49 ลักษณะเป็นทรงไทยประยุกต์ เครื่องบนเป็นเหล็ก หลังคา มุงด้วยเมทัลชีท และก่อเป็นสระน้ำวน มีเกาะกลาง ขนาดกว้าง ๒ เมตร ยาว ๑๘ เมตร ก่ออิฐฉาบปูน ผนังกำแพงสูง ๒.๕ เมตร ปั้นลวดลายสัตว์ เรียงตามราศรีเกิดสากล เว้นช่องทางเดิน ๕ เมตร ส่วนด้านตรงข้าม ยกพื้นก่ออิฐเทคอนกรีต เสริมเหล็ก (คสล.) สูง ๕๐ เซ็นติเมตร ยาวตลอดแนว ๑๘ เมตร ปั้นรูปราศรี ๑๒ นักษัตร ศาลายาว ๗๕ เมตร แล้วเสร็จบริบูรณ์คิดเหมา ค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน ๕,๕๐๐,๐๐๐ บาท (ห้าล้านห้าแสนบาท) พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแล การก่อสร้างอุทยาน “พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ)” ลักษณะเป็นสวนหย่อม มีน้ำตก โดยรอบ บริเวณที่ประดิษฐานรูปหล่อพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เพื่อบูชาพระคุณ ที่ได้พัฒนาวัดไร่ขิงจนรุ่งเรือง แล้วเสร็จ บริบูรณ์คิดเหมาค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน ๑,๕๙๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านห้าแสนเก้าหมื่นบาท) พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแล การก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา ลักษณะเป็นทรงไทยประยุกต์ มีมุขตรงกลาง และมุขด้านข้าง ทั้งสองด้านเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) ก่ออิฐถือปูน เครื่องบนเป็นเหล็ก หลังคามุงด้วยสังกะสีเมทัลซีล พื้นปูด้วย แกรนิตโต้ทั้ง ๕ ชั้น ติดตั้งลีฟ ๒ ตัว แต่ละชั้นมีห้องน้ำ ห้องสุขา อาคารชั้นที่ ๕ ใช้เป็นห้องประชุมจุคนได้ ๑,๒๐๐ คน ติดแอร์ทั้ง ๔ ชั้น เว้นชั้นที่ ๑ ชั้น ๕ ห้องประชุมติดตั้ง เครื่องเสียงบอส ติดผ้าม่านทั้ง ๔ ชั้น ห้องประชุมปูพรมทั้งห้อง
50
51 ขนาดอาคารกว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร แล้วเสร็จบริบูรณ์ คิดเหมาค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน ๑๔๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งร้อยสี่สิบแปดล้านบาท) รวมผลงานการก่อสร้างทุกรายการ เป็นจำ นวนเงิน ๑๘๖,๖๔๑,๐๐๐ บาท (หนึ่งร้อนแปดสิบหกล้านหกแสนสี่หมื่นหนึ่งพันบาท) การบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ ภายในวัด พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแล การบูรณะที่บรรจุอัฐิบริเวณกำแพงแก้วรอบมณฑป โดยการซ่อมลวดลาย และทาสีใหม่ แล้วเสร็จบริบูรณ์ คิดเหมาค่าบูรณะเป็นจำนวนเงิน ๘๕๐,๐๐๐ บาท (แปดแสนห้าหมื่นบาท) พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแล การบูรณะกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ โดยการก่อฉาบซ่อมปูน และปูพื้นใหม่ และทาสีใหม่ทั้งหมด แล้วเสร็จบริบูรณ์ คิดเหมาค่าบูรณะเป็นจำนวนเงิน ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้านห้าแสนบาท) พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแล การบูรณะศาลาจตุรมุขด้านหน้าและด้านหลังพระอุโบสถ โดยการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคา ซ่อมลวดลาย ลงลักปิดทองคำแท้ และทาสีใหม่ทั้งหมด แล้วเสร็จบริบูรณ์ คิดเหมาค่าบูรณะเป็นจำนวนเงิน ๓,๒๐๐,๐๐๐ บาท (สามล้านสองแสนบาท)
52
53 พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแล การบูรณะพิพิธภัณฑ์พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ โดยปรับปรุง ซุ้มประตูคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) ทำศาลา ๒ ชั้น โดยรอบเป็นลักษณะตัวแอล เขียนผนังลวดลายไทย และ ทาสีตกแต่งและเปลี่ยนกระเบื้องใหม่ทั้งหมด แล้วเสร็จบริบูรณ์ คิดเหมาค่าบูรณะเป็นจำนวนเงิน ๘,๕๒๐,๐๐๐ บาท (แปดล้านห้าแสนสองหมื่นบาท) พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแลการบูรณะ ศาลาประดิษฐานพระพุทธปัญจภาคีวารีย์ปฏิหาริย์โดยทำการ ยกขึ้น ๑.๒๐ เมตร ก่อบัวเอวขันโดยรอย ปูพื้นและขั้น บันไดด้วยหินอ่อน ซ่อมและทำสี ตัวอาคารไม้สักใหม่ แล้วเสร็จบริบูรณ์คิดเหมาค่าบูรณะเป็นจำนวนเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้านบาท) พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแลการบูรณะ ศาลาท่าน้ำ จำนวน ๓ หลัง โดยเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ให้สูงขึ้น ปูพื้นด้วยกระเบื้อง ทาสีใหม่ทั้งหมด แล้วเสร็จ บริบูรณ์คิดเหมาค่าบูรณะ เป็นจำนวนเงิน ๖๐๐,๐๐๐ บาท (หกแสนบาท) พ.ศ.๒๕๕๖ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแล การบูรณะฐานชุกชี ที่ประดิษฐานหลวงพ่อวัดไร่ขิง พระประธานในพระอุโบสถ โดยกะเทาะปูนเก่าออก พิมพ์แบบปั้นลวดลายแบบของเดิม ลงลักปิดทอง ประดับกระจกสีใหม่ทั้งหมด และอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ สธ. ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี มาประดิษฐานหน้าผ้าทิพย์ แล้วเสร็จบริบูรณ์
