หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แบ่งเป็ น 3 เรื่อง
การนบั เวลา
เวลา ยุคสมยั
และวธิ ีการทาง
ประวตั ิศาสตร์
วิธีการทาง การแบ่งยคุ สมยั
ประวตั ิศาสตร์ ทางประวตั ิศาสตร์ไทย
1
ช่ัวโมงที่ 2
การนับเวลา
2
แบบทดสอบก่อนเรียน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
เวลา ยุคสมัย
และวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์
3
เลือกคาตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดยี ว
1. ศักราชและการแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์มีความสาคญั
ต่อการศึกษาเร่ืองราวเหตุการณ์ทางประวตั ศิ าสตร์อย่างไร
ก ทาใหท้ ราบความเป็นมาของมนุษย์
ข ทาใหส้ ามารถเรียงลาดบั เหตุการณ์ไดถ้ ูกตอ้ ง
ค ทาใหท้ ราบการเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณ์ตลอดเวลา
ง ทาใหท้ ราบความแตกต่างของเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนแต่ละยคุ สมยั
คาอธิบาย: ข ถูกตอ้ ง เพราะศกั ราชและการแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ทาใหร้ ู้วา่ เหตุการณ์ใด
เกิดก่อน และเหตุการณ์ใดเกิดหลงั ซ่ึงจะช่วยใหเ้ รียงลาดบั เหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์ได้
4
2. วนั ๒ ฯ๓๗ หมายถงึ วนั อะไร
ก วนั เสาร์ เดือน ๒ ข้ึน ๓ ค่า
ข วนั องั คาร เดือนย่ี ข้ึน ๗ ค่า
ค วนั พธุ เดือน ๗ แรม ๒ ค่า
ง วนั จนั ทร์ เดือน ๗ ข้ึน ๓ ค่า
คาอธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะเคร่ืองหมาย ฯ หมายถึง เคร่ืองหมายองั คนั่ เด่ียว เลขที่อยหู่ นา้ เคร่ืองหมาย
ฯ หมายถึง วนั ในสปั ดาห์ โดยให้ ๑ แทนอาทิตย์ ๒ แทนจนั ทร์ เรื่อยไปจนถึง ๗ แทนเสาร์ เลขท่ี
อยหู่ ลงั เคร่ืองหมาย ฯ หมายถึง เดือนทางจนั ทรคติ ส่วนเลขที่อยขู่ า้ งบนหรือขา้ งล่างเครื่องหมาย
ฯ หมายถึง ข้ึนหรือแรมก่ีค่า ดงั น้นั วนั ๒ ฯ๓ ๗ จึงหมายถึง วนั จนั ทร์ เดือน ๗ ข้ึน ๓ ค่า 5
3. การนับพทุ ธศักราชแบบไทยเริ่มนับเม่ือไร
ก เม่ือพระพทุ ธเจา้ ประสูติ
ข เมื่อพระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ปรินิพพาน
ค เม่ือพระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ปรินิพพานไปแลว้ 1 ปี
ง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวนั ข้ึนปี ใหม่ พ.ศ. 2484
คาอธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะพทุ ธศกั ราชเป็นศกั ราชท่ีพทุ ธศาสนิกชนกาหนดข้ึน การนบั
พทุ ธศกั ราชแบบไทยนบั แบบปี เตม็ โดยเร่ิมนบั เม่ือพระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ปรินิพพานไปแลว้
ครบ 1 ปี เป็น พ.ศ. 1 6
4. พทุ ธศักราช 1792 ตรงกบั มหาศักราชใด
ก ม.ศ. 1611
ข ม.ศ. 1171
ค ม.ศ. 1249
ง ม.ศ. 2413
คาอธิบาย: ข ถูกตอ้ ง เพราะ ม.ศ. 1 ตรงกบั พ.ศ. 622 มหาศกั ราชจึงนอ้ ยกวา่ พทุ ธศกั ราช 622 – 1
= 621 ปี ใชจ้ านวน 621 น้ีเป็นเกณฑใ์ นการบวกลบเพอื่ เปล่ียนศกั ราชระหวา่ งมหาศกั ราชกบั
พทุ ธศกั ราช ดงั น้นั พทุ ธศกั ราช 1792 – 621 = 1171 จึงหมายความวา่ พทุ ธศกั ราช 1792 ตรงกบั
มหาศกั ราช 1171
7
5. ข้อใดหมายถึงทศวรรษ
ก รอบ 10 ปี
ข รอบ 12 ปี
ค รอบ 100 ปี
ง รอบ 1,000 ปี
คาอธิบาย: ก ถูกตอ้ ง เพราะทศวรรษ หมายถึง รอบ 10 ปี ปกติจะนบั จากศกั ราชท่ีลงทา้ ยดว้ ย 0
ถึงศกั ราชที่ลงทา้ ยดว้ ย 9 8
6. นักประวตั ศิ าสตร์ใช้เกณฑ์อะไรแบ่งยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์
ออกเป็ นสมัยก่อนประวตั ิศาสตร์และสมัยประวตั ิศาสตร์
ก การต้งั ถิ่นฐาน
ข เครื่องมือเครื่องใช้
ค ตานานหรือคาบอกเล่า
ง หลกั ฐานท่ีเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร
คาอธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะนกั ประวตั ิศาสตร์ไดแ้ บ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ออกเป็น 2 สมยั
โดยอาศยั การมีตวั อกั ษรใชเ้ ป็นเกณฑ์ ไดแ้ ก่ สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ (Prehistorical period)
ซ่ึงเป็นช่วงเวลาที่มนุษยย์ งั ไม่มีตวั หนงั สือใชใ้ นการบอกเล่าเรื่องราว และสมยั ประวตั ิศาสตร์
(Historical period) ซ่ึงเป็นช่วงเวลาที่มนุษยม์ ีตวั หนงั สือใชใ้ นการบอกเล่าเร่ืองราวต่าง ๆ ใน
สงั คม 9
7. ในยุคใดทม่ี นุษย์ยงั ไม่มกี ารต้งั ถน่ิ ฐานเป็ นหลกั แหล่ง
ก ยคุ เหลก็
ข ยคุ สาริด
ค ยคุ หินใหม่
ง ยคุ หินกลาง
คาอธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะมนุษยย์ คุ หินกลางยงั ไม่มีการต้งั ถิ่นฐานเป็นหลกั แหล่ง ยงั อาศยั อยู่
ตามเพิงผา ลา่ สัตว์ และเกบ็ ของป่ าเป็นอาหาร
10
8. หลกั ฐานทช่ี ัดเจนทสี่ ุดของการต้งั ถน่ิ ฐานของมนุษย์
มีขนึ้ ในยคุ ใด
ก ยคุ หินเก่า
ข ยคุ หินกลาง
ค ยคุ หินใหม่
ง ถูกทุกขอ้
คาอธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะมนุษยย์ คุ หินใหม่มีการต้งั ถิ่นฐานเป็นชุมชนขนาดเลก็ มีผปู้ กครอง
มีการจดั พิธีศพ มีการคา้ ขายแลกเปล่ียนและติดต่อกบั ชุมชนอ่ืน
11
9. ข้อใดจดั เป็ นหลกั ฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์
ก จารึก จดหมายเหตุ
ข ตานาน ซากกระดูกสตั ว์
ค คูเมือง โครงกระดูกมนุษย์
ง เมลด็ พืช โครงกระดูกมนุษย์
คาอธิบาย: ก ถูกตอ้ ง เพราะหลกั ฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์ คือ ร่องรอยการกระทาของมนุษย์
ในสมยั ที่ชุมชนน้นั รู้จกั ใชต้ วั อกั ษรแลว้ มีการบนั ทึกเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร จารึกเป็นหลกั ฐาน
ท่ีมีการบนั ทึกเร่ืองราวไวบ้ นวสั ดุท่ีมีความคงทนถาวร ส่วนจดหมายเหตุเป็นบนั ทึกคลา้ ยกบั
พระราชพงศาวดาร แต่จะบนั ทึกคร้ังละเหตุการณ์เดียวและเป็นบนั ทึกร่วมสมยั ดงั น้นั จารึก
และจดหมายเหตุจึงเป็นหลกั ฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์
12
10. การทาความเข้าใจถงึ ความหมายหรือข้อเทจ็ จริงของหลกั ฐาน
จดั เป็ นข้นั ตอนใดของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์
ก การกาหนดปัญหา
ข การตีความหลกั ฐาน
ค การรวบรวมหลกั ฐาน
ง การเรียบเรียงและการนาเสนอ
คาอธิบาย: ข ถูกตอ้ ง เพราะการตีความหลกั ฐานเป็นการทาความเขา้ ใจถึงความหมายหรือ
ขอ้ เทจ็ จริงของหลกั ฐานวา่ หลกั ฐานน้นั มีความหมายวา่ อยา่ งไร หรือมีขอ้ มูลอะไร แบ่งเป็น
การตีความข้นั ตน้ และการตีความข้นั ลึก
13
ประวตั ศิ าสตร์ไทย ม. 4–6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
เวลา ยคุ สมยั และวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์
14
ลองแสดงความคดิ เห็น
การนบั ปี แบบไทย
มีความสาคญั อยา่ งไร
ทาใหเ้ ขา้ ใจวธิ ีอ่านเพ่อื นาขอ้ มูล 15
ในเอกสารมาใชใ้ นการศึกษา
ประวตั ิศาสตร์
ลองแสดงความคดิ เห็น
ประวตั ิศาสตร์หมายถึงอะไร
การศึกษาเร่ืองราวและพฤติกรรมของสังคมมนุษยใ์ นอดีต
โดยศึกษาเฉพาะเร่ืองราวสาคญั ที่มีผลกระทบต่อคนจานวนมาก
16
ลองแสดงความคดิ เห็น
ประวตั ิศาสตร์มีความสาคญั กบั เร่ืองอะไรมากที่สุด
ช่วงเวลา
17
1. การนับเวลา
• ประวตั ิศาสตร์ไทยจะใหค้ วามสาคญั กบั ช่วงเวลา
เนื่องจากเวลาเป็นปัจจยั สาคญั ที่ทาใหส้ งั คมมี
ความเปลี่ยนแปลง
• เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนในช่วงเวลาหน่ึงยอ่ มมีความ
แตกต่างกบั เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนในอีกช่วงเวลาหน่ึง
• เหตุการณ์ท่ีเกิดยอ่ มเป็นเหตุและมีผลต่อ
เหตุการณ์ที่เกิดข้ึนภายหลงั
18
1. การนับเวลา
คุณคา่ สาคญั ของประวตั ิศาสตร์ คือ
การสร้างความตระหนกั วา่
อดีตเป็นบทเรียนสาคญั สาหรับปัจจุบนั และอนาคต
19
1. การนับเวลา
ผศู้ ึกษาประวตั ิศาสตร์ตอ้ งมีความรู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั ...
•การนบั เวลา
•ศกั ราช และการเทียบศกั ราช
•การแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์
เพ่ือจะไดเ้ ขา้ ใจเรื่องราวทางประวตั ิศาสตร์ไดด้ ีข้ึน
20
1. การนับเวลา
1.1 การนับเวลาแบบไทย
การนบั เวลาแบบไทย
หรือการนบั เวลาตามประเพณี
เป็นวธิ ีท่ีคนไทยใชก้ นั มาแต่โบราณ
ปรากฏในเอกสารประวตั ิศาสตร์ไทยเก่า ๆ
จึงควรทาความเขา้ ใจวธิ ีอ่านเพ่อื นาขอ้ มูล
ในเอกสารมาใชใ้ นการศึกษาประวตั ิศาสตร์
21
1. การนับเวลา
1.1 การนับเวลาแบบไทย
1. การนับเวลาในรอบวนั
• การนบั เวลาในรอบวนั
มีท้งั นบั ตามเวลาสากลและนบั ตามเวลาแบบไทย
• การนบั เวลาตามสากล เช่น
08.00 น. 12.00 น. 18.00 น. 24.00 น.
• การนบั ตามเวลาแบบไทย กลางวนั และกลางคืนนบั ต่างกนั
22
1. การนับเวลา
1.1 การนับเวลาแบบไทย
เทย่ี ง การนบั เวลากลางวนั
ตามแบบไทย
5 โมงเช้า บ่ายโมง
4 โมงเช้า
บ่าย 2 โมง
3 โมงเช้า บ่าย 3 โมง
2 โมงเช้า บ่าย 4 โมง
โมงเช้า บ่าย 5 โมง 23
ยา่ รุ่ง
5 ทุ่ม 2 ยาม การนบั เวลากลางคืน
หรือ 11 ทุ่ม
4 ทุ่ม ตี 1 ตามแบบไทย
หรือ 10 ทุ่ม ตี 2
3 ทุ่ม Z ตี 3
หรือ 9 ทุ่ม
ZZ
2 ทุ่ม ตี 4
หรือ 8 ทุ่ม
1 ทุ่ม ตี 5
หรือ 7 ทุ่ม ยา่ คา่
24
หรือ 6 โมงเยน็
1. กกาารรนนับับเวเลวาลา
1.1 การนับเวลาแบบไทย
2. การนับยามกลางคืน
มที มี่ าจากการเปลยี่ นเวรของยามรักษาการณ์
ทุก 3 ชั่วโมง
25
11.. กกาารรนนับับเวเลวาลา
1.1 การนับเวลาแบบไทย
2 ยาม ยาม 2
12 (24.00 น.)
ยาม 1 9 3 ยาม 3
3 ทุ่ม ตี 3
(21.00 น.) (03.00 น.)
6 26
ยาม 4
6 โมงเช้า (06.00 น.)
1. การนับเวลา
1.1 การนับเวลาแบบไทย
3. การบอกวนั เดือน ขนึ้ แรม
ใชเ้ ครื่องหมายองั คนั่ เด่ียว (ฯ) คนั่
• ตวั เลขท่ีอยหู่ นา้ เครื่องหมาย ฯ คือ วนั ในสปั ดาห์ โดยเริ่ม
นบั จาก ๑ แทนอาทิตย์ จนไปถึง ๗ แทนเสาร์
• ตวั เลขท่ีอยหู่ ลงั เครื่องหมาย ฯ คือ เดือนทางจนั ทรคติ
• ตวั เลขถา้ อยบู่ นเครื่องหมาย ฯ คือ ขา้ งข้ึน ถา้ อยลู่ ่าง คือ
ขา้ งแรม
• วนั เดือน ข้ึนแรม ใชใ้ นการสงั เกตน้าข้ึน–น้าลง และการ
คานวณทางโหราศาสตร์
27
1. การนับเวลา
1.1 การนับเวลาแบบไทย
การบอกวนั เดือน ข้ึนแรม
ใชเ้ คร่ืองหมายองั คน่ั เดี่ยว (ฯ) คน่ั
วนั ฯ คา่
28
1. การนับเวลา ขข้ ึน้ ึน๓๓คคา่า่
เดือนย่ี
1.1 การนับเวลาแบบไทย
เสาร์
อาทติ ย์ เดือนอา้ ย
เดอื น ๗
จนั ทร์
แรม ๑๑ คา่ 29
1. การนับเวลา
1.1 การนับเวลาแบบไทย
4. การนับปี นักษัตร
รอบปี นกั ษตั ร 1 รอบ มี 12 ปี
แต่ละปี มีช่ือเรียกและรูปสัตวป์ ระจาปี
เร่ิมตน้ นบั จากปี ชวดไปจนถึงปี กนุ
เมื่อนบั ครบ 12 ปี แลว้ กจ็ ะเร่ิมนบั รอบใหม่
30
จอ กนุ ชวด ฉลู
11 12 1 2
10 3
ระกา ขาล
วอก 9 4 เถาะ
8
7 5
มะแม
มะเมยี 6 มะโรง
มะเส็ง
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
ศกั ราช คือ อายเุ วลาที่ต้งั ข้ึนอยา่ งเป็นทางการ โดยนาเหตุการณ์สาคญั
เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หน่ึงเป็ นจุดเร่ิ มตน้
ศักราชสาคญั ทใี่ ช้ในหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์
คริสต์ศักราช (ค.ศ.)
พทุ ธศักราช (พ.ศ.) มหาศักราช (ม.ศ.)
ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) ศักราช
จุลศักราช (จ.ศ.)
รัตนโกสินทรศก (ร.ศ.) 32
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
พทุ ธศักราช (พ.ศ.)
เป็นศกั ราชที่พทุ ธศาสนิกชนกาหนดข้ึน มี 2 แบบ
แบบไทย (นับปี เต็ม) โดยเริ่มนบั ปี ถดั จากปี ที่พระพทุ ธเจา้ 33
เสดจ็ ปรินิพพานไปแลว้ ครบ 1 ปี เป็น พ.ศ. 1
แบบลงั กา (นับปี ย่าง) โดยนบั ปี ท่ีพระพทุ ธเจา้
เสดจ็ ปรินิพพานเป็น พ.ศ. 1
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
พุทธศักราช (พ.ศ.)
พทุ ธศกั ราชเขา้ มาสู่ดินแดนประเทศไทยพร้อมกบั
รับพระพทุ ธศาสนาจากอินเดีย สนั นิษฐานวา่ คงเริ่มต้งั แต่
เมื่อพระเจา้ อโศกมหาราชแห่งแควน้ มคธ (พ.ศ. 271–311)
ส่งพระเถระเขา้ มาเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในภูมิภาคน้ี
แต่การใชพ้ ทุ ธศกั ราชอยา่ งเป็นทางการของประเทศไทย
มีหลกั ฐานปรากฏวา่ มีใชใ้ นสมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช
34
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
พทุ ธศักราช (พ.ศ.)
ใน พ.ศ. 2455 รัชกาลที่ 6 • ใน พ.ศ. 2484 รัฐบาลในสมยั จอมพล
ทรงประกาศเลิกใชร้ ัตนโกสินทรศก ป. พิบูลสงคราม ไดเ้ ปล่ียนวนั ข้ึนปี ใหม่
ท่ีเร่ิมใชใ้ นรัชกาลก่อนใหใ้ ช้ มาเป็นวนั ที่ 1 มกราคม ตามหลกั สากล
พทุ ธศกั ราชแทน แต่ยงั คงให้
ประเทศไทยจึงข้ึนปี ใหม่ในวนั ที่ 1
ข้ึนปี ใหม่ในวนั ที่ 1 เมษายน มกราคม ต้งั แตน่ ้นั มาจนถึงปัจจบุ นั
เช่นเดียวกบั รัตนโกสินทรศก • การเปลี่ยนวนั ข้ึนปี ใหม่ท่ีเริ่มใน พ.ศ.
2484 น้ีทาให้ พ.ศ. 2483 เหลือจานวน
เดือนเพียง 9 เดือน คือ จากเดือนเมษายน
พ.ศ. 2483 ถึงเดือนธนั วาคม พ.ศ. 2483 35
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
คริสต์ศักราช (ค.ศ.)
เป็นศกั ราชที่คริสตศ์ าสนิกชนกาหนดข้ึน
โดยเร่ิมนบั ต้งั แต่วนั สมภพของพระเยซูคริสต์
คริสตศ์ กั ราชเร่ิมปี ใหม่วนั ที่ 1 มกราคม และสิ้นปี วนั ที่ 31 ธนั วาคม
เป็นศกั ราชสากลที่ใชท้ วั่ โลก
คริสตศ์ กั ราชนอ้ ยกวา่ พทุ ธศกั ราช 543 ปี จึงใช้ 543 ปี เป็นเกณฑบ์ วก
หรือลบเพื่อเปล่ียนศกั ราชระหวา่ งพทุ ธศกั ราชกบั คริสตศ์ กั ราช
36
1. การนับเวลา 37
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
มหาศักราช (ม.ศ.)
ต้งั ข้ึนโดยพระเจา้ กนิษกะ (Kanishka) กษตั ริยข์ องพวกกษุ าณะ (Kushana)
ใน พ.ศ. 622
ไทยรับมหาศกั ราชมาจากเขมรซ่ึงรับมาจากอินเดีย ใชใ้ นการคานวณ
ทางโหราศาสตร์ ระบุเวลาในจารึกและตานานที่ทาข้ึนก่อนสมยั สุโขทยั
และสมยั สุโขทยั
มหาศกั ราชนอ้ ยกวา่ พทุ ธศกั ราช 621 ปี จึงใช้ 621 น้ีเป็นเกณฑบ์ วกหรือลบ
เพ่อื เปล่ียนศกั ราชระหวา่ งมหาศกั ราชกบั พทุ ธศกั ราช
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
มหาศักราช (ม.ศ.)
การระบุมหาศกั ราชในจารึกและตานาน
มกั บอกเพียงวา่ เป็นศกั ราชใดหรือศกใด คือปี ใด
แต่หากมีการระบุปี นกั ษตั รต่อทา้ ย เรากส็ ามารถ
เทียบศกั ราชไดโ้ ดยใชป้ ี นกั ษตั รเทียบกบั เลขศกน้นั
38
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
จุลศักราช (จ.ศ.)
• ต้งั ข้ึนโดยพระเจา้ สูริยวกิ รมกษตั ริยพ์ ม่าใน พ.ศ. 1182
• จุลศกั ราชนอ้ ยกวา่ พทุ ธศกั ราช 1181 ปี จึงใช้ 1181 น้ีเป็นเกณฑบ์ วก
หรือลบ เพอ่ื เปลี่ยนศกั ราชระหวา่ งจุลศกั ราชกบั พทุ ธศกั ราช
• ไทยใชจ้ ุลศกั ราชในการคานวณทางโหราศาสตร์ ใชบ้ อกปี ในจารึก
จดหมายเหตุ ตานาน พระราชพงศาวดาร และเอกสารราชการ
• เลิกใชใ้ นสมยั รัชกาลท่ี 5 โดยใชร้ ัตนโกสินทรศกแทน
39
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
จุลศักราช (จ.ศ.) การบอกจุลศกั ราชมกั บอกปี นกั ษตั รควบคูก่ นั ไป และ
นิยมบอกดว้ ยวา่ เป็นศกั ราชที่ลงทา้ ยดว้ ยเลขอะไร คือ
ลงท้ายด้วย เรียกว่า ลงท้ายด้วย เรียกว่า
1 เอกศก 6 ฉศก
2 โทศก 7 สัปตศก
3 ตรีศก 8 อฐั ศก
4 จตั วาศก 9 นพศก
5 เบญจศก 10 สัมฤทธิศก 40
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
รัตนโกสินทรศก (ร.ศ.)
• ต้งั ข้ึนโดยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เม่ือ พ.ศ. 2432
โดยใหน้ บั ปี ท่ีพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนา
กรุงรัตนโกสินทร์เป็น ร.ศ. 1 และเริ่มใชใ้ นราชการต้งั แต่ 1 เมษายน ร.ศ. 108
(พ.ศ. 2432) โดยใหน้ บั เมษายนเป็นเดือนแรกของปี
41
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
รัตนโกสินทรศก (ร.ศ.)
• ต่อมา ร.ศ. 131 (พ.ศ. 2455) พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั
ทรงประกาศเลิกใช้ โดยเปล่ียนเป็นพทุ ธศกั ราชแทน แต่ยงั คงวนั ปี ใหม่ คือ
1 เมษายน เหมือนเดิม
• รัตนโกสินทรศกนอ้ ยกวา่ พทุ ธศกั ราช 2324 ปี จึงใช้ 2324 น้ีเป็นเกณฑบ์ วก
หรือลบเพ่ือเปล่ียนศกั ราชระหวา่ งรัตนโกสินทรศกกบั พทุ ธศกั ราช
42
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.)
• เป็นศกั ราชของผทู้ ่ีนบั ถือศาสนาอิสลาม นบั ต้งั แต่นบีมุฮมั หมดั (ศาสดา)
อพยพชาวมุสลิมออกจากนครมกั กะฮ์ไปยงั เมืองมะดีนะฮ์ใน ค.ศ. 622
ตรงกบั พ.ศ. 1165
• การนบั เดือนในฮิจเราะห์ศกั ราชเป็นการนบั ทางจนั ทรคติ โดยถือเอา
การโคจรของดวงจนั ทร์เป็นหลกั
• ปัจจุบนั การเปลี่ยนศกั ราชระหวา่ งฮิจเราะห์ศกั ราชกบั พทุ ธศกั ราช
ใหน้ า 1122 มาบวกหรือลบ
43
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
การเทยี บศักราชอ่ืนเป็ นพทุ ธศักราช
ค.ศ. + 543 = พ.ศ.
ม.ศ. + 621
จ.ศ. + 1181 44
ร.ศ. + 2324
ฮ.ศ. + 1122
1. การนับเวลา
1.2 ศักราชและการเทยี บศักราช
การเทยี บพทุ ธศักราชเป็ นศักราชอื่น
พ.ศ. – 543 = ค.ศ. 45
พ.ศ. – 621 = ม.ศ.
พ.ศ. – 1181 = จ.ศ.
พ.ศ. – 2324 = ร.ศ.
พ.ศ. – 1122 = ฮ.ศ.
1. การนับเวลา
1.3 ทศวรรษ ศตวรรษ สหัสวรรษ
ทศวรรษ
รอบ 10 ปี นบั จากศกั ราชที่ลงทา้ ยดว้ ย 0–9
เช่น ทศวรรษ 1990 ตามคริสตศ์ กั ราช = ค.ศ. 1990–1999 46
ทศวรรษ 2540 ตามพทุ ธศกั ราช = พ.ศ. 2540–2549
1. การนับเวลา
1.3 ทศวรรษ ศตวรรษ สหัสวรรษ
ศตวรรษ
รอบ 100 ปี นบั จากศกั ราชท่ีลงทา้ ยดว้ ย 01–00
เช่น คริสตศ์ ตวรรษที่ 1 = ค.ศ. 1–100 47
พทุ ธศตวรรษที่ 25 = พ.ศ. 2401–2500
1. การนับเวลา
1.3 ทศวรรษ ศตวรรษ สหัสวรรษ
สหัสวรรษ
รอบ 1,000 ปี นบั จากศกั ราชที่ลงทา้ ยดว้ ย 001–000
เช่น สหสั วรรษท่ี 2 ตามคริสตศ์ กั ราช = ค.ศ. 1001–2000 48
สหสั วรรษท่ี 3 ตามพทุ ธศกั ราช = พ.ศ. 2001–3000
เตมิ คาตอบให้ถูกต้อง
1. ประเทศสหรัฐอเมริกาท้ิงระเบิดลงท่ีเมืองฮิโระชิมะและเมืองนะงะซะกิ
ของประเทศญ่ีป่ ุนใน ค.ศ. 1945 ซ่ึงตรงกบั ปี เกิดของนางอองซาน ซูจี คือ
พ.ศ. ....2..4..8..8.....
2. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชสมภพใน
สพถ.ศา.ป2น4า7ใ0หซเ้ ป่ึง็ตนรนงกั กบบั ุญปี ทค่ีพือรคะ.เศจ.า้ .ห...1ล..9ุย..2ส..7.์ท...่ี .9นกบั ษเตปั ็รนิยกแ์ ษหตั่งรฝิยรพ์ั่งเรศะสอไงดคร้แ์ ับรกกาทร่ีเป็น
นกั บุญ
3. เมื่อประมาณ พ.ศ. .....3..4..3...... ไดเ้ กิดการพฒั นาแนวคิดลทั ธิขงจื๊อข้ึน คือ
ประมาณ 200 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช 49
เตมิ คาตอบให้ถูกต้อง
4. 1214 ศก ปี มะโรง พ่อขุนรามคาแหงเจา้ เมืองศรีสัชนาลยั สุโขทยั ปลูกไมต้ าล
น้ีไดส้ ิบส่ีเขา้
ท่ีมา: ศิลาจารึกพ่อขุนรามคาแหง
ตรงกบั พ.ศ. 1835 ทศวรรษ 1830 พุทธศตวรรษท่ี 19
5. การปฏิรูปการปกครองคณะสงฆใ์ นสมยั รัชกาลท่ี 5 ท่ีสาคญั ท่ีสุด คือ 50
การตราพระราชบญั ญตั ิการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 ข้ึนคร้ังแรก
พระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ีใชม้ าถึงสมยั รัชกาลท่ี 8
ตรงกบั พ.ศ. 2445 ทศวรรษ 2440 พุทธศตวรรษท่ี 25