The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phontomassassins, 2021-12-20 02:09:30

jfile_no187_24286

jfile_no187_24286

วารสาร

ม ห า ว� ท ย า ลั ย ม ห า ส า ร ค า ม

ปท่ี 40 ฉบบั ท่ี 3 พฤษภาคม - มิถุนายน 2564

JOURNAL OF SCIENCE AND TECHNOLOGY
MAHASARAKHAM UNIVERSITY
INDEXED IN TCI ( Tier 2 )

ISSN (Print Edition) : 1686-9664
ISSN (Online Edition) : 2586-9795

วารสารวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวิทยาลยั มหาสารคาม

ววาตั รถสุปารรวะทิสยงาคศ์ าสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม จดั ท�ำ รองศาสตราจารย์ ดร.บุญจง ขาวสทิ ธิวงษ์
ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นแหล่งเผยแพร่ผลงานทางวิชาการท่ีมี สถาบันบัณฑติ พัฒนาบรหิ ารศาสตร์
คุณภาพของนกั วิชาการทง้ั ในและตา่ งประเทศ โดยเผยแพรบ่ ทความ รองศาสตราจารย์ ดร.พรเทพ ถนนแกว้
วจิ ยั (research article) บทความปรทิ ศั น์ (review article) ในสาขาวชิ า มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่
ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.นฤมล แสงประดบั
เกษตรศาสตร์ แพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์สขุ ภาพ และสหวทิ ยาการ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่
ด้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รองศาสตราจารย์ ดร.เทอดศกั ดิ์ คำ�เหม็ง
เจา้ ของ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น
มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม รองศาสตราจารยย์ ืน ภวู่ รวรรณ
สำ�นักงานกองบรรณาธิการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กองสง่ เสรมิ การวิจยั และบริการวชิ าการ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม รองศาสตราจารย์ ดร.อรวชิ ญ์ กุมพล
ต�ำ บลขามเรียง อำ�เภอกันทรวิชยั จังหวัดมหาสารคาม 44150 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
โทรศัพท์ภายใน 1754 โทรศพั ท/์ โทรสาร 0-4375-4416 รองศาสตราจารย์ นายแพทยศ์ ริ ิเกษม ศิริลกั ษณ์
ที่ปรึกษา มหาวิทยาลยั นเรศวร
อธกิ ารบดีมหาวิทยาลยั มหาสารคาม ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ชวลติ บญุ ปก
ศาสตราจารย์ ดร.วสิ ุทธ์ิ ใบไม้ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
ศาสตราจารย์ ดร.วชิ ยั บญุ แสง ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.นพรัตน์ พทุ ธกาล
บรรณาธิการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี
ศาสตราจารย์ ดร.ปรชี า ประเทพา ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อนุชา เพียรชนะ
ศผาู้ชส่วตยรบารจรารณยา์ ดธริก.ไาพรโรจน์ ประมวล มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุบลราชธานี
มหาวิทยาลยั มหาสารคาม ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.เสกสรร สขุ ะเสนา
ศาสตราจารย์ ดร.ศิริธร ศริ ิอมรพรรณ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร
มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อภิญญา วงศพ์ ริ ยิ โยธา
รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.วรพล เองวานิช มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อลงกรณ์ ละมอ่ ม
รองศาสตราจารย์ ดร.วลั ยา สุทธิขำ� มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
มหาวิทยาลยั มหาสารคาม ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ณฐพล ภูมิพันธ์ุ
กองบรรณาธกิ าร มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
ศาสตราจารย์ ดร.ทวศี ักด์ิ บญุ เกดิ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สมนึก พว่ งพรพทิ ักษ์
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
ศาสตราจารย์ ดร.ละออศรี เสนาะเมือง อาจารย์ ดร.รักษจ์ ินดา วฒั นาลยั
มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น มหาวทิ ยาลยั สยาม
ศาสตราจารย์ ดร.ปราณี อา่ นเปรอ่ื ง Mr.Adrian R. Plant
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
ศาสตราจารย์ ดร.นวิ ฒั เสนาะเมือง ฉเลวขีวารรนณกุ าอรรรคะเศรษฐัง
มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร
ศาสตราจารย์ ดร.อนงค์ฤทธิ์ แขง็ แรง พกั ตรว์ ิไล รงุ่ วิสัย
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จิรารัตน์ ภูสฤี ทธ์ิ
รองศาสตราจารย์ ดร.สุนนั ท์ สายกระสุน กำ�หนดเผยแพร่
มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม ปลี ะ 6 ฉบับ
รองศาสตราจารย์ ดร.สุวรรณา บุญยะลพี รรณ ฉบับท่ี 1 มกราคม-กมุ ภาพนั ธ์
มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฉบบั ท่ี 2 มนี าคม-เมษายน
รองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญใจ กนกเมธากุล ฉบับท่ี 3 พฤษภาคม-มิถุนายน
มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฉบับที่ 4 กรกฎาคม-สงิ หาคม
รองศาสตราจารย์ ดร.ฉันทนา อารมย์ดี ฉบับที่ 5 กนั ยายน-ตลุ าคม
มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฉบับท่ี 6 พฤศจกิ ายน-ธนั วาคม

บทความและความคิดเห็นในวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นความคิดเห็นของผเู้ ขียน กองบรรณาธิการ
ไม่จำ�เป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และบทความในวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำ�ไปเผยแพร่ต้อง
ไดร้ บั อนุญาตเป็นลายลักษณ์อกั ษรจากกองบรรณาธิการเทา่ น้นั

วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม http://www.journal.msu.ac.th เผยแพรเ่ มื่อวันท่ี 30 มิถุนายน 2564

บทบรรณาธิการ

เรยี นทา่ นผอู้ า่ นและสมาชกิ วารสารวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ทกุ ทา่ น ปจั จบุ นั สถาณการณ์
การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย รวมถงึ ในหลายประเทศทัว่ โลกทวีความรุนแรง
มากย่ิงข้ึน ซ่ีงมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งความสามารถในการแพร่กระจายที่รวดเร็วข้ึนของเช้ือท่ีเกิดการกลาย
(mutation) ของบางสายพันธ์ุ เชน่ สายพันธเุ์ ดลตา (delta) เป็นตน้ รวมถึงข้อจำากัดของการเข้าถึงวคั ซีน ตลอดจนพฤติกรรม
ของประชาชนเองท่ีอาจละเลยหรือลดหย่อนความเข้มงวดในการป้องกัน ในนามของวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขอเป็นกำาลังใจให้กับบุคลากร เจ้าหน้าท่ี ตลอดจนผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแล ป้องกัน รักษา
และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยทุกท่าน และหวังเป็นอย่างย่ิงว่า
สถานการณต์ ่างๆ จะคืนกลบั สู่สภาวะปกติโดยเรว็ ท่ีสุด

วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปที ่ี 40 ฉบับที่ 3 นาำ เสนอบทความวจิ ัยจำานวน 9 เรอ่ื ง
และบทความวิชาการ 1 เรื่อง ทุกเรื่องล้วนผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิท่ีมีความเชี่ยวชาญ รวมถึงกองบรรณาธิการ
ที่ตรวจสอบความถูกต้องของบทความวิจัย ท้ังน้ีเพ่ือให้บทความวิจัยและบทความวิชาการที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม มคี ณุ ภาพสงู ที่สุด

ศาสตราจารย์ ดร.ไพโรจน์ ประมวล
ผชู้ ว่ ยบรรณาธกิ าร

สารบัญ

บทความวชิ าการ 235
244
กรดโคจิก: คุณสมบตั ิและการประยุกตใ์ ช้ 252
Kojic acid: its properties and applications 260
272
พงศ์ศกั ด์ิ รัตนชัยกลุ โสภณ, ปารชิ าติ พุม่ ขจร
Pongsak Rattanachaikunsopon, Parichat Phumkhachorn

บทความวจิ ัย
Agricultural Science

การเปรียบเทยี บความเขม้ ขน้ ของมาลอนไดอลั ดไี ฮด์และกิจกรรมของกลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดส
ในพลาสม่าและเซลลเ์ ยื่อบเุ ตา้ นมทแี่ ยกไดจ้ ากนา้ำ นมแพะ
Comparison of malondialdehyde concentration and glutathione peroxidase activity in plasma
and mammary epithelial cells isolated from goat milk

หนงึ่ นุช สายปิ่น, มาริสา แก้วสวุ รรณ, รชั ดา สาดตระกูลวฒั นา
Nungnuch Saipin, Marisa Keawsuwan, Rachada Sadtragoolwatana
ความผันแปรของไมโครแซทเทลไลท์ และไมโทคอนเดรียล ดเี อน็ เอ ในแพะ 3 สายพนั ธุ์ของพื้นทภ่ี าคใต้
ประเทศไทย
Microsatellite and mitochondrial DNA variation in three goat breeds of Southern Thailand
ศริ ิรัตน์ นอสูงเนิน, ไชยวรรณ วฒั นจนั ทร,์ ปรชั ญาพร เอกบุตร
Sirirat Norsungnoen, Chaiyawan Wattanachant, Pradchayaporn Akaboot

Computer and Information Technology

การทาำ นายปจั จยั ท่ีมีอิทธพิ ลต่อการตัดสนิ ใจซ้ือเสอ้ื ผ้าแฟช่ันผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
Prediction of factors influencing decision making to purchase fashion apparel via
Facebook and Instagram

เกรยี ง กจิ บำารงุ รตั น์
Krieng Kitbumrungrat

Engineering

ผลของรปู ทรงเครือ่ งมอื กวนเชือ่ มต่อการเปลย่ี นแปลงโครงสร้างจลุ ภาคและสมบัติทางกลของการเชื่อม
เสียดทานแบบกวนใต้นาำ้ ของอลมู เิ นยี มผสม AA 5083
Effect of stir welding tool geometry on microstructure transformation and mechanical properties
of submerged friction of AA 5083 aluminum alloy

วิทยา ศริ คิ ณุ , ยงยทุ ธ ดุลยกุล, เดช เหมอื นขาว
Witthaya Sririkun, Yongyuth Dunyakul, Dech Maunkhaw

สารบญั

สมการอยา่ งง่ายสาำ หรับใช้ทำานายอณุ หภมู ินาำ้ ร้อนทีผ่ ลิตไดจ้ ากระบบผลิตไฟฟา้ และน้ำาร้อนพลังงาน 285
แสงอาทิตยร์ ่วม 296
A simple equation for predicting the hot water temperature produced from a solar photovoltaic- 306
thermal hybrid system 322
332
สรวศิ สอนสารี, สมชาย เจยี จิตต์สวัสดิ์
Sorawit Sonsaree, Somchai Jiajitsawat
อทิ ธพิ ลของความเรว็ ลมตอ่ ความมีเสถียรภาพของปน้ั จ่นั ยกตู้สินค้าท่าเรือชายฝั่ง
The effect of wind speed on the stability of a ship-to-shore gantry crane
ชยั ยันต์ ใจบญุ มา, ธนาพล สขุ ชนะ
Chaiyun Jaiboonma, Thanaphol Sukchana

Environmental Science

เรดิโอลาเรยี นยุคดโี วเนียนตอนปลายถงึ ยุคคารบ์ อนเิ ฟอรสั ตอนต้นจากหนา้ ตัดชน้ั หินเชิร์ตบา้ นวงั ผา
อำาเภอปากชม จังหวดั เลยภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ของประเทศไทย
Late Devonian to early Carboniferous radiolarian faunas from the Ban Wang Pha chert section in
Pak Chom district, Loei province, northeastern Thailand

ศริ กาญจน์ จรรยา, หทัยทพิ ย์ ทศั นภกั ดิ,์ มงคล อดุ ชาชน
Sirakan Janya, Hathaithip Thassanapak, Mongkol Udchachon
การตรวจตดิ ตามคุณภาพสง่ิ แวดลอ้ มจากโครงการจัดการขยะเพอื่ ผลติ เปน็ เชอื้ เพลงิ กรณศี กึ ษาองค์การ
บริหารสว่ นตำาบลแกง่ หางแมว จังหวดั จันทบรุ ี
Environmental quality monitoring in a project on refuse derived fuel (RDF): A case study of
Kaeng Hang Maeo subdistrict administrative organization, Chanthaburi province
จกั รพันธ์ โพธพิ ัฒน,์ ภทั ร ศรสี รวล, สทุ ธินนั ท์ โสตวิถี
Jakkapan Potipat, Pattara Srisrual, Suttinun Sotwitee

Geoinformatics Science

การเปรียบเทียบการจำาแนกภาพถา่ ยดาวเทียมแบบกำากบั ควบคมุ โดยการเลือกกล่มุ ตัวอยา่ งจากวตั ถภุ าพ
และจากจดุ ตวั อยา่ งแบบจุดเวกเตอร์: กระบวนการจาำ แนกแบบเชงิ วัตถุ
Comparison of the satellite image supervised classification by the selection of samples from
segmented image objects and vector point samples: Object-oriented classification approach

โสภณวชิ ญ์ คำาพิลัง
Sopholwit Khamphilung

VI J Sci Technol MSU Vol 40. No 3, May-June 2021

กรดโคจิก: คุณสมบตั ิและการประยกุ ต์ใช้
Kojic acid: its properties and applications

พงศศ์ กั ด์ิ รตั นชยั กลุ โสภณ1, ปาริชาติ พุ่มขจร2
Pongsak Rattanachaikunsopon1, Parichat Phumkhachorn2

Received: 27 October 2020 ; Revised: 4 March 2021 ; Accepted: 7 April 2021

บทคดั ยอ่

กรดโคจิกเป็นกรดอินทรีย์ท่ีผลิตได้จากราหลายชนิด นิยมนำ�ไปใช้ในการผลิตเครื่องสำ�อางเพ่ือเพิ่มความขาวโดยไปยับย้ังการ
สรา้ งเมลานนิ เมลานนิ ถกู สรา้ งขน้ึ ในเซลลเ์ มลาโนไซตแ์ ละมหี นา้ ทป่ี กปอ้ งผวิ หนงั จากแสงอลั ตาไวโอเลต ไทโรซเิ นสเปน็ เอนไซม์
สำ�คัญที่ทำ�หน้าท่ีในกระบวนการสร้างเมลานิน ดังน้ันการยับยั้งการทำ�งานของไทโรซิเนสจึงมีผลทำ�ให้การสร้างเมลานินลดลง
กรดโคจิกสามารถดักจับคอปเปอร์ไอออนได้จึงสามารถยับย้ังการทำ�งานของเอนไซม์ไทโรซิเนส และส่งผลให้การสร้างเมลานิน
เกิดข้ึนน้อยลง กรดโคจิกจัดเป็นสารเพ่ิมความขาวท่ีมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดี และยังอาจช่วยแก้ปัญหาสีผิวท่ีเกิด
จากการสร้างเมลานินมากเกินไป กรดโคจิกได้รับความสนใจและมีการศึกษาอย่างกว้างขวางเนื่องจากมีฤทธ์ิทางชีวภาพที่เป็น
ประโยชนห์ ลายประการ ไดแ้ ก่ ต้านจุลนิ ทรีย์ ต้านไวรัส ต้านอนุมลู อิสระ ตา้ นไบโอฟิลม์ ต้านมะเร็ง ต้านเบาหวาน และมฤี ทธิ์
ฆา่ แมลง ดงั นนั้ กรดโคจกิ และอนพุ นั ธข์ องกรดโคจกิ นอกจากจะถกู น�ำ ไปใชเ้ ปน็ สว่ นผสมในเครอื่ งส�ำ อางแลว้ ยงั สามารถน�ำ ไปใช้
ประโยชนไ์ ดอ้ กี หลายด้าน เชน่ การแพทย์ อาหาร การเกษตรและเคมภี ณั ฑ์
ค�ำ ส�ำ คัญ: กรดโคจกิ ตัวยับย้ังไทโรซเิ นส เมลานิน สารเพม่ิ ความขาวแกผ่ วิ

Abstract

Kojic acid is an organic acid produced by many species of fungi. It is usually used in cosmetic preparations to achieve a
skin-lightening effect by inhibiting melanin formation. Melanin is synthesized via melanogenesis by melanocytes, and it
naturally protects the skin from ultraviolet (UV) light. Tyrosinase is an important enzyme responsible for melanogenesis ;
hence, the inhibition of tyrosinase lessens melanin production. Kojic acid captures the copper ions, preventing them
from activating the tyrosinase so that it can successfully inhibit the production of melanin. Kojic acid is a safe and
effective skin brightener, and it may improve the appearance of skin hyperpigmentation disorders. Kojic acid has
attracted attention and has been studied intensively due to its significant antimicrobial, antiviral, antioxidant, anti-biofilm,
anticancer, anti-diabetic and insecticide activities. Therefore, kojic acid and its derivatives have been extensively
applied, not only in cosmetic preparations, but also in various fields such as medicine, food, agriculture, and chemistry.
Keywords: Kojic acid, Tyrosinase inhibitor, Melanin, Skin-lightening agents

1 ศาสตราจารย์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ชวี ภาพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี อ.เมอื ง จ.อุบลราชธานี 34190
2 รองศาสตราจารย์ ภาควชิ าวิทยาศาสตรช์ ีวภาพ คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี อ.เมอื ง จ.อุบลราชธานี 34190
1 Professor, Department of Biological Science, Faculty of Science, Ubon Ratchathani University, Ubon Ratchathani 34190 Thailand.

E-mail: [email protected]
2 Associate Professor, Department of Biological Science, Faculty of Science, Ubon Ratchathani University, Ubon Ratchathani 34190 Thailand.

E-mail: [email protected]

236 Pongsak Rattanachaikunsopon, Parichat Phumkhachorn J Sci Technol MSU

บทน�ำ กรดโคจิกในเครอ่ื งสำ�อาง

กรดโคจิก (kojic acid ; KA) เป็นสารเมแทบอไลท์ทุติยูมิ กรดโคจกิ ถกู น�ำ ไปใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบในผลติ ภณั ฑ์
(secondary metabolite) ที่สร้างจากราบางชนิด (เช่น เครอื่ งส�ำ อาง (cosmetics) หลากหลายชนิด โดยเครื่องสำ�อาง
Aspergillus, Fusarium และ Penicillium) กรดโคจิกเป็น ที่มีกรดโคจิกเป็นส่วนผสมมักบรรยายสรรพคุณเก่ียวกับการ
ผลผลิตท่ีเกิดจากกระบวนการหมักแบบใช้อากาศ (aerobic ปรบั สผี วิ ชว่ ยท�ำ ใหผ้ วิ มสี จี างลง (skin fading/lightener effect)
fermentation) ของราเหลา่ นน้ั โดยอาศยั ปฏกิ ริ ยิ าทางเอนไซม์ และทำ�ใหผ้ วิ ขาวข้นึ (Qian et al., 2020) ผู้ผลติ เคร่ืองส�ำ อาง
หลายขนั้ ตอน แหลง่ คาร์บอนท่รี าใช้ในการผลิตกรดโคจิกอาจ ทนี่ ยิ มเตมิ สารเพมิ่ ความขาวลงในผลติ ภณั ฑม์ กั เปน็ ประเทศใน
เป็นไปได้หลากหลาย เชน่ กลูโคส ซโู ครส เอทานอล อะซิเตท แถบเอเชีย เช่น จีน อินเดีย และญ่ปี ุ่น ส่งผลใหธ้ รุ กิจเกีย่ วกับ
และไซโลส เป็นต้น ราต่างจีนสั หรอื แม้แตจ่ นี สั เดียวกันแต่ตา่ ง เครอ่ื งส�ำ อางทเี่ นน้ เรอ่ื งความขาวของผวิ พรรณเตบิ โตขนึ้ อยา่ ง
สปีชีส์อาจผลิตกรดโคจิกได้ไม่เท่ากัน อาหารหมักท่ีพบกรด รวดเร็วในประเทศดังกล่าว เครื่องสำ�อางที่มีการเติมกรดโค
โคจกิ เชน่ เตา้ เจย้ี ว(soybeanpaste)ซอสถว่ั เหลอื ง(soysauce) จกิ ลงไปเป็นสว่ นผสมในสตู รมีหลายประเภท ซง่ึ อาจแบ่งออก
และไวนข์ ้าว (rice wine) ประเทศญปี่ ุ่นถอื เป็นตน้ ก�ำ เนดิ ของ เป็น 3 กลมุ่ หลกั (Burnett et al., 2010) ได้แก่ (1) ผลติ ภัณฑ์
กรดโคจกิ แต่ชาวญป่ี ุ่นรจู้ กั กรดนีใ้ นนาม “โคจิ (koji)” การคน้ ชำ�ระล้างผิว (bath products) เช่น สบู่ (soap/detergent)
พบกรดโคจกิ เกดิ ขึน้ เมื่อ ค.ศ. 1907 โดยชาวญ่ีปุน่ ช่อื Saito (2) ผลิตภณั ฑบ์ �ำ รุงผวิ (skin care products) เช่น ครีม โลชัน่
(Brtko et al., 2004) เขาพบว่ามีสารใหม่ชนดิ หนึง่ ที่สรา้ งจาก แป้ง และมอยเจอร์ไรเซอร์ และ (3) ผลิตภัณฑ์เช็ดทำ�ความ
เสน้ ใยของรา Aspergillus oryzae ทเ่ี จรญิ บนขา้ วสกุ (steamed สะอาดผิว (skin cleaning products) เคร่ืองสำ�อางท่ีมีส่วน
rice) ตอ่ มาใน ค.ศ. 1912 Yabuta ชาวญป่ี นุ่ อกี คนหนงึ่ ไดเ้ รยี ก ผสมของกรดโคจิกสามารถนำ�ไปใช้ได้ท้ังบนใบหน้า บริเวณ
ชอื่ สารน้นั วา่ “กรดโคจกิ ” (คำ�ว่า “koji” หมายถงึ “steamed รอบดวงตา และผิวหนังทั่วร่างกาย การทำ�ให้ผิวขาวขึ้นของ
rice” ในภาษาญปี่ นุ่ ) และเขายงั รายงานโครงสรา้ งโมเลกลุ ของ กรดโคจิกเกิดจากสารนี้ช่วยลดการสร้างเมลานิน (melanin)
สารดังกลา่ วใน ค.ศ. 1924 (Brtko et al., 2004) ต่อมาใน ค.ศ. ในผิวหนงั (Pillaiyar et al., 2017) เน่ืองจากเมลานินเป็นตวั
1930 กรดโคจิกสามารถผลิตได้จากการสังเคราะห์ทางเคมี กำ�หนดความเข้มของสีผิว ดังน้ันหากผิวหนังสร้างเมลานิน
ชาวญ่ีปุ่นเช่ือว่ากรดโคจิกพบได้ในอาหารหลากหลายชนิดที่ น้อยลง ย่อมส่งผลทำ�ให้สีผิวซีดจางลงหรือดูขาวข้ึนได้
ชาวญป่ี นุ่ บรโิ ภคกนั มาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและยาวนาน และยงั ถอื วา่ ด้วยเหตุน้ีกรดโคจิกจึงถูกจัดเป็นสารเพ่ิมความขาวแก่
อาหารท่ีมกี รดโคจกิ มีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย (functional food) ผิว (skin-whitening/skin-lightening agent) ชนิดหนึ่ง
(Brtko et al., 2004) แม้ว่าองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and
Drug Administration ; FDA) ไม่จัดว่ากรดโคจิกเป็นยา
คณุ สมบตั ิทางเคมแี ละชีวภาพของกรดโคจกิ จำ�หน่ายหน้าเคาเตอร์ (over-the-counter drugs ; OTC
กรดโคจิกมีช่ือทางเคมีว่า 5-hydroxy-2-hydroxy- drugs) (Burnett et al., 2010) แตป่ ัจจบุ ันก็เปน็ ที่ยอมรบั กัน
methyl-4-pyranone แมลีละัมกสษี ตู ณระโคเปรง็นสผรงา้ ผงคลอึืกสCีข6Hาว6Oห4ร(ือCสoีเuหtลeaือuง โดยทั่วไปว่ากรดโคจิกสามารถนำ�ไปเติม/เป็นส่วนผสมใน
& Coiffard, 2016) เครื่องสำ�อางได้อย่างปลอดภัย หากใช้ในปริมาณท่ีพอเหมาะ
ออ่ น น้ำ�หนกั โมเลกลุ (molecular weight) เท่ากับ 142.11 มี และสามารถช่วยทำ�ให้ผิวขาวขึ้นได้จริง (Pillaiyar et al.,
จดุ หลอมเหลว (melting point) ที่ 152-154 องศาเซลเซียส 2017) โดยท่ัวไปการใช้กรดโคจิกในเครื่องสำ�อางโดยมี
ค่า pKa เท่ากับ 7.66 ค่าสัมประสิทธ์ิออกทานอลกับนำ้� วัตถุประสงค์เพ่ือให้ผิวขาวมักใช้ท่ีความเข้มข้นในช่วง 1-4%
(octanol/water partition coefficient ; log KOW) เท่ากับ (Saeedi et al., 2019)
-0.64 สามารถละลายไดใ้ นน้ำ� เอทานอล และอะซโิ ตน สามารถ
ดูดกลืนแสงอัลตราไวโอเลต (ultraviolet ; UV) ได้ที่ การสร้างเมลานินและบทบาทของเมลานิน
ความยาวคล่ืนต้ังแต่ 215-312 นาโนเมตร (nm) โดยข้ึนกับ ตอ่ สีผวิ
pH ของสารละลาย มีคุณสมบัติเป็นสารคีเลต (chelating
agent/chelator) เปน็ สารต้านอนมุ ูลอสิ ระ (antioxidant) และ สีผิวของคนเราถูกกำ�หนดโดยชนิด ปริมาณ และ
มสาีคมา่ ารleถthนa�ำ lไปdใoชsป้eร(ะLยDกุ 5ต0)ใ์ ชเไ้ทด่าค้ กอ่ บั นข1า้ กงหรัมลา/กกโิหลลการยมั ชกอ่ื รทดาโงคกจากิร การกระจายตัวของของเมลานินในเน้ือเย่ือผิวหนัง เมลานิน
ค้าของกรดโคจิก เช่น AEC Kojic acid, Kojic acid SL, เป็นสารโพลีเมอร์ เซลล์ท่ีสร้างเมลานินคือเมลาโนไซต์
Melanobleach-K, OriStar KA, Rita KA และ Tonelite Kojic (melanocyte) ซง่ึ พบอย่ทู ่ีชัน้ ลา่ งสุด (stratum germinativum
acid (Burnett et al., 2010) หรอื basal layer) ของหนงั ก�ำ พรา้ (epidermis) ในหนงั ก�ำ พรา้
ยงั มเี ซลลห์ ลกั อกี ชนดิ หนงึ่ ซง่ึ มอี ยเู่ ปน็ จ�ำ นวนมากและแบง่ เปน็
ชน้ั ๆ เรยี กวา่ เคอราตโิ นไซต์ (keratinocyte) การสรา้ งเมลานนิ

Vol 40. No 3, May-June 2021 Kojic acid: its properties and applications 237

โดยเมลาโนไซต์เกิดข้ึนในโครงสร้างขนาดเล็กท่ีเรียกว่า การสร้างเมลานินถูกควบคุมด้วยยีนมากกว่า 80
เมลาโนโซม (melanosome) เอนไซมใ์ นเมลาโนโซมทส่ี �ำ คญั คอื ชนิด และมีกลไลควบคุมอีกหลายกลไกซ่ึงอยู่ภายนอกเซลล์
ไทโรซเิ นส (tyrosinase ; TYR) และยงั มโี ปรตนี ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั (extracellular signaling pathway) การส่งสัญญาณเพื่อ
การสรา้ งเมลานนิ อกี สองชนดิ (tyrosinase related protein 1 ; ควบคุมการสร้างเมลานินมีลักษณะเป็นลำ�ดับขั้น (cascade)
TRP-1 และ tyrosinase related protein 2 ; TRP-2) เมลาโนโซม เซลล์ท่ีมีบทบาทสำ�คัญเก่ียวข้องกับการส่งสัญญาณเหล่าน้ี
ซ่ึงบรรจุเมลานินเหล่าน้ีจะถูกส่งต่อไปยังเคอราติโนไซต์ท่ีอยู่ คือไฟโบรบลาสต์ (fibroblast) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง
รอบๆ เมลาโนไซต์ที่สร้าง เพื่อคอยปกป้องเคอราติโนไซต์ เมลานนิ เปน็ ไปไดท้ ง้ั ปจั จยั ภายในและภายนอก เชน่ การมอี ายุ
เหล่าน้ันจากแสง UV เน่ืองจากเมลาโนไซต์มีรูปร่างแบบ มากข้ึน การไดร้ บั แสง UV การไดร้ ับฮอรโ์ มนหรือยาบางชนดิ
เดนดรติ กิ เซลล์ (dendritic cell) คอื มแี ขนงยนื่ ออกจากตวั เซลล์ และการเปน็ โรคบางอย่าง
ทำ � ใ ห้ เ ม ล า โ น ไ ซ ต์ ห น่ึ ง เ ซ ล ล์ ส า ม า ร ถ เ ชื่ อ ม โ ย ง ไ ป ยั ง
เคอราติโนไซต์ได้อีกเป็นจำ�นวนประมาณ 30-40 เซลล์ ทั้ง (cata
เมลาโนไซต์และเคอราติโนไซต์ที่อยู่ในความดูแลโดยการส่ง นิน (
เมลานนิ ไปใหน้ นั้ รวมเรยี กวา่ หนว่ ยสรา้ งเมลานนิ (epidermal (Laji
melanin unit) (Cichorek et al., 2013) การขนสง่ เมลานนิ จาก vivo)
เมลาโนไซตไ์ ปยงั เคอราตโิ นไซตอ์ าศยั กลไกทคี่ อ่ นขา้ งซบั ซอ้ น สิ่งม
ผิวหนังของคนเรามีเมลาโนไซต์ 1,000-2,000 เซลล์/ตาราง ยับย
มิลลิเมตรโดยประมาณ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2-3% น่ าจ
ของเซลล์ผิวหนังทั้งหมด เมลานินจัดว่าเป็นสารที่มีบทบาท เน่ือง
ส�ำ คญั ทที่ �ำ ใหค้ นตา่ งเชอื้ ชาตมิ สี ผี วิ แตกตา่ งกนั ไป และยงั มผี ล การ
ต่อความเข้มของสผี ิวเมือ่ มรี อยโรคบางอยา่ งเกิดขึ้นที่ผวิ หนัง ดังน
เฉพา
กระบวนการสร้างเมลานิน (melanogenesis) ผวิ ข
ประกอบด้วยปฏิกิริยาเคมีและอาศัยการทำ�งานของเอนไซม์
หลายขั้นตอน (Figure 1) (Cichorek et al., 2013) สารตงั้ ต้น FiguFreigu1reM1eMlaenlainninssyynntthheessisisininmemlaenolacnytoescytes สรา้ ง
(precursor) ทใี่ ชใ้ นการสรา้ งเมลานนิ คอื ไทโรซนี (tyrosine) และ จกิ เพ
เอนไซมห์ ลกั ทมี่ บี ทบาทส�ำ คญั ในกระบวนการนคี้ อื ไทโรซเิ นส บทเบมบทลาบาทนาขทินอขงอกงรกดรดโคโคจิจกิกในในกกาารรยยบั ับยยงั้ั้งกกาารรสสรร้า้างง เป็นต
(tyroninase)(Pillaiyar et al., 2017) กระบวนการสรา้ งเมลานนิ ไดแ้ ก
แบ่งออกได้เป็น 2 ทาง (pathway) ขึ้นกับสารท่ีเก่ียวข้อง เมก ลาารสนริ น้างเเมอลนาไนซินม์ไเทอโนรไซซิเมน์นส้ีพมีบบเทฉบพาาทะสในำ�เคซัญลลอ์เยม่าลงามโานกไซต่ตอ์ กรด
ในปฏกิ ริ ยิ าโดยมจี ดุ เรม่ิ ตน้ ของปฏกิ ริ ยิ ารว่ มกนั คอื ไทโรซนี ถกู acid
เปลยี่ นเปน็ โดปา(L-DOPAหรอื L-3,4dihydroxyphenylalanine) เทา่ นนั้เอแนละไพซบมอ์ไยทู่ เี่โยรอ่ื ซหเิ มุ้ นขสอมงเบีมลทาบโนาโทซมสาภคายญั ในอโยมเ่าลงกมลุ าขอกงต่อ acid
และโดปาควิโนน (DOPAquinone) ตามลำ�ดับโดยอาศัย กโไมซาเเออไตรอลอีกยสเ์นอกทู่ทรไอ3ุล่ีบา้่ซานงขรตนมมิเเัวไ์อวัน้ีกมทณง(รแลโPเดรเลาอiรซอllะน่งนaิเะพนiมินyไ(สaaิโบซนมcrเอมtอคีฮievยีอ์สไนteปทู่ตทaไิเดslโเ่ซี.ปi,ยีนรtอมe2ซ่อื ร)์0น(หไ์เิh1ขอน้ีพiุม้7sออส)tบงขอidมเเนเออมinฉคีหนง่อืeพรอเมไอืมซป;แีามลสะCHเ์งาปใuiแsนโอUต)น(เIรV่ลซIแโ)ไ์ะซวลมคอ2ดมาลออลกไป์เ้อออภรมเมะอนปาลทอออหยาบนยรโใรู่์ นนือ เหล่
การทำ�งานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ข้ันตอนการเปล่ียนจาก (mel
ไทโรซีนไปเป็นโดปาถือเป็นข้ันตอนที่ช้าท่ีสุดของปฏิกิริยา (Sae
(rate-limiting step) ของเอนไซมไ์ ทโรซเิ นสในการสรา้ งเมลานนิ มขี อ้
จากนั้นปฏิกิริยาจะแบ่งออกได้เป็นสองทางคือ หากไม่มี Cuค(อIปI)เป2อรไไ์ ออออออนจนะอไปยกู่ทระ่ีบตนุ้รกิเาวรณท�ำ เงรา่นงข(อaงcเอtiนvไeซมsน์iteี้ ส)ง่ ผขลอง สามา
ซีสเทอีน (cysteine) เกี่ยวข้องในปฏิกิริยา ยูเมลานิน เ(hอiนsต(ใhหt้อไiy้เdซงpกiกenิมดาreกp์ร;แาiคgรHตวmสบ่iลeรsค้าnะ)ุมงtคaแเมมtอวiิใoลปหดnา้เเ)นลซปินว้ลออิธขลมีหรึ้์นผอ์ไนิวภอยหึ่งาทอ่ยูนอ่ีสใอังีกนาสนมเรม3ม้าาลรงีกตาถเมโรัทวนลดำ�โา(ไอซPนดะมิน้คilมlืมอaดิโยาiังyนกับนaเฮยั้นกr้ังีสหินeกตาไtาปกิรดaีlน., ถาว
(eumelanin) จะถูกสร้างขึ้น แต่หากมีซีสเทอีนเกี่ยวข้องใน ค่อย
ปฏิกริ ิยา ฟีโอเมลานนิ (pheomelanin) จะถูกสรา้ งข้ึน ดังนน้ั และเ
เมลาโนไซต์จึงสามารถผลิตเมลานินได้สองชนิด คือ 201ท7ำ�ง)าเนมข่อื อมงเแีอนสไงซUมไ์ Vทโมรซาิเกนรสะ(ทFiบgurคeอ1ป) เปอรไ์ อออนจะไป เป็นพ
(1) ยเู มลานนิ ซ่ึงเป็นโพลีเมอรท์ ่ีไม่ละลายน้ำ� มสี นี �ำ้ ตาลจนถงึ กระ ตุน้ การกทราดงโาคนจิกขจอัดงเเปอ็นนตไัวซยมับน์ ย้ีังสไทง่ ผโรลซใิเหนเส้ กด(ิ tyกrาoรsiสnรaา้seงเม
ดำ� (brown to black) พบมากในชาวแอฟริกันและชาวเอเชยี มลาิ ใน(iทnFหำ�ินhig้ใiเขbหuซir้เน้ึteซoลภrล1)ลา)ลค์ผ(ย์Sผือิวใaมหินวeีฤนeเหทมังdสธiลนริ์eยา้าtัับโงงaยนเสlม.ั้งโ,ลกรซ2าา้0ามนร1ทินง9ดำ�ไ)เดงงัมดา้นนังน้อลนนั้ขยัน้ าหอลกงนงารเสกอิดน่งนตโผคไม้อลซจใงกิมาหกจ์ไ้ผกทึงาิวสรโเขราคกาซมววิาิเนขนบรึ้นถสไคุปม
และ (2) ฟโี อเมลานนิ ซงึ่ เปน็ โพลเี มอรท์ ล่ี ะลายน�ำ้ ได้ มสี เี หลอื ง (hyแpลeะrสpาiมgาmรeถnนtำ�aมtาioใชn้แ) กว้ปิธัญีหหนา่ึผงทิวห่ีสนาังมชานริดถต่าทงาๆไดท้ี่คเกือิดยจาับกยงั ้
จนถงึ แดง (yellow to red) พบมากในชาวคอเคเซยี น สัดส่วน
ของเมลานนิ แตล่ ะชนดิ จะเปน็ ตัวกำ�หนดสผี วิ ของแตล่ ะบคุ คล

