แผน-พัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง

1

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ า
อช21003 พัฒนาอาชพี ให้มคี วามเขม้ แข็ง

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น
ตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน

พทุ ธศกั ราช 2551

สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย
จงั หวัดสพุ รรณบุรี

ก2

คานา

แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือสาคัญสาหรับครูท่ีจะทาให้การจัดการเรียนรู้บรรลุเปูาหมายที่
ต้องการ เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าโดยศึกษาในเรื่อง สาระพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๔๕) หมวด ๓ ระบบการศึกษา และ หมวด ๔ แนวการจัดการศึกษาทุกมาตรากรอบของการจัด
การศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เอกสารเก่ียวกับการ
ประกันคุณภาพการศึกษา โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานเอกสารเกี่ยวกับเน้ือหาในรายวิชาที่
จดั การเรยี นรู้ และศกึ ษาหาขอ้ มลู จากแหลง่ เรยี นรูต้ ่าง ๆ วธิ ีการจดั การเรียนรู้แบบต่าง ๆ ซง่ึ เน้นผ้เู รียนเป็นสาคัญและ
รูปแบบการเรียนรู้ โดยกาหนดให้ใช้รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ กศน. (ONIE MODEL) ซึ่งมี ๔ ข้ันตอน
ได้แก่ ขั้นตอนท่ี ๑ การกาหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O : Orientation) ข้ันตอนที่ ๒ การ
แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) ข้ันตอนท่ี ๓ การปฏิบัติและนาไปประยุกต์ใช้ (I :
Implementation) ข้ันตอนที่ ๔ การประเมินผล (E : Evaluation) แผนการเรียนรู้จะทาให้ครูได้คู่มือการจัดการ
เรยี นรู้ ทาใหด้ าเนินการจดั การเรียนรู้ไดค้ รบถ้วนตรงตามหลักสตู รและจัดการเรียนรูไ้ ด้ตรงเวลา

ในการจัดทาแผนการเรียนรู้ดังกล่าว สาเร็จลงได้ด้วยความร่วมมือจากข้าราชการบานาญ ผู้บริหาร
นักวิชาการ และครู กศน. ท่ีได้เสนอแนะความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ยิ่งต่อการพัฒนาเป็นแผนการจัดการเรียนรู้
สานกั งาน กศน. ขอขอบคุณในความรว่ มมือมาในโอกาสน้ี

คณะผู้จัดทา

สารบญั ข3
เรื่อง
หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
1
คาอธบิ ายรายวชิ าและรายละเอียดคาอธิบายรายวิชา 4
ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตร 7
ปฏทิ นิ การจดั การเรียนร้(ู รายสัปดาห)์ 17
29
แผนการจัดการเรยี นร(ู้ รายภาค) 58
แผนการจดั การเรียนร้แู บบพบกลมุ่ 60
75
ปฏิทินการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 76
แผนการจัดการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง
บรรณานุกรม

คณะทางาน

๑

คาอธิบายรายวชิ า อช21003 พฒั นาอาชพี ให้มคี วามเข้มแข็ง จานวน 2 หนว่ ยกติ
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการพฒั นาอาชพี ใหม้ ีผลติ ภัณฑ์หรอื งานบริการ สรา้ งรายได้พอเพยี งต่อการดารงชีวติ

และเหลอื เงินออมตามศกั ยภาพ
ศึกษา และฝึกทกั ษะเก่ยี วกบั การพัฒนาอาชพี เพือ่ ใหม้ ีความเข้มแขง็ ดงั น้ี คอื

ความหมาย ความสาคญั ความจาเป็นในการพัฒนาอาชีพ
ศกั ยภาพธรุ กิจตนเอง ชมุ ชน ความจาเปน็ และคณุ คา่ ของการวเิ คราะหศ์ ักยภาพธรุ กจิ การวิเคราะห์ตาแหน่ง
ธรุ กิจ (ระยะเรม่ิ ตน้ ระยะสร้างตัว ระยะทรงตัว ระยะตกต่าหรือสูงขึ้น) การวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจบนเส้นทางของ
เวลา
การจัดทาแผนพฒั นาการตลาด การกาหนดทิศทางการตลาด กาหนดเปูาหมายการตลาด การกาหนดกลยุทธ์
สูเ่ ปูาหมายบนพ้นื ฐานศักยภาพธรุ กจิ ท่เี ปน็ อยู่ การวเิ คราะหก์ ลยทุ ธก์ าหนดกิจกรรมแผนการพฒั นาการตลาด
การจดั ทาแผนพัฒนาการผลิตหรือการบริการ การกาหนดคุณภาพผลผลิตหรือการบริการ การวิเคราะห์ทุน
ปจั จยั การผลิตหรอื การบริการ การกาหนดเปาู หมายการผลิตหรอื การบริการ การกาหนดแผนกิจกรรม พัฒนาระบบการ
ผลติ หรอื บริการ
การพัฒนาธุรกิจเชิงรุก ความจาเป็นและคุณค่าของธุรกิจเชิงรุก การแทรกความนิยมเข้าสู่ความต้องการ
แทจ้ ริงของผู้บรโิ ภค รูปลักษณ์ คุณภาพใหม่ เพิ่มชอ่ งทางเขา้ ถงึ ลกู ค้า
ปฏิบตั ิการ จัดทาแผน และโครงการพัฒนาอาชีพให้มีความเขม้ แขง็
การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้
เป็นการศึกษาปฏิบัติจริงด้วยการวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจ การจัดทาแผนพัฒนาการตลาด การจัดทา
แผนพัฒนาการผลติ หรอื การบรกิ าร การพฒั นาธรุ กิจเชิงรุก อาจสร้างสถานการณ์จาลองข้ึนมา หรือพาไปศึกษาของ
จริงเพอื่ ฝึกปฏบิ ัตแิ ละนาแผนปฏิบตั ิการตา่ ง ๆ เข้าสวู่ ถิ ีชวี ติ หรือดาเนนิ การจริงตามวิถีชีวิต เพื่อผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
สามารถพัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามเขม้ แขง็ (พออยู่ พอกิน มรี ายได้ มกี ารออม)
การวดั และประเมนิ ผล
ประเมินจากสภาพจรงิ จากผลงานการเรยี นรู้ และผลการเรยี นรกู้ ารจดั ทาแผน และโครงการพฒั นาอาชีพใหม้ ี
ความเขม้ แขง็

๒

รายละเอียดคาอธิบายรายวิชา อช21003 พัฒนาอาชพี ให้มคี วามเข้มแขง็ จานวน 2 หน่วยกิต
ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั

มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการพฒั นาอาชพี ใหม้ ผี ลิตภณั ฑ์หรอื งานบริการ สร้างรายไดพ้ อเพียงต่อการดารงชีวติ

และเหลอื เงินออมตามศักยภาพ

ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ชวี้ ัด เน้อื หา จานวน
(ชั่วโมง)

1 ศกั ยภาพธรุ กจิ 1.อธบิ ายความหมาย ความสาคญั และ 1.ความหมาย ความสาคญั 20

ความจาเป็นของการพัฒนาอาชีพเพื่อ และความจาเปน็ ในการพฒั นา

ความเข้มแข็ง อาชีพ

2.อธบิ ายความจาเปน็ และคุณค่าของ 2.ความจาเปน็ ของการ

การวเิ คราะหศ์ ักยภาพของธุรกิจ วเิ คราะหศ์ ักยภาพธรุ กิจ

3.สามารถวิเคราะหต์ าแหน่งธรุ กิจใน 3.การวเิ คราะห์ตาแหนง่ ธุรกจิ

ระยะต่าง ๆ - ระยะเริม่ ตน้

- ระยะสร้างตัว

- ระยะทรงตัว

- ระยะตกต่าหรอื สงู ข้ึน

4.สามารถวิเคราะห์ศักยภาพธุรกจิ บน 4.การวเิ คราะหศ์ ักยภาพธรุ กิจ

เส้นทางของเวลา บนเสน้ ทางของเวลา

2 การจดั ทา 1.กาหนดทิศทางการตลาด 1.การกาหนดทศิ ทาง 15

แผนพฒั นา การตลาด

การตลาด 2.กาหนดเปาู หมาย การตลาด 2.การกาหนดเปูาหมาย

การตลาด

3.กาหนดกลยทุ ธ์สูเ่ ปูาหมาย 3.การกาหนดกลยทุ ธส์ ู่

เปาู หมาย

4.วเิ คราะห์กลยทุ ธ์ 4.การวิเคราะหก์ ลยทุ ธ์

5.กาหนดกิจกรรมและแผนการ 5.กิจกรรมและแผนการ

พฒั นาการตลาด พัฒนาการตลาด

3 การจดั ทา 1.อธบิ ายการกาหนดคุณภาพผลผลิต 1.การกาหนดคุณภาพการ 15

แผนพัฒนาการ หรือการบริการ ผลิตหรอื การบรกิ าร

ผลติ หรือการ 2.วเิ คราะห์ทนุ ปจั จัยการผลติ หรอื การ 2.การวิเคราะห์ทนุ ปจั จัยการ

บริการ บริการ ผลิตหรอื การบรกิ าร

๓

ท่ี หัวเรื่อง ตัวชว้ี ัด เนื้อหา จานวน
(ช่ัวโมง)

3.กาหนดเปาู หมายการผลติ หรือการ 3.การกาหนดเปาู หมายการ

บริการ ผลิตหรือการบริการ

4.กาหนดแผนกจิ กรรมการผลติ 4.การกาหนดแผนกิจกรรม

5.พัฒนาระบบการผลติ หรอื การบริการ 5.การพัฒนาระบบการผลติ

หรอื การบรกิ าร

4 การพฒั นาธรุ กิจ 1.อธบิ ายความจาเป็น และคุณค่าของ 1.ความจาเปน็ และคุณค่าของ 15

เชิงรกุ ธรุ กจิ เชิงรกุ ธุรกจิ เชงิ รกุ

2.อธบิ ายการแทรกความนิยมเขา้ สู่ 2.การแทรกความนยิ มเขา้ สู่

ความตอ้ งการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ความตอ้ งการของผ้บู รโิ ภค

3.อธิบายการสร้างรปู ลกั ษณ์ คุณภาพ

สนิ คา้ ใหม่ 3.การสรา้ งรูปลักษณค์ ุณภาพ

4.อธบิ ายการพฒั นาอาชีพให้มคี วาม สนิ คา้ ใหม่

เขม้ แข็ง 4.การพัฒนาอาชีพใหม้ ีความ

เขม้ แข็ง (พออยู่ พอกิน

มรี ายได้ มีการออม)

5 โครงการพฒั นา 1.วิเคราะห์ความเปน็ ไปได้ของแผนต่าง 1.การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ 15

อาชพี ใหม้ คี วาม ๆ ของแผนต่างๆ

เขม้ แข็ง 2.เขยี นโครงการการพฒั นาอาชีพ 2.การเขียนโครงการการ

พฒั นาอาชพี

3.ตรวจสอบความเป็นไปได้ของ 3.การตรวจสอบความเปน็ ไป

โครงการพฒั นาอาชพี ได้ของโครงการ

4.ปรับปรุงโครงการพัฒนาอาชพี 4.การปรบั ปรงุ แกไ้ ขโครงการ

พฒั นาอาชีพ

๔

ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร
รายวิชา อช21003 พฒั นาอาชพี ให้มคี วามเข้มแข็ง จานวน 2 หนว่ ยกิต

ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้
มาตรฐานการเรยี นรูระดับ

มีความรู้ ความเขา้ ใจในการพัฒนาอาชพี ใหม้ ผี ลติ ภัณฑ์หรอื งานบรกิ าร สรา้ งรายไดพ้ อเพยี งตอ่ การ
ดารงชวี ติ และเหลือเงินออมตามศักยภาพ

ผลการวเิ คราะหร์ ายละเอียดคาอธิบายรายวิชา อช21003 พัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามเขม้ แข็ง

ท่ี ตวั ชวี้ ัด เนื้อหา จานวน ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้
(ชัว่ โมง) พบกลุ่ม เรยี นรู้ด้วยตนเอง
1 1.อธิบายความหมาย ความสาคญั ศักยภาพธุรกิจ
20 
และความจาเปน็ ของการพฒั นา 1.ความหมาย ความสาคัญ 
อาชพี เพือ่ ความเขม้ แขง็ 
และความจาเปน็ ในการ
2.อธิบายความจาเป็น และคุณค่า พัฒนาอาชพี 
ของการวเิ คราะห์ศกั ยภาพของ 2.ความจาเปน็ ของการ
ธุรกจิ วเิ คราะห์ศักยภาพธุรกิจ
3.สามารถวิเคราะหต์ าแหนง่ 3.การวเิ คราะห์ตาแหน่งธรุ กจิ
ธุรกจิ ในระยะต่าง ๆ
- ระยะเรมิ่ ต้น
4.สามารถวเิ คราะห์ธรุ กิจตาม - ระยะสรา้ งตวั
ศกั ยภาพ 5 ดา้ นไดแ้ ก่
- ระยะทรงตัว
ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ - ระยะตกตา่ หรอื สูงขึน้
ในแต่ละพืน้ ที่ ศกั ยภาพของ 4.การวเิ คราะห์ธุรกิจตาม
พืน้ ทีต่ ามลักษณะภมู ิอากาศ ศกั ยภาพ 5 ด้านได้แก่
ศักยภาพของภมู ิประเทศและ ศกั ยภาพของ
ทาเลที่ตง้ั ของแต่ละพนื้ ที่
ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นแต่ละ
ศกั ยภาพของศลิ ปะ วัฒนธรรม พนื้ ที่ ศกั ยภาพของพืน้ ทีต่ าม
ประเพณีและวิถชี วี ิตของแต่ละ ลักษณะภมู ิอากาศ ศกั ยภาพ
พื้นท่ี ศักยภาพของทรัพยากร ของภมู ิประเทศและทาเล
มนษุ ยใ์ นแตล่ ะพน้ื ที่ บนเส้นทาง ที่ตง้ั ของแต่ละพน้ื ที่

