The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักการและการอนุรักษ์พลังงานในระบบทำความเย็นและปรับอากาศ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Weerachart Khoudkaew, 2022-05-10 03:08:14

หลักการและการอนุรักษ์พลังงานในระบบทำความเย็นและปรับอากาศ

หลักการและการอนุรักษ์พลังงานในระบบทำความเย็นและปรับอากาศ

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความ
เยน็ และปรับอากาศ

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 1

ระบบทาํ ความเยน็ 2
หลกั การทาํ งานของระบบทาํ ความเยน็

• ระบบการทาํ ความเยน็

1. ระบบทาํ ความเยน็ โดยปล่อยสารทาํ ความเยน็ ใหร้ ะเหยตวั
2. ระบบคอมเพรสเซอร์อดั ไอ
3. การทาํ ความเยน็ โดยใชน้ ้าํ แขง็
4. การทาํ ความเยน็ โดยใชน้ ้าํ แขง็ แหง้
5. การทาํ ความเยน็ โดยใชก้ ารระเหยตวั ของน้าํ
6. การทาํ ความเยน็ โดยใชเ้ ทอร์โมอิเลก็ ทริก
7. การทาํ ความเยน็ ระบบสตรีมเจต็
8. วงจรการทาํ ความเยน็ แบบแอบซอร์ปชนั

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

1. ระบบทาํ ความเยน็ โดยปล่อยสารทาํ ความเยน็ ให้ระเหยตวั
(expendable refrigerant cooling system)

- เป็นแบบที่ใชไ้ ดด้ ีกบั การขนส่งอาหารท่ีตอ้ งการควบคุมอุณหภูมิใหต้ ่าํ อยเู่ สมอ
- ปล่อยใหส้ ารทาํ ความเยน็ เหลวระเหยตวั เป็นแก๊สภายในบริเวณหรือเน้ือที่ท่ี
ตอ้ งการ
- โดยไนโตรเจนเหลวในถงั เกบ็ ภายใตค้ วามดนั ประมาณ 14.6 kg/cm2
- ฉีดผา่ นวาลว์ ควบคุม (liquid control valve)
- ลดความดนั ของไนโตรเจนเหลวลง
- ไปยงั หวั ฉีด ซ่ึงจะฉีดไนโตรเจนเหลวใหเ้ ป็นฝอย เขา้ ไปยงั บริเวณหรือเน้ือที่ที่
ตอ้ งการทาํ ความเยน็ โดยตรง

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 3

2. ระบบคอมเพรสเซอร์อดั ไอ

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 4

3. การทาํ ความเยน็ โดยใช้นํา้ แขง็
- น้าํ แขง็ หลอมละลายกลายเป็นน้าํ จะดูดความร้อนจากอากาศรอบ ๆ ทาํ ให้
อากาศเยน็ ลงและมีความหนาแน่นสูงข้ึน
- จึงไหลลงสู่ตอนล่างของตูเ้ ยน็ ไปดูดรับปริมาณความร้อนจากอาหารหรือ
ของที่แช่ภายในตูเ้ ยน็ อีกทีหน่ึง

นํา้ แขง็ จะดูดความร้อนจากเนื้อสัตว์

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 5

4. การทาํ ความเยน็ โดยใช้นํา้ แขง็ แห้ง (dry ice refrigeration)
- น้าํ แขง็ แหง้ จะเปลี่ยนสถานะจากของแขง็ กลายเป็นแก๊ส ซ่ึงเรียกวา่ การระเหิด ท่ี
ความดนั บรรยากาศ
- โดยน้าํ แขง็ แหง้ จะมีอุณหภูมิต่าํ ถึง – 78.33 C และดูดซบั ความร้อนและ
รักษาอุณหภูมิของผลิตภณั ฑ์ เช่น ไอศกรีม ใหค้ งคุณภาพขณะทาํ การขนส่ง

รถไอศกรีม นํา้ แขง็ แห้งดูดความร้อนได้มากกว่า

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 6

คอนเดนเซอร์

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 7

6. การทาํ ความเยน็ โดยใช้เทอร์โมอเิ ลก็ ทริก

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 8

ระดบั นํา้ ทะเล

ระดบั นํ้าทะเล

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 9

7. การทาํ ความเยน็ ระบบสตรีมเจ็ต

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 10

8. วงจรการทาํ ความเยน็ แบบแอบซอร์ปชัน

ลเิ ทยี มโพรไมท์ จะละลายตา่ํ
เพราะอณุ หภูมสิ ูง

ไม่นิยมเพราะค่า COP ตาํ่ ใช้ Heat pump แทนได้ 11
แต่เป็ นมติ รกบั ส่ิงแวดล้อม
เพราะไม่ต้องใช้ไฟฟ้า หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

