เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมินการพดู
เกณฑก์ าร ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ประเมนิ ดีเยยี่ ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ความถกู ตอง ออกเสียงคําศพั ท ออกเสียงคาํ ศัพท ออกเสียงคาํ ศพั ท์ ออกเสยี งคาํ /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคไม ถูกตอง
ถูกตองตาม ถูกตองตาม ถูกตองเปนสวน ทาํ ให สื่อสารไมได
หลกั การออกเสยี ง หลักการออกเสียง ใหญ ขาดการออก
ออกเสียงเน้นหลัก มีเสยี งเน้นหลัก ใน เสยี งเนนหนกั
ในคํา / ประโยค คาํ / ประโยค
อยางสมบรู ณ เปนสวนใหญ
ความคลองแคลว พดู ตอเน่ืองไม พูดตะกุกตะกักบาง พูดเปนคํา ๆ หยดุ พดู ไดบางคํา ทําให
ติดขดั พูดชดเจน ั แตยงั พอสอ่ื สารได เปนช่วง ๆ ทาํ ให ส่ือ ความหมาย
ทาํ ใหสือ่ สารได ส่อื สารได ไมชดั เจน ไม่ได้
การแสดงทาทาง แสดงทาทาง และ พดู ดว้ ยน้ำเสียง พดู เหมือนอานไม พดู ไดน้ ้อยมาก
/ น้ำเสยี ง พดู ด้วยน้ำเสยี ง เหมาะสมกบั บท เปนธรรมชาติ ขาด
ประกอบ การพดู เหมาะสมกบั บท บรรยาย แต่ไมม่ ี ความสนใจ
บรรยาย ทาทางประกอบ
เกณฑการตัดสนิ คุณภาพ ดมี าก
ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 11 – 12 ดี
พอใช
9 – 10 ควรปรับปรงุ
7–8 ตก เกณฑการผาน
5–6
3–4
การประเมนิ สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21
ประเด็นประเมิน แหลง่ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสำคญั ชิน้ งาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/
1. ความสามารถในการสือ่ สาร อธบิ ายหรือการ การสังเกต แบบสังเกต - ความถกู ต้องของ
2. ความสามารถในการคิด นำเสนอ ชิน้ งาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ชน้ิ งาน/การ การประเมนิ แบบประเมนิ -ตรงกับความเปน็
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี อธบิ าย/การ จริง
นำเสนอ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ -ความถกู ต้อง
2. ซอ่ื สัตย์สจุ ริต ช้นิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ - ความเขา้ ใจ
3. มวี นิ ยั อธิบายหรอื การ ประเมิน ประเมิน -ความเหมาะสม
4. ใฝค่ วามรู้ นำเสนอ ชน้ิ งาน/ ชิน้ งาน/ การ
6. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน การสงั เกต สังเกตการ
8. มีจติ สาธารณะ การอธบิ าย อธิบายหรอื
หรอื การ การนำเสนอ
ทักษะศตวรรษท่ี 21 นำเสนอ
1. Reading
2. Writing
3. Arithmetic
4. Critical thinking and problem
solving
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information
and media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7
วิชา ภาษาองั กฤษ 6 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ชื่อหน่วย About Myself จำนวน 8 คาบ
เรอื่ ง About Myself ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เวลา 1 คาบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งที่ฟังและอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ
เห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวชว้ี ัด ป.6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นทิ าน และบทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น
ป.6/3 เลอื ก/ระบุประโยค หรือข้อความสนั้ ๆ ตรงตามภาพ สญั ลักษณ์หรือเครื่องหมายที่
อ่าน
ป.6/4 บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา นทิ านงา่ ย ๆ
และเรอ่ื งเลา่
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั ป.6/4 พดู และเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่อื งใกลต้ วั
ป.6/5 พูด/เขยี นแสดงความรูส้ ึกของตนเองเกย่ี วกับเรอื่ งต่างๆใกล้ตวั กจิ กรรมต่างๆพร้อมท้งั ให้เหตผุ ล
สั้นๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรือ่ งตา่ งๆโดยการพูดและการเขียน
ตวั ช้ีวดั ป.6/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน และสง่ิ แวดล้อมใกล้ตัว
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวัด ป.6/3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วัด ป.6/1 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง ประโยคชนิดตา่ ง ๆ การใช้
เครื่องหมายวรรคตอนและการลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตัวชี้วัด ป.6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กิดข้นึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา
3. สาระการเรียนรู้
Function Structure Vocabulary Pronunciation
1. Talking about one’s postcode, telephone Vowel sounds /eI/, /aI/
- My name is (Manat Yotying). number, name, age,
address and address
telephone number - My address is (27/82 Pracharat 1 Road, surfing the Internet, like
2. - Introducing Bangsue, Bangkok, 10800). profile
oneself
- My telephone number is (0-2512-0661).
- Expressing likes
- I’m (Manat Yotying).
3. Asking for and
giving personal - I’m in Prathom 6 at (Wat Thananya
information
School).
- I like (swimming).
- I like (playing) (the guitar).
- What’s your (name/address/telephone
number)?
My (name) is (Jane).
- How old are you?
I am (11).
- What do you like to do?
I like (swimming).
Function Structure Vocabulary Pronunciation
4. Talking about favorite favorite, different,
- (Jane’s) favorite (food) is (sandwiches). fried rice, delicious,
things - What is (your) favorite (fruit)? fruit
pen pal, hope
5. Asking for and giving My favorite (fruit) is (coconut).
information about oneself ever, never
- How long have you studied (English)?
6. Asking for and giving I’ve studied it for (six years).
information about things
you have (never) done - Have you ever been to (Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I) (have) (finished my homework).
- (He) (has) never (cleaned the room).
- Have you ever (seen) (a dolphin)?
Yes, I have./No, I haven’t.
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
นกั เรียนสามารถตอบคำถาม Howcanyoutellsomeoneaboutyourself? ได้
5. พฤตกิ รรมการเรียนรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ดา้ นความรู้ ( Knowledge : K) บอกให้ขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเอง และเรือ่ งใกล้ตวั
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน การคิดวิเคราะห์ (แปลความ
ตีความ) กระบวนการกลุ่ม การต้ังคำถาม กระบวนการปฏิบัติ การเลียนเสยี งเพ่อื สื่อความ การระบุ การ
สังเกต การจำ การประเมินตนเอง
ดา้ นเจตคติ/คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (Attitude: A)
1. รักชาติ
2. ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
3. มีวนิ ยั
4. ใฝค่ วามรู้
5. อยูอ่ ย่างพอเพียง
6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นหลกั สตู รการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. ทกั ษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะการอา่ น (Reading)
2. ทักษะการ เขียน (Writing)
3. ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)
4. ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา
(Critical thinking and problem solving)
5. ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)
6. ทักษะด้านความรว่ มมือการทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
8. ทักษะดา้ นการสือ่ สารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information
and media literacy)
9. ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มคี ณุ ธรรม มเี มตตา กรุณา มรี ะเบยี บวนิ ยั (compassion)
8. การบูรณาการ
1. บรู ณาการรายวชิ าอืน่ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ภาษาไทย
2. บูรณาการหลักสตู ร STAR STEM …………………………………………………………………………….
3. อน่ื ๆ (ระบ.ุ .....................................................)
9. สาระการเรียนรู้
1สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
2. ภาษาไทย
10. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 7 SBหน้า 8-9 WBหน้า 8-9
ขัน้ นำ
Warm up
ทบทวนอ่านคำกริยาในรูปกาลต่างๆ ใน SB หน้า 8 แบ่งนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 อ่าน
Base Form กล่มุ ที่ 2 อ่าน Past Simple และกลมุ่ ท่ี 3 อ่าน Past Participle หลังจากนัน้ ให้สลบั กนั
ข้นั สอน
Presentation
2.1 ครตู ดิ บัตรคำ Yes. และ No. บนกระดานดำ แล้วถามคำถาม เช่น Have you ever seen
a whale? แล้วช้ี No. และพูด No, I haven’t. หรือ Have you ever seen a zebra? แล้วช้ี Yes. และ
พดู Yes, I have.
2.2 พูดคำถามและชี้ที่ Yes. หรือ No. บนกระดานดำให้นักเรียนตอบตามความเข้าใจ
หลังจากนักเรียนตอบแล้วครูพูดอธิบายความเพ่ิม เช่น No, I have never seen a whale. และ Yes, I
have seen a zebra.
2.3 ครูเขียนประโยค I have …. . ใต้คำศัพท์ Yes. สอนออกเสียงคำว่า ever และเขียน
ประโยค I have never …. . ใต้คำศัพท์ No. แล้วถามโดยใช้บัตรภาพอื่นๆ ให้นักเรียนพูดตอบแบบ
ขยายความ
ขั้นสรปุ
Practice
3.1 นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 7 Learn more. ข้อ B. Read and say the answers. ใน SB
หน้า 9 ให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนอ่านคำถามแต่ละข้อแล้วผลัดกันถาม-ตอบตามโครงสร้างประโยคท่ีเรียน
ในกิจกรรมข้อ 2.3
3.2 นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 8 Fill in the blanks. ใน WB หน้า 8 เติมคำลงในช่องว่างให้
ถูกต้อง ใหน้ กั เรยี นหาความหมายของคำศพั ท์และกริยาช่องที่ 2 และ 3 ใน Dictionary
Answers Past Simple Tense Past Participle
began begun
8. Fill in the blanks. called called
Base Form of Verb found found
1. begin gave given
2. call learnt learnt
3. find made made
4. give put put
5. learn read read
6. make sang sung
7. put talked talked
8. read took taken
9. sing
10. talk
11. take
3.3 ให้อาสาสมัครออกมาเขียนคำที่เติมในแต่ละช่อง แล้วให้นักเรียนตรวจสอบคำตอบของ
ตนเองแล้วอา่ นออกเสียงตามครทู ลี ะคำ
3.4 ครูอ่านคำ Base Form of Verb ให้นักเรียนอ่านคำใน Past Simple Tense และ
Past Participle
3.5 นักเรียนทำกิจกรรมที่ 9 Read the information in the table and write about it.
ใน WB หน้า 9 นักเรียนดูกิจกรรมของเด็กแต่ละคนในตารางที่กำหนดให้ แล้วเลือก 1 คนมาเขียนเป็น
ประโยคให้สมบูรณ์ ครูคอยให้ความช่วยเหลือในกรณีท่ีนักเรียนไม่เข้าใจ หลังจากนั้นให้เขียนจาก
ประสบการณ์จริงของนักเรียนตามหัวข้อในตาราง ว่านักเรียนเคยทำหรือไม่เคยทำกิจกรรมใด โดยใช้
ประโยค I have …………… และ I have never ……………
Answers
9. Read the information in the table and write about it.
1. Malai has climbed a tree. 2. Malai has been to a waterfall.
3. Malai has visited a museum. 4. Malai has written a diary.
5. Wichit has never climbed a tree. 6. Wichit has never been to a waterfall.
7. Wichit has visited a museum. 8. Wichit has written a diary.
9. Penporn has climbed a tree. 10. Penporn has been to a waterfall.
11. Penporn has never visited a museum.12. Penporn has written a diary.
13. I have (varied answers). 14.I have never (varied answers).
Production
ให้นักเรียนกำหนดหัวข้อกิจกรรมเพื่อสัมภาษณ์เพ่ือน Have you ever ……………? แล้วเขียน
รายงานสรปุ
…(…ชอ่ื…)…… has …………… . He/She has never …………… .
Wrap up
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการใช้ Present Perfect Tense โดยให้นักเรียนอาสาสมัครอออก
มาพดู ประโยคหน้าช้ันเรยี น
11. ช้ินงาน/ภาระงาน
-
12. สื่อการเรยี นรู้ / แหลง่ เรยี นรู้
1. Student’s Book 6
2. Workbook 6
13. การประเมินผลการเรยี นรู้
1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล
1. ประเมนิ ตามสภาพจริงโดยใชแ้ บบประเมินการพูด
2. ประเมนิ ด้วยแบบทดสอบท้ายหน่วย
2. เครอื่ งมือ
1. ประเมินตามสภาพจริง
2. การประเมนิ ผลตัวชวี้ ัด
เปา้ หมาย หลกั ฐาน วธิ ีวดั เครือ่ งมือ
ตวั ชวี้ ดั
ต 2.2 ป.6/1 การออกเสียงประโยคภาษาตา่ งประเทศเปรียบเทียบกับภาษาไทย ประเมนิ การ แบบประเมิน
การเปรยี บเทียบการเรยี งคำขยายคำนามระหว่างภาษาอังกฤษกบั พูด การพูด
ภาษาไทยและใชพ้ ดู ถาม-ตอบเกย่ี วกับเน้อื เร่ือง
เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมินการพดู
เกณฑก์ าร ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ประเมนิ ดีเย่ยี ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ความถกู ตอง ออกเสยี งคําศัพท ออกเสียงคาํ ศัพท ออกเสียงคาํ ศพั ท์ ออกเสยี งคาํ /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคไม ถูกตอง
ถูกตองตาม ถูกตองตาม ถูกตองเปนสวน ทาํ ให สื่อสารไมได
หลกั การออกเสยี ง หลักการออกเสียง ใหญ ขาดการออก
ออกเสียงเน้นหลัก มีเสยี งเน้นหลัก ใน เสยี งเนนหนกั
ในคํา / ประโยค คาํ / ประโยค
อยางสมบรู ณ เปนสวนใหญ
ความคลองแคลว พดู ตอเนอ่ื งไม พูดตะกุกตะกักบาง พูดเปนคํา ๆ หยดุ พดู ไดบางคํา ทําให
ตดิ ขดั พดู ชดเจน ั แตยงั พอสอ่ื สารได เปนช่วง ๆ ทาํ ให ส่ือ ความหมาย
ทาํ ใหสือ่ สารได ส่อื สารได ไมชดั เจน ไม่ได้
การแสดงทาทาง แสดงทาทาง และ พดู ดว้ ยน้ำเสียง พดู เหมือนอานไม พดู ไดน้ ้อยมาก
/ น้ำเสยี ง พดู ด้วยน้ำเสยี ง เหมาะสมกบั บท เปนธรรมชาติ ขาด
ประกอบ การพดู เหมาะสมกบั บท บรรยาย แต่ไมม่ ี ความสนใจ
บรรยาย ทาทางประกอบ
เกณฑการตัดสนิ คุณภาพ ดมี าก
ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 11 – 12 ดี
พอใช
9 – 10 ควรปรับปรงุ
7–8 ตก เกณฑการผาน
5–6
3–4
การประเมินสมรรถนะสำคญั คุณลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21
ประเด็นประเมิน แหลง่ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสำคัญ ชิ้นงาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/
1. ความสามารถในการส่ือสาร อธิบายหรอื การ การสังเกต แบบสังเกต - ความถกู ต้องของ
2. ความสามารถในการคิด นำเสนอ ชิน้ งาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ชน้ิ งาน/การ การประเมนิ แบบประเมนิ -ตรงกับความเปน็
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี อธิบาย/การ จริง
นำเสนอ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ -ความถกู ต้อง
2. ซ่ือสตั ย์สุจรติ ช้นิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ - ความเขา้ ใจ
3. มวี นิ ยั อธบิ ายหรอื การ ประเมิน ประเมิน -ความเหมาะสม
4. ใฝค่ วามรู้ นำเสนอ ชน้ิ งาน/ ชิน้ งาน/ การ
6. มงุ่ มั่นในการทำงาน การสงั เกต สังเกตการ
8. มจี ติ สาธารณะ การอธบิ าย อธิบายหรอื
หรอื การ การนำเสนอ
ทักษะศตวรรษท่ี 21 นำเสนอ
1. Reading
2. Writing
3. Arithmetic
4. Critical thinking and problem
solving
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information
and media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8
วิชา ภาษาองั กฤษ 6 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ชื่อหน่วย About Myself จำนวน 8 คาบ
เรอื่ ง About Myself ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 เวลา 1 คาบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ีฟังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิด
เห็นอย่างมีเหตุผล
ตัวช้วี ัด ป.6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนสั้น ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ป.6/3 เลอื ก/ระบุประโยค หรือข้อความสนั้ ๆ ตรงตามภาพ สญั ลักษณ์หรือเคร่ืองหมายที่
อ่าน
ป.6/4 บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา นทิ านงา่ ย ๆ
และเรอ่ื งเลา่
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั ป.6/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรอ่ื งใกลต้ วั
ป.6/5 พูด/เขยี นแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกย่ี วกับเรอื่ งต่างๆใกล้ตวั กจิ กรรมต่างๆพร้อมท้งั ให้เหตผุ ล
สัน้ ๆประกอบ
มาตรฐาน ต1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรือ่ งต่างๆโดยการพูดและการเขียน
ตวั ชี้วัด ป.6/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง เพื่อน และสง่ิ แวดล้อมใกล้ตัว
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวัด ป.6/3 เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วดั ป.6/1 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี ง ประโยคชนิดตา่ ง ๆ การใช้
เครื่องหมายวรรคตอนและการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตัวชวี้ ัด ป.6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กิดข้นึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา
3. สาระการเรียนรู้
Function Structure Vocabulary Pronunciation
1. Talking about one’s postcode, telephone Vowel sounds /eI/, /aI/
- My name is (Manat Yotying). number, name, age,
address and - My address is (27/82 Pracharat 1 Road, address
telephone number Bangsue, Bangkok, 10800). surfing the Internet, like
- My telephone number is (0-2512-0661).
2. - Introducing profile
oneself - I’m (Manat Yotying).
- I’m in Prathom 6 at (Wat Thananya favorite, different, fried
- Expressing likes rice, delicious, fruit
School). pen pal, hope
3. Asking for and - I like (swimming). ever, never
giving personal - I like (playing) (the guitar).
information - What’s your (name/address/telephone
4. Talking about number)?
favorite things My (name) is (Jane).
- How old are you?
5. Asking for and I am (11).
giving information - What do you like to do?
about oneself I like (swimming).
- (Jane’s) favorite (food) is (sandwiches).
6. Asking for and - What is (your) favorite (fruit)?
giving information My favorite (fruit) is (coconut).
about things you - How long have you studied (English)?
have (never) done I’ve studied it for (six years).
- Have you ever been to (Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I) (have) (finished my homework).
- (He) (has) never (cleaned the room).
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
นักเรียนสามารถตอบคำถาม Howcanyoutellsomeoneaboutyourself? ได้
5. พฤติกรรมการเรยี นรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ด้านความรู้ ( Knowledge : K) บอกให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเอง และเรอ่ื งใกล้ตวั
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน การคิดวิเคราะห์ (แปลความ
ตีความ) กระบวนการกลุม่ การต้ังคำถาม กระบวนการปฏิบตั ิ การเลยี นเสียงเพ่ือส่ือความ การระบุ การ
สังเกต การจำ การประเมินตนเอง
ดา้ นเจตคต/ิ คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ (Attitude: A)
1. รักชาติ
2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต
3. มีวนิ ัย
4. ใฝค่ วามรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มจี ิตสาธารณะ
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนหลกั สตู รการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. ทกั ษะของผ้เู รยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะการอา่ น (Reading)
2. ทกั ษะการ เขยี น (Writing)
3. ทกั ษะการคิดคำนวณ (Arithmetic)
4. ทักษะด้านการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา
(Critical thinking and problem solving)
5. ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะด้านความรว่ มมือการทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทักษะด้านความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดา้ นการสอ่ื สารสารสนเทศและรู้เท่าทนั สื่อ (Communication information
and media literacy)
9. ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มรี ะเบียบวินัย (compassion)
8. การบูรณาการ
1. บูรณาการรายวิชาอ่ืน สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ภาษาไทย
2. บรู ณาการหลักสูตร STAR STEM …………………………………………………………………………….
3. อื่นๆ (ระบุ......................................................)
9. สาระการเรยี นรู้
1สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
2. ภาษาไทย
10. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 8 SBหน้า 10 WBหน้า10
ข้ันนำ
Review
1.1 ครูและนักเรียนทบทวนคำศพั ท์และโครงสรา้ งประโยคจากทีเ่ รยี น ดังน้ี
คำศัพท์ :
telephone number, name, address, like, favorite, fruit
โครงสร้างประโยค :
- What grade (are) (you) in?
- What’s the name of (your) school?
- What do you like to do?
I like (swimming).
- What is your name/address/telephone number?
My (name) is (Jane).
- What is your favorite (fruit)?
My favorite (fruit) is (coconut).
- How long have you studied (English)?
I’ve studied it for (six years).
- Have you ever been to (Japan)?
Yes, I have./No, I haven’t.
ขั้นสอน
ให้นกั เรยี นทำกิจกรรมที่ 8 Say the words.ในSBหน้า10 ครูเปิด CD 6 ใหน้ ักเรียนฟงั
และอ่านออกเสียงตาม2-3 คร้ัง
CD Script 6 name
W: 8. Say the words.
Listen and repeat.
Vowel sounds
like profile
favorite age
ขนั้ สรปุ
ครูและนักเรียนช่วยกันทำแผนภูมิ (Chart)ส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในหน่วยน้ี เช่นโครงสร้าง
ประโยค คำศัพท์ และภาระงาน
ตัวอยา่ ง
AboutMyself
ภาษา กจิ กรรม
Language Structure Vocabulary ทำบตั รประจำตวั และเขียนจด
หมายถงึ เพอ่ื นทไ่ี ม่เคย
- Mynameis(ManatYotying). address,age,different, delicious,
- Myaddressis(27/82Pracharat1Road, Bangsue, ever, favorite,fried rice, fruit, พบกันมาก่อนทางไปรษณยี ์
hope,like, name,never,pen (pen pal) หรือทาง
Bangkok, 10800). pal, profile,surfingtheinternet, อนิ เทอร์เน็ต
- Mytelephonenumberis(0-2512-0661). telephone number, zip code
- I’m(ManatYotying).
- I’minPrathom6at(WatThananyaSchool).
- Ilike(swimming).
- Ilike(playing)(theguitar).
- What’syour(name/address/telephone
number)?
My (name) is (Jane).
- Howoldareyou?
I am (11).
- Whatdoyouliketodo?
I like (swimming).
- (Jane’s)favorite(food)is(sandwiches).
- Whatis(your)favorite(fruit)?
My favorite (fruit) is (coconut).
- Howlonghaveyoustudied(English)?
I’ve studied it for (six years).
- Haveyoueverbeento(Bangkok)?
Yes, I have./No, I haven’t.
- (I)(have)(finishedmyhomework).
- (He)(has)never(cleanedtheroom).
- Haveyouever(seen)(adolphin)?
Yes, I have./No, I haven’t.
1.4 นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์และประโยคจากแผนภูมิ (Chart) พร้อมกันทั้งช้ัน เป็นกลุ่ม และ
รายบุคคล
11. ช้นิ งาน/ภาระงาน
1. ทำแผนภูมิ (Chart) แสดงความรทู้ เ่ี รยี นมาในหน่วยนี้
2. ทำแบบประเมนิ ตนเอง (Things I can do.)
3. ทำแบบทดสอบทา้ ยหน่วย (Test yourself.)
12. สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งเรยี นรู้
1. Student’s Book 6
2. Workbook 6
13. การประเมินผลการเรยี นรู้
1. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ตามสภาพจริงโดยใชแ้ บบประเมินการพูด
2. ประเมนิ ดว้ ยแบบทดสอบท้ายหน่วย
2. เครือ่ งมือ
1. ประเมินตามสภาพจริง
2. การประเมนิ ผลตวั ชีว้ ัด
เปา้ หมาย หลกั ฐาน วิธีวดั เครอ่ื งมือ
ตวั ชวี้ ดั ประเมนิ การ แบบประเมิน
พูด การพูด
ต 2.2 ป.6/1 การออกเสียงประโยคภาษาต่างประเทศเปรยี บเทยี บกับภาษาไทย
การเปรียบเทยี บการเรยี งคำขยายคำนามระหว่างภาษาอังกฤษกบั
ภาษาไทยและใชพ้ ูดถาม-ตอบเกย่ี วกบั เนื้อเรอื่ ง
เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมินการพดู
เกณฑก์ าร ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ประเมนิ ดีเย่ยี ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
ความถกู ตอง ออกเสยี งคําศัพท ออกเสียงคาํ ศัพท ออกเสียงคาํ ศพั ท์ ออกเสียงคํา /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคไม ถกู ตอง
ถูกตองตาม ถูกตองตาม ถูกตองเปนสวน ทําให ส่ือสารไมได
หลกั การออกเสยี ง หลักการออกเสียง ใหญ ขาดการออก
ออกเสียงเน้นหลัก มีเสยี งเน้นหลัก ใน เสยี งเนนหนกั
ในคํา / ประโยค คาํ / ประโยค
อยางสมบรู ณ เปนสวนใหญ
ความคลองแคลว พูดตอเนอ่ื งไม พูดตะกกุ ตะกักบาง พูดเปนคาํ ๆ หยุด พูดไดบางคาํ ทําให
ติดขัด พดู ชดเจน ั แตยงั พอสอ่ื สารได เปนช่วง ๆ ทาํ ให สื่อ ความหมาย
ทําใหสือ่ สารได ส่อื สารได ไมชดั เจน ไม่ได้
การแสดงทาทาง แสดงทาทาง และ พดู ดว้ ยน้ำเสียง พดู เหมือนอานไม พูดไดน้ ้อยมาก
/ น้ำเสยี ง พดู ด้วยน้ำเสยี ง เหมาะสมกบั บท เปนธรรมชาติ ขาด
ประกอบ การพดู เหมาะสมกบั บท บรรยาย แต่ไมม่ ี ความสนใจ
บรรยาย ทาทางประกอบ
เกณฑการตัดสนิ คุณภาพ ดมี าก
ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 11 – 12 ดี
พอใช
9 – 10 ควรปรับปรุง
7–8 ตก เกณฑการผาน
5–6
3–4
การประเมนิ สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21
ประเด็นประเมิน แหลง่ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสำคัญ ชิน้ งาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร อธิบายหรือการ การสังเกต แบบสังเกต - ความถกู ต้องของ
2. ความสามารถในการคิด นำเสนอ ช้ินงาน
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ช้ินงาน/การ การประเมนิ แบบประเมนิ -ตรงกับความเป็น
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี อธิบาย/การ จริง
นำเสนอ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ -ความถกู ต้อง
2. ซ่อื สัตย์สุจรติ ช้นิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ - ความเขา้ ใจ
3. มีวนิ ยั อธิบายหรอื การ ประเมิน ประเมิน -ความเหมาะสม
4. ใฝ่ความรู้ นำเสนอ ชน้ิ งาน/ ชิ้นงาน/ การ
6. มงุ่ ม่ันในการทำงาน การสงั เกต สังเกตการ
8. มีจติ สาธารณะ การอธบิ าย อธิบายหรอื
หรอื การ การนำเสนอ
ทักษะศตวรรษที่ 21 นำเสนอ
1. Reading
2. Writing
3. Arithmetic
4. Critical thinking and problem
solving
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information
and media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion