The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบงานวิชาสุขศึกษา มัธยมศึกษาปีที่1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by archaphol1107, 2022-09-04 08:44:13

ใบงานวิชาสุขศึกษา มัธยมศึกษาปีที่1

ใบงานวิชาสุขศึกษา มัธยมศึกษาปีที่1

ชื่อ-สกุล...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

เรอ่ื ง ระบบตอ่ มไรท้ อ่
คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลอื กคำตอบในท่กี ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ ตอบลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง

ต่อมไพเนียล ต่อมใต้สมอง ต่อมเพศ ตอ่ มไทรอยด์
ต่อมพาราไทรอยด์ ตอ่ มหมวกไต ต่อมไทมัส ต่อมทอี่ ยู่ในตบั ออ่ น

……………..….… …………….….… ……………….…

…………….… …………….……… …………….………

…………….… ………….…….… ……………………

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ช้ัน........................เลขที่……………

เฉลย เรื่อง ต่อมไรท้ อ่
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบในท่ีกำหนดใหต้ อ่ ไปน้ี ตอบลงในช่องว่างให้ถกู ตอ้ ง

ต่อมไพเนยี ล ตอ่ มใตส้ มอง ต่อมเพศ ต่อมไทรอยด์
ตอ่ มพาราไทรอยด์ ต่อมหมวกไต ตอ่ มไทมัส ตอ่ มทีอ่ ยใู่ นตับอ่อน

……ต…่อม…ใต…ส้ ม.อ.…ง .… ……ต…่อม…ไท…รอย.…ด์ .… ต่อมไพเนยี ล

……………….…

…ต…่อม…หม…วก…ไต .… ………ต่อ…มไท…มสั.……… …ตอ่ …มท…่ีอย…ใู่ น…ตบั .อ…่อน……

……ตอ่ …มเ…พศ….… …ต…่อม…พา…รา.ไ…ทร…อย.ด…์ ………ตอ่ …มเพ…ศ………

ชื่อ-สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขที่……………

เรื่อง ระบบต่อมไรท้ อ่ ในร่างกาย
ตอนที่ 1 คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนบอกช่อื ของต่อมไรท้ อ่ ลงในชอ่ งว่าง พร้อมระบายสใี หส้ วยงาม

……………………………………
………

……………………………… ……………………………………
…………… ………

…………………………………
……………………………………………
…………

……………………………………
……………………………………………
………

………………………

……………………
………………………

ตอนท่ี 2 คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนจบั คู่ตอ่ มไรท้ ่อกับลกั ษณะแล…ะ…หน…า้…ท…ี่ ท…ีก่ …ำ…หนดให้ต่อไปนี้

ต่อมใต้สมองส่วนหนา้ ผลิตฮอร์โมนควบคุมนำ้ ตาลในเลอื ด

ต่อมไพเนียล อยู่บรเิ วณทรวงอก สร้างภูมคิ ้มุ กันโรค

ต่อมไทมสั ผลติ ฮอรโ์ มนควบคมุ การเจริญเติบโตของรา่ งกาย

ต่อมพาราไทรอยด์ ผลติ ฮอร์โมนควบคุมการเผาผลาญและการ
เจริญเติบโตของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย

ต่อมหมวกไต ผลิตฮอรโ์ มนอะดรนี าลิน

ตบั ออ่ น ผลติ ฮอรโ์ มนควบคมุ ปรมิ าณของแคลเซยี ม

ตอ่ มเพศ ยบั ยัง้ การเจรญิ เตบิ โตของตอ่ มเพศกอ่ นเขา้ สวู่ ัยรุ่น
ตอ่ มไทรอยด์ สรา้ งเซลลส์ ืบพนั ธ์

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขท่ี……………

เฉลย เรื่อง ต่อมไรท้ ่อ
ตอนที่ 1 คำช้ีแจง : ให้นักเรียนบอกช่ือของต่อมไร้ท่อลงในชอ่ งว่าง พรอ้ มระบายสีใหส้ วยงาม

ต่อมไพเนียล

ต่อมไทมสั ตอ่ มใตส้ มอง

ต่อมไทรอยด์
ต่อมพาราไทรอยด์

ตอ่ มหมวกไต
ตับออ่ น

รังไข่หรอื ตอ่ มเพศ

อณั ฑะหรือตอ่ มเพศ

ตอนท่ี 2 คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นจบั ค่ตู อ่ มไร้ท่อกับลกั ษณะและหนา้ ที่ ทกี่ ำหนดใหต้ อ่ ไปน้ี

ตอ่ มใต้สมองส่วนหน้า ผลิตฮอร์โมนควบคุมน้ำตาลในเลือด

ต่อมไพเนียล อยู่บริเวณทรวงอก สร้างภูมิค้มุ กนั โรค

ตอ่ มไทมสั ผลติ ฮอรโ์ มนควบคุมการเจริญเติบโตของรา่ งกาย

ต่อมพาราไทรอยด์ ผลิตฮอร์โมนควบคุมการเผาผลาญและการ
เจริญเติบโตของอวยั วะตา่ ง ๆ ในร่างกาย

ต่อมหมวกไต ผลิตฮอรโ์ มนอะดรีนาลนิ

ตับอ่อน ผลิตฮอรโ์ มนควบคมุ ปรมิ าณของแคลเซยี ม

ต่อมเพศ ยับย้งั การเจรญิ เตบิ โตของตอ่ มเพศกอ่ นเขา้ สู่วัยรุ่น
ตอ่ มไทรอยด์ สร้างเซลล์สืบพนั ธ์

ชอ่ื -สกุล...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………
เร่ือง ระบบประสาท

คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอบลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง

ระบบประสาท ประกอบด้วย

…………………………..



………………………….. …………………………..

… …

ระบบประสาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ไดแ้ ก่

………………………………..…………… ทำหนา้ ที่…………………………………….....…………………………
….. ..........................................................................................

………………………………..…………… ทำหน้าท่ี…………………………………….....…………………………
….. ..........................................................................................

………………………………..…………… ทำหน้าท่ี…………………………………….....…………………………
….. ..........................................................................................

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ช้นั ........................เลขที่……………
เรอ่ื ง ระบบประสาท

คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอบลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

ระบบประสาท ประกอบด้วย

สมอง

เส้นประสาท ไขสนั หลัง

ระบบประสาท แบง่ ออกเป็น 3 สว่ น ได้แก่

ระบบประสาทสว่ นกลาง ทำหน้าท่ี เป็นศนู ยก์ ลางควบคมุ และประสานการทำงาน
ท้งั หมดของรา่ งกาย

ระบบประสาทส่วนปลาย ทำหน้าที่ นำความรู้สึกจากสว่ นต่างๆ ของร่างกายเข้าสู่
ระบบประสาทส่วนกลางและส่งกลับไปยงั อวัยวะต่างๆ

ระบบประสาทอตั โนมัติ ทำหนา้ ท่ี ควบคุมอวัยวะภายใน กล้ามเนอ้ื หัวใจ
กลา้ มเนือ้ เรยี บและต่อมตา่ งๆ ในร่างกาย ทำใหม้ สี ภาพ
การทำงานเปน็ ปกติ

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………
เรื่อง ระบบประสาทสว่ นกลาง

คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนตอบคำถามตอบลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง พร้อมระบายสีให้สวยงาม

…………………………….

…………………………….

…………………………….

……………………………. …………………………
……………………………. ….
…………………………….
…………………………….

