๔.๑.๒ ตาราง แสดงขอ้ มลู ครัวเรือนเปราะบาง รายจังหวัดในเขตพื้นทีร่ บั ผิดชอบ สสว.8 (หน่วย:ครวั เรือน)
จงั หวดั *จำนวน ครัวเรือนท่อี ยู่ **ระดบั ความเปราะบางของครวั เรอื น
ครวั เรอื น อาศัยไมม่ ั่นคง ระดบั 0 ระดับ ๑ ระดบั ๒ ระดบั ๓
กำแพงเพชร เปราะบาง
ตาก
42,253 1,764 39,036 395 2,279 543
พษิ ณโุ ลก
เพชรบูรณ์ 44,451 2,457 40,399 1,136 4,571 1,628
สโุ ขทัย
อุตรดติ ถ์ 53,488 904 49,838 904 1,745 1,001
รวม 10,230 3,623 63,331 1,116 2,658 597
37,885 2,049 33,938 842 2,605 500
34,763 1,584 31,397 795 2,185 1,597
282,145 12,417 259,976 8,320 19,664 5,544
ท่ีมา กองตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์ ข้อมูล ณ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕
*นิยาม ครัวเรือน หมายถึง บุคคลหรือกลุ่มคนที่อยู่ร่วมกันและกินอยู่ร่วมกันในสถานที่เดียวกันจำนวน 6 เดือน เป็นอย่างน้อย โดย
จำแนกออกไดเ้ ป็น 2 ชนิด คือ
1. ครวั เรือนคนเดยี ว ไดแ้ ก่ ครวั เรอื นซึ่งประกอบด้วยบุคคลคนเดยี วโดยไมเ่ ก่ยี วขอ้ งเป็นสมาชกิ ของครวั เรือนอ่ืนใดท่ีอยู่ในบ้านเดียวกัน
หรอื บุคคลคนเดยี วอาศัยอยู่ตามลำพังในบา้ นหลังหน่งึ
2. ครัวเรือนที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ ได้แก่ ครัวเรือนที่มีบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป อยู่รวมกันในบ้าน เดียวกัน หรือส่วนหน่ึง
ของบ้าน และร่วมกันในการจัดหาและใช้สิ่งอุปโภค บริโภคอันจำเป็นแก่การครองชีพของบุคคลกลุ่มนั้น บุคคลเหล่านี้อาจเป็นญาติกัน
หรือไมเ่ ปน็ ญาตกิ ันเลย
ครัวเรือนเปราะบาง ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและมีบุคคลที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงที่ต้องการได้รบั ความช่วยเหลือ เช่น ครอบครัวยากจนที่มี
เดก็ เล็ก แม่เลี้ยงเด่ยี ว ผสู้ ูงอายุ คนพิการ สามารถแบ่งระดับความเปราะบางได้ ดังนี้
ครัวเรอื นระดบั ๐ หมายถึง ครวั เรอื นที่ไม่ตกมติ เิ ร่ืองรายได้และมบี คุ คลท่มี ีภาวะพง่ึ พงิ
ครวั เรือนระดับ 1 หมายถึงครวั เรือนท่มี ีรายได้นอ้ ย ครัวเรือนท่ีมีรายได้น้อยและมปี ัญหาท่ีอยู่อาศัย
ครัวเรอื นระดบั 2 หมายถงึ ครวั เรือนทม่ี ีรายได้น้อยและมีบุคคลที่อยใู่ นภาวะพึ่งพงิ 1 – 2 คน
ครัวเรอื นระดับ 3 หมายถงึ ครัวเรอื นท่ีมีรายได้นอ้ ยและมีบุคคลที่อยใู่ นภาวะพ่ึงพิงมากกว่า 2 คน
ครัวเรือนท่ีมีรายไดน้ ้อย คอื ครวั เรอื นทม่ี รี ายได้เฉล่ยี ตอ่ ปไี มเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ ตอ่ คน ต่อปี
ภาวะพงึ่ พงิ หมายถึง คนทตี่ อ้ งได้รบั การดูแล/ช่วยเหลือจากคนอ่นื (อาทิ เด็กเลก็ ผูส้ ูงอายุ คนพิการ และผปู้ ว่ ยตดิ เตยี ง เป็นต้น)
ข้อมูลครัวเรือนเปราะบาง รายจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สสว.8 มีจำนวนครัวเรือนเปราะบาง
รวม 282,145 ครัวเรือน โดยแยกเป็น ครัวเรือนที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง จำนวน 12,417 ครัวเรือน
คิดเป็น 4.40 % ของกลุ่มเปราะบางรายจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของ สสว.8 และคิดเป็น 27.51 %
ของกลุ่มเปราะบางรายครัวเครือนทั้งประเทศ ครัวเรือนที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง มีจำนวน 12,417 คน คิดเป็น
4.40% ของกลุ่มเปราะบางรายจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของ สสว.8 และคิดเป็น 1.21 %
ของกลุ่มเปราะบาง รายครัวเครือนทั้งประเทศ ระดับความเปราะบางของครัวเรือน ระดับ 0
จำนวน 259,976 ครัวเรือน คิดเป็น 4.40% ของกลุ่มเปราะบางรายจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ของ สสว.8 และคิดเป็น 1.21 % ของกลุ่มเปราะบางรายครัวเครือนทั้งประเทศ ระดับ ๑
จำนวน 8,320 ครัวเรือน คิดเป็น 2.95 % ของกลุ่มเปราะบางครัวเรือนในเขตพื้นที่รบั ผิดชอบ ของ สสว.8
และคิดเป็น 0.81 % ของกลุ่มเปราะบางรายครัวเครือนทั้งประเทศ ระดับ ๒ จำนวน19,664 คิดเป็น 6.96 %
ของกลุ่มเปราะบางครัวเรือนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของ สสว.8 และคิดเป็น 1.91 % ของกลุ่มเปราะบาง
รายครัวเรือนทั้งประเทศ ระดับ ๓ มีจำนวน 5,544ครัวเรือน คิดเป็น 1.96 % ของกลุ่มเปราะบางครัวเรือน
ในเขตพน้ื ท่รี บั ผดิ ชอบ ของ สสว.8 และคดิ เป็น 0.54 % ของกลมุ่ เปราะบางรายครัวเรือนทงั้ ประเทศ
42
๔.๑.๓ ผลการขับเคลือ่ นโครงการพฒั นาคุณภาพชีวิตกลมุ่ เปราะบางรายครัวเรอื น
กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 อุตรดิตถ์
(กำแพงเพชร ตาก พษิ ณุโลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทัย และอตุ รดิตถ์)
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 อุตรดิตถ์ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต
กลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน โดยบูรณาการระหว่าง 12 กระทรวง 1 หน่วยงาน เพื่อบูรณาการความร่วมมือ
ในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนให้ครอบคลุมทุกมิติแบบองค์รวม ทำให้สามารถเข้าถึงสิทธิ
และสวัสดิการ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ครอบครัวมั่นคงมีความสุข สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ลดความเหลื่อมล้ำและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมวางแผนให้ความช่วยเหลือและพัฒนาระบบการ
ให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงสวัสดิการ ตลอดจนบูรณาการการทำงานในระดับพื้นที่ด้วยกลไกสหวิชาชีพ
ร่วมกับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) 1 คน รับผิดชอบ 10 ครอบครัว และ
ติดตามครอบครัวกลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มจังหวัดได้มีการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพชีวติ
กลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน ดงั นี้ ทมี One Home จงั หวัดแตล่ ะจังหวดั ในเขตพื้นท่ีรับผดิ ชอบ ประชุมร่วมกับ
คณะทำงานแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ ศจพ.จ. และ ศจพ.อ. เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และวางแผน
การทำงานร่วมกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อพม. ลงพื้นท่ี
ตรวจสอบและจัดเก็บขอ้ มลู (แก้ไข เพิ่มเติม เน่อื งจากตกหลน่ ตาย ย้ายออก ฯลฯ) เกบ็ ขอ้ มลู สมดุ พกครอบครัว
และวิเคระห์ข้อมูล เพ่อื วางแผนการช่วยเหลือพฒั นาตามสภาพปัญหาความต้องการเรง่ ดว่ น (เงินสงเคราะห์ผู้มี
รายได้นอ้ ย/เงนิ สงเคราะห์ครอบครัว เพือ่ เป็นค่าใชจ้ า่ ยในครอบครัว เพื่อการดำรงชพี เครื่องอปุ โภคและบริโภค
เงนิ สงเคราะห์เด็กในครอบครวั และเงินเยยี วยาอ่ืนๆ) โดยกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์
สนบั สนนุ งบประมาณเปน็ เงนิ สงเคราะห์ประเภทต่างๆ อาทิเชน่ เงินสงเคราะห์ผมู้ ีรายไดน้ อ้ ย เงนิ สงเคราะหเ์ ด็ก
ในครอบครวั และเงินสงเคราะหฉ์ ุกเฉินประเภทต่างๆ
หากการสำรวจข้อมูลแล้ว พบว่ากลุ่มครัวเรือนเปราะบางต้องการความช่วยเหลือด้านอื่นนั้น ไม่ว่าจะ
เปน็ ด้านทอ่ี ยอู่ าศัย ดา้ นการศึกษา ดา้ นสขุ ภาพ ด้านอาชพี และรายได้ หน่วยงาน One Home แต่ละจังหวัดได้
ดำเนนิ การส่งตอ่ ข้อมลู เพื่อให้กลุ่มเปราะบางรายครวั เรือนไดร้ บั การชว่ ยเหลอื ใหเ้ หมาะสมกับความตอ้ งการตาม
สภาพปัญหาของกลุ่มเปราะบางรายครวั เรือน เช่น หากตอ้ งการซ่อมท่ีอยู่อาศยั ก็จะสง่ ต่อขอ้ มลู ใหก้ ับการเคหะ
แห่งชาติ ด้านการศึกษาส่งข้อมูลให้กับศึกษาธิการจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านสุขภาพ ส่งข้อมูล
โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เป็นต้น เพ่ือบรู ณาการความร่วมมือในการช่วยเหลือกลุม่ เปราะบาง
รายครัวเรอื นให้ครอบคลุมทุกมติ ิแบบองคร์ วม ตอ่ ไป
โดยผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาคณุ ภาพชีวิตกลุม่ เปราะบางรายครัวเรือนของกลุ่มจังหวัดในเขต
พื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 อุตรดิตถ์ ได้ดำเนินการช่วยเหลือครัวเรือน
เปราะบาง จำนวน 33,147 ครวั เรือน
43
๔.๒ สถานการณ์ภายใต้การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19
4.2.1 ตาราง แสดงสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ COVID-19 พ้นื ท่ีกลุ่มจงั หวดั ในเขตรับผิดชอบของ สสว.8.
(หน่วย:คน)
จังหวัด ตดิ เชื้อสะสม กำลังรกั ษา รกั ษาหาย เสยี ชวี ติ
กำแพงเพชร 26,232 204 17,381 148
ตาก 38,136 634 37,534 77
พษิ ณโุ ลก 9,950 4,976 9,385 103
เพชรบูรณ์ 23,514 220 23,106 188
สุโขทยั 20,465 1,236 19,066 163
อุตรดิตถ์ 144,051 3,108 66,690 124
150,703 9,815 133,151 1,012
รวม
ทีม่ า รายงานสถานการณ์ COVID-19 สำนักงานสาธารณสขุ จงั หวดั ข้อมลู ณ วนั ที่ ๓๑ พฤษภาคม 256๕
สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID - 19 มีจำนวนทั้งสิ้น 294,681 คน โดยแบ่งออกเป็น
(1) ติดเชือ้ สะสม 150,703 คน ( 2) กำลังรักษา9,815 คน ( 3) รักษาหาย 133,151 คน (4) เสยี ชีวิต 1,012 คน
ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ รองลงมา จังหวัดตาก จังหวัดเพชรบูรณ์
จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสโุ ขทัย และจังหวัดพิษณุโลก ตามลำดับ จำนวนผูต้ ิดเชื้อ COVID - 19 กำลังรักษา
3 อันดับสูงสุดของกลุ่มจังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 4,780 คน รองลงมา จังหวัดสุโขทัย
จำนวน 1,061 คน และจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 789 คน ตามลำดับ จำนวนผุ้ติดเชื้อ COVID - 19
ที่รักษาหายแล้วในกลุ่มจังหวัดที่รักษาหายจำนวนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 41,760 คน
รองลงมาจังหวัดตาก จำนวน 37,534 คน และจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 19,872 คน ตามลำดับ
และจำนวนผู้เสยี ชีวิตในกลุม่ จังหวัดเรียงลำดับได้ดังน้ี อันดับแรกที่มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แก่จังหวัดเพชรบูรณ์ รองลงมาคือจังหวัดอุตรดิตถ์
จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดในกลุ่มจังหวัด
ได้แก่ จังหวดั ตาก
จากข้อมูลเบื้องต้น คนติดเชื้อสะสม จำนวน 150,703 คน คิดเป็น 51.14 % ของประชากรการ
แพร่ระบาดของ COVID-19 กลุ่มจังหวัด คนกำลังรักษา จำนวน 9,815 คน คิดเป็น 3.33 % คนรักษาหาย
แลว้ จำนวน 133,151 คน คิดเป็น 45.18 % และคนเสยี ชวี ิต จำนวน 1,012 คน คิดเปน็ 0.34 %
44
แผนภมู ิท่ี 23 .แสดงสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของ COVID-19 ในพ้นื ท่กี ลมุ่ จงั หวดั ในเขตรบั ผดิ ชอบของ สสว 8
สถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำด COVID - 19
60,000 กำแพงเพชร ตำก พษิ ณโุ ลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์
50,000 ตดิ เชือ้ สะสม กำลงั รกั ษำ รกั ษำหำย เสยี ชีวิต
40,000
30,000
20,000
10,000
0
4.2.2 ตาราง แสดงข้อมลู การไดร้ บั วคั ซีนป้องกนั โรค โควดิ 19 ประชาชนในพ้นื ท่กี ลมุ่ จังหวัดในเขตรบั ผิดชอบของ สสว..8..