ศกั ยภาพของศิลปะ

วัฒนธรรม ประเพณแี ละวิถี

ชีวิตของแตล่ ะพ้ืนทีศ่ ักยภาพ

ของทรพั ยากรมนุษยใ์ นแต่ละ

พืน้ ท่ีบนเส้นทางของเวลา

๕

ท่ี ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา จานวน ออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้
(ชว่ั โมง) พบกล่มุ เรยี นรดู้ ้วยตนเอง
2 1.กาหนดทศิ ทางการตลาด การจดั ทาแผนพฒั นา
2.กาหนดเปาู หมาย การตลาด การตลาด 15
3.กาหนดกลยทุ ธ์สู่เปาู หมาย 1.การกาหนดทศิ ทางการตลาด
4.วิเคราะห์กลยุทธ์ 2.การกาหนดเปูาหมาย 
5.กาหนดกจิ กรรมและแผนการ การตลาด 
พัฒนาการตลาด 3.การกาหนดกลยทุ ธส์ ู่
เปาู หมาย 
4.การวเิ คราะหก์ ลยุทธ์
5.กิจกรรมและแผนการ 
พัฒนาการตลาด

3 1.อธบิ ายการกาหนดคุณภาพ การจดั ทาแผนพัฒนาการ 15

ผลผลติ หรือการบรกิ าร จัดทาแผนพฒั นาการผลติ หรอื

2.วเิ คราะหท์ ุนปัจจยั การผลิตหรือ การบริการ

การบริการ 1.การกาหนดคณุ ภาพการผลิต 

3.กาหนดเปูาหมายการผลิตหรอื หรอื การบริการ 

การบรกิ าร 2.การวเิ คราะห์ทนุ ปจั จยั การ  

4.กาหนดแผนกิจกรรมการผลติ ผลติ หรือการบรกิ าร

5.พัฒนาระบบการผลิตหรือการ 3.การกาหนดเปูาหมายการผลิต

บรกิ าร หรอื การบริการ

4.การกาหนดแผนกจิ กรรม

5.การพฒั นาระบบการผลติ หรือ

การบริการ

ท่ี ตวั ชี้วดั ๖

เนือ้ หา จานวน ออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้
(ชัว่ โมง) พบกลมุ่ เรียนรูด้ ้วยตนเอง

4 1.อธิบายความจาเป็น และคุณค่า การพฒั นาธรุ กิจเชงิ รกุ 15
15
ของธุรกจิ เชงิ รกุ 1.ความจาเป็น และคุณคา่ ของ 

2.อธบิ ายการแทรกความนิยมเขา้ ธรุ กจิ เชงิ รุก

สคู่ วามตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคได้ 2.การแทรกความนยิ มเข้าสู่ 

อยา่ งแทจ้ รงิ ความต้องการของผูบ้ ริโภค 

3.อธิบายการสรา้ งรปู ลักษณ์ 3.รูปลักษณ์คุณภาพใหม่ 

คุณภาพสนิ ค้าใหม่ 4.การพฒั นาอาชีพให้มคี วาม 

4.อธบิ ายการพฒั นาอาชพี ให้มี มน่ั คง เข้มแข็ง (พออยู่ พอกนิ

ความมนั่ คง มีรายได้ มีการออม)

5 1.วเิ คราะหค์ วามเป็นไปได้ของ โครงการพฒั นาอาชีพให้มี

แผนตา่ งๆ ความเข้มแขง็

2.เขียนโครงการการพัฒนาอาชีพ 1.การวิเคราะห์ความเป็นไปได้

ได้ ของแผนตา่ งๆ

3.ตรวจสอบความเปน็ ไปไดข้ อง 2.การเขยี นโครงการการพฒั นา

โครงการพัฒนาอาชพี ได้ อาชพี

4.ปรับปรงุ โครงการพัฒนาอาชีพ 3.การตรวจสอบความเปน็ ไปได้

ได้ ของโครงการ

4.การปรบั ปรงุ แก้ไขโครงการ

พฒั นาอาชีพ

๗

ปฏิทินการเรียนรนู้ กั ศกึ ษา กศน.
หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563
กศน. ตาบล................................... กศน. อาเภอ................................ จงั หวัดสพุ รรณบุรี

คร้ังท่ี ว/ด/ป การจัดการเรียนรแู้ บบพบกลมุ่ การจัดการเรียนรู้แบบเรียนร้ดู ้วยตนเอง

1 ปฐมนิเทศนกั ศึกษาภาคเรยี นท่ี 1/2563

2 วิชา ทักษะการเรยี นรู้ (ทร21001) วิชา ทกั ษะการเรยี นรู้ (ทร21001)

เร่ือง การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เรือ่ ง การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง

1. ความหมาย ความสาคญั ของการเรียนรูด้ ว้ ย 1. ความหมาย ความสาคญั ของการเรียนรูด้ ว้ ย

ตนเอง ตนเอง

2. การกาหนดเปูาหมายและการวางแผนการ 2. การกาหนดเปูาหมายและการวางแผนการ

เรยี นรู้ด้วยตนเอง เรยี นรู้ด้วยตนเอง

3. การวางแผนการเรยี นรู้ และ การประเมนิ ผล 3. ทักษะพน้ื ฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทกั ษะ

การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การแก้ปญั หา และเทคนิคในการเรยี นร้ดู ้วย

ตนเอง

4. ปัจจยั ท่ที าให้การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองประสบ

ความสาเรจ็

5. การวางแผนการเรยี นรู้ และ การประเมนิ ผล

การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง

6. การฝึกทกั ษะวางแผนการเรยี นรแู้ ละการ

ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การวิจารณ์

3 วิชา ทักษะการเรียนรู้ (ทร21001) วิชา ทกั ษะการเรียนรู้ (ทร21001)

เรื่อง การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ เรอ่ื ง การใช้แหลง่ เรยี นรู้

1. ความหมาย ความสาคญั ของการใช้หอ้ งสมดุ 1.ความหมาย ความสาคัญ ของการใชห้ อ้ งสมุด

อาเภอความสาเร็จ อาเภอความสาเร็จ

2. การเข้าถงึ สารสนเทศของห้องสมุดประชาชน 2.แหล่งเรียนรู้ หอสมดุ แห่งชาติ หอสมุด

3.การใชอ้ ินเทอร์เน็ต การเข้าถงึ ขอ้ มูลสารสนเทศ วิทยาลัย/มหาวิทยาลยั หอ้ งสมุดเฉพาะ ห้องสมุด

ทีต่ อ้ งการและสนใจ โรงเรียน พิพธิ ภัณฑ์ อุทยานแหง่ ชาติ แหล่ง

เรียนรู้สาคญั อืน่ ๆ ในประเทศ

3. การใช้อินเทอร์เนต็ การเข้าถงึ ขอ้ มลู

สารสนเทศทีต่ ้องการและสนใจ

4 วิชา ทักษะการเรยี นรู้ (ทร21001) วชิ า ทักษะการเรยี นรู้ (ทร21001)

เรอื่ ง การจดั การความรู้ เรอ่ื ง การจดั การความรู้

1. ความหมาย ความสาคญั หลกั การ 1. ความหมาย ความสาคญั หลักการ

กระบวนการจัดการความรู้ กระบวนการจดั การความรู้

การรวมกลมุ่ เพื่อตอ่ ยอดความรู้ การรวมกลุ่มเพื่อต่อยอดความรู้

๘

ครั้งท่ี ว/ด/ป การจดั การเรียนรแู้ บบพบกลุม่ การจัดการเรยี นรแู้ บบเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

การพัฒนาขอบข่ายความรู้ของกลุ่ม และการ การพฒั นาขอบข่ายความรูข้ องกลมุ่ และการ

จัดทาสารสนเทศเผยแพร่ความรู้ จดั ทาสารสนเทศเผยแพร่ความรู้

2. การฝกึ ทักษะกระบวนการจดั การความรดู้ ว้ ย 2. การฝกึ ทกั ษะกระบวนการจัดการความร้ดู ้วย

ตนเอง และ กระบวนการจัดการความรูด้ ว้ ยการ ตนเอง และ กระบวนการจัดการความรู้ด้วยการ

รวมกลุ่มปฏิบัตกิ าร รวมกลมุ่ ปฏบิ ตั ิการ

3.สรุปองคค์ วามรู้ของกลุ่ม จัดทาสารสนเทศองค์ 3.สรุปองค์ความรูข้ องกล่มุ จัดทาสารสนเทศองค์

ความรู้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ความรใู้ นการพัฒนาตนเอง ครอบครวั

5 วิชา วิทยาศาสตร์ (พว21001) วิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เรื่อง กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และ เร่ือง กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และ

เทคโนโลยี เทคโนโลยี

1.1 กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และ 2. เทคโนโลยี

เทคโนโลยี 2.1 ความก้าวหน้าของเทคโนโลยใี นปัจจุบนั

1. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.2 เทคโนโลยีกับการประกอบอาชพี และการ

1.1 ความหมายและความสาคัญของ นาเทคโนโลยีไปใช้ในชีวิต

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรือ่ งโครงงานวิทยาศาสตร์

1.2 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1. โครงงานวทิ ยาศาสตร์

1.2.1 วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ 5 ขน้ั 1.1 การวางแผนการกระทาโครงงาน

1.2.2 ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1.2 การนาเสนอโครงงาน

13 ทกั ษะ 1.3 ประโยชน์ของโครงงานเพ่อื การพฒั นา

1.2.3 เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 6 ลักษณะ คณุ ภาพชีวิต

2. เทคโนโลยี

2.1 ความหมาย และความสัมพนั ธข์ อง

วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีต่อชีวติ และสงั คม

3. วสั ดุ และอปุ กรณท์ างวทิ ยาศาสตร์

3.1 ประเภทของวัสดุและอปุ กรณ์

3.2 วธิ ใี ชว้ ัสดุ และอปุ กรณ์

1.2 โครงงานวิทยาศาสตร์

1. โครงงานวิทยาศาสตร์

1.1 ประเภทของโครงงาน

1.2 การเลือกหวั ขอ้ โครงงาน

๙

คร้งั ที่ ว/ด/ป การจัดการเรียนรูแ้ บบพบกลุ่ม การจดั การเรียนรู้แบบเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

6 วชิ า วิทยาศาสตร์ (พว21001) วิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เร่ือง ส่ิงมีชวี ิตและส่ิงแวดลอ้ ม 2.3 ระบบนเิ วศ

2.1 เซลล์ 1. ความสมั พนั ธ์ของส่ิงมีชวี ติ ต่าง ๆ ในระบบ

1. ลักษณะ รปู ร่างของเซลลพ์ ชื และสัตว์ นิเวศ

1.1 ส่ิงมชี ีวติ เซลลเ์ ดยี ว 1.2 สิ่งมชี วี ิตหลายเซลล์ 2. การถา่ ยทอดพลงั งาน

2. องคป์ ระกอบโครงสรา้ ง และหน้าที่ของเซลล์ 3. สายใยอาหาร

พืชและเซลล์สัตว์ 4. วัฏจักรของน้า

3. กระบวนการทสี่ ารผ่านเซลล์ 5. วัฏจักรคารบ์ อน

3.1 การแพร่ 2. บรรยากาศ

3.2 การออสโมซสิ 2.1 ชั้นบรรยากาศ องค์ประกอบและการแบ่ง

2.2 กระบวนการดารงชีวิตของพชื และสัตว์ ชน้ั บรรยากาศ

1. การดารงชีวิตของพชื 2.2 อุณหภูมิ ความชน้ื และความกดอากาศใน

1.1 ระบบการลาเลียงนา้ อาหาร และแร่ธาตุ ทอ้ งถ่ิน

ของพืช 2.3 ความสัมพนั ธข์ องอุณหภูมิ ความชืน้ และ

1.2 โครงสร้างและการทางานของระบบลาเลียง ความกดอากาศ ที่มีผลกระทบตอ่ ชีวิตความ

นา้ ในพชื เป็นอยู่

1.3 โครงสรา้ งและการทางานของระบบลาเลยี ง 3. ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

อาหารในพืช 3.1 ชนดิ ของลม

1.4 กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง 3.1.1 ลมมรสุม

1.4.1 ความสาคัญของกระบวนการสงั เคราะห์ 3.1.2 ลมพายุหมนุ เขตรอ้ น ฯลฯ

ดว้ ยแสง 3.1.3 กรณศี กึ ษาการเกิดพายนุ ากีส พายุ

1.4.2 ปจั จยั ทจ่ี าเป็นสาหรบั กระบวนการ งวงช้าง พายนุ าคเลน่ นา้ ฯลฯ

สงั เคราะห์ดว้ ยแสง 3.2 อิทธิพลของลมต่อ

1.5 ระบบสืบพันธุ์ในพชื มนุษยแ์ ละส่งิ แวดล้อม

1.5.1 โครงสรา้ งและการทางานของระบบ 3.3 การปอู งกนั ภยั ท่ีเกดิ จากปรากฏการณ์ทาง

สบื พันธ์ขุ องพชื ไร้ดอก ธรรมชาติ

1.5.2 โครงสรา้ งและการทางานของระบบ 3.4 ความสาคญั และประโยชนข์ องการพยากรณ์

สืบพนั ธ์ขุ องพชื มดี อก อากาศ

2. การดารงชีวติ ของสตั ว์ 4. ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม

2.1 โครงสรา้ งและการทางานของระบบตา่ งๆ 4.1 การใชแ้ ละปัญหาเกี่ยวกับ

ของสตั ว์ ทรัพยากรธรรมชาติของทอ้ งถิน่ และประเทศ

2.1.1 ระบบหายใจ 4.2 การดแู ลรกั ษาทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น

2.1.2 ระบบยอ่ ยอาหาร 4.2.1 ขยะ

2.1.3 ระบบขับถ่าย 4.2.2 นา้ เสยี

2.1.4 ระบบสบื พนั ธ์ ฯลฯ 4.2.3 ดนิ ถลม่

2.4 โลก บรรยากาศปรากฏการณ์ทาง 4.2.4 การกัดเซาะชายฝ่งั ฯลฯ

ธรรมชาตสิ ่ิงแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ 4.3 สภาพส่ิงแวดลอ้ มในท้องถิ่น และประเทศ

๑๐

ครงั้ ที่ ว/ด/ป การจดั การเรยี นรูแ้ บบพบกลุ่ม การจดั การเรยี นรู้แบบเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง

1.โลก 4.4 ปัญหาและการแกไ้ ขสงิ่ แวดล้อมในทอ้ งถิน่

1.1โลก สว่ นประกอบและการแบ่งช้นั ของโลก และประเทศ

1.2 ทรัพยากรธรณีในท้องถ่ิน และประเทศ 4.5 การอนรุ ักษส์ ิ่งแวดล้อมและการใช้

1.3 การเปลยี่ นแปลงของเปลอื กโลก ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างยั่งยืน

