The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุปผลการดำเนินงานโครงการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจำการ ด้านบริหารการเปลี่ยนแปลง กิจกรรมที่ 2 ฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจำการ ด้านบริหารการเปลี่ยนแปลง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by cdlc lampang, 2024-01-26 05:55:14

สรุปผลการดำเนินงานโครงการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจำการ ด้านบริหารการเปลี่ยนแปลง

สรุปผลการดำเนินงานโครงการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจำการ ด้านบริหารการเปลี่ยนแปลง กิจกรรมที่ 2 ฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจำการ ด้านบริหารการเปลี่ยนแปลง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๖ ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบร ิหาร จัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาท ภารกิจ แยกแยะบทบาท หน่วยงานของรัฐที่ท าหน้าที่ในการก ากับหร ือในการให้บร ิการยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการท างาน ให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อสภาพ การเปลี่ยนแปลงของโลก กรมการพัฒนาชุมชน มีเป้าหมายส าคัญในการขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุวิสัยทัศน์ ด้วยการพัฒนา ศักยภาพของบุคลากรให้มีสมรรถนะสูง ทันสมัย มีอุดมการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในงานพัฒนาชุมชน โดยมีกลยุทธ์ส าคัญคือการยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรให้มีทักษะที่เหมาะสมกับสถานการณ์ความ เปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ส าหรับเป็นกลไกให้ข้าราชการและบุคลากรของกรมการพัฒนาชุมชนสามารถ ปรับตัวให้เท่าทันต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีความพร้อมในการปฏิบัติงานตาม บทบาทหน้าที่และสามารถน าเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง ได้ด าเนินการจัดฝึกอบรมฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหารการเปลี่ยนแปลง ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ กิจกรรมที่ ๒ ฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหารการเปลี่ยนแปลง กลุ่มเป้าหมายจ านวน 80 คน ด าเนินการระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพพัฒนากรให้มีความรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง ในยุคดิจิทัล สามารถน าสื่อเทคโนโลยีไปปรับประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม สามารถออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง ยกระดับ ความสามารถของพัฒนากรให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เชื่อมโยงสู่การออกแบบการ ขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสรจ็สิ้นเร ียบร้อยแล้ว ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง จึงได้จัดท าเอกสารสรุปผลการด าเนินงานตามโครงการฯ เพื่อรายงานผลการด าเนินงานให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ คณะผู้จัดท าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารสรุปผลการ ด าเนินงานตามโครงการฯ ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อกรมการพัฒนาชุมชน สถาบันการพัฒนาชุมชน ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน และผู้สนใจต่อไป


หน้า ค าน า สารบัญ บทสรุปส าหรับผู้บร ิหาร ส่วนที่ 1 บทน า หลักการและเหตุผล 1 วัตถุประสงค์ 1 วิธีการด าเนินงาน 1 กลุ่มเป้าหมาย 2 สถานที่ด าเนินการ 2 ระยะเวลาด าเนินการ 2 งบประมาณ 2 ตัวชี้วัดผลส าเร็จของโครงการ 2 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2 ส่วนที่ ๒ สรุปเนื้อหาวิชาการ กิจกรรมและผลการด าเนินการกิจกรรม วิชา แนวทาง ทิศทางการขับเคลื่อนงานกรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 3 วิชา ทบทวนผลการด าเนินงานตามภารกิจ กรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 9 วิชา การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกกับงานพัฒนาชุมชน 14 วิชา สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงกับแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน 25 วิชา เปิดประสบการณสร้างการเร ียนรู้ในยุคดิจิทัล 32 วิชา เคร ื่องมือการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน ภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง 42 วิชา น าเสนอการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ความ 45 กิจกรรมเสร ิมหลักสูตร กิจกรรมวันดินโลก 50 ส่วนที่ 3 การประเมินโครงการ ข้อมูลทั่วไป 54 รูปแบบและวิธีการประเมินผล 56 การเก็บรวบรวมข้อมูล 56 ผลการประเมิน 56 ประเมินผลภาพรวมของโครงการ 57 ประเมินผลรายวิชา 59 ภาคผนวก ประมวลภาพผลการด าเนินงาน 67 ค าสั่งแต่งตั้งคณะท างาน 70 ตารางการฝึกอบรม 75 ทะเบียนรายชื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรม 76 ทะเบียนรายชื่อเจ้าหน้าที่โครงการฯ 80 เอกสารประกอบการฝึกอบรมฯ และงาน Project idea พัฒนากร 81


ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๖ ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบร ิหาร จัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาท ภารกิจ แยกแยะบทบาท หน่วยงานของรัฐที่ท าหน้าที่ในการก ากับหร ือในการให้บร ิการยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการท างาน ให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อสภาพ การเปลี่ยนแปลงของโลก กรมการพัฒนาชุมชน มีเป้าหมายส าคัญในการขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุวิสัยทัศน์ ด้วยการพัฒนา ศักยภาพของบุคลากรให้มีสมรรถนะสูง ทันสมัย มีอุดมการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในงานพัฒนาชุมชน โดยมีกลยุทธ์ส าคัญคือการยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรให้มีทักษะที่เหมาะสมกับสถานการณ์ความ เปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ส าหรับเป็นกลไกให้ข้าราชการและบุคลากรของกรมการพัฒนาชุมชนสามารถ ปรับตัวให้เท่าทันต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีความพร้อมในการปฏิบัติงานตาม บทบาทหน้าที่และสามารถน าเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง ได้ด าเนินการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหาร การเปลี่ยนแปลง ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ กิจกรรมที่ ๒ ฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหาร การเปลี่ยนแปลง ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ด าเนินการระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 กลุ่มเป้าหมายเป็นนักวิชาการพัฒนาชุมชน (พัฒนากร) ระหว่างประจ าการที่มีอายุงานระหว่าง 2 - 5 ปี จ านวน ๘๐ คน ในเขตพื้นที่บร ิการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และเจ้าหน้าที่โครงการฯ จ านวน 5 คน รวม 85 คน เสรจ็สิ้นเรยีบรอ้ยแล้ว วัตถุประสงค์ - เพื่อพัฒนาศักยภาพพัฒนากรให้มีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงในยุค ดิจิทัล สามารถน าสื่อเทคโนโลยีไปปรับประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม - เพื่อให้พัฒนากรสามารถออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ความ เปลี่ยนแปลง วิธีด าเนินงาน การฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหารการเปลี่ยนแปลง ในรูปแบบผสมผสาน (Blended Learning) ด าเนินการบรรยายในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Cloud Meetings และ Work Shop ในรูปแบบปกติ โดยศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง เป็นหน่วยด าเนินการฝึกอบรม จ านวน 1 รุ่น รุ่น ๆ ละ 3 วัน มีเนื้อหาหลักสูตรแบ่งออกเป็น 3 หมวด ดังนี้ หมวดที่ 1 รู้ทันสถานการณ์ - นโยบาย แนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล - แนวคิดอารยะเกษตร และแนวคิด 1 ครอบครัว 1 Soft Power (One Family One Soft Power : OFOS) กับงานพัฒนาชุมชน หมวดที่ 2 เข้าใจเทคโนโลยี - เคร ื่องมือการวิเคราะห์งานพัฒนาชุมชนด้วยข้อมูลสารสนเทศชุมชน


หมวดที่ 3 ออกแบบงานมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ - Workshop การออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในยุคดิจิทัล ขอบเขตเนื้อหาวิชา 1. วิชา แนวทาง ทิศทางการขับเคลื่อนงานกรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 2. วิชา ทบทวนผลการด าเนินงานตามภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 3. วิชา การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกกับงานพัฒนาชุมชน 4. วิชา สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงกับแนวทางขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน 5. วิชา เปิดประสบการณ์สร้างการเร ียนรู้ในยุคดิจิทัล 6. วิชา เคร ื่องมือการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ความ เปลี่ยนแปลง 7. กิจกรรมเสร ิมหลักสูตร - กิจกรรมวันดินโลก - กิจกรรมการใช้กรุ๊ปไลน์เพื่อการประเมินผลและเสร ิมสร้างความรู้ - กิจกรรมสรุปบทเร ียนระหว่างอบรม ผลการด าเนินงาน ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง ด าเนินการตามกรอบที่กรมการพัฒนาชุมชนก าหนด มีกลุ่มเป้าหมาย เข้าร่วม จ านวน 80 คน ใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น จ านวน 239,700 บาท (สองแสนสามหมื่นเก้าพันเจ็ดร้อยบาท ถ้วน) คงเหลือ - บาท คิดเป็นร้อยละ 100 ผลการประเมิน จากผลการประเมินโครงการฯ ใช้แบบประเมินโครงการตามที่สถาบันการพัฒนาชุมชน กรมการ พัฒนาชุมชนก าหนด โดยมีการประเมินแบ่งออกเป็น 2 การประเมิน ได้แก่ 1) การประเมินผลภาพรวมของ โครงการฯ 2) การประเมินผลรายวิชา จ านวน 6 วิชา เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล ผ่าน Google Form วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS for Window เพื่อหาค่าความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย ผลการจัดเก็บข้อมูลการประเมินทั้ง 2 การประเมิน มีผลการประเมินโดยสรุป ดังนี้ 1. การประเมินผลภาพรวมของโครงการฯ พบว่า ผู้เข้าอบรมทั้งหมด จ านวน 80 คน ตอบแบบ ประเมิน จ านวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 80 ผลการประเมินทั้ง 6 ประเด็น พบว่า ประเด็นที่ 1 ความคิดเห็นต่อกระบวนการ ขั้นตอนการให้บร ิการ ประกอบด้วย ความเหมาะสม ของสถานที่ ความเหมาะสมของระยะเวลา ความเหมาะสมของช่วงเวลา ความสามารถน าไปประยุกต์ใช้พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.28 ประเด็นที่ 2 ความคิดเห็นต่อวิทยากรของหน่วยงานที่จัด ประกอบด้วย ความรอบรู้ใน เนื้อหาของวิทยากร ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้การเปิดโอกาสให้ซักถามและแสดงความคิดเห็น การสร้างบรรยากาศในการเร ียนรู้พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ใน ระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.36 ประเด็นที่ 3 ความคิดเห็นต่อเจ้าหน้าที่ผู้ให้บร ิการ/ประสานงาน ประกอบด้วย การแต่งกาย ความสุภาพ การตอบค าถาม การประสานงาน พบว่า เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนน เฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.61


ประเด็นที่ 4 ความคิดเห็นต่อการอ านวยความสะดวก ประกอบด้วย เอกสารและสื่อ ประกอบการ อบรม โสตทัศนูปกรณ์ (การสื่อสาร ระบบสัญญาณภาพและเสียง) เจ้าหน้าที่สนับสนุน พบว่า เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.58 ประเด็นที่ 5 ความคิดเห็นต่อคุณภาพการให้บร ิการ ประกอบด้วย การได้รับความรู้แนวคิด ทักษะ และประสานการณ์ใหม่ๆ จากโครงการฯ การที่จะสามารถน าสิ่งที่ได้รบัจากโครงการฯ ไปใช้ในการ เร ียนรู้สิ่งที่ได้รบัจากโครงการนี้ตรงตามความคาดหวังของท่านหรอืไม่ สัดส่วนระหว่างฝึกอบรมภาคทฤษฎี ปฏิบัติมีความเหมาะสม พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.48 ประเด็นที่ 6 ความพึงพอใจของท่านต่อภาพรวมโครงการฯ พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.58 สรุปการประเมินผลภาพรวมของโครงการฯ พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความ คิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.45 2. การประเมินผลรายวิชา จ านวน 6 วิชา พบว่า ผู้เข้าอบรมทั้งหมด จ านวน 80 คน ตอบแบบ ประเมินมีจ านวนที่แตกต่างกัน สรุปได้ดังนี้ 2.1 วิชา แนวทาง ทิศทางการขับเคลื่อนงานกรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีผู้เข้าอบรมทั้งหมด จ านวน 80 คน ตอบแบบประเมิน จ านวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 84 พบว่า ผู้เข้าอบรม ในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.23 2.2 วิชา ทบทวนผลการด าเนินงานตามภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีผู้เข้าอบรมทั้งหมด จ านวน 80 คน ตอบแบบประเมิน จ านวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 84 พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.39 2.3 วิชา การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกกับงานพัฒนาชุมชน มีผู้เข้าอบรมทั้งหมด จ านวน 80 คน ตอบแบบประเมิน จ านวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 80 พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับ ความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.25 2.4 วิชา สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงกับแนวทางขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน มีผู้เข้าอบรมทั้งหมด จ านวน 80 คน ตอบแบบประเมิน จ านวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 80 พบว่า ผู้เข้าอบรม ในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี ค่าเฉลี่ย 4.21 2.5 วิชา เปิดประสบการณ์สร้างการเร ียนรู้ในยุคดิจิทัล มีผู้ข้าอบรมทั้งหมด จ านวน 80 คน ตอบแบบประเมิน จ านวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 80 พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความ คิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี ค่าเฉลี่ย 4.19 2.6 วิชา เคร ื่องมือการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลง มีผู้เข้าอบรมทั้งหมด จ านวน 80 คน ตอบแบบประเมิน จ านวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 80 พบว่า ผู้เข้าอบรมในโครงการฯ มีระดับความคิดเห็นคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.23 ข้อเสนอแนะ - ควรด าเนินโครงการฯ ในวันท าการปกติ - ควรให้วิทยากรมาบรรยาย ณ ศพช. ไม่ใช่ผ่านระบบ Zoom Online - ควรกระชับเวลาในวันสุดท้ายของการฝึกอบรม เนื่องจากต้องเดินทางกลับ - ควรจัดเตร ียมเอกสารบรรยาย Power Point ของอาจารย์ ให้ผู้เข้าอบรม - อยากให้เพิ่มการสรา้งบรรยากาศในระหว่างการอบรม เทคนิคการอบรมที่แปลกใหม่ - อยากศึกษากระบวนงานผ่าน Case Study บ้าง


๑. หลักการและเหตุผล ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๖ ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบร ิหาร จัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาท ภารกิจ แยกแยะบทบาท หน่วยงานของรัฐที่ท าหน้าที่ในการก ากับหร ือในการให้บร ิการยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการท างาน ให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อสภาพ การเปลี่ยนแปลงของโลก กรมการพัฒนาชุมชน มีเป้าหมายส าคัญในการขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุวิสัยทัศน์ ด้วยการพัฒนา ศักยภาพของบุคลากรให้มีสมรรถนะสูง ทันสมัย มีอุดมการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในงานพัฒนาชุมชน โดยมีกลยุทธ์ส าคัญคือการยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรให้มีทักษะที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ส าหรับเป็นกลไกให้ข้าราชการและบุคลากรของกรมการพัฒนาชุมชน สามารถปรับตัวให้เท่าทันต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน ตามบทบาทหน้าที่และสามารถน าเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ พัฒนากร เป็นกลไกหลักที่ส าคัญของกรมการพัฒนาชุมชนที่ท างานใกล้ชิดกับผู้น า กลุ่ม/องค์กร และเคร ือข่ายการพัฒนาชุมชนในระดับพื้นที่ โดยมีหน้าที่ในการส่งเสร ิมเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง และชุมชน มีความเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาสมรรถนะให้สามารถปฏิบัติงานภายใต้สถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้การผลักดันนโยบาย/เป้าหมาย/ยุทธศาสตร์ขององค์กร ไปสู่การปฏิบัติจนเกิดความส าเรจ็อย่างสัมฤทธผิ์ล และเพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ ทักษะ และสรรถนะที่จ าเป็นส าหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ของพัฒนากร สถาบันการพัฒนาชุมชนจึงจัดท าโครงการ ฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหารการเปลี่ยนแปลงขึ้น เพื่อยกระดับความสามารถ ของพัฒนากรให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สามารถเชื่อมโยงสู่การออกแบบ การขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมอบหมายให้ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง เป็นหน่วยด าเนินการ ๒. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อพัฒนาศักยภาพพัฒนากรให้มีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง ในยุคดิจิทัล สามารถน าสื่อเทคโนโลยีไปปรับประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม 2.2 เพื่อให้พัฒนากรสามารถออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลง 3. วิธีด าเนินงาน การฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหารการเปลี่ยนแปลง ในรูปแบบผสมผสาน (Blended Learning) ด าเนินการบรรยายในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Cloud Meetings และ Work Shop ในรูปแบบปกติ โดยศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง เป็นหน่วยด าเนินการฝึกอบรม จ านวน 1 รุ่น รุ่น ๆ ละ 3 วัน มีเนื้อหาหลักสูตรแบ่งออกเป็น 3 หมวด ดังนี้ หมวดที่ 1 รู้ทันสถานการณ์ - นโยบาย แนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล


- แนวคิดอารยะเกษตร และแนวคิด 1 ครอบครัว 1 Soft Power (One Family One Soft Power : OFOS) กับงานพัฒนาชุมชน หมวดที่ 2 เข้าใจเทคโนโลยี - เคร ื่องมือการวิเคราะห์งานพัฒนาชุมชนด้วยข้อมูลสารสนเทศชุมชน หมวดที่ 3 ออกแบบงานมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ - Workshop การออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในยุคดิจิทัล 4. กลุ่มเป้าหมาย นักวิชาการพัฒ นาชุมชน (พั ฒ นากร) ระหว่างประจ าการที่มีอายุงานระหว่าง 2 - 5 ปี จ านวน ๘๐ คน ในเขตพื้นที่บร ิการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และเจ้าหน้าที่โครงการฯ จ านวน 5 คน รวม 85 คน ดังนี้ จังหวัดเชียงใหม่ จ านวน 21 คน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จ านวน 5 คน จังหวัดล าปาง จ านวน 8 คน จังหวัดล าพูน จ านวน 6 คน จังหวัดน่าน จ านวน 10 คน จังหวัดพะเยา จ านวน 9 คน จังหวัดเชียงราย จ านวน 12 คน จังหวัดแพร่ จ าวน 9 คน เจ้าหน้าที่โครงการฯ จ านวน 5 คน รวมทั้งสิ้น จ านวน 85 คน 5. สถานที่ด าเนินการ ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง 6. ระยะเวลาด าเนินการ วันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2566 7. งบประมาณ จ านวน 239,700 บาท (สองแสนสามหมื่นเก้าพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) 8. ตัวชี้วัดผลส าเร็จของโครงการ 8.1 ตัวชี้วัดผลผลิต ร้อยละ ๑๐0 ของผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีความรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล สามารถน าสื่อเทคโนโลยีไปปรับประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ ได้อย่างเหมาะสม 8.2 ตัวชี้วัดผลลัพธ์ ร้อยละ 100 ของผู้ผ่านการฝึกอบรมสามารถออกแบบแนวทางการขับเคลื่อน งานพัฒนาชุมชนในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 9.1 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล สามารถน าสื่อเทคโนโลยีไปปรับประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม 9.2 ผู้ผ่านการฝึกอบรม มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ สามารถน าความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการ ปฏิบัติราชการได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 2


ผลการด าเนินโครงการฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหารการเปลี่ยนแปลง ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ กิจกรรมที่ ๒ ฝึกอบรมพัฒนากรระหว่างประจ าการ ด้านบร ิหารการเปลี่ยนแปลง ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ระหว่างวันที่ 15 - 17 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง กลุ่มเป้าหมายเป็น พัฒนากรระหว่างประจ าการที่มีอายุงานระหว่าง 2 - 5 ปี ในเขตพื้นที่บร ิการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง จาก 8 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดล าปาง จังหวัดล าพูน จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน จา นวนทั้งสิ้น 80 คน ด าเนินการ ดังนี้ ขอบเขตเนื้อหาหลักสูตร 1. วิชา แนวทาง ทิศทางการขับเคลื่อนงานกรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 2. วิชา ทบทวนผลการด าเนินงานตามภารกิจ กรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 3. วิชา การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกกับงานพัฒนาชุมชน 4. วิชา สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงกับแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน 5. วิชา เปิดประสบการณสร้างการเร ียนรู้ในยุคดิจิทัล 6. วิชา เคร ื่องมือการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง 7. วิชา น าเสนอการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ความ เปลี่ยนแปลง กิจกรรมเสร ิมหลักสูตร - กิจกรรมวันดินโลก - กิจกรรม Wrap up (สรุปบทเร ียนระหว่างอบรม) เน้นการจัดกระบวนการให้ผู้เข้าอบรมเกิดการเร ียนรู้ด้วยวิธีการดังนี้ 1. บรรยายประกอบสื่อ Power Point ผ่านระบบ Zoom Online 2. แบ่งกลุ่มระดมสมอง 3. กระตุ้น/แลกเปลี่ยนความคิดเห็น 4. ศึกษาเอกสาร 5. น าเสนอ สรุปสาระส าคัญของเนื้อหาวิชา ได้ดังนี้ วิชา แนวทาง ทิศทางการขับเคลื่อนงานกรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วิทยากรหลัก/ผู้รับผิดชอบ 1. วิทยากรหลัก : นางทัศนีย์ ชัยคุณแสง ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน 2. ผู้รับผิดชอบสรุปเนื้อหา : ว่าที่ ร.ต.ชัยณรงค์ บัวค า นักทรัพยากรบุคคล


วัตถุประสงค์ 1. รู้และเข้าใจแนวทาง ทิศทางการขับเคลื่อนงาน ก ร ม ก า ร พั ฒ น า ชุ ม ช น ปี ง บ ป ร ะ ม า ณ พ . ศ . 2567 2. เพื่อเป็นกรอบและแนวทางในการขับเคลื่อนการ ด าเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล (Agenda) งานตาม ภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชน (Function) และงานใน ระดับพื้นที่ (Area) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรม ระยะเวลา 2 ชั่วโมง (10.00 น. - 12.00 น.) ขอบเขตเนื้อหาวิชา 1. แนวทางในการขับเคลื่อนการด าเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล 2. แนวทางในการขับเคลื่อนการด าเนินงานตามนโยบายของรัฐมนตร ีว่าการกระทรวงมหาดไทย 3. แนวทางในการขับเคลื่อนการด าเนินงานตามภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชน (Function) และงานใน ระดับพื้นที่ (Area) 4. 10 ประเด็นย้าของอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนในการขับเคลื่อนการท างานของกระทรวงมหาดไทยและ กรมการพัฒนาชุมชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เทคนิค/วิธีการ/กระบวนการ วิทยากร นางทัศนีย์ ชัยคุณแสง ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน บรรยายผ่านระบบ Zoom Online เรม่ิต้นด้วยการสรา้งบรรยากาศที่เป็นกันเองทักท้ายผู้เข้ารับการฝึกอบรม แนะน าตนเอง พร้อมน าเข้าสู่เนื้อการ บรรยาย รายละเอียดดังนี้ 10 นโยบายส าคัญของรองนายกรัฐมนตร ีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีระกูล ในการ ขับเคลื่อนภารกิจ “บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข” ของกระทรวงมหาดไทย 1. การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ โดยการน้อมน าแนวพระราชด าร ิมาประยุกต์ใช้เพื่อ เป็นการส่งเสร ิมและพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. น้าดื่มสะอาดฟร ี ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน 3. ส่งเสร ิมการติดตั้ง Solar Cell / Solar Rooftop ในสถานที่ราชการและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และใชก้ ับไฟฟ้าส่องสว่างสาธารณะ 4 . พ ลั ง ง า น ส ะ อ า ด มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด โดย ส นั บ ส นุ น ใ ห้ มี ก า ร ติ ด ตั้ ง พ ลั ง ง า น แสงอาทิตย์ (Solar Cell) ในที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กับประชาชน 5. การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพลหร ือกลุ่มที่มีการใช้ อ านาจเหล่านั้นในทางมิชอบ 4


6. การบร ิการประชาชนแบบ One Stop Service มุ่งหน้าสู่ระบบรัฐบาลดิจิทัลเป็นแนวทาง ส าคัญของรัฐบาล 7. การอ านวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ส่งเสร ิมให้จังหวัด อ าเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วางแผนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวบูรณาการจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ 8. การส่งเสร ิมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจ าหน่าย เร ื่องการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ชุมชนตามอัตลักษณ์ที่โดดเด่น (OTOP) ซึ่งสามารถท าได้ด้วยการประสานกับภาคเอกชนเพื่อให้เข้าใจ แนวโน้มตลาดมากขึ้น 9. การแก้ไขปัญหายาเสพติด เสร ิมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน ชุมชน ตามแนวทางหมู่บ้าน ชุมชนสีขาวปลอดยาเสพติด มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับพื้นที่อย่างจร ิงจัง รวมทั้งการ ป้องกัน ปราบปราม และบังคับใช้กฎหมาย การบ าบัดรักษา ให้มองผู้เสพคือผู้ป่วย น าผู้เสพยาเสพติดไปเข้ารับ การบ าบัดรักษาและได้รับการฟื้นฟูเพื่อคืนคนดีสู่สังคม 10. สนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิและการเตรยีมความพรอ้มท้องถิ่นรองรบั สังคมผู้สูงอายุ 10 ประเด็นเน้นย้าของอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ในการขับเคลื่อนการท างาน ของกระทรวงมหาดไทยและกรมการพัฒนาชุมชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ไตรมาส 1) 1. การพัฒนาศักยภาพศูนย์เร ียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยในไตรมาสที่ 1 จะต้องร่วมกันขขับเคลื่อนให้มีการจัดตั้งเคร ือข่ายศูนย์เร ียนรู้โคก หนอง นา ครบทุกระดับ มีการประเมินผลศูนย์การเร ียนรู้ และมีการจัดท าแผนขับเคลื่อนการพัฒนาศูนย์เร ียนรู้ฯ “โคก หนอง นา โมเดล” ตามกรอบแนวคิด 5P ภายในเดือนธันวาคม 2566 2. การสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้มีการขยายผลการปลูกผักสวนครัว จาก 10 ชนิดเป็น 30 ชนิดทุกชนิด และรณรงค์ขับเคลื่อนการปลูกผักสวนครัว อย่างน้อย 10 ชนิด ณ ที่ว่าการอ าเภอให้ครบทุกอ าเภอ 5


3. โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสร ิมการใช้และสวมใส่ผ้าไทยทุกวัน มีการ ส่งเสรมิการใช้เส้นใยธรรมชาติการย้อมสีธรรมชาติให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสรมิช่องทาง การตลาดให้มีรายได้จากการจา หน่ายผ้าไทยเพิ่มขึ้น เน้นย ้ า “ต้องท า 1 ให้ได้มากกว่า 1” คือ การกระจายรายได้สู่ ชุมชน ต าบล หมู่บ้าน โดยเน้นใช้วัตถุดิบจากชุมชน ใช้แรงงานจากคนในชุมชน อาทิ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเยาวชน ทั้งนี้ควรมีการเพิ่มการประชาสัมพันธใ์ห้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขนึ้เชน่การรวีวิการทอผ้า อัตลักษณ์ของผ้า แต่ละพื้นถิ่น เป็นต้น 4. ศูนย์อ านวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) เน้นย้า ศจพ.ทุกระดับ ทีมปฏิบัติการต าบล และทีมพี่เลี้ยง ติดตาม ดูแลให้ความ ช่วยเหลือครัวเร ือน TPMAP ปี 2566 จนผ่านเกณฑ์ จปฐ. ปี 2567 ครบทุกครัวเร ือน 5. โครงการหนึ่งต าบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ให้มีการส่งเสรมิการผลิต เพิ่มช่องทาง การตลาดและการจ าหน่ายสินค้า OTOP ให้มียอดจา หน่ายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และศูนย์จ าหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ภายใต้การดูแลของกรมฯ ให้มีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ Digital Wallet 6. กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้มีการเพิ่มจ านวนสมาชิกบุคคลธรรมและองค์กร รวมทถึง ส่งเสร ิมให้มีการรวมกลุ่มที่มีประสิทธิภาพให้เกิดการหนุนเสร ิมอาชีพ เน้นย้า ให้มีการรับรองงบดุล จัดท าทะเบียน ลูกหนี้ โดยให้รับรองข้อมูลยอดหนี้ที่เป็นจร ิง 6


7. การขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ แพลตฟอร์มบร ิการดิจิทัล “Click ชุมชน” ให้มีการจัดท าสื่อ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ทุกประเด็น เพื่อให้มีการเข้าถึงและมีความน่าสนใจ มีประเด็นเน้นย้า 5 ข้อ คือ 1. ทบทวนกลไกและแต่งตั้งคณะท างานในการสนับสนุนการใช้ประโยชน์แพลตฟอร์ม บร ิการดิจิทัล Click ชุมชน 2. บันทึกข้อมูลในบร ิการของ Click ชุมชน ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบันทุกบร ิการที่ เกี่ยวข้อง (เช่น Shop ชุมชน, ความรู้ชุมชน, ปราชญ์ชุมชน, ทุนชุมชน, CDD พาเที่ยว, ๑๐8 อาชีพ, ข่าว Event) 3. เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์การใช้บร ิการแพลตฟอร์มบร ิการดิจิทัล Click ชุมชน อย่าง น้อยเดือนละ ๑ ครั้ง ผ่านช่องทาง ที่หลากหลาย อย่างน้อย ๒ ช่องทาง 4. จัดกิจกรรมขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ จากแพลตฟอร์มบร ิการดิจิทัล Click ชุมชน อย่างน้อย ๑ กิจกรรม/เดือน 5. ส่งเสร ิมให้มีการดาวน์โหลดเพื่อใช้ประโยชน์แพลตฟอร์มบร ิการดิจิทัล Click ชุมชน ตามเป้าหมายที่กรมฯ ก าหนด (จังหวัดขนาดเล็ก 8๐0 ดาวน์โหลด/ จังหวัดขนาดกลาง ๑,000 ดาวน์โหลด จังหวัดขนาดใหญ่ ๑,๒๐๐ ดาวน์โหลด)/เดือน 7


8. การบร ิหารการจัดเก็บข้อมูลความ จ าเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ขอให้ร่วมให้ข้อมูล จปฐ. ที่เป็น จร ิง มีการทบทวนและแต่งตั้งคณะท างานบร ิหารการ จัดเก็บฯ ทุกระดับ แต่งตั้งอาสาสมัตรจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ลงทะเบียนผู้จัดเก็บ ข้อมูล จปฐ /ระบบจัดเก็บ / การบันทึกข้อมูล และประชุมเชิงปฏิบัติการชี้แจงแก่ อาสาสมัครฯ เพื่อให้เข้าใจตรงกัน และให้ด าเนินการ ให้เสรจ็สิ้นภายในระยะเวลาที่ก าหนด 9. กองทุนชุมชน เน้นย้าในเร ื่องของการออมเป็นเร ื่องส าคัญ “ได้เท่าไหร่ให้ออมก่อน เหลือ เท่าไหร่ค่อยมาใช้จ่าย” และรณรงค์ให้กองทุนแต่ละกองทุนส ารวจตนเอง ต้องวิเคราะห์การบร ิหารจัดการเงินของ ตนเองได้ ให้ปร ึกษาผู้เชี่ยวชาญในการบร ิหารการจัดเก็บเงินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนหนุนการผลิต แก้ปัญหาหนี้สิน และให้มีการออม 10. บร ิษัทประชารัฐรักสามัคคี เน้นให้มีการส่งเสร ิมให้บร ิษัทเข้ามาจดทะเบียนเป็นคู่ค้ากับ หน่วยงานภาครัฐ มีการจดทะเบียนพาณิชย์ และจับมือกลุ่มภาคีเคร ือข่ายที่ท างานเพื่อสังคม จะท าให้สามารถต่อ ยอดการท าก าไรได้ แสะสามารถสนับสนุนชาวบ้านได้ต่อไป 8