1. สมองส่วนหน้า (Forebrain) ไดแ้ ก่
1.1 .......................................ทำหน้าท่ี..............................................................................................
1.2 .......................................ทำหน้าที่..............................................................................................
1.3 .......................................ทำหน้าท.่ี .............................................................................................
2. สมองส่วนกลาง (Midbrain)
ทำหน้าท่ี............................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
3. สมองส่วนทา้ ย (Hindbrain) ไดแ้ ก่
3.1 ....................................... ทำหนา้ ท่ี.............................................................................................
3.2 ........................................ทำหน้าที่.............................................................................................
3.3 ........................................ทำหน้าท.่ี ............................................................................................
4. ไขสันหลงั (Spinal Cord)
ทำหน้าท่ี............................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
5. ปฏกิ ิรยิ ารีเฟล็กซ์ (Reflex Action) หมายถึง
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

ชือ่ -สกุล...................................................................................ช้ัน........................เลขท่ี……………
เฉลย เร่อื ง ระบบประสาทส่วนกลาง

คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอบลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง พรอ้ มระบายสีให้สวยงาม

เซรีบรัม (Cerebrum)

ทาลามัส (Thalamus)

ไฮโพทาลามัส
(Hypothalamus)

สมองสว่ นกลาง (Midbrain) เซรเี บลลมั
(Cerebellum)
พอนส์ (Pons) หรือสมองนอ้ ย
เมดลั ลา ออบลองกาตา
(Medulla Oblongata) ไขสันหลัง (Spinal Cord)

1. สมองสว่ นหน้า (Forebrain) ไดแ้ ก่
1.1 เซรบี รัม (Cerebrum)
ทำหนา้ ที่เกยี่ วกบั ความจำ ไหวพรบิ ความร้สู ึกนกึ คิด เป็นศูนย์รบั ความร้สู กึ ในการมองเห็น ได้ยนิ
1.2 ทาลามสั (Thalamus)
ทำหน้าที่ ถา่ ยทอดสัญญาณไปยังสมองส่วนทเี่ กี่ยวขอ้ งกับกระแสประสาทนนั้
1.3 ไฮโพทาลามสั (Hypothalamus)
ทำหน้าที่ ศนู ยค์ วบคุมอุณหภูมริ ่างกาย การเตน้ ของหวั ใจ การนอนหลบั ความดันเลือด ความหวิ
นอกจากน้ยี ังเปน็ ศูนย์กลางควบคมุ อารมณค์ วามรู้สึกต่าง ๆ เชน่ อารมณเ์ ศรา้ โศก เสยี ใจ ดีใจ
2. สมองส่วนกลาง (Midbrain)
ทำหนา้ ท่ีรบั ความรู้สกึ จากไขสนั หลงั และสว่ นต่างๆของสมอง การเคลื่อนไหวของลกู ตาและม่านตา
3. สมองสว่ นทา้ ย (Hindbrain) ไดแ้ ก่
3.1 พอนส์ (Pons) สะพานเช่อื มระหว่างสมองกับไขสนั หลัง
ทำหนา้ ท่ี ควบคุมการเคยี้ วอาหาร การหลั่งน้ำลาย การหายใจ ฟัง การเคลือ่ นไหวบริเวณใบหน้า
3.2 เมดัลลา ออบลองกาตา (Medulla Oblongata)
ทำหนา้ ท่ี ศูนยค์ วบคมุ การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น การเตน้ ของหัวใจ ไอ จาม กลืน
3.3 เซรีเบลลัม (Cerebellum) หรือสมองนอ้ ย

ชอ่ื -สกุล...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………
ทำหนา้ ท่ี ควบคุมการทรงตัวของรา่ งกาย ดูแลการทำงานของส่วนตา่ งๆ ในร่างกายและระบบ
กลา้ มเนือ้ ตา่ งๆ ให้ประสานสมั พันธก์ นั อยา่ งเหมาะสม
4. ไขสันหลัง (Spinal Cord)
ทำหนา้ ท่ี ถา่ ยทอดกระแสประสาทระหวา่ งสมองและสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย โดยการรบั กระแส
ประสาทจากส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกายส่งต่อไปยังสมอง รวมทง้ั ควบคุมการเกดิ ปฏิกริ ิยาตอบสนองตอ่
สงิ่ กระตุ้นอย่างฉบั พลันทันที
5. ปฏิกริ ิยารีเฟล็กซ์ (Reflex Action) หมายถงึ
ปฏกิ ริ ิยาตอบสนองต่อส่ิงเรา้ อยา่ งกะทันหันโดยไมร่ อคำส่งั จากสมอง เช่น ยกเท้าขึ้นทนั ทเี มื่อถกู
หนามตำเท้า หรอื เมื่อมือถูกของร้อน คนเราจะกระตกุ มือหนีทันที

ช่ือ-สกุล...................................................................................ช้ัน........................เลขที่……………

เรือ่ ง ระบบประสาทสว่ นปลาย (Peripheral Nervous System)
คำชแ้ี จง : ให้นักเรยี นตอบคำถามตอบลงในชอ่ งว่างให้ถูกตอ้ ง พรอ้ มระบายสใี ห้สวยงาม

ระบบประสาทสว่ นปลาย (Peripheral Nervous System)
แบ่งออกเป็น

............................................ เ ้สนประสาท.........................................................................
..... .....

เส้นประสาท.......................... บริเวณ...............

............................ บริเวณ.............
.....................

บรเิ วณ...............

บรเิ วณ..................

บรเิ วณ...............

1. ระบบประสาทส่วนปลาย หมายถึง …………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เส้นประสาทสมอง (Cranial Nerve) คือ ………………………..…………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. เสน้ ประสาทสมอง มี ........................ คู่ ทำหน้าที่ .......................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. เสน้ ประสาทไขสนั หลัง (Spinal Nerve) คือ ………………………..…………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
5. เส้นประสาทไขสันหลงั มี ................. คู่ ทำหน้าท่ี .......................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ชอื่ -สกลุ ...................................................................................ชนั้ ........................เลขท่ี……………

เฉลย เร่อื ง ระบบประสาทส่วนปลาย
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง พรอ้ มระบายสีให้สวยงาม

ระบบประสาทส่วนปลาย (Peripheral Nervous System)
แบง่ ออกเป็น

เส้นประสาทสมอง เสน้ ประสาทไขสันหลงั
(Cranial Nerve) (Spinal Nerve)

เสน้ ประสาทสมอง บรเิ วณคอ
..................................
ไขสนั หลงั

บรเิ วณอก เ ้สนประสาทไข ัสนหลัง

บริเวณเอว

บริเวณกระเบนเหน็บ

บรเิ วณก้นกบ

1. ระบบประสาทส่วนปลาย หมายถึง ระบบประสาททีเ่ ชื่อมต่อจากส่วนตา่ ง ๆ ของสมองและ
ไขสันหลงั ไปยังส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
2. เส้นประสาทสมอง (Cranial Nerve) คือ เสน้ ประสาทท่แี ยกออกจากสมอง ทอดมาจากสมอง
ผา่ นรูต่างๆ ของกะโหลกศีรษะ ไปเลยี้ งบริเวณศีรษะและลำคอ
3. เสน้ ประสาทสมอง มี .....12.... คู่ ทำหน้าที่ บางคู่ทำหน้าทรี่ ับความรสู้ กึ บางคูท่ ำหน้าที่เกี่ยวกบั
การเคลอ่ื นไหว บางคู่ทำหน้าทท่ี ัง้ รบั ความรู้สกึ และเก่ียวกบั การเคลื่อนไหว
4. เส้นประสาทไขสนั หลัง (Spinal Nerve) คือ เสน้ ประสาทท่แี ตกออกมาจากไขสันหลงั ออกจาก
ไขสนั หลงั เป็นชว่ ง ๆ ผา่ นรูระหว่างกระดกู สนั หลงั ไปสรู่ า่ งกาย

ชอื่ -สกุล...................................................................................ช้ัน........................เลขท่ี……………

5. เสน้ ประสาทไขสนั หลงั มี .....31..... คู่ ทำหน้าท่ี ถ่ายทอด กระแสประสาทไปส่อู วัยวะตา่ ง ๆ
ของร่างกาย เช่น แขน ขา เสน้ ประสาท ทุกคู่จะทำหน้าทร่ี วม คือ ทง้ั รบั ความรู้สกึ และเกย่ี วกบั การ
เคลือ่ นไหว เปน็ ระบบประสาทที่อยนู่ อกอำอาจจิตใจ ทำหนา้ ทีค่ วบคมุ อวยั วะต่าง ๆท่ที ำงานได้
ดว้ ยตัวเอง เช่น การเต้นของหวั ใจ การเคล่ือนไหวของอวัยวะภายใน

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ช้นั ........................เลขที่……………

เรื่อง ระบบประสาทอตั โนมตั ิ (Autonomic Nervous System)
คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี ลงในช่องว่างใหถ้ ูกต้อง

ระบบประสาทอัตโนมตั ิ (Autonomic Nervous System) ทำหนา้ ที่
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................

ระบบประสาทอตั โนมตั ิ แบ่งออกเปน็ 2 สว่ น ได้แก่

………………………………………………………………… …………………………………………………………………
…ท…ำห…น…้า…ท…่ี ………………………………………………… ท…ำท…หำ…นห…้านท…้า่ีท…่ี …………………………………………………
…………………………………………………………………
………………………………………………………………… …………………………………………………………………
…………………………………………………………………..
…………………………………………………………………

…………………………………………………………………..