การกทาราสงรา้านงขเมอลงาเนอินนมไาซกมผไ์ิดทปโกรตซิไเิดน้ สปัจ(Fจัยigสuำ�rคeัญ1ท)่ีทำ�ให้กรด
กรดโคจกิ จดั เป็นตวั ยบั ยงั้ ไทโรซเิ นส (tyrosinase

inhibitor) คือมีฤทธยิ์ บั ยงั้ การทางานของเอนไซม์ไทโร

238 Pongsak Rattanachaikunsopon, Parichat Phumkhachorn J Sci Technol MSU

โคจกิ สามารถยบั ยง้ั การท�ำ งานของเอนไซมไ์ ทโรซเิ นสคอื การ เขา้ สกู่ ระแสเลอื ด (Burnett et al., 2010) และไมม่ คี วามเปน็ พษิ
มี g-pyranone ซึ่งมี phenolic hydroxyl group อยู่ภายใน ต่อยีน (genotoxicity) ของคนเม่ือนำ�มาใช้เป็นสารเพ่ิมความ
โครงสร้าง และการเป็นสารคีเลตจึงสามารถจับกับคอปเปอร์ ขาวในเครือ่ งสำ�อาง (Saeedi et al., 2019)
ไอออนซ่ึงอยู่ในบริเวณเร่งของเอนไซม์ไทโรซิเนส ส่งผลให้
เอนไซม์ดังกล่าวสูญเสียความสามารถในการเร่งปฏิกิริยา ผลของสารเพ่ิมความขาวแก่ผิวต่อกลไกภายใน
(catalytic activity) กรดโคจิกสามารถลดการสร้างเมลานิน เซลล์
(depigmentation) ได้ท้ังในเซลล์เพาะเล้ียง (in vitro) (Lajis
et al., 2012) และในร่างกายของสิง่ มีชีวิต (in vivo) โดยมิได้ การควบคุมกระบวนการสร้างเมลานินของสารเพิ่ม
มีผลเสียหรืออันตรายต่อเซลล์หรือสิ่งมีชีวิตท่ีนำ�มาทดลอง ความขาวแก่ผิว ส่วนใหญ่มุ่งเน้นท่ีจะควบคุมการทำ�งานของ
(Saeedi et al., 2019) การยบั ย้ังกระบวนการสร้างเมลานนิ เอนไซม์ไทโรซิเนสเป็นหลัก เช่น กรดโคจิกสามารถยับย้ัง
ของกรดโคจิกเช่ือว่าน่าจะเกิดจากการลดการสร้างยูเมลานิน ฤทธ์ิของเอนไซมไ์ ทโรซิเนส ดงั ท่กี ล่าวมาขา้ งต้น ซ่ึงนอกจาก
เป็นหลัก เนื่องจากผิวหนงั มีอัตราการตายของเคอราตโิ นไซต์ จะสามารถชว่ ยท�ำ ใหผ้ วิ ขาวขนึ้ แลว้ ยงั สามารถน�ำ ไปใชใ้ นการ
และการสรา้ งเคอราตโิ นไซตใ์ หมม่ าทดแทนคอ่ นขา้ งเรว็ ดงั นนั้ รกั ษาโรคผวิ หนงั ทเ่ี กดิ จากการสรา้ งเมลานนิ มากเกนิ ไปไดอ้ กี
การให้กรดโคจิกซึมผ่านผิวหนังโดยการทาเฉพาะที่ภายนอก ด้วย แม้ว่าปัจจุบันจะมีสารเพิ่มความขาวแก่ผิวเป็นจำ�นวน
(topical application) จึงสามารถทำ�ให้ผิวขาวข้ึนได้ภายใน มากวางขายอยู่ในท้องตลาด แต่สารที่ได้รับความนิยมจาก
เวลาเพยี งไม่ก่ีสัปดาห์ ผใู้ ชม้ กั เปน็ สารทไี่ ดจ้ ากธรรมชาตมิ ากกวา่ สารเคมที ไ่ี ดจ้ ากการ
การรักษาความผิดปกติของผิวหนังที่เกิดจากการ สังเคราะห์ สารเพ่ิมความขาวแก่ผิวท่ีได้จากธรรมชาติและมี
สร้างเมลานินมากเกินไปสามารถทำ�ได้โดยการใช้กรดโคจิก ฤทธ์ิยับยั้งการทำ�งานของเอนไซม์ไทโรซิเนสเหล่าน้ันอาจไป
เพียงอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับสารอื่นท่ีมีคุณสมบัติเป็น มีผลต่อการส่งสัญญาณบางอย่างภายในเซลล์ (intracellular
ตัวยับย้ังเอนไซม์ไทโรซิเนสเช่นเดียวกับกรดโคจิก ได้แก่ signaling pathway) ซงึ่ สง่ ผลไปยบั ยง้ั การท�ำ งานของเอนไซม์
ไฮโดรควโิ นน (hydroquinone) อารบ์ ตู นิ (arbutin) กรดอะซลี าอกิ ไทโรซิเนส การสง่ สญั ญาณภายในเซลล์เมลาโนไซต์ทีค่ วบคมุ
(azelaic acid) กรดแอสคอบกิ (ascorbic acid) หรอื วิตามนิ ซี กระบวนการสร้างเมลานนิ สามารถแบ่งออกไดเ้ ปน็ 3 เส้นทาง
(vitamin C) กรดเอลลาจกิ (ellagic acid) และกรดทรานเอกซามกิ หลักดงั น้ี (Qian et al., 2020) (Figure 2) (1) melanocortin-1
(tranexamic acid) สารเหล่านี้เม่ือนำ�ไปใช้ร่วมกับกรดโคจิก receptor (MC1R) signaling pathway (2) Wnt/b-catenin
ในการรักษาฝ้า (melasma) พบว่าให้ผลค่อนข้างดีหรือเป็น signaling pathway และ (3) tyrosine kinase receptor KIT/
ท่ีน่าพอใจ (Saeedi et al., 2019) อย่างไรก็ตามสารเหล่าน้ี stem cell factor (SCF) pathway โดยทั้ง 3 pathway จะมี
บางชนิดมีข้อเสีย เช่น ไฮโดรควิโนนมีคุณสมบัติเป็นสารก่อ จุดบรรจบร่วมกันคือไปควบคุมโปรตีนในกระบวนการ
มะเรง็ สามารถท�ำ ให้เกดิ ผน่ื แพช้ นิด contact dermatitis และ ทรานสคริปชันที่มีชื่อว่า microphthalmia-associated
ฝ้าถาวร (ochronosis) อาร์บูตินที่ได้จากธรรมชาติมกั ไมค่ ่อย transcription factor (MITF) โดย MITF จะไปมีผลต่อการ
เสถียรสามารถปลดปล่อยสารไฮโดรควิโนนออกมา และเม่ือ แสดงออกของยีนหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้าง
ผ่านกระบวนการแคแทบอลิซึมจะได้เบนซีนซึ่งเป็นพิษต่อ เมลานิน เช่น TYR, TRP-1 และ TRP-2 นอกจากนี้ MITF ยงั
ไขกระดูก กรดแอสคอบิกไวต่อความร้อนและสลายตัวได้ง่าย ควบคุมการแสดงออกของโปรตีนโครงสร้างของเมลาโนโซม
เปน็ ตน้ แมว้ า่ การน�ำ กรดโคจกิ ไปใชร้ ว่ มกบั สารอนื่ (โดยเฉพาะ (melanosome structural proteins) บางชนดิ เช่น MART-1
โฮโดรควโิ ดน) จะใหผ้ ลในการรกั ษาฝา้ ไดผ้ ลคอ่ นขา้ งดี แตก่ าร และ PMEL17 อีกด้วย
ศึกษาเก่ียวกับคุณสมบัติของกรดโคจิกในแง่ที่อาจส่งผลเสีย แมว้ ่าสารเพิม่ ความขาวแกผ่ ิวสว่ นใหญ่จะยับยั้งการ
ต่อร่างกายคนกย็ ังคงต้องดำ�เนนิ ตอ่ ไป ทำ�งานของเอนไซม์ไทโรซิเนสและลดการสร้างเมลานินโดย
ไม่มีผลเสียต่อเซลล์เมลาโนไซต์ (Saeedi et al., 2019) แต่
การซมึ ผ่านผิวหนงั ของกรดโคจกิ สารเพมิ่ ความขาวแกผ่ วิ บางชนดิ สามารถลดการสรา้ งเมลานนิ
ภายในเซลล์ด้วยวิธีการอื่น เช่น มไิ ดไ้ ปยับย้ังการทำ�งานของ
จากการศึกษาเภสัชจลนศาสตร์ในหนูและในคน เอนไซม์ไทโรซิเนส แต่ไปกดการเพ่ิมจำ�นวน (proliferation)
เกี่ยวกบั การซึมผ่านผิวหนังของกรดโคจิกพบว่า มีการดดู ซมึ ของเมลาโนไซต์ หรือลดการเปลี่ยนแปลง (differentiation)
ทางผิวหนงั (percutaneous absorption) เทา่ กบั 17% และมี ของเซลล์ผิวหนังจากเมลาโนบลาสต์ (melanoblast) ไปเป็น
การดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจากการสัมผัส (systemic exposure เมลาโนไซต์
dose ; SED) อยู่ในช่วง 0.03-0.06 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน
(Nohymek et al., 2004) กรดโคจิกแทบจะไม่มีการดูดซึม

มขาวใน มไิ ดไ้ ปยบั ยงั้ การทางานของเอนไซมไ์ ทโรซเิ นส แต่ไปกด Kojic acid: its properties and applications 239
การเพมิ่ จานวน (proliferation) ของเมลาโนไซต์ หรอื ลด
ต่ อ ก ล ไ ก กVoาlร4เป0.ลNย่ี oน3แ,ปMลaงy-(Jduinffeer2e0n2t1iation) ของเซลลผ์ วิ หนังจาก กรดโคจิกโพลีเมอรเ์ รยี กว่า chitosan-o-kojic acid conjugate
เมลาโนบลาสต์ (melanoblast) ไปเป็นเมลาโนไซต์ polymer (COS-O-KA) พบวา่ สารดงั กลา่ วมปี ระสทิ ธภิ าพเปน็
นของสาร สารตา้ นอนุมูลอสิ ระ (antioxidant activity) ทดี่ กี วา่ ไคโตซาน
วบคุมการ FiFgiugurreerge2u2laCCtiooonrreeommf mooleelelcacunulainlar prprapotadhuwthcawtyioasnyasisnsamoscesialoatnceoidactwyetiedthswthieth และกรดโคจกิ เพยี งล�ำ พงั (Liu et al., 2019) ไคโตซานและกรด
กรดโคจกิ the regulation of melanin production in melanocytes โคจิกโพลีเมอร์ (COS-O-KA) สามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ได้ทั้ง
งทก่ี ล่าวมา ในอตุ สาหกรรมอาหาร เครือ่ งส�ำ อาง และยารักษาโรค
ขาวขน้ึ แล้ว อ อนนพุุพนันั ธธโ์ขข์คอรองงงสกกรร้ารดงดทโโคาคงจเจคกิ ิกมีของกรดโคจิกมีส่วนทำ�ให้กรด
กดิ จากการ ความปลอดภยั และผลข้างเคียงของกรดโคจกิ
จจุบนั จะมี โคจิกสาโมคารงถสทร�ำ า้ ปงฏทิการงิยเคาเมคขี มอไี งดกห้ รลดาโกคหจลกิายมสี(เ่วชนน่ ทaาlkใyหlaก้ tรioดn,
งขายอยู่ใน โหaสรaพซทควclา่ึำง�ลบkyมรอใจyาวlหอเaาlยิก่ารa้มt่นจื อชียitสoีiสมนoกนnาแาีคnุพวิดมรลแุณ,่าอันะาลอสaินสสธระนาcมท์ขง่ ถyรุพeผอบรlเทsaันีหยงลัตttกeาธ์ชทiลิคor์ขรปน่าiางnfดอiนิดใเฏcโดงหaแใ้รีคิกกหิมtว้มลiจรoรมหมสีิกะดnิย่เรเามกโรือาreครีคิดยีeตเอsจุณaขกคt่านิิกec้ึนวมงสtทr่อาiไiม(oีไfปรอkีกinดบcยoีนจห)a้ัตjห์ชาุiพลtกcิบiกนลoาับนั าเยanิดาดสธงcชกใอาิมข์riหนdeรหยออมิดa่าแงลdนื่c่งเลกeากtสทiะรrแoยาดิี่iดบดvลnรขีข่aอโะเ)(หน้ึึ้คนtเสยiชกvลจง่อกคe่ผั่นาบกิกวีรsนล้ั่าง)ี้ กรดโคจิกทั้งท่ีได้จากธรรมชาติและอนุพันธ์ของ
กเป็นสารท่ี (เดkoมิ jicซง่ึaสcาidมาdรeถriนvำ�aไtiปvปesร)ะยซุก่ึงตอ์ใาชจใ้ นมงคี าุณนดส้ามนบตตัา่ งิคๆงเไดดิม้อหย่ารงอื มี กรดโคจิกนับว่ามีประโยชน์อย่างมาก อุตสาหกรรมหลักท่ีนำ�
สงั เคราะห์ ตปร่าะงสไทิปธจภิาากพเดแมิละแกลวา้ะงบขอ่ วยางคมรางั้ กพยบง่ิ ขวา่นึ้ อเนชนุ่พ(นั 1ธ) กข์ าอรงนก�ำ รกดรโดคโคจจกิ กิ กรดโคจิกไปใช้ประโยชน์คือ อุตสาหกรรมเคร่ืองสำ�อางและ
และมีฤทธิ ์ มไปคี ทุณำ�ปสมฏิบกิรตั ิยิบาากงับอชยา่าลงโทค่ีดนีข(น้ึ chกaวl่าcเoดnมิesซ) ่งึ แสลาะมอาะรโซถเนบานไซปีน เวชภัณฑ์ เน่ืองจากคณุ สมบตั ิทโี่ ดดเด่นของกรดโคจกิ ซงึ่ ล้วน
านัน้ อาจไป ปกป(โโcย(aaคมoบัวรฏzzจlโะiย้าooิิกนกยง้ังbไbไิโรุกแขดeeปอิยบnต้ดวnทลzคาีใข์าzิำ�eเชกทeึ้งนอปnใ้nมเีัตบทeฏนรeาา)ยีชิกง)มกจา(ิราkSจละยนิยลoไำ�tะ่ิงาดaดโดjไกขipา้คโ้cับดับคน้hนึ น้yโกจตm(lคเิกรoS่า(ชoดcเจcงiอe่นonโhิกๆอสcoaeเเcเ(olลทอ1tcไulอoด)อseสaิกnรอ้aกlเa.์eทยt,(าue(skา่orรอ2)oeงlน0eร;juมแi1ci์าscปีKล8(กek)รแะMaรsoะลอct(ดjOสe2ะiiะcdโrท)ิ)โ))คEeธซกซซsจจsภิ าcเึ่งะิกึ่tงบรehาสไยไนพerดานั)ปงrำ�ม้โแiซคคcกทซาลhงจีรรน่ึาะงiมิกดถaี เก่ียวข้องกับความงามหลายประการ ได้แก่ เพ่ิมความขาว
ยใน เซ ลล์ ประสทิ ธภิ าพยบั ยง้ั เอนไซมไ์ ทโรซเิ นส และยงั สามารถใชร้ กั ษา ใหก้ บั ผิว ลดจดุ ด่างด�ำ ลดรว้ิ รอย ลดการเกิดสิว ลดรอยแผล
ปยบั ยงั้ การ ความผดิ ปกตขิ องผวิ หนงั ทเ่ี กดิ จากการสรา้ งเมลานนิ มากเกนิ เปน็ ปกปอ้ งแสงอลั ตราไวโอเลต และตา้ นอนุมูลอิสระ เป็นต้น
าณภายใน ไปได้ และเมอ่ื น�ำ KMO ไปเตรยี มใหอ้ ยใู่ นรปู นาโนอมิ ลั ชนั ชนดิ จากรายงานวจิ ยั ทผี่ า่ นมาพบวา่ การใชก้ รดโคจกิ เพอ่ื เพมิ่ ความ
างเมลานิน น้ำ�มนั ในน�ำ้ (oil-in-water nanoemulsion) พบว่าสามารถซึม ขาวและความสวยงามของผิวพรรณในเครื่องสำ�อางควรใช้ใน
น้ี (Qian et ผ่านผวิ หนังไดด้ ขี นึ้ (Afifah et al., 2018) (3) การน�ำ กรดโคจิก ช่วง 1-2% เพราะเป็นปริมาณที่เหมาะสมและถือว่าค่อนข้าง
1 receptor ไปเตรียมให้อยู่ในรูปไดอะซิติล (diacetyl) และไดเบนโซอิล ปลอดภัยหรือไม่มีผลเสียต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่ เช่น ไม่ทำ�ให้เกิด
-catenin (dibenzoyl) ของกรดโคจกิ พบวา่ อนพุ นั ธข์ องกรดโคจกิ ทงั้ สอง การระคายเคืองหรือทำ�ให้เกิดการแพ้ (allergic sensitivity)
e receptor ชนิดนีม้ ฤี ทธ์ใิ นการฆ่าแมลง (insecticidal activity) (Beard & ยกเว้นในกรณีท่ีใช้เพ่ือการรักษาโรคหรือความผิดปกติของ
ย ทั้ ง 3 Walter, 1969) และ (4) การนำ�กรดโคจิกไปทำ�ปฏิกิริยากับ ผิวหนงั ท่เี กิดจากการสรา้ งเมลานินมากเกนิ ไป (เชน่ ฝา้ กระ)
มโปรตนี ใน ไคโตซาน (chitosan) โดยเตรียมให้อยู่ในรูปไคโตซานและ อาจใชก้ รดโคจกิ ในความเข้มขน้ ทีส่ งู กว่านไี้ ด้ แต่ก็ควรใช้ดว้ ย
phthalmia- ความระมดั ระวงั หรอื ภายใตค้ �ำ แนะน�ำ ของผเู้ ชย่ี วชาญทางดา้ น
ย MITF จะ ผิวหนัง อย่างไรก็ตามสำ�หรับในบางประเทศ (เช่น อเมริกา)
กย่ี วขอ้ งกบั กรดโคจิกยังไม่สามารถซื้อขายได้โดยปราศจากใบสั่งยาจาก
และ TRP- แพทย์ และประเทศในทวีปยโุ รปภายใต้การดูแลขององคก์ รที่
ของโปรตีน ช่ือว่า European Commission’s Scientific Committee ได้มี
structural ประกาศวา่ ไมค่ วรใช้กรดโคจกิ เกิน 1% ในผลติ ภัณฑบ์ ำ�รุงผวิ
17 อกี ดว้ ย (skin care) ชนิดตา่ งๆ แต่องคก์ รดังกล่าวกย็ อมรับวา่ กรดโค
จกิ ไมเ่ ปน็ อนั ตรายใดๆ ตอ่ ผใู้ ช้ สอดคลอ้ งกบั หนว่ ยงานทมี่ ชี อื่
ว่า Cosmetic Ingredient Review Expert Panel (CIREP)
ซึ่งแนะนำ�ให้ใช้กรดโคจิกในเคร่ืองสำ�อางเพียง 1% เช่นกัน
สำ�หรับผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากกรดโคจิกซึ่งอาจพบได้ใน
คนบางคน ไดแ้ ก่ การท�ำ ใหเ้ กิดผ่นื แพ้ (contact dermatitis)
การทำ�ให้ผิวมีความไวต่อแสงแดด (อาจพบได้ในกรณีที่ใช้
กรดโคจิกอย่างต่อเน่ืองเป็นเวลานาน) และในกรณีที่ใช้กรด
โคจิกกับผิวหนังที่มีบาดแผลหรือรอยฉีกขาดอาจส่งผลทำ�ให้
เกดิ มะเรง็ ได้

กรดโคจิกกับการประยุกต์ใช้

กรดโคจิกสามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน
(Saeedi et al., 2019) ซง่ึ สรปุ ไดด้ งั Table 1 โดยมรี ายละเอยี ด
ดงั น้ี

240 Pongsak Rattanachaikunsopon, Parichat Phumkhachorn J Sci Technol MSU

เครอ่ื งส�ำ อางและเวชภณั ฑ์ production) (Rodrigues et al., 2014) และรักษาโรคผิวหนัง
กรดโคจิกถูกนำ�ไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหรรมเครื่อง ที่เกิดจากการสร้างเมลานินมากผิดปกติ (เช่น ฝ้า กระ และ
สำ�อางเน่ืองจากมคี ณุ สมบัติหลกั ทชี่ ว่ ยสง่ เสรมิ ความงาม และ รอยแผลเป็น) (Lajis et al., 2012) ช่วยลดริ้วรอยท่ีเกิดจาก
กระตนุ้ ยอดขายของผลติ ภณั ฑเ์ สรมิ ความงามชนดิ ตา่ งๆ ตาม การมีอายุมากข้ึน (anti-aging effect) ช่วยลดการอักเสบ
ที่กล่าวมาข้างต้นคือ ยับยั้งการทำ�งานของไทโรซิเนส ยับย้ัง (anti-inflammatory) (Lee et al., 2019) นอกจากน้ีกรดโคจิก
การสร้างเมลานิน เพ่ิมความขาวแก่ผิว และลดโทนสีผิวให้ ยังสามารถใชใ้ นผลติ ภณั ฑท์ ี่ดแู ลสุขภาพปากและฟัน (dental
ออ่ นลง (Pillaiyar et al., 2017) นอกจากนี้กรดโคจิกยงั มีคณุ care) ไดด้ ว้ ย
สมบัติอ่ืนๆ ที่น่าสนใจซ่ึงเป็นที่ต้องการของผู้ใช้ และเอ้ือต่อ เน่ืองจากหลายประเทศในเอเชียมีข้อจำ�กัดเก่ียวกับ
การน�ำ ไปเปน็ จดุ ขายในผลติ ภณั ฑเ์ สรมิ ความงามแกผ่ วิ พรรณ การหา้ มใชส้ ารไฮโดรควโิ นนในเครอื่ งสำ�อาง ดงั นน้ั การใชก้ รด
(Saeedi et al., 2019) เช่น ช่วยกรองหรือปกป้องผิวจาก โคจิกเพ่ือทดแทนสารไฮโดรควิโนนจึงเป็นทางเลือกหน่ึงที่
แสงอลั ตราไวโอเลต (ultraviolet filter/protector) สามารถจับ น่าสนใจ และน่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำ�ให้กรดโคจิกได้รับ
กับอนุมูลอิสระ (radical scavenging/antioxidant activity) ความนิยมเพม่ิ มากข้ึนในผลติ ภัณฑเ์ ครอื่ งสำ�อาง
(Niwa & Akamatsu, 1991) ช่วยสรา้ งคอลลาเจน (collagen

Table 1 Applications of kojic acid in various fields

Fields of Applications Actions

Cosmetic Tyrosinase inhibitor, skin-lightening agent, UV protector, anti-aging effect, decrease the appearance of scars,
increase collagen production, antioxidant activity, anti-inflammatory

Food Antioxidant, Anti-biofilm

Medicine Antibacterial activity, antiviral activity, antifungal activity, antiparasitic activity, antitumor, anticancer,
antibiofilm-formation, anticonvulsant, anti-diabetic

Agriculture Antioxidant, food preservation/additive, prevention of discoloration of fresh meat and vegetables, anti-speck,
increase plant growth

Chemistry Insecticide, pesticide, metal chelating agent, production of novel derivatives of kojic acid

การแพทย์ (anticancer activity) เช่น เมลาโนมา (melanoma) โดยแทบ
กรดโคจิกสามารถนำ�ไปใช้ประยุกต์ใช้เป็นยารักษา จะไม่มีผลเสียตอ่ เซลลป์ กติ (Karakaya et al., 2019) สามารถ
โรคติดเช้ือ (infectious disease) เน่ืองจากมีคุณสมบัติต้าน ยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์ม (anti-biofilm formation) ซ่ึงเป็น
จุลนิ ทรยี ์ (antimicrobial activity) ดงั นัน้ กรดโคจกิ จงึ ถูกนำ�ไป โครงสร้างท่ีปกคลุมเชื้อจุลินทรีย์ไว้ ทำ�ให้เซลล์เม็ดเลือดขาว
ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างกว้างขวาง โดยสามารถ รวมถึงยาปฏิชีวนะเข้าไปทำ�ลายเซลล์แบคทีเรียหรือเข้าถึง
ยับย้ังการเจริญของจุลินทรีย์ได้หลายกลุ่ม ดังน้ี (1) มีฤทธิ์ เซลล์แบคทีเรียท่ีสร้างไบโอฟิล์มได้ยากข้ึน ดังน้ันกรดโคจิก
ต้านแบคทีเรีย (antibacterial activity) ท้ังแบคทีเรียแกรม จึงมีส่วนช่วยลดการติดเช้ือแบคทีเรียก่อโรคในอาหาร (food
บวก แกรมลบ (Saraei et al., 2017) และแมแ้ ตแ่ บคทีเรยี ท่ี borne pathogen) ทีส่ ามารถสร้างไบโอฟลิ ์มได้ เช่น Listeria
สร้างสปอร์ เช่น Bacillus และ Clostridium (2) มีฤทธ์ิต้าน monocytogenes (Wu et al., 2019) นอกจากน้กี รดโคจิกยงั
รา (antifungal activity) (Kim et al., 2012) (3) มฤี ทธติ์ า้ น สามารถพฒั นาไปใช้เปน็ ยากนั ชัก (anticonvulsant) (Aytemir
โปรโตซวั (anti-parasiticactivity)เชน่ Leishmaniaamazonensis et al., 2010) และยารักษาโรคเบาหวาน (anti-diabetic) (Wei
(Rodrigues et al., 2014) และ (4) มีฤทธ์ติ ้านไวรสั (antiviral & Yang, 2012) ไดด้ ว้ ย
activity) เช่น ไวรสั กอ่ โรคเอดส์ (HIV) (Tanaka et al., 2009) อาหาร
นอกจากฤทธใ์ิ นการยบั ยงั้ จลุ นิ ทรยี แ์ ลว้ กรดโคจกิ ยงั โดยปกตกิ รดโคจกิ สามารถพบไดใ้ นอาหารหลายชนดิ
มีคุณสมบัติอีกหลายประการท่ีถูกนำ�ไปใช้ประโยชน์ทางการ ทมี่ รี าเปน็ เชอ้ื เรม่ิ ตน้ ของกระบวนการหมกั และการบรโิ ภคกรด
แพทย์ ได้แก่ สามารถยับยั้งการเกิดเน้ืองอก (antitumor โคจิกในปริมาณท่ีพบอยู่ในอาหารตามธรรมชาติถือว่าไม่เป็น
activity) โดยพบว่ามีความเป็นพิษต่อเซลล์เน้ืองอก อันตราย แต่กลับส่งเสริมหรือเพ่ิมคุณค่าทางโภชนาการของ
(cytotoxicity) (Fu et al., 2014) สามารถยับย้ังการเกิดมะเร็ง อาหารให้ดีย่ิงขึ้น หรือจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ช่วย

Vol 40. No 3, May-June 2021 Kojic acid: its properties and applications 241

ตา้ นอนมุ ลู อสิ ระ เปน็ ตน้ นอกจากนกี้ รดโคจกิ ยงั สามารถน�ำ ไป บทสรปุ
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นอาหารไดอ้ กี หลายรปู แบบ เพอ่ื เพม่ิ คณุ ภาพหรอื
มูลคา่ ของอาหาร (food additive) เช่น (1) ใชเ้ ตมิ ลงในอาหาร กรดโคจกิ เปน็ สารทส่ี รา้ งจากราบางชนดิ โดยอาศยั กระบวนการ
เพ่ือลดการเปล่ียนสีของอาหารท่ีเกิดจากการทำ�ปฏิกิริยาของ หมกั สามารถพบกรดโคจกิ ไดใ้ นอาหารทบี่ รโิ ภคในชวี ติ ประจ�ำ
เอนไซม์ (enzymatic browning) ดังนั้นกรดโคจกิ จงึ ชว่ ยท�ำ ให้ วัน และมีการบริโภคมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะอาหารหมัก
อาหารไมเ่ ปลย่ี นเปน็ สคี ล�้ำ แตย่ งั คงสสี นั สดใสดเู ปน็ ธรรมชาติ ของชาวญ่ีปุ่น ปัจจุบันกรดโคจิกสามารถผลิตได้เป็นปริมาณ
และน่ารับประทาน ซ่ึงสามารถนำ�ไปใช้ได้ท้ังในผลไม้ เคร่ือง มากและมีการผลิตเป็นการค้าเพื่อนำ�มาใช้ประโยชน์อย่าง
ดม่ื และอาหารทะเล (Zhao et al., 2019) (2) ใช้เปน็ สารกนั กวา้ งขวาง วงการทน่ี ยิ มใชก้ รดโคจกิ มากทส่ี ดุ คอื เครอ่ื งส�ำ อาง
เสยี /กนั บดู ในอาหาร (food preservative) เนอ่ื งจากกรดโคจิก เนื่องจากกรดโคจิกมีคุณสมบัติท่ีโดดเด่นคือสามารถยับยั้ง
มีฤทธ์ิยับย้ังการเจริญของท้ังจุลินทรีย์ก่อโรคและจุลินทรีย์ที่ การทำ�งานของไทโรซิเนส ซึ่งเป็นเอนไซม์สำ�คัญในการสร้าง
ท�ำ ใหอ้ าหารเนา่ เสยี (Yang et al., 2018) อกี ทงั้ ยงั มคี ณุ สมบตั ิ เมลานนิ สง่ ผลใหก้ รดโคจกิ มฤี ทธเ์ิ ปน็ สารเพม่ิ ความขาวแกผ่ วิ
ชว่ ยปอ้ งกนั การเกดิ กลน่ิ และรสผดิ ปกตขิ องเนอ้ื ในระหวา่ งการ และสามารถนำ�ไปใชใ้ นผลติ ภณั ฑบ์ ำ�รงุ ผวิ หลายชนดิ เชน่ สบู่
เก็บรกั ษา (warmed-over flavor) ไดด้ ้วย และ (3) ใช้เป็นสาร ครมี และโลชน่ั เนอื่ งจากกรดโคจกิ เป็นสารท่ไี ดจ้ ากธรรมชาติ
ช่วยลดการเกิดจุดสีน�ำ้ ตาล (anti-speck) ในเส้นกว๋ ยเตี๋ยวดบิ สามารถซึมผ่านผิวหนังและมีความปลอดภัยสูง ดังน้ัน
(uncooked noodles) (Uchino et al., 1988) จงึ ไดร้ บั ความนยิ มอยา่ งมากในปจั จบุ นั จากคณุ สมบตั ทิ างเคมี
การเกษตรและเคมภี ัณฑ์ และทางชีวภาพของกรดโคจิกทำ�ให้สามารถทำ�ปฏิกิริยากับ
มีรายงานว่ากรดโคจิกมีฤทธ์ิเป็นยาฆ่าแมลง สารอ่ืน และเกิดอนุพันธ์ของกรดโคจิกชนิดใหม่ได้อีกหลาย
(insecticidal activity) โดยสามารถยับย้ังแมลงบางชนิดรวม ชนิด ซ่ึงสารเหล่าน้ีอาจมีคุณสมบัติคงเดิมเช่นเดียวกับกรด
ถึงแมลงศัตรูพืช เช่น หนอนเจาะฝักข้าวโพด (Heliothis โคจกิ ดีขึ้นกว่าเดิม หรือตา่ งไปจากเดมิ จงึ ท�ำ ให้กรดโคจิกถกู
zea) หนอนกระท้ขู า้ วโพดลายจดุ (Spodoptera frugiperda) น�ำ ไปประยุกต์ใชไ้ ดใ้ นอุตสาหกรรมอืน่ อีกหลายดา้ น เชน่ การ
แมลงวันบ้าน (Musca domestica) และแมลงหวี่ (Drosophila แพทย์ อาหาร เกษตรและเคมีภัณฑ์ อยา่ งไรกต็ ามการพัฒนา
melanogaster) (Dowd, 1988) ทงั้ นอ้ี าจใชก้ รดโคจกิ แบบเดย่ี ว สารใหม่ๆ จากกรดโคจิกควรต้องมีการศึกษาคุณสมบัติของ
หรือใช้ร่วมกับสารอ่ืนเพ่ือเสริมฤทธิ์หรือเพ่ิมประสิทธิภาพใน สารเหล่าน้ันอย่างละเอียดทั้งผลดีและผลเสียก่อนที่จะนำ�ไป
การยับยั้งแมลงดังกล่าว โดยกลไกการยับย้ังเชื่อว่าอาจเกิด ใชป้ ระโยชน์
จากการไปยบั ยัง้ พฒั นาการ (development) ของแมลง หรือ
อาจไปมีผลทำ�ให้แมลงเป็นหมัน (sterility) นอกจากน้ียังมี เอกสารอ้างองิ
รายงานด้วยว่ากรดโคจิกมีความสามารถในการกระตุ้นการ
เจริญเตบิ โตของพืชและชว่ ยเพิ่มผลผลิต Afifah, S.N., Azhar, S., Ashari, S.E., & Salim, N. (2018).
สำ�หรับการนำ�กรดโคจิกไปใช้ประโยชน์ทางด้าน Development of a kojic monooleate-enriched
เคมีภัณฑ์ ได้แก่ การผลิตอนุพันธ์ของกรดโคจิกโดยอาศัย oil-in-water nanoemulsion as a potential carrier for
ปฏิกิริยาเคมีเพ่ือให้ได้สารอินทรีย์ชนิดใหม่ๆ (Zirak & hyperpigmentation treatment. International Journal
Eftekhari-Sis, 2015) การใช้กรดโคจิกหรืออนุพันธ์ของกรด of Nanomedicine, 13, 6465-6479. https://doi.
โคจิกเป็นสารคีเลตเพื่อจับกับโลหะไอออนท่ีมีประจุบวก เช่น org/10.2147/IJN.S171532
เหล็ก (iron III) และอะลมู ิเนยี ม (aluminium III) ซึง่ สามารถ
นำ�ไปใช้ในการรักษาโรคบางอย่างได้ (Nurchi et al., 2011) Aytemir, M.D., Septioglu, E., & Calis, U. (2010). Synthesis
นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ท่ีจะใช้อนุพันธ์ของกรดโคจิก and anticonvulsant activity of new kojic acid
ในการก�ำ จดั โลหะไอออนทมี่ ปี ระจบุ วกซงึ่ ปนเปอื้ นอยใู่ นน�ำ้ และ derivatives. Arzneimittelforschung, 60(1), 22-29.
ในส่งิ แวดล้อม https://doi.org/10.1055/s-0031-1296244

Beard, R.L., & Walter, G.S. (1969). Kojic acid as an
insecticidal mycotoxin. Journal of Invertebrate
Pathology, 14(1), 53-59. https://doi.org/ 10.1016/0022-
2011(69)90010-X

Brtko, J., Rondahl, L., Fickova, M., Hudecova, D., Eybl,
V., & Uher, M. (2004). Kojic acid and its derivatives:
History and present state of art. Central European
Journal of Public Health, 12(Suppl), S16-S18. https://
doi.org/10.21101/cejph.b0102

242 Pongsak Rattanachaikunsopon, Parichat Phumkhachorn J Sci Technol MSU

Burnett, C.L., Bergfeld, W.F., Belsito, D.V., Hill, R.A., Lee, M., Rho, H.S., & Choi, K. (2019). Anti-inflammatory
Klaassen, C.D., Liebler, D.C., Marks, J.G., Shank, effects of a p-coumaric acid and kojic acid derivative
R.C., Slaga, T.J., Snyder, P.W., & Anderson, F.A. in LPS-stimulated RAW264.7 macrophage cells.
(2010). Final report of the safety assessment of Biotechnology and Bioprocess Engineering, 24,
kojic acid used in cosmatics. International Journal 653-657. https://doi.org/10.1007/s12257-018-0492-1
of Toxicology, 29(Suppl 4), 244S-273S. https://doi.
org/10.1177/1091581810385956. Liu, X., Xie, W., Yang, X., Zhan, X., & Xia, W. (2019).
Physicochemical characteristics and biological
Cichorek, M., Wachulska, M., Stasiewicz, A. & Tyminska, A. activities of chitosan-o-kojic acid conjugate polymer.
(2013). Skin melanocytes: Biology and development. Trends in Textile Engineering & Fashion
Advances in Dermatology and Allergology, 30(1), Technology, 5(4), 655-662. https://doi.org/10.31031/
30-41. https://doi.org/10.5114/ pdia.2013.33376. TTEFT.2019.05.000617

Couteau, C., & Coiffard, L. (2016). Overview of skin Niwa, Y., & Akamatsu, K. (1991). Kojic acid scavenges
whitening agents: Drugs and cosmetic products. free radicals while potentiating leukocyte functions
Cosmetics, 3(27), 1-16. https://doi.org/10.3390/ including free radical generation. Inflammation, 15(4),
cosmetics3030027. 303-315. https://doi.org/10.1007/BF00917315

Dowd, P.F. (1988). Toxicological and biochemical interactions Nohymek, G.J., Kirkland, D., & Marzin, D., Toutain, H.,
of the fungal metabolites fusaric acid and kojic Leclerc-Ribaud, C., & Jinnai, H. (2004). An
acid with xenobiotics in Heliothis zea (F.) and assessment of the genotoxicity and human
Spodoptera frugiperda (J.E. Smith). Pesticide health risk of topical use of kojic acid [5-hydroxy-
Biochemistry and Physiology, 32(2), 123-134. https:// 2-(hydroxymethyl)-4H-pyran-4-one]. Food and
doi.org/10.1016/0048-3575(88) 90005-3 Chemical Toxicology, 2(1), 93-105. https://doi.
org/10.1016/j.fct.2003.08.008
Fu, Y., Yang, Y., Zhou, S., Liu, Y., Yuan, Y., Li, S., & Li, C.
(2014). Ciprofloxacin containing Mannich base and Nurchi, V.M., Lachowicz, J.I., Crisponi, G., Murgia, S.,
its copper complex induce antitumor activity via Arca, M., Pintus, A., Gans, P., Niclos-Gutierrez, J.,
different mechanism of action. International Journal Dominguez-Martin, A., Castineiras, A., Remelli, M.,
of Oncology, 45, 2092-2100. https://doi.org/10.3892/ Szewczuk, Z., & Lis, T. (2011). Kojic acid derivatives
ijo.2014.2611 as powerful chelators for iron (III) and aluminium (III).
Dalton Transactions, 40(22), 5984-5998. https://doi.
Karakaya, G., Ercan, A., Oncul, S., & Aytemir, M.D. org/doi:10.1039/c1dt00005e
(2019). Kojic acid derivatives as potential anticancer
agents: Synthesis and cytotoxic evaluation on Pillaiyar, T., Manickam, A., & Namasivayam, V. (2017).
A375 human malignant melanoma cells. Journal of Skin whitenting agents: Medicinal chemistry
Research in Pharmacy, 23(4), 596-607. https://doi. perspective of tyrosinase inhibitors. Journal of Enzyme
org/10.12991/jrp.2019.167 Inhibition and Medicinal Chemistry, 32(1), 403-425.
https://doi.org/ 10.1080/14756366.2016.1256882
Kim, J.H., Chang, P.K., Chan, K.L., Faria, N.C.G.,
Mahoney, N., Kim, Y.K., Martins, M.D.L., & Campbell, Qian, W., Liu, W., Zhu, D., Cao, Y., Tang, A., Gong, G.,
B.C. (2012). Enhancement of commercial antifungal & Su, H. (2020). Natural skin-whitening compounds
agents by kojic acid. Journal of Molecular for the treatment of melanogenesis (review).
Sciences, 13(11), 13867-13880. https://doi.org/ Experimental and Therapeutic Medicine, 20, 173-
10.3390/ijms131113867 185. https://doi.org/ 10.3892/etm.2020.8687

Lajis, A.F.B., Hamid, M., & Ariff, A.B. (2012). Depigmenting Rodrigues, A.P.D., Farias, L.H.S., Carvalho, A.S. C.,
effect of kojic acid esters in hyperpigmented Santos, A.S., do Nasscimento, J.L.M, & Silva, E.O.
B16F1 melanoma cells. Journal of Biomedicine (2014). A novel function for kojic acid, a secondary
and Biotechnology, 2012, 952452. https://doi. metabolite from Aspergillus fungi, as antileishmanial
org/10.1155/2012/952452 agent. PLoS One, 9(3), e91259. https://doi.
org/10.1371/journal.pone.0091259

Vol 40. No 3, May-June 2021 Kojic acid: its properties and applications 243

Saeedi, M., Eslamifar. M., & Khezri. K. (2019). Kojic Wei, Y.B., & Yang, X.D. (2012). Synthesis, characterization
acid applications in cosmetic and pharmaceutical and anti-diabetic therapeutic potential of a new
preparations. Biomedicine & Pharmacotherapy, benzyl acid-derivatized kojic acid vanadyl complex.
110, 582-593. https://doi.org/10.1016/j.biopha. Biometals, 25, 1261-1268. https://doi.org/10.1007/
2018.12.006 s10534-012-9587-x

Saraei, M., Zarrini, G., Esmati, M., & Ahmadzadeh, L. Wu, Y., Shi, Y., Zeng, L., Pan, Y., Huang, X., Bian, L.,
(2017). Novel functionalized monomers based on Zhu, Y., Zhang, R., & Zhang, J. (2019). Evaluation
kojic acid: Snythesis, characterization, polymerization of antibacterial and anti-biofilm properties of kojic
and evaluation of antimicrobial activity. Designed acid against five food-related bacteria and related
Monomers and Polymers, 20(1), 325-331. https:// subcellular mechanisms of bacterial inactivation.
doi.org/10.1080/ 15685551.2016.1259832 Food Science and Technology International, 25(1),
3-15. https://doi.org/10.1177/1082013218793075
Sie, C.Z.W., Ngaini, Z., Suhaili, N., & Madiahlagan, E.
(2018). Synthesis of kojic ester derivatives as Yang, C., Qi, X., Zheng, J., Fan, X., Liang, P., & Song, C.
potential antibacterial agent. Journal of Chemistry, (2018). Efficacy of various preservatives on extending
2018, 1245712. https://doi.org/ 10.1155/2018/1245712 shelf life of vacuum-packaged raw pork during 4°C
storage. Journal of Food Protection, 81(4), 636-645.
Tanaka, R., Tsujii, H., Yamada, T., Kajimoto, T., Amano, https://doi.org/10.4315/0362-028X.JFP-17-423
F., Hasegawa, J., Node, M., Katoh, K., & Takebe,
Y. (2009). Novel 3a-methoxyserrat-14-en-21b-ol Zhao, X., He, Z., Ren, X., Li, H., & Zhong, Q. (2019).
(PJ-1) and 3b-methoxyserrat-14-en-21b-ol (PJ-2)- Storage and preservative study of tropical fruits by
curcumin, kojic acid, quercetin, and baicalein kojic acid. IOSR Journal of Agriculture and Veterinary
conjugates as HIV agents. Bioorganic & Medicinal Science, 12(11), 84-90. https://doi.org/10.9790/2380-
Chemistry, 17(14), 5238-5246. https://doi. 1211018490
org/10.1016/j.bmc.2009.05.049
Zirak, A., & Eftekhari-Sis, B. (2015). Kojic acid in organic
Uchino, K., Nagawa, M., Tonosaki, Y., Oda, M., & Fukuchi, synthesis. Turkish Journal of Chemistry, 39, 439-496.
A. (1998). Kojic acid as an anti-speck agent. https://doi.org/doi:10.3906/kim-1502-55
Agricultural and Biological Chemistry, 52(10),
2609-2610. https://doi.org/10.1080/00021369.1988
.10869087