สรุปผลการเร ียนรู้ กลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับทราบถึงทิศทางการขับเคลื่อนงานกรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีความตั้งใจในการเร ียนรู้ และมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ร่วมกับวิทยากร วิทยากร ได้ถ่ายทอดการท างานในพื้นที่สู่การปฏิบัติ เชื่อมโยงการขับเคลื่อนงานนโยบายส าคัญในทุกระดับ ภารกิจส าคัญ ระดับจังหวัด/อ าเภอ ระดับพื้นที่/ชุมชน และงานส าคัญพิเศษ ด้วยหลักปรัชญาการพัฒนาชุมชน ท าให้ กลุ่มเป้าหมายสามารถน าความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้และเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนงาน ในพื้นที่ วิชา ทบทวนผลการด าเนินงานตามภารกิจ กรมการพัฒนาชุมชน ประงบประมาณ พ.ศ. 2566 วิทยากรหลัก/ผู้รับผิดชอบ 1. วิทยากรหลัก : ทีมวิทยากร ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง 2. ผู้รับผิดชอบสรุปเนื้อหา : นางกรรณิการ์ ก๋าวิตา นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อทบทวนผลการด าเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 2. เพื่อวิเคราะห์จัดล าดับความส าคัญและประเมินผลการด าเนินงาน 3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เร ียนรู้เทคนิคการท างานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท างานใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระยะเวลา 4 ชั่วโมง (13.00 น. - 17.00 น.) ขอบเขตเนื้อหาวิชา 1. ทบทวนผลการด าเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 2. วิเคราะห์จัดล าดับความส าคัญและประเมินผลการด าเนินงาน 3. เร ียนรู้เทคนิคการท างานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท างานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 9


เทคนิค/วิธีการ/กระบวนการ 1. วิทยากร น าเข้าสู่กระบวนการ การทบทวนผลการด าเนินงานตามภารกิจ กรมการพัฒนาชุมชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (เหลียวหลัง) โดยแบ่งกลุ่มตามจังหวัด จ านวน 9 กลุ่ม ได้แก่ เชียงใหม่1 , เชียงใหม่ 2 , เชียงราย , แม่ฮ่องสอน , ล าพูน , ล าปาง , พะเยา , แพร่ , น่าน ทีมวิทยากรแบ่งกิจกรรม เป็น 2 กิจกรรมหลัก คือ 1.1 กิจกรรมรายบุคคลคล กิจกรรมที่ 1 : เคร ื่องมือการทบทวนงานที่ผ่านมา 1.2 กิจกรรมรายกลุ่มจังหวัด กิจกรรมที่ 2 : เคร ื่องมือจัดล าดับความส าคัญและประเมินผลการด าเนินงาน กิจกรรมที่ 3 How to… กิจกรรมที่ 4 Shopping 2. วิทยากรน าเข้าสู่กระบวนการ กิจกรรมทั้ง 4 กิจกรรม เพื่อทบทวนการด าเนินงานที่ผ่านมาในปี 2566 เคร ื่องมือการทบทวนงานที่ผ่านมา โดยใช้การท าใบงานทั้งใบงานรายบุคคล และใบงานรายกลุ่มจังหวัด เป็นการ เร ียนรู้ผ่านการฝึกปฏิบัติและน าเสนอแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ กิจกรรมที่ 1 : เคร ื่องมือการทบทวนงานที่ผ่านมา ทีมวิทยากร ศพช.ล าปาง แจกใบงานที่ 1 รายบุคคล ให้เวลา 15 นาที โดยให้ผู้เข้าอบรม ทบทวนงาน งาน/ภารกิจ ที่ด าเนินการในรอบปีที่ผ่านมา ทุกภารกิจ ทั้งที่เป็นภารกิจหลัก ภารกิจที่ให้การสนับสนุน หร ืองาน อื่นๆ และให้ คะแนน 1- 4 คะแนน ด้านความส าคัญ และ ด้านท าได้ดี ในแต่ละภารกิจ ซึ่งแต่ละด้านมีเกณฑ์ ดังนี้ มีความส าคัญ 1. เป็นภารกิจของกรมฯ และสอดคล้องกับแผนฯ ตอบสนองยุทธศาสตร์/SDG/BCG 2. ผู้บร ิหารให้ความส าคัญ (ระดับจังหวัด ระดับอ าเภอ) 3. ประชาชน / ผู้มีส่วนได้เสีย ให้ความสนในและให้ความส าคัญ 4. ส่งผลกระทบทางบวกต่อกรมและหน่วยงานภายนอก ท าได้ดี 1. มีความเข้าใจในภารกิจอย่างชัดเจน 2. สามารถขับเคลื่อนงานได้เห็นเป็นรูปธรรม 3. ได้รับค าชื่นชมจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและสามารถเป็นต้นแบบได้ 4. มีการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติเป็นวิถี หมายเหตุ : 1. การให้คะแนนลงในใบงาน หากผ่านเกณฑ์ในแต่ละด้านทั้ง 4 ข้อได้ 4 คะแนน หากไม่ครบก็ได้ คะแนนลดลงไป) 10


3. ช่อง How to/เทคนิค ยังไม่ต้องเขียน กิจกรรมที่ 2 : เคร ื่องมือจัดล าดับความส าคัญและประเมินผลการด าเนินงาน ทีมวิทยากร ศพช.ล าปาง แจกใบงานที่ 2 รายกลุ่มจังหวัด ให้เวลา 40 นาที โดยให้ทั้ง 9 กลุ่มจังหวัดช่วยกันวิเคราะห์จัดล าดับ ความส าคัญและประเมินผลการด าเนินงาน /ภารกิจ ที่ด าเนินการใน ปีที่ผ่านมาทุกภารกิจ โดยน าคะแนนด้านมีความส าคัญ และด้านท า ได้ดี มาใส่ลงในตาราง matrix 2 แกน เคร ื่องมือ Matrix นี้ จะมี2 แกน โดยแกนแนวตั้ง เป็นเร ื่องงานมีความความส าคัญ ส่วนแกนแนวนอนเป็นเร ื่องงานที่ ท าได้ดีในแกนสองแกนนี้จะแบ่งเป็นตารางทั้งหมด 4 ช่อง ซึ่งมีความหมายดังนี้ ตารางช่องที่ 1 ด้านบนขวา หมายถึง งานที่มีความส าคัญและท าได้ดี ตารางช่องที่ 2 ด้านบนซ้าย หมายถึง งานที่มีความส าคัญแต่ยังท าได้ไม่ค่อยดี ตารางช่องที่ 3 ด้านล่างขวา หมายถึง งานที่ท าได้ดีแต่ไม่มีความส าคัญ ตารางช่องที่ 4 ด้านล่างซ้าย หมายถึง งานที่ไม่มีความส าคัญและยังท าได้ไม่ค่อยดี 11


กิจกรรมที่ 3 How to… ทีมวิทยากร ศพช.ล าปาง แจกใบงานที่ 3 รายกลุ่มจังหวัด ให้เวลา 50 นาที โดยให้ทั้ง 9 กลุ่มจังหวัด ช่วยกันถอดกระบวนการท างาน/เทคนิค How to.. โดยน างาน/ภารกิจ ที่อยู่ในกล่องมีความส าคัญและท าได้ดี และกล่อง มีความส าคัญแต่ยังท าได้ไม่ค่อยดี มาถอดกระบวนการ/เทคนิคการท างาน (How to) โดยยังไม่ต้อง ใส่ช่อง Shopping และให้น าเสนอ กลุ่มละ 5 นาที 12


กิจกรรมที่ 4 Shopping ทีมวิทยากร ศพช.ล าปาง แจกใบงานที่ 4 รายกลุ่มจังหวัด ให้เวลา 15 นาที โดยให้ทั้ง 9 กลุ่มจังหวัด แลกเปลี่ยนเร ียนรู้ และน าข้อมูลที่ได้จากการเร ียนรู้ น ามาเชื่อมโยงประสบการณ์ ปรุยุกต์ใช้กับงานของเรา โดย ใส่ลงในช่อง Shopping และให้น าเสนอ กลุ่มละ 5 นาที 13


สรุปผลการเร ียนรู้ กลุ่มเป้าหมายได้ทบทวนผลการด าเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วิเคราะห์จัดล าดับความส าคัญ และประเมินผลการด าเนินงาน รวมถึงเร ียนรู้เทคนิคการท างานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท างาน เพื่อจะ น าองค์ความรู้ไปปรับใช้ในการบร ิหารงานพื้นที่เชิงกลยุทธ์ ภายใต้สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง วิชา การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกกับงานพัฒนาชุมชน วิทยากรหลัก/ผู้รับผิดชอบ 1. วิทยากรหลัก : ดร.ญาณวิธ นราแย้ม 2. ผู้รับผิดชอบสรุปเนื้อหา : ว่าที่ ร.ต.ชัยณรงค์ บัวค า นักทรัพยากรบุคคล วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกกับงานพัฒนาชุมชน ๒. เพื่อเป็นแนวทาง ต้นแบบในการออกแบบการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ให้เหมาะสมและทันต่อ สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง ระยะเวลา 3 ชั่วโมง (09.00 น. - 12.00 น.) ขอบเขตเนื้อหาวิชา Looking forward : (แลหน้า..จากสถานการณ์แนวโน้ม การเปลี่ยนแปลง ด้วยการเป็นนักขับเคลื่อนมือ อาชีพ) บรรยาย หัวข้อ : สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงของโลก / ประเทศไทย + การบร ิหารการเปลี่ยนแปลง และกิจกรรม Workshop : Change- Chance/Challenge-> Shift เทคนิค/วิธีการ/กระบวนการ วิทยากรบรรยายผ่านระบบ Zoom Online เร่มิต้นด้วยการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง ทักท้ายผู้เข้ารับการฝึกอบรม พร้อมน าเข้าสู่เนื้อการบรรยาย รายละเอียดดังนี้ เข้าสู่การเร ียนรู้ “งานพัฒนาชุมชนในโลก Transformation/ การเป็นนักขับเคลื่อนมืออาชีพในการ ท า ง า น พั ฒ น า ชุ ม ช น ยุ ค ใ ห ม่” “ ผู้ พั ฒ น า สู่ นั ก ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ” Change ManagementTransformation Era นักพัฒนาเป็นผู้น านโยบายหร ือค าสั่ง น าไปขับเคลื่อนงานในพื้นที่ตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ในความเป็นจรงิเมื่อน าสิ่งที่ได้รบัมอบหมายไปขับเคลื่อน อาจจะไม่สอดคล้องกับบรบิทของพื้นที่ซงึ่นักพัฒนา จะต้องสงวนจุดต่าง แสวงจุดร่วม เพื่อหาความเหมาะสมในการขับเคลื่อนงานต่อไป วิทยากรยกพระราชด ารัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี ในโอกาสได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลอินหิรา คานที ประจ าปี ๒๕๔๗ สาขาสันติภาพ การ ลดอาวุธ และการพัฒนา จากประเทศสาธารณรัฐอินเดีย เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ความว่า 14


เพื่อเป็นก าลังใจแก่นักพัฒนาทุกคน เพราะ นักพัฒนาทุกคน จะต้องใช้เวลา ใช้ความอดทน และพลังใจในการ ท างานอย่างมาก เพื่อให้เกิดการพัฒนาหร ือการเปลี่ยนแปลง นักพัฒนาจะต้องมีแรงบันดาลใจ หร ือจุดคิดของ ตนเองว่าก าลังท าอะไร เพื่อสร้างกระบวนการหร ือขั้นตอน เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาเปลี่ยนแปลงต่อไป วิทยากร แนะน าตนเอง โดย Power point ประกอบการบรรยาย ปัจจุบันเป็นที่ปร ึกษางานวิจัย งานวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ท าค่าย “เยาวชนแห่งแผ่นดิน” และงานด้านการการเกษตร ซึ่งตัววิทยากรจากการลง พื้นที่เห็นว่าภาคการเกษตรส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเร ื่อง ของการใช้สารเคมี ปัญหาด้านการตลาดซึ่งตั ว เกษตรกรไม่สามารถต่อรองราคากับคนกลางภาค การตลาดได้ มีแนวคิ ดของคนกลุ่มหนึ่งที่แปล ความหมายของ “เกษตรกร” ว่า “เป็นตะกอนนอนก้นของประเทศ” ซึ่งเป็นแนวคิดที่เกิดจากการเปร ียบเทียบให้ เห็นว่า เกษตรกรท าเท่าไหร่ก็ยังยากจน ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ วิทยากร ได้ให้ค าถามกับผู้เข้ารับการฝึกอบรมว่า “จะท าอย่างไรให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน” ซึ่งเป็นเร ื่องใหญ่เป็นวาระของประเทศ และให้หาความหมาย นิยามของค าว่า “ยากจน” เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม ได้รับทราบถึงความชัดเจน และตีความให้ถูกต้อง เปร ียบกับการท างานของนักพัฒนาเมื่อได้รับมอบหมายให้ ด าเนินการ เราจะต้องตีความ หาความชัดเจน นิยามของงานให้ถูกต้อง เพื่อจะได้ด าเนินการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 1. นิยามชัดเจน ภาระงานของเราคืออะไร เราก าลังท าอะไรอยู่ 2. เราเข้าใจบรบิท กลไกการเกิดขึ้นของสิ่งที่เราจะท าหรอืไม่ 3. เราเข้าใจในบร ิบทของพื้นที่ที่จะเข้าไปพัฒนาอย่างแท้จร ิงแล้วหร ือไม่ วิทยากร ได้เล่าถึงงานวิจัยในการพัฒนา แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร “ฟาร์มแกะ จังหวัดกระบี่” พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศ “เพนียดช้าง จังหวัดพระนครศร ีอยุธยา” มีการวิจัยน า มูลช้างไปแปลงเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า เพื่อการใช้ งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV ในจังหวัด 15


วิทยากร ชวนพูดคุยในประเด็น “จนถึงตอนนี้แล้ว เรายังต้องให้ความส าคัญกับ Digital Transformation” อยู่อีกไหม?” หากให้ความส าคัญ เราต้องค้นหาความหมายในแง่มุมของการพัฒนาชุมชน ท า ความเข้าใจกระบวนการการเปลี่ยนแปลง ค้นหาภาคีในการท างานเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน วิทยากร น าเข้าสู่เคร ื่องมือ AI ที่จะ ช่ ว ย ก า ร พั ฒ น า ชื่ อ ว่ า “ Chat GPT” โ ท ร ศั พ ท์ ร ะ บ บ ป ฏิ บั ติ ก า ร Android สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Google Play และระบบปฏิบัติการ IOS สามารถดาวน์ โหลดได้ที่ Play Store ซึ่งเป็นเคร ื่องมือใน การค้นหาทฤษฎี แหล่งอ้างอิง เพื่อใช้ ประกอบการท างานในการพัฒนาได้ วิทยากร ชวนพูดคุยในเร ื่องของ สกุลเงินดิจิทัล ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ สกุลบิตคอยน์สามารถน าออกมาใช้จ่ายซื้อขายได้ในชีวิตประจ าวัน เหมือนเงินจร ิงๆ หากน ามาปรับประยุกต์ใช้ในการค้าขายผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ก็จะเป็นการพัฒนางานและเกิด การเปลี่ยนแปลงได้ และในปัจจุบัน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาพูดถึง สกุลเงิน “บาทคอยน์” เงินดิจิทัลสัญชาติ ไทย โดย 1 บาทคอยน์ มีค่า = 1 บาท สามารถน าไปแลกเปลี่ยนได้ที่ธนาคาร ซึ่ง จะน ามาใช้อนาคตเร็วๆ นี้ เราจึงต้องท า ความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อย่างรวดเร็วนี้ เพื่อพัฒนาตนเองและ พื้นที่ที่เราจะเข้าไปในการท างาน วิทยากร ชวนพูดคุยในเร ื่อง Meta เป็นค าย่อจาก Most Effective Tactical Advantage หร ือเทคนิค การเล่นหร ือกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเอาชนะตัวเกมหร ือผู้เล่นรายอื่นซึ่งมักจะเปลี่ยนไป ตามการ อัพเดท (patch update) แต่ละครั้ง META เองก็ไม่ได้อยู่แต่ในโลกของเกมเท่านั้น แต่โลกของยุคแห่ง AI ที่มี บทบาทส าคัญถึงขั้นจะเปลี่ยนวิถีชีวิตมนุษย์ไปตลอดกาลจากความ อั จ ฉ ร ิ ย ะ ข อ ง ปัญญาประดิ ษฐ์ที่ สร้างมาเพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุดทาง ธุรกิจ และท าให้ประชาชนมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น ก็มี META วิทยากรเปิดคลิปสื่อยกตัวอย่างการใช้META ในการ เปิดหน้าร้านขายของ ซึ่งไม่จ าเป็นที่จะต้องมีหน้าร้านจร ิงๆ เรา สามารถเปิดร้านออนไลน์เพื่อขายสินค้าหร ือผลิตภัณฑ์ และจัดส่ง ให้ลูกค้าได้ตาม Order ที่ลูกค้าสั่งได้เลย 16