ยกตวั อย่าง ยยกกตตวั วั ออยย่าา่ งง

………………………………………………………. ……………………………………………………….
………………………………………………………. ……………………………………………………….
………………………………………………………. ……………………………………………………….
………………………………………………………. ……………………………………………………….
………………………………………………………. ……………………………………………………….
………………………………………………………. ……………………………………………………….

ช่ือ-สกุล...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………
เฉลย เร่อื ง ระบบประสาทอตั โนมัติ (Autonomic Nervous System)

คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

ระบบประสาทอตั โนมตั ิ (Autonomic Nervous System) ทำหน้าท่ี
ควบคุมการทำงานของประสาทและอวัยวะภายในรา่ งกาย ที่อสิ ระอย่นู อกอำนาจจิตใจให้

เปน็ ไปตามปกติ เชน่ ควบคมุ การไหลเวียนโลหติ การย่อยอาหาร การหายใจ
การกำจัดของเสยี ออกจากร่างกาย เปน็ ตน้

...................................................................................................................................................
.......................................ร..ะ..บ...บ...ป..ร..ะ..ส...า..ท..อ...ตั ..โ..น..ม...ัต..ิ..แ..บ..ง่..อ...อ..ก..เ..ป..็น....2....ส..่ว..น.........................................
......................................................................ไ..ด..แ้..ก...่ ...................................................................

…ร…ะ…บบ…ป…ร…ะ…สา…ท…ซ…มิ …พ…าเ…ท…ติก……(S…ym…p…at…he…tic…S…ys…te…m) ร…ะ…บบ…ป…ร…ะส…าท…พ…า…รา…ซ…มิ พ…า…เท…ต…กิ …(P…ara…sy…m…pa…the…tic…S…ys…tem)
…ท…ำห…น…้า…ท…ี่ ………………………………………………… ท…ำท…หำ…นห…า้นท…า้ ี่ท…่ี…………………………………………………
…ท…ำ…ให…ร้ …่าง…ก…าย…เ…ต…รยี …ม…พ…รอ้…ม…ส…ำ…หร…ับ…เผ…ช…ญิ …ภ…า…วะ… …ค…ว…บ…คมุ…ก…า…รท…ำ…ง…าน…ข…อ…งอ…ว…ัย…วะ…ภ…า…ยใ…น…ห…ล…อ…ด…เลือด
…อ…ัน…ต…รา…ย…ห…รอื…ฉ…กุ …เฉ…ิน…ท…ำ…งา…น…แ…บ…บ…เก…ดิ …ขึ้น…ท…นั …ท…ี …แ…ล…ะ…ต่อ…ม…ต…่าง…ๆ…ใ…ห…ม้ …สี ภ…า…พ…ก…าร…ท…ำ…งา…น…เป…็น…ป…ก…ติ

…ท…นั …ใด………………………………………………………….. …แ…ล…ะ…อย…ู่ใ…นส…ภ…า…พ…ท…ีพ่ …รอ้ …ม…ท…ำ…งา…น……………………..

ยกตวั อย่าง ยยกกตตวั ัวออยย่าา่ งง

รมู ่านตาขยาย รูมา่ นตาหดตวั
เพิ่มอัตราการเตน้ ของหัวใจ ชะลออัตราการเตน้ ของหวั ใจ

หลอดลมขยายตัว หลอดลมหดตวั
ยับยั้งการหลงั่ น้ำลาย กระตุน้ การหลัง่ นำ้ ลาย
ยบั ย้งั การหล่งั เอนไซม์ กระต้นุ การหลัง่ เอนไซม์
ชะลอการเตน้ ของชีพจร
ชพี จรเต้นแรง

ชื่อ-สกุล...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

เรื่อง ลักษณะและหนา้ ที่ของระบบตอ่ มไรท้ ่อ
คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายลักษณะและหน้าทข่ี องตอ่ มไรท้ ่อต่อไปนี้

ตอ่ มใต้สมอง ตอ่ มใตส้ มองส่วนหนา้ .............……………………………………………………………
(Pituitary Gland) ………………………………………………………………………………………………………

ตอ่ มใตส้ มองส่วนหลงั .............……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………

ต่อมไทรอยด์ ………………………………………………………………………………………………………
(Thyroid Gland) ………………………………………………………………………………………………………
ตอ่ มพาราไทรอยด์ ………………………………………………………………………………………………………
(Parathyroid Gland) ………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
ตอ่ มไทมัส ………………………………………………………………………………………………………
(Thymus Gland) ………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
ต่อมไพเนียล ………………………………………………………………………………………………………
(Pineal Gland) ………………………………………………………………………………………………………
ตอ่ มหมวกไต ………………………………………………………………………………………………………
(Adrenal Gland) ………………………………………………………………………………………………………
ตอ่ มทอี่ ย่ใู นตับอ่อน
(Islets of Langerhans) ………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
ต่อมเพศ ………………………………………………………………………………………………………
(Gonad) ………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………

ชอ่ื -สกุล...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

เฉลย เรื่อง ต่อมไร้ท่อ
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนอธบิ ายลักษณะและหน้าท่ขี องตอ่ มไรท้ อ่ ต่อไปน้ี

ต่อมใตส้ มอง ตอ่ มใต้สมองส่วนหนา้ ผลติ ฮอรโ์ มนควบคมุ การเจริญเติบโตของรา่ งกาย และผลิต
(Pituitary Gland) ฮอรโ์ มนเพศหญิงเพื่อเรง่ ไข่ให้สุก ตลอดจนกระตนุ้ อัณฑะให้สร้างตัวอสุจิและผลติ
ฮอร์โมนเพศชาย

ต่อมใตส้ มองสว่ นหลงั ผลิตฮอรโ์ มนออกซโิ ทซิน ซึ่งมผี ลต่อการบีบตวั ของมดลูก
กระตนุ้ การหล่งั น้ำนมขณะคลอดบตุ ร และ ฮอรโ์ มนวาโซเพรสซนิ ซ่ึงมผี ลต่อการ
ทำงานของไต ควบคุมน้ำในร่างกาย ระบบขบั ถา่ ยปสั สาวะ ช่วยเพิ่มความดนั เลือด

ตอ่ มไทรอยด์ เป็นต่อมไร้ท่อทใี่ หญ่ท่สี ุด ผลติ ฮอรโ์ มนไทรอกซนิ (Tryroxin) ชว่ ยควบคุมการ
(Thyroid Gland) เผาผลาญและการเจริญเติบโตของอวยั วะตา่ งๆ ในรา่ งกาย หากผลติ มากเกินไปจะ
ตอ่ มพาราไทรอยด์ ทำให้เกดิ โรคคอพอก หากผลิตนอ้ ยเกินไป จะทำใหร้ ะบบเผาผลาญและการ
(Parathyroid Gland) เจรญิ เตบิ โตในรา่ งกายผิดปกติ
เป็นตอ่ มไรท้ ่อที่เลก็ ท่สี ุด ผลิตพาราไทรอยด์ฮอร์โมน เพ่ือควบคมุ ระดับแคลเซียม
และฟอสฟอรสั ในเลอื ด หากผลติ มากเกินไปอาจทำใหเ้ กดิ นิ่วในไต กระดกู พรุน
ปวดกระดกู และขอ้ หากผลติ นอ้ ยเกินไปมผี ลต่อระบบกลา้ มเน้อื และระบบประสาท

ตอ่ มไทมัส อยบู่ รเิ วณด้านหนา้ ทรวงอก มีขนาดเปลยี่ นแปลงไปตามอายุ ทารกท่ีอยู่ในครรภ์
(Thymus Gland) มารดาตอ่ มนจี้ ะโตมาก และจะมขี นาดใหญท่ ี่สดุ เม่ือมอี ายุ 6 ปี จากนนั้ จะค่อยๆ
หายไป ทำหนา้ ที่ควบคมุ การทำงานของระบบภมู ิค้มุ กันรา่ งกาย

ต่อมไพเนียล เป็นตอ่ มเล็กๆ ทำหนา้ ท่ยี ับยง้ั การเจริญเติบโตของต่อมเพศในช่วงระยะก่อนเขา้ สู่
(Pineal Gland) วยั รนุ่ แตเ่ ม่ือเขา้ สูว่ ยั รุ่น อาจมีผลต่อการตกไข่และประจำเดอื น หากผลติ มาก
เกนิ ไปจะส่งผลให้เป็นหนมุ่ -สาวช้ากว่าปกติ หากต่อมน้ีถูกทำลาย เช่น เกดิ เนื้องอก
ในสมอง ก็จะส่งผลให้เปน็ หนุ่ม-สาวเรว็ กว่าปกติ เป็นต้น

ต่อมหมวกไต แบง่ เปน็ 2สว่ น คอื ชั้นนอก สร้างฮอร์โมนกลโู คคอรต์ ิคอยด์ ควบคมุ เมแทบอลซิ ึม
(Adrenal Gland) และการเผาผลาญในร่างกาย และมเิ นอราโลคอรต์ ิคอยด์ ควบคุมสมดุลของนำ้ และ
ต่อมท่อี ยใู่ นตับออ่ น เกลือแร่ ชนั้ ใน สรา้ งฮอรโ์ มนอะดรีนาลนิ ซงี่ มผี ลจากการถูกกระตุ้น เชน่ ตกใจ
(Islets of Langerhans) ตื่นเตน้ เป็นต้น สรา้ งฮอร์โมนนอรอ์ ะดรนี าลนิ ซ่ึงมีผลทำให้เสน้ เลือดแดงท่ีไปเล้ียง
อวยั วะภายในหดและบีบตัว
เป็นไดท้ ง้ั ต่อมมที ่อ ทำหน้าที่สรา้ งน้ำย่อย เพ่ือใช้ย่อยอาหาร และต่อมไรท้ ่อ ทำ
หน้าท่สี รา้ งฮอรโ์ มนอนิ ซลู นิ (Insulin) และฮอร์โมนกลูคากอน (Glucagon) เพื่อ
ควบคมุ ระดบั นำ้ ตาลในเลือด

ตอ่ มเพศ รังไข่ สรา้ งไขเ่ พอื่ เปน็ เซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศหญิงและสรา้ งฮอร์โมนเพศหญงิ คอื เอสโทร
(Gonad) เจนและโพรเจสเทอโรน อณั ฑะ สร้างตัวอสจุ ิเป็นเซลลส์ ืบพันธเ์ุ พศชาย และสรา้ ง
ฮอร์โมนเพศชาย คือ เทสโทสเทอโรน

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขท่ี……………
ใบงาน เรอ่ื ง การอา่ นกราฟแสดงเกณฑ์อ้างองิ การเจริญเติบโตของเพศชาย อายุ 5-18 ปี
น้ำหนกั ตามเกณฑส์ ่วนสงู

คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นชง่ั น้ำหนักและวดั สว่ นสูงของตนเองเพอ่ื นำมาเปรียบเทยี บกับเกณฑ์
พร้อมทง้ั แสดงจุดที่นกั เรยี นอยู่ในเกณฑน์ ้นั และตอบคำถามลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง

น้ำหนกั .................................................กโิ ลกรัม สว่ นสงู …………………….……………เซนตเิ มตร
ผลการอ่านกราฟแสดงเกณฑ์ มนี ้ำหนกั ตามเกณฑ์ส่วนสงู (น/ส) อยู่ในเกณฑ.์ ...................................

ชือ่ -สกลุ ...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

เร่อื ง การบรโิ ภคอาหารทเี่ หมาะสมกบั วยั

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนบอกวิธกี ารเลือกรับประทานอาหารท่ีเหมาะสมในแต่ละวยั ตอบคำถามลงใน

ช่องวา่ งให้ถกู ต้อง

อาหารสำหรับวัยทารก อาหารสำหรบั เด็กกอ่ นวยั เรียน

……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
………………………………………………………
……………………………………………………… อาหารสำหรับวัยรุ่น
……………อ…าห…า…ร…สำ…ห…ร…บั …เด…็ก…วยั …เร…ยี …น………

……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………

อาหารสำหรับวัยทำงาน อาหารสำหรับผู้สงู อายุ

……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… …..……………………………………………………



ชอ่ื -สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………

เรื่อง การบริโภคอาหารที่เหมาะสมกับวยั

คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นบอกวธิ กี ารเลอื กรับประทานอาหารท่เี หมาะสมในแตล่ ะวัย ตอบคำถามลงใน

ช่องว่างให้ถกู ตอ้ ง

อาหารสำหรบั วัยทารก อาหารสำหรับเด็กก่อนวัยเรยี น

สารอาหารสำคญั ท่ีทารกตอ้ งการ คอื เดก็ ควรไดร้ ับประทานอาหารครบทัง้ 5
พลงั งาน และโปรตนี ความต้องการ หมแู่ ละมีความหลากหลายเพ่ือใหเ้ ดก็
พลงั งานและโปรตนี เทยี บกับนำ้ หนกั ตัว ไดร้ บั สารอาหารครบถ้วน และจดั
จะสูงมากวา่ เด็กโตหรอื ผูใ้ หญ่ ปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้พอเหมาะ
แหลง่ โปรตนี และพลังงานในช่วงแรก ควรแบง่ ม้ืออาหารให้มากข้ึน เพราะ
เกิดถงึ 6เดอื น ทีด่ ีทีส่ ุดคือ นมแม่ กระเพาะอาหารของเด็กมีขนาดเลก็
หลงั จากนัน้ เพมิ่ เตมิ จากไข่เนื้อสตั ว์
ตา่ งๆ ตบั และไขแ่ ดง

อาหารสำหรบั เด็กวยั เรยี น อาหารสำหรบั วยั รุ่น

เดก็ วัยเรียนต้องการอาหารท่ีดี ให้ 1. รับประทานอาหารใหค้ รบ 5 หมู่ ถูกหลัก
พลังงานเพยี งพอ โดยการจดั อาหารให้ โภชนาการ รบั ประทานในปรมิ าณทเ่ี หมาะสม
ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมและ เพยี งพอตอ่ ความต้องการของรา่ งกาย
เพยี งพอต่อความตอ้ งการ 2. รับประทานอาหารใหค้ รบ 3 มอื้
ของร่างกายในแตล่ ะวัน โดยใหเ้ ด็กไดร้ ับ 3. ควรหลีกเลี่ยงการดม่ื เครือ่ งดม่ื ทมี่ สี าร
สารอาหารโปรตนี รอ้ ยละ 10-12 กาเฟอนี (Caffeine)
คารโ์ บไฮเดรตรอ้ ยละ 45-65 และไขมัน 4. หลกี เล่ียงการรบั ประทานขนมขบเคย้ี ว
รอ้ ยละ 25-35

อาหารสำหรบั วยั ทำงาน อาหารสำหรบั ผู้สงู อายุ

1. รบั ประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 1. การรับประทานอาหารในแตล่ ะวัน ควรแบ่งม้ือ
2. ใส่ใจตอ่ การรบั ประทานอาหารเช้า อาหารใหม้ ากกว่า 3 มือ้ โดยแต่ละม้อื ควรมีปรมิ าณ
3. รับประทานโปรตนี ที่ย่อยงา่ ย เชน่ ปลา น้อยลง
4. นา้ํ มนั ทปี่ รงุ อาหาร ควรเปน็ น้าํ มันพืช 2. ควรรับประทานอาหารประเภททนี่ มุ่ ๆ มนี ้ําเปน็
มากกว่าน้ํามันท่ีได้จากสตั ว์ สว่ นผสม
5. ดม่ื นา้ํ ให้มากขนึ้ ควรดมื่ นา้ํ อยา่ งน้อยวันละ 3. ควรรับประทานอาหารอย่างชา้ ๆ เค้ียวให้ละเอียด
8-10 แกว้ 4. ควรเลือกรับประทานอาหารทีม่ กี ากใยอาหารมากๆ
6. รบั ประทานอาหารทีม่ แี คลเซยี มเพ่มิ มากขน้ึ 5. ควรรับประทานอาหารท่ีมีแคลเซียม
7. รับประทานธญั พืชและข้าวกลอ้ ง 6. ควรรับประทานไข่สปั ดาหล์ ะ ๓-๔ ฟอง
8. งดอาหารขบเคีย้ ว

ชอ่ื -สกุล..........................................................................................ชัน้ ...................เลขท.่ี ..................
เรอื่ ง ธงโภชนาการ

คำช้แี จง : ให้นักเรียนวาดภาพธงโภชนาการและแสดงถึงปรมิ าณอาหารท่ีควรรับประทาน
ในแต่ละวัน พร้อมระบายสใี หส้ วยงาม

ธงโภชนาการที่แสดงถึงปริมาณอาหารทค่ี วรรบั ประทานในแตล่ ะวนั

ชอื่ -สกลุ ..........................................................................................ชัน้ ...................เลขท.ี่ ..................
เฉลย เรอ่ื ง ธงโภชนาการ

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนวาดภาพธงโภชนาการและแสดงถึงปรมิ าณอาหารที่ควรรบั ประทาน
ในแต่ละวนั พรอ้ มระบายสใี ห้สวยงาม

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขท่ี……………

เรื่อง โภชนบญั ญัติ 9 ประการ
คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

โภชนบัญญตั ิ คอื ……………………………………………………………………………………………………….....
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

โภชนบญั ญัติ 9 ประการ ได้แก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………

ชอื่ -สกลุ ...................................................................................ช้ัน........................เลขท่ี……………
เฉลย เร่ือง โภชนบัญญตั ิ 9 ประการ

คำชี้แจง : ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี ลงในช่องว่างให้ถกู ต้อง
โภชนบัญญตั ิ คอื ขอ้ ปฏบิ ัตใิ นการรบั ประทานอาหารเพือ่ สขุ ภาพดีของคนไทย การรับประทาน
ใหถ้ กู หลกั โภชนาการทำใหส้ ามารถลดความเสีย่ งตอ่ การเจบ็ ป่วยและมีสขุ ภาพที่ดี

โภชนบัญญตั ิ 9 ประการ ได้แก่

รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ใหห้ ลากหลาย และหม่นั ดแู ลนํา้ หนักตวั

รบั ประทานขา้ วเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแปง้ เปน็ บางม้ือ

รับประทานพืชผกั ใหม้ ากและรบั ประทานผลไมเ้ ปน็ ประจำ

รับประทานปลา เนื้อ สตั ว์ไม่ติดมัน ไข่ และถ่ัวเมลด็ แห้งเป็นประจำ

ด่ืมนมใหเ้ หมาะสมตามวยั

รับประทานอาหารท่มี ไี ขมันแตพ่ อควร

หลีกเล่ียงการรับประทานอาหารรสหวานจดั และเค็มจดั

รับประทานอาหารทีส่ ะอาดปราศจากการปนเปอื้ น

งดหรอื ลดเครอื่ งดื่มทม่ี แี อลกอฮอล์

ชือ่ -สกุล....................................................................

เรื่อง อาหารห
คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นวาดภาพอาหารหลกั 5 หมู่ และยกตวั อย่างอาห

.......................ชั้น...................เลขที่...................

หลกั 5 หมู่
หาร ประโยชนข์ องอาหาร ในแต่ละหมู่ พร้อมระบายสใี หส้ วยงาม

ชื่อ-สกลุ ...................................................................................ชนั้ ........................เลขที่……………

ใบงาน เรอ่ื ง ภาวะโภชนาการกับสขุ ภาพ
คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นตอบคำถาม ลงในช่องวา่ งให้ถูกตอ้ ง พร้อมระบายสีใหส้ วยงาม

1. บุคคลในภาพมปี ัญหาภาวะโภชนาการแบบใด 1. บคุ คลในภาพมีปญั หาภาวะโภชนาการแบบใด
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
2. บุคคลในภาพจะมีผลกระทบทางดา้ นสขุ ภาพ 2. บุคคลในภาพจะมผี ลกระทบทางดา้ นสขุ ภาพ
อยา่ งไรบา้ ง อย่างไรบา้ ง
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
3. นักเรยี นควรปฏบิ ตั ติ นอย่างไรเพ่ือปอ้ งกันไมใ่ ห้ 3. นักเรยี นควรปฏบิ ตั ติ นอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้
เกดิ ปญั หาเช่นเดยี วกบั บุคคลในภาพ เกดิ ปัญหาเช่นเดยี วกบั บคุ คลในภาพ
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................

ชือ่ -สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………

ใบงาน เรอื่ ง ภาวะโภชนาการกับสขุ ภาพ
คำชแี้ จง : ให้นักเรียนตอบคำถาม ลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง พรอ้ มระบายสีใหส้ วยงาม

1. บคุ คลในภาพมีปัญหาภาวะโภชนาการแบบใด 1. บุคคลในภาพมีปัญหาภาวะโภชนาการแบบใด
ภาวะโภชนาการเกนิ ภาวะโภชนาการตํ่าหรอื ขาดสารอาหาร

2. บุคคลในภาพจะมผี ลกระทบทางดา้ นสุขภาพ 2. บคุ คลในภาพจะมผี ลกระทบทางด้านสขุ ภาพ
อยา่ งไรบา้ ง อยา่ งไรบา้ ง
ทำให้เกดิ โรคตา่ ง ๆ เช่น โรคความดนั โลหิตสงู โรค ขาดโปรตนี และพลังงานขาดวติ ามินเอ เสยี่ งต่อ
หลอดเลอื ดหวั ใจตีบ โรคเบาหวาน เสน้ เลอื ดขอด อาการทางตา และการเจริญเตบิ โตช้าภาวะเลอื ด
ข้อเขา่ เสื่อม ทำให้ระบบการหายใจผิดปกติ จางเนื่องจากการขาดธาตุ ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น
เนอ่ื งจากปอดบางส่วนขยายตวั ไมด่ ีทำให้ โรคขาดโปรตนี และพลังงาน โรคโลหิตจาง โรคคอ
ประสทิ ธิภาพของการแลกเปล่ียนออกซิเจนและ พอกจากการขาดไอโอดนี เป็นตน้
คารบ์ อนไดออกไซดล์ ดลง 3. นกั เรียนควรปฏิบตั ติ นอยา่ งไรเพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ ห้
3. นักเรยี นควรปฏบิ ัตติ นอย่างไรเพอ่ื ป้องกนั ไม่ให้ เกดิ ปัญหาเชน่ เดยี วกบั บุคคลในภาพ
เกดิ ปญั หาเชน่ เดียวกบั บคุ คลในภาพ เพม่ิ ปรมิ าณการรบั ประทานอาหารทีค่ รบ ๕ หมู่ให้
ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน มากขนึ้ เพิม่ ม้ืออาหารว่างระหวา่ งม้อื หลกั โดยอาจ
ไม่ออกกำลังกายแบบหักโหมมากจนเกนิ ไป ปรึกษา เป็นระหวา่ งมื้อเชา้ และเที่ยง หรอื ระหว่างมื้อเท่ียง
แพทยใ์ นการลดความอ้วนท่ีถูกวธิ ี ไมด่ ื่มนา้ํ หวาน และเยน็ โดยเลือกที่มพี ลังงานสูงและมปี ระโยชน์
นำ้ อดั ลมและไมร่ บั ประทานขนมหวานหรือของขบ เชน่ นม ขนมปัง ขนมหวาน นอนหลับพกั ผอ่ นให้
เคย้ี วมากเกินไป รับประทานอาหารใหค้ รบทุกม้อื เพียงพอกับความตอ้ งการของรา่ งกาย
แตล่ ดปริมาณอาหารให้นอ้ ยลง โดยเฉพาะม้อื เยน็

ช่อื -สกุล....................................................................
เฉลย เรือ่ ง อาหา

คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นวาดภาพอาหารหลัก 5 หมู่ และยกตวั อย่างอาห

ขา้ ว แป้ง เผอื ก มัน น้ำตาล
มีสารอาหารคารโ์ บไฮเดรต

ให้พลงั งานร่างกาย

เนอื้ สตั ว์ตา่ ง ๆ นม ไข่
ถว่ั เมลด็ แห้งและงา มี
สารอาหารโปรตนี ซง่ึ จะ
ชว่ ยให้ร่างกายเจรญิ เติบโต
แขง็ แรง และช่วยซ่อมแซม

สว่ นทสี่ กึ หรอ

.......................ชัน้ ...................เลขท.ี่ ..................
ารหลัก 5 หมู่
หาร ประโยชน์ของอาหาร ในแตล่ ะหมู่ พรอ้ มระบายสใี หส้ วยงาม

พชื ผกั ต่างๆ ให้วิตามนิ และ
เกลือแร่ เพอื่ เสริมสรา้ งการทำงาน

ของร่างกายใหเ้ ปน็ ปกติ

ผลไม้ต่างๆ ใหว้ ิตามินและ
เกลือแร่ เพ่ือเสรมิ สร้างการ
ทำงานของรา่ งกายให้เปน็ ปกติ

น้ำมันและไขมนั จากพืชและสตั ว์ ซึ่งจะ
ให้พลงั งานและความอบอุ่นแกร่ ่างกาย

ชือ่ -สกลุ ...................................................................................ชัน้ ........................เลขที่……………
ใบงาน เร่ือง การอา่ นกราฟแสดงเกณฑอ์ า้ งอิงการเจรญิ เติบโตของเพศหญิง อายุ 5-18 ปี
นำ้ หนกั ตามเกณฑ์ส่วนสงู

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนชงั่ น้ำหนักและวดั สว่ นสงู ของตนเองเพ่อื นำมาเปรยี บเทียบกับเกณฑ์
พรอ้ มทั้งแสดงจุดท่ีนกั เรียนอยใู่ นเกณฑ์น้ันและตอบคำถามลงในชอ่ งว่างให้ถกู ต้อง

น้ำหนัก.................................................กิโลกรมั สว่ นสงู …………………….……………เซนติเมตร
ผลการอ่านกราฟแสดงเกณฑ์ มนี ้ำหนกั ตามเกณฑ์ส่วนสงู (น/ส) อย่ใู นเกณฑ.์ ...................................

ชื่อ-สกลุ ...................................................................................ช้ัน........................เลขที่……………
ใบงาน เร่ือง การอา่ นกราฟแสดงเกณฑอ์ า้ งอิงการเจรญิ เตบิ โตของเพศชาย อายุ 5-18 ปี
ส่วนสูงตามเกณฑ์อายุ (ส/อ) และ น้ำหนกั ตามเกณฑอ์ ายุ (น/อ)

คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนช่งั น้ำหนกั และวัดส่วนสูงของตนเองเพอ่ื นำมาเปรยี บเทียบกับเกณฑ์
พร้อมทั้งแสดงจดุ ท่นี ักเรยี นอยใู่ นเกณฑ์นน้ั และตอบคำถามลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

น้ำหนกั ............................กโิ ลกรมั สว่ นสงู ……….…...................เซนตเิ มตร อายุ.....................ปี
มสี ว่ นสูงตามเกณฑ์อายุ (ส/อ) .............................. มีนำ้ หนักตามเกณฑ์อายุ (น/อ)……………..……….

ชือ่ -สกุล...................................................................................ชนั้ ........................เลขท่ี……………
ใบงาน เรือ่ ง การอา่ นกราฟแสดงเกณฑอ์ า้ งองิ การเจริญเตบิ โตของเพศหญงิ อายุ 5-18 ปี
ส่วนสงู ตามเกณฑอ์ ายุ (ส/อ) และ นำ้ หนกั ตามเกณฑอ์ ายุ (น/อ)

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นชงั่ น้ำหนักและวดั สว่ นสูงของตนเองเพือ่ นำมาเปรยี บเทยี บกับเกณฑ์
พร้อมท้ังแสดงจดุ ที่นักเรยี นอยูใ่ นเกณฑน์ น้ั และตอบคำถามลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง

น้ำหนัก............................กิโลกรมั สว่ นสูง……….…...................เซนตเิ มตร อายุ.....................ปี
มสี ่วนสูงตามเกณฑอ์ ายุ (ส/อ) .............................. มีน้ำหนกั ตามเกณฑ์อายุ (น/อ)……………..……….

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ช้ัน........................เลขที่……………
ตัวอยา่ ง เร่อื ง การอา่ นกราฟแสดงเกณฑ์อ้างอิงการเจรญิ เตบิ โตของเพศชาย อายุ 5-18 ปี
น้ำหนกั ตามเกณฑ์สว่ นสงู

คำชี้แจง : ให้นักเรยี นชั่งน้ำหนกั และวดั ส่วนสูงของตนเองเพ่อื นำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์
พรอ้ มทัง้ แสดงจุดทนี่ ักเรยี นอย่ใู นเกณฑน์ ัน้ และตอบคำถามลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง

น้ำหนกั ................58.............................กิโลกรมั ส่วนสงู ……………165....……………เซนติเมตร
ผลการอา่ นกราฟแสดงเกณฑ์ มนี ้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูง(น/ส) อยใู่ นเกณฑ.์ .......สมส่วน................

ชอ่ื -สกลุ ...................................................................................ช้นั ........................เลขท่ี……………
ตัวอย่าง เร่ือง การอ่านกราฟแสดงเกณฑอ์ า้ งอิงการเจริญเตบิ โตของเพศชาย อายุ 5-18 ปี
สว่ นสูงตามเกณฑ์อายุ (ส/อ) และ น้ำหนักตามเกณฑ์อายุ (น/อ)

คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นช่งั น้ำหนักและวัดสว่ นสูงของตนเองเพื่อนำมาเปรียบเทยี บกบั เกณฑ์
พรอ้ มท้ังแสดงจดุ ท่นี ักเรียนอยู่ในเกณฑ์นนั้ และตอบคำถามลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง

น้ำหนัก.............50............กิโลกรัม ส่วนสูง……….…160.…………เซนตเิ มตร อายุ.......13.........ปี
มสี ่วนสูงตามเกณฑ์อายุ (ส/อ) ....ตามเกณฑ์......... มีนำ้ หนักตามเกณฑอ์ ายุ (น/อ)…ตามเกณฑ…์ …

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขท่ี……………

เรอ่ื ง การดูแลควบคมุ น้ำหนักตัวใหอ้ ยใู่ นเกณฑ์มาตรฐาน
คำชแี้ จง : ให้นักเรียนบอกวธิ กี ารดูแลควบคุมนำ้ หนกั ตวั ให้อย่ใู นเกณฑ์มาตรฐาน ของบุคคล

ท่ีกำหนดให้ตอ่ ไปนี้ ลงในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง

ผอม สมส่วน อ้วน
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
……………………………………...... ……………………………………...... ……………………………………......
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
………………………………………… ………………………………………… …………………………………………
……………………………………...... ……………………………………...... ……………………………………......

.. .. ..

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชน้ั ........................เลขที่……………

เฉลย เร่ือง การดูแลควบคุมนำ้ หนกั ตวั ให้อยใู่ นเกณฑ์มาตรฐาน
คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นบอกวธิ ีการดแู ลควบคมุ น้ำหนักตวั ให้อย่ใู นเกณฑม์ าตรฐาน ของบคุ คล

ทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปน้ี ลงในช่องว่างใหถ้ ูกต้อง

ผอม สมส่วน อว้ น

- รบั ประทานอาหาร -รบั ประทานอาหารสมดุล -มีความตัง้ ใจ และมุ่งมัน่ จรงิ ที่จะลดน้ํา
หลากหลายครบ 5 หมู่ ควบคุมสัดสว่ นและปรมิ าณให้ หนกั ลดเอว ตัง้ เป้าหมายท่เี ปน็ ไปได้
เพอ่ื ให้ไดส้ ารอาหารครบถว้ น พอเหมาะในแตล่ ะวนั ของนา้ํ หนักท่จี ะลด
ท้ังโปรตนี คาร์โบไฮเดรต -รบั ประทานอาหารเชา้ ทุกวนั -ลดน้าํ หนักเพอ่ื สุขภาพ ไม่ควรลดมาก
ไขมนั วิตามนิ เกลือแร่ -รับประทานอาหารพออม่ิ ใน จนเกินไป ควรลดประมาณ 5-10%
และน้ํา ในสดั สว่ นท่ีเหมาะสม แต่ละมื้อ ของนาํ้ หนกั ตัวเมื่อเรมิ่ ลด
-รับประทานอาหารธรรมชาติ -ควบคมุ พลังงานจากอาหารทไี่ ดร้ บั ใน
- ออกกำลงั กายสมํ่าเสมอ ให้ ไม่แปรรูปรบั ประทานผกั และ แต่ละวนั กบั พลังงานทร่ี ่างกายนำไปใช้
เหนือ่ ยระดบั ปานกลางอย่าง ผลไม้รสไม่หวานใหม้ ากพอ ใหส้ มดลุ
นอ้ ยสัปดาห์ละ 3 วันหรือ และครบ 5 สี -รบั ประทานอาหารทุกมอ้ื ต้องไมง่ ด
สะสมใหไ้ ดอ้ ยา่ งน้อยวนั ละ -หลีกเลย่ี งอาหารมนั จดั อาหารมอื้ ใดมื้อหนง่ึ
30 นาที หวานจดั และเคม็ จดั -งดของหวาน ลูกอม นํา้ หวาน นํา้ อัด
-ออกกำลังกายอย่างสม่ําเสมอ ลม เคร่อื งด่ืมท่ีมแี อลกอฮอล์
ประเมินและวเิ คราะหน์ ้ําหนัก -รับประทานผัก ผลไมท้ รี่ สไม่หวานให้
ตวั เป็นระยะอย่างสม่ําเสมอ มากขึ้น
-มคี วามอดทน ถ้ารสู้ ึกหวิ ทงั้ ๆ ท่เี พ่งิ
รับประทานไป เคี้ยวอาหารช้าๆ ใช้
เวลาเคยี้ วประมาณ 30 คร้ังต่อ 1 คำ
-ออกกำลังกายอยา่ งสม่ําเสมออยา่ ง
นอ้ ยสัปดาหล์ ะ 3 วัน

ช่อื -สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขท่ี……………

เรอื่ ง ดชั นีมวลกาย
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนชั่งน้ำหนัก วัดสว่ นสูงของตนเอง และตอบคำถามลงในช่องวา่ งให้ถูกตอ้ ง

นำ้ หนกั ………………กิโลกรมั สว่ นสูง………………เซนตเิ มตร

หาคา่ ดัชนมี วลกายของนักเรียน

...................................................................................
..................................................................................
…………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………

คา่ BMI ของนักเรียน อย่ใู นเกณฑ.์ ........................................

