คูม่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 49
ขนั้ ที่ 3 ข้นั สรุป
นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเรื่อง การประดิษฐ์ท่ารา เป็นความคิดของ
ช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ วามรู้เสริมในส่วนท่ีนกั เรียนไม่เขา้ ใจหรือสรุปไม่ตรงกบั เน้ือหา
ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนผ้เู รียน
1. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม หลกั สาคัญและขัน้ ตอนในการประดิษฐ์ท่ารา โดยใหน้ กั เรียน
อธิบายถึงหลกั สาคญั ในการประดิษฐ์ทา่ รา และข้นั ตอนในการประดิษฐ์ท่ารา
2. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม การประดิษฐ์ท่ารา โดยใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน
ร่วมกนั แตง่ กลอนมา 1 บทพร้อมท้งั คิดท่าราประกอบบทกลอน และออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนใหค้ รู
และเพ่อื น ๆ ชม
3. ใหน้ กั เรียนฝึ กฝนเพิ่มเติมใชก้ ิจกรรมที่ 30 กิจกรรมที่ 31 และกิจกรรมท่ี 32 ในแบบฝึก
ทกั ษะรายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั
ขั้นท่ี 5 การนาไปใช้
นกั เรียนสามารถนาความรู้เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารา ไปเป็นพ้ืนฐานในการเรียนนาฏศิลป์ ใน
ระดบั สูงตอ่ ไป และสามารถนาไปประดิษฐเ์ ป็นท่าราแสดงในโอกาสต่าง ๆ เพอื่ แสดงทกั ษะ
ความสามารถดา้ นนาฏศิลป์
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. กจิ กรรมสาหรับกล่มุ สนใจพเิ ศษ
นกั เรียนอธิบายหลกั สาคญั ในการประดิษฐ์ทา่ ราประกอบการแสดง แลว้ ช่วยกนั จดั บอร์ด
ความรู้
2. กิจกรรมสาหรับฝึ กทักษะเพมิ่ เตมิ
นกั เรียนศึกษาหลกั สาคญั ในการประดิษฐท์ ่ารา และข้นั ตอนในการประดิษฐ์ท่าราเพ่ิมเติมทาง
อินเทอร์เน็ต หรือหอ้ งสมดุ หรือสัมภาษณ์ผเู้ ช่ียวชาญ แลว้ จดั ทาเป็นรายงานส่งครู
9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. แถบบนั ทึกเสียงเพลงฟ้อนมาลยั ระบาดอกบวั ระบาเริงอรุณ
2. ใบงาน
3. หอ้ งสมดุ
4. สถานที่ตา่ ง ๆ เช่น โรงละคร ศนู ยว์ ฒั นธรรม สถานท่ีจดั การแสดงวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น
มหาวิทยาลยั ท่ีเปิ ดสอนดา้ นนาฏศิลป์ และการละคร เป็นตน้
5. ผเู้ ช่ียวชาญ หรือผมู้ ีความรู้ดา้ นนาฏศิลป์ ในชุมชน
6. อินเทอร์เนต็
ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 50
7. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช
จากดั
8. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ดนตรี-นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช
จากดั
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 51
10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้-
_________________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนวทางการ
พฒั นา____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนว
ทางแกไ้ ข_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
3. ส่ิงท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นไปตาม
แผน_____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
เหตุผล______________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
4. การปรับปรุงแผนการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
ลงชื่อ______________(ผ้สู อน)
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 52
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6
การออกแบบและสร้างสรรค์อปุ กรณ์และเครื่องแต่งกาย
ประกอบการแสดง
สาระที่ 3 นาฏศิลป์ ช้ันมัธยมศึกษาป่ี ที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ทกั ษะการแสดงนาฏศิลป์ ไทย 2 ชั่วโมง
1. สาระสาคญั
อปุ กรณ์และเคร่ืองแต่งกายในการแสดงนาฏศิลป์ ไทยน้นั เป็นองคป์ ระกอบท่ีมีความสาคญั ต่อ
การแสดงเป็นอยา่ งยง่ิ อุปกรณ์ประกอบการแสดงเป็นสิ่งที่ช่วยใหก้ ารแสดงน้นั ดูสมบูรณ์ ส่วนเคร่ือง
แต่งกายเป็นตวั กาหนดรูปแบบและลกั ษณะการแสดง ซ่ึงตอ้ งคานึงถึงหลกั สาคญั ไดแ้ ก่ การประหยดั
ใชว้ สั ดุในทอ้ งถิ่น ใชห้ ลกั เรียบงา่ ย และมีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์
2. ตัวชีว้ ัดช้ันปี
ออกแบบสร้างสรรคอ์ ุปกรณ์และเคร่ืองแตง่ กาย เพ่ือแสดงนาฏศิลป์ และละครท่ีมาจาก
วฒั นธรรมตา่ ง ๆ (ศ 3.2 ม. 3/1)
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายหลกั สาคญั ที่ใชใ้ นการออกแบบสร้างสรรคอ์ ุปกรณ์และเคร่ืองแตง่ กายประกอบการ
แสดงได้ (K)
2. ฝึกปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A)
3. สรุปหลกั สาคญั ท่ีใชใ้ นการออกแบบสร้างสรรคอ์ ปุ กรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบการ
แสดงได้ (P)
4. ออกแบบสร้างสรรคอ์ ปุ กรณ์และเครื่องแตง่ กายประกอบการแสดงได้ (P)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
ค่านยิ ม (A)
1. สงั เกตจากการถามและการ 1. สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม 1. สงั เกตจากการศึกษาและสรุป
แสดงความคดิ เห็น ดว้ ยความสนุกสนานและ หลกั สาคญั ท่ีใชใ้ นการออกแบบ
2. จากการตรวจการวดั และ เพลิดเพลิน สร้างสรรคอ์ ปุ กรณ์และเคร่ือง
ประเมินผลการเรียนรู้ประจา 2. สงั เกตจากการช่วยเหลือและ แตง่ กายประกอบการแสดงได้
หน่วย การมีความรับผดิ ชอบในการ ถูกตอ้ ง
3. จากการตรวจใบงาน ปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกบั ผอู้ ่ืน 2. สังเกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม
ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 53
ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
ค่านิยม (A)
3. สังเกตการปฏิบตั ิกิจกรรม รายบุคคลและปฏิบตั ิกิจกรรม
อยา่ งเป็นข้นั ตอนและมีระเบียบ ร่วมกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่ว
4. สังเกตจากการยอมรับความ
คดิ เห็นของผอู้ ื่นขณะปฏิบตั ิ
กิจกรรม
5. สาระการเรียนรู้
13. การออกแบบ และสร้างสรรคอ์ ปุ กรณ์และเคร่ืองแตง่ กาย เพื่อการแสดงนาฏศิลป์
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดถึงหลกั ที่ใชใ้ นการประดิษฐอ์ ปุ กรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบการแสดง
การแสดงความคดิ เห็น การถามและการตอบขอ้ สงสยั ต่าง ๆ
สังคมศึกษาฯ การปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นกลุ่มและการสร้างมนุษยสมั พนั ธ์
ศิลปะ (ทศั นศิลป์ ) การออกแบบสร้างสรรคอ์ ปุ กรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบการแสดง
การงานอาชีพฯ การประดิษฐ์และการเก็บรักษาอปุ กรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบการแสดง
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน
ครูใหน้ กั เรียนดูภาพการแสดงฟ้อนมาลยั ฟ้อนเลบ็ ระบาดอกบวั รากลองยาว ฟ้อนภไู ท เซ้ิง
แหยไ่ ขม่ ดแดง ระบาตารีกีปัส ระบาร่อนแร่ และสนทนาซกั ถามกบั นกั เรียนวา่ ภาพการแสดงแต่ละชุดน้ี
มีชื่อชุดการแสดงวา่ อะไร ใชอ้ ะไรเป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดง และมีลกั ษณะการแต่งกายอยา่ งไร
ข้ันท่ี 2 ข้นั สอน
1. ครูนาเสนอเน้ือหาเรื่อง การออกแบบสร้างสรรค์อปุ กรณ์และเคร่ืองแต่งกายประกอบการ
แสดง เกี่ยวกบั หลกั ที่ใชใ้ นการออกแบบอุปกรณ์และเคร่ืองแต่งกาย
2. ครูแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 6 คนและแจกใบงานใหก้ ลุ่มละ 2 ใบ ใหร้ ่วมกนั คดิ สร้างสรรคช์ ุดการ
แสดงข้ึนใหม่ 1 ชุด และใหอ้ อกแบบอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบในการแสดงที่นกั เรียน
สร้างสรรคข์ ้ึนใหม่ลงในใบงาน
3. ใหน้ กั เรียนเตรียมอปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการประดิษฐ์อปุ กรณ์และเคร่ืองแตง่ กายประกอบการ
แสดงที่นกั เรียนร่วมกนั สร้างสรรคข์ ้นึ มาใหม่
4. นกั เรียนช่วยกนั ประดิษฐอ์ ปุ กรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบการแสดงท่ีกลุ่มของตนเองได้
ออกแบบสร้างสรรคไ์ วใ้ หส้ วยงาม
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 54
5. ใหน้ กั เรียนส่งตวั แทนออกมา 2 คน นาเสนอผลงานที่นกั เรียนไดร้ ่วมกนั สร้างสรรคข์ ้ึนให้
ครูและเพอ่ื น ๆ ชมหนา้ ช้นั เรียน จากน้นั แต่ละกลุ่มนาผลงานท่ีไดป้ ระดิษฐส์ ร้างสรรคเ์ สร็จแลว้ มาส่ง
ครู
6. ใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มูลเพมิ่ เติมจากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3
บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั
ขัน้ ที่ 3 ข้นั สรุป
นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเร่ือง การออกแบบสร้างสรรค์อุปกรณ์
และเคร่ืองแต่งกายประกอบการแสดง เป็นความคิดของช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ วามรู้เสริมในส่วนท่ี
นกั เรียนไม่เขา้ ใจหรือสรุปไม่ตรงกบั เน้ือหา
ขั้นท่ี 4 ฝึ กฝนผู้เรียน
1. นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม ออกแบบสร้างสรรค์อุปกรณ์ประกอบการแสดง โดยใหน้ กั เรียน
ออกแบบสร้างสรรคอ์ ปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นราอวยพรใหส้ วยงามตามจินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
2. นกั เรียนปฏิบตั ิ กิจกรรม ออกแบบสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายประกอบการแสดง โดยให้
นกั เรียนออกแบบสร้างสรรคเ์ ครื่องแต่งกายประกอบการแสดงราอวยพรใหส้ วยงามตามจินตนาการ
และความคิดสร้างสรรค์
ขนั้ ที่ 5 การนาไปใช้
1. นกั เรียนสามารถนาอุปกรณ์และเครื่องแตง่ กายไปใชแ้ สดงนาฏศิลป์ เพอื่ แสดง
ความสามารถในโอกาสต่าง ๆ
2. นกั เรียนสามารถนา การออกแบบสร้างสรรค์อปุ กรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบการแสดง
ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรียนนาฏศิลป์ ในระดบั สูงต่อไป
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กจิ กรรมสาหรับกล่มุ สนใจพเิ ศษ
นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ร่วมกนั จดั ทาป้ายนิเทศเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกบั การออกแบบ
สร้างสรรคอ์ ุปกรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบการแสดง
2. กจิ กรรมสาหรับฝึ กทักษะเพม่ิ เติม
นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน ร่วมกนั คดิ ประดิษฐช์ ุดการแสดงมา 1 ชุดการแสดง พร้อมท้งั
ออกแบบอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายประกอบการแสดงใหส้ วยงาม จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมา
นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 55
9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. ภาพการแสดงต่าง ๆ
2. ใบงาน
3. หอ้ งสมุด
4. สถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงละคร ศนู ยว์ ฒั นธรรม สถานท่ีจดั การแสดงวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น
มหาวิทยาลยั ที่เปิ ดสอนดา้ นนาฏศิลป์ และการละคร เป็นตน้
5. อินเทอร์เน็ต
6. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช
จากดั
7. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน ดนตรี-นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช
จากดั
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 56
10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้-
_________________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนวทางการ
พฒั นา____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนว
ทางแกไ้ ข_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
3. ส่ิงท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นไปตาม
แผน_____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
เหตุผล______________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
4. การปรับปรุงแผนการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
ลงชื่อ______________(ผ้สู อน)
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 57
แผนการจัดการเรียนรู้ที 7
การจัดการแสดงนาฏศิลป์ ในโอกาสต่าง ๆ
สาระที่ 3 นาฏศิลป์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ทกั ษะการแสดงนาฏศิลป์ ไทย เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสาคัญ
การจดั การแสดงนาฏศิลป์ ไทยสามารถนามาจดั แสดงในโอกาสต่าง ๆ โดยตอ้ งคานึงถึง
รูปแบบของงาน สถานท่ี ระยะเวลาและวยั ของผชู้ ม แบง่ ออกเป็น 4 ลกั ษณะ คือ งานพระราชพิธี งาน
มงคล งานอวมงคล และงานเทศกาลตา่ ง ๆ
2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี
ร่วมจดั งานการแสดงในบทบาทหนา้ ท่ีต่าง ๆ (ศ 3.1 ม. 3/6)
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายลกั ษณะและประเภทของงานในการจดั การแสดงได้ (K)
2. อธิบายข้นั ตอนการดาเนินงานของการจดั การแสดง (K)
3. ปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A)
4. จดั กิจกรรมการแสดงเพอื่ เผยแพร่ศิลปะการแสดงของไทย (P)
4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
ค่านิยม (A)
1. สงั เกตจากการถามและการ 1. สงั เกตจากความซ่ือสตั ยใ์ น 1. สังเกตจากการจดั กิจกรรม
แสดงความคิดเห็น การปฏิบตั ิกิจกรรม การแสดงเพอ่ื เผยแพร่
2. จากการตรวจการวดั และ 2. สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม ศิลปะการแสดงของไทยได้
ประเมินผลการเรียนรู้ประจา ดว้ ยความสนุกสนานและ ถูกตอ้ งเหมาะสม
หน่วย เพลิดเพลิน 2. สงั เกตจากการปฏิบตั ิ
3. จากการตรวจแบบทดสอบ 3. ประเมินพฤติกรรมตามแบบ กิจกรรมกลุ่มร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้
หลงั เรียน การประเมินผลดา้ นคณุ ธรรม อยา่ งคลอ่ งแคล่ว
4. จากการตรวจใบงาน จริยธรรม และค่านิยม 3. ประเมินพฤติกรรมตามแบบ
4. สงั เกตจากการยอมรับความ การประเมินผลดา้ นทกั ษะ/
คิดเห็นของผอู้ ่ืนขณะปฏิบตั ิ กระบวนการ
กิจกรรม
ค่มู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 58
5. สาระการเรียนรู้
14. วิธีการเลือกการแสดง
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพดู ถึงลกั ษณะประเภทของงานในการจดั การแสดง และข้นั ตอนการดาเนินงาน
ของการจดั การแสดง การแสดงความคิดเห็น การถามและการตอบขอ้ สงสัยต่าง ๆ
สังคมศึกษาฯ การปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นกลุม่ และการสร้างมนุษยสัมพนั ธ์
การงานอาชีพฯ การใชค้ อมพิวเตอร์ในคน้ หาขอ้ มลู ทางอินเทอร์เนต็ และจากการชมสื่อทางโทรทศั น์
7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้นั ท่ี 1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน
ครูทบทวนความรู้เดิมจากคร้ังที่แลว้ จากน้นั ครูนาเสนอเน้ือหาเรื่อง การจัดการแสดงนาฏศิลป์
ในโอกาสต่าง ๆ โดยซกั ถามประสบการณ์นกั เรียนวา่ ใครเคยจดั การแสดงนาฏศิลป์ ในโอกาสต่าง ๆ
มาบา้ ง ใหอ้ อกมาเลา่ ใหเ้ พื่อนฟัง
ขน้ั ท่ี 2 ข้นั สอน
1. ครูอธิบายเน้ือหาเรื่อง การจัดการแสดงนาฏศิลป์ ในโอกาสต่าง ๆ เกี่ยวกบั ลกั ษณะและ
ประเภทของงานในการจดั การแสดง และข้นั ตอนการดาเนินงานของการจดั การแสดง โดยการบรรยาย
และยกตวั อยา่ งประกอบ แลว้ ใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มูลเพิ่มเติมจากหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ดนตรี–
นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั
2. ครูใหน้ กั เรียนทุกคนร่วมกนั จดั กิจกรรมการแสดงเพอื่ เผยแพร่ศิลปะการแสดงของไทย โดย
มีการจดั แบง่ บทบาทหนา้ ที่ของแตล่ ะฝ่ ายในการจดั การแสดง และมีการดาเนินงานอยา่ งเป็นข้นั ตอน
ซ่ึงครูจะเป็นผใู้ หค้ าแนะนา โดยใหน้ กั เรียนเขยี นสรุปข้นั ตอนในการจดั การแสดงลงในใบงานท่ี 18
เร่ือง การจดั การแสดงนาฏศิลป์ ไทยในโอกาสตา่ ง ๆ
ขน้ั ท่ี 3 ข้ันสรุป
นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นและอภิปรายสรุปเร่ือง การจัดการแสดงนาฏศิลป์ ในโอกาส
ต่าง ๆ เป็นความคิดของช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ วามรู้เสริมในส่วนท่ีนกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจหรือสรุปไม่ตรง
กบั เน้ือหา
ข้ันท่ี 4 ฝึ กฝนผู้เรียน
1. นกั เรียนปฏิบตั ิ กิจกรรม ขน้ั ตอนในการดาเนินงานในการจัดการแสดง โดยใหน้ กั เรียน
อธิบายถึงข้นั ตอนในการดาเนินงานในการจดั การแสดงวา่ มีอะไรบา้ ง
2. ใหน้ กั เรียนฝึ กฝนเพิ่มเติมใชก้ ิจกรรมท่ี 37 กิจกรรมที่ 38 และกิจกรรมท่ี 39 ในแบบฝึก
ทกั ษะรายวิชาพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 59
3. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน
4. ใหน้ กั เรียนทาโครงงานตามความสนใจ
ขน้ั ที่ 5 การนาไปใช้
1. นกั เรียนสามารถนาความรู้เร่ือง การจัดการแสดงนาฏศิลป์ ในโอกาสต่าง ๆ ไปประยกุ ตใ์ ช้
ในการเรียนนาฏศิลป์ ในระดบั สูงตอ่ ไป
2. นาความรู้เรื่องการจดั การแสดงไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั การสร้างสรรคก์ ิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ เช่น
การนาข้นั ตอนในการจดั การแสดงไปประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นข้นั ตอนในการจดั กิจกรรมกีฬาสีของโรงเรียน
เป็ นตน้
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. กจิ กรรมสาหรับกลุ่มสนใจพเิ ศษ
นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 8 คน ร่วมกนั จดั การแสดงต่าง ๆ ที่นกั เรียนคดิ วา่ น่าสนใจในงานวนั
กีฬาสีท่ีโรงเรียนจดั ข้นึ
2. กจิ กรรมสาหรับฝึ กทกั ษะเพม่ิ เติม
นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน ร่วมกนั ศึกษาการจดั กิจกรรมการแสดงของชมรมนาฏศิลป์
ของโรงเรียนและจดั ทาเป็นรายงานส่งครู
9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. ใบงาน
2. หอ้ งสมดุ
3. สถานท่ีต่าง ๆ เช่น โรงละคร ศูนยว์ ฒั นธรรม สถานที่จดั การแสดงวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน
มหาวิทยาลยั ท่ีเปิ ดสอนดา้ นนาฏศิลป์ และการละคร เป็นตน้
4. อินเทอร์เน็ต
5. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั
6. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช
จากดั
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 60
10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้-
_________________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนวทางการ
พฒั นา____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนว
ทางแกไ้ ข_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
3. ส่ิงท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นไปตาม
แผน_____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
เหตุผล______________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
4. การปรับปรุงแผนการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
ลงชื่อ______________(ผ้สู อน)
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 61
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3
นาฏศิลป์ และการละครกับชีวิตประจาวนั
ผงั มโนทัศน์เป้าหมายการเรียนรู้ เวลา 4 ชั่วโมง
ความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ
– บทละคร – กระบวนการคดิ
– ละครกบั ชีวติ – การศึกษาคน้ ควา้
– ความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ – การวิเคราะห์
และการละครกบั ชีวติ ประจาวนั – การสังเกต
– การอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร – การนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
– ทกั ษะการปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นรายบุคคล
– ทกั ษะการปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นรายกล่มุ
นาฏศิลป์ และการละคร
กบั ชีวติ ประจาวัน
ภาระงาน/ชิ้นงาน คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
– การทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน – มีเจตคติที่ดีต่อนาฏศิลป์ และละครกบั
– ศึกษาองคป์ ระกอบของบทละคร ชีวิตประจาวนั
– เขยี นบทละครประกอบการแสดงละคร – เห็นคุณคา่ และความสาคญั ของ
– ศึกษาความหมายของละครกบั ชีวิต นาฏศิลป์ และละครกบั ชีวติ ประจาวนั
– ศึกษาความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละคร – ปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นรายบคุ คลและ
กบั ชีวิตประจาวนั ปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นกลมุ่ ดว้ ยความ
– อธิบายการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร ซื่อสตั ย์ ความรับผิดชอบ
– ใบงาน – ปฏิบตั ิตนอยา่ งมีมารยาทในการ
– การจดั ทารายงาน ปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกบั ผอู้ ่ืน
– การทาโครงงาน
– การจดั ทาป้ายนิเทศ
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 62
ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3นาฏศิลป์ และการละครกบั ชีวิตประจาวัน
ข้ันท่ี 1 ผลลัพธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกดิ ขึน้ กับนักเรียน
ตวั ชี้วดั ชั้นปี
1. ระบโุ ครงสรา้ งของบทละครโดยใชศ้ พั ทท์ างการละคร (ศ 3.1 ม. 3/1)
2. นาเสนอแนวคิดจากเน้ือเรื่องของการแสดงท่ีสามารถนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั (ศ 3.1 ม. 3/7)
3. อธิบายความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวติ ประจาวนั (ศ 3.2 ม. 3/2)
4. แสดงความคิดเห็นในการอนุรักษ์ (ศ 3.2 ม. 3/3)
ความเข้าใจทค่ี งทนของนกั เรียน คาถามสาคญั ที่ทาให้เกิดความเข้าใจทค่ี งทน
นกั เรียนจะเข้าใจว่า... 1. บทละครหมายถึงอะไร
1. บทละคร คอื บทประพนั ธ์ที่นาเสนอเร่ืองราว 2. บทละครมีองคป์ ระกอบอะไรบา้ ง
ความคดิ เน้ือหาสาระและจินตนาการของผปู้ ระพนั ธ์ 3. ละครกบั ชีวติ มีความหมายวา่ อะไร
เป็นส่ือระหวา่ งผแู้ สดงกบั ผชู้ ม 4. นาฏศิลป์ และการละครมีความสาคญั อยา่ งไร
2. บทละครประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบ ดงั น้ี 5. นาฏศิลป์ และการละครมีบทบาทอะไรใน
โครงเรื่อง ตวั ละครและการวางลกั ษณะนิสัยของตวั ชีวติ ประจาวนั
ละคร ความคดิ หรือแก่นของเร่ือง บทสนทนา 6. นาฏศิลป์ และการละครมีการอนุรักษอ์ ยา่ งไร
3. ละครเป็นการแสดงที่จาลองมาจากชีวิตจริงของ
มนุษย์ โดยนาเอาประสบการณ์ในชีวติ จริงมาผนวก
กบั จินตนาการแลว้ สร้างสรรคเ์ ป็นเร่ืองราวท่ีสะทอ้ น
ภาพชีวติ เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของมนุษย์ 3
ดา้ น คอื ดา้ นอารมณ์ ดา้ นสมอง ดา้ นจิตใจ
4. นาฏศิลป์ และการละครมีความสาคญั กบั
ชีวติ ประจาวนั ของมนุษยต์ ้งั แต่เกิดจนตาย มี
ความสาคญั คอื แสดงถึงความเป็นอารยประเทศ
เป็นแหลง่ รวมศิลปะแขนงต่าง ๆ
5. บทบาทของนาฏศิลป์ และการละครเป็นกิจกรรมที่
ปรากฏอยใู่ นสังคม มีความสมั พนั ธ์กบั ชีวติ ประจาวนั คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 63
เช่น การเล่านิทาน การเลียนแบบ กิจกรรมเพื่อความ
บนั เทิง ทกั ษะ/ความสามารถของนกั เรียนทน่ี าไปสู่
6. การอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละครน้นั ถือวา่ เป็น ความเข้าใจทีค่ งทน
หนา้ ท่ีของคนไทยทกุ คนที่จะตอ้ งตระหนกั ถึงคณุ ค่า นกั เรียนจะสามารถ...
ของงานนาฏศิลป์ ที่บรรพบุรุษไดส้ ร้างสรรคข์ ้ึนมา 1.อธิบายความหมายของบทละครได้
ต้งั แตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบนั อีกท้งั ยงั มีการจดั ต้งั 2. อธิบายองคป์ ระกอบของบทละครได้
หน่วยงานที่มีหนา้ ท่ีในการช่วยส่งเสริมและอนุรักษ์ 3. อธิบายความหมายของละครกบั ชีวติ ได้
นาฏศิลป์ ไทย 4. อธิบายความสาคญั ของนาฏศิลป์ และการ
ละครได้
ความรู้ของนักเรียนทีน่ าไปสู่ความเข้าใจทคี่ งทน 5. อธิบายบทบาทของนาฏศิลป์ และการละคร
ในชีวติ ประจาวนั ได้
นักเรียนจะรู้ว่า... 6. อธิบายการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร
1. คาสาคญั ที่ควรรู้ ไดแ้ ก่ ตวั โกง เทพนิยาย ไทยได้
เวนิสวาณิช
2. บทละคร คอื บทประพนั ธ์ท่ีนาเสนอเร่ืองราว
ความคิด เน้ือหาสาระและจินตนาการของผปู้ ระพนั ธ์
เพ่อื ใชเ้ ป็นสื่อระหวา่ งผแู้ สดงกบั ผชู้ ม และยงั เป็น
ตวั กาหนดองคป์ ระกอบต่าง ๆ ของการแสดงละครท้งั
โครงเรื่อง ฉาก แสง สี เส้ือผา้ และการแสดงออกของ
ผแู้ สดง
3. บทละครประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบ ดงั น้ี
1) โครงเร่ือง คือ การลาดบั เหตกุ ารณ์ของการแสดง
ต้งั แตต่ น้ จนจบการแสดง กาหนดลกั ษณะของตวั
ละครในเรื่องวา่ ใคร ทาอะไร ที่ไหน อยา่ งไร และตวั
ละครมีลกั ษณะนิสัยอยา่ งไร ซ่ึงโครงเรื่องท่ีดีจะตอ้ งมี
ความเป็นเอกภาพและมีความสมบูรณ์อยใู่ นตวั เอง จะ
ประกอบดว้ ยตอนตน้ ตอนกลาง และตอนจบอยา่ ง
ชดั เจน
2) ตวั ละครและการวางลกั ษณะนิสยั ของตวั ละคร
ตวั ละคร คอื ผทู้ ่ีดาเนินเรื่องราวต่าง ๆ ของละคร เป็น
ผทู้ ี่ไดร้ ับผลจากการกระทาในบทละคร สามารถแบ่ง
คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 64
ออกเป็น 2 ประเภท คอื
(1) ตวั ละครที่ลกั ษณะแบบตายตวั
(2) ตวั ละครท่ีมองเห็นไดร้ อบดา้ น
การวางลกั ษณะนิสยั ของตวั ละคร คือ การกาหนด
ลกั ษณะนิสัยของตวั ละครตามความเหมาะสมของ
เรื่องราวในละครที่นาเสนอการแสดงของพฤติกรรม
และลกั ษณะนิสยั ของตวั ละครท่ีจะตอ้ งมีหลกั ของ
เหตผุ ล แบ่งออกเป็น
(1) ตวั ละครหลกั หรือตวั ละครสาคญั
(2) ตวั ละครรอง
3) ความคิดหรือแก่นของเรื่อง เป็นจุดมงุ่ หมายของ
การแสดงละครที่ผเู้ ขียนตอ้ งการนาเสนอต่อผชู้ มเม่ือ
ชมการแสดงจบ เป็นสาระสาคญั ของละครแต่ส่วน
ใหญ่จะอยใู่ นเรื่องราวและบทสนทนา ซ่ึงมีคุณค่าต่อ
จิตใจและสติปัญญา ผชู้ มสามารถนามาปรับใชใ้ น
ชีวิตประจาวนั ได้
4) บทสนทนา คอื การใชค้ าพูดในการแสดงดว้ ยการ
ใชถ้ อ้ ยคาอยา่ งมีศิลปะ บทสนทนาน้ีจะเป็นร้อยแกว้
หรือร้อยกรองก็ได้ ซ่ึงผเู้ ขยี นบทละครที่ดีตอ้ งเขียนได้
ตรงตามประเภทของบทละคร ลกั ษณะนิสยั ของตวั
ละคร เหตกุ ารณ์ในแต่ละตอนของละคร ส่ิงที่สาคญั
ท่ีสุดของบทสนทนา คือ การแสดงลกั ษณะนิสยั
ความคดิ และอารมณ์ของตวั ละครท่ีนาไปสู่การกระทา
ต่าง ๆ ของตวั ละครท่ีผลต่อการดาเนินเรื่องราวใน
ละคร
4. ละครเป็นการแสดงที่จาลองมาจากชีวติ จริงของ
มนุษย์ โดยนาเอาประสบการณ์ในชีวติ จริงมาผนวก
กบั จินตนาการแลว้ สร้างสรรคเ์ ป็นเร่ืองราวท่ีสะทอ้ น
ภาพชีวิต มีการนาเสนอในรูปแบบตา่ ง ๆ มีผูแ้ สดง
เป็นผถู้ ่ายทอดเรื่องราวแก่ผชู้ ม เพื่อสร้างความบนั เทิง
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 65
หรือสอดแทรกคติสอนใจ เพ่อื ตอบสนองความ
ตอ้ งการของมนุษย์ 3 ดา้ น คือ
1) ดา้ นอารมณ์ เพอื่ ใหค้ วามบนั เทิง ช่วยผอ่ นคลาย
ความตึงเครียด ทาใหม้ นุษยม์ ีความสุข
2) ดา้ นสมอง ใหค้ ุณค่าทางดา้ นสติปัญญา สามารถ
นาขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการชมละครมาปรับใชใ้ นการ
แกป้ ัญหา
3) ดา้ นจิตใจ ละครมีความสัมพนั ธ์กบั จิตใจของ
มนุษยม์ าเป็นเวลาชา้ นาน มีส่วนช่วยในการกลอ่ มเกลา
จิตใจ
5. นาฏศิลป์ และการละครมีความสาคญั กบั
ชีวิตประจาวนั ของมนุษยต์ ้งั แต่เกิดจนตาย มี
ความสาคญั ดงั น้ี
1) แสดงถึงความเป็นอารยประเทศ เพราะศิลปะเป็น
สิ่งท่ีมีคณุ คา่ ตอ่ จิตใจของมนุษยเ์ ป็นเคร่ืองโนม้ นา้ ว
อารมณ์ ใหแ้ ง่คิดและให้กาลงั ใจในการท่ีจะสร้าง
ความเจริญรุ่งเรืองในชาติสืบไป
2) เป็นแหล่งรวมศิลปะแขนงตา่ ง ๆ เพราะศิลปะ
แขนงตา่ ง ๆ น้นั มีความเชื่อมโยงเกี่ยวเน่ืองกนั ท้งั สิ้น
ไดแ้ ก่
(1) วรรณกรรม คือ การแตง่ บทละคร บทร้อง
(2) จิตรกรรม คือ การเขยี นฉาก การแต่งหนา้ ตวั
ละคร
(3) ประติมากรรม คือ การป้ัน การหลอ่ การสลกั รูป
(4) สถาปัตยกรรม คือ การสรา้ งเวที การสร้างฉาก
(5) ดุริยางคศิลป์ คือ การบรรเลงดนตรี ขบั ร้อง
6. บทบาทของนาฏศิลป์ และการละครเป็นกิจกรรมที่
ปรากฏอยใู่ นสังคม มีความสัมพนั ธ์กบั ชีวติ ประจาวนั
เช่น
คูม่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 66
1) การเลา่ นิทาน เป็นกิจกรรมท่ีมีลกั ษณะของการ
ละครผสมอยเู่ พราะเป็นเร่ืองราวที่เล่าต่อ ๆ กนั มาหรือ
เป็นเรื่องนิทานพ้ืนบา้ นสอนใจ
2) การเลียนแบบ คอื การสมมุติตนเองในการเล่น
ของเด็ก ๆ เช่น การเลน่ ขายของ สมมุติตนเองเป็น
พอ่ คา้ แมค่ า้ ลกู คา้ เป็นตน้
3) กิจกรรมเพือ่ ความบนั เทิง เป็นการแสดงเพอื่ ผ่อน
คลายความเครียด ความเหน่ือยลา้ จากการทางาน หรือ
เป็นการแสดงที่ใชแ้ สดงในงานเทศกาลต่าง ๆ เพื่อ
สร้างความบนั เทิง
ข้นั ท่ี 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ซึ่งเป็ นหลกั ฐานทแ่ี สดงว่านกั เรียนมผี ลการเรียนรู้ตามที่
กาหนดไว้อย่างแท้จริง
1. ภาระงานทีน่ กั เรียนต้องปฏิบัติ
– ศึกษาและอธิบายความหมายของบทละคร
– ศึกษาและอธิบายความหมายองคป์ ระกอบของบทละคร
– ศึกษาและอธิบายความหมายของละครกบั ชีวิต
– ศึกษาและอธิบายความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวิตประจาวนั
– ศึกษาและอธิบายการอนุรักษน์ าฏศิลป์ ไทย
2. วิธกี ารและเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้
วธิ กี ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ เคร่ืองมือประเมินผลการเรียนรู้
– การทดสอบ – แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน
– การสนทนาซกั ถามโดยครู – แบบบนั ทึกขอ้ มูลการแสดงความคดิ เห็นและ
– การแสดงความคดิ เห็นและการอภิปราย การอภิปราย
– การฝึกปฏิบตั ิระหวา่ งเรียน – ใบงาน
– การประเมินผลดา้ นความรู้ – แบบประเมินผลดา้ นความรู้
– การประเมินผลดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม และ – แบบประเมินผลดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม
คา่ นิยม และคา่ นิยม
– การประเมินผลดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ – แบบประเมินผลดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 67
3. ส่ิงทีม่ ุ่งประเมนิ
– อธิบายความหมายของบทละครได้
– อธิบายความหมายองคป์ ระกอบของบทละครได้
– อธิบายความหมายของละครกบั ชีวิตได้
– อธิบายความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวิตประจาวนั ได้
– อธิบายการอนุรักษน์ าฏศิลป์ ไทย
ข้นั ท่ี 3 แผนการจดั การเรียนรู้
– แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 17 บทละคร 1 ชวั่ โมง
– แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 18 ละครกบั ชีวิต 1 ชวั่ โมง
– แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 19 ความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละคร
ในชีวติ ประจาวนั 1 ชวั่ โมง
– แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 20 การอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร 1 ชวั่ โมง
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 68
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8
บทละคร
สาระที่ 3 นาฏศิลป์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี่ ท่ี 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 นาฏศิลป์ และการละครกับชีวิตประจาวนั เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสาคัญ
บทละคร คือ บทประพนั ธ์ท่ีนาเสนอเร่ืองราว ความคิด เน้ือหาสาระและจินตนาการของ
ผปู้ ระพนั ธ์ เพอ่ื ใชเ้ ป็นส่ือระหว่างผแู้ สดงกบั ผชู้ ม และยงั เป็นตวั กาหนดองคป์ ระกอบต่าง ๆ ของการ
แสดงละคร
2. ตวั ชีว้ ัดช้ันปี
ระบโุ ครงสร้างของบทละครโดยใชศ้ พั ทท์ างการละคร (ศ 3.1 ม. 3/1)
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. รู้และเขา้ ใจสามารถอธิบายความหมายของบทละครและองคป์ ระกอบของบทละครกบั ชีวิต
ได้ (K)
2. ปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A)
3. วเิ คราะหแ์ ละสรุปความหมายของบทละครและองคป์ ระกอบของบทละครได้ (P)
4. เขยี นบทละครประกอบการแสดงละครได้ (P)
4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
ค่านยิ ม (A)
1. สงั เกตจากการถามและการ 1. สงั เกตจากความเสียสละใน 1. สังเกตจากการวิเคราะห์
แสดงความคดิ เห็น การปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกบั ผอู้ ื่น และสรุปความหมายของ
2. จากการตรวจการวดั และ 2. สงั เกตจากการปฏิบตั ิ บทละครและองคป์ ระกอบ
ประเมินผลการเรียนรู้ประจา กิจกรรมดว้ ยความ ของบทละคไดถ้ กู ตอ้ ง
หน่วย สนุกสนานและเพลิดเพลิน 2. สังเกตจากการปฏิบตั ิ
3. จากการตรวจแบบทดสอบ กิจกรรมรายบุคคลและ
ก่อนเรียน ปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกบั
4. จากการตรวจใบงาน ผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่ว
คูม่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 69
5. สาระการเรียนรู้
▪ องคป์ ระกอบของบทละคร
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดอธิบายความหมายของบทละคร และองคป์ ระกอบของบทละคร การเขยี น
บทละคร
วิทยาศาสตร์ การสงั เกตองคป์ ระกอบของละคร
สังคมศึกษาฯ การปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นกลมุ่ และการสร้างมนุษยสัมพนั ธ์
การงานอาชีพฯ การใชค้ อมพวิ เตอร์ในคน้ หาขอ้ มูลทางอินเทอร์เน็ต และจากการชมสื่อโทรทศั น์
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
1. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเพือ่ ประเมินความรู้
2. ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียนวา่ บทละครคืออะไร และมีองคป์ ระกอบอะไรบา้ ง แลว้ ให้
นกั เรียนช่วยตอบพร้อมท้งั ช่วยแสดงความคิดเห็นอยา่ งอิสระ
ขน้ั ท่ี 2 ข้นั สอน
1. ครูนาเสนอเน้ือหาเรื่อง บทละคร เก่ียวกบั ความหมายของบทละคร และองคป์ ระกอบของ
บทละคร โดยการบรรยายและยกตวั อยา่ งประกอบพร้อมท้งั ใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มูลเพิ่มเติมจากหนงั สือ
เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั จากน้นั ใหน้ กั เรียน
แบ่งกล่มุ กลุ่มละ 5 คน พร้อมแจกตวั อยา่ งบทละครเวที ใหแ้ ต่ละกลุ่มไปศึกษาองคป์ ระกอบของบท
ละคร (ใหค้ รูเลือกใชบ้ ทละครเร่ืองท่ีครูเห็นวา่ เหมาะสม
2. ใหน้ กั เรียนเขียนสรุปลงในใบงานที่ 19 เร่ือง ความหมายและองคป์ ระกอบของบืทละคร
และมใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมาอธิบายถึงองคป์ ระกอบของละครเวทีใหค้ รูและเพ่อื น ๆ ฟัง พร้อมท้งั ร่วมกนั
แสดงความคดิ เห็น
3. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ใหร้ ่วมกนั แต่งบทละครข้นึ ใหม่ 1 เร่ืองเก่ียวกบั การ
ทาความดีถวายในหลวง โดยใหน้ กั เรียนคิดโครงเร่ือง ตวั ละครและวางลกั ษณะนิสยั ของตวั ละคร
ความคดิ หรือแก่นของเร่ือง และบทสนทนาข้นึ ใหม่ลงในใบงานท่ี 20 เรื่อง บทละคร
4. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ นาบทละครที่แตล่ ะกลุ่มไดแ้ ต่งข้นึ นามาแสดงหนา้ ช้นั เรียนใหค้ รูและ
เพือ่ น ๆ ชม โดยใหก้ ลุ่มท่ีไม่ไดแ้ สดงช่วยกนั วเิ คราะห์ วิจารณ์บทละครและการแสดงของเพ่ือน ๆ
สลบั กนั ไปเร่ือย ๆ จนแสดงครบทกุ กลุ่ม
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 70
ขัน้ ท่ี 3 ข้ันสรุป
นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเร่ือง บทละคร เป็นความคดิ ของช้นั เรียน
โดยครูคอยใหค้ วามรู้เสริมในส่วนท่ีนกั เรียนไม่เขา้ ใจหรือสรุปไมต่ รงกบั เน้ือหา
ขั้นท่ี 4 ฝึ กฝนผ้เู รียน
1. นกั เรียนปฏิบตั ิ กิจกรรม ความหมายของบทละคร โดยใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายสรุป
ความหมายของบทละครมาตามความเขา้ ใจ
2. นกั เรียนปฏิบตั ิ กิจกรรม องค์ประกอบของบทละคร โดยใหน้ กั เรียนเขยี นบทละครข้ึนมา 1
เร่ือง โดยใชอ้ งคป์ ระกอบของบทละครตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรคข์ องนกั เรียน
3. ใหน้ กั เรียนฝึ กฝนเพิ่มเติมใชก้ ิจกรรมท่ี 40 และกิจกรรมที่ 41 ในแบบฝึ กทกั ษะ รายวชิ า
พ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั
ขั้นท่ี 5 การนาไปใช้
นกั เรียนสามารถนาความรู้เร่ือง บทละครไปใชใ้ นการชมละคร หรือเพ่ือพฒั นาทกั ษะดา้ น
นาฏศิลป์ และสามารถอธิบายใหก้ บั ผทู้ ี่สนใจฟังได้
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กจิ กรรมสาหรับกลุ่มสนใจพเิ ศษ
นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 8 คน ร่วมกนั เขียนบทละครข้นึ มา 1 เรื่อง เก่ียวกบั ยาเสพติดและ
นามาแสดงละครในวนั ตอ่ ตา้ นยาเสพติดโลก ใหเ้ พ่ือน ๆ ชมที่หอประชุมโรงเรียน
2. กิจกรรมสาหรับฝึ กทกั ษะเพมิ่ เตมิ
นกั เรียนศึกษาเร่ืองบทละครเพิ่มเติมทางอินเทอร์เนต็ หรือสมั ภาษณ์ผเู้ ชี่ยวชาญ หรือผรู้ ู้ใน
ชุมชน แลว้ จดั ทาเป็นรายงานส่งครู
9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. บทละครเวทีเร่ือง ขา้ งหลงั ภาพ
2. ใบงาน
3. สถานที่ตา่ ง ๆ เช่น โรงเรียน โรงละคร เป็นตน้
4. อินเทอร์เนต็
5. ผเู้ ชี่ยวชาญ หรือผมู้ ีความรู้ดา้ นนาฏศิลป์ ในชุมชน
6. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั
7. แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช
จากดั
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 71
10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้-
_________________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนวทางการ
พฒั นา____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนว
ทางแกไ้ ข_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
3. ส่ิงท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นไปตาม
แผน_____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
เหตุผล______________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
4. การปรับปรุงแผนการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
ลงชื่อ______________(ผ้สู อน)
คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 72
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
ละครกับชีวติ
สาระท่ี 3 นาฏศิลป์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 นาฏศิลป์ และการละครกับชีวติ ประจาวนั เวลา 1 ช่ัวโมง
1. สาระสาคัญ
ละคร คอื การแสดงที่จาลองมาจากชีวติ จริงของมนุษย์ เป็นการนาเอาประสบการณ์ตา่ ง ๆ มา
ผนวกกบั จินตนาการและการสร้างสรรคอ์ อกมาเป็นเร่ืองราวท่ีสะทอ้ นภาพชีวิต มีการนาเสนอออกมา
ในรูปแบบตา่ ง ๆ เพอื่ สร้างความบนั เทิงและตอบสนองความตอ้ งการของมนุษยท์ ้งั 3 ดา้ น คือ ดา้ น
อารมณ์ ดา้ นสมอง และดา้ นจิตใจ
2. ตัวชีว้ ดั ช้ันปี
นาเสนอแนวคิดจากเน้ือเร่ืองของการแสดงท่ีสามารถนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั
(ศ 3.1 ม. 3/7)
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความหมายของละครกบั ชีวติ ได้ (K)
2. อธิบายความสัมพนั ธข์ องละครกบั ชีวิตได้ (K)
3. ปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A)
4. วเิ คราะห์และสรุปความหมายของละครกบั ชีวิตได้ (P)
5. วเิ คราะห์และสรุปความสัมพนั ธข์ องละครกบั ชีวิตได้ (P)
4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
ค่านยิ ม (A)
1. สงั เกตจากการถามและการ 1. สังเกตจากความซื่อสตั ยใ์ น 1. สงั เกตจากการวิเคราะห์
แสดงความคิดเห็น การปฏิบตั ิกิจกรรม และสรุปความหมายของ
2. จากการตรวจการวดั และ 2. สงั เกตจากความมีน้าใจและ ละครกบั ชีวติ ไดถ้ กู ตอ้ ง
ประเมินผลการเรียนรู้ประจา ความเสียสละในการปฏิบตั ิ 2. สงั เกตจากการปฏิบตั ิ
หน่วย กิจกรรมร่วมกบั ผอู้ ื่น กิจกรรมรายบคุ คลและ
3. จากการตรวจใบงาน 3. สังเกตจากการปฏิบตั ิ ปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกบั
กิจกรรมดว้ ยความ ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว
สนุกสนานและเพลิดเพลิน
4. สงั เกตจากการยอมรับความ
คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 73
คิดเห็นของผอู้ ื่น ขณะ
ปฏิบตั ิกิจกรรม
5. สาระการเรียนรู้
▪ ละครกบั ชีวิต
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดอธิบายความหมายของละครกบั ชีวติ ความสัมพนั ธข์ องละครกบั ชีวติ
วทิ ยาศาสตร์ การสังเกตการดาเนินชีวิตประจาวนั ของผคู้ น
สังคมศึกษาฯ การปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นกลมุ่ และการสร้างมนุษยสมั พนั ธ์
การงานอาชีพฯ การใชค้ อมพิวเตอร์ในคน้ หาขอ้ มูลทางอินเทอร์เน็ต และจากการชมส่ือโทรทศั น์
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้นั ท่ี 1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน
ครูใหน้ กั เรียนชมวีดิทศั น์การแสดงละครประเภทต่าง ๆ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ การแสดงท่ี
นกั เรียนไดช้ มน้นั มีลกั ษณะการแสดงอยา่ งไร เก่ียวขอ้ งกบั ชีวิตปะจาวนั หรือไม่ อยา่ งไรโดยใหน้ กั เรียน
แสดงความคดิ เห็น และอภิปรายตามความรู้ ความเขา้ ใจ และประสบการณ์ตนเอง
ขนั้ ที่ 2 ขั้นสอน
1. ครูอธิบายเน้ือหาเรื่อง ละครกบั ชีวิต เก่ียวกบั ความหมายของละครกบั ชีวิต
ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งละครกบั ชีวติ โดยการบรรยายและยกตวั อยา่ งประกอบ พร้อมท้งั ใหน้ กั เรียน
ศึกษาขอ้ มูลเพ่ิมเติมจากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นา
พานิช จากดั
2. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มไปศึกษาถึงความหมายและ
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งละครกบั ชีวติ
3. ใหน้ กั เรียนเขยี นสรุปลงในใบงานท่ี 21 เรื่อง ความหมายและความสมั พนั ธข์ องละครกบั
ชีวติ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ออกมาอธิบายถึงความหมายและความสัมพนั ธ์ของละครกบั ชีวติ ใหค้ รูและเพอ่ื น ๆ
ฟัง พร้อมท้งั ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 74
ข้นั ที่ 3 ข้ันสรุป
นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นและอภิปรายสรุปเรื่อง ละครกับชีวิต เป็นความคิดของช้นั
เรียน โดยครูคอยใหค้ วามรู้เสริมในส่วนท่ีนกั เรียนไม่เขา้ ใจหรือสรุปไมต่ รงกบั เน้ือหา
ขน้ั ที่ 4 ฝึ กฝนผ้เู รียน
1. นกั เรียนปฏิบตั ิ กิจกรรม ความหมายของละครกับชีวิต โดยใหน้ กั เรียนเขยี นบรรยายสรุป
ความหมายของละครกบั ชีวิตลงในใบงาน มาตามความเขา้ ใจ
2. นกั เรียนปฏิบตั ิ กิจกรรม ความสัมพันธ์ของละครกบั ชีวิต โดยใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายสรุป
ความสมั พนั ธข์ องละครกบั ชีวิตลงในใบงาน มาตามความเขา้ ใจ
ขั้นท่ี 5 การนาไปใช้
นกั เรียนสามารถนาความรู้เร่ือง ละครกบั ชีวิต ไปประยกุ ตใ์ นการเรียนนาฏศิลป์ ในระดบั สูง
ตอ่ ไป
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. กิจกรรมสาหรับกล่มุ สนใจพเิ ศษ
นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน ร่วมกนั จดั ทาป้ายนิเทศเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกบั ละครกบั ชีวิต
2. กิจกรรมสาหรับฝึ กทกั ษะเพมิ่ เตมิ
นกั เรียนศึกษาเร่ือง ละครกบั ชีวิต เพิ่มเติมทางอินเทอร์เนต็ หรือสัมภาษณ์ผเู้ ช่ียวชาญ หรือผรู้ ู้
ดา้ นนาฏศิลป์ ในชุมชนแลว้ จดั ทาเป็นรายงานส่งครู
9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. สื่อวีดิทศั น์การแสดงละครประเภทตา่ ง ๆ
2. ใบงาน
3. สถานที่ตา่ ง ๆ เช่น โรงละคร ศนู ยว์ ฒั นธรรม สถานท่ีจดั การแสดงวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น
มหาวทิ ยาลยั ท่ีเปิ ดสอนดา้ นนาฏศิลป์ และการละคร เป็นตน้
4. อินเทอร์เน็ต
5. ผเู้ ชี่ยวชาญ หรือผมู้ ีความรู้ดา้ นนาฏศิลป์ ในชุมชน
6. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั
7. แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช
จากดั
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 75
10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้-
_________________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนวทางการ
พฒั นา____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนว
ทางแกไ้ ข_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
3. ส่ิงท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นไปตาม
แผน_____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
เหตุผล______________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
4. การปรับปรุงแผนการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
ลงชื่อ______________(ผ้สู อน)
คูม่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 76
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 19
ความสาคัญและบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวติ ประจาวัน
สาระที่ 3 นาฏศิลป์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 นาฏศิลป์ และการละครกับชีวิตประจาวัน เวลา 1 ช่ัวโมง
1. สาระสาคญั
นาฏศิลป์ และการละครมีความสาคญั กบั การดาเนินชีวติ ของมนุษยต์ ้งั แตเ่ กิดจนตาย มี
ความสาคญั ในการแสดงถึงความเป็นอารยประเทศ และยงั เป็นแหล่งรวบรวมศิลปะแขนงต่าง ๆ ซ่ึง
บทบาทของนาฏศิลป์ และการละครยงั มีความสัมพนั ธ์กบั ชีวติ ประจาวนั ไดแ้ ก่ การเล่านิทาน การ
เลียนแบบ กิจกรรมเพื่อความบนั เทิง เป็นตน้
2. ตวั ชี้วดั ช้ันปี
อธิบายความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวติ ประจาวนั (ศ 3.2 ม. 3/2)
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความสาคญั ของนาฏศิลป์ และการละครในชีวติ ประจาวนั ได้ (K)
2. อธิบายบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวิตประจาวนั ได้ (K)
3. ปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A)
4. วเิ คราะหแ์ ละสรุปความสาคญั ของนาฏศิลป์ และการละครได้ (P)
5. วิเคราะหแ์ ละสรุปบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครได้ (P)
4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
ค่านยิ ม (A)
1. สังเกตจากการถามและการ 1. สังเกตจากความซ่ือสัตยใ์ น 1. สังเกตจากความสามารถใน
แสดงความคดิ เห็น การปฏิบตั ิกิจกรรม การวิเคราะหแ์ ละสรุป
2. จากการตรวจการวดั และ 2. สังเกตจากความมีน้าใจและ ความสาคญั และบทบาท
ประเมินผลการเรียนรู้ประจา ความเสียสละในการปฏิบตั ิ ของนาฏศิลป์ และการละครใน
หน่วย กิจกรรมร่วมกบั ผอู้ ่ืน ชีวติ ประจาวนั ไดถ้ กู ตอ้ ง
3. จากการตรวจใบงาน 3. สังเกตจากการปฏิบตั ิ 2. สงั เกตจากการปฏิบตั ิตาม
กิจกรรมดว้ ยความ กิจกรรมไดถ้ กู ตอ้ งตาม
สนุกสนานและเพลิดเพลิน ข้นั ตอน
คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 77
ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
ค่านยิ ม (A)
4. สงั เกตจากการยอมรับความ 3. สงั เกตจากการปฏิบตั ิ
คิดเห็นของผอู้ ่ืน ขณะ กิจกรรมรายบคุ คลและ
ปฏิบตั ิกิจกรรม ปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกบั
ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว
5. สาระการเรียนรู้
5. ความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวติ ประจาวนั
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพูดอธิบายอิทธิพลความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครใน
ชีวติ ประจาวนั
สังคมศึกษาฯ การปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นกลมุ่ และการสร้างมนุษยสัมพนั ธ์
การงานอาชีพฯ การใชค้ อมพิวเตอร์ในคน้ หาขอ้ มลู ทางอินเทอร์เนต็ และจากการชมส่ือโทรทศั น์
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้ันท่ี 1 ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน
ครูทบทวนความรู้เดิมเม่ือคร้ังที่แลว้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นอยา่ งอิสระวา่
ความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวติ หมายถึงอะไร มีบทบาทและความสาคญั
อยา่ งไร
ขน้ั ที่ 2 ข้นั สอน
1. ครูอธิบายเน้ือหาเรื่อง ความสาคัญและบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครใน
ชีวิตประจาวนั เก่ียวกบั ความความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวิตประจาวนั โดย
การบรรยายและยกตวั อยา่ งประกอบพร้อมท้งั ใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มูลเพิ่มเติมจากหนงั สือเรียน รายวชิ า
พ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั
2. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มไปศึกษาถึงความสาคญั และบทบาท
ของนาฏศิลป์ ในชีวติ ประจาวนั แลว้ วิเคราะหค์ วามสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครใน
ชีวติ ประจาวนั
3. ใหน้ กั เรียนเขียนสรุปลงในใบงานท่ี 22 เร่ือง ความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการ
ละครในชีวติ ประจาวนั แลว้ ให้แต่ละกลุ่มออกมาอธิบายถึงความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และ
การละครในชีวิตประจาวนั ใหค้ รูและเพือ่ น ๆ ฟัง พร้อมท้งั ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น
คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 78
ข้นั ที่ 3 ข้ันสรุป
นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเร่ือง ความสาคัญและบทบาทของ
นาฏศิลป์ และการละครในชีวิตประจาวัน เป็นความคดิ ของช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ วามรู้เสริมในส่วน
ท่ีนกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจหรือสรุปไม่ตรงกบั เน้ือหา
ขน้ั ที่ 4 ฝึ กฝนผ้เู รียน
1. นกั เรียนปฏิบตั ิ กิจกรรม ความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครใน
ชีวิตประจาวนั โดยใหน้ กั เรียนเขยี นบรรยายสรุปลงในใบงาน มาตามความเขา้ ใจ
2. ใหน้ กั เรียนฝึ กฝนเพ่ิมเติมโดยใชก้ ิจกรรมท่ี 42 และกิจกรรมที่ 43 ใบแบบฝึ กทกั ษะ รายวชิ า
พ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั
ขน้ั ท่ี 5 การนาไปใช้
นกั เรียนสามารถนาความรู้เรื่อง ความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครใน
ชีวิตประจาวัน ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรียนนาฏศิลป์ ในระดบั สูงต่อไป
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
1. กจิ กรรมสาหรับกลุ่มสนใจพเิ ศษ
นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน ร่วมกนั จดั ทาป้ายนิเทศเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกบั ความสาคญั
และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวติ ประจาวนั
2. กิจกรรมสาหรับฝึ กทักษะเพม่ิ เติม
นกั เรียนศึกษาความสาคญั และบทบาทของนาฏศิลป์ และการละครในชีวิตประจาวนั เพิม่ เติม
ทางอินเทอร์เนต็ หรือสมั ภาษณ์ผเู้ ช่ียวชาญ หรือผรู้ ู้ดา้ นนาฏศิลป์ ในชุมชน แลว้ จดั ทาเป็นรายงานส่งครู
9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. ใบงาน
2. หอ้ งสมดุ
3. สถานที่ตา่ ง ๆ เช่น โรงละคร ศูนยว์ ฒั นธรรม สถานที่จดั การแสดงวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน
มหาวิทยาลยั ที่เปิ ดสอนดา้ นนาฏศิลป์ และการละคร เป็นตน้
4. อินเทอร์เน็ต
5. ผเู้ ชี่ยวชาญ หรือผมู้ ีความรู้ดา้ นนาฏศิลป์ ในชุมชน
6. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั
7. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช
จากดั
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 79
10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้-
_________________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนวทางการ
พฒั นา____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนว
ทางแกไ้ ข_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
3. ส่ิงท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นไปตาม
แผน_____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
เหตุผล______________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
4. การปรับปรุงแผนการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
ลงชื่อ______________(ผ้สู อน)
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 80
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20
การอนุรักษ์นาฏศิลป์ และการละคร
สาระท่ี 3 นาฏศิลป์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 นาฏศิลป์ และการละครกับชีวิตประจาวัน เวลา 1 ชั่วโมง
1. สาระสาคัญ
การอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละครน้นั ถือวา่ เป็นหนา้ ที่ของคนไทยทุกคนที่จะตอ้ งตระหนกั ถึง
คณุ ค่าของนาฏศิลป์ ท่ีบรรพบรุ ุษไดส้ ร้างสรรคข์ ้นึ มาต้งั แตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบนั
2. ตัวชี้วัดช้ันปี
แสดงความคิดเห็นในการอนุรักษ์ (ศ 3.2 ม. 3/3)
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละครได้ (K)
2. ปฏิบตั ิกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานเพลิดเพลิน (A)
3. วิเคราะหแ์ ละสรุปความหมายของการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละครได้ (P)
4. แสดงความคดิ เห็นในการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละครได้ (P)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
ค่านิยม (A)
1. สงั เกตจากการถามและการ 1. สังเกตจากการปฏิบตั ิ 1. สังเกตจากการแสดงความ
แสดงความคิดเห็น กิจกรรมดว้ ยความ คิดเห็นในการอนุรักษ์
2. จากการตรวจการวดั และ สนุกสนานและเพลิดเพลิน นาฏศิลป์ และการละครได้
ประเมินผลการเรียนรู้ประจา 2. สงั เกตจากการยอมรับความ อยา่ งสรา้ งสรรค์
หน่วย คิดเห็นของผอู้ ื่นขณะปฏิบตั ิ 2. สังเกตจากการปฏิบตั ิ
3. จากการตรวจแบบทดสอบ กิจกรรม กิจกรรมรายบุคคลและ
หลงั เรียน 3. ประเมินพฤติกรรมตามแบบ ปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกบั
4. จากการตรวจใบงาน การประเมินผลดา้ น ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่ว
คณุ ธรรม จริยธรรม และ 3. ประเมินพฤติกรรมตามแบบ
คา่ นิยม การประเมินผลดา้ นทกั ษะ/
กระบวนการ
ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 81
5. สาระการเรียนรู้
▪ การอนุรักษน์ าฏศิลป์
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย การพดู ถึงการอนุรักษน์ าฏศิลป์ ไทย
สังคมศึกษาฯ การปฏิบตั ิกิจกรรมเป็นกลุ่มและการสร้างมนุษยสมั พนั ธ์
การงานอาชีพฯ การใชค้ อมพิวเตอร์ในคน้ หาขอ้ มลู ทางอินเทอร์เน็ต และจากการชมสื่อโทรทศั น์
7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้ันท่ี 1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน
ใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นอยา่ งอิสระวา่ แนวทางในการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร
ควรทาอยา่ งไรรวมถึงทาอยา่ งไรใหค้ นไทยเห็นคณุ ค่าของการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร
ขั้นที่ 2 ข้นั สอน
1. ครูอธิบายเน้ือหาเรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์ และการละคร เกี่ยวกบั คณุ คา่ ของการอนุรักษ์
นาฏศิลป์ และการละครพร้อมท้งั ใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มูลเพ่ิมเติมจากหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน
ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั
2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนเขยี นสรุปลงในใบงานที่ 23 เรื่อง การอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการ
ละคร เกี่ยวกบั คุณค่าของการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร ตามความคิดของนกั เรียน
3. ครูใหน้ กั เรียนออกมาพูดหนา้ ช้นั เรียนทีละคน เก่ียวกบั คณุ คา่ ของการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และ
การละครที่นกั เรียนไดเ้ ขียนสรุปลงในใบงาน
4. นกั เรียนนาใบงานมาส่งครู แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเพมิ่ เติม โดยครูใหค้ วามรู้เสริม
ในส่วนที่นกั เรียนสงสยั หรือไม่เขา้ ใจ
ข้นั ที่ 3 ข้นั สรุป
นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและอภิปรายสรุปเร่ือง การอนรุ ักษ์นาฏศิลป์ ไทย
เป็นความคดิ ของช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ วามรู้เสริมในส่วนท่ีนกั เรียนไม่เขา้ ใจหรือสรุปไม่ตรงกบั
เน้ือหา
ข้นั ท่ี 4 ฝึ กฝนผ้เู รียน
1. นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม การอนรุ ักษ์นาฏศิลป์ และการละคร โดยใหน้ กั เรียนอธิบายและ
แสดงความคดิ เห็นถึงคุณค่าของการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร โดยเขยี นสรุปลงในใบงานมาตาม
ความเขา้ ใจ
2. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน
คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 82
3. ใหน้ กั เรียนทาโครงงานตามความสนใจ หรือโครงการในกิจกรรมที่ 44 ใบแบบฝึกทกั ษะ
รายวิชาพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั
ขัน้ ที่ 5 การนาไปใช้
1. นกั เรียนสามารถนาความรู้เร่ือง การอนุรักษ์นาฏศิลป์ ไทย ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรียน
นาฏศิลป์ ในระดบั สูงต่อไป
2. ใหน้ กั เรียนนาความรู้จากการเรียนไปปลกู ฝังใหค้ นในชุมชนเห็นคณุ ค่าของการอนุรักษ์
นาฏศิลป์ และการละคร
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. กจิ กรรมสาหรับกล่มุ สนใจพเิ ศษ
อธิบายประโยชนข์ องการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร แลว้ ช่วยกนั จดั บอร์ดความรู้
2. กจิ กรรมสาหรับฝึ กทักษะผ้เู รียน
นกั เรียนศึกษาประโยชนข์ องการอนุรักษน์ าฏศิลป์ และการละคร เพ่มิ เติมทางอินเทอร์เน็ต
หรือสมั ภาษณ์ผเู้ ชี่ยวชาญ หรือผรู้ ู้ดา้ นนาฏศิลป์ ในชุมชน แลว้ จดั ทาเป็นรายงานส่งครู
9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. ใบงาน
2. หอ้ งสมดุ
3. สถานท่ีต่าง ๆ เช่น โรงละคร ศูนยว์ ฒั นธรรม สถานท่ีจดั การแสดงวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น
มหาวิทยาลยั ที่เปิ ดสอนดา้ นนาฏศิลป์ และการละคร เป็นตน้
4. อินเทอร์เน็ต
5. ผเู้ ช่ียวชาญ หรือผมู้ ีความรู้ดา้ นนาฏศิลป์ ในชุมชน
6. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ดนตรี–นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช
จากดั
7. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ดนตรี-นาฏศิลป์ ช้นั ม. 3 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช
จากดั
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 83
10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้-
_________________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนวทางการ
พฒั นา____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
แนว
ทางแกไ้ ข_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
3. ส่ิงท่ีไมไ่ ดเ้ ป็นไปตาม
แผน_____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
เหตุผล______________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
4. การปรับปรุงแผนการจดั การ
เรียนรู้____________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________
ลงชื่อ______________(ผ้สู อน)
คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 84
ตอนที่ 3
เอกสาร/ความรู้เสริมสาหรับครู
นาฏศิลป์
กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 85
แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน (หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1)
ตอนท่ี 1
คาชี้แจง เขยี นเครื่องหมาย ลอ้ มรอบตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ีถูกตอ้ ง
1. “การแสดงท่าทางแทนคาพดู ส่ืออารมณ์ ค ท่าพศิ สมยั
ความรู้สึก รวมถึงอิริยาบถต่าง ๆ โดย ง ทา่ สอดสร้อยมาลา
สร้างสรรค์ท่าทางหรือท่าราให้มคี วามวิจิตร
งดงาม” หมายถึงข้อใด 5. ภาษาท่าใดท่ใี ช้ส่ือความหมายถึง
ก นาฏยศพั ท์ พระพรหม
ข การแสดงพ้ืนเมือง ก ทา่ เฉิดฉิน
ค ภาษาทา่ หรือภาษาทางนาฏศิลป์ ข ทา่ เทพนม
ง ไม่มีขอ้ ใดถูก ค ทา่ นภาพร
2. ท่าดีใจ คือภาษาท่าหรือภาษาทางนาฏศิลป์ ง ทา่ พรหมสี่หนา้
ลักษณะใด 6. ท่าหงส์บินใช้สื่อความหมายถงึ สัตว์ชนิดใด
ก ใชแ้ ทนการพูด ก ปลา
ข ใชแ้ สดงกิริยาหรืออิริยาบถ ข กวาง
ต่าง ๆ ค กินรี
ค ใชส้ ่ือความหมายแทนอารมณ์ ง ถูกทุกขอ้
ความรู้สึก 7. “มือขวาจีบเข้าหาตัวระดับปาก” คือภาษา
ง ขอ้ ก และ ค ถกู ท่าใด
3. “มือทั้งสองประสานกันท่ีหน้าขา” คือ ก ทา่ รัก
ภาษาท่าใด ข ท่าฟัง
ก ท่ารัก ค ท่าดีใจ
ข ทา่ โบก ง ท่ามอง
ค ท่ามอง 8. “มือขวาตงั้ วงบน มือซ้ายจีบส่งหลัง
ง ทา่ เศร้า ก้าวหน้าเท้าซ้าย” คือภาษาท่าใด
4. “มือขวาตงั้ วง มือซ้ายจีบหงายที่ชายพก” ก ทา่ เยอ้ื งยา่ ง
คือภาษาท่าใด ข ท่ากรีดกราย
ก ท่าผาลา ค ทา่ ชา้ งประสานงา
ข ทา่ อมั พร ง ทา่ สอดสร้อยมาลา
9. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของนาฏศิลป์
ก รอยยมิ้ คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 86
ข การเคลื่อนไหว ในการดาเนินเร่ืองราว” หมายถงึ การแสดง
ค จงั หวะทานอง ประเภทใด
ง นาฏยศพั ทแ์ ละภาษาท่า
10. แตงโมเดนิ ทางไปเที่ยวทจี่ ังหวดั เชียงใหม่ ก การแสดงเดี่ยว
นักเรียนคิดว่าแตงโมจะได้เห็นการแสดง ข การแสดงเป็นหมู่
พื้นเมืองชุดใด ค การแสดงเป็นเร่ืองราว
ก ฟ้อนภูไท ง การแสดงเป็นชุดเป็นตอน
ข ฟ้อนเทียน 15. พระรามตามกวางเป็ นการแสดง
ค ฟ้อนบายศรีสู่ขวญั ประเภทใด
ง ถูกทุกขอ้ ก การแสดงเด่ียว
11. การแสดงนาฏศิลป์ ไทยแบ่งออกเป็ นกี่ ข การแสดงเป็นหมู่
ประเภท ค การแสดงเป็นเรื่องราว
ก 2 ประเภท ง การแสดงเป็นชุดเป็นตอน
ข 3 ประเภท 16. ชมพ่รู าวงมาตรฐานเพลงชาวไทยชมพู่
ค 4 ประเภท ต้องใช้ท่าราใดประกอบการแสดง
ง 5 ประเภท ก ท่าราส่าย
12. ระบาฉ่ิงเป็ นการแสดงประเภทใด ข ทา่ ราพรหมสี่หนา้
ก การแสดงเดี่ยว ค ทา่ ชา้ งประสานงา
ข การแสดงเป็นหมู่ ง ทา่ ชกั แป้งผดั หนา้
ค การแสดงเป็นเรื่องราว 17. การแสดงใดทีม่ ุ่งเน้นในความสวยงามและ
ง การแสดงเป็นชุดเป็นตอน ความถกู ต้องตามแบบแผนของท่าราในแต่ละ
13. ข้อใดคือการแสดงเด่ียว เพลง
ก ประเลง ก ราพลายชุมพล
ข รากิ่งไมเ้ งินทอง ข ราวงมาตรฐาน
ค ราฉุยฉายก่ิงไมเ้ งินทอง ค ราฉุยฉายพราหมณ์
ง ราฉุยฉายเบญกายแปลง ง ไม่มีขอ้ ใดถูก
18. ราฉุยฉายเบญกายใช้เพลงอะไร
14. “การแสดงที่นาเหตุการณ์ต่าง ๆ มาผูกเป็น ประกอบการแสดง
เรื่องราว มกี ารเชื่อมโยงเหตกุ ารณ์ ใช้ตัวละคร ก เพลงแมศ่ รี
ข เพลงฉุยฉาย
คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 87
ค เพลงบาทสกุณี
ง ขอ้ ก และ ข ถูก
19. ข้อใดคือเพลงทใ่ี ช้ในการแสดงราวง
มาตรฐาน
ก เพลงตามองตา
ข เพลงบชู านกั รบ
ค เพลงใกลเ้ ขา้ ไปอีกนิด
ง ถกู ทกุ ขอ้
20. ราฉุยฉายเบญกายแต่งกายอย่างไร
ก แบบพ้นื บา้ น
ข แบบไทยสากล
ค แบบไทยพระราชนิยม
ง แบบยนื เคร่ือง (ตวั นาง)
คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 88
ตอนท่ี 2
คาชีแ้ จง ตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถกู ตอ้ ง
1. ภาษาทา่ หรือภาษาทางนาฏศิลป์ คอื อะไร
_____________________________________________________
_______ภา_ษ_าท_่า_หร_ือ_ภ_าษ_า_ทา_งน_า_ฏ_ศิล_ป_์ ค_ือ_ก_าร_แ_สด_ง_อ_อก_ข_อ_งท_่าท_า_งแ_ท_น_ค_าพ_ดู _ใ_ช้ส_่ือ_อ_าร_ม_ณ_์ ____
__ค_วา_มร_ู้ส_ึก_ร_วม_ถ_ึงก_ิร_ิยา_อ_ิริย_าบ_ถ_ต_่าง_ๆ_โ_ด_ยส_ร_้าง_ส_รร_ค_์ท_่าท_า_งห_ร_ือท_่า_รา_ให_้ม_คี _ว_าม_ว_ิจิต_ร_งด_ง_าม_______
_____________________________________________________
2. ภาษาทา่ ที่มาจากธรรมชาติคอื อะไร พร้อมยกตวั อยา่ ง
_____________________________________________________
______ภ_าษ_า_ท_่าท_ี่ม_าจ_า_กธ_ร_รม_ช_าต_ิ ค_ือ_ภ_า_ษา_ท_่าท_ี่น_า_ลีล_าท_่า_ท_าง_ต่_าง_ๆ_ท_่ีส_่ือค_ว_าม_ห_ม_าย_แ_ละ_อ_ิริ_ยา_บ_ถ ___
_ท_า_งธ_ร_รม_ช_าต_ิข_อ_งม_น_ษุ _ย์ม_า_ดดั_แ_ป_ลง_ป_ร_ับ_ปร_ุง_ให_้ม_ีค_วา_ม_สว_ย_งา_ม_อ่อ_น_ช_้อ_ย เ_พ_ื่อใ_ช_้สื่_อค_ว_าม_ห_ม_าย_แ_ทน____
_ค_า_พ_ดู _แบ_่ง_ออ_ก_เป_็น_3_ล_กั _ษณ_ะ_ค_ือ____________________________________
______1_) _ภา_ษ_าท_่า_ท่ีม_า_จา_ก_ธร_ร_มช_า_ติ_เช_่น_ท_่าต_ัว_เร_า_ท่_าเธ_อ_ท_่า_ท่า_น_เป_็น_ต_้น_______________
______2_) _ภา_ษ_าท_่า_ท่ีใ_ช_้สื่_อค_ว_าม_ห_ม_าย_แ_ทน_อ_าร_ม_ณ_์ค_วา_ม_รู้ส_ึก_เ_ช่น_ท_่า_รัก__ท่า_โ_กร_ธ_ท_่าอ_า_ย _เป_็น_ต้น_____
____________3__) __ภา__ษ__าท__่า__ท่ีใ__ช__้แส__ด__ง__กิร__ิย__าห__ร__ืออ__ิร__ิยา__บ__ถ__ต่า__ง__ๆ__เช__่น__ท__่าย__ืน__ท__่า__น่ัง__ท__่า__เด__ิน__เป__็น__ต__้น__________________
3. องคป์ ระกอบของการแสดงนาฏศิลป์ ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง
_____________________________________________________
______1_) _จัง_ห_วะ_ท_าน_อ_ง___________4_)_น_าฏ_ย_ศพั_ท_์แ_ละ_ภ_าษ_า_ท_่า _______________
______2_) _กา_รเ_ค_ล่ือ_น_ไห_ว___________5_)_รูป_แ_บ_บ_ขอ_ง_กา_ร_แส_ด_ง________________
______3_) _อา_รม_ณ_์แ_ล_ะค_ว_าม_ร_ู้สึ_ก _______6_)_ก_าร_แต_่ง_กา_ย_____________________
4. ยกตวั อยา่ งการแสดงหมู่มา 5 ชุดการแสดง
_____________________________________________________
______แ_น_วค_า_ตอ_บ__________________________________________
______ร_ะ_บา_น_พ_รัต_น_์ ร_ะบ_า_ฉ_่ิง _ระ_บ_าน_ก_ส_าม_ห_ม_ู่ ร_ะบ_า_ดอ_ก_บ_วั _ระ_บ_าเ_ริง_อ_รุณ_______________
_____________________________________________________
5. ยกตวั อยา่ งการแสดงเป็นชุดเป็นตอนมา 3 ชุดการแสดง
_____________________________________________________
______แ_น_วค_า_ตอ_บ__________________________________________
______พ_ร_ะล_อ_ต_าม_ไ_ก่ _พร_ะ_รา_ม_ตา_ม_ก_วา_ง _ย่า_ห_รัน_ต_าม_น_ก_ยูง_______________________
_____________________________________________________
คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 89
การประเมนิ ผลด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม (หน่วยการเรียนรู้ที่ 4)
สาหรับครู สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม แล้วเขียนเครื่องหมาย / ลงในช่องว่างท่ี
ตรงกับความเป็ นจริง
รายการประเมินผล พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
321
1. ความใฝ่ รู้ในการเรียน มีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนเร่ือง
2. ความรับผิดชอบ ขยนั พ้ืนฐานความรู้ของนาฏศิลป์ และการละคร
และอดทน 1. เรียนเรื่องพ้นื ฐานความรู้ของนาฏศิลป์ และการละคร
ไดส้ าเร็จอยา่ งเตม็ ความสามารถ
3. ความซ่ือสตั ย์ 2. ยอมรับขอ้ ผิดพลาดและรับฟังคาแนะนาของครูและ
4. ความมีระเบียบวินยั เพื่อน ๆ
5. ความมีเจตคติที่ดีตอ่ แสดงความคดิ เห็นต่อผลงานของเพือ่ นอยา่ งมีเหตผุ ล
นาฏศิลป์ ตรงตอ่ เวลาและเรียนพ้ืนฐานความรู้ของนาฏศิลป์ และ
การละครไดอ้ ยา่ งละเอียดถ่ีถว้ น
1. ปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนนาฏศิลป์ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
สนุกสนาน
2. รู้จกั การช่วยเหลือผอู้ ่ืนดว้ ยความเตม็ ใจ
คะแนนทไี่ ด้
คะแนนรวม
ระดบั คุณภาพเฉล่ีย
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
2 1
ระดบั คุณภาพ 3 ควร
พอใช้
ดีมาก,ดี ปรับปรุง
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 90
สรุประดบั คณุ ภาพด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม (เขยี นเครื่องหมาย /ลงในช่อง )
ดมี าก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
หมายเหต:ุ การหาระดบั คณุ ภาพเฉลี่ยหาไดจ้ ากการนาคะแนนท่ีไดใ้ นแต่ละช่องมารวมกนั แลว้ หารดว้ ย
จานวนขอ้ จากน้นั นาระดบั คุณภาพเฉล่ียมาเทียบกบั เกณฑ์การตดั สินคุณภาพและสรุปผลการประเมิน
การประเมินผลด้านด้านทกั ษะ/กระบวนการ (หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1)
สาหรับครู สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏิบตั ิกิจกรรม แลว้ เขยี นเครื่องหมาย / ลงในช่องวา่ งที่
ตรงกบั ความเป็นจริง
รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก คะแนน
ประเมนิ ผล 32 1
1. ทกั ษะใน 1. อธิบายความหมายของภาษาทา่ หรือภาษาทางนาฏศิลป์ ได้
การปฏิบตั ิ 2. อธิบายและปฏิบตั ิภาษาทา่ หรือภาษาทางนาฏศิลป์ ไทยได้
3. อธิบายองคป์ ระกอบของการแสดงนาฏศิลป์ ไทยได้
4 สร้างสรรคช์ ุดการแสดงโดยใชอ้ งคป์ ระกอบของการแสดง
นาฏศิลป์ ไทยได้
2. ทกั ษะ 1. วิเคราะห์และสรุปภาษาท่าหรือภาษาทางนาฏศิลป์ ไทยได้
กระบวนการคิด 2. วิเคราะห์และสรุปองคป์ ระกอบของการแสดงนาฏศิลป์
ไทยได้
3. วเิ คราะหแ์ ละสรุปการเปรียบเทียบการแสดงโดยใช้
องคป์ ระกอบของการแสดงนาฏศิลป์ ไทยได้
4. มีความคดิ สร้างสรรคใ์ นการประดิษฐช์ ุดการแสดง
3. กระบวนการ 1. ใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบตั ิกิจกรรมกลุ่มไดเ้ ป็นอยา่ งดี
ปฏิบตั ิกิจกรรม 2. ปฏิบตั ิกิจกรรมตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมายไดเ้ ป็นอยา่ งดี
เป็ นกลุ่ม 3. แสดงความคดิ เห็นในการปฏิบตั ิกิจกรรม
4. ช่วยเหลือการปฏิบตั ิกิจกรรมในกลุ่มจนสาเร็จ
คะแนนทไี่ ด้
คะแนนรวม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 91
ระดบั คุณภาพเฉลยี่
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนนเฉล่ีย 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ระดับคณุ ภาพ 2 1
3
ดีมาก,ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
สรุประดับคุณภาพด้านทกั ษะ/กระบวนการ (เขยี นเครื่องหมาย /ลงในช่อง )
ดมี าก, ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
หมายเหต:ุ การหาระดบั คุณภาพเฉล่ียหาไดจ้ ากการนาคะแนนท่ีไดใ้ นแต่ละช่องมารวมกนั แลว้ หารดว้ ย
จานวนขอ้ จากน้นั นาระดบั คุณภาพเฉลี่ยมาเทียบกบั เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 92
แบบบันทกึ ข้อมูลการแสดงความคิดเหน็ และการอภิปราย (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 )
1. เร่ืองที่แสดงความคิดเห็นและการอภิปราย
_______________________________________________________
2. หัวข้อทแ่ี สดงความคิดเหน็ และการอภิปราย
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
3. สรุปผลการแสดงความคดิ เหน็ และการอภปิ ราย
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
ชื่อ.........................................................(ผู้บนั ทึก)
............................/......................./....................
ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 93
ใบงานท่ี 1
เร่ือง องค์ประกอบของนาฏศิลป์ (หน่วยการเรียนรู้ที่ 1)
คาชี้แจง ให้นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมตามที่กาหนด
สรุปองคป์ ระกอบของนาฏศิลป์ มาตามความเขา้ ใจ
องค์ประกอบของนาฏศิลป์
1) จังหวะทานอง มสี ่วนช่วยในการสร้างบรรยากาศของการแสดง และสร้ างความสนุกสนาน
เพ__ล_ิด_เ_พ_ล_ิน__เ_ก_ิด_จ_า_ก_เ_ค_ร_ื่อ_ง_บ__ร_ร_เล_ง_ท__่ีม_น_ษุ__ย_์เป_็_น_ผ_้ปู__ร_ะ_ด_ิษ_ฐ_์ข__นึ้ __จ_ัง_ห_ว_ะ_เ_ป_็น_ก__าร__แ_บ_่ง_เว__ล_า_ท_่ดี _า_เ_น_ิน_ไ_ป__อ_ย_่า_ง_______
ส_ม__า่ เ_ส_ม__อ_ส_่_ว_น_ท_า_น__อ_ง_ห__ม_า_ย_ถ_ึง__เส_ีย_ง_ท__่ีม_คี _ว_า_ม_ส__ูง_ต_า่ _ม_ีจ_ัง_ห__ว_ะ_ส_้ัน_ย_า_ว__ใ_น_ก_า_ร_แ_ส__ด_ง_น_า_ฏ_ศ__ิล_ป_์ น__ัน้ _ท_า_น__อ_ง_______
อ_า_จ_จ_ะ_เ_ป_็น__ก_า_ร_บ_ร_ร_เ_ล_ง_ด_น_ต__รี_ล_้ว_น_ห__รื_อ_ม_ีบ__ท_ร_้อ_ง_ป_ร_ะ__ก_อ_บ_ก__ไ็ _ด_้ ______________________________________
________2_)_ก_า_ร_เ_ค_ล_่ือ_น__ไ_ห_ว_ของการแสดงนาฏศิลป์ คือ การแสดงออกทางลลี า
ท_่า_ร_า__เก_ิด_จ__าก__ก_า_ร_ป_ร_ะ_ด_ิษ__ฐ_์ส_ร_้า_ง_ส_ร_ร__ค_์ข_อ_ง_ม_น__ษุ _ย_์ _ใ_ช_้ใ_น_ก_า_ร_ส_ื่_อ_ส_า_ร_ร_ะ_ห__ว_่าง_ผ__้แู _ส_ด_ง_ก_บั__ผ_ู้ช_ม_________________
________3_)_อ_า_ร_ม_ณ__์แ_ล_ะ_ค__ว_าม__ร_ู้ส_ึก_ม__คี _ว_า_ม_ส_า_ค_ัญ__ต_่อ_ก__าร__แ_ส_ด_ง_น_า_ฏ__ศ_ิล_ป์ ผ้แู สดงจะถ่ายทอดออกมาทางสีหน้า
ท_่า_ท__าง_เ_พ_่ือ_ใ_ห__้ผ_ู้ช_ม__ไ_ด_้ร_ับ_ร_ู้ _ม_ีค_ว_า_ม_ร_ู้ส__ึก_ร_่ว_ม_ก__ับ_ก_า_ร_แ_ส_ด__ง_แ_ล__ะ_ม_ีส_่ว_น__ช_่ว_ย_ใ_ห_้ก__าร_แ__ส_ด_ง_น__นั้ _ม_ีค_ว_า_ม__ส_ม_บ__รู _ณ_์ม__าก___
ย_ิ่ง_ข_ึน้ __เ_ก_ิด_อ_ร_ร_ถ_ร_ส__ใ_น_ก_า_ร_ช_ม__ก_า_ร_แ_ส_ด__ง________________________
________4_)_น_า_ฏ_ย_ศ__พั _ท_์แ__ล_ะ_ภ_า_ษ_า_ท_่_า_ใ_น__ท_า_ง_น_า_ฏ_ศ_ิล__ป_์ น_ัน้__น_า_ฏ_ย_ศ__ัพ_ท_์แ__ล_ะ_ภ_า_ษ_า_ท_่า_ถ__ือ_ว_่า_ม_ีค_ว_า_ม_ส__า_ค_ัญ_ใ_น__ก_า_ร___
ถ_่า_ย_ท_อ__ด_เร_ื่อ__ง_ร_าว__ใน__ก_า_ร_แ_ส_ด__ง_ต_้อ_ง_ม__กี _า_ร_ศ_ึก_ษ__าค__ว_า_ม_ห_ม__าย_ข__อ_ง_ท_่า_ร_า_ต_ามหลักนาฏศิลป์ ไทย เพื่อท่ีจะสามารถ
เข__้า_ใจ__ใน__ค_ว_า_ม_ห__ม_า_ย_ข_อ_ง_ท_่_าร_า_อ__ย่_าง_ช__ัด_เจ_น__แ_ล_ะ_ถ_กู__ต_้อ_ง_ต_า_ม_ค__ว_า_ม_ห_ม_า_ย_ข__อ_ง_ท_่า_ร_า_น_้ัน__ๆ_____________________
________5_)_ร_ูป_แ_บ__บ_ข_อ__ง_ก_า_ร_แ_ส_ด_ง__ก_า_ร_แ_ส__ด_ง_น_า_ฏ_ศ__ิล_ป_์ ข_อ_ง_ไ_ท__ย_แ_บ_่ง_อ_อกเป็น 4 ประเภท คือ การแสดงเป็น
ห_ม__ู่ ก_า_ร_แ_ส__ด_ง_เด__ยี่ _ว_ก_า_ร_แ_ส__ด_ง_เ_ป_็น_เ_ร_่ือ_ง_ร_า_ว_แ__ล_ะ_ก_า_ร_แ_ส_ด__ง_เป_็น__ช_ุด_เ_ป_็น__ต_อ_น______________________________
________6_)_ก_า_ร_แ_ต_่ง_ก__าย_ใ_น__ก_า_ร_แ_ส_ด__ง_น_า_ฏ_ศ_ิล_ป_์_น_น้ั__เป_็_น_ต_วั _ก_า_ห__น_ด_ร_ูป__แบบลกั ษณะการแสดง ซ่ึง
ป_ร_ะ_ก__อ_บ_ด_้ว__ย_เส_ื้อ__ผ_้า_แ_ล_ะ_เ_ค_ร_่ือ_ง_ป_ร_ะ_ด__บั _________________________________________________________
______________________________________________________
______________________________________________________________________________________
______________________________________________________
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 94
ใบงานที่ 2
เร่ือง เปรียบเทียบความแตกต่างของการแสดงราวงมาตรฐานกบั ราฉุยฉายเบญกาย
(หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4)
นาภาพการแสดงมาติด นาภาพการแสดงมาติด
จงั หวะทานอง จงั หวะทานอง
_ม_เี _พล_ง_ป_ระ_ก_อบ_ก_าร_แ_ส_ดง_1_0_เพ_ล_ง ________ __มีเ_พ_ลง_ท_่ีใช_้ป_ร_ะก_อ_บ_กา_รแ_ส_ด_ง _2 _เพ_ลง_ค_ือ_เพ_ล_ง__
_เ_ป็_นเ_พ_ลง_ท_่ีม_อี ัต_ร_าจ_ังห_ว_ะ_ชั้น_เ_ดีย_ว_________ __ฉุย_ฉ_าย_ก_ับ_เพ_ลง_แ_ม_่ศร_ี เ_ป็น_อ_ตั _รา_จ_งั ห_ว_ะ_3ช_ั้น_แ_ละ__
2 ช้ัน
การเคล่ือนไหว การเคลื่อนไหว
__เด_ิน_ร_าเ_ป็น_ว_ง_กล_ม_ท_ว_นเ_ขม_็ น_า_ฬ_ิกา________ _เ_ป็น_ก_า_รร_่าย_ร_าอ_ว_ดฝ_ีม_ือ_ใน_ก_าร_แ_สด_ง_ใ_ช้ผ_ู้แ_ส_ดง___
__________________________ _เ_พ_ยี ง_คน_เ_ดยี_ว_ท_่าท_า_งท_่ีใ_ช้_ใน_ก_าร_แ_สด_ง_เป_็น_กา_ร_ร่า_ย_
ราที่สื่อความหมายแทนการพูด
อารมณ์ความรู้สึก อารมณ์ความรู้สึก
__ก_าร_ร่_าย_รา_เพ_ื่อ_ค_วา_ม_สน_กุ _ส_น_าน__________ _ก_า_รร_่าย_ร_าต_ีบ_ท_ถ_่าย_ท_อด_อ_าร_ม_ณ_์ค_วา_ม_รู้ส_ึก_____
__________________________ _ท_า_งส_ีห_น_้า_ท่_าท_าง_________________
นาฏยศัพท์และภาษาท่า นาฏยศัพท์และภาษาท่า
__ม_่งุ เ_น_้น_ใน_ค_วา_ม_สว_ย_งา_ม_ขอ_ง_ท_่าร_า________ _ใ_ช้น_า_ฏ_ยศ_ัพ_ท_์แล_ะ_ภ_าษ_า_ท่า_ใน_ก_า_รร_่าย_ร_าส_่ือ_____
__________________________ _ค_ว_าม_ห_ม_าย_ใน_ก_าร_แ_ส_ดง______________
รูปแบบการแสดง รูปแบบการแสดง
__เป_็น_ก_าร_แ_ส_ดง_ห_ม่_ู จับ_ค_่รู _ะห_ว_่าง_ช_าย_–_หญ_ิง_____ _เ_ป็_นก_า_รแ_ส_ด_งเด_ี่ย_ว_เป_็น_ก_าร_แส_ด_ง_ใน_ก_าร_อ_วด____
__ต_ัง้ แ_ต_่ 3_ค_่ขู _ึน้ ไ_ป_________________ _ฝ_ีม_ือ_ใน_ก_าร_แ_สด_ง_ข_อง_ต_น_____________
คมู่ อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 95
การแต่งกาย การแต่งกาย
__แ_ต_่งก_าย_แ_บ_บ_พืน้_บ_้า_น_แต_่ง_ก_าย_แบ_บ_ส_าก_ล_น_ิยม___ _แ_ต_่งก_า_ยแ_บ_บ_ยืน_เค_ร_ื่อ_ง (_ต_วั น_า_ง)__________
__แ_ต_่งก_าย_แ_บ_บ_ไท_ย_พ_ระ_รา_ช_น_ิยม__________ __________________________
ค่มู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 96
แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน (หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 )
ตอนท่ี 1
คาชี้แจง เขยี นเคร่ืองหมาย ลอ้ มรอบตวั อกั ษรหนา้ คาตอบที่ถูกตอ้ ง
1. นาฏศิลป์ ไทยมีรูปแบบการแสดงกป่ี ระเภท ก ราพระลอตามไก่
ก 2 ประเภท ข รายา่ หรันตามนกยงู
ข 3 ประเภท ค ราพลายบวั เก้ียวนางตานี
ค 4 ประเภท ง ถูกทกุ ขอ้
ง 5 ประเภท 6. ราหนุมานจบั นางเบญกายเป็ นการแสดง
2. “การแสดงท่ีมผี ู้แสดงตงั้ แต่ 2 คนขึน้ ไป รูปแบบใด
เน้นความพร้ อมเพรียงและการแปรแถวที่ ก การแสดงคู่
สวยงาม” หมายถงึ ข้อใด ข การแสดงเด่ียว
ก รา ค การแสดงละคร
ข โขน ง การแสดงเป็นชุดเป็นตอน
ค ระบา 7. รารจนาเสี่ยงพวงมาลยั เป็ นการแสดง
ง ละคร ประเภทใด
3. “เซิง้ ” จัดเป็ นการแสดงประเภทใด ก การแสดงหมู่
ก รา ข การแสดงเดี่ยว
ข โขน ค การแสดงละคร
ค ระบา ง การแสดงเป็นชุดเป็นตอน
ง ละคร 8. ข้อใดคือการแสดงเป็ นหมู่
4. “การแสดงที่เป็นการอวดฝี มือ เน้นการใช้ ก ฟ้อนภูไท
มือและแขนเป็นหลัก” หมายถึงข้อใด ข ฟ้อนเลบ็
ก รา ค ฟ้อนสาวไหม
ข โขน ง ถกู ทกุ ขอ้
ค ระบา 9. ท่าราใดสื่อความหมายถึงความยิ่งใหญ่
ง ละคร ก ทา่ ผาลา
5. ข้อใดเป็ นการแสดงทอี่ ย่ใู นเรื่องขุนช้าง ข ท่าอาไพ
ขุนแผน ค ทา่ พรหมสี่หนา้
ง ทา่ สอดสร้อยมาลา
10. ท่าราใดส่ือความหมายถึงสุขเกษมเปรม ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศิลป์ ม. 3 97
ปรีด์ิ ข ทา่ อาย
ค ทา่ มอง
ก ท่าผาลา ง ท่าเศร้า
ข ทา่ อาไพ
ค ท่าพรหมสี่หนา้ 15. “มือซ้ายจีบเข้าหาตัว ระดบั ปาก”
ง ทา่ สอดสร้อยมาลา จากข้อความหมายถงึ ท่าใด
11. “มือซ้ายตง้ั มือหงายระดับวงบน มือขวาตงั้
มือระดับปาก” จากข้อความคือท่าราใด ก ท่าดีใจ
ก ท่ากินริน ข ท่ามอง
ข ทา่ สอดสูง ค ทา่ โกรธ
ค ทา่ เฉิดฉิน ง ทา่ ตวั เรา
ง ทา่ พรหมส่ีหนา้ 16. การแสดงประเภทใดท่ีสามารถนามาแสดง
12. การประดษิ ฐ์ท่าราสาหรับเดก็ วยั ประถม ในงานพระราชพธิ ี
ควรใช้ท่าราในลกั ษณะใด ก โขนหลวง
ก ใชท้ า่ ราที่มีความงา่ ย ข หุ่นละครหลวง
ข ใชท้ ่าราท่ีมีความซบั ซอ้ น ค การละเลน่ ของหลวง
ค ใชท้ ่าราท่ีเลียนแบบธรรมชาติ ง ถกู ทกุ ขอ้
ง ขอ้ ก และ ค ถกู 17. งานวันลอยกระทงควรจดั การแสดงชุดใด
13. ข้อใดไม่ถกู ต้อง ก ระบาลพบุรี
ก การประดิษฐท์ า่ ราตอ้ งส่ือ ข ระบาสุโขทยั
ความหมายอยา่ งชดั เจน ค ระบาศรีวชิ ยั
ข การประดิษฐ์ทา่ ราควรใชท้ า่ ราท่ี ง ระบาศรีชยั สิงห์
ซ้ากนั ในการส่ือความหมาย 18. วัสดชุ นิดใดสามารถนามาใช้ประดิษฐ์เป็ น
ค การประดิษฐ์ทา่ ราตอ้ งคานึงถึง พานประกอบการแสดง
ความถูกตอ้ งตามแบบแผน ก หลอด
ง ไม่มีขอ้ ใดถูก ข ถว้ ยโฟม
14. “มือทั้งสองประสานกนั ระดับอก” จาก ค กระป๋ องนม
ข้อความสื่อความหมายถงึ ท่าใด ง ไม่มีขอ้ ใดถูก
ก ทา่ รัก 19. การแสดงชุดใดใช้อุปกรณ์ประกอบการ
แสดง ก เซิ้งสวงิ
ข เซ้ิงโปงลาง
ค เซิ้งตงั หวาย ค่มู ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ นาฏศลิ ป์ ม. 3 98
ง ถกู ทกุ ขอ้ ง ขอ้ ข และ ค ถูก
20. ในการประดษิ ฐ์อปุ กรณ์และเคร่ือง
แต่งกายในการแสดงเป็ นการนามาบูรณาการ
กับวชิ าใด
ก คณิตศาสตร์
ข การงานอาชีพฯ
ค ศิลปะ (ทศั นศิลป์ )
ตอนที่ 2
คาชี้แจง ตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกตอ้ ง
1. นาฏศิลป์ ไทยคืออะไร
_________________________________________________________________________________
_________________น_า_ฏ_ศ_ิล_ป_์ ไ_ท__ย_ค_ือ__ศ_ิล_ป_ะ_ก_า_ร_ฟ_้อ__น_ร_า_ท_ี่ม_น_ุษ__ย์_ส_ร_้า_ง_ส_ร_ร_ค_์แ_ล_ะ_ป_ร_ะ_ด_ิษ__ฐ์_______________
_________ข_ึน้__ม_คี_ว_า_ม_ง_ด_ง_า_ม_ป__ร_ะ_ณ_ีต_แ_ล_ะ_ใ_ห_้_ค_ว_า_ม_บ_ัน_เ_ท_ิง_ใ_จ_แ_ก_่ผ_ู้ช_ม________________________________
2. การแสดงเดี่ยวคืออะไร พร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ
_________________________________________________________________________________
___________ก_าร_แ__ส_ด_ง_เด_ี่ย_ว__ค_ือ__ก_าร_แ__ส_ด_ง_ท_ี่ม_ีผ_้แู_ส__ด_ง_เพ_ยี_ง_ค_น__เด_ีย_ว__ม_่งุ _เน__้น_ค_ว_า_ม_ส_ว_ย_ง_า_ม_ข_อ_ง_ก_า_ร___________
___เ_ค_ล_ื่อ_น_ไ_ห__ว_ร่_าง_ก_า_ย__เป_็ น__ก_า_ร_แ_ส_ด_ง_ฝ_ี ม_ือ_ข__อ_ง_ผ_ู้แ_ส_ด_ง_เ_น_้น__ก_าร_ใ_ช_้ ม__ือ_แ_ล_ะ_แ_ข_น_เ_ป_็ น_ห__ล_ัก__เช_่ น__ร_า_ฉ_ุย_ฉ_า_ย_______
___พ__ร_าห__ม_ณ_์ _ร_า_ฉ_ุย_ฉ_า_ย_ย_อ_พ_ร_ะ_ก_ล_ิ่น__ร_า_พ_ล_า_ย_ช_ุม_พ__ล_เ_ป_็น_ต_้_น______________________________________
3. ยกตวั อยา่ งประเภทของละครท่ีรู้จกั มา 5 ประเภท
__________แ_น__ว_ค_า_ต_อ_บ_______________________________________________________________
__________ล_ะ_ค__ร_ใน__ล_ะ_ค_ร_น__อ_ก_ล__ะ_ค_ร_ช_า_ต_ร_ี ล_ะ_ค_ร_พ__ัน_ท_า_ง_ล__ะ_ค_ร_เว_ท_ี______________________________
4. บอกหลกั สาคญั ท่ีใชใ้ นการประดิษฐ์ทา่ รามาตามความเขา้ ใจ
________________ส____า____3214ค))))____ัญ____คททใน____ว่่อาา____รทรกอ____าหาากท____รงล____ทป่ีใกี ____ชี่รใเ____้ตลชะ____้้ย่ีอดใ____นงงิษ____กสกฐ____า่ือ์าท____รรค่____ใาแวรช____สาา้____ทมตด____่า้อหง____รจง____ามะคซ____าตา____ย้าน้อก____ทึ___ง_งัน่ีชถแ____ใัด___สึ_งนเค____จดก____วนงา____าอรม____อส____ถก่ือ____กู ถค____ตึงว____้อทา____งม่า____สตห____า____รมคง____าตญั____ย___า_มๆ_______แ_ใ____บน____บบ____แท____ผ____เพน________ลข____งอ____วง____รน____รา___ค_ฏ____นศ____ั้นิล____ป____ๆ์ ____ไโ___ท_ด____ยย____ต________ัด____ท____่า____ท____ี่ไ____ม____่ ________________
______5)__ก_าร_ป__ร_ะ_ด_ิษ_ฐ_์ท_่า_ร_า_ต_้อ_ง_ค_า_น_ึง_ถ_ึง_ว_ัย_ข_อ_ง_เ_ด_ก็ _ใ_น_แ_ต_่ล__ะ_ร_ะ_ด_บั _ช_ั้น_ซ__่ึง_จ_ะ_ม_คี _ว_า_ม_ย_า_ก_ง_่าย_ไ_ม__่เห_ม__ือ_น_ก_ัน______