50
ฝาผนัง
ตีฝากระดานตามแนวนอนเรียงกันจากล่างข้ึนไปข้างบนแบบ ตีนอนซ้อนเกล็ด
ซึ่งเป็นวธิ กี ารตีฝาผนงั สมัยใหมต่ ามแบบตะวันตก ที่เริ่มเข้ามาในลา้ นนาตง้ั แตช่ ว่ งสมัยรชั กาลที่ 480
ภาพที่ 15 ฝาผนงั นอกตัวเรือน
ภาพท่ี 16 ฝาผนงั ในตัวเรอื น
80 มติชนสุดสัปดาห์. ล้านนาคาเมอื ง ชมรมฮักตั๋วเมือง : “เฮอื นฝาไหล”. เขา้ ถึงเม่ือ 27 มีนาคม 2564.
เข้าถึงได้จาก https://www.matichonweekly.com/column/article_400814
51
หลงั คา
ปูด้วยกระเบ้ืองว่าว81 โครงสร้างของหลังคาประกอบด้วยหลังคาเปิดจ่ัว หลังคาปีกนกซึ่ง
ส่วนของหลังคาปีกนกเทลาดลงมาค่อนข้างต่า และในบางส่วนของเรือนมีการใช้หลังคากันสาด
ไม่มกี ารประดบั มมุ จวั่ หลังคา
ภาพท่ี 17 กระเบ้ืองปูหลงั คา
ภาพที่ 18 โครงสร้างหลงั คาบรเิ วณเติน๋ ชว่ งรอยต่อของหลังคาปีกนก
81 เน่ืองจากไมส่ ามารถหาภาพถ่ายเกา่ ไดจ้ ึงไมอ่ าจสรุปได้ว่าแตเ่ ดมิ มุงดว้ ยแป้นเกล็ด (กระเบื้องไม้) หรอื ไม่
52
3) งานประดบั ตกแตง่
คุ้มบ้านทุ่งเสี้ยวเป็นคุ้มที่ไม่ได้ตกแต่งตัวเรือนมากนักมีงานประดับเพียงแค่เล็กน้อย
และเป็นการทาข้นึ เพื่อเน้นประโยชนใ์ นการใชส้ อยเปน็ หลัก
หน้าจ่ัว
หน้าจั่วทาเป็นช่องส่ีเหล่ียมและตีไม้เป็นบานเกล็ดแบบเรียบๆ เรียงกันข้ึนไป
เพ่อื ประโยชนใ์ นการระบายความร้อนของหลังคา
ภาพที่ 19 หน้าจัว่ ทางดา้ นทิศเหนือของเรอื น
เหนือบานประตู
ตไี ม้เปน็ ช่องสี่เหล่ยี มลายตารางเพื่อทาเป็นช่องแสงเพิ่มแสงสว่างและระบายอากาศ
บริเวณภายในตัวเรอื น
ภาพท่ี 20 ชอ่ งแสงเหนือบานประตู
53
สรุปผลจากการวเิ คราะห์ค้มุ ท่ีมลี ักษณะทางด้านสถาปตั ยกรรมแบบเรือนพ้นื ถน่ิ ลา้ นนา
เน่ืองจากในการศึกษาครั้งน้ีพบคุ้มที่มีลักษณะแบบเรือนพ้ืนถิ่นล้านนาแค่เพียงหลังเดียว
คือคุ้มบ้านทุ่งเสี้ยว จังหวัดเชียงใหม่ ทาให้การวิเคราะห์ในแต่ละด้านไม่มีคุ้มหลังอื่นที่ สามารถ
นามาเปรียบเทียบลักษณะร่วมหรือลักษณะท่ีแตกต่างกันได้ จึงต้องสรุปผลการศึกษาจากการศึกษา
คมุ้ เพยี งแคห่ ลงั เดยี วเท่าน้ันดังนี้
ผงั พ้นื และการใชง้ าน
มีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วนตามความจาเป็นในการใช้งาน แยกเรือนหลักและเรือนรองออกจากกัน
อย่างชัดเจนสรา้ งโรงครัวแยกออกไปจากตัวเรอื น
รูปแบบสถาปตั ยกรรม
โครงสร้างและวิธีการที่ใช้ในการสร้างแม้ว่าจะมีกรรมวิธีแบบสมัยใหม่เข้าไปผสมปนเปอัน
เน่ืองมาจากการบูรณะซ้อมแซมแต่ยังคงสภาพท่ีสามารถทาให้เห็นว่าว่าคุ้มแห่งนี้แต่เดิมมีรูปแบบ
สถาปตั ยกรรมแบบเรือนพ้นื ถ่นิ ลา้ นนา
งานประดับตกแต่ง
คุ้มบ้านทุ่งเส้ียวถือได้ว่าเป็นคุ้มท่ีแทบจะไม่มีการประดับตกแต่งใดๆ เลย มีเพียงการทาช่องแสง
และช่องระบายอากาศอย่างเรียบง่ายบริเวณหน้าจ่ัวและเหนือบานประตูเท่าน้ัน เม่ือนามาพิจารณา
ดูแล้วสันนษิ ฐานว่าทาขนึ้ เพือ่ ประโยชน์ในการใชส้ อยมากกว่าในด้านความสวยงาม
เมื่อมองภาพรวมของคุ้มบ้านทุ่งเส้ียวแล้วจะพบว่าถูกสร้างข้ึนมาเพ่ือให้แข็งแรง ทนทาน
กว้างขวาง และเน้นประโยชน์ในด้านการใช้งานยกตัวอย่างเช่นการทาชานด้านหน้าและชานแล่น
ท่ีค่อนข้างกว้าง จะเห็นได้ว่าพื้นท่ีเอนกประสงค์ถูกให้ความสาคัญมากกว่าพื้นท่ีส่วนตัวและมีรูปแบบ
ที่เรียบง่ายไม่ค่อยประดับตกแต่ง สาเหตุท่ีเป็นเช่นนี้อาจจะเป็นเพราะคุ้มหลังน้ีไม่ใช่คุ้มที่เจ้าแก้วนวรัฐ
อยู่อาศัยอย่างถาวร แต่มาอยู่เพียงชั่วคราวในช่วงที่เดินทางมาเพื่อเก็บเก่ียวผลผลิตและตรวจเยี่ยม
ประชาชนเท่าน้ันจึงเน้นในด้านการใช้งานเป็นหลัก และแม้มีรูปแบบตามเรือนพื้นถิ่นแบบล้านนา
ในด้านโครงสรางและผังพื้น แต่การตกแต่งและใช้งานบางส่วนมีอิทธิพลจากเรือนไม้สมัยใหม่
เข้ามาปะปนด้วย เช่น การตีผนังแบบซ้อนเกล็ด บานเกล็ดไม้และลูกกรงช่องแสงเหนือประตู
อันเนื่องคุ้มบ้านทุ่งเสี้ยวสร้างข้ึนในปี พ.ศ.2470 ซ่ึงเป็นช่วงที่การสร้างเรือนไม้แบบสมัยใหม่แพร่หลาย
อย่างกว้างขวางแล้วในล้านนาจึงทาให้เกิดการผสมผสานระหว่างการสร้างเรือนไม้แบบพื้นถ่ินล้านนา
และรูปแบบของการสรา้ งเรือนไมส้ มัยใหม่
แม้ ว่าจ ะ มี ก ารน าวิธีก ารส ร้ างเรือ น ไม้ ส มั ย ให ม่ เข้ าม าผ ส ม ผ ส าน ใน ขั้ น ต อ น ก ารส ร้างเ รือ น
และมีร่องรอยของการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้งแต่คุ้มหลังนี้ก็ยังถือว่าคงรูปแบบอันเป็นลักษณะเด่น
ของเรือนไม้พื้นถิ่นแบบล้านนาไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ วิธีการก่อสร้างเรือนเครื่องสับแบบล้านนา
54
การทาพื้นต่างระดับที่เรียกว่าชานและเติ๋น และการใต้ถุนของเรือนท่ีไม่ได้สูงจนสามารถเข้าไปอยู่อาศัย
ได้ ดังน้ันคุ้มบ้านทุ่งเส้ียว จังหวัดเชียงใหม่ จึงถือได้ว่าเป็นคุ้มท่ีสร้างข้ึนในระยะหลังแต่เป็นคุ้ม
เพยี งหลังเดยี วในการศึกษาครัง้ นีท้ ย่ี งั ถอื ไดว้ ่าเปน็ เรือนพ้ืนถ่ินแบบล้านนาอยู่
2. กลุ่มที่ 2 คุ้มทไ่ี ดร้ บั อทิ ธพิ ลตะวันตกโดยตรงจากชาวตะวันตกที่อยู่อาศยั ในลา้ นนา
ค้มุ ทีม่ ลี ักษณะทางดา้ นสถาปัตยกรรมในกลุม่ ที่ 2 มอี ยูท่ ้งั หมด 2 หลงั ได้แก่
- คุ้มเจ้าบรุ ีรตั น์ (เจ้ามหาอินทร์) จงั หวดั เชยี งใหม่
- คมุ้ เจ้ายอดเรือน จงั หวัดลาพูน
คุ้มในกลุ่มที่ 2 มีลักษณะทางด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมหลายประการท่ีใกล้เคียงกัน
และมีรูปแบบท่ีคล้ายกันกับบ้านพักอาศัยของชาวต่างชาติท่ีเข้ามาอยู่อาศัยในล้านนา อย่างไรก็ตาม
คมุ้ ท้งั 2 หลงั มีลักษณะปลีกย่อยบา้ งประการทีแ่ ตกตา่ งกนั โดยแบ่งการวิเคราะห์ไดด้ ังต่อไปนี้
2.1. คมุ้ เจา้ บุรรี ัตน์ (เจา้ มหาอินทร์) จังหวัดเชียงใหม่
1) ผงั พนื้ และการใช้งาน
คุ้มเจ้าบุรีรีรัตน์ (เจ้ามหาอินทร์) เป็นเรือนท่ีพักอาศัยขนาดใหญ่ 2 ชั้นผังรูปตัว L
โครงสร้างของเรือนเป็นแบบคร่ึงปูนคร่ึงไม้ โดยชั้นล่างเป็นอาคารก่ออิฐฉาบปูนทาด้วยสีขาวบริเวณ
ชานด้านหน้ามีการทาซุ้มประตูและซุ้มหน้าต่างวงโค้งเหมือนสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล
ช้นั บนเป็นเรือนเครอ่ื งใหมแ่ บบลา้ นนา82 แบ่งเป็นขนาดใหญ่ 3 หอ้ งและมีระเบยี งอย่โู ดยรอบ
เนื่องจากอยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตัวเรือนจึงอยู่ในสภาพท่ีสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันพื้นที่ภายในได้ถูกปรับ
เพื่อจัดนิทรรศการให้ความรู้มีการบูรณ ะซ่อมแซมและร้ือส่วนต่อเติมบางส่วนออกไป
และไม่ได้มีบันทึกหน้าที่การใช้งานของแต่ละห้องในแต่ละช่วงเวลาไว้ จึงทาให้ไม่สามารถระบุได้ว่า
แต่ละห้องของคุม้ หลงั นม้ี หี น้าทก่ี ารใช้งานอย่างไรบา้ ง
82 วิฑูรย์ เหลียวรุ่งเรือง, คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่ (เชียงใหม่: ศูนย์สถาปัตยกรรม
ลา้ นนา, 2547, 31.
