The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรห้องเรียนกีฬา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ชุติญา อุ่นทานนท์, 2020-03-21 05:52:04

หลักสูตรห้องเรียนกีฬา

หลักสูตรห้องเรียนกีฬา

หลกั สตู รหอ้ งเรยี นกีฬา
โรงเรยี นพทุ ไธสง

โดย
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

โรงเรียนพทุ ไธสง
อำเภอพุทไธสง จงั หวัดบรุ รี ัมย์
สำนักงำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศกึ ษำมัธยมศึกษำ เขต 32

หลักสูตรห้องเรยี นกีฬา
โรงเรียนพทุ ไธสง

โดย
ฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
โรงเรยี นพุทไธสง

สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 32
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร

คานา

จากคาส่งั กระทรวงศกึ ษาธิการ ที่ สพฐ ๒๙๓/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕
เรอ่ื ง ใหใ้ ช้หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕1 และ คาสง่ั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ท่ี สพฐ ๓0/๒๕6๑ ลงวันที่ 5 มกราคม ๒๕61 เร่ือง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานตวั ชวี้ ัด กลุม่ สาระการ
เรยี นรู้คณติ ศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้
พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕1 โรงเรียนพุทไธสง เปน็ สถานศกึ ษาที่สังกดั สานักคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพ้ืนฐาน ได้จดั ทาหลักสูตรสถานศึกษาใหส้ อดคล้องกับคาสง่ั ดงั กล่าว โดยเน้นความแตกตา่ งตาม
ศกั ยภาพของนักเรยี นแต่ละคน จงึ จดั หลกั สูตรให้มคี วามหลากหลายเพอื่ ใหน้ ักเรียนไดเ้ ลือกเรยี นไดต้ าม
ความตอ้ งการของตนเอง รวมทัง้ ผปู้ กครองนกั เรียนทีต่ ้องการให้โรงเรยี นได้เสรมิ ประสบการณ์ด้านต่างๆ
ใหก้ ับนกั เรยี น โรงเรยี นจึงจัดให้มแี ผนการเรียนท่ีสง่ เสรมิ ความเปน็ เลศิ เฉพาะด้านให้กับนกั เรยี น โดยได้
จดั แผนการเรียนทส่ี ง่ เสรมิ ความเปน็ เลศิ ทางด้านกฬี าใหก้ ับนักเรียนทั้งในระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น
และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย โดยเปิดสอนครงั้ แรกในปีการศกึ ษา 2560 และไดป้ รบั ปรุงหลักสตู ร
อกี ครง้ั ในปกี ารศกึ ษา 2561

ขอขอบคุณผู้มีสว่ นเก่ียวขอ้ งทุกทา่ นที่ไดร้ ว่ มมือในการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาเล่มน้ี
และจัดการเรยี นการสอนตามกรอบของหลักสูตรเพอื่ บรรลุเปา้ หมายตามทต่ี ้องการ

งานหลักสตู รสถานศึกษา
ฝ่ายบรหิ ารวิชาการ

สารบญั หนา้

คานา 1
ความนา 3
วสิ ยั ทศั น์ 3
หลักการ 4
จุดหมาย 7
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7
8
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 8
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 9
มาตรฐานการเรยี นรู้ 10
ตวั ช้วี ดั 10
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 12
เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี น 14
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนพทุ ไธสง(ทส่ี ่งเสรมิ ความเป็นเลศิ ) 23
โครงสรา้ งหน่วยกิตหลกั สูตรที่ส่งเสรมิ ความเป็นเลิศทางกีฬา ปกี ารศึกษา 2560 - 2562 31
โครงสรา้ งหน่วยกติ หลักสูตรทีส่ ่งเสรมิ ความเปน็ เลิศทางกีฬา ปีการศกึ ษา 2561 - 2563
คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ เฉพาะหลกั สูตรที่ส่งเสริมความเป็นเลิศทางกฬี า

1

ความนา

กระทรวงศกึ ษาธิการได้ประกาศใช้หลกั สตู รการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๔๔ ให้เป็น
หลักสตู รแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนร้เู ป็นเปา้ หมายและกรอบ
ทศิ ทางในการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนให้เปน็ คนดี มีปญั ญา มคี ณุ ภาพชีวิตทด่ี แี ละมีขดี ความสามารถ ใน
การแข่งขันในเวทรี ะดบั โลก (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๔๔) พร้อมกันนี้ได้ปรับกระบวนการพฒั นา
หลกั สูตรให้มีความสอดคลอ้ งกับเจตนารมณ์แห่งพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ี
แก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ทม่ี ุง่ เน้นการกระจายอานาจทางการศกึ ษาใหท้ อ้ งถิน่ และ
สถานศกึ ษาได้มบี ทบาทและมีสว่ นร่วมในการพฒั นาหลกั สตู ร เพือ่ ให้สอดคล้องกบั สภาพ และความ
ตอ้ งการของท้องถิ่น (สานักนายกรฐั มนตรี, ๒๕๔๒)

จากการวจิ ยั และติดตามประเมินผลการใชห้ ลักสูตรในชว่ งระยะ ๖ ปีที่ผา่ นมา (สานักวิชาการ
และมาตรฐานการศกึ ษา, ๒๕๔๖ ก., ๒๕๔๖ ข., ๒๕๔๘ ก., ๒๕๔๘ ข.; สานักงานเลขาธิการสภา
การศึกษา, ๒๕๔๗; สานักผู้ตรวจราชการและติดตามประเมนิ ผล, ๒๕๔๘; สวุ ิมล วอ่ งวาณชิ และนง
ลกั ษณ์ วริ ัชชยั , ๒๕๔๗; Nutravong, ๒๐๐๒; Kittisunthorn, ๒๐๐๓) พบว่า หลกั สตู รการศึกษาขัน้
พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ มีจุดดีหลายประการ เชน่ ช่วยส่งเสรมิ การกระจายอานาจทางการศึกษาทา
ใหท้ อ้ งถ่นิ และสถานศึกษามสี ่วนรว่ มและมีบทบาทสาคัญในการพัฒนาหลักสูตรใหส้ อดคล้องกับความ
ตอ้ งการของท้องถิน่ และมีแนวคดิ และหลกั การในการส่งเสริมการพฒั นาผเู้ รยี นแบบองค์รวมอย่างชัดเจน
อยา่ งไรก็ตาม ผลการศึกษาดังกลา่ วยังไดส้ ะท้อนให้เหน็ ถึงประเดน็ ท่ีเปน็ ปัญหาและความ
ไมช่ ัดเจนของหลักสูตรหลายประการท้ังในสว่ นของเอกสารหลักสูตร กระบวนการนาหลักสตู รสกู่ าร
ปฏิบตั ิ และผลผลิตท่ีเกิดจากการใช้หลกั สูตร ไดแ้ ก่ ปัญหาความสับสนของผ้ปู ฏิบัตใิ นระดับสถานศึกษา
ในการพฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษา สถานศกึ ษาสว่ นใหญ่กาหนดสาระและผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั ไวม้ าก
ทาให้เกิดปัญหาหลกั สตู รแน่น การวัดและประเมินผลไม่สะทอ้ นมาตรฐาน ส่งผลตอ่ ปญั หาการจดั ทา
เอกสารหลกั ฐานทางการศกึ ษาและการเทียบโอนผลการเรียน รวมท้ังปญั หาคุณภาพของผเู้ รียนในดา้ น
ความรู้ ทักษะ ความสามารถและคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคอ์ นั ยงั ไม่เปน็ ที่น่าพอใจ

นอกจากนนั้ แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๑๐ ( พ.ศ. ๒๕๕๐ – ๒๕๕๔)
ไดช้ ี้ให้เหน็ ถึงความจาเปน็ ในการปรบั เปลีย่ นจดุ เน้นในการพฒั นาคณุ ภาพคนในสงั คมไทยให้ มคี ุณธรรม
และ มีความรอบรอู้ ย่างเท่าทัน ใหม้ ีความพรอ้ มทัง้ ด้านรา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ และศีลธรรม
สามารถก้าวทนั การเปลย่ี นแปลงเพ่อื นาไปสู่สงั คมฐานความรไู้ ด้อย่างมน่ั คง แนวการพฒั นาคนดงั กลา่ ว
มงุ่ เตรยี มเด็กและเยาวชนให้มีพ้นื ฐานจิตใจท่ดี งี าม มีจิตสาธารณะ พรอ้ มท้ังมีสมรรถนะ ทักษะและ
ความรพู้ ้นื ฐานท่จี าเปน็ ในการดารงชวี ติ อนั จะส่งผลตอ่ การพฒั นาประเทศแบบยงั่ ยืน (สภาพฒั นา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ๒๕๔๙) ซึ่งแนวทางดงั กล่าวสอดคลอ้ งกับนโยบายของ
กระทรวงศึกษาธิการในการพฒั นาเยาวชนของชาตเิ ขา้ สโู่ ลกยุคศตวรรษท่ี ๒๑ โดยมงุ่ ส่งเสรมิ ผเู้ รยี นมี
คณุ ธรรม รักความเป็นไทย ให้มีทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ สรา้ งสรรค์ มีทักษะดา้ นเทคโนโลยี สามารถ
ทางานร่วมกบั ผู้อื่น และสามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อ่ืนในสังคมโลกได้อย่างสนั ติ (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๑)

จากข้อคน้ พบในการศึกษาวิจยั และติดตามผลการใช้หลักสตู รการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช
๒๕๔๔ ทีผ่ ่านมา ประกอบกบั ขอ้ มลู จากแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๑๐ เกีย่ วกบั
แนวทางการพฒั นาคนในสังคมไทย และจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการในการพฒั นาเยาวชนสศู่ ตวรรษ

2

ท่ี ๒๑ จึงเกดิ การทบทวนหลกั สูตรการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ เพอ่ื นาไปสู่การพฒั นา
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ท่มี ีความเหมาะสม ชัดเจน ทงั้ เป้าหมาย
ของหลกั สตู ร ในการพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน และกระบวนการนาหลกั สูตรไปสู่การปฏบิ ัตใิ นระดบั เขต
พื้นทกี่ ารศึกษาและสถานศกึ ษา โดยได้มีการกาหนดวสิ ยั ทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชี้วดั ท่ีชัดเจน เพอ่ื ใช้เปน็ ทิศทางในการจัดทา
หลกั สตู ร การเรียนการสอนในแต่ละระดบั นอกจากนัน้ ไดก้ าหนดโครงสร้างเวลาเรียนขั้นตา่ ของแตล่ ะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ละช้ันปไี ว้ในหลักสตู รแกนกลาง และเปดิ โอกาสใหส้ ถานศกึ ษาเพิ่มเติมเวลา
เรียนไดต้ ามความพร้อมและจุดเนน้ อีกทัง้ ได้ปรับกระบวนการวัดและประเมนิ ผลผู้เรยี น เกณฑ์การจบ
การศึกษาแต่ละระดับ และเอกสารแสดงหลกั ฐาน ทางการศกึ ษาใหม้ ีความสอดคล้องกับมาตรฐานการ
เรียนรู้ และมคี วามชัดเจนตอ่ การนาไปปฏิบตั ิ

เอกสารหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ น้ี จัดทาขน้ึ สาหรับท้องถ่ิน
และสถานศึกษาไดน้ าไปใช้เปน็ กรอบและทิศทางในการจดั ทาหลกั สูตรสถานศึกษา และจดั การเรยี น
การสอนเพือ่ พัฒนาเดก็ และเยาวชนไทยทุกคนในระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานให้มคี ุณภาพดา้ นความรู้ และ
ทักษะท่ีจาเปน็ สาหรับการดารงชีวติ ในสังคมที่มีการเปลยี่ นแปลง และแสวงหาความรเู้ พื่อพัฒนาตนเอง
อยา่ งต่อเนอ่ื งตลอดชวี ติ

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ช้ีวัดท่กี าหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทาให้หนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวขอ้ งในทุก
ระดบั เหน็ ผลคาดหวังที่ตอ้ งการในการพฒั นาการเรียนรู้ของผ้เู รยี นทีช่ ัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วย
ให้หนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวข้องในระดับทอ้ งถ่นิ และสถานศกึ ษาร่วมกนั พัฒนาหลกั สูตรได้อยา่ งมั่นใจ ทาให้การ
จัดทาหลกั สูตรในระดบั สถานศกึ ษามีคุณภาพและมีความเปน็ เอกภาพยิ่งขึน้ อกี ทง้ั ยังชว่ ยใหเ้ กดิ ความ
ชดั เจนเร่ือง การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ และช่วยแกป้ ัญหาการเทยี บโอนระหว่างสถานศกึ ษา
ดังนั้นในการพฒั นาหลกั สตู รในทกุ ระดบั ต้งั แตร่ ะดับชาติจนกระทง่ั ถึงสถานศกึ ษา จะต้องสะทอ้ นคณุ ภาพ
ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้วี ดั ท่กี าหนดไว้ในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน รวมทัง้ เปน็
กรอบทศิ ทางในการจดั การศกึ ษาทกุ รูปแบบ และครอบคลมุ ผเู้ รยี นทุกกลุ่มเปา้ หมายในระดับการศกึ ษา
ข้นั พืน้ ฐาน

การจดั หลักสูตรการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานจะประสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมายท่คี าดหวังได้ ทุกฝา่ ย
ท่ีเกย่ี วขอ้ งทั้งระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลตอ้ งรว่ มรบั ผดิ ชอบ โดยร่วมกนั ทางานอย่างเป็น
ระบบ และต่อเน่อื ง ในการวางแผน ดาเนินการ ส่งเสริมสนบั สนนุ ตรวจสอบ ตลอดจนปรบั ปรงุ แกไ้ ข
เพ่อื พัฒนาเยาวชนของชาติไปสู่คุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรทู้ ่กี าหนดไว้

3

วิสัยทัศน์

หลักสตู รแกนกลาง ฯ โรงเรียน

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน “เป็นโรงเรยี นคุณธรรม มคี ุณภาพตาม
มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนทุกคน ซ่ึงเป็นกาลังของชาติ ให้เป็น มาตรฐานสากล”

มนษุ ย์ท่มี ีความสมดุลทง้ั ด้านรา่ งกาย ความรู้
คุณธรรม มีจิตสานกึ ในความเป็นพลเมืองไทย และ
เป็นพลโลก ยึดมน่ั ในการปกครองตามระบอบ

ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข
มีความรู้และทักษะพืน้ ฐาน รวมท้งั เจตคติ ที่จาเป็น

ต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และการศกึ ษา
ตลอดชวี ิต โดยมุ่งเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั บน
พนื้ ฐำนควำมเชอ่ื ว่ำ ทุกคนสำมำรถเรียนรู้ และ

พัฒนำตนเองไดเ้ ต็มตำมศักยภำพ

หลักการ

หลกั สตู รแกนกลาง ฯ โรงเรียน
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนพุทไธสง
มหี ลักการทสี่ าคัญ ดังนี้ มีหลักการทสี่ าคญั ดงั น้ี
๑. เป็นหลักสตู รการศึกษาเพ่อื ความเป็น ๑. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาเพือ่ ความเปน็
เอกภาพของชาติ มจี ุดหมายและมาตรฐาน เอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการ
การเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสาหรับพฒั นาเดก็ และ เรียนรู้ เปน็ เปา้ หมายสาหรบั พฒั นาเดก็ และ
เยาวชนใหม้ ีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคณุ ธรรม เยาวชนใหม้ ีความรู้ ทักษะ เจตคติ และ
บนพ้นื ฐานของความเป็นไทยควบคกู่ ับความเปน็ คุณธรรม บนพ้นื ฐานของความเป็นไทยควบคู่
สากล กบั ความเป็นสากล
๒. เป็นหลกั สูตรการศึกษาเพอ่ื ปวงชน ๒. เป็นหลกั สูตรการศึกษาเพ่ือปวงชนที่
ที่ประชาชนทกุ คนมโี อกาสไดร้ ับการศกึ ษาอย่าง ประชาชนทุกคนมีโอกาสไดร้ ับการศึกษาอย่าง
เสมอภาค และมีคณุ ภาพ เสมอภาค และมคี ุณภาพ

๓. เปน็ หลักสตู รการศกึ ษาทส่ี นองการ ๓. เป็นหลักสตู รการศึกษาท่สี นองการ

กระจายอานาจ ให้สงั คมมีสว่ นร่วมในการจดั กระจายอานาจ ให้สงั คมมีสว่ นรว่ มในการจดั

4

หลกั สตู รแกนกลาง ฯ โรงเรยี น

การศกึ ษาให้สอดคลอ้ งกับสภาพและความ การศึกษาให้สอดคลอ้ งกับสภาพและ

ตอ้ งการของท้องถิน่ ความต้องการของทอ้ งถน่ิ

๔. เป็นหลกั สูตรการศกึ ษาทมี่ โี ครงสร้าง ๔. เปน็ หลกั สูตรการศึกษาท่มี ีโครงสรา้ ง

ยดื หยนุ่ ท้ังดา้ นสาระการเรยี นรู้ เวลาและการ ยดื หยุน่ ท้งั ด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการ

จดั การเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้

๕. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาท่เี นน้ ผเู้ รยี น ๕. เป็นหลักสตู รการศึกษาทเี่ น้นผ้เู รยี น

เป็นสาคญั เป็นสาคัญ

๖. เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาสาหรบั ๖. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาสาหรบั

การศึกษา ในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย การศกึ ษา ในระบบ นอกระบบ และตาม

ครอบคลุมทกุ กลมุ่ เป้าหมาย สามารถเทยี บโอน อธั ยาศัย ครอบคลุมทกุ กลุ่มเป้าหมาย

ผลการเรียนรู้ และประสบการณ์ สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้ และ

ประสบการณ์

จุดหมาย

แกนกลาง โรงเรียน

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนพุทไธสง มงุ่
มุ่งพัฒนาผเู้ รยี นใหเ้ ป็นคนดี มปี ัญญา มคี วามสขุ พฒั นาผูเ้ รียนให้เป็นคนดี มปี ญั ญา มีความสุข
มศี ักยภาพในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี มศี กั ยภาพในกำรศึกษำต่อ และประกอบอำชีพ
จงึ กาหนดเป็นจดุ หมายเพ่อื ใหเ้ กิดกบั ผเู้ รียนเมอ่ื จงึ กาหนดจดุ หมายเพอ่ื ใหเ้ กิดกับผเู้ รยี นเมอ่ื จบ
จบการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ดังน้ี การศกึ ษา ดงั น้ี (ตวั อย่าง)

เขยี นในภาพรวม
๑. ผูเ้ รยี นมีคุณภาพตามหลกั สตู รแกนกลางฯ
๒. คุณภาพผเู้ รยี นตามนโยบาย จุดเนน้ ของ
โรงเรยี น

5

แกนกลาง โรงเรียน

๑. มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มท่พี งึ เขยี นรายข้อตามจดุ เน้นของโรงเรยี น

ประสงค์ เห็นคุณคา่ ของตนเอง มวี นิ ัยและปฏบิ ตั ิ ๑. เป็นคนดี = คุณธรรม
1.ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอนั พึง
ตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ
ศาสนาท่ีตนนับถือ ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ ประสงค์ตามหลกั สตู รสถานศึกษา
2.ผูเ้ รียนมี จติ อาสา รกั สะอาด มารยาทงาม
พอเพยี ง
ตามอตั ลักษณ์ของโรงเรียน
(เป็นคนดี)
๒. มคี วามรู้ ความสามารถในการส่อื สาร การ 3.ผเู้ รยี นมีความภูมิใจในทอ้ งถ่นิ และความเป็นไทย
คดิ การแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และมีทักษะ ๒. มคี วามรู้ = ผลสมั ฤทธิ์/เรยี นตอ่
ชวี ติ ๑.ผ้เู รยี นมีความสามารถในการอา่ น เขียน คิด
คานวณและสอ่ื สารสองภาษา
(มีปัญญา)
๓. มสี ุขภาพกายและสุขภาพจิตทด่ี ี มีสุขนสิ ยั ๒.ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คิด
อย่างมีวิจารณญาณ อภปิ รายแลกเปลย่ี น ความ
และรกั การออกกาลังกาย
๔. มคี วามรกั ชาติ มีจิตสานกึ ในความเป็น คิดเหน็ และแก้ปญั หา๓.ผูเ้ รียนมคี วามสามารถใน
พลเมอื งไทยและพลโลก ยึดมนั่ ในวถิ ชี ีวิตและการ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร และ
สรา้ งนวตั กรรมได้อย่างสรา้ งสรรค์
ปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มี
๔.ผู้เรยี นมผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสตู ร
พระมหากษตั ริย์ ทรงเป็นประมุข
๕. มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและ สถานศกึ ษา และมีผลการทดสอบระดับชาติสงู กวา่
ค่าเฉลยี่ ระดบั ชาติทุกรายวชิ า ทกุ ช้นั ปี
ภูมปิ ัญญาไทย การอนรุ กั ษ์และพฒั นา
๓. มคี วามสุข = ทกั ษะชีวิต/อาชีพ
สิง่ แวดล้อม มีจติ สาธารณะท่ีมงุ่ ทาประโยชน์
และสร้างสิ่งทดี่ ีงาม ในสังคม และอยูร่ ว่ มกันใน ๑.ผูเ้ รยี นมสี ุขภาวะทางรา่ งกาย จติ ใจและสงั คม
๒.ผู้เรยี นมคี วามรู้ ทักษะพ้ืนฐาน และเจตคติทดี่ ตี ่อ
สงั คมอย่างมคี วามสขุ
การงานอาชพี
(มคี วามสุข)
๓.พัฒนาวิชาการท่เี นน้ คณุ ภาพผเู้ รียนรอบด้านตาม

หลกั สูตรสถานศึกษา เทยี บเคยี งมาตรฐานสากล

ทุกกล่มุ เปา้ หมาย

๔.พัฒนาผ้เู รียนให้มีศักยภาพให้เป็นพลโลก

พนั ธกจิ

โรงเรียนพทุ ไธสงพฒั นาคุณภาพผ้เู รียนให้เปน็ ไปตามจุดหมาย ตามพนั ธกิจ ดังน้ี

1. สง่ เสริมและพัฒนาผเู้ รียนให้มีคณุ ธรรมและมคี ุณภาพตามมาตรฐานสากล

2. ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการบริหารการจดั การตามหลกั คณุ ธรรมและมาตรฐานสากล

3. สง่ เสริมและพัฒนากระบวนการจดั การเรยี นการสอนทีเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั เทียบเคยี ง
มาตรฐานสากล

6

กรอบการพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษา ตามแนวคดิ NCLB

หลกั สตู รสถานศึกษา

วิสัยทัศน์ หลักการ / จุดหมาย พันธกจิ
โครงสรา้ งเวลาเรยี น

พนื้ ฐาน เพ่มิ เตมิ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
ควำมรู้ ทกั ษะ เจตคติ ศกึ ษำตอ่ ประกอบอำชีพตำมศกั ยภำพ ทักษะชีวิต

แกนกลาง ห้องเรยี น แนะแนว
ทอ้ งถิ่น กิจกรรมนกั เรียน
NCLB กิจกรรมเพ่ือสังคมฯ
ตัวชว้ี ัด
จดั การเรียนรู้ ทอ้ งถนิ่ ท้องถิ่น
วัด/ประเมินผล ผลกำรเรยี นรู้
จัดการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์
วดั /ประเมนิ ผล จัดกิจกรรม
คณุ ภาพนกั เรยี น วัด/ประเมนิ ผล

ศกึ ษำต่อ ประกอบอำชพี

7

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ในการพัฒนาผูเ้ รยี นตามหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พืน้ ฐำน มุ่งเนน้ พฒั นาผ้เู รยี นให้มี
คุณภาพตามมาตรฐานทกี่ าหนด ซงึ่ จะชว่ ยให้ผู้เรยี นเกิดสมรรถนะสาคัญและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดงั นี้

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
หลกั สตู รสถำนศกึ ษำ โรงเรียนพุทไธสง มุ่งใหผ้ เู้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคัญ ๕ ประการ ดงั นี้
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร เปน็ ความสามารถในการรบั และส่งสาร มวี ัฒนธรรมในการใช้

ภาษาถ่ายทอดความคดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ ความร้สู ึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลย่ี นข้อมูล
ข่าวสารและประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทั้งการเจรจาตอ่ รอง
เพือ่ ขจดั และลดปญั หาความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลกั เหตุผลและ
ความถูกตอ้ ง ตลอดจน การเลอื กใชว้ ธิ ีการสื่อสาร ท่ีมปี ระสิทธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบที่มีตอ่ ตนเอง
และสงั คม

๒. ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคดิ
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพ่อื นาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพือ่ การตัดสนิ ใจเก่ยี วกับตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ี
เผชญิ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมลู สารสนเทศ เข้าใจ
ความสมั พนั ธแ์ ละการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใช้
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตดั สินใจท่มี ีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ ต่อ
ตนเอง สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม

๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน
การดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรอู้ ย่างต่อเน่อื ง การทางานและการอยู่ร่วมกนั
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสมั พันธ์อนั ดีระหว่างบุคคล การจดั การปญั หาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ
อยา่ งเหมาะสม การปรบั ตัวใหท้ ันกบั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จัก
หลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ที่สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ืน่

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยีด้านตา่ ง
ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพฒั นาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้ การส่อื สาร
การทางาน การแก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสมและมคี ุณธรรม

8

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน มงุ่ พฒั นาผู้เรยี นให้มคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้

สามารถอย่รู ว่ มกับผู้อน่ื ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้

๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ซ่อื สัตยส์ ุจริต

๓. มีวินยั ๔. ใฝ่เรยี นรู้

๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. ม่งุ มัน่ ในการทางาน

๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจติ สาธารณะ

นอกจากนี้ สถานศกึ ษาสามารถกาหนดคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์เพ่มิ เตมิ ใหส้ อดคลอ้ งตาม
บริบทและจุดเนน้ ของตนเอง

มาตรฐานการเรียนรู้

การพัฒนาผูเ้ รยี นใหเ้ กิดความสมดุล ตอ้ งคานึงถงึ หลักพัฒนาการทางสมองและพหปุ ญั ญา
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นพุทไธสง จึงกาหนดใหผ้ ูเ้ รียนเรียนรู้ ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ดงั นี้

1. ภาษาไทย
2. คณิตศาสตร์
3. วิทยาศาสตร์
4. สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
5. สขุ ศึกษาและพลศึกษา
6. ศลิ ปะ
7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี
8. ภาษาตา่ งประเทศ

ในแตล่ ะกลุ่มสาระการเรยี นรู้ไดก้ าหนดมาตรฐานการเรยี นรูเ้ ป็นเป้าหมายสาคญั ของการพฒั นา
คุณภาพผู้เรียน มาตรฐานการเรียนร้รู ะบุสิ่งท่ีผเู้ รยี นพงึ รู้ ปฏิบตั ไิ ด้ มคี ณุ ธรรมจริยธรรมและค่านิยม
ที่พงึ ประสงคเ์ มือ่ จบการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน นอกจากนัน้ มาตรฐานการเรียนร้ยู ังเป็นกลไกสาคญั ในการ
ขับเคล่อื นพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรยี นรจู้ ะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร จะ
สอนอย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทง้ั เป็นเคร่ืองมือในการตรวจสอบเพ่อื การประกันคณุ ภาพ
การศกึ ษาโดยใช้ระบบ การประเมนิ คุณภาพภายในและการประเมินคณุ ภาพภายนอก ซง่ึ รวมถงึ การ
ทดสอบระดับเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา และการทดสอบระดบั ชาติ ระบบการตรวจสอบเพื่อประกนั คุณภาพ
ดงั กล่าวเป็นสง่ิ สาคัญทชี่ ่วยสะทอ้ นภาพการจัดการศกึ ษาวา่ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มคี ณุ ภาพตามท่ี
มาตรฐานการเรียนรกู้ าหนดเพยี งใด

9

ตัวชี้วดั

ตัวชีว้ ดั ระบุส่งิ ทีน่ กั เรียนพงึ รู้และปฏิบตั ไิ ด้ รวมทัง้ คณุ ลกั ษณะของผ้เู รียนในแตล่ ะระดับชน้ั ซึ่ง
สะทอ้ น ถงึ มาตรฐานการเรียนรู้ มคี วามเฉพาะเจาะจงและมคี วามเปน็ รปู ธรรม นำไปใชใ้ นกำรกำหนด

เน้ือหำ จดั ทำหน่วยกำรเรียนรู้ จัดกำรเรยี นกำรสอน และเปน็ เกณฑส์ ำคญั สำหรับกำรวัดประเมินผล
เพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรยี น

๑. ตัวช้วี ดั ช้นั ปี เป็นเปา้ หมายในการพัฒนาผูเ้ รยี นแต่ละชนั้ ปีในระดบั การศึกษาภาคบังคบั
(ประถมศึกษาปที ี่ ๑ – มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓)

๒. ตวั ชี้วัดชว่ งชั้น เป็นเปา้ หมายในการพัฒนาผูเ้ รยี นในระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
(มธั ยมศึกษา ปีท่ี ๔- ๖)

หลักสูตรได้มกี ารกาหนดรหสั กากบั มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด เพื่อความเข้าใจและให้

สอื่ สารตรงกนั ดังน้ี

ต ๒.๒ ม.๔-๖/ ๓ ตัวช้วี ดั ชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย ขอ้ ที่ ๓
สาระท่ี ๒ มาตรฐานข้อท่ี ๒
ม.๔-๖/๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
๒.๒


10

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการเรียน

๑. การตัดสิน การใหร้ ะดับและการรายงานผลการเรียน
๑.๑ การตดั สินผลการเรยี น
ในการตดั สนิ ผลการเรียนของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนน้ั ผสู้ อนต้องคานงึ ถึงการพฒั นาผเู้ รยี นแตล่ ะคน
เปน็ หลัก และตอ้ งเกบ็ ข้อมูลของผเู้ รียนทกุ ด้านอยา่ งสมา่ เสมอและตอ่ เน่อื งในแตล่ ะภาคเรยี น รวมท้ังสอน
ซอ่ มเสรมิ ผู้เรียนให้พฒั นาจนเต็มตามศักยภาพ

ระดับมธั ยมศึกษา
(๑) ตัดสนิ ผลการเรียนเป็นรายวิชา ผเู้ รียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่นอ้ ยกว่า
ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นท้งั หมดในรายวชิ านัน้ ๆ
(๒) ผเู้ รียนต้องไดร้ บั การประเมินทุกตวั ช้วี ดั และผ่านตามเกณฑท์ ีก่ าหนด
(๓) ผูเ้ รียนต้องได้รบั การตดั สินผลการเรียนทกุ รายวชิ า และมีผลกำรประเมินไมน่ อ้ ย
กว่ำระดบั ๑
(๔) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ และมีผลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑท์ ี่กาหนดในการ
อา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
การพจิ ารณาเลื่อนชั้นทง้ั ระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา ถ้าผเู้ รยี นมขี อ้ บกพรอ่ ง
เพยี งเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเหน็ วา่ สามารถพฒั นาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดลุ พินิจของ
สถานศกึ ษาท่ีจะผอ่ นผนั ใหเ้ ลือ่ นชั้นได้ แตห่ ากผเู้ รียนไม่ผา่ นรายวิชาจานวนมากและมแี นวโน้มว่าจะเปน็
ปญั หา ต่อการเรยี นในระดบั ชน้ั ทส่ี งู ขน้ึ สถานศึกษาอาจตงั้ คณะกรรมการพจิ ารณาใหเ้ รยี นซา้ ชั้นได้ ทงั้ นี้
ใหค้ านงึ ถึงวฒุ ภิ าวะและความรู้ความสามารถของผเู้ รยี นเป็นสาคัญ
๑.๒ การใหร้ ะดับผลการเรยี นระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลาย
ในการตดั สินเพ่ือใหร้ ะดับผลการเรยี นรายวชิ า ใหใ้ ชต้ วั เลขแสดงระดบั ผลการเรยี นเปน็
๘ ระดับ
การประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์นนั้ ให้
ระดับผลการประเมนิ เปน็ ดีเยีย่ ม ดี และผา่ น
การประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น จะต้องพจิ ารณาทง้ั เวลาการเข้ารว่ มกิจกรรม การ
ปฏบิ ัติกิจกรรมและผลงานของผเู้ รยี น ตามเกณฑ์ท่กี าหนด และใหผ้ ลการเข้าร่วมกจิ กรรมเปน็ ผา่ นและไม่
ผา่ น
๑.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรียนเป็นการสอ่ื สารให้ผู้ปกครองและผ้เู รียนทราบความกา้ วหนา้ ใน
การเรยี นรขู้ องผู้เรียน ซึง่ โรงเรียนสรปุ ผลการประเมินและจดั ทาเอกสารรายงานใหผ้ ู้ปกครองทราบภาค
เรยี นละ ๑ คร้ัง
การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดบั คณุ ภาพการปฏิบัตขิ องผู้เรียนท่ี
สะทอ้ นมาตรฐานการเรยี นรูก้ ลุ่มสาระการเรยี นรู้

11

๒. เกณฑก์ ารจบ
การศกึ ษา

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นพทุ ไธสง กาหนดเกณฑส์ าหรบั การจบการศึกษา ดังนี้
๒.๑ เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

(๑) ผเู้ รียนเรยี นรายวิชาพน้ื ฐานและเพิ่มเติม ๘๑ หน่วยกิต โดยเปน็ รายวชิ าพืน้ ฐาน
๖๖ หนว่ ยกิต และรายวชิ าเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า ๑๕ หนว่ ยกติ

(๒) ผเู้ รียนตอ้ งไดห้ น่วยกิตตลอดหลกั สูตร ๘๑ หนว่ ยกติ โดยเปน็ รายวิชาพืน้ ฐาน ๖๖
หน่วยกิต และรายวิชาเพ่มิ เติม ไมน่ ้อยกว่า ๑๕ หน่วยกิต

(๓) ผเู้ รยี นมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น ในระดับผา่ นเกณฑ์การ
ประเมิน

(๔) ผู้เรียนมผี ลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน
(๕) ผเู้ รียนเข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและมผี ลการประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
๒.๒ เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
(๑) ผเู้ รียนเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานและเพิ่มเติม ไม่น้อยกวา่ ๘๑ หน่วยกิต โดยเปน็
รายวชิ าพน้ื ฐาน ๔๑ หน่วยกติ และรายวิชาเพิม่ เติม ไม่นอ้ ยกวา่ ๔๐ หน่วยกิต
(๒) ผู้เรยี นต้องได้หนว่ ยกติ ตลอดหลกั สตู ร ๘๑ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพนื้ ฐาน ๔๑
หน่วยกิต และรายวิชาเพ่ิมเติม ไมน่ ้อยกว่า ๔๐ หน่วยกติ
(๓) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน ในระดับผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
(๔) ผเู้ รียนมีผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ในระดบั ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
(๕) ผ้เู รยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นและมผี ลการประเมินผา่ นเกณฑ์การประเมิน

12

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นพุทไธสง
โรงเรียนพุทไธสงได้จัดทาตามแนวทางการจัดทาหลกั สูตรสถานศึกษาของสานักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน กลุม่ งานพฒั นาหลักสูตรและมาตรฐานการเรียนรู้ ดังนี้
รายวชิ าเพ่มิ เติม เปน็ รายวชิ าโรงเรยี นเปดิ สอนเพ่ิมเติมจากส่งิ ที่กาหนดไว้ในหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาข้นั พน้ื ฐาน เพอ่ื ให้สอดคล้องกับจุดเนน้ ความตอ้ งการและความถนดั ของผเู้ รียน หรือความ
ตอ้ งการของท้องถนิ่ โดยกาหนด “ผลการเรยี นรู้” เป็นเป้าหมายในการพฒั นาผู้เรยี นในรายวิชาเพม่ิ เติม
ต่างๆ
โดยในส่วนของรายวิชาเพมิ่ เตมิ เพ่ือเป็นพ้ืนฐานทางวิชาการสอู่ าชีพและศกึ ษาตอ่ ในระดับที่
สงู ขนึ้ และสง่ เสริมการประกอบอาชีพ โรงเรียนพทุ ไธสง ไดจ้ ัดทาตามแนวทางการจัดทาหลักสูตร
สถานศกึ ษา รายวชิ าความถนดั ทางสาขาวิชาฐานสมรรถนะความถนดั
โรงเรียนพุทไธสง เปน็ สถานศึกษาท่ีสังกัดสานักคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ได้จดั ทา
หลกั สตู รสถานศึกษาใหส้ อดคลอ้ งกบั คาสั่งดงั กล่าว โดยเนน้ ความแตกต่างตามศกั ยภาพของนกั เรียนแต่
ละคน จงึ จดั หลกั สูตรให้มีความหลากหลายเพ่ือให้นักเรยี นได้เลอื กเรยี นไดต้ ามความต้องการของตนเอง
รวมทงั้ ผปู้ กครองนักเรยี นท่ตี ้องการใหโ้ รงเรยี นได้เสริมประสบการณ์ดา้ นต่างๆให้กบั นกั เรียน และจาก
นโยบายของสานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ท่ีไดจ้ ัดทาแผนปฏบิ ัตกิ ารปงี บประมาณ
พ.ศ. 2561 เพ่อื ใหก้ ล่มุ และหนว่ ยงานในสังกัด ใช้เปน็ กรอบการดาเนินงานและขบั เคลอื่ นการบริหารจัด
การศกึ ษาโดยมีสาระสาคัญประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ เปา้ หมายการให้บรกิ าร จุดเน้น มาตรการ
ตัวช้วี ัด กลยทุ ธ์ โครงการ/กจิ กรรม และงบประมาณโดยมีการวิเคราะห์ความสอดคล้องของนโยบายของ
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน แผนการศึกษาแหง่ ชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี
(พ.ศ.2560-2579) และจุดเนน้ ของสานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษา “น้อมนาพระราชดารัสในหลวง ร.๙
“เด็กรักครู ครูรักเดก็ ”ยกระดบั คุณภาพนกั เรียน แนวคิด No Child Left Behind (NCLB) “ไมม่ ีเด็ก
คนใด ถกู ทอดท้งิ ไว้ข้างหลัง””ที่มงุ่ เนน้ การพฒั นายกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน พัฒนาระบบดแู ล
นักเรียน และการสง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรมใหก้ บั นักเรยี นทม่ี ่งุ การจดั การศกึ ษาเพอื่ การพัฒนาท่ยี ง่ั ยืน
เกดิ ประสิทธภิ าพและประสิทธิผลสูงสุดต่อการพฒั นาการศกึ ษา รวมถงึ เปน็ กรอบแนวทางในการตดิ ตาม
และประเมินผลการดาเนนิ งานของสานกั งานเขตพ้นื ที่ โดยมุ่งสเู่ ปา้ หมายสุดทา้ ย คอื การยกระดับพัฒนา
ใหน้ กั เรยี น มีคณุ ภาพตามศกั ยภาพอย่างเท่าเทยี มกัน

โรงเรียนพทุ ไธสง จงึ ไดเ้ ปดิ แผนการเรยี นทส่ี ง่ เสริมความเป็นเลิศให้กบั นกั เรยี น ไดแ้ กค่ วาม
เป็นเลศิ ทางด้านกฬี า ดนตรี ศลิ ปะ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ท้งั นี้ไดเ้ รมิ่ เปดิ แผนการ
เรยี นตา่ งๆเพ่ือใหเ้ กิดความหลากหลายมากย่งิ ข้ึนต้งั แต่ปีการศกึ ษา 2560 เป็นตน้ มา โดยมีแผนการเรยี น
ตา่ งๆ ดงั นี้

13

แผนการเรียนทเี่ ปิดสอนในปีการศกึ ษา 2560

ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาตอนตน้ (ปี 2560 - 2562)

ท่ี แผนการเรยี น จานวน หอ้ ง หมายเหตุ
หอ้ ง
1 ปกติ
2 ส่งเสริมความเปน็ เลิศทางกฬี า 10 1/1 – 1/10
3 สง่ เสริมผ้มู คี วามสามารถพเิ ศษทาง
1 1/11
วทิ ยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์
1 1/12

ระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ปี 2560 - 2562)

ท่ี แผนการเรียน จานวน หอ้ ง หมายเหตุ
ห้อง
1 วทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ 1 4/1 เรียนตา่ งกนั เฉพาะ
2 วศิ วกรรมศาสตร์ – สถาปัตยกรรม 1 4/2
3 วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์-คอมพิวเตอร์ 1 4/3 วชิ าทางความเป็น
4 วิทยาศาสตรท์ ั่วไป 3 4/4 – 4/5 เลศิ
5 ภาษาไทย – สงั คม 1 4/6
6 นิติศาสตร์ 1 4/7
7 ภาษาอังกฤษ – จนี 1 4/8
8 ภาษาอังกฤษ – ญ่ีปุน่ 1 4/9
9 สง่ เสรมิ ความเป็นเลศิ ทางศลิ ปะ 1 4/10
10 สง่ เสริมความเปน็ เลศิ ทางกีฬา 1 4/10

11 สง่ เสรมิ ผ้มู ีความสามารถพิเศษทาง 1 4/11
วทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์

14

แผนการเรียนทีส่ ง่ เสรมิ ความเป็นเลิศทางกีฬา กลมุ่ วิชาทผี่ เู้ รียนจะต้องเรียนมีดังนี้

โครงสรา้ งหน่วยกิต หลกั สตู รโรงเรียนพทุ ไธสง พุทธศกั ราช 2560
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น (โครงการความเป็นเลิศทางกีฬา)

กลุ่มสาระการ ม.1 ม.2 ม.3 รวม
เรยี นรู้ พฐ. เพม่ิ เติม พฐ. เพม่ิ เตมิ พฐ. เพิ่มเตมิ
313030 10
ภาษาไทย 303030 9
คณิตศาสตร์ 303030 9
วทิ ยาศาสตร์ 414141 15
สงั คมศกึ ษา ฯ 202021 7
สุขศึกษา 202020 6
ศลิ ปะ 202020 6
การงานอาชพี ฯ 313231 13
ภาษาอังกฤษ 000000 0
ภาษาจีน 000000 0
ภาษาเกาหลี 0
000000 2
ภาษาญ่ปี นุ่ 4
000101
วิชาIS 020200
วชิ าเลือก

รวม 22 5 22 6 22 4 81
27 28 26

มจี านวน 1 หอ้ ง ได้แก่ ห้อง ม.1/11

15

โครงสร้างหนว่ ยกติ หลักสตู รโรงเรียนพุทไธสง พทุ ธศกั ราช 2560
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ศลิ ปภ์ าษา : ความเป็นเลิศทางกฬี า)

กลุ่มสาระการ ม.4 ม.5 ม.6 รวม
เรยี นรู้ พฐ. เพิ่มเติม พฐ. เพ่มิ เตมิ พฐ. เพิม่ เติม
22 20 22 10
ภาษาไทย 20 20 20 6
คณิตศาสตร์ 30 30 00 6
วทิ ยาศาสตร์ 41 21 20 10
สงั คมศกึ ษา ฯ 19 19 19 30
สุขศกึ ษา 10 10 10 3
ศลิ ปะ 1.5 2 12 0.5 2 9
การงานอาชพี ฯ 21 21 22 10
ภาษาอังกฤษ 00 00 00 0
ภาษาจนี 00 00 00 0
ภาษาเกาหลี 00 00 00 0
ภาษาญปี่ ุ่น 00 01 01 2
วิชาIS 00 00 00 0
วชิ าเลอื ก

รวม 16.5 15 14 14 10.5 16 86
31.5 28 26.5
31.5 28 26.5

มจี านวน 1 ห้อง ได้แก่ หอ้ ง ม.4/10

16

มัธยมศึกษาปีที่ 1(ปกี ารศกึ ษา 2560)

ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2

รหสั วิชา รายวิชาพืน้ ฐาน นก. รหัสวชิ า รายวชิ าพ้ืนฐาน นก.
ท21101 1.5
ค21101 ภาษาไทย 1.5 ท21102 ภาษาไทย 1.5
ว21101 1.5
ส21101 คณิตศาสตร์ 1.5 ค21102 คณติ ศาสตร์ 1.5
ส21102 0.5
พ21101 วทิ ยาศาสตร์ 1.5 ว21102 วิทยาศาสตร์ 0.5
พ21102 0.5
ศ21103 สังคมศกึ ษา 1.5 ส21103 สังคมศึกษา 0.5
ศ21104 0.5
ง21101/ ประวัติศาสตร์ 0.5 ส21104 ประวัตศิ าสตร์
ง21131 1.0
อ21101 สขุ ศกึ ษา 0.5 พ21102 สขุ ศึกษา
รวมพืน้ ฐาน 1.5
พลศึกษา 0.5 พ21104 พลศึกษา 11
ท 20201
ทัศนศิลป์ 1 0.5 ศ21105 ดนตรี 1 0.5
อ 20207 0.5
นาฏศิลป์ 1 0.5 ศ21106 นาฏศิลป์ 2 0.5
ส21231
การงานอาชีพ ฯ (งานบ้าน) 1.0 ง21101/ การงานอาชพี ฯ (งานบ้าน) 1
ล เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 ง21131 เทคโนโลยีสารสนเทศ 1

ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน 1.5 อ21102 ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน

440 11 รวมพืน้ ฐาน 440

รายวิชาเพม่ิ เติม รายวิชาเพิม่ เติม

การอา่ น-เขยี น 1 0.5 ท20202 ท 20202 การอ่าน-เขยี น 2

ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร 1 0.5 อ20208 ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่อื สาร 2

หน้าทีพ่ ลเมือง 0.5 ส21232 หนา้ ทพ่ี ลเมือง
1 ล
รายวิชาเพมิ่ เติม (เลือก) 8 กล่มุ สาระ รายวชิ าเพิม่ เตมิ (เลอื ก) 8 กลุ่มสาระ

รวมเพมิ่ เตมิ 100 2.5 รวมเพ่ิมเตมิ 100 2.5

กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น 20
20
- กิจกรรมแนะแนว 20 - กจิ กรรมแนะแนว 20
20
- กิจกรรมในเครอ่ื งแบบ 20 - กจิ กรรมในเคร่ืองแบบ 80
นก.
- ชมุ นมุ 20 - ชมุ นุม
13.5
- กจิ กรรมเพอ่ื สังคมฯ 20 - กจิ กรรมเพื่อสังคมฯ

รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น 80 รวมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน

รวม เวลาเรยี น (ชั่วโมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ช่วั โมง)

ตอ่ สปั ดาห์ 31 13.5 ตอ่ สัปดาห์ 31
ต่อภาคเรยี น 620 ตอ่ ภาคเรยี น 620

ตอ่ ปี รวม 1240 ช่วั โมง 27 หนว่ ยกิต

17

มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 (ปีการศึกษา 2561)

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหัสวิชา รายวิชาพ้นื ฐาน นก. รหสั วชิ า รายวชิ าพื้นฐาน นก.
ท22101 1.5
ค22101 ภาษาไทย 1.5 ท22102 ภาษาไทย 1.5
ว22101 1.5
ส22101 คณิตศาสตร์ 1.5 ค22102 คณติ ศาสตร์ 1.5
ส22102 0.5
พ22101 วทิ ยาศาสตร์ 1.5 ว22102 วิทยาศาสตร์ 0.5
พ22102 0.5
ศ22103 สังคมศกึ ษา 1.5 ส22103 สังคมศึกษา 0.5
ศ22104 0.5
ประวตั ิศาสตร์ 0.5 ส22104 ประวัติศาสตร์
ง22101/ 1
ง22131 สขุ ศกึ ษา 0.5 พ22103 สขุ ศึกษา
1.5
พลศกึ ษา 0.5 พ22104 พลศกึ ษา 11

ทัศนศิลป์ 2 0.5 ศ22105 ทัศนศลิ ป์ 3 0.5
0.5
ดนตรี 2 0.5 ศ22106 นาฏศิลป์ 3 0.5

การงานอาชพี ฯ (งานเกษตร) 1 ง22101/ การงานอาชีพ ฯ (งานเกษตร) 1
เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2 ง22131 เทคโนโลยีสารสนเทศ 2
1
อ22101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน 1.5 อ22102 ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน 3.5

รวมพนื้ ฐาน 440 11 รวมพนื้ ฐาน 440 20
20
รายวิชาเพ่มิ เตมิ รายวชิ าเพมิ่ เตมิ 20
20
อ ภาษาองั กฤษเพื่อกีฬา 1 0.5 อ ภาษาองั กฤษเพ่ือกีฬา 2 80
นก.
อ 20209 ภาษาองั กฤษเพอื่ การส่ือสาร 3 0.5 อ 202010 ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสาร 4
14.5
ส22233 หนา้ ทพี่ ลเมือง 0.5 ส22234 หน้าท่ีพลเมือง

ล รายวชิ าเพม่ิ เติม (เลอื ก) 8 1 ล รายวิชาเพ่ิมเติม (เลอื ก) 8
กลุม่ สาระ กลุม่ สาระ

I IS1

รวมเพิ่มเตมิ 100 2.5 รวมเพ่มิ เติม 140

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น

- กจิ กรรมแนะแนว 20 - กิจกรรมแนะแนว

- กจิ กรรมในเคร่อื งแบบ 20 - กิจกรรมในเคร่อื งแบบ

- ชมุ นุม 20 - ชมุ นมุ

- กิจกรรมเพ่ือสังคมฯ 20 - กจิ กรรมเพ่ือสังคมฯ

รวมกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น 80 รวมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน

รวม เวลาเรยี น (ช่วั โมง) นก. รวม เวลาเรียน (ช่ัวโมง)

ต่อสปั ดาห์ 31 13.5 ต่อสปั ดาห์ 33
ตอ่ ภาคเรยี น 660
ต่อภาคเรียน 620

18

มธั ยมศึกษาปีที่ 3 (ปีการศกึ ษา 2562)

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2

รหัสวชิ า รายวิชาพืน้ ฐาน นก. รหัสวชิ า รายวิชาพ้นื ฐาน นก.
ท23101 1.5
ค23101 ภาษาไทย 1.5 ท23102 ภาษาไทย 1.5
ว23101 1.5
ส23101 คณิตศาสตร์ 1.5 ค23102 คณติ ศาสตร์ 1.5
ส23102 0.5
พ23101 วทิ ยาศาสตร์ 1.5 ว23102 วิทยาศาสตร์ 0.5
พ23102 0.5
ศ23103 สงั คมศกึ ษา 1.5 ส23103 สังคมศกึ ษา 0.5
ศ23104 0.5
ง23101/ง ประวตั ศิ าสตร์ 0.5 ส23104 ประวัติศาสตร์
23131 1
อ23101 สขุ ศึกษา 0.5 พ23103 สุขศึกษา
รวมพ้นื ฐาน 1.5
พลศกึ ษา 0.5 พ23104 พลศึกษา 11

ดนตรี 3 0.5 ศ23105 ดนตรี 4 0.5
อ 202011 0.5
นาฏศิลป์ 4 0.5 ศ23106 ทัศนศลิ ป์ 4 0.5
ส22235
การงานอาชีพ ฯ (งานชา่ ง) 1 ง23101/ง การงานอาชพี ฯ (งานช่าง) 1.5
I เทคโนโลยีสารสนเทศ 3 23131 เทคโนโลยีสารสนเทศ 3
20
ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน 1.5 อ23102 ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน 20
20
440 11 รวมพ้นื ฐาน 440 20
80
รายวชิ าเพ่ิมเติม รายวิชาเพ่มิ เตมิ นก.

ทฤษฎีการกีฬา 1 0.5 พ ทฤษฎกี ารกฬี า 2 12.5

ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 5 0.5 อ 202011 ภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร 6 81

หนา้ ที่พลเมอื ง 0.5 ส23236 หนา้ ท่พี ลเมือง
IS2 1 IS3(มก.1.0)

รวมเพิ่มเติม 100 2.5 รวมเพ่ิมเตมิ 60

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน

- กิจกรรมแนะแนว 20 - กจิ กรรมแนะแนว

- กิจกรรมในเคร่ืองแบบ 20 - กิจกรรมในเครอ่ื งแบบ

- ชมุ นุม 20 - ชุมนมุ

- กจิ กรรมเพอื่ สงั คมฯ 20 - กจิ กรรมเพ่อื สงั คมฯ

รวมกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น 80 รวมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน

รวม เวลาเรยี น (ช่ัวโมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ชวั่ โมง)

ตอ่ สัปดาห์ 31 13.5 ตอ่ สปั ดาห์ 29
ตอ่ ภาคเรยี น 620 ต่อภาคเรียน 580

ตอ่ ปี รวม 1200 ช่วั โมง 26 หน่วยกิต

19

มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 (ปีการศึกษา 2560)

ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรียนที่ 2

รหสั วชิ า รายวิชาพ้ืนฐาน นก. รหัสวิชา รายวิชาพ้ืนฐาน นก.
ท31101 1
ค30101 ภาษาไทย 1 ท31102 ภาษาไทย 1
ว30102 1.5
ส31101 คณติ ศาสตร์ 1 ค30102 คณติ ศาสตร์ 1
ส31103 1
พ31101 เคมีพ้ืนฐาน 1.5 ว30103 ชวี วิทยาพนื้ ฐาน 0.5
ศ31101 0.5
ง31101 สังคมศึกษา 1 1 ส31102 สังคมศึกษา 2 1
อ 31101 1
รวมพน้ื ฐาน ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย 1 ส31104 ประวัตศิ าสตร์ไทย 8.5

ท 31201 สขุ ศกึ ษา 0.5 พ31102 สุขศกึ ษา 1
อ30219 0.5
ศิลปะ(ดนตรี) 0.5 ศ31102 ศลิ ปะ(ทัศนศิลป์) 0.5
พ31201 1
ง31244 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 0.5 ง31131 เทคโนโลยีสารสนเทศ4
พ 4
พ ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน 1 อ 31102 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
พ 0.5
ส30231 320 8 รวมพื้นฐาน 340
7.5
รวมเพมิ่ เตมิ รายวชิ าเพ่มิ เตมิ รายวิชาเพ่ิมเติม
20
หลักภาษาไทย 1 ท ภาษาไทยเพือ่ การสือ่ สาร 20
20
ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 1 0.5 อ 30220 ภาษาองั กฤษฟงั -พดู 2
60
พลศกึ ษา 1 0.5 พ31202 พลศึกษา 2 นก.

คอมพวิ เตอร์ประยกุ ต์ 1 ง31245 กราฟิกแอนเิ มช่ัน 16

กรีฑา1 พ กรฑี า2

มวยไทยสมคั รเล่น 1 4พ มวยไทยสมคั รเล่น 2

เทเบิลเทนนิส 1 พ เทเบิลเทนนิส 2

หน้าท่พี ลเมือง 0.5 ส30232 หนา้ ทพี่ ลเมือง

(บูรณาการกบั กิจกรรม) (บรู ณาการกบั กิจกรรม)

300 7.5 รวมเพ่ิมเติม 300

กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น

- กิจกรรมแนะแนว 20 - กิจกรรมแนะแนว

- กจิ กรรมชุมนุม 20 - กิจกรรมชุมนุม

- กจิ กรรมเพื่อสังคมฯ 20 - กิจกรรมเพอ่ื สังคมฯ

รวมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 60 รวมกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น

รวม เวลาเรยี น (ช่ัวโมง) นก. รวม เวลาเรียน (ชวั่ โมง)

ตอ่ สัปดาห์ 34 15.5 ตอ่ สปั ดาห์ 35
ต่อภาคเรียน 680 ต่อภาคเรยี น 700

ตอ่ ปี รวม 1380 ชั่วโมง 31.5 หน่วยกติ

20

มัธยมศึกษาปีท่ี 5 (ปกี ารศกึ ษา 2561)

ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหสั วิชา รายวชิ าพืน้ ฐาน นก. รหสั วชิ า รายวิชาพน้ื ฐาน นก.
ท32101 1
ค30103 ภาษาไทย 1 ท32102 ภาษาไทย 1
ว30101 1.5
ส32101 คณติ ศาสตร์ 1 ค30104 คณติ ศาสตร์ 1
พ32101 0.5
ศ32101 ฟสิ กิ ส์พนื้ ฐาน 1.5 ว30104 โลก ดาราศาสตร์ 0.5
ง32102 0.5
อ32101 สงั คมศึกษา 1 ส32102 สังคมศึกษา 1
รวมพ้นื ฐาน 7
สุขศึกษา 0.5 พ32102 สขุ ศึกษา
อ 30221 0.5
พ32201 ศลิ ปะ(นาฏศิลป์) 0.5 ศ32102 ศิลปะ(ดนตรี) 0.5
ง32241 1
พ การงานอาชพี และเทคโนโลยี 0.5 ง32101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี
พ 4
พ ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน 1 อ 32102 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
ส30233 0.5
280 7 รวมพืน้ ฐาน 280
รวมเพิ่มเติม 1
รายวิชาเพ่ิมเตมิ รายวิชาเพมิ่ เติม 7.5

ภาษาอังกฤษฟงั -พดู 3 0.5 อ30222 ภาษาองั กฤษฟงั -พดู 4 20
20
พลศกึ ษา 3 0.5 พ32202 พลศกึ ษา 4 20

การผลติ ภาพยนตรส์ ัน้ 1 ง32245 คอมพิวเตอรก์ ราฟิกและการออกแบบ 1

บาสเกตบอล1 พ บาสเกตบอล2

ฟุตบอล 1 4พ ฟุตบอล 2

เซปกั ตะกร้อ 1 พ เซปักตะกรอ้ 2

หน้าท่ีพลเมือง 0.5 ส30234 หน้าทพ่ี ลเมือง

(บูรณาการกับกจิ กรรม) (บูรณาการกับกจิ กรรม)

I IS1

260 6.5 รวมเพ่มิ เตมิ 300

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น

- กจิ กรรมแนะแนว 20 - กิจกรรมแนะแนว

- กิจกรรมชมุ นุม 20 - กจิ กรรมชมุ นุม

- กิจกรรมเพอ่ื สังคมฯ 20 - กจิ กรรมเพื่อสงั คมฯ

รวมกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น 60 รวมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 60
นก.
รวม เวลาเรียน (ช่วั โมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ชัว่ โมง)
14.5
ตอ่ สัปดาห์ 30 ต่อสัปดาห์ 32

ต่อภาคเรียน 600 13.5 ตอ่ ภาค 640
เรียน

ต่อปี รวม 1240 ช่ัวโมง 28 หนว่ ยกติ

21

มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 (ปกี ารศกึ ษา 2562)

ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2

รหสั วชิ า รายวชิ าพนื้ ฐาน นก. รหัสวิชา รายวชิ าพนื้ ฐาน นก.
ท33101 1
ค30105 ภาษาไทย 1 ท33102 ภาษาไทย 1
ส33101 1
พ33101 คณติ ศาสตร์ 1 ค30106 คณิตศาสตร์ 0.5
ศ33101 0.5
สงั คมศึกษา 1 ส33102 สังคมศึกษา 0.5
อ 33101 1
รวมพ้ืนฐาน สขุ ศึกษา 0.5 พ33102 สุขศึกษา 5.5

ท 332057 ศิลปะ(ทัศนศลิ ป์) 0.5 ศ33102 ศิลปะ(นาฏศลิ ป์) 1
อ 30223 0.5
พ33201 ง33101 การงานอาชพี และเทคโนโลยี(งานธุรกิจ) 0.5
ง33244 1
ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน 1 อ33102 ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน
พ 4
พ 200 5 รวมพื้นฐาน 220
พ 7
อ รายวชิ าเพมิ่ เติม รายวิชาเพิม่ เติม
20
I GAT Thai 1 ท 33208 PAT5 20
รวมเพ่ิมเตมิ 20
ภาษาองั กฤษฟงั -พดู 5 0.5 อ 30224 ภาษาอังกฤษฟงั -พดู 6

พลศึกษา 5 0.5 พ33202 พลศึกษา 6

คอมพิวเตอรก์ ราฟิกและการออกแบบ 2 1 ง33245 การพฒั นาเวบ็ ไซด์สาเร็จรปู CMS

แบดมนิ ตนั 1 พ แบดมินตัน 1

วอลเลยบ์ อล 1 4พ วอลเลยบ์ อล 2

การสร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกาย พ การนวดทางการกีฬา

GAT Eng 1 IS3(มก.1.0)

IS2 1

360 9 รวมเพิ่มเติม 280

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น

- กจิ กรรมแนะแนว 20 - กจิ กรรมแนะแนว

- กิจกรรมชุมนมุ 20 - กิจกรรมชมุ นุม

- กจิ กรรมเพ่อื สงั คมฯ 20 - กิจกรรมเพ่อื สังคมฯ

รวมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 60 รวมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน 60
นก.
รวม เวลาเรยี น (ช่ัวโมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ช่ัวโมง)
12.5
ต่อสปั ดาห์ 31 ต่อสัปดาห์ 28
86
ต่อภาคเรียน 620 14 ต่อภาค 560
เรยี น

ต่อปี รวม 1180 ชวั่ โมง 26.5 หนว่ ยกิต

22

แผนการเรียนที่เปดิ สอนในปกี ารศึกษา 2561

ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น (ปี 2561 - 2563)

ท่ี แผนการเรียน จานวน หอ้ ง หมายเหตุ
ห้อง
1 ปกติ
2 ส่งเสรมิ ความเป็นเลศิ ทางกฬี า 10 1/1 – 1/10
3 สง่ เสรมิ ผู้มีความสามารถพิเศษทาง
1 1/11
วทิ ยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์
1 1/12

ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ปี 2561 - 2563)

ท่ี แผนการเรียน จานวน หอ้ ง หมายเหตุ
ห้อง
1 วทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ 1 4/1 เรยี นต่างกนั เฉพาะ
2 วิศวกรรมศาสตร์ – สถาปัตยกรรม 1 4/2 วิชาทางภาษา
3 วทิ ยาศาสตร์-คณิตศาสตร์-คอมพวิ เตอร์ 1 4/3 เรียนต่างกนั เฉพาะ
4 วิทยาศาสตรท์ ่ัวไป 3 4/4 – 4/6 วชิ าทางความเป็น
5 ภาษาไทย – สงั คม 1 4/7 เลิศ
6 ภาษาอังกฤษ – จีน 1 4/8
7 ภาษาอังกฤษ – ญ่ีปุน่ 1 4/8
8 ส่งเสรมิ ความเปน็ เลศิ ทางศลิ ปะ 1 4/9
9 ส่งเสรมิ ความเปน็ เลศิ ทางดนตรี 1 4/9

10 สง่ เสรมิ ความเปน็ เลิศทางกีฬา 1 4/10

11 สง่ เสริมผูม้ คี วามสามารถพิเศษทาง 1 4/11
วทิ ยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์

23

แผนการเรียนทส่ี ่งเสรมิ ความเป็นเลิศทางกฬี า กลุ่มวิชาทผ่ี ู้เรียนจะตอ้ งเรียนมดี ังน้ี

โครงสร้างหนว่ ยกติ หลกั สูตรโรงเรยี นพทุ ไธสง พุทธศักราช 2560(ฉบับปรับปรุง 2560)
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ห้องเรียนกฬี า)

กลุม่ สาระการ ม.1 ม.2 ม.3 รวม รวม
เรียนรู้ พฐ. เพ่ิมเติม พฐ. เพิ่มเติม พฐ. เพ่ิมเตมิ พฐ. เพม่ิ เติม
3 0.5 3 0 3 0 9 0.5 9.5
ภาษาไทย 30303090 9
คณิตศาสตร์ 4 0 4 0 4 0 12 0 12
วทิ ยาศาสตร์ 4 0 4 0 4 0 12 0 12
สังคมศกึ ษา ฯ 24222369 15
สุขศึกษา 20202060 6
ศลิ ปะ 10101030 3
การงานอาชีพฯ 3 1.5 3 1 3 1 9 3.5 12.5
ภาษาองั กฤษ 00000000 0
ภาษาจนี 00000000 0
ภาษาเกาหลี 00000000 0
ภาษาญีป่ ุ่น 00020002 2
วิชาIS 00000000 0
วิชาเลือก

รวม 22 6 22 5 22 4 66 15 81
28 27 26 81

มจี านวน 1 ห้อง ได้แก่ หอ้ ง ม.1/11

24

โครงสร้างหนว่ ยกติ หลกั สตู รโรงเรียนพุทไธสง พุทธศกั ราช 2560 (ฉบับปรบั ปรงุ 2560)
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ศลิ ปภ์ าษา : ความเป็นเลศิ ทางกฬี า)

กล่มุ สาระการ ม.4 ม.5 ม.6 รวม รวม
เรียนรู้ พฐ. เพิม่ เตมิ พฐ. เพมิ่ เติม พฐ. เพิ่มเตมิ พฐ. เพม่ิ เติม

ภาษาไทย 22202062 8
คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ 20202060 6
สงั คมศกึ ษา ฯ
สุขศกึ ษา 2.5 2 3 2 1.5 2 7 6 13
ศิลปะ
การงานอาชีพฯ 40202080 8
ภาษาอังกฤษ
ภาษาจนี 1 7 1 7 1 7 3 21 24
ภาษาเกาหลี
ภาษาญป่ี นุ่ 10101030 3
วิชาIS
วิชาเลอื ก 0.5 2 1 2 0.5 2 2 6 8

21212163 9

00000000 0

00000000 0

00000000 0

00020002 2

00000000 0

รวม 15 14 14 14 12 12 41 40 81
29 28 24 81

มีจานวน 1 ห้อง ได้แก่ ห้อง ม.4/10

25

มัธยมศึกษาปที ่ี 1 (ปกี ารศึกษา 2561)

ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรียนที่ 2

รหัสวชิ า รายวิชาพื้นฐาน นก. รหสั วิชา รายวิชาพ้ืนฐาน นก.
1.5
ท21101 ภาษาไทย 1.5 ท21102 ภาษาไทย 1.5
1.5
ค21101 คณิตศาสตร์ 1.5 ค21102 คณติ ศาสตร์ 1.5
0.5
ว๒๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ 1.5 ว21102 วทิ ยาศาสตร์ 0.5
0.5
ส21101 สังคมศกึ ษา+พทุ ธศาสนา 1.5 ส21103 สังคมศึกษา+พุทธศาสนา 0.5
0.5
ส21102 ประวตั ิศาสตร์ 0.5 ส21104 ประวตั ศิ าสตร์ 1.0
1.5
พ21101 สขุ ศึกษา 0.5 พ21102 สขุ ศกึ ษา
11.0
พ21102 พลศกึ ษา 0.5 พ21104 พลศึกษา
0.5
ศ21103 ทัศนศิลป์ 1 0.5 ศ21105 ดนตรี 1 0.5

ศ21104 นาฏศลิ ป์ 1 0.5 ศ21106 นาฏศิลป์ 2 1.0

ว วิทยาการคานวณ 1.0 ง การงานอาชพี ฯ (งานบ้าน) 1.0
3.0
อ21101 ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน 1.5 อ21102 ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน
20
รวม 440 11.0 รวม 440 20
พ้นื ฐาน พื้นฐาน 20
20
รายวชิ าเพม่ิ เตมิ รายวิชาเพ่มิ เตมิ 80
นก.
ท20201 การอา่ น-เขียน 1 0.5 อ ภาษาอังกฤษเพอ่ื กฬี า 1
14
อ20207 ภาษาอังกฤษเพือ่ การส่อื สาร 1 0.5 อ20208 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 2

พ ฟตุ บอลเพอ่ื ความเปน็ เลิศ1 พ ฟตุ บอลเพ่อื ความเปน็ เลศิ 2

พ มวยไทยเพอื่ ความเปน็ เลศิ 1 1.0 พ มวยไทยเพอื่ ความเป็นเลิศ2

พ กรฑี าเพ่อื ความเป็นเลิศ1 พ กรีฑาเพ่อื ความเป็นเลิศ2

พ วอลเลยบ์ อลเพ่ือความเปน็ เลศิ 1 พ วอลเลยบ์ อลเพือ่ ความเปน็ เลิศ2

พ วิทยก์ ฬี า1 1.0 พ วทิ ยก์ ีฬา2

รวมเพ่ิมเตมิ 120 3.0 รวมเพม่ิ เติม 120

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน

- กจิ กรรมแนะแนว 20.0 - กิจกรรมแนะแนว

- กจิ กรรมในเคร่อื งแบบ 20.0 - กิจกรรมในเครอื่ งแบบ

- ชุมนุม 20.0 - ชมุ นุม

- กิจกรรมเพอ่ื สังคมฯ 20.0 - กจิ กรรมเพ่อื สงั คมฯ

รวมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 80.0 รวมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน

รวม เวลาเรียน (ชั่วโมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ชั่วโมง)

ต่อสัปดาห์ 32 ตอ่ สปั ดาห์ 32

ตอ่ ภาค 640 14 ต่อภาค 640
เรยี น เรียน

ต่อปี รวม 1280 ช่วั โมง 28 หน่วยกิต

26

มัธยมศึกษาปที ่ี 2 (ปีการศกึ ษา 2562)

ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2

รหัสวิชา รายวิชาพ้นื ฐาน นก. รหัสวชิ า รายวชิ าพื้นฐาน นก.
1.5
ท22101 ภาษาไทย 1.5 ท22102 ภาษาไทย 1.5
1.5
ค22101 คณิตศาสตร์ 1.5 ค22102 คณติ ศาสตร์ 1.5
0.5
ว22101 วิทยาศาสตร์ 1.5 ว22102 วิทยาศาสตร์ 0.5
0.5
ส22101 สงั คมศึกษา+พทุ ธศาสนา 1.5 ส22103 สงั คมศึกษา+พุทธศาสนา 0.5
0.5
ส22102 ประวัตศิ าสตร์ 0.5 ส22104 ประวัตศิ าสตร์ 1.0
1.5
พ22101 สุขศกึ ษา 0.5 พ22103 สขุ ศกึ ษา
11.0
พ22102 พลศกึ ษา 0.5 พ22104 พลศกึ ษา
0.5
ศ22103 ทัศนศลิ ป์ 2 0.5 ศ22105 ทัศนศิลป์ 3
1.0
ศ22104 ดนตรี 2 0.5 ศ22106 นาฏศิลป์ 3
1.0
ว วทิ ยาการคานวณ 1.0 ง การงานอาชพี ฯ(งานเกษตร) 2.5

อ22101 ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 1.5 อ22102 ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน 20
20
รวม 440 11.0 รวม 440 20
พน้ื ฐาน พ้ืนฐาน 20
80
รายวิชาเพิม่ เตมิ รายวิชาเพิม่ เตมิ นก.

อ 20209 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร 3 0.5 อ202010 ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร 4 13.5

พ ฟุตบอลเพ่ือความเปน็ เลศิ 3 พ ฟุตบอลเพือ่ ความเปน็ เลิศ4

พ มวยไทยเพ่ือความเปน็ เลศิ 3 1.0 พ มวยไทยเพ่อื ความเป็นเลศิ 4

พ กรีฑาเพ่อื ความเปน็ เลิศ3 พ กรีฑาเพือ่ ความเปน็ เลิศ4

พ วอลเลย์บอลเพ่ือความเปน็ เลศิ 3 พ วอลเลย์บอลเพ่อื ความเปน็ เลิศ4

I IS1 1.0 I IS๒

รวมเพม่ิ เตมิ 100 2.5 รวมเพิม่ เติม 100

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน

- กจิ กรรมแนะแนว 20 - กจิ กรรมแนะแนว

- กิจกรรมในเคร่อื งแบบ 20 - กจิ กรรมในเครอ่ื งแบบ

- ชุมนมุ 20 - ชมุ นุม

- กจิ กรรมเพ่อื สังคมฯ 20 - กิจกรรมเพื่อสงั คมฯ

รวมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น 80 รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น

รวม เวลาเรียน (ชัว่ โมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ชัว่ โมง)

ต่อสปั ดาห์ 31 ตอ่ สัปดาห์ 31

ต่อภาค 620 13.5 ต่อภาค 620
เรียน เรยี น

ตอ่ ปี รวม 1240 ชวั่ โมง 27 หนว่ ยกิต

27

มัธยมศึกษาปีที่ 3 (ปกี ารศึกษา 2563)

ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหสั วชิ า รายวชิ าพืน้ ฐาน นก. รหัสวชิ า รายวชิ าพ้ืนฐาน นก.
ท23101 1.5
ค23101 ภาษาไทย 1.5 ท23102 ภาษาไทย 1.5
ว23101 1.5
ส23101 คณติ ศาสตร์ 1.5 ค23102 คณติ ศาสตร์ 1.5
ส23102 0.5
พ23101 วทิ ยาศาสตร์ 1.5 ว23102 วิทยาศาสตร์ 0.5
พ23102 0.5
ศ23103 สงั คมศกึ ษา+พุทธศาสนา 1.5 ส23103 สงั คมศึกษา+พทุ ธศาสนา 0.5
ศ23104 0.5
ประวตั ิศาสตร์ 0.5 ส23104 ประวตั ศิ าสตร์ 1.0
ว 1.5
อ23101 สุขศึกษา 0.5 พ23103 สุขศกึ ษา
11.0
พลศกึ ษา 0.5 พ23104 พลศึกษา
0.5
ดนตรี 3 0.5 ศ23105 ดนตรี 4 0.5

นาฏศลิ ป์ 4 0.5 ศ23106 ทศั นศิลป์ 4 1.0

วิทยาการคานาณ 1.0 ง การงานอาชพี ฯ (งานชา่ ง) 2

ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน 1.5 อ23102 ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน 20
20
รวมพนื้ ฐาน 440 11.0 รวมพืน้ ฐาน 440 20
20
รายวิชาเพม่ิ เติม รายวชิ าเพ่มิ เตมิ 80
นก.
พ ทฤษฎกี ารกีฬา 1 0.5 พ ทฤษฎกี ารกฬี า 2
13
อ202011 ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร 5 0.5 อ 202011 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสือ่ สาร 6
81
พ ฟุตบอลเพอ่ื ความเป็นเลศิ 5 พ ฟุตบอลเพ่อื ความเป็นเลศิ 6

พ มวยไทยเพ่ือความเป็นเลศิ 5 1.0 พ มวยไทยเพ่ือความเปน็ เลศิ 6

พ กรีฑาเพอื่ ความเป็นเลิศ5 พ กรีฑาเพือ่ ความเป็นเลิศ6

พ วอลเลย์บอลเพอื่ ความเป็นเลิศ5 พ วอลเลยบ์ อลเพ่อื ความเปน็ เลิศ6

IS๓(มก1.0)

รวมเพม่ิ เติม 80 2 รวมเพ่มิ เตมิ 80

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน

- กิจกรรมแนะแนว 20 - กจิ กรรมแนะแนว

- กจิ กรรมในเคร่อื งแบบ 20 - กิจกรรมในเครอ่ื งแบบ

- ชมุ นุม 20 - ชุมนุม

- กจิ กรรมเพ่ือสังคมฯ 20 - กจิ กรรมเพอ่ื สังคมฯ

รวมกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน 80 รวมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น

รวม เวลาเรียน (ช่วั โมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ชวั่ โมง)

ตอ่ สปั ดาห์ 30 ตอ่ สัปดาห์ 30

ตอ่ ภาค 600 13 ตอ่ ภาค 600
เรยี น เรยี น

ตอ่ ปี รวม 1200 ชัว่ โมง 26 หนว่ ยกิต

28

มัธยมศึกษาปีที่ 4 (ปกี ารศกึ ษา 2561)

ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหสั วิชา รายวิชาพื้นฐาน นก. รหสั วิชา รายวชิ าพ้นื ฐาน นก.
1.0
ท31101 ภาษาไทย 1.0 ท31102 ภาษาไทย 1.0

ค30101 คณติ ศาสตร์ 1.0 ค30102 คณติ ศาสตร์ 1.0
1.0
ว วิทย์ชวี ภาพ 1.5 0.5
0.5
ส31101 สงั คมศกึ ษา 1 1.0 ส31102 สงั คมศกึ ษา 2 0.5
1.0
ส31103 ประวตั ิศาสตร์ไทย 1.0 ส31104 ประวตั ิศาสตรไ์ ทย 6.5

พ31101 สุขศึกษา 0.5 พ31102 สุขศึกษา 0.5
0.5
ศ31101 ศิลปะ 0.5 ศ31102 ศิลปะ 1.0

ว วทิ ยาการคานวน 1.0 ง31101 การงานอาชพี (งานเกษตร) 3.0

อ 31101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน 1.0 อ 31102 ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 1.0
1.0
รวมพื้นฐาน 340 8.5 รวมพ้ืนฐาน 260 7.0

รายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิม่ เตมิ 20.0
20.0
อ30219 ภาษาอังกฤษฟงั -พดู 1 0.5 อ 30220 ภาษาอังกฤษฟงั -พดู 2 20.0
60.0
พ31201 พลศึกษา 1 0.5 พ31202 พลศกึ ษา 2 นก.

ง31244 คอมพวิ เตอรป์ ระยกุ ต์ 1.0 ง31245 กราฟิกแอนิเมชั่น 13.5

พ ฟุตบอลเพ่อื ความเป็นเลิศ1 พ ฟตุ บอลเพอื่ ความเป็นเลศิ 2

พ มวยไทยเพ่อื ความเปน็ เลศิ 1 พ มวยไทยเพ่อื ความเป็นเลศิ 2

พ กรีฑาเพือ่ ความเปน็ เลิศ1 3.0 พ กรีฑาเพือ่ ความเป็นเลิศ2

พ วอลเลยบ์ อลเพอื่ ความเป็นเลิศ1 พ วอลเลยบ์ อลเพ่ือความเป็นเลศิ 2

ท 31201 หลกั ภาษาไทย 1.0 ท ภาษาไทยเพอื่ การสอ่ื สาร

ว วทิ ยาศาตรก์ ารกีฬา1 1.0 ว วิทยาศาตรก์ ารกีฬา2

รวมเพ่มิ เตมิ 280 7.0 รวมเพ่ิมเติม 280

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น

- กจิ กรรมแนะแนว 20.0 - กิจกรรมแนะแนว

- กิจกรรมชุมนุม 20.0 - กิจกรรมชมุ นมุ

- กจิ กรรมเพ่ือสงั คมฯ 20.0 - กจิ กรรมเพ่อื สังคมฯ

รวมกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น 60.0 รวมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน

รวม เวลาเรยี น (ชั่วโมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ช่ัวโมง)

ตอ่ สปั ดาห์ 34 ตอ่ สปั ดาห์ 30

ตอ่ ภาค 680 15.5 ต่อภาค 600
เรียน เรียน

ต่อปี รวม 1280 ช่ัวโมง 29 หนว่ ยกติ

29

มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 (ปีการศกึ ษา 2562)

ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2

รหัสวชิ า รายวิชาพ้นื ฐาน นก. รหสั วิชา รายวิชาพนื้ ฐาน นก.
1.0
ท32101 ภาษาไทย 1.0 ท32102 ภาษาไทย 1.0
1.5
ค30103 คณติ ศาสตร์ 1.0 ค30104 คณติ ศาสตร์ 1.0
0.5
ว วิทย์กายภาพ1 1.5 ว วิทยก์ ายภาพ2 0.5
0.5
ส32101 สงั คมศกึ ษา 1.0 ส32102 สงั คมศกึ ษา 1.0
7.0
พ32101 สุขศกึ ษา 0.5 พ32102 สุขศกึ ษา
0.5
ศ32101 ศิลปะ 0.5 ศ32102 ศลิ ปะ 0.5
1.0
ง การงานอาชีพ(งานบา้ น) 0.5 ง32102 การงานอาชพี (งานช่าง)
3.0
อ32101 ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน 1.0 อ 32102 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
1.0
รวมพืน้ ฐาน 280 7.0 รวมพ้นื ฐาน 280 1.0
7.0
รายวิชาเพมิ่ เตมิ รายวชิ าเพิ่มเตมิ
20.0
อ 30221 ภาษาอังกฤษฟงั -พดู 3 0.5 อ30222 ภาษาองั กฤษฟงั -พดู 4 20.0
20.0
พ32201 พลศกึ ษา 3 0.5 พ32202 พลศึกษา 4 60.0
นก.
ง32241 การผลติ ภาพยนตรส์ นั้ 1.0 ง32245 คอมพิวเตอรก์ ราฟิกและการออกแบบ 1
14.0
พ ฟุตบอลเพ่อื ความเปน็ เลศิ 3 พ ฟตุ บอลเพอ่ื ความเป็นเลศิ 4

พ มวยไทยเพื่อความเป็นเลศิ 3 พ มวยไทยเพอื่ ความเปน็ เลศิ 4

พ กรฑี าเพื่อความเป็นเลิศ3 3.0 พ กรฑี าเพอื่ ความเปน็ เลิศ4

พ วอลเลยบ์ อลเพอ่ื ความเปน็ เลศิ 3 พ วอลเลยบ์ อลเพ่อื ความเป็นเลิศ4

I IS1 1.0 I IS2

ว วิทยาศาตรก์ ารกีฬา3 1.0 ว วิทยาศาตร์การกีฬา4

รวมเพม่ิ เตมิ 280 7.0 รวมเพ่มิ เตมิ 280

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน

- กิจกรรมแนะแนว 20.0 - กิจกรรมแนะแนว

- กิจกรรมชมุ นุม 20.0 - กจิ กรรมชุมนุม

- กจิ กรรมเพือ่ สังคมฯ 20.0 - กิจกรรมเพือ่ สังคมฯ

รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 60.0 รวมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น

รวม เวลาเรยี น (ช่วั โมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ช่วั โมง)

ตอ่ สัปดาห์ 31 ตอ่ สัปดาห์ 31

ตอ่ ภาค 620 14.0 ตอ่ ภาค 620
เรยี น เรยี น

ต่อปี รวม 1240 ช่วั โมง 28 หน่วยกติ

30

มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 (ปกี ารศึกษา 2563)

ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหสั วิชา รายวชิ าพ้นื ฐาน นก. รหัสวิชา รายวชิ าพ้นื ฐาน นก.

ท33101 ภาษาไทย 1.0 ท33102 ภาษาไทย 1.0

ค30105 คณิตศาสตร์ 1.0 ค30106 คณติ ศาสตร์ 1.0

ว วทิ ย์โลกดาราศาสตร์ ฯ 1.5

ส33101 สังคมศึกษา 1.0 ส33102 สังคมศกึ ษา 1.0

พ33101 สขุ ศึกษา 0.5 พ33102 สขุ ศึกษา 0.5

ศ33101 ศลิ ปะ 0.5 ศ33102 ศิลปะ 0.5

ง การงานอาชีพ(งานธรุ กจิ ) 0.5

อ 33101 ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 1.0 อ33102 ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน 1.0

รวมพื้นฐาน 280 7.0 รวมพื้นฐาน 200 5.0

รายวิชาเพม่ิ เตมิ รายวิชาเพม่ิ เติม

อ 30223 ภาษาองั กฤษฟงั -พดู 5 0.5 อ 30224 ภาษาองั กฤษฟงั -พดู 6 0.5

พ33201 พลศึกษา 5 0.5 พ33202 พลศึกษา 6 0.5

ง33244 คอมพิวเตอร์กราฟิกและการ 1.0 ง33245 การพฒั นาเวบ็ ไซดส์ าเร็จรปู CMS 1.0
ออกแบบ 2

พ ฟุตบอลเพอื่ ความเปน็ เลศิ 5 พ ฟุตบอลเพ่อื ความเปน็ เลศิ 6

พ มวยไทยเพ่ือความเปน็ เลศิ 5 พ มวยไทยเพ่อื ความเป็นเลศิ 6

พ กรีฑาเพอ่ื ความเป็นเลิศ5 3.0 พ กรฑี าเพื่อความเป็นเลิศ6 3.0

พ วอลเลยบ์ อลเพื่อความเปน็ เลิศ5 พ วอลเลย์บอลเพ่อื ความเปน็ เลศิ 6

IS3(มก. 1.0) ตวิ (มก 4.5 หน่วย)

ว วิทยาศาตรก์ ารกีฬา5 1.0 ว วทิ ยาศาตร์การกฬี า6 1.0

รวมเพิม่ เตมิ 240 6.0 รวมเพิ่มเตมิ 240 6.0

กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

- กจิ กรรมแนะแนว 20.0 - กจิ กรรมแนะแนว 20.0

- กิจกรรมชมุ นมุ 20.0 - กิจกรรมชุมนมุ 20.0

- กิจกรรมเพือ่ สงั คมฯ 20.0 - กิจกรรมเพือ่ สงั คมฯ 20.0

รวมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 60.0 รวมกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น 60.0

รวม เวลาเรยี น (ชั่วโมง) นก. รวม เวลาเรยี น (ชัว่ โมง) นก.

ตอ่ สปั ดาห์ 29 ต่อสัปดาห์ 25

ต่อภาค 580 13.0 ต่อภาค 500 11.0
เรยี น เรียน

ต่อปี รวม 1080 ชวั่ โมง 24 หนว่ ยกติ 81.0

31

คาอธิบายรายวชิ าเฉพาะวชิ าเพมิ่ เตมิ
หอ้ งเรยี นพิเศษทส่ี ่งเสรมิ ความเปน็ เลิศทางกฬี า

32

คาอธิบายรายวชิ า สาระการเรียนรเู้ พิม่ เตมิ
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา จานวน 1.๐ หน่วยกติ
เวลาเรยี น ๔0 ชัว่ โมง
รายวิชากรีฑา ๑ รหัสวชิ า พ 20231
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1

ศึกษาขอ้ มลู ข่าวสาร ระเบยี บ ข้อบงั คับ กฎกติกากรฑี า ทักษะการเลน่ กรฑี าแตล่ ะประเภท
ประกอบด้วย ประเภทระยะส้ัน ประเภทระยะกลาง ระยะไกล ประเภททมุ่ พุ่ง ขว้าง ประเภทรวม

โดยการแสดงการพฒั นาการของทักษะการเล่นกรฑี าแต่ละประเภทของตนเอง การประเมิน
ความสามารถทางทักษะกรีฑาแตล่ ะประเภทของตนเองทงั้ ก่อนการแข่งขัน ขณะแขง่ ขันและหลังการ
แขง่ ขัน การนาปัจจยั ท่ีมอี ิทธิพลตอ่ ความสามารถในการเลน่ กรีฑาไปใชใ้ นการฝกึ ซ้อมแตล่ ะประเภท

มีคณุ ลกั ษณะของนักกรฑี าที่ดี ประกอบดว้ ยความกลา้ หาญ ความอดทน รแู้ พ้ รูช้ นะ รูจ้ ักให้
อภัย ไม่เอาเปรยี บ สามัคคี การให้ความรว่ มมอื กับกล่มุ ไม่เหน็ แก่ตัวมคี วามเออ้ื อาทร มจี ิตวิญญาณใน
การแข่งขนั อนั ประกอบดว้ ยความมงุ่ ม่นั ทุ่มเทกาลังกาย กาลงั ใจ ความรูค้ วามสามารถในการแข่งขันและ
รว่ มมือกันอย่างสันติอยา่ งเต็มความสามารถเพ่ือใหไ้ ดม้ าซง่ึ ผลท่ตี นเองตอ้ งการ

ผลการเรยี นรู้
1. เขา้ ใจขอ้ มูลข่าวสาร ระเบยี บ ข้อบังคบั กฎกติกากรฑี า
2. แสดงทักษะการเลน่ กรีฑาแต่ละประเภทประกอบดว้ ย ประเภทระยะสนั้ ประเภทระยะกลาง
ระยะไกล ประเภทท่มุ พุ่ง ขวา้ ง ประเภทรวม
3. การแสดงการพฒั นาการของทักษะการเลน่ กรฑี าแต่ละประเภทของตนเอง
4. การประเมนิ ความสามารถทางทกั ษะกรีฑาแตล่ ะประเภทของตนเองท้งั ก่อนการแขง่ ขัน ขณะ
แขง่ ขนั และหลังการแขง่ ขัน
5. การนาปจั จัยท่ีมีอิทธิพลต่อความสามารถในการเล่นกรฑี าไปใชใ้ นการฝึกซอ้ มแต่ละประเภท
6. การใหค้ วามรว่ มมือกับกลุ่ม ไม่เห็นแกต่ ัวมีความเออื้ อาทร มจี ิตวญิ ญาณในการแขง่ ขันอัน
ประกอบดว้ ยความมุ่งม่นั ท่มุ เทกาลงั กาย กาลงั ใจ ความรู้ความสามารถในการแขง่ ขนั และ
ร่วมมือกันอย่างสนั ติอย่างเต็มความสามารถ

รวม 6 ผลการเรียนรู้

33

คาอธบิ ายรายวชิ า สาระการเรียนร้เู พ่ิมเติม
กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศึกษา จานวน 1.๐ หน่วยกติ
เวลาเรยี น ๔0 ชั่วโมง
รายวชิ ากรฑี า ๒ รหสั วิชา พ 2023๒
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1

ศึกษาการแสดงตนเป็นนักกรีฑาท่ดี อี ยา่ งสม่าเสมอ การจาแนกองคป์ ระกอบของสมรรถภาพ
ทางกาย เพื่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกลไก ระดบั สมรรถภาพทางกายของนักกรีฑา (ระดบั ดี
มาก ระดับดี ระดบั ปานกลาง) และความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจติ

ผลการเรยี นรู้
1. การแสดงตนเป็นนักกรีฑาทด่ี อี ยา่ งสมา่ เสมอ
2. การจาแนกองค์ประกอบของสมรรถภาพทางการเพอ่ื สุขภาพและสมรรถภาพทางกลไก ระดับ
สมรรถภาพทางกายของนักกรีฑา (ระดบั ดีมาก ระดับดี ระดับปานกลาง)
3. การแสดงทักษะความสัมพันธร์ ะหว่างสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจติ

รวม 3 ผลการเรยี นรู้

34

คาอธบิ ายรายวชิ า สาระการเรียนรู้เพ่ิมเตมิ
กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศกึ ษาและพลศึกษา จานวน 1.๐ หน่วยกิต
เวลาเรียน ๔0 ช่ัวโมง
รายวชิ ากรฑี า ๓ รหสั วชิ า พ 20233
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี 1

ศึกษาและวเิ คราะหเ์ ทคนิคการเล่นและการแข่งขันกรีฑาแตล่ ะประเภท การมเี ทคนคิ การเล่น
กรฑี า ประเภท การวางแผนการเล่นและการแขง่ ขนั กรฑี าแตล่ ะประเภทให้เหมาะสมกับตนเอง

โดยใช้กระบวนการ (PDCA) การวิเคราะห์ จดุ ออ่ น จดุ แข็ง ( SWOT Analysis) และหลกั
อรยิ ะสัจสี่ / ศาสนาอื่นๆ การเลอื กปัจจยั ท่ีส่งผลต่อความสามารถ ในการเล่นกรฑี าไปใช้ในการฝกึ ซ้อม
และแข่งขัน

มคี ุณลักษณะของนักกรีฑาทด่ี ีและการนาไปใชใ้ นการแข่งขัน ประกอบดว้ ยความกล้าหาญ ความ
อดทนความอดทน รู้แพ้ รชู้ นะ รู้จักให้อภัย ไม่เอาเปรียบ สามคั คี การให้ความรว่ มมือกบั กลุ่ม ไม่เห็นแก่
ตัว การใหค้ วามช่วยเหลอื ผู้อ่ืน ซือ่ สัตย์ สุจริต มีความมัน่ คงทางอารมณ์ เคารพสทิ ธิของผ้อู ่ืน มีความ
รบั ผิดชอบ มีความเอื้ออาทร มีจติ วญิ ญาณในการแขง่ ขันอันประกอบดว้ ยความมงุ่ ม่นั ทุ่มเทกาลงั
กาย กาลงั ใจ ความรคู้ วามสามารถในการแขง่ ขนั และรว่ มมือกนั อย่างสนั ตอิ ย่างเต็มความสามารถ
เพ่ือให้ไดม้ าซงึ่ ผลทีต่ นเองตอ้ งการ

ผลการเรียนรู้
1. การวเิ คราะห์เทคนคิ การเล่นและการแข่งขนั กรีฑาแตล่ ะประเภท

2. การวางแผนการเล่นและการแข่งขนั กรีฑาแต่ละประเภทให้เหมาะสมกบั ตนเองโดยใช้

กระบวนการ (PDCA)

3. การวิเคราะห์ จดุ ออ่ น จุดแขง็ ( SWOT Analysis) และหลักอริยะสจั ส่ี / ศาสนาอ่ืนๆ

4. การเลือกปจั จยั ท่ีสง่ ผลต่อความสามารถ ในการเล่นกรีฑาไปใชใ้ นการฝึกซ้อมและแขง่ ขัน

5. การสังเคราะห์คุณลกั ษณะของนักกรฑี าท่ีดแี ละการนาไปใช้ในการแขง่ ขนั

6. มีความรคู้ วามสามารถในการแข่งขันและร่วมมอื กนั อย่างสันตอิ ยา่ งเตม็ ความสามารถเพ่อื ให้

ได้มาซ่ึงผลทีต่ นเองต้องการ

รวม 6 ผลการเรียนรู้

35

คาอธิบายรายวชิ า สาระการเรยี นรเู้ พิ่มเตมิ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หน่วยกติ
เวลาเรียน ๔0 ชัว่ โมง
รายวิชากรีฑา ๔ รหสั วชิ า พ 2023๔
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒

ศึกษาการแสดงตนเป็นแบบอย่างของนักกรีฑาท่ีดี ความหมายของแต่ละองค์ประกอบของ
สมรรถภาพทางกลไกอนั ประกอบด้วย ความคลอ่ งตวั ความเร็ว การทางานประสานสัมพันธ์ การทรงตัว
พลัง เวลาปฏิกิริยาตอบสนอง การทดสอบสมรรถภาพทางกลไกของนักกรีฑา ความสัมพันธ์ระหว่าง
สมรรถภาพ ทางกลไกและสมรรถภาพทางจติ

โดยใชก้ ระบวนการ (PDCA) การวเิ คราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง ( SWOT Analysis) และหลกั
อริยะสจั ส่ี / ศาสนาอนื่ ๆ การเลือกปจั จยั ท่ีส่งผลต่อความสามารถ ในการเล่นกรฑี าไปใชใ้ นการฝึกซอ้ ม
และแข่งขัน

มีคุณลักษณะของนักกรฑี าท่ีดแี ละการนาไปใช้ในการแข่งขัน ประกอบดว้ ยความกลา้ หาญ ความ
อดทนความอดทน รูแ้ พ้ รู้ชนะ รจู้ กั ให้อภัย ไมเ่ อาเปรยี บ สามคั คี การให้ความร่วมมือกับกล่มุ ไมเ่ ห็นแก่
ตัว การให้ความช่วยเหลอื ผ้อู ่ืน ซ่ือสัตย์ สจุ ริต มีความมัน่ คงทางอารมณ์ เคารพสทิ ธิของผ้อู ่ืน มีความ
รบั ผิดชอบ มคี วามเอ้ืออาทร มีจติ วญิ ญาณในการแขง่ ขันอันประกอบด้วยความมุ่งม่ัน ทุม่ เทกาลงั
กาย กาลงั ใจ ความรูค้ วามสามารถในการแข่งขันและร่วมมอื กันอย่างสันตอิ ย่างเต็มความสามารถ
เพือ่ ใหไ้ ดม้ าซึง่ ผลทตี่ นเองตอ้ งการ
ผลการเรียนรู้

1. การแสดงตนเป็นแบบอย่างของนักกรีฑาท่ีดี

2. เขา้ ใจความหมายของแต่ละองคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกลไก

3. การทดสอบสมรรถภาพทางกลไกของนักกรีฑา ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสมรรถภาพ ทางกลไก

และสมรรถภาพทางจติ

4. การวางแผนการเล่นและการแขง่ ขันกรฑี าแตล่ ะประเภทใหเ้ หมาะสมกบั ตนเองโดยใช้

กระบวนการ (PDCA)

5. การวเิ คราะห์ จุดอ่อน จดุ แขง็ ( SWOT Analysis) และหลักอรยิ ะสจั สี่ / ศาสนาอืน่ ๆ

6. การเลือกปัจจยั ท่ีสง่ ผลตอ่ ความสามารถ ในการเล่นกรีฑาไปใชใ้ นการฝกึ ซ้อมและแขง่ ขัน

7. การสังเคราะห์คุณลกั ษณะของนักกรฑี าที่ดแี ละการนาไปใช้ในการแข่งขัน

8. มคี วามรคู้ วามสามารถในการแข่งขันและร่วมมือกนั อย่างสันตอิ ยา่ งเต็มความสามารถเพ่อื ให้

ได้มาซึง่ ผลทีต่ นเองต้องการ

รวม 8 ผลการเรยี นรู้

36

คาอธบิ ายรายวชิ า สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา จานวน 1.๐ หน่วยกิต
เวลาเรยี น ๔0 ชว่ั โมง
รายวิชากรีฑา ๕ รหัสวชิ า พ 2023๕
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑

ศกึ ษาและการวเิ คราะหก์ ลวธิ ีการเลน่ และการแข่งขนั กรีฑาตามประเภท
โดยใชก้ ลวิธีการเล่นและการแข่งขนั กรฑี าตามประเภทไดอ้ ยา่ งเหมาะสม การประเมินปัจจัยที่มี
ผลต่อความสามารถในการเล่นและการแขง่ ขันกรฑี า
เห็นคุณค่าของคณุ ลกั ษณะของนักกรฑี าทีด่ ีและนามาใช้ในการแข่งขนั

ผลการเรยี นรู้
1. การวิเคราะห์กลวธิ ีการเลน่ และการแขง่ ขนั กรฑี าตามประเภท
2. วิเคราะห์กลวิธีการเล่นและการแขง่ ขนั กรฑี าตามประเภทไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. การประเมนิ ปัจจัยท่ีมผี ลต่อความสามารถในการเล่นและการแขง่ ขันกรฑี า
4. เห็นคุณค่าของคุณลักษณะของนกั กรีฑาทด่ี ีและนามาใช้ในการแข่งขัน

รวม 4 ผลการเรยี นรู้

37

คาอธิบายรายวชิ า สาระการเรยี นรเู้ พ่ิมเตมิ
กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา จานวน 1.๐ หนว่ ยกติ
เวลาเรียน ๔0 ชว่ั โมง
รายวชิ ากรฑี า ๖ รหัสวชิ า พ 2023๖
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒

ศึกษาและเข้าใจความหมายของแตล่ ะองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกลไก
โดยการรกั ษาระดบั สมรรถภาพทางกลไกของตนเองและระดบั สมรรถภาพทางกลไกตามเกณฑ์
มีคา่ นยิ มของการเปน็ นักกรฑี าทด่ี ีและมีจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั

ผลการเรียนรู้
1. เขา้ ใจความหมายของแตล่ ะองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกลไก
2. รักษาระดบั สมรรถภาพทางกลไกของตนเองและระดับสมรรถภาพทางกลไกตามเกณฑ์
3. แสดงออกถงึ ค่านยิ มของการเปน็ นกั กรีฑาทดี่ ีและมีจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั

รวม 3 ผลการเรยี นรู้

38

คาอธบิ ายรายวชิ า สาระการเรยี นร้เู พ่มิ เติม
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หน่วยกติ
เวลาเรยี น ๔0 ช่วั โมง
รายวิชากรฑี า ๑ รหัสวชิ า พ ๓023๓
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑

การวิเคราะห์ขอ้ มูล ข่าวสาร สารสนเทศและเทคโนโลยีทางการกฬี า เพือ่ ใช้ในการฝกึ ซ้อมและ
การแขง่ ขันกรฑี า การวเิ คราะห์เทคนิค และวางแผนการเลน่ การแขง่ ขันกรีฑาการแสดงความสามารถใน
การแข่งขันกรีฑาแตล่ ะประเภท

โดยการนาผลการประเมินปจั จยั ทมี่ ีผลต่อประสทิ ธิภาพของนักกรฑี าแต่ละประเภทไปใช้พัฒนา
ตนเอง การแสดงจติ วิญญาณในการแข่งขนั กรฑี าตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้ ซ่งึ จิตวญิ ญาณ ในการ
แข่งขนั หมายถงึ มีความม่งุ มัน่ ทมุ่ เทกาลงั กาย กาลงั ใจ ความรคู้ วามสามารถในการแขง่ ขันและร่วมมือ
กนั อยา่ งสนั ติเตม็ ความสามารถเพอ่ื ให้ได้มาซง่ึ ผลท่ีตนเองต้องการ

ผลการเรยี นรู้
1. การวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศและเทคโนโลยที างการกีฬา เพือ่ ใช้ในการฝกึ ซอ้ มและ
การแขง่ ขนั กรฑี า
2. การวเิ คราะห์เทคนคิ และวางแผนการเลน่
3. การแข่งขันกรีฑาการแสดงความสามารถในการแข่งขนั กรฑี าแต่ละประเภท
4. การนาผลการประเมนิ ปจั จยั ท่มี ีผลตอ่ ประสิทธิภาพของนักกรฑี าแตล่ ะประเภทไปใช้พฒั นา
ตนเอง
5. การแสดงจิตวญิ ญาณในการแขง่ ขันกรีฑาตามเปา้ หมายทกี่ าหนดไว้ ซ่ึงจิตวิญญาณ ในการ
แขง่ ขัน

รวม 5 ผลการเรยี นรู้

39

คาอธบิ ายรายวิชา สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเติม
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา จานวน 1.๐ หนว่ ยกิต
เวลาเรยี น ๔0 ชัว่ โมง
รายวชิ ากรฑี า ๒ รหสั วิชา พ ๓023๔
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนท่ี ๒

การเปรยี บเทยี บผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกตามเกณฑท์ ่ีกาหนด และเป็นแบบอย่างที่ดี
ในการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกลไก การวิเคราะหป์ จั จยั ทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ สมรรถภาพทางจติ ใจท่สี ง่ ผลตอ่
ความสามารถทางกรีฑาประกอบด้วยปัจจัยภายใน เช่น แรงจูงใจ ความรูส้ านึก ปจั จัยภายนอก เช่น
สนามฝึกซ้อม อุปกรณแ์ สง เสียง อณุ หภมู ิ ผลกระทบจากเสยี ง ชว่ งเวลาการฝกึ เล่นระดับความสงู จาก
น้าทะเล

โดยการนาผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจิตไปพฒั นาตนเอง การ
วางแผนสรา้ งเสริมระดบั สมรรถภาพทางกลไกได้ดว้ ยตนเองโดยการเปรยี บเทยี บผลการทดสอบ
สมรรถภาพทางกลไกของตนเองเป็นระยะ

ยึดมั่นใน คุณลักษณะและคา่ นยิ มของนักกรีฑาที่ดีประกอบด้วยความกลา้ หาญ ความอดทน รู้
แพ้ ร้ชู นะ รู้จักใหอ้ ภัย ไมเ่ อาเปรยี บ สามคั คี การให้ความร่วมมือกับกลุ่ม ไม่เหน็ แก่ตวั การให้ความ
ชว่ ยเหลือผอู้ ื่น ซอ่ื สัตย์ สุจริต มีความมัน่ คงทางอารมณ์ เคารพสิทธิของผอู้ ื่น มีความรับผิดชอบ มี
ความเอือ้ อาทร
ผลการเรียนรู้

1. ยึดมัน่ ใน คณุ ลักษณะและค่านยิ มของนักกรีฑาที่ดีประกอบดว้ ยความกล้าหาญ ความอดทน รู้

แพ้ รูช้ นะ รูจ้ ักให้อภัย ไมเ่ อาเปรียบ สามคั คี การใหค้ วามรว่ มมอื กบั กลุ่ม ไมเ่ ห็นแกต่ วั การ

ใหค้ วามชว่ ยเหลือผูอ้ ืน่ ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ มีความมัน่ คงทางอารมณ์ เคารพสิทธิของผูอ้ ่ืน มี

ความรับผดิ ชอบ มีความเอื้ออาทร

2. การนาผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจติ ไปพัฒนาตนเอง

3. การวางแผนสร้างเสรมิ ระดับสมรรถภาพทางกลไกไดด้ ้วยตนเองโดยการเปรียบเทียบผลการ

ทดสอบสมรรถภาพทางกลไกของตนเองเป็นระยะ

4. การเปรียบเทยี บผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกตามเกณฑท์ ่ีกาหนด

5. เป็นแบบอยา่ งทดี่ ีในการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกลไก การวเิ คราะหป์ จั จยั ที่มอี ิทธิพลต่อ

สมรรถภาพทางจติ ใจที่สง่ ผลต่อความสามารถทางกรฑี า

รวม 5 ผลการเรยี นรู้

40

คาอธบิ ายรายวิชา สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เตมิ
กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หน่วยกติ
เวลาเรยี น ๔0 ช่ัวโมง
รายวิชากรฑี า ๓ รหัสวชิ า พ ๓023๕
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑

การวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารสารสนเทศและเทคโนโลยีทางการกีฬา เพอ่ื ใชใ้ นการฝกึ ซ้อมและ
การแข่งขันกรีฑา การวิเคราะหเ์ ทคนิค และวางแผนการเลน่ การแข่งขนั กรฑี าการแสดงความสามารถใน
การแขง่ ขนั กรฑี าแต่ละประเภท

โดยการนาผลการประเมนิ ปัจจยั ที่มผี ลตอ่ ประสทิ ธภิ าพของนักกรฑี า แต่ละประเภทไปใช้
พัฒนาตนเอง

การแสดงจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั กรฑี าตามเป้าหมายทก่ี าหนดไว้ ซง่ึ จติ วิญญาณในการ
แขง่ ขนั หมายถงึ มีความมงุ่ มนั่ ทุ่มเทกาลงั กาย กาลังใจ ความรคู้ วามสามารถ ในการแข่งขนั และร่วมมือ
กนั อย่างสนั ตเิ ต็มความสามารถเพื่อใหไ้ ดม้ าซ่ึงผลท่ตี นเองตอ้ งการ

ผลการเรียนรู้
1. การวเิ คราะหข์ อ้ มูล ข่าวสารสารสนเทศและเทคโนโลยที างการกฬี า เพือ่ ใช้ในการฝึกซ้อมและ
การแข่งขันกรีฑา
2. การวิเคราะห์เทคนิค และวางแผนการเลน่
3. การแข่งขนั กรฑี าการแสดงความสามารถในการแข่งขันกรฑี าแต่ละประเภท
4. การนาผลการประเมนิ ปัจจัยที่มีผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพของนักกรฑี า แต่ละประเภทไปใช้พัฒนา
ตนเอง
5. การแสดงจติ วิญญาณในการแข่งขันกรีฑาตามเปา้ หมายทก่ี าหนดไว้

รวม 5 ผลการเรยี นรู้

41

คาอธิบายรายวชิ า สาระการเรียนรู้เพม่ิ เตมิ
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หนว่ ยกติ
เวลาเรยี น ๔0 ชัว่ โมง
รายวิชากรฑี า ๔ รหสั วิชา พ ๓023๖
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒

การเปรียบเทียบผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกตามเกณฑ์ทก่ี าหนด และเป็นแบบอย่างท่ี
ดีในการสร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกลไก การวิเคราะห์ปจั จยั ทีม่ ีอิทธพิ ลต่อสมรรถภาพทางจิตใจท่ีสง่ ผล
ต่อความสามารถทางกรีฑาประกอบด้วยปัจจัยภายใน เชน่ แรงจูงใจ ความร้สู านกึ ปจั จัยภายนอก เช่น
สนามฝึกซ้อม อุปกรณแ์ สง เสยี ง อณุ หภูมิ ผลกระทบจากเสยี ง ช่วงเวลาการฝึก เลน่ ระดับความสูงจาก
น้าทะเล

การนาผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจิตไปพัฒนาตนเอง การวางแผน
สร้างเสริมระดับสมรรถภาพทางกลไกไดด้ ว้ ยตนเองโดยการเปรยี บเทยี บผลการทดสอบสมรรถภาพทาง
กลไก ของตนเองเปน็ ระยะ

ยดึ ม่นั ใน คณุ ลักษณะและค่านยิ มของนกั กรฑี าทดี่ ีประกอบดว้ ยความกลา้ หาญ ความอดทน
รู้แพ้ รชู้ นะ รู้จักใหอ้ ภัย ไมเ่ อาเปรียบ สามัคคี การให้ความรว่ มมอื กับกลุ่ม ไมเ่ ห็นแก่ตัว การใหค้ วาม
ช่วยเหลือผอู้ ่ืน ซื่อสตั ย์ สจุ ริต มีความมั่นคงทางอารมณ์ เคารพสทิ ธิของผ้อู น่ื มีความรับผิดชอบ มีความ
เอื้ออาทร

ผลการเรยี นรู้
1. ยดึ มน่ั ใน คณุ ลักษณะและค่านยิ มของนักกรีฑาท่ดี ี

2. การนาผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจิตไปพฒั นาตนเอง

3. การวางแผนสร้างเสรมิ ระดบั สมรรถภาพทางกลไกไดด้ ้วยตนเองโดยการเปรยี บเทยี บผลการ

ทดสอบสมรรถภาพทางกลไกของตนเองเป็นระยะ

4. การเปรียบเทียบผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกตามเกณฑ์ทีก่ าหนด

5. เป็นแบบอยา่ งที่ดีในการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกลไก

6. การวิเคราะห์ปจั จยั ท่ีมอี ิทธิพลต่อสมรรถภาพทางจิตใจทสี่ ่งผลตอ่ ความสามารถทางกรีฑา

รวม 6 ผลการเรียนรู้

42

คาอธบิ ายรายวชิ า สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเติม
กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หน่วยกิต
เวลาเรยี น ๔0 ชว่ั โมง
รายวชิ ากรฑี า ๕ รหัสวิชา พ ๓023๗
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑

การวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารสารสนเทศและเทคโนโลยีทางการกฬี า เพ่ือใชใ้ นการฝึกซ้อมและ
การแข่งขนั กรีฑา การวเิ คราะหเ์ ทคนคิ และวางแผนการเล่น การแข่งขนั กรีฑาการแสดงความสามารถ
ในการแขง่ ขันกรีฑาแตล่ ะประเภท

โดยการนาผลการประเมินปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ ประสทิ ธิภาพของนกั กรฑี าแตล่ ะประเภทไปใช้พฒั นา
ตนเอง

การแสดงจิตวญิ ญาณในการแขง่ ขันกรฑี าตามเปา้ หมายที่กาหนดไว้ ซงึ่ จิตวญิ ญาณในการแข่งขัน
หมายถึง มคี วามมุ่งมน่ั ทมุ่ เทกาลงั กาย กาลงั ใจ ความรูค้ วามสามารถในการแข่งขนั และร่วมมือกนั อย่าง
สันติเตม็ ความสามารถเพอื่ ใหไ้ ดม้ าซ่งึ ผลทตี่ นเองตอ้ งการ

ผลการเรียนรู้
1. การวิเคราะห์ข้อมลู ข่าวสารสารสนเทศและเทคโนโลยีทางการกีฬา เพ่อื ใช้ในการฝึกซ้อมและ
การแข่งขันกรฑี า
2. การวเิ คราะหเ์ ทคนิค และวางแผนการเล่น การแข่งขันกรีฑาการแสดงความสามารถ ในการ
แขง่ ขันกรีฑาแตล่ ะประเภท
3. การนาผลการประเมินปจั จัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพของนกั กรฑี าแตล่ ะประเภทไปใชพ้ ัฒนา
ตนเองการแสดงจติ วิญญาณในการแขง่ ขันกรฑี าตามเปา้ หมายทีก่ าหนดไว้

รวม 3 ผลการเรียนรู้

43

คาอธิบายรายวชิ า สาระการเรียนร้เู พม่ิ เตมิ
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หน่วยกติ
เวลาเรยี น ๔0 ชว่ั โมง
รายวิชากรฑี า ๖ รหสั วชิ า พ ๓023๘
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒

ยึดม่ันใน คณุ ลักษณะและคา่ นิยมของนกั กรีฑาท่ดี ีประกอบดว้ ยความกล้าหาญ ความอดทน รู้
แพ้ รู้ชนะ รูจ้ ักให้อภยั ไมเ่ อาเปรียบ สามคั คี การใหค้ วามร่วมมือกบั กลมุ่ ไมเ่ ห็นแก่ตวั การให้ความ
ช่วยเหลอื ผอู้ ืน่ ซอ่ื สัตย์ สุจริต มีความมั่นคงทางอารมณ์ เคารพสิทธิของผ้อู ืน่ มีความรบั ผิดชอบ มีความ
เอ้อื อาทร การนาผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจติ ไปพัฒนาตนเอง การ
วางแผนสรา้ งเสรมิ ระดบั สมรรถภาพทางกลไกได้ด้วยตนเองโดยการเปรยี บเทยี บผลการทดสอบ
สมรรถภาพทางกลไก ของตนเองเปน็ ระยะ การเปรียบเทียบผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกตาม
เกณฑ์ทกี่ าหนด และเปน็ แบบอย่างท่ดี ใี นการสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกลไก การวิเคราะห์ปจั จัยท่ีมี
อิทธพิ ลต่อสมรรถภาพทางจิตใจท่สี ง่ ผลตอ่ ความสามารถทางกรฑี าประกอบด้วยปจั จยั ภายใน เชน่
แรงจงู ใจ ความร้สู านึก ปัจจัยภายนอก เชน่ สนามฝกึ ซ้อม อปุ กรณ์แสง เสียง อณุ หภมู ิ ผลกระทบจาก
เสยี ง ชว่ งเวลาการฝึก เล่น ระดับความสูงจากนา้ ทะเล

ผลการเรียนรู้
1. ยดึ มั่นใน คณุ ลกั ษณะและคา่ นิยมของนักกรฑี าทีด่ ี
2. การนาผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจติ ไปพัฒนาตนเอง
3. การวางแผนสรา้ งเสริมระดับสมรรถภาพทางกลไกไดด้ ้วยตนเองโดยการเปรียบเทียบผลการ
ทดสอบสมรรถภาพทางกลไก ของตนเองเปน็ ระยะ
4. การเปรยี บเทยี บผลการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกตามเกณฑท์ ก่ี าหนด และเปน็
แบบอยา่ งท่ีดีในการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกลไก
5. การวิเคราะหป์ ัจจัยทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ สมรรถภาพทางจิตใจทีส่ ่งผลต่อความสามารถทางกรฑี า

รวม 5 ผลการเรียนรู้

44

คาอธิบายรายวชิ า สาระการเรยี นรูเ้ พิ่มเตมิ
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หนว่ ยกติ
เวลาเรยี น ๔0 ชว่ั โมง
รายวิชาฟตุ บอล ๑ รหัสวิชา พ 20243
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑

ศึกษาวเิ คราะห์ และแยกแยะขอ้ มูล ข่าวสาร ระเบียบ ขอ้ บังคับ กฎ กติกา กีฬาฟุตบอลได้ทนั
เหตุการณ์

แสดงพฒั นาการของทักษะพืน้ ฐานการเลน่ กฬี าฟตุ บอลของตนเอง และสามารถประเมนิ
ความสามารถทางทักษะกีฬาพนื้ ฐานกฬี าฟตุ บอลของตนเอง นาปัจจยั ทีม่ ีอทิ ธพิ ลตอ่ ความสามารถใน
การเลน่ กีฬาฟตุ บอลไปใชใ้ นการฝึกซอ้ มและการแขง่ ขันได้ สามารถวเิ คราะหค์ ุณลกั ษณะของนกั กฬี า
ฟตุ บอลทด่ี ี

แสดงตนการเปน็ นกั กฬี าทด่ี ีอย่างสมา่ เสมอ สามารถแยกองคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกลไก
ปลกู ฝังการเปน็ นกั กีฬาฟตุ บอลที่มีคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และมีจิต
วญิ ญาณ ในการแขง่ ขนั กีฬาฟตุ บอลเพ่อื ความเป็นเลิศ

ผลการเรยี นรู้
1. ศึกษาวิเคราะห์ และแยกแยะข้อมลู ข่าวสาร ระเบยี บ ข้อบังคบั กฎ กติกา กีฬาฟุตบอลไดท้ ัน
เหตุการณ์
2. แสดงพัฒนาการของทกั ษะพ้ืนฐานการเล่นกฬี าฟตุ บอลของตนเองและสามารถประเมนิ
ความสามารถทางทกั ษะกีฬาพ้นื ฐานกฬี าฟุตบอลของตนเอง
3. นาปัจจยั ทม่ี ีอิทธิพลต่อความสามารถในการเลน่ กีฬาฟตุ บอลไปใช้ในการฝกึ ซ้อมและการแขง่ ขนั
ได้
4. สามารถวิเคราะห์คุณลกั ษณะของนักกฬี าฟตุ บอลที่ดี และแสดงตนการเปน็ นักกฬี าทีด่ อี ย่าง
สม่าเสมอ
5. สามารถแยกองคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกลไก
6. ปลกู ฝังการเป็นนักกีฬาฟตุ บอลทมี่ คี ุณลกั ษณะที่พึงประสงคด์ า้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม
และมีจติ วญิ ญาณ ในการแข่งขนั กฬี าฟุตบอลเพอื่ ความเปน็ เลิศ

รวม 6 ผลการเรยี นรู้

45

คาอธบิ ายรายวิชา สาระการเรียนร้เู พ่มิ เตมิ
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หน่วยกติ
เวลาเรียน ๔0 ช่วั โมง
รายวิชาฟตุ บอล ๒ รหสั วชิ า พ 2024๔
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒

ศกึ ษาวเิ คราะห์ และแยกแยะขอ้ มลู ข่าวสาร ระเบยี บ ข้อบังคบั กฎ กติกา กีฬาฟตุ บอลไดท้ ัน
เหตกุ ารณ์ แสดงพัฒนาการของทกั ษะพ้นื ฐานการเลน่ กฬี าฟตุ บอลของตนเอง และสามารถประเมิน
ความสามารถทางทักษะกีฬาพืน้ ฐานกีฬาฟุตบอลของตนเอง

สามารถนาปัจจัยท่มี อี ิทธิพลตอ่ ความสามารถในการเล่นกีฬาฟตุ บอลไปใช้ในการฝึกซอ้ มและ
การแข่งขนั ได้ สามารถวเิ คราะหค์ ุณลกั ษณะของนกั กฬี าฟตุ บอลที่ดี และแสดงตนการเป็นนกั กีฬาที่ดี
อย่างสมา่ เสมอ สามารถแยกองคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกลไก สามารถบอกระดับสมรรถภาพทาง
กลไกชองตนเอง และความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจติ ได้

เหน็ คุณค่าของการปลกู ฝังการเปน็ นักกฬี าฟตุ บอลท่ีมีคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ด้านคณุ ธรรม
จริยธรรม ค่านิยม และมีจิตวญิ ญาณ ในการแข่งขันกฬี าฟตุ บอลเพือ่ ความเปน็ เลิศ

ผลการเรียนรู้
1. ศกึ ษาวิเคราะห์ และแยกแยะข้อมลู ข่าวสาร ระเบยี บ ข้อบังคับ กฎ กตกิ า กีฬาฟุตบอลไดท้ ัน
เหตุการณ์
2. แสดงพฒั นาการของทักษะพ้ืนฐานการเล่นกฬี าฟตุ บอลของตนเอง และสามารถประเมนิ
ความสามารถทางทกั ษะกีฬาพ้นื ฐานกีฬาฟตุ บอลของตนเอง
3. นาปจั จยั ที่มอี ิทธิพลตอ่ ความสามารถในการเล่นกีฬาฟุตบอลไปใช้ในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน
ได้
4. สามารถวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะของนักกีฬาฟุตบอลทด่ี ี และแสดงตนการเป็นนักกีฬาทีด่ อี ย่าง
สมา่ เสมอ
5. สามารถแยกองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกลไก สามารถบอกระดบั สมรรถภาพทางกลไก
ชองตนเอง และความสมั พันธ์ระหว่างสมรรถภาพทางกลไกและสมรรถภาพทางจติ ได้
6. ปลูกฝงั การเปน็ นกั กีฬาฟตุ บอลที่มคี ุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม
และมีจติ วญิ ญาณ ในการแข่งขันกีฬาฟตุ บอลเพ่อื ความเปน็ เลิศ

รวม 6 ผลการเรียนรู้

46

คาอธิบายรายวิชา สาระการเรียนรเู้ พม่ิ เตมิ
กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา จานวน 1.๐ หนว่ ยกิต
เวลาเรียน ๔0 ช่ัวโมง
รายวชิ าฟุตบอล ๓ รหัสวิชา พ 2024๕
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑

ศกึ ษา ขอ้ บงั คับ กฎ กตกิ า วเิ คราะหเ์ ทคนิคพืน้ ฐานการเลน่ กฬี าฟตุ บอลและการแข่งขนั กฬี า
ฟตุ บอล และมเี ทคนคิ พนื้ ฐานการเล่นกีฬาฟุตบอล การใช้เทคโนโลยีทางการกีฬา วิทยาศาสตร์การกฬี า
และสขุ ภาพ ความสามารถของนักกีฬาฟตุ บอลเหมาะสมกบั เพศ วัยของตนเอง

สามารถวางแผนการเล่นและการแขง่ ขันกีฬาฟุตบอลให้เหมาะสมกับเพศและวยั ของตนเอง
สังเคราะห์คุณลกั ษณะของนกั กีฬาที่ดีและนามาใช้ในการแข่งขัน

แสดงตนเป็นแบบอยา่ งของการเปน็ นักกฬี าฟุตบอลทีด่ ีการเป็นนกั กฬี าที่มคี ุณลักษณะทพี่ ึง
ประสงคด์ ้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและมจี ิตวิญญาณ ในการแข่งขนั กีฬาฟุตบอล อธิบาย
ความหมายของแต่ละองคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกลไก สามารถทดสอบสมรรถภาพทางกลไกได้

ผลการเรียนรู้
1. ศึกษา ขอ้ บงั คับ กฎ กตกิ า วเิ คราะหเ์ ทคนิคพน้ื ฐานการเล่นกีฬาฟุตบอลและการแขง่ ขันกีฬา
ฟุตบอล และมีเทคนิคพื้นฐานการเลน่ กีฬาฟตุ บอล
2. การใชเ้ ทคโนโลยีทางการกฬี า วทิ ยาศาสตร์การกฬี าและสุขภาพ ความสามารถของนักกฬี า
ฟตุ บอลเหมาะสมกับเพศ วัยของตนเอง
3. สามารถวางแผนการเล่นและการแข่งขันกฬี าฟตุ บอลให้เหมาะสมกบั เพศและวยั ของตนเอง
4. สงั เคราะห์คุณลักษณะของนักกีฬาทีด่ แี ละนามาใช้ในการแขง่ ขัน
5. แสดงตนเปน็ แบบอย่างของการเป็นนกั กีฬาฟุตบอลทด่ี ีการเป็นนกั กีฬาทีม่ คี ุณลกั ษณะท่พี ึง
ประสงค์
6. อธิบายความหมายของแต่ละองคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกลไก
7. สามารถทดสอบสมรรถภาพทางกลไกได้

รวม 7 ผลการเรยี นรู้


Click to View FlipBook Version