ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ทัศนธาตุและองค์ประกอบศิลป์-สไลด์ : ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

สี (Color) - หนา้ 49 -

ความหมาย • ลกั ษณะของแสงที่ปรากฏแกส่ ายตา
เราใหเ้ หน็ เป็นสขี าว ดา แดง เขียว ฯลฯ
ที่มา: http://gleeson9science.pbworks.
com/f/1223705198/prism.gif • การสะทอ้ นรศั มีของแสง (Spectrum)
เขา้ ส่เู ราเอง

- หน้า 50 -

สี (Color)

การเกิดสจี ากรงุ้ กินนา้

ที่มา: http://youtube.com/watch?v=H8cln2d3CfY

- หน้า 51 -

สี (Color)

ความหมาย

ทม่ี า: http://www.bareo-isyss.com
/images/decor-guide/Paint/2.png

สีเป็นทัศนธาตุที่เป็นส่วนประกอบสาคัญในงานศิลปะ ไม่ว่าจะ
เป็นสที ี่เกดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติมนุษย์สรา้ งขนึ้

สมี ีอทิ ธิพลต่อจติ ใจของเรา เพราะทาให้เกิด อารมณ์ความรู้สึก
ต่าง ๆ กัน ดังนั้น การ ทาความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพ่ือประโยชน์ในการ
นาไปประยกุ ต์ใช้กับชีวิตประจาวันและเพอ่ื การสร้างสรรค์

- หนา้ 52 -

สี (Color)

วงจรสี (color wheel)

ทม่ี า: https://www.youtube.com/watch?v=GLiApwoaHwg

- หน้า 53 -

สี (Color)

วงจรสี (color wheel)

หมายถงึ สีท่ีเกดิ จากการผสมสเี ปน็ คู่ ๆ
ท้งั หมด 12 สี

ท่ีมา: https://www.bbblogr.com/wp-
content/uploads/2015/09/101.jpg

- หนา้ 54 -

สี (Color) สขี ั้นท่ี 1 (Primary Color)

วงจรสี (color wheel) หมายถึง แม่สีของวตั ถุมี 3 สี ไดแ้ ก่

ท่มี า: http://topicstock.pantip.com/jatujak • สีแดง สแี ดง
/topicstock/2008/04/J6482407/J6482407-33.jpg
• สีเหลือง สีเหลอื ง

• สีนา้ เงนิ สีน้าเงนิ

- หน้า 55 -

สี (Color)

วงจรสี (color wheel)

สีขน้ั ที่ 2 (Secondary Color)

หมายถึง การผสมของสีขั้นท่ี 1 ทีละคู่จะได้สี
เพิ่มข้ึนอีก 3 สี ได้แก่

• สเี หลอื ง + สีแดง สสี ม้
• สเี หลือง + สีน้าเงิน สีเขียว
• สแี ดง + สีน้าเงิน สีม่วง

ทม่ี า: http://topicstock.pantip.com/jatujak
/topicstock/2008/04/J6482407/J6482407-34.jpg

- หน้า 56 -

สี (Color) สขี นั้ ที่ 3 (Tertiary Color)

วงจรสี (color wheel) หมายถึง การนาสขี นั้ ที่ 1 และ 2 มาผสมกนั

ทมี่ า: http://topicstock.pantip.com/jatujak ทีละคู่ จะได้สเี พิ่มข้ึนอีก 6 สี ดังนี้
/topicstock/2008/04/J6482407/J6482407-35.jpg
• สแี ดง+สสี ม้ สสี ม้ แดง

• สแี ดง+สีมว่ ง สีมว่ งแดง

• สีเหลอื ง+สีสม้ สเี หลอื งส้ม

• สเี หลอื ง+สเี ขียว สีเขยี วเหลอื ง

• สเี หลือง+สนี ้าเงนิ สเี ขยี วนา้ เงนิ

• สนี า้ เงนิ +สีม่วง สีม่วงน้าเงนิ

สี (Color) - หน้า 57 - ่ทีมา: https://sites.google.com/site/punpundddd/khunlaksna-khxng-si

ลกั ษณะและคุณสมบัติของสี จาแนกได้ 3 ประเภท ดงั นี้ สเี ข้ม (Shade)

สีแท้ (Hue) สีอ่อน (Tint)

- หน้า 58 -

สี (Color)

ลกั ษณะและคุณสมบตั ิของสี จาแนกได้ 3 ประเภท ดงั น้ี

สแี ท้ (Hue)

สีที่เป็นแม่สี รวมทั้งสีท่ีเกิดจากการ
ผสมกันของแม่สีเป็นสขี ั้นท่ี 2 และข้ันท่ี 3
ในวงจรสี ไมถ่ กู ผสมด้วยสขี าวหรือสดี า

ที่มา: https://sites.google.com/site/
punpundddd/khunlaksna-khxng-si

- หนา้ 59 -

สี (Color)

ลกั ษณะและคณุ สมบตั ิของสี จาแนกได้ 3 ประเภท ดงั นี้

สีอ่อน (Tint)

สีที่ผสมกับสีขาวเพื่อลดความเข้ม ทาให้
นา้ หนักของสีออ่ นลง

ทม่ี า: https://sites.google.com/site/
punpundddd/khunlaksna-khxng-si

- หนา้ 60 -

สี (Color)

ลักษณะและคณุ สมบัตขิ องสี จาแนกได้ 3 ประเภท ดังนี้

สเี ข้ม (Shade)

สีที่ผสมกับสีดาหรือสีท่ีเข้มกว่า เพ่ือเพ่ิม
น้าหนักของสใี ห้เขม้ ขน้ึ

ท่มี า: https://sites.google.com/site/
punpundddd/khunlaksna-khxng-si

- หนา้ 61 -

สี (Color)

สีตรงข้าม (Contrast) เป็นสีท่ีอยู่ตรงข้ามกันของสีธรรมชาติ เป็นคู่สีกัน คือ

สคี ู่ที่ตัดกันหรือต่างจากกันมากที่สุด บางครั้งก็เรียกว่าสตี รง

ข้าม หรอื สีตดั กัน (Contrast) ซงึ่ มที ั้งหมด 6 คู่สี

สีเหลอื ง สมี ว่ ง
สีส้มเหลอื ง สมี ว่ งนา้ เงนิ
สนี า้ เงนิ
สีสม้ สีเขียวนา้ เงนิ
สีสม้ แดง สีเขียว
สีเขยี วเหลือง
สีแดง
สีมว่ งแดง

- หน้า 62 -

สี (Color)

วรรณะสี

มีการแบ่งวรรณะของสีจากวงจรสีธรรมชาติ
ออกเป็น 2 วรรณะ คือ วรรณะสีอุ่น (Worm
Tone) และวรรณะสีเย็น (Cool Tone)

ทม่ี า: http://baandotkosana.com/2013/06/colors/

สี (Color) - หน้า 63 -

วรรณะสี สีเหลอื งและสมี ว่ ง เปน็ วรรณะกลาง
สามารถอย่ไู ด้ 2 วรรณะ
ท้งั อุ่นและเยน็

วรรณะสอี ่นุ ได้แก่ สเี หลอื ง วรรณะกลาง
วรรณะกลาง
สีส้มเหลือง

สสี ้ม

สสี ม้ แดง

สแี ดง

สีม่วงแดง

สีม่วง

ที่มา: http://baandotkosana.com/2013/06/colors/

สี (Color) - หนา้ 64 -

สเี หลอื งและสมี ว่ ง เป็นวรรณะกลาง
สามารถอยไู่ ด้ 2 วรรณะ
ทัง้ อุน่ และเย็น

วรรณะสเี ยน็ ไดแ้ ก่ สีเหลือง วรรณะกลาง
วรรณะกลาง
สีเขียวเหลือง

สีเขียว

สเี ขียวนา้ เงิน

สีนา้ เงนิ

สีม่วงนา้ เงนิ

สมี ว่ ง

ที่มา: http://baandotkosana.com/2013/06/colors/

- หน้า 65 -

สี (Color)

จติ วทิ ยาการใช้สี (Psychology of Color)

นักวิทยาศาสตร์พบว่าสีมีอิทธิพลต่อจิตใจและ
อารมณ์ของมนุษย์ ซึ่งในงานการออกแบบสร้างสรรค์
เพ่ือให้ผลงานมีคุณค่าตามวัตถุประสงค์ผู้ออกแบบ
จาเปน็ ตอ้ งเขา้ ใจในเรอ่ื งของสีเปน็ อย่างดี

ท่มี า: https://sitdhibong.files.wordpress.
com/2013/11/rwhjv0n.jpg

- หนา้ 66 -

สี (Color)

จิตวิทยาการใชส้ ี (Psychology of Color)

ทม่ี า: https://www.youtube.com/watch?v=CTLoPI9__0M

- หน้า 67 -

สี (Color)

จติ วิทยาการใช้สี (Psychology of Color)

สี ใหค้ วามร้สู ึก
สว่าง สดใส รา่ เรงิ ศรัทธา มงั่ คัง่
สีเหลอื ง ร้อนแรง ตน่ื เต้น เรา้ ใจ อนั ตราย
สีแดง
สีนา้ เงิน หนักแนน่ เยือกเย็น สงบ
สเี ขยี ว สดชื่น เจรญิ เติบโต ปลอดภยั
สีชมพูอ่อน
นุ่มนวล อ่อนโยน

- หน้า 68 -

สี (Color)

จติ วิทยาการใช้สี (Psychology of Color)

สี ให้ความรู้สกึ
เยอื กเยน็ มีเสน่ห์ ลึกลับ เศร้าโศก
สมี ่วง
สีนา้ ตาล อบอนุ่ แห้งแล้ง
สีดา เศร้าโศก หวาดกลัว เหงา
สีขาว สะอาด เรียบร้อย บรสิ ทุ ธ์ิ กว้าง
สีเทา ใจเยน็ สง่า ฉลาด สุขุม

- หน้า 69 -

แบบฝึกหดั เรอ่ื ง สี

คาชแี้ จง: ใหน้ ักเรียนอธิบายความรู้สึกท่มี ีอทิ ธิพลต่ออารมณ์ความรู้สึกของมนุษยใ์ ห้ถูกต้อง

ในแบบฝกึ หัด หน้าที่ 14

- หนา้ 70 -

พนื้ ผวิ (Texture)

ความหมาย หมายถึง พื้นผิวของวัตถุท่ีเรามองเห็นและ
สัมผัสได้ จะทาให้ความรู้สึกต่ออารมณ์จิตใจ
ทีม่ า: https://www.stosignature.com/media/images/stosignature แตกต่างกัน เชน่
_international_1/texture_rough/Texture-Rough-40_web_640.jpg
• ผวิ หยาบ ใหค้ วามรู้สกึ กระดา้ ง มมี ิติ
• ผิวขรุขระ ใหค้ วามรู้สึก ไม่ราบราน มอี ุปสรรค

น่าต่นื เต้น
• ผิวละเอียด ใหค้ วามรูส้ ึก นมุ่ นวล กลมกลืน อ่อนโยน
• ผวิ มัน ให้ความรูส้ กึ โดดเด่น สะทอ้ นแสง
• ผวิ ด้าน ให้ความรสู้ กึ ราบเรียบ สงบนิ่ง

- หนา้ 71 -

พนื้ ผวิ (Texture)

ลักษณะการเกิดของพนื้ ผวิ เกดิ ขึน้ ได้ 2 ลักษณะ ดังน้ี

1. เกิดขน้ึ เองตามธรรมชาติ 2. เกดิ ข้ึนโดยมนษุ ยส์ ร้างสรรค์

ท่ีมา: https://cdn.pixabay.com/photo/ ทมี่ า: http://dmiceplanner.businesseventsthailand.com
2019/09/20/17/22/tree-4492222_960_720.jpg /dmice/upload/venue/1508239306_151757053776.jpg

- หนา้ 72 -

พน้ื ผวิ (Texture)

ลกั ษณะการเกดิ ของพน้ื ผวิ เกิดขนึ้ ได้ 2 ลักษณะ ดังน้ี

1. เกดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติ

ได้แก่ ผิวของเปลอื กไม้ ใบไม้ ก้อนหนิ ผวิ ดิน พื้นดิน และพ้นื ทราย

- หน้า 73 -

พน้ื ผวิ (Texture)

ลกั ษณะการเกดิ ของพน้ื ผวิ เกิดขน้ึ ได้ 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี

2. เกดิ ขึ้นโดยมนุษย์สรา้ งสรรค์

ได้แก่ การขูด ขีด เขียน แกะสลัก ขูดถู
ให้เป็นรอยลวดลายในลักษณะต่าง ๆ เช่น
การเขียนด้วยดินสอ ปากกา พู่กัน หรือ
การผลิตดว้ ยเครื่องมือปัน้ แกะสลัก

ทมี่ า: http://dmiceplanner.businesseventsthailand.com
/dmice/upload/venue/1508239306_151757053776.jpg

- หน้า 74 -

แบบฝกึ หดั เรื่อง พื้นผิว

คาชแ้ี จง: ใหน้ ักเรียนบอกความรสู้ ึกจากสที ่ีมองเหน็ ในรูปภาพต่อไปน้ี

ในแบบฝกึ หดั หนา้ ท่ี 15

- หน้า 75 -

ผลงานของนักเรยี น

คาช้ีแจง: ให้นักเรียนสรา้ งสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ เร่อื ง สแี ละพื้นผิว จานวน 1 ช้นิ งาน
พรอ้ มต้ังช่อื ภาพและบรรยายใตผ้ ลงาน ลงในกระดาษ 100 ปอนด์
ขนาด 11 x 15 นว้ิ

ในแบบฝกึ หัด หน้าที่ 16

เรื่อง เอกภาพ องค์ประกอบศิลป์ (Composition)

ทม่ี า: http://oknation.nationtv.tv/blog/home/blog_
data/87/30087/images/2011_gen/2011.01unity.jpg

- หนา้ 76 -

เอกภาพ (Unity) - หนา้ 77 -

ความหมาย ความเป็ นอั นหนึ่ งอั นเดี ยวกั น ความ
สอดคล้องกลมกลืนกัน เป็นหน่วยเดี ยวกัน
ทีม่ า: http://oknation.nationtv.tv/blog/home/blog_ ไม่ สามารถแบ่ งแยกได้ ด้ วยการจั ดองค์ ประกอบ
data/87/30087/images/2011_gen/2011.01unity.jpg ใ ห้ ค ว า ม สั ม พั น ธ์ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั น เ ป็ น ก ลุ่ ม ก้ อ น
ไม่กระจัดกระจาย โดยการจัดระเบียบของรูปทรง
จังหวะ ลีลา เนื้อหาให้เกิดดุลยภาพ อารมณ์
ความรู้สึก มีความชัดเจน ส่ือความหมายได้ง่าย
และรวดเรว็

ทศั นธาตุและองคป์ ระกอบศลิ ป์ I หน้า 61

เอกภาพ (Unity) - หนา้ 78 -

วิธกี ารสรา้ งเอกภาพ 1. วิธีสัมผัส คือ การนาเอารูปร่าง รูปทรง มาสัมผัสกัน
ในลกั ษณะตา่ ง ๆ ใหเ้ กิดเอกภาพขนึ้ เช่น

มุมต่อด้าน ด้านตอ่ ด้าน มมุ ต่อมมุ

ทีม่ า: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php

เอกภาพ (Unity) - หนา้ 79 -

วธิ กี ารสรา้ งเอกภาพ 2. วิธีทับซ้อน คือ การนาเอารูปร่าง รูปทรง มาสัมผัส
กันในลกั ษณะต่าง ๆ เช่น

ทบั ซอ้ นบางส่วน ทบั ซ้อนทั้งหมด ทับซ้อนคาบเก่ียว

ทมี่ า: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php

เอกภาพ (Unity) - หนา้ 80 -

วิธีการสร้างเอกภาพ 2. วิธีทับซ้อน คือ การนาเอารูปร่าง รูปทรง มาสัมผัส
กันในลกั ษณะต่าง ๆ เชน่

ทับซอ้ นรูปโซ่ ทบั ซอ้ นสานกนั ทบั ซอ้ นหลายชน้ั เรยี งลาดบั

ทีม่ า: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php

เอกภาพ (Unity) - หน้า 81 -

วิธกี ารสรา้ งเอกภาพ 3. วิธีการจัดกลุ่ม คือ การนาเอารูปร่าง รูปทรง มาจัด
กล่มุ ให้ลักษณะตา่ ง ๆ

ภาพที่ 1 : มีการรวมกลุ่ม 2 กลุ่มเกิดจาก
ตาแหนง่ ที่ใกลช้ ิดกัน

• กล่มุ ท่ี 1 ภาพบ้าน 2 หลงั และแนวภูเขา
• กลุ่มท่ี 2 ภาพบา้ น 1 หลัง ต้นไม้และพนื้

ทมี่ า: https://krunnu.wixsite.com/comg/single-
post/2015/10/28/Intro12-องคป์ ระกอบศลิ ป์

เอกภาพ (Unity) - หนา้ 82 -

วิธีการสรา้ งเอกภาพ 3. วิธีการจัดกลุ่ม คือ การนาเอารูปร่าง รูปทรง มาจัด
กลุ่มใหล้ ักษณะตา่ ง ๆ

ภาพที่ 2 : มีการเพ่ิมแนวถนนเชื่อมระหว่าง
2 กลุ่ม ทาให้มีความใกล้ชิดกันเกิดการรวมเป็น
กลุ่ม

ทมี่ า: https://krunnu.wixsite.com/comg/single-
post/2015/10/28/Intro12-องคป์ ระกอบศิลป์

เอกภาพ (Unity) - หนา้ 83 -

วธิ กี ารสร้างเอกภาพ 3. วิธีการจัดกลุ่ม คือ การนาเอารูปร่าง รูปทรง มาจัด
กลุม่ ให้ลักษณะต่าง ๆ

ภาพที่ 3 : มีการเพิ่มต้นไม้เข้าไป เพ่ือความ
ใกลช้ ิด เกดิ เอกภาพจากการรวมกล่มุ

ทม่ี า: https://krunnu.wixsite.com/comg/single-
post/2015/10/28/Intro12-องคป์ ระกอบศลิ ป์

- หนา้ 84 -

ผลงานของนกั เรียน

คาชแ้ี จง: ใหน้ กั เรียนสรา้ งสรรคผ์ ลงานทัศนศิลป์ เร่อื ง เอกภาพ จานวน 1 ชน้ิ งาน
พรอ้ มตั้งช่ือภาพและบรรยายใตผ้ ลงาน ลงในกระดาษ 100 ปอนด์
ขนาด 11 x 15 นว้ิ

ในแบบฝกึ หัด หน้าที่ 19

เรื่อง ความสมดุล องคป์ ระกอบศิลป์ (Composition)

ท่มี า: http://beelinetour.com/wp-content/
uploads/2015/01/taj-mahal-india.jpg

- หนา้ 85 -

- หนา้ 86 -

ความสมดุล (Balance)

ความหมาย

ความสมดุลหรือดุลยภาพ หมายถึง ทม่ี า: https://krittayakorn.files.wordpress.com/
ความเท่ากัน เสมอกัน มีน้าหนักและแรงถ่วงท่ี 2013/03/symmetrical_balance.jpg
สม่าเสมอเทา่ กนั

โดยมี แกนสมมติ (Axis) ทาหน้าท่ีแบ่ง
ภาพให้ซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ให้เท่ากัน
การเท่ากันอาจไม่เท่ากันจริง ๆ ก็ได้ แต่จะ
เท่ากันในความรู้สกึ ตามทีต่ ามองเห็น

ความสมดลุ (Balance) - หน้า 87 -

ความสมดลุ แบง่ เปน็ 2 ประเภท 2. ความสมดุลแบบ 2 ขา้ ง
ไม่เหมอื นกนั (Asymmetry)
1. ความสมดลุ แบบ 2 ข้าง
เหมือนกนั (Symmetry)

ทีม่ า: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/ ที่มา: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/
m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php

- หน้า 88 -

ความสมดลุ (Balance)

ความสมดุลแบ่งเป็น 2 ประเภท

1. ความสมดุลแบบ 2 ขา้ งเหมือนกัน (Symmetry)

หมายถึง การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ท้ัง
สองข้างของแกนสมมติให้มีรูปร่าง รูปทรง หรือ
สัดส่วนเหมือนกันทั้งสองด้านซ้ายและขวา นิยมใช้
ในงานจิตรกรรมไทย

ที่มา: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/
m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php

- หนา้ 89 -

ความสมดุล (Balance)

ความสมดลุ แบ่งเป็น 2 ประเภท

1. ความสมดุลแบบ 2 ขา้ งเหมอื นกัน (Symmetry)

จิตรกรรมไทย

ที่มา: http://4.bp.blogspot.com/_HwcBxMCG92U/TIs27
H2iEII/AAAAAAAAACw/ZsnteLfSiPc/s1600/Clip_30.jpg

- หนา้ 90 -

ความสมดุล (Balance)

ความสมดุลแบ่งเป็น 2 ประเภท

2. ความสมดุลแบบ 2 ข้างไมเ่ หมือนกนั (Asymmetry)

ท่ีมา: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/ หมายถึง การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ท้ัง
m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php สองข้างของแกนสมมติให้มีรูปร่าง รูปทรง หรือ
สัดส่วนไม่เหมือนกัน แต่ดูจากเส้นสมมติแล้วให้
ความรสู้ ึกวา่ เทา่ กนั

ความสมดุลลักษณะน้ีมักนิยมใช้กันมาก
เพราะทาให้อารมณ์ความรู้สึกเคล่ือนไหว ศิลปินได้
แสดงออกอยา่ งชดั เจน

- หนา้ 91 -

ความสมดลุ (Balance)

ความสมดุลแบ่งเปน็ 2 ประเภท

2. ความสมดุลแบบ 2 ข้างไมเ่ หมือนกนั (Asymmetry)

ภาพทแ่ี สดงถงึ การเคลือ่ นไหว

ทม่ี า: http://4.bp.blogspot.com/_HwcBxMCG92U/TIs3RxGTRAI
/AAAAAAAAAC4/ICXT_it_iy4/s1600/Clip_31.jpg

- หน้า 92 -

Did you know ?

ผลงานของศิลปินทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับ “ความสมดลุ ”
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษติ พพิ ฒั น์ (ศลิ ปนิ แห่งชาติ)

ท่ีมา: https://streethead.files.word
press.com/2013/02/teacher.jpg

พระโพธิสตั ว์ประทานความสขุ

ท่มี า: https://www.bloggang.com/data/p/
prachaya12345/picture/1494669265.jpg

- หน้า 93 -

ผลงานของนักเรยี น

คาชแ้ี จง: ใหน้ กั เรยี นสรา้ งสรรคผ์ ลงานทศั นศลิ ป์ เรือ่ ง ความสมดลุ จานวน 1 ชิ้นงาน
พรอ้ มตั้งช่อื ภาพและบรรยายใตผ้ ลงาน ลงในกระดาษ 100 ปอนด์
ขนาด 11 x 15 นว้ิ

ในแบบฝึกหัด หน้าที่ 22

เร่อื ง ความกลมกลืน องคป์ ระกอบศลิ ป์ (Composition)

ท่มี า: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/
m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php

- หนา้ 94 -

- หน้า 95 -

ความกลมกลนื (Harmony)

ความหมาย

หมายถึง การจัดภาพให้มีความรู้สึก
สอดคล้อง และเข้ากันได้ดี ไม่ขัดแย้ง ซึ่ง
ความกลมกลืนที่ปรากฏในผลงานศลิ ปะจะมี
หลายลักษณะ

ทมี่ า: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/
m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php

ความกลมกลืน (Harmony) - หน้า 96 -

ลักษณะของความกลมกลนื ทม่ี า: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/
m4/art4_1/lesson1/lesson1_2.php
1. กลมกลืนด้วยขนาด

คือ การนาเอารูปร่าง หรือรูปทรงที่
มีขนาดใกล้เคียงกันมาจัดวาง ทาให้เกิด
ความประสานสัมพันธ์เหมาะสม มีช่องว่าง
พอเหมาะของรปู และพน้ื

ความกลมกลืน (Harmony) - หนา้ 97 -

ลักษณะของความกลมกลนื ท่ีมา: http://119.46.166.126/self_all/selfaccess7/m1/
194/lesson2/content2_3/art2-3.php
2. กลมกลืนดว้ ยสี

คือ การเลือกใช้สีวรรณะเดียวกัน
หรือการใช้สีสีเดียวกัน เรียกว่า สีเอกรงค์
(Monochrome) เช่น การใช้สีเดียว แล้วไล่
สีน้าหนักอ่อนแก่ด้วยการผสมด้วยสีขาว
หรือใช้สีวรรณะเย็น วรรณะใดวรรณะหน่ึง
กจ็ ะไดภ้ าพทีเ่ กดิ จากความกลมกลืนด้วยสี

- หนา้ 98 -

ความกลมกลืน (Harmony)

ลักษณะของความกลมกลืน

3. กลมกลืนดว้ ยเส้น

คือ การนาเส้นชนิดใดชนิด
หนึ่งท่ีมีขนาดใกล้เคียงกัน มาจัด
องค์ประกอบให้มีความกลมกลนื

ที่มา: http://4.bp.blogspot.com/_HwcBxMCG92U/TIs3RxGTRAI
/AAAAAAAAAC4/ICXT_it_iy4/s1600/Clip_31.jpg