จังหวดั (หน่วย:คน)
กระตนุ้ เข็มที่ ๑ กระตนุ้ เข็มที่ ๒ กระตนุ้ เข็มที่ ๓ กระตนุ้ เข็มที่ ๔
กำแพงเพชร 461,645 435,869 187,868 19,653
ตาก 500,102 416,849 129,575 23,729
พิษณโุ ลก 591,472 577,373 272,442 32,251
เพชรบรู ณ์ 647,468 604,201 272,415 15,448
สุโขทยั 450,205 422,791 200,345 17,935
อุตรดิตถ์ 320,305 305,276 159,904 21,991
รวม 2,384,700 2,223,756 974,707 56,114
ทม่ี า MOPH-Immunization Center (IC) กระทรวงวาธารณสขุ ข้อมลู ณ ข้อมลู ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม 256๕
การได้รับวัคซีนป้องกันโรค โควิด 19 ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ในภาพรวมของพื้นที่ในเขต
รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 อุตรดิตถ์ อัตราการรับวัคซีนต้านโควิด 19 ยังคง
เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะช่วยลดระดับของการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตที่เกิดจากเชื้อโควิด 19
ทุกสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดในปัจจุบันลงได้มาก อัตราการรับวัคซีนที่สูงยังช่วยลดการแพร่เชื้ออีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อัตราการรับวัคซีนในบางจังหวัดและในกลุ่มเสี่ยงบางกลุ่มยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับ
จำนวนประชากร จากข้อมูลพิจารณาพบว่า การได้รับวัคซีนของประชากรกลุ่มจังหวัดในพื้นที่เขตรับผิดชอบ
กระตุ้นเข็มที่ 1 จำนวน 2,384,700 คน คิดเป็น 56.16 % ของจำนวนประชากรในกลุ่มจังหวัด และ
คิดเป็น 3.60 % ของประชากรทั้งประเทศ กระตุ้นเข็มที่2 จำนวน 2,223,756 คน คิดเป็น 52.37 %
ของจำนวนประชากรในกลุ่มจงั หวดั และ คิดเปน็ 3.36 % ของประชากรทัง้ ประเทศ กระตุน้ เข็มท่ี 3 จำนวน
974,707 คน คิดเป็น 22.96 % ของจำนวนประชากรในกลุ่มจังหวัด และ คิดเป็น 1.47 % ของประชากร
ทั้งประเทศ กระตุ้นเข็มที่ 4 จำนวน 56,114 คน คิดเป็น 1.32 % ของจำนวนประชากรในกลุม่ จังหวัด และ
คดิ เป็น 0.008 % ของประชากรทงั้ ประเทศ
45
แผนภูมิที่. 24 ขอ้ มลู การไดร้ ับวัคซีนป้องกันโรค โควดิ 19 ประชาชนในพ้ืนท่กี ลุ่มจังหวดั ในเขตรบั ผดิ ชอบของ สสว 8
ชื่อแผนภมู ิ
3,000,000 กำแพงเพชร ตำก พิษณโุ ลก เพชรบรู ณ์ สโุ ขทยั อตุ รดิตถ์ รวม
2,500,000 กระตนุ้ เขม็ ท่ี ๒
2,000,000
1,500,000
1,000,000
500,000
0
กระตนุ้ เข็มท่ี ๑ กระตนุ้ เข็มท่ี ๓ กระตนุ้ เข็มท่ี ๔
4.2.3 ตาราง แสดงขอ้ มลู การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผ้ไู ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรค COVID-19 พืน้ ท่กี ลมุ่ จงั หวัดในเขตรับผดิ ชอบของ สสว 8 (หนว่ ย :คน)
ผปู้ ว่ ย COVID-19 ครอบครวั ผู้เสียชีวิต ผู้ได้รบั ผลกระทบที่ ครอบครัวผู้ได้รบั
(คน) ผลกระทบที่ไดร้ บั
จงั หวัด จาก COVID-19 ไดร้ บั การชว่ ยเหลือ การทีช่ ่วยเหลือ
(ครอบครวั ) (คน) (ครอบครวั )
กำแพงเพชร 1,979 148 807 No Data
ตาก 38,136 441 23,335 7,778
พษิ ณโุ ลก 9,950 103 9,385 85
เพชรบรู ณ์ 789 168 574 574
สุโขทัย 20,465 163 142 105
อตุ รดิตถ์ 47,983 72 47,983 47,983
รวม 143,389 1,574 58,084 48,747
ที่มา รายงานข้อมลู การให้ความชว่ ยเหลือผูไ้ ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรค COVID-19
กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์ ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี ๓๑ พฤษภาคม 256๕
ผลการช่วยเหลือด้านต่างๆ ตามบริบทพื้นที่ การจ่ายเงินโครงการเพือ่ ชว่ ยเหลือเยียวยาและชดเชยให้
ประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19 ) ของกลุ่ม
จังหวัดไดด้ ำเนินการให้ความช่วยเหลือหรอื พัฒนาคณุ ภาพชีวติ กลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน จำแนกเป็น 5 มิติ
ได้แก่ ดา้ นความเปน็ อยู่ ดา้ นการศึกษา ด้านสุขภาพ ดา้ นการเขา้ ถึงบริการภาครัฐ โดยแบง่ เป็นระยะสั้น ระยะ
กลาง ระยะยาว โดยพิจารณาจากความต้องการช่วยเหลือเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็น เงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มี
รายไดน้ อ้ ยและผู้ไรท้ พี่ ่ึง
46
๔.๓ สถานการณเ์ ชิงประเด็นสำคัญในพืน้ ที่กลมุ่ จงั หวัด
สถานการณ์ทางสังคมทีเ่ กดิ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัส COVID - 19
จากการติดตามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทั่วโลกระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม ถึงวันที่ 7 มกราคม
2565 มี จำนวน 11,244,199 ราย เฉลยี่ พบผ้ตู ดิ เชือ้ วนั ละ 1,874,033 ราย มีจำนวนประเทศทีม่ รี ายงาน
พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอน จำนวน 141 ประเทศ มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 495,630 ราย โดย
จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก เพิ่มขึ้น อย่างเห็นได้ชัดในวันที่ 1 มกราคม 2565 จากการติดตามประเด็นที่น่าสนใจ
จากต่างประเทศในช่วงสัปดาห์ทผ่ี ่านมา พบวา่ หลายๆประเทศ กำลงั ประสบกับภาวะการระบาดของเชื้อโควิด
19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อ ภายในประเทศสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างย่ิง
ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อให้เกิดความกดดันทางด้าน สาธารณสุข นอกจากนี้ นักระบาดวิทยาของ
Washington DC ยังเชื่อว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวยังคงเป็นสายพันธ์ุ ที่น่ากังวล เนื่องจากมีอัตราการ
แพร่เชื้อมากกว่าสายพันธุ์เดลต้าถึง 4 ถึง 6 เท่า ถึงแม้ว่าความรุนแรงจะน้อยกว่าเชื้อ สายพันธุ์เดลต้า
แตก่ ็อาจกอ่ ให้เกดิ ความล้มเหลวทางดา้ นสาธารณสขุ ได้
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบหลายๆด้าน โดยเฉพาะ
ด้านรายได้ เพราะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมานั้น ทำให้รายได้ลดลง
ขาดรายได้ และการดำรงชีวิตมีความยากลำบากมากขึ้น ซึ่งความช่วยเหลือเร่งด่วนที่ได้รับมากที่สุด
คือ เงินอุดหนุนแ/เงินสงเคราะห์ และเงินเยียวยาในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
รวมถงึ การส่งเสรมิ การประกอบอาชีพและการจ้างงาน เพ่ือใหม้ รี ายได้อย่างต่อเน่ือง ผ้ไู ด้รบั ผลกระทบส่วนใหญ่
เป็นกลุ่มท่ีถูกเลิกจ้าง/ไม่มีอาชีพ/ว่างงาน รองลงมาคือรับจ้างและเกษตรกรรม ซึ่งนับว่าเป็นผู้ขาดรายได้และ
มีรายได้ไม่แน่นอน ปัญหาในเรื่องของอาชีพและรายได้ดังกล่าว อาจจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามสภาวะ
เศรษฐกจิ ถดถอย สินค้าเกษตรตกต่ำ ตลอดจนปญั หาการเลิกจา้ งงานในสถานประกอบการณ์ และจำเป็นต้องใช้
ร ะ ย ะ เ ว ล า ใ น ก า ร ฟ ื ้ น ต ั ว ข อ ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ เ พ ื ่ อ ใ ห ้ ค น ก ล ั บ มา ม ี อ า ช ี พ แ ล ะ ร า ย ไ ด ้ เ พ ี ย ง พ อ ต ่ อ ก า ร ด ำ ร ง ช ี วิ ต
จากผลกระทบดังกลา่ วทำใหเ้ กดิ ภาวะในด้านต่างๆ ดังนี้
ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากยังมีภาวะผูย้ ากจนในจังหวัดท่ีรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนุน
วิชาการ 8 โดยมิติของของความยากจนอยู่ที่รายได้และการดำรงชีพเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจงึ เน้นไปที่การพัฒนา
ศักยภาพและโอกาส โดยการสร้างโอกาสและกระจายรายได้ การแก้ไขปัญหาเรื่องรายได้ การลดอัตรา
การว่างงาน โดยการพัฒนาอาชีพและรายได้ของครอบครัว และการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะเศรษฐกิจ
ถดถอยในปจั จบุ นั อาทิ การให้ความช่วยเหลอื เงินสงเคราะห์ การแจกสิ่งของอุปโภคและบรโิ ภค เปน็ ต้น
ด้านสังคม สังคมของจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8
ส่วนใหญ่เป็นสังคมชนบทมากกว่าชุมชนเมือง ประชาชนมีความกลมกลืนในประเพณีวัฒนธรรม การดำรงชีวิต
เป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่ยังมีปัญหา/อุปสรรค ด้านสังคมเพราะสังคมภายนอกมีการเปลี่ยนแปลง ประชาชน
ตอ้ งปรบั เปลย่ี นวิถีชีวิตเข้าสูส่ ังคมแบบใหม่มากข้ึน จำเป็นต้องมีการสง่ เสริม สนับสนุนพฒั นาด้านสังคม เพื่อให้
ประชาชนในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 8 มคี วามเข็มแข็ง มีคุณภาพชีวิต
ที่ดี สามารถปรับตัวอยู่ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ การพัฒนาด้านสังคมมุ่งเน้นเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
47
โดยการเสริมสร้างและพัฒนาชุมชนให้มีความเข็มแข็ง การเสริมสร้างและเปิดโอกาสไปสู่สังคมแห่งความ
เข็มแข็งและพัฒนาทางดา้ นสังคมใหม้ ีความสขุ สงบเรียบร้อย
สถาบันครอบครวั สถาบนั ครอบครัวในปจั จุบนั มคี วามอ่อนแอเป็นอยา่ งมาก โดยเฉพาะกลมุ่ เดก็ และ
กลุ่มผู้สูงอายุ ที่ต้องอยู่ตามลำพัง ซึ่งปัจจัยหลักมาจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและ
ชอ่ งว่างทางด้านรายไดร้ ะหว่างคนจนกบั คนรวย ปญั หาความยากจนเป็นปัญหาสำคัญสำหรบั หลายครอบครัวซึ่ง
รวมถึงครอบครัวในพ้ืนท่ีเขตรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 8
และอีกอย่างพลวัตรในสังคม จากเกษตรกรรมสู่อุตสาหกรรมก่อให้เกิดความอ่อนแอในระบบครอบครัวเป็น
มลู เหตุที่กอ่ ใหเ้ กิดความรนุ แรงในครอบครัว เน่ืองจากการทอดทิง้ เดก็ ผูส้ งู อายุ เพราะปัญหาทางดา้ นเศรษฐกิจ
ทำให้ประชาชนที่อยู่ในวัยแรงงานต้องทิ้งถิ่นฐาน ไม่มีเวลาเพียงพอในการดูแลเด็ก ผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด
ไม่สามารถตอบสนองทางอารมณ์และไม่สามารถอบรมสั่งสอนได้เพียงพอ ผู้ปกครองขาดทักษะในการดูแลเด็ก
สื่อสารกับเด็กอย่างไม่มีคุณภาพ ลงโทษเด็กอย่างไม่เหมาะสม และผู้สูงอายุต้องอยู่ตามลำพัง ขาดคนดูแล
ระบบการรองรบั ของสงั คมยังไม่ตอบสนองในการชว่ ยดูแลครอบครัวเหลา่ นี้ได้อยา่ งเพยี งพอ
ด้านการบริหารจัดการ การดำเนินการในการปรับปรุง และพัฒนาด้านการบริหารจัดการของจังหวัด
ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 ด้านการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
ของประชาชน เป็นการดำเนินการอย่างตอ่ เนื่อง ซึ่งได้สำรวจปัญหาความเดือดร้อนทีม่ ีผลกระทบต่อประชาชน
จำนวนมาก การบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนในการกำหนดช่องทางการรับเรื่องราวร้องทุกข์
ของประชาชน ขั้นตอนในการดำเนินการและเจา้ หน้าที่ผู้รับผดิ ชอบ และจัดตั้งคณะทำงานช่วยเหลือประชาชน
เพื่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ทันกับความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทัน ท่วงที
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ปัญหาด้านเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก และปัญหา
ด้านสินค้าเกษตรกรรมตกต่ำ ส่งผลกระทบให้ประชาชนจำนวนมากต้องเผชญิ กับความยากลำบากในการใช้ชีวิต
การขาดรายได้ในการเลี้ยงชีพ ในระยะแรกของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รัฐบาลจึงมุ่งให้
ความสำคญั กบั การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID-19 และเพ่ือให้
การบริหารงานในการฟื้นฟู เยียวยา และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนมีความตอ่ เนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหา
ความเดือดร้อน เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 การให้เงินเยียวยาฉุกเฉินครอบคลุมครอบครัวกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ประสบ
ปัญหาทางสังคม โดยเป็นการจัดสรรเงินให้กลุม่ เป้าหมายโดยตรง ผ่านทางโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้ว ได้แก่
เงนิ อดุ หนนุ เพ่ือการเล้ียงดูเด็กแรกเกิด เบ้ียยังชีพผ้สู ูงอายุ และเบี้ยความพิการ การจ่ายเงนิ เยียวยาคนพิการที่มี
บัตรประจำตัวคนพิการโดยใช้ เงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคณุ ภาพชีวติ คนพิการ รวมถึงการให้คนพิการ
และผดู้ แู ลคนพิการกู้ยืมเงินกองทนุ เพ่ือประกอบอาชพี ในสภาวะวิกฤตการแพรร่ ะบาดของเช้ือโรค COVID-19
การสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การให้นมผงเด็กเล็กสำหรับครอบครัวทีต่ กงาน ไม่มีรายได้ การจัดบริการ
ทพ่ี ัก ฝึกอาชพี สำหรับแม่เลีย้ งเด่ียว การจดั ต้งั ตลาดนดั องค์กรชุมชน และการจัดเตรียม บา้ นพักชัว่ คราวสำหรับ
คนไร้บา้ น ตลอดจนเรง่ แก้ไขปญั หาความเดือดรอ้ นในสถานการณ์ท่ีปกตดิ ว้ ย
48
สว่ นที่ ๕
การวิเคราะหส์ ถานการณท์ างสังคมในพน้ื ทกี่ ลมุ่ จงั หวัด ของสสว 8
(เปน็ การนำข้อมลู ในสว่ นท่ี ๒-๔ มาวิเคราะหถ์ งึ สถานการณ์ทางสงั คมในเขตพนื้ ทจ่ี ังหวัดท่รี บั ผดิ ชอบ)
5.๑ กล่มุ เดก็ (อายตุ ำ่ กว่า ๑๘ ปี บรบิ รู ณ์)
สถานการณก์ ลมุ่ เด็ก 0-17 ปี (จำนวน 752,003 คน) คดิ เป็น 17.71 % ของประชากรรวมกลมุ่ จังหวดั
อับดับ สาเหตุ จำนวน (คน) ร้อยละ
1 เดก็ ที่ได้รับเงนิ อุดหนนุ เพ่ือการเล้ียงดูเด็กแรกเกิด 142,339 18.93
2 เดก็ นอกระบบ 14,702 1.96
3 เด็กที่อยูใ่ นครอบครัวเลี้ยงเด่ยี ว 4,014 0.53
กลุ่มประชากรเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขตรบั ผิดชอบของสสว.8 จังหวัด
อุตรดิตถ์ ในปี พ.ศ.2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 752,003 คน และหากพิจารณาข้อมูลประเด็นในกลุ่มเด็ก
สูงสุด 3 อันดับแรก พบว่าเด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด มีจำนวน 142,339 คน
คิดเป็นร้อยละ 18.93 % ของจำนวนประชากรวมกลุ่มเด็กทั้ง 6 จังหวัด และ ร้อยละ 1.96 % ของจำนวน
ประชากรวมกลุ่มเด็กทั้ง 6 จังหวัด เด็กนอกระบบ จำนวน 14,702 คน และเด็กที่อยู่ในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว
จำนวน 4,014 คน คิดเป็นร้อยละ 0.53 % ของจำนวนประชากรวมกลุ่มเด็กทั้ง 6 จังหวัด
และรอ้ ยละ 0.88 % 0.11 % และ 0.03 % ของประชากรเดก็ ทงั้ ประเทศ ตามลำดบั
5.2 กล่มุ เยาวชน (อายุ ๑๘ - 25 ปี)
สถานการณก์ ล่มุ เยาวชน 18-25 ปี (จำนวน 442,370 คน) คิดเป็น 10.42 % ของประชากรรวมกลมุ่ จังหวดั
อับดบั สาเหตุ จำนวน (คน) ร้อยละ
1 เยาวชนที่มพี ฤติกรรมไม่เหมาะสม 266 0.99
2 เยาวชนที่ถกู ทารุรกรรมทางร่างกายจิตใจและทางเพศ 7 0.003
กลุม่ เยาวชนทม่ี ีอายรุ ะหวา่ ง 18-25 ปี ในพนื้ ท่กี ลมุ่ จังหวดั เขตรับผดิ ชอบของสสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์
ในปี พ.ศ.2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 442,370 คน และหากพิจารณาข้อมูลประเด็นในกลุ่มเยาวชน
รายประเด็น พบว่าเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีจำนวน 266 คน และเยาวชนที่ถูกทารุณกรรม
ทางร่างกาย จิตใจและทางเพศ มีจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 0.003 % ของจำนวนเยาวชนในพื้นที่
กล่มุ จังหวดั
5.3 กลุ่มสตรี (หญงิ ทมี่ ีอายุ 25- 59 ปี)
สถานการณ์กลมุ่ สตรี (จำนวน 1,117,175 คน) คิดเป็น 17.77 % ของประชากรรวมกลุ่มจงั หวัด
อบั ดับ สาเหตุ จำนวน (คน) ร้อยละ
1 สตรที ถ่ี กู เลิกจ้างงาน/ตกงาน 8,763 1.16
2 แมเ่ ลี้ยงเดยี่ วฐานะยากจน 5,565 0.74
3 สตรที ่ีถูกทำร้ายร่างกายจิตใจ 230 0.03
4 สตรีทถ่ี กู ละเมิดทางเพศ 75 0.009
กลุ่มสตรี (หญิงที่มีอายุ 25-59 ปี) ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบของสสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์
ในปี พ.ศ.2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,117,175 คน และหากพิจารณาข้อมูลประเด็นในกลุ่มสตรี
สูงสุด 3 อันดับแรก พบว่าสตรีที่ถูกเลิกจ้างงาน/ตกงาน มีจำนวน 8,763 คน คิดเป็นร้อยละ 1.16 %
49
ของจำนวนประชากรวมกลุ่มสตรีกลุ่มจังหวัด และ แม่เลี้ยงเดี่ยวฐานะยากจน จำนวน 5,565 คนคิดเป็น
ร้อยละ 0.74 ของจำนวนประชากรกลุ่มสตรีกลุ่มจังหวัด และสตรีที่ถูกทำร้ายร่างกายจิตใจจำนวน 230 คน
คิดเป็นร้อยละ 0.03 % ของจำนวนประชากรวมกลุ่มสตรีกลุ่มจังหวัด แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องสตรี
ทถ่ี กู ละเมิดทางเพศ ก็มีจำนวนไมน่ อ้ ยเหมอื นกนั และต้องเฝ้าระวังในประเดน็ นเ้ี หมือนกัน
5.4 กลุ่มครอบครวั
สถานการณก์ ลมุ่ ครอบครวั จำนวน 1,632,894 ครวั เรือน
อบั ดบั สาเหตุ จำนวน (คน) รอ้ ยละ
11.90
1 ครอบครวั ยากจน 153,438 0.85
0.42
2 ครอบครัวท่จี ดทะเบยี นสมรส 10,958 0.02
3 ครอบครวั หย่ารา้ ง 5,351
4 ครอบครวั ท่ีมีคนกระทำความรนุ แรงต่อกัน 299
กลุ่มครอบครัว ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบของสสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์ ในปี พ.ศ.2565
มีจำนวนรวมทั้งสิ้น1,288,908 คน และหากพิจารณาข้อมูลประเด็นในกลุ่มครอบครัวสูงสุด 3 อันดับแรก
พบว่าครอบครัวยากจน มีจำนวน 153,438 คน คิดเป็นร้อยละ 11.90 % ของจำนวนประชากรวมกลุ่ม
ครอบครวั กลุ่มจังหวดั รองลงมาคือครอบครัวทจ่ี ดทะเบียนสมรส จำนวน 10,958 คน และครอบครัวหย่าร้าง
จำนวน 5,351 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.85 % และ 0.42 % ของจำนวนประชากรวมกลมุ่ ครอบครวั กลุ่มจงั หวัด
ตามลำดับ แต่ก็มีข้อสังเกต เรื่องครอบครัวที่มีคนกระทำความรุนแรงต่อกัน ก็มีจำนวนไม่น้อยเหมือนกันและ
ตอ้ งเฝ้าระวงั ในประเด็นน้เี หมือนกัน
5.5 กลมุ่ ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปี)