55
หน้าที่การใช้งาน
1. ระเบียงด้านหน้า
2. ระเบยี งดา้ นขา้ ง
3. หอ้ งโถง 1
4. ห้องโถง 2
5. หอ้ งโถง 3
6. หอ้ งเก็บของ
7. ห้องเกบ็ ของ
8. ระเบยี งด้านหลงั
9. โรงครัว
ภาพท่ี 21 ภาพแสดงผงั พ้นื ชนั้ ล่างคมุ้ เจ้าบรุ รี ัตน์ (เจา้ มหาอินทร์) จังหวัดเชียงใหม่
หน้าที่การใชง้ าน
1. ระเบยี งเชอื่ มกับบนั ได
2. ห้องโถง
3. ระเบยี งด้านหนา้
4. หอ้ งพระ
5. หอ้ งนอน
6. หอ้ งโถง
7. ห้องเก็บของ
8. หอ้ งเก็บของ
9. โรงครัว
ภาพที่ 22 ภาพแสดงผังพ้นื ชน้ั บนค้มุ เจา้ บรุ รี ัตน์ (เจ้ามหาอนิ ทร)์ จังหวดั เชยี งใหม่
56
2) รปู แบบสถาปตั ยกรรม
ส่วนฐานราก
ในคราวแรกสร้างสันนิษฐานว่าฐานรากของอาคารเป็นดินเรียงพ้ืนด้วยอิฐและปูพ้ืนซีเมนต์
ทับลงไปในภายหลัง83
เสาและการปูพ้นื
อาคารชนั้ ลา่ ง
โครงสร้างตวั เรือนชั้นลา่ งทง้ั หมดก่ออฐิ ถอื ปนู ทาดว้ ยสีขาวรองรบั เรอื นไม้ชนั้ บน
อาคารชัน้ บน
ช้ันบนมีลักษณะโครงสร้างแบบเรือนพ้ืนถ่ินล้านนา พื้นปูด้วยไม้สักวางตีชิดท้ังในส่วน
ของห้องพักอาศัยและระเบียงรอบตัวเรือน ลักษณะของการวางไม้ไม่สม่าเสมอ แสดงให้เห็นถึง
ลักษณะงานของช่างฝมี อื ในสมัยน้นั ทย่ี ังไมม่ เี ครอื่ งมอื อย่างในปัจจบุ ัน84
ภาพท่ี 23 เสาและการปพู ื้นบรเิ วณช้นั ล่าง
ภาพท่ี 24 เสาและการปูพื้นบรเิ วณช้ันบน
83 ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรตั น์ (เจา้ นอ้ ยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่), ค้มุ เจ้าบรุ ีรตั น์ [แผ่นปา้ ย
ให้ข้อมูลประกอบการจัดแสดงศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่) ]
(ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
84 เร่ืองเดยี วกัน.
57
ฝาผนัง
อาคารชั้นลา่ ง
ก่อผนังหนาขนาด 40 ซม. รองรับน้าหนักของตัวเรือนช้ันบนท้ังหมด มีเพียงประตู
และหน้าต่างที่ทาจากไม้ ทิศเหนือของอาคารทาระเบียงยาวไปจนสุดอาคารทางด้านทิศตะวันตก
รูปแบบของระเบียงทาเป็นซุ้มวงโค้ง (Arch) แสดงให้เห็นถึงรูปแบบศิลปกรรมของตะวันตก
ในช่วงการคา้ ไม้ในลา้ นนา85
อาคารชน้ั บน
ผนงั ทาจากไม้สักมลี ักษณะแบบโครงเครา่ ตั้งรบั น้าหนักการวางไมแ้ นวนอนท่ัวทัง้ ตัวเรอื นช้นั บน86
ประตแู ละหน้าตา่ ง
ประตู
บานประตูทาเป็นบานคู่ ไสไม้เป็นบานเกล็ดเข้าไม้ด้วยบังใบ87 ซ่ึงเป็นรูปแบบทไ่ี ดร้ ับอิทธิพล
จากตะวนั ตก88
ภาพที่ 25 รูปแบบของบานประตู
85 ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คมุ้ เจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่), คุ้มเจ้าบุรรี ัตน์ [แผ่นป้าย
ให้ข้อมูลประกอบการจัดแสดงศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่) ]
(ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
86 เร่ืองเดียวกนั
87 ส่วนของไม้ที่ทายน่ื ออกมาจากประตแู ละหนา้ ต่างเพอ่ื ใหล้ งล็อค ชว่ ยบงั คบั ทศิ ทางในการเปดิ /ปดิ ประตู
หน้าต่าง และช่วยกนั ลมฝนเขา้ มาในบา้ น
88 ศูนยส์ ถาปตั ยกรรมลา้ นนา คุม้ เจา้ บรุ รี ตั น์ (เจ้านอ้ ยมหาอนิ ทร์ ณ เชยี งใหม่), คุ้มเจา้ บุรีรัตน์ [แผ่นป้าย
ให้ข้อมูลประกอบการจัดแสดงศนู ยส์ ถาปตั ยกรรมลา้ นนา คุ้มเจา้ บรุ รี ตั น์ (เจา้ น้อยมหาอนิ ทร์ ณ เชียงใหม่)]
(ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
58
หน้าตา่ ง
บานหนา้ ตา่ งเปน็ บานเปดิ คู่ ภายในทาลกู กรงเหลก็ กั้นไว้89
ภาพท่ี 26 รูปแบบของบานหน้าต่าง
หลังคา
ตี ไม้ ปิ ด โ ค ร ง ส ร้ า ง เห นื อ เรื อ น ช้ั น บ น เป็ น แ น ว โค้ ง ข้ึ น จ า ก ค อ ส อ ง ภ า ย ใ น ตั ว เรื อ น
เป็นฝ้าเพดาน ในส่วนของหลังคามีลักษณะเป็นหลังคาคลุมแบบมะนิลา90 คลุมต้ังแต่พื้นท่ี
ตัวเรือนไปจนถึงระเบียง ทางด้านทิศตะวันตกของอาคารมีการใช้วิธีการวางไม้แบบทแยง
เพ่อื รับน้าหนักของโครงสร้างหลงั คา วสั ดุที่ใชส้ รา้ งหลังคาแต่เดิมใช้กระเบอ้ื งดนิ ขอ ซ่ึงเป็นวสั ดุทใ่ี ช้กัน
ทั่วไปในการก่อสรา้ งเรือนพ้ืนถ่ินในล้านนา91
ภาพที่ 27 กระเบ้ืองหลงั คาในปัจจุบนั
89 ศนู ยส์ ถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรรี ตั น์ (เจา้ นอ้ ยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม)่ , คุม้ เจ้าบรุ ีรตั น์ [แผ่นปา้ ย
ให้ข้อมูลประกอบการจัดแสดงศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่) ]
(ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
90 เรอื นหลังคาปัน้ หยา และเปิดจ่ัวดา้ นหนา้ ไดร้ ับอิทธพิ ลจากเรอื นในกรงุ มนิลา ประเทศฟลิ ิปปินส์
91 เร่ืองเดียวกัน.
59
ภาพที่ 28 กระเบอ้ื งดนิ ขอที่ใช้ตง้ั แตค่ ราวแรกสรา้ งจนถงึ ปี พ.ศ. 2547
ภาพท่ี 29 กระเบือ้ งดินขอที่ใชใ้ นปี พ.ศ. 2548 จนถึงปัจจุบนั
3) งานประดับตกแตง่
หนา้ จั่ว
ดา้ นทิศเหนอื : ประดบั ตกแตง่ เปน็ รูปสามเหลี่ยมแบบเรยี บง่าย
ดา้ นทิศตะวันออก : ทาเป็นชอ่ งวงกลมและวางไขว้กันเพอื่ เปน็ ชอ่ งระบายอากาศ
ภาพที่ 30 หนา้ จว่ั ทางดา้ นทิศเหนือ
ภาพที่ 31 หน้าจวั่ ทางดา้ นทิศตะวนั ออก
60
บานประตู
ตกแต่งสว่ นบนของบานประตโู ดยการวางไม้เปน็ บานเกลด็
ระเบยี งชน้ั บน
ราวระเบียงฉลุไม้เป็นรูปกลีบดอกซ่ึงพอเห็นได้ท่ัวไปในเรือนไม้ล้านนา ซุ้มโค้งหรือรวงผึ้ง
ระหวา่ งเสาตรงระเบียงฉลไุ ม้เป็นลายประจายามราชวัตร92
ภาพท่ี 32 ลายฉลุราวระเบยี ง
ภาพท่ี 33 ลายฉลุซมุ้ โค้งระหว่างเสา
92 ศูนยส์ ถาปตั ยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรรี ัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่), คุ้มเจ้าบุรีรตั น์ [แผ่นป้าย
ให้ข้อมูลประกอบการจัดแสดงศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่) ]
(ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
61
2.2. คุ้มเจา้ ยอดเรือน จงั หวดั ลาพนู
1) ผังพื้นและการใชง้ าน
คุ้มเจ้ายอดเรือน จังหวัดลาพูน เป็น เรือนไม้สักขนาดกลางยกใต้ถุนสูง ฐานราก
เป็นคอนกรีตและเสาด้านล่างเป็นคอนกรีตฉาบด้วยซีเมนต์ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน
และโครงสร้างภายในตัวเรือนหลายคร้ังได้แก่ การย้ายห้องครัวจากบนเรือนไปใช้โรงครัวนอกตัวเรือน
การขยายห้องนั่งเล่นโดยการเคลื่อนย้ายฝาผนังระหว่างห้องน่ังเล่นและห้องรับประทานอาหาร
การตอ่ เตมิ ห้องน้า ห้องเตรียมอาหารและห้องเขยี นแบบ93
แ ม้ ว่ า คุ้ ม ห ลั งน้ี จ ะ มี ข น า ด ไม่ ให ญ่ สั ก เท่ า ไห ร่ แ ต่ ก็ ส า ม า ร ถ แ บ่ ง สั ด ส่ ว น ก า ร ใช้ ง า น
ของแต่ละห้องได้อย่างลงตัว ภายในตัวเรือนบริเวณใต้ถุนสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน
ไดแ้ ก่ ใตถ้ ุนโลง่ รองรับเรือนส่วนหน้า ใต้ถุงโล่งรองรับเรือนส่วนหลัง ใตถ้ ุงโล่งรองรับสว่ นท่ีเป็นห้องน้า
โดยในปัจจุบนั บริเวณบริเวณใต้ถุนโลง่ รองรับเรือนส่วนหน้าไดแ้ บ่งพ้ืนท่ีบางส่วนเพ่ือดัดแปลงเป็นห้อง
เขียนแบบ ส่วนบนเรือนประกอบด้วย 8 ส่วน ได้แก่ ห้องรับแขก ห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง
ห้องโถงกลาง (ห้องรับประทานอาหาร) ห้องนั่งเล่น ชานแล่นเช่ือมระหว่างเรือนหลักและเรือนรอง
ห้องท่ตี อ่ เตมิ ขึน้ มาเพอ่ื ใชเ้ ป็นห้องนา้ และห้องเตรียมอาหาร ห้องเกบ็ ของ
หน้าทก่ี ารใช้งาน
1. ใตถ้ นุ โลง่ รองรบั เรอื นสว่ นหนา้
2. ใตถ้ ุนโลง่ รองรบั เรือนสว่ นหลัง
3. ใต้ถุนโลง่ รองรบั สว่ นที่เป็นห้องน้า
ภาพท่ี 34 ภาพแสดงผังพื้นชน้ั ลา่ งคมุ้ เจ้ายอดเรอื น จงั หวดั ลาพนู
93 วิฑูรย์ เหลียวรุ่งเรือง, บ้านโบราณเมืองลาพูน เอกสารโครงการ “บ้านสวย ลาพูนเมืองน่าอยู่”
(เชียงใหม่: มหาวิทยาลยั เชียงใหม่, 2546, 22-23.
62
ภาพท่ี 35 ภาพแสดงผังพน้ื ชน้ั บนค้มุ เจ้ายอดเรอื น จังหวัดลาพนู
หนา้ ทกี่ ารใชง้ าน
1. หอ้ งรบั แขก
2. ห้องนอนเจา้ ยอดเรือน
3. ห้องนอนเล็กใชส้ าหรบั เปน็ ห้องนอนของหลานๆ
4. หอ้ งโถงกลาง (รบั ประทานอาหาร)
5. ห้องนั่งเล่น
6. ชานแลน่ เชือ่ มระหว่างตวั เรอื นด้านหนา้ และด้านหลงั
7.-8. ห้องท่ีต่อเติมขน้ึ มาเพ่ือเป็นห้องนา้ และห้องเตรียมอาหาร
9. หอ้ งนอนหลานๆ ของเจ้ายอดเรือน
10. หอ้ งเก็บของ
2) รปู แบบสถาปตั ยกรรม
สว่ นฐานราก
คุ้มเจ้ายอดเรือนมีลักษณะเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง บริเวณใต้ถุนในส่วนของฐานราก
ทาจากคอนกรตี และเสาทาจากคอนกรตี ฉาบด้วยซีเมนต์ รองรบั นา้ หนกั ของเรอื นชั้นบน94
94 วิฑูรย์ เหลียวรุ่งเรือง, บ้านโบราณเมืองลาพูน : เอกสารโครงการ "บ้านสวย ลาพูนเมืองน่าอยู่"
(เชยี งใหม่ : มหาวิทยาลยั เชียงใหม่, 2546), 21.
63
ภาพท่ี 36 บรเิ วณใตถ้ ุน
เสาและการปูพ้ืน
ช้ันบนใช้เสาไม้สักเน้ือแข็งตีประกบด้วย ผนังแบบไม้แป้นฝาแนวนอนท้ังด้านใน
และด้านนอกตัวเรือน พ้นื ปูโดยใช้แผ่นไมส้ ักขนาดใหญป่ ูตามแนวของตวั เรอื น95
ภาพที่ 37 โครงสรา้ งและการปูพืน้ ภายในเรอื น
95 วิฑูรย์ เหลียวรุ่งเรือง, บ้านโบราณเมืองลาพูน : เอกสารโครงการ "บ้านสวย ลาพูนเมืองน่าอยู่"
(เชยี งใหม่ : มหาวิทยาลยั เชียงใหม่, 2546), 21.
64
ฝาผนงั
ผนังใช้ไมแ้ ปน้ ฝาตีนอนซอ้ นเกลด็ รอบตวั เรือนชน้ั บนทงั้ หมด มกี ารทาช่วงคอสองเปน็ ช่อง
แสงตไี มร้ ะแนงเพ่ือระบายอากาศและชว่ ยให้ภายในเรอื นได้รับแสงสว่างจากภายนอก
ระยะห่างของผนงั ตัง้ แต่พื้นจนถงึ เพดานค่อนข้างสูงแบบเรือนตะวันตก96
หลังคา
โครงเคร่าหลังคาสร้างจากไม้สักเน้ือแข็ง ทางด้านทิศตะวันออกแล ะทิศตะวันตก
ของตวั เรอื นมีการเปดิ จว่ั ด้านข้างแบบเรือนมะนลิ า97
ภาพที่ 38 หลังคาไมส้ ักเน้อื แข็ง
3) งานประดับตกแตง่
หลังคาและหน้าจั่ว
หน้าจ่ัวของคุ้มเจ้ายอดเรือนไม่มีการประดับตกแต่ง แต่บริเวณมุมยอดจ่ัวและมุมชายคา
มีการประดับด้วยสรไน ซึ่งเป็นรูปการประดับหลังท่ีปรากฎอยู่ที่เรือน เจ้าราชสัมพันธวงศ์
(พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) อาเภอเมืองลาพูน จังหวัดลาพูน และปรากฏทั่วไปในเรือนไม้ของผู้มีฐานะ
ในจังหวัดลาพูน ลักษณะดังกล่าวสันนิษฐานว่าได้รบั อิทธพิ ลมาจากการลดรูปการประดับตกแต่งเรือน
ขนมปงั ขิงของชาวตะวนั ตก
96 วิฑูรย์ เหลียวรุ่งเรือง, บ้านโบราณเมืองลาพูน : เอกสารโครงการ "บ้านสวย ลาพูนเมืองน่าอยู่"
(เชยี งใหม่ : มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่, 2546), 21.
97 เร่ืองเดยี วกนั .
65
ภาพท่ี 39 สรไนประดับบริเวณมมุ ยอดจว่ั และชายคา
ภาพที่ 40 สรไนประดับบรเิ วณมุมยอดจว่ั และชายคา
บานประตูและบานหนา้ ตา่ ง
บานประตูเป็นแบบบานคู่ไม่ได้มีการประดับตกแต่งลวดลาย บานหน้าต่างเป็นบานคู่
กน้ั ดว้ ยซ่ลี ูกกรงแบบเรียบงา่ ย
สรุปผลจากการวิเคราะห์คุม้ ทีไ่ ด้รบั อทิ ธิพลตะวนั ตกโดยตรงจากชาวตะวนั ตกท่ีมายงั ล้านนา
ผงั พนื้ และการใชง้ าน
จากการศึกษารูปแบบผังพื้นและหน้าที่ใช้งานของเรือนกลุ่มน้ีในส่วนของคุ้มท่ีมี การบันทึก
รายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่การใช้งานของแต่ละส่วนไว้ได้แก่ คุ้มเจ้าราชบุตร (เจ้ามหาอินทร์)
มีรูปแบบผังพ้ืนและหน้าที่การใช้งานเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูนทาด้วยสีขาว
ชั้นบนเป็นเรือนเคร่ืองไม้ โดยช้ันล่างใช้งานเป็นพื้นท่ีอเนกประสงค์เช่นโถงรับแขก ห้องเก็บของ
ห้องรับประทานอาหาร และพ้ืนท่ีทากิจกรรมของครอบครัว ช้ันบนใช้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
ของเจ้าของเรือนซึง่ บางครัง้ อาจใช้รบั รองแขกพิเศษด้วย ไมน่ ยิ มทาชานและเต๋นิ แลว้ แต่ทาเป็นระเบียง
รอบๆ ตัวเรือนชั้นบนแทน ส่วนโรงครัวจะแยกออกไปเป็นเรือนขนาดเล็กอีกหลัง หนึ่ง
ในบรเิ วณที่ไม่ห่างจากตัวเรือน
66
ส่วนคุ้มเจ้ายอดเรือนหากศึกษาแค่เพียงผังพื้นและหน้าท่ีการใช้งานจะพบวา่ มีลักษณะเหมือน
เรือนพ้ืนถ่ินล้านนาทั่วไปเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูงมีการแบ่งเรือนออกเป็นเรือนหลักและเรือนรอง
โดยมีชานเป็นตัวเช่ือม แต่ละห้องถูกแบ่งหน้าท่ีการใช้งานตามความสะดวกของเจ้าของเรือน
อ ย่ า ง ไร ก็ ต า ม คุ้ ม ห ลั ง น้ี ไม่ ส า ม า ร ถ น า ไป จั ด อ ยู่ ใน ก ลุ่ ม คุ้ ม ท่ี มี ลั ก ษ ณ ะ ท า งด้ า น ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม
แบบเรอื นพืน้ ถน่ิ ลา้ นนาได้ เน่อื งจากมีการประดับตกแตง่ ตวั เรอื นด้วยสรไน
รปู แบบสถาปัตยกรรม
เมื่อพิจารณาจากรูปแบบสถาปัตยกรรมของคุ้มทั้ง 2 หลังจะพบว่ามีลักษณะท่ีเหมือนกัน
คือบริเวณฐานล่างของตัวเรือนไม่มีองค์ประกอบท่ีทาจากไม้แล้ว แต่ใช้คอนกรีตรองรับตัวเรือนแทน
ซง่ึ เป็นลักษณะท่ีปรากฎให้เห็นในบ้านพักของชาวตะวันตกที่เข้ามาอยู่อาศัยในล้านนา ในช่วงระหว่าง
ปี พ.ศ. 2430-2500 ยกตัวอย่างเช่น บ้านพักผู้จัดการ บริษัทบริติชบอร์เนียว หรือสถานีรถไฟนคร
ลาปางท่ีสร้างขึ้นราวปีพ.ศ. 2458-245998 ในขณะท่ีช้ันบนของเรือนยังคงลักษณะแบบล้านนา
แม้ว่าคุ้มทั้ ง 2 ห ลังจะใช้เสาคอน กรีตรองรับ ตัวเรือน เช่น เดียวกัน แต่คุ้มทั้ ง 2 ห ลัง
ก็มีรูปแบบสถาปัตยกรรมมีลักษณะทแี่ ตกต่างกันคอ่ นข้างมาก โดยคุ้มเจา้ ราชบตุ ร (เจา้ มหาอินทร์) นั้น
มีการทาระเบียงรอบตัวเรือนทั้งหมดเช่นเดียวกันกับเรือนพักอาศัยของชาวตะวันตกในล้านนา
สว่ นคมุ้ เจ้ายอดเรอื นซงึ่ สร้างภายหลังยงั คงทาชานแลน่ และเต๋ิน แบบเรอื นพักอาศัยของชาวลา้ นนา
อย่างไรก็ตามท้ังคุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (มหาอินทร์) และคุ้มเจ้ายอดเรือนก็ยังถือได้ว่ามีลักษณะของ
เรือนพื้นถ่ินแบบล้านนาอยู่มากโดยเฉพาะคุ้มเจ้ายอดเรือน ที่มีองค์ประกอบหลายอย่าง
ทั้งในแง่ของรูปแบบและการใช้งาน ใกล้เคียงกับเรือนพ้ืนถ่ินล้านนาเป็นอย่างมาก และคุ้มเจ้าบุรีรัตน์
(มหาอินทร์) ตัวเรือนช้ันสองแม้ว่าจะมีการทาระเบียงและจัดวางห้องแบบเรือนของชาวตะวันตก
แตใ่ นแง่ของงานชา่ งกย็ งั คงเปน็ แบบลา้ นนา
งานประดับตกแตง่
ในส่วนของงานประดับตกแต่งพบว่า คุ้มทั้ง 2 หลัง มีการงานประดับตกแต่งค่อนข้างน้อย
และเรียบง่าย คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (มหาอินทร์) ชั้นล่างมีเพียงการตกแต่งบานประตูด้วยการทาเป็นบาน
เกล็ดเทา่ นั้น ส่วนชน้ั บนมีการฉลุไม้บริเวณราวระเบียงเปน็ รูปกลบี ดอก และซุ้มโค้งระหว่างเสาบริเวณ
ระเบียงเป็นลายประจายามราชวัตรเท่านั้น ส่วนคุ้มเจ้ายอดเรือนการประดับตกแต่งท่ีโดดเด่นกม็ ีเพียง
สรไนบรเิ วณมมุ จ่ัวและมุมหลังคาเทา่ นน้ั
98 วารสารเมืองโบราณ, เกร็ดประวัติศาสตร์ สถานีรถไฟนครลาปาง, เข้าถึงเมื่อ 28 มีนาคม 2564,
เข้าถึงไดจ้ าก http://www.muangboranjournal.com/post/Nakhon-Lampang-railway-station
67
จากการศึกษาคุ้มเจ้าราชบุตร (มหาอินทร์) จังหวัดเชียงใหม่ และคุ้มเจ้ายอดเรือน จังหวัดลาพูน
ทั้งในด้านของผังพ้ืนและการใช้งาน รูปแบบสถาปัตยกรรม และงานประดับตกแตง่ พบว่าเรือนทั้งสอง
ได้รับอิทธิพลจากชาวตะวันตกท่ีเข้ามาอยู่อาศัยในล้านนาโดยตรง ซึ่งมีลักษณะท่ีโดดเด่น
ได้แก่ การใช้ซีเมนต์และคอนกรีตเป็นฐานรากรองรับตัวเรือน แต่ยังคงรูปแบบเรือนไม้พ้ืนถ่ิน
แบบล้านนาในบริเวณช้ันบน ซึ่งเป็นส่วนของการพักอาศัย และมีการตกแต่งตัวเรือนด้วยลายไม้ฉลุ
เพยี งเล็กนอ้ ย เนน้ ความแข็งแรงคงทนและเรยี บงา่ ย
3. กลมุ่ ที่ 3 คมุ้ ทีไ่ ด้รบั อิทธิพลเรอื นไมแ้ บบตะวันตกจากกรุงเทพฯ
คุม้ ทมี่ ีลกั ษณะทางด้านสถาปตั ยกรรมในกล่มุ ที่ 3 มีอยู่ทงั้ หมด 4 หลัง ไดแ้ ก่
- ค้มุ เจ้าบรุ ีรตั น์ (เจ้าน้อยแก้วมงุ เมอื ง) จังหวัดเชียงใหม่
- คมุ้ วงศบ์ ุรี จงั หวัดแพร่
- คมุ้ เจา้ ราชบตุ ร (หมอกฟา้ ณ นา่ น) จงั หวัดน่าน
- คมุ้ เจ้าราชบุตร (เจา้ สมพะมิตร ณ เชยี งใหม่) จงั หวดั เชียงใหม่
คุ้มในกลุ่มที่ 3 จานวน 3 หลัง ได้แก่ คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยแก้วมุงเมือง) จังหวัดเชียงใหม่
คุ้มวงศ์บุรี จังหวัดแพร่ และคุ้มเจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) จังหวัดน่าน มีลักษณะเด่น
คือเป็นเรอื นไม้ท่ีประดับตกแต่งด้วยลายไม้ฉลุแบบขนมปังขิง หรือท่ีมักจะเรยี กกันว่า เรือนขนมปังขิง
ซ่ึงเป็นรูปแบบท่ีได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงรัชกาลที่ 5 จนถึงรัชกาลที่ 6 และแพร่ขยาย
เปน็ วงกว้างอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในกล่มุ ชนชัน้ สูงและผู้มฐี านะ99
คุม้ เจา้ ราชบุตร (เจ้าสมพะมติ ร ณ เชียงใหม่) จังหวัดเชยี งใหม่ แม้ว่าจะไม่ได้มีการประดับ
ตกแต่งเรือนด้วยลายไม้ฉลุแบบขนมปังขิง แต่ก็มีลักษณะทางด้านรูปแบบศิลปกรรมบางประการ
ท่ีชวนให้นกึ ถงึ เรอื นไมแ้ บบกรงุ เทพฯ คุม้ หลงั นจี้ งึ ไดถ้ กู นามาศึกษาร่วมในกลมุ่ ที่ 3 น้ีด้วย
3.1. ค้มุ เจ้าบุรีรัตน์ (เจา้ น้อยแก้วมุงเมือง) จงั หวดั เชียงใหม่
1) ผงั พนื้ และการใชง้ าน
คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าแก้วมุงเมือง) จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นเรือน 2 ช้ัน แบบคร่ึงอิฐ
คร่ึงไม้ โดยชั้นล่างประกอบด้วยเสาก่ออิฐขนาดใหญ่ฉาบปูนเรียบและผนังฉาบปูนทึบทาด้วยสีขาว
ส่วนชั้นบนทาจากโครงสรา้ งไมม้ กี ารสรา้ งระเบยี งโดยรอบตัวเรือน
99 ภูชัย กวมทรัพย์, ลายไม้ฉลุแบบขนมปังขิง สุนทรียภาพแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (กรุงเทพ:
กองโบราณคดี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม, 2560), 7.
68
เน่ืองจากคุ้มหลังนี้อยู่ในพ้ืนที่ภายใต้การดูแลของโรงงานยาสูบกระทรวงการคลัง
จังหวัดเชียงใหม่ ไม่สามารถเข้าชมภายในตัวเรือนได้ จากการศึกษาพบว่าบริเวณภายในเรือน
มีการบูรณะซ่อมแซม ปรับพ้ืนที่และรูปแบบการใช้งานหลายครั้งเพื่อให้สอดคล้องต่อการใช้งาน
ของผู้ครอบครองในแต่ละช่วงเวลาตั้งแต่ช่วงปีพ.ศ.2490-2545100 อย่างไรก็ตามก่อนการดัดแปลง
ตัวเรือนครั้งใหญ่ในปีพ.ศ.2490 ได้มีการบันทึกหน้าที่การใช้งานในส่วนต่างๆ ไว้ ซึ่งเป็นข้อมูล
ท่ีผู้ศกึ ษาจะนามาใช้อา้ งองิ ในการศึกษาครั้งน้ี
จากข้อมูลดังกล่าวได้บันทึกไว้ว่าบริเวณช้ันล่างประกอบด้วย 6 ส่วนได้แก่ ห้องโถงทางเข้า
และห้องรับแขก ห้องเก็บเคร่ืองดนตรี ห้องพักผ่อนและทานอาหาร ระเบียงทางเข้าเรือน ห้องแต่งตัว
และห้องแต่งตัวธิดา ห้องบันได ส่วนชั้นบนประกอบด้วย 6 ส่วนเช่นกัน ได้แก่ ห้องรับแขกพิเศษ
ห้องนอนรอง ห้องโถง ห้องนอนใหญ่ ห้องพระ ระเบียง นอกจากน้ีบริเวณ รอบตัวเรือน
ยังมีส่ิงก่อสรา้ งอ่ืนๆ เชน่ ชานไม้ยกสูงเพื่อใชเ้ ป็นลานพื้นทอ่ี เนกประสงค์ เรือนห้องแถวสาหรบั ผรู้ ับใช้
และแม่นม ยงุ้ ฉ้างไม้สกั ขนาดใหญ่ เรอื นครวั ห้องอาบนา้ ห้องสว้ ม ท่ีจอดรถลากเทยี มม้า101
หน้าทก่ี ารใช้งาน
1. หอ้ งโถงทางเขา้ และรบั แขก
2. หอ้ งเก็บของเครื่องดนตรี
3. ห้องพักผอ่ นและทานอาหาร
4. ระเบียงทางเข้าอาคาร
5. หอ้ งแต่งตวั และห้องแตง่ ตัวธดิ า
6. หอ้ งบนั ได
ภาพท่ี 41 ภาพแสดงผงั พื้นชัน้ ลา่ งคุ้มเจ้าบรุ รี ตั น์ (เจ้าแก้วมงุ เมอื ง) จงั หวัดเชียงใหม่
100 วิฑูรย์ เหลยี วรุง่ เรอื ง, คุ้มเจา้ บรุ ีรัตน์ (เจ้าแก้วมุงเมือง ณ เชียงใหม่) โรงงานยาสูบกระทรวงการคลัง,
พิมพค์ ร้งั ที่ 2 (เชียงใหม่: หจก. จรัสธรุ กิจการพมิ พ์, 2555), 27-33.
101 เร่อื งเดียวกนั , 23-26.
69
หน้าทีก่ ารใช้งาน
1. หอ้ งรับแขกพเิ ศษ
2. ห้องนอนรอง
3. ห้องโถง
4. ห้องนอนใหญ่
5. ห้องพระ
6. ระเบียง
ภาพท่ี 42 ภาพแสดงผังพน้ื ชน้ั บนคุม้ เจ้าบรุ ีรัตน์ (เจ้าแกว้ มุงเมือง) จงั หวัดเชยี งใหม่
2) รปู แบบสถาปัตยกรรม
คุม้ เจ้าบุรีรตั น์ (เจ้านอ้ ยแก้วมงุ เมอื ง) จงั หวดั เชียงใหม่
ส่วนฐานราก
ชั้นล่าง
โครงสร้างช้ันล่างของคุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยแก้วมุงเมือง) เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
ทาดว้ ยสขี าว ใช้เสาก่ออฐิ หนาฉาบปูนเรียบรองรบั นา้ หนกั ของเรอื นไมช้ นั้ บน
เสาและการปพู ้ืน
ชน้ั ลา่ ง
เสาก่อจากอิฐฉาบปูนเรยี บ
ชั้นบน
เรือนชั้นบนท้งั หมดเปน็ เรอื นไม้ปดู ้วยพนื้ ไม้102 และสรา้ งระเบยี งไว้บรเิ วณทิศตะวันตกของตัวเรือน
ภาพท่ี 43 ด้านหลังของคมุ้ เจ้าบรุ ีรัตน์ (เจ้านอ้ ยแกว้ มุงเมอื ง) จังหวดั เชียงใหม่ แสดงให้เห็นภาพรวมของโครงสร้างตวั อาคาร
102 วฑิ ูรย์ เหลยี วรุง่ เรอื ง, คมุ้ เจ้าบุรรี ตั น์ (เจา้ แก้วมงุ เมือง ณ เชียงใหม)่ โรงงานยาสูบกระทรวงการคลงั
, พิมพค์ รงั้ ท่ี 2 (เชียงใหม่: หจก. จรสั ธรุ กิจการพิมพ์, 2555), 50.
70
ผนัง
ชัน้ ลา่ ง
ผนังก่ออิฐถือปนู ทาดว้ ยสขี าว
ชน้ั บน
เรือนไม้ช้ันสองบริเวณผนังด้านหน้าส่วนบนติดหน้าต่างบานคู่แบบบานเกล็ด และส่วนล่าง
มีการฉลุไม้เลียนแบบราวระเบียงทั่วท้ังบริเวณ ต้ังแต่ช่วงกลางของตัวเรือนไปจนถึงด้านหลัง
และพ้ืนที่ที่เหลือทั้งหมดตีไม้แป้นฝาเป็นแนวนอนยาวไปตามแนวเสาตั้งของตัวเรือน ช่วงของผนัง
ตั้งแต่พื้นจนถึงคอสองและเพดานค่อนข้างสูงซ่ึงช่วยในเรื่องของการระบายอากาศและถ่ายเท
ความร้อน
ภาพที่ 44 รูปแบบของผนงั ที่แตกตา่ งกนั ทั้งสามสว่ น
หลังคา
ลักษณะของหลังคาเป็นทรงป้ันหยาเปิดจั่วคลุ่มทั่วทั้งบริเวณของตัวเรือนและระเบียง
มุงด้วยกระเบอื้ งดินขอ ซึ่งของเดิมไดถ้ ูกรือ้ ไปแลว้ ในการบูรณะเมอื่ ปี พ.ศ. 2501 ท่ใี ช้อยู่ในปัจจุบัน
เปน็ กระเบื้องชดุ ใหมท่ ี่ซ่อมแซมในช่วงปี พ.ศ. 2542- 2545103
ภาพท่ี 45 รปู แบบและวสั ดุมุงหลงั คา
103 วฑิ ูรย์ เหลียวรุง่ เรือง, คุ้มเจา้ บรุ รี ัตน์ (เจา้ แก้วมงุ เมอื ง ณ เชยี งใหม)่ โรงงานยาสูบกระทรวงการคลัง
, พิมพค์ รั้งท่ี 2 (เชียงใหม่: หจก. จรัสธุรกิจการพิมพ์, 2555), 50.
71
3) งานประดับตกแต่ง
คมุ้ เจา้ บรุ ีรตั น์ (เจ้านอ้ ยแก้วมงุ เมอื ง) จังหวัดเชยี งใหม่
หน้าจ่ัวและมมุ จว่ั หลงั คา
หนา้ จวั่ และมมุ จ่วั หลังคาถอื ไดว้ า่ เปน็ งานประดบั ตกแต่งทีโ่ ดดเด่นมากของอาคารคุ้มเจ้าบรุ ี
รัตน์ (เจ้าน้อยแก้วมุงเมือง) เน่ืองจากมีการฉลุคลีบหน้าจั่วและประดับตกแต่งด้วยลวดลาย
แบบขนมปังขิง บริเวณมุมจ่ัวหลังคายังมีการตกแต่งด้วยสรไน ซึ่งมีความสูงประมาณ 3 เมตร104
นอกจากนี้บริเวณหน้าจั่วของอาคารมีประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุเป็นรูปพญานาค และระบุปีท่ีสร้าง
อาคารเสร็จไว้อย่างชดั เจน
ภาพท่ี 46 หน้าจ่วั และมมุ จว่ั หลังคา
ภาพท่ี 47 ลายประดบั ตกแต่งบรเิ วณหน้าจั่ว
104 วฑิ ูรย์ เหลียวรงุ่ เรอื ง, คมุ้ เจ้าบรุ รี ัตน์ (เจ้าแกว้ มงุ เมือง ณ เชียงใหม่) โรงงานยาสูบกระทรวงการคลงั
, พิมพ์ครงั้ ที่ 2 (เชยี งใหม่: หจก. จรสั ธุรกจิ การพมิ พ์, 2555), 50.
72
บานประตแู ละบานหนา้ ตา่ ง
บริเวณช้ันล่างทั้งบานหน้าต่างปละบานประตูทาเป็นบานคู่ช่วงกลางบานทาเป็นบานเกล็ด
ชั้นบนมีลักษณะเดียวกันกับชั้นล่าง แต่เพิ่มในส่วนของลายฉลุไม้บริเวณช่องลมเหนือบานประตู
และบานหนา้ ตา่ งเขา้ มา
ภาพท่ี 48 บานประตูและบานหนา้ ต่างบรเิ วณชัน้ ลา่ ง
3.2. คมุ้ วงศ์บุรี จังหวัดแพร่
1) ผงั พน้ื และการใชง้ าน
คุม้ วงศ์บุรีได้รับการดูแลและบูรณะซ่อมแซมเป็นอย่างดมี าตลอดโดยทายาทตระกูลวงศ์บุรี
แล ะใน ปั จ จุ บั น ได้ ถู ก ป รับ เป ล่ี ย น ส ภ าพ เพ่ื อใช้ใน เชิ งพ าณิ ช ย์ จึงเป็ น เรือน ท่ี มี สภ าพ ส ม บู รณ์ ดี
สร้างจากไม้สักทอง 2 ชั้น ตัวเรือนแบ่งเป็น 2 ส่วนคือเรือนหลักและเรือนรองซึ่งเชื่อมต่อกัน
ด้วยชานแล่น คุ้มหลังนี้ถือได้ว่าเป็นเรือนพักอาศัยท่ีมีขนาดใหญ่ มาก ผังของเรือนเป็น
รูปส่ีเหลี่ยมผืนผ้ามีมุขยื่นและแต่เดิมบริเวณหลังเรือนทางด้านขวาจะอยู่ติดกับยุ้งข้าว ซึ่งในปัจจุบัน
ดัดแปลงเป็นศาลาน่ังพักผ่อน แม้ว่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแต่ตัวเรือนและหน้าที่การใช้งานถูก
ดัดแปลงไปค่อนข้างมาก เพ่ือให้ตอบสนองต่อการใช้งานของผู้ดูแลในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามในส่วน
ท่ีถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตคุ้มวงศ์บุรีก็ยังคงมีการจัดแสดงส่ิงของเครื่องใช้และจัดห้องต่างๆ
ให้ใกลเ้ คียงกับในสมัยทคี่ ุ้มยังถูกใช้เป็นทพ่ี ักอาศยั อยู่ ในการศึกษารปู แบบหน้าที่การใชง้ านและผงั พื้น
ของค้มุ วงศ์บรุ จี งึ อ้างองิ จากการจดั แสดงในปัจจุบนั โดยมีรายละเอียดดงั ต่อไปนี้
73
ภาพที่ 49 ภาพแสดงผังพ้ืนชนั้ ล่างคมุ้ วงศบ์ รุ ี จังหวัดแพร่
หนา้ ทีก่ ารใชง้ าน
1. มุขของคุ้มทาเปน็ ทางเดินเขา้ สู่ตวั คุม้
2. ระเบยี งเช่อื มระหว่างมุขและส่วนอนื่ ของคมุ้
3. หอ้ งจดั แสดงและให้ขอ้ มูลเบอื้ งตน้ เกยี่ วกบั อาคารประวัติศาสตร์ในเมืองแพร่
4. ห้องจดั แสดงเกย่ี วกับกิจการปา่ ไม้และการคา้ ของปา่ ในเมืองแพร่
5. ร้านขายของชาร่วย
6. ห้องจัดแสดงเกยี่ วกบั การแตง่ กายพืน้ ถ่นิ
7. ทางเชื่อม
8. ชานเปน็ ตวั เช่ือมระหว่างตวั คุ้มส่วนด้านหน้าและสว่ นด้านหลัง
9. บรเิ วณใต้ถุนบ้านทเ่ี ดิมเคยเปดิ โลง่ แตใ่ นปัจจุบนั ไดม้ ีการปรับปรงุ ตดิ กระจกใหเ้ ปน็ ห้องกวา้ งสาหรบั เกบ็ ของ
10.– 11. สว่ นรองรับศาลาบริเวณชั้นบนท่แี ต่เดมิ เคยเปน็ ยงุ้ ข้าว
74
ภาพท่ี 50 ภาพแสดงผงั พื้นช้ันบนคุ้มวงศ์บุรี จังหวัดแพร่
หนา้ ท่กี ารใชง้ าน
1. พื้นที่ส่วนทเ่ี ป็นมุขของค้มุ 12. พื้นที่ต่างระดับที่เรียกว่าข่มทาหน้าท่ีเป็น
2. ห้องโถงสาหรับตอ้ นรบั แขก ชานเชื่อมตัวคุ้มส่วนหน้าและส่วนหลังเข้า
3. ทางเดินเช่ือมไปยงั หอ้ งอ่ืนๆ ด้วยกนั
4. ห้องนอนของเจ้าพ่อพรหม(หลวงพงษพ์ ิบลู ย)์ 13. ฮ้านนา้
5. หอ้ งผีครู 14. หอ้ งเก็บของ
6. ห้องทางานหลวงพงษพ์ บิ ลู ย์ 15. พ้ืนที่โล่งมีการเคาน์เตอร์และวางโต๊ะ
7. ห้องนอนแมเ่ จ้าบวั ถา รับประทานอาหารเพื่อรองรับการใช้งานใน
8. ห้องท่ีมีการตีลูกกรงเหล็กไว้ตรงประตู ปัจจุบัน
แต่เดิมเคยเป็นห้องเก็บสมบัติและทรัพย์สินมี 16. หอ้ งสาหรบั พกั ผ่อน
คา่ ปจั จุบันเปน็ ห้องพระ 17. ระเบยี งหลังคมุ้
9. หอ้ งบูชาบรรพบุรษุ 18. ห้องเกบ็ ของและเตรียมอาหาร
10. ชานแล่นเช่ือมหอ้ งต่างๆ เข้าหากัน 19. ชานแลน่ เชอ่ื มต่อระหว่างตวั ค้มุ กับตุข๊ ้าว (ยงุ้ ฉาง)
11. เต๋ินมีบริเวณกว้างขวางเพื่อเป็นพ้ืนที่ 20.-21. ในอดตี เคยเปน็ ยงุ้ ฉางแตใ่ นปจั จุบันได้
รับประทานอาหารร่วมกันระหว่างคนใน มกี ารปรับเปลี่ยนให้เปน็ สาขาสาหรับนั่งพกั ผ่อน
ครอบครวั
75
2) รูปแบบสถาปัตยกรรม
ส่วนฐานราก
ฐานรากของเรือน มีการนาไม้ท่อนซุงเนื้อแข็งขนาดใหญ่มาวางเรียงต่อกันแล้วทาการก่ ออิฐ
ทาปนู ทับลงไป105
เสาและการปพู นื้
ชนั้ ลา่ ง
โครงสร้างชั้นล่างของคุ้มวงศ์บุรีมีลักษณะที่แตกต่างกันระหว่างพ้ืนท่ีเรือนหลักและพ้ืนที่เรือนรอง
โดยมีขอ้ แตกต่างคอื พน้ื ที่สว่ นหน้ามีตงั้ เสาไม้และนาไม้มาทาเป็นผนังก้ันแบ่งเปน็ ห้องๆ ในขณะท่ีพื้นท่ี
สว่ นหลงั เป็นโครงสรา้ งเรือนไม้ใต้ถุนโล่ง
ภาพท่ี 51 เรอื นหลกั บรเิ วณชน้ั ล่าง
ภาพที่ 52 ทางเชอื่ มระหวา่ งเรอื นหลกั และเรอื นรอง
105 สหยศ ศรพี นา วงศบ์ ุรี, ประวตั คิ ุ้มวงศบ์ รุ ี [แผน่ ป้ายใหข้ อ้ มลู ประกอบการจัดแสดงพพิ ิธภัณฑ์มชี ีวติ
คุ้มวงศบ์ รุ ]ี (ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
76
ช้ันบน
บริเวณช้ันบนของคุ้มวงศ์บุรีใช้เสาไม้เป็นโครงสร้างหลักและปูพื้นด้วยพ้ืนไม้ มีการทาเติ๋น
และชานแบบเรอื นพน้ื ถ่นิ ลา้ นนา
ในการสร้างเรือนหลังน้ีใช้วิธีการสร้างท่ีเรียกว่าการเข้าลิ้นสลักไม้106 ซ่ึงเป็นวธิ ีเดียวกันกับท่ีใช้
ในการสรา้ งเรอื นเครอ่ื งสบั ของภาคกลาง107
ภาพที่ 53 โครงสรา้ งเรอื นชั้นบน
ผนงั
ผนังช้ันล่างบริเวณส่วนหน้าและผนังช้ันบนมีลักษณะที่เหมือนกันคือมีการต้ังเค้าโครงเสา
แนวต้ังและวางผนังไมซ้ อ้ นกันข้ึนไปในแนวนอน
ภาพที่ 54 ผนงั ช้นั ล่างของเรือน
106 กรรมวธิ ีการตอกไมข้ องช่างไทยโบราณ ซง่ึ ไม่มกี ารใชต้ ะปูแต่ใช้วธิ กี ารตอบลม่ิ ไมแ้ ทน
107 สหยศ ศรพี นา วงศ์บุรี, ประวตั ิคมุ้ วงศบ์ รุ ี [แผ่นปา้ ยใหข้ ้อมลู ประกอบการจัดแสดงพพิ ธิ ภณั ฑม์ ชี ีวติ
ค้มุ วงศ์บุร]ี (ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
77
ภาพท่ี 55 ผนังช้นั บนของเรือน
หลงั คา
รูปแบบของหลังคาเป็นอาคารทรงป้ันหยาคลุมตัวเรือนทุกด้าน ส่วนบริเวณของมุขเป็นทรง
หลังคาเป็นจ่ัว ในคราวแรกสร้างใช้กระเบื้องไม้แป้นเกล็ด ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นสังกะสี
และได้เปล่ียนเป็นกระเบ้ืองวา่ วจนถึงปจั จบุ ัน108
ภาพท่ี 56 กระเบือ้ งหลังคาในปัจจุบนั
108 สหยศ ศรีพนา วงศบ์ ุรี, ประวตั ิคมุ้ วงศ์บรุ ี [แผน่ ปา้ ยให้ขอ้ มูลประกอบการจัดแสดงพพิ ิธภัณฑ์มชี ีวติ
ค้มุ วงศบ์ รุ ]ี (ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
78
3) งานประดับตกแต่ง
หนา้ จ่ัว มมุ จว่ั และหลังคา
คุ้มวงศ์บุรีมีการตกแต่งหลังคาในหลายจุด ได้แก่ เสาสรไนประดับมุมหน้าจ่ัว เสาไม้กลึง
ฉลุลายพันธ์พฤกษา เครือเถาและดอกไม้ สันหลังคาประดับด้วยลายหยูอี้109 กรอบหน้าจ่ัวฉลุเป็นลาย
พันธ์พฤกษา ก้านขด ใบเทศ ดอกมะขาม ดอกสา ซึ่งเป็นลวดลายท่ีปรากฏอยู่ท่ัวไปในล้านนา
หน้าจวั่ ประดบั ดว้ ยลายดอกพดุ ตาน ตกแต่งชายคาดว้ ยลายฉลนุ า้ ย้อย110
ภาพที่ 57 หนา้ จ่ัวบริเวณมุขของเรอื น
ภาพที่ 58 ลวดลายภายในกรอบหน้าจว่ั
ภาพท่ี 59 ลวดลายประดับสันหลงั คา
109 ลวดลายทไ่ี ดร้ บั อทิ ธพิ ลจากจนี เปน็ สัญลกั ษณข์ องการมอี ายุยืนและสุขภาพดี
110 ศรณั ย์ ศรีธวัชพงศ์ และเทดิ ศักดิ์ เตชะกิจขจร, “รปู แบบสถาปตั ยกรรมลา้ นนาขนมปังขิง กรณศี ึกษา
ค้มุ วงศบ์ ุรี จังหวดั แพร่,” สาระศาสตร์ 2561, 2 (กรกฎาคม 2561): 208-218.
79
ตวั เรือน
ตัวเรือนภายนอกทาด้วยสีขาวและสีชมพู ภายในอาคารในแต่ละห้องจะทาสีแตกต่างกันออกไป
เช่น สชี มพู สขี าว สฟี ้า และสีเขยี ว
บานประตูและบานหนา้ ต่าง
เหนือบานประตูและบานหน้าต่างมีการประดับตกแต่งด้วยลวดลายพันธ์พฤกษาและก้านขด
บานประตูเป็นบานไม้คู่ทาสีเพียงอย่างเดียวไม่มีลวดลายประดับตกแต่ง บานหน้าต่าง มี 2 แบบ
แบบแรกตรงส่วนมุขและด้านหน้าของเรือนทาหน้าต่างบานเกล็ดเล็กๆ แบบเปิดข้ึนเรียงต่อกัน
หลายบาน ส่วนอื่นของเรือนจะใช้หน้าต่างไม้บานคู่เป็นบานเกล็ดคร่ึงหนึ่ง อีกคร่ึงหน่ึงเป็นบานไม้
เรียบๆ
ภาพที่ 60 บานประตแู ละลวดลายประดบั เหนือบานประตู
ราวระเบยี งและกนั สาด
ราวระเบียงของคุ้มวงศบ์ ุรีจะอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเรือนและหนา้ ตา่ งทกุ บานภายในเรือน
โดยฉลุเป็นรูปลายพันธุ์พฤกษาและดอกไม้ ส่วนกันสาดของชั้นล่างจะอยู่บริเวณด้านหน้าของเรือน
ทง้ั แถวขา้ งล่างราวระเบียง
ภาพที่ 61 ลวดลายไม้ฉลรุ าวระเบยี งและกันสาด
80
ภาพท่ี 62 ลวดลายไม้ฉลรุ าวระเบยี ง
ภาพที่ 63 ลวดลายไมฉ้ ลกุ นั สาด
3.3. คมุ้ เจา้ ราชบตุ ร (หมอกฟา้ ณ นา่ น) จงั หวัดน่าน
1) ผังพนื้ และการใชง้ าน
คมุ้ เจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) ถือได้ว่าเป็นคุ้มหนึ่งในไม่ก่แี ห่งที่มีการรักษาสภาพเดิม
ไว้ได้มากท่ีสุด และมีการบูรณะซ่อมแซมน้อยมาก เน่ืองจากเจ้าสมปรารถนาต้องการที่จะรักษาสภาพ
โดยทั่วไปของคุ้มให้อยู่ในสภาพใกล้เคียงกับคราวแรกสร้างมากท่ีสุด เพ่ืออนุรักษ์ไว้ให้ผู้ท่ีสนใจ
ได้เข้ามาเยี่ยมชมและค้นคว้าข้อมูล อีกท้ังงบประมาณที่ใช้ในการดูแลรักษาเป็นทุนส่วนตัว
ของครอบครัวเจ้าสมปรารถนา จึงทาให้การบูรณะซ่อมแซมเป็นไปเพ่ือรักษาสภาพของคุ้มให้คงอยู่
ต่อไปไดใ้ นสภาพทไ่ี ม่ผุผังจนเกินไปเทา่ นัน้
ลักษณะของเรือนหลังน้ีเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น โดยช้ันล่างแต่เดิมเป็นใต้ถุนเปิดโล่งและช้ันบน
จะแบ่งเป็นห้องสาหรับพักอาศัยและทากิจกรรมต่างๆ สร้างจากไม้สักท้ังหลัง ลักษณะเป็นรูปตัว U
แต่ทางด้านปีกซ้ายของคุ้มมีส่วนท่ียื่นออกมาเป็นมุข มีบันไดขึ้นไปยังชั้นบน 2 ตาแหน่ง ได้แก่บริเวณ
หน้าบ้านท่ีเชื่อมต่อกับใต้ถุนและบริเวณข้างบ้านทางด้านขวา ทาระเบียงล้อมรอบห้องโถงต่อยาวไป
จนถึงชานแดดและชานแลน่ เพ่ือเป็นทางเช่ือมไปยังห้องต่างๆ โดยทางโลง่ เหล่าน้จี ะถูกกั้นในสว่ นรมิ ไว้
ด้วยงานไมแ้ กะสลกั ซงึ่ ทาเลียนแบบลูกกรง
81
แม้ว่าจะไม่ได้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่าแต่เดิมหน้าที่การใช้งานของแต่ละส่วน
ในคุ้มแห่งนี้เป็นอย่างไร แต่เนื่องด้วยสภาพภายในของตัวเรือนที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไหร่นัก
พรอ้ มทั้งศกึ ษาจากตัวเรือนในปจั จุบันซ่งึ ยังมีการใช้งานอยู่ จึงทาให้สามารถสรปุ ได้ ดังตอ่ ไปน้ี
หนา้ ท่ีการใช้งาน
1. ห้องเกบ็ ของ
2. พื้นท่ีปดิ ทึบ
3. ใตถ้ ุนบา้ น
4. หอ้ งเกบ็ ของ
5. ใต้ถุนบ้าน
ภาพที่ 64 ภาพแสดงผงั พื้นบรเิ วณช้นั ล่างของคมุ้ เจ้าราชบตุ ร จงั หวัดนา่ น
ภาพที่ 65 ภาพแสดงผงั พนื้ บริเวณชนั้ บนของคุ้มเจ้าราชบตุ ร จังหวดั น่าน
หนา้ ท่ีการใชง้ าน
1. บริเวณห้องพักอาศัย 6. หอ้ งโถงกลางบ้าน 14.ห้องนา้
2. หมายเลข 2,3,4 คือโถง 7. ระเบียง 15.หอ้ งน้า
ทางเดนิ และพืน้ ท่ีเก็บของ 8. ชานแดด 16. (16,17,18) หอ้ งเกบ็ ของ
3. ชานรม่ 11. ห้องพักอาศยั 19.เรือนครัว
4. ชานรม่ 12.ชานแลน่ 20.เตาไฟ
5. ห้องทานอาหาร 13. ชานแลน่ 21. ระเบยี งโล่ง
82
2) รูปแบบสถาปตั ยกรรม
ส่วนฐานราก
ฐานรากของเรือนท้ังในส่วนที่ก้ันเป็นห้องและบริเวณใต้ถุนโล่งเทพ้ืนซีเมนต์ทั้งหมด
โดยยกระดบั ขนึ้ ใหส้ ูงกวา่ พนื้ ดินเลก็ น้อย
เสาและการปพู ้ืน
ชน้ั ล่าง
พื้นทั้งหมดของช้ันล่างเป็นพื้นซีเมนต์มาแต่เดิมและได้มีการเสริมซีเมนต์เพ่ิมเข้าไปอีก
เพ่ือความคงทนของเรือน111 ใชเ้ สาไมส้ ูงและคานรองรับนา้ หนกั ของตวั เรอื นชน้ั บน
ชั้นบน
ปพู น้ื ดว้ ยแผ่นไม้สักขนาดใหญ่วางตามแนวเสาและคานชั้นล่าง วางเสาไมส้ งู เพื่อรบั นา้ หนัก
ของเพดานและหลังคา ตรงระเบียงมีการตั้งเสาเป็นช่วงเว้นระยะเพ่อื รองรับชายคา
ภาพท่ี 66 แสดงให้เหน็ การเสรมิ ปนู ซีเมนต์และพ้นื คอนกรตี
ภาพที่ 67 เสาและการปูพื้นบรเิ วณช้ันบน
111 สัมภาษณ์ เจา้ สมปรารถนา ณ น่าน, หลานสาวเจ้าราชบุตร (เจา้ หมอกฟา้ ณ นา่ น) และเป็นเจา้ ของค้มุ
เจ้าราชบตุ ร เมอื งน่าน ในปัจจุบนั , 13 ตลุ าคม 2561.
83
ผนงั
ผนังทั้งช้ันบนและช้ันล่างวางโครงเสาในแนวตั้ง แล้วใช้แผ่นไม้สักขนาดใหญ่ตีแนวนอนเรียง
ขึ้นไปตามแนวเสา ด้านนอกเรือนทาด้วยสีเขียวท้ังชั้นบนและช้ันล่าง ภายในเรือนทาสีเขียว
แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น พ้ืนที่ส่วนใหญ่ปล่อยสีผิวของไม้ตามธรรมชาติไม่ได้มีการทาสี
ชนั้ บนระยะระหว่างผนังจนถงึ เพดานสูงมาก
ภาพที่ 68 ผนงั ดา้ นนอกเรอื นช้ันบนและชน้ั ลา่ ง
ภาพท่ี 69 ผนงั ดา้ นในเรอื นชน้ั ล่าง
84
ภาพท่ี 70 ผนังด้านในเรือนช้นั บน
ภาพที่ 71 ผนงั ด้านนอกเรอื นช้นั บน
หลังคา
หลังคามุงด้วยกระเบ้ืองแป้นเกล็ดโดยฝ่ังขวาของคุ้มมีลักษณะหลังคาป้ันหยา ส่วนอีกด้านจะ
เปิดด้านหน้าลักษณะคล้ายหน้าจั่วแต่เป็นส่ีเหล่ียมแบบที่เรียกว่าหลังคาหัวตัด112 ซึ่งตรงกับตาแหน่ง
ของมขุ ทยี่ ่นื ออกมาจากตัวคุ้ม
112 น. ณ ปากนา้ , แบบแผนบา้ นเรือนในสยาม, พมิ พ์ครัง้ ที่ 6 (กรุงเทพฯ: เมอื งโบราณ, 2555), 293.
85
ภาพที่ 72 รปู แบบหลังคาหวั ตดั
3) งานประดับตกแตง่
หน้าจั่ว มมุ จ่ัว และหลังคา
กลางหนา้ จว่ั ของคุ้มเจ้าราชบตุ ร จังหวัดน่าน ฉลุเป็นภาพพญานาคสองตัวหัวหนา้ เขา้ หาดอกไม้
และบริเวณรอบๆ ตกแต่งด้วยลวดลายพันธ์พฤกษา ถัดลงมาตรงแถบด้านล่างของหน้าจั่วเป็นภาพ
พันธุ์พฤกษาและภาพของราชสีห์ มีการทาเชงิ ชายเลก็ ๆ ติดอยูท่ ่ัวหลังคาฉลเุ ปน็ รูปดอกไม้
ภาพท่ี 73 ลวดลายประดบั บรเิ วณหน้าจั่วหัวตดั
ภาพท่ี 74 ลวดลายประดบั เชงิ ชาย
86
ตวั เรอื น
ภายนอกเรือนทาด้วยสีเขียวอ่อนและสีขาวและภายในเรือนทาด้วยสีเขียวเฉพาะบริเวณฝ้า
หลังคา แต่ส่วนด้านหลังตั้งแต่บริเวณชานแดดจะปล่อยให้เป็นสีของไม้ตามปกติ บริเวณช้ันบน
มกี ารทาช่องลมหรือคอสองเพื่อระบายอากาศ
ช่องลม/คอสอง
ประดบั ตกแต่งดว้ ยไมฉ้ ลุลายพันธ์ุพฤกษา ดอกไม้ และกา้ นขด
ภาพท่ี 75 ลวดลายประดับช่องลม
บานประตูและบานหน้าตา่ ง
บานประตูและบานหน้าต่างทาจากไม้ มีลักษณะเป็นบานคู่ตีลูกฟัก มีรูปแบบท่ีเรียบง่าย
ไม่ไดป้ ระดับตกแตง่ ลวดลาย หน้าตา่ งบางคมู่ กี ารประดับตกแต่งกระจกไว้เหนือบาน
ภาพที่ 76 รูปแบบของบานหนา้ ต่างชั้นล่าง
ภาพที่ 77 รูปแบบของบานหนา้ ต่างช้ันบน ซง่ึ เหนือบานหนา้ ต่างประดับตกแต่งด้วยแผ่นกระจก
87
ราวระเบยี ง
ราวระเบียงอยบู่ รเิ วณระเบียงชนั้ บนของเรือนฉลเุ ป็นลวดลายพนั ธ์ุพฤกษาและก้านขด
ภาพท่ี 78 ลวดลายฉลรุ าวระเบยี ง
3.4. คมุ้ เจ้าราชบุตร (เจ้าสมพะมติ ร ณ เชยี งใหม่) จังหวัดเชยี งใหม่
1) ผังพ้ืนและการใช้งาน
จากการเก็บข้อมูลคุ้มท้ังหมดในการศึกษาน้ีพบว่าคุ้มเจ้าราชบุตร (เจ้าสมพะมิตร
ณ เชียงใหม่) เป็นคุ้มที่มีลักษณะที่แตกต่างจากคุ้มแห่งอื่นเป็นอย่างมาก โดยมีลักษณะเด่นคือการใช้
เรือนเครื่องไม้ขนาดใหญ่ 2 ชั้นเป็นเรือนหลักเพื่อทาข่วงกลางบ้านซ่ึงล้อมรอบด้วยเรือนไม้หลังเล็ก
เรียงต่อกันในผังสี่เหลี่ยม เนื่องจากในปัจจุบันบริเวณพื้นท่ีของคุ้มหลั งนี้และพื้นที่โดยรอบ
ได้ถูกปรับปรุงเพื่อใช้เป็นสถานท่ีสาหรับสอนภาษาต่างประเทศของสถาบัน AUA Language Center
ทาให้ไม่สามารถเข้าไปสารวจพื้นที่ภายในได้ นอกจากน้ีการดัดแปลงรูปแบบการใช้งานของพ้ืนท่ียัง
ส่งผลให้ไม่สามารถระบุหน้าที่การใช้งานของแต่ละส่วนในตัวเรือนได้ อย่างไรก็ผังพื้นของคุ้มหลังน้ี
ได้มีผู้ท่ีทาการศึกษาไว้แล้ว113 ในการศึกษาครั้งน้ีจึงได้นาข้อมูลดังกล่าวมาประกอบและสรุปออกมา
เปน็ รูปแบบผังพนื้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
113 ชาญณรงค์ ศรสี ุวรรณ, เรือนลา้ นนาและลวดลายประดบั อาคารประเภทคุม้ และที่อยอู่ าศัยขนาด
ใหญ่ในเขตภาคเหนือ, พมิ พ์ครงั้ ท่ี 2 (เชยี งใหม่: ศนู ย์สถาปตั ยกรรมล้านนา, 2562), 89.
88
ผังพนื้ ภายในอาคาร
ภาพท่ี 79 ภาพแสดงผังพื้นชัน้ ลา่ งคมุ้ เจา้ ราชบตุ ร (เจ้าสมพะมติ ร ณ เชยี งใหม่)
ชั้นบน
ภาพท่ี 80 ภาพแสดงผังพน้ื ชั้นบนคมุ้ เจ้าราชบุตร (เจ้าสมพะมติ ร ณ เชยี งใหม่)
89
ผงั พ้ืนแสดงบริเวณโดยรอบของคุ้ม
ภาพที่ 81 ภาพแสดงผังพ้นื บริเวณโดยรอบคมุ้ เจ้าราชบุตร (เจ้าสมพะมิตร ณ เชยี งใหม)่ จงั หวัดเชียงใหม่
หน้าท่ีการใชง้ าน
1. อาคารคุ้มเจ้าราชบุตร (เจ้าสมพะมิตร ณ เชียงใหม่) ถูกดัดแปลงเป็นห้องสานักงานของสถาบัน
AUA Language Center
2.-10. หอ้ งต่างๆ ทถี่ ูกดดั แปลงเปน็ ห้องเรียน ห้องประชมุ และห้องเอนกประสงค์
11.ชานร่ม
12.ข่วงกลางบ้าน
2) รปู แบบสถาปตั ยกรรม
ส่วนฐานราก
ฐานของตัวเรือนมีการยกพื้นข้ึนสูงกว่าระดับผิวหน้าดินโดยใช้คอนกรีตและมีการก่ออิฐ
เปดิ ช่องระบายอากาศในส่วนของฐานเรอื น114
114 ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่). การจัดการองค์ความรู้
สถาปัตยกรรมล้านนา ด้านท่ีอยู่อาศัยขนาดใหญ่ เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาพ้ืนถ่ินสู่สากล. เข้าถึงเม่ือ 14 มีนาคม
2564. เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.lanna-arch.net/lak/
90
ภาพที่ 82 ส่วนฐานของเรือนทีก่ อ่ ดว้ ยอิฐและคอนกรีต
เสาและการปพู นื้
เสาและการปูพื้นใช้ไม้ทั้งหลัง เสารองรับโครงสร้างของเรือนท้ังช้ันล่าง และช้ันบน และทา
เสาตัง้ รองรับสว่ นของชายคา
ผนงั
ตงั้ เสาไม้ในแนวต้ังเพ่ือยดึ แผน่ ไมท้ าเปน็ ผนงั วางในแนวนอนเรียงยาวไปขึ้นไปตามแนวของเรือน
ภาพท่ี 83 รูปแบบของผนัง
ที่มา ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่). การจัดการองค์ความรู้
ส ถ าปั ต ย ก รรม ล้ าน น า ด้ าน ที่ อ ยู่ อ าศั ย ข น าด ให ญ่ เพ่ื อ ส่ งเส ริ ม ภู มิ ปั ญ ญ าพื้ น ถ่ิ น สู่ ส าก ล .
เขา้ ถึงเมอ่ื 14 มนี าคม 2564. เข้าถึงไดจ้ าก https://www.lanna-arch.net/lak/
91
หลังคา
หลังคาจั่วคลุมปิดชั้นบนแบบ Gambrel roof และมีส่วนหักของเส้นหลังคาซึ่งเป็นรูปแบบท่ี
ได้รับความนิยมในฝร่ังเศส115 และไม่มีส่วนของหน้าจั่วหันมาทางด้านหน้า ในปัจจุบันวัสดุท่ีใช้มุง
หลังคาเรือนหลักเป็นกระเบ้ืองซีเมนต์หางว่าว116 แต่เม่ือพิจารณาจากหลังคาของกลุ่มเรือนรอบๆ
ข่วงบ้านจะพบว่ามีบางช่วงที่มุงด้วยกระเบื้องไม้แป้นเกล็ด จึงอาจเป็นไปได้ว่าแต่เดิมหลังคาของ
เรอื นทกุ หลังในบริเวณคุม้ เจา้ ราชบุตร (เจา้ สมพะมิตร ณ เชียงใหม่) ใชก้ ระเบ้ืองไม้แป้นเกลด็ ทง้ั หมด
ภาพท่ี 84 กระเบอ้ื งหลังคาในปัจจบุ ัน
ภาพท่ี 85 กระเบ้อื งหลังคาของเรอื นหลังเล็กรอบข่วงบ้าน
ท่ีมา ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่). การจัดการองค์ความรู้
สถาปัตยกรรมล้านนา ด้านท่ีอยู่อาศัยขนาดใหญ่ เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาพื้นถ่ินสู่สากล. เข้าถึงเม่ือ 14 มีนาคม
2564. เข้าถงึ ได้จาก https://www.lanna-arch.net/lak/
115 วฑิ ูรย์ เหลยี วรงุ่ เรอื ง, คมุ้ เจ้าบรุ ีรตั น์ (เจ้าแก้วมงุ เมอื ง ณ เชียงใหม่) โรงงานยาสบู กระทรวงการคลัง
, พมิ พ์คร้ังที่ 2 (เชยี งใหม:่ หจก. จรัสธุรกิจการพมิ พ,์ 2555), 45.
116 ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่). การจัดการองค์ความรู้
สถาปัตยกรรมล้านนา ด้านท่ีอยู่อาศัยขนาดใหญ่ เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาพ้ืนถิ่นสู่สากล. เข้าถึงเมื่อ 14 มีนาคม
2564. เขา้ ถึงได้จาก https://www.lanna-arch.net/lak/
92
3) งานประดับตกแตง่
บานประตแู ละบานหนา้ ต่าง
บานประตูและบานหน้าต่างตีลูกฟักและทาบานเกล็ดไม้ เหนือบานหน้าต่างประดับ
ด้วยกระจกลวดลายสี่เหล่ยี มข้าวหลามตดั 117
ภาพท่ี 86 รูปแบบบานหน้าตา่ ง
สรุปผลจากการวเิ คราะห์ค้มุ ทไ่ี ด้รับอิทธิพลเรือนไม้แบบตะวันตกจากกรุงเทพฯ
ผังพ้ืนและการใช้งาน
จากการศึกษาผังพื้นของคุ้มท่ีได้รับอิทธิพลเรือนไม้แบบตะวันตกจากกรุงเทพฯ ท้ัง 4 หลัง
พบว่าคุ้มจานวน 2 หลัง ได้แก่ คุ้มเจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) และคุ้มวงศ์บุรี มีลักษณะผังพื้นที่
เหมือนกันกับเรือนพ้ืนถ่ินล้านนาขนาดใหญ่ กล่าวคือมีการสร้างเรือนโดยเป็นออกเป็น 2 ส่วน
ได้แก่เรือนหลักและเรือนรอง แม้ว่าจะมีการกั้นห้องในส่วนของพื้นท่ีช้ันล่างบางส่วน แต่จะไม่ใช้งาน
เป็นท่ีพักอาศัย เน่ืองจากคติความเช่ือเรื่องการใช้งานพื้นท่ีใต้ถุนถือว่าอัปมงคล118 พ้ืนท่ีดังกล่าว
จึงมักจะถูกดัดแปลงไปใช้เป็นห้องทางาน และห้องเก็บของแทน ลักษณะผังพื้นของคุ้มทั้ง 2 หลัง
ที่เป็นลักษณะอันมีเอกลักษณ์ของเรือนพื้นถิ่นล้านนาคือการเชื่อมเรือนหลักและเรือนรองด้วยชาน
117 ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยมหาอินทร์ ณ เชียงใหม่). การจัดการองค์ความรู้
สถาปัตยกรรมล้านนา ด้านที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาพ้ืนถิ่นสู่สากล. เข้าถึงเมื่อ 14 มีนาคม
2564. เขา้ ถึงได้จาก https://www.lanna-arch.net/lak/
118 ผุสดี ทิพทัส, บ้านในกรุงเทพ : รูปแบบการเปล่ียนแปลงในรอบ 200 ปี (พ.ศ. 2325-2525)
(กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, 2525), 83.
93
นอกจากมีการทาชานเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ของเรือนเข้าด้วยกันแล้ว ยังมีการทาพ้ืนที่ต่างระดับท่ีเรียกว่า
เติ๋นอีกด้วย คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยแก้วมุงเมือง) จะมีลักษณะผังพื้นท่ีแตกต่างจากคุ้ม 2 หลัง
กอ่ นหนา้ คอื ไม่มีการทาชานและเตน๋ิ แล้ว แต่มกี ารทาระเบียงและมีการใช้งานห้องชั้นลา่ งเปน็ พื้นท่ีพัก
อาศัยแบบเรือนของชาวตะวนั ตก
สว่ นคุ้มเจ้าราชบุตร (เจ้าสมพะมิตร ณ เชียงใหม่) แม้ว่าจะไม่สามารถศึกษาหน้าท่ีการใช้งาน
ในแต่ละห้องได้ แต่ก็ถือว่าเป็นคุ้มที่มีลักษณะผังพ้ืนท่ีแปลกท่ีสุดจากท้ัง 4 หลัง คือ มีการทาข่วง
ไว้บริเวณกลางบ้าน ลักษณะเชน่ น้ีไม่ปรากฏอย่ใู นผังพ้ืนของคุ้มเจ้าล้านนาท่ียังพอมีหลักฐานให้ศึกษา
หลังใดเลย ซ่ึงลักษณ ะการสร้างข่วงไว้กลางบ้านเช่นน้ี ชวนให้นึกถึงการสร้างเรือนไทย
ของทางภาคกลาง นอกจากนี้สันนิษฐานได้ว่าในครั้งเมื่อคุ้มหลังน้ียังถูกใช้เป็นที่พักอาศัยของเจ้านาย
ล้านนา มีผู้พักอาศัยอยู่ในคุ้มหลังนี้เป็นจานวนมาก จึงสร้างเรือนหลังเล็กล้อมต่อกันเป็นรูปสี่เหล่ียม
และเว้นพนื้ ทีก่ ลางบ้านไวเ้ พื่อเป็นลานอเนกประสงค์ในการทากิจกรรมร่วมกนั
รปู แบบสถาปตั ยกรรม
คุ้มในกลุ่มนี้ท้ัง 4 หลัง เป็นเรือนไม้ท้ังหมด แต่เป็นเรือนไม้ท่ีมีการใช้ฐานแบบก่ออิฐ
และใช้พ้ืนซีเมนต์ช่วยรองรับน้าหนักของตัวเรือน ซึ่งถือได้ว่าเป็นงานช่างในยุคที่ได้รับอิทธิพล
จากตะวันตกแล้ว ในส่วนของตัวเรือนไม้จะใช้ไม้สักขนาดใหญ่ปูพื้น ตั้งเค้าโครงเสาแบบแนวตั้งและตี
ผนังตามแนวนอน ชว่ งระหว่างผนังและเพดานค่อนขา้ งสูง นิยมทาช่องลมเพื่อรับแสงจากนอกตวั เรอื น
และช่วยระบายอากาศ รูปแบบของหลังคาคุ้มทั้ง 3 หลัง ยกเว้นคุ้มเจ้าราชบุตร (เจ้าสมพะมิตร
ณ เชียงใหม่) ทาเป็นทรงป้ันหยาเปิดหน้าจั่ว วัสดุท่ีใช้ในการมุงหลังคามีหลากหลาย ได้แก่
กระเบือ้ งวา่ ว กระเบอื้ งดินขอ และกระเบื้องไม้แปน้ เกลด็
งานประดบั ตกแตง่
คุ้ม 3 หลังในกลุ่มนี้ ได้แก่ คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยแก้วมุงเมือง ณ เชียงใหม่) คุ้มเจ้าราชบุตร
