The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มืออาจารย์ที่ปรึกษา2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sunchait65, 2022-07-27 05:11:58

คู่มืออาจารย์ที่ปรึกษา2565

คู่มืออาจารย์ที่ปรึกษา2565

44

(1) นกั ศึกษาขอเพิกถอนรายวิชานน้ั หรือลาพกั การศกึ ษาหลงั จากเวลาท่ีได้ กาหนดไวแ้ ละได้รับอนุมัติ
จากคณบดี

(2) นกั ศกึ ษาถกู สั่งพกั การศึกษาในภาคการศกึ ษาน้ัน ข้อ 28 การคานวณคา่ ระดับคะแนน
28.1 การนับจานวนหน่วยกิตเพื่อใช้ในการคานวณหาค่าระดับคะแนนเฉลี่ย ให้คานวณ จากรายวิชาที่นับ
หน่วยกิตและมกี ารประเมนิ ผลเป็นสญั ลกั ษณ์ A, B, B, C, C, D, D และ F
28.2 สาหรับรายวิชาที่ได้สัญลักษณ์ F ให้บันทึกผลการศึกษาในใบรายงานผลการศึกษา และนาจานวน
หนว่ ยกิตของรายวชิ านัน้ มาคานวณในค่าระดับคะแนนเฉล่ยี ดว้ ย
28.3 การนบั จานวนหนว่ ยกิตสะสมของนักศึกษาเพื่อให้ครบหลักสตู ร ใหน้ ับเฉพาะ หนว่ ยกิตของรายวิชาที่
สอบไดเ้ ท่านัน้
28.4 ค่าระดบั คะแนนเฉล่ียมี 2 ประเภท

(1) ค่าระดับคะแนนเฉลยี่ รายภาคศึกษา (Semester Grade Point Average = SEMGPA) ให้คานวณ
จากผลการศึกษาของนักศึกษาในภาคการศึกษานั้น โดยเอาผลรวมของผลคูณของจานวนหน่วยกิต กับค่าระดับ
คะแนนของทุกรายวชิ าหารดว้ ยผลรวมของหนว่ ยกิตของรายวชิ าท่ศี กึ ษาในภาคการศึกษานั้น

(2) คา่ ระดบั คะแนนเฉลีย่ สะสม (Cumulative Grade Point Average = CUM-GPA) ใหค้ านวณจาก
ผลการศึกษาของนักศึกษาตั้งแต่เริ่มเข้าศึกษาจนถึงภาคการศึกษาสุดท้าย โดยเอาผลรวมของผล คูณของจานวน
หน่วยกิตกับค่าระดับคะแนนของแต่ละรายวิชาที่ศึกษาทั้งหมดหารด้วยผลรวมของหน่วยกิตของ รายวิชาที่ศึกษา
ทั้งหมด

ข้อ 29 การเทียบความรู้ การเทียบประสบการณ์ การเทียบรายวิชาและการเทียบโอนหน่วยกิต ให้เป็นไป
ตามทีส่ ภาวิชาการกาหนดโดยทาเป็นประกาศของมหาวทิ ยาลัย

หมวด 6 สถานภาพและการพ้นสถานภาพนักศกึ ษา
ขอ้ 30 สถานภาพนกั ศกึ ษา

30.1 นกั ศกึ ษาทไ่ี ด้ปฏบิ ัติตามข้อ 16 แหง่ ระเบียบนี้โดยถูกต้องสมบูรณ์แล้ว มีสถานภาพเป็นนักศึกษา
ของมหาวทิ ยาลยั

30.2 นักศึกษาภาคปกตขิ องมหาวิทยาลยั มี 2 สถานภาพ
(1) นักศึกษาสภาพปกติ ได้แก่ นักศึกษาที่ละทะเบียนเรียนในภาคการศึกษาแรก หรือนักศึกษาสอบ
ไดค้ ่าระดับคะแนนเฉลย่ี สะสมไมต่ า่ กว่า 2.00
(2) นักศกึ ษาวิทยาทัณฑ์ ไดแ้ ก่ นักศึกษาทส่ี อบไดค้ ่าระดบั คะแนนเฉลยี่ สะสม ตง้ั แต่ 1.50 ถงึ 1.99
30.3 การจาแนกสถานภาพนกั ศึกษา
(1) การจาแนกสถานภาพนกั ศึกษาจะกระทาเม่ือสิ้นภาคการศึกษา ยกเว้น นักศึกษาที่เข้าศึกษาเปน็
ปแี รก การจาแนกสถานภาพนักศึกษาจะกระทาเมือ่ สนิ้ ภาคการศึกษาที่ 2 ของปี การศกึ ษาแรกท่เี ขา้ ศกึ ษา

45

(2) นกั ศึกษาท่ีได้รับอนญุ าตให้ลงทะเบียนเรียนในภาคฤดรู ้อน ให้นาผลการศกึ ษา ภาคฤดูร้อนไปรวม
กับผลการศึกษาภาคปกติในภาคการศึกษาถัดไปที่นักศึกษาผู้นั้นลงทะเบียนเรียน เพื่อการ จาแนกสถานภาพ
นักศึกษา

(3) นายทะเบียนหรือเจ้าหน้าที่ทะเบียน ต้องแจ้งสถานภาพนักศึกษาวิทยาทัณฑ์ ให้นักศึกษาที่มี
สภาพเชน่ นั้นและอาจารยท์ ป่ี รึกษาของนกั ศึกษาผูน้ ัน้ ทราบโดยเร็วท่ีสุด

ข้อ 31 เพื่อแสดงสถานสภาพการเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยจะจัดให้มีบัตรประจาตัวนักศึกษา เพื่อ
ประกอบการใช้สิทธิต่าง ๆ ที่นักศึกษาพึงมีในมหาวิทยาลัย รูปแบบบัตรนักศึกษา หลักเกณฑ์และวิธีการ ออกบัตร
นกั ศึกษา ใหเ้ ป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลยั

ขอ้ 32 การพ้นสภาพนักศึกษา นกั ศกึ ษาของมหาวิทยาลยั จะพน้ สถานภาพการเป็นนกั ศึกษาเมื่อ
32.1 มรณภาพ หรอื ตาย
32.2 ได้รับอนุมัติจากคณบดใี หล้ าออก
32.3 ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนง่ึ ในข้อ 7
32.4 สาเร็จการศกึ ษาตามหลักสูตรและไดร้ ับอนมุ ตั ใิ ห้จบการศึกษา
32.5 มีระยะเวลาการศึกษาครบ 16 ภาคการศึกษาสาหรับหลักสูตร 4 ปี และ 20 ภาคการศึกษา

สาหรับหลักสูตร 5 ปี แต่ยังมีจานวนหน่วยกิตสอบได้ไม่ครบตามหลักสูตร หรือได้ค่าระดับ คะแนนเฉลี่ยสะสมต่า
กว่า 2.00

32.6 ใชเ้ อกสารหลกั ฐานอนั เป็นเทจ็ สมคั รเข้าเป็นนักศกึ ษา
32.7 ถูกถอนสถานภาพนกั ศึกษาหรอื ถกู คัดชอ่ื อกจากทะเบยี นนักศึกษาในกรณี ดังต่อไปนี้

(1) ได้คา่ ระดบั คะแนนเฉล่ียสะสมต่ากวา่ 1.50 ยกเวน้ นกั ศกึ ษาทเี่ ขา้ ศึกษาเปน็ ปแี รก
(2) ได้คา่ ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมตา่ กว่า 1.75 ในสองภาคการศกึ ษาปกติตดิ ตอ่ กัน
(3) เป็นนักศึกษาวิทยาทัณฑ์ที่มีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม 1.80 เป็นเวลาสอง ภาค
การศึกษาที่มีการจาแนกสถานภาพต่อเน่ืองกัน หรือเป็นนักศึกษาวิทยาทัณฑ์ครบ 4 ภาคการศึกษาที่มีการ จาแนก
สถานภาพต่อเนือ่ งกัน แล้วยังไมพ่ น้ สถานภาพนักศกึ ษาวิทยาทณั ฑ์
(4) ไม่ลงทะเบียนเรียนให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเปิดภาคการศึกษา และไม่
ปฏิบตั ิตามหลกั เกณฑก์ ารลาพักการศึกษา
(5) ลาพักการศกึ ษาเกนิ 2 ภาคการศกึ ษาปกติติดต่อกนั เวน้ แต่ไดร้ ับอนมุ ตั ิเป็นกรณพี เิ ศษ
(6) มหาวิทยาลัยพิจารณาให้พ้นสถานสภาพนักศึกษาเพราะกระทาผิดวินัย นักศึกษาอย่าง
รา้ ยแรง
(7) ทาการทจุ รติ อย่างร้ายแรงในการสอบ ซึ่งจะต้องเปน็ ไปตามขอ้ บงั คบั ของ มหาวทิ ยาลยั

46

ข้อ 33 นักศึกษาที่ประสงค์จะลาออกจากการเป็นนักศึกษา ให้ยื่นคาร้องขอลาออกพร้อมด้วยใบ
ปลอดพันธะต่อคณบดี โดยความเห็นชอบของหัวหน้าภาควิชาและอาจารย์ที่ปรึกษา และให้คณบดีรายงาน ส ภา
วชิ าการทราบ

หมวด 7 การลาพกั การศึกษาและการสั่งพกั การศึกษา
ข้อ 34 การลาพักการศึกษา

34.1 นักศึกษาจะต้องยื่นคาร้องขออนุมัติการลาพักการศึกษาต่อคณบดี โดยความ เห็นชอบ
ของหวั หน้าภาควชิ าและอาจารย์ท่ีปรึกษา ทั้งน้ี ภายใน 2 สปั ดาหห์ ลงั จากวนั เปิดเรียนของภาค การศึกษานั้น และ
สามารถลาพักการศึกษาได้ครั้งละไม่เกิน 2 ภาคการศึกษา ในกรณที ีน่ ักศึกษายังมีความ จาเปน็ ท่ีจะลาพักการศึกษา
ตอ่ ใหย้ ื่นคารอ้ งขอลาพกั การศึกษาใหม่

34.2 นักศกึ ษาอาจยน่ื คารอ้ งขอลาพักการศึกษาได้ในกรณี ต่อไปน้ี
(1) ได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ภาคการศึกษา ยกเว้นจะได้รับ อนุมัติ

เปน็ กรณีพเิ ศษจากสภาวิชาการ
(2) ถูกเกณฑห์ รือระดมพลเขา้ รับราชการทหารกองประจาการ

(3) ได้รับทุนแลกเปลี่ยนนกั ศึกษาระหวา่ งประเทศ หรือทุนอื่นใดซึ่งมหาวทิ ยาลัย เห็นสมควร
สนบั สนนุ

(4) เจ็บป่วยจนต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานานเกินร้อยละ 20 ของเวลาเรียน ทั้งหมดในภาค
การศกึ ษาน้นั ตามคาสงั่ แพทย์ โดยมีใบรับรองแพทยจ์ ากสถานพยาบาล

(5) มีเหตุจาเป็นสุดวิสัย หรือมีความจาเป็นส่วนตัวที่คณะกรรมการประจาคณะ พิจารณา
เห็นสมควร

ข้อ 35 นกั ศกึ ษาทีไ่ ด้รับอนมุ ตั ใิ หล้ าพกั การศึกษาแลว้ ต้องปฏิบตั ดิ ังน้ี
35.1 ในระหว่างการลาพักการศึกษา จะต้องชาระค่ารักษาสถานสภาพการเป็น นักศึกษาทุกภาค

การศึกษา มฉิ ะนนั้ จะถูกคัดชอ่ื ออกจากทะเบยี นนักศึกษา
35.2 การนับระยะเวลาการศึกษา ให้นับระยะเวลาที่ขอลาพักการศึกษาทุกครั้งอยู่ใน ระยะเวลา

การศกึ ษาตามขอ้ 11 ยกเว้นนักศึกษาที่ขอลาพักการศกึ ษาตามข้อ 34.2
35.3 นักศึกษาทไี่ ดร้ ับอนุมตั ใิ หล้ าพกั การศกึ ษา เมอื่ จะกลบั เขา้ ศึกษาจะต้องยนื่ คาร้อง ขอกลับเข้า

ศึกษาต่อคณบดีไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ก่อนวันเปิดภาคการศึกษานั้น และให้คณบดีแจ้งให้นาย ทะเบียนหรือ
เจ้าหนา้ ทท่ี ะเบียนของมหาวิทยาลยั ทราบ

ข้อ 36 การส่งั พกั การศึกษา
36.1 นักศึกษาอาจถูกสั่งพักการศึกษาได้ในกรณีที่ประพฤติทุจริตในการสอบ หรือ ประพฤติผิด

วินยั นกั ศกึ ษา

47

36.2 การสั่งพักการศึกษาตามขอ้ 36.1 จะสัง่ พักการศกึ ษาได้ไมเ่ กิน 1 ภาคการศกึ ษา
36.3 คาสั่งให้นักศึกษาพักการศึกษา ให้เริ่มเมื่อสิ้นสุดภาคการศึกษาที่กระทาผิดนั้น โดยให้มี
ระยะเวลาการลงโทษต่อเนื่องกัน ทั้งนี้ ให้รับระยะเวลาที่ถูกสั่งพักการศึกษาเข้าเป็นระยะเวลา การศึกษา และให้
จาแนกสถานสภาพนกั ศกึ ษาทกุ ภาคการศึกษาที่ถูกสัง่ พกั ดว้ ย
ทั้งนี้ นักศึกษาที่ถูกสั่งพักการศึกษา จะต้องปฏิบัติตามข้อ 36 เช่นเดียวกันกับนักศึกษาที่ ได้รับ
อนมุ ัตใิ หล้ าพักการศกึ ษา
ขอ้ 37 ใหค้ ณบดีเปน็ ผ้อู นุมตั ใิ หน้ ักศกึ ษาลาพักการศึกษาตามข้อ 36 และส่งั พกั การศึกษาตามขอ้ 37
ขอ้ 38 นกั ศกึ ษาที่ถูกส่งั พกั การศกึ ษา หรือมหาวทิ ยาลยั มีคาส่งั ใหพ้ น้ สภาพนักศึกษา สามารถ อุทธรณ์
คาสั่งพักการศึกษาและคาสั่งให้พ้นสภาพนักศึกษาได้ และการอุทธรณ์คาสั่งพักการศึกษาและคาสั่งให้ พ้นสภาพ
นกั ศกึ ษา ให้เปน็ ไปตามขอ้ บังคับของมหาวิทยาลยั

หมวด 4 การย้ายสถานท่เี รยี น การยา้ ยคณะ และการเปล่ียนสาขาวิชา
ข้อ 39 การย้ายวิทยาเขต นักศึกษาที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยส่วนกลาง วิทยาเขต
หรอื วทิ ยาลัยใดของมหาวทิ ยาลัย จะต้องศึกษาที่มหาวิทยาลัยสว่ นกลาง วทิ ยาเขต หรือวทิ ยาลยั น้นั
มหาวิทยาลัยอาจอนุญาตให้นักศึกษาย้ายไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยส่วนกลาง วิทยาเขต หรือ วิทยาลัย
อื่น เฉพาะในกรณีที่มีเหตุผลและความจาเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่สภา
วชิ าการกาหนด
ข้อ 40 การย้ายคณะและคุณสมบัตขิ องผู้มสี ทิ ธิขอย้ายคณะ
นักศึกษาท่ผี ่านการสอบคัดเลือกเขา้ ศึกษาในคณะวชิ าใด จะตอ้ งศกึ ษาในคณะวิชานนั้ กรณีที่ นักศึกษาต้องการย้าย
คณะต้องมคี ณุ สมบตั แิ ละเปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

40.1 ไม่เปน็ ผทู้ ่ีพ้นสถานภาพการเปน็ นักศกึ ษา
40.2 ไม่เคยไดร้ บั อนุมัติให้ย้ายคณะมาก่อน
40.3 การขอยา้ ยคณะจะต้องขอย้ายภายใน 2 ภาคการศึกษาปกติ นับตัง้ แตเ่ ข้ารับ การศึกษา
ทง้ั น้ี ไมน่ ับภาคการศกึ ษาทไ่ี ดร้ ับอนุมตั ิให้ลาพักการศึกษา หรือถูกมหาวทิ ยาลยั ให้พกั การศึกษา
40.4 ในการยื่นคาร้องขอย้ายคณะ นักศึกษาต้องแสดงเหตุผลประกอบ และอยู่ในดุลยพินิจ
คณบดีท่เี กย่ี วข้องทีจ่ ะพิจารณาอนุมตั ิเป็นรายกรณี ซ่ึงต้องเป็นไปตามระเบยี บหรอื หลักเกณฑข์ องคณะทเ่ี กยี่ วข้อง
40.5 การขอย้ายคณะจะกระทาได้เมื่อสิ้นสุดภาคการศึกษาปกติ แต่ต้องกระทาก่อน การ
ลงทะเบยี นเรียนในภาคการศกึ ษาต่อไป
40.6 รายวชิ าท่นี ักศึกษาย้ายคณะไดศ้ ึกษามา ถงึ แม้จะไม่ตรงกบั หลักสูตรของคณะ ท่ีย้ายเข้า
ศึกษาใหมก่ ็ตาม ใหน้ ามาคานวณค่าระดับคะแนนเฉลย่ี สะสมด้วย

