โครงสร้าง+แผนการสอนวิชาสุขศึกษาและพลศึกษาป.5-2565 เทอม-1

กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษา
และพลศึกษา

ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5

แผนกประถมศึกษา
โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

โครงสร้างการสอน วชิ า สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5

ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา ......... เวลา 20 ช่ัวโมง

หน่วยท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
การเรียนรู้/เรื่อง ตวั ชีว้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน

1. เรียนรู้ตัวเรา มาตรฐานท่ี พ 1.1 - รา่ งกายของเรา 4 5
(ส.1-ส.4)
-ระบบต่างๆของ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโต ประกอบอวัยวะหลายๆ

ร่างกาย และพัฒนาการของมนุษย์ อวยั วะทท่ี ำงานรว่ มกนั

ตวั ชี้วดั ที่ ป. 5/1 เปน็ ระบบโดยแบง่

อธิบายความสำคัญของระบบ ออกเปน็ หลายระบบ

สืบพันธ์ุระบบไหลเวยี นโลหิตและ ด้วยกันถ้าระบบใดทำงาน

ระบบหายใจท่ีมผี ลตอ่ สขุ ภาพการ ผิดปกตไิ ปย่อมทำให้ระบบ

เจริญเตบิ โตและพฒั นาการ อน่ื มีความผิดปกติเกิดขน้ึ

ตัวช้ีวดั ที่ ป.5/2 ตลอดจนวิธีการดแู ลรักษา

อธิบายการดูแลรกั ษาระบบ ระบบในรา่ งกายอย่าง

สืบพันธ์ุ ระบบไหลเวยี นโลหติ และ ถกู ต้อง

ระบบหายใจให้ทำงานตามปกติ

2. ชวี ิตและ มาตรฐานท่ี พ 2.1 -เดก็ ชายอายปุ ระมาณ 1 5
(ส.5)
ครอบครัว เข้าใจและเห็นคณุ ค่าตัวเอง 12 – 13 ปี เด็กหญิง

ครอบครัว เพศศึกษาและมที ักษะใน อายุประมาณ 10 - 11

-ความหมายและ การดำเนินชวี ิต ปี จะเปน็ ชว่ งทเี่ ขา้ ส่วู ยั
เดก็ ตอนปลายหรือวยั แรก
ลกั ษณะพฒั นาการ ตัวชว้ี ัดท่ี ป.5/1 รุ่น โดยจะมีการเตบิ โต
อธบิ ายการเปล่ยี นแปลงทางเพศ ของร่างกายอย่างรวดเร็ว
ทางเพศ
และปฏบิ ตั ติ นได้เหมาะสม

ทง้ั ในดา้ นส่วนสูงและ

นำ้ หนักเพราะต่อมเพศ

ภายในร่างกายจะ

โครงสรา้ งการสอน วชิ า สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5

ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา ......... เวลา 20 ช่ัวโมง

หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
การเรยี นรู้/เรื่อง ตวั ชว้ี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน

ผลิตฮฮร์โมนที่เปน็ ตวั เร่ง 1 5
(ส.6)
การเจริญเตบิ โต สง่ ผล

ให้เด็กวัยน้ีมี

มีสว่ นสงู เพิ่มข้นึ จากเดมิ

ซงึ่ เป็นเร่ืองปกตขิ อง

เด็กชายและเด็กหญงิ ที่

กำลงั จะยา่ งเขา้ สู่วัยรุ่น

-พฒั นาการทาง มาตรฐานที่ พ 2.1 -พัฒนาการทางเพศเป็น
เพศและการปฏบิ ัติ เข้าใจและเหน็ คุณค่าตัวเอง การเปล่ียนแปลงในสว่ น
ตนที่เหมาะสม ครอบครัว เพศศึกษาและมีทักษะใน ที่เกย่ี วกบั แรงผลักดัน
ทางเพศ บทบาททาง
การดำเนินชีวติ เพศและพฤตกิ รรมทาง
เพศตงั้ แตว่ ัยทารกถงึ วยั
ตวั ชีว้ ดั ที่ ป.5/1 ชรา นักเรยี นซึง่ อย่ใู น

อธบิ ายการเปลย่ี นแปลงทางเพศ

และปฏบิ ัติตนได้เหมาะสม

วัยเดก็ ตอนปลายจึงควร

ได้เรียนรูถ้ งึ การ

เปลี่ยนแปลงท่เี กดิ ขน้ึ ใน

อนาคตอนั ใกล้ในวยั ที่

กำลังย่างก้าวเข้าส่วู ยั รุ่น

ต่อไป

-ครอบครัวอบอ่นุ มาตรฐานที่ พ 2.1 - ครอบครวั ไทยอดีต 2
เข้าใจและเหน็ คุณคา่ ตัวเอง มักมลี ักษณะเป็น (ส.7 – ส.8)
ครอบครัว เพศศึกษาและมีทักษะ ครอบครวั ขยายซ่งึ เป็น

โครงสรา้ งการสอน วชิ า สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5

ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา ......... เวลา 20 ชั่วโมง

หน่วยท่ี ช่ือหน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้/เร่อื ง ตวั ชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน

ในการดำเนนิ ชวี ิต ครอบครัวใหญ่ โดย 1 5
(ส.9)
ตวั ชี้วัดที่ ป.5/2 ครอบครัวหน่ึงมีทง้ั พ่อ

อธิบายความสำคัญของการมี แม่ ลกู ปู่ ย่า ตา

ครอบครวั ท่ีอบอนุ่ ตามวฒั นธรรมไทย ยาย และญาตพิ ่นี ้อง

อน่ื ๆ อาศยั รวมกัน

สว่ นใหญ่พบครอบครัว

ใหญ่ในชนบท แตใ่ น

ปจั จบุ นั พบครอบครัวท่มี ี

ลกั ษณะเปน็ ครอบครัว

เด่ยี วหรอื ครอบครัว

ขนาดเลก็ เพมิ่ มากข้ึน

คือ สมาชกิ ในครอบครวั

มเี ฉพาะพอ่ แม่ ลูก

อาศัยอยรู่ ่วมกนั โดย

แยกออกมาจากญาติพ่ี

นอ้ ง ส่วนใหญ่

ครอบครวั เด่ียวพบได้

มากในสังคมเมือง

-การแก้ไขปัญหา มาตรฐานท่ี พ 2.1 -ปัญหาความขดั แย้งต่าง

ความขัดแย้ง เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ตัวเอง ๆ ระหวา่ งบคุ คลเป็น

ครอบครัว เพศศึกษาและมีทักษะใน เรือ่ งที่ไมส่ ามารถ

การดำเนินชวี ิต หลกี เลย่ี งได้ แต่เรา

ตัวชี้วดั ท่ี ป.5/3 สามารถปรบั ตัวเพื่อ

โครงสรา้ งการสอน วิชา สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา ......... เวลา 20 ชั่วโมง

หน่วยท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
3 การเรียนรู้/เรื่อง ตัวช้ีวัด (ช่วั โมง) คะแนน

ระบพุ ฤตกิ รรมทีพ่ ึงประสงค์ และไม่ ยอมรับกันได้การทเี่ รา 15

พงึ ประสงค์ในการแก้ไขปัญหาความ สามารถแก้ไขปัญหา

ขดั แย้งในครอบครัวและกลุ่มเพอื่ น ความขดั แย้งไดน้ นั้ ต้องมี

พฤติกรรม

คือ ยอมรบั ฟงั ความ

คดิ เห็นของผู้อ่นื คิดใน

แง่บวก

สอ่ื สารทางบวกทัง้ วาจา

และการแสดงออกทาง

กายและยึดหลักศีลธรรม

และคณุ ธรรมประจำใจ

สอบกลางภาคเรียนท่ี 1 (ส.10) หมายเหต.ุ ........ไม่มีการสอบกลางภาคเรยี น

มาตรฐานท่ี พ 3.1

การเคลอื่ นไหว เข้าใจมีทักษะในการเคลื่อนไหว -การศึกษาประวตั ิ 3
การออกกำลงั
กาย การเลน่ กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และ ประโยชน์และความ (ส.11 -ส.13)
เกม กีฬาไทย
และกฬี าสากล กฬี า ปลอดภัยในการเลน่ กีฬา

-ทักษะเบอื้ งต้น ตวั ชี้วัดท่ี ป.5/3 ว่ายนำ้ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อ
การว่ายนำ้
เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท เปน็ ประโยชนล์ ะเป็น

บุคคลและประเภททีมได้อยา่ งละ1 พื้นฐานในการเล่นกีฬา

ชนิด ว่ายนำ้ ตอ่ ไป

 ดำน้ำเกบ็ ของ

โครงสรา้ งการสอน วิชา สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา ......... เวลา 20 ช่ัวโมง

หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
การเรยี นรู้/เรื่อง ตัวชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน

มาตรฐานที่ พ 3.1 2 15
(ส.14 -ส.15)
-ทักษะเบ้ืองต้น เข้าใจมที ักษะในการเคล่ือนไหว -ทักษะเบือ้ งต้นต่าง ๆ มี

การว่ายน้ำ กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และ ความสำคญั ในการ

 ปลาดาวหาย กฬี า เลน่ กีฬาวา่ ยนำ้

ตัวช้วี ดั ที่ ป.5/3

เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท

บุคคลและประเภททีมได้อย่างละ1

ชนิด

มาตรฐานท่ี พ 3.1

-ทกั ษะเบือ้ งตน้ เข้าใจ มีทักษะในการเคลือ่ นไหว -การศึกษาความพร้อม 3 15
การวา่ ยน้ำ
 ปลาดาวควำ่ กจิ กรรมทางกายการเล่นเกม และ ของร่างกายจะชว่ ยให้ (ส.16 -ส.17)

กฬี า ตนเองปรับปรงุ ความ

ตวั ช้ีวดั ท่ี ป.5/1 บกพร่องของร่างกายท่ี

ควบคมุ ตนเองเมื่อใช้ทักษะการ ทราบใหด้ ขี น้ึ ได้ และมี

เคลอื่ นไหวในลักษณะผสมผสานไดท้ ง้ั ความจำเป็นสำหรับผู้ที่

แบบอยกู่ ับท่ี เคล่ือนที่ และใช้ จะเล่นกีฬาว่ายน้ำ อย่าง

อปุ กรณ์ประกอบ ย่ิง

โครงสร้างการสอน วิชา สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5

ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา ......... เวลา 20 ช่ัวโมง

หนว่ ยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
การเรียนรู้/เรอ่ื ง ตวั ชี้วัด (ชวั่ โมง) คะแนน

มาตรฐานท่ี พ 3.1 2 15
(ส.18 -ส.19)
-ทกั ษะเบื้องต้น เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว -การศึกษาเกยี่ วกบั การ

การว่ายนำ้ กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และ เคลอ่ื นท่ีในการเล่นกีฬา

 แมงกะพรุน กฬี า วา่ ยนำ้ เป็นสงิ่ สำคญั เพื่อ

ตัวชี้วดั ที่ ป.5/3 เปน็ ประโยชน์และเป็น

เล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภท พ้ืนฐานในการเล่นกฬี า

บุคคลและประเภททีมได้อยา่ งละ1 ว่ายนำ้ ต่อไป

ชนดิ

รวมภาคเรียนท่ี 1 20 100

ภาคเรียนที่ 1 / ........ โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา สปั ดาห์ที่ 1
กลุม่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศึกษา
หนว่ ยการเรยี นท่ี 1 เรยี นรู้ตวั เรา แผนการจดั การเรียนรู้ ด้วงเสน
จำนวน 1 คาบ
ช่ือผสู้ อน นายธนวฒั น์
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5
เรอ่ื ง ระบบยอ่ ยอาหาร

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานที่ พ 1.1

เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์

ตวั ช้วี ัดที่ ป. 5/1

อธบิ ายความสำคญั ของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายที่มีผลตอ่ สุขภาพการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการ

ตวั ชว้ี ดั ที่ ป.5/2

อธิบายวธิ ดี ูแลระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้ทำงานตามปกติ

2. สาระสำคัญ :

รา่ งกายของเราประกอบอวยั วะหลายๆอวยั วะท่ีทำงานรว่ มกันเป็นระบบโดยแบ่งออกเป็นหลายระบบดว้ ยกนั ถ้าระบบใด
ทำงานผดิ ปกติไปย่อมทำให้ระบบอ่นื มคี วามผิดปกติเกิดขึ้นตลอดจนวิธกี ารดแู ลรกั ษาระบบในร่างกายอย่างถูกต้อง

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.อธิบายความหมายและความสำคญั ของระบบต่างๆ ของร่างกายอยา่ งถูกต้องได้
2.ตระหนักถึงความสำคัญของระบบตา่ งๆของร่างกาย
3.ยกตวั อย่างระบบและอวัยวะที่สำคญั ของระบบร่างกายอย่างถกู ต้องได้

4. สาระการเรยี นรู้

1.ระบบตา่ งๆ ของร่างกาย
- ระบบยอ่ ยอาหาร
- ความสาคญั ของระบบย่อยอาหาร
- หนา้ ทข่ี องระบบยอยอาหาร

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1

ขั้นเตรยี มก่อนนำเข้าสู่บทเรียน

1.ครูและนักเรียนรว่ มทำความรู้จักและสร้างความคุน้ เคยระหว่างกัน
2.ครูแนะนำเก่ียวกบั ระเบียบและมารยาทในการปฏบิ ัติกจิ กรรมร่วมกบั ผู้อน่ื ใหน้ ักเรยี นทราบ
3.นักเรยี นทำแบบทดสอบความรู้ก่อนการเรยี นหนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรียนรตู้ ัวเรา รว่ มกัน โดยครูอ่าน
คำชแ้ี จงให้นักเรียนฟัง เพ่ือเป็นการประเมินพ้ืนความรู้

ขนั้ ที่ 1: นำเข้าสบู่ ทเรียน

•ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั พดู คยุ ความเขา้ ใจเบ้ืองต้นเกย่ี วกับระบบตา่ งๆของรา่ งกาย โดยให้นกั เรยี นรว่ มกัน

ตอบคำถามในประเด็นต่างๆ

ขนั้ ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้

1.นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–5 คน รว่ มกันพูดคยุ ถึงความหมายและความสำคัญของระบบ

ต่างๆของร่างกาย และเขียนสรุปเปน็ แผนท่ีความคดิ

2.นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอแผนที่ความคิดทห่ี น้าชนั้ เรียน โดยครใู ห้ความรแู้ ละข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม

ขั้นท่ี 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์

• นักเรยี นเขยี นความหมายและความสำคัญระบบตา่ งๆของร่างกายแลว้ บนั ทึกลงใน
สมดุ

ข้ันที่ 4: การนำไปใช้

• นักเรยี นนำความรู้ที่ไดจ้ ากการเรยี นไปเลา่ ให้ผปู้ กครองฟงั

ข้ันท่ี 5: สรปุ ความรู้

• ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ เรอ่ื ง ระบบต่างๆของร่างกาย

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมินผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ -กิจกรรมฝึกทักษะ 80% ขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ น

-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝกึ หดั เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ น

รายบคุ คล/กลุ่ม และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมิน

สุขศึกษาและพลศึกษา

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต 80% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน
รบั ผิดชอบตอ่ งานทส่ี ง่ั และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน
งานได้ทนั ตามท่ีกำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมุ่งมัน่ ในการ
ทำงาน

7. ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ :

1.ภาพการเจริญเติบโตของบุคคลต้ังแต่วยั เด็กวยั รนุ่ และวยั ผ้ใู หญ่
2.ภาพถา่ ยในวัยเด็กและวัยปัจจุบนั ของนักเรยี น
3.หนังสือเรียนสาระการเรียนรูพ้ น้ื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บริษัท สำนักพิมพว์ ัฒนาพานิช
4.สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 5 บริษทั สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด
5.แบบฝกึ หัด สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 5 บริษัท สำนักพิมพ์วฒั นาพานชิ จำกัด

8.กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ...................................................ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

ภาคเรยี นท่ี 1 / ........ โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา สัปดาหท์ ่ี 2
กลมุ่ สาระ สุขศึกษาและพลศกึ ษา
หน่วยการเรียนท่ี 1 เรียนรู้ตัวเรา แผนการจดั การเรียนรู้ ดว้ งเสน
จำนวน 1 คาบ
ชือ่ ผสู้ อน นายธนวัฒน์
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
เรอ่ื ง ระบบยอ่ ยอาหาร

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐานท่ี พ 1.1

เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์

ตัวชีว้ ดั ท่ี ป. 5/1

อธบิ ายความสำคัญของระบบยอ่ ยอาหารและระบบขับถา่ ยท่ีมีผลต่อสขุ ภาพการเจริญเตบิ โตและ
พฒั นาการ

ตัวชวี้ ัดท่ี ป.5/2

อธิบายวธิ ีดูแลระบบย่อยอาหารและระบบขับถา่ ยใหท้ ำงานตามปกติ

2. สาระสำคัญ :

รา่ งกายของเราประกอบอวยั วะหลายๆอวยั วะทที่ ำงานรว่ มกนั เปน็ ระบบโดยแบ่งออกเป็นหลายระบบดว้ ยกนั ถา้ ระบบใด
ทำงานผิดปกติไปย่อมทำใหร้ ะบบอืน่ มีความผดิ ปกติเกิดข้นึ ตลอดจนวธิ ีการดแู ลรักษาระบบในรา่ งกายอยา่ งถูกต้อง

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1.อธบิ ายความหมายและความสำคัญของระบบต่างๆ ของร่างกายอย่างถูกต้องได้
2.ตระหนกั ถึงความสำคัญของระบบต่างๆของรา่ งกาย
3.ยกตวั อย่างระบบและอวยั วะท่ีสำคัญของระบบรา่ งกายอย่างถกู ต้องได้

4. สาระการเรียนรู้:

1.ระบบตา่ งๆ ของรา่ งกาย
- ระบบยอยอาหาร
- ความสาคญั ของระบบย่อยอาหาร
- หนา้ ทขี่ องระบบยอยอาหาร

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 2

ขัน้ เตรยี มก่อนนำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1.ครูและนักเรียนร่วมทำความรู้จกั และสรา้ งความคุ้นเคยระหว่างกนั
2.ครูแนะนำเกี่ยวกับระเบียบและมารยาทในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมรว่ มกบั ผู้อ่นื ใหน้ ักเรียนทราบ
3.นักเรยี นทำแบบทดสอบความรู้ก่อนการเรยี นหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรยี นร้ตู วั เรา ร่วมกัน โดยครอู ่าน

คำชแ้ี จงใหน้ ักเรียนฟงั เพ่ือเป็นการประเมินพน้ื ความรู้

ข้ันท่ี 1: นำเข้าสู่บทเรียน

•ครูและนักเรียนร่วมกันพดู คุย ความเขา้ ใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับระบบตา่ งๆของร่างกาย โดยใหน้ ักเรยี นร่วมกัน

ตอบคำถามในประเด็นต่างๆ

ขนั้ ที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3–5 คน รว่ มกนั พูดคุยถึงความหมายและความสำคัญของระบบ

ตา่ งๆของร่างกาย และเขียนสรปุ เปน็ แผนท่คี วามคดิ

2.นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแผนที่ความคดิ ท่หี น้าชั้นเรยี น โดยครูให้ความรูแ้ ละข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

ข้นั ท่ี 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์

• นักเรียนเขยี นความหมายและความสำคัญระบบต่างๆของรา่ งกายแล้วบันทึกลงใน

สมดุ

ขัน้ ท่ี 4: การนำไปใช้

• นกั เรยี นนำความรู้ที่ได้จากการเรยี นไปเล่าให้ผู้ปกครองฟงั

ขน้ั ที่ 5: สรปุ ความรู้

• ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ เรื่อง ระบบตา่ งๆของรา่ งกาย

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมนิ ผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น

-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหดั เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมินทักษะ 80% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่าน

รายบุคคล/กลุ่ม และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สุขศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลักษณะนิสัย (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต 80% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น
รับผดิ ชอบต่องานที่ส่ังและส่ง พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน
งานได้ทนั ตามท่ีกำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รียนรู้
3. สงั เกตจากการมุง่ ม่ันในการ
ทำงาน

7. ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ :

1.ภาพการเจริญเติบโตของบุคคลตงั้ แต่วยั เด็กวยั รุ่นและวยั ผใู้ หญ่
2.ภาพถา่ ยในวยั เด็กและวยั ปัจจบุ นั ของนักเรยี น
3.หนังสือเรียนสาระการเรียนรพู้ น้ื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ทั สำนักพมิ พ์วฒั นาพานชิ
4.สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 5 บริษัท สำนักพิมพ์วฒั นาพานิช จำกัด
5.แบบฝกึ หัด สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ัท สำนกั พมิ พว์ ัฒนาพานชิ จำกัด

8.กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชือ่ ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

ภาคเรยี นท่ี 1 / ........ โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา สัปดาห์ที่ 3
กลมุ่ สาระ สุขศกึ ษาและพลศึกษา
หน่วยการเรียนที่ 1 เรียนรูต้ วั เรา แผนการจัดการเรยี นรู้ ดว้ งเสน
จำนวน 1 คาบ
ชื่อผสู้ อน นายธนวัฒน์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
เรอื่ ง ระบบขบั ถ่าย

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี พ 1.1

เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์

ตวั ช้ีวัดท่ี ป. 5/1

อธบิ ายความสำคัญของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายที่มีผลต่อสขุ ภาพการเจรญิ เติบโตและ
พัฒนาการ

ตัวช้ีวดั ที่ ป.5/2

อธบิ ายวิธดี แู ลระบบย่อยอาหารและระบบขับถา่ ยใหท้ ำงานตามปกติ

2. สาระสำคัญ :

ร่างกายของเราประกอบอวัยวะหลายๆอวยั วะที่ทำงานร่วมกันเป็นระบบโดยแบ่งออกเป็นหลายระบบดว้ ยกันถา้ ระบบใด
ทำงานผิดปกติไปย่อมทำใหร้ ะบบอนื่ มคี วามผดิ ปกตเิ กิดขนึ้ ตลอดจนวิธกี ารดแู ลรักษาระบบในรา่ งกายอย่างถูกต้อง

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1.อธบิ ายความหมายและความสำคญั ของระบบตา่ งๆ ของร่างกายอยา่ งถูกต้องได้
2.ตระหนกั ถึงความสำคัญของระบบต่างๆของรา่ งกาย
3.ยกตวั อยา่ งระบบและอวยั วะท่สี ำคญั ของระบบรา่ งกายอยา่ งถูกต้องได้

4. สาระการเรียนรู้

1.ระบบต่างๆ ของรา่ งกาย
- ระบบขบั ถา่ ย
- ความสาคญั ของระบบขับถ่าย
- หนา้ ทข่ี องระบบขบั ถา่ ย

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 3

ขน้ั เตรียมก่อนนำเขา้ สูบ่ ทเรียน

1.ครูและนักเรียนร่วมทำความรู้จกั และสร้างความคนุ้ เคยระหวา่ งกนั
2.ครแู นะนำเก่ียวกับระเบียบและมารยาทในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมร่วมกบั ผู้อน่ื ให้นักเรยี นทราบ

3.นกั เรียนทำแบบทดสอบความรูก้ ่อนการเรยี นหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรยี นรตู้ วั เรา ร่วมกนั โดยครูอา่ น

คำชแ้ี จงใหน้ ักเรยี นฟัง เพื่อเป็นการประเมินพ้ืนความรู้

ขน้ั ที่ 1: นำเข้าสบู่ ทเรียน

•ครูและนักเรยี นร่วมกนั พดู คุย ความเขา้ ใจเบ้ืองตน้ เกยี่ วกับระบบต่างๆของรา่ งกาย โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกนั

ตอบคำถามในประเดน็ ต่างๆ

ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3–5 คน ร่วมกนั พูดคุยถึงความหมายและความสำคญั ของระบบ

ต่างๆของร่างกาย และเขียนสรุปเป็นแผนทค่ี วามคดิ

2.นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอแผนท่คี วามคิดท่ีหน้าชัน้ เรยี น โดยครูใหค้ วามรู้และข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

ขนั้ ที่ 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์

• นกั เรยี นเขียนความหมายและความสำคัญระบบต่างๆของร่างกายแล้วบันทึกลงใน

สมุด

ข้นั ท่ี 4: การนำไปใช้

• นกั เรียนนำความรทู้ ี่ได้จากการเรยี นไปเลา่ ใหผ้ ้ปู กครองฟงั

ข้นั ที่ 5: สรุปความรู้

• ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเร่ือง ระบบตา่ งๆของร่างกาย

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความรคู้ วามเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขึ้นไป ถือว่าผ่าน

-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมิน

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ น

รายบุคคล/กลมุ่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมิน

สุขศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต 80% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ น
รับผดิ ชอบตอ่ งานทีส่ งั่ และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน
งานไดท้ ันตามท่ีกำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมุ่งมน่ั ในการ
ทำงาน

7. ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ :

1.ภาพการเจริญเติบโตของบุคคลต้ังแต่วยั เด็กวยั ร่นุ และวยั ผ้ใู หญ่
2.ภาพถา่ ยในวัยเด็กและวัยปัจจบุ ันของนักเรยี น
3.หนังสือเรียนสาระการเรียนรพู้ น้ื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ัท สำนักพิมพว์ ัฒนาพานิช
4.สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 5 บริษทั สำนกั พิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด
5.แบบฝกึ หัด สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ัท สำนักพิมพ์วฒั นาพานิช จำกดั

8.กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา สัปดาหท์ ่ี 4

แผนการจัดการเรยี นรู้ ดว้ งเสน
จำนวน 1 คาบ
ภาคเรียนท่ี 1 / ......... ช่อื ผสู้ อน นายธนวฒั น์

กลมุ่ สาระ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5

หน่วยการเรียนที่ 1 เรยี นรู้ตวั เรา เรอ่ื ง ระบบขบั ถ่าย

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐานที่ พ 1.1

เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์

ตัวชีว้ ัดที่ ป. 5/1

อธิบายความสำคัญของระบบย่อยอาหารและระบบขบั ถา่ ยที่มีผลตอ่ สขุ ภาพการเจริญเตบิ โตและ
พัฒนาการ

ตวั ช้ีวดั ท่ี ป.5/2

อธิบายวธิ ีดูแลระบบย่อยอาหารและระบบขับถา่ ยให้ทำงานตามปกติ

2. สาระสำคญั :

รา่ งกายของเราประกอบอวัยวะหลายๆอวัยวะทที่ ำงานร่วมกนั เปน็ ระบบโดยแบ่งออกเป็นหลายระบบดว้ ยกนั ถา้ ระบบใด
ทำงานผดิ ปกติไปย่อมทำใหร้ ะบบอ่ืนมคี วามผดิ ปกตเิ กิดขึ้นตลอดจนวิธกี ารดูแลรักษาระบบในรา่ งกายอยา่ งถูกต้อง

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1.อธิบายความหมายและความสำคัญของระบบต่างๆ ของร่างกายอยา่ งถูกต้องได้
2.ตระหนักถึงความสำคัญของระบบตา่ งๆของรา่ งกาย
3.ยกตวั อย่างระบบและอวยั วะทส่ี ำคญั ของระบบรา่ งกายอย่างถูกต้องได้

4. สาระการเรียนรู้

1.ระบบต่างๆ ของร่างกาย
- ระบบขบั ถา่ ย
- ความสาคญั ของระบบขับถ่าย
- หนา้ ทขี่ องระบบขบั ถา่ ย

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 4

ขัน้ เตรยี มกอ่ นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น

1.ครูและนักเรยี นร่วมทำความร้จู กั และสร้างความคุน้ เคยระหวา่ งกนั
2.ครูแนะนำเกี่ยวกับระเบียบและมารยาทในการปฏิบัติกจิ กรรมร่วมกบั ผู้อนื่ ให้นักเรียนทราบ
3.นกั เรียนทำแบบทดสอบความร้กู ่อนการเรยี นหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรียนรู้ตัวเรา ร่วมกนั โดยครอู ่าน

คำชแ้ี จงใหน้ ักเรียนฟงั เพ่ือเป็นการประเมินพน้ื ความรู้

ข้ันท่ี 1: นำเข้าสู่บทเรียน

•ครูและนักเรียนร่วมกันพดู คุย ความเขา้ ใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับระบบตา่ งๆของร่างกาย โดยใหน้ ักเรยี นร่วมกัน

ตอบคำถามในประเด็นต่างๆ

ขนั้ ที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3–5 คน รว่ มกันพดู คุยถึงความหมายและความสำคัญของระบบ

ตา่ งๆของร่างกาย และเขียนสรปุ เปน็ แผนท่คี วามคดิ

2.นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแผนที่ความคดิ ท่หี น้าชั้นเรยี น โดยครูให้ความรูแ้ ละข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

ข้นั ท่ี 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์

• นักเรียนเขยี นความหมายและความสำคัญระบบต่างๆของรา่ งกายแล้วบันทึกลงใน

สมดุ

ขัน้ ท่ี 4: การนำไปใช้

• นกั เรยี นนำความรู้ที่ได้จากการเรยี นไปเล่าให้ผู้ปกครองฟงั

ขน้ั ที่ 5: สรปุ ความรู้

• ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ เรื่อง ระบบตา่ งๆของรา่ งกาย

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมนิ ผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น

-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหดั เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมินทักษะ 80% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่าน

รายบุคคล/กลุ่ม และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สุขศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลักษณะนิสัย (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต 80% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น
รับผดิ ชอบต่องานที่ส่ังและส่ง พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน
งานได้ทนั ตามท่ีกำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รียนรู้
3. สงั เกตจากการมุง่ ม่ันในการ
ทำงาน

7. ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ :

1.ภาพการเจรญิ เตบิ โตของบุคคลตั้งแตว่ ัยเด็กวยั ร่นุ และวยั ผู้ใหญ่
2.ภาพถา่ ยในวยั เดก็ และวัยปจั จบุ ันของนักเรยี น
3.หนังสือเรียนสาระการเรียนรพู้ ้ืนฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บริษัท สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานิช
4.สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 5 บริษทั สำนกั พิมพ์วฒั นาพานิช จำกัด
5.แบบฝกึ หัด สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 5 บริษัท สำนกั พมิ พ์วัฒนาพานชิ จำกดั

8.กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผูส้ อน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ...................................................ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 5

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 1 / ......... ชื่อผสู้ อน นายธนวัฒน์ ดว้ งเสน
กลุ่มสาระ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นที่ 2 ชีวติ และครอบครัว เร่อื ง ความหมายและลกั ษณะพฒั นาการทางเพศ

1. มาตรฐานการเรยี นรู้:
มาตรฐานท่ี พ 2.1

เขา้ ใจและเหน็ คุณค่าตวั เอง ครอบครัว เพศศกึ ษาและมที ักษะในการดำเนนิ ชวี ิต

ตัวช้ีวัดที่ ป.5/1

อธบิ ายการเปลยี่ นแปลงทางเพศ และปฏบิ ตั ิตนได้เหมาะสม

2. สาระสำคญั :

เดก็ ชายอายุประมาณ 12 – 13 ปี เดก็ หญงิ อายปุ ระมาณ 10 - 11 ปี จะเปน็ ชว่ งทเี่ ข้าสู่วยั เดก็ ตอนปลายหรือ วยั
แรกรุน่ โดยจะมกี ารเตบิ โตของร่างกายอย่างรวดเรว็ ท้ังในดา้ นสว่ นสูงและนำ้ หนักเพราะต่อมเพศภายในร่างกายจะผลติ ฮฮร์
โมนทเ่ี ป็นตวั เร่งการเจรญิ เติบโต ส่งผลให้เด็กวัยนี้มสี ่วนสงู เพ่มิ ขึ้นจากเดมิ ซ่งึ เปน็ เรื่องปกตขิ องเด็กชายและเด็กหญิงที่
กำลงั จะยา่ งเขา้ สู่วยั รนุ่

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1.อธบิ ายการเปล่ยี นแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคมในวยั แรกรุ่นและวัยรนุ่ อยา่ งถูกตอ้ งได้
2.ร่วมศึกษาและปฏบิ ัติกจิ กรรมการเรยี นรู้เกย่ี วกับความหมายและความสำคญั และลักษณะของพฒั นาการทางเพศด้วย

ความสนใจ
3.แสดงทกั ษะในการปรบั ตัวเม่อื เข้าสูว่ ัยแรกรุ่นและวัยรุน่ อย่างถกู ต้องได้

4. สาระการเรียนรู้

1.พฒั นาการทางเพศ
-ความหมายและลักษณะพัฒนาการทางเพศ

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1

ขั้นเตรยี มก่อนนำเข้าสบู่ ทเรียน

1. ครูช้ีแจงเก่ยี วกบั วตั ถุประสงคข์ องการทำแบบทดสอบความรู้ก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ ท่ี 2 ชีวติ และ
ครอบครวั ใหน้ กั เรยี นทราบร่วมกันและทำการทดสอบความรู้ในเวลาที่ครูกำหนด

ข้ันท่ี 1: นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1.ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพวัยรุ่นชายและวัยร่นุ หญงิ แลว้ ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นท่มี ีต่อภาพดงั กลา่ ว
2.นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถามนำเขา้ สู่บทเรียนตัวอย่างเช่น

- วยั ร่นุ เปน็ วยั ทอ่ี ย่ใู นชว่ งอายกุ ป่ี ี (อายรุ ะหว่าง 13 – 21 ป)ี

- นักเรียนคิดว่าวัยร่นุ มีลักษณะเปน็ อยา่ งไรบ้าง (ตอบโดยอิสระ)

ข้ันท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้

1.ครูให้นกั เรยี นรู้เรื่องพัฒนาการทางเพศและการปฏบิ ัติตนทเ่ี หมาะสม โดยใชภ้ าพประกอบและ

ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นในเรือ่ งต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวกับวัยรนุ่ โดยอสิ ระ

2.ครูให้ความรู้เรื่อง พัฒนาการทางเพศและการปฏบิ ตั ติ นที่เหมาะสม ดงั รายละเอียดในหนงั สือ

เรียนหรอื ในสอ่ื การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา และใหน้ กั เรียนสอบถามในประเด็นทนี่ ักเรียน

ไม่เขา้ ใจ

ขั้นที่ 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์

1.นักเรียนผลดั กนั เปลี่ยนกันตัง้ คำถามและตอบคำถามในเรอื่ งที่เก่ียวขอ้ งกบั พัฒนาการทางเพศ

และการปฏบิ ตั ติ นให้เหมาะสม

2.นกั เรียนร่วมกันศกึ ษาคน้ ควา้ หาความร้เู ร่ือง พัฒนาการทางเพศและการปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสม

จากหอ้ งสมุดหรอื อนิ เทอรเ์ น็ตเพม่ิ เติมนอกเวลาเรยี น

3.ครูให้นักเรยี นร่วมกันศกึ ษาภาพประกอบลกั ษณะการเปลย่ี นแปลงของวยั รนุ่ เกี่ยวกบั การ

เปลี่ยนแปลงทางร่างกายและภาพประกอบการปฏิบตั ติ นทเี่ หมาะสมของวัยรุ่นท่ีครเู ตรียมมา

ขั้นที่ 4: การนำไปใช้

•นกั เรยี นสำรวจตนเองว่า มกี ารเปลี่ยนแปลงและพฒั นาการในดา้ นร่างการตา่ ง ๆ อยา่ งไรบ้างโดย

บนั ทกึ ลงในสมุดบันทึก

ขั้นที่ 5: สรุปความรู้

•ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเรื่อง พฒั นาการทางเพศ

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ -กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ข้นึ ไป ถือว่าผ่าน

-ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝกึ หดั เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สงั เกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมินทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น

รายบคุ คล/กลมุ่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สุขศกึ ษาและพลศึกษา

คุณลกั ษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสงั เกต 80% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน

รบั ผิดชอบต่องานทสี่ ่ังและสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ

งานไดท้ นั ตามที่กำหนด

2. สังเกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่นั ในการ

ทำงาน

7. ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ :

1.ภาพการเจริญเติบโตของบุคคลตงั้ แต่วยั เด็กวัยรนุ่ และวยั ผู้ใหญ่
2.ภาพถา่ ยในวัยเด็กและวัยปัจจบุ นั ของนักเรยี น
3.หนังสือเรียนสาระการเรียนรพู้ น้ื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บริษัท สำนักพิมพ์วฒั นาพานิช
4.สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 5 บรษิ ัท สำนกั พิมพ์วัฒนาพานิช จำกัด
5.แบบฝกึ หัด สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ัท สำนักพมิ พว์ ัฒนาพานชิ จำกัด

8.กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชือ่ ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ี่ 6

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / ......... ช่ือผสู้ อน นายธนวัฒน์ ด้วงเสน

กล่มุ สาระ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นที่ 2 ชีวติ และครอบครวั เรอ่ื ง พัฒนาการทางเพศและการปฏิบัตติ นที่

เหมาะสม

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐานที่ พ 2.1

เข้าใจและเหน็ คณุ คา่ ตัวเอง ครอบครัว เพศศึกษาและมีทักษะในการดำเนนิ ชวี ติ

ตวั ชีว้ ัดท่ี ป.5/1

อธบิ ายการเปลยี่ นแปลงทางเพศ และปฏบิ ตั ิตนไดเ้ หมาะสม

2. สาระสำคัญ

พฒั นาการทางเพศเป็นการเปลี่ยนแปลงในส่วนทีเ่ กี่ยวกับแรงผลักดันทางเพศ บทบาททางเพศและพฤติกรรมทาง
เพศต้ังแต่วัยทารกถงึ วยั ชรา นักเรียนซึง่ อยู่ในวยั เดก็ ตอนปลายจึงควรไดเ้ รยี นร้ถู ึงการเปลี่ยนแปลงท่เี กดิ ขน้ึ ในอนาคตอนั ใกล้
ในวัยทีก่ ำลงั ย่างก้าวเขา้ สวู่ ยั รุ่นต่อไป

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1.อธิบายการเปล่ยี นแปลงทางดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์และสังคมในวัยแรกรนุ่ และวัยรนุ่ อยา่ งถูกตอ้ งได้
2.แสดงทัศนคติที่ดตี ่อการเปล่ียนแปลงเมอ่ื เข้าสูว่ ยั แรกรุ่นและวัยรนุ่
3.แสดงทักษะในการปรับตัวเมือ่ เข้าสวู่ ยั แรกรุ่นและวยั รนุ่ อยา่ งถกู ต้องได้

4. สาระการเรียนรู้

1.พัฒนาการทางเพศ
-พฒั นาการทางเพศและการปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสม
-การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นรา่ งกาย

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1

ขั้นท่ี 1: นำเข้าสบู่ ทเรยี น

1.นกั เรียนอาสาสมคั รออกมานำเสนอรายงานผลการคน้ คว้าและการอ่านทบทวนเร่อื ง
ความหมายและลกั ษณะของพัฒนาการทางเพศที่ได้รับมอบหมายในคาบเรยี นที่ผ่านมา

2.นักเรยี นร่วมกนั ตอบคำถามนำเขา้ สบู่ ทเรยี นตวั อย่างเชน่
- การเปล่ียนแปลงดา้ นต่าง ๆ ทเ่ี กิดข้นึ กบั วัยรนุ่ มผี ลต่อการปรับตัวของวยั รนุ่ หรอื ไม่หร

หลักการคบเพือ่ นกับวธิ ีการปรบั ตัวเม่ือเข้าสู่วยั รุน่ เหมือนหรือแตกตา่ งกันอย่างไร

ข้ันที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้

•ครใู ห้ความรเู้ ร่ือง พัฒนาการทางเพศและการปฏบิ ัติตนที่เหมาะสมดังรายละเอียดในหนงั สือเรยี น

ขนั้ ท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์

•นักเรยี นรว่ มกันปฏิบตั กิ จิ กรรมชว่ งวยั รนุ่ ทผี่ ันผ่านหาผู้เลา่ ขานประสบการณ์ท่นี านมาดงั

รายละเอยี ดในหนงั สือเรียน

ขนั้ ท่ี 4: การนำไปใช้

•มอบหมายใหน้ ักเรียนนำวิธกี ารปฏิบตั ติ นท่เี หมาะสมเมื่อเกิดพฒั นาการทางเพศที่ถกู ต้องไปใชใ้ น

ชวี ิตประจำวันโดยบอกความร้แู ละคำแนะนำเพ่ิมเติมจากผู้ปกครอง

ขัน้ ที่ 5: สรุปความรู้

•ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษาและการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมโดยให้นักเรยี น

บนั ทึกความรโู้ ดยสงั เขปลงในสมุดบันทึก

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมินผล

ความรู้ความเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝกึ ทักษะ 80% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมินทักษะ 80% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น

รายบุคคล/กลมุ่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สุขศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสังเกต 80% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ น

รับผิดชอบตอ่ งานท่ีส่ังและส่ง พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ

งานไดท้ นั ตามที่กำหนด

2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้

3. สังเกตจากการม่งุ มัน่ ในการ

ทำงาน

7. ส่ือ/อุปกรณ์/แหลง่ การเรียนรู้ :

1..ภาพแสดงถงึ ลักษณะของการปฏิบัตติ นทเ่ี หมาะสมของวัยรุ่น
2.หนงั สือเรยี นสาระการเรียนรูพ้ น้ื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ัท สำนักพมิ พ์วฒั นาพานชิ
3.สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบูรณ์แบบ ป. 5 บรษิ ัท สำนักพิมพ์วฒั นาพานชิ จำกัด
4.แบบฝึกหัด สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ัท สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกัด

8.กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครผู สู้ อน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 7

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 1 / ........ ช่อื ผสู้ อน นายธนวฒั น์ ด้วงเสน

กลุม่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นท่ี 2 ชวี ติ และครอบครวั เรอื่ ง ครอบครวั อบอุ่น

1. มาตรฐานการเรยี นรู้:
มาตรฐานท่ี พ 2.1

เข้าใจและเห็นคณุ คา่ ตวั เอง ครอบครัว เพศศึกษาและมีทักษะในการดำเนนิ ชวี ติ

ตวั ชวี้ ัดท่ี ป.5/2

อธิบายความสำคัญของการมีครอบครวั ที่อบอุน่ ตามวฒั นธรรมไทย

2. สาระสำคญั :

ครอบครัวไทยอดีตมักมลี ักษณะเป็นครอบครัวขยายซงึ่ เปน็ ครอบครัวใหญ่ โดยครอบครวั หน่ึงมที ั้ง พอ่ แม่ ลูก ปู่
ยา่ ตา ยาย และญาตพิ ่นี ้องอนื่ ๆ อาศัยรวมกันสว่ นใหญ่พบครอบครวั ใหญใ่ นชนบทแตใ่ นปัจจุบนั พบครอบครัวทม่ี ี
ลกั ษณะเป็นครอบครัวเดีย่ วหรือครอบครวั ขนาดเล็กเพ่ิมมากขึ้นคือ สมาชิกในครอบครวั มีเฉพาะพอ่ แม่ ลูก อาศยั อยู่
รว่ มกันโดยแยกออกมาจากญาตพิ ี่น้อง สว่ นใหญ่ครอบครวั เดย่ี วพบไดม้ ากในสังคมเมือง

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1.อธบิ ายลกั ษณะของครอบครัวไทยได้อย่างถูกต้องได้
2.ตระหนกั ถึงคณุ ค่าและความสำคัญของความเป็นครอบครวั
3.แสดงทักษะในการปรบั ตัวกับครอบครวั ของตนเองอยา่ งถูกต้อง

4. สาระการเรยี นรู้ :

1.ครอบครัวทอ่ี บอ่นุ ตามวฒั นธรรมไทย
-ทกั ษะในการปรับตวั กับครอบครวั ของตนเอง

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1

ขน้ั ท่ี 1: นำเข้าสู่บทเรยี น

1.นกั เรยี นอาสาสมัครออกมานำเสนอรายงานผลการคน้ ควา้ และการอ่านทบทวนเรื่องพัฒนาการทางเพศและการ
ปฏบิ ัติตนทเี่ หมาะสมที่ได้รับมอบหมายในคาบเรียนทผี่ า่ นมา โดยครใู ห้ความรแู้ ละข้อเสนอแนะเพมิ่ เติมเพ่ือเป็น
การทบทวนความรู้

2.นักเรยี นดภู าพทแี่ สดงลักษณะของครอบครัวของคนในภมู ิภาคตา่ ง ๆ และใหน้ ักเรียนร่วมกนั สนทนาในประเด็น
ทว่ี า่ “ นกั เรียนชอบภาพครอบครวั แบบใดและทำไมจงึ คิดเช่นน้ัน”

ขัน้ ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้

1.ครูให้ความรูเ้ ร่ือง ลักษณะของครอบครวั ไทยโดยใช้ภาพประกอบและใหน้ กั เรยี นออกมาเล่าเร่ือง

ลกั ษณะของครอบครวั ที่นกั เรียนประทบั ใจ ดงั รายละเอยี ดในหนังสอื เรยี น
2.นักเรียนรว่ มกันปฏิบัติกิจกรรมครอบครวั เดี่ยวหรือครอบครัวขยาย วาดระบายสใี หส้ วยงามดงั

รายละเอียดในหนงั สอื เรยี น

ขนั้ ที่ 3: ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์

•นักเรียนรว่ มกนั ยกตวั อย่างลักษณะของครอบครัวเดย่ี วและครอบครัวขยายโดยพจิ ารณาจาก

ครอบครวั ของตนเองว่าอยู่ในประเภทใดและมสี มาชกิ เปน็ ใครบ้าง

ขน้ั ท่ี 4: การนำไปใช้

•นกั เรยี นอาสาสมัครออกมานำเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมครอบครวั เดีย่ วหรือขยายวาดระบายให้

สวยงามตามทใี่ นคาบเรยี นทีผ่ ่านมาใหเ้ พอื่ นฟงั หน้าช้นั เรียนโดยครูคอยใหค้ ำแนะนำเพิม่ เติม

ข้นั ท่ี 5: สรปุ ความรู้

•ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรทู้ ี่ได้จากการศึกษาและการปฏิบัติกิจกรรมโดยให้นกั เรยี นบนั ทึก

ความรโู้ ดยสงั เขปลงในสมุดบันทกึ

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝกึ ทักษะ 80% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน
-ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมินทักษะ 80% ขึ้นไป ถือว่าผา่ น

รายบคุ คล/กลุม่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสงั เกต 80% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน

รับผดิ ชอบตอ่ งานทส่ี งั่ และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน

งานไดท้ ันตามท่ีกำหนด

2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้

3. สังเกตจากการมงุ่ มั่นในการ

ทำงาน

7. สือ่ /อปุ กรณ์/แหล่งการเรยี นรู้ :

1.ภาพแสดงถงึ ลักษณะครอบครวั ของคนในภมู ิภาคตา่ ง ๆ

2.ภาพถ่ายในวัยเดก็ และวัยปัจจุบันของนักเรยี น

3.หนังสอื เรยี นสาระการเรียนรพู้ นื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ทั สำนักพมิ พว์ ัฒนาพานิช

4.สอื่ การเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์แบบ ป. 5 บรษิ ัท สำนกั พิมพ์วัฒนาพานิช จำกดั

5.แบบฝกึ หดั สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 5 บริษัท สำนกั พิมพว์ ัฒนาพานิช จำกัด

8.กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 8

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1 / ……... ชอ่ื ผสู้ อน นายธนวฒั น์ ด้วงเสน
กลุ่มสาระ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นท่ี 2 ชวี ติ และครอบครัว เร่อื ง ครอบครัวอบอ่นุ

1. มาตรฐานการเรยี นรู้:
มาตรฐานท่ี พ 2.1

เข้าใจและเห็นคุณค่าตวั เอง ครอบครวั เพศศึกษาและมีทักษะในการดำเนนิ ชวี ติ

ตวั ชว้ี ดั ที่ ป.5/2

อธิบายความสำคัญของการมีครอบครวั ที่อบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย

2. สาระสำคญั :

ครอบครัวไทยอดีตมักมีลกั ษณะเป็นครอบครัวขยายซึ่งเปน็ ครอบครัวใหญ่ โดยครอบครวั หนึง่ มีทั้ง พ่อ แม่ ลูก ปู่
ย่า ตา ยาย และญาตพิ ีน่ ้องอื่น ๆ อาศัยรวมกนั ส่วนใหญ่พบครอบครัวใหญใ่ นชนบทแต่ในปัจจบุ ันพบครอบครวั ท่ีมี
ลกั ษณะเป็นครอบครัวเด่ียวหรือครอบครวั ขนาดเล็กเพ่ิมมากข้นึ คือ สมาชิกในครอบครัวมีเฉพาะพอ่ แม่ ลูก อาศยั อยู่
ร่วมกันโดยแยกออกมาจากญาตพิ น่ี ้อง ส่วนใหญค่ รอบครวั เดยี่ วพบไดม้ ากในสงั คมเมอื ง

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.อธิบายลักษณะของครอบครัวไทยได้อย่างถูกต้องได้
2.ตระหนกั ถึงคณุ คา่ และความสำคญั ของความเป็นครอบครัว
3.แสดงทกั ษะในการปรับตวั กับครอบครัวของตนเองอย่างถูกตอ้ ง

4. สาระการเรยี นรู้ :

1.ครอบครัวที่อบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย
-ทักษะในการปรบั ตัวกับครอบครัวของตนเอง

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 2

ข้ันท่ี 1: นำเข้าสู่บทเรียน

1.นกั เรียนอาสาสมัครออกมานำเสนอรายงานผลการค้นควา้ และการอ่านทบทวนเรอื่ งพัฒนาการทางเพศและการ
ปฏบิ ัติตนทเ่ี หมาะสมท่ีไดร้ ับมอบหมายในคาบเรียนที่ผา่ นมา โดยครูใหค้ วามรแู้ ละขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติมเพ่ือเปน็
การทบทวนความรู้

2.นกั เรียนดูภาพทีแ่ สดงลักษณะของครอบครวั ของคนในภูมภิ าคตา่ ง ๆ และให้นกั เรียนร่วมกนั สนทนาในประเด็น
ทวี่ ่า “ นกั เรยี นชอบภาพครอบครัวแบบใดและทำไมจึงคิดเชน่ น้นั ”

ข้นั ที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.ครูใหค้ วามรู้เรือ่ ง ลกั ษณะของครอบครวั ไทยโดยใช้ภาพประกอบและให้นักเรียนออกมาเล่าเรื่อง

ลกั ษณะของครอบครวั ท่ีนักเรียนประทับใจ ดงั รายละเอียดในหนังสือเรยี น

2.นักเรยี นรว่ มกนั ปฏิบตั ิกจิ กรรมครอบครัวเดย่ี วหรือครอบครวั ขยาย วาดระบายสใี ห้สวยงามดงั

รายละเอียดในหนังสอื เรยี น

ข้ันท่ี 3: ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์

•นกั เรยี นรว่ มกันยกตวั อย่างลกั ษณะของครอบครัวเดย่ี วและครอบครวั ขยายโดยพจิ ารณาจาก
ครอบครวั ของตนเองว่าอย่ใู นประเภทใดและมีสมาชิกเปน็ ใครบา้ ง

ขั้นท่ี 4: การนำไปใช้

•นกั เรียนอาสาสมัครออกมานำเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมครอบครวั เดี่ยวหรือขยายวาดระบายให้
สวยงามตามทใี่ นคาบเรยี นทีผ่ ่านมาใหเ้ พือ่ นฟงั หนา้ ชน้ั เรยี นโดยครคู อยใหค้ ำแนะนำเพิม่ เติม

ขนั้ ที่ 5: สรปุ ความรู้

•ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความร้ทู ่ีได้จากการศึกษาและการปฏบิ ตั ิกิจกรรมโดยให้นักเรยี นบนั ทึก

ความรโู้ ดยสังเขปลงในสมุดบนั ทึก

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมินผล

ความร้คู วามเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน

-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สงั เกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ขึ้นไป ถือว่าผ่าน

รายบุคคล/กลุ่ม และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต 80% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน

รับผดิ ชอบตอ่ งานทสี่ ่ังและส่ง พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ

งานไดท้ นั ตามที่กำหนด
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้

3. สังเกตจากการมุ่งมน่ั ในการ

ทำงาน

7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้ :

1.ภาพแสดงถงึ ลกั ษณะครอบครัวของคนในภูมภิ าคตา่ ง ๆ

2.ภาพถา่ ยในวัยเดก็ และวัยปจั จุบันของนกั เรยี น

3.หนงั สือเรยี นสาระการเรยี นร้พู นื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ทั สำนักพิมพ์วฒั นาพานิช

4.ส่อื การเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์แบบ ป. 5 บริษัท สำนกั พิมพ์วฒั นาพานชิ จำกัด

5.แบบฝกึ หัด สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บริษัท สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จำกดั

8.กจิ กรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครูผู้สอน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 9

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 1 / ……... ชอื่ ผสู้ อน นายธนวฒั น์ ดว้ งเสน
กลุ่มสาระ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นที่ 2 ชวี ิตและครอบครัว เร่ือง การแกไ้ ขปัญหาความขัดแย้ง

1. มาตรฐานการเรียนรู้:
มาตรฐานที่ พ 2.1

เขา้ ใจและเหน็ คุณค่าตัวเอง ครอบครัว เพศศึกษาและมที ักษะในการดำเนนิ ชวี ิต

ตัวชว้ี ดั ที่ ป.5/3

ระบพุ ฤตกิ รรมทพี่ ึงประสงค์ และไมพ่ ึงประสงค์ในการแกไ้ ขปัญหาความขดั แย้งในครอบครวั และกลมุ่ เพื่อน

2. สาระสำคัญ :

ปญั หาความขัดแย้งตา่ ง ๆ ระหว่างบคุ คลเปน็ เร่ืองที่ไม่สามารถหลีกเล่ียงได้ แตเ่ ราสามารถปรับตวั เพื่อยอมรบั กันได้
การที่เราสามารถแก้ไขปญั หาความขัดแย้งได้น้ันต้องมีพฤติกรรมคือ ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อ่ืน คดิ ในแง่บวก
ส่อื สารทางบวกทงั้ วาจาและการแสดงออกทางกายและยดึ หลกั ศีลธรรมและคุณธรรมประจำใจ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1.อธบิ ายลกั ษณะพฤติกรรมที่พึงประสงคแ์ ละไม่พึงประสงค์ในการแกไ้ ขปญั หาอย่างถูกต้องได้
2.ตระหนกั ถึงความสำคัญของพฤติกรรมท่ีพึงประสงคแ์ ละไมพ่ ึงประสงคใ์ นการแก้ไขปัญหา
3.แสดงทกั ษะในการปฏิบัตติ นให้มพี ฤตกิ รรมทถ่ี ูกต้องเหมาะสมได้

4. สาระการเรยี นรู้ :

1.การแกไ้ ขปัญหาความขดั แย้ง
-ทกั ษะในการปฏิบัติตนให้มพี ฤติกรรมที่ถูกตอ้ ง

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1

ข้ันท่ี 1: นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1.ครูให้ยกตวั อยา่ งในเรื่องปัจจัยทก่ี ่อใหเ้ กดิ ความขัดแยง้ เพ่ือทบทวนความรูจ้ ากคาบเรยี นที่ผา่ น

ขน้ั ที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.ครใู ห้ความรู้เรอ่ื งพฤติกรรมที่พึงประสงคใ์ นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งแลว้ ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม
กลมุ่ ละ 4 – 5ปฏบิ ัติกิจกรรมแยกแยะส่ิงท่ดี เี พ่ือหลีกหนีความขัดแยง้ ดงั รายละเอียดในหนังสือเรียน

ขนั้ ท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์

•นักเรยี นนำผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมแยกแยะสง่ิ ท่ีดเี พ่ือหลกี หนคี วามขัดแย้งดังรายละเอียดในหนังสือ
เรยี น

ข้นั ที่ 4: การนำไปใช้

•นักเรยี นนำความรู้เรอ่ื ง วิธกี ารปฏิบัตติ นให้มีพฤติกรรมท่พี ึงประสงค์และไม่พงึ ประสงค์และไม่พึง

ประสงค์ในการแก้ไขปัญหาความขัดแยง้ ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจำวัน

ขั้นท่ี 5: สรุปความรู้

•ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความรู้ทไี่ ด้จากการศกึ ษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมโดยให้นักเรยี นบันทึก

ความรู้โดยสังเขปลงในสมุดบนั ทกึ

•นกั เรยี นร่วมทำแบบทดสอบความรู้

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝึกทักษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ข้ึนไป ถือว่าผ่าน

-ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สงั เกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมินทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น

รายบคุ คล/กลมุ่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สุขศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น

รบั ผิดชอบต่องานทสี่ ั่งและสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ

งานได้ทันตามท่ีกำหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรยี นรู้

3. สังเกตจากการมุ่งม่นั ในการ

ทำงาน

7. ส่อื /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้ :

1.แบบทดสอบความรู้

2.หนังสือเรียนสาระการเรยี นรู้พ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 5 บรษิ ทั สำนักพิมพว์ ฒั นาพานชิ

3.สอื่ การเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา สมบูรณ์แบบ ป. 5 บริษัท สำนกั พิมพ์วฒั นาพานิช จำกดั

4.แบบฝึกหัด สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป. 5 บริษัท สำนักพิมพ์วฒั นาพานิช จำกัด

8.กิจกรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 11

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 1 / ……... ชือ่ ผสู้ อน นายธนวัฒน์ ดว้ งเสน

กลุ่มสาระ สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เพิ่มพนู ทกั ษะการเคลอ่ื นไหว เร่ือง ทักษะเบอื้ งตน้ การว่ายนำ้ ดำนำ้ เก็บของ

1. มาตรฐานการเรียนรู้:
มาตรฐานท่ี พ 3.1

เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา

ตวั ชี้วัดที่ ป.5/3

เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภทบุคคลและประเภททีมได้อย่างละ1ชนดิ

2. สาระสำคญั :

การศกึ ษาประวตั ิประโยชนแ์ ละความปลอดภัยในการเล่นกฬี าวา่ ยน้ำเป็นสิง่ สำคัญเพื่อเป็น
ประโยชนล์ ะเปน็ พนื้ ฐานในการเล่นกฬี าวา่ ยนำ้ ต่อไป

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1.รูแ้ ละเข้าใจถึงประวัตคิ วามเปน็ มาและทักษะการดำนำ้ เก็บของได้
2.ตระหนกั ถึงประโยชน์ของการเลน่ กีฬาวา่ ยนำ้ ได้
3.แสดงทกั ษะเบื้องตน้ ของการดำน้ำเก็บของอยา่ งถกู ต้องได้

4. สาระการเรยี นรู้ :
1.ประวตั ิความเปน็ มาและทักษะการดำนำ้ เก็บของ

-ทักษะเบ้ืองต้นของการดำนำ้ เก็บของ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1

ข้นั ที่ 1: นำเขา้ ส่บู ทเรียน

1.ครูและนกั เรียนสนทนาชแ้ี จงพูดคยุ ร่วมกนั เก่ียวกับข้ันตอนการปฏิบตั กิ จิ กรรมการดำ
น้ำเกบ็ ของวิชาวา่ ยน้ำ
2.คณุ ครชู ้ีแจงกฎระเบยี บในการเรยี นการสอนวิชาวา่ ยนำ้

ขน้ั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.ครเู ล่าประวตั ิความเป็นมาของกีฬาบาสเกตบอลใหน้ กั เรียนฟงั
2.นักเรียนอบอนุ่ ร่างกาย ตามครู ด้วยทา่ ยืด–เหยยี ดกล้ามเนอ้ื ตามความเหมาะสม
3.คุณครูอธิบายพร้อมประกอบการสาธิตการปฏิบัติกจิ กรรมการดำน้ำเกบ็ ของวชิ าวา่ ยนำ้

ขั้นท่ี 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์

1.คุณครจู บั กลมุ่ ใหน้ ักเรียนกลุ่มละ 7 คน แล้วใหน้ ักเรียนทำการฝึกฝนทลี ะกลุ่มจนครบทกุ กลุม่

2.นักเรยี นร่วมกนั ปฏิบตั กิ ิจกรรมการดำนำ้ เก็บของวิชาวา่ ยน้ำโดยคณุ ครูคอยดูแลความถกู ตอ้ งของ

การปฏิบตั ิ

ขัน้ ที่ 4: การนำไปใช้

1.ในขัน้ นำไปใช้จะปฏิบตั เิ หมอื นกบั ข้ันฝกึ ฝนทกุ อย่างแตใ่ นข้ันนี้จะเป็นเกมการแข่งขันเพอ่ื ให้

นกั เรียนเกิดความสนุกสนานในการเรยี น

ขั้นท่ี 5: สรปุ ความรู้

1.นกั เรยี นคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคล่ือนไหวตามครู และรว่ มกนั ทำความสะอาด

รา่ งกาย

2.นักเรียนรว่ มพูดคุยสรปุ ผลถงึ การปฏิบตั ิกจิ กรรมการดำน้ำเกบ็ ของวิชาวา่ ยนำ้

6. การวัดและประเมนิ ผล :

การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กิจกรรมฝึกทักษะ 80% ข้นึ ไป ถือวา่ ผ่าน

-ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน

รายบคุ คล/กลุม่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมิน

สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 80% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

รับผิดชอบต่องานทสี่ ง่ั และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ

งานได้ทนั ตามที่กำหนด

2. สังเกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้

3. สังเกตจากการมงุ่ ม่นั ในการ

ทำงาน

7. ส่ือ/อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้ :

1.ภาพแสดงขัน้ ตอนการปฏบิ ัติการดำน้ำเก็บของวิชาว่ายน้ำ

2.สระวา่ ยนำ้

3.แท่งโฟม

4.นกหวดี

8.กจิ กรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ...................................................ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ่ี 12

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 1 / ……... ชอื่ ผสู้ อน นายธนวัฒน์ ด้วงเสน

กลมุ่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เพ่ิมพนู ทักษะการเคลอ่ื นไหว เรื่อง ทกั ษะเบื้องต้นการว่ายน้ำ ดำนำ้ เกบ็ ของ

1. มาตรฐานการเรยี นรู้:
มาตรฐานท่ี พ 3.1

เข้าใจ มีทกั ษะในการเคล่อื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา

ตัวช้วี ดั ที่ ป.5/3

เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภทบคุ คลและประเภททีมได้อยา่ งละ1ชนดิ

2. สาระสำคัญ :

การศึกษาประวัติประโยชนแ์ ละความปลอดภยั ในการเล่นกีฬาวา่ ยน้ำเปน็ สงิ่ สำคัญเพื่อเป็น
ประโยชนล์ ะเปน็ พ้ืนฐานในการเลน่ กีฬาวา่ ยน้ำต่อไป

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.รูแ้ ละเขา้ ใจถึงประวตั ิความเป็นมาและทักษะการดำนำ้ เก็บของได้
2.ตระหนกั ถึงประโยชนข์ องการเล่นกีฬาวา่ ยนำ้ ได้
3.แสดงทักษะเบ้ืองต้นของการดำน้ำเก็บของอย่างถกู ต้องได้

4. สาระการเรยี นรู้ :
1.การดำน้ำเก็บของ

-ทักษะเบื้องต้นของการดำนำ้ เก็บของ

5. กิจกรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 2

ขน้ั ที่ 1: นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น

1.ครูและนกั เรียนสนทนาชแ้ี จงพดู คุยรว่ มกนั เกย่ี วกับขัน้ ตอนการปฏิบัตกิ จิ กรรมการดำ
นำ้ เกบ็ ของวิชาวา่ ยนำ้
2.คณุ ครชู แี้ จงกฎระเบียบในการเรียนการสอนวิชาว่ายน้ำ

ขน้ั ที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.ครเู ลา่ ประวตั ิความเปน็ มาของกีฬาบาสเกตบอลให้นักเรยี นฟัง
2.นกั เรียนอบอนุ่ ร่างกาย ตามครู ด้วยท่ายืด–เหยยี ดกลา้ มเน้อื ตามความเหมาะสม

3.คณุ ครูอธิบายพร้อมประกอบการสาธติ การปฏิบัติกิจกรรมการดำน้ำเก็บของวิชาว่ายนำ้

ข้นั ที่ 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์

1.คุณครจู ับกลุม่ ให้นักเรียนกลุ่มละ 7 คน แลว้ ใหน้ กั เรียนทำการฝึกฝนทลี ะกลุม่ จนครบทุกกลมุ่

2.นักเรียนรว่ มกนั ปฏิบัติกจิ กรรมการดำน้ำเก็บของวิชาวา่ ยนำ้ โดยคณุ ครูคอยดแู ลความถกู ตอ้ งของ

การปฏิบตั ิ

ขั้นท่ี 4: การนำไปใช้

1.ในข้นั นำไปใชจ้ ะปฏิบตั เิ หมือนกบั ข้นั ฝึกฝนทกุ อย่างแตใ่ นขั้นนจี้ ะเปน็ เกมการแข่งขนั เพ่ือให้

นกั เรยี นเกดิ ความสนกุ สนานในการเรยี น

ขั้นท่ี 5: สรุปความรู้

1.นกั เรียนคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลอ่ื นไหวตามครู และรว่ มกนั ทำความสะอาด

รา่ งกาย

2.นกั เรียนรว่ มพดู คยุ สรปุ ผลถงึ การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการดำน้ำเกบ็ ของวิชาวา่ ยน้ำ

6. การวดั และประเมนิ ผล :

การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ ผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ -กิจกรรมฝกึ ทักษะ 80% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น

-ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

รายบุคคล/กลมุ่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลักษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต 80% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่าน

รับผดิ ชอบตอ่ งานทีส่ ง่ั และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน

งานไดท้ นั ตามท่ีกำหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้

3. สังเกตจากการมงุ่ มนั่ ในการ

ทำงาน

7. สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้ :

1.ภาพแสดงข้ันตอนการปฏิบัติการดำนำ้ เก็บของวชิ าว่ายน้ำ

2.สระวา่ ยนำ้

3.แท่งโฟม

4.นกหวดี

8.กจิ กรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงช่ือ............................................ครูผูส้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 13

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1 / ……... ช่ือผสู้ อน นายธนวฒั น์ ด้วงเสน

กลุ่มสาระ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เพ่ิมพนู ทักษะการเคลอื่ นไหว เรือ่ ง ทักษะเบอื้ งต้นการว่ายน้ำ ดำน้ำเกบ็ ของ

1. มาตรฐานการเรยี นรู้:
มาตรฐานที่ พ 3.1

เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา

ตัวช้วี ัดท่ี ป.5/3

เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภทบคุ คลและประเภททีมได้อย่างละ1ชนดิ

2. สาระสำคญั :

การศกึ ษาประวัติประโยชนแ์ ละความปลอดภัยในการเล่นกฬี าวา่ ยนำ้ เป็นสิง่ สำคัญเพื่อเป็น
ประโยชนล์ ะเปน็ พน้ื ฐานในการเล่นกีฬาว่ายนำ้ ต่อไป

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1.ร้แู ละเขา้ ใจถึงประวัติความเปน็ มาและทกั ษะการดำน้ำเก็บของได้
2.ตระหนักถึงประโยชนข์ องการเล่นกีฬาวา่ ยน้ำได้
3.แสดงทักษะเบื้องตน้ ของการดำนำ้ เกบ็ ของอยา่ งถกู ต้องได้

4. สาระการเรียนรู้ :
1.การดำนำ้ เกบ็ ของ

-ทกั ษะเบือ้ งต้นของการดำน้ำเก็บของ

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 3

ข้นั ท่ี 1: นำเข้าสู่บทเรยี น

1.ครูและนกั เรียนสนทนาช้ีแจงพูดคยุ รว่ มกันเกี่ยวกับข้ันตอนการปฏบิ ัติกจิ กรรมการดำ
นำ้ เก็บของวิชาวา่ ยน้ำ
2.คณุ ครชู แี้ จงกฎระเบยี บในการเรียนการสอนวชิ าว่ายนำ้

ขั้นที่ 2: กจิ กรรมการเรียนรู้

1.ครเู ลา่ ประวตั ิความเปน็ มาของกีฬาบาสเกตบอลให้นักเรยี นฟัง
2.นักเรียนอบอุ่นร่างกาย ตามครู ดว้ ยท่ายืด–เหยียดกล้ามเน้อื ตามความเหมาะสม
3.คุณครอู ธบิ ายพร้อมประกอบการสาธติ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการดำน้ำเกบ็ ของวชิ าวา่ ยน้ำ

ขั้นที่ 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์

1.คณุ ครจู ับกลุ่มให้นักเรียนกลมุ่ ละ 7 คน แลว้ ให้นกั เรียนทำการฝึกฝนทีละกลุ่มจนครบทุกกลุ่ม

2.นักเรยี นรว่ มกนั ปฏิบตั กิ จิ กรรมการดำนำ้ เก็บของวิชาว่ายนำ้ โดยคุณครคู อยดแู ลความถูกตอ้ งของ

การปฏิบตั ิ

ขั้นท่ี 4: การนำไปใช้

1.ในขน้ั นำไปใช้จะปฏิบตั เิ หมือนกับขั้นฝึกฝนทกุ อย่างแตใ่ นขัน้ นี้จะเปน็ เกมการแข่งขนั เพ่อื ให้

นกั เรยี นเกดิ ความสนุกสนานในการเรียน

ขั้นที่ 5: สรปุ ความรู้

1.นกั เรยี นคลายกล้ามเนื้อ (cool-down) ในท่าการเคลอ่ื นไหวตามครู และรว่ มกันทำความสะอาด

รา่ งกาย

2.นักเรียนรว่ มพูดคุยสรุปผลถงึ การปฏิบัติกิจกรรมการดำนำ้ เกบ็ ของวชิ าว่ายนำ้

6. การวัดและประเมนิ ผล :

การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธีการวัดผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมินผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่าน

-ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมิน

ทักษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

รายบุคคล/กลุม่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมิน

สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

คณุ ลักษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 80% ข้ึนไป ถือว่าผ่าน

รับผดิ ชอบต่องานทสี่ งั่ และส่ง พฤติกรรม เกณฑ์การประเมนิ

งานไดท้ นั ตามที่กำหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันในการ

ทำงาน

7. ส่ือ/อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้ :

1.ภาพแสดงขัน้ ตอนการปฏบิ ัติการดำน้ำเก็บของวิชาวา่ ยน้ำ

2.สระวา่ ยนำ้

3.แท่งโฟม

4.นกหวดี

8.กจิ กรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ...................................................ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 14

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี 1 / ……… ชือ่ ผสู้ อน นายธนวัฒน์ ดว้ งเสน

กลุ่มสาระ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 2 คาบ

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เพิม่ พนู ทกั ษะการเคลอ่ื นไหว เร่อื ง ทักษะเบอื้ งตน้ การว่ายน้ำ ปลาดาวหงาย

1. มาตรฐานการเรยี นรู้:
มาตรฐานที่ พ 3.1

เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ตัวชว้ี ดั ท่ี ป.5/3

เลน่ กฬี าไทย กีฬาสากลประเภทบุคคลและประเภททมี ได้อย่างละ1ชนดิ

2. สาระสำคญั :

ทักษะเบอ้ื งตน้ ต่าง ๆในการเลน่ กฬี าวา่ ยนำ้ เปน็ สงิ่ สำคญั เพ่ือเป็นประโยชน์ละเปน็ พน้ื ฐานในการเล่น
กฬี าว่ายนำ้ ตอ่ ไป

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.รู้และเข้าใจถงึ ทกั ษะการทำปลาดาวหงายได้
2.ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องการเล่นกฬี าว่ายนำ้ ได้
3.แสดงทกั ษะเบ้ืองตน้ ของการทำปลาดาวหงายอย่างถูกต้องได้

4. สาระการเรยี นรู้ :
1.การทำปลาดาวหงาย

-ทกั ษะเบือ้ งต้นของการทปลาดาวหงาย

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 1

ขัน้ เตรยี มกอ่ นนำเขา้ สู่บทเรยี น

1.ครูและนักเรียนทำความรู้จักและสรา้ งความคนุ้ เคยระหวา่ งกัน
2.ครูแนะนำเก่ียวกับระเบยี บและมารยาทในการปฏิบัตกิ จิ กรรมร่วมกบั ผอู้ ่นื ให้
นกั เรียนทราบ
3.นกั เรยี นทำแบบทดสอบความรู้ก่อนการเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 3 เพิม่ พนู ทักษะการ
เคลื่อนไหวรว่ มกันเพ่ือเปน็ การประเมินพนื้ ฐานความรู้

ขน้ั ท่ี 1: นำเข้าส่บู ทเรียน

1.ครแู ละนักเรียนสนทนาชแ้ี จงพูดคยุ รว่ มกนั เก่ยี วกับข้ันตอนการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการทำปลาดาวหงายวชิ าว่ายนำ้

2.คุณครชู ้แี จงกฎระเบยี บในการเรียนการสอนวิชาว่ายน้ำ

ขน้ั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้

1.นักเรยี นอบอนุ่ รา่ งกาย ตามครู ด้วยท่ายืด–เหยยี ดกลา้ มเนื้อตามความเหมาะสม

2.คุณครูอธิบายพรอ้ มประกอบการสาธติ การปฏบิ ัติกจิ กรรมการทำปลาดาวหงายวิชาวา่ ยน้ำ

ขัน้ ที่ 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์

1.คุณครูจับกล่มุ ใหน้ ักเรียนกลุม่ ละ 5 คน แลว้ ใหน้ ักเรียนทำการฝึกฝนทีละกลมุ่ จนครบ

ทกุ กล่มุ

2.นักเรียนร่วมกันปฏบิ ัติกิจกรรมการทำปลาดาวหงายวชิ าวา่ ยนำ้ โดยคุณครูคอยดูแลความ

ถกู ต้องของการปฏิบัติ

ขั้นที่ 4: การนำไปใช้

1.ในข้ันนำไปใช้จะปฏิบตั ิเหมอื นกับขนั้ ฝกึ ฝนทกุ อย่างแตใ่ นขนั้ นจ้ี ะเปน็ เกมการแข่งขัน

เพ่อื ใหน้ กั เรยี นเกดิ ความสนกุ สนานในการเรียน

ขนั้ ท่ี 5: สรุปความรู้

1.นักเรยี นคลายกล้ามเน้ือ (cool-down) ในท่าการเคลอ่ื นไหวตามครู และร่วมกนั ทำ

ความสะอาดรา่ งกาย

2.นกั เรียนร่วมพดู คยุ สรุปผลถึงการปฏิบัตกิ จิ กรรมการทำปลาดาวหงายวชิ าว่ายน้ำ

6. การวดั และประเมนิ ผล :

การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมินผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝกึ ทักษะ -กจิ กรรมฝึกทักษะ 80% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ น

-ตรวจแบบฝึกหัด -แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมิน

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -สังเกตพฤตกิ รรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น

รายบุคคล/กลุม่ และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมนิ

สขุ ศึกษาและพลศึกษา

คุณลักษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสงั เกต 80% ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น

รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทสี่ ่งั และส่ง พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน

งานได้ทันตามที่กำหนด

2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งม่นั ในการ

ทำงาน

7. ส่อื /อุปกรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้ :

1.ภาพแสดงขน้ั ตอนการปฏิบตั ิกาทำปลาดาวหงายรวิชาว่ายน้ำ
2.สระว่ายน้ำ
3.แทง่ โฟม
4.นกหวีด

8.กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู สู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ...................................................ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 15

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 1 / ……… ช่ือผสู้ อน นายธนวฒั น์ ดว้ งเสน

กล่มุ สาระ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เพม่ิ พูนทกั ษะการเคลอื่ นไหว เรื่อง ทกั ษะเบอื้ งตน้ การวา่ ยนำ้ ปลาดาวหงาย

1. มาตรฐานการเรยี นรู้:
มาตรฐานท่ี พ 3.1

เขา้ ใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา

ตวั ชี้วัดท่ี ป.5/3

เลน่ กีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบคุ คลและประเภททมี ไดอ้ ย่างละ1ชนิด

2. สาระสำคัญ :

ทกั ษะเบอ้ื งต้นตา่ ง ๆในการเลน่ กฬี าว่ายน้ำเปน็ สิ่งสำคญั เพ่ือเป็นประโยชน์ละเป็นพน้ื ฐานในการเล่นกีฬาวา่ ยนำ้
ตอ่ ไป

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1.รู้และเขา้ ใจถึงทักษะการทำปลาดาวหงายได้
2.ตระหนกั ถงึ ประโยชน์ของการเลน่ กีฬาวา่ ยน้ำได้
3.แสดงทกั ษะเบ้ืองตน้ ของการทำปลาดาวหงายอย่างถูกต้องได้

4. สาระการเรยี นรู้ :
1.การทำปลาดาวหงาย

-ทกั ษะเบือ้ งตน้ ของการทปลาดาวหงาย

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 2

ข้นั เตรียมก่อนนำเข้าสูบ่ ทเรยี น

1.ครูและนักเรยี นทำความรู้จกั และสร้างความค้นุ เคยระหว่างกนั
2.ครูแนะนำเกยี่ วกบั ระเบียบและมารยาทในการปฏิบัตกิ ิจกรรมรว่ มกับผู้อื่น ให้
นักเรยี นทราบ
3.นกั เรียนทำแบบทดสอบความรู้ก่อนการเรยี นรหู้ นว่ ยท่ี 3 เพิ่มพูนทักษะการ
เคลือ่ นไหวร่วมกันเพ่ือเป็นการประเมนิ พ้นื ฐานความรู้

ขัน้ ที่ 1: นำเขา้ สู่บทเรียน

1.ครูและนักเรียนสนทนาชแี้ จงพดู คุยรว่ มกันเกย่ี วกับขั้นตอนการปฏิบัตกิ ิจกรรมการทำปลาดาวหงายวชิ าวา่ ยน้ำ

2.คณุ ครชู ้ีแจงกฎระเบยี บในการเรยี นการสอนวิชาวา่ ยน้ำ

ขั้นท่ี 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.นักเรียนอบอ่นุ รา่ งกาย ตามครู ดว้ ยทา่ ยืด–เหยยี ดกล้ามเนอ้ื ตามความเหมาะสม

2.คุณครอู ธบิ ายพรอ้ มประกอบการสาธิตการปฏิบตั ิกิจกรรมการทำปลาดาวหงายวิชาว่ายน้ำ

ขน้ั ท่ี 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์

1.คณุ ครจู ับกล่มุ ให้นักเรียนกลุ่มละ 5 คน แล้วให้นกั เรียนทำการฝกึ ฝนทลี ะกลมุ่ จนครบ

ทุกกลุ่ม

2.นักเรียนร่วมกันปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการทำปลาดาวหงายวิชาวา่ ยน้ำโดยคณุ ครูคอยดูแลความ

ถูกต้องของการปฏบิ ัติ

ขน้ั ที่ 4: การนำไปใช้

1.ในขน้ั นำไปใชจ้ ะปฏิบัตเิ หมือนกับขนั้ ฝึกฝนทกุ อย่างแตใ่ นข้นั นีจ้ ะเป็นเกมการแข่งขัน

เพอ่ื ให้นักเรยี นเกิดความสนุกสนานในการเรยี น

ข้ันที่ 5: สรุปความรู้

1.นกั เรียนคลายกล้ามเน้ือ (cool-down) ในท่าการเคลื่อนไหวตามครู และรว่ มกนั ทำ

ความสะอาดรา่ งกาย

2.นกั เรยี นร่วมพูดคุยสรปุ ผลถงึ การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการทำปลาดาวหงายวิชาวา่ ยนำ้

6. การวัดและประเมนิ ผล :

การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝกึ ทักษะ 80% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน
-ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมิน

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -สงั เกตพฤติกรรม การทำงาน - แบบประเมนิ ทักษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น

รายบุคคล/กลุ่ม และกระบวนการทาง เกณฑ์การประเมิน

สขุ ศึกษาและพลศึกษา

คุณลกั ษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต 80% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น

รับผิดชอบตอ่ งานทส่ี ง่ั และสง่ พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน

งานได้ทันตามท่ีกำหนด

2. สังเกตจากการเรียนใฝเ่ รียนรู้

3. สังเกตจากการมงุ่ มน่ั ในการ

ทำงาน

7. สื่อ/อปุ กรณ์/แหล่งการเรยี นรู้ :

1.ภาพแสดงข้นั ตอนการปฏิบตั ิกาทำปลาดาวหงายรวิชาวา่ ยน้ำ
2.สระว่ายนำ้
3.แท่งโฟม
4.นกหวีด

8.กจิ กรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ...................................................ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 16

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1 / ……… ชือ่ ผสู้ อน นายธนวฒั น์ ดว้ งเสน

กล่มุ สาระ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เพม่ิ พูนทกั ษะการเคลอื่ นไหว เรื่อง ทกั ษะเบอื้ งตน้ การวา่ ยนำ้ ปลาดาวคว่ำ

1. มาตรฐานการเรียนรู้:
มาตรฐานที่ พ 3.1

เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า

ตัวช้วี ดั ท่ี ป.5/3

เล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบคุ คลและประเภททีมได้อย่างละ1ชนดิ

2. สาระสำคญั :

ทกั ษะเบอื้ งต้นตา่ ง ๆในการเลน่ กีฬาวา่ ยนำ้ เป็นส่ิงสำคญั เพื่อเป็นประโยชนล์ ะเปน็ พ้นื ฐานในการเล่นกีฬาว่ายนำ้
ตอ่ ไป

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.รู้และเข้าใจถงึ ทักษะการทำปลาดาวควำ่ ได้
2.ตระหนักถงึ ประโยชน์ของการเล่นกฬี าวา่ ยน้ำได้
3.แสดงทักษะเบื้องตน้ ของการทำปลาดาวควำ่ อยา่ งถูกตอ้ งได้

4. สาระการเรียนรู้ :
1.การทำปลาดาวคว่ำ

-ทักษะเบ้อื งต้นของการทปลาดาวควำ่

5. กิจกรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1

ข้นั เตรยี มก่อนนำเข้าสูบ่ ทเรียน

1.ครูและนกั เรียนทำความรู้จักและสร้างความคนุ้ เคยระหว่างกนั
2.ครแู นะนำเกี่ยวกับระเบยี บและมารยาทในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมร่วมกับผอู้ ืน่ ให้
นักเรียนทราบ
3.นักเรยี นทำแบบทดสอบความรู้ก่อนการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 3 เพม่ิ พูนทักษะการ
เคลอ่ื นไหวรว่ มกันเพ่ือเปน็ การประเมนิ พ้นื ฐานความรู้

ขั้นท่ี 1: นำเขา้ สู่บทเรยี น