วิทยากร กล่าวถึงการท างานหร ือการ พัฒนา หากเราสามารถพัฒนาได้ก่อน เหตุการณ์หร ือการเปลี่ยนนั้นจะมาถึง เรา จะสามารถยืนอยู่ได้ในสถานการณ์นั้นๆ พร้อมยกตัวอย่าง บังซัน และพิมร ี่พาย ที่ ท าการค้าขายผ่าน แพลตฟอร์มออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ท าให้ผ่าน สถานการณ์มาได้ และสามารถต่อยอด ธุ ร กิ จ ข อ ง ต น เ อ ง ไ ด้ อ ย่ า ง ป ร ะ ส บ ความส าเร็จ วิทยากร กล่าวถึง Key word ส าคัญในยุคนี้ StartUp ถือเป็นวิสาหกิจกลุ่มใหม่ ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าว กระโดด ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ สามารถประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อมาสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว จึงเป็นวิสาหกิจแห่งอนาคตที่จะเป็นอีกหนึ่งก าลังส าคัญ ในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย Innovation หร ือ นวัตกรรม หมายถึง การสรา้งสิ่งใหม่หรอืการพัฒนาแนวคิดใหม่เพื่อสรา้งความส าเรจ็ และความเป็นเลิศในองค์กรหร ือในสังคม เกี่ยวข้องกับการค้นหาวธิีใหม่ในการท าสิ่ง ต่ า ง ๆ ทั้ ง ใ น ด้ า น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ บ ร ิก า ร กระบวนการ หร ือรูปแบบการด าเนินงานที่ สามารถท าให้ มี ประสิ ทธิภาพมากขึ้ น นวัตกรรมสามารถเกิดขึ้นได้จากการรวบรวม ความรู้ที่มีอยู่แล้ว การใช้เทคโนโลยีใหม่ การ ปรับเปลี่ยนในการคิดและวัฒนธรรมองค์กร หร ือจากการตอบสนองต่อความต้องการหร ือ ปัญหาที่มีอยู่ในสังคม Design Thinking หร ือ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ คือ กระบวนการคิดเพื่อแก้ไขปัญหาหร ือโจทย์ให้ ถูกจุด ตลอดจนพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาหร ือโจทย์ที่ตั้งไว้ เพื่อที่จะหาวิถีทางที่ดีที่สุดและเหมาะสม ที่สุด การแก้ปัญหาบนพื้นฐานกระบวนการนี้จะเน้นยึดไปที่หลักของผู้ใช้/ผู้บร ิโภค (User-centered) เป็นหลัก โดยมีเจตนาในการสร้างผลลัพธ์ในอนาคตที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ตอบโจทย์ตลอดจนแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รวมไปถึงเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ E-Commerce / M-Commerce หร ือเร ียกเต็มๆว่า Mobile Commerce คือ การท าธุรกรรมการเงิน ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยสืบเนื่องมาจากการค้าอิเล็กทรอนิกส์ E-Commerce (ขายของออนไลน์) เช่น การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ จองตั๋วหนังออนไลน์โดยช าระเงินทันทีเมื่อท าการสั่งซื้อเสร็จโดย M-Commerce จะ มุ่งไปที่สั่งซื้อผ่านมือถือเท่านั้น ในปัจจุบันได้มีการพัฒนา Application ต่างๆ มารองรับการช าระเงินแบบ ออนไลน์มากขึ้น เพื่ออ านวยความสะดวกให้กับลูกค้า ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลารวบรัดการตัดสินใจของผู้ซื้อได้เร็ว ขึ้น ท าให้ e-commerce เติบโต ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก (แทนการเดินทางไปซื้อที่หน้าร้าน/เดินหาสินค้า) เข้าหลักการท า e-Commerce 4.0 ตามที่รัฐบาลสนับสนุน 17


Social Media / Digital Marketing คือ กลยุทธ์การใช้สื่อดิจิทัลทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในการท า การตลาด เพื่อโปรโมทสินค้า หร ือสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งสื่อที่ใช้ครอบคลุมตั้งแต่ป้ายดิจิทัลบิลบอร์ด SMS ทีวีดิจิทัล อีเมล แอปสโตร์SEO SEM ไปจนถึงหน้าเว็บไซต์ โดยมีจุดประสงค์คือการ “เข้าถึง” ลูกค้าให้ได้ จา นวนมาก และตรงกลุ่มเป้าหมาย ให้ลูกค้าได้รูจ้กักับผลิตภัณฑ์โดยที่จะเน้นน าเสนอสิ่งที่ผู้บรโิภคชนื่ชอบ และ เกาะกับกระแสที่เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้น ด้วยรูปแบบที่น่าสนใจ และSocial Media Marketing เป็น ส่วนประกอบหนึ่งของ Digital Marketing ซึ่งมีบทบาทส าคัญมาก เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความเป็นธรรมชาติ สูง เป็นชอ่งทางที่“คนว่งิเข้าหา” เชน่ LINE Facebook Twitter ฯลฯ ดังนั้นแบรนด์และนักการตลาดจึงนิยมใช้ ช่องทางโซเชียลมีเดียเหล่านี้ เพื่อสื่อสารและสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย Big Data คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีทั้งหมดภายในองค์กร เช่น ข้อมูลของบร ิษัท ข้อมูลติดต่อของ ลูกค้า ข้อมูลติดต่อของผู้ร่วมธุรกิจ ลักษณะของผู้บร ิโภค การท ารายการธุรกิจต่างๆ ในแต่ละวัน ตัวอักษร ไฟล์ เอกสาร รูปภาพ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ แทบทุกประเภทที่อยู่บนโลกออนไลน์เมื่อข้อมูลมีปร ิมาณมากจึงต้องอาศัย ระบบประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับปร ิมาณข้อมูลที่มีอยู่อย่างมหาศาล เบื้องต้นการเก็บข้อมูลแบบ Big Data นี้ สามารถน าไปวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่างๆ เพื่อน าไปวางแผน และตัดสินใจ ในการด าเนินธุรกิจ หร ือ ชว่ยเพิ่มโอกาสในการท าธุรกิจให้ก้าวหน้ามากขึ้น A.I. ภาษาไทยเร ียกว่า “ปัญญาประดิษฐ์” A.I. ย่อมาจาก Artificial Intelligence คือ โปรแกรม คอมพิวเตอร์ที่มีฟังก์ชันที่สามารถท างานได้เหมือนกับมนุษย์ และสามารถเลียนแบบการท ากิจกรรมของมนุษย์ได้ เช่น การเร ียนรู้ การวางแผน และการแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นตัวช่วยมนุษย์ในการคิด ซึ่งจะเน้นไปในเร ื่องของการ ประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพราะ AI สามารถท างานได้รวดเร็วกว่าสมองของมนุษย์ แต่ใน ขณะเดียวกัน AI ยังไม่สามารถท าหน้าที่ที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสได้ระบบ AI ท างานโดยการรับข้อมูล วิเคราะห์ ข้อมูล และประมวลผล เพื่อให้ได้ผลตอบกลับมา ไม่ว่าจะผ่านการใช้ค าพูด ข้อความ หร ือการกระท าต่างๆ ผลที่ ตอบกลับมาก็อยู่ที่ว่าเราต้องการให้ตอบกลับมาเป็นแบบไหน และเอาผลลัพธ์นั้นมาใช้ประโยชน์ให้ตรงกับ จุดประสงค์ของเรา อีกทั้งยังสามารถใช้รูปแบบการท างานนี้เพื่อคาดการณ์สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อในอนาคต ได้ เช่น แชทบอทที่ตอบข้อความอัตโนมัติได้เหมือนกับคน หร ือความสามารถในการจดจ าภาพ ซึ่งการท างานของ ระบบทั้งหมดนั้นต้องถูกเขียนโปรแกรมขึ้นมา โดยการเขียนโปรแกรมของ AI นั้นจะเน้นไปที่ทักษะการรับรู้ต่างๆ ดังนี้ • การเร ียนรู้ (Learning)โดยจะเน้นไปที่การรับข้อมูลและสร้างกฎส าหรับการเปลี่ยนเป็นข้อมูลที่น าไปใช้ได้ จร ิง ซึ่งกฎนั้นเร ียกว่า อัลกอร ิทึม (Algorithms) คือ กระบวนการแก้ปัญหาที่อธิบายเป็นขั้นตอนไว้อย่างชัดเจน • การใช้เหตุผล (Reasoning)เน้นการตัดสินใจเลือกอัลกอร ิทึมที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ • การแก้ไขข้อผิดพลาด (Self-correction)ในส่วนนี้จะได้รับการออกแบบเพื่อปรับแต่งอัลกอร ิทึมให้ วิเคราะห์ได้อย่างละเอียด เพื่อรับประกันว่าจะได้ผลลัพธ์ที่แม่นย าที่สุด • การมีความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)เป็นส่วนที่ใช้เคร ือข่ายประสาทเทียม อิงตามกฎ วิธีทางสถิติ และ เทคนิคอื่นๆ เพื่อให้สามารถสร้างภาพใหม่ๆ เพลงใหม่ หร ือแนวคิดใหม่ๆ ได้ Internet Of Things (IOT) หร ือ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง หมายถึง เครอืข่ายรวมของอุปกรณ์ ที่เชื่อมต่อถึงกันและเทคโนโลยีที่อ านวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับระบบคลาวด์ ตลอดจน ระหว่างอุปกรณ์ด้วยกันเอง จากการเกิดขึ้นของชิปคอมพิวเตอร์ราคาไม่แพงและการสื่อสารโทรคมนาคมที่มี แบนด์วิดท์สูง จึงท าให้ตอนนี้เรามีอุปกรณ์หลายพันล้านเคร ื่องที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งหมายความว่า อุปกรณ์ต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน เช่น แปรงสีฟัน เคร ื่องดูดฝุ่น รถยนต์ และเคร ื่องจักรสามารถใช้เซ็นเซอร์เพื่อ รวบรวมข้อมูลและตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างชาญฉลาด Fundraising การระดมทุน / Crowdfunding คือ รูปแบบของการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม และ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านการระดมทุน สาธารณะ เพื่อให้ธุรกิจเกิดใหม่แบบ Startup หร ือรายย่อยอย่าง SMEs 18


มีเงินทุนหมุนเวียนพัฒนา ต่อยอด สร้างสรรค์ต่อไปได้ โดยผู้ประกอบการเป็นผู้เปิดหร ือแสดงความประสงค์ เงินทุนจากมวลชนหมู่มากในจ านวนคนละเล็กละน้อย ผ่านผู้ให้บร ิการบนโลกออนไลน์ Blockchain คือ กลไกฐานข้อมูลขั้นสูงที่เปิดรับการแบ่งปันข้อมูลที่โปร่งใสภายในเคร ือข่ายธุรกิจ โดย ฐานข้อมูลบล็อกเชนจะจัดเก็บข้อมูลในบล็อกที่เชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวจะมีความสอดคล้องกัน ตามล าดับเวลาเนื่องจากคุณไม่สามารถลบหร ือแก้ไขลูกโซ่ได้หากไม่ได้รับฉันทามติจากเคร ือข่าย ด้วยเหตุนี้ คุณ จึงสามารถใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างบัญชีแยกประเภทที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้และไม่เปลี่ยนรูปเพื่อ ติดตามค าสั่งซอื้การชา ระเงนิบัญชีและธุรกรรมอื่นๆ ระบบดังกล่าวมีกลไกภายในที่ป้องกันการเพิ่มธุรกรรมที่ ไม่ได้รับอนุญาตและสร้างมุมมองของธุรกรรมร่วมเหล่านี้อย่างสม่าเสมอ วิทยากร บรรยายเชื่อมโยงไปถึงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เนื่องจากประเทศไทย S-CURVE รายได้ ระดับกลางค่อนไปทางน้อย เนื่องจากการประกอบกิจการภายในประเทศ ยังมีการขาดทุนอยู่ในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเกษตรกร หากทุกท่านสามารน าความคิดสร้างสรรค์ไปพัฒนาต่อยอดในภาคการเกษตร ได้ เช่น การสร้างผลิตภัณฑ์ส่งเสรมิแหล่งท่องเที่ยวภายในพื้นที่เพื่อเพิ่มมูลค่าของสิ่งที่มีในพื้นที่ โดย อุตสาหกรรมสร้างสรรค์แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม 15 สาขา แบ่งออกได้ดังนี้ 1) งานฝีมือและหัตถกรรม 2) ดนตร ี 3) ศิลปะการแสดง 4) ทัศนศิลป์ 5) ภาพยนตร์ 6) การแพร่ภาพและกระจายเสียง 7) การพิมพ์ 8) ซอฟต์แวร์ 9) การโฆษณา 10) การออกแบบ 11) การให้บร ิการด้านสถาปัตยกรรม 12) แฟชั่น 13) อาหารไทย 14) การแพทย์แผนไทย 15) การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 19


วิทยากร บรรยายเชื่อมโยงไปแผนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาพื้นที่ยั่งยืนส าหรับประเทศไทย (Thailand's SDG Roadmap) เป็นยุทธศาสตร์ชาติเกิดจากคณะกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) 6 มิติ วิทยากร บรรยายเชื่อมโยงไปในเร ื่องของ Business Model แบบจ าลองธุรกิจ ที่สร้างขึ้นมาให้เห็นภาพ ของธุรกิจครบวงจร ช่วยให้การด าเนินธุรกิจมีทิศทางที่ชัดเจน ทีมงานรู้และเห็นภาพตรงกัน ดังนั้นโมเดลธุรกิจ ควรคิดก่อนการเรม่ิธุรกิจ แต่หากได้ท าธุรกิจไปแล้วก็ยังสามารถน าโมเดลธุรกิจมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น คิดให้เป็นภาพรวมมากขึ้น ในการท างานของนักพัฒนา ในภาคราชการ ส่วนใหญ่จะเป็น รู ป แ บ บ ข อ ง โ ค ร ง ก า ร แ ผ น ยุทธศ าส ตร์ กิ จก รรม ห าก เ รา สามารถน า Business Model มา สอดแทรกในแผนงานโครงการที่จะ ไปด าเนินการ จะท าให้โครงการ กิจกรรมนั้นน่าสนใจ WOW มาก ยิ่งขึ้น เกิดการคิดงานหรอืกิจกรรมที่ ออกมาในรูปแบบของธุรกิจ เมื่อ ด าเนินการแล้วผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ มากที่สุดคือลูกค้าหร ือชาวบ้านในชุมชนนั่นเอง วิทยากร ชวนพูดคุยในเร ื่องของ Soft Power ซึ่งนักพัฒนาของกรมการพัฒนาชุมชน จะต้องเตร ียมตัว ในเร ื่องนี้ โดยเฉพาะในเร ื่องของผลิตภัณฑ์ OTOP และการท่องเที่ยวในชุมชน และเชื่อมโยงงานต่างๆ ตาม นโยบายของรัฐบาล ที่กรมการพัฒนาชุมชนจะต้องเข้าไปหนุนเสร ิม อาทิเช่น เศรษกิจฐานราก กองทุนพัฒนา บทบาทสตร ี เป็นต้น 20


ในช่วงสุดท้าย วิทยากรได้ร ีวิวประเทศไทยในสถานการณ์ต่างๆ ตั้งแต่สถานการณ์ในการเปลี่ยนสนามรบ เป็นสนามการค้า ในสมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณณ ผู้บร ิหารประเทศ สถานการณ์ต้มย ากุ้ง พ.ศ. 2540 พิษ ทางเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดของประเทศ สถานการณ์โควิด 2019 ที่ท าให้ทุกอย่างบน โลกเปลี่ยนไปในหลายมิติโดยเฉพาะการ ท่องเที่ยว แต่การท่องเที่ยวที่ยังสามารถผ่าน สถานการณ์ต่างๆ มาถึงในยุคปัจจุบันก็คือ การท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่กรมการพัฒนา ชุมชนคอยหนุนเสร ิมอยู่นั่นเอง 21


เข้าสู่ช่วงกิจกรรม Work Shop วิทยากรได้ชวนพูดคุยและอธิบาย โดยให้แนวคิด 2 แนวคิดเป็นหลักที่ จะใช้ในการท ากิจกรรม คือ 1. แนวคิดจากหนังสือ StrengthsFinder และ 2. แนวคิดการท า OnePage ของ ทางประเทศญี่ปุ่น พร้อมมอบโจทย์ ให้เวลา 30 นาที ดังนี้ วิทยากรมอบใบงาน Workshop โดยมีช่องสี่เหลี่ยมอยู่ 3 ช่อง และให้ระดมสมองภายในกลุ่มของ ตนเอง เขียนใส่กระดาษ Post it แล้วน าติดลงบนในงานของกลุ่มตน ช่องสีฟ้า ให้กลุ่มร่วมกันพูดคุยภาระงานที่ท าอยู่ในพื้นที่ ให้เขียน A1, A2 แล้วตามด้วยภาระงาน (สามารถน าภาระงานที่วเิคราะห์ในวชิาวันก่อนหน้ามาใส่ได้เลย หรอืจะเพิ่มภาระงานใหม่ก็ได้) ช่องสีเหลือง ให้ร่วมกันพูดคุยประเด็นการเปลี่ยนแปลงที่กระทบกับภาระงาน ให้เขียน B1, B2 แล้วตาม ด้วยผลกระทบ และให้เขียนว่าผลกระทบด้านบวก หร ือด้านลบ ด้วย ช่องสีเขียว ให้น าผลจากช่องสีฟ้า (A1,A2) และช่องสีเหลือง (B1,B2) มารวมเข้าด้วยกัน อาจจะรวมเป็น กลุ่มก็ได้หามีประเด็นที่เกี่ยวข้องกัน มาติด ร่วมกันระดมความคิดในการหาแนวทางการท างานใหม่ๆ ที่เราจะ สามารถไปด าเนินการงานในพื้นที่ได้ โดยหมายเหตุไว้ด้วยว่าตรงกับยุทธศาสตร์ของกรมการพัฒนาชุมชนในข้อ ใด เมื่อครบ 30 นาทีแล้ว วิทยากรได้ท าการสุ่มคัดเลือกน าเสนอผ่านระบบ Zoom Online ให้กับศูนย์ศึกษาและ พัฒนาชุมชน ทั้ง 11 แห่ง ได้รับฟังแลกเปลี่ยนเร ียนรู้กัน ซึ่งผลงานของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง ได้ แบ่งกลุ่มออกเป็น 9 กลุ่มรายจังหวัด คือ 1. เชียงราย 2. ล าพูน 3. พะเยา 4. น่าน 5. แม่ฮ่องสอน 6. เชียงใหม่ 1 7. เชียงใหม่ 2 8. ล าปาง 9. แพร่ 22


ผลการระดมความคิดแต่ละกลุ่ม จังหวัดเชียงราย จังหวัดล าพูน จังหวัดพะเยา จังหวัดน่าน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงใหม่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ 2 จังหวัดล าปาง 23


จังหวัดแพร่ สรุปผลการเร ียนรู้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้เร ียนรู้และเปิดมุมมองใหม่ในฐานะนักพัฒนา ตระหนักถึงสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ได้เร ียนรู้เคร ื่องมือที่จะสามารถน าไปใช้ต่อยอดในการท างาน ร่วมกันแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ในการท างานระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรมและวิทยากรผู้บรรยาย สามารถมองเห็นจุด แข็ง โอกาส ผลกระทบและแนวทางในการขับเคลื่อนงานของตนเอง สามารถน าความรู้ที่ได้รับ ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนางานในพื้นที่ของตนเองได้ต่อไป 24


วิชา สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงกับแนวทางกับแนวทางขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน วิทยากรหลัก/ผู้รับผิดชอบ 1. วิทยากรหลัก : ดร.นราธิป อ่าเที่ยงตรง อาจารย์ศร ีวิภา เสนคุ้ม อาจารย์สุรภา ปานศร ี 2. ผู้รับผิดชอบสรุปเนื้อหา : นางสาววรรณิษา ขัดชุมศร ี นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษากระบวนการการท างานพัฒนาชุมชนยุคใหม่กับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง 2. เพื่อศึกษาองค์ประกอบ กระบวนการเป็นนักขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนมืออาชีพกับสถานการณ์ที่มี การเปลี่ยนแปลง 3. เพื่อศึกษาแนวคิด ทักษะ เคร ื่องมือ เทคโนโลยี ที่เหมาะสม สอดคล้องกับงานพัฒนาชุมชนใน สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ระยะเวลา 4 ชั่วโมง (13.00 น. - 17.00 น.) ขอบเขตเนื้อหาวิชา 1) การเป็นนักขับเคลื่อนมืออาชีพในการท างานพัฒนาชุมชนยุคใหม่ 1.1 VUCA/BANI World “เมื่อโลกนี้เปลี่ยนแปลงบ่อย” กับการเปลี่ยนแปลงในการท างาน 1.2 From VUCA to BANI World 2) การท างานในปัจจุบันกับการ “วางแผน” 3) 5 รู้ สู่แนวทางของนักขับเคลื่อนมืออาชีพ 4) การคิดเชิงบวกและการมี Growth Mindset ในการท างานพัฒนาชุมชนและโลกยุคใหม่ 5) แนวคิดการปรับตัวในการท างานยุคใหม่ 6) เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการท างานยุคใหม่ เทคนิค/วิธีการ/กระบวนการ วิทยากร ดร.นราธิป อ่าเที่ยงตรง แนะน าตนเอง ประสบการณ์การท างานทั้งภาคเอกช ภาครัฐ และ วิทยากรหลักได้กล่าวเปิดประเด็นถึงการเป็นนักขับเคลื่อนมืออาชีพในการท างานพัฒนาชุมชนยุคใหม่ต้องมี องค์ประกอบอะไรบ้าง ท าอย่างไรถึงจะดีขึ้น ท าอย่างไรถึงจะเก่งขึ้น และมีการพัฒนาตนเองได้ยอดเยี่ยม โดยวิทยากรได้บรรยายถึงแนวคิดต่าง ๆ แนวคิดของ Charles Darwin กล่าวว่าธุรกิจที่อยู่รอด คือธุรกิจที่มีการพัฒนา ปรับตัวได้ดีที่สุด คนที่ ได้โอกาสดีที่สุดคือคนที่มีการปรับตัวและอยู่รอดได้ เมื่อเปร ียบเทียบกับสัตว์ที่มีการปรับตัวก็คือประเภทสัตว์ดึก ด าบรรพ์เชน่แมลงสาบ จงิ้จก โดยพัฒนากรจะต้องมีมิติของการพัฒนา และปรบัตัวอย่างต่อเนืองไม่มีที่สิ้นสุด เช่น KODAK มีการคิดเชิงนวัตกรรมโดยมีกล้องดิจิตอลตัวแรกของโลก แต่ก็มีการคิดเชิงกลยุทธ์โดย ผลิตภัณฑ์หลักคือการขายฟิล์ม แต่ก็ต้องมีปรับตัว พัฒนาโดยมีกล้องดิจิตอล KODAK ในส่วนแบ่งการตลาด แนวคิด Winston Churchill กล่าวว่าทัศนคติเป็นเรอ่ืงเล็ก ๆ ที่สามารถจะท าให้เกิดสิ่งที่ดีๆ ความ แตกต่างระดับใหญ่โตได้ การเป็นนักขับเคลื่อนที่ดีทัศนคติต้องมาเป็นอันดับแรก แนวคิด Albert Einstein การศึกษาไม่ใช่แค่การเร ียนเกี่ยวกับข้อเท็จจร ิงอย่างเดียว แต่เป็นการฝึก สมองให้คิด 25


แนวคิด Thomas Edison มีคนบอกกับเขาว่าคุณล้มเหลวมากกว่า 10,000 ครั้ง แต่เขาตอบกลับว่า เขาไม่ได้ล้มเหลวแต่เป็นการค้นพบวิธีที่มันไม่ส าเร็จมากกว่า 10,000 ครั้ง โดยวิทยากรกล่าวว่าจะตั้งค าถามกับตนเองอยู่เสมอ 3 ค าถามที่ส าคัญในการท างานหร ือการเป็นนัก ขับเคลื่อนฯ เพื่อต่อยอดในการพัฒนา คือ 1) ท าอะไร 2)ท า ท าไม 3)แล้วไงต่อ ? เพื่อเป็นข้อมูลในการท างาน 1.1) วิทยากรชวนคุยว่าการเป็นนักขับเคลื่อนมืออาชีพในการท างานพัฒนาชุมชนยุคใหม่ต้องมี องค์ประกอบอะไรบ้าง โดยดูจาก VUCA/BANI World “เมื่อโลกนี้เปลี่ยนแปลงบ่อย” โดยเป็นเหตุการณ์ที่ เปลี่ยนแปลงบ่อย ฉับพลัน ไม่ทันได้ตั้งตัว โดยค าว่า VUCA World มีมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น การเปลี่ยนขั้ว มหาอ านาจโลก และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (BRICS) ที่มีอิทธิพลในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่ จะมีผลต่อการท าอย่างไร โดย VUCA คือ Volatility มีความผันผวนสูง เปลี่ยนแปลงเร็ว เกิดขึ้นแบบฉับพลัน ไม่ทันได้ตั้งตัว Uncertainty ความไม่แน่นอน ไม่ชัดเจน คาดการณ์สถานการณ์ได้ยาก Complexity มีความซับซ้อน มีปัจจัยหลายด้าน เข้ามามีผลต่อการตัดสินใจ Ambiguity มีความคลุมเคร ือ ก ากวม ตีความหมายหร ือคาดการณ์ได้หลายอย่าง โดยมีหลักการท างานไว้ว่า มีสติ มีแผนส ารอง แผนความเสี่ยง มีแผนรับมือ นึกถึงผลกระทบในทุก การตัดสินใจ คิดให้มากก่อนพูด ใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ มองรอบด้าน และสื่อสารให้ชัดเจน ซึ่งมีนักคิดยุคใหม่ Bob Johansom ให้แนวคิดไว้ว่าต้องรับมือ VUCA ด้วย VUCA ด้วยกัน เช่น รับมือ Volatility มีความผันผวนสูง ด้วย Vision ของผู้บร ิหารที่ก้าวไกล Uncertainty ความไม่แน่นอน ด้วย Understanding เปิดรับ เข้าใจโลกมากขึ้น Complexity มีความซับซ้อน ด้วย Clarity มีความชัดเจน คิดอย่างรอบคอบ Ambiguity มีความคลุมเคร ือ ด้วย Agility ความคล่องแคล่ว รวดเร็วในการท างาน โลกแห่งความปั่ นป่วนและการเปลี่ยนแปลง (Into the VUCA World) ฉบับของเมืองไทย ประกอบไป ด้วย - โควิด-19 และโรคระบาดใหม่อื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมทางสุขภาพ สังคมสูงวัย - การเข้าสู่โลกดิจิทัล รูปแบบเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน งานในอนาคต ทักษะที่จ าเป็นในศตวรรษที่ 21 ความเหลื่อมล ้ าเพิ่มขึ้น - การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระแสการอนุรกัษ์ทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลังงาน ทางเลือกและพลังงานหมุนเวยีน สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม - เทคโนโลยีทางกายภาพขั้นสูง เทคโนโลยีชีวภาพ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่าง พลิกผัน สภาวะเศรษฐกิจตกต่า - สงครามการค้า แนวคิดชาตินิยม การเปลี่ยนแปลงขั้วอ านาจโลก วิกฤตเศรษฐกิจโลก - การเจร ิญเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว และมุ่งประเด็นไปที่การเจร ิญเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว คือ เมืองรองที่วัดด้วยสภาพเศรษฐกิจ เศรษฐกิจคึกคักจากการท่องเที่ยว การขยายตัวของจังหวัดเล็ก ๆในแต่ละภาค โดยแต่ละพื้นที่มีทุนชุมชน การ วิเคราะห์ทุนชุมชนของแต่ละพื้นที่ ท าให้แต่ละหมู่บ้าน แต่ละเมืองมีความโดดเด่น จุดยืนที่ชัดเจน ความแตกต่าง ส่ ง ผ ล ใ ห้ มี โ อก าส ใ นก ารท าธุ รกิ จ ค้ าข าย ช่อง ทาง ท าม าห ากิ น ท าใ ห้ เ ศ รษ ฐ กิ จมี ก ารเ ติ บโ ต มีอัตราการเจร ิญเติบโตอย่างรวดเร็ว 1.2) From VUCA to BANI World Brittle โลกใหม่ที่เปราะบาง โดยธุรกิจที่มีความเปราะบาง พังทลายจากไปอย่างรวดเร็ว Anxiety โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลเกี่ยวกับเร ื่องต่าง ๆ มากเกินไป 26


Nonlinear โลกใหม่ที่มีความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นเส้นตรง โดยต้องบรหิารความคิดให้ ได้มากที่สุด คิดให้มาก Incomprehensible โลกใหม่ที่เข้าใจได้ยากกว่าเดิม เราต้องหาข้อมูลให้มากขึ้น วิทยากรชวนคุย โดยตั้งค าถามว่า “อะไรคือ VUCA World ที่มีผลการต่อการเปลี่ยนแปลงการท างาน ของเราบ้าง” โดยใช้ App Slido.com ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน ติดต่อสื่อสารกันในระหว่าง การอบรม โดยผู้เข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่ให้ค าตอบ เช่น การเปลี่ยนของผู้บังคับบัญชา ค าสั่งย้ายของเจ้าหน้าที่ อัตราก าลังคน โรคระบาด สถานการณ์สงครามในอิสราเอล การเปลี่ยนแปลก าหนดการ กฎระเบียบที่ไม่ เอื้ออ านวยต่อการท างาน วถิีชีวติวัฒนธรรมของชุมชนที่เปลี่ยนไป สภาพอากาศ สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ภัยธรรมชาติ สังคมไร้เงินสด การติดตามงานแบบ real time (ทุกที่คือที่ท างาน) เทคโนโลยี ผู้น าชุมชนที่มีอายุ มากขึ้น ความแตกต่างระหว่างยุคสมัย การท างานในวันหยุด สถนการณ์การเปลี่ยนแปลงที่มีการน าเทคโนโลยีเข้ามาใช้ กรณีศึกษา Case Study ของสวนสัตว์แห่งหนึ่ง Sweet Farm ในประเทศสหรัฐอเมร ิกา เป็นอีกหนึ่ง ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานณ์การณ์โรคระบาด Covid-19 ที่มีการปรับตัว โดยเมื่อลูกค้าไม่สามารถ เดินทางมาดูที่สวนสัตว์ได้ แต่สามารถดูสัตว์ได้จากที่บ้าน จึงมีการชมสวนสัตว์ผ่านระบบ Zoom ในรูปแบบแพคเกจต่าง ๆ การน าเทคโนโลยีAR เข้ามาช่วยในการขายสินค้า เช่น การจ าลองเฟอร์นิเจอร์เสือนจร ิงของ IKEA ใน การตกแต่งบ้าน การทดลองสินค้าเคร ื่องส าอาง การทดลอขนาดรองเท้าบน Application มือถือ การใช้หุ่นยนต์ แทนมนุษย์ การใช้Application ในการสั่งอาหาร/สินค้า การท ากระชังเลี้ยงปลาแซลมอนของประเทศจีนโดยใช้ ระบบ AI ในควบคุมระบบการท างานต่าง ๆ 27


