The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ระดับขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krufee7124, 2022-05-10 12:20:50

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ระดับขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564

รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ระดับขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564





บทสรปุ สำหรบั ผู้บริหารระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน

โรงเรียนบ้านคอลอมุดอสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 ได้ดำเนินงานด้าน
การสร้างความเข้มแข็งของระบบประกันคุณภาพภายในอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยได้ดำเนินงานตาม
กฎกระทรวง การประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2561 ดังนี้

1. กำหนดมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษาที่สอดคล้องกบั มาตรฐานชาติ และมาตรฐานการศึกษา
ของต้นสังกดั สภาพบริบท ปัญหา ความต้องการ โดยเนน้ การมีสว่ นร่วมของทกุ ภาคส่วน

2. จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาและแผนปฏิบัติการประจำปีที่
สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา

3. ปฏบิ ตั ิงานโครงการและกจิ กรรมต่าง ๆ ตามแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี 256๔
4. จดั ให้มีการประเมินผลและตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษา ติดตามผลการดำเนินการอย่างตอ่ เนอ่ื ง
5. จัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง และนำผลมาพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา พร้อมท้ัง
เผยแพร่ใหส้ าธารณชนและหนว่ ยงานต้นสงั กัดทราบ

ผลการดำเนนิ งาน
1. มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา : ระดบั ดีเลิศ
จากผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา 256๔ สรุปอยู่ในระดับ ดีเลิศ ก็ด้วยระบบ

การบรหิ ารจัดการของโรงเรียนท่ีมคี ุณภาพ สง่ ผลให้โรงเรยี นบ้านคอลอมุดอ พฒั นาคุณภาพการศึกษาประสบ
ผลสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ในแต่ละมาตรฐาน โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่าง
หลากหลาย สอดคล้องกับจดุ เน้นของสถานศึกษา สภาพของชุมชนและท้องถ่นิ ผเู้ รยี นมีคณุ ภาพ 2 ดา้ น ได้แก่
1) ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 2) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน สำหรับด้านผลสัมฤทธิ์
ทางการเรยี น ม่งุ เนน้ ใหน้ กั เรยี นมีความสามารถในการอา่ น การเขียน การสื่อสาร และการคดิ คำนวณ รวมท้ัง
การมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรของสถานศึกษา มีความสามารถในการวิเคราะห์ คิดอย่างมี
วิจารณญาณ มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ การสอ่ื สาร และการมีความรู้
ทักษะพ้นื ฐาน มเี จตคติทดี่ ีต่องานอาชีพ สำหรบั ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมี
คุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด และมีสุขภาวะทางร่างกายและสังคม มีความภูมิใจใน
ท้องถิ่นและความเป็นไทย ยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย โรงเรียนมีการวางแผน
ออกแบบกิจกรรมและดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการที่เกิดจากการมีส่วนร่วม ใช้ผลการประเมินและการ
ดำเนนิ งานท่ผี ่านมาเปน็ ฐานในการพัฒนา ตรวจสอบผลการดำเนนิ งานและการปรับปรงุ แก้ไขงานให้ดีขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง ครจู ดั กระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ ใช้สอ่ื เทคโนโลยใี นการจัดการเรียนรู้ ติดตาม
ตรวจสอบและชว่ ยเหลือผู้เรียนเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหารายบุคคล โรงเรยี นดำเนินงานตามระบบการประกัน
คุณภาพภายในอย่างเปน็ ขั้นตอนจนเกิดคณุ ภาพ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ให้ความสำคัญกับผู้เก่ียวขอ้ ง
ทุกฝา่ ยเพือ่ เกิดความรว่ มมือในการวางระบบและการดำเนินงาน

2. หลกั ฐานสนับสนนุ : (วิธกี าร กระบวนการ โครงการทีส่ นบั สนุนผลการดำเนินงาน)
2.1 คุณภาพผเู้ รียน
ประเด็นภาพความสำเร็จด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ มีการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนและได้กำหนดเป็นเป้าหมายทางการเรียนโดยใช้ขอ้ มูลฐาน 3 ปีย้อนหลังเป็นเป้าหมายคุณภาพ
นกั เรยี นใหพ้ ฒั นาสงู ขน้ึ จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนเน้นการปฏิบัติ เนน้ ทกั ษะในการอา่ น การเขยี น และการ



คิดคำนวณ ส่งเสริมผู้เรียนให้พัฒนาเต็มศักยภาพ จัดแหล่งเรียนรู้ภายในให้เหมาะสม มีสื่อด้านเทคโนโลยีท่ี
ทันสมัย จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตดี มีความกล้าแสดงออก และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืน
อยา่ งมคี วามสขุ เน้นทักษะการทำงานรว่ มกนั ทำให้นกั เรียนมีทักษะในการอ่าน การเขียน การส่อื สาร และการ
คิดคำนวณเป็นไปตามเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดในแตร่ ะดับชั้น ซึ่งในปีการศึกษา ๒๕๖๔ เป็นการจัดการเรยี น
การสอนในชว่ งสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดตอ่ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) นกั เรียนไม่ได้
เรียน on-ste ที่โรงเรียน โดยโรงเรียนบ้านคอลอมุดอ ได้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบ on-demand, on-
line, และ on-hand ทำให้นักเรียนมีเกรดเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละรายวชิ าในระดับ 3 ขึ้นไป เป็น
ดังนี้ วิชาภาษาไทย คิดเป็นร้อยละ 47.๒0 วิชาคณิตศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ 4๙.10วิชาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี คิดเป็นร้อยละ 5๔.๐๐ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม คิดเป็นร้อยละ ๖๒.๗๐ วิชา
ประวัติศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ ๖๘.๕0 วิชาภาษาอังกฤษ คิดเป็นร้อยละ ๓๔.90 วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา
คดิ เปน็ ร้อยละ 9๒.๙0 วิชาศลิ ปะ คิดเปน็ ร้อยละ ๖๗.๙0 และวิชาการงานอาชีพ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7๖.๔0 จาก
ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผเู้ รียน (RT) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 การอ่านออกเสียง คิดเป็น
ร้อยละ ๔๓.๙๓ การอ่านรู้เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 7๙.๙๓ รวม 2 สมรรถนะคิดเป็นรอ้ ยละ 6๑.๙๓ โดยในด้าน
การอ่านรู้เรื่องมีค่าเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าในระดับประเทศ และเมื่อเปรียบเทียบร้อยละความแตกต่างของการ
ประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 พบวา่ ระหวา่ งปีการศึกษา 256๓
และปีการศึกษา 256๔ มีค่าเฉลี่ยร้อยละที่สูงขึ้นในด้านการอ่านรู้เรื่อง สูงขึ้นร้อยละ ๗.๖6 นักเรียนมี
ความสามารถ ในการคิดจำแนก แยกแยะ ใคร่ครวญไตร่ตรอง พิจารณาอย่างรอบคอบโดยใช้เหตุผล
ประกอบการตดั สนิ ใจ มกี ารอภปิ รายแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ และแกป้ ัญหาอย่างมีเหตุผล มคี วามสามารถใน
การรวบรวมความรู้ไดท้ ั้งดว้ ยตนเองและการทำงานเป็นทมี เชอื่ มโยงองคค์ วามรู้ และประสบการณม์ าใช้ในการ
สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และผลการประเมินทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT) ในปี
การศกึ ษา 256๔ พบว่า นักเรยี นไดค้ ะแนนเฉลยี่ ร้อยละทต่ี ่ำกวา่ จากปีการศึกษา 256๓ ทงั้ 2 ดา้ น คือ ด้าน
คณิตศาสตร์และด้านภาษาไทย โดยรวมความสามารถเฉลี่ยทั้งสองด้าน มีร้อยละของผลต่างระหว่างปี
การศึกษา 256๓ และปีการศึกษา 256๔ ลดลงร้อยละ -๔.๗๙ และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ
ข้ันพื้นฐาน(O-NET) ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 ปกี ารศึกษา 256๔ มีคา่ เฉลีย่ ทีส่ งู กวา่ ในปกี ารศกึ ษา 256๓
๑ วิชา คือวิชาคณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ยรอ้ ยละ ๒๙.๘๖ และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขัน้ พ้นื ฐาน
(O-NET) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ปกี ารศึกษา 256๔ มีคา่ เฉลย่ี ท่ีต่ำกวา่ ในปกี ารศึกษา 256๓ ทุกรายวิชา
และผลการทดสอบความสามารถพ้ืนฐานของผู้เรยี นระดับชาติอิสลามศึกษา(I-NET) ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี
6 ปีการศึกษา 256๔ มีค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าในปีการศึกษา 256๓ ๑ วิชา คือวิชาอัตตารีค มีค่าเฉลี่ยร้อยละ
๔๐.๔๕ และผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติอิสลามศึกษา(I-NET) ระดับช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศึกษา 256๔ มีค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าในปีการศึกษา 256๓ ๑ วิชา คือวิชาอัตตารีค มี
ค่าเฉลี่ยร้อยละ ๔๕.๐๖ นอกจากน้ีโรงเรียนมีค่าเฉล่ียจากการเรียนรู้โดย โครงการ/ กิจกรรมพัฒนาการอ่าน
เขียนภาษาไทย นักเรียนมีความภูมิใจในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์
วัฒนธรรมประเพณีไทยรวมทั้งภูมิปัญญาไทยเข้าร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนจัดคิดเป็นร้อยละ 100 นักเรียนมี
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดรอ้ ยละ 100 กำหนดมาตรฐานด้านคุณภาพผู้เรียน
ตาม มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่กำหนดไว้ว่า
“การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้
และคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ อย่างมีความสขุ ” ดังนน้ั
โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ จึงกำหนดมาตรฐานการศึกษาด้านคุณภาพผู้เรียน จำนวน 2 ด้าน ได้แก่ 1) ด้าน



ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 2) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
มุ่งเน้นให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร การคิดคำนวณ รวมทั้งการมีผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรยี นตามหลักสูตรสถานศกึ ษา มีความสามารถในการวเิ คราะห์ คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ มคี วามสามารถ
ในการสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการมีความรู้ ทักษะพื้นฐาน มีเจตคติท่ีดี
ต่องานอาชพี สำหรับด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนมุ่งเน้นใหผ้ ูเ้ รยี นมคี ุณลักษณะและค่านยิ มที่ดี
ตามที่สถานศึกษากำหนด และมีสุขภาวะทางร่างกายและสังคม มีความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย
ยอมรับท่ีจะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลายโดยมีประเด็นภาพความสำเร็จด้านคุณภาพผู้เรียน
ดงั นี้ นักเรียนมีทกั ษะในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณเป็นไปตามเกณฑท์ ่ีโรงเรียนกำหนด
ในแตร่ ะดบั ชนั้ มคี วามสามารถในการคิดจำแนก แยกแยะ ใครค่ รวญไตร่ตรอง พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบโดยใช้
เหตุผลประกอบการตัดสินใจ มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล มี
ความสามารถในการรวบรวมความรู้ ได้ทั้งด้วยตนเองและการทำงานเป็นทีม เชื่อมโยงองค์ความรู้ และ
ประสบการณ์มาใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อาจเป็นแนวความคิด โครงการ โครงงาน ชิ้นงาน ผลผลิต
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาตนเอง และสังคมในด้านการเรียนรู้
การสอ่ื สาร การทำงาน อยา่ งสรา้ งสรรค์ และมคี ณุ ธรรมมคี วามกา้ วหน้าในการเรียนรตู้ ามหลักสตู รสถานศึกษา
จากพื้นฐานเดิมในดา้ นความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ กระบวนการตา่ ง ๆ รวมท้งั มคี วามก้าวหน้าในผลการทดสอบ
ระดับชาติ หรือผลการทดสอบอื่น ๆ มีความรู้ ทักษะพ้ืนฐานในการจัดการ มีเจตคติท่ีดพี ร้อมที่จะศึกษาต่อใน
ระดับชนั้ ทีส่ งู ข้นึ หรอื มีทักษะพนื้ ฐานในการทำงานหรอื ประกอบอาชพี มีพฤตกิ รรมเป็นผูท้ มี่ คี ณุ ธรรม จริยธรรม
เคารพในกฎกติกา มคี ่านยิ มและจติ สำนกึ ท่ีดีตามที่สถานศึกษากำหนดโดยไม่ขัดกับกฎหมายและวัฒนธรรมอัน
ดขี องสงั คมมีความภมู ิใจในทอ้ งถน่ิ เห็นคณุ ค่าของความเป็นไทย มสี ่วนรว่ มในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี
ไทยรวมทั้งภูมิปัญญา ผู้เรียนยอมรับการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างระหว่างบุคคลในด้าน เพศ วัย เชื้อชาติ
ศาสนา ภาษาวัฒนธรรม ประเพณี มีการรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต อารมณ์ และสังคม แสดงออกอย่าง
เหมาะสมในแตล่ ะชว่ งวัยสามารถอยรู่ ่วมกับคนอืน่ อย่างมคี วามสุข เข้าใจและไม่มคี วามขดั แย้งกบั ผู้อื่น

2.2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ
ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการเพือ่ ใหบ้ รรลุตามกระบวนการบริหารและการจัดการคุณภาพ
ของโรงเรียนบ้านคอลอมุดอ การดำเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา โรงเรียนมีการประเมินและวิเคราะห์
สถานภาพ SWOT Analysis มีรูปแบบการบริหารแบบ Deming Cycle ประกอบดว้ ยขนั้ PDCA ในการบริหาร
จัดการเพื่อให้โรงเรียนเดินไปข้างหน้า โดยการนำผลจัดการศึกษาที่ผ่านมา ใช้ข้อมูลฐานในการกำหนด
เป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจอย่างชัดเจน ในการดำเนินการพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน
ตามหลักสูตรสถานศึกษาทุกกลุ่มเป้าหมาย เชื่อมโยงกับชีวิตจริง จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพจัดการศึกษา
ดำเนินงานพัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาให้มีความเชีย่ วชาญทางด้านวชิ าชพี ตามความต้องการของครู
และสถานศึกษา จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและ
จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสภาพของ
โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ โดยประเมินภาพความสำเร็จดังนี้ โรงเรียนมีเป้าหมายวิ สัยทัศน์
และพันธกิจที่โรงเรียนกำหนดชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ความต้องการของชุมชนท้องถิ่น
วัตถปุ ระสงคข์ องแผนการศกึ ษาแห่งชาติ นโยบายของรฐั บาลและของตน้ สังกัด รวมทง้ั ทันต่อการเปล่ียนแปลง
ของสังคม มีระบบการบริหารจัดการคุณภาพอย่างเป็นระบบ วางแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาโดยนำ
แผนไปปฏิบัติ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและปรับปรุง พัฒนางานอย่างต่อเน่ือง มีการบริหารอัตรากำลัง
ทรัพยากรทางการศึกษาและระบบการดูแลช่วยเหลือนกั เรียน มีการนิเทศภายใน นำขอ้ มูลมาใช้ในการพัฒนา
บุคลากรและผู้เกี่ยวข้อง ทุกฝ่ายมีส่วนในการวางแผน ปรับปรุง พัฒนาและร่วมกันรับผิดชอบต่อการจัด



การศึกษามีการบริหารจัดการเกี่ยวกับงานวิชาการ พัฒนาหลักสูตร กิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เน้นคุณภาพ
ผู้เรยี นรอบด้าน เชอ่ื มโยงวถิ ีชวี ิตจริงและครอบคลุมทกุ กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการจดั การเรียนการสอนของกลุ่ม
ทเี่ รยี นแบบควบรวมและกลมุ่ เรียนรว่ มด้วย โรงเรียนจดั โครงการพฒั นาบุคลากรเป็นมอื อาชีพ ส่งเสริมให้ครูมี
ความเชย่ี วชาญดา้ นการจัดการเรยี นรู้ที่สง่ ผลต่อคุณภาพของผู้เรียน โดยส่งครูเข้ารับการประชุม อบรมสัมมนา
ศึกษาดูงานเพ่ือเสรมิ สร้างสนับสนนุ ให้ครูได้พัฒนาตนเองจากหน่วยงานต้นสังกัดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และ
ส่งเสริมให้ครูพัฒนาตนเองในรูปแบบต่าง ๆ อย่างน้อย 20 ชั่วโมงต่อปี ทั้งด้านวิชาการ คุณธรรม จริยธรรม
ทักษะวชิ าการ สง่ ผลให้ครมู ีความรูค้ วามสามารถในการสอนและงานอืน่ ๆ ทีไ่ ดร้ บั หมอบหมายได้เป็นอยา่ งดี มี
การส่งเสรมิ สนบั สนุนพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาตรงตามความต้องการ และจดั ใหม้ ีชมุ ชนการเรียนรู้
ทางวชิ าชพี (PLC) มาใชใ้ นการพัฒนางานและการเรียนรู้ของผู้เรียน จัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทั้งภายใน
และภายนอกห้องเรียน และสภาพแวดล้อมทางสังคมท่ีเอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ มี
ความปลอดภัย จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม
กับสภาพของโรงเรยี น จดั หาพัฒนาและบรกิ ารดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ จัดให้มีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้อย่างเหมาะสม มีระบบการบริหารจัดการคุณภาพของ
สถานศึกษา บูรณาการการปฏิบัติงานและเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาตามแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 256๔ โดยใช้กระบวนการบริหารจัดการ
ตามหลักธรรมาภิบาลและบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ Thailand (Quality Award :TQA) ส่งผลให้
ผู้ปฏิบัติงานทำงานตามระบบที่วางไว้ ทำให้โรงเรียนได้รับรางวัล ออมดีเด่น สายสามัญศึกษา การประกวด
ธนาคารโรงเรียน กิจกรรมส่งเสริมการออม ประจำปี ๒๕๖๔ รางวัลการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร
ภายใต้โครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล (๑ ตำบล ๑ โรงเรียนคุณภาพ) อย่างต่อเนื่อง โล่รางวัลร่วม
ดำเนนิ การจัดให้มีอาหารกลางวันรบั ประทานอย่างยั่งยนื ในโครงการ ออมสนิ ๑๐๘ ปอี มิ่ น้เี พ่ือน้อง ประจำปี
๒๕๖๔ และรางวัลชนะเลิศ โรงเรียนต้นแบบโครงการส่งเสริมประสบการณ์อาชีพของนักเรียนในจังหวัด
ชายแดนใต้ ทำให้ชุมชนมคี วามพึงพอใจยอมรับ เช่อื มัน่ ในการบรหิ ารจดั การศึกษาสง่ บุตรหลานมาเข้าเรียนใน
โรงเรียน ทำให้โรงเรียนได้รางวัลเกียรติบัตร เป็นตัวแทนระดับจังหวัดเข้ารับการประเมินเพื่อขอรับรางวัล
โรงเรียนพระราชทานระดับกลมุ่ จังหวดั ที่ ๓ อกี ด้วย

2.3 การจดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ
โรงเรียนบา้ นคอลอมุดอ แจง้ นโยบายและสร้างความรูค้ วามเข้าใจให้ครทู ุกคนจดั กิจกรรมการเรยี นการ
สอนโดยเน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ซึ่งครตู ้องวิเคราะห์ขอ้ มูลผู้เรียนเป็นรายบุคคลและนำผลการวิเคราะห์มาใช้ใน
การวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง จากประสบการณ์ตรง เกิด
ประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ที่คงทน ผ่านกิจกรรมและโครงการ (Project Approach) ด้านกระบวนการ
จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยการดำเนินงาน/โครงการ/กิจกรรม อย่างหลากหลาย มุ่ง
สง่ เสรมิ ให้ครูจัดการเรยี นการสอนทเี่ นน้ การปฏิบตั ิ (Active learning) ใหผ้ เู้ รยี นผ่านกระบวนการคิด ปฏิบัติ
จริง เพอ่ื นำไปสูก่ ารเรียนรู้ที่ลกึ ซง้ึ และคงทน ตามมาตรฐานและตวั ช้ีวัดของหลักสูตรสถานศึกษา ให้นักเรียนมี
ส่วนร่วม ครูรู้จักผู้เรยี นเป็นรายบุคคล ดำเนินการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมา
พฒั นาผูเ้ รยี น รวมทง้ั ร่วมกนั แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำผลท่ีได้มาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ อีกทั้งครมู แี ผนการ
จัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมได้จริง ครูใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลาย มีการบริหาร
จดั การชน้ั เรยี นเชิงบวก เพื่อให้ผู้เรียนรักการเรียนร้แู ละเรียนรูร้ ่วมกนั อย่างมีความสุข ครูร่วมแลกเปลยี่ นเรียนรู้
และนำข้อมูลมาร่วมพฒั นา ปรับปรุงการจดั การเรยี นรู้และสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ ครูผลิตนวัตกรรม
อีกทั้งปรับโครงสร้างรายวิชา หน่วยการเรียนรู้สัดส่วนคะแนนแต่ละหน่วย กำหนดคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
และกิจกรรมลดเวลาเรยี นเพ่ิมเวลารู้ ที่สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ สนับสนุนให้ครูจัดการเรียนการสอนที่



สรา้ งโอกาสใหน้ กั เรียนทุกคนมสี ่วนรว่ ม ได้ลงมอื ปฏิบตั จิ ริงจนสรุปความรไู้ ด้ดว้ ยตนเอง จดั การเรยี นการสอนท่ี
เน้นทักษะการคิด เช่น จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงาน ครูมีการมอบหมายหน้าที่ให้นักเรียนจัดป้ายนิเทศและ
บรรยากาศตามสถานที่ต่าง ๆทั้งภายในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ครูจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนผ่าน
กระบวนการคิดและปฏิบัติจริง ให้นักเรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีแผนการจัดการ
เรียนรู้และจัดกิจกรรมสำหรับนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ให้นักเรียนได้ฝึกทักษะ ได้แสดง
ความคิดเห็น ได้แสดงออก สามารถสรุปองค์ความรู้ นำเสนอผลงาน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้
ครูใช้ สือ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหลง่ เรียนรู้ รวมท้ังนำภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ ทำให้
นักเรียนได้แสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากสื่อที่หลากหลาย นอกจากนี้ครูยังมีการประเมินคุณภาพและ
ประสิทธิภาพของส่ือการสอนที่ใชเ้ พื่อปรบั ปรุงและพัฒนาสื่อให้มีคุณภาพ ครูมีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิง
บวก เน้นการมีปฏิสัมพันธ์ ระหว่างนกั เรียนกบั ครู ครูกับนักเรียน นักเรียนกับนักเรียน นักเรียนรักการเรยี นรู้
และสามารถอยูร่ ว่ มกนั ได้อย่างมีความสุข ครูร่วมกันออกแบบการวดั ผลประเมนิ ผลเพอื่ ตรวจสอบ และประเมนิ
ผู้เรยี นอยา่ งมขี นั้ ตอน ใช้เคร่อื งมอื วิธกี ารวดั และประเมินผลท่เี หมาะสม พรอ้ มทัง้ นำผลไปใชพ้ ฒั นาการเรียนรู้
ของผู้เรียน ครูทุกคนทำงานวิจัยในชั้นเรียน ปีการศึกษาละ 1 เรื่อง โดยมีประเด็นภาพความสำเร็จด้าน
กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั ครูผู้สอนร่วมกนั แลกเปลี่ยนความรแู้ ละประสบการณ์
เป็นชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชพี (PLC) และนำไปปรับปรงุ /พฒั นาการจัดการเรียนรู้

3. แผนพัฒนาเพอ่ื ใหไ้ ดม้ าตรฐานทสี่ งู ข้นึ :
3.1 โครงการอสิ ลามศึกษาระบบสองภาษา (ไทย-มลายู)
โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ ได้เปิดการสอนอิสลามศึกษา ตามโครงการจัดการเรียนการสอนอิสลาม

ศึกษาในโรงเรยี นของรัฐซึ่งไดเ้ ปดิ การเรยี นการสอนอิสลามศึกษา ต้งั แต่ปกี ารศกึ ษา 2551 โดยได้ใช้หลักสูตร
อิสลามศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลาง 51 มาปฏิบัติใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และได้เน้น
การศึกษาอิสลามศึกษาระบบการเรียนการสอนสองภาษา (ไทย-มลายู) เพื่อสนองความถนัดของผู้เรียน
และผู้เรียนได้เรียนจบตามโครงสร้างหลักสูตรอิสลามศึกษาขั้นพื้นฐานไดร้ บั วฒุ ิทางการศึกษา 2 ฉบับทั้งวิชา
สามัญและวชิ าศาสนา

3.2 โครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล
เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนท่ีมีคณุ ภาพ มีความเข้มแข็งทางวิชาการ และมีความพร้อมใน
การพัฒนาด้านคุณธรรมจริยธรรม งานอาชีพ และสุขอนามัย สามารถให้บริการการศึกษาแก่นักเรียนและ
ชุมชน รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการ
ศึกษา เช่อื มโยงสกู่ ารแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสงั คม ตลอดจนเป็นการสง่ เสริมการมสี ่วนร่วม
ของทุกภาคส่วน ท้งั ภาคเอกชน บ้าน มสั ยดิ รัฐ และโรงเรียนอกี ดว้ ย
3.3 โครงการ TFE (Teams for Education) และ Coaching Teams
เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) โดยใช้ผลการ
ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติเป็นฐาน (O-NET Baseline) ให้สอดคล้องกับความต้องการและบริบททาง
การศึกษาในแต่ละสาขาวิชาชีพให้มีความรู้ ทักษะ และจิตพิสัยที่พึงประสงค์ ตลอดจนเพื่อยกระดับคุณภาพ
การศึกษา
3.4 โครงการนเิ ทศภายใน
จัดทำแผนนิเทศและสังเกตการสอนของครู กำกับ ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายทั้งของ
หน่วยงานต้นสังกัดและผู้บริหารสถานศึกษามอบหมาย รวมถึงการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในการจัดการเรียนรู้
เพื่อนำมาปรับปรุง ทำวิจัย แก้ปัญหาการจัดการชั้นเรียนและการพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ที่สูงยิ่งขึ้นไป



รวมถึงการสอดแทรกการรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยบูรณาการในวิชาต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนมี
คุณธรรมจรยิ ธรรม สามารถนำความรไู้ ปใช้ในการดำเนินชวี ติ และอยรู่ ว่ มในสังคมได้อย่างมีความสุข

3.5 โครงการจดั หา ผลิตสือ่ และพัฒนาสอื่ เทคโนโลยี
ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูได้พัฒนาตนเองจากสื่อที่หลากหลาย มีการจัดอบรมการใช้สื่อการเรียนรู้
โดยคุณครูที่สอนรายวิชาวิทยาการคำนวณของโรงเรียนบ้านคอลอมุดอมาให้ความรู้กับคณะครูและบุคลากร
ซ่ึงเป็นการใหค้ วามรูเ้ กย่ี วกบั การจดั เก็บขอ้ มูลในระบบออนไลน์ การใช้โปรแกรมเบ้ืองตน้ ซึ่งเป็นความรู้ใหม่ ๆ
ที่จำเป็นต้องรู้และเข้าใจ โดยนำความรู้ที่ได้เพื่อนำไปพัฒนาให้นักเรียนมีคุณภาพดียิ่งขึ้น โดยได้มีการเพิ่ม
ทรัพยากรดา้ นคอมพวิ เตอร์ให้มเี พียงพอสำหรับนักเรยี นในรายวิชาวทิ ยาการคำนวณ
3.6 กิจกรรมบันทึกข้อตกลงของครู
จัดให้ครูทำบันทึกข้อตกลงของตนเองในทุกด้านกับผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาตนเองให้มี
คณุ ลกั ษณะเป็นครูท่ดี ี
3.7 ห้องเรียนพเิ ศษ SMP (Science Math Potential)
เป็นห้องเรียนพิเศษที่เน้นในรายวิชาวิทยาศาสตร์และรายวิชาคณิตศาสตร์ รวมถึงการบูรณาการ
รายวิชาอื่น ๆ เข้ามาร่วมในการจัดการเรียนการสอน โดยได้เปิดการสอนเริม่ เมื่อ ปีการศึกษา 2563 เป็นปี
การศึกษาแรก มีการนำนักเรียนไปศึกษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ภายนอกและนำความรู้มาต่อยอดการเรยี นรู้
รวมถึงการฝึกให้ผู้เรียนมีความกล้าแสดงออก การนำเสนองานหน้าชั้นเรียน การพูดคุยการสื่อสาร เพื่อเป็น
แนวทางในการยกระดับผลสัมฤทธแิ์ ละการสรา้ งผ้เู รยี นในปกี ารศกึ ษาต่อไป

-



คำนำ

เอกสาร “รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self-Assessment Report : SAR)
ประจำปกี ารศกึ ษา 256๔” ฉบับนี้ จัดทำข้นึ เพือ่ รายงานผลการดำเนนิ งานในการพัฒนาการจัดการศึกษาของ
โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ ในปีการศึกษา 2564 ซึ่งเป็นไปตามกรอบกฎกระทรวงการประกันคุณภาพ
การศกึ ษา พ.ศ. 2561 นโยบายปฏริ ูประบบการประเมินและประกนั คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา และ
ประกาศมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 6 สิงหาคม
2561 สำหรับให้สถานศึกษาใช้เป็นแนวทางดำเนินงานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาและ
เตรยี มการสำหรับการประเมนิ คุณภาพภายนอก ซงึ่ จะทำใหเ้ กดิ ความม่นั ใจแก่ผมู้ ีสว่ นเกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าการ
จัดการศึกษาของสถานศึกษามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และคงรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานจากการดำเนินงานประกนั
คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา

เนื้อหาสาระของเอกสาร ประกอบด้วย ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมินตนเองตามมาตรฐาน
การศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พ.ศ. 2564 มจี ำนวน 3 มาตรฐาน ไดแ้ ก่ คุณภาพของ
ผู้เรียน กระบวนการบริหารและการจัดการ และกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ผลการวเิ คราะห์จุดเด่น จุดทค่ี วรพัฒนา และสรุปผล แนวทางการพัฒนา และความต้องการการช่วยเหลอื โดย
มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอรายงานผลการจัดการศกึ ษาในรอบปีการศึกษาที่ผ่านมา เพื่อให้ทราบผลผลิตและ
ผลลพั ธท์ ่เี กดิ ข้นึ ตามแผนปฏิบัตกิ ารและตามระบบประกนั คณุ ภาพของสถานศึกษา

โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ ขอขอบคุณคณะครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่มีส่วนร่วมดำเนินงานในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนให้มี
คุณภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในการนำไปเป็นฐานข้อมูล
สารสนเทศเพือ่ การยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน และการส่งเสริม สนบั สนุนของหน่วยงาน องค์กร
ต่าง ๆ รวมทง้ั หนว่ ยงานต้นสงั กดั ในการพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศึกษาต่อไป

(นางจรวยพร บรรจงรัตน์)
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นคอลอมดุ อ

สารบญั ซ

เรือ่ ง หน้า
บทสรุปสำหรบั ผ้บู รหิ าร ก
คำนำ ฉ
สารบัญ ช
สว่ นท่ี 1 ข้อมูลพื้นฐาน 1
สว่ นที่ 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรยี น 21
มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ 22
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ 28
ส่วนที่ 3 สรุปแนวทางการพฒั นาและความตอ้ งการชว่ ยเหลือ 32
สว่ นที่ 4 ภาคผนวก 37
41

1

สว่ นท่ี 1
ขอ้ มูลพืน้ ฐานของสถานศึกษา

1.ข้อมูลท่วั ไป

ชือ่ สถานศึกษา : โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ
ท่อี ยู่ : หมทู่ ี่ 1 ตำบลจะแหน อำเภอสะบ้าย้อย จงั หวัดสงขลา

สังกดั : สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสงขลา เขต 3
โทรศพั ท์ : 081-9575825

E-mail : [email protected]
Website : www.klmd.ac.th
เปดิ สอน : ระดบั ชน้ั อนุบาล 2 ถงึ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3

2. ข้อมูลบคุ ลากรของสถานศกึ ษา

ช่ือผอู้ ำนวยการโรงเรียน :นางจรวยพร บรรจงรัตน์
โทรศัพท์ : 081-9575825
E-mail : [email protected]
วฒุ กิ ารศกึ ษาสงู สดุ : การศึกษามหาบณั ฑิต สาขาวชิ า การบริหารการศกึ ษา
ดำรงตำแหนง่ ทโ่ี รงเรยี นน้ีตงั้ แต่ วันที่ 16 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 จนถึงปจั จุบนั เป็นเวลา 5 ปี
5 เดือน
1) จำนวนบุคลากร

บคุ ลากร ผู้บรหิ าร ครูผู้สอน พนกั งานราชการ ครอู ตั ราจา้ ง เจา้ หน้าที่อน่ื ๆ

จำนวน 3 43 7 12 3

2) วุฒกิ ารศึกษาสูงสดุ ของบุคลากร รวม
จำนวนบุคลากร ตำ่ กว่าปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก 68

จำนวน 2 52 13 1

2

3) สาขาวชิ าท่จี บการศึกษาและภาระงานสอนตอ่ สปั ดาห์

ท่ี กลุม่ /สาระการเรยี นรู้ จำนวน(คน) ภาระงานสอนเฉล่ีย 1 คน:สัปดาห์
1 บริหารการศึกษา 5 20
2 คณิตศาสตร์ 6 20
3 วิทยาศาสตร์ 6 20
4 ภาษาไทย 6 20
5 สงั คมศึกษา 5 20
6 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 4 20
7 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 6 20
8 ภาษาอังกฤษ 5 20
9 ศิลปะ 3 20
10 ปฐมวัย 6 30
11 ประถมศึกษา 3 20
5 20
เฉล่ยี / รวม

3. ข้อมูลนกั เรยี น
1) จำนวนนักเรียนโรงเรยี น บา้ นคอลอมดุ อ ปกี ารศึกษา 2564 รวมทง้ั ส้ิน 821 คน

ช้นั จำนวนหอ้ ง จำนวนนกั เรยี นชาย จำนวนนักเรยี นหญิง รวม
ประถมศึกษาปีที่ 1 3 42 50 92
ประถมศึกษาปีที่ 2 3 37 43 80
ประถมศึกษาปที ี่ 3 3 55 52 107
ประถมศึกษาปที ี่ 4 3 47 40 87
ประถมศึกษาปที ี่ 5 3 48 44 92
ประถมศึกษาปที ี่ 6 4 63 50 113
มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 3 36 51 87
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 3 44 47 91
มัธยมศึกษาปีที่ 3 3 36 36 72
28 408 413 821
รวม

3

2) จำนวนนกั เรียนโรงเรียนบา้ นคอลอมุดอ เปรียบเทียบ ปกี ารศกึ ษา 2562 - 2564

ชัน้ ปกี ารศึกษา 2562 ปกี ารศกึ ษา 2563 ปกี ารศกึ ษา 2564
อนบุ าลปที ่ี 1 0 0 0
อนบุ าลปีที่ 2 76 65 59
อนบุ าลปีท่ี 3 70 79 69
146 144 128
รวม 120 91 92
ประถมศกึ ษาปีที่ 1 89 114 80
ประถมศกึ ษาปีที่ 2 92 86 107
ประถมศึกษาปีที่ 3 116 91 87
ประถมศึกษาปที ่ี 4 97 117 92
ประถมศึกษาปีท่ี 5 74 93 113
ประถมศกึ ษาปีที่ 6 90 97 87
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 86 80 91
มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 84 77 72
มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 848 846 821
994 990 949
รวม
รวมทง้ั สนิ้

140 เปรยี บเทยี บจานวนนักเรยี นระดับข้ันพน้ื ฐาน 2562
120 ปกี ารศึกษา 2562 - 2564 2563
100 2564
ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3
80
60
40
20

0
ป.1

4

4. ขอ้ มูลผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นระดบั สถานศึกษา (ขอ้ มลู 31 มีนาคม 2565)

1) รอ้ ยละของนักเรียนท่ีมเี กรดเฉลีย่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนแตล่ ะรายวชิ าในระดับ 3 ข้นึ ไป
ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ปีการศึกษา 2564

รายวชิ า (พื้นฐาน)

ระดับชนั้ จำนวน ภาษาไทย
นกั เรียน ค ิณตศาสต ์ร
ิวทยาศาสต ์ร
สังคม ึศกษาฯ
ประ ัว ิตศาสต ์ร
ภาษาอังกฤษ
สุข ึศกษาฯ

ิศลปะ
การงานอาชีพฯ

ป.1 92 83 85 73 68 50 17 90 70 77
ป.2 80 61 55 55 77 76 17 80 58 69
ป.3 107 68 69 60 87 89 25 107 104 90
ป.4 87 53 56 66 36 34 57 87 86 87
ป.5 92 54 59 56 88 88 51 88 67 89
ป.6 113 24 39 74 73 87 91 111 51 104
ม.1 87 28 14 17 41 72 8 74 33 21
ม.2 91 12 18 27 25 46 10 83 56 74
ม.3 72 17 21 29 36 38 20 67 50 36
รวม 821 400 416 457 531 580 296 787 575 647
47.2 49.1 54.0 62.7 68.5 34.9 92.9 67.9 76.4
รอ้ ยละ

5

รอ้ ยละของนักเรียนทีม่ เี กรดเฉลีย่ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นแตล่ ะรายวชิ า
ในระดบั 3 ขึ้นไประดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 ถงึ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3

ปีการศึกษา 2564

120.00 ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3
100.00 90.22 76.25 63.55 60.92 58.70 21.24 32.18 13.19 23.61
92.39 68.75 64.49 64.37 64.13 34.51 16.09 19.78 29.17
80.00 79.35 68.75 56.07 75.86 60.87 65.49 19.54 29.67 40.28
60.00 73.91 96.25 81.31 41.38 95.65 64.60 47.13 27.47 50.00
40.00 54.35 95.00 83.18 39.08 95.65 76.99 82.76 50.55 52.78
20.00 18.48 21.25 23.36 65.52 55.43 80.53 9.20 10.99 27.78
97.83 100.00 100.00 100.00 95.65 98.23 85.06 91.21 93.06
0.00 76.09 72.50 97.20 98.85 72.83 45.13 37.93 61.54 69.44
83.70 86.25 84.11 100.00 96.74 92.04 24.14 81.32 50.00
ภาษาไทย
คณติ ศาสตร์
วิทยาศาสตร์
สงั คมศึกษาฯ
ประวตั ิศาสตร์
ภาษาอังกฤษ
สขุ ศกึ ษาฯ
ศิลปะ
การงานอาชพี ฯ

2) ผเู้ รียนมคี ุณลักษณะอันพึงประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 ระดบั ดีขึ้นไป (ขอ้ มูล 31 มีนาคม 2565)

ระดบั ชัน้ จำนวน ผลการประเมนิ ระดับดี รอ้ ยละ
นักเรียน ไมผ่ า่ น ผา่ น ดี ดีเย่ยี ม ขึ้นไป

ป.1 92 2 6 44 40 84 91.30

ป.2 80 0 0 15 65 80 100.00

ป.3 107 0 0 36 71 107 100.00

ป.4 87 0 0 36 51 87 100.00

ป.5 92 3 0 16 73 89 96.74

ป.6 113 0 8 44 61 105 92.92

ม.1 87 8 0 40 39 79 90.80

ม.2 91 4 8 31 48 79 86.81

ม.3 72 0 0 30 42 72 100.00

รวม 821 17 22 292 490 782

6

รอ้ ยละของนกั เรียนทม่ี ผี ลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
จาแนกตามระดบั คุณภาพ ปกี ารศกึ ษา 2564

ม.3 20 40 60 80 100 120
ม.2 รอ้ ยละ ดีขนึ้ ไป ดีเยี่ยม ดี ผา่ น
ม.1
ป.6
ป.5
ป.4
ป.3
ป.2
ป.1

0

3) ผลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 ถงึ ระดบั
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 ในระดบั ดีข้ึนไป

ระดับชั้น จำนวน ผลการประเมิน ระดับดี ร้อยละ
นักเรยี น ไมผ่ า่ น ผ่าน ดี ข้ึนไป
ดเี ยีย่ ม

ป.1 92 2 8 35 47 82 89.13

ป.2 80 0 20 28 32 60 75.00

ป.3 107 0 20 52 35 87 81.31

ป.4 87 0 21 30 36 66 75.86

ป.5 92 5 20 36 31 67 72.83

ป.6 113 0 16 40 57 97 85.84

ม.1 87 10 26 20 31 51 58.62

ม.2 91 1 25 29 36 65 71.43

ม.3 72 0 22 26 24 50 69.44

รวม 821 18 178 296 329 625

7

ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 ถึงระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ปกี ารศกึ ษา 2564

ม.3 20 40 60 80 100 120
ม.2 รอ้ ยละ ดีขนึ้ ไป ดีเยีย่ ม ดี ผา่ น
ม.1
ป.6
ป.5
ป.4
ป.3
ป.2
ป.1

0

4) ผลการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 5 ด้าน ปกี ารศกึ ษา 2564 ผ้เู รียนมีสมรรถนะสำคัญ
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับดขี ้ึนไป (ข้อมูล 31 มีนาคม 2565)
(ป.1 – ม.3 จำนวน 846 คน)

สมรรถนะสำคญั ผลการประเมิน ระดบั ดี รอ้ ยละ
ปรบั ปรงุ ผ่านเกณฑ์ ดี ขน้ึ ไป
ดีเยี่ยม

1. ความสามารถ 30 130 559 102 661 78.04
ในการสอื่ สาร

2. ความสามารถ 44 140 520 117 637 75.21
ในการคดิ

3. ความสามารถ 38 171 468 144 612 72.26
ในการแก้ปัญหา

4. ความสามารถในการ 29 102 512 178 690 81.46
ใช้ทักษะชวี ิต

5. ความสามารถในการ 92 165 454 110 564 66.59
ใช้เทคโนโลยี

รวม 233 708 2513 651 3164

8

ผลการประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5 ดา้ น ปกี ารศึกษา 2564

600

500

400

300

200

100

0 ผา่ นเกณฑ์ ดี ดีเยยี่ ม
ปรบั ปรุง

ผลการประเมิน

1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5) ผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ปีการศกึ ษา 2564 (ขอ้ มลู 31 มีนาคม 2565)

ช้นั จำนวน จำนวนนกั เรียนที่มีผลการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ
นักเรียน ระดบั ดขี น้ึ ไป
ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ท้งั หมด 75.0
ประถมศึกษาปที ี่ 2 ผ่าน ไม่ผ่าน 66.7
ประถมศึกษาปีที่ 3 92 90 2 89.2
ประถมศึกษาปที ี่ 4 80 80 0 72.5
ประถมศึกษาปีที่ 5 107 107 0 74.2
ประถมศึกษาปที ่ี 6 87 87 0 94.2
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 92 89 3 65.8
มัธยมศึกษาปที ่ี 2 113 113 0 72.5
มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 79 8 60.0
87 87 4
รวม 91 72 0
804 17
72
821

9

100.0 รอ้ ยละของผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น
90.0 ปกี ารศึกษา 2564
80.0
70.0 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2
60.0
50.0
40.0
30.0
20.0
10.0
0.0

ป.1 ม.3

5. ผลการประเมนิ การอา่ นของผเู้ รยี น (Reading Test : RT)

1) ผลการประเมนิ ความสามารถดา้ นการอ่านของผู้เรียน (RT) ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1
ปีการศึกษา 2564

ความสามารถ การอา่ นออกเสียง คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ รวม 2 สมรรถนะ
43.93 การอา่ นรู้เรื่อง 61.93
ระดับโรงเรียน 56.34 79.93 63.86
ระดับเขตพนื้ ท่ี 69.95 71.36 71.38
ระดับประเทศ 72.79

ผลการประเมินความสามารถดา้ นการอ่านของผู้เรียน RT
นักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2564

90 79.93 71.36 69.95 72.79 71.38
80 63.86 ระดับประเทศ

70 61.93 56.34
60
50 43.93 ระดับเขตพืน้ ที่

40

30

20

10

0
ระดับโรงเรยี น

การอา่ นออกเสยี ง การอ่านรูเ้ รอ่ื ง รวม 2 สมรรถนะ

10

2) การเปรยี บเทียบผลการประเมนิ ความสามารถดา้ นการอา่ นของผเู้ รยี น (RT) ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1
และรอ้ ยละของผลต่างระหวา่ งปกี ารศึกษา 2563 – 2564

สมรรถนะ ปีการศึกษา 2563 ปกี ารศกึ ษา 2564 ผลตา่ งระหวา่ งปกี ารศึกษา
การอา่ นออกเสียง 60.07 43.93 -16.14
การอ่านรู้เรื่อง 72.27 79.93 7.66
รวม 2 สมรรถนะ 66.17 61.93 -4.24

เปรียบเทียบผลการประเมนิ ความสามารถดา้ นการอ่าน RT
นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ปีการศึกษา 2564

90 การอา่ นรูเ้ ร่ือง รวม 2 สมรรถนะ
80
70
60
50
40
30
20
10

0
การอา่ นออกเสยี ง

ปีการศึกษา 2563 ปีการศึกษา 2564

6. ผลการประเมินทดสอบความสามารถพืน้ ฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT) ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3

1) ผลการประเมินทดสอบความสามารถพืน้ ฐานของผูเ้ รยี นระดับชาติ (NT) ปีการศกึ ษา 2564

ความสามารถ คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ

ดา้ นคณติ ศาสตร์ ระดบั โรงเรียน ระดับประเทศ
ดา้ นภาษาไทย 27.8 49.44

34.57 56.14

รวมความสามารถท้ัง 2 ด้าน 31.19 52.8

11

คะแนนเฉล่ียร้อยละผลการประเมินการทดสอบความสามารถพ้นื ฐานของ
ผู้เรียนระดบั ชาติช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3
ปกี ารศึกษา 2564

60 56.14 52.8
49.44

50

40 34.57 31.19
30 27.8

20

10

0 ดา้ นภาษาไทย รวมความสามารถทงั้ 2 ดา้ น
ดา้ นคณิตศาสตร์

ระดบั โรงเรยี น ระดบั ประเทศ

2) การเปรียบเทยี บผลการประเมนิ ทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดบั ชาติ (NT)
ปกี ารศกึ ษา 2563 – 2564

ความสามารถ ปีการศกึ ษา ปีการศึกษา รอ้ ยละของผลต่าง
256๓ 256๔ ระหวา่ งปีการศึกษา
ด้านคณติ ศาสตร์
ด้านภาษาไทย 31.72 27.8 -3.92
40.23 34.57 -5.66
รวมความสามารถเฉล่ยี ท้ัง 2 ด้าน 35.98 31.19 -4.79

เปรียบเทียบผลการประเมินทดสอบความสามารถพนื้ ฐานของผ้เู รยี น
ระดับชาติ NT ปกี ารศึกษา 2563-2564

50
40

30
20

10 ดา้ นภาษาไทย รวมความสามารถเฉลีย่ ทงั้ 2 ดา้ น

0
ดา้ นคณิตศาสตร์

ปีการศกึ ษา 2563 ปีการศึกษา 2564

12

7. ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET)

1. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ั้นพ้ืนฐาน (O-NET) ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564

ระดบั /รายวิชา ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คะแนนรวม
61 63 64 65 เฉล่ยี
ระดับประเทศ
ระดบั เขตพนื้ ท่ี 50.38 39.22 36.83 38.78 34.31
ระดับโรงเรยี น 49.54 35.46 35.85 37.64
30.26 27.22 29.86 32.27 33.68

27.24

ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ นั้ พืน้ ฐาน (O-NET)
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศกึ ษา 2564

60 61 63 64 65 คะแนนรวมเฉลย่ี
50 ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 34.31
40 33.68
30 50.38 39.22 36.83 38.78 27.24
20 49.54 35.46 35.85 37.64
10 30.26 27.22 29.86 32.27

0

ระดับประเทศ
ระดบั สงั กดั สพฐ.
ระดบั โรงเรยี น

13

2. ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ั้นพ้นื ฐาน (O-NET) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564

ระดบั /รายวิชา ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คะแนนรวม
91 93 94 95 เฉลยี่
ระดับประเทศ
ระดับสังกัด สพฐ. 51.19 31.11 24.47 31.45 34.56
ระดบั โรงเรียน 52.13 30.79 24.75
38.67 24.24 18.68 31.67 34.84

25.28 26.72

ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขน้ั พนื้ ฐาน (O-NET)
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ปกี ารศกึ ษา 2564

60 91 93 94 95 คะแนนรวมเฉลี่ย
50 ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 34.56
40 34.84
30 51.19 31.11 24.47 31.45 26.72
20 52.13 30.79 24.75 31.67
10 38.67 24.24 18.68 25.28

0

ระดับประเทศ
ระดับสงั กดั สพฐ.
ระดับโรงเรยี น

3. เปรียบเทยี บผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ั้นพ้ืนฐาน (O-NET) ปกี ารศกึ ษา 2563-
2564 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

รายวชิ า/ปกี ารศกึ ษา คะแนนเฉลี่ยระดบั โรงเรียน
2563 2564
ภาษาไทย
ภาษาองั กฤษ 39.44 30.26
คณติ ศาสตร์
วิทยาศาสตร์ 30.48 27.22
คะแนนรวมเฉลีย่
23.55 29.86

32.27 32.27

31.435 29.903

14

เปรียบเทยี บผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน
(O-NET) ปีการศกึ ษา 2563-2564 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

45 ภาษาองั กฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คะแนนรวมเฉล่ีย
40
35
30
25
20
15
10

5
0

ภาษาไทย

คะแนนเฉลย่ี ระดับโรงเรยี น 2563 คะแนนเฉลีย่ ระดบั โรงเรยี น 2564

4.เปรยี บเทยี บผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้นั พื้นฐาน (O-NET) ประจำปีการศึกษา
2563 – 2564 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3

รายวชิ า/ปีการศกึ ษา คะแนนเฉลี่ยระดับโรงเรยี น
2563 2564
ภาษาไทย 49.19 38.67
ภาษาอังกฤษ
คณิตศาสตร์ 29.58 24.24
วทิ ยาศาสตร์
22.22 18.68
คะแนนรวมเฉล่ยี
27.83 25.28

32.21 26.72

15

เปรยี บเทียบผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ัน้ พ้นื ฐาน
(O-NET) ประจาปีการศึกษา 2563-2564 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3

60

50

40

30

20

10

0 ภาษาองั กฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คะแนนรวมเฉล่ยี
ภาษาไทย

คะแนนเฉล่ียระดับโรงเรยี น 2563 คะแนนเฉลี่ยระดับโรงเรียน 2564

8. ผลการทดสอบความสามารถพน้ื ฐานของผู้เรียนระดบั ชาตอิ สิ ลามศึกษา (I-NET)

1. ผลการทดสอบความสามารถพ้นื ฐานของผ้เู รยี นระดับชาตอิ ิสลามศกึ ษา (I-NET) ระดบั อสิ ลาม
ศึกษาตอนต้น (ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6) ปกี ารศึกษา 2564

ระดับคะแนน อัลกุรอาน อัลหะดีษ คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ อลั อัคลาก ภาษามลายู ภาษาอาหรับ

ระดับโรงเรยี น 32.91 28.45 อลั อากีดะฮ อัลฟกิ ฮ อตั ตารีค 53.61 35.26 26.10
ระดับจังหวัด 34.91 29.40 57.58 30.78 26.47
ระดบั สงั กัด 39.78 34.46 31.30 31.79 40.45 58.21 42.92 35.94
ระดบั ประเทศ 37.25 32.62 32.64 33.41 41.16 58.68 39.74 30.92
37.75 37.69 44.22
35.26 35.87 43.50

16

แผนภมู เิ ปรยี บเทยี บ ผลการทดสอบอิสลาม (I-NET) ศึกษาระดับตอนตน้
รายวิชา คะแนนเฉลีย่ ระดบั โรงเรยี น ระดบั จังหวัด ระดับสังกดั และระดับประเทศ

ปีการศึกษา 2564
ระดับโรงเรยี น ระดับจังหวดั ระดับสงั กัด ระดบั ประเทศ
60.00

50.00

40.00

30.00

20.00

10.00

0.00

17

2. ผลการทดสอบความสามารถพน้ื ฐานของผ้เู รยี นระดบั ชาตอิ สิ ลามศึกษา (I-NET) ระดบั อิสลาม
ศึกษาตอนกลาง (ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3)

ระดับคะแนน อัลกุรอาน อลั หะดีษ คะแนนเฉล่ยี ร้อยละ ภาษามลายู ภาษาอาหรบั
ระดับโรงเรยี น
ระดบั จังหวัด 40.51 37.43 อัลอากีดะฮ อัลฟกิ ฮ อตั ตารคี อลั อคั ลาก 50.09 29.73
ระดบั สงั กดั 37.16 34.79 33.25 26.25
ระดบั ประเทศ 37.63 34.56 54.15 36.48 45.06 44.27 42.73 28.9
37.61 35.42 51.64 35.85 43.29 42.55 40.92 27.92
48.15 35.28 42.59 40.72
50.87 36.17 42.56 42.09

แผนภูมิเปรียบเทยี บ ผลการทดสอบอสิ ลาม (I-NET) ศึกษาระดับตอนกลางรายวิชา
คะแนนเฉล่ียระดบั โรงเรยี น ระดบั จังหวัด ระดับสงั กดั และระดับประเทศ
ปีการศึกษา 2564

60.00 ระดบั โรงเรียน ระดับจงั หวัด ระดบั สงั กดั ระดบั ประเทศ

50.00

40.00

30.00

20.00

10.00

0.00
อัล-กุรอาน อัล-หะดีษ อัล-อากีดะฮ อลั -ฟกิ ฮ อัตตารคี อัล-อัคลาก ภาษามลายู ภาษาอาหรบั

18

3. เปรยี บเทยี บผลการทดสอบความสามารถพ้ืนฐานของผ้เู รยี นระดบั ชาตอิ สิ ลามศกึ ษา (I-NET)
ปกี ารศกึ ษา 2563 -2564 ระดับอิสลามศึกษาตอนต้น (ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6)

ปกี ารศกึ ษา อลั กุรอาน อัลหะดษี คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ อัลอคั ลาก ภาษามลายู ภาษาอาหรับ

2563 75.18 56.95 อัลอากีดะฮ อัลฟิกฮ อตั ตารีค 55.91 44.64 42.27

2564 32.91 28.45 73.55 70.59 37.07 53.61 35.26 26.10

31.30 31.79 40.45

แผนภมู ิเปรยี บเทยี บผลการทดสอบอสิ ลาม (I-NET)ศึกษาระดบั ตอนต้น
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศึกษา 2563-2564

ปีการศกึ ษา 2563 ปกี ารศึกษา 2564

80.00 75.18 73.55 70.59

70.00 56.95 55.9513.61
60.00

50.00 32.91 31.30 31.7397.0470.45 44.64 42.27
40.00 28.45 35.26
30.00 26.10

20.00

10.00

0.00

19

4. เปรียบเทียบผลการทดสอบความสามารถพ้นื ฐานของผูเ้ รยี นระดับชาติอิสลามศกึ ษา (I-NET)
ปีการศกึ ษา 2563 -2564 ระดบั อิสลามศึกษาตอนกลาง (ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3)

ปกี ารศกึ ษา อัลกรุ อาน อลั หะดษี คะแนนเฉล่ียร้อยละ อลั อัคลาก ภาษามลายู ภาษาอาหรับ

2563 68.32 49.69 อลั อากีดะฮ อลั ฟิกฮ อัตตารีค 54.44 86.94 74.00

2564 40.51 37.43 62.38 63.71 34.06 50.09 29.73

54.15 36.48 45.06 44.27

แผนภูมิเปรียบเทยี บเปรียบเทียบ ผลการทดสอบอสิ ลาม (I-NET)
ศึกษาระดบั ตอนกลาง ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปกี ารศึกษา 2563-2564

100.00 ปีการศกึ ษา 2563 ปีการศกึ ษา 2564

90.00
80.00 86.94

70.00 74.00
50.09
60.00 68.32 62.38 63.71
29.73
50.00 49.69 54.15 54.44
40.00
30.00 40.51 37.43 45.06 44.27
36.48 34.06

20.00

10.00

0.00
อลั -กุรอาน อัล-หะดษี อลั -อากีดะฮ อัล-ฟกิ ฮ อตั ตารคี อลั -อคั ลาก ภาษามลายู ภาษาอาหรับ

20

9. ประวัตยิ อ่ ของโรงเรยี น

โรงเรียนบา้ นคอลอมดุ อ เดมิ ช่อื โรงเรียนประชาบาล หมู่ท่ี 1 ตำบลจะแหน ขนุ อตุ ส่าหร์ าชการ เปน็
ผู้จัดสร้าง เปิดสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2473 นายหะ มุสออุมา เป็นครูคนแรก ใน
ปี พ.ศ.2496 ไดเ้ ปลย่ี นชอ่ื เป็นโรงเรียนบา้ นคอลอมดุ อ

10. เปา้ ประสงค์ วสิ ยั ทัศน์ พนั ธกิจ อตั ลกั ษณ์และเอกลกั ษณข์ องโรงเรยี น
เป้าประสงค์
1. ผเู้ รยี นมีความเป็นเลิศทางวชิ าการและสนุ ทรยี ภาพตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา
2. ผเู้ รยี นมภี าวะโภชนาการและสมรรถภาพทางกายตามหลักเกณฑอ์ นามยั กระทรวงสาธารณสุข
3. ผูเ้ รียนมคี วามเปน็ ผ้นู ำของนกั เรยี นดว้ ยระบบสภานกั เรียน
4. ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏบิ ตั ิตนตามวิถมี สุ ลมิ
5. ผูเ้ รียนอา่ นออก เขียนได้ มผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนตามเกณฑม์ าตรฐานของสถานศกึ ษา
6. ผเู้ รยี นมีการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
7. บคุ ลากรมีศักยภาพทางการสอน มีความสามารถทกั ษะการจัดการเรยี นรู้สคู่ รูมืออาชีพ
8. บรรยากาศสภาพแวดล้อมทีเ่ ออ้ื ตอ่ การเรียนรใู้ ห้มีคณุ ภาพมาตรฐานการศึกษาขนั้ พืน้ ฐานและ

สากล
วสิ ยั ทัศน์

ภายในปี 2565โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีความรู้ คู่คุณธรรมตาม
มาตรฐานการเรียนรู้ยกระดับการอ่าน เขียนภาษาไทย ช่วยเหลือผู้เรียนอย่างเป็นระบบและทั่วถึง พัฒนา
เทคโนโลยสี ารสนเทศและสิง่ แวดลอ้ ม โดยนอ้ มนำหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งตามวถิ ไี ทยมุสลมิ ภายใต้การมี
ส่วนรว่ ม

พันธกิจ
1. สง่ เสรมิ และพัฒนาความเป็นเลศิ ทางวิชาการและสนุ ทรียภาพตามหลักสตู รสถานศึกษา
2. ส่งเสริมและพัฒนาภาวะโภชนาการและสมรรถภาพทางกายตามหลักเกณฑ์อนามัยกระทรวง
สาธารณสขุ
3. สง่ เสรมิ และพัฒนาความเป็นผนู้ ำของนักเรียนดว้ ยระบบสภานักเรยี น
4. สง่ เสริมและพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงปฏบิ ัติตนตารมวถิ ี
มสุ ลิม
5. สง่ เสริมและพัฒนาการอา่ นออก เขียนได้ และยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
6. สง่ เสริมและพฒั นาการใช้เทคโนโลยี
7. ส่งเสรมิ ศักยภาพทางการสอน ความสามารถทักษะการจดั การเรียนรูส้ ู่ครมู ืออาชพี
8. ส่งเสรมิ และพัฒนาบรรยากาศสภาพแวดลอ้ มที่เอื้อต่อการเรยี นรใู้ หม้ คี ุณภาพมาตรฐานการศึกษา

ข้นั พื้นฐานและสากล
อัตลักษณโ์ รงเรียน
“กิจกรรมดี มีคณุ ธรรมตามวถิ อี สิ ลาม”
เอกลกั ษณข์ องโรงเรียน
“โรงเรียนดตี ามวิถีอสิ ลาม”

21

สว่ นที่ 2
ผลการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา

ผลการประเมนิ มาตรฐานการศึกษา ระดบั การศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน ระดับคุณภาพ
ดเี ลิศ
มาตรฐานการศกึ ษา ดีเลศิ
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผ้เู รียน ดีเลศิ
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ
มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนที่เน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั

มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผูเ้ รยี น

ระดับคุณภาพ : ดีเลศิ

กระบวนการพฒั นา

โรงเรยี นบา้ นคอลอมุดอ ไดจ้ ดั กจิ กรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมต่าง ๆ เพือ่ ให้ผูเ้ รียนบรรลุ
ตามประเด็นพิจารณาของมาตรฐานที่ 1 โดยดำเนนิ กิจกรรมตอ่ ไปนี้

๑.๑ ผลสัมฤทธิท์ างวิชาการของผู้เรยี น
๑. มคี วามสามารถในการอา่ น การเขยี น การส่อื สาร และการคิดคำนวณ

โรงเรยี นไดม้ กี ารสง่ เสรมิ กิจกรรมการการเรียนการสอนโดยเน้นให้ผู้เรียน อ่านหนังสือ ตำราเรียน
และสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตามหลกั เกณฑ์ มีโครงการและกิจกรรมทสี่ ่งเสริมศักยภาพและความสามารถ
ด้านวิชาการ เช่น โครงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ มีกิจกรรมพัฒนาการอ่าน การเขียน เป็น
กิจกรรมท่ีพัฒนาด้านการอ่าน การเขียน ตลอดจนการคัดลายมือของนักเรียน ซึง่ กิจกรรมดงั กล่าวจะจัดขึ้นใน
คาบการอ่านการเขยี น ซ่ึงเปน็ คาบเรียนเพิ่มเติมของนักเรยี นระดับชัน้ ป.๑ – ป.๖ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา
ปีท่ี ๑ - ๓ จะจัดขึ้นในคาบเรียนวิชาภาษาไทย ซง่ึ กิจกรรมดังกลา่ วสง่ ผลให้ผลการทดสอบการอ่าน การเขียน
ของนักเรียนเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด โครงการส่งเสริมการอ่านและงานสัปดาห์ห้องสมุด กิจกรรมส่งเสรมิ
การอ่านโดยใชห้ นังสือพระราชนิพนธ์ในสมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ รณรงค์
และปลูกฝังให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านจัดทำสมุดบันทึกการอ่านสำหรับนักเรียนระดับชั้น ป.๑ - ม. ๓
สง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รยี นมที กั ษะการอา่ น การเขียน การพดู การฟัง เช่น กิจกรรมเสยี งตามสาย กิจกรรมสภานักเรียน

ความสามารถในดา้ นการส่ือสารทง้ั ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเหมาะสมตามระดับชัน้ โรงเรยี นมกี าร
จดั การเรียนร้ใู นห้องเรียนให้มีความสอดคล้องและสง่ เสริมทกั ษะดงั กล่าว ตลอดจนจดั โครงการและกิจกรรมที่
ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร เช่น กิจกรรมตลาดนัดวิชาการ กิจกรรมการซ่อมเสริม
ภาษาไทย กิจกรรมการแสดงทางวิทยาศาสตร์ การจัดทำเว็บไซต์ของโรงเรียน การจัดทำวารสารโรงเรียน
ครูผูส้ อนจดั กจิ กรรมการเรียนรแู้ บบเนน้ พัฒนาทกั ษะด้านการสอื่ สารท้ังภาษาไทยและภาษาองั กฤษ เช่น การ
นำเสนอหน้าชั้นเรียน การจัดทำรายงาน การนำเสนอในด้านคอมพิวเตอร์ เปน็ ตน้

ความสามารถในด้านการคิดคำนวณเหมาะสมตามระดับชั้น โรงเรียนได้จัดโครงการยกระดับ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีกิจกรรมดังนี้ กิจกรรมท่องสูตรคูณ กิจกรรมค่าย O-NET กิจกรรมค่าย I-NET
กจิ กรรมคา่ ย NT กิจกรรมจินตคณิต กจิ กรรมคา่ ยคณติ ศาสตร์ กิจกรรมสนกุ คดิ วิทยาศาสตร์ อีกทั้งครูผู้สอน

22

จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นทักษะกระบวนการคิดการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในชั้นเรียนอย่าง
หลากหลาย ในรูปแบบ On-hand On-line และ On-demand ส่งเสริมให้ครูสร้างคลิปการสอนด้วยตนเอง
เพ่อื เปน็ สอื่ ใหน้ ักเรยี นได้คนุ้ เคยกบั ครผู ูส้ อน เรียนร้อู ยา่ งสนุกสนานมากข้ึน

ในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน จะใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น
สำคัญ และหลากหลายไม่ว่าจะเป็น PBL BBL กระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es)
และอื่น ๆ ซึ่งทุก ๆ แนวทางการจัดการเรียนการสอน จะเดินตามแนวทาง นโยบายของโรงเรียนนั้นคือการ
จดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning นอกจากนั้นแลว้ ทางโรงเรยี นได้เข้าร่วมโครงการ TFNNE (Team
For New Normal Education) ซ่งึ เป็นโครงการของศกึ ษาธกิ ารจังหวดั สงขลา ท่ใี หโ้ รงเรยี นได้สร้างนวตั กรรม
เพื่อพฒั นาผลการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ภายใต้วถิ ี New Normal รวมถงึ การเห็นความสำคัญของครูทุก
ท่านในการร่วมวางแผน หาแนวทางการยกระดับผลสัมฤทธิ์ มีการนิเทศติดตามอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ ผล
O-NET รายวิชาคณิตศาสตร์ ทง้ั ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 สงู ขน้ึ

๒. มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
และแก้ปญั หา

โรงเรยี นบา้ นคอลอมุดอได้มกี ารจดั การเรยี นการสอนท่ีเน้นรูปแบบActive learning ภายใต้วิถี New
Normal และมีการใช้สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์มาเป็นตัวช่วยเพื่อให้ผู้เรียน
กระตอื รอื ร้นและตน่ื ตวั ในการเรียนรฝู้ กึ การคดิ ด้วยตนเองและทำให้มีการคิดวเิ คราะห์เปน็ ลำดับ รวมถงึ มีความ
คดิ สรา้ งสรรค์ผลงาน รู้จกั การแก้ปัญหาและตัดสินสินใจด้วยตนเอง เชน่ โครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ิ ท่ีเน้นให้
มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ โครงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้และ
โครงการคลินิกภาษาซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่เขียนขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการอ่านการเขียนและคิดวิเคราะห์ของ
ผู้เรียนอันเนื่องมาจากในช่วงการแพร่ระบาดของเชือ้ โควิด19 การเรียนการสอนมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทำให้
การพัฒนาทางด้านการอา่ นการเขยี นทำไดไ้ ม่เตม็ ท่ี ดังน้ันโครงการนี้จงึ เปน็ โครงการท่ชี ว่ ยเหลือพัฒนาการอ่าน
เขยี นและคิดวิเคราะห์ได้ โดยมวี ัตถุประสงค์เพ่ือให้ผเู้ รียนมคี วามสามารถในการอ่าน เขยี น การส่ือสารและการ
คิดวิเคราะห์ตามเกณฑ์ของแต่ละระดับชั้น ส่งผลอย่างเห็นไดช้ ัดคือคะแนน o-net ของนักเรียนชัน้ ป.6 และ
ม.3 รวมถึงผลการสอบ NT ของนักเรยี นมีค่าการพัฒนาทส่ี งู ขน้ึ ทุกกลุ่มสาระ นอกจากนยี้ งั มีความสามารถด้าน
วิชาการ กิจกรรม ศิลปะ ดนตรี กีฬาและทักษะงานอาชีพ และยังมีกิจกรรมตลาดนัดวิชาการ ซึ่งเป็นการ
สะทอ้ นผลงานของผเู้ รยี นตลอดท้งั ปกี ารศึกษา รวมไปถงึ กิจกรรมเสรมิ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กจิ กรรมการจัด
ป้ายนิเทศวันสำคัญ กิจกรรมศึกษาแหล่งเรียนรู้ การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของโรงเรียนต่อสาธารณะ
เป็นตน้

ความสามารถในการแก้ปญั หาและนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม โรงเรียนได้
ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ส่งเสริมให้นกั เรยี นมรี ะเบียบวนิ ยั มีความรัก ความสามคั คี มีความเข้มแขง็ รู้จักชว่ ยเหลอื ผูอ้ น่ื รู้จกั การบำเพ็ญ
ประโยชน์ มกี ารแลกเปลีย่ นความคดิ เพ่อื แกป้ ญั หาตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสมและสรา้ งเสรมิ ประสบการณ์ชีวิตให้
สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังมีกระบวนการพัฒนาผู้เรยี นด้วยวิธีการที่หลากหลาย จัดการ
เรียนรู้ให้เป็นไปตามศักยภาพของผู้เรียนและเสริมสร้างศักยภาพตามที่ผู้เรียนมีความต้องการเฉพาะ บุคคล
ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักนำเสนอวิธีคิด โดยออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้นทักษะกระบวนการคิด คิดเป็น
ทำเปน็ แก้ปญั หาได้ ทงั้ ในห้องเรยี นและนอกห้องเรยี น เพื่อให้ ผูเ้ รยี นสามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้อย่าง
เหมาะสม โดยใช้เทคนิควิธีการ เช่น แบบ Active learning รูปแบบการระดมสมอง แบบลงมือปฏิบัติจริง
แบบร่วมมือกันเรียนรู้ แบบใช้กระบวนการคิด กระบวนการใช้ปญั หาเป็นหลัก อีกทั้ง ไปบูณาการในการเรยี น

23

การสอนในรายวิชาต่าง ๆ โดยเฉพาะวชิ าวิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตรซ์ ่ึงจะเห็นได้ชัดเจน ว่ากิจกรรมต่าง ๆ
เหล่านี้ส่งเสริมให้ผู้เรียนความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณสามารถ อภิปราย
แลกเปลยี่ นความคิดเหน็ และแก้ปญั หาได้ เพ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาสู่คณุ ภาพการศึกษาไทยแลนด์ 4.0
โดยยดึ หลกั “ศาสตร์พระราชา”

๓. มีความสามารถในการสร้างนวตั กรรม
ผู้เรียนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ได้อย่างเหมาะสม โดยการจัดกิจกรรมการเรยี นการ

สอนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้เน้นให้ผู้เรียนมีการสรา้ งชิ้นงาน ผลงานที่หลากหลาย มีการนำเสนอช้นิ งาน
และจัดนิทรรศการในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากชิ้นงานดังกล่าวได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดทักษะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรูแ้ ละเกิดกระบวนการทำงานอย่างเปน็ ระบบ
โรงเรียนได้มีการจัดการเรียนการสอนและจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning นอกจากนั้นแล้วทางโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการ TFE (Team For New Normal Education)
ซึ่งเป็นโครงการของศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ท่ีให้โรงเรียนได้สร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลการทดสอบ
ระดบั ชาติ (O-NET) ภายใต้วถิ ี New Normal ท่ีส่งเสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนมีความสามารถในการรวบรวมความรู้ได้ด้วย
ตนเองและการทำงานเป็นทีม เชื่อมโยงองค์ความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เช่น
แนวความคดิ โครงการ โครงงาน ชน้ิ งาน และผลผลิต ส่งผลใหผ้ ้เู รียนมีผลสมั ฤทธ์ิที่สงู ข้ึน นอกจากนี้โรงเรียน
ได้รับเกียรติบัตรผ่านการคัดเลือกผลงานด้านนวัตกรรมโครงการ 1 โรงเรียน 1 นวัตกรรมของโครงการ
โรงเรียนคณุ ภาพประจำตำบล จากเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน

๔. มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร
ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารได้อย่างเหมาะสม ปลอดภยั มี

ประสิทธิภาพ โดยครูผู้สอนมีการส่งเสริมกิจกรรมการสืบค้นข้อมูลด้วยตนเองจากอินเตอร์เน็ต ส่งเสริมการ
สร้างชน้ิ งาน ผลงาน โดยการนำเสนอผ่านการใชส้ ่ือเทคโนโลยี เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนเกิดทักษะ กระบวนการในการใช้
เทคโนโลยีที่มีประสทิ ธภิ าพมากข้ึน ได้มีจัดโครงการการส่งเสรมิ ศักยภาพและความสามารถด้านวิชาการ เช่น
กิจกรรมซ่อมบำรุง ดูแลรักษา วัสดุงาน อุปกรณ์ ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ กิจกรรม ICT การแข่งขันทักษะทาง
วิชาการดา้ นเทคโนโลยี ส่งเสรมิ กจิ กรรมการใช้ห้องปฏบิ ัตกิ ารใหม้ ีประสทิ ธภิ าพและเพียงพอกับความต้องการ
ของผเู้ รียน เพ่ือพัฒนาการเรยี นการสอนอย่างมีคณุ ภาพ ส่งผลใหผ้ ้เู รียนมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนที่สงู ขึน้

๕. มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสตู รสถานศึกษา
ผู้เรียนบรรลุและมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนที่สูงขึ้นในด้านความรู้ ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการต่าง ๆ โดยผู้เรียน สามารถนำความรู้ไป
ประยุกตใ์ ชใ้ นสถานการณ์จริง นักเรียนสามารถใช้ความร้ไู ด้อย่าหลากหลาย มชี อ่ งทางการค้นคว้าหาความรู้ท่ี
สร้างสรรค์ ร้จู ักการแสวงหาวิชาความรดู้ ว้ ยตนเอง

๖. มีความรู้ ทกั ษะพ้ืนฐาน และเจตคตทิ ีด่ ตี ่ออาชีพ
ผู้เรียนมคี วามรู้และทักษะพร้อมท่ีจะศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้นหรือมีวุฒิภาวะทางอาชีพเหมาะสม
กับช่วงวัย โรงเรียนได้ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะในการทำงาน มีการวางแผนอย่างเปน็ ระบบ รักการ
ทำงาน สามารถทำงานร่วมกบั ผูอ้ ืน่ ได้ ทำงานใหบ้ รรลุผลสำเร็จตามวตั ถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดได้เป็น
อย่างดี และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต โดยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับจังหวัด ระดับเขตพื้นท่ี และ
ระดบั ชาติ ตามโครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษากำหนด พร้อมทจ่ี ะศึกษาต่อในระดับช้นั ท่ีสูงข้ึนหรือมีวุฒิภาวะ
ทางอาชีพเหมาะสมกับช่วงวัย โดยการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้เรียน เช่น
การเชิญวิทยากรจากสถาบันการศึกษาภายในและภายนอกมาให้ความรู้ด้ านการศึกษาต่อและการประกอบ

24

อาชีพใหก้ บั นกั เรยี นระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ และชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ มกี ารจัดกิจกรรมแนะแนวทม่ี ุ่งเน้น
ขอบข่ายการศึกษาต่อในช้ันเรียนทกุ ระดับช้ัน จัดนิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพใน
กิจกรรมตลาดนัดวิชาการ ให้บริการข้อมูลประชาสัมพันธ์ด้านการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพท่ี
หลากหลาย เช่น จดั ทำปา้ ยนิเทศประชาสัมพันธ์ ใหบ้ รกิ ารให้คำปรึกษา และสื่อสังคมออนไลน์ เปน็ ต้น จัดทำ
การสำรวจข้อมูลความต้องการการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพในอนาคตของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ให้
ความรู้ในการประกอบอาชพี ในกลุ่ม AEC และอตั ราเงินเดือนขั้นต่ำ การเลือกเรียนต่อในระดับช้ันที่สูงข้ึนตาม
ความถนัด ความสนใจและตามศักยภาพ โดยจัดกิจกรรมให้นักเรียนค้นหา อาชีพในอนาคตที่ตนเองต้องการ
มีเจตคติที่ดีพร้อมทีจ่ ะศึกษาต่อในระดับชั้นที่สงู ขึ้นหรือมีวุฒิภาวะทางอาชีพเหมาะสมกับช่วงวัย โรงเรียนได้
ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นมีเจตคตทิ ี่ดพี รอ้ มท่ีจะศกึ ษาต่อในระดับช้นั ท่ีสูงขึ้นหรอื มวี ฒุ ิภาวะทางอาชีพเหมาะสมกับช่วง
วัย โดยการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้เรียน เช่น การจัดกิจกรรมชุมนุม
แนะแนว ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกประสบการณ์การประกอบอาชีพตามความถนัดและความสนใจของตนเอง
ซ่งึ นกั เรียนจะได้รบั ความรู้แนวทางอาชีพและฝึกประสบการณ์จริงจากแหลง่ เรยี นรู้และผเู้ ชีย่ วชาญเฉพาะด้าน
ฝึกกระบวนการทำงานรว่ มกนั แลกเปล่ียนเรียนรู้และเผยแพรผ่ ลงานสู่สาธารณะ ฝึกกระบวนการวางแผน การ
จัดกิจกรรมแนะแนวในชน้ั เรียนทม่ี งุ่ เนน้ ขอบขา่ ยดา้ นอาชพี สำหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ กจิ กรรม
ตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยจัดกจิ กรรมปลกู พืชสรา้ งรายได้ เชน่ การเพาะเห็ด การปลูกผัก
การเลี้ยงปลา และกิจกรรมเสริมอาชีพสร้างรายได้ โดยให้ผู้เรียนเรียนรู้กระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม ฝึก
กระบวนการวางแผนการขาย การบริหารจัดการด้วยตนเอง มีการประสานงานกับองค์กรหรือหน่วยงาน
ภายนอกใน เพื่อการหารายได้พิเศษระหว่างเรียนให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ นักเรียนที่ต้องการใช้
เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และนักเรียนสามารถนำไปตอ่ ยอดเพือ่ สร้างอาชีพได้ โดยมีการติดตามผลการศึกษา
ตอ่ และการประกอบอาชพี ของนกั เรียนระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓

๑.๒ คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงคข์ องผูเ้ รียน
๑. การมคี ณุ ลักษณะและค่านยิ มทีด่ ีตามท่สี ถานศกึ ษากำหนด

ความประพฤติด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมจิตสังคมและจิตสำนึกตามที่สถานศึกษากำหนด
โดยไมข่ ัดกบั กฎหมายและวัฒนธรรมอันดขี องสังคม โรงเรยี นได้มกี ารจัดกระบวนการเรยี นการสอนที่ส่งเสรมิ ให้
ผู้เรียนเป็นผู้ท่ีมีคุณธรรม จริยธรรม มีวินยั มีความรบั ผิดชอบ ปฏิบัติตามหลักเบื้องต้นของศาสนาที่ตนนับถือ
โรงเรียนจัดกิจกรรมการละหมาดของนักเรียน มีการร่วมละหมาดวันศุกร์ มีค่านิยมที่พึงประสงค์ โดยจัด
กิจกรรมวันสำคัญของชาติ กิจกรรมเลือกตั้งคณะกรรมการสภานักเรียน ซึ่งเป็นกระบวนการส่งเสริมพัฒนา
ให้นักเรียนรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายและรู้จักช่วยเหลือผู้อ่นื มี
ความเปน็ ประชาธปิ ไตยในหมู่คณะ นอกจากน้ที ุกกล่มุ สาระการเรียนรูไ้ ด้มีการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นการ
สอดแทรกเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้นักเรียนมีทักษะชีวิตในการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข และมีการจัด
กิจกรรมการเรียนทีเ่ น้นทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม โดยเน้นให้ผู้เรียนสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อ่ืนได้ เช่น การ
ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานสุขศึกษา โครงงานอาชีพฯ เป็นต้น และมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ เช่น โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์รักความเป็นไทย
และภมู ิใจในโรงเรยี น กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ กจิ กรรมวันสำคัญชว่ ยกนั อนุรักษ์ภาษาไทยที่
สง่ เสรมิ และปลูกฝงั ให้นักเรยี นมีคุณธรรมมีความสำนึกในความเปน็ ชาตไิ ทย ศรัทธาและยดึ มน่ั การปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและดำเนินวถิ ีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ

25

พอเพียง มีโครงการที่ช่วยส่งเสริมด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ เช่น การประกาศเกียรติ
คณุ นักเรยี นท่ีมคี วามประพฤติดีเด่น นกั เรียนที่สรา้ งชอื่ เสียงใหแ้ ก่โรงเรยี น

การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โรงเรียนมีการ
ส่งเสริมและมีการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนและบุคลากรภายในโรงเรียนได้มีส่วนร่วมในการในการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมโดยการปรับปรงุ อาคารสถานที่ ภูมทิ ัศน์ และส่ิงอำนวยความสะดวก เช่น
กิจกรรม Big cleaning Day การจัดทำป้ายนิเทศ การแบ่งพื้นที่ของนักเรียนช่วยกันดูแลความสะอาดและ
ตน้ ไมใ้ นบรเิ วณที่รับผิดชอบ และการเพิม่ พ้ืนทส่ี เี ขยี วให้แกโ่ รงเรยี น มกี ารรณรงค์การประหยัดนำ้ และประหยัด
ไฟฟ้าภายในโรงเรียนและที่บ้านของนักเรียน การรณรงค์การใช้กระดาษสองด้าน (Reuse) รณรงค์ไม่ใช้โฟม
เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้ถุงพลาสติกในการบรรจุอาหาร ในด้านการส่งเสริมสุขภาพอนามัยและความ
ปลอดภัยของผู้เรียน มีการตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจเชค็ คณุ ภาพน้ำด่ืม โภชนาการ การตรวจเช็คโครงสร้าง
อาคาร และการป้องกันอัคคีภัย มีการจัดกิจกรรมลดการเสี่ยงหรือจุดเสี่ยงภายในโรงเรียนโดยการติดกล้อง
วงจรปดิ ตามจุดต่าง ๆ มีการจดั กิจกรรมประกวดห้องเรยี นสวยด้วยมือเรา เปน็ ต้น ในดา้ นหอ้ งสมุดท่ีให้บริการ
สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศที่เอื้อให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองและหรือเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม มีการจัดทำห้องศูนย์
การเรียนรู้ประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้ ห้องสมุดโรงเรียน การจัดการเรียนรู้อย่างหลากหลาย การนำแหล่ง
เรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน การนำนักเรียนไปศึกษาดูงานในแหล่งเรียนรู้
นอกสถานท่ี และการส่งเสรมิ นักเรยี นเข้าประกวดแลกเปล่ยี นความรู้ภายนอกองคก์ รภายนอก เป็นต้น ส่งผลให้
ผูเ้ รยี นมีคณุ ลักษณะและคา่ นยิ มท่ดี ี

โรงเรยี นเล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญในการเสริมสรา้ งผู้เรียนให้มพี ฤติกรรมเป็นผู้ท่ีมีคุณธรรม
จริยธรรม เคารพในกฎกติกา มีค่านิยมและ จิตสำนึกตามที่สถานศึกษากำหนดโดยไม่ขัดกับกฎหมายและ
วัฒนธรรมอันดีของสังคม ด้วยวิธีการสอดแทรกในกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนและโครงการต่าง ๆ
อยา่ งตอ่ เนือ่ ง

๒. ความภูมิใจในทอ้ งถน่ิ และความเปน็ ไทย
ผูเ้ รยี นมีความภาคภมู ิใจในท้องถิน่ ในความเป็นไทยและเห็นคณุ ค่าเก่ียวกับภูมปิ ัญญาไทยที่บรรพบุรุษ
ไดส้ บื ทอดต่อเน่ืองมาจนถึงปัจจบุ นั และไดแ้ สดงออกอย่างเหมาะสมและกลมกลืนกับชีวิตประจำวัน แต่งกาย
ถูกต้องตามกาลเทศะและตามแนวทางศาสนาที่ตนนับถือ มีมารยาทงดงามตามแบบไทยไปมาลาไหว้ สลาม
ตามครรลองของศาสนา มีสมั มาคาระวะทง้ั ตอ่ ผู้ใหญ่ เพ่ือน และรนุ่ น้อง กตญั ญูกตเวทตี อ่ บิดามารดา คุณครู
และผู้มีพระคุณ ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่ทางโรงเรียนได้จัดขึ้นเป็น
ประจำทกุ ปี เช่น กิจกรรมวนั เมาลิดนบี กจิ กรรมการกวนอาซูรอ กจิ กรรมละศีลอด การทำพานขันหมากแบบ
มุสลิม การจักสานจากเตยหนาม การทำตูป๊ะ การทำยาหม่อง การทำน้ำยาอเนกประสงค์ การทำไก่กอและ
การทำโรตี เปน็ ตน้ อกี ทง้ั ชกั ชวน แนะนำใหผ้ อู้ ื่นหรือชมุ ชนปฏิบตั ิตามขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและ
วัฒนธรรมไทย โรงเรยี นไดส้ นับสนนุ ให้แต่ละกลมุ่ สาระจัดทำโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เพอ่ื ส่งเสริมการใช้
ภาษาไทย การใชเ้ ลขไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม การวาดภาพทเี่ ก่ยี วข้องกับวิถีชีวิตและความ
เปน็ ไทยจนกลายเปน็ แหล่งเรยี นรู้ มีการชักชวน แนะนำ ใหผ้ ้อู ่นื เหน็ คณุ คา่ ของการใชภ้ าษาไทยท่ีถกู ต้องโดย
การบรู ณาการสอดแทรกในบทเรยี น เช่น กิจกรรมวนั สุนทรภู่ กิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ กิจกรรมแข่งขัน
ทักษะทัศนศิลป์ดนตรีและนาฏศิลป์ กิจกรรมบูรณาการวันอาเซียนและความเป็นไทยภายใต้อาเซียนและ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมแข่งขันทักษะการงานอาชีพและเทคโนโลยี กิจกรรมที่สอดแทรกอยู่ใน
รายวิชาต่าง ๆ เช่น อาหารไทยสี่ภาค อาหารไทยและขนมไทย นำภูมิปัญญาไทยมาใช้ให้เหมาะสมในวิถีชีวิต
ร่วมกิจกรรรมที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาไทย มีส่วนร่วมในการสืบทอดภูมิปัญญาไทยผ่านกิจกรรมสืบสาน

26

สรา้ งสรรค์ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ อกี ทงั้ จัดให้มีกิจกรรมสร้างจิตสำนกึ ในความเป็นไทย กิจกรรมอนุรักษ์ความเป็น
ไทย

โรงเรยี นไดด้ ำเนนิ การให้นกั เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ สรา้ งผลงานจากการเข้าร่วมกิจกรรมทางด้าน
ศิลปะ/นาฏศิลป์ แสดงออกด้านวัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทยที่ตนเองภาคภูมิใจในท้องถิ่น ได้อย่างเหมาะสม
ดว้ ยวิธกี ารทห่ี ลากหลายและเปน็ ไปตามสภาพและระดบั ชัน้ ของนักเรยี น เช่น ระดบั ปฐมวยั ใหม้ ีกิจกรรมการรำ
และเต้นดิเกร์ฮูลู ระดับประถมศึกษารำตารีกีปัส และระดับมัธยมศึกษาการขับร้องอนาซีด ให้นักเรียนได้
เรียนรู้เนื้อหาประวัติความเป็นมาของความเป็นไทยในรายวิชาประวัติศาสตร์ และศิลปะ เรียนรู้หน้าที่ท่ี
เหมาะสมของตนเองผ่านรายวิชาหน้าที่และพลเมือง โดยอาศยั รูปแบบ กระบวนการคิด และสร้างผลงานตาม
ภาระงานในแต่ละระดับชัน้ ด้วยการลงมือปฏิบตั ิจริง และให้นักเรียนฝึกทักษะการเป็นผู้นำ จัดทำผลงานที่สอื่
ให้เห็นถึงความเป็นไทย และความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง เป็นต้น และผู้เรียนได้รับการส่งเสริมให้มี
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความกตัญญู มีกิจกรรมหน้าเสาธง การกล่าวขอพร การปฏิญาณตน
ทกุ เชา้

๓. การยอมรับท่ีจะอยู่ร่วมกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย
โรงเรยี นดำเนนิ การจดั กระบวนการพฒั นาด้วยกิจกรรมการเรยี นรู้ที่หลากหลายในการพัฒนานักเรียน
ยุค Thailand 4.0 ให้สามารถปรับตัวเพอื่ การอยู่ร่วมกนั บนความแตกต่างและ หลากหลาย ให้มีคุณภาพตรง
ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์และมีทักษะในศตวรรษที่ 21 เช่น กระบวนการการเรียนรู้เชิงประจักษ์
กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย กิจกรรมโครงงานเชิง บูรณาการ (PBL) กิจกรรมชุมนุมวิชาการ กิจกรรมจิต
สาธารณะ โดยนักเรียนจะเรียนรู้ความเป็น สมาชิกของสังคม การยอมรับความคิดเห็นทีแ่ ตกต่างหลากหลาย
และการใช้ชีวติ ตามวถิ ี ประชาธปิ ไตย
ผเู้ รียนมีการยอมรับเหตุผลความคดิ เห็นของผ้อู ่ืนและมีมนษุ ยสัมพนั ธ์ดี โรงเรียนได้จัดกิจกรรมลูกเสือ
เนตรนารี กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ กิจกรรมจิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ กิจกรรมเลือกตั้งคณะกรรมการสภา
นกั เรียน กจิ กรรมห้องเรยี นสวยดว้ ยมือเราและมโี ครงการสง่ เสรมิ ศกั ยภาพและสุขภาพนกั เรียน กจิ กรรมอบรม
นักเรียนแกนนำสุขภาพ โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ให้กับผู้เรียนอ่อน
ส่งผลให้ผู้เรียนเรียนรู้และอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างทางด้านสติปัญญา เพศ วัย ได้อย่างมีความสุข และ
ผูเ้ รยี นสามารถนำประสบการณ์ไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้
๔. สุขภาวะทางรา่ งกาย และจิตสงั คม
ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย และจติ สงั คม โดยโรงเรยี นจัดให้ผู้เรยี นได้รับการสง่ เสริมสุขภาพที่ดี จัด
กิจกรรมวัยใสใส่ใจสขุ ภาพ มีกจิ กรรมชัง่ นำ้ หนัก วัดส่วนสงู หาคา่ BMI เปรียบตารางการเจริญเติบโตของกรม
อนามยั กระทรวงสาธารณสุข ติดตามเดก็ อ่อน ผอม ใหค้ วามรู้ จดั ปา้ ยนเิ ทศ ทำแผ่นพับ ประชาสัมพันธ์เสียง
ตามสายการแปรงฟัน กจิ กรรมฟันสวยยม้ิ ใส กจิ กรรมสง่ เสริมอาหารกลางวัน เพอ่ื สขุ ภาพท่ีดขี องนักเรียน ให้
นักเรียนได้รับประทานอาหารที่ดี จะส่งผลให้นักเรียนมีภาวะทุพโภชนาการที่ดีตามไปด้วย กิจกรรม ลด ละ
เลกิ การใช้โฟมเพ่อื ใหน้ กั เรยี นตระหนักถงึ สงิ่ ที่ส่งผลกระทบทัง้ ต่อตนเองและโลก นักเรียนได้รับการบริการด้าน
สุขภาพอนามัยที่ดีและมีเวชภณั ฑท์ ่ีเพียงพอต่อความต้องการเมื่อนักเรียนไม่สบายหรือเกิดอุบตั ิเหตุ โครงการ
ส่งเสริมศักยภาพและสุขภาพนักเรียน ได้แก่ กิจกรรมรณรงค์ให้ ความรู้ความเข้าใจหลัก อนามัยและการรับ
บริการเบื้องต้นกิจกรรมวัยใสใส่ใจสุขภาพ กิจกรรมอาหารและน้ำสะอาด คุณภาพดีปลอดภัยและเพียงพอ
กจิ กรรมการทดสอบสมรรถภาพนักเรยี น กจิ กรรมตรวจสขุ ภาพประจำปี กิจกรรมทดสอบสมรรถภาพทางกาย
นักเรียน จัดทำโครงการโรงเรียนสีขาว ป้องกันและแก้ไขยาเสพติดและอบายมุข จัดทำโครงการส่งเสริม
ศักยภาพและสุขภาพนกั เรียน กิจกรรมวันงดสูบบุหร่ีโลก กิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดโลก กิจกรรมความรูส้ ู่

27

เพศศึกษา กจิ กรรมส่งเสรมิ ระเบียบวินยั โครงการพัฒนาระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน โดยให้ครูที่ปรึกษาออก
เยี่ยมบ้านนักเรียนพบปะพูดคุยกับผูป้ กครองเพื่อศึกษาสภาพปัญหาและการดำรงชีวิตประจำวันของนักเรียน
จดั กจิ กรรมอบรมใหค้ วามรู้เร่อื งยาเสพตดิ ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอสะบา้ ย้อย และรว่ มมือกับรพ.สต.จะ
แหน ในการสุ่มตรวจสารเสพติดในนักเรยี นกลุ่มเสี่ยง การจัดทำประวตั ินกั เรียนเป็นรายบุคคล เปน็ ต้นส่งผลให้
นักเรยี น มีสขุ ภาพรา่ งกายแข็งแรง สามารถอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมได้อย่างมีความสุข

สบื เนื่องจากสถานการณโ์ รคโควิด - ๑๙ เป็นปัจจยั สำคัญท่ีทำใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงในการอยรู่ ่วมกัน
และเรื่องของสุขอนามัยในโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น โดยมีมาตรการเป็นไปตามกระทรวงสาธารณสุ ขและ
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เชน่ 1) มีมาตรการคัดกรองวดั ไข้อาการเสี่ยง และประวตั ิเสย่ี ง 2) ใหน้ กั เรียน บุคลากร
และผู้เข้ามาในสถานศึกษาทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย 3) มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจล
แอลกอฮอล์ อยา่ งเพียงพอ 4) จดั เว้นระยะหา่ งระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร 5) เปดิ ประตู หน้าต่าง
ให้อากาศถ่ายเท ทำความสะอาดห้องเรียนและบริเวณต่าง ๆ 6) พิจารณาควบคุมจำนวนนักเรียน ลดแออัด
เหลื่อมเวลาหรือลดเวลาทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าทีจ่ ำเป็น ๗) ทำความสะอาดพืน้ ที่ท่ีนักเรยี นใช้ร่วมกัน ก่อน
และหลังใช้งานทุกครั้ง ๘) จัดให้มีพื้นที่การทำกิจกรรม เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร
๙) ให้นักเรียนใช้ของใช้ส่วนตัว ๑๐) จัดให้มีห้องพยาบาลสำหรับแยกผู้มีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ
๑๑) จัดใหม้ ีการสื่อสารความรู้การปอ้ งกันโรคโควิด-19 การล้างมือ การสวมหน้ากาก การทำความสะอาดแก่
ทกุ คนในสถานศึกษา และ ๑๒) รณรงคใ์ ห้นกั เรยี นและครฉู ีดวัคซนี

ผลการดำเนินงาน
ผู้เรียนมีความสามารถอ่านออก เขียนได้ อ่านคล่อง เขียนคล่องได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน

ที่สถานศึกษากำหนด มีความสามารถเขียนสื่อสารภาษาไทยได้อย่างเหมาะสมมีความสามารถในการสื่อสาร
ภาษาอังกฤษไดเ้ หมาะสมตามชว่ งช้ันวัยมคี วามสามารถในการคิดคำนวณตามเกณฑ์อยู่ในระดับดีเลิศ คิดเป็น
ร้อยละ ๗๐ ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นโดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมอยู่ในระดับดีคิดเป็นร้อยละ ๖6
มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม พร้อมอธิบายแนวคิด มีชิ้นงานชัดเจนสามารถนำไปใช้และเผยแพร่
ผลงาน มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพือ่ พัฒนาตนเองและสังคมในดา้ นการ
เรียนรู้การสื่อสาร การทำงาน อย่างสร้างสรรค์และมีคุณธรรม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย (8 กลุ่มสาระ
การเรียนรู้) ตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนดและมคี วามรู้ ทักษะและเจตคติที่ดีตอ่ การทำงานและการประกอบ
อาชีพพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้น สามารถเลือกอาชีพที่ตนเองสนใจได้ ผู้เรียนบรรลุและมี
ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา ในด้านความรู้ ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการต่าง ๆ
โดยผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑– ๖ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนระดับที่ดขี ้นึ ในกลุ่มสาระ
การเรยี นรตู้ ่าง ๆ ผู้เรียนมคี ุณลักษณะและคา่ นยิ มทีพ่ ึงประสงค์ตามที่สถานศึกษากำหนดอย่ใู นระดับยอดเย่ียม
มีความภูมิใจในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของความเป็นไทยมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีและภูมิ
ปัญญาไทยมีสว่ นร่วมในการสบื สานประเพณขี องท้องถิน่ อย่างต่อเนือ่ ง มีมารยาททเ่ี หมาะสม เห็นคณุ ค่า และ
ปรับตัว ยอมรับ อยู่ร่วมกันบนความแตกต่างระหว่างบุคคล ในด้าน เพศวัย เชื้อชาติ ศาสนา ภาษาและ
วัฒนธรรม ประเพณี และผู้เรียนมสี ุขภาพกาย สุขภาพจิต อารมณ์ และสังคม แสดงออกอยา่ งเหมาะสมในแต่
ละช่วงวัยสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข เข้าใจผู้อื่น ไม่มีความขัดแย้งกับผู้อื่นผลการดำเนินการ

28

ดังกล่าว ทำให้โรงเรียนปลอดจากสารเสพติดไม่มีปัญหาการทะเลาะวิวาท นักเรียนได้รับรางวัลเกียรติบัตร
เยาวชนคนดีศรแี ผ่นดนิ , เกียรตบิ ตั รเด็กดศี รีสงขลา และไดเ้ ข้ารบั การคัดเลอื กในโครงการ“เด็กดีของสังคม”

จดุ เดน่
โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ นักเรียนส่วนใหญ่แสดงออกถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร

แกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานพทุ ธศักราช 2551 ทง้ั 8 ประการ มคี ุณลักษณะบางประการโดดเด่นจนเป็น
ลกั ษณะเฉพาะตนและเป็นแบบอย่างท่ีดี จนได้รับการยอมรับจากบุคคลหรือหนว่ ยงานท้งั ภายในและภายนอก
สถานศกึ ษา นักเรียนมสี ุขภาพร่างกายแข็งแรง มสี มรรถภาพทางกายและน้ำหนักส่วนสงู ตามเกณฑ์ มีระเบียบ
วินัย จนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา มีความมั่นใจกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมเป็นที่ยอมรับของชุมชน
โดยรอบในเรื่องความมีวินัย เคารพกฎกติกา มารยาทของสังคม นอกจากนี้ ผู้เรียนได้ปฏิบัติศาสนกิจ มี
คุณธรรม จริยธรรม มีสุขภาวะที่ดี ดำรงตนตามแบบวิถีชีวิตในชุมชน จนเป็นที่ยอมรับของชุมชนโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งคุณธรรมจรยิ ธรรมเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิศาสนกิจทางด้านศาสนา ได้แก่ การละหมาดนักเรียนจะทำการ
ละหมาด 2 เวลา คือ ละหมาดซุร์รี (ตอนเที่ยง) และละหมาดอัสรี (ก่อนกลับบ้าน) การถือศีลอด และการ
ปฏิบัตติ นตามหลักศาสนาอิสลาม เปน็ ต้น

จุดควรพฒั นา
๑. เร่งพฒั นาผเู้ รียนดา้ นการนำเสนอ การอภิปรายและแลกเปล่ียนเรยี นรอู้ ยา่ งสมเหตุสมผลและต้อง

พัฒนา ทักษะการแก้ปัญหาตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม โดยมีโครงการหรือกิจกรรมที่สามารถพัฒนา
ผูเ้ รยี นตาม ศกั ยภาพอย่างแท้จรงิ

๒. ส่งเสริมในด้านทัศนคติที่ดีต่อความเป็นไทย ไม่หลงใหลกับค่านิยมต่างชาติ จนเกิดการ
ลอกเลยี นแบบทำใหล้ มื วัฒนธรรมอันดงี ามของไทย

3. ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนไดร้ ับประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้จากสถานที่จริงให้มากขึ้นไม่ว่าจะ
เป็น สถาบันการศกึ ษาต่าง ๆ หรอื สถานประกอบการและควรมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงทางวิชาการ (MOU)
กบั สถาบันการศึกษาภายนอกใหม้ ากขึ้นเพ่ือเปน็ การขยายโอกาสทางการศึกษาต่อในระดบั ทสี่ ูงข้ึนให้กับผู้เรยี น

๔. การพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ให้สามารถก้าวทันกับการ
เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยนำเทคโนโลยมี าบูรณาการในการจดั การเรยี นการสอน

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ
ระดับคณุ ภาพ : ดีเลิศ
กระบวนการพฒั นา

2.1 โรงเรียนมีการกำหนดเปา้ หมาย วสิ ัยทศั น์ และพนั ธกิจทสี่ ถานศกึ ษากำหนดชัดเจน
โรงเรียนได้ดำเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา ผลจากการศึกษาที่ผ่านมา โดยการศึกษาข้อมูล
สารสนเทศ จากผลการนิเทศ ติดตาม ประเมินจากการศึกษาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และจัด
ประชุมระดมความคิดเห็นจากบุคลากรในสถานศึกษาเพื่อวางแผนและร่วมกันกำหนดเป้าหมายและปรับ
วิสัยทัศน์ กำหนดพันธกิจ กลยุทธ์ในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพของ
ผูเ้ รยี น มกี ารปรับแผนพัฒนาคณุ ภาพสถานศกึ ษาและแผนปฏิบตั ิการประจำปีเพือ่ ให้สอดคลองกับสภาพปัญหา
และความต้องการ ร่วมพัฒนาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการพร้อมทั้งมีการจัดหาทรั พยากร

29

งบประมาณมอบให้ครูรับผดิ ชอบดำเนนิ การพัฒนาตามแผน เพื่อให้บรรลตุ ามเปา้ หมายท่ีกำหนดไว้ มกี ารนเิ ทศ
ติดตาม ประเมินผลการดำเนนิ งานและสรุปผลการดำเนินงาน

2.2 โรงเรยี นมรี ะบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษา
โรงเรียนมีระบบการบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาโดยได้มีการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาปีการศกึ ษา 2563-2565 โดยใช้รูปแบบ ALCAR MODLE โดยยึดหลักวงจรการทำงาน PDCA ที่
ตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของชุมชน มกี ารจดั ทำ แผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปีให้สอดคล้องกบั สภาพปญั หา ความ
ต้องการพัฒนา การนำแผนไปปฏิบัติเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา มีการตรวจสอบประเมิน ปรับปรุง พัฒนา
งานอย่างต่อเนอื่ ง มีการบรหิ ารอัตรากำลงั ทรพั ยากรทางการศึกษา และจัดระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี นที่มี
เครือข่ายผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วม มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินคุณภาพ
ภายใน เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนา ตรวจสอบความก้าวหน้าของการดำเนินการตามแผนพัฒนาการจัด
การศกึ ษาและตรวจสอบข้อมูล สารสนเทศ ของการดำเนนิ งานในแต่ละตัวชี้บ่งชี้ของแต่ละมาตรฐาน ปรับปรุง
พฒั นาและร่วมรบั ผิดชอบตอ่ ผลการจัดการศึกษา
โรงเรียนมีผู้บริหารที่มีวิสัยทศั นแ์ ละมีความสามารถเป็นสว่ นใหญ่จึงทำใหก้ ารบรหิ ารจดั การด้านต่าง ๆ
มีประสิทธิภาพ มีการส่งเสริมพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อให้
สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ได้เต็มศักยภาพ มีการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบสารสนเทศของโรงเรียนเป็น
หมวดหมู่และปจั จบุ นั ทำให้การบรหิ ารจัดการโรงเรียนมีประสทิ ธิภาพ
2.3 โรงเรียนมกี ารดำเนินงานพัฒนาวิชาการท่เี น้นคณุ ภาพผ้เู รยี นรอบดา้ น พัฒนากระบวนการจัดการ
เรียนการสอนทเ่ี น้นผเู้ รียนด้วยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย โดยมุง่ เน้นการพัฒนาผเู้ รยี นให้สอดคล้องกบั วสิ ัยทัศน์ของ
โรงเรยี น ส่งผลให้กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญแบบ Active Learning ด้วยเทคนิค
วิธที ห่ี ลากหลาย การสอนแบบบรู ณาการโดยใชแ้ หล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น พฒั นาและใช้ส่ือการเรียน
การสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยี การวัดและประเมินผลตามสภาพจริงดว้ ยเครื่องมอื และวธิ กี ารท่ีสอดคล้อง
กับตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ของหลักสูตร ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน สนับสนุนให้ครูสร้าง
นวัตกรรมการเรียนการสอนเพื่อยกระดับคณุ ภาพการศึกษา สนับสนุนให้ครมู ีการทำวิจัยในชั้นเรียน ให้ครูได้
พฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง มกี ารนเิ ทศ กำกับ ตดิ ตาม การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้และสนับสนุนการจัด
กิจกรรมชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทุกกลุม่ สาระการเรียนรู้ และที่สำคัญคือโรงเรียนบ้านคอลอมุดอมีกระบวนการ
จัดการเรยี นรู้ที่ทนั สมัย เป็นนวัตกรรมที่จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ผ่านช่องทางท่ีนกั เรยี นสามารถ
เข้าไปศึกษาข้อมูลที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนของครูได้ และดำเนินการจัดการเรียนการสอนได้ทุก
สถานการณ์โดยใช้ Google Meet ในการสอนออนไลน์ Google Classroom ในการจัดการเรียนรู้ให้
สอดคล้องกับสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน โดยหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย มีการประชุมเพื่อ
ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอยู่เสมอ โดยมจี ุดประสงค์เพือ่ 1) ประเมินการใชห้ ลักสูตร 2) พัฒนา
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผลที่คาดว่าจะได้รับคือ 1) ผู้เรียนไดเ้ รียนรูเ้ ตม็ ศักยภาพตามเกณฑ์ 2) ครูได้
จัดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ 3) โรงเรียนมีหลักสูตรที่ทันสมัยและเหมาะสม 4) ผู้ปกครองพึงพอใจตอ่
การบรหิ ารจดั การของโรงเรยี น

30

โรงเรียนมีการดำเนินงานพฒั นาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบดา้ นตามหลักสูตรสถานศึกษา
และทุกกลุ่มเปา้ หมาย มีการใชก้ ระบวนการสรา้ งชมุ ชนการเรียนรู้ทางวชิ าชพี PLC ในการรว่ มสร้างรูปแบบการ
สอนที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน มีการเขียนแผนการสอนที่สอดคล้องกับสภาพผู้เรียนโดยสร้างรูปแบบการ
สอนที่เหมาะสมกับช่วงวัยของผู้เรียน มีการเชิญผู้ปกครองและตัวแทนชุมชนมาร่วมวางแผนการจัดการศกึ ษา
พร้อมทงั้ ได้พฒั นาระบบงานวชิ าการให้สอดคลอ้ งกับหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรทอ้ งถ่นิ เพอื่ ตอบสนอง
ความต้องการของทอ้ งถิ่น โดยเชิญวิทยากรทอ้ งถน่ิ มารว่ มแลกเปล่ยี นเรียนรู้ภายในโรงเรยี น

2.4 โรงเรยี นมีการพัฒนาครูและบุคลากรใหม้ ีความเชย่ี วชาญทางวิชาชีพ
โรงเรยี นได้สง่ เสรมิ สนบั สนุนให้ครเู ขา้ รบั การอบรม สัมมนา และทัศนศกึ ษาดูงาน เพือ่ พฒั นาความรู้สู่
ครูมืออาชีพ มีการประชุมเพ่ือสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพอยา่ งต่อเนือ่ งทั้งในระดับโรงเรียน ระดับ
กลุ่มงาน ระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับช่วงชั้น และระดับชั้นเรียน มีการส่งเสริมให้ครูเข้ารับการพัฒนา
ตนเองไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง/ปี มีการส่งเสริมให้ครูมีวิทยฐานะที่สูงขึ้น ทั้งวิทยฐานะชำนาญการและ
วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ มีการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ พาทำ นำสู่การปฏิบัติจริงข้อตกลงในการ
ปฏิบัตงิ าน PA (Performace Agreement) สำหรบั ครสู ายผ้สู อน เพื่อใหค้ รูมคี วามรู้ ความเขา้ ใจทถ่ี กู ต้อง และ
สามารถจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ มีการประเมิน
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของบุคลากร ตลอดจนให้บุคลากรได้จัดทำรายงานผลการ
ปฏบิ ัตงิ านและการประเมนิ ตนเองรายบุคคล มีการสร้างเครอื ข่ายทางวิชาการ เพอ่ื สง่ เสริม สนับสนุนสกู่ ารเป็น
ครูมืออาชีพ มีการจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพ สร้างขวัญและกำลังใจให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่าง
ต่อเนื่อง ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรเข้ารับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลต่าง ๆ อาทิ รางวัลเครื่องหมายเชิดชู
เกียรติคุรุสดุดี รางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติ ครูดีศรีสงขลา เป็นต้น นอกจากนี้โรงเรียนมีมาตรการรักษาความ
ปลอดภยั ครู นกั เรยี น และโรงเรยี นอย่างเปน็ ระบบ มรี ะบบการจราจรหน้าโรงเรยี น การรักษาความปลอดภัย
ครูตามเส้นทาง มรี ะบบกลอ้ งปิด CCTV การจัดเวรยามรกั ษาความปลอดภยั ตลอดจนมกี ารจัดทำจุดคัดกรอง
พร้อมทัง้ ขอความอนเุ คราะห์จากโรงพยาบาลส่งเสริมประจำตำบล เพ่ือตรวจคัดกรองครูตามมาตรการป้องกัน
การแพร่ระบาดของไวรสั โคโรน่า 2019 กอ่ นปฏิบตั ิหน้าทภ่ี ายในโรงเรียน เป็นตน้
2.5 โรงเรียนมีการจดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมทเ่ี อื้อตอ่ การจัดการเรยี นรู้อย่างมคี ุณภาพ

โรงเรียนมแี ผนงาน/โครงการ/กจิ กรรม พัฒนาอาคารสถานท่ี ทำให้หอ้ งเรียน แหล่งเรยี นรู้ภายใน
โรงเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องน้ำ โรงอาหาร อาคารประกอบทุกแห่งมีความสะอาดสะอาด เป็นระเบียบ
เรียบรอ้ ย มคี วามมนั่ คงแข็งแรงและปลอดภัย ดูแลซอ่ มบำรงุ อุปกรณอ์ ิเล็กทรอนกิ สเ์ พ่อื ยืดอายุการใช้งาน จัด
สภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียนให้สวยงาม ร่มรื่น ภายในห้องเรียนมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
ได้แก่ สื่อ วสั ดอุ ุปกรณต์ า่ ง ๆ จดั สิง่ อำนวยความสะดวกในการเรยี นรู้อยา่ งเพยี งพอกับผูเ้ รียนและพร้อมใช้งาน
จัดพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนครบทุกกลุ่มสาระ พัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในให้มีระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศ ทันสมัย เพียงพอตอ่ การใช้งาน มีการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยมี
ฐานเรียนรู้ตา่ งๆ ส่งผลให้ผเู้ รียนมีสขุ ภาพกาย สุขภาพจิตที่ดสี ่งผลตอ่ การเรียนร้ทู ดี่ ขี ึ้น

31

2.6 โรงเรียนมีการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ
เรยี นรู้

โรงเรียนมีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่มี วัสดุ-อุปกรณ์และมีระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่มี
ประสิทธิภาพ กำหนดผู้รับผิดชอบจัดทำระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ ใช้ในการบริหารจัดการของโรงเรยี น
ให้ถูกต้อง ครอบคลมุ และพรอ้ มใช้ ซึ่งมขี นั้ ตอนการจดั ระบบสารสนเทศ 5 ขั้นตอน คือ 1) รวบรวมขอ้ มูล
2) การตรวจสอบข้อมูล 3) การประมวลผลข้อมูล 4) การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ 5) การจัดเก็บข้อมูล
และสารสนเทศ กลุ่มงานทั้ง 5 กลุ่มงานคือ บริหารงานทั่วไป บริหารงานวิชาการ บริหารงานงบประมาณ
บริหารงานบุคคล บริหารงานกิจการนักเรียน ดำเนินการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อใช้ในการจัดทำข้อมลู
สารสนเทศ และใชใ้ นกระบวนการเรียนการสอน สนบั สนุนใหน้ ักเรยี นเรยี นรู้และสบื คน้ ข้อมูลท่ีตนสนใจจากส่ือ
New DLIT และคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตนเอง เพื่อให้การจัดการเรยี นการสอนและการใช้บริการอยา่ งดำเนินไป
อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จัดกิจกรรมส่งเสริมความสามารถด้านเทคโนโลยี ให้เอื้อต่อการพัฒนา
คุณภาพการศึกษา และส่งเสริมการจัดกจิ กรรมดา้ นเทคโนโลยีเพ่ือให้ผู้เรยี น ครู ชุมชน ศึกษาค้นคว้าได้อยา่ ง
ทั่วถึง ตามสถานการณ์ในปัจจุบันโรงเรียนดำเนินการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี Google Meet
Google classroom เรยี นออนไลน์ มาใชใ้ นกระบวนการจัดการเรียนรอู้ ย่างมีประสิทธภิ าพ สง่ ผลใหน้ กั เรยี นมี
ทักษะความรู้ในการใชเ้ ทคโนโลยี

ผลการดำเนนิ งาน
สถานศึกษามีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจนสอดคล้องกับบริบทของ

สถานศึกษา ความต้องการของชมุ ชน นโยบายของรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาตทิ ี่สามารถปฏิบัติได้จรงิ จัด
โครงการ กิจกรรมทส่ี ง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนบรรลตุ ามเปา้ หมาย วิสยั ทัศน์ พันธกจิ และมีผลการดำเนินงานสง่ เสริมให้
ผู้เรียนบรรลุตามเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ของสถานศึกษาเพื่อตอบสนองนโยบาย ผลการดำเนินงานท่ี
บรรลุเปา้ หมาย ได้แก่ระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน สง่ เสริมวิชาการ โรงเรียนดำเนนิ การบรหิ ารจัดการคุณภาพ
ของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ ทั้งในส่วนการวางแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โดยการ ทำแผนไป
ปฏิบัตสิ กู่ ารดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี เพ่ือการพฒั นาคุณภาพของสถานศึกษา มีการตรวจสอบ
ประเมินผลและปรับปรุงพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง มีการบริหารอัตรากำลังทรัพยากรทางการศึกษาและ
จัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีเครือข่ายผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วม มีระบบการนิเทศภายในการนำ
ขอ้ มูลมาใช้ในการพฒั นา บุคลกรและผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งทุกฝ่าย มีส่วยรว่ มในการวางแผนปรบั ปรุงพฒั นาและร่วมรับ
ผผิดชอบต่อการจัดการศึกษา ทำให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานของสถานศึกษากำหนดไว้
โรงเรียนมีครแู ละบุคลากรท่ีเพียงพอเป็นผู้มวี ฒุ ิและคุณวุฒิการศกึ ษาสูงตามเกณฑ์ทำการสอนตามวิชาเอกและ
ความสามารถ มคี วามเสยี สละ ทำงานเป็นทมี มกี ารพัฒนาวชิ าชีพอยเู่ สมอ สง่ เสรมิ และพฒั นาคุณภาพครูด้าน
วิชาการและการวิจยั ปฏิบตั จิ รงิ ในชนั้ เรียน ศกึ ษาดูงาน อบรม โรงเรียนมีหอ้ งเรียน หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร อาคารเรยี น
ที่มั่นคง สะอาดปลอดภัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ อยู่ในสภาพใช้การได้ดี สภาพแวดล้อมร่มรื่น
มีแหล่งเรยี นรสู้ ำหรบั ผู้เรียน มบี ริการสารสนเทศทเ่ี อือ้ ให้ผู้เรียนใช้ในกระบวนการจดั การเรียนรู้

จดุ เดน่
โรงเรียนมีระบบบริหารจดั การอย่างมีวิสยั ทัศน์รว่ มกันทัง้ ผู้บรหิ าร คณะครู และบคุ ลากรท่เี ก่ียวข้อง มี

การใชก้ ระบวนการสรา้ งชมุ ชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC มสี ภาพภมู ทิ ัศนแ์ ละสิง่ แวดล้อมทเี่ อ้ือต่อการจัดการ

32

เรียนรู้ มีโครงการ กิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบรรลุวิสัยทัศน์ เป้าหมาย พันธกิจของสถานศึกษา ผู้บริหารมี
วิสยั ทศั น์และมีความสามารถเป็นส่วนใหญ่ จึงบริหารจัดการด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบสารสนเทศ
ของโรงเรียน เป็นหมวดหมแู่ ละเป็นปจั จุบันทำใหก้ ารบริหารจัดการของโรงเรียนมปี ระสทิ ธิภาพ มีระบบบรหิ าร
คุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม กำหนดมาตรฐานการศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐาน
การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน และสถานศกึ ษากำหนด และดำเนนิ การตามแผน มกี ารประเมินผลและตรวจสอบภายใน
ของสถานศกึ ษา ติดตามผลการดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลตนเองประจำปี นำผลการประเมินไปปรบั ปรุง
และพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาต่อไป โดยผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและจัดผลการ
ประเมินส่งหน่วยงานต้นสังกัด หลักสูตรสถานศึกษามีความเมาะสมและสอดคล้องกับท้องถิ่น นิเทศภายใน
กำกับติตาม ตรวจสอบ และนำผลไปรับปรุงการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนท่ี
สง่ เสรมิ และตอบสนองความต้องการ ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผูเ้ รียน ครไู ด้ปฏิบัติหน้าท่ี
ตรงกับความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับจากผู้ปกครองและชุมชนในการจัดการศึกษา ห้องเรียน
หอ้ งปฏบิ ัติการมคี วามมัน่ คง ปลอดภัย สะอาด รม่ ร่ืน มแี หลง่ เรยี นรสู้ ำหรับผู้เรยี น มบี รกิ ารแหลง่ เรยี นรภู้ ายใน
และภายนอกห้องเรียน โรงเรียนมีบริการสื่อเทคโนโลยี สารสนเทศสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ มีระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศท่ที ันสมัย มีประสทิ ธิภาพ

จุดที่ควรพัฒนา
ควรเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทุกขั้นตอน และแสวงหาทรัพยากร

จากภายนอกมาใช้ในการพัฒนาการศึกษาใหม้ ากยงิ่ ขึ้น เปดิ โอกาสให้ผู้ปกครองได้เสนอความคิดเห็นในการจัด
การศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นและจัดการกิจกรรมต่าง ๆ
ของสถานศึกษาโดยใชส้ ภานักเรียนเป็นผู้ขบั เคล่ือนอยา่ งเปน็ ระบบมากข้ึน และการสรา้ งเครือขา่ ยความรว่ มมือ
ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัด
การศึกษา เพื่อการขับเคลือ่ นคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาให้ดยี ิ่งขึน้ พัฒนาครูและบุคลากรจดั ให้มีการอบรมทกุ
คนอย่างเท่าเทียมผลักดันให้ครูเข้ารับการพัฒนาตามมาตรฐานตำแหน่ง จัดให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา
เข้ารับการฝึกอบรบรม ดูงาน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ซ่อมแซม บำรุงอาคารสถานทีแ่ ละสิ่งแวดลอ้ มให้สะอาดจดั
กิจกรรมส่งเสรมิ ความรนู้ กั เรียนด้านสุขภาพอนามยั รู้ทนั โรคตามสถานการณ์

มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั
ระดบั คณุ ภาพ : ดเี ลิศ
กระบวนการพฒั นา

๓.๑ ครจู ดั การเรยี นรูผ้ า่ นกระบวนการคดิ และปฏิบตั ิจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ได้
ครผู ู้สอนทกุ คนไดเ้ ข้ารว่ มประชมุ วางแผนวเิ คราะหห์ ลกั สูตรสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2561)
ตามหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ศึกษามาตรฐาน ตัวชี้วัด กำหนดโครงสร้างรายวิชา
ออกแบบหน่วยการเรียนรูแ้ ละจดั ทำแผนการจดั การเรยี นรู้ที่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญโดยเน้น Active Learning
เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่คุณภาพการศึกษาไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลักศาสตร์พระราชา เน้น
กระบวนการคิด การทำงานกลุ่ม การปฏิบัติจริง ความกล้าแสดงออกและการสร้างสรรค์ชิ้นงานในแต่ละ
รายวิชา การออกแบบการจัดการเรียนรู้ของครูนั้นครูจะเลือกสาระการเรียนรู้ที่นักเรียนจำเป็นต้องรู้มาสอน
หากมีเวลาก็จะสอนสาระการเรียนรู้ที่ควรรู้ ครูใช้สื่อการสอนที่หลากหลายเหมาะสมกับเนื้อหาที่จะสอน ใช้

33

แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและนอกสถานศึกษา เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์
สังคมและสติปัญญา มุ่งเน้นการอยู่ร่วมในสังคม การทำงานร่วมกันและการมีจิตสาธารณะ ครูจะกระตุ้นให้
ผู้เรียนฝึกสร้างสรรค์ชิ้นงานท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน โดยผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ความคิด
สรา้ งสรรค์และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การศึกษาค้นควา้ เพ่ิมเติม สง่ ผลใหผ้ เู้ รยี นรู้จักคิดอย่างมีระบบ
เป็นขั้นเปน็ ตอน มีทักษะการแก้ปัญหา มีความคิดสร้างสรรค์และมสี มรรถนะสำคัญตามหลักสูตร ซึ่งสามารถ
นำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ โครงการและกิจกรรมท่ีสำคัญไดแ้ ก่ โครงการพัฒนาหลักสูตร การนิเทศและการ
วจิ ยั โครงการอิสลามศึกษาระบบสองภาษา (ไทย-มลายู) โครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ิ โครงการส่งเสริมความ
เป็นเลิศทางวิชาการ โครงการพฒั นาและสง่ เสริมการใช้หอ้ งสมุด โครงการร้านค้าสวัสดิการโรงเรยี น โครงการ
สหกรณ์โรงเรียน โครงการส่งเสรมิ กีฬา ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ โครงการสง่ เสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรม โครงการ
สถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข เป็นต้น ผลการประเมินครูจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและ
ปฏบิ ัตจิ รงิ และสามารถนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตได้ คดิ เป็นร้อยละ 81 อยู่ในระดบั ยอดเยีย่ ม

๓.๒ ครูใช้ส่ือเทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรียนรูท้ ีเ่ อื้อต่อการเรียนรู้
ครูได้ผลิตสื่อและจัดหาสื่อที่เหมาะสมกบั ผู้เรียนเพื่อใชใ้ นการจัดการเรียนรู้อย่างน้อยภาคเรียนละ 1
ชิ้น ครูใช้สื่อหลากหลายท่ีเหมาะสมกับหน่วยการเรียนรู้ อาทิ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวัสดุ สื่ออุปกรณ์ สื่อเทคนิคหรือ
วิธีการและสื่อเทคโนโลยี และใช้แหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษา เช่น การสอนวิชาสุขศึกษาเรื่องการ
ดแู ลสขุ ภาพ ครใู ชแ้ หล่งเรยี นรู้หอ้ งพยาบาล การสอนเรื่องการสบื คน้ หนังสือ ครใู ช้หอ้ งสมุด การสอนเร่ืองการ
ทดลองสารเคมี ครูใช้หอ้ งวทิ ยาศาสตร์ การสอนคณติ ศาสตร์ ครใู ช้การสอนจินตคณิต และครูมีการสอนบูรณา
การเร่อื ง กฎจราจร การทำความสะอาด การทำความเคารพ โดยจัดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เปน็ ฐานการเรียนรู้ ครู
ได้ดำเนินการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้นอกสถานที่ เช่น การเรียนรู้วิทยาศาสตร์นอกสถานที่ท่ี
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และวิทยาเขตหาดใหญ่ ฟาร์มช้างเผือก อำเภอหาดใหญ่
เป็นต้น นอกจากนี้ ครใู ห้นักเรยี นไดร้ ู้จกั การใช้คอมพิวเตอรเ์ พอื่ หาข้อมลู สารสนเทศทีจ่ ำเปน็ ในการเรียนรู้หรือ
ทำชิ้นงานตา่ ง ๆ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ได้เร็วขึ้น เกิดทักษะ
ชวี ติ และสามารถนำความรู้ ประสบการณ์มาใชใ้ นชีวติ ประจำได้ทา่ มกลางสถานการณ์โควิด 19 โครงการและ
กิจกรรมที่สำคัญได้แก่ โครงการจัดหา ผลิตสื่อและพัฒนาสื่อเทคโนโลยี โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ และ
โครงการพัฒนาและสง่ เสรมิ การใชห้ ้องสมุด โครงการพัฒนาหลกั สตู ร การนิเทศและการวิจยั โครงการส่งเสริม
ความเป็นเลศิ ทางวชิ าการ เปน็ ต้น ผลการประเมินครูใชส้ ่ือเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรียนร้ทู เ่ี ออื้ ต่อการ
เรียนรู้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 76 อยูใ่ นระดับดีเลิศ
๓.๓ ครูมีการบรหิ ารจดั การช้นั เรียนเชิงบวก
ครูทุกคนมีหนา้ ที่ดูแลชน้ั เรียน ครูจดั ทำเก็บขอ้ มูลนักเรียนรายบุคคล มกี ารคัดกรองนักเรียนออกเป็น
3 กลุ่ม คือกลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน กำหนดวิธีการดูแลและส่งเสริมนักเรยี นแต่ละกลุ่มไว้อย่าง
ชดั เจน ทำการสง่ เสริมนักเรียนทม่ี ีความสามารถเฉพาะดา้ น พัฒนานักเรยี นในกลุ่มปานกลาง และให้การแนะ
แนว ดแู ล ใหค้ วามรูอ้ ยา่ งใกล้ชิดในกลมุ่ นกั เรยี นท่อี อ่ น ใชว้ ิธกี ารเสริมแรงให้กบั นกั เรยี นทกุ กลุ่มอย่างเหมาะสม
เช่น ให้คำชมเชย มอบรางวัล เกียรตบิ ตั ร ทุนการศึกษา และปัจจัยยังชพี อ่นื ๆ ตามความจำเปน็ เป็นต้น ครูมี

34

การดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในทุกห้อง โดยมีครูประจำชั้น หัวหน้าห้อง ตัวแทนนักเรียน
ตัวแทนผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐานมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน คอยเป็นกำลังใจ ให้
ข้อเสนอแนะ ตลอดจนชว่ ยกำหนดแนวทางในการปฏิบัตงิ านเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ครูและนกั เรียนร่วมกันจัด
บรรยากาศในหอ้ งเรยี นที่เอือ้ ตอ่ การเรียนรู้ ในแต่ละห้องมีจะข้อตกลง มบี อร์ดประชาสมั พันธ์และให้ความรู้ มี
สื่อประกอบการเรียนรู้ มีมุมศึกษาเรียนรู้ และมีการจัดโต๊ะเรียนที่หลากหลายทีเ่ อื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
ส่งผลให้ผูเ้ รียนร่วมสร้างบรรยากาศในการเรียนรูไ้ ด้ดี มคี วามตงั้ ใจเรียนมากยิง่ ขึน้ ห้องเรียนมีระเบียบและเอื้อ
ตอ่ การเรียนรูข้ องผูเ้ รียน บรรยากาศการเรยี นรู้ในหอ้ งเรียนจะเปน็ การแบง่ ปันและการช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน
โครงการและกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ โครงการพัฒนาหลักสูตร การนิเทศและการวิจัย โครงการระบบการดแู ล
ช่วยเหลือนักเรียน โครงการสง่ เสริมความเปน็ เลิศทางวิชาการ เป็นต้น ผลการประเมินครูมีการบริหารจัดการ
ชั้นเรียนเชงิ บวก คดิ เปน็ ร้อยละ 76 อยู่ในระดับดีเลศิ

๓.๔ ครูตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอยา่ งเปน็ ระบบ และนำผลมาพฒั นาผู้เรียน
ครูได้ประเมินผลนักเรียนตามสภาพจริงเปน็ รายบุคคล รายกลุ่ม และประเมินผลตรงตามตัวช้ีวัดตาม
หลักสูตรสถานศึกษากำหนด ทั้งด้านความรู้ ทักษะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์จะมีการประเมินผลด้วย
วิธกี ารทห่ี ลากหลาย หลายคร้งั และผ้ปู ระเมนิ หลายฝ่าย ครดู ำเนนิ การตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรียนอย่างเป็น
ระบบ มกี ารกำหนดจุดประสงค์ทีป่ ระเมิน สรา้ งเครื่องมอื การประเมนิ และดำเนนิ การประเมินตามหลกั วิชาการ
กำหนดเกณฑก์ ารประเมนิ แบบ Rubric ครูใชว้ ธิ ีการวัดและประเมนิ ท่ีหลากหลาย อาทิ การสังเกต การทดสอบ
การสมั ภาษณ์ การบันทึกข้อมูล การตรวจชิน้ งาน เป็นตน้ ดำเนนิ การประเมินทงั้ กอ่ นเรียน ระหว่างเรียน และ
หลังเรียน และมีผู้ประเมินหลายฝ่าย อาทิ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง เป็นต้น ครูดำเนินการบันทกึ ข้อมูลผลการ
ประเมินในแบบประเมินผลรายวิชา ได้แก่ ปพ. 5 ไว้อย่างครบถ้วนและถูกต้องตามหลักวิชาการ หลังจากนน้ั
ครูนำผลการประเมนิ ผเู้ รียนมาศึกษา เพ่ือค้นหาปัญหาทีจ่ ำเป็นต้องแกไ้ ขปรบั ปรุง เมื่อเจอปัญหา ครูจะนำมา
ดำเนินการวิจัย ในชั้นเรียน ซึ่งครูสามารถดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนได้หลากวิธี ซึ่งมีทั้งการวิจัยในชั้นเรียน
อย่างงา่ ยและการวจิ ัยในชัน้ เรยี นแบบสมบรู ณ์ (5 บท) ผลจากการวิจัยในชน้ั เรียนเพอื่ นำไปใช้พัฒนาผู้เรียนใน
โอกาสต่อไป ส่งผลให้ผู้เรียนไดร้ ับการประเมินผลความรู้ ทักษะและเจตคติถกู ตอ้ ง ยุติธรรมและตรวจสอบได้
และนำผลทไ่ี ดม้ าพัฒนาผูเ้ รียนทุกคนให้ดยี ง่ิ ขึ้น โครงการและกิจกรรมที่สำคญั ได้แก่ โครงการพัฒนาหลักสูตร
การนิเทศและการวจิ ยั โครงการอสิ ลามศึกษาระบบสองภาษา (ไทย-มลายู) โครงการสง่ เสรมิ ความเปน็ เลิศทาง
วิชาการ เป็นต้น ผลการประเมินครมู ีการบริหารจัดการช้นั เรียนเชงิ บวก คิดเป็นรอ้ ยละ 76 อยูใ่ นระดับดีเลิศ
๓.๕ ครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้
ครทู กุ คนไดเ้ ข้าร่วมประชุม วางแผนการดำเนินการแลกเปลยี่ นเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับในแต่
ละปลายภาคเรียน เพอื่ วิเคราะห์ปัญหาและกำหนดแนวทางท่ีจะพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในภาคเรียนตอ่ ไป ครู
ได้ดำเนินการแลกเปลี่ยนเรยี นรใู้ นระดับโรงเรียน โดยการประชมุ ครูท้งั โรงเพ่ือประเมินผลการนำหลักสูตรไปใช้
และวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน และระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้โดยครูในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่ง
ประเด็นที่สรุปได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มี 3 ประการ คือ 1. ประเด็นปัญหาที่ค้นพบ 2. แนวทางหรือ
นวตั กรรมในการแก้ปัญหา และ 3. ผลการนำไปใช้และข้อเสนอแนะ วธิ ีการแลกเปลยี่ นเรยี นรูแ้ ละสะทอ้ นกลับ

35

มีการใช้วิธกี ารท่ีหลากหลาย มีการประชมุ ครูทั้งโรง การประชมุ วงกลม การประชุมกลุ่มย่อย การประชมุ ผา่ น

เทคโนโลยีกลุ่มไลน์ และการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เป็นต้น แนวทางหรือนวัตกรรมที่ครูไดส้ ร้างมา เช่น

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีนวัตกรรมแกป้ ัญหาการอ่านออกเขยี นได้ของผู้เรียน จึงได้สร้างแบบฝึกอ่าน

สะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) จะแก้ปัญหาการใช้ Dictionary จึงได้จัดหา

Dictionary และให้นักเรียนฝึกใช้ Dictionary และอ่านคำศัพท์ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ นำการสอนจินตคณิต

มาใชใ้ นกระบวนการจัดการเรยี นรู้ เป็นต้น และครสู ามารถนำผลจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะทอ้ นกลับไป

ปรับปรุงการเรียนรู้ของผู้เรียนรายบุคคลได้อีกด้วย โครงการและกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ โครงการพัฒนา

หลักสูตร การนิเทศและการวจิ ัย โครงการพัฒนาและส่งเสริมการใช้หอ้ งสมุด โครงการส่งเสริมความเป็นเลศิ

ทางวิชาการ โครงการประชุมผู้ปกครอง เป็นต้น ผลการประเมินครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูล

สะท้อนกลับเพ่ือพฒั นาและปรบั ปรงุ การจัดการเรยี นรู้ คดิ เป็นร้อยละ 76 อยู่ในระดับดีเลศิ

ผลการดำเนนิ งาน

ครูจัดการเรยี นรโู้ ดยเน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั ผ่านกระบวนการคดิ และปฏิบัติจริงตามมาตรฐานการ
เรียนรแู้ ละตวั ช้วี ัดของหลักสูตรสถานศกึ ษา มกี ารทำแผนการจดั การเรยี นรู้ทส่ี ามารถนำไปจัดกิจกรรมได้จริง มี
สื่อและนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ส่งผลให้ผู้เรียนรู้จักคิดอย่างเป็นระบบ มีทักษะการ
แก้ปัญหาและการปฏิบัติจริงสอดคล้องกับวิถชี ีวิต และมีสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตร ได้ในระดับยอดเยี่ยม
คดิ เป็นรอ้ ยละ 83 ครใู ชส้ ่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศและแหลง่ เรียนร้ทู ่ีหลากหลาย รวมท้งั ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ินท่เี อ้ือ
ต่อการเรยี นรู้และส่งเสรมิ การเรยี นร้ขู องผู้เรยี นอยา่ งเต็มศกั ยภาพ สรา้ งโอกาสให้ผเู้ รยี นได้แสวงหาความรู้ด้วย
ตนเอง อยู่ในระดบั ดีเลศิ คิดเป็นรอ้ ยละ 76 ครมู กี ารบริหารจัดการชั้นเรียนเชงิ บวก ครรู จู้ กั ผู้เรียนรายบุคคล
ผู้เรียนมีส่วนรว่ มในการสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ได้ดี ีสง่ ผลใหผ้ ู้เรยี นมีความตั้งใจเรียนยิ่งข้ึน ห้องเรยี นมี
ระเบียบและเออื้ ต่อการเรียนรูข้ องผ้เู รียนอยู่ในระดบั ดีเลิศ คิดเป็นร้อยละ 76 ครูมกี ารตรวจสอบและประเมิน
คุณภาพการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการประเมินผลความรู้ ทักษะและเจตคติที่
ถูกต้อง ยตุ ิธรรมและตรวจสอบได้ โดยใชเ้ ครือ่ งมอื และวธิ กี ารวดั และประเมนิ ผลที่เหมาะสมกับเปา้ หมายในการ
จัดการเรยี นรู้และนำผลท่ไี ด้จากการประเมนิ มาพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้ดียิง่ ขน้ึ อยู่ในระดับดเี ลิศ คิดเป็นร้อยละ
76 ครูได้สร้างชุมชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพระหว่างครูและผูเ้ กีย่ วข้องเพื่อพัฒนาและปรบั ปรุงการจัดการ
เรยี นรู้ มกี ารแลกเปล่ียนเรียนรู้และใหข้ ้อมูลสะทอ้ นกลับเพ่ือพฒั นาและปรับปรงุ การจัดการเรียนรู้อยู่เสมอใน
ทกุ กลุ่มสาระการเรยี นร้อู ยใู่ นระดับดีเลิศ คดิ เป็นร้อยละ 76 จากการจัดการเรยี นรทู้ ี่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญของ
ครสู ง่ ผลให้ผูเ้ รยี นมพี ฒั นาการสงู ขึ้นทง้ั ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะกระบวนการและเจตคติ

จดุ เด่น
ครูทุกคนให้ความร่วมมอื เป็นอยา่ งดีในวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา การออกแบบหน่วยเรียนรู้และ

การทำแผนการจัดการเรียนรู้ ครูดำเนินการจัดการเรียนรู้ที่เน้น Active Learning เน้นทักษะการอ่านออก
เขียนได้ ลายมือสวย ใชส้ อ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ท่หี ลากหลายอย่างเหมาะสม มกี ารวดั ผลประเมินผลตามสภาพจริง
ด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อพัฒนาผู้เรียนรายบุคคล ครูมีความรู้ความสามารถในการใช้สื่ อ ICT มี
ความสามารถในการผลิตสื่อทีห่ ลากหลายและนำมาใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอนได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ
ครูมีการจัดชั้นเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้และมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีการนิเทศการสอนของครูเพื่อ
ปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ นอกจากนี้ครูมีความเสียสละ อดทนในการปฏิบัติหน้าที่ ยอมรับการ

36

เปลี่ยนแปลงและสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณโ์ ควิด 19 และมีจำนวนครูเพียงพอที่สามารถดูแลผู้เรยี น
ครบทุกช้นั มีครูประจำชั้นหอ้ งละ 2 คน จึงสามารถดูแลนกั เรยี นได้อย่างทว่ั ถงึ

จุดควรพฒั นา
ครูควรได้รับการพัฒนาด้านการสอนโดยการสร้างสื่อผ่านระบบ IT หรือสร้างนวัตกรรมการจัดการ

เรียนร้ทู ี่สามารถนำมาประยุกตใ์ ชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนในยุค Thailand 4.0 หรือเทคนิควธิ กี ารสอนใหม่
ๆ ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในยุคปัจจุบัน ทางโรงเรียนควรสนับสนุนบุคลากรครูให้เข้าอบรมหรือศึกษาดูงานใน
โอกาสต่าง ๆ อย่างทัว่ ถึงทกุ กลุม่ สาระการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนและการพัฒนาตนเอง
ควรเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียนรู้ของตนเอง และการให้ข้อมูลย้อนกลับแก่
นักเรยี นทนั ทีเพอ่ื นักเรยี นนำไปใช้พฒั นาตนเอง

37

ส่วนท่ี 3
สรุปผล แนวทางการพัฒนา และความตอ้ งการการช่วยเหลอื

ระดบั การศึกษาข้นั พน้ื ฐาน

ผลการประเมินตนเองของโรงเรียนบ้านคอลอมุดอในปีการศึกษา 256๔ ทำให้ได้ข้อมูลสารสนเทศ
สำคัญที่จะนำไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อสรุปนำไปสู่การเชื่อมโยงหรือสะท้อนภาพความสำเร็จ กับ

แผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา (4 ป)ี และนำไปใชใ้ นการวางแผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของ

สถานศกึ ษา ซง่ึ สามารถสรุปผลการประเมินในภาพรวมของจุดเดน่ จดุ ควรพัฒนาของแต่ละมาตรฐาน พรอ้ มท้งั

แนวทาง การพัฒนาในอนาคตและความตอ้ งการการช่วยเหลือ ไดด้ งั น้ี
สรปุ ผล จุดเดน่ และจดุ ควรพฒั นา

จดุ เด่น จดุ ควรพัฒนา

ด้านคณุ ภาพผู้เรียน ดา้ นคณุ ภาพผูเ้ รยี น

1. ผู้เรียนมีความสามารถในการสร้างสรรค์ ๑. เร่งพัฒนาผู้เรียนด้านการนำเสนอ การอภิปรายและ

ผลงานดา้ นศลิ ปะ ดนตรีนาฏศลิ ป์ กีฬา แลกเปลี่ยนเรียนรู้อยา่ งสมเหตุสมผลและต้องพฒั นา ทักษะ

๒. น ัก เร ียน ส่ว น ใหญ ่แสดง อ อ ก ถึ ง การแก้ปัญหาตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม โดยมี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร โครงการหรือกิจกรรมที่สามารถพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ

แกนกลาง การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐานพุทธศกั ราช อยา่ งแท้จรงิ

2551 ทั้ง 8 ประการ มีคุณลักษณะบาง ๒. ควรพัฒนานกั เรยี นในด้านผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและผล

ประการโดดเด่นจนเป็นลักษณะเฉพาะตน การสอบระดับชาติ

และเปน็ แบบอย่างท่ดี ี จนได้รับการยอมรับ ๓. ส่งเสริมในด้านทัศนคติที่ดีต่อความเป็นไทย ไม่หลงใหล

จากบุคคลหรือหน่วยงานทั้งภายในและ กับค่านิยมต่างชาติจนเกิดการลอกเลียนแบบทำให้ลืม

ภายนอกสถานศกึ ษา วัฒนธรรมอันดงี ามของไทย

๓. นกั เรียนมีสขุ ภาพรา่ งกายแขง็ แรง ๔. ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการ

มีสมรรถภาพทางกายและน้ำหนักส่วนสูง เร ียน ร ู้จาก สถาน ที่จ ร ิง ให้มาก ขึ้น ไ ม่ว ่าจะ เป็ น

ตามเกณฑ์ มีระเบียบ วินัย จนเป็น สถาบันการศึกษาต่าง ๆ หรือสถานประกอบการและควรมี

เอกลักษณ์ของสถานศึกษา มีความมั่นใจ การจัดทำบันทึกข้อตกลงทางวิชาการ ( MOU)กับ

กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมเป็นที่ยอมรับ สถาบันการศึกษาภายนอกให้มากขึ้นเพื่อเป็นการขยาย

ของชุมชน โดยรอบในเรื่องความมีวินัย โอกาสทางการศึกษาต่อในระดบั ที่สงู ขึน้ ใหก้ ับผ้เู รียน

เคารพกฎกตกิ า มารยาทของสงั คม ๕. การพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

๔. ผลการทดสอบอิสลามศึกษาระดับชาติ (ICT) ให้สามารถก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนน โดยนำเทคโนโลยมี าบรู ณาการในการจดั การเรียนการสอน

เฉลี่ยวิชาคณิตศาสตร์ปีการศึกษา 2564

สงู กวา่ ปีการศกึ ษา 2563

๕. ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับการเพาะเห็ด

การปลูกพืชผักสมุนไพร มีทักษะอาชีพ เพื่อ

เสริมรายได้ สามารถนำไปใช้ใน

ชีวิตประจำวนั ได้

38

จดุ เด่น จดุ ควรพฒั นา

๖. ผู้เรียนได้ปฏิบัติศาสนกิจ มีคุณธรรม

จริยธรรม มีสุขภาวะที่ดี ดำรงตนตามแบบ

วถิ ชี ีวติ ในชมุ ชน

7. ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวด

โ ร ง เ ร ีย น ต ้น แ บ บ โค รง ก า รส ่ง เ สริม

ประสบการณ์อาชีพของนักเรียนในจังหวัด

ชายแดนใต้ ปีการศกึ ษา 2564

ดา้ นกระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ
๑. โรงเรียนมีระบบบริหารจัดการอย่างมี 1) เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสนอความ

วิสัยทัศน์ร่วมกันทั้งผู้บริหาร คณะครู และ คิดเหน็ ในการจัดการศึกษาเพอื่ พัฒนาผเู้ รียนให้มากข้นึ

บุคลากรทเ่ี ก่ยี วข้อง ๒) ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นและจัดการ

๒. มีการใช้กระบวนการสร้างชุมชนการ กิจกรรมต่าง ๆ ของสถานศึกษาโดยใช้สภานักเรียนเป็นผู้

เรยี นรทู้ างวิชาชีพ PLC ขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบมากขึ้น และการสร้างเครือข่าย

๓. มีสภาพภมู ิทัศน์และสงิ่ แวดล้อมท่ีเอื้อต่อ ความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของ

การจัดการเรียนรู้ ได้รับโล่รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลการ

การประกวดภูมิทัศน์และแหล่งเรียนรู้ใน จดั การศกึ ษา เพอื่ การขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษาให้

โรงเรียน ประเภทสถานศึกษาขนาดใหญ่, ดยี ่ิงขึ้น

ไดร้ ับรางวัลการประกวดโรงเรยี นปลอดขยะ

(Zero Waste School) ระดับดเี ย่ียม, ได้รับ

โล่เชิดชูเกียรติต้นแบบด้านการลด คัดแยก

และใช้ประโยชน์ขยะมูลฝอยในสถานศกึ ษา

๔. มกี ารบรหิ ารจดั การชัน้ เรียนโดยใช้ระบบ

เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ระบบ ICT, New

DLIT ทุกห้องเรยี น

๕. ส่งเสริมให้ข้าราชการครูมีวิทยฐานะที่

สูงขึ้น มีการจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพและ

พัฒนาครู บุคลากรทางการศึกษา ส่งผลให้

ครูได้รบั การพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ือง

6. โรงเรียนได้รับรางวัลระบบการดูแล

ช่วยเหลือนักเรียน ประจำปีการศึกษา

2564 ระดับภูมิภาค ภาคใต้ ประเภท

โรงเรียนระดับประถมศึกษาขนาดกลาง ใน

ระดับดเี ดน่

39

จุดเดน่ จดุ ควรพฒั นา

ด้านกระบวนการเรียนการสอนที่เน้น ดา้ นกระบวนการเรียนการสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั

ผเู้ รียนเป็นสำคัญ ๑. ครคู วรได้รับการพัฒนาด้านการสอนโดยการสร้างสื่อหรือ

๑. ครูทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีใน นวัตกรรมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการ

วิเคราะห์หลักสูตร การออกแบบหน่วย สอนให้เกิดประโยชน์กับนักเรียนในยคุ Thailand 4.0 หรือ

เรยี นรแู้ ละจัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ เทคนคิ วธิ ีการสอนใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับผเู้ รียนในยคุ ปัจจุบัน

๒. ครดู ำเนนิ การจดั การเรียนรทู้ ่เี นน้ Active ๒. ทางโรงเรียนควรสนับสนุนบุคลากรครูให้เข้าอบรมหรือ

Learning ศึกษาดูงานในโอกาสต่าง ๆ อย่างทั่วถึง เพื่อพัฒนาการ

๓. ครูมีการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้อย่าง จดั การเรียนการสอนและการพัฒนาตนเอง

เหมาะสม

๔. เน้นการวดั ผลประเมินผลตามสภาพจริง

๕. ครูมีความรู้ความสามารถในการใช้สื่อ

ICT

๖. ครูมีความสามารถในการผลิตสื่อท่ี

หลากหลายและนำมาใช้ในการจัดการเรียน

การสอนไดจ้ รงิ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

๗. ครูมีการจัดชั้นเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้

และมีระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน

๘. ครูมีความเสียสละ อดทนในการปฏิบัติ

หนา้ ท่ี ยอมรบั การเปลย่ี นแปลงและสามารถ

ปรบั ตัวไดต้ ามสถานการณ์

๙. จำนวนครูเพียงพอที่สามารถดูแลผู้เรียน

ครบทุกชั้น มีครูประจำชัน้ ห้องละ 2 คน จึง

สามารถดูแลนักเรียนได้อย่างท่วั ถงึ

10. ครไู ดร้ ับรางวลั ชนะเลศิ ในการประกวด

สื่อนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน

ทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-

19) ประเภทการสอน On Hand ประจำปี

การศกึ ษา 2564

11. ครูไดร้ บั รางวลั ครูผูส้ อนลายมือสวยแห่ง

ปี 2564 จากสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา

ประถมศึกษาสงขลา เขต 3

แนวทางการพฒั นา

๑. โรงเรียนมีแผนในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยการจัดทำโครงการ

ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการแก้ปัญหาการเรียนในกลุ่มสาระที่ต่ำกว่าเกณฑ์ โดยมีกิจกรรม “การ

สอนซอ่ มเสริม” มกี ารแบ่งนักเรียนออกเป็น ๓ กลมุ่ ไดแ้ ก่ กลุม่ เก่ง กลุม่ ปานกลาง กลุม่ ออ่ น สำหรับนักเรียน

กลุ่มเก่ง ได้มกี จิ กรรม สนับสนนุ ให้เข้าร่วมแข่งขนั ทางวิชาการในระดับต่าง ๆ การจดั กจิ กรรมเพ่ือนช่วยเพ่ือน

40

การจัดกิจกรรมโครงงาน การใช้แผนผังความคดิ การมอบภาระงานให้เพิ่มขึน้ สำหรับนักเรียนกลุม่ ปานกลาง
ไดม้ ีกิจกรรม ส่งเสริมทกั ษะด้านกระบวนการคิด เช่น กิจกรรมโครงงานการทำรายงาน การใชแ้ ผนผังความคิด
การทำแบบฝึกเสริมทักษะ สำหรับนักเรยี นกลุ่มอ่อน ได้มอบหมายใหค้ รูมีการสอนซ่อมเสริมในคาบสอนซ่อม
เสรมิ

๒. โรงเรียนมีแผนในการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและแสวงหา
ทรพั ยากรจากภายนอกมาใชใ้ นการพัฒนาการศึกษา โดยการใช้นวตั กรรมในการบรหิ ารจัดการศกึ ษา

๓. โรงเรียนมีแผนในการพัฒนาการสร้างนวตั กรรม เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ของครใู น
สถานศึกษา โดยเน้นให้ครูจัดเตรียมความพร้อมของเอกสารหรือเครื่องมือก่อนกา รจัดการเรียนรู้
(Preparation) ครูดำเนนิ การจัดการเรยี นรูท้ ่เี นน้ Active Learning (Learning Management) ครูดำเนนิ การ
วัดและประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Evaluation) และครูดำเนนิ การสะท้อนคิด เพ่อื ปรับปรงุ พัฒนาการจัดการ
เรยี นรู้ (Reflection)

๔. โรงเรียนมีนโยบายสนับสนุนให้บุคลากรครูได้พัฒนาตนเองโดยการศึกษาเรียนรู้จากสื่อ
เทคโนโลยีและสารสนเทศ หรอื หลักสตู รอื่น ๆ อยเู่ สมอ

ความตอ้ งการและการช่วยเหลือ
๑. ดา้ นเทคโนโลยี สถานศกึ ษายังมคี อมพวิ เตอร์ไม่เพยี งพอ ในการใชจ้ ดั กิจกรรมการเรียนการสอน
๒. ความตอ้ งการด้านการสอนภาษา เชน่ การส่งเสรมิ การสอนภาษาองั กฤษโดยเจ้าของภาษา
๓. การพฒั นาครูผสู้ อนในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เช่น การอบรมในด้านเทคโนโลยีนวตั กรรม
4. รถต้สู ำหรบั รับ-ส่งและนำนักเรียนไปทำกจิ กรรมต่าง ๆ

41

ภาคผนวก


Click to View FlipBook Version