1.3.1 กระบวนการยกตวั และการยบุ ตวั 4.6 สภาวะโลกรอ้ น สาเหตุและผลกระทบ การ

1.3.2 การผพุ งั อยกู่ บั ท่ี ปอู งกนั และแกไ้ ขปัญหาโลกรอ้ น

1.3.3 การกรอ่ น

1.3.4 การพดั พา

1.3.5 การทับถม

1.3.6 กรณีศึกษาภยั จากการเปลี่ยนแปลงของ

เปลือกโลก เชน่ แผ่นดนิ ไหว การเกดิ

ปรากฏการณส์ ึนามิ

7 วชิ า วทิ ยาศาสตร์ (พว21001) วิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เร่ือง สารเพ่ือชีวติ เรื่อง สารเพอื่ ชวี ติ

3.1 สารและการจาแนกสาร 3.1 สารและการจาแนกสาร

1. สมบตั ขิ องสาร 1. สมบตั ขิ องสาร

1.1 สมบัติทางกายภาพของสาร 1.2 สมบัติทางเคมีของสาร

2. เกณฑใ์ นการจาแนกสาร 2. สารสงั เคราะห์

2.1 ใช้สถานะ 2.1 ประเภท และการเกิด

2.2 ใชเ้ น้อื สาร 2.2 สมบตั ิและประโยชน์

3. สมบตั ิของธาตุ สารประกอบ สารละลาย สาร 3. สารและผลติ ภัณฑท์ ีใ่ ชใ้ นชวี ิต

ผสม 4. การเลือกใช้สารในชีวิต

3.2 ธาตแุ ละสารประกอบ 5. ผลกระทบท่ีเกิดจากการใช้สารตอ่ ชีวติ และ

1. ความหมายและสมบัติของธาตุ กมั มนั ตรังสี สิง่ แวดล้อม

2. สมบัตขิ องโลหะ อโลหะ และโลหะก่งึ อโลหะ

3. ธาตกุ มั มันตรงั สี

4. สารประกอบ

4.1 ความหมาย

4.2 การเกิดสารประกอบ

4.3 ธาตแุ ละสารในชีวิตประจาวัน

3.3 สารละลาย

1. สารละลาย

1.1 สมบตั ิของสารละลาย และองค์ประกอบของ

สารละลาย

1.2 ความสามารถในการละลายของสาร

1.3 ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อการละลายของสาร

1.4 ความเข้มขน้ ของสารละลาย

๑๑

ครั้งที่ ว/ด/ป การจัดการเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม การจดั การเรยี นรแู้ บบเรยี นรู้ด้วยตนเอง

1.5 การเตรยี มสารละลาย

2. กรด-เบส

2.1 ความหมายและสมบัตขิ องกรด-เบส และ

เกลอื ได้

2.2 ความเปน็ กรด-เบสของสาร

2.3 กรด – เบส ของสารในชวี ติ ประจาวนั

2.4 กรณศี ึกษากรด-เบสท่มี ผี ลตอ่ คุณสมบัตขิ อง

ดิน

3.4 สารและผลติ ภณั ฑใ์ นชวี ิต

1. สาร

1.1 สารอาหาร

1.2 สารปรุงแต่ง

1.3 สารปนเปอ้ื น

1.4 สารเจือปน

1.5 สารพิษ

8 วชิ า พฒั นาอาชีพให้มีความเขม้ แข็ง วชิ า พัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามเข้มแข็ง

(อช21003) (อช21003)

เรอ่ื ง ศักยภาพธุรกิจ เรอื ง ศักยภาพธรุ กจิ

1. ความหมายความสาคัญ และความจาเปน็ ใน 1. การวเิ คราะหต์ าแหน่งธรุ กิจ

การพฒั นาอาชีพ - ระยะเรม่ิ ต้น

2. ความจาเป็นของการวิเคราะหศ์ กั ยภาพธุรกจิ - ระยะสรา้ งตัว

- ระยะทรงตัว

เรื่อง การจัดทาแผนการตลาด - ระยะตกตา่ หรอื สงู ข้นึ

1. การกาหนดเปาู หมายการตลาด 2. การวเิ คราะห์ธรุ กิจตามศักยภาพ 5 ดา้ น ไดแ้ ก่

2. กิจกรรมและแผนการพฒั นาการตลาด 1. ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นแตล่ ะ

พ้ืนที่

2. ศกั ยภาพของพนื้ ทตี่ ามลกั ษณะของ

ภมู อิ ากาศ

3. ศกั ยภาพของภูมิประเทศและทาเลทต่ี ั้งของ

แต่ละพน้ื ที่

4. ศกั ยภาพของศลิ ปะ วัฒนธรรม ประเพณี

และวิถีชีวติ ของแต่ละพนื้ ท่ี

5. ศกั ยภาพของทรัพยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะ

พื้นท่บี นเส้นทางของเวลา

เรอื่ ง การจัดทาแผนการตลาด

1. การกาหนดทิศทางการตลาด

2. การกาหนดกลยุทธ์สเู่ ปูาหมาย

๑๒

คร้งั ที่ ว/ด/ป การจัดการเรียนรู้แบบพบกลุ่ม การจัดการเรียนรแู้ บบเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

3. การวเิ คราะห์กลยทุ ธ์

9 วชิ า การใช้พลงั งานไฟฟา้ ในชีวติ ประจาวัน 2 วชิ า การใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจาวนั 2

พว 22002 พว 22002

เร่ือง การกาเนดิ ไฟฟา้ เรื่อง หน่วยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ งด้านพลงั งานไฟฟา้

1. ไฟฟูาที่เกดิ จากการเสยี ดสีของวัตถุ ในประเทศไทย

2. ไฟฟูาที่เกดิ จากการทาปฏิกริ ยิ าทางเคมี หน่วยงานที่เก่ียวข้องด้านพลังงานไฟฟูาใน

3. ไฟฟาู ทเี่ กิดจากความร้อน ประเทศไทย

4. ไฟฟูาท่ีเกดิ จากพลังงานแสงอาทิตย์ 1. คณะกรรมการกากับกิจการพลงั งาน

5. ไฟฟูาทเ่ี กิดจากพลังงานแมเ่ หลก็ ไฟฟาู (กกพ.)

เรอื่ ง สถานการณ์พลังงานไฟฟา้ ของประเทศ 2. การไฟฟูาฝาุ ยผลติ แหง่ ประเทศไทย

ไทย และประเทศในอาเซยี น (กฟผ.)

1. สถานการณ์พลงั งานไฟฟูาของประเทศไทย 3. การไฟฟูาสว่ นภูมิภาค (กฟภ.)

1.1 สัดส่วนการผลติ ไฟฟาู จากเช้อื เพลงิ 4. การไฟฟูานครหลวง (กฟน.)

ประเภทตา่ ง ๆ ของประเทศไทย

1.2 ความต้องการใชไ้ ฟฟาู ในแตล่ ะช่วงเวลา

ในหน่ึงวนั ของประเทศไทย

1.3 สภาพปจั จุบันและแนวโนม้ การใช้

พลงั งานไฟฟาู

2. สถานการณพ์ ลังงานไฟฟาู ของประเทศใน

อาเซียน

10 วชิ า การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวัน 2 วชิ า การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจาวัน 2

พว 22002 พว 22002

เร่อื ง เชอื้ เพลิงและพลังงานทใ่ี ช้ในการผลติ เรือ่ ง โรงไฟฟ้ากบั การจดั การด้านสงิ่ แวดลอ้ ม

ไฟฟา้ 1. ผลกระทบและการจัดการสิง่ แวดล้อม

1.เชือ้ เพลงิ ฟอสซลิ ดา้ นอากาศ

1.1 ถ่านหิน 2. ผลกระทบและการจัดการสิง่ แวดล้อม

1.2 นา้ มนั ดา้ นนา้

1.3. กา๊ ซธรรมชาติ 3. ผลกระทบและการจัดการส่งิ แวดลอ้ ม

2. พลงั งานทดแทน ดา้ นแสง

2.1 ความสาคัญของพลังงานทดแทน

2.2 ประเภทของพลังงานทดแทน

2.3 หลกั การทางานของพลังงานทดแทน

2.3.1 พลังงานลม

2.3.2 พลังงานน้า

2.3.3 พลงั งานแสงอาทติ ย์

2.3.4 พลังงานชวี มวล

2.3.5 พลงั งานความร้อนใตพ้ ิภพ

๑๓

ครงั้ ท่ี ว/ด/ป การจดั การเรยี นรู้แบบพบกลุ่ม การจดั การเรยี นรแู้ บบเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง

2.3.6 พลงั งานนวิ เคลยี ร์

2.4 ข้อดี ขอ้ จากดั ของพลงั งานทดแทน

*สอบกลางภาค

11 วชิ าทกั ษะการเรยี นรู้ (ทร21001) วชิ าทักษะการเรยี นรู้ (ทร21001)

เรือ่ ง การคดิ เป็น เร่ือง การคดิ เปน็

1. ความเช่ือพนื้ ฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่/ 1. ความเช่ือพนื้ ฐานทางการศกึ ษาผู้ใหญ่/

การศึกษานอกระบบ 5 ประการโดยสรุป การศกึ ษานอกระบบ 5 ประการโดยสรุป

2. ปรชั ญาคดิ เป็น 2. ปรัชญาคิดเปน็

2.1 ความหมาย ความสาคัญ 2.1 ความหมาย ความสาคัญ

2.2 ศพั ท์เฉพาะ 2.2 ศพั ท์เฉพาะ

2.3 การเชอื่ มโยงความเช่ือพื้นฐานทาง 2.3 การเช่อื มโยงความเชอื่ พื้นฐานทาง

การศึกษาผ้ใู หญ่/กศน.สปู่ รชั ญาคดิ เปน็ การศกึ ษาผู้ใหญ/่ กศน.สู่ปรชั ญาคดิ เป็น

3. ลักษณะขอ้ มูล 3 ดา้ นท่ีจะนาไปใชป้ ระกอบ 3. ลักษณะขอ้ มูล 3 ด้านที่จะนาไปใช้ประกอบ

ความคิดในการตัดสินใจ คือ ขอ้ มูลทางวชิ าการ ความคดิ ในการตัดสินใจ คอื ขอ้ มลู ทางวชิ าการ

ตนเองและสังคมสง่ิ แวดล้อม รวมท้ังการ ตนเองและสังคมส่งิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั การ

เปรยี บเทียบเพ่อื ให้เห็นความแตกต่างของข้อมลู เปรยี บเทยี บเพอ่ื ใหเ้ หน็ ความแตกตา่ งของข้อมูล

ทั้ง 3 ประการ ทงั้ 3 ประการ

4.กระบวนการคดิ การแก้ปญั หาอยา่ งคนคิดเป็น

ในรายละเอียดพรอ้ มตัวอยา่ งการนาไปใชใ้ นวถิ ี

การดาเนิน

5. กรณตี วั อย่างทหี่ ลากหลายเพอื่ การฝกึ ทักษะ

การปฏบิ ตั ชิ วี ติ จริง

12 วชิ า ทักษะการเรียนรู้ (ทร21001) วิชา ทักษะการเรียนรู้ (ทร21001)

เรอื่ ง การวจิ ัยอยา่ งงา่ ย เรอื่ ง การวจิ ยั อยา่ งง่าย

1. ความหมาย ความสาคญั การวิจัยอยา่ งงา่ ย 1. ความหมาย ความสาคญั การวจิ ัยอยา่ งง่าย

กระบวนการและขั้นตอนของการดาเนินงาน กระบวนการและขนั้ ตอนของการดาเนนิ งาน

2. ฝกึ ทกั ษะ สถิติงา่ ย ๆ เพอื่ การวิจัย เครือ่ งมอื 2. ฝกึ ทักษะ สถิติง่าย ๆ เพือ่ การวิจัย เครื่องมอื

การวิจยั การวิจยั

3.ฝึกทกั ในการเขยี นโครงการวิจยั อยา่ งง่าย ๆ

13 วิชาทักษะการเรียนรู้ (ทร21001) วิชาทักษะการเรยี นรู้ (ทร21001)

เรอื่ ง ทกั ษะการเรียนรแู้ ละศกั ยภาพของพืน้ ทใ่ี น เรอ่ื ง ทักษะการเรยี นรู้และศกั ยภาพของพนื้ ทใ่ี น

การพฒั นาอาชีพ การพฒั นาอาชพี

1. ความหมาย ความสาคญั ของการเรยี นรแู้ ละ 1.ความหมาย ความสาคัญ ของการเรียนรูแ้ ละ

ศักยภาพของพ้ืนท่ี ศกั ยภาพของพ้ืนท่ี

2. ทักษะการเรยี นรพู้ น้ื ฐาน และเทคนิควิถที าง 2. ทกั ษะการเรียนรู้พนื้ ฐาน และเทคนคิ วิถีทาง

ศกึ ษาหาความรู้ ศกึ ษาหาความรู้

3.การเข้าถงึ และการเลอื กใชศ้ กั ยภาพหลักของ 3.การเข้าถึงและการเลือกใชศ้ ักยภาพหลกั ของ

๑๔

ครง้ั ท่ี ว/ด/ป การจดั การเรยี นรู้แบบพบกลมุ่ การจัดการเรยี นรู้แบบเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง

พน้ื ที่ พ้นื ท่ี

4. ตัวอยา่ งอาชพี ในกลมุ่ อาชพี ด้าน การเกษตร

กรรม อตุ สาหกรรม พาณิชยกรรม

ความคดิ สร้างสรรค์ บริหารจัดการ และการ

บริการที่สอดคล้องกับศักยภาพหลกั ของพ้นื ทใี่ น

การพฒั นาอาชพี

14 วิชา วิทยาศาสตร์ (พว21001) วชิ า วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เรื่อง แรงและพลังงานเพือ่ ชีวติ เรือ่ ง แรงและพลังงานเพือ่ ชวี ิต