2) การท างานในปัจจุบันกับการ “วางแผน” วิทยากรชวนคุย โดยตั้งค าถามว่า “ก่อนตัดต้นไม้เราต้องท าอะไรก่อน” โดยใช้ App Slido.com ผู้เข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่ให้ค าตอบ เช่น ดูก่อนว่าต้องการตัดไม้ไปท าอะไร วัดขนาดของไม้ที่ต้องการ พิจารณาว่า จะใช้อะไรตัด ศึกษาข้อมูลของต้นไม้ ศึกษาวิธีการตัดต้นไม้ ดูว่าพอตัดต้นไม้แล้วล้มไปโดนอะไร การลับขวาน เหมือนกันที่ท่านประธานาธิบดี Abraham Lincoln กล่าวว่า ถ้าให้เวลาตัดต้นไม้ 6 ชั่วโมง เขาจะใช้ เวลา 4 ชั่วโมงในการลับขวานให้คม ก็เหมือนกับว่าการถอยออกมาหนึ่งก้าวเพื่อให้เห็นงาในภาพรวมทั้งหมด ท า ให้เห็นภาพของนักวางแผนงานการท างาน งานขับเคลื่อนยุคใหม่ที่ต้องรู้ภาพกว้าง วิทยากรชวนคุย โดยตั้งค าถามว่า “ก่อนจะขับเคลื่อนงาน ภาพกว้างที่เราต้องรู้...หมายถึงอะไร” โดยใช้ App Slido.com ผู้เข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่ให้ค าตอบ เช่น วัตถุประสงค์ ผลลัพธ์ของงาน ตัวชี้วัด หนังสือ สั่งการ ความต้องการของผู้บังคับบัญชา แผนปฏิบัติการ นโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติ เป้าหมาย ระยะเวลา วิธีการ บร ิบทชุมชน ผลกระทบ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประโยชน์ของประชาชน 28


และวิทยากรเฉลยว่าภาพกว้างที่เราดู คือ 1. ภาพกว้างด้านนโยบายของผู้บร ิหาร แผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิบัติการของหน่วยงาน 2. ภาพกว้างด้านการเปลี่ยนแปลง สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับการท างาน 3. ภาพกว้างด้านนโยบาย เป้าหมาย การเปลี่ยนแปลงของพันธมิตร เคร ือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับเรา สามารถหาคุณค่าร่วมของภาคีได้ และชวนคุยต่อว่า “ในอ าเภอมีใครที่แสร ิมงานเราได้อีกไหม และเสร ิมอะไรบ้าง” โดยใช้ App Slido.com ผู้เข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่ให้ค าตอบ เช่น ผู้น า อช. นายอ าเภอ ก านัน-ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนราชการต่าง ๆ คณะกรรมการพัฒนาสตร ีทุกระดับ พระสงฆ์หน่วยงานเอกชนในพื้นที่ องค์กรที่มีการท า CSR 7 ภาคีเคร ือข่าย พัฒนา ครู-โรงเร ียน นักกิจกรรมเพื่อสังคม ข้าราชการเกษียณ มูลนิธิกิ่งกาชาด นักการเมืองท้องถิ่น 3) 5 รู้ สู่แนวทางของนักขับเคลื่อนมืออาชีพ วิทยากรชวนคุย โดยตั้งค าถามว่า “คุณสมบติของนักขับเคลื่อนที่ดีจะต้องเป็นอย่างไร ” โดยใช้ App Slido.com ผู้เข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่ให้ค าตอบ เช่น มองกว้าง-มองให้ไกล-มองให้ใกล้-มองให้ครบ นักประสานสิบทิศ เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา การมีทุนทรัพย์ ก้าวทันเทคโนโลยี มีความรู้-วิเคราะห์รอบด้าน มีอุดมการณ์ รู้คน-รู้ชุมชน-รู้งาน-รู้หน้าที่ บร ิหารความขัดแย้ง การมีอิทธิพล ขาดทุนคือก าไร เข้าใจบร ิบทสังคม ท าให้เสร็จ-ท าให้ทัน-ท าให้ถูกใจ รู้เขา-รู้เรา ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รักในงานที่ท า บูรณาการงานงบ-ระบบ-คน 5 รู้สู่แนวทางนักขับเคลื่อนมืออาชีพ 1. รู้ภาพกว้าง 2. รูส้ ิ่งแวดล้อมในการท างานที่จะเป็นผลกระทบ 3. รูเ้ป้าหมายของงาน และขอบเขตของงาน/สิ่งใดต้องหลีกเลี่ยง 4. รู้ปัจจัยที่ท าให้การขับเคลื่อนส าเร็จ วิธีการขับเคลื่อนและการใช้ทรัพยากร 5. รู้ว่าจะขับเคลื่อนโดยร่วมมือกับใคร ที่มีค่านิยมหร ือคุณค่าร่วมที่ตรงกันและสามารถขับเคลื่อนไป ด้วยกัน ภาพรวมของการขับเคลื่อนมืออชีพ 5 รู้ สู่กระบวนการทั้งความคิดเชิงสร้างสรรค์ นวัตกรรม ความคิดเชิงระบบ ความคิดเชิงพันธมิตร การพึ่งพา การยืดหยุ่น การบร ิหารเวลา การคิดเชิงโมเดล ส่งผลให้เกิด งานที่ตรงตามเป้าประสงค์/ประสบผลส าเร็จ/สร้างงานสร้างรายได้/แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง 4) การคิดเชิงบวกและการมี Growth Mindset ในการท างานพัฒนาชุมชนและโลกยุคใหม่ 29


วิทยากรแนะน าถึง หนังสือ THE 7 HABITS OF HIGHLY EFFECTIVE PEOPLE ของ Stephen R.Covey ที่พูดการพัฒนาแนวคิด องค์ความรู้ต่าง ๆของคนที่ประสบความส าเร็จ (7 อุปนิสัยที่ดีในการท างาน ต้องมีอะไรบ้าง) เช่น Beproactive 1. พฤติกรรมแบบ Reactive เราจะปล่อยให้สิ่งกระตุ้นเรา้เชน่สถานการณ์ค าพูดของคนอื่น อารมณ์ ความรู้สึก มาควบคุมการตอบสนองของเรา Reactive Language = ฉันท าไม่ได้หรอก ฉันก็เป็นตัวของฉันแบบนี้ ไม่มีอะไรที่ฉันท าได้แล้ว/ท าดี ที่สุดแล้ว ฉันไม่ได้รับอนาติให้ท า ถ้าหากเราโฟกัสเรอ่ืงที่กังวลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งท าให้รูส้ ึกว่าตัวเองท าอะไรไม่ได้มากขึ้นเท่านั้น 2. พฤติกรรม Proactive เราจะหยุดสิ่งกระตุ้นเร้าเอาไว้ ไม่ให้มันสามารถมาควบคุมการตอบสนอง ของเรา คิดทบทวนทางเลือกแล้วตอบสนองด้วยทางเลือกที่ดีที่สุด Proactive Language = ฉั นท าได้ ฉั นจะท า ฉั นจะเป็น ฉั นจะลองหาวิธีที่ที่ดี กว่าเดิ ม ฉันสามารถเป็นตัวฉันในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม ถ้าหากเราโฟกัสเร ื่องที่ตัวเองท าได้และลงมือท ามากเท่าไหรก่ ็ยิ่งมีอิทธพิลต่อเรอ่ืงต่าง ๆ ได้มากขึ้น เท่านั้น และพัฒนางานต่าง ๆต่อไปได้ สิ่งเหล่านี้ท าให้เรามีมุมมองต่อความคิด/ทัศนคติทั้งด้านการเรยีนรู้การเปลี่ยนแปลง ความติด สร้างสรรค์ กรอบแนวแนวคิดในการท างานที่ได้รับมอบหมาย และเมื่อมีการคิดบวกแล้วต้องมีการพัฒนาถึง “แก่น” หร ือหัวใจที่แท้จร ิงของงานด้วย และเมื่อเราเห็นแก่นหร ือหัวใจที่แท้จร ิง จะท ามห้เราคิดสร้างสรรค์ด้วย วิธีการใหม่ ๆ เชื่อมโยงได้มากกว่าเดิม 5) ทีมวิทยากร อาจารย์ศร ีวิภา เสนคุ้ม ได้บรรยายถึงแนวคิดการปรับตัวในการท างานยุคใหม่ นักขับเคลื่อนพัฒนาชุมชน แนวทางการปรับตัวในการท างานยุคใหม่ 30


1. ทักษะในการรับมือความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน ซับซ้อน ก็ต้อง Move On ให้ไว 2. ทักษะความเป็นผู้น า การน าตัวเอง ท างานคล่องตัว เป็นเจ้าของงานมากขึ้น 3. ทักษความยืมหยุ่นในการท างาน 4. Work life Balance 5. การสรรหา ประสานงานกับองค์กร/หน่วยงานยุคใหม่ 8 Soft Skills ต้องมีในยุคการพัฒนา AI 1. ทักษะการวิเคราะห์และปรับใช้ข้อมูล 2. ทักษะความคิด สร้างสรรค์ 3. ทักษะด้านดิจิทัล 4. ทักษะการปรับตัว 5. ทักษะการบร ิหารจัดการคน 6. ทักษะการมีเหตุผลในการคิด 7. ทักษความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ 8. ทักษะด้านภาษา MEGA Trends 1. การพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง 2. งานที่ตอบโจทย์เป้าหมายในชีวิต สังคม 3. ทักษะการเข้าใจความคิดที่ซับซ้อน 4. ทักษะในการบรหิารองค์กร สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน 5. ทักษะการสั่งสมประสบการณ์การเร ียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ มีความรู้เทคโนโลยี กรณีศึกษาแนวคิดการพัฒนาชุมชนด้วยการสร้างความร่วมมือจากคุณค่าร่วม 1. Game of Thon เป็นเกมส์ที่กลุ่มคนที่อยากพัฒนาพื้นที่ฝั่ งธนบุร ีให้มีคนรู้จักมากขึ้นโดยใช้ ความเชี่ยวชาญทางด้านของกลุ่มสถาปนิกมาออกแบบเป็นเกมส์ ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลฝั่ งธนทั้งหมด เช่น รา้นค้าท้องถิ่น ประวัติศาสตร์วัฒนธรรม มาเป็นเกมส์โดยได้รบัทุนจากหน่วยงาน สสส. โดยมีจุดร่วมของการ ท างานคือการพัฒนาเมืองที่เราอิน 2. Refield Lab กลุ่มคน 3 คน มาร่วมกันใช้ความรู้ทางภูมิสถาปัตยกรรมมาวิเคราะห์เพื่อวางแผน พัฒนาพื้นที่ที่ตอยโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยและคิดถึงธรรมชาติไปพร้อม ๆ กัน เช่น โครงการบ้าน มั่นคงชนบท บ้านพี้ จ.น่าน เป็นการจัดการระบบน้าในพื้นที่ 3. การแก้ปัญหาการเกษตรด้วยนวัตกรรม : ข้าว เช่น การใช้แอพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศที่จับพิกัด แปลงเพื่อดูความชื้นในแปลง การให้ช่างชุมชนท าเคร ื่องหยอดเมล็ดพันธุ์แบบ 2 in 1 การใช้โดรนพ่นน้าหมัก จ้างช่างชุใชนในการท าตู้อบข้าว 4. ส านักงานศิลปวัฒนธรรม รว่มกับนักออกแบบรุน่ ใหม่และผู้ประกอบการท้องถิ่นในการออกแบบ ชุดบาติกเพื่อแบ่งปันเทคนิคการท างานซึ่งกันและกันเพื่อต่อยอดงานสร้างสรรค์ 5. มรดก โนรา’ Spirit of NORA การผลักดันโนราห์ให้ต่างชาติรู้จักมากขึ้น โดยการใช้ทุน วัฒนธรรมเป็นเคร ื่องมือขับเคลื่อนชุมชนผ่านกระบวนการเร ียนรู้ส่งผ่านสัญลักษณ์ เช่น เสื้อผ้า แฟชั่น 6. การส่งเสร ิมสินค้าเกษตร ข้าว ผ่าน Event และ Partner แบบครบวงจร เป็นงานที่สื่อสารคุณค่า และมูลค่าของข้าว เช่น การชิม ช้อป ชม ลงมือท าข้าว 6) ทีมวิทยากร อาจารย์สุรภา ปานศร ี ได้บรรยายถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการท างาน คุณสมบัติของ AI เทคโนโลยีแห่งโลกดิจิทัล 31


1. การท างานอัตโนมัติ 2. การจดจ าใบหน้าและรบุตัวตน 3. การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไว้ด้วยกัน 4. การช่วยในการตัดสินใจ 5. การประมวลภาษาธรรมชาติ เช่น แอพลิเคชัน - CHATGPY ในการหาข้อมูล สร้างสรรค์งานเขียน ตอบค าถาม ความรู้รอบตัว การวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยคิดไอเดียต่าง ๆ - Cloud เป็นเคร ื่องมือการบร ิการเก็บข้อมูล ประมวลผล การใช้งานซอฟแวร์มีความปลอดภัย การ สื่อสารข้อมูลแบบ real time - CANVA เป็นเคร ื่องมือส าหรับการน าเสนอ การ์ด อินโฟกราฟฟิก โดยจะมีรูปแบบส าเร็จ มาตรฐานให้เลือก สามารถออกแบบสื่อเองได้และมี AI ช่วยท างานได้ - Grammarly เป็นเคร ื่องมือในการแก้ไข Grammar ที่ผิด สะกดผิด การใช้เคร ื่องหมายต่าง ๆ การดูรูปประโยคที่ถูกต้อง สรุปผลการเร ียนรู้ จากการบรรยายของทีมวิทยากรท าให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้เร ียนรู้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกที่ เกิดขึ้นและส่งผลต่อกระบวนการท างานพัฒนาชุมชน แนวคิด แนวทางการท างานที่สามารถน าไปปรับใช้เพื่อให้ เกิดความคล่องตัวในการท างานพัฒนาชุมชนทั้งในด้านของวางแผน การขับเคลื่อนงาน การประสานงาน การมี ภาคีเคร ือข่ายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ที่หนุนเสร ิมการท างานพัฒนาชุมชน ตลอดจนการใช้เคร ื่องมือ เทคโนโลยีที่เหมาะสม มาพัฒนางานให้สอดคล้องกับงานพัฒนาชุมชน ทั้งนี้ตลอดกระบวนการบรรยายมีการใช้ เทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ร่วมกัน วิชา เปิดประสบการณ์สร้างการเร ียนรู้ในยุคดิจิตอล วิทยากรหลัก/ผู้รับผิดชอบ 1. วิทยากรหลัก : ดร.นราธิป อ่าเที่ยงตรง 2. ผู้รับผิดชอบสรุปเนื้อหา : นางสาวอภินันทน์ ทองเพ็ชร นักทรัพยากรบุคคล วัตถุประสงค์ ๑. วิเคราะห์กระบวนการการพัฒนางานเดิมที่ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้และฝึก การวิเคราะห์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการวางแผนด าเนินกิจกรรมโครงการ ๒. วิเคราะห์Key to Success สิ่งที่ท าให้แผนงานส าเร็จและ Key to Failure สิ่งที่จะท าให้แผนงานไม่ส าเร็จ ระยะเวลา 2 ชั่วโมง (18.00 น. - 20.00 น.) ขอบเขตเนื้อหาวิชา 1. แนวคิด Proactive vs Reactive 2. Workshop 01 : การพัฒนางานเดิมที่ยังไม่ดีขึ้น ให้ดีขึ้นได้อย่างไร 3. Workshop 02 : Key Success and Key to Failure 32


เทคนิค/วิธีการ/กระบวนการ วิทยากรหลัก ดร.นราธิป อ่าเที่ยงตรง ท าการบรรยายและเปิดประเด็นน าผู้เข้าอบรมให้ระดมความ คิดเห็นและแลกเร ียนรู้ร่วมกัน ผ่านกิจกรรม Workshop โดยอธิบายถึงนักขับเคลื่อนยุคใหม่จะต้องคิดค าว่า “ดีขึ้นได้กว่านี้อีกหร ือไม่” กล่าวถึงกระบวนการการเร ียนรู้แบบ Reactive มีสิ่งเร้า→ตอบสนองทันทีและ กระบวนการเร ียนรู้แบบ Proactive ปัจจัยภายนอกมากระตุ้น→ วิจารณญาณ มีสติ ปัจจัยภายนอกมากระตุ้นไม่ สามารถท าอะไรได้ แนวคิด Proactive vs Reactive Proactive : คนที่มีสติทันต่อความคิด ควบคุมการกระท าของตัวเองได้ และ ตัดสินใจเลือกตอบสนองสิ่งที่ดีที่สุดต่อ ตนเองและผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่ จะรับผิดชอบผลจากการตัดสินใจนั้นด้วย ชีวิตคือ ‘ผลผลิตจากการตัดสินใจ’ ของ ตนเอง แม้รู้ดีว่าบางเร ื่องอาจควบคุมได้ยาก แต่จะทุ่มเทพลังไปยังเร ื่องที่เขาสามารถ แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้เท่านั้น Reactive : คนที่ ปล่ อยใ ห้ อารม ณ์ ความรูส้ ึก และสิ่งรอบข้างเป็นตัวควบคุม การตอบสนองของเขา มองว่าตัวเองเป็น เหยื่อของสถานการณ์ มองว่าชีวิตได้ ‘ถูก ก าหนด’ ไว้แล้ว แก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ แตกต่างจากนี้ไม่ได้ สุดท้ายมักจะลงเอย ด้วยการโทษคนอื่น โทษสถานการณ์ โทษ ทุกอย่างที่ยกเว้นตัวเอง 33


Workshop 01 : การพัฒนางานเดิมที่ยังไม่ดีขึ้น ให้ดีขึ้นได้อย่างไร What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร? และฝึกในการท าการวิเคราะห์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการวางแผนด าเนินกิจกรรมโครงการ Workshop 1 วิทยากรให้เวลาในการระดมสมองแลกเปลี่ยน 20 นาทีวิทยากรก าหนดว่าอย่าใส่ภาพรวมงาน เพียงอย่างเดียวให้ใส่รายละเอียดงานลงไปด้วย ประมาณ 3 -4 ภารกิจใหญ่ และแตกไปเป็นภารกิจย่อย ให้พัฒนากรระหว่างประจ าการด าเนินการน าเสนอผ่านระบบ Zoom กลุ่มละ 3 นาทีทั้งหมด 6 ศพช. ดังนี้ 1. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนยะลา น าเสนอโดยจังหวัดปัตตานี 2. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนเพชรบุร ี น าเสนอโดยจังหวัดสมุทรสาคร 3. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบล น าเสนอโดยจังหวัดศร ีสะเกษ 4. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครศร ีธรรมราช น าเสนอโดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี 5. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุร ี น าเสนอโดยจังหวัดสระแก้ว 6 .ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนสระบุร ี น าเสนอโดยจังหวัดจังหวัดลพบุร ี สรุปการระดมความคิดเห็นพัฒนากรระหว่างประจ าการ จังหวัดแม่ฮ่องสอน What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร 1. ต าบลเข้มแข็ง - ขาดความรู้ความเข้าใจในการด าเนินงานต าบลเข้มแข็ง - ระยะเวลาด าเนินการสั้นท าให้ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม - ขาดการบูรณาการของเคร ือข่ายในระดับพื้นที่ - มีคู่มือการด าเนินงานที่ชัดเจนและครบถ้วน สามารถปฏิบัติได้จร ิง - อบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับต าบลเข้มแข็ง - วางแผนการด าเนินงานระยะยาวอย่างน้อย 3 ปี 2. กข.คจ. - คณะกรรมการขาดความรู้ความเข้าใจ - ฐานข้อมูลไม่ชัดเจนขาดเอกสารหลักฐาน - การส่งมอบงานของเจ้าหน้าที่ไม่เป็นระบบและปัจจุบัน - กฎระเบียบไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน - มีการจัดอบรมทบทวนคณะกรรมการ กข.คจ. เป็นประจ า 3. จปฐ. - ระบบไม่ดี - เกณฑ์ตัวชี้วัดไม่เหมาะสมกับพื้นที่ - ค าถามใน จปฐ. ไม่ชัดเจน คลุมเคร ือ ใช้ค ายาก -ชาวบ้านไม่เห็ นความส าคั ญของการจัดเก็ บ ข้อมูลจปฐ. - แปลงค าถามให้ง่ายต่อการเข้าใจ - ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนสนใจ 34


จังหวัดเชียงราย What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร 1. กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี - การติดตามหนี้ค้างช าระ - ใช้กลไกผู้น าชุมชนในการกระตุ้น/ท าข้อตกลงการช าระ หนี้ 2. โคก หนอง นา - เคร ือข่ายฯไม่มีความเข้มแข็ง - ครัวเร ือนขาดวินัยในการขับเคลื่อนงานเนื่องจาก ขาดความเข้าใจ - จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกิจกรรม และจัด กิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ - ศึกษาเร ียนรู้จากแปลงต้นแบบที่ประสบผลส าเร็จใน พื้นที่จร ิง 3. ศอช. - การขับเคลื่อนงาน(ศอช.อ.),(ศอช.ต.)ยังไม่เป็น รูปธรรมและขาดความต่อเนื่อง - จัดประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจอย่างต่อเนื่องและ สร้างทัศคติที่ดี - สร้างการรับรู้ในชุมชนเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ (ศอช.อ.)และ(ศอช.ต.) จังหวัดเชียงใหม่ (3) What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร SE ขั้นตอนการขับเคลื่อนไม่ชัดเจน+ไม่ต่อเนื่อง สร้างการรับรู้ ตั้งแต่วัตถุประสงค์,ที่มาและแนว ทางการขับเคลื่อน,อ านาจหน้าที่แก่ภาคีเคร ือข่ายและผู้ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มชช.,ศอช.ต.ภาคีเคร ือข่ายไม่ให้ความส าคัญ เท่าที่ควร ทบทวนบทบาทหน้าที่ อย่างสม่าเสมอ 35


จังหวัดเชียงใหม่ (4) What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร 1. ต าบลเข้มแข็ง การให้ความร่วมมือของผู้น าชุมชนคนในชุมชนและ ภาคีเคร ือข่ายในพื้นที่ - สร้างการรับรู้ ทิศทาง แนวทางการขับเคลื่อน - บูรณาการ 7 ภาคีเคร ือข่าย - PR ให้คนในพื้นที่เห็นความส าคัญ 2. สัมมาชีพชุมชน - ขาดการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องของกลุ่ม - สร้างความเข้าใจ และเล็งเห็นความส าคัญของการ จัดตั้งกลุ่มอาชีพ - ส่งเสร ิมสนับสนุนช่องทางการตลาดให้กับกลุ่ม - เชื่อมโยงบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - ส่งเสร ิมการใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายช่องทางการจัด จ าหน่าย - PR ให้เกิดการรับรู้ทุกช่องทาง - ติดตามการด าเนินงานของกลุ่มอย่างสม่าเสมอ จังหวัดแพร่ What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร 1. กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี - สตร ีเพิกเฉยการช าระหนี้ตามรอบเวลา - ใช้มาตรการบังคับตามกฎหมายที่รุนแรงขึ้น 2. จปฐ. - โปรแกรมไม่เสถียรและไม่สามารถดึงข้อมูล - ทบทวนระบบการจ้างผู้เขียนโปรแกรม(software) 3. โคกหนองนา - การด าเนินกิจกรรมที่ไม่ต่อเนื่อง - สร้างเคร ือข่ายที่เข้มแข็ง 4 .ศจพ. ข้อมูลซ้าซ้อน - บูรณาการข้อมูลระดับกรมด้วยระบบ AI 5. ไม่มีแรงจูงใจในกิจกรรมคัดสรร - จัดสรรงบประมาณส าหรับเงินรางวัล 36


จังหวัดน่าน What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร จปฐ./กชช.2ค. - ระบบไม่เสถียร - ผู้จัดเก็บไม่เข้าใจตัวชี้วัด - พื้นที่ห่างไกลไม่มีสัญญาณ Internet - ผู้รับผิดชอบควรพัฒนาระบบให้เสถียรและใช้งานได้ ง่ายขึ้น - ติดตาม, ก ากับ, ดูแลอาสาสมัครอย่างใกล้ชิด - จัดเก็บแบบ OFFLINE จังหวัดพะเยา What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร 1. หนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี(หนี้ค้าง) 1. ด าเนินการทางกฎหมาย 2. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น 3. จ าหน่ายหนี้ให้กับ บสย. 2. โคก หนอง นา - ไม่มีการด าเนินการปล่อยเป็นที่ว่างเปล่า - เคร ือข่ายไม่เข้มแข็ง 1. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2. สนับสนุนให้มีการขับเคลื่อนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 3. ขอรับการสนับสนุนพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ จากภาครัฐและ เอกชน 3. การประกวดลายผ้าพระราชทาน - ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ 1. ศึกษาและทบทวนหลักเกณฑ์การประกวด 2. สร้างอัตลักษณ์ของจังหวัดให้มีความชัดเจน จังหวัดล าพูน What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร 1.หนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี(หนี้ เกินก าหนดช าระ) 1. จัดท าระบบการติดตามการบร ิหารจัดการหนี้เกินก าหนดช าระ - ท าแผนการติดตามในแต่ล่ะระดับ(จังหวัด,อ าเภอ,ต าบล) - จัดท าคู่มือติดตามส าหรับเจ้าหน้าที่ - ประชุมซักซ้อมท าความเข้าใจ 37


จังหวัดล าปาง What งานใดที่ยังท าได้ไม่ดี? How จะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร 1.กข.คจ. -หลักฐาน,ข้อมูลสูญหาย -ขาดความร่วมมือจากชุมชน -คณะกรรมการขาดความรู้ ความเข้าใจ -ลงพื้นที่ติดตาม,ตรวจสอบและรายงานผลต่อ ผู้บังคับบัญชา -อบรมให้ความรู้ให้ค าแนะน า 2.กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี -การบร ิหารจัดการหนี้ให้ลดลง -ฐานข้อมูลลูกหนี้ไม่สมบูรณ์ -ขาดเคร ือข่ายในการติดตาม -ขาดความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย -ลงพื้นที่ติดตามอย่างต่อเนื่อง -แจ้งปรับปรุงฐานข้อมูลให้จังหวัดทราบ -จัดประชุมชี้แจ้งให้ทราบถึงบทบาทหน้าที่และ วางแผนตรวจติดตาม -ศึกษากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง วิทยากรหลักบรรยายถึงนักขับเคลื่อนยุคใหม่ จะต้ องรู้ว่าอะไรคือ “Key to Success และ Key to Failure (Key ที่ไม่ Success)อะไรที่ส าเร็จได้ ไม่ใช่แค่ เร ื่องงบประมาณ Workshop 2 : Key Success and Key to Failure What (Task/Mission) งาน/ภารกิจของเราที่จะต้องท า Key to Success สิ่งที่ท าให้ส าเร็จ (ควรมีในแผน หรอื แนวทางการท างาน) สิ่งที่ต้องมีในแผน มีแล้วจะท าให้แผนส าเรจ็ Key to Failure สิ่งที่จะท าให้ไม่ส าเรจ็(ควรหลีกเลี่ยง)ห้ามท าเด็ดขาด ท าไปแล้ว Failure แน่นอน วิทยากรให้เวลาท าโจทย์ 15 นาที น าเสนอกลุ่มละ 3 นาที ดังนี้ 1. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนพิษณุโลก น าเสนอโดยจังหวัดพิจิตร 2. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนล าปาง น าเสนอโดยจังหวัดเชียงราย 3. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครราชสีมา น าเสนอโดยจังหวัดขอนแก่น 4. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี น าเสนอโดยจังหวัดขอนแก่น 5. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก น าเสนอโดยจังหวัดปทุมธานี 38


จังหวัดแม่ฮ่องสอน What (Task/Mission) Key to Success Key to Success 1. ผ้าไทยใส่ให้สนุก ท าให้ผู้บร ิหารสูงสุดเห็นความส าคัญ ไม่มีการพัฒนา 2. กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี สร้างความเข้าใจให้ตรงกันทุกระดับ ผู้ปฏิบัติงานขาดความเข้าใจอย่าง ถ่องแท้(กฎระเบียบ แนวทางการ ปฏิบัติ) 3. ศจพ. สร้างความเข้าใจให้ตรงกันทุกระดับ ส่วนราชการไม่มีความเข้าใจในงาน ของตนเอง จังหวัดเชียงราย What (Task/Mission) Key to Success Key to Success 1. จปฐ. ด าเนินการตามแผน - คนจัดเก็บข้อมูลไม่ลงพื้นที่จร ิง -ระบบไม่ดี 2. งานกองทุนพัฒนาบทบาท สตร ี สร้างกลไกขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ - ลูกหนี้กองทุนน าทุนฯไปใช้ผิด วัตถุประสงค์/ไม่ 100 % ตาม โครงการ 3. OTOP - สร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้เกิดการ ยอมรับในวงกว้าง - ส่งเสร ิมให้ผลิตภัณฑ์และพัฒนาสู่ การคัดสรรดาว - ผู้ประกอบการขาดการพัฒนา ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง จังหวัดเชียงใหม่ (3) What (Task/Mission) Key to Success Key to Success 1. กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี - ท าจร ิง ใช้หนี้ได้ - กระบวนการทางกฎหมาย (ศาล) - ลูกหนี้รู้หน้าที่ - รอมชอม - ไม่กล้าใช้กระบวนการทาง กฎหมาย - ไม่มีงบประมาณส่งไปรษณีย์ 2. OTOP - กลุ่ม, เคร ือข่ายเข้มแข็ง - ช่องทางการตลาดมีน้อย - เจ้าหน้าที่ต้องไม่เอื้อ ผลประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ ต้องเท่าเทียม 3. จปฐ. กรมฯ มีกระบวนการที่ชัดเจน - บันทึกข้อมูลไม่ตรงความจร ิง 39


จังหวัดเชียงใหม่ (4) What (Task/Mission) Key to Success Key to Success 1. จปฐ. - เคร ื่องมือมีความพร้อมและรองรับ การจัดเก็บและการบันทึกข้อมูล - เจ้าหน้าที่มีความรู้ ความเข้าใจตัวชี้วัด และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่อาสา จัดเก็บได้อย่างชัดเจน - ครัวเร ือนให้ข้อมูลที่เป็นจร ิง - การไม่วางแผนการ ด าเนินงานในการจัดเก็บ 2. กข.คจ. - ความรู้ด้านระเบียบฯ - คณะกรรมการมีความเข้มแข็ง+โปร่งใส - มีการติดตามตรวจสุขภาพกองทุนอย่าง สม่าเสมอ - การใช้เงินไม่ตรงตาม วัตถุประสงค์ของครัวเร ือน เป้าหมาย 3. ออมทรัพย์เพื่อการผลิต - หลัก 5 ก. - คุณธรรม 5 ประการ - ศึกษาดูงานจากกลุ่มที่ประสบ ความส าเร็จ - คณะกรรมการไม่ยึดหลักตาม กฎ/ระเบียบกลุ่ม จังหวัดแพร่ What (Task/Mission) Key to Success Key to Success 1. ยอดหนี้สตร ีไม่เกินร้อยละ 5 (เกินก าหนด) - เพิ่มมาตรการเพื่อจูงใจให้สตรี ช าระหนี้ - ละเลยการติดตาม 2. จปฐ. - เพิ่มค่าตอบแทน - ระบบการเก็บที่ดี - ผู้จัดเก็บขาดความรู้ความเข้าใจ 3. ผ้าไทย - การออกแบบให้ทันสมัย - การประชาสัมพันธ์ที่ต่อเนื่อง - การบูรณาการไม่ครอบคลุม จังหวัดน่าน What (Task/Mission) Key to Success Key to Success 1. ผ้าไทยใส่ให้สนุก - ผู้น า/ภาคีเคร ือข่าย/พัฒนากร เป็นแบบอย่างในการสนับสนุน สินค้า - ราคาสูง (ซื้อไม่ไหว) 2. กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี - ติดตาม สนับสนุน ก ากับดูแล อย่างใกล้ชิด - ละเลยการก ากับติดตาม 3. การสร้างความมั่นคงทาง อาหาร - ผุ้น าต้องท าก่อน,บูรณาการภาคี เคร ือข่าย - สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผัก - สภาพอากาศ,ดิน,น้าไม่เอื้อ 40


จังหวัดพะเยา What (Task/Mission) Key to Success Key to Success 1. ลดหนี้ค้างช าระให้เหลือน้อย กว่าร้อยละ 10 - ติดตามในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง - แจ้งเตือนก่อนถึงก าหนดช าระ - ให้คณะท างานขับเคลื่อนพิจารณา คุณสมบัติผู้กู้ว่ามีความสามารถที่ จะช าระหนี้ได้หร ือไม่ - ไม่ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง - ไม่ได้ปรับปรุงทะเบียนของ ลูกหนี้ 2. จปฐ. - พัฒนา ใส่ใจ ติดตามการ จัดเก็บและบันทึก - ระบบมีปัญหา - พื้นที่ห่างไกลไม่มีสัญญาณ Internet 3. Click ชุมชน - ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทุก ช่องทาง - ขอความร่วมมือภาคีเคร ือข่าย การพัฒนาช่วยสมัครใช้โปรแกรม และประชาสัมพันธ์ - อุปกรณ์ของคนในชุมชนไม่ พร้อม จังหวัดล าปาง What (Task/Mission) Key to Success Key to Success 1. กองทุนชุมชน (กค.คจ., ออม ทรัพย์ฯ, กองทุนแม่, ศจก., กองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี) - การมีส่วนร่วม - มีเป้าหมายและแผนการ ด าเนินงานที่ชัดเจน - ผู้บร ิหาร,ผู้น าให้ความส าคัญ - ละเลยการติดตาม,ตรวจสอบ - ลูกหนี้ขาดความรับผิดชอบ - เกิดการทุจร ิต 2. โคก หนอง นา - สร้างเคร ือข่าย ,กระตุ้นการมี ส่วนร่วม - ให้การสนับสนุนองค์ความรู้ใน การบร ิหารจัดการพื้นที่ - ขาดการมีส่วนร่วมของเคร ือข่าย - Mindset ของเจ้าของแปลง, ขาดการดูแลอย่างต่อเนื่อง,รอ คอยการสนับสนุนจากภาครัฐ 3. จปฐ. - วางแผนและระยะเวลาการ ด าเนินงานที่ชัดเจน - สร้างความร่วมมือภาคีเคร ือข่าย - ระบบไม่เสถียร - ผู้จัดเก็บข้อมูลยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ในตัวชี้วัดต่างๆ สรุปผลการเร ียนรู้ พัฒนากรระหว่างประจ าการได้เร ียนรู้ถึงการพัฒนางานเดิมที่ยังไม่ดีขึ้น ให้ดีขึ้นได้อย่างไร งานใดที่ ยังท าได้ไม่ดีจะท าให้ดีขึ้นได้อย่างไร และฝึกกระบวนการวิเคราะห์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการวางแผน ด าเนินกิจกรรมโครงการ รวมถึง Key Success and Key to Failure การให้ความส าคัญว่าอะไรคือสิ่งจา เป็นที่ ควรมีในแผนหร ือแนวทางการท างาน มีแล้วจะท าให้แผนส าเร็จได้อย่างตรงตามวัตถุประสงค์Key to Failure สิ่งที่จะท าให้แผนงานไม่ส าเร็จ ควรหลีกเลี่ยงหร ือ ห้ามท าเด็ดขาด หากท าไปแล้วจะท าให้งาน ไม่ประสบความส าเร็จ 41


วิชา เคร ื่องมือออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง วิทยากรหลัก/ผู้รับผิดชอบ 1. วิทยากรหลัก : ดร.นราธิป อ่าเที่ยงตรง 2. ผู้รับผิดชอบสรุปเนื้อหา : นายณัฐนิช รักขติวงศ์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนช านาญการ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อศึกษาเคร ื่องมือในการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ความ เปลี่ยนแปลง ๒. เพื่อออกแบบเคร ื่องมือในการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนภายใต้สถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลงในการเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการพัฒนาโครงการตอบสนองกับความต้องการของพื้นที่ได้ อย่างตรงประเด็น ระยะเวลา 3 ชั่วโมง (09.00 น. - 12.00 น.) ขอบเขตเนื้อหาวิชา ๑. วิเคราะห์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการวางแผนด าเนินโครงการซึ่งประกอบด้วย ๑.๑ Job to be done เป้าหมายที่กลุ่มเป้าหมายต้องท าให้ส าเร็จ ๑.๒ Pain Point ในด้านจุดเจ็บปวด หร ือปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ๑.๓ Gain สิ่งที่เป้าหมายต้องการ ๒. การหาผู้ที่มีค่านิยมร่วม (Shared Value) โดยพิจารณาในสิ่งที่เป็นค่านิยมของเราและของผู้ที่เรารว่มงาน ด้วย เชน่ความเชอื่ทัศนะคติวสิัยทัศน์ความต้องการที่จะเห็นชุมชนท้องถิ่นเกิดการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ๓. Project Implementation Canvas ใช้เป็นเคร ื่องมือในการออกแบบแนวทางการพัฒนาคุณภาพ ชีวิต และสร้างรายได้โดยการน้อมน าแนวพระราชด าร ิมาประยุกต์ใช้ แบ่งออกเป็น ๒ ส่วนหลัก ประกอบด้วย การวิเคราะห์ปัญหา และความต้องการกลุ่มเป้าหมาย ๓.๑ วิเคราะงานที่ได้รับมอบหมายจากพัฒนาการอ าเภอ ๓.๒ คุณค่าของโครงการที่จะส่งมอบ ๓.๓ กลุ่มเป้าหมาย (Job pain Gain) และค่านิยมร่วมของกลุ่มเป้าหมายกับงานของเรา สร้างไอเดียการขับเคลื่อนงาน ได้แก่ ๓.๔ องค์ประกอบที่จะท าให้โครงการส าเร็จ และไม่ส าเร็จ ๓.๕ การน้อมน าแนวพระราชด าร ิมาประยุกต์ใช้ ๓.๖ การน าองค์ประกอบและการน้อมน าแนวพระราชด าร ิมาประยุกต์ใช้ในการท างาน และผสานเป็นกล ยุทธ์ในการปฏิบัติการท างาน ๓.๗ แผนการปฏิบัติ ขับเคลื่อนด้วยกระบวนการอย่างไร ๓.๘ การประสานหร ือบูรณาการกับพันธมิตร หร ือแนวทางอื่น ๆ ที่ท าให้งานส าเร็จ ๔. แนวทางพื้นฐานของการคิดเชิงกลยุทธ์ และปฏิบัติ ๕. หลักการทรงงาน 27 ประการ ในการเชื่อมโยงสอดคล้องกับการขับเคลื่อนกลยุทธ์ มาใช้เป็นหลัก พัฒนาชุมชน อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ๖. ตัวอย่างโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าร ิ ๗. ลงมือปฏิบัติเป็นกลุ่มจังหวัด แยกรายจังหวัด และแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ร่วมกับ ๘. สรุปผลการออกแบบเคร ื่องมือ 42


เทคนิค/วิธีการ/กระบวนการ ภาพประกอบกิจกรรมการเร ียนรู้ วิทยากรหลักท าการบรรยายและเปิดประเด็นในการแลกเร ียนรู้ร่วมกัน และฝึกในการท าการวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการวางแผนด าเนินกิจกรรมโครงการ ซึ่งประกอบด้วย ๑. Job to be done เป้าหมายที่กลุ่มเป้าหมายต้องท าให้ส าเร็จ ๒. Pain Point ในด้านจุดเจ็บปวด หร ือปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ๓. Gain สิ่งที่เป้าหมายต้องการ วิทยากร กล่าวถึงการท างานในพื้นที่ หร ือการท างานร่วมกับชุมชน จะต้องหาผู้ที่มีค่านิยมร่วม (Shared Value) โดยพิจารณาในสิ่งที่เป็นค่านิยมของเราและของผู้ที่เรารว่มงานด้วย เชน่ความเชอื่ทัศนะคติวสิัยทัศน์ ความต้องการที่จะเห็นชุมชนท้องถิ่นเกิดการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เร ียนรู้เร ื่อง Project Implementation Canvas ใช้เป็นเคร ื่องมือในการออกแบบแนวทางการพัฒนา คุณภาพชีวิต และสร้างรายได้โดยการน้อมน าแนวพระราชด าร ิมาประยุกต์ใช้ แบ่งออกเป็น ๒ ส่วนหลัก ประกอบด้วย การวิเคราะห์ปัญหาและกลุ่มเป้าหมายร่วมกัน โดยระดมความคิดเป็นจังหวัด ๑. วิเคราะงานที่ได้รับมอบหมายจากพัฒนาการอ าเภอ วิทยากรให้ผู้อบรมน าข้อมูลจากใบงานของ พัฒนาการอ าเภอ ประกอบกับข้อมูลจากกระบวนการในกิจกรรม และ Workshop รายจังหวัด อื่น ๆ มาประมวล เพื่อให้โครงการมีความเหมาะสมมากขึ้น 43


๒. คุณค่าของโครงการที่จะส่งมอบ (Project Value) โดยคุณค่าที่ได้รับ มาจากประโยชน์ของโครงการ ซึ่ง จะมีทั้งคุณค่าเชิงเหตุผลและเชิงอารมณ์ เช่น ความมั่นใจ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ๓. กลุ่มเป้าหมาย (Job pain Gain) และค่านิยมร่วมของกลุ่มเป้าหมายกับงานของเรา ซึ่งเป็นการ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้ละเอียดว่าใครเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก หร ือเป้าหมายรอง โดยเป็นการระบุให้ลึกและ ชัดเจน เช่นชื่อกลุ่ม ลักษณะของกลุ่ม เช่น กลุ่ม OTOP ในกลุ่มผ้าและเคร ื่องแต่งกาย ที่เป็นกลุ่ม ขึ้นทะเบียนมา กี่ปี กิจกรรมที่ท าประกอบด้วยอะไรบ้าง และการค้นหาค่านิยม หร ือคุณค่าร่วมในกลุ่มเป้าหมายกับงานของเรา เช่น ให้คุณค่าด้านความสัมพันธ์ใน ชุมชน การสร้างประโยชน์ส่วนรวม ด้านการศึกษา พัฒนาพื้นที่ ส่วนของการสร้างไอเดียการขับเคลื่อนงาน ได้แก่ ๑. องค์ประกอบที่จะท าให้โครงการส าเร็จ และไม่ส าเร็จ เพื่อให้เห็นปัจจัยที่ส่งเสร ิมให้การท างานประสบ ความส าเร็จ และปัจจัยที่ท าให้งานล้มเหลวและควรหลีกเลี่ยง โดยในการคิดกลยุทธ์และแผนการขับเคลื่อนให้ สอดคล้องกับปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ๒. การน้อมน าแนวพระราชด าร ิมาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นการน้อมน าแนวพระราชด าร ิและหลักการทรงงานทั้ง 27 ข้อ โดยน้อมน าบางประเด็นที่เป็นหลักที่สามารถเชื่อมโยง สอดคล้องและขับเคลื่อนกลยุทธ์การท า งานอย่าง มีคุณภาพ มีหลักการ และมีประสิทธิภาพได้ เช่น ไม่ติดต ารา ท าให้ง่าย ระเบิดจากข้างใน ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง บร ิการรวมที่จุดเดียว หร ือคิดแบบองค์รวม ๓. การน าองค์ประกอบและการน้อมน าแนวพระราชด าร ิมาประยุกต์ใช้ในการท างาน และผสานเป็นกลยุทธ์ใน การปฏิบัติการท างาน เป็นการน าแนวทางที่น้อมน าแนวพระราชด าร ิรวมถึงแนวทางสร้างสรรค์ต่าง ๆ มากลั่นกรอง เป็นกลยุทธ์เพื่อให้ตอบโจทย์ประเด็นหร ือปัญหา และสามารถแก้ไขปัญหา ได้ตั้งแต่สาเหตุของปัญหานั้น ๆ คิดเป็น Model-based ที่ สามารถเชื่อมโยง บูรณาการทั้งภายใน และภายนอกได้ ที่ไม่ใช่เพียง Productbased หร ือ Event-based และควรคิดแบบ “ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว” โดยอาจตั้งชื่อ Model เพื่อการ ขับเคลื่อน ให้มีความน่าสนใจได้เพื่อง่ายต่อการน าเสนอ + การคิดโดยใช้ทรัพยากรที่มีค่าของ พช. และภาคี เคร ือข่ายที่มีพลังที่จะสามารถ เกื้อกูล ได้ประโยชน์ไปพร้อมกันได้ รวมถึงเขียนผลที่ได้รับจาก โครงการที่ สอดคล้องกับประเด็น และสาเหตุ และควรเขียนให้เห็นถึง Output / Outcome / Impact ของงานที่ สอดคล้องกับคุณค่าที่เสนอ (Project Value) ด้วย ๔. แผนการปฏิบัติ ขับเคลื่อนด้วยกระบวนการอย่างไร โดยน ากลยุทธ์จากการสร้างไอเดียในแต่ละข้อ มา แตกย่อยออกมาเป็น แผนปฏิบัติ เพื่อการขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพ ผ่านการผสานแนวพระราชด าร ิ x Key Success x หลีกเลี่ยง Key to Failure x แนวโน้มที่เหมาะสมในพื้นที่ / ภูมิสังคม x ความคิดสร้างสรรค์ที่ แก้ปัญหาได้ โดยในการท าแผนฉบับจรงิจะต้องมีการลงรายละเอียดเพิ่มว่าแผนปฏิบัติในแต่ละกลยุทธน์ ั้น มีการ ท างาน ตั้งแต่ต้นน้า กลางน้า ปลายน้า ผลที่คาดว่าจะได้รับ และตัวชี้วัด อย่างไร เพื่อให้แผนสมบูรณ์ 5. การประสานหร ือบูรณาการกับพันธมิตร หร ือแนวทางอื่น ๆ ที่ท าให้งานส าเร็จ ซึ่งในการขับเคลื่อนนั้น จะมีการประสาน หร ือบูรณาการกับ พันธมิตรอย่างไร ที่จะท าให้งานส าเร็จ บรรลุตามเป้าหมาย หร ือเกิดคุณค่า / ผลกระทบต่อยอดไปยังส่วนอื่นๆ หลังจากนั้น วิทยากรให้ผู้อบรมลงมือปฏิบัติเป็นกลุ่มจังหวัด แยกรายจังหวัด และแลกเปลี่ยนเร ียนรู้และมี การน าเสนอเพื่อปรับปรุงงานร่วมกัน สุดท้ายวิทยากรท าการสรุปผลการออกแบบเคร ื่องมือ และให้แนวคิดสู่การ น าไปปรับใช้ของแต่ละอ าเภอต่อไป 44


Click to View FlipBook Version