48

ข้อ 41 การเปลี่ยนสาขาวิชา การขอเปลี่ยนสาขาวิชาจะกระทาได้เพียงครั้งเดียวตลอดการเป็น
นักศึกษา และจะกระทาได้เมือ่ สิ้นสุดภาคการศึกษาปกติ แต่ต้องกระทาก่อนการลงทะเบียนเรียนในภาค การศึกษา
ต่อไป โดยการขอเปลี่ยนสาขาวิชาจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าภาควิชาที่เกี่ยวข้องและ ได้รับอนุมัติจาก
คณบดี

ขอ้ 42 การรบั โอนนกั ศึกษา และการศึกษาขา้ มสถาบนั ใหเ้ ป็นไปตามทส่ี ภาวชิ าการกาหนด
หมวด 4 การปฏบิ ัติกรรมฐานและการปฏิบตั ศิ าสนกจิ

ข้อ 43 การปฏิบัติกรรมฐาน นักศึกษาของมหาวิทยาลัยจะต้องฝึกปฏิบัติกรรมฐานในรายวิชาการ
ปฏิบัติกรรมฐานในหลักสูตร และเมื่อสอบได้หน่วยกิตครบตามหลักสูตรแล้ว ก่อนการขอรับปริญญาจะต้องออก
ปฏิบตั ิกรรมฐานตามระเบียบของมหาวทิ ยาลัย

ข้อ 44 การปฏิบตั ศิ าสนกิจ มี 3 ประเภท
44.1 การปฏิบัติงานภายหลังจากนักศึกษาได้สอบได้หน่วยกิตครบตามหลักสูตรแล้ว การ

ปฏบิ ตั ิศาสนกิจตามข้อน้ี ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบของมหาวิทยาลยั
44.2 การฝกึ งานหรือการฝึกภาคสนามตามหลักสูตร การปฏิบตั งิ านตามมาตรฐาน วิชาชีพ ที่

ใช้เวลาการฝึกไม่น้อยกวา่ 45 ชั่วโมงต่อการศกึ ษาภาคปกติ ซึ่งกาหนดไวเ้ ป็นรายวิชาหนึ่งของ หลักสูตรท่ีมปี ริมาณ
หน่วยกติ ไมน่ ้อยกวา่ 6 หน่วยตดิ

44.3 การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาของนักศกึ ษาคณะศึกษาศาสตร์
ขอ้ 45 นักศกึ ษาที่ไม่ผ่านการปฏิบัติกรรมฐานและการปฏิบัติศาสนกจิ จะไม่ไดร้ ับการเสนอชื่อให้ เป็น
ผสู้ าเรจ็ การศึกษาและขออนุมัติปริญญา

หมวด 10 การสาํ เรจ็ การศึกษาและการใหป้ ริญญา
ขอ้ 46 การสาเร็จการศกึ ษา

46.1 หลกั สตู รปริญญาตรี (4 ปี) สาเร็จการศึกษาได้ไม่ก่อน 6 ภาคการศกึ ษาปกติ สาหรบั การ
ลงทะเบยี นเรียนเตม็ เวลา และไม่กอ่ น 14 ภาคการศกึ ษาปกติ สาหรับการลงทะเบยี นเรียนไม่เตม็ เวลา

46.2 หลักสูตรปริญญาตรี (5 ป)ี สาเร็จการศึกษาได้ไมก่ ่อน 8 ภาคการศกึ ษาปกติ สาหรบั การ
ลงทะเบียนเรียนเต็มเวลา และไม่กอ่ น 17 ภาคการศึกษาปกติ สาหรบั การลงทะเบียนเรยี นไม่เตม็ เวลา

ทั้งนี้ นักศึกษาจะต้องเรียนและสอบได้หน่วยกิตครบตามหลักสูตร และปฏิบัติตามเงื่อนไขของ
หลักสูตร ขอ้ บงั คบั ระเบียบ และประกาศของหาวทิ ยาลัยเก่ียวกับการศกึ ษาและหรือการปฏบิ ัตขิ องนักศึกษา ซึ่งได้
กาหนดไวเ้ ปน็ การเฉพาะเร่อื งโดยครบถ้วนแล้ว จึงจะได้รับการพิจารณาใหเ้ ป็นผู้สาเรจ็ การศกึ ษา

ข้อ 47 การขอจบการศึกษา ในภาคการศึกษาสุดทา้ ยที่นกั ศึกษาได้ลงทะเบยี นเรียนและสอบได้ หน่วย
กิตครบตามหลกั สตู รของมหาวิทยาลัย รวมทั้งได้ปฏบิ ัติตามเง่ือนไขของหลกั สูตรและเงื่อนไขทางการ การศึกษาอื่น

49

ของมหาวิทยาลยั ครบถ้วนแล้ว หากมคี ะแนนเฉลี่ยสะสมต้ังแต่ 2.00 ข้นึ ไป มสี ทิ ธิย่ืนคารอ้ ง ขอจบการศึกษาต่อนาย
ทะเบยี นของมหาวิทยาลัย

ขอ้ 48 การใหป้ ริญญา
48.1 นกั ศกึ ษาท่ีจะไดร้ บั ปริญญาต้องมีคณุ สมบัติ ดังน้ี
(1) สอบได้จานวนหน่วยกิตครบตามหลักสูตรในสาขาวิชาที่ศึกษาและได้คะแนน เฉลี่ย

สะสมตง้ั แต่ 2.00 ขึ้นไป
(2) สอบได้นักธรรมหรือธรรมศึกษาชั้นใดชั้นหนึ่ง หรือมีผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ ทาง

การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาตามเกณฑม์ าตรฐานความรู้วิชาการพระพทุ ธศาสนาที่มหาวทิ ยาลยั กาหนด
(3) มคี วามประพฤตเิ รยี บรอ้ ยเหมาะสมกับปริญญาท่ีได้รับ
(4) ไม่มพี ันธะผกู พนั ใด ๆ กบั มหาวิทยาลยั

(5) ผ่านการปฏบิ ัตกิ รรมฐานตามขอ้ 43 และผา่ นการปฏิบตั ิศาสนกิจข้อใดข้อ หนึง่ ในข้อ 44
48.2 คณบดี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประจาคณะ เป็นผู้เสนอรายชือ่ นักศึกษา

ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 44.1 ให้เป็นผู้สมควรได้รับปริญญาและปริญญาเกียรตินิยมต่อนาย ทะเบียนของ
มหาวิทยาลัย เพื่อเสนอสภาวิชาการพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อขออนุ มัติ การให้
ปริญญา

ข้อ 49 การขอรบั ปรญิ ญา
นักศึกษาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 48 จะต้องยื่นคาร้องขอรับปริญญาต่อนายทะเบียนของ
มหาวิทยาลัยภายในระยะเวลาที่กาหนด มิฉะน้ันจะตอ้ งเสียค่าปรบั ตามประกาศมหาวิทยาลัย และอาจไม่ได้รับ การ
พจิ ารณาเสนอชื่อตอ่ สภามหาวิทยาลัยเพื่ออนมุ ตั ิปริญญาในภาคการศกึ ษาน้นั
ขอ้ 50 การให้ปริญญาเกยี รตินิยมและการใหเ้ หรียญรางวัล ให้เปน็ ไปตามข้อบงั คบั ของ มหาวิทยาลยั
ข้อ 51 พิธีประทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยจะจัดให้มีพิธีประทานปริญญาบัตรสาหรับผู้สาเร็จ
การศึกษาปลี ะ 1 ครง้ั หรอื ตามท่ีมหาวิทยาลยั กาหนด

หมวด 11 คา่ หนว่ ยกิตและคา่ บํารุงการศึกษา
ข้อ 52 ค่าหน่วยกิต ค่าบารุงการศึกษาและค่าธรรมเนียมทางการศึกษา ให้เป็นไปตามที่ สภาวิชาการ
กาหนด โดยทาเปน็ ประกาศประกาศของมหาวทิ ยาลยั
ข้อ 53 กรณีมีความจาเป็น นักศึกษาที่ไม่สามารถชาระค่าหน่วยกิต ค่าบารุงการศึกษา และหรือ
ค่าธรรมเนียมทางการศึกษาได้ทัง้ หมดหรอื บางส่วน ให้ยื่นเรื่องขอผ่อนผันการชาระค่าหน่วยกิต ค่าบารุง การศึกษา
และหรอื ค่าธรรมเนยี มทางการศกึ ษา
การขอผ่อนผนั การชาระค่าหน่วยกติ ค่าบารุงการศึกษา และหรือคา่ ธรรมเนยี มทางการศกึ ษา ใหย้ ่ืนขอ
ผ่อนผนั ตอ่ คณบดี และอธกิ ารบดีหรือผู้ท่ีอธกิ ารบดมี อบหมายเป็นผู้อนุมัติการขอผ่อนผันชาระค่าหน่วยกิต ค่าบารุง

50

การศึกษาและหรือค่าธรรมเนียมทางการศึกษา ทั้งนี้ จะต้องไม่เกินก่อนสอบปลายภาคการศึกษา และไม่ได้รับ
ยกเวน้ คา่ ปรบั การลงทะเบียนล่าช้า

ข้อ 54 นักศึกษาที่อยู่ระหว่างรอรับเงินทุนการศึกษาทุกประเภท ทั้งทุนภายในและภายนอก
มหาวิทยาลัย จะได้รับผอ่ นผันการชาระคา่ หนว่ ยกิต คา่ บารงุ การศกึ ษา และหรอื ค่าธรรมเนียมทางการศกึ ษา จนกว่า
จะได้รับเงินทุนการศึกษา โดยนักศึกษาจะต้องยื่นเรื่องขอผ่อนผันการชาระตามข้อ 54 วรรคสอง พร้ อมเอกสาร
หลักฐานการได้รับทนุ การศึกษา ทง้ั นี้ จะต้องไมเ่ กนิ ก่อนสอบปลายภาคการศึกษา

ข้อ 55 มหาวิทยาลัยอาจพิจารณายกเว้นค่าหน่วยกิตและหรือค่าบารุงการศึกษาก็ได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไป
ตามหลักเกณฑ์ทสี่ ภาวชิ าการกาหนดโดยทาเป็นประกาศของมหาวิทยาลยั

หมวด 12
การประกันคุณภาพหลักสูตร การพัฒนาหลักสตู ร และมาตรฐานความรภู้ าษาอังกฤษ
ข้อ 56 การประกันคุณภาพของหลักสูตร ให้ทุกหลักสูตรกาหนดระบบการประกันคุณภาพของ
หลักสูตร โดยมีองค์ประกอบในการประกันคุณภาพอย่างน้อย 6 ด้าน คือ การกากับมาตรฐาน, บัณฑิต, นักศึกษา,
อาจารย์, หลกั สตู ร การเรยี นการสอน การประเมินผเู้ รียน และสิ่งสนับสนนุ การเรียนรู้
ข้อ 57 การพัฒนาหลักสูตร ให้ทุกหลักสูตรมีการพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย โดยมีการประเมิน และ
รายงานผลการดาเนินการของหลักสูตรทุกปีการศึกษา เพื่อนาข้อมูลที่ได้ไปปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรเป็นระยะ ๆ
อย่างนอ้ ยตามรอบระยะเวลาของหลกั สตู ร หรือทกุ รอบ 5 ปี
ข้อ 58 มาตรฐานความรู้ภาษาอังกฤษ ให้มหาวิทยาลยั จดั ใหม้ รี ะบบมาตรฐานการเรยี นรู้ ภาษาอังกฤษ
และกาหนดเกณฑ์มาตรฐานการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสาหรับนักศึกษา รวมทั้งการส่งเสริมและ พัฒนาการเรียนรู้
ภาษาอังกฤษของนักศึกษา ซึ่งสามารถเทียบเคียงกันได้กับมาตรฐานการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ตามประกาศของ
สานกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ทั้งนี้ นักศึกษาจะตอ้ งมีผลการเรียนร้ภู าษาองั กฤษและผ่านการทดสอบความร้ภู าษาอังกฤษ ตามเกณฑ์
มาตรฐานการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สภาวิชาการกาหนด โดยทาเป็น ประกาศของ
มหาวิทยาลัย

หมวด 13 การพฒั นาอาจารย์และกิจกรรมพฒั นาการเรยี นร้ขู องนักศึกษา
ข้อ 59 การพัฒนาอาจารย์ ให้คณะ ภาควิชา หลักสูตร จัดวางระบบผู้สอนและกระบวนการ จัดการ
เรียนการสอน ระบบการบรหิ ารอาจารยแ์ ละการสง่ เสริมและพัฒนาอาจารย์ การกาหนดผู้สอนโดย คานึงถึงคุณภาพ
ของอาจารย์ ให้สอดคล้องกบั การเกณฑ์มาตรฐานหลักสตู รและเกณฑ์การประกนั คุณภาพ
การศกึ ษา
ขอ้ 60 กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ของนักศึกษา ให้คณะ ภาควิชา หลักสตู ร จัดวางระบบการ กิจกรรม
การเรียนการสอนให้ผู้เรยี นมคี วามรใู้ นวชิ าการและวชิ าชพี มคี ณุ ลักษณะตามหลกั สูต ดงั นี้

51

60.1 จัดให้มีระบบอาจารย์ที่ปรึกษา การควบคุมดูแลการให้คาปรึกษาวิชาการแก่ นักศึกษา
และแนะแนวแก่นักศึกษา จัดบริการให้คาปรึกษาแนะแนวด้านการใช้ชีวิต และการเข้าสู่อาชีพแก่ นักศึกษา จัด
กิจกรรมเตรียมความพร้อมเพื่อการทางานเม่ือสาเรจ็ การศกึ ษา

คุณสมบตั อิ าจารย์ที่ปรึกษาและการแตง่ ต้ังอาจารย์ท่ีปรึกษา หน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบ ของ
อาจารยท์ ปี่ รกึ ษา ให้เปน็ ไปตามประกาศของมหาวิทยาลยั โดยความเห็นชอบของสภาวชิ าการ

60.2 ในการจดั กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรูข้ องนกั ศึกษา ให้เปน็ ไปตามหลกั การดงั นี้
(1) การจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษา ให้มีกิจกรรมพัฒนานักศึกษาครอบคลุม ประเภท

กจิ กรรม ไดแ้ ก่ กจิ กรรมส่งเสริมคุณลักษณะนกั ศึกษาที่พึงประสงค์ของมหาวิทยาลัย กิจกรรมกฬี าหรือ การส่งเสริม
สุขภาพกิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์หรือรักษาสิ่งแวดล้อม กิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม กิ จกรรมส่งเสริม
ศลิ ปะและวัฒนธรรม

(2) ส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมนักศึกษาอย่างเหมาะสม ให้นักศึกษาที่เข้าร่วม กิจกรรมมี
โอกาสได้รับการพัฒนาสติปัญญา สังคม อารมณ์ ร่างกาย และคุณธรรมจริยธรรม ส่งเสริม คุณลักษณะบัณฑิตตาม
มาตรฐานการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ รวมทั้งกิจกรรมการพัฒนา ศักยภาพนักศึกษาและการ
เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

บทเฉพาะกาล
ข้อ 61 ใหใ้ ชร้ ะเบียบน้ี สาหรบั นกั ศึกษาระดบั ปริญญาตรีที่มหาวทิ ยาลัยรับเขา้ ศึกษาตั้งแต่ ปกี ารศึกษา
2559 เป็นต้นไป
สาหรับนักศึกษาที่มหาวทิ ยาลัยรับเข้าศกึ ษาก่อนปกี ารศึกษา 2559 ให้ใช้ระเบียบมหาวิทยาลยั มหาม
กุฏราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศึกษาปริญญาตรี พ.ศ. 2554 หรือให้ปฏบิ ัติตามระเบยี บและหลักเกณฑ์ที่ รับเข้าศึกษา
ในขณะนั้น ไปจนกว่าจะสาเรจ็ การศกึ ษา
ทั้งนี้ ในระหว่างที่ยังไม่ได้ออกประกาศหรือหลักเกณฑ์ที่กาหนดตามระเบียบนี้ ให้ใช้ ประกาศหรือ
หลักเกณฑ์ที่ออกโดยอาศัยระเบียบของมหาวิทยาลัยว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี ฉบับก่อนไปพลาง
จนกว่าจะไดอ้ อกประกาศหรือหลักเกณฑ์ตามระเบยี บฉบับน้ี

52

หมายเหตุ: เหตุผลที่ประกาศใช้ระเบียบนี้ เนื่องจากคณะกรรมการประกันคุณภาพภายในระดับอุดมศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้ประกาศใช้หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันคุณภาพ
ภายในระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2557 โดยมีการปรับปรุงมาตรฐาน ตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินคุณภาพ แบ่งเป็น 3
ระดับ คือ ระดับหลักสูตร ระดับคณะ และระดับสถาบัน ประกอบกับกระทรวงศึกษาธิการ ได้ยกเลิกเกณฑ์
มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2548 และประกาศบังคับใช้เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี
พ.ศ. 2554 มหาวิทยาลัยจึงปรับปรุงแก้ไขระเบียบมหาวิทยาลัยว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี ให้
สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรและเกณฑ์การประกันคุณภาพภายในระดับอุดมศึกษา จึงประกาศใช้
ระเบียบน้ี

53

54

55

56

ประกาศมหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั

เรื่อง ระเบียบปฏิบตั ขิ องนักศึกษา

พ.ศ. 2543

********

เพื่อให้กิจกรรมของนักศึกษามหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวิทยาลัย ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและความเจ

รญิ กา้ วหนา้ ของมหาวิทยาลยั

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 (1) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ.

2540 และมติสภาวิชาการครั้งที่ 11/2542 วันท่ี 14 ธันวาคม 2542 จึงประกาศ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราช

วทิ ยาลัย เรื่อง ระเบยี บปฏิบัตขิ องนกั ศึกษา ดังตอ่ ไปน้ี

หมวด 1

บททัว่ ไป

ขอ้ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบปฏิบัติของนกั ศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2543”

ขอ้ 2 ให้ใช้ระเบยี บปฏบิ ัตินี้ ตง้ั แตว่ ันถดั จากวนั ประกาศเปน็ ตน้ ไป

ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบปฏิบัติของนักศึกษา พ.ศ. 2497 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2531) หรือระเบียบ

อื่นใดทข่ี ัดหรือแย้งกบั ระเบยี บปฏิบัตนิ ี้ แล้วให้ใช้ระเบียบนีแ้ ทน

ข้อ 4 ในระเบยี บขอ้ ปฏิบตั ินี้

“มหาวิทยาลัย” หมายความวา่ มหาวิทยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั รวมถงึ วิทยาเขต

“นกั ศกึ ษา” หมายความว่า พระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์ ที่ลงทะเบียนเป็นนักศึกษา

นักศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และได้รับอนุมัติ

ให้เข้าศึกษาอบรมในมหาวิทยาลัย ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นใด

ชั้นหนึ่ง และนักศึกษาที่อธิการบดีมีคำสั่งพักการเรียน หรือลาพัก

และที่ถูกลงโทษใดๆที่มีเหตุจำเป็นอื่น ๆ ที่จำต้องพักการเรียน

แต่ในกรณีที่ขอพักการเรียนต้องไม่เกิน 6 เดือนของปีการศึกษา

ข้อ 5 ให้รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและรองอธิการบดีประจำวิทยาเขต รักษาการให้เป็นไปตาม

ระเบยี บนี้

หมวด 2

ห้อง คณะและชัน้ เรยี น

ข้อ 6 คำว่า หอ้ งเรยี น คณะ และชนั้ เรยี น ในระเบยี บนมี้ ีความหมาย ดงั ตอ่ ไปน้ี

“ห้องเรยี น” หมายความว่า ชน้ั ทแ่ี บ่งเปน็ หอ้ ง ก. ข. ค. ง. เปน็ ต้น

“คณะ” หมายความว่า

- คณะศาสนาและปรชั ญา

- คณะสงั คมศาสตร์

- คณะมนุษยศาสตร์

57

- คณะศกึ ษาศาสตร์
“ช้นั เรยี น” หมายความวา่

- ช้ันศาสนศาสตร์ปที ่ี 1
- ช้ันศาสนศาสตร์ปที ี่ 2
- ชน้ั ศาสนศาสตร์ปที ่ี 3
- ชนั้ ศาสนศาสตร์ปที ่ี 4

หมวด 3
สิทธิ และหน้าทีน่ กั ศกึ ษา

ข้อ 7 การกระทำหรือการแสดงออกใดๆ ของนักศึกษาจะกระทำได้โดยที่การกระทำหรือการแสดงออกน้ัน
เปน็ ไปเพื่อสรา้ งสรรค์มหาวทิ ยาลยั หรือสังคมส่วนรวม ท้งั นี้ ต้องไมข่ ดั หรือแยง้ กับระเบียบปฏิบัตนิ ้ี

ข้อ 8 นกั ศกึ ษายอ่ มมีสิทธิทีจ่ ะพึงมีพงึ ไดท้ ัดเทยี มกันตามระเบียบน้ี
ขอ้ 9 นักศกึ ษาตอ้ งชว่ ยกจิ กรรมทกุ อย่างท่ีเกดิ ขึ้นในมหาวิทยาลยั หรอื ภายนอกมหาวทิ ยาลัย และกิจกรรม
ทก่ี องพฒั นานักศกึ ษาหรือวทิ ยาลยั ศาสนศาสตร์หรือคณะกรรมการนักศึกษาขอความช่วยเหลือ
ขอ้ 10 นกั ศกึ ษามหี นา้ ท่ีตอ้ งชำระคา่ กิจกรรมนักศกึ ษาตามระเบยี บท่ีมหาวิทยาลัยกำหนด
ข้อ 11 นักศึกษาชั้นศาสนศาสตร์ปีที่ 2 มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นรองประธาน นักศึกษาในปี
การศึกษาต่อไปได้
ข้อ 12 นกั ศึกษาช้ันศาสนศาสตร์ปีที่ 3 มีสิทธลิ์ งสมัครรบั เลอื กตั้งเพื่อเปน็ ประธาน นกั ศกึ ษาในปีการศึกษา
ต่อไปได้ สว่ นวธิ กี าร หลักการสรรหาให้เป็นไปตามข้อ 19 แหง่ ระเบียบนี้
ข้อ 13 นกั ศึกษามสี ทิ ธิเลือกเรียนคณะใดกไ็ ด้ ทัง้ นต้ี อ้ งไมข่ ดั กบั ระเบยี บมหาวิทยาลยั
ข้อ 14 ให้มีหวั หนา้ หอ้ ง หวั หน้าคณะ หวั หน้าชัน้ รองหัวหน้าหอ้ ง รองหัวหน้าคณะ รองหวั หน้าชนั้ ดังน้ี

(1) ให้นักศึกษาแต่ละห้อง แต่ละคณะ แต่ละช้ัน เลือกหวั หน้า รองหวั หนา้ ตามลำดบั
(2) ในกรณที ชี่ ้ันเรยี นไม่ไดแ้ บง่ เป็นหอ้ งหรือคณะ ใหแ้ ตล่ ะช้ันเลอื กหวั หนา้ ชน้ั และรองหวั หนา้ ชนั้
ข้อ 15 นักศึกษามีหน้าที่ต้องเข้าห้องประชุมประจำวันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ต่อ 1 ภาค การศึกษา เพื่อ
แสดงความคิดเห็น รับฟังโอวาทและไหว้พระสวดมนต์ประจำวัน ณ ห้องประชุมใหญ่ หรือสถานที่ที่มหาวิทยาลัย
กำหนด และเพือ่ แสดงออกถงึ ความสามัคคมี นี ้ำหนึ่งใจเดียวกันและนักศกึ ษาจะต้องลงชื่อการเขา้ ประชมุ ทกุ ครง้ั ซงึ่ มี
ผลต่อการพิจารณาเสนอรับทุนการศึกษา และทุนอื่นๆ ตลอดถึงประเมินผลการเรียนในใบแสดงผลการเรียน
(Transcript) เกี่ยวกับกิจกรรมนักศึกษาของมหาวิทยาลัยด้วย หากนักศึกษามีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถจะเข้าร่วม
กิจกรรมดังกล่าวได้ ให้ทำหนังสือขออนุญาตลาเป็นลายลักษณ์อักษรถึงประธานนักศึกษาหรือคณะกรรมการนักศึกษา
โดยใหก้ องพฒั นานักศึกษาและผอู้ ำนวยการวทิ ยาลัยศาสนศาสตร์ จัดทำบัญชีควบคมุ ในเรื่องน้ี
ขอ้ 16 ห้ามนกั ศึกษาแสดงอาการอันไมเ่ คารพและเหมาะสมต่อสถานที่ เช่น สบู บุหรเ่ี ดนิ เคี้ยวของขบเคี้ยว
ส่งเสียงดงั น่งุ ห่มอนั ไมส่ มควร บรเิ วณมหาวทิ ยาลยั โดยเด็ดขาด
ข้อ 17 หัวหน้าห้อง หัวหน้าคณะ หัวหน้าช้ัน มีหน้าที่ควบคุมดูแลนักศึกษาภายในห้อง หรือคณะ หรือชั้น
ของตนเท่านั้น และมีหน้าที่รับนโยบายจากกองพัฒนานักศึกษา ผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์หรือ
คณะกรรมการนกั ศกึ ษามอบหมายให้ไปปฏิบตั ิ

58

ในกรณีหัวหน้าห้อง หัวหน้าคณะ หัวหน้าชั้น ไม่อยู่หรืออยู่แต่ไม่อาจจะปฏิบัติหน้าท่ีได้ ให้รองหัวหน้าหอ้ ง
รองหัวหน้าคณะ รองหัวหนา้ ช้ันปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีแทน

ในกรณีหัวหน้าและรองหัวหน้าตามวรรคสองไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้นักศึกษาในห้องคณะ หรือชั้นนั้นๆ
เลอื กตัวแทนข้นึ มาปฏบิ ัติหน้าทแี่ ทน

ข้อ 18 ให้นักศึกษาเคารพเชื่อฟังคำสั่งของประธานและรองประธานนักศึกษาที่ประกาศหรือขอความ
รว่ มมือในแนวทางที่ถูกต้องและเปน็ ธรรม

หมวด 4
ประธานและรองประธานนกั ศกึ ษา

ข้อ 19 ความเป็นประธานและรองประธานนักศึกษา และวิธีการเป็นประธานและรองประธานนักศึกษา ให้
เป็นไปตามระเบียบวิธีการสรรหา หรือประกาศของมหาวิทยาลัย แต่ต้องกระทำก่อนสอบปลายภาคเรียนท่ี 2
ภายใน 15 วนั

ข้อ 20 ใหม้ หาวิทยาลัยและวิทยาเขตมีประธานนักศึกษาแห่งละ 1 ตำแหน่ง รองประธานนักศึกษาแห่งละ
2 ตำแหนง่ เลขานกุ ารแห่งละ 1 ตำแหนง่ โดยได้รับคา่ ตอบแทนตามทีม่ หาวิทยาลัยกำหนด

ขอ้ 21 ประธานนกั ศึกษามีอำนาจและหน้าท่ี ดงั น้ี
(1) ควบคมุ ดแู ล รบั ผดิ ชอบ และส่งั งานในนามประธานคณะกรรมการนักศึกษา
(2) เป็นผู้ตรวจการ หรืออาจจัดตั้งบุคคล หรือคณะกรรมการในการสอดส่องดูแลพฤติกรรมของ

นักศึกษาทกุ ชนั้ ทุกคณะ และทกุ หอ้ ง
(3) เมื่อพบพฤติกรรมที่เห็นว่าไม่เหมาะสม อันขัดต่อพระธรรมวินัย และประเพณีอันดีงาม

อนั อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแกน่ ักศึกษาและมหาวิทยาลัย ให้ประธานนักศึกษารายงานต่อหนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้องเพ่ือ
พิจารณาโทษ

(4) มีอำนาจยับยั้ง ยกเลิก การประกอบกิจกรรมของแผนก ชมรมหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่ผ่าน
ความเห็นชอบจากคณะกรรมการนกั ศึกษา ใหง้ ดจดั ต้งั เวน้ ไวแ้ ต่กิจกรรมท่ไี ด้รบั การอนมุ ตั จิ ากอธิการบดี

(5) ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกีย่ วขอ้ ง เพ่อื ผลประโยชน์ของนักศึกษาโดยตรง
(6) เปน็ หัวหน้าแผนกพระธรรมวทิ ยากรโดยตำแหนง่
(7) สามารถรับคำร้องเรียน คำเสนอแนะ ที่เห็นสมควรหรือเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา และ
ดำเนนิ การในสงิ่ ท่ีเปน็ ประโยชน์ แกน่ กั ศึกษาและมหาวทิ ยาลัย
(8) มอี ำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการนักศกึ ษาทงั้ คณะ
(9) มอี ำนาจถอดถอนคณะกรรมการท่านใดท่านหนึ่งได้ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการนักศึกษา
(10) มีหน้าที่เสนอรายรับรายจา่ ยของคณะกรรมการนักศกึ ษาต่อกองพฒั นานกั ศึกษา
(11) มอี ำนาจลงนามในหนงั สือต่างๆ ท่อี อกในนามคณะกรรมการนกั ศึกษา
(12) เป็นผเู้ สนอผลงานของคณะกรรมการนกั ศึกษาต่ออธิการบดี
(13) สามารถเบิก – จ่ายเงินในการดำเนินกิจกรรมของคณะกรรมการนักศึกษาได้โดยตรงจาก
กองพัฒนานักศกึ ษา ทงั้ น้ี โดยความเหน็ ชอบจากกองพัฒนานักศึกษาและคณะกรรมการนกั ศึกษา
(14) เป็นตัวแทนในการเรียกร้องสิทธิของนักศึกษา หากเห็นว่าไม่เป็นธรรม ทั้งนี้โดยความ
เหน็ ชอบของคณะกรรมการนักศึกษา

59

ขอ้ 22 หน้าที่ของรองประธานนกั ศึกษา
(1) ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีตามทีป่ ระธานนักศึกษามอบหมายในภารกจิ นน้ั ๆ
(2) ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานนักศึกษา เมื่อประธานนักศึกษา ไม่อยู่ หรือ อยู่แต่ไม่สามารถ

ปฏบิ ัติงานได้
(3) ปฏบิ ตั งิ านอื่นๆ ทม่ี หาวทิ ยาลยั มอบหมาย

หมวด 5
คณะกรรมการนักศกึ ษา

ข้อ 23 คณะกรรมการนักศึกษาประกอบด้วย
(1) ประธานนักศกึ ษา และรองประธานนกั ศึกษา หวั หนา้ ห้อง หัวหน้าคณะ หวั หนา้ ชน้ั เปน็ กรรมการ

โดยตำแหนง่
(2) ให้แต่ละห้อง คณะ ชัน้ คดั เลือกตวั แทน เป็นกรรมการนกั ศกึ ษาโดยแต่งต้งั
(3) ใหป้ ระธานนักศึกษา รองประธาน และหวั หน้าแผนกคัดเลือกกรรมการมาใหค้ รบ ทัง้ นี้ เม่ือรวม

แลว้ ต้องไม่เกนิ 60 ท่าน โดยไมร่ วมกบั กรรมการทป่ี รกึ ษาและอปุ ถมั ภ์
ข้อ 24 สมาชิกภาพของคณะกรรมการนกั ศึกษาจะหมดวาระเมอ่ื
(1) ออกตามวาระ
(2) มรณภาพ/ตาย
(3) ลาออก และไดร้ บั อนมุ ัติ
(4) พน้ สถานภาพความเป็นนักศึกษา
(5) คณะกรรมการนักศึกษามีมติ 3 ใน 4 ให้ออก โดยส่งเรื่องเสนอผบู้ ังคบั บัญชา
(6) อธิการบดมี ีคำสัง่ ให้ออก

หมวด 6
อำนาจหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการนักศกึ ษา

ข้อ 25 คณะกรรมการนกั ศกึ ษามอี ำนาจหน้าท่ีดังน้ี
(1) ดำเนินการตา่ ง ๆ ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบนี้
(2) ชว่ ยเหลือกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย
(3) วางระเบียบตา่ ง ๆ ไวส้ ำหรับปฏิบัตริ ว่ มกนั ของนักศึกษาท่ัวไป
(4) จัดต้งั อนกุ รรมการต่าง ๆ หรอื เจ้าหนา้ ท่ตี ามความเหมาะสม
(5) รเิ ริ่มดำเนินการตา่ ง ๆ อันจะกอ่ ให้เกิดผลดีต่อมหาวทิ ยาลัยและสว่ นรวม

ข้อ 26 คณะกรรมการนกั ศึกษาอาจแบ่งเปน็ แผนกต่าง ๆ ดังนี้
(1) แผนกเลขานกุ าร
(2) แผนกพระธรรมวทิ ยากร
(3) แผนกวิชาการ
(4) แผนกปฏิคมและสวสั ดกิ าร
(5) แผนกวาทศลิ ป์

60

(6) แผนกเหรัญญกิ
(7) แผนกประชาสมั พนั ธ์
(8) แผนกธรุ การ – สถานที่
(9) แผนกศลิ ปกรรมและวรรณกรรมศิลป์
ข้อ 27 เพื่อความเจริญก้าวหน้าของแผนกนั้น ๆ คณะกรรมการแต่ละแผนกมีอำนาจวางกฎระเบียบข้ึนมา
ใช้ในแผนกของตนได้ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการนักศึกษา และใช้ประธานนักศึกษานำเสนอใชร้ ะเบียบนั้น ๆ
ต่อกองพัฒนานักศึกษาหรือวทิ ยาลัยศาสนศาสตร์เพื่อนำเสนอรองอธิการบดีผู้รบั ผิดชอบ หัวหนา้ แผนกต้องรายงาน
ผลการปฏิบัติงานในแผนกเสนอต่อคณะกรรมการนักศึกษาทุกครั้งที่มีการประชุมสามัญประจำเดือน หรือเมื่อ
คณะกรรมการนกั ศึกษาต้องการทราบหรือสอบถามมา
ข้อ 28 คณะกรรมการนักศึกษาต้องแถลงกิจกรรมและผลงานที่ได้ดำเนินไปให้นักศึกษาทราบทุกครั้งที่มี
การประชมุ โดยให้ประธานนักศกึ ษาหรือเลขานุการเรียกประชุมอยา่ งน้อยเดือนละ 1 ครงั้
ข้อ 29 ในกรณีเห็นสมควรที่จะแต่งตั้งที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการประจำแผนกก็ได้ แต่ต้องได้รับความ
เห็นชอบจากประธานนักศึกษา
ข้อ 30 ให้ประธานนักศึกษารายงานกิจกรรมต่างๆ ที่คณะกรรมการนักศึกษาได้ดำเนินไปให้อธิการบดีทราบ
ปลี ะ 2 ครง้ั หรอื เมือ่ อธกิ ารบดีต้องการทราบ
ข้อ 31 เมื่อตำแหน่งของคณะกรรมการนักศึกษาว่างลง เพราะเหตุใดก็ตาม นอกจากออกตามวาระ ให้
ประธานนกั ศกึ ษาแต่งตง้ั ผู้ท่เี หน็ สมควร เปน็ คณะกรรมการนักศกึ ษาแทนภายใน 10 วนั
ข้อ 32 วาระประธานและรองประธานนักศกึ ษาพร้อมท้ังคณะกรรมการนักศึกษาสิน้ สุดลงในวันที่อธกิ ารบดี
ลงนามแต่งตั้งประธานและรองประธานนักศึกษาชุดใหม่ และให้คณะกรรมการนักศึกษาชุดเก่ามอบหมายงานให้
คณะกรรมการชดุ ใหม่ภายใน 15 วนั
การประกาศแตง่ ตงั้ ประธานและรองประธานนักศึกษาต้องประกาศ ในวนั สอบสุดท้ายของการสอบปลายภาคท่ี
2 ของปีการศึกษานั้น ๆ เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่และดำเนินงาน ในกิจกรรมของคณะกรรมการนักศึกษาต่อจาก
ประธานและรองประธานนักศึกษาชุดเดมิ ท่ีหมดวาระลง

หมวด 7
การประชมุ

ข้อ 33 คณะกรรมการนักศึกษาต้องเข้าประชุมปรึกษาหารือในกิจกรรมต่างๆ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ประธานนักศึกษาหรือเลขานุการ เป็นผู้นัดประชุมโดยมีหนังสือไปถึงผู้ต้องการให้เข้าร่วมประชุมทุกคร้ัง
เว้นไว้แต่กรณีเร่งด่วน หากมีกรณีพิเศษหรือคณะกรรมการเข้าชื่อไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งขอให้เปิดการประชุม ประธาน
นกั ศกึ ษาอาจเรียกประชมุ กไ็ ด้

ข้อ 34 การประชุมคณะกรรมการนักศึกษา ต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งเข้าประชุมจึงจะนับเป็นองค์
ประชมุ

ขอ้ 35 ห้ามมิให้ผใู้ ดพดู จาส่อเสียด กา้ วร้าวประธานหรอื สมาชกิ ในท่ปี ระชมุ
ข้อ 36 ถ้าประธานในที่ประชุมเห็นว่าสมาชิกในที่ประชุมไม่เคารพต่อที่ประชุม ก็อาจนิมนต์หรือเชิญออก
จากหอ้ งประชุมกไ็ ด้
ขอ้ 37 หา้ มผู้ทีม่ ิได้รับนมิ นต์/เชิญเข้าร่วมประชุม เว้นไว้แต่ได้รบั อนญุ าตจากประธานทป่ี ระชมุ

61

ข้อ 38 ผเู้ ข้ารว่ มประชมุ ตอ้ งแตง่ กายสภุ าพเรยี บร้อย และรักษากิริยามารยาทของทป่ี ระชุม
ข้อ 39 เมื่อสมาชิกในที่ประชุมต้องการแสดงความคิดเห็น ให้ยกมือขออนุญาตก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจาก
ประธานท่ปี ระชุมแลว้ จงึ จะสามารถแสดงความคิดเหน็ ได้

หมวด 8
กรรมการทป่ี รกึ ษาและอปุ ถมั ภ์

ขอ้ 40 กรรมการทีป่ รกึ ษาประกอบด้วย
(1) รองอธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา หรือรองอธิการบดีประจำวิทยาเขตเป็นกรรมการที่ปรึกษาโดย

ตำแหนง่
(2) หัวหน้ากองพัฒนานักศึกษา หรือผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์ เป็นกรรมการที่ปรึกษาโดย

ตำแหนง่
ข้อ 41 ให้คณะกรรมการนักศึกษานิมนต์/เชิญ บุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นกรรมการที่ปรึกษาและ

อุปถัมภ์ เฉพาะกรรมการที่ปรึกษา ให้ประธานนักศึกษาและคณะกรรมการนักศึกษาพิจารณาแต่งตั้ง โดยคัดเลือก
จากคุณสมบตั ิของนักศึกษาในช้ัน/คณะ และปีทนี่ กั ศึกษากำลังศึกษาอยู่ตามลำดับอาวุโส ทัง้ นี้ เพ่อื ให้เกดิ ความเหมาะสม
และการประสานงานในการบริหารของคณะกรรมการนักศึกษาดำเนินไปด้วยความเรยี บร้อย

ข้อ 42 ให้ประธานนักศึกษาและคณะกรรมการนักศึกษามีอำนาจหน้าที่ในการคัดเลือกบุคคล ทั้งที่เป็น
บรรพชิตและคฤหัสถ์ ภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย แต่งตั้งเป็นกรรมการอุปถัมภ์ ทั้งนี้ต้องพิจารณาดูความ
เหมาะสมว่า มีคุณสมบตั เิ พอื่ เออ้ื ประโยชนต์ ่อกิจกรรมของคณะกรรมการนักศึกษาโดยรวมหรือไม่

ขอ้ 43 สถานภาพของกรรมการทป่ี รกึ ษาและอุปถมั ภ์ จะสน้ิ สุดลงต่อเม่ือหมดวาระการทำงานตามระเบียบ
ของคณะกรรมการนักศึกษา หรือในกรณีมีความจำเป็น สามารถถอดถอนสถานภาพจากการเป็นกรรมการท่ีปรึกษา
และอุปถัมภ์ได้ โดยความเห็นชอบของประธาน นักศึกษาและคณะกรรมการนักศึกษาเป็นผู้พิจารณา ทั้งน้ี การ
พิจารณาแต่งตั้งและการถอดถอนสถานภาพในการเป็นกรรมการที่ปรึกษาและอุปถัมภ์ ต้องผ่านความเห็นชอบของ
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาหรือรองอธิการบดีประจำวิทยาเขต โดยให้หัวหน้ากองพัฒนานักศึกษาหรือ
ผ้อู ำนวยการวทิ ยาลยั ศาสนศาสตร์เป็นผู้นำเร่ืองเสนอ

ข้อ 44 หน้าที่ของกรรมการที่ปรึกษาและอุปถัมภ์ เฉพาะกรรมการที่ปรึกษามีหน้าที่ในการให้คำแนะนำต่างๆ
ในการบริหารงานของคณะกรรมการนักศึกษารวมทั้งการให้ความร่วมมือ ประสานงานในแผนกต่างๆ ที่มี
ความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันในการทำงานระหว่างคณะกรรมการนักศึกษากับสำนักงานอธิการบดีอย่างต่อเน่ือง ทั้งน้ี
เพ่ือให้เกิดความคลอ่ งตวั และเกิดประสิทธิภาพตอ่ การบรหิ ารงานของคณะกรรมการนักศึกษา

หมวด 9
การเงนิ และงบประมาณ

ขอ้ 45 การควบคุมรายรับ/รายจ่าย ของคณะกรรมการนักศกึ ษาให้ขนึ้ ตรงต่อประธานนักศึกษา คอื
(1) การขอความอุปถัมภ์ในนามของคณะกรรมการนักศึกษา หรือแผนกฯ ชมรมฯ ต่าง ๆ ให้

เจ้าของโครงการนำเรอื่ งเข้าชแ้ี จงในท่ปี ระชุมคณะกรรมการนักศึกษาทราบก่อน ไมน่ อ้ ยกวา่ 15 วัน
(2) ให้แต่ละแผนก เสนอผลงาน และรายรับ/รายจ่าย ต่อประธานนักศึกษา เมื่อกิจกรรมหรือ

โครงการน้ัน ๆ สน้ิ สุดอย่างน้อย ภายใน 15 วนั

62

(3) ให้ประธานนักศึกษา แจ้งผลรายรับ/รายจ่าย ต่อกรรมการนักศึกษาเมื่อมี การประชุมสามัญ
ประจำเดือน แล้วรายงานใหก้ องพฒั นานักศึกษา หรือวทิ ยาลยั ศาสนศาสตรท์ ราบตามลำดบั

หมวด 10
เบด็ เตลด็

ข้อ 46 การปฏิบัติงานของคณะกรรมการนักศึกษา ในกรณีที่มีการใช้อำนาจหน้าที่ตามข้อระเบียบปฏิบัติ
หรือข้อบังคับนั้น ขัดข้องมีนัยไม่ชัดเจน หรอื เพราะเร่ืองอ่นื ใด ให้คณะกรรมการนักศึกษาโดยประธานนักศึกษาประชุม
พิจารณาตามหน้าที่นั้น ๆ โดยผ่านความเห็นชอบของหัวหน้ากองพัฒนานักศึกษาหรือวิทยาลัยศาสนศาสตร์ นำขึ้น
เสนอต่อรองอธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา หรือรองอธิการบดีประจำวิทยาเขตพิจารณาดูความเหมาะสมถูกต้อง
แล้วจึงนำเสนออธิการบดมี หาวิทยาลยั เปน็ ผลู้ งนามอนมุ ตั ิ

ขอ้ 47 กจิ กรรมใด ๆ ของนกั ศกึ ษาที่จดั ขึ้น ต้องไดร้ บั การพิจารณาอนมุ ัตโิ ดยอธกิ ารบดี
ข้อ 48 การลิดรอนสิทธิหรือการลงโทษนักศึกษาผู้ไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ จะทำได้โดยความเห็นชอบของ
คณะกรรมการนักศกึ ษา ใหป้ ระธานนกั ศึกษาเสนอเรือ่ งพจิ ารณาโทษไปยังแผนกทเี่ ก่ียวข้องตามลำดบั
ข้อ 49 อธิการบดีสามารถลงโทษนักศึกษาที่ละเมิดต่อข้อระเบียบบังคับหรือการกระทำผิดอื่นใด อันเข้าข่าย
ละเมดิ ระเบียบขอ้ บงั คบั น้นั ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกมหาวทิ ยาลัย
ขอ้ 50 การลงโทษผู้กระทำความผิดต่อระเบียบปฏบิ ตั ินี้ คอื

(1) ตกั เตอื น
(2) ภาคทัณฑ์
(3) ส่ังพักการเรียน
(4) ใหพ้ ้นสถานภาพนักศกึ ษา
การลงโทษต่อคณะกรรมการนักศึกษาหรือนักศึกษารูปใดรูปหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมเป็นบ่อนทำลายศาสนาหรือทำ
ความเสียหายให้แก่คณะกรรมการนักศึกษา รวมท้งั มหาวิทยาลัยในเรื่องใดเรื่องหน่ึง การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นภายใน
หรือภายนอกมหาวิทยาลัยก็ตาม สามารถลงโทษนักศึกษาที่กระทำผิดนั้นตามระเบียบข้อบังคับอย่างเด็ดขาด โดย
กองพฒั นานักศึกษาหรือวิทยาลัยศาสนศาสตร์เป็นผนู้ ำเรื่องเสนอในการลงโทษต่ออธกิ ารบดี

ประกาศ ณ วนั ท่ี 2 เดือน พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช 2543

(พระธรรมปัญญาจารย์)
อธกิ ารบดี

มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลัย

63

ประกาศมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
เร่ือง ระเบยี บปฏบิ ัตขิ องนกั ศกึ ษา
พ.ศ. 2543
********

เพื่อให้กิจกรรมของนักศกึ ษามหาวทิ ยาลัยมหามกุฏราชวทิ ยาลัย ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและความเจ
รกิ า้ วหนา้ ของมหาวิทยาลัย

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 (1) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ.
2540 และมตสิ ภาวิชาการครงั้ ที่ 11/2542 วันท่ี 14 ธันวาคม 2542 จึงประกาศ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวทิ ยาลัย
เรอื่ ง ระเบียบปฏบิ ัติของนักศึกษา ดงั ตอ่ ไปน้ี

หมวด 1
บทท่ัวไป
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบปฏิบัติของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
พ.ศ. 2543”
ข้อ 2 ใหใ้ ชร้ ะเบยี บปฏบิ ตั ินี้ ตัง้ แตว่ ันถัดจากวันประกาศเปน็ ตน้ ไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบปฏิบัติของนักศึกษา พ.ศ. 2497 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2531) หรือระเบียบอื่น
ใดท่ขี ัดหรือแยง้ กบั ระเบยี บปฏิบัตนิ ้ี แล้วใหใ้ ช้ระเบียบน้แี ทน
ขอ้ 4 ในระเบียบขอ้ ปฏบิ ตั นิ ี้
“มหาวทิ ยาลยั ” หมายความวา่ มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลัย รวมถงึ วทิ ยาเขต
“นกั ศึกษา” หมายความว่า พระภกิ ษุสามเณรและคฤหสั ถ์ ทล่ี งทะเบยี นเป็น
นักศกึ ษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลยั และ
ไดร้ บั อนมุ ตั ิใหเ้ ข้าศึกษาอบรมในมหาวิทยาลยั ซึง่
กำลงั ศึกษาอยู่ชัน้ ใดช้ันหนึง่ และนกั ศกึ ษาที่อธิการบดี
มีคำสง่ั พักการเรียน หรือลาพัก และที่ถูกลงโทษใดๆ
ท่มี เี หตจุ ำเป็นอ่ืนๆ ทจ่ี ำตอ้ งพกั การเรยี น แตใ่ นกรณี
ท่ขี อพกั การเรียนตอ้ งไมเ่ กิน 6 เดอื นของปกี ารศกึ ษา
ข้อ 5 ใหร้ องอธิการบดฝี า่ ยกิจการนกั ศกึ ษาและรองอธิการบดปี ระจำวิทยาเขต รกั ษาการ
ให้เปน็ ไปตามระเบียบนี้
หมวด 2
หอ้ ง คณะและชั้นเรยี น
ขอ้ 6 คำว่า ห้องเรยี น คณะ และชัน้ เรยี น ในระเบยี บนม้ี คี วามหมาย ดังตอ่ ไปน้ี

64

“ห้องเรยี น” หมายความว่า ชัน้ ที่แบง่ เป็นหอ้ ง ก. ข. ค. ง. เปน็ ตน้
“คณะ” หมายความวา่

- คณะศาสนาและปรชั ญา
- คณะสังคมศาสตร์
- คณะมนุษยศาสตร์
- คณะศกึ ษาศาสตร์
“ชัน้ เรียน”หมายความว่า
- ชน้ั ศาสนศาสตรป์ ที ี่ 1
- ชน้ั ศาสนศาสตร์ปีที่ 2
- ชั้นศาสนศาสตรป์ ที ่ี 3
- ชน้ั ศาสนศาสตร์ปที ี่ 4

หมวด 3
สิทธิ และหน้าทนี่ กั ศกึ ษา
ข้อ 7 การกระทำหรือการแสดงออกใดๆ ของนักศึกษาจะกระทำได้โดยที่การกระทำหรือการแสดงออกนน้ั
เป็นไปเพื่อสรา้ งสรรค์มหาวทิ ยาลัยหรือสังคมส่วนรวม ท้งั น้ี ตอ้ งไม่ขดั หรือแย้งกบั ระเบียบปฏิบัตนิ ี้
ข้อ 8 นกั ศึกษายอ่ มมสี ทิ ธทิ ่จี ะพึงมีพึงไดท้ ัดเทยี มกันตามระเบยี บน้ี
ข้อ 9 นักศึกษาตอ้ งชว่ ยกิจกรรมทกุ อย่างที่เกดิ ขึ้นในมหาวิทยาลัย หรอื ภายนอกมหาวิทยาลยั และกจิ กรรม
ทีก่ องพัฒนานักศกึ ษาหรอื วทิ ยาลยั ศาสนศาสตรห์ รือคณะกรรมการนักศึกษาขอความชว่ ยเหลอื
ข้อ 10 นกั ศกึ ษามีหนา้ ที่ต้องชำระคา่ กจิ กรรมนกั ศึกษาตามระเบียบทมี่ หาวทิ ยาลยั กำหนด
ข้อ 11 นักศึกษาชั้นศาสนศาสตร์ปีที่ 2 มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นรองประธาน นักศึกษาในปี
การศกึ ษาตอ่ ไปได้
ข้อ 12 นกั ศึกษาชนั้ ศาสนศาสตร์ปีที่ 3 มสี ทิ ธ์ลิ งสมคั รรบั เลือกตง้ั เพ่ือเป็นประธาน นักศึกษาในปีการศึกษา
ต่อไปได้ ส่วนวธิ กี าร หลกั การสรรหาให้เป็นไปตามข้อ 19 แห่งระเบยี บนี้
ข้อ 13 นกั ศึกษามสี ิทธเิ ลอื กเรยี นคณะใดกไ็ ด้ ทง้ั นี้ต้องไม่ขัดกบั ระเบียบมหาวิทยาลยั
ขอ้ 14 ให้มีหวั หน้าห้อง หัวหน้าคณะ หวั หน้าชั้น รองหวั หน้าหอ้ ง รองหวั หน้าคณะ รองหัวหนา้ ชน้ั ดังน้ี
(1) ให้นักศกึ ษาแต่ละห้อง แตล่ ะคณะ แตล่ ะชน้ั เลือกหัวหน้า รองหัวหน้าตามลำดบั
(2) ในกรณีที่ชนั้ เรียนไม่ได้แบง่ เป็นห้องหรือคณะ ให้แตล่ ะช้ันเลือกหัวหนา้ ชนั้
และรองหัวหนา้ ชัน้
ขอ้ 15 นักศึกษามีหน้าทต่ี อ้ งเข้าห้องประชมุ ประจำวันไม่ตำ่ กว่าร้อยละ 50 ตอ่ 1 ภาค การศึกษา เพ่อื แสดง
ความคิดเห็น รับฟังโอวาทและไหว้พระสวดมนต์ประจำวัน ณ ห้องประชุมใหญ่ หรือสถานที่ที่มหาวิทยาลัยกำหนด

65

และเพื่อแสดงออกถึงความสามัคคีมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันและนักศึกษาจะต้องลงชื่อการเข้าประชุมทุกครั้ง ซึ่งมีผลต่อ
การพิจารณาเสนอรบั ทุนการศึกษา และทนุ อ่นื ๆ ตลอดถึงประเมนิ ผลการเรียนในใบแสดงผลการเรยี น (Transcript)
เกี่ยวกับกิจกรรมนักศกึ ษาของมหาวิทยาลยั ด้วย หากนักศึกษามีเหตุจำเป็นที่ไมส่ ามารถจะเขา้ ร่วมกิจกรรมดังกล่าว
ได้ ให้ทำหนังสือขออนุาตลาเป็นลายลักษณ์อักษรถึงประธานนักศึกษาหรือคณะกรรมการนักศึกษา โดยให้กองพัฒนา
นกั ศกึ ษาและผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์ จัดทำบัญชีควบคุมในเรอื่ งนี้

ข้อ 16 ห้ามนกั ศึกษาแสดงอาการอนั ไม่เคารพและเหมาะสมต่อสถานที่ เชน่ สบู บุหร่ี
เดินเคย้ี วของขบเค้ยี ว ส่งเสียงดงั นุ่งหม่ อนั ไมส่ มควร บริเวณมหาวทิ ยาลัยโดยเดด็ ขาด

ข้อ 17 หัวหน้าห้อง หัวหน้าคณะ หัวหน้าชั้น มีหน้าที่ควบคุมดูแลนักศึกษาภายในห้อง หรือคณะ หรือช้ัน
ของตนเท่านั้น และมีหน้าที่รับนโยบายจากกองพัฒนานักศึกษา ผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์หรือ
คณะกรรมการนักศึกษามอบหมายให้ไปปฏบิ ัติ

ในกรณีหัวหน้าห้อง หัวหน้าคณะ หัวหน้าชั้น ไม่อยู่หรืออยู่แต่ไม่อาจจะปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองหัวหนา้ หอ้ ง
รองหัวหน้าคณะ รองหวั หนา้ ชัน้ ปฏิบัติหน้าทแี่ ทน

ในกรณีหัวหน้าและรองหัวหน้าตามวรรคสองไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้นักศึกษาในห้องคณะ หรือชั้นนั้นๆ
เลือกตัวแทนข้นึ มาปฏิบัตหิ นา้ ทแี่ ทน

ข้อ 18 ให้นักศึกษาเคารพเชื่อฟังคำสั่งของประธานและรองประธานนักศึกษาที่ประกาศหรือขอความ
ร่วมมอื ในแนวทางทถี่ ูกต้องและเป็นธรรม

หมวด 4
ประธานและรองประธานนักศกึ ษา
ขอ้ 19 ความเปน็ ประธานและรองประธานนักศึกษา และวธิ ีการเปน็ ประธานและรองประธานนักศึกษา ให้
เป็นไปตามระเบียบวิธีการสรรหา หรือประกาศของมหาวิทยาลัย แต่ต้องกระทำก่อนสอบปลายภาคเรียนท่ี 2
ภายใน 15 วัน
ข้อ 20 ให้มหาวิทยาลัยและวิทยาเขตมีประธานนักศึกษาแห่งละ 1 ตำแหน่ง รองประธานนักศึกษาแห่งละ
2 ตำแหนง่ เลขานกุ ารแหง่ ละ 1 ตำแหน่ง โดยไดร้ ับคา่ ตอบแทนตามทม่ี หาวทิ ยาลัยกำหนด
ข้อ 21 ประธานนักศึกษามีอำนาจและหนา้ ที่ ดงั นี้
(1) ควบคมุ ดูแล รบั ผดิ ชอบ และสัง่ งานในนามประธานคณะกรรมการนักศึกษา
(2) เป็นผู้ตรวจการ หรืออาจจัดตงั้ บุคคล หรือคณะกรรมการในการสอดส่องดูแล
พฤตกิ รรมของนักศึกษาทุกช้ัน ทกุ คณะ และทุกห้อง
(3) เม่อื พบพฤตกิ รรมที่เห็นว่าไมเ่ หมาะสม อนั ขดั ตอ่ พระธรรมวนิ ัย และประเพณี
อันดีงาม อันอาจนำมาซ่งึ ความเสอ่ื มเสียแก่นักศกึ ษาและมหาวทิ ยาลัย ให้
ประธานนกั ศึกษารายงานต่อหน่วยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งเพื่อพิจารณาโทษ

66

(4) มีอำนาจยบั ย้ัง ยกเลิก การประกอบกิจกรรมของแผนก ชมรมหรอื กลุ่มบุคคลท่ี
ไมผ่ ่านความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการนักศึกษา ให้งดจดั ตั้ง เว้นไวแ้ ต่
กิจกรรมท่ีได้รบั การอนุมัตจิ ากอธิการบดี

(5) ประสานงานกบั หน่วยงานต่างๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง เพอ่ื ผลประโยชน์ของนักศึกษาโดยตรง
(6) เปน็ หวั หน้าแผนกพระธรรมวิทยากรโดยตำแหนง่
(7) สามารถรบั คำรอ้ งเรียน คำเสนอแนะ ทีเ่ หน็ สมควรหรอื เปน็ ประโยชน์ต่อนกั ศึกษา

และดำเนินการในสง่ิ ทีเ่ ป็นประโยชน์ แก่นกั ศึกษาและมหาวิทยาลยั
(8) มีอำนาจแตง่ ต้งั คณะกรรมการนักศึกษาท้งั คณะ
(9) มีอำนาจถอดถอนคณะกรรมการทา่ นใดทา่ นหนงึ่ ได้ โดยความเห็นชอบของ

คณะกรรมการนกั ศกึ ษา
(10) มหี น้าที่เสนอรายรับรายจ่ายของคณะกรรมการนกั ศกึ ษาตอ่ กองพัฒนานกั ศึกษา
(11) มีอำนาจลงนามในหนงั สือต่างๆ ทอ่ี อกในนามคณะกรรมการนักศกึ ษา
(12) เปน็ ผเู้ สนอผลงานของคณะกรรมการนกั ศกึ ษาต่ออธกิ ารบดี
(13) สามารถเบิก – จา่ ยเงินในการดำเนินกิจกรรมของคณะกรรมการนักศึกษาไดโ้ ดย

ตรงจากกองพัฒนานักศึกษา ทง้ั นี้ โดยความเหน็ ชอบจากกองพฒั นานกั ศกึ ษาและ
คณะกรรมการนักศกึ ษา
(14) เป็นตัวแทนในการเรยี กร้องสทิ ธขิ องนักศึกษา หากเหน็ ว่าไม่เป็นธรรม ท้งั นี้
โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการนักศกึ ษา
ข้อ 22 หน้าทขี่ องรองประธานนกั ศกึ ษา
(1) ปฏิบัตหิ นา้ ทีต่ ามทปี่ ระธานนกั ศกึ ษามอบหมายในภารกิจนน้ั ๆ
(2) ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีแทนประธานนักศกึ ษา เมอื่ ประธานนกั ศึกษา ไมอ่ ยู่ หรือ อยู่แต่ไม่
สามารถปฏิบัตงิ านได้
(3) ปฏิบัตงิ านอนื่ ๆ ทม่ี หาวทิ ยาลยั มอบหมาย

หมวด 5
คณะกรรมการนกั ศกึ ษา
ขอ้ 23 คณะกรรมการนักศกึ ษาประกอบด้วย
(1) ประธานนกั ศึกษา และรองประธานนักศกึ ษา หัวหนา้ ห้อง หวั หนา้ คณะ หัวหนา้ ชั้น
เปน็ กรรมการโดยตำแหนง่
(2) ให้แตล่ ะห้อง คณะ ชน้ั คดั เลือกตัวแทน เป็นกรรมการนกั ศกึ ษาโดยแตง่ ตง้ั
(3) ให้ประธานนกั ศกึ ษา รองประธาน และหวั หน้าแผนกคัดเลือกกรรมการมาให้ครบ

67

ทัง้ นี้ เม่ือรวมแลว้ ต้องไมเ่ กิน 60 ท่าน โดยไมร่ วมกบั กรรมการทปี่ รึกษาและอุปถัมภ์
ขอ้ 24 สมาชกิ ภาพของคณะกรรมการนกั ศึกษาจะหมดวาระเม่ือ
(1) ออกตามวาระ
(2) มรณภาพ/ตาย
(3) ลาออก และไดร้ บั อนุมตั ิ
(4) พ้นสถานภาพความเปน็ นกั ศกึ ษา
(5) คณะกรรมการนกั ศึกษามีมติ 3 ใน 4 ใหอ้ อก โดยส่งเรอื่ งเสนอผ้บู ังคับบัญชา
(6) อธกิ ารบดีมคี ำส่งั ใหอ้ อก

หมวด 6
อำนาจหน้าทข่ี องคณะกรรมการนกั ศกึ ษา
ขอ้ 25 คณะกรรมการนักศึกษามีอำนาจหน้าที่ดงั น้ี
(1) ดำเนินการต่าง ๆ ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบน้ี
(2) ช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
(3) วางระเบียบต่างๆ ไวส้ ำหรับปฏบิ ัติร่วมกนั ของนกั ศึกษาท่ัวไป
(4) จดั ต้งั อนกุ รรมการตา่ งๆ หรอื เจา้ หนา้ ทีต่ ามความเหมาะสม
(5) ริเร่มิ ดำเนินการตา่ งๆ อนั จะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลดตี ่อมหาวิทยาลัยและส่วนรวม
ขอ้ 26 คณะกรรมการนักศึกษาอาจแบ่งเป็นแผนกต่างๆ ดงั นี้
(1) แผนกเลขานกุ าร
(2) แผนกพระธรรมวทิ ยากร
(3) แผนกวิชาการ
(4) แผนกปฏิคมและสวสั ดิการ
(5) แผนกวาทศลิ ป์
(6) แผนกเหรัญญิก
(7) แผนกประชาสัมพันธ์
(8) แผนกธรุ การ – สถานที่
(9) แผนกศลิ ปกรรมและวรรณกรรมศลิ ป์
ขอ้ 27 เพื่อความเจริกา้ วหนา้ ของแผนกนนั้ ๆ คณะกรรมการแตล่ ะแผนกมอี ำนาจวาง
กฎระเบียบขึน้ มาใช้ในแผนกของตนได้ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการนักศึกษา และใช้
ประธานนักศึกษานำเสนอใช้ระเบยี บนน้ั ๆ ต่อกองพฒั นานกั ศึกษาหรอื วทิ ยาลัยศาสนศาสตร์

68

เพือ่ นำเสนอรองอธกิ ารบดีผรู้ ับผดิ ชอบ หัวหนา้ แผนกตอ้ งรายงานผลการปฏบิ ัติงานในแผนกเสนอ
ตอ่ คณะกรรมการนักศึกษาทกุ คร้งั ทม่ี กี ารประชุมสามญั ประจำเดือน หรอื เมื่อคณะกรรมการนกั ศกึ ษา
ตอ้ งการทราบหรอื สอบถามมา

ข้อ 28 คณะกรรมการนักศึกษาต้องแถลงกิจกรรมและผลงานท่ไี ดด้ ำเนินไปให้นักศึกษา
ทราบทุกคร้ังท่ีมกี ารประชมุ โดยใหป้ ระธานนักศึกษาหรอื เลขานกุ ารเรียกประชมุ อย่างน้อยเดอื นละ 1 ครง้ั

ข้อ 29 ในกรณเี หน็ สมควรท่จี ะแต่งต้งั ที่ปรกึ ษาหรืออนุกรรมการประจำแผนกก็ได้ แตต่ ้อง
ไดร้ ับความเหน็ ชอบจากประธานนกั ศกึ ษา

ขอ้ 30 ใหป้ ระธานนักศึกษารายงานกจิ กรรมต่างๆ ทีค่ ณะกรรมการนักศึกษาได้ดำเนินไปให้อธกิ ารบดีทราบ
ปลี ะ 2 ครง้ั หรือ เม่ืออธกิ ารบดีต้องการทราบ

ข้อ 31 เมื่อตำแหน่งของคณะกรรมการนักศึกษาว่างลง เพราะเหตุใดก็ตาม นอกจากออกตามวาระ ให้
ประธานนกั ศกึ ษาแตง่ ตั้งผูท้ เี่ หน็ สมควร เปน็ คณะกรรมการนกั ศึกษาแทนภายใน 10 วัน

ข้อ 32 วาระประธานและรองประธานนักศึกษาพร้อมท้ังคณะกรรมการนักศึกษาสิน้ สดุ ลง
ในวันท่อี ธิการบดลี งนามแต่งตัง้ ประธานและรองประธานนกั ศึกษาชดุ ใหม่ และใหค้ ณะกรรมการ
นักศึกษาชดุ เก่ามอบหมายงานให้คณะกรรมการชดุ ใหม่ภายใน 15 วัน

การประกาศแต่งต้ังประธานและรองประธานนักศึกษาต้องประกาศใน วันสอบสุดท้าย
ของการสอบปลายภาคท่ี 2 ของปีการศึกษานัน้ ๆ เพอ่ื จะไดป้ ฏิบัติหนา้ ท่ีและดำเนินงาน ในกิจกรรม
ของคณะกรรมการนกั ศกึ ษาต่อจากประธานและรองประธานนักศึกษาชุดเดิมทห่ี มดวาระลง

หมวด 7
การประชมุ
ข้อ 33 คณะกรรมการนักศึกษาต้องเข้าประชุมปรึกษาหารือในกิจกรรมต่างๆ อย่างน้อย
เดือนละ 1 คร้ัง ประธานนักศึกษาหรือเลขานุการ เป็นผู้นัดประชุมโดยมีหนังสือไปถึงผู้ต้องการ
ให้เข้าร่วมประชุมทุกคร้ัง เว้นไว้แต่กรณีเร่งด่วน หากมีกรณีพิเศษหรือคณะกรรมการเข้าช่ือ
ไม่นอ้ ยกวา่ กึง่ หน่ึงขอให้เปิดการประชุม ประธานนักศึกษาอาจเรยี กประชมุ กไ็ ด้
ข้อ 34 การประชุมคณะกรรมการนักศึกษา ต้องมีกรรมการไมน่ ้อยกวา่ กึ่งหนึ่งเข้าประชุม
จงึ จะนับเปน็ องค์ประชุม
ขอ้ 35 ห้ามมใิ ห้ผ้ใู ดพูดจาส่อเสียด ก้าวร้าวประธานหรือสมาชิกในทีป่ ระชุม
ข้อ 36 ถ้าประธานในที่ประชุมเห็นว่าสมาชิกในที่ประชุมไม่เคารพต่อที่ประชุม ก็อาจนิมนต์หรือเชิญออก
จากหอ้ งประชุมก็ได้
ขอ้ 37 หา้ มผ้ทู ี่มไิ ดร้ ับนิมนต์/เชิญเขา้ ร่วมประชุม เวน้ ไว้แตไ่ ดร้ ับอนญุ าตจากประธานทป่ี ระชุม
ข้อ 38 ผเู้ ข้ารว่ มประชมุ ต้องแต่งกายสภุ าพเรยี บร้อย และรักษากริ ิยามารยาทของทีป่ ระชุม

69

ข้อ 39 เมื่อสมาชิกในที่ประชุมต้องการแสดงความคิดเห็น ให้ยกมือขออนุญาตก่อน เมื่อได้รับ อนุญาต
จากประธานทป่ี ระชุมแลว้ จงึ จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

หมวด 8
กรรมการท่ปี รกึ ษาและอปุ ถมั ภ์
ข้อ 40 กรรมการทป่ี รกึ ษาประกอบดว้ ย
(1) รองอธกิ ารบดฝี ่ายกิจกรรมนักศึกษา หรอื รองอธกิ ารบดปี ระจำวิทยาเขตเปน็
กรรมการท่ปี รกึ ษาโดยตำแหนง่
(2) หวั หนา้ กองพัฒนานักศึกษา หรือผอู้ ำนวยการวิทยาลยั ศาสนศาสตร์ เปน็
กรรมการท่ีปรึกษาโดยตำแหนง่
ข้อ 41 ให้คณะกรรมการนักศึกษานิมนต์/เชิญ บุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นกรรมการที่ปรึกษาและ
อุปถัมภ์ เฉพาะกรรมการที่ปรึกษา ให้ประธานนักศึกษาและคณะกรรมการนักศึกษาพิจารณาแต่งตั้ง โดยคัดเลือก
จากคุณสมบัติของนักศึกษาในชั้น/คณะ และปีที่นักศึกษากำลังศึกษาอยู่ตามลำดับอาวุโส ท้ังน้ี เพื่อให้เกิดความ
เหมาะสมและการประสานงานในการบริหารของคณะกรรมการนกั ศกึ ษาดำเนินไปดว้ ยความเรยี บร้อย
ข้อ 42 ให้ประธานนักศึกษาและคณะกรรมการนักศึกษามีอำนาจหน้าที่ในการคัดเลือกบุคคล ทั้งที่เป็น
บรรพชิตและคฤหัสถ์ ภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย แต่งตั้งเป็นกรรมการอุปถัมภ์ ทั้งนี้ต้องพิจารณาดูความ
เหมาะสมวา่ มคี ณุ สมบตั เิ พื่อเอื้อประโยชน์ต่อกจิ กรรมของคณะกรรมการนักศึกษาโดยรวมหรอื ไม่
ขอ้ 43 สถานภาพของกรรมการทปี่ รึกษาและอุปถัมภ์ จะสิ้นสุดลงตอ่ เม่ือหมดวาระการทำงานตามระเบียบ
ของคณะกรรมการนักศึกษา หรอื ในกรณีมีความจำเป็น สามารถถอดถอนสถานภาพจากการเป็นกรรมการท่ีปรึกษา
และอุปถัมภ์ได้ โดยความเห็นชอบของประธาน นักศึกษาและคณะกรรมการนักศึกษาเป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้ การ
พิจารณาแต่งตั้งและการถอดถอนสถานภาพในการเป็นกรรมการที่ปรึกษาและอุปถัมภ์ ต้องผ่านความเห็นชอบของ
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาหรือรองอธิการบดีประจำวิทยาเขต โดยให้หัวหน้ากองพัฒนานักศึกษาหรือ
ผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์เป็นผูน้ ำเรื่องเสนอ
ข้อ 44 หน้าที่ของกรรมการที่ปรึกษาและอุปถัมภ์ เฉพาะกรรมการที่ปรึกษามีหน้าที่ในการให้คำแนะนำ
ต่างๆ ในการบริหารงานของคณะกรรมการนักศึกษารวมทั้งการให้ความร่วมมือ ประสานงานในแผนกต่างๆ ที่มี
ความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันในการทำงานระหว่างคณะกรรมการนักศึกษากับสำนักงานอธิการบดีอย่างต่อเน่ือง ทั้งน้ี
เพือ่ ใหเ้ กดิ ความคลอ่ งตวั และเกดิ ประสิทธภิ าพตอ่ การบรหิ ารงานของคณะกรรมการนักศกึ ษา

หมวด 9
การเงนิ และงบประมาณ
ข้อ 45 การควบคุมรายรับ/รายจา่ ย ของคณะกรรมการนกั ศกึ ษาให้ขึน้ ตรงต่อประธานนักศกึ ษา คือ
(1) การขอความอปุ ถมั ภใ์ นนามของคณะกรรมการนักศึกษา หรือแผนกฯ ชมรมฯ

70

ตา่ งๆ ให้เจา้ ของโครงการนำเร่ืองเขา้ ชแ้ี จงในท่ปี ระชมุ คณะกรรมการนกั ศึกษา
ทราบก่อน ไมน่ อ้ ยกว่า 15 วนั
(2) ใหแ้ ตล่ ะแผนก เสนอผลงาน และรายรบั /รายจ่าย ตอ่ ประธานนกั ศึกษา

เม่อื กจิ กรรมหรือโครงการนั้นๆ ส้ินสดุ อย่างนอ้ ย ภายใน 15 วนั
(3) ให้ประธานนักศึกษา แจง้ ผลรายรับ/รายจ่าย ต่อกรรมการนักศึกษาเมื่อมี

การประชมุ สามัญประจำเดอื น แล้วรายงานใหก้ องพัฒนานักศกึ ษา
หรือวิทยาลยั ศาสนศาสตร์ทราบตามลำดบั

หมวด 10
เบ็ดเตลด็
ขอ้ 46 การปฏิบัติงานของคณะกรรมการนักศึกษา ในกรณีที่มีการใช้อำนาจหน้าที่ตามข้อระเบียบปฏิบัติหรือ
ข้อบงั คบั นัน้ ขดั ขอ้ งมนี ยั ไม่ชัดเจน หรือเพราะเรื่องอ่นื ใด ให้คณะกรรมการนักศึกษาโดยประธานนักศึกษาประชุมพิจารณา
ตามหน้าทน่ี ้นั ๆ โดยผ่านความเห็นชอบ
ของหัวหนา้ กองพฒั นานักศึกษาหรอื วิทยาลัยศาสนศาสตร์ นำขนึ้ เสนอต่อรองอธกิ ารบดฝี ่ายกจิ กรรม
นักศึกษา หรือรองอธิการบดีประจำวิทยาเขตพิจารณาดูความเหมาะสมถูกต้อง แล้วจึงนำเสนอ
อธกิ ารบดีมหาวิทยาลัยเปน็ ผ้ลู งนามอนุมตั ิ
ข้อ 47 กจิ กรรมใดๆ ของนักศึกษาท่ีจดั ข้ึน ต้องได้รบั การพจิ ารณาอนมุ ัตโิ ดยอธกิ ารบดี
ข้อ 48 การลิดรอนสิทธิหรือการลงโทษนกั ศกึ ษาผู้ไม่ปฏบิ ัติตามระเบยี บนี้ จะทำไดโ้ ดย
ความเหน็ ชอบของคณะกรรมการนกั ศกึ ษา ใหป้ ระธานนกั ศกึ ษาเสนอเรือ่ งพจิ ารณาโทษไปยงั แผนก
ที่เกยี่ วขอ้ งตามลำดับ
ข้อ 49 อธิการบดสี ามารถลงโทษนักศกึ ษาที่ละเมดิ ต่อข้อระเบยี บบงั คับหรือการกระทำผิดอื่นใด อนั เข้าขา่ ยละเมิด
ระเบยี บขอ้ บงั คับนนั้ ๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย
ข้อ 50 การลงโทษผกู้ ระทำความผดิ ต่อระเบียบปฏิบัตนิ ี้ คือ
(1) ตกั เตือน
(2) ภาคทณั ฑ์
(3) สัง่ พกั การเรยี น
(4) ใหพ้ ้นสถานภาพนักศกึ ษา
การลงโทษต่อคณะกรรมการนักศึกษาหรือนักศึกษารูปใดรูปหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมเป็นบ่อนทำลายศาสนาหรือ
ทำความเสียหายให้แก่คณะกรรมการนักศึกษา รวมทั้งมหาวิทยาลัยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นภายใน
หรือภายนอกมหาวิทยาลัยก็ตาม สามารถลงโทษนักศึกษาที่กระทำผิดนั้นตามระเบียบข้อบังคับอย่างเด็ดขาด โดยกอง
พัฒนานกั ศกึ ษาหรือวทิ ยาลยั ศาสนศาสตร์เปน็ ผนู้ ำเรื่องเสนอในการลงโทษตอ่ อธิการบดี

ประกาศ ณ วันท่ี 2 เดือน พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช 2543

71

(พระธรรมปัญญาจารย์)
อธกิ ารบดี

มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย

ระเบยี บมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย
วา่ ดว้ ยการใช้ห้องสมดุ
พ.ศ. 2542
********

โดยทเี่ ห็นเปน็ การสมควรกำหนดข้อปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั การใชห้ ้องสมุด เพือ่ ให้เป็นไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 (2) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย พ.ศ.
2540 และมติสภามหาวิทยาลัยในการประชุมครั้งท่ี 6/2542 เมื่อวันท่ี 22 กันยายน พ.ศ. 2542 จึงออกระเบียบไว้
ดังตอ่ ไปน้ี
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ว่าด้วยการใช้ห้องสมุด พ.ศ.
2542
ขอ้ 2 ระเบยี บนใ้ี หใ้ ชบ้ ังคับตงั้ แตว่ นั ถัดจากวนั ประกาศเป็นตน้ ไป
ขอ้ 3 บรรดาระเบียบ ประกาศ กฎ หรือคำส่ังอนื่ ใด ซึง่ ขัดหรือแย้งกบั ระเบียบนีใ้ ห้ใช้ระเบยี บนแ้ี ทน
ข้อ 4 ให้อธกิ ารบดรี ักษาการตามระเบยี บน้ี

หมวด 1
เวลาทำงาน
ข้อ 5 ให้ห้องสมดุ กำหนดเวลาทำงานดังนี้
5.1 เปิดวันจนั ทร์ – เสาร์ เวลา 08.30 ถึง 18.30 น.
5.2 ปิดวนั ธรรมสวนะ วนั อาทติ ย์ และวนั หยดุ เทศกาลต่าง ๆ
ข้อ 6 กำหนดเวลาในข้อ 5 นั้น ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการหรือหัวหน้าฝ่ายห้องสมุดมีอำนาจ
เปลี่ยนแปลงไดต้ ามความเหมาะสม และเมอ่ื มเี หตจุ ำเป็นตอ้ งงดใช้หอ้ งสมุด ให้ประกาศ
ลว่ งหนา้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 วัน ยกเวน้ ในกรณฉี กุ เฉินหรอื มีส่ิงสุดวิสยั เกดิ ขึ้น ใหป้ ิดห้องสมดุ ได้ทันที
หมวด 2
ผ้มู ีสทิ ธใิ ช้ห้องสมุด ผมู้ ีสิทธิยืมหนังสือ และการทำบัตร
ขอ้ 7 ผู้มสี ิทธใิ ชแ้ ละยมื หนงั สอื ของห้องสมดุ ได้แก่
7.1 อาจารยป์ ระจำ อาจารย์พิเศษ
7.2 นกั ศึกษามหาวิทยาลยั มหามกุฎราชวทิ ยาลยั ที่ลงทะเบยี นเรยี นในภาคการศึกษานนั้

72

7.3 เจา้ หนา้ ท่ีและลูกจา้ งของมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย
ขอ้ 8 บุคคลภายนอก นอกจากข้อ 7 หัวหน้าฝา่ ยห้องสมดุ อาจพจิ ารณาอนุญาตให้ใชห้ ้องสมุดไดเ้ ปน็ ราย ๆ
ไป ตามท่เี หน็ สมควร

ในช่วง 1 เดือนกอ่ นสอบ ห้ามบุคคลภายนอกเข้าใช้หอ้ งสมุด ท้งั นี้ให้อยูใ่ นดุลพินจิ
ของหวั หนา้ ฝ่ายห้องสมดุ
ข้อ 9 บุคคลดังกล่าวในขอ้ 7 ที่ประสงคจ์ ะยมื หนังสือออกจากห้องสมุด ต้องปฏบิ ัตติ ามขอ้
10 ถึงขอ้ 13
ข้อ 10 การยมื หนังสอื และการทำบัตรห้องสมุด ให้ปฏิบัติดังนี้
10.1 นกั ศึกษามหาวิทยาลยั มหามกฎุ ราชวทิ ยาลัย ต้องยนื่ ความจำนงขอทำบตั ร

หอ้ งสมุด พรอ้ มดว้ ยรปู ถา่ ยหนา้ ตรง ขนาด 1 นว้ิ 2 รูป และหลกั ฐานอน่ื ๆ
คอื ใบสำคัญที่แสดงวา่ ไดช้ ำระค่าธรรมเนียมการศกึ ษาประจำปีการศกึ ษา
นั้นและบตั รประจำตัวนกั ศึกษา
10.2 อาจารย์ เจ้าหนา้ ที่ และลกู จ้างของมหาวทิ ยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลยั ต้อง
ย่นื ความจำนงขอทำบตั รห้องสมดุ พรอ้ มทัง้ แสดงบัตรประจำตวั
เจา้ หนา้ ท่ีหรอื ลูกจา้ ง และ รูปถา่ ยหนา้ ตรงขนาด 1 นว้ิ 2 รปู
10.3 การตอ่ อายุบัตรสมาชกิ
บตั รหอ้ งสมดุ จะใช้ในการยืมหนังสือไดจ้ นถึงวนั หมดอายุบัตร เม่อื บตั ร
หมดอายุแลว้ ให้ผู้ใช้นำบัตรมาต่ออายใุ หม่พร้อมหลกั ฐานการชำระเงิน
ค่าธรรมเนยี มการศกึ ษาประจำปกี ารศึกษานั้น
10.4 ทุกคร้ังทม่ี ีการเปลี่ยนแปลงสถานท่ีอยู่ ต้องแจง้ ใหท้ างห้องสมุดทราบด้วย
ข้อ 11 การกำหนดเวลาและจำนวนหนังสือที่ยมื ได้ ให้ปฏิบัตดิ ังน้ี
11.1 อาจารยม์ สี ทิ ธยิ ืมหนังสือไว้ในครอบครองได้ไมเ่ กนิ 20 เล่ม กำหนดเวลา
ยืมเล่มละไมเ่ กินภาคการศึกษานนั้ ๆ
11.2 นกั ศกึ ษาปริญญาตรี มสี ิทธิยมื หนงั สือไวใ้ นครอบครองไดไ้ ม่เกิน 5 เล่ม
กำหนดเวลายืมเลม่ ละไมเ่ กิน 10 วัน
11.3 นักศึกษาสูงกวา่ ปรญิ ญาตรี มสี ทิ ธยิ ืมหนังสือไวใ้ นครอบครองไดไ้ มเ่ กิน 7 เล่ม
กำหนดเวลายมื เลม่ ละไมเ่ กนิ 15 วัน
11.4 นกั ศึกษาที่กำลังทำวิทยานิพนธ์ มสี ิทธยิ มื หนังสือไว้ในครอบครองได้ไม่
เกนิ 10 เลม่ กำหนดเวลายมื เลม่ ละไม่เกนิ 1 เดอื น ท้ังนี้จะต้องมหี นงั สอื รบั รอง
จากหวั หนา้ ภาควชิ าหรืออาจารยท์ ีป่ รึกษาวิทยานพิ นธ์ว่านกั ศึกษารูปนั้นกำลัง

73

ทำวทิ ยานพิ นธ์สาขาวิชาใด
11.5 เจ้าหน้าท่ีและลูกจา้ งของมหาวิทยาลัย มีสทิ ธิยมื หนังสอื ไว้ในครอบครอง

ไดไ้ มเ่ กิน 5 เล่ม กำหนดเวลายมื เล่มละไมเ่ กิน 10 วนั
11.6 หนงั สือสำรอง จะยืมออกนอกหอ้ งสมุดและส่งคืนได้ตามเวลาทห่ี ้องสมุด

ประกาศให้ทราบ ทงั้ น้ี ห้องสมุดอาจกำหนดเวลาและจำนวนหนงั สอื ท่ียืมได้
ตามความเหมาะสมแตร่ วมแล้วตอ้ งไมเ่ กนิ ขอบเขตที่กำหนดไวข้ า้ งตน้
และสงวนสทิ ธิท่ีจะเรียกหนังสอื ที่ใหย้ มื คนื ก่อนกำหนดได้ในกรณีท่มี ีความจำเปน็
ข้อ 12 การยืมหนงั สอื ใหป้ ฏบิ ัตดิ ังน้ี
12.1 ผู้ยมื ต้องมายืมหนังสอื ด้วยตนเอง และต้องนำบตั รหอ้ งสมุดมาด้วยทกุ ครง้ั
12.2 ลงช่อื และรายละเอียดท่หี อ้ งสมุดกำหนดลงในบัตรหนังสือด้วยลายมือทอ่ี ่านง่าย
12.3 แสดงบตั รสมาชกิ พรอ้ มหนงั สอื ท่จี ะยืม เพื่อใหเ้ จา้ หน้าท่ปี ระทับวันกำหนดสง่
ข้อ 13 การต่ออายุหนังสือที่ยืมให้กระทำได้ โดยผู้ยืมต้องนำหนังสือเล่มที่ต้องการยืมต่อมาแสดงต่อ
เจ้าหน้าท่ี พร้อมทั้งบัตรห้องสมุด และผู้ยืมอาจยืมหนังสือต่ออีกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีผู้อื่นสั่งจอง
หนังสอื เล่มน้นั ๆ ไว้แลว้ เจา้ หนา้ ท่อี าจงดต่อการยืมเพือ่ ให้ผู้ซงึ่ สง่ั จองหนงั สือนั้นไดม้ ีสิทธิในการยืม

หมวด 3
ประเภทของหนงั สือ
ข้อ 14 หนงั สอื ในหอ้ งสมดุ แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คือ
14.1 หนงั สือทั่ว ๆ ไปที่ยืมออกนอกหอ้ งสมุดได้
14.2 หนงั สอื ท่ีหา้ มยมื ออกนอกห้องสมุด
14.3หนงั สอื อ้างองิ
ข้อ 15 หนังสือทั่วไปที่ยืมออกนอกห้องสมุดได้ ได้แก่หนังสือตำรา และหนังสืออื่นๆ ซึ่งห้องสมุดมิได้ระบุ
หา้ มยมื
ข้อ 16 หนังสือที่ห้ามยืมออกนอกห้องสมุดได้แก่ หนังสืออ้างอิงทุกประเภท (เช่น สารานุกรม พจนานุกรม
ปทานุกรม ดรรชนีค้นเรื่อง หนังสือคู่มือ รายงานประจำปี) วารสาร หนังสือพิมพ์รายวัน หนังสือหายาก หนังสือที่มีราคา
แพงมาก ตลอดจนหนังสอื อืน่ ๆ ทหี่ ้องสมุดระบุห้ามยมื
ข้อ 17 หนังสือรับรอง ได้แก่หนังสือที่อาจารย์ผู้บรรยายแต่ละวิชาในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
ขอให้เจ้าหน้าที่ห้องสมุดจัดสำรองไว้เป็นพิเศษ เพื่อให้นักศึกษาในวิชาใดวิชาหนึ่งใช้โดยเฉพาะ หรือเป็นหนังสือท่ี
บรรณารกั ษเ์ ห็นสมควรจดั สำรองไว้เพอื่ ใหน้ กั ศึกษาได้ใชอ้ ยา่ งท่ัวถึง

หมวด 4
การใช้บริการของห้องสมุด

74

ข้อ 18 ผู้ใช้บริการของห้องสมุด ตอ้ งปฏิบตั ดิ ังตอ่ ไปนี้

18.1 เม่อื จะเขา้ ในห้องสมดุ ตอ้ งฝากยา่ ม กระเปา๋ ใส่หนงั สือหรือเอกสารถุง
กระดาษหรอื หีบห่อไวก้ บั เจา้ หน้าท่ขี องหอ้ งสมุดหน้าประตูทางเขา้
เจา้ หน้าทจ่ี ะ จ่ายบัตรเลขฝากของไวใ้ ห้เปน็ หลกั ฐานเม่อื มาขอรับ
สิ่งของทฝ่ี ากไวค้ ืน

18.2 เมื่อจะออกจากหอ้ งสมดุ ตอ้ งยนิ ยอมให้เจา้ หน้าที่ตรวจหนังสือ หรอื สงิ่
พมิ พ์อ่ืนๆ ที่นำออกมาดว้ ยทกุ คร้ัง

18.3 การอา่ นหนังสือภายในห้องสมดุ จะต้องอา่ น ณ ทซ่ี ง่ึ จดั ไวใ้ หห้ ้ามนำวารสาร
หนงั สอื พมิ พ์รายวนั และหนงั สอื อ้างอิง ออกจากหอ้ งสมุดโดยไม่ไดร้ บั
อนุญาตจากบรรณารักษ์

18.4 ผใู้ ชอ้ าจหยิบหนงั สอื เลม่ ที่ตอ้ งการจากชัน้ ไดเ้ อง และเมื่ออา่ นเสรจ็ แล้วให้
วางหนังสอื ไวบ้ นโต๊ะอ่าน เจ้าหนา้ ทจ่ี ะเป็นผ้เู กบ็ เข้าชนั้ เอง

18.5 หา้ มนำอาหารหรอื เครอ่ื งด่ืมทกุ ชนดิ เขา้ มาภายในหอ้ งสมุด
18.6 ห้ามสบู บหุ รใ่ี นห้องสมดุ
18.7 หอ้ งสมุดจะไม่รบั ฝากสง่ิ ของมีค่า และจะไมร่ ับผดิ ชอบต่อส่ิงของมีค่าท่ี

สหู ายหรอื เสียหายเพราะผมู้ าใชบ้ ริการวางทิ้งไว้ในห้องสมุด
18.8 ผู้ใช้ต้องมีความเคารพต่อสถานที่ ดว้ ยการรักษาความสงบอย่างเครง่ ครดั

ไมส่ ่งเสียงดงั หรอื กระทำการใดๆ อันอาจเป็นท่รี ำคาของผู้อื่น
18.9 หา้ มตดั ฉีกหนงั สือ วารสาร หรอื ส่งิ พิมพ์ของห้องสมุด ผฝู้ ่าฝนื จักตอ้ งได้

รับการพิจารณาโทษตามความเหมาะสม
18.10 ห้ามนำหนงั สอื หรือสงิ่ พิมพอ์ ่ืนๆ ออกนอกห้องสมุดโดยมิไดย้ ืมตาม

ระเบียบ ผู้ทีจ่ งใจฝ่าฝนื จักตอ้ งไดร้ บั การพิจารณาโทษตามความเหมาะสม

หมวด 5
หนา้ ท่แี ละความรับผดิ ชอบของผูใ้ ช้ห้องสมุดและผยู้ ืมหนังสอื
ข้อ 19 ผู้ที่ใช้บริการห้องสมุดทุกคน มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบนี้หากฝ่าฝืนให้บรรณารักษ์ หรือ
หวั หนา้ ฝ่ายห้องสมดุ มอี ำนาจพจิ ารณาดำเนินการดังตอ่ ไปนี้
19.1 ตกั เตอื น
19.2 เชิญให้ออกนอกหอ้ งสมุด
19.3 ประกาศใหท้ ราบพฤติการณ์แหง่ การกระทำผิด

75

19.4 ตดั สิทธกิ ารใช้ห้องสมุด
19.5 เสนอให้หวั หนา้ หนว่ ยงานของผู้ฝ่าฝืนพจิ ารณาโทษ
19.6 ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนระเบียบเป็นนักศึกษาของสถาบันการศึกษาอื่น อาจขอให้สถาบันการศึกษาน้ัน
พจิ ารณาโทษทางวินยั ของนกั ศึกษาผนู้ ัน้
การพิจารณาดำเนินการตามความในข้อน้ี ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าฝ่ายห้องสมุดผ่านความเห็นชอบ
ผู้อำนวยการศนู ย์บรกิ ารวชิ าการทจี่ ะกระทำไดต้ ามควรแกก่ รณี
ขอ้ 20 ความรบั ผิดชอบของผ้ยู มื หนงั สอื มดี งั ตอ่ ไปน้ี
20.1 ผู้ยืมต้องรับผิดชอบในการชำรุดเสียหาย หรือสูหายของหนังสือที่ยืมทุกกรณีนับตั้งแต่เวลาที่ยืม
ออกจากห้องสมุด จนกระทั่งถึงเวลาส่งคืน และให้เป็นหน้าที่ของผู้ยืมที่จะต้องตรวจสิ่งที่ชำรุดเสียหายก่อนที่จะนำ
หนงั สือทีย่ ืมออกจากหอ้ งสมดุ
20.2 เมื่อมีการชำรุดเสียหายเกิดขึ้น ผู้ยืมจะต้องชดใช้ค่าเสียหายเพื่อการซ่อมแซมตามจำนวนเงินท่ี
ห้องสมดุ ได้จา่ ยไปเพือ่ การนั้น
20.3 กรณีที่ผู้ยืมทำหนังสือห้องสมุดชำรุดเสียหายและไม่สามารถซ่อมแซมได้หรือสูหายผู้ยืมจะต้อง
จัดหาหนังสือเรื่องเดียวกันและอยู่ในสภาพดีมาแทน หรือชำระเงินชดใช้เป็นเงินจำนวนสองเท่าของราคาหนังสือ
หรือตามราคาประเมินของห้องสมุดบวกกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเกี่ยวกับการสั่งซื้อและทำบัตรรายการ
ตลอดจนเตรียมหนังสือเล่มนั้นเพอ่ื ให้บรกิ ารด้วย
20.4 ถ้าผู้ยืม เว้นบุคลากรมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยไม่ส่งหนังสือตรงตามเวลาที่กำหนดไว้
และมิไดน้ ำหนังสอื มาตอ่ อายุการยมื จะต้องชำระค่าปรบั ตามประเภทของหนงั สือต่อไปน้ี
ก. หนังสอื ทว่ั ไป ผู้ยืมจะตอ้ งชำระเงนิ ค่าปรับเล่มละ 2 บาท ตอ่ 1 วนั
ข. หนังสือสำรอง ผู้ยมื จะตอ้ งชำระเงินค่าปรับเลม่ ละ 5 บาทต่อ 1 วนั
ในกรณีผู้ยืมเป็นอาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ให้อยู่ในดุลยพินิจของ
หัวหน้าฝา่ ยห้องสมดุ
การนับวันปรับ ให้เริ่มตั้งแต่วันถัดจากวันกำหนดส่งโดยไม่เว้นวันหยุด ถ้าวันกำหนดส่งตรงกับวันหยุดทำ
การของห้องสมุดใหเ้ ริ่มนบั ต้ังแต่วนั ที่ห้องสมุดเริม่ เปิดทำการใหม่และให้นับตอ่ ไปจนถึงวันท่ีนำหนังสอื มาส่งคนื โดย
ไม่เวน้ วันหยดุ
นักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย หากการชำระค่าปรับหรือค่าหนังสือหายไม่เสร็จสิ้น
มหาวิทยาลัยอาจงดการออกปรญิ ญาบัตรใหแ้ กน่ ักศึกษาผ้นู ัน้ เม่อื จบการศึกษาแลว้ กไ็ ด้

ประกาศ ณ วนั ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2542
(พระธรรมปญั ญาจารย์)
อธิการบดี

76

77

78

79

80

81

ข้อบังคับมหาวทิ ยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลยั

ว่าดว้ ย เครอ่ื งแบบนักศึกษาคฤหัสถ์ พ.ศ. 2544

โดยท่เี ห็นเปน็ การสมควรให้มขี ้อบังคบั ว่าดว้ ยเครื่องแบบนักศึกษาคฤหัสถ์ เพอ่ื ให้การแต่งกายของนักศึกษา

เป็นระเบยี บเดียวกัน

อาศยั อำนาจตามความในมาตรา 19 (2) และมาตร 59 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

พ.ศ. 2540 และมติการประชุมสภามหาวิทยาลยั ในการประชุมครั้งที่ 3/2544 วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2544 จึงออก

ขอ้ บงั คบั นีไ้ วด้ ังต่อไปน้ี

ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยว่าด้วยเครื่องแบบนักศึกษา

คฤหสั ถ์ พ.ศ. 2544”

ข้อ 2 ใหใ้ ช้ขอ้ บังคับนตี้ ัง้ แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป

ข้อ 3 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งหรือประกาศอื่นใดที่ระบุไว้แล้วในข้อบังคับหรือซึ่งขัดหรือแย้งกับ

ขอ้ บังคับน้ี ใหใ้ ชข้ อ้ บงั คับนแ้ี ทน

ข้อ 4 ในข้อบงั คบั นี้

“มหาวิทยาลยั ” หมายถึง มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั

“อธิการบดี” หมายถงึ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

“นักศกึ ษา” หมายถงึ นกั ศึกษาคฤหัสถ์ของมหาวทิ ยาลัย

“เคร่ืองแบบ” หมายถึง เครือ่ งแตง่ กายของนกั ศกึ ษา

“เครื่องแบบปกติ” หมายถงึ เครอ่ื งแบบทนี่ ักศึกษาใชใ้ นเวลาท่ไี มใ่ ชพ่ ิธกี าร

“เครื่องแบบพิธกี าร” หมายถึง เครื่องแบบทีน่ กั ศึกษาใชใ้ นโอกาสท่ีมงี านพธิ ขี อง

มหาวทิ ยาลัย หรอื ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด

ขอ้ 5 เครอ่ื งแบบปกตขิ องนักศกึ ษา

5.1 นักศกึ ษาหญงิ

(1) เสื้อเชิ้ตสีขาว แขนเสื้อเหนือศอก เนื้อเรียบ ไม่มีลวดลาย มีความหนาพอประมาณ

คอเสื้อแบบตั้ง สาบด้านหลังเรียบ ด้านหน้าผ่าอกตรงโดยตลอดติดกระดุมโลหะสีเงินเป็นรูปตรามหาวิทยาลัย ขนาด

1.6 เซนติเมตร จำนวน 5 ดมุ ท่ีคอเสอื้ ด้านซ้ายห้อยเครื่องหมายตรามหาวิทยาลยั มสี ายยาว 6 เซนตเิ มตร เครือ่ งหมาย

ตรามหาวทิ ยาลัยขนาด 2.5 เซนตเิ มตรประดับที่อกเสอื้ เบือ้ งซา้ ย

(2) กระโปรงผ้าสีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่าหรือสีดำ เนื้อเรียบ ความหนาพอควรทรงสุภาพไม่มี

ลวดลาย ชายกระโปรงเสมอกนั ยาวคลมุ เข่า

(3) เข็มขัดทำด้วยหนังเกลี้ยงสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม กว้าง 3.5 เซนติเมตรเป็นเข็มขัดรูปปลาย

แหลม หัวเข็มขัดทำด้วยโลหะสีเงินเป็นรปู สี่เหล่ียมผืนผา้ ขนาด 3.5 x 6 เซนติเมตร ดนุ นนู เป็นรูปเครื่องหมายตรา

82

มหาวิทยาลัยอยู่ตรงกึ่งกลาง ใต้เครื่องหมายตรามหาวิทยาลัยมีคำว่า มหาวิทยาลัยมหา
มกฏุ ราชวิทยาลยั ”

(4) รองเทา้ หุม้ สน้ แบบสุภาพ สดี ำ หรือสีขวา
5.2 นักศกึ ษาชาย

(1) เสือ้ เช้ิตสีขาว ไมม่ ลี วดลาย แขนสั้นเหนือศอกหรือแขนยาว
(2) กางแกงขายาวแบบสุภาพ สนี ้ำเงินเข้ม สีกรมทา่ หรอื สดี ำ ขอบเอวมหี สู อดเข็มขัด
(3) เข็มขัดหนังเกลี้ยงสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม กว้าง 3.5 เซนติเมตร เป็นเข็มขัดรูปปลายแหลม
หัวเข็มขัดทำด้วยโลหะสีเงิน เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 3.5 x 6 เซนติเมตร ดุนนูนเป็นรูปเครื่องหมายตรา
มหาวิทยาลัยอยู่ตรงกึ่งกลาง ใต้เคร่ืองหมายตรามหาวิทยาลัยมีคำว่า มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย”
(4) รองเท้าห้มุ ส้นแบบสุภาพ สดี ำ หรือสขี วา ถุงเท้าสสี ุภาพ
ข้อ 6 เครอ่ื งแบบพิธีการของนกั ศึกษา
6.1 นักศึกษาหญิงใหใ้ ชเ้ ครื่องแบบพธิ ีการเชน่ เดียวกับเครื่องแบบปกตยิ กเว้นกระโปรงให้ใช้ผ้าเรียบสี
กรมทา่ และรองเท้าให้ใช้รองเทา้ หุ้มสน้ แบบสภุ าพสีดำ ไม่มลี วดลาย
6.2 นกั ศกึ ษาชาย ใหใ้ ช้เคร่ืองแบบพธิ ีการเช่นเดียวกับเคร่ืองแบบปกติยกเว้นเส้ือให้ใช้เสื้อเชิ้ตแขนยาวสี
ขาว เนื้อราบ ผ้าผูกคอ (เน็คไท) ทำด้วยผ้าเรียบสีกรมท่าขนาดความกว้าง 6 เซนติเมตร ติดตราเครื่องหมาย
มหาวิทยาลัยปักดว้ ยไหมสีแสดหรือสที องตรงกลาง กางเกงใช้ผ้าเรียบสีกรมทา่ รองเทา้ หนังหุ้มสน้ สดี ำ ไม่มลี วดลาย ถงุ
เทา้ สดี ำ
ข้อ 7 ข้อบังคับนี้ให้บังคับสำหรับนักศึกษาในระดับปริญญาตรีภาคปกติ ทั้งนี้นักศึกษาระดับปริญญาตรีภาค
สมทบหรือภาคพเิ ศษ และนักศึกษาระดบั บณั ฑิตศกึ ษาของมหาวทิ ยาลยั ให้มสี ทิ ธแิ ต่งเครื่องแบบตามข้อบงั คับน้ไี ด้
ขอ้ 8 วิธแี ต่งกายของนักศึกษาใหเ้ ป็นตามท่ีมหาวทิ ยาลยั กำหนด โดยทำเป็นประกาศของมหาวิทยาลัย
ข้อ 9 เครื่องแบบนักศึกษานอกเหนือไปจากข้อบังคับน้ี ให้อยู่ในดุลพินิจของอธิการบดีโดยทำเป็นประกาศ
ของมหาวิทยาลยั
ขอ้ 10 ให้อธกิ ารบดี รกั ษาการตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วนั ที่ 1 มถิ ุนายน พ.ศ.2544

(สมเด็จพระญาณสังวร)
นายกสภามหาวิทยาลัย

83

เครอื่ งแบบปกติ

84

85

86

ระเบียบมหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั

ว่าด้วย วนิ ยั นักศกึ ษาคฤหัสถ์ พ.ศ. 2549

********

โดยที่เห็นเป็นการสมควรให้มีระเบียบว่าด้วยวินัยนักศึกษาคฤหัสถ์ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความ

เป็นศักดิ์ศรีของนักศึกษาและสถาบัน และเป็นการส่งเสริมการเรียนการสอนของนักศึกษาคฤหัสถ์ให้เป็นไปอย่างมี

ประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 (2) แห่งราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ.

2540 และมติสภามหาวิทยาลัยในการประชุม ครั้งท่ี 5/2549 เมื่อวันที่ 29 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2549 จึงวาง

ระเบียบไวด้ งั น้ี

หมวดที่ 1

ขอ้ ความทว่ั ไป

ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ว่าด้วย วินัยนักศึกษาคฤหัสถ์ พ.ศ.

2549 ”

ขอ้ 2 ระเบยี บน้ีให้ใช้บังคับ ต้งั แต่วันถดั จากวันประกาศเป็นต้นไป

ข้อ 3 บรรดาระเบยี บ ข้อบังคบั คำส่ัง และประกาศ อ่นื ใดทีข่ ดั หรือแยง้ กับระเบียบการน้ี ใหใ้ ช้ระเบยี บนีแ้ ทน

ข้อ 4 ในข้อบังคบั น้ี

“มหาวทิ ยาลยั ” หมายความวา่ มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลยั

“อธิการบดี” หมายความว่าอธิการบดี มหาวิทยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั

“คณะ” หมายความว่า คณะ วิทยาลัย หรือหน่วยงานอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะที่มี

การจดั การเรียนการสอน สำหรับนกั ศกึ ษาคฤหสั ถ์

“คณบดี” หมายความว่าคณบดีที่นักศึกษาสังกัดและให้หมายถึงหัวหน้าส่วนงานอื่นที่มี

ฐานะเทียบเท่าคณบดี

“อาจารย”์ หมายความวา่ ผู้สอน ผู้บรรยาย ประจำในรายวิชาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยรวมถึง

อาจารย์พิเศษ และอาจารย์ที่ปรึกษา

“เจา้ หนา้ ท่ี” หมายความวา่ พนกั งาน ลูกจา้ งของมหาวิทยาลยั

“นกั ศกึ ษา” หมายความวา่ นักศกึ ษาฝ่ายคฤหัสถ์ของมหาวิทยาลยั

“คฤหสั ถ”์ หมายความว่า บคุ คลทีม่ ิใชภ่ กิ ษแุ ละสามเณร หรือนักบวช

“คณะกรรมการ” หมายความว่าคณะกรรมการวินัยนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแต่งตั้งขึ้นเพ่ือ

ด ำ เ น ิ น ก า ร ค ว บ ค ุ ม ด ู แ ล ร ะ เ บ ี ย บ ว ิ น ั ย ข อ ง น ั ก ศ ึ ก ษ า ห รื อ

ดำเนินการสอบสวนความประพฤตินักศกึ ษา

87

“วินยั ” หมายความว่าวนิ ยั ของนักศึกษาคฤหสั ถ์

ห มวดที่ 2
วนิ ัยนกั ศึกษาคฤหสั ถ์

ข้อ 5 นักศึกษาต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามให้ถือว่าผู้นั้น กระทำผิดวินัยจะต้อง
ได้รับโทษตามท่กี ำหนดไว้ในขอ้ ระเบยี บนี้

ข้อ 6 นักศึกษาต้องเป็นพลเมืองดี เคารพสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ประพฤติตนให้อยู่ใน ความซื่อสัตย์
สุจริต ปฏิบัติตามหลักศีลธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย และไม่กระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิด
ความเสือ่ มเสียตอ่ วฒั นธรรมประเพณขี องชาตแิ ละของมหาวิทยาลัย

ข้อ 7 นักศึกษาต้องปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง และ กฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ข้อบังคับ ของ
มหาวิทยาลัย

ข้อ 8 นักศึกษาต้องแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย ในลักษณะสุภาพชนหรือตามแบบที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้
ข้อ 9 นักศึกษาต้องมีความซื่อตรง ไม่ประพฤติตนหรือปฏิบัติตนในทางที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสีย หรือเสียหาย
ตอ่ ชือ่ เสียง เกียรติคุณของมหาวิทยาลัย
ข้อ 10 นักศึกษาต้องมีความสามัคคี ไม่กระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความแตกแยก หรือก่อการทะเลาะวิวาท
ระหว่างนกั ศกึ ษาด้วยกนั หรอื กบั สถาบันการศกึ ษาอ่นื รวมท้ังประชาชน
ข้อ 11 นักศึกษาต้องปฏิบัติตนต่ออาจารย์ เจ้าหน้าที่ ด้วยความสุภาพ มีสัมมาคารวะ ไม่แสดงอาการ
กระดา้ งกระเดือ่ ง ลบลู่ ดถู กู ดูหม่นื เหยยี ดหยาม
ข้อ 12 นักศึกษาต้องไม่สูบบุหรี่ เสพสุรา ของมึนเมา หรือสิ่งเสพติดใด ๆ หรือแสดงกิริยาอันไม่เหมาะสม
เมอ่ื อยูภ่ ายในบรเิ วณมหาวิทยาลยั
ขอ้ 13 นักศึกษาต้องให้ความร่วมมือไม่ขัดขืน ไม่กลา่ วข้อความอันเป็นเท็จ ไมป่ กปิดข้อเท็จจริงอันควรบอกต่อ
อาจารยแ์ ละเจา้ หนา้ ทแี่ ละแสดงบตั รประจำตวั นกั ศึกษา เมอื่ อาจารยห์ รอื เจ้าหน้าท่ีมหาวิทยาลยั ขอตรวจสอบ
ข้อ 14 นักศึกษาต้องไม่ลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง หรือทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นหรือของมหาวิทยาลัย
ข้อ 15 นักศึกษาต้องรักษาชื่อเสียงและเกียรติของตนเองโดยประพฤติตนมิให้เป็นผู้ที่ชื่อว่าไม่สุจริต หรือ
ประพฤติชว่ั เช่น

(1) ทุจริตในการศกึ ษา การสอบ หรอื พยายามกระทำการเชน่ น้ัน
(2) ประพฤติหรอื กระทำการใดๆ ใหเ้ ป็นทเ่ี สอ่ื มเสยี แก่ศลี ธรรมในทางชู้สาว
(3) เลน่ หรอื สนับสนุนใหม้ ีการพนัน
(4) เสพสุราเมรัย ของมึนเมา หรือสิงเสพติดใด ๆ จนไม่สามารถครองสติได้ หรือเป็นต้นเหตุท่ี
กระทำความเสือ่ มเสยี หายต่อตนเอง และมหาวิทยาลัย
(5) ครอบครองอาวุธรา้ ยแรง วัตถุระเบิด หรอื สิง่ ผดิ กฎหมาย

88

(6) ทำร้ายร่างกายอาจารย์ หรือเจ้าหนา้ ทีม่ หาวทิ ยาลัย
(7) กลา่ ววาจาดหู มิน่ เหยยี ดหยามอาจารยแ์ ละพระภิกษุ สามเณรหรือนักบวช
(8) กระทำความผิดกฎหมายอาญา ยกเว้นการกระทำผิดที่กระทำโดยความประมาท หรือ
ความผิดลหุโทษ ซึง่ ลกั ษณะความผิดนัน้ เปน็ ความผิดไมเ่ ป็นทเ่ี ส่อื มเสยี ตอ่ เกยี รติคุณของมหาวทิ ยาลยั
(9) ความผิดอื่นใดที่คณะกรรมการเสนอต่อมหาวิทยาลัย ว่าเป็นความผิดทีม่ ีลกั ษณะที่ได้ชือ่ ว่าไม่
สุจริต หรอื ประพฤตชิ ว่ั
(10) ความผิดอื่นใดท่ีมหาวทิ ยาลยั กำหนด

หมวดท่ี 3
โทษฐานผดิ วนิ ัยของนักศกึ ษา

ขอ้ 16 โทษฐานผิดวนิ ัย มี 8 สถาน คอื
16.1 ตักเตอื นดว้ ยวาจาหรอื ลายลักษณ์อักษร
16.2 ชดใชค้ ่าเสยี หาย
16.3 ตัดคะแนนความประพฤติ
16.4 ภาคทัณฑ์
16.5 พกั การศกึ ษาตงั้ แต่ 1 ภาคการศึกษา ถึง 2 ปีการศกึ ษา
16.6 ระงบั การออกใบแสดงผลการศึกษา เช่น ใบรับรอง ประกาศนียบัตร ปรญิ ญาบัตรมีกำหนดไม่เกิน

2 ปีการศกึ ษา
16.7 ใหพ้ น้ สภาพจากการเปน็ นกั ศกึ ษาโดย
(1) ใหอ้ อก
(2) ลบชือ่ ออกจากมหาวทิ ยาลยั
16.8 โทษอ่ืนตามทมี่ หาวิทยาลัยพจิ ารณาเหน็ สมควร

หมวดที่ 4
การลงโทษนักศึกษา

ข้อ 17 ให้อธิการบดีหรือรองอธิการบดีที่ได้รับมอบอำนาจ สั่งให้สอบสวนหาข้อเท็จจริง หรือ แต่งต้ัง
คณะกรรมการสอบสวนนกั ศึกษาทก่ี ระทำผิดวนิ ัยนกั ศกึ ษาของมหาวทิ ยาลัย

ข้อ 18 ใหค้ ณะกรรมการทไ่ี ด้รับการแต่งต้ังมอี ำนาจ เรียกขอเอกสารหลกั ฐานจาก นักศึกษา หรอื คู่กรณีตลอด
ถงึ ขอความร่วมมอื จากคณาจารย์เจ้าทม่ี หาวิทยาลยั และนกั ศึกษาในการใหข้ ้อเท็จจริง

89

ข้อ 19 ให้คณะกรรมการวินัยนักศึกษา หรือคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มหาวิทยาลัย แต่งตั้งขึ้น
สอบสวนข้อเท็จจริงให้ปรากฏด้วยความถูกต้องยุติธรรม เสนอลักษณะความผิดและขอบข่ายการลงโทษต่อ
มหาวทิ ยาลัย

ข้อ 20 ให้อธิการบดี หรือ รองอธิการบดีที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจสั่งโทษนักศึกษาที่กระทำความผิดได้ทุก
สถานความผดิ ในข้อ 16 ตามท่คี ณะกรรมการเสนอ

ข้อ 21 ใหค้ ณบดี หรือผูท้ ี่คณบดีมอบหมายลงโทษนกั ศกึ ษาของตนได้ ตามขอ้ 16.1, 16.2, 16.3 และ 16.4
ขอ้ 22 ให้กองพัฒนานกั ศึกษาดำเนนิ การให้เปน็ ไปตามคำส่ังของมหาวิทยาลยั ดงั น้ี

22.1 แจ้งนกั ศึกษาผูถ้ ูกลงโทษ
22.2 แจ้งผูป้ กครองนักศกึ ษา
22.3 แจง้ ฝา่ ยทะเบียนนกั ศึกษา
22.4 แจ้งคณะที่นกั ศกึ ษาสังกดั
22.5 ตดิ ประกาศและบนั ทกึ ข้อมลู

หมวดท่ี 5
การอทุ ธรณค์ ำส่ังลงโทษ

ข้อ 23 นักศกึ ษาท่ถี กู คำส่ังมหาวทิ ยาลยั ลงโทษ หากไมเ่ หน็ ด้วยกบั คำส่ังดังกล่าวให้ ขออุทธรณ์คำส่ังนั้นต่อ
มหาวิทยาลยั ผ่านกองพฒั นานกั ศกึ ษา ภายใน 30 วนั นบั ตัง้ แตว่ นั รบั ทราบคำส่งั

ข้อ 24 ใหอ้ ธิการบดีมอี ำนาจวนิ จิ ฉยั หรือแตง่ ต้งั คณะกรรมการวินจิ ฉัยคำอทุ ธรณ์ เพ่มิ โทษ ลดโทษ หรือยก
โทษ ได้ทกุ กรณี และคำวนิ ิจฉยั ของอธกิ ารบดีถอื เป็นที่สดุ

ข้อ 25 เมื่อผลการอุทธรณ์เป็นประการใด ให้กองพัฒนาการ แจ้งผลการวินิจฉัยนั้นให้นักศึกษา คณะท่ี
นักศึกษาสงั กดั และฝ่ายทะเบยี นทราบภายใน 15 วนั

ข้อ 26 ในกรณีที่ต้องมีการตีความตามระเบียบนี้ ให้อธิการบดีโดยความเห็นชอบของสภาวิชาการเป็นผู้
วนิ จิ ฉยั และตดั สนิ ชี้ขาดแล้วถอื เป็นอันยุติ

ข้อ 27 ให้อธกิ ารบดี เปน็ ผรู้ กั ษาการตามระเบยี บน้ี

ประกาศ ณ วันที่ 30 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2549

(สมเดจ็ พระญาณวโรดม)
อุปนายก ปฏบิ ตั ิการแทน

นายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวทิ ยาลยั

90

91

92

93

การนงุ่ ห่มจวี รของพระนักศึกษา ทั้งพระภิกษุ และสามเณร


Click to View FlipBook Version