The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานสถานการณ์ทางสังคมปี 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tpso8.policy, 2022-11-14 01:18:12

รายงานสถานการณ์ทางสังคมปี 2565

รายงานสถานการณ์ทางสังคมปี 2565

คำนำ

รายงานสถานการณ์ทางสังคมเป็นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณท์ ่ีเกิดข้ึนในสังคม ซงึ่ มีผลกระทบต่อ
คนและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้สังคมเดียวกัน การเปล่ียนแปลงในด้านต่าง ๆ นำมาซ่ึงการพัฒนา
แต่ขณะเดียวกนั ก็มีปัญหาทางสังคมเกิดขนึ้ ควบคู่กันมา เน่ืองจากเป็นการพัฒนาในเชิงโครงสร้างโดยไม่ได้มีการพัฒนา
คนให้รู้เท่าทันกับความเจริญก้าวหน้าท่ีเปล่ียนแปลงไป แม้ระยะหลังจะมีการมุ่งเน้นในเร่ืองของการพัฒนาคนมากขึ้น
แต่วิวัฒนาการในด้านต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้คนบางกลุ่มไม่สามารถปรับตัว ให้เข้ากับ
การเปล่ียนแปลงได้ และคนที่ไม่สามารถปรับตัวได้เหล่านี้ จะกลายเป็นผู้ประสบปัญหาทางสังคม ที่จำเป็นต้องได้รับ
ความช่วยเหลอื เพอ่ื ใหม้ คี ุณภาพชีวิตที่ดขี ึ้น ลดชอ่ งวา่ งของความเหลอ่ื มลำ้ จากการพฒั นา

หากมองในส่วนย่อยลงไปในระดับภูมิภาคจะพบว่าแต่ละภูมิภาคจะมีสถานการณ์ทางสังคมท่ีแตกต่างกันไป
ข้ึนอยู่กับบริบทของพ้ืนที่ สภาพแวดล้อม และทุนทางสังคมท่ีมี ซึ่งการศึกษาอย่างเฉพาะเจาะจงจะทำให้เข้าใจ
ถึงสถานการณ์รวมถึงสภาพปัญหาที่แท้จริง สามารถแก้ไขปัญหาหรือส่งเสริมการพัฒนาได้อย่างเหมาะสมตามวิถีชีวิต
และบริบทของพ้ืนท่ี ในส่วนสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 ซึ่งต้ังอยู่ท่ีจังหวัดอุตรดิตถ์ รับผิดชอบพ้ืนที่
กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่างที่ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์
ได้รวบรวมข้อมูลสถิติต่าง ๆ เพ่ือนำมาศึกษา วิเคราะห์ และคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ทางสังคมในพื้นที่
เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาให้ประชาชน มีคุณภาพชีวิ ตท่ีดี
ปราศจากภยั คกุ คามทางสังคม สามารถดำรงชีวิตอยไู่ ด้อยา่ งมคี ุณค่าและศักดิ์ศรี

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 หวังเป็นอย่างย่ิงว่า รายงานสถานการณ์ทางสังคมและคาดการณ์
แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคม ประจำปี 2565 ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่างน้ี จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ตอ่ ผู้ท่เี กย่ี วขอ้ งและผูท้ ส่ี นใจไม่มากก็น้อย หากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใด ต้องขออภยั ไว้ ณ ทนี่ ี้

สำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 8
19 สงิ หาคม 2565



บทสรุปผ้บู รหิ าร

การจดั ทำรายงานสถานการณท์ างสังคมของกลมุ่ จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด เป็นการนำเสนอขอ้ มูล
สถานการณ์ทางสังคมรวมทั้งสภาพปัญหาทเ่ี กิดขึน้ ตามบรบิ ทของพนื้ ท่ี ท้ังในมติ ิเชิงกลุ่มเป้าหมายท่ีมีความแตกต่างกัน
ตามช่วงวัย มิตเิ ชงิ ประเดน็ ท่ีเป็นลกั ษณะปัญหาสำคญั ของพ้ืนท่ปี ระเด็นต่าง ๆ เหล่านี้จำเปน็ ต้องมีการศกึ ษา วิเคราะห์
ประเมินสถานการณ์ รวมทั้งคาดการณ์ตามแนวโน้มความเป็นไปได้ท่ีอาจจะเกิดข้ึนเพื่อเป็นแนวทางในการกำหนด
นโยบายการแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้เป็นไป ในทิศทางที่ดีข้ึน แหล่งข้อมูลสำคัญ คือ ข้อมูลทุติยภูมิจากหน่วยงาน
ต่าง ๆ เชน่ กรมการปกครอง สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจแหง่ ชาติ กรมส่งเสริมและพัฒนา
คุณภาพชีวติ คนพกิ าร บทความและงานวจิ ัยตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง เปน็ ตน้

ข้อมูลท่ีได้จากการจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคม ประกอบด้วย สถานการณ์เชิงกลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่ม
โดยเป็นการประมวลข้อมูลสถิติต้ังแต่ปี พ.ศ.2553 – 2562 กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ประกอบด้วย กลุ่มเด็ก ซึ่งพบว่า
จำนวนของเด็กเป็นไปในทิศทางท่ีลดลงอย่างต่อเน่ืองทั้ง 6 จังหวดั กลมุ่ เยาวชน จำแนกทิศทางการเปลี่ยนแปลงของ
จำนวนเยาวชนได้เป็น 2 รูปแบบ คือ จังหวัดที่มีจำนวนเยาวชนลดลง ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก
เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์ ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนของเยาวชนเพิ่มสูงขึ้น คือ จังหวัดตาก กลุ่มสตรี ในพื้นท่ี 6
จังหวัดภาคเหนือตอนลา่ ง มีการเปล่ียนแปลงไป ใน 2 รปู แบบ คือ จังหวดั ทีม่ จี ำนวนสตรเี พม่ิ ข้นึ ประกอบด้วย จงั หวัด
กำแพงเพชร ตาก พษิ ณุโลก และเพชรบูรณ์ สว่ นจังหวัดท่มี จี ำนวนสตรีลดลง คือ สโุ ขทัย และอตุ รดติ ถ์ กล่มุ ครอบครัว
ในเร่ืองการจดทะเบียนสมรส เป็นไปใน 2 รูปแบบ คือ จำนวนคนจดทะเบียนสมรสลดลงเป็นส่วนมาก ได้แก่
กำแพงเพชร ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์ โดยจังหวัดพิษณุโลก เป็นจังหวัดเดียวท่ีมีจำนวนคนจดทะเบียน
สมรสเพ่ิมสูงขึ้น กลุ่มผู้สูงอายุ มีการเปล่ียนแปลงไป ในทิศทางเดียวกัน คือ มีจำนวนที่เพิ่มสูงข้ึน ท้ัง 6 จังหวัด กลุ่ม
คนพิการ มีจำนวนท่เี พิ่มสูงข้ึนอยา่ งต่อเน่ือง ทง้ั 6 จงั หวัด และกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทเี่ ป็นคนยากจน มีจำนวนทเี่ พ่ิมสงู ขึ้น
ทงั้ 6 จังหวดั

สถานการณ์เชิงประเด็น จากการวิเคราะห์ข้อมูลท้ัง 6 จังหวัด มีความสอดคล้องและให้ความสำคัญในเรื่อง
สำคัญที่สุด คือ ช่องว่างระหว่างวัยภายในครอบครัว ในมิติโครงสร้างครัวเรือน (ครอบครัวขยาย) กล่าวคือ ครอบครัว
ขยายได้เพ่ิมจำนวนข้ึนอย่างต่อเน่ืองตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพ้ืนท่ีชนบท ครอบครัวประเภทนี้
โดยปกตแิ ล้วมักจำแนกเปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ก) ครอบครัวข้ามรุ่นทมี่ ีปยู่ ่าตายายอาศัยอยู่ร่วมกับหลานโดยไมม่ ีคนวัย
แรงงานอาศัยอยู่ในครัวเรือน และ ข) ครอบครวั สามรุ่น หรือครอบครัวขยายโดยท่ัวไป ที่มีรุ่นปู่ย่าตายายอาศัยอยู่กับ
รุ่นลูกวัยแรงงานและรุ่นหลาน ทั้งน้ี คนรุ่นปู่ย่าตายาย ในครอบครัวขยายนั้นอาจไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สูงอ ายุ
ส่วนครอบครัวสามรุ่นนั้น อาจรวมเครือญาติคนอ่ืน ๆ หรือบุคคลทไี่ ม่ได้เปน็ สมาชกิ ครอบครัวอาศยั อยู่ในครัวเรือนดว้ ย
แม้ว่าครอบครัวข้ามรุ่นจะยังคงมีจำนวนไม่มาก แต่ก็มีสัดส่วนเพ่ิมข้ึนเป็น 2 เท่าในระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา
ทง้ั ในพ้ืนท่ีเขตเมืองและชนบท

สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สง่ ผลกระทบต่อประชาชนท้ังประเทศรวมถึงประชาชนใน
พื้นท่ีภาคเหนือตอนล่างซึ่งเป็นพื้นท่ีทางผ่านและศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งระหว่างภาคเหนือกับภาคอ่ืน ๆ ของ
ประเทศ ทำให้มีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 จากผู้เดินทางเข้ามาในพ้ืนท่ีหรือผ่านไปยัง
พื้นที่อ่ืน ๆ โดยเฉพาะจังหวัดพิษณุโลก ที่มีรูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงกว่า
จงั หวดั อ่นื ๆ ส่งผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจและชีวติ ความเป็นอยู่ของผู้คนในพนื้ ท่ใี นระยะยาว



การคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ทางสังคมเชิงกลุ่มเป้าหมายในอีก 2 ปีข้างหน้า คือ ปี พ.ศ.2564 -
2565 จากการวิเคราะห์โดยใชโ้ ปรแกรมทางสถติ ิพบว่า กลุ่มเดก็ มีแนวโนม้ ลดลง ซึง่ แสดงใหเ้ ห็นถึงอัตราการเกดิ ของ
เด็กในพนื้ ที่ลดน้อยลง สาเหตุสำคญั มาจากการที่ผหู้ ญิงนยิ มอยเู่ ป็นโสดมากขึ้น หรอื แตง่ งานชา้ ลง รวมทัง้ การมคี ่านยิ ม
ที่แต่งงานแล้วไม่ต้องการมีบุตร/มีจำนวนบุตรน้อยลง เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจต่อการเล้ียงดูเด็กท่ีเพ่ิมสูงข้ึน
กลุ่มเยาวชน มีแนวโน้มลดน้อยลงจากจำนวนของเด็กท่ีลดน้อยลง ในปัจจุบัน ซ่ึงส่งผลต่อจำนวนของวัยแรงงานใน
อนาคต กลุ่มสตรี แนวโน้มเพิม่ สูงขึน้ อย่างต่อเน่ือง สาเหตุเพราะเพศชายมีความเส่ียงในการเสียชีวิตมากกว่า และสตรี
มีอายุท่ียืนยาวมากกว่าเพศชาย กลุ่มครอบครัว มีแนวโน้มการจดทะเบียนสมรสลดลง เน่ืองมาจากสภาพเศรษฐกิจ
และค่านิยมในสังคมในปัจจุบันทำให้ผู้คนนิยมการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมากขึ้น อีกทั้งอาจมีภาระการดูแลบิดามารดา
ที่กำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ กลุ่มผู้สูงอายุ มีแนวโน้มเพิ่มสูงข้ึนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากวิทยาการทางการแพทย์ที่ทำให้คน
มีอายุยืนยาวมากขึ้น อัตราการเกิดและอัตราการตายลดน้อยลง กลุ่มคนพิการ มีแนวโน้มเพ่ิมสูงข้ึนอย่างต่อเนื่อง
จำนวนที่เพิ่มมากขึ้นนี้เป็นลักษณะของผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต/ติดเตียงจากภาวะความเครียดในสถานการณ์ปัจจุบัน
คนที่มีภาวะความเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ รวมทั้งคนที่พิการจากอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ยังพบความพิการในผู้สูงอายุ
ที่มีความเสอื่ มของอวัยวะต่าง ๆ เชน่ การมองเห็น/การได้ยินที่ไม่ชัดเจน ซึ่งส่งผลตอ่ การส่อื สารในชวี ิตประจำวนั และ
กลุ่มคนยากจน มีแนวโน้มของจำนวนคนยากจนลดน้อยลง ซ่ึงข้อมูลดังกล่าวน้ีมีความไม่สอดคล้องกับข้อมูล
สถานการณ์ความยากจนท่ีเป็นหน่ึงในประเด็นสำคัญของทุกจังหวัด ท้ังนี้ จากสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์โรค
ระบาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้คนตกงาน/ว่างงาน รายได้ลดลง ภาระหน้ีสินเพ่ิมขึ้น ทำให้จำนวนคนยากจนควร
เพ่ิมสูงข้ึน (ทั้งนี้ จากการคาดการณ์โดยใช้วิธีการทางสถิติพบว่า แนวโน้มของครอบครัวเร่ืองการจดทะเบียนสมรส
และแนวโน้มของคนยากจนมรี ูปแบบการทำนายท่ีมี คา่ ความแม่นยำค่อนข้างตำ่ ซ่ึงเป็นไปได้ว่า ข้อมูลในส่วนดังกล่าว
มีความผนั ผวนคอ่ นขา้ งสูง ทำให้การทำนาย ไมส่ ามารถบ่งชีท้ ิศทางได้อยา่ งชัดเจน)

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรสั โควดิ -19 มีความรุนแรงในระยะแรก ต่อมาเม่ือภาครฐั มกี ารกำหนด
มาตรการอย่างเคร่งครัด จังหวัดมีการเตรียมความพร้อมและมีแนวทางการจัดการตามสถานการณ์ในพ้ืนที่ ดังน้ัน
จึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้นหากไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อเพิ่มเติมจากผู้ติดเชื้อที่เดิ นทาง
กลับจากประเทศที่ยังคงมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 และมีการติดต่อไปยังผู้อื่น รวมท้ัง
ประชาชนยังคงดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามมาตรการที่หน่วยงานภาครัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด
ตอ่ เนือ่ ง

สถานการณ์ทางสังคมมีการเปล่ียนแปลงอย่างต่อเน่ืองตลอดเวลา บางอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและ
ส่งผลกระทบรุนแรงในวงกว้าง บางอย่างเกิดข้ึนอย่างช้าโดยประชาชนไม่ทันสังเกต ส่ิงท่ีประชาชนต้องตระหนักและ
เรยี นรู้ คือ การตดิ ตามข้อมูลข่าวสารเพ่ือให้รู้เท่าทนั สถานการณ์ต่างๆท่ีเกดิ ขึ้นในแตล่ ะวนั รู้จักปรับตวั เพ่ือให้สามารถ
ดำเนนิ ชวี ิตตอ่ ไปภายใตส้ ถานการณท์ เี่ ปล่ยี นแปลงตลอดเวลา

ข้อเสนอแนะจากข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง (กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก
เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์) ทั้งในมิติเชิงประเด็นและเชิงกลุ่มเป้าหมาย พบว่าสภาพเศรษฐกิจและค่านิยมในสังคม
ปัจจุบันทำให้ผู้คนนิยมการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมากกว่า จึงทำให้กลุ่มเด็กเยาวชนและวัยแรงงานมีแนวโน้มลดลง
เน่ืองจากอัตราการเกิดของทารกต่ำลง ทำให้สัดส่วนผู้สูงอายุมีมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดสภาวะพึ่งพิงมากข้ึน จึงขอให้
กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเตรียมความพรอ้ มรองรับสังคมผู้สูงอายุ
กำหนดแนวทางการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อรองรับกับกระแสสังคม
ท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ควรสนับสนุนให้ผู้สูงอายุเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อเพ่ิมช่องทางการเข้าถึงบริการและ
สวัสดิการต่าง ๆ เช่น line official หรือ Facebook และส่งเสริมการทำงานของผู้สูงอายุเพ่ือการพ่ึงพาตนเอง
เพ่อื ลดอัตราการพ่ึงพิง





สารบญั หน้า

คำนำ ก
บทสรุปผบู้ ริหาร ข
สารบญั ง
สารบัญตาราง ฉ
สารบญั แผนภมู ิ ซ
สว่ นที่ 1 บทนำ
1
1.1 หลักการและเหตผุ ล 2
1.2 วัตถปุ ระสงค์ 2
1.3 วธิ ดี ำเนินงาน 3
1.4 ผลที่คาดว่าจะไดร้ ับ
สว่ นที่ 2 ข้อมลู พน้ื ฐานในพืน้ ทีร่ ับผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 8 จงั หวัดอุตรดติ ถ์ 4
2.1 ทตี่ งั้ และอาณาเขต 5
2.2 ลักษณะภูมิประเทศ 6
2.3 ลักษณะภมู ิอากาศ 7
2.4 ด้านการปกครอง 7
2.5 ด้านประชากร 8
2.6 ด้านศาสนา ประเพณี วฒั นธรรมและชาติพันธุ์ 13
2.7 ด้านสาธารณสุข 16
2.8 ด้านการศึกษา 18
2.9 ด้านแรงงาน 20
2.10 ด้านท่อี ยู่อาศยั 21
2.11 ดา้ นเศรษฐกจิ 26
2.12 ดา้ นภาคเี ครือข่าย
สว่ นที่ 3 สถานการณ์กลุ่มเป้าหมายทางสังคมระดับกลุ่มจงั หวัด 29
3.1 กลุ่มเด็ก 30
3.2 กลุม่ เยาวชน 31
3.3 กลมุ่ สตรี 32
3.4 กลุม่ ครอบครวั 33
3.5 กลุ่มผูส้ งู อายุ 35
3.6 กลุม่ คนพิการ 38
3.7 กล่มุ ผ้ดู อ้ ยโอกาส






สารบญั (ตอ่ ) หนา้

ส่วนที่ 4 สถานการณ์เชงิ ประเดน็ ทางสังคมในระดับกลุ่มจงั หวัด 39
4.1 กลุ่มเปราะบางรายครัวเรอื น 43
4.2 สถานการณ์ภายใต้การแพร่ระบาดของเชอื้ COVID-19 46

4.3 สถานการณ์เชงิ ประเดน็ ในพน้ื ที่กลุ่มจงั หวดั 48
ส่วนท่ี 5 การวเิ คราะห์และจดั ลำดับความรนุ แรงของสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวัด
51
5.1 สถานการณ์เชิงกลมุ่ เป้าหมายในพนื้ ทีก่ ลมุ่ จงั หวัด 52
ส่วนที่ 6 บทสรุปและขอ้ เสนอแนะ 53

6.1 บทสรปุ
6.2 ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย
6.3 ขอ้ เสนอแนะเชงิ ปฏิบตั ริ ะดบั กลมุ่ จงั หวัด
ภาคผนวก
เอกสารอา้ งองิ



สารบญั ตาราง

ตารางท่ี 2.1 แสดงขนาดพื้นท่ีกลุ่มจงั หวัดในเขตพน้ื ท่รี บั ผิดชอบของ สสว.8 หนา้ จ
4

ตารางท่ี 2.2 แสดงขนาดพนื้ ทกี่ ารใช้ประโยชน์ของ 6 จงั หวดั ในเขตพนื้ ทรี่ ับผดิ ชอบของ สสว.8 6

ตารางท่ี 2.3 แสดงจำนวนเขตการปกครองรายจังหวดั ในเขตพนื้ ที่รับผดิ ชอบของ สสว.8 ปี พ.ศ. 2563 7

ตารางที่ 2.4 แสดงจำนวนประชากรแยกตามชว่ งอายุ เพศ และรายจังหวดั ในเขตพื้นท่รี ับผดิ ชอบของ สสว.8 7

ตารางท่ี 2.5 แสดงจำนวนศาสนสถานรายจังหวดั ในเขตพืน้ ทีร่ ับผดิ ชอบของ สสว.8 8

ตารางท่ี 2.6 แสดงจำนวนหนว่ ยบริการสาธารณสขุ ภาครัฐและภาคเอกชน จำแนกตามจงั หวัด 13

ตารางท่ี 2.7 แสดงจำนวนประชากรต่อแพทย์รายจงั หวัด 14

ตารางที่ 2.8 แสดงสาเหตุการตาย 5 อันดับแรกจากโรคต่าง ๆ ของจังหวัดในเขตพน้ื ท่ีรับผิดชอบของ สสว.8 15

ตารางที่ 2.9 แสดงจำนวนนักเรียนนกั ศกึ ษาในระบบ จำแนกตามระดบั ช้ัน ปี พ.ศ. 2563 16

ตารางที่ 2.10 แสดงจำนวนสถานศกึ ษาในระบบ นอกระบบ จำแนกรายสังกัด รายจังหวดั 16

ปกี ารศกึ ษา 2563

ตารางที่ 2.11 แสดงจำนวนผูเ้ รียนนอกระบบโรงเรียนจำแนกตามระดับการศกึ ษา 17

ปี พ.ศ. 2560 - 2564 18
ตารางที่ 2.12 แสดงจำนวนนักเรยี นออกกลางคันระดับประถมศกึ ษา - มธั ยมศึกษาตอนปลาย

สงั กดั สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน (ปี 2560 – 2564)

ตารางที่ 2.13 แสดงภาวะการณ์มงี านทำของประชากรในกล่มุ จงั หวดั (มกราคม-มีนาคม 2565) 19
ตารางที่ 2.14 แสดงจำนวนคนตา่ งดา้ วท่ีไดร้ บั อนุญาตทำงานคงเหลือ พ.ศ. 2560 – 2564 19
ตารางท่ี 2.15 แสดงการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมจงั หวัด 20

ตารางที่ 2.16 แสดงผลิตภณั ฑม์ วลรวมจงั หวดั ต่อหวั (GPP per capita) ปี 2562 21

ตารางที่ 2.17 แสดงรายไดโ้ ดยเฉลยี่ ตอ่ เดือนต่อครัวเรือนของกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2558 - 2562 22

ตารางที่ 2.18 แสดงหนส้ี นิ เฉลยี่ ต่อครัวเรอื น จำแนกตามวตั ถุประสงค์ของการกู้ยืม พ.ศ. 2558 – 2562 23

ตารางท่ี 2.19 แสดงจำนวนองค์กรภาคเี ครือขา่ ย 25
ตารางท่ี 3.1 แสดงสถานการณ์เดก็ จำแนกตามจังหวดั 28 ฉ
ตารางท่ี 3.2 แสดงสถานการณเ์ ยาวชน จำแนกตามจังหวัด 30

ตารางท่ี 3.3 แสดงสถานการณ์กลุ่มสตรี จำแนกตามจังหวัด 31
ตารางท่ี 3.4 แสดงสถานการณ์ครอบครวั จำแนกตามจงั หวัด 32
ตารางที่ 3.5 แสดงสถานการณผ์ ูส้ ูงอายุ จำแนกตามจังหวัด 33

ตารางท่ี 3.6 แสดงสถานการณ์คนพิการ จำแนกตามจงั หวัด 35
ตารางท่ี 3.7 แสดงจำนวนคนพิการ จำแนกตามสาเหตุความพกิ าร แยกรายจงั หวดั 37
ตารางท่ี 3.8 แสดงสถานการณก์ ลมุ่ ผดู้ ้อยโอกาส จำแนกตามจงั หวดั 38

ตารางที่ 4.1.1 แสดงกล่มุ คนเป้าหมายตามฐานขอ้ มลู ระบบการพฒั นาคนแบบชี้เป้า TP MAP 39
แยกรายมิติ รายจงั หวัด 41

ตารางที่ 4.1.2 แสดงข้อมลู ครัวเรือนเปราะบาง รายจังหวัดในเขตพ้ืนทรี่ บั ผิดชอบ

ตารางท่ี 4.2.1 แสดงสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ COVID-19 พื้นท่ีกลุ่มจังหวัด 43

ตารางท่ี 4.2.2 แสดงข้อมูลการไดร้ ับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ประชาชนในพืน้ ที่กลุ่มจังหวดั 44

ตารางที่ 4.2.3 แสดงขอ้ มลู การให้ความชว่ ยเหลือผูไ้ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด 45
ของการแพรร่ ะบาดเชื้อ COVID - 19

สารบญั ตาราง (ตอ่ )

ตารางท่ี 5.1 แสดงผลการจัดลำดับความรนุ แรงของสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจงั หวดั กลมุ่ เดก็ ฉ
ตารางที่ 5.2 แสดงผลการจดั ลำดับความรุนแรงของสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด กลมุ่ เยาวชน หนา้
ตารางที่ 5.3 แสดงผลการจัดลำดับความรนุ แรงของสถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจงั หวัด กลมุ่ สตรี 48
ตารางท่ี 5.4 แสดงผลการจัดลำดับความรนุ แรงของสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวดั กลุ่มครอบครัว 48
ตารางท่ี 5.5 แสดงผลการจดั ลำดับความรนุ แรงของสถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจงั หวดั กลมุ่ ผสู้ งู อายุ 48
ตารางที่ 5.6 แสดงผลการจดั ลำดับความรุนแรงของสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจังหวดั กลุม่ คนพิการ 49
ตารางที่ 5.7 แสดงผลการจัดลำดับความรุนแรงของสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวัด กลุ่มผดู้ ้อยโอกาส 49
50
50

สารบญั แผนภมู ิ ช

แผนภมู ทิ ี่ 1 แสดงจำนวนประชากรรายจงั หวดั ในเขตพื้นท่ีรบั ผิดชอบของ สสว.8 หนา้
แผนภูมทิ ี่ 2 แสดงจำนวนหนว่ ยบรกิ ารสาธารณสขุ ในเขตพื้นท่ีรบั ผิดชอบของ สสว.8
แผนภมู ิท่ี 3 แสดงจำนวนประชากรต่อแพทย์รายจงั หวดั ในเขตพน้ื ท่ีรับผิดชอบของ สสว.8 8
แผนภมู ิที่ 4 แสดงสาเหตกุ ารตาย 5 อันดบั แรก จากโรคตา่ ง ๆ ในพ้ืนท่ีกล่มุ จงั หวัด 13
แผนภูมทิ ี่ 5 แสดงจำนวนผูเ้ รียนนอกระบบโรงเรยี น จำแนกตามระดับการศึกษา 14
15
ปกี ารศกึ ษา 2560 – 2564 17
แผนภูมทิ ่ี 6 แสดงภาวะการมีงานทำของประชากรในกล่มุ จังหวัด.
แผนภูมิที่ 7 แสดงจำนวนคนต่างดา้ วทไ่ี ด้รับอนญุ าตทำงานคงเหลือ พ.ศ.2560 - 2564 19
แผนภูมทิ ่ี 8 แสดงการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ปี 2560 - 2562 20
แผนภมู ิที่ 9 แสดงรายไดโ้ ดยเฉลีย่ ต่อเดือนตอ่ ครวั เรอื นของกลุ่มจงั หวัด พ.ศ.2560 – 2564 21
แผนภูมทิ ี่ 10 แสดงหน้ีสนิ เฉล่ยี ตอ่ ครัวเรือน จำแนกตามวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม 23
25
พ.ศ.2562-2564
แผนภมู ิที่ 11 แสดงจำนวนองค์กรภาคเี ครอื ข่ายในพืน้ ทีร่ บั ผิดชอบของ สสว.8 27
แผนภูมทิ ่ี 12 แสดงจำนวนองคก์ รภาคเี ครอื ขา่ ย อพม. และ ข้อมูลคลังปญั ญาผสู้ ูงอายุ 28
แผนภูมิท่ี 13 แสดงจำนวนกลุ่มเด็กจำแนกตามสถานการณใ์ นพืน้ ท่ีรบั ผิดชอบของ สสว.8 30
แผนภูมทิ ี่ 14 แสดงจำนวนกลุ่มเยาวชนจำแนกตามสถานการณ์ในพนื้ ทีร่ บั ผิดชอบของ สสว.8 31
แผนภูมทิ ี่ 15 แสดงจำนวนกลุ่มสตรจี ำแนกตามสถานการณใ์ นพ้ืนท่ีรบั ผิดชอบของ สสว.8 32
แผนภมู ิท่ี 16 แสดงจำนวนครอบครวั จำแนกตามสถานการณใ์ นพื้นท่รี ับผดิ ชอบของ สสว.8 34
แผนภูมทิ ี่ 17 แสดงจำนวนผสู้ ูงอายจุ ำแนกตามสถานการณ์ในพืน้ ทรี่ ับผดิ ชอบของ สสว.8 35
แผนภมู ิท่ี 18 แสดงจำนวนคนพกิ ารจำแนกตามสถานการณใ์ นพืน้ ทร่ี ับผิดชอบของ สสว.8 36
แผนภูมทิ ี่ 19 แสดงจำนวนผู้พิการจำแนกตามสาเหตุความพิการในพ้นื ทีร่ บั ผิดชอบของ สสว.8 37
แผนภูมทิ ่ี 20 แสดงจำนวนผพู้ ิการจำแนกตามสาเหตุความพิการในพน้ื ทีร่ บั ผิดชอบของ สสว.8 38
แผนภมู ิที่ 21 แสดงจำนวนผดู้ อ้ ยโอกาสจำแนกตามสถานการณใ์ นพื้นทร่ี ับผดิ ชอบของ สสว.8 39
แผนภมู ิที่ 22 แสดงกล่มุ คนเป้าหมายตามฐานข้อมลู ระบบการพัฒนาคนแบบช้เี ปา้ 41

TPMAP แยกรายมติ ิรายจงั หวัด 45
แผนภูมทิ ่ี 23 แสดงสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ COVID-19 ในพ้นื ทีก่ ลมุ่ จังหวัด 46
แผนภมู ิที่ 24 ข้อมลู การไดร้ ับวคั ซนี ปอ้ งกันโรค COVID-19 ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวดั



สว่ นที่ ๑

บทนำ

๑.๑ หลกั การและเหตุผล

ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖
มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการบูรณาการ โดยกำหนดว่า “ในกรณีที่ภารกิจใดมีความเกี่ยวข้องกับหลายส่วน
ราชการหรือเป็นภารกจิ ทใ่ี กลเ้ คียงหรอื ต่อเน่ืองกนั ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนั้นกำหนดแนวทางปฏบิ ัติราชการ
เพื่อให้เกิดการบริหารราชการแบบบูรณาการร่วมกัน โดยมุ่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ”
(มาตรา 10 วรรค 1) ในทางปฏิบัติแม้ว่าจะมีความพยายามในการบริหารแบบบูรณาการในภารกิจที่มี
ความสำคัญหลายเรื่อง แต่ยังเกิดปัญหาความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติในหลายๆ ภารกิจ เป็นผลให้เป็นการ
สิ้นเปลอื งทรพั ยากรเปน็ อยา่ งมาก การปฏิรปู งบประมาณประเทศจาก “ระบบงานงบประมาณเชิงยุทธศาสตร์”
สู่ “ระบบงบประมาณเชิงพื้นที่” (Arae-Based Budgeting : ABB) ซึ่งเป็นแนวคิดของการทำงบประมาณ
แบบมีส่วนร่วม (Participatory Budgeting) โดยมีการฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ มีกระบวนการทำแผนพัฒนา
จากล่างขึ้นบนตั้งแต่แผนชุมชนจนถึงแผนจังหวัด และให้หน่วยงานทั้งภูมิภาคและท้องถิ่นร่วมกันกลั่นกรอง
ทำให้งบประมาณสามารถใช้ให้ตรงกับปัญหาความต้องการของคนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งเป็นทั้งกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลการใช้งบประมาณแผ่นดิน การมีส่วนร่วมของประช าชน
ในการบริหารจัดการตนเอง การสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาล การควบคุมพฤติกรรมนักการเมือง
โดยประชาชนในพ้นื ทแี่ ละการบรู ณาการการทำงานของหนว่ ย Function และหน่วย Area ทอี่ ย่ใู นพ้นื ท่ีร่วมกัน
ซงึ่ ตามแผนปฏิรปู กำหนดให้เร่ิมตง้ั แต่ปงี บประมาณ ๒๕๔๘

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ๑-๑๑ (สสว.) เป็นส่วนราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ใน
ส่วนภูมิภาค โดยมีอำนาจหน้าที่ คือ ข้อ ๑ พัฒนางานด้านวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ให้สอดคล้องกับพื้นที่และเป้าหมาย ข้อ ๒ ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการองค์ความรู้
ข้อมูลสารสนเทศให้คำปรึกษาแนะนำแก่หน่วยงานบริการกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ให้บริการ ในความรับผิดชอบ
ของกระทรวง รวมทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชนและประชาชน
ข้อ ๓ ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และสภาพแวดล้อมเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ทางสังคมและ
ผลกระทบ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะการพัฒนาสังคมและการจัดยุทธศาสตร์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
ข้อ ๔ สนับสนุนการนิเทศงาน ติดตามประเมินผลการดำเนินงานเชิงวิชาการตามนโยบายและภารกิจ
ของกระทรวงในพื้นที่กลุ่มจังหวัด มีหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ นอกจากนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบหมายให้
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการทำหน้าที่เชื่อมโยงประสานนโยบายระหว่างหน่วยงานส่วนกลางกับ
ส่วนภูมิภาคในการแปลงนโยบาย ข้อมูลสารสนเทศ องค์ความรู้ และแผนต่างๆ ของกระทรวงฯ ให้เกิด
การบูรณาการการปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ ในส่วนภูมิภาค ให้เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ และ
มกี ารปฏบิ ตั ิงานเปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ จึงตระหนักถึงความจำเป็นท่ีจะตอ้ งขับเคลื่อนให้เกิดการบูรณาการ
โครงการด้านสงั คมเชิงพื้นที่ในระดบั พื้นที่จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ทั้งในส่วนของแผนปฏิบัติงานและแผนคำขอ
งบประมาณเชิงพื้นที่ เพื่อตอบสนองความต้องการของจังหวัดและกลุม่ จังหวัดในการบรู ณาการการดำเนินงาน
พัฒนาสงั คมและสวสั ดกิ ารสังคมทส่ี อดคลอ้ งกับพน้ื ที่และยุทธศาสตร์อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและประสิทธิผล

1

ดว้ ยเหตนุ ี้ จึงเป็นท่ีมาของการจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมและคาดการณแ์ นวโน้มสถานการณ์
ทางสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8
จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ครอบคลุม 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และ
อุตรดิตถ์

๑.๒ วตั ถุประสงค์
๑.๒.๑ เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้น ในเขตพื้นท่ี

รบั ผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 8
๑.๒.๒ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ

สำนกั งานส่งเสริมและสนับสนุนวชิ าการ 8
๑.๒.๓ เพื่อเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

ของสำนักงานส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชาการ 8

๑.๓ วธิ ีการดำเนินงาน
ในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ๑ - ๑๑ ได้ตกลงร่วมกันและ

มอบหมายให้สำนักงานสง่ เสริมและสนับสนุนวิชาการ ๕ จงั หวดั ขอนแกน่ เปน็ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบหลักในการ
ดำเนินการเพือ่ จัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคม โดยมกี ารดำเนนิ การเพอ่ื ขบั เคลอื่ นงาน ดังนี้

๑) เจา้ ภาพ (สสว.๕ จ. ขอนแกน่ ) ประชุมชแ้ี จงเพ่ือสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ พร้อมทั้งกำหนด
แนวทางการจดั ทำรายงานสถานการณ์ทางสงั คม กลมุ่ จงั หวดั ประจำปี ๒๕๖๕

๒) เจา้ ภาพ (สสว.๕ จ. ขอนแกน่ ) จดั ทำแผนปฏบิ ตั ิการการจดั ทำรายงานสถานการณท์ างสงั คมกลุ่ม
จงั หวัด

๓) สสว. ๑-๑๑ กำหนดประเด็นการจดั ทำรายงานสถานการณ์ทางสงั คมระดบั กลุม่ จังหวัด
๔) สสว. ๑-๑๑ กำหนดรูปแบบ (Template) เล่มรายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด
ประจำปี ๒๕๖๕
๕) สสว. ๑-๑๑ ดำเนินการรวบรวม วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดในเขต
รบั ผิดชอบพร้อมท้ังจดั ลำดับความรุนแรงของสถานการณท์ างสงั คมในระดับกลมุ่ จงั หวัด
๖) สสว. ๑-๑๑ ดำเนินการจัดทำรูปเล่มรายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด และจัดส่งไฟล์
รูปเล่มพร้อมสรุปรายงานเปน็ INFO ใหเ้ จ้าภาพ
๗) สสว.๕ จ.ขอนแก่น (เจ้าภาพ) ประชุมถอดบทเรียนการจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมกล่มุ
จังหวัด
๘) สสว. ๑-๑๑ ดำเนินการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดแก่
หนว่ ยงานด้านสงั คมทเ่ี ก่ยี วข้อง (พมจ. กมพ. ทมี One Home พม. ภาคเี ครือข่าย) เพอื่ นำขอ้ มูลไปใช้ประโยชน์
ต่างๆ
๙) สสว. ๑-๑๑ ตดิ ตามการนำรายงานสถานการณ์ทางสงั คมกล่มุ จงั หวัดไปใช้ประโยชน์
๑๐) สสว.๕ จ.ขอนแก่น (เจ้าภาพ) รายงานผลการขับเคลื่อนงานการจัดทำรายงานสถานการณ์ทาง
สงั คมกลมุ่ จังหวัดประจำปี ๒๕๖๕

2

๑.๔ ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะไดร้ ับ
๑) มีข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมระดับพื้นที่ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย สามารถใช้ประโยชน์

ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาสงั คม
๒) หน่วยงานระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัด สามารถนำข้อมูลในพื้นที่ไปใช้ในการกำหนดนโยบาย

แผนงาน โครงการ ในการคุ้มครอง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาทางสังคมในระดับพื้นที่ และหน่วยงานระดับ
กระทรวง สามารถนำข้อมูลในภาพรวมไปใช้ประโยชน์วิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาทางสังคมที่สำคัญและ
กำหนดนโยบาย แผนงานในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาสงั คมภาพรวมต่อไป

3) แนวทางในการจัดสวัสดิการสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เป็นฐานข้อมูลสำหรับหน่วยงานภาครัฐ
ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะนำไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายในการ
วางแผนการทำงาน

4) เกิดการขับเคลื่อนการบูรณางานโครงการด้านสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดที่เชื่อมโยงกับหน่วยงาน
ระดับทัองถิ่นและระดับจังหวัดและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล และบรรลุวัตถุประสงค์ของเปา้ หมาย

3

สว่ นที่ ๒

ข้อมลู พ้นื ฐานในพ้ืนที่กลมุ่ จังหวดั ในเขตรับผดิ ชอบของ สสว. 8

(จงั หวัดกำแพงเพชร ตาก พิษณโุ ลก เพชรบูรณ์ สโุ ขทัย และอุตรดติ ถ์)
กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 ประกอบด้วย
จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดตาก จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดอุตรดิตถ์
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวพัฒนา East-West Economic Corridor
โดยมีจังหวัดพิษณุโลกเป็นเมืองศูนย์กลางความเจริญรองรับการเป็นศูนย์กลางบริการสี่แยกอินโดจีน
มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก เช่น อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
จังหวัดสุโขทัย แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและเชิงนิเวศน์ มีประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
อาทิ ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตทางการเกษตร คือ ข้าว ข้าวโพด อ้อย
และไม้ผล มีโครงข่ายคมนาคม ทั้งการขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางรถไฟที่สนับสนุนการขนส่งผู้โดยสาร
และสนิ ค้า มีแหล่งเกบ็ กกั น้ำขนาดใหญ่ 3 แห่ง ไดแ้ ก่ เขอื่ นภมู ิพลจังหวัดตาก เขื่อนสริ กิ ิต์ิจงั หวัดอตุ รดิตถ์ และ
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนจังหวัดพิษณุโลก มีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีศักยภาพในการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์และองค์ความรู้ในการพัฒนาพื้นที่ การพัฒนากลุ่มจังหวัด เน้นการเสริมศักยภาพ
ทางการเกษตรและการท่องเที่ยว ต่อยอดการพัฒนาด้วยฐานความรู้และเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพ
การผลิตและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตเดิม แก้ไขจุดอ่อนด้านการผลิตทรัพยากรมนุษย์ และการบริหาร
จัดการทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนการใช้โอกาสด้านศักยภาพที่ตั้งที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างภาคและ
ก า ร พ ั ฒ น า ต า ม North – South Economic Corridor แ ล ะ East – West Economic corridor
และประตูเช่ือมโยงชายแดนสาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมยี นมา และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

๒.๑ ที่ตั้งและอาณาเขต

ตารางที่ 2.1 แสดงทต่ี ง้ั และอาณาเขตพ้ืนที่กลมุ่ จังหวดั ในเขตรบั ผดิ ชอบของ สสว. 8

จังหวดั พน้ื ท่ี จำนวนประชากร ความหนาแน่น

กำแพงเพชร ตารางกโิ ลเมตร ไร่ (คน) ของประชากร
ตาก (ตร.กม./คน)

พิษณุโลก 8,608 5,379,681 712,143 87
เพชรบูรณ์
สโุ ขทยั 16,406 10,324,156 676,583 41
อุตรดิตถ์
10,815 6,759,909 847,384 78
รวม
12,668 7,917,760 978,372 77

6,596 1,676,982 583,591 88.86

7,838 4,899,120 446,148 57

62,931 36,957,608 4,244,221 428.86

ที่มา : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ข้อมลู ณ วนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๖๔

4

รปู ภาพ แสดงที่ตั้งอาณาเขตของกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพน้ื ทีร่ ับผิดชอบของ สสว.8

ทิศเหนือ ติดต่อกบั : จงั หวัดแม่ฮ่องสอน เชยี งใหม่ ลำพนู
ทิศใต้ ลำปาง แพร่ และนา่ น
ทศิ ตะวันออก ติดต่อกับ : จังหวดั นครสวรรค์ อุทัยธานี พจิ ิตร
ทิศตะวนั ตก ลพบุรี และกาญจนบรุ ี

ตดิ ต่อกบั : จังหวดั เลย ขอนแกน่ ชัยภูมิ และ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ตดิ ตอ่ กับ : สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมียนมา

๒.๒ ลักษณะภูมิประเทศ

จังหวัดกำแพงเพชร มลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศ แบง่ เป็น 3 ลักษณะ คอื

ลักษณะที่ 1 เป็นที่ราบลุ่มแมน่ ำ้ ปิงตอนล่างแบบตะพักลุ่มนำ้ (Alluvial Terrace) อยู่บริเวณทางดา้ น
ทศิ ตะวนั ออกและใต้ของจังหวัด

ลกั ษณะท่ี 2 เป็นเนินเขาเต้ียๆ สลับทีร่ าบ พบเหน็ บริเวณดา้ นเหนอื และตอนกลางของจงั หวัด
ลกั ษณะท่ี 3 เป็นภูเขาสลบั ซับซอ้ น เปน็ แหลง่ แรธ่ าตุ และตน้ น้ำลำธารตา่ งๆ ทสี่ ำคญั เชน่ คลองวังเจา้
คลองสวนหมาก คลองขลงุ และคลองวังไทร ไหลลงสู่แมน่ ้ำปิง
โดยสรุปแล้ว ลักษณะพื้นที่ของจังหวัดกำแพงเพชร ด้านตะวันตกเป็นภูเขาสูงลาดลงมา
ทางด้านตะวนั ออก ลักษณะดินเป็นดินปนทรายเหมาะแกก่ ารทำนา และปลูกพืชไร่
จังหวัดตาก สภาพพื้นที่โดยทั่วไปของจังหวัดตาก ประกอบด้วยป่าไม้ และเทือกเขาสูง มีพื้นที่ราบ
สำหรับการเกษตรน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิงเป็นทิวเขาถนนธงชัยสูงสลับซับซ้อน
จงั หวดั ตากแบ่งออกได้เปน็ 2 ส่วน คอื
ดา้ นตะวนั ออก ลกั ษณะภูมภิ าคดา้ นน้ี ประกอบด้วยภูเขาสูง ประมาณร้อยละ 65 ของพื้นท่ีซึ่งปกคลุม
ไปด้วยป่าโปร่ง และป่าเบญจพรรณ
ด้านตะวันตก ลักษณะภูมิภาคด้านนี้ ประกอบด้วยภูเขาสูง ประมาณร้อยละ 80 ของพื้นที่ปกคลุม
ไปด้วยปา่ โปรง่ ป่าดงดบิ และปา่ สน
ภูเขาที่สำคัญ ได้แก่ ภูเขาถนนธงชัย เขาหลวงและเขาพะเมิน แหล่งน้ำที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำปิง
แม่นำ้ วงั แม่น้ำกลอง แม่นำ้ เมย คลองวังเจา้ และ ห้วยแมล่ ะเมา
จังหวัดพิษณุโลก ทางตอนเหนือและตอนกลางเป็นเขตเทือกเขาสูงและที่ราบสูง โดยมีเขตภูเขาสูง
ด้านตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งอยู่ในเขตอำเภอวังทอง อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอเนินมะปราง อำเภอนครไทย

5

และอำเภอชาติตระการ พื้นที่ตอนกลางมาทางใต้เป็นที่ราบ และตอนใต้เป็นที่ราบลุ่ม โดยเฉพาะบริเวณ
ลุ่มแมน่ ้ำน่านและแมน่ ้ำยม ซึ่งเปน็ แหลง่ การเกษตรท่ีสำคญั ที่สุดของจังหวัดพษิ ณุโลก

จงั หวัดเพชรบรู ณ์ สูงจากระดับนำ้ ทะเลประมาณ 114 เมตร มพี ืน้ ท่ใี หญ่เป็นอันดบั ที่ 9 ของประเทศ
ลกั ษณะทางกายภาพของจังหวัดเพชรบูรณ์น้ันเป็นพ้ืนทรี่ าบลมุ่ แบบท้องกระทะ ประกอบด้วยเนินเขา ป่า และ
ทร่ี าบเปน็ ตอน ๆ สลับกันไป พ้ืนที่มลี ักษณะลาดชนั จากเหนือลงไปใต้ ตอนเหนือมีทวิ เขาสูง ตอนกลางเป็นพน้ื ที่
ราบและมีเทือกเขาขนาบกันไปทง้ั สองข้างมีลักษณะเป็นรูปเกอื กมา้ มีแมน่ ้ำป่าสกั เปน็ แมน่ ้ำสายสำคัญ จงึ ส่งผล
ใหพ้ ้นื ที่ดมี ีทรพั ยากรธรรมชาตมิ ากมาย ดินมสี ภาพอุดมสมบูรณ์เหมาะแกก่ ารเพาะปลกู พืชทำการเกษตร

จังหวัดสุโขทัย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม โดยตอนเหนือเป็นที่ราบสูงมีภูเขาเป็นพืดยาว
มาทางทิศตะวันตก พื้นที่ตอนกลางเป็นที่ราบและตอนใต้เป็นที่ราบสูง มีแม่น้ำไหลผ่านจากเหนือลงใต้
โดยผา่ นพื้นทอ่ี ำเภอศรีสชั นาลัย สวรรคโลก ศรีสำโรง เมอื งสโุ ขทยั และอำเภอกงไกรลาศ

จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ราบลุ่มแม่น้ำน่าน บริเวณสองฝั่งของแม่น้ำน่าน และลำน้ำสาขาที่ไหลมาบรรจบ
กับแม่น้ำน่าน สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม อยู่ในเขต อำเภอตรอน พิชัย ที่ราบระหว่างหุบเขาและ
เชิงเขา บริเวณที่อยู่ต่อเนื่องจากบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำทางด้านเหนือและด้านตะวันออกของจังหวัด
ประกอบด้วยที่ราบแคบๆ ระหว่างหุบเขาตามแนวคลองตรอน แม่น้ำปาด คลองแม่พร่อง ห้วยน้ำไคร้
และลำธารสายต่างๆ เขตภูเขาและทสี่ ูง อยใู่ นบริเวณทางด้านเหนือ และทางตะวนั ออกของจังหวดั

ตารางท่ี 2.2 แสดงขนาดพนื้ ทีก่ ารใช้ประโยชนข์ อง 6 จงั หวัดในเขตพน้ื ทีร่ ับผิดชอบของ สสว.8

จงั หวดั พน้ื ท่ี เน้ือท่ปี ่าไม้ พื้นที่ถือครองทางการเกษตร
(ไร)่
ภาคเหนือ (ไร่) ร้อยละ (ไร่) ร้อยละ
ตาก 106,027,680 56,392,370 53.19 32,505,134 30.66
10,254,156 7,784,534 75.92 13.70
เพชรบูรณ์ 7,917,760 2,508,263 31.68 1,404,387 41.42
พษิ ณโุ ลก 6,759,908 2,470,144 36.54 3,279,552 45.25
กำแพงเพชร 5,379,688 1,365,438 25.38 3,058,671 62.25
สโุ ขทัย 3,348,847
อุตรดิตถ์ 1,676,982 1,234,333 29.41
2,759,385 1,825,603 43.50
4,899,120 56.32
1,249,902 25.51

รวม 39,407,507 18,122,097 45.98 14,166,962 35.94
ท่ีมา : ข้อมลู สถติ กิ รมาปา่ ไม้ /ขอ้ มูลเน้ือทีก่ ารใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร (ข้อมูล ปี 2564)

๒.๓ ลกั ษณะภมู อิ ากาศ

สภาพภูมอิ ากาศของกลมุ่ จงั หวดั ภาคเหนือตอนล่าง สามารถแบ่งออกได้เปน็ 3 ฤดู ประกอบด้วย
1. ฤดูร้อน เริ่มต้นประมาณปลายเดือนมีนาคม - เดือนเมษายน อากาศจะร้อนและแห้งแล้งพอสมควร
อณุ หภมู ิสูงสุดเฉลี่ยอย่ทู ่ี 40 องศาเซลเซียส
2. ฤดูฝน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคม ในช่วงปี พ.ศ. 2551 - 2558
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 1,316 มิลลิเมตรต่อปี จำนวนวันที่ฝนตก 119 วัน และปริมาณฝนสูงสุด
88 มิลลิเมตร
3. ฤดูหนาว เริ่มต้นประมาณเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนมีนาคม อุณหภูมติ ่ำสุดเฉล่ียอยูท่ ่ี 11.9 องศา
เซลเซียส โดยในเขตพื้นที่บริเวณภูเขาและที่สูง มีอากาศหนาวเย็น โดยช่วงเดือนธันวาคม – เดือนมกราคม
ในเขตภูเขาสูงหรือยอดดอยสภาพอากาศจะหนาวเย็นมาก จนเกิดเป็นปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือที่เรียกว่า
“แมค่ นง้ิ ” และทำใหม้ ีนกั ท่องเที่ยวมาสัมผสั กับอากาศที่หนาวเย็นนี้เป็นจำนวนมากทุกๆ ปี

6

๒.๔ ขอ้ มูลการปกครอง

ตารางท่ี 2.3 แสดงจำนวนเขตการปกครองพ้นื ท่กี ลมุ่ จงั หวดั ในเขตรับผดิ ชอบของ สสว.8 (หนว่ ย:แห่ง)

จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน อบจ. เทศบาล เทศบาล เทศบาล อบต.

นคร เมือง ตำบล 64
49
กำแพงเพชร 11 78 963 1 - 3 22 76
ตาก 9 63 563 1 1 1 17 102
69
พษิ ณุโลก 9 93 1,048 1 1 1 24 53
เพชรบรู ณ์ 11 117 1,439 1 - 3 22 413
สุโขทยั 9 84 843 1 - 3 18
อุตรดิตถ์ 9 67 613 1 - 1 25

รวม 58 502 5,469 6 2 12 128

ท่ีมา : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, วนั ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔

จังหวัดกำแพงเพชร แบ่งการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ ดังนี้ อำเภอเมืองกำแพงเพชร ไทรงาม
คลองลาน ขาณุวรลักษบุรี คลองขลุง พรานกระต่าย ลานกระบือ ทรายทองวัฒนา ปางศิลาทอง บึงสามัคคี และ
โกสัมพีนคร แยกเป็น 78 ตำบล 963 หมู่บา้ น

จังหวัดตาก แบ่งการปกครองออกเป็น 9 อำเภอ ดังนี้ อำเภอเมือง บ้านตาก สามเงา แม่ระมาด
ทา่ สองยาง แม่สอด พบพระ อุ้มผาง และวังเจา้ แยกเป็น 63 ตำบล 563 หมบู่ ้าน

จังหวัดพิษณุโลก แบ่งการปกครองออกเป็น 9 อำเภอ ดังนี้ อำเภอเมือง ชาติตระการ นครไทย
เนนิ มะปราง บางกระทุ่ม บางระกำ พรหมพิราม วังทอง และวดั โบสถ์ แยกเปน็ 93 ตำบล 1,048 หมบู่ า้ น

จงั หวดั เพชรบูรณ์ แบ่งการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ ดังนี้ อำเภอเมอื ง หล่มสกั หล่มเก่า ชนแดน
หนองไผ่ บึงสามพัน วเิ ชียรบรุ ี ศรเี ทพ น้ำหนาว เขาคอ้ และวงั โป่ง แยกเป็น 117 ตำบล 1,439 หม่บู า้ น

จังหวัดสุโขทัย แบ่งการปกครองออกเป็น 9 อำเภอ ดังนี้ อำเภอเมือง บ้านด่านลานหอย คีรีมาศ
กงไกรลาศ ศรสี ัชนาลยั ศรีสำโรง สวรรคโลก ศรีนคร และทงุ่ เสลยี่ ม แยกเป็น 84 ตำบล 843 หมู่บ้าน

จงั หวดั อุตรดิตถ์ แบ่งการปกครองออกเปน็ 9 อำเภอ ดงั นี้ อำเภอเมือง ตรอน ท่าปลา น้ำปาด ฟากทา่
บ้านโคก พิชัย ลับแล และทองแสนขัน แยกเปน็ 67 ตำบล 613 หมู่บา้ น

๒.๕ ด้านประชากร

ตารางท่ี 2.4 แสดงจำนวนประชากรแยกตามช่วงอายุ จำแนกตามเพศ และจงั หวดั (หน่วย : คน)

จังหวดั อายุ ๐-๑๗ ปี อายุ ๑๘ – ๒๕ ปี อายุ ๒๖ – ๕๙ ปี อายุ ๖๐ ปีข้ึนไป

ชาย หญิง รวม ชาย หญิง รวม ชาย หญงิ รวม ชาย หญงิ รวม

กำแพงเพชร 72,300 67,286 139,586 36,880 35,502 72,382 179,045 181,439 360,484 62,697 75,871 138,568

ตาก 111,995 105,480 217,475 43,555 41,143 84,698 144,606 140,887 285,493 41,808 47,107 88,915

พิษณุโลก 80,132 75,528 155,660 46,151 42,076 88,227 210,324 218,167 428,491 77,970 97ม036 175ม006

เพชรบรู ณ์ 96,702 90,896 187,598 52,336 48,990 101,326 246,640 249,815 496,455 86,556 106,437 192,993

สุโขทยั 52,158 48,888 101,046 27,577 26,825 54,402 145,439 151,124 296,563 57,246 74,334 131,580

อุตรดติ ถ์ 37,843 35,378 73,220 22,653 21,460 44,113 109,195 113,099 222,294 46,896 85,065 104,961

รวม 413,206 388,470 801,676 220,023 208,657 428,680 1,013,265 1,036,365 2,049,630 364,108 451,204 815,312

ทีม่ า: ระบบสถติ ิทางทะเบยี น กรมการปกครอง ข้อมูล ณ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๖๔

7

แผนภมู ิท่ี 1 แสดงจำนวนประชากรในเขตพน้ื ที่รบั ผดิ ชอบของ สสว.8

4,500,000 ตาก พิษณโุ ลก เพชรบูรณ์ สโุ ขทยั อตุ รดติ ถ์ รวม
4,000,000 272,031 411,402 479,021 282,299 216,203 2,010,602
3,500,000 271,628 431,002 494,216 301,057 227,702 2,084,696
3,000,000 543,659 842,404 973,237 583,356 443,905 4,095,298
2,500,000
2,000,000
1,500,000
1,000,000

500,000
- กาแพงเพชร

จานวนประชากร ชาย 349,646
จานวนประชากร หญิง 359,091
จานวนประชากร รวม 708,737

จากตารางที่ 2.4 และแผนภูมิที่ 1 แสดงจำนวนประชากรในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 พบว่า
ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 4,095,298 คน แบ่งเป็นประชากรเพศชาย
2,010,602 คน ประชากรเพศหญิง 2,084,696 คน จังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุด คือ จังหวัด
เพชรบูรณ์ มีจำนวน 973,237 คน รองลงมาคือ จังหวัดพิษณุโลก มีจำนวน 842,404 คน ตามลำดับ
ประชากรส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในระหว่าง 26 – 59 ปี จำนวน 2,049,630 คน คิดเป็นร้อยละ 50.04
ของประชากรในกลุ่มจังหวัด ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงจำนวนประชากรผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) พบว่า กลุ่มจังหวัด
ในเขตพ้ืนที่รบั ผิดชอบ สสว.8 เข้าสู่สงั คมผสู้ ูงอายุแลว้ โดยมีประชากรผู้สงู อายุ จำนวน 815,312 คน คิดเป็น
ร้อยละ 19.90 ของประชากรในกลุ่มจังหวดั

๒.๖ ด้านศาสนา ประเพณี วฒั นธรรม และข้อมลู ชาตพิ นั ธ์
2.6.1 ด้านศาสนา

ตารางที่ 2.5 แสดงจำนวนศาสนสถานรายจงั หวัดในเขตพ้ืนท่รี ับผิดชอบของ สสว.8 (หน่วย : แหง่ )

จงั หวดั วัด สำนักสงฆ์ โบสถ์คริสต์ มสั ยดิ รวม
เพชรบูรณ์ 4 1,701
กำแพงเพชร 834 831 32 1 806
พษิ ณโุ ลก 1 783
สโุ ขทัย 619 143 43 1 527
อตุ รดติ ถ์ 0 453
599 167 16 5 312
ตาก 12 4,582
รวม 382 132 12
ทม่ี า สำนกั พระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ
340 95 18

116 68 123

2,890 1,436 244

8

2.6.2 ด้านศาสนา ประเพณี วฒั นธรรม และขอ้ มูลชาตพิ ันธ์

❖ จังหวดั กำแพงเพชร
เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

แห่งหนึ่ง เพราะมีโบราณสถานเก่าแก่ซึ่งก่อสร้างด้วยศิลาแลง
หลายแห่งรวมอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ที่ได้รับ
การพิจารณาคัดเลือกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และ
วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้ขึ้นทะเบียนเป็น
มรดกโลก และมีประเพณีที่สำคัญ
คือ งานนบพระ-เล่นเพลง
งานสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพง
ประเพณที อดผา้ ปา่ แถว

❖ จงั หวดั ตาก
เนื่องจากชาวจังหวัด

ตากส่วนหนึ่งมีเชือ้ สายล้านนา จึงมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่คล้ายคลึงกับ คนทางเหนือโดยประเพณีที่สำคญั
คือ ประเพณกี ว๋ ยสลาก และสงกรานต์ อีกส่วนหนง่ึ เป็นประเพณขี องชาวไทยภูเขา

จังหวัดตาก มีขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และการละเล่นพื้นเมืองที่สำคัญ ที่นิยมปฏิบัติ
สืบทอดกันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน คือ งานลอยกระทงสาย ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า ประเพณีกินวอ
จะจดั ระหวา่ งเทศกาลตรษุ จนี

❖ จงั หวดั พษิ ณโุ ลก
จังหวัดพิษณุโลก มีขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และการละเล่นพื้นเมืองท่ีสำคัญที่นยิ ม

ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ และยึดถือสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งมีประเพณีที่สำคัญที่เป็นที่ขึ้นชื่อของ
จังหวัดคือ ประเพณีทรงน้ำพระพุทธชินราชหรือพระพุทธชินสีห์ (หลวงพ่อใหญ่) เป็นพระพุทธรูปสำคัญ
คู่บ้านค่เู มือง จะทำการทรงนำ้ ในเดือนเมษายน ของทุกปี (วนั สงกรานต)์ และประเพณีย่ำกองบอกเวลา

ประเพณปี ักธงชัย เป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวอำเภอนครไทย ในอดีตพ่อขุนบางกลางหาวใชเ้ ปน็ ท่รี วบรวม
ไพร่พลเพื่อขบั ไลข่ อมในการต่อสูค้ รั้งน้ันไดร้ ับชัยชนะ จึงเอาผ้าคาดเอวผูกปลายไม้ปักไว้บนยอดเขาช้างล้วง เพื่อเป็น
อนุสรณ์ในชัยชนะ และมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การประกวดแห่ธง การแข่งขันผู้พิชิตเขาช้างล้วง ประกวดธิดา
พ่อขุนบางกลางหาว

ประเพณีแข่งเรือยาว เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก จะจัดงานแข่งเรือยาวประมาณ
เดือนตุลาคมของทุกปี หลังจากนำผ้าห่มองค์พระพุทธชินราช และจะมีการประกวดขบวนเรือ การแข่งเรือยาว
โดยประเพณีงานน้ีจดั ขึ้นบรเิ วณแมน่ ้ำนา่ นหน้าวัดพระศรีรตั นมหาธาตุ

9

งานมหกรรมอาหารและสนิ คา้ ของทร่ี ะลึกจังหวัดพิษณโุ ลก
จัดขึ้นเป็นประจำในช่วง เดือนเมษายนและในเดือนธันวาคมของทุกปีโดยเทศบาลนครพิษณุโลกร่วมกับ
การท่องเทยี่ วแหง่ ประเทศไทย มีการออกรา้ นของรา้ นอาหารข้ึนชอ่ื และของดใี นพืน้ ทจี่ งั หวดั พิษณุโลก

❖ จงั หวดั เพชรบูรณ์

จังหวัดเพชรบูรณ์ มีประชากรที่เป็นคนพื้นถิ่นพูดภาษาถิ่น ที่แตกต่างกันแต่ละท้องที่ นอกจากน้ี
ยงั มปี ระชากรทอี่ พยพจากสว่ นตา่ ง ๆ ของประเทศไทยใช้ภาษาถน่ิ เดมิ ของตน และชาวไทยภูเขาท่ีพูดภาษาของ
เผ่าม้ง จึงทำให้วฒั นธรรมทางภาษาถิ่นของเพชรบูรณ์มคี วามหลากหลาย ภาษาถิ่นที่ใชก้ ันในจังหวดั เพชรบูรณ์
สรปุ ไดด้ งั นี้

1) กลุ่มภาษาหล่ม (ลาวหลวงพระบาง) เป็นภาษาถน่ิ ท่ีใชก้ นั ในเขตอำเภอตอนบน ไดแ้ ก่ อำเภอหล่ม
เกา่ อำเภอหลม่ สัก อำเภอน้ำหนาว ประชากรในเขตพ้ืนทนี่ สี้ ่วนใหญ่เป็นคนท้องถน่ิ เดิม ภาษาพูดเป็นภาษาถิ่น
ดั้งเดิมครั้งอพยพมาจากเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ภาษาหล่มมีการใช้ศัพท์คล้ายกับภาษาไทยอิสาน
แต่แตกต่างกันที่สำเนียง ภาษาหล่มจะมีสำเนียงคล้ายกับภาษาลาวที่ใช้พูดในเมืองหลวงพระบาง ในตำบลต่าง
ๆ ในแต่ละอำเภอ สำเนียงพูดจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่สามารถสื่อสารกันได้ เพราะใช้ศัพท์ใกล้เคียงกัน
ปัจจบุ นั ความสะดวกทางการคมนาคมและการใชภ้ าษาไทยถิ่นกลาง จงึ ทำให้ภาษาไทยถ่ินกลางปะปนกับภาษา
หลม่ เชน่ พูดสำเนียงภาษาหล่ม โดยใช้ศพั ทภ์ าษาไทยถน่ิ ภาคกลาง

2) กลุม่ ภาษาเพชรบูรณ์ กลุ่มภาษานจ้ี ะพูดกันในเขตอำเภอเมืองเป็นภาษาทม่ี ีสำเนียงเป็นเอกลักษณ์
เฉพาะตัว คำศพั ทท์ ่ใี ช้มที ง้ั ภาษาถน่ิ ไทยกลาง และภาษาลาวหล่ม

3) กลุ่มภาษาเพชรบูรณ์ตอนใต้ คือ ภาษาท่ี ใช้กันในเขตอำเภอตอนใต้ซึ่งได้แก่ อำเภอบึงสามพัน
อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอศรีเทพ ภาษาที่ใช้พูดจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ภาษาถิ่นไทยภาคกลาง ซึ่งส่วนใหญ่
จะเป็นคนท้องถิ่นเดิม และภาษาพูดอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ภาษาสีน ผู้พูดภาษาน้ีส่วนใหญ่เป็นประชากรที่อพยพ
มาจากจังหวัดต่าง ๆ ของภาคอีสาน แต่ประชากรส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาเพชรบูรณ์ตอนใต้ ได้ทั้ง
สองกลมุ่ ภาษา คอื ภาษาไทยกลางและภาษาอีสาน

4) กลุม่ ภาษาถนิ่ ไทยกลาง เปน็ ภาษาทใ่ี ช้พูดทวั่ ไปในเขตจงั หวดั เพชรบูรณ์ เพราะเพชรบรู ณ์เป็นเมือง
ที่มีประชากรมาจากหลายท้องที่อพยพเข้ามา จึงใช้ภาษาถิ่นไทยกลางในการสื่อสาร แต่การใช้ภาษาจะมีศัพท์
ภาษาเดิมผสมผสานกันบา้ ง

5) ภาษากลุ่มชาวบน ชาวบนเป็นกลุ่มชนดั้งเดิมของเพชรบูรณ์ สืบเชื้อสายมาจากละว้า มีภาษาพูด
เป็นภาษาชาวบน ซ่งึ คำศพั ทแ์ ตกตา่ งไปจากภาษากลุ่มอ่ืน ๆ ปจั จบุ นั ประชากรเช้ือสายชาวบนเป็นชนกลุ่มน้อย
มีชมุ ชนอยู่ที่บา้ นน้ำเลา บา้ นห้วยไคร้ อำเภอเมือง และบ้านทา่ ด้วง อำเภอ หนองไผ่

6) ภาษากลุ่มชาวเขา ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดเพชรบูรณ์มีรูปร่างคล้ายก ระทะ
มภี เู ขาล้อมรอบทุกด้าน จึงมีประชากรส่วนหน่ึงอาศัยอยู่บนเขา ชาวเขาในจังหวดั เพชรบูรณ์ประกอบด้วยชาวเขา
เผ่าม้งเป็นส่วนใหญ่ และเผ่าอื่น ๆ เช่น ลีซอ เป็นต้น ซึ่งอาศัยบริเวณภูทับเบิกและเขาค้อเป็นส่วนใหญ่

10

หมู่บ้านชาวเขาได้แก่ บ้านเข็กน้อย ซึ่งเป็นหมู่บ้านม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บ้านเล่าลือ บ้านเล่าน้ง
บา้ นเพชรดำ อำเภอเขาค้อ และบา้ นทับเบกิ บ้านนาสะอุง้ บ้านดอยนำ้ เพยี งดนิ บา้ นภูโปด อำเภอหล่มเกา่

งานกาชาดมะขามหวานเพชรบูรณ์ จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมของทุกปี ภายในงาน
มีการประกวดมะขามหวานพันธุ์ต่าง ๆ การประกวดธิดามะขามหวาน การแสดงทางวัฒนธรรม มหรสพ
การออกร้านตา่ ง ๆ

ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ เป็นงานประเพณีเก่าแก่ของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่สืบทอดกันยาวนาน
เป็นประเพณีที่แปลกไม่มีปรากฏที่อื่น ในวันสารทไทยของทุกปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์จะเดินทางไปร่วมพิธี
อยา่ งคับคง่ั

ประเพณีบุญบั้งไฟเดือนหกและผีตาโม่ ในช่วงก่อนฤดูฝนของทุกปี อำเภอหล่มเก่า ได้จัดเทศกาลบุญ
บั้งไฟขอฝนและผีตาโม่ เป็นความเชื่อของคนสมัยโบราณที่มีประวัติยาวนานของคนในท้องถิ่นอำเภอหล่มเก่า
ซึ่งเปน็ ผที สี่ งิ สถติ อยตู่ ามบ้านเรือนปา่ เขาลำเนาไพร

ประเพณีเส็งกลองล่องโคมไฟไหว้พ่อขุนผาเมือง กำหนดจัดงาน/สถานที่จัดงาน ช่วงปลายปี
ของทกุ ๆ ปี จดั งานบรเิ วณอนสุ าวรยี ์พอ่ ขนุ ผาเมือง อำเภอหล่มสัก จงั หวดั เพชรบรู ณ์ (สีแ่ ยกพอ่ ขนุ ผาเมือง)

เที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ชื่อเมืองศรีเทพ ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในเอกสารนิทาน
โบราณคดีโดยมีข้อมูลว่า สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลเพชรบูรณ์
เมื่อพ.ศ. 2447 ทรงตง้ั พระทัยสบื หาโดยที่เคยพบชอ่ื เมืองศรเี ทพในทำเนียบเกา่ บอกรายช่ือหัวเมือง

❖จงั หวดั สุโขทยั

งานวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ในวันที่ 17 มกราคมของทุกปี ทางจังหวัดได้จัดงาน
วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ณ บริเวณอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่านเพื่อเป็นการรำลึกและเผยแพร่พระเกียรติคุณ
ให้ขจรขจายไปทั่วโดยในงานจะมีการทำบุญตักบาตรและพิธีทางศาสนา ขบวนสักการะพ่อขุน การบวงสรว ง
การเล่นพลุ ตลอดจนนาฏศิลป์และมหรสพต่าง ๆ ตลอดวนั

งานประเพณีสรงน้ำโอยทาน จัดขึ้นในวันสงกรานต์ของทุกปี ณ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
เป็นการสืบทอดงานประเพณี เก่าแก่ของสุโขทัย ดังหลักฐานที่ปรากฏในหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง
มหาราช ที่ว่า "คนสุโขทัยนี้ มักทาน มักทรงศีล มักโอยทาน" งานประกอบไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ
กิจกรรมทางศาสนา การประกวดผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน การแสดงนาฏศิลป์ และละครประกอบแสงเสียง
การเล่นไฟ ฯลฯ

งานประเพณีงานบวชพระท่ีอำเภอศรีสัชนาลัย หรือชาวบ้านเรยี กว่า "บวชช้าง" เป็นงานประเพณี
อุปสมบทของชาวบ้านหาดเสี้ยว อำเภอศรีสัชนาลัย กำหนดจัดงานวันที่ 7 - 8 เมษายน ของทุกปี
ลักษณะเป็นการอุปสมบทหมู่ แห่ด้วยช้างเป็นขบวน ประมาณ 20 - 30 เชือก มีการตกแต่งนาคและ
ชา้ งอย่างสวยสดงดงามมกี ารประกวดกนั ระหวา่ งเจา้ ภาพท่ีนัดหมายกันมาเปน็ ประจำทุกปี

11

งานประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ เป็นงานประเพณีที่จังหวัดจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี
ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ในงานประกอบด้วยการลอยกระทงจุดประทีปโคมไฟ จุดตะไลไฟพะเนียง
การละเล่นพื้นบ้าน และระบำโบราณคดีชุดสุโขทัย แสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวสุโขทัยตามศิลาจารึก ในบรรยากาศ
และสิ่งแวดล้อมของโบราณสถานในบริเวณเมืองเก่าสุโขทัย นอกจากนี้ ยังมีการแสดงแสงเสียงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
อนั รงุ่ เรอื งของอาณาจักรสโุ ขทัย

งานวันพิชิตยอดเขาหลวง เป็นงานประจำปีที่จังหวัดสุโขทัยที่จัดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป
ได้เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาหลวงในอุทยานแห่งชาติรามคำแหง อำเภอคีรีมาศ โดยจัดประมาณวันเสาร์
วันอาทติ ย์ ท่ีสองของเดอื นธันวาคม

❖จังหวดั อุตรดิตถ์
จังหวัดอุตรดิตถ์มีขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ที่สำคัญ 3 ลักษณะ (เมือง 3 วัฒนธรรม)
คอื 1) ล้านช้าง 2) ล้านนา 3) สโุ ขทยั หรอื รัตนโกสนิ ทร์ และมงี านประเพณี ท่สี ำคญั ดังนี้
งานพระยาพิชัยดาบหักและงานกาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นงานเทศกาลเชิดชูเกียรติ และรำลึกถึง
พระยาพิชัยดาบหกั ทีม่ ตี ่อประเทศชาติ ซึง่ จะจดั ขึ้น ณ สนามกฬี าพระยาพชิ ัยดาบหกั หนา้ ศาลากลาง จังหวัดอุตรดิตถ์
ในวันท่ี 7 - 16 มกราคม ของทกุ ปี
งานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ พระยืนพุทธบาทยุคล และพระนอน พุทธไสยาสน์ สันนิษฐานว่า
มีการจัดงานสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อร่วมกันทำบุญตักบาตรและนพพระแท่นศิลาอาสน์
ในวนั ขึ้น 8 - 15 คำ่ เดอื น 3 (วนั มาฆบชู า) ของทกุ ปี ณ วัดพระแท่นศลิ าอาสน์ (พระอารามหลวง)
มหกรรมเหลก็ น้ำพ้ี และของดที องแสนขัน จดั ขึ้นเป็นประจำ ระหวา่ งวนั ที่ 20 – 21 มนี าคมของทุกปี
งานประเพณีอัฐมีบูชา เป็นพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจำลองของ พระพุทธเจ้า ประกอบการแสดง
แสง สี เสยี ง กำหนดจดั ขน้ึ ในวนั ขนึ้ 15 ค่ำ แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ณ วัดบรมธาตุทุ่งยัง้ อำเภอ ลบั แล
งานเทศกาลลางสาดหวาน และมหกรรมของดีเมืองอุตรดิตถ์ เป็นการจัดงานเพื่อกระตุ้นให้เกษตรกร
ปรับปรุงพันธุ์ลางสาด และส่งเสริมการขายผลไม้ต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
ณ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายน - ต้นเดือนตุลาคมของทุกปี
โดยมีระยะเวลาการจัดงานประมาณ 10 วัน
ประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติ จัดในช่วงวันที่ 3 - 5 ธันวาคมทุกปี ซึ่งเป็นการแสดงออกถึง
ความจงรักภักดีแก่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เนื่องจากอำเภอตรอนมีแม่น้ำน่านไหลผ่าน ประชาชนจึงพร้อมใจกันจัดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติและ
พธิ ีขอบคณุ พชื พนั ธ์ุ ธัญญาหารและ สายนำ้ ข้ึนเป็นประจำทุกปี

ท่มี า: สำนกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั ขอ้ มลู ณ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2564

12

๒.๗ ดา้ นสาธารณสุข

ตาราง 2.6 แสดงจำนวนหนว่ ยบรกิ ารสาธารณสขุ ภาครัฐและภาคเอกชน จำแนกตามจังหวัด

(หน่วย:แห่ง)

จงั หวดั โรงพยาบาลสังกดั ภาครฐั (แหง่ ) โรงพยาบาลสงั กัด รวม
รพ รพท. รพช. รพ. อนื่ ๆ เอกชน (แห่ง)
กำแพงเพชร ศ. สต. 140
ตาก 0 1 11 124 3 1 181
0 2 7 115 55 2

พิษณโุ ลก 1 0 8 147 5 5 171
เพชรบูรณ์ 0 2 9 154 11 2 178
สโุ ขทัย 0 2 7 118 5 3 135

อตุ รดติ ถ์ 1 9 8 89 0 1 108
รวม
2 16 50 747 79 14 908

ท่มี า HDC Report กระทรวงสาธารณสขุ ณ วันท่ี 31 มนี าคม 2565

หมายเหต.ุ รพศ.=โรงพยาบาลศนู ย์ รพท. = โรงพยาบาลทวั่ ไป รพ.สต. = โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตำบล รพช. = โรงพยาบาลชุมชน อนื่ ๆ

จากข้อมูลหน่วยบริการสาธารณสุข พบว่า มีจำนวนหน่วยบริการสาธารณสุขในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ของ สสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้งสิ้น 908 แห่ง แบ่งออกเป็นโรงพยาบาล (รพศ.) จำนวน 2 แห่ง โรงพยาบาล
ทั่วไป (รพท.) จำนวน 7 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) จำนวน 50 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
(รพ.สต.) จำนวน 747 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดเอกชน จำนวน 14 แห่ง และอื่นๆ จำนวน 79 แห่ง
จำนวนที่มีหน่วยบริการสาธารณสุขมากที่สุด คือ จังหวัดตาก มีจำนวน 181 แห่ง รองลงมาคือ
จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดอุตรดิตถ์ ตามลำดับ ทั้งน้ี
จากการข้อมูลของจำนวนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่ปรากฏอยู่นั้นแสดงให้เห็นว่าประชาชน
สามารถเขา้ ถึงบริการสาธารณสขุ เบื้องต้นไดอ้ ย่างท่ัวถึง

แผนภมู ทิ ่ี 2 แสดงจำนวนหนว่ ยบริการสาธารณสขุ

แสดงจำนวนหนว่ ยบรกิ ำรสำธำรณสขุ ในเขตพนื้ ท่รี บั ผดิ ชอบของ สสว.8

180 ตำก พษิ ณโุ ลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดติ ถ์
160
140
120
100
80
60
40
20

0

กำแพงเพชร

รพศ. รพท. รพช. รพ.สต. อ่นื ๆ เอกชน

13

ตาราง 2.7 แสดงจำนวนประชากรต่อแพทย์รายจังหวดั

จงั หวัด แพทย์ ประชากร (หน่วย : คน)
กำแพงเพชร 703 712,143
206 676,583 ประชากรตอ่ แพทย์
ตาก 416 847,384 1 : 1,013.01
พษิ ณุโลก 859 978,372 1 : 5,000
เพชรบูรณ์ 235 585,352 1 : 2,037
สุโขทัย 845 446,148 1 : 1,138
อตุ รดิตถ์ 3,264 4,245,982 1 : 2,483
1 : 527.99
รวม 1 : 162

ที่มา : ฐานขอ้ มลู สารสนเทศ กระทรวงสาธารณสุข https://hdcservice.moph.go.th/ ขอ้ มลู ณ วันท่ี 31 มนี าคม 2565

แผนภมู ิท่ี 3 แสดงจำนวนประชากรต่อแพทย์รยจังหวัด

จานวนประชากรต่อแพทยร์ ายจงั หวดั ในเขตพืน้ ทีร่ ับผิดชอบของ สสว.8

1,200,000

1,000,000

800,000

600,000

400,000

200,000

0 ตำก พษิ ณโุ ลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดติ ถ์

กำแพงเพชร

แพทย์ ประชำกร ประชำกรตอ่ แพทย์

จากข้อมูลที่ปรากฏ พบว่า มีแพทย์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์
ในพื้นที่ 6 จังหวัด มีจำนวน 3,264 คน จังหวัดที่มีจำนวนแพทย์มากที่สุดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8
คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ มีจำนวนแพทย์ 859 คน คิดเป็นสัดส่วนแพทย์ต่อประชากร 1: 1,138 คน รองลงมา
คือ จังหวัดอุตรดิตถ์ คิดเป็นสัดส่วนแพทย์ต่อประชากร 1: 527.99 คน จังหวัดกำแพงเพชร คิดเป็นสัดส่วน
แพทยต์ ่อประชากร 1 : 1,013.01 คน จงั หวดั พษิ ณโุ ลก คิดเปน็ สดั สว่ นแพทย์ต่อประชากร 1 : 2,037 คน
จังหวัดสุโขทัย คิดเป็นสัดส่วนแพทย์ต่อประชากร 1 : 2,483 คน และจังหวัดตาก คิดเป็นสัดส่วนแพทย์
ตอ่ ประชากร 1 : 5,000 คน ตามลำดบั

14

ตาราง 2.8 แสดงสาเหตุการตาย ๕ อันดบั แรกจากโรคตา่ งๆ ในเขตพ้นื ท่ีรบั ผิดชอบของ สสว.8

(หนว่ ย:คน)

สาเหตุการตาย 5 อนั ดับแรก

จังหวัด วยั ชรา หัวใจล้มเหลว การติดเชื้อใน ความดนั โลหิต
กำแพงเพชร ไม่ระบุ กระแสเลือด สูง ไม่ทราบ หวั ใจล้มเหลว

รายละเอยี ด สาเหตุ

240 284 49 124 98

ตาก 180 111 99 64 79

พษิ ณโุ ลก 210 123 91 267 123

เพชรบรู ณ์ 669 219 222 107 209

สุโขทยั 125 129 266 74 169

อุตรดิตถ์ 152 270 131 46 189

รวม 1,623 1,152 866 682 880

ทมี่ า : ฐานขอ้ มูลสารสนเทศ กระทรวงสาธารณสุข https://hdcservice.moph.go.th/ ขอ้ มูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565

แผนภมู ิท่ี 4 แสดงสาเหตกุ ารตาย 5 อนั ดบั แรก จากโรคตา่ งๆ ในพน้ื ทก่ี ลุม่ จังหวดั

สาเหตกุ ารตาย 5 อันดับแรก ในเขตพ้ืนทีร่ บั ผดิ ชอบ สสว.8

2000
1500
1000
500

0

กำแพงเพชร ตำก พษิ ณโุ ลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์ รวม

จากข้อมูลแสดงสาเหตุการตาย ๕ อันดับแรกจากโรคต่างๆจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8
จังหวัดอุตรดิตถ์ ปี 2565 พบว่า โรควัยชราเป็นสาเหตุการตาย อันดับท่ี 1 มีจำนวน 765 ราย รองลงมาคือ
หัวใจล้มเหลว (ไม่ระบุสาเหตุ) หัวใจล้มเหลว ติดเชื้อในกระแสเลือด ไม่ระบุชนิด การหายใจล้มแหลว
ไม่ระบสุ าเหตุ ตามลำดบั

และหากจะพิจารณาตามรายจังหวัด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 8 อุตรดิตถ์ ทีม่ สี าเหตกุ ารตาย ๕ อันดับแรกจากโรคต่างๆ มากทีส่ ดุ อันดับท่ี 1 คือ จังหวัดเพชรบูรณ์
จำนวน 1,510 คน คิดเป็น 29.02 % รองลงมา จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 814 คน คิดเป็น 15.64 %
จังหวดั กำแพงเพชร จำนวน 795 คน คิดเปน็ 15.28 % จงั หวดั อตุ รดติ ถ์ จำนวน 788 คน คิดเป็น 15.15%
จังหวัดสุโขทัย จำนวน 763 คน 14.66 % และจังหวัดตาก จำนวน 533 คน 10.24 % ของจำนวน
ประชากรทม่ี สี าเหตกุ ารตาย 5 อันดบั แรก จากโรคต่างๆ ในพื้นที่กลุม่ จงั หวดั

15

๒.๘ ด้านการศึกษา

ตารางที่ 2.9 สถานศกึ ษาในระบบ นอกระบบ จำแนกรายสงั กดั รายจงั หวดั ปกี ารศึกษา 256๔

(หนว่ ย:จำนวน:แห่ง)

รายการสถานศึกษา (แห่ง)

จงั หวดั ในระบบ นอก รวม
ระบบ

สพฐ. เอกชน อาชวี ศึกษา อุดมศกึ ษา ท้องถิน่ สำนัก กศน.
พุทธ ฯ

กำแพงเพชร 416 37 5 1 16 2 11 488

ตาก 250 22 5 4 39 1 9 330

พิษณโุ ลก 436 21 8 3 20 3 9 500

เพชรบรู ณ์ 479 55 13 4 19 4 11 585

สุโขทยั 315 10 6 1 35 3 9 379

ตาก 253 22 9 5 36 - 63 388

อตุ รดติ ถ์ 233 11 6 2 14 2 9 277

รวม 2,382 178 52 20 179 15 121 2,947

ทม่ี า : สำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 31 มนี าคม 2565

จากข้อมูลสถานศึกษาในระบบ นอกระบบ จำแนกรายสังกัด รายจังหวัด ปีการศึกษา ๒๕๖5 ในพื้นที่
เขตพนื้ ที่รับผิดชอบของ สสว.8 จงั หวัดอตุ รดิตถ์ พบวา่ มสี ถานศึกษา รวมทั้งสิน้ 2,947 แห่ง มีสถานศึกษาใน
ระบบจำนวน 2,826 แห่ง แบ่งออกเป็นสถานศึกษาในสังกัด สพฐ. จำนวน 2,382 แห่ง สถาบันเอกชน
จำนวน 178 แหง่ สถาบนั อาชีวศกึ ษา จำนวน 52 แหง่ สถาบันอดุ มศึกษา มีจำนวน 20 แห่ง สถาบันท้องถิ่น
มีจำนวน 179 แห่ง สังกัดสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติจำนวน 15 แห่ง ศึกษานอกระบบ ได้แก่ กศน. มีจำนวน
121 แหง่ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ มีจำนวนสถานศึกษามากท่ีสุด มีจำนวน 585 แหง่ และจงั หวัดอุตรดติ ถ์ มีจำนวน
สถานศกึ ษา น้อยท่สี ดุ มีจำนวน 277 แหง่ ดังตารางท่ี ๒.9

ตารางท่ี 2.10 จำนวนนกั เรียนนกั ศึกษาในระบบ จำแนกตามระดับช้ัน ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ (หน่วย:คน)

จังหวัด ระดบั การศึกษา (คน)

กำแพงเพชร อนุบาล ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย ปวช. ปวส. ป.ตรี รวม
ตาก
พษิ ณโุ ลก 11,024 35,547 20,727 29,728 4,374 2,532 5,695 109,627
เพชรบรู ณ์ 21,521 72,145 2,426 6,304 145,731
สุโขทัย 41,757 25,951 24,670 14,283 4,382 2,382 188 129,962
อุตรดิตถ์ 20,681 60,163 37,777 6,258 180,915
รวม 11,838 35,614 28,670 26,501 4,513 1,637 79,754
4ม538 16,434 64 38,124
115,284 246,906 30,875 16,922 8,239 - - 690,477
47,510 18,573
17,790 9,336 3,475

10,427 6,725 -

133,193 97,887 26,586

ท่ีมา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 31 มนี าคม 2565

16

จากข้อมูลนักเรียน นักศึกษา จำแนกตามระดับชั้น ปีการศึกษา ๒๕๖5 พบว่า จำนวนนักเรียน
นักศึกษา จำแนกตามระดับชั้นในพื้นที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์ มีจำนวนทั้งสิ้น
690,477 คน ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระดับประถมศึกษา จำนวน 246,906 คน รองลงมา ระดับมัธยมศึกษา
ตอนต้นจำนวน 133,193 คน ระดับอนุบาล จำนวน 115,284 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน
97,887 คน และ ระดบั ปวส.47,510 คน ปวช 26,586 คน ปริญญาตรี18,573 คน ตามลำดบั

หากพิจารณาข้อมูลจากสถิติแล้ว เราจะเห็นได้ว่านักเรียนนักศึกษา ในพื้นที่จะเลือกศึกษาต่อในสาย
สามัญมากกว่าสายอาชพี

ตารางท่ี 2.11 จำนวนผู้เรียนนอกระบบโรงเรยี น จำแนกตามระดบั การศึกษา ปกี ารศึกษา 2560 – 2564

จังหวดั ปกี ารศกึ ษา
2560 2561 2562 2563 2564

กำแพงเพชร 6,856 6,338 6,434 5,935 5,664

ตาก 8,690 7,584 8,654 9,060 8,899

พิษณโุ ลก 9,725 9,077 8,560 7,694 7,243

เพชรบูรณ์ 13,452 12,771 12,144 8,698 10,878

สโุ ขทัย 5,847 5,973 5,897 5,725 5,737

อุตรดติ ถ์ 6,478 16,502 6,137 5,826 5,556

รวม 51,048 58,245 47,826 42,938 43,977

ทีม่ า : ศนู ย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร สำนักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 31 มีนาคม 2565

จากข้อมูลจำนวนผู้เรียนนอกระบบโรงเรยี น จำแนกตามระดับการศึกษา ปีการศึกษา 2560- 2564

พบว่า ในปีการศึกษา 2561 มีจำนวนผู้เรียนนอกระบบ มากที่สุด คือ 58,245 คน รองลงมาคือ ปี 2560

จำนวน 51,048 คน ปี 2562 จำนวน 47,826 คน ปี 2564 จำนวน 43,977 คน และอันดับสุดท้ายคือ

ปี 2563 จำนวน 42,938 คน จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า จำนวนผู้เรียนนอกระบบมีจำนวนลดลง

จากปีการศึกษา 2561 จาก 58,245 คน ซึ่งเป็นปีการศึกษาที่มีผู้เรียนนอกระบบมากที่สุด จำนวน 14,268 คน

คดิ เปน็ ร้อยละ 24.50 % ของจำนวนผ้เู รียนนอกระบบโรงเรียนมากท่ีสดุ ในจำนวน 4 ปกี ารศกึ ษา

แผนภมู ทิ ี่ 5 แสดงจำนวนผูเ้ รยี นนอกระบบโรงเรยี น จำแนกตามระดับการศึกษา ปกี ารศกึ ษา 2560 – 2564

จานวนผู้เรียนนอกระบบ

300,000

200,000

100,000

0 ตำก พษิ ณโุ ลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์ รวม

กำแพงเพชร

2560 2561 2562 2563 2564

ทมี่ า สำนักงานศกึ ษาธิการจงั หวดั

17

ตาราง 2.12 จำนวนนักเรียนออกกลางคันระดบั ประถมศึกษา - มัธยมศึกษาตอนปลาย สงั กดั สำนกั งาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ปีการศกึ ษา 2560 – 2564

จงั หวดั ปีการศึกษา

2560 2561 2562 2563 2564

กำแพงเพชร 89 195 25 63 26

ตาก 1,145 1,358 1,407 1,213 1,154

พิษณุโลก 30 25 98 82 5

เพชรบูรณ์ 688 588 618 1,240 663

สุโขทัย 11 13 18 19 24

อุตรดิตถ์ 39 46 59 27 120

รวม 2,002 2,225 2,225 2,644 1,992

ทีม่ า : ศกึ ษาธกิ ารจังหวัด ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 31 กรกฎาคม 2565

จากข้อมูลสถานการณ์การออกกลางคันของนักเรียน จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่าอัตรา
การออกกลางคัน ในช่วงระยะเวลา 5 ปี มีอัตราการเพิ่มขึ้นและลดลงสลับกันไป โดยในปีการศึกษา 2560
มีอัตราการออกกลางคัน ร้อยละ 18.05 % มีจำนวน 2,002 คน ปีการศึกษา 2561 มีอัตรา
การออกกลางคัน ร้อยละ 20.06 % มีจำนวน 2,225 คน ปีการศึกษา 2562 มีอัตราการออกกลางคัน
ร้อยละ 20.06 % มีจำนวน 2,225 คน ปีการศึกษา 2563 มีอัตราการออกกลางคัน ร้อยละ 23.84 %
มจี ำนวน 2,644 คน ปกี ารศกึ ษา 2564 มอี ัตราการออกกลางคัน ร้อยละ 17.97 % มจี ำนวน 1,992 คน
ของนักเรียนออกกลางคันทั้งหมด 5 ปี (11,088 คน) ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริม
และสนับสนุนวชิ าการ 8

แต่ถ้าหากพิจารณาอันดับจากมากไปหาน้อย ในปีการศึกษา 2563 จำนวนนักเรียนออกกลางคัน
ระดับประถมศึกษา - มัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีจำนวน
มากสุดถึง 2,644 คน รองลงมาคือ ปีการศึกษา 2561 จำนวน 2,225 คน ปีการศึกษา 2562
จำนวน 2,225 คน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 2,002 คน และน้อยสุดคือ ปีการศึกษา 2564
จำนวน 1,992 คน ตามลำดบั

แต่ถ้าพิจารณารายจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จังหวัดตากจะมีจำนวนนักเรียนออกกลางคันระดับ
ประถมศึกษา - มัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งหมด 5 ปี
มากที่สุด จำนวน 6,277 คน คิดเป็น 56.61 % ของจำนวนนักเรียนออกกลางคันระดับประถมศึกษา –
มัธยมศึกษาตอนปลายทั้ง 6 จังหวัด และน้อยสุดคือจังหวัดสุโขทัย 85 คน คิดเป็น 0.77 %
ของจำนวนนกั เรียนออกกลางคันระดับประถมศึกษา – มัธยมศึกษาตอนปลายท้งั 6 จังหวัด

ซ่ึงจากขอ้ มูล ช้ีใหเ้ หน็ การเพิม่ ขึน้ และลดลงของอตั ราการออกกลางคัน ของนักเรยี นในระดับตา่ งๆ โดย
สาเหตุของการออกกลางคัน ที่สำคัญอาจจะมีการการอพยพตามผู้ปกครองและมีปัญหาครอบครัว ซึ่งสาเหตุ
ของการออกกลางคันอาจมีความแตกต่างจาก เมื่อ 10 ปีก่อนที่จะเกิดจากการมีฐานะยากจนเป็นสำคัญ
ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาภาครัฐได้ดำเนินการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานฟรีให้กับประชาชน จึงอาจเป็นส่วนหนึ่ง
ทท่ี ำใหอ้ ัตราการออกกลางคันจากสาเหตขุ องฐานะยากจนมีการเปลีย่ นแปลงสถานการณ์ไป

18

๒.๙ ด้านแรงงาน

ตารางที่ 2.13 ภาวะการมงี านทำของประชากรในกลุ่มจังหวดั . ไตรมาส 1 (มกราคม – มีนาคม ๒๕๖๕) (หน่วย:คน)

จงั หวัด กำลังแรงงานในปัจจบุ ัน กำลังแรงงานที่ ผไู้ ม่อยใู่ นกำลังแรงงาน
ผู้มงี านทำ ผูว้ ่างงาน รอฤดกู าล ทำงานบ้าน เรยี นหนงั สือ อืน่ ๆ
57,188 46,866 98,409
กำแพงเพชร 401,441 16,906 4,226 46,868 38,010 12,327
6,674 70,566 72,358 112,474
ตาก 234,022 3,084 63,893 52,811 157,251
98 36,763 30,967 98,235
พิษณุโลก 469,803 13,272 4,413 53,279 29,152 67,416
293 328,557 270,164 546,112
เพชรบรู ณ์ 454,264 6,254 3,097
18,801
สุโขทัย 333,382 8,588

อตุ รดติ ถ์ 208,333 1,975

รวม 2,101,245 50,079

ทม่ี า : สำนกั งานแรงงานจังหวดั ข้อมลู ณ วนั ท่ี 31 มีนาคม 2565

แผนภูมทิ ี่ 6 แสดงภาวะการมงี านทำของประชากรในกล่มุ จงั หวดั . ไตรมาส 1 (มกราคม – มีนาคม ๒๕๖๕)

แสดงจำนวนประชำกร จำแนกตำมสถำนภำพแรงงำนในกลมุ่ จงั หวดั

500,000 ผมู้ ีงำนทำ ผวู้ ำ่ งงำน ทำงำนบำ้ น เรียนหนงั สอื อ่นื ๆ
450,000 ผไู้ ม่อย่ใู นกำลงั แรงงำน
400,000 สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์
350,000
300,000
250,000
200,000
150,000
100,000
50,000

0

กำลงั แรงงำนในปัจจบุ นั กำลงั แรงงำนท่รี อฤดกู ำล

กำแพงเพชร ตำก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์

จากตารางแสดงถึงสภาวะการณ์มีงานทำของประชากรกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8
จังหวัดอุตรดิตถ์ พบว่ากำลังแรงงาน มีทั้งสิ้น 2,170,125 คน แบ่งเป็น ผู้มีงานทำ จำนวน 2,101,245 คน
คิดเป็น 96.83 % ของประชากรมีงานทำทั้งหมด กำลังแรงงานที่รอฤดูกาล จำนวน 18,801 คน
คิดเป็น0.87 % และผู้วา่ งงาน 50,079 คน คิดเปน็ 2.31 %

ส่วนผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 1,144,833 คน แบ่งเป็น ทำงานบ้าน
จำนวน 328,557 คน คิดเป็น 2.49 % เรียนหนังสือ จำนวน 270,164 คน คิดเป็น 23.60 % และ
อ่ืนๆ จำนวน 546,112 คน คิดเป็น 47.70% ของจำนวนประชากรผไู้ ม่อยู่ในกำลังแรงงาน

จังหวัดที่มีกำลังแรงงานมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก มีจำนวน 469,803 คน รองลงมาคือ
จังหวดั เพชรบรู ณ์ จังหวัดกำแพงเพชร จงั หวัดสโุ ขทยั จงั หวดั ตาก และจังหวัดอตุ รดติ ถ์ ตามลำดับ

19

ตารางที่ 2.14 จำนวนคนต่างดา้ วทีไ่ ดร้ ับอนญุ าตทำงานคงเหลอื พ.ศ.256๐-256๔ ของกล่มุ จงั หวดั
(หน่วย: คน)

จงั หวดั 2560 2561 256๒ 256๓ 2564
กำแพงเพชร 4,457
25,243 2,798 7,592 6,160 6,021
ตาก 3,387
พษิ ณโุ ลก 7,125 10,856 57,441 36,223 57,815
เพชรบรู ณ์ 940
สุโขทัย 1,005 2,638 6,148 4,578 5,688
อตุ รดติ ถ์ 41,596
6,242 9,829 8,381 7,893
รวม
1,117 1,121 1,050 947

1,362 1,108 963 875

23,738 82,907 57,589 21,768

ท่ีมำ : สำนักงานสถติ ิแห่งชาติ ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 ธันวาคม 256๔

จากข้อมูลคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานคงเหลือ กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8

จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยศึกษาข้อมูลย้อนหลัง ๕ ปี (พ.ศ.๒๕60-๒๕๖4) จะเห็นได้ว่าจำนวนคนต่างด้าว

ที่ได้รับอนุญาตทำงานคงเหลือในปีที่ผ่านมามีจำนวนเพิ่มขึ้นและลดลงสลับกันไป และในปี พ.ศ.๒๕๖4

ลดลงจากปี พ.ศ 2563 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 37.80 % ปี พ.ศ.2563 ลดลงจากปี พ.ศ.2562 คิดเปน็ 69.46 %

ปี พ.ศ 2562 เพ่ิมขึ้น จาก ปี พ.ศ. 2561 คิดเป็น 349.26 % และ ปี พ.ศ.2561 ลดลงจาก ปีพ.ศ. 2560

คิดเป็น 57.07 %

แผนภูมิที่ 7 จำนวนคนตา่ งดา้ วทไี่ ด้รับอนญุ าตทำงานคงเหลือ พ.ศ.256๐-256๔ ของกล่มุ จงั หวัด

แสดงจานวนคนต่างดา้ วท่ไี ด้รบั อนญุ าตทางานคงเหลือ พ.ศ.2560 - 2564

200000 จงั หวดั กำแพงเพชร ตำก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์
180000 ชดุ ขอ้ มลู 3 ชดุ ขอ้ มลู 4 ชดุ ขอ้ มลู 5
160000
140000
120000
100000
80000
60000
40000
20000

0

ชดุ ขอ้ มลู 1 ชดุ ขอ้ มลู 2

20

๒.๑๐ ดา้ นที่อยูอ่ าศยั (หน่วย:แห่ง:คน)

ตารางท่ี ๒.๑5 แสดงจำนวนชมุ ชนผู้มีรายได้นอ้ ยของกลมุ่ จงั หวัด พ.ศ..2565

จำนวน ชมุ ชนแออดั ชุมชนเมือง ชุมชนชานเมือง จำนวน จำนวน จำนวน
ชมุ ชน บ้าน ครวั เรอื น ประชากร
จังหวดั

ชมุ ชน ครวั เรอื น ชุมชน ครวั เรือน ชมุ ชน ครัวเรือน

กำแพงเพชร 2 1 60 1 23 0 0 76 83 332
0 127 214 856
ตาก 140 3 214 2 791 0 116 328 328 1,100
680 680 309 1,360
พษิ ณโุ ลก 10 0 0 6 212 4 0 326 332 1,190
0 14,252 14,252 34,133
เพชรบูรณ์ 0 0 0 1 680 1
796 15,789 15,518 38,971
สุโขทยั 10 10 332 0 0 0

อตุ รดติ ถ์ 28 0 0 28 14,252 0

รวม 190 14 606 38 15,958 5

ท่ีมา : กองยุทธศาสตรแ์ ละสารสนเทศท่ีอยู่อาศยั ฝ่ายวชิ าการพฒั นาที่อยูอ่ าศยั การเคหะแห่งชาติ ขอ้ มูล ณ 31 มนี าคม 2565

จากข้อมูลจำนวนชุมชนผู้มีรายได้น้อยของกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 จังหวัด
อุตรดิตถ์ พบว่ามีจำนวนชุมชนผู้มีรายได้น้อย ทั้งสิ้น 190 ชุมชน ประกอบด้วยชุมชนแออัด จำนวน 14 แห่ง
และชุมชนชานเมืองจำนวน 38 แห่ง มีบ้านจำนวน ๑5,789 หลัง มีครัวเรือน ๑5,518 ครัวเรือน และ
มีประชากร จำนวน 38,971 คน จังหวัดที่มีชุมชนผู้มีรายได้น้อยมากที่สุด ได้แก่จังหวัดตาก มีจำนวน
140 แห่ง รองลงมาคือจังหวัดอุตรดิตถ์ มีจำนวน 28 แห่ง จังหวัดพิษณุโลก และ จังหวัดสุโขทัย มีจำนวน
10 แห่ง จงั หวดั กำแพงเพชร จำนวน 2 แหง่ และจังหวัดตาก ไมม่ จี ำนวนชุมชน ตามลำดับ

๒.๑๑ ดา้ นเศรษฐกิจและรายได้

ผลิตภณั ฑ์มวลรวม

ตาราง 2.16 แสดงการขยายตวั ของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจังหวัด

จังหวัด ปี ๒๕๖2 อตั ราการขยายตัว GPP (ร้อยละ) (หน่วย:รอ้ ยละ)
3.0 ปี ๒๕๖3
กำแพงเพชร 10.7 -7.9 ปี ๒๕๖4
ตาก 5.8 -5.93 -
1.3 3.4 -
พษิ ณโุ ลก 5.55 -13.55 1.0
เพชรบรู ณ์ 0.4 -1.42 -
สโุ ขทยั 0.3
อตุ รดิตถ์ -4.36
0.5

ท่มี า: สำนกั งานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ขอ้ มลู ณ 31 มีนาคม 2565

จากข้อมูลการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 จังหวัด
อตุ รดติ ถ์ พบว่า อัตราการขยายตัวของ GPP ทั้ง 6 จังหวดั มีการเปล่ียนแปลงทกุ ๆ ปี เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบ

21

รายจังหวัด พบว่า ในปี ๒๕๖๒ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีอัตราการขยายตัวของ GPP ต่ำท่ีสุดในกลุ่มจังหวัด
อย่ทู ี่ 0.4 และจงั หวัดตาก มีอตั ราการขยายตวั ของผลติ ภัณฑม์ วลรวมสงู ทส่ี ดุ ในกลมุ่ จังหวดั อยทู่ ี่ 10.7

และในปี ๒๕๖3 มีอัตราการขยายตัวของ GPP ในกลุ่มจังหวัดที่ สสว.8 รับผิดชอบมีการขยายตัว
ค่อนข้างต่ำ จังหวัดที่มีอัตราการขยายตัวมากที่สุดคือจังหวัดพิษณุโลก อยู่ที่ 3.4 รองลงมา จังหวัดอุตรดิตถ์
0.3 จังหวดั สุโขทยั (-1.42) จังหวดั ตาก (-5.93) จงั หวัดกำแพงเพชร (-7.9) และจังหวัดเพชรบูรณ์ ติด
ลบมากท่ีสดุ ถึง (-13.55) ตามลำดบั

แผนภูมิท่ี 8 แสดงการขยายตัวของผลิตภณั ฑม์ วลรวมจังหวัด

การขยายตวั ของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจงั หวดั ในเขตพื้นทรี่ บั ผดิ ชอบ

15

10

5

0 ตำก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์

กำแพงเพชร

-5

-10

-15

ปี ๒๕๖2 ปี ๒๕๖3 ปี ๒๕๖4

ตารางท่ี 2.17 แสดงผลิตภณั ฑจ์ งั หวดั ต่อหวั (GPP per capita) ปี ๒๕๖๔

จังหวัด บาทตอ่ ปี
กำแพงเพชร 153,170
118,508
ตาก 107,853.94
พิษณโุ ลก 37,776.80
เพชรบรู ณ์ 91,498
สุโขทัย 39,190
อุตรดติ ถ์

ทม่ี า: ผลติ ภณั ฑภ์ าคและจังหวดั แบบปรมิ าณลกู โซ่ ฉบับ พ.ศ. 256๔ สำนกั งานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

จากข้อมูลผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัว (GPP per capita) ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 จังหวัด
อุตรดติ ถ์ ในปี พ.ศ. 2564 เม่ือพิจารณาเปรยี บเทียบรายจังหวัด พบว่า จังหวัดกำแพงเพชรมีผลติ ภัณฑ์จังหวัด
ต่อหัวสูงที่สุดในกลุม่ จังหวัด อยู่ที่ 153,170 บาทต่อปีและจังหวัดอุตรดิตถ์ มีผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวต่ำที่สดุ
ในกลมุ่ จังหวดั อยู่ท่ี 83,865 บาทตอ่ ปี

22

ตาราง 2.18 แสดงรายได้โดยเฉล่ียต่อเดือนตอ่ ครัวเรือนของกลุ่มจงั หวดั พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔

(หนว่ ย:บาท)

จังหวัด ๒๕๖๐ ๒๕๖๒ ๒๕๖๔

กำแพงเพชร 18,770.80 19,264.31 20,941.15

ตาก 16,508.97 17,654.59 22,631.76

พษิ ณุโลก 20,348.05 20,199.16 20,912.97

เพชรบูรณ์ 21,350.44 24,623.56 26,150.56

สโุ ขทัย 14,968 15,166 14,098

อุตรดติ ถ์ 20,857.49 21,425.26 21,664.34

รวม 119,063.22 125,525.48 134,761.70

ที่มา สำนกั งานสถิตแิ หง่ ชาติ

แผนภมู ิท่ี 9 แสดงรายไดโ้ ดยเฉลี่ยตอ่ เดือนต่อครวั เรือนของกลุ่มจงั หวดั พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔

รำยไดโ้ ดยเฉลย่ี ตอ่ เดือนตอ่ ครวั เรอื น

๓๐๐๐๐

๒๕๐๐๐

๒๐๐๐๐

๑๕๐๐๐

๑๐๐๐๐

๕๐๐๐


จังหวัด กาแพงเพชร ตาก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์ สุโขทัย อตุ รดติ ถ์

2560 2562 2564

23

จากข้อมูลแสดงรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนของกลุ่มจังหวัด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8
จงั หวัดอตุ รดติ ถ์ ปี พ.ศ.2560 2562 และ 2564 จะเห็นไดว้ ่ารายไดเ้ ฉลยี่ ครัวเรอื นมจี ำนวนเพ่ิมข้นึ ในทุก ๆ ปี

โดยปี 2560 รายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนของกลุ่มจังหวัดสูงสุดคือ จังหวัดเพชรบูรณ์
จำนวน 21,350.44 บาท รองลงมาคือ จังหวัดสุโขทัย จำนวน 21,227.47 บาท จังหวัดอุตรดิตถ์
จำนวน 20,857.49 บาท จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 20,348.05 บาท จังหวัดกำแพงเพชร
จำนวน 18,770.80 บาท และจงั หวัดตาก จำนวน 16,508.97 บาท ตามลำดับ

โดยปี 2562 รายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนของกลุ่มจังหวัดสูงสุดคือ จังหวัดเพชรบูรณ์
จำนวน 24,623.56 บาท จังหวัดสุโขทัย จำนวน 22,358.60บาท จังหวัดอุตรดิตถ์ 21,425.26 บาท
จังหวัดพิษณุโลกจำนวน 20,199.16 บาท จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 19,264.31 บาท และจังหวัดตาก
จำนวน 17,654.59 บาท ตามลำดับ

โดยปี 2562 รายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนของกลุ่มจังหวัดสูงสุดคือ จังหวัดเพชรบูรณ์
จำนวน 26,150.56 บาท จงั หวัดตาก จำนวน 22,631.76 บาท จงั หวดั สุโขทัย จำนวน 22,460.92 บาท
จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 20,941.15 บาท จังหวัดอุตรดิตถ์ 21,664.34 บาท และจังหวัดพิษณุโลก
จำนวน 20,912.97 บาท ตามลำดับ

แต่ถ้าพิจารณาตามปี พ.ศ.จะพบว่า ปี พ.ศ. 2564 มีจำนวนรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือน

ของกลุ่มจังหวัด มากที่สุดคือ จำนวน 134,761.70 บาท คิดเป็น 35.52 % ของรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือน

ต่อครัวเรือนของกลุ่มจังหวัด พ.ศ.๒๕๖๐ 2562 และ ๒๕๖๔ (379,350.40 บาท) รองลงมา คือ

ปีพ.ศ.2562จำนวน 125,525.48 บาท คิดเป็น 33.09 % และ ปี พ.ศ.2560 จำนวน 119,063.22 บาท
คิดเปน็ 31.39 % ตามลำดบั

ตาราง 2.19 แสดงหน้สี นิ เฉล่ียตอ่ ครวั เรือน จำแนกตามวัตถุประสงค์ของการกยู้ มื พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔

จังหวดั วัตถปุ ระสงค์ของการกยู้ ืม ๒๕๖๐ ๒๕๖๒ (หนว่ ย:บาท)
กำแพงเพชร หนี้สนิ ทั้งสนิ้ 156,686.24 184,058.54
47,333.28 78,182.16 ๒๕๖๔
ตาก เพือ่ ใชจ้ า่ ยในครัวเรอื น 301,878.02
เพอื่ ใช้ทำธุรกิจท่ีไม่ใช่ 21,830.05 3,956.60 11,8826.63

การเกษตร 42,156.93 58,297.25 20,352.36
เพ่ือใชท้ ำการเกษตร 4,348.19 6,571.94
เพ่อื ใช้ในการศึกษา 39,317.58 35,602.56 89,906.82
เพือ่ ใช้ซือ้ /เช่าซ้ือบ้านและทีด่ ิน 1,700.21 1,448.03 4,196.14
127,988.45 87,069.83 51,976.56
อน่ื ๆ 44,850.91 28,627.83 16,619.51
หนีส้ ินทงั้ ส้ิน 166,161.74
เพอื่ ใช้จา่ ยในครวั เรือน 18,642.27 19,740.91 57,586.52
เพอื่ ใชท้ ำธุรกิจท่ีไม่ใช่
การเกษตร 19,579.29 9,936.40 9,530.80
เพื่อใช้ทำการเกษตร 6,386.15 1,576.38
เพอ่ื ใชใ้ นการศึกษา 38,337.68 25,613.16 32,310.83
เพอื่ ใช้ซอ้ื /เชา่ ซ้ือบา้ นและทีด่ ิน 192.15 1575.15 7,371.46
57,322.74
อน่ื ๆ 2039.39

24

จังหวดั วัตถุประสงคข์ องการกู้ยืม 2560 2562 2564
พิษณโุ ลก หนสี้ ินทง้ั ส้นิ 273,212.39 203,701.76 210,241.35
เพชรบรู ณ์ 104,231.98 89,053.67 50,985.93
สโุ ขทัย เพอ่ื ใชจ้ า่ ยในครัวเรือน
เพ่ือใช้ทำธรุ กิจท่ีไม่ใช่ 42,068.94 20,312.65 12,339.49
อุตรดิตถ์
การเกษตร 91,685.28 65,913.20 118,240.97
เพอ่ื ใชท้ ำการเกษตร 1,638.93 655.11 714.56
เพ่ือใชใ้ นการศึกษา 30,115.50
เพอ่ื ใชซ้ อ้ื /เช่าซื้อบ้านและทดี่ ิน 3,471.76 21,864.41 27,283.00
16,1800.29 5,902.73 677.40
อน่ื ๆ 74,523.94 187,732.54
68,732.26 309,179.98
หนี้สินทั้งส้ิน 15,788.79 74,490.83
14,031.30
เพอ่ื ใช้จ่ายในครัวเรอื น 61,608.63 8,488.50
เพ่อื ใช้ทำธุรกจิ ที่ไมใ่ ช่ 2,809.46 60,327.96
5,526.20 2,503.20 147,739.48
การเกษตร 36,895.80 2,529.06
เพื่อใชท้ ำการเกษตร 75,796.20
เพอื่ ใชใ้ นการศึกษา

เพอื่ ใชซ้ ือ้ /เช่าซ้ือบา้ นและท่ดี ิน

อนื่ ๆ 1,543.25 5,242.02 135.91

หนี้สนิ ท้งั สน้ิ 230,997.89 203,013.90 241,597.30

เพื่อใชจ้ ่ายในครวั เรือน 65,121.40 55,457.61 56,071.87

เพ่อื ใชท้ ำธุรกิจท่ีไมใ่ ช่ 36,517.27 23,213.69 46,040.75
การเกษตร

เพอ่ื ใชท้ ำการเกษตร 70,387.89 67,096.18 80,629.92

เพ่อื ใชใ้ นการศึกษา 2,199.84 1,342.58 2,986.10

เพ่อื ใชซ้ อื้ /เชา่ ซื้อบ้านและทด่ี ิน 53,942.92 55,372.88 55,257.97

อน่ื ๆ 2,828.58 530.96 610.69

หนส้ี นิ ท้งั สิน้ 156,686 184,058.54 301,878.02

เพอื่ ใช้จ่ายในครวั เรือน 47,333.28 78,182.16 118,826.63

เพอื่ ใช้ทำธุรกจิ ที่ไมใ่ ช่ 21,830.05 3,956.60 20,352.36
การเกษตร

เพ่ือใช้ทำการเกษตร 42,156.93 58,297.25 89,906.82

เพ่ือใช้ในการศึกษา 4,348.19 6,571.94 4,196.14

เพือ่ ใชซ้ อ้ื /เช่าซ้ือบ้านและทดี่ ิน 39,317.58 35,602.56 51,976.56

อน่ื ๆ 1,700.21 1,448.03 16,619.51

ที่มา สำนกั งานสถติ ิแห่งชาติ
หมายเหต:ุ หน้ีอ่ืนๆ ไดแ้ ก่ หนจ้ี ากการคำ้ ประกนั บคุ คลอื่น หน้ีคา่ ปรับหรอื จา่ ยชดเชยคา่ เสยี หายเปน็ ตน้

25

เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบข้อมูล 3 ปีย้อนหลัง หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี เมื่อพิจารณา
เปรียบเทียบรายจังหวัด พบว่า ในปี 2562 จังหวัดพิษณุโลก มีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนมากที่สุด
จำนวน 203,701.76 บาท โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ใชจ้ า่ ยในครวั เรือนเป็นอันดบั 1 คิดเปน็ ร้อยละ 43.71 %
ของหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนจังหวัดพิษณุโลก รองลงมาคือ จังหวัดสุโขทัยมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนมากที่สุด
จำนวน 203,013.90 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ทำการเกษตร คิดเป็นร้อยละ 33.05 %
ของหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนจังหวัดสุโขทัย และจังหวัดเพชรบูรณ์ มีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนมากที่สุด
จำนวน 187,732.54 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 36.61 %
ของหนสี้ ินเฉลยี่ ตอ่ ครวั เรอื นจังหวดั เพชรบูรณ์ ตามลำดบั

จากข้อมูลข้างต้นกล่าวได้ว่า หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งเป็นเพราะปัญหาทาง
ด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำและถดถอย เกิดสภาวะว่างงาน ไม่ว่าจะเป็นถูกเลิกจ้างหรือการปิดสถานที่ทำงาน
ตลอดจนการเกดิ โรคระบาดของเชือ้ ไวรสั COVID – 19 ทำให้หนีส้ นิ เฉล่ียต่อครวั เรือนมีแนวโน้มสงู ข้ึน

แผนภูมทิ ี่ 10 แสดงหนสี้ นิ เฉล่ียต่อครวั เรือน จำแนกตามวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔

๓๕๐๐๐๐ แสดงหนสี้ นิ เฉลย่ี ตอ่ ครวั เรอื น จำแนกตำมวตั ถปุ ระสงคข์ องกำรกยู้ ืม
2560 2562 2564

๓๐๐๐๐๐

๒๕๐๐๐๐

๒๐๐๐๐๐

๑๕๐๐๐๐

๑๐๐๐๐๐

๕๐๐๐๐



เ ื่พอใ ้ช ่จายในค ัรวเ ืรอน
เพ่ือใช้ทาการเกษตร

เ ่พือใ ้ช ้ืซอ/เ ่ชา ืซ้อบ้านและท่ีดิน
หน้ี ิสนทั้ง ้ิสน

เ ื่พอใช้ทาธุรกิจท่ีไม่ใช่การเกษตร
เ ่ืพอใช้ในการ ึศกษา
ื่อนๆ

เ ื่พอใช้จ่ายในค ัรวเ ืรอน
เพื่อใ ้ชทาการเกษตร

เ ่พือใ ้ช ้ืซอ/เ ่ชา ื้ซอบ้านและ ีท่ ิดน
ห ี้น ิสนท้ัง ้ิสน

เ ื่พอใ ้ชทาธุร ิกจท่ีไม่ใช่การเกษตร
เ ่พือใ ้ชในการ ึศกษา
ื่อนๆ

เ ่ืพอใช้จ่ายในค ัรวเ ืรอน
เ ่ืพอใช้ทาการเกษตร

เ ืพ่อใช้ ้ืซอ/เ ่ชา ้ืซอบ้านและ ีท่ ิดน
หนี้ ิสนทั้ง ้ิสน

เ ่ืพอใช้ทาธุร ิกจท่ีไม่ใช่การเกษตร
เ ่ืพอใช้ในการ ึศกษา
่ือนๆ

จังหวดั กาแพงเพชร ตาก พษิ ณุโลก เพชรบรู ณ์ สุโขทยั อุตรดิตถ์

26

๒.๑๒ ดา้ นภาคเี ครอื ขา่ ย

ตาราง 2.20 แสดงจำนวนองค์กรภาคเี ครอื ขา่ ย (หนว่ ย : แหง่ )

องค์กร กำแพงเพชร ตาก พษิ ณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทยั อุตรดติ ถ์ รวม

องค์กรสาธารณประโยชน์
ตาม พ.ร.บ. ส่งเสรมิ การ 23 25 43 58 35 59 241
จัดสวสั ดิการสงั คม

องค์กรสวัสดิการชมุ ชน 47 72 52 386
ตาม พ.ร.บ. สง่ เสริมการ 81 62 98
จัดสวสั ดกิ ารสังคม

กองทนุ สวสั ดกิ ารสงั คม 76 68 102 44 81 76 431

สภาเดก็ และเยาวชน 111 78 9 139 1 89 607

สภาองคก์ รคนพกิ าร 20 6 6 1 6 7 58

ศูนยบ์ ริการคนพิการทัว่ ไป 17 68 61 132 72 63 378

ศนู ย์พัฒนาคุณภาพชวี ติ 28 23 14 36 20 27 123

และส่งเสรมิ อาชีพของ

ผู้สูงอายุ (ศพอส.)

ศูนยพ์ ัฒนาครอบครวั ใน 74 61 95 127 90 79 533
ชมุ ชน (ศพค.)

ศนู ย์ช่วยเหลอื สังคมตำบล 101 68 105 118 89 79 454
(ศชส.ต.)

ทม่ี า สำนกั งานพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนุษยจ์ ังหวดั ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 มนี าคม 2565

ข้อมูลองค์กรภาคีเครือข่ายในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์ ประกอบด้วยองค์กร

สาธารณประโยชน์ มีจำนวน 241 องค์กร องค์กรสวัสดิการสังคม มีจำนวน 386 องค์กร กองทุนสวัสดิการสังคม

มีจำนวน 431 กองทุน สภาเด็กและเยาวชน มีจำนวน 607 สภาองค์กรคนพิการ มีจำนวน 58 แห่ง ศูนย์บริการ

คนพิการทั่วไป มีจำนวน 378 แห่ง ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพของผู้สูงอายุ (ศพอส.) มีจำนวน

123 แห่ง ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) จำนวน 533 แห่ง และศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล (ศชส.ต.)

จำนวน 454 แหง่

แผนภมู ิท่ี 11 แสดงองค์กรภาคีเครือขา่ ย

จำนวนองคก์ รภำคีเครอื ขำ่ ย

700
600
500
400
300
200
100

0

กำแพงเพชร ตำก พษิ ณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดติ ถ์ รวม

27

ทม่ี า สำนักงานพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษยจ์ ังหวดั

ตาราง 2.21 แสดงจำนวนองค์กรภาคีเครอื ข่าย (หน่วย : คน)

องคก์ ร กำแพงเพชร ตาก พษิ ณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์ รวม
4,560 5,216 7,037 5,727 3,809 3,818 21,728
อาสาสมัครพัฒนา 550 323 508 360
สังคมและความมนั่ คง 493 828 2,222
ของมนุษย์ (อพม.)

ข้อมลู คลงั ปญั ญา
ผ้สู ูงอายุ

ที่มา สำนักงานพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์จงั หวัด ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 31 มีนาคม 2565

ขอ้ มูลองค์กรภาคีเครือข่ายในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.8 จงั หวัดอตุ รดิตถ์ ประกอบดว้ ยอาสาสมัคร
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) มีจำนวน 21,728 คน โดยจำนวนอาสาสมัครพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) มีจำนวนมากสุดคือจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 7,037 คน รองลงมาคือ
จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 5,727 คน จังหวัดตาก จำนวน 5,216 คน จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 4,560 คน
จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 3,818 คน และ จังหวัดสุโขทัยมีจำนวนอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนษุ ย์ (อพม.) มีจำนวนน้อยทีส่ ุด จำนวน 3,809 คน ตามลำดบั และ ขอ้ มลู คลังปัญญาผู้สูงอายุ มจี ำนวน
2,222 คน โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ มีจำนวน 828 คน รองลงมาคือ จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 550 คน
จังหวัดสุโขทยั 493 คน จังหวดั เพชรบรู ณ์ จำนวน 360 คน และจงั หวดั ตาก จำนวน 323 ตามลำดับ

แผนภมู ทิ ี่ 12 แสดงจำนวนองค์กรภาคเี ครือข่าย อพม. และ ข้อมลู คลงั ปญั ญาผูส้ ูงอายุ

แสดงจำนวนองคก์ รภำคเี ครอื ขำ่ ย อพม.และคลงั ปัญญำผสู้ งู อำยุ

25,000

20,000

15,000

10,000

5,000

0 ตำก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์ รวม
ขอ้ มลู คลงั ปัญญำผสู้ งู อำยุ
กำแพงเพชร

อำสำสมคั รพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ (อพม.)

28

ส่วนท่ี ๓

สถานการณ์กลมุ่ เปา้ หมายทางสงั คมระดับกลมุ่ จังหวดั

๓.๑ กล่มุ เดก็ (อายุตำ่ กวา่ ๑๘ ปี บรบิ รู ณ)์

ตารางท่ี 3.๑ แสดงสถานการณ์เด็ก จำแนกตามจังหวัด

(หน่วย:คน)

จงั หวัด จำนวนกลมุ่ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗)
เป้า เดก็ ทไ่ี ด้รับ *เดก็ ท่มี ี เดก็ ทถี่ กู เด็กทอี่ ยู่ เดก็ ท่ี ** ***เดก็ ไร้
หมาย เงนิ อุดหนนุ พฤตกิ รรม ทารณุ กรรม ตั้งครรภ์ เดก็ นอก สญั ชาติ
เพ่ือการ ทางร่างกาย ใน ก่อนวยั ระบบ
ทั้งหมด เล้ยี งดเู ดก็ ไม่ จติ ใจและ ครอบ อันควร 857
แรกเกิด เหมาะสม ทางเพศที่มี ครวั 269
กำแพงเพชร 139,586 เล้ียง 3,150
27,929 0 การ เดีย่ ว
ดำเนนิ คดี
723
0

ตาก 217,475 26,063 2 6 3 446 20 44,487
พษิ ณุโลก 23,444 13,925 206 60 1,486 443 7,250 74

เพชรบรู ณ์ 189,697 37,512 0 0 1,419 143 838 1,984

สุโขทัย 102,314 23,284 53 14 336 112 5,654 6

อุตรดิตถ์ 79,487 13,626 92 7 47 204 671 -

รวม 752,003 142,339 353 87 4,014 4,498 14,702 47,408

หมายเหตุ *เดก็ ที่มีพฤติกรรมไมเหมาะสม หมายถงึ

1) ดืม่ เครอ่ื งดื่มทม่ี ีแอลกอฮอล สูบบุหรแ่ี ละติดสารเสพติดรายแรง เชน ยาบ้า ยาอี สารระเหย กญั ชา เปนตน
2) มว่ั สมุ และทาความรำคาญใหกบั ชาวบาน
3) ตดิ เกมส และเลนการพนนั ตาง ๆ
4) มพี ฤตกิ รรมทางเพศ
5) อนื่ ๆ (ระบุ) ..............................................
**เด็กนอกระบบ หมายถึง เด็กที่มีอายุอยู่ในช่วงที่ต้องเข้าเรียนในสถานศึกษา แต่ไม่มีโอกาสเข้าเรียนหรือ
เคยเข้าเรียนแล้ว มเี หตุตอ้ งออกจากสถานศึกษาไปกลางคัน และไม่ได้กลับเข้ามาเรยี นอกี (UNESCO, 2019)
***เด็กไร้สัญชาติ หมายถึง เด็กที่ไม่มีสัญชาติใดเลย (ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติไทยหรือสัญชาติรัฐใดๆ) แต่อาจได้รับ
การระบุตัวตนทางกฎหมายในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น ได้รับการจดทะเบียนการเกิด ได้ขึ้นทะเบียนเป็นบุคคลไร้สัญชาติ
ในกลุ่มต่าง ๆ
แหลง่ ท่มี าของขอ้ มูล ณ วันที่ 31 มนี าคม 2565

(๑) เด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนษุ ยจ์ งั หวดั .

(๒) เด็กท่มี ีพฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม ขอ้ มลู จากสำนักงานพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์จงั หวัด .
(๓) เด็กที่ถูกทารุณกรรมทางร่างกายจิตใจและทางเพศที่มีการดำเนินคดี ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาสังคม
และความมัน่ คงของมนุษยจ์ งั หวัด .
(๔) เด็กทอ่ี ยใู่ นครอบครัวเลย้ี งเด่ียว ข้อมลู จากสำนกั งานพฒั นาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษยจ์ ังหวัด .
(๕) เดก็ ทีต่ ง้ั ครรภก์ ่อนวัยอนั ควรและไมพ่ ร้อมในการเลย้ี งดู ทมี่ าจากสำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั

(๖) เด็กนอกระบบ ข้อมลู จากสำนกั งานสำนกั งานศึกษาธิการจังหวดั

(๗) เด็กไร้สัญชาติ ขอ้ มูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

29

ประชากรเด็ก หรือบุคคที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริม
และสนับสนุนวิชาการ 8 ในปี 2565 มีจำนวนรวม 752,003 คน จังหวัดที่มีประชากรเด็กสูงสุด 3 อันดับ
ได้แก่ จังหวัดตาก รองลงมาคือ จังหวัดเพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร จังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุด
ในกลุ่มจังหวัดที่รับผิดชอบคือ จังหวัดพิษณุโลก หากพิจารณาข้อมูลตามประเด็นสถานการณ์กลุ่มเป้าหมาย
ในพื้นที่รายประเด็นเมื่อเทียบกับกลุ่มเป้าหมายรายจังหวัด จะพบว่า จังหวัดที่มีเด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพ่ือ
การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด มากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดตาก
ตามลำดบั สว่ นสถานการณเ์ ดก็ ที่มีพฤตกิ รรมไม่เหมาะสม มีจงั หวัดพิษณโุ ลก มอี ันดบั สูงสุดและจังหวัดตากมีจำนวน
น้อยสุด ส่วนจังหวัดจังหวัดกำแพงเพชรและเพชรบูรณ์ ไม่มีข้อมูลในประเด็นนี้ (No Data) สถานการณ์เด็ก
ที่ถูกทารุณกรรมทางร่างกายจิตใจและทางเพศที่มีการดำเนินคดี จังหวัดพิษณุโลกมีจำนวนสูงสุด และ
จงั หวดั ทีม่ ีจำนวนนอ้ ยสุด ไดแ้ ก่จังหวัดอุตรดติ ถ์ ส่วนจังหวดั กำแพงเพชรและเพชรบูรณ์ ไมม่ ขี ้อมูลในประเด็นนี้
(No Data) สถานการณ์เด็กที่อยู่ในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวจังหวัดที่มีจำนวนสูงสุดได้แก่จังหวัดพิษณุโลก
และจำนวนน้อยสุดได้แก่จังหวัดตาก สถานการณ์เด็กที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรและไม่พร้อมในการเลี้ยงดูมี
จำนวนสูงสุด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดที่มีจำนวนน้อยสุด ได้แก่จังหวัดสุโขทัย
สถานการณ์เด็กนอกระบบจังหวัดที่มีจำนวนมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดที่มีจำนวนน้อยสุด
ได้แก่จังหวัดตาก และสถานการณ์เด็กไร้สัญชาติจังหวัดที่มีจำนวนสูงสุด ได้แก่จังหวัดตาก และ
จงั หวดั ที่มจี ำนวนน้อยสดุ ไดแ้ ก่ จังหวดั สโุ ขทยั

แผนภูมิท่ี 13 แสดงจำนวนด็กจำแนกตามสถานการณใ์ นพ้ืนทร่ี ับผิดชอบของ สสว.8

กลมุ่ เด็ก

40,000
35,000
30,000
25,000
20,000
15,000
10,000
5,000

0

กำแพงเพชร ตำก พษิ ณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดติ ถ์

30

๓.๒ กล่มุ เยาวชน (อายุ ๑๘-๒๕ ป)ี

ตารางที่ 3.๒ แสดงสถานการณ์เยาวชน จำแนกตามจงั หวัด

จังหวัด จำนวนกลมุ่ เป้าหมาย (๑) (หนว่ ย:คน)
ท้ังหมด **เยาวชนท่มี พี ฤติกรรม
กำแพงเพชร (๒)
ตาก 72,382 ไมเ่ หมาะสม เยาวชนท่ีถกู ทารุณกรรม
84,698 No Data ทางรา่ งกายจติ ใจและทางเพศ
พษิ ณุโลก 88,227
เพชรบูรณ์ 102,495 No Data No Data
สโุ ขทยั 55,122 No Data
อตุ รดิตถ์ 39,446 2 No Data
442,370 No Data
รวม No Data
2
2 5
7
262
266

หมายเหตุ * เยาวชนท่ีมพี ฤติกรรมไมเหมาะสม หมายถงึ

1) ดม่ื เครื่องดมื่ ท่ีมแี อลกอฮอล สูบบุหรีแ่ ละติดสารเสพติดรายแรง เชน ยาบ้า ยาอี สารระเหย กัญชา เปนตน
2) มว่ั สุมและทาความรำคาญใหกับชาวบาน
3) ติดเกมส และเลนการพนนั ตาง ๆ
4) มีพฤติกรรมทางเพศ
5) อน่ื ๆ (ระบุ) ..............................................
แหล่งทีม่ าของข้อมลู ณ วนั ท่ี 31 มนี าคม 2565
(๑) เยาวชนท่ีมพี ฤตกิ รรมไม่เหมาะสม ข้อมลู จากสำนักงานพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย์จังหวัด

(๒) เยาวชนทถี่ กู ทารณุ กรรมทางรา่ งกายจิตใจและทางเพศ ข้อมลู จากสำนกั งานพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษยจ์ ังหวัด

จากข้อมลู สถานการณ์เยาวชนทมี่ อี ายรุ ะหว่าง 18-25 ปี ได้มกี ารจำแนกตามกลมุ่ จังหวัดในเขตพ้นื ทีร่ บั ผิดชอบของ
สสว.8 จงั หวดั อุตรดติ ถ์ พบวา่ จำนวนประชากรกเยาวชนลุ่มเปา้ หมายทั้งหมดในพืน้ ที่ จำนวน 442,370 คน ซ่งึ มีเยาวชนทม่ี ี
พฤติกรรมไมเ่ หมาะสม มากทสี่ ดุ 3 อนั ดบั ได้แก่ จังหวดั อตุ รดติ ถ์ พิษณุโลก และสุโขทยั ตามลำดบั สว่ นจงั หวดั กำแพงเพชร
จงั หวดั ตาก และจังหวัดเพชรบรู ณ์ ไมม่ ขี อ้ มลู (No Data) และในสว่ นขอ้ มูลประเด็นเยาวชนทถี่ กู ทารณุ กรรมทางรา่ งกายจติ ใจ
และทางเพศ มากทีส่ ดุ ได้แก่ จงั หวดั อตุ รดติ ถ์ และจงั หวัดทมี่ ีจำนวนนอ้ ยท่ีสดุ ได้แก่ จงั หวัดสโุ ขทยั ส่วนจังหวัด กำแพงเพชร
จงั หวดั ตาก จังหวัดพิษณโุ ลก และจังหวดั เพชรบูรณ์ ไมม่ ขี ้อมูล (No Data) ในประเดน็ นี้

แผนภมู ิที่ 14 แสดงจำนวนเยาวชนจำแนกตามสถานการณใ์ นพนื้ ทรี่ ับผดิ ชอบของ สสว.8

กลุ่มเยาวชน (อายุ 18-25 ปี)

จำนวนกลมุ่ เปำ้ หมำยทงั้ หมด 269,447
จำนวนกลมุ่ เปำ้ หมำยทงั้ หมด เยำวชนท่มี พี ฤตกิ รรม ไม่เหมำะสม
จำนวนกลมุ่ เปำ้ หมำยทง้ั หมด เยำวชนท่ถี กู ทำรุณกรรม ทำงรำ่ งกำยจิตใจและทำงเพศ

72,382 84698 102,495 55,122 39,446
0 2 262
0 0 2 0 2 5 266
0 2 0 7
0

กำ แ พ ง เ พ ช ร ตำก พิ ษ ณุ โ ล ก เ พ ช ร บู ร ณ์ สุโ ข ทั ย อุ ต ร ดิ ต ถ์ รวม

ทีม่ า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย 2565

31

๓.๓ กล่มุ สตรี (หญิงทม่ี ีอายุ ๒๕ปี-๕๙ปี)

ตารางที่ 3.๓ แสดงสถานการณก์ ลุม่ สตรี จำแนกตามจังหวัด (หนว่ ย:คน)

จังหวดั จำนวน (๑) (๒) (๓) (๔)
กำแพงเพชร กลุ่มเปา้ หมาย สตรที ่ีถกู ละเมดิ สตรีที่ถกู ทา แมเ่ ล้ียงเดย่ี ว สตรที ถี่ กู เลิก
รายรา่ งกาย ฐานะยากจน จา้ ง/ตกงาน
ทงั้ หมด ทางเพศ
จติ ใจ 3,150 537
186,488 63
191

ตาก 146,064 1 18 585 No Data

พษิ ณโุ ลก 224,177 1 8 314 3,452

เพชรบูรณ์ 257,815 11 12 1,419 1,028

สุโขทัย 188,714 No Data 4 336 13

อตุ รดติ ถ์ 113,917 No Data 19 47 666

รวม 1,117,175 76 252 5,851 5,696

แหลง่ ที่มาของข้อมูล ณ วันท่ี 31 มีนาคม 2565
(๑) สตรีท่ีถกู ละเมิดทางเพศ ทมี่ าจาก oscc รพ. (๒) สตรีที่ถูกทารายรางกาย จิตใจ ที่มาจาก oscc รพ (๓) แม่เลี้ยงเดย่ี วฐานะยากจน

ท่ีตองเล้ยี งดบู ุตรเพียงลาพงั ที่มาจากข้อมูลเดก็ แรกเกดิ (๔) สตรที ถ่ี กู เลิกจา้ ง/ตกงาน ที่มาจากจัดหางานจงั หวดั

ด้านสถานการณ์ทางสังคมของกลุ่มสตรีพบว่า มีจำนวนสตรีที่อาจเกิดปัญหาทางสังคมทั้งหมด
1,117,175 คน ส่วนใหญ่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวฐานะยากจน จำนวน 5,851 คน คิดเป็นร้อยละ 0.52 %
รองลงมา สตรีท่ีถูกเลิกจ้าง/ตกงาน จำนวน 5,696คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.51 % คือ สตรีทถ่ี กู ทาร้ายร่างกาย
จิตใจ จำนวน 252 คน คดิ เป็นร้อยละ 0.02 % และสตรีทถี่ กู ละเมิดทางเพศ จำนวน 76 คน คิดเป็นร้อยละ
0.007 % ตามลำดับ

จากข้อมูลดังกล่าว จะพบว่าสถานการณ์กลุ่มสตรี เมื่อเทียบกับ ปี2564 จำนวนสตรีที่ถูกเลิกจ้าง
เพ่มิ ขน้ึ จากจำนวน 4,762 คน เปน็ 5,696 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 83.60% ของปที ผี่ ่านมา

แผนภมู ิที่ 15 แสดงจำนวนเสถานกลุ่มสตรี ในเขตพน้ื ท่ีรับผดิ ชอบ สสว.8

สถำนกำรณก์ ลมุ่ สตรี

800,000 สตรที ่ีถูกละเมิดทางเพศ รายรา่ งกายจิตใจ แม่เลย้ี งเดย่ี วฐานะ สตรที ี่ถูกเลิกจ้าง/ตกงาน
700,000 สตรที ถี่ ูกทา ยากจน 8,763
600,000
500,000 จานวนกลมุ่ เปา้ หมายท้ังหมด 5,565
400,000 75 230
300,000
200,000
100,000

0

รวม 754,442

ท่ีมา สำนกั งานพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของจงั หวัด

32

๓.๔ กลุ่มครอบครัว

ตารางที่ 3.๔ แสดงสถานการณ์กลุ่มครอบครวั จำแนกตามจงั หวัด

(หน่วย:ครอบครวั )

จังหวดั จำนวน (๑) (๒) (๓) (๔)
กำแพงเพชร กลุ่มเป้าหมาย ครอบครวั ทจ่ี ด ครอบครัว ครอบครวั ท่มี ีคนใน ครอบครวั
ทะเบียนสมรส หยา่ ร้าง ครอบครวั กระทา ยากจน
ทั้งหมด ความรุนแรงต่อกัน
1,997 1,088 11,810
281,829 239

ตาก 228,736 1469 564 19 21,811

พษิ ณุโลก 358,036 3,405 1,667 11 8,967

เพชรบูรณ์ 367,223 1,698 884 0 67,268

สโุ ขทัย 222,630 975 469 4 8,819

อตุ รดติ ถ์ 174,440 1,414 679 26 34,763

รวม 1,632,894 10,958 5,351 299 153,438

หมายเหตุ สำนกั งานพัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนษุ ยจ์ งั หวัด ณ วันท่ี 31 มนี าคม 2565

(๑) ครอบครัวท่ีจดทะเบียนสมรส ทีม่ าจากกรมการปกครอง
(๒) ครอบครวั หย่ารา้ ง ท่ีมาจากกรมการปกครอง
(๓) ครอบครัวที่มคี นในครอบครวั กระทาความรุนแรงต่อกัน ที่มาจากOSCC รพ.
(๔) ครอบครัวยากจน ทม่ี าจากTPMAP

ครอบครัว หมายถึง บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปที่ใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภริยา หรือมีความผูกพัน
ทางสายโลหติ หรือทางกฎหมาย หรือเก่ียวดองเปน็ เครือญาติ ซ่งึ สมาชิกในครอบครวั ตา่ งมีบทบาทหน้าที่ต่อกัน
และมีความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกัน จากรายงานสถานการณ์ทางสังคมระดับจังหวัด และระดั บกลุ่มจังหวัด
ประจำปี 2565 ได้รวบรวมข้อมูลในรูปแบบตัวเลขสถิติที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ในหัวข้อดังต่อไปนี้
1) ครอบครัวที่จดทะเบียนสมรส 2) ครอบครัวหย่าร้าง 3) ครอบครัวที่มีคนในครอบครัวกระทาความรุนแรง
ต่อกัน และ 4) ครอบครัวยากจน พบว่า ครอบครัวที่อยู่ในพื้นที่มีจำนวนทั้งหมด 1,632,894 ครอบครัว
ดังตารางที่ 3.4 ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวยากจน จำนวน 153,438 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 9.40%
ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด รองลงมา คือ ครอบครัวที่จดทะเบียนสมรส จำนวน 10,958 ครอบครัว
คิดเป็นร้อยละ 0.67 % ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ครอบครัวหย่าร้าง จำนวน 5,351 ครอบครัว
คิดเป็นร้อยละ 0.33 % ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด และครอบครัวที่มีคนในครอบครัวกระทาความ
รนุ แรงต่อกนั จำนวน 299 ครอบครวั คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.02 % ตามลำดบั

33

แผนภมู ิที่ 16 แสดงสถานการณก์ ลุ่มครอบครวั จำแนกตามสาเหตุในพืน้ ทีร่ ับผดิ ชอบของ สสว.8

แสดงสถำนกำรณก์ ลมุ่ ครอบครวั

70,000 กำแพงเพชร ตำก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดติ ถ์
60,000 ครอบครวั ยำกจน
50,000
40,000
30,000
20,000
10,000

0

ครอบครวั ท่จี ดทะเบยี นสมรส ครอบครวั หยำ่ รำ้ ง ครอบครวั ท่มี ีคนในครอบครวั กระทำควำมรุนแรงต่อกนั

๓.๕ กลุ่มผสู้ งู อายุ (อายุ ๖๐ปขี ึ้นไป)

ตารางท่ี 3.๕ แสดงสถานการณผ์ สู้ งู อายุ จำแนกตามจังหวัด

จำนวน (๑) (๒) (๓) (หนว่ ย:คน)
กลมุ่ เป้าหมาย ผสู งู อายทุ ่ี ผสู้ งู อายุจำแนกตามความสามารถ ผูสูงอายุ
ไดรบั เบี้ย ในการทำกจิ วตั รประจำวนั (ADL) ท่ตี ้อง (๔) (๕)
ท้งั หมด ดำรงชพี ผสู งู อายุ ผสู งู อายุท่ี
จงั หวัด ยังชพี ติดบ้าน ตดิ สงั คม ช่วยเหลอื ด้วยการ มที อ่ี ยู่ บรจิ าคเบ้ยี
ตัวเอง เร่ร่อน อาศัยไม่ ยังชีพ
กำแพงเพชร ไมได้ ขอทาน เหมาะสม
ตาก (ติดเตยี ง)
-
พษิ ณโุ ลก 138,568 128,399 1,616 111,264 436 - 3
เพชรบรู ณ์ 7 50 1
สุโขทัย 88,915 69,217 1,482 65,038 365 2,200 6
อุตรดิตถ์ 2 45 -
175,006 140,011 1,536 123,754 736 82 3
รวม 16 110 1
188,889 160,707 3,142 160,673 1,025 2,487 14
1
129,475 112,438 54,475 1,408 349
1
103,328 89,371 651 52,691 266
824,181 700,143 62,902 514,828 3,177 27

หมายเหตุ สำนกั งานพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ยจ์ งั หวัด ณ วนั ท่ี 31 มีนาคม 2565

34

(๑) ผูสงู อายทุ ่ีไดรบั เบ้ยี ยงั ชีพ ที่มาจาก สำนกั งานพัฒนาสังคมและความมั่นคงจังหวัด
(๒) ผ้สู ูงอายจุ ำแนกตามความสามารถในการทำกจิ วัตรประจำวนั (ADL) ท่ีมาจากสำนักงานสาธารณสุขจงั หวัด
(๓) ผูสงู อายุทต่ี ้องดำรงชีพดว้ ยการเรร่ ่อน ขอทาน ที่มาจาก สำนักงานพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงจงั หวดั
(๔) ผูสูงอายมุ ีทีอ่ ยู่อาศัยไมเ่ หมาะสม ท่ีมาจาก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมนั่ คงจงั หวัด
(๕) ผูสงู อายุท่ีบรจิ าคเบีย้ ยังชีพ ท่ีมาจาก กองทุนผ้สู ูงอายุ

ผู้สงู อายุ หมายถงึ ผู้ที่มอี ายุต้งั แต่ 60 ปบี ริบรู ณ์ข้นึ ไป จากรายงานสถานการณท์ างสงั คมระดับจังหวัด
และระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2565 ได้รวบรวมข้อมูลในรูปแบบตัวเลขสถิติที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ในหัวข้อ
ดังต่อไปน้ี 1) ผ้สู งู อายทุ ่ีได้รบั เบย้ี ยงั ชีพ 2) ผสู้ ูงอายุจำแนกตามความสามารถในการทำกจิ วตั รประจำวัน (ADL)
ติดบ้าน ติดสังคม ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ (ติดเตียง) 3) ผู้สูงอายุที่ต้องดำรงชีพด้วยการเร่ร่อน ขอทาน
4 ) ผู้สูงอายุมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม และ 5) ผู้สูงอายุท่ีบริจาคเบี้ยยังชีพ ด้วยด้านสถานการณ์ทางสังคม
ของผสู้ ูงอายุ พบวา่ มจี ำนวนผู้สูงอายุท่ีประสบปัญหาทางสังคม ท้ังหมด 824,181 คน สว่ นใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
จำแนกตามความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน (ADL) ที่ติดบ้าน ติดสังคม ติดเตียง จำนวน 580,907 คน
คิดเป็นร้อยละ 70.48 % ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด รองลงมาผู สูงอายุที่ได รับเบี้ยยังชีพ
จำนวน 700,143 คน คิดเป็นร้อยละ 84.95 % คน ผูสูงอายุมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม จำนวน 2,377 คน
คิดเป็นร้อยละ 0.29 % ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ผูสูงอายุที่ต้องดำรงชีพด้วยการเร่ร่อน/ขอทาน
จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 0.002 % จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด และผูสูงอายุที่บริจาคเบี้ยยังชีพ
จำนวน 12 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.001 % ของจำนวนกลมุ่ เป้าหมายทัง้ หมด ตามลำดบั

แผนภมู ทิ ี่ 17 แสดงสถานการณ์ผ้สู ูงอายุ จำแนกตามสาเหตุในพ้นื ท่รี บั ผดิ ชอบของ สสว.8

สถำนกำรณผ์ สู้ งู อำยุ

180,000
160,000
140,000
120,000
100,000
80,000
60,000
40,000
20,000

0

กำแพงเพชร ตำก พษิ ณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์

35

๓.๖ กลุ่มคนพิการ (หนว่ ย:คน)

ตารางที่ 3.๖.๑ แสดงสถานการณ์คนพิการ จำแนกตามจังหวัด

คนพิการที่มีบตั ร คนพิการที่ไดรับเบ้ยี ยังชีพ

จังหวัด จำนวน ประจำตัวคนพิการ เบย้ี ยงั ชีพ เบ้ยี ยังชีพ
คนพกิ าร ผสู้ งู อายุ
กำแพงเพชร 30,455 30,455 29,924 18,002
ตาก 18,724 17,974
48,197 48,197 17,974 8,040
พษิ ณโุ ลก 33,578 33,578
เพชรบูรณ์ 27,129 27,129 27,963 17,033
สโุ ขทัย 21,971 21,971 33,578 0
อตุ รดิตถ์ 180,054 179,304 24,657 897

รวม 20,947 21,930
155,043 65,902

ทมี่ า ขอ้ มูลจากศนู ยบ์ รกิ ารคนพกิ ารจงั หวัด ณ วนั ที่ ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๕

คนพิการ หมายความว่า บุคคลซึ่งมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือเข้าไป
มีสว่ นรว่ มทางสงั คม เนือ่ งจากมีความบกพรอ่ งทางการเหน็ การได้ยนิ การเคลอื่ นไหว การส่อื สาร จติ ใจ อารมณ์
พฤติกรรม สติปัญญา การเรียนรู้ หรือความบกพร่องอื่นใด ประกอบกับมีอุปสรรคในด้านต่าง ๆ และ
มีความจำเป็นพิเศษที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือด้านหนึ่งด้านใด เพื่อให้สามารถปฏิบัติกิจกรรม
ในชีวิตประจำวันหรือเข้าไปมี ส่วนร่วมทางสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไป ทั้งนี้ ตามประเภทและหลักเกณฑ์
ทร่ี ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ประกาศกำหนด จากรายงานสถานการณ์
ทางสังคมระดับจังหวัดและระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี2565 ได้รวบรวมข้อมูลในรูปแบบตัวเลขสถิติที่เกิด
ขึ้นกับคนพิการ ในหัวข้อดังต่อไปนี้ 1) คนพิการที่มีบัตรประจำตัว คนพิการ 2) คนพิการที่ได้รับเบี้ยยังชีพ
2.1) รับเบี้ยยังชีพคนพิการ 2.2) ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พบว่า ประชากรคนพิการที่อยู่ในพ้ืนท่ี
มีจำนวนทั้งหมด 180,054 คน โดยมีคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 179,304 คน
คิดเป็นร้อยละ 99.58 ของคนพิการที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้มีคนพิการที่ได้ รับเบี้ยยังชีพ
รวมทง้ั ส้นิ จำนวน 220,945 คน ดงั ตารางท่ี 3.6.1
แผนภมู ทิ ี่ 18 แสดงสถานการณ์คนพิการ จำแนกตามจังหวดั

แสดงสถำนกำรณค์ นพิกำร

160,000 กำแพงเพชร ตำก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดติ ถ์
140,000
120,000
100,000
80,000
60,000
40,000
20,000

0

จานวน คนพิการท่มี ีบตั รประจาตวั คนพิการ คนพกิ ารท่มี บี ตั รประจาตัวคนพกิ าร เบ้ยี ยงั ชพี คนพกิ ารทม่ี ีบัตรประจาตัวคนพกิ าร เบยี้ ยังชีพผู้สูงอายุ

36

ตารางท่ี 3.๖.๒ แสดงจำนวนคนพิการจำแนกตามสาเหตุความพกิ ร แยกรายจังหวัด

(หน่วย:คน)

สาเหตุความพกิ าร

จังหวัด พนั ธกุ รรม โรคตดิ อบุ ตั เิ หตุ โรคอ่ืน ๆ ไมท่ ราบสาเหตุ มากกว่า รวม
เชื้อ 1 สาเหตุ

กำแพงเพชร 112 350 2,618 6,349 21,026 112 30,567

ตาก 98 187 1,000 2,800 3,396 - 7,481
พิษณุโลก
เพชรบูรณ์ 157 814 3,792 19,519 21,243 2,672 48,197
สุโขทัย
อุตรดติ ถ์ 164 362 2,127 5,601 4,910 119 13,283

รวม 78 394 1,981 25 16,432 8,219 27,129

211 440 2,527 7,175 7,428 4,578 22,359

820 2,547 14,045 41,469 74,435 15,700 149,016

ท่มี า ขอ้ มลู จากศูนย์บริการคนพกิ ารจังหวัด ณ วันที่ ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๕

จากข้อมลู สถานการณ์ทางสังคมระดับจังหวดั และระดับกล่มุ จังหวัด ประจำปี2565 ไดร้ วบรวมข้อมูล
ในรูปแบบสาเหตุที่เกิดขึ้นกับคนพิการ แสดงจำนวนคนพิการจำแนกตามสาเหตุความพิการ แยกรายจังหวัด
ในหัวข้อดังต่อไปนี้ 1) โรคพันธุกรรม 2) โรคติดเชื้อ 3) อุบัติเหตุ 4) โรคอื่นๆ 5) ไม่ทราบสาเหตุ และ
6) มากกว่า 1 สาเหตุ พบว่า สาเหตุความพิการที่อยู่ในพื้นที่มีจำนวนทั้งหมด 149,061 คน โดยมีสาเหตุ
ความพิการ 3 อันดับ ดังนี้ ไม่ทราบสาเหตุ จำนวน 74,435 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 49.94 ของคนพิการที่อยู่ใน
พื้นที่ทั้งหมด รองลงมา โรคอื่นๆ จำนวน 41,469 คน คิดเป็น 27.83 % และมากกว่า 1 สาเหตุ
จำนวน 15,700 คน คิดเปน็ 10.54 % ตามลำดบั

แผนภมู ิท่ี 19 แสดงจำนวนผพู้ กิ ารจำแนกตามสาเหตคุ วามพกิ ารในพ้ืนท่ีรับผดิ ชอบของ สสว.8

สำเหตคุ วำมพกิ ำร

140000
120000
100000
80000
60000
40000
20000

0

กำแพงเพชร ตำก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์ รวม

37

ตารางท่ี 3.๖.๓ แสดงจำนวนคนพกิ ารจำแนกตามประเภทความพิการ แยกรายจงั หวัด

จังหวดั พกิ าร พิการ พกิ าร ความพกิ าร พกิ าร (หน่วย:คน)
ทางการ ทางการ ทางการ ทางการ
กำแพงเพชร ไดย้ ิน เคล่ือนไหว พกิ ารทาง พิการทาง เรยี นรู้ ออทิ พิการ
ตาก เห็น หรอื สอ่ื หรือ จติ ใจหรือ สตปิ ญั ญา สตกิ มากกว่า
ความหมาย ทางรางกาย พฤติกรรม 86
พษิ ณุโลก 2,136 4,329 1,872 301 1 ประเภท
เพชรบูรณ์ 1,316 1,619 1,930 151
สโุ ขทัย 3,635 4,309 9,135 1,288 1,253 183 105 1,529
อุตรดติ ถ์ 3,207 2,500 2,602 47 144 978
2,714 6,095 30,341 3,160 2,606 233 201 2,672
รวม 2,099 1,628 1,267 1,001 168 1,693
15,107 4,563 17,976 1,038 1,251 69 1,238
11,233 10,909 167 1,132
4,460 15,700 854 9,242

3,506 12,545

27,262 87,569

ทม่ี า ขอ้ มูลจากศูนยบ์ ริการคนพกิ ารจงั หวัด ณ วันท่ี ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๕

ข้อมูลจากศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการจังหวัด พบว่า คน พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ
(ไม่รวมกรุงเทพมหานคร) มีทั้งสิ้น จำนวน 163,177 คน โดยแบ่งเป็น คน พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย
จำนวน 87,569 คน (คิดเป็นร้อยละ 53.67 % ของประเภทความพิการ) คนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย
จำนวน 27,262 คน (คิดเป็นร้อยละ 16.71 % ของประเภทความพิการ) คนพิการทางการเห็น จำนวน 15,107 คน
(คิดเป็นร้อยละ 9.26 % ของประเภทความพิการ) คนพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม จำนวน 11,233 คน
(คิดเป็นร้อยละ 6.88 % ของประเภทความพิการ) พิการทางสติปัญญา จำนวน 10,909 คน (คิดเป็นร้อยละ 6.69 %
ของประเภทความพิการ) มากกว่า 1 ประเภท จำนวน 9,242 คน (คิดเป็นร้อยละ 5.66 % ของประเภทพิการ)
คนพิการทางการเรียนรู้จำนวน 1,001 คน (คิดเป็นร้อยละ 0.61 % ของประเภทความพิการ) คนพิการทางออทิสติก
จำนวน 854 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ 0.52 % ของประเภทความพกิ าร) ตามลำดับ

แผนภูมทิ ี่ 20 แสดงจำนวนผู้พกิ ารจำแนกตามสาเหตคุ วามพกิ ารในเขตพืน้ ทรี่ บั ผิดชอบของ สสว.8

สาเหตคุ วามพิการ

120000

100000

80000

60000

40000

20000

0 1 ประเภท
พกิ ารมากกว่า
ไดย้ ิน ทางรางกาย
38
พกิ ารทางการเห็น พกิ ารทางการ พกิ ารทางการ พกิ ารทางจิตใจหรอื พิการทางสติปญั ญา พกิ ารทางการเรยี นรู้ ออทสิ ตกิ
เคลอ่ื นไหวหรือ พฤตกิ รรม

๓.๗ กล่มุ ผดู้ ้อยโอกาส

ตารางท่ี 3.๗ แสดงสถานการณ์กลุ่มผูด้ ้อยโอกาส จำแนกตามจังหวัด

(หนว่ ย:คน)

จังหวัด คนยากจน คนเรร่ อ่ น/ไรท้ อ่ี ยู่ ไมม่ สี ถานะทาง ผพู้ ้นโทษ ผตู้ ดิ เช้ือ HIV
อาศัย ทะเบยี นราษฎร
กำแพงเพชร 12,526 10,114 954
ตาก 14 0 1,553 No Data No Data
40 1 111(อภัยโทษ) 7,615
พิษณโุ ลก 37,426 76
เพชรบรู ณ์ 108,435 1 1,628 379 148
สุโขทัย 8,819 3 972 145 73
อตุ รดิตถ์ No Data 4 192 1 No Data
167,220 124 1 10,639 8,790
รวม 4,347

ทม่ี าข้อมูลจาก กรมพัฒนาสังคมและสวสั ดกิ าร กณ วันท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕

หมายเหตุ นิยาม ผู้ด้อยโอกาส หมายถึง ผู้ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน และได้รับผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ

สังคม การศึกษา สาธารณสุข การเมือง กฎหมาย วัฒนธรรม ภัยธรรมชาติและภัยสงคราม รวมถึงผู้ที่ขาดโอกาสที่จะเข้าถึง

บริการขั้นพื้นฐานของรัฐ ตลอดจนผู้ประสบปัญหาที่ยังไม่มีองค์กรหลักรับผิดชอบอันจะส่งผลให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้เท่า

เทียมกับผู้อน่ื ” โดย กรมพัฒนาสงั คมและสวสั ดิการ กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์ (พม.)

ผู้ด้อยโอกาส หมายถึง ผู้ประสบปัญหาความเดือนร้อน และได้รับผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา
สาธารณสุข การเมือง กฎหมาย วัฒนธรรม ภัยธรรมชาติและภัยสงคราม รวมถึงผู้ที่ ขาดโอกาสที่จะเข้าถึงบริการข้ันพื้นฐาน
ของรัฐ ตลอดจนผู้ประสบปัญหาที่ยังไม่มีองค์กรหลักรับผิดชอบ อันจะส่งผลให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้เท่าเทียมกับผู้อ่ืน
จากรายงานสถานการณท์ างสังคมระดับจังหวัดและ ระดับกลมุ่ จงั หวัด ประจำปี2565 ได้รวบรวมขอ้ มูลในรูปแบบตัวเลขสถิติ
จำนวนผู้ด้อยโอกาส ในหัวข้อ ดังต่อไปนี้ 1) คนยากจน 2) คนเร่ร่อน/ไร้ที่อยู่อาศัย 3) ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร
4) ผู้พ้นโทษ และ 5) ผู้ติดเชื้อ HIV พบว่า ประชากรผู้ด้อยโอกาสที่รวบรวมทั้ง 5 หัวข้อมีจำนวนรวม 191,120 คน ได้แก่
คนยากจน จำนวน 167,220คน ผู้พ้นโทษ จำนวน 10,639 คน ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 8,790 คน ผู้ไม่มีสถานะ
ทางทะเบียนราษฎร์ จำนวน 4,347 คน และ ผู้เรร่ อ่ น/ไร้ท่อี ยอู่ าศยั จำนวน 124 คน ดงั ตารางที่ 3.7 และแผนภมู ิท่ี 3.7

แผนภูมทิ ่ี 21 แสดงสถานการณ์กลุ่มผ้ดู อ้ ยโอกาสในเขตพื้นทร่ี ับผิดชอบของ สสว.8

แสดงสถานการณ์กลมุ่ ผดู้ อ้ ยโอกาส

180,000 คนยากจน คนเรร่ อ่ น/ไรท้ อ่ี ย่อู าศัย ไม่มสี ถานะทางทะเบยี นราษฎร ผู้พน้ โทษ ผตู้ ดิ เช้ือ HIV
160,000
140,000
120,000
100,000
80,000
60,000
40,000
20,000

0

39

สว่ นท่ี ๔

สถานการณ์เชิงประเดน็ ทางสงั คมในระดบั กลมุ่ จังหวดั

๔.๑ สถานการณ์กลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

สำหรับโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน (มิติสังคม) เกิดขึ้นเนื่องมาจาก
ผลของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมทั้งปัญหาการเข้าถึงบริการ

ของภาครัฐส่งผลให้มีผู้ประสบปัญหาทางสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ครอบครัว
มีเด็กเล็ก ครอบครัวมีแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในภาวะยากลำบาก และ
ผู้ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางเหล่าน้ี จำเป็น
ต้องการแก้ปัญหาอย่างรอบด้านในทุกมิติท้ังเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสภาพแวดล้อม และจำเป็น
ต้องบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางดีข้ึน
อย่างยั่งยืน สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 อุตรดิตถ์ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต
กลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ขึ้นโดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิต
กลุ่มเปราะบางในทุกมิติให้ครอบครัวมีความมั่นคง มีความสุข และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งจากการ
ตรวจสอบฐานข้อมูลพบว่ากลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8
อุตรดิตถ์ มีกลุ่มเปราะบางที่ผ่านการคัดกรอง รวมทั้งสิ้น 282,145 ครัวเรือน จำนวนคนเปราะบาง
จำนวน 307,681 คน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการลงพื้นที่ร่วมวิเคราะห์ปัญหา ทำแผนพัฒนา
คุณภาพชีวิตให้กลุ่มเปราะบาง ก่อนที่จะบูรณาการหน่วยงานในการดำเนินการตามแผนเพื่อยกระดับคุณภาพ
ชีวติ ของบคุ คลกลมุ่ นี้ใหด้ ีขน้ึ อย่างยั่งยนื ตอ่ ไป

๔.๑.๑ ตาราง แสดงกลมุ่ คนเปา้ หมายตามฐานขอ้ มลู ระบบการพฒั นาคนแบบช้ีเปา้ TP MAP แยกรายมติ ิ รายจังหวดั

(หน่วย:คน)

จังหวัด *จำนวนคน ดา้ นความ ดา้ น ด้านสขุ ภาพ ด้านรายได้ ด้านการเขา้ ถงึ
เปราะบาง เป็นอยู่ การศกึ ษา บรกิ ารภาครฐั
กำแพงเพชร
ตาก 42,253 1,958 1,182 1,800 4,268 13

พิษณโุ ลก 44,451 2,457 2,169 1,787 1,533 8
เพชรบรู ณ์
สโุ ขทัย 11,717 3,126 1,026 1,763 4,475 14
อตุ รดติ ถ์
108,435 1,334 4,377 2,011 3,422 14
รวม
37,885 2,049 1,764 1,750 8,625 2,754

34,763 256 30 1,038 1,819 25

279,504 11,180 10,548 10,149 24,142 2,828

ทีม่ า ฐานขอ้ มลู ระบบการพัฒนาคนแบบชเ้ี ป้า TP MAP สำนกั งานการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ

หมายเหตุ กลุ่มคนเปราะบาง หมายถึง บุคคลที่ต้องการได้รับการพึ่งพิงจากผู้อื่น ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ
หรือตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถแบ่งกลุ่มคนเปราะบางได้ ดังนี้ 1.กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกว่าบุคคลทั่วไป อาทิ หญิง
ตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ 2.กลุ่มทุพพลภาพ อาทิ ผู้พิการ ผู้ป่วยจิตเวช ผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยสมองเสื่อม 3. กลุ่มที่ไม่มีอิสระพอในการ
ตดั สนิ ใจ อาทิ นักโทษ ทหารเกณฑ์

40

กล่มุ จังหวดั ในเขตพนื้ ทีร่ บั ผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนนุ วิชาการ 8 อตุ รดติ ถ์ ดำเนินการ
ขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนในภาพรวม โดยใช้ฐานการจัดเก็บข้อมูลของ
TPMAP คอื อาศยั ขอ้ มูลจากหลายแหล่งมายืนยนั ซ่ึงกันและกนั โดยปัจจุบันใช้สมมุติฐานวา่ คนท่ไี ดร้ บั การ
สำรวจวา่ จน (survey-based) และยังมาลงทะเบียนว่าจนอีกดว้ ย (register-based) นา่ จะเปน็ คนจนเป้าหมาย
ทต่ี อ้ งการความช่วยเหลอื เรง่ ดว่ น ดังน้ัน TPMAP จงึ ต้งั ตน้ โดยใชข้ ้อมูลความจำเป็นพนื้ ฐาน (จปฐ) จากกรมการ
พัฒนาชุมชน และข้อมูลผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐจากกระทรวงการคลัง มายืนยันซึ่งกันและกัน หรือ
จะเรียกว่า “คนจนเป้าหมาย” ใน TPMAP ดังนั้นในปี พ.ศ 2564-2565 ใช้ฐานข้อมูลจาก TPMAP
Logbook ในการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ โดยจังหวัดกำแพงเพชร มีข้อมูลคนกลุ่ม
เปราะบางจำนวน 42,253 คน จังหวัดตาก มีจำนวน 44,451 คน จังหวัดพิษณโุ ลก มีจำนวน 11,717 คน
จังหวดั เพชรบูรณ์ มีจำนวน 108,435 คน จงั หวดั สโุ ขทัย มจี ำนวน 37,885 คน จังหวัดอตุ รดิตถ์ มจี ำนวน
34,763 คน ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย
อย่างยัง่ ยืนตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง (สจพ.) ไดม้ ผี ลดำเนินการให้ความชว่ ยเหลือหรือพัฒนาคุณภาพ
ชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน จำแนกเป็น 5 มิติ ได้แก่ ด้านความเป็นอยู่ ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ
ด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ โดยมิติที่มีจำนวนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ มิติด้านรายได้ จำนวน 24,142 คน
รองลงมาคือ มติ ิดา้ นความเปน็ อยู่ จำนวน 11,180 คนและมติ ดิ า้ นการศกึ ษา จำนวน 10,548 คน ตามลำดบั
โดยจังหวัดที่มีปัญหามิติด้านรายได้ มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิษณุโลก
และ จังหวัดกำแพงเพชร ตามลำดับ จังหวัดที่มีปัญหามิติด้านความเป็นอยู่ มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดตาก และจังหวัดสุโขทัย ตามลำดับ จังหวัดที่มีปัญหามิติด้านการศึกษามากที่สุด
3 อนั ดับแรก ไดแ้ ก่ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ จงั หวัดตาก และจังหวดั สุโขทัย ตามลำดับ

**หมายเหตุ** จากตารางดังกล่าว จะเห็นได้ว่า มิติทางด้านสุขภาพก็มีจำนวนมากหรือใกล้เคียงกับ
มิติทางด้านความเป็นอยู่และมิติด้านการศึกษา และมิติการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ ก็มีตัวเลขค่อนข้างสูง
ดงั น้ัน จึงต้องเฝ้าระวังท้ัง 2 มติ ินีด้ ว้ ยเช่นกัน

แผนภูมิที่ 22 แสดงกลุ่มคนเป้าหมายตามฐานข้อมูลระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า TPMAP แยกรายมิติ

รายจังหวัด

ฐำนขอ้ มลู ระบบกำรพฒั นำคนแบบชีเ้ ปำ้ TPMAP

350,000
300,000
250,000
200,000
150,000
100,000
50,000

0

*จำนวนคนเปรำะบำง ดำ้ นควำมเป็นอยู่ ดำ้ นกำรศกึ ษำ ดำ้ นสขุ ภำพ ดำ้ นรำยได้ ดำ้ นกำรเขำ้ ถงึ บรกิ ำรภำครฐั

41


Click to View FlipBook Version