54
55 คิดเหมาค่าบูรณะ เป็นจำนวนเงิน ๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท (สามล้านห้าแสนบาท) รวมผลงานการบูรณปฏิสังขรณ์เป็นจำ นวนเงิน ๒๑,๑๗๐,๐๐๐ บาท (ยี่สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นบาท) รวมผลงานการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์เป็นจำ นวนเงิน ๒๐๗,๘๑๑,๐๐๐ บาท (สองร้อยเจ็ดล้านแปดแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันบาท) นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาวัดในด้านต่าง ๆ เช่น (ก) วัดได้รับการคัดเลือกให้เป็นวัฒนาตัวอย่างดีเด่น จากกรมการศาสนา (ข) ได้ปรับปรุงพื้นที่ภายในบริเวณวัดให้เสมอ โดยปรับพื้นที่เทพื้นคอนกรีต เสริมเหล็ก (คสล.) และวางท่อระบายน้ำบริเวณรอบวัด (ค) จัดสถานที่พักผ่อน โดยปลูกต้นไม้ให้เกิดความร่มรื่นสวยงาม ภายใน บริเวณวัดจัดเป็นสวนหย่อม เพื่อให้นักเรียน ครูอาจารย์ ประชาชน ทั่วไปได้มาศึกษาประวัติพระพุทธศาสนา (ง) จัดเจ้าหน้าที่ดูแลห้องสุขา และบริเวณวัด เน้นด้านการรักษาความสะอาด และการอำนวยความสะดวก อย่างสม่ำเสมอ ๑๑. งานสาธารณสงเคราะห์ พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้เป็นผู้ควบคุมดูแล การก่อสร้างศาลาจตุรมุขเพื่อประดิษฐานรูปเหมือน หลวงพ่อพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ) มอบให้โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เพื่อเป็นอนุสรณ์ ไว้สักการะบูชาพระคุณ เป็นจำนวนเงิน ๒,๗๒๐,๐๐๐ บาท (สองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นบาท)
56
57 พ.ศ.๒๕๕๖ ร่วมกับเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ประธานมูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง ช่วยเหลือสมาคมผู้สูงอายุอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นจำนวนเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาท) พ.ศ.๒๕๕๖ ร่วมกับเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ประธานมูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง สมทบทุนจัดซื้อรถเอ๊กซเรย์เคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์ มอบให้โรงพยาบาลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เป็นจำนวนเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านบาท) รวมผลงานสาธารณสงเคราะห์เป็นจำ นวนเงินทั้งสิ้น ๓,๘๒๐,๐๐๐ บาท (สามล้านแปดแสนสองหมื่นบาท) สรุปรายการรวมผลงานทั้งหมด รวมผลงานศึกษาสงเคราะห์ เป็นจำนวนเงิน ๑,๑๖๒,๐๐๐ บาท รวมผลงานสาธารณูปการ เป็นจำนวนเงิน ๒๐๗,๘๑๑,๐๐๐ บาท รวมผลงานสาธารณสงเคราะห์ เป็นจำนวนเงิน ๓,๘๒๐,๐๐๐ บาท สรุปรวมทุกรายการ เป็นจำ นวนเงินทั้งสิ้น ๒๑๒,๗๙๓,๐๐๐ บาท (สองร้อยสิบสองล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นสามพันบาท) ๑๒.งานพิเศษ พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการโรงเรียนสหศึกษาบาลี จังหวัดนครปฐม พ.ศ.๒๕๔๘ ได้รับอาราธนาจากโรงเรียนเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา
58
59 ขั้นพื้นฐาน โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา อำเภอสามพราน จังหวัด นครปฐม พ.ศ.๒๕๔๙ ได้รับอาราธนาจากโรงเรียนเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน โรงเรียนวัดไร่ขิง (สุนทรอุทิศ) อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นกรรมการมูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นกรรมการมูลนิธิพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ) ๑๓. สมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๒๒ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนาม ที่ “พระครูไพศาลคณารักษ์” (จอ.ชท.) พ.ศ.๒๕๒๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม (จอ.ชอ.) พ.ศ.๒๕๔๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม (จอ.ชพ.) พ.ศ.๒๕๕๑ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ในราชทินนามที่ “พระพิมลสมณคุณ” พ.ศ.๒๕๕๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นนพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ “พระราชวิสุทธาจารย์” ไพศาลศาสนกิจธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81 กำหนดการ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเพลิงศพ พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํสมหาเถร ป.ธ.๓) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ วันที่ ๘-๙-๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ณ เมรุวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม วันพุธ ที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๑๘.๓๐ น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ พระสงฆ์จตุรวรรค สวดพระอภิธรรม วันพฤหัสบดี ที่ ๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ เวลา ๑๐.๓๐ น. พระสงฆ์ ๑๐ รูป สวดพระพุทธมนต์ เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์-สามเณร ๙๓ รูป เวลา ๑๔.๐๐ น. พระสงฆ์ ๙๓ รูป สวดมาติกา-บังสุกุล เวลา ๑๕.๐๐ น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๒๐ รูป พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล เวลา ๑๕.๓๐ น. - นายชูชาติ ฉุยกลม ทอดผ้าไตรพระราชทาน จำนวน ๕ ไตร - สมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ ๕ รูป พิจารณาผ้าไตรบังสุกุลพระราชทาน
82 เวลา ๑๖.๐๐ น. พระราชทานเพลิง เวลา ๑๗.๐๐ น. ทำพิธีอาราธนา และเชิญหีบสรีระสังขาร พระเดชพระคุณพระราชาวิสุทธาจารย์ จากอาคารราชวิริยาลังการ ไปประกอบพิธีจุดเพลิงพระราชทาน ณ เมรุวัดไร่ขิง วันศุกร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๐๗.๐๐ น. พระสงฆ์ ๓ รูป บังสุกุลอัฐิ รับภัตตาหาร ๓ หาบ เชิญอัฐิประดิษฐาน ณ ศาลาบำเพ็ญกุศลวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เวลา ๐๗.๓๐ น. พระสงฆ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ฉลองอัฐิ เวลา ๐๘.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าพระสงฆ์-สามเณร ๙๓ รูป
83 รัตตัญญูมหาเถรานุสรณ์
84 ชีวิตนี้ไม่ มีแน่ นอน ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธาจารย์ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ พระเถระรัตตัญญู อยู่ ประจำที่วัดไร่ขิง ตั้งแต่อุปสมบทเมื่อปี ๒๔๙๕ เริ่มต้นชีวิตในการเป็นพระสังฆชินบุตรพุทธชิโนรส จนเป็นพระเปรียญ เป็นพระสังฆาธิการ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นเจ้าคณะอำเภอสามพราน เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านเจ้าคุณมีชีวิตสมถะ ติดดิน เรียบง่าย สงบเสงี่ยม เรียบร้อย สง่างาม บริหารงานวัด งาน คณะสงฆ์ งานพระศาสนาด้วยดีตลอดมา อัตตลักษณ์นอบน้อม นุ่มนวล น่ารัก และหนักแน่น และมี คุณลักษณะพิเศษ คือ ไม่ดีกว่าเขา ไม่เก่งกว่าเขา ไม่เหนือเขา เมื่อเห็นว่าอายุขัยมาก ก็ช่วยสนับสนุน พระผู้มีความรู้ ความสามารถ โดยอยู่เบื้องหลัง คุณธรรมเช่นนี้หาได้ยากยิ่งนัก จวบจนมีอายุ ๙๓ ปี ๗๑ พรรษา แต่ชีวิตมิมีอะไรแน่นอน ทุกชีวิตเดินทางสู่ความตายทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดเดินหนีหรือพ้นจากความ ตายได้เลย ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธาจารย์ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ชีวิตของท่านเป็นชีวิตที่ประเสริฐ เพราะเลือกทางชีวิตในเพศบรรพชิต เป็นพุทธชิโนรส ถวายชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา ซึ่งในขณะ ที่มีชีวิตอยู่ ท่านก็เป็นพระผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ปฏิบัติธรรมด้วยการมีสติเสมอ แม้เจ็บป่วยก็ยัง อดทนเข็มแข็ง เมื่อไปงานวัดไร่ขิงคราใด ก็มักพบพระคุณท่านเสมอ แต่ในวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ ทราบว่าท่านมรณภาพแล้ว การมรณภาพของท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธาจารย์ จึงถือเป็นสัจจธรรมแห่งชีวิตว่าไม่มีอะไร แน่นอนเป็นแก่นสาร เราต้องรีบสร้างบุญบำเพ็ญบารมี เพราะเราเกิดมาเพื่ออาศัยร่างในความเป็น มนุษย์สร้างบุญและบารมี สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสเตือนพุทธบริษัท ในภัทเทกรัตตสูตรว่า อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ โก ชญฺญา มรณํ สุเว น หิ โน สงฺครนฺเตน มหาเสเนน มจฺจุนา
85 แปลเอาความว่า ให้รีบบำเพ็ญเพียร บำเพ็ญประโยชน์ บำเพ็ญบุญกุศลคุณงามความดี เสียแต่กาลบัดนี้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เพราะไม่มีใครรู้ว่าพญามัจจุราชนั้นจะมาพรากเราไป เมื่อไร ฉะนั้น การเกิดเป็นมนุษย์ในชาตินี้ มิมีเวลาทำอย่างอื่นเลย นอกจากบุญกิริยาวัตถุ ทาน ศีล ภาวนา เดินตามมรรคาไปสู่ที่สุดแห่งทุกข์เท่านั้น อย่าประมาทโดยเด็ดขาด เพราะมิรู้ว่าจะ จากโลกนี้ไปเมื่อใด ดังที่ท่านผู้รู้ย่อมกล่าวไว้ว่า เห็นหน้าอยู่เมื่อเช้า สายตาย สาย อยู่สุขสบาย บ่ายม้วย บ่าย สดชื่นรื่นราย เย็บดับ ชีพแฮ เย็น อยู่หยอกลูกด้วย ค่ำม้วย อาสัญ ขอบุญกุศลที่เกิดจากการประพฤติปฏิบัติธรรม ในฐานะพระเถระผู้สังฆโสภณ นามว่า ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธาจารย์ ผู้มีศีลจารวัตรงดงาม รับใช้งานพระพุทธศาสนามาตลอด ชีวิต จงเป็นวิบากสมบัติให้ท่าน เจ้าคุณได้รับผลอันเกิดแต่วิมุตติสุขในสุคติภพโน้นเทอญฯ สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม
86 ราชวิสุทธาจารยานุสรณกถา ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส น.ธ.เอก ป.ธ.๓) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านเป็นพระเถระผู้รัตตัญญู เป็นพระเถระ ผู้ใหญ่ในวัดไร่ขิง ชีวิตของท่านผูกพันกับวัดไร่ขิงมาตั้งแต่อุปสมบท จวบจนถึงกาลมรณภาพ ท่าน ผ่านการเป็นนักปกครอง เป็นเจ้าคณะอำเภอ สนองงานการคณะสงฆ์ตามที่ได้รับมอบหมายจาก เจ้าคณะผู้ปกครองตามลำดับชั้นอย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ก็ช่วยแบ่งเบา ภาระธุระของเจ้าอาวาสตามที่ได้รับมอบหมายด้วยความวิริยะอุตสาหะ ท่านเป็นผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ตามระบอบพระธรรมวินัย มีใจดำรงคงมั่นในสถาบันชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ อนึ่ง ท่านยังเป็นผู้มีความชำนาญในวิชาการหลายแขนง เช่น ช่างไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ นวกรรม การก่อสร้าง โฆษกงานวัดไร่ขิง และการแสดงพระธรรมเทศนา ตามที่ว่ามานี้จะนับว่าท่านเป็นศิลปิน ผู้มีศิลปะก็คงจะไม่ผิดนัก คงจักต้องตามพระบาลีที่ตรัสไว้ว่า สาธุ โข สิปฺปกํ นาม อปิ ยาทิสกีทิสํ แปลความว่า ขึ้นชื่อว่าศิลปะแม้เช่นใดเช่นหนึ่ง ก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ ดังนี้ ในส่วนของศิษยานุศิษย์ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ที่ได้ร่วมกันจัดการบำเพ็ญกุศลถวายท่านมาโดยตลอดนั้น นับได้ว่าเป็นการ แสดงออกถึงความเป็นผู้มีคารวธรรมและกตัญญูกตเวทิตาธรรม ต้องตามเถรคาถาว่า นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี ดังนี้ ขออำนาจบุญกุศล ท่ี่ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธาจารย์ ได้สั่งสมมา และพลานุภาพแห่งกุศล ทักขิณานุปทานกิจที่ศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ได้จัดทำบำเพ็ญไปโดยประการทั้งปวงนี้ จงสำเร็จเป็นวิบากสมบัติปัตติทานมัยกุศล อันเป็นส่วนแห่งทิพยสุข ทิพยสมบัติ ในทิพยสถาน ยิ่ง ๆ ขึ้นไป แด่ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธาจารย์ โดยสมควรแก่คติวิสัยในสัมปรายภพ จงทุกประการ เทอญ ฯ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม
87 ราชวิสุทธาจาริยานุสรณ์ แท้จริง มนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้ทั้งมวล ล้วนตกอยู่ในวงล้อมของความตาย ไม่มีใครหลบหลีก รอดพ้นไปได้ ผลแห่งความเกิด คือความตาย ที่ทุกคนจะต้องได้รับส่วนแบ่งเท่าเทียมกันหมด จะปรากกฏ ต่างกันก็แต่ช้าหรือเร็วเท่านั้น แม้ชั้นที่สุดสิ่งของที่หาวิญญาณมิได้ ก็ยังไม่พ้นจากอำนาจความตาย ต้องแตกดับเสื่อมสลายไปตามสภาพ อันความยักย้ายเปลี่ยนแปลงแห่งวัย ได้ชื่อว่าเป็นอนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง ความทนลำบากแห่งชีวิตร่างกายมีมากทางด้วยทุกขเวทนาต่างๆ ได้ชื่อว่าเป็นทุกขัง