ความปลอดภยั ในการทางานเกย่ี วกบั
ไฟฟ้ า
1
1
หมวดวชิ าท่ี 3 ช
ความปลอดภยั ในการทางานเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า
หวั ขอ้ หลกั สตู รประกอบดว้ ยเรอ่ื ง
1 ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า
2 อนั ตรายจากไฟฟ้ า
3 มาตรการป้ องอนั ตรายจากไฟฟ้ า
2
2
3
เรอ่ื งที่ 1 ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า
1. ไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานรูปหนงึ่ ซงึ่ มแี หล่งกาเนดิ จากหลาย
แหลง่
2. อนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี ่อชวี ติ และร่างกายมนุษย์ มี 3
ลกั ษณะ ปัจจยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความรุนแรงของการประสบ
อนั ตรายจากไฟฟ้ ามหี ลายปจั จยั
3. อุบตั เิ หตุจากไฟฟ้ าทพี่ บมากทสี่ ุดคอื อุบตั เิ หตุทท่ี าให้
เกดิ เพลงิ ไหม้ อุบตั เิ หตจุ ากไฟฟ้ าแรงดนั ตา่ อุบตั เิ หตุ
จากไฟฟ้ าแรงดนั สูง อุบตั เิ หตุต่างๆ เหล่าน้ีสามารถ
ควบคมุ ได้ ทงั้ ทางดา้ นกฎหมายและดา้ นวศิ วกรรม 4
4
ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า
ไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานชนดิ หนงึ่ ซงึ่ มนุษยใ์ ชเ้ ป็ นตน้ กาเนดิ ของ
พลงั งานในรปู อน่ื ๆ เชน่ แสงสวา่ ง ความรอ้ น พลงั งานกล เสยี ง
และรูปอนื่ ๆ ไดอ้ กี หลายอยา่ ง พลงั งานไฟฟ้ า จงึ เป็ นสงิ่ อานวย
ความสะดวกใหแ้ กผ่ ใู้ ชอ้ ยา่ งมากในการผลติ สนิ คา้ ตา่ งๆ ออกสู่
ทอ้ งตลาด เพราะเครอ่ื งจกั รตา่ งๆ มกั ใชไ้ ฟฟ้ าเป็ นตน้ กาลงั ใน
การขบั เคลอ่ื นเครอื่ งจกั รใหเ้ คลอื่ นที่ เปลยี่ นพลงั งานไฟฟ้ าให้
เป็ นพลงั งานกล เพอ่ื ใชใ้ นการดาเนนิ สายงานผลติ ใหเ้ ป็ นไป
ตามตอ้ งการ
5
5
ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั ไฟฟ้ า
จะเห็นไดว้ ่า ไฟฟ้ าเป็ นส่ิงทม่ี คี ุณประโยชนต์ ่อมนุษยอ์ ย่าง
มากมาย และเป็ นสงิ่ ทเี่ ขา้ มาเกยี่ วขอ้ งกบั ชวี ติ ประจาวนั ของ
คนเราอยเู่ สมอ ซง่ึ ไฟฟ้ านอกจากจะใหค้ ณุ ประโยชนย์ งั ใหโ้ ทษ
อยา่ งมหนั ตด์ ว้ ยเชน่ กนั อนั ไดแ้ ก่
1. อนั ตรายทเ่ี กดิ เพลงิ ไหมจ้ ากไฟฟ้ า (ลดั วงจร)
2. อนั ตรายจากการถกู กระแสไฟฟ้ าช็อก(shock)
3. การไดร้ บั บาดเจ็บ จากการสมั ผสั กบั กระแสไฟฟ้ า
จนพกิ าร ทพุ พลภาพ หรอื ถงึ แกช่ วี ติ
6
6
สงิ่ ทคี่ วรทราบเกยี่ วกบั อนั ตรายจากไฟฟ้ า
• ผู้ป ฏิบ ัติง า น ไ ฟ ฟ้ า ต้อ ง ท ร า บ ถึง อ ัน ต ร า ย จ า ก
กระแสไฟฟ้ า
• ผู้ป ฏิบ ตั ิง า น ไ ฟ ฟ้ า ต้อ ง ส า เ ห ตุข อ ง อ นั ต ร า ย จ า ก
กระแสไฟฟ้ า
• ผูป้ ฏบิ ตั งิ านไฟฟ้ าตอ้ งทราบวธิ กี ารป้ องกนั อนั ตราย
ตา่ งๆ จากกระแสไฟฟ้ า ทถ่ี กู ตอ้ ง
• ผู้ป ฏิบ ตั ิง าน ไ ฟ ฟ้ าต้อ ง ใ ช้ไ ฟ ฟ้ า อ ย่า ง ถูก วิธีแ ล ะ
ปลอดภยั
7
7
นยิ ามศพั ทเ์ กย่ี วกบั ไฟฟ้ า
เพอ่ื เป็ นรากฐานของการศกึ ษาและความเขา้ ใจตรงกนั
ควรทราบความหมายบางคาในทางวชิ าการไฟฟ้ าท่ี
สาคญั มดี งั ตอ่ ไปน้ี
8
8
แรงดนั ไฟฟ้ า (Potential หรอื Voltage)
หมายถงึ ค่าความตา่ งศกั ยข์ องไฟฟ้ าระหวา่ งสายกบั สาย
หรอื สายกบั ดนิ หรอื ระหวา่ งจดุ หนง่ึ กบั จดุ อน่ื ๆ อกี แหง่ หนง่ึ
มหี นว่ ยวดั คา่ แรงดนั หรอื ความตา่ งศกั ยเ์ ป็ นโวลต์
9
9
กระแสไฟฟ้ า (Current)
หมายถงึ อตั ราการไหลของอเิ ล็กตรอนในวงจรไฟฟ้ า
จากจดุ หนงึ่ ไปยงั อกี จดุ หนงึ่ โดยมหี นว่ ยวดั เป็ นแอมแปร์
10
ความถไ่ี ฟฟ้ า (Frequency)
หมายถงึ จงั หวะการไหลของกระแสไฟฟ้ าสลบั ไหลกบั ไป
มา หรอื ขวั้ เปลย่ี นแปลงอยู่ตลอดเวลา จงั หวะการไหล
สลบั กนั ไปมาเรยี กวา่ ไซเกลิ ใน 1 ไซเกลิ จะมบี วก
ครงึ่ ไซเกลิ และ ลบครง่ึ ไซเกลิ ในระบบไฟฟ้ าของ
ประเทศไทยปจั จบุ นั ใชไ้ ฟฟ้ ากระแสสลบั 50 ไซเกลิ
ตอ่ วนิ าที
11
ความตา้ นทาน (Resistance)
หมายถงึ คุณสมบตั ขิ องวตั ถุในการตา้ นทานหรอื ขดั ขวาง
การไหลของกระแสไฟฟ้ า ความตา้ นทานมหี นว่ ยเป็ นโอหม์
ความตา้ นทานไฟฟ้ า 1 โอหม์ คอื คา่ ความตา้ นทานทที่ าให้
กระแสไฟฟ้ า 1 แอมแปร์ ทไ่ี หลผา่ นเป็ นเวลา 1 วนิ าที ทาให้
เกดิ ความรอ้ น 1 จลู
12
ฉนวนไฟฟ้ า (Insulation)
คอื วสั ดุทม่ี คี ณุ สมบตั ใิ นการกนั้ หรอื ขดั ขวางตอ่ การไหลของ
กระแสไฟฟ้ า หรอื วสั ดทุ กี่ ระแสไฟฟ้ าไมส่ ามารถ ไหลผา่ นไป
ไดง้ ่าย ๆ เช่น ยาง ไฟเบอร์ พลาสตกิ เป็ นตน้ วสั ดุทม่ี คี วาม
ตา้ นทานตอ่ กระแสไฟฟ้ านอ้ ยเรยี กวา่ ตวั นาไฟฟ้ า เช่น โลหะ
ตา่ ง ๆ นา้ สกปรก เป็ นตน้
13
ตวั นาไฟฟ้ า (Conductor)
คอื สง่ิ ทย่ี อมใหก้ ระแสไฟฟ้ าไหลผา่ นโดยงา่ ย ปกตจิ ะเป็ น
โลหะ เช่น เงนิ ทองแดง อะลูมเิ นยี ม วตั ถุแต่ละชนดิ จะมี
ความ ส าม าร ถ ใน ก ารน าก ร ะแส ได้ไ ม่เ ท่ากนั เ งิน จ ะมี
ความสามารถในการนากระแสสงู กวา่ ทองแดง และทองแดง
จะสงู กวา่ อะลมู เิ นยี ม
14
หนว่ ยวดั พลงั งานไฟฟ้ า (Watt)
ใช้ในการ คานวณก ารใช้ไฟ ฟ้ าหรือพ ลงั งานไ ฟฟ้ า ผู้จ ดั
จาหนา่ ยจะคดิ ราคาตอ่ หนว่ ย
1 หนว่ ยไฟฟ้ า คอื กาลงั ไฟฟ้ า 1 กโิ ลวตั ต์ (1,000 วตั ต)์ ที่
ใชใ้ นเวลา 1 ชว่ั โมง
15
ใ น ก า ร ค า น ว ณ ห า ก า ล งั ไ ฟ ฟ้ า เ พื่อ คิด ค่า
กระแสไฟฟ้ า สามารถใชส้ ตู รคานวณ ดงั นี้
P = V.I
P คอื กาลงั ไฟฟ้ า หนว่ ยเป็ นวตั ต์
V คอื แรงดนั ไฟฟ้ า หนว่ ยเป็ นโวลต์
I คอื กระแสไฟฟ้ า หนว่ ยเป็ นแอมแปร์
16
หมอ้ แปลงไฟฟ้ า (Transformer)
หมายถงึ อุปกรณ์เปล่ยี นแปลงแรงดนั ไฟฟ้ า เปลย่ี น
แรงดนั จากตา่ ไปเป็ นสูง หรอื เปลย่ี นจากสูงลงมาเป็ นตา่
โดยการเหนยี่ วนาของแมเ่ หล็ก
17
สายไฟฟ้ า (Wire or Cable)
เป็ นสายหรอื ตวั นาไฟฟ้ า มหี ลายชนดิ มที งั้ ชนดิ มฉี นวน
หุม้ และไมม่ ฉี นวนหุม้ และมหี ลายประเภท เช่น สาย
เคเบลิ อากาศ สายใตด้ นิ เป็ นตน้
18
สวติ ชห์ รอื เครอ่ื งตดั กระแส (Switch หรอื Breaker)
คอื เครอื่ ง ปิ ด - เปิ ด วงจรไฟฟ้ า และอุปกรณ์ไฟฟ้ าที่
ใช้ทาหน้าท่ตี ดั วงจรไฟฟ้ าอาจจะทางานโดยอาศยั
อานาจแมเ่ หล็กหรอื ทางานโดยใชม้ อื สบั โยกก็ได้
แผงสวติ ช์ (Switch Board)
หมายถงึ แผงทร่ี วมของสวติ ชต์ า่ ง ๆ มหี นา้ ทร่ี บั ไฟฟ้ า
จากตน้ กาเนดิ และแจกจา่ ยไปยงั สายวงจรตา่ ง ๆ
19
ฟิ วส์ (Fuse)
หมายความถงึ อปุ กรณต์ ดั วงจรไฟฟ้ า โดยอาศยั การหลอม
ละลายของโลหะ
สายดนิ (Ground หรอื Earth)
หมายความถงึ ตวั นาทต่ี ่อจากโครงโลหะของอุปกรณ์และ
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้ าหรอื สง่ิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพอื่ จะนากระแสไฟฟ้ าทไี่ ม่
ตอ้ งการใหไ้ หลลงสรู่ ะบบสายดนิ
20
20
สายศนู ย์ (Neutral)
หมายความวา่ สายใดสายหนงึ่ ในระบบไฟฟ้ าสามสายหรอื สส่ี าย
ซง่ึ แรงดนั ไฟฟ้ าระหวา่ งสายนน้ั ไปยงั สายอยา่ งนอ้ ย 2 สาย ตอ้ ง
เทา่ กนั และสายนนั้ ตอ้ งตอ่ ลงดนิ สาหรบั ระบบไฟฟ้ า 2 สาย ถา้
สายใดสายหนึ่งไม่ได้ต่อมาจากศูนย์ของวงจรอื่นแล้ว ให้
กาหนดเอาสายนน้ั เป็ นศนู ยไ์ ด้ และสายนน้ั ตอ้ งตอ่ ลงดนิ ดว้ ย
21
สายลอ่ ฟ้ า (Arrester)
เป็ นอุปกรณ์ที่ติดตง้ั ขึ้น เพ่ือวตั ถุประสงค์ในการป้ องกนั
อนั ตรายทอี่ าจเกดิ ขน้ึ จากฟ้ าผา่ ซง่ึ จะตอ้ งประกอบดว้ ยหลกั
ลอ่ ฟ้ า สายนาประจุ ตวั จบั ยดึ สายนาประจุ และหลกั ดนิ
หลกั ดนิ (Ground Rod)
หมายถงึ แทโ่ ลหะซงึ่ ปักลงไปในดนิ เพอื่ ทจี่ ะประจุหรอื
กระแสไฟฟ้ าใหไ้ หลลงสดู่ นิ
22
เครอื่ งกาเนดิ ไฟฟ้ า (Generator)
หมายถงึ เครอื่ งจกั รทเ่ี ปลยี่ นพลงั งานกลเป็ นพลงั งาน
ไฟฟ้ า ใชใ้ นการผลติ กระแสไฟฟ้ า
มอเตอร์ (Motor)
หมายถงึ เครอ่ื งเปลย่ี นพลงั งานไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานกลใชใ้ น
การขบั เคลอื่ นเครอ่ื งจกั รหรอื เครอื่ งมอื กลอน่ื ๆ เพอ่ื ทาให้
เกดิ การหมนุ การฉุด การดงึ เพอ่ื ใหเ้ กดิ พลงั งาน
23
อปุ กรณไ์ ฟฟ้ า (Electrical Equipment)
หมายถงึ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ หรอื เครอื่ งจกั รทใี่ ชไ้ ฟฟ้ าเป็ น
ตน้ กาลงั หรอื เป็ นสว่ นประกอบ หรอื ใชเ้ กยี่ วเนอ่ื งกบั ไฟฟ้ า
24
ชนดิ ของไฟฟ้ า
ไฟฟ้ าแบง่ ออกเป็ น 2 ชนดิ ใหญ่ ๆ ดว้ ยกนั คอื
1. ไฟฟ้ าสถติ
2. ไฟฟ้ ากระแส
1. ไฟฟ้ าสถติ
เป็ นอเิ ล็กตรอนทไ่ี มม่ กี ารไหลเคลอื่ นทแ่ี ละไมอ่ าจนามาใชเ้ ป็ น
พลงั งานได้ ไฟฟ้ าสถติ เกดิ ขน้ึ จากการเสยี ดสขี องวตั ถุ 2 สงิ่
เช่น ใชแ้ ท่งอาพนั ถูกกบั ขนสตั ว์ อเิ ล็กตรอนจากขนสตั วจ์ ะ
เกาะอยทู่ แี่ ทง่ อาพนั นนั้
25
2. ไฟฟ้ ากระแส
เป็ นไฟฟ้ าประเภททม่ี กี ระแสไฟฟ้ าไหลไปตามตวั นา ไฟฟ้ ากระแส
แบง่ ออก ไดเ้ ป็ น 2 ชนดิ คอื
o ไฟฟ้ ากระแสตรง คอื ระบบไฟฟ้าทแี่ รงดันไฟฟ้าไมม่ กี ารเปลย่ี นขวั้ จงึ มี
ขวั้ ทแี่ น่นอนเป็ นไฟฟ้าทมี่ กี ระแสไฟฟ้ าเดนิ ทางเดยี ว มขี วั้ ไฟฟ้ าบวกและ
ขัว้ ไฟฟ้ าลบ ไฟฟ้ ากระแสตรงส่วนใหญ่ไดจ้ ากการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าทางเคมี
ทพี่ บมากไดจ้ ากแบตเตอร่ี ใชป้ ระโยชนม์ ากในวงจรไฟฟ้าอเิ ล็กทรอนกิ ส์
o ไฟฟ้ ากระแสสลบั คือ ระบบไฟฟ้ าท่แี รงดันไฟฟ้ ามีการเปล่ียนอย่าง
ต่อเน่ือง จากขัว้ บวกเป็ นลบ และลบเป็ นบวกตลอดเวลา การเปลี่ยน
แรงดัน 26
แหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้ า
เกดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ ไดแ้ ก่ ฟ้ าแลบ ฟ้ าผา่
เกดิ ขนึ้ จากการเปลย่ี นพลงั งานความรอ้ นเป็ นพลงั งานไฟฟ้ า
เกดิ จากการเปลี่ยนแปลงพลงั งานแสงสว่างใหเ้ ป็ นพลงั งาน
ไฟฟ้ า
เกดิ จากปฏกิ ริ ยิ าเคมี
เกดิ จาการเหนย่ี วนาของอานาจสนามแมเ่ หล็กโดยเครอื่ งกาเนดิ
ไฟฟ้ า
27
28
การผลติ ไฟฟ้ าของประเทศไทยทใี่ ชอ้ ยปู่ จั จบุ นั
แบง่ ออกเป็ น 2 ประเภท คอื
ประเภทไมใ่ ชเ้ ชอื้ เพลงิ ประเภทใชเ้ ชอื้ เพลงิ
• โรงไฟฟ้ าพลงั งานธรรมชาติ • โรงไฟฟ้ าพลงั งานไอนา้
• โรงไฟฟ้ าพลงั นา้ • โรงไฟฟ้ าพลงั ความรอ้ น
29
จากการคน้ พบของนกั ฟิ สกิ สช์ าวเยอรมนั ชอ่ื จอรจ์ ไซมอน
โอหม์ (George Simon Ohm) ไดอ้ ธบิ ายความสมั พนั ธ์
ระหว่างกระแสไฟฟ้ า แรงดนั ไฟฟ้ า และความตา้ นทาน
ไฟฟ้ า ดงั สมการตอ่ ไปนี้
กระแสไฟฟ้ า (I) = แรงดนั ไฟฟ้ า (V)
ความตา้ นทาน (R)
สมการนเ้ี รยี กวา่ “กฎของโอหม์ ” อนั เป็ นกฎพน้ื ฐานทสี่ าคญั ทสี่ ุด
ท า ง ก า ร ไ ฟ ฟ้ า ช่ ว ย ใ ห้ส า ม า ร ถ ค า น ว ณ ค่า แ ร ง ด นั ไ ฟ ฟ้ า
กระแสไฟฟ้ า และความตา้ นทานของวงจรไฟฟ้ าได้
30
กระแสไฟฟ้ าและวงจรไฟฟ้ า
กระแสไฟฟ้ าจะไหลออกจากแหลง่ จา่ ยไฟฟ้ าผา่ นตวั นาและไหล
กลบั มายงั แหล่งจ่ายไฟฟ้ าตวั เดมิ อีก เรียกว่า ครบวงจร เรา
สามารถควบคุมการเดนิ ของกระแสไฟฟ้ าได้ โดยใชส้ วติ ชห์ รอื
เครอื่ งปลดวงจรอยา่ งอนื่ เชน่ เซอรก์ ติ เบรกเกอร์ เป็ นตน้
31
รปู ที่ 1 หลอดไฟตดิ สวา่ ง
32
รปู ท่ี 2 สวติ ชท์ าใหส้ ายไฟฟ้ าหรอื ตวั นาไฟฟ้ าขาดออกจากกนั
เป็ นการตดั ทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้ า ทาใหห้ ลอดไฟไมต่ ดิ
33
เรอ่ื งท่ี 2 อนั ตรายจากไฟฟ้ า
ลกั ษณะอนั ตรายจากไฟฟ้ าทม่ี ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกายมนษุ ย์
อนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี ่อมนุษย์ อาจทาใหเ้ กดิ การบาดเจ็บ
พกิ าร หรอื ตายได้ หากมกี ารใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้ าอยา่ งไมถ่ ูกตอ้ ง
หรอื ไมม่ กี ารป้ องกนั ไวก้ อ่ น ลกั ษณะของการประสบอนั ตรายจาก
ไฟฟ้ าทม่ี ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกายมนุษย์ แบง่ ออกเป็ น 3 ลกั ษณะ
ดว้ ยกนั คอื
34
ลกั ษณะอนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกาย
มนุษย ์
1. กระแสไฟฟ้ าใชร้ า่ งกายเป็ นทางผา่ นลงดนิ
35
ลกั ษณะอนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกาย
มนษุ ย์
2. รา่ งกายตอ่ เป็ นสว่ นหนงึ่ ของวงจรไฟฟ้ า
36
ลกั ษณะอนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกาย
มนษุ ย์
3. กระแสไฟฟ้ าลดั วงจร อนั ตรายจากกระแสไฟฟ้ า
ลดั วงจรมี 5 ลกั ษณะคอื
1. แสงจา้ - เศษโลหะทหี่ ลอม
