวนนกั เรียนทงั้ หมดถึงหนึ่งพนั เศษ
39 ห้องเรียน ให้ชื่อว่า โรงเรียนสวนสุนนั ทาวิทยาลยั และแต่งตงั้ อาจารย์นิลรัตน์ บรรณสิทธิ์วรสาสน์
อาจารย์ใหญ่โรงเรียนฝึ กหดั ครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ มาดารงตาแหน่งอาจารย์ใหญ่คนแรก พร้อมด้วย
ครูทงั้ หมดจากโรงเรียนฝึกหดั ครูเพชรบรุ ีวิทยาลงกรณ์มาประจาท่ีโรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั ส่วนทาง
โรงเรียนฝึ กหัดครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ กระทรวงได้แต่งตงั้ อาจารย์สุนทรี นิลกาแหง อาจารย์ใหญ่
โรงเรียนสตรีโชตเิ วชที่ยบุ ลงนนั้ ไปดารงตาแหน่งแทน และย้ายครูอาจารย์ทงั้ หมดจากสตรีโชติเวชตาม
ไปด้วย

ภาพท่ี 5.1 อาจารย์นลิ รัตน์ บรรณสทิ ธิ์วรสาสน์
ท่ีมา: หนงั สือประวตั คิ รู พ.ศ.2506

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 59

เขตพระราชฐานสวนสุนันทานัน้ ถูกทิง้ ร้ างไว้นานถึง 5 ปี ตัง้ แต่ปี พุทธศักราช 2475 ท่ีมีการ
เปลี่ยนแปลงการปกครอง การย้ายเข้าไปอย่จู ึงต้องบกุ เบิกฝ่ าฟันหกั ร้างถางต้นไม้ โดยเฉพาะหญ้าและ
วชั พืชขนึ ้ สงู ทว่ มหวั อาจารย์กรองทอง วณิกนนั ท์ (คณุ หญิงกรองทอง สรุ ัสวดี) ผ้ชู ่วยอาจารย์ใหญ่ฝ่ าย
วิชาการโรงเรียนสวนสุนนั ทาวิทยาลยั บนั ทึกถึงเหตกุ ารณ์ตอนนีไ้ ว้ในเร่ือง “สวนสุนนั ทาเมื่อแรกเปิ ด”
พิมพ์ในหนงั สือสนุ นั ทานสุ รณ์ ท่ีระลึกในวาระครบรอบ 25 ปี วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา เมื่อปี พุทธศกั ราช
2505 มีใจความว่า “ก่อนเปิ ดโรงเรียนฝึ กหัดครูสวนสุนันทา พวกเราโรงเรียนฝึ กหัดครูเพชรบุรีฯ
ตา่ งตื่นเต้นปิ ติยินดีอย่างย่ิงเพราะจะมีโรงเรียนอนั กว้างใหญ่ไพศาลซ่งึ ขณะนนั้ ทา่ นอาจารย์นิลรัตน์ บรรณ
สิทธิ์วรสาสน์ เป็ นอาจารย์ใหญ่ ท่านเล่าให้พวกเราฟังวา่ การตรวจโรงเรียนจะต้องข่ีจกั รยานตรวจ เราก็
รู้สกึ สนกุ ท่ีจะมีจกั รยานคนละคนั ครัน้ พอถึงเดอื นเมษายน พ.ศ.2480 ก่อนโรงเรียนเปิ ด ซึ่งเป็ นเวลาที่เรา
ต้องตระเตรียมการเปิ ดโรงเรียนใหม่ ท่านอาจารย์นิล อาจารย์สุนีย์ (แม้น) ชงั คมานนท์ ผ้ชู ่วยอาจารย์
ใหญ่ฝ่ ายปกครอง ตวั ข้าพเจ้าซง่ึ เป็นผ้ชู ว่ ยอาจารย์ใหญ่ฝ่ ายวชิ าการ น.ส.ชลพนิ ท์ุ ถาวรเวช และอาจารย์
เจริญ บญุ ญวฒั น์ รวม 5 คน พร้อมทงั้ คนงานต้องไปเตรียมการเปิ ดโรงเรียน พอย่างเข้าประตสู วนสนุ นั ทา
การที่คดิ วา่ จะขี่จกั รยานนนั้ เป็นความฝันทงั้ สนิ ้ เพราะหญ้าสงู ท่วมหวั เดินแล้วมองไมเ่ ห็นคน เราจึงต้อง
แบ่งออกเป็ นสองกอง กองอยู่ข้างหน้าด้านถนนเป็ นแผนกรับนักเรียน มีข้าพเจ้าและน.ส.ชลพินท์ุ
สว่ นกองหลงั มีหน้าท่ีบกุ เบกิ สถานท่ีได้แกท่ า่ นอาจารย์นิล อาจารย์สนุ ีย์ ผู้ส่ือขา่ วได้แกอ่ าจารย์เจริญ”

ในขณะท่ี อาจารย์หมอ่ มหลวงมานจิ ชมุ สาย ข้าราชการชนั้ ผ้ใู หญ่ของกระทรวงธรรมการซง่ึ ตอ่ มา
เป็ นหวั หน้ากองโรงเรียนฝึ กหดั ครู บนั ทึกว่าในการสารวจสถานท่ีครัง้ แรกนนั้ ปรากฏว่าวงั สวนสนุ นั ทา
เป็ นป่ ารกชฏั มองไมเ่ ห็นตวั ตกึ เลย (ตกึ อาคารเรียนยังไม่ได้สร้าง มีแตต่ กึ เป็ นหลงั ๆ อย่ขู ้างหลงั ) ต้นไม้
ใหญ่ ๆ ขึน้ แน่นขนัดท่วมหลงั คา ต้องดายหญ้าเป็ นการใหญ่ และตดั ต้นไม้ทิง้ พบสถานท่ีเป็ นแหล่งงู
เหลือมอาศยั อยู่ ต้องฆา่ ตายเสียหลายตวั

ในท่ีสุด โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัยได้เปิ ดการเรียนการสอนอย่างเป็ นทางการในวันท่ี 17
พฤษภาคม 2480 ในปี แรกนี ้ กระทรวงธรรมการได้อนุมัติให้ก่อสร้ างอาคารเรียนเป็ นตึก 3 ชัน้ 27
ห้องเรียน และอนมุ ตั ใิ ห้ซอ่ มแซมอาคารตา่ ง ๆ ที่เป็ นตาหนกั เจ้านายและเรือนเจ้าจอมและข้าราชบริพาร
เป็ นเงิน 74,200 บาท สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พทุ ธศกั ราช 2481 และตอ่ มาได้สร้างโรงอาหารอีกหลงั หน่ึง
ราคา 18,900 บาท ทงั้ ยังได้รือ้ ถอนและปรับปรุงสถานท่ีให้เหมาะสมเป็ นโรงเรียนมากขึน้ และได้รือ้
กาแพงชนั้ ในออก กาแพงนีอ้ ย่ใู กล้ประตดู ้านหน้าทางถนนอทู่ องนอกหรือถนนใบพรเดมิ กาแพงนีอ้ ยลู่ ึก
เข้ามา 40 เมตร แนวกาแพงนีอ้ ย่ชู ิดกบั ตกึ สร้างใหม่ ดังท่ีอาจารย์กรองทอง วณิกนนั ท์ บนั ทกึ เหตกุ ารณ์
ไว้เรื่องเดยี วกนั วา่

“ตามธรรมดา วังทุกแห่งจะต้องแบ่งออกเป็ นช้ันนอกและชั้นใน ช้ันในเป็ นที่เจ้านายประทับ
ส่วนชน้ั นอกเป็ นที่กรมวงั หรือโขลนอยู่ กาแพงที่กัน้ เขตนี้อยู่หลงั ตึก 3 ช้นั ในปัจจุบนั นี้ (ซึ่งได้รื้อและ
สร้างใหม่เป็นอาคารคณะครุศาสตร์ปัจจุบนั – ผูเ้ รียบเรียง) ขณะนนั้ โรงเรียนคิดว่าควรจะรื้อกาแพงออกเสีย”

60 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

เม่ือรือ้ กาแพงออกแล้ว ได้จดั การสถานท่ีให้เรียบร้อยสวยงาม เม่ือเข้าประตโู รงเรียนด้านถนนอู่

ทองนอก ด้านขวามือเป็ นบริเวณบ้านพกั ของอาจารย์ใหญ่ ครูอาจารย์ที่สอนประจาท่ีโรงเรียนนีเ้ กือบ

ทงั้ หมดโอนย้ายมาจากโรงเรียนฝึ กหดั ครูเพชรบรุ ีวิทยาลงกรณ์ เป็ นผ้มู ีคณุ วฒุ ิสงู บางท่านเป็ นผ้ทู ี่สาเร็จ

การศึกษาจากต่างประเทศ เช่นหลวงปิ ยวิทยาการ (เปี ย แย้มพลอย) อาจารย์ภัทราภรณ์ ดลุ ยจินดา

บางทา่ นสาเร็จการศกึ ษาจากจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั และในเวลาตอ่ ไปข้างหน้า ทา่ นเหลา่ นีค้ ือปชู นีย

บคุ คลทางการศกึ ษาของชาติ เชน่ อาจารย์จรูญ วงศ์สายณั ห์ อาจารย์อบุ ล ควุ านเสน (คณุ หญิงอบุ ล หุ

วะนนั ทน์) อาจารย์ สมโรจน์ สวสั ดกิ ลุ ณ อยธุ ยา (ท่านผ้หู ญิง) อาจารย์พนู ทรัพย์ ไกรยง (ท่านผ้หู ญิง

พูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา) อาจารย์ชะนิด สายประดิษฐ์ (ภริยาคู่ชีวิตของศรีบูรพา) เป็ นต้น

นอกจากนีค้ วรบนั ทึกไว้ด้วยว่า อาจารย์จารัส เกียรติก้อง ศิลปิ นเอกของชาติคนหนึ่งก็เคยเป็ นครูสอน

วิชาวาดเขียนที่โรงเรียนแหง่ นีเ้หมือนกนั

โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั จึงเร่ิมเป็ นปึกแผน่ มีความงดงาม มีชีวิตชีวาขนึ ้ อีกครัง้ สวนสนุ นั ทา

ในระยะนนั้ เตม็ ไปด้วยพนั ธ์ุไม้หลากชนิด ทงั้ ดอก ไม้ประดบั และไม้ผล ทงั้ นีส้ ืบเน่ืองมาจากในสมยั ที่เป็ น

เขตพระราชฐานฝ่ ายใน เจ้านายท่ีประทบั อยใู่ นสวนสนุ นั ทา โดยเฉพาะพระวิมาดาเธอ กรมพระสทุ ธาสินี

นาฏ ปิยมหาราชปดวิ รัดา ทรงปลกู ต้นไม้นานาชนิดไว้รอบตาหนกั แม้บริเวณเนินเขาก็ทรงรับสง่ั ให้ปลกู

เพ่ิมเติมจากท่ีพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าทรงปลกู ไว้ตอนปลายรัชกาล เม่ือหกั ร้างถางพงกาจัด

วชั พืช และสตั ว์เลือ้ ยคลานสตั ว์มีพิษตา่ ง ๆ ออกไปแล้ว จงึ พบว่าบรรยากาศท่ีแท้จริงในสวนสนุ นั ทาสงบ

ร่มรื่น สวยงามด้วยไม้ดอกไม้ใบ ดงั ที่อาจารย์เจียมจิต บุญญานุรักษ์ อาจารย์โรงเรียนสวนสุนนั ทา

วิทยาลยั ได้ประพนั ธ์บทร้อยกรองเร่ืองธรรมชาตใิ นสวนสนุ นั ทา มีตอนหนง่ึ กลา่ ววา่

มากหมปู่ ระมวลพฤกษ์ ดพู ิลกึ เหลือพรรณนา

รายรอบสนุ นั ทา อนั เป็นถ่ินสถานเรียน

ไม้ดอกก็ดนื่ ดาษ พทุ ธชาด ชบาเทียน

ยว่ั ใจให้วนเวียน เฝ้ าหยดุ เก็บมิเว้นวาย

ลาดวนกระดงั งา กรรณิการ์มีมากมาย

ประยงค์ชงโคลาย พยบั หมอกดอกอญั ชญั

ปี บ แก้ว ผกากรอง ทงั้ พวงทองทานตะวนั

เฟ่ื องฟ้ าและบาหยนั มะลซิ ้อนซอ่ นกล่ินงาม

ลนั่ ทม ยี่เขง่ เข็ม อโศกเตม็ ขอบสนาม

ดาวเรืองเหลืองอร่าม โศกระย้าสารภี

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 61

ภาพท่ี 5.2 นกั เรียนโรงเรียนสวนสนุ นั ทาวทิ ยาลยั ก่อนพ.ศ.2500
ท่ีมา: หอจดหมายเหตสุ วนสนุ นั ทา

5.3 โรงเรียนสวนสุนันทาวทิ ยาลัย

ในยคุ แรก โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั เปิ ดสอนแผนกสามญั ตงั้ แตป่ ระถม 1 ถึงมธั ยม 8 และ
แผนกวิสามญั คือนกั เรียนฝึ กหดั ครูประถม หลกั สูตรประโยคครูประถม (ป.ป.) มีระยะเวลาการศกึ ษา
ตลอดหลกั สตู ร 3 ปี ในระยะแรกนนั้ ชนั้ เรียนระดบั ประถมจดั เป็ นสหศกึ ษา ชายหญิงเรียนร่วมกนั แตใ่ น
ระดบั ชนั้ มธั ยม และฝึ กหดั ครูรับเฉพาะนกั เรียนหญิงเท่านนั้ ประเภทของนกั เรียนฝึ กหดั ครูมี 2 ประเภท
คอื

นกั เรียนนอกบารุง คือนกั เรียนท่ีผ้ปู กครองรับผดิ ชอบคา่ เลา่ เรียนเอง
นกั เรียนในบารุง นักเรียนท่ีสอบได้ทุนกระทรวงธรรมการ ซึ่งต่อมาได้ขยายขอบเขตการให้ทุน
ออกไปยงั จงั หวดั ตา่ ง ๆ โดยให้จงั หวดั นนั้ ๆ จดั สอบคดั เลือกนกั เรียนเข้ามาเป็ นนกั เรียนในบารุง จงั หวดั
ละ 2 คน นกั เรียนฝึ กหดั ครูของโรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั ในสมยั นนั้ จะต้องเป็ นนกั เรียนประจา คือ
พกั อาศยั อย่ภู ายในโรงเรียน จะออกไปเย่ียมบ้านได้เป็ นครัง้ คราวตามท่ีกาหนด ซ่ึงโรงเรียนได้จดั พืน้ ท่ี
อาคารท่ีเคยเป็ นตาหนักเจ้านาย เรือนเจ้าจอมและข้าราชบริพารต่าง ๆ เป็ นหอนอนสาหรับนักเรียน
ประจา หอนอนหลงั หน่ึง ๆ มีจานวน นกั เรียน 24 คน มีอาจารย์ประจาหอนอนคอยเป็ นผ้ปู กครอง 1 คน
มีหลกั ฐานบนั ทกึ ไว้วา่ ในปี แรกที่เปิดการเรียนการสอนนนั้ มีนกั เรียนประจา จานวนทงั้ สนิ ้ 211 คน