BMI มาตรฐานคนเอเชยี แปลผล

ชอื่ -สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………

เฉลย เรอื่ ง ดัชนมี วลกาย
คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นชงั่ น้ำหนกั วดั ส่วนสูงของตนเอง และตอบคำถามลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง

นำ้ หนกั ……51……กิโลกรมั สว่ นสูง……161……เซนตเิ มตร

หาคา่ ดชั นมี วลกายของนกั เรียน

สูตรคำนวณค่า BMI =
.

=

.

= .

คา่ BMI ของนักเรยี น อยู่ในเกณฑ์.........ปกติ..........

BMI มาตรฐานคนเอเชยี แปลผล
<18.5 ผอม
ปกติ
18.5-22.9 น้ำหนักเกนิ
23-24.9 อว้ นระดับ 1
25-29.9 อว้ นระดบั 2

≥30

ชือ่ -สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขท่ี……………

เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกายของวยั รุ่น
คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

การเปล่ียนแปลงทางรา่ งกายของวยั รุ่นชายและหญิงทแี่ สดงให้เห็นอยา่ งชัดเจน

วัยรุ่นชาย วัยรนุ่ หญิง

ประจำเดอื น ฝนั เปยี ก

หมายถึง……………………………………………… หมายถงึ ………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………...………. ………………………………………………...……….

กระบวนการ กระบวนการ
เกดิ ประจำเดอื น ผลติ อสจุ ิ

……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
……………………………………………………… ………………………………………………………
…………………………………………...………. …………………………………………...……….

ช่ือ-สกุล...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………

เร่ือง การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของวยั รุ่น

คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนตอบคำถามลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง

การเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกายของวยั รนุ่ ชายและหญงิ ที่แสดงให้เห็นอย่างชดั เจน

วัยรนุ่ ชาย วยั รุน่ หญิง

๑. มหี นวดเครา มขี นข้ึนบริเวณรกั แร้ และ ๑. มขี นขึ้นบรเิ วณรักแร้และอวัยวะเพศ

อวัยวะเพศ หรอื บริเวณหน้าอก (บางคน)

๒. มกี ล้ามเน้อื มากขึ้น ๒. ทรวงอกขยายใหญข่ นึ้ ผวิ พรรณสดใส

๓. น้ำหนัก ส่วนสงู เพิ่มขึ้นอยา่ งรวดเร็ว ๓. นำ้ หนกั สว่ นสูง เพิ่มข้นึ อย่างรวดเร็ว เอวเลก็ สะโพกผาย

๔. ฟันกรามซท่ี ่สี องขึ้น ๔. ฟนั กรามซี่ท่ีสองขึ้น

๕. ลูกกระเดือกโตขน้ึ เสยี งแตกห้าว ๕. เสยี งแหลมข้นึ

๖. มกี ารหลั่งนำ้ อสุจิ ๖. เร่ิมมีประจำเดือน

ประจำเดอื น ฝนั เปยี ก

หมายถงึ เลอื ดท่ีไหลอออกมาทางชอ่ งคลอดทุก หมายถงึ การหล่ังนำ้ อสุจิขณะทนี่ อนหลบั

เดือน รอบเดือนประมาณ 28 วัน เลือดทไี่ หลมา เกดิ ขน้ึ เม่ือเพศชายอายุประมาณ 14 ปี ความถ่ี
เกิดจากการสลายตวั ของเยอื่ บุมดลกู ของการเกิดฝันเปยี กจะแตกต่างกนั ในแต่ละคน

กระบวนการ กระบวนการ
เกดิ ประจำเดอื น ผลิตอสุจิ

-ไขท่ อี่ ยใู่ นรังไข่เจรญิ เตบิ โตจนเตม็ ที่และ -ท่อสร้างเชื้ออสจุ ิ ทำหน้าทผี่ ลิตตัวอสจุ ิแลว้
ตกออกจากรงั ไข่เพียงใบเดยี ว ชว่ งกลาง เก็บไว้ช่ัวคราวทหี่ ลอดเกบ็ ตัวอสุจิ ซึ่งอยู่
ของรอบประจำเดือน ด้านหลังของลูกอัณฑะ
-ขณะเดียวกันเยอ่ื บุมดลูกจะหนาตวั ขนึ้ -ตวั อสจุ ิจะเคล่อื นมาตามทอ่ นำอสจุ ิมาพกั อยู่
เพื่อเตรยี มสำหรับการฝังตัว ในถงุ เกบ็ น้ำอสุจิรวมกับน้ำอสุจิ ทำให้ตัวอสุจิ
-เมื่อไขผ่ สมกับอสุจแิ ล้วจะมาฝงั ตวั ที่มดลูก แหวกวา่ ยไดส้ ะดวกข้ึน
และเจรญิ เตบิ โตเป็นทารก -เม่อื ผ้ชู ายถึงจุดสดุ ยอดก็จะหลั่งนำ้ อสุจิ
แตถ่ ้าการฝังตัวไม่เกิดข้ึนก็จะเกดิ การสลาย ออกมาทางท่อปสั สาวะซึง่ เชื่อมต่ออยูก่ ับถุง
ของเย่อื บุมดลูกและเกดิ เปน็ ประจำเดือน เกบ็ น้ำอสจุ แิ ละกระเพาะปสั สาวะ

ชื่อ.......................................................................................ชั้น....................เลขท.ี่ ...............
เรอื่ ง การเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกายของวัยรนุ่

คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นเตมิ คำตอบเกีย่ วกับการเปล่ยี นแปลงทางดา้ นรา่ งกายของวยั รนุ่ เพศชาย
และเพศหญงิ ลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง
เพศหญงิ

…………….… …………….… …………….…

…………….… …………….……… …………….………

เพศชาย

…………….… …………….… ………………..…

………………..… ………………...…..… ………………...…..…

ช่ือ.......................................................................................ชน้ั ....................เลขที่................
เฉลย เรือ่ ง การเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกายของวัยร่นุ

คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นเติมคำตอบเก่ยี วกับการเปล่ียนแปลงทางด้านร่างกายของวัยรุ่นเพศชาย
และเพศหญงิ ลงในช่องวา่ งให้ถกู ตอ้ ง
เพศหญิง

…อว…ยั ว…ะเพ…ศใ…หญ.…ข่ น้ึ …ห…น…้าอก…ขย…าย.… …ส…ะโ…พก…ขยา…ย .…

…ม…ขี น…ขึ้น…ใน…ท่ลี .บั… ……เ…สีย…งเล…็กแ.ห…ลม…… ………มีป…ระ…จำ.เ…ดอื …น …

เพศชาย

…ม…กี า…รห…ล่ังน…ำ้ อ.…สุจิ …มกี …ลา้ …มแ…ขน…อก.…ผาย …เ…สยี …งแต…ก…ห้า…ว ใ.ห.…ญ่

…มขี …นข…น้ึ ใ…นท…ลี่ บั …มหี..…นวด ม…กี ล…า้ ม…เน…อื้ ม…ากข…ึน้ .อ..ก…ขย..า…ย ………นม…แต…กพ…าน...…..…

ช่อื -สกุล...................................................................................ชั้น........................เลขท่ี……………
ใบงาน เรื่อง ความหลากหลายทางเพศ

คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง

ปจั จยั ทที่ ำใหเ้ กิด
ความหลากหลายทางเพศ

............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................

............. ............. .............

แนวทางการอยรู่ ่วมกันในสังคม
ท่มี คี วามหลากหลายทางเพศ

............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................
............................................ ............................................ ............................................

............. ............. .............

ชือ่ -สกุล...................................................................................ช้นั ........................เลขที่……………
เฉลย ใบงาน เรื่อง ความหลากหลายทางเพศ

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

ปจั จยั ทีท่ ำให้เกดิ
ความหลากหลายทางเพศ

ปจั จัยทางชวี วิทยา ปจั จยั ทางสังคม ปจั จยั ทางจิตวทิ ยา
ไดแ้ ก่ โคโมโซม ฮอร์โมน และ เดก็ เกดิ การรบั รู้ว่าตนเอง เปน็ เรื่องของจิตใจของตวั บคุ คล
ปจั จยั ทางชวี วิทยาอนื่ ๆ อาจทำ เปน็ เพศใดนัน้ มีพ้ืนฐานมา
ใหเ้ กิดความผดิ ปกติทางเพศได้ จากการอบรมเลีย้ งดขู องพ่อ นัน้ ๆ โดยเกยี่ วข้องกับการ
หากปจั จยั ดังกลา่ วบกพร่อง แม่และสง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั แปรเปล่ียนข้อมูล

หรือทำงานผดิ ปกติ เดก็ ประสบการณ์ดา้ นตา่ ง ๆ ทผ่ี ่าน
เข้ามาในชีวติ

แนวทางการอยรู่ ว่ มกันในสงั คม
ท่ีมีความหลากหลายทางเพศ

การยอมรับสิทธิทางเพศ ไมใ่ ช้ความรุนแรงทางเพศต่อ หลีกเล่ยี งการใชค้ ำทแ่ี สดงอคติ
เคารพสิทธทิ างเพศของกัน กนั ทั้งคำพูดและการกระทำ เช่น การเบีย่ งเบนทางเพศ
เช่น คำพดู ลอ้ เลียน การทำร้าย สนับสนุนใหน้ กั เรยี นเคารพซึ่ง
และกัน ไม่ตดั สนิ ผทู้ ี่ รา่ งกาย การกระทำหรอื แสดง กนั และกันและมีมาตรการ
แตกตา่ งจากเราว่าเปน็ ผูท้ ี่มี กริ ยิ าอื่น ๆ ที่ไม่ดีท้งั ต่อหนา้ ปอ้ งกันการใช้ความรุนแรง

ความผดิ ปกตทิ างเพศ และลบั หลงั

ช่ือ-สกลุ ...................................................................................ชั้น........................เลขที่……………

เร่ือง ระบบสบื พนั ธ์เพศชายและเพศหญิง
คำชี้แจง : ให้นักเรยี นเลอื กคำที่กำหนดให้ต่อไปน้ี ตอบคำถามลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง

พรอ้ มระบายสใี หส้ วยงาม

มดลกู องคชาต รงั ไข่ กระเพาะปัสสาวะ ลูกอัณฑะ
ท่อนำอสจุ ิ ช่องคลอด ตอ่ มลูกหมาก ท่อนำไข่หรอื ปีกมดลูก

เพศหญงิ

............................................
..............................................

..
............................................
..............................................
..............................................

..

เพศชาย

..............................................

..............................................
..............................................
..............................................
..............................................

ชอื่ -สกุล...................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี……………

เฉลย เรอ่ื ง การเกิดประจำเดือน
คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำท่กี ำหนดให้ตอ่ ไปนี้ ตอบคำถามลงในชอ่ งวา่ งให้ถกู ตอ้ ง พรอ้ ม

ระบายสใี ห้สวยงาม

มดลกู องคชาต รงั ไข่ กระเพาะปสั สาวะ ลูกอัณฑะ
ท่อนำอสจุ ิ ชอ่ งคลอด ตอ่ มลูกหมาก ท่อนำไข่หรือปกี มดลกู

เพศหญงิ

มดลกู
ทอ่ นำไขห่ รือปีกมดลกู

รังไข่
กระเพาะปสั สาวะ

ชอ่ งคลอด

เพศชาย

ท่อนำอสุจิ

กระเพาะปัสสาวะ
ตอ่ มลกู หมาก
ลกู อัณฑะ
องคชาต

ชอื่ -สกลุ ..............................................................................................ช้ัน....................เลขท.่ี .....................

เรือ่ ง การล่วงละเมดิ ทางเพศ

คำช้ีแจง : ให้นักเรียนตอบคำถามลงในชอ่ งวา่ ง ใหถ้ ูกตอ้ ง

การล่วงละเมิดทางเพศ หมายถงึ .................................................
.....................................................................................................
...................................................................................................

ประเภทของการลว่ งละเมดิ ทางเพศ

................................................................... ...................................................................

............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................
............................................................................... ...............................................................................

สาเหตขุ องการ แนวทางการปอ้ งกนั
ลว่ งละเมดิ ทางเพศ การลว่ งละเมดิ ทางเพศ

.............................................................................. ..............................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

....... .......

ชอื่ -สกลุ ..............................................................................................ชัน้ ....................เลขที.่ .....................

เฉลย เร่อื ง การล่วงละเมิดทางเพศ

การลว่ งละเมิดทางเพศ หมายถงึ การกระทำหรือการพดู ที่
เก่ยี วกับเรื่องทางเพศทลี่ ามกอนาจาร หรือการแสดงออกทาง

เพศตอ่ ผ้อู น่ื โดยบคุ คลนนั้ ไม่ยินยอม

ประเภทของการล่วงละเมิดทางเพศ

การล่วงละเมิดทางเพศโดยไมม่ กี ารสมั ผสั การลว่ งละเมดิ ทางเพศโดยมีการสัมผัส

การวิพากษ์วิจารณ์เรือ่ งรูปร่างหน้าตา การแตะเนอ้ื ต้องตัวท่ไี มถ่ งึ ประสงค์

การเล่าเรือ่ งตลกลามก พูดสองแงส่ องงา่ ม กอด จูบ ลบู คลำ รา่ งกายเพ่ือแสดงความใคร
การบังคับมีเพศสมั พนั ธ์ การพยายามขืนใจ
การตามจบี ตามตอื๊ พูดจาแทะโลม
การล่วงเกนิ ดว้ ยสายตา กิรยิ าท่าทาง พยายามจับตอ้ งอวัยวะเพศ
การข่มขนื เพอื่ สนองความใคร่
การแอบดู(ถำ้ มอง)หรือแอบถ่ายรปู ในห้องนำ้

สาเหตุของการ แนวทางการป้องกนั
ลว่ งละเมดิ ทางเพศ การลว่ งละเมิดทางเพศ

ไวใ้ จคนใกลช้ ิดมากเกนิ ไป ขาดความระมัดระวัง ไมค่ วรไวใ้ จคนแปลกหน้า ไมห่ ลงเชอ่ื คารมคนอ่นื
ไม่เคารพสิทธิในร่างกายตนเองและผู้อื่น ไม่ชักจูง ลอ่ ลวง บงั คับอีกฝ่ายใหม้ ีเพศสัมพันธ์
เมื่อเกิดปัญหาต้องปรึกษาพ่อแม่ ครู ผู้ใหญ่ทไ่ี วใ้ จ
การดื่มสุราหรือสารเสพตดิ เป็นเหตุให้ขาดสติ
กอ่ นสัมผัสผ้อู ่ืนต้องได้รับความยนิ ยอมจากอีกฝ่ายก่อน
อยใู่ นสถานทที่ ีเ่ สีย่ งตอ่ การถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ มที ักษะในการป้องกันตนเอง เช่น ทักษะการปฏิเสธ
เกิดจากความไม่ตงั้ ใจเชคน่ กึ ผคบั ะนอง เพ่อื ความสนกุ

ชอื่ -สกุล...........................................................................................ชน้ั ....................เลขท.่ี ..................

เรอ่ื ง ทักษะการปอ้ งกนั ตนเองจากการลว่ งละเมิดทางเพศ
คำชี้แจง : จงยกตวั อยา่ งการใช้ทกั ษะในการปอ้ งกันตนเองจากการล่วงละเมดิ ทางเพศ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ทักษะการปฏเิ สธ

.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................

ทกั ษะการตอ่ รอง

.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................

ทกั ษะการผดั ผ่อน
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................

การขอความช่วยเหลอื

.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................

ทกั ษะการปอ้ งกนั ตวั
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................


Click to View FlipBook Version