133
วิเคราะห์ในประเด็นนั้นได้อาจเป็นการนำความรู้จากแหล่งต่างๆ มาประมวลร้องเรียนเพื่อวิเคราะห์อย่าง
เป็นระบบโดยทผี ูเ้ ขียนแสดงทศั นะทางวิชาการของตนไว้อย่างชัดเจน
ตำรา หมายถงึ ผลงานทางวชิ าการทเี่ รยี บเรียงขน้ึ อยา่ งเป็นระบบ ครอบคลุมเนอื้ หาสาระของวิชา
หรือเป็นส่วนหนึ่งของวิชา หรือของหลักสูตรก็ได้ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดวิชาใน
ระดบั อดุ มศกึ ษา ในการเรียนการสอนในหลักสตู รระดับอดุ มศกึ ษา
เนื้อหาสาระของตำราต้องมีความทันสมัย เพื่อพิจารณาถึงวันที่ผู้ขอยื่นเสนอขอตำแหน่งทาง
วชิ าการ ทง้ั นผ้ี ขู้ อจะต้องระบุวิชาท่ีเก่ียวข้องในหลักสตู รที่ใชต้ ำราเลม่ ท่เี สนอขอตำแหน่งทางวิชาการด้วย
ผลงานทางวิชาการที่เป็น “ตำรา” นี้ อาจได้รับการพัฒนาขึ้นจากเอกสารคำสอนจนถึงระดับที่มี
ความสมบูรณท์ ่ีสดุ ซึง่ ผูอ้ า่ นอาจเป็นบคุ คลอน่ื ที่มใิ ชผ่ ้เู รียนในวิชานั้น แตส่ ามารถอา่ นและทำความเข้าใจใน
สาระของตำรานัน้ ด้วยตนเองได้ โดยไมต่ อ้ งเขา้ ศกึ ษาในวิชาน้นั
หนังสือ หมายถึง ผลงานทางวิชาการที่เรียบเรียงขึ้น โดยมีรากฐานทางวิชาการที่มั่นคงและให้
ทศั นะของผู้เรยี นทสี่ รา้ งเสรมิ ปัญญาความคดิ และสรา้ งความแข็งแกรง่ ทางวิชาการให้แกส่ าขาวชิ าน้นั ๆ
ตำรา (หรอื หนังสือ) ระดับดี เปน็ ตำรา (หรือหนงั สือ) ทม่ี เี นอื้ หาสาระทางวิชาการถูกต้องสมบูรณ์
และทันสมัย มีแนวคิดและการนำเสนอที่ชัดเจนเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา
(สำหรับหนังสอื เปน็ ประโยชน์ตอ่ วงวิชาการ)
ตำรา (หรือหนังสือ) ระดับดีมาก ใช้เกณฑ์เดียวกับระดับดี โดยมีข้อกำหนดด้านคุณภาพเพิ่มเติม
คือ 1. มีการวิเคราะห์และเสนอความรู้หรือวิธีการที่ทันสมัยต่อความก้าวหน้าทางวิชาการและเ ป็น
ประโยชนต์ ่อวงวิชาการ 2. มีความสอดแทรกความคดิ รเิ ริ่มและประสบการณ์หรอื ผลงานวิจยั ของผู้เขยี นที่
เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน (สำหรับหนังสือเป็นประโยชน์ต่อวง
วชิ าการ) 3. สามารถนำไปใชเ้ ป็นแหลง่ อ้างอิงหรือนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้
ตำรา (หรือหนังสือ) ระดับดีเด่น ใช้เกณฑ์เดียวกับระดับดีมาก โดยมีข้อกำหนดด้านคุณภาพ
เพ่มิ เติมดังนี้ (1) มีลักษณะเป็นงานบุกเบิกทางวชิ าการ และมีการสังเคราะหจ์ นถึงระดับท่ีสร้างองค์ความรู้
ใหม่ (Body of Knowledge) ในเรอ่ื งใดเร่ืองหน่ึง (2) มีการกระตุ้นให้เกิดความคิดและค้นคว้าต่อเนื่อง (3)
เปน็ ทีเ่ ชื่อถอื และยอมรับในวงวชิ าการหรอื วิชาชพี ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งในระดับชาติและ/หรอื นานาชาติ
หลกั เกณฑ์การเผยแพร่ของ ก.พ.อ. กำหนดไว้เปน็ หลักๆ ดงั นี้ (ดปู ระกาศ ก.พ.อ.)
1. เอกสารประกอบการสอน ต้องได้รับการจัดทำเป็นรูปเล่มหรือถ่ายสำเนาเย็บเล่ม หรือเป็นสิ่ง
อนื่ ๆ เช่น ซดี ีรอมทไี่ ดใ้ ชป้ ระกอบการสอนวิชาใดวิชาหนึ่งในหลกั สตู รของสถาบนั อดุ มศึกษาแล้ว
2. เอกสารคำสอน ต้องได้รบั การจัดทำเป็นรูปเล่มหรือถ่ายสำเนาเย็บเล่ม หรือเป็นส่งิ อ่ืนๆ เช่น ที่
แสดงหลักฐานว่าได้เผยแพรโ่ ดยใชเ้ ปน็ “คำสอน” ใหแ้ ก่ผู้เรยี นในวชิ าน้ัน ๆ มาแล้ว
3. บทความทางวิชาการเผยแพรใ่ นลักษณะหนึ่งดังน้ี
3.1 เผยแพร่ในรูปของบทความทางวิชาการในวารสารทางวิชาการ ทั้งนี้ ระบบทาง
วิชาการนั้นอาจเผยแพร่เป็นรูปเล่มส่ิงพิมพ์หรือเปน็ สือ่ อิเล็กทรอนิกส์ที่มีกำหนดการเผยแพร่อยา่ งแน่นอน
ชัดเจน อยใู่ นฐาน TCI 1 , TCI 2 หรือ นานาชาติ SCORPUS
134
3.2 เผยแพร่ในหนังสือบทความหรือเอกสารวิชาการในรูปแบบอื่นที่มีการบรรณาธิการ
ประเมินและตรวจสอบคุณภาพของบทความต่างๆ ในหนงั สอื นั้นแลว้
3.3 เผยแพร่ในหนังสือประมวลผลการประชุมทางวิชาการ (Proceedings) ของการ
ประชุมทางวิชาการในระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ที่มีการบรรณาธิการประเมนิ และตรวจสอบคุณภาพ
ของบทความต่างๆ ทนี่ ำเสนอน้นั แล้ว
4. ตำรา ตอ้ งได้รบั
4.1 การเผยแพร่ด้วยวิธีการพิมพ์โดยโรงพิมพ์ (Printing House) หรือสำนักพิมพ์
(Publishing House) หรือโดยการถ่ายสำเนาเย็บเปน็ รปู เล่ม หรอื ทำในรปู แบบอนื่ ๆ
4.2 การเผยแพร่โดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ตัวอย่างเช่น การเผยแพร่ในรูปของซีดีรอม
ฯลฯ
การเผยแพร่ดังกล่าวนั้น จะต้องเป็นไปอย่างกว้างขวางมากกว่าการใช้ในการเรียนการสอนวิชา
ต่างๆ ในหลักฐานเท่านั้น จำนวนพิมพ์เป็นดัชนีหนึ่งที่อาจแสดงการเผยแพร่อย่างกว้างขวางได้แต่อาจใช้
ดชั นีอน่ื วัดความกว้างขวางในการเผยแพรไ่ ดเ้ ชน่ กนั
ทั้งนี้ต้องได้รับการตรวจสอบและรับรองการเผยแพร่จากคระกรร มการของสถาบันอุดมศึกษา
คณะและ/หรอื สถาบันทางวิชาการท่ีเกี่ยวข้องกบั สาขาวชิ านัน้ และตอ้ งใชใ้ นการเรียนการสอนแล้วไม่น้อย
กวา่ ภาคการศกึ ษา
5. หนังสอื ต้องได้รบั
5.1 การเผยแพร่โดยสือ่ อิเล็กทรอนิกสอ์ ่ืนๆ ตัวอยา่ ง ซดี รี อม ฯลฯ
การเผยแพร่ดงั กลา่ วน้ันจะต้องเปน็ ไปอย่างกว้างขวางและมากกว่าการใช้ในการเรยี นการสอนวิชา
ต่างๆ ในหลักสูตรเท่านั้น จำนวนพิมพ์เป็นดัชนีหนึ่งที่อาจแสดงการเผยแพร่อย่างกว้างขวางได้ แต่ขอให้
ดัชนอี นื่ วดั ความกว้างขวางในการเผยแพร่ไดเ้ ชน่ กัน
ทั้งนี้ต้องได้รับการตรวจสอบและรับรองการเผยแพร่จากคณะกรรมการของสถาบั นอุดมศึกษา
และ/หรือสถาบันทางราชการที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชานั้น ๆ และต้องเผยแพร่สู่สาธารณชนมาแล้วไม่น้อย
กวา่ สีเ่ ดือน
เมอื่ ไดร้ ับการประเมินคณุ ของ “หนงั สือ” ไปแล้ว การนำ “หนังสอื ” ไปแกไ้ ขหรอื ปรบั ปรุงเพ่ิมเติม
เนื้อหาใน “หนังสือ” เพื่อนำมาเสนอขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการและให้มีการประเมินคุณภาพ
“หนงั สอื ” นัน้ อกี ครงั้ หนึ่ง อาจกระทำได้ แต่จะต้องทำการเผยแพร่ “หนังสือ” น้นั ใหม่อกี ครัง้ หน่ึง
เกณฑ์ของ ก.พ.อ. ประเดน็ ทน่ี ่าจะได้พิจารณาบางประการคือ
1. การจดั พิมพ์ ในการจัดพมิ พ์จะมี 2 ลกั ษณะคือ ตีพิมพเ์ ป็นเล่มหรือถ่ายสำเนาเย็บเล่ม ถ้ามีการ
ตีพิมพ์เป็นเล่มจากโรงพิมพ์หรือสำนักพิมพ์จะใช้ได้ทั่วไปทั้งเอกสารประกอบการสอน เอกสารคำสอน
ตำราและหนงั สือ แต่ถา้ จะใชก้ ารถ่ายสำเนาเยบ็ เล่ม จะใช้กบั หนังสือไม่ได้
135
2. ระยะเวลาและจำนวน ทั้งตำราและหนังสือเล่มต้องเผยแพร่และได้ลองใช้มาแล้วอย่างน้อย 1
ภาคการศึกษา หรือ 4 เดอื นล่วงหนา้ สำหรับผู้เสนอขอตำแหน่งทางวิชาการ และจำนวนพิมพ์ต้องมากกว่า
ที่ใชใ้ นหลักสตู รโดยอาจจะดจู ากจำนวนทพี่ ิมพ์เผยแพร่เปน็ หลกั
3. วารสารวิชาการจะต้องเป็นวารสารวิชาการที่ได้รับการยอมรับในสาขานั้น ๆ ปัจจุบันเน้น
วารสารท่มี กี าร Peer Review เป็นหลักด้วย
4. หนังสือหรือบทความหนังสือรวมบทความต้องมีผู้ตรวจหรือผู้ประเมิน (Peer Review,
Editorial Review) ถ้าใช้เปน็ งานวจิ ยั แล้วมักจะเปน็ หนังสอื รวมบทความวิจัยในระดบั นานาชาติ
5. สอ่ื อ่ืนๆ ส่อื ทจี่ ะนำมาใชท้ างด้านของสื่ออิเล็กทรอนิกสก์ เ็ ร่ิมใช้ในการเผยแพร่ได้ทั้งการเผยแพร่
บทความและตำราโดยเฉพาะวารสารอิเล็กทรอนิกส์และซีดีรอม ก็ได้รับการยอมรับมากขึ้น เส้นทางสู่
ศาสตราจารย์
หลายท่านในทีน่ ี้เปน็ อาจารย์แน่นอน คงต้องการเพิ่มคุณค่างานให้เลื่อนระดับสู่ศาสตราจารย์ ผม
จะเสนอการเพิ่มคุณคา่ ของตำรา หนังสอื และบทความเพื่อการเลื่อนตำแหน่งทางวชิ าการ ซงึ่ ในเกณฑ์ของ
สกอ. (ดูประกาศ ก.พ.อ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย
ศาสตราจารย์และศาสตราจารย์(ฉบับที่ 2, 3) พ.ศ. 2550) กำหนดไว้วา่
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จะต้องมีตำรา หนังสือ หรือบทความอยู่ในระดับดี และงานวิจัยก็อยู่ในระดับ
ดี
ในระดับรองศาสตราจารย์จะต้องมีตำรา หนังสือ (ไม่มีบทความ) อยู่ในระดับดี และงานวิจัยก็อยู่
ในระดับดีดว้ ย
สำหรับศาสตราจารย์ ถ้ามีผลงานวิชาการเป็นตำราหรือหนังสือ กับงานวิจัยต้องมีผลงานอยู่ใน
ระดบั ดีมาก แตถ่ า้ เสนอตำราหรือหนงั สือหรืองานวจิ ยั อย่างใดอย่างหนึ่ง เพียงอย่างเดียวตอ้ งคุณภาพดีเด่น
ในแต่ละระดบั สกอ. ได้กำหนดเกณฑห์ ลักไว้ ซ่ึงผมจะจบั ภาพรวมให้เหน็ ได้ดังน้ี
1. ตำรา หนังสือ และบทความวิชาการในระดับดีนั้นจะต้องเป็นงานที่มีลักษณะหลัก 5 ประการ
คือถูกต้อง สมบูรณ์ ทันสมัย ใช้ประโยชน์ได้และมีการนำเสนอที่ดี ชัดเจน นั่นคือ ตำรา หนังสือ และ
บทความวชิ าการจะตอ้ งมีลักษณะ
-มีเนอ้ื หาสาระถูกต้อง
-มเี น้อื หาสาระที่มีความสมบูรณ์
-มีเนื้อหาสาระที่ทันสมยั
-มีประโยชนต์ ่อการเรยี นการสอน/และหรือวชิ าการ
-มกี ารนำเสนอทีช่ ดั เจน /เข้าใจงา่ ย
2. ตำรา หนงั สือ และบทความวิชาการในระดับดมี ากจะต้องมคี ุณภาพระดบั ดีแล้วตอ้ งมดี มี ากเพิ่ม
คือ วิเคราะห์ ทันสมัย ใช้ประโยชน์ริเริ่ม/ประสบการณ์ งานวิจัย อ้างอิงหรือปฏิบัติได้ ในระดับดีมากจะ
ประกอบดว้ ยระดับดแี ละเพ่ิมเติมดว้ ย
-มีการวิเคราะห์ สงั เคราะห์ความรู้น้ัน
136
-ทันสมยั ต่อความก้าวหน้าทางวชิ าการ
-เปน็ ประโยชน์ตอ่ วงวชิ าการ
-สอดแทรกความคิดริเรม่ิ และประสบการณ์หรืองานวิจัยของผเู้ ขยี น
-ใชอ้ า้ งอิงหรอื นำไปปฏิบตั ิได้
3. ตำรา หนังสือ และบทความวิชาการ ในระดับดีเด่นจะต้องมีคุณภาพดีมาก แล้วยังต้องบุกเบิก
สังเคราะห์องค์ความรู้ใหม่ กระตุ้นให้คิด/ค้นคว้าต่อ เชื่อถือและยอมรับในชาติ/นานาชาติ ส่วนในระดับ
ดเี ดน่ จะต้องมคี ณุ ภาพดีมากและเพ่มิ เติมด้วย
-เป็นงานบกุ เบกิ ทางวิชาการ
-มีการสังเคราะหง์ านวชิ าการนัน้ จนไดอ้ งค์ความรู้ใหม่ Body of knowledge
-กระตนุ้ ใหเ้ กิดความคิดและคน้ คว้าตอ่ เนื่อง
-เป็นทเี่ ชอ่ื ถือ/ยอมรบั ในส่วนท่ีเกีย่ วขอ้ งในระดับชาติ/นานาชาติ
จากข้อมูลของประกาศ ก.พ.อ. ดงั กลา่ วทุกท่านจะเหน็ ไดว้ ่าการเพิ่มคุณค่าของตำรา หนงั สอื และ
บทความวิชาการนั้นมีลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน หากท่านจะเพิ่มคุณค่าเพื่อพัฒนาตำแหน่งทางวิชาการก็
จะต้องดเู กณฑ์เหลา่ นี้ประกอบดว้ ย
อย่างไรก็ตามในการขอตำแหน่งทางวิชาการนั้นทุกท่านจะต้องมีทั้งตำรา หนังสือ หรือบทความ
วชิ าการแลว้ ยังตอ้ งมงี านวจิ ยั อกี ดว้ ย โดยมรี ายละเอยี ด คือ ตามประกาศของ ก.พ.อ. ฉบบั ดงั กล่าว
1. งานวิจยั ระดับดี คือ
-มีกระบวนการวิจัยถูกต้องเหมาะสมในระเบยี บวธิ ีวิจัย
-แสดงใหเ้ ห็นถึงความกา้ วหนา้ ทางวชิ าการ/ประยุกต์ใชไ้ ด้
2. งานวิจัยระดับดีมาก มีระดบั ดี และเพิม่
-มีการวิเคราะห์และสังเคราะห์
-เสนอผลเป็นความรใู้ หม่ที่ลึกซ้งึ กวา่ งานที่มีผ้ศู กึ ษาไว้
-เปน็ ประโยชนท์ างดา้ นวชิ าการอยา่ งกวา้ งขวางหรือนำไปประยกุ ตใ์ ช้อย่างแพร่หลาย
3. งานวิจัยดีเดน่ มีระดบั ดมี าก และเพมิ่
-เปน็ งานบุกเบิกที่มคี ณุ คา่ ยงิ่
-มีการสงั เคราะหอ์ ย่างลึกซง้ึ
-ทำให้เกดิ เป็นการสรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่ Study of kroniedge
-ทำใหเ้ กิดความก้าวหนา้ ทางวิชาการอย่างชัดเจน
-เป็นทย่ี อมรบั และได้รับการอา้ งองิ ถงึ อยา่ งกวา้ งขวางในวารสารหรอื หนังสอื ทเี่ กย่ี วข้องใน
ระดับชาติ/นานาชาติ
การลดคุณคา่ ของตำราและบทความ
เมื่อพูดถึงการเพิ่มคุณค่าแล้วก็อยากจะต่อด้วยการลดคุณค่าควบคู่กันไป โดยจะขอเริ่มด้วย
จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการที่ใช้ในการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการของ ก.พ.อ. (ดูประกาศ
137
ก.พ.อ. ฉบับดังกล่าว) ซึ่งกำหนดไว้ 5 ข้อ การเขียนผลงานโดยไม่คำนึงถึงจริยธรรมและจรรยาบรรณ
ดังกล่าว หรอื ผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณดงั กล่าวจะทำใหต้ ำราหรือหนังสือดังกล่าวด้อยค่าไปทันที
จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ ประกอบด้วย
1. ต้องมีความซื่อสัตย์ทางวิชาการ ไม่นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นผลงานของตนและไม่ลอกเลียน
ผลงานของผู้อื่น รวมทั้งไม่นำผลงานของตนเองในเรื่องดีเดียวกัน ไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการมากกว่า
หน่งึ ฉบับในลกั ษณะที่จะทำให้เขา้ ใจผิดว่าเปน็ ผลงานใหม่
2. ต้องให้เกียรติและอ้างถึงบคุ คลหรอื แหลง่ ที่มาของข้อมูลทีน่ ำมาใช้ในผลงานทางวชิ าการของตน
และแสดงหลักฐานของการค้นควา้
3. ต้องไมค่ ำนึงถึงผลประโยชน์ทางวิชาการจนละเลยหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นและสิทธิ
มนุษยชน
4. ผลงานทางวิชาการต้องได้มาจากการศึกษาโดยหลักวิชาการเป็นเกณฑ์ ไม่มีอคติมาเกี่ยวข้อง
และเสนอผลงานตามความเป็นจริง ไมจ่ งใจเบยี่ งเบนผลการวิจยั โดยหวังผลประโยชน์ส่วนตัว หรือต้องการ
สร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น และเสนอผลงานตามความเป็นจริงไม่ขยายข้อค้นพบโดยปราศจากการ
ตรวจสอบยนื ยนั ในทางวิชาการ
5. ต้องนำเสนอไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบธรรมและชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากจริยธรรม และจรรยาบรรณดังกล่าวแล้วยังมีประเด็นที่ให้ตำรา หนังสือ และบทความ
วชิ าการลดคา่ ลงไปหลายประการด้วยกัน อย่างเช่น
1. การลอกเลยี นคนอืน่ โดยไมอ่ ้างอิง
2. เพยี งแต่ ปะ โปะ แปะ เท่านนั้
3. รวบรวมโดยไมเ่ รยี บเรียง
4. ขาดการวเิ คราะหส์ ังเคราะห์
5. ไม่มีการเสรมิ เพมิ่ เตมิ ด้วยประสบการณ์หรอื งานวจิ ัยของผู้เขียน
6. เนอ้ื หา ห้วน ส้ัน ไม่ครบถ้วนตามทค่ี วรจะเป็นในสาขา
7. ไมม่ กี ารเสริมเพ่ิมเตมิ ดว้ ยรปู ภาพ กราฟ ตาราง
8. เขยี นดว้ ยภาษาท่ีสับสน วนไปวนมา ไม่ตอ่ เนอื่ ง
9. การอ้างอิงไมค่ รบ ไมถ่ ูก ไมส่ อดคลอ้ งกนั ทงั้ เลม่
10. ไมม่ ีจุดเดน่ เอกลักษณะ และตัวตนของผูเ้ ขียนเลย
ทัง้ นี้ ยงั ไม่รวมถงึ การจัดพิมพท์ ข่ี าดการดูแลให้สวยงาม เหมาะสม สอดคล้องกบั หลกั การของตำรา
หนงั สือ หรือบทความที่ดีดว้ ย
138
139