62 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

ภาพท่ี 5.3 อาจารย์ ม.ล.ประชมุ พร ไกรฤกษ์
ที่มา: หนงั สือประวตั คิ รู พ.ศ.2506

ในระยะต่อมาประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสงครามมหาเอเชียบูรพา ทางราชการได้ย้ายอาจารย์
นิลรัตน์ บรรณสิทธ์ิวรสาสน์ ไปเป็ นผ้ชู ่วยท่านผ้หู ญิงละเอียด พิบลู สงคราม ในตาแหน่งผู้ช่วยประธาน
สานกั วฒั นธรรมฝ่ ายหญิง สภาวฒั นธรรมแหง่ ชาติ และได้ย้ายอาจารย์หม่อมหลวงประชมุ พร ไกรฤกษ์
อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสายปัญญา มาดารงตาแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสวนสุนนั ทาวิทยาลัยตงั้ แต่
ปลายปี พ.ศ.2485 ระยะนัน้ ภาวะสงครามยังไม่รุนแรง ภัยจากการโจมตีทางอากาศจะมีเฉพาะใน
ชว่ งเวลากลางคืน จอมพลป. พิบลู สงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนนั้ มีนโยบายส่งเสริมวฒั นธรรมของ
ชาตโิ ดยให้ข้าราชการและประชาชนฝึ กหดั ราวงมาตรฐาน เป็ นที่นา่ ภาคภูมิใจท่ีจะกล่าวว่า สถานศกึ ษา
แห่งนีเ้ป็ นเสมือนศนู ย์วฒั นธรรมในครัง้ นนั้ เพราะเป็ นสถานที่ฝึ กซ้อมราวงมาตรฐานแก่ข้าราชการและ
บคุ คลทวั่ ไป และนางสาวไทย (เรียม เพศยนาวนิ ) ก็มาฝึ กซ้อมเป็นประจา

ต้นปี การศึกษา 2486 ภัยจากการโจมตีทางอากาศรุนแรงขึน้ ฝ่ ายสัมพันธมิตรทิง้ ระเบิด
ทงั้ กลางวนั และกลางคืน สวนสนุ นั ทาตงั้ อย่ใู นจดุ ยทุ ธศาสตร์ จึงถกู ระเบิดหลายครัง้ แหล่งหลบภยั ของ
นกั เรียน ครู อาจารย์ ภารโรง คืออุโมงค์ใต้เนินเขา ซ่ึงมน่ั คงแข็งแรงดีมาก เมื่อลกู ระเบิดครัง้ แรกตกท่ี
โรงเรียนการเรือนพระนคร อาจารย์ใหญ่เกรงว่าจะเกิดอนั ตรายแก่นกั เรียนซ่ึงมีตงั้ แตช่ นั้ ประถมศกึ ษา
จนถึงชนั้ ประกาศนียบตั รประโยคครูประถม (ป.ป.) จึงขออนุญาตกระทรวงศกึ ษาธิการปิ ดโรงเรียนชนั้
ประถมศกึ ษา

ส่วนนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษา ให้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ โดยได้รับความ
อนุเคราะห์จาก หม่อมเจ้าพนู ศรีเกษม เกษมศรี อาจารย์ใหญ่ ได้จดั ให้เรียนที่โรงเรียนจนสงครามสงบ
จงึ ย้ายกลบั สวนสนุ นั ทา สาหรับนกั เรียนฝึ กหดั ครู ซงึ่ เป็ นนกั เรียนประจา ทา่ นได้พยายามตดิ ตอ่ หาที่อยู่

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 63

ที่เรียนที่ปลอดภยั กว่าสวนสนุ นั ทา แลได้รับพระเมตตาจากสมเดจ็ พระวชิรญาณวงศ์ เจ้าอาวาสวดั บวร
นิเวศวิหารให้พานักท่ีตึกอรไทเทพกัญญา (ปัจจุบันคือมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย) แต่เน่ืองจาก
นกั เรียนฝึกหดั ครูมีมาก ชนั้ ปี ท่ีหนงึ่ มี 4 ห้องเรียน และยงั มีชนั้ ปี ที่ 2 และชนั้ ปี ท่ี 3 จงึ ต้องแบง่ นกั เรียนชนั้
ปี ท่ี 1 สองห้อง ประมาณ 70 คน ไปขออาศยั อย่ทู ่ีบ้านเจ้าพระยาธรรมศกั ดิ์มนตรี ถนนนครสวรรค์ โดย
อาจารย์ไฉไล เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา ธิดาท่านเจ้าของบ้านซ่ึงเป็ นอาจารย์โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั
เป็ นผ้ดู าเนินการ และอาศยั เรียนที่โรงเรียนวดั บวรนิเวศด้วยกนั หมด ครูอาจารย์ ก็แยกย้ายกันไปดแู ล
นกั เรียน

กลางปี การศึกษา 2486 กระทรวงศึกษาธิการสั่งปิ ดโรงเรียนในกรุงเทพ เพราะไม่ปลอดภัย
อาจารย์ใหญ่จงึ ย้ายนกั เรียนฝึกหดั ครูท่ีพกั อยใู่ นเขตวดั บวรนิเวศวิหารไปเรียนที่โรงเรียนดดั ดรุณี จงั หวดั
ฉะเชงิ เทรา นกั เรียนท่ีอาศยั บ้านเจ้าพระยาธรรมศกั ดิ์มนตรีฝากให้อยใู่ นความดแู ลของโรงเรียนเพชรบรุ ี
วิทยาลงกรณ์ และนกั เรียนฝึ กหดั ครูสองห้องนีก้ ็ถูกตดั ไปเป็ นนกั เรียนเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์จนสาเร็จ
การศกึ ษา ในขณะที่ครู อาจารย์ ส่วนหนึ่งสอนที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ อีกส่วนสอนที่โรงเรียนดดั
ดรุณี อาจารย์อีกส่วนก็มาทางานที่โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั แม้วา่ ขณะนนั้ จะไม่มีนกั เรียนแล้ว แต่
ทหารญี่ป่ นุ ได้เข้าอยู่อาศยั อาจารย์ใหญ่จงึ ต้องจดั อาจารย์ส่วนหน่ึงมาดแู ลโรงเรียน ในขณะท่ีอาจารย์
ใหญ่เองก็ต้องแวะเวียนไปดแู ลทกุ แหง่ โดยมีสานกั งานชว่ั คราวท่ีตึกอรพินท์ุ โรงเรียนวดั บวรนิเวศวิหาร

เม่ือสงครามยตุ ิลงในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2488 สภาพของโรงเรียนทรุดโทรมเกินกว่าจะใช้เป็ นที่
เรียนได้ ยงั ไม่ทนั จะบูรณะฟื น้ ฟู กองทพั สมั พนั ธมิตรส่วนหนึ่งก็เข้ามาใช้พืน้ ท่ีเป็ นฐานท่ีมน่ั ทางทหาร
กระทรวงศกึ ษาธิการต้องส่งผ้แู ทนมาเจรจาให้ถอนกาลงั ทหารออกจากโรงเรียน เมื่อการเจรจาประสบ
ผลด้วยดีแล้ว ผ้แู ทนกองทพั สมั พันธมิตรจึงส่งมอบอาคารและเคร่ืองใช้ต่าง ๆ ที่ยืมจากโรงเรียนให้กับ
คณะกรรมการรับมอบซึ่งมี หมอ่ มหลวงมานิจ ชุมสาย หวั หน้ากองฝึ กหดั ครู เป็ นประธาน การส่งมอบ
พืน้ ท่ีเสร็จสิน้ ในวนั ที่ 15 พฤศจกิ ายน พ.ศ.2489 พร้อมเปิดเรียนตามปกติได้ในปี การศกึ ษา 2490 และได้
เปิ ดรับเฉพาะนกั เรียนในบารุงแต่ประเภทเดียว คือแยกเป็ นในบารุงส่วนกลางและในบารุงสว่ นภูมิภาค
สว่ นนกั เรียนนอกบารุงได้แยกให้ไปเรียนที่โรงเรียนฝึกหดั เพชรบรุ ีวิทยาลงกรณ์และตอ่ จากนนั้ มาโรงเรียน
สวนสุนันทาวิทยาลยั ก็มิได้รับนกั เรียนฝึ กหัดครูประถมประเภทนอกบารุงอีกเลย ในระยะนี ้ อาจารย์
กรองแก้ว ปทมุ านนท์ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสตรีศรีสรุ ิโยทยั มารับตาแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสวน
สนุ นั ทาวิทยาลยั แทนอาจารย์หมอ่ มหลวงประชมุ พร ไกรฤกษ์ ซง่ึ ถึงแกก่ รรม

64 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

ภาพท่ี 5.4 คณุ หญิงกรองแก้ว ปทมุ านนท์
ท่ีมา: หนงั สือ 100 ปี ชาตกาล คณุ หญิงกรองแก้ว ปทมุ านนท์

การจดั การศกึ ษาของโรงเรียนนีไ้ ด้ขยายตวั ออกอีกครัง้ หน่ึงใน พ.ศ. 2495 โดยได้เปิ ดชนั้ ฝึ กหดั ครู
แผนกการงานสันทัดขึน้ อีกแผนกหนึ่ง โดยรับนักเรียนท่ี เรียนจบชนั้ ฝึ กหัดครูประถมปี ท่ี 2 แล้ว และ
สมคั รเรียนแผนกการงานสนั ทดั เฉพาะรุ่นนี ้เรียนปี เดียวจบหลกั สูตร โดยเรียนทงั้ วิชาการ สามญั และ
วิชาการงานสันทัด ซึ่งได้แก่งานภาค ปฏิบตั ิต่าง ๆ เช่น งานประดิษฐ์ งานไม้ งานพิมพ์ งานไฟฟ้ า
งานเกษตร และงานเสือ้ ผ้า ตอ่ มา พ.ศ. 2496 เปิดชนั้ ฝึกหดั ครูการงานสนั ทดั หลกั สตู ร 2 ปี รับนกั เรียนท่ี
เรียนจบชนั้ ฝึกหดั ครู ประถมปี ท่ี 2 แล้วที่สมคั รเรียนตอ่ เข้าเรียนอีก 2 ปี จบแล้วจะได้รับประกาศนียบตั ร
ประโยคครูมธั ยมการงานสนั ทดั ทงั้ นีเ้ พ่ือให้นกั เรียนที่เรียน จบประโยคครูการงานสนั ทดั รุ่นสดุ ท้ายจบ
การศึกษาในปี การศึกษา 2499 ต่อจากนัน้ การเรียนการสอนแผนกนีก้ ็ยุบไป ส่วนนักเรียนฝึ กหัดครู
ประถมปี ท่ี 3 สาเร็จเป็ นรุ่นสุดท้าย ในปี การศึกษา 2499 นี ้ และได้ยุบเลิกไปเช่น เดียวกันเน่ืองจาก
กระทรวงศกึ ษาธิการได้ปรับ ปรุงหลกั สตู รการฝึกหดั ครูขนึ ้ ใหม่

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 65

ภาพท่ี 5.5 นกั เรียนฝึ กหดั ครู ปี การศกึ ษา2496
ท่ีมา: ภาพสว่ นบคุ คลของอาจารย์แจม่ จนั ทร์ ทองเสริม

5.4 วิทยาลัยครูสวนสุนันทา

ในปี พ.ศ. 2501 กระทรวงศกึ ษาธิการ มีนโยบายสาคญั ที่จะผลิตครูให้เพียงพอกบั ความต้องการ
ของประเทศ และปรับปรุงหลักสูตร ฝึ กหดั ครูให้ทนั สมยั มากขึน้ จึงยุบเลิกหลกั สูตรประกาศนียบตั ร
ประโยคครูประถม (ปป.) และประกาศนียบตั รประโยคครูมธั ยม (ปม.) ที่ได้ใช้มา 64 ปี นนั้ เสีย มาเปิ ด
หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าการศกึ ษา (ป.กศ.) และหลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาการศกึ ษาชนั้ สงู (ป.กศ.)
สงู ขึน้ แทน โดยมีกรมการฝึ กหดั ครู กระทรวงศกึ ษาธิการเป้ นผ้กู ากับดแู ล มีการจดั การเรียนแบบระบบ
หน่วยกิต ขึน้ เป็ นครัง้ แรก เพ่ือผลิตครูให้เพียงพอกับความต้องการขึน้ ทัง้ นีไ้ ด้รับ ความร่วมมือจาก
องค์การยเู นสโก ในการจดั ส่ง ผ้เู ช่ียวชาญมาประจาให้คาปรึกษา และเพ่ือความเหมาะสมจงึ ยกฐานะ
ของโรงเรียนฝึ กหัดครูท่ี สามารถเปิ ดสอนถึงขนั้ ประกาศนียบตั รวิชาการศึกษาชนั้ สูง ขึน้ เป็ นวิทยาลยั
โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั จึงเปล่ียนช่ือใหม่เป็ น วิทยาลยั ครูสวนสุนนั ทา ในปี 2501 ปรับตาแหน่ง
หวั หน้าสถานศกึ ษาจากอาจารย์ใหญ่เป็นผ้อู านวยการวิทยาลยั การบริหารวิชาการขยายตวั เป็ นปึกแผน่
แบ่งออกเป็ นฝ่ ายฝึ กหัดครู ฝ่ ายประถมสาธิต และฝ่ ายมัธยมสาธิต แต่ละฝ่ ายมีหัวหน้ากากับดูแล
นอกจากนีย้ งั มีแผนกปกครองหอพกั มีหวั หน้ากากบั ดแู ลเชน่ กนั

ในปี เดียวกันนี ้ได้เปิ ดชนั้ ฝึ กหดั ครูประกาศนียบตั รวิชาการศกึ ษารอบบา่ ยขึน้ รับนกั ศกึ ษาหญิง
และชาย เป็ นระบบสหศึกษาเป็ น ปี แรก เพ่ือแก้ไขปัญหานกั เรียนที่เรียนจบชนั้ มธั ยมปี ท่ี 6 แล้วไม่มีที่
เรียน และสนองนโยบาย ผลิตครูให้เพียงพอแก่ความต้องการของกระทรวงศึกษาธิการ คาขวญั ของ
วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทาในขณะนนั้ คือ สคุ รุนา สณฺฐิตา ชาติ : ชาติคงอยู่เพราะครูดี ผ้ทู ี่มอบคาขวญั นี ้
ให้คือหมอ่ มหลวงปิ่น มาลากลุ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการในขณะนนั้

66 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

ตามปกตนิ กั เรียนฝึ กหดั ครู เป็นนกั เรียนประเภทกินอยปู่ ระจาแตป่ ัจจบุ นั มีจานวนนกั เรียนมากขนึ ้
จนวิทยาลยั มีหอพกั ไมเ่ พียงพอ จงึ จดั ให้มีนกั เรียนฝึกหดั ครูทงั้ ประเภทไปกลบั และประเภทอยปู่ ระจา

ในปี พ.ศ. 2508 กรมการฝึ กหดั ครูมอบ ให้วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทาร่วมกบั กรมวิสามญั ศกึ ษากรม
อาชีวศึกษาและมูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชนูปถัมภ์ องค์การยนู ิเซฟและมลู นิธิ
อเมริกนั เพื่อช่วยเหลือ คนตาบอดโพ้นทะเล เปิ ดดาเนินการฝึ กอบรมครู สอนเด็กตาบอดขนึ ้ เป็ นรุ่นแรก
เพ่ือไปสอนนกั เรียนตาบอดให้สามารถเรียนร่วมกับนักเรียนปกติได้ กิจกรรมทางวิชาการท่ีสาคญั อีก
อนั หน่ึง คือการจดั การศึกษาตามโครงการฝึ กหดั ครูชนบท (Thailand UNESCO Rural Teachers
Education Project : TURTEP) ซึ่งเป็ นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย โดยกรมการฝึ กหัดครู
กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับองค์การยูเนสโก ซ่ึงวิทยาลัยครูสวนสุนันทาได้ลงพืน้ ที่จัดโครงการท่ี
โรงเรียนวดั แจ้งศริ ิสมั พนั ธ์ โรงเรียนวดั สลกั เหนือ และโรงเรียนวดั โพธ์ิทองบน จงั หวดั นนทบรุ ี ผลงานเป็ น
ท่ีนา่ พอใจมาก สามารถรวบรวมผลงานออกนาเสนอในวารสารฝึ กหดั ครูชนบท ออกภาคเรียนละหน่งึ ครัง้

ภาพท่ี 5.6 วารสารฝึ กหดั ครูชนบทฉบบั ปฐมฤกษ์
ท่ีมา : หอจดหมายเหตสุ วนสนุ ทั า

ปี การศกึ ษา 2511 กรมการฝึ กหดั ครูมีนโยบายท่ีจะผลิตครูเพ่ิมขนึ ้ จึงได้อนมุ ตั ิให้วิทยาลยั ครูสวน
สุนนั ทา และวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เปิ ดการสอนภาคนอกเวลาหลกั สตู ร ป.กศ.ชนั้ สูง เริ่ม
เปิ ดเรียนภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2511 เป็ นต้นมา เปิ ดสอนตงั้ แต่ 17.00 – 20.00 น. ต่อมาในปี
การศึกษา 2512 จึงให้เปิ ดสอนหลกั สูตร ป.กศ. ขึน้ อีกประเภทหนึ่ง ในระยะเริ่มแรกกาหนดให้มีเวลา

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 67

เรียนไม่น้อยกว่า 8 ภาคเรียน รวมทงั้ ภาคเรียนฤดรู ้อนและอย่างช้าต้องไมเ่ กินกว่า 13 ภาคเรียน ตอ่ มา
ได้มีการปรับปรุงและเปล่ียนแปลงกาหนดเวลาเรียนใหม่เป็ น อย่างช้าต้องไม่เกินกว่า 20 ภาคเรียน
รวมทงั้ ภาคฤดรู ้อนด้วย การรับนกั ศกึ ษาแตล่ ะรุ่นมีผ้สู มคั รสอบคดั เลือกเพื่อเข้า ในปี เดียวกนั นี ้เรียนเป็ น
จานวนมาก วิทยาลยั ไมส่ ามารถรับเข้า ไว้เรียนได้ทงั้ หมด ผ้สู อบคดั เลือกสว่ นใหญ่มี ความรู้เดมิ ไม่ส้ดู ี
ประกอบกับอาคารสถานท่ีแล ะครู อาจารย์ ที่ จะสอนมี จานวนไม่เพี ยงพอจึงจะต้ องรั บจานวนจากัด
ผ้สู มคั รเข้าเรียนภาคนอกเวลามีบุคคลหลายอาชีพ มีทงั้ ข้าราชการ ทหาร พลเรือน ครูโรงเรียนเอกชน
ผู้ทางานบริษัทห้างร้ าน หรือ ผู้สาเร็จการศึกษาท่ียังไม่มีอาชีพนับเป็ นความก้าวหน้าในด้านการให้
การศกึ ษาแก่ประชาชนทว่ั ไปอย่างกว้างขวาง หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาการศึกษา นนั้ มีระบบการ
วดั ผลโดยการตดั สินผลการเรียน ของรายวิชาเป็ นเกรดและคิดคะแนนผลการเรียน เป็ นคะแนนเฉลี่ย
สะสมตามระบบของอเมริกา แทนการคดิ คะแนนของแตล่ ะรายวิชาเป็ นร้อยละ และคะแนนผลการเรียน
รวมเป็ นร้ อยละตามแบบองั กฤษ ดงั นนั้ วิทยาลัยครูสวนสุนนั ทาจึงได้เปลี่ยน ระบบการวดั ผลมาเป็ น
การคดิ คะแนนเฉลี่ยสะสมแทน

ในส่วนของกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงนีห้ ลายกิจกรรมล้วนแล้วแต่เป็ นการแสดงออกในเอกลักษณ์
ความเป็ นสวนสนุ นั ทาอย่างแท้จริง อาทิ งานแสดงละครประจาปี ละครนีจ้ ัดแสดงแบบละครพันทาง
ชว่ งนีเ้ป็นยคุ ที่เฟ่ื องฟมู าก มีการแสดงหลายเรื่อง โดยใช้บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 แทบทกุ เรื่องท่ีมี
อยู่ จนต้องดดั แปลงแตง่ เรื่องใหมเ่ พื่อนามาแสดง โดยนามาจากละครวิทยุ นิทานชาดก นิยายปรัมปรา
และนิทานอินเดีย เป็ นต้น ส่วนกิจกรรมภายใน อื่น ๆ ยังคงมีอยู่เช่นที่เคยปฏิบัติอย่างไรก็ตามใน
ชว่ งเวลานีม้ ีกิจกรรมสาคญั คอื

ในปี พ.ศ. 2503 เป็ นปี ที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ พระชนมายุครบ 100 พรรษา
จงึ ได้มีงานฉลองใหญ่ ประกอบไปด้วย การแสดงนิทรรศการทวั่ บริเวณวทิ ยาลยั และมี การเห่เรือสพุ รรณ
หงส์บนบกอีกด้วย

ในปี พ.ศ. 2505 ซงึ่ เป็นปี ท่ีวทิ ยาลยั อายุ ครบ 25 ปี มีการจดั นิทรรศการทวั่ บริเวณ วิทยาลยั พร้ อม
การละเลน่ เบ็ดเตล็ดตา่ ง ๆ ซง่ึ ท่ีเดน่ ท่ีสดุ ในการจดั ครัง้ นีค้ ือ การเล่นคล้องช้างเข้าเพนียดที่ต่ืนตาตื่นใจ
สว่ นโครงการด้านวชิ าการ ท่ีสาคญั ในปี นีค้ ือ โครงการฝึ กหดั ครูชนบท ซึง่ ได้รับความร่วมมือจากองค์การ
ยเู นสโก

ในปี พ.ศ. 2509 เป็ นปี ที่ประเทศไทยเป็ น เจ้าภาพจัดงานเอเชียนเกมส์ ครัง้ ท่ี 5 สวนสุนันทา
ร่วมแสดงการฟ้ อนแบบชาวเหนือ โดยใช้ผ้แู สดง ถึง 1,000 คน และตอ่ มาเม่ือมีงานแข่งขนั กีฬา แหลม
ทองในปี พ.ศ. 2511 วิทยาลยั ก็ได้รับ เกียรตใิ ห้แสดงรามาลยั ในพิธีเปิ ด ใช้ผ้แู สดง 400 คน ด้วยการให้
ความร่วมมือเป็ นอย่างดีนี่เอง เป็ นผลให้วิทยาลยั ได้รับเชิญให้ร่วมแสดงในพิธี เปิ ดการแขง่ ขนั เอเชียน
เกมส์ ครัง้ ที่ 5 ในปี พ.ศ.2513 อีกครัง้ หนึ่ง เม่ือประเทศไทยรับเป็ น เจ้าภาพ ครัง้ นีเ้ป็ นการแสดงราสะไบ

68 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

ใช้ผู้แสดง 800 คน มีลกั ษณะการราท่ีเร่ิมจากการฟ้ อนรา แบบภาคเหนือ และเร็วขึน้ ตามลาดบั เป็ น
การประยกุ ตศ์ ลิ ปการฟ้ อนของทกุ ภาคเข้าไว้ด้วยกนั อยา่ งงดงาม

ในปี เดียวกันนีเ้ องที่ได้มีการฉลองหอประชุมสุนันทานุสรณ์ มีการจัดนิทรรศการท่ัวบริเวณ
วิทยาลัย และท่ีขาดเสียมิได้คือ การแสดงละคร ครัง้ นีไ้ ด้จัดแสดงเร่ือง “ธรรมาธรรมสงคราม” บท
พระราชนพิ นธ์ในรัชกาลท่ี 6

ต่อมาอีกเพียง 2 ปี คือในปี พ.ศ. 2515 พระราชานสุ าวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสนุ นั ทากุมารีรัตน์
พระบรมราชเทวี สาเร็จเรียบร้ อย และมีพิธีเปิ ด ซ่ึงวิทยาลัยก็จัดงานเฉลิมฉลองโดยมีนิทรรศการ
ทวั่ บริเวณวิทยาลยั และการแสดงละครเร่ือง “นารายณ์สิบปาง ตอนกวนเกษียรสมทุ ร” ทางด้านวิชาการ
มีแนวโน้มยกงานด้าน การสอนเป็นสาคญั จงึ มีโครงการตา่ ง ๆ หลาย โครงการ ได้แก่ การสอนเป็ นคณะ
(Team Teaching) สาหรับวิธีสอนระดบั ป.กศ.การสมั มนาระบบการนิเทศการศกึ ษาโครงการวิจยั การ
สอน ภาษาไทยระดบั ฝึ กหดั ครู โดยวิธีของ Flander Interaction Analysis โครงการวิเคราะห์การสอน
ภาษาไทยในระดบั ฝึ กหดั ครู เพื่อศกึ ษาความ สัมพนั ธ์ของวิธีสอนกับหลกั สตู รและการวดั ผล โครงการ
วิเคราะห์ส่ือการเรียนของวิธีสอนภาษา ไทยในระดบั ฝึ กหดั ครู โครงการวิเคราะห์กาลงั งานของวิทยาลยั
ในด้านต่าง ๆ ที่สมั พนั ธ์กบั จานวนนกั ศึกษาโครงการประเมินผลการบริหารวิทยาลัยเพื่อหาแนวทาง
ปรับปรุงการบริหารงาน และโครงการสง่ เสริมการประชมุ ปฏิบตั ิงานเพ่ือประสิทธิภาพในการเรียนการ
สอนของอาจารย์เป็ นต้น

การจดั การเรียนการสอนในยคุ วิทยาลยั ครู มาถงึ จดุ เปล่ียนแปลงครัง้ ใหญ่ สืบเน่ืองจากในปี 2517
วิทยาลยั วิชาการศึกษา ได้รับอนุมัติให้ยกฐานะเป็ น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แยกตวั ออกไป
จากกรมการฝึ กหัดครูและมีวิทยาลัยเอกชน สามารถเปิ ดสอนถึงระดับปริญญาได้ รวมทัง้ ฝ่ าย
อาชีวศกึ ษาก็เปิดสอนถึงระดบั ปริญญาได้ ประกอบกบั กรมการฝึ กหดั ครูมีนโยบายท่ีจะเพิ่มคณุ ภาพครู
ให้สูงขึน้ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้เสนอพระราชบญั ญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 และได้มีพระราช
กฤษฎีกายกฐานะวิทยาลัยครูสวนสุนันทาและวิทยาลัยครูทุกแห่งท่ัวประเทศเป็ นวิทยาลัยครูตาม
พระราชบญั ญัติฉบบั ดงั กล่าว ให้มีฐานะเป็ นสถาบนั การศึกษาและวิจยั ส่งเสริมวิชาการและผลิตครูถึง
ระดบั ปริญญาตรีแบง่ ส่วนราชการออกเป็ น “คณะวิชา” ประกอบด้วยคณะวิชาวิทยาศาสตร์ คณะวิชา
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และคณะวิชาครุศาสตร์ เปิ ดสอนหลักสูตรการฝึ กหัดครู ระดับ
อนุปริญญา 2 ปี ปริญญาตรี 2 ปี และ 4 ปี วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทาจึงเป็ นสถาบนั อดุ มศึกษาที่จดั การ
เรียนการสอนได้จนถึงขนั้ ปริญญามาตงั้ แตบ่ ดั นนั้

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 69

พระราชกฤษฎีกา
ยกฐานะสถาบันฝึ กหัดครูเป็ นวิทยาลัยครู
ตามพระราชบัญญัตวิ ทิ ยาลัยครู พ.ศ. 2519

พ.ศ. 2518
-------------------------------------

ภมู ิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันท่ี 22 สงิ หาคม พ.ศ. 2518

เป็ นปี ท่ี 30 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่
โดยท่ีเป็นการสมควรยกฐานะสถาบนั ฝึกหดั ครู สงั กดั กรมการฝึกหดั ครู กระทรวง ศกึ ษาธิการ เป็ น
วทิ ยาลยั ครูตามกฎหมายวา่ ด้วยวิทยาลยั ครู
อาศยั อานาจตามความในมาตรา 192 ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย และ มาตรา 5 แหง่
พระราชบญั ญัติวิทยาลยั ครู พ.ศ. 2514 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชกฤษฎีกาขึน้ ไว้
ดงั ตอ่ ไปนี ้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานีเ้ รียกวา่ “พระราชกฤษฎีกายกฐานะสถาบนั ฝึ กหดั ครู เป็ นวิทยาลยั
ครูตามพระราชบญั ญตั วิ ิทยาลยั ครู พ.ศ. 2518”
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานีใ้ ห้ใช้บงั คบั ตงั้ แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจา นเุ บกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกฐานะสถาบนั ฝึ กหดั ครู สงั กดั กรมการฝึ กหดั ครู กระทรวงศึกษาธิการ ดงั ตอ่ ไปนี ้
เป็นวิทยาลยั ครูตามพระราชบญั ญตั วิ ทิ ยาลยั ครู พ.ศ. 2518
1.วทิ ยาลยั ครูจนั ทรเกษม กรุงเทพมหานคร
2. วทิ ยาลยั ครูเชียงใหม่ จงั หวดั เชียงใหม่
3. วทิ ยาลยั ครูเทพสตรี จงั หวดั ลพบรุ ี
4. วิทยาลยั ครูนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสีมา
5. วิทยาลยั ครูนครศรีธรรมราช จงั หวดั นครศรีธรรมราช
6. วทิ ยาลยั ครูนครสวรรค์ จงั หวดั นครสวรรค์
7. วทิ ยาลยั ครูบ้านสมเดจ็ เจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร

70 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

8. วทิ ยาลยั ครูพระนคร กรุงเทพมหานคร
9. วิทยาลยั ครูพระนครศรีอยธุ ยา จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา
10. วทิ ยาลยั ครูพบิ ลู สงคราม จงั หวดั พษิ ณุโลก
11. วทิ ยาลยั ครูมหาสารคาม จงั หวดั มหาสารคาม
12. วิทยาลยั ครูยะลา จงั หวดั ยะลา
13. วิทยาลยั ครูสงขลา จงั หวดั สงขลา
14. วทิ ยาลยั ครูสวนดสุ ิต กรุงเทพมหานคร
15. วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา กรุงเทพมหานคร
16. วิทยาลยั ครูอดุ รธานี จงั หวดั อดุ รธานี
17. วทิ ยาลยั ครูอบุ ลราชธานี จงั หวดั อบุ ลราชธานี

มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี ้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธ์ิ ปราโมช

นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนีค้ ือ เน่ืองจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

เห็นสมควรยกฐานะสถาบันฝึ กหัดครูเป็ นวิทยาลัยครู และสภาการฝึ กหัดครู ให้ความเห็นชอบแล้ว
แต่พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 ได้บัญญัติว่าการยกฐานะสถาบัน ฝึ กหัดครูดังกล่าวให้
กระทาได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา จงึ จาเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกา นีข้ นึ ้

(ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 43 ตอนท่ี 174 วนั ที่ 29 สงิ หาคม 2518)

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 71

5.5 จากวิทยาลัยครู สู่สถาบนั ราชภฏั

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี นอกจากจะเป็ นวันแห่งความรักแล้ว ยังถือเป็ นวันสาคัญของ
ประวัติศาสตร์การศึกษาไทย และของชาวราชภัฏท่ัวประเทศอีกด้วยอีกด้วย นน่ั คือ วันท่ี 14 กุมภาพันธ์ 2535
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานนาม
“สถาบนั ราชภฏั ” ใหใ้ ชแ้ ทน “วิทยาลยั ครู”

ทงั้ นี ้ เน่ืองมาจากวิทยาลัยครูทั่วประเทศ ซ่ึงปฏิบตั ิภารกิจภายใต้พระราชบญั ญัติวิทยาลัยครู
พ.ศ. 2518 ท่ีมีสาระสาคญั คือยกฐานะวิทยาลยั ครูให้ผลิตครูได้ถึงชนั้ ปริญญา และ พรบ.วิทยาลยั ครู
ฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2527 ที่มีสาระสาคัญคือกาหนดบทบาทให้วิทยาลัยครูจัดการศึกษาเพื่อตอบสนอง
ท้องถ่ิน ทาให้วิทยาลยั ครูทงั้ 36 แหง่ ได้มีการพฒั นารุดหน้าไปทกุ ๆ ด้าน จากเดมิ ท่ีเป็ นเพียงการผลิตครู
ในระดบั ประกาศนียบตั ร ก็ได้พฒั นาตนเองจนถึงขนั้ ผลิตครูระดบั ปริญญาบณั ฑิต อนั เป็ นบคุ คลระดบั
มนั สมองของประเทศ แตก่ ารพฒั นาก็มิได้หยุดยงั้ เพียงเทา่ นนั้ ระยะต่อมาได้พฒั นาถึงขนั้ ผลิตบณั ฑิต
สาขาวิชาตา่ ง ๆ ทงั้ ศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ได้เป็ นผลสาเร็จ แต่ความเข้าใจที่คลาดเคล่ือนและ
คา่ นยิ มที่ไมถ่ กู ต้องของสงั คม สร้างปัญหาวิกฤตท่ีไม่สามารถแก้ไขได้ตามลาพงั ให้เกิดขนึ ้ แก่วิทยาลยั ครู
ด้วยคนทว่ั ไปยงั คงยึดติดว่าวิทยาลยั ครูผลิตบณั ฑิตเฉพาะสายครูเทา่ นนั้ และเข้าใจผิดว่าบณั ฑิตจาก
วิทยาลัยครูจะต้องประกอบวิชาชีพครูเพียงอย่างเดียว จุดนีเ้ องทาให้ผู้ที่จบการศึกษาในสายวิทยา
ศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) และศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) ขาดโอกาสในการได้งานทา ก่อให้เกิด
ความรู้สึกอัปยศ น้อยเนือ้ ต่าใจ ทัง้ นีป้ ัญหาทัง้ หลายท่ีเกิดขึน้ เป็ นเพราะความเข้าใจที่ผิดพลาด
คลาดเคลื่อนของสงั คมโดยแท้

กรมการฝึกหดั ครู พยายามอยา่ งย่ิงที่จะหาแนวทางแก้ไขปัญหานี ้เริ่มจากแนวคดิ ที่จะแก้ไขพรบ.
วิทยาลยั ครูทงั้ สองฉบบั ในสอดคล้องกบั สภาพจริงของวิทยาลยั ครูในสมยั นนั้ รวมถึงชื่อ “วิทยาลยั ครู”
ท่ีเป็ นส่วนสาคัญของปัญหา ก็ได้ถูกหยิบยกขึน้ มาพิจารณาหลายครัง้ แต่ก็ประสบปัญหาครัง้ แล้ว
ครัง้ เลา่ หลายฝ่ ายมองเหน็ วา่ เป็นทางตนั และเร่ิมรู้สกึ ท้อแท้ หมดกาลงั ใจ กรมการฝึ กหดั ครูเล็งปัญหาท่ี
เกิดขึน้ จึงได้ดาริที่จะขอพระบารมีเป็ นท่ีพ่ึง โดยขอพระราชทานนามใหม่แก่วิทยาลยั ครู และเพื่อให้ได้
ชื่อที่เหมาะสม จึงได้ระดมสมองคิดหาช่ือใหม่ที่ดีที่สุดส่งขึน้ ไปเพ่ือขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวาย
พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั เพ่ือขอให้ทรงมีพระบรมราชวินจิ ฉยั โปรดเกล้าฯ พระราชทานเป็ นนามใหม่
ของวิทยาลยั ครูตอ่ ไป

72 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

ภาพท่ี 5.7 หนงั สือราชการของสานกั ราชเลขาธิการ เร่ืองพระราชทานนามสถาบนั ราชภฏั
ท่ีมา: สานกั งานสภาสถาบนั ราชภฏั

การสรรหาชื่อใหม่เป็ นไปอย่างคึกคัก ในท่ีสุดคาว่า “สถาบนั ราชพฒั นา” เป็ นคาท่ีถูกใจ
คณะกรรมการมากท่ีสดุ กรมการฝึ กหดั ครูจึงได้ทาหนงั สือถึงสานกั ราชเลขาธิการ เพื่อขอให้นาความขนึ ้
กราบบงั คมทูลให้ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของวิทยาลยั ครู และขอพระราชทานนามใหม่ว่า
สถาบนั ราชพฒั นา หรือชื่ออ่ืนใดสดุ แล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ในที่สดุ โดยท่ี
มิได้คาดคิดมาก่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม
“สถาบนั ราชภัฏ” แก่วิทยาลยั ครูท่ัวประเทศ เม่ือวนั ท่ี 14 กุมภาพนั ธ์ 2535 นบั เป็ นสิริมงคลอย่างย่ิง

“ราชภฏั ” เป็ นคาท่ีมิมีผ้ใู ดคาดคิดมาก่อนว่าจะเป็ นนามพระราชทาน เป็ นคาศพั ท์ท่ีทรงใช้พระ
บรมราชวินิจฉัยและทรงสรรหาด้วยพระองค์เอง แสดงให้เห็นว่าทรงสนพระราชหฤทยั ในกิจการของ
วิทยาลยั ครูอย่างแท้จริง นบั เป็ นพระมหากรุณาธิคณุ ล้นพ้นหาที่สุดมิได้ “ราชภฏั ” เป็ นศพั ท์โบราณ
มีความหมายตามพจนานกุ รมวา่ ข้าราชการ โดยนยั หมายถงึ ปราชญ์ของพระราชา เพราะผ้ทู ่ีจะสามารถ
รับใช้เบือ้ งพระยคุ ลบาท จะต้องเป็ นผ้รู อบรู้ มีสตปิ ัญญาเฉียบแหลม นบั ได้วา่ “ราชภฏั ” นีเ้ป็ นคาสงู สง่
เป็ นเคร่ืองเตือนใจให้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคณุ ซึ่งชาวมหาวิทยาลยั ราชภัฏ ในฐานะสถาบันอดุ มศึกษา
เพ่ือการพฒั นาท้องถ่ิน สมควรจะเทิดไว้เหนือเกล้าและจงรักภักดีด้วยการตงั้ ปณิธานจะประพฤติและ
ปฏิบตั ิหน้าที่เจริญรอยตามเบือ้ งพระยคุ ลบาท สืบไปและจากหนงั สือสานกั ราชเลขาธิการ ที่ รล0003 / 5536

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 73

ลงวนั ที่ 19 เมษายน 2535 แจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯกาหนดชื่อ
สถาบนั ราชภฏั เป็ นภาษาองั กฤษว่า RAJABHAT วิทยาลยั ครูหลายแห่งจึงเริ่มใช้ช่ือวา่ สถาบนั ราชภัฏ
ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา

กระทรวงศกึ ษาธิการมองเห็นความ สาคญั ในเรื่องการตราพระราชบญั ญัติ เพราะนอกจากจะทา
ให้สามารถใช้ชื่อสถาบันราชภัฏได้ อย่างถูกต้องแล้ว ยังมีผลต่อการขยายโปรแกรม วิชาได้อย่าง
กว้างขวาง ไม่มีความขดั แย้งระหว่างปริญญากับชื่อสถาบนั และสามารถเปิ ดสอนใน ระดบั ท่ีสูงกว่า
ปริญญาตรีได้ กรมการฝึ กหดั ครูจึงได้ดาเนินการเสนอร่างพระราชบญั ญัติสถาบนั ราชภัฎเพื่อให้สภา
ผ้แู ทนราษฎรอนุมตั ิตามขนั้ ตอน แม้ว่าการเสนอร่างพระราชบญั ญัติครัง้ นีจ้ ะเป็ น ไปโดยยากย่ิงและ
ลา่ ช้า แตช่ าวราชภฏั ก็ไมเ่ คยสิน้ หวงั เพราะได้รับนามพระราชทาน “สถาบนั ราชภฏั ” อนั เปรียบเสมือน
ธงชัยของชาวราชภัฎโดยแท้จริงมาเป็ นขวัญและความอบอุ่นใจอยู่แล้วการยกร่างพระราชบัญญัติ
สถาบนั ราชภฎั มีกระบวนการ และขนั้ ตอนสาคญั ท่ีควรคา่ แก่การจดจา ดงั นี ้

เริ่มตงั้ แตว่ นั ที่ 7 กรกฎาคม 2535 กระทรวงศกึ ษาธิการได้เสนอร่างพระราชบญั ญัติ สถาบนั ราช
ภฏั และเร่ืองเข้าสคู่ ณะรัฐมนตรี เม่ือวนั ที่ 17 สงิ หาคม 2535

วนั ที่ 16 เมษายน 2536 คณะรัฐมนตรีสง่ ให้สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาแหง่ ชาติ ใช้เวลา
พิจารณา 8 เดือน แล้วสง่ กลบั ให้คณะรัฐมนตรี เม่ือวนั ท่ี 25 พฤศจกิ ายน 2536
สอนได้สงู กวา่ ปริญญาตรี การจดั สรรเงินงบประมาณรายได้และทรัพย์สิน ของสถาบนั มีความคลอ่ งตวั
มากขนึ ้ และให้สถาบนั ราชภฏั มีฐานะเป็นนิตบิ คุ คล แล้วสง่ เรื่องให้คณะกรรมการ กฤษฎีกาพิจารณา

วนั ท่ี 27 เมษายน 2537 คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาร่างพระราชบญั ญตั ิ สถาบนั ราชภัฏ
ตามมติคณะรัฐมนตรี ใช้เวลาทงั้ สิน้ 4 เดือน เสร็จแล้วส่งเร่ืองกลบั คณะรัฐมนตรี โดยมีความ เห็นว่า
สถาบนั ราชภัฏไม่อาจเป็ นนิติบุคคลได้ แต่ก็ได้มีความพยายามท่ีจะให้สถาบนั เป็ นอิสระและมีความ
คลอ่ งตวั ในการดาเนินงานตามเจตนารมณ์เดมิ ท่ีอยากให้เป็ นนิตบิ คุ คล

วันที่ 20 กรกฎาคม 2537 นายกรัฐมนตรี ส่งเรื่ องให้ สภาผู้แทนราษฎรพิ จารณาร่ าง
พระราชบญั ญัติสถาบนั ราชภัฏ สภาผ้แู ทนราษฎรได้พิจารณาพระราชบญั ญัติสถาบนั ราชภัฏตามร่าง
รัฐบาล ผ่านวาระแรกเมื่อวันท่ี 31 กันยายน 2537 สภาผู้แทนราษฎรแต่งตัง้ กรรมาธิการ 209 คน
พิจารณา ใช้เวลาพจิ ารณา 3 เดือน ประชมุ 13 ครัง้

วนั ท่ี 7 ธันวาคม 2537 สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบญั ญัติสถาบนั ราชภฏั ท่ีผ่าน
การพจิ ารณาของคณะกรรมาธิการ และลงมตใิ ห้ผา่ นวาระท่ี 2 และท่ี 3 โดยไมม่ ีการแก้ไข

วนั ท่ี 5 ธันวาคม 2537 วุฒิสภาได้พิจารณาแล้วมีมติท่ีจะให้ขอแปรบญั ญัติภายใน วัน โดยตงั้
คณะกรรมการวิสามญั ขึน้ มาพิจารณา 22 คน คณะกรรมาธิการวิสามญั ประชุมครัง้ แรกใน วันที่ 13
ธนั วาคม 2537

74 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

วนั ที่ 16 ธนั วาคม 2537 วฒุ ิสภาได้ผา่ นความเหน็ ชอบร่างพระราชบญั ญัตสิ ถาบนั ราชภฎั โดยไม่
มีผ้ขู อสงวนการแปรบญั ญตั ิ และไมม่ ีการแก้ไขเปล่ียนแปลง

นายกรัฐมนตรีได้นาร่างพระราชบัญญัติสถาบัน ราชภัฎขึน้ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ในที่สุดชาววิทยาลัยครู ทั่วประเทศก็ได้รับทราบข่าวดี
เมื่อพระราชบญั ญตั ิ สถาบนั ราชภฏั พ.ศ. 2534 ได้ประกาศใน พระราชกิจจานเุ บกษา เล่มท่ี 112 ตอนที่
4 ก เมื่อวนั ที่ 25 มกราคม 2534 และมีผลบงั คบั ใช้ตงั้ แตว่ นั ท่ี 25 มกราคม 2538 ส่งผลให้วิทยาลยั ครู
ทงั้ 36 แหง่ เป็นสถาบนั ราชภฏั มีศกั ด์ิ และสิทธิ์ตามกฎหมายทกุ ประการ

วิทยาลยั ครูเดมิ มีหน้าท่ีรับผิดชอบการผลิต บณั ฑิตท่ีมีคณุ ค่า ทางด้านการศกึ ษามายาวนานได้
พฒั นาขนึ ้ เป็น “สถาบนั ราชภฏั ” ซง่ึ มงุ่ ผลิต หลากหลายสาขาวิชา เพ่ิมศกั ยภาพในการรับใช้และพฒั นา
ประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า สอดคล้อง กบั ความต้องการของท้องถิ่นมากยิ่งขนึ ้ ตงั้ แตน่ นั้ มากรมการ
ฝึ กหดั ครูก็ได้เปลี่ยนสถานภาพเป็ นสานักงานสภาสถาบนั ราชภัฏตามพระราชบญั ญัติสถาบันราชภัฏ
พ.ศ.2538 โดยที่ยงั คงมีสถานภาพเป็ นนิติบุคคลอย่เู หมือนเดิม แต่ผ้บู ริหารเปลี่ยนจากตาแหน่งอธิบดี
กรมการฝึกหดั ครู เป็นเลขาธิการสภาสถาบนั ราชภฏั

5.6 พระราชลัญจกรเป็ นตราสัญลักษณ์พระราชทาน

ในช่วงระยะเวลาท่ีชาววิทยาลัยครูกาลังรอคอยพระราชบญั ญัติสถาบนั ราชภัฏซึ่งมีแนวโน้ม
ชดั เจนวา่ จะสมหวงั นนั้ กรมการฝึกหดั ครูได้ทาหนงั สือ ท่ี ศธ 0303/75) เม่ือวนั ท่ี11 มกราคม พ.ศ. 2538
ขอพระราชทาน “สญั ลกั ษณ์ประจาสถาบนั ” จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั และแล้วชาวราชภัฏ
ทงั้ ปวงก็ได้รับความต่ืนเต้นยินดีอย่างยิ่งใหญ่อีกครัง้ หนึ่ง เม่ือได้รับหนังสือสานกั ราชเลขาธิการ ที่ รล
00035167 ลงวนั ท่ี 6 มีนาคม 2538 แจ้งเร่ืองว่าพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานพระราชลญั จกรประจาพระองค์ ให้เป็นตราสญั ลกั ษณ์ประจาสถาบนั ราชภฏั และสานกั งาน
สภาสถาบนั ราชภฏั ตามที่ขอพระราชทานพระมหากรุณา

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 75

ภาพท่ี 5.8 พระราชลญั จกรรัชกาลท่ี 9
ท่ีมา: สานกั งานสภาสถาบนั ราชภฏั

ในช่วงระยะเวลาท่ีชาววิทยาลัยครูกาลังรอคอยพระราชบญั ญัติสถาบันราชภัฏซ่ึงมีแนวโน้ม
ชดั เจนวา่ จะสมหวงั นนั้ กรมการฝึกหดั ครูได้ทาหนงั สือ ที่ ศธ 0303/75 เม่ือวนั ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2538
ขอพระราชทาน“สญั ลกั ษณ์ประจาสถาบนั ” จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั และแล้วชาวราชภัฏ
ทัง้ ปวงก็ได้รับความต่ืนเต้นยินดีอย่างย่ิงใหญ่อีกครัง้ หน่ึง เมื่อได้รับหนังสือสานักราชเลขาธิการท่ี
รล 00035167 ลงวนั ที่ 6 มีนาคม 2538 แจ้ง เร่ืองว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯ พระราชทานพระราชลญั จกรประจาพระองค์ ให้เป็ นตราสญั ลกั ษณ์ประจาสถาบนั ราชภฏั และ
สานกั งานสภาสถาบนั ราชภฏั ตามที่ขอพระราชทานพระมหากรุณา

ความหมายของตราพระราชลัญจกรประจาพระองค์ พระราชลญั จกรประจาพระองค์เป็ นรูป
พระที่นง่ั อฐั ทิศ อนั ประกอบด้วยวงจกั ร กลาง วงจกั รมีอกั ขระเป็ น อุ หรือเลข 9 รอบวงจกั รมีรัศมีเปล่ง
ออกโดยรอบ เหนือจกั รเป็ นรูปเศวตฉัตร เจ็ดชนั้ ฉัตรตงั้ อยบู่ นที่นงั่ อฐั ทิศ หมายถึงทรงมีพระบรมเดชานุ
ภาพในแผ่นดนิ ทงั้ แปดทิศ พระราชลญั จกรนีเ้ป็ นสว่ นหนึง่ ของเครื่องหมายแห่งความเป็ นพระราชาธิบดี
หรือ พระบรมราชอิสริยยศ ของพระมหากษัตริย์ อนั เรียกวา่ เบญจราชกกธุ ภณั ฑ์ คือ พระมหาเศวตฉตั ร
พระมหาพชิ ยั มงกฎุ พระแสงขรรค์ชยั ศรี ธารพระกร วาลวิชนี ้และ ฉลองพระบาทเชิงงอน

76 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

ภาพท่ี 5.9 ตราสถาบนั ราชภฏั
ท่ีมา: สานกั งานสภาสถาบนั ราชภฏั

ความหมายของสีในราชภฏั สญั ลกั ษณ์
สีนา้ เงิน แทนคา่ สถาบนั พระมหากษัตริย์ ผ้ใู ห้กาเนิด และพระราชทานนาม “สถาบนั ราชภฏั ”
สีเขียว แทนคา่ แหลง่ ที่ตงั้ ของสถาบนั ฯ 38 แหง่ ในแหลง่ ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมที่สวยงาม
สีทอง แทนคา่ ความเจริญรุ่งเรือง ทางปัญญา
สีส้ม แทนคา่ ความรุ่งเรืองทาง ศลิ ปวฒั นธรรมท้องถิ่นที่ก้าวไกลใน 38 สถาบนั
สีขาว แทนคา่ ความคดิ อนั บริสทุ ธิ์ของ นกั ปราชญ์แหง่ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั
ทัง้ นาม “ราชภัฏ” และตราพระราชลัญจกรประจาพระองค์ท่ีทรงพระกรุณาโปรดเกล้ าฯ

พระราชทานนัน้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนกั ในความสาคัญ
ของวิทยาลัยครูที่มีต่อแผ่นดิน ชาวราชภัฏทัง้ หลายล้ วนตระหนักว่า ตลอดพระชนมชีพของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั หรือ “พ่อหลวง ของปวงชนชาวไทย” นนั้ ล้วนเป็ นไปเพ่ือประโยชน์ของ
ประชาชนโดยแท้นามและตราท่ี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน จึงเป็ นความไว้วางพระราช
หฤทยั ให้ชาวราชภฎั ได้ร่วม ดแู ลสร้างสรรค์สงั คมตา่ งพระเนตรพระกรรณอีกด้วย ด้วยเหตนุ ีช้ าวราชภฏั
จงึ ตระหนกั และร่วมกนั สืบสานพระราชปณิธานอยา่ งแท้จริง

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 77

5.7 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

สถาบนั ราชภัฏสวนสนุ ันทา ดาเนินกิจการตามพนั ธกิจในพระราชบญั ญัติสถาบนั ราชภัฏ พ.ศ.
2538 โดยเฉพาะความเป็ นสถาบนั อุดมศึกษาเพื่อการพฒั นาท้องถ่ิน จนกระทงั่ กระแสธารแห่งความ
เปลี่ยนแปลงมีผลกระทบอีกครัง้ ต่อสถาบนั ราชภัฏ ส่งผลให้เกิดความคิดความปรารถนาที่จะพัฒนา
ปรับเปล่ียนองค์กรเป็นมหาวิทยาลยั ซง่ึ เป็นความปรารถนาร่วมกนั ของสถาบนั ราชภฏั ทงั้ มวล จนกระทง่ั
วนั ท่ี 14 มิถนุ ายน 2547 พระราชบญั ญัติมหาวิทยาลยั ราชภัฏ พ.ศ.2547 ได้ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ฉบบั กฤษฎีกา เลม่ 121 ตอนพิเศษ 23 ก หน้า 1 มีผลบงั คบั ใช้ตงั้ แต่ วนั ที่ 15 มิถนุ ายน 2547 เป็ นต้นไป
มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา จึงเป็ นสถาบนั ราชภัฏ 1 ใน 41 แห่งท่ีได้รับการยกฐานะในครัง้ นนั้
กระทง่ั ปัจจบุ นั

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้รับการยอมรับว่าเป็ นมหาวิทยาลยั ราชภัฏอันดบั 1 ของ
ประเทศ เป็ นมหาวิทยาลยั ที่ไมเ่ หมือนมหาวิทยาลยั อื่น เรามีความเป็ นวงั อยู่ บรรยากาศการอยรู่ ่วมกัน
จึงเน้นไปท่ีความเป็ นพี่เป็ นน้อง มีความรักความผกู พนั และเป็ นที่น่าภาคภูมิใจหลงั จากการจดั อนั ดบั
มหาวิทยาลยั โลกของ “Webometrict Rariking oal World Universities” เว็บไซต์การจดั อนั ดบั ของ
ประเทศสเปน ได้ทาการสารวจมาตรฐานมหาวทิ ยาลยั ทวั่ โลกรวมถึงมหาวิทยาลยั ทงั้ หมดในประเทศไทย
จากความสามารถในการเป็ นมหาวิทยาลยั อิเล็กทรอนิกส์ (E-University) ซึ่งจะจดั อนั ดบั 2 ครัง้ ตอ่ ปี คือใน
เดือนมกราคมและกรกฎาคมของทกุ ปี โดยมีการแยกย่อยออกเป็ นกล่มุ ของมหาวิทยาลยั ราชภฏั และ
จดั เป็ น 10 อันดบั ที่ถือได้ว่าเป็ น 10 มหาวิทยาลัยราชภัฏชนั้ นาของประเทศไทย โดนผลจากการจัด
อนั ดบั มหาวทิ ยาลยั ทงั้ หมดในประเทศไทยเฉพาะ “มหาวิทยาลยั ราชภฏั ” เมื่อต้นเดือนกมุ ภาพนั ธ์ 2017
การจดั อนั ดบั เว็บไซต์ของมหาวิทยาลยั ทว่ั โลก หรือ The Webometrics University Ranking ได้เปิ ดเผย
ผลการจดั อนั ดบั มหาวิทยาลยั เม่ือสิน้ เดือนมกราคม 2017 และตีพิมพ์ Ranking Web of Universities
2017 ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏอันดบั 1 ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (Suan Sunandha
Rajabhat University) เป็ นต้นต้นท่ี 24 ของประเทศ และ ในปี 2019 มหาวิทยาลยั ในกล่มุ ราชภฏั นนั้
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา ก็ยงั คงรักษาความเป็ นมหาวิทยาลยั ราชภฏั อนั ดบั 1 เอาไว้ได้ และม่งุ มน่ั
ส่กู ารจดั อนั ดบั มหาวิทยาลยั โลก โดยองค์กรการจดั อนั ดบั อ่ืน ๆ เชน่ QS World University Rankings
มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา ยงั คงม่งุ มน่ั ตามเจตนารมณ์ และแผนยทุ ธศาสตร์ท่ีกาหนดไว้ เพื่อให้
บรรลผุ ลสาเร็จในอนาคตตอ่ ไป

78 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

สรุป

เขตพระราชฐานสวนสนุ นั ทา ได้ถกู ทิง้ ร้างในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เม่ือปี 2475
หลงั จากนนั้ อีก 5 ปี ได้มีการพิจารณาพืน้ ที่แห่งนี ้เพื่อหาทางเป็ นไปได้ในการจดั สร้างต่อเติมเป็ นที่พกั
อาศยั สาหรับรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ต่อมากลับมีมติให้กระทรวงธรรมการรับไป
จดั สร้างสถานศึกษาสาหรับการฝึ กหดั ครูฝ่ ายสตรีเป็ นการเฉพาะและให้มีชนั้ เรียนสามญั ระดบั ประถม
และมธั ยมด้วย เพื่อเป็ นการขยายโอกาสทางการศึกษาให้กว้างขวางขึน้ และเป็ นสถานท่ีฝึ กสอนของ
นกั เรียนฝึ กหดั ครู ให้ช่ือว่าโรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั เปิ ดการเรียนการสอนเมื่อวนั ที่ 17 พฤษภาคม
2480 เปิ ดสอนชัน้ สามัญ และหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถม (ป.ป.) จนถึงปี 2501
กระทรวงศึกษาธิการ ได้ปรับหลักสูตรการฝึ กหัดครูขึน้ ใหม่ แบ่งเป็ นหลักสูตรประกาศนียบตั รวิชา
การศกึ ษา (ป.กศ.) และประกาศนียบตั รวิชาการศกึ ษาชนั้ สงู (ป.กศ.สงู ) และยกฐานะโรงเรียนสวนสนุ นั
ทาวิทยาลยั ขนึ ้ เป็ นวิทยาลยั ครูสวนสุนนั ทา ตอ่ มาในปี 2518 ได้มีการตราพระราชบญั ญัติวิทยาลยั ครู
พ.ศ.2518 สง่ ผลให้วิทยาลยั ครูขยายการศกึ ษาออกไปถึงขนั้ ปริญญาได้ และในปี 2527 พระราชบญั ญตั ิ
วทิ ยาลยั ครูฉบบั ที่ 2 มีผลให้วิทยาลยั ครูสามารถจดั สอนสาขาวิชาอ่ืน ๆ เพ่ิมเตมิ นอกจากครุศาสตร์ และ
วิทยาศาสตร์ อนั ได้แก่ ศิลปศาสตร์ บริหารธุรกิจ การสื่อสารและการประชาสมั พนั ธ์ เป็ นต้น ตอ่ มาในปี
2535 ได้รับพระมหากรุณาธิคณุ จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร
รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามใหมใ่ ห้แก่วิทยาลยั ครูทว่ั ประเทศว่า สถาบนั ราชภฏั พร้อมทงั้ พระราชทาน
ตราพระราชลญั จกรประจาพระองค์มาเป็นเครื่องหมายของสถาบนั ด้วย สถาบนั ราชภฏั ทว่ั ประเทศได้รับ
การยกฐานะขึน้ เป็ นมหาวิทยาลยั ราชภัฏ เป็ นสถาบนั อุดมศึกษาที่มีลักษณะเป็ นนิติบุคคลมีอิสระใน
การดาเนินงาน และผลจากการท่มุ เท ม่งุ มน่ั ในการดาเนินงานตามภารกิจในทกุ มิติ มหาวิทยาลยั ราช
ภฏั สวนสนุ นั ทา ก็ได้รับการยอมรับให้เป็นมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อนั ดบั 1 ของประเทศ

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 79

คาถามทบทวน

1. สวนสนุ นั ทาแตเ่ ดมิ ก่อนการเปล่ียนแปลงการปกครองถกู ใช้เป็ นอะไร
2. สวนสนุ นั ทาถกู ทงิ ้ ร้างภายหลงั เปล่ียนแปลงการปกครองด้วยเหตใุ ด
3. ก่อนจะได้รับการจดั ตงั้ เป็นสถานศกึ ษา สวนสนุ นั ทาเคยถกู เสนอให้ใช้ประโยชน์ในทางใด
4. เม่ือตงั้ เป็นสถานศกึ ษาแล้ว ใช้ชื่อวา่ อะไร
5. ใครคืออาจารย์ใหญ่คนแรก
6. มีผ้กู าหนดวา่ สวนสนุ นั ทาแบง่ การจดั การศกึ ษาได้ 4 ยคุ 4 ยคุ ที่วา่ ได้แกอ่ ะไรบ้าง
7. จากข้อ 6 นกั ศกึ ษาปัจจบุ นั นีอ้ ยใู่ นยคุ ใด
8. คาวา่ ราชภฏั ใครเป็นผ้กู าหนดให้ และมีความหมายวา่ อยา่ งไร
9. ตราเครื่องหมายของมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั คอื ตราเครื่องหมายใด
10. ปรัชญาของมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา มีว่าอยา่ งไร

80 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

เอกสารอ้างองิ

หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาต,ิ กรมศลิ ปากร เอกสารสานกั ราชเลขาธิการ เรื่องคณะผ้สู าเร็จราชการแทน
พระองค์ มอบพืน้ ที่สวนสนุ นั ทา เป็นเขตท่ีพกั อาศยั ของรัฐมนตรีและสมาชกิ สภาผ้แู ทน
ราษฎร

หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาต,ิ กรมศลิ ปากร เอกสารสานกั ราชเลขานกุ ารในพระองค์ ที่ 41278 / 2479
ลงวนั ที่ 8 ธนั วาคม 2479 เร่ืองการใช้สวนสนุ นั ทาเป็นสานกั ศกึ ษา

หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาต,ิ กรมศลิ ปากร เอกสารสานกั ราชเลขาธิการ เรื่องบนั ทกึ รับและมอบพืน้ ที่สวน
สนุ นั ทา ระหวา่ งเจ้าหน้าท่ีกองวงั และพระราชพธิ ี สานกั พระราชวงั กบั เจ้าหน้าท่ีกระทรวง
ธรรมการ วนั ท่ี 9 มกราคม 2479

หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาต,ิ กรมศลิ ปากร เอกสารสานกั พระราชวงั จากปลดั กระทรวงธรรมการ ถงึ
เลขาธิการพระราชวงั เรื่องขอรับความเห็นชอบในการขยายเขตกนั้ รัว้ และรือ้ กาแพง
สวนสนุ นั ทา วนั ท่ี 8 กมุ ภาพนั ธ์ 2480

หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาต,ิ กรมศลิ ปากร เอกสารกระทรวงธรรมการ จากรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงธรรมการ
ถึงนายกรัฐมนตรี ในตาแหนง่ บงั คบั บญั ชาสานกั พระราชวงั เรื่องขอพระราชทานสถานท่ี
บริเวณสวนสนุ นั ทาเพ่มิ เตมิ เพ่ือจดั ตงั้ แผนกอนบุ าลทารก ลงวนั ที่ 25 เมษายน 2481

หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาต,ิ กรมศลิ ปากร เอกสารสานกั ราชเลขาธิการ สาเนาลายพระหตั ถ์ สมเดจ็ พระ
ศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพนั วสั สาอยั ยกิ าเจ้า ถึงคณะผ้สู าเร็จราชการแทนพระองค์
เร่ืองกระทรวงธรรมการขอสถานท่ีสวนสนุ นั ทาเพมิ่ เตมิ ลงวนั ท่ี 31 ตลุ าคม 2481

บนั ทกึ การประชมุ คณะกรรมการจดั การโรงเรียนฝึกหดั ครูเพชรบรุ ีวทิ ยาลงกรณ์ ระหวา่ งปี 2475 -2476
บนั ทกึ การประชมุ คณะกรรมการบริหารวิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา ระหวา่ งปี 2501 – 2513 เอกสารท่ี

จดั พิมพ์แล้ว
กรองทอง สรุ ัสวด,ี คณุ หญิง. (2505). สวนสุนันทาเม่ือแรกเปิ ด ในสุนันทานุสรณ์เน่ืองในโอกาส

ครบรอบ 25 ปี วิทยาลัยครูสวนสุนันทา, เอกสารอดั สาเนา
กรองแก้ว ปทมุ านนท์, คณุ หญิง (2528). สารบญั ชีวิต กรุงเทพฯ : มปท.
คณะกรรมการสภานกั ศกึ ษา. (2504). สวนสนุ นั ทา 2503. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์บารุงนกุ ลู กิจ
คณะกรรมการนกั ศกึ ษา 2510 (2511). สนุ นั ทานสุ รณ์ 2510. มปท.
คณะผ้จู ดั ทาหนงั สือท่ีระลกึ . (2529). สวนสนุ นั ทาในอดีต กรุงเทพฯ : อมรินทร์การพมิ พ์
คณะผ้จู ดั ทาหนงั สือที่ระลกึ (2534). 8 ปี สวนสนุ นั ทา กรุงเทพฯ: ห้างห้นุ สว่ นจากดั เทคนคิ 19
คณะอนกุ รรมการจดั ทาประวตั กิ ารดาเนินงานของสถานศกึ ษา (2529). การจดั การศกึ ษาในรอบ 50 ปี .

กรุงเทพฯ : ฝ่ ายการพมิ พ์วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 81

ชมรมศษิ ย์ชา่ งศลิ ป์ รุ่น 14 (2549). ชีวติ และงานของอาจารย์จารัส เกียรตกิ ้อง ศลิ ปินเอกของชาต,ิ
กรุงเทพฯ : บริษัท ครีเอทีฟคอร์เนอร์ จากดั

ชานาญ รอดเหตภุ ยั , จิรัฐิ เจริญราษฎร์ ; และคนอ่ืนๆ (2549). จากฝึ กหัดครูสู่มหาวิทยาลัยราชภัฏ,
นครปฐม : มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม

มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ (2552). การฝึ กหดั ครูสตรีไทย.
เอกสารอดั สาเนา

มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา. (2559) แผนยทุ ธศาสตร์ 2030, มปท.
มลู นิธิคณุ หญิงกรองแก้ว ปทมุ านนท์. (2555). 100 ปี ชาตกาล คณุ หญิงกรองแก้ว ปทมุ านนท์,

กรุงเทพฯ: มปท.

82 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

บทท่ี 6
ผู้มคี ุณูปการ และสัญลักษณ์แห่งสวนสุนันทา

รวีโรจน์ สิงห์ลาพอง
ชตุ มิ า มณีวฒั นา

ในสังคม ชุมชน หรือองค์กรใด ๆ ก็ตาม ท่ีมีประวตั ิความเป็ นมายาวนานก็มักจะมีส่ิงสาคญั ท่ี
แสดงออกถึงความเป็ นองค์กรนัน้ ๆ อาจจะเป็ นสิ่งสัญลักษณ์ เป็ นบุคคลสาคัญ เป็ นวัตถุ หรือเป็ น
สถานท่ีที่สามารถบ่งบอกรากเหง้า บ่งบอกความเป็ นมา ตลอดจนจารึกความสาคญั ขององค์กรหรือ
ชมุ ชนนนั้ ๆ ได้เป็นอยา่ งดี ในบทเรียนนี ้จะได้กลา่ วถึงบคุ คลสาคญั ผ้มู ีคณุ ูปการ ตลอดจนสิ่งสญั ลกั ษณ์
ตา่ ง ๆ ท่ีหลอมรวมจิตใจของผ้เู ป็น “ชาวสวนสนุ นั ทา” ไว้ด้วยกนั อยา่ งยืนมน่ั คงมาจนปัจจบุ นั นี ้

6.1 คุณหญงิ กรองแก้ว ปทมุ านนท์ บคุ คลสาคัญผู้มีคุณูปการต่อ “สวนสุนันทา”

คณุ หญิงกรองแก้ว ปทุมานนท์ (พ.ศ. 2455 - 2541) ผู้เคยดารงตาแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียน
สวนสนุ นั ทาวทิ ยาลยั ระหวา่ ง พ.ศ.2491 – 2498 และผ้อู านวยการวิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา ระหวา่ งพ.ศ.
2501 – 2516 ท่านเกิดเมื่อวนั ท่ี 15 มีนาคม พ.ศ. 2455 ท่ีบ้านเลขท่ี 2205 ตาบลริมวดั เชิงเลน (ปัจจบุ นั
คือ วดั บพิตรพิมขุ ราชวรวิหาร) อาเภอจกั รวรรดิ์ (ปัจจบุ นั คือ อาเภอสมั พนั ธวงศ)ั จงั หวดั พระนคร เป็ น
ธิดาของ พระยาหัสดินอานวยศาสตร์ (สาย วณิกนันทน์ ต่อมาได้เปล่ียนนามสกุลเป็ น หัสดิน) และ
คณุ หญิงเลื่อน หสั ดินอานวยศาสตร์ มีพี่สาวหน่ึงคน คือ คุณหญิงกรองทอง สุรัสวดี มีน้อง 4 คน คือ
นางสาวอาภรณ์ พลตรีสตุ สาย นายชมุ สาย นางกฤษณา สาระศาลิน และพลตรีศขิ ิน หสั ดิน พ.ศ.2462
ได้เข้าเรียนขนั้ มูลที่โรงเรียนเบญจมราชาลยั คณุ หญิงกรองแก้วเป็ นนกั เรียนท่ีเรียนดี จึงได้รับทุนหมั่น
เรียนและในขณะท่ีเรียนอย่ชู นั้ มธั ยมปี ท่ี 2 สอบได้ที่หนึ่ง จึงได้ข้ามไปเรียนชนั้ มธั ยมปี ที่ 4 และได้ทุน
เรียนดีเพมิ่ ขนึ ้ อีกทนุ หน่ึง จนจบชนั้ มธั ยมปี ท่ี 8 พ.ศ. 2473 ได้เข้าศกึ ษาในแผนกวิทยาศาสตร์การแพทย์
ที่จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั เม่ือศึกษาไปได้หนึ่งปี รู้สกึ ว่าไม่ถูกกบั อุปนิสยั จึงไปเข้าเรียนใหม่ในแผนก
อักษรศาสตร์ ขณะท่ีศึกษาอยู่ชัน้ ปี ท่ี 2 คุณหญิงกรองแก้วได้เขียนเรียงความเทิดพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัวเรื่อง ความสามคั คี โดยยกตวั อยา่ งจากโคลงพระราชนิพนธ์
รัชกาลท่ี 5 ปรากฏว่าชนะเลิศในการประกวดได้รับรางวัลของพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ
ปิ ยมหาราชปดิวรัดา คณุ หญิงกรองแก้วเป็ นนิสิตหญิงคนแรกที่ได้รับรางวลั อนั ทรงเกียรตินี ้พ.ศ. 2476
สอบได้ประกาศนียบตั รครูมธั ยม แผนกอกั ษรศาสตร์ ตอ่ มาได้ศึกษาระดบั ปริญญาอกั ษรศาสตร์นอก
เวลาได้รับปริญญาอกั ษรศาสตรบณั ฑิต พ.ศ. 2479

คุณหญิงกรองแก้วเข้ารับราชการเป็ นครูที่โรงเรียนสตรีบ้านทวาย (โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย)
เม่ือ พ.ศ. 2477 ได้ปฏิบตั ิงานการสอนด้วยความสามารถจนได้เลื่อนตาแหน่งเป็ นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่
ในพ.ศ. 2480 อีกสองปี ต่อมาก็ได้รับตาแหน่งเป็ นอาจารย์ใหญ่ พ.ศ. 2484 ทางราชการได้เปลี่ยนช่ือ
โรงเรียนสตรีบ้านทวายเป็นโรงเรียนสตรีศรีสรุ ิโยทยั

พ.ศ. 2491 คณุ หญิงกรองแก้วได้ย้ายไปเป็ นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั (ปัจจบุ นั
คือมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา) พ.ศ. 2498 - 2500 ย้ายไปรับราชการที่หน่วยศึกษานิเทศก์
กรมการฝึ กหดั ครู และรักษาการอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเทพสตรีวิทยาลยั จงั หวดั ลพบุรี เป็ นการชว่ั คราว
พ.ศ. 2501 โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั เล่ือนฐานะเป็ นวิทยาลยั ครู คณุ หญิงกรองแก้วได้ย้ายกลบั มา
เป็ นอาจารย์ใหญ่ตามเดิม และได้รับตาแหน่งผ้อู านวยการในพ.ศ.2503 และได้บริหารวิทยาลยั ครูสวน
สนุ นั ทาจนเกษียณอายรุ าชการใน พ.ศ. 2516

ภาพท่ี 6.1 คณุ หญิงกรองแก้ว ปทมุ านนท์ ขณะดารงตาแหนง่ ผ้อู านวยการวิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา
ท่ีมา: รวีโรจน์ สงิ ห์ลาพอง

ระหว่างรับราชการ คุณหญิงกรองแก้ วได้ไปศึกษาดูงานและเข้าร่วมประชุม เก่ียวกับงาน
การศกึ ษาในหลายประเทศดงั นี ้

พ.ศ. 2497 - 2498 ไปศึกษาเรื่องการประถมศึกษาและดูงานในโรงเรียนประถมสาธิตของ
Central Michigan University รัฐ Michigan เข้ารับการอบรมฟื น้ ฟูความรู้และวิธีสอนท่ี National
College of Education รัฐ Ilinois และได้เข้าศกึ ษาวิธีการบริหารท่ี Western Washington College
รัฐ Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา

84 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

พ.ศ. 2507 เป็ นผ้แู ทนจากประเทศไทยเข้าร่วมประชมุ World Federation ของ United Nations
Association ครัง้ ที่ 20 Regional Seminar on Education about The United Nations ท่ีกรุงกวั ลาลมั เปอร์
ประเทศมาเลเชีย คณุ หญิงกรองแก้วได้รับเลือกเป็นประธานในการประชมุ

พ.ศ. 2511 ได้เข้าร่วมประชุม International Bureau of Education (.B.E.) เป็ นการประชุม
เกี่ยวกบั การศกึ ษาประชาชน ครัง้ ที่ 31 ท่ีประเทศสวสิ เซอร์แลนด์

ในปี เดียวกันนี ้ได้เข้ารับการอบรม Third Institue for Key Teacher Educators ซ่ึงจัด
โดย UNESCO ที่ประเทศฟิลปิ ปินส์

นอกจากนี ้ คุณหญิงกรองแก้ วยังได้ไปดูการศึกษาและวัฒนธรรมที่ สาธารณรัฐฝรั่งเศส
ออสเตรเลีย และกรีซ ด้วยระยะเวลาอนั ยาวนานถงึ เกือบ 25 ปี ท่ีเป็นผ้บู ริหาร คณุ หญิงกรองแก้วได้ทาให้
สถาบนั แหง่ นีเ้จริญรุ่งเร่ืองจนกลา่ วได้วา่ เป็ นยคุ ทองของสวนสนุ นั ทาและได้วางรากฐานงานพฒั นาด้าน
ตา่ ง ๆ จนนบั เน่ืองมาถงึ ปัจจบุ นั ดงั นี ้

6.1.1 งานการศกึ ษา
พ.ศ.2491 คุณหญิงกรองแก้วย้ายมาดารงตาแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสวนสุนนั ทา

วิทยาลยั นนั้ เป็ นช่วงเวลาท่ีโรงเรียนเพิ่งฟื น้ ตวั จากภยั สงครามมหาเอเชียบรู พา อาคารสถานที่ยงั ชารุด
ทรุดโทรมและรกร้ างอยู่ นกั เรียนระดบั มธั ยมศกึ ษาและนกั เรียนฝึ กหดั ครูประถม (หญิง) ตลอดจนครู
อาจารย์ได้อพยหนีภยั สงครามแยกย้ายกนั ไปเรียนตามสถานที่ตา่ ง ๆ เพ่ิงเข้ามารวมกนั ที่โรงเรียนสวน
สนุ นั ทาวิทยาลยั คณุ หญิงกรองแก้วต้องปรับระบบการเรียนการสอน ให้เข้ารูปเป็ นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั
ตามหลกั สูตร ต้องดแู ลทงั้ ฝ่ ายประจา คือ นกั เรียนฝึ กหดั ครู (หญิง) ปี ท่ี 1-3 อาจารย์ที่อย่ปู ระจาตาม
หอพกั ต่าง ๆ และนักเรียนระดบั มธั ยมศึกษาท่ีไม่ได้อยู่ประจา ตลอดจนการฟื ้นฟูซ่อมแชม ปรับปรุง
อาคารสถานท่ีและบริเวณโรงเรี ยนให้ กลับเข้ าสู่สภาพเดิมที่เคยงดงามของวังสวนสุนันทา
ซ่งึ ศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสภุ ทั รดิศ คศิ กลุ ทรงเขียนไว้ในหนงั สือสวนสนุ นั ทาในอดีตว่า “..มีผ้เู ปรียบไว้
วา่ ดจุ ดงั สวนสรรค.์ ..”

พ.ศ.2495 กระทรวงศึกษาธิการได้ทดลองเปิ ดหลักสูตรฝึ กหัดครูประถมและมัธยม
การงานสนั ทดั ขนึ ้ และเลือกโรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั เป็ นโรงเรียนทดลองสาหรับนกั เรียนฝึ กหดั ครู
หญิงแห่งแรก คุณหญิงกรองแก้วได้ดาเนินงานหลกั สูตรนีอ้ ย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง และโรงเรียนได้รับ
ประโยชน์นีน้ านาประการจากการฝึ กงานและผลงานของนกั เรียน เป็ นท่ีนา่ เสียดายท่ีโรงเรียนได้ผลิตครู
ตามหลกั สตู รนีเ้พียง 3 รุ่น กระทรวงศกึ ษาธิการก็ยตุ กิ ารทดลอง ตอ่ มาโรงเรียนได้เปิ ดงานฝ่ ายสาธิตขนึ ้
เป็ นโรงเรียนประถมสาธิตสอนนักเรียนระดับชัน้ ประถมปี ท่ี 1 - 4 และโรงเรียนมัธยมศึกษาเดิมก็
เปล่ียนเป็ นโรงเรียนสาธิตมธั ยมสอนนกั เรียนระดบั ชนั้ มัธยมปี ท่ี 1 - 6 การเปิ ดโรงเรียนสาธิตทงั้ ระดบั
ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาขึน้ นีเ้ ป็ นประโยชน์แก่การทดลองด้านการศึกษา และการฝึ กสอนของ
นกั เรียนฝึ กหดั ครูเป็ นอนั มาก คณุ หญิงกรองแก้วได้บริหารงานตา่ ง ๆ เป็ นไปด้วยดี เป็ นที่ไว้วางใจของ

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 85

กรมการฝึ กหัดครู โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัยในขณะนัน้ นับว่าเป็ นโรงเรียนรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุด
พ.ศ. 2498 - 2500 คุณหญิงกรองแก้วได้ย้ายไปเป็ นศึกษานิเทศก์กรมการฝึ กหัดครู

เพ่ือปฏิบัติงานการนิเทศการศึกษาให้แก่บรรดาโรงเรียนฝึ กหัดครูทั่วประเทศของกรมการฝึ กหัดครู
พ.ศ. 2501 เม่ือโรงเรียนสวนสนุ นั ทาวทิ ยาลยั ได้รับการสถาปนาเป็ นวิทยาลยั ครู คณุ หญิง

กรองแก้วได้กลับมาเป็ นผู้บริหารอีกครัง้ หน่ึง ได้มาบริหารหลักสูตรใหม่ ซ่ึงได้เริ่มใช้เมื่อ พ.ศ. 2498
เป็นหลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าการศกึ ษา (ปกศ.) แลประกาศนียบตั รวิชาการศกึ ษาชนั้ สงู (ป.กศ. สงู )
และได้เปิ ดรับนกั ศกึ ษาชายและนกั ศกึ ษาหญิงภาคบา่ ยเข้าศกึ ษาระดบั ประกาศนียบตั รการศึกษา (ป.กศ.)
เป็ นปี แรกที่มีนักศกึ ษาชายเข้ามาศึกษาในวิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา ต่อมาได้ยบุ เลิกการสอนภายบ่าย
คณุ หญิงกรองแก้วก็สามารถบริหารงานทงั้ ด้านการเรียนการสอนและการปกครองท่ีมีนกั เรียนชายเรียน
ร่วมกับนักเรียนหญิงเป็ นครัง้ แรกในสถาบนั แห่งนีไ้ ด้อย่างดีเย่ียม แม้จะเกิดปัญหาขึน้ บ้างก็สามารถ
แก้ไขให้ลลุ ว่ งไปได้โดยราบรื่น

พ.ศ. 2511 วิทยาลัยได้เปิ ดสอนชัน้ ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.)และชัน้
ประกาศนียบตั รวิชาการศึกษาชนั้ สงู (ปกศ. สูง) ภาคค่า สาหรับผ้ทู ี่มีงานประจาทาอยแู่ ล้วให้ได้ศกึ ษา
สงู ขนึ ้ และได้ใช้ประกาศนียบตั รท่ีได้รับไปเล่ือนวทิ ยฐานะในการรับราชการ นบั เป็ นการเปล่ียนแปลงครัง้
ใหญ่ของระบบการฝึ กหัดครูซึ่งคุณหญิงกรองแก้วก็สามารถบริหารไปได้อย่างงดงาม นอกจากนัน้
วิทยาลัยครูสวนสุนันทายังเป็ นสถานท่ีรวมในการสอบเล่ือนวิทยฐานะครูทุกระดับ ทัง้ ระดับ
ประกาศนียบตั รพิเศษวิชาการศึกษา (พ.กศ.) และประกาศนียบตั รประโยคครูพิเศษมธั ยม (พ.ม.)
ในระหวา่ งปิดภาคเรียนต้นและภาคเรียนกลาง สว่ นเวลาในชว่ งปิ ดเรียนภาคปลาย กระทรวงศกึ ษาธิการ
ยงั ใช้เป็นสถานท่ีอบรมเพื่อการศกึ ษาระหว่างปิ ดภาคฤดรู ้อน (อ.ศ.ร.) และกิจกรรมอ่ืน ๆ คณุ หญิงกรอง
แก้วต้องปฏิบตั งิ านทงั้ ปี แทบไมม่ ีวนั หยดุ เลย

6.1.2 งานกิจกรรม
ในสมยั ท่ีคณุ หญิงกรองแก้วเป็ นผ้บู ริหารสวนสนุ ันทานนั้ เป็ นระยะที่วิทยาลยั มีกิจกรรม

มากมาย ทงั้ กิจกรรมของวิทยาลยั เองบ้าง ทางราชการขอร้องหรือสงั่ ให้จดั บ้าง มีกิจกรรมสาคญั ที่เป็ น
กิจกรรมพิเศษ ซึ่งถือว่าเป็ นเกียรติประวตั ิในชีวิตราชการของคณุ หญิงและของวิทยาลยั คือการไดรับ
พระมหากรุณาธิคณุ จากพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั รัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานวุ งศ์ เสดจ็ มาเป็ น
องคป์ ระธานในกิจกรรมของสวนสนุ นั ทาหลายวาระด้วยกนั คอื

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เสด็จพระราชดาเนินทรงเปิ ดพระราชานสุ าวรีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสนุ นั ทากมุ ารีรัตน์ พระบรมราชเทวี
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ได้จัดแสดงละครถวายหน้าที่ประทับ เร่ือง นารายณ์สิบปาง
ตอนกวนเกษียรสมทุ รสมเด็จพระนางเจ้าราไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลท่ี 7 เสดจ็ พระราชดาเนิน

86 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

เป็ นองค์ประธานเททองหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนางเจ้าสุนนั ทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี เม่ือปี
พ.ศ.2514

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้ าเพชรรัตน์ราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เสด็จเป็ นองค์
ประธานในพิธีเปิ ดและสมโภชพระบรมราชานสุ าวรีย์พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั เมื่อวนั ที่
20 มกราคม พ.ศ. 2516

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ ากลั ยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จ
ประทานประกาศนียบตั รแก่ผ้สู าเร็จการศกึ ษา เมื่อวนั ท่ี 14 มีนาคม พ.ศ. 2513

ภาพท่ี 6.2 คณุ หญิงกรองแก้ว ปทมุ านนท์ (นงั่ กลางภาพ) กบั คณะผ้บู ริหาร
และอาจารย์วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา ในคราวฉลองเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์จตตุ ถจลุ จอมเกล้า

เมื่อปี พ.ศ.2511
ที่มา: รวีโรจน์ สิงห์ลาพอง

นอกจากนี ้ สวนสุนันทาในสมัยของท่านยังมีกิจกรรมสาคัญอีกหลายอย่าง เช่น
1. งานด้านนาฏศลิ ป์ งานละครถือเป็ นเอกลกั ษณ์ของสถาบนั แหง่ นี ้มีการแสดงละครมา
ตงั้ แตผ่ ้บู ริหารคนแรก พ.ศ. 2480 เมื่อคณุ หญิงกรองแก้วมาเป็ นผ้บู ริหารก็ได้ดาเนินงานการละครและ
การแสดงวิพิธทศั นา ทาหน้าที่เป็ นผ้อู านวยการแสดงเอง โดยจดั แสดงเป็ นประจาทกุ ปี ทาให้สวนสุนนั
ทามีช่ือเสียงเป็ นท่ีรู้จกั แพร่หลายในบรรดานกั ดลู ะครและบคุ คลทวั่ ไป เร่ืองท่ีนามาแสดงมีทงั้ เร่ืองจาก
พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยหู่ วั นิทานชาดก นิทานปรัมปรา เป็ นต้น บางเร่ืองต้องแสดงถึง 30 กวา่ รอบสามารถเก็บคา่ เข้าชม
ได้ปี หน่ึง ๆ เป็ นเรือนแสน ทาให้วิทยาลยั มีเงินบารุงการศึกษาเป็ นเรือนล้าน คณุ หญิงกรองแก้วได้ขอ
อนมุ ตั ใิ ช้เงินจานวนนีม้ าสร้างและปรับปรุงอาคารสถานท่ี ตลอดจนจดั ซือ้ อปุ กรณ์การศกึ ษาตา่ ง ๆ ทาให้

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 87

สวนสนุ นั ทาพฒั นาขึน้ ทกุ ด้าน นอกจากงานแสดงภายในสถานศกึ ษาแล้วยังต้องจดั แสดงในงานตา่ ง ๆ
ของรัฐบาลด้วย เช่น ในพิธีเปิ ดการแข่งขนั กีฬเอเช่ียนเกมส์ ครัง้ ที่ 5 เม่ือ พ.ศ. 2509 การแข่งขนั้ กีฬา
แหลมทอง พ.ศ. 2511 การแขง่ ขนั กีฬาเอเช่ียนเกมส์ครัง้ ท่ี 6 เม่ือพ.ศ. 2513 เป็ นต้น คณุ หญิงกรองแก้ว
ทาให้ศลิ ปะการละครเป็นท่ียอมรับของทกุ วงการ จงึ ถือได้ว่าเป็ นผ้วู างรากฐาน ทาให้วิชานาฏศลิ ป์ ได้รับ
การเปิ ดสอนเป็ นวิชาเอก ทัดเทียมวิชาการสาขาอื่น ๆ ในหลักสูตร ทัง้ ระดับประกาศนียบัตรวิชา
การศกึ ษาชนั้ สงู (ป.กศ.สงู ) และระดบั ปริญญาตรีถึง 2 สาขาในเวลาตอ่ มา คือ สาขาครุศาสตร์นาฏศลิ ป์
และสาขาศิลปศาสตร์นาฏศิลป์ และการละคร ได้รับความไว้วางใจจากกรมการฝึ กหัดครูอนุมัติให้
วิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทาเปิดสอนนาฏศลิ ป์ เป็นวชิ าเอกเป็นแหง่ แรกในประเทศไทย

2. งานหนว่ ยประเคราะห์ทางวฒั นธรรม กระทรวงศกึ ษาธิการมีนโยบายในการอนรุ ักษ์ผย
แพร่ และสง่ เสริมวฒั นธรรมไทย จงึ ตงั้ หนว่ ยประเคราะห์ขนึ ้ ในสถานศกึ ษา 12 หนว่ ยในกรุงเทพมหานคร
ซึ่งจะต้องมีการประชุมและจดั งานแสดงเกี่ยวกับวฒั นธรรมทุกปี เนื่องจากคณุ หญิงกรองแก้วเป็ นผู้มี
ความรู้ความสามารถในด้านวฒั นธรรม วทิ ยาลยั ครูสวนสนุ นั ทาจงึ ได้รับมอบหมายให้เป็ นผ้นู าในการจดั
งานเกือบทกุ ครัง้ นบั ได้วา่ เป็นประโยชน์แกผ่ ้ทู ่ีจะเป็นครู ซงึ่ มีหน้าท่ีอบรมสงั่ สอนและถ่ายทอดวฒั นธรรม
อันดีงามเกือบทุกครัง้ นับได้ว่าเป็ นประโยชน์แก่ผู้ที่จะเป็ นครู ซ่ึงมีหน้าที่อบรมสั่งสอนและถ่ายทอด
วฒั นธรรมอนั ดงี ามให้แกศ่ ษิ ย์ของตนเป็นอนั มาก

สภานกั ศกึ ษา คณุ หญิงกรองแก้วได้จดั ให้มีสภานกั ศกึ ษาขนึ ้ ในวิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา
เพ่ือให้นกั ศกึ ษามีความรู้ความเข้าใจในวิธีการประชาธิปไตย และนาไปถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ของตนใน
โอกาสต่อไปด้ วย สภานักศึกษามีวิธีการเลือกตัง้ คณะกรรมการเช่นเดียวกับการเลือกตัง้
สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร คณะกรรมการของสภานกั ศกึ ษามีหน้าท่ีบริหารงานเพื่อความเจริญก้าวหน้า
ของวทิ ยาลยั โดยมีอาจารย์เป็นท่ีปรึกษา

หลังเกษียณอายุราชการเม่ือ พ.ศ. 2516 แล้ว คุณหญิงกรองแก้วยังได้ทางานเพื่อ
การศึกษาและชาติบ้านเมืองอีกหลายอย่าง เชน่ พ.ศ. 2517 - 2522 เป็ นผ้จู ดั การโรงเรียนขตั ติยานีผดงุ
ซ่ึงเปิ ดสอนชนั้ ประถมศกึ ษาปี ท่ี 1 - 7 และมธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1 - 3 คณุ หญิงกรองแก้วได้จดั กิจกรรมที่เป็ น
ประโยชน์ต่อการศึกษาของนักเรียนและครูอาจารย์ของโรงเรียนนัน้ นานาประการ และในช่วงเวลา
ดงั กล่าวนี ้คณุ หญิงกรองแก้วยงั ได้รับแตง่ ตงั้ เป็ นผ้พู ิพากษาสมทบศาลคดีเดก็ และเยาวชนกลาง มีส่วน
ชว่ ยให้การตดั สนิ อรรถคดที งั้ ทางแพง่ และอาญาเป็ นไปโดยสมควรและถกู ต้องทาให้เด็กและผ้ปู กครองมี
ความเข้าใจกนั ร่วมมือร่วมใจกนั ชว่ ยให้เดก็ ผ้หู ลงผดิ กลบั เป็นคนดีได้

นอกจากนี ้คณุ หญิงกรองแก้วยงั ได้บริจาคเงินเพื่อการกุศลเช่น สมทบทุนมูลนิธิสายใจ
ไทย สมทบทนุ สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยพุ ราช สมทบทนุ สร้างห้องสมดุ ประชาชนการศกึ ษาผ้ใู หญ่
"ปทมุ หสั ดิน" ท่ีจงั หวดั ปทุมธานี สมทบทนุ บารุงสภากาชาดไทย นอกจากนนั้ ยงั ได้บริจาคเงินเป็ นกอง
ทนุ การศกึ ษาในสถานศกึ ษาทกุ แหง่ ท่ีคณุ หญิงกรองแก้วได้เคยเลา่ เรียนมา

88 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ท่ีได้รับพระราชทาน คือ ประถมาภรณ์ มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์
ช้างเผือก ทตุ ยิ จลุ จอมเกล้า ตตยิ จลุ จอมเกล้า และจตตุ ถจลุ จอมเกล้า

คุณหญิงกรองแก้วสมรสกันายชลอ ปทุมานนท์ เม่ือ พ.ศ. 2491 มีบุตรสองคน คือ
นางชลธินีพนั ธ์ ชีรานนท์ และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ชยนั ตร์ธร ปทมุ านนท์

คณุ หญิงกรองแก้วเป็นผ้ทู ี่มีบคุ ลิกภาพนมุ่ นวลอยา่ งเป็ นธรรมชาติ เป็ นท่ีประทบั ใจแก่ผ้ทู ี่
ได้พบเห็นเป็ นครัง้ แรก และเมื่อได้ไกล้ชิด ทกุ คนจะมีความรู้สึกอย่างเดียวกนั ว่า คณุ หญิงกรองแก้วเป็ น
แบบอย่างของกุลสตรี มีความน่ิมนวลอ่อนโยนทัง้ กิริยามารยาทและวาจา มีเมตตาธรรม มีมนุษย
สมั พนั ธ์เป็ นเลิศ แต่เมื่อถึงคราวท่ีจะต้องเข้มแข็ง คณุ หญิงกรองแก้วก็เด็ดเดี่ยวตดั สินใจกระทาในสิ่งท่ี
เห็นว่าถกู ต้องได้อย่างอาจหาญ จึงเป็ นท่ีนบั ถือและไว้วางใจของผ้บู งั คบั บญั ชาและเป็ นท่ีเคารพรัก ยา
เกรงของผ้ใู ต้บงั คบั บญั ชา คณุ หญิงกรองแก้วเป็ นผ้มู ีความรู้ความสามารถและแสวงหาความรู้เพิ่มพนู
อย่เู สมอ จึงเป็ นบคุ คลที่ทนั สมยั ทนั เหตกุ ารณ์ มีความคิดริเริ่มสร้งสรรค์ เป็ นตวั อย่างที่ดีของนกั บริหาร
การศึกษาได้สร้ างคุณประโยชน์นานัปการให้แก่วิทยาลัยครูสวนสุนันทาและการศึกษาของชาติ
โดยเฉพาะด้านการฝึ กหดั ครู คณะครูอาจารย์และศิษย์สวนสนุ นั ทาจงึ ได้จดั ตงั้ มลู นิธิคณุ หญิงกรองแก้ว
ปทมุ านนท์ เพ่ือเป็ นอนสุ รณ์แหง่ คณุ ความดีของคณุ หญิงกรองแก้ว และเพื่อทาประโยชน์ทางการศกึ ษา
มาจนถงึ ปัจจบุ นั

ศาสตราจารย์ ดร.ละมุล รัตตากร ผู้เคยเป็ นศิษย์ของคณุ หญิงกรองแก้วได้เขียนไว้ใน
หนังสือที่ระลึกในการบาเพ็ญกุศลศพครบ 50 วัน คณุ หญิงกรองแก้ว ปทุมานนท์ ความตอนหนึ่งว่า
“...ความรู้สกึ ของศิษย์ที่จากพ่อแมผ่ ้ปู กครองมาอยโู่ รงเรียนประจาในครัง้ นนั้ ทา่ นอาจารย์ประดจุ พ่อแม่
ของศิษย์ผ้ปู ระพฤติตนเป็ นแบบอย่างของศิษย์ เป็ นแม่พิมพ์ที่ศิษย์ไฝ่ ฝันใคร่จะเลียบแบบ ประสงค์จะ
เป็นบคุ คลแนวหน้าในวงการศกึ ษา และวงวชิ าการเชน่ เดยี วกบั ทา่ นอาจารย์....”

อาจารย์ประเยาว์ ศกั ดิ์ศรี ผู้เคยดารงตาแหน่งผู้อานวยการและอธิการวิทยาลยั ครูสวน
สุนันทาต่อจากคุณหญิงกรองแก้ ว เม่ือ พ.ศ. 2517 - 2519 เขียนไว้ ในหนังสือเล่มเดียวกันนีว้ ่า
“...ความสามารถของทา่ น ประสบการณ์ความรอบรู้ ความตงั้ ใจจริงเด็ดเด่ียว ความเมตตา ความจริงใจ
ตอ่ ศษิ ย์และตอ่ ผ้รู ่วมงาน เพื่อนร่วมงาน ความเสียสละและอดทน ชีวิตของท่านเพื่องานจริง ๆ ทาให้งาน
ของวิทยาลยั หยงั่ รากลกึ ในด้านการศกึ ษา วฒั นธรรม คณุ ธรรมและจริยธรรม ฝี มือและผลงานเป็ นท่ีรู้จกั
เป็นแบบฉบบั ท่ีดี เป็นท่ียอมรับทงั้ ในวงการฝึกหดั ครูและวงการศกึ ษาทงั้ ไทยและตา่ งประเทศ...”

ปกตคิ ณุ หญิงกรองแก้วเป็ นผ้มู ีสขุ ภาพดี ในปัน้ ปลายชีวิตได้ไปพานกั กบั บตุ รชาย ซ่งึ เป็ น
แพทย์ที่จงั หวดั เซียงใหม่ ตงั้ แต่ พ.ศ. 2532 และถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา เมื่อวนั ที่ 18 เมษายน พ.ศ.
2541 ได้อทุ ศิ ร่างกายเพ่ือเป็ นประโยชน์แก่การศกึ ษาของนกั ศกึ ษาแพทย์มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ สิริอายุ
ได้ 86 ปี กบั อีก 30 วนั

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 89

ชีวิตของอาจารย์คณุ หญิงกรองแก้ว ปทุมานนท์ ทงั้ ในเรื่องของงานและจริยวตั รในชีวิต
สามารถเป็ นแบบอยา่ งให้แก่อนชุ นรุ่นหลงั ได้เจริญรอยตาม ความสาเร็จในการวางรากฐานในสมยั ของ
ทา่ น สง่ ผลสะท้อนออกมาจารึกเป็นเกียรตปิ ระวตั ขิ องสถานศกึ ษาแหง่ นีอ้ ยา่ งยงั่ ยืนสืบมาจนปัจจบุ นั ยคุ
สมยั ของทา่ นเป็นการเปิดยคุ ทองของสวนสนุ นั ทาอย่างแท้จริง

6.2 สัญลักษณ์ศูนย์รวมจติ ใจชาวสวนสุนันทาทงั้ มวล

ดงั ที่ทราบแล้วว่า โรงเรียนสวนสนุ นั ทาวิทยาลยั ก่อตงั้ ขนึ ้ เม่ือวนั ที่ 17 พ.ศ. 2480 โดยอาศยั พืน้ ท่ี
ส่วนหนึ่งของ “สวนสุนันทา” เขตพระราชฐานในพระราชวงั ดสุ ิต มาจัดตงั้ เป็ นสถานศึกษาตามมติ
คณะรัฐมนตรี และยกฐานะเป็นวิทยาลยั ครูในปี 2501 ชาวสวนสนุ นั ทาเชื่อมน่ั วา่ ชื่อของสถานท่ี ชื่อของ
สถาบนั มีที่มาจากพระนามของสมเดจ็ พระนางเจ้าสนุ นั ทากมุ ารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระอคั รมเหสีใน
รัชกาลท่ี 5

ภาพท่ี 6.3 พระรูปสมเดจ็ พระนางเจ้าสนุ นั ทากมุ ารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ประดิษฐาน
บนพระท่ีนงั่ จกั รีมหาปราสาท
ท่ีมา: ม.ร.ว.แสงสรู ย์ ลดาวลั ย์

แต่ทว่าสถานศึกษาแห่งนี ้ยงั ไม่มีโอกาสได้ประดิษฐานถาวรวตั ถุ หรือพระราชานสุ รณ์ใด อนั จะ
เป็ นที่ระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ มาก่อนเลย โอกาสทาได้เพียงจดั งานเฉลิมพระเกียรติในวาระครบรอบ
100 ปี แหง่ วนั พระราชสมภพ ในระหวา่ งวนั ท่ี 3 - 7 พ.ย. 2503 และขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าต
จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้หม่อมราชวงศ์แสงสูรย์ ลดาวัลย์ ถ่าย
พระบรมสาทิสลกั ษณ์สมเดจ็ พระนางเจ้าสนุ นั ทากมุ ารีรัตน์ฯ ท่ีประดษิ ฐานอย่บู นพระที่นง่ั จกั รีมหาปราสาท

90 | GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา

มอบให้ไว้แก่วิทยาลยั นบั แตน่ นั้ มา พระบรมสาทิสลกั ษณ์ก็ปรากฏไปทว่ั ทกุ หนทกุ แห่ง นบั เป็ นพระมหา
กรุณาธิคณุ ที่พระราชทานให้แกว่ ิทยาลยั ครูสวนสนุ นั ทา

ระยะตอ่ มา เมื่อวิทยาลยั มีความประสงค์จะกาหนดเครื่องแบบของนกั เรียนสาธิตทงั้ ฝ่ ายประถม
และมธั ยม จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าตใช้ตราประจาพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสุนนั ทา
กมุ ารีรัตน์ฯ ซ่งึ จารึกอยู่ ณ พระราชานสุ รณ์ในพระราชวงั บางปะอิน มาเป็ นเครื่องหมายปักลงบนชิน้ ผ้ า
กระเป๋ าเสือ้ เครื่องแบบ อาจารย์ช้องมาศ บริหารธนวฒุ ิ ครูศิลปะฝ่ ายประถมสาธิตเป็ นผ้อู อกแบบเสร็จ
แล้วนาขนึ ้ ทลู เกล้าฯ ถวายพร้อมหนงั สือกราบบงั คมทลู ขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าต ปรากฏว่า
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานญุ าตให้ตามที่วิทยาลยั ต้องการ กบั ทรงมีกระแส
พระราชดารัสแถมท้ายมาว่า ให้แก้ไขรูปมงกุฏให้งามขึน้ กว่าเดิม ซึ่งวิทยาลยั ได้ปฏิบตั ิตามพระราช
ประสงคท์ กุ ประการ โดยให้อาจารย์พิมล สายจนั ทร์ดี อาจารย์ศิลปะฝ่ ายฝึ กหดั ครู เขียนใหมด่ งั ท่ีปรากฏ
อยู่ในปัจจบุ นั นกั เรียนสาธิตสวนสุนนั ทาจึงมีเครื่องหมายประจาพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสุนนั ทา
กมุ ารีรัตน์ฯ เป็นเคร่ืองหมายปักอยทู่ ่ีกระเป๋ าเสือ้ เครื่องแบบนบั ตงั้ แตป่ ี 2508 เป็นต้นมา

ภาพท่ี 6.4 เคร่ืองหมายสวนสนุ นั ทา
ท่ีมา: มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา

GEN0101 ชาววงั สวนสนุ นั ทา | 91


Click to View FlipBook Version