4.1 แรงและการใช้ประโยชน์ 4.2 งานและพลังงาน

1. แรง 1. รปู ของพลงั งาน

1.1 ความหมายและหน่วยของแรง 2. ไฟฟาู

1.2 ผลการกระทาของแรง 2.1 ไฟฟาู ในชวี ิตประจาวัน

2. โมเมนต์ 2.2 การอนรุ ักษ์พลังงานไฟฟาู

1.2 ความหมายและ ชนดิ ของโมเมนต์ 3. แสง

2.2 การหาค่าโมเมนต์ 3.1 ประโยชน์ และโทษของแสง

2.3 การใช้โมเมนต์ในชีวิตประจาวันได้ 4. พลังงานความร้อน และแหล่งกาเนิด

4.1 พลงั งานความร้อน และแหล่งกาเนดิ

4.2 งานและพลังงาน การขยายตัวของวัตถุ

1. ความหมายของงานและพลงั งาน 4.2 การนาไปใชป้ ระโยชน์

3.ไฟฟาู 4.3 พลงั งานทดแทนและ

3.1 พลงั งานไฟฟูา การใชป้ ระโยชน์ เช่น เอททานอล ไบโอดีเซล

3.2 กฎของโอหม์ พลังงานนวิ เคลยี รฯ์ ลฯ

3.3 การตอ่ ความต้านทานแบบต่าง ๆ

3.4 การหาค่าความต้านทาน

4. แสง

4.1 แสง และสมบตั ขิ องแสง

4.2 เลนส์

5. พลงั งานความร้อน และแหลง่ กาเนดิ

5.2 อณุ หภูมิ และการวดั

การขยายตวั ของวตั ถุ

15 วิชา วิทยาศาสตร์ (พว21001) วชิ า วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เรอื่ ง ดาราศาสตรเ์ พื่อชวี ิต ดวงดาวกับชวี ิต เร่ือง ดาราศาสตรเ์ พ่อื ชีวิต ดวงดาวกบั ชวี ิต

1. วธิ ีการหาดาวเหนือ 1. กลุ่มดาวจกั ราศี

2. แผนท่ดี าว 2. การสงั เกตตาแหน่งของดาวฤกษ์

3. การใช้ประโยชนจ์ ากกลมุ่ ดาวฤกษ์

16 วิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว21001) วิชา วิทยาศาสตร์ (พว21001)

เรอื่ ง วทิ ยาศาสตรกับชองทางในการ ประกอบ เรื่อง วิทยาศาสตรกบั ชองทางในการ ประกอบ

๑๕

คร้งั ท่ี ว/ด/ป การจัดการเรยี นรู้แบบพบกลมุ่ การจัดการเรยี นรแู้ บบเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง

อาชพี อาชีพ

1. ประเภทของไฟฟา 1. การใชเครอ่ื งใชไฟฟาอยางงาย

2. วัสดอุ ปุ กรณเครอ่ื งมือชางไฟฟา 2.ความปลอดภัยและอุบัตเิ หตุ จากอาชีพช่าง

3. วัสดุอุปกรณที่ใชในวงจรไฟฟา ไฟฟาู

4. การตอวงจรไฟฟาอยางงาย 3. คาศัพททางไฟฟา

5. กฎของโอหม

6. การเดินสายไฟฟาอยางงาย

7. การบรหิ ารจดั การและกาบริการ

7. โครงงานวทิ ยาศาสตรสอู าชีพ

17 พัฒนาอาชพี ให้มคี วามเขม้ แข็ง (อช21003) พฒั นาอาชพี ให้มคี วามเข้มแขง็ (อช21003)

เร่อื ง การจดั ทาแผนการพฒั นาการผลิตหรือ เรอ่ื ง การจดั ทาแผนการพัฒนาการผลิตหรือ

การบริการ การบรกิ าร

1. การกาหนดคณุ ภาพการผลิต หรือการบรกิ าร 1. การวเิ คราะหท์ นุ ปัจจัยการผลิตหรอื การ

2. การกาหนดเปาู หมายการผลิตหรอื การบริการ บรกิ าร

3. การกาหนดแผนกจิ กรรม เร่ือง การพัฒนาธรุ กจิ เชิงรกุ

4. การพฒั นาระบบการผลิตหรอื การบริการ 1. ความจาเปน็ และคุณค่าของธุรกจิ เชงิ รุก

เรื่อง การพฒั นาธรุ กิจเชงิ รุก

1. การแทรกความนิยมเขา้ ส่คู วามต้องการของ

ผ้บู ริโภค

2. การสรา้ งรูปลกั ษณ์คณุ ภาพสนิ ค้าใหม่

3. การพัฒนาอาชีพให้มีความเขม้ แข็ง (พออยู่

พอกนิ มรี ายได้ มีการออม)

เรอ่ื ง โครงการพัฒนาอาชีพใหม้ ีความเข้มแข็ง

1. การวเิ คราะหค์ วามเป็นไปไดข้ องแผนต่าง ๆ

2. การเขียนโครงการการพัฒนาอาชพี

3. กรตรวจสอบความเปน็ ไปได้ของโครงการ

4. การปรับปรุงแกไ้ ขโครงการพัฒนาอาชพี

18 วชิ า การใช้พลังงานไฟฟา้ ในชวี ิตประจาวัน 2 วชิ า การใช้พลงั งานไฟฟา้ ในชีวติ ประจาวัน 2

พว 22002 พว 22002

เร่ือง การใชแ้ ละการประหยดั พลงั งานไฟฟา้ เรอ่ื ง การใช้และการประหยัดพลังงานไฟฟ้า

อปุ กรณ์ไฟฟูาและวงจรไฟฟาู 1. กลยุทธ์การประหยดั พลงั งานไฟฟูา 3 อ.

1.อปุ กรณไ์ ฟฟูา 1.1 กลยทุ ธ์ อ.1 อุปกรณ์ประหยัดไฟฟาู

1.1 สายไฟ 1.2 กลยุทธ์ อ.2 อาคารประหยดั ไฟฟาู

1.2 ฟิวส์ 1.3 กลยทุ ธ์ อ.3 อุปนสิ ัยประหยัดไฟฟูา

1.3 อปุ กรณ์ตดั ตอนหรือเบรกเกอร์ 2. การเลือกซอ้ื เลือกใช้และดูแลรกั ษา

1.4 สวิตซ์ เครอ่ื งไฟฟาู ในครัวเรอื น

1.5 เคร่อื งตัดไฟฟูารัว่ 2.1 เครอ่ื งทาน้าอุ่นไฟฟาู

๑๖

ครั้งท่ี ว/ด/ป การจัดการเรยี นรูแ้ บบพบกล่มุ การจดั การเรียนรแู้ บบเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง

1.6 เต้ารบั เตา้ เสยี บ 2.2 กระติกนา้ ร้อนไฟฟาู

2. วงจรไฟฟาู 2.3 พัดลม

2.1 แบบอนุกรม 2.4 โทรทศั น์

2.2 แบบขนาน 2.5 เตารดี ไฟฟาู

2.3 แบบผสม 2.6 ต้เู ยน็

3. สายดินและหลกั ดิน

3.1 สายดนิ

3.2 หลักดนิ

19 วิชา การใช้พลงั งานไฟฟา้ ในชีวิตประจาวัน 2

พว 22002

เรือ่ ง การใชแ้ ละการประหยัดพลงั งานไฟฟา้

1. การคานวณค่าไฟฟูาในครวั เรอื น

1.1 องค์ประกอบไฟฟูา

1.2 อัตราค่าไฟฟาู

1.3 การคานวณการใช้ไฟฟาู

20 สอบปลายภาคเรยี นที่ 1/2563

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้รู ายวชิ า (รายภาค)

๑๗

หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จานวน 560 ช่วั โมง
กศน. ตาบล................................... กศน. อาเภอ................................ จังหวดั สพุ รรณบุรี

คร้งั ที่ วนั /เดือน/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีการ ผู้รบั ผิดชอบ หมายเหตุ
กศน.อาเภอ
1 ปฐมนิเทศ กศน.ตาบล พบกลุ่ม/กรต. ครู กศน.ตาบล/
ครู ศรช.
2 การจัดการเรียนรแู้ บบพบกลมุ่

วชิ า ทักษะการเรียนรู้ (ทร21001)

เร่อื ง การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง

1. ความหมาย ความสาคญั ของการ

เรียนรูด้ ้วยตนเอง

2. การกาหนดเปูาหมายและการวาง

แผนการเรียนรู้ด้วยตนเอง

3. การวางแผนการเรยี นรู้ และ การ

ประเมินผลการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง

การจัดการเรียนรแู้ บบเรียนรูด้ ้วย

ตนเอง

วิชา ทักษะการเรียนรู้ (ทร21001)

เรือ่ ง การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

1. ความหมาย ความสาคัญ ของ

การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง

2. การกาหนดเปูาหมายและการวาง

แผนการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

3. ทักษะพ้ืนฐานทางการศึกษาหา

ความรู้ ทักษะการแกป้ ัญหา และ

เทคนิคในการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

4. ปัจจยั ทีท่ าให้การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง

ประสบความสาเร็จ

5. การวางแผนการเรยี นรู้ และ การ

ประเมนิ ผลการเรียนรดู้ ้วยตนเอง

6. การฝึกทักษะวางแผนการเรยี นรู้

และการประเมนิ ผลการเรียนร้ดู ว้ ย

ตนเอง การวิจารณ์

คร้งั ท่ี วนั /เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี ๑๘
กศน.ตาบล วธิ ีการ ผรู้ บั ผดิ ชอบ หมายเหตุ
3 การจดั การเรียนรู้แบบพบกลมุ่ พบกลุ่ม/กรต. ครู กศน.ตาบล/

วิชา ทกั ษะการเรียนรู้ (ทร21001) ครู ศรช.

เร่อื ง การใช้แหล่งเรียนรู้ พบกลมุ่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
ครู ศรช.
1. ความหมาย ความสาคัญ ของการ

ใชห้ อ้ งสมุดอาเภอความสาเร็จ

2. การเข้าถึงสารสนเทศของห้องสมดุ

ประชาชน

3.การใชอ้ ินเทอร์เนต็ การเข้าถงึ

ขอ้ มูลสารสนเทศทต่ี อ้ งการและสนใจ

การจดั การเรียนรแู้ บบเรียนรู้ด้วย

ตนเอง

วิชา ทักษะการเรยี นรู้ (ทร21001)

เรอ่ื ง การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้

1.ความหมาย ความสาคญั ของการ

ใชห้ ้องสมุดอาเภอความสาเร็จ

2.แหลง่ เรียนรู้ หอสมดุ แห่งชาติ

หอสมดุ วทิ ยาลยั /มหาวทิ ยาลยั

ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดโรงเรยี น

พิพิธภณั ฑ์ อุทยานแห่งชาติ แหล่ง

เรยี นรสู้ าคญั อน่ื ๆ ในประเทศ

3. การใช้อินเทอรเ์ น็ต การเขา้ ถึง

ขอ้ มลู สารสนเทศท่ีต้องการและสนใจ

4 การจดั การเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม กศน.ตาบล

วิชา ทักษะการเรียนรู้ (ทร21001)

เรือ่ ง การจดั การความรู้

1. ความหมาย ความสาคญั หลักการ

กระบวนการจดั การความรู้

การรวมกลุ่มเพอ่ื ต่อยอดความรู้

การพัฒนาขอบขา่ ยความรูข้ องกลมุ่

และการจัดทาสารสนเทศเผยแพร่

ความรู้

2. การฝึกทักษะกระบวนการจดั การ

ความรู้ดว้ ยตนเอง และ กระบวนการ

จัดการความรดู้ ว้ ยการรวมกลุ่ม

ปฏบิ ัติการ

3.สรปุ องค์ความร้ขู องกลุ่ม จัดทา

ครั้งท่ี วัน/เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี ๑๙
กศน.ตาบล วธิ กี าร ผู้รับผดิ ชอบ หมายเหตุ
สารสนเทศองค์ความรใู้ นการพฒั นา
พบกลุ่ม/กรต. ครู กศน.ตาบล/
ตนเอง ครอบครัว ครู ศรช.

การจดั การเรยี นร้แู บบเรยี นรู้ดว้ ย

ตนเอง

วชิ า ทกั ษะการเรียนรู้ (ทร21001)

เรื่อง การจดั การความรู้

1. ความหมาย ความสาคญั หลักการ

กระบวนการจัดการความรู้

การรวมกลมุ่ เพื่อต่อยอดความรู้

การพัฒนาขอบข่ายความรูข้ องกลมุ่

และการจัดทาสารสนเทศเผยแพร่

ความรู้

2. การฝึกทักษะกระบวนการจดั การ

ความรูด้ ้วยตนเอง และ กระบวนการ

จดั การความรู้ด้วยการรวมกลุ่ม

ปฏบิ ัติการ

3.สรปุ องคค์ วามรขู้ องกล่มุ จัดทา

สารสนเทศองคค์ วามรใู้ นการพัฒนา

ตนเอง ครอบครัว

5 การจัดการเรยี นรแู้ บบพบกล่มุ

วชิ า วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เรือ่ ง กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

และเทคโนโลยี

1.1 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยี

1. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

2. เทคโนโลยี

- ความหมาย และความสมั พันธ์

ของวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยตี อ่

ชีวติ และสังคม

3. วัสดุ และอปุ กรณท์ าง

วทิ ยาศาสตร์

1.2 โครงงานวทิ ยาศาสตรเ์ ร่อื ง

โครงงานวิทยาศาสตร์

- โครงงานวทิ ยาศาสตร์

ประเภทของโครงงาน

การเลอื กหัวข้อโครงงาน

ครั้งท่ี วัน/เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี ๒๐
วธิ กี าร ผูร้ บั ผิดชอบ หมายเหตุ

การจดั การเรียนรแู้ บบเรยี นรู้ด้วย

ตนเอง

วชิ า วิทยาศาสตร์ (พว21001)

เรอื่ ง กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยี

2. เทคโนโลยี

- ความกา้ วหน้าของเทคโนโลยีใน

ปจั จบุ นั

- เทคโนโลยกี บั การประกอบอาชีพ

และการนาเทคโนโลยไี ปใช้ในชวี ิต

1.2 โครงงานวิทยาศาสตร์

1 โครงงานวทิ ยาศาสตร์

- การวางแผนการกระทาโครงงาน

- การนาเสนอโครงงาน

- ประโยชน์ของโครงงานเพื่อการ

พฒั นาคณุ ภาพชีวิต

6 การจดั การเรยี นรูแ้ บบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกล่มุ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
ครู ศรช.
วิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เรื่อง ส่งิ มชี ีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม

2.1 เซลล์

2.2 กระบวนการดารงชวี ิตของพืช

และสตั ว์

2.4 โลก บรรยากาศปรากฏการณ์

ทางธรรมชาตสิ ่ิงแวดลอ้ ม และ

ทรพั ยากรธรรมชาติ

เรอื่ ง ธรรมชาติสงิ่ แวดลอ้ ม และ

ทรพั ยากรธรรมชาติ

การจัดการเรยี นรู้แบบเรยี นรดู้ ้วย

ตนเอง

วิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เรอื่ ง สงิ่ มชี ีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม

2.3 ระบบนิเวศ

ครั้งท่ี วนั /เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ ๒๑
กศน.ตาบล วธิ ีการ ผรู้ ับผดิ ชอบ หมายเหตุ
7 การจดั การเรยี นรแู้ บบพบกลมุ่ พบกลุ่ม/กรต. ครู กศน.ตาบล/
กศน.ตาบล
วชิ า วิทยาศาสตร์ (พว21001) ครู ศรช.

