The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย 264พี่ฑูร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by konluang1, 2022-05-04 03:41:09

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย 264พี่ฑูร

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.ปลาย 264พี่ฑูร

แผนการจดั การเรียนรู้

การปฐมนเิ ทศนักศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
แผนการจดั การเรยี นรู้เรอื่ งการปฐมนิเทศระยะเวลา 3 ชั่วโมง
สปั ดาห์ท่ี 1 วันที่ 1 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2564 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
สาระสำคัญ

การปฐมนเิ ทศผเู้ รียนเปน็ กิจกรรมหน่ึงเพ่ือให้ผูเ้ รียนการศกึ ษานอกระบบมคี วามรคู้ วามเข้าใจวธิ ีการเรยี นร้ตู าม
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐานพุทธศักราช 2551 วิธีเรียน กศน. รปู แบบการเรยี นรูต้ ลอด
จนภารกิจกจิ กรรม กศน. นโยบายของรฐั บาลเรยี นฟรีเรียนดี 15 ปีอยา่ งมคี ุณภาพนโยบาย 3D ฯลฯ

มาตรฐานการเรยี นรู้
มคี วามร้คู วามเข้าใจทักษะการเรยี นรู้และเหน็ คุณค่าเก่ยี วกบั หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา

ข้นั พน้ื ฐานพุทธศักราช 2551 วิธเี รยี น กศน. รปู แบบการเรยี นรตู้ ลอดจนภารกจิ กิจกรรม กศน. นโยบายของรฐั บาลเรยี น
ฟรีเรยี นดี 15 ปอี ย่างมีคณุ ภาพนโยบาย 3D และนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ในการดำเนนิ ชีวิต

ตวั ช้ีวดั
1. มคี วามรู้และเข้าใจหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐานพุทธศักราช 2551
2. มีความรู้และเขา้ ใจวธิ ีเรียน กศน. รูปแบบการเรียนรู้ตลอดจนภารกิจกิจกรม กศน. ได้

เน้ือหา
1. โครงสรา้ งหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐานพุทธศักราช 2551
2. การจดั กระบวนการเรยี นรกู้ ิจกรรมการเรยี นรู้ กศน.
3. การวัดผลและประเมินผลฯลฯ

การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. ครเู ตรยี มการและวางแผนในการดำเนนิ กจิ กรรมและใหค้ วามรู้ความเข้าใจในการจดั กจิ กรรม
การปฐมนเิ ทศผูเ้ รยี นประจำภาคเรยี น

2. ครเู ตรยี มความพร้อมเคร่ืองมือสอ่ื การเรียนรู้ปฏิทินการเรยี นรู้ ฯลฯ
ขน้ั สอน

ครจู ดั กจิ กรรมการเรียนกระบวนการจดั การเรียนรูบ้ รรยายใหค้ วามรโู้ ดยครู กศน.ตำบลแจกคมู่ ือ
การปฐมนิเทศผเู้ รยี นแจง้ กรอบรายละเอยี ดเน้ือหาปฏิทินการเรยี นรู้ในแตล่ ะสัปดาหช์ ้ีแจงรายละเอยี ดใหผ้ ู้เรียนชี้แจง
ชอ่ งทางการสอ่ื สารระหว่างครกู ับผู้เรยี นการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ติ (กพช.) การทำโครงงานการวัดผลและ
ประเมนิ ผล เปน็ ต้น

ข้นั สรุป
ความรู้ความเข้าใจในการจดั กจิ กรรมการปฐมนเิ ทศมอบปฏทิ นิ การเรียนของผู้เรียนของผู้เรียนแจกสอ่ื

การเรยี นร้แู ละนดั หมายการเรียนรู้ผู้เรยี นครง้ั ต่อไป

ส่ือการเรียนการสอน
1. คู่มือผูเ้ รียน
2. ปฏทิ นิ การเรียนรขู้ องผู้เรียนประจำภาคเรียน

การวดั และประเมินผล
การมสี ่วนร่วมของผู้เรียนการถามตอบการตอบคำถาม

ลงชอ่ื
(นายไพฑรู ย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพฒั นา

ลงช่อื
(นายสมาน กลมกูล)

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระความรพู้ ื้นฐานรายวชิ าภาษาไทย (พท31001) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง 1 การฟังและการพดุ ระยะเวลา 6 ช่วั โมง
สัปดาห์ที่ 2 วนั ที่ 4 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั

การฟังการดู
1. สามารถเลือกสอ่ื ในการฟงั และดอู ย่างสร้างสรรค์
2. สามารถฟงั และดูอยา่ งมีวิจารณญาณ
3. เปน็ ผมู้ ีมารยาทในการฟงั และดู

การพดู
1. สามารถพูดทง้ั ทเี่ ป็นทางการและไมเ่ ปน็ ทางการโดยใชภ้ าษาถูกต้องเหมาะสม
2. สามารถแสดงความคิดเหน็ เชงิ วเิ คราะห์และประเมนิ คา่ การใช้ภาษาพูดจากสือ่ ต่างๆ
3. มมี ารยาทในการพดู

ตัวชีว้ ัด
1. เหน็ คณุ คา่ ของสอื่ ในการฟังการดูและการพูด
2. วิจารณ์ความสมเหตุสมผลการลำดบั ความและความเป็นไปได้ของเรือ่ งท่ฟี ังการดูและการพูด
3. นำเสนอความรคู้ วามคดิ เหน็ ทไ่ี ด้จากการฟังการดแู ละการพดู
4. ใชศ้ ิลปะการพดู ท่เี ป็นทางการและไม่เปน็ ทางการได้อยา่ งเหมาะสมกับโอกาสและบุคคล
5. วิเคราะห์ประเมินค่าการใช้ภาษาพดู จากสอื่ ตา่ งๆ
6. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มีมารยาทในการฟังการดูและการพูด

สาระสำคัญ
การฟงั การดู
การวจิ ารณ์ความสมเหตสุ มผลการลำดับความและความเป็นไปได้ของเรื่องท่ฟี ังและดจู ากสื่อที่หลากหลาย

ตลอดจนมารยาทของการฟงั และดู
การพูด
ศิลปะการพดู ท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการและมารยาทในการพดู

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขนั้ นำเข้าสูบ่ ทเรยี น
- ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันพูดคุยแลกเปล่ยี นประสบการณ์ที่มีเกี่ยวกับการฟังการดแู ละการพดู ใน

ชีวติ ประจำวัน
- รวบรวมปัญหาตา่ งๆท่พี บจากการฟงั การดูและการพูดในชวี ิตประจำวนั
- ผู้เรยี นเล่าถึงนักพดู หรือการพูดทผ่ี ู้เรยี นชนื่ ชอบประทบั ใจและการพดู ท่ผี เู้ รยี นไม่ประทับใจท้ัง

ของตนเองและผ้อู ืน่ สนใจ

ข้นั สอน
- ครูและผเู้ รียนร่วมกันแลกเปลี่ยนเรยี นรเู้ ก่ยี วกับการฟงั การดูและการพูดรวมถึงมารยาทในการฟังการ

ดูและการพดู
- ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั กำหนดคุณสมบตั นิ ักพูดที่ดแี ละมารยาทในการพดู ในสถานการณ์ต่างๆ
- ครมู อบหมายให้ผเู้ รยี นศกึ ษาเลอื กบทความทางอนิ เตอรเ์ นต็ มาอ่านโดยให้เพื่อนในชน้ั เรยี นฟงั แล้วให้

สรปุ ประเดน็ จากเร่ืองท่ีฟงั ตามหลกั การที่ได้ศึกษาจากนนั้ ให้วเิ คราะห์ข้อเทจ็ จริงนำเสนอ

ข้ันสรุป
ครูผู้สอนสรุปเนอื้ หาและเตมิ เต็มองคค์ วามรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาดว้ ยตนเองเพม่ิ เตมิ

สือ่ การเรยี นการสอน
1. ใบความรู้
2. หนงั สอื แบบเรยี น
3. บทความจากอินเตอร์เนต็
4. ใบงาน

การวัดผลประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั
1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรยี นรู้
2. วดั ความรจู้ ากการทำกจิ กรรมในใบงาน
เครอื่ งมอื
1. ใบงาน

ลงชื่อ
(นายไพฑรู ย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพฒั นา

ลงช่ือ
(นายสมาน กลมกูล)

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลมุ่ สาระความรู้พื้นฐานรายวิชาภาษาไทย (พท31001) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี นรูเ้ ร่ือง 2 การอ่านระยะเวลา 6 ชั่วโมง
สปั ดาห์ที่ 3 วนั ที่ 11 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2564 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564
มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ

1. สามารถอ่านอย่างมีวิจารณญาณจัดลำดับความคิดจากเร่ืองท่ีอา่ น
2. สามารถศึกษาภาษาถ่ินสำนวนสุภาษิตที่มีอยใู่ นวรรณคดวี รรณกรรมปัจจบุ นั และวรรณกรรมท้องถิ่น
3. สามารถวเิ คราะหว์ ิจารณ์ประเมินคา่ องค์ประกอบของวรรณคดวี รรณกรรมปัจจุบันวรรณกรรมท้องถน่ิ
4. สามารถคน้ ควา้ หาความรู้จากสื่อสิ่งพมิ พ์และส่ือสารสนเทศ
5. ปฏิบัติตนเปน็ ผ้มู ีมารยาทในการอา่ นและนสิ ยั รักการอ่าน

ตวั ชีว้ ัด
1. ตีความแปลความและขยายความเรื่องที่อ่าน
2. วิเคราะหว์ จิ ารณค์ วามสมเหตสุ มผลการลำดับความคิดและความเปน็ ไปได้ของเรื่องท่อี ่าน
3. อธิบายความหมายของภาษาถ่ินสำนวนสุภาษิตท่ีปรากฏในวรรณคดีวรรณกรรมปจั จบุ ันวรรณกรรมท้องถ่นิ
4. วเิ คราะหว์ ิจารณ์ประเมนิ ค่าวรรณคดวี รรณกรรมปจั จบุ นั วรรณกรรมท้องถ่ินในฐานะที่เป็นมรดกทาง

วฒั นธรรมของชาติแล้วนำไปประยกุ ต์ใช้ในการดำเนนิ ชวี ิต
5. เลือกใชส้ ่อื ในการค้นควา้ หาความร้ทู ี่หลากหลาย
6. มีมารยาทในการอ่านและมนี ิสัยรกั การอา่ น

สาระสำคญั
การอา่ นเพื่อตีความแปลความขยายความความหมายของภาษาถ่ินสำนวนสภุ าษิตองค์ประกอบของการประเมนิ

ค่าวรรณคดีวรรณกรรมปจั จบุ ันและวรรณกรรมทอ้ งถ่ินตลอดจนมารยาทในการอ่าน

กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน
--ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกนั พดู คุยแลกเปลยี่ นประสบการณ์ทมี่ ีเก่ียวกบั การอ่านประโยชนข์ องการอ่านใน

ชีวิตประจำวันปญั หาต่างๆท่ีพบจากการฟงั การดูและการพูดในชีวิตประจำวัน
ขั้นสอน
- ครูและผู้เรียนร่วมกนั แลกเปล่ียนเรียนรู้เก่ยี วกับอ่านตีความแปลความขยายความความหมายของ

ภาษาถน่ิ สำนวนสภุ าษิตองค์ประกอบของการประเมนิ ค่าวรรณคดวี รรณกรรมปัจจุบนั และวรรณกรรมท้องถิ่นตลอด
จนมารยาทในการอ่าน

- ครูมอบหมายให้ผูเ้ รยี นรว่ มกันบอกมารยาทที่ดีในการอ่าน
- ครูมอบหมายให้ผเู้ รยี นศกึ ษาเลือกบทความทางอนิ เตอร์เน็ตมาอ่านโดยใหเ้ พ่ือนในชั้นเรยี นฟงั แลว้ ให้
สรปุ ประเด็นจากเร่ืองที่ฟงั ตามหลักการที่ได้ศึกษาจากน้นั ใหว้ เิ คราะหข์ ้อเทจ็ จริงนำเสนอในคร้งั ต่อไป
ข้นั สรปุ
ครูผสู้ อนสรุปเนอื้ หาและเติมเตม็ องค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานใหไ้ ปศึกษาดว้ ยตนเองเพ่ิมเตมิ

สือ่ การเรียนการสอน
1. ใบความรู้
2. หนังสือแบบเรยี น
3. ใบงาน

การวดั ผลประเมินผล
วิธกี ารวัด
1. สังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรู้
2. วดั ความรจู้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน
เครอ่ื งมือ
1. ใบงาน

ลงช่ือ
(นายไพฑรู ย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พฒั นา

ลงชือ่
(นายสมาน กลมกลู )

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระความรพู้ น้ื ฐานรายวิชาภาษาไทย (พท31001) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
แผนการจดั การเรียนร้เู ร่อื ง 3 การเขยี นระยะเวลา 6 ชั่วโมง
สัปดาหท์ ี่ 4 วนั ที่ 18 เดอื นพฤศจิกายน พ.ศ.2564 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั

1. รแู้ ละเข้าใจหลักการเขียนประเภทตา่ งๆโดยใช้คำในการเขียนไดต้ รงความหมายและถกู ต้องตามอักขระวิธี
และระดบั ภาษา

2. สามารถวพิ ากษ์วิจารณ์และประเมินงานเขยี นของผู้อื่นเพื่อนำมาพัฒนางานเขียน
3. สามารถแตง่ คำประพันธป์ ระเภทรอ้ ยแก้วและร้อยกรอง
4. มมี ารยาทในการเขียนและนสิ ัยรักการเขียน

ตัวชว้ี ดั
1. เขยี นแผนภาพความคิดเขยี นยอ่ ความเรยี งความจดหมายเขียนอธิบายชแี้ จงโนม้ น้าวใจแสดงทัศนะและ

การเขยี นเชิงสร้างสรรคโ์ ดยใช้หลักการเขียนและโวหารต่างๆได้ถูกตอ้ งตามอกั ขระวธิ แี ละระดับภาษา
2. แตง่ คำประพนั ธป์ ระเภทร้อยกรองได้ถูกต้องตามฉนั ทลักษณ์และใชถ้ ้อยคำท่ีไพเราะ
3. การกรอกแบบพิมพ์ประเภทต่างๆได้ถูกตอ้ ง
4. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผูม้ ีมารยาทในการเขียนและมีการจดบนั ทึกอยา่ งสม่ำเสมอ

สาระสำคญั
หลักการเขยี นประเภทตา่ งๆและการแต่งคำประพันธป์ ระเภทร้อยกรองตลอดจนมารยาทในการเขยี น

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น
ครูผสู้ อนใหน้ กั ศกึ ษาฝึกเขียนตามคำบอกเพื่อฝกึ ทักษะการเขยี นและการฟงั
ข้นั สอน
- ครผู ู้สอนและผู้เรยี นแลกเปลีย่ นเรยี นรู้เร่ืองการเขยี นประเภทตา่ งๆพร้อมยกตัวอยา่ งการเขียน

และฝกึ เขยี น
- ครูผ้สู อนแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนกั ศึกษาในเรอ่ื งมารยาทในการเขยี นการเขยี นที่ดีและคุณค่า

ของการเขียนในภาษาไทย
ข้ันสรปุ
ครูผูส้ อนสรปุ ผลจากการนำเสนอและเติมเตม็ องค์ความรู้พร้อมมอบหมายงาน

สอ่ื การเรยี นการสอน
1. ใบความรู้
2. ใบงานกล่มุ
3. หนังสอื แบบเรยี น
4. ใบงาน

การวดั ผลประเมนิ ผล
วิธกี ารวัด
1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรียนรแู้ ละกิจกรรมกลุ่ม
2. วัดความรู้จากการทำกิจกรรมในใบงาน
เคร่ืองมือ
1. ใบงานกิจกรรมกลุม่
2. ใบงาน

ลงชอ่ื
(นายไพฑูรย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพฒั นา

ลงช่อื
(นายสมาน กลมกลู )

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระความรู้พืน้ ฐานรายวชิ าภาษาไทย (พท31001) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี นรู้เรอ่ื ง 4 หลกั การใชภ้ าษาไทยระยะเวลา 3 ช่ัวโมง
สปั ดาหท์ ี่ 5 วันท่ี 25 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2564 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั

1. รแู้ ละเข้าใจธรรมชาตขิ องภาษา
2. สามารถใช้ภาษาสร้างมนุษยสมั พนั ธใ์ นการปฏบิ ัติงานรว่ มกับผอู้ ่ืนและใชค้ ำราชาศพั ท์คำสุภาพได้ถูกต้อง
ตามฐานะของบุคคล

ตวั ช้ีวัด
1. อธบิ ายธรรมชาตขิ องภาษาและใชป้ ระโยคตามเจตนาของการสื่อสาร
2. เลอื กใช้ถ้อยคำสำนวนสภุ าษติ คำพงั เพยให้ตรงความหมาย
3. ใช้ประโยคได้ถกู ตอ้ งตามเจตนาของผู้สง่ สาร
4. ใชค้ ำสุภาพและคำราชาศัพท์ให้ถกู ต้องตามฐานะและบุคคล
5. แต่งคำประพนั ธป์ ระเภทร้อยกรองได้

สาระสำคญั
หลักการใช้ภาษา
ธรรมชาติของภาษาการใชถ้ ้อยคำประโยคสำนวนสุภาษิตคำพังเพยคำสุภาพคำราชาศัพท์

กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรยี น
ครผู สู้ อนพดู คุยเกย่ี วกับคำสภุ าษิตและคำพังเคยทเ่ี คยไดย้ นิ และได้ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั พร้มอธิบายความหมาย
ขั้นสอน
- ครผู ู้สอนและผู้เรียนแลกเปล่ยี นเรยี นรูเ้ ร่ืองธรรมชาตขิ องภาษาการใชถ้ ้อยคำประโยคสำนวนสุภาษติ

คำพังเพยคำสภุ าพคำราชาศพั ท์โดยให้นกั ศึกษาศึกษาเรียนรู้จากใบงานและแบบเรยี น
ข้ันสรปุ
--ครูผู้สอนสรปุ และเตมิ เต็มองค์ความร้พู ร้อมมอบหมายงาน

สอ่ื การเรียนการสอน
1. ใบความรู้
2. หนงั สอื แบบเรียน

การวัดผลประเมนิ ผล
วธิ ีการวัด
1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรู้และกิจกรรมกลุ่ม
2. วัดความรู้จากการทำกจิ กรรมในใบงาน
เครือ่ งมอื
1. ใบงานกิจกรรมกลมุ่
2. ใบงาน

ลงช่ือ
(นายไพฑรู ย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา

ลงชื่อ
(นายสมาน กลมกลู )

ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ัย

แผนการจัดการเรียนรู้
กลุม่ สาระความร้พู ื้นฐานรายวชิ าภาษาไทย (พท31001) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรียนรู้เรอื่ ง 5 วรรณคดีและวรรณกรรมระยะเวลา 3 ชั่วโมง
สปั ดาหท์ ี่ 5 วนั ที่ 25 เดอื นพฤศจิกายน พ.ศ.2564 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ

สามารถวิเคราะห์และเหน็ คณุ ค่าวรรณคดีวรรณกรรมปัจจุบนั และวรรณกรรมท้องถิ่นโดยใชห้ ลกั การพนิ ิจวรรณคดี

ตวั ชี้วดั
1. อธบิ ายคุณคา่ วรรณคดีวรรณกรรมปจั จุบนั และวรรณกรรมทอ้ งถ่ิน

สาระสำคัญ
หลกั การพินิจและประเมินคุณคา่ เก่ียวกบั วรรณคดวี รรณกรรมปจั จุบันและวรรณกรรมท้องถ่ิน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น
--ครูผสู้ อนพูดคุยเกี่ยวกับวรรณกรรมของไทย
ขนั้ สอน
- ครูและผเู้ รียนแลกเปลยี่ นเรียนรู้เกย่ี วกับเก่ยี วกับวรรณคดีวรรณกรรมปัจจบุ นั และวรรณกรรมท้องถ่นิ

และรว่ มกนั สรปุ คุณคา่ ความสำคญั ต่อประเพณีวัฒนธรรมของไทย
ขนั้ สรุป
--ครูผู้สอนสรปุ และเติมเต็มองค์ความร้พู ร้อมมอบหมายงาน

สอ่ื การเรียนการสอน
1. ใบความรู้
2. หนังสือแบบเรยี น

การวัดผลประเมนิ ผล
วิธกี ารวัด
1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรแู้ ละกิจกรรมกลมุ่
2. วัดความรูจ้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน

เครื่องมอื
1. ใบงานกจิ กรรมกลุ่ม
2. ใบงาน

ลงชอ่ื
(นายไพฑูรย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพัฒนา

ลงชอื่
(นายสมาน กลมกลู )

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ัย

แผนการจัดการเรยี นรู้
กลมุ่ สาระทักษะการเรยี นรู รายวิชาวิทยาศาสตร์ (พว31001) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจดั การเรียนรู้เร่อื งที่ 1 ธรรมชาติทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะทางวทิ ยาศาสตร์ระยะเวลา 3 ชว่ั โมง
สัปดาหท์ ่ี 6 วันที่ 2 เดือนธนั วาคม พ.ศ.2564 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ

มีความรู้ความเข้าใจทักษะและเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นประเทศและโลกสารแรงพลงั งานกระบวนการเปลย่ี นแปลงของโลกและ
ดาราศาสตรม์ ีจิตวทิ ยาศาสตรแ์ ละนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนนิ ชีวิต

ตวั ชว้ี ัด
อธิบายธรรมชาติและความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เนือ้ หา
1. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

- ความหมายและความสำคญั ของวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1.2 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

- วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ 5 ขัน้
- ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 13 ทกั ษะ
- เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 6 ลักษณะ
- จิตวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี

ข้ันตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้

ข้ันนำเขา้ สู่บทเรยี น

1. ครพู ดู คยุ กับนักศกึ ษา ถงึ เทคโนโลยีสมยั ใหม่และส่งิ อำนวยความสะดวกในการดำเนนิ ชวี ติ ของคนเรา
เช่น ด้านการสอ่ื สาร เทคโนโลยีดา้ นการแพทย์ เทคโนโลยดี ้านอวกาศ
ขั้นสอน

1. ครกู บั ผเู้ รยี นร่วมกนั วางแผนการเรยี นรใู้ นเรือ่ งธรรมชาตแิ ละความสำคัญของวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. ครสู นทนากับผเู้ รยี นเกีย่ วกบั ความสำคญั ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3. แบ่งกลุ่มผูเ้ รยี นกลุ่มละ 3 คนใหร้ ่วมกนั แลกเปลยี่ นเรยี นรูศ้ ึกษาใบความรเู้ ร่ืองธรรมชาตทิ างวทิ ยาศาสตร์
และทักษะทางวิทยาศาสตร์แลว้ ทำกจิ กรรมในใบงาน
4. ผ้เู รยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปกจิ กรรมจากใบความรูค้ รกู บั ผ้เู รยี นรว่ มกนั สรุปความร้ทู ่ไี ด้รบั

ขน้ั สรปุ
1. ครแู ละผเู้ รียนร่วมกนั สรุปเรือ่ งกระบวนทางวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยที างวิทยาศาสตร์
2. ให้ผเู้ รียนทำแบบทดสอบยอ่ ย

สอ่ื การเรยี นรู้

1. ใบความรู้
2. ใบงาน
3. อุปกรณก์ ารวาดภาพ
4. เครอื่ งมือวทิ ยาศาสตร์

การวดั และประเมนิ ผล
1. แบบทดสอบ
2. ใบงาน
3. แบบประเมนิ

ลงชื่อ
(นายไพฑูรย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา

ลงช่อื
(นายสมาน กลมกลู )

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชัย

แผนการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระความรพู้ ืน้ ฐาน รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว31001) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจดั การเรียนรู้เรื่องท่ี 2 โครงงานวิทยาศาสตร์ ระยะเวลา 3 ชั่วโมง
สปั ดาห์ท่ี 6 สอนวันที่ 2 เดอื นธันวาคม พ.ศ.2564 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับ

มีความรู้ความเข้าใจทักษะและเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในท้องถิ่นประเทศและโลกสารแรงพลังงานกระบวนการเปลยี่ นแปลงของโลกและ
ดาราศาสตรม์ จี ิตวทิ ยาศาสตร์และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ิต

ตวั ชี้วัด 1. อธิบายประเภทการเลือกหวั ข้อวิธีดำเนนิ การและการนำเสนอโครงงาน
2. นำความรู้เกีย่ วกับกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละโครงงานไปใช้
3. เกดิ กระบวนการกลุ่ม

เนอื้ หา

1. ประเภทของโครงงาน
2. การเลือกหัวข้อโครงงาน
3. การเขียนโครงงาน
4. การวางแผนและการทำโครงงาน
5. การนำเสนอโครงงาน

ขัน้ ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้

ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ทบทวนความร้เู ดิม
2. ครูนำตัวอยา่ งโครงงานวิทยาศาสตร์มาใหผ้ เู้ รยี นดแู ล้วครูและผูเ้ รยี นร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับความหมาย
จุดประสงค์ประเภทและการจัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์
3. ผเู้ รียนดูแผนภมู วิ ธิ ีการจดั ทำโครงงานวิทยาศาสตร์แล้วร่วมกนั สนทนาซักถามในสงิ่ ท่สี งสัยครูอธบิ ายเกย่ี วกับ
การจัดทำโครงงานวิทยาศาสตรใ์ หผ้ ู้เรยี นเข้าใจ

ข้ันสอน
1. ผู้เรียนแบง่ กลุ่มกลุ่มละ5-6คนให้แต่ละกลุ่มวางแผนการจดั ทำโครงงานโดยเลือกหัวข้อโครงงานทีส่ นใจและ
จัดทำเป็นเค้าโครงย่อของโครงงานเพื่อนำเสนอให้ครูตรวจพิจารณาแล้วนำมาแก้ไขปรับปรุงตามที่ครู
เสนอแนะ

2. ให้แต่ละกลุ่มวางแผนการจัดทำโครงงานโดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและดำเนินการจัดทำโครงงานตามที่ได้
วางแผนไว้

3. ตัวแทนแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอผลการจัดทำโครงงาน
4. ครแู ละผู้เรยี นกลมุ่ อื่นๆร่วมกนั สนทนาซกั ถาม
5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันนำเสนอโครงงานโดยทำเปน็ แผงโครงงานหรือจดั นิทรรศการร่วมกันภายใน กศน.
6. ผเู้ รยี นร่วมกนั อภิปรายว่าจะนำความรูท้ ไี่ ดจ้ ากการจัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ไปใชป้ ระโยชน์

ในชีวิตประจำวนั ได้อย่างไร

ข้ันสรปุ
1. ครแู ละผเู้ รยี นช่วยกันสรปุ สาระสำคญั ทกุ หวั ขอ้ /ลงในกระดาษรวบรวมสง่ เป็นรปู เลม่
2. ประเมินผลการจดั กิจกรรม

สื่อประกอบการเรียนรู้

1. ตวั อย่างโครงงานวิทยาศาสตรท์ ่คี รนู ำมาให้นกั เรยี นดู
2. แผนภูมวิ ธิ กี ารจดั ทำโครงงานวิทยาศาสตร์
3. แบบบันทกึ เสนอโครงงาน

การวดั ผลและประเมนิ ผล

1. สังเกตการณท์ ำกจิ กรรมของนักเรยี น
2. ฟังรายงานผลการทำกจิ กรรมของนกั เรียนและตรวจผลงาน

ลงช่ือ
(นายไพฑูรย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา

ลงชอ่ื
(นายสมาน กลมกลู )

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการพัฒนาอาชีพรายวชิ าวิทยาศาสตร์ (พว31001) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่อื งที่ 3 สง่ิ มชี ีวติ และส่ิงแวดล้อม ระยะเวลา 3 ช่วั โมง
สัปดาหท์ ่ี 7 สอนวันที่ 9 เดอื นธนั วาคม พ.ศ.2564 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั

มีความรู้ความเข้าใจทักษะและเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในท้องถิน่ ประเทศและโลกสารแรงพลงั งานกระบวนการเปล่ียนแปลงของโลกและ
ดาราศาสตรม์ จี ิตวิทยาศาสตรแ์ ละนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต

เรอื่ งส่ิงมชี ีวิตและส่งิ แวดลอ้ ม

1. ลกั ษณะรปู รา่ งของเซลล์พชื และสัตว์
2. องคป์ ระกอบโครงสร้างและหนา้ ทข่ี องเซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์
3. กระบวนการท่สี ารผ่านเซลล์
ตัวชว้ี ดั

1. อธิบายลักษณะโครงสร้างองค์ประกอบและหน้าทขี่ องเซลล์
2. เปรียบเทยี บความแตกต่างระหวา่ งเซลลพ์ ชื และเซลล์สัตว์
เนือ้ หา

1. ลักษณะรปู ร่างของเซลล์พืชและสตั ว์
1.1 สิ่งมชี ีวิตเซลล์เดยี ว
1.2 สิ่งมชี วี ิตหลายเซลล์

2. องค์ประกอบโครงสร้างและหนา้ ที่ของเซลล์พชื และเซลล์สตั ว์
3. กระบวนการที่สารผา่ นเซลล์

3.1 การแพร่
3.2 การออสโมซิส

ข้ันตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้
ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ทบทวนความรูเ้ ดิม
2. ครูนำตวั อย่างเซลล์พืชและเซลลส์ ัตวม์ าให้ผู้เรียนดแู ลว้ ครแู ละผ้เู รยี นร่วมกันสนทนาเกย่ี วกบั รปู รา่ ง
ของเซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์

ขน้ั สอน
1. ครใู หผ้ ู้เรียนนำแบบสำรวจเซลลพ์ ชื และเซลล์สตั วแ์ ลว้ จดบนั ทึก
2. ครูใหน้ ักศึกษาแบง่ กลุ่มทดลองแบบความสามารถ
3. ให้นกั ศึกษาตั้งปัญหาและใช้กระบวนการกลุม่ สบื คน้ ข้อมลู
4. ใหน้ กั ศึกษาวเิ คราะห์ปญั หาตั้งสมมตุ ฐิ านวิเคราะหข์ ้อมูลสรา้ งแบบจำลองจากข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการสำรวจ
5. ตวั แทนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอข้อมูลท่ีไดไ้ ปสำรวจมา
6. ครแู ละผเู้ รยี นกล่มุ อื่นๆรว่ มกนั สนทนาซกั ถาม

ขั้นสรปุ
1. ครูและผู้เรยี นช่วยกันสรปุ สาระสำคญั ทุกหัวข้อ/ลงในกระดาษรวบรวมสง่ เป็นรปู เล่ม
2. ประเมนิ ผลการจดั กิจกรรม

สอ่ื ประกอบการเรียนรู้

1. ใบความรู้
2. ใบงาน
3. แบบทดสอบ
การวัดผลและประเมินผล

1. สงั เกตการณท์ ำกจิ กรรมของผเู้ รียน
2. ฟังรายงานผลการทำกิจกรรมของผู้เรียนและตรวจผลงาน

ลงชื่อ
(นายไพฑรู ย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พฒั นา

ลงช่อื
(นายสมาน กลมกลู )

ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระทกั ษะการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ (พว31001) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่อื งที่ 4 เกณฑใ์ นการจำแนกสาร ระยะเวลา 3 ชั่วโมง
สปั ดาห์ที่ 7 สอนวนั ท่ี 9 เดอื นธันวาคม พ.ศ.2564 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ
มีความรู้ความเข้าใจทักษะและเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ

ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในท้องถ่นิ ประเทศและโลกสารแรงพลงั งานกระบวนการเปล่ยี นแปลงของโลกและ
ดาราศาสตร์มจี ิตวิทยาศาสตรแ์ ละนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในการดำเนนิ ชีวิต

ตัวชว้ี ดั 1. อธบิ ายความแตกต่างและจำแนกธาตสุ ารประกอบสารละลายและสารผสม
2. สามารถจำแนกสารโดยใชเ้ นอ้ื สารและสถานะเป็นเกณฑ์

เนอ้ื หา 1..เกณฑใ์ นการจำแนกสาร
2. การใช้สถานะใชเ้ นอ้ื สาร
3..สมบัติของธาตสุ ารประกอบสารละลายสารผสม

ขนั้ ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรียน

1. ครูสร้างความคนุ้ เคยกับผู้เรียนทำความเข้าใจเน้อื หาวิชาวทิ ยาศาสตรเ์ รื่องเกณฑใ์ นการจำแนกสารช้ีแจงตวั ช้ีวดั
ของหน่วยการเรยี นรู้

2. ครทู ักทายกลา่ วนำอธิบายการกำหนดเป้าหมายและการวางแผนการเรียนรเู้ กณฑ์ในการจำแนกสารสมบัติของ
ธาตุสารประกอบสารละลายสารผสม

ขนั้ สอน
1. ครแู ละผเู้ รยี นวางแผนวธิ ีการเรยี นรเู้ นื้อหาท่ีกำหนด
2. ผ้เู รียนแบ่งกลุ่มตามหวั ข้อท่ีกำหนดให้โดยวิธกี ารจับฉลาก
3. เกณฑใ์ นการจำแนกสาร
4. สมบัตขิ องธาตุสารประกอบสารละลายสารผสม
5. ผเู้ รียนศกึ ษาใบความรูจ้ ากท่ีแตล่ ะกลมุ่ จบั ฉลากได้โดยให้เวลาศึกษา 15 นาที
6. ผู้เรียนแตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทนนำเสนอเรื่องที่ศึกษากล่มุ ละไม่เกิน 5 นาทีหนา้ ชน้ั เรยี น
7. ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบเร่ืองสมบตั ขิ องสารเพ่ือทดสอบความเข้าใจ
8. ครแู ละผู้เรียนสรปุ เนือ้ หาที่ไดเ้ รียนรรู้ ่วมกนั

ขัน้ สรปุ
1. ผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในการประเมนิ แบบฝึกหดั ของแตล่ ะกลุ่มโดยการเขยี นชอ่ื ตนเองไวใ้ นใบงาน
2. ครูสงั เกตจากการมีสว่ นร่วมของผู้เรียน

สอ่ื การเรียนรู้
1. ใบความรเู้ รอ่ื งเกณฑ์การจำแนกสาร
2. แบบฝกึ หดั

การวดั ผลประเมินผล
1. แบบฝกึ หดั
2. การนำเสนอ

ลงชอื่
(นายไพฑรู ย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา

ลงช่ือ
(นายสมาน กลมกลู )

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้
กลมุ่ สาระความรูพ้ ้นื ฐาน รายวชิ าวิทยาศาสตร์ (พว31001) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจดั การเรียน รู้เรอ่ื งท่ี 5 สารละลาย ระยะเวลา 3 ชว่ั โมง
สปั ดาห์ 8 สอนวันท่ี 16 เดือนธันวาคม พ.ศ.2564 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

มาตรฐานการเรียนร้รู ะดับ
มีความรู้ความเข้าใจทักษะและเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ

ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถนิ่ ประเทศและโลกสารแรงพลงั งานกระบวนการเปลย่ี นแปลงของโลกและ
ดาราศาสตรม์ ีจิตวทิ ยาศาสตร์และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนนิ ชีวิต

ตัวช้ีวัด 1. อธบิ ายสมบตั ิและองคป์ ระกอบของสารละลาย
2. อธบิ ายปจั จยั ที่มีผลตอ่ การละลายของสาร
3. หาความเขม้ ขน้ ของสารละลาย
4. อธบิ ายและเตรยี มสารละลายบางชนดิ

เนอ้ื หา 1. สารละลาย
1.1 สมบัตขิ องสารละลายและองคป์ ระกอบของสารละลาย
1.2 ความสามารถในการละลายของสาร
1.3 ปัจจยั ทม่ี ีผลตอ่ การละลายของสาร
1.4 ความเขม้ ขน้ ของสารละลาย
1.5 การเตรียมสารละลาย

ข้ันตอนการจดั กระบวนการเรียนรู้
ข้นั นำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครสู ร้างความคุ้นเคยทำความเขา้ ใจกับวชิ าพรอ้ มมาตรฐานและช้ีแจงตัวชว้ี ดั ของหน่วยการเรียนรู้
2. ครทู กั ทายกล่าวนำอธบิ ายการกำหนดเป้าหมายและการวางแผนการเรียนร้เู ก่ยี วกับสารละลาย
3. ครแู ละผูเ้ รียนร่วมกนั อภิปรายความหมายและยกตัวอยา่ งสารละลายท่ีเก่ยี วข้องในชวี ติ ประจำวนั
4. ครูเปิดโอกาสให้ผ้เู รยี นซกั ถามข้อสงสยั ก่อนนำเข้าสบู่ ทเรยี น

ข้ันสอน
1. ครแู ละผู้เรียนวางแผนวิธีการเรียนรเู้ นื้อหาที่กำหนด
2. ครอู ธบิ ายความหมายและยกตวั อยา่ งสารละลายทเี่ ก่ยี วข้องในชีวิตประจำวัน
3. ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลุม่ กลุ่มละ 3-4 คนศกึ ษาใบความรเู้ ร่ืองสารละลาย
4. ผเู้ รียนแต่ละกลมุ่ อภปิ รายจากการศึกษาใบความรู้เรื่องสารละลายหลังจากนัน้ เปิดโอกาสให้ผู้เรียน

ซักถามข้อสงสัย

5. ผเู้ รียนทำใบงานและแบบทดสอบเร่ืองสารละลาย
6. ครูและผ้เู รียนสรุปเนือ้ หาที่ได้เรียนรรู้ ว่ มกนั

ข้นั ที่ 4 การประเมินผล
1. ผูเ้ รยี นมสี ่วนร่วมในการประเมนิ ใบงานของแต่ละกลุ่มโดยการเขยี นชื่อตนเองไวใ้ นใบงาน
2. ครูสังเกตจากการมสี ว่ นร่วมของผู้เรียน

สอื่ การเรยี นรู้
1. ใบความรเู้ รื่องสารละลาย
2. ใบงานเรอ่ื งสารละลาย
3. แบบทดสอบเร่ืองสารละลาย
4. หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตรม์ .ต้น
5. อินเตอรเ์ น็ต

การวดั และผลประเมิน
1. ใบงาน
2. แบบทดสอบ

ลงชื่อ
(นายไพฑูรย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพฒั นา

ลงชอ่ื
(นายสมาน กลมกลู )

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชัย

แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุม่ สาระการพัฒนาอาชีพรายวิชาวิทยาศาสตร์ (พว31001) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี น รู้เรือ่ งท่ี 6 แรงและพลังงานเพ่ือชีวติ ระยะเวลา 3 ช่วั โมง
สปั ดาหท์ ่ี 8 สอนวนั ที่ 16 เดือนธนั วาคม พ.ศ.2564 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั
มีความรู้ความเข้าใจทักษะและเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ินประเทศและโลกสารแรงพลังงานกระบวนการเปล่ยี นแปลงของโลกและ
ดาราศาสตรม์ จี ิตวทิ ยาศาสตร์และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนนิ ชีวิต

ตวั ชวี้ ดั 1. มีความรูค้ วามเข้าใจอธิบายการกระทำของแรงและโมเมนตข์ องแรง
2. มคี วามรู้ความเข้าใจสามารถอธบิ ายประโยชน์ของแรงในชีวิตประจำวนั

เนอ้ื หา 1. โมเมนต์
2. ความหมายและชนิดของโมเมนต์
3. การหาค่าโมเมนต์
4. การใช้โมเมนตใ์ นชวี ติ ประจำวัน

ขัน้ ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น
1. ครสู รา้ งความคนุ้ เคยกบั ผู้เรยี นทำความเข้าใจกบั วชิ าวิทยาศาสตรเ์ ร่ืองโมเมนตพ์ ร้อมมาตรฐานและชีแ้ จง

ตวั ชวี้ ดั ของหน่วยการเรียนรู้
2. ครทู กั ทายกล่าวนำอธบิ ายการกำหนดเปา้ หมายและการวางแผนการเรียนรูเ้ กี่ยวกบั แรงโมเมนต์ใชโ้ มเมนต์

ในชวี ติ ประจำวัน
3. ครแู ละผเู้ รียนรว่ มกันอภปิ รายความหมายของแรงใหย้ กตวั อยา่ งอะไรทีเ่ กยี่ วข้องกับโมเมนต์ทใ่ี ช้ใน

ชีวติ ประจำวันครูและผเู้ รียนรวบรวมข้อมูลของหลกั การโมเมนต์
4. ครเู ปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นซักถามขอ้ สงสัยก่อนนำเข้าสูบ่ ทเรยี น

ขนั้ สอน
1. ครแู ละผ้เู รียนวางแผนวธิ กี ารเรียนร้เู น้ือหาท่ีกำหนด
2. ครูแบง่ กลุม่ ผเู้ รยี นศกึ ษาใบความรเู้ รื่องความหมายของโมเมนต์การหาค่าโมเมนต์และการใชโ้ มเมนต์

ในชีวิตประจำวนั
3. แต่ละกลมุ่ สง่ ตัวแทนนำเสนอเร่ืองทไี่ ดร้ ับหน้าชน้ั เรยี น
4. ครแู ละผูเ้ รียนร่วมแสดงความคิดเหน็ อธบิ ายเพ่ิมเตมิ ในแต่ละหัวขอ้
5. ครูยกตัวอยา่ งการหาค่าโมเมนต์แสดงวธิ ีทำใหผ้ ู้เรยี นศึกษา

6. ครใู ห้ผู้เรยี นยกตวั อยา่ งการใช้โมเมนต์ในชวี ิตประจำวันทผี่ ู้เรียนรจู้ กั พร้อมนำเสนอในทีพ่ บกลุ่ม
7. ผเู้ รยี นทำใบงานเร่อื งแรงฝึกแสดงวธิ ที ำการหาคา่ โมเมนต์จากแบบฝกึ หัด
8..ครูและผเู้ รียนสรปุ เนอื้ หาที่ไดเ้ รียนรรู้ ว่ มกัน
ขั้นที่ 4 การประเมนิ ผล
1. ผู้เรยี นมีสว่ นรว่ มในการประเมนิ ใบงานของแต่ละกลมุ่ โดยการเขยี นช่ือตนเองไวใ้ นใบงาน
2. ครสู ังเกตจากการมีส่วนรว่ มของผู้เรียน
ส่อื การเรยี นรู้
1. ใบความร้เู ร่อื งแรง
2. ใบงาน
3. แบบฝึกหดั
การวดั ผลประเมนิ ผล
1. แบบฝึกหัด
2. ใบงาน
3. ผลงานผู้เรียน
4. การนำเสนอ

ลงชอื่
(นายไพฑูรย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพัฒนา

ลงช่ือ
(นายสมาน กลมกลู )

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรียนรู้

กลุ่มสาระความรู้พ้ืนฐาน รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พว31003) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง 7 เทคโนโลยอี วกาศ ระยะเวลา 6 ชัว่ โมง
สปั ดาหท์ ี่ 9 วนั ที่ 23 เดือนธันวาคม พ.ศ.2564 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ

มีความรู้ความเข้าใจทักษะและเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ
ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในท้องถิ่นประเทศและโลกสารแรงพลังงานกระบวนการเปล่ียนแปลงของโลกและ
ดาราศาสตร์มจี ิตวทิ ยาศาสตร์และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต

ตวั ช้วี ดั
1. บอกความหมายความสำคัญและความเปน็ มาของเทคโนโลยีอวกาศ
2. อธิบายและระบปุ ระเภทของเทคโนโลยีอวกาศ
3. อธิบายการนำเทคโนโลยอี วกาศมาใช้ประโยชน์
4. บอกโครงการสำรวจอวกาศทสี่ ำคัญในปจั จุบนั

สาระสำคญั
เทคโนโลยีอวกาศ

กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรยี น
--ครูและผ้เู รยี นรว่ มกันแลกเปล่ยี นเรยี นรเู้ กี่ยวกับประโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศทเี่ กย่ี วข้องกับ

ชวี ติ ประจำวัน
ข้นั สอน
- ครแู บง่ กลมุ่ ผเู้ รียนแบง่ กลมุ่ 5-7 คนค้นคว้าเรื่องเทคโนโลยีอวกาศประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ

และโครงการสำรวจอวกาศในปัจจุบนั พร้อมนำเสนอนำต่อกลมุ่ ใหญ่เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรูแ้ ละสรปุ ผล
ขน้ั สรปุ
- ครูผสู้ อนสรุปเนอ้ื หาและเติมเต็มองคค์ วามรพู้ ร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาดว้ ยตนเองเพ่ิมเติม

ในเนอ้ื หาทีเ่ กยี่ วข้องในบทเรยี น

สื่อการเรยี นการสอน
1. ใบความรู้
2. หนงั สอื แบบเรยี น
3. กระดาษบรู๊ฟ
4. ปากกาเคมี
5. ใบงาน

การวดั ผลประเมินผล
วธิ กี ารวัด
1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรยี นรู้และกระบวนการกลุ่ม
2. วดั ความร้จู ากการทำกิจกรรมในใบงาน
เคร่ืองมือ
1. ใบงาน

ลงชอ่ื
(นายไพฑูรย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา

ลงชื่อ
(นายสมาน กลมกลู )

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรยี นรู้
กลุ่มสาระความร้พู ื้นฐาน รายวิชาศาสนาและหนา้ ท่ีพลเมอื ง (สค31002) ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง 1 ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี ระยะเวลา 6 ชว่ั โมง
สัปดาห์ท่ี 10 วันที่ 30 เดอื นธันวาคม พ.ศ.2564 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั

มีความรู้ความเขา้ ใจเห็นคุณค่าและสืบทอดศาสนาวัฒนธรรมประเพณขี องประเทศในสงั คมโลก

ตัวชี้วัด
1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจศาสนาทส่ี ำคญั ของโลก
2. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในหลักธรรมสำคัญของแตล่ ะศาสนา
3. เหน็ ความสำคญั ในการอยู่รว่ มกันกบั ศาสนาอ่ืนได้อย่างสนั ติสุข
4. ประพฤตปิ ฏิบตั ิตนที่ส่งผลใหส้ ามารถอยู่รว่ มกบั ศาสนาอื่นได้อยา่ งสันตสิ ุข
5. มคี วามรู้ความเข้าใจในและตระหนักถึงความสำคญั ของวฒั นธรรมประเพณีของไทยและวัฒนธรรมประเพณี

ท่สี ำคัญในโลก
6. ประพฤติปฏิบัตติ ามค่านยิ มท่ีพงึ ประสงค์ของสังคมโลก

สาระสำคัญ
ประวัติความเป็นมาหลกั ธรรมคำสอนของศาสนาตา่ งๆในโลกการฝึกปฏบิ ตั ิพัฒนาจติ ใจและประเพณวี ฒั นธรรม

สำคญั ต่างๆ ในโลกและค่านยิ มที่พงึ ประสงค์ของสังคมโลก

กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้ันนำเข้าส่บู ทเรยี น
ครูผู้สอนให้นักศกึ ษายกตวั อย่างศาสนาในโลกทีต่ วั เองร้จู กั และร่วมกันบอกวฒั นธรรมหรือประเพณที ่ี

เกยี่ วข้องกับศาสนาตา่ งๆในโลกใหไ้ ด้มากท่ีสดุ
ขนั้ สอน
- ครผู สู้ อนมอบหมายให้ผเู้ รยี นศึกษาจากใบความรู้และหนังสือแบบเรยี นเร่ืองประวตั ิความเปน็ มาของ

ศาสนาต่างๆหลักคำสอนที่สำคัญวธิ ฝี กึ ปฏิบัติตามหลกั คำสอน

- ครูผู้สอนมอบหมายใบงานเรื่องวฒั นธรรมประเพณีในสงั คมไทยและสังคมโลกนำเสนอเป็นรายกลุ่ม

พรอ้ มแลกเปล่ียนเรยี นร้ซู ง่ึ กนั และกัน

ขัน้ สรปุ
ครูผู้สอนสรุปเน้อื หาและเติมเต็มองค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาด้วยตนเองเพม่ิ เตมิ

สื่อการเรยี นการสอน
1. ใบความรู้

2. หนังสือแบบเรยี น
3. ใบงาน
การวัดผลประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั

1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรู้
2. วัดความรู้จากการทำกิจกรรมในใบงาน
เครอื่ งมอื
1. ใบงาน

ลงชื่อ
(นายไพฑูรย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพฒั นา

ลงช่ือ
(นายสมาน กลมกูล)

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจัดการเรียนรู้
กล่มุ สาระความรพู้ ืน้ ฐานรายวชิ า ศาสนาและหนา้ ทพี่ ลเมือง (สค31002) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่อื ง 2 หนา้ ทพี่ ลเมือง ระยะเวลา 6 ช่ัวโมง

สปั ดาหท์ ี่ 11 วันที่ 6 เดือนมกราคม พ.ศ.2564 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ

มคี วามรู้ความเขา้ ใจดำเนนิ ชวี ิตตามวิถีประชาธิปไตยกฎระเบียบของประเทศต่างๆ ในโลก

ตัวชว้ี ัด
1. รแู้ ละเข้าใจบทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนูญ
2. รแู้ ละเข้าใจบทบาทหนา้ ท่ีขององค์กรตามรฐั ธรรมนญู และการตรวจสอบอำนาจรัฐ
3. บอกวิธปี ฏบิ ตั ิตนตามรัฐธรรมนญู และกฎหมายทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั รัฐธรรมนญู
4. รแู้ ละเขา้ ใจหลักสทิ ธิมนุษยชน
5. อธิบายหลกั สิทธิมนุษยชนใหผ้ ู้อ่นื ได้
6. ปฏิบตั ติ นตามหลกั สิทธมิ นุษยชน

สาระสำคญั
รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และกฎหมายท่เี กี่ยวข้องบทบาทหนา้ ท่ีขององค์กร

ตามรัฐธรรมนูญและการตรวจสอบอำนาจรฐั หลักสิทธมิ นุษยชนและการปฏิบัติตามหลักสทิ ธิมนุษยชน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น
--ครผู สู้ อนพูดถึงการปกครองของไทยต้งั แต่อดีตจนถงึ ปจั จุบนั วา่ มีความเป็นมาและมีรูปแบบอย่างไร

พรอ้ มกบั ให้ผูเ้ รยี นเสนอความคิดเหน็
ข้ันสอน
- ครผู ้สู อนกบั ผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรยี นรใู้ นเร่อื งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.2550 และ

กฎหมายทเ่ี กยี่ วข้องกบั รฐั ธรรมนญู บทบาทหน้าที่องค์กรตามรัฐธรรมนูญและการตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั กฎหมายท่ี
เก่ียวข้องหลักสทิ ธิมนษุ ยชน

- ครผู ู้สอนมอบหมายใบงานกลุ่มในหัวข้อรฐั ธรรมนูญกบั สทิ ธิมนษุ ยชนในประเทศไทยพร้อมนำเสนอ
ขนั้ สรปุ

--ครผู ู้สอนสรปุ เน้ือหาและเติมเต็มองค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาด้วยตนเองเพมิ่ เติม

สื่อการเรยี นการสอน
1. ใบความรู้
2. หนงั สอื แบบเรยี น

3. ใบงาน
การวัดผลประเมินผล

วธิ ีการวัด
1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรู้
2. วัดความรู้จากการทำกจิ กรรมในใบงาน

เครือ่ งมือ
1. ใบงาน

ลงช่ือ
(นายไพฑรู ย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพัฒนา

ลงช่ือ
(นายสมาน กลมกูล)

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรวิชัย

แผนการจัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระความรู้พ้นื ฐานราย วิชาภาษาองั กฤษเพ่ือการท่องเที่ยวหรรษา (พต33015) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง 1 Every Day ระยะเวลา 3 ชัว่ โมง

สปั ดาหท์ ี่ 12 วนั ท่ี 13 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั

มคี วามร้คู วามเข้าใจทักษะและเจตคติเกยี่ วกบั ภาษาทา่ ทางการฟงั พดู อ่านเขียนภาษาต่างประเทศดว้ ยประโยค
ทซี่ ับซอ้ นมากขึ้นในชวี ติ ประจำวนั และงานอาชพี ของตนถกู ต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรมและกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
ตัวชี้วดั

ตคี วามหมายจากน้ำเสยี งของผ้อู นื่ และรจู้ กั ใชน้ ้ำเสยี งในการแสดงความรู้สึกระหว่างการสนทนา ไดแ้ ก่
ดใี จ เสียใจ พึงพอใจ ไมพ่ ึงพอใจ ซาบซ้ึง ผดิ หวัง ปรารถนาดี ชื่นชมและเหน็ ใจ

สาระสำคญั
การตีความหมายจากน้ำเสียงของผู้อนื่ วา่ มคี วามร้สู ึกดีใจเสียใจพงึ พอใจไม่พงึ พอใจซาบซึ้งผดิ หวงั ปรารถนาดี

สาระการเรียนรู้
1. การออกเสียงพยัญชนะต้นคำ - ทา้ ยคำ

1.1 ทบทวนการออกเสยี งพยัญชนะตน้ คำท่ยี ากเช่นเสยี ง s z chsh
1.2การอ่านออกเสยี งท้ายคำท่ีถกู ต้อง

2. การออกเสียงหนัก-เบา (Stress) วธิ กี ารออกเสยี งหนัก – เบาของคำในลักษณะตา่ งๆ เช่นคำเด่ยี วคำประสม
ในลกั ษณะตา่ งๆ เปน็ ต้นว่าคำประเภทใดจะตอ้ งออกเสียงเน้นทพี่ ยางคแ์ รกพยางค์กลางหรอื พยางค์หลงั

3. การออกเสียงตามระดบั เสียงสูง-ต่ำ (Intonation) วธิ ีการออกเสียงของประโยคลกั ษณะต่างๆซึ่งจะต้องออก
เสยี งสงู – ต่ำให้ถกู ต้องเพ่อื ใหส้ ือ่ ความหมายทีผ่ ้พู ูดต้องการประโยคประเภทเดียวกนั ถ้าออกเสียงสูง – ตำ่ ต่างกันจะให้
ความรู้สกึ ท่ตี ่างกนั

4. การออกเสยี งเช่ือมโยง (Linking Sound) วธิ กี ารอ่านออกเสียงเชื่อมโยงระหว่างคำในภาษาอังกฤษทีถ่ ูกต้อง
ตามกฎเกณฑ์ของภาษาอังกฤษ

5. การแสดงความดใี จ/เสียใจ
การใช้คำวลแี ละรปู ประโยคที่จะนำมาใช้ในการแสดงความดใี จและเสียใจในโอกาสต่างๆไดถ้ ูกต้องเช่นแสดงความดีใจทีไ่ ด้
พบกันอีกครง้ั หรอื แสดงความเสยี ใจท่ีทำผดิ เป็นตน้ ตัวอย่างคำวลีและรูปประโยค

6. การแสดงความพอใจ/ไม่พอใจ ใหร้ จู้ กั คำวลแี ละรปู ประโยคที่จะทจี่ ะนำมาใช้ในการแสดงความพอใจ/ไม่พอใจใน
โอกาสต่างๆไดถ้ ูกต้อง เชน่ แสดงความพอใจ/ไม่พอใจในการรับบริการเป็นตน้ ตวั อย่างคำวลแี ละรูปประโยค

7. การแสดงความปรารถนา/เห็นใจและการตอบรับ การใช้คำวลีและรูปประโยคทีจ่ ะนำมาใชใ้ นการแสดงความ
ปรารถนาดี/เหน็ ใจในโอกาสต่างๆได้ถกู ต้อง เช่น การแสดงความระลึกถึงการแสดงความเห็นใจเม่อื ผู้อื่นประสบปัญหา
เปน็ ตน้ ตัวอย่างคำวลแี ละรปู ประโยค

8. การแสดงความต้องการการเสนอ/ให้ความช่วยเหลือ/บริการรวมทั้งการตอบรับ/ปฏเิ สธการให้ความ
ชว่ ยเหลือ/บรกิ าร การใช้คำวลีและรูปประโยคเพอื่ แสดงความตอ้ งการการเสนอ/ให้ความช่วยเหลือ/บรกิ ารรวมท้ังการ
ตอบรับ/ปฏเิ สธในการให้ความช่วยเหลือ/บริการในโอกาสและสถานทีต่ ่าง ๆ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ได้แก่การซื้อสนิ ค้า/บรกิ าร
ในร้านการสั่งจองต๋ัวเคร่อื งบิน/รถไฟ/ภาพยนตร์/การบริการในบรษิ ัททวั รก์ ารจองโรงแรม/ ที่พักการใช้บริการในท่ี
ทำการไปรษณยี /์ ธนาคาร/ร้านอินเตอร์เน็ตตวั อย่างคำวลแี ละรปู ประโยค

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรียน
- ครพู ดู ถึงความจำเป็นของภาษาอังกฤษทม่ี ีในชวี ติ ประจำวนั
ข้ันสอน
--ผู้เรียนเรยี นรู้ดว้ ยส่ือ, แหลง่ เรยี นรอู้ ื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ผเู้ รียนศึกษาใบความรู้
- ครมู อบหมายใหผ้ เู้ รียนฝึกปฏิบตั ิดว้ ยการทำแบบฝึกหัด
ขนั้ สรุป
--ครูผสู้ อนสรุปเนอื้ หาและเติมเต็มองค์ความรพู้ ร้อมมอบหมายงานให้ไปศกึ ษาด้วยตนเองเพ่มิ เตมิ

สื่อการเรยี นการสอน
1. ใบความรู้
2. หนงั สือแบบเรียน
3. ซดี ี
4. ใบงาน

การวดั ผลประเมินผล
วธิ ีการวดั

1. สงั เกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรูแ้ ละกระบวนการกลุ่ม
2. วัดความรูจ้ ากการทำกิจกรรมในใบงาน
เครื่องมือ
1. ใบงาน

ลงช่อื
(นายไพฑรู ย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพัฒนา
ลงชือ่

(นายสมาน กลมกลู )
ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระความรู้พนื้ ฐานราย วชิ าภาษาองั กฤษเพื่อการท่องเที่ยวหรรษา (พต33015) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง 2 What should you do? ระยะเวลา 3 ช่วั โมง
สัปดาหท์ ี่ 12 วนั ท่ี 13 เดอื นมกราคม พ.ศ.2565 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564

มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดับ
มีความรคู้ วามเข้าใจทักษะและเจตคตเิ กี่ยวกบั ภาษาทา่ ทางการฟงั พูดอา่ นเขียนภาษาตา่ งประเทศด้วยประโยค

ท่ีซบั ซอ้ นมากข้ึนในชีวิตประจำวนั และงานอาชพี ของตนถูกต้องตามหลกั ภาษาวัฒนธรรมและกาลเทศะของเจ้าของภาษา

ตวั ชีว้ ัด
อา่ นและทำตามคำแนะนำในการใช้คู่มือ ปา้ ย คำแนะนำ วิธกี ารปรงุ ขอ้ ควรระวังและ ป้ายประกาศ

สาระสำคญั
การใชค้ ู่มือป้ายคำแนะนำวธิ ีการปรุงข้อควรระวงั และป้ายประกาศ

สาระการเรียนรู้
1. การใชพ้ จนานกุ รม (Dictionary)

1.1 ทบทวนการคา้ หาความหมายของคำศัพท์โดยเรียงตามตัวอักษรของคำศัพท์ทคี่ น้ หาจาก a ถงึ z
1.2 ให้อา่ นวธิ กี ารใชพ้ จนานุกรมและข้อมลู ต่าง ๆ ที่อย่ใู นส่วนหนา้ (คำช้แี จงในการใช้) ของ Dictionary ให้เข้าใจ
1.3 เมื่อคน้ หาคำศัพท์พบแลว้ ให้ศึกษาวธิ ีการอา่ นออกเสยี งหน้าทข่ี องคำความหมายและตวั อยา่ งในการใช้
(ซ่งึ คำบางคำอาจจะทำหน้าท่ีไดห้ ลายอย่าง) และคำท่ีมีความหมายใกล้เคยี งกนั เช่นdrug (ดรกั ) n.ยาผลิตภณั ฑย์ ายา
เสพติดสนิ ค้าทเ่ี ก่ียวกบั สุขภาพที่ขายในร้านขายยา vt. drugged, drugging ผสมกบั ยาทำให้ตดิ ยาทำให้ไดร้ บั พษิ
จากยา drug on the market สินค้าทมี่ มี ากเกนิ ความตอ้ งการในตลาด
2. การวิเคราะห์ศพั ทแ์ ละรูปประโยคท่ใี ช้ในสญั ลกั ษณป์ า้ ยประกาศ/คำแนะนำในการใช้/คำแนะนำ/คำเตือนตา่ งๆ
2.1 การวเิ คราะห์ศัพทโ์ ดยการรู้จักสว่ นทเี่ ปน็ รากศัพท์ (Root) อุปสรรคหรือท่ีคำเติมไปข้างหนา้ (Prefix) และปจั จยั
หรอื คำท่เี ติมข้างหลงั (Suffix) โดยทราบความหมายของสว่ นประกอบของคำศัพทต์ ่างๆเหล่าน้นั ก็จะทราบความหมาย
ของศพั ท์ได้
2.2 รูปประโยคทใี่ ชใ้ นสัญลักษณ์/ปา้ ยประกาศ/คำแนะนำในการใช้/คำแนะนำ/คำเตือนตา่ ง ๆ ซง่ึ จะใชร้ ูปประโยค
คำสัง่ (Imperative Sentence) ทัง้ ในลกั ษณะบอกเล่าและปฏิเสธ
3. สัญลักษณ์และป้ายประกาศต่างๆ (Signs & Notices) รู้จักความหมายของสญั ลักษณ์และปา้ ยประกาศทพี่ บ
ในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ เชน่ การปฏบิ ัตติ นในแหล่งทอ่ งเท่ยี วโรงแรมพพิ ิธภณั ฑ์โรงงานสำนกั งาน
ยานพาหนะเป็นตวั อย่าง
4. สลากยาและค่มู ือในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ (Instructions) การอา่ นทำความเขา้ ใจและปฏบิ ัติตามคำแนะนำในการใช้
ยาและอุปกรณต์ ่างๆที่ใชใ้ นชวี ติ ประจำวันเชน่ หมอ้ หงุ ขา้ วไฟฟา้ เคร่อื งซกั ผา้ คอมพิวเตอร์โทรศพั ท์มือถอื เปน็ ตน้ โดยให้
เขา้ ใจสำนวนหรอื โครงสร้างของประโยคที่มักใช้
5. คำแนะนำและคำเตอื นต่างๆ (Tips and Warning) รู้จักวธิ ีการอา่ นและตีความคำแนะนำคำชแี้ จงและคำอธบิ าย
ต่างๆ เช่น พยากรณอ์ ากาศประกาศเตอื นภยั คำแนะนำในการเขา้ ไปในสถานท่ีต่าง ๆ คำอธบิ ายสินค้าและส่วนประกอบ
หรือเครือ่ งปรงุ วธิ ีการปรงุ อาหาร เป็นต้น

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
- ครูพูดถึงป้ายสัญลกั ษณ์ภาษาอังกฤษทพี่ บเห็นในชีวิตประจำวัน
ขน้ั สอน
- ครแู ละผ้เู รยี นกำหนดสภาพปญั หาเกี่ยวกบั เน้ือหากำหนดแผนการเรียนรู้รว่ มกัน
- ผเู้ รยี นแสวงหาความร้ตู ามที่ไดร้ ับพร้อมนำเสนอผลการเรียนรู๓้ แบ่งกลุ่มเรยี นรูต้ ามหวั ขอ้ ที่ได้รับพรอ้ ม
นำเสนอหนา้ หอ้ งและทำแบบทดสอบ
- ครสู รปุ และมอบหมายงานใหผ้ เู้ รยี นไปศึกษาค้นควา้ (C) เรือ่ งแนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อ

นำเสนอในการจัดการเรยี นการสอนครง้ั ต่อไป

ขัน้ สรุป

--ครผู ู้สอนสรุปเนื้อหาและเติมเต็มองคค์ วามรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศกึ ษาดว้ ยตนเองเพม่ิ เติม

สื่อการเรยี นการสอน
1. ใบความรู้
2. หนงั สอื แบบเรียน
3. ตัวอย่างปา้ ย
4. ใบงาน

การวดั ผลประเมนิ ผล
วิธกี ารวัด
1. สงั เกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรียนรู้และกระบวนการกลุ่ม
2. วัดความรู้จากการทำกจิ กรรมในใบงาน
เครอ่ื งมอื
1. ใบงาน

ลงชื่อ
(นายไพฑูรย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา

ลงชอื่
(นายสมาน กลมกูล)

ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระความรู้พ้ืนฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษเพ่ือการท่องเที่ยวหรรษา (พต33015) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

แผนการจดั การเรยี นรู้ เรือ่ ง 3 Hello, could you tell me..........? ระยะเวลา 3 ชั่วโมง
สปั ดาห์ที่ 13 วันท่ี 20 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั

มีความรู้ความเขา้ ใจทกั ษะและเจตคตเิ กยี่ วกบั ภาษาท่าทางการฟังพูดอ่านเขียนภาษาตา่ งประเทศดว้ ยประโยค
ที่ซบั ซอ้ นมากข้ึนในชวี ติ ประจำวันและงานอาชพี ของตนถกู ต้องตามหลกั ภาษาวฒั นธรรมและกาลเทศะของเจา้ ของภาษา

ตวั ชี้วดั
ติดตอ่ สื่อสารทางโทรศัพท์ได้คล่องแคล่ว

สาระสำคญั
การพูดส่ือสารทางโทรศัพท์

สาระการเรยี นรู้
1. การติดต่อทางโทรศัพทก์ ับผู้ที่คุ้นเคย
รจู้ ักวธิ ีการพูดโต้ตอบทางโทรศัพท์กับเพื่อนญาตพิ ี่น้องและผทู้ ีค่ นุ้ เคยในเร่ืองตา่ งๆโดยใชส้ ำนวน
และภาษาที่เหมาะสม
2. การตดิ ต่อทางโทรศัพทเ์ พื่อสอบถามขอ้ มลู ต่างๆ

การใชส้ ำนวนภาษาทใ่ี ช้พูดทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลตา่ งๆท่ีต้องการทราบโดยใชร้ ูปประโยคขอรอ้ ง /ขอร้องอยา่ ง
สภุ าพ (request, polite, request) ประโยคdirect/ indirect speech ประโยคคำถามลักษณะต่างๆประโยคแสดง
ความคิดเห็นและการขอบคณุ เช่นการสอบถามเสน้ ทางการเดนิ ทางไปทต่ี ่างๆสอบถามตารางรถไฟเครื่องบนิ สอบถาม
ขอ้ มูลดา้ นการคุ้มครองผูบ้ ริโภค/ สขุ ภาพอนามยั /พยากรณอ์ ากาศเปน็ ตน้
3. การติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อการประกอบอาชพี
วธิ ีการพดู โตต้ อบทางโทรศัพท์เพอ่ื ถาม-ให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับการประกอบอาชีพโดยใชส้ ำนวนและภาษาทเ่ี หมาะสมในการ
สอบถามข้อมูลเกย่ี วการสมัครงานการซื้อ-ขายสินค้าการให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับคุณภาพและราคาของสนิ คา้ การสง่ เสริมการ
ขายการต่อรองราคาการรับและสง่ ของตัวอย่างประโยคที่ใช้

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้ันนำเขา้ สู่บทเรยี น

- ครูพดู ถึงความจำเปน็ ในการสนทนาโตต้ อบทางโทรศัพท์ในชีวติ ประจำวัน
ขนั้ สอน

- ครูและผูเ้ รยี นร่วมกนั กำหนดสภาพปญั หาเกย่ี วกับเนอื้ หากำหนดแผนการเรียนร้รู ่วมกนั
- ครอู ธิบายวธิ ีการออกเสียงของประโยคลักษณะต่างๆ

- ผเู้ รียนฝกึ ออกเสียงสูง – ต่ำและนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในรปู แบบทห่ี ลายหลายและทำโครงงาน

- ผู้เรียนแสวงหาความรูใ้ นเรอ่ื งการตดิ ต่อทางโทรศพั ทก์ ับผู้ท่คี ุน้ เคยพร้อมนำเสนอผลการเรียนรแู้ ละ
แลกเปล่ียนเรยี นรู้

- ผู้เรยี นสง่ ตวั แทนออกนำเสนอหน้าห้องและนำความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นรปู แบบการทำรายงาน/
โครงงาน

- ครมู อบหมายงานให้ผเู้ รยี นไปทำแบบฝกึ หัด (C) เรอ่ื งวิเคราะห์ศักยภาพและการจดั การความเสย่ี งเพ่ือ
นำเสนอในคร้งั ต่อไป

ขนั้ สรุป

ครูผสู้ อนสรปุ เนอ้ื หาและเตมิ เต็มองค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานใหไ้ ปศกึ ษาดว้ ยตนเองเพ่ิมเติม

สื่อการเรยี นการสอน
1.ใบความรู้
2. หนงั สือแบบเรียน
3. ใบงาน

การวัดผลประเมินผล
วิธกี ารวัด
1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรู้และกระบวนการกลุ่ม
2. วัดความรู้จากการทำกิจกรรมในใบงาน
เคร่ืองมอื
1. ใบงาน

ลงช่อื
(นายไพฑรู ย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพฒั นา

ลงชือ่
(นายสมาน กลมกลู )

ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรยี นรู้

กล่มุ สาระความรู้พนื้ ฐาน รายวิชา ภาษาองั กฤษเพ่อื การทอ่ งเที่ยวหรรษา (พต33015) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง 4 Cultural Difference ระยะเวลา 3 ชั่วโมง
สปั ดาห์ท่ี 13วนั ที่ 20 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั

มีความรู้ความเขา้ ใจทักษะและเจตคตเิ กี่ยวกบั ภาษาทา่ ทางการฟงั พดู อา่ นเขียนภาษาต่างประเทศด้วยประโยค
ทซ่ี บั ซ้อนมากขน้ึ ในชีวิตประจำวนั และงานอาชพี ของตนถูกตอ้ งตามหลักภาษาวัฒนธรรมและกาลเทศะของเจา้ ของภาษา

ตัวช้วี ดั
1. ปฏิบตั ิตนตามมารยาท วฒั นธรรมและประเพณตี ่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
2. เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหวา่ งวัฒนธรรมอังกฤษกับวฒั นธรรมไทย

สาระสำคัญ
มารยาทวฒั นธรรมประเพณีต่าง ๆ สากล

สาระการเรียนรู้

1. การใช้ภาษาในการสอื่ สารไดเ้ หมาะสมตามมารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
การใช้ภาษานำ้ เสียงและภาษาท่าทางได้อย่างเหมาะสมกบั บุคคลเวลาสถานทแี่ ละโอกาส เชน่ การสมั ผัสมือการโบกมอื
การใชส้ ีหน้าท่าทางและนำ้ เสียงประกอบการพูดการแนะนำตัวเองการแสดงความร้สู ึกในโอกาสต่าง ๆ การแตง่ กาย
การรบั ประทานอาหารรว่ มงานงานเลยี้ งงานสงั สรรคแ์ ละกิจกรรมทางสงั คมตา่ ง ๆ

2. ความเชอ่ื และขนบธรรมเนียมประเพณีของเจ้าของภาษา
ความเปน็ มาของความเช่ือขนบธรรมเนยี มและประเพณีตา่ ง ๆ ในสังคมของเจ้าของภาษาการทำกจิ กรรมตามความเชอ่ื
ขนบธรรมเนยี มและประเพณีต่าง ๆ ในดา้ นบทเพลงการแต่งกายอาหารเครือ่ งดม่ื และการประกอบพิธกี รรมท่ีเกยี่ วข้อง ไดแ้ ก่
วนั คริสตม์ าสวันขอบคณุ พระเจา้ วันวาเลนไทน์ และวนั พอ่

3. การเปรยี บเทยี บโครงสรา้ งภาษาไทยกบั ภาษาอังกฤษ
เปรยี บเทียบลกั ษณะคำท่ีมาของคำความหมายและการประยุกตค์ ำในภาษาอังกฤษใช้ในภาษาไทยและคำในภาษาไทย
ทนี่ ำไปในภาษาอังกฤษ ตัวอย่างเชน่

- ศัพท์ของภาษาไทยสว่ นใหญ่มาจากภาษาบาลี/สนั สกฤตในขณะท่ีศัพท์ของภาษาอังกฤษ สว่ นใหญจ่ ากภาษากรีก และ
โรมนั

- คำในภาษาองั กฤษท่นี ำมาใช้ในภาษาไทย เชน่ กิโลกรัม กิโลเมตร เซนตเิ มตร คำในภาษาไทยที่นำไปใช้ในภาษาอังกฤษ
เชน่ Tom Yam Kung, Muai Thai เป็นต้น

- โครงสร้างของประโยคตา่ งๆ

4. เปรียบเทียบสำนวนคำพังเพยสภุ าษิตบทกลอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรยี น
- ครูพูดถึงความจำเป็นในการสนทนาโต้ตอบทางโทรศัพท์ในชีวิตประจำวัน
ขัน้ สอน
- ครูและผเู้ รียนกำหนดสภาพปัญหาเก่ียวกบั เนื้อหาแผนการเรียนรรู้ ่วมกนั
- ผู้เรยี นแสวงหาความรพู้ รอ้ มนำเสนอผลการเรียนรแู้ ละแลกเปลีย่ นเรยี นรู้
- ออกนำเสนอหน้าห้องเรยี นนำความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้ในรูปแบบการทำรายงาน/โครงงานและทำ

แบบทดสอบ
- ผเู้ รียนศกึ ษาใบความรู้
- ครมู อบหมายให้ผูเ้ รยี นฝกึ ปฏิบตั ดิ ว้ ยการทำแบบฝึกหดั

ข้นั สรปุ
ครผู ูส้ อนสรุปเนอื้ หาและเติมเตม็ องค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานใหไ้ ปศกึ ษาดว้ ยตนเองเพม่ิ เตมิ

ส่ือการเรยี นการสอน

1. ใบความรู้
2. หนังสือแบบเรียน
3. ใบงาน

การวดั ผลประเมินผล

วธิ กี ารวัด

1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรู้และกระบวนการกลุ่ม
2. วัดความรู้จากการทำกจิ กรรมในใบงาน
เคร่อื งมอื
1. ใบงาน

ลงชือ่
(นายไพฑรู ย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา

ลงช่อื
(นายสมาน กลมกูล)

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย
แผนการจัดการเรียนรู้

กลุม่ สาระความร้พู ้นื ฐาน รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพ่ือการท่องเท่ียวหรรษา (พต33015) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

แผนการจดั การเรยี นรู้เร่อื ง 5 News & News Headline ระยะเวลา 3 ช่ัวโมง
สัปดาหท์ ี่ 14 วันที่ 27 เดอื นมกราคม พ.ศ.2565 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ

มคี วามรู้ความเขา้ ใจทกั ษะและเจตคติเก่ียวกับภาษาทา่ ทางการฟงั พูดอา่ นเขียนภาษาตา่ งประเทศดว้ ยประโยค
ท่ซี ับซอ้ นมากขึ้นในชวี ติ ประจำวนั และงานอาชพี ของตนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษาวฒั นธรรมและกาลเทศะของเจา้ ของภาษา

ตัวชีว้ ัด
1. เขา้ ใจและใช้ประโยคทซี่ บั ซอ้ นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
2. ใช้Tenses ทย่ี งุ่ ยากและซับซอ้ น
3. ศึกษาคน้ คว้าความรแู้ ละข้อมลู จากสื่อหนงั สอื พมิ พ์
4. แลกเปลี่ยนขอ้ มลู ข่าวสารความรูอ้ ย่างเป็นทางการ
5. สืบค้นขอ้ มลู ในด้านต่าง ๆ จาก Internet

สาระสำคญั
การใช้ประโยคท่ีซับซ้อนการใช้ Tenses การค้นควา้ จากหนังสือพิมพ์และ Internet

สาระการเรยี นรู้
1. เสยี งคำศัพทว์ ลสี ำนวนที่มักใช้บ่อย ๆ ในข่าว
2. องคป์ ระกอบของขา่ วประกอบด้วย Headline, Sub headline, Lead และ Detail
3. ประเภทของข่าว เช่น ข่าวการเมือง ข่าวการศึกษา ข่าวกีฬา ขา่ วสงั คม ขา่ วเศรษฐกิจ เป็นตน้
4. โครงสรา้ งของการเขยี นพาดหวั ขา่ ว (News Headline) ไดแ้ ก่

4.1 ข่าวและพาดหวั ข่าว
4.2 การถามและตอบคำถามจากขา่ วดว้ ยคำถามท่เี ป็น Wh-Questionและ Yes/No Question
4.3 การถามและแสดงความคดิ เห็นว่าเห็นด้วยหรือไมเ่ ห็นด้วยเช่น

- Do you agree with this....................?
- What do you think about..................
4.4 Websiteของหนงั สอื พิมพ์ TheNation หรือ Bangkok Post เพอ่ื ศึกษาข่าวประเภทต่าง ๆ ทสี่ นใจแล้ว

วเิ คราะห์โครงสร้างของพาดหวั ขา่ วนนั้ ๆ หรอื บอกประเภทของข่าว นนั้ ๆ

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรียน

- ครูพดู ถงึ หลกั การพูดท่ดี ีของภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สารท่ีดีและมปี ระสิทธภิ าพ

ขั้นสอน
--ผเู้ รยี นเรียนร้ดู ้วยการสอนเสริมจากครใู นระบบโรงเรียนหรือเรียนรูจ้ ากหนังสือแบบเรยี นส่ือ,

แหล่งเรยี นรู้อืน่ ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง
- ผเู้ รียนศึกษาใบความรู้
- ครูมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏิบตั ดิ ว้ ยการทำแบบฝึกหัด

ขัน้ สรุป
--ครูผู้สอนสรุปเนือ้ หาและเติมเตม็ องค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาด้วยตนเองเพม่ิ เติม

สอื่ การเรียนการสอน
1. ใบความรู้
2. หนงั สือแบบเรยี น
3. ใบงาน

การวัดผลประเมนิ ผล
วิธกี ารวัด
1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรแู้ ละกระบวนการกลุ่ม
2. วดั ความรูจ้ ากการทำกจิ กรรมในใบงาน
เครอื่ งมือ
1. ใบงาน

ลงชอ่ื
(นายไพฑูรย์ วงศแ์ สน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา

ลงชือ่
(นายสมาน กลมกลู )

ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรยี นรู้
กลมุ่ สาระความรูพ้ น้ื ฐาน รายวชิ าภาษาอังกฤษเพ่ือการท่องเท่ียวหรรษา (พต 33015) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่อื ง 6 Self – Sufficiency Economy ระยะเวลา 3 ชั่วโมง
สัปดาห์ที่ 14 วนั ที่ 27 เดอื นมกราคม พ.ศ.2565 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั

มคี วามรู้ความเขา้ ใจทักษะและเจตคตเิ กี่ยวกับภาษาทา่ ทางการฟงั พดู อา่ นเขยี นภาษาต่างประเทศด้วยประโยค
ที่ซบั ซอ้ นมากขน้ึ ในชีวิตประจำวันและงานอาชีพของตนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษาวัฒนธรรมและกาลเทศะของเจ้าของภาษา

ตวั ช้วี ดั

1. ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้และข้อมลู จากส่ือ ต่าง ๆ
2. สืบค้นข้อมูลในดา้ นต่าง ๆ จาก Internet
3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยคซบั ซ้อนในสถานการณ์ต่าง ๆ
4. การแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสารความรู้

สาระสำคญั

การสืบค้นข้อมลู จาก Internet การใช้ประโยคซับซ้อนในสถานการณต์ า่ ง ๆ

สาระการเรียนรู้

1. บทความเกย่ี วกบั เศรษฐกิจพอเพยี งจากหนังสือ หนังสือพมิ พ์ หรอื Website ที่เกยี่ วข้อง
2. คำศัพท์ วลี สำนวน ท่เี ก่ียวข้องกับเศรษฐกิจพอเพียง เช่น moral , moderation, reasonable,

knowledge, savingเป็นต้น
3. โครงสรา้ ง Conditional sentence (If -clause)
4. โครงสร้าง Imperative
5. การนำเสนอการนำเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ การตดิ คำขวัญ การสัมภาษณ์ การทำ Poster

เปน็ ตน้ การเลน่ เกม Cross word

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ ส่บู ทเรียน
- ครูพูดถึงหลักการพูดท่ีดีของภาษาไทยและภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สารที่ดีและมปี ระสิทธภิ าพ
ขน้ั สอน
--ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าขอ้ มูลทาง Internetหรือเรียนรจู้ ากหนงั สอื แบบเรียนสอื่ ,แหลง่ เรียนรู้อ่นื ๆ

ทีเ่ ก่ยี วข้อง

- ผูเ้ รยี นศึกษาใบความรู้
- ครูมอบหมายใหผ้ เู้ รียนฝกึ ปฏิบัตดิ ว้ ยการทำแบบฝึกหัด

ขั้นสรุป
--ครูผู้สอนสรปุ เนือ้ หาและเติมเต็มองค์ความร้พู ร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาดว้ ยตนเองเพ่ิมเติม

ส่อื การเรยี นการสอน
1. ใบความรู้
2. หนังสอื แบบเรยี น
3. ใบงาน

การวัดผลประเมนิ ผล
วธิ กี ารวัด
1. สังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรียนรแู้ ละกระบวนการกลุ่ม
2. วัดความรู้จากการทำกจิ กรรมในใบงาน
เครื่องมือ
1. ใบงาน

ลงชื่อ
(นายไพฑรู ย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพฒั นา

ลงชอื่
(นายสมาน กลมกลู )

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรียนรู้
กล่มุ สาระความรู้พ้นื ฐานรายวิชา ภาษาอังกฤษเพ่ือการท่องเที่ยวหรรษา (พต33015) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

แผนการจดั การเรยี นรู้เรอื่ ง 7 Internet ระยะเวลา 3 ชว่ั โมง
สัปดาห์ท่ี 15 วนั ท่ี 3 เดอื นกมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2565 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั

มีความรู้ความเขา้ ใจทักษะและเจตคตเิ กีย่ วกับภาษาทา่ ทางการฟงั พดู อ่านเขยี นภาษาตา่ งประเทศด้วยประโยค
ท่ีซบั ซ้อนมากข้ึนในชวี ติ ประจำวนั และงานอาชพี ของตนถูกต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรมและกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
ตวั ชว้ี ัด

1. ศกึ ษาคน้ ควา้ ความร้แู ละข้อมลู จากสื่อ ตา่ งๆ
2. สบื คน้ ขอ้ มูลในดา้ นต่าง ๆ จาก Internet และใช้ประโยคจาก Internet ได้
3. เขา้ ใจและใช้ประโยคซบั ซ้อนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
4. ใช้ Tense ทย่ี ุ่งยากและซับซอ้ น
5. แลกเปลีย่ นขอ้ มลู ข่าวสารความร้ทู ง้ั อย่างเปน็ ทางการและไม่เป็นทางการ

สาระสำคัญ
ศึกษาค้นควา้ ความร้แู ละขอ้ มูลจากสื่อ ตา่ งๆจาก Internet การใชป้ ระโยคซับซ้อนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ การใช้

Tense การแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร

สาระการเรยี นรู้
1. แบบสอบถาม (Questionnaire) เก่ียวกับการดูแลสุขภาพจากหนังสือหรอื Website เกยี่ วขอ้ ง
2. การอ่านออกเสยี ง คำศัพท์ สำนวน วลี ท่เี ก่ยี วขอ้ งกับสขุ ภาพ เชน่ aerobics, once, relaxed, health,

healthy, firm, have a headache เปน็ ต้น
3. ประโยคท่ีเขยี นด้วย Modal Verb เช่น should, must, ought to, had better, will เปน็ ตน้
4. Present PerfectTense
5. การสำรวจแบบสอบถามเกีย่ วกบั สุขภาพบุคคลใกล้ชิดแล้วนำเสนอข้อมูลเป็นรูปกราฟหรอื แผนภูมิ

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน
- ครสู อบถามนักศึกษาเก่ยี วกับการใช้Internet เพื่ออ่านข่าวและความบนั เทิงและสอบถามเกี่ยวกับการ

สมคั รใชบ้ ริการต่างๆในwebsite
ขน้ั สอน
--ผู้เรียนศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากสอื่ ต่างๆจากInternet หรอื เรยี นรจู้ ากหนังสือแบบเรยี นส่ือ,

แหลง่ เรยี นรู้อน่ื ๆท่เี กย่ี วข้อง

--ผ้เู รียนศึกษาใบความรู้
- ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิดว้ ยการทำแบบฝกึ หดั

ขั้นสรุป
--ครูผู้สอนสรปุ เนือ้ หาและเติมเต็มองค์ความร้พู ร้อมมอบหมายงานให้ไปศกึ ษาดว้ ยตนเองเพมิ่ เติม

ส่อื การเรยี นการสอน
1. ใบความรู้
2. หนังสอื แบบเรยี น
3. ใบงาน

การวัดผลประเมนิ ผล
วธิ กี ารวัด
1. สังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรียนรแู้ ละกระบวนการกลุ่ม
2. วัดความรู้จากการทำกจิ กรรมในใบงาน
เครื่องมือ
1. ใบงาน

ลงชื่อ
(นายไพฑรู ย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒ่าพฒั นา

ลงชอื่
(นายสมาน กลมกลู )

ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวชิ ัย

แผนการจดั การเรียนรู้
กล่มุ สาระความรู้พ้นื ฐานรายวิชา ภาษาอังกฤษเพ่ือการท่องเที่ยวหรรษา (พต 33015) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย

แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง 8 Internet ระยะเวลา 3 ชว่ั โมง
สัปดาหท์ ี่ 15 วนั ท่ี 3 เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั

มคี วามรู้ความเขา้ ใจทกั ษะและเจตคตเิ กย่ี วกับภาษาท่าทางการฟงั พดู อา่ นเขียนภาษาตา่ งประเทศด้วยประโยค
ทซี่ ับซอ้ นมากขน้ึ ในชีวติ ประจำวนั และงานอาชพี ของตนถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรมและกาลเทศะของเจ้าของภาษา

ตวั ชว้ี ัด

1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรแู้ ละข้อมลู จากสื่อต่าง ๆ
2. สืบคน้ ขอ้ มลู ในด้านต่าง ๆ จาก Internet และรบั สง่ e-mail
3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยคซับซอ้ นในสถานการณต์ ่าง ๆ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง
4. ใช้ Tense ที่ยุ่งยากและซบั ซอ้ นได้อย่างถกู ต้อง
5. แลกเปลีย่ นข้อมูลขา่ วสารความรูท้ ง้ั อย่างเปน็ ทางการและไม่เป็นทางการ

สาระสำคัญ
การอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อต่างๆเชน่ หนังสือพิมพว์ ทิ ยโุ ทรทศั น์ภาพยนตรใ์ นด้านตา่ งๆที่หลากหลายการ

สบื คน้ ข้อมลู จาก Internet

สาระการเรยี นรู้

1. บทความเก่ียวกับการประหยัดพลังงาน (Energy Saving) จากหนังสือ หนังสอื พมิ พ์ หรือ Website ทเ่ี กี่ยวข้อง
2. เสียง คำศพั ท์ วลี สำนวนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับการประหยัดพลังงาน เชน่ reuse, recycle, plug in, unplug, turn on,

turn off, reduce เป็นตน้
3. โครงสร้าง เร่ือง Imperative + V1_________.
4. Game “Find someone who..............”
5. การสัมมนาเรื่องการประหยัดพลงั งาน
6. บทสนทนาเกย่ี วกับการไปตดั เสอ้ื
7. การอ่านออกเสียง คำศัพท์ วลี สำนวน ทเี่ ก่ยี วข้องกบั การไปตัดเสอื้
8. โครงสรา้ ง have something done
9. โครงสรา้ ง Reported Speech
10. การเลา่ เร่อื ง (สถานการณ)์
11. การขอมี e-mail
12. การเปิด/ปิด e-mail
13. ภาษา e-mail
14. บทอ่านแนะนำตนเองที่พมิ พ์มาจาก e-mail
15. การสรา้ งประโยคคำถามจากคำตอบที่ใหม้ า

16. การถามและการตอบขอ้ มูลการเปรยี บเทยี บ
17. การเขียนแนะนำตนเองถึง Pen pal โดยสง่ ทาง e-mail
18. Flood จากหนังสอื พิมพ์ หรือ Website ของหนังสือพมิ พ์ The Nation หรือ Bangkok Post
19. คำศัพท์ วลี สำนวนท่ีเกย่ี วข้อง เชน่ kill, injured, die, homeless, help, shelter, landslide เปน็ ต้น
20. Past Simple Tense, PastContinuous Tense และ Past Perfect Tense.
21. Compound Sentence และ Complex Sentence
22. การถามและการตอบคำถามจากบทอา่ นการแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Play)เป็นผสู้ ่ือข่าว นำเสนอขา่ วท่ีเก่ยี วกับ

Natural Disaster

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน
- ครูสอบถามนักศึกษาเกย่ี วกับการใช้Internet เพอ่ื อา่ นข่าวและความบันเทิงและสอบถามเก่ยี วกบั การ

สมัครใชบ้ ริการต่าง ๆ ใน website
ข้ันสอน
--ผูเ้ รยี นศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากส่อื ตา่ งๆจากInternet หรือเรยี นรจู้ ากหนังสือแบบเรียนสอ่ื ,

แหลง่ เรยี นรูอ้ ่ืน ๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
- ผเู้ รียนศึกษาใบความรู้
- ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นฝึกปฏบิ ัติด้วยการทำแบบฝกึ หดั

ข้นั สรปุ
--ครูผสู้ อนสรุปเน้ือหาและเติมเต็มองคค์ วามรพู้ ร้อมมอบหมายงานให้ไปศกึ ษาด้วยตนเองเพ่ิมเติม

สอื่ การเรียนการสอน
1. ใบความรู้
2. หนงั สือแบบเรยี น
3. ใบงาน

การวัดผลประเมินผล
วิธีการวัด

1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรียนรแู้ ละกระบวนการกลุ่ม
2. วัดความรู้จากการทำกิจกรรมในใบงาน
เคร่ืองมอื
1. ใบงาน

ลงชอื่
(นายไพฑูรย์ วงศ์แสน)

ครู กศน.ตำบลขามเฒา่ พัฒนา
ลงชื่อ

(นายสมาน กลมกูล)
ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกนั ทรวิชัย

แผนการจดั การเรียนรู้
กลุม่ สาระความรู้พื้นฐานรายวชิ า โครงงานเพ่อื พัฒนาทกั ษะการเรยี นรู้ (ทร02006) ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง 1 ประเภทของโครงงาน ระยะเวลา 6 ชั่วโมง
สัปดาหท์ ่ี 16 วนั ที่ 10 เดอื นกุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2565 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
มาตรฐานการเรยี นรู้
มีความร้คู วามเขา้ ใจทกั ษะและเจตคติที่ดีต่อการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง

ตัวช้วี ัด
1. มีความรู้ความเข้าใจหลกั การและแนวคดิ โครงงานความหมายของโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรยี นรู้
ประเภทของโครงงานการเตรียมการทำโครงงานทักษะและกระบวนการในการทำโครงงานการดำเนินการ
ในการทำโครงงาน
2. มีความสามารถในการดำเนินการทำโครงงานและสะท้อนความคิดเห็นต่อโครงงาน
3.มเี จตคติทด่ี ี

เนือ้ หา
1. หลกั การและแนวคดิ ของโครงงานเพ่อื พฒั นาทักษะการเรียนรู้
2. ความหมายของโครงงานเพ่อื พฒั นาทักษะการเรียนรู้
3. การเตรยี มการทำโครงงานเพ่ือพฒั นาทักษะการเรียนรู้
4. ทกั ษะและกระบวนการทจี่ ำเปน็ ในการทำโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ (การหาขอ้ มลู การเลือกใช้
ขอ้ มลู การจัดทำขอ้ มูลการนำเสนอขอ้ มลู การพฒั นาต่อยอดความรู้)
5. การดำเนนิ การในการทำโครงงานเชน่ การพฒั นาแหล่งเรียนรู้การทำไดอารี่ออนไลน์
6. การสะทอ้ นความคดิ เห็นต่อโครงงาน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรียน
ใชก้ ารปรบมือเข้าจังหวะตามเพลง
1.1 แจ้งจุดประสงค์การเรยี นร้แู ลว้ ใหน้ กั ศึกษาทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
1.2 ครเู สนอสถานการณโ์ ดยใหน้ ักศึกษาตอบคำถามดังน้ี

1.2.1 นกั ศกึ ษาเคยเรยี นเรอื่ งโครงงานหรือไม่
1.2.2 นกั ศกึ ษาทำโครงงานเพราะอะไรทำไมจงึ ต้องทำโครงงาน
1.2.3 โครงงานทนี่ กั ศึกษาเคยทำทำอย่างไร
1.2.4 ทำอย่างไรนักศึกษาจะทำโครงงานไดด้ ีและถกู ตอ้ ง

1.3 ครูเสนอสถานการณโ์ ดยนาแผนทีค่ วามคดิ (Mind Mapping) ของนักศึกษาจากการเรยี นใน
คร้ังทแ่ี ลว้ ทส่ี รุปได้ครบถ้วนถูกต้องมาทบทวนและชมเชยเพ่ือเรา้ ความสนใจและกระตนุ้ ผู้เรียนให้ผเู้ รยี นเกิด
ความตอ้ งการเรียนร้เู ก่ียวกับเร่ืองท่ีจะเรียน

จากน้ันใหผ้ ู้เรียนแสดงความคิดเห็นวเิ คราะห์วจิ ารณเ์ พอื่ เรา้ ความสนใจและกระตุน้ ผู้เรียนใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ความต้องการ
เรยี นร้เู ก่ียวกบั เรอ่ื งท่จี ะเรียน

ขัน้ สอน
1. นกั ศึกษาแบ่งกลุม่ ๆ ละ 3 คนเลอื กประธานและเลขานกุ ารกลุ่มแลว้ ตงั้ ชื่อกลุ่มเพราะในการเรยี นรเู้ รอื่ งโครงงานตั้งแต่
บัดนี้เป็นต้นไปนักศกึ ษาจะต้องปฏิบัติงานเป็นกลุ่มเดิมจนงานเสร็จสิ้นสมบูรณ์
2. นักศกึ ษาศกึ ษาบทเรียนผ่านเวบ็ ในหนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่อื ง “ความรู้เกย่ี วกบั โครงงานจากนั้นใหน้ ักศกึ ษาทำใบงาน
เพือ่ วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจเน้ือหา
3. ครูสมุ่ ตัวแทนนกั ศึกษา 2 - 3 กลมุ่ สรุปความหมายและคุณค่าของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอรแ์ ละองค์ประกอบหลักของการทำโครงงานคอมพวิ เตอร์ (ครูเติมเต็ม)
4. นักศึกษาและครูรว่ มกนั สรุปองค์ความรู้ “ความร้เู กยี่ วกับโครงงาน” โดยใชส้ ือ่ PowerPoint
จากน้ันให้นักศึกษาสรุปเปน็ แผนทคี่ วามคดิ

ขนั้ สรุป
1. ครูและนักศึกษาร่วมกันสรปุ คำตอบตามใบงานครูอธบิ ายเพิ่มเติมและให้นักศึกษาซักถาม
เพ่มิ เติม
2. ครแู นะใหน้ ักศึกษาไปศกึ ษาเพิ่มเติมเรอ่ื ง “ความรู้เกยี่ วกับโครงงานจากบทเรยี นผา่ นเวบ็
ในช่ัวโมงคน้ คว้าตอนเชา้ ก่อนเข้าเรียนและตอนเยน็ หลังเลกิ เรยี นหรอื ไปศึกษาเพ่ิมเติมทบ่ี ้านของนักศึกษา
ข้ันประเมินผล
1. ครูตรวจการทำงานตามที่มอบหมาย (ใบงาน/แผนทคี่ วามคดิ (Mind Mapping))
2. ครูสังเกตพฤติกรรมและประเมนิ กระบวนการทางานกลมุ่
3. นักศึกษาทาแบบทดสอบหลังเรียน

ส่อื การเรียนรู้
1. ใบความรู้
2. ใบงานท่ี 1 เรอื่ งการเขียนรายงานโครงงาน
3. แบบทดสอบก่อนเรียนหลงั เรียน


Click to View FlipBook Version