The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by maturos, 2021-06-14 00:28:41

วิศวกรรมสาร ปีที่ 73 ฉบับที่ 2_ok

สารบััญ 12




03 สารจำาก...บรรณาธิิการ


05 เจำาของวศวกรรมสาร วสท.

06 วตถุุประสงค์

บทความ





12 การตรวจำจำบอณหภููมผิิวหน์ง



สาหรบคดกรอง Covid-19
ดร.มาโนทย์์ มาปะโท 22
ผศ.ดร.ธนเสฏฐ์์ ทศดกรพััฒน ์



22 ตูความดน์ลับ ออกแบบโดย วสท.



เพื่�อใช้้ใน์สภูาวะฉุุกเฉุน์แลัะเร่งด่วน์ ใน์


ช้
�อ










น์
จำ





น์
ิด

วิกฤติการณ์


รน์แรง
บัญพังษ์์ กจวััฒนาชััย์


36 ทาความเขาใจำการระบาดของโรค



























โควด-19 ผิาน์แบบจำำาลัองทางคณตศาสตร์






รศ. ดร. สวัทย์์ กระวัทย์า




ประจำำ
คอลััมน์์










49 ระบบปรบอากาศใน์อาคาร การ 09 ความปกติิใหมในงานวศวกรรม-รบงานที่่ไหนกได้้ ศ.ด้ร.วรศกด้ิ� กนกนกลชััย








กรองแลัะการแพื่รเช้่อโรคใน์อากาศ 30 โบราณกบงานวศวกรรมไที่ย-ติอนที่่ 1 วศวกรรม กบสุุขอนามยและโรคภััย

ผศ.ดร.มานนท สขละมย์ ไขเจ็็บ รศ.ด้ร.สุถาพร โภัคา





46 วศวกรใชัภัาษา - ภัาษาองกฤษยากจ็ง รศ.ด้ร.วสุุที่ธิ์ ชัอวเชั่ยร









56 บรหารงานกอสุราง - ประสุงค ธิ์าราไชัย












58 คลนกชัาง - เจ็าะผนง Precast ได้้หรอไม สุมจ็ติร เปยมเปรมสุุข



61 AI กบ นายชัาง รศ.ด้ร.สุมยศ เก่ยรติิวนชัวไล





65 เนรด้ด้ สุเขยว-ติอนที่ 1: The Devil's Finest Trick ผศ.ด้ร.ธิ์นพล เพญรติน ์








วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563



36

































65


























จรรยาบรรณวิิศวิกร พ.ศ. 2556
โดย วิิศวิกรรมสถุานแห่่งปีระเที่ศไที่ย

ในพระบัรมราชููปีถุมภ์์ 78

ข่่าวิกจกรรม วิสที่. 81

รายชูอห่นงสอมาตรฐาน และสิงพมพ วิสที่. 86







รายนามสมาชูกให่ม ่ 89


ใบัสังโฆษณา วิิศวิกรรมสารออนไลน ์ 94
95
58 ระเบั่ยบัการรบับัที่ควิามข่องวิิศวิกรรมสาร 97

ใบัสมครสมาชูก วิสที่.




THAILAND ENGINEERING JOURNAL









สารจาก...บรรณาธิิการ








































ในสภาวะที่ที่งโลกต้องเผชิญกบศัต้รูต้วฉกาจที่มนษยชิาต้ยงไมอาจหาหนที่างที่จะเอาชินะได้ สามารูถต้รูงผคน หยด้การูเคลอนที่ เปลยนวถ ่









ชิวต้ต้ลอด้จนที่าลายเศัรูษฐกจในที่กรูะด้บลงอยางยบเยนชินด้ที่�เรูยกวาไมเคยพบเคยเจอมากอนในปรูะว้ต้ศัาสต้รู ศัต้รูของมนษยชิาต้ไมมอาวธอะไรู

























รูายแรูงนอกจากต้้วม้นเองขนาด้เลกจอยและพาหะของม้นซึ่งกค่อ “มนษย” น้นเอง พด้ถงต้รูงน่ที่กคนคงรููแลววาค่อเจาไวรู้สโคโรูนาสายพ้นธุใหมที่่ �























ม่ชิออยางเปนที่างการูวา “Covid-19” ที่่ถก (ธรูรูมชิาต้) ออกแบบมาใหที่าลายลางมนษยโลก สรูางความสญเส่ยในหลายมต้ลกลามรูวด้เรูวอยางที่่ �
















ไมเคยพบเคยเจอมากอน อยางไรูกต้ามมนษยถกออกแบบใหเปนเผาพนธพเศัษที่มความสามารูถปรูบต้วและหาหนที่างเอาชินะธรูรูมชิาต้อยเสมอ


























ด้้งจะเหนได้้จากความพยายามของปรูะเที่ศัต้าง ๆ ที่้วโลก ที่งที่างด้้านการูพ้ฒนาว้คซึ่่น ยารู้กษา ต้ลอด้จนเที่คโนโลยที่างการูแพที่ยซึ่งกแนนอนวา ่
























วงการูวศัวกรูรูมที่วโลกต้างกต้นต้วเกด้ความรูวมมอกบสาขาสขภาพสรูางนวต้กรูรูมเพอต้อสกบเจาไวรูสที่กเปลยนแปลงกลายพนธสกบมนษยเชินกน
















ไมม่ใครูรููวาสงครูามน่ใครูจะชินะหรู่อแพจะสญเส่ยอ่กเที่าไหรู คงปลอยใหเปนเรูองของอนาคต้ที่่ยากจะคาด้เด้า แต้ที่่แน ๆ วศัวกรูไที่ยกไมได้้อยเฉย





























ด้งจะเหนได้จากการูรูวมมอกบภาคสวนต้าง ๆ พฒนาเครูองมอและนวต้กรูรูมที่างการูแพที่ยเพอต้อสกบเจาไวรูส Covid-19 จนที่าใหปรูะเที่ศัไที่ยได้ ้















รู้บการูยกยองวาในปรูะเที่ศัต้้นแบบที่่รู้บม่อก้บสถานการูณ์์น่ได้้เปนลาด้้บต้้น ๆ ของโลก






















วศัวกรูรูมสารู ฉบบที่ 2/2563 ถอเปนฉบบเฉพาะกจที่ได้รูวบรูวมบที่ความ และคอลมนที่เกยวของกบไวรูส Covid-19 บที่ความเด้นในฉบบ











นยกใหเรูองหลกการูที่างานของเลเซึ่อรูวด้อณ์หภมที่นาจะเปนปรูะโยชินในการูนาไปปฏิบต้ใหถกต้องต้ามหลกวศัวกรูรูม การูพฒนาแบบจาลองด้วย

















































คณ์ต้ศัาสต้รูชินสงที่สามารูถสรูางความสมพนธในรูปแบบสมการูที่างคณ์ต้ศัาสต้รูโด้ยพจารูณ์าต้วแปรูที่เกยวของ อาที่ การูมหรูอไมมมาต้รูการู




Social Distancing รูะบบปรู้บอากาศัการูกรูองและการูแพรูเชิ่อผานอากาศัในรูะบบปด้ สาหรู้บชิาว DIY แนนอนวาฉบ้บน่ได้้นาเสนอขนต้อนการู













สรูาง “หองความด้นลบ วสที่.” ที่ปจจบนเปนต้นแบบการูผลต้หองความด้นลบรูาคาถกใหกบโรูงพยาบาล และหนวยงานหลายแหงที่วปรูะเที่ศั










































ฉบบนยงเปนการูเปด้ต้วคอลมนใหม 4 เรูองที่ถอวาเปนต้านาน และกรูในด้านวศัวกรูรูมของไที่ย โด้ยได้รูบเกยรูต้จาก ศั.ด้รู.วรูศักด้ กนกนกลชิย ใน












คอลมน์“ความปกต้ิใหม่ในวชิาชิพวศัวกรูรูม” นาเสนอมุมมองที่น่าสนใจในการูปรูบต้วของวศัวกรูต้่อความที่้าที่ายต้่อสถานการูณ์์ในปัจจบน



















รูศั.ด้รู.สถาพรู โภคาได้นาเสนอผลงานที่ที่านได้รูวบรูวมและสงสมมาต้ลอด้ชิวต้การูที่างานในชิอคอลมนวา “โบรูาณ์กบงานวศัวกรูรูม”และยงม ่


























นกเขยนรูนใหมไฟแรูงที่มาเสรูมคอลมนปรูะจาที่ง “AI กบนายชิาง” และ “เนรูด้ด้สเขยว” ที่อานสนกได้ความรูเปด้มมมองใหมที่งที่างด้านวศัวกรูรูม



















ปญญาปรูะด้ษฐ และสงแวด้ลอมได้อยางกรูะชิบและลงต้ว กองบรูรูณ์าธการูวศัวกรูรูมสารูหวงเปนอยางยงวานต้ยสารูฉบบนจะเปนปรูะโยชินสาหรูบ




























ผูอานที่กที่านและขอขอบคณ์ที่่ที่านผูอานได้้ใหความสนใจต้ด้ต้ามวศัวกรูรูมสารูอยางต้อเนอง พบก้นใหมฉบ้บหนาครู้บ













ผศ.ด้ร.รฐภัม ปรชัาติปร่ชัา



บรรณาธิ์การ

5


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563


THAILAND ENGINEERING JOURNAL









เจ้้าของ



คณะกรรมการอำำนวยการ ประจำำปี พ.ศ. 2563-2565 คณะกรรมการ และกอำงบรรณาธิิการจำัดทำำวิศวกรรมสาร

ดร.ธเนศ วีีระศร ิ นายก ที่่ปรึึกษา




รศ.ดร.วีชรนทร กาสลััก อุุปนายก 1 ดร.ธเนศ วีีระศร ิ








รศ.สรวีฒน ไชยชนะ อุุปนายก 2 ศ.ดร.วีรศกดิ กนกนกลัชย











นายชชวีาลัย คุุณคุาช ู อุุปนายก 3 รศ.ดร.พชย นมตยงสกลั





นายจีีระศกดิ ปราชญ์์โกสนทร เลัขาธการ รศ.เอุนก ศรพานชกร












ดร.ทศพร ศรเอุียม เหรญ์ญ์ก ศ.ดร.ปต สคุนธสขกลั
รศ.ดร.ชวีลัต รตนธรรมสกลั นายทะเบีียน รศ.ดร.สถาพร โภิคุา





ดร.ธรธร ธาราไชย ประธานกรรมการประชาสมพนธ ์ นายนคุร จีนทศร











นายณฐพลั สทธธรรม ประธานกรรมการสทธแลัะจีรรยาบีรรณ รศ.ดร.สมตร สงพรยะกจี ิ



ศ.ดร.พานช วีฒพฤกษ์์ ประธานกรรมการโคุรงการแลัะตางประเทศ


รศ.ดร.อุุรยา วีีสกลั กรรมการกจีกรรมพเศษ์




นายพษ์ณ ุ ชานาญ์ศลัป ์ กรรมการกลัาง กรึรึมการึ และกองบรึรึณาธิิการึ







นายสวีฒน เชาวีปรชา ประธานวีศวีกรอุาวีโส ผ่ศ.ดร.รฐภิม ปรชาตปรชา ิ ประธาน










รศ.ดร.สมยศ
เกยรตวีนชวีไลั รอุงประธาน


นางสาวีวีรรณษ์า จีกภิิลัะ ประธานวีศวีกรหญ์ง ิ ผ่ศ.ดร.มานนท ์ สขลัะมย กรรมการ



นายปกรณ การณวีงษ์์ ประธานยวีวีศวีกร ดร.ธต ิ วีชรสนธพชย กรรมการ











รศ.ดร.สมตร สงพรยะกจี ประธานสาขาวีศวีกรรมโยธา รศ.ดร.ธนดชย กลัวีรวีานชพงษ์์ กรรมการ










นายลัอุชย ทอุงนลั ประธานสาขาวีศวีกรรมไฟฟา ้ ผ่ศ.ดร.ธนพลั เพญ์รตน ์ กรรมการ









นายบีญ์พงษ์์ กจีวีฒนาชย ประธานสาขาวีศวีกรรมเคุรือุงกลั ดร.ทรงศกดิ สธาสประดษ์ฐ กรรมการ







รศ.ดร.ประจีวีบี กลัอุมจีตร ประธานสาขาวีศวีกรรมอุุตสาหการ ดร.ประมนทร นรชาญ์ กรรมการ





รศ.ดร.ขวีญ์ชย ลัเผ่่าพนธุ ์ ประธานสาขาวีศวีกรรมเหมอุงแรโลัหการ ดร.ปยรตน เปาเลัง กรรมการ แลัะเลัขานการ












แลัะปโตรเลัยม นางสาวีอุงศนา อุทธะรงคุ ์ ผู่ชวียเลัขานการ










นายเกยรตชาย ไมตรวีงษ์์ ประธานสาขาวีศวีกรรมเคุมแลัะปโตรเคุม ี





ผ่ศ.ยทธนา มหจีฉรยวีงศ ์ ประธานสาขาวีศวีกรรมสิงแวีดลัอุม








รศ.ดร.เสรมเกยรต จีอุมจีนทรยอุง ประธานสาขาภิาคุเหนอุ 1 บรรณาธิิการ







นายจีีรวีฒ ภิศรโสม ประธานสาขาภิาคุตะวีนอุอุกเฉยงเหนอุ 1 ผ่ศ.ดร.รฐภิม ปรชาตปรชา








รศ.ดร.สงวีน วีงษ์์ชวีลัตกลั ประธานสาขาภิาคุตะวีนอุอุกเฉยงเหนอุ 2





ดร.กตต จีนทรา ประธานสาขาภิาคุตะวีนอุอุก 1 ฝ่่ายโฆษณา



นายกรณเสฎฐ ปตอุรยะนนท ์ ประธานสาขาภิาคุตะวีนอุอุก 2 นางสาวีอุงศนา อุทธะรงคุ ์







นายสทธโชคุ เหลัาโชต ิ ประธานสาขาภิาคุตะวีนตก




นายธนนทรฐ เมธวีชรรตน ์ ประธานสาขาภิาคุใต 1 ฝ่่ายอำอำกแบบ





รศ.ดร.อุุดมผ่ลั พชนไพบีลัย ์ ประธานสาขาภิาคุใต 2




นางสาวีโยษ์ตา กรกจีเจีรญ์



วิศวกรรมสถานแห่่งประเทำศไทำย ในพระบรมราชููปถัมภ์์ (วสทำ.)
487 ซอำยรามคำแห่ง 39 (เทำพลีลา1) ถนนรามคำแห่ง แขวงพลับพลา เขตวังทำอำงห่ลาง กรุงเทำพฯ 10310 โทำรศัพทำ์ 0-2184-4600-9 โทำรสาร 0-2184-4662
http://www.eit.or.th e-mail: [email protected]
6



วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563

THAILAND ENGINEERING JOURNAL








วัตถุประสงค์ วสท.





วสท. เป็นองค์กรของวิศวกร ผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านวิศวกรรม และผู้มีความเก่ยวข้อง
ทางวิชาชีพวิศวกรรม โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1. เป็นเวทีถ่ายทอดผลงานประสบการณ์วิชาชีพวิศวกรรม และเทคโนโลยี รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุน
การวิจัย เพื่อความก้าวหน้าในการประกอบวิชาชีพระดับสากล
2. ส่งเสริมสิทธิ และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม รวมถึงการไม่กระทําทุจริตผิดกฎหมายใด ๆ




เพ่อประโยชน์ของสมาชิก และสังคม ผดุงไว้ซ่งเกียรติ และศักด์ศรีในวิชาชีพวิศวกรรม รวมท้งเสริมสร้าง

ความเป็นอันหน่งอันเดียวกันในกิจกรรมท่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบวิชาชีพของสมาชิก และสังคม

3. จัดทํา รับรอง และเผยแพร่มาตรฐานด้านวิศวกรรม

4. ส่งเสริม พัฒนา และเพิ่มทักษะสมาชิกของ วสท. ด้านวิชาชีพวิศวกรรมให้ก้าวหน้า ทันสมัย เป็นท่ยอมรับ
ทั้งภายใน และต่างประเทศ
5. รักษาสิทธิ และผลประโยชน์ของสมาชิก
6. เสนอแนะข้อคิดเห็น ทิศทาง วิศวกรรมท่เหมาะสม และทันสมัย เพ่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม


ของประเทศ ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชนอย่างต่อเนื่อง
7. ส่งเสริมให้ดําเนินงานการวิชาชีพวิศวกรรมต้องคํานึงถึงผลกระทบต่อผู้เก่ยวข้อง สังคม และส่งแวดล้อม






วัตถุประสงค์ การจัดท�าวิศวกรรมสาร วสท.




(ก) เพ่อเป็นวารสารเทคโนโลยี ในการเผยแพร่ผลงาน และบทความวิชาชีพท่สําคัญในวงการวิศวกรรม


เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมไทย ตลอดจนเป็นเคร่องมือท่ใช้ในการหล่อหลอมสติปัญญา




และแนวคิดของวิศวกรผู้อ่าน เข้าสู่ทิศทางท่ถูกต้องตรงกัน รวมถึงการเป็นส่อทางความคิดระหว่าง
วิศวกรไทย

(ข) เพ่อเป็นการเผยแพร่ความก้าวหน้าเทคโนโลยีวิศวกรรมสาขาต่าง ๆ และอุตสาหกรรมไทย

ท่แสดงทิศทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากต่างประเทศ (Technical Trend) รวมถึงการจัดการทาง
วิศวกรรม ธุรกิจทางวิศวกรรม และการผลิตทางวิศวกรรม ตลอดจนกฎระเบียบ หรือมาตรฐาน



ท่เก่ยวข้องกับวิศวกรไทย เพ่อการนําส่งให้แก่สมาชิกวิศวกร วสท. ทุกท่าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ



(ค) เป็นส่งพิมพ์ฉบับเรือธง (Flagship) ของ วสท. อย่างต่อเน่อง ท่มีมาตรฐานส่งพิมพ์ ทัดเทียม

ระดับนานาชาติ ทั้งในแง่คุณภาพ และเนื้อหาบทความเทคโนโลยี (Technical Content)
(ง) สารจากสาราณียากร “วิศวกรรมสาร วสท.” ตลอดจนถึงการสรุปผลดําเนินงานในรอบเดือน
ของคณะกรรมการอํานวยการ วสท. และ New Product Release รวมถึงข่าวสังคมธุรกิจอุตสาหกรรม

8 วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563 7



วิศวกรรมสาร ปีที่ 72 ฉบับที่ 1 มกราคม-มีนาคม 2562

8


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563


ให่ม ่






ศ.ดร.วรศักด์� กนกนกุลชััย ราชับััณฑิต






ผูอานวยการู สถาบ้นนว้ต้กรูรูมบรูณ์าการูแหงจฬาลงกรูณ์์มหาวที่ยาล้ย



รบงานที่่�ไหนกได้้

ผลิิตงานที่่�ไหนกได้้



แลิะสงงานที่่�ไหนกได้้














การูรูะบาด้โรูคโควด้ 19 เปนปญหาด้้านสขภาพครูงใหญของมนษยชิาต้ ที่่ต้ามมาค่อ ผลกรูะที่บอย่างกวาง
















ขวางต้อวถชิวต้และการูที่างานของมนษย เชินเด้ยวกบวชิาชิพอนๆ ผปรูะกอบวชิาชิพวศัวกรูรูมต้่างพยายามคาด้เด้า







วาผลกรูะที่บต้อวชิาชิ่พจะเปนเชินใด้ สวนใหญเชิอวา ผลกรูะที่บต้ออต้สาหกรูรูมวศัวกรูรูมและการูกอสรูางจะม่ที่ง





















ในรูะยะสนและยาว จนถงขนเปลยนแปลงโครูงสรูางการูปฏิิบ้ต้งานอยางครูบวงจรู



ผลกระที่บระยะสุัน
















บรูษ้ที่ที่่ปรูกษารูะด้้บโลก Deloitte ได้้คาด้การูณ์์วา ในรูะยะสน โครูงการูต้อเนองยงคงต้้องด้าเนนต้อไปต้ามส้ญญา จนถงจด้



ต้ด้ขด้เพรูาะการูขาด้แคลนวสด้จากหวงโซึ่การูผลต้ที่หยด้ชิะงกไปและการูขาด้แคลนแรูงงานที่เกิด้จากความลำาบากในการูย้ายถนฐานกลบ




































มาของแรูงงานต้างชิาต้ หนวยงานของรูฐเองกอาจรูะงบ หรูอเลอนสญญาที่ไมสาคญ เพอรูกษากรูะแสเงนสด้ และควบคมคาใชิจายของ





รูฐ สวนผลงที่นภาคเอกชินกพรูอมที่จะลด้ความเสยงโด้ยเลอนโครูงการูออกไป เพรูาะความไมชิ้ด้เจนของต้ลาด้

























สาหรูบปรูะเที่ศัไที่ย บรูษที่วศัวกรูรูมคงจะผลกด้นโครูงการูที่คางอยในที่อใหสาเรูจด้วยความลาบาก แต้ภาพในรูะยะกลางกลบ









ไม่สด้ใส เพรูาะความต้้องการูด้้านโครูงสรู้างพ�นฐานอาจเปล�ยนไปจากการูหด้ต้วของอต้สาหกรูรูมที่่องเที่�ยว อต้สาหกรูรูมวศัวกรูรูม และ
















การูกอสรูาง ต้างจบต้ามองสถานการูณ์ของโครูงการูเมกาโปรูเจค เชิน หลายโครูงการูใน EEC วาจะมการูเปลยนแปลงเนองมาจากปญหา








ที่างการูเงนหรู่อไม และคงต้้องต้งความหว้งวา น้กลงที่นต้างชิาต้ยงคงใหความสาค้ญต้อการูลงที่นในปรูะเที่ศัไที่ยต้อไป






แผนการกระติุนเศรษฐกจ็








ด้วยศักยภาพของอต้สาหกรูรูมวศัวกรูรูมและการูกอสรูางในการูสรูางงาน นาจะเปนเหต้ผลที่ด้ที่รูฐบาลไที่ยใชิกรูะต้น

















เศัรูษฐกจด้้วยการูผล้กด้้นการูลงที่นด้้านโครูงสรูางพ่นฐานต้อไป โด้ยเนนใน 3 ปรูะเภที่น่�








(ก) โครูงการูที่่ชิวยสรูางงาน (ข) โครูงการูที่่ใหผลต้อบแที่นที่้นที่่ (ค) โครูงการูที่่ชิวยแกปญหาส้งคม









เพ�อรูฐสามารูถนาเงินไปฟ�นฟสงคม และสิงแวด้ลอม


9

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563



ความปกติิใหม ่


















เปนที่่ชิ้ด้เจนวา สิงที่่โลกกาล้งปรูะสบไมใชิเปนวงจรูปกต้ แต้เปนสิ�งที่่ไมเคยเกด้มากอน สด้ที่ายม้นค่อ “ความปกต้ใหม (New






















Normal)” ของโลก ในที่ามกลางหมอกควนแหงความไมแนนอน ผบรูหารูรูะด้บสงขององคกรูต้องเรูมวางหมากวา หลงวกฤต้โควด้-19











เมอที่กอย่างกลบเขาภาวะปกต้ิ สถานะองคกรูจะเปนอย่างไรู คาถามที่สาคญคอ “ความปกต้ใหม”ที่พด้ถงนน จะเกด้ขนจรูงหรูอไม ่






























อยางไรู ผูบรูหารูเหลาน่�ต้้องเขาใจวา สิงต้าง ๆ จะไมได้้เปนไปต้ามครูรูลองของกรูอบเด้มในอด้่ต้อ่กแลว ด้้งนน ต้้องคด้นอกกรูอบเพอ



คนหาวธ่เปลยนวกฤต้ใหเปนโอกาสใหได้้ ชิวงน่ ค่อ เวลาที่องที่่จะนยามผลต้ภ้ณ์ฑ์์วศัวกรูรูมใหม เพอจะได้้ม่จด้ยนในภมที่้ศันใหมภาย



























ใต้้ความปกต้ใหมน่ ต้อไปน่ ค่อสิงที่่คาด้วาจะกลายเปนความปกต้ใหม ได้้แก ่
























1 ในชิ่วงวิกฤต้ ผคนเรู�มคนเคยกบการูปฏิบ้ต้ิงานที่บ้าน และการูปรูะชิุมออนไลน หลายบรูษ้ที่เรู�มคด้นอกกรูอบได้ว่า การู













ที่พนกงานสามารูถที่างานที่ไหนกได้จะเปนความปกต้ใหมอยางหนง เปนการูลด้คาใชิจายภายในสานกงาน และลด้การูเสยเวลา
















ในการูเด้นที่างของพนกงานด้วย จงอาจต้องกาหนด้ KPI ชิด้ใหม ที่ไมเนนการูวด้ผลงานด้วยเวลาที่ใชิในการูที่างาน แต้วด้ด้วยปรูมาณ์
















ผลงานหรู่อความกาวหนาของโครูงการู

















2 สิงที่่เรู่ยกวา “เศัรูษฐกจกิก” กาล้งเปลยนวธ่การูที่างานของน้กวชิาชิ่พความจรูง บรูษ้ที่ที่่ปรูกษาวศัวกรูรูมม่ความคุนเคย





กบ“เศัรูษฐกิจกก”อย เพรูาะมการูจด้จ้างที่ปรูึกษาเฉพาะกิจภายนอก ส�งนจะกลายเป็นความปกต้ิใหม ด้งนนบรูษที่ต้องพรู้อม


















ที่จะต้อบสนองด้วยการูสรู้างรูปแบบการูจ้างที่หลากหลาย สาหรูบผปรูะกอบอาชิพอสรูะ ผรูบเหมา พนกงานที่ด้ลองงาน และ













พน้กงานเฉพาะกจ เปนต้้น


















3 ที่ผานมา บรูิษที่ด้านวศัวกรูรูมมกใหความสาคญแกปรูะสที่ธผลการูผลิต้เปนพเศัษ แต้่ในอนาคต้ปรูะสิที่ธภาพของเงินที่น
จะเขามาม่ความสาค้ญแที่น บรูษ้ที่ที่่ใชิเงนสด้หมนเว่ยนอยางชิาญฉลาด้ ม่ต้้นที่นคงที่่นอยกวาและม่วงจรูการูแปลงเงนสด้ได้้














ในรูะยะเวลาสนๆจงจะสามารูอยยงยน































4 ผลต้ภณ์ฑ์วศัวกรูรูมทีุ่กอย่างจะต้องสามารูถแปลงให้เปนด้จที่ลได้ เพอสาเนาได้ และสงใหลกคาและผเกยวของได้ที่าง




ออนไลน สิงน่จะสอด้คลองก้บแนวคด้วา “รู้บงานที่่ไหนกได้้ ผลต้งานที่่ไหนกได้้ และสงงานที่่ไหนกได้้”

















5 นว้ต้กรูรูมที่างเที่คโนโลย่ยงมความสาคญในโลกแห่งความปกต้ิใหม โด้ยเฉพาะงานด้้านวศัวกรูรูมพนธุกรูรูม ซึ่อฟต้์แวรู ์



















ปญญาปรูะด้ิษฐ และพลงงานสะอาด้ และความต้องการูใหม่ที่เกด้ขนหลงวกฤต้ คอ เที่คโนโลยเกยวกบสขภาพ เที่คโนโลยหน



ยนต้ที่่ที่างานก้บมนษย ์



10



วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563



โลกาภัวติน ์



หลงวกฤต้โควด้ 19 ปรูะเที่ศัส่วนใหญ่ต้องการูลด้การู









พึงพาหวงโซึ่อปที่านจากต้างปรูะเที่ศั ไมวาจะเปนด้้านที่รู้พยากรู









มนษย หรูอผลต้ภณ์ฑ์ต้าง ๆ เมอพจารูณ์าถงแนวโนมน รูวมถง ึ






ความไมสะด้วกในการูเด้นที่าง การูขยายต้วของบรูษที่วศัวกรูรูม









ไปสูต้างปรูะเที่ศัอาจม่ความเปนไปได้้นอยลง วธ่ที่่ด้่ที่่สด้สูความ












เปนสากลจะอยที่การูสรูางเครูอขายพนธมต้รูแหงความรูวมมอ









อยางนอยในรูะด้้บภมภาค





ปจจบนน ผลต้ภณ์ฑ์ด้านวศัวกรูรูม ต้งแต้รูายงานการู











ศักษา รูายการูคานวณ์ การูเข่ยนแบบวศัวกรูรูม (ในรููปแบบของ



บที่สุรป BIM) ลวนอยในรููปแบบด้จที่้ล ด้้งนนขนต้อนการูผลต้จงสามารูถ


















ที่าโด้ย “พนธมต้รูกก” ในปรูะเที่ศัอ่น ๆ ได้ นคอ วธที่จะใชิ ้















ผปรูะพนธเชิอวา ผลลพธแหงความที่้าที่ายในรูะด้บโลกน� ่ ปรูะโยชินจากอต้รูาค่าแรูงที่ต้าในบางปรูะเที่ศั และใชิความ












จะเปลยนมมมองของมนษย ในการูลางผลาญที่รูพยากรูธรูรูมชิาต้ ิ เชิยวชิาญพิเศัษที่หาได้นอกปรูะเที่ศัเที่่านน ความปกต้ิใหม คอ




















และในสรูางผลกรูะที่บเชิงลบต้่อโลก จากนไป นกลงที่นภาครูฐ บรูษที่ผใหบรูการูด้านวศัวกรูรูมชินนาของแต้ละปรูะเที่ศั จะจบมอ


















และภาคเอกชินคงจะต้องคำานงถงความเป็นมต้รูต้อโลกเป็น ก้นเปนพ้นธมต้รู (คลาย ๆ ก้บ "Star Alliance" ในธรูกจการูบน)








ใหญา เพรูาะทีุ่กคนด้เหมอนจะต้าสว่าง ที่ได้ปรูะจกษเปนครูง ้ � เพอแบงปนงาน แบงปนความเชิยวชิาญรูะด้้บม่ออาชิ่พ และแบง ่

















หนงในชิวต้วา โลกสวยงามนาอยเพยงใด้ ในชิวงที่มนษย์สวน ปันสมรูรูถภาพในการูผลต้ ในขณ์ะที่�แต้่ละบรูษ้ที่กที่าหน้าที่�เป็น



















ใหญอยบานในเด้่อนสองเด้่อนที่่ผานมา ต้้วแที่นของก้นและก้นในพ่นที่่ด้้วย












ที่กวกฤต้จะสรูางคลนลกใหม เมอหมด้วกฤต้ ลกนกนอย













ๆ จานวนมากพรูอมจะบนถลาออกจากรูงเพอออกหาเหย่อด้วย











นยนต้าอนแสนคม บรูษที่ในอต้สาหกรูรูมวศัวกรูรูมและการู






ก่อสรู้างจะต้้องไมชิะล่าใจ มวชิ�นชิมกบความรูงเรูองในอด้่ต้ ผ ู ้






บรูหารูจะต้องที่างานหนกขนเพอสรูางนกต้วนอย ๆ จากรูงของ













ที่านเอง เพอความอยรูอด้ในอนาคต้
11

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563










การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1

(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9
อ.ดร.มาโนทย์ มาปะโท
ผศ.ดร.ธนเสฎฐ์์ ทศดีกรพััฒน ์

















ปรูะยกต้ใชิเนองจากสามารูถวด้ได้อย่างรูวด้เรูว











และไม่ต้องมการูสมผส ที่จะที่าใหเสยงต้อการูต้ด้


















เชิอ ซึ่งการูวด้ไขด้วยเครูองมอชินด้นมมาต้งแต้ ่








การูแพรู่รูะบาด้ของโรูค SARS และไขหวด้ใหญ่
เปนต้้นมา และม่การูใชิงานอย่างแพรูหลายมาก




ยงขนในสถานการูณ์การูแพรูรูะบาด้ของโคโรูนา






ั ุ ิ ั ไวรูส 2019 น อยางไรูกต้ามต้วต้รูวจรูอุณ์หภม ิ
ู้







การตรวจจบอุณหภููมิิผวหนง ด้้วยรู้งส่อินฟรูาเรูด้ถูกออกแบบมาให้สามารูถ
ำ ั ใชิได้กบงานหลายปรูะเภที่ การูนามาใชิวด้






สาหรบคััด้กรอุง Covid-19 อุณ์หภูมิผิวหน้งของคน ต้้องคำานึงถึงข้อจำาก้ด้










ของเครูองมอวด้ การูปรูบต้งคาพารูามเต้อรูใหถก


(Skin thermal scan for Covid-19 screening)




ต้้อง ความแมนยาของเครูองม่อว้ด้ (accuracy)

1. ความนา รูะยะของการูว้ด้ และต้าแหน่งที่จะว้ด้บนใบหน้า





จากสถานการูณ์การูแพรู่รูะบาด้ของโรูคโควด้ นอกจากน่�สำาหรู้บรูะบบที่่ม่การูใชิ้กล้องว้ด้




-19 (COVID-19) ซึ่งได้กรูะจายวงกว้างไปยงหลาย อุณ์หภูมิด้้วยรู้งส่อินฟรูาเรูด้ กล้องต้้องม่ความ

















ปรูะเที่ศัที่วโลก สงผลใหมจานวนผต้ด้เชิอเพมขนอยาง ละเอ่ยด้เพ่ยงพอ เพ่�อที่่�จะว้ด้อุณ์หภูมิในบรูิเวณ์








รูวด้เรูว เปนโรูคต้ด้ต้อที่สามารูถแพรู่เชิอได้ที่งที่างการู ที่่ม่อุณ์หภมิใกล้เค่ยงอุณ์หภมิของรู่างกายมาก













สมผสและที่างลมหายใจ ซึ่ึงวธการูปองกนการูแพรู่เชิอ ที่่สุด้ ม่การูปรู้บเที่่ยบอุณ์หภูมิที่่ว้ด้ได้้ก้บอุณ์หภูม ิ




ในเบองต้นสามารูถที่าได้โด้ยการูปองกนไมใหบคคลมา จรูิงของรู่างกาย และควรูม่รูะบบปรู้บเที่่ยบ


























อยรูวมต้วกน แต้สาหรูบบางสถานที่ที่มผคนเขาออก อุณ์หภูมิแบบวงปิด้เพ่อเพิมความแม่นยา ด้้งน้น





จานวนมาก จาเปนต้้องม่การูเฝ้้ารูะว้ง และค้ด้กรูองผู ผูใชิ้งานต้้วต้รูวจรููอุณ์หภูมิด้้วยรู้งส่อินฟรูาเรูด้













ที่มอาการูปวยไมใหเขาไปในพนที่ ซึ่งวธการูต้รูวจสอบ จำาเปนต้้องม่ความรููความเข้าใจ ที่รูาบถึงข้อจำาก้ด้








เบองต้นที่งายที่สด้คอการูคด้กรูองด้วยการูวด้ไข เพรูาะ และการูปรู้บต้้�งเครู่�องม่อให้ถูกต้้อง เพ่�อให้การู


















ผ้ต้ด้เชิ�อไวรูสชินด้น�จะมอาการูไขถึงรู้อยละ 89 การู ใชิ้งานเครู่องม่อด้้งกล่าวน้น ม่ความแมนยำาและ










ต้รูวจวด้อณ์หภมรูางกายด้วยอนฟรูาเรูด้จงได้ถกนามา ม่ปรูะสิที่ธิภาพสูงสุด้








12
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563








การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1




(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9









2. อนฟราเรด้ (Infrared)






่�

เปนคลนแมเหลกไฟฟาชินด้หนง (Elec-


tromagnetic wave) มความยาวคล่นในชิวง


700 นาโนเมต้รู ถง 1 มลลเมต้รู เปน



คลนแมเหลกไฟฟาที่เรูาไมสามารูถมองเหนด้วย













ต้าเปลา มสเปกต้รูมถด้จากแสงขาว (visible








light) ด้งรูปที่ 1 โด้ยรูงสอนฟรูาเรูด้ สามารูถแบ่ง
ออกเปน 4 ชิวงความถต้ามชินด้ของต้้วต้รูวจจ้บ การูหาสารูเคม่ต้กค้างในผลิต้ภ้ณ์ฑ์์ที่างการูเกษต้รู






อนฟรูาเรูด้ (IR detector) ได้้แก ่ [1] เปนต้้น

2.1 Near infrared (NIR) ม่ความยาว 2.2 Short-wavelength infrared

คลนในชิวง 0.74-1 ไมโครูเมต้รู เปนรูงส (SWIR) อินฟรูาเรูด้คล่นส้น หรู่อบางครู้งเรู่ยกว่า








อนฟรูาเรูด้ที่ไมใชิการูแผ่รูงสของวต้ถุ แต้ต้องใชิ อินฟรูาเรูด้สะที่้อน (reflected infrared) ม่











แหลงกาเนด้รู้งส่ ฉายไปยงว้ต้ถและสะที่อนกล้บ ความยาวคล่�นในชิ่วง 1-3 ไมโครูเมต้รู เป็นรู้งส่






มายงกลอง หรูอต้วต้รูวจรู คลายกบพฤต้กรูรูม อินฟรูาเรูด้ที่่�ไม่ใชิ่การูแผ่รู้งส่ออกมาจากว้ต้ถุเชิ่น









ของแสงขาวที่สะที่้อนกบวต้ถ สามารูถนำามา เด้่ยวก้บ NIR จึงต้้องใชิ้แหล่งกำาเนิด้รู้งส่ ฉายไป






ปรูะยกต้ใชิในการูต้รูวจสอบสารูปรูะกอบหรูอ ยงว้ต้ถุและสะที่้อนกล้บมายงกล้องหรู่อต้้วต้รูวจ






คณ์ภาพของต้วอย่างโด้ยไมที่าลายต้วอย่าง รูู สามารูถปรูะยกต้์ใชิ้งานได้้หลายด้้าน เชิ่น การู






(non-destructive) โด้ยใชิหลกการูด้ด้กลน ต้รูวจสอบและจำาแนกว้สดุ้โด้ยไม่ที่ำาลาย การู




พล้งงานของโมเลกลสารูปรูะกอบ แลวนาคาการู ต้รูวจสอบการูปลอมแปลงของว้สดุ้ การูต้รูวจ




ด้ด้กลนแสงมาสรู้างสมการูในการูที่ำานายปรูิมาณ์ สอบคณ์ภาพกรูะบวนการูผลิต้ในอต้สาหกรูรูม




สารูปรูะกอบชินด้นน ๆ ต้้วอยางการูใชิงาน เชิน เป็นต้้น







รปที่่ 1.

สุเปกติรัมคล�นแม่เหล็กไฟฟ้า

และอนฟราเรด้

13

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563










การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1

(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9









2.4 long-wavelength infrared





(LWIR) อนฟรูาเรูด้คลนยาว หรูออาจเรูยกวา





อนฟรูาเรูด้คลนความรูอนได้เชินเด้ยวกน ม ่





ความยาวคล�นในชิ่วง 8-14 ไมโครูเมต้รู รูงส ่






อนฟรูาเรูด้ที่ความยาวคล่นนสามารูถปลด้ปล่อย

ออกมาจากต้ววต้ถได้เอง กลองที่ใชิต้รูวจวด้


















อณ์หภมด้วยรูงสอนฟรูาเรูด้สวนใหญ่นยมใชิ ้
2.3 Mid-wavelength infrared ความยาวคลนในย่านน่ เนองจากคลนความรูอน











(MWIR) อนฟรูาเรูด้คลนกลาง หรู่ออาจเรู่ยกวา ในวต้ถจะถกปลอยออกมามากในยานน กลอง









อนฟรูาเรูด้คลนความรูอน (thermal infrared) สวนใหญใชิต้วต้รูวจรูชินิด้ microbolometer [2]
















เนองจากรูงสอนฟรูาเรูด้ที่ความยาวคล่นน ่ � [3] เนองจากไมจาเปนต้องมการูรูะบายความรูอน














สามารูถปลอยออกมาจากวต้ถได้เอง ม ่ ซึ่งต้างจากต้รูวจรูชินิด้ควนต้ม (quantum type)












ความยาวคลนในชิวง 3-5 ไมโครูเมต้รู กลองถาย ที่จาเปนต้้องที่างานที่อณ์หภมต้า จาเป็นต้้องใชิ ้
















ภาพความรูอนที่ออกแบบมาสาหรูบความถยาน รูะบบที่าความเยน สงผลใหกลองมขนาด้ใหญ ใชิ ้












น�จะให้ภาพที่มความต้่าง (contrast) สูงกว่าย่าน พลงงานมาก และมรูาคาแพง ซึ่ึงในบที่ความน�จะ








LWIR จงเหมาะกบการูถายภาพที่ต้องการู กลาวถงเครูองม่อว้ด้อณ์หภมด้้วยอนฟรูาเรูด้ที่่ใชิ ้
















คณ์ภาพของภาพมากกวาการูวด้อณ์หภม เชิน ต้วต้รูวจรู้ชินด้ Thermopile microbolometer









การูต้รูวจสอบการูรู้�วไหลของแกสในรูะบบ หรู่อ บนอนฟรูาเรูด้คลนยาวเที่านน เพอใหที่รูาบถง
















การูถายภาพเพอด้รูปแบบความรู้อนในรูะบบ หล้กการู ขอจาก้ด้ และวธ่การูใชิงานที่่ถกต้้อง






เปนต้้น นอกจากน่� จากรููปที่่� 1 จะเหนวาในชิวง











ความยาวคลน 5-8 ไมโครูเมต้รู เปนชิวงที่่ไมถก
นามาใชิงานเนองจากรูงสอนฟรูาเรูด้ที่แผออกมา










จากวต้ถุที่ความยาวคล่นน จะถกด้ด้กลนได้ ้












ด้วยแกสที่มอยในบรูรูยากาศัเชินไอนาและ









คารูบอนได้ออกไซึ่ด้ การูออกแบบกล้องต้รูวจ








จบความรูอนจงหลกเลยงการูใชิงานที่ชิวง




ความยาวคลนน่�
14
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563






การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1






(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9


3. เครืองมอวด้อณหภัมด้้วยรงสุ่อนฟราเรด้




















3.1 เที่อรโมมเติอรชันด้อนฟราเรด้ (Infrared ther- ความเปนจรูงแลวไมเพยงพอสาหรูบการูใชิวด้อณ์หภมของ











mometer: IRT) เปนเครูองมอสาหรูบวด้อณ์หภมโด้ยใชิรูงส ่ รูางกาย แต้สาหรูบบางรูนสามารูถปรูบต้งโหมด้ของการูวด้



















อนฟรูาเรูด้ที่่ม่ความยาวคลนในยาน 8-14 ไมโครูเมต้รู วธ่การู อณ์หภมิในย่านแคบ ๆ ได้ เชิ่น สามารูถที่างานในโหมด้การู














ต้รูวจวด้อณ์หภมด้วยเครูองมอนใชิรูงสอนฟรูาเรูด้ที่แผออกมา แพที่ย (medical mode) ในชิวง 36 C ถง 39 C ซึ่งจะสามารูถ
































จากวต้ถผานไปยงเลนสภายในต้วเครูองเขาไปยงต้วต้รูวจรู และ เพิมความแมนยำาได้้มากถง ±0.1 ำC ซึ่งเพ่ยงพอสาหรู้บการูใชิ ้







แปลงคาความรู้อนใหเป็นสญญาณ์ที่างไฟฟ้า โด้ยที่�วไปใชิ ้ วด้อณ์หภมของรูางกาย ด้งนนผใชิควรูเลอกซึ่อเครูองมอใหต้รูง


















ต้้วต้รูวจรููชินด้ Pyroelectric หรู่อ Thermopile ผลการูว้ด้ที่่ � ก้บปรูะเภที่การูใชิงาน


















ได้เปนการูวด้อณ์หภมแบบเฉลยคาเด้ยวที่งพนที่ของการูวด้








สาหรู้บสิงที่่ต้้องคานงถงในการูใชิเครูองม่อชินด้น่ ม่ด้้งน่ �









3.1.1 ระยะทางต่อขนาดของพื้นท่การวัด (dist-
tance to stpot ratio, D:S) หรู่อมุมมองภาพ (field of view:
FOV) โด้ยสวนใหญ่จะใชิหนวยรูะยะที่างต้่อขนาด้ของพ�นที่การู
















วด้ (D:S) คณ์สมบต้ขอนเปนคณ์สมบต้เฉพาะของเครูองมอ








แต้่ละรูน ที่�งน เครู�องมอว้ด้ที่ม่ค่า D:S สูงกว่าจะสามารูถว้ด้









อณ์หภมิของว้ต้ถุที่มขนาด้เล็กที่รูะยะไกลกว่าได้ เชิ่นเครู�องมอ














ที่่ม่ D:S เที่าก้บ 100:1 จะสามารูถว้ด้อณ์หภมของว้ต้ถที่่ม่เสน





ผาศันย์กลางเที่ากบ 1 เซึ่นต้เมต้รูที่รูะยะ 100 เซึ่นต้เมต้รูได้ แต้ ่








หากนาเครู�องมอที่มค่า D:S เที่่ากบ 50:1 มาว้ด้อณ์หภมิของว้ต้ถ ุ

















เด้ยวกนที่รูะยะ 100 เซึ่นต้เมต้รู ผลการูวด้อณ์หภมจะม ่ รปที่่ 2 ระยะที่างติอขนาด้ของพืนที่่การวด้ (Distance to








ความคลาด้เคลอนเนองจากพนที่ของการูวด้ครูอบคลุมวต้ถรูอบ Spot Ratio, D:S) หรอมมมองภัาพ (FOV)














ขางไปด้้วย อณ์หภมที่่ว้ด้ได้้จงเปนคาเฉลยของว้ต้ถนนและว้ต้ถ ุ



















รูอบข้าง ด้งรููปที่ 2 ด้งน�น ผใชิ้ต้้องที่รูาบคณ์สมบ้ต้ิของเครู�องมอ 3.1.3 ค่าค่วัามสามารถในการแผ่รงสอนฟราเรด















ว้ด้ในขอน่ เพอใหสามารูถเล่อกรูะยะการูว้ด้ได้้อยางถกต้้อง ของวััสด (emiststivity) คาน่�เปนคาความสามารูถในการูแผรู้งส่















3.1.2 ค่่าค่วัามแมนยำา (accuracy) เปนคาที่่ใชิ ้ อนฟรูาเรูด้ของวต้ถเที่ยบกบความสามารูถแผรูงสของวต้ถด้า







บอกความสามารูถของเครู่องมอวด้วาสามารูถอ่านคาได้ถกต้อง (black body) ซึ่งกค่ออ้ต้รูาสวนของความสามารูถแผรู้งส่ของ
































หรูอใกลเคยงกบความเปนจรูง นยมบอกเปนคาบวกลบเชิน วต้ถนนเที่ยบกบวต้ถด้า คานนอกจากจะขนกบชินด้ของวสด้ ุ

























±1 ำC ซึ่งเที่อรู์โมมเต้อรูชินด้อนฟรูาเรูด้โด้ยสวนมากจะมค่า แลวยงขนกบพนผวของวสด้ด้วย โด้ยวสด้ชินด้เด้ยวกนที่มพน























ความแมนยาสงกวากลองถายภาพชินด้อนฟรูาเรูด้เนองจาก ผวต้างก้นกจะใหคาที่่ต้างก้น ด้้งต้้วอยางในต้ารูางที่่ 1 [4] จาก














สามารูถปรูบชิด้เชิยจากอณ์หภมอางองจากต้วต้รูวจรูภายใน ต้ารูางด้งกลาวจะเหนวาผวหนงของมนษยมคา emissivity


































เครูองมอวด้ อยางไรูกต้ามเครูองมอสวนใหญนนถกออกแบบให ้ เที่ากบ 0.98 ซึ่ึงเครูองมอวด้บางรูนผใชิสามารูถที่จะปรูบต้งคา

























สามารูถวด้อณ์หภมได้ในชิวงกวางมากต้งแต้ต้ด้ลบหลกรูอย ได้โด้ยอสรูะต้งแต้ 0.0 ถง 1.00 แต้่โด้ยสวนใหญจะถกต้งคาจาก





















จนถงบวกหลายรูอยองศัาเซึ่ลเซึ่ยส ซึ่งการูใชิงานในยานกวาง โรูงงานไวที่ 0.95 ซึ่งหากใชิคานในการูวด้อณ์หภมของคนจะ


















โด้ยสวนใหญจะม่ความแมนยาในชิวง ± 2 ำC ถง ±5 ำC ซึ่งใน ที่าใหอณ์หภมสงกวาความเปนจรูงได้้มากถง 0.4 ำC [5] ด้้งนน






15



วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563









การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1
(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9


















ผูใชิต้้องปรู้บคาใหต้รูงก้บชินด้ของว้สด้และพ่�นผว เพอใหได้้ผล ขอแต้กต้างในเรูองของความละเอ่ยด้ภาพ ขอจาก้ด้ในเรูองของ






การูว้ด้ถกต้้องต้ามต้้องการู ความแมนยำา การูปรูบเที่ยบแบบวงปด้ และการูชิด้เชิยอณ์หภม ิ










จากที่กลาวมาขางต้นจะเหนวาถงแมเที่อรูโมมเต้อรูชินด้ ซึ่งม่รูายละเอ่ยด้ด้้งต้อไปน่




















อนฟรูาเรูด้จะเปนเครูองมอที่ด้เหมอนใชิงานงาย แต้ในความเปน



่�
ู้




ู้

จรูงแลวผใชิต้องมความรูความเขาใจ ที่รูาบขอจากด้ของเครูอง







มอเพ�อให้สามารูถใชิ้เครู�องมออย่างถูกต้องและเกด้ความคลาด้





เคลอนของการูว้ด้นอยที่่�สด้ นอกจากน่� จากปจจ้ยที่่ได้้กลาวมา









ขางต้นแลว ยงมปจจยอน ๆ อกหลายปรูะการู ที่มผลต้อการูวด้





















อณ์หภมรูางกายด้วยเครู่องมอปรูะเภที่น�น ซึ่งจะได้กล่าวใน


ห้วขอถ้ด้ไป



3.2 กลองวด้อณหภัมด้วยรงสุอนฟราเรด้ กลองว้ด้






















อณ์หภมด้วยรูงสอนฟรูาเรูด้ โด้ยที่วไปใชิต้วต้รูวจรูชินิด้ mi- รปที่่ 3 Microbolometers ขนาด้ 4x4 pixel


crobolometer [6] ด้งรูปที่ 2 โครูงสรูางปรูะกอบไปด้วยต้ว 3.2.1 ค่วัามละเอ่ยด (restolution) และ มมมอง














ต้รูวจรูหลายหนวยวางเรูยงกนโด้ยที่ 1 ชิด้จะแที่นขอมล 1 ภาพ ( field of view, FOV) กลองชินด้น่จะบอกมมในการูรู้บ









Pixel ยงมจานวน Pixel มากกลองกจะสามารูถถายภาพที่ม ่ ภาพ และความละเอ่ยด้ของกลอง เหม่อนกลองถายภาพที่้วไป















ความละเอยด้ได้สงขนเชินเด้ยวกบกลองถายภาพโด้ยที่วไป เชิน Fov 25° × 18.8° ความละเอ่ยด้ 320x240 pixel เปนต้้น










จานวน Pixel ม่ต้งแต้ขนาด้ 8x8 ไปจนถง 640x480 หรู่ออาจ ค่าอณ์หภมิที่่อ่านได้้ของแต้่ละพิกเซึ่ล จะเป็นอณ์หภมิเฉล�ยของ
















มากกวาน่ หล้กการูที่างานของกลองชินด้น่ค่อ กลองจะรู้บรู้งส่ พนที่ที่ครูอบคลมด้วยพกเซึ่ล นน ๆ ต้วอยางด้งรูปที่ 4 ซึ่งแสด้ง























ที่แผออกมาจากวต้ถุในย่าน LWIR ผ่านไปยงเลนส์ภายในต้ว ความสมพนธรูะหว่างความละเอยด้ของกล้องและขนาด้ของว้ต้ถ ุ











เครู�องซึ่�งเป็นวสดุ้ที่�โปรู่งรูงส่อินฟรูาเรูด้ และเข้าไปยง microbo- การูใชิกลองว้ด้อณ์หภมของว้ต้ถที่่อยไกลออกไป ต้้องม้�นใจวา
















lometer รูงส่อนฟรูาเรูด้จะถกด้ด้กล โด้ย bolometer mem- มจานวนพกเซึ่ล เพยงพอที่ครูอบคลุมพนที่ที่ต้องการูวด้ ซึ่ึงจาก






















brane ซึ่งที่ามาจากวสด้ที่ด้ด้กลนรูงสอนฟรูาเรูด้ในชิวง รูปจะเหนวา กลองน (8x8 pixel) จะไม่สามารูถวด้อณ์หภมของ






























ความยาวคลนที่ต้องการู รูงสที่ถกด้ด้กลนเขาไปจะเปลยนเปน บคคลที่อยที่างซึ่ายได้ เนองจากที่รูะยะน พกเซึ่ลมขนาด้ใหญ ่


























เปนความรู้อน และสญญาณ์ไฟฟ้าต้ามลำาด้บ กลองชินด้นใชิหลก กวาวต้ถ ด้งนนถาต้องการูวด้อุณ์หภมของวต้ถุขนาด้เล็ก ผใชิ ้



















การูเปล่ยนรูงสใหเปนความรู้อน ซึ่ึง bolometer ต้องใชิเวลาใน ควรูที่จะคานวณ์หารูะยะถายภาพที่ไกลที่สด้ที่จะที่าใหมจานวน



















การูด้ด้ซึ่บรูงสเพอใหอณ์หภมของต้วต้รูวจรูเพมขนในแต้ละรูอบ Pixel ครูอบคลมว้ต้ถต้ามที่่ต้้องการูกอน โด้ยใชิความละเอ่ยด้


































ของการูวด้ ที่าใหมขอเสยคอได้ Refresh rate ต้า กลองที่สรูาง และมมมองภาพของกลองต้วนน ๆ ในการูคานวณ์ เพอใหได้ที่น














ขึนน่ กอนที่่จะสามารูถนาไปใชิเปนกลองว้ด้อณ์หภมได้้ จาเปน หภมของว้ต้ถนน ๆ อยางแที่จรูง ิ



























ต้้องมการูปรูบเที่ยบเพอให้สามารูถอ่านค่าอณ์หภมิสมบรูณ์์ได้ ้










กอน สวนกลองชินด้ที่ไมมการูปรูบเที่ยบ จะถกนาไปใชิในจด้








ปรูะสงคอน เชิน กลองมองภาพในที่่ม่ด้ หรู่อรูะบบรู้กษาความ




ปลอด้ภ้ยในที่่ม่ด้ เปนต้้น







สาหรูบกลองวด้อณ์หภมด้วยรูงสอนฟรูาเรูด้ มวธการูใชิ ้














งานและขอควรูรูะวงคลายกบเที่อรูโมมเต้อรูอนฟรูาเรูด้ แต้จะม ่




16
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563






การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1






(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9
ติารางที่่� 1 3.2.2 ค่วัามแมนยา (accuracy) กลองวด้อณ์หภม ิ








ติวอยางคา emissivity ของวสุด้ และ พืนผวที่่ติางกน ด้้วยรู้งส่อนฟรูาเรูด้โด้ยที่้วไปจะม่ความแมนยาอยที่่ ±2 ำC ซึ่ง
























ความแม่นยำาในรูะด้บน ไมเพยงพอสาหรูบใชิวด้อณ์หภูมของ







รูางกายเพอต้รูวจจบการูมไข แต้คาความแมนยำาของกลอง











อนฟรูาเรูด้สามารูถที่จะเพ�มได้ ด้วยการูใชิรูะบบปรูบเที่ยบ







อณ์หภมวงปด้แบบเวลาจรูง (Real Time Close loop cali-











bration) ซึ่งจะใชิพนผวสรูางอณ์หภมอางอง Thermal Refer-






ence Source (TRS) ที่่ม่คา emissivity ใกลเค่ยงก้บผวหน้ง




โด้ยวธการูนสามารูถเพ�มความแม่นยำาของกล้องได้มากกว่า




±0.5 C จากรูปที่ 4จะเหนวา TRS จะต้องวางไวที่รูะยะเด้ยวกบ


















ต้้วบคคล ซึ่งพล้งงาน IR ที่่แผออกมาจาก TRS สามารูถนามา





ใชิ้เปรูยบเที่ยบกบพลงงานที่�แผ่ออกมาจากว้ต้ถอ�น ๆ ในมุมมอง








เด้ยวกนได้ และจะนำาอณ์หภมที่อานได้จาก TRS มาเปนต้ว











กาหนด้เกณ์ฑ์์ในการูต้งคาสาหรู้บปรู้บเที่่ยบอณ์หภม [7]










รปที่่ 5 การเพิมความแมนยาสุาหรบกลองวด้อณหภัมด้้วย







อนฟราเรด้โด้ยใชั แหลงอณหภัมอางอง






(Thermal Reference Source: TRS)

รปที่่ 4 ความละเอ่ยด้ มมมองภัาพ และขนาด้ของวติถ ุ



17


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563










การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1
(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9



4. อณหภัมที่่ผวหนงจ็ากการวด้ด้้วยกลอง







3.2.3 ค่าค่วัามสามารถในการแผ่รงสอนฟราเรด อนฟราเรด้เที่่ยบกบอณหภัมภัายในรางกาย











ของวััสด (Emiststivity) การูปรู้บต้งคาพารูามเต้อรูน่ใชิหล้กการู การูใชิกลองถายภาพความรูอนเพอคด้กรูองโรูครูะบาด้ม ่














เด้ยวกบเที่อรู์โมมิเต้อรูชินด้อินฟรูาเรูด้ แต้่จะม่ข้อควรูรูะวงเรู�อง ให้เห็นโด้ยที่�วไปต้ามสถานที่ต้่าง ๆ เชิ่น สนามบิน ห้างสรูรูพสินค้า

















การูปรูบต้งคา เนองจากเครู่องมอนสามารูถถ่ายภาพอุณ์หภูม ิ หรูอสถานที่ที่มคนพลกพลาน ซึ่งใชิวธการูต้รูวจวด้อณ์หภมของ






่�
่�
















ของว้ต้ถหลายชินด้ภายในภาพเด้ยวกนด้งนนการูเรูยกด้ ู รูางกายผานที่างผวหนง ซึ่งที่าใหมขอสงสยวาอณ์หภมของผวหนง






























อณ์หภมของแต้่ละชินสวนที่อยในภาพเด้ยวกนจาเปนต้องมการู หรูอใบหนามความสมพนธกบอณ์หภมของรูางกายอยางไรู มคา



















ปรูบคา emissivity ใหต้รูงกบวต้ถที่ต้องการูที่รูาบอณ์หภม ิ เที่ากนหรูอไม สามารูถใชิคด้กรูองอาการูไขได้ถกต้องแม่นยำาแค ่




















เพรูาะค่า emissivity จะใชิคาเด้ยวกนที่งภาพ ด้งนน แม้การูใชิ ้ ไหน ในบที่ความน่ จะกลาวถงความส้มพ้นธรูะหวางอณ์หภมของ






















กลองถายภาพด้วยอนฟรูาเรูด้จะสามารูถใหภาพที่แสด้งถง สวนต้าง ๆ บนใบหนา เที่ยบกบอณ์หภมภายในรูางกาย โด้ยอางอง ิ












อณ์หภมของวต้ถที่งหมด้ที่อยในภาพแต้การูอานอณ์หภมของ จากงานวจ้ยที่่เกยวของ ม่รูายละเอ่ยด้ด้้งน่ �




























ว้ต้ถใด้ ๆ ต้้องปรู้บต้งคา emissivity ใหต้รูงก้บชินด้ของว้ต้ถที่่ � 4.1 อณหภัมแติละบรเวณบนใบหนา เที่่ยบก้บอณ์หภม ิ









ต้้องการูที่รูาบคา

ภายในรูางกาย ในชิวงที่มการูรูะบาด้ของโรูค SARS ในป 2003















เปนชิวงที่มการูนากลองถายภาพความรูอนมาใชิงานอยางแพรู ่






่�





หลาย ที่าใหมงานวจยจานวนมากที่ได้ศักษาถงปรูะสที่ธภาพของ

การูคด้กรูองไขด้วยวธน หนงในงานวจยที่นาสนใจ [8] เปนการู
























ศักษาอณ์หภมของแต้ละบรูเวณ์บนใบหนาที่งด้านหนา และด้าน






ขางโด้ยวด้ด้วยกลองอนฟรูาเรูด้ เที่ยบกบอณ์หภมจรูงของรูางกาย



















ที่อางองด้วยการูวด้ด้วยปรูอที่ที่างชิองปากและเที่อรูโมมเต้อรูแบบ






อนฟรูาเรูด้สาหรูบวด้ในหู งานวิจยด้งกลาวได้รูวบรูวมผลการูศัึกษา





















อณ์หภมจากกลมต้วอยางที่เปนผปวย ผที่มสขภาพด้ และผที่ม ่







สขภาพด้ขณ์ะออกกาลงกาย จากงานวิจยนที่าใหที่รูาบวาอณ์หภม ิ












ที่จด้ต้าง ๆ บนใบหนา จะมคาต้ากวาอณ์หภมรูางกายเฉลย
























ปรูะมาณ์ 2 C ด้งรูปที่ 6 ซึ่งจะมเพยงการูวด้ด้วยกลองภายในชิอง













ปากเที่านนที่ใหผลใกลเคยงรูางกาย และเมอพจารูณ์าการูวด้







อณ์หภมด้้านขางจะเหนวาการูวด้ที่บรูเวณ์หในรูะยะ 0.5 เมต้รูจะ











ใหคาใกลเคยงกบการูวด้ด้วยปรูอที่ บรูเวณ์นจงมความเหมาะสม












ที่สด้สาหรูบใชิวด้อณ์หภมของรูางกายเพอต้รูวจจบการูมไข ด้งนน



















การูวด้อณ์หภมบรูเวณ์บนใบหนาโด้ยต้รูงจงไมสามารูถที่จะรูะบ ุ



















การูมไขได้ชิ้ด้เจน นอกจากผปวยจะมอณ์หภมรูางกายสง


มากกว่า 39 ำC ซึ่�งหากต้้องการูใชิ้กล้องอินฟรูาเรูด้เพ�อต้รูวจจบ



อาการูม่ไข สามารูถใชิกลองว้ด้อณ์หภมที่่หที่่รูะยะ 0.5 เมต้รู แต้ ่














หากต้องการูใชิบรูเวณ์ใบหนา ต้องใชิวธการูชิด้เชิยอณ์หภม แต้ต้อง









รูะบบรูเวณ์ที่จะที่าการูวด้ใหชิด้เจน เพรูาะแต้ละจด้มคาความคลาด้










เคลอนต้างก้น


18
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563





การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1







(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9

















































รปที่่ 6 อณหภัมที่่สุวนติาง ๆ บนใบหนา วด้ด้้วยกลองอนฟราเรด้












นอกจากนยงมงานวจย [9] ได้นาเสนอจุด้บนใบหน้าที่ม ่













อณ์หภมใกลเค่ยงรูางกาย น้นกค่อบรูเวณ์เหน่อที่อนาต้า (tear






duct) จากรูปที่ 7 จะเหนวาจด้ด้งกลาวเปนจด้ที่มอณ์หภมสง


















ที่สด้บนใบหน้า มขนาด้ปรูะมาณ์ 5*5 mm วธการูวด้ที่จด้น จะ





2


ต้้องว้ด้ในรูะยะใกล และกลองต้้องม่ความละเอ่ยด้ในรูะด้้บหนึง








เชิน หากใชิกลองที่มความละเอยด้ 320*240 มมุมรูบภาพ



25 ำ*18.8 ำ ต้องการูให้มพกเซึ่ลครูอบคลุมบรูเวณ์น�จานวน 5











พกเซึ่ล จะต้้องว้ด้ที่่รูะยะไมเกน 1.29 เมต้รู ซึ่งผูผลต้กลองว้ด้









อณ์หภมด้วยอนฟรูาเรูด้รูายใหญ กได้แนะนาใหวด้ที่จด้นด้วยเชิน












ก้น









4.2 ปจ็จ็ยอนๆ ที่มผลติ่อการวัด้อณหภัมด้วยกล้อง








อนฟราเรด้ โด้ยการูวด้อณ์หภมที่ผวหนงแที่นการูวด้อณ์หภม ิ









ภายในรูางกายนนถงแมเรูาจะใชิเครูองมอที่มความละเอยด้สง














และว้ด้อยางถกต้้อง แต้ยงม่อ่กหลายปจจ้ยที่่จะที่าใหผลการูว้ด้





19


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563








การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1


(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9



คลาด้เคลอน ด้้งต้้วอย่างต้อไปน่� บที่สุรป



















• เครู�องสาอาง หรูอ ครูมกนแด้ด้ สามารูถที่จะ การูใชิเครูองวด้อณ์หภมด้วยรูงสอนฟรูาเรูด้เพอวด้















ที่าใหอณ์หภมิที่อ่านได้ม่ค่าต้ากว่าความเป็นจรูิงได้ต้้�งแต้ 1 ำC อณ์หภมของผวหน้ง ต้้องเล่อกเครูองม่อที่่ม่ความแมนยาเพ่ยงพอ


























ถง 4.5 ำC โด้ยเฉพาะในชิวง 40 นาที่่แรูกหล้งจากการูใชิเครูอง มการูปรูบคาพารูามเต้อรูที่ถกต้อง คานงถงขอจากด้ของเครูองมอ






ู้




่�

่�


สาอาง [10] มความรูความเขาใจเพอใหได้ผลการูวด้ที่ถกต้อง สวนของความ
















• แสงแด้ด้ และอุณ์หภูมของสงแวด้ล้อม จะที่ำาให ้ สมพนธรูะหวางอณ์หภมของรูางกายและใบหนานน การูวด้






























อณ์หภมของผวหนงมคาสงขน ถาหากผที่โด้นแสงแด้ด้หรูอ อณ์หภูมด้วยวธน อณ์หภูมที่วด้ได้อาจมความคลาด้เคล่อนจาก
















อากาศัรูอนถกว้ด้อณ์หภมที่้นที่่ อณ์หภมภายในรูางกาย แมแต้ในบรูเวณ์ที่ต้างกนบนใบหนายงม ่






















• เหงอที่าใหอณ์หภมของผวหน้งลด้ลง 1 C ถง 3 C อณ์หภมิที่่�แต้กต้่างก้น ซึ่�งจด้ที่่ม่อณ์หภมิใกล้เค่ยงก้บอณ์หภมิของ














• การูออกกาลงกาย สามารูถที่าใหอณ์หภมบรูเวณ์ รูางกายที่สด้ของการูวด้ด้านหน้าของใบหนา คอบรูเวณ์ที่อนาต้า



















ใบหนาม่คาเพิมขึนปรูะมาณ์ 1 ำC [11] แต้ต้องวด้ที่รูะยะปรูะมาณ์ไมเกน 1.3 เมต้รู ด้วยกลองที่มความ


















่�






่�



• บรูเวณ์ที่วด้อณ์หภมไมถกต้อง ด้งที่ได้กลาวมา ละเอยด้ 320 พิกเซึ่ล สวนอกบรูเวณ์ที่มอณ์หภูมสมพนธกบ













ขางต้น บรูเวณ์ที่มอณ์หภมใกลเคยงอณ์หภมของรูางกายมาก อณ์หภมรูางกาย ค่อด้้านขางของใบหนาบรูเวณ์ห แต้ต้้องว้ด้ด้้วย

































ที่สด้คอบรูเวณ์เหนอที่อนาต้า [8] [9] แต้่หากใชิวธการูปรูบเที่ยบ รูะยะใกลเชินเด้ยวกน แต้หากต้องการูใชิสวนอนบนใบหนาเพอวด้






























เพอว้ด้บรูเวณ์อ�น ๆ เชินหนาผาก จาเปนต้้องม่เจาหนาที่่ชิวยใน อณ์หภม จะต้องมการูชิด้เชิยปรูะมาณ์ 1-2 ำC ซึ่งขนกบจด้ที่วด้




























การูวด้หรูออาจใชิปญญาปรูะด้ษฐมาชิวย ไมควรูใชิการูหา อยางไรูกต้าม การูวด้อณ์หภมด้วยวธนยงมอกหลายปจจย ที่ที่าให ้




















อณ์หภมสงสด้บนใบหนา ผลการูวด้มความคลาด้เคล่อนได้ ด้งนน การูใชิเครูองมอเหล่านจะ






















• การูสวมแวนต้า จะสงผลให้ไมสามารูถวด้ คด้กรูองอาการูมไขได้รูะด้บหนง ซึ่งจะคด้กรูองได้ด้หรูอไม กขน





















อณ์หภมที่บรูเวณ์เหนอที่อนาต้าได้ เนองจากรูงสอนฟรูาเรูด้ไม ่ อยกบวธการูต้งรูะบบ วธการูวด้ การูชิด้เชิย การูควบคมปจจย





















สามารูถผานแวนต้าได้้ ภายนอก และการูกาหนด้อณ์หภมค้ด้กรูอง ซึ่งหากผูใชิเครูองม่อ
มความรูความเขาใจ กจะชิวยใหผลการูวด้มความคลาด้เคลอนนอย
















ลงและเปนรูะบบค้ด้กรูองที่่�ม่ปรูะสที่ธภาพมากยงขึน









รููปที่ 7 ภาพถ่ายอณ์หภมิบนใบหน้า แสด้งจด้ที่ม่อณ์หภมสูงสด้







ใกลที่อนาต้า (tear duct)

20
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563










การตรวิจจบัอณห่ภ์มผิิวิห่นงสาห่รบัคดกรอง Covid-1


(Skin thermal scan for Covid-19 screening) 9
Reference
[1] Jamshidi, B., E. Mohajerani and J. Jamshidi., Developing a [11] Donovan L. Fogt, Andrea L. Henning, Brian K. McFarlin,
Vis/NIR spectroscopic system for fast and non-de Non-invasive Measures of Core Temperature versus
structive pesticide residue monitoring in agricultural Ingestible Thermistor during Exercise in the Heat,
product, 2016, Measurement 89: 1-6 In ternational journal of exercise science, 2017, pp.
[2] Wood, R.A., Han, C.J. Kruse, P.W. Integrated uncooled in 225-233
frared detector imaging arrays, Solid-State Sensor and
Actuator Workshop, 1992. 5th Technical Digest., IEEE,

pp. 132-135, 22-25 Jun 1992
[3] F. Niklaus, C. Vieider, and H. Jakobsen, MEMS-based un
cooled infrared bolometer arrays: a review, Proc. SPI
6836, MEMS/MOEMS Technologies and Applications

III, 68360D, January 2008 อ.ดร.มาโน่ทย์ มาปะโท
[4] Brewster, M. Quinn (1992). Thermal Radiative Transfer and
Properties. John Wiley & Sons. p. 56. ISBN 9780471539827 ประวิัติิการศึกษา
[5] Sakuma F, Kobayashi M., Interpolation equations of scales ➠ วศ.บ. (วศวกรรมไฟฟา) มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่




of radiation thermometers, Proceedings of TEMPMEKO ➠ วศ.ม. (วศวกรรมไฟฟา) มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่




1996,pp. 305–310.




[6] D. Matolin, C. Posch, R. Wohlgenannt and T. Maier, A 64x6 ➠ วศ.ด้. (วศวกรรมไฟฟา) มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่
Pixel Temporal Contrast Microbolometer Infrared ติำาแหน่่งปัจจุบัน่
Sensor, IEEE International Symposium on Circuits and ➠ วศวกรอาวโสุ บรษที่ ซีเกที่เที่คโนโลย่ ประเที่ศไที่ย จ็ำากด้






Systems, ISCAS (2008)., pp. 1644-1647 ➠ อาจ็ารยประจ็าสุาขาวชัาวศวกรรมอเลกที่รอนกสุ ์







[7] Tan YH, Teo CW, Eric O, Tan LB, Soo MJ, Development and สุานกวชัาวศวกรรมศาสุติร มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่







deployment of infrared fever screening systems, In:
Thermo sense XXVI. Proceedings of SPIE, 2004, pp. ผศ. ดร.ธน่เสฏฐ์์ ทศดีกรพัฒน่์
68-78
[8] Lung-Sang Chan, Giselle T. Y. Cheung, Ian J. Lauder, and
Cyrus R. Kumana, Screening for Fever by Re
mote-sensing Infrared Thermographic Camera, Journal ประวิัติิการศึกษา
of travel medicine, 2004, pp. 273-279 ➠ วศ.บ. (วศวกรรมโที่รคมนาคม) มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่



[9] L. P. J. TEUNISSEN and H. A. M. DAANEN, Infrared thermal ➠ วศ.ม. (วศวกรรมโที่รคมนาคม) มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่



imaging of the inner canthus of the eye as an estima



tor of body core temperature, Journal of Medical ➠ วศ.ด้. (วศวกรรมโที่รคมนาคม) มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่
Engineering & Technology, Vol. 35, Nos. 3–4, April– ติำาแหน่่งปัจจุบัน่
May 2011, pp. 134–138 ➠ อาจ็ารยประจ็าสุาขาวชัาวศวกรรมอเลกที่รอนกสุ ์







[10] K. Zheng, R. Dong, H. Wang and S. Granick, Infrared สุานกวชัาวศวกรรมศาสุติร มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่







assessment of human facial temperature in the pres ➠ ผูชัวยศาสุติราจ็ารยประจ็าสุาขาวศวกรรมอเลกที่รอนกสุ ์








ence and absence of common cosmetics, MedRxiv, สุานกวชัาวศวกรรมศาสุติร มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่สุุรนาร่







Mar 12, 2020, pp. 1-4
21


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ตูคัวามิด้นลิบ อุอุกแบบโด้ย วสที่.













เพื่่อุใช้ในสภูาวะฉุุกเฉุนแลิะเรงด้วน ในวกฤตการณโรคัตด้เช้่�อุที่างเด้นหายใจขั้�นรนแรง หร่อุ โคัวด้ 19 ในปี่ พื่.ศ. 2563




































รปแสุด้ง ติูความด้นลบแบบที่่ 3 ติแรกในไที่ยที่ด้สุอบสุมรรถนะ



การที่างานที่่โรงพยาบาลพระมงกฎเกลา



ว้นที่่ 31 ม่นาคม 2563

ผลได้้ความด้้นลบ 10 ปาสกาล (Pa) ความสะอาด้ของหอง 19 air change per hours
บัุญพังษ์์ ก์จวัฒนาชััย








1. เหติการณการเกด้โรคอบติิใหมโควด้ 19 และการคาด้คะเนผูปวยติิด้เชัือ







สถานการูณ์ที่ที่วโลกเกด้โรูคต้ด้เชิอที่างเด้นหายใจขนรูนแรูง หรูอ โควด้ 19 ต้งแต้ปลายเด้อนธนวาคม พ.ศั. 2562 สงผลใหมผ ้ ู



















ต้ด้เชิ่อแลวที่้วโลกกวา 5,397,884 รูาย (ขอมลว้นที่่ 24 เด้่อนพฤษภาคม 2563) รูวมที่งยงไมม่วแวววาการูแพรูรูะบาด้จะยต้ลงเมอใด้


































วกฤต้การูณ์์ด้้งกลาวเรูิมเกด้การูรูะบาด้ในไที่ย ต้งแต้ปลายเด้่อนมกรูาคม พ.ศั. 2563 ม่ผูปวยรูายใหมเพิมขึนกวาหาสบคนที่กว้น และ





การูรูะบาด้เรูมกรูะจายต้วจากเขต้กรูงเที่พมหานครู ไปยงจงหวด้อน ๆ ที่วปรูะเที่ศั มคนไที่ยในต้างปรูะเที่ศัที่ยอยเด้นที่างกลบ



















ปรูะเที่ศัไที่ย รูวมที่งผูใชิแรูงงานจากปรูะเที่ศักลุมเสยง จนถงปลายเด้่อนม่นาคม พ.ศั. 2563 ปรูะเที่ศัไที่ย เรูิมม่ผูปวยรูายใหมที่่ไมม่














ปรูะว้ต้เด้นที่างกล้บจากปรูะเที่ศักลุมเสยง (ด้้งแสด้งในรููปที่่ 1 ว้นที่่ 19 ม่นาคม พ.ศั. 2563 จานวนผูต้ด้เชิ่อโควด้ 19 ในปรูะเที่ศัไที่ย)





22


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ตูควิามดนลบั ออกแบับัโดย วิสที่.


















































รปที่่ 1 วนที่่ 19 ม่นาคม 2563 จ็านวนผูติิด้เชัือโควด้ 19 ในประเที่ศไที่ยจ็านวน 272 คน







(เพิมขน 60 คนจ็ากวนที่่ 18 ม่นาคม 2563) สุองวนกอนประชัมออกแบบติูความด้นลบ









นอกจากน�หลาย ๆ ปรูะเที่ศัในยุโรูปเรูมปด้ปรูะเที่ศั ขณ์ะ ธรูรูมชิาต้ิของโรูคและรูะบาด้วิที่ยาที่่ม่ในปัจจุบ้น โด้ยไม่ได้้








ที่ภายในปรูะเที่ศัไที่ยไม่มใครูพูด้ถงรูะยะ 2 หรูอรูะยะ 3 ของการู พิจารูณ์าปัจจ้ยการูป้องก้นควบคุมโรูคและการูรู้กษา เชิ่น การูงด้







รูะบาด้อ่กต้อไปแลว (รูะยะที่่ 2 ค่อ การูพบผู้ปวยในปรูะเที่ศั ไม การูจ้ด้กิจกรูรูมรูวมคนจำานวนมาก การูใชิ้ยา หากไที่ยต้้องอยก้บ






ได้้ไปต้ด้เชิ่อจากต้างปรูะเที่ศั สวนรูะยะที่่ 3 ค่อ การูแพรูรูะบาด้ การูรูะบาด้ของโควิด้ 19 ไปในรูะยะยาว การูคาด้การูณ์์จะม่ 3







จากคนในปรูะเที่ศัด้วยกนเอง) เพรูาะขณ์ะนนมความชิด้เจนวาไที่ย เหตุ้การูณ์์ด้้งต้่อไปน่ �

ได้้เขาสูรูะยะที่่ 3 ของการูรูะบาด้แลว ค่อม่การูรูะบาด้จากคนสู ่

















คนภายในปรูะเที่ศัอย่างต้อเนอง และคาด้ว่าจะเกิด้จากสนามมวย • เหติการณที่่ 1 เปนเหต้การูณ์์ที่่เลวรูายสด้ ค่อ 1 ป ม่ผูต้ด้








และผบแหงหนง วนที่ 13 มนาคม พ.ศั. 2563 กรูมควบคุมโรูค จง เชิ่อ 16.7 ลานคน ผูปวย 1 คน จะแพรูเชิ่ �















ได้คานวณ์โด้ยใชิแบบจาลองที่างคณ์ต้ศัาสต้รู บนพนฐานขอมล ได้้ 2.2 คน ซึ่งจะที่าใหเกด้การูต้ด้เชิ่ออยาง










รูวด้เรูว รูะบบสาธารูณ์สุขจะลมเหลวที่นที่ ่


• เหติการณที่่ 2 ม่โอกาสเกด้ขึนมากที่่สด้ ค่อ ผูปวย 1 คน









จะแพรูเชิ่อต้อได้้ 1.8 คน จด้ที่่พบผู้ปวยสง










ในเด้อน มกรูาคม – กุมภาพนธ พ.ศั. 2564


จานวน 480,000 คนต้อส้ปด้าห ์



• เหติการณที่่ 3 คอ 1 คน แพรูต้อได้ 1.6 คน และจะมผปวย








4 แสนคน ภายในรูะยะเวลา 2 ป ี
23


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ตูควิามดนลบั ออกแบับัโดย วิสที่.










ขณ์ะนนปลายเด้อนมนาคม พ.ศั. 2563
ต้วเลขผปวยรูายใหมในปรูะเที่ศัไที่ยยง










คงมอต้รูาเพ�มขนเรูอย ๆ ไมมใครู







สามารูถคาด้การูณ์วาจะลด้ลงเมอไรู


มาต้รูการูงด้ว้นหยด้สงกรูานต้ การูปด้









สถานบนเที่ง ผบ บารู หางสรูรูพสนคา

รูานอาหารู รูวมถงการูขอความรูวมมอ











ใหปรูะชิาชินอยแต้ในบานนน จะลด้

ผปวยรูายใหมหรูอไม กยงไมมใครูคาด้












การูณ์์ใด้ ๆ ได้้ที่งสิ�น (ด้รููปที่่ 2 แสด้ง


กรูาฟผูปวยรูายใหม ผูปวยสะสม และ









การูคาด้การูณ์์เมอเที่ยบกบสถต้จรูง




ชิวงปลายเด้อนมนาคม ถึง กลางเด้อน


เมษายน)







รปที่่ 2 แสุด้งกราฟผูปวยรายใหม ผูปวยสุะสุม และการคาด้การณเมือเที่่ยบกบสุถติิจ็รง







ชัวงปลายเด้อนม่นาคม ถ้ง กลางเด้อนเมษายน


รปที่่ 3 วถ่ชั่วติของคนไที่ยกอนการเกด้โรคอบติิใหม โควด้ 19









24



วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563

ตูควิามดนลบั ออกแบับัโดย วิสที่.




































ในขณ์ะที่ปรูะเที่ศัสาธารูณ์รูฐปรูะชิาชินจนมการูเต้รูยมพรูอม














สาหรูบผปวยโควด้ 19 ที่เกด้ขนเปนจานวนมาก ด้วยการูสรูางโรูง







พยาบาลชิวครูาว และการูเปล่ยนสนามกฬาในรูมเปนสถานพยาบาล



เพอรูองรูบผ้ปวย (ด้รููปที่ 4 การูสรูางโรูงพยาบาลชิวครูาวและการูใชิ ้















สนามกฬาในรูมเปนสถานพยาบาลของปรูะเที่ศัสาธารูณ์รูฐปรูะชิาชิน
จ่น)




รปที่่ 4 การสุรางโรงพยาบาลชััวคราว และการใชัสุนามก่ฬาในรม




เปนสุถานพยาบาลของประเที่ศสุาธิ์ารณรฐประชัาชันจ็่น










2. วสุที่. ออกแบบ และที่ด้สุอบสุมรรถนะการที่างานสุงประด้ษฐติความด้นลบที่โรงพยาบาลพระมงกฎเกลา


จากเหต้การูณ์์วกฤต้การูณ์์โรูคต้ด้เชิ่อที่างเด้นหายใจขนรูนแรูง หรู่อ โควด้ 19 ในปรูะเที่ศัไที่ย ที่่รูนแรูงด้้งกลาวขางต้้น วศัวกรูรูม



























สถานแหงปรูะเที่ศัไที่ย ในพรูะบรูมรูาชิูปถมภ ต้รูะหนกด้ และคาด้การูณ์วาปลายเด้อนเมษายนจะมคนไที่ยต้ด้เชิอสะสมไมนอยกวา























สองหมนคน (ด้รูปที่ 2 แสด้งกรูาฟผปวยรูายใหม ผปวยสะสม และการูด้าด้การูณ์เมอเที่ยบกบสถต้จรูงชิวงปลายเด้อนมนาคม ถง กลาง





เด้่อนเมษายน)







ด้้งนนสถานพยาบาลจะต้้องม่เครูองม่อแพที่ย์ที่่เพ่ยงพอ และบคลากรูที่างการูแพที่ย์จะต้้องได้้รู้บความปลอด้ภ้ยมากที่่สด้ ขณ์ะที่่ �







คณ์ะกรูรูมการูบรูหารู วสที่. เหนวาปรูะเที่ศัไที่ยจะต้้องปรูะสบก้บปญหาผู้ต้ด้เชิ่อเปนจานวนมากอยนน ว้นที่่ 20 ม่นาคม พ.ศั. 2563
















นายก วสที่. ได้้รู้บการูต้ด้ต้อใหเขาพบ พลต้รู่นายแพที่ยเหรู่ยญที่อง แนนหนา ผูอานวยการูโรูงพยาบาลมงกฎว้ฒนะ ซึ่งได้้ขอให วสที่.














ชิวยออกแบบหองความด้้นลบสาหรู้บเต้่ยงสนาม เพอรูองรู้บผูปวยโรูคโควด้ 19 จานวนมากที่่จะเกด้ขึนหล้งจากการูเขาพบพลต้รู่นาย



แพที่ยเหรู่ยญที่อง แนนหนา คณ์ะกรูรูมการูบรูหารู วสที่. เลงเหนถงความสาค้ญ และความจาเปนเรูงด้วนที่่จะต้้องชิวยบคลากรู ที่าง














ด้านการูแพที่ย ปรูะชิาชินที่อาจต้องเขารูกษาผปวยต้ด้เชิอที่างเด้นหายใจด้งกลาว จงได้จด้ต้งศันยวศัวกรูรูมสนบสนนต้านภย COVID-19































ขึน พรูอมที่งได้้ออกแบบตู้ความด้้นลบใหม่ว้ต้ถปรูะสงคที่่สาค้ญ ด้้งต้อไปน่ �







25


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ตูควิามดนลบั ออกแบับัโดย วิสที่.



ก. เพอใหความปลอด้ภ้ยก้บบคลากรูที่างด้้านการูแพที่ย ผูปวยต้ด้เชิ่อและการูค้ด้กรูอง












ข. เพอใหเปนไปต้ามการูรูะบายอากาศัสาหรู้บสถานพยาบาลต้ามมาต้รูฐาน ANSI/ASHRAE/ASHE Standard
170-2017 Ventilation of Health Care Facilities

ค. เพอลด้รูะยะหางรูะหวางเต้่ยงคนไขต้ด้เชิ่อ และเพอปรูะโยชินของการูค้ด้กรูองผูปวย


















ง. เปนว้สด้ที่่สามารูถหาได้้ภายในปรูะเที่ศัที่งหมด้ โด้ยจะต้้องได้้มาต้รูฐานและเปนไปต้าม พ.รู.บ. ควบคมอาคารู





ศันยวศัวกรูรูมสน้บสนนต้้านภ้ย COVID-19 ได้้ออกแบบตู้ความด้้นลบเปนขนาด้ 1.30 x 2.60 สง 2.20 เมต้รู ซึ่งเปนตู้ความ











ด้้นลบขนาด้พอด้่ก้บเต้่ยงสนาม(Stretcher) ขนาด้กวาง 0.60 เมต้รู ยาว 1.90 เมต้รู โด้ยจะต้้องใหอปกรูณ์์ด้้านการูแพที่ยอยด้้านนอก


ตู้ โครูงสรูางตู้เล่อกใชิเปนที่อพ่ว่ซึ่่ ชิน 13.5 เพอใหสามารูถรู้บแรูงลมหากตู้จาเปนต้้องต้ด้ต้งอย่ภายนอกอาคารูที่่ม่รูมเงา ใชิพลาสต้ก
































ชินด้ไมลามไฟ เปนไปต้ามมาต้รูฐานสขาภบาลอาหารู ที่นความรูอนได้้ไมนอยกวา 90 องศัาเซึ่ลเซึ่่ยส และที่นต้อสารูเคม่ ความหนา














0.50 มลลเมต้รู (500 ไมครูอน) ใชิเปนผน้งและหล้งคาตู้ สวนการูรูะบายอากาศัใหม่จานวนการูถายเที่อากาศัไมนอยกวา 12 ครูงต้อ

















ชิวโมง ความด้นอากาศัภายในต้ต้ากวาความด้นอากาศัโด้ยรูอบต้ไมนอยกวา 2.50 ปาสกาล (Pa) ใชิพด้ลมแบบต้ด้เพด้านเพยง 1 เครูอง







ซึ่งจะต้้องนาอากาศัภายในตู้ความด้้นลบไปที่ิงนอกอาคารูใหหางจากหนาต้าง ปรูะต้ หรู่อที่างเด้นสาธารูณ์ะไมนอยกวา 8.00 เมต้รูใน



















แนวนอน หรูอต้องพนหลงคาสงสด้ไมนอยกวา 3.00 เมต้รูในแนวด้�ง การูเลอกความสามารูถของพด้ลม และการูปรูะกอบต้ความด้นลบ


















เพอไมใหเกด้รูอยรูวมากเกนไป ต้จะต้องเรูมสรูางแรูงด้นจากเรูมต้นเปด้พด้ลม หรูอการูเขาออก จนถงความด้นที่ต้องการู 2.50 ปาสกาล
















(Pa) ได้้ภายใน 30 วนาที่่ และอณ์หภมภายในตู้ และภายนอกตู้้ไมควรูแต้กต้างก้นเกน 2 องศัาเซึ่ลเซึ่่ยส









การคานวณการถายเที่อากาศเพือใหเกด้ความสุะอาด้ติามมาติรฐานสุถานพยาบาลที่่ ANSI/ASHRAE/ASHE Standard











170-2017 Ventilation of Health Care Facilities จ็านวน 12 ครังติอชัั�วโมง ปรมาติรติูความด้นลบ 1.30 x 2.60 x 2.20




เมติร x 12 คร�งติอชัวโมง เที่่ากบ 89.23 ลูกบาศกเมติรติอฃั่วโมง ความด้ันอากาศภัายในห้องใหติากวา 2.50 ปาสุกาล (Pa) ติาม










กฎของกาซีสุมบรณ ์



P คอ ความด้นบรรยากาศคด้ที่่ 101,500 หนวยเปน ปาสุกาล (Pa)











V คอ ปรมาติรของติูความด้นลบคด้ที่่ 7.436 หนวยเปน ลกบาศกเมติร




m คอ มวลชัองอากาศติอเวลา หนวยเปน กโลกรมติอหนวยเวลา







PV = mRT


R คอ คาคงที่่ชัองอากาศม่คา 287.13 หนวยเปน J/(kg·K)











T คอ อณหภัมสุมบรณ หนวยเปนองศาเคลวน





ใชัความหนาแนนของอากาศ 1.143 กโลกรมติอลกบาศกเมติร






ปรมาณลม 90 ลกบาศกเมติรติอชัวโมง ความยาวที่อลมกาหนด้ใหยาวได้ 25 เมติร เพอใหเปนไปติามมาติรฐานที่กาหนด้ใหการปลอยอากาศที่งนอกอาคา




















ที่่ระยะ 8.00 เมติร

26


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ตูควิามดนลบั ออกแบับัโดย วิสที่.


















รูะหวางการูออกแบบตู้ความด้้นลบแบบที่่� 1 อยนน ศันย์ คณ์ะแพที่ยที่โรูงพยาบาลพรูะมงกฎได้ขอเพมขนาด้ต้เปน 1.90












วศัวกรูรูมสนบสนุนต้านภย COVID-19 ได้มโอกาสเข้าพบกรูม เมต้รู เพอรูองรู้บอปกรูณ์์การูแพที่ย์ และแบบที่่ม่หอง Ante ซึ่ง





















แพที่ยที่หารูบก (รูปที่ 5 วสที่. นาเสนอรูปแบบและการูใชิงาน ต้องขยายต้เปน 3.10 เมต้รู ด้งนนต้ความด้นลบของ วสที่. ซึ่งม 3















ต้ความด้นลบใหกบกรูมแพที่ยที่หารูบก) ซึ่งอยรูะหวางการูเต้รูยม ขนาด้ต้ามลกษณ์ะการูใชิงาน โด้ยที่กแบบจะต้องมความสะอาด้









ความพรูอมใหก้บโรูงพยาบาลส้งก้ด้กองที่้พบกจานวนหลายแหง ของอากาศัด้วยการูถายเที่อากาศัไมนอยกวา 12 ครูงต้อชิวโมง







ู้


่�



และมความปรูะสงค์ให วสที่. ปรูะกอบต้ความด้นลบเพอที่ด้ลอง รูกษาความด้นอากาศัภายในต้ไมน้อยกว่า 2.50 ปาสกาล (Pa)







ต้ด้ต้งที่่โรูงพยาบาลพรูะมงกฎเกลา และต้้องนาอากาศัเส่ยไปปลอยที่ิงนอกอาคารูใหหางจากหนาต้าง




















หลงจากต้ความด้นลบแบบที่ 1 กวาง 1.30 เมต้รู ยาว ปรูะต้ หรูอที่างเด้นสาธารูณ์ะไม่นอยกวา 8.00 เมต้รู ในแนวนอน









2.60 เมต้รู สง 2.20 เมต้รู ได้้ต้ด้ต้งที่่โรูงพยาบาลพรูะมงกฎเกลา หรู่อต้้องพนหล้งคาสงสด้ไมนอยกวา 3.00 เมต้รูในแนวด้ิ�ง










รปที่่ 5 วสุที่. นาเสุนอรปแบบ และการใชังานติูความด้นลบใหกบกรมแพที่ยที่หารบก








รปแบบติูความด้นลบของ วสุที่.










ต้ามวต้ถปรูะสงคด้งกลาว ม 3 แบบ โด้ยมขนาด้เหมาะสมกบลกษณ์ะการูใชิงานต้ความด้นลบที่ง 3 แบบ ของ วสที่. มขนาด้ด้ง








ต้อไปน่ �


• แบบที่่ 1 ขนาด้ 1.30 x 2.60 สง 2.20 เมต้รู รูาคา ปรูะมาณ์ 10,000 บาที่


• แบบที่่ 2 ขนาด้ 1.90 x 2.60 สง 2.20 เมต้รู รูาคา ปรูะมาณ์ 18,500 บาที่

• แบบที่่ 3 ขนาด้ 3.10 x 2.60 สง 2.20 เมต้รู รูาคา ปรูะมาณ์ 28,000 บาที่





ในโอกาสที่่ วสที่. ได้้นาตู้ความด้้นลบไปที่ด้สอบสมรูรูถนะการูที่างานที่่โรูงพยาบาลพรูะมงกฎเกลา กรูมแพที่ยที่หารูบกได้้เชิิญ



















กรูมสนบสนนบรูการูสขภาพ กรูะที่รูวงสาธารูณ์สขมารูวมเปนสกขพยาน ในการูที่ด้สอบสมรูรูถนะการูที่างานซึ่งผลปรูากฏิวาต้ความ






ด้้นลบสามารูถถายเที่อากาศัได้้ 19 ครูงต้อชิ้วโมง และได้้ความด้้นลบ 10 ปาสกาล (Pa) ผานการูที่ด้สอบ และเปนความโชิคด้่ของคน






ไที่ยที่�บรูษ้ที่ อต้าเลยนไที่ย ด้เวล๊อปเมนต้ จาก้ด้ (มหาชิน) ได้้บรูิจาคต้ความด้นลบใหกบกรูะที่รูวงสาธารูณ์สุขเพ�อใชิ้เรู่งด้่วนในสาม
















จ้งหว้ด้ชิายแด้นภาคใต้้ชิองไที่ยจานวน 44 ตู้ และใหกรูมแพที่ยที่หารูบกอ่กจานวน 88 ตู้รูวมที่งสิ�น 132 ตู้ ้

27



วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563

ตูควิามดนลบั ออกแบับัโดย วิสที่.








3. ติูความด้นลบของ วสุที่.นาไปใชัในสุถานพยาบาลและกจ็การที่่จ็าเปนที่ัวประเที่ศ




หล้งจากที่่ วสที่. ได้้ที่ด้สอบสมรูรูถนะการูที่างานตู้ความ












ด้นลบที่โรูงพยาบาลพรูะมงกุฎเกลา ต้งแต้วนที่ 31 มนาคม





พ.ศั. 2563 แลว ม่หลายหนวยงาน อาที่ มหาวที่ยาล้ยเที่คโนโลย ่





พรูะจอมเกลาพรูะนครูเหน่อ บจก.สยามคโบต้้าคอรูปอเรูชิ้น ต้าง












แสด้งความจานงและต้องการูผลต้ต้ความด้นลบต้ามคมอการูใชิซึ่ง


ภายในเล่มจะแสด้งแบบ รูายการูชิ�นสวน การูคำานวณ์ การู







ปรูะมาณ์รูาคา วิธการูใชิงาน การูด้แลบารูงรูกษา การูจด้เก็บและ








การูที่าลาย (ด้รูปที่ 6 คมอการูใชิ) มการูสงมอบใหสถานพยาบาล





ที่งปรูะเที่ศั








ต้ความด้นลบด้งกลาวปรูะกอบและสงมอบไปแลวกวา








299 ตู้ เปนการูบรูจาคที่งหมด้จากผูม่อปการูคณ์ ด้้งต้อไปน่ � รปที่่ 6 คูมอผูใชั ้













• บจ็ม.บรษที่ อติาเล่ยนไที่ย ด้่เวลอปเมนติ จานวน 200 ตู้ ้


• กรมแพที่ยที่หารบก กระที่รวงสุาธิ์ารณสุุข

กรงเที่พมหานคร
• สุปป. ลาว ประเที่ศกมพชัา






• มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่พระจ็อมเกลาพระนครเหนอ จานวน 29 ตู้ ้




• บจ็ก.สุยามคโบติาคอรปอเรชััน จานวน 20 ตู้ ้



• ธิ์นาคารเพือการสุงออกและนาเขาแหงประเที่ศไที่ย จานวน 10 ตู้ ้






• โรงพยาบาลเพชัรเวชั จานวน 20 ตู้ ้
• กลุมวศวกรอาสุาและสุาขาภัาค วสุที่. จานวน 6 ตู้ ้





• หนวยงานอืน ๆ จานวน 14 ตู้ ้

28

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563









ขณ์ะนภารูกจการูผลต้และสงมอบต้ความด้นลบของ วสที่.








ปรูะสบความสาเรูจด้วยด้ปรูะกอบกบสถานการูณ์ฉกเฉนโรูคต้ด้เชิอที่าง













เด้นหายใจขนรูนแรูง หรูอ โควด้ 19 ของไที่ยได้คลคลายลงไปมาก บาง





ว้นไมพบผู้ปวยรูายใหมในรูะยะเวลา 24 ชิ้วโมง ถ่อได้้วาหากคนไที่ยม่


วน้ยเปนไปอยางสมาเสมอ สวมหนากากอนาม้ย รู้กษารูะยะหางความ










ปลอด้ภย และลางมอบอย ๆ กจะที่าใหเกด้ความปลอด้ภยต้อต้วเอง และ







สงคม คณ์ะกรูรูมการูอานวยการู วสที่. จงมมต้ใหปด้ศันยวศัวกรูรูม













สน้บสนนต้้านภ้ย COVID-19 และภารูกจการูที่าตู้ความด้้นลบต้งแต้ว้นที่่ 28






เมษายน พ.ศั. 2563 ที่งน่ยกเวนภารูกจที่่ยงคงคาง น้บจากป พ.ศั. 2486 กวา 77 ป ี




















ที่วศัวกรูรูมสถานแหงปรูะเที่ศัไที่ย ในพรูะบรูมรูาชิปถมภ ยงคงยด้มนในอด้มการูณ์ และ









เจต้นารูมณ์์ที่่แนวแนในการูพ้ฒนาเศัรูษฐกจ ส้งคม และความปลอด้ภ้ย เพอใหปรูะเที่ศัเจรูญกาวหนา























ไปสอารูยปรูะเที่ศั รูวมที่้งใหปรูะชิาชินมชิวิต้ที่ผาสก รูะยะเวลาที่ผานมาวิศัวกรูไที่ยที่ได้ใชิความรูและปรูะสบการูณ์รูงสรูรูคสงใหม ๆ ให ้









เกด้ขึนในส้งคมไที่ยนาน้ปการู เชิน การูจ้ด้ที่ามาต้รูฐานที่างวชิาชิ่พวศัวกรูรูม กฎหมายขอบ้งค้บ และรูะเบ่ยบ ขึ�นภายในปรูะเที่ศัการูให ้







ความรูวมม่อรูะหวางปรูะเที่ศัในแถบภมภาคอาเซึ่่ยน (CAFEO เด้มค่อ FEISEAP) เพอพ้ฒนาและแลกเปลยนเที่คโนโลยรูะหวางปรูะเที่ศั














สาหรู้บภารูกจของ วสที่. ในครูงน่ ต้้องขอบคณ์ผูม่อปการูคณ์ที่กฝ้าย คณ์ะกรูรูมการูอานวยการู คณ์ะกรูรูมการูสาขาวศัวกรูรูม













เครูองกล วศัวกรูอาสา หน้งส่อพมพไที่ยรู้ฐ เจาหนาที่่ วสที่. ที่กคนที่่รูวมม่อรูวมแรูงก้นอยางเต้มที่่ เพอใหส้งคมไที่ยรูอด้พนจากวกฤต้ ิ














ครูงน่�โด้ยเรูว

ประวิัติิการศึกษา
➠ ปรญญาติร่ คณะวศวกรรมศาสุติร สุาขาวศวกรรมเครืองกล







➠ มหาวที่ยาลยเที่คโนโลย่พระจ็อมเกลาธิ์นบร่ พ.ศ. 2525


น่ายบุญพงษ์ กิจวิัฒน่าชััย
ติำาแหน่่งปัจจุบัน่


วิฒิิวิิศวิกรเครองกล เลข่ที่่ วิก.630







➠ กรรมการผูจ็ด้การ บรษที่ ไที่ยวศวกรที่่ปร้กษาที่างเลอก จ็ากด้









➠ ประธิ์านสุาขาวศวกรรมเครืองกล วศวกรรมสุถานแหงประเที่ศไที่ย ในพระบรมราชัปถมภั ์

ป่ พ.ศ. 2563-2565

โบราณกบังานวิิศวิกรรมไที่ย





























ตอนที่่� ๑ วศวกรรม กบสุุขอนามย และโรคภััยไขเจ็็บ



สวััสดีีครัับ พบกนฉบบแรูก เปน ชิ่วิต้ปรูะจำาว้น ได้้กินอาหารูสุก (จะเรู่ยกสุก แล้วพ้ฒนาเป็นอุที่ยานปรูะว้ต้ิศัาสต้รู์




หวงเวลายากลาบาก กองบรูรูณ์าธการูบอก เอาเผากินก็ได้้) ได้้ความอบอุน ม่สุขอนาม้ย ภูพรูะบาที่ปรูากฏิรู่องรูอยมนุษย์อยู่รูวมก้น







วา อยากใหเรูองรูาวเขาก้บสถานการูณ์์โรูค ปลอด้ภ้ยจากเชิ่อโรูค เที่คโนโลยค่อยพ้ฒนา เป็นชิุมชิน ซึ่้อนที่้บก้นมาหลายยุค ส้นนิษฐาน
รูะบาด้ปจจบน ที่วศัวกรูหลายสาขากาลง อยางชิ้าๆ แม้การูด้ำารูงชิ่วิต้ปรูะจำาว้น จะไม ว่า ต้้งแต้่ก่อนปรูะว้ต้ิศัาสต้รู์ เม่อรูาว สอง


















รูะด้มสรูรูพกาลง ชิวยคด้ ปรูะด้ษฐอปกรูณ์ สะด้วกสบายเชิ่นปัจจุบ้น แต้่มนุษย์ต้ามการู ถึงสามพ้นปีมาแล้ว เที่่ยบก้บปรูะว้ต้ิศัาสต้รู์






เครูองมอ ที่ต้องใชิอย่างจาเปนเรูงด้วน เปล่ยนแปลงของโลก เที่คโนโลย อย่างค่อย โลก รูาวปลายยค New Holocene เที่่ยบ












สาหรู้บการูแพที่ย และการูสาธารูณ์สขเพอ เป็นค่อยไป ว้นหนึง ค่อ ปัจจุบ้น ว้นที่่ ก้บการูแบ่งโด้ยอาศั้ยพ้ฒนาการูที่าง

















ต้อสกบโรูคอบต้ใหม เรูองโบรูาณ์กบงาน มนุษย์ปรูะสบปัญหาอุปสรูรูค หรู่อ เที่คโนโลยในยุคเหล็ก (Iron age) เที่่ยบก้บ



่�

วศัวกรูรูมไที่ยมอะไรูที่พอจะเลาได้ แต้ต้อง สภาวการูณ์์เลวรู้าย ที่้งสิ�งแวด้ล้อม พิบ้ต้ิภ้ย การูจำาแนกที่างมนุษย์ และส้งคมวที่ยาน่า







คอยๆ รูอฟน และเขยนใหอานสนก แต้มอง นาน้ปการู มนุษย ย้อนคิด้ และเพรู่ยกหา จะอยในชิ่วงเวลา Urban Society Period











เหนอด้่ต้ และพ้ฒนาการูของงานวศัวกรูรูม หลายเรู่�อง อาที่ิ พอเพ่ยง(Sufficiency) สรูุปว่ายุคน่� มนุษย์ผ่านส้งคมแบบปิด้








ไที่ย จะพยายามกลาวเฉพาะในวางแคบ ยงยน (Sustainability) อนุรู้กษ์พล้งงาน (Immobility) ที่่อาศั้ยเป็นกลุมเล็ก ๆ ยงชิ่พ




กอน คอเรูองรูาวในปรูะเที่ศัไที่ย หรูอใน (Energy conservation) อาคารูเข่ยว โด้ยล่าส้ต้ว์ มาเป็นส้งคมเกษต้รู รููจ้กเพาะ







อษาคเนย ์ (Green building) และ Minimal Design ปลูก ที่าเครู�องมอเครู�องใชิ้จากสารูด้ และ












แต้หากคอย ที่บที่วน กจะเหนวา ผคนใน เหลกในภายหลง มการูอย่รูวมเปนชิมชิน












มนษยด้กด้าบรูรูพยคกอนปรูะวต้- อด้่ต้ ล้วนได้้เรู่ยนรูู้ คำานึงถึงสิ�งเหล่าน่�มา ใหญ่ขึนม่รูะเบ่ยบโครูงสรู้างที่างส้งคมซึ่้บ





ศัาสต้รู ต้่อยุคปรูะว้ต้ศัาสต้รู แม้จะ แล้ว ยงพอม่รู่องรูอยให้เป็นแบบอย่าง หาไม่ ซึ่้อนขึ�น ล่วงถึง ว้ฒนธรูรูมที่วารูวด้่ ลพบุรู่




ไรูบ้นที่กอยางเปนรูะบบ พอจะอนมานจาก แล้ว โลกคงไม่ม่ว้นน่� (ขอม) สบต้อกนมาจนถงวฒนธรูรูมลานชิาง














รูอยรูอยหล้กฐานวา เปนส้งคมเลกๆ อาศัย หรูอยครูต้นโกสนที่รูต้อนต้น ต้ามลาด้บ











อยกบธรูรูมชิาต้ อยางธรูรูมชิาต้ เชิอกน บนเที่่อกเขาภพาน ในเขต้ปาสงวน แสด้งพฒนาการูที่างสงคม อยอาศัยองกบ





















วา การูคนพบไฟ ที่าใหเกด้อต้สากรูรูม แห่งชิาต้ิ อำาเภอบานผ่อ อุด้รูธาน่ กรูม ธรูรูมชิาต้ิ ใชิ้ว้สดุ้ธรูรูมชิาต้ิหรู่อด้้ด้แปลง

โลหการู และการูผลต้ อาที่ การูหลอโลหะ ศัิลปากรูได้้ขอใชิ้พ่นที่่ป่าสงวน ๓,๔๓๐ ไรู่ ธรูรูมชิาต้ิเที่่าที่่จำาเป็น เชิ่น ถำา โขด้หิน เพิง








(สมฤที่ธ – Bronze และเหลก) ภาชินะด้น จากกรูมป่าไม้ ปรูะกาศัขึ�นที่ะเบ่ยนเขต้โบ ผา ชิะง่อนผา ก้บไม้ ขุด้บ่อเก็บนำาไว้อุปโภค










เผา และปฏิิเสธไมได้้วา มนษยรููจ้กใชิไฟก้บ รูาณ์สถานฯ เม่อว้นที่่ ๒๘ เมษายน ๒๕๒๔ บรูิโภค (บ่อนำานางอุษา) แบ่งแยกอาคารู


30



วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563


โบราณกบังานวิิศวิกรรมไที่ย









ออกเป็นกลมต้ามลกษณ์ะใชิงานเป็น








สด้สวนไมปะปน อาที่ พานกอาศัย











(อปโมงคถาฤาษ ถาปเจ) เปนศัาสนสถาน


หรูอปรูะกอบพิธกรูรูม (หอนางอุสา






หรูอกนางอสา วด้ลกเขย วด้พอต้า) (หบ



ศัพนางอสา) หรูอยงฉาง (ฉางขาวนาย












พรูาน) และสถานที่่อนๆ (ถาพรูะ ถาวว -








ถาคน ภาพเขยนสโนนสาวเอ ถาชิาง ผา






เสด้จคอกมาที่าวบารูส คอกมานอยเพง

หนนกกรูะที่า(ม่ภาพเข่ยน ภาพคน สต้ว ์




การูปรูะที่้บฝ้าม่อ ส้ญล้กษณ์์ต้างๆ











รปที่่ ๑ สุิงปลกสุรางที่่องธิ์รรมชัาติิแบบยั�งยน หรอด้ด้แปลงเที่าที่่จ็าเปน





ในอที่ยานประวติิศาสุติรภัพระบาที่


ด้วยสภาพภมอากาศัรูอนชิน อาคารูที่อยสบาย หรูอมภาวะ















นาสบาย (Comfort zone) จงมการูจด้การูพลงงานอยางชิาญ







ฉลาด้ด้วยภมปญญา อาที่ บานเรูอนพนถนในที่กภมภาค มกยกพน





















สง กลางวนได้อยอาศัย หรูอใชิปรูะโยชินใต้ถน อาจปลกต้นไม หรูอ








ม่สรูะนา เพอชิวยพ้ด้พา (Convection) อากาศัรูอน ฤด้นาหลาก

















อพยพขนอยูอาศัยชินบน สภาวะปกต้ิ แสงแด้ด้ส่องถงพนด้นใต้ถน














บาน ถ่อเปนการูฆ่่าเชิ่อโรูคในด้น หรู่อบนด้น มใหเขาสูต้้วคนผูอย ู ่ รปที่่ ๒ ชัายคา ที่าวแขน หรอคายนในบานไที่ย










อาศัย อกที่งมลมชิวยพด้พา ไมกรูะด้านที่มรูองรูะหวางแผน ให ้












อากาศัถายเที่โด้ยอาศัยลมเย็น แที่นที่อากาศัรูอน ออกไปที่าง








หนาต้างที่รูะด้บคอนขางต้า (เพรูาะเด้มคนไที่ยนอนกบพน หรูอ










เต้ยงต้งเต้ยๆ) มหลงคาที่รูงจ�วสง และป�นลม หรูอหลงคาเพงแหงน
























มชิองลม ที่จะที่าใหอากาศัรูอนออกจากอาคารู หลงคามชิายคายน






ยาว ก้นแด้ด้ฝ้นได้้ด้่ แต้อาจต้้องม่เที่าแขน หรู่อค้นที่วยคา (รปที่่ ๒)





หากไมใชิปรูะโยชินใต้้ถนอาคารู จะกอผน้งที่บ กยงไมละเวนเจาะ








ชิ่องรูะบายอากาศั (รปที่ ๓) อาจใชิ้หน้าต้่างบานกรูะที่ง ที่�เปด้ปด้ รปที่่ ๓ ชัองระบายอากาศด้้านบน ที่่ผนง จ็ัวหลงคา





















งาย ปองก้นแด้ด้ฝ้นได้้ด้่ ใชิว้สด้ธรูรูมชิาต้ที่าเปล่อกอาคารู ที่งฝ้า หรอที่่ผนงกอด้้านลางอาคาร




31

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




โบราณกบังานวิิศวิกรรมไที่ย





ไมกรูะด้าน หล้งคาจาก หญาคา หรู่อหญาแฝ้ก นอกจากนาหน้ก











เบา ได้โครูงสรูางปรูะหยด้ ยงถายเที่ความรูอนได้ด้ นอกจากฝ้าปรูะ






กนกนฝ้นสาด้ ยงมฝ้าไหล ฝ้าสาหรูวด้ ที่เปนที่งชิองแสง ชิองลม










หรูอรูะบายอากาศั Dual – function) ต้ามหอง หรูอครูวไฟ






ถกสขอนาม้ย และงายด้่แที่ (รปที่่ ๔) โบรูาณ์สถานอารูยธรูรูมขอม




โด้ยเฉพาะหองบรูรูณ์าลย ซึ่งเกบคมภรู อปกรูณ์เครูองที่าพธ ่



















และยา (เกอบที่งหมด้คอ สมนไพรูจากธรูรูมชิาต้) แมใชิหนแลง









(ศัลาแลง - Ferricrete) หนที่รูายที่่กลงเปนลกมะหวด้ หรู่ออฐกอ รปที่่ ๔ ฝาไหล ฝาสุาหรวด้ที่่เปนที่ังชัองแสุง ชัองลม














กยงมชิองแสง และชิองลมใหอากาศัถายเที่เปนผลด้ต้อที่งผใชิ ้ หรอระบายอากาศ ในบานไที่ย










อาคารู และยาที่งหลายที่่เกบไว (รปที่่ ๕) จงเปนรููปแบบชิองแสง












และชิ่องรูะบายอากาศัแบบถาวรู ปรูากฏิสบเน�องยุคสุโขที่ย ถึงต้้น











รูต้นโกสนที่รู ไมมบานหนาต้าง ไมจาต้องเปด้ปด้ และไมต้องสน









เปล่องที่รู้พยากรูไม แมในชิวงที่่ม่สถาปต้ยกรูรูมยโรูปมาเจ่อปนใน









ปลายสม้ยกรูงศัรู่อยธยากไมเวน (รปที่่� ๖) ปจจบ้น โบรูาณ์สถาน





หรูออาคารูที่ย้งปรูากฏิชิองแสง และชิองรูะบายอากาศัน อาจต้ด้


่�





ต้งต้ะแกรูงลวด้ หรูอมงลวด้ ก็จะกนยง แมลง หรูอนก อาคารูบ้าน





















เรูอนปจจบน หากยงอาศัยแกนความรูความเชิยวชิาญในสภาพ รปที่่ ๕ ชัองแสุง และชัองระบายอากาศในผนงหนแลง หรอ










ภมปรูะเที่ศั และภมอากาศั หากไมที่งเคาอด้ต้ กจะมอายใชิงาน หนที่รายกล้งลกมะหวด้ในปราสุาที่อารยธิ์รรมขอม







ยาวนานได้ อาจเพรูาะอยแล้วสบาย น�นเอง แม้ในยามอที่กภย หรูอ









พบ้ต้ภ้ยอนใด้ กวอมแวม หรู่อจ้ด้การูงาย (รปที่่ ๗)






รปที่่ ๖ ชัองแสุง และชัองระบายอากาศในผนงอฐกอ รปที่่ ๗ อาคารบานเรอนปจ็จ็บน ที่่ไมที่ิงเคาอด้่ติ



















ยคสุุโขที่ย – อยธิ์ยา


32


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563


โบราณกบังานวิิศวิกรรมไที่ย











เม�อรูาวสิบปก่อน มเรู�องที่�หลายคน
ต้รูะหนก ค่อ Building Syndrome Die-
seases เชิ่อโรูค หรู่อโรูคที่่เกด้จากอาคารูที่่ �









ผด้สขล้กษณ์ะ ค่อ สรูางต้ด้ด้น ที่่แสงแด้ด้



สองไมถง รูะบายอากาศัไมได้ หรูอไม ่









สะด้วก เชิอโรูคในด้นถกที่าลายได้ยาก เป็น





เหต้ของกลมโรูคด้งกลาว อนมานได้วา กลม


















โรูคภยไขเจบเหลาน คอ กลมโรูคผวหนง รปที่่ ๘ บารายในอโรคยสุถาน
โรูคที่างเด้นอาหารู และโรูคที่างเด้ินหายใจ




ซึ่ารูาย ไมนอยเลย ที่ใหคนชิรูา คนพการู ที่ ุ








พลภาพ เด้ก หรูอที่ารูก อย่อาศัยชินลาง







เพรูาะบุคคลด้งกล่าว จะข�นลง ชิ�นบนไม ่




สะด้วก หรู่ออาจอ้นต้รูาย จงเปนเหม่อนซึ่า


เต้มใหกลมบคคลด้งกลาวเจบปวยด้วยโรูค












ภ้ยไขเจบที่่กลาวขางต้้น


น้ำำ�� คอที่รูพยากรูสาคญ งาน




วศัวกรูรูมในอด้่ต้ จงผกพ้นธก้บการูบรูหารู














จด้การูนาเปนอยางยง อาที่ กาสรูะนา หรูอ รปที่่ ๙ บารายในอารยธิ์รรมขอม และแนวคเมองสุุโขที่ย







บารูาย ในอารูยธรูรูมขอม ที่งอปโภคบรูโภค





ในชิมชิน หรู่อในอโรูคยสถาน (โรูงพยาบาล) ใน้ำรัชสมัยสมัเดี็จพรัะน้ำ�รั�ยณ์ แหมมแอนนา ในรู้ชิสม้ยสมเด้็จ











ซึ่งแบงแยกกนชิด้เจน ปองกนปนเปอน กรูงศัรู่อยธยา นอกจากเอกอ้ครูาชิฑ์ต้ ชิ่วา พรูะจอมเกล้าเจ้าอยห้ว ว่าการูกินข้าวโด้ย








(Contamination) หรูอการูแพรูกรูะจาย เลย เด้อรู โชิมองต้ แล้ว เอกอครูรูาชิฑ์ต้ ใชิ้ม่อเปิบ ไม่ถูกสุขล้กษณ์ะ แต้่กล้บไม่กล่าว










ของเชิอโรูค (รปที่ ๘) หรูอการูขด้คเมอง ฝ้รูงเศัสคนที่สอง คอ มองซึ่เออรู เด้อรู ลาล ถึงเรู่องคนไที่ยกินข้าวที่่กะเที่าะเปล่อกโด้ย
















(Moat) ในอารูยธรูรูมที่วารูาวด้ และ แบรู พานกในเมองไที่ยนาน บนที่กเกยวกบ การูต้ำา และฝ้ัด้ ไม่ได้้ใชิ้วิธ่ข้ด้ส่อยางปัจจุบ้น













อาณ์าจกรูสโขที่ย ด้นที่ขด้ ถกที่าเปนคนด้น เมองไที่ยไวมาก เปนมมมองของคนต้่าง ด้้งน้นข้าวที่่ยงคงม่ผิวส่หม่น ๆ (ซึ่้อมม่อ)




















หรูอเปนฐานกาแพงเมอง อาจมคเมองที่ง ปรูะเที่ศั บางกนาจะเปนความเขาใจคลาด้ เม่�อหุงจะได้้ข้าวที่่�ออกจะเหน่ยว ม่คุณ์
















ชินนอก และชินใน (เชิน คเมองสโขที่ย) ่ � ่ ่ ิ ็ ู ่ ้ ู ุ






รปที่่ ๗ อาคารบานเรอนปจ็จ็บน ที่่ไมที่ิงเคาอด้่ติ เคลอนเชินชิวต้ความเปนอยของผคน หง ปรูะโยชิน์น้ก อาจที่ำาให้คนไที่ยม่พลานาม้ย













เพ�อใชิที่�งขวางที่พข้าศัึก (สนนิษฐานว่า ขาว จบปลาไหลจากแม่นาต้วสกเที่าที่อน สมบูรูณ์์ ม่ภูมิต้้านที่านโรูค คงเหม่อนก้บ









ใชิสะพานหก - Bascule bridge) หรูอ แขนมาปรูงกนกบขาว (ปลาไหลไที่ยต้วไมโต้ ต้่างชิาต้ิมองปรูะเที่ศัไที่ยแบบต้่างจิต้ต้่างใจ











สะพานหน -Swing bridge เสยด้วย) ใชิ ้ ขนาด้นน ปลาต้วเของสด้า ๆ ที่วานาจะเปน ในการูบรูิหารูจ้ด้การูสถานการูณ์์ COVID












สญจรู หรูอคมนาคมขนสง ใชิอปโภคบรูโภค ปลาด้ก หรูอปลาชิอนเสยมากกวา) คนไที่ย – 19














จนถงเพอสนที่นาการู กฬา หรูอปรูะเพณ์ ่ ถกคนต้างชิาต้มองเรูอยมาจนถงบนที่กของ













(รปที่่ ๙)
33

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563



โบราณกบังานวิิศวิกรรมไที่ย















สมัเดีจพรัะน้ำ�รั�ยณ์์มัห�รั�ช ได้้โปรูด้เกลา ฯ ใหชิาวฝ้รู้งเศัส และชิาวอต้าเล่ยน วางที่อสงนาจากอางซึ่้บเหลกเขาไปในเขต้









พรูะนารูายณ์์รูาชินเวศัน ลพบรู่ ยงม่รูองรูอย บอกออฐฉาบปน (ถ้งกรูอง ถ้งต้กต้ะกอน แลรูองรูอยครูาบสารูที่่ใชิกวนต้ะกอน หรู่อฆ่่า


























เชิอโรูคในนา เชิน สารูสม หรูอคลอรูน) ที่อด้นเผา พบรูองรูอยรูะบบปรูะปา ในเขต้พรูะรูาชิวงเด้มในกรูงศัรูอยธยาด้วย อาจถอวา เปน








ความคด้ลายค เรูองวศัวกรูรูมปรูะปา ที่ที่าใหมนาสะอาด้อปโภคบรูโภค แมจะยงไมแพรูหลายไปที่งปรูะเที่ศั (รปที่ ๑๐) อยางไรูกต้าม


























ในการูขด้ค้นที่างปรูะว้ต้ศัาสต้รู ที่�เมองสุโขที่ย ก็พบรู่องรูอยของรูะบบปรูะปาที่�เก่าแก่กว่าน�น มการูวางที่่อเอานาจากแหล่งนาในหุบเขา






















นอกเม่อง (ที่านบพรูะรูวง) เขามาเกบไวในแหลงก้กเกบนาที่่กรูะจายอยในเม่องสโขที่้ย (เรู่ยก ต้รูะพ้ง) นาปรูะหลาด้ใจวา สโขที่้ยไมได้้
















ใชิที่อด้นเผา เพรูาะปรูากฏิที่อเซึ่รูามก หรูอที่อเคลอบ แต้กมแปลกเลยวา ที่งรูะบบปรูะปา และที่อเคลอบ เปนการูเรูยนรูถายที่อด้










เที่คโนโลยจน หรูอโรูมน เพรูาะเรูาเรูยนรูการูเคลอบจากจน (ถ้วยชิามสงคโลก หรูอชินสวนปรูะด้บวด้วาอารูาม) และไม่ไกลจากเส้นที่าง
















ผานของเที่คโนโลยโรูม้น รูะหวางต้าก ถงศัรู่เที่พ (พบเหรู่ยญเงน ต้ะเก่ยงโรูม้น และอน ๆ) (รปที่่ ๑๑)












รปที่่ ๑๐ ติระพง และที่อเซีรามก พบในเมองสุุโขที่ย
รปที่่ ๑๑ ถงประปา และที่อด้นเผาที่่นารายณราชันเวศน ์








34


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563


โบราณกบังานวิิศวิกรรมไที่ย















ได้้กลาวถง ไฟ ด้น ลม นา ธรูรูมชิาต้ ก้บพ้ฒนาการูงาน ศัรูอยุธยา ที่�กล่าวถึงเหตุ้กล่ยุค อาเพศั ถึงครูาวจะต้้องเสยบ้าน








วศัวกรูรูม พอส้งเขปแลว และเพิมเต้ม วา งานวศัวกรูรูมในอด้่ต้ เมอง (เด้มกลาวสบขานวา เปน “คาใหการูของขนหลวงหาวด้”












ู้




ู้





กบโรูคภยไขเจบ หรูอการูสาธารูณ์สข อาจมขอได้เปรูยบเรูอง หรูอ พรูะเจาอที่มพรู แต้คงเปนผใด้สกคนที่ไมปรูากฏินาม ผคน
่�
























ปรูะชิากรูย้งไมมาก และไม่หนาแนน Social Distancing จึงไม บอกเลากนสบต้อมาถงยุคกรูงรูต้นโกสนที่รู ใหเขาใจวาเปนคา











ยากเยน อ่กที่งกรูะบวนคด้ ออกแบบ ปลกสรูาง หรู่อใชิงาน ยง ใหการูของขนหลวงหาวด้) เนอความในเพลงยาวฯ สอด้คลองคา
















เปนไปในเชิิงปองก้น (Passive) มากกวาเชิิงกาวหนา (Active) ใชิ ที่านายของพรูะเจาเส่อ ที่่วา บานเม่องจะอาเพศั เกด้กล่ยุค ที่ก













เที่คโนโลย่ที่่อธบายงาย ไมซึ่้บซึ่อน จงกลาวได้้วา เปน Minimal อยางจะผ้นเปลยน ที่งธรูรูมชิาต้ คน สรูรูพส้ต้ว ความด้่ ความชิ้ว

















Design พอเพยง และย�งยน ไมใชิการูแกปญหาที่ปลายเหตุ้ ซึ่ง ด้วยเหต้ในรูชิสมยของพรูะองค และในที่ก ๆ รูชิกาลต้อนปลายยค




























ยอมไมมที่างคลาถงรูากเหง้าแหงปญหา สงปรูะด้ิษฐคด้คนที่าง กรูงศัรูอยธยา เกด้กบฏิอยเนอง ๆ ที่านคงพอคาด้เด้าได้วา ที่กครูง � ้






















วศัวกรูรูมที่่�ชิวยสน้บสนนสูภ้ย COVID – 19 กเชินก้น ยงคงต้้อง ผกอกบฏิจะอางสาเหต้ความเหลอมลาต้าสงในสงคม ความลาบาก


















ศักษาพฒนากนต้อไป กรูะบวนที่างาน ที่ยคหนง เมอสามสบป ยากไรู และที่กขเขญ อยต้ธรูรูม เอารูด้เอาเปรูยบ ใหปรูะชิาชิน




















กอน เรูากลาวถงการู Re – Engineering แต้ว้นน่� อ่กครูงที่่เรูา หลงเชิอ และสน้บสนน ในยคด้้งกลาว ยงม่ความเชิอ หรู่อศัรู้ที่ธา









ต้้องคด้ที่บที่วน (Re – thinking) สิ�งที่่เรูาเพ่ยงเคยพด้ถง เที่านน “พรูะมาลย” ซึ่งเชิอวาเปนฑ์ต้จากพรูะศัรูอารูยเมต้รูย จะเสด้จนา













เรูากาลงปรูะสบ New – Normal ที่จะต้องรูจกเขาใจ Minimal ความรูมเยนเปนสข ความอด้มมงคง มายงโลกมนษย เชิอมโยงไป


























Design, Sustainability หรูอแมแต้ Social Distancing และอน ๆ โปรูด้ถงนรูก กอนที่พรูะศัรูอารูยเมต้รูย จะเสด้จมาโปรูด้สต้ว เปน























อ่กหลายคา แบบจาขึนใจ พรูะพที่ธเจาองคต้อไปในปพที่ธศักรูาชิ ๕,๐๐๐ กอปรูกบในที่าง




โหรูาศัาสต้รู์กเปนครูาวเครูาะห์ที่ด้วงเมองคบขน ผคนรูะสำารูะสาย



















สด้ที่ายคงเปนเรูองเขยนใหคด้ หรูอปลง กสด้แต้ใจ วฏิจกรู แต้กต้นหน่ต้าย ฝ้ายที่หารู ขนศักไมเปนอ้นรูบ ผูเปนธงไชิยแหง






















ความโชิครูาย อปมาอปไมย เหม่อนโรูครูะบาด้ ที่งอหวาหต้กโรูค กองที่้พ ไมนาพาการูศักสงครูาม ผนวกก้บพมากรู่ธาที่้พ หมาย










กาฬโรูค เอด้ส มาจนถง COVID – 19 ที่่สรูางความปันปวนใหที่ง บด้ใหกรูงศัรู่อยธยาแหลกรูาญ ลวนเปนเหต้ใหกรูงศัรู่อยธยาต้้อง


















โลกมาเปนลาด้้บ เม่องไที่ย กใชิ เมอป พ.ศั. ๒๓๐๑ ด้าวหางฮัล ถงแกกาลอวสาน มอาจฟนฟ กอบกใหด้จเด้มได้ เขญเปน













เลย มาเยอนโลกเหมอนเปนลางรูาย (ครูงถด้มา ด้าวหางฮัลเลย มหศัจรูรูยสบหกปรูะการู ในเพลงยาวพยากรูณ์กรูงศัรูอยธยา




















กล้บมาเยอนโลกในปพ.ศั. ๒๓๗๗ พ.ศั. ๒๔๕๓ และ พ.ศั. ๒๕๒๙ ต้ด้ต้อนมาเพยงบางเหต้ คอ อาเพศัที่เกด้จากธรูรูมชิาต้ สาหรูบยค









ในครูงพ.ศั. ๒๔๕๓ มโรูครูะบาด้ในไที่ย และเปนชิวงกอนสนรูชิ น ต้้องบอกว่า ทีุ่กส�งที่�เกด้ มกมเหตุ้จากการูกรูะที่าของมนุษย ์


























สมยของรูชิกาลที่ ๕) พรูะเจาอยหวบรูมโกศัปรูะชิวรูหนกกอน ฤด้กาลเปลยนไป ที่งฝ้นฟาผด้ฤด้ อที่กภย หรูอภยแลง สายนาแหง ้





































สวรูรูคต้ พรูะเจาอที่มพรูขนเสวยรูาชิยได้สกเด้อนเศัษ พรูะเชิษฐา เหอด้ แผนด้น หรูอภเขาถลม เคลอนต้ว หรูอแมกรูะที่งโรูครูะบาด้











คอกรูมขนอนรูกษมนต้รูกชิงรูาชิสมบต้ เสด้จขนปรูะที่บบน ที่่มาก้บส้ต้ว หรู่อส้ต้วเปนพาหะ ที่่ที่ว่ความรูนแรูง


















พรูะที่นงสรูยามรูนที่รู จงที่รูงพรูะนามพรูะเจาเอกที่ศัน หรูอ ฯลฯ ค่้อเด้อนดาวัดนฟาจะอาเพื้ด อบััต่เหต่เกดทั�วัทกท่ศาน






























พรูะที่นงสรูยาอมรูนที่รู (บางเรูยกขนหลวงขเรูอน เหต้เพรูาะวา มหาเมฆจะลกเป็็นเพื้ลงกาล เกดนมต่พื้ศดานทกบัานเม้อง

















กนวาที่รูงเปนโรูคเรูอน สมยนนคงรูกษาไมได้แหละนะ) พรูะเจา พื้ระค่งค่าจะแดงเด้อดดังเล้อดนก อกแผ่่นดนเป็็นบัาฟาจะเหล้อง ฯลฯ










อที่มพรู ก็ที่รูงผนวชิหนรูาชิภย (จงเรูยกพรูะองค์อกพรูะนามหน�ง มใช่่เทศกาลรอนกรอนระงม มใช่่เทศกาลลมลมกพื้ด
















วา ขนหลวงหาว้ด้) ที่่ว้ด้โพธที่อง ไปปรูะที่้บอยที่่ต้าหน้กคาหยาด้ มใช่่เทศกาลหนาวักหนาวัพื้น มใช่่เทศกาลฝนฝนกอบััต่….












ในทีุ่งนา ต้าบลคาหยาด้ อาเภอโพธที่อง เพลงยาวพยากรูณ์์กรูง ุ





35
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์











ทำำ�คว�มเข้้�ใจก�รระบ�ดข้องโรคโควิด-19




ผ่่�นแบบจำ�ลองทำ�งคณิตศ�สตร ์

Understanding Pandemic of COVID-19 via Mathematical Model






รศ.ดร.สว์ทย์ ก์ระว์ทยา









































ความนา
















อย่างที่เรูาที่กคนที่รูาบกนด้วาโรูคโควด้-19 (COVID-19) เป็นโรูครูะบาด้รูุนแรูงที่สงผลกรูะที่บต้่อการูด้าเนนชิวต้ของเรูาที่กคน
















โด้ยโรูคน�เกด้จากโคโรูนาไวรูสสายพนธใหม่ที่ชิ�อว่า SARS-CoV-2 ที่ถอกาเนด้ข�นในเมองอ่ฮั�น (Wuhan) มณ์ฑ์ลหูเป่ย (Hubei) ปรูะเที่ศั







จน [1] การูอบต้ใหมของเชิอโรูคนได้ถกรูายงานไปยงองคการูอนามยโลก (World Health Organization: WHO) ในวนที่ 31 ธนวาคม


























พ.ศั. 2562 [2,3] และต้อมาเมอโรูคนได้รูะบาด้รูนแรูงมากขนในชิวงเด้อนมกรูาคม-มนาคม ที่างองคการูอนามยโลกจงได้กาหนด้ใหโรูค












โควด้-19 น่เปนโรูครูะบาด้รูายแรูง (Pandemic) ในว้นที่่ 12 ม่นาคม พ.ศั. 2563 ซึ่งสาหรู้บเชิ่อไวรู้สน่จะรูะบาด้ได้้โด้ยงายจากมนษย ์







สมนุษย ผ่านการูต้ด้ต้่อผ่านลมหายใจและสารูค้ด้หล�ง เชิ่น นามูก นาลายและนาต้า เน�องจากปรูะเที่ศัไที่ยเปด้รูบนกที่่องเที่�ยวจาก














36


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์


ปรูะเที่ศัจนเปนจานวนมาก ที่าใหปรูะเที่ศัไที่ยเปนปรูะเที่ศัแรูกใน ปรูะเที่ศัจนโด้ยการูพลอต้ในลอกสเกลและเปรูยบเที่ยบเพอ

















โลกที่พบผต้ด้เชิอโรูคโควด้-19 นอกอาณ์าเขต้ปรูะเที่ศัจนในชิวง แยกแยะปรูะชิากรูเปนสองกลม ซึ่งการูรูะบาด้ในปรูะเที่ศัจนที่ม ่





























เด้อนมกรูาคม พ.ศั. 2563 ซึ่งสถานการูณ์การูรูะบาด้รูายวนที่ แนวโนมวาใกลจะสนสด้ลงแลว โด้ยหากมองยอนกลบไปจะเหนได้ ้












รูนแรูงที่สด้ของปรูะเที่ศัไที่ยนบจนถงปจจบน คอ มผต้ด้เชิอต้อวน วา ในชิวงแรูก (มกรูาคม – กมภาพนธ) การูรูะบาด้ที่งหมด้เกด้ขน
































สงสด้ 188 รูาย (ณ์ ว้นที่่ 28 ม่นาคม พ.ศั. 2563) และที่กฝ้าย ในปรูะเที่ศัจน ด้งนนการูศักษามาต้รูการูและแนวปฏิบต้ต้าง ๆ











กาล้งด้าเนนมาต้รูการูต้าง ๆ เพอยบยงการูรูะบาด้ของโรูคน่ การู จากข้อมลของปรูะเที่ศัจนจงเปนแนวที่างหน�งในการูกำาหนด้














ที่าความเขาใจการูรูะบาด้ของโรูคโควด้-19 ผานการูวเครูาะห มาต้รูการูต้าง ๆ ในปรูะเที่ศัไที่ยในชิวงที่่ผานมา










ขอมลผต้ด้เชิอและแบบจาลองที่างคณ์ต้ศัาสต้รูเปนแนวที่างที่ถก






นามาใชิปรูะกอบการูต้ด้สินใจในการูกำาหนด้มาต้รูการูเหล่านน




บที่ความนจะแสด้งแนวคด้พนฐานด้านวชิาการูของการูวเครูาะห ์









ขอมลและแบบจำาลองที่นาใชิในการูที่าความเขาใจการูรูะบาด้ของ







โรูคโควด้-19 น่ �



1. ขอมลสุถานการณโลกในภัาพรวม



จากสถานการูณ์ความรูนแรูงของการูรูะบาด้ที่เกด้ขน











ในโลกในชิวงเด้อนมนาคม พ.ศั. 2563 เปนต้นมา ที่าใหหลาย





หนวยงานที่้งในและต้่างปรูะเที่ศั จด้ที่ำาฐานขอมลออนไลน์ที่เกบ









ขอมลเกยวกบการูรูะบาด้น โด้ยขอมลผต้ด้เชิอโควด้-19 ที่มการู















ยนยนแลวของแต้ละปรูะเที่ศั ได้ถกรูวบรูวมโด้ยองคการูอนามย










โลกและมการูอพเด้ต้สถานการูณ์เปนรูายงานออนไลน ต้งแต้วนที่ ่ �









21 มกรูาคม พ.ศั. 2563 เป็นต้นมา [2,3] รูปที่ 1(ก) แสด้งข้อมล






ภาพรูวมของการูรูะบาด้น โด้ยแบงกลมเปนขอมลจานวนผต้ด้เชิอ















สะสม (Confirmed Case) ขอมลจานวนผที่รูกษาหายสะสม









(Recovered) และขอมลจานวนผเสยชิวต้สะสม (Death) ซึ่ง

















ขอมลเหลานจะมลกษณ์ะที่เพมขนต้ามเวลา โด้ยเรูาจะถอวาการู






รูะบาด้สนสด้ลงเมอปรูมาณ์ที่งสามนเปนคาคงที่ ไมขนกบเวลาอก




















ต้อไป นอกจากจานวนผที่เกยวของกบการูรูะบาด้น เรูายงสนใจ















สถานที่ที่เกด้การูรูะบาด้ด้วย โด้ยแผนที่โลกที่แสด้งในรูปด้านซึ่าย


















บนของรูปที่ 1(ก) บงบอกจานวนผต้ด้เชิอสะสมที่มในแต้ละ


ปรูะเที่ศัด้้วยความเข้มส่ จากข้อมูลปัจจบ้น (ว้นที่่ 13 เมษายน พ.ศั.
2563) จะเหนได้วา การูรูะบาด้ได้ขยายไปย้งที่กที่วปที่วโลกแลว รปที่ 1 กราฟแสุด้งจ็ำานวนผติด้เชัอสุะสุม (Confirmed) จ็ำานวน






















และมแนวโนมที่กาลงจะรูะบาด้ในปรูะเที่ศัที่ยงไมเกด้การูรูะบาด้ ผูที่่รกษาหายสุะสุม (Recovered) และ จ็านวนผูเสุ่ยชั่วติสุะสุม














ซึ่งสวนใหญค่อปรูะเที่ศัในแถบที่ว่ปแอฟรูกา Death) ติงแติวนที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563 ถงปจ็จ็บน (13

















เปนที่ที่รูาบกนด้วาการูรูะบาด้ของโควด้-19 เกด้ขนครูงแรูกใน เมษายน พ.ศ. 2563) โด้ยรป (ก) แสุด้งในสุเกลเชังเสุน และรป















ปรูะเที่ศัจน รูปที่ 1(ข) แสด้งสถานการูณ์การูรูะบาด้ในโลกและใน (ข) แสุด้งในล็อกสุเกลและแสุด้งข้อมลของประเที่ศจ็นด้วย รป








เล็กในรูป (ก) แสุด้งแผนที่โลกที่บ่งบอกจ็านวนผติด้เชั�อสุะสุมที่ม ่










ในแติละประเที่ศด้วยความเขมของสุแด้ง (รปเลกนนามาจ็าก [4]








ณ วนที่่� 13 เมษายน พ.ศ. 2563) ิ 37


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563


ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์






2. ขอมลจ็านวนผูติิด้เชัือในภัมภัาคติาง ๆ







การูพจารูณ์าการูรูะบาด้ในแต้ละภมภาคสามารูถที่าได้โด้ย





การูพลอต้ขอมลจานวนผต้ด้เชิอสะสมในรูายปรูะเที่ศั รูปที่ 2


















แสด้งขอมลน่ของแต้ละปรูะเที่ศัในโลก (ขอมลจาก [3,5]) โด้ยรููป









ที่ 2(ก) คอขอมลของปรูะเที่ศัสหรูฐอเมรูกาและปรูะเที่ศัอน ๆ ที่ว


โลก รููปที่่ 2(ข) ค่อขอมลของปรูะเที่ศัในแถบที่ว่ปยโรูปและ รููปที่่ �





2(ค) คอขอมลของปรูะเที่ศัในกลมปรูะเที่ศัอาเซึ่ยน หากเปรูยบ











เที่ยบขอมลน ณ์ ปจจบน จะพบวาปรูะเที่ศัอเมรูกาเปนปรูะเที่ศัที่ � ่




















มผต้ด้เชิอสะสมสงสด้และย้งมแนวโนมที่จะเพมขนอยต้อไป ใน















ขณ์ะที่บางปรูะเที่ศัเชิน เกาหลใต้ (ในรูปที่ 2(ก)) มการูต้ด้เชิออยาง











รูวด้เรูวในจานวนที่มากในต้อนแรูกแต้ปจจบนการูรูะบาด้มแนว

โนมที่่จะหยด้ลงแลวเชินเด้่ยวก้บปรูะเที่ศัจ่น (รููปที่่ 1(ข)) จากรููป











ที่่ 2 จะเหนได้้วา การูเรูิมต้้นของการูรูะบาด้ในแต้ละปรูะเที่ศัเกด้

ขนไมพรูอมกน โด้ยหลงจากที่เรูมรูะบาด้ในปรูะเที่ศัน้น ๆ แล้ว(คอ












การูเรูมมจานวนผต้ด้เชิอสะสมเกนหนงรูอยรูายโด้ยปรูะมาณ์)























ความเรูวในการูแพรูเชิอกสามารูถแสด้งได้ด้วยการูเพ�มขนของ












จานวนผต้ด้เชิอในแต้ละวนของแต้ละปรูะเที่ศั โด้ยความเรูวนเปน


สงที่นามาใชิกาหนด้มาต้รูการูที่นามาใชิในแต้ละปรูะเที่ศัเพอหยด้














ยงการูรูะบาด้












รปที่ 2 กราฟแสุด้งจ็านวนผติด้เชัอสุะสุมติามเวลาในแติละประเที่ศ

(ก) ประเที่ศสุหรฐอเมรกาและประเที่ศอน ๆ ที่วโลก





(ข) ประเที่ศในแถบที่ว่ปยโรป และ (ค) ประเที่ศในกลุ่มประเที่ศ












อาเซียน (เสุนนอนประในแติละรปแสุด้งระด้บจ็านวนผติด้เชัอ
สุะสุมหน้งรอยราย)


38

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563





ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์







3. ขอมลจ็านวนผูติิด้เชัือในประเที่ศไที่ย



สาหรูบปรูะเที่ศัไที่ยซึ่งเปนหนงในปรูะเที่ศัอาเซึ่ยน กรูาฟ





















การูเปลยนแปลงของจานวนผต้ด้เชิอสะสม ผที่รูกษาหายและผเสย
ชิ่วต้ต้ามเวลาน�น แสด้งในรููปที่ 3(ก) และ 3(ข) โด้ยในต้อนเรู�มต้น






ของการูรูะบาด้ของโรูคน (ชิวงต้นเด้อนมนาคม) การูเพมขนของ















จานวนผต้ด้เชิอสะสมเปนไปอยางรูวด้เรูวและมลกษณ์ะเปนแบบ

















ที่วคณ์ จานวนผต้ด้เชิอสะสมของปรูะเที่ศัไที่ยม่คาเกนหนงรูอย










คนในว้นที่่ 15 ม่นาคม และม่แนวโนมเพิ�มขึน อยางต้อเนอง ซึ่ง





ขอมลนสามารูถในมาฟิต้ด้วยเอกซึ่โพเนนเชิยลฟงกชินและพลอต้













ได้เปนกรูาฟเสนต้รูงในสเกลลอก (ด้เสนต้รูงที่บในรูปที่ 3(ก)) จาก





ความสมพนธนที่าให้เรูาสามารูถที่ำานายจานวนผต้ิด้เชิอสะสมใน














อนาคต้ได้ ซึ่งจากขอมลการูคาด้การูณ์นที่าใหหลายฝ้ายวต้กวา























จานวนผ้ต้ด้เชิอจะเพมขนสงมากถงรูะด้บแสนรูาย ซึ่งจะที่าให ้








ที่รูพยากรูด้านสาธารูณ์สขของปรูะเที่ศัไที่ยไมเพยงพอต้อการู





รูกษาโรูค และนามาสมาต้รูการูต้่าง ๆ ที่�ใชิ้ในการูจาก้ด้การูรูะบาด้

ของโรูคในเวลาต้อมา โด้ยขอมลขณ์ะที่่เข่ยนบที่ความน่ (ว้นที่่ 13









เมษายน พ.ศั. 2563) จานวนผูต้ด้เชิ่อสะสมของปรูะเที่ศัไที่ย ค่อ


2579 รูาย และแนวโน้มการูเพมขนมลกษณ์ะลด้ลง ซึ่งความ














ู้
สมพนธของจานวนผต้ิด้เชิอสะสมต้่อเวลานไม่เปนลกษณ์ะที่วคูณ์







หรู่อเปนฟงกชิ้นเอกซึ่โพเนนเชิ่ยลแลว ด้้งแสด้งในรููปที่่ 3(ก) และ



3(ข) แนวที่างหน�งในการูที่าความเข้าใจเก�ยวกบการูรูะบาด้ในเวลา















ต้อมาจงเปนการูใชิแบบจาลองที่สอด้คลองกบความเปนจรูงมาก
















ขน ซึ่งจะที่าใหได้ผลการูคาด้การูณ์ที่มความถกต้องมากย�งขนด้วย




โด้ยแบบจาลองหน�งที่มการูนามาใชิม่ชิ�อว่า แบบจาลอง SIR [6-8]







และมรูายละเอยด้ที่จะกลาวถงในหวขอต้อไป โด้ยรูปที่ 3(ค) แสด้ง












ปรูมาณ์สด้สวนปรูะชิากรูต้ามแบบจาลอง SIR ของขอมลการู







รูะบาด้ของโรูคโควด้-19 ในปรูะเที่ศัไที่ย ต้งแต้ว้นที่่ 14 ม่นาคม






จนถงปจจบ้น












รปที่ 3 กราฟแสุด้งจ็านวนผติด้เชัอสุะสุม ผที่รกษาหายสุะสุมและ




ผเสุยชัวติสุะสุม ติามเวลาของประเที่ศไที่ย ใน (ก) ล็อกสุเกล และ





(ข) สุเกลเชังเสุน (ค) การเปลยนแปลงของสุด้สุวนประชัากรที่ ่ �




เกยวของกบการระบาด้น�ติามแบบจ็ำาลอง SIR โด้ยกำาหนด้ให้





จ็านวนประชัากรที่ังหมด้ NT คอ 3000



39
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563







ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์


4. แบบจ็าลอง SIR


แบบจาลองที่างคณ์ต้ศัาสต้รู์ที่นิยมนามาใชิ้ในการูอธิบาย






การูเปลยนแปลงของจานวนผที่เกยวของกบการูรูะบาด้ของโรูคคอ















แบบจาลอง SIR [6-8] ซึ่งแนวคด้ต้ามแบบจาลองนเรูมจากการู







แบงกลุมปรูะชิากรู (Compartmental Model) แลวอธบายการู





เปลยนแปลงจำานวนของปรูะชิากรูในกลมนน ๆ ด้วยการูสมการู
















เชิงอนพนธ โด้ยในแบบจาลอง SIR นจะมการูแบงกลมผเกยวของ





เปน 3 กลม คอ กลมผที่เสยงต้อการูต้ิด้โรูค S (Susceptible) กลม

















ผูที่่ต้ด้โรูค I (Infected) และ กลุมผูที่่หายจากการูต้ด้โรูค R (Re-


covered หรูอ Removed) โด้ยกลมสด้ที่ายนจะเปนกลมรูวมของ













ผูที่่รู้กษาหายและผูที่่เส่ยชิ่วต้จากโรูคด้้วย รููปที่่ 4 แสด้งแผนภาพ



การูแบงกลุมปรูะชิากรูต้ามแบบจาลอง SIR น่ �















รปที่่ 4 แผนภัาพแสุด้งความสุมพนธิ์ของกลุ่มผูที่่เกยวของกบการแพรกระจ็ายของโรค


ระบาด้ในแบบจ็าลอง SIR (คด้ติอประชัากรรวม NT คงที่่�)


สมมต้ฐานเบองต้นของแบบจาลอง SIR คอ เมอเกด้โรูค ปรูะชิากรูค่อ I(t) และ ส้ด้สวนจานวนผูที่่หายจากการูต้ด้โรูค ค่อ




่�















รูะบาด้แล้ว การูรูะบาด้ก็จะที่าใหจานวนผต้ด้โรูคเพมขนและที่าให ้ R(t) (จะได้วา เสมอ และจำานวนปรูะชิากรูในแต้่ละกลมคอผลคณ์


















ผที่เสยงต้อการูต้ด้โรูคลด้จานวนลง (เพรูาะวาผที่เสยงกลายไปเปน ของ NT ก้บ S(t), I(t), และ R(t)) จากแบบจาลอง SIR ที่่บรูรูยาย
























ผต้ด้โรูคแลว) ซึ่งอต้รูาการูลด้จานวนผที่เสยงต้อการูต้ด้โรูคจะ มาน่ เรูาจะสามารูถเข่ยนความส้มพ้นธของจานวนต้าง ๆ ได้้เปน














แปรูผนต้รูงกบจานวนผต้ด้โรูคแลวและแปรูผนต้รูงกบจานวนผที่ ่ � สมการูเชิิงอนพ้นธแบบไมเชิิงเสน ค่อ




















เสยงต้อการูต้ด้โรูค ณ์ ขณ์ะนนด้้วย เมอจานวนผูต้ด้โรูคเพิมมาก






ขนกจะมผต้ด้โรูคบางส่วนได้รูบการูรูกษาให้หายหรูอเสยชิวต้ลง












ไปโด้ยอต้รูาการูเพมของจานวนผที่หายจากการูต้ด้โรูคนจะแปรูผน














ต้รูงกบจานวนผ้ต้ด้โรูค ณ์ ขณ์ะน�น และผที่รูกษาหายแล้วจะไม ่
















กลบมาเป็นโรูคเด้มอกเพรูาะมภูมคมกนหรูออาจจะต้องใชิเวลา

นานในการูกลบมาเป็นโรูคเด้ิมซึ่าอก ด้งน�นหากเรูากาหนด้ต้วแปรู







่�

่�

ใหจานวนปรูะชิากรูโด้ยรูวมที่เกยวกบการูแพรูของโรูครูะบาด้คอ











NT (สมมต้ใหมคา ๆ หนงและคงที่) สด้สวนจานวนผที่เสยงต้อการู


















ต้ด้โรูคต้อปรูะชิากรู คอ S(t) สด้สวนจานวนผที่ต้ด้โรูคต้อ





40

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์
























โด้ย β ค่อคาเฉลยของจานวนครูงที่่แต้ละบคคลส้มผ้สก้นในหนึง วาการูรูะบาด้จะเกิด้ขนโด้ยจะมชิวงที่มกลมปรูะชิากรูที่ต้ด้เชิอม ่























ชิวงเวลา (เชินในหนงวน) คณ์กบความน่าจะเปนที่เชิอโรูคจะถกสง จานวนสงสด้ โด้ยสาหรูบโรูคโควด้-19 น มการูคาด้การูณ์เบองต้น





























ผานจากการูสมผสรูะหวางผที่เสยงต้อการูต้ด้โรูคและผต้ด้โรูค จากผลการูวเครูาะหการูรูะบาด้ในปรูะเที่ศัจนวา รูะด้บคา R จะ
0

และ γ คออ้ต้รูาเฉล�ยของการูรูกษาผที่ต้ิด้โรูคให้หายจากการูต้ด้ อยที่่ปรูะมาณ์ 2.2-2.7 [9] รููปที่่ 5 แสด้งต้้วอยางการูจาลองผล

























โรูค (คอรูกษาหายหรูอเสยชิวต้) โด้ยหากคด้ในหนวยต้อวนแลว ต้ามแบบจาลอง SIR น ซึ่งกคอการูแสด้งการูเปลยนแปลงของ








-1










จะได้วา γ คอจานวนวนเฉลยที่ต้องใชิในการูรูกษาผต้ด้โรูค S(t), I(t) และ R(t) ต้ามเวลา โด้ยกาหนด้ใหคา R = 2.5, 5








0
น้นเอง และ 10 ในรููปที่่ 5(ก), (ข) และ (ค) ต้ามลาด้้บ และในการูจาลอง




-3

จากชิด้สมการูขางต้้นและความจรูิงที่วา β และ γ ม่คา น่ เรูากาหนด้ให β = 0.5 ต้อว้น, I(0) = 10 และ R(0) = 0










มากกว่าศันย์ ที่าใหสงเกต้ได้วาจานวนผที่เสยงต้อการูต้ิด้โรูคต้่อ คงที่่ แลวคานวณ์คา γ (= β / R ) โด้ยโคด้สาหรู้บสรูางผลการู




















0











หนวยปรูะชิากรูจะมคาลด้ลงเสมอ นนคอ S(t) เปนฟงกชินลด้ที่าง จาลองต้ามแบบจาลองน่สามารูถเข่ยนได้้ด้้วยภาษาไพธอน [8]







เด้ยว(Monotonically Decreasing Function) ในขณ์ะที่ สด้สวน ผลการูจำาลองที่แสด้งในรูปที่ 5 มสงที่เรูาใหความสนใจ





































จานวนผที่หายจากการูต้ด้โรูคจะมคาเพมขนเสมอ นนคอ R(t) มากคอเวลาที่จะเกด้การูรูะบาด้มากที่สด้และคาสงสด้ของจานวน



















เปนฟงกชินเพมที่างเด้ยว (Monotonically Increasing Function) ผที่ต้ด้โรูค (t , และ I ) ซึ่งจะเหนได้วาหาก R มคามากขน


max max 0


โด้ยจากความจรูงที่วา ผลรูวมของปรูะชิากรูที่งสามกลมจะมคา แลวคา I น่จะม่คามากขึ�นต้าม ในขณ์ะที่่เวลาใชิในการูที่าใหที่่ �
















max













คงที่่ เรูาจะแสด้งได้้วาที่่เวลานาน ๆ (t→ ∞) ปรูะชิากรูสวนใหญ จะเกด้การูรูะบาด้มากที่สด้นจะสนลงเลกนอย และนอกจาก










จะกลายเปนผที่หายจากการูต้ด้โรูค (S(t→∞) ≈ 0 และ R(t→∞) ≈ 1 พารูามเต้อรู β และ γ) ที่่เปนพารูามเต้อรูสาค้ญและเข่ยนแสด้ง













โด้ยสาหรู้บฟงกชิ้น I(t) จะเปนไปได้้หลายรููปแบบซึ่�งขึนก้บอ้ต้รูา อยางชิด้แจงในแบบจำาลอง SIR น เรูายงมพารูามิเต้อรู์คอจานวน












การูเพมและลด้ของจานวนผต้ด้โรูคน (สมการู(1.2)) ลกศัรูในรูปที่ ปรูะชิากรูรูวม N ด้วย โด้ยในแบบจาลองเชิงที่ฤษฎของการู











T














4 ถกกากบด้วยสญลกษณ์ของอต้รูาการูเปล่ยนแปลงของ รูะบาด้ที่่ขึนก้บเวลานนเรูาม้กจะกาหนด้ให N ม่คาคงที่่� ในขณ์ะ


T
ปรูะชิากรูที่งสามกลุมน่ โด้ย ณ์ ชิวงเวลาเรูิมต้้น เรูาอาจกลาวได้้ ที่ในการูรูะบาด้จรูิงของโรูครูะบาด้ คา N อาจจะแปรูเปล่ยนต้าม











T







วา S(0) ≈ 1, I(0) ≈ 0 และ R(0) = 0, โด้ย I(0) จะต้้องมากกวา เวลาด้วย ด้งนนในการูแสด้งขอมลจรูงด้วยแบบจาลอง SIR น � ่




ศันยเลกนอยเพอใหเกด้การูเรูิมกรูะบวนการู พารูามเต้อรูที่สาคญอกต้วหนงคอ N โด้ยในการูยบยงการูรูะบาด้























T








ของโรูคคอการูลด้ค่าจานวนปรูะชิากรูรูวมน�ใหนอยที่สด้เที่่าที่จะ





5. ลกษณะการขนกบเวลาของจ็านวนผูติิด้เชัือ เปนไปได้นนเอง รูปที่ 3(ค) ที่แสด้งกอนหนานเปนการูพลอต้คา




































ลกษณ์ะการูขนกบเวลาของจานวนผต้ด้เชิอ ด้งแสด้งขอมล S(t), I(t) และ R(t) สาหรู้บขอมลผูต้ด้เชิ่อของปรูะเที่ศัไที่ยโด้ย















จรูงสาหรูบปรูะเที่ศัไที่ยในรูปที่ 3(ค) สามารูถจาลองได้ด้วยการูแก กาหนด้ให N = 3000
T

ชิด้สมการูที่ (1) ด้วยรูะเบยบวธเชิงเลข [6-8] โด้ยได้ผลในลกษณ์ะ












ที่่แสด้งในรููปที่่ 5 การูบอกรูะด้้บความรูนแรูงของการูรูะบาด้ต้าม
แบบจาลอง SIR น� มกจะแสด้งด้วยคาสด้สวนของคา β และ γ ซึ่�ง ึ










เรูยกวา อต้รูาสวนการูต้ด้โรูคในขนต้น (Basic Reproduction






Ratio) และจะแสด้งด้้วยส้ญล้กษณ์์ R (R ≡β/ γ) โด้ยหาก R ม่
0 0
0




คานอยกวาหนึงแลวการูรูะบาด้จะเกด้ขึนอยางไมรูนแรูง ค่อ เมอ













เกด้การูรูะบาด้ข�นแลวเรูาสามารูถรูกษาหายได้ที่นและผที่เสยงต้อ
















การูต้ด้โรูคจะกลายเป็นผที่ต้ด้โรูคและผที่หายจากการูต้ิด้โรูคอย่าง


คอยเปนคอยไป แต้หาก R มคามากกวาหนงแลวจะหมายความ










0
41
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563





ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์





6. การจ็าลองการแพรกระจ็ายและแนวที่างการ


หยด้ยัง


ในการูจาลองการูแพรูกรูะจายโรูคในเชิงต้าแหนงนน หาก












เรูาพจารูณ์าการูปฏิสมพนธที่เกด้ขนจรูงของคนที่อยในกลมผที่ � ่




















เสยงต้อการูต้ิด้โรูค S และคนที่อยในกลมผที่ต้ด้โรูคแล้ว I ใน










สภาวการูณ์จรูง เรูาจะพบวามความซึ่บซึ่อนมากที่จะบงบอกวาจะ












เกด้การูแพรูกรูะจายโรูคมากนอยเพยงไรู ที่งนเพรูาะการูแพรู ่





กรูะจายโรูคเกด้ขนได้้ในหลายลกษณ์ะ รูวมที่งการูที่�คนสามารูถ










เคลอนที่ได้และที่ากจกรูรูมได้หลากหลายมากในแต้่ละวน การู










จาลองอยางงายเพอใหที่รูาบถงความเรูวและความรูนแรูงของการู


รูะบาด้บนพ่นฐานของแบบจาลอง SIR อาจที่าได้้โด้ยการูกาหนด้





สมมต้ิฐานและกฎพ�นฐานในการูแพรู่กรูะจายของเชิ�อโรูค ใน


ล้กษณ์ะที่่เปน Cellular Automata [10] ค่อ











1. ใหคนที่่อยในกลุมผูที่่เสยงต้อการูต้ด้โรูคกรูะจายอย่าง





สมาเสมอและอยนิงในรูะบบพก้ด้ฉาก













2. ในต้อนเรูมต้นมจานวนผที่ต้ด้โรูคแลว I จานวนเลกนอย







และกรูะจายอยอยางสุมในกลุมปรูะชิากรูที่งหมด้





3. การูต้ด้ต้อของโรูคจะเกด้กบผที่ต้ด้โรูคแลวและผที่อย ่ ู

















ในกลุมเสยงที่่อยรูอบ ๆ ผู้ต้ด้โรูคแลวเที่านน (ด้รููปที่่ 6(ก))










4. ความนาจะเปนในการูต้ด้ต้อโรูคในชิวงเวลา 1 ว้น ค่อ







p ด้้งนน ความนาจะเปนที่่ผูที่่ต้ด้โรูคแลวจะแพรูกรูะจายโรูคจะม่






คาสงสด้ค่อ 8.p และจะม่คาลด้ลงหากรูอบ ๆ ของผูที่่ต้ด้โรูคคน








นนเปนผูที่่ต้ด้โรูคแลว









5. ในแต้ละว้น ผูที่่ต้ด้โรูคแลว I จะสามารูถกลายเปนผูที่่ �












หายจากการูต้ด้โรูค R ได้ด้วยความนาจะเปนอกคาหนง คอ p


R





โด้ย (p < p เสมอ) และเมอหายจากโรูคแลวจะไมกล้บมาเปนโรูคซึ่า ำ �
R
จากสมมต้ิฐานขางต้นเรูาสามารูถบ่งบอกได้วาจะเกด้การู










รูะบาด้ขึนโด้ยความรูนแรูงจะขึนก้บคาของ p และ p ซึ่งหากม่

R









รปที่ 5 ติวอยางผลการจ็าลองการเปลยนแปลงของจ็านวน การูหยด้ยงการูรูะบาด้โด้ยการูเวนรูะยะหางที่างสงคมหรูอ Social

















ประชัากรแติละกลุม โด้ยม่พารามเติอรคอ R = 2.5, 5 และ 10, Distancing แล้ว เรูาอาจกำาหนด้ได้วาผที่ต้ด้โรูคแลวจะไม่สามารูถ



0










-3

β = 0.50 ติ่อวัน (คงที่�), I(t = 0) = 10 และ R(t = 0) = 0 โด้ย แพรูกรูะจายโรูคออกไปได้ โด้ยการูเวนรูะยะหางที่มากที่สด้ คอ












กาหนด้ให (t , และ I ) คอจ็ด้สุงสุุด้ของ I(t) การูไมมปฏิสมพนธโด้ยต้รูงกบคนรูอบขางเลย รูปที่ 6(ข) แสด้ง




max max








แผนภาพจาลองในกรูณ์น ซึ่งจะมความนาจะเปนในการูแพรู ่


กรูะจายโรูคเปนศันย ์

42

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563







ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์




สมมต้ฐานและกฎพนฐานในการูแพรูกรูะจายของเชิอโรูค










ที่กลาวมาขางต้นสามารูถนำามาใชิจาลองเหต้การูณ์การูรูะบาด้ได้ ้










โด้ยการูพิจารูณ์าเหตุ้การูณ์ที่เกิด้ขนในแต้ละวนของคนในกลม I

รููปที่่ 7(ก) แสด้งผลการูจาลองการูแพรูกรูะจายโรูคที่่เวลา t = 5,





15 และ 25 ว้น สาหรู้บกรูณ์่ที่่ไมม่การูที่าเวนรูะยะหางที่างส้งคม





ของปรูะชิากรูขนาด้ 100x100 ค่า p เที่่ากบ 0.625 และค่า

p เที่่ากบ 0.01 โด้ยจานวนผ้ต้ด้เชิ�อในต้อนเรู�มต้้นเที่่ากบ 10 จาก






R








รูปจะเหนได้วา การูรูะบาด้จะแพรูกรูะจายออกไปโด้ยมศันยกลาง











คอผที่ต้ด้โรูคคนแรูกจนกรูะที่งเต้มพนที่ในที่สด้และปรูะชิากรูที่ก










คนจะต้ด้โรูคแลวกลายเป็นผที่หายจากการูต้ิด้โรูคในเวลาต้่อมา รูป









ที่ 7(ข) แสด้งผลการูจาลองในกรูณ์ที่การูเวนรูะยะหางที่างสงคม











ในลกษณ์ะที่ปรูะชิากรูอยกนเปนกลม ๆ กลมละ 9x9 และม ่













พารูามเต้อรูอน ๆ เหมอนกบการูจำาลองที่แสด้งก่อนหนาน จากผล


ุ่


การูจาลองจะเหนได้วา การูรูะบาด้จะเกด้ขนในกลมของผต้ด้โรูค
ู้







เที่านน และปรูะชิากรูในกลมที่ไมมผต้ด้เชิอในต้อนเรูมต้น กจะยง

























คงไมต้ด้เชิ่อ ซึ่งแนวที่างที่่จาลองน่เปนสิงที่่นามาใชิในการูลด้การู











รูะบาด้ที่่เกด้ขึนจรูงในโลกปจจบ้น






รปที่่ 6 แผนภัาพจ็าลองการติิด้ติอของโรคของผูที่่ติิด้โรค (วงกลมติรงกลาง) แลวและผูที่่ �







เสุยงติอการติิด้โรค (วงกลมที่่อยูรอบ ๆ) สุาหรบ (ก) กรณ่ที่่ไมม่การที่าเวนระยะหางที่าง














สุงคม และ (ข) กรณ่ที่่ไมม่การปฏิิสุมพนธิ์กน
43
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563





ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์



รููปที่่ 7(ค) และ (ง) แสด้งขอมลส้ด้สวนจานวนปรูะชิากรูในแต้ละ














กลมต้ามแบบจาลอง SIR ซึ่งจะเหนได้วาในกรูณ์ที่ไมมการูยบยง










การูรูะบาด้ด้้วยการูเวนรูะยะหางที่างส้งคม (รููปที่่ �




7(ค)) กรูาฟจะม่ลกษณ์ะเชิ่นเด้ยวกบ ผลการูจาลองด้้วยการูแก ้




สมการูเชิงอนุพนธที่แสด้งในหวขอที่แลว (รูปที่ 5) แต้หากมการู

่�
่�



่�






เวนรูะยะหางที่างสงคม (รูปที่ 7(ง)) กจะที่าใหกลมจานวน











ปรูะชิากรูที่ต้ด้เชิอ I มจำานวนลด้ลงอย่างมาก โด้ยจานวนผต้ิด้โรูค





จะสามารูถลด้ลงได้อก หากมการูเว้นรูะยะห่างที่างสงคมโด้ยการู

















แบงกลมที่เลกลงกวาน ซึ่งกลมที่มขนาด้เลกที่สด้มขนาด้ 1x1 (คอ
















ปรูะชิากรูที่กคนไมมปฏิสมพนธต้อกน) จะที่าใหไมเกด้การูแพรู ่






รูะบาด้ของโรูค
7. สุรป











บที่ความนแสด้งขอมลจานวนผต้ด้เชิอโรูคโควด้-19 ที่กาลงรูะบาด้






อยางมากในภมภาคต้าง ๆ ในโลก รูวมถงในปรูะเที่ศัไที่ยด้วย และ





จากนนจงได้้เสนอแบบจาลอง SIR ที่่ใชิอธบายการูเกด้โรูครูะบาด้
















ได้ โด้ยการูแกสมการูเชิงอนพนธที่ได้จากแบบจาลอง SIR นที่าให ้





เรูาสามารูถจำาลองการูเกด้การูรูะบาด้ของโรูคได้ และสามารูถด้ง






พารูามเต้อรูที่สาคญที่บงบอกรูะด้บความรูนแรูงของการูรูะบาด้













ออกมาเพอด้แนวโนมของการูรูะบาด้ได้้ โด้ยบที่ความน่แสด้งการู


จาลองการูแพรู่กรูะจายของโรูคและได้นาแนวที่างการูหยุด้ยงการู



รูะบาด้ด้วยการูที่าการูเวนรูะยะหางที่างสงคมมาใสลงในการู







รปที่่ 7 ติวอยางการจ็าลองการแพรกระจ็ายโรคที่่�เวลา t = 5, จำาลองเพอแสด้งให้เห็นแนวโน้มของค่าเชิิงเลขที่่�สอด้คล้องก้บผล









15 และ 25 วน สุาหรบ (ก) กรณ่ที่่ไมม่การที่าเวนระยะหาง การูแกสมการูเชิงอนุพนธ โด้ยผลที่ได้รูบนสามารูถใชิเปนแนวที่าง



















ที่างสุงคมของประชัากรขนาด้ 100x100 และ (ข) กรณ่ที่่การ ในการูกาหนด้มาต้รูการูเพอยบยงการูรูะบาด้ของโรูคน่ได้้

















อยูกบเปนกลุม ๆ (กลุมละ 9x9) โด้ยจ็ด้สุ่ด้าแที่นผูที่่เสุยงติอ











การติด้โรค จ็ด้สุแด้งแที่นผที่ติด้โรคแลวและ จ็ด้สุเหลองแที่นผ ้ ู







ที่หายจ็ากการติด้โรค (ค) และ (ง) ผลการคานวณสุด้สุวน




ประชัากรในกลุมติาง ๆ ติามเวลา จ็ากผลการจ็าลองการแพร ่


ระบาด้ที่่แสุด้งในรป (ก) และ (ข) ติามลาด้บ




44

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563






ที่าควิามเข่�าใจการระบัาดข่องโรคโควิิด-19 ผิานแบับัจาลองที่างคณตศาสตร ์



เอกสุารอางอง
[1] https://en.wikipedia.org/wiki/2019-20_coronavirus_pandemic
[2] https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019/situation-reports

[3] https://github.com/CSSEGISandData/COVID-19
[4] https://foreignpolicy.com/2020/03/04/mapping-coronavirus-outbreak-infographic/

[5] https://www.worldometers.info/coronavirus/
[6] Keeling, M. J.; Rohani, P. (2008). Modeling Infectious Diseases in Humans and Animals, Princeton University Press:
15-34.

[7] Kermack, W. O.; McKendrick, A. G. (1927). "A contribution to the mathematical theory of epidemics". Proceedings of
the Royal Society A. 115 (772): 700–721.

[8] Linge, S.; Langtangen, H. P. (2020) Programming for Computations – Python, Springer: 225–239.
[9] Li, Q. et al. (2020) "Early transmission dynamics in Wuhan, China, of novel Coronavirus – infected pneumonia". The
New England Journal of Medicine. 382: 1199-1207.

[10] Boccara, N.; Cheong, K. (1992) "Automata network SIR models for the spread of infectious diseases in populations of
moving individuals". Journal of Physics A: Mathematical and General. 25: 2447-2461.































ประวิัติิการศึกษา









➠ วศ.บ (วศวกรรมไฟฟา) (เก่ยรติินยมอนด้บ 2) จ็ฬาลงกรณมหาวที่ยาลย







➠ วศ.ด้. (วศวกรรมไฟฟา) จ็ฬาลงกรณมหาวที่ยาลย รศ.ดร.สุวิิทย์ กิระวิิทยาย
ติำาแหน่่งปัจจุบัน่


➠ พ.ศ. 2546 – 2554 นกวจ็ยในประเที่ศเยอรมน่




➠ พ.ศ. 255 - ปจ็จ็บน อาจ็ารยประจ็าสุาขาวชัาวศวกรรมไฟฟา









คณะวศวกรรมศาสุติร มหาวที่ยาลยนเรศวร
45

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563



วิศวิกรใชูภ์าษา



คอลมนปีระจา ำ รองศาสตราจารย์ ดร.ว์สุทธ์� ชั่อว์เชัียร

talk speech
wording conversation

ภ์าษาองกฤษ

alphabet

ยากจง……(จริิงหริอ??) writing speaking












สม้ยน่คนไที่ยเรูา (โด้ยเฉพาะวศัวกรู) คงจะเลกพด้ปรูะโยควา “ ขาฯ ไมสนใจภาษาอ้งกฤษหรูอก ไมใชิภาษาพอ














ภาษาแมของขาฯ” (ต้้องต้ามด้้วย…..555) ที่กว้นน่ภาษาอ้งกฤษกลายเปนสิงจาเปนไปซึ่ะแลว หลายๆ ที่่ หลาย ๆ โอกาสม่






การูใชิภาษาอ้งกฤษแที่นภาษาไที่ย งายสด้ค่อต้าแหนงที่่�น้งโรูงหน้ง คงจะหาโรูงที่่กาหนด้ต้าแหนงน้งเปน ก1 ก2 - ฆ่1 ฆ่2






ไมได้้แลว













แมแต้การูอานขาว และคาบรูรูยายในโที่รูที่้ศันกใชิภาษาอ้งกฤษต้รูงๆ (ไมได้้ที่้บศัพที่) เชิน COVID – 19
















ภาษาอ้งกฤษสาหรู้บวศัวกรู ย�งจาเปนมาก น้บต้งแต้การูอาน spec ในโครูงการู การูต้ด้ต้อสอสารูก้บต้างชิาต้ การู

ที่ารูายงาน ฯลฯ


หลายๆ คนบนวาภาษาองกฤษยาก สาเหต้สาคญอยางหนงที่ที่าใหพวกเรูาเรูยนภาษาองกฤษแลวยาก เปนเพรูาะ






่�



















“รูาก” ภาษาเด้ิมของเรูาคอภาษาไที่ย ไมใกลเคยงกบพวกภาษายุโรูป ซึ่งมรูากภาษาใกล้เคยงกนอยแลว คนเยอรูมนมาเรูยน








ภาษาอ้งกฤษ กจะคลาย ๆ ก้บคนไที่ยไปเรู่ยนภาษาลาว อะไรูที่านองนน












วนนอยากจะพูด้ถงปญหาอปสรูรูคของการูเรูยนภาษาองกฤษของคนไที่ย และวธแกไขเพอใหผานอปสรูรูคเหล่านน







เกงแคไหน




ปรูะการูแรูกขอที่าความเขาใจกอนวา ในการูเรู่ยนเพอใชิงานภาษาอ้งกฤษนน วศัวกรูไที่ยเรูาควรูต้งเปาหมาย











ไวที่่วา เพอใหสามารูถ “สอสารู” ก้บคนต้างชิาต้ได้้ถกต้้อง และม่ปรูะสที่ธภาพ น้นกค่อ


























สามารูถสนที่นากบคนต้่างชิาต้ิได้ สามารูถ สามารูถเขาใจเอกสารูต้างๆ ที่เกยวของเกยวกบ

ที่าใหเขาเขาใจเรูา และเรูาสามารูถเขาใจเขาได้ ้ งานที่ที่า และสามารูถสอสารูเปนลายลกษณ์ ์















ถกต้อง โด้ยเฉพาะอยางย�ง ในเนอหาของการู อกษรูใหคนต้างชิาต้ด้เขาใจในเนอหาของการู













ที่างาน ขอน่�ค่อ การู “ฟง” และ “พด้” ที่างาน ขอน่ค่อ การู“อาน” และ “เข่ยน”



46

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563





เกงเที่าน่พอ






ถ้าสงเกต้ด้ข้อ 1 และ ข้อ 2 ข้างต้้นให้เข้าใจว้ต้ถุปรูะสงคลึก ๆ แล้ว ในข้อ 1 จะพบว่า เรูาสนที่นาพด้คุยกบคนต้่าง






ชิาต้ใหเขาใจถกต้้อง เพ่ยงเที่าน่�เปนการูพอเพ่ยงแลว






ไมม่ความจาเปนที่่จะต้้อง “พด้ใหเหม่อนฝ้รู้ง” “ออกสาเน่ยงเหม่อนคนอ้งกฤษ/อเมรูก้น” ฯลฯ








หลายที่่านที่ด้ที่่ว่ เวลาเขาสมภาษณ์ผ้นำาของหลายปรูะเที่ศั จะพบว่าเขาเหล่าน�นไม่ได้พูด้ภาษาองกฤษโด้นม่สาเนยง










เหม่อนอ้งกฤษ/อเมรูก้นเลย แต้เขาสามารูถสอสารูได้้



ในขอที่่ 2 การูอาน/เข่ยน













เรู�องการูอ่าน ไมมความจาเป็นที่�เรูาจะต้้องอ่านให้ได้้เรู็ว และรูศัพที่ (vocabulary) ทีุ่กต้ว ว้ต้ถุปรูะสงคคออ่าน








เอกสารูต้าง ๆ ที่่เกยวของ เชิน จด้หมาย โนต้ สเปค ฯลฯ ได้้รููเรูอง










ไมม่ความจาเปนจะต้้องอานได้้เรูว ศัพที่คาไหนที่่ไมรููกสามารูถคนควาหาคาแปลได้้





















ในสวนของการูเข่ยนกเชินเด้่ยวก้น ถาสามารูถสอสารูใหเขาเขาใจได้้ถกต้้องกเปนเพ่ยงพอ ไมจาเปนต้้องเข่ยนแลว



ม่สานวนเหม่อนกว่ ใชิคาเลศัหรููแพรูวพรูาว ใชิ slang ที่่ที่้นสม้ย ฯลฯ







ขอสรูปวา “เกงเที่าน่�พอ”


ฟััง/พููด ให้้เขาเขาใจถููกต้้อง ไม่่ต้้อง “สำำาเนีียง” ห้รูู


อานี/เขยนี ให้้เรูาเขาใจถููกต้้อง ไม่่ต้้องห้วืือห้วืา ใช้้ศััพูท์์สำง



47


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563




ปญหา และวธิ์่แก ้










ปญหาของการูเรู่ยน/ใชิภาษาต้างปรูะเที่ศั ไมเฉพาะภาษาอ้งกฤษ ม่อยในหล้ก 3+1 ต้อไปน่�





ปญหาที่่ 1



Vocabularies คอ ศพที่ ์
















เรูาต้องเรูยนรูศัพที่ใหเพยงพอที่จะสอสารูได้ วศัวกรูกต้อง ในการูอาน/เขยนนน เรูาสามารูถใชิ application ใน














เรู่ยนรููศัพที่ที่่เนนในเรูอง เที่คนคการูส้�งงาน การูรูายงาน จะหน้ก smartphones ชิ่วยได้้ ก้บการูแปล และการูเข่ยน แต้่ในการูฟัง/













เรูองใด้กต้องแลวแต้สาขา ถา Vocabularies ไมเพยงพอกสอสารู พูด้น้น ถึงแม้จะม่ app ที่่ชิ่วยได้้ เชิ่น Google translate แต้่ก็ม่



ได้้ ไมเต้มเมด้เต้มหนอย ปญหาในที่างปฏิิบ้ต้ ที่่ที่าใหใชิยาก










ปญหาที่่� 2
Pronunciation

การูออกเสยงภาษาองกฤษ เปนปญหาของคนไที่ยสวน • เสุ่ยงติวสุะกด้



















ใหญ ในการูพด้ภาษาอ้งกฤษใหคนต้างชิาต้เขาใจได้้ เชิน sad กบ sat กบ sag กบ sack เสยงต้วสะกด้นถา














การูออกเสยงคาแต้ละคา สาหรูบคนไที่ย (บางคน) ม ่ ไมได้้ยน หรู่อผด้ไปจะที่าใหเขาใจความหมายผด้ไปเลย



ปญหาในเรูอง • การเนน (stress) ในคา










• เสุ่ยงพยญชันะโด้ยติรง คาภาษาองกฤษบางคา ถาเนนผด้กผด้ความหมายไป






เชิน l ก้บ r / v ก้บ f / sh ก้บ ch / f ก้บ fl (ควบกลา) เลย เชิน de’sert (เนนพยางคแรูก) ก้บ dess’ert (เนนพยางค ์



















วธแก คอ ต้องหด้ฟัง และพูด้ต้าม ใน App สอนภาษา/ YouTube หล้ง) บางคาถาเนนผด้ที่่กที่าใหนกไมออกวาเปนคาใด้
















มอธบายบาง chip มแสด้งการูวานต้าแหนงลน ฯลฯ ต้องฝ้ก ในการูฝ้กออกเสยงคา เรูาสามารูถปรูบปรูงต้วเองได้ โด้ยการูขยน














เที่านน เปนวธ่เด้่ยวที่่จะที่าใหพด้ได้้ถกต้้อง เปด้ (app) dictionary เพอเชิคการูออกเส่ยง



การูขยนด้ที่่ว่เพอห้ด้ฟง และพด้ต้ามกเปนการูชิวยได้้โด้ยต้รูง









48
วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563






ระบับัปีรบัอากาศในอาคาร การกรองและการแพรเชู่อ










ระบบปีรบอุากาศในอุาคัาร


การกรอุงแลิะการแพื่รเช้่�อุโรคัในอุากาศ





ผศ.ดร.มานนท์์ สุุขละมัย













1. บที่นา

การูปรูบอากาศัคอกรูะบวนการูปรูบสภาวะของอากาศัเพ่อ




ควบคมอณ์หภม (Temperature) ความชิ่น (Humidity) ความสะอาด้






(Cleanliness) และการูกรูะจายลม (Distribution) รูวมถงสามารูถ
ควบคุมสภาวะของอากาศัให้คงที่ (Maintain) และเหมาะสมต้ามความ
่�






ต้องการู การูปรูบอากาศัอาศัยเครูองปรูบอากาศัเปนต้วควบคมสภาวะ




















อากาศัใหได้ต้ามที่ต้องการู ซึ่งเครูองปรูบอากาศันนมต้งแต้ขนาด้เลก


สาหรูบหองหรูอที่พกอาศัยไปจนถงขนาด้ใหญสาหรูบอาคารูขนาด้ใหญ ่















เชิน โรูงพยาบาลหรู่อหางสรูรูพสนคา เปนต้้น


ขณ์ะเด้ยวกน หองปรูบอากาศัที่วไปจะจากด้การูถายเที่แลก













เปลยนอากาศัภายในห้องของอาคารูกบภายนอกเพ่อใหอากาศัที่ปรูบ






สภาวะแลวสวนใหญหมนเวยนอยภายในหอง ซึ่งต้รูงนสงผลต้อความ












กงวลเก�ยวกบการูแพรู่กรูะจายของเชิ�อโรูคบางปรูะเภที่ที่�อาจจะแพรู ่








กรูะจายผ่านที่างอากาศัได้ เชิ่น โคโรูนาไวรูสหรูอ COVID-19 ที่กาลงแพรู ่









รูะบาด้อย่ในปจจบ้น ซึ่งม่รูายงานวาสามารูถแพรูกรูะจายที่างอากาศัใน


รูปของฝ้อยละอองขนาด้เล็ก (aerosol) โด้ยเฉพาะการูไหลเวยนของ








อากาศัภายในหองปรูบอากาศันนจะที่าใหเกด้การูแพรูกรูะจายเชิอจาก











บคคลที่มเชิอโรูคไปสบคคลอนได้ [1] ในบที่ความนจงพจารูณ์าหองปรูบ


















อากาศัที่วไปกบหองปรูบอากาศัแบบปลอด้เชิอสาหรูบสถานพยาบาล วา


มความเหมอนหรูอแต้กต้างกนอยางไรู รูวมถงการูกรูองและการูฆ่าเชิอ









โรูคในอากาศัด้้วย
49

วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563



ระบับัปีรบัอากาศในอาคาร การกรองและการแพรเชู่อโรคในอากาศ











2. เชัือโรคที่่อาจ็แพรกระจ็ายที่างอากาศ 3. หองปรบอากาศที่วไปและหองปรบอากาศแบบ

ปลอด้เชัือ

จากการูศัึกษาของ William F.Wells และ Richard







Reiley ในป ค.ศั. 1930 กลาวถงไวโด้ยจรูยา แสงสจจา และคณ์ะ สาหรูบการูกล่าวถงหองปรูบอากาศัในบที่ความนจะขอ











[2] วา อนภาคที่มขนาด้ ≤5 ไมครูอน(micron) สามารูถแขวนลอย จาแนกออกเปน 2 ปรูะเภที่ ค่อหองปรู้บอากาศัที่้วไป (Conven-

















อยในอากาศัได้นานและยงลองลอยไปได้ไกลมาก ซึ่งสอด้คลองกบ tional air conditioned room) เชิน บานอยอาศัยและสานกงาน














การูศักษาของ Lewis Strokes ที่่พบวาอนภาคขนาด้ 1 - 5 mi- เปนต้น และห้องปรูบอากาศัแบบปลอด้เชิอสาหรูบสถานพยาบาล


















cron ที่�อยในกรูะแสอากาศัน�งจะม่อ้ต้รูาการูต้กส่พ�น 1 หลาต้่อ ที่งนเพอใหเหนถงความแต้กต้างของการูปรูบอากาศัของหองที่ง 2
















ชิวโมง และถาหากมกรูะแสลมแรูงการูแขวนลอยของอนุภาคใน ปรูะเภที่นได้อยางชิด้เจนเมอพจารูณ์าถงความเปนไปได้ในการูแพรู ่








อากาศัก็จะนานข�นไปด้วย ด้งนนแลว droplet ที่มจลชิพที่เปนเชิอ กรูะจายของเชิ่อโรูคผานที่างอากาศัภายในหองปรู้บอากาศั โด้ยม่





















โรูคอยด้วยอาจแขวนลอยอยในอากาศัในรูปของ Aerosol จง รูายละเอ่ยด้ต้ามองคปรูะกอบและการูไหลเว่ยนของอากาศัด้้งน่ �








สามารูถล่องลอยจากแหล่งกาเนด้ (บคคลที่ปวยหรูอเปนพาหะ) 3.1 หองปรบอากาศที่ั�วไป (Conventional air con-



ไปสบคคลอนได้หากอยู่ในรูะยะรูศัมที่เพยงพอและมความเขมขน ditioned room) อาจสามารูถอธบายได้้เปน 3 ขนาด้หองด้้งน่ �

ู่




่�
่�


















ของเชิ�อโรูคน�นเพยงพอที่�จะที่าให้เกด้การูเจ็บป่วยได้ โด้ยเชิ�อโรูค - หองป็รบัอากาศขนาดเล็ก หองปรูบอากาศัในกลม









ที่สามารูถแพรูกรูะจายที่างอากาศัได้ (Airborne) อาจแบงกลมได้ น่ได้้แกบานอยอาศัย หองสาน้กงาน (Office) ขนาด้เลก เปนต้้น
















ด้้งน่ � เครูองปรู้บอากาศัที่่นยมใชิงานสาหรู้บหองปรู้บอากาศัขนาด้น่�ค่อ












2.1 กลมที่แพรกระจ็ายที่างอากาศเปนหลก เปนที่ที่รูาบ เครูองปรู้บอากาศัแบบแยกสวน (Split type air conditioners)








กนด้่ว่าเชิ�อว้ณ์โรูคน�นสามารูถแพรู่กรูะจายได้ด้่ผ่านที่างอากาศั เชิ�อ การูไหลเวยนของอากาศัสวนใหญจะหมนเวยนอยภายในหอง












วณ์โรูคเขาสรูางกายโด้ยการูหายใจรูบเชิอโรูคที่ปะปนอยในละออง ม่ความด้้นเปนบวก (Positive pressure) การูถายเที่แลกเปลยน


















ฝ้อยในอากาศั ขณ์ะที่่ผูปวยไอ จาม บวนนาลาย หรู่อการูใชิเส่ยง อากาศักบภายนอกเกด้ขนจากชิองที่างที่�เปนรูอยรูวต้างๆ ของ


























การูพด้คยในรูะยะที่ฝ้อยละอองนนแพรูกรูะจายถง [3] และเชิอรูา อาคารู เชิน ชิองวางรูะหวางกรูอบปรูะต้ หนาต้าง เปนต้้น หาก







ในบางกลุ่ม [2] เปนหองสานกงานที่ออกแบบรูะบบปรูบอากาศัและการูรูะบาย





2.2 กลมที่แพรกระจ็ายผานที่างอากาศในรปของ อากาศัมาอย่างถูกต้้องจะม่พ้ด้ลมชิ่วยรูะบายอากาศัเพ�อชิ่วยใหม ่












Aerosol เชิน ไวรู้สไขหว้ด้นก (Influenza A H5N1) SARS และ การูแลกเปลยนอากาศัได้้อยางเพ่ยงพอ อยางไรูกด้่ เรูาม้กไมคอย












Corona virus และเชิอรูาในบางกลม [2] นอกจากนยงมเชิอ พบการูต้ิด้ต้งพด้ลมรูะบายอากาศักบหองปรูบอากาศัในบ้านอย ู ่















แบคที่เรูยที่ชิ่�อ Legionella pneumophila ที่ก่อให้เกด้โรูคลเจยน อาศัย








เนลโลสส (Legionellosis) ซึ่งอาจรููจ้กก้นในชิอโรูคปอด้อ้กเสบล่



เจ่ยนแนรู (Legionnaires' disease) แต้หากอาการูไมรูนแรูงม้ก

เรู่ยกโรูคน่วาไขปอนเต้่ยก (Pontiac fever) [4]









รปที่่ 1 ลกษณะหองปรบอากาศขนาด้เลก เครืองปรบอากาศแบบแยก


สุวนและการไหลเว่ยนอากาศภัายในหอง [5]


50


วิิศวิกรรมสาร ปีีที่่ 73 ฉบัับัที่่ 2 เมษายน-มถุุนายน 2563


Click to View FlipBook Version