เรอ่ื ง สารเพ่ือชีวติ พบกลุ่ม/กรต. ครู กศน.ตาบล/
ครู ศรช.
3.1 สารและการจาแนกสาร

1. สมบัตขิ องสาร

- สมบตั ิทางกายภาพของสาร

3.2 ธาตแุ ละสารประกอบ

3.3 สารละลาย

3.4 สารและผลติ ภัณฑใ์ นชวี ติ

การจดั การเรยี นรแู้ บบเรยี นรู้ดว้ ย

ตนเอง

วิชา วิทยาศาสตร์ (พว21001)

เร่ือง สารเพือ่ ชวี ิต

3.1 สารและการจาแนกสาร

1. สมบัตขิ องสาร

- สมบัติทางเคมขี องสาร

8 การจัดการเรยี นรแู้ บบพบกลุม่

วชิ า พัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแขง็

(อช21003)

เรื่อง ศกั ยภาพธุรกิจ

1. ความหมาย ความสาคญั และ

ความจาเปน็ ในการพัฒนาอาชพี

2. ความจาเปน็ ของการวเิ คราะห์

ศกั ยภาพธรุ กิจ

เร่อื ง การจดั ทาแผนการตลาด

1. การกาหนดเปาู หมายการตลาด

2. กิจกรรมและแผนการพฒั นาการ

ตลาด

การจดั การเรยี นรแู้ บบเรยี นรูด้ ้วย

ตนเอง

วิชา พฒั นาอาชีพใหม้ คี วามเข้มแข็ง

(อช21003)

เรือ่ ง ศกั ยภาพธุรกจิ

1. การวิเคราะหต์ าแหนง่ ธุรกิจ

2. การวิเคราะห์ธุรกิจตามศักยภาพ

5 ดา้ น

เรือ่ ง การจัดทาแผนการตลาด

ครัง้ ท่ี วัน/เดือน/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ ๒๒
กศน.ตาบล วธิ กี าร ผรู้ บั ผดิ ชอบ หมายเหตุ
1. การกาหนดทศิ ทางการตลาด พบกลุม่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
กศน.ตาบล
2. การกาหนดกลยทุ ธ์ส่เู ปาู หมาย กศน.ตาบล ครู ศรช.
3. การวิเคราะหก์ ลยุทธ์
พบกลมุ่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
9 การจัดการเรยี นรูแ้ บบพบกลุม่ ครู ศรช.

วชิ า การใช้พลังงานไฟฟา้ ใน พบกลุ่ม/กรต. ครู กศน.ตาบล/
ชวี ิตประจาวัน 2 ครู ศรช.

พว 22002

เรอ่ื ง การกาเนิดไฟฟูา
เร่ือง สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟูาของ

ประเทศไทย และประเทศในอาเซยี น
การจดั การเรยี นรแู้ บบเรยี นรดู้ ว้ ย

ตนเอง
วิชา การใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ใน
ชวี ิตประจาวัน 2

พว 22002
เรอ่ื ง หน่วยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งด้าน

พลังงานไฟฟูาในประเทศไทย

10 การจัดการเรียนรู้แบบพบกลุ่ม

วิชา การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ใน
ชีวติ ประจาวนั 2 พว 22002

เรื่อง เชือ้ เพลิงและพลงั งานท่ีใชใ้ น
การผลติ ไฟฟูา
การจดั การเรยี นร้แู บบเรยี นรดู้ ว้ ย

ตนเอง
วิชา การใช้พลังงานไฟฟ้าใน

ชวี ิตประจาวัน 2 พว 22002

เรอ่ื ง โรงไฟฟูากบั การจัดการดา้ น
สง่ิ แวดล้อม

11 การจัดการเรยี นรูแ้ บบพบกลุ่ม

วชิ าทักษะการเรียนรู้ (ทร21001)
เรื่อง การคดิ เป็น
1. ความเช่อื พื้นฐานทางการศกึ ษา

ผใู้ หญ/่ การศกึ ษานอกระบบ 5
ประการโดยสรปุ

2. ปรชั ญาคดิ เป็น
2.1 ความหมาย ความสาคญั
2.2 ศัพทเ์ ฉพาะ

ครั้งท่ี วนั /เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ ๒๓
กศน.ตาบล วธิ ีการ ผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ
2.3 การเชอื่ มโยงความเชือ่ พ้นื ฐาน
พบกลมุ่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
ทางการศกึ ษาผู้ใหญ่/กศน.สปู่ รัชญา ครู ศรช.

คิดเป็น

3. ลักษณะขอ้ มลู 3 ด้านที่จะนาไปใช้

ประกอบความคิดในการตดั สินใจ คือ

ขอ้ มูลทางวิชาการ ตนเองและสังคม

ส่ิงแวดล้อม รวมทัง้ การเปรยี บเทียบ

เพื่อให้เหน็ ความแตกต่างของขอ้ มูลท้งั

3 ประการ

การจัดการเรยี นรู้แบบเรียนรู้ด้วย

ตนเอง

วิชา ทกั ษะการเรียนรู้ (ทร21001)

เรือ่ ง การคิดเป็น

1. ความเช่ือพื้นฐานทางการศึกษา

ผใู้ หญ่/การศึกษานอกระบบ 5

ประการโดยสรปุ

2. ปรชั ญาคิดเปน็

2.1 ความหมาย ความสาคญั

2.2 ศพั ทเ์ ฉพาะ

2.3 การเชอื่ มโยงความเช่อื พ้นื ฐาน

ทางการศึกษาผู้ใหญ่/กศน.สปู่ รัชญา

คดิ เปน็

3. ลักษณะขอ้ มลู 3 ดา้ นที่จะนาไปใช้

ประกอบความคิดในการตดั สนิ ใจ คอื

ขอ้ มลู ทางวิชาการ ตนเองและสงั คม

สงิ่ แวดล้อม รวมทัง้ การเปรียบเทียบ

เพ่อื ให้เหน็ ความแตกตา่ งของข้อมลู ทง้ั

3 ประการ

4.กระบวนการคิดการแกป้ ญั หาอย่าง

คนคิดเปน็ ในรายละเอยี ดพรอ้ ม

ตัวอย่างการนาไปใช้ในวิถีการดาเนิน

5. กรณตี วั อยา่ งที่หลากหลายเพ่ือการ

ฝึกทกั ษะการปฏิบัติชีวิตจริง

12 การจัดการเรียนร้แู บบพบกลุ่ม

วชิ า ทกั ษะการเรยี นรู้ (ทร21001)

เรอื่ ง การวิจยั อย่างง่าย

1. ความหมาย ความสาคัญการวจิ ยั

คร้งั ท่ี วนั /เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี ๒๔
กศน.ตาบล วิธีการ ผู้รับผดิ ชอบ หมายเหตุ
อย่างงา่ ย กระบวนการและขนั้ ตอน
พบกลมุ่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
ของการดาเนนิ งาน ครู ศรช.

2. ฝกึ ทักษะ สถติ งิ ่าย ๆ เพ่อื การ

วิจัย เครอ่ื งมอื การวิจัย

การจดั การเรียนรู้แบบเรยี นรู้ดว้ ย

ตนเอง

วิชา ทักษะการเรยี นรู้ (ทร21001)

เรื่อง การวิจัยอยา่ งง่าย

1. ความหมาย ความสาคัญการวจิ ัย

อยา่ งงา่ ย กระบวนการและขน้ั ตอน

ของการดาเนนิ งาน

2. ฝกึ ทักษะ สถิติง่าย ๆ เพือ่ การ

วจิ ยั เคร่อื งมือการวิจยั

3.ฝกึ ทักในการเขียนโครงการวจิ ัย

อยา่ งง่าย ๆ

13 การจดั การเรียนรู้แบบพบกล่มุ

วชิ า ทักษะการเรยี นรู้ (ทร21001)

เร่ือง ทกั ษะการเรียนรู้และศกั ยภาพ

ของพื้นที่ในการพัฒนาอาชีพ

1. ความหมาย ความสาคญั ของการ

เรยี นรูแ้ ละศักยภาพของพน้ื ที่

2. ทกั ษะการเรียนร้พู ้นื ฐาน และ

เทคนิควิถีทางศกึ ษาหาความรู้

3.การเข้าถงึ และการเลือกใชศ้ กั ยภาพ

หลักของพ้ืนที่

การจัดการเรียนรู้แบบเรียนรดู้ ้วย

ตนเอง

วชิ า ทกั ษะการเรียนรู้ (ทร21001)

เรอื่ ง ทักษะการเรยี นร้แู ละศกั ยภาพ

ของพื้นทีใ่ นการพัฒนาอาชีพ

1.ความหมาย ความสาคญั ของการ

เรียนรแู้ ละศกั ยภาพของพื้นท่ี

2. ทกั ษะการเรยี นรู้พนื้ ฐาน และ

เทคนิควิถีทางศกึ ษาหาความรู้

3.การเขา้ ถึงและการเลือกใช้ศกั ยภาพ

หลักของพ้นื ที่

4. ตวั อยา่ งอาชีพในกลมุ่ อาชีพด้าน

คร้งั ที่ วนั /เดือน/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี ๒๕
กศน.ตาบล วิธกี าร ผรู้ บั ผิดชอบ หมายเหตุ
การเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิช
พบกลุ่ม/กรต. ครู กศน.ตาบล/
ยกรรม ครู ศรช.

ความคิดสร้างสรรค์ บริหารจดั การ

และการบริการท่สี อดคล้องกบั

ศักยภาพหลกั ของพื้นท่ใี นการพัฒนา

อาชีพ

14 การจัดการเรยี นรแู้ บบพบกลุ่ม

วชิ า วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เร่อื ง แรงและพลังงานเพ่อื ชีวติ

4.1 แรงและการใชป้ ระโยชน์

- แรง

- โมเมนต์

4.2 งานและพลังงาน

1. ความหมายของงานและ

พลังงาน

2. ไฟฟูา

- พลงั งานไฟฟาู

- กฎของโอหม์

- การตอ่ ความต้านทานแบบ

ต่าง ๆ

- การหาคา่ ความต้านทาน

3. แสง

- แสง และสมบัตขิ องแสง

- เลนส์

4. พลงั งานความรอ้ น และ

แหล่งกาเนิด

- อณุ หภูมิ และการวัด การ

ขยายตวั ของวตั ถุ

การจดั การเรียนรแู้ บบเรยี นรูด้ ว้ ย

ตนเอง

วิชา วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เรอ่ื ง แรงและพลังงานเพอ่ื ชีวิต

4.2 งานและพลังงาน

1. รูปของพลังงาน

2. ไฟฟูา

- ไฟฟาู ในชีวิตประจาวัน

- การอนรุ ักษ์พลงั งานไฟฟูา

ครง้ั ที่ วัน/เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี ๒๖
กศน.ตาบล วิธกี าร ผู้รบั ผิดชอบ หมายเหตุ
3. แสง กศน.ตาบล
พบกลมุ่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
- ประโยชน์ และโทษของแสง ครู ศรช.

4. พลงั งานความร้อน และ พบกลมุ่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
ครู ศรช.
แหล่งกาเนดิ

- พลังงานความรอ้ น และ

แหลง่ กาเนดิ การขยายตัวของวตั ถุ

- การนาไปใช้ประโยชน์

- พลังงานทดแทนและ

การใชป้ ระโยชน์

15 การจัดการเรียนรแู้ บบพบกล่มุ

วชิ า วทิ ยาศาสตร์ (พว21001)

เร่อื ง ดาราศาสตรเ์ พอ่ื ชีวิต ดวงดาว

กับชีวติ

1. วิธีการหาดาวเหนอื

2. แผนที่ดาว

3. การใชป้ ระโยชน์จากกลุ่มดาวฤกษ์

การจัดการเรยี นรแู้ บบเรียนร้ดู ้วย

ตนเอง

วชิ า วิทยาศาสตร์ (พว21001)

เรื่อง ดาราศาสตรเ์ พ่อื ชีวิต ดวงดาว

กับชีวิต

1. กลุ่มดาวจกั ราศี

2. การสังเกตตาแหน่งของดาวฤกษ์

16 การจัดการเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม

วชิ า วิทยาศาสตร์ (พว21001)

เรอ่ื ง วิทยาศาสตรกบั ชองทางในการ

ประกอบอาชีพ

1. ประเภทของไฟฟา

2. วสั ดุอุปกรณเครื่องมือชางไฟฟา

3. วสั ดุอุปกรณท่ีใชในวงจรไฟฟา

4. การตอวงจรไฟฟาอยางงาย

5. กฎของโอหม

6. การเดนิ สายไฟฟาอยางงาย

7. การบริหารจัดการและกาบรกิ าร

8. โครงงานวิทยาศาสตรสอู าชีพ

การจัดการเรยี นรแู้ บบเรียนร้ดู ว้ ย

ตนเอง

คร้งั ที่ วนั /เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ ๒๗
กศน.ตาบล วธิ กี าร ผู้รับผดิ ชอบ หมายเหตุ
วชิ า วิทยาศาสตร์ (พว21001)
พบกลุม่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/
เรื่อง วิทยาศาสตรกับ ชองทางในการ ครู ศรช.

ประกอบอาชีพ

1. การใชเครื่องใชไฟฟาอยางงาย

2.ความปลอดภยั และอุบัตเิ หตุ จาก

อาชีพช่างไฟฟาู

3. คาศัพททางไฟฟา

17 การจดั การเรยี นรู้แบบพบกลมุ่

วิชา พัฒนาอาชพี ใหม้ ีความเข้มแขง็

(อช21003)

เร่ือง การจดั ทาแผนการพัฒนาการ

ผลติ หรือ การบรกิ าร

1. การกาหนดคุณภาพการผลิต หรอื

การบริการ

2. การกาหนดเปูาหมายการผลิต

หรอื การบริการ

3. การกาหนดแผนกิจกรรม

4. การพัฒนาระบบการผลติ หรอื การ

บรกิ าร

เรื่อง การพฒั นาธรุ กิจเชงิ รุก

1. การแทรกความนยิ มเข้าสู่ความ

ตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภค

2. การสรา้ งรูปลักษณ์คณุ ภาพสินค้า

ใหม่

3. การพัฒนาอาชพี ให้มีความ

เขม้ แข็ง (พออยู่ พอกนิ มรี ายได้ มี

การออม)

เรอ่ื ง โครงการพฒั นาอาชพี ใหม้ ีความ

เขม้ แข็ง

การจดั การเรียนรแู้ บบเรียนรู้ด้วย

ตนเอง

วชิ า พฒั นาอาชพี ให้มคี วามเขม้ แขง็

(อช21003)

เรอื่ ง การจดั ทาแผนการพฒั นาการ

ผลิตหรือ การบรกิ าร

1. การวเิ คราะหท์ ุน ปัจจัยการผลิต

หรือการบริการ

๒๘

ครัง้ ที่ วัน/เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี วิธกี าร ผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ

เรอื่ ง การพัฒนาธรุ กิจเชิงรุก

1. ความจาเปน็ และคุณค่าของธุรกิจ
เชงิ รกุ

18 การจัดการเรยี นรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลุม่ /กรต. ครู กศน.ตาบล/

วิชา การใช้พลังงานไฟฟา้ ใน ครู ศรช.
ชวี ติ ประจาวนั 2 พว 22002

เรอื่ ง การใช้และการประหยัดพลังงาน

ไฟฟูา
1.อปุ กรณ์ไฟฟูา

2. วงจรไฟฟาู
3. สายดนิ และหลกั ดิน

การจัดการเรยี นรูแ้ บบเรยี นรู้ด้วย
ตนเอง
วชิ า การใช้พลงั งานไฟฟ้าใน

ชีวติ ประจาวัน 2 พว 22002
เร่อื ง การใชแ้ ละการประหยดั พลังงาน

ไฟฟูา
1. กลยุทธก์ ารประหยดั พลังงาน
ไฟฟูา 3 อ.

2. การเลอื กซือ้ เลือกใช้และดูแล
รักษาเครือ่ งไฟฟูาในครวั เรือน

19 การจัดการเรยี นร้แู บบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกล่มุ ครู กศน.ตาบล/

วชิ า การใช้พลังงานไฟฟ้าใน ครู ศรช.

ชีวติ ประจาวัน 2 พว 22002

เร่อื ง การใชแ้ ละการประหยัดพลงั งาน

ไฟฟูา
1. การคานวณค่าไฟฟูาในครวั เรือน
20 สอบปลายภาคเรียนที่ 1/2563

29

แผนการจดั การเรยี นรู้
รายวิชา อช21003 วชิ า พัฒนาอาชพี ให้มคี วามเข้มแข็ง จานวน 2 หน่วยกิต (80 ชัว่ โมง)

สาระการเรียนรูพ้ นื้ ฐาน ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้
แบบ พบกลุ่ม จานวน 6 ชวั่ โมง (ครัง้ ที่ 8)
เร่อื ง 1. ศกั ยภาพธุรกิจ

2. การจดั ทาแผนการตลาด
ตวั ชีว้ ัด เรอื่ ง ศักยภาพธุรกจิ

1. อธิบายความหมาย ความสาคัญ และความจาเป็นของการพฒั นาอาชีพเพอ่ื ความเขม้ แขง็
2. อธิบายความจาเปน็ และคณุ คา่ ของการวิเคราะหศ์ กั ยภาพของธรุ กจิ
เร่ือง การจดั ทาแผนการตลาด
1. กาหนดเปาู หมาย การตลาด
2. กาหนดกิจกรรมและแผนการพฒั นาการตลาด
เน้ือหา เรอื่ ง ศกั ยภาพธรุ กจิ
1. ความหมายความสาคญั และความจาเป็นในการพัฒนาอาชพี
2. ความจาเปน็ ของการวเิ คราะห์ศักยภาพธรุ กจิ

เนือ้ หา เรื่อง การจัดทาแผนการตลาด
1. การกาหนดเปูาหมายการตลาด
2. กิจกรรมและแผนการพฒั นาการตลาด

ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 การกาหนดสภาพปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้

ครูพูดคุยกับผู้เรียนและครูเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถาม ข้อสงสัย ก่อนเข้าสู่ข้ันตอนต่อไปครูชี้แจง
วตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ เร่อื งศกั ยภาพธุรกิจ และการจดั ทาแผนการตลาด
ขั้นที่ 2 การแสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้

1. ครแู บ่งกลมุ่ ใหผ้ ูเ้ รียนเปน็ 4 กลมุ่ ๆ ละเทา่ ๆ กัน โดยใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ส่งตัวแทนออกมาจับฉลากเลือก
เรอื่ งที่จะศึกษา

กลุ่มที่ 1 ศึกษาเรื่อง ความหมาย ความสาคัญ และความจาเป็นในการพัฒนาอาชีพ
กลมุ่ ที่ 2 ศกึ ษาเรื่อง ความจาเป็นของการวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจ
กลุ่มที่ 3 ศกึ ษาเรอื่ ง การกาหนดเปาู หมายการตลาด
กลุ่มที่ 4 ศกึ ษาเรอ่ื ง กจิ กรรมและแผนการพฒั นาการตลาด
2. ให้แต่ละกลมุ่ สรุปเนอื้ หาลงในใบงาน แล้วออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
ขน้ั ท่ี 3 การปฏิบัตแิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้
ครูให้ผ้เู รียนทาแบบทดสอบย่อยและใบงานพร้อมสรปุ เน้อื หาร่วมกนั
ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผล
1. นาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น

2. ใบงานและแบบทดสอบย่อย

สอื่ 1. หนงั สือเรียน
2. อนิ เทอร์เน็ต
3. แบบทดสอบย่อย

30

การวัดผลประเมินผล 1. นาเสนอหน้าชัน้ เรียน
2. แบบทดสอบย่อย

31

ใบงานครง้ั ท่ี 8
วิชา อช21003 พฒั นาอาชพี ให้มีความเข้มแข็ง
ชอ่ื – นามสกุล......................................................................... กศน.ตาบล.............................................
คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นอา่ นใบงานแลว้ ตอบคาถามลงในใบงาน (...10…คะแนน)

1. การพัฒนาอาชพี หมายถึงอะไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. การวิเคราะหศ์ กั ยภาพธุรกจิ หมายถงึ อะไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. การเลอื กตลาดเปูาหมาย (Target Market) นัน้ จะต้องทาการวิเคราะห์สง่ิ ใดบ้าง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. การตลาดมีความสาคญั อย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

32

33

เฉลยใบงานคร้ังที่ 8
วชิ า อช21003 พัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้

1.การพัฒนาอาชีพ
ตอบ หมายถงึ อะไรการประกอบอาชีพท่ีมีการพัฒนาสินคา้ หรือผลิตภัณฑ์ใหต้ รงกับความต้องการของลกู คา้ อยู่

ตลอดเวลา โดยมีส่วนครองตลาดได้ตามตอ้ งการของผ้ผู ลิตแสดงถึงความมนั่ คงในอาชีพ
2. การวเิ คราะหศ์ กั ยภาพธรุ กิจ หมายถึงอะไร

ตอบ การแยกแยะสว่ นย่อยของความสามารถที่ซ่อนเรน้ ใยตัวตนนามาใช้ประโยชน์อยา่ งมีกระบวนการ เพ่อื
ผลงานทด่ี ีท่ีสดุ
3. การเลือกตลาดเปูาหมาย (Target Market) นนั้ จะตอ้ งทาการวิเคราะห์สง่ิ ใดบ้าง

ตอบ 1. ผทู้ ี่คาดว่าจะเป็นลกู ค้าในอนาคตมลี ักษณะการบรโิ ภคอยา่ งไร
2.สว่ นผสมทางการตลาดและความสามารถในการจดั สว่ นผสมทางการตลาด

3. เปูาหมายของกจิ การ โดยวิเคราะหถ์ ึงการแสวงหาโอกาสทางการตลาดที่เห็นว่าพอมชี ่องทาง
4. ปัจจัยอนื่ ๆ ซ่งึ สว่ นมา ไดแ้ ก่ ตัวแปร หรือสภาพแวดล้อมทางการตลาดท่ีควบคมุ ไมไ่ ด้
5. การแบ่งส่วนตลาด เพอื่ ที่จะไดก้ ลยุทธแ์ ละยทุ ธวธิ ที างการตลาดให้เหมาะสมกบั ตลาดแต่ละส่วน

4. การตลาดมีความสาคญั อยา่ งไร
ตอบ การตลาดเป็นจดุ เร่ิมตน้ และมีผลตอ่ การบรรลุเปาู หมายสดุ ท้ายของการดาเนนิ ธุรกจิ ธุรกจิ ต้องเร่มิ ดว้ ย

การศกึ ษาความตอ้ งการทีแ่ ท้จริงของลูกคา้ จากนั้นจึงทาการสร้างสนิ ค้าหรอื บรกิ ารที่ทาให้ลกู ค้าเกิดความพอใจ
สูงสดุ (Customer Focus)

34

ใบความรู้ คร้ังที่ 8 วิชา อช21003 พัฒนาอาชพี ใหม้ ีความเขม้ แข็ง

เรือ่ ง การพฒั นาอาชีพเพือ่ ความเขม้ แขง็
1. การพัฒนาอาชพี หมายถึง การประกอบอาชีพท่มี ีการพฒั นาสินคา้ หรอื ผลติ ภัณฑ์ให้ตรงกบั ความตอ้ งการ
ของลกู ค้าอยตู่ ลอดเวลา โดยมีสว่ นครองตลาดได้ตามตอ้ งการของผูผ้ ลติ แสดงถงึ ความมัน่ คงในอาชีพ

2. การพัฒนาอาชพี เพ่อื ความเข้มแข็ง มีความจาเป็นและสาคญั คอื
1. ทาให้อาชีพที่ประกอบการเจริญก้าวหนา้ ข้ึน เขม้ แข็ง พึง่ ตนเองได้

2. ทาผู้ประกอบการพัฒนาตนเองไม่ลา้ สมยั
3. ชว่ ยให้สรา้ งภาพลกั ษณท์ ี่ดีให้กบั ตนเองและกจิ การหรอื องคก์ ร
4. ทาใหอ้ งค์กรดึงบุคลากรทม่ี ีความสามารถสูงเข้ามาทางานไดม้ ากขนึ้

5. เปน็ การรับประกันบุคคลมคี วามสามารถทางานอย่กู ับองค์กรตอ่ ไป

เรอื่ ง การวิเคราะหศ์ ักยภาพธรุ กจิ
1. ศกั ยภาพ คือ ความสามารถภายในร่างกายท่ีซ่อนเร้น และยังไมถ่ ูกนามาใช้ในการพัฒนาธุรกจิ หรอื
ดาเนินการในสง่ิ ตา่ งๆ

2. การพัฒนา คือ การเปลย่ี นแปลงอย่างมกี ระบวนการโดยมจี ดุ มุ่งหมายกาหนดไว้
3. การพัฒนาศักยภาพ คือ การนาเอาความสามารถทีซ่ อ่ นเร้นภายในมาใชป้ ระโยชน์อย่างมกี ระบวนการ

เพ่ือใหไ้ ด้ผลงานเกิดประสิทธภิ าพที่ดีที่สดุ
4. การวิเคราะห์ คือ การแยกแยะสง่ิ ที่จะพิจารณาออกเปน็ สว่ นย่อย ทมี่ ีความสมั พันธก์ นั รวมถงึ สบื คน้
ความสมั พันธ์ส่วนยอ่ ยเหลา่ นน้ั

5. การวเิ คราะห์ศักยภาพธรุ กจิ คอื การแยกแยะส่วนยอ่ ยของความสามารถท่ซี อ่ นเรน้ ใยตัวตนนามาใช้
ประโยชน์อย่างมีกระบวนการ เพือ่ ผลงานท่ีดีท่สี ุด

6. คณุ คา่ และความจาเป็นของการวิเคราะห์ศักยภาพธุรกจิ
1. ผปู้ ระกอบการรู้จักตวั เอง, คแู่ ขง่ ขัน
2. ผปู้ ระกอบการสามารถวางกลยุทธท์ างธุรกจิ ได้หลายระดบั และแบ่งแยกหนา้ ท่ไี ด้ชัดเจน เหมาะสม

กับความถนดั
3. ผู้ประกอบการสามารถมองหาลูท่ างการลงทุนไดด้ ีขึน้

ตวั อย่างการวิเคราะห์ศักยภาพธรุ กจิ
คุณพงษ์ศักดิ์ ชัยศริ ิ เจา้ ของร้านเฟอร์นเิ จอรเ์ ครอ่ื งเรือนไม้

1. มีใจรกั ด้านการคา้ เฟอร์นเิ จอร์ ชอบบรกิ ารงานดา้ นการขาย

2. มมี นษุ ยส์ ัมพันธ์ทด่ี ี ย้มิ แย้มแจ่มใส เปน็ กันเอง ออ่ นน้อมถอ่ มตน
3. มคี วามซอื่ สัตยต์ ่อลูกคา้ ขายสินคา้ เหมาะสมกับราคา ไม่เอาเปรียบลูกคา้

4. มคี วามรู้ดา้ นเฟอรน์ ิเจอรเ์ คร่อื งเรือนไมเ้ ป็นอยา่ งดี
5. ทาเลที่ต้ังรา้ นมีความเหมาะสม
6. มเี งนิ ทุนหมุนเวียนคล่องตัว

7. มีส่วนแบง่ ตลาดในท้องถนิ่ ประมาณ 30%
8. ลกู คา้ สว่ นใหญ่อาชีพพนกั งานบริษัท ขา้ ราชการ ระดับรายได้ปานกลาง ในหม่บู า้ นจดั สรรบรเิ วณ

ใกลเ้ คยี งประมาณ 7 หม่บู ้านแถบชานเมือง
9. ในทอ้ งถิน่ มีผู้ประกอบกิจการค้าเฟอร์นเิ จอร์ไมเ้ ชน่ เดียวกัน 3 ราย

35

10. ทิศทางในอาชีพน้ี ยังมีอนาคตอกี ยาวไกลจะมจี านวนหมู่บ้านจดั สรรเพ่ิมขึน้ ในแถบนอี้ กี ประมาณ
5 หมบู่ า้ น

จะเหน็ ไดว้ า่ การวิเคราะหศ์ กั ยภาพมคี วามสาคัญและจาเป็นต่อการพัฒนาอาชีพให้เข้มแข็งมาก หาก
ได้วเิ คราะหแ์ ยกแยะศกั ยภาพของตนเองอยา่ งรอบด้าน ปจั จัยภายในตัวตนผู้ประกอบการ ปัจจัยภายนอกของ
ผู้ประกอบการ โอกาสและอปุ สรรคในการประกอบธุรกจิ การคา้ ย่ิงวเิ คราะหไ์ ด้มากและถูกต้องแม่นยามาก จะ
ทาใหผ้ ปู้ ระกอบการรู้จักตนเอง อาชีพของตนเองไดด้ ยี ง่ิ ข้ึนเหมอื นคากลา่ ว รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะท้ังร้อย
ครัง้

เรอื่ ง การกาหนดเป้าหมายการตลาด
การกาหนดเปา้ หมายการตลาด

เปูาหมายการตลาดเพ่ือการขยายอาชีพ คือ การบอกให้ทราบว่า สถานประกอบการนั้นสามารถทา
อะไรได้ภายในระยะเวลาเท่าใด ซึ่งอาจจะกาหนดไว้เป็นระยะสั้น หรือระยะยาว 3 ปี หรือ 5 ปี ก็ได้ การ
กาหนดเปาู หมายของการพัฒนาอาชีพต้องมีความชัดเจนสามารถวัดและประเมินผลได้ การกาหนดเปูาหมาย
หากสามารถกาหนดเปน็ จานวนตัวเลขได้ก็จะย่ิงดี เพราะทาให้มีความชัดเจนจะช่วยให้การวางแผนมีคุณภาพ
ยงิ่ ข้ึน และจะส่งผลในทางปฏิบัตไิ ด้ดยี ิ่งขึน้
การบริหารการตลาด (Marketing Management) เป็นกระบวนการตัดสินใจท่ีเกี่ยวกับการวางแผน การ
ปฏิบตั ิการและการควบคุมกจิ กรรมต่างๆ ที่ทาใหธ้ ุรกิจบรรลเุ ปูาหมายทตี่ ้งั ไว้ ประกอบดว้ ย 3 ส่วน

1. การวางแผนวิธีการเพ่อื บรรลุเปูาหมาย
2. การปฏิบตั ติ ามแผน
3. การควบคมุ และตรวจสอบ
การตลาดในยุคโลกาภวิ ัฒน์มีการเปลยี่ นแปลงเรว็ มากซึ่งขน้ึ อยกู่ บั กระแสของสังคม กาลังซื้อของผู้บริโภค และ
ส่วนแบ่งของตลาด ดังน้ัน ผู้ประกอบอาชีพจาเป็นต้องศึกษากระบวนการตลาดอยู่ตลอดเวลา เพื่อนามา
กาหนดทิศทางและเปูาหมายทางการตลาด โดยพยายามผลิตสินค้าหรือบริการข้ึนมาท่ีจะสามารถตอบสนอง
ความพึงพอใจของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ดังนั้นจาเป็นท่ีจะต้องมีการกาหนดทิศทางและเปูาหมายทางการ
ตลาดมาใชท้ างการตลาด เพ่ือเอาชนะค่แู ขง่ ขนั ทางการตลาดและเปน็ ผปู้ ระสบความสาเร็จในท่สี ุด
การกาหนดทิศทางและเป้าหมายทางการตลาดจะต้องตอบคาถามเหลา่ นีใ้ ห้ได้ดังนี้
1. ตลาดตอ้ งการซือ้ อะไร หมายถงึ สินค้าทผ่ี บู้ ริโภคต้องการ
2. ทาไมจงึ ซ้อื หมายถงึ จุดประสงค์ในการซ้อื สินคา้ ไปทาไม
3. ใครคือผ้ซู ือ้ หมายถึง กลมุ่ เปาู หมายท่จี ะซอื้ คือกลมุ่ ใด
4. ซอ้ื อย่างไร หมายถงึ กระบวนการซ้ืออยา่ งไร เช่น ซ้ือแบบต้งั คณะกรรมการการประมลู
5. ซอ้ื เม่ือไร หมายถงึ โอกาสทจี่ ะซื้อสินค้าเม่อื ไร เช่น ทุกวัน ทุกเดือน
6. ซือ้ ทีไ่ หน หมายถึง สนิ ค้าท่ีจะซ้ือมขี ายตามร้านค้าประเภทใด เชน่ ร้านขายของเบด็ เตล็ด ร้านขายท่ัวไป
ผู้ประกอบการจะต้องสรปุ ใหไ้ ด้ว่าผู้บริโภคตอ้ งการสนิ คา้ ชนิดใดนาไปใช้ทาอะไร กลุ่มเปูาหมายที่ต้อง
ซื้อเปน็ กลมุ่ ที่มกี าลงั ซ้ือหรอื ไม่ วิธกี ารท่ีซ้ือ เช่น ซื้อได้ทั่วไปหรือต้องผ่านคณะกรรมการ ซ้ือใช้เม่ือใดและควร
ซอื้ แหล่งใด สง่ิ เหลา่ นจี้ ะเป็นทิศทางในการผลิตสินค้าแล้วนามากาหนดเปูาหมายท่ีจะผลิตสินค้า เช่น ผลิตผัก
อินทรีย์ ผู้ซ้ือต้องการกินอาหารปลอดสารเคมี คือกลุ่มเปูาหมายผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ซื้อปลีกใช้ทุกวัน ตาม
รา้ นค้าในชุมชน นอกจากน้อี าจจะต้องวิเคราะหส์ ิง่ ตา่ งๆ ดังนี้ เพ่ือนามาพิจารณากาหนดทิศทางด้วย
ตวั อยา่ ง
การวเิ คราะห์พฤตกิ รรมการบริโภคของลกู คา้ สายการบิน

36

1. ตลาดตอ้ งการซ้ืออะไร : การเดนิ ทางทสี่ ะดวก สบาย รวดเรว็ การบรกิ ารทปี่ ระทับใจ มเี ทีย่ วบินให้เลือกมาก
มีเทย่ี วบนิ ตรง
2. ทาไมจงึ ซื้อ : ต้องการประหยดั เวลา ต้องการเดนิ ทางอย่างรวดเร็ว มีความภูมใิ จ
3. ใครคือผซู้ อ้ื : นักธรุ กจิ นักทอ่ งเที่ยว
4. ซอ้ื อย่างไร : ซอื้ ซา้ ซื้อเม่ือมธี ุระดว่ นและจาเป็น ซ้อื จากความประทบั ใจ
5. ซื้อเมือ่ ไร : ซ้ือสม่าเสมอ ซื้อเรง่ ด่วนเป็นคร้ังคราว ซือ้ เม่อื ตอ้ งการเดินทางท่องเทย่ี ว
6. ซื้อทไี่ หน : ตวั แทนจาหน่าย สานกั งานขายของสายการบนิ

การเลือกตลาดเปูาหมาย (Target Market) นั้น เป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญของกลยุทธ์ทางการตลาด
ซ่ึงนักการตลาดจะเลอื กตลาดเปูาหมายได้ จะตอ้ งทาการวเิ คราะหส์ ง่ิ ต่างๆ ดงั ต่อไปนี้
1. ผู้ท่ีคาดว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคตมีลักษณะการบริโภคอย่างไร มีความต้องการสินค้าชนิดใด มีรูปแบบ
พฤตกิ รรมการบริโภคอย่างไร? และผู้ทค่ี าดว่าจะเป็นลกู ค้าในอนาคตเปน็ ใครอย่ทู ไ่ี หน
2. ส่วนผสมทางการตลาด และความสามารถในการจดั ส่วนผสมทางการตลาดให้เข้าถึงเปูาหมายทางการตลาด
ทไี่ ด้วางไว้
3. เปาู หมายของกจิ การ โดยวิเคราะห์ถงึ การแสวงหาโอกาสทางการตลาดท่ีเหน็ ว่าพอมีช่องทาง
4. ปจั จยั อน่ื ๆ ซึ่งส่วนมา ไดแ้ ก่ ตัวแปร หรือสภาพแวดลอ้ มทางการตลาดทค่ี วบคุมไม่ได้ เพราะปัจจัยนี้มีผลต่อ
การเลอื กตลาดเปูาหมายเชน่ กนั
5. การแบ่งส่วนตลาด เพอ่ื ที่จะไดก้ ลยุทธ์และยทุ ธวิธที างการตลาดให้เหมาะสมกับตลาดแต่ละสว่ น

เปาู หมายทางการตลาด เป็นการคัดเลือกกลุ่มลูกค้าที่เป็นเปูาหมายโดยต้องคานึงถึงปัจจัยสาคัญ คือ
สว่ นผสมทางการตลาด ผูท้ ่ีคาดหวังวา่ จะเปน็ ลกู คา้ ในอนาคตและกรณีมสี ว่ นแบ่งในการตลาด
หลักการกาหนดเป้าหมายทางการตลาด มีดงั นี้
1. เปูาหมายท่กี าหนดตอ้ งมีความเป็นไปได้
2. เปูาหมายต้องชดั เจน
3. การกาหนดเปูาหมายต้องมคี วามละเอยี ดเพยี งพอ

เร่อื ง การกาหนดกิจกรรมและแผนการพัฒนาการตลาด
การตลาดมีความสาคัญเพราะเป็นจุดเร่ิมต้นและมีผลต่อการบรรลุเปูาหมายสุดท้ายของการดาเนิน
ธุรกิจ ธรุ กิจตอ้ งเร่ิมด้วยการศกึ ษาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า จากนั้นจึงทาการสร้างสินค้าหรือบริการที่
ทาให้ลกู ค้าเกิดความพอใจสูงสดุ (Customer Focus)
การบรหิ ารตลาด เปน็ กระบวนการวางแผน ปฏิบัติงานและการควบคุมกิจกรรมทางการตลาดที่ก่อให้เกิดการ
แลกเปล่ียนระหวา่ งผูซ้ ือ้ และผู้ขาย พรอ้ มท้ังนาความพอใจมาสู่ทัง้ 2 ฝุาย
การกาหนดกิจกรรมเพือ่ พัฒนาการตลาด
เมื่อเราทราบว่ากลยุทธ์ท่ีกาหนดไว้มีด้านใดบ้าง เช่น กลยุทธ์ 4P ก็คือด้านตัวสินค้า ด้านราคา ด้าน
สถานที่ขาย และการส่งเสริมการขาย กลยทุ ธ์ท้งั 4 ด้าน ใหน้ ามากาหนดเปน็ กจิ กรรมทีต่ อ้ งดาเนินการ เช่น
1. กิจกรรมด้านพัฒนาตวั สนิ ค้า พฒั นาให้ตรงกับความตอ้ งการของลกู ค้า
2. กิจกรรมด้านราคา ผผู้ ลติ ก็ต้องกาหนดราคาที่เหมาะสมกับกาลังซ้ือของผู้บริโภค และเหมาะสมกับคุณภาพ
ของสนิ ค้า
3. กิจกรรมด้านสถานที่ ต้องคิดว่าจะส่งมอบสินค้าให้กับผู้บริโภคได้อย่างไร หรือต้องมีการปรับสถานที่ขาย
ทาเลทต่ี ัง้ ขายสินคา้
4. กจิ กรรมส่งเสริมการขาย จะใชว้ ธิ กี ารใดที่ทาให้ลูกคา้ ร้จู ักสินคา้ ของเรา

37

การวางแผนพัฒนาการตลาด

ผ้ผู ลิตจะตอ้ งนากจิ กรรมตา่ งๆ มาวางแผนเพอื่ พัฒนาการตลาด ซึง่ สามารถนาไปสู่การปฏิบตั ิใหไ้ ด้ดังตวั อยา่ ง

แผนการพฒั นาการตลาด

ท่ี กจิ กรรมทต่ี ้องดาเนนิ แผนการพัฒนาการตลาดปี 2563

ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.

.

1 ศกึ ษาขอ้ มูลเพ่ือกาหนดทศิ

ทางการพฒั นาการตลาด

2 กาหนดเปูาหมายการตลาด

3 กาหนดกลยุทธส์ ู่เหมาย

4 วิเคราะหก์ ลยทุ ธ์

5 ดาเนินการ

- การโฆษณา

- การประชาสัมพันธ์

- การทางานขอ้ มลู ลกู ค้า

- การส่งเสริมการขาย

- การกระจายสนิ คา้

- การสง่ มอบสนิ ค้า

- ฯลฯ

แบบทดสอบย่อย ครง้ั ท่ี 8 38
วชิ า อช21003 พฒั นาอาชพี ให้มคี วามเขม้ แข็ง กศน.ตาบล

ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ช่อื – นามสกลุ ................................................................................................
...................................

ขอ้ สอบปรนยั จานวน 5 ขอ้

1. ความจาเปน็ ของการพัฒนาอาชพี คอื ข้อใด
ก. ต้องการสรา้ งอาชพี ใหม่
ข. ทาใหอ้ าชพี มกี ารพัฒนาข้นึ
ค. มีผลต่อการลงทุน การตลาด และการผลิต
ง. ผ้ปู ระกอบการสามารถเลอื กอาชีพไดอ้ ยา่ งอิสระ

2. ข้อใดหมายถึงกระบวนการเปลีย่ นแปลงผลผลิตหรอื สินคา้ ระหวา่ งกัน
ก. การบริโภค
ข. การขนส่ง
ค. การตลาด
ง. การจาหนา่ ย

3. การวิเคราะห์ศักยภาพเศรษฐกิจมคี วามจาเป็นเพราะเหตุใด
ก. เพราะชว่ ยให้ผู้ประกอบการทาธุรกิจไดด้ ีขึน้
ข. เพราะชว่ ยให้ผปู้ ระกอบการร้จู ักตนเองและคู่แข่งขนั
ค. วิเคราะหห์ รอื ไม่วิเคราะหก์ ส็ ามารถทาธุรกจิ ได้
ง. ไมม่ คี วามจาเป็นในการวิเคราะห์การประกอบธรุ กิจ

4. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของการแบง่ สว่ นตลาด
ก. ทาให้ผขู้ ายสามารถเน้นและเปรียบเทียบโอกาสทางการตลาดในแต่ละตลาดได้
ข. ผุข้ ายสามารถลงทนุ ไดม้ ากกว่าปกติ
ค. ผูข้ ายสามารถปรบั ปรุงสินค้าเพอ่ื ให้สอดคลอ้ งกับสภาพความเป็นจรงิ
ง. ทาให้ผู้ขายสามารถจัดสรรงบประมาณใหเ้ หมาะสมกบั แต่ละสว่ นตลาดได้

5. ขอ้ ใดคือลักษณะของการตลาดทม่ี ีคุณภาพ
ก. ผ้บู รโิ ภคมโี อกาสบริโภคสินค้าและบรกิ ารมากท่ีสดุ
ข. ผู้ขายมีคุณภาพชีวติ ท่ีดีขน้ึ
ค. ผูข้ ายไดร้ บั ความพงึ พอใจจากการบริโภคสินค้า
ง. ผู้ขายมโี อกาสเลอื กได้มากท่ีสุด

39

ข้อสอบอตั นยั จานวน 2 ข้อ

1. การพฒั นาอาชีพ มคี วามสาคัญอยา่ งไรบ้าง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. กลยทุ ธก์ ารเลือกใช้วิธีการแบ่งสว่ นทางการตลาดมีก่ีวธิ ี อะไรบา้ ง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

40

41

เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งท่ี 8
วชิ า อช21003 พัฒนาอาชพี ให้มีความเขม้ แข็ง ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น
ขอ้ สอบปรนัย
1. ข
2. ง
3. ข
4. ข
5. ก

ข้อสอบอตั นยั
แนวคาตอบ
1. การพฒั นาอาชพี มคี วามสาคัญอย่างไรบา้ ง
ตอบ การพัฒนาอาชีพมคี วามสาคญั ดงั นี้

1. ชว่ ยรับประกันว่าบุคลากรทีม่ คี วามสามารถจะอยกู่ ับองค์กรต่อไป
2. ช่วยให้องคก์ รสามารถดงึ ดูดบุคลากรทมี่ ีความสามารถสูงเขา้ มาทางาน
3. ช่วยสร้างภาพลกั ษณ์ท่ดี ี
4. ช่วยให้บุคลากรมีการพฒั นาตนเองและลดความลา้ สมยั การทางานในตาแหนง่ อ่นื ๆ
2. กลยุทธ์การเลือกใช้วธิ กี ารแบง่ สว่ นทางการตลาดมีก่ีวธิ ี อะไรบ้าง
ตอบ 1. มสี ินค้าตรายีห่ ้อเดยี วกัน เจาะเข้ากลุม่ เปูาหมายทางการตลาดเดยี ว

2. มีสินค้าตราย่ีห้อเดยี วกนั แต่ขยายเข้าสกู่ ลุ่มเปูาหมายหลายกลุ่ม
3. การครอบคลมุ ตลาดทุกส่วนดว้ ยสนิ คา้ หลายตรายหี่ ้อ

42

บันทกึ ผลหลงั การเรียนรู้

ครั้งท.ี่ ................
วันท.่ี ..........................เดอื น..............................................พ.ศ............................. ระดบั …………………………………

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

จานวนนักศึกษา ทัง้ หมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน

จานวนนักศกึ ษาทีเ่ ข้าเรยี น ท้ังหมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน

จานวนนกั ศกึ ษาท่ขี าดเรียน ทงั้ หมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน

สภพการจัดการเรยี นรแู้ บบพบกลุม่ (ปัจจยั กระบวนการจัดกจิ กรรม และผเู้ รยี น)
1. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
2. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

สภาพการจดั การเรียนรู้แบบเรยี นร้ดู ้วยตนเอง (ปจั จยั กระบวนการจัดกิจกรรม และผู้เรยี น)
1. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
2. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ดา้ นสื่อการเรยี นรู้
1. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

2. ...........................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ปญั หาทีพ่ บ และการแก้ไขปัญหา (อย่างไร)
1. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
2. ...........................................................................................................................................................

43

ขอ้ คิดเหน็ ข้อเสนอแนะ (เพื่อการปรบั ปรงุ แกไ้ ข/พัฒนา)

1. ...........................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ...........................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.............................................................ผูบ้ นั ทึก
(.............................................................)

เสนอขอ้ คดิ เห็น
1. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
2. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.............................................................ผู้ตรวจเสนอ
(.............................................................)
นายทะเบยี น

การดาเนนิ การแกไ้ ข/พัฒนา
1. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
2. ...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื .............................................................ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
(.............................................................)
ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอ...............

ผลจากการนาขอ้ เสนอแนะไปปฏบิ ตั ิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื .............................................................ผปู้ ฏบิ ตั ิ

44

แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวิชา อช21003 วชิ า พัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามเข้มแข็ง จานวน 2 หน่วยกติ (80 ชว่ั โมง)

สาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้

แบบ พบกลุม่ จานวน 6 ช่ัวโมง (คร้ังท่ี 17)

ชอื่ เรื่อง 1. การจัดทาแผนการพัฒนาการผลิตหรอื การบรกิ าร
2. การพัฒนาธุรกิจเชงิ รกุ

3. โครงการพฒั นาอาชีพใหม้ คี วามเขม้ แข็ง
ตัวชีว้ ัด เร่อื ง การจัดทาแผนการพฒั นาการผลิตหรอื การบริการ

1. อธิบายการกาหนดคุณภาพผลผลิตหรือการบรกิ าร

2. กาหนดเปูาหมายการผลิตหรือการบรกิ าร
3. กาหนดแผนกิจกรรมการผลติ

4. พฒั นาระบบการผลิตหรอื การบรกิ าร
เรอ่ื ง การพัฒนาธรุ กิจเชงิ รกุ

1. อธิบายการแทรกความนิยมเข้าสู่ความต้องการของผบู้ ริโภคอยา่ งแท้จรงิ

2. อธิบายการสร้างรูปลักษณ์ คุณภาพสินค้าใหม่
3. อธบิ ายการพฒั นาอาชีพใหม้ คี วามเข้มแข็ง

เรื่อง โครงการพัฒนาอาชีพให้มคี วามเข้มแขง็
1. วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนต่าง ๆ
2. เขียนโครงการการพฒั นาอาชีพ

3. ตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครงการพฒั นาอาชพี
4. ปรบั ปรงุ โครงการพฒั นาอาชพี

เนื้อหา การจดั ทาแผนการพัฒนาการผลิตหรอื การบรกิ าร
1. การกาหนดคณุ ภาพการผลิตหรอื การบริการ
2. การกาหนดเปาู หมายการผลติ หรอื การบริการ

3. การกาหนดแผนกจิ กรรม
4. การพฒั นาระบบการผลิตหรอื การบริการ

เน้ือหา การพัฒนาธรุ กจิ เชงิ รกุ
1. การแทรกความนิยมเขา้ สู่ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค
2. การสร้างรูปลกั ษณ์คุณภาพสินคา้ ใหม่

3. การพัฒนาอาชีพให้มคี วาม เข้มแข็ง (พออยู่ พอกิน มีรายได้ มกี ารออม)
เน้ือหา โครงการพฒั นาอาชีพใหม้ ีความเขม้ แขง็

1. วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนตา่ ง ๆ
2. เขยี นโครงการการพัฒนาอาชพี
3. ตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครงการพฒั นาอาชีพ

4. ปรับปรงุ โครงการพฒั นาอาชีพ

45

ขั้นตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นที่ 1 การกาหนดสภาพปญั หา ความต้องการในการเรียนรู้

ครูพูดคุยกับผู้เรยี นในเร่ืองการกาหนดคุณภาพการผลิตหรือการบรกิ าร การกาหนดเปูาหมายการผลติ
การกาหนดกจิ กรรมการผลติ
ขัน้ ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มูลและจดั การเรยี นรู้

1. ครอู ธบิ ายเรอ่ื งการแทรกความนิยมเข้าสู่ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง การพัฒนาอาชีพ
ให้มคี วาม เขม้ แขง็ (พออยู่ พอกิน มรี ายได้ มีการออม) การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนต่าง ๆ การเขียน
โครงการการพัฒนาอาชีพ การตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครงการพัฒนาอาชีพ การปรับปรุงโครงการ
พฒั นาอาชีพ

2. ผเู้ รยี นแบ่งกลุ่มให้ผู้เรียน 3 กลุ่ม ๆ ละเท่า ๆ กัน และจับฉลากหัวข้อแล้วให้ศึกษาค้นคว้าจากสื่อ
ตา่ ง ๆ ตามใบงานทม่ี อบหมายให้ต่อไปน้ี

กลมุ่ ที่ 1 ศกึ ษาค้นควา้ เรื่อง การพัฒนาระบบการผลติ หรอื การบริการ
กลมุ่ ที่ 2 ศึกษาค้นคว้าเรื่อง การสร้างรูปลกั ษณ์คณุ ภาพสินค้าใหม่
กลุ่มที่ 3 ศกึ ษาคน้ คว้าเร่ือง การเขียนโครงการพฒั นาอาชีพ
3. ให้แตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลการศกึ ษาค้นควา้ หนา้ ชัน้ เรียน
ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยุกต์ใช้
ครูใหผ้ ูเ้ รียนทาแบบทดสอบย่อยและใบงานพรอ้ มสรปุ เนือ้ หารว่ มกัน
ข้ันที่ 4 การประเมนิ ผล
1. นาเสนอหน้าชนั้ เรยี น
2. ใบงานและแบบทดสอบย่อย

ส่ือ 1. หนังสือเรียน
2. อนิ เทอร์เนต็
3. แบบทดสอบยอ่ ย

การวัดผลประเมนิ ผล 1. นาเสนอหนา้ ชั้นเรียน
2. ใบงาน/แบบทดสอบย่อย

46

ใบงานคร้งั ท่ี 17
วชิ า 21003 พัฒนาอาชีพใหม้ คี วามเข้มแข็ง ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น

ชอื่ – นามสกลุ ................................................................................................ กศน.ตาบล
...................................

คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นอา่ นใบงานแล้วตอบคาถามลงในใบงาน (...10…คะแนน)

1. ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายถึงคณุ ภาพของการบริการ วา่ มีอะไรบา้ ง
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ใหผ้ ู้เรียนอธิบายถงึ สาเหตุของการการสร้างรปู ลักษณค์ ุณภาพสนิ ค้าใหม่
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
3. ใหผ้ ู้เรยี นอธบิ ายถึงโครงสรา้ งของการเขียนโครงการวา่ มอี ะไรบ้าง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

47

เฉลยใบงานครง้ั ที่ 17
วชิ า 21003 พัฒนาอาชีพให้มีความเขม้ แข็ง ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้

1. ใหน้ กั เรยี นอธิบายถึงคณุ ภาพของการบรกิ าร วา่ มีอะไรบ้าง
ตอบ 1. การย้ิมแย้ม เอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจตอ่ ความลาบากยุ่งยากของลูกค้า

2. การตอบสนองต่อความประสงค์ของลูกค้าอยา่ งรวดเร็วทนั ใจ
3. การแสดงออกถึงความนับถือ ให้เกียรติลูกค้า

4. การบรกิ ารเปน็ แบบสมัครใจและเต็มใจทา
5. การแสดงออกถึงการรกั ษาภาพลักษณ์ของการให้บริการ
6. การบรกิ ารเป็นไปด้วยกริ ยิ าทสี่ ภุ าพ และมมี ารยาทดี อ่อนนอ้ มถอ่ มตน

7. การบรกิ ารมคี วามกระฉับกระเฉง กระตือรอื ร้น มีบางอาชพี ท่เี ป็นไปได้ทง้ั การผลิตและการบรกิ าร
2. ใหผ้ ้เู รยี นอธบิ ายถงึ สาเหตุของการการสร้างรูปลกั ษณค์ ุณภาพสนิ ค้าใหม่

ตอบ สาเหตขุ องการสร้างรูปลักษณ์คุณภาพสินคา้ ใหม่ อาจมาจากความม่นั คงของธรุ กิจ หรือการเติบโตของ
ธุรกิจจึงต้องมกี ารพัฒนาผลติ ภัณฑใ์ ห้มคี ุณภาพ แตกต่างกันไป แตล่ ะธุรกจิ จะพฒั นาไดต้ อ่ เมือ่ ผปู้ ระกอบการ
รับร้คู วามต้องการในการตดั สินใจซอื้ สินค้าและบริการ จงึ กาหนดทศิ ทางทางวธิ ีการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ได้

เหมาะสมสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของผ้ปู ระกอบการ
3. ใหผ้ ู้เรยี นอธิบายถึงโครงสร้างของการเขยี นโครงการว่ามอี ะไรบา้ ง

ตอบ โครงสร้างของโครงการ ประกอบดว้ ย
1. ชอ่ื โครงการ
2. ชือ่ ผู้ท่ีทาโครงการหรอื ช่อื กล่มุ ที่รว่ มทาโครงการ

3. ชอื่ ทีป่ รึกษาโครงการ
4. หลักการและเหตผุ ล

5. วตั ถุประสงค์ของโครงการ
6. เปูาหมาย
7. ขั้นตอนการดาเนินงาน

8. ระยะเวลาดาเนนิ การ
9. สถานทปี่ ฏิบัติงาน

10. งบประมาณค่าใช้จ่าย คา่ ใช้จ่ายถา้ มีควรระบุให้ชัดเจน
11. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั ให้ระบุว่าเม่อื ทาโครงการนี้เสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้ว ผู้เรยี นคาดว่าจะไดร้ ับอะไร
12. ตวั ชี้วัดผลสาเรจ็ ของโครงการ

- ตวั ช้วี ัดผลผลติ
- ตัวชวี้ ดั ผลลพั ธ์