แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1
วชิ า ภาษาอังกฤษ 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ชื่อหน่วย About Myself จำนวน 8 คาบ
เรอื่ ง About Myself ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เวลา 1 คาบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความร้สู กึ และ
ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ชีว้ ัด ป.6/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับตนเองเพือ่ นครอบครวั และเรอื่ งใกล้ตวั
ป.6/5 พดู /เขียนแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆใกล้ตวั กิจกรรมต่างๆพร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผล
สน้ั ๆประกอบ
มาตรฐาน ต1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตา่ งๆโดยการพูดและการเขียน
ตัวชีว้ ัด ป.6/1 พดู /เขียนใหข้ ้อมลู เกยี่ วกับตนเอง เพื่อน และสิง่ แวดลอ้ มใกลต้ ัว
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ช้ีวัด ป.6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดขน้ึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระการเรียนรู้
Function Structure Vocabulary Pronunciation
1. Talking about one’s - My name is (Manat Yotying). postcode, telephone Vowel sounds
address and telephone - My address is (27/82 Pracharat 1 Road, Bangsue, number, name, age, /eI/, /aI/
number Bangkok, 10800). address
- My telephone number is (0-2512-0661).
2. - Introducing oneself - I’m (Manat Yotying). surfing the Internet,
- I’m in Prathom 6 at (Wat Thananya School). like
- Expressing likes - I like (swimming).
- I like (playing) (the guitar).
3. Asking for and giving - What’s your (name/address/telephone number)? profile
personal information My (name) is (Jane).
- How old are you?
I am (11).
- What do you like to do?
I like (swimming).
Function Structure Vocabulary Pronunciation
4. Talking about favorite
- (Jane’s) favorite (food) is (sandwiches). favorite, different,
things - What is (your) favorite (fruit)? fried rice,
delicious, fruit
5. Asking for and giving My favorite (fruit) is (coconut). pen pal, hope
information about oneself
- How long have you studied (English)? ever, never
6. Asking for and giving I’ve studied it for (six years).
information about things
you have (never) done - Have you ever been to (Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I) (have) (finished my homework).
- (He) (has) never (cleaned the room).
- Have you ever (seen) (a dolphin)?
Yes, I have./No, I haven’t.
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
นกั เรียนสามารถตอบคำถาม Howcanyoutellsomeoneaboutyourself? ได้
4. พฤติกรรมการเรยี นรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ด้านความรู้ ( Knowledge : K) บอกใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง และเรอ่ื งใกล้ตัว
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน การคิดวิเคราะห์ (แปลความ
ตีความ) กระบวนการกลุ่ม การต้ังคำถาม กระบวนการปฏิบตั ิ การเลียนเสียงเพอ่ื ส่ือความ การระบุ การ
สงั เกต การจำ การประเมนิ ตนเอง
ดา้ นเจตคต/ิ คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ (Attitude: A)
1. รักชาติ
2. ซื่อสัตยส์ จุ รติ
3. มีวินัย
4. ใฝ่ความรู้
5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
7. รกั ความเปน็ ไทย
8. มจี ติ สาธารณะ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลกั สูตรการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทักษะของผูเ้ รียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะการอ่าน (Reading)
2. ทกั ษะการ เขยี น (Writing)
3. ทกั ษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)
4. ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา
(Critical thinking and problem solving)
5. ทักษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะด้านความรว่ มมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดา้ นการสอื่ สารสารสนเทศและรู้เทา่ ทันสื่อ (Communication information
and media literacy)
9. ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินยั (compassion)
7. การบูรณาการ
1. บูรณาการรายวิชาอนื่ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ภาษาไทย
2. บูรณาการหลักสูตร STAR STEM …………………………………………………………………………….
3. อืน่ ๆ (ระบุ......................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
1สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
2. ภาษาไทย
9. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 1 เรื่อง SB หน้า 1 WB หน้า 1
ขน้ั นำ
1. Warm up
1.1 ครูแนะนำหนังสือเรียน ช่ือผู้แต่ง และกระรอกชื่อ Tiny ซ่ึงเป็นการ์ตูนสัญลักษณ์
(Mascot), และเป็นตัวนำโชคให้นักเรียนของหนังสือเรียนเล่มนี้ โดยครชู ี้ท่ีภาพของ Tiny และพูดทักทาย
นักเรียนแทน Tiny เพื่อให้นักเรียนโต้ตอบโดยใช้โครงสร้างภาษาในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคลท่ี
เคยเรยี นมา เช่น
T: Hello, class. My name is Tiny. I’m a mascot for this school year.
Ss: Hello, Tiny. Nice to meet you.
T: Nice to meet you, too. Now I would like to know you.
1.2 ครูสมมตุ ติ วั เองเป็น Tiny เดินเขา้ ไปทกั ทายนกั เรยี น
T: Hello, My name is Tiny. What’s your name?
S: My name is (Pira).
ครทู ำเช่นนีก้ บั นกั เรยี นประมาณ 5-6 คน
1.3 ให้นักเรยี นทกั ทายและถามชอื่ เพ่ือนโดยใชร้ ปู ประโยค
S1: My name is .......... . What’s your name?
S2: My name is .......... .
ขั้นสอน
2. Presentation
2.1 ครูให้นกั เรียนดูบัตรประจำตัวนักเรียน ซึ่งประกอบด้วย ชื่อ อายุ ท่ีอยู่ รหสั ไปรษณีย์ และ
เบอร์โทรศัพท์ 2-3 ตัวอย่าง ครูสอนคำศัพท์ name, age, address, postcode, telephone number
จากตัวอย่างบัตรประจำตัวเหล่านัน้ โดยเขียนบนกระดานดำ ให้นักเรียนอ่านคำศัพท์ตามท่ีครูช้ีตามความ
เข้าใจ หลังจากน้ันครูอ่านออกเสียงให้นักเรียนอ่านตามทีละคำ ครูฝึกนักเรียนเน้นเสียงหนัก-เบาในคำ
(stress) ครูเขียนเคร่ืองหมาย ˈ เหนือพยางค์ที่เน้นเสียงหนัก และครูฝึกนักเรียนออกเสียง /eI/ ในคำว่า
age โดยให้นักเรียนออกเสียงคล้ายสระ-เ- และสระ อิ ในภาษาไทยช้าๆ แล้วจึงออกเสียงให้เร็วข้ึนจนเป็น
เสียง /eI/ ของคำว่า age และออกเสียง /f/ (ph) ในคำว่า telephone ครูสาธิตและให้นักเรียนทำตาม
โดยเอาฟันบนขบรมิ ฝีปากล่างเบาๆ แลว้ ปล่อยลมออกมา ขณะปลอ่ ยลมออกมาให้ยกมือมาไว้ท่ีระดับปาก
เพ่อื ใหส้ มั ผสั วา่ มลี มออกมาหรือไม่ หลงั จากนน้ั ออกเสยี ง phone แลว้ จงึ อ่านเต็มคำวา่ ˈtelephone
2.2 ให้นักเรียนอ่านคำศัพท์ส่วนต่างๆ ในบัตรประจำตัวบนกระดานดำตามครูอีกครั้ง นักเรียน
ทุกคนสงั เกตการออกเสยี งคำเพ่ือเปรียบเทียบกับบทอ่านทีจ่ ะได้ฟังจาก CD
2.3 นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 1 Look, listen and say. ข้อ A. Listen and repeat. ใน SB
หน้า 1 ครูใหน้ กั เรยี นดูข้อความ โดยครูเปิด CD 1 ใหน้ ักเรยี นฟังและอา่ นออกเสยี งข้อความตามท่ีไดย้ นิ
2.4 ครูเปิด CD ให้นักเรยี นฟังอกี คร้ังและใหน้ ักเรียนออกเสยี งตาม CD โดยครูเปรยี บเทียบกับ
การอา่ นของนกั เรียนในคร้ังแรกวา่ เหมอื นกนั หรอื ไม่ และจะปรับแก้อย่างไร
CD Script 1
W: 1. Look, listen and say.
A. Listen and repeat.
Hello. My name is Manat Yotying. My address is 27/82 Pracharat 1
Road, Bangsue, Bangkok, 10800.
My telephone number is 0-2512-0661.
2.5 นักเรียนทำกิจกรรมที่ 1 Look, listen and say. ข้อ B. Listen, point and repeat. ครู
เปิด CD 2 ให้นักเรียนฟงั 1 ครั้ง เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสังเกตการออกเสยี ง
CD Script 2
W: 1. Look, listen and say.
B. Listen, point and repeat.
Name: Manat Yotying
Age: 11
Address: 27/82 Pracharat 1 Road, Bangsue, Bangkok
Postcode: 10800
Telephone number: 0-2512-0661
2.6 นกั เรยี นอา่ นตาม CD อกี ครงั้ ครสู นทนาซกั ถามความเขา้ ใจ เช่น
- Who’s this boy?
- His address is ……………………… .
- His telephone number is …………………… .
2.7 ให้นกั เรยี นอา่ นบัตรประจำตัวของมนสั และออกเสียงใหถ้ กู ต้องตาม CD อีกครัง้
2.8 ครูเขียนประโยคคำถาม What’s his name? และ How old is he? What is his
address ? บนกระดานดำ แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบคำถามจนเหน็ วา่ นกั เรียนตอบไดถ้ ูกต้อง
ขัน้ สรปุ
3. Practice
3.1 นกั เรียนจบั คู่ฝึกถาม-ตอบด้วยประโยค What’s your name? What’s your address?
What’s your telephone number? โดยใช้ข้อมูลของตัวละครในหนังสือเรียน หลังจากน้ันให้นักเรียน
ฝึกถามและตอบโดยใชข้ ้อมูลของตนเอง ครูเดนิ สังเกตการทำกจิ กรรมและใหค้ วามช่วยเหลอื
3.2 อาสาสมัครออกมาแสดงบทบาทสมมตุ ิถาม-ตอบตามโครงสรา้ งประโยคทเ่ี รียน สัก 2-3 คู่
3.3 ทำกิจกรรม Inner-Outer Circle เพื่อฝึกพูดสนทนาถามและตอบตามโครงสร้างประโยค
ทเ่ี รยี น
กิจกรรม Inner-Outer Circle
1. แบ่งนกั เรยี นเปน็ 2 กลมุ่ ให้แตล่ ะกล่มุ ยนื เป็นวงกลมซอ้ นกนั 2 วง หันหน้าสวนทางกัน
2. ใหร้ ้องเพลงภาษาอังกฤษทเ่ี คยเรียนมา ขณะรอ้ งเพลงนักเรียนเดินและปรบมอื เป็นจงั หวะ
3. เพลงจบนักเรียนทั้ง 2 วง หันหน้ามาหากัน และผลัดกันถามและตอบตามโครงสร้าง
ประโยคทเ่ี รียน
หมายเหตุ : รอบแรกให้วงนอกเป็นผู้ถาม วงในเป็นผู้ตอบ รอบต่อไปให้วงในเป็นผู้ถาม และวงนอกเป็น
ผตู้ อบ
3.4 นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 1 Complete and answer. ใน WB หน้า 1 ทำบัตรประจำตัวของ
นักเรียนโดยให้นักเรียนวาดหรือติดภาพของตนเอง แล้วเติมข้อมูลเก่ียวกับตนเองให้สมบูรณ์ ก่อนให้
นักเรียนลงมือทำแบบฝึกหัด ครูอธิบายคำว่า post code โดยให้นักเรียนเดาความหมายของคำนี้ก่อน ซึ่ง
จะได้ข้อสรปุ วา่ post code หมายถงึ รหัสไปรษณีย์
Wrap up
4.1 ครูและนักเรียนสรุปการอ่านหมายเลขโทรศัพท์ (ให้อ่านหมายเลขเรียงตามลำดับทีละตัว
หรือถ้ามีตัวเลขซ้ำกันและอยชู่ ิดกันจะอา่ นเป็น double หรอื อ่านเรียงทีละตัวก็ได้) บอกความเหมือนและ
ความแตกต่างของการอ่านหมายเลขโทรศัพท์ท่ีนักเรียนเคยเรียนในกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ หรือใน
ชวี ิตประจำวนั
4.2 สรุปโครงสร้างประโยคในการถาม-ตอบเก่ียวกับข้อมลู ส่วนบุคคลเปรียบเทียบระหว่างการ
ถาม-ตอบในภาษาไทยกับการถาม-ตอบที่นักเรียนเรยี นเปน็ ภาษาอังกฤษ
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
1. ทำบัตรประจำตวั (My Card)
2. เขยี นบอกขอ้ มูลตนเอง
11. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรยี นรู้
1. Student’s Book 6
2. Workbook 6
3. CD
4. ตวั อยา่ งบัตรประจำตวั นกั เรียน
5. สมุดแบบฝกึ หัด
12. การประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ตามสภาพจริงโดยใช้แบบประเมินการพดู
2. ประเมินด้วยแบบทดสอบท้ายหนว่ ย
2. เครอ่ื งมือ
1. ประเมนิ ตามสภาพจริง
2 แบบทดสอบทา้ ยหน่วย
3. การประเมินผลตวั ช้วี ัด
เป้าหมาย หลักฐาน วธิ วี ดั เคร่อื งมอื
ตวั ช้ีวัด ประเมนิ ภาระงาน แบบประเมินภาระงาน
ต 1.3 ป.6/1 การทำบัตรประจำตัว (My
Card) ของตนเอง ประเมนิ ภาระงาน แบบประเมินภาระงาน
ต 1.3 ป.6/1 การทำบันทกึ ขอ้ มูลของตนเอง
(Profile)
การทำบตั รประจำตัว (My
Card) ของตนเอง
การทำบันทกึ ขอ้ มูลของตนเอง
เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมินการพดู
เกณฑก์ าร ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ประเมนิ ดีเย่ยี ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ความถกู ตอง ออกเสยี งคําศัพท ออกเสียงคาํ ศัพท ออกเสียงคาํ ศพั ท์ ออกเสยี งคาํ /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคไม ถูกตอง
ถูกตองตาม ถูกตองตาม ถูกตองเปนสวน ทาํ ให สื่อสารไมได
หลกั การออกเสยี ง หลักการออกเสียง ใหญ ขาดการออก
ออกเสียงเน้นหลัก มีเสยี งเน้นหลัก ใน เสยี งเนนหนกั
ในคํา / ประโยค คาํ / ประโยค
อยางสมบรู ณ เปนสวนใหญ
ความคลองแคลว พดู ตอเนอ่ื งไม พูดตะกุกตะกักบาง พูดเปนคํา ๆ หยดุ พดู ไดบางคํา ทําให
ติดขดั พดู ชดเจน ั แตยงั พอสอ่ื สารได เปนช่วง ๆ ทาํ ให ส่ือ ความหมาย
ทาํ ใหสือ่ สารได ส่อื สารได ไมชดั เจน ไม่ได้
การแสดงทาทาง แสดงทาทาง และ พดู ดว้ ยน้ำเสียง พดู เหมือนอานไม พดู ไดน้ ้อยมาก
/ น้ำเสยี ง พดู ด้วยน้ำเสยี ง เหมาะสมกบั บท เปนธรรมชาติ ขาด
ประกอบ การพดู เหมาะสมกบั บท บรรยาย แต่ไมม่ ี ความสนใจ
บรรยาย ทาทางประกอบ
เกณฑการตัดสนิ คุณภาพ ดมี าก
ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 11 – 12 ดี
พอใช
9 – 10 ควรปรับปรงุ
7–8 ตก เกณฑการผาน
5–6
3–4
การประเมินสมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21
ประเด็นประเมิน แหลง่ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสำคญั ชิน้ งาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/
1. ความสามารถในการส่ือสาร อธบิ ายหรือการ การสังเกต แบบสังเกต - ความถกู ต้องของ
2. ความสามารถในการคดิ นำเสนอ ชิน้ งาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ชน้ิ งาน/การ การประเมนิ แบบประเมนิ -ตรงกับความเปน็
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี อธบิ าย/การ จริง
นำเสนอ
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ -ความถกู ต้อง
2. ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต ช้นิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ - ความเขา้ ใจ
3. มีวินัย อธิบายหรอื การ ประเมิน ประเมิน -ความเหมาะสม
4. ใฝค่ วามรู้ นำเสนอ ชน้ิ งาน/ ชิน้ งาน/ การ
6. มุ่งม่ันในการทำงาน การสงั เกต สังเกตการ
8. มีจิตสาธารณะ การอธิบาย อธิบายหรอื
หรอื การ การนำเสนอ
ทักษะศตวรรษที่ 21 นำเสนอ
1. Reading
2. Writing
3. Arithmetic
4. Critical thinking and problem
solving
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information
and media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2
วิชา ภาษาองั กฤษ 6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ชื่อหน่วย About Myself จำนวน 8 คาบ
เรือ่ ง About Myself ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เวลา 1 คาบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และ
ความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตัวชวี้ ัด ป.6/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองเพอ่ื นครอบครวั และเร่อื งใกล้ตวั
ป.6/5 พดู /เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเกย่ี วกับเร่ืองต่างๆใกลต้ วั กิจกรรมตา่ งๆพร้อมทัง้ ให้เหตุผล
สัน้ ๆประกอบ
มาตรฐาน ต1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตา่ งๆโดยการพดู และการเขยี น
ตัวช้ีวัด ป.6/1 พดู /เขยี นให้ข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง เพื่อน และสง่ิ แวดลอ้ มใกลต้ ัว
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตัวชี้วดั ป.6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กิดขน้ึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระการเรียนรู้
Function Structure Vocabulary Pronunciation
1. Talking about one’s address - My name is (Manat Yotying). postcode, telephone Vowel sounds
and telephone number - My address is (27/82 Pracharat 1 Road, Bangsue, number, name, age, /eI/, /aI/
Bangkok, 10800). address
- My telephone number is (0-2512-0661).
2. - Introducing oneself - I’m (Manat Yotying). surfing the Internet,
- I’m in Prathom 6 at (Wat Thananya School). like
- Expressing likes - I like (swimming).
- I like (playing) (the guitar).
3. Asking for and giving - What’s your (name/address/telephone number)? profile
personal information My (name) is (Jane).
- How old are you?
I am (11).
- What do you like to do?
I like (swimming).
Function Structure Vocabulary Pronunciation
4. Talking about favorite things
- (Jane’s) favorite (food) is (sandwiches). favorite, different,
5. Asking for and giving - What is (your) favorite (fruit)? fried rice, delicious,
information about oneself fruit
My favorite (fruit) is (coconut). pen pal, hope
6. Asking for and giving
information about things you - How long have you studied (English)? ever, never
have (never) done I’ve studied it for (six years).
- Have you ever been to (Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I) (have) (finished my homework).
- (He) (has) never (cleaned the room).
- Have you ever (seen) (a dolphin)?
Yes, I have./No, I haven’t.
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
นักเรียนสามารถตอบคำถาม Howcanyoutellsomeoneaboutyourself? ได้
4. พฤตกิ รรมการเรียนรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ดา้ นความรู้ ( Knowledge : K) บอกใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกบั ตนเอง และเรอ่ื งใกล้ตัว
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน การคิดวิเคราะห์ (แปลความ
ตคี วาม) กระบวนการกลุ่ม การตั้งคำถาม กระบวนการปฏิบตั ิ การเลยี นเสยี งเพ่อื สื่อความ การระบุ การ
สงั เกต การจำ การประเมนิ ตนเอง
ดา้ นเจตคติ/คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (Attitude: A)
1. รกั ชาติ
2. ซอื่ สตั ย์สุจรติ
3. มีวินัย
4. ใฝค่ วามรู้
5. อยู่อยา่ งพอเพียง
6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
7. รกั ความเปน็ ไทย
8. มจี ติ สาธารณะ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นหลักสตู รการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ทกั ษะของผูเ้ รียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )
1. ทักษะการอ่าน (Reading)
2. ทักษะการ เขยี น (Writing)
3. ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)
4. ทักษะด้านการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา
(Critical thinking and problem solving)
5. ทกั ษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)
6. ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเปน็ ทีมและภาวะผู้นำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทักษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดา้ นการสื่อสารสารสนเทศและรู้เทา่ ทนั สื่อ (Communication information
and media literacy)
9. ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มีคณุ ธรรม มเี มตตา กรุณา มรี ะเบยี บวนิ ัย (compassion)
7. การบูรณาการ
1. บูรณาการรายวิชาอื่น สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ภาษาไทย
2. บูรณาการหลักสูตร STAR STEM …………………………………………………………………………….
3. อน่ื ๆ (ระบุ......................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
1สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
2. ภาษาไทย
9. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 2 SB หน้า 2
ขน้ั นำ
1. Warm up
1.1 ครูทบทวนการบอกความชอบต่างๆ (likes) ท่ีเรียนมาแล้วในช้ัน ป.5 โดยใช้บัตรภาพ
กิจกรรมยามว่างของครู เช่น ดูโทรทัศน์ ฟังเพลง ทำกับข้าว ว่ายน้ำ วาดรูป ให้นักเรียนบอกกริยาวลี
และคำศัพท์ตามบัตรภาพ ครูเขียนคำศัพท์บนกระดานดำให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามครูอยา่ งถูกต้องอีก
ครั้ง ดังนี้ watch ˈtelevision, ˈlisten to ˈmusic, cook, swim, draw เน้นการออกเสียง /tʃ/
(ch) และ cluster sound /sw/ และ /dr/ โดยให้นักเรียนสังเกตรูปปากขณะครูออกเสียง และทำ
ตาม
1.2 ครูเขียนประโยคคำถาม What do you like to do? พูดจบครูชี้ที่ตัวเองและพูด เช่น I
like drawing. หลังจากนั้นครูพูดประโยคคำถามอีกครั้งแล้วให้นักเรียนบอกความชอบของตนเองทีละคน
โดยใช้โครงสรา้ งประโยค I like + v-ing. (ซ่งึ ทำหนา้ ทเี่ ป็นคำนาม)
ข้นั สอน
2. Presentation
2.1 นกั เรียนทำกจิ กรรมท่ี 2 Listen and read. ข้อ A. Look, listen and read. ใน SB หน้า
2 ให้นักเรยี นดูภาพของคนทั้ง 3 คน และฟังข้อความจาก CD 3 และทำความเข้าใจบทอ่านโดยช้ีข้อความ
และอ่านในใจตาม CD
CD Script 3
W: 2. Listen and read.
A. Look, listen and read.
I’m Manat Yotying. I’m in Prathom 6 at Wat Tananya School.
I like playing the guitar.
I’m Jane. I’m Manat’s friend. I like swimming.
I’m Liza. I’m Manat’s teacher. I like cooking.
2.2 ครซู ักถามความเขา้ ใจจากขอ้ ความทอี่ า่ นและฟงั โดยใชค้ ำถามจากรูปภาพ
เช่น ครูชี้ท่ีภาพท่ี 1 ซ่งึ เป็นรูปของ Manat และถาม
- Who is he?
- Is he a student or a teacher?
- What grade is he in?
- What does he like to do?
- What’s the name of his school?
ครูถามคำถามเกยี่ วกบั ภาพที่ 2 และ 3 เชน่ เดียวกบั ภาพแรก
2.3 ครูเปดิ CD 3 ให้นักเรยี นฟังอีกคร้ัง และอา่ นออกเสียงตาม CD 2-3 คร้ัง
2.4 ให้นักเรียนบอกว่า Manat, Jane และ Ms. Liza ชอบทำอะไรบ้าง โดยใช้คำถาม What
does (he) like to do? ครเู ขียนคำตอบบนกระดานดำให้นักเรยี นสงั เกตการใช้ประโยคบอกความชอบ
2.5 ครูอา่ นประโยคในกิจกรรมที่ 2 Listen and read. ข้อ B. Read. เป็นตัวอย่าง จากน้ันให้
นักเรียนอ่านพร้อมกัน ครูสอนคำศัพท์ใหม่ surfing the Internet อธิบายคร่าวๆ เก่ียวกับคำนี้ แล้วให้
นกั เรยี นเดาว่าหมายความวา่ อยา่ งไร
2.6 ครูสนทนาสรุปเก่ียวกับการใช้ประโยค I like (singing) ช้ีแนะนักเรยี นเพ่ิมเติมว่า คำกริยา
ท่ีตามหลงั like เติม ing เปล่ียนหน้าท่ีเปน็ คำนาม เชน่ (singing = การรอ้ งเพลง)
- ครูและนักเรียนสรุปการใชป้ ระโยคบอกความชอบ (like) เช่น (I) like (singing).
2.7 ครเู ขยี นประโยคเกยี่ วกับความชอบ 3 แบบบนกระดานดำดงั น้ี
I like singing.
What do you like to do?
Do you like singing?
- ครอู อกเสยี งประโยคทั้ง 3 ประโยคให้นกั เรียนออกเสียงตามใหถ้ กู ตอ้ ง
- ครูให้นักเรยี นเปรียบเทยี บการออกเสยี งประโยคในภาษาอังกฤษกบั ภาษาไทย
- ครูใหน้ กั เรียนจบั คกู่ ันฝึกถาม-ตอบ โดยใชป้ ระโยคบนกระดาน
ขน้ั สรปุ
Practice
นักเรียนแสดงบทบาทสมมุติเป็น Manat, Jane และ Ms. Liza ฝึกการแนะนำตนเอง โดยครู
แนะนำวา่ นกั เรียนสามารถนำขอ้ มูลจากบทเรยี นครั้งท่ีแลว้ เชน่ อายุ ท่ีอยู่ เบอรโ์ ทรศัพท์ มาใช้ได้
Production
นักเรียนเขียน/พูดบอกข้อมูลของตนเองตามแบบ Manat หรือ Jane โดยใช้ข้อมูลจากที่ฝึกในข้ัน
Practice
Wrap up
นักเรียนจดบันทึกข้อสรปุ การใช้ประโยค like และให้ถามเพ่ือนในห้อง ด้วยประโยค What do
you like to do? และจดคำตอบของเพ่อื นมา คนละ 5 ประโยค ลงในสมุดเปน็ การบา้ น
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
1. ทำบตั รประจำตวั (My Card)
2. เขียนบอกข้อมูลตนเอง
11. ส่ือการเรยี นรู้ / แหลง่ เรียนรู้
1. Student’s Book 6
2. Workbook 6
3. CD
4. ตวั อย่างบัตรประจำตวั นักเรยี น
12. การประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล
1. ประเมินตามสภาพจริงโดยใช้แบบประเมินการพูด
2. ประเมินด้วยแบบทดสอบท้ายหน่วย
2. เคร่อื งมือ
1. ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
2. การประเมนิ ผลตัวชว้ี ัด
เปา้ หมาย หลกั ฐาน วิธีวัด เครอื่ งมอื
ตวั ช้วี ดั ประเมินภาระงาน
ต 1.3 ป.6/1 การทำบัตรประจำตัว (My แบบประเมนิ ภาระ
Card) ของตนเอง งาน
การทำบันทกึ ข้อมลู ของตนเอง
(Profile)
เกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ (Rubrics)
เกณฑก์ ารประเมนิ การพูด
เกณฑก์ าร ระดับคณุ ภาพ / คะแนน
ประเมนิ ดีเยีย่ ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
ความถูกตอง ออกเสียงคําศัพท ออกเสียงคําศัพท ออกเสียงคําศพั ท์ ออกเสยี งคํา /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคไม ถกู ตอง
ถกู ตองตาม ถกู ตองตาม ถูกตองเปนสวน ทาํ ให สื่อสารไมได
หลักการออกเสยี ง หลักการออกเสียง ใหญ ขาดการออก
ออกเสยี งเน้นหลัก มเี สียงเน้นหลัก ใน เสยี งเนนหนกั
ในคํา / ประโยค คํา / ประโยค
อยางสมบูรณ เปนสวนใหญ
ความคลองแคลว พูดตอเน่อื งไม พูดตะกุกตะกักบาง พดู เปนคาํ ๆ หยดุ พดู ไดบางคาํ ทําให
ตดิ ขัด พูดชดเจน ั แตยังพอสือ่ สารได เปนช่วง ๆ ทาํ ให สือ่ ความหมาย
ทาํ ใหสือ่ สารได สอ่ื สารได ไมชดั เจน ไม่ได้
การแสดงทาทาง แสดงทาทาง และ พดู ด้วยน้ำเสียง พูดเหมือนอานไม พดู ไดน้ ้อยมาก
/ นำ้ เสียง พูดด้วยน้ำเสยี ง เหมาะสมกบั บท เปนธรรมชาติ ขาด
ประกอบ การพูด เหมาะสมกับ บท บรรยาย แต่ไมม่ ี ความสนใจ
บรรยาย ทาทางประกอบ
เกณฑการตัดสนิ คุณภาพ ดมี าก
ชวงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 11 – 12 ดี
พอใช
9 – 10 ควรปรับปรุง
7–8 ตก เกณฑการผาน
5–6
3–4
การประเมนิ สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21
ประเด็นประเมิน แหลง่ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารให้
คะแนน
สมรรถนะสำคัญ ชิน้ งาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/
1. ความสามารถในการส่ือสาร อธบิ ายหรือการ การสังเกต แบบสังเกต - ความถกู ต้องของ
2. ความสามารถในการคดิ นำเสนอ ชิน้ งาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ชน้ิ งาน/การ การประเมนิ แบบประเมนิ -ตรงกับความเปน็
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี อธบิ าย/การ จริง
นำเสนอ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ -ความถกู ต้อง
2. ซอื่ สัตย์สจุ ริต ช้นิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ - ความเขา้ ใจ
3. มีวินัย อธิบายหรอื การ ประเมิน ประเมนิ -ความเหมาะสม
4. ใฝ่ความรู้ นำเสนอ ชน้ิ งาน/ ชิน้ งาน/ การ
6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน การสงั เกต สังเกตการ
8. มจี ติ สาธารณะ การอธบิ าย อธิบายหรอื
หรอื การ การนำเสนอ
ทักษะศตวรรษที่ 21 นำเสนอ
1. Reading
2. Writing
3. Arithmetic
4. Critical thinking and problem
solving
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information
and media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3
วิชา ภาษาอังกฤษ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ช่ือหน่วย About Myself จำนวน 8 คาบ
เร่ือง About Myself ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 เวลา 1 คาบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิด
เห็นอย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั ป.6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นทิ าน และบทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ป.6/3 เลือก/ระบปุ ระโยค หรือข้อความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายท่ี
อ่าน
ป.6/4 บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา นทิ านงา่ ย ๆ
และเรอื่ งเลา่
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และ
ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ช้วี ัด ป.6/4 พูดและเขยี นเพ่อื ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกล้ตวั
ป.6/5 พูด/เขยี นแสดงความรูส้ ึกของตนเองเกี่ยวกับเรือ่ งตา่ งๆใกล้ตวั กิจกรรมต่างๆพรอ้ มท้ังใหเ้ หตผุ ล
ส้นั ๆประกอบ
มาตรฐาน ต1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่างๆโดยการพดู และการเขยี น
ตัวชวี้ ัด ป.6/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน และสง่ิ แวดลอ้ มใกล้ตัว
2. สาระการเรียนรู้
Function Structure Vocabulary Pronunciation
1. Talking about one’s - My name is (Manat Yotying). postcode, telephone Vowel sounds /eI/, /aI/
- My address is (27/82 Pracharat 1 Road, number, name, age,
address and Bangsue, Bangkok, 10800). address
telephone number - My telephone number is (0-2512-0661).
2. - Introducing - I’m (Manat Yotying). surfing the Internet, like
oneself
- I’m in Prathom 6 at (Wat Thananya profile
- Expressing likes
School). favorite, different, fried
3. Asking for and rice, delicious, fruit
giving personal - I like (swimming). pen pal, hope
information ever, never
- I like (playing) (the guitar).
4. Talking about - What’s your (name/address/telephone
favorite things
number)?
5. Asking for and My (name) is (Jane).
giving information - How old are you?
about oneself I am (11).
- What do you like to do?
6. Asking for and I like (swimming).
giving information - (Jane’s) favorite (food) is (sandwiches).
about things you - What is (your) favorite (fruit)?
have (never) done My favorite (fruit) is (coconut).
- How long have you studied (English)?
I’ve studied it for (six years).
- Have you ever been to (Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I) (have) (finished my homework).
- (He) (has) never (cleaned the room).
- Have you ever (seen) (a dolphin)?
Yes, I have./No, I haven’t.
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
นักเรยี นสามารถตอบคำถาม Howcanyoutellsomeoneaboutyourself? ได้
4. พฤตกิ รรมการเรียนรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ด้านความรู้ ( Knowledge : K) บอกให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง และเรือ่ งใกล้ตวั
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน การคิดวิเคราะห์ (แปลความ
ตคี วาม) กระบวนการกล่มุ การตั้งคำถาม กระบวนการปฏิบัติ การเลียนเสยี งเพื่อสื่อความ การระบุ การ
สังเกต การจำ การประเมินตนเอง
ดา้ นเจตคติ/คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (Attitude: A)
1. รกั ชาติ
2. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ
3. มีวินยั
4. ใฝ่ความรู้
5. อยู่อย่างพอเพยี ง
6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
7. รกั ความเป็นไทย
8. มีจติ สาธารณะ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลกั สูตรการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ทักษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะการอ่าน (Reading)
2. ทกั ษะการ เขยี น (Writing)
3. ทักษะการคดิ คำนวณ (Arithmetic)
4. ทักษะด้านการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา
(Critical thinking and problem solving)
5. ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทกั ษะดา้ นความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดา้ นการส่ือสารสารสนเทศและรู้เทา่ ทันสื่อ (Communication information
and media literacy)
9. ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มีคณุ ธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบยี บวนิ ยั (compassion)
7. การบูรณาการ
1. บรู ณาการรายวิชาอื่น สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ภาษาไทย
2. บูรณาการหลักสตู ร STAR STEM …………………………………………………………………………….
3. อืน่ ๆ (ระบุ......................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
1สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
2. ภาษาไทย
9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
คาบที่ 3 SB หน้า 3 WB หน้า 2
ขน้ั นำ
Warm up
ครทู บทวนเน้ือหาที่เรยี นมาแลว้ โดยให้นกั เรียนบอกชื่อ ท่ีอยู่ และความชอบของตนเอง
ขั้นสอน
Presentation
2.1 ครสู อนคำศพั ท์ใหม่ profile ครชู แู บบบันทกึ ข้อมลู ให้นักเรียนดพู ร้อมกับพูดวา่ This is a
profile. ครอู อกเสยี ง ˈprofile ให้นักเรยี นออกเสียงตาม ครูเขียน Personal information และ Jane’s
profile บนกระดานดำให้นักเรียนบอกความหมาย
ครอู ธิบายเพ่ิมเติมว่า การเรียงลำดับคำในการแสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษต่างกบั การเรียงคำใน
ภาษาไทย เชน่ profile ของเจน ในภาษาองั กฤษ เขียน Jane’s profile เปน็ ต้น
2.2 นักเรียนทำกจิ กรรมที่ 3 Talk with your friends. ขอ้ A. Read, ask and answer. ใน
SB หน้า 3 ใหน้ กั เรยี นอ่านบทสนทนาระหว่าง Ms. Lisa และ Jane โดยครูเปน็ Ms. Liza (ถาม) และ
นักเรียนเปน็ Jane (ตอบ) แล้วเปล่ียนให้นกั เรียนเป็น Ms. Liza (ถาม) ครเู ปน็ Jane (ตอบ)
ขน้ั สรปุ
Practice
3.1 ให้นักเรยี นจบั คู่กนั ฝึกพดู บทสนทนาของ Ms. Liza และ Jane
3.2 ใหน้ ักเรยี นคเู่ ดิมสนทนาโดยใชข้ อ้ มลู ของนักเรยี นเอง
3.3 นักเรียนทำกิจกรรมที่ 3 Talk with your friends. ข้อ B. Read Jane’s profile.
Then write your profile on Workbook page 2. ใน SB หนา้ 3 นักเรยี นอา่ น Profile ของ Jane
3.4 อาสาสมัครนักเรียนออกมาสนทนาหน้าชั้น 1-2 คู่ ให้นักเรียนทั้งชั้นพูดสรุปเหมือน
Jane’s Profile
Production
4.1 ครแู ละนกั เรยี นสรปุ วธิ กี ารเขยี น Profile ว่าควรประกอบด้วยข้อมูลสำคญั อะไรบ้าง
4.2 ใหน้ กั เรยี นเขยี น Profile ของตนเองลงในกิจกรรมท่ี 2 Write your profile. ใน WB หน้า
2 โดยเปล่ียนจาก Jane is เปน็ My name is …………… . และ I am …………… years old.
Wrap up
ครสู ุม่ นกั เรียน 3-4 คนออกมาอ่าน Profile ทตี่ นเองทำ ใหเ้ พอื่ นๆ ฟงั หน้าชั้นเรียน
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
1. เขียนบอกข้อมลู ตนเอง
2. ทำบนั ทึกข้อมลู ของตนเอง (Profile)
11. สื่อการเรียนรู้ / แหลง่ เรียนรู้
1. Student’s Book 6
2. Workbook 6
12. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ตามสภาพจริงโดยใชแ้ บบประเมินการพดู
2. ประเมนิ ดว้ ยแบบทดสอบท้ายหนว่ ย
2. เคร่ืองมือ
1. ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
2. การประเมนิ ผลตัวช้วี ัด
เปา้ หมาย หลกั ฐาน วธิ ีวดั เครื่องมือ
แบบประเมนิ การอา่ น
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.6/2 การอา่ นออกเสียงข้อความ ประเมนิ การอา่ น
แนะนำตนเอง และประโยคบอก
ความชอบ
บทสนทนาของMs. LisaและJane
ขอ้ ความเกีย่ วกับเพือ่ นสนิท
จดหมาย
การอา่ นคำกริยาในรปู กาลต่างๆ
การออกเสยี ง/aɪ/และ/eɪ/
เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมินการพดู
เกณฑก์ าร ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ประเมนิ ดีเยยี่ ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ความถกู ตอง ออกเสียงคําศพั ท ออกเสียงคาํ ศัพท ออกเสียงคาํ ศพั ท์ ออกเสยี งคาํ /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคไม ถูกตอง
ถูกตองตาม ถูกตองตาม ถูกตองเปนสวน ทาํ ให สื่อสารไมได
หลกั การออกเสยี ง หลักการออกเสียง ใหญ ขาดการออก
ออกเสียงเน้นหลัก มีเสียงเน้นหลัก ใน เสยี งเนนหนกั
ในคํา / ประโยค คาํ / ประโยค
อยางสมบรู ณ เปนสวนใหญ
ความคลองแคลว พดู ตอเน่ืองไม พูดตะกุกตะกักบาง พูดเปนคํา ๆ หยดุ พดู ไดบางคํา ทําให
ติดขดั พูดชดเจน ั แตยงั พอสอ่ื สารได เปนช่วง ๆ ทาํ ให ส่ือ ความหมาย
ทาํ ใหสือ่ สารได ส่อื สารได ไมชดั เจน ไม่ได้
การแสดงทาทาง แสดงทาทาง และ พดู ดว้ ยน้ำเสียง พดู เหมือนอานไม พดู ไดน้ ้อยมาก
/ น้ำเสยี ง พดู ด้วยน้ำเสยี ง เหมาะสมกบั บท เปนธรรมชาติ ขาด
ประกอบ การพดู เหมาะสมกบั บท บรรยาย แต่ไมม่ ี ความสนใจ
บรรยาย ทาทางประกอบ
เกณฑการตัดสนิ คุณภาพ ดมี าก
ชวงคะแนน ระดับคุณภาพ 11 – 12 ดี
พอใช
9 – 10 ควรปรับปรงุ
7–8 ตก เกณฑการผาน
5–6
3–4
การประเมนิ สมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และทักษะศตวรรษท่ี 21
ประเด็นประเมนิ แหล่ง วธิ วี ัด เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารให้
คะแนน
สมรรถนะสำคัญ ชิ้นงาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/
1. ความสามารถในการส่ือสาร อธบิ ายหรอื การ การสงั เกต แบบสงั เกต - ความถกู ต้องของ
2. ความสามารถในการคดิ นำเสนอ ช้ินงาน
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ชน้ิ งาน/การ การประเมิน แบบประเมนิ -ตรงกับความเป็น
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี อธิบาย/การ จรงิ
นำเสนอ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ -ความถกู ต้อง
2. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต ช้นิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ - ความเข้าใจ
3. มวี ินัย อธิบายหรอื การ ประเมิน ประเมิน -ความเหมาะสม
4. ใฝ่ความรู้ นำเสนอ ชิ้นงาน/ ชน้ิ งาน/ การ
6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน การสงั เกต สังเกตการ
8. มจี ติ สาธารณะ การอธิบาย อธบิ ายหรอื
หรือการ การนำเสนอ
ทักษะศตวรรษที่ 21 นำเสนอ
1. Reading
2. Writing
3. Arithmetic
4. Critical thinking and problem
solving
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information
and media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4
วิชา ภาษาอังกฤษ 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ชื่อหน่วย About Myself จำนวน 8 คาบ
เรอ่ื ง About Myself ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 เวลา 1 คาบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่อื งทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิด
เห็นอยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชวี้ ัด ป.6/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ นทิ าน และบทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น
ป.6/4 บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา นทิ านง่าย ๆ
และเรื่องเลา่
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชวี้ ัด ป.6/4 พดู และเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอ่ื งใกล้ตวั
ป.6/5 พดู /เขียนแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเก่ยี วกบั เร่อื งตา่ งๆใกลต้ วั กจิ กรรมตา่ งๆพรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตผุ ล
สั้นๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอื่ งตา่ งๆโดยการพดู และการเขยี น
ตัวช้วี ดั ป.6/1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเกยี่ วกับตนเอง เพ่ือน และสิง่ แวดลอ้ มใกล้ตัว
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วัด ป.6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทีเ่ กิดขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
2. สาระการเรยี นรู้
Function Structure Vocabulary Pronunciation
1. Talking about one’s postcode, telephone Vowel sounds /eI/, /aI/
- My name is (Manat Yotying). number, name, age,
address and address
telephone number - My address is (27/82 Pracharat 1 Road, surfing the Internet, like
Bangsue, Bangkok, 10800).
2. - Introducing profile
oneself - My telephone number is (0-2512-0661).
favorite, different, fried
- Expressing likes - I’m (Manat Yotying). rice, delicious, fruit
3. Asking for and - I’m in Prathom 6 at (Wat Thananya School). pen pal, hope
giving personal - I like (swimming). ever, never
information - I like (playing) (the guitar).
- What’s your (name/address/telephone
4. Talking about
favorite things number)?
My (name) is (Jane).
5. Asking for and - How old are you?
giving information I am (11).
about oneself - What do you like to do?
I like (swimming).
6. Asking for and - (Jane’s) favorite (food) is (sandwiches).
giving information - What is (your) favorite (fruit)?
about things you My favorite (fruit) is (coconut).
have (never) done - How long have you studied (English)?
I’ve studied it for (six years).
- Have you ever been to (Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I) (have) (finished my homework).
- (He) (has) never (cleaned the room).
- Have you ever (seen) (a dolphin)?
Yes, I have./No, I haven’t.
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
นกั เรียนสามารถตอบคำถาม Howcanyoutellsomeoneaboutyourself? ได้
4. พฤตกิ รรมการเรียนรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ด้านความรู้ ( Knowledge : K) บอกให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง และเร่อื งใกล้ตัว
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน การคิดวิเคราะห์ (แปลความ
ตคี วาม) กระบวนการกลุ่ม การต้ังคำถาม กระบวนการปฏิบัติ การเลยี นเสียงเพ่อื สอื่ ความ การระบุ การ
สังเกต การจำ การประเมินตนเอง
ด้านเจตคติ/คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ (Attitude: A)
1. รกั ชาติ
2. ซอื่ สตั ย์สุจรติ
3. มวี ินัย
4. ใฝค่ วามรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มีจิตสาธารณะ
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นหลักสตู รการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะการอ่าน (Reading)
2. ทกั ษะการ เขยี น (Writing)
3. ทกั ษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)
4. ทักษะด้านการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา
(Critical thinking and problem solving)
5. ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)
6. ทักษะด้านความรว่ มมือการทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทกั ษะด้านความเข้าใจต่างวฒั นธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะด้านการสือ่ สารสารสนเทศและรู้เท่าทนั สื่อ (Communication information
and media literacy)
9. ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มคี ุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินยั (compassion)
7. การบูรณาการ
1. บรู ณาการรายวิชาอน่ื สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ภาษาไทย
2. บูรณาการหลักสูตร STAR STEM …………………………………………………………………………….
3. อนื่ ๆ (ระบ.ุ .....................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
1สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
2. ภาษาไทย
9. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 4 SB หนา้ 4-5 WB หนา้ 3
ขั้นนำ
Warm up
สนทนากับนักเรียนเรื่องสิ่งต่างๆ ที่นักเรียนชอบ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มแข่งกันเขียนคำศัพท์
เกี่ยวกบั สิ่งท่ีนักเรียนชอบ กลมุ่ ใดเขยี นได้มากทส่ี ุดและถกู ตอ้ งเปน็ ผชู้ นะ
ขน้ั สอน
Presentation
2.1 ครูสอนศัพท์ใหม่คือ favorite โดยครูพูดประโยค I like noodles. My favorite food is
noodles. ครูเขียนประโยคน้ีบนกระดานดำ ให้นักเรียนเดาความหมายและช่วยกันสรุป (ซ่ึงคำน้ีจะมี
ความหมายว่า ที่ช่ืนชอบ) จากนั้นครูสอนออกเสียงพยัญชนะต้น /f/ ในคำ favorite โดยใช้วิธีสอน
เช่นเดียวกับการออกเสียง phone ในคำว่า telephone ของการสอนในครั้งที่ 1 และให้นักเรียนสังเกต
การเรยี งคำขยายคำนามในคำ favorite food, good friends เปรียบเทยี บกบั การเรียงคำในภาษาไทย
2.2 ครูเขยี นคำถาม What’s your favorite …..? บนกระดานดำใหน้ กั เรยี นพดู ตาม
2.3 ครถู ามนกั เรียนในหอ้ งเรยี นแล้วเขียนคำตอบบนกระดานดำ เช่น
T: Nipa, what’s your favorite sport?
S: My favorite sport is basketball.
ครูเขียน Nipa - basketball - Nipa’s favorite sport is basketball. บนกระดานดำ
2.4 ครูเปลี่ยนประเด็นท่ีถาม เป็นคำอื่นๆ เช่น food, fruit, color, pet, etc. ให้
นกั เรยี นตอบตามความชอบ
2.5 ครูพูดคำถามและช้ีท่ีประโยคคำถามท่ีเขียนบนกระดานดำตามกิจกรรมที่ 2.2 แล้วเขียน
คำตอบ Nipa - basketball บนกระดานดำ แล้วให้นักเรียนพูดประโยคคำตอบ โดยใช้ ’s ตามคำตอบท่ี
เขยี นเอาไว้บนกระดาน
2.6 ให้นักเรียนอ่านเนื้อเร่ืองในกิจกรรมที่ 4 Read and learn. ข้อ A. Read about
Manat’s close friends and their favorite food. Then answer the questions. ใน SB หน้า 4
โดยให้นักเรียนอ่านในใจ เดาความหมายของเนื้อเร่ือง และเดาความหมายของคำศัพท์ different, fried
rice, delicious จากบริบทที่อ่าน แล้วสุ่มนักเรียนออกมาเล่าความหมายของเร่ืองหน้าช้ันเรียน ครูช่วย
สรุปอกี ครัง้ หน่ึง หลงั จากนนั้ ครถู ามรายละเอียดโดยใช้ประโยคต่อไปน้ี
T: What’s Jane’s favorite food?
S: Sandwiches.
T: Who likes pizza?
S: Peter.
ขนั้ สรุป
Practice
3.1 แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มฝึกอ่านออกเสียงตามเนื้อเร่ือง และผลัดกันถาม-ตอบเก่ียวกับเรื่อง
โดยใช้คำถามในกจิ กรรมท่ี 4 Read and learn. หวั ข้อ Read and say the answers. ใน SB หนา้ 4
Answer
4. Read and learn.
Read and say the answers.
1. Sandwiches.
2. Peter, Winai and Weena (should eat more vegetables) because their
dishes have a lot of fat and
carbohydrates but a few vegetables.
3. Jane (has the healthiest diet) because sandwiches have vegetables,
bread and cheese.
4. Peter (can be overweight in the future) because pizza is high in fat and
carbohydrates.
5. His favorite dish is fried rice because it is delicious.
6. Five close friends.
7. (คำตอบของนักเรยี นเอง)
3.2 นักเรียนทำกิจกรรมที่ 4 Read and learn. ข้อ B. Work in pairs. Talk about your
favorite things from the list below. ใน SB หน้า 5 ให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนผลัดกันถาม-ตอบ
เกี่ยวกบั ความชอบ โดยใช้คำท่กี ำหนดให้
Production
นักเรียนทำกิจกรรมที่ 3 Finish the sentences. ใน WB หน้า 3 ให้นักเรียนเขียนสิ่งท่ีชอบ
ของตนเองแลว้ ออกมาอา่ น หรือพูดบอกเพ่ือนๆ หนา้ ช้นั เรียน
Wrap up
จัดทำสมดุ ภาพรวบรวมส่ิงท่ีตนชอบ และเขียนอธิบายภาพด้วยประโยค My favorite (fruit) is
(coconut). พร้อมบอกเหตุผลสั้นๆ ประกอบ เช่น My favorite fruit is coconut because green
coconut makes me fresh.
10. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1. เขียนบอกข้อมูลตนเอง
2. ทำบนั ทึกข้อมูลของตนเอง (Profile)
11. ส่ือการเรยี นรู้ / แหลง่ เรยี นรู้
1. Student’s Book 6
2. Workbook 6
12. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วิธีการวัดและประเมินผล
1. ประเมินตามสภาพจริงโดยใช้แบบประเมินการพดู
2. ประเมนิ ดว้ ยแบบทดสอบท้ายหนว่ ย
2. เครื่องมือ
1. ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
2. การประเมินผลตัวชี้วัด
เปา้ หมาย หลกั ฐาน วิธีวดั เคร่อื งมือ
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.6/2 การอา่ นออกเสยี งขอ้ ความ แนะนำตนเองและประโยคบอกความชอบ ประเมนิ การ แบบประเมนิ
การอา่ น
บทสนทนาของMs. LisaและJane อา่ น
ข้อความเกีย่ วกับเพือ่ นสนทิ จดหมาย
การอา่ นคำกรยิ าในรปู กาลตา่ งๆ การออกเสยี ง/aɪ/และ/eɪ/
เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมนิ การพดู
เกณฑก์ าร ระดับคณุ ภาพ / คะแนน
ประเมนิ ดีเย่ยี ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ความถกู ตอง ออกเสยี งคําศัพท ออกเสียงคาํ ศัพท ออกเสียงคาํ ศพั ท์ ออกเสยี งคาํ /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคไม ถูกตอง
ถูกตองตาม ถูกตองตาม ถูกตองเปนสวน ทาํ ให สื่อสารไมได
หลกั การออกเสยี ง หลักการออกเสียง ใหญ ขาดการออก
ออกเสียงเน้นหลัก มีเสียงเน้นหลัก ใน เสยี งเนนหนกั
ในคํา / ประโยค คาํ / ประโยค
อยางสมบรู ณ เปนสวนใหญ
ความคลองแคลว พูดตอเนอ่ื งไม พูดตะกุกตะกักบาง พูดเปนคํา ๆ หยดุ พดู ไดบางคํา ทําให
ตดิ ขัด พดู ชดเจน ั แตยงั พอสอ่ื สารได เปนช่วง ๆ ทาํ ให ส่ือ ความหมาย
ทาํ ใหสือ่ สารได ส่อื สารได ไมชดั เจน ไม่ได้
การแสดงทาทาง แสดงทาทาง และ พดู ดว้ ยน้ำเสียง พดู เหมือนอานไม พดู ไดน้ ้อยมาก
/ น้ำเสยี ง พูดด้วยน้ำเสยี ง เหมาะสมกบั บท เปนธรรมชาติ ขาด
ประกอบ การพดู เหมาะสมกบั บท บรรยาย แต่ไมม่ ี ความสนใจ
บรรยาย ทาทางประกอบ
เกณฑการตัดสนิ คุณภาพ ดมี าก
ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 11 – 12 ดี
พอใช
9 – 10 ควรปรับปรงุ
7–8 ตก เกณฑการผาน
5–6
3–4
การประเมินสมรรถนะสำคัญ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21
ประเด็นประเมิน แหล่ง วิธีวดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสำคญั ชน้ิ งาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/
1. ความสามารถในการสื่อสาร อธบิ ายหรือการ การสงั เกต แบบสังเกต - ความถกู ต้องของ
2. ความสามารถในการคิด นำเสนอ ชนิ้ งาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ชน้ิ งาน/การ การประเมิน แบบประเมนิ -ตรงกับความเปน็
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี อธิบาย/การ จรงิ
นำเสนอ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ -ความถกู ต้อง
2. ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต ชน้ิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ - ความเขา้ ใจ
3. มีวินัย อธิบายหรือการ ประเมิน ประเมิน -ความเหมาะสม
4. ใฝ่ความรู้ นำเสนอ ชิ้นงาน/ ชนิ้ งาน/ การ
6. ม่งุ ม่ันในการทำงาน การสงั เกต สังเกตการ
8. มีจิตสาธารณะ การอธิบาย อธิบายหรอื
หรือการ การนำเสนอ
ทักษะศตวรรษที่ 21 นำเสนอ
1. Reading
2. Writing
3. Arithmetic
4. Critical thinking and problem
solving
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information
and media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 5
วิชา ภาษาอังกฤษ 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 ช่ือหน่วย About Myself จำนวน 8 คาบ
เรอ่ื ง About Myself ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เวลา 1 คาบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ
เห็นอย่างมเี หตุผล
ตัวชีว้ ัด ป.6/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ป.6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือข้อความสน้ั ๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณห์ รือเครื่องหมายที่
อ่าน
ป.6/4 บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟัง และอ่านบทสนทนา นิทานง่าย ๆ
และเรอื่ งเลา่
มาตรฐาน ต1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอ่ื งตา่ งๆโดยการพดู และการเขยี น
ตวั ช้ีวัด ป.6/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง เพื่อน และสิง่ แวดลอ้ มใกล้ตัว
2. สาระการเรยี นรู้
Function Structure Vocabulary Pronunciation
1. Talking about one’s - My name is (Manat Yotying). postcode, telephone Vowel sounds /eI/, /aI/
- My address is (27/82 Pracharat 1 Road, number, name, age,
address and Bangsue, Bangkok, 10800). address
telephone number - My telephone number is (0-2512-0661).
- I’m (Manat Yotying). surfing the Internet, like
2. - Introducing - I’m in Prathom 6 at (Wat Thananya
oneself School).
- I like (swimming).
- Expressing likes - I like (playing) (the guitar).
3. Asking for and - What’s your (name/address/telephone profile
giving personal number)?
information My (name) is (Jane). favorite, different, fried
rice, delicious, fruit
4. Talking about - How old are you? pen pal, hope
favorite things I am (11). ever, never
5. Asking for and - What do you like to do?
giving information I like (swimming).
about oneself
- (Jane’s) favorite (food) is (sandwiches).
6. Asking for and - What is (your) favorite (fruit)?
giving information My favorite (fruit) is (coconut).
about things you - How long have you studied (English)?
have (never) done I’ve studied it for (six years).
- Have you ever been to (Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I) (have) (finished my homework).
- (He) (has) never (cleaned the room).
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
นักเรียนสามารถตอบคำถาม Howcanyoutellsomeoneaboutyourself? ได้
4. พฤตกิ รรมการเรียนรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ดา้ นความรู้ ( Knowledge : K) บอกให้ข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง และเร่ืองใกล้ตัว
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน การคิดวิเคราะห์ (แปลความ
ตีความ) กระบวนการกลุ่ม การตั้งคำถาม กระบวนการปฏิบตั ิ การเลยี นเสยี งเพอ่ื สอ่ื ความ การระบุ การ
สังเกต การจำ การประเมนิ ตนเอง
ดา้ นเจตคติ/คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ (Attitude: A)
1. รกั ชาติ
2. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต
3. มวี นิ ยั
4. ใฝ่ความรู้
5. อยู่อยา่ งพอเพียง
6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มีจติ สาธารณะ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลักสตู รการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )
1. ทักษะการอ่าน (Reading)
2. ทักษะการ เขยี น (Writing)
3. ทักษะการคดิ คำนวณ (Arithmetic)
4. ทักษะด้านการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา
(Critical thinking and problem solving)
5. ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)
6. ทักษะด้านความรว่ มมือการทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทักษะด้านความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดา้ นการสอ่ื สารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information
and media literacy)
9. ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มีคณุ ธรรม มีเมตตา กรุณา มรี ะเบยี บวนิ ยั (compassion)
7. การบูรณาการ
1. บูรณาการรายวิชาอื่น สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ภาษาไทย
2. บูรณาการหลักสตู ร STAR STEM …………………………………………………………………………….
3. อน่ื ๆ (ระบุ......................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
1สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
2. ภาษาไทย
9. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 5 SB หน้า 6 WB หน้า 4-5
ข้ันนำ
Warm up
ครูสนทนากับนักเรียนเรื่องการเขียนจดหมายถึงเพ่ือนคนหนึ่งที่เราไม่เคยพบมาก่อน นักเรียน
จะแนะนำตนเองและเล่าเร่ืองราวต่างๆ เก่ียวกับตนเองอย่างไรบ้าง รวมถึงให้นักเรียนทบทวนแบบฟอร์ม
จดหมายทีน่ กั เรยี นเคยเรยี นในกล่มุ สาระภาษาไทย
ข้นั สอน
Presentation
นกั เรียนทำกิจกรรมท่ี 5 Read the letter and say the answers. ใน SB หนา้ 6 ดังนี้
2.1 สนทนาเกี่ยวกับรูปแบบจดหมายในหนา้ น้ี ใหน้ ักเรียนสงั เกตเก่ียวกับที่อยู่ของผู้เขียน วันท่ี
คำขน้ึ ต้น คำลงท้าย
2.2 สอนคำศัพท์ใหม่ คือ pen pal (เพ่ือนทางจดหมายแต่ไม่เคยพบกัน) ให้นักเรียนออกเสียง
คำศัพท์ตามครูแล้วแข่งกันหาความหมายใน Dictionary ครูสอนออกเสียง /l/ ท้ายคำ โดยใช้ล้ินแตะท่ี
ปมุ่ เหงอื กเมอื่ จบคำ ในภาษาไทยไม่มีเสียง /l/ ท้ายคำ
2.3 ครูแบ่งกลุ่มให้นักเรียนอ่านข้อความในจดหมายในใจ แล้วสนทนาเกี่ยวกับใจความของ
จดหมายตามความเข้าใจ ครูส่มุ ให้ตวั แทนของกล่มุ ออกมาเลา่ ใหเ้ พ่ือนฟัง หลังจากนัน้ ช่วยกันสรุปขอ้ ความ
ในจดหมายตามประเด็นคำถาม เช่น
Who wrote this letter?
Is she a student?
How old is she?
How long has she studied English?
Where is she from?
What is her favorite sport? etc.
2.4 ครูเขียนประโยค I have studied (English) for six years. และ I have played (ping-
pong) on my school team for two years. ให้นักเรียนสังเกตคำที่ขีดเส้นใต้และบอกความหมายของ
ประโยค ชแี้ จงใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ ประโยคลักษณะนี้ใช้เมอ่ื กลา่ วถึงเหตุการณท์ เี่ กิดข้ึนในอดตี และดำเนิน
มาจนกระท่ังถึงขณะที่พูดอยู่ ให้นักเรียนพูดประโยคเก่ียวกับกิจกรรมที่ทำมาแล้ว และปัจจุบันยังทำ
กิจกรรมน้นั อยู่ ครูคอยให้คำแนะนำ และแก้ไขเม่ือพดู ผิด แลว้ เขียนประโยคน้นั บนกระดานดำ ใหน้ ักเรียน
ช่วยกันสรุปว่า คำกริยาในประโยคใช้ have/has + คำกริยาช่องท่ี 3 ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนอย่างละเอียด
ในชั่วโมงถดั ไป
2.5 ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงข้อความในจดหมายตามครู
ข้ันสรปุ
Practice
3.1 ใหน้ ักเรยี นจับคู่กบั เพอื่ นฝกึ อ่านขอ้ ความในจดหมาย
3.2 นักเรยี นผลดั กนั ถามและตอบคำถามท้ายจดหมาย
3.3 ให้นักเรียนใช้ข้อมูลในจดหมายตอบคำถาม ซ่ึงครูถามคำถามจากคำถามท้ายจดหมาย
โดยไม่เรยี งตามลำดับคำถาม
แนวคำตอบ
1. Jane lives in Thailand.
2. Her favorite sport is ping-pong.
3. She has played on her school team for two years.
4. She can speak English a little bit.
5. Because she has studied English for 6 years, but she can only speak, read
and write a little bit.
3.4 ให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนทำกิจกรรมท่ี 4 Fill in the letter. ใน WB หน้า 4 โดยให้ใช้
คำศพั ทใ์ น Keywords เตมิ ลงในชอ่ งว่าง เมือ่ ทำเสร็จแลว้ ครสู ุ่มนกั เรยี นใหอ้ อกมานำเสนอหนา้ ช้ันเรียน
Answers
4. Fill in the letter.
1. done 2. started
3. like 4. have played
5. Do you have 6. write
Production
นักเรียนทำกิจกรรมที่ 5 Write. Write a letter to a pen pal. Tell him or her about
yourself. ใน WB หน้า 5 ให้นักเรียนเขียนจดหมายเล่าเร่ืองราวเกี่ยวกับตนเองถึงเพื่อน (เพื่อนทาง
จดหมายทีไ่ มเ่ คยพบกนั มากอ่ น)
Wrap up
5.1ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปรูปแบบการเขียนจดหมาย ครูเขียนแบบฟอร์มลงบนกระดาน
ดำตามการสรุปของนกั เรียน แลว้ ให้นกั เรียนบันทึกลงในสมุดแบบฝึกหดั
5.2 ครสู ุม่ นักเรยี นหรอื ขออาสาสมคั รออกมาอ่านจดหมายของตนเองให้เพื่อนๆ ฟัง
10. ช้ินงาน/ภาระงาน
1.เขยี นจดหมายถึงเพื่อนทไี่ มร่ ูจ้ ักกนั มาก่อน (pen pal)
11. ส่ือการเรยี นรู้ / แหลง่ เรยี นรู้
1. Student’s Book 6
2. Workbook 6
12. การประเมินผลการเรยี นรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
1. ประเมินตามสภาพจริงโดยใช้แบบประเมินการพูด
2. ประเมินด้วยแบบทดสอบท้ายหนว่ ย
2. เครือ่ งมือ
1. ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
2. การประเมินผลตัวชี้วัด
เปา้ หมาย หลกั ฐาน วิธีวดั เคร่ืองมอื
ตวั ชวี้ ดั แบบประเมนิ
การอ่าน
ต 1.1 ป.6/2 การอา่ นออกเสียงข้อความ แนะนำตนเองและประโยคบอกความชอบ ประเมินการ
บทสนทนาของMs. LisaและJane อ่าน
ข้อความเกีย่ วกับเพอ่ื นสนทิ จดหมาย
การอ่านคำกรยิ าในรปู กาลตา่ งๆ การออกเสียง/aɪ/และ/eɪ/
เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมินการพดู
เกณฑก์ าร ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ประเมนิ ดีเยีย่ ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ความถกู ตอง ออกเสียงคําศพั ท ออกเสียงคาํ ศัพท ออกเสียงคาํ ศพั ท์ ออกเสยี งคาํ /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคไม ถูกตอง
ถูกตองตาม ถูกตองตาม ถูกตองเปนสวน ทาํ ให สื่อสารไมได
หลกั การออกเสยี ง หลักการออกเสียง ใหญ ขาดการออก
ออกเสียงเน้นหลัก มีเสยี งเน้นหลัก ใน เสยี งเนนหนกั
ในคํา / ประโยค คาํ / ประโยค
อยางสมบูรณ เปนสวนใหญ
ความคลองแคลว พดู ตอเน่ืองไม พูดตะกุกตะกักบาง พูดเปนคํา ๆ หยดุ พดู ไดบางคํา ทําให
ติดขดั พูดชดเจน ั แตยงั พอสอ่ื สารได เปนช่วง ๆ ทาํ ให ส่ือ ความหมาย
ทาํ ใหสื่อสารได ส่อื สารได ไมชดั เจน ไม่ได้
การแสดงทาทาง แสดงทาทาง และ พดู ดว้ ยน้ำเสียง พดู เหมือนอานไม พดู ไดน้ ้อยมาก
/ น้ำเสยี ง พดู ด้วยน้ำเสยี ง เหมาะสมกบั บท เปนธรรมชาติ ขาด
ประกอบ การพดู เหมาะสมกับ บท บรรยาย แต่ไมม่ ี ความสนใจ
บรรยาย ทาทางประกอบ
เกณฑการตัดสนิ คุณภาพ ดีมาก
ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 11 – 12 ดี
พอใช
9 – 10 ควรปรับปรงุ
7–8 ตก เกณฑการผาน
5–6
3–4
การประเมินสมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21
ประเด็นประเมิน แหลง่ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสำคญั ชิน้ งาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/
1. ความสามารถในการส่ือสาร อธิบายหรือการ การสังเกต แบบสังเกต - ความถกู ต้องของ
2. ความสามารถในการคดิ นำเสนอ ชิน้ งาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ชน้ิ งาน/การ การประเมนิ แบบประเมนิ -ตรงกับความเปน็
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี อธบิ าย/การ จริง
นำเสนอ
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ -ความถกู ต้อง
2. ซ่อื สตั ย์สุจริต ช้นิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ - ความเขา้ ใจ
3. มวี ินัย อธิบายหรอื การ ประเมิน ประเมิน -ความเหมาะสม
4. ใฝ่ความรู้ นำเสนอ ชน้ิ งาน/ ชิน้ งาน/ การ
6. มงุ่ ม่ันในการทำงาน การสงั เกต สังเกตการ
8. มีจิตสาธารณะ การอธิบาย อธิบายหรอื
หรอื การ การนำเสนอ
ทักษะศตวรรษที่ 21 นำเสนอ
1. Reading
2. Writing
3. Arithmetic
4. Critical thinking and problem
solving
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information
and media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6
วิชา ภาษาอังกฤษ 6 กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ชื่อหน่วย About Myself จำนวน 8 คาบ
เร่อื ง About Myself ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เวลา 1 คาบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และ
ความคดิ เห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ตัวช้ีวัด ป.6/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรอื่ งใกลต้ วั
ป.6/5 พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเกย่ี วกับเรือ่ งต่างๆใกล้ตวั กจิ กรรมต่างๆพร้อมท้งั ใหเ้ หตุผล
สัน้ ๆประกอบ
มาตรฐาน ต1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่อื งต่างๆโดยการพูดและการเขียน
ตวั ชว้ี ดั ป.6/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพ่ือน และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว
2. สาระการเรียนรู้
Function Structure Vocabulary Pronunciation
postcode, telephone Vowel sounds /eI/,
1. Talking about one’s - My name is (Manat Yotying). number, name, age, /aI/
address
address and - My address is (27/82 Pracharat 1 Road,
surfing the Internet,
telephone number Bangsue, Bangkok, 10800). like
- My telephone number is (0-2512-0661). profile
2. - Introducing - I’m (Manat Yotying).
oneself - I’m in Prathom 6 at (Wat Thananya School).
- I like (swimming).
- Expressing likes - I like (playing) (the guitar).
3. Asking for and - What’s your (name/address/telephone
giving personal number)?
information My (name) is (Jane).
- How old are you?
I am (11).
- What do you like to do?
I like (swimming).
Function Structure Vocabulary Pronunciation
4. Talking about favorite favorite, different,
- (Jane’s) favorite (food) is (sandwiches). fried rice, delicious,
things - What is (your) favorite (fruit)? fruit
pen pal, hope
5. Asking for and giving My favorite (fruit) is (coconut).
information about oneself ever, never
- How long have you studied (English)?
6. Asking for and giving I’ve studied it for (six years).
information about things
you have (never) done - Have you ever been to (Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I) (have) (finished my homework).
- (He) (has) never (cleaned the room).
- Have you ever (seen) (a dolphin)?
Yes, I have./No, I haven’t.
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
นกั เรียนสามารถตอบคำถาม Howcanyoutellsomeoneaboutyourself? ได้
4. พฤติกรรมการเรยี นรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ด้านความรู้ ( Knowledge : K) บอกใหข้ ้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง และเรอื่ งใกล้ตวั
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน การคิดวิเคราะห์ (แปลความ
ตีความ) กระบวนการกลุม่ การตั้งคำถาม กระบวนการปฏิบตั ิ การเลยี นเสียงเพื่อสอื่ ความ การระบุ การ
สังเกต การจำ การประเมนิ ตนเอง
ด้านเจตคติ/คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ (Attitude: A)
1. รักชาติ
2. ซอ่ื สัตย์สุจริต
3. มวี นิ ยั
4. ใฝ่ความรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มีจติ สาธารณะ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลกั สูตรการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ทักษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะการอ่าน (Reading)
2. ทักษะการ เขยี น (Writing)
3. ทกั ษะการคดิ คำนวณ (Arithmetic)
4. ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา
(Critical thinking and problem solving)
5. ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทักษะด้านความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดา้ นการสอื่ สารสารสนเทศและรูเ้ ท่าทนั ส่ือ (Communication information
and media literacy)
9. ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มคี ุณธรรม มเี มตตา กรุณา มีระเบียบวินยั (compassion)
7. การบรู ณาการ
1. บรู ณาการรายวิชาอืน่ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ภาษาไทย
2. บูรณาการหลักสตู ร STAR STEM …………………………………………………………………………….
3. อืน่ ๆ (ระบุ......................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
1สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
2. ภาษาไทย
9. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 6 SB หนา้ 7-8 WB หนา้ 6-7
ข้นั นำ
Warm up
1.1 นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 6 Find the words. ใน WB หน้า 6 นักเรียนค้นหาคำศัพท์ใน
ตารางแล้ววงกลมล้อมรอบคำศัพท์น้ัน
Answers
6. Find the words.
1.2 นักเรียนทำกิจกรรมที่ 6 Sing along song. ใน SB หน้า 7 ให้นักเรียนร้องเพลง Have
You Ever Been to Bangkok? โดยครเู ปิด CD 4 ใหฟ้ งั ก่อน 2 ครงั้ แล้วให้นกั เรียนร้องตาม
1.3 สนทนาเก่ียวกบั เพลง เช่น What is the song about?/What city is in the song?
ข้ันสอน
Presentation
2.1 ครูสอนคำศัพท์ ever โดยให้นักเรียนออกเสียง เดาความหมายจากเน้ือหา และช่วยสรุป
ความหมายของคำศพั ท์ ever (เคย)
2.2 นักเรียนอ่านประโยคคำถามจากเพลง ครใู ห้นักเรียนสงั เกตวิธตี อบรับและปฏเิ สธ
Have you ever been to Bangkok? คำตอบคือ Yes, I have. และ No, I haven’t.
2.3 ครูเขียนคำตอบ Yes, I have. และ No, I haven’t. บนกระดานดำ ให้นักเรียนอ่านออก
เสียงตามครู
2.4 แบ่งนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มท่ี 1 พูดคำถามตามครู กลุ่มที่ 2 ตอบ Yes, I have. และ
พยักหนา้ ประกอบการตอบ กล่มุ ท่ี 3 ตอบ No, I haven’t. และส่ายหนา้ ประกอบการตอบ ดังน้ี
T: Have you ever been to Bangkok?
Ss1: Have you ever been to Bangkok?
Ss2: Yes, I have. เมอ่ื ครชู ้ที ี่คำตอบ Yes, I have. บนกระดานดำ
Ss3: No, I haven’t. เมอ่ื ครชู ท้ี ่ีคำตอบ No, I haven’t. บนกระดานดำ
ครูสอนคำศัพท์ never โดยเขียนประโยค I have never been to Bangkok ต่อจาก
คำตอบของนักเรยี นกลุ่มท่ี 3 ให้นกั เรียนเดาความหมาย
2.5 ครตู ิดบัตรคำ never บนกระดานดำ ออกเสียงคำศัพท์และให้นักเรยี นสังเกตการออกเสยี ง
/v/ ซ่ึงไม่เหมือนการออกเสียงของตัว “ว” ในภาษาไทย ให้นักเรียนใช้ฟันบนขบปากล่างเบาๆ เพื่อออก
เสียง /v/ แล้วจงึ ออกเสียงทง้ั คำ
2.6 ให้นักเรียนบอกประโยคโดยใช้โครงสร้างประโยค I have been to … . และ I have
never been to ... .
2.7 นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 7 Learn more. ข้อ A. Listen and learn. ใน SB หน้า 8 ครูเปิด
CD 5 ให้นักเรยี นฟงั แลว้ อ่านตาม 2-3 คร้งั
CD Script 5
W: 7. Learn more.
A. Listen and learn.
The Present Perfect Tense
I have finished my homework.
He has cleaned the room.
They have won the match.
หลังจากน้ันครูอ่านคำกริยาในตาราง Base Form ให้นักเรียนอ่านคำในช่อง Past
Simple และ Past Participle นักเรียนสังเกตว่า ในภาษาอังกฤษมีการเปล่ียนแปลงรูปกริยาไปตามกาล
(Tense) แต่ภาษาไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปกริยาไปตามกาล ครูเขียนประโยคท่ี 1 I have just
finished my homework. บนกระดาน อธบิ ายว่าเป็นเหตุการณ์ท่ีเพ่ิงสิ้นสุดลง (โดยมีคำวา่ just มาช่วย)
และประโยคที่ 2 He has already cleaned the room. (โดยมีคำว่า already มาช่วย) เปน็ เหตุการณ์ที่
เกิดข้ึนและสิ้นสุดไปแล้ว They have won the match. บอกเหตุการณ์ที่เพ่ิงเกิดข้นึ ครอู ธบิ ายเพิ่มเติม
ว่า ในประโยคจะใช้ verb to have + กรยิ าช่องที่ 3 (past participle) จากน้ันใหน้ กั เรยี นลองใช้
Present Perfect แต่งประโยคคนละ 1 ประโยค ครูให้พูดประโยคท่ีแต่งทีละคน เพ่ือทดสอบความเข้าใจ
ถ้านกั เรียนแต่งไมถ่ กู ต้อง ครอู ธบิ ายและชว่ ยแกไ้ ข
ข้ันสรปุ
Practice
นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 7 Read the words in the table and write 2-3 sentences
about what you have never done. ใน WB หน้า 7 เขียนถึงส่ิงท่ีนักเรียนไม่เคยทำ 2-3 เหตุการณ์
ตามโครงสร้างประโยคทเ่ี รียน
ตัวอยา่ งคำตอบ I have never played golf.
I have never seen a dolphin.
I have never eaten durians.
Production
4.1 ให้นักเรียนเขียนบอกส่ิงท่ีเคยทำ I have …………. และไม่เคยทำ I have never ………….
อย่างละ 3 ประโยค
4.2 สมุ่ นักเรยี นออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรียน
Wrap up
ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปการใช้ ever, never และบันทกึ ขอ้ สรปุ ลงในสมดุ แบบฝกึ หัด
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
1.การเขียนถงึ สงิ่ ท่ไี ม่เคยทำมาก่อน
11. ส่ือการเรยี นรู้ / แหลง่ เรยี นรู้
1. Student’s Book 6
2. Workbook 6
12. การประเมินผลการเรยี นรู้
1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล
1. ประเมินตามสภาพจริงโดยใชแ้ บบประเมินการพดู
2. ประเมินด้วยแบบทดสอบทา้ ยหนว่ ย
2. เครอื่ งมือ
1. ประเมินตามสภาพจริง
2. การประเมนิ ผลตวั ช้ีวัด
เปา้ หมาย หลกั ฐาน วิธีวดั เครอ่ื งมือ
ตวั ชีว้ ดั ประเมนิ ภาระ แบบประเมิน
งาน ภาระงาน
ต 1.3 ป.6/1 การทำบัตรประจำตวั (MyCard)ของตนเอง
การทำบันทกึ ขอ้ มูลของตนเอง(Profile) ตรวจ แบบฝกึ หดั
เขยี นจดหมายถึงเพอ่ื น(penpal) แบบฝึกหัด
การเขยี นประโยคบอกสง่ิ ทีไ่ ม่เคยทำ
การทำแบบฝึกหดั เขียนประโยคจากตาราง