ชนิดของเครื่องทาํ ความเยน็ 12

qเคร่ืองทาํ ความเยน็ แบบอดั ไอ (compression refrigeration)
üการคาํ นวณของวฏั จกั รการทาํ ความเยน็
üวธิ ีการเพ่มิ ประสิทธิภาพของระบบทาํ ความเยน็

qเครื่องทาํ ความเยน็ แบบดูดซึม (absorption refrigeration)
üการคาํ นวณของวฏั จกั รการทาํ ความเยน็ แบบดูดซึม

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

เคร่ืองทาํ ความเยน็ แบบอดั ไอ (compression refrigeration)

ของเหลว

แก๊ส(Va p or )

ลดแรงดนั

ของเหลว+แก๊ส

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 13

P2,3 3 ความร้อนออก 2

Condensor
ความดัน
งานป้อนเข้า
Liquid Saturation
Vapor Saturation
P1,4 ความร้อนเข้า 1 งานของ
4 อตั ราการทาํ ความเยน็ คอมเพรสเซอร์
(อแิ วhป1พ- อhเ4รเตอร์)
h2- h 1

h 3,4 เอนทลั ปี h1 h2

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 14

วธิ ีการเพม่ิ ประสิทธิภาพของระบบทาํ ความเยน็

การลดความดนั ด้านควบแน่น

- ค่า COP ของระบบการทําความเย็นจะมีค่าสูงสุด เม่ืออัตราส่วนของการอัดมีค่า
ตา่ํ ด้วยเหตุนีจ้ งึ ต้องทาํ ให้ความดนั ขณะควบแน่น มคี ่าตาํ่ สุดเท่าทเ่ี ป็ นไปได้

การเลือกคอมเพรสเซอร์ทม่ี ปี ระสิทธิภาพทสี่ ุด

- ควรพิจารณาภาพรวมท่ัว ๆไปของความเหมาะสมและสอดคล้องกับข้อกําหนด
ความต้องการเพ่ือนําไปใช้ประโยชน์

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 15

การเปลย่ี นสถานะของนํา้ 16

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

ระบบปรับอากาศ หลกั การทาํ งานของระบบปรับ
อากาศ

การปรับอากาศคืออะไร อุณหภูมิ Nega ความร้อนจะวง่ิ เข้า
(1) การทาํ ใหอ้ ากาศ Posi ความร้อนจะวง่ิ ออก

เยน็ ลง-ร้อนข้ึน ความดนั อากาศ
(1) การลด-เพม่ิ
ความช้ืน
ความดนั อากาศ

ความชื้นสูง อณุ หภูมติ าํ่ (2) การลด-เพิ่มความ การปรับอากาศ
เหงื่อจะไม่ระเหย ช้ืนในอากาศ air conditioning

ระดบั ความสะอาด ปริมาณออกซิเจนกบั
(4) การฟอกอากาศ คาร์บอนไดออกไซด์
การถ่ายเทอากาศ (ฝ่ นุ ละออง ก๊าซ แบคทีเรีย ภายในห้อง
(3) การปรับการถ่ายเทอากาศ กลิ่น เป็นตน้ ) ใช้ระบบหมุนเวยี นอากาศ

(ความเร็ว ทิศทาง)

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 17

ชนิดของเครื่องปรับอากาศ 18

qประเภทของวธิ ีปรับอากาศ
üประเภทของวธิ ีปรับอากาศ

qชนิดของวธิ ีปรับอากาศและการเปรียบเทยี บ
qวธิ ีปรับอากาศแบบ unitary แบบใหม่

üการปรับอากาศแบบเป่ าจากพ้ืน
üการปรับอากาศแบบเป่ าจากพาร์ทิชนั่
üการปรับอากาศแบบ task & ambient

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

ประเภทของวธิ ีปรับอากาศ

วธิ ีปรับอากาศสามารถแบ่งเป็นประเภทดว้ ยเกณฑต์ ่างๆ ไดด้ งั ต่อไปน้ี

1. การแบ่งประเภทตามชนิดตวั กลางขนถ่ายความร้อน
2. การแบ่งประเภทตามตาํ แหน่งของแหล่งความร้อน
3. การแบ่งประเภทวา่ แหล่งความร้อน-แหล่งความเยน็ สามารถจ่ายไดอ้ ยา่ ง
ต่อเนื่องหรือไม่
4. การแบ่งประเภทดว้ ยวธิ ีควบคุม

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 19

ระบบปรับอากาศชนิดระบายความร้อนด้วยนํา้

เคร่ืองสูบ คอมเพรสเซอร์ เคร่ืองสูบนํา้ เยน็
นํา้ หล่อ
เยน็ สารทาํ อแิ วปพอเรเตอร์ นํ้าเยน็
คอนเดนเซอร์ ความเยน็ เครื่ องส่ งลมเยน็

นํ้าหล่อเยน็

อากาศเยน็

หอผงึ่ นํา้ อุปกรณ์ขยายตวั ระบบจ่ายลม
ระบบทาํ นํ้าเยน็ ลมกลบั ลมจ่าย

ตวั ปรับอณุ หภูมิ 20
พืน้ ทปี่ รับอากาศ

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

ระบบปรับอากาศชนิดระบายความร้อนด้วยอากาศ

คอมเพรสเซอร์ เคร่ืองสูบน้าํ เยน็

คอนเดนเซอร์ อิแวปพอเรเตอร์ น้าํ เยน็
ชนิดระบายความร้อนดว้ ย เครื่องส่งลมเยน็

อากาศ อากาศเยน็

อุปกรณ์ขยายตวั ระบบ
ระบบทาํ น้าํ เยน็ จ่ายลม
ลมกลบั ลมจ่าย

ตวั ปรับอุณหภูมิ 21
พ้ืนที่ปรับอากาศ

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

นํา้ มคี ่าความจุความร้อนกว่าอากาศ 1,000 เท่า

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 22

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 23

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 24

AHUหลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 25

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 26

ทาํ ให้อากาศเยน็ เคลื่อนทขี่ นึ้

Cooling Towerหลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ อากาศเยน็ จะดงึ ความร้อน
ออกจากนํา้

27

วธิ ีการตรวจวดั และวเิ คราะห์ประสิทธิภาพของ
ระบบปรับอากาศ

vภาระการปรับอากาศและวธิ ีคาํ นวณ
vการไหลของพลงั งานความร้อนในระบบปรับอากาศ
vวธิ ีปรับอากาศแบบเกบ็ ความร้อน
vดชั นีประเมนิ อปุ กรณ์ปรับอากาศ
vกลวธิ ีอนุรักษ์พลงั งานในการปรับอากาศ

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 28

ภาระการปรับอากาศและวธิ ีคาํ นวณ 29

•ภาระในอาคาร
•ภาระเครื่องปรับอากาศ
•ภาระแหล่งความร้อน

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

แนวคดิ ของภาระภายในอาคาร

QGR (กระจก : ส่องผา่ น)

QGT (กระจก: ถ่ายเทผา่ น) QGT (กระจก : ถ่ายเทผา่ น)
Qt (ลมเขา้ ออกตามช่อง) Qt (ลมเขา้ ออกตามช่อง)

QW (ตวั กาํ แพง) QW (ตวั กาํ แพง)

(ปริมาณความร้อนสูญเสียในอาคาร) (ปริมาณความร้อนไดร้ ับในอาคาร)

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 30

กรณีที่คาํ นวณภาระปรับอากาศน้นั จะเป็ นการคาํ นวณปริมาณ “
การไดร้ ับความร้อน” (heat gain) หรือ “การสูญเสียความร้อน” (heat loss)
ออกมา จะอธิบายเก่ียวกบั รูปแบบของภาระปรับอากาศและกฎการคาํ นวณ
ดงั ต่อไปน้ี
ภายนอกอาคาร ภายในอาคาร

กระจก

สะทอ้ นกลบั

สะทอ้ นกลบั แผร่ ังสี
แผร่ ังสีความร้อน แทรกผา่ น
พาความร้อน

กระบวนการของแสงอาทติ ย์ทสี่ ่องไปยงั หน้าต่างกระจก
จนกลายเป็ นการได้รับความร้อน

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 31

ภาระความร้อนซ้าํ บนแผนภูมิไซโครเมตรีก 32

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

การคาํ นวณโดยใช้ไซโครเมตริกชาร์ท พจิ ารณาทอ่ี ากาศแห้ง 1 กโิ ลกรัม
บอกสภาวะอากาศ

98 4 3
5 7 6

1 2

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 33

ัสด ่สวนของไอ ํน้าคุณสมบตั ิต่าง ๆ ของอากาศช้ืนสามารถทราบไดจ้ ากไซโครเมตริกชาร์ท ที่จะแสดง
ความสัมพนั ธ์ของอากาศช้ืนท่ีเกิดการผสมกนั ระหวา่ งอากาศและไอน้าํ ตาม กระบวนการ
ทางความเยน็ และความร้อน

คุณสมบตั ิและการเปลี่ยนแปลงระหวา่ งการผสมของไอน้าํ และอากาศสาํ หรับการทาํ
ความร้อน ทาํ ความเยน็ และการผสมกนั
คุณลกั ษณะของไอน้าํ ดูไดจ้ ากไซโครเมตริกชาร์ท (Psychrometric Chart)

100% 75%ความชื้นสัมพทั ธ์

50%
25%

อณุ หภูมขิ องอากาศ

กราฟน้ีแสดงใหเ้ ห็นวา่ อากาศที่ร้อนสามารถจุไอน้าํ ไดม้ าก

วดั อุณหภูมิไดโ้ ดยใชเ้ ทอร์โมมิเตอร์แบบธรรมดา
(เสน้ แนวนอนของชาร์ท)

วดั อุณหภูมิไดโ้ ดยใชผ้ า้ ชุปน้าํ คลุมท่ีหลอดแกว้
(เสน้ ทะแยงของชาร์ท)

คือค่าของอุณหภูมิที่ทาํ ใหไ้ อน้าํ เริ่มกลนั่ ตวั และยงั
แสดงค่าปริมาณของไอน้าํ ในอากาศ

คือมวลของไอนํา้ ต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรอากาศ
(กรัม/ลบ.ม.) (ไม่แสดงในชาร์ท)

คือ มวลของไอนํา้ ต่อมวลของอากาศแห้งหน่ึงหน่วย
(กรัม/กโิ ลกรัม) (เส้นแนวต้งั ทางขวามือของชาร์ท)

คือ อตั ราส่วนของความดนั ระหว่างไอนํา้ ในอากาศ
และไอนํา้ ทจ่ี ุดอม่ิ ตวั ทอ่ี ุณหภูมเิ ดยี วกนั (ตามเส้นโค้งของชาร์ท)

คือปริมาณพลงั งานความร้อนในอากาศ (ตามเส้นโค้ง ของ
ชาร์ท) มี 2 องค์ประกอบคือ

การเปลย่ี นแปลงอุณหภูมิ
ของ กระเปาะแห้งของอากาศทคี่ วามชื้นคงที่

การเปลย่ี นแปลงปริมาณ
ความชื้นในอากาศทอี่ ุณหภูมกิ ระเปาะแห้งคงท่ี

สถานะไอนํา้ อม่ิ ตวั

อณุ หภูมหิ ้อง 38

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 39

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 40

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 41

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 42

ความร้อนทอ่ี ยู่ในอากาศ ณ สภาวะน้ัน

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 43

h1 P1
hM W
h2

ความร้อนแฝง

M
P2 ความร้อนสัมพทั ธ์

A vertical line is drawn Tthrough point 1. Point M is at the intersection of this 44
vertical line with a horizontal line drawn through point 2. The difference in the
enthalpy of point 1 and that of point M is associated with the difference in the

values of the humidity ratio only. This term is often referred to as the latent

component. Alternatively, the difference in the enthalpy at point M and that at

point 2 is referred as the sensible component since this difference is due to the
หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ

1. ภาระท่ีมาจากกระจกหนา้ ต่าง (ภาระความร้อนสมั ผสั )
2. ภาระจากโครงสร้างอาคาร (ภาระความร้อนสมั ผสั )
3. ภาระจากผนงั ก้นั ภายใน (ภาระความร้อนสมั ผสั )
4. ภาระความช้ืนซึม (ภาระความร้อนแฝง)
5. ภาระจากลมเขา้ ออกตามช่อง (ภาระความร้อนสมั ผสั และภาระความร้อนแฝง)

6. ภาระท่ีเกิดภายในอาคาร (ภาระความร้อนสมั ผสั และภาระความร้อนแฝง)
7. ภาระความร้อนสะสมจากการปรับอากาศแบบเป็นช่วงๆ

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 45

ภาระเครื่องปรับอากาศ

ภาระเครื่องปรับอากาศน้ีเป็นขอ้ มูลพ้นื ฐานของการประเมินความจุของ
เคร่ืองปรับอากาศ
1. ภาระความร้อนจากพดั ลม (ภาระความร้อนสมั ผสั )
2. ภาระความร้อนผา่ นท่อลม (ภาระความร้อนสมั ผสั )
3. ภาระอากาศภายนอก (ภาระความร้อนสมั ผสั และภาระความร้อนแฝง)
4. ภาระความร้อนซ้าํ (ภาระความร้อนสมั ผสั )

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 46

ภาระแหล่งความร้อน
ภาระท่ีประกอบดว้ ยภาระภายในอาคารและภาระเคร่ืองปรับอากาศขา้ งตน้

บวกด้วย “ภาระความร้อนของปั๊ม” “ภาระความร้อนถ่ายเทผ่านผนังท่อ” “ภาระ
ความร้อนสะสมของอุปกรณ์” เรียกว่า “ภาระแหล่งความร้อน” ซ่ึงภาระน้ีจะเป็ น
ปัจจยั ในการกาํ หนด capacity ของอุปกรณ์แหล่งความร้อน

1. ภาระความร้อนของปั๊ม (ความร้อนสมั ผสั )
2. ภาระความร้อนถ่ายเทผา่ นผนงั ท่อ (ความร้อนสมั ผสั )
3. ภาระความร้อนสะสมของอุปกรณ์ (ความร้อนสมั ผสั )

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 47

การเดนิ เคร่ืองด้วยภาระเตม็ พกิ ดั กบั ภาระไม่เตม็ พกิ ดั
เมื่อตรวจสอบสภาพการเดิ นเครื่ องของระบบเครื่ องปรับอากาศใน

อาคารสาํ นกั งาน จะพบวา่ 80 [%] ของเวลาเดินเคร่ืองรวมท้งั ปี จะเดินเครื่องดว้ ย
ภาระไม่เกิน 35 [%] กล่าวคือ เดินเครื่องดว้ ย “ภาระไม่เตม็ พกิ ดั ”

สมมติวา่ เดินเครื่องดว้ ยภาระไม่เตม็ พิกดั ท่ี 35 [%] กล่าวกนั ประสิทธิภาพ
จะลดลงประมาณ 30 [%] ดังน้ัน การเดินเคร่ืองระบบปรับอากาศอย่างอนุรักษ์
พลงั งาน จะตอ้ งพยายามลด “การเดินเครื่องดว้ ยภาระไม่เต็มพิกดั ” ให้เหลือน้อย
ท่ีสุดเท่าที่จะทาํ ได้ และ “เดินเคร่ืองด้วยภาระเต็มพิกัด” อย่างต่อเน่ืองเพื่อให้
ประสิทธิภาพการเดินเครื่องมีค่าสูง

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 48

1. การไหลของพลงั งานความร้อนในการปรับอากาศเยน็

ไดร้ ับความร้อน พดั ลม น้าํ เยน็เค ื่รองป ัรบอากาศ คอยล์ ้นําเย็นน้าํ ระบายความร้อน
อากาศ ป๊ัม เค ่ืรองทําความเย็น แห ่ลงความเย็นปั๊ม อากาศภายนอก
ูคล ่ิลงทาวเวอ ์ร

การไหลของพลงั งานความร้อนในการปรับอากาศเยน็

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ 49

พลงั งานทใ่ี ช้ในระบบปรับอากาศ
15-18% คอนเดนเซอร์

อปุ กรณ์ขยายตวั คอมเพรสเซอร์
(<1% สําหรับ 64-68%
อปุ กรณ์ขยายตวั
แบบอเิ ลค็ ทรอนิกส์)

อแิ ว1ป5พ-1อ8เ%รเตอร์ 50
ที่มา : โครงการใชพ้ ลงั งานอยา่ งมีประสิทธิภาพ, สหราชอาณาจกั ร

หลกั การและการอนุรักษ์พลงั งานในระบบความเยน็ และปรับอากาศ


Click to View FlipBook Version