ละลาย กระเด็นเขา้ ตา
2. ความรอ้ น - เกดิ บาดแผลไหม ้
แกอ่ วัยวะของรา่ ยกาย
3. คลน่ื ความดนั และเสยี ง – จาก
การลัดวงจร ทาใหอ้ ปุ กรณร์ ะเบดิ
อันตรายตอ่ ประสาทหู
4. ไอควนั ของวตั ถทุ ถ่ี กู ความรอ้ น
- ตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจ
5. พลงั งานกล – กระแสไฟฟ้า
ลัดวงจร จะเกดิ สนามแมเ่ หลก็
ไฟฟ้า ทาใหต้ ัวนาเกดิ การดดู หรอื
ผลกั ดว้ ยแรงมหาศาล
37
38
38
39
40
ปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความรนุ แรงของการประสบ
อนั ตรายจากไฟฟ้ า
41
ตารางแสดงปรมิ าณกระแสไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ รา่ งกาย
จานวนกระแสไฟฟ้ า อาการหรอื อนั ตรายทเี่ กดิ ขนึ้ แกร่ า่ งกาย
( มลิ แิ อมแปร)์
ยงั ไมร่ สู ้ กึ
นอ้ ยกวา่ 0.5
0.5 – 2 รสู ้ กึ กระตกุ เลก็ นอ้ ย
2 – 10
5 – 25 กลา้ มเนอื้ หด กระตกุ ปานกลางถงึ รนุ แรง
มากกวา่ 25 เจ็บปวด กลา้ มเนอ้ื เกร็งไมส่ ามารถปลอ่ ยใหห้ ลดุ
50 – 100 ออกมาได ้
มากกวา่ 100
กลา้ มเนอื้ เกร็ง กระตกุ รนุ แรง
หวั ใจเตน้ ผดิ ปกติ ( เตน้ ออ่ นหอเตน้ ระรัว) เสยี ชวี ติ
หยดุ หายใจ ผวิ หนังไหม ้
42
ตารางแสดงปรมิ าณกระแสไฟฟ้ าซง่ึ อาจเป็ น
อนั ตรายถงึ ชวี ติ ถา้ ไดร้ บั เกนิ ระยะเวลาทกี่ าหนด
จานวนกระแสไฟฟ้ า ระยะเวลา ( วนิ าท)ี
( มลิ ลแิ อมแปร)์
15 120
20 60
30 30
100 3
500 11/100
1,000 (1 แอมแปร)์ 1/100
การทน่ี กเกาะสายไฟแรงสงู ทไี่ มม่ ฉี นวนหมุ้ โดยไมไ่ ดร้ บั อนั ตราย
เนอ่ื งจากเทา้ นกมลี กั ษณะเป็ นเซลลท์ แ่ี หง้ จงึ มคี วามตา้ นทานสงู นอกจาก
นกยงั เกาะเพยี งเสน้ เดยี วไมส่ ามารถเกาะสายไฟทงั้ สองเสน้ พรอ้ มกนั ได้
และตวั นกไมไ่ ดต้ ดิ ตอ่ กบั พน้ื ดนิ ทาใหไ้ ฟรว่ั ขน้ึ นกจงึ ไมถ่ กู ดดู ตาย
43
ผลของอนั ตรายจากไฟฟ้ าทม่ี ตี อ่ ชวี ติ
และทรพั ยส์ นิ
กลา้ มเนอื้ กระตกุ หรอื เกดิ การหดตวั
หวั ใจเกดิ อาการเตน้ กระตกุ หรอื เตน้ ถร่ี วั
หวั ใจหยดุ ทางานทนั ที
เซลลภ์ ายในรา่ งกายเสยี หาย
ระบบประสาทเกดิ การชะงกั งนั
อนั ตรายตอ่ ทรพั ยส์ นิ
การเกดิ เพลงิ ไหมแ้ ละระเบดิ
44
ผลของกระแสไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ รา่ งกาย
กลา้ มเนอ้ื กระตกุ หรอื เกดิ การหดตวั (Muscular Freezing)
กลา้ มเนอ้ื สว่ นตา่ งๆจะหดตวั มอี าการเกร็ง และถา้ กระแสไฟฟ้าไหลผา่ น
กลา้ มเนื้อทรวงอก จะทาใหก้ ารทางานของปอดมีอุปสรรคหรืออาจ
ทางานไม่ได ้ ทาใหข้ าดอากาศหายใจจนทาใหส้ ลบ (Asphyxiation)
เป็ นผลตอ่ เนอ่ื งทาใหก้ ารหมนุ เวยี นของโลหติ ตอ้ งหยดุ
45
ระบบประสาทเกดิ การชะงกั งนั (Nerve Block)
ทาใหเ้ กดิ เป็ นอัมพาตชว่ั คราว(Temporary Paralysis)เป็ นจากท่ี
มีกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านร่างกาย 10 - 50 mA ถา้ เกดิ กับประสาท
สว่ นกลางทค่ี วบคมุ การทางานของหัวใจ จะทาใหก้ ารทางานของหัวใจ
ลม้ เหลว
เซลลภ์ ายในรา่ งกายเสยี หาย
กระแสไฟฟ้ าจะไหลผ่านในเสน้ ทางที่มีความตา้ นทานนอ้ ยที่สุด
ไดแ้ ก่หลอดเลอื ด ไขสันหลัง จงึ มักทาใหเ้ กดิ การแข็งตัวของโลหติ ใน
หลอดเลอื ดและเสน้ ประสาทในไขสนั หลงั ไดร้ บั อนั ตรายจากการหด เกร็ง
46
หวั ใจเกดิ อาการเตน้ กระตกุ หรอื เตน้ ถร่ี วั
(Ventricular Fibrillation)
กระแสไฟฟ้าปรมิ าณตัง้ แต่ 50 mA ไหลผา่ นหัวใจ การเตน้ การ
หดตัวและการขยายตัวของกลา้ มเน้ือหัวใจ จะเกดิ การเตน้ ในจังหวะที่
ผดิ ปกติ เชน่ มอี าการกระตุกหรอื การเตน้ ถรี่ ัว นาทลี ะหลายรอ้ ยครัง้
แต่เป็ นการเตน้ ทอ่ี อ่ น การสบู ฉีดโลหติ ไปเลยี้ งสว่ นตา่ งๆของรา่ งกาย
ทาไมไ่ ดเ้ ต็มทโี่ ดยเฉพาะสว่ นสมอง
47
หวั ใจหยดุ ทางานทนั ที (Cardiac Arrest)
เกดิ จากการทม่ี กี ระแสไฟฟ้ าไหลผ่านหวั ใจในปรมิ าณท่ี
มากๆในระยะเวลาอนั สน้ั ทาใหก้ ารทางานของหวั ใจไม่อาจจะ
กลบั มาทางานไดด้ ว้ ยตนเองหรอื มกี ารนวดหวั ใจจากภายนอก
เพ่ือช่วยให้กล้ามเนื้อของหวั ใจกลบั มาทางานได้ตามปกติ
( External Cardiac Massage)
48
เนอ้ื เยอื่ และเซลลต์ า่ งๆ ของรา่ งกายถกู ทาลาย
กระแสไฟฟ้ าเมือ่ ไหลผ่านเนื้อเย่ือจะทาใหเ้ กดิ ความรอ้ นโดย
สว่ นทเ่ี ป็ นอนั ตรายคอื สว่ นทกี่ ระแสไฟฟ้าเขา้ และกระแสไฟฟ้าออก
ยกตัวอย่างเช่น มือที่จับเหล็กเสน้ ที่พาดไปถูกสายไฟแรงสูง
ขณะทย่ี นื อยบู่ นดนิ สว่ นทม่ี บี าดแผลไหมค้ อื ฝ่ ามอื และ ฝ่ าเทา้
49
Burn Injury Fundamentals
Normal skin temperature
@ 32.5 °C
Skin burn onset @ > 44 °C
Instantaneous @ 72 °C
Burn depth is a measure of severity
First degree burn – (sunburn, no blister)
outer skin layer
Second degree burn (blisters,
Middle skin layer skin can regenerate)
Third degree burns (grey skin, charred,
Deep skin layer no skin regeneration possible)
50