สถานการณก์ ล่มุ ผ้สู งู อายุ (จำนวน 824,181 คน) คิดเปน็ 19.41 % ของประชากรรวมกลุ่มจงั หวัด
อับดบั สาเหตุ จำนวน (คน) ร้อยละ
1 ผสู้ ูงอายุที่ได้รบั เบ้ยี ยงั ชพี 700,143 70.48
2 ผู้สูงอายุจำแนกตามความสามารถในการทำกิจวตั ร 580,907 70.48
ประจำวัน
(ADL)
- ตดิ บา้ น 62,902 7.63
- ติดสังคม 514,828 62.47
- ชว่ ยเหลอื ตวั เองไม่ได้ (ตดิ เตียง) 3,177 0.39
3 ผูส้ งู อายมุ ีท่ีอยอู่ าศัยไมเ่ หมาะสม 2,487 0.29
4 ผ้สู ูงอายุท่ตี ้องดำรงชีพดว้ ยการเรร่ ่อนขอทาน 27 0.003
5 ผสู้ งู อายทุ บี่ ริจาคเบย้ี ยังชีพ 14 0.001
กลมุ่ ผสู้ ูงอายุ ในพืน้ ที่กลมุ่ จังหวัดเขตรบั ผิดชอบของสสว.8 จงั หวัดอุตรดิตถ์ ในปพี .ศ.2565 มีจำนวน
รวมทั้งสิ้น 824,181 คน และหากพิจารณาข้อมูลประเด็นในกลุ่มครอบครัวสูงสุด 3 อันดับแรก พบว่า
ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพ มีจำนวน 700,143 คน คิดเป็นร้อยละ 70.48 % ของจำนวนประชากรรวม
ผู้สูงอายุกลุ่มจังหวัด รองลงมาคือ ผู้สูงอายุจำแนกตามความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน (ADL)
มีจำนวน 580,907 คน คิดเป็นร้อยละ 70.48% ของจำนวนประชากรวมกลุ่มผู้สูงอายุกลุ่มจังหวัด
50
โดยจำแนกออกได้ดังน้ี (1) ติดบ้านมีจำนวน 62,902 คน (2) ติดสังคม มีจำนวน 514,828 และ
(3) ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ (ติดเตียง) มีจำนวน 3,177 คน คิดเป็นร้อยละ 7.63 % 62.47% และ 0.39 %
ผู้สูงอายุมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมจำนวน 2,377 คิดเป็นร้อยละ 0.29 % ของจำนวนประชากรวม
กลุ่มครอบครัวกลมุ่ จังหวดั ตามลำดับ
5.6 กล่มุ คนพกิ าร
สถานการณก์ ลุม่ คนพกิ าร (จำนวน 180,004 คน) คิดเปน็ 4.24 % ของประชากรรวมกลุ่มจงั หวัด
อับดับ สาเหตุ จำนวน (คน) ร้อยละ
1 พิการทางการเคล่อื นไหวหรอื ทางร่างกาย 97,178 53.98
2 พิการทางการไดย้ ินหรือสอื่ ความหมาย 22,952 12.75
3 พกิ ารทางการมองเหน็ 13,801 7.67
กล่มุ คนพิการ ในพืน้ ท่กี ลมุ่ จงั หวัดเขตรบั ผิดชอบของสสว.8 จงั หวดั อุตรดิตถ์ ในปพี .ศ.2565 มจี ำนวน
รวมทั้งสิ้น 180,004 คน และหากพิจารณาสาเหตุประเด็นความพิการสูงสุด 3 อันดับแรก พบว่าสาเหตุ
ความพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย มีจำนวน 97,178คน คิดเป็นร้อยละ 53.98 % ของจำนวน
ประชากรวมกลุ่มคนพิการกลุ่มจังหวัด รองลงมาคือพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย จำนวน 22,952คน
และพิการทางการมองเห็น จำนวน 13,801 คน คิดเป็นร้อยละ 12.75 % และ 7.67 % ของจำนวน
ประชากรวมกลุ่มคนพิการกลุ่มจังหวดั ตามลำดบั แตก่ ม็ ขี อ้ สังเกต ประเภทความพกิ ารทางจิตใจหรือพฤติกรรม
มีจำนวน 9,943 คน พิการทางสติปัญญา มีจำนวน 9,640 พิการมากกว่า 1 ประเภท (ซ้ำซ้อน)
มีจำนวน 8,269 คน พิการทางการเรียนรู้ มีจำนวน 699 คน และออทิสติก มีจำนวน 698 คน ตามลำดับ
ซึ่งดจู ากตัวเลขดงั กล่าวสาเหตุความพิการกม็ จี ำนวนไมน่ ้อยและต้องเฝา้ ระวังในประเดน็ นี้ด้วย
5.7 กลมุ่ ผดู้ ้อยโอกาส
สถานการณ์กล่มุ ดอ้ ยโอกาส (จำนวน 191,167 คน) คดิ เปน็ 4.50 % ของประชากรรวมกลุ่มจงั หวัด
อบั ดับ สาเหตุ จำนวน (คน) รอ้ ยละ
1 คนยากจน 167,206 87.47
2 ผูพ้ ้นโทษ 10,749 5.65
3 ผู้ตดิ เชอ้ื HIV 8,790 4.60
4 ไมม่ สี ถานะทางทะเบยี นราษฎร 4,347 2.27
5 คนเร่รอ่ น/ไร้ท่ีอยู่อาศัย 75 0.04
กลุ่มผู้ด้อยโอกาส ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบของสสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์ ในปีพ.ศ.2565
มีจำนวนรวมทัง้ สิ้น 191,167 คน และหากพิจารณาข้อมูลประเด็นในกลุ่มผูด้ ้อยโอกาสสูงสดุ สูงสุด 3 อันดับ
แรก พบว่าคนยากจน มีจำนวน 167,206 คน คิดเป็นร้อยละ 87.47 % ของจำนวนประชากร
รวมกลุ่มผู้ด้อยโอกาสกลุ่มจังหวัด รองลงมาคือผู้พ้นโทษ จำนวน 10,749 คน และผู้ติดเชื้อ HIV
จำนวน 8,790 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.65 % และ 4.60 % ของจำนวนประชากรวมกลุ่มครอบครวั กลมุ่ จงั หวัด
ตามลำดับ แต่ก็มีข้อสังเกต กลุ่มผู้ด้อยโอกาสไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร คนเร่ร่อน/ไร้ที่อยู่อาศัย
จำนวน 4347 คน และ 75 คน คิดเป็นร้อยละ 2.27 % และ 0.04 % ซึ่งผู้ด้อยโอกาสด้านไม่มีสถานะทาง
ทะเบียนราษฎร คนเร่ร่อน/ไร้ที่อยู่อาศัย เมื่อรวมกันแล้ว มีจำนวน 4,422 คน คิดเป็น 2.31 % ของ
กล่มุ ผู้ด้อยโอกาสท้ังหมดของกลุ่มจังหวัด จำนวนตวั เลขไม่น้อยเหมือนกนั และต้องเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ด้อยโอกาส
ท้ังสองด้านนดี้ ว้ ย
51
ส่วนท่ี ๖
บทสรปุ และข้อเสนอแนะ
๖.๑ บทสรุป
รายงานสถานการณ์ทางสังคมระดับกลุ่มจังหวัดปี 2565 (กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย
และอุตรดิตถ์) โดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 8 (จังหวัดอุตรดิตถ์) ประกอบด้วยข้อมูลเชิงสถิติ
และการศึกษาสถานการณ์ทางสังคมตลอดจนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นในสังคมไทย
และยังเป็นการมองปัญหาในมิติภาพรวม ซึ่งประกอบไปด้วยสถานการณ์ทางสังคมเชิงกลุ่มเป้าหมายในกลุ่ม
จังหวัด ข้อมูลทางสถิติ จำนวนเด็ก จำนวนเยาวชน จำนวนสตรี จำนวนผู้สูงอายุ จำนวนผู้พิการผู้ด้อยโอกาส
และจำนวนครอบครัว และสถานการณ์ทางสังคมเชิงประเด็น สัดส่วนแรงงานในระบบของผู้สูงอายุที่มีงานทำ
ในกลมุ่ จงั หวัด รวมไปถงึ การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณ์ทางสังคม โดยสามารถสรปุ ได้ดงั นี้
ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2565 ในภาพรวมของภาคเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด ประกอบด้วย
กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์ ตามวิสัยทัศน์กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนษุ ย์ “สร้างสังคมดี คนมคี ุณภาพ” โดยมีประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ 4 ประเด็นหลกั ไดแ้ ก่
1. การพัฒนาศักยภาพคน ครอบครัว ชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสร้างระบบที่เอื้อต่อการพัฒนาคน
ให้มีคุณภาพชีวิตท่ดี ีท่ีเหมาะสม ในทุกช่วงวยั
2. การสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะการแก้ไขปัญหา
การค้ามนุษย์ การยกระดับ/พัฒนาการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมของเครือข่ายในพื้นที่
การพฒั นาที่อย่อู าศยั สำหรับผมู้ ีรายไดน้ อ้ ย และความมั่นคงในการดำรงชวี ติ
3. การส่งเสริมภาคีเครือข่ายอย่างเป็นระบบสู่การเป็นหุ้นส่วนทางสังคม โดยมีระบบการบริหารจัดการ
ภาคเี ครอื ขา่ ย และการมสี ว่ นร่วมของภาคเี ครือข่ายในการพัฒนาสงั คมอย่างเปน็ ระบบ
4. ยกระดับองค์กรสูก่ ารเปน็ ผู้นำทางสงั คม โดยใชร้ ะบบเขา้ มาบริหารจดั การในการวางแผนป้องกนั แก้ไข
พร้อมพัฒนาให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และประชาชนได้รับการบริการด้านสังคมที่สอดคล้องกับปัญหา
และความต้องการของพื้นท่ี นอกจากนี้ยังมีประเด็นการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ
ของกลุม่ เปา้ หมายตา่ ง ๆ ดงั นี้
กลุ่มเด็ก กลุ่มประชากรเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบของสสว.8
จงั หวดั อุตรดิตถ์ ในปี พ.ศ. 2565 มจี ำนวนรวมท้ังส้ิน 752,003 คน และหากพจิ ารณาข้อมูลรายประเด็นใน
กลุม่ เด็กสูงสุด 3 อันดบั แรก พบวา่ เด็กท่ีได้รับเงินอดุ หนนุ เพอ่ื การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด รอ้ ยละ 21.41 มจี ำนวน
116,746 คน ประเด็นของกลุ่มเด็กนอกระบบ จำนวน 14,682 คน กลุ่มเด็กที่อยู่ในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว
จำนวน 4,310 คน คิดเป็นร้อยละ 21.41 % ,2.75 % และ ๐.81 % ของจำนวนประชากรเด็ก
ในพนื้ ทก่ี ลุ่มจงั หวัด
กลุ่มเยาวชน กลุ่มเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 18 - 25 ปี ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบของสสว.8
จังหวัดอุตรดิตถ์ ในปี พ.ศ. 2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 442,370 หากพิจารณา ข้อมูลเยาวชนรายประเด็น
พบว่า เยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีจำนวนมากถึง 266 คน คิดเป็นร้อยละ ๐.99 % ของจำนวน
เยาวชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัด และเยาวชนที่ถูกทารุณกรรมทางร่างกาย จิตใจและทางเพศ จำนวน 7 คน
คดิ รอ้ ยละ ๐.๐03 % ของจำนวนเยาวชนในพื้นทกี่ ลุม่ จังหวดั
กลุ่มสตรี ข้อมูลกลุ่มสตรี ในพน้ื ที่กลุ่มจังหวดั เขตรบั ผดิ ชอบของสสว.8 จงั หวัดอตุ รดิตถ์ในปี พ.ศ. 2565
มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,117,175 หากพิจารณาข้อมูลรายประเด็นสูงสุด ๓ อันดับแรกในกลุ่มสตรีจะเห็นว่า
52
สถานการณท์ ก่ี ลมุ่ สตรที เ่ี ป็นแม่เลี้ยงเด่ียวฐานะยากจน เป็นประเด็นอันดับท่ี 1 รองลงมา สตรที ่ถี ูกเลกิ จา้ ง/ตก
งาน และประเด็นสถานการณ์กลุ่มสตรีที่ถูกทำร้ายร่างกาย/จิตใจ คิดเป็นร้อยละ 0.52 % ,๐.51 % และ
๐.๐2 % ของจำนวนสตรใี นพน้ื ทก่ี ลมุ่ จงั หวัด
กลุ่มครอบครัว กลุ่มครอบครัวในพื้นท่ีกลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบของสสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์
ในปี พ.ศ. 2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น ๑,632,894 ครอบครัว และหากพิจารณาข้อมูลรายประเด็นสูงสุด
๓ อันดับแรกในกลุ่มครอบครัว จะเห็นว่า ครอบครัวยากจน เป็นประเด็นอันดับ ๑ รองลงมา เป็นครอบครัว
จดทะเบียนสมรส และครอบครัวหย่าร้าง คิดเป็นร้อยละ 9.40% , ๐.67 % และ๐.32 % ของจำนวน
ครอบครัวในพืน้ ทกี่ ลมุ่ จังหวัด
กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่กลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบของสสว. 8 จังหวัดอุตรดิตถ์ใน
ปี พ.ศ.2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 824,181 คน และหากพิจารณาข้อมูลรายประเด็นสูงสุด ๓ อันดับแรกใน
กลุ่มผู้สูงอายุจะเห็นว่า ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพ เป็นประเด็นอันดับ ๑ รองลงมา เป็นผู้สูงอายุ จำแนก
ตามความสามรถในการทำกิจวัตรประจำวัน (ติดบ้าน ,ติดสังคม และติดเตียง) และผู้สูงอายุที่มีที่อยู่อาศัย
ไม่เหมาะสม คิดเปน็ รอ้ ยละ 84.95 % , 70.48 % และ 0.29 % ของจำนวนผ้สู งู อายุในพน้ื ทก่ี ล่มุ จังหวัด
กลุ่มคนพิการ กลุ่มคนพิการในพื้นท่ีกลุ่มจังหวัดเขตรับผิดชอบของสสว.8 จังหวัดอุตรดิตถ์
ในปีพ.ศ. 2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 180,054 คน และหากพิจารณาข้อมูลรายประเด็นสาเหตุความพิการ
สูงสุด ๓ อันดับแรกในกลุ่มคนพิการ จะเห็นว่า คนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย เป็นประเด็นอันดับ ๑
รองลงมา เป็นคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย และคนพิการทางการมองเห็น คิดเป็นร้อยละ 48.63 %
15.14 % และ 8.39 % ของจำนวนคนพิการในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ตามลำดับ ดังจะเห็นว่ากลุ่มคนพิการ
ที่มบี ัตรประจำตัวคนพกิ ารครอบคลมุ 100 %
กลุ่มผู้ด้อยโอกาส จากข้อมูลสถานการณ์เชิงประเด็นของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 8 จังหวดั อุตรดติ ถ์ รวมท้ังสิน้ 191,120 คน หากพิจารณาข้อมูล
รายประเด็นสูงสุด ๓ อันดับแรก จะเห็นว่า กลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่มีฐานะยากจน เป็นประเด็นอันดับ ๑ รองลงมา