คือความเป็นทุกข์ทนได้ยาก ความที่ร่างกายมีชีวิตประสบกับความขัดข้องไม่ต้องกับความประสงค์ ได้ชื่อว่าเป็นอนัตตา คือไม่อยู่ในบังคับบัญชาของใคร เพราะไม่เชื่อฟัง มนุษย์ทุกคนจึงต้องเดินไป ตามมรรคา คือคติธรรมดาของสังขารร่างกาย จนสุดท้ายก็ถึงมรณะ คือไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้น ไม่มี และหนีไม่พ้นคนฉลาดรู้เท่ารู้ทันคติธรรมดานี้ จึงใช้สังขารร่างการประกอบคุณงามความดี เป็น สิริมงคล ประพฤติชอบด้วยเหตุผล เป็นประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน เช่นทาน รักษาศีล หรือ เจริญภาวนา นับว่ายึดเอาแก่นสารแห่งสังขารร่างกายเอาไว้ได้ ก่อนจะเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส ป.ธ.๓) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดไร่ขิง ได้ประกอบกรณียกิจเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่วัด พระศาสนา และประเทศชาติ จนมรณภาพ ยึด เอาแก่นสารแห่งชีวิตของท่านไว้ได้ตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนจึงไม่ต้องอาทรห่วงใยสัมปรายภพ ของท่าน บุญบารมีทั้งปวงที่พระราชวิสุทธาจารย์ ได้บำเพ็ญไว้ในสมัยที่มีชีวิตอยู่ และบุญกุศลทั้งหลาย ที่ทุกท่านได้บำเพ็ญอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปถัมภกปัจจัยให้ พระราชวิสุทธาจารย์ ได้รับสุขสมบัติ ในสุคติสัมปรายภพ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร เจ้าคณะภาค ๓ กรรมการมหาเถรสมาคม
88 พระราชวิสุทธาจารย์พระเถระผู้มีความดีควรแก่การยกย่อง ความดีนั้น หมายถึง สิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม คนที่มีความคิดดี ก็จะพูด แต่สิ่งที่ดี และทำแต่สิ่งที่ดี เพราะเหตุว่ามีจิตใจเป็นบุญกุศลเป็นพื้นฐานในการกระทำนั้น ๆ การ ทำความดีด้วยความสุจริตใจ ไม่ใช่สิ่งแปลกแต่เป็นสิ่งที่บัณฑิตผู้รู้ดี ประพฤติดี ยกย่องสรรเสริญยิ่งนัก และได้กล่าวไว้ว่าความดีคนดีทำง่าย ความดีคนชั่วทำยาก เพราะถือว่าความชั่วเป็นสิ่งที่แปลกปลอม เข้ามาในชีวิต จึงเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง ต่อจิตใจในการกระทำ คนดีสามารถทำความดีด้วยอาการที่เต็มใจ อิ่มใจ พอใจ ไม่ต้องฝืนใจทำ เพราะจิตใจของคนดี ห่อหุ้มด้วยความดีคือบุญกุศลนั่นเอง พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส ป.ธ.๓) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ อดีตผู้ช่วย เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ท่านเป็นพระเถระที่มองโลกในแง่ดีรักเพื่อนมนุษย์ รักผู้บังคับบัญชา รักเพื่อน ผู้ร่วมปฏิบัติการ รักผู้ใต้บังคับบัญชา เสียสละเพื่อส่วนรวม ลดละกิเลสอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ อันได้แก่ ความโลภ ความโกรธ และความหลงให้บรรเทาเบาบางลงในภพนี้เป็นอย่างมาก ท่านจึงเป็น พระมหาเถระผู้รัตตัญญู มั่นคงในพระรัตนตรัย ได้สะสมคุณงามความดีมามากอย่างยาวนาน จนเจริญด้วย ตำแหน่งหน้าที่การงานและยศฐาบรรดาศักดิ์ อำนาจวาสนา ท่านก็ได้ใช้สิ่งเหล่านั้น ทำคุณประโยชน์ แก่ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเอนกอนันต์ ทั้งด้านการปกครอง ด้านการศึกษา ด้านการเผยแผ่ ด้านการก่อสร้างบูรณะปฏิสังขรณ์ ด้านการสงเคราะห์การศึกษา ด้านการสงเคราะห์ต่อสาธารณะชาวโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส ป.ธ.๓) ท่านพยายามสอนคนให้ ละความชั่วร้าย คือ บาป สอนคนให้ทำดี คือ บุญ และสอนคนให้ปฏิบัติธรรม หมั่นทำจิตใจให้สงบ จากกิเลส คือ โลภ โกรธ และหลง เพราะต้องการให้ศิษยานุศิษย์และสาธุชนทั่วไป เป็นคนดีมีจิตใจ สงบสะอาดบริสุทธิ์ มุ่งตรงต่อสวรรค์นิพพาน เช่นเดียวกับท่าน ท่านจะอยู่ตรงไหน ที่ตรงนั้นก็จะเจริญ มั่นคงไปด้วยศาสนธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา และเจริญไปด้วยศาสนวัตถุสถาน เช่น
89 วัดไร่ขิง พระอารามหลวง แห่งนี้ อันเป็นที่ประจักษ์ใจแก่เราท่านทั้งหลายอยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจเลยว่า เกียรติยศเกียรติศักดิ์และเกียรติคุณ ได้เจริญต่อท่านอย่างไพบูลย์และต้องด้วยพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “รูปํ ชีรติ มจฺจานํ นาม โคตฺตํ น ชีรติ” ซึ่งมีความหมายว่า “รูปร่างกาย ย่อมย่อยยับ อัปปาง สลายไป แต่ชื่อเสียงเกียรติคุณหาย่อยยับ อัปปางสลายไปไม่” สรุปผลงานที่ท่านตั้งใจไว้ว่า “เกิดมาทั้งที ทำ ดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้” ขออำนาจแห่งคุณงามความดีที่ พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส ป.ธ.๓) ท่านได้ บำเพ็ญมา และผลบุญกุศลที่ศิษยานุศิษย์บำเพ็ญอุทิศให้ จงส่งผลให้ท่านถึงสวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ในอนาคตกาล ด้วยเทอญ ฯ พระพรหมเวที ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร
90 อนุสรณียกถา พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดไร่ขิง เป็นพระมหาเถระผู้รัตตัญญูมีอายุถึง ๙๓ ปี ๗๑ พรรษา ได้อุทิศชีวิตถวายไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นพระมหาเถระมีศีลาจารวัตรที่งดงามเป็นที่เคารพเลื่อมใส เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ซื่อตรง สม่ำเสมอ ไม่ถือตัว มีอัธยาศัยที่อ่อนโยนด้วยความเมตตาจิตที่สูงยิ่ง อีกทั้งท่านยังเป็นพระสงฆ์ต้นแบบ ในการประพฤติปฏิบัติให้แก่พระสงฆ์สามเณร ในด้านความมีระเบียบวินัย และการดูแลเอาใจใส่การรักษา ความสะอาด ครั้งเมื่อผมได้ไปเยี่ยมสนามอบรมบาลี ก็จะสังเกตเห็นหลวงพ่อปราณี ได้รับหน้าที่และ ความไว้วางใจจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺญมหาเถร) เป็นพระสงฆ์ผู้นำในการทำวัตรสวดมนต์ และท่านได้จัดระเบียบตั้งแต่การวางเรียงรองเท้าหน้าอุโบสถ รวมไปจนถึงเสขิยวัตรต่าง ๆ หลวงพ่อปราณี ท่านก็ได้ปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่างที่ดี เสมอต้นเสมอ ปลายมาโดยตลอด นอกจากนี้ท่านยังได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของ พระภิกษุ สามเณร ปี พ.ศ.2518 จนถึงปีนี้ เป็นปีที่ 48 แล้ว โดยมุ่งหมายที่จะส่งเสริมและพัฒนา การศึกษาภาษาบาลีให้ได้รับการเอาใจใส่จากพระภิกษุสามเณร และเจ้าสำนักเรียน ตลอดถึงเจ้าคณะ พระสังฆาธิการ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนความชำนาญ แก่นักศึกษา ผู้ต้องการศึกษาภาษาบาลี อีกประการหนึ่งด้วย รวมทั้งเป็นการสนับสนุนและสานต่อเจตนารมณ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 และอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ท่านตั้งใจ จะให้นักเรียนภาษาบาลีได้มีกำลังใจ ที่จะศึกษาเล่าเรียนและเข้าสอบสนามหลวงต่อไปด้วย อีกทั้งตั้งแต่ มีการอบรมมา มีสถิติการสอบไล่ได้เป็นที่น่าพอใจ จึงนับได้ว่าหลวงพ่อท่านเป็นพระมหาเถระที่เป็น ปูชนียบุคคล ที่มีความสำคัญต่อคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาอีกรูปหนึ่ง
91 ถึงแม้ว่าหลวงพ่อท่านฯได้ละจากโลกนี้ไปตามกฎธรรมชาติของสังสารวัฏฏะ ซึ่งสัตว์โลกทุกจำพวก จะหนีจากกฎอันนี้ไม้พ้น หากแต่คุณงามความดีและผลงานของหลวงพ่อท่านฯ ยังปรากฏชัดในใจของ คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ทั้งหลายอย่างไม่มีวันลืม สมดังพุทธสุภาษิตที่ตรัสไว้ว่า รูปํ ชีรติ มจฺจานํ นามโคตฺตํ น ชีรติ ชีวิตร่างกายของสัตว์ย่อมตายและแตกสลายย่อยยับไป แต่ชื่อเสียงคุณงามความดีมิได้สูญสิ้นไป อิมินา กตปุญเญน ขอพละบุญกุศลที่คณะศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ได้บำเพ็ญในส่วน ทักขิณานุปทานอุทิศถวายแก่ดวงวิณญาณของหลวงพ่อพระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส) ตั้งแต่ ต้นจนถึงงานพระราชทานเพลิงศพ ขอจงเป็นวิบากสมบัติ ให้หลวงพ่อได้เสวยในสัมปรายภพ มีความสุข สงบในอมตรสนั้น เทอญ พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค ๗ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร
92 อาลัยหลวงพี่ปราณีที่เคารพ พระราชวิสุทธาจารย์ ไพศาลศาสนกิจธุราทรฯลฯ (ปราณี อินฺทวํโส /อินทร์บํารุง ป.ธ.๓) เป็น พระมหาเถระผู้รัตตัญญูอีกรูปหนึ่ง เพราะล่วงกาลผ่านวัยมานาน ได้พบพานประสบการณ์มามาก ถึง ๙๓ ปี ผู้เขียนเรียกท่านด้วยความเคารพว่าหลวงพี่ปราณี เพราะท่านแก่กว่าผู้เขียน ๓ ปี เป็นสหธรรมิก ที่คุ้นเคยกันมานาน เพราะอยู่ภาคเดียวกัน และเคยเป็นเจ้าคณะอําเภอเหมือนกัน ท่านอัธยาศัยดี พูดคุย สนุกสนานและมีสาระ ที่ขึ้นชื่ออีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท่านก็คือความสะอาด เจ้าระเบียบ แม้กระทั่งการจัดวางรองเท้า เมื่อโครงการอบรมบาลีก่อนสอบเป็นครั้งแรก ณ วัดไร่ขิง เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ เจ้าคณะพระสังฆาธิการในภาค ๑๔ โดยเฉพาะที่เป็นมหาเปรียญ ต่างร่วมด้วยช่วยกันจัดการอบรม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยวันละ ๓ เวลา หลวงพี่ปราณีได้เป็นกําลังสําคัญอีกรูปหนึ่งที่ช่วยพระเดช พระคุณหลวงพ่อพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (พระราชปัญญาภรณ์ ในสมัยนั้น) เรียกว่าเป็นมือขวาก็ว่าได้ เพราะท่านเป็นพระผู้ใหญ่ในวัดที่รองมาจากเจ้าอาวาส ได้สนองงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานาน การ อบรมบาลีในครั้งนั้นเจ้าคณะภาครูปปัจจุบันนี้ยังเป็นสามเณรอยู่ ต่อมาเมื่อ สามเณรแย้ม อินทร์กรุงเก่า ได้อุปสมบทท่านก็เป็นคู่สวดให้ หลวงพี่ปราณีเป็นผู้มีบุญมากอีกรูปหนึ่ง เพราะลูกศิษย์ของท่าน คือ พระมหาแย้ม กิตฺตินฺธโร/ อินทร์กรุงเก่า ในวันนั้น ปัจจุบันได้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพระบวรศาสนาเป็น พระธรรมวชิรานุวัตร ดํารงตําแหน่งการปกครองระดับสูง ถึงระดับเจ้าคณะภาค และด้วยความกตัญญูของศิษย์ท่านนี้ได้ยกย่อง เชิดชูบูชาอาจารย์ของตน โดยขอพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ให้พระครูไพศาลคณารักษ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะ อําเภอสามพราน เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระพิมลสมณคุณ ในปี ๒๕๕๑ พระราชาคณะ ชั้นราช ที่ พระราชวิสุทธาจารย์ ในปี ๒๕๕๙ และตําแหน่งสุดท้ายคือ ขอให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะ ภาค ๑๔ นับว่าอาจารย์ อินทร์บํารุง กับศิษย์อินทร์กรุงเก่า เป็นอาจารย์กับศิษย์คู่บุญกันโดยแท้ เพราะ อาจารย์ก็ดี ศิษย์ก็บารมีเหลือล้น
93 ลุถึงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ ท่านได้มรณภาพจากไปตามกฎธรรมดาของโลก ที่พระพุทธเจ้า ตรัสเรียกว่าไตรลักษณ์ ซึ่งปัญญาชนรู้ดีว่าวันหนึ่ง “จําเราต้องทิ้งทุกสิ่งไป” ด้วยอานิสงส์เนกขัมมปฏิบัติ อันยาวนานกว่า ๗๑ พรรษา และการเอื้อเฟื้อกิจธุระในพระศาสนาอย่างกว้างขวาง สมกับสร้อย ราชทินนามของท่านที่ว่า ไพศาลศาสนกิจธุราทร ขอให้ดวงวิญญาณของท่านจงเสวยทิพยสมบัติ อันสมควรแก่บุญกุศลที่ท่านได้ทําไว้แล้วจงทุกประการ พระธรรมพุทธิมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
94 ข้อคิดจากชีวิตของหลวงพ่ อปราณี อินฺทวํโส หลวงพ่อปราณี อินฺทวํโส หรือพระราชวิสุทธาจารย์ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ และผู้ช่วย เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ท่านได้เกิดมาและมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ได้ ๙๓ ปีเศษ และได้เกิด เป็นอริยชาติ คือได้บวชเป็นพระได้ ๗๑ ปี หรือ ๗๑ พรรษา จึงได้ถึงแก่มรณภาพจากไป เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ นับว่าเป็นผู้มีบุญตามคำสอนของนักปราชญ์แต่โบราณว่า อายุยืน ไม่มีโรคภัยติดตัว มีทรัพย์ มีบุตรที่ตั้งอยู่ในโอวาท มีความรู้ช่วยเหลือมนุษย์ได้ นี้คือศิริมงคลในโลก หลวงพ่อปราณี เป็นพระผู้ดำรงมั่นคงในอริยวงศ์ ปฏิปทาอย่างเคร่งครัด คือสันโดษยินดีด้วย จีวร มหาบิณฑบาตร เสนาสนะ และยินดีการละอกุศลธรรม และเจริญกุศลตามมีตามได้ตลอดชีวิต ความเป็นพระเสมอมา ด้วยการทำกิจวัตรของพระสงฆ์ ไหว้พระสวดมนต์ ท่องบ่นภาวนา ศึกษาเล่าเรียน พากเพียรปฏิบัติ เป็นตัวอย่างที่ดีของพระภิกษุสามเณร และนำมาซึ่งความศรัทธาเลื่อมใสแก่ชาวบ้าน อย่างกว้างขวาง นับว่าเกิดประโยชน์แก่วัด พุทธศาสนา และสังคมอย่างยิ่ง บัดนี้ ในส่วนแห่งร่างกายของท่านจะแตกดับย่อยยับและถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไป แต่ความดีที่ ท่านได้ปฏิบัติและประโยชน์ที่ได้บำเพ็ญไว้ ด้วยอิทธิบาทธรรม ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อย่างสูง ก็มั่นคงดำรงอยู่คู่วัด ทางศาสนาและสังคมอีกนานเท่านาน อันร่างกายของมนุษย์ครั้งสุดท้าย ล้วนต้องตายถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน แต่ชื่อเสียงอยู่ไปได้อีกนานเท่านาน บนพื้นฐานความดีที่ทำมา ก่อนจะนอนควรคิดสักนิดหนึ่ง ทำอย่างไรจึงจะมีค่า โลกนี้คนเขายังบูชา โลกหน้าเราได้ไปสวรรค์ พระธรรมวชิรมหาเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร
95 ราชวิสุทธาจาริยบูชา พระเดชพระคุณเจ้าคุณอาจารย์พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส ป.ธ.๓) อดีตที่ปรึกษา เจ้าคณะภาค ๑๔ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เป็นพระมหาเถระผู้มีอายุและ พรรษากาลมากที่สุดของวัดไร่ขิง คือมีอายุ ๙๓ ปี ๓ เดือน และดำรงสมณเพศด้วยศรัทธาอันมั่นคง ยาวนานถึง ๗๑ พรรษา ขณะที่ดำรงสมณเพศอยู่ได้สร้างปริหิตคุณูปการมากมายนับไม่ถ้วน เป็นทั้ง พระนักบริหาร นักปกครอง เป็นเจ้าคณะอำเภอสามพราน เป็นอุปัชฌาย์ และเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ให้การอุปสมบทกุลบุตรผู้เข้ามาสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาเป็นเวลายาวนาน พระเดชพระคุณจึงมี ลูกศิษย์ลูกหาทั้งพระและคฤหัสถ์เป็นจำนวนมาก สำหรับกระผมเอง ก็เป็นหนึ่งในบรรดาลูกศิษย์จำนวนมากที่ได้รับความเมตตาอย่างสูงจาก พระเดชพระคุณเจ้าคุณอาจารย์พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส) โดยพระเดชพระคุณรับเป็น องค์พระกรรมวาจาจารย์ เป็นสักขีพยานญัตติจตุถกรรมวาจาอุปสมบทให้เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๙ นอกจากจะเป็นครูบาอาจารย์ที่มีพรหมวิหารธรรมเกื้อกูลแก่สัทธิวิหาริกและอันเตวาสิก เป็นที่เคารพรัก สำหรับมวลศิษย์แล้ว พระเดชพระคุณยังเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย อย่างเคร่งครัด มีศีลาจารวัตรที่งดงาม มีความสันโดษ เรียบง่าย มีสังคหวัตถุธรรม เป็นที่เคารพ ศรัทธาเลื่อมใสแก่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปอีกด้วย การถึงแก่มรณกาลของพระเดชพระคุณเจ้าคุณอาจารย์ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการสูญเสีย พระมหาเถระผู้ใหญ่รูปสำคัญของคณะสงฆ์วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ของคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ของวงการคณะสงฆ์ และของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดธรรมสังเวช ความเศร้าโศกเสียใจและความอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ทั้งใกล้และไกล ทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก คงเหลือไว้แต่คุณูปการอันมากมายมหาศาลอันเป็นอนุสรณ์
96 คุณงามความดีของพระเดชพระคุณเจ้าคุณอาจารย์ ให้คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ ได้รำลึกนึกถึงและ ถือคติเป็นแนวปฏิบัติสืบไป กระผม/อาตมภาพ ในนามคณะสงฆ์วัดไร่ขิง พระอารามหลวง และคณะศิษยานุศิษย์ใน พระเดชพระคุณเจ้าคุณอาจารย์ทั้งมวล ขอนอบน้อมจิตวันทาเป็นอาจาริยบูชา ในพระเดชพระคุณ เจ้าคุณอาจารย์พระราชวิสุทธาจารย์ (ปราณี อินฺทวํโส) ด้วยความเคารพ ขออำนาจบุญกุศลจริยา สัมมาปฏิบัติ อันพระเดชพระคุณเจ้าคุณอาจารย์ได้สั่งสมกระทำบำเพ็ญมาดีแล้วทุกสิ่งทุกประการ บารมีธรรมขององค์หลวงพ่อวัดไร่ขิง รวมทั้งบุญกุศลทักขิณานุปทาน ที่คณะสัทธิวิหาริก คณะอันเตวาสิก คณะสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ได้กระทำบำเพ็ญให้เป็นไป อุทิศถวายแด่ พระเดชพระคุณ ขอจงเป็นพลวปัจจัย สนับสนุนตามเสริมส่งบารมีธรรมของพระเดชพระคุณที่ได้กระทำ บำเพ็ญมาทุกสิ่งทุกประการให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นไป โดยมีมรรผลพระนิพพานเป็นที่สุด ตามคติวิสัย อันพระเดชพระคุณได้กระทำบำเพ็ญมาแล้วทุกสิ่งทุกประการ เทอญ พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง
97 พ่ อปราณี ฟ้าประทาน นามว่า “พ่อปราณี” เพราะท่านมีน้ำใจแผ่ไพศาล สร้างชีวิต-สร้างคน-สร้างผลงาน เพื่อสืบสาน พุทธศาสน์คู่ชาติไทย ช่วยหลวงพ่ออุบาลีฯ มีบุญล้ำ เป็นผู้นำความดีที่ยิ่งใหญ่ พัฒนาคน-พัฒนาวัด-พัฒนาใจ ให้ก้าวไปด้วยบุญช่วยจุนเจือ วัดไร่ขิงเป็นอารามงามสง่า รวมศรัทธาอาณาจักรเรารักเหลือ มีไมตรีดีล้ำคุณธรรมเจือ ได้โอบเอื้อกุลบุตรพิสุทธิ์งาม ยึดแนวทางปฏิบัติเคร่งครัดยิ่ง ไม่มีสิ่งหมองหม่นให้คนหยาม จริยาหมดจดแลงดงาม ดำเนินตามรอยบาทศาสดา ถึงเวลามาดับลาลับโลก บทเพลงโศกโหยหาอาลัยหวล เหล่าศิษยาอยู่หลังยังคร่ำครวญ ใจรัญจวนพระคุณอุ่นดวงมาลย์
98 ขอบุญญาบารมีที่สรรสร้าง เป็นแนวทางข้ามห้วงบ่วงสงสาร ส่งให้ถึงยังฝั่งพระนิพพาน เป็นสถานพ้นทุกข์พบสุขเอย. พระเทพสาครมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม