The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Supansa Phutniam, 2023-02-16 05:38:23

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้งวิทยา โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้ แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ รายวิชาชีววิทยา

44 ตารางที่ 4.4 ผลการวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้ง วิทยา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยา (ต่อ) รายการประเมิน ความพึงพอใจ S.D. การแปลผล 16. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อความรู้/ประสบการณ์ที่ได้รับจาก กิจกรรมการเรียนรู้ 4.78 0.57 มากที่สุด 17. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ 4.74 0.58 มากที่สุด รวม 4.71 0.07 มากที่สุด จากตารางที่ 4.4 พบว่า ผลการวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้งวิทยา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะ โมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยา อยู่ในระดับมีความพึงพอใจที่ระดับ พึงพอใจมากที่สุด และ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อประเด็นทั้งหมดในระดับ มากที่สุด โดยข้อที่มี ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ข้อที่ 7, 11 และ 13 คือ เนื้อหาของบทเรียนมีความสอดคล้องกับเรื่องที่เรียน, รูปภาพ ประกอบสามารถสื่อความหมายและสอดคล้องกับเนื้อหาชัดเจน และนักเรียนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น อย่างอิสระตามลำดับมีค่า = 4.81 S.D. = 0.47 รองลงไป คือ ข้อที่ 3, 6 และ 16 นักเรียนทราบ จุดประสงค์การเรียนรู้ชัดเจน, ความเหมาะสมในการใช้ข้อความในสื่อการเรียนรู้และนักเรียนมีความพึง พอใจต่อความรู้/ประสบการณ์ที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่า = 4.78 S.D. = 0.58


บทที่ 5 สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะ สรุปผลการวิจัย การวิจัยในชั้นเรียนเพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้งวิทยา โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่ง เซลล์ รายวิชาชีววิทยา ทั้งนี้เนื่องจากพบว่าร้อยละ 75 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทั้งหมดมี ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้เรื่อง การแบ่งเซลล์ ต่ำกว่าระดับ ดี ซึ่งเป็นเกณฑ์การประเมินผลผ่านการเรียนรู้ ภายหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยทดลองใช้วิจัยในชั้นเรียนเพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้งวิทยา โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุก อาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ รายวิชาชีววิทยา กับนักเรียนระดับชั้นปีที่ 4 นำคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ การเรียนรู้มาเปรียบเทียบกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีและเทคนิคการสอนแบบเดิมด้วยค่าสถิติ ด้วยโปรแกรมวิเคราะห์เปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียนด้วย t- test Independent Samples พบว่า ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ α0.05 คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้จากการจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยทดลองใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ รายวิชาชีววิทยา สูงกว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบวิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) ผลการเปรียบเทียบดังกล่าวจึงพบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยทดลองใช้เทคนิคการจัดการ เรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ รายวิชาชีววิทยา กับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมือง ด้งวิทยา โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ เมื่อทำการประเมินระดับความพึงพอใจ พบว่า เมื่อวิเคราะห์โดยภาพรวม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้งวิทยา มีความพึงพอใจต่อการทดลองใช้การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้งวิทยา โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุก อาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ รายวิชาชีววิทยา ที่ระดับ พึงพอใจมากที่สุด


46 อภิปรายผลการวิจัย การวิจัยเรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้ง วิทยา โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ รายวิชา ชีววิทยา สามารถอภิปรายผลได้ ดังนี้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่งเซลล์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้งวิทยา สามารถใช้ในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ภายในชั้นเรียนได้ สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุภาพร (2561) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนาการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยประยุกต์ใช้วิธีการสอนเชิง รุกของจังหวัดอาคีตะ (Akita Action) ผลการวิจัย พบว่า แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสมการเชิงเส้นตัว แปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการประยุกต์ใช้การสอนเชิงรุกของจังหวัดอาคีตะ (Akita Action) ที่ ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80 ผู้วิจัยได้สร้างแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยประยุกต์ใช้การสอนเชิงรุกของจังหวัดอาคีตะ (Akita Action) โดยผ่านการ ตรวจสอบคุณภาพ และแก้ไข ปรับปรุง จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มี คุณภาพ และเหมาะสมกับบทเรียน 2. การใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล สามารถเพิ่มผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนให้กับนักเรียนที่มีคะแนนน้อยซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ โดยพบว่านักเรียนกลุ่มตัวอย่าง มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น เป็นผลเนื่องมาจากการจัดการเรียนรู้การเรียนการสอนที่ให้ความสำคัญ กับกระบวนการที่ให้เด็กนักเรียนได้คิดหาวิธีการแก้ไขปัญหาผ่านการอภิปรายกันเป็นกลุ่ม และครูต้อง ตั้งเป้าหมายให้ชัดว่า อะไรคือสิ่งที่ต้องการให้เด็กรู้ ครูควรกำหนดล่วงหน้า ว่าส่วนไหนครูสอน ส่วนไหนให้ เด็กอภิปรายแลกเปลี่ยนกันเอง สร้างลักษณะนิสัยให้นักเรียนฝึกคิดเองเป็นสำคัญ ต้องสามารถสื่อสารกับ คนอื่นให้เข้าใจ สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุภาพร (2561) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนาการจัดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยประยุกต์ใช้วิธีการสอนเชิงรุกของ จังหวัดอาคีตะ (Akita Action) ผลการวิจัยพบว่า จากการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียน เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กับเกณฑ์ที่กำหนด (ร้อยละ 80) ค่า t ที่ คำนวณได้เท่ากับ 3.76 ซึ่งสูงกว่าค่า t วิกฤติ ที่มีค่าเท่ากับ 1.6644 จึงสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่เรียนเรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยประยุกต์ใช้การสอนเชิงรุก


47 ของจังหวัดอาคีตะ (Akita Action) สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (ร้อยละ 80) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ผลการวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองด้งวิทยาต่อ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล เรื่อง การแบ่ง เซลล์ ในรายวิชาชีววิทยา นักเรียนมีความพึงพอใจต่อประเด็นทั้งหมดในระดับ พึงพอใจมากที่สุด โดยข้อที่มี ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ข้อที่ 7, 11 และ 13 คือ เนื้อหาของบทเรียนมีความสอดคล้องกับเรื่องที่เรียน, รูปภาพ ประกอบสามารถสื่อความหมายและสอดคล้องกับเนื้อหาชัดเจน และนักเรียนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น อย่างอิสระตามลำดับมีค่า = 4.81 รองลงไป คือ ข้อที่ 3, 6 และ 16 นักเรียนทราบจุดประสงค์การเรียนรู้ ชัดเจน, ความเหมาะสมในการใช้ข้อความในสื่อการเรียนรู้และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อความรู้/ ประสบการณ์ที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่า = 4.78 สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุภาพร (2561) กล่าวว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวโดยประยุกต์ใช้วิธีการ สอนเชิงรุกของจังหวัดอาคีตะ (Akita Action) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.52) แสดงว่านักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับวิชาอื่นๆ และชีวิตประจำวันได้มีความสุขในการเรียน วิชาคณิตศาสตร์มากขึ้น ชอบการเรียนรู้ที่ได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนในชั้นเรียน สามารถสรุปความคิดรวบยอด ได้ด้วยตนเอง อย่างเหมาะสม เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนในชั้นเรียนเป็นการ ส่งเสริมให้นักเรียนกล้าแสดงออกและแลกเปลี่ยน รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้น ระยะเวลามีความ เหมาะสมและมีความเพียงพอสำหรับให้นักเรียนฝึกกระบวนการคิด ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการวิจัยไปใช้ 1.1 การจัดทำแผนการเรียนรู้แต่ละแผนควรมีความหลากหลายของกิจกรรมการเรียนรู้ เหมาะสมกับบทเรียน และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการ เรียนรู้ชีววิทยา 1.2 ครูผู้สอนควรตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นความคิดของนักเรียน และมีการคาดการณ์ คำตอบของผู้เรียน และคำถามจากนักเรียนเพื่อให้นักเรียนได้รับคำตอบที่ชัดเจนนำไปใช้ได้ในกระบวนการ คิด


48 2. ข้อเสนอแนะสำหรับการทำวิจัยครั้งต่อไป 2.1 ควรมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยการประยุกต์ใช้การสอนเชิงรุกอาคีตะ โมเดลเปรียบเทียบกับการเรียนการสอนแบบอื่นๆ 2.2 อาจจะใช้การจัดกิจกรรมเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้การสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล ผสมผสานกับการสอนแบบอื่น เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่มีความหลากหลายกระทั่งเกิดการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบใหม่พัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


บรรณานุกรม กล้า พิมพ์วงษ์. (2543). ผลการเรียนแบบร่วมมือโดยโปรแกรม CIRC ต่อความสามารถในการอ่านจับ ใจความ ภาษาไทย เจตคติ และความสัมพันธ์ทางสังคมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ครูเชียงราย. (2562). คู่มือการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning. [ออนไลน์]. จาก: https://www.kruchiangrai.net. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565. ครูสมาร์ทดอทคอม. (2564). ACTIVE LEARNING หมายถึง อะไร ทำไมต้อง ACTIVE LEARNING การเรียนรู้แบบลงมือทำ (ปฏิบัติ). [ออนไลน์]. จาก: http://www.krusmart.com/activelearning/. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565. จิรนันท์ บุญเรือน. (2544). ผลของการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนซิปปาที่เน้นกระบวนการ เรียนรู้ทางภาษาที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียนภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. จินดารัตน์ โพธิ์นอก. (2562). ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21. [ออนไลน์]. จาก: http://www.royin.go.th/. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565. ชวลิต ชูกำแพง. 2561. การวิจัยและพัฒนาหลักสูตร: แนวคิดและกระบวนการ (CURRICULUM RESEARCH AND DEVELOPMENT CONCEPT AND PROCES. ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2562). Active Learning. [ออนไลน์]. จาก: https://www.drchaiyot.com. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565. ฐนัส มานุวงศ์. (2560). การจัดการเรียนการสอนเชิงรุกเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนนาย ร้อยตามแนวคิดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน Active Learning Instruction to Develop the Learning Processes of Cadets Based on the Education for Sustainable Development Concept. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. ณัชนัน แก้วชัยเจริญกิจ. (2550). บทบาทของครูผู้สอนในการจัดกิจกรรมและวิธีการปฏิบัติตาม แนวทางของ Active Learning. [ออนไลน์]. จาก: https://www.ite.org. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565. ทิศนา แขมมณี. (2540). การคิดและการสอนเพื่อพัฒนากระบวนการคิด. กรุงเทพฯ: โครงการ พัฒนาการเรียนการสอนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี.


50 นิภา พิศลืม. (2561). การเปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น กลุ่ม สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบร่วมมือร่วมกัน (LT) กับการเรียนรู้แบบปกต. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัย มหาสารคาม. บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่7. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น. บุหงา วัฒนะ. (2546). Active learning. วารสารวิชาการ. 10(9): 30 - 34. ประวิต เอราวรรณ์. (2542). การวิจัยในชั้นเรียน. กรุงเทพฯ: ยู แพด. ประกอบ มณีโรจน์. (2544). เรียนรู้สู่การปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บี.อี.ซี. ปราณี กองจินดา. (2549). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และทักษณะการคิด เลขในใจของนักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบซิปปาโดยการใช้แบบฝึกหัดที่เน้นทักษะการ คิดเลขในใจกับนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้คู่มือคู่. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (หลักสูตรและการ สอน). พระนครศรีอยุธยา: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา. ปรียา สมพืช. (2559). การใช้เทคนิคซินเนคติกส์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาสาขาวิชา นิเทศศาสตร์, Research Journal Phranakhon Rajabhat: Social Sciences and Humanity. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2548). วิธีวิทยาการสอนวิทยาศาสตร์ทั่วไป. กรุงเทพฯ: พัฒนาคุณภาพวิชาการ. คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. (2559). การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning). ไพฑูรย์ สินลารัตน์ เฉลิมชัย มนูเสวต และวาสนา วิสฤตาภา. (2561). การศึกษา 4.0 เป็นยิ่งกว่า การศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พนิดา อุสายพันธ์. (2562). ถอดบทเรียน 'อะคิตะ โมเดล' สู่การจัดการศึกษา ร.ร.ประชาอุปถัมภ์. [ออนไลน์]. จาก: https://www.iqnewsclip.com/aw/. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565. วิจารณ์ พานิช. (2556). ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills). [ออนไลน์]. จาก: www.youtube.com/watch. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565. วัฒนา หงสกุล. (2561). การจัดการเรียนรู้เชิงรุกในยุคไทยแลนด์ 4.0 : Active learning management in Thailand 4.0. การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ Gradute School Conference 2018. [ออนไลน์]. จาก: https://journalgrad.ssru.ac.th. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565.


51 สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม. (2540). การวิจัยในชั้นเรียนแบบแผนเครื่องมือการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สมโภชน เอี่ยมสุภาษิต. (2541). ทฤษฎีและเทคนิคการปรับพฤติกรรม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. สงวนศักดิ์ โกสินันท์. (2543). ผลการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่มีต่อ เจตคติและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์. กศ.ม.มหาวิทยาลัยขอนแก่น. สุวิมล ว่องวาณิช. (2543). แนวคิดและหลักการวิจัยในชั้นเรียน. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย: 156-194. สมพร เชื้อพันธ์. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองกับการ จัดการเรียนการสอนตามปกติ. วิทยานิพนธ์ ค.ม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนครศรีอยุธยา. สถาพร พฤฑฒิกุล. (2558). “คุณภาพผู้เรียนเกิดจากกระบวนการเรียนรู้”. สระแก้ว: คณะ เทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว. สิทธิพงษ์ สุพรม. (2561). การพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้เชิงรุกในศตวรรษที่ 21 สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. [ออนไลน์]. จาก: thaijo.org/index.php/ubonreseva.สืบค้น เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565. สุภาพร พิมพ์บุษผา. (2561). การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยประยุกต์ใช้วิธีการสอนเชิงรุกของจังหวัดอะคิตะ (Akita Action). คณิตศาสตรศึกษา. กรุงเทพมหานคร. สลิลทิพย์ บุญเลิศ. (2562). การพัฒนากิจกรรมการเรียนเชิงรุกเพื่อแก้ปัญหาแนวคิดคลาดเคลื่อน วิทยาศาสตร์เรื่องวงจรไฟฟ้าเบื้องต้นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ครั้งที่ 14: ตามรอยพระยุคลบาท เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน: 1137-1145. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). [ออนไลน์]. จาก: www.http://academic.obec.go.th. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565.


52 อภิชาติ บัวจรูญ. (2561). Akita Model. [ออนไลน์]. จาก: www.fth0.com/uppic. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565. อภินันท์ นนฺทภาณี. (2562). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้การเรียนรู้เชิงรุกสาระหน้าที่ พลเมืองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา. วิทยานิพนธ์ วิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. Bloom, B. S. (1971). Mastery learning. In J. H. Block (Ed.), Mastery learning: Theory and practice. (pp. 47–63). New York: Holt, Rinehart & Winston. Mckinney, S. E. (2008). Developing teachers for high-poverty schools: The role of the internship experience.Urban Education. 43(1,68-82).[Online]. Available: http://www.eric.ed.gor. 2022 30 september. Paphitchaya Somsak. (2561). Learning process Active Learning 21st century. [Online]. Available: https://www.gotoknow.org/posts/646568. 2022 30 september. Scott, M.J. (1968). Effectiveness of using a video game to teach a course in mechanical engineering. Computers & Education, 53(3), 900-912. Settle, B. (2011). From theories to Queries: Active learning in Practice. Workshop and Conference Proceedings. (16).1-18.


ภาคผนวก


ภาคผนวก ก รายนามของผู้เชี่ยวชาญ


55 รายนามของผู้เชี่ยวชาญ นางสาวละอองดาว เอี่ยมสอาด ตำแหน่ง ครู นางสาวเนตรนภา ไพรสณฑ์ ตำแหน่ง ครู ครูนิตยา มอญกอดแก้ว ตำแหน่ง ครู


ภาคผนวก ข แผนการจัดการเรียนรู้


57 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เซลล์และการทำงานของเซลล์ เวลา 30 ชั่วโมง เรื่อง การแบ่งเซลล์ เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวสุพรรษา พุฒเนียม โรงเรียนเมืองด้งวิทยา วันที่7 เดือน กันยายน พ.ศ. 2565 1. มาตรฐานการเรียนรู้ เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์สารที่เป็น องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและหน้าที่ของ เซลล์ การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับเซลล์ ตัวชี้วัด ม.4/16 สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและ แบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้อง จุลทรรศน์พร้อมทั้งอธิบายและเปรียบเทียบการแบ่ง นิวเคลียสแบบไมโทซิส และแบบไมโอซิส 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด - การแบ่งเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเป็นการเพิ่มจำนวนเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน เป็นวัฏจักร โดยวัฏจักรของเซลล์ประกอบด้วยอินเตอร์เฟส การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและการแบ่งไซ โทพลาซึม - การแบ่งนิวเคลียสมี 2 แบบ คือ การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส และการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอ ซิส - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส ประกอบด้วยระยะโพรเฟส เมทาเฟส แอนาเฟส และเทโลเฟส - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสประกอบด้วยระยะโพรเฟส I เมทาเฟส I แอนาเฟส I เทโลเฟส I ระยะโพรเฟส II เมทาเฟส II แอนาเฟส II และเทโลเฟส II - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสทำให้เซลล์ร่างกายเพิ่มจำนวนเพื่อการเจริญเติบโต และซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอหรือถูกทำลายไปได้ ส่วนการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตใน กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ - การแบ่งไซโทพลาซึมในเซลล์พืชจะมีการสร้างแผ่นกั้นเซลล์และเซลล์สัตว์จะมีการคอดเว้าเข้าหา กันของเยื่อหุ้มเซลล์


58 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 โครโมโซม 3.2 วัฏจักรเซลล์และการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส 3.3 การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลและอธิบายการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเพื่อศึกษาการแบ่งเซลล์ได้ 2. นักเรียนสามรถสังเกตการณ์แบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้อง จุลทรรศน์ได้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมและการเข้าชั้นเรียน 3. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ 5. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยาเล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6.2 สไลด์ power point เรื่อง การแบ่งเซลล์ 6.3 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส จาก: https://www.youtube.com//watch?v=72ar1qGGS0k 6.4 อินเทอร์เน็ต 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7.1 ชิ้นงาน/ภาระงาน - แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การแบ่งเซลล์ - ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส


59 7.2 กำหนดส่ง - สัปดาห์ถัดไป 7.3 คะแนนเต็ม และเกณฑ์การให้คะแนน - 12 คะแนน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล ลำดับขั้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ ขั้นตอนที่ 1 รู้จักตั้งข้อสังเกตในการเรียนรู้ (เวลา 20 นาที) 1.1 ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 1.2 กระตุ้นให้คิดเกี่ยวกับสาเหตุและหลักฐานสนับสนุนโดยใช้คำถามว่า - นักเรียนคิดว่าการแบ่งเซลล์มีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไร (แนวตอบ : การแบ่งเซลล์ร่างกายจะทำให้มีจำนวนเซลล์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายของ สิ่งมีชีวิตเจริญเติบโตขึ้น และการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ทำให้เซลล์มีการถ่ายทอดลักษระทาง พันธุกรรมไปยังเซลล์ใหม่) - เซลล์ทุกชนิดมีการแบ่งเซลล์ในลักษณะเดียวกันหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ : การแบ่งเซลล์เป็นการเพิ่มจำนวนเซลล์ส่งผลให้ร่างกายของสิ่งมีชีวิต เจริญเติบโตขึ้น และการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ซึ่งในพวกยูคาริโอต เช่น แบคทีเรีย มีการแบ่ง เซลล์เป็นสองส่วน ส่วนพวกยูแคริโอต การแบ่งเซลล์ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ การแบ่งนิวเคลียส และ การแบ่งไซโทพลาซึม) - การแบ่งเซลล์เกิดขึ้นเมื่อใด (แนวตอบ: เมื่อเซลล์มีการเจริญเติบโต สร้างเซลล์สืบพันธุ์) ขั้นตอนที่ 2 ขั้นมีความคิดของตัวเอง (เวลา 50 นาที) 2.1 ให้นักเรียนแต่ละคนศึกษากิจกรรม เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส ในหนังสือเรียน ชีววิทยา ม.4 เล่ม 1 2.2 ครูเสริมด้วยการนำวิดีโอ เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส จาก https://www.youtube.com/watch?v=U8NXvm53S-0 2.3 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆละ 4-5 คน โดยจับฉลาก 2.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันภายในกลุ่ม และนักเรียนแต่ละคนทำใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส


60 2.5 ขณะที่นักเรียนแต่ละคนร่วมทำกิจกรรมตามคำสั่งใช้แบบสังเกตบันทึกพฤติกรรมใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานในระหว่างเรียน ขั้นตอนที่ 3 ขั้นอภิปรายกันเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม (เวลา 20 นาที) 3.1 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มหรือตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนองานการค้นพบทีละกลุ่ม 3.2 นำเสนอเสร็จครู และนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุปเรื่อง การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส หากพบว่าผู้เรียนกลุ่มอื่นมีการวิเคราะห์ลงข้อสรุป ข้อมูลขัดแย้งกับผลการอภิปรายให้ดำเนินการแก้ไขผลดังกล่าวในใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบ ไมโทซิสให้ถูกต้อง ขั้นตอนที่ 4 ขั้นทบทวนเนื้อหาและวิธีการเรียนรู้ (เวลา 20 นาที) 4.1 ตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยให้นักเรียนร่วมกันตอบ ดังนี้ - เซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปทำหน้าที่เฉพาะแล้วสามารถเกิดการแบ่ง เซลล์ได้หรือไม่ (แนวตอบ: โดยปกติเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปทำหน้าที่เฉพาะอย่าง จะไม่แบ่งเซลล์อีกแต่เซลล์บางชนิดสามารถแบ่งเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ได้ตลอดเวลา เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร) - เพราะเหตุใดจึงนิยมนับจำนวนโครโมโซมของเซลล์ในระยะเมทาเฟส (แนวตอบ: เป็นระยะที่โครโมโซมหดตัวและมีขนาดใหญ่ที่สุด) - การแบ่งเซลล์ของรากหอมในระยะเทโลเฟส พบการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นกับ ไซโทพลาซึม (แนวตอบ: ช่วงปลายของระยะเทโลเฟสจะมีการสร้างแผ่นกั้นเซลล์คั่นตรงกลาง ระหว่างนิวเคลียสใหม่ทั้งสอง) - การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสมีกระบวนการใดที่ทำให้นิวเคลียสที่เกิดใหม่ทั้ง 2 นิวเคลียส มีปริมาณสารพันธุกรรมหรือจำนวนโครโมโซมเท่ากับเซลล์เดิม (แนวตอบ: ช่วงปลายของระยะเทโลเฟสจะมีการสร้างแผ่นกั้นเซลล์คั่นตรงกลาง ระหว่างนิวเคลียสใหม่ทั้งสอง) 4.2 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย และทบทวนเนื้อหาการเรียนรู้ภายในคาบ


61 9. การวัดและประเมินผล 9.1 การวัดผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การผ่าน จุดประสงค์ ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) 1. นักเรียนสามารถสืบค้นและอธิบายการ แบ่งเซลล์แบบไมโทซิสได้ ตรวจใบกิจกรรม -ตรวจแบบทดสอบก่อน เรียนเรื่อง การแบ่ง เซลล์ - ตรวจใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบ ไมโทซิส ตอบคำถามถูกต้อง ครบประเด็นผ่าน ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเพื่อ ศึกษาการแบ่งเซลล์ได้ 2. นักเรียนสามรถสังเกตการแบ่งนิวเคลียส แบบไมโทซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้อง จุลทรรศน์ได้ การสังเกตและ ตรวจผลงาน แบบสังเกตและแบบ ประเมินผลงาน ได้คะแนนรูบริคตั้งแต่ 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดับ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมและ การเข้าชั้นเรียน 3. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ การสังเกต พฤติกรรมของ นักเรียน แบบประเมินพฤติกรรม ได้คะแนนรูบริคตั้งแต่ 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดับ


62 9.2 เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑ์รูบริค (Rubrics Scoring) ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้ระดับคะแนน ระดับ 4 (ดีมาก) ระดับ 3 (ดี) ระดับ 2 (พอใช้) ระดับ 1 (ควปรับปรุง) ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) ความถูกต้องสมบูรณ์ของใบกิจกรรม - เนื้อหาถูกต้องตรง ตามหัวข้อเรื่อง เนื้อหาเป็นไปตามที่ กำหนดราย - ละเอียด ครอบคลุมและมี ความสอดคล้องกัน และทำด้วยตนเอง - เขียนและสะกด คำได้ถูกต้องชัดเจน -ส่งงานตามเวลาที่ กำหนด - เนื้อหาถูกต้อง ตรงตามหัวข้อเรื่อง เนื้อหาเป็นไป ตามที่กำหนดราย - ละเอียด ครอบคลุมและมี ความสอดคล้องกัน -เขียนและสะกด คำถูกต้อง -ส่งงานเกินเวลาที่ กำหนด - เนื้อหา ถูกต้องตรง ตามหัวข้อ เรื่องบาง -รายละเอียด ยังไม่ ครอบคลุม -เขียนและ สะกด คำได้ถูกเป็น บาง - เนื้อหาไม่ ตรงตามหัวข้อ เรื่อง -รายละเอียด ไม่ครบถ้วน และไม่ สอดคล้องกัน -เขียนและ สะกดคำไม่ ถูกต้อง -ส่งงานเกิน เวลาที่กำหนด ด้านทักษะกระบวนการ (P) สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิส จากตัวอย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์ได้ -มีการวางแผนการ ทำงาน -มีการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ -มีการปฏิบัติตาม แผนได้อย่างถูกต้อง -บันทึกผลการ ทดลองและสรุปผล ได้อย่างสมสมบูรณ์ และถูกต้อง -มีการวางแผนการ ทำงาน -มีการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ -มีการปฏิบัติตาม แผนได้อย่าง ถูกต้อง -บันทึกผลการ ทดลองได้โดย อาศัยการชี้แนะ จากครู -มีการวาง แผนการ ทำงาน -มีการเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ -ปฏิบัติตาม แผน ไม่ค่อยได้แม้ จะได้รับการ -ไม่มีการวาง แผนการ ทำงาน -ไม่มีการ เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ -ปฏิบัติตาม แผน ไม่ได้แม้จะ ได้รับการ


63 ชี้แนะจากครู หรือ ผู้อื่น ชี้แนะจากครู หรือ ผู้อื่น ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน และตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม และการเข้าชั้นเรียน -มีการวางแผนการ ทำงาน -มีการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ -มีการปฏิบัติตาม แผนได้อย่างถูกต้อง -บันทึกผลการ ทดลองและสรุปผล ได้อย่างสมสมบูรณ์ และถูกต้อง -มีการวางแผนการ ทำงาน -มีการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ -มีการปฏิบัติตาม แผนได้อย่าง ถูกต้อง -บันทึกผลการ ทดลองได้โดย อาศัยการชี้แนะ จากครู -ตั้งใจใฝ่ เรียนรู้ -ไม่ค่อยตรง ต่อเวลาและ ไม่ค่อยสนใจ ร่วมกิจกรรม ในชั้นเรียน -ไม่ค่อยตั้งใจ ใฝ่เรียนรู้ -ไม่ค่อยตรง ต่อเวลาและ ไม่สนสนใจ ร่วมกิจกรรม ในชั้นเรียน 9.3 เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 11 – 12 4 (ดีมาก) 9 – 10 3 (ดี) 8 – 9 2 (พอใช้) ต่ำกว่า 8 คะแนน 1 (ปรับปรุง) 9.4 เกณฑ์การตัดสินโดยรวม 9.4.1 ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป ครบทุกประเด็นการประเมินถือว่า ผ่าน 9.4.2 กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ หรือมีผลการเรียนรู้ได้ไม่ถึงระดับคุณภาพ 2 ให้นักเรียน กลุ่มที่ผ่านเกณฑ์ดูแลและช่วยเหลือหรือครูคอยเสริมและชี้แนะจนมีผลการเรียนรู้ถึงระดับ คุณภาพ 2 ลงชื่อ ผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้


64


65


66 11. บันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 11.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ด้านความรู้ - นักเรียนระบุชนิดของการแบ่งเซลล์และบอกความสำคัญของการแบ่งเซลล์แบบไมโท ซิสและไมโอซิส - นักเรียนอธิบายวัฏจักรเซลล์ได้ - นักเรียนอธิบายและเปรียบเทียบเซลล์ที่ได้จากการแบ่งแบบไมโทซิส และไมโอซิสได้ จากการสืบค้นข้อมูลและจากการทำปฏิบัติการ เรื่อง การแบ่งเซลล์ 2) ด้านทักษะ/กระบวนการ - นักเรียนวางแผนการทำปฏิบัติการ สังเกต บันทึกและอธิบายโครงสร้างของเซลล์ที่แบ่ง แบบไมโทซิสภายที่ศึกษาใต้กล้องจุลทรรศน์ได้ - นักเรียนทำการทดลองเพื่อเปรียบเทียบการแบ่งเซลล์ในระยะต่างๆที่เห็นในกล้อง จุลทรรศน์กับรูปในบทเรียนได้ - นักเรียนสามารถจัดเรียงโครโมโซมในระยะต่างๆ ของการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและ ไมโอซิสได้จากการปั้นดินน้ำมันระยะต่างๆของการแบ่งเซลล์ 3) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - นักเรียนมีความรับผิดชอบเข้าเรียนตรงเวลาและมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ 11.2 ปัญหา อุปสรรค/แนวทางในการแก้ปัญหาและพัฒนา - ปัญหาที่พบ ระหว่างทพปฏิบัติการเรื่อง การแบ่งเซลล์ บางระยะนักเรียนไม่สามารถ มองเห็นการแบ่งเซลล์ครบทุกระยะ - แนวทางการแก้ไข ครูให้ใบความรู้กับนักเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะทุกระยะของการ แบ่งเซลล์เพื่อที่จะให้นักเรียนได้ศึกษาระยะของการแบ่งเซลล์ได้ครบและเปรียบเทียบระยะของการแบ่ง เซลล์ระหว่างทำปฏิบัติการ 11.3 ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวสุพรรษา พุฒเนียม) ............../.............../...............


67 แบบบันทึกคะแนน แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เซลล์และการทำงานของเซลล์ เรื่อง การแบ่งเซลล์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เลข ที่ ชื่อ- นามสกุล ด้าน ความรู้ (K) ด้าน ทักษะ (P) ด้าน คุณลักษณะ (A) รวม คะแนน ระดับ คุณภาพ หมาย เหตุ 4 4 4 12 1 เด็กชายชนันธร เที่ยงตรง 4 3 4 11 ดีมาก 2 เด็กชายชัยวัฒน์สืบพันธ์ 4 3 4 11 ดีมาก 3 เด็กชายธนกร จันทร์เพ็ง 4 3 4 11 ดีมาก 4 เด็กชายนพรัตน์เนาวรัตน์ 4 4 4 12 ดีมาก 5 เด็กชายนฤสรณ์ละอองทรง 4 3 4 11 ดีมาก 6 เด็กชายปภาวินทร์เพิ่มพูล 4 3 4 11 ดีมาก 7 เด็กชายพีรพล ยาวยวน 4 3 4 11 ดีมาก 8 เด็กชายภาคิน นันกระโทก 4 3 4 11 ดีมาก 9 เด็กชายวรพล หงษ์รัตน์ 4 4 4 12 ดีมาก 10 เด็กชายเวหา กุลวงค์ 4 4 4 12 ดีมาก 11 เด็กชายคณาธิป นุมัติ 4 4 4 12 ดีมาก 12 เด็กชายพีรศักดิ์โคมกระโทก 4 3 4 11 ดีมาก 13 เด็กชายธนธัช ยังเจริญ 4 3 4 11 ดีมาก 14 เด็กหญิงกุลธิดา จันทร์มา 4 4 4 12 ดีมาก 15 เด็กหญิงชลิตา พิมเสน 4 4 4 12 ดีมาก 16 เด็กหญิงธนากานต์ดวงเดือน 4 4 4 12 ดีมาก 17 เด็กหญิงบุญญาพร รัตนะ 4 4 4 12 ดีมาก 18 เด็กหญิงพิมพิกา จันดาประดิษฐ์ 4 3 4 11 ดีมาก 19 เด็กหญิงประกายมุข รุ่งโรจน์ 4 3 4 11 ดีมาก 20 เด็กหญิงพัชรา อุเทน 4 4 4 12 ดีมาก 21 เด็กหญิงพีระดา ทากา 4 3 4 11 ดีมาก


68 เลขที่ ชื่อ- นามสกุล ด้าน ความรู้ (K) ด้าน ทักษะ (P) ด้าน คุณลักษณะ (A) รวม คะแนน ระดับ คุณภาพ หมาย เหตุ 4 4 4 12 22 เด็กหญิงลัดดา แสวงลาภ 4 3 4 11 ดีมาก 23 เด็กหญิงวิชญาดา ป้อมอ่อน 4 4 4 12 ดีมาก 24 เด็กหญิงศศิญา พิมพ์เหมือน 4 4 4 12 ดีมาก 25 เด็กหญิงอลิษา พงค์พันธ์ 4 4 4 12 ดีมาก 26 เด็กหญิงฐิติกร แสงคำ 4 3 4 11 ดีมาก 27 นางสาวณัฐกาล เหลือหลาย 4 4 4 12 ดีมาก ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………..………………………………….………………………………….………………………… ………............................................................................................................................... .............................. ลงชื่อ (นางสาวสุพรรษา พุฒเนียม) ผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้


69 ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส ชื่อ.....................................................นามสกุล.........................................ชั้น................ .........เลขที่............... คำชี้แจง : ให้นักเรียนวาดภาพลำดับขั้นตอนการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส


70 แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน เรื่อง การแบ่งเซลล์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 รายวิชาชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว 31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 คำชี้แจง ข้อสอบเป็นปรนัย 4 ตัวเลือก มีจำนวน 20 ข้อ 10 คะแนน ให้นักเรียนคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพียง 1 ข้อ 1. การแบ่งเซลล์ระยะใดใช้เวลานานที่สุด ก. ระยะอินเตอร์เฟส (Interphase) ข. ระยะโพรเฟส (Prophase) ค. ระยะเมทาเฟส (Metaphase) ง. ระยะแอนาเฟส (Anaphase) 2. ถ้าต้องการศึกษาลักษณะของโครงสร้างของโครโมโซมควรศึกษาจากเซลล์ระยะใด ก. ระยะอินเตอร์เฟส (Interphase) ข. ระยะโพรเฟส (Prophase) ค. ระยะเมทาเฟส (Metaphase) ง. ระยะแอนาเฟส (Anaphase) 3. เซลล์ในภาพ อยู่ในระยะใดของการแบ่งเซลล์ ก. ระยะอินเตอร์เฟส (Interphase) ข. ระยะโพรเฟส (Prophase) ค. ระยะเมทาเฟส (Metaphase) ง. ระยะแอนาเฟส (Anaphase) 4. เซลล์ในภาพ อยู่ในระยะใดของการแบ่งเซลล์ ก. ระยะโพรเฟส (Prophase) ข. ระยะเมทาเฟส (Metaphase) ค. ระยะแอนาเฟส (Anaphase) ง. ระยะเทโลเฟส (Telophase)


71 5. เซลล์ในภาพ อยู่ในระยะใดของการแบ่งเซลล์ ก. ระยะโพรเฟส (Prophase) ข. ระยะเมทาเฟส (Metaphase) ค. ระยะแอนาเฟส (Anaphase) ง. ระยะเทโลเฟส (Telophase) 6 เซลล์ที่เห็นดังภาพ อยู่ในระยะใดของการแบ่งเซลล์และมีจำนวนโครโมโซม 2n เป็นเท่าใด ก. แอนนาเฟส 2n = 2 ข. แอนาเฟส I 2n = 2 ค. แอนาเฟส I 2n = 4 ง. แอนาเฟส II 2n = 4 7. การเกิดการครอสซิงโอเวอร์ (crossing over) มีผลต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไร ก. เกิดความแปรผันทางพันธุกรรม ข. โครโมโซมโฮโมโลกัสแยกออกจากกัน ค. เกิดการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ง. มีการแบ่งเซลล์จาก 1 เซลล์ เป็น 2 เซลล์ 8. การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (mitosis) ระยะใดมีการมีการสร้างเส้นใยสปินเดิล (spindle fiber) ก. ระยะโพรเฟส (Prophase) ข. ระยะเมทาเฟส (Metaphase) ค. ระยะแอนาเฟส (Anaphase) ง. ระยะเทโลเฟส (Telophase) 9. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส ก. ได้เซลล์ใหม่ 2 เซลล์ ข. มีการเกิดครอสซิงโอเวอร์ ค. เป็นการแบ่งเซลล์ร่างกาย ง. ทำให้สิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโตและเพิ่มขนาดของร่างกาย


72 10. กำหนดเซลล์ต่าง ๆ ต่อไปนี้ 1. เซลล์อสุจิ 2. เซลล์ไข่ 3. เซลล์เม็ดเลือดแดง 4. เซลล์ผิวหนัง เซลล์ในข้อใดมีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส ก. 1 และ 2 ข. 1 และ 3 ค. 3 และ 4 ง. 2 และ 3 11. การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส มีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไร ก. ทำให้สิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโต ข. ทำให้เซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ชำรุด ค. ทำให้เกิดการรวมกันของเซลล์สืบพันธุ์ ง. ทำให้สิ่งมีชีวิตมีจำนวนโครโมโซมคงที่ในทุกรุ่น 12. การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสต่างจากแบบไมโอซิสอย่างไร ก. ไมโทซิสใช้เวลานานกว่า ข. ไมโทซิสไม่มีครอสซิงโอเวอร์ ค. ไมโทซิสได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์ ไมโอซิสได้ 2 เซลล์ ง. ไมโทซิสเป็นการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ไมโอซิสสร้างเซลล์ร่างกาย 13.จากภาพต่อไปนี้ ข้อใดเรียงลำดับการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (mitosis) ได้ถูกต้อง A B C D E ก. A > B > C > D > E ข. B > A > D > E >C ค. B > A > C > E > D ง. B > C > A > D > E


73 14. ในกระบวนการไมโทซิส ถ้าไม่มีการแบ่งไซโทพลาซึมผลจะเป็นอย่างไร ก. ไม่มีการสร้างเยื่อหุ้มนิวเคลียส ข. การจำลองตัวเองของ DNA จะไม่เกิดขึ้น ค. แต่ละเซลล์จะมีนิวเคลียสหลายอัน ง. จำนวนโครโมโซมจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า 15. เซลล์ในข้อใดมีการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสตลอดเวลา ก. เซลล์ปลายยอด เซลล์ตับ ข. เซลล์ผิวหนัง เซลล์ปลายราก ค. เซลล์ไขกระดูก เซลล์ประสาท ง. เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์ท่อลำเลียงน้ำและอาหาร 16. ข้อใดต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะการแบ่งแบบไมโอซิส ก. การจำลอง DNA ข. การแยกตัวของโครมาทิด ค. การจับคู่ของฮอโมโลกัสโครโมโซม ง. การเรียงตัวกลางเซลล์ของโครโมโซม 17. ไมโอซิส II เหมือนกับการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสในข้อใด ก. มีการเข้าคู่กันของโฮโมกัสโครโมโซม ข. มีการจำลองตัวของ DNA ก่อนการแบ่งเซลล์ ค. เซลล์ลูกที่เกิดขึ้นมีจำนวนโครโมโซมเป็น 2n ง. ซิสเตอร์โครมาติดแยกออกจากกันในระยะแอนาเฟส 18. การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เซลล์ใหม่ที่ได้มีลักษณะเป็นอย่างไร ก. 1 เซลล์ เหมือนเดิมทุกประการ ข. 2 เซลล์ เหมือนเดิมทุกประการ ค. 3 เซลล์ มีจำนวนโครโมโซมลดลงครึ่งหนึ่งของเซลล์เดิม ง. 4 เซลล์ มีจำนวนโครโมโซมลดลงครึ่งหนึ่งของเซลล์เดิม 19. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ Anaphase และ Anaphase I ข้อ Anaphase Anaphase I ก. มีการแยก homologous chromosome มีการแยก sister chromatid ข. โครโมโซมมี 1 โครมาทิด โครโมโซมมี 1 โครมาทิด ค. จำนวนโครโมโซมภายในเซลล์เป็น 1 เท่า จำนวนโครโมโซมภายในเซลล์เป็น 2 เท่า ง. มีการแยก sister chromatid มีการแยก homologous chromosome


74 20. การงอกใหม่ของหางจิ้งจกเมื่อขาดไปจัดเป็นการแบ่งเซลล์แบบใด และเนื่องจากสาเหตุใด ก. ไม่มีการแบ่งเซลล์เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการงอกใหม่ ข. ไมโทซิส เนื่องจากเป็นการเพิ่มจำนวนโครโมโซมเท่าเดิมที่เหมือนกับเซลล์เดิม ค. ทั้งไมโทซิสและไมโอซิส เพราะเป็นการแบ่งเซลล์เพื่อให้เกิดเซลล์ใหม่ขึ้นมา ทดแทน ง. ไมโอซิส เนื่องจากเป็นการเพิ่มจำนวนโครโมโซมจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อทดแทนสิ่งที่หายไป


75 แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน เรื่อง การแบ่งเซลล์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 รายวิชาชีววิทยา 1 รหัสวิชา ว 31241 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 คำถาม เฉลย 1 ก 2 ค 3 ค 4 ง 5 ค 6 ค 7 ก 8 ก 9 ข 10 ก 11 ค 12 ข 13 ค 14 ง 15 ข 16 ค 17 ข 18 ง 19 ง 20 ก


76 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เซลล์และการทำงานของเซลล์ เวลา 30 ชั่วโมง เรื่อง การแบ่งเซลล์ เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวสุพรรษา พุฒเนียม โรงเรียนเมืองด้งวิทยา วันที่9 เดือน กันยายน พ.ศ. 2565 1. มาตรฐานการเรียนรู้ เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์สารที่เป็น องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและหน้าที่ของ เซลล์ การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับเซลล์ ตัวชี้วัด ม.4/16 สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและ แบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้อง จุลทรรศน์พร้อมทั้งอธิบายและเปรียบเทียบการแบ่ง นิวเคลียสแบบไมโทซิส และแบบไมโอซิส 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด - การแบ่งเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเป็นการเพิ่มจำนวนเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน เป็นวัฏจักร โดยวัฏจักรของเซลล์ประกอบด้วยอินเตอร์เฟส การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและการแบ่งไซ โทพลาซึม - การแบ่งนิวเคลียสมี 2 แบบ คือ การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส และการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอ ซิส - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส ประกอบด้วยระยะโพรเฟส เมทาเฟส แอนาเฟส และเทโลเฟส - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสประกอบด้วยระยะโพรเฟส I เมทาเฟส I แอนาเฟส I เทโลเฟส I ระยะโพรเฟส II เมทาเฟส II แอนาเฟส II และเทโลเฟส II - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสทำให้เซลล์ร่างกายเพิ่มจำนวนเพื่อการเจริญเติบโต และซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอหรือถูกทำลายไปได้ ส่วนการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตใน กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ - การแบ่งไซโทพลาซึมในเซลล์พืชจะมีการสร้างแผ่นกั้นเซลล์และเซลล์สัตว์จะมีการคอดเว้าเข้าหา กันของเยื่อหุ้มเซลล์


77 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 โครโมโซม 3.2 วัฏจักรเซลล์และการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส 3.3 การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลตามวิธีการที่กำหนดให้ได้ 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเพื่อศึกษาการแบ่งเซลล์ได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. นักเรียนสามรถสังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้อง จุลทรรศน์ได้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมและการเข้าชั้นเรียน 3. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ 5. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยาเล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6.2 สไลด์ power point เรื่อง การแบ่งเซลล์ 6.3 การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส จาก:https://www.youtube.com//watch?v=72ar1qGGS0k 6.4 อินเทอร์เน็ต 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7.1 ชิ้นงาน/ภาระงาน - ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส - ใบกิจกรรมที่ 2 แผนผังมโนทัศน์เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส


78 7.2 กำหนดส่ง - สัปดาห์ถัดไป 7.3 คะแนนเต็ม และเกณฑ์การให้คะแนน - 12 คะแนน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล ลำดับขั้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ ขั้นตอนที่ 1 รู้จักตั้งข้อสังเกตในการเรียนรู้ (เวลา 10 นาที) กระตุ้นให้คิดเกี่ยวกับสาเหตุและหลักฐานสนับสนุนโดยใช้คำถามว่า 1.1 เซลล์ระยะใดเหมาะสมต่อการศึกษารูปร่างและลักษณะของโครโมโซมมากที่สุด (แนวตอบ : ระยะที่เหมาะสมต่อการศึกษารูปร่างและลักษณะของโครโมโซม คือ ระยะที่มี การแบ่งเซลล์ในขั้นเมทาเฟส เนื่องจากโครโมโซมจะมาเรียงตัวอยู่ในแนวกึ่งกลางเซลล์ มองเห็นได้อย่าง ชัดเจน และยังเป็นช่วยที่เหมาะสมต่อการนับจำนวนโครโมโซม) 1.2 เพราะเหตุใดเซลล์ที่เกิดจากการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสจึงมีจำนวนโครโมโซม แตกต่างจากเซลล์เดิม (แนวตอบ : เซลล์ที่เกิดจากการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสจะมีจำนวนโครโมโซมเป็นครึ่งหนึ่ง ของเซลล์เดิมเพราะการแบ่งเซลล์แบบนี้จะมีการแบ่งนิวเคลียส 2 ครั้ง ครั้งแรกแบ่งฮอมอโลกัสโครโมโซม ส่วนครั้งที่สองแบ่งโครมาทิดของแต่ละโครโมโซม) 1.3 การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส พบได้ที่ใดบ้าง (แนวตอบ: บริเวณเนื้อเยื่อที่เจริญไปเพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์) ขั้นตอนที่ 2 ขั้นมีความคิดของตัวเอง (เวลา 50 นาที) 2.1 ให้นักเรียนกลุ่มเดิมจากการทำกิจกรรมที่แล้วร่วมกันศึกษาเรื่อง การแบ่งเซลล์แบบ ไมโอซิสในหนังสือเรียนชีววิทยา ม.4 เล่ม 1 (สสวท.) เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสแล้วแลกเปลี่ยน ความรู้ซึ่งกันและกัน 2.2 ครูเสริมด้วยการนำวิดีโอ เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส จาก https://www.youtube.com//watch?v=72ar1qGGS0k ให้นักเรียนศึกษา 2.3 ให้นักเรียนแต่ละคนสรุปความรู้ ลงในใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโอ ซิส 2.4 ขณะที่นักเรียนแต่ละคนร่วมทำกิจกรรมตามคำสั่งใช้แบบสังเกตบันทึกพฤติกรรมใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานในระหว่างเรียน


79 ขั้นตอนที่ 3 ขั้นอภิปรายกันเป็นคู่ หรือเป็นกลุ่ม (เวลา 20 นาที) 3.1 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการค้นพบทีละกลุ่ม 3.2 นำเสนอเสร็จครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุปเรื่อง การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส หากพบว่าผู้เรียนกลุ่มอื่นมีการวิเคราะห์ลงข้อสรุป ข้อมูลขัดแย้งกับผลการอภิปรายให้ดำเนินการแก้ไขผลดังกล่าวให้ถูกต้อง ขั้นตอนที่ 4 ขั้นทบทวนเนื้อหาและวิธีการเรียนรู้ (เวลา 20 นาที) 4.1 ตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนร่วมกันตอบดังนี้ - การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นมีจำนวนโครโมโซมเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับ เซลล์เดิม (แนวตอบ: เซลล์ใหม่จะมีจำนวนโรโมโซมลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเซลล์เดิม) - การเปลี่ยนแปลงของนิวเคลียสในการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสมีความแตกต่างจากในการ แบ่งเซลล์แบบไมโทซิสอย่างไร (แนวตอบ: นิวเคลียสมีการเปลี่ยนแปลง 2 รอบ เมื่อสิ้นสุดการแบ่งเซลล์จึงได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์) - การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสเกิดขึ้นอย่างเป็นวัฏจักรหรือไม่ (แนวตอบ: ไม่เป็นวัฏจักรเพราะเซลล์ใหม่ที่ได้จากการแบ่งเซลล์จะเจริญต่อไปเป็น เซลล์สืบพันธุ์ซึ่งเซลล์สืบพันธุ์จะไม่แบ่งเซลล์อีก) 4.2 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย และทบทวนเนื้อหาการเรียนรู้ภายในคาบ 9. การวัดและประเมินผล 9.1 การวัดผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การผ่าน จุดประสงค์ ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) 1. นักเรียนสามารถสืบค้นและอธิบายการ แบ่งเซลล์แบบไมโอซิสได้ ตรวจใบกิจกรรม -ตรวจใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์ แบบไมโอซิส ตอบคำถามถูกต้อง ครบประเด็นผ่าน ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเพื่อ ศึกษาการแบ่งเซลล์ได้ การสังเกตและ ตรวจผลงาน แบบสังเกตและแบบ ประเมินผลงาน ได้คะแนนรูบริคตั้งแต่ 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดับ


80 2. นักเรียนสามรถสังเกตการแบ่งนิวเคลียส แบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้อง จุลทรรศน์ได้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมและ การเข้าชั้นเรียน 3. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ การสังเกต พฤติกรรมของ นักเรียน แบบประเมินพฤติกรรม ได้คะแนนรูบริคตั้งแต่ 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดับ 9.2 เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑ์รูบริค (Rubrics Scoring) ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้ระดับคะแนน ระดับ 4 (ดีมาก) ระดับ 3 (ดี) ระดับ 2 (พอใช้) ระดับ 1 (ควปรับปรุง) ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) ความถูกต้องสมบูรณ์ของใบกิจกรรม - เนื้อหาถูกต้อง ตรงตามหัวข้อ เรื่อง เนื้อหา เป็นไปตามที่ กำหนดราย - ละเอียด ครอบคลุมและมี ความสอดคล้อง กันและทำด้วย ตนเอง - เขียนและสะกด คำได้ถูกต้อง ชัดเจน -ส่งงานตามเวลา ที่กำหนด - เนื้อหาถูกต้อง ตรงตามหัวข้อ เรื่องเนื้อหา เป็นไปตามที่ กำหนดราย - ละเอียด ครอบคลุมและมี ความสอดคล้อง กัน -เขียนและสะกด คำถูกต้อง -ส่งงานเกินเวลาที่ กำหนด - เนื้อหาถูกต้อง ตรงตามหัวข้อ เรื่องบาง - รายละเอียด ยังไม่ครอบคลุม -เขียนและ สะกด คำได้ถูกเป็น บาง - เนื้อหาไม่ตรง ตามหัวข้อเรื่อง - รายละเอียดไม่ ครบถ้วนและไม่ สอดคล้องกัน -เขียนและ สะกดคำไม่ ถูกต้อง -ส่งงานเกินเวลา ที่กำหนด


81 ด้านทักษะกระบวนการ (P) สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอ ซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้อง จุลทรรศน์ได้ -มีการวาง แผนการทำงาน -มีการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ -มีการปฏิบัติตาม แผนได้อย่าง ถูกต้อง -บันทึกผลการ ทดลองและ สรุปผลได้อย่าง สมสมบูรณ์และ ถูกต้อง -มีการวาง แผนการทำงาน -มีการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ -มีการปฏิบัติตาม แผนได้อย่าง ถูกต้อง -บันทึกผลการ ทดลองได้โดย อาศัยการชี้แนะ จากครู -มีการวาง แผนการทำงาน -มีการเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ -ปฏิบัติตามแผน ไม่ค่อยได้แม้จะ ได้รับการชี้แนะ จากครูหรือ ผู้อื่น -ไม่มีการวาง แผนการทำงาน -ไม่มีการเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ -ปฏิบัติตามแผน ไม่ได้แม้จะได้รับ การชี้แนะจาก ครู หรือ ผู้อื่น ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน และตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมและการเข้าชั้นเรียน -ตั้งใจใฝ่เรียนรู้ -ตรงต่อเวลา สนใจร่วม กิจกรรมในชั้น เรียนและค้นคว้า หาความรู้จด บันทึกและ แลกเปลี่ยน ความรู้กับเพื่อน -สามารถทำงาน ร่วมกับผู้อื่นได้ดี -ตั้งใจใฝ่เรียนรู้ -ตรงต่อเวลา สนใจร่วม กิจกรรมในชั้น เรียนและค้นคว้า หาความรู้จด บันทึก บ้างเป็น บางครั้ง -สามารถทำงาน ร่วมกับผู้อื่นได้ -ตั้งใจใฝ่เรียนรู้ -ไม่ค่อยตรงต่อ เวลาและไม่ค่อย สนใจร่วม กิจกรรมในชั้น เรียน -ไม่ค่อยตั้งใจใฝ่ เรียนรู้ -ไม่ค่อยตรงต่อ เวลาและไม่สน สนใจร่วม กิจกรรมในชั้น เรียน


82 9.3 เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 11 – 12 4 (ดีมาก) 9 – 10 3 (ดี) 8 – 9 2 (พอใช้) ต่ำกว่า 8 คะแนน 1 (ปรับปรุง) 9.4 เกณฑ์การตัดสินโดยรวม 9.4.1 ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป ครบทุกประเด็นการประเมินถือว่า ผ่าน 9.4.2 กรณีที่นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ หรือมีผลการเรียนรู้ได้ไม่ถึงระดับคุณภาพ 2 ให้นักเรียน กลุ่มที่ผ่านเกณฑ์ดูแลและช่วยเหลือหรือครูคอยเสริมและชี้แนะจนมีผลการเรียนรู้ถึงระดับ คุณภาพ 2 ลงชื่อ ผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้


83 แบบบันทึกคะแนน แผนการจัดการเรียนรู้ที่2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เซลล์และการทำงานของเซลล์ เรื่อง การแบ่งเซลล์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เลข ที่ ชื่อ- นามสกุล ด้าน ความรู้ (K) ด้าน ทักษะ (P) ด้าน คุณลักษณะ (A) รวม คะแนน ระดับ คุณภาพ หมาย เหตุ 4 4 4 12 1 เด็กชายชนันธร เที่ยงตรง 4 3 4 11 ดีมาก 2 เด็กชายชัยวัฒน์สืบพันธ์ 4 3 4 11 ดีมาก 3 เด็กชายธนกร จันทร์เพ็ง 4 3 4 11 ดีมาก 4 เด็กชายนพรัตน์เนาวรัตน์ 4 3 4 11 ดีมาก 5 เด็กชายนฤสรณ์ละอองทรง 4 3 4 11 ดีมาก 6 เด็กชายปภาวินทร์เพิ่มพูล 4 4 4 12 ดีมาก 7 เด็กชายพีรพล ยาวยวน 4 3 4 11 ดีมาก 8 เด็กชายภาคิน นันกระโทก 4 3 4 11 ดีมาก 9 เด็กชายวรพล หงษ์รัตน์ 4 4 4 12 ดีมาก 10 เด็กชายเวหา กุลวงค์ 4 4 4 12 ดีมาก 11 เด็กชายคณาธิป นุมัติ 4 3 4 11 ดีมาก 12 เด็กชายพีรศักดิ์โคมกระโทก 4 3 4 11 ดีมาก 13 เด็กชายธนธัช ยังเจริญ 4 3 4 11 ดีมาก 14 เด็กหญิงกุลธิดา จันทร์มา 4 3 4 11 ดีมาก 15 เด็กหญิงชลิตา พิมเสน 4 3 4 11 ดีมาก 16 เด็กหญิงธนากานต์ดวงเดือน 4 4 4 12 ดีมาก 17 เด็กหญิงบุญญาพร รัตนะ 4 4 4 12 ดีมาก 18 เด็กหญิงพิมพิกา จันดาประดิษฐ์ 4 4 4 12 ดีมาก 19 เด็กหญิงประกายมุข รุ่งโรจน์ 4 3 4 11 ดีมาก 20 เด็กหญิงพัชรา อุเทน 4 3 4 11 ดีมาก 21 เด็กหญิงพีระดา ทากา 4 3 4 11 ดีมาก


84 เลขที่ ชื่อ- นามสกุล ด้าน ความรู้ (K) ด้าน ทักษะ (P) ด้าน คุณลักษณะ (A) รวม คะแนน ระดับ คุณภาพ หมาย เหตุ 4 4 4 12 22 เด็กหญิงลัดดา แสวงลาภ 4 3 4 11 ดีมาก 23 เด็กหญิงวิชญาดา ป้อมอ่อน 4 4 4 12 ดีมาก 24 เด็กหญิงศศิญา พิมพ์เหมือน 4 3 4 11 ดีมาก 25 เด็กหญิงอลิษา พงค์พันธ์ 4 3 4 11 ดีมาก 26 เด็กหญิงฐิติกร แสงคำ 4 3 4 11 ดีมาก 27 นางสาวณัฐกาล เหลือหลาย 4 3 4 11 ดีมาก ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………..………………………………….………………………………….………………………… ………............................................................................................................................... .............................. ลงชื่อ (นางสาวสุพรรษา พุฒเนียม) ผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้


85


86


87 11. บันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 11.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ด้านความรู้ - จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลตามวิธีการที่กำหนดให้ได้ และนักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเพื่อศึกษาการแบ่งเซลล์ได้ด้วยตนเอง 2) ด้านทักษะ/กระบวนการ - จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้พบว่านักเรียนมีการวางแผนในการทำปฏิบัติงานเรื่อง การแบ่งเซลล์และสามารถสังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้องได้ด้วยตนเอง 3) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - นักเรียนมีความรับผิดชอบเข้าเรียนตรงเวลาและมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ 11.2 ปัญหา อุปสรรค/แนวทางในการแก้ปัญหาและพัฒนา - ปัญหาที่พบ ระหว่างทพปฏิบัติการเรื่อง การแบ่งเซลล์ บางระยะนักเรียนไม่สามารถ มองเห็นการแบ่งเซลล์ครบทุกระยะ - แนวทางการแก้ไข ครูให้ใบความรู้กับนักเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะทุกระยะของการ แบ่งเซลล์เพื่อที่จะให้นักเรียนได้ศึกษาระยะของการแบ่งเซลล์ได้ครบและเปรียบเทียบระยะของการแบ่ง เซลล์ระหว่างทำปฏิบัติการ 11.3 ข้อเสนอแนะ - ลงชื่อ ผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวสุพรรษา พุฒเนียม) ............../.............../...............


88 ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส ชื่อ.......................................................นามสกุล...............................................ชั้น........ .............เลขที่........... คำชี้แจง : ให้นักเรียนวาดภาพลำดับขั้นตอนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส


89 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เซลล์และการทำงานของเซลล์ เวลา 30 ชั่วโมง เรื่อง การแบ่งเซลล์ เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวสุพรรษา พุฒเนียม โรงเรียนเมืองด้งวิทยา วันที่14 เดือน กันยายน พ.ศ. 2565 1. มาตรฐานการเรียนรู้ เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์สารที่เป็น องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและหน้าที่ของ เซลล์ การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับเซลล์ ตัวชี้วัด ม.4/16 สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและ แบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้อง จุลทรรศน์พร้อมทั้งอธิบายและเปรียบเทียบการแบ่ง นิวเคลียสแบบไมโทซิส และแบบไมโอซิส 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด - การแบ่งเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเป็นการเพิ่มจำนวนเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน เป็นวัฏจักร โดยวัฏจักรของเซลล์ประกอบด้วยอินเตอร์เฟส การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและการแบ่งไซ โทพลาซึม - การแบ่งนิวเคลียสมี 2 แบบ คือ การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส และการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอ ซิส - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส ประกอบด้วยระยะโพรเฟส เมทาเฟส แอนาเฟส และเทโลเฟส - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสประกอบด้วยระยะโพรเฟส I เมทาเฟส I แอนาเฟส I เทโลเฟส I ระยะโพรเฟส II เมทาเฟส II แอนาเฟส II และเทโลเฟส II - การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสทำให้เซลล์ร่างกายเพิ่มจำนวนเพื่อการเจริญเติบโต และซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอหรือถูกทำลายไปได้ ส่วนการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตใน กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ - การแบ่งไซโทพลาซึมในเซลล์พืชจะมีการสร้างแผ่นกั้นเซลล์และเซลล์สัตว์จะมีการคอดเว้าเข้าหา กันของเยื่อหุ้มเซลล์


90 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 โครโมโซม 3.2 วัฏจักรเซลล์และการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส 3.3 การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนสามรถอธิบายและเปรียบเทียบการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอ ซิสได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลตามวิธีการที่กำหนดให้ได้ 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมเพื่อศึกษาการแบ่งเซลล์ได้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมและการเข้าชั้นเรียน 3. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ 5. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยาเล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6.2 สไลด์ power point เรื่อง การแบ่งเซลล์ 6.3 การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส จาก:https://www.youtube.com//watch?v=72ar1qGGS0k 6.4 อินเทอร์เน็ต 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7.1 ชิ้นงาน/ภาระงาน - ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง เปรียบเทียบการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสกับแบบไมโอซิส


91 7.2 กำหนดส่ง - สัปดาห์ถัดไป 7.3 คะแนนเต็ม และเกณฑ์การให้คะแนน - 12 คะแนน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบการสอนเชิงรุกอาคีตะโมเดล ลำดับขั้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ ขั้นตอนที่ 1 รู้จักตั้งข้อสังเกตในการเรียนรู้ (เวลา 10 นาที) 1.1 กระตุ้นให้คิดเกี่ยวกับสาเหตุและหลักฐานสนับสนุนโดยใช้คำถามว่า - การเปลี่ยนแปลงของนิวเคลียสในการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสมีความแตกต่างจากในการ แบ่งเซลล์แบบไมโทซิสอย่างไร (แนวตอบ: นิวเคลียสมีการเปลี่ยนแปลง 2 รอบ เมื่อสิ้นสุดการแบ่งเซลล์จึงได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์) - เพราะเหตุใดเซลล์ที่เกิดจากการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสจึงมีจำนวนโครโมโซมแตกต่าง จากเซลล์เดิม (แนวตอบ: เซลล์ที่เกิดจากการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสจะมีจำนวนโครโมโซมเป็นครึ่งหนึ่ง ของเซลล์เดิม เพราะในการแบ่งเซลล์แบบนี้จะมีการแบ่งนิวเคลียส 2 ครั้ง ครั้งแรกแบ่งฮอมอโลกัส โครโมโซม ส่วนครั้งที่สองแบ่งโครมาทิดของแต่ละโครโมโซม) - เซลล์ดิพลอยด์ต่างจากเซลล์แฮพลอยด์อย่างไร (แนวตอบ: เซลล์ดิพลอยด์มีโครโมโซม 2 ชุด หรือ 2n ส่วนเซลล์แฮพลอยด์มีโครโมโซม 1 ชุด หรือ n) ขั้นตอนที่ 2 ขั้นมีความคิดของตัวเอง (เวลา 30 นาที) 2.1 ให้นักเรียนศึกษาเปรียบเทียบการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสกับแบบไมโอซิสโดยอาจ ศึกษาจากหนังสือเรียนชีววิทยา ม.4 เล่ม 1 หรือจากแหล่งเรียนรู้อื่นๆ 2.2 ให้นักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง เปรียบเทียบการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสกับแบบ ไมโอซิส 2.3 ขณะที่นักเรียนแต่ละคนร่วมทำกิจกรรมตามคำสั่ง ใช้แบบสังเกตบันทึกพฤติกรรม ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานในระหว่างเรียน


92 ขั้นตอนที่ 3 ขั้นอภิปรายกันเป็นคู่ หรือเป็นกลุ่ม (เวลา 10 นาที) 3.1 ให้นักเรียนหรือตัวแทนนักเรียนออกมานำเสนอ 3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการวิเคราะห์และลงข้อสรุปเรื่องการค้นคว้าที่ เกี่ยวข้องกับเปรียบเทียบการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสกับแบบไมโอซิส หากพบว่าผู้เรียนกลุ่มอื่นมีการ วิเคราะห์ลงข้อสรุปข้อมูลขัดแย้งกับผลการอภิปรายให้ดำเนินการแก้ไขผลดังกล่าวในใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง เปรียบเทียบการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสกับแบบไมโอซิสให้ถูกต้อง ขั้นตอนที่ 4 ขั้นทบทวนเนื้อหาและวิธีการเรียนรู้ (เวลา 10 นาที) 4.1 ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนเรื่องการแบ่งเซลล์ 4.2 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย และทบทวนเนื้อหาการเรียนรู้ภายในคาบ แนวทางการทบทวนเนื้อหาการเรียนรู้ “การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เป็นการแบ่งเซลล์ ร่างกายเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ ทั้งนี้ เพื่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต ได้เซลล์ใหม่ 2 เซลล์ ที่มีจำนวน โครโมโซมเท่ากับเซลล์เดิม ส่วนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส เป็นการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ได้ เซลล์ใหม่ 4 เซลล์ ที่มีจำนวนโครโมโซมลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเซลล์เดิม” 9. การวัดและประเมินผล 9.1 การวัดผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การผ่าน จุดประสงค์ ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) 1. นักเรียนสามรถอธิบายและ เปรียบเทียบการแบ่งนิวเคลียสแบบ ไมโทซิสและแบบไมโอซิสได้ ตรวจใบกิจกรรม -ตรวจใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การแบ่งเซลล์ แบบไมโอซิส ตอบคำถามถูกต้อง ครบประเด็นผ่าน ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลตาม วิธีการที่กำหนดให้ได้ 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรม เพื่อศึกษาการแบ่งเซลล์ได้ การสังเกตและ ตรวจผลงาน แบบสังเกตและแบบ ประเมินผลงาน ได้คะแนนรูบริค ตั้งแต่2 ขึ้นไปจาก 4 ระดับ


93 9.2 เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑ์รูบริค (Rubrics Scoring) ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้ระดับคะแนน ระดับ 4 (ดีมาก) ระดับ 3 (ดี) ระดับ 2 (พอใช้) ระดับ 1 (คว ปรับปรุง) ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) ความถูกต้องสมบูรณ์ของใบ กิจกรรม - เนื้อหาถูกต้องตรง ตามหัวข้อเรื่อง เนื้อหาเป็นไปตามที่ กำหนดราย - ละเอียด ครอบคลุมและมี ความสอดคล้องกัน และทำด้วยตนเอง - เขียนและสะกด คำได้ถูกต้องชัดเจน -ส่งงานตามเวลาที่ กำหนด - เนื้อหาถูกต้อง ตรงตามหัวข้อ เรื่องเนื้อหา เป็นไปตามที่ กำหนดราย - ละเอียด ครอบคลุมและ มีความ สอดคล้องกัน -เขียนและ สะกดคำถูกต้อง -ส่งงานเกินเวลา ที่กำหนด - เนื้อหาถูกต้อง ตรงตามหัวข้อ เรื่องบาง - รายละเอียด ยังไม่ครอบคลุม -เขียนและ สะกด คำได้ถูกเป็น บาง - เนื้อหาไม่ ตรงตาม หัวข้อเรื่อง - รายละเอียด ไม่ครบถ้วน และไม่ สอดคล้อง กัน -เขียนและ สะกดคำไม่ ถูกต้อง -ส่งงานเกิน เวลาที่ กำหนด ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน 2. ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม และการเข้าชั้นเรียน 3. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับ ผู้อื่นได้ การสังเกต พฤติกรรมของ นักเรียน แบบประเมินพฤติกรรม ได้คะแนนรูบริค ตั้งแต่2 ขึ้นไปจาก 4 ระดับ


Click to View FlipBook Version