กลุม่ ผูด้ ้อยโอกาสท่ีเป็นผู้พน้ โทษ และกลมุ่ ผดู้ อ้ ยโอกาสกลมุ่ ผู้ตดิ เช้ือ HIV คิดเปน็ ร้อยละ 87.49 % ,5.57 %
และ 4.60 % ของจำนวนประชากรในพืน้ ท่กี ลุม่ จงั หวดั
๖.๒ ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย
1. ภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาชน บูรณาการรว่ มกนั ในการแก้ไขปัญหาสงั คม ในระดบั ชมุ ชน
2. สรา้ งกลไกและเครือขา่ ย ในการเฝ้าระวัง และแจง้ เบาะแสในระดบั จงั หวัดใหม้ ากขึ้น
3. นำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาใช้เป็นระบบฐานข้อมูลสถานการณ์ทางสังคม ผู้ประสบปัญหาทางสังคม
และความตอ้ งการของกลมุ่ เป้าหมาย เพอ่ื ความสะดวกรวดเร็วในการดำเนนิ งาน และการจดั ทำนโยบาย
4. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านกลุ่มผู้สูงอายุ วางแผนนโยบาย มาตรการ ในการรองรับปัญหา
ของผู้สงู อายใุ นด้านตา่ ง ๆ ให้ครอบคลมุ
5. บุคลากรต้องมีการเตรียมความพร้อมในสภาวะฉุกเฉิน วิกฤต และมีความรู้ความเข้าใจในการ
ดำเนินงาน และเข้าร่วมอบรมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญ เชี่ยวชาญ เพื่อให้การดำเนินการ
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และถูกต้อง พร้อมทั้งเพิ่มบุคลากรในการดำเนินงานให้เพียงพอต่อ
ผู้ประสบปัญหาทางสังคมทกุ กลมุ่ เป้าหมาย
6. ควรออกกฎหมายเฉพาะของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายครอบคลุมถึงสิทธิ
และการดำเนินงานให้มปี ระสทิ ธิภาพมากข้ึน
53
๖.๓ ขอ้ เสนอแนะเชงิ ปฏบิ ัตริ ะดับกลุม่ จังหวดั
1. หน่วยงานราชการควรให้ความสำคัญในการจัดเก็บข้อมูล เพราะสามารถนำมาวิเคราะห์ จุดแข็ง
จุดอ่อน ปัญหา และอุปสรรค เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณากลุ่มเป้าหมายวิเคราะห์สถานการณ์แต่ละด้าน
โดยเฉพาะการใช้ฐานข้อมูล TPMAP ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ใช้ร่วมกันทั้งประเทศในการวิเคราะห์วางแผนการ
ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย และการเพิ่มเติมฐานข้อมูล TPMAP เมื่อได้มีการช่วยเหลือเพื่อเป็นประโยชน์
แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนบูรณาการการช่วยเหลือร่วมกันได้ตรงตามเป้าหมาย ได้วิเค ราะห์
ปัญหารว่ มกนั และได้ชว่ ยกันแก้ปญั หาใหก้ บั ครอบครวั เปราะบางได้อยา่ งรวดเร็ว และรอบด้าน
2. บรู ณาการในการจัดเก็บข้อมูลรว่ มกนั เพือ่ ให้ทราบถึงสถานการณท์ ี่ทันสมัยและรวดเร็ว
3. งบประมาณ ควรจัดใหม้ ีการสนบั สนุนงบประมาณเพอ่ื ใช้ในการจัดทำข้อมูลสถานการณ์ทางสังคม
4. การให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกกลุ่มเป้าหมาย ควรมีการบูรณาการให้ความช่วยเหลือร่วมกัน
ทั้งภายในและภายนอก เพื่อใหป้ ระชาชนหลุดพ้นจากสภาพปัญหาเหล่านัน้ อย่างยั่งยืน
5. การส่งเสริมองค์กรภาคีเครือข่าย อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมมั่นคงของมนุษย์ (อพม.)
และสภาเดก็ และเยาวชน ให้มคี วามเขม็ แขง็ และเขา้ มามีสว่ นร่วมในการพฒั นาชมุ ชน
54
บรรณานุกรม
กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์,กรมกิจการผสู้ ูงอายุ http://www.dop .go.th/ กรมกจิ การเด็ก
และเยาวชน http://www.dcy .go.th/ กรมกจิ การสตรแี ละสถาบนั ครอบครัว http://www.dwf .go.th/
กรมพฒั นาสังคมและสวสั ดกิ าร http://www.dsdw .go.th/ กรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ และคนพกิ าร. (2564).
กระทรวงมหาดไทย, กรมการปกครอง. (2564). ข้อมูลจำนวนประชากรรายปี รายจังหวัด. สบื ค้น 1 สงิ หาคม
2565 จาก https://stat.dopa.go.th/stat/statnew/upstat_age.php
กระทรวงสาธารณสุข, (๒๕๖4). ข้อมูลเก่ยี วกับแพทย์และสาธารณสุข. สบื คน้ 29 มิถุนายน 2565, จาก
https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/so_report.php?id=06c37818472cadb8a40faa
8732bde66a&tb_name=service#
คณะกรรมการสง่ เสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพกิ ารแห่งชาต.ิ (2559). แผนพฒั นาคุณภาพชีวติ คนพิการแห่งชาติ
ฉบบั ท่ี 5 พ.ศ. 2560 – 2564. สืบคน้ 20 กันยายน 2564, จาก http://www.oic.go.th/
FILEWEB/CABINFOCENTER28/DRAWER042/GENERAL/DATA0000/00000138.PDF
มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล, สถาบันวจิ ัยประชากรและสงั คม. (2558). นักวจิ ัยเผย สถิติ ประชากรไทย
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ, สำนกั พฒั นาฐานข้อมลู และตัวชวี้ ดั ภาวะสังคม. (2561
สำนกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ, สำนกั พฒั นาฐานข้อมูลและตัวชีว้ ดั ภาวะสังคม.
(2561 ข). รายงานสถานการณค์ วามยากจน และความเหลือ่ มลำ้ ด้านรายไดใ้ นระดับภาคของ
ประเทศไทย. จาก https://www.nesdc.go.th/ewt_w3c/ewt_dl_link.php?nid=7787
สำนักงานศึกษาธกิ ารจังหวัด 6 จังหวัด (กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก เพชรบรู ณ์ สุโขทยั และอุตรดิตถ)์
สำนักงานพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์จังหวัด 6 จังหวดั
สำนักพทุ ธศาสนาแห่งชาต.ิ (2563). ข้อมูลเกยี่ วกับศาสนาและการนบั ถือศาสนา. สบื ค้น 24 มถิ ุนายน
2565, จาก http://www.onab.go.th/
บทความ และบทคัดย่อ จากข้อมูลเผยแพร่ทางวชิ าการทั่วไป
ทีป่ รึกษา คณะผู้จัดทำ
นายวรพงษ์ บุญเคลือบ
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนนุ วิชาการ 8
กล่มุ นโยบายและยุทธศาสตร์
นายสันตภิ าพ ทองบุญมา หัวหนา้ กลมุ่ นโยบายและยทุ ธศาสตร์
นางสาวพรรณธภิ า สายใจ นักพัฒนาสงั คมปฏิบัตกิ าร
นางสาวกมลพร เปลย่ี นประเสริฐ นักพัฒนาสงั คมปฏบิ ตั กิ าร
นายกฤตศภุ พพิ ัฒ ปวงปะชงั นกั พัฒนาสงั คม
นางสาวอรพรรณ จ๋อยคลา้ ย นกั พัฒนาสังคม
นางสาววาสนา วารีนลิ พนักงานบริการ