การเปรียบเทียบความเข้มข้นของมาลอนไดอัลดีไฮด์และกิจกรรมของกลูตาไธโอนเปอร์
ออกซิเดสในพลาสมา่ และเซลล์เย่ือบเุ ต้านมท่แี ยกไดจ้ ากน้ำ�นมแพะ
Comparison of malondialdehyde concentration and glutathione peroxidase activity in
plasma and mammary epithelial cells isolated from goat milk

หน่งึ นชุ สายป่นิ 1, มาริสา แก้วสุวรรณ2, รชั ดา สาดตระกลู วัฒนา3*
Nungnuch Saipin1, Marisa Keawsuwan2, Rachada Sadtragoolwatana3*

Received: 28 December 2020 ; Revised: 4 March 2021 ; Accepted: 30 March 2021

บทคดั ยอ่

วตั ถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษานเ้ี พอ่ื ตรวจวดั ความเขม้ ขน้ ของ malondialdehyde (MDA) และกจิ กรรมของ glutathione peroxidase
(GPx) ในตัวสตั ว์และเซลลเ์ ยอื่ บุเตา้ นมท่แี ยกไดจ้ ากน�ำ้ นมแพะ แม่แพะพันธุซ์ าเนนจำ�นวน 24 ตัว แบ่งเปน็ 3 กลุ่ม ตามเดอื นที่
1, 2 และ 3 ของระยะการให้นม ใช้ส�ำ หรบั เกบ็ ตวั อย่างพลาสมา่ และเซลลเ์ ยอ่ื บุเตา้ นมทแี่ ยกได้จากน�ำ้ นม ผลการทดลองพบวา่
แพะกลุ่มที่ 2 มีความเขม้ ข้นของพลาสมา่ MDA และกจิ กรรมของ GPx สูงกวา่ กลมุ่ ที่ 1 และ 3 อยา่ งมีนัยส�ำ คญั (P<0.05) ในทาง
กลบั กนั ความเขม้ ขน้ ของ MDA และกจิ กรรมของ GPx ในเซลลเ์ ยอื่ บเุ ตา้ นมทแ่ี ยกไดจ้ ากน�้ำ นมของกลมุ่ ทดลองไมม่ คี วามแตกตา่ ง
กนั (P>0.05) สรปุ ไดว้ า่ ความเขม้ ขน้ ของ MDA และกจิ กรรมของ GPx สามารถตรวจวดั ไดท้ ง้ั จากพลาสมา่ และเซลลเ์ ยอื่ บเุ ตา้ นม
ท่ีแยกไดจ้ ากนำ้�นม นอกจากนี้การทดสอบค่าสมั ประสิทธ์ิสหสมั พนั ธท์ ั้งความเขม้ ขน้ ของ MDA (R2= 0.0648) และกิจกรรมของ
GPx (R2=0.0399) ระหวา่ งพลาสมา่ และเซลลเ์ ยอื่ บเุ ตา้ นมทแ่ี ยกไดจ้ ากน�้ำ นมพบวา่ ไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ นั การศกึ ษานช้ี ใ้ี หเ้ หน็ วา่
เซลลเ์ ยอื่ บเุ ตา้ นมทแ่ี ยกไดจ้ ากน�ำ้ นมไมส่ ามารถใชเ้ ปน็ ตวั แทนเพอ่ื ตรวจวดั ความเขม้ ขน้ ของพลาสมา่ MDA และกจิ กรรมของ GPx
ค�ำ ส�ำ คัญ: กิจกรรมของกลูตาไธโอนเปอร์ออกซเิ ดส น้�ำ นมแพะ ความเข้มข้นของมาลอนไดอัลดีไฮด์ เซลลเ์ ยอ่ื บุเตา้ นม

Abstract
The purpose of this study was to measure malondialdehyde (MDA) concentration and glutathione peroxidase (GPx)
activity in the animals and the mammary epithelial cells (MECs) isolated from goat milk. Twenty-four Saanen goats
were allocated into three groups according to the first, second, and third months of their lactation periods. Plasma
samples and MECs isolated from milk were collected. The results showed that plasma MDA concentration and GPx
activity from the second group were significantly higher (P<0.05) than that of the first and the third group. On the other
hand, MDA concentration and GPx activity of MECs isolated from milk showed no significant difference (P>0.05) in the
experimental groups. In conclusion, MDA concentration and GPx activity occurred in both plasma and MECs isolated
from milk. In addition, the correlation coefficient of both MDA concentration (R2=0.0648) and GPx activity (R2=0.0399)
of plasma and MECs isolated from milk showed no correlation. This suggested that MECs isolated from milk cannot
be used to replace plasma as the sample for measuring MDA concentration and GPx activity.
Keywords: Glutathione peroxidase (GPx) activity, Goat milk, Malondialdehyde (MDA) concentration, Mammary

epithelial cells

1 อาจารย์, ภาควชิ าเทคโนโลยกี ารเกษตร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค�ำ แหง กรงุ เทพมหานคร 10240
2 อาจารย,์ ภาควชิ าสถิติ คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รามค�ำ แหง กรงุ เทพมหานคร 10240
3 อาจารย,์ ภาควชิ าเทคโนโลยีอาหาร คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั รามค�ำ แหง กรงุ เทพมหานคร 10240
1 Lecturer, Division of Agricultural Technology, Ramkhamhaeng University, Bangkok 10240, Thailand.
2 Lecturer, Department of Statistic, Ramkhamhaeng University, Bangkok 10240, Thailand.
3 Lecturer, Department of Food Technology, Ramkhamhaeng University, Bangkok 10240, Thailand.
* Corresponding author: Rachada Sadtragoolwatana, Faculty of Science, Ramkhamhaeng University, Ramkhamhaeng Road, Hua Mark, Bangkapi,

Bangkok, 10240, Thailand, e-mail: [email protected]

Vol 40. No 3, May-June 2021 Comparison of malondialdehyde concentration and glutathione peroxidase 245

activity in plasma and mammary epithelial cells...

บทนำ� เตา้ นมไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ (Hu et al., 2016 ; Peng et al.,
2011 ; Tao et al., 2011)
การเล้ียงแพะนมในประเทศไทยท่ีมีสภาพอากาศแบบร้อนช้ืน อย่างไรก็ตามความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเกิด
ส่งผลกระทบต่อการให้ผลผลิตน้ำ�นม ผนวกกับระยะแรกของ ความเครยี ดออกซเิ ดชนั ทเี่ กดิ ขน้ึ ภายในระดบั ตวั สตั วแ์ ละเซลล์
การใหน้ ม แมแ่ พะนมพันธ์ุซาเนนมีอัตราการให้นมสูงรว่ มกบั เยื่อบุเต้านมท่ีแยกได้จากน้ำ�นมแพะระหว่างการให้นมนั้นยัง
อัตราการเผาผลาญพลังงานและการทำ�หน้าท่ีของเซลล์เยื่อบุ ไม่กว้างขวาง ดังนั้นงานวิจัยน้ีจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดระดับ
เต้านม (Mammary epithelial cells ; MECs) สงู ขน้ึ ท�ำ ใหเ้ กดิ ความเข้มข้นของ MDA และกิจกรรมของ GPx และหาความ
สารผลติ ภณั ฑท์ เี่ ปน็ ของเสยี และความเครยี ดออกซเิ ดชนั มาก สัมพันธ์ในระดับตัวสัตว์และเซลล์เยื่อบุเต้านมท่ีแยกได้จาก
และรวดเรว็ สง่ ผลเสยี ตอ่ การคงสภาพของเยอ่ื หมุ้ เซลล์ ความมี น�ำ้ นมแพะ
ชวี ติ และการท�ำ หนา้ ทส่ี งั เคราะหน์ �ำ้ นมของเซลลเ์ ยอื่ บเุ ตา้ นม
(Bernabucci et al., 2002 ; Hall et al., 1994) นอกจากน้ี วิธีดำ�เนินการวจิ ัย
ระดับความเครียดออกซิเดชันที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เกิดผลเสีย
ในระดบั ตวั สตั ว์ ยงั กอ่ ความเสียหายต่อเซลลต์ ่างๆ ในอวยั วะ วธิ กี ารทดลอง และวธิ เี ก็บรวบรวมขอ้ มลู
และหากความรนุ แรงของความเครยี ดออกซเิ ดชนั เกดิ ขน้ึ อยา่ ง การทดลองได้รับอนุมัติจากคณะอนุกรรมการ
ต่อเน่ืองอาจทำ�ให้เกิดความเสียหายของร่างกาย และมีผล จริยธรรมการวิจัย สาขาการดำ�เนินการต่อสัตว์ทดลอง
กระทบโดยตรงในระดับเซลล์ เซลล์เยื่อบุเต้านมทำ�หน้าท่ีใน มหาวทิ ยาลัยรามค�ำ แหง เลขท่ี RU-LARESC-62/001
การสังเคราะห์น้ำ�นมลดลง (Bernabucci et al., 2002) ทง้ั น้ี แม่แพะนมพันธุ์ซาเนนอายุระหว่าง 3-6 ปีน้ำ�หนัก
ระดบั การเกดิ ความเครยี ดออกซเิ ดชนั สามารถตรวจวดั จากตวั เฉลย่ี ก่อนคลอด 38-46 กิโลกรัม เลี้ยงในคอกรวม แบ่งกลุ่ม
ชว้ี ดั ทส่ี �ำ คญั เชน่ สารมาลอนไดอลั ดไี ฮด์ (Malondialdehyde ; แยกตามระยะการให้นมช่วงเดอื นทห่ี นง่ึ (0-30 วันหลังคลอด)
MDA) ซงึ่ เปน็ สารผลติ ภณั ฑท์ ่เี กดิ จากกระบวนการเผาผลาญ จ�ำ นวน 8 ตวั เดอื นทสี่ อง (31-60 วนั หลงั คลอด) จ�ำ นวน 10 ตวั
ไขมนั ในระดบั เซลล์ (Castillo et al., 2006) และกิจกรรมของ และเดอื นทสี่ าม (61-90 วนั หลงั คลอด) จ�ำ นวน 6 ตวั ตามล�ำ ดบั
เอนไซมก์ ลตู าไธโอนเปอรอ์ อกซเิ ดส (Glutathione peroxidase อาหารทใี่ หแ้ มแ่ พะระหวา่ งการทดลองเปน็ อาหารขน้ ส�ำ เรจ็ รปู
; GPx) ท่ีตอบสนองต่อระดับ Reactive Oxygen Species ชนดิ เมด็ สูตรสำ�หรับแพะระยะใหน้ ม โปรตีน 16% โดยให้กิน
(ROS) ทเี่ พมิ่ ข้ึน (Chance et al.,1979) เตม็ ท่ี วันละ 2 ครง้ั เวลา 05.00 น. และ 15.00 น. หญ้าแพง
การศึกษาลักษณะและการทำ�หน้าที่ของเซลล์ โกลา่ แห้งจดั ไวใ้ หแ้ พะสามารถกนิ ไดต้ ลอดเวลา น�ำ้ ดืม่ สะอาด
เย่ือบุเต้านมส่วนใหญ่เป็นตัวอย่างเซลล์เต้านมมีที่มาจาก ต้ังไว้ใหก้ นิ อย่างอสิ ระ และเกลอื แรก่ อ้ นจดั ไว้ภายในคอกเพือ่
กระบวนการตดั ชน้ิ เนอื้ (Biopsy) (Knight, et al., 1992) แตว่ ธิ ี ใหแ้ พะสามารถเลียกินได้ตามความตอ้ งการ
ดงั กลา่ วจ�ำ เปน็ ตอ้ งท�ำ โดยผเู้ ชย่ี วชาญทม่ี คี วามช�ำ นาญในการ การเก็บตัวอย่างเลือดจากแพะกลุ่มท่ี 1, 2 และ 3
ตดั ชน้ิ เนอื้ รวมถงึ มกี รรมวธิ กี ารเตรยี มตวั สตั ว์ การรกั ษาความ ทำ�เวลา 07.00 น. ในวันที่ 30, 60 และ 90 ตามลำ�ดับ โดยเจาะ
สะอาดระหว่างข้ันตอนและการดูแลรักษาแผลหลังการตัดช้ิน เลอื ดจากหลอดเลอื ดดำ�ใหญท่ ี่คอ (Jugular vein) ปริมาณ 3
เน้ือท่ีเข้มงวด ซ่ึงทุกข้ันตอนมีความยุ่งยาก ท้ังยังทำ�ให้เกิด มิลลิลิตรต่อตัว เก็บในหลอดเก็บเลือดที่ผสมสารป้องกันการ
ความเจ็บปวดแก่ตัวสัตว์ รวมถึงต้องงดการจำ�หน่ายผลผลิต แขง็ ตวั ของเลอื ด (EDTA) น�ำ เลอื ดทไี่ ดป้ นั่ เหวย่ี งแยกสว่ นเมด็
น้ำ�นมอันเน่ืองมาจากกระบวนการหายของแผล นอกจากนี้ เลือดแดงและพลาสม่าด้วยเครื่องป่ันตกตะกอน (Beckman
ยังต้องมีมาตรการควบคุมความปลอดภัยทั้งแก่ผู้ปฏิบัติงาน CS-15R Centrifuge, Indianapolis, USA) ความเร็ว 4,000
และตอ่ ตวั สตั ว์ เพอ่ื ใหก้ ารศกึ ษาวจิ ยั สอดคลอ้ งตามหลกั เกณฑ์ รอบต่อนาที นาน 10 นาที ทีอ่ ุณหภมู ิ 4 องศาเซลเซียส ตัว
ภายใตบ้ ทบญั ญตั ขิ องพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั การทารณุ กรรม อย่างพลาสม่าเก็บที่อุณหภูมิ -80 องศาเซลเซียส เพื่อใช้
และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 และพระราชบัญญัติ วิเคราะห์ความเข้มข้นของพลาสม่า MDA และกิจกรรมของ
สัตว์เพ่ืองานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. 2558 ทำ�ให้มีงานวิจัยที่ GPx การเกบ็ ขอ้ มลู ผลผลติ น�ำ้ นมแพะทกุ วนั โดยวธิ รี ดี ดว้ ยมอื
มีแนวคิดการใช้เซลล์เย่ือบุเต้านมที่ได้จากน้ำ�นม เพื่อใช้เป็น 2 ครั้งตอ่ วนั ในเวลาเช้า (06.00 น.) และเย็น (16.00 น.) ชั่ง
ตัวแทนเซลล์เย่ือบุเต้านม โดยมีการศึกษาและวิจัยมาระยะ น�ำ้ หนกั น�ำ้ นมและบันทกึ ผลเป็นหนว่ ยกโิ ลกรมั (Kg) ตัวอย่าง
หน่ึง จากการเก็บตัวอย่างน้ำ�นมคน (Taylor-Papadimitriou น้ำ�นมจากแพะกลุ่มทดลองท่ีรีดในเวลาเช้าของวันท่ี 30, 60
et al., 1977) โคนม (Sigl, et al., 2012) และแพะ (Boutinaud และ 90 แบ่งเปน็ 2 สว่ น สว่ นท่ี 1 ปริมาณ 30 มลิ ลลิ ติ ร เกบ็ ที่
et al., 2002) ผลการศกึ ษาสามารถแยกเซลลไ์ ดแ้ ละเมอื่ น�ำ มา อณุ หภมู ิ -20 องศาเซลเซยี สเพอ่ื วเิ คราะหส์ ว่ นประกอบน�้ำ นม
จ�ำ แนกชนดิ และคณุ ลกั ษณะจ�ำ เพาะของเซลลพ์ บวา่ เปน็ เซลล์ (Milk compositions) ด้วยเครื่อง Milkoscan (FT2 ; Foss,
เยอื่ บเุ ตา้ นม ทง้ั ยงั น�ำ มาใชศ้ กึ ษาการท�ำ หนา้ ทข่ี องเซลลเ์ ยอื่ บุ Hilleroed, Denmark) ส่วนที่ 2 ปรมิ าณ 250 มิลลลิ ิตร เก็บใน

246 Nungnuch Saipin, Marisa Keawsuwan, Rachada Sadtragoolwatana J Sci Technol MSU

ขวดพลาสติกปราศจากเชื้อเพ่ือนำ�มาแยกเซลล์เย่ือบุเต้านม ผลการศึกษาความเข้มข้นของ MDA และกิจกรรม
ทันทีภายในห้องปฏิบัติการ โดยการปั่นเหว่ียงน้ำ�นมดิบ ของ GPx แสดงใน Table 2 โดยแพะกล่มุ ที่ 2 มคี วามเขม้ ขน้
ความเรว็ 3,000 รอบตอ่ นาที นาน 20 นาที ท่อี ุณหภูมิห้อง ของพลาสม่า MDA (1.70±0.36 nmol/ml) สูงกว่าแพะกลุ่ม
นำ�ตะกอนเซลล์ (Cell pellets) ที่ได้ล้างท�ำ ความสะอาดไขมนั ที่ 1 (1.00±0.30 nmol/ml) และกลุม่ ที่ 3 (0.80±0.50 nmol/
และเศษตะกอนโปรตีนด้วย Phosphate buffer saline ml) อย่างมีนัยสำ�คัญ(P<0.05) รวมถึงกิจกรรมของ GPx
solution (PBS) 5 ครัง้ จนเซลลท์ ่ีได้สะอาดและไมพ่ บลกั ษณะ แสดงผลในลักษณะเดียวกับความเข้มข้นของพลาสม่า
ของไขมันเกาะที่ตะกอนเซลล์ ตะกอนเซลล์เยื่อบุเต้านมท่ีได้ MDA โดยพบว่ากิจกรรมของ GPx ในพลาสม่าของแพะ
เก็บทีอ่ ณุ หภมู ิ -80 องศาเซลเซียส สำ�หรับวิเคราะหค์ วามเข้ม กลุ่มที่ 2 (435.22±88.22 nmol/ml) มีค่าสูงกว่าแพะกลุ่มท่ี
ข้นของ MDA และกจิ กรรมของ GPx โดยการทดสอบท่ีใชใ้ น 1 (199.41±87.28 nmol/ml) และกลุ่มท่ี 3 (175.65±83.42
การทดลองประกอบดว้ ย การวเิ คราะหส์ าร MDA จากปฏกิ ริ ยิ า nmol/ml) อย่างมีนัยสำ�คัญ (P<0.05) อย่างไรก็ตาม ความ
การยอ่ ยสลายไขมนั ในพลาสมา่ และเซลลเ์ ยอ่ื บเุ ตา้ นมทแ่ี ยกได้ เขม้ ขน้ ของ MDA และกจิ กรรมของ GPx ในเซลลเ์ ยอ่ื บเุ ตา้ นม
จากน�้ำ นม ดว้ ยชดุ ทดสอบ Lipid Peroxidation (MDA) Assay ท่ีแยกได้จากนำ้�นม พบว่าไม่มีความแตกต่างกัน (P>0.05)
(Colorimetric) (ab118970, Abcam, USA) ตัวอยา่ งละ 2 ซำ�้ โดยแพะกลุ่มที่ 1, 2 และ 3 มคี วามเข้มข้นของ MDA คิดเป็น
และวดั คา่ การดดู กลนื แสงของปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กดิ ขน้ึ ดว้ ยเครอ่ื งวดั 0.11±0.04, 0.08±0.02 และ 0.12±0.03 nmol/ml และกจิ กรรม
การดูดกลืนแสง (SpectraMax M3, Molecular Devices, San ของ GPx คิดเป็น 0.46±0.41, 1.66±1.46 และ 1.20±1.15
Jose, CA, USA) ความยาวคลน่ื 532 นาโนเมตร การวเิ คราะห์ nmol/ml ตามล�ำ ดบั
กจิ กรรมของเอนไซม์ GPx ในพลาสมา่ และเซลล์เยอ่ื บุเตา้ นม ผลการทดสอบคา่ สมั ประสทิ ธสิ์ หสมั พนั ธพ์ บวา่ ความ
ทแ่ี ยกไดจ้ ากน�้ำ นม ดว้ ยชดุ ทดสอบ Glutathione Peroxidase เขม้ ขน้ ของพลาสมา่ MDA และเซลลเ์ ยอ่ื บเุ ตา้ นมทแี่ ยกไดจ้ าก
Assay (Colorimetric) (ab102530, Abcam, USA) ตวั อยา่ งละ น�ำ้ นมมคี า่ R2=0.0648 (Figure 1) และกจิ กรรมของ GPx มี
2 ซ�้ำ และวดั คา่ การดดู กลนื แสงของปฏกิ ริ ยิ าดว้ ยเครอื่ งวดั การ ค่า R2=0.0399 (Figure 2) ผลการทดสอบแสดงใหเ้ หน็ วา่ ไมม่ ี
ดูดกลืนแสงทค่ี วามยาวคลนื่ 340 นาโนเมตร ความสัมพันธ์กันของท้ังความเข้มข้นของ MDA (P=0.263)
วิธีวิเคราะหข์ ้อมลู และกิจกรรมของ GPx (P=0.442) ระหว่างพลาสม่าและ
ผลการทดลองแสดงเป็นค่าเฉล่ีย±ค่าเบ่ียงเบน เซลลเ์ ยอ่ื บุเตา้ นมทแ่ี ยกได้จากน�ำ้ นม
มาตรฐาน เปรียบเทียบผลผลิตน้ำ�นม ส่วนประกอบน้ำ�นม
ความเข้มข้นของ MDA และกิจกรรมของ GPx ในพลาสม่า สรุปและวิจารณ์ผล
และเซลลเ์ ยอ่ื บเุ ตา้ นมทแี่ ยกไดจ้ ากน�ำ้ นมของแพะในแตล่ ะกลมุ่
ด้วยสถติ ิ One-way ANOVA และ Duncan’s Multiple Range จากการศึกษาพบว่าค่าเฉล่ียนำ้�หนักตัวแพะกลุ่มที่อยู่ในช่วง
test กำ�หนดระดับความเชือ่ มน่ั ที่ P<0.05 ความสัมพนั ธ์ของ เดือนที่หน่ึงของการให้นม มีนำ้�หนักตัวน้อยกว่าแพะที่อยู่ใน
ความเขม้ ขน้ ของ MDA และกจิ กรรมของ GPx ระหวา่ งพลาสมา่ ชว่ งเดือนทส่ี องและสาม ท้งั น้ีเปน็ ผลมาจากการเปลย่ี นแปลง
กับเซลล์เย่ือบุเต้านมท่ีแยกได้จากน้ำ�นมใช้การทดสอบ ทางสรีรวิทยาของแม่แพะในช่วงก่อนคลอดและหลังคลอดท่ี
แบบ Pearson Correlation ด้วยโปรแกรมสำ�เร็จรูป SPSS แพะเริ่มใหผ้ ลผลติ น้�ำ นมส่งผลใหน้ ้ำ�หนักตัวนอ้ ย (Abuelo et
version 16 al., 2019 ; Kenyon et al., 2014 ; Putman et al., 2018) อยา่ งไร
ก็ตามเมื่อแพะเร่ิมปรับตัวและมีการให้อาหารข้นกินเต็มที่
ผลการวจิ ยั ในระหว่างการทดลอง ร่วมกับมีการจัดการด้านการเล้ียงดู
ที่เหมาะสม ทำ�ให้สภาพรา่ งกายและน�้ำ หนกั ตวั เพิม่ ขนึ้ ผนวก
ผลการศึกษาน้ำ�หนักตัวและการให้ผลผลิตน้ำ�นม กับการให้ผลผลิตน้ำ�นมในช่วงเดือนท่ีสองและสามเร่ิมลดลง
ของแพะแสดงใน Table 1 พบว่าค่าเฉล่ียน้ำ�หนักตัวแพะมี ขณะท่ีแพะยังคงมีการกินได้ปกติแต่ให้ผลผลิตต่ำ�จึงส่งผลต่อ
ความแตกต่างอยา่ งมนี ยั ส�ำ คัญ (P<0.05) โดยแพะกลุ่มท่ี 1 มี นำ�้ หนักตวั ทเ่ี พ่มิ ขึ้นในชว่ งเดือนทสี่ องและสามของการใหน้ ม
นำ้�หนกั ตวั คิดเป็น 31.05±5.39 กโิ ลกรัม นอ้ ยกว่าแพะกลุ่มที่ ความเครียดออกซิเดชันของแพะในการทดลองน้ี
2 (45.18±4.00 กิโลกรมั ) และกลมุ่ ท่ี 3 (55.80±9.02 กิโลกรมั ) วเิ คราะหไ์ ดจ้ ากความเขม้ ขน้ ของ MDA ซง่ึ เปน็ สารผลติ ภณั ฑ์
ตามล�ำ ดับ ผลผลติ นำ�้ นมของแพะกลมุ่ ที่ 2 มคี ่าเฉล่ยี คิดเปน็ ทีเ่ กดิ จากกระบวนการเผาผลาญไขมนั (Castillo et al., 2006
3.03±0.82 กิโลกรัม/วัน สูงกว่าแพะกลุ่มท่ี 1 (1.60±0.29 ; Kapusta et al., 2018 ) และกิจกรรมของ GPx ซ่ึงเป็น
กิโลกรมั /วัน) และกลมุ่ ที่ 3 (1.22±0.19 กิโลกรมั /วัน) อยา่ งมี เอนไซม์ที่ทำ�หน้าที่ต้านอนุมูลอิสระโดยกระตุ้นปฏิกิริยาการ
นยั ส�ำ คญั (P<0.05) อยา่ งไรกต็ ามสว่ นประกอบน�้ำ นมของแพะ เปล่ียนไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นนำ้�และออกซิเจน เพื่อลด
ทัง้ 3 กลมุ่ ไม่มคี วามแตกตา่ งกนั (P>0.05) ความเป็นพิษของสารอนุมูลอิสระท่ีอาจทำ�อันตรายต่อเซลล์

Vol 40. No 3, May-June 2021 Comparison of malondialdehyde concentration and glutathione peroxidase 247

activity in plasma and mammary epithelial cells...

(Bernabucci et al., 2002 ; Hall et al., 1994 ; Miyamoto et ไม่มีความแตกต่างกัน (P>0.05) รวมถึงผลการทดสอบค่า
al., 2003) ทั้งนี้แพะให้นมในช่วงเดือนที่สองมีการให้ผลผลิต สัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ความเข้มข้นของ MDA และกิจกรรม
นำ้�นมสูงขึ้น มีผลให้ความเข้มข้นของพลาสม่า MDA และ ของ GPx พบว่าระหว่าง พลาสม่าและเซลล์เย่ือบุเต้านมท่ี
กจิ กรรมของ GPx สูงกวา่ กลุ่มอืน่ (Celi, 2010 ; Chaiyabutr แยกได้จากนำ้�นมไม่มีความสัมพันธ์กัน จากการทดลองสรุป
et al., 2011) ไดว้ า่ แมแ่ พะพนั ธซุ์ าเนนระหวา่ งการใหผ้ ลผลติ น�้ำ นมสงู ความ
Kapusta et al., 2018 ; Mohebbi-Fani et al., 2016) เข้มข้นของพลาสม่า MDA และกิจกรรมของ GPx สามารถ
ในทางกลบั กนั ความเข้มข้นของ MDA และกิจกรรมของ GPx บง่ ช้ีความเครียดออกซเิ ดชนั ในภาพรวมระดับตวั สตั วไ์ ด้
ในเซลล์เยื่อบุเต้านมท่ีแยกได้จากนำ้�นมของแพะทุกกลุ่ม

Table 1 Body weight (Kg), milk production (Kg/day) and milk compositions (g%) of the goats from the 1st, 2nd, and
3rd month of lactation periods

Lactation periods

Item P-value

1st month 2nd month 3rd month

Body weight (Kg) 31.05±5.39c 45.18±4.00b 55.80±9.02a <0.05
1.22±0.19b <0.05
Milk production (Kg/day) 1.60±0.29b 3.03±0.82a
3.87±0.38 0.434
Milk compositions 3.26±0.18 0.220
4.69±0.11 0.129
Fat (g%) 3.42±0.41 3.66±0.74 12.81±0.37 0.179
9.02±0.17 0.067
Protein (g%) 3.27±0.45 2.99±0.21

Lactose (g%) 4.73±0.16 4.57±0.12

Total solid (g%) 12.48±0.52 11.96±1.07

Solid not fat (g%) 9.04±0.53 8.59±0.18
Values are presented as mean±SD.
Statistical significance of interaction effects among periods of lactations by ANOVA
a,b,c Mean values within a row indicated with different superscripts are significantly different (P<0.05)

Table 2 Plasma and MECs MDA concentration (nmol/ml), Plasma and MECs GPx activity (nmol/ml) of the goats
from the 1st, 2nd, and 3rd month of lactation periods

Lactation periods

Item P-value

1st month 2nd month 3rd month

Plasma MDA concentration (nmol/ml) 1.00±0.30b 1.70±0.36a 0.80±0.50b <0.05
175.65±83.42b <0.05
Plasma GPx activity (nmol/ml) 199.41±87.28b 435.22±88.22a 0.109
0.12±0.03 0.184
MDA concentration of MECs (nmol/ml) 0.11±0.04 0.08±0.02 1.20±1.15

GPx activity of MECs (nmol/ml) 0.46±0.41 1.66±1.46
Values are presented as mean±SD.
Statistical significance of interaction effects among periods of lactations by ANOVA
a,b,c Mean values within a row indicated with different superscripts are significantly different (P<0.05)

248 Nungnuch Saipin, Marisa Keawsuwan, Rachada Sadtragoolwatana J Sci Technol MSU
Correlation coeffeient of Plasma and MECs MDA concentration

2.5 Correlation coeffeient of Plasma and MECs MDA concentration

MDA cMoDncAecntornatcieonntroaftioMnEoCfsMECs 22..50
(nmol/(nml)mol/ml)
21..05

11..50
R² = 0.0684

10..05 R² = 0.0684

00..50

0.0 0.04 0.06 0.08 0.10 0.12 0.14 0.16 0.18
0.04 0.06 0.16 0.18
0P.0la8sma MD0A.10concentra0.t1io2n (nmol/0m.1l)4

Figure 1 The Pearson correlation betwePelanspmlaasMmDaAMDcoAncceonntcreantiotrnat(ionnmaonl/md lM) DA concentration of MECs of the
Fgoigautsrein1tTheheeFPxipgeeuarrreism1oenTnhcteo(PRrree2a=lras0ot.ino0n6cMo8brE4reeC)ltaswtiooefnethbneetpgwloeaaestnsmipnalatshMmeDaexAMpDecrAoimnceocnnetcn(eRtnr2t=ara0tti.io0o6nn8a4an)nddMMDADcAonccoenntcraetniotnraotfion of MECs of the
goats in the experiment (R2=0.0684)

Correlation coeffeient of Plasma and MECs GPx activity

GPx acGtiPvxityactoifvityMEofCs (MnEmCsol/(nml)mol/ml) 700 Correlation coeffeient of Plasma and MECs GPx activity

7600

6500

4500 R² = 0.0399
4300 R² = 0.0399

2300

2100

100 0.0 0.5 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 4.0 4.5

0 0.5 1.0 1P.5lasma G2P.0x activit2y.5(nmol/m3l.)0 3.5 4.0 4.5
0.0

Figure 2 The PeFiagrusroen2 TchoerrPeelaartsioonn cboertrthewelaetgioeoPnantlbsapesitnlwamteshaemenGeapxPlpaGexsPrmimaxaceGtanitvPc(ixttRiyva2=ict(0tyniv.0miat3yno9a9dl/n)mdGlG)PPxx aaccttivivitiytyofoMfEMCEs Cofs of the goats in the
eFxigpuerriem2enTth(eRP2=e0a.0rs3o9n9)correlation between plasma GPx activity and GPx activity of MECs of the goats in the
experiment (R2=0.0399)
แต่ในทางกลบั กนั เซลลเ์ ย่อื บุเตา้ นมทแ่ี ยกไดจ้ ากน้านม ทาให้การวิเคราะห์ค่าความเข้มข้นของ MDA และ
ใกใใแในชชนตบั บบ้้ภภ่ใพน่่งงาาลชชทพพาคค้้ีีารรสงววววมกาามม่าลมมรรบัจเเะะขขงกึดดมมไ้้นับบัั มขขเตต่สซนน้้ ววััาลขขสสมลออตตััาเ์ งงยรววถ่อืไ์ไ์MMดดบใDDช้้ตตุเตท้AA่่าาา้ดแแแแนแลลลลมทะะะะทนกกไไแ่ีมมตจจิิ ย่่มมวักกกอีีรรคคไยรรววดมม่าาาจ้งขขมมาพออสสกลงงมมัันาพพ้GGาสนนนััมPPมธธ่าxx์์ กวทคคกธิววิิจจากีาาใกกมมหารรรเเ้กรรคคเกามมรรบยยร็ีี ขขวดดตออิเออวั คงงอออรกกยGGาซซ่าPPะงเเิิ หxxดดเล์คชชททอื ่นนััา่่ีีเเดคใใปปแนนว็็ นนลรราะะะสสมดดพ่่ววเบบััลขนนตตา้มหหสววัั ขนนสสม้นตต่่ึึ่ััางงจขววขขายย์์อออกงงัังงงคคสกกงงตัMาาตตวDรรออ้้ท์ ศศAงงดเเึึกกลลลแษษออืือลกกงาาะ

Vol 40. No 3, May-June 2021 Comparison of malondialdehyde concentration and glutathione peroxidase 249

activity in plasma and mammary epithelial cells...

แต่ในทางกลับกันเซลล์เยื่อบุเต้านมท่ีแยกได้จาก กิตตกิ รรมประกาศ
น�้ำ นมใชบ้ ง่ ชค้ี วามเขม้ ขน้ ของ MDA และกจิ กรรมของ GPx ใน
ภาพรวมระดบั ตวั สตั วไ์ ดต้ �ำ่ และไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั พลาสมา่ งานวิจัยน้ีได้รับทุนวิจัยจากสถาบันวิจัยและพัฒนา
จงึ ไมส่ ามารถใชท้ ดแทนตวั อยา่ งพลาสมา่ เพอ่ื บง่ ชค้ี วามเครยี ด มหาวทิ ยาลยั รามค�ำ แหง และความอนเุ คราะหแ์ พะใชเ้ ปน็ สตั ว์
ออกซิเดชันในระดับตัวสัตว์ได้ ทำ�ให้การวิเคราะห์ค่าความ ทดลองและสถานท่ีในการทดลองจากคุณปรีชา นุสและ เขต
เขม้ ขน้ ของ MDA และกจิ กรรมของ GPx ทีเ่ ปน็ ส่วนหนง่ึ ของ คลองสามวา กรงุ เทพมหานคร
การศึกษาความเครียดออกซิเดชันในระดับตัวสัตว์ยังคงต้อง
เลือกวิธีการเก็บตัวอย่างเลือดและพลาสม่าจากสัตว์ทดลอง เอกสารอา้ งองิ
ท้ังนี้ในสภาวะการเกิดความเครียดออกซิเดชันมีสาเหตุมา
จากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของ Abeni, F., Calamari, L., & Stefanini, L. (2007). Metabolic
ร่างกายในช่วงคลอดลูก และการให้ผลผลิตของสัตว์ มีผลให้ conditions of lactating Friesian cows during the hot
สารอนุมูลอิสระเพ่ิมสูงข้ึนแต่ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระและ season in the Po valley. 1. Blood indicators of heat
กิจกรรมของเอนไซม์ที่ทำ�หน้าที่ต้านอนุมูลอิสระลดลง ย่อม stress. International Journal Biometeorology, 52(2),
ส่งผลให้เกิดภาวะความเครียดออกซิเดชันตามมา นอกจาก 87-96. doi:10.1007/s00484-007-0098-3.
น้ีอนุมูลอิสระในร่างกายท่ีสูงข้ึนสามารถกระตุ้นให้เกิดการทำ�
หนา้ ทตี่ า้ นออกซเิ ดชนั ไดใ้ นหลายรปู แบบ ทง้ั แบบทอี่ าศยั สาร Abuelo, A., Hernández, J., Benedito, J. L., & Castillo,
ต้านอนุมูลอิสระชนิดเอนไซม์ เช่น เอนไซม์คะตะเลส (CAT) C. (2019). Redox Biology in Transition Periods of
ทพี่ บไดท้ ง้ั ในเซลลร์ า่ งกาย เซลลเ์ มด็ เลอื ดแดง และในพลาสมา่ Dairy Cattle: Role in the Health of Periparturient and
(Abeni et al., 2007) เอนไซมซ์ ปุ เปอรอ์ อกไซดด์ สิ มวิ เตส (SOD) Neonatal Animals. Antioxidants (Basel), 8(1), doi:
ที่พบได้ทั้งในเซลล์และในพลาสม่า (McCord & Fridovich, 10.3390/antiox8010020.
1969) รวมถึงเอนไซม์กลูต้าไธโอนเปอร์ออกซิเดส (GPx) ท่ี
พบมากในพลาสม่า (Moolchandani, 2018) นอกจากนยี้ งั พบ Bernabucci, U., Ronchi, B., Lacetera, N., & Nardone,
สารต้านอนมุ ลู อสิ ระทไ่ี มใ่ ช่เอนไซมท์ ีร่ า่ งกายสรา้ งข้นึ หรอื ได้ A. (2002). Markers of oxidative status in plasma
รบั จากอาหาร เชน่ วติ ามนิ เอ วติ ามนิ ซี วติ ามนิ อี กลตู าไธโอน and erythrocytes of transition dairy cows during hot
กรดยูรคิ ฟลาโวนอยด์ และกรดฟีนลิ (Beutler et al., 1963 season. Journal of Dairy Science, 85(9), 2173-2179.
; McDowell & Arthington, 2005) จากเหตุผลดังกล่าว doi:10.3168/jds.S0022-0302(02)742 96-3.
ทำ�ให้ความสามารถต้านออกซิเดชันรวม (Total antioxidant
capacity) ในตัวสัตว์และพลาสม่ามีประสิทธิภาพสูงและ Beutler, E., Duron, O., & Kelly, B. M. (1963). Improved
มากกวา่ ในเซลลเ์ ยอื่ บเุ ตา้ นมทแี่ ยกไดจ้ ากน�ำ้ นม ซง่ึ อาศยั การ method for the determination of blood glutathione.
ทำ�หน้าท่ีต้านออกซิเดชันหลักจากสารต้านอนุมูลอิสระชนิด Journal of Laboratory and Clinical Medicine, 61,
เอนไซม์ ไดแ้ ก่ เอนไซมค์ ะตะเลส (Spitz et al., 1988) เอนไซม์ 882-888.
ซุปเปอรอ์ อกไซดด์ ิสมิวเตส (Strålin & Marklund, 1994) และ
เอนไซมก์ ลูตา้ ไธโอนเปอร์ออกซิเดส (Gille & Joenje, 1992 ; Boutinaud, M., Rulquin, H., Keisler, D. H., Djiane, J., &
Miyamoto et al., 2003) Jammes, H. (2002). Use of somatic cells from goat
อย่างไรก็ตามจากผลการศึกษาน้ีบอกได้ว่าตัวอย่าง milk for dynamic studies of gene expression in the
จากเซลลเ์ ยอื่ บเุ ตา้ นมทแ่ี ยกไดจ้ ากน�้ำ นมสามารถน�ำ มาใชเ้ ปน็ mammary gland. Journal of Animal Science, 80(5),
ตวั อยา่ งเพอื่ ตรวจวดั ความเขม้ ขน้ ของ MDA และกจิ กรรมของ 1258-1269.
GPx ในเซลล์เยือ่ บเุ ตา้ นมและในเตา้ นมแพะได้ ซ่งึ ช่วยให้เกดิ
ประโยชน์ในการใช้เป็นตัวเลือกสำ�หรับวิเคราะห์ความเครียด Castillo, C., Hernández, J., Valverde, I., Pereira, V., Sotillo,
ออกซเิ ดชนั แบบเฉพาะท่ีทเี่ กิดขนึ้ ในเซลลแ์ ละในเตา้ นม J., Alonso, M. L., & Benedito, J. L. (2006). Plasma
malonaldehyde (MDA) and total antioxidant status
(TAS) during lactation in dairy cows. Research in
Veterinary Science, 80(2), 133-139. doi: http://dx.doi.
org/10.1016/j.rvsc.2005. 06.003.

Celi, P. (2010). The role of oxidative stress in small
ruminants’ health and production. Revista Brasileira
de Zootecnia, 39, 348-363.

250 Nungnuch Saipin, Marisa Keawsuwan, Rachada Sadtragoolwatana J Sci Technol MSU

Chaiyabutr, N., Chanchai, W., Boonsanit, D., Sitprija, S., McDowell, L.R., & Arthington, J.D. (2005). Minerals for
& Chanpongsang, S. (2011). Different Responses of grazing ruminants in tropical regions. Gainesville:
Oxidative Stress Index in the Plasma of Crossbred Institute of Food and Agricultural Sciences, Univer-
Holstein Cattle During Cooling and Supplemental sity of Florida.
Recombinant Bovine Somatotropin. Journal of
Animal and Veterinary Advances, 10(8), 1045-1053. Miyamoto, Y., Koh, Y.H., Park, Y.S., Fujiwara, N., Sakiyama,
doi:10.3923/ javaa.2011.1045.1053. H., Misonou, Y.,… Taniguchi, N. (2003). Oxidative
stress caused by inactivation of glutathione
Chance, B., Sies, H., & Boveris, A. (1979). Hydroperoxide peroxidase and adaptive responses. Journal of
metabolism in mammalian organs. Physiological Biological Chemistry, 384(4), 567-574. doi:10.1515/
Reviews, 59(3), 527-605. doi:10.1152/physrev. bc.2003.064.
1979.59. 3.527.
Mohebbi-Fani, M., Ansari-Lari, M., Nazifi, S., Abbasi,
Gille, J.J., & Joenje, H. (1992). Cell culture models for F., & Shabbooei, Z. (2016). Oxidative Status and
oxidative stress: superoxide and hydrogen peroxide Acute Phase Response in Post-transition Early- and
versus normobaric hyperoxia. Mutation Research, Mid-lactation Holstein Cows and Their Correlations
275(3-6), 405-414. with Some Performance Records. Istanbul
Üniversitesi Veteriner Fakültesi Dergisi, 42,
Hall, D.M., Buettner, G.R., Matthes, R.D., & Gisolfi, C.V. doi:10.16988/iuvfd. 2016.55237.
(1994). Hyperthermia stimulates nitric oxide
formation: electron paramagnetic resonance Moolchandani, A. (2018). A Review: Oxidative Stress
detection of NO-heme in blood. Journal of Applied during Lactation in Dairy Cattle. Journal of Dairy &
Physiology, 77(2), 548-553. Veterinary Sciences, 5, doi:10.19080/JDVS.2018.05.
555669.
Hu, H., Zhang, Y., Zheng, N., Cheng, J., & Wang, J.
(2016). The effect of heat stress on gene expression Peng, X., Lu, L., Li, Y., & Yan, P. (2011). Mammary Cell
and synthesis of heat-shock and milk proteins in Turnover under High Temperature during the Dry
bovine mammary epithelial cells. Animal Science Period in Dairy Cows. Asian-Australasian Journal
Journal, 87(1), 84-91. doi:10.1111/asj.123 75. of Animal Sciences, 24(4), 485-492. doi:10.5713/aj
as.2011.10297.
Kapusta, A., Kuczynska, B., & Puppel, K. (2018).
Relationship between the degree of antioxidant Putman, A.K., Brown, J.L., Gandy, J.C., Wisnieski, L.,
protection and the level of malondialdehyde in & Sordillo, L.M. (2018). Changes in biomarkers of
high-performance Polish Holstein-Friesian cows in nutrient metabolism, inflammation, and oxidative
peak of lactation. PLoS ONE, 13(3), e0193512. stress in dairy cows during the transition into the
doi:10.1371/journal.pone.0193512. early dry period. Journal of Dairy Science, 101(10),
9350-9359. doi:10.3168 /jds.2018-14591.
Kenyon, P.R., Maloney, S.K., & Blache, D. (2014).
Review of sheep body condition score in relation Sigl, T., Meyer, H., & Wiedemann, S. (2012). Gene
to production characteristics. New Zealand expression of six major milk proteins in primary
Journal of Agricultural Research, 57(1), 38-64. bovine mammary epithelial cells isolated from milk
doi:10.1080/00288233.2013. 857698. during the first twenty weeks of lactation. Czech
Journal of Animal Science, 57(10), 469-480.
Knight, C.H., Hillerton, J.E., Teverson, R.M., & Winter, A.
(1992). Biopsy of the bovine mammary gland. British Spitz, D.R., Li, G.C., McCormick, M.L., Sun, Y., & Oberley,
Veterinary Journal, 148(2), 129-132. doi:10.1016/000 L.W. (1988). Stable H2O2-resistant variants of
7-1935(92)90104-9. Chinese hamster fibroblasts demonstrate increases
in catalase activity. Radiation Research, 114(1),
McCord, J.M., & Fridovich, I. (1969). Superoxide 114-124.
dismutase. An enzymic function for erythrocuprein
(hemocuprein). Journal of Biological Chemistry,
244(22), 6049-6055.

Vol 40. No 3, May-June 2021 Comparison of malondialdehyde concentration and glutathione peroxidase 251

activity in plasma and mammary epithelial cells...

Strålin, P., & Marklund, S.L. (1994). Effects of oxidative Taylor-Papadimitriou, J., Shearer, M., & Tilly, R. (1977).
stress on expression of extracellular superoxide Some properties of cells cultured from early-lactation
dismutase, CuZn-superoxide dismutase and human milk. Journal of the National Cancer Institute,
Mn-superoxide dismutase in human dermal 58(6), 1563-1571.
fibroblasts. Biochemical Journal, 298 (Pt 2)(Pt 2),
347-352. doi:10.1042/bj2980347.

Tao, S., Bubolz, J.W., do Amaral, B.C., Thompson, I.M.,
Hayen, M.J., Johnson, S.E., & Dahl, G.E. (2011).
Effect of heat stress during the dry period on
mammary gland development. Journal of Dairy
Science, 94(12), 5976-5986. doi:10.3168/ jds.2011-
4329.

ความผนั แปรของไมโครแซทเทลไลท์ และไมโทคอนเดรียล ดเี อ็นเอ ในแพะ 3 สายพนั ธขุ์ อง
พน้ื ทีภ่ าคใต้ประเทศไทย
Microsatellite and mitochondrial DNA variation in three goat breeds of Southern Thailand

ศริ ิรัตน์ นอสงู เนิน1,2, ไชยวรรณ วัฒนจนั ทร2์ ,3, ปรัชญาพร เอกบุตร2,4*
Sirirat Norsungnoen1,2, Chaiyawan Wattanachant2,3, Pradchayaporn Akaboot2,4*

Received: 18 February 2021 ; Revised: 26 April 2021 ; Accepted: 19 May 2021

บทคดั ย่อ

วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อสำ�รวจเคร่ืองหมายดีเอ็นเอ สำ�หรับใช้ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมในแพะพื้นท่ีภาคใต้
ของประเทศไทยสามสายพันธ์ุ คือ แพะเนื้อลูกผสมทรัพย์-ม.อ.1 แพะพื้นเมืองภาคใต้ และแพะแองโกลนูเบียน เก็บตัวอย่าง
เลอื ดแพะทัง้ หมด 90 ตวั ผลการวเิ คราะหเ์ คร่อื งหมายไมโครแซทเทลไลท์ 15 ตำ�แหน่ง พบความหลากหลายทางพนั ธุกรรม 11
ต�ำ แหนง่ และผลการวเิ คราะห์ไมโทคอนเดรยี ล ดเี อ็นเอ จากการตดั ดว้ ยเอนไซมต์ ดั จำ�เพาะ 3 ชนิด คอื BmrI, ASeI และ FokI
พบการตดั ดว้ ยเอนไซมต์ ัดจำ�เพาะ BmrI แสดงแฮพโพลไทป์ 2 รปู แบบ และสำ�หรบั เอนไซม์ตัดจ�ำ เพาะ ASeI และ FokI แสดง
แฮพโพลไทปเ์ พียงรปู แบบเดยี ว
คำ�สำ�คัญ: ความหลากหลายทางพันธุกรรม ไมโครแซทเทลไลท์ ไมโทคอนเดรยี ล ดีเอ็นเอ

Abstract

The objective of the research was to investigate a DNA Marker used for study genetic diversity of goats in Southern
Thailand. Three breeds were studied ; crossbred meat goat Sup-PSU-1, Thai-native southern goat and Anglo-Nubian
goat A total of 90 goat blood samples were collected. The results revealed 11 of 15 microsatellite loci were polymorphic.
The result of mitochondrial DNA that was cut with 3 restriction enzymes ; BmrI, ASeI and FokI revealed that Bmrl
disclosed two haplotype patterns. However, ASeI and FokI showed only one haplotype pattern.
Keywords: Genetic diversity, Microsatellite markers, mitochondrial DNA

1 นกั วิชาการสัตวบาล, ศูนยว์ จิ ัยและพัฒนาสตั ว์เคีย้ วเอื้องขนาดเลก็ อำ�เภอคลองหอยโขง่ จังหวดั สงขลา 90230
2 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร สำ�นกั พฒั นาบณั ฑติ ศกึ ษาและวิจัยดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส�ำ นักงาน คณะกรรมการการอุดมศกึ ษา

กรุงเทพฯ 10900
3 ผู้ช่วยศาสตราจารย,์ สาขาวชิ านวตั กรรมการผลิตสตั ว์และการจดั การ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จังหวดั

สงขลา 90110
4 อาจารย,์ ส�ำ นกั วชิ าเทคโนโลยกี ารเกษตรและอตุ สาหกรรมอาหาร มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ อ�ำ เภอทา่ ศาลา จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80160
1 Animal Husbandry Technical Officer, Small Ruminant Research and Development Center Khlong Hoi Khong District, Songkhla 90230, Thailand.
2 Center of Excellence on Agricultural Biotechnology: (AG-BIO/PERDO-CHE), Bangkok 10900, Thailand.
3 Asst. Prof., Animal Production Innovation and Management Division, Faculty of Natural Resources, Prince of Songkla University,

Hat Yai Campus, Songkhla 90110, Thailand.
4 Lecturer, School of Agricultural Technology and Food Industry, Walailak University, Tha Sala District, Nakhon Si Thammarat 80160, Thailand.
* Corresponding author: [email protected]

Vol 40. No 3, May-June 2021 Microsatellite and mitochondrial DNA variation in three goat breeds 253

of Southern Thailand

บทนำ� มีความสำ�คัญเน่ืองจากสามารถนำ�ไปใช้ตรวจสอบเอกลักษณ์
ตรวจสอบความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม และสามารถนำ�ไป
เคร่ืองหมายไมโครแซทเทลไลท์ (microsatellite marker) ประยกุ ต์ในดา้ นต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงยังสามารถบง่ บอก
และไมโทคอนเดรียล ดีเอ็นเอ (mitochondrial DNA) เป็น ถงึ ศักยภาพของประชากรในการอยรู่ อดในอนาคตได้
เครื่องหมายดีเอ็นเอ (DNA marker) ที่ใช้บ่งช้ีความจำ�เพาะ อยา่ งไรกต็ าม รายงานการใชเ้ ครอ่ื งหมายไมโครแซท
ของสง่ิ มชี วี ติ สายพนั ธห์ุ นงึ่ สปชี สี ห์ นง่ึ หรอื ในระดบั ตา่ งสปชี สี ์ เทลไลท์ และไมโทคอนเดรยี ล ดีเอน็ เอ เพ่ือศกึ ษาความหลาก
(หทัยรัตน์ อุไรรงค์ และ ณัฐหทัย เอพาณิช, 2548) ซึ่งการ หลายทางพนั ธกุ รรมในแพะพนื้ ทภี่ าคใตข้ องประเทศไทย ยงั มี
ใช้ดีเอ็นเอเป็นเครื่องหมายเกิดเน่ืองจากความแปรปรวนของ ขอ้ มลู อยา่ งจ�ำ กดั ดงั นน้ั จงึ ควรมกี ารส�ำ รวจเครอ่ื งหมายไมโคร
นิวคลีโอไทด์ในโมเลกุลของดีเอ็นเอหรือเกิดโพลีมอร์ฟิซึม แซทเทลไลท์ และไมโทคอนเดรียล ดีเอ็นเอ ท่ีเหมาะสมกับ
(polymorphism) ของล�ำ ดบั เบสในโมเลกลุ ของดเี อน็ เอทท่ี �ำ ให้ การนำ�มาใช้ศึกษาหาความหลากหลายทางพันธุกรรมในแพะ
ส่ิงมีชีวิตมีความแตกต่างกัน (อลงกรณ์ ศรีพลแท่น, 2557) พ้ืนที่ภาคใต้ เนื่องจากผลของการศึกษาจะเป็นข้อมูลพื้นฐาน
ผลของความแตกต่างดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการศึกษาความ ในการเลอื กใชเ้ ครอื่ งหมายและต�ำ แหนง่ ทเ่ี หมาะสม ซงึ่ จะชว่ ย
แปรปรวนทางพนั ธกุ รรม (genetic variation) และความหลาก ลดการคลาดเคล่ือนของผลท่ีศึกษาได้ อีกท้ังเป็นการช่วยลด
หลายทางพนั ธุกรรม (genetic diversity) สำ�หรับน�ำ ขอ้ มูลไป ค่าใช้จ่ายในการศกึ ษา
ใชป้ ระโยชน์ในหลายดา้ น เช่น การคัดเลือกและปรบั ปรงุ สาย
พันธ์ุ การศกึ ษาจุดกำ�เนดิ และววิ ัฒนาการ การศึกษาหาความ วิธีดำ�เนินงานวิจัย
แตกตา่ งทางพนั ธกุ รรม และการจดั กลมุ่ ประชากรเปน็ ตน้ ทง้ั นี้
การใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายใน การเกบ็ ตัวอยา่ ง
การวิเคราะห์ความหลากหลายทางพันธุกรรม เนื่องจากใช้ เก็บตัวอย่างเลือดแพะ จำ�นวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่
ระยะเวลาที่สั้นและมคี วามถูกต้องแม่นย�ำ สูงกว่าวธิ ีการศกึ ษา แพะเน้ือลูกผสมทรัพย์-ม.อ.1 แพะพ้ืนเมืองภาคใต้ และแพะ
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา (พัชรี หม่ืนอินกูด และกิตติพัฒน์ พนั ธแุ์ องโกลนเู บยี น จ�ำ นวนพนั ธล์ุ ะ 30 ตวั (เลอื กใชแ้ พะจ�ำ นวน
อุโฆษกิจ, 2561) 30 ตัวต่อสายพันธ์ุ ตามคำ�แนะนำ�ของ ISAG/FAO (2011)
ปัจจุบันมีการศึกษาหาความหลากหลายทาง ด้วยการประมาณคา่ ความหลากหลายทางพันธุกรรม ความถ่ี
พนั ธกุ รรมจากเครอื่ งหมายไมโครแซทเทลไลท์ และไมโทคอน ของอลั ลลี ทเ่ี ชอ่ื ถอื ได้ ควรมาจากการสมุ่ ตวั อยา่ งจากสายพนั ธ์ุ
เดรยี ล ดเี อน็ เอ เพอื่ หาความหลากหลายทางพนั ธกุ รรมในแพะ ทม่ี ปี ระชากรไมต่ �ำ่ กวา่ 40 ตวั และสมุ่ ตวั อยา่ งอยา่ งนอ้ ย 25 ตวั
เชน่ Bolormaa et al. (2008) ใชไ้ มโครแซทเทลไลท์ จำ�นวน ตอ่ สายพนั ธ)์ุ จากศนู ยว์ จิ ยั และพฒั นาสตั วเ์ คย้ี วเออ้ื งขนาดเลก็
14 ตำ�แหน่ง ศึกษาหาความหลากหลายทางพันธุกรรมและ อำ�เภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา และศนู ย์วิจยั และพฒั นา
ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมในแพะ 5 สายพันธุ์ (Angora, แพะแกะ อ�ำ เภอรามัน จังหวัดยะลา
Cashmere, Bayandelger, Zavkhan buural and Gobi การเตรยี มตัวอยา่ งเลือด และการสกดั ดีเอน็ เอ
Gurvan Saikhan goat) Aljumaah et al. (2012) ศกึ ษาความ เก็บตัวอย่างเลือดแพะรายตัว โดยเจาะเลือดจาก
หลากหลายทางพันธุกรรมของแพะ (Ardi goat) ในประเทศ เสน้ เลอื ดด�ำ บรเิ วณคอ ปรมิ าตร 5 มลิ ลลิ ติ ร ใสใ่ นหลอดทม่ี สี าร
ซาอดุ อี าระเบีย ดว้ ยเครือ่ งหมายไมโครแซท-เทลไลท์ จำ�นวน EDTA (Ethylenediaminetetraacetic acid) ปรมิ าตร 1 มลิ ลลิ ติ ร
14 ตำ�แหนง่ El-Sayed et al. (2016) ศกึ ษาความหลากหลาย เพอ่ื ปอ้ งกนั การแขง็ ตวั ของเลอื ด จากนนั้ น�ำ ตวั อยา่ งเลอื ดแพะ
ทางพันธุกรรมระหว่างประชากรแพะพื้นเมืองสองกลุ่ม ไปแยกเมด็ เลือดขาว และล้างเลือด (whole blood) โดยการ
(Farafra and Siwa goat) นอกจากน้ี Seilsuth et al. (2016) ป่ันเหวย่ี งทคี่ วามเร็ว 3,000 รอบต่อนาที เป็นเวลา 15 นาที
มีการศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมแพะนมใน ดดู เกบ็ บฟั ฟโี คท (buffy coat) ปรมิ าตร 100 ไมโครลติ ร ใสห่ ลอด
ประเทศไทย จ�ำ นวน 5 สายพนั ธ์ุ ดว้ ยเครอ่ื งหมายไมโครแซท ไมโครเซนติฟิวก์ (microcentrifuge tube) เติมน้ำ� DI
เทลไลท์ 5 ต�ำ แหนง่ และพบมกี ารใชเ้ ครอ่ื งหมายไมโทคอนเดรยี ล (Deionized water) ปรมิ าตร 900 ไมโครลิตร แล้วปน่ั เหวี่ยง
ดีเอ็นเอ ในการศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมและ ดว้ ยความเรว็ 3,000 รอบตอ่ นาที เปน็ เวลา 5 นาที เทสว่ นใสทงิ้
แหล่งกำ�เนิดของแพะในสาธารณรัฐประชาชนจีน จ�ำ นวน 13 ทำ�ซ�ำ้ อีก 2 ครัง้ เก็บตะกอนเมด็ เลือดขาว
สายพนั ธ์ุ(Liu et al., 2007) รวมทง้ั Oka et al. (2011) มกี ารศกึ ษา จากนนั้ สกดั ดเี อน็ เอโดยประยกุ ตจ์ ากวธิ ขี องGoodwin
ความหลากหลายและความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมระหว่าง et al. (2007) อา้ งโดย (ปรชั ญาพร เอกบตุ ร, 2550) แลว้ วดั
แพะพนั ธแุ์ ท้ (Gembrong and Kacang goat) และแพะลกู ผสม ปริมาณดีเอ็นเอจากค่าการดูดกลืนแสง (optical density) ท่ี
(Kacang x Etawah) โดยใชเ้ ครอ่ื งหมายไมโทคอนเดรยี ล ดเี อน็ เอ ความยาวคล่ืน 260 นาโนเมตร และ 280 นาโนเมตร ด้วย
ทั้งน้ีการศึกษาหาความหลากหลายทางพันธุกรรมของแพะ เคร่ืองวัดค่าการดูดกลืนแสง ปรับค่าความเข้มข้นให้มีค่า 50

254 Sirirat Norsungnoen, Chaiyawan Wattanachant, Pradchayaporn Akaboot J Sci Technol MSU

นาโนกรัมต่อไมโครลิตร ตรวจสอบคุณภาพดีเอ็นเอด้วยวิธี โบรไมด์ (ethidium bromide) ตรวจสอบการปรากฏของแถบ
อเิ ลก็ โตรโฟรซี สิ (electrophoresis) บนวนุ้ อะกาโรส (agarose ดเี อน็ เอภายใตแ้ สงอลั ตรา้ ไวโอเลต 260 นาโนเมตร ดว้ ยเครอ่ื ง
gel) ทค่ี วามเข้มขน้ 1 เปอร์เซ็นต์ เกบ็ รักษาดเี อ็นเอทส่ี กัดได้ gel documentation อ่านผลโดยเทียบขนาดกับขนาดดเี อ็นเอ
ไว้ท่อี ณุ หภมู ิ -20 องซาเซลเซยี ส มาตรฐาน 100 DNA ladders
การเพ่ิมปริมาณดเี อน็ เอด้วยปฏิกิริยาพซี ีอาร์ การตรวจสอบรปู แบบแฮพโพลไทปข์ องไมโทคอน
เ พ่ิ ม ป ริ ม า ณ ดี เ อ็ น เ อ ด้ ว ย ป ฏิ กิ ริ ย า พี ซี อ า ร์ เดรยี ล ดเี อ็นเอ ดว้ ยเทคนคิ พีซีอาร์-อาร์เอฟแอลพี
(polymerase chain reaction: PCR) โดยใช้เครื่องหมาย น�ำ ขอ้ มูลลำ�ดบั เบสของไพรเมอร์ GQ1 (Accession
ไมโครแซทเทลไลท์ จำ�นวน 15 ตำ�แหน่ง และไมโทคอนเดรี No. NC0050442.2) จากฐานขอ้ มลู GenBank มาออกแบบ
ยล ดเี อน็ เอ จ�ำ นวน 2 ต�ำ แหนง่ (Table 1) ในปฏกิ ริ ิยาพซี ีอาร์มี เอนไซมต์ ดั จำ�เพาะดว้ ยโปรแกรม NEB cutter v2.0 ส�ำ หรบั
ปริมาตรรวม 10 ไมโครลิตร ประกอบด้วยดีเอ็นเอต้นแบบ การศึกษาในครั้งนี้เลือกใช้เอนไซม์ตัดจำ�เพาะ 3 ชนิด คือ
(DNA template) 1 ไมโครลิตร, ไพรเมอร์ 1 ไมโครลิตร BmrI, ASeI และ FokI ซง่ึ มีต�ำ แหนง่ ตัดและขนาด ดังแสดง
(forward 0.5 ไมโครลติ ร และ reverse 0.5 ไมโครลติ ร), dNTPs ใน Table 2 (ไพรเมอร์ CAP ไม่สามารถเพมิ่ ปริมาณดีเอน็ เอ
0.5 ไมโครลิตร, 10X PCR-buffer 2.5 ไมโครลิตร, Taq DNA ได้) ส่วนประกอบในปฏิกิริยาพีซีอาร์-อาร์เอฟแอลพี
polymerase 0.125 ไมโครลิตร และปรับปริมาตรสุดท้าย (restriction fragment length polymorphism: PCR-RFLP)
ดว้ ยน้�ำ DI 4.875 ไมโครลติ ร ใช้อณุ หภูมแิ ละเวลาในการท�ำ ปริมาตร 10 ไมโครลิตร มดี ังนี้ น�้ำ DI 6.5 ไมโครลติ ร, 10X
ปฏกิ รยิ าพซี อี าร์ ดงั นี้ initial activation 95oC 5 นาท,ี denature buffer 1 ไมโครลติ ร, restriction enzyme 0.5 U และผลผลิต
95oC 30 วนิ าท,ี annealing ทรี่ ะดบั อณุ หภมู ติ ามแตล่ ะไพรเมอร์ จากปฏิกิริยาพีซีอาร์ ปริมาตร 2 ไมโครลิตร นำ�ไปบ่มไว้ท่ี
(Table 1) 45 วนิ าท,ี extension 72oC 45 วินาที และ final อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 150, 120 และ 60
extension 72oC เปน็ เวลา 7 นาที นาที ตามลำ�ดับ จากน้ันวัดการปรากฏของแถบดีเอ็นเอด้วย
น�ำ ผลผลติ ของปฏกิ ริ ยิ าพซี อี าร์ ทไ่ี ดไ้ ปตรวจสอบดว้ ย 3 เปอรเ์ ซน็ ต์ อะกาโรสเจล ทีค่ วามตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ท่ี 50 โวลต์
อิเล็กโตรโฟรีซิสบนแผ่นวุ้นอะกาโรส ที่มีความเข้มข้น 3 เปน็ เวลา 90 นาที แลว้ นำ�เจลทไ่ี ดย้ อ้ มด้วยเอธเิ ดยี มโบรไมด์
เปอรเ์ ซน็ ต์ ละลายใน TBE buffer โดยใช้ความตา่ งศักยไ์ ฟฟา้ ภายใต้แสงอัลตร้าไวโอเลต และบันทึกภาพ
ที่ 50 โวลต์ เปน็ เวลา 90นาที ย้อมแถบดีเอ็นเอดว้ ยเอธเิ ดียม

Table 1 Primer, sequence, temperature and their expected sizes

Locus Name Primer sequence (5’3’) Annealing Temp. (๐C ) Allele Size (bp)

Microsatellite markers 55 158-1821
56 156-1784
SRCRSP5 F: GGACTCTACCAACTGAGCTACAAG 53 164-1721
R: TGAAATGAAGCTAAAGCAATGC 53 164-1862
62 266-2841
INRA063 F: GACCACAAAGGGATTTGCACAAGC 58 261-2892
R: AAACCACAGAAATGCTTGGAAG 52 141-1595
146-1606
INRABERN185 F: CAATCTTGCTCCCACTATGC 120-1903
R: CTCCTAAAACACTCCCACACTA 134-1684
149-1734
ETH225 F: GATCACCTTGCCACTATTTCCT 149-1816
R: ACATGACAGCCAGCTGCTACT 196-2152
196-2153
MAF70 F:CACGGAGTCACAAAGAGTCAGACC
R:GCAGGACTCTACGGGGCCTTTGC

OarFCB48 F:GAGTTAGTACAAGGATGACAAGAGGCAC
R:GACTCTAGAGGATCGCAAAGAACCAG

INRA023 F:GAGTAGAGCTACAAGATAAACTTC
R:TAACTACAGGGTGTTAGATGAACT

Vol 40. No 3, May-June 2021 Microsatellite and mitochondrial DNA variation in three goat breeds 255

of Southern Thailand

Table 1 Primer, sequence, temperature and their expected sizes (cont.)

Locus Name Primer sequence (5’3’) Annealing Temp. (๐C ) Allele Size (bp)
54 250-3003
ILSTS011 F:GCTTGCTACATGGAAAGTGC 51 256-2947
R:CTAAAATGCAGAGCCCTACC 51 174-1906
60 174-2187
ILSTS005 F:GGAAGCAATTGAAATCTATAGCC 58 142-1663
R:TGTTCTGTGAGTTTGTAAGC 52 154-1885
51 212-2245
TGLA53 F:GCTTTCAGAAATAGTTTGCATTCA 54 192-2166
R:ATCTTCACATGATATTACAGCAGA 134-1582
134-1583
ETH10 F:GTTCAGGACTGGCCCTGCTAACA 82-1241
R:CCTCCAGCCCACTTTCTCTTCTC 93-1123
135-1853
SPS113 F: CCTCCACACAGGCTTCTCGACTT 148-1704
R: CCTAACTTGCTTGAGTTATTGCCC 250-2701
253-2725
OarFCB20 F: GGAAAACCCCCATATATACCTATA
R: AAATGTGTTTAAGATTCCATACATGTG

ILSTS029 F: TGTTTTGATGGAACACAG
R: TTGATTTAGACCAGGGTTGG

BM1818 F: AGCTGGGAATATAACCAAAGG
R: AGTGCTTTCAAGGTCCATGC

Mitochondrial DNA marker

GQ1 F: TACAATCAATACACTGGTCTT 66 4708
R: ATTACGTTTATGCTGGATT 61 5509

CAP F: CGTGTATGCAAGTACATTAC
R: CTGATTAGTCATTAGTCCATC

1Bolormaa et al. (2008), 2ISAG/FAO (2011), 3Aljumaah et al. (2012), 4 El-Sayed et al. (2016), 5Seilsuth et al. (2016), 6Jayashree et al.(2019),
7Mahmoud et al. (2020), 8Liu et al. (2007), 9Oka et al. (2011)

Table 2 Restriction enzymes used for PCR-RFLP analysis by NEB cutter v2.0 program

Restriction enzyme Sites in sequence Cut position Fragment size

BmrI 1 cutter 173/172 172 and 298

ASeI 1 cutter 147/149 147 and 323

FokI 2 cutters 258/262 258 and 212
368/372 368 and 102

เกบ็ ข้อมลู และการวิเคราะห์ ท่ีไม่ปรากฏในแถวเดียวกันแทนด้วย 0 สำ�หรับเคร่ืองหมาย
การวิเคราะห์ข้อมูลนำ�ผลแถบดีเอ็นเอของ ไมโครแซทเทลไลท์นำ�มาวิเคราะห์หาความหลากหลายของ
เครื่องหมายไมโครแซทเทลไลทท์ ่ไี ดห้ ลงั จากปฏิกริ ยิ าพซี ีอาร์ ขนาดอลั ลลี จ�ำ นวนอลั ลลี และ คา่ polymorphism information
และผลแถบดีเอ็นเอของไมโทคอนเดรียล ดีเอ็นเอ ท่ีได้หลัง content (PIC) และเคร่ืองหมายไมโทคอนเดรียล ดีเอ็นเอ
จากท�ำ ปฏกิ ริ ยิ าพซี อี าร-์ อารเ์ อฟแอลพี แปลงใหอ้ ยใู่ นรปู ขอ้ มลู น�ำ มาวเิ คราะหห์ าความถแ่ี ฮพโพลไทป์ (haplotype frequency)
ตวั เลข โดยแถบดเี อน็ เอทปี่ รากฏแทนดว้ ย 1 และแถบดเี อน็ เอ

256 Sirirat Norsungnoen, Chaiyawan Wattanachant, Pradchayaporn Akaboot J Sci Technol MSU

ผลการศกึ ษาและวจิ ารณ์ พบอลั ลลี นอ้ ยที่สุด คือ 4 อลั ลีล ท้ังน้ีจากจาำ นวนอัลลลี ที่พบ
สามารถบ่งบอกได้ถึงประสิทธิภาพของเคร่ืองหมายไมโคร
ผลของเครื่องหมายไมโครแซทเทลไลท์ใน แซทเทลไลท์ คอื ความหลากหลายของเครือ่ งหมายดีเอน็ เอท่ี
ปฏิกิรยิ าพซี ีอาร์ ตำาแหน่งหน่ึงๆ อาจมีจำานวนอัลลีลที่แตกต่างกัน โดย
เคร่ืองหมายไมโครแซทเทลไลท์ ที่ให้จำานวนอัลลีล 4 อัลลีล
จากการทดสอบหาอุณหภูมิท่ีเหมาะสมต่อการเขา้ ขึ้นไป สามารถนำามาใช้ศึกษาแยกความแตกต่างได้ดีกว่า
จบั ของไพรเมอร์ พบวา่ สามารถเพม่ิ ปรมิ าณดเี อน็ เอได้ จาำ นวน 11 เครอื่ งหมายทีใ่ ห้จาำ นวนอลั ลีล 2 อลั ลลี
ตาำ แหนง่ จาก 15 ตาำ แหนง่ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 73.33 คือ ตำาแหนง่
SRCRSP5, MAF70, OarFCB48, INRA023, INRA063, นอกจากน้ีค่า PIC ซ่ึงแสดงถึงความเหมาะสมของ
ILSTS011, ILSTS005, TGLA53, ETH10, INRABERN185 และ เครื่องหมายท่ีใช้ในการศึกษาวิเคราะห์ความหลากหลาย
ETH225 สว่ น 4 ตาำ แหนง่ ทเ่ี หลอื พบไม่สามารถเพ่ิมปริมาณ ทางพันธุกรรมในคร้ังนี้พบในแพะเน้ือลูกผสมทรัพย์-ม.อ.1
ดีเอ็นเอได้ คือ BM1818 และเป็น monomorphic allele คือ (SUP) มีคา่ ระหว่าง 0.486-0.818 แพะพน้ื เมอื งภาคใต้ (TN)
SPS113, OarFCB20 และ ILSTS029 มคี า่ ระหวา่ ง 0.499-0.817 และแพะพันธแุ์ องโกลนูเบียน (AN)
มีค่าระหว่าง 0.187-0.759 ท้งั น้พี บคา่ PIC ของเคร่ืองหมาย
ความหลากหลายของขนาดและจำานวนอัลลีล ไมโครแซทเทลไลท์ท่ีศึกษาอยู่ในระดับปานกลาง (0.3-0.59)
ของเครอ่ื งหมายไมโครแซทเทลไลท์ และระดับสูง (>0.60) ยกเว้นท่ีตำาแหน่ง INRABERN185
เฉพาะในแพะพนั ธ์ุแองโกลนูเบียน ทีม่ คี ่า PIC อยูใ่ นระดับตำ่า
จากการวิเคราะห์พบเครื่องหมายไมโครแซท (<0.29) คือ 0.187 แต่อย่างไรก็ตามค่า PIC เฉลี่ยในแพะ
เทลไลทท์ ส่ี ามารถเพม่ิ ปรมิ าณดเี อน็ เอไดด้ ว้ ยปฏกิ ริ ยิ าพซี อี าร์ ทัง้ 3 กลมุ่ มคี า่ เทา่ กับ 0.657, 0.660 และ 0.604 ตามลำาดับ
จำานวน 11 ตำาแหน่ง พบขนาดของอัลลีลมีขนาดอยู่ระหว่าง ซงึ่ อยใู่ นระดบั สงู ชใ้ี หเ้ หน็ วา่ เครอื่ งหมายไมโครแซท -เทลไลท์
129-340 คู่เบส (Table 3) นอกจากนี้ขนาดอัลลีลท่ีพบใน มีประสิทธิภาพในการนำามาศึกษาความหลากหลายทาง
แพะท่ีศึกษาเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดอัลลีลอ้างอิง (Table พนั ธกุ รรมของแพะทง้ั สามสายพนั ธไุ์ ด้ เนอ่ื งจากวธิ หี าคา่ PIC
1) มีขนาดเร่ิมต้นเล็กกว่าและขนาดสุดท้ายที่ใหญ่กว่าอัลลีล ข้ึนอยู่กับจำานวนและความถ่ีของอัลลีลในเคร่ืองหมาย ดังน้ัน
อ้างอิงในทุกไพรเมอร์ แสดงให้เห็นว่าแพะท่ีศึกษามีความ ค่า PIC ที่สูงของเครื่องหมายบ่งบอกถึงประโยชน์สำาหรับ
หลากหลายในด้านของขนาดอลั ลลี สูง ทัง้ นี้จากการศกึ ษาพบ การศึกษาความหลากหลายทางพนั ธุกรรม
อลั ลีลรวมท้งั หมด 62 อัลลีล ซึ่งมจี ำานวนของอลั ลีลอยรู่ ะหวา่ ง
4-8 อลั ลีลตอ่ ตาำ แหนง่ (Table 3) โดยพบตาำ แหน่ง ILSTS011
เป็นตำาแหน่งที่พบอัลลีลมากที่สุด คือ 8 อัลลีล ตำาแหน่ง
SRCRSP5, TGLA53 และ INRABERN185 เปน็ ตำาแหน่งท่ี

Table 3 Genetic variability parameters of crossbred meat goat Sup-PSU-1, Thai native goat and Anglo-Nubian goat

Locus name Allele Size (bp) Observed number of polymorphism information content (PIC)
alleles
SUP TN AN

SRCRSP5 153-228 4 0.673 0.608 0.559

MAF70 129-199 7 0.818 0.810 0.759

OarFCB48 138-200 6 0.761 0.701 0.734

INRA023 179-263 6 0.778 0.688 0.733

INRA063 171-218 5 0.705 0.534 0.595

ILSTS011 260-340 8 0.759 0.817 0.693

ILSTS005 151-222 7 0.682 0.620 0.751

TGLA53 132-175 4 0.574 0.659 0.447

ETH10 202-253 6 0.486 0.607 0.627

INRABERN185 176-267 4 0.499 0.499 0.187

ETH225 130-221 5 0.497 0.719 0.561

Mean number of alleles 5.64 0.657 0.660 0.604
SUP-PSU 1: crossbred meat goat Sup-PSU-1, TN: Thai native goat, AG: Anglo Nubian goat

6 0.761 0.701 0.734 Ladder, Lane 1 - 5 patterns genotype GC Figu
6 0.778 0.688 0.733 and Lane 6 - 10 patterns genotype GG) เอนไ
5 0.705 0.534 0.595 ท่ีแต
8 ใVพนoซี lปีอ4ฏา0ริก.์ Nิรจoจผิยาำ นาาล300000กวพ,ข.....นกMีซ57464อา78859aอี2งรy69429เา-เไครJพพuร-์ ่ิอมรnื่อเeาปมงร2รหอเ์0ิมรอม2์าฟ1พา00000ณยแบ.....64686ชไอไ21905ม้ิพนล97790โรสพทเ่วีมคนออดรน์ีเGอเ็ดQนรเ1อีย00000สใลนา.....61764มปด42895าฏ13777ีเรMอิกถi็นิcเรพrิยเoอม่ิาsatellitขไFeนทiagาปnuด์dทre4m่มี 73iขีt0(o2(bนc2)phา)A,oดSnA3de24SrI3i7eaสb0lIpาDbสมแpNาาล,Aรมะ3ถาv2ต1aร34รrถibวa7ตtpจbioรพpแnวบดoลจinfรังะพูปSแthoสแบ1ruบด4eรte7งhบูปใebแgนแrpoฮnบFaพiดTบtgโhงbัuพแarแreiฮeลlสaeไพ3ndดทdsโงปพใ์ทนลีม่ 2ี 57 nucle
7 ทัง้ น
4 ต่อไป
6 ASeI
4
5 ปรมิ าณช้ินส0ว่ .น4ด9ีเ7อน็ ได้ ส่วน0ไพ.7ร1เม9อร์ CAP ไม0่สา.5ม6า1รถเพ่มิ
5.64 ปรมิ าณช้นิ ส0ว่ .น6ด5เี 7อน็ เอได้ ซง่ึ ผ0ล.6จา6ก0ปฏกิ รยิ าพซี อี 0า.ร6์ พ0บ4ขนาด
1, TN: Thai natแดivเพี อeะน็ ทgเอัง้oขสaอาt,มงไกAพลGรุ่มเ:มดAองัnรแ์gGสloดQง1NในมuขีbFนiiagาnuดrเegทoา่1aกtบั 470bp ในประชากร

ใน

เอใน ในปร
เมอร์ เท่าก
น ไ ด้ และ GC ทม่ี ขี นาด 470bp, 400bp, 298bp, 172bp และ FiguFrigeu3reP3CPRC-RR-FRLFPLPppaatttteerrnnss ooffmmitiotochcohnodnridarliDalNDANA in แตก
นส่วน 70bp ดงั แสดงใน Figure 2 ขTไFPนทiadgCาibgปuRดel์rees2pทtN8re44o่ีม0du(.d3bdTLg(ีbขub3)pHiaoihcyนag),Fdataane,าA1odtFipsL1gดSkneoalato0Ioeearknnabส2It,d.eItytdpา8iL(vpaสม2L0bแaLene-aาbาyลn4adnรมgpะ:efnAeถLr,oาTee8aตS11aMhร0qn1ร:tae8ถb:e,uว0iIPp1ตLe.จ-n8b0Canรaดพ-p909(tnวcRงัbบi::LvแแieจpeSeรSaสลpพsูปu5DnuดgrะpแบoNeopงo--บadใ8P-Aรf7นMPtuบ0Sูป,:mLScbUแLF:แaAtpaiฮUi-,dtgบ1nn1oพduL-ดegบ0c1egrโaังleh0roพ5แon,gแaob-4ฮลLe7oNtสnp)ไa:พadดuท2nADtโrbeง)ปni-พNaiใg์a1ท4นllลA:no:่มีDี NA ม.อ.
เอน็ เอ นูเบยี
470bp FFigiguurere11PPCCRRssizizeeooff447700bbpp ((LLaannee MM::110000bbppDDNNAAlaladdddere)r)
1 สาหรบั ผลปฏกิ รยิ าพซี อี าร์-อารเ์ อฟแอลพี ใน cross

กเกวชทอิเ่ไนีาาคนดรริดร้จไนวาาซคะิเากคหมือผปร์ห์สตลฏาBาำาดัผิกะคmหจิรหลวรrิยาาIิตับ์ห,าเมทผพพาAหลีซค่ีไาSลปีอดะวาeาฏก้าจI3ริกหมา์แรชลกหมลิยานปะาลยาติดฏาพทFัดกาิีซกoคดงหkีอิรพอื้วIาิลยนัยรสBาาธ์เ-ากยุอmพอมรานทีซrารรIไมรา,์เีอซถองAโาตพมฟดSรร์ยตแนั์eวกัอดธมจIาลจพุกรแาพำานรบตลเาีำรรพะผัดใมปู นลาดFแผกะโบo้วดลาkบติ3ยรยI Anglo-Nubian goat breeds
สแาฮมพาโพรถลไตทรปว์จ(hพaบplรoปูtyแpบe)บดแงั ฮนพ้ี โพลไทป์ (haplotype) ดงั น้ี
FigรคขF7แuูปiนือ0ลgreแาbuะGดrpบ2GeGLdบ4ดPC27iagทงัC0ค(dแeท(ี่ม1bRdอืsส1)ีขม่pีe-t)ด,นReขGีrB,4งdานFBmGใ0LดLานb0marPดIyb4ทnrFp7eIมส่p4ีBi,0ga7าสขีm1b2uมt0p9นาtrre-bา,8eIมา.rpรb25nดถ2,pา9s(4,pต8ร4Lo01abรa7ถ7fp0tวn0t2mตbeจebแbprพiรลpnpt,Moบะs,ว2แc:จ2จ91gลhีโ978eะoพ1น82bnn07ไbบpod0ทpp,trbจyปi1apแแpี์โ7lลeลด2นDD2ะะังbGNNไแรGp1ูCปสAAทC7แดแป2งลบท์bใะบนม่ี p2ี Restriction Haplotype SUP
and Lane 6 - 10 patterns genotype GG) enzyme G (470bp, 298bp and 172bp) (n

BmrI 0

(2) ASeI สามารถตรวจพบรูปแบบแฮพโพล FPidCgigRuFไFeriทisggpetNruปueo4r์rdudeedLbPทubiai4ca4gCy่ีมdtnPe,RFd(ีขsCLg3oe-tนaoRk)RernaI,า-d.FFeRtดL(LoaFL2banPkaL-y2n4dnIP8e:peFสL0pTaa1oMาbahtn:kttมpa:teeIeiP,1า.rrn801nCnรa-01(ssถ9RtbLi0:vooตpabSefpfรpnDumrgmวepoNoแiจ-tidaAoPtลMพoutcS,ะLchc:บULaohta8,-dรno11n0dูdLปn0eebrgaแdi0raop5n,rbบla-ieL7aดpDtบ)a:lN2ังnแADDแeAn-ฮNNสg1พ4AAl:ดo:โงพในล
ไทป์ ท่มี ขี นาด 470bp, 323bp และ 147bp ดงั แสดงใน Thai native goat, Lane 5 - 7: Anglo Nubian
Figure 3 ตัดจำาเพาอgะยo่าBaงtmไรarกIn็ตdแาลLมะaพnบFeขoน8kาI-ดใ9ดห:ีเ้ขอSน็นuาเpอด-หPดลSีเังอUต็น-ัดเ1อดวg้ทยo่ีแเaตอtน)กไตซ่ามง์
pจoาlกyอm้าoงrอpิhงอใiยsนm่างsTไaร(bSกlNe็ตPา2sม)พซตึ่บงำาอขแาหนจนาเป่งดใ็นดหเีมอs่ iน็ nทเg้ังอlนeหี้เพลnื่องัuตยcืนlัดeยดoันt้วiผdยลe
จเอึงอนาไจซตม้อ์ตงดัส่งจวาิเเคพราาะะหB์ใmนrลIำาแดลับะต่อFไoปkI แใหละ้ขทน้ังานดี้พดบเี อว่าน็ หเอลัง
ตทัด่ีแดต้วกยเตอ่านงไจซามก์ตอัด้าจำางเอพิงาใะนATSaeIbแleล2ะ Fซo่ึงkอI าพจบเแปฮ็นพโsพinลgไทleป์
คคคมเnใเตทแAพทน่าวว.uต่Sออัง้ียคาา่าcปกไ.นeมมงวกFlปeรIต้ีร1าเถแiนัoะพูปgแม่า่ีอตแใชtแงuถแล่iัลือกนdลพราบr่อีะลตยeปะะeกะลัีลบ่าืหทนFพรรลpเ4งเทะoวงดยแั้นืลีo้รdLTPชkา่น่าะีlยพเiaันhygดกมICาหง้ีวพdamผะeงัพกนักือวRdiแทบsงลoใร่ลาใบne-สtนภนทงวงrัReจุ้่มarpดแปกป,า่าdึงงัtFป้hง3ฮคiลรหLรvอLใiระbใ3ุ่มพsะaนeลาPตะกชชymnปโงัชกจ้gาลTาeพpรตsแกFาoลตกaุ่มะaลดกรัล1oaุ่มb้ชรอ(tะท:ktlไtรดแทSจาeง,แe้ังIทแPพกว้งึ.NสLพาr4พnไ3ปรCยะaใ่งPะ(มแs์ทหะnเRพวกsLพเอ่สเ้ังoe้มิล)เพนันaนะาpคfมุ่คีธn5้ือเ3ียมตrmไรนจแุ์e่oาลซงา-ึงาาอ้ือiกคdูกรtรไ7มMะงoลแuลวูมปถผ:โห์cตูกcุ่ม:กาหส่แแAสhtผ์ดัใมาล,ยบมoนn1นสทมจนLถกng0ทบ่มงำาาลาเูa่ีอdl0คบรใรเทoเใnาrหดbลัพถวพียัหiรeดNap้ลมแยีานัพายlมับuมย2ีลีควะไยDD์-่bดก่า์--NNi้ a4AAn:
FiguFirdgeiug2eresdPti2egCdPeRbsC-ytRReB-dFRmLFbrLPIy.P(pBLpaamatntttreeeI.rrMnns:s( 1Loo0aff0nmmbeiptiotMDochcN:ohAno1dLn0raid0adrlbdiDapelNr,DDANNAA
LanLaena1dd-5dLeparan,tpetLeaatr6tnensr-eng1se10gneo-pntayo5tpttyeeppraeGntsGCteGgarne)ndsnoLgtayenpneeo6tG-y1pG0e) GC

Figure 3 PC(R2-)RAFSLePIpสaาtมteาrnรsถตofรmวจitพocบhรoูปnแdบriaบlแDฮNพAโพล

258 Sirirat Norsungnoen, Chaiyawan Wattanachant, Pradchayaporn Akaboot J Sci Technol MSU

Table 4 Haplotype frequencies of mitochondrial DNA in crossbred meat goat Sup-PSU 1, Thai native and
Anglo-Nubian goat breeds

Restriction enzyme Haplotype SUP-PSU 1 Haplotype frequencies AG
(n=30) TN (n=30)

(n=30)

BmrI G (470bp, 298bp and 172bp) 0.70 1.00 0.73

C (470bp, 400bp and 70bp) 0.30 0.00 0.27

AseI A (470bp, 323bp and 147bp) 1.00 1.00 1.00

FokI B (280bp, 110bp and 80bp) 1.00 1.00 1.00

SUP-PSU 1: crossbred meat goat Sup-PSU-1, TN: Thai native goat, AG: Anglo Nubian goat

จาก Table 4 แสดงให้เห็นถึงค่าความถี่ของ และ GQ1 หลังจากทำ�ปฏกิ ริ ิยา PCR-RFLP จากการตดั ด้วย
แฮพโพลไทป์จากการตัดด้วยเอนไซม์ตัดจำ�เพาะ BmrI พบ เอนไซมต์ ดั จ�ำ เพาะ BmrI พบสามารถใหร้ ปู แบบแฮพโพลไทป์
แฮพโพลไทป์ G มคี ่าความถี่สงู กวา่ แฮพโพลไทป์ C ทัง้ นีอ้ าจ สองรปู แบบ ทส่ี ามารถนำ�ไปใชศ้ กึ ษาหาความหลากหลายทาง
เกิดจากการคัดเลือกบางลักษณะของแต่ละประชากรท่ีอาจ พันธุกรรมในแพะท้ังสามกลุ่มได้ สำ�หรับการตัดด้วยเอนไซม์
สง่ ผลกระทบตอ่ ความถอี่ ลั ลลี (หนง่ึ ฤทยั พรหมวาที และคณะ, ตัดจำ�เพาะ ASeI และ FokI พบปรากฏรูปแบบแฮพโพล
2554) และความถี่ของแฮพโพลไทป์ได้อย่างไรก็ตามการตัด ไทป์ เพียงรูปแบบเดียว หรือกล่าวได้ว่าเป็น monomorphic
ด้วยเอนไซม์ตัดจำ�เพาะ BmrI ช้ีให้เห็นว่าประชากรแพะท้ัง จึงไม่เหมาะสมที่จะนำ�มาใช้ศึกษาหาความหลากหลาย
3 กลุ่ม มีความหลากหลายทางพันธุกรรมซ่ึงเป็นประโยชน์ ทางพนั ธกุ รรมในแพะเนอื้ ลกู ผสมทรัพย์-ม.อ. 1 แพะพืน้ เมือง
อย่างมากหากมีการคัดเลือกประชากร และมีความแตกต่าง ภาคใต้ และแพะพันธแ์ุ องโกลนเู บียนได้
ทางพันธุกรรมท่ีสามารถนำ�ไปใช้ศึกษาเพื่อใช้เป็นข้อมูล
พน้ื ฐานส�ำ หรบั การจ�ำ แนกพนั ธไุ์ ด้ อยา่ งไรกต็ ามคา่ ความถข่ี อง กิตตกิ รรมประกาศ
แฮพโพลไทป์จากการตัดด้วยเอนไซม์ตัดจำ�เพาะ ASeI และ
FokI พบมีค่าความถ่ีเท่ากับ 1.00 ซึ่งเท่ากันในทุกประชากร งานวจิ ยั นไี้ ดร้ บั การสนบั สนนุ จากศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ
ท้ังนี้เป็นผลเนื่องมาจากการตรวจพบรูปแบบแฮพโพลไทป์ ดา้ นเทคโนโลยชี วี ภาพเกษตร สำ�นกั พัฒนาบัณทติ ศกึ ษาและ
เพียงรูปแบบเดยี ว แสดงให้เหน็ ว่าเอนไซมต์ ดั จำ�เพาะทเ่ี ลอื ก วจิ ยั ดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ส�ำ นกั งานคณะกรรมการ
ใช้ ไม่เหมาะสมแก่การนำ�มาศึกษาหาความหลากหลายทาง การอดุ มศกึ ษา กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และ
พนั ธกุ รรม นวตั กรรม และขอบคุณศนู ย์วจิ ยั และพฒั นาแพะแกะ จังหวัด
ยะลา และศนู ยว์ จิ ยั และพฒั นาสตั วเ์ คย้ี วเออ้ื งขนาดเลก็ อำ�เภอ
สรุป คลองหอยโขง่ จังหวัดสงขลา ที่สนับสนุนตัวอยา่ งเลือดแพะ

ผ ล จ า ก ก า ร สำ � ร ว จ เ ค ร่ื อ ง ห ม า ย ไ ม โ ค ร แ ซ ท เ ท ล ไ ล ท์ เอกสารอ้างอิง
พบเครอ่ื งหมายทตี่ �ำ แหนง่ SRCRSP5, MAF70, OarFCB48,
INRA023, INRA063, ILSTS011, ILSTS005, TGLA53, ปรัชญาพร เอกบุตร. (2550). การจําแนกสายพันธุ์และการ
ETH10, INRABERN185 และ ETH225 รวม 11 ต�ำ แหน่ง ตรวจหาเครื่องหมายดีเอ็นเอของไก่พื้นเมืองโดยใช้
เปน็ ต�ำ แหนง่ ทมี่ คี วามหลากหลายทางพนั ธกุ รรมสามารถน�ำ มา เครื่องหมายไมโครแซทเทลไลท์ [วิทยานิพนธ์
ศึกษาหาความหลากหลายทางพันธุกรรมในแพะเนื้อลูกผสม วิทยาศาสตร์มหาบณั ฑิต]. มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ .
ทรัพย์-ม.อ.1 แพะพ้ืนเมืองภาคใต้ และแพะพันธุ์แองโกล
นเู บียนได้ ยกเวน้ เครือ่ งหมายทตี่ �ำ แหน่ง BM1818, SPS113, พัชรี หมื่นอินกูด และ กิตติพัฒน์ อุโฆษกิจ. (2561). การ
OarFCB20 และ ILSTS029 ไม่เหมาะสมที่จะนำ�มาศึกษา พัฒนาเคร่ืองหมาย ILP จากยีนที่เก่ียวข้องกับลักษณะ
หาความหลากหลายทางพนั ธกุ รรมในประชากรแพะทงั้ 3 กลมุ่ ทางลำ�ต้นในอ้อย เพื่อศึกษาความหลากหลายทาง
สำ�หรับผลการสำ�รวจเครื่องหมายไมโทคอนเดรียล ดีเอ็นเอ พันธกุ รรมและโครงสรา้ งทางพันธุกรรมในออ้ ย. วารสาร
จ�ำ นวน 2 ต�ำ แหนง่ คอื GQ1 และ CAP พบตำ�แหน่ง CAP วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย,ี 26, 1162-1175.
ไมส่ ามารถเพม่ิ ปรมิ าณชนิ้ สว่ นดเี อน็ เอดว้ ยปฏกิ ริ ยิ า PCR ได้
หทัยรัตน์ อไุ รรงค์ และ ณัฐหทัย เอพาณิช. (2548). การวจิ ัย
ลายพิมพ์ดีเอ็นเอของพันธ์ุข้าวไทย. สำ�นักวิจัยพัฒนา
เทคโนโลยชี ีวภาพ กรมวิชาการเกษตร.

Vol 40. No 3, May-June 2021 Microsatellite and mitochondrial DNA variation in three goat breeds 259

of Southern Thailand

หนงึ่ ฤทยั พรหมวาท,ี มนตช์ ยั ดวงจนิ ดา, วฒุ ไิ กร บญุ คมุ้ และ Jayashree, R., Jayashankar, M. R., Nagaraja, C.S.,
บญั ญตั ิ เหลา่ ไพบูลย์. (2554). ความสมั พันธร์ ะหว่างจุด Shrikrishna, I., & Satyanarayana, K. (2019). Genetic
กลายพันธ์ุ (SNPs) ของยีน GHSR, IGFI, cGH และ characterization of local goats of Karnataka by
IGFBP2 ต่อการเจริญเติบโตในไก่พ้ืนเมืองไทย (ชีและ microsatellite marker analysis1.  Indian Journal of
ประดูห่ างดำ�). แกน่ เกษตร, 39, 261-270. Animal Research, 53(1), 19- 23.

อลงกรณ์ ศรีพลแท่น (2557). การประยุกต์ใช้เคร่ืองหมาย Liu, R.Y., Lei, C.Z., Liu, S.H., & Yang, G.S. (2007).
ไมโครแซทเทลไลท์ในการระบุสายพันธุ์องุ่นที่ใช้ทำ�ไวน์ Genetic diversity and origin of Chinese domestic
ในประเทศไทย [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต] goats revealed by complete mtDNA D-loop
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ .ี sequence variation. Asian-Australasian Journal of
Animal Sciences, 20(2), 178-183.
Aljumaah, R.S., Musthafa, M.M., Al-Shaikh, M.A., Badri,
O.M., & Hussein, M.F. (2012). Genetic diversity of Mahmoud, A.H., Farah, M.A., Rady, A., Alanazi, K.M.,
Ardi goat based on microsatellite analysis. African Mohammed, O., Amor, N., & Alarjani, K.M. (2020).
Journal of Biotechnology, 11(100), 16539-16545. Molecular characterization of goats from Saudi
Arabia using microsatellite markers. Journal of King
Bolormaa, S., Ruvinsky, A., Walkden-Brown, S., & Van Saud University-Science, 32(2), 1681-1686.
der Werf, J. (2008). Genetic relationships among
Australian and Mongolian fleece-bearing goats. Oka, I.G.L., Yupardhi, W.S., Mantra, I.B., Suyasa, N., &
Asian-Australasian Journal of Animal Sciences, Dewi, A.A.S. (2011). Genetic relationship between
21(11), 1535-1543. gembrong goat, kacang goat and kacang x etawah
crossbred (PE) based on their mitochondrial DNA.
El-Sayed, M., Al-Soudy, A., & El Badawy, A. (2016). Journal of Veterinary Medical Science, 12(3), 180-
Microsatellite markers Polymorphism between two 184.
Egyptian goat populations (Capra hircus). Egyptian
Journal of Genetics and Cytology, 45(1), 89-103. Seilsuth, S., Seo, J.H., Kong, H.S., & Jeon, G.J. (2016).
Microsatellite analysis of the genetic diversity and
IASG/FAO. (2011, February 1). Molecular genetic population structure in dairy goats in Thailand.
characterization of animal genetic resources. http:// Asian-Australasian journal of animal sciences,
www.fao.org/docrep/014 /i2413e/i2413e00.pdf 29(3), 327.

การท�ำ นายปจั จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การตดั สนิ ใจซอ้ื เสอ้ื ผา้ แฟชนั่ ผา่ นเฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรม
Prediction of factors influencing decision making to purchase fashion apparel via
Facebook and Instagram

เกรยี ง กจิ บ�ำ รงุ รตั น1์
Krieng Kitbumrungrat1

Received: 24 January 2021 ; Revised: 2 March 2021 ; Accepted: 29 March 2021

บทคดั ย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการทำ�นายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือเสื้อผ้าแฟช่ันผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในเขต
กรุงเทพมหานคร โดยพิจารณาการตัดสินใจซื้อเส้ือผ้าแฟช่ันผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณมี
รูปแบบการวิจัยเชิงสำ�รวจโดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม การ
เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยใชแ้ บบสอบถาม ซ่ึงมตี วั แปรอสิ ระทเ่ี ป็นปจั จัยส่วนประสมทางการตลาด 7Ps ซง่ึ ประกอบด้วย ปัจจัยดา้ น
ผลติ ภัณฑ์ ปจั จยั ด้านราคา ปัจจัยด้านชอ่ งทางการจดั จ�ำ หนา่ ย ปจั จยั ดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาด ปจั จยั ดา้ นบุคลากร ปัจจยั ดา้ น
การน�ำ เสนอลักษณะทางกายภาพ และปจั จยั ด้านกระบวนการ ส่วนตวั แปรตามคอื การตัดสินใจซือ้ เสือ้ ผ้าแฟช่นั ผา่ นเฟซบุ๊กและ
อินสตาแกรม ซ่ึงงานวิจัยนใี้ ชก้ ารวเิ คราะห์ข้อมูลพืน้ ฐานของกลุ่มตัวอยา่ งดว้ ย 1) สถติ ิพรรณนา ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ
คา่ เฉล่ยี และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และ 2) สถติ อิ นมุ าน ประกอบดว้ ย เทคนิคการวิเคราะหป์ ัจจยั (Factor Analysis) และการ
วิเคราะหก์ ารถดถอยเชงิ พหคุ ณู (Multiple Regression Analysis)
ผลการวจิ ยั การท�ำ นายปจั จยั ทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การตดั สนิ ใจซอ้ื เสอ้ื ผา้ แฟชน่ั ผา่ นเฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรมมที ง้ั หมด 3 ปจั จยั
โดยเรยี งล�ำ ดบั จากคา่ สมั ประสทิ ธขิ์ องสมการถดถอย (Beta Coefficient) จากมากไปนอ้ ย ไดแ้ ก่ ไดแ้ ก่ ปจั จยั ดา้ นผลติ ภณั ฑ์ ปจั จยั
ดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาดและความมีชอื่ เสียงของแบรนด์ และปัจจัยดา้ นการน�ำ เสนอข้อมลู สนิ ค้าและความสะดวกในการสงั่ ซ้ือ
และชำ�ระเงิน ตามล�ำ ดบั
ผลการศกึ ษาการท�ำ นายปจั จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การตดั สนิ ใจซอื้ เสอื้ ผา้ แฟชน่ั ผา่ นเฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรมในครง้ั น้ี จะเปน็
ประโยชน์ต่อผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องกับธุรกิจร้านค้าออนไลน์สินค้าแฟช่ัน ประเภทเสื้อผ้า ท้ังตัวผู้ประกอบการท่ัวไป บริษัทสินค้า
แฟชั่นประเภทเส้ือผ้าและบุคคลท่ัวไปท่ีมีความสนใจ สามารถนำ�ผลการวิจัยน้ีไปใช้เป็นข้อมูล เพ่ือประกอบการตัดสินใจ และ
วางแผน เพ่ือกำ�หนดกลยุทธ์ทางการตลาดเพ่ือการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันต่อคู่แข่งขันในการดำ�เนินธุรกิจ เพ่ือผล
การประกอบการทดี่ ีและมกี �ำ ไรไดอ้ ย่างยั่งยืนในระยะยาว
ค�ำ ส�ำ คัญ: เสือ้ ผา้ แฟชนั่ การซ้ือสนิ คา้ ออนไลน์ เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ ธรุ กิจพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์

Abstract

This research was conducted to predict factors affecting decision making to purchase fashion apparel via Facebook
and Instagram in Bangkok. This was quantitative research conducted in the form of a research survey. The sample
group consisted of consumers who purchased fashion apparel via Facebook and Instagram. Data were collected by
using questionnaires with independent variables as marketing mix factors, ‘7P’s,’ consisting of Product, Price, Place,
Promotion, People, Physical Evidence, and Process. Dependent variables were decision making to purchase fashion
apparel via Facebook and Instagram. This research used analysis of basic data of the sample group through:
1) descriptive statistics consisting of frequency, percentage, mean, and standard deviation ; and 2) inferential statistics
consisting of Factor Analysis and Multiple Regression Analysis.

1 คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยราชภัฎธนบรุ ี
1 Faculty of Science and Technology, Dhonburi Rajabhat University
* Corresponding Author, E-mail: [email protected]

Vol 40. No 3, May-June 2021 Prediction of factors influencing decision making to purchase fashion 261

apparel via Facebook and Instagram

The results revealed that there were 3 factors affecting decision making to purchase fashion apparel via
Facebook and Instagram which when ordered of descending order of Beta Coefficient were product, promotion and
brand’s reputation, production presentation, and convenience for ordering and payment.
The results obtained from studying the prediction of factors affecting decision making to purchase fashion
apparel via Facebook and Instagram will be beneficial for persons involved in the online fashion product business
including general entrepreneurs, fashion apparel companies, and general persons interested in utilizing results of this
research for making decision, planning, and establishing marketing strategies for gaining competitive advantages from
business operation in order to sustainably gain good performance and profits in a long term.

Keywords: Fashion clothes, Online shopping, Social network, E-commerce business

บทน�ำ ระบบการช�ำ ระเงนิ ทส่ี ะดวกหลากหลายชอ่ งทาง มรี ะบบความ
ปลอดภัยมากขึ้น ส่งผลให้ความนิยมการซื้อขายสินค้าและ
ประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการผ่านระบบ “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” (E-Commerce)
ซ่ึงโลกถูกเช่ือมโยงเข้าหากันด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและ อตั ราการเตบิ โตมากขึ้นอยา่ งรวดเรว็
การส่อื สาร พฒั นาการทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและชมุ ชนใน ธญั ญพสั ส์ เกตุประดษิ ฐ์ และ อทิ ธกิ ร ขาเดช (2554)
ประเทศไทย ถูกเชอื่ มโยงกบั โครงขา่ ยการส่อื สาร กระแสของ ทำ�การศึกษาปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้า
Internet of things ซ่ึงหมายถึงการเช่ือมโยงทุกส่ิงทุกอย่าง ทางอินเตอร์เน็ตของผู้หญิงในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่า
เขา้ สโู่ ลกอนิ เทอรเ์ นต็ ท�ำ ให้คนสามารถส่งั การ ควบคุมใชง้ าน ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ส่งผลต่อการตัดสินใจในด้านผลิตภัณฑ์
อปุ กรณต์ า่ งๆ ผา่ นทางเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ เชน่ การสง่ั เปดิ - ตรงกับความต้องการสอดคล้องกับเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการ
ปดิ อุปกรณ์เครื่องใชไ้ ฟฟา้ รถยนต์ โทรศัพทม์ อื ถอื เคร่อื งมอื ซ้ือเสื้อผ้าสตรีผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้หญิงวัยทำ�งาน
เครื่องใช้ต่างๆ เคร่ืองจักรในโรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึง ของ ปุญญนุช บุณยะสุนานนท์ (2557) ที่พบว่า ปัจจัยด้าน
การควบคุมอุปกรณ์เคร่ืองใช้ในชีวิตประจาวันต่างๆ ผ่าน ผลิตภัณฑ์ ส่งผลต่อการซ้ือเสื้อผ้าสตรีผ่านช่องทางออนไลน์
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ กำ�ลังเป็นท่ีสนใจของคนในสังคม ในดา้ นการออกแบบทส่ี วยงาม มคี วามโดดเดน่ และสรา้ งสรรค์
และแวดวงธุรกจิ ไม่เพียงแตใ่ นภาคเอกชนเทา่ นนั้ ในสว่ นของ รวมถึงการตัดเย็บอย่างประณีต และมีขนาดเสื้อผ้าให้เลือก
ภาครฐั เองกม็ คี วามตนื่ ตวั และใหค้ วามส�ำ คญั กบั เรอื่ งนเี้ ชน่ กนั หลากหลาย
โดยมีนโยบายท่ีจะผลักดันการพัฒนาประเทศไทยสู่เศรษฐกิจ พรรณิสา นิมมานโสภณ (2557) ทำ�การศึกษาใน
และสังคมที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Digital เรื่องปัจจัยท่ีส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเส้ือผ้าผู้หญิงจากร้าน
Economy) เพ่อื เป็นกลไกในการขับเคลอ่ื นการปฏิรปู ประเทศ คา้ ออนไลน์ผา่ นแอปพลเิ คชันอนิ สตาแกรม พบว่า การเลือกดู
เนื่องจากการเปล่ียนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลน้ันไม่เพียงแต่จะ ผลิตภัณฑ์ได้ตลอดเวลา และประหยัดเวลาในการเดินทาง
เอ้ือประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยัง มีความสะดวกรวดเร็วในการซื้อสินค้า ซึ่งเป็นปัจจัยด้าน
ส่งผลเชิงบวกตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ สาธารณปู โภค และวิถี สว่ นประสมทางการตลาดทีส่ ง่ ผลตอ่ การตดั สินใจซอ้ื มากทีส่ ดุ
ชีวิตของผู้คนในประเทศด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นแนวโน้มใหญ่ สอดคล้องกับงานวิจัยของ เจษฎาภรณ์ ศรศรเี กดิ (2555) ที่
ทจี่ ะเปล่ยี นแปลงไลฟส์ ไตลข์ องผู้บรโิ ภคไทยในยุคปจั จบุ ัน ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าผ่าน
จากแนวโน้มการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค โซเชียลมีเดีย พบว่า ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำ�หน่าย
ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาของเครือข่ายสังคม ท่ีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย คือ
ออนไลน์ ซ่ึงได้รับการพัฒนาเพ่ือตอบสนองไลฟ์สไตล์ของ มชี อ่ งการในการเลอื กซอื้ สนิ คา้ ทหี่ ลากหลาย และความสะดวก
คนในยุคปัจจุบัน จากยุคแรกท่ีเพียงใช้ในการส่ือสารระหว่าง ในการเดนิ ทางทัง้ น้ี รชั นี ไพศาลวงศด์ ี และ อทิ ธิกร ขาเดช
ตนเอง ปัจจุบันได้ประยุกต์สู่ภาคธุรกิจจึงเป็นช่องทางการ (2556) ทำ�การศึกษาในเร่ืองปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสิน
ตลาดของผปู้ ระกอบธรุ กจิ หลายราย รวมทงั้ ผปู้ ระกอบการราย ใจซ้ือสินค้าเส้ือผ้าสตรีทางอินเทอร์เน็ตของประชากรในเขต
ใหม่ท่ีเร่ิมเข้าสู่การธุรกิจร้านค้าออนไลน์ โดยใช้ช่องทางของ กรุงเทพมหานคร พบว่าปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด ใน
เครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์ เนือ่ งจากมีตน้ ทนุ การด�ำ เนนิ ธรุ กจิ ที่ ด้านการให้ส่วนลด การโฆษณาประชาสัมพนั ธใ์ ห้สินคา้ เปน็ ท่ี
ตำ่�และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว รจู้ ัก และการให้ของสมนาคุณ-ของแถม สง่ ผลตอ่ การตัดสนิ ใจ
ทุกท่ี ทุกเวลา รวมไปถงึ การพัฒนาระบบพน้ื ฐานที่เออื้ ตอ่ การ ซ้ือเสอ้ื ผ้าสตรีทางอินเทอรเ์ น็ต
ซ้ือขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตมากข้ึน อาทิ ระบบการขนส่ง

262 Krieng Kitbumrungrat J Sci Technol MSU

อย่างไรก็ดี จากการเติบโตของมูลค่าตลาด การศึกษาการวิจัยในคร้ังน้ีเป็นการศึกษาวิจัยเชิง
E-Commerce ในธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งน้ัน ส่วนหน่ึงมาจาก ส�ำ รวจ (Survey Research) การตดั สนิ ใจซอ้ื เสอื้ ผา้ แฟชนั่ จาก
การเติบโตของการค้าผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เนื่องจาก รา้ นคา้ ในเครอื ขา่ ยเฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรมของผบู้ รโิ ภคผา่ น
มีต้นทุนในการเร่ิมธุรกิจท่ีตำ่� ไม่มีค่าใช้จ่ายของการเช่า ทางชอ่ งทางออนไลนใ์ นเขตกรงุ เทพมหานคร โดยพจิ ารณาถงึ
พ้ืนที่ร้านค้า ค่าใช้จ่ายของการจ้างพนักงานขาย จึงทำ�ให้ ปัจจัยทีเ่ ป็นสว่ นประสมทางการตลาด 7 ดา้ น ท่ีมอี ิทธิพลต่อ
ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเข้าสู่ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ได้ง่าย การตัดสินใจซ้ือได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา
ส่งผลให้มีจำ�นวนร้านค้าออนไลน์เพิ่มมากข้ึนอย่างรวดเร็ว ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำ�หน่าย ปัจจัยด้านการส่งเสริม
ซึ่งก็ทำ�ให้ธุรกิจร้านค้าออนไลน์มีการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ การขาย ปจั จยั ดา้ นบคุ คล ปจั จยั ดา้ นการน�ำ เสนอลกั ษณะทาง
เช่นเดียวกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์จึงจำ�เป็น กายภาพและปัจจยั ดา้ นกระบวนการ รวมถึงศกึ ษาพฤตกิ รรม
ตอ้ งมกี ารวางแผนดา้ นกลยทุ ธก์ ารตลาด การศกึ ษาพฤตกิ รรม ของผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อเส้ือผ้าจากร้านค้าใน
ผู้บริโภค เพ่ือท่ีจะรักษาและขยายฐานลูกค้า และสร้างความ เครือขา่ ยเฟซบคุ๊ และอนิ สตาแกรม
สามารถในการแขง่ ขนั กบั ธรุ กจิ รา้ นคา้ ออนไลนท์ มี่ จี �ำ นวนมาก
ในปัจจุบนั ได้ 2. ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง
ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงมีความต้องการศึกษาปัจจัยท่ี ประชากรท่ีทำ�การศึกษาคือผู้บริโภคที่เคยมี
มีผลต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านเฟ ประสบการณ์การซ้ือและใช้เสื้อผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและอิน
ซบุ๊กและอินสตาแกรม เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ประกอบการ สตาแกรมในเขตกรุงเทพมหานคร เน่ืองจากไม่สามารถหา
ร้านค้าออนไลน์ ได้นำ�ผลที่ได้จากการวิจัยไปใช้ในวางแผน จ�ำ นวนประชากรทแี่ นน่ อนไดแ้ ละอยบู่ นสมมตุ ฐิ านวา่ ประชากร
กลยุทธ์ทางการตลาด พัฒนาและปรับปรุงการดำ�เนินงาน มีขนาดใหญ่ ผู้วิจัยจึงกำ�หนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตร
เพ่ือสามารถตอบสนองได้ตรงความต้องการของผู้บริโภคใน การคำ�นวณขนาดตัวอย่างเพื่อใช้ประมาณสัดส่วนประชากร
ยุคปัจจุบัน สามารถดำ�เนินธุรกิจร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมี ของ Cochran ท่ีระดับความเช่ือมัน่ 95% ที่ p = 0.50 ซึง่ เปน็
ประสทิ ธภิ าพ โดยก�ำ หนดขอบเขตในการศกึ ษาวจิ ยั เปน็ สนิ คา้ สัดส่วนความแปรปรวนสูงสุด (p x q = 0.25) เพื่อทำ�ให้ได้
แฟชัน่ ประเภทเสอ้ื ผา้ โดยอ้างองิ จากข้อมูลพฤติกรรมการซ้ือ ขนาดตัวอย่างมากท่ีสุด (Cochran, 1963, อ้างถึงในศรีเพ็ญ
สินคา้ ของผบู้ รโิ ภคในปี 2558 ของ ส�ำ นักงานพฒั นาธุรกรรม ทรพั ย์มนชัย, มนวกิ า ผดุงสิทธิ์, และนภดล รม่ โพธ์,ิ 2557)
ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (องคก์ ารมหาชน) ทพ่ี บว่า หมวดสินคา้ ท่ี โดยมรี ายดังน้ี n = Z2pq ไดข้ นาดกลุ่มตวั อยา่ ง จ�ำ นวน 409
ได้รับความนิยมในการส่ังซ้ือออนไลน์มากท่ีสุด ได้แก่ สินค้า ตวั อยา่ ง e2
แฟชน่ั อาทิ เสอ้ื ผา้ รองเทา้ กระเปา๋ เครอื่ งประดบั ซงึ่ มสี ดั สว่ น
รอ้ ยละ 42.6 จากจ�ำ นวนการซอื้ สนิ คา้ ออนไลนใ์ นปี 2558 3. ขอบเขตงานวิจยั
งานวิจัยน้ีจะศึกษาปัจจัยท่ีมีความสัมพันธ์ต่อการ
วัตถุประสงค์การวิจยั ตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟช่ันผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
โดยมุ่งศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด 7 ด้านได้แก่
1. เพ่ือศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อเสื้อผ้า ปัจจยั ด้านผลติ ภณั ฑ์ ปจั จยั ด้านราคา ปัจจยั ดา้ นชอ่ งทางการ
แฟชน่ั ผา่ นเฟซบกุ๊ และอินสตาแกรม จดั จำ�หน่าย ปัจจยั ด้านการสง่ เสรมิ การขาย ปัจจยั ดา้ นบคุ คล
2. เพ่ือศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลท่ีมีความสัมพันธ์กับ ปัจจัยด้านการนำ�เสนอลักษณะทางกายภาพและปัจจัย
การตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านร้านค้าในเครือข่ายเฟซบุ๊ค ด้านกระบวนการ รวมถึงศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค
และอินสตาแกรม ในการตัดสินใจเลือกซ้ือเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและ
3. เพ่ือศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างส่วนประสม อินสตาแกรม
ทางการตลาด การตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นจากร้านค้าใน
เครอื ขา่ ยเฟซบคุ๊ และอนิ สตาแกรม กรอบแนวคิดการวจิ ยั
จากการศึกษาแนวคิดและทฤษฎีต่างๆ รวมทั้งงาน
วิธดี �ำ เนนิ การวิจัย วิจัยที่เกี่ยวข้องข้างต้น ผู้วิจัยได้นำ�แนวคิด และทฤษฎีต่างๆ
ท่ีได้จากการทบทวนวรรณกรรมมากำ�หนดเป็นกรอบแนวคิด
1. ระเบียบวิธีวจิ ยั ของงานวิจัย เพอ่ื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการด�ำ เนินงานวจิ ัย เรื่อง
การทำ�นายปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือเสื้อผ้าแฟชั่น
ผ่านเฟซบ๊กุ และอินสตาแกรม ดงั น้ี

Vol 40. No 3, May-June 2021 Prediction of factors influencing decision making to purchase fashion 263

apparel via Facebook and Instagram

ตัวแปรอสิ ระ 4) ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด (Promotion)
คอื X4.1 มกี ารส่งเสริมการขายที่นา่ สนใจ เช่น การใหส้ ่วนลด
1) ปจั จัยสว่ นบคุ คล ตัวแปรตาม เงนิ สด เมื่อซ้ือตามกำ�หนดการใหข้ องสมนาคุณพิเศษสาหรับ
1. เพศ การตัดสนิ ใจซ้อื สินค้า สมาชิก,การบรกิ ารจดั ส่งสนิ คา้ ฟรี เปน็ ตน้ , X4.2 จัดกิจกรรม
2. อายุ เสอื้ ผา้ แฟช่ันผา่ นเฟชบ๊คุ ทางการตลาดอย่างสม�ำ่ เสมอ เช่น การออกบธู ตามงานต่างๆ
3. ระดบั การศึกษา ตวั แปรตาม และ X4.3 ใชด้ าราหรือบคุ คลมชี ่ือเสียง ในการโฆษณาสินคา้
4. อาชีพ และอนิ สตาแกรม ทางโซเชียลมเี ดีย
5. รายได้ 5) ปัจจัยด้านบุคลากร (People) คือ X5.1 มีการ
6. สถานภาพครอบครวั ให้ข้อมูลและให้คำ�แนะนำ�ลูกค้าอย่างเหมาะสม, X5.2 มีการ
2) ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาด ติดตามหลังการขายอย่างสม่ำ�เสมอ, X5.3 ผู้ขายมีความ
1. ดา้ นผลิตภณั ฑ์ น่าเชือ่ ถอื และ X5.4 ผขู้ ายมีมนษุ ยสัมพันธ์ และมมี ารยาทดี
2. ด้านราคา 6) ปัจจัยด้านการนำ�เสนอลักษณะทางกายภาพ
3. ด้านชอ่ งทางการจัดจำ�หนา่ ย (Physical Evidence and Presentation) คือ X6.1 มีการให้
4. ดา้ นการสง่ เสริมการตลาด ขอ้ มลู เกย่ี วกบั รายละเอยี ดของสนิ คา้ และราคาอยา่ งครบถว้ น,
5. ด้านบคุ คล X6.2 มีการแสดงตัวตนของผู้ขายที่ชัดเจนเช่น การที่ผู้ขาย
6. ด้านการน�ำ เสนอลกั ษณะทาง เป็นผู้ถ่ายแบบสินค้าด้วยตัวเอง, X6.3 มีการอัพเดทข้อมูล
กายภาพ สินค้าให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ, X6.4 มีการใช้รูปสินค้าจริงใน
7. ดา้ นกระบวนการ การน�ำ เสนอทกุ ครงั้ และ X6.5 มกี ารแสดงราคาสนิ คา้ ตอ่ หนว่ ย
อยา่ งชดั เจน
Figure 1 Conceptual framework of factors affecting 7) ปัจจยั ด้านลกั ษณะทางกายภาพ (Physical) คือ
decision making to purchase fashion apparel via X7.1 ส่งั ซ้ือสนิ ค้าไดส้ ะดวก, X7.2 ตอบค�ำ ถามรวด เรว็ , X7.3
ติดต่อกับผู้ขายสินค้าได้สะดวก, X7.4 ช่องทางการชำ�ระเงิน
Facebook and Instagram หลากหลาย เชน่ ช�ำ ระผ่านการโอนเงนิ ผา่ นบตั รเครดติ และ
X7.5 ชอ่ งทางการชำ�ระเงินปลอดภยั
4. ตัวแปรที่ใช้ในการวิจยั
ข้อมูลเพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่าน เฟซบุ๊ก 5. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
และอินสตาแกรม ซ่ึงมีตัวแปรตาม (Y) คือ การตัดสินใจซ้ือ การวิจัยครั้งน้ีเป็นการวิจัยเชิงสำ�รวจ (Survey
เส้ือผ้าแฟช่ันผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของผู้บริโภคใน Research) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้า
เขตกรุงเทพมหานคร ส่วนตัวแปรอิสระประกอบด้วย ปัจจัย แฟช่ันจากร้านค้าในเครือข่ายเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมผ่าน
สว่ นประสมทางการตลาด 7Ps) ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การตดั สนิ ใจซอื้ ทางช่องทางออนไลน์ โดยเป็นการเก็บข้อมูลปฐมภูมิ จาก
ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านช่อง การเก็บรวบรวมการตอบแบบสอบถามของผู้บริโภคท่ีเคยมี
ทางการจดั จ�ำ หนา่ ย ปจั จยั ดา้ นการสง่ เสรมิ การขาย ปจั จยั ดา้ น ประสบการณ์การซ้ือและการใช้เส้ือผ้าแฟชั่นจากร้านค้าใน
บคุ คล ปจั จยั ดา้ นการน�ำ เสนอลกั ษณะทางกายภาพและปจั จยั เครือข่ายเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมผ่านทางช่องทางออนไลน์
ดา้ นกระบวนการ::ซ่ึงสามารถแสดงคา่ แตล่ ะปัจจัยได้ดังน้ี โดยทำ�แบบสอบถามออนไลน์ ด้วยโปรแกรมแบบฟอร์ม
1) ปจั จยั ดา้ นผลติ ภณั ฑ์ (Product) คอื X1.1 มคี วาม ออนไลน์เป็นแบบสอบถามสำ�รวจความคิดเห็น (Google
หลากหลายของเส้ือผ้า, X1.2 เส้ือผ้ามีความทันสมัย, X1.3 Forms) กระจายแบบสอบถามท่ีมีการขายสินค้าเสื้อผ้าจาก
เส้ือผ้ามีเอกลักษณ์มีการออกแบบท่ีโดดเด่น, X1.4 เสื้อผ้ามี รา้ นคา้ ในเครอื ขา่ ยทางสงั คมออนไลน์ (Social Network) ตา่ งๆ
คุณภาพดี มีการตัดเย็บอย่างประณีต, X1.5 เส้ือผ้าตรงกับ เชน่ เฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรม
ความตอ้ งการ และ X1.6 แบรนดม์ ชี อื่ เสยี งและไดร้ บั ความนยิ ม
2) ปจั จัยดา้ นราคา (Price) คอื X2.1 ราคามีความ 6. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู
เหมาะสมกับคุณภาพ และ X2.2 ราคาสินค้าถูกกว่าแหล่ง การประมวลผลแบบสอบถามโดยวธิ กี ารทางสถติ จิ ะ
จ�ำ หน่ายอ่นื ทวั่ ไป ใช้โปรแกรมสำ�เร็จรปู ทางสถิติเพือ่ วิเคราะห์ข้อมูล ดงั น้ี
3) ปจั จยั ดา้ นการจดั จ�ำ หนา่ ย (Place) คอื X3.1 ความ 6.1 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา (Descriptive
สะดวกในการเขา้ ถงึ รา้ นคา้ ไดต้ ลอดเวลา, X3.2 สามารถคน้ หา Statistics) ใช้เพ่ืออธิบายข้อมูลท่ัวไปของกลุ่มตัวอย่าง โดย
ขอ้ มูลสินคา้ ไดร้ วดเร็ว และ X3.3 เวบ็ ไซตส์ ่วนตัวของรา้ นค้า จะทำ�การอธิบายและนำ�เสนอในรูปตารางแจกแจงความถ่ี
สามารถติดต่อได้สะดวก ค่าร้อยละ คา่ เฉลีย่ และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน

264 Krieng Kitbumrungrat J Sci Technol MSU

6.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอนุมาน (Inferential เดอื นตอ่ ครงั้ มากทส่ี ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 29.1 รองลงมาคอื เดอื น
Statistic) ละครงั้ และมากกวา่ 1 ครง้ั ตอ่ เดือน คิดเป็นร้อยละ 25.18 และ
6.2.1 การวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) 24.69 ตามล�ำ ดบั โดยสว่ นใหญผ่ บู้ รโิ ภคซอื้ เสอื้ ผา้ ตอ่ ครงั้ มคี า่ ใช้
เพื่อการจัดกลุ่มตัวแปรท่ีมีความสัมพันธ์กันไว้เป็นปัจจัยตัว จา่ ยเฉลย่ี ไมเ่ กนิ 1,000 บาท คดิ เปน็ รอ้ ยละ 54.5 และสว่ นใหญ่
เดยี วกนั โดยตวั แปรอาจมคี วามสมั พนั ธบ์ วกหรอื เชงิ ลบตอ่ กนั ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าด้วยตนเอง คิดเป็นร้อยละ
เพอื่ ใหส้ อ่ื ความหมายตวั แปรไดอ้ ยา่ งครอบคลมุ และลดจ�ำ นวน 87.04
ตัวแปร
6.2.2 การวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ Table 1 Descriptive statistics of mean and standard
(Multiple Linear Regression) เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ deviation
ระหว่างตัวแปรอิสระ ได้แก่ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด
กับตัวแปรตามคือ การตัดสินใจซื้อเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊ก Independent variable Mean S.D.
และอนิ สตาแกรมของกลมุ่ ตัวอย่าง ที่ระดบั นยั สำ�คัญทางสถติ ิ
0.05 โดยทดสอบวา่ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดตา่ งๆ มี Product factor 4.19 0.716
ความสัมพันธ์หรืออิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟช่ัน X1.1 4.35 0.647
ผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมหรอื ไม่ X1.2 4.12 0.783
X1.3 4.01 0.892
ผลการวจิ ยั X1.4 4.37 0.733
X1.5 3.48 0.995
1.ขอ้ มลู สว่ นบคุ คลและขอ้ มลู เกย่ี วกบั พฤตกิ รรม X1.6
การซอ้ื เสื้อผา้ แฟชน่ั ผ่านเฟซบ๊กุ และอินสตาแกรม
การเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยคร้ังนี้ ผู้วิจัย Price factor 4.29 0.742
เลือกแจกแบบสอบถามให้กับกลุ่มตัวอย่างท่ีอยู่อาศัยในเขต X2.1 3.47 0.959
กรุงเทพมหานคร ซงึ่ เปน็ ผู้ทเี่ คยซ้อื เสอ้ื ผา้ แฟชัน่ ผา่ นเฟซบ๊กุ X2.2 4.59 0.502
และอินสตาแกรมท้ังน้ีผู้วิจัยได้ดำ�เนินการเก็บข้อมูลและ 3 Place factor 4.08 0.580
สามารถรวบรวมไดจ้ �ำ นวน 409 ตัวอย่าง โดยมขี อ้ มลู ดังนี้ X3.1 3.14 0.962
ข้อมูลส่วนบุคคลกลุ่มตัวอย่างในเขตกรุงเทพ- X3.2
มหานครท่ีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือเสื้อผ้าแฟช่ันผ่าน X3.3
เฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรมของผบู้ รโิ ภคในเขตกรงุ เทพมหานคร
สว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญิง คดิ เปน็ ร้อยละ 87.8 เพศชาย รอ้ ยละ 4. Promotion factor 3.78 0.990
12.2 มอี ายุระหว่าง 22-30 ปี มากทสี่ ดุ คดิ เปน็ ร้อยละ 51.6 X4.1 3.20 1.127
และรองลงมามีอายุระหว่าง 31-40 ปี คิดเป็นร้อยละ 42.3 X4.2 2.99 1.234
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็น X4.3
รอ้ ยละ 66.7 โดยส่วนใหญป่ ระกอบอาชพี พนกั งานเอกชน คิด
เป็นรอ้ ยละ 69.9 และมรี ายได้ต่อเดือน 20,001-30,000 บาท 5. People factor 4.01 0.939
มากท่สี ุด คดิ เป็นร้อยละ 28.4 และมีสถานภาพโสดมากทสี่ ดุ X5.1 3.42 1.043
คดิ เปน็ ร้อยละ 79.5 X5.2 4.19 0.880
ข้อมูลพฤติกรรมการซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊ก X5.3 4.20 0.966
และอินสตาแกรมของผู้บริโภคในงานวิจัยน้ีประกอบด้วย X5.4 4.33 0.771
ช่องทางในการซ้ือ ความถ่ีในการซ้ือ ค่าใช้จ่ายเฉล่ียต่อครั้ง 6. Physical Evidence factor 4.09 0.910
ในการซ้ือ บุคคลท่ีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าร้านค้า X6.1 4.35 0.691
ในเครอื ขา่ ยเฟซบคุ๊ และอนิ สตาแกรม พบวา่ ผบู้ รโิ ภคซอื้ เสอื้ ผา้ X6.2 4.38 0.808
จากรา้ นคา้ ในเครอื ขา่ ยเฟซบคุ๊ และอนิ สตาแกรม ทางชอ่ งทาง X6.3 4.36 0.847
เฟซบุ๊คมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 52.81 รองลงมาเป็น X6.4
อนิ สตาแกรม รอ้ ยละ 42.54 และมคี วามถใ่ี นการซอ้ื เสอ้ื ผา้ 2-3 X6.5

7. Process factor 4.50 0.586
X7.1 4.21 0.801
X7.2 4.32 0.758
X7.3 4.28 0.719
X7.4 4.33 0.744
X7.5 4.39 0.689
Deciding to buy fashion clothing on
Facebook and Instagram

Vol 40. No 3, May-June 2021 Prediction of factors influencing decision making to purchase fashion 265

apparel via Facebook and Instagram

จาก Table 1 พบว่าตัวชี้วัดการตัดสินใจซื้อ โดยคิดเปน็ ค่าเฉล่ยี 4.38 รองลงมาคือ มีการแสดงราคาสินคา้
เสื้อผ้าแฟช่ันผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของผู้บริโภคใน ตอ่ หนว่ ยอยา่ งชดั เจน โดยคดิ เปน็ คา่ เฉลยี่ 4.36 และนอ้ ยทส่ี ดุ
เขตกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ปัจจัยที่ 1 คือ ปัจจัยทางด้าน คือ มีการแสดงตวั ตนของผูข้ ายทช่ี ัดเจน เช่น การทผี่ ู้ขายเป็น
ผลติ ภัณฑ์ พบว่าส่วนใหญ่มคี วามคดิ เห็นมากทสี่ ดุ ว่า เสือ้ ผ้า ผู้ถ่ายแบบสินค้าด้วยตัวเอง โดยคิดเป็นค่าเฉล่ีย 4.09 ตาม
ตรงกับความตอ้ งการ โดยคิดเปน็ คา่ เฉลย่ี 4.37 รองลงมาคอื ลำ�ดบั และปัจจัยท่ี 7 คือ ปจั จยั ดา้ นกระบวนการ พบวา่ สว่ น
เสอ้ื ผา้ มคี วามทนั สมยั โดยคดิ เปน็ คา่ เฉลย่ี 4.35 และนอ้ ยทส่ี ดุ ใหญม่ คี วามคดิ เหน็ มากทส่ี ดุ วา่ สง่ั ซอ้ื สนิ คา้ ไดส้ ะดวก โดยคดิ
คอื แบรนดม์ ชี อ่ื เสยี งและไดร้ บั ความนยิ ม โดยคดิ เปน็ คา่ เฉลย่ี เปน็ คา่ เฉลยี่ 4.50 รองลงมาคอื ชอ่ งทางการช�ำ ระเงนิ ปลอดภยั
3.48 ตามล�ำ ดบั สว่ นปจั จยั ท่ี 2 คอื ปจั จยั ทางดา้ นราคา พบวา่ โดยคดิ เปน็ คา่ เฉลย่ี 4.33 และนอ้ ยทส่ี ดุ คอื ตอบค�ำ ถามรวดเรว็
ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นมากที่สุดว่า ราคามีความเหมาะสม โดยคิดเปน็ คา่ เฉลยี่ 4.21 ตามล�ำ ดับ
กบั คณุ ภาพ โดยคิดเปน็ คา่ เฉลย่ี 4.29 และราคาสนิ คา้ ถูกกวา่ ข้อมูลท่ีได้จากแบบสอบถามซึ่งสามารถนำ�มาสรุป
แหล่งจำ�หน่ายอ่ืนท่ัวไปโดยคิดเป็นค่าเฉลี่ย 3.47 ตามลำ�ดับ เป็นค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของระดับความคิด
ส่วนปจั จัยที่ 3 คือ ปจั จยั ทางด้านช่องทางในการจดั จำ�หนา่ ย เห็นต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟช่ันผ่านเฟซบุ๊กและ
พบวา่ สว่ นใหญม่ คี วามคดิ เหน็ มากทสี่ ดุ วา่ ความสะดวกในการ อินสตาแกรมในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นตัวแปรตาม
เขา้ ถงึ รา้ นคา้ ไดต้ ลอดเวลา โดยคดิ เปน็ คา่ เฉลย่ี 4.59 รองลงมา พบว่ากลุ่มตัวอย่างท่ีกำ�ลังประเมินน้ีมีความพอใจเห็นด้วย
คือ สามารถค้นหาขอ้ มูลสนิ ค้าไดร้ วดเร็ว โดยคิดเปน็ ค่าเฉลีย่ มากท่ีสุด ซึ่งน่าจะตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและ
4.08 และน้อยที่สุดคือ เว็บไซต์ส่วนตัวของร้านค้าสามารถ อินสตาแกรมเป็นที่น่าพอใจท่ีจะซ้ืออย่างแน่นอนในคร้ังต่อไป
ติดต่อได้สะดวก โดยคิดเป็นค่าเฉล่ีย 3.14 ตามลำ�ดับ ส่วน โดยมีค่าเฉลี่ยของการตัดสินใจซื้อเท่ากับ 4.39 และส่วน
ปัจจัยที่ 4 คือ ปัจจัยทางด้านการส่งเสริมการตลาด พบว่า เบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.689
ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นมากท่ีสุดว่า มีการส่งเสริมการขายที่ 2. การวิเคราะหป์ จั จยั (Factor Analysis)
น่าสนใจเช่น การใหส้ ว่ นลดเงนิ สด เม่อื ซื้อตามก�ำ หนดการให้ การวเิ คราะหข์ อ้ มูลดว้ ยการวิเคราะห์ปัจจยั (Factor
ของสมนาคณุ พเิ ศษส�ำ หรบั สมาชกิ , การบรกิ ารจดั สง่ สนิ คา้ ฟรี Analysis) เพื่อคน้ หาปัจจัยสว่ นประสมทางการ ตลาดท้งั หมด
เปน็ ตน้ โดยคดิ เปน็ คา่ เฉลย่ี 3.78 รองลงมาคอื การจดั กจิ กรรม 7 ปัจจยั และท�ำ การวิเคราะห์สหสัมพนั ธ์ (Correlation) เพื่อ
ทางการตลาดอย่างสมำ่�เสมอเช่น การออกบูธตามงานต่างๆ พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระต่างๆ ท้ังส้ิน 28
โดยคิดเป็นคา่ เฉล่ยี 3.20 และน้อยท่สี ุดคือ ใชด้ าราหรือบุคคล ตวั แปรทร่ี ะดบั นยั ส�ำ คญั 0.05 ไดท้ �ำ การสกดั ปจั จยั (Extraction)
มีชื่อเสียง ในการโฆษณาสินค้าทางโซเชียลมีเดียโดยคิดเป็น แบบ Principal Component Analysis (PCA) และเพื่อให้
ค่าเฉลย่ี 2.99 ตามล�ำ ดบั สว่ นปัจจัยที่ 5 คอื ปัจจัยดา้ นบุคคล นำ้�หนักขององค์ประกอบในปัจจัยท่ีสกัดได้มีความชัดเจน
พบว่าส่วนใหญ่มีความคิดเห็นมากที่สุดว่า ผู้ขายมี มากขึ้น จึงใช้วิธีการหมุนแกนปัจจัยแบบ Varimax แล้วใช้
มนุษยสัมพันธ์ และมีมารยาทดี โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ย 4.20 เกณฑใ์ นการตดั สนิ จ�ำ นวนปจั จยั ทเี่ หมาะสมจากการพจิ ารณา
รองลงมาคอื ผขู้ ายมคี วามนา่ เชอ่ื ถอื โดยคดิ เปน็ คา่ เฉลยี่ 4.19 คา่ Eigenvalue ทม่ี ากกวา่ 1 และคา่ Factor Loading ของ
และน้อยท่ีสุดคือ มีการติดตามหลังการขายอย่างสม่ำ�เสมอ ตัวแปรในปัจจัยต้องไม่น้อยกว่า 0.5 ซึ่งตัวแปรแต่ละตัวต้อง
โดยคิดเป็นค่าเฉลีย่ 3.42 ตามลำ�ดบั ส่วนปัจจยั ท่ี 6 คอื ปัจจยั ไม่มีคา่ Factor Loading สูงใกล้เคียงกนั ในปจั จัย
ดา้ นการน�ำ เสนอลกั ษณะทางกายภาพ พบวา่ สว่ นใหญม่ คี วาม
คดิ เหน็ มากทส่ี ดุ วา่ มกี ารใชร้ ปู สนิ คา้ จรงิ ในการน�ำ เสนอทกุ ครงั้

Table 2 Factor Analysis and Total Variance Explained

Initial Eigenvalues Extraction Sum of Squared Rotation Sum of Squared
Loading Loading

Total % of Cumulative Total % of Cumulative Total % of Cumulative
Variance % Variance % Variance %

1 10.887 38.883 38.883 10.887 38.883 38.883 5.211 18.612 18.612

2 2.289 8.174 47.057 2.289 8.174 47.057 3.082 11.005 29.618

3 1.589 5.673 52.730 1.589 5.673 52.730 2.966 10.591 40.209

4 1.385 4.946 57.677 1.385 4.946 57.677 2.808 10.027 50.236

266 Krieng Kitbumrungrat J Sci Technol MSU

Table 2 Factor Analysis and Total Variance Explained (cont.)

Initial Eigenvalues Extraction Sum of Squared Rotation Sum of Squared
Loading Loading

Total % of Cumulative Total % of Cumulative Total % of Cumulative
Variance % Variance % Variance %

5 1.280 4.571 62.248 1.280 4.571 62.248 2.486 8.878 59.114

6 1.045 3.732 65.980 1.045 3.732 65.980 1.923 6.866 65.980

7 0.885 3.161 69.141

8 0.777 2.774 71.915

9 0.758 2.706 74.621

10 0.710 2.535 77.156

11 0.637 2.274 79.430

12 0.592 2.116 81.546

13 0.563 2.011 83.558

14 0.510 1.821 85.378

15 0.484 1.730 87.109

16 0.455 1.626 88.735

17 0.411 1.467 90.201

18 0.365 1.305 91.506

19 0.345 1.232 92.738

20 0.331 1.181 93.919

21 0.311 1.109 95.028

22 0.257 0.919 95.948

23 0.230 0.822 96.770

24 0.214 0.763 97.533

25 0.195 0.695 98.228

26 0.183 0.655 98.883

27 0.166 0.593 99.477

28 0.147 0.523 100.000
Extraction Method: Principal Component Analysis

จาก Table 2 แสดงค่า Eigenvalue ท่ีมีค่ามากกวา่ ทั้งหมดได้ถึงร้อยละ 65.98 และเมื่อประกอบกับค่าน้ำ�หนัก
1 และค่า Factor Loading ของตัวแปรในปัจจัยจะตอ้ งไม่นอ้ ย ขององค์ประกอบหลังหมุนแกนของปัจจัยหมุนแกน สามารถ
กว่า 0.5 พบวา่ ในการสกัดปจั จยั มคี า่ Eigen value มากกวา่ จัดกลุ่มปัจจัยได้เป็น 6 กลุ่มปัจจัย ซ่ึงจะได้กลุ่มปัจจัยใหม่ท่ี
1.00 ดงั นน้ั จงึ สามารถจดั เปน็ กลมุ่ ปจั จยั ใหมไ่ ดท้ งั้ หมด 6 กลมุ่ ได้จากการวิเคราะห์ปัจจยั ตาม Table 3
ปัจจัย ท่สี ามารถอธบิ ายความแปรปรวนของตัวแปรอสิ ระเดมิ

Vol 40. No 3, May-June 2021 Prediction of factors influencing decision making to purchase fashion 267

apparel via Facebook and Instagram

Table 3 Rotation Component Matrix

Factor 1 2 Component 56
34
0.339
X6.4 0.784 0.458

X6.1 0.775 0.812
0.740
X6.5 0.757 0.522
0.499
X6.3 0.708 0.472 0.343
0.313
X7.1 0.663 0.337

X7.5 0.590 0.377

X7.4 0.540 0.340

X7.2

X7.3 0.308

X5.4 0.337 0.498

X2.1 0.475 0.406

X2.2 0.314 0.302 0.363

X5.1 0.361 0.643

X5.2 0.620 0.321

X6.2 0.488 0.586

X5.3 0.480 0.502

X3.2 0.721 0.355

X3.1 0.651

X3.3 0.558 0.508

X1.4 0.324 0.467 0.556

X1.5 0.490 0.309 0.508

X4.3 0.822

X4.2 0.676

X1.6 0.349 0.568

X4.1 0.330 0.544

X1.2 0.793

X1.1 0.599

X1.3 0.459 0.398 0.517
Extraction Method: Principal Component Analysis
Rotation Method: Varimax with Kaiser Normalization

2.1 ปจั จยั ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหป์ จั จยั ที่ 1 เรยี ก ละเอียดของสินค้าและราคาอย่างครบถ้วน (X6.1), มีการ
วา่ ปัจจัยด้านการนำ�เสนอขอ้ มลู สินคา้ และความสะดวก แสดงราคาสนิ ค้าตอ่ หน่วยอย่างชัดเจน (X6.5), มีการอัพเดท
ในการส่ังซื้อและชำ�ระเงิน โดยที่ค่าสัมบูรณ์ของค่าน้ำ�หนัก ข้อมูลสินค้าให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ (X6.3), ส่ังซ้ือสินค้าได้
ในปัจจัยท่ี 1 เมื่อมีการหมุนแกนแบบมุมฉาก (Orthogonal สะดวก (X7.1), ช่องทางการชำ�ระเงินปลอดภัย (X7.5) และ
Rotation) ด้วยวิธีแวริแมกซ์ (Varimax Rotation) ท่ีมีค่า ชอ่ งทางการช�ำ ระเงินหลากหลาย เช่น ช�ำ ระผ่านการโอนเงิน
Eigenvalue คอื 10.887 ประกอบดว้ ย มกี ารใชร้ ปู สนิ ค้าจรงิ ผ่านบตั รเครดติ (X7.4)
ในการนำ�เสนอทุกคร้ัง (X6.4), มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับราย

268 Krieng Kitbumrungrat J Sci Technol MSU

2.2 ปัจจัยท่ีได้จากการวิเคราะห์ปัจจัยที่ 2. ชอ่ื เสยี งของแบรนด์ โดยทค่ี า่ สมั บรู ณข์ องคา่ น�ำ้ หนกั ในปจั จยั
เรยี กวา่ ปจั จยั ดา้ นการสอื่ สารกบั ผขู้ ายและความเหมาะสม ที่ 5 เม่อื มีการหมุนแกนแบบมมุ ฉาก (Orthogonal Rotation)
ของราคาสนิ คา้ โดยทคี่ า่ สมั บรู ณข์ องคา่ น�ำ้ หนกั ในปจั จยั ท่ี 2 ด้วยวิธีแวริแมกซ์ (Varimax Rotation) ที่มีค่า Eigenvalue
เมอื่ มกี ารหมนุ แกนแบบมุมฉาก (Orthogonal Rotation) ด้วย คอื 1.280 ประกอบด้วย มกี ารสง่ เสรมิ การขายทนี่ า่ สนใจ เช่น
วิธีแวริแมกซ์ (Varimax Rotation) ท่ีมีค่า Eigenvalue คือ การใหส้ ว่ นลดเงนิ สด เมอื่ ซอ้ื ตามก�ำ หนดการใหข้ องสมนาคณุ
2.289 ประกอบด้วย ตอบคำ�ถามรวดเร็ว (X7.2), ติดต่อกับ พิเศษสาหรับสมาชิก, การบริการจัดส่งสินค้าฟรี เป็นต้น
ผู้ขายสินค้าได้สะดวก (X7.3), ผู้ขายมีมนุษยสัมพันธ์ และมี (X4.1), การจดั กจิ กรรมทางการตลาดอยา่ งสม�ำ่ เสมอเชน่ การ
มารยาทดี (X5.4), ราคามคี วามเหมาะสมกบั คณุ ภาพ (X2.1) ออกบธู ตามงานตา่ งๆ (X4.2), ใชด้ าราหรอื บคุ คลมชี อ่ื เสยี ง ใน
และ ราคาสนิ คา้ ถกู กว่าแหล่งจาหน่ายอน่ื ทวั่ ไป (X2.2) การโฆษณาสนิ ค้าทางโซเชยี ลมีเดยี (X4.3) และแบรนด์มชี ่อื
2.3 ปัจจัยที่ได้จากการวิเคราะห์ปัจจัยที่ 3. เสยี งและได้รบั ความนิยม (X1.6)
เรียกว่า ปัจจัยด้านบุคคลและการเปิดเผยตัวตนของ 2.6 ปจั จยั ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหป์ จั จยั ท่ี 6 .เรยี ก
ผู้ขายโดยท่ีค่าสัมบูรณ์ของค่านำ้�หนักในปัจจัยที่ 3 เมื่อมี ว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ โดยที่ค่าสัมบูรณ์ของค่านำ้�หนัก
การหมุนแกนแบบมุมฉาก (Orthogonal Rotation) ด้วยวิธี ในปัจจัยท่ี 6 เม่ือมีการหมุนแกนแบบมุมฉาก (Orthogonal
แวริแมกซ์ (Varimax Rotation) ท่มี ีค่า Eigenvalue คอื 1.589 Rotation) ด้วยวิธีแวริแมกซ์ (Varimax Rotation) ที่มีค่า
ประกอบด้วย มีการให้ข้อมูลและให้คำ�แนะนำ�ลูกค้าอย่าง Eigenvalue คือ 1.045 ประกอบดว้ ย มีความหลากหลายของ
เหมาะสม (X5.1), มีการติดตามหลังการขายอย่างสมำ่�เสมอ เส้ือผ้า (X1.1), เส้ือผ้ามีความทันสมัย (X1.2) และเส้ือผ้ามี
(X5.2), ผู้ขายมคี วามน่าเช่อื ถือ (X5.3) และมีการแสดงตัวตน เอกลักษณม์ ีการออกแบบที่โดดเด่น (X1.3)
ของผู้ขายท่ีชดั เจนเช่น การท่ีผ้ขู ายเปน็ ผถู้ า่ ยแบบสนิ คา้ ดว้ ย
ตวั เอง (X6.2), 3. การวเิ คราะหส์ มการถดถอยพหคุ ณุ (Multiple
2.4 ปัจจัยท่ีได้จากการวิเคราะห์ปัจจัยที่ 4. Regression Analysis) เพอื่ ศกึ ษาปจั จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การ
เรียกวา่ ปจั จยั ดา้ นชอ่ งทางการจดั จ�ำ หน่ายและคุณ ภาพ ตัดสนิ ใจซือ้ เสือ้ ผา้ แฟชนั่ ผ่านเฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรม
สนิ ค้า โดยท่คี า่ สัมบรู ณข์ องคา่ น้�ำ หนกั ในปจั จัยท่ี 4 เม่ือมีการ ผู้วิจัยนำ� Factor Score ท่ีได้จากการวิเคราะห์
หมนุ แกนแบบมมุ ฉาก (Orthogonal Rotation) ดว้ ยวธิ แี วรแิ มกซ์ ปัจจัยท่ีมีผลต่อการตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและ
(Varimax Rotation) ทม่ี ีค่า Eigenvalue คอื 1.385 ประกอบ อินสตาแกรม ซึ่งสามารถนำ�มาวิเคราะห์หาสมการถดถอย
ด้วย เส้ือผ้ามีคุณภาพดี มีการตัดเย็บอย่างประณีต (X1.4), พหุคุณ (Multiple Regression Analysis) เพ่ือสร้างสมการ
เสื้อผ้าตรงกับความต้องการ (X1.5), ความสะดวกในการเข้า หาความสัมพันธ์ระหว่างการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟช่ันจาก
ถึงรา้ นคา้ ได้ตลอดเวลา (X3.1), สามารถคน้ หาขอ้ มูลสินค้าได้ ร้านค้าในเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมจำ�นวน 6 ปัจจัยท่ีได้จาก
รวดเรว็ (X3.2) และ เวบ็ ไซตส์ ว่ นตวั ของรา้ นคา้ สามารถตดิ ตอ่ การวิเคราะห์ปัจจัยซึ่งผลที่ได้รับจากการวิเคราะห์สมการ
ได้สะดวก (X3.3) ถดถอยพหุคุณ จะสามารถบอกได้ว่ามีปัจจัยใดที่มีอิทธิพล
2.5 ปัจจัยที่ได้จากการวิเคราะห์ปัจจัยท่ี 5. ต่อการตัดสินใจซ้ือเสื้อผ้าแฟช่ันจากร้านค้าในเครือข่าย
เรียกว่า ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดและความมี เฟซบคุ๊ และอนิ สตาแกรม อยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั ทางสถติ ทิ ่ี P < 0.05
แล้ว ได้ผลการวิเคราะห์ดังน้ี

Table 4 Linear regression analysis summary by Analysis of variance (ANOVA) ANOVAa

Model df SS MS F Sig.

Regression 6 45.998 7.666 20.816 0.000*

Residual 399 146.947 0.368

Total 405 192.946
Dependent Variable: Deciding to buy fashion clothing on social network facebook and Instagram
Predictors: (Constant), product, distribution channels and product quality, promotion and brand reputation, people and revealing the identity of the
seller, presentation, product ordering and payment convenience, communication with sellers and product price suitability
* p-value < 0.05

Vol 40. No 3, May-June 2021 Prediction of factors influencing decision making to purchase fashion 269

apparel via Facebook and Instagram

การวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงเส้นจาก Table 4 ปัจจัยท่ีมีผลต่อการตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและ
มสี มมตฐิ านดังน้ี อนิ สตาแกรม อย่างมีนยั สำ�คญั
ผลการทดสอบตาม Table 5 ที่ระดับนัยสำ�คัญท่ี
ไม่มีผลตH่อ0ก: าปรัจตจัดัยสทินี่ไใดจ้จซาื้กอกเสา้ือรวผิเ้าคแรฟาะชห่ัน์ปผัจ่าจนัยทเฟั้ง ซ6บุ๊ ปัจจัย 0.05 นน้ั ปรากฏวา่ มอี ยา่ งนอ้ ย 1 ปจั จยั ทไี่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์
อนิ สตาแกรม อยา่ งมนี ัยสำ�คัญ กและ ปัจจัยท่ีมีผลต่อการตัดสินใจซ้ือเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและ
อนิ สตาแกรม อยา่ งมนี ัยส�ำ คัญ
H1: มีอย่างน้อย 1 ปัจจัยที่ได้จากการวิเคราะห์

Table 5 Coefficients of Multiple regression analysis results Coefficientsa

Model Factors B S.E Beta t-test Sig.
5.216 0.000*
(Constant) 1.658 0.318 0.270 5.033 0.000*
-0.030 -0.489 0.625
product factor 0.337 0.067 -0.105 2.125 0.034*
-0.104 -1.414 0.158
distribution channels and product quality factors -0.039 0.081 0.317 4.518 0.000*
0.037 0.510 0.611
1 promotion and brand reputation factors 0.091 0.043

people and revealing the identity of the seller factors -0.092 0.065

presentation, product ordering and payment convenience factors 0.373 0.083

communication with sellers and product price suitability factors 0.038 0.075
a Dependent Variable: Deciding to buy fashion clothing on facebook and Instagram
* p-value < 0.05

จาก Table 5 พบว่ามีตัวแปรอิสระท่ีมีอิทธิพลต่อ มากท่สี ุด คิดเปน็ ร้อยละ 28.4 และมสี ถานภาพโสดมากท่ีสดุ
การตัดสินใจซ้ือเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม คดิ เปน็ ร้อยละ 79.5
อยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั 0.05 มที ง้ั สน้ิ 3 ปจั จยั ไดแ้ ก่ ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊ก
1) ปัจจัยดา้ นผลิตภัณฑ์ 2) ปัจจัยด้านการส่งเสรมิ การตลาด และอินสตาแกรมของผู้บริโภค ในงานวิจัยน้ีประกอบด้วย
และความมชี อ่ื เสยี งของแบรนด์ และ 3) ปจั จยั ดา้ นการน�ำ เสนอ ช่องทางในการซือ้ ความถ่ีในการซอ้ื คา่ ใชจ้ า่ ยเฉลย่ี ตอ่ ครัง้ ใน
ขอ้ มลู สนิ คา้ ความสะดวกในการส่ังซอ้ื และชำ�ระเงนิ การซื้อ บุคคลท่ีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเส้ือผ้าร้านค้าใน
ซง่ึ จะสามารถสรา้ งสมการตวั แบบถดถอยเชงิ พหคุ ณู เครือข่ายเฟซบุ๊คและอินสตาแกรม พบว่าผู้บริโภคซ้ือเส้ือผ้า
(Multiple Regression Analysis) อยา่ งมีนยั ส�ำ คัญทางสถิติที่ จากร้านค้าในเครือข่ายเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมทางช่องทาง
ระดบั 0.05 ได้ดังน้ี การตัดสินใจซือ้ เส้อื ผา้ แฟชัน่ ผ่านเฟซบุ๊ก เฟซบ๊คุ มากทีส่ ุด คดิ เป็นร้อยละ 52.81 รองลงมาเปน็ อินสตา
และอนิ สตาแกรม = 1.658 + 0.337 ดา้ นผลิตภณั ฑ์ + 0.091 แกรม รอ้ ยละ 42.54 และมคี วามถีใ่ นการซอ้ื เสื้อ ผ้า 2-3 เดอื น
ด้านการส่งเสริมการตลาดและความมีชื่อเสียงของแบรนด์ + ต่อคร้งั มากทส่ี ดุ คดิ เป็นร้อยละ 29.1 รอง ลงมาคอื เดอื นละ
0.373 ดา้ นการน�ำ เสนอขอ้ มลู สนิ คา้ ความสะดวกในการสงั่ ซอ้ื คร้ังและมากกวา่ 1 ครง้ั ตอ่ เดือน คิดเปน็ รอ้ ยละ 25.18 และ
และชำ�ระเงิน 24.69 ตามลาดับ โดยส่วนใหญ่ผู้บริโภคซื้อเสื้อผ้าต่อครั้ง มี
ค่าใชจ้ ่ายเฉลี่ยไม่เกิน 1,000 บาท คดิ เปน็ รอ้ ยละ 54.52 และ
สรุปผล ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะตัด สินใจซ้ือเสื้อผ้าด้วยตนเอง คิดเป็น
ร้อยละ 87.04
ข้อมูลลักษณะประชากรต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่าน ข้อมูลปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้า
เฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรมของผบู้ รโิ ภคในเขตกรงุ เทพมหานคร แฟช่ันผา่ นเฟซบุก๊ และอนิ สตาแกรมมีทง้ั หมด 3 ปัจจัย ได้แก่
ส่วนใหญเ่ ป็นเพศหญงิ คิดเป็นรอ้ ยละ 87.8 เพศชาย รอ้ ยละ 1) ปัจจัยด้านผลิตภณั ฑ์ 2) ปจั จยั ด้านการสง่ เสรมิ การตลาด
12.2 ซ่ึงมอี ายุระหว่าง 22-30 ปี มากทส่ี ุด คดิ เป็นรอ้ ยละ 51.8 และความมีช่ือเสียงของแบรนด์ และ 3) ปัจจัยด้านการนำ�
และรองลงมามีอายุระหว่าง 31-40 ปี คิดเป็นร้อยละ 42.3 เสนอข้อมลู สินค้า ความสะดวกในการส่งั ซื้อและช�ำ ระเงิน ซ่งึ
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็น จะสามารถสร้างสมการตัวแบบถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple
ร้อยละ 66.7 โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน Regression Analysis) อย่างมีนัยสำ�คัญทางสถิติท่ีระดับ
คดิ เปน็ รอ้ ยละ 69.9 และมรี ายไดต้ อ่ เดอื น 20,001-30,000 บาท

270 Krieng Kitbumrungrat J Sci Technol MSU

0.05 ได้ดังนี้ การตัดสินใจซ้ือเสื้อผ้าจากร้านค้าในเครือข่าย ชมพูนุท เกี่ยวก่ิงแก้ว และ วิโรจน์ เจษฎาลักษณ์. (2557).
เฟซบ๊คุ และอินสตาแกรม = 1.658 + 0.337 ดา้ นผลติ ภัณฑ์ ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความสำ�คัญกับความ
+ 0.091 ด้านการส่งเสรมิ การตลาด และความมีชอ่ื เสยี งของ เคลอ่ื นไหวแฟชน่ั และความพงึ พอใจในกลยทุ ธก์ ารตลาด
แบรนด์ + 0.373 ดา้ นการน�ำ เสนอขอ้ มลู สนิ ค้า ความสะดวก เสื้อผ้าแฟช่ันของผู้บริโภค. วารสารการจัดการ คณะ
ในการส่ังซื้อและช�ำ ระเงิน วิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎลำ�ปาง, 2(7),
จากผลการวิจัยทำ�ให้ทราบถึงการทำ�นายปัจจัย 90-105.
ที่มีผลต่อการตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านเฟซบุ๊กและ
อนิ สตาแกรม เพอื่ เปน็ ขอ้ มลู ใหผ้ ปู้ ระกอบการน�ำ ขอ้ มลู ผลการ ธัญญพัสส์ เกตปุ ระดษิ ฐ์ และ อทิ ธิกร ขาเดช. (2554). ปัจจยั
วจิ ยั ในครง้ั นไ้ี ปใชใ้ นการปรบั ปรงุ กลยทุ ธท์ างการตลาด เพอ่ื ให้ ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การตดั สนิ ใจซอื้ สนิ คา้ ทางอนิ เตอรเ์ นตของ
เกิดการแข่งขันในตลาดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองต่อ ผู้หญิงในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารการเงิน การ
ความต้อง การของผู้บริโภคใหไ้ ด้มากท่ีสดุ ทง้ั นผี้ ู้วจิ ยั ขอสรุป ลงทนุ การตลาด และการบริหารธุรกิจ, 1(2), 21-39.
ขอ้ เสนอแนะตอ่ ผปู้ ระกอบการตามปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ การตดั สนิ ใจ
ซอื้ เสอื้ ผา้ แฟชน่ั ผา่ นเฟซบกุ๊ และอนิ สตาแกรมดงั น้ี ในสว่ นของ ปุญญนุช บุณยะสุนานนท์. (2557). ปัจจัยที่มีผลต่อการซ้ือ
ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการควรให้ความสำ�คัญกับ เส้ือผ้าสตรีผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้หญิงวัยทำ�งาน
ผลิตภัณฑ์ในเรื่องการออกแบบ ความทันสมัย มีความหลาก [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัย
หลาย เพื่อให้ตอบสนองความต้องการได้ตรงความต้องการ ธรรมศาสตร.์
ผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ให้เหมาะสมตามการเปล่ียนแปลง
ตามรปู แบบแฟชน่ั ทม่ี กี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ โดยตอ้ ง พรนภสั โลกนิยม และคณะ. (2558). พฤติกรรมและปจั จัยท่ี
มกี ารศกึ ษา ตดิ ตามเทรนดอ์ ยเู่ สมอ ในสว่ นของปจั จยั ดา้ นการ สง่ ผลตอ่ การตดั สนิ ใจซอื้ เสอื้ ผา้ ตราสนิ คา้ ทอ่ี อกแบบโดย
ส่งเสริมการตลาดและความมีช่ือเสียงของแบรนด์ ผู้ประกอบ นักออกแบบชาวไทยของวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานคร.
การควรสร้างให้ผู้บริโภครู้จักผลิตภัณฑ์ รู้จักร้านค้าผ่านการ วารสารวทิ ยาลัยบณั ฑิตศกึ ษาการจดั การ มหาวิทยาลยั
ประชาสัมพันธ์ ตอกยำ้�อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงกิจกรรม ขอนแก่น, 8 (1), 39-62.
สง่ เสรมิ การตลาด ทจี่ ะช่วยกระตนุ้ และดึงดูดให้ผู้บริโภคสนใจ
ในผลิตภัณฑ์ และในส่วนของปัจจัยด้านการนำ�เสนอข้อมูล พนิตานันท์ อังคสกุลเกียรติ. (2556). ปัจจัยส่วนประสม
สินค้าและความสะดวกในการส่ังซื้อและชำ�ระเงิน เป็นปัจจัย ทางการตลาดที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าของ
ท่ีควรให้ความสำ�คัญ เนื่องจากการนำ�เสนอข้อมูลต่างๆ ทั้ง ผหู้ ญงิ จากรา้ นคา้ ในสงั คมออนไลนเ์ ฟซบคุ๊ . มหาวทิ ยาลยั
รูปสนิ ค้า ข้อมลู เกี่ยวกบั สินค้า ราคาขายท่ชี ดั เจน สรา้ งความ ธรรมศาสตร์.
สะดวกในการตัดสินใจซ้ือของผู้บริโภค รวมไปถึงการมีช่อง
ทางการชำ�ระที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือก พรรณิสา นิมมานโสภณ. (2557). ปจั จยั ท่ีสง่ ผลตอ่ การตัดสิน
ท่ีเหมาะสมและสะดวก ทำ�ให้ตัดสินใจซ้ือเส้ือผ้าแฟช่ันผ่าน ใจซอื้ เสอื้ ผา้ ผหู้ ญงิ จากรา้ นคา้ ออนไลนผ์ า่ นแอปพลเิ คชนั
เฟซบ๊กุ และอนิ สตาแกรมได้ง่ายข้ึน อินสตราแกรม มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร.์

เอกสารอ้างองิ พิรัชยช์ ญา คล่องก�ำ ไร และจุมพฎ บรริ าช (2562). ปัจจยั ทมี่ ี
ผลต่อการตัดสินใจซื้อเส้ือผ้าผ่านเฟซบุ๊กของกลุ่มเจเนอ
กลั ยา วานชิ ยบ์ ญั ชา. (2551). การวเิ คราะหข์ อ้ มลู หลายตวั แปร เรชั่นวายในกรุงเทพมหานคร. วารสารวิทยาลัยบัณฑิต
(พิมพ์คร้ังท่ี 3). ภาควิชาสถิติคณะพาณิชยศาสตร์และ ศึกษาการจดั การ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น, 12(1).
การบญั ชี จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
เยาวภา ปฐมศิริกุล และรัฐพล สันสน (2560). พฤติกรรม
เจษฎาภรณ์ ศรศรีเกิด. (2555). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการ การซื้อและโอกาสการตัดสินใจซื้อสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและ
ตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียของนักศึกษา รองเทา้ ของลกู คา้ ผสู้ งู อายใุ นประเทศไทย.วารสารสมาคม
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหา นักวจิ ัย, 22(1).
บณั ฑิต]. มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม.่
รชั นี ไพศาลวงศด์ ี และ อทิ ธกิ ร ขาเดช. (2556). ปจั จยั ทมี่ อี ทิ ธพิ ล
ตอ่ การตดั สนิ ใจซอ้ื สนิ คา้ เสอื้ ผา้ สตรที างอนิ เตอรเ์ นต็ ของ
ประชากรในเขตกรงุ เทพมหานคร. วารสารการเงิน การ
ลงทนุ การตลาดและการบรหิ ารธุรกจิ , 3(1), 529-546.

ลักษณารีย์ ย่ิงเกรียงไกร. (2557). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความ
ตั้งใจซ้ือสินค้าแฟชั่นผ่านทางอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภค
ในเขตกรงุ เทพมหานคร. วารสารวไลยอลงกรณป์ รทิ ศั น,์
4 (1), 1-12

Vol 40. No 3, May-June 2021 Prediction of factors influencing decision making to purchase fashion 271

apparel via Facebook and Instagram

อาราดา โรบินสัน และพีรภาว์ ทวีสุข (2562). ปัจจัยด้าน Irna, A. (2012). Understanding Relationship between
จิตวิทยาที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อกระเป๋า Personality Types, Marketing-mix Factors, and
แบรนด์เนมมือสอง ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก.วารสารการ Purchasing Decisions. Social and Behavioral
จดั การและการพฒั นามหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อบุ ลราชธาน,ี Sciences, 65, 352- 357.
6(2).
Fetscherin, M and Usunier, J.C. (2012). Corporate
Armstrong, G., & Kotler, P. (2003). Marketing and branding: an interdisciplinary literature review.
introduction (6th ed.). Pearson Education. European Journal of Marketing, 46 (2012), 733-753.

Schmitt, B. (2009). The concept of brand experience. Warayuanti, W. (2015). The Influence of Lifestyles
Journal of Brand Management, 16, 417-419. and Consumers Attitudes on Product Purchasing
Decision via Online Shopping in Indonesia.
Biedenbach, G & Marell, A. (2010). The impact of European Journal of Business and Management,
customer experience on brand equity in a business-to- 7(8), 74-80.
business services setting. Journal of Brand
Management, 17, 446-458.

Escalas, J.E. (2004). Narrative processing: Building
consumer connections to brands. Journal of
Consumer Psychology, 14, 168-180 .

ผลของรูปทรงเครื่องมือกวนเช่ือมต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจุลภาคและสมบัติทางกล
ของการเชอื่ มเสยี ดทานแบบกวนใต้น�ำ้ ของอลูมิเนียมผสม AA 5083
Effect of stir welding tool geometry on microstructure transformation and mechanical
properties of submerged friction of AA 5083 aluminum alloy

วิทยา ศริ คิ ณุ 1*, ยงยทุ ธ ดลุ ยกลุ 2, เดช เหมอื นขาว3
Witthaya Sririkun1*, Yongyuth Dunyakul2, Dech Maunkhaw3

Received: 8 February 2021 ; Revised: 29 May 2021 ; Accepted: 9 June 2021

บทคดั ย่อ

งานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษารูปแบบเครื่องมือกวน 3 แบบ ได้แก่ เครื่องมือกวนรูปทรงกระบอก เคร่ืองมือกวนรูปทรง
สามเหลี่ยมและเครื่องมือกวนรูปทรงสี่เหลี่ยมจากการเช่ือมเสียดทานแบบกวนใต้น้ำ� เกรด AA 5083 ของอลูมิเนียมผสมต่อ
สมบัตทิ างกลและโครงสร้างทางโลหะวทิ ยา โดยมีตัวแปรในการวจิ ยั น้ี คอื ความเรว็ หมนุ เชื่อม 1000 1400 และ 2000 รอบต่อ
นาที และความเรว็ เดนิ เชอื่ ม 80 112 และ 160 มลิ ลเิ มตรตอ่ นาที ตามลำ�ดบั ผลการทดลองพบวา่ เครอื่ งมอื กวนรปู ทรงกระบอกที่
ความเรว็ หมุนเชื่อม 2000 รอบต่อนาที และความเรว็ เดินเช่อื ม 112 มิลลเิ มตรตอ่ นาที ให้ค่าความต้านทานแรงดึงเฉลีย่ สูงสดุ คอื
101.23 MPa ประสิทธภิ าพรอยตอ่ 37.08 เปอร์เซน็ ต์ ในขณะท่เี ครอื่ งมือกวนรูปทรงสีเ่ หลี่ยมที่ความเรว็ หมุนเช่ือม 1400 รอบ
ตอ่ นาที และความเร็วเดินเชอ่ื ม 160 มลิ ลิเมตร มคี ่าเฉล่ยี คา่ ความต้านทานแรงดงึ ต�่ำ สุด คือ 76.54 MPa บริเวณรอยกวนมีคา่
คFนeวอ)ากมถจแาูกขกแง็นรเงน้ัฉทพลายี่บงกก4า4ลรแHเลกVะดิ 0ค.จ1วดุจาาบมกกรเพ้อคนรรอ่ือ่กงงรมบะทอืรเิกำ�วสวณ่งนผรรอลปู ยใทหเชรอ้ งอื่ นกมภุรขะาอบคงอเเลกคก็ รโลอ่ืคงงรแมงลอืสะกรเา้วปงนลจรย่ีลุ ปู นภทรารูปคงรทกา่ กี่รงะอ่เฟบตอสวั กเใปนเ็นรกปู สดิ ขารรออปงยสรแะาตกรกปอขบรนะกAาดอl3เบFลeก็Mดแgลา้ 2Sนะเiลฟแา่ สลงระAอAlย(lF6เ(ชeMอ่ื)Snม,i
ในทำ�นองเดยี วกนั เครอื่ งมอื กวนรปู ทรงสามเหลยี่ มและสเ่ี หลย่ี มเกิดรอยแตกดา้ นลา่ งรอยเช่ือม แต่มขี นาดทโี่ ตขน้ึ และเครอื่ งมอื
กวนรปู ทรงสามเหลย่ี มพบช่องวา่ งบรเิ วณทไี่ ด้รบั อิทธพิ ลทางความร้อนดา้ น retreating ในขณะท่ีเครื่องมอื กวนรปู ทรงสี่เหลี่ยม
พบแนวรอยลากกวนทไ่ี ม่ยึดตดิ กนั กลางรอยเชื่อม

คำ�สำ�คญั : การเชอ่ื มเสยี ดทานแบบกวนใตน้ �้ำ อลมู เิ นียมผสม เกรด AA 5083 รปู ทรงเครื่องมือกวนเชอ่ื ม โครงสร้างจลุ ภาค
สมบัตทิ างกล

Abstract
The objectives of this research were to study the effect of tool geometries ; a cylindrical tool pin, a triangular tool
pin, and a square tool pin on mechanical properties and metallurgical structures of AA 5083 aluminum alloy using
submerged friction stir welding. The parameters of this research were the rotation speed of 1000, 1400 and 2000
rpm and the welding speed of 80, 112 and 160 mm/min, respectively. The results showed that the cylindrical tool
pin at the rotation speed of 2000 rpm and welding speed of 112 mm/min provided the highest tensile strength at
101.23 MPa, and joint efficiency at 37.08 percent. While the rotation speed of 1400 rpm and the welding speed of 160
mm/min from the square tool pin had the average minimum tensile strength at 76.54 MPa. At the stirring zone, the
average hardness swuabsje4c4teHd Vto0.1mfroemchathneicaclylainnddricthael rtmooall pin. The microstructures, formed as Mangd2Spi haansdeAslh6(aMpnin,gFeto)
compounds, were forces, resulting in smaller particles

1 อาจารย์, คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวชิ ยั สงขลา จังหวัดสงขลา 90000
2 ผู้ชว่ ยศาสตราจารย,์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลศรวี ิชัยสงขลา จังหวดั สงขลา 90000
3 รองศาสตราจารย,์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวชิ ยั สงขลา จังหวัดสงขลา 90000
1 Lecture, Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Songkhla, 90000
2 Assist. Prof., Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Songkhla, 90000
3 Assoc. Prof., Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Songkhla, 90000
* Corresponding author ; [email protected]

Vol 40. No 3, May-June 2021 Effect of stir welding tool geometry on microstructure transformation and 273

mechanical properties of submerged friction of AA 5083 aluminum alloy

Aofl3tFhee compounds and Al(Fe)Si phases. In addition, for welding area of a cylindrical tool pin, small cracks in the bottom
weld were found. Likewise, in triangular and square tool pins, large cracks were found below the weld. It was
also shown that gaps were in in the triangular tool pin in the retreating heat-affected zone while non-stick lines were
found in the square tool pin in the middle of the weld.

Keywords: Submerged friction stir welding, AA 5083 aluminum alloy, Tool geometry, Microstructure, Mechanical
properties.

บทนำ� (Zhang, H & Liu, H., 2013) โดยรูปทรงเครอ่ื งมือกวนเชอื่ ม
ที่เหมาะสมสามารถสร้างความสัมพันธ์ของความร้อนท่ีดี
ชว่ งเวลา 10 ปที ผ่ี า่ นมา การเชอ่ื มเสยี ดทานแบบกวน (Friction ระหว่างผิวงานเชอื่ มกบั ผิวของเคร่ืองมอื กวนเชือ่ มได้ นาํ ไปสู่
Stir Welding: FSW) เปน็ นวตั กรรมการเชอ่ื มใหมท่ ถี่ กู น�ำ มาใช้ การยดึ ติดของช้ินงานหลงั การเชือ่ มทีด่ ี ในทางตรงกนั ขา้ มรูป
งานอยา่ งแพรห่ ลาย ซง่ึ วธิ กี ารเชอื่ มเสยี ดทานแบบกวนถกู คน้ ทรงเคร่ืองมือกวนเช่ือมที่ไม่เหมาะสมสำ�หรับการเช่ือมเสียด
พบทสี่ ถาบนั การเชอื่ มประเทศองั กฤษ (The Welding Institute ทานแบบกวนใต้น้ำ�จะส่งผลให้เกิดการเสียหายของเครื่องมือ
; UK) ในปี ค.ศ.1991(Ma et al., 2018) การเชอ่ื มเสียดทาน กวนเช่ือมด้วย ดังนั้นรูปทรงเครื่องมือกวนเชื่อมจึงมีความ
แบบกวนเป็นวิธีการเชื่อมในสถานะของแข็ง (Solid State นา่ สนใจและถกู ศกึ ษาวจิ ยั ในงานวจิ ยั นี้ ปจั จบุ นั อลมู เิ นยี มผสม
Welding) ทม่ี ีกลไกการยึดตดิ ของช้นิ งานดว้ ยการกวนให้เนอื้ เกรด AA 5083 ถกู ใช้งานในอุตสาหกรรมผลติ เรอื (Jebaraj
วสั ดเุ ชอื่ มประสานเขา้ ดว้ ยกนั และสรา้ งความรอ้ นในขณะเชอ่ื ม et al., 2020) เนื่องจากน้ำ�หนักเบา มีความสามารถทนการ
ดว้ ยการเสยี ดทานระหวา่ งผวิ วสั ดเุ ชอื่ ม กบั ผวิ ของบา่ เครอ่ื งมอื กัดกร่อนสูง (Ramesh & Kumar, 2020) ซึ่งประกอบกับ
กวนเชอ่ื ม ความรอ้ นในขณะเชอื่ มเปน็ ปจั จยั ทสี่ �ำ คญั เนอื่ งจาก อุตสาหกรรมการผลิตเรือมักจะใช้วิธีการเชื่อมเสียดทานแบบ
ส่งผลตอ่ การอ่อนตัวของเนอ้ื วสั ดุจนนาํ ไปสู่การยึดตดิ กันของ กวนในการเช่ือมประกอบข้ึนรูปช้ินส่วนเรือหรือวิธีการเชื่อม
ชน้ิ งานหลงั การเชอ่ื มทมี่ คี วามสมบรู ณท์ แี่ ตกตา่ งกนั (Luo et al., เสยี ดทานแบบกวนใตน้ ้ำ�ส�ำ หรบั การเชอ่ื มซอ่ มเรอื อยแู่ ลว้ การ
2016)โดยทว่ั ไปการเช่อื มเสยี ดทานแบบกวนเกดิ ความรอ้ นที่ เชอ่ื มเสยี ดทานแบบกวนใตน้ �้ำ เปน็ วธิ กี ารเชอ่ื มทยี่ าก เนอื่ งจาก
ช่วงอณุ หภูมิ 0.5-0.8 เทา่ ของจดุ หลอมเหลว (Kumar et al., เกิดความร้อนแบบไม่สมดุล Chander and Kumar (2019)
2019) อย่างไรก็ตามการเช่ือมเสียดทานแบบกวนมีความ ได้อธิบายว่าเครื่องมือกวนส่งผลต่อความต้านทานแรงดึงและ
จำ�เป็นต้องมีการเช่ือมในสภาวะช้ินงานกำ�ลังอยู่ในสภาวะใช้ โครงสร้างจุลภาค ดังน้ันการศึกษารูปทรงเคร่ืองมือกวนจึงมี
งานหรอื ชน้ิ งานเชอ่ื มอยใู่ นสภาวะใตน้ �ำ้ ซง่ึ เปน็ ความยากและ ความส�ำ คญั ในขณะที่ Tan et al. (2017b)อธบิ ายวา่ สารละลาย
ถือไดว้ า่ เป็นความท้าทาย เนอ่ื งจากกลไกการสร้างความร้อน ของแขง็ ทอี่ ยใู่ นเฟสยเู ทคตกิ จะตะกอนไดย้ าก เพราะอณุ หภมู ิ
ทำ�ได้ยาก เกิดการสูญเสียความร้อน จากการพาความร้อน ของน้ำ�และการเกิดออกไซด์ที่ผิวของอะลูมิเนียมจะนำ�ไปสู่
ของน�้ำ น�ำ ไปสกู่ ารเกดิ ขอ้ บกพรอ่ งบรเิ วณรอยเชอ่ื ม ของชนิ้ งาน ความซับซ้อนในการเชื่อม จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่ามี
จากการเช่ือมเสียดทานแบบกวน (Podržaj & Klobcar ความนา่ สนใจในการศกึ ษาวจิ ยั นี้
et al., 2015)ปจั จบุ นั จงึ มหี ลายงานวจิ ยั ไดศ้ กึ ษาปจั จยั ส�ำ หรบั ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงสนใจศึกษารูปทรงเคร่ืองมือกวน
การเช่อื มเสยี ดทานแบบกวนใตน้ ำ�้ (Eyvazian et al., 2020 ; เช่ือมและตัวแปรอ่ืนๆ ของการเช่ือมอลูมิเนียมผสม เกรด
Derazkola et al., 2020) ที่สง่ ผลต่อสมบัตทิ างกล สมบัติทาง AA 5083 ด้วยวิธีการเช่ือมเสียดทานแบบกวนใต้นำ้�ที่ส่งผล
ความร้อนและโครงสร้างจุลภาคอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงตัวแปรท่ี ต่อการเปล่ียนแปลงโครงสร้างจุลภาคของสารละลายของแข็ง
เหมาะสมส�ำ หรบั การเชอ่ื มเสยี ดทานแบบกวนใต้น้ำ�จะนำ�ไปสู่ เเฟป็นสเMฟสg2ยSูเiทกคบั ติกAเlก6(ิดMกnา,รFเปe)ลซ่ียนงึ่ เแฟปสลMงแgบ2Sบiไกมบั่ปกAตl6ิใ(นMสnภ, าFวeะ)
การการลดข้อผิดพลาดหลังการเช่ือม ปัจจัยท่ีสำ�คัญในการ Fกeาร)เชจะอ่ื สม่งใผตลน้ ต้ำ�่อสสามรบลัตะลิทาายงขกอลงขแอขงง็ชเิ้นฟงสานMหgล2Sังกi าแรลเะช่ือAมl6เ(สMียnด,
เชื่อมเสียดทานแบบกวนใต้นำ้� เช่น ความเร็วหมุนเชื่อม ทานแบบกวนใต้นำ้� ผลการทดลองที่ได้จะประเมินความ
(Rotation Speed) ความเรว็ เดนิ เชอ่ื ม (Travel Speed) ทศิ ทาง สัมพันธ์ของสมบัติทางกล โครงสร้างจุลภาคกับรูปทรงเครื่อง
การหมนุ เชอ่ื ม (Direction of Welding) แรงกด (Compressive มือกวนเช่ือมที่แตกต่างกัน ด้วยการวิเคราะห์ความต้านทาน
Force) หรือระยะกดลกึ (Depth of Plug) มุมเอียงเชื่อม (Title แรงดึง แรงดัดโคง้ ความแขง็ การตรวจสอบโครงสรา้ งมหภาค
Angle) และน�้ำ (Tan et al., 2017) เพราะตวั แปรเหลา่ นส้ี ง่ ผลตอ่ โครงสร้างจุลภาคและการกระจายตัวของสารละลายของแข็ง
การเกดิ ความรอ้ นในขณะเชอื่ ม อยา่ งไรกต็ ามรปู ทรงเครอ่ื งมอื
กวนเชื่อมก็มีความสำ�คัญสำ�หรับการเชื่อมเสียดทานแบบ
กวนใตน้ �ำ้ ซงึ่ เปน็ อกี ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลการกลไกการเกดิ ความรอ้ น

ผนื ผา้ ขนาด 75x150x6 มลิ ลเิ มตร ตามลาดบั C Mn Si

ยาวxสูง) โดยมีแมกนีเซยี มเป็นธาตุผสมหลกั H13 0.51 0.42 1.26
าตุอ่ืนๆ 2เ7ป4็ นธWาตitthุผayสaมSrรirอikuงn,ไYดon้แgyกut่ hแDมunงyกakาulน, Dีสech Maunkhaw Cr MJoSci Technol MVSU
ซิลิกอน สังกะสีและโครเมียม ตามลาดับ
5.50 1.52 1.00
าแT5สMeมrงอPO0eมsiเจnCa8ลnhหบลุ,ol&3hasฟsตภลัfFesiาlทMิAวeาmeeค)ทAา)(iilαcงปlรแ่ีอ0ea5ก4ว)รทM.ุCrณเใรวรตเก ก (มดผข(A5สl00.ลม-βαชชตะอ91อ่วนสา้ะlวีแาตัารJu68g2อ่ืือ่น้ก1งcรตน(-หรยม)มเ5มาuลกMดEถมม3-ป5�ำ้บทoอดผกอก6ลวัเpuไทภูแมnปุงรตลักคดสล3mียนำด�บtEเ7aละ,ส่ีpeมูแร1ว้อมลรเูิปEด้มแีัวเบเF5ะง่cดllดซาเ,ิpนมงอทสะอuกัxสเออeบoนผt็รlมนวิจiพียนิงoS1Aสcวงา)e้่มีลยดลmลยีnเะุล0ธิ5มศ5Bงทื่อแแสAรsูPมบตยงmมโ.มูทAชงมSเห0.gาว็เ9ีวทศ,มคี่ไiiคคhอ่ิาaเัตผ1ป5nเเิx้ิเtในรเดนกึริจงผ1iaaleนรซกมiดว2ฟ0รทิส6lร์กน็น3ouก้จงก.ษsียงัย8าลน-ิtีแศมnียล่0าสาาธะeตามสnาm6สiร3มาเลงเนมนนาTo)t1ะงนซเวัรเมชิลรรsก3ยะผดกปต์ร�ำถผรลูปยขีี้ว6สลอan่ื(าสลวกวรส้1เะaุลผเูWูกสสเิมงทเสจิมา)หดbมยหทอaมลมยี่0สlเกจเมทนMรบยlัยก(ตลหl้วออนตตAมnoบ.tุEสคeลงแ่ีอตัรรงัา่7วังเขลแรAรAหเdnnงyภก%ตรกงต่เอตHคเิทดีวย็3กปปAg1ลมอขตกศารก5อ่ิาเรามกลlิลักaนอ็วร)นด0าeตอ่ืคไงmง5ซรงาAใเ็ธกิบมปแ8rสrกงา่แป0หชโ,ิลกีนผ3ตลdเมาเลAงคeAล8Oื่อ้กเริขการซกะำ�รือรมปA3ncมขะ0สรรลอมดดอนังง&ก็จี็5นนเFกhละeสน.งัีธนบัอชขวดุม5ล3ขรM0อแMaรeาsเอ่ืแอน0หางูปอา้(1สตบสซ8inมงบทsกย8เlลงงgเทlดุอชักงดeเ33บiขจวเอฟี(ยสcกง2่ืนฟื่อราาr้ล้าุวβอมส-SใยีรaงะมๆมJงเสสภสนงยง่อเเดสสป-uxlหiแเชาคเงีน่ีีทแเยp็นTขเฟอลื่คกหวปลpอาื้าaง็ววมบราสลว,นะพ็นbัทสาMอมรS่ีxยยโแlธน้ืดดeอเี่ลิคเสg.ูมเบวาร,แณมุูุทรูงท21ณว็ตผบ2ซอSเ)เิ่ีใคหหม0นุผืนกลiช่ึงรโ1ภตมีกยยสีดฟอผวผ้ใ6ินบนุนัมมมยมกูยกหสPกแแกรวล้าา)ิวิ่เีตiบววธวัาnหมนนกกรีบ)กลก(ว บ แTกTยวเตร11TกาH1(อบaaั่วียวงา่ธิต2ูนrป122S่าbbขนมรนiบ0วS3ยีกaเมl00Tl0อรีเสงheใคทTneทน-tชา(่า4ตคง1e0มegrกoียM2ร่ือ52รเnม้อืน(งร.leใดคบ9neMsu 8ม่ทอSืันม–ำ้�0ไPงตiลริnเกัต(รalsทlPถคMeลงอ่ืดรqdtปูสามิลaด้geนเ่ีมi1รูiPSกงม32Cpกnrรueลทlอ้คา่ือ)atมาiเีกิtลิeอ5้r0a)rเา)hอรraนืhมอoeงต็ตอืlา1อมแs9)แงลงรneมpถกรrกกง9รกตกgาล0meeเืบอมิเเ่อืา)วียtูชแระกวrhมมรหกรนitะรม่ืบอขีบcPiงนตวeอบปูตมaเล(บซนนs้าขมiSคอทเlอใnใร่ีนเยคชนhกง่รึรoหานช)cอืกoทงข่อืfจ่ืออมื่ื้อหดoแEE(uสาตณางHCแมกlmะัวมl่ีเoลดมdนlห1yสกะาn2ร50มo(บ(peวสClอืกะ3%อ..gำ�Cลค9iวT55ูม0rปonnraขีหุณกา)า01ยี่คบ)นน(dttsวrรi%oมลgรมวทหนo9iมมeiหวใกaoับtาขีnเนraาiีลEภ(าlรหรัาo)ดิลชกnนมSเlักPtดeูมsnบดัชกงมาาgiลq้mหษ่ืitโอsoิเรnดeบัอ่ืรกuเกชlยeติเเณ)e่eอทanัมวชnม2มื่อ01aHราMMlาrรนtข..่ื0อะมบ45aenก่าPูป((noรตะทวท22rWมJสอdมdกท่Pาเวบuiี่แเี่รดเtูงnลิnชงสinร%คนeขตัmHn2ีนลอีง)ยgsหน4่อคื))กดเิสรsอทe0sดaมมกอ(แตัตงมวัาuว่(cอืทHงrตHกุกแาม่2าbีhลลกdาเ11RางรจมเงสR(เaS4เ..สVนCัห20eากคะมกnลมวCคดคin600)กtแCยีลำ�ันรวeงiรนลษือรyบนcดaย่ีาใูด)ป่sือaก่lึlอื้ันบนับมจเม3.ณi,lsnชทงทงขะd่มอืมะาไอรeนมทมืออืงงr่่ี
trength TabMlea1te ria(pCl1s%rho2ep)meritcieaMslgocfoAmAp5Eo(0HlsS7e8iitm03Vioea)nnlustm(aWiMnntudn%mm)aellocyhFaenicaแสคl ตอวกดาตลeแก1คมt2กึตต็่าลa0สขล่างl้อมอะ.มัมกแ(งงิลข2หบนัพล0นกวับ1ิเากมันบัมโ5ดวตด)ขีคงธนรทนวยา์ข4นี่าาซหน.มด�ำงึ่8อเโจวัวสมต5ะงกนิจลิขมกมลออวขียั ลิเิคงานนมหลวาตKรเิแวัาดมรมกเhตเตแวสทกaร่ลลนมั่าิnดะจกะพสคะนัแอคนัeวไทดมบธาtวคมุกข์แ่ aบาลยอเตคl้อางมก.มรวกงตื่อข(ีเการคา่2งรบันง้อรมเ0กงอื่กอืาาน1นังดิกดนม5คโวทวอืด)วน5ิจเ่ยีาเชยัทอมหหอื่มยรวั่Kีนมมอ้ลา่ิกรhงนาววลaาไทนมเnรเิะส่ีมสนตมอร
(MPa)
270-350

ครื่องมอื HA1A35083 4.15 0.13 0.73 0.31 ประเหมมินาะจสามกปอระัตเมรนิ าจสาก่วอนตั รคาสวว่ านมควโาตมขโตอของงบบ่าตต้อ้องมงามกกาวก่ากว่า
ขนาดขนหาวัดกหัววกนวไนมไม่นน่ ้อ้อยยกกววา่ ่า3 เ3ทา่ เทดังา่ แสดดงังแในสFดigงuใrนe 1Figure 1
Cu Al

หลก็ เคร่อื งมอื เกรด H13 ต0.0า25มมาตBรalฐ. าน DIN
5เ7ครเป่อื ็งนมเอืหกลว็กนกเSชลTt(erM้อ่าื enPคมnsagiาl)teซhรง่ึ์บมอสี นว่ Eสนloูงผngสใaมชtiท้oสnาา(งห%เ)รคับมกขี Hอาarรงdness (HV)
ม โมลบิ ดนิ มั ่ 2แ7ล0-ะ3ว50านาเดยี ม จงึ ท1น2ต่อการ สกึ 70 Figure 1 Characteristics of different welding tool pin.
คณมลหใอ้ นภงขกูมณบัสิ กงู ะาอนร เก ุณปาใว็ชนไนหปเเง้ หชภาสอ่ืลนูมม็ก่กู เเกขหหซิเาลชลลงึ่อร้าก็ม็ก่ใอืงคเสีชคเเามคว่ รคงร้ นอื่รส์บารงผือ่ อูงมน่อืสงนอืมมงทนสเทอืมกูง่อี อารHอืงดุณใกเ1ชกHค3จ้หส1มวำ�3าขีภนหตอกรูเมางชัมบนโสิคมก่อืัน้รางูามเตรไยมรผทดยีฐงั ลมาด้ม่มีิตนโเีีีDมปลI็นNบิ เIดSคนิOร่ือมั่ 4งแ9ม5ลือ7ะFipgi ผ unสr.มe(aเ1ก)รCCกกด(aาาhy)AรรalCเเAinชชrya่ืlอdื่อi5ncมม0edt8เeเreสส3r,,ียrียi((จดsbดbะ)ทtท)อiTcาอาrTนsiนกarแnแแioบgaบบlfบenบบdกgชaกnวiุดlfวedนfจนeำ�ใ(acตใrล)ตen้อนSน้nงำ้d�qชขำ้�tuิ้น(อawcงrงeา)eอนลlSdใูมหqiิเn้อนuยgียaู่ใมตrteo้ ol
านการต้านงวทาานนาทานเอ่ี ดณุกียหมาภรจมู กึงสิทดังู นไกดตด้่อรกี่อซางึ่นรสทอสดกึ ่ดี คหลีรดอ้องทงั ก่ีอแบั ุณกสหาดรภใงมูชใง้สิ นางู นนข�ำอไงปเคสรู่กอ่ื างรมใชกอื ้ ารนกเันำ�้ชนโื่อำ้�ดขยมึ้นผรเลูปสติ ดจีย้วากยดเอหะทลคก็ราิกลนิคล้าแไชรุดบส้ จนบำ�มิ ลกอเงกวชริ้นดนงSาในUตใSต้น้น3้ำ�0้าเ4ป็นแรลูปะผทนรงัง

การเช่ือมเสียดทานแบบกวนใต้น้ า ของ
อลูมเิ นียมผสม เกรด AA 5083 จะออกแบบชุดจาลอง

SUS 304 และผนงั กนั น้าขน้ึ รปู ดว้ ยอะครลิ คิ ชดุ จTาaลblอeง3 ParameอteลrsูมiเิnนียSuมbผmสeมrgeเdกรFดrictAioAn 5St0ir83 โดย
ชน้ิ งานใตน้ ้าเป็นรปู ทรงลกู บาศก์ สเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ Wขนeldาiดng with AA 5จ0ะ8เ3ช่อaื lมumตiาnมumปัจaจlloยั yในการเชอ่ื มทถ่ี ูกก
ใคมนลิวลาFเิมiมgกuตขลVูoกนrวรleบา4้าดา0แ2ศคง. ล์กNวสาoะ2ม่ีเ3ขห2ย,ลนาM0่ียวaามyม3ผ-ดJ5ืนuิลค0nผeลว้าม2าิิลเข0ลมม2นิ1เามสตดตงูครรว1าแขมล5กะน0วข้านามงาดดลิ2ค2คลว0Eเวาิmfมมมfeeาิสลccตhมูลงt aิoเรมn1ยfiตs5cดtาa0รirlงัวpwแreoRWlpสd3Toeienaดr5tPgtblaide0งalttesioinrooo3aglnf mgsSeSueobpPWpmtmeeeaeeeerretlrrdagdydimenodgแTเenบftwrปameici้rือibttรchsiorl1งลoneAis80nตะAo1tr00f3u้น5S0Ac30tuAuซ8brแร35em่ึ0งะลta8reดalต3u้วrLngm1บัasัวe1นelf4iuovn21dแ0mrาue2m0miปFnมlaurtiaimารoclnltกoทaioayllาnon่ีใ2dy1หช0S630น้tใ0i0r2นด75กตาัวรแทปดรใ
มิลลิเมตร ดังแสดงใน Figure 2 Tool gePaorammeetterry Cylinder TLreivaenl gle Square

Figure 2 Submerged friction stir welding process Rotation Speed Table101003 Par1a420m0 eter2s0300in Submerg
การทWดeสldinอgบSpแeedรงWดึงeldi8n0g with11A2A 5081630 aluminum a
Tทooาlกgeาoรmทetrดy สอบหCาyคlin่าdeคrวามตTri้าanนglทe านแSรqงuaดreงึ ของ
สาหรบั ขนั้ ตอนการเช่อื มเสยี ดทานแบบกวนใต้ Le
น้าเรม่ิ จากการจบั ยดึ ชน้ิ งานเชอ่ื มใหแ้ น่น แลว้ เตมิ น้าท่ี มชชน้้ิาินช ตงง้ินารางนฐนาาถนผนผกู ่าา่ ททกนนAาำ�ดกSกรกาสทTาารอดเรMรชบทสเือ่ ชอดดEม่บอืสว้8ไRอแยมMดบรเ้เoตงคไห(tPดรดAรaายีงึ ่อืคa้Sเมtต่iงาrชToทคa้นิรMnวดียงmาาสมSIนมneอทชตpttบe้ดา้นิeerนสแnงreอทราaบdงานtตดนioาทงแึ มnยรดมaงห่ีาสlด,ตอ้อึง2ร1ขบฐ0Lาอ01ตlน1งo90าyb0มd)
อุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส ลงไปในชุดจาลอง ใรนุ่นAดชFEิ้นว้SiยZTงgาเM5uคน0rรEทe่ือ8อี่แงM3ุณทลดห(ะAสภทSอมู ดTบิหMแสอ้ รอIงงnWTดบtดeงึoังชrยneแoน้ิี่หaสltอ้ldดงioงาignLnในaนleogl,ทyoF2dอ่ีi0Smg1ุรณup9่นุreebหet)E3rชภeZyนิ้ d5ูมง0าหิ นแอ้ ถลงกูะททCดดดงัyสสแออl8iสบบn0ดdงer 1
ช้ินงานใต้น้า กานดปริมาณน้าท่ี 1000 มิลลิลิตร 1
ชน้ิ งานถูกจบั ยดึ ใตผ้ วิ น้าทค่ี วามลกึ 25 มลิ ลเิ มตร จาก Tri
ผิวน้า จากนัน้ ควบคุมเคร่ืองมือกวนหมุนตามเข็ม
นาฬกิ า แลว้ ออกแFรigงuกreด2ใหSu้เbคmรe่อื rgงeมdอื frกictวioนnสstอirดwลeldงiไnปg pใrนocess
เน้ือวสั Fดiุใgนuบrรe เิ ว2ณSจุดuสเbำร�หmมิ่ รตับe้นขrั้นgขตeอองdนกกfาาrรiรcเเชชtiื่อ่อืoมมnเสียsจดนtiทrการนwะแeทบlบงัd่ กinวนgใตp้นr้ำ�ocess
การทดสอบแรงดึง
ปลายของเครเร่ือิม่ งจมากือกการวจนบั ยถึดูกชส้นิ องาดนจเชมอ่ื มลใงหใแ้ นนเน่ นแ้ือลว้วัสเตดมิ ุนท�ำ้ ท่ี ี่อุณหภมู ิ
จเกขรแวเอใกคสรปชน้ออสะณุัอวมวาป็ ่นืทอขยดรนนางบรหเรอมมณุเราอบทูสรภชผอชกนจเเปนคชะอุณใลอปณนยรียะ่ีห่กอืูมะุจบ้น้้ณวาิิาิากึวนลกิเหเด็ะ้ืนอมว้์ทาาขิเๆรชวฬาจงนา(เภทงร0สัหหกTววอเณ่รอืามาายเ.้มิก่ิหูมสดาาาลhกน8งะนสมปั นใภลจนขุeนเาวิรจัายีนรยั็หน้จนดดหสลวสลซอตขจร0อเตอ2รปปชกมุดถสกrึจูรกอ้อปมาาะออ5.ินาึงุลุกูกุ่ณณอด้ิดนัาmะ่ึรวละม3งด8ดริใแลิ้วะุแใยส็นไวก-ยยามูกิมยมูงาาากแทาตใงุน0ิ3จเะหปงหหนตทะลกึoมง0ลรรรทน2ไสุนปยัาาิเเดลเหเปว0้า2ตกเจยารนใกภปอชภไอชลิ5เณนcเชิเขวี้าวัจขวว.ยน้บรหดาทนา้วกวลมยยี่ืย5อลคคูมต8ูะมoใรบอแลเจัอ่รอ่าืนา่ขทณนอืนเิมคนลมเมมนเเิจมิงนนาเ้ิยัาลนuาอุตง้เราบ-อัรชงอมชมี่ารำ้�ใรวเยมชาิวศล(มผเะัว3ะกใม้ือน่วอ้ำ้ข�pืชย่ทTนัื่องืผเ่ื่ออตินรอค้รอนจ่3ว่ลทาจบืเอขสสตลวบ็มดช้ึบlใวดhัม0ร3มี่รชรขขเ0ดงิิeกลนเวิิเะงจ1มำคั่สานกั�ะวบกซัาจ้ิeนีนม่ือะนนงมจรื่อัออณ้ใา00จาขค)หดมใชแอหกกrลกนลวงตงาายอะเี้งคริเกว0mาแตยมนาม่ออุืณนปุใกเรตุ3มเาามินฬน้กงิเดืำ�เวอรกก0นวเะนิพซวงานัชวจจบสoรงนรรชรบไืดน0อผ้ึดาารือาิกมบณเแบงอเคบก้ัหนดมยีปcทือ่อื้ะทรจ่กคทาเกนอ่้มนุิืิดแวไ่ศงวอาา่าoรชชชสวตลิมวิเคสาก่ีวกด่นวดาตวราภวีอชรปAสจเงมลงิเสuกนัสื่ยลอกาเทู่ค่ืคอรา่วำรบเ้�อนนเนิแนล้่ิบานAุpนล่ือุงดูามวพผัมดส่ิลกดุรรอมปผควเณงหวรถ่ีนแเทดลถอlเงรรสเมชาก้ติeุรม่อืา้ีงื่อคอาิช่จวสกู5มก่ิกูิขนน้วทกรไิูนเวงกาิลซจเ้ิเนิอ่ื)อทมใรงจรือนวจร0ปีดวเทากอนุวว่่อดอดืืาุี่ดอาเสอคตบมระสักตมาหใชณ8สจรัถกชำ้�ดเใิอำ�ลีมี้แนาาแอรณเรงกพกบอืุทดๆมน3งษนคะมก่ีเเริ็ดเหิ้นนวกรอไจ้นลดมน้เไิูชส้เมเทกกนจชกพ่ิมเชนื่อบเา่ดจจาาาง้ชนโาชุุจแดณ้วเว่หจคชหีืยอาาซรำด่�ช้ัาคเดุสนตานอาืูรข้้งรขศอื่ดดราบ่ย่สคสอาอืมุืด่อืกปณัวใดรานอ้กยังณจวล้หนดไ่วรงเึมเงหกุดอ่ดวาาือลีกเกยนิขรเอมนส็ท�ำาปมแถกอก่นชมานขึดงชวภกป่อบ์ขืษ้ทวงงไวมลม้ักนงน้ัวกตมกูาเรอุาดกดอนงัื่องลเ่สอใตเนืัูไสอทมเดนคค้าอลปานรรเดงค่ลนนแยจสงษชใอมคงป่ทอืสกดงอยยใ่แกีคมิุ้อเงมเร้ขขหกะเแ่ับีสวาเกมแึสสรบจเก้ชี่ชคุาห่ืเสือขย่กูอกนนนานกตคา้อมรยชรบ้าดีเลลกอยอกาบียร่ื้ออ่้นิูทงอคคก้บนิามอรื้อาคืวย่เด่เอ่ือมงืิงดวาคยแ่ดึิดเอืาแด้งมนบดรปงะ2งรเงงรปชาวใวรนรยดวมุเมใชวขกงงจปท่งกีตราทึเนา่ืืรออลดกน็มนงชิเัเสะตบล5ไ้ำ่ทื�นอื่อเนอซามาาวแวหานาต้า1งอนกดยึชงล่ืมอรวดไเคี่ยผ้วมงดรมณ่ยปTนนใมรนมหม่้มกืชัดะาอะลวอ่ืึนมววาุงงันังร0ิวอตหม้่็อวหืวเaนยรเใรืออนัวแอทืื่จอน่บขชใ่อวแน้นจใเbะ0ยะกนกงตอุด้ลลงอมลิด่ีคล่ืำ้�อนปรแนสหl้�ำมเเนจอสeมวว0้้สวนแวทอิเิานวมชลนกลววะเวลนนาอือกลนุดกุกา้ำค่ี�นนงเงเช่า3รบนณยช่จาเอกมสชนิอืด�ำทำทขวจ�เข้วงมะำ�ดเปมนืุ่วอออ่ือวตแลจมผทดาซา้ไ้ออืา3บอนคมเขเั่็ีนปนมมลมุดดกดดิกึชกย0ลิวงาึ่ง่ังงตตกาจวกร่กองลก2ม2กทแแดมริม่ดอืิาัสวไรง00Fตา้ิบดลาดนาลงปจเนะดจเ1x ชดกด แกรEจนi่ลรขgนติูปมบสแ้ต1บะทาา้นิาาัด้า29อาุใใAหะปทรFรนEuท95บสงaททอ็น้กมตืชรอกอดืดแรงiรงSั08าหลรราrg่0ร)ดดตัฐMูบนป-ะงกมe่ัู้ป่่ีีuดลTงั1xชโสกเทจrงัาตส4าแรคม6Mดs3eเี่สหนรุด้ิ่ผี ัวหtงร้อกกินนบaอ้อ3(กัาม่าชยางท(ลTAาnายกยETนขบน้ิูนTารบ่ียdลริSมh(เาดเhอก8ทhaทUAนชทมขลTรชeหrงeกrาจMสดื่อดe-ผแdดMSดอชเิรb่อื eมุสsสอนมตนืsดาเสิน้eATดงัpNมชออsppกผIบnต้รองSe(าเnMโบอื่บมชชใรotRoed้าหาcคTบtคaรส(ด(รมดiนeสiนiุ่vนoncัMmกFnRน้้ิาินTขกรnrมงแ้า้มอoteiดgEnัขeน่กmนอืาdhตตเioจbtบ(ง)บmaงFยnอปgEI2ราาห่ลaโernงoะbัตtชาeรAรงดeดiตัา็9fnคtะiเนนboreuมตtZoิกeนิ้ทรgnนรdฐdeดัช0nnิาก้reนSr2อารbดง้อัูปืงrดni5uadรโnา-t่0รืrาถfปยอูาทaeeApeสแคอ1โlTiกo,ผgดxน0,nrtนnเรอคบยonทiมง้4Sกู1reชัgดo2วหsาMt2ด่3บเาeบ5idงn้)i่ือโรช0T0แnltนลทกse0แคaดขัeชi(นA1มซงอ่ื3(ั1tnMtxlAสTล้ง)อ.tn9าEFกสมดโน้ง่ึิแ6e9โgbSจดกตNงaSคจsาhsะลaเร่ดีงะb()เeง8ส()ามoระtหFiTคTะงท้Iาcใทาelท)มททvยnfซnิลeMชaนวอรoจลeMำ�eนMรมดดลdcิือ่tเน้ิมlดดง่กึmlะยeบ่ีsคeFtoาเิทสสงiเbงeจNามnกีbทwตriรมมspสสออาbชgIรดeผ่ีnseEตะgาnรiนาeอืบบuทาntoผerออtnaะฐร่าท่อืan,tวกrg้ดรกก8กดtหeาeนvdืctนdf2บeวบัดจดาาดnioยมนลAาMr์i0ลoieiนผn4ะรรกsโnnอSmlด1ัสdรักหคชตnดดเgAltmาo้ง9gTาaทโ)ค)ษอ้งโดััดดัaไaSแbดM้น(ริewา)tเแคขโโโ)ณบTlดiบปดbAรrยเ.oคคคตลคniแM้งdชงนบน็nมล่อกeืะะ้ง้ง้งn้Sเชา่าอ่าีลืgาอaาตrงfATน้ดมมิคoน,งรlะท,รSMrว2ทดียT0าtอ่ีeสมIม1Mnุnณอ9ชตtsบeb(้หนิ ้าiIlr)
วสั ดุรอกบำ�ๆหนดหตวััวแกปวรในนกาเรมท่อืดลรอะงตยวั ะแเปวรลละา3กรดะดแับช่เป็นไปตามตวั การทดสอบการดดั โค้ง
แปรท่ีกาหนดแล้วควบคุมความเร็วเดินเช่ือม ซ่ึง
ในขณะเช่อื มจะตรวจวดั อุณหภูมิของน้าด้วยสายวดั การทดสอบสมบตั ิการดดั โคง้
อณุ หภมู ิ (Thermocouple) เพ่อื สงั เกตการเปลย่ี นแปลง แบบดัดสามจุด ( Three point be

กกเก1รกกวตปอ0ิดาราFFกาาลยวรรบiiรรวggเย่เีตจกfรนชตทิกuouนสรดเิ ่อาืlวrrรดวอแlอชชeทeoมณ1จวบร1ทกตกวทเ2ปสน้้วกตร1กิิwนรชี.457อIส0ิจดรดอคพ5ดลF0์กิดกnาดงรFอFiกา6ง่อืnยอว(รหท ยงบงวสาtTวiัVสานร(้บืวสiiาVมรมegวเgบอบจgแกgเโนัีใ่วารจhกVfอรiนอfททิifรนrชอนกยcทคลิuoิแcoกกสสมuoเuดโnrคเสบAิดบiเ้ิkklเาตหe่ีลlWcบบดวrราlลคถดl1ดวอrraชloแอดeอชelSอรeชทoแวkeงทeทeรoเ0ณินFwะ1Fiณ่ืูรอtrงบก1กขโtเrบิมส้eิiTswส0นรยสสtี้iิำ�wiานวรiีosวงมใ.4ค้hาีgIgn.p45งI็ดาคพrน5จต์Mดnคพ5นรชกดม์anเอสinมกugิณตuงอHsioงทnาhnครรyาง้วิ้นtTัราrรงวrานรt(TaัV้ืงรชน(้ืามaดกAeiัaาgมeบeeแagบะหF่แดีงnรกัมงรแEงาhใVlา้ามHrhVSวiทน้ินrย.ทขนลrแrทิ4จdาSc5ลtแิาiนสมสลขวสัnมrดังค2ัสAdnrgTคAiaะนiาnNงอหkre่รุีลรลcดะหe่ีลcถbTVดกโาถMด9aiดแnหauแรงeโrS็งrถาeSทวงkหeงวFhkภeสเลieิoiนเงิdุเน0ูtดงsekcูrt่ากขงคกขนู้ากมrกrพรมeiTเEeiTeอnรuvikาsหeลดาn์oงใ-าosวs้ใา้gาทpนpงอ้็งeง2งrน็n:เ1ดชrนeตeอMรตนบdMนNลeคnมsกnมตัะตsรสsur9o,ท5ำo�ทยะารโ4จhmsยHทiาคpรosราaา0aวมnYม่ิษทหดriดัลiัจอtแเแaoFหv่ีFหn่ีะn-sVEheเEวelใ1่อมoHlีทbมHิgาsช1วจei.ขา.ส่ขชีณแแarบn:tหiชtปi)าn0ขsทวขอว4ัt2ัem2่าgdg่อากยrืaaาtา4aN่งgNออ่มรืtรtdกbbง้ดกกค9เr9Hรวenะubะusกbงyงม็r็rผnาวทปnท1งง,รงงมแแeopeotสeินudde00กดดseะrraววeVอกdสเกก0็นรรัลรขr2tneeอonnถvvาดดรnnnts--hพ,sเายททงิaาออ)ทdา0วดง็10มด1บดทesedsddะม2ูกeesoกรกiสDสิธr55ร่มaอืยยnาา144iุคเ0mียmทitทiาdยsเsดกnแtเดิีกnดนernugพข1จอtiจอ9วเวdเตจแะsosปsบenใ่ตัางีใbร่9gีbsgชsาชา(tาดกaเาัsิtชหบy:าบ:ชแne(ร1รชaรsข็มAtัetคมeกA่อaกpื่อpนกื)ตasผ)aก.ิสเtรยาีtt่า้้ค5rH็kแoคSวSแrงHetรepeมหรมnดวn1ว,1ง,วuปริมspณวขToอsาวดรsTrcวVงวVdliสรd0ัมสก0ช2ััnแ,tM2ัoo็งสจจิรtงะใรitอiพธM้ะaวาo)m0ิaลาดดD)น00ดขสf0sน้ิะตsจหาะonกหoi้ืีนIrล้มวeยrเpกม1lอiุnเย1หุอเยedยeัเงกntFdวเก์กncิทเeแยพpวtพบi99วมeแะnohางsiปแะารcใrลปรวg่ีหาารร่หค(orasช(iหaติชsนนชธหบnัnmิขธ็uมAMาัขงงรร็fมAนัวpiน)pรaน)กัlรีrี่าน้ริeeา่a็าS้แงาe็ptSeแงวeinsงuมตขงวoงแอวดริกTrcอดร5TncรnแรัดoาริองiเอิkธงM้iะอaวธmM้ขะงกวขนmfhlงกหiีก.็งกหยเอีอaกlยเกeeทวรeดwแงวรวกแววnsาว์อี่ลnาาร่ลาาร่ิธิาธงงรยรแคจแคเนคเผแใารงงรีคกนีุดตสววอวสาลรสจรใเ สท แใเผ รดิกชขนาานบา่ดสปูดอำ�ลูญมยไ่ีเ่ลอืดิ่อืขมมคมนปณทงะกงัยFบงปเงกมเคFเวเ็นขรสวรรใiเพอกูใรชgกมระiชนงานสอ้ียอ้สgรา(นณใลิดuบีกZเรตื่ือ่รมออืงคาuนู่ขุนนมrคจชทักรhอ่์eขวรามrวFไกเุดระลผใทมFกใeสนaี่่อตกืผกผEคจรเแแตใแคเคนแวงอษาดนิจ7บiคEผสคกเผแแคนเกใแคตรโผแะับกหวoคกigนลอ้เมั่รหวีมุดงตมคสกสววอกวgสลlานัวคยัวอ้แ(ลาษ6ผกณกตสลสนววeอววลัสlยกิวัาuเก้รณรลรFดิาeขลรeขรกาาuบลบาง่ดส่านอ้รขมิดลดกลพรขณย้ดไอcาาอหางิ่ดส่ลr้อltอขกืรณดรสหยไขมมcaผคอื่มrเะ่งออกืณกังeูผงะรงีกงั้ทนtอดขมมรอยิคมางaปไ(ูeขปณกงง่ะsงงงนักเtอrกลผงีทป(าเาขรอ่เงOววรจณิสใงงเลlrผเoพอhผงใพยาชเม่เขรงี.Oนวกมรจ6ใด้กึิะรทกoอชห้นสงงอใาใั่ีเช,า้เอด7อ้รกิมวุรคาลล)ะนรลใnิวอนสอคpาท้นอ้รหุ่รา์เรลคมตาขดื่สนคฤ่ืลใิออสnอดร2ืนองาpนู่รมขุนนมซซหหเค้าวตผ่ืทรกออชืรงกัtดนกน่รดูขุ่อนผนจลม0เควมทงาู้ชFคไอรรงตMกiักาtวน้่ือเมึง่ร่ืงทอนมืFทอชกิcใ่งึสFลไลาจ1นMกi่นงัอืรวรุงเรษใรจดท่ืบมภทFีกลเกิcใอสiงครจงย่ะอหกืิวจรวุ้ษากรaอ5ดองภนกดigน่อiเำ�บื่การรiหีมคะสห้มวมยดgาาacก่ีบัวแร้iีแgจรพกiรเ่รรก)งณีามยงาุนนลมไlกรมดิยgลาuเc้ั้ณวศม้แขารกณือาาูrอนุรuบลlตอปา่พดรรนะมuเา้ลกเมณศทคารครดmาจอิroภ้วuบrาอรื่าชนมทกลกรยเไนณคอื่rเะดmบกงนิคสอoั5erยบณมูราะรีวื้ทชงดอิรทนอแนsยไู่ืeีขrปเอะก่ืดวอทกเeูระีาน้iทกู่ผดคกอ่ิเ์ีตวยาแอsแไเูeขปวกณื่อชวอcเกcทมะนiยพผมล่เงก์ีา้นอปอ6ด์้้กเึมิณ้คทาาววคcวชข่ด่าcสาา7มยพ่ือrมิเวลนิเ่งเีคoนเ6ด้กกเ(ึิรทาตแมระารยด7็่o์วrิมเวรงวลิขดสคชคนฤoดยินZสรชิด่มไอนืลรปูpซอหะผ่oมอ์ร้รอมมลขดสคฤยีิสรกกาคดผsรนเ่pซงกงหล็ูอ่hคผอรขืงต่รอรืผอทสอมว้นมนeกส่ยื้ออผมืsบไอชสา่งงึัาลกงน็ู้cนใคอรงตใลาบมeอ่ีืaกลอูปมืมออ(ตตรง่งึรเใหลกน:ิงยมาcนวริญูทกงนใางo่นบรอ่ทZลาีบืกกลชแนรตร้งงเงก:าิnก่สบ้อรีจงกนร่แoนงร้ใทเรบหอกFผมรพกรhลp้ขเต้่อืาสมอ(่กีบขชวขาแรีจหหการเูมนีgรร(อFกัครมระตาpพZอทสaร้าวEขาสสลม่าลyวาอรJFณูบนอรืลทออเรริะไชต็้ณาบเนทอ้ยอิทรรบนนnาEยณมyวมhองนัวืดัก)รทคมงเันeริม่ยณษีีSอlกบรดวSทกื่บอ้อ้นาูงรgยนะถณ่ีเมก่เ้เีaิยน)รนคเเนaว่ีอิเดSกสีคกทกงทกะt่กงาcเ์ณแรนงคแา้หอป่ร์เียEเษ้ึงงววชขวชดsอเชกทeตะณoiน(เพวเเแิดรมตแกใ(้aอปาา์คลงEจาตากวอบลชขลดยดว็จKhค์ขช่นtอื่MนZTนชเาเณ่่าหกอืืลข่อไืาตาออาlมฤบมรลยะดา็นี่ยาาาeชนรยMนา.ชะมอea)ุมร่ลดอืบล่ลรอ่ehอื่ึน้อรกืผมอร,สอมะะงตสรเ้กห)มงสc่มะื่งเืtาlอนอมะงตบน่ลขว้อ่เื่ซทอ.รืทผออหสอlมaูปมเสวสอกสhหห)ิ2กส,งงมารวาิใญlูตชทaผคกงาง่่ผกรลรอ้ธ์งรeรูปมแnนองูสถnงอด่ยึงนมาว2ิญร0ูแน่เทรอ็กงรมนดทังุข่หผlรลลธ์ย่ิิอดวขืรoอใม้วกอ(ว่าิี.rแเเวยร0gงัแ่อ(งลรกัทูร1นหตผืรเ,พZอกสกงl’ขถกย่ีวอค(า่าสลีดสิแรแมFนมตแนซจเ1หsอเื(ตชอักะยตพศMพZ1สขงกก2หะชhสลมวัดรFวาคสนตจงส1ดeมมนยึอิษงกแงึ่ีlบสตุเย้อเางน่ณกกืก)อahวS0ื่อrวัดนเา)นaเดรงรรดรมกสบยษลีชรtกlบอสงาุจ้เคาางอeรนเกaาวน้บบมีUชsมกเ1aมารตวยพ�กงณส้ำางoะีระอช้ง์ใaดาคคาลจาจาอรงวาิอเaวบวชsh่ไ5ตา้ณาo่หดืินใบ่อดนมากาคลlามจจกงิปอาุารง่ลัาาวบeรgยhา.่)า)ป่กหดรื่อา,มะงปเ้ากาีงe่ัมรเยืดtทาอมe)รเกรซ(อหาะงกหเ้ต2กงใ่มชเaผืtคอSมรมnิเงซร(อแรหรางกห่ยึน0น็ในชัaผคSlลม่ิ(รอวืtงcอม้ริแรา.กรเวง่ยึน)ลน็1นัเE,lกล่ถกอย่วaืีาวcอม้มิศนณา.กเวืชอรลพ1เ,เ2หกะถมกย่taีnาาดมมึนิณงจืเวะนชอcร่พกื)อ20หะดเมรnnราบดรมกึอิงจจเhละนส่์กือแก10มดวยพเีiรnรอบ้ว้รกดอาจาจาวnาiาน5กอn1้บมวยพิีiนอบ้ว้ดนยมาดจกยาาาาgรง่วnาใัา)5g้ิบนบนดนบยม
1ดข0้ัดว0ยผ0ิกวแลรละะกะเดอา1าต โียรค2ษรดร0วตทงจ0ดสรสชรร้วอตวา้าน้ิ ยบงาจยกชงจโผมค้ินาลุสาหงลรรภงนองยตาขาาสบนคราดัดบรบวรทบา้บัอโรจเิงสี่ วิเคะโสง่วหลเณลผอณบรหลลูบมะกงกอมงัโวินลสลคาจรทิ าจาาร์ายรงางง2กรากา้(สรอเ2นปAพงรอย0จััา้นอื่l้โเยuจชงว4ลนmยัเโื่อเิ 0ชลคใหามiน0รหnอ่ืชถาะกะaมู6กะน้ิาววหเ0รถOงทิติทเก์0ากูชรยxาียนอื่ยเาร8idมมตเไ0าปeสปร0กล)ำ�ยีายี่หรมนรเตับแสรปกายี ลาหมรงรบั จุดบกพรอ่ งหลงั การเช่อื มได้ (Zhang et al., 2011)

Figure 6 Characteristics of welding from top view surface
using a cylindrical tool pin at rotation speed 2000 rpm and
กเปFาลชเนiรบgิ้ยน่้ันีตอuนงนรราrำ�์วแ2eนชจ2ปเิ้น50รสลง่ิม4าอVงจ0นบโาi0ไcคกปโ6kรกคข0eงา0ัดรrสรsผง8ขริว0สัดhา้0ลรผaะง1้าเิวrจ0องdช0ุลียโnิ้น0ภดลeงแดหาsาล้วนคsะะยดวทผ1t้วeทิ2งส่ี ยs0ขย่งก0tัดผารอตpะเละาoพดลมมsาูม่อลื iาษิtน�ำวiจทoดาเิาับnรค(กาAหรpยปlาลuหrัจงัoะmยจจหfiาiาnlยับ์กกeaใsานร welding speed: (a) 80, (b) 112 and (c) 160 mm/min

ก1ดก0าา้วO5ดผ0รรย้้าวเ0xตชวสกยidินกัแน่อืรeรชหาำ้�ล)มวะทยน้ิละขดีจาางกนดแช1าสาาาค้ิน2ษนดสรลอง0อดุเเบาทล0ตนบทนรอรภุ้ารถโตเริยาายีวูกค์ นคาย(มณนKต�ำมรำห�ชชั้งeกลงไแิ้นlน้ิยlปาสลeตงงตrาดา่า’ราsนร5บงบั วน้าทรr1จeงดเอหเสรaสแโบยอgลม่ิอลลบeเองับะจชnหโจรกาtค0อ่ื)์ัดากะ.รม32กเงกวว(2ถสEนไลิาทร0มtูการันc้้าโใยhเคงข4นนตiจnร0าดกั าุลเgร0ามผ)ชภยีรตวิ6ผกา้นิมรคชิวัด0งสหดดก0น้ิา้วน้วรนงห8ดยย้าาไ0รนป0บั
กขาดั รกผตลิว้อรงลวจจะุลเสทออรียรบศดโนดค์จุล้วรทงยรสผรรศงา้ นขง์แัดโบลอบหะแะสลงวูมทิ (ินOยาpาti(เcพAall่อืumวmiเิciคnroรasาcOะopหxyi์กd) eา)ร
เกปาลร(ธแSย่เีาลชcตะนaเุ่อตื ชnแรมnงิ ปวปinจลรกgสมิ งาอEาโรบณlคeเกcตดรtาว้rงรรoยสยกีnกรรมลMะา้ อ้ชจiงcงาน้ิrจจยoลุงุลsตทcาัภวoรนขpราอเศeครง:นมอิ่ทFอ์ นEเิจส่ี ลุภSาง่ก็ าEกผตคMรกลแอ)าลมนระแากขบจาดบัารสวผกอิ่เวปิคงชรกัจาร้นิจะาหยดัง์าในน
ด้วยกระดาษทรายหยาบ เบอร์ 220 400 600 800

1000 และ 1200 ตามลาดบั หลงั จากนัน้ นาช้นิ งานไป
ขัดผิวละเอียดด้วยผงขดั อะลูมินา (Alumina Oxide)

surface using a cylindrical tool pin at rotation 277
speed 2000 rpm and welding speed: (a) 80, (b)
Vol 40. No 3, M11ay2-Jaunned2(0c2)1 160 mm/min Effect of stir welding tool geometry on microstructure transformation and

mechanical properties of submerged friction of AA 5083 aluminum alloy

Figure 6 Characteristics of welding from top view
surface using a cylindrical tool pin at rotation
speed 2000 rpm and welding speed: (a) 80, (b)
112 and (c) 160 mm/min

Figure 8 Characteristics of welding from top view
surface using a square pin at rotation speed 2000
rpm and welding speed: (a) 80, (b) 112 and (c)
160 mm/min
Figure 7 Characteristics of welding from top view surface Figure 8 Characteristics of welding from top view surface

Figusuinrwgeeal7ditnrCiganhsgpauerleaadrc:tto(eaor)lisp8i0tni,ca(sbt)roo1tf1a2wtioaennlddspi(nece)gd1f62r0o00mm0mrtp/ommpinavnidew Fuigsiungrea 8ssqpCueaehrdea: r(paain)c8ate0t,rroi(sbtat)itci1o1sn2osapfnedwed(ec2l)d01i06n00grmpfmrmo/ammnidntowpeldviniegw
surface using a triangular tool pin at rotation surface using a square pin at rotation speed 2000
sดกpวงั eแา่ eสเมดdอ่ืง2ใเนปใ0นร0Fทยี 0iบำาg1นuเr1ทrอpe2ยีงmบเ8aดกnaียพบั dnวบเกdคว(ันรc่าwอ่ืเผ)คงeวิ 1รมรl่ือ6dอือง0กiยnมวเgือmชนกื่อรsmวมปู pนมท/emรคีรeูปงวidnสทา:เี่มรหงร(ลaสายี่บา)มมเ8รเส0ียหงับ,ลเท่ีกย(bมตีด่ )ี ดrpังmแสดaงnใคdนคควววwTาาามaeมbตมlตdlา้eา้ตiนคnนท4วg้าทาานปsน1ามpรนแ6ทตะeร0แสงาา้eริทดmนdนงงึธด:ทเmิภแฉึง(าาลaข/รmพนย่ี)องรขแiง8nอดอรร0ยงองึง,ชตยดขน(ิ้่อเbงึสงชอ)าเาอื่ ฉนมง1มหลา1รรลย่ี2อถงั ขกaยคอาnเรำางdชเนชชวื่อ(อ่ืน้ิ cณมมง) านหลงั การ
ได้ว่ารูปทรงเคร่ืองมือกวนส่ีเหลี่ยมเกิดครีบจากความร้อน ได้จากสมเกชา่ือร ม(Meดenังgแaสmดeงt aใlน., 2T01a7b)le 4 ประสิทธิภาพรอยต่อ
Fsigpseuuerrefda7cคส2eา0วCอเแขมช0าuตรยh่0นมเุขs่่าเaหคกiรรงnrrละัรนไapาใg่ืนรอย่ีmcบนก้งอซtaมเe็มตทย่ึงรartือาเคดยีirnาชsมiกาaงdบัt่นนดกวiแncทกนวาwอgsสัน่ราด่ีรeuงดไเูoปกีlชlดเdงaเfสื่นอด้วจใir่ีwเnื่ามนอ่าีหยtgกeงoเลสวเจพlFodsี่ยมียากilฤpigมก่nอืดpตeันuเคgทเiิกกenrปวเาeิดdรfาคrรนรa:คoม8ยีมแtรร(mรกaบบ่ีืบr้พออo)าบเนนtงบtรทo8aก้ใอเมวpน0กยีtวยi่าืข,อิoดนแบvผณn(คใลกiกbeตวิวะะ)วwบั้นารผเชมนอ้ำิาวเ่ือครสรยร้อมำอารเูปนหชนย่อื ท้ตอทรอ่ืงับี่ย่ดอมมรี มอืงคี วามต้า2สปคคน0ววาร1ะาามทสมม7าิทตต)าธร้้าานนนภิถททาแพาาครนนรางอแแยนดรรงงตวึงดดอ่ ึงงึณขชเ=นอ้นิไ้ืองดงโาลร้จนหอเาะชกเย่ือดมสเิมชม่ือxก1มา0ร0 (Meengam et al.,

เปอร์เซ็นต์

ในกจสา่เวีทอ2เอหกกน0ลลาิดพล1ูรูมม1นก8่ยีปูิิเฤเ1)านนอมทตร2ีียยสงเรกิมมaูญกงเรคมnิดดเสรวสีสdเคี่มียายีัมหม(ครกปวcลรวบี าร)ก้อาย่ี ะรจ1มนันสมเาร6เกิทข้อเก0สดิธ้านคคิ์งกขัคmใรนเวาณวก่ืmอรขาาะนตณมง/เมmำาชไะมรรคื่ดอเi้อชือ้nวมว้ นื่อานเก่ามมปเทรวไชร็นปูด้ด่อี น่สนม้นทีิ่งการแสสรกูปนัตูำงางแค(่เเทWลคคัซญะรaร่งึ นh่่งออืืเค้ำiนาdงงาก่ือมมeด็ทงออtืืจำวาaกกาใ่าlหก.ววไ,้ นนดเส้ ชากพ่ือามจิ รามาทรณรดคดถลาวจัองปผาาคงแคครลกมมะกาสตววีปตสานวัาาดรร้าแทิมมะวทงปนสธตตดณใริททภิาา้้ลเนคธาไนนอาริภนงดพททอื่Tพาแ้งจราาพaบมรอนนาbรอืวงยกอแแlเ่าดeชยคตรรสอ่ืงึตวงง4่อมเา่อดดฉแมปกน=งงึึบลต้อชเราบย่ี้านยนะร้ิทนข้กอื สงรทอวโ(งาิาทM่ลากงนนรหชธeแ5เะน้ิชะeิภร0บเงn่องอื ดาดเgากมปึงมพินaคเอฉmหรวรลา์เอลซxี่ยมeงยั็นทเt1รกตุกตวa็0า์่lอ0.ร, เปอรเ์ ซน็
กเครจกแเสสอไชนดูปาาล่เวีว็ลต่น่หือกมม้นะาูสมากงพนลามเร่ีเมิเหจกน่ยัหี้ปูารฤนากลกามทลต(ีกยเย่ีบาWอเเไแกรท็นเ่ียรกิชอนมมดกูรปเล็งลตา่ือมรaรล่น่ือเม้ิดสคะใูสรมงhดยาีชูเมกงหนาเค่มีจ่กวีเiมิงบั่เหืdจอเิกนัห้้เาารกแานนิดกาทกลมกกีบeลาสม(ีียกคยเดิย่ีด่ีาWคtท็เรจน่ียดรมอรกสมมรเaกีวาา่ือง้มaกอีบลมีเาlยาวคกใใ.งhสดชิูเนม,รสนีหมน่าดคจกวiงัส่ค2ืdอเิมั้เรอเาทเวานิดเF0ญูขกวอ้กมปกมยeาม1ียiาคา้ดินาตgเคtเ่มรอืแ8มนรสรขกสuใไaะวเรล)้รอีนยบีrมดปแสีาlยณา้อe.ะอ้ คนข,รว้สทนีบิมรดนผนะส8่2าณวยีมั้เรธอบทเิวทเร0ญูขาบอ้ชปกิพยะช์รปูก1มาด่ี้นา่เนเเารแ่อืบอ8ททนชวสรีขรใะกแลย)ว้อม่อนนยืรียีนแสณนัต่ะาตนงมคเขบใทาบิ ผ่เเป่อะตนใณวคคคกซธบวิน็เขนา้้อวนรรบัก่ิงึระช์กขมร่่ออยืืา้สคอเาา่อือุณขชมวรงงคย่ิรางสอยมมอ้ม่รอนืรรนดเสะายตชะน้อออ่ืืมอืเเใาวาห่าชนป่อกกืนงตนใค่าคงน่็้อืมมรอววขนส้้ไอวนไัญับมนนมขดือยรรูงยา้สาุณขี้มิ่งสอรรสะายะ้อเาห่าชนนคง่้อืรอสไัญับมยรูงคเ2เนเปทฉมป0่าคคราเเพใแ1รเคเเรลชดคช่นนอือ1อะ0เสวทงววบอื่นิร่ือยฉ่ี่ืท7สอ1บคารดกาาื่อวมีมเม.ท)ง์เทาลติงมมาชค2่างรซตตจง1ใ่อมุ่กยี3นคอ่ืธตตะวหต่ำ4าา้า็นผนมือ่าภกิคบว0นาา้้กา้รเตมเเเเเทนคMเกาตทห0ลนนาฉหงช่นมปทฉาามพอ1ท่วลาริPารกำรา็น์รพกคาลทท่ล1อืน่อ็ืจอนเฤกีเงลพใทaองทันนวี่2ยรหยฉา่วีมรพตาาาควตรบกเกิ่แาขดีค็จิวอร้มกนนาท่เาคก์ิเา่ลกบตมามคร้นัามร่างาลซห1ทายมมตงแแอ่รสว่ิลุกยีวนมีปคกื่ะอวรรขอ4ดต็นรน่ลมผาตปรรดรีามหกลวัคนรคบวณางึ0งม้คาเิางง่อะุมาตา้นัาลรำวาลมาทก่นามมพทอ0่ดดทามสมกซนะากนรต์เก่ดีคอเเาี=จปิเีกทงงากบึึตแพสึ่รงหจทฉววชรรีเทรรงาวงชเาคลชว้รธาต็นวนทวิลาอ่ืดนอ็จิัววปกพระานควานกิน่ะภน้อ่ิี่จรเยา่กบธคากลมห้อืาลทมสนเดทกูนรปาาสวคบงคนวตมภิรอตใโกวทนัะพาิมาาตทิแนด่าามาา่นื้เอลวณ2วัทางน่สสอนนรมครธุมรเร้นาโลเกก่หามพ0็วแีมฉแอเทลงิวนชภเงิารนรเาครอเค0าชสะรกปยปหีารลดวรู็จป่ชาธอือราวทง0เร่ีมงเาตออ่วะเืรย่็รีวบลทดาหาพึงภิด่มือทรปเตพ่อาะมยเมคารเทขกสึงมนปลิีมร้าคาสนรดรกเมตต้อาบแี่่ีส่ายเูงรต1นรอ3พชงทระกิกำ่ิแนาูง่ะคอ็วมบลตส71วยท2ัวอ่ื่อืสสัแนสสรหวธรทว.xะเุด้2่าตมา0าตแล3ุ0ดิทไงทอ่ิีนเชมภงิคาี่คนนดคะ0ห8่7่อ1ปอม1ธมนุยเดม่ธือ1ควาวแ้ด07น6.0ิภทนวนลเอืร0ิตลาพึงวิภ0เตรม06ีาชื้0อปาาเ้มอ่ียารเ8างานส1.่ลมอ่ือา้มราคพว5ชมดอมเอยทนำ.ามเูมงนิเ1อัลิแพรเ4สเ2เรรปึ่รองืไมกบปรตส็รวล1ีแยททอด์สปเ่ส3อืรม2็วอว็พเิหซMวตุด้2อายตุูตขรงมสดา่0ีเคงอรเแ็่าMนมดสตรPนรู่บคองต่0น่ออมดงมเ์ยวุุบิ1นนดตเ่์อ0aต่ราซงดPทนใว5แนซนิอืาิตล์0บห่นอ็ึa0่งรา้อเนมาาเ็1่ลอชงช้ตยทน.ตเิเแด2่อ่ือื์รมกี์แส3งึ็ใวมมพวตรตนดหแ่าMรบง่าท1งบมตดสPใว56าุบหน่ดุอึa00่งาง
เหน็ ว่ามปี ระสทิ ธภิ าพรอยต่อ 37.08 เปอรเ์ ซน็ ต์ ในทาง
ตรงกนั ข้ามหวั กวนรูปทรงส่ีเหล่ียมท่ีความเร็วหมุน

278 Witthaya Sririkun, Yongyuth Dunyakul, Dech Maunkhaw J Sci Technol MSU

Table 4 Average tensile strength of specimen under various weld conditions

Tool geometry Welding Speed (mm/min) Rotation Speed (rpm) 2000
1000 1400 97.71
101.23
80 86.78 93.00 95.99
92.69
Cylinder 112 83.07 93.71 91.06
91.28
160 87.02 92.60 84.64
79.87
80 80.27 88.33 80.10

Triangle 112 81.00 87.41

160 84.51 92.35

80 89.58 82.98

Square 112 81.61 83.60

160 79.33 76.54
* Note: Base tensile strength of AA 5083 aluminum alloy is 273 MPa

อย่างไรก็ตามความต้านทานแรงดึงหลังการเช่ือม รอยเช่อื ม จุดบกพรอ่ งเหล่าน้นั ไมส่ ามารถรบั แรงได้ จึงนำ�ไป
เสยี ดทานแบบกวนใตน้ ำ�้ ทแ่ี ตกตา่ งกนั สง่ ผลมาจากความเคน้ สู่การเสียหายของชิ้นงานเช่ือม ส่งผลให้เกิดการแตกหักและ
ตกค้างในช้ินงานเช่ือมที่สูงกว่าการเชื่อมในสภาวะปกติ เสียรปู แบบถาวร (Babu et al., 2019) จาก Table 5 จะเหน็
(Anand & Sridhar, 2020) และจดุ บกพรอ่ งทเี่ กดิ หลงั การเชอ่ื ม วา่ เครอ่ื งมอื กวนรปู ทรงกระบอกสามารถรบั แรงดดั ไดด้ ี ในทาง
โดยเฉพาะการเกิดจุดพกพร่องแบบการไม่หลอมละลายลึก ตรงกันข้ามเคร่ืองมือกวนรูปทรงสี่เหลี่ยมมีแนวโน้มท่ีแสดง
(Lack of Penetration) ส่งผลให้ความต้านทานแรงดึง ให้เห็นว่าช้ินงานเกิดการเสียหายจากการแตกหักบริเวณรอย
ลดลงอยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั (Meengam & Sillapasa, 2020) เชอื่ ม (Stir Zone: SZ) ซงึ่ ผลการทดลองสอดคล้องกับความ
การดดั โคง้ รอยเชอื่ ม ต้านทานแรงดึง ในขณะท่ีเคร่ืองมือกวนรูปทรงสามเหล่ียม
ผลการทดสอบการดดั โคง้ ของรอยเชอื่ มโดยเครอ่ื งมอื พบว่ามีการแตกหลังการทดสอบการดัดโค้งช้ินงานบริเวณ
กวนรูปทรงท้ังสามแบบแสดงดงั Table 5 พบว่าชิ้นงานหลัง รอยเช่อื มและบริเวณทีไ่ ดร้ บั อิทธิพลทางความร้อน (Thermal
การทดสอบการดดั โคง้ ดา้ นหนา้ ชนิ้ งานในบางตวั แปรสามารถ Mechanical Affect Zone: TMAZ) เนื่องจากบริเวณ
รับแรงดัดได้ ลักษณะผิวรอยดัดเกิดการโค้งงอ ไม่มีรอยแตก รอยเชอ่ื มและบรเิ วณทีไ่ ด้รับอิทธิพลทางความรอ้ นจะเกิดการ
แต่ช้ินงานท่ีดัดโค้งด้านหลังพบว่าช้ินงานจะเกิดรอยแตกหัก เปลี่ยนแปลงของโครงสร้างจุลภาคหลังการเช่ือม จึงส่งผล
ในบรเิ วณรอยตอ่ และบรเิ วณอิทธิพลทางความร้อน เน่ืองจาก ต่อการเปลยี่ นแปลงของสมบัติทางกลเช่นกนั
การเกดิ จดุ บกพรอ่ งบรเิ วณรอยเชอื่ ม เมอ่ื ไดร้ บั แรงตงั้ ฉากกบั

Table 5 Bending results of submerged friction stir welded of AA 5083 aluminum alloy

Tool geometry Welding Speed (mm/min) Face bending Root bending Location of broken
80 Accept Accept No broken
No broken
Cylinder 112 Accept Accept No broken

160 Accept Accept Crack in SZ, TMAZ
80 Accept Reject Crack in SZ
Crack in SZ
Triangle 112 Accept Reject Crack in SZ
Crack in SZ
160 Accept Reject Crack in SZ
80 Accept Reject

Square 112 Reject Reject

160 Reject Reject


Click to View FlipBook Version