(หมอกฟ้า ณ น่าน) และคุ้มวงศ์บุรี มีการตกแต่งตัวเรือนด้วยลวดลายฉลุไม้ในหลายตาแหน่ง
ยกตัวอย่างเช่น หน้าจ่ัว จั่วหลังคา สันหลังคา เชิงชาย ราวระเบียง และช่องลม โดยจะใช้ลวดลาย
พันธ์ุพฤกษา ดอกไม้ และก้านขด ซ่ึงเป็นรูปแบบเดียวกับเรือนไม้แบบขนมปังท่ีสร้างในกรุงเทพฯ
ในช่วงเวลาไล่เล่ียกัน เรือนในกลุ่มน้ีมักจะทาด้วยโทนสีสดใส เช่น เขียว ฟ้า หรือชมพู
แม้ว่าคุ้มเจ้าราชบุตร (เจ้าสมพะมิตร ณ เชียงใหม่) จะไม่ได้มีการประดับตกแต่งด้วยลวดลาย
แบบเรือนขนมปังขิงเช่นเดียวกับคุ้มอีก 3 หลังในกลุ่มเดียวกัน แต่ด้วยรูปแบบท่ีมีความโดดเด่น
และการทาข่วงกลางบ้านที่ชวนให้นึกถือเรือนไทยภาคกลางจึงสันนิษฐานในเบ้ืองต้นว่าคุ้มหลังนี้
94
น่าจะสร้างโดยการผสมผสานระหว่างงานศิลปกรรมของเรือนไทยภาคกลางและเรือนพักอาศัย
ของชาวตะวันตก
จากการศึกษาคุ้มท้ัง 4 หลัง ท่ีได้รับอิทธิพลการเรือนไม้แบบตะวันจากกรุงเทพฯ
พบว่าคุ้มเหล่าน้ี แม้ว่าจะมีรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก แต่ก็ถูกสร้างขึ้น
โดยผสมผสานระหว่างความเช่ือของชาวล้านนาลงไปด้วย เช่น การไม่ใช้พื้นที่ชั้นล่าง การทาชาน
และเติ๋น การสร้างห้องพระและห้องผี เพ่ือให้คุ้มมีรูปแบบสวยงามตามสมัยนิยมให้สมกับฐานะ
ของเจา้ ของเรอื นและตอบสนองต่อการพักอาศยั ของชาวล้านนา
4. กลุ่มท่ี 4 ค้มุ ที่มรี ปู แบบเป็นอาคารทรงตกึ แบบภาคกลาง (กรงุ เทพฯ)
คุ้มทม่ี ลี กั ษณะทางดา้ นสถาปตั ยกรรมในกล่มุ ท่ี 4 มอี ยทู่ งั้ หมด 3 หลัง ไดแ้ ก่
- ค้มุ เจา้ หลวง จงั หวัดแพร่
- หอคาหลวง จงั หวัดนา่ น
- คุ้มเจ้าหลวงจกั รคาขจรศักดิ์ จงั หวัดลาพูน
คุ้มท้ัง 3 หลังเป็นเรือนพักอาศัยแบบทรงตึกก่ออิฐถือปูนที่เน้นความแข็งแรงคงทน
และแบ่งหน้าที่การใช้งานของแต่ละห้องออกเป็นสัดส่วนอย่างชันเจน แต่ยังคงมีการประดับตกแต่งด้วย
ลวดลายไม้ฉลุ ถือได้ว่าเป็นอาคารพักอาศัยของเจ้านายล้านนาในช่วงก่อนการเปลี่ยนผ่าน
ไปสกู่ ารสรา้ งบา้ นเรือนสมัยใหม่อยา่ งในปัจจบุ นั
4.1. คุ้มเจ้าหลวง จงั หวดั แพร่
1) ผังพื้นและการใชง้ าน
คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ อาคารทรงตึกก่ออิฐถือปูนลักษณะผังของอาคารเป็นรูปสี่เหล่ียมผืนผ้า
ที่มีมุขยื่นออกมาด้านหน้าซึ่งมุขจะย่ืนออก มาด้านหน้าเล็กน้อย อาคารมีท้ังหมด 3 ช้ัน
ได้แก่ ชั้นล่าง ชั้นบน และช้ันใต้ดินที่ยกสูงจากพ้ืนประมาณ 2 เมตร ใช้สาหรับเป็นที่คุมขังนักโทษ
แต่เดิมบริเวณมุขของคุ้มมีบันไดสองด้านเชื่อมจากชั้นล่างภายนอกอาคารขนึ้ ไปสู่ภายในอาคารช้ันบน
ซ่ึงในปัจจุบันในถูกรื้อถอนไปแล้ว119 องค์ประกอบของคุ้มเจ้าหลวงหลังนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนไปหลาย
ส่วนเนื่องด้วยเหตุผลด้านความแข็งแรงคงทน120 ซ่ึงจะกล่าวถึงต่อไปในหัวข้อรูปแบบสถาปัตยกรรม
หน้าทก่ี ารใช้งานของแต่ส่วนถกู แบง่ ออกเป็นสัดส่วนอยา่ งชัดเจน โดยชั้นล่างใชเ้ ปน็ พื้นทอ่ี เนกประสงค์
119 สานกั งานคุม้ เจ้าหลวงเมืองแพร่, คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ [แผ่นปา้ ยใหข้ ้อมลู ประกอบการจดั แสดง
พิพิธภณั ฑ์คุม้ เจ้าหลวงเมอื งแพร่] (ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
120 เรอ่ื งเดียวกัน.
95
สาหรับรับแขก และทากิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ได้แก่ ห้องบ่าวไพร่ ห้องจัดเลี้ยงรองรับแขก
และรับประทานอาหาร สว่ นชน้ั บนเปน็ พื้นที่สว่ นตัว ประกอบด้วยหอ้ งนอนหอ้ งนอนแขกและหอ้ งพระ
หนา้ ทกี่ ารใช้งาน
1. ทางเดนิ เช่อื มไปแตล่ ะหอ้ ง
2. สันนิษฐานว่าเคยเป็นห้อง
กั กขั งผู้ ถู กจั บกุ มเพื่ อรอ
การไต่สวนและลงอาญา
3. สันนิ ฐานว่าเคยเป็ นที่อยู่
ของบา่ วไพร่
4. สันนิษฐานว่าเป็นห้อง
เกบ็ ของ121
ภาพท่ี 87 ภาพแสดงผงั พน้ื ช้ันใตด้ นิ คมุ้ เจ้าหลวง จงั หวัดแพร่
ภาพที่ 88 ภาพแสดงผงั พื้นชน้ั ลา่ งคุ้มเจ้าหลวง จังหวดั แพร่
หน้าท่ีการใช้งาน
1. ทางเดนิ จากดา้ นเชื่อมไปยงั หอ้ งต่างๆ
2. หอ้ งบา่ วไพรค่ อยรับใช้งาน ปัจจุบันจดั แสดงของที่มผี มู้ อบไว้ ณ คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่
3. หอ้ งรบั รองและจัดเลี้ยง ปัจจุบนั แสดงการจัดโตะ๊ สาหรับงานเลย้ี ง
4. ห้องรับประทานอาหาร สาหรับเจา้ หลวงเมอื งแพรแ่ ละครอบครัว
121 สานักงานค้มุ เจ้าหลวงเมืองแพร่, คมุ้ เจา้ หลวงเมอื งแพร่ [แผน่ ป้ายใหข้ อ้ มลู ประกอบการจัดแสดง
พิพธิ ภัณฑ์คมุ้ เจา้ หลวงเมอื งแพร่] (ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
96
5. ทางเดินออกสูด่ ้านหลงั คุ้มและบนั ไดสาหรบั ขนึ้ ไปชั้น 2122
ภาพท่ี 89 ภาพแสดงผงั พน้ื ช้นั บนคมุ้ เจ้าหลวง จังหวดั แพร่
หนา้ ท่ีการใช้งาน
1. ทพี่ กั ของแขกกอ่ นเข้าเฝา้ เจา้ หลวงเมืองแพร่
2. หอ้ งพระปจั จบุ นั ประดษิ ฐานพระบรมสารีริกธาตุและเปน็ ห้องเกียรติยศของคมุ้ เจ้าหลวงเมืองแพร่
3. ระเบยี งเอนกประสงค์
4. ห้องนอน บุตร ธดิ า ของเจา้ หลวงเมืองแพร่
5. ห้องรับรองแขกอยา่ งเป็นทางการ
6. หอ้ งนอนเจ้าหลวงเมืองแพร่
7. หอ้ งนอนแมเ่ จา้ บวั ไหล
8. ระเบยี งด้านหลังมีบนั ไดเชอื่ มต่อระหว่างช้นั 1 และชน้ั 2123
122 สานักงานคมุ้ เจ้าหลวงเมอื งแพร่, คมุ้ เจ้าหลวงเมอื งแพร่ [แผ่นป้ายให้ขอ้ มลู ประกอบการจดั แสดง
พิพธิ ภณั ฑ์คมุ้ เจา้ หลวงเมืองแพร่] (ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
123 เรือ่ งเดยี วกนั .
97
2) รูปแบบสถาปัตยกรรม
สว่ นฐานราก
อาคารคุ้มเจ้าหลวง จังหวัดแพร่ ไม่มีการฝังเสาเข็ม แต่ใช้สร้างส่วนฐานรากของคุ้ม
โดยการใช้ซุงท่อนใหญ่ที่มีแก่นไม้แดงและไม้เนื้อแข็งรองรับเสาของอาคาร124 และมีการทาชั้นใต้ดิน
เปน็ ท่ีคมุ ขงั นักโทศ และเป็นทพี่ กั อาศยั ของบ่าวไพร่
เสาและการปพู ื้น
เสาในอาคารใช้เสาปูนซเี มนตท์ ้ังหมด การปพู ื้นทั้งช้ันล่างและชน้ั บนปูดว้ ยพ้ืนไม้ โดยใช้ไม้สัก
แผน่ ใหญ่ปยู าวตามแนวพนื้ ของอาคาร
ภาพท่ี 90 การปพู ื้นด้วยไม้ บรเิ วณพื้นมีช่องสาหรบั สง่ ของ
ผนงั
ผนังของอาคารคุ้มเจ้าหลวง จังหวัดแพร่ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนท้ังภายนอกและภายใน
อาคารทาภายนอกอาคารดว้ ยสีขาวและสีเขยี วออ่ น มเี พยี งห้องโถงกลางบรเิ วณช้นั บนทีท่ าดว้ ยสชี มพู
ภาพที่ 91 ผนงั ของอาคารบรเิ วณระเบียงชน้ั บน
124 สานกั งานคุม้ เจา้ หลวงเมอื งแพร่, ค้มุ เจ้าหลวงเมืองแพร่ [แผน่ ปา้ ยให้ขอ้ มูลประกอบการจดั แสดง
พพิ ิธภณั ฑ์คมุ้ เจ้าหลวงเมอื งแพร่] (ม.ป.ท., ม.ป.ป.),.
98
ภาพท่ี 92 สขี องผนงั ห้องโถงกลางช้นั บน
หลงั คา
หลังคาเป็นทรงปั้นหยา และเปิดจ่ัวบริเวณมุขของอาคาร แต่เดิมวัสดุที่ใช้มุงหลังคาคือ
กระเบอ้ื งไม้แปน้ เกลด็ ตอ่ มาได้เปลี่ยนเปน็ กระเบื้องว่าวและใชม้ าจนถงึ ปจั จบุ นั 125
ภาพท่ี 93 กระเบอ้ื งหลังคาในปัจจุบนั
125 ข่ายลูกหลานเมอื งแพร่, “คุม้ เจา้ หลวงเมืองแพร่,” กรมโยธาและผงั เมือง 2558, 45 (กันยายน 2558): 33-36.
99
3) งานประดับตกแต่ง
หนา้ จ่ัวและมุมจั่วหลังคา
ประดับตกแต่งกรอบหน้าจ่ัวและเสากลึง126 ด้วยการฉลไุ ม้เป็นลายก้านขดและลายดอกไม้
มกี ารฉลุไมเ้ ชิงชาย และสว่ นของคันทวยเป็นลายก้านขดเชน่ เดียวกัน
ภาพท่ี 94 ลายฉลุบรเิ วณกรอบหน้าจว่ั และเสากลงึ
ภาพท่ี 95 ลายฉลุบรเิ วณเชิงชาย
ภาพที่ 96 ลายฉลบุ รเิ วณคันทวย
126 เครือ่ งประดบั หลังคาเรอื นไม้ มลี กั ษณะเป็นเสาแท่งหวั แหลม นิยมประดับไว้บรเิ วณหนา้